ID PLAN

แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล (Individual Development Plan: ID PLAN) นางนภัสวรรณ โรจนะ ตาแหนง่ ครู คศ.3 โรงเรยี นบ้านดงเจริญ อาเภอคาเขอื่ นแก้ว จงั หวดั ยโสธร สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษายโสธร เขต 1 สานกั งานการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คานา กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมิน สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกบั ความต้องการจาเป็น ของ ของหนว่ ยงาน และของตนเองอย่างแทจ้ ริง ท้ังน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความ สนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็น การพัฒนาที่ต่อเนื่องจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการ ปฏิบัตงิ าน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถ ตรวจสอบได้ และพัฒนาสคู่ วามเป็นวิชาชีพตอ่ ไป นภสั วรรร โรจนะ

สารบญั เรอื่ ง หนา้ บทท่ี 1 บทนา Individual Development Plan (ID Plan) คอื อะไร.............................................................. 1 บทที่ 2 แผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP)......................................................................... 5 บทที่ 3 การดาเนินงานตามแผนการพฒั นาตนเอง ด้านสมรรถนะหลัก………………………………………………..………………………………………………………….. 7 ดา้ นสมรรถนะประจาสายงาน......................................................................................................... 7 บรรณานกุ รม................................................................................................................................... 10

บทที่ 1 บทนา Individual Development Plan (ID Plan) คืออะไร สถาบนั พัฒนาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา ไดใ้ ห้ความหมายของ Individual Development Plan (ID Plan) ห มายถึงการพั ฒ นาบุ คลากรโดยยึดห ลักการป ระเมิน สมรรถน ะ (Competency Based Approach) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการ ปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของหน่วยงาน และของ ตนเองอย่างแท้จริง อีกทั้งจะทาให้การพัฒนาครูดาเนินไปอย่างประหยัด และสอดคล้องกับนโยบายของ รฐั บาล การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษามุ่งเน้นใหม้ ีสมรรถนะตามมาตรฐานตาแหนง่ และมาตรฐาน วิชาชพี ท้งั สมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะการปฏบิ ัติงานในหนา้ ท่ี หรอื สมรรถนะประจาสาย งาน (Functional Competency) และสมรรถนะเฉพาะตามกลมุ่ สาระ(Specificational Competency) ตามที่ ก.ค.ศ.กาหนด โดยยดึ หลกั การประเมนิ สมรรถนะ (Competency Based Approach) เพราะจะทาให้ ผูป้ ฏิบัตงิ านสามารถรู้จดุ เดน่ จุดดอ้ ยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพฒั นาตนเองให้ สอดคล้องกับความตอ้ งการจาเป็นของตนเอง และหนว่ ยงาน ระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ได้มุ่งเน้นให้ครู และบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองตามแนวทางดังกล่าว โดยเร่ิมต้นจากการประเมินสมรรถนะ การ จัดทาแผนพัฒนาตนเอง และดาเนินการพัฒนาตามแผนพัฒนาตนเองจนมีสมรรถนะตามความต้องการของ หน่วยงาน เพือ่ ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถดาเนินการพัฒนาตนเองตามระบบการพัฒนาครูและ บุคลากรทางการศึกษาได้อย่างถูกต้องตามกระบวนการ สามารถพัฒนาสมรรถนะของตนเองเพิ่มขึ้น และ ส่งผลต่อผู้เรียนทรี่ ับผดิ ชอบ (สถาบันพฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา. 2551) ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของงานขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนหรอื บุคคล ในการปฏิบัติงาน ถ้าบุคคลใด เปน็ บุคคลทีม่ ีคณุ ภาพหรอื ทางการ(วิชาการ)จะเรยี กว่า มีสมรรถนะ (Competency) (ความสามารถของบุคคล ในทุก ๆ ด้านทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะและคุณลักษณะ คุณธรรมท่ีจาเป็นต่อการ ปฏิบัติงานให้บรรลุได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ที่สูง ย่อมส่งผลต่อคุณภาพของงานในหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย ปัจจุบันในวงราชการกไ็ ด้นาสมรรถนะเปน็ ตวั ช้วี ดั ความสามารถของบคุ คล ซ่ึงสมรรถนะโดยทวั่ ไปจะแบ่งเป็น 2 สมรรถนะ คือ สมรรถนะหลัก (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะที่ทุกคนต้องมีหรือปฏิบัติได้ เป็น คุณลักษณะร่วมกันของบุคคลทุกตาแหน่ง ตัวอย่างสมรรถนะหลักของครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย การม่งุ ผลสมั ฤทธ์ิ การบรกิ ารท่ีดี การพฒั นาตนเอง การทางานเป็นทมี และสมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) เป็นสมรรถนะท่ีกาหนดเฉพาะสาหรับ แตล่ ะตาแหนง่ เพื่อให้บุคคลท่ดี ารงตาแหนง่ นั้น แสดงพฤตกิ รรมที่เหมาะสมกับหนา้ ท่ีและสามารถปฏิบัติหน้าที่ ได้ดีย่ิงขึ้น ตัวอย่าง สมรรถนะประจาสายงานของครู ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียน การ

