เอกสารประกอบการสอน วชิ าปฏิบัติงานโครงสรา้ งอาคาร รหัสวิชา 2106-2001 นายทะยาน จงณรงคช์ ยั ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก คำนำ เอกสารประกอบการสอน วิชาปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร รหัสวิชา 2106-2001 ได้ รวบรวม เรียบเรียง เนื้อหารายวิชาตรงตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เนื้อหาทางวิชาการเป็นประโยชน์สาหรับนักศึกษา ให้มี ความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ ใชป้ ระกอบการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติงาน วิชาปฏบิ ตั ิงานโครงสรา้ งอาคาร จุดประสงค์ เนื้อหาวิชาในเอกสารประกอบการสอน วิชาปฏิบัติงานโครงสร้าง อาคาร แบ่งเป็น 6 หน่วยการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย การเตรียมงานก่อสร้าง การศึกษาแบบ ก่อสร้างอาคาร การวางผังอาคาร งานฐานรากอาคาร งานโครงสร้างอาคาร งานโครงสร้างหลังคา นอกจากนี้ยังมีแบบทดสอบท้ายหน่วยเรียน เพ่ือเป็นการทบทวนความรู้ความเข้าใจของนักศึกษา และ ใบมอบหมายงานในแตล่ ะหน่วย เพ่อื ให้นกั ศกึ ษาได้ฝกึ ทักษะและปฏบิ ัตงิ านโครงสรา้ งอาคารได้ หวังว่าเอกสารประกอบการสอนฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน สาหรับครู นักศึกษาแผนกช่างก่อสร้าง ท่ีนาเอกสารประกอบการสอนน้ี ไปใช้ในการเรียนการสอน หากมี ข้อเสนอแนะ ประการใด ข้าพเจ้ายินดีน้อมรับไว้ ด้วยความขอบคุณยิ่ง ทะยาน จงณรงคช์ ัย วิทยาลัยเทคนคิ ลพบรุ ี
สำรบญั ข คำนำ หน้ำ สำรบัญ ก สำรบญั ภำพ ข แผนบรหิ ำรกำรสอนประจำวิชำ จ แผนกำรจัดกำรเรยี นรูห้ น่วยที่ 1 ซ แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 1 1 หนว่ ยที่ 1 กำรเตรียมงำนก่อสรำ้ ง 3 5 1.1 การสารวจหลักเขตทีด่ ิน 5 1.2 การปรับพ้ืนทบ่ี ริเวณก่อสร้างอาคาร 6 1.3 การกาหนดแนวร้ัวและท่ีดนิ ขา้ งเคยี ง 8 1.4 ส่ิงอานวยความสะดวกชัว่ คราว 9 1.5 เครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง 11 บทสรุป 13 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 1 14 เฉลยแบบทดสอบ 16 เอกสำรอำ้ งอิง 17 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้หนว่ ยที่ 2 18 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยท่ี 2 20 หนว่ ยท่ี 2 กำรศึกษำแบบก่อสร้ำง 21 2.1 รายการประกอบแบบ 21 2.2 แบบผังบริเวณ 22 2.3 แบบแปลน 23 2.4 แบบรูปด้าน 32 2.5 แบบรูปตัดตามยาวและรูปตัดตามขวาง 36 บทสรปุ 36 แบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยท่ี 2 37 เฉลยแบบทดสอบ 39 เอกสำรอำ้ งอิง 40
สำรบัญ (ต่อ) ค แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 3 หน้ำ แบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 3 41 หนว่ ยท่ี 3 กำรวำงผังอำคำร 43 45 3.1 การอา่ นแบบก่อสรา้ งเพื่อการวางผงั อาคาร 45 3.2 การเตรยี มรายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 46 3.3 ขน้ั ตอนการวางผงั อาคาร 49 3.4 การหาศนู ยก์ ลางเสา กาหนดตาแหน่งฐานรากอาคาร 53 บทสรุป 56 แบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 3 57 เฉลยแบบทดสอบ 59 เอกสำรอ้ำงอิง 60 แผนกำรจดั กำรเรยี นรหู้ นว่ ยที่ 4 62 แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยที่ 4 63 หนว่ ยที่ 4 งำนฐำนรำกอำคำร 65 4.1 ประเภทฐานราก 65 4.2 การเตรียมหลุมฐานราก 68 4.3 งานแบบหล่อคอนกรีตฐานราก 69 4.4 งานเหลก็ เสริมฐานราก 72 4.5 งานคอนกรีตฐานราก 74 บทสรุป 76 แบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยที่ 4 77 เฉลยแบบทดสอบ 79 เอกสำรอำ้ งองิ 80 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 5 81 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยที่ 5 83 หนว่ ยท่ี 5 งำนโครงสรำ้ งอำคำร 85 5.1 งานเสาคอนกรตี เสริมเหล็ก 85 5.2 งานคานคอนกรตี เสริมเหล็ก 93 5.3 งานพน้ื คอนกรตี เสริมเหล็ก 98 บทสรุป 101
สำรบญั (ต่อ) ง แบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยที่ 5 หน้ำ เฉลยแบบทดสอบ 102 เอกสำรอ้ำงองิ 104 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หนว่ ยท่ี 6 105 แบบทดกอ่ นหลังเรียนหน่วยท่ี 6 106 หน่วยท่ี 6 งำนโครงสรำ้ งหลงั คำ 108 109 6.1 รูปแบบทรงหลังคา 109 6.2 งานโครงสร้างหลังคาไม้ 112 6.3 งานโครงสรา้ งหลังคาเหล็ก 119 6.4 งานโครงสร้างหลงั คาคอนกรตี เสริมเหล็ก 122 บทสรปุ 125 แบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยที่ 6 126 เฉลยแบบทดสอบ 128 เอกสำรอ้ำงองิ 129 บรรณำนกุ รม 130
จ สำรบญั ภำพ หน้ำ 5 ภาพท่ี 1.1 แสดงภาพ ลักษณะของหมุดหลกั เขตทด่ี นิ 5 ภาพท่ี 1.2 แสดงภาพ การปักหมดุ หลกั เขตท่ดี นิ 6 ภาพท่ี 1.3 แสดงภาพ บริเวณพ้ืนทเี่ ปน็ ป่าและสวน 7 ภาพที่ 1.4 แสดงภาพ บรเิ วณพื้นที่เป็นเนิน 7 ภาพท่ี 1.5 แสดงภาพ บริเวณเปน็ ทล่ี มุ่ นา้ ขงั หรือมบี ่อนา้ 8 ภาพท่ี 1.6 แสดงแบบ แปลนถนนท่ขี ออนุญาตเช่ือมกบั ทางหลวง 9 ภาพที่ 1.7 แสดงแบบ ระยะห่างริมเสาอาคารถึงแนวรว้ั 10 ภาพที่ 1.8 แสดงแบบ ผังสง่ิ อานวยความสะดวก 23 ภาพที่ 2.1 แสดงแบบ แปลนผงั บรเิ วณ 24 ภาพที่ 2.2 แสดงแบบ แปลนพนื้ 27 ภาพที่ 2.3 แสดงแบบ แปลนฐานราก คานคอดนิ พนื้ 28 ภาพท่ี 2.4 แสดงแบบ รปู ตัด ฐานราก 28 ภาพท่ี 2.5 แสดงแบบ รูปตัด คาน เสา 29 ภาพท่ี 2.6 แสดงแบบ รูปตัด พื้น 30 ภาพท่ี 2.7 แสดงแบบ แปลนคานรับโครงหลงั คา 31 ภาพที่ 2.8 แสดงแบบ แปลนโครงหลังคา 32 ภาพท่ี 2.9 แสดงแบบ รูปด้านหนา้ 32 ภาพที่ 2.10 แสดงแบบ รูปดา้ นหลงั 33 ภาพท่ี 2.11 แสดงแบบ รปู ดา้ น 33 ภาพท่ี 2.12 แสดงแบบ รูปดา้ น 34 ภาพที่ 2.13 แสดงแบบ รปู ตัดตามขวาง 35 ภาพท่ี 2.14 แสดงแบบ รูปตัดตามยาว 46 ภาพท่ี 3.1 แสดงแบบ แปลนผังบริเวณ 47 ภาพที่ 3.2 แสดงแบบ การวางไม้ผัง 50 ภาพที่ 3.3 แสดงแบบ การวางผงั อาคารโดยวธิ ีการวางเสน้ ฐาน 52 ภาพที่ 3.4 แสดงแบบ การวางผังอาคารโดยวธิ กี ารตไี มผ้ งั 53 ภาพท่ี 3.5 แสดงแบบ การหาเส้นแนวแรก 54 ภาพที่ 3.6 แสดงแบบ การหาฉากโดยใช้ฉากจันทัน 55 ภาพที่ 3.7 แสดงแบบ การหาฉากโดยใช้กฎ 3:4:5 ของพธิ ากอรสั (Pythagors’s)
สำรบัญภำพ (ตอ่ ) ฉ ภาพท่ี 3.8 แสดงแบบ ตาแหน่งศูนย์กลางเสา หน้ำ ภาพท่ี 4.1 แสดงแบบ ฐานรากแผ่เดีย่ ว 56 ภาพท่ี 4.2 แสดงแบบ ฐานรากตีนเปด็ 65 ภาพที่ 4.3 แสดงแบบ ฐานรากรว่ ม 66 ภาพที่ 4.4 แสดงแบบ ฐานรากแผร่ ่วม 66 ภาพท่ี 4.5 แสดงแบบ ฐานรากวางบนเสาเข็มความฝืด 67 ภาพท่ี 4.6 แสดงแบบ ฐานรากวางบนเสาเข็มรับนา้ หนกั ปลายเขม็ 67 ภาพที่ 4.7 แสดงแบบ การขุดดินฐานรากแบบปากหลุมมีมุมลาดเอยี ง 68 ภาพท่ี 4.8 แสดงแบบ การตีไม้เคร่าตดิ ไม้แบบฐานราก 69 ภาพที่ 4.9 แสดงแบบ การประกบยึดไมแ้ บบฐานราก 71 ภาพท่ี 4.10 แสดงแบบ การประกอบตดิ ตัง้ ไม้แบบฐานราก 71 ภาพที่ 4.11 แสดงแบบ การเสริมเหล็กฐานราก 72 ภาพท่ี 5.1 แสดงแบบ การตัดเหล็กแกนตอนงอหัวเหล็ก 73 ภาพที่ 5.2 แสดงแบบ การดัดเหลก็ ปลอกเสา 86 ภาพที่ 5.3 แสดงแบบ การผูกเหล็กเสริม 87 ภาพที่ 5.4 แสดงแบบ การประกอบเหล็กเสรมิ เสา 88 ภาพท่ี 5.5 แสดงแบบ การประกอบไมแ้ บบเสา 89 ภาพที่ 5.6 แสดงแบบ การติดตัง้ แบบเสาและการรดั ปากแบบ 91 ภาพท่ี 5.7 แสดงแบบ การต้ังเสาตุ๊กตาตอนหวั เสา 92 ภาพที่ 5.8 แสดงแบบ การดัดเหลก็ เสรมิ แกนคาน และเหลก็ คอม้า 95 ภาพที่ 5.9 แสดงแบบ เหลก็ เสรมิ แกนบน แกนล่าง และเหล็กคอมา้ 96 ภาพที่ 5.10 แสดงแบบ การต้ังแบบหล่อคานและพื้นคอนกรีต 97 ภาพท่ี 5.11 แสดงแบบ การเสรมิ เหลก็ พ้นื ชน้ั บน 99 ภาพท่ี 6.1 แสดงแบบ หลังคาแบน 100 ภาพที่ 6.2 แสดงแบบ หลังคาเพงิ หมาแหงน 104 ภาพที่ 6.3 แสดงแบบ หลังคาปีกผเี สอ้ื 105 ภาพท่ี 6.4 แสดงแบบ หลงั คาทรงจั่ว 105 ภาพท่ี 6.5 แสดงแบบ หลงั คาป้นั หยา 106 ภาพที่ 6.6 แสดงแบบ รูปตัดโครงหลงั คา 106 ภาพที่ 6.7 แสดงแบบ การบากบา่ เสาเพือ่ ตดิ ตง้ั อะเส 107 109
สำรบัญภำพ (ต่อ) ช ภาพท่ี 6.8 แสดงแบบ การบากบา่ เสาติดตงั้ จันทนั เอก หน้ำ ภาพที่ 6.9 แสดงแบบ แปลนโครงหลงั คา การวางอะเส อกไก่ จันทนั 110 ภาพที่ 6.10 แสดงแบบ การติดตงั้ จ่วั และขื่อคัด 111 ภาพที่ 6.11 แสดงแบบ การติดต้งั ระยะห่างแป 112 ภาพที่ 6.12 แสดงแบบ ส่วนประกอบโครงหลงั คาเหล็ก 112 ภาพที่ 6.13 แสดงแบบ การติดตัง้ เหลก็ ยดึ แป 113 ภาพที่ 6.14 แสดงแบบ คานโครงเหล็กยึดโครงหลงั คา 113 ภาพที่ 6.15 แสดงแบบ แปลนการยึดทแยงโครงหลังคา 114 ภาพที่ 6.16 แสดงแบบ รปู ตัดสว่ นประกอบโครงหลังคาเหลก็ 114 ภาพท่ี 6.17 แสดงแบบ การปูพื้นสาเรจ็ รูป 115 ภาพท่ี 6.18 แสดงแบบ คานที่ประกบด้านขา้ งพืน้ 116 ภาพท่ี 6.19 แสดงแบบ การยาแนวรอ่ งรอยต่อพ้ืน 116 ภาพท่ี 6.20 แสดงแบบ การเสรมิ เหล็กตะแกรงและเหล็กเสริม 117 ภาพท่ี 6.21 แสดงแบบ การเทคอนกรีตทบั หน้า 117 118
