Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 2 การดูดน้ำของรากพืช

เล่มที่ 2 การดูดน้ำของรากพืช

Published by เอกรักษ์ ชัยวงค์, 2018-10-30 11:55:06

Description: วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องพืชน่ารู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Search

Read the Text Version

ชุดกจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส์วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง พชื น่ารู้ เลม ท่ี 2 การดดู นํา้ ของรากพืช กลุม สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 4 นายเอกรักษ ชัยวงค ตาํ แหนง ครู วทิ ยฐานะ ครูชาํ นาญการ โรงเรียนเทศบาลสนั ปา ยางหลวง สงั กัดกองการศกึ ษา เทศบาลเมืองลาํ พูน จงั หวัดลาํ พูน

ชุดกจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสวิชาวิทยาศาสตร เร่อื งพชื นารู ของนกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปท่ี 4 โรงเรียนเทศบาลสนั ปายางหลวง เทศบาลเมอื งลําพนู จงั หวัดลาํ พนู คําชแ้ี จงในการใชชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส เลมที่ 2 การดดู นาํ้ ของรากพชืชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส เลม ท่ี 2 การดดู นํ้าของรากพืช เปนชุดกจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส รายวชิ าวิทยาศาสตรรหสั วิชา ว 14101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 4 กลุมสาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร มสี าระการเรยี นรู ตามหลกั สูตรการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ใชเวลาในการศึกษา และปฏิบตั กิ ิจกรรม จาํ นวน 2 ช่วั โมงมาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพืน้ ฐานของส่งิ มชี ีวิต ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสง่ิ มีชีวิตท่ีทํางานสมั พนั ธ์กนั มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ส่อื สารสงิ่ ที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในการดาํ รงชีวิตของตนเองและดแู ลสงิ่ มีชีวิต ตวั ชีว้ ัด มฐ.ว 1.1 ป.4/1 ทดลองและอธิบายหน้าที่ของท่อลาํ เลียงและปากใบของพชืจดุ ประสงคการเรียนรู 1. อธิบายหน้าที่ของทอ่ ลาํ เลยี งของพืชได้ (K) 2. ออกแบบการทดลองเก่ียวกบั หน้าท่ีของทอ่ ลาํ เลยี งของพชื ได้ (P) 3. ทดลองและสรุปผลการทดลองเก่ียวกบั หน้าท่ีของทอ่ ลาํ เลยี งของพืชได้ (P) 4. เป็นผ้ทู ่ีมเี หตผุ ล มคี วามอยากรู้อยากเหน็ ใจกว้าง มีความซ่อื สตั ย์ และมีความมงุ่ มนั่ เพยี ร พยายาม (A)

ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนิกสว ทิ ยาศาสตร เรอื่ ง พืชนารู โดยใชกระบวนการสืบเสาะหาความรู (5Es)ช้ันประถมศกึ ษาปที่ 4 มีรายละเอียดดังนี้1. ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สว ทิ ยาศาสตรมีท้ังหมด 8 เลม ดังน้ี เลมท่ี 1 เร่อื ง โครงสรา งภายนอกของพืช เลม ที่ 2 เร่ือง การดูดน้าํ ของรากพืช เลม ที่ 3 เรื่อง การลําเลยี งของพชื เลมที่ 4 เร่อื ง การคายนาํ้ ของพชื เลม ที่ 5 เรือ่ ง ปจจัยที่มีผลตอ การเจรญิ เตบิ โตของพืช เลม ท่ี 6 เรอ่ื ง การสรา งอาหารของพืช เลมท่ี 7 เรอื่ ง ปจ จัยทมี่ ผี ลตอ การสงั เคราะหด ว ยแสงของพืช เลม ที่ 8 เร่ือง การตอบสนองตอ สง่ิ เรา ของพชื2. ชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สว ิทยาศาสตรแ ตล ะชุดมีสว นประกอบ ดงั น้ี 2.1 คาํ แนะการใชชดุ กิจกรรมสําหรบั ครู 2.2 บทบาทของครู 2.3 บทบาทของนักเรียน 2.4 สาระสําคัญ ผลการเรียนรทู ่คี าดหวัง 2.5 แบบทดสอบกอนเรยี น 2.6 ใบความรู 2.7 ใบกิจกรรม 2.8 แบบทดสอบหลังเรียน