บริหารจัดการช้ันเรียน การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย การสร้างความร่วมมือกับชุมชน ตัวอย่าง สมรรถนะหลกั ของบุคลากรทางการศึกษา ประกอบดว้ ย การวเิ คราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการวิจัย การสื่อสารและ การจูงใจ การพฒั นาศกั ยภาพบคุ คล การมีวิสัยทศั น์ สาหรับการพัฒนาบุคคลในอดตี ท่ีผ่านมา เปน็ การพัฒนาแบบเหมารวมหรอื ยกเข่ง หมายความว่า เมื่อ เรื่องใดท่ีหน่วยงานต้องการพัฒนา ก็จะพัฒนาแบบปูพรมคือพัฒนาทุกคนไม่รู้ว่ามีความรู้หรือไม่มี ต้องการ หรือไม่ต้องการ เป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหา แต่จะพัฒนาหมด ส่ิงท่ีเป็นปัญหาของการพัฒนารูปแบบน้ีก็คือ ความไม่คุ้มค่า คือผู้เขา้ ร่วมพฒั นาจะสนใจเฉพาะบุคคลท่ีต้องการ อยากรู้ อยากทราบเทา่ น้ัน สาหรับกลุ่มคนที่ เหลอื เปน็ กลมุ่ บคุ คลท่ไี มต่ อ้ งการ กจ็ ะไมใ่ หค้ วามสาคญั ไม่สนใจ ทาให้เป็นอุปสรรคในการพฒั นา ทางแก้ท่ีคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ คือ การพัฒนาบุคคลตามแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล(Individual Development Plan: (ID PLAN)โดยจะต้องผา่ นกระบวนการประเมินสมรรถนะ ทป่ี ระกอบด้วย การประเมิน ตนเอง ร่วมกับเพื่อนรว่ มงานหรือผู้บังคับบัญชาร่วมประเมนิ นาผลสรุปผล ว่าสมรรถนะใดที่จาเป็นต้องพัฒนา และสมรรถนะใดท่ีไม่จาเป็นต้องพัฒนา ต่อจากนั้นนามาจัดอันดับสมรรถนะที่จาเป็นต้องพัฒนา พร้อมให้ เหตุผลประกอบ ว่าการพัฒนาสมรรถนะดังกล่าวจะส่งผลต่ออะไร ต่อใคร เช่น จะส่งผลต่อคุณภาพของ นักเรียน หน่วยงาน ชุมชน วงการวิชาชีพ หรือตนเอง เป็นต้น หลักการจัดอันดับความสาคัญ สมรรถนะท่ี จาเปน็ เรง่ ดว่ นในการพัฒนาของครู คือ สง่ ผลตอ่ คุณภาพของนกั เรยี นเป็นหลัก สาหรบั ต่อตนเองควรเปน็ อันดับ สดุ ทา้ ย จากน้ันนาไปสู่การเขียนแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล โดยให้นาเสนอรูปแบบ วิธีการพัฒนาในแต่ละ สมรรถนะ หลาย ๆ รูปแบบเพื่อเป็นทางเลือกในการพัฒนา พร้อมกับกาหนด ชว่ งระยะเวลาท่ีจะพัฒนา(เรมิ่ ต้น และสน้ิ สุด) และหนว่ ยงานหรือองคก์ รทจ่ี ะขอรับการสนบั สนนุ ในการพฒั นา ซึ่งจะเห็นว่าการพัฒนา โดยใช้ ID-PLAN จะเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าท่ีที่มีประสิทธิภาพต่อไป และจะเป็นการพฒั นาท่ตี ่อเนื่องจนทาให้การปฏิบัตหิ นา้ ท่ีมีความ สมบูรณ์ มปี ระสิทธิภาพและประสทิ ธิผล และเป็นขา้ ราชการทด่ี ีต่อไป (ยืนยง ราชวงษ,์ 2551)

แผนการพัฒนาตนเอง ( ID Plan ) ส่วนท่ี 1 ข้อมูลส่วนตัว ชือ่ นางนภัสวรรณ โรจนะ ตาแหนง่ ครู คศ.2 อายกุ ารทางาน 38 ปี 7 เดอื น วุฒิการศึกษา ปรญิ ญาตรี ครุศาสตรบัณฑิต วชิ าเอกฟสิ ิกส์ สถาบนั ราชภฎั อุบลราชธานี ปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต วชิ าการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทาลัยกรงุ เทพธนบุรี อตั ราเงินเดือนปัจจุบนั 24,930 บาท ท่อี ย่ทู ีส่ ามารถติดต่อได้ 151 ม.1 ตาบลทงุ่ มน อาเภอคาเข่ือนแกว้ จงั หวัดยโสธร รหสั ไปรษณีย์ 35110 มอื ถือ 087-8761956 งานในหนา้ ท่ที รี่ บั ผิดชอบ 1. ภารกจิ /บทบาทหน้าทใ่ี นปกี ารศกึ ษาปจั จุบัน 1) ดา้ นการเรียนการสอน (กลมุ่ สาระการเรยี นรู้/รายวิชาที่จัดการเรียนการสอน/ระดบั ชั้นท่ที าการ สอน/จานวนห้องที่ทาการสอน/จานวนนกั เรียนทีร่ ับผิดชอบ/จานวนคาบการสอนตอ่ สปั ดาห)์ 1.1 ปฏิบัติการสอนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ดงั นี้ 1.1.1 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 21101 ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 (2ชม./สัปดาห)์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 22101 ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 (2ชม./สปั ดาห)์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 23101 ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 (2ชม./สปั ดาห)์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 31101 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 (3ชม./สัปดาห์) รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 32101 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 (3ชม./สัปดาห)์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 33101 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 (3ชม./สปั ดาห์) รายวิชา ศิลปะ รหสั วชิ า ศ 21101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 (1ชม./สัปดาห)์ รายวิชา ศลิ ปะ รหสั วิชา ศ 22101 ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 (1ชม./สัปดาห์) รายวิชา ศิลปะ รหสั วชิ า ศ 23101 ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 (1ชม./สปั ดาห์) รวม จานวน 18 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ 1.2 ปฏิบัตกิ ารสอนกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น กจิ กรรมลูกเสือ ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4-6 จานวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ กิจกรรมชมุ นุม ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมแนะแนว ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ กิจกรรมโครงงานคณุ ธรรม ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จานวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ กิจกรรมซ่อมเสรมิ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 4 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 1.3 จานวนคาบการสอนตอ่ สัปดาห์ 26 ช่ัวโมง/สัปดาห์

2) งานทไี่ ดร้ ับมอบหมายนอกเหนอื จากการจัดการเรยี นการสอน 1. ปฏิบัติหน้าที่ครูท่ีปรกึ ษาระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 2. ปฏบิ ัตหิ น้าที่เวรประจาวัน 3. โครงการหอ้ งสมดุ มีชวี ิต 4. โครงการพฒั นาระบบควบคมุ งานธุรการการเงนิ และพสั ดุ 5. โครงการตามรอยพ่อสานก่อความพอเพียง 6. โครงการสง่ เสริมวิถชี ีวติ ประชาธิปไตย 7. โครงการระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน 8. โครงการโรงเรียนสขี าว 9. โครงการขยะครบวงจร 10.โครงการโรงเรียนประชารัฐ 11. งานอืน่ ๆท่ีไดร้ บั มอบหมาย ประวตั กิ ารเข้ารบั การพัฒนา (ในรอบ 3 ปที ่ีผ่านมา) ปีการศึกษา 2558-2559 1. เขา้ อบรมผา่ นระบบ TEPE ออนไลน์ 2. เข้าร่วมอบรมทางวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรอื่ งการ พัฒนาความสามารถทางภาษา (Literacy) ดว้ ยกระบวนการอ่านรู้เรื่องแบบ PISA ในวนั ท่ี 19 มนี าคม 2559 ณ ห้องประชมุ ออมทรพั ย์ครูจงั หวัดยโสธร อาเภอเมอื ง จังหวัดยโสธร 3. ผ่านการอบรมการใช้สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในงาน English Zone ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม -3 เมษายน 2559 ณ ศนู ยป์ ระชมุ แห่งชาตสิ ิริกติ ิ์ กรุงเทพมหานคร 4. ผา่ นการอบรมพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาด้านเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (DLIT) ระหวา่ งวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2559 ณ อาคารเอนกประสงคโ์ รงเรียนบ้านสาราญ 5. ผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้เครือ่ งมือวิเคราะห์ผู้เรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้และสอนซ่อมเสริม ดว้ ยสื่อมัลตมิ ิเดยี ณ ห้องประชมุ สหกรณอ์ อมทรพั ยค์ รยู โสธร ในวันท่ี 20 สิงหาคม 2559 6. เป็นวิทยากรการดาเนินงานโครงการ ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ประจาปี 2559 วันที่ 18 พฤษภาคม 2559 ณ หอ้ งประชุมโรงเรยี นอนบุ าลลมุ พกุ (วนั ครู 2503) 7. เป็นวทิ ยากรพฒั นาการสอนอา่ นเขยี นแบบแจกลูกสะกดคาเพ่ือการอ่านออกเขียนได้ ประจาปี 2559 ระหว่างวนั ท่ี 1-2 กรกฎาคม 2559 ณ อาคารเอนกประสงคโ์ รงเรยี นบา้ นสาราญ 8. เป็นวิทยากรอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนายุวบรรณารักษ์ในห้องสมุดมีชีวิตและส่งเสริมนิสัยรักการ อา่ น ระหวา่ งวันที่ 10-11 สงิ หาคม 2559 ณ อาคารเอนกประสงคโ์ รงเรยี นบ้านสาราญ

9.นาเสนอการดาเนินงานการกาจัดขยะครบวงจร ในวาระการประชุมในวาระการประชุม ผู้บริหาร สถานศกึ ษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธรเขต 1 ในวันที่ 10 กนั ยายน 2559 ณ อาคาร เอนกประสงคโ์ รงเรยี นบา้ นสาราญ ปกี ารศกึ ษา 2560 1.ไดร้ ับรางวัลเสมา ป.ป.ส.ผลงานดเี ดน่ ระดบั เงนิ โครงการสถานศึกษาสขี าวปลอดอบายมขุ 2. ผา่ นการอบรมวิทยากรคา่ ยเยาวชนรกั ษพ์ งไพร ณ ศนู ย์อนุรกั ษ์ป่าน้าอาเภอนา้ ยืน จงั หวัด อุบลราชธานี 3. ปฏบิ ตั หนา้ ที่วทิ ยากรค่ายเยาวชนรักษพ์ งไพรในชว่ งระหวา่ งเดอื น มถิ นุ ายน 2560 โดยตลอดท่ี ศนู ยอ์ นรุ ักษ์ป่าไมจ้ งั หวัดยโสธร 4. ผา่ นการอบรม STEM SmartTranner ณ รร.สนุ ีย์แกรนด์ จังหวัดอบุ ลราชธานี 5. ผา่ นการอบรมอยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 และชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ณ อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนบา้ นสาราญ สพป.ยส.1 6. ผ่านการอบรม PCL สู่สถานศึกษา และนาเสนอผลงานแลกเปลีย่ นเรียนรู้ที่รร.เจพแี อมมเิ รยี ล จังหวดั ยโสธร 7. ผ่านการอบรมคปู องครหู ลกั สตู รการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรมพาวเวอร์พอ้ ย ฯ จาก มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 29-30 ก.ค. 2560 และกจิ กรรม Openclass ในวนั ท่ี 10 กันยายน 2560 ขอรับรองว่ารายงานดงั กลา่ วขา้ งต้นเปน็ จรงิ ทุกประการ

บทท่ี 2 แผนการพฒั นาตนเองในการจดั ห้องเรียนท่ีมคี ุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) แผนการพัฒนาตนเองในการจดั หอ้ งเรียนท่มี ีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) ครูผสู้ อน นางนภัสวรรณ โรจนะ วิชาวทิ ยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรม มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. Output Outcome Impact 1)วิเคราะห์ ผู้เรียนเกิดพฤติกรรม ผเู้ รยี น(CAR1) √ ไดข้ ้อมูล ครูนาขอ้ มลู นักเรียน การเรยี นรู้ตามที่ คาดหวังเรียนรู้ นักเรียนเป็น เปน็ รายบคุ คลมา อยา่ งมีความสขุ รายบคุ คลครบ ออกแบบการจดั การ ทุกคน เรยี นรทู้ ีม่ ีความ เหมาะสมกับผเู้ รียน 2)ออกแบบการ √ ได้แผนการ ครนู าแผนการจัดการ ผเู้ รยี นเกิดพฤติกรรม จดั การเรียนรูอ้ งิ จัดการเรียนรู้ เรียนรูไ้ ปใช้จดั กิจกรรม การเรียนรู้ตามท่ี มาตรฐาน อิงมาตรฐาน ไดต้ รงตามมาตรฐาน คาดหวงั จานวน 1 แผน นกั เรยี นมีพฤติกรรม การเรยี นรู้ตรงตาม มาตรฐาน 3)ประเมนิ การ √ ได้เอกสารผล ทราบผลการจดั การ การจดั การเรียนการ สอนของตนเอง (CAR2) การประเมนิ เรยี นรมู้ /ี ไม่มี สอนเกิด การสอน ประสทิ ธภิ าพครูนาผล ประสทิ ธิภาพตาม จานวน 1 ชดุ การประเมินมา มาตรฐานการเรียนรู้ ปรบั ปรงุ พัฒนาและ และตวั ชว้ี ดั ท่กี าหนด หรอื ขยายผลแผนการ ไว้ จัดการเรียนรู้