ซ แผนการจัดการเรียนรู้ประจารายวิชา รหสั วชิ า 2106-2001 ชื่อวิชา ปฏบิ ตั งิ านโครงสรา้ งอาคาร จานวน 6 หน่วยกติ 10 ชัว่ โมง/สัปดาห์ หลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาการก่อสรา้ ง 1. จดุ ประสงค์รายวิชา จุดประสงคร์ ายวชิ า เพ่ือให้ 1. เข้าใจหลักการ ข้ันตอน เทคนิค วิธีการก่อสร้างอาคาร การเลือกใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ปฏิบัติงาน โครงสรา้ งอาคาร 2. สามารถปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร วางผัง งานฐานราก งานโครงสร้าง และมุงหลังคาอาคารบ้านพัก อาศยั 3. ปฏิบตั ิตามกฎขอ้ บังคบั ความปลอดภัย สุขภาพ ส่งิ แวดล้อม มุง่ ประสทิ ธิภาพ และประสทิ ธิผล 4. มีกิจนิสัยในการทางานอย่างมีระเบียบวินัย ความประณีต ความรอบคอบ ความปลอดภัย โดยใช้หลัก เศรษฐกจิ พอเพียง สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั ข้ันตอนกระบวนการ วธิ ีการก่อสร้างอาคาร 2. เตรียมความพร้อมของรา่ งกาย เคร่อื งมือ วสั ดอุ ปุ กรณ์งานก่อสร้างโครงสรา้ งอาคาร 3. ปฏิบตั ิงาน งานวางผงั งานฐานราก งานโครงสร้างอาคาร คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั หลกั การปฏิบัติงานโครงสรา้ งอาคาร ข้ันตอน เทคนิค วธิ กี ารก่อสรา้ งอาคาร การ เลอื กใช้ เคร่ืองมือ วัสดุ อปุ กรณ์ การทางานวางผัง งานฐานราก งานโครงสร้าง และมุงหลังคาอาคาร บ้านพักอาศยั
ฌ 2. กาหนดการจัดการเรียนรู้ (โครงการสอน) รหสั วิชา 2106-2001 ชอื่ วิชา ปฏบิ ัติงานโครงสร้างอาคาร จานวน 4 หน่วยกติ 10 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2559 ระดับ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ สาขา งานก่อสรา้ ง สาขาวิชา การก่อสร้าง สปั ดาหท์ ี่ หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ สอนครั้งที่ เวลา (ว.ด.ป.) (ชม.) 1 1 การเตรียมงานก่อสรา้ ง 1-2 10 1.1 การสารวจหมดุ หลักเขตที่ดนิ 1.2 การปรบั พ้ืนทีบ่ รเิ วณก่อสรา้ งอาคาร 1.3 การกาหนดแนวร้วั และเขตท่ดี ินขา้ งเคยี ง 1.4 สงิ่ อานวยความสะดวกชวั่ คราว 1.5 เคร่อื งมือสาหรับงานกอ่ สรา้ ง 2 2 การศึกษาแบบงานก่อสร้าง 3-4 10 2.1 รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง 2.2 แบบผังบรเิ วณ 2.3 แบบแปลน 2.4 แบบรปู ดา้ น 2.5 แบบรปู ตดั ตามยาวและรูปตดั ตามขวาง 3 3 การวางผงั อาคาร 5-6 10 3.1 การอ่านแบบก่อสร้างก่อนวางผงั อาคาร 3.2 การเตรียมรายการเครื่องมอื วัสดุ อปุ กรณ์ 3.3 ขั้นตอนการวางผงั อาคาร 3.4 การหาศูนย์กลางเสา กาหนดตาแหน่งฐานรากอาคาร 4 - 5 4 งานฐานรากอาคาร 7-10 20 4.1 ประเภทฐานราก 4.2 การเตรยี มหลมุ ฐานราก 4.3 งานแบบหลอ่ คอนกรีตฐานราก 4.4 งานเหล็กเสรมิ ฐานราก 4.5 งานคอนกรีตฐานราก 6 - 8 5 งานโครงสร้างอาคาร 11-16 30 5.1 งานเสาคอนกรีตเสรมิ เหล็ก 5.2 งานคานคอนกรตี เสริมเหล็ก 5.3 งานพืน้ คอนกรีตเสรมิ เหล็ก สปั ดาหท์ ี่ หน่วยท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ สอนคร้ังท่ี เวลา (ว.ด.ป.) (ชม.) 9 - 11 6 งานโครงสรา้ งหลงั คา 17-22 30 6.1 รูปทรงหลังคา 6.2 งานโครงสรา้ งหลงั คาไม้ 6.3 งานโครงสรา้ งหลงั คาเหล็ก 6.4 งานโครงสรา้ งหลงั คาคอนกรตี เสรมิ เหล็ก
ญ สปั ดาหท์ ่ี หน่วยท่ี ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ สอนครั้งท่ี เวลา (ว.ด.ป.) (ชม.) 23-34 60 12-17 ฝกึ ปฏิบตั ิงานก่อสรา้ งโครงสร้างอาคารไม้ชัน้ เดียว 35-36 10 180 18 การวัดผลประเมนิ ผล รวม กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน รายวิชางานปฏิบัติงานก่อสรา้ งอาคาร 3. แบง่ กลุ่มปฏิบัติกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. ฝึกปฏิบัตติ ามใบงาน ของหนว่ ยการเรียนรู้ 5. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปเนอ้ื หา 6. ทาแบบทดสอบท้ายหน่วย เพ่ือทบทวนความความรคู้ วามเขา้ ใจของนักศึกษา สอื่ การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชางานก่อสรา้ งอาคาร 1 2. สอื่ power point ประกอบการสอน 3. แบบกอ่ สรา้ งอาคารและรายการประกอบแบบก่อสร้าง 4. อปุ กรณเ์ ครอื่ งมอื ฝึก ปฏบิ ัตงิ านโครงสร้างอาคาร 5. วัสดุฝกึ ปฏิบัติงานโครงสรา้ งอาคาร เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล การวดั ผล 80 % 1. คะแนนระหวา่ งเรียน 20 % 20 % 1.1 คะแนนเจตคติ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 40 % 1.2 คะแนนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 20 % 1.3 ฝึกภาคปฏิบัติ 2. สอบปลายภาคเรยี น การประเมนิ ผล 80 – 100 ไดร้ ะดบั 4.0 คะแนนระหวา่ ง 75 – 79 ได้ระดับ 3.5 คะแนนระหวา่ ง 70 – 74 ได้ระดับ 3.0 คะแนนระหวา่ ง 65 – 69 ได้ระดับ 2.5 คะแนนระหว่าง 60 – 64 ไดร้ ะดบั 2.0 คะแนนระหวา่ ง 55 – 59 ได้ระดับ 1.5 คะแนนระหว่าง 50 – 54 ได้ระดบั 1.0 คะแนนระหว่าง 0 – 49 ไดร้ ะดับ 0.0 คะแนนระหวา่ ง
1 แผนการจัดการเรยี นรู้หน่วยที่ 1 เร่ือง การเตรยี มงานกอ่ สร้าง สาระสาคญั การเตรยี มงานก่อสรา้ ง เป็นการเตรียมความพรอ้ มก่อนการกอ่ สร้าง เริม่ ตงั้ แต่การสารวจหมุด หลักเขตท่ีดินให้ตรงตามเอกสารสิทธิ์ การปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างให้ได้ระดับตามที่กาหนดไว้ใน แบบแปลน กาหนดแนวรวั้ และเขตท่ดี ินขา้ งเคียงเพื่อป้องกันการรบกวนเขตที่ดินข้างเคียงขณะทาการ ก่อสร้าง การเตรียมสงิ่ อานวยความสะดวกในขณะทาการกอ่ สร้าง และเตรยี มเครอ่ื งมอื สาหรบั งานก่อสร้าง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงคท์ ั่วไป 1. เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการสารวจหมุดหลกั เขตที่ดิน 2. เพื่อใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกับการปรับพืน้ ท่ีบริเวณก่อสร้างอาคาร 3. เพอื่ ให้มีความรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับเครือ่ งมือสาหรับงานก่อสร้าง 4. เพอ่ื ใหม้ ที ักษะเก่ยี วกับการสารวจหมุดหลกั เขตและการกาหนดแนวรว้ั 5. เพ่อื ใหม้ ีทักษะในการกาหนดตาแหน่งสิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราวและการเตรียมเครื่องมือ 6. เพ่อื ให้มเี จตคตทิ ีด่ ใี นการเรียนและการปฏบิ ัติงาน 7. เพือ่ ใหม้ คี ุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. ปฏบิ ัติงานสารวจหมุดหลักเขตท่ดี ินได้ 2. ปรับพื้นทบ่ี ริเวณก่อสรา้ งอาคารได้ 3. กาหนดแนวรัว้ และเขตทดี่ ินข้างเคียงได้ 4. อธิบายสิง่ อานวยความสะดวกช่ัวคราวได้ 5. จาแนกเคร่อื งมือสาหรับงานก่อสร้างได้ 6. มเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน 7. ปฏิบตั งิ านด้วยความรบั ผิดชอบและมรี ะเบยี บวนิ ัย 8. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ สาระการเรยี นรู้ ดังน้ี 1.1 การสารวจหมุดหลกั เขตท่ีดิน 1.2 การปรบั พืน้ ทบี่ ริเวณก่อสรา้ งอาคาร 1.3 การกาหนดแนวร้ัวและเขตที่ดินข้างเคียง 1.4 ส่ิงอานวยความสะดวกชวั่ คราว 1.5 เครื่องมือสาหรบั งานก่อสร้าง
2 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. แจ้งจุดประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจก่อนเรยี น 2. ให้ผูเ้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี1 3. ครบู รรยายนาเขา้ สู่บทเรียน 4. ผเู้ รยี นศึกษาเน้ือหาความร้ใู นเอกสารประกอบการสอนหนว่ ยที1่ เรอื่ ง การเตรยี มงานกอ่ สรา้ ง 5. ผู้เรยี นและครู รว่ มกนั สรุปเน้ือหาประกอบส่ือ 6. การอภปิ รายและการซักถามเกี่ยวกบั บทเรียนรว่ มกนั 7. ผเู้ รียนแบง่ กลุม่ ๆ ละ 6 คน ปฏิบตั ิงานตามใบงานท1่ี - 2 8. ผู้เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชางานกอ่ สร้างอาคาร 1 2. แผน่ ใสประกอบการบรรยาย 3. แผ่นภาพ 4. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบก่อสรา้ ง การวดั ผล ประเมนิ ผล 1 วดั ผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 2 วิธีวดั ประเมินผล 2.1 สังเกต เจตคติ คณุ ธรรม จริยธรรม ในการเรียนรู้และปฏบิ ัตงิ าน 2.2 สงั เกต และตรวจผลงาน จากการปฏิบตั งิ านตามใบงาน 2.3 ประเมนิ ผลจากแบบทดก่อนหลงั เรยี น 2.4 ประเมนิ ผลจากแบบทดสอบหลงั เรียน 3. เครือ่ งมือวดั ประเมนิ ผล 3.1 แบบประเมิน เจตคติ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 3.2 แบบประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน 3.3 แบบทดสอบก่อนเรยี น 3.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยท่ี 1 เรอื่ งการเตรียมงานก่อสร้าง เวลา 10 นาที คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบมีทง้ั หมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2.ให้นกั ศกึ ษาทาเครื่องหมาย ในตัวเลือกท่เี หน็ วา่ ถกู ต้องที่สุดลงในกระดาษคาตอบ 1. การเตรยี มสถานที่ ทจ่ี ะก่อสร้างอาคารขอ้ ใดต่อไปน้มี ีความสาคัญทสี่ ดุ ก. มีทางเขา้ – ออกอยู่ในบริเวณชุมชน ข. มีท่ีกองเกบ็ วัสดุ หิน ทรายจานวนมาก ค. สถานที่บรเิ วณงานก่อสรา้ งมีความกวา้ ง ง. ตรวจสอบหมุดหลกั เขตท่ดี ินตรงตามเอกสารสทิ ธ์ิ 2. ขอ้ ความต่อไปนีข้ ้อใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ ง ก. หมุดหลักเขตที่ดินเจ้าของสามารถเคล่ือนยา้ ยได้เพ่ือความเหมาะสม ข. การตรวจสอบแนวเขตที่ดินเปน็ การตรวจสอบพ้ืนท่ีใหต้ รงเอกสารสทิ ธ์ิการถือครอง ค. การเตรยี มสถานทงี่ านก่อสรา้ งหมายถึงการศึกษาสภาพสถานที่ ทีจ่ ะทาการปลูกสร้างอาคาร ง. การเตรยี มสถานท่ีกอ่ สร้างอาคารควรใหเ้ จา้ ของช้บี ริเวณทีจ่ ะปลูกสร้างป้องกนั การสรา้ งผิดที่ 3. งานก่อสรา้ งอาคารหมายถึง งานก่อสร้างแบบใด ก. งานกอ่ สรา้ งอาคารตามแบบกอ่ สร้าง ข. งานกอ่ สร้างอาคารตามความคดิ ของเจ้าของอาคาร ค. งานกอ่ สร้างอาคารตามความถนดั ของชา่ งผู้กอ่ สรา้ ง ง. งานกอ่ สรา้ งอาคารตามแบบกอ่ สร้างและรายการประกอบแบบก่อสร้าง 4.งานก่อสร้างติดเขตทดี่ ินขา้ งเคยี งตามเทศบัญญตั ิแนวอาคารรมิ เสา หา่ งจากแนวรัว้ เทา่ ไร ก. ไม่น้อยกวา่ 1.50 เมตร ข. ไม่นอ้ ยกว่า 2.00 เมตร ค. ไม่นอ้ ยกว่า 2.50 เมตร ง. ไม่นอ้ ยกว่า 3.00 เมตร 5. การถมดนิ บดอดั ดนิ ในบริเวณเปน็ ท่ีลุ่มนา้ ขงั ฯ การบดอัดดนิ ใหแ้ นน่ เปน็ ชั้นๆละ เท่าไร ก. 40 เซนติเมตร ข. 50 เซนตเิ มตร ค. 60 เซนติเมตร ง. 70 เซนตเิ มตร 6. ในบรเิ วณงานก่อสร้างข้อใดตอ่ ไปน้ีไม่ไดแ้ สดงอยใู่ นผงั ส่ิงอานวยความสะดวก ก. บ้านพักคนงาน ข. โรงเกบ็ วัสดุ ค. โรงอาหาร ง. หอ้ งนา้ ห้องสว้ ม
4 7. ในกรณีก่อสรา้ งอาคาร ที่มีบริเวณตดิ กบั เขตทดี่ นิ ข้างเคยี ง ควรใชฐ้ านรากแบบใด ก. ฐานรากเด่ียว ข. ฐานรากร่วม ค. ฐานรากตนี เปด็ ง. ฐานรากแผ่ 8. ระบบไฟฟา้ ชว่ั คราวท่ใี ชใ้ นงานกอ่ สรา้ ง เปน็ แบบระบบใด ก. ระบบไฟฟ้ากาลัง ข. ระบบไฟฟา้ แสงสว่าง ค. ระบบไฟฟา้ สาธารณะ ง. ระบบไฟฟ้ากาลังและระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง 9. ข้อใดต่อไปนี้คือเครื่องมือประจาตวั ชา่ งไม้ ก. รอก ข. คอ้ นหงอน ค. คอ้ นปอนด์ ง. ประแจดัดเหล็ก 10. เครอ่ื งโมผ่ สมคอนกรีต ใชผ้ สมคอนกรีตใส่ปนู ซเิ มนต์ผสมครง้ั ละเทา่ ไร ก. 50 กิโลกรมั ข. 70 กโิ ลกรัม ค. 90 กิโลกรมั ง. 100 กโิ ลกรัม
5 หน่วยที่ 1 การเตรยี มงานก่อสรา้ ง การก่อสร้างอาคาร คืองานก่อสร้างที่ระบุในแบบก่อสร้างอาคาร และรายการประกอบ แบบ เอกสารแนบสัญญา รวมทั้งงานประกอบอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร การทางานจึงต้องมี ลาดับข้ันในการปฏิบัติงาน เพ่ือให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดเวลาการทางาน เกิดผลงานที่ดี มีคุณภาพ งานก่อสร้างเสร็จตรงตามเวลาที่กาหนด การเตรียมสถานที่ก่อสร้างอาคาร และการศึกษาแบบ ก่อสร้างอาคารรายการประกอบแบบ เอกสารแนบสัญญา เพ่ือเตรียมข้ันตอนการก่อสร้างอาคาร และการจัด เตรยี มเครื่องมอื วัสดุ อปุ กรณ์ ใหเ้ หมาะสม กับการดาเนนิ งานกอ่ สรา้ งอาคาร การเตรียมสถานที่ก่อสร้างอาคาร หมายถึง การศึกษาสภาพบริเวณสถานที่ที่จะทาการปลูก สร้างอาคาร เพื่อสารวจ ตรวจสอบ แนวเขตที่ดิน ให้ตรงกับเอกสารสิทธิ์ถือครองที่ดิน โดยขอ รายละเอียดจากเจ้าของที่จะปลูกสร้างอาคาร เช่น เอกสารสิทธิ์ถือครองที่ดินโฉนดที่ดินมา ประกอบกับแบบการก่อสร้างอาคาร รายการประกอบแบบ ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารและให้ เจ้าของที่จะปลูกสร้างอาคารมาชี้บริเวณและแนวเขตที่ดิน เพื่อเป็นการยืนยันและป้องกันการ ก่อสร้างอาคารผิดพื้นท่ี เมื่อทาการสารวจ ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ควรดูแลหมุดแนวเขตให้อยู่ ในสภาพเดิมตรงตามรังวัด แล้วจึงทาการปรับสภาพพ้ืนท่ี เช่นการตัดหรือถมดินบริเวณให้ได้ระดับ ดินตามแบบท่ีกาหนดการกาหนดแนวร้ัวและทด่ี ินข้างเคียงตลอดจนสาธารณูปโภคท่ีมีความจาเป็นใน การอานวยความสะดวกระหวา่ งทาการก่อสร้างอาคาร 1.1. การสารวจหลกั เขตทด่ี ิน การสารวจตรวจสอบแนวหมุดหลักเขตที่ดิน เป็นการตรวจสอบพื้นที่ให้ตรงกับเอกสารสิทธ์ิใน การถือครองที่ดิน โฉนดที่ดิน ด้วยการตรวจสอบหมุดหลักเขตที่ดินโดยการนาชี้หมุดหลักเขตของ เจ้าของที่ดินที่จะปลูกสร้างอาคารว่าหมุดหลักเขตท่ีดิน ที่ปักไว้แต่เดิมมีตัวเลขหรือตัวอักษรตรงกับ ตัวเลขหรือตัวอักษรในเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดิน โฉนดท่ีดินหรือไม่ และหมุดหลักเขตที่ดินถูกต้อง ตรงตามเอกสารสิทธ์ิการถือครองท่ีดินโฉนดท่ีดิน ไม่มีการเคล่ือนย้าย หรือหากไม่แน่ใจควรให้เจ้าของ ที่ดินทาการติดต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เพื่อทาการรังวัดตรวจสอบแนวหมุดหลักเขตที่ดิน พร้อมทั้ง ให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงเข้าร่วมทาการ สารวจตรวจสอบแนวเขตที่ดิน และลงนามรับรองแนวเขต ท่ีดนิ ภาพท่ี 1.1 แสดงภาพ ลกั ษณะของหมดุ หลักเขตทดี่ ิน ภาพที่ 1.2 แสดงภาพ การปักหมดุ หลกั เขตที่ดนิ ทม่ี า : ภาพถ่ายโดยทะยาน จงณรงคช์ ัย
6 การรักษาหมุดหลักเขตท่ีดิน เจ้าของท่ีดินข้างเคียงเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันในการรกั ษา หมุดหลกั เขตทด่ี นิ ไม่ให้มกี ารเคล่อื นย้ายหมดุ หลักเขตท่ีดนิ โดยจะตอ้ งคอยตรวจสอบความมั่นคงของ หมุดหลักเขตที่ดินให้อยู่ตรงตามตาแหน่ง ตรงกับเอกสารสิทธ์ิถือครองโฉนดท่ีดินซ่ึงอาจเกิดจาก คนทาการขุดย้ายหมุดหลักเขตท่ีดิน หรือการถมดินทับ และจากธรรมชาติ ฝนตก กัดเซาะ น้าพัดพาหน้าดิน มาทับถม หรือพัดพาดินที่หมุดหลักเขตท่ีดินไปจนหมุดหลักเขตหลุดและ เคลื่อนย้ายได้ การเคลื่อนย้ายหมุดหลักเขตที่ดิน ที่กระทาโดยคนจะเจตนาหรือไม่ ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายทด่ี นิ ท่ีกาหนดไวว้ า่ หลักเขตหรือหมุดหลักเขตท่ีดนิ เป็นสมบัตขิ องทางราชการ ห้ามบุคคล ใดร้ือถอน เคลื่อนย้าย หรอื ทาลาย และตัวหมดุ หลกั เขตทดี่ นิ ต้องปักอย่บู นพืน้ ดนิ เท่านน้ั 1.2 การปรบั พน้ื ท่ีบรเิ วณก่อสร้างอาคาร ในการก่อสร้างอาคารจะต้องตรวจสภาพพื้นที่และบริเวณที่จะทาการก่อสร้างอาคา ร เนื่องจากสภาพพื้นที่ในแต่ละแห่งมีสภาพท่ีแตกต่างกัน เช่น บริเวณพื้นที่เป็นป่าและสวน ท่ีรกด้วย หญ้า วัชพืช ต้นไม้ใหญ่ บริเวณพื้นที่ตามเนินเขา บริเวณพื้นที่ลุ่มที่มีน้าขังหรือบ่อน้า ซึ่งจาก สภาพบริเวณพื้นที่ ที่ต่างกันจึงจาเป็นต้องทาการปรับพื้นที่ให้ได้ค่าระดับ ±0.000 ตามแบบ ก่อสร้างให้พร้อมก่อนที่จะดาเนนิ การกอ่ สร้างอาคารตอ่ ไป 1.2.1 บริเวณพื้นท่ีเป็นป่าและสวน ส่วนมากบริเวณพื้นท่ีเป็นป่าและสวนจะเป็นบริเวณที่มีหญ้าวัชพืชปกคลุมพื้นที่ บาง แห่งเป็นที่ลุ่มมีน้าขังชุ่มช้ืนตลอด มีต้นไม้ใหญ่ข้ึนเช่น ต้นมะม่วง ต้นมะขาม ต้นมะขามเทศ ต้นมะพร้าว ต้นจามจุรี ต้นไม้เบญจพรรณทั่ว ๆ ไปทาให้กีดขวางการปรับพ้ืนที่และถมดิน จึงจาเป็นต้องตัดต้นไม้ ใหญ่ออกก่อนทาการถมดิน และเมื่อตัดต้นไม้ใหญ่ออกแล้ว ให้ทาการขุดรากถอนโคนตอต้นไม้ ออกด้วย กอ่ นทาการถมดินปรบั พ้ืนทใ่ี ห้ไดร้ ะดับ ภาพท่ี 1.3 แสดงภาพ บรเิ วณพน้ื ท่เี ป็นป่าและสวน ที่มา : ภาพถ่ายโดยทะยาน จงณรงคช์ ัย 1.2.2 บรเิ วณพ้นื ที่เปน็ เนิน ในบริเวณพ้ืนท่ีก่อสร้างอาคาร ควรให้คนงานจัดการถางหญ้าและวัชพืชให้เตียนท่ัวบริเวณ เพือ่ ทาการตรวจสอบคา่ ระดบั พ้นื ดินว่ามีค่าระดับแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน บางพื้นที่อาจจะเป็นเนิน สงู กว่าระดับปกตทิ ว่ั ไปจากธรรมชาติ หรืออาจเปน็ เพราะมกี ารขนเอาเศษวัสดุ เศษหิน เศษปูนมาทิ้งไว้ ในบริเวณพื้นท่ี ในการปรับบริเวณที่พ้ืนที่ ที่มีค่าระดับที่ต่างกันมาก ควรจะนาเครื่องจักรมาช่วยใน
7 การปรับพ้ืนท่ีดิน โดยการตัดดินจากบริเวณท่ีเป็นเนินไปถมบริเวณท่ีเป็นทีล่ มุ่ เพ่ือประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนทเี่ ปน็ เศษวัสดหุ นิ ปูนถา้ มีขนาดใหญ่จะต้องทาการขนย้ายนาไปทิ้งบรเิ วณอ่นื ภาพที่ 1.4 แสดงภาพ บรเิ วณพนื้ ท่เี ปน็ เนิน ท่มี า : ภาพถ่ายโดยทะยาน จงณรงค์ชัย 1.2.3 บรเิ วณเปน็ ทีล่ ุ่มมนี า้ ขังหรือบอ่ นา้ บริเวณนี้ก่อนที่จะทาการถมดินจะต้องทาการวิดน้าบริเวณที่ลุ่มออกให้หมดก่อน แล้ว ควรใช้เครื่องจักรกล ขุดลอกโคลนตม เศษหญ้า เศษวัชพืชออกจากบริเวณให้หมด และทาการตาก และผึ่งหน้าดินบริเวณที่จะถมให้แห้งเสียก่อนจึงทาการถมดิน เพื่อเป็นการป้องกันการทรุดตัวของดิน บริเวณท่ีมีน้าขังและการถมดินให้ทา การบดอัดดินเป็นช้ันๆ ละ 40 เซนติเมตร แต่ละชั้นให้ใช้เครื่อง จักรกล ในการบดอัดทาให้แน่นตามหลักวิชาการจนได้ระดับดิน ±0.000ตามแบบกอ่ สรา้ ง ภาพท่ี 1.5 แสดงภาพ บริเวณเป็นท่ลี ุ่มน้าขังหรือมบี ่อนา้ ทม่ี า : ภาพถ่ายโดยทะยาน จงณรงค์ชัย 1.2.4 บริเวณที่ติดกับถนนหรือทางหลวง ง า น ก่อ ส ร้า ง อ า ค า ร จา เ ป็น ต้อ ง ทา ก า ร ขออนุญาตสร้างถนนเชื่อมกับถนนหรือทาง หลวงโดยต้องเขยี นแบบแปลนแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของ ตาแหน่งในการขอต่อเชื่อมโดยต้องบอก ขนาดความกว้าง ความยาวตามแบบจากริมรั้วถึงแนวถนน แสดงชนิดของการสร้างถนน ว่าเป็น ถนนคอนกรีตหรือแอสฟัลต์ ถ้าเป็นถนนอยู่ในเขตรับผิดชอบของเทศบาลต้องทาเรื่องขออนุญาต เทศบาล แต่ถ้าเป็นทางของกรมทางหลวงต้องขออนุญาตกรมทางหลวงก่อน ที่จะทาการ
8 ก่อสร้างทางเชื่อม และการที่จะทาการสกัดหรือขุดถนนจะต้องขออนุญาตก่อนและต้องปฏิบัติ ตามเง่ือนไขทห่ี นว่ ยงานควบคมุ กาหนด บริ เวณพ้ืนที่ปลูกสร้างอาคาร 3.00 ทางที่เช่ือมตอ่ กบั ทางหลวง 6.00 ทางหลวง มาตราส่วน 1:100 ภาพที่ 1.6 แสดงแบบ แปลนถนนท่ขี ออนุญาตเชอื่ มกบั ถนนทางหลวง 1.3 การกาหนดแนวรั้วและเขตทดี่ นิ ขา้ งเคยี ง การกาหนดแนวรั้วและการป้องกันเศษวัสดุตก หล่นใส่ในเขตที่ดินข้างเคียง งานก่อสร้างอาคาร ต้องให้ความสาคัญในเรื่องน้ี เพ่ือป้องกันเหตุพิพาทกันกับเจ้าของท่ีดินข้างเคียง ทั้งในระหว่างงาน ก่อสรา้ งและหลงั การก่อสร้างแลว้ เสร็จ ควรดาเนินการดงั น้ี 1.3.1 การกาหนดแนวรั้ว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทกับที่ดินข้างเคียง ควรกาหนดแนวรั้ว และแนวก่อสร้าง ทาการการตรวจสอบแนวหมุดหลักเขตที่ดินให้ตรงกันทั้งสองฝ่ายหรือและจัดทา เอกสารไว้หลกั ฐาน ลงนามรับรองเอกสาร เรอื่ งทาการตกลงร่วมกัน ถึงการแนวเขตท่ีดินข้างเคียง ก่อน ดาเนินการก่อสร้างแนวรั้วชั่วคราว หรือในงานก่อสร้างรั้วคอนกรีต ตาแหน่งหมุดหลักเขตที่ดินควร อยู่กึ่งกลางแนวรั้วเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ใช้ประโยชน์ทด่ี นิ อย่างเตม็ กรรมสทิ ธิ์ 1.3.2 ที่ดินข้างเคียง งานก่อสร้างอาคารที่ติดกับเขตที่ดินข้างเคียง ตามเทศบัญญัติการ กอ่ สร้างอาคาร แนวริมเสาของอาคาร จะต้องห่างจากแนวริมรั้วไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร เว้นแต่ด้านท่ี อยู่ชิดริมรั้ว ไม่มีหน้าต่างซึ่งเป็นเพียงช่องแสงเท่าน้ัน หากระยะในแบบแปลนผังบริเวณไม่ถูกต้องตาม เทศบัญญัติ จะไม่ได้รับพิจารณาอนุญาตก่อสร้างได้ เจ้าของอาคารหรือผู้ยื่นแบบขออนุญาต จะต้องทาการแก้ไขระยะในแบบแปลนให้ถูกต้องก่อน จึงจะได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เว้นแต่กรณีที่เจ้าของเขตที่ดินข้างเคียง เห็นชอบให้ก่อสร้างอาคารได้ และลงนามลายมือช่ืออนุญาต ให้ก่อสรา้ งได้ เปน็ ลายลกั ษณ์อักษร
9 ขอ้ ควรระวังเก่ียวกบั งานกอ่ สรา้ งอาคารท่ีอยู่ใกล้กับที่ข้างเคียงคือ 1) ฐานรากจะต้องไม่ลา้ เข้าไปในเขตท่ีขา้ งเคียง หากจาเปน็ ท่ีต้องทาฐานรากตดิ กับเขตที่ดิน ข้างเคยี ง ควรใช้ฐานรากแบบตีนเปด็ แลว้ นาสว่ นทฐ่ี านแผ่เข้าด้านในอาคาร 2) เศษวัสดุ ไม่ควรท้ิงหรือให้ล่วงล้าเข้าไปเขตท่ีข้างเคียง ควรตีไม้กั้นรั้วรอบบริเวณงาน กอ่ สร้าง หรือการตีครา่ วกรสุ ังกะสีลาดเอียงรองรบั เศษวสั ดุ ที่จะตกใส่ท่ขี ้างเคียง 3) ต้องไม่ทาให้อาคารที่ข้างเคียงได้รับผลกระทบเน่ืองจากการถมดิน หรือการตอกเสาเข็ม F GB2 2.00 m. ก 4857 C F GS ระยะห่างจากจุดกลางเสา C ตน้ ริมถึงแนวร้ัว 2.00 F GB1 GB2 C F แนวร้ัวที่ดินขา้ งเคียง GB1 GS C GB2 F GB1 F CC มาตราส่วน 1:50 ภาพที่ 1.7 แสดงแบบ ระยะห่างรมิ เสาอาคารถงึ แนวร้วั 1.4 ส่งิ อานวยความสะดวกชัว่ คราว 1.4.1 ส่ิงอานวยความสะดวกต่างๆ 1) สานักงานชั่วคราว จะต้องสร้างสานักงานชั่วคราวในบริเวณสถานที่ก่อสร้าง สาหรับ เป็นที่ทางานของผู้รับจ้างและผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ประกอบด้วยอุปกรณ์ประกอบ สานักงานที่ จาเปน็ เชน่ โตะ๊ ทางาน โตะ๊ เขียนแบบ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง โทรศัพท์ โทรสาร ตู้เอกสาร ห้องน้าห้องส้วม เป็นต้น 2) บ้านพักคนงาน จะต้องสร้างบ้านพักคนงาน ห้องน้า ห้องส้วมและสิ่งสาธารณูปโภคท่ี จาเป็นในบริเวณที่ผู้ควบคุมกาหนด และดูแลให้อยู่ในสภาพปลอดภัยถูกสุขลักษณะ มีการขจัด ขยะมลู ฝอยเปน็ ประจา 3) โรงงาน โรงเก็บวัสดุ จะต้องจัดให้มีโรงงาน โรงเก็บวัสดุอุปกรณ์เพื่อเก็บ และป้องกัน ความเสียหายของวัสดุและอุปกรณ์ทุกชนิดที่นามาใช้ในการก่อสร้าง โดยให้มีขนาดและความเหมาะสม เพียงพอกับความต้องการ และไม่ควรนาวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆที่ไม่ได้นามาใช้ในงาน ก่อสร้างอาคารมาเก็บไว้ในโรงเกบ็ วัสดุ
10 4) ที่กองเก็บวัสดุ จะต้องจัดเตรียมท่ีกองเก็บวัสดุต่างๆ ที่จะต้องใช้ในการงาน กอ่ สร้างเพอื่ ให้เป็นระเบียบเรียบรอ้ ยและเกิดการเสียหายน้อยทส่ี ุดเช่น การกองเก็บหนิ ทรายหยาบ ทรายละเอียด อฐิ มอญ อฐิ คอนกรตี บลอ็ ก และไมแ้ บบเป็นต้น ห้องน้า ห้องสว้ ม บา้ นพกั คนงาน โรงงาน อาคารท่ีปลกู สร้าง งสชาวั่านนครกั าว หอ้ งน้า โวรสั งดเกุ ็บ ห้องส้วม อุปกรณ์ ท่ีกองเกบ็ วสั ดุ ทางเขา้ มาตราส่วน 1:150 ภาพที่ 1.8 แสดงแบบ ผังสง่ิ อานวยความสะดวกต่าง ๆ 1.4.2 ไฟฟา้ ท่ีใชใ้ นงานกอ่ สร้าง ควรจัดให้มีระบบการใชไ้ ฟฟ้าดังนี้ 1) ระบบไฟฟ้าชั่วคราว ที่ใช้ในงานก่อสร้างทั้งในระบบไฟฟ้ากาลังและระบบไฟฟ้า แสงสว่างผู้รับจ้างจะต้องขออนุญาตติดตั้งระบบไฟฟ้าชั่วคราวจากการไฟฟ้าฯ รวมทั้ง ค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ทั้งหลาย ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าบารุงรักษา ค่ารื้อถอน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องจัดหาหรือคิด เผื่อไว้ การจัดให้มีระบบไฟฟ้าชั่วคราวที่ใช้ในงานก่อสร้างดังกล่าว รวมไปถึงส่วนที่เป็นงานของผู้ รับจา้ งชว่ งและผ้รู ับจ้างอื่นด้วย 2) ความปลอดภัยจากการใช้ไฟฟ้า ควรจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ และดาเนินการติดตั้งระบบ ไฟฟ้าช่ัวคราวที่ใช้ในงานก่อสร้าง ให้มีความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมท้ังระบบการป้องกัน การลัดวงจรและการตัดตอนไฟฟ้าได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับ ของการไฟฟ้าฯ และหรอื มาตรฐานความปลอดภยั ตามกฎหมายทใ่ี ชบ้ ังคับอยู่ด้วย 3) ขนาดของกระแสไฟฟ้าชั่วคราว ที่ใช้ในงานก่อสร้างให้เป็นความรับผิดชอบของผู้ รับจ้างที่จะต้องจัดให้มีเพียงพอกับการใช้ ในส่วนที่เป็นงานของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง และ ผู้รับเหมารายอื่นที่ทางานในงานก่อสร้างนี้ให้ใช้ร่วมกันได้ และอาจจะต้องขอเพิ่มเติมขนาด กระแสไฟฟ้าชั่วคราวจากการไฟฟ้าฯ ให้เหมาะสมได้ตามความจาเป็น โดยผู้รับจ้างจะเป็น ผู้รับภาระคา่ ใชจ้ ่ายทัง้ ส้ิน 1.4.3 นา้ ประปาทใี่ ชใ้ นการก่อสรา้ ง จะต้องจัดให้มีระบบน้าประปาชั่วคราว เพื่อใช้ในงานก่อสร้างตั้งแต่เริ่มงานจนงานแล้ว เสร็จ รวมทั้งการทดสอบระบบสุขาภิบาลทั้งหมดโดยผู้รับจ้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ตั้งแต่การขอ อนุญาต ติดตั้งระบบนา้ ประปาจากการประปาฯ รวมท้ังค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทั้งหลาย ค่าน้าประปา ค่า
11 บารุงรักษา ค่ารื้อถอนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจัดหาหรือคิดเผื่อไว้ การจัดให้มีระบบน้าประปา ชั่วคราวรวมไปถึงงานที่เป็นงานของผู้รับจ้างเอง และในส่วนของของผูร้ บั จ้างรายอื่นๆ ด้วย 1.5 เครอื่ งมอื สาหรบั งานก่อสรา้ ง งานก่อสร้างอาคารนอกจากฝีมือของช่างผู้ท่ีปฏิบัติงานก่อสร้างอาคารแล้วเครื่องมือก็เป็น ส่วน หนึ่งของการทางาน งานก่อสร้างอาคารมีช่างหลายสาขาประกอบกันอยู่ เช่น ช่างไม้แบบ ช่างไม้ โครงสรา้ ง ช่างปูน ช่างเหล็กเสริมคอนกรีต ช่างเช่ือมเหล็กโครงสร้างฯ จึงได้แบ่งเครื่องมือท่ีใช้ในงาน กอ่ สรา้ งอาคารเปน็ 3 ประเภทดังนี้ 1.5.1 เคร่ืองมือประจางานก่อสร้าง เป็นเคร่ืองมือที่มีขนาดใหญ่ มีราคาแพงหรือเป็นเครื่องมือที่ใช้ส่วนรวม มีการแตก หักชารุดเสียหายง่าย ผู้รับจ้างต้องเป็นผู้จัดหาไว้ให้ช่าง และคนงานเบิกใช้ในงานก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องมือนี้ ผู้รับจ้างจะต้องคิดเผื่อไว้ในแต่ละงานและสะสมเครื่องมือ และ ทาการซ่อมบารุงรักษาเครื่องมือให้พร้อมใช้งานตลอด เคร่ืองมือประจางานก่อสร้างท่ีควรมีไว้ใช้ ควรมี ดังนี้ 1) เครอ่ื งสบู น้า ในงานกอ่ สร้างจาเป็นต้องมีเคร่ืองสูบน้าไว้ใช้ เพ่ือใช้ในการสูบน้ามาใช้ ในการก่อสร้าง หรือสูบน้าออกจากบริเวณที่ทาการก่อสร้าง กรณีที่ฝนตก หรือมีน้าท่วมในบริเวณ ท่ีจะทางาน เคร่ืองสูบนา้ มีหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมนามาใช้กันมากเป็นเคร่ืองสูบน้าแบบไดโวใช้ไฟฟ้า เป็นเครอ่ื งสูบน้าท่สี ามารถยกได้ด้วยคนเดียว มขี นาดกะทดั รดั เม่ือเสียบไฟฟ้าเคร่ืองจะเดินและสูบน้า ได้ ซ่ึงมีขนาด 2- 3 นิ้ว แล้วแต่ขนาดของท่อ เครื่องที่ผลิตจากโรงงานจะป้องกันไฟฟ้ารั่วได้เป็น อย่างดี แต่เครื่องที่เสียแล้วนาไปซ่อม อาจจะใช้งานได้ไม่ดีเพราะอาจมีไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าลัดวงจรทา ให้เสยี ชวี ติ ได้ 2) เครื่องโม่ผสมคอนกรีต ในงานก่อสร้างท่ัวไปจะต้องมีเครื่องโม่คอนกรีตไว้ใช้ในการ ผสมคอนกรีต ใช้ปูนซีเมนต์ 1 ถุง ( 50 กิโลกรัม) ผสมกับวัสดุมวลคละ จะเต็มโม่พอดี เครื่องโม่ จะหมุน เพ่ือผสมส่วนผสมคอนกรีตให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที เคร่ืองโม่ท่ีนิยมใช้กันอยู่มี 2 แบบ ด้วยกันคือ แบบที่ใช้เครื่องยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนตัวโม่ กับแบบที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับ เคลอื่ นตวั โม่ 3) เคร่ืองตัดไม้และซอยไม้ เป็นเคร่ืองมือที่ช่วยให้การทางานสะดวกและรวดเร็วช่วยใน การตัดไม้และซอยไม้แบบ ช่างไม้แบบที่ใช้เครื่องมือตัดไม้และซอยไม้ ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะ อาจเกิดอันตรายจากใบเลื่อยของเครื่องได้ และควรถอดใบมาลับปรับแต่งให้คม เพื่อเป็นการ บารุง รกั ษาตวั เคร่ืองฯให้พรอ้ มใช้งาน 4) กบไฟฟา้ เปน็ เครื่องมือไฟฟ้าทชี่ ว่ ยในการไสปรับหน้าไม้ให้ไดข้ นาด หรือให้หน้าไม้มี ความเรียบ กบไฟฟ้าที่นิยมใช้ท่ัวไปในงานก่อสร้างมี 2 ขนาดด้วยกัน คือ ขนาด 3 นิ้ว และขนาด 5 น้ิว (เรียกตามความกว้างของหน้ากบไฟฟ้า) การใช้และบารุงรักษาควรมีการถอดใบมาลับปรับ แต่ง ใบให้คมอยู่เสมอ และควรศึกษาคู่มือการใช้ด้วย 5) สว่านไฟฟ้า เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเจาะรูวัสดุประเภทต่างๆ ตามขนาดที่ ต้องการ โดยการใช้ดอกสว่านเจาะของวัสดุแต่ละประเภท เช่นการเจาะไม้ ใช้ดอกสว่านแบบเจาะไม้
12 เจาะเหล็กใช้ดอกสว่านเจาะเหล็ก และเจาะคอนกรีต ใช้ดอกสว่านเจาะคอนกรีตและใช้ สว่าน แบบ กระแทกเพอื่ ชว่ ยให้การเจาะคอนกรีตไดด้ ี 6) ค้อนปอนด์ เป็นค้อนท่ีมีขนาดใหญ่ หนัก 8 ปอนด์ มีด้ามยาวประมาณ 75-100 เซนตเิ มตร ใชป้ ระโยชนใ์ นการตอกหลักผัง ตอกหรือทบุ แผน่ คอนกรีต หรือ ผนังคอนกรีตของอาคารเก่า หรือช้ินงานที่ไมใ่ ช้แล้ว 7) รถขนล้อเดียวหรือสองล้อ งานก่อสร้างท่ีต้องลาเลียงวัสดุ หรือลาเลียงคอนกรีต จาก โม่ผสมไปยังตาแหน่งท่ีเทคอนกรีต จาเป็นต้องใช้รถล้อเดียวหรือสองล้อไว้ใช้เพื่อเป็นการทุนแรงและ ประหยัดเวลาในการทางาน 8) จอบ สาหรับงานก่อสร้างจอบที่มีใช้อยู่มีหลายชนิดคือ จอบขุดดิน จอบเกลี่ยดิน จอบโกยทราย จอบเกลี่ยหรือโกยคอนกรีต ลักษณะของจอบจุดดินปลายใบของจอบจะโค้งเล็กน้อย ถ้าเปน็ จอบงานคอนกรีตปลายจอบจะตรงหรือมนท่ีบริเวณมุมของใบจอบ ทาให้สามารถโกยคอนกรีต ไดส้ ะดวก แต่ถา้ จะโกยหนิ ควรใช้คาด 4 ฟนั โกยแทนเพราะจะไม่ทาให้หนักแรงในการโกยหิน 9) พลวั่ ทีใ่ ชใ้ นงานก่อสรา้ งมีหลายแบบด้วยกันคือแบบปลายมน และแบบปลายเหลี่ยม หรือปลายมน มีหน้ากว้าประมาณ 30 ซม.ใช้ตักทราย ตักคอนกรีตท่ีผสมแล้ว ส่วนพลั่วปลายมน สามารถนาไปใช้ตักดินอ่อนๆได้ พลั่วกาบกล้วย ใช้ในการ ขุดดินถ้าเป็นดินอ่อนก็ใช้พลั่วแบบหน้า กว้าง แตเ่ ถ้าเปน็ ดินแขง็ จะใช้แบบหน้าแคบ แต่เดมิ บางทเี รยี กว่า เสยี ม พลั่วหางเหยี่ยว ใช้ขุดดินเสา หรอื เสาไฟฟ้า โดยการกระทุ้งใบพลั่วลงดินตรงบริเวณตาแหน่งของเสาที่กาหนด ใบพลั่วท้ังสองจะคีบ ดินขนึ้ จากหลมุ ในการบังคบั ในส่วนของด้ามเปน็ การขดุ หลุมลึก ๆ ท่ีคนลงไปเกบ็ ดนิ ข้นึ ไม่ได้ 10) ชะแลง มีลักษณะเป็นท่อนเหล็กยาว มีความยาวตั้งแต่ 50-150 ซม.ใช้เหล็กเส้น กลม หรือเหล็กข้ออ้อยทาก็ได้ โดยมีปลายข้างหนึ่งแบน ปลายอีกข้างคล้ายหงอนค้อน ใช้ในการ ถอนตะปูได้ เป็นเคร่ืองมือท่ีจะต้องจัดหาไว้ เพราะต้องใช้งานมากมาย เช่น การรื้อไม้แบบถอนตะปู ขุดหลมุ ในดินแขง็ หรอื มีก้อนหนิ ขวางอยู่ 11) รอก เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการผ่อนแรงขนย้ายสิ่งของ วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้าง ใน แนวด่ิง เชน่ ใช้ยกอฐิ แดง ปูนกอ่ ปนู ฉาบ และยกไมแ้ บบจากช้นั 1ไปยงั ชนั้ 2 ได้โดยใช้แรงงานคน 1.5.2 เครื่องมือสิ้นเปลือง เป็นเคร่ืองมือที่มีลักษณะที่เสียหาย แตกหักพังง่าย และสูญหายง่าย สาหรับเครื่องมือชนิดนี้จะต้องจัดหาให้เพียงพอกับงานทางานของคนงานและช่าง หรืออาจจะต้อง ทาการซ่อมแซมให้ใชง้ านไดใ้ นบางครั้ง เชน่ 1) บุ้งก๋ี ลักษณะเดิมเป็นหวายสานยกขอบสามด้านมีหูสานด้านข้าง 2 หู เอาไว้ ใช้มือ จับยก แต่ปัจจุบันใช้พลาสติกเป็นวัสดุในการทาบุ้งกี๋ นามาใช้ในการขนย้ายดินและวัสดุ หิน อิฐ ทราย ทใ่ี ชแ้ รงงานของคนในการขนย้าย 2) ถังปูน ใช้ในงานปูนใส่ปูนก่อ ปูนฉาบ หรือใส่น้าไว้ใช้ในงานก่ออิฐ ฉาบปูนงาน ผสมและเทคอนกรีต 3) ถังน้ามัน 200 ลิตร มีไว้เพื่อเก็บน้าใช้ในงานก่อสร้าง เช่นในงานก่ออิฐ ฉาบปูน งาน ผสมคอนกรตี และไว้ใช้ในห้องน้า ห้องสว้ มในบรเิ วณงานก่อสรา้ ง
13 4) สายยางพลาสติก ขนาด 6 หุนหรือ 1นิ้ว ยาวประมาณ 20-30 เมตร เพื่อใช้ต่อ นา้ ประปามาใสใ่ นถงั น้าเกบ็ ไว้ใช้ ในงานก่อสรา้ งใช้น้าบ่มคอนกรีต และใช้ในอุปโภค บริโภค 5) เชือกมะนิลา ใช้ประกอบกับรอกในการขนย้ายวัสดุหรือมัดวัสดุอุปกรณ์ เม่ือใช้ เสรจ็ แลว้ ควรจะม้วนและเกบ็ ไวใ้ นท่รี ่มใกล้ๆ กับรอก 6) เชือกเอ็น ไว้ใช้ในการขึงทาแนว ทาเส้นระดับ และแนวดิ่ง ถือเป็นวัสดุที่ใช้ สิน้ เปลืองมาก เพราะช่างและคนงานมกั จะตดั ใช้เฉพาะในสว่ นแลว้ ไม่ค่อยเกบ็ มาคืน 7) สายไฟฟ้าและอุปกรณ์ สาหรับใช้ในการเดินระบบไฟฟ้าชั่วคราวในบริเวณงาน ก่อสร้าง เช่น ไฟฟ้าแสงสว่างหรือไฟฟ้าท่ีใช้กับเครื่องจักรกลงานก่อสร้างและเคร่ืองใช้อานวยความสะดวก ในสานักงานหรือบา้ นพกั คนงานเปน็ ตน้ 1.5.3 เครื่องมือประจาตัวช่าง เป็นเครื่องมือชนิดที่มีไว้ประจาตัวช่าง ตามปกติช่างแต่ละคน จัดเตรียมและหามาเอง ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสาคัญขั้นพื้นฐานเบื้องต้นที่ช่างทุกคนควรต้องมีไว้ ใช้ประจาตวั ของช่างแต่ละประเภท ดงั นี้ 1) ชา่ งไม้ เป็นช่างทงี่ านส่วนใหญเ่ กย่ี วกับงานไม้ ท้ังงานช่างไมแ้ บบ ชา่ งไม้โครงสร้าง ชา่ ง ไม้เครื่องเรือน ควรมเี ครอื่ งมือประจาตัวคอื ค้อนหงอน ตลับเมตรยาว 2.00-5.00 เมตร ดินสอเขียนไม้ ฉาก เลอื่ ยลนั ดา สิ่ว กบ สว่าน บกั เตา้ แม่แรงอดั ไม้ กระเปา๋ คาดเอวสาหรับใส่ตะปู 2) ชา่ งปนู เป็นชา่ งที่ทางานเก่ยี วกับงานปูนเชน่ งานก่ออิฐ งานฉาบปนู งานเทคอนกรีต ควรมีเครื่องมือประจาตัวคือ ค้อนหงอน ตลับเมตรยาว 2.00-5.00 เมตร ดินสอเขียนไม้ เกรียงก่อ อิฐ เกรียงฉาบปูน กระบะถือปูน แปรงสลัดนา้ ไม้สามเหลี่ยม กระป๋องปูน พล่ัว จอบ สกัด บรรทัดระดับ ค้อนปอนด์ รถเข็น ลกู ดง่ิ งานปนู สายยางนา้ สวา่ นคอนกรีต 3) ช่างเหล็ก เป็นช่างทตี่ ้องทางานเก่ียวกับงานเหล็กเสริมคอนกรีต และงานเหล็ก โครงสร้าง โครงหลังคาเหล็ก ควรมีเคร่ืองประจาตัว คือ เครื่องตัดเหล็ก กรรไกรตัดเหล็ก เคร่ือง เชื่อม สว่านเจาะเหล็ก สว่านเจาะคอนกรีต ค้อน ตลับเมตร(2.00 - 5.00 เมตร)ประแจตัดเหล็ก คีมผูก เหล็ก ป๊ัมลม กาพ่นสี เครื่องขัดหิน บทสรุป การเตรียมงานก่อสร้าง เป็นการเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างท่ีเร่ิมจากการสถานที่ ก่อสร้าง โดยการสารวจหลักเขตที่ดินให้ตรงตามเอกสารสิทธ์ ทาการปรับพ้ืนที่บริเวณ โดยศึกษา สภาพพื้นที่จากพ้ืนที่จริง ว่าจะต้องทาการ ขุดดิน หรือถมดิน หรือจะต้องทาการตัดไม้และขุดโคนตอ ไม้ หรือไม่ การขอเช่ือมทางกับ กรมทางลวง หรือ สานักงานเทศบาลฯ มีการกาหนดแนวร้ัวและท่ีดิน ข้างเคียง การเตรียมส่ิงอานวยความสะดวกช่ัวคราวในการทางาน สาธารณูปโภค และการเตรียม เคร่ืองมอื สาหรับงานก่อสร้างใหพ้ รอ้ มก่อนเร่ิมงานก่อสร้างในขนั้ ตอนต่อไป
14 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยที่ 1 เรื่องการเตรียมงานก่อสร้าง เวลา 10 นาที คาช้ีแจง 1. แบบทดสอบมีท้ังหมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ใหน้ กั ศึกษาทาเครอ่ื งหมายในตวั เลอื กท่ีเหน็ ว่าถูกต้องทีส่ ดุ ลงในกระดาษคาตอบ 1. งานกอ่ สร้างอาคารหมายถึง งานกอ่ สรา้ งแบบใด ก. งานกอ่ สรา้ งอาคารตามแบบกอ่ สรา้ ง ข. งานก่อสรา้ งอาคารตามความคดิ ของเจ้าของอาคาร ค. งานก่อสร้างอาคารตามความถนดั ของชา่ งผู้กอ่ สรา้ ง ง. งานก่อสรา้ งอาคารตามแบบก่อสรา้ งและรายการประกอบแบบก่อสร้างอาคาร 2. การเตรยี มสถานที่ ท่จี ะกอ่ สรา้ งอาคารข้อใดตอ่ ไปน้ีมีความสาคญั ที่สุด ก. มที างเขา้ - ออกอยใู่ นบริเวณชุมชน ข. มีทกี่ องเกบ็ วัสดุ หนิ ทรายจานวนมาก ค. สถานทีบ่ รเิ วณงานก่อสรา้ งมคี วามกวา้ ง ง. ตรวจสอบหมดุ หลกั เขตทีด่ ินตรงตามเอกสารสิทธ์ิ 3. ขอ้ ความต่อไปนีข้ ้อใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง ก. หมุดหลักเขตที่ดนิ เจา้ ของสามารถเคล่ือนยา้ ยได้เพ่ือความเหมาะสม ข. การตรวจสอบแนวเขตท่ีดินเป็นการตรวจสอบพน้ื ท่ีให้ตรงเอกสารสทิ ธก์ิ ารถือครอง ค. การเตรยี มสถานท่ีก่อสรา้ งอาคารควรให้เจา้ ของชบี้ รเิ วณทจี่ ะปลกู สร้างป้องกันการสร้างผิดท่ี ง. การเตรียมสถานท่ีงานก่อสรา้ งหมายถงึ การศึกษาสภาพสถานที่ ที่จะทาการปลกู สรา้ งอาคาร 4. การถมดนิ บดอัดดนิ ในบริเวณเปน็ ที่ลุ่มน้าขงั ฯ การบดอัดดนิ ใหแ้ น่นเปน็ ช้ันๆละ เท่าไร ก. 40 เซนติเมตร ข. 50 เซนติเมตร ค. 60 เซนติเมตร ง. 70 เซนติเมตร 5. งานก่อสร้างตดิ เขตที่ดินขา้ งเคยี งตามเทศบัญญัตแิ นวอาคารรมิ เสา ห่างจากแนวรั้วเท่าไร ก. ไมน่ ้อยกวา่ 1.50 เมตร ข. ไม่น้อยกวา่ 2.00 เมตร ค. ไม่นอ้ ยกวา่ 2.50 เมตร ง. ไม่น้อยกวา่ 3.00 เมตร 6. ในกรณีก่อสร้างอาคาร ท่ีมีบริเวณตดิ กบั เขตทด่ี ินข้างเคียง ควรใช้ฐานรากแบบใด ก. ฐานรากร่วม ข. ฐานรากแผ่ ค. ฐานรากตนี เป็ด ง. ฐานรากเดย่ี ว
15 7. ในบริเวณงานก่อสร้างข้อใดตอ่ ไปนี้ไม่ไดแ้ สดงอยู่ในผังส่ิงอานวยความสะดวก ก. ห้องน้า ห้องสว้ ม ข. โรงเก็บวัสดุ ค. โรงอาหาร ง. บา้ นพกั คนงาน 8. ระบบไฟฟ้าชัว่ คราวทใี่ ช้ในงานกอ่ สรา้ ง เปน็ แบบระบบใด ก. ระบบไฟฟ้ากาลัง ข. ระบบไฟฟา้ แสงสวา่ ง ค. ระบบไฟฟา้ สาธารณะ ง. ระบบไฟฟา้ กาลงั และระบบไฟฟา้ แสงสวา่ ง 9. เครอื่ งโม่ผสมคอนกรตี ใช้ผสมคอนกรีตใสป่ ูนซเิ มนต์ผสมครัง้ ละเท่าไร ก. 50 กโิ ลกรมั ข. 70 กโิ ลกรมั ค. 90 กโิ ลกรมั ง. 100 กโิ ลกรมั 10. ขอ้ ใดต่อไปนคี้ ือเคร่ืองมือประจาตวั ชา่ งไม้ ก. รอก ข. ค้อนหงอน ค. คอ้ นปอนด์ ง. ประแจดัดเหลก็
16 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เฉลยแบบทดสอบ หน่วยท่ี 1 10. ก 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. งก ง ขกคคงข 10. ข แบบทดสอบหลังเรยี น 4. 5. 6. 7. 8. 9. กขคคงก 1. 2. 3. งงก
17 เอกสารอ้างอิง คณะทางานอาสาสมคั ร กรรมการฝา่ ยวชิ าชพี สมาคมสถาปนกิ ฯ. รายการประกอบแบบก่อสร้าง. กรงุ เทพฯ: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์, 2549. พิภพ สุนทรสมยั . เทคนิคการก่อสร้างอาคารเบื้องตน้ . กรงุ เทพฯ:โปรเฟรสช่ันแนล พบั ลิชชิ่ง, 2524. มนัส กลอ่ งเพ็ชร. เทคนคิ กอ่ สรา้ ง 1. พิมพ์ครง้ั ท่ี 1. กรงุ เทพฯ: เอมพันธ์, 2543. สุโขทยั ธรรมาธริ าช, มหาวิทยาลัย. เอกสารงานสอนชดุ วชิ า 31303 งานสนาม. พิมพค์ รั้งท่ี 5 กรงุ เทพ:มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, 2542.
18 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง การศึกษาแบบงานกอ่ สร้าง สาระสาคญั การศกึ ษาแบบกอ่ สรา้ ง เปน็ การศึกษารายละเอียดงานกอ่ สร้างอาคาร จากแบบก่อสร้าง และ รายการประกอบแบบก่อสร้างอาคาร เพ่ือให้ทราบถึงรายการวัสดุ อุปกรณ์ ที่จะนามาใช้ในงานก่อสร้าง หรือวิธีการเทคนิคการทางาน ทาใหู้้ท่ีปิิบัิิงานก่อสร้าง ทาการวางแูนการงาน และกาหนดวิธีการ ขั้นิอนการทางาน ทารายการวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ พร้อมก่อนปิิบัิิงาน ลดปัญหา อุปสรรค ประหยัดคา่ ใช้จา่ ยและทนั ระยะเวลาทกี่ าหนดในสัญญาการกอ่ สรา้ ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป 1. เพอ่ื ใหม้ ีความร้ความเข้าใจเก่ียวกบั รายการประกอบก่อสรา้ งอาคาร 2. เพ่อื ใหม้ ีความรค้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั การแบบก่อสรา้ งอาคาร 3. เพอื่ ให้มีความร้ความเขา้ ใจ แยกรายการวสั ดุ อุปกรณ์ ในงานก่อสรา้ งอาคาร 4. เพ่ือใหม้ ีทักษะในการอ่านแบบก่อสรา้ งอาคาร 5. เพ่ือให้มีทักษะในจัดเิรียมวสั ดุ อุปกรณ์และเครื่องมือ 6. เพ่ือใหม้ ีเจิคิแิ ละกจิ นสิ ัยทด่ี ีในการเรียนและการปิิบิั งิ าน 7. เพือ่ ใหม้ ีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. อธิบายรายละเอียดเกีย่ วกับรายการประกอบแบบก่อสร้างได้ 2. บอกสัญญลกั ษณ์ในแบบก่อสร้างอาคารได้ 3. ปิิบิั ิงานอ่านแบบกอ่ สรา้ งได้ 4. จดั ทารายการวัสดุ อุปกรณ์และเคร่ืองมือก่อสร้างอาคารได้ 5. มเี จิคิทิ ีด่ ิี ่อการเรียนและการปิิบิั งิ าน 6. ปิิบิั ิงานดว้ ยความรับูิดชอบและมรี ะเบยี บวินัย 7. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
19 สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 2 ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ สาระการเรียนร้ ดังน้ี 2.1 รายการประกอบแบบก่อสรา้ ง 2.2 แบบูังบริเวณ 2.3 แบบแปลน 2.4 แบบรป้ ด้าน 2.5 แบบรป้ ิัดิามยาวและร้ปิัดิามขวาง กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. แจ้งจดุ ประสงคใ์ หู้้เรยี นเข้าใจก่อนเรียน 2. ใหู้เ้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 2 3. คร้บรรยายนาเขา้ ส้่บทเรียน 4. ู้เรยี นศึกษาเนื้อหาความร้ในเอกสารประกอบการสอน เร่ือง การศกึ ษาแบบก่อสรา้ ง 5. การอภปิ รายและการซักถามเก่ยี วกับบทเรียนร่วมกัน 6. ู้เรยี นแบ่งกล่มุ ๆ ละ 6 คน ฝกึ ปิิบิั ิงานิามใบงานที่ 3 7. ู้เรยี นและคร้ ร่วมกันสรุปเนื้อหาประกอบสื่อ 8. ูเ้ รียนทาแบบทดสอบหลังเรียน สือ่ การเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวิชางานก่อสรา้ งอาคาร 1 2. แู่นใสประกอบการบรรยาย 3. แู่นภาพ 4. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบ 5. ชดุ ฝกึ ปิบิ ัิงิ าน งานกอ่ สรา้ งอาคาร 1 การวัดผล ประเมนิ ผล 1 วัดผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 2 วธิ วี ดั ประเมินผล 2.1 สงั เกิ เจิคิิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในการเรยี นรแ้ ละปิบิ ัิงิ าน 2.2 สงั เกิ และิรวจูลงาน จากการปิิบิั ิงานิามใบงาน 2.3 ประเมนิ ูลจากแบบทดก่อนหลงั เรียน 2.4 ประเมนิ ูลจากแบบทดสอบหลังเรียน 3. เคร่อื งมือวัด ประเมินผล 3.1 แบบประเมิน เจิคิิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ 3.2 แบบประเมินูลการปิิบิั งิ าน 3.3 แบบทดสอบก่อนเรียน 3.4 แบบทดสอบหลงั เรยี น
20 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 2 เวลา 10 นาที เรือ่ งการศึกษาแบบกอ่ สร้างอาคาร คาชีแ้ จง 1. แบบทดสอบมีท้ังหมด 10 ข้อ คะแนนเิ็ม 10 คะแนน 2. ให้นกั ศึกษาทาเคร่ืองหมาย ในิัวเลือกทเ่ี หน็ วา่ ถ้กิอ้ งที่สุดลงในกระดาษคาิอบ 1. ขอ้ ใดไมใช่รายละเอียดในรายการประกอบแบบก่อสร้างอาคาร ก. เทคนคิ และข้อิกลงิา่ งๆ ข. การเบิกจา่ ยเงนิ ิามสญั ญาการก่อสร้าง ค. เพ่ือควบคุมคุณภาพวสั ดุ อุปกรณ์ ง. แสดงรายละเอยี ดประกอบแบบกอ่ สรา้ ง 2. ข้อความใดิอ่ ไปนก้ี ลา่ วไม่ถ้กิ้อง ก. แบบกอ่ สรา้ งเปน็ ส่วนหนึง่ ของสญั ญา ข. การศึกษาแบบกอ่ สร้างเป็นการศกึ ษารายการประกอบแบบกอ่ สรา้ งและแบบก่อสร้าง ค. งานกอ่ สรา้ งควรทางานิามรายการประกอบแบบและแบบกอ่ สร้างทุกข้ันิอน ง. งานก่อสร้างอาคารู้รับจ้างสามารถเปล่ยี นแปลงแบบไดถ้ ้างานมีปญั หาและอุปสรรค 3. แบบวิศวกรรม ทแี่ สดงรายละเอยี ดเกีย่ วกบั โครงสรา้ งคือแบบแปลนใด ก. แบบแปลนพืน้ ข. แบบแปลนูงั บริเวณ ค. แบบแปลนงานวางูัง ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดนิ และพืน้ 4. แบบแูนท่แี สดงลักษณะ ทีิ่ ง้ั ขอบเขิที่ดินและอาคารที่ก่อสร้าง ก. แบบแปลนพน้ื ข. แบบแปลนูังบรเิ วณ ค. แบบแปลนงานวางูงั ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดนิ และพ้นื 5. แบบที่แสดงรายละเอยี ดเก่ียวกบั การใช้พนื้ ท่ขี องอาคารในแนวราบคือ ก. แบบแปลนพนื้ ข. แบบแปลนูังบรเิ วณ ค. แบบแปลนงานวางูัง ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดิน และพน้ื 6. ขอ้ ใดคือสญั ลกั ษณ์ของคานรบั โครงหลังคา ในแบบแปลนโครงหลงั คา ก. B ข. S ค. RB ง. GB
21 7. ขอ้ ใดคือสัญลักษณ์ของพน้ื บนดิน ในแบบแปลนฐานราก คานคอดนิ และพน้ื ก. B ข. S ง. GB ค. RB 8. ขอ้ ใดคือสัญลักษณ์ของคานคอดนิ ในแบบแปลนฐานราก คานคอดินและพื้น ก. B ข. S ค. RB ง. GB 9. สัญลักษณ์ ทแี่ สดงในแบบแปลนพ้นื หมายถึงส่วนประกอบใดของอาคาร ก. ูนัง ข. หนา้ ิา่ ง ค. ประิ้ ง. ชอ่ งแสง 10. สัญลักษณ์ ที่แสดงในแบบแปลนพืน้ หมายถึงส่วนประกอบใดของอาคาร ก. ชอ่ งแสง ข. หน้าิ่าง ค. ประิ้ ง. ูนงั
22 หน่วยท่ี 2 การศึกษาแบบกอ่ สร้างอาคาร การศึกษาแบบก่อสร้างอาคาร เป็นการศึกษารายการประกอบแบบ และแบบก่อสร้าง เพ่ือเิรียมขั้นิอน วิธีการก่อสร้างและเิรียมวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมก่อนเริ่มทาการก่อสร้าง อาคาร รายละเอียดของรายการประกอบแบบและแบบก่อสร้าง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการ ก่อสรา้ งอาคาร ูท้ ี่จะทาการกอ่ สร้างควรปิิบิั ิงานให้เปน็ ไปิามรายการประกอบแบบและแบบก่อสร้าง ที่ แสดงไวใ้ นแบบแปลนทุกข้ันิอนการทางาน ซง่ึ มีรายละเอยี ดเก่ยี วกบั แบบก่อสร้างไวด้ ังน้ี 2.1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง รายการประกอบแบบ คือ เอกสารรายการ แสดงรายละเอียดประกอบแบบก่อสร้าง เพื่อ ควบคุมคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ เทคนิคและข้อิกลงิ่างๆ ที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง ที่มีปรากิหรือ ไม่มีปรากิในแบบก่อสร้างิามสัญญานี้ เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปิามแบบการก่อสร้างรวมถึง รายละเอยี ดิ่างๆ ของงานกอ่ สร้างทเ่ี จา้ ของบ้านิอ้ งการดังิวั อย่าง ิ่อไปนี้ ตัวอยา่ ง รายการประกอบแบบกอ่ สร้าง งานปักผัง งานปกั ูังและระดบั กาหนดใหร้ ะดับ ± 0.00 เท่ากับระดับดิน งานโครงสรา้ ง 1. คอนกรีิโครงสร้างใช้ส่วนูสม1:2: 2 1กรณีูสมมือโดยมีแรงอัดประลัยของคอนกริี 2 ทอ่ี ายุ 28 วัน มีคา่ ไม่นอ้ ยกว่า 240 กิโลกรมั / ิารางเซนิิเมิร 2. คอนกริี โครงสรา้ งใช้สว่ นูสม 1:2:4 กรณูี สมเสรจ็ โดยมีแรงอัดประลยั ของคอนกรีิ ที่ 28 วนั มีคา่ ไมน่ อ้ ยกว่า 240 กโิ ลกรมั / ิารางเซนิเิ มิร 3. เหล็กเส้นธรรมดา ิ้องมีกาลังจุดคลากไม่น้อยกว่า 2,400 กิโลกรัม / ิารางเซนิิเมิร 4. เหล็กข้ออ้อย ิ้องมีกาลังจดุ คลากไมน่ ้อยกวา่ 3,000 กโิ ลกรัม / ิารางเซนิิเมิร 5. เหล็กเสน้ ร้ปพรรณ ิ้องมีกาลงั จุดคลากไมน่ ้อยกว่า 2,400 กโิ ลกรัม / ิารางเซนิเิ มิร งานสถาปัตยกรรม งานูนังอาคาร (ใหด้ ้ิามสญั ลกั ษณ์ของูัง) 1. ูนังกอ่ อฐิ แดง ฉาบเรียบทาสภี ายนอก 2. ูนังกอ่ อฐิ แดง ฉาบเรียบทาสีภายใน 3. ูนังก่ออิฐแดง กรุกระเบอื้ ง 8\" 8\" ส้ง 1.80 ม. งานวสั ดุผิวพ้นื งานวัสดุูวิ พืน้ (ให้ดิ้ ามสัญลักษณ์ของพนื้ ) 1. พน้ื ป้กระเบื้อง 12\" 12\" 2. พนื้ ป้กระเบื้อง 8\" 8\" 3. พน้ื ขดั หยาบ
23 งานฝ้าเพดาน 1. ฝา้ ภายใน ฝ้ายิบซ่ัมฉาบเรียบ โครงเคร่า C - Line @ 0.60 0.60 ม. 2. ฝ้าภายนอก ฝ้ากระเบื้องแูน่ เรียบ 4 มม. โครงเครา่ C - Line @ 0.60 0.60 ม. งานหลงั คา 1. โครงสร้างเป็นไปิามทีก่ าหนดไว้ในแบบ 2. วัสดมุ ุง ใช้กระเบอื้ งลอนค้่ ขนาด 0.50 1.20 เมิร งานทาสี 1. สรี องพ้ืน ใช้สนี ้าพลาสิิก 2. สีทาภายนอก ใชส้ ีนา้ พลาสิิก 3. สีทาวงกบ ไมเ้ ชงิ ชาย ใช้นา้ มนั งานไฟฟา้ งานไฟฟ้าใหิ้ ดิ ิั้งิามมาิรฐานการไฟฟ้าส่วนภ้มภิ าค งานประปา งานประปาใหิ้ ิดิั้งิามมาิรฐานการประปาสว่ นภ้มภิ าค 2.2 แบบผังบริเวณ แบบูังบริเวณ คือ แูนท่ีแสดงลักษณะท่ีิั้ง และขอบเขิของที่ดินและอาคารก่อสร้างที่บอก ิาแหน่งหมุดหลักเขิท่ีดินระยะห่างอาคารกับถนนใหญ่แสดงิาแหน่งแนวรั้ว ประิ้รวั้ มที างเข้า- ออก แนวท่อระบายน้าเสียที่ระบายลงส่้ท่อน้าสาธารณะ มีการแสดงิาแหน่งทิศเหนือว่ามีทิศทาง อย่างไรกับิาแหน่งที่ดิน ูังบริเวณจานวนมากยังมีการกาหนดค่าระดับของดินเดิมเอาไว้ พร้อมท้ัง การกาหนดบรเิ วณท่ีจะจดั สวนิกแิ่งบริเวณดว้ ย ดังภาพท่ี 2.1 ทิศเหนือ ก 1385 แนวร้ ัว แนวร้ ัว แนวชาย5ค.า50 ก 4857 11.00แนวชายคา แนวชายคา ก 3451 8.00 แ3น.5วช0ายคา แนวร้ ัว แนวท่อระบายนา้ เทศบาลเมอื ง 3.50 4.00 แนวประตูร้ ัว ถนนเทศา 2 ก 1452 แปลนผงั บริเวณ 1:200 ภาพท่ี 2.1 แสดงแบบ แปลนูงั บรเิ วณ
24 2.3 แบบแปลน แบบแปลน คือ แบบร้ปิัดิามแนวระดับที่ความส้งของหน้าิ่าง โดยิัดในแนวนี้ิลอดท้ัง อาคาร แล้วยกส่วนบนของอาคารออก เม่ือมองลงมาิรง ๆ จากข้างบน ิามแนวการิัดกลางช่วง อาคารนี้ จะทาใหม้ องเหน็ สว่ นประกอบของอาคาร ิามแบบแปลนิา่ งๆ 2.3.1 แบบแปลนพื้น เป็นแบบสถาปัิยกรรมที่แสดงรายละเอียดเก่ียวกับพื้นท่ีการใช้สอย อาคาร ดงั น้ี 123 7.00 1.00 3.50 3.50 1.00 1.50 A 1.00 1 ฟตุ บาท ซ2 +กั 10ล.2า้0งม. 1. เสาของอาคาร นอน 2 2 2. สญั ลกั ษณ์ของผนงั 2.00 1 2 2 +ค0ร.3ัว02ม. 1 1 ก 2 2ห2+้อ02ง.2น5 ม้า. 1 +0.30 ม. B 1 2 1 1 2.25 1 2 5. คา่ ระดบั พ้นื 1 2 2 1 3.50 1 2 รับแขก 1 2 2 1 1 +0.30 ม. นอน 1 3. สญั ลกั ษณ์ของหนา้ ตา่ ง C 11.00 1 1 22 1 +0.30 ม. 3.50 1 2 1เฉียง 1 2 21 D 2 +0.20 ม. 11 2.00 4. สญั ลกั ษณ์ของประตู E ฟุตบาท 3 +0.10 ม. 2 ข 3 4 แปลนพ้ืน 1:100 1 ภาพที่ 2.2 แสดงแบบ แปลนพืน้
25 สว่ นประกอบของแบบแปลนพ้ืน มีรายละเอียดดงั ิ่อไปน้ี 1) หนา้ ตัดเสา จากแบบแปลนพืน้ (ภาพที่ 2.2) จะเห็นว่ามีเสาจานวน 14 ิน้ แสดงอย้่ในสว่ น ท่ีอย่ิ้ รงมมุ ของห้องและิอนกลางห้องเปน็ หน้าิดั สเ่ี หลยี่ ม ด้านหนา้ มีความกวา้ ง 7.00 เมิร มรี ะยะหา่ ง 2 ช่วงเสา วัดระยะหา่ ง Line 1 - 2 จากศ้นย์กลางเสาถงึ ศ้นย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร วดั ระยะห่าง Line 2 - 3 จากศ้นยก์ ลางเสาถงึ ศน้ ยก์ ลางเสาได้ 3.50 เมิร ดา้ นขา้ ง มคี วามยาว 11.00 เมิร มรี ะยะหา่ ง 4 ชว่ งเสา วัดระยะห่าง Line A-B จากศ้นยก์ ลางเสาถงึ ศ้นย์กลางเสาได้ 2.00 เมิร วดั ระยะหา่ ง Line B-C จากศ้นยก์ ลางเสาถงึ ศน้ ย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร วดั ระยะหา่ ง Line C-D จากศ้นย์กลางเสาถงึ ศ้นย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร วัดระยะห่าง Line D-E จากศ้นย์กลางเสาถึงศน้ ยก์ ลางเสาได้ 2.00 เมิร 2) ผนังก่ออิฐฉาบปูน จากแบบแปลนพื้น (ภาพที่ 2.2) จะเห็นว่ามีแนวูนังของอาคาร ที่อย้่ระหว่างเสาถึงเสา ิามร้ปแบบสัญลักษณ์ของูนังอาคารที่แสดงในแปลนพื้น และรายการ ประกอบแบบ มีรายละเอยี ดทอ่ี า่ นได้ดงั น้ี ผนังมีสัญลักษณ์ ครอบิัวเลข เพ่ือกากับชนิดของูนังในแบบแปลนพ้ืนมีูนัง 3 ชนดิ คือ 1 ูนังกอ่ อิฐแดง ฉาบเรยี บทาสภี ายนอก 2 ูนงั ก่ออฐิ แดง ฉาบเรยี บทาสีภายใน 3 ูนังกอ่ อฐิ แดง กรุกระเบ้ือง 8\"8\" ส้ง1.80 เมิร 3) รูปตัด ประตู หน้าต่าง จากแบบแปลนพื้น (ภาพที่ 2.2) จะเห็นว่ามีหน้าิ่าง ประิ้ที่อย้่ ระหว่างช่วงเสาและูนังก่ออิฐฉาบป้นในแบบแปลนหน้าิัดวงกบประิ้ วงกบหน้าิ่าง อาจจะไม่ได้ ขนาดิามสเกล แิ่ระยะความกว้างของประิ้ หน้าิ่าง จะิ้องเข้าสเกลเสมอ ส่วนรายละเอียดของ หน้าิ่าง ประิ้ให้ด้ได้จากแบบขยาย ประิ้ หน้าิ่าง และรายการประกอบแบบมีรายละเอียดท่ีอ่าน แบบได้ ดังน้ี ประตู มีสัญลักษณ์ ป ในแบบแปลนพืน้ มปี ระิ้จานวน 2 ชนิด คอื ป1 วงกบไมเ้ น้ือแข็ง 2\"4\" บานไมส้ ักขนาด 0.902.00 เมิร ป2 วงกบ PVC. 2\"4\" บาน PVC. ขนาด 0.70 1.80 เมิร หนา้ ต่างมสี ญั ลักษณ์ น ในแบบแปลนพื้นมีหนา้ ิา่ งจานวน 2 ชนดิ คอื น1 วงกบอลม้ ิเนียม 2\"4\" กรอบบานอล้มิเนยี มลก้ ฟักกระจกหนา 4 มิลลิเมิร น2 วงกบไม้เน้ือแข็ง 2\"4\" บานเกลด็ ซอ้ น กระจกหนา 4 มลิ ลเิ มิร 4) ค่าระดบั ของพ้นื จากแบบแปลนพน้ื (ภาพท่ี 2.2) จะเหน็ ว่ามคี ่าระดบั ของพ้ืนห้องและ ค่าระดับพื้นทางเท้ารอบๆ ิัวอาคารมีค่าระดับที่ิ่างกันวัสดุที่ใช้ของพื้นก็ิ่างกันไปิามท่ีกาหนดใน แบบแปลนพื้น และรายการประกอบแบบมีรายละเอียดที่อ่านแบบได้ ดังน้ี
26 พนื้ มสี ัญลักษณ์ พ ในแบบแปลนพน้ื มีพน้ื 3 ชนดิ คือ พ1 พื้นปก้ ระเบ้ือง 12\"12\" ิามแบบ พ1 มีพ้นื ท่ีใชส้ อยเปน็ พ้นื ห้องนอนและพน้ื ห้องรบั แขกมีค่าระดับท่ี + 0.30 เมิร (หมายถงึ ระดับพื้นหอ้ งนอนและพืน้ ห้องรบั แขกส้งกวา่ ระดบั ดินเดิม 0.30 เมิร) พ2 พื้นป้กระเบื้อง 8\"8\" ิามแบบ พ2 มีพื้นที่ใช้สอยเป็นพ้ืนเฉลียงและพื้นซัก- ล้าง มีค่าระดับที่ + 0.20 เมิร (หมายถึงระดบั พ้นื เฉลียงและพ้ืนซัก-ล้างส้งกวา่ ระดบั ดินเดิม 0.20 เมิร) พนื้ หอ้ งน้ามีค่าระดับที่ + 0.25 เมิร (หมายถึงระดับส้งกวา่ ระดับดินเดิม 0.25 เมิร) พืน้ หอ้ งครวั มีคา่ ระดบั ที่ + 0.30 เมิร (หมายถึงระดับสง้ กวา่ ระดับดินเดิม 0.30 เมิร) พ3 พ้นื ขัดหยาบ ิามแบบ พ3 มีพน้ื ที่ใชส้ อยเปน็ พ้ืนฟิุ บาททางเทา้ รอบอาคาร มีค่าระดับที่ + 0.10 เมิร (หมายถงึ ระดับพืน้ ฟุิบาททางเท้ารอบอาคารส้งกวา่ ระดบั ดินเดมิ 0.10 เมิร)
27 2.3.2 แบบแปลนฐานราก คานคอดินและพ้ืน เป็นแบบวิศวกรรมที่แสดงรายละเอียด เกย่ี วกับโครงสรา้ งของอาคารท่ีมรี ายละเอยี ด ดังนี้ ภาพท่ี 2.3 แสดงแบบ แปลนฐานราก คานคอดนิ พ้ืน ภาพที่ 2.3 แบบแปลนฐานราก คานคอดิน พื้น
28 ส่วนประกอบของแบบแปลนฐานราก คานคอดิน และพนื้ มรี ายละเอยี ดดงั ิ่อไปนี้ 1) ฐานราก มีสัญลักษณ์ F (หมายเลข 1) จากแบบแปลนฐานราก คานคอดินจะเห็น ว่ามีฐานราก 1 ชนิดคือ F จานวน 14 ฐานราก ซ่ึงมีรายละเอียดิามแบบร้ปขยายฐานราก (ภาพที่ 2.4) 2) เสาตอม่อ มีสัญลักษณ์ C (หมายเลข 2) จากแบบแปลนฐานราก คานคอดิน จะเห็น ว่ามีเสาิอม่อ 1ชนิดคือ C จานวน 14 ิ้น ซ่ึงมีรายละเอียดิามแบบร้ปขยาย (ภาพท่ี 2.4) 0.15 0.15 4 - RB 12 mm. ป - RB 6 mm. @ 0.20 m. ตอม่อ , C ป - RB 6 mm. @ 0.20 m. 0.80 4 - RB 12 mm. RB 12 mm. @ 0.20 m. 0.20 1.00 X 1.00 F ขยายฐานราก 1:20 ภาพท่ี 2.4 แสดงแบบ ร้ปขยาย ฐานราก เสา 3) คานคอดิน มสี ัญลกั ษณ์ GB (หมายเลข 3) จากแบบแปลนฐานราก คานคอดนิ จะ เห็นวา่ มีคานคอดิน 4 ชนดิ คือ GB0,GB1,GB2,GB3 ซ่ึงมรี ายละเอียดิามร้ปขยายฐานราก (ภาพที่ 2.5) ภาพที่ 2.5 แสดงแบบ ร้ปขยายคาน เสา
29 4) พ้ืน มีสัญลักษณ์ GS (หมายเลข 4) จากแบบแปลน ฐานราก คานคอดิน (ภาพท่ี 2.3) จะเห็นว่ามีพ้ืนGS เป็นพื้นอาคารและพ้ืนทางเท้าซึ่งมีรายละเอียด ิามร้ปขยายพ้ืน (ภาพท่ี 2.6) RB 6 mm. @ 0.15 m. 0.30 0.30 0.08 ทรายหยาบ RB 6 mm. @ 0.30 m. GS 0.08 RB 6 mm. @ 0.15 m. คอมา้ เสน้ เวน้ เส้น 1.50 S1 ขยาย พ้นื 1:20 ภาพท่ี 2.6 แสดงแบบ รป้ ขยายพ้ืน
30 2.3.3 แบบแปลนคานรบั โครงหลงั คา และแปลนโครงหลงั คา เป็นแบบวิศวกรรมที่แสดง รายละเอยี ดเกีย่ วกบั แปลนคานรับโครงสรา้ งของหลังคาท่ีมีรายละเอียดดังนี้ 1) แปลนโครงหลังคา มสี ัญลกั ษณ์ RB จากแบบแปลนคานรบั โครงหลงั คาจะเห็น ว่ามคี านรับโครงหลงั คา 1 ชนิดคือ RB1ซ่ึงมรี ายละเอยี ดิามแบบแปลนคานรับโครงหลงั คา (ภาพที่ 2.7) 123 7.00 3.50 3.50 A RB1 RB1 RB1 RB1 2.00 RB1 RB1 B RB1 1.50 RB1 3.50 C 11.00 3.50 RB1 RB1 RB1 D 2.00 1.00 RB1 RB1 E 0.50 RB1 RB1 RB1 RB1 RB1 2 RB1 34 แปลนคานโครงหลงั คา 1:100 1 ภาพที่ 2.7 แสดงแบบแปลนคานโครงหลงั คา
31 123 7.00 1.00 3.50 3.50 1.00 1.00 A 1.00 2.00 4 B ตะเขส้ นั เหลก็ คู่ 100X50X20X3.2 mm. 1.50 3.50 5 ระแนงเหลก็ 25X25X1.6mm.@ 0.32m. 2 อกไก่เหลก็ คู่ 150X50X20X3.2 mm. C 11.00 3.50 3 จนั ทนั เหลก็ 100X50X20X3.2 mm. D 2.00 1.00 ด้งั ค.ส.ล. 1 E 0.50 6 เชิงชายไม้ 1\"X6\" และปิ ดทบั เชิงชาย 1\"X4\" ป้ันลมไม้ 1\"X6\" และปิ ดทบั ป้ันลม 1\"X4\" 2 7 34 แปลนโครงหลงั คา 1:100 1 ภาพที่ 2.8 แสดงแบบแปลนโครงหลังคา จากแบบแปลนโครงหลังคา (ภาพที่ 2.8) 1) ดั้ง คสล. จากแปลนโครงหลังคาจะเหน็ วา่ มดี ้ัง คสล.จานวน 5 ิวั 2) อกไกเ่ หล็กคู่ จากแปลนโครงหลังคาจะเห็นว่ามี อกไกเ่ หลก็ ค่้ ขนาด 15050203.2 มม. 3) จันทนั เหล็ก จากแปลนโครงหลงั คาจะเหน็ ว่าจนั ทนั เหลก็ ขนาด10050203.2 มม. 4) ตะเขส้ นั เหล็กคู่ จากแปลนโครงหลังคาจะเห็นวา่ ิะเขส้ นั ค่้ขนาด10050203.2 มม. 5) ระแนงเหล็ก จากแปลนโครงหลงั คาจะเหน็ ว่าระแนงเหลก็ ขนาด2525 1.6.32 มม. 6) ไม้เชิงชาย จากแปลนโครงหลงั คาจะเหน็ ว่าไม้เชิงชายขนาด 1”6” 8) ไม้ปั้นลม จากแปลนโครงหลงั คาจะเห็นวา่ ไมป้ น้ั ลมขนาด 1”6”
32 2.4 แบบรูปด้าน ร้ปด้านเป็นแบบสถาปัิยกรรมท่ีแสดงร้ปด้านของอาคารในแนวดิ่งจะเห็นส่วนประกอบของ อาคารในแิ่ละด้าน การอ่านแบบร้ปด้านจะิ้องนาแบบแปลนพื้น มาประกอบเพราะจะแสดงให้เห็น ิาแหนง่ การมองร้ปดา้ นทัง้ 4 ด้าน 2.4.1 รูปด้านหน้า ด้จากแบบแปลนพ้ืน (ร้ปที่ 2.2) และร้ปด้านหน้า (ร้ปท่ี 2.9) ประกอบจะ เห็นว่ามีอาคารมีความกว้าง 7.00 เมิร แบ่งเป็น 2 ช่วงๆ ละ 3.50 เมิร จากห้องซ้ายมือ มีบาน หน้าิ่าง น1 1ชุด และมีประิ้ ป1 1 บาน ห้องขวามือ มีบานหน้าิ่าง น1 1 ชุด มีูนังก่ออิฐ ฉาบปน้ เรยี บทาสีภายนอก ภาพท่ี 2.9 แสดงแบบ รป้ ด้านหนา้ ภาพที่ 2.10 แสดงแบบ ร้ปด้านหลงั 2.4.2 รูปด้านข้าง ด้จากแบบแปลนพื้น (ภาพที่ 2.2) และร้ปด้านข้างซ้าย (ภาพท่ี 2.11) ประกอบจะเหน็ วา่ อาคารมีความยาว 11.00 เมิร แบ่งเป็น 4 ช่วงๆ จากทางด้านซ้ายมือของ ร้ปด้าน เป็นห้องครัว กว้าง 2.00 เมิร ห้องถัดมา 2 ช่วงเป็นห้องรับแขกกว้าง ช่วงละ 3.50 เมิร
33 ช่วงสุดท้าย กว้าง 2.00 ม.เป็นเฉลียงด้านหน้า มีหน้าิ่าง น1 2 ชุด และมีูนังก่ออิฐฉาบป้นเรียบ ทาสภี ายนอก ภาพที่ 2.11 แสดงแบบ รป้ ด้านข้าง ภาพท่ี 2.12 แสดงแบบ รป้ ด้านข้าง
34 ภาพที่ 2.13 แสดงแบบ ร้ปิัดิามขวาง
35 ภาพที่ 2.14 แสดงแบบ ร้ปิัดิามยาว
36 2.5 แบบรูปตัดทางยาวและรูปตัดทางขวาง แบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง เป็นร้ปแบบที่แสดงให้ทราบรายละเอียดและ ชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของอาคารที่มองจากร้ปด้านไม่เห็น ลักษณะของร้ปิัดจะแสดงความส้ง ความกว้างของอาคาร แสดงโครงสรา้ งิง้ั แิ่ ฐานราก ิอม่อ เสา คานคอดิน พ้ืน โครงหลังคา การจะ อ่านแบบร้ปิัดให้เข้าใจ ควรด้แบบแปลนพื้นประกอบ ว่ามีแนวการิัด ิัดู่านชิ้นส่วนใดของ โครงสร้างในอาคาร คือจากแบบแปลนพ้ืนและร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง จะเห็นว่ามีส่วนประกอบ ของโครงสร้างอาคารดงั น้ี 1. ท้องฐานรากลึกจากระดับดินเดิม 1.00 เมิร ระดับท้องฐานราก จากแบบร้ปิัดทางขวาง และรป้ ิดั ทางยาว 2. ระดับพื้นอาคารจากแบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง แสดงค่าระดับพื้นทางเท้า รอบอาคาร +0.10 เมิร เฉลียง +0.20 เมิร ห้องน้า +0.25 เมิร พ้ืนห้องรับแขก ห้องนอน +0.30 เมิร 3. ระดับหลังคานรับโครงหลังคาจากแบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง แสดงค่า ระดับหลังคานรบั โครงหลงั คา ท่ีระดบั +3.30 เมิร 4. ระดับหลังอกไก่ จากแบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง แสดงค่าระดับหลังอกไก่ ทรี่ ะดบั + 5.80 เมิร 5. ส่วนประกอบอ่ืนๆของอาคารเช่น การิิดิ้ังเคร่าฝ้า และส่วนประกอบโครงหลังคา และรายละเอียดของูนังห้องนา้ เป็นิ้น บทสรุป การศึกษาแบบก่อสร้าง เป็นการศึกษารายละเอียดงานก่อสร้างอาคาร เพราะรายการ ประกอบแบบ และแบบก่อสร้าง จะแสดงรายการงานก่อสร้าง รายการวัสดุ อุปกรณ์ หรือวิธีการ เทคนิคการทางาน เมื่อศึกษาหรืออ่านแบบแล้ว ทาใหู้้ท่ีปิิบัิิงานก่อสร้าง วางแูนการทางาน กาหนดวิธีการข้ันิอนทางาน จัดทารายการวัสดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ ไว้ให้พร้อมก่อนปิิบัิิงาน ทาให้ งานก่อสร้างดาเนินการไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดปัญหา อุปสรรค และถ้กิ้องิรงิามแบบ กอ่ สร้าง ประหยัดค่าใช้จ่ายและทันระยะเวลาท่กี าหนดในสญั ญาการก่อสรา้ ง
37 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 2 เวลา 10 นาที เรอ่ื งการศึกษาแบบกอ่ สรา้ งอาคาร คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบมีทงั้ หมด 10 ข้อ คะแนนเิม็ 10 คะแนน 2. ให้นกั ศึกษาทาเคร่ืองหมาย ในิวั เลือกท่ีเหน็ ว่าถ้กิ้องท่สี ุดลงในกระดาษคาิอบ 1. ขอ้ ความใดิ่อไปนี้กลา่ วไม่ถ้กิ้อง ก. แบบกอ่ สร้างเปน็ ส่วนหนงึ่ ของสญั ญา ข. การศกึ ษาแบบกอ่ สรา้ งเป็นการศึกษารายการประกอบแบบกอ่ สรา้ งและแบบก่อสร้าง ค. งานกอ่ สร้างควรทางานิามรายการประกอบแบบและแบบกอ่ สรา้ งทุกข้ันิอน ง. งานกอ่ สร้างอาคารู้รับจ้างสามารถเปลี่ยนแปลงแบบได้ถ้างานมีปญั หาและอุปสรรค 2. ข้อใดไมใ่ ชร่ ายละเอยี ดในรายการประกอบแบบก่อสร้างอาคาร ก. เทคนิคและข้อิกลงิา่ งๆ ข. เพ่อื ควบคุมคุณภาพวสั ดุ อุปกรณ์ ค. การเบกิ จ่ายเงินิามสัญญาการก่อสร้าง ง. แสดงรายละเอียดประกอบแบบก่อสร้าง 3. แบบแูนทแ่ี สดงลักษณะ ทิี่ ้งั ขอบเขิท่ีดินและอาคารท่กี อ่ สรา้ ง ก. แบบแปลนงานวางูงั ข. แบบแปลนูงั บรเิ วณ ค. แบบแปลนพ้ืน ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดิน และพืน้ 4. แบบทแ่ี สดงรายละเอียดเก่ียวกบั การใช้พนื้ ท่ขี องอาคารในแนวราบคือ ก. แบบแปลนงานวางูัง ข. แบบแปลนูังบรเิ วณ ค. แบบแปลนพน้ื ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดนิ และพ้ืน 5. แบบวิศวกรรม ทแี่ สดงรายละเอียดเกยี่ วกบั โครงสรา้ งคือแบบแปลนใด ก. แบบแปลนงานวางูัง ข. แบบแปลนูังบริเวณ ค. แบบแปลนพ้นื ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดนิ และพน้ื 6. ข้อใดคือสญั ลักษณ์ของคานคอดิน ในแบบแปลนฐานราก คานคอดินและพน้ื ก. RB ข. GB ค. B ง. S
38 7. ข้อใดคือสัญลักษณ์ของพ้ืนบนดนิ ในแบบแปลนฐานราก คานคอดนิ และพื้น ก. RB ข. GB ค. B ง. S 8. ข้อใดคือสญั ลกั ษณ์ของคานรบั โครงหลังคา ในแบบแปลนโครงหลงั คา ก. RB ข. GB ค. B ง. S 9. สญั ลักษณ์ ท่แี สดงในแบบแปลนพื้นหมายถึงสว่ นประกอบใดของอาคาร ก. ชอ่ งแสง ข. หนา้ ิ่าง ค. ประิ้ ง. ูนงั 10. สัญลักษณ์ ทแ่ี สดงในแบบแปลนพ้ืนหมายถึงส่วนประกอบใดของอาคาร ก. ชอ่ งแสง ข. หน้าิา่ ง ค. ประิ้ ง. ูนงั
39 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เฉลยแบบทดสอบ หนว่ ยท่ี 2 10. ค 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. ขง ง ขกคขงก 10. ง แบบทดสอบหลังเรยี น 4. 5. 6. 7. 8. 9. คงขงกค 1. 2. 3. งคข
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176