สว นประกอบของชดุ กจิ กรรม มีดงั น้ี1. คําชแ้ี จงในการใชช ดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส2. บทบาทครู3. บทบาทนักเรยี น4. ขน้ั ตอนการใชชดุ กจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส5. แบบทดสอบกอนเรยี น ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 26. ใบความรทู ี่ 2.1 การดดู นา้ํ ของรากพืช7. ใบกจิ กรรมที่ 2.1 การดูดนํ้าของรากพชื8. ใบความรูท่ี 2.2 การลาํ เลยี งน้ําของพชื9. ใบกิจกรรมท่ี 2.2 การลาํ เลยี งนา้ํ ของพืช10. แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 211. เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน ชดุ กจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 212. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส ชดุ ที่ 213. แนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมท่ี 2.1 การดดู นาํ้ ของรากพชื14. แนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมที่ 2.2 การลําเลยี งน้ําของพชืการประเมินผลการเรยี นรู1. ประเมนิ ผลดานความรู 1.1 ทดสอบกอ นเรียนและหลงั เรยี น 1.2 ตรวจใบกิจกรรมที่ 2.1 การดดู นาํ้ ของรากพชื2. ประเมนิ ดา นทักษะกระบวนการ 2.1 ตรวจใบกิจกรรมที่ 2.2 การลาํ เลยี งนาํ้ ของพืช 2.2 ประเมินพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค 3.1 ซอ่ื สตั ย สุจรติ 3.2 มีวนิ ัย 3.3 ใฝเรยี นรู 3.4 มุง ม่นั ในการทํางาน 3.5 มจี ติ สาธารณะ

บทบาทครูชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส เลมท่ี 2 การดูดนาํ้ ของรากพชื ใชเ วลาในการศกึ ษา และปฏบิ ตั ิกิจกรรมจาํ นวน 2 ชั่วโมงสง่ิ ทคี่ รคู วรปฏิบัติ กอ น-หลัง และขณะใชชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส มีดังน้ี1. ครคู วรศกึ ษา และทาํ ความเขาใจวธิ ีการใชช ุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนกิ สแลวปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนในการใชช ดุกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกสใ หถกู ตอง ตามลาํ ดบั ขั้นตอนการดาํ เนินกจิ กรรม การใชสอ่ื และอุปกรณ รวมถึงวธิ วี ดัและประเมนิ ผลของชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สใ หช ัดเจน2. ครูควรศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู และปฏิบัติกจิ กรรมตามแผนการจดั การเรียนรู ใหค รบทุกขั้นตอน3. ครูควรเตรียมการจดั กจิ กรรมการเรียนรลู วงหนา และเตรยี มสถานทต่ี ลอดจนสอ่ื ตา งๆ ใหพ รอ มกอนใชชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส4. ครคู วรเตรยี มสอื่ ตา งๆ ทีใ่ ชใ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู ามแผนการจดั การเรยี นรู แตล ะแผนไวลว งหนา5. ครูควรตรวจสอบวัสดอุ ปุ กรณตางๆ ท่ีมีอยูในชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สใ หเ รียบรอ ยทัง้ กอน และหลังใชชดุกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกสท กุ ครง้ั6. การจดั ช้นั เรียน จดั นกั เรียนน่งั เปน กลมุ กลุมละ 4-5 คน โดยแตล ะกลุมใหมีนักเรียนเกง ปานกลาง ออ นตามความเหมาะสมเพ่ือฝก ทกั ษะการทางานกลมุ ทักษะกระบวนการรว มกบั ผูอ ืน่7. ครคู วรชี้แจงบทบาทของนักเรียน เวลาท่ีใชใ นการปฏิบัตกิ จิ กรรม แตละกจิ กรรมหรือ แตล ะแผนการจดั การเรียนรใู หนกั เรียนทราบ8. ครคู วรแจง จดุ ประสงคก ารเรยี นรูใ หนักเรยี นทราบ9. ครใู หน กั เรยี นทําแบบทดสอบกอ นเรยี นเปน รายบคุ คล เพื่อประเมินความรเู ดิมของนกั เรียน กอ นเริ่มเรยี นในแตล ะชุด10. ครูแจกชุดกจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สใหนกั เรียนศกึ ษา และแนะนําข้นั ตอนการใชช ดุ กจิ กรรม การเรยี นรู เพื่อนักเรียนจะไดปฏิบัติไดอยา งถกู ตอง11. ครูดาํ เนินการสอนตามกิจกรรมการเรียนรทู ่ีกาํ หนดไวใ นแผนการจัดการเรียนรู12. ครคู วรใหก ารดูแลขณะทนี่ กั เรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมอยา งทัว่ ถงึ และใหคําแนะนํากรณี ทีน่ ักเรยี นไมเ ขา ใจในกจิ กรรมตา งๆ และตอ งพยายามกระตุนใหนักเรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมดว ยตนเองมากทส่ี ุด13. หากมนี กั เรยี นคนใดเรยี นไมท นั ครอู าจมอบหมายงานใหศ ึกษาเพ่ิมเตมิ ในเวลาวา ง14. ครูใหนกั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลังเรียนเปนรายบคุ คล หลงั จากที่นกั เรียนใช ชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ สเสร็จเรียบรอ ย15. นกั เรยี นทําแบบทดสอบกอ นเรียน ทาํ ใบกจิ กรรม ครูควรตรวจคาตอบแลว แจงคะแนนใหนักเรยี นทราบทนั ที และเม่อื เรยี นจบเนื้อหาใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรยี น เม่อื ครูตรวจคาํ ตอบแลวแจงคะแนนใหนกั เรยี นทราบ เพื่อดคู วามกา วหนา ของตนเอง หากมีนกั เรยี น ไมผ านเกณฑ ครูควรใหนกั เรยี นรับชุดกิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกสช ุดทไี่ มผ านเกณฑไ ปศึกษาเพิ่มเตมิ นอกเวลาเรยี น16. ครูควรสรุปผลการใชช ุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส สภาพปญหา และขอ เสนอแนะ หลงั จากใชช ดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกสแตละคร้ัง เพ่อื นาไปปรับปรงุ ในการใชช ดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สใ นคร้ังตอ ไป

บทบาทนักเรียนชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส เลมท่ี 2 การดดู นาํ้ ของรากพืช ใชเ วลาในการศกึ ษา และปฏบิ ัตกิ ิจกรรม จาํ นวน 2ชวั่ โมง โดยนกั เรียนปฏบิ ัติดังตอ ไปนี้1. นกั เรียนอา นคําช้แี จงการใชช ดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกสบ ทบาทของนกั เรยี นใหเ ขาใจกอน ศกึ ษาชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนิกส2. นกั เรยี นอา นขน้ั ตอนการใชช ุดกจิ กรรม3. นักเรียนศกึ ษาชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกสด ว ยตนเอง โดยปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนท่รี ะบไุ วในข้ันตอนการใชช ดุกิจกรรม4. นกั เรียนทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น และแบบทดสอบหลังเรียนเปนรายบคุ คลสวนการปฏิบัตกิ ิจกรรมในชดุกจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสใ หนักเรียนทําเปน กลมุ5. การทาํ กจิ กรรมตามชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ สท ุกชดุ ขอใหนกั เรียนทําดว ยความต้ังใจ และใหค วามรว มมือมีความซอื่ สตั ยต อ ตนเองและผอู ื่นไมเปดดเู ฉลยกอนเปนอนั ขาด เพราะจะทาํ ใหน กั เรยี นไมไ ดใชท ักษะในการคดิวเิ คราะห6. การทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น ทาํ แบบบันทกึ กิจกรรมนกั เรียนควรใหค รตู รวจคาํ ตอบแลวรอผลคะแนนสอบทนั ที และเมอื่ เรียนจบเนื้อหาใหน กั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น เม่ือครตู รวจคาตอบแลว ใหนกั เรยี นรอผลคะแนนสอบ เพือ่ ดคู วามกา วหนา ของตนเอง หากนกั เรยี นไมผา นเกณฑ ใหน กั เรียนรับชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกสชดุ ท่ีไมผ านเกณฑไปศึกษาเองเพม่ิ เติมนอกเวลาเรียน เพือ่ ทบทวนความรแู ลวจึงทาํ แบบทดสอบใหมอ กี ครง้ั7. หลังจากทํากิจกรรมเสรจ็ เรยี บรอ ยแลว ใหน กั เรียนเกบ็ วัสดุอุปกรณใ หเรยี บรอ ย8. หากนกั เรียนคนใดเรียนไมท ันหรอื เรยี นไมเ ขา ใจ ใหร ับชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนิกสไ ปศึกษาเพมิ่ เตมิ นอกเวลาเรียน เพ่อื ใหเขา ใจมากยงิ่ ข้ึน