กจิ กรรม ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. Output Outcome Impact 4)ศกึ ษาราย √ ได้ผลการศึกษา ครนู าผลการศึกษา การจัดการเรยี นรเู้ กิด กรณี: แกป้ ัญหา รายกรณี รายกรณไี ปเป็น ประสทิ ธิภาพตาม นกั เรยี น(CAR3) จานวน 1 เล่ม แนวทางในการ มาตรฐานการเรียนรู้ พัฒนาการจัดการ และตวั ชวี้ ดั ทกี่ าหนด เรยี นรู้ในช้ันเรียน ไว้ 5) ICT / PD / √ ได้นวตั กรรมที่ ครูได้นวตั กรรมไปใช้ ครูมนี วตั กรรมในการ สรา้ งนวตั กรรม ใชใ้ นการ ในการจดั กิจกรรม จดั การเรยี นรู้ให้กับ (CAR4) จัดการเรยี นรู้ การเรียนรู้ นกั เรยี นเกิด จานวน 1 ช้นิ พฤติกรรมการเรยี นรู้ ตามที่คาดหวงั 6) การทา ICT / √ ไดท้ ดลองการ ครไู ดท้ ดลองการใช้ ครูสามารถพฒั นา PD / นา ใชน้ วตั กรรม นวตั กรรมท่จี ัดทาขน้ึ นวตั กรรมในการ นวตั กรรมไปใช้ จัดการเรยี นรใู้ ห้กับ นกั เรยี น 7) การสรปุ และ √ ได้รายงานผล ครูไดร้ ายงานผลการ ครมู ขี อมลู ในการ รายงานการใช้ การใช้ ใชน้ วตั กรรมเพื่อ ดาเนินงานการ นวตั กรรม นวตั กรรม นาไปพัฒนาการ จัดการเรยี นรู้ในชั้น จานวน 1 เร่ือง จัดการเรียนรตู้ อ่ ไป เรียน เพือ่ เปน็ ข้อมลู ในการพัฒนาวชิ าชพี ต่อไป

บทท่ี 3 การดาเนินงานตามแผนการพัฒนาตนเอง การวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) รายวิชาวิทยศาสตร์ โรงเรียนบ้านดงเจริญ อาเภอคาเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มีผลท่ี คาดว่าจะได้รับจากการวางแผนการพัฒนาตนเอง 2 ด้าน คือ ด้านสมรรถนะหลัก และสมรรถนะประจา สายงาน ซึ่งมีรายละเอียดดังน้คี อื ดา้ นสมรรถนะหลัก มีการพัฒนาตนเองใน 4 ดา้ น คอื 1. การมุ่งผลสมั ฤทธิ์ ได้แก่ 1.1 ความสามารถในการวางแผนการปฏบิ ตั งิ าน 1.2 ความสามารถในการปฏบิ ตั ิงาน 1.3 ผลการปฏิบตั ิงาน 2. การบรกิ ารท่ีดี ไดแ้ ก่ 2.1 ความสามารถในการสรา้ งระบบการให้บรกิ าร 2.2 ความสามารถในการใหบ้ ริการ 3. การพัฒนาตนเอง ได้แก่ 3.1 ความสามารถในการพฒั นาตนเอง 3.2 ความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพ่ือการส่ือสาร 3.3 ความสามารถในการตดิ ตามความเคลอ่ื นไหวทางวิชาการและวิชาชีพ 3.4 ความสามารถในการประมวลความรู้และนาความร้ไู ปใช้ 4. การทางานเปน็ ทีม ได้แก่ 4.1 ความสามารถในการวางแผนเพอื่ การปฏบิ ตั ิงานเป็นทีม 4.2 ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ านร่วมกนั ด้านสมรรถนะประจาสายงาน มีการพัฒนาตนเองใน 5 ดา้ น คือ 1. การจัดการเรยี นรู้ 1.1 ความสามารถในการสรา้ งและพฒั นาหลักสูตร 1.2 ความสามารถในเนอ้ื หาสาระทส่ี อน 1.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผ้เู รียนเปน็ สาคัญ 1.4 ความสามารถในการใช้และพัฒนานวตั กรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการจัดการเรยี นรู้ 1.5 ความสามารถในการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. การพฒั นาผเู้ รยี น 2.1 ความสามารถในการปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม 2.2 ความสามารถในการพัฒนาทักษะชีวิต สขุ ภาพกายและสุขภาพจิต 2.3 ความสามารถในการปลกู ฝังความเป็นประชาธปิ ไตย

2.4 ความสามารถในการปลกุ ฝงั ความเป็นไทย 2.5 ความสามารถในการจดั ระบบดแู ลและช่วยเหลือผเู้ รียน 3. การบริหารจดั การชนั้ เรียน 3.1 ความสามารถในการจัดบรรยากาศการเรียนรู้ 3.2 ความสามารถในการจัดทาข้อมูลสารสนเทศและเอกสารฯ 3.3 ความสามารถในการกากบั ดูแลชั้นเรียน 4. การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และการวิจัย 4.1 ความสามารถในการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการสังเคราะห์ 4.3 ความสามารถในการเขียนเอกสารทางวิชาการ 4.4 ความสามารถในการวิจัย 5. การสร้างความร่วมมือกับชุมชน 5.1 ความสามารถในการนาชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมสถานศึกษา 5.2 ความสามารถในการเข้ารว่ มกิจกรรมของชมุ ชน นอกจากนจ้ี ะต้องมีการพัฒนาด้านคณุ ลักษณะทจ่ี าเป็นในการพฒั นาวชิ าชพี คอื ด้านวินยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวชิ าชีพ ไดแ้ ก่ 1. การมวี นิ ัย 2. การประพฤติ ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่างทดี่ ี 3. การดารงชวี ติ อยา่ งเหมาะสม 4. ความรักและศรทั ธาในวิชาชีพครู 5. ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี ผลงานดา้ นการจัดการเรยี นการสอนท่ีเกดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าทีใ่ นตาแหน่งปัจจบุ ัน ( ยอ้ นหลังไม่เกิน 2 ปี ) 1. ผลท่เี กดิ จากการจัดการเรียนรู้ ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ และนา แผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียน มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน ชิ้นงาน แบบฝึก โดยการวัดผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆด้าน ได้แก่ ด้าน ความรู้ การปฏบิ ัติ กระบวนการและคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ ท้ังนี้เพ่อื ส่งเสรมิ พัฒนาการของนักเรยี นท้ัง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา และมีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งนี้เพื่อให้ นักเรียนมีพัฒนาการที่ดี มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตลอดจนมีการบันทึกหลังการจัดกิจกรรมการสอนอย่าง สมา่ เสมอ ทั้งน้เี พอื่ จะไดช้ ว่ ยแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งให้กบั นักเรยี นท่มี ีปัญหา 2. ผลทเ่ี กิดจากการพฒั นาวิชาการ ผลท่ีเกิดจากการพัฒนาตนเองทางด้านวิชาการ ส่ิงที่ไดพ้ ัฒนานั้นกค็ ือการเข้ารบั การอบรมที่เกี่ยวข้อง กบั สายงานสอนและนาเทคนิคและวิธีการการจัดการเรียนรู้มาใช้กับผู้เรยี น และได้ทาการศึกษาหาความรู้และ

ข้อมูลเพ่ิมเติมที่เก่ียวข้องกับเรื่องที่จัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจและเกิด ผลสมั ฤทธกิ์ ับผู้เรียน 3. ผลท่เี กิดกบั ผู้เรียน การจัดกิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการ ปฏิบัติจริง เพ่ือให้นกั เรียนได้มที ักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดงี าม ความมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มีความสามารถใน การใช้ภาษาในการสื่อสาร และการมีจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีผู้เรยี นสามารถนาความรู้ ความเข้าใจและทักษะไปบรู ณาการและประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันเป็นการเพ่ิมพูนสมรรถนะตนเองใหม้ ากขึ้น และส่งผลให้การใช้ชีวิตภายหน้า บนพ้ืนฐานคุณธรรม นาความรู้ และเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการอยู่ ร่วมกนั ในสังคมได้อย่างมคี วามสุข 4. ผลทเี่ กดิ กับสถานศกึ ษา จากการท่ีสถานศึกษามีการวางแผนปฏิบัติราชการในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการ ดาเนินงานเพื่อพัฒนาสถานศึกษา นักเรียน โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ซ่ึง นักเรียนและครูมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม ทาให้ผลการดาเนินงานเป็นท่ียอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน ทอ้ งถ่ิน ดังมีผลงานเป็นทปี่ รากฏ ดังนี้ 1. สถานศึกษาได้รับรางวัลระดับดีเด่น ตามโครงการการกาจัดขยะครบวงจร Zero Waste School 2. สถานศกึ ษาได้รบั รางวลั เสมา ปปส.ดเี ด่น ระดบั ทอง ปี 2559 5. ผลทีเ่ กดิ กับชุมชน สถานศกึ ษามสี ่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมตา่ ง ๆ ตลอดปีการศกึ ษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกบั วฒั นธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เชน่ ประเพณแี ห่เทียนเขา้ พรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณสี งกรานต์ การทอดผา้ ปา่ ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมท่เี ป็นประโยชน์ กิจกรรมวนั สาคญั ไดแ้ ก่ กจิ กรรมวันแม่ กิจกรรมสง่ เสริมภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จนทาให้เกดิ ความร่วมมือ ความเข้าใจท่ีดีตอ่ กนั เกิดความรักและความภาคภูมิใจในโรงเรยี นและท้องถ่นิ นอกจากน้ีโรงเรียนยังไดจ้ ดั กิจกรรมการประชมุ ผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐานในแตล่ ะภาคเรยี นเพ่ือช้ีแจงนโยบายของโรงเรียนและ เพอื่ หาแนวทางในการรว่ มพฒั นาโรงเรียนท้ังพัฒนาอาคารสถานที่และพัฒนาทางวชิ าการใหเ้ ปน็ ไปในทาง ทศิ ทางเดยี วกนั

สว่ นท่ี 2 รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง ที่ สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา วธิ กี าร / รปู แบบการพฒั นา สมรรถนะหลกั 1 การมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ - จัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ 1.1 ความสามารถในการวาง - จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ใหผ้ เู้ ร แผนการปฏบิ ตั ิงาน ปฏิบตั ิจรงิ 1.2 ความสามารถในการ - จดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้สอ่ื ปฏบิ ตั ิงาน นวัตกรรมทน่ี า่ สนใจทงั้ ทางเทคโนโลย แหลง่ เรยี นรู้ 2 1.3 ผลการปฏิบัตงิ าน การพัฒนาตนเอง 2.1 ความสามารถในการวเิ คราะหต์ นเอง - เข้ารับการอบรม สมั มนาท่ีหน่วย 2.2 ความสามารถในการใชภ้ าษาไทย สังกดั หน่วยงานอืน่ ๆจดั ขนึ้ เพื่อการสอ่ื สาร - แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับบุคลากรใน 2.3 ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษ โรงเรียน เพื่อการแสวงหาความรู้ - ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวิชากา 2.4 ความสามารถในการติดตามความ ตารา วารสาร เคลือ่ นไหวทางวชิ าการและวชิ าชีพ - สบื ค้นความรทู้ างอนิ เทอรเ์ นต 2.5 ความสามารถในการประมวลความรู้ และการนาความรู้ไปใช้

ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับ า งบประมาณ ประโยชน์ที่คาดวา่ จะ เรมิ่ ตน้ สน้ิ สุด สนบั สนนุ จาก ไดร้ ับ หน่วยงาน นสาคัญ 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น -ผูเ้ รียนใหส้ นใจตงั้ ใจมีความ รยี นได้ 2561 2562 กระตือรอื รน้ ที่จะเรียนรู้ มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นทดี่ ขี ้ึน ยีและ มที กั ษะในการปฏิบัตกิ จิ กรรม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน ตามศกั ยภาพของแต่ละบคุ คล ยงานต้น การศกึ ษา การศกึ ษา ตนเองเป็นผูม้ ีคุณภาพ ได้รบั การพัฒนาไปใน น ทิศทางท่ดี ีขน้ึ สง่ ผลและ เกดิ ประโยชนต์ ่อผู้เรียน ารจาก โรงเรยี น

ท่ี สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา วธิ กี าร / รปู แบบการพัฒนา 3 การทางานเปน็ ทมี 3.1 ความสามารถในการวางแผน - รว่ มกจิ กรรมทีเ่ น้นการทางานเป็น เพื่อการปฏบิ ัตงิ านเปน็ ทีม - ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพ่ือนร 3.2 ความสามารถในการ โดยรูจ้ ักการเปน็ ผใู้ หแ้ ละผูร้ บั ทีด่ ี ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกัน - มีความสามัคคใี นหม่คู ณะ สมรรถนะประจาสายงาน 4 การจดั การเรียนรู้ - เข้ารบั การอบรม สัมมนา ศึกษาด 4.1 ความสามารถในการสรา้ งและ ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับหลกั สตู รกา พัฒนาหลกั สตู ร ออกแบบการเรียนรกู้ ารเขียนแผน 4.2 ความสามารถในเนื้อหาสาระท่ีสอน ประสบการณ์การวดั ผลประเมนิ ผล 4.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการ พฒั นาตนเอง เรียนร้ทู เี่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ - เข้ารับการอบรมเก่ยี วกบั การผลติ ส 4.4 ความสามารถในการใช้และพฒั นา ใช้สอื่ ประเภท ICT ท่ีหน่วยงานจดั คร้ัง นวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ จดั การเรยี นรู้ 4.5 ความสามารถในการวดั และ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้

การขอรบั ระยะเวลาในการพัฒนา งบประมาณ ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะ า สนับสนนุ จาก ได้รับ เร่มิ ตน้ ส้ินสุด หน่วยงาน นทมี ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน เกดิ ความสามคั คใี นหม่คู ณะ ร่วมงาน การศกึ ษา การศึกษา สง่ ผลใหก้ ารดาเนนิ งานตา่ งๆ บรรลผุ ลสาเรจ็ ตลอดจนการมี ความสุขในการปฏิบตั งิ าน ดงู าน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองมีความสามารถใน าร การศึกษา การศึกษา การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ นการจัด โดยมีความรเู้ ร่ืองการเขยี น ลเพอ่ื แผนการจดั ประสบการณ์ การวดั ผลประเมนิ ผล ส่อื การ ตลอดจนการผลติ สื่อ การ ดขึน้ ทุกๆ ใชส้ ่อื ประเภท ICT สง่ ผล ต่อการจดั กิจกรรมใหก้ บั ผู้เรยี นอยา่ งสงู สุด

ที่ สมรรถนะท่จี ะพฒั นา วิธีการ / รูปแบบการพฒั นา 5 การพฒั นาผเู้ รียน - จดั กิจกรรมสง่ เสริม ปลูกฝังคุณธร 5.1 การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม จริยธรรมท่ดี งี ามให้กับผ้เู รยี นอยู่เส แกผ่ เู้ รียน การอบรมหน้าเสาธง กจิ กรรมโฮม 5.2 การสง่ เสริมกิจกรรมความคิด กจิ กรรมสุดสัปดาห์การเล่านิทานส วเิ คราะหผ์ ู้เรียน คณุ ธรรม 5.3 การส่งเสริมทกั ษะและ - ส่งเสรมิ ผู้เรียนตามความถนดั คว กระบวนการ รถแต่ละบุคคล 6 การบรหิ ารจัดการช้นั เรยี น - จัดบรรยากาศในช้ันเรยี นใหเ้ อ้อื ต่อการเ - จัดมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆเพื่อใหเ้ ปน็ แห - จดั ป้ายนเิ ทศเพือ่ เปน็ ข้อมลู ข่าวสารส เรยี นรู้ - จัดทาเอกสารงานธรุ การในช้นั เรยี นใหเ้ ป ปัจจบุ นั - จัดระบบการดูแลชว่ ยเหลือผูเ้ รยี นและน ไปใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียน

ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรบั า งบประมาณ ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะ เรมิ่ ตน้ สิ้นสดุ สนบั สนนุ จาก ไดร้ ับ หน่วยงาน รรม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม สมอโดย การศึกษา การศกึ ษา จรยิ ธรรมและคุณลักษณะ มรมู ท่พี ึงประสงคม์ ีทกั ษะชีวติ สง่ เสริม เป็นที่ยอมรบั ของสงั คม วามสา่ มา รเรียนรู้ ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ห้องเรยี นมบี รรยากาศท่ี หล่งเรยี นรู้ การศกึ ษา การศึกษา เอ้อื ต่อการเรยี นรู้ ผ้เู รยี น สาหรบั การ มีความสุขในการเรียนรู้ ครูมขี ้อมูลตา่ งๆอยา่ งเป็น ปน็ ปจั จุบันที่สามารถเปน็ แบบอย่างได้ ะนาขอ้ มูล

ที่ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา วธิ กี าร / รูปแบบการพัฒนา 7 การวเิ คราะห์ สังเคราะห์และ - เข้ารบั การอบรม พฒั นาการจัดกจิ กรรม การวจิ ยั ในชัน้ เรียน เรียนรู้ จัดทาสื่อการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนา 7.1 ความสามารถในการ คณุ ภาพของครแู ละผู้เรียน วิเคราะห์ - ศกึ ษาเอกสารตาราในการจดั ทาเอกสา 7.2 ความสามารถในการ วิชาการ สงั เคราะห์ - ศึกษาผลงานตวั อย่างในการทาผลงานท 7.3 ความสามารถในการเขียน วชิ าการ เอกสารทางวิชาการ - ดาเนินการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแกป้ ัญห 7.4 ความสามารถในการวิจัย ตลอดจนพัฒนาผ้เู รียน 8 การสร้างความรว่ มมือกับชมุ ชน - ดาเนนิ การประชุมผู้ปกครอง /กรรมกา 8.1 ความสามารถในการนา สถานศกึ ษาเพื่อชแ้ี จงนโยบาย แนวทา ชมุ ชนมามีส่วนร่วมใน จดั กจิ กรรมของสถานศึกษา กจิ กรรมของสถานศึกษา - ขอความร่วมมือจากชุมชนบางโอกาส 8.2 ความสามารถในการเขา้ ร่วม - เขา้ รว่ มกิจกรรมของชมุ ชนทุกๆครั้งทง้ั กจิ กรรมของชุมชน ประเพณีและกิจกรรมทเี่ ปน็ ประโยชน์

ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับ งบประมาณ ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะ เรม่ิ ต้น ส้ินสุด สนบั สนนุ จาก ได้รบั หนว่ ยงาน มการ - ครมู ีความรคู้ วามสามารถใน า ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น การเขยี นผลงานทางวชิ าการ การศกึ ษา การศึกษา และวิจยั ในชนั้ เรยี นแบบง่าย ารทาง ได้ - ผู้เรยี นได้รบั การแกป้ ัญหาท่ี ทาง ถูกวิธีโดยครูทาการวิจยั ใน ชน้ั เรียน หา - ครมู กี ารทาวจิ ัยในชนั้ เรยี น อยา่ งตอ่ เนอื่ ง าร ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน - ชุมชนใหค้ วามรว่ มมือใน างการ การศึกษา การศึกษา กจิ กรรมต่างๆทสี่ ถานศกึ ษา จดั ข้นึ อย่างเตม็ ใจ - ชุมชนมีความพึงพอใจใน งงาน กจิ กรรมทีผ่ เู้ รียนและ สถานศกึ ษาจดั ข้ึน

ท่ี สมรรถนะท่ีจะพฒั นา วธิ ีการ / รปู แบบการพฒั นา 9 วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ - เข้ารบั การอบรมพัฒนาดา้ นคุณธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี จริยธรรมอย่างนอ้ ยปลี ะ 1 ครง้ั 9.1 การมวี ินยั 9.2 การประพฤติปฏิบัตติ นเป็น - ประพฤติปฏบิ ตั ิตนในการดารงชวี ิตโ แบบอยา่ งทด่ี ี หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 9.3 การดารงชีวติ อย่างเหมาะสม 9.4 ความรกั และศรัทธาในวิชาชพี - ประพฤติปฏบิ ตั ติ นในวิชาชีพโดยรกั 9.5 ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชีพ ศรัทธาในวชิ าชีพของตนเอง โดยมีว ตนเอง

ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รบั เร่มิ ต้น สิ้นสุด งบประมาณ สนับสนุน จาก หนว่ ยงาน ม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน ตนเองเป็นผทู้ ่ีมคี ุณธรรม การศึกษา การศกึ ษา จริยธรรม มวี นิ ยั มีความ รบั ผดิ ชอบ มคี วามก้าวหน้า โดยยดึ ในวชิ าชีพทสี่ ูงยงิ่ ๆข้ึน กและ วินัยใน

ส่วนที่ 3 ตารางสรปุ แผนพัฒนาตนเอง ที่ สมรรถนะทีจ่ ะ วธิ ีการ / รปู แบบการพฒั นา พฒั นา - เขา้ รบั การอบรม สมั มนา ศึกษาดงู าน ศึกษาเอกสาร 1 การจดั การเรยี นรู้ เกี่ยวกบั หลักสตู ร การออกแบบการเรยี นรู้ การเขยี น แผนการจัดประสบการณ์ การวัดผลประเมนิ ผลเพอ่ื พฒั นาตนเอง -เข้ารบั การอบรมเก่ยี วกบั การผลติ ส่อื การใช้สอ่ื ประเภท ICT ท่หี น่วยงานจดั ขน้ึ ทุกๆครง้ั 2 การพฒั นาผูเ้ รยี น - จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรมทดี่ ี งามให้กบั ผเู้ รียนอย่เู สมอโดยการอบรมหน้าเสาธง 3 การบริหารจัดการ กจิ กรรมโฮมรูม กจิ กรรมสดุ สัปดาหก์ ารเล่านิทาน ช้นั เรยี น สง่ เสริมคณุ ธรรม -สง่ เสรมิ ผู้เรียนตามความถนดั ความสามารถ -จดั บรรยากาศในชั้นเรียนใหเ้ ออื้ ต่อการเรียนรู้ -จดั มมุ ประสบการณต์ า่ งๆเพ่ือใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรู้ -จัดป้ายนิเทศเพอื่ เปน็ ข้อมลู ข่าวสารสาหรบั การเรียนรู้ -จดั ทาเอกสารงานธุรการในชั้นเรยี นให้เปน็ ปจั จุบัน -จัดระบบการดูแลชว่ ยเหลือผู้เรียนและนาข้อมูลไปใชใ้ น การพฒั นาผเู้ รยี น

ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรบั งบประมาณ เรมิ่ ตน้ สิ้นสุด สนบั สนุนจาก ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะไดร้ บั หนว่ ยงาน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองมีความสามารถในการจดั การศึกษา การศึกษา กจิ กรรมการเรียนรู้ โดยมคี วามร้เู รื่อง การเขยี นแผนการจัดประสบการณ์ การวัดผลประเมนิ ผล ตลอดจนการ ผลิตสื่อ การใช้สื่อ ประเภท ICT ส่งผลตอ่ การจดั กจิ กรรมให้กบั ผู้เรยี น อยา่ งสงู สุด ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ผเู้ รยี นมีคุณธรรม จริยธรรมและ การศกึ ษา การศกึ ษา คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มีทักษะ ชีวิต เปน็ ทีย่ อมรบั ของสงั คม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน ผเู้ รยี นมคี วามสขุ ในการเรียนรู้ครมู ี การศกึ ษา การศึกษา ขอ้ มลู ตา่ งๆอย่างเป็นปจั จบุ นั ท่ี สามารถเปน็ แบบอยา่ งได้

