วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

การตรวจสอบความน่าเช่ือถือของแหล่งท่มี าของข้อมูล เวบ็ ไซต์หรือแหลง่ ที่มาของข้อมลู มีการระบชุ ่ือผ้เู ขียนบทความ ต้องบอกวตั ถปุ ระสงค์ในการสร้าง หรือผ้ใู ห้ข้อมลู บนเวบ็ ไซต์ หรือเผยแพร่ข้อมลู ไว้ในเวบ็ ไซต์อยา่ งชดั เจน การนาเสนอเนือ้ หาต้องตรงตามวตั ถุ มีการอ้างองิ แหลง่ ท่ีมาหรือแหลง่ ต้นตอ ประสงค์ในการสร้ างหรือเผยแพร่ ของข้อมลู ที่มีเนือ้ หาปรากฏบนเวบ็ ไซต์ ข้อมลู ของเวบ็ ไซต์ เนือ้ หาเวบ็ ไซต์ไมข่ ดั ต่อกฎหมาย สามารถเช่ือมโยง (link) ไปเวบ็ ไซต์ ศีลธรรมและจริยธรรม อ่ืนท่ีอ้างอิงถงึ เพ่ือตรวจสอบ แหลง่ ต้นตอของข้อมลู ได้

การตรวจสอบความน่าเช่ือถอื ของแหล่งท่มี าของข้อมูล มีการระบวุ นั เวลาในการเผยแพร่ มีชอ่ งทางให้ผ้อู า่ นแสดงความคิดเหน็ ข้อมลู บนเวบ็ ไซต์ มีการให้ท่ีอยหู่ รืออีเมล ที่ผ้อู า่ น มีข้อความเตือนผ้อู า่ นให้ใช้วจิ ารณญาณ สามารถตดิ ตอ่ ผ้ดู แู ลเวบ็ ไซต์ได้ ในการตดั สินใจใช้ข้อมลู ท่ีปรากฏ บนเวบ็ ไซต์

• กจิ กรรมท่ี 6.1

2. เหตผุ ลวิบัติ การให้เหตผุ ลเป็ นวธิ ีการหนง่ึ ที่สร้างความ น่าเชื่อถือ อยา่ งไรก็ตาม การให้เหตผุ ลมีทงั้ ที่เหมาะสมและไมเ่ หมาะสมแตกตา่ งกนั ไป ในการให้เหตผุ ลที่ไม่เหมาะสม จะกลายเป็ น “เหตุผลวบิ ตั หิ รือตรรกะวบิ ัติ” แบง่ ออกเป็น 2 แบบ 1.เหตผุ ลวบิ ตั ิแบบเป็ นทางการ 2.เหตผุ ลวิบตั แิ บบไม่เป็ นทางการ

ตวั อย่างเหตุผลวบิ ตั ิ 1.เหตุผลวบิ ตั แิ บบทางการ เกดิ จากการให้เหตุผลท่ใี ช้หลักตรรกะไม่ถกู ต้อง แต่เขียนในรูปแบบ ท่เี ป็ นทางการทาให้ดสู มเหตุสมผล อาจตคี วามว่า ถ้าเลือก แล้วจะพัฒนาหมู่บ้าน แต่ในความเป็ นจริง ถงึ แม้จะถกู เลือก กอ็ าจจะไม่มีการพฒั นาหมู่บ้านกไ็ ด้

ตวั อย่างเหตุผลวบิ ตั ิ 2.เหตุผลวบิ ตั ไิ ม่แบบทางการ เกิดจากการให้เหตผุ ลท่ไี ม่เก่ียวข้อง กับการใช้ตรรกะในการพจิ ารณา การให้เหตผุ ลโดยอ้าง ลักษณะบุคคล โดยไม่สนใจเนือ้ หา

การให้เหตผุ ลโดยอ้าง การให้เหตุผลโดยอ้าง ถงึ ผู้ว่าว่ามีพฤตกิ รรม ถึงความน่าสงสาร ขัดแย้งกับส่ิงท่พี ูด

การให้เหตผุ ลโดยอ้าง ถงึ คนส่วนใหญ่ การให้ เหตุผลโดยสร้ าง ทางเลือกไว้แค่ 2 ทาง

การให้เหตผุ ลเกินจริง การให้เหตผุ ล เบ่ยี งเบนประเดน็

• กจิ กรรมท่ี 6.2

3.การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศมีวตั ถุ ประสงค์หลายอยา่ ง เช่น การใช้งานเพือ่ ทา ธุรกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส์ การใช้งานเพือ่ สนบั สนนุ การทางาน และการใช้งานทว่ั ไป ซงึ่ จะต้อง คานงึ ถงึ ความปลอดภยั ในการใช้งาน