ในกรณีท่ไี มมีการแบงกลมุ1. นกั เรยี นทกุ คนปฏบิ ัติกิจกรรมดว ยความต้งั ใจ และไมช วนเพือ่ นคยุ หรือเลน กันขณะทป่ี ฏิบัตกิ จิ กรรม2. นกั เรยี นปฏิบัติตามข้ันตอนในการทํากจิ กรรมใหเ สร็จ และทนั เวลาที่กาํ หนด3. นักเรยี นควรต้งั ใจตอบคาํ ถามอยางเตม็ ความสามารถ และยกมือซกั ถามเมื่อพบปญหาหรอื ขอ สงสยั4. นกั เรียนควรทําแบบฝก หัดดว ยตนเองอยางเต็มความสามารถ ไมล อกเลยี นแบบของผูอ่นื5. นักเรียนควรตัง้ ใจในการทาํ แบบทดสอบท้ังกอนเรยี นและหลงั เรียนดว ยตนเอง6. เมอื่ นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมเสรจ็ ใหช วยกนั เกบ็ และทาํ ความสะอาดวสั ดุ อปุ กรณ สื่อการเรียนการสอนแลวจัดโตะกับเกาอใี้ หอ ยใู นสภาพทเ่ี รียบรอ ยในกรณที ่ีมกี ารแบง กลุม1. บทบาทของผนู าํ กลุม มหี นาท่ดี งั นี้ 1.1 ควบคุมการดาํ เนินกจิ กรรมภายในกลุมใหเ ปนไปดวยความเรยี บรอ ย 1.2 เปนผูนําในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมของกลมุ 1.3 เปน ผูต ดิ ตอกบั ครูเมือ่ พบปญ หาหรือขอ สงสยั 1.4 รายงานหรอื แจงใหค รูทราบเมอ่ื ปฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จ 1.5 หลังจากสมาชิกภายในกลมุ ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรเู สรจ็ เรียบรอยแลว ใหเ ก็บ รวบรวมแบบบนั ทึกกิจกรรม และกระดาษคาตอบสง ครตู ามเวลาทกี่ าํ หนด2. บทบาทของสมาชกิ ภายในกลมุ มหี นา ท่ีดังน้ี 2.1 ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมดว ยความตัง้ ใจใหท นั เวลาโดยไมช วนเพือ่ นคยุ หรือเลน 2.2 ตง้ั ใจตอบคาํ ถามอยา งเตม็ ความสามารถและปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนในการทํากจิ กรรม 2.3 ไมค วรปรกึ ษากันเสียงดังเกินไปจนรบกวนกลมุ อ่นื ๆ 2.4 ชว ยกันเก็บ และทาํ ความสะอาดวสั ดุ อุปกรณ สือ่ การเรียนการสอน แลว จัดโตะ กับเกา อ้ี ใหอยูใน สภาพที่เรียบรอ ย

ขั้นตอนการใชชดุ กจิ กรรม 1. นักเรียนศึกษาคาํ ชแ้ี จงการใชชุดกจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส เลม ท่ี 2 การดดู นํา้ ของรากพืช ใหเ ขาใจ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ นเรียนเปนรายบุคคล ชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 2 จาํ นวน 10 ขอโดยใชเ วลา 10 นาที เมอื่ ทาํ แบบทดสอบเสร็จแลวเกบ็ รวบรวมใหครตู รวจคาตอบ รอฟง ผลการประเมิน ความรูเดิมของนักเรยี น 3. นักเรยี นศกึ ษาใบความรูท่ี 2.1 การดดู นํา้ ของรากพชื จากน้นั ทําใบกิจกรรมที่ 2.1 การดดู นาํ้ ของรากพชื เม่ือทาํ เสร็จเรียบรอ ยแลว ครูกับนกั เรียนเฉลยคาํ ตอบรวมกนั โดยตรวจคําตอบในเฉลยใบกจิ กรรมท่ี2.1 การดดู น้าํ ของรากพชื 4. นกั เรียนศึกษาใบความรทู ี่ 2.2 การลําเลยี งนํา้ ของพชื จากนั้นทํา ใบกิจกรรมท่ี 2.2 การลําเลยี งนํ้าของพชื เมื่อทาํ เสร็จเรยี บรอยแลว ครกู บั นักเรยี นเฉลยคาํ ตอบรว มกัน โดยตรวจคาํ ตอบในแนวคําตอบใบกจิ กรรมที่ 2.2 การลาํ เลยี งน้ําของพืช 5. นักเรยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี นเปนรายบคุ คล ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส ชดุ ที่ 2 จํานวน 10 ขอโดยใชเวลา 10 นาที เม่ือนกั เรยี นทําแบบทดสอบเสรจ็ แลว เกบ็ รวบรวมใหค รตู รวจคาํ ตอบเพ่อื ประเมนิ ความรูหลังจากใชชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกส

แบบทดสอบกอนเรียน ชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนิกส ชดุ ท่ี 2เรือ่ ง การดดู นํ้าของรากพชื กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 4 เวลา 10 นาทีคาํ ชแ้ี จง ขอ สอบชดุ น้ีเปนขอสอบปรนยั จํานวน 10 ขอ คะแนน 10 คะแนนคําสงั่ ใหนกั เรยี นเลือกคาํ ตอบท่ีถูกตองทสี่ ดุ เพยี งคําตอบเดียวแลว นาํ อกั ษรหนาคาํ ตอบ เตมิ ลงใน แบบบันทกึผลการทดสอบ1. การลําเลยี งน้ําในพชื คือขอใด ก. จากใบไปสรู าก ข. จากรากไปสูใบ ค. จากลําตนไปสใู บ ง. จากใบไปสูล ําตน2. สวนประกอบใดของพืชซึง่ มหี นาทหี่ ลกั ในการดูดน้ํา ก. ก่ิงไม ข. ลาํ ตน ค. ใบไม ง. ราก3. เพราะเหตุใดจึงนยิ มใชตนกระสังในการทดลองเรอ่ื งการดดู น้ําของรากพชื ก. รากมีสขี าวใสสวยงาม ข. เปน พืชทหี่ าไดง า ยในทอ งถน่ิ ค. มรี ากสามารถดดู นํา้ ไดรวดเรว็ ง. สามารถสังเกตเห็นสใี นลาํ ตนไดช ัดเจน4. ในการทดลองเรือ่ งการดูดนํา้ ของรากพืช ควรใชน ้าํ สีใด ก. สดี าํ ข. สแี ดง ค. สีเขียว ง. สนี ้าํ เงนิ

5. เพื่อความสะดวกและปลอดภยั ควรเลือกใชส ชี นิดใดในการทดลองเรือ่ งการดดู นํ้าของรากพชื ก. สีนํ้า ข. สีโปสเตอร ค. สีผสมอาหาร ง. สปี ากกาหมกึ ซมึ6. ในการทดลองเรือ่ งการดูดนาํ้ ของรากพืช ควรออกแบบการทดลองอยางไร ก. ตัดใบตนพชื ตน หนึง่ ออก อกี ตนไมต องตดั ใบ ข. ตัดลําตนตน พชื ตนหนง่ึ ออก อกี ตน ตัดรากออก ค. ตัดรากตน พชื ตน หน่ึงออก อีกตน ไมต อ งตัดราก ง. ตัดลาํ ตน ตน พชื ตน หน่งึ ออก อีกตน ไมต องตัดลาํ ตน7. ในการทดลองเรือ่ งการดูดน้ําของรากพชื การแชตนพืชลงในนํา้ สีควรใชเวลาทดลองประมาณก่ี นาที กอ นการสังเกตผล ก. 3 นาที ข. 5 นาที ค. 10 นาที ง. 30 นาที8. ในการทดลองเร่ืองการดดู นาํ้ ของรากพืช ควรเลอื กใชพชื ชนิดใด ก. ตนกระสงั ตนเทียน ข. ตนถ่วั เขยี ว ตน มะละกอ ค. ตนหญา ตนออ ย ง. ตนกลวยไม ตน ผกั กระเฉด9. ในการทดลองเรื่องการดดู นํ้าของรากพชื ตัวแปรตนคอื ขอ ใด ก. รากพชื ข. ชนิดของนา้ํ สี ค. ชนิดของตนพืช ง. ขวดพลาสติกใส