ที่ สมรรถนะทจี่ ะ วธิ ีการ / รูปแบบการพัฒนา พัฒนา 4 การมุ่งผลสมั ฤทธิ์ -จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ที่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่เน้นใหผ้ ู้เรียนไดป้ ฏิบัตจิ รงิ -จัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้ส่ือ นวตั กรรมท่นี า่ สนใจ ทงั้ ทางเทคโนโลยีและแหลง่ เรียนรู้ 5 การพัฒนาตนเอง - เข้ารบั การอบรม สมั มนาทห่ี นว่ ยงานต้นสังกดั หนว่ ยงานอื่นๆ จัดขึ้น -ศกึ ษาดงู านโรงเรียนตน้ แบบ บคุ ลากรต้นแบบเพอื่ นามาพัฒนา ตนเอง -แลกเปลี่ยนเรยี นรูก้ บั บุคลากรในโรงเรียน -ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการจากตารา วารสาร - สบื ค้นความรู้ทางอินเตอรเ์ น็ต 6 การวิเคราะห์ - เขา้ รับการอบรม พฒั นาการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สังเคราะหแ์ ละการ จดั ทาส่ือการเรยี นรู้ เพ่ือพฒั นาคุณภาพของครูและ วจิ ยั ในช้นั เรยี น ผ้เู รยี น - ศึกษาเอกสาร ตาราในการจัดทาเอกสารทางวชิ าการ - ศึกษาผลงานตัวอย่างในการทาผลงานทางวิชาการ - ดาเนินการวิจยั ในชนั้ เรียนเพอื่ แกป้ ัญหาตลอดจน พฒั นาผูเ้ รียน

ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั เรม่ิ ตน้ งบประมาณ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั สิ้นสุด สนับสนนุ จาก หน่วยงาน 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรียน - ผู้เรียนให้สนใจตั้งใจมคี วามกระตือรอื รน้ 2561 2562 ทีจ่ ะเรยี นรู้ มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนท่ดี ี ขน้ึ มที ักษะในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตาม ศักยภาพของแตล่ ะบุคคล ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองเปน็ ผูม้ ีคุณภาพ ได้รับการ การศึกษา การศึกษา พฒั นาไปในทศิ ทางทดี่ ีขนึ้ สง่ ผลและ เกดิ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน โรงเรียน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น - ครมู ีความรู้ความสามารถในการ การศึกษา การศกึ ษา เขยี นผลงานทางวิชาการและวจิ ัย ในชัน้ เรียนแบบง่ายได้ - ผู้เรยี นไดร้ ับการแกป้ ญั หาที่ถูกวธิ ี โดยครทู าการวิจัยในช้นั เรียน - ครมู กี ารทาวจิ ัยในชน้ั เรยี นอยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง

ที่ สมรรถนะทีจ่ ะ วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา พฒั นา 7 การทางานเป็นทีม - ร่วมกจิ กรรมทีเ่ น้นการทางานเปน็ ทีม - ยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของเพือ่ นรว่ มงาน โดยรจู้ กั การเป็นผูใ้ ห้และผู้รับท่ีดี - มีความสามัคคีในหมูค่ ณะ 8 วินัย คณุ ธรรม - เข้ารบั การอบรมพัฒนาดา้ นคุณธรรม จริยธรรม จริยธรรมและ อย่างน้อยปลี ะ 1 ครั้ง จรรยาบรรณวิชาชพี - ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนในการดารงชวี ติ โดยยึดหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง - ประพฤติปฏิบัติตนในวิชาชพี โดยรกั และศรัทธาใน วชิ าชพี ของตนเอง โดยมวี ินยั ในตนเอง 9 การสร้างความ - ดาเนนิ การประชุมผ้ปู กครอง/การเยยี่ มบา้ นนักเรยี น รว่ มมอื กบั ชุมชน - ขอความรว่ มมือจากชุมชนบางโอกาส - เข้าร่วมกิจกรรมของชมุ ชนทุกๆครั้งท้ังงานประเพณี และกจิ กรรมทีเ่ ป็นประโยชน์

ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับ งบประมาณ เรมิ่ ต้น สิน้ สุด สนับสนนุ จาก ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ หนว่ ยงาน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น เกดิ ความสามัคคีในหมคู่ ณะ ส่งผลให้ การศึกษา การศึกษา การดาเนินงานต่างๆบรรลุผลสาเร็จ ตลอดจนการมีความสขุ ในการ ปฏบิ ัติงาน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองเป็นผทู้ ่ีมีคณุ ธรรม จริยธรรม มี การศกึ ษา การศึกษา วนิ ัย มีความรับผดิ ชอบ มี ความก้าวหน้าในวิชาชพี ท่ีสูงย่ิงๆขึ้น ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น - ชมุ ชนให้ความรว่ มมอื ในกิจกรรมตา่ งๆ การศึกษา การศึกษา ที่สถานศึกษาจดั ขน้ึ อย่างเต็มใจ - ชมุ ชนมคี วามพงึ พอใจในกจิ กรรม ทผ่ี เู้ รยี น และสถานศึกษาจดั ข้ึน ( นางนภัสวรรณ โรจนะ )





ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการโรงเรียน .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ( นายสมเพศ คามใส ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านดงเจริญ ......../……………/………

บรรณานุกรม จัดการความรู้, ศูนย,์ สพป.ชพ1. http://area.obec.go.th/chumpron1/kmc/modules.php?name=News&file =article&sid=450. 29 ก.ย. 2551. ธีรศักด์ิ โกรธกล้า. http://gotoknow.org/blog/kruteerasark/208594. 29 ก.ย. 2551 พฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา, สถาบนั . http://www.nidtep.go.th/competency/ book.htm 29 ก.ย. 2551 ยนื ยง ราชวงษ.์ http://gotoknow.org/blog/yuenyong/180318. 29 ก.ย. 2551