3.1 การทาธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์อย่างปลอดภยั การทาธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ต้องระมัดระวังและมคี วามรอบคอบ เช่น การซอื้ สินค้าออนไลน์ อาจถูกหลอกหรือได้สินค้าไม่มีคุณภาพได้

3.1 การทาธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์อย่างปลอดภยั การทาธุรกรรมอเิ ล็กทรอนิกส์มี 2 รูปแบบ คือ 1.การทาธุรกรรมโดยตรง 2.การทาธุรกรรม ระหว่ างผ้ ูขายและผ้ ูซอื ้ โดยผ่านผู้ให้บริการ การจองโรงเรียนออนไลน์ ซงึ่ เป็ นตวั กลางในการซอื ้ ขาย การซอื ้ สนิ ค้าจากร้านโดยตรง ระหวา่ งผ้ขู ายกบั ผ้ซู อื ้

3.1 การทาธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์อย่างปลอดภยั ข้อควรคานึงการทาธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 1.ชาระเงนิ โดยผ่านธนาคารแล้วส่งสลิป ยนื ยันการส่ังซอื้ 2.ชาระเงนิ โดยการเกบ็ เงนิ ปลายทาง 3.ชาระเงนิ โดยผ่านบตั รเครดติ เพราะมีหลักฐานท่แี น่นอน 4.ใช้บริการตวั กลางการชาระเงนิ

3.2 การรู้เท่าทนั ส่ือ การรู้เท่าทนั ส่ือ หมายถงึ ความสามารถในการป้ องกันตนเองจากการถกู โน้มน้าว ด้วยเนือ้ หาท่เี ป็ นเทจ็ และมีผลกระต่อผู้รับส่ือ เพ่ือไม่ให้ตกเป็ นเคร่ืองทางการตลาด แบ่งออกได้ 3 ระดบั 1 ผ้รู ับส่ือตระหนกั ถึงความสาคญั ของการเลือกและจดั สรรเวลาในการใช้สอ่ื ตา่ ง 2 ผ้รู ับสอื่ สามารถเรียนรู้ทกั ษะการรับสื่อแบบวิพากษ์ วิเคราะห์ได้ 3 ผ้รู ับสอื่ สามารถวิเคราะห์สอื่ ในเชิงสงั คม การเมือง เศรษฐกิจ

3.3 ข่าวลวงและผลกระทบ ข่าวลวง (fake news) เป็ นรูปแบบหน่ึงของการก่อกวน ซ่งึ ข่าวลวงจะนาเสนอเร่ืองราว ท่เี ป็ นเทจ็ มีวตั ถุประสงค์แอบแฝงท่แี ตกต่างกัน ลักษณะของข่าวล่วง เช่น  สร้างเร่ืองราวเพื่อให้เป็นจดุ สนใจของสงั คม  สร้างความหวาดกลวั  กระต้นุ ความโลภ  สร้างความเกลยี ดชงั  สง่ ตอ่ กนั มาผา่ นเครือขา่ ยสงั คม  ไมร่ ะบแุ หลง่ ที่มา  ขยายความตอ่ จากอคตขิ องคนทว่ั ไป

กจิ กรรมท่ี 6.3 ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งสถานการณ์ข่าวลวงแล้ววิเคราะห์ถงึ วตั ถปุ ระสงค์และผลกระทบ ท่ีอาจเกิดขนึ ้ หากมีการแชร์สสู่ งั คม

4. กฎหมายเก่ียวกับคอมพวิ เตอร์

6.การใช้งานลขิ สทิ ธ์ทิ ่เี ป็ นธรรม ผ้ใู ดต้องการใช้ผลงานท่ีมีลขิ สิทธ์ิ มีหลกั ในการพิจารณา ดงั นี ้  วตั ถปุ ระสงค์และลกั ษณะการใช้งานลขิ สิทธ์ิ  ลกั ษณะงานอนั มีลิขสทิ ธิ์  ปริมาณของการนาไปใช้  ผลกระทบตอ่ ตลาดหรือมลู คา่ ของงานอนั มีลขิ สิทธ์ิ



• กจิ กรรท้ายบท • แบบฝึ กหดั ท้ายบท