10. ในการทดลองเร่ืองการดูดนํา้ ของรากพชื เมื่อใชแ วนขยายสอ งดูลาํ ตน ที่ถกู ตัดตามขวาง นกั เรียนจะสงั เกตเหน็ สงิ่ ใดบา ง ก. ลําตนจะมปี ากใบ เปน รเู ลก็ ๆ ข. รากทําหนา ทีด่ ดู นาํ้ และอาหาร ค. ภายในลําตน จะมที อ เลก็ ๆทรงกลมอยู ง. ลําตนลําเลียงนาํ้ และอาหารไปสสู ว นตา ง ๆ ของพชื

แบบบันทึกผลแบบทดสอบกอ นเรยี น ชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส ชดุ ที่ 2ช่อื -สกลุ .....................................................ชั้น..................... เลขท.่ี ................ ขอท่ี คําตอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนที่ได. ............คะแนน

ใบความรูท่ี 2.1 การดดู น้ําของรากพืช การลาํ เลียงน้าํ และแรธ าตใุ นพืช เรมิ่ จากรากทําหนาทด่ี ูดน้าํ แลวลาํ เลยี งขึ้นไปยังสว นอื่นของพืชโดยผานทางทอลําเลยี งนา้ํ ไปตามลําตน ก่งิ และใบ ใบ กิ่ง ลาํ ต้น พืชดดู นํา้ ผา่ นไปราก ยงั สว่ นไหนของ พืชบ้างนะ

ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 เรื่อง 2.1 การดดู นา้ํ ของรากพืชชื่อ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขที่..................คาํ ชี้แจง ใหนกั เรียนแบงกลมุ กลมุ ละ 4-5 คน จากนัน้ ใหน ักเรยี นฝก การออกแบบการทดลองเรอ่ื ง การดดู นํา้ของรากและการลาํ เลียงนา้ํ ของลําตน เมือ่ กาํ หนดอปุ กรณใ หด งั นี้ต้นผักนํา้กระสัง สีผสม บกี เกอร์ขนาด อาหารสีแดง 250 mlวสั ดุอปุ กรณที่ใชใ นการทดลอง การทดลองนีเ้ รา จะออกแบบการ1. ตนผกั กระสัง จํานวน..........................ตน ทดลองกนั อยา่ งไร2. สีผสมอาหารสแี ดง จํานวน..........................ซอง3. บกี เกอรข นาด 250 ml จํานวน..........................ใบ4. นํา้ ปริมาณ.........................ลูกบาศกเ ซนติเมตร5. ใบมีด จํานวน..........................ใบ6. แว่นขยาย จาํ นวน..........................อนั7. นาฬิกาจบั เวลา จาํ นวน..........................เรอื นขั้นตอนและวิธกี ารทดลองทอี่ อกแบบ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ใบความรูท่ี 2.2 การลาํ เลียงน้ําของพืช จากการทดลองนําต้นของพืชบางชนิด เช่น ผกั กระสงั ต้นเทยี น ท่มี ลี าํ ต้นใส ไปแช่ใน นํา้ สีแดง เมอื่ สงั เกตสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื จะเหน็ บริเวณท่ตี ิดสี มีลกั ษณะเป็นเส้นเลก็ ๆ หลาย เส้น ตอ่ เนื่องจากส่วนราก สลู่ ําต้น จนถงึ สว่ นยอด ถ้าสงั เกตบริเวณอ่ืน ๆ เช่น ก้านใบ และเส้นใบจะเหน็ สตี ิดอย่ทู ีบ่ ริเวณเหลา่ นีด้ ้วย เม่อื นําสว่ นของลําต้นมาตดั ตามยาว และ ตามขวาง แล้วสอ่ งดดู ้วยแวน่ ขยายและกล้องจลุ ทรรศน์ จะเหน็ วา่ มีเนือ้ เย่ือทตี่ ดิ สีเฉพาะ บางสว่ นของลาํ ต้นดงั ภาพที่มา http://119.46.166.126/self_all/selfaccess7/m1/400/lesson5/lesson5.php นกั เรียนสงั เกตเหน็ อะไรบนลาํ ต้นบ้างครับ

ใบกิจกรรมท่ี 2.2 การลาํ เลยี งนํา้ ของพชืชื่อ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขที่..................คาํ ชีแ้ จง ให้นกั เรียนวาดภาพ จากการสงั เกตต้นผกั กระสงั ที่มีรากและไมม่ ีรากที่แชใ่ นนํา้ สีแดงส่งิ ท่ที ดลอง ผลการสงั เกตต้นผกั กระสงั มีรากต้นท่มี ีรากกบั ไมม่ ีราก ตา่ งกนั อยา่ งไร ต้นผกั กระสงั ที่ไมม่ รี ากสรุปผลการทดลอง..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

แบบทดสอบหลังเรยี น ชุดกิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 2เรอ่ื ง การดูดนา้ํ ของรากพชื กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรชั้นประถมศึกษาปท ี่ 4 เวลา 10 นาทีคําชแี้ จง ขอสอบชุดนเี้ ปนขอ สอบปรนัย จํานวน 10 ขอ คะแนน 10 คะแนนคาํ สัง่ ใหน ักเรียนเลอื กคําตอบที่ถูกตอ งที่สดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี วแลวนาํ อกั ษรหนา คาํ ตอบ เติมลงใน แบบบันทึกผลการทดสอบ1. ในการทดลองเรอ่ื งการดดู น้าํ ของรากพืช ควรออกแบบการทดลองอยา งไร ก. ตัดใบตน พชื ตน หนงึ่ ออก อีกตน ไมตอ งตดั ใบ ข. ตัดลําตน ตน พชื ตนหนง่ึ ออก อีกตน ตดั รากออก ค. ตดั รากตนพืช ตนหนง่ึ ออก อีกตนไมต อ งตัดราก ง. ตดั ลําตน ตน พชื ตน หนงึ่ ออก อีกตนไมต องตดั ลาํ ตน2. ในการทดลองเร่ืองการดดู น้ําของรากพชื การแชตน พชื ลงในนาํ้ สคี วรใชเวลาทดลองประมาณก่ี นาที กอ นการสงั เกตผล ก. 3 นาที ข. 5 นาที ค. 10 นาที ง. 30 นาที3. สว นประกอบใดของพืชซงึ่ มหี นาทหี่ ลกั ในการดดู น้าํ ก. ก่งิ ไม ข. ลําตน ค. ใบไม ง. ราก4. ในการทดลองเร่ืองการดูดน้ําของรากพชื ควรเลือกใชพ ืชชนิดใด ก. ตนกระสัง ตน เทยี น ข. ตนถัว่ เขยี ว ตนมะละกอ ค. ตนหญา ตน ออ ย ง. ตนกลวยไม ตน ผักกระเฉด

5. ในการทดลองเรอื่ งการดูดนาํ้ ของรากพชื ตัวแปรตนคอื ขอ ใด ก. รากพชื ข. ชนดิ ของน้าํ สี ค. ชนดิ ของตนพืช ง. ขวดพลาสติกใส6. ในการทดลองเรอ่ื งการดดู น้ําของรากพชื เมอ่ื ใชแวน ขยายสอ งดลู าํ ตนท่ถี กู ตัดตามขวาง นกั เรยี นจะสังเกตเหน็ สิ่งใดบา ง ก. ลาํ ตน จะมีปากใบ เปน รเู ล็กๆ ข. รากทําหนา ทด่ี ดู น้ําและอาหาร ค. ภายในลําตนจะมที อเล็กๆทรงกลมอยู ง. ลาํ ตนลําเลยี งน้ําและอาหารไปสสู ว นตาง ๆ ของพชื7. การลําเลียงนา้ํ ในพืช คือขอ ใด ก. จากใบไปสรู าก ข. จากรากไปสูใบ ค. จากลาํ ตนไปสูใบ ง. จากใบไปสลู ําตน8. เพราะเหตุใดจงึ นยิ มใชตน กระสงั ในการทดลองเรอื่ งการดดู นํา้ ของรากพชื ก. รากมสี ขี าวใสสวยงาม ข. เปนพชื ที่หาไดง า ยในทองถ่นิ ค. มีรากสามารถดูดนํ้าไดรวดเร็ว ง. สามารถสังเกตเหน็ สใี นลําตน ไดช ดั เจน9. ในการทดลองเรือ่ งการดูดนาํ้ ของรากพืช ควรใชน า้ํ สีใด ก. สดี าํ ข. สีแดง ค. สีเขยี ว ง. สนี าํ้ เงนิ

10. เพ่อื ความสะดวกและปลอดภัยควรเลอื กใชส ชี นิดใดในการทดลองเร่อื งการดูดน้ําของรากพืช ค. สนี าํ้ ง. สีโปสเตอร ค. สีผสมอาหาร ง. สีปากกาหมกึ ซึม

แบบบนั ทึกผลแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 2 ขอท่ี คําตอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนที่ได. ............คะแนน

เฉลยแบบทดสอบกอนเรียนชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 2 ขอ ที่ คาํ ตอบ 1ข 2ง 3ง 4ข 5ค 6ค 7ง 8ก 9ก 10 ค

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี นชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกส ชดุ ท่ี 2 ขอที่ คําตอบ 1ค 2ง 3ง 4ก 5ก 6ค 7ข 8ง 9ข 10 ค

แนวคําตอบใบกิจกรรมท่ี 2.1 การลาํ เลียงน้ําของพชืคาํ ชี้แจง ใหนกั เรียนแบงกลมุ กลมุ ละ 4-5 คน จากนน้ั ใหนักเรยี นฝกการออกแบบการทดลองเรอ่ื ง การดดู นาํ้ของรากและการลาํ เลยี งนํ้าของลาํ ตน เมอื่ กาํ หนดอุปกรณใ หด ังน้ีต้นผักนํา้กระสัง สีผสม บกี เกอร์ขนาด อาหารสีแดง 250 ml ใบมีด แวน่ ขยาย นาฬกิ าจบั เวลาวสั ดอุ ปุ กรณทีใ่ ชในการทดลอง1. ตน ผกั กระสงั จาํ นวน 2 ตน2. สีผสมอาหารสีแดง จํานวน 1 ซอง3. บีกเกอรข นาด 250 ml จํานวน 2 ใบ4. น้ํา ปรมิ าณ 200 ลูกบาศกเซนติเมตร5. ใบมดี จาํ นวน 1 ใบ6. แวน ขยาย จาํ นวน 1 อนั7. นาฬกิ าจับเวลา จํานวน 1 เรือนข้ันตอนและวิธกี ารทดลอง1. เตรียมน้ําผสมสีแดงโดยใชส ผี สมอาหารใหไดส ีแดงเขม ใสใ นบกี เกอรข นาด 250 ml ใบที่ 1 และ 2 ใบละ 100 ลกู บาศกเ ซนติเมตร2. ตดั รากตนผกั กระสัง ตน หน่ึงออก อีกตนไมต อ งตัดราก3. แชตนผักกระสัง ท่มี รี ากลงในบีกเกอรใ บท่ี 1 และตน ผักกระสัง ทต่ี ดั รากออกลงในบีกเกอรใบท่ี 24. จับเวลาประมาณ 30 นาที สังเกตการเปลย่ี นแปลงทเ่ี กิดขึน้5. ใหน ักเรยี นตดั ลําตน ผักกระสงั หรอื ตน เทยี นตามตามขวาง จากน้นั ใชแวนขยายสองดลู ักษณะของลําตน สว นที่ถกู ตดั และบันทกึ ผลการสงั เกต

แนวคาํ ตอบใบกิจกรรมที่ 2.2 การลาํ เลียงนํา้ ของพชืตาราง ผลการสงั เกตการนําต้นผกั กระสงั ที่มรี ากและไมม่ ีรากแชใ่ นนํา้ สแี ดง ส่งิ ท่ที ดลอง ผลการสังเกตต้นผกั กระสงั มีรากต้นผกั กระสงั ท่ีไมม่ รี ากสรุปผลการทดลอง เมอื่ สังเกตลําตน กระสังทต่ี ัดตามขวาง จะเห็นเปน จดุ ๆ สีแดง โดยเฉพาะลาํ ตนของตน ผักกระสังที่มีราก จะสงั เกตเหน็ จุดสแี ดง ไดช ดั เจนและมากกวา ตนผกั กระสงั ท่ีไมมรี าก

บรรณานุกรมสถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร.(2554). หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 4 .องคก ารคา คุรุสภา กรงุ เทพมหานครสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) แผนการจดั การเรียนรู วิทยาศาสตร ป.4 บรษิ ัท พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จาํ กัด .กรงุ เทพมหานคร.แสดงสว นที่ติดสีของตนเทียน.สบื คน เมือ่ 20 เมษายน 2558, จาก http://119.46.166.126/self_all/selfaccess7/m1/400/lesson5/lesson5.php.เอกรินทร ส่มี หาศาล และคณะ.ส่อื การเรียนรู รายวิชาพื้นฐาน ชดุ แมบ ทมาตรฐาน Smart O-NET วทิ ยาศาสตร ป.4 .อกั ษรเจริญทศั น กรงุ เทพมหานคร.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook