Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore aพระบารมี

aพระบารมี

Description: aพระบารมี

Search

Read the Text Version

พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ปนิ่ สยาม ๔๙ เทคโนโลยดี า้ นไฟฟา้ และวทิ ยทุ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การสอ่ื สาร ทรงศกึ ษาอยา่ งจรงิ จงั เพราะทรงตระหนกั ถงึ ประโยชน์ และความสำคัญด้านการสื่อสาร ทั้งน้ี มีพระราชประสงค์จะทรงทราบข่าวคราวทุกข์สุขของราษฎรที่อยู่ตามท่ีต่างๆ ท่ัวประเทศได้รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ สามารถพระราชทานคำแนะนำ และความช่วยเหลือได้แม้จะอยู่ห่างไกล ได้ทรงศึกษาหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารทางวิทยุจนทรงสามารถตรวจ ซ่อม ปรับแต่งเครื่องวิทยุด้วย พระองค์เองได้ ในการใช้เครื่องวิทยุเพื่อสื่อสารนั้น ได้ทรงทดลองและตรวจสอบสายอากาศทุกชนิด เพ่ือเพ่ิมขีด ความสามารถในการรับส่งสญั ญาณจากท่ีห่างไกล โดยปราศจากเสยี งรบกวน ไม่วา่ จะเสดจ็ พระราชดำเนนิ ณ ทใ่ี ด โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้มีความรู้ และสนใจในเรื่องสายอากาศเป็นพิเศษเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวาย คำอธิบาย และพระราชทานกระแสพระราชดำริให้ไปทดลองค้นคว้าพัฒนาสายอากาศชนิดที่มีทิศทาง และอัตรา ขยายกำลงั สญั ญาณสงู เปน็ พเิ ศษ แลว้ โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทานแบบใหส้ ว่ นราชการและรฐั วสิ าหกจิ นำไป ผลติ ใชง้ าน เพ่ือเพิม่ ประสิทธภิ าพใหแ้ ก่ระบบการสอื่ สารของหนว่ ยงานด้วย ในปัจจบุ นั นี้ อาจกลา่ วไดว้ ่า ข่ายการ สอื่ สารระหวา่ งเครอื่ งบนิ พระทน่ี งั่ กบั ผเู้ กยี่ วขอ้ งทงั้ บนอากาศ และภาคพนื้ ดนิ ทเ่ี กดิ จากแนวพระราชดำรขิ องพระองค์ มีประสิทธภิ าพสูงมาก จะทรงตดิ ต่อผู้เก่ียวขอ้ งไดต้ ลอดเสน้ ทางเสด็จพระราชดำเนนิ ในส่วนที่เกี่ยวกับศาสนานั้น ได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้มหาวิทยาลยั มหิดล จดั ทำโครงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ เพอ่ื ศกึ ษาพระไตรปฎิ กและอรรถกถา ตอ่ เนือ่ งจาก โครงการพระไตรปฎิ กฉบบั คอมพวิ เตอรเ์ ดมิ ทม่ี หาวทิ ยาลยั มหดิ ลพฒั นาเสรจ็ แลว้ ทรงเหน็ วา่ โครงการนค้ี วรรวบรวม เอาชดุ อรรถกถา และฎีกาเข้าไวด้ ว้ ยกัน นับเป็นโครงการท่ีนำวิทยาการชนั้ สงู มาประยุกต์ใชก้ บั ข้อมูลด้านพุทธศาสนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาพระไตรปิฎกและอรรถกถาฉบับคอมพิวเตอร์น้ีด้วยพระองค์เอง ตลอดจน พระราชทานพระราชวินิจฉัยและพระราชวิจารณ์ในการออกแบบโปรแกรมสำหรับใช้ในการสืบค้นข้อมูล ในฐานะแห่งองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก กล่าวได้ว่า เป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ย่ังยืนยาวนานสืบไป ในอนาคตกาล เพราะเปน็ สว่ นสนบั สนนุ สำคญั ที่ทำใหก้ ารศึกษาพระไตรปิฎกและชดุ อรรถกถาเปน็ ไปไดอ้ ย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ อีกทั้งรวบรวมเน้ือหาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา นับเป็นการใช้วิทยาการอันก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์

๕๐ พระบารมอี งค์ภมู นิ ทร์ ป่นิ สยาม บทสง่ ทา้ ย ในการทรงงานน้ัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญต่อการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานต่างๆ นักวิชาการ นักปฏิบัติ และเกษตรกร ทรงมองวิธีการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาอย่างครบวงจร นอกจากนี้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเนน้ วา่ ตอ้ งใชค้ วามรแู้ ละหลกั วชิ าการทถี่ กู ตอ้ ง แตต่ อ้ งไมย่ ดึ ตดิ กบั ตำรา เช่น ในการพัฒนาเพื่อช่วยเหลือราษฎรนั้นไม่มีตำราตายตัว แต่ให้รวบรวมความคิดและการปฏิบัติในเวลาเดียวกัน ก็จะทนั การ พระราชภารกิจของพระองค์ในการคดิ คน้ นวตั กรรมต่างๆ จำนวนมากนน้ั เปน็ กระบวนการในการจดั การ ความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ ขณะเดียวกนั ทรงเปน็ ผูน้ ำในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพอ่ื สง่ เสริมคณุ ภาพชีวติ ของ ประชาชน มพี ระราชวนิ จิ ฉยั อนั แหลมคมในการเลอื กใชศ้ าสตรต์ า่ งๆ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพสงั คม ไดแ้ ก่ วทิ ยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ การชลประทาน การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม และการใช้เคร่ืองมือเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรงประยุกต์และทรงใช้อย่างรอบคอบ เหมาะสมกับบุคคล ท้องถ่ิน และ สถานการณ์ พร้อมกันนี้ ทรงพระปรีชาสามารถในการใช้ศิลปะเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับรัฐบาลและประชาชนของ พระองค์อยู่เสมอ โดยผ่านทางกระแสพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสต่างๆ รวมทั้งผ่านทางบทพระราชนิพนธ์ เพ่ือนำ เสนอเนอ้ื หาและคำสอนอันทรงคุณค่ายิ่ง ทรงใชก้ ลวิธีทางภาษาเปน็ ปจั จยั สำคญั ทำให้สามารถส่ง ‘สาร’ ท่ีมคี ุณค่า ไปยงั ผฟู้ งั และผอู้ า่ นได้อย่างทว่ั ถึง นับวา่ ทรงประสานศาสตรแ์ ละศลิ ป์ได้ตรงตามพระราชประสงคโ์ ดยสมบรู ณ ์

พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม ๕๑ บรรณานุกรม เครือขา่ ยกาญจนาภิเษก. (๒๕๕๐). พระราชอจั ฉรยิ ภาพ ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช. ค้นวนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ จาก http://www.kanchanapisek.or.th/activities/index.th.html ทวีสันต์ ลดาวัลย์, หม่อมหลวง. (๒๕๓๙). พร้อมพระปรีชาญาณด้านภาษา. ใน เอกสาร การสัมมนาทางวิชาการเรื่อง ๕๐ ปี ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร: สืบสานภาษา พจิ ารณาวรรณกรรม. ขอนแกน่ : ภาควิชาภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร ์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . นราธวิ าสราชนครนิ ทร,์ เจา้ ฟา้ กรมหลวง. (๒๕๔๐). เจา้ นายเลก็ ๆ-ยวุ กษตั รยิ :์ พระราชประวตั ิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั อานันทมหิดล และพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ภูมิพลอดลุ ยเดช เมื่อทรงพระเยาว์ ๒๔๖๘ – ๒๔๘๙. พมิ พค์ ร้งั ที่ ๕. เชยี งใหม:่ สรุ ิวงศ์บคุ๊ ส์เซนเตอร.์ นนั ทา ขนุ ภกั ด.ี (๒๕๓๙). ฟงั มธรุ พจนพ์ ระตรสั แลว้ จบั ใจ. ใน เอกสารการสมั มนาทางวชิ าการ เรื่อง ๕๐ ปี ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร: สืบสานภาษา พิจารณาวรรณกรรม. ขอนแก่น: ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . ปยิ นาถ บนุ นาค. (สงิ หาคม ๒๕๕๐). พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช: พระอจั ฉรยิ ภาพ ในการบริหารจดั การ. กินรี ๘, ๕๑-๕๒. โรงเรยี นเตรยี มทหาร. (๒๕๕๐). พระราชอจั ฉรยิ ภาพ. คน้ วนั ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ จาก http://www.afaps.ac.th ศกั ดศ์ิ รี แยม้ นดั ดา. (๒๕๓๙). พระราชทศั นะของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชฯ ตอ่ การใชภ้ าษาไทยในสมยั ปจั จบุ นั . ใน เอกสารการสมั มนาทางวชิ าการเรอ่ื ง ๕๐ ปี ใตร้ ม่ พระบรมโพธสิ มภาร: สบื สานภาษา พจิ ารณาวรรณกรรม. ขอนแกน่ : ภาควชิ าภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สทิ ธา พินจิ ภูวดล. (๒๕๓๙). “นายอนิ ทรผ์ ู้ปิดทองหลงั พระ” และ “ติโต” พระราชนิพนธ์ แปลอนั ทรงคณุ คา่ . ใน เอกสารการสมั มนาทางวชิ าการเรอื่ ง ๕๐ ปี ใตร้ ม่ พระบรม โพธสิ มภาร: สบื สานภาษา พจิ ารณาวรรณกรรม. ขอนแกน่ : ภาควชิ าภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ .

๕๒ พระบารมอี งค์ภูมินทร์ ป่ินสยาม พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว : พระผคู้ รองหัวใจท้งั ชาต ิ เอมอร ชติ ตะโสภณ* ทฆี ายโุ ก โหตุ มหาราชา น้อมนบมนัสหัตถ์ ชุลทิ ัศน์ ณ บาทบงสุ์ เน่ืองวารดิถตี รง วรเรมิ่ เฉลิมปี แปดสิบพระชนั ษา ฉนำเขา้ สวสั ดิ์ศรี ทวยราษฎร์ปตี ิม ี มนสขุ เกษมสันต์ ทรงต้งั พระทัยมุ่ง จะผดุงพิทักษธ์ รรม ์ ปรับเปลยี่ นประยุกตพ์ ลัน และลิขิตประดิษฐ์สาร ทรงสอนตระหนักภกั ด ิ์ กลรักสมคั รสมาน เพ่อื ชาติสราญนาน ละประโยชน์เฉพาะตน ทรงเปรียบประดุจฉัตร สุจรัสพพิ ฒั น์ผล คุม้ เกลา้ หทยั ชน คติชอบนริ ามัย ขอทรงประสบสขุ นริ ทกุ ขน์ ิราศภัย ค รองราช ยเ์ จรญิ ไกร น ิรัตศิ ยั นริ ันดร์กาล (โสตถิ์เทอญ) ด้วยเกลา้ ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ เนอ่ื งในโอกาสมหามงคลทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงครองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๖๐ ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๙ และในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธนั วาคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๐ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวมีพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลด้วยการจัดทำหนังสือ “พระบารมีองค์ภูมินทร์ ปิ่นสยาม” ซ่ึงในภาคหน่ึงได้รวบรวมข้อเขียนที่เกี่ยวกับประสบการณ์ ความทรงจำ และ ความประทับใจของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พ่อหลวงแห่งปวงชน ชาวไทย” มาจารึกไว้ เพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกียรติในพระองค์ต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ตั้งแตเ่ ริม่ อา่ นหนงั สือไดด้ ว้ ยตนเอง ยง่ิ เวลาล่วงเลยไป ย่ิงทวคี วามจงรกั ภกั ดแี ละเพิ่มพนู ความปลม้ื ปีตทิ ่มี ี โอกาสได้เกดิ มาเปน็ คนไทย อยใู่ นประเทศไทย เปน็ ข้าใต้เบ้อื งพระบรมโพธิสมภารแห่งพระองค์ ดว้ ยพระองคไ์ มท่ รง รู้สึกเหน็ดเหนื่อยท้อถอยต่อการทรงประกอบกรรมดี อันยังให้เกิดสารัตถประโยชน์แก่ส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง โดย สมำ่ เสมอ ทรงเปน็ แบบอย่างท่คี วรแก่การเทดิ ทนู และปฏิบตั ติ ามรอยพระยคุ ลบาท ใช่เพยี งแต่คนไทยทงั้ ในประเทศ และตา่ งประเทศจะประจกั ษแ์ ละจารกึ จดจำ แมแ้ ตช่ าวตา่ งประเทศทวั่ โลกตา่ งตระหนกั รว่ มกนั ดว้ ยการกลา่ วขวญั ถงึ ดว้ ยความชน่ื ชม ดงั ที่เจ้าชายจกิ มี นัมเกล วังชุก มกุฎราชกมุ ารแหง่ ราชอาณาจักรภูฏานมพี ระราชดำรสั ต่อทป่ี ระชมุ มหาวิทยาลัยรังสิต ในพิธีทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิ ในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ โดยทรงสรรเสริญและทรงยึดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่าง ทั้งยังทรงปีติแทน คนไทยที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐ และจากการเสนอข่าวชื่นชมจากส่ือต่างๆ หลายต่อหลายประเทศ รวมทั้ง ครัง้ หลังสุดเมอื่ ปลายเดอื นพฤศจกิ ายน นิตยสารไทม์ (เอเชีย) ขอพระราชทานทูลเกลา้ ทูลกระหม่อม ถวายรางวัล หน่ึงใน ๖๐ วีรบุรุษแห่งปี ผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างท่ีทุกคนยกย่องและทำตาม โดยมีกงสุลฝ่ายไทยเป็นตัวแทนรับมอบ ท่ีเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง * รคอณงบศดาสคี ตณระาศจลิารปยศ์ าขส้ารตารช์ บมำหนาาวญทิ ยอาดลตียั ฟคณารบ์อดสี คีเทณอะรมน์ น ุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม ่



๕๔ พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ปิ่นสยาม ความประทบั ใจในพระองค์ท่าน สบื เนื่องจากพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพ่ือประโยชน์สขุ แหง่ มหาชนชาวสยาม จากวันนั้นจนปจั จบุ นั พระองคไ์ ม่เคยทรงทอ้ ถอยหรอื เบอื่ หน่ายที่จะทรงอทุ ิศเวลาปฏิบัตพิ ระราชภารกจิ ต่างๆ ท่ีจะ แกไ้ ขความขดั ขอ้ ง ทุกข์ยากของพสกนกิ ร ทั้งโครงการฝนหลวง โครงการแกม้ ลงิ การบรหิ ารจัดการพลังงาน รวมทงั้ ทางการศกึ ษา เชน่ โครงการพระดาบส โรงเรยี นรม่ เกลา้ ทนุ การศกึ ษา โครงการสารานกุ รมไทยสำหรบั เยาวชนฯ เปน็ ตน้ พระอจั ฉรยิ ภาพทางดา้ นวรรณกรรม ทรงพระราชนพิ นธแ์ ละทรงแปลงานหลายเลม่ ไดแ้ ก่ นายอนิ ทรผ์ ปู้ ดิ ทองหลงั พระ ตโิ ต พระมหาชนก และคณุ ทองแดง ซ่ึงใหท้ ั้งความรู้และความเพลดิ เพลินในการอ่านในขณะเดียวกนั นอกจากนั้น ยังมีพระปรีชาญาณ กอปรด้วยสายพระเนตรท่ียาวไกล ทั้งเร่ืองพลังงานทดแทนน้ำมัน เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียง มีพระราชดำริเร่ืองดังกล่าวมาก่อนหน้าปัจจุบัน (พุทธศักราช ๒๕๔๙) นับเป็นสิบๆ ปี รวมทั้งพระบรมราโชวาท พระราชทานในโอกาสต่างๆ อาทิ วันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น ท้ายทส่ี ดุ ของความปลม้ื ปีติ กค็ อื เหตกุ ารณ์ “มหาประชาปีต”ิ งานเฉลมิ ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เกือบ ทกุ ประเทศทว่ั โลกทมี่ พี ระมหากษตั รยิ ไ์ ดเ้ สดจ็ มารว่ มในพระราชพธิ ดี ว้ ยพระองคเ์ อง หรอื ผแู้ ทนพระองคร์ ะดบั สมเดจ็ พระราชนิ ี มกฎุ ราชกุมาร มกุฎราชกุมารี พระบรมวงศานุวงศ์ ยังความปลาบปล้มื ปตี ิยินดีมาส่พู สกนกิ รไทยทั่วหนา้ โดยเฉพาะในวนั ท่ี ๙ มถิ นุ ายน พทุ ธศักราช ๒๕๔๙ เมือ่ เสด็จออกมหาสมาคม ประชาชนทกุ หมู่เหลา่ พรอ้ มใจกนั สวมเสอ้ื สเี หลอื งรอเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทเตม็ ลานพระทนี่ ง่ั อนนั ตสมาคม ประดจุ ทอ้ งทะเลสเี หลอื ง เมอื่ พระองค์ เสดจ็ ออกมหาสมาคม ประชาชนต่างเปล่งวาจา ทรงพระเจรญิ พร้อมๆ กันดงั กระหมึ่ กกึ กอ้ ง ขณะเดยี วกันนำ้ ตา แห่งความปีติก็ไหลอาบแก้ม ปรากฏการณ์เหล่าน้ีมิได้เกิดเฉพาะผู้เฝ้ารับเสด็จพระราชดำเนินอยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น แม้ทหี่ น้าเคร่อื งรบั โทรทัศน์ คนไทยทกุ คนท่ีเฝา้ ชมอย่างใจจดใจจ่อก็น้ำตาไหลอาบแกม้ ทง้ั ผูใ้ หญแ่ ละเดก็ ทัง้ หญิง และชาย ความประทับใจเชน่ นี้เกดิ ขึน้ อกี อยา่ งนอ้ ยถงึ ๒ คร้งั ในพุทธศกั ราช ๒๕๔๙ นี้ กลา่ วคอื ตลอดระยะเวลา ทปี่ ระทบั พกั รกั ษาพระวรกายทโ่ี รงพยาบาลศริ ริ าช ประชาชนจำนวนมากแสดงความหว่ งใยไปเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ณ โรงพยาบาล ต่อเนื่องจนถึงวันเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันนั้นผู้คนก็พร้อมใจกัน เปล่งวาจาถวายพระพรให้ทรงพระเจริญ น้ำตาก็คลอและไหลอาบหน้าในขณะเดียวกัน อีกครั้งหน่ึง คือวันเฉลิม พระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙ ประชาชนเฝ้าแหนสองข้างทางเสด็จพระราชดำเนินจากประตู ทางเข้าสู่พระตำหนักฯ จนถึงบริเวณพระบรมมหาราชวังสองครั้ง กล่าวคือตอนเสด็จพระราชดำเนินไป และตอน เสดจ็ พระราชดำเนนิ กลบั มอื โบกธง และเปล่งวาจาทรงพระเจรญิ กระหมึ่ และต่อเน่ืองตลอดทาง ทงั้ สองพระองค์ ทรงโบกพระหัตถ์ และแยม้ พระสรวลใหแ้ กป่ ระชาชนของพระองค์ ซ่ึงความปีติปลาบปลื้มนี้ ยังผลให้ผเู้ ขยี นและอีก หลายๆ คนท่ีเฝ้าทูลละอองธลุ พี ระบาทอยู่หนา้ เครื่องรับโทรทัศนน์ ำ้ ตาคลอ ไมม่ พี ระมหากษัตรยิ ์พระองค์ใดในโลก จะเปน็ ทร่ี กั ของพสกนกิ รในประเทศไดข้ นาดน้ี ทงั้ น้ี เพราะพระองคม์ เิ พยี งปกครองแผน่ ดนิ แตพ่ ระองคท์ รงครองหวั ใจ คนทงั้ ประเทศ ภูมิใจยงิ่ นักท่ีเกดิ เปน็ คนไทย

พระบารมีองค์ภมู ินทร์ ป่นิ สยาม ๕๕ บรรณานุกรม เอมอร ชิตตะโสภณ. (๒๕๔๖). พจน์พากยเ์ พ่อื ฝากมติ ร. เชยี งใหม:่ มง่ิ ขวัญ. . (๒๕๓๑). พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว: พระผู้สถิตในหทัยประชา. ใน จฬุ าลงกรณ’์ ๓๐. เชยี งใหม:่ สมาคมนสิ ติ เกา่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ภาคเหนอื . . (เมษายน ๒๕๔๔). พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว พระผูส้ ถิตในดวงใจราษฎร์ นิตยสารไทย ๔, ๑, หนา้ ๑-๔. (อ่านออกอากาศ ณ สถานวี ิทยกุ ระจายเสยี ง สื่อสารมวลชน FM 100 วนั ท่ี ๓ ธันวาคม ๒๕๔๓). . (มกราคม ๒๕๓๗). พระอจั ริยภาพทางภาษาของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั . อา่ งแกว้ . . (๒๕๔๒). พระอัจริยภาพของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ด้านวรรณกรรม. ใน เอกสารประกอบการบรรยายพิเศษในการประชุมสัมมนา โครงการการอา่ น เฉลิมพระเกียรติ ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ณ สำนกั พฒั นา การศกึ ษา เขตการศกึ ษา ๘ เชยี งใหม่ วันท่ี ๒๓-๒๔ กนั ยายน ๒๕๔๒. . (กรกฎาคม ๒๕๔๓). พระอจั รยิ ภาพทางวรรณกรรมของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว. นิตยสารไทย ๓, ๒, หน้า ๑๗-๒๑ (อ่านออกอากาศ ณ สถานี วิทยุกระจายเสียงส่ือสารมวลชน FM 100 วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๒). . (๒๕๔๙). ภาษาไทยสำหรบั การพูดในโอกาสต่างๆ. เชยี งใหม่: บรษิ ทั ม่งิ เมอื ง นวรตั น.์ . (๒๕๔๐). อันเน่ืองมาจากพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ตลอดเวลา ๕๐ ปี ทที่ รงครองราชดว้ ยทศพธิ ราชธรรม. ใน มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ คณะกรรมการจดั ทำหนงั สอื , พระภบู าลปานตะวนั อนั โอภาส: พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวกบั มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (หน้า ๑๔๐-๑๔๒). เชียงใหม่: มหาวิทยาลยั เชยี งใหม.่ . (๒๕๔๕). อนั เน่อื งมาจากวนั ภาษาไทยแหง่ ชาต.ิ (อา่ นออกอากาศ ณ สถานวี ทิ ยุ กระจายเสียงส่ือสารมวลชน FM 100 วันท่ี ๓ ธนั วาคม ๒๕๔๓).



ใตร้ ม่ พระบารม ี

๕๘ พระบารมอี งคภ์ มู ินทร์ ป่นิ สยาม เพยี งพระบาทยาตรามาประสบ ภูเอยเคยครึม้ ต้นไม้เขียว ลดั เรยี วแตกพุม่ ซ้มุ ไสว เรียกฝนมาเชยมิเคยไกล ซับนำ้ เอาไวใ้ หแ้ ผน่ ดิน อาจเพราะมผี ู้ไมร่ ้คู า่ ผลาญปา่ พร่าภูไมร่ ู้สน้ิ จงึ แปรภูใหม่ไม่รูช้ นิ เพอื่ ใหด้ อกฝ่นิ ได้รูบ้ าน เพยี งพระบาทยาตรามาประสบ ดำรจิ บดรี ้ายหลากหลายด้าน ด้วยมนุษยธรรมคา่ ลำ้ กาล โปรดประทาน “โครงการหลวง” หนว่ งสมดลุ ดว้ ยเกล้าดว้ ยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพทุ ธเจา้ รองศาสตราจารย์สพุ รรณ ทองคลอ้ ย (แรคำ ประโดยคำ) ประพนั ธ ์

พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๕๙ โครงการหลวง จาก “โครงการสว่ นพระองค์” ทท่ี รงสร้าง ปหี นงึ่ สอง ดอยอ่างขาง เวียงเชยี งใหม่ การเกษตรเมืองหนาวไดก้ ้าวไกล ฝน่ิ เร่ิมลดหมดไปจากภูดอย กลายเปน็ “โครงการหลวง” เพอ่ื ปวงราษฎร์ ประชาชาตเิ ป็นสุขทกุ ขถ์ ดถอย ยาเสพติดสามเหลยี่ มทองคำทซี่ ้ำรอย ก เ็ ป ล ่ยี นแปลงแลว้ ค่อยคอ่ ยลดหมดไป ทัง้ เทอื กเขาภูดูงามยามเคลียหมอก บนยอดดอยไม้ดอกบานออกไสว อกี พชื ผักหลากพันธุ์ สมุนไพร พลกิ นาไร่ ป่ากลับฟนื้ เตม็ ผนื ดิน ชนชาวเขาเผ่าตา่ งต่างสรา้ งหลักฐาน เลิกเรร่ ่อนเริดร้างไมร่ ู้สน้ิ แปงหมบู่ า้ นอยู่รวมรว่ มทำกนิ เ ร มิ่ ร ู้จ ักรักถนิ่ พัฒนา สายพระเนตรยาวไกลย่งิ ใหญ่นกั ทรงฟูมฟกั ดวงใจให้รู้ค่า จากชาวเขาถึงชาวเราเหล่าประชา เ ห ็น แ ล้วว่าป่าตน้ น้ำล้ำเลศิ คณุ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมน่ ้ี คอื ถนิ่ ท่ีสนองรับฯ สนับสนนุ ทรงพระกรุณาเก้อื การณุ ย์ ทรงโอบเอือ้ เจือจนุ แดนลา้ นนา ด้วยเกลา้ ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ขา้ พระพทุ ธเจ้า ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์อรรคภาค เลา้ จนิ ตนาศรี ประพนั ธ์

๖๐ พระบารมีองคภ์ ูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม ตามรอยพระยุคลบาท โครงการหลวงกบั งานแปรรปู ผลิตภัณฑ์อาหาร ดร.ไพโรจน์ วิริยะจาร*ี “โครงการหลวงได้เร่ิมขึ้นเป็นกิจการเล็กๆ ซึ่งไม่เป็นโครงการ แต่เป็นการไปเท่ียว มากกวา่ คอื ไปเทย่ี วหมบู่ า้ นตา่ งๆ กไ็ ดเ้ หน็ วา่ ควรทจ่ี ะชว่ ยประชาชนในดา้ นอาชพี จงึ ไดน้ ำ สงิ่ ของไปใหเ้ ขา เพอื่ ทจ่ี ะพฒั นาการอาชพี ของชาวบา้ น ตอ่ มากไ็ ดเ้ พม่ิ ขน้ึ มผี เู้ ชย่ี วชาญ และหนว่ ยงานราชการไดเ้ ขา้ มาชว่ ย และมคี นสว่ นหนง่ึ ชว่ ย เพอื่ ทจี่ ะใหก้ ารสง่ เสรมิ ความ เปน็ อยขู่ องประชาชนดขี น้ึ ต่อมามกี ารร่วมมือจากทางองคก์ รต่างประเทศ ตลอดจนรัฐบาลตา่ งประเทศด้วย จงึ ขน้ึ มาเปน็ โครงการเรยี กวา่ “โครงการหลวง” กเ็ ปน็ โครงการทป่ี ระกอบดว้ ยผทู้ เ่ี ปน็ อาสา สมคั ร และเปน็ ขา้ ราชการในกระทรวง ทบวง กรมตา่ งๆ ของไทย และเปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญทม่ี า จากตา่ งประเทศ ในทสี่ ดุ เปน็ โครงการทมี่ ากมายใหญโ่ ต ขยายออกไปจากการชว่ ยประชาชนในหมบู่ า้ น ในวงจำกดั จนกระทง่ั เปน็ การชว่ ยเหลอื เทา่ กบั เปน็ ภาคทเี ดยี ว จงึ ตอ้ งมกี ารบรหิ ารทด่ี ขี นึ้ และกม็ คี นไดช้ ว่ ยบรจิ าคเงนิ และสง่ิ ของเพอ่ื ทจี่ ะใหโ้ ครงการนด้ี ำเนนิ ไปตามวตั ถปุ ระสงค์ คอื ความกินดีอยดู่ ขี องประชาชน ต่อมาจึงได้เปล่ยี นแปลงเปน็ “มูลนิธิโครงการหลวง” เพ่ือท่ีจะให้กิจการน้ีดำเนินต่อไปได้อย่างสม่ำเสมอในการที่จะได้รับความร่วมมือจาก ส่วนราชการต่างๆ อย่างดี โดยเอ้ือเฟื้อบุคลากรและงบประมาณที่จะช่วยให้ทำได้ตาม จุดประสงค์ ...” พระราชดำรสั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช พระราชทานเมอื่ วนั ท่ี ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๗ ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน * รรอองงศอาธสกิ ตารรบาจดาฝี ร่ายย์ วภาางคแวผิชนาแเทลคะโพนฒั โลนยากี มารหพาัฒวิทนยาาผลลัยติ เชภยีณั งฑให์ คมณ ่ ะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปิน่ สยาม ๖๑ “โครงการหลวง” ถือกำเนิดข้ึนเมื่อพุทธศักราช งานโครงการ และคณาจารย์จากคณะอุตสาหกรรมเกษตร ๒๕๑๒ ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เปน็ ทป่ี รกึ ษาโครงการ ดำเนนิ กจิ กรรม โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมก่อตั้งข้ึนโดยมีหม่อมเจ้าภีศเดช แปรรูปอาหาร โดยเนน้ ผลติ อาหารเพ่ือสขุ ภาพ รชั นี เป็นประธานโครงการ เพอ่ื มงุ่ ส่งเสรมิ และพฒั นาชวี ิต โครงการอาหารสขุ ภาพไดน้ ำผลงานวจิ ยั และพฒั นา ความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ลดการปลูกฝ่ิน และการ ผลติ ภณั ฑอ์ าหารตา่ งๆ เขา้ สกู่ ารผลติ เชงิ อตุ สาหกรรมตน้ แบบ อพยพย้ายถ่ินฐาน เนอ่ื งจากมกี ารทำไรเ่ ลอื่ นลอย โดยการ โดยใช้เคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีได้รับการพัฒนาผ่านโครงการวิจัย นำพนั ธพ์ุ ชื และสตั วท์ ผี่ า่ นการวจิ ยั เปน็ ผลสำเรจ็ และมคี วาม ต่างๆ มเี ทคโนโลยีการผลิตทีท่ นั สมยั มากขึน้ ทำให้สามารถ เหมาะสมกับสภาพพืน้ ที่ ถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารเพาะปลกู ผลติ สินค้าอาหารท่ีหลากหลาย และรกั ษาคุณภาพการผลิต การเลย้ี งสตั ว์ และการจดั การหลงั การเกบ็ เกยี่ วไปสเู่ กษตรกร ไดด้ ขี นึ้ มกี ารบรหิ ารจดั การโครงการในลกั ษณะพงึ่ พาตนเอง เพอ่ื ใหเ้ กษตรกรได้มอี าชีพ มีรายไดส้ ามารถพง่ึ พาตนเองได้ ซึ่งในระยะแรกผลิตภัณฑ์ของโครงการอาหารสุขภาพ และตอ่ มาเมอ่ื พุทธศักราช ๒๕๓๕ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ประกอบด้วย ผักผลไม้กรอบ ผ่านระบบการทอดภายใต้ โปรดกระหม่อมเปลี่ยนสถานภาพโครงการหลวงให้เป็น สภาวะสญุ ญากาศ เครอื่ งดม่ื สมนุ ไพรชนดิ แหง้ เลมอนบาลม์ “มลู นธิ ิโครงการหลวง” ดำเนนิ งานเรือ่ ยมาจนถงึ ปัจจบุ ัน ผลติ ผลทางการเกษตรจากโครงการหลวง ประกอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ ดว้ ยพืชผัก ไมผ้ ล พืชไร่ พชื สมุนไพร ไมด้ อก ไม้กระถาง ทอดพระเนตรโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ เนอื้ สตั ว์ และผลติ ภัณฑ์แปรรูปต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั และสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรโรงงานหลวงอาหารสำเรจ็ รูป มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม ่ โรงงานหลวงอาหารสำเรจ็ รปู มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ เป็นหน่วยงานท่ีก่อต้ังขึ้นต้ังแต่พุทธศักราช ๒๕๑๕ มีหนา้ ทแ่ี ปรรูปอาหารจากผลิตผลทางการเกษตรต่างๆ จาก โครงการหลวง ท้ังนี้ เพื่อเปน็ การรองรับผลิตผลสดทอี่ าจจะ มีมากในบางช่วงฤดูกาล ซ่ึงเกษตรกรไม่สามารถจำหน่าย ไดห้ มด อกี ทงั้ ยงั เปน็ หนว่ ยงานตน้ แบบของการแปรรปู อาหาร โดยได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงาน ในระยะแรก สถานท่ีท่ีใช้ดำเนินกิจกรรมแปรรูป อาหารตา่ งๆ คอื โรงงานตน้ แบบ (pilot plan) ของภาควชิ า วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารอาหาร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีหัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการอาหาร เป็นผู้ประสานงานโรงงานหลวง อาหารสำเร็จรูป ควบคุมการดำเนินการแปรรูปผลิตภัณฑ์ โครงการหลวง ท้ังการทดลองผลิต รวมถึงการผลิตเพ่ือ จำหน่ายจริง ภายใต้ตราสินค้า “ดอยคำ” ผลิตภัณฑ์แปรรูปในระยะเร่ิมต้น ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ผักผลไม้กระป๋อง ผักผลไม้แช่อ่ิมอบแห้ง แยม ผลไม้ตา่ งๆ นำ้ พริกเผา ขา้ วเกรียบทอด นำ้ ผลไมพ้ รอ้ มด่มื ต่างๆ และผลิตภณั ฑข์ นมอบ เปน็ ตน้ ตอ่ มาพุทธศักราช ๒๕๔๑ มูลนธิ ิโครงการหลวงได้ อนมุ ตั ใิ หจ้ ดั ตง้ั “โครงการอาหารสขุ ภาพ มลู นธิ โิ ครงการหลวง” โดยมรี องศาสตราจารย์ ดร.ไพโรจน์ วริ ยิ ะจารี เปน็ ผปู้ ระสาน

๖๒ พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ป่ินสยาม เลมอนทายม์ คาโมมาย เจียวกหู้ ลาน และมินต์ รวมถึง ถา่ ยทอดการพฒั นาแกก่ ลมุ่ ธรุ กจิ อาหารขนาดเลก็ ทม่ี คี วาม เครอื่ งเทศสมุนไพรตา่ งๆ นำ้ สมนุ ไพรเลมอนทายม์ พรอ้ มดื่ม สนใจต้องการศึกษาการจัดการผลิตอาหารเชิงอุตสาหกรรม นำ้ นมข้าวโพดกระปอ๋ ง น้ำผักผลไมร้ วม มูสล่บี าร์ มิกซม์ ูสลี่ ในเบอ้ื งต้น และธัญพืชสารอาหารสูง เช่น จมูกข้าวสาลี รำข้าวสาลี นอกจากน้ี โรงงานแปรรปู และพฒั นาผลติ ภณั ฑย์ งั มี งาดำปน่ เปน็ ตน้ สว่ นรว่ มในการประสานงานดา้ นการวจิ ยั อาหารของหนว่ ยงาน ในระยะต่อมา เมื่อมีการผลิตสินค้าที่หลากหลาย ราชการตา่ งๆ อาทิ ศนู ยพ์ นั ธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพ มากขึ้น และสินค้าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค ทำให้ แหง่ ชาติ สำนกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ต้องพัฒนาปรับปรุงระบบบริหารจัดการให้สอดคล้องกับ สำนกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ สถาบนั วจิ ยั และพฒั นา ภารกิจท่ีมากข้ึน จึงได้รวมโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สถาบนั และโครงการอาหารสุขภาพ เข้าเป็นหน่วยงานเดียวกัน วิทยาศาสตร์สขุ ภาพ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ และคณะต่างๆ จดั ตัง้ เป็น “โรงงานแปรรปู และพัฒนาผลิตภณั ฑ์ มลู นธิ ิ ในสถาบันอดุ มศึกษา โครงการหลวง” เมื่อพุทธศักราช ๒๕๔๖ และได้ย้าย ในด้านของการผลิตอาหารจำหน่าย โรงงานมีการ สถานทผ่ี ลติ จากโรงงานตน้ แบบในบรเิ วณคณะเกษตรศาสตร์ ควบคุมการผลิตด้วยระบบคุณภาพท่ีเป็นมาตรฐาน ได้รับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปอยู่ที่อาคารแปรรูปและพัฒนา การรับรองระบบคุณภาพ GMP (CODEX) และได้รับ ผลิตภัณฑ์ในบริเวณศูนย์ผลิตผลโครงการหลวง ตำบล เกยี รตบิ ตั รโครงการสถานทผี่ ลติ อาหารมาตรฐาน GMP จาก แม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงสาธารณสุข และมุ่งม่ันสู่ระบบประกันคุณภาพใน ตลอดระยะเวลานบั เนอ่ื งถงึ ปจั จบุ นั โรงงานแปรรปู ระดับที่สูงขึ้น เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยต่อ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยังคงดำเนินงานด้านการแปรรูป ผบู้ รโิ ภคสินค้าอาหารแปรรูปโครงการหลวง พร้อมๆ กับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มุ่งเน้น ท้ังนี้ กิจกรรมของโรงงานนับได้ว่าเป็นส่วนหน่ึง การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยมคี วามพยายามทจ่ี ะดำเนนิ งาน ของบทพิสูจน์พระดำรัสของประธานมูลนิธิโครงการหลวง อย่างเป็นระบบ เพ่ือให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมต้นแบบ ท่ีต้องการเฉลิมพระเกียรติให้ทราบกันว่า การช่วยชาวเรา ทส่ี ามารถเลย้ี งตวั เองได้ มีการพฒั นาบคุ ลากรภายใน และ ด้วยการชว่ ยชาวเขานัน้ เกิดขึ้นได้อย่างไร จากผลติ ผลสดทสี่ ูง สู่ผลติ ภัณฑอ์ าหารแปรรปู โครงการหลวง สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร สร้างรายไดแ้ กช่ าวเขาและชาวเรา เสดจ็ พระราชดำเนินพรอ้ มดว้ ยพระองคเ์ จ้าศรรี ศั ม์ิ พระวรชายาฯ ในพิธีเปดิ อาคารแปรรปู และพฒั นาผลิตภัณฑ์ และอาคารคัดบรรจผุ ลติ ผล (งานคดั บรรจุเชยี งใหม)่ เม่ือวนั ที่ ๒๔ มนี าคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

พระบารมอี งค์ภูมินทร์ ปิ่นสยาม ๖๓ โครงการหลวง ในความทรงจำ : งานบกุ เบิก อาสา และพัฒนา ดร.สมบตั ิ ศรีชวู งศ*์ ผู้เขียนได้รับราชการเป็นอาจารย์ที่ภาควิชาโรคพืช ในพน้ื ที่ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ต้น พุทธศักราช ๒๕๑๒ ทตี่ รัสไว้วา่ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๗ จนถงึ ปจั จบุ นั ไดเ้ ขา้ รว่ มงานกบั โครงการหลวง มาโดยตลอด และรบั ผิดชอบชว่ ยงานหลายรูปแบบ จึงขอ เลา่ ถึงเกรด็ ตา่ งๆ ทผี่ เู้ ขยี นประทบั ใจตามลำดับดงั น ี้ “ถา้ จะใหเ้ กษตรกร เขาเลกิ ปลกู ฝ่ิน และเลกิ ทำไรเ่ ลือ่ นลอย ต้องหาพชื อ่นื ทไ่ี ดร้ าคาดี ร่วมบุกเบิกงานพืชทดแทนฝิ่นของโครงการหลวง และมีความเหมาะสมปลกู บนทีส่ งู พฒั นาชาวเขาและ UNPDAC มาใหเ้ กษตรกรชาวเขาปลูกทดแทน” เมือ่ ประมาณตน้ เดือนมีนาคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๖ ผเู้ ขยี นมผี ชู้ ว่ ย ๒ คน ซง่ึ เปน็ เจา้ หนา้ ทข่ี องกรมประชาสงเคราะห์ ขณะท่ีผู้เขียนกำลังสอบปลายปีของภาคการศึกษาสุดท้าย ส่งมาร่วมงาน หมู่บ้านแม่โถนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ในการศึกษาระดับปริญญาตรี ภาควิชาอารักขาพืช คณะ ประมาณ ๑๕๐ กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาเดนิ ทางโดยรถยนตป์ ระมาณ เกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ผู้เขยี นไดท้ ราบข่าว ๒ ชวั่ โมง ๔๐ นาที ถงึ ปลายทางเขา้ หมบู่ า้ นและตอ้ งเดนิ ทาง จากคณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ซ่ึงในขณะน้ัน ได้แก่ ผู้ชว่ ย โดยเทา้ (ในขณะนน้ั ) ผา่ นปา่ เขา ลำธาร ทงุ่ นาไปอกี ประมาณ ศาสตราจารย์ ดร.พิศษิ ฐ์ วรอุไร ว่าผเู้ ขยี นเป็นบัณฑติ ใหม่ ๓ ชว่ั โมงคร่งึ คนหนึ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าไปทำงานในโครงการ การเขา้ ไปทำงานในระยะแรกมคี วามยากลำบากมาก หลวงพัฒนาชาวเขาร่วมกับโครงการปลูกพืชทดแทนฝิ่นของ เพราะเป็นรุ่นบุกเบิก แต่เม่ือคิดว่าเป็นการทำงาน เพ่ือ องคก์ ารสหประชาชาติ หรอื UNPDAC (United Nations พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และแกป้ ญั หายาเสพตดิ ของโลก Programme for Drug Abuse Control) โดยมเี พอ่ื นรว่ มรนุ่ กต็ อ้ งพยายามทำจนถงึ ทส่ี ดุ แมจ้ ะเปน็ งานทยี่ ากมากงานหนงึ่ ท่ไี ดร้ บั การคัดเลือกจากสาขาตา่ งๆ ของคณะเกษตรศาสตร์ สำหรบั คนทเ่ี พงิ่ สำเรจ็ การศกึ ษามาใหม่ ชว่ งแรกสถานที ดลอง อกี ๔ คน ทกุ คนเรมิ่ ทำงานเดอื นเมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๖ และบา้ นพักของสถานีกย็ งั ไมม่ ี พวกเราทกุ คนจะตอ้ งไปอยู่ ผเู้ ขยี นไดร้ บั การแตง่ ตง้ั ใหเ้ ปน็ หวั หนา้ สถานที ดลองบา้ นแมโ่ ถ ประจำในหมบู่ า้ นตลอดทง้ั เดอื น ชว่ งปลายเดอื นจงึ จะไดล้ งมา อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ประชมุ รบั ทราบนโยบายทส่ี ำนกั งานโครงการหลวง (ตงั้ อยหู่ นา้ ที่มีการปลูกฝิ่นมากพื้นท่ีหนึ่งในขณะนั้น วัตถุประสงค์แรก สแ่ี ยกโรงแรมรนิ คำ หรอื โรงแรมอมารรี นิ คำในปจั จบุ นั ) และ ของโครงการที่ขึ้นไปทำ คือ หาพืชทดแทนฝ่ิน เพื่อลด จัดซ้ือวสั ดุ อปุ กรณแ์ ละอาหารท่จี ำเปน็ ข้ึนไปไว้ใช้ พวกเรา ปัญหาการทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่นของเกษตรกรชาวเขา ปฏิบตั อิ ยู่เช่นนปี้ ระมาณ ๕ ปตี ดิ ตอ่ กัน * ผรออู้ งำศนาวสยตกราารจศาูนรยยพ์์ ภฒั าคนวาิชโคาโรรงคกพารืชหคลณวงะแเมกส่ษะตปรอ๊ศกาสอตำรเ์ ภมอหแามวทิว่ ายงาลจยังั หเชวียดั งเใชหียมงใ่ หม ่

๖๔ พระบารมีองคภ์ มู นิ ทร์ ปน่ิ สยาม ถว่ั แดงหลวงเปน็ พืชสามารถเจริญเตบิ โตได้ด ี ในระยะเวลาเดียวกับการปลกู ฝิน่ ราคาซือ้ ขายก็คอ่ นข้างสูง ชาวเขาพอใจมาก เนื่องจากรายได้ใกล้เคียง กบั การปลูกฝ่นิ ในขณะนนั้ เสดจ็ พระราชดำเนินไปทรงเย่ยี มเกษตรกรชาวเขา ระยะแรกที่ยังไม่มีสถานีทดลองและบ้านพักนั้น จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พวกเราไดอ้ าศยั ทบี่ า้ นพอ่ หลวง (ผใู้ หญบ่ า้ น) กนิ อยเู่ หมอื น พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ชาวเขาเผ่าม้งทุกอย่าง เมื่อมีพ้ืนท่ีใกล้หมู่บ้านที่เกษตรกร สยามมกุฎราชกุมาร ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม ชาวเขาของหมบู่ า้ นแบง่ ใหใ้ ชเ้ ปน็ สถานที ดลอง จงึ ไดเ้ รมิ่ สรา้ ง เกษตรกรชาวเขา และทรงให้กำลงั ใจเจา้ หนา้ ทผี่ ้ปู ฏิบตั ิงาน บ้านพักเล็กๆ พออยู่ได้ พ้ืนที่อาณาบริเวณประมาณ ๓ ไร่ ช่วยเหลือชาวเขาที่อยู่ท่ีหมู่บ้านเป็นประจำทุกปี โดยมี ซงึ่ เปน็ ทลี่ าดชนั กไ็ ดเ้ รม่ิ บกุ เบกิ ขดุ พลกิ ดนิ ทำเปน็ แปลงทดลอง หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นผู้รับสนองพระราชดำริ แบบขน้ั บนั ไดพอปลกู พชื ทดลองได้ พชื ทที่ ดลองปลกู มที งั้ พชื ไร่ เก่ียวกับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น คอยกราบบังคมทูลถวาย พชื ผกั กาแฟและผลไมอ้ น่ื ๆ เพอ่ื ศกึ ษาดวู า่ พชื ชนดิ ใดทพ่ี อจะ รายงานความกา้ วหนา้ พรอ้ มกบั เจา้ หนา้ ทท่ี ร่ี บั ผดิ ชอบ ในการ ปลูกในพ้ืนทไี่ ดแ้ ละได้ผลผลิตสูง กจ็ ะนำไปปรกึ ษาพ่อหลวง เสดจ็ พระราชดำเนนิ แตล่ ะครง้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และจดั ประชมุ ชแี้ จงชาวเขาในหมบู่ า้ นหลกั และหมบู่ า้ นใกลเ้ คยี ง จะเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทอดพระเนตรแปลงปลกู พชื สง่ เสรมิ เพอื่ หากลมุ่ ชาวเขา และหาผแู้ ทนทจี่ ะเขา้ รว่ มโครงการปลกู พชื ของเกษตรกรชาวเขา รวมทง้ั แปลงทดลองพชื ชนดิ ตา่ งๆ ของ นำรอ่ งกอ่ น พชื ทป่ี ลกู แลว้ เจรญิ เตบิ โตไดด้ ใี นชว่ งเดยี วกบั การ สถานฯี พรอ้ มทง้ั ทรงใหค้ ำแนะนำทเ่ี ปน็ ประโยชนเ์ ปน็ อยา่ งมาก หวา่ นฝนิ่ ของชาวเขา ไดแ้ ก่ ถว่ั แดงหลวง ขา้ วสาลี และถวั่ ปากอา้ ตอ่ เจา้ หนา้ ที่ผูท้ ปี่ ฏบิ ัติงาน สามารถชว่ ยใหโ้ ครงการปลกู พืช แตใ่ นทส่ี ดุ พบวา่ เฉพาะถว่ั แดงหลวงเทา่ นน้ั ทถ่ี อื วา่ ไดผ้ ลเปน็ ที่ ทดแทนฝิ่นค่อยๆ ประสบความสำเร็จมากข้ึน จนในที่สุด นา่ พอใจ และเกษตรกรชาวเขาสนใจนำไปปลกู กนั ทกุ ครวั เรอื น เกษตรกรชาวเขาหมบู่ า้ นแมโ่ ถปลกู ฝน่ิ นอ้ ยลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั จนถอื ไดว้ า่ หมบู่ า้ นแมโ่ ถเปน็ แหลง่ ผลติ ถวั่ แดงหลวงทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ เปล่ียนมาปลูกถั่วแดงหลวงและพืชอ่ืนๆ ตามมาในท่ีสุด ของโครงการฯ จากสถานที ดลองทงั้ หมด ๕ แหง่ ประกอบกบั และเมื่อหมู่บ้านแม่โถสามารถหาพืชแทนฝ่ินได้ในระดับหน่ึง ถั่วแดงหลวงเป็นพืชสามารถเจริญเติบโตได้ดีในระยะเวลา พระองคจ์ ะไมเ่ สดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทห่ี มบู่ า้ นแมโ่ ถอกี แตจ่ ะ เดียวกันกับการปลูกฝิ่น ราคาซ้ือขายก็ค่อนข้างสูง ชาวเขา เสด็จไปตามหมบู่ า้ นอ่นื ๆ ที่ยังมีปญั หาอยู่ ปจั จบุ ันชาวบ้าน พอใจมาก เนอื่ งจากรายไดใ้ กลเ้ คยี งกบั การปลกู ฝน่ิ ในขณะนนั้ บา้ นแมโ่ ถมคี วามเปน็ อยทู่ ดี่ ขี น้ึ มาก ถอื วา่ เปน็ หมบู่ า้ นเศรษฐกจิ นอกจากนนั้ การจดั การดแู ลรกั ษาถวั่ แดงหลวงกง็ า่ ยกวา่ ฝน่ิ บนทสี่ งู อกี แหง่ หนง่ึ เพราะเปน็ แหลง่ ผลติ ผกั กะหลำ่ ปลนี อกฤดู การเกบ็ เกยี่ วฝน่ิ เปน็ งานทต่ี อ้ งใชค้ วามละเอยี ดมาก ตอ้ งอดทน ทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ ของประเทศ เกษตรกรชาวเขามรี ายไดแ้ ตล่ ะปตี อ่ เพราะเก็บเกี่ยวได้คร้ังละน้อย และต้องทำติดต่อกันทุกวัน ครวั เรอื นคอ่ นขา้ งสงู ประกอบกบั ถนนหนทางเขา้ ออกหมบู่ า้ น (ในพนื้ ท่ี ๑ ไร่ อาจใชเ้ วลารว่ ม ๓ สปั ดาหจ์ งึ จะเสรจ็ เรยี บรอ้ ย) อยู่ในสถานที่การขนส่งผลผลิตเกษตรทำได้ง่ายและสะดวก ไมเ่ หมอื นถว่ั แดงหลวง ซง่ึ เกบ็ เกย่ี วครงั้ เดยี วเสรจ็ และไมผ่ ดิ นอกจากนนั้ ยงั มนี กั ทอ่ งเทยี่ วทงั้ ชาวไทยและชาวตา่ งประเทศ กฎหมายเหมือนการปลกู ฝิน่ แวะเขา้ ไปเยยี่ มเยยี นหมบู่ า้ นอย่เู สมอ ขณะทผ่ี เู้ ขยี นกำลังปฏบิ ตั งิ านท่ี (สถาน)ี โครงการ หลวงแมโ่ ถน้ี มคี วามประทบั ใจมาก เนอื่ งจากในชว่ ง ๔ ปแี รก (พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๖-๒๕๑๙) พวกเราไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ ร่วมงานโครงการหลวงอาสา ในช่วงพุทธศักราช ๒๕๒๑-๒๕๒๓ ผู้เขียนได้ลา

พระบารมอี งค์ภมู นิ ทร์ ปน่ิ สยาม ๖๕ ปัจจุบนั ชาวบ้านบ้านแม่โถ มีความเปน็ อยทู่ ีด่ ขี ึน้ มาก ถอื วา่ เปน็ หมบู่ า้ นเศรษฐกจิ บนทส่ี งู อีกแหง่ หน่งึ เพราะเปน็ แหลง่ ผลติ ผกั กะหล่ำปลีนอกฤดู ทีใ่ หญท่ สี่ ดุ ของประเทศไทย ทอดพระเนตรแปลงทดลองปลูกถ่วั ปากอา้ และยาสูบ ศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผักกาดหวาน ผักกาดฮ่องเต้ และสลัดรวม เจ้าหน้าท่ี เม่ือกลับมาในช่วงพุทธศักราช ๒๕๒๔-๒๕๒๗ ก็ยงั คงช่วย ทช่ี ว่ ยงานประจำศนู ยฯ์ ทำงานกนั อยา่ งขยนั ขนั แขง็ จนสามารถ โครงการหลวงอยู่ แตไ่ มไ่ ดป้ ระจำสถานที ดลองเหมอื นชว่ งแรก ทำรายไดใ้ หก้ บั เกษตรกรชาวเขาเพม่ิ ขนึ้ เรอื่ ยๆ จากประมาณ เป็นงานโครงการหลวงอาสาสมัคร (โครงการหลวงอาสา) ๕ แสนบาทตอ่ ปี (เมื่อ ๕ ปีก่อน) ปจั จบุ ันมีรายได้เพิม่ ขึน้ ซ่ึงส่วนใหญ่จะเดินทางไปยังท้องถิ่นทุรกันดารหลายหมู่บ้าน เป็นประมาณ ๔ ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้เกษตรกรชาวเขา โดยขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ร่วมกับคณาจารย์ของ ท่ีอยู่ในเขตรับผิดชอบของศูนย์ฯ มีชีวิตความเป็นอยู่ดีข้ึน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่หลายท่าน มี ตามลำดับ อาจารย์สงั เวียน โพธ์ศิ รี เป็นหัวหนา้ ชุดทำงาน การทำงาน ในระยะนเ้ี ปน็ ชว่ งทคี่ อ่ นขา้ งเสย่ี ง เนอ่ื งจากตอ้ งขนึ้ เครอ่ื งบนิ บทสรปุ เฮลคิ อปเตอรไ์ ปทำงาน และพนื้ ทขี่ องหมบู่ า้ นหลายแหง่ ทไ่ี ป จากการทผ่ี เู้ ขยี นไดเ้ ขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มงานโครงการหลวง บางแหง่ ยงั เปน็ แดนสชี มพู เมอื่ ลงจากเครอ่ื งบนิ เฮลคิ อปเตอร์ ตัง้ แต่พุทธศกั ราช ๒๕๑๖ จนถงึ ปัจจบุ นั นี้ ทัง้ อยปู่ ฏบิ ตั ิงาน ไปปฏิบัติงานจะมีทหารและชาวบ้านอาสาสมัครถือปืนคอย ตลอด ๕ ปี ท่ีหมู่บ้านแม่โถ งานโครงการหลวงอาสาและ คมุ้ กนั ให้ดว้ ย เชน่ บ้านใหมร่ ่มเย็น บ้านถ้ำเวียงแก และ งานพฒั นาของศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงแมส่ ะปอ๊ กในปจั จบุ นั บ้านสวด จังหวัดน่าน เป็นต้น คร้ังหน่ึง เม่ือเคร่ืองบิน โดยการสนบั สนนุ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เฮลิคอปเตอร์ท่ีพาคณะทำงานเดินทางไปจังหวัดน่านถูก และมลู นธิ โิ ครงการหลวง ทำใหห้ มบู่ า้ นทเี่ ขา้ ไปรบั ผดิ ชอบในการ ผู้ก่อการร้ายยิงเกือบประสบอุบัติเหตุ โครงการหลวงอาสา พัฒนาด้านต่างๆ และกลุ่มเกษตรกรชาวเขามีคุณภาพชีวิต ในลกั ษณะนจี้ งึ คอ่ ยๆ ลดลง และหยดุ ปฏิบัตงิ านในทสี่ ดุ และความเปน็ อยทู่ ดี่ ขี นึ้ และบางหมบู่ า้ นกเ็ ปลย่ี นเปน็ หมบู่ า้ น เศรษฐกจิ จนถงึ ปจั จบุ นั น้ี นบั ไดว้ า่ ทง้ั มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ และมลู นธิ โิ ครงการหลวงมสี ว่ นรว่ มในการตอบสนองภารกจิ ร่วมงานศูนย์พัฒนาโครงการหลวง ภายใต้เบือ้ งพระยุคลบาท ใหช้ าวเขาเลิกปลกู ฝน่ิ เลิกทำไร่ เลื่อนลอย และหาพชื ทดแทนฝ่นิ ได้เปน็ อยา่ งดี ซ่ึงนอกจาก หลงั จากผเู้ ขยี นลาไปศกึ ษาตอ่ ระดบั ปรญิ ญาเอก และ จะเปน็ การชว่ ยเหลอื ชาวเขาแลว้ ยงั เปน็ ประโยชนแ์ กช่ าวเรา เมอ่ื สำเรจ็ การศกึ ษาแลว้ กไ็ ดก้ ลบั เขา้ มาชว่ ยงานโครงการหลวง ทอี่ ยพู่ นื้ ทลี่ า่ งดว้ ย ดงั ประธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง หมอ่ มเจา้ อกี ตง้ั แตพ่ ุทธศกั ราช ๒๕๓๖ จนถึงปัจจุบัน โดยทำหน้าท่ี ภศี เดช รชั นี ท่ีไดต้ รัสไว้ว่า เป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะป๊อก อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ คอยให้คำปรึกษาและวาง นโยบายต่างๆ ให้กับศูนย์ฯ เพื่อให้งานของศูนย์ฯ พัฒนา “โครงการหลวง ก้าวหน้าไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิโครงการหลวง ชว่ ยชาวเขา ชว่ ยชาวเรา ชว่ ยชาวโลก” ศูนย์แห่งน้ีจัดเป็นศูนย์ฯ ขนาดเล็ก แต่ปัจจุบันกลายเป็น ศนู ยห์ นง่ึ ทมี่ กี ารพฒั นาดา้ นการผลติ ผกั ชนดิ ตา่ งๆ จำนวนมาก พืชผักท่ีผลิตได้ดีและมีช่ือเสียงมาก ได้แก่ มะระขาว

๖๖ พระบารมอี งคภ์ ูมนิ ทร์ ปน่ิ สยาม ทรงไตถ่ ามถึงความเปน็ อยูข่ องคณะเจ้าหนา้ ที่ ทีช่ ว่ ยงานสถานที ดลองบา้ นแมโ่ ถและเกษตรกรชาวเขา ทอดพระเนตรการใชห้ ญ้า และพชื ผัก ทอดพระเนตรแปลงทดลองปลูกกาแฟพันธ์อุ าราบกิ า เลยี้ งหมูพันธุ์ลารจ์ ไวท์ และดูรอค

พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่ินสยาม ๖๗ สายธารพระเมตตา ดร.พมิ พใ์ จ อาภาวชั รตุ ม์* นับเป็นสิริมงคลและพระมหากรุณาธิคุณแก่ นักศึกษาฝึกปลูกพืชทีศ่ ูนย์ฯ ขยายพนั ธุฯ์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่อยา่ งหาที่สดุ มิได้ ที่ตลอดระยะเวลา สำหรับงานพัฒนาชนบท ดำเนินการเกอื บห้าทศวรรษ มหาวทิ ยาลัยได้รับพระเมตตา และความไวว้ างพระราชหฤทยั จากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั วทิ ยากรจากศนู ย์บริการการพัฒนาขยายพันธไ์ุ ม้ดอกไม้ผลฯ ให้ถวายงานรับใช้ใต้เบ้ืองพระยุคลบาทในโครงการสำคัญ ประชมุ กลมุ่ ชาวบา้ นหนองบวั ชมุ จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ การพฒั นาประเทศในดา้ นตา่ งๆ อาทิ โครงการ หมบู่ า้ นสหกรณส์ นั กำแพงตามพระราชประสงค์ ซง่ึ ดำเนนิ การ รว่ มกบั สำนกั งานเรง่ รดั พฒั นาชนบท (ชอื่ หนว่ ยงานในขณะนนั้ ) ในระหวา่ งพทุ ธศกั ราช ๒๕๑๘–๒๕๑๙ โครงการพฒั นาอาชพี ราษฎรบนทสี่ งู เพอ่ื ทดแทนการปลกู ฝน่ิ ทมี่ หาวทิ ยาลยั ไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ เรมิ่ ตน้ งานทดสอบพนั ธไุ์ มด้ อก เพอื่ ปลกู ทดแทนฝนิ่ โดยพระราชทานพระราชทรพั ยเ์ ปน็ ครั้งแรก เมอ่ื พุทธศกั ราช ๒๕๑๕ และต่อมาไดส้ นองพระราชดำริในงาน ด้านต่างๆ ของโครงการ (ซ่ึงต่อมาคือโครงการหลวงและ มูลนิธิโครงการหลวง ตามลำดับ) จวบจนปัจจุบัน นับเป็น เวลากวา่ ๓๕ ปี นอกจากนี้ มหาวทิ ยาลยั ยงั ไดร้ ว่ มสนอง พระราชดำริในงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเป็นหน่วยงานหลักในการ สนองพระราชดำริในโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยาย พันธ์ุไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ (ศูนย์สาขาของศูนย์ฯ ห้วยฮ่องไคร้ฯ) โดยเริ่มดำเนินงาน ในพุทธศักราช ๒๕๒๓ มีภารกิจหลักในการพัฒนาอาชีพแก่ ราษฎรในท่ีห่างไกลให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น โดยการฝึก เทคโนโลยกี ารผลติ ไมด้ อก ไมผ้ ล และใชพ้ นั ธพุ์ ชื ทเ่ี หมาะสม กบั ทอ้ งถนิ่ ตลอดจนวจิ ยั หาเทคโนโลยกี ารผลติ การขยายพนั ธ์ุ * รขอ้ารงาศชากสาตรรบาำจนาารญย์ ภาควชิ าพชื สวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม ่ (พทุ ธศักราช ๒๕๓๔-๒๕๔๗) มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ อดีตผอู้ ำนวยการศูนย์บรกิ ารการพัฒนาขยายพันธไุ์ มด้ อกไมผ้ ลบ้านไรอ่ ันเนื่องมาจากพระราชดำริ

๖๘ พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวเสดจ็ พระราชดำเนินไปทรงเยย่ี มพื้นท ่ี โครงการศนู ยบ์ ริการการพัฒนาขยายพันธไ์ุ ม้ดอกไม้ผลบา้ นไรอ่ ันเนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ณ บา้ นโรงวัว ตำบลสนสอย อำเภอจอมทอง จงั หวัดเชยี งใหม่ และพัฒนาพันธุ์ใหม่ เพ่ือถ่ายทอดแก่เกษตรกรให้สามารถ อบรมภายใต้โครงการในด้านวิชาการ (ในเทคโนโลยีระดับ พึ่งตนเองอย่างยั่งยืน ต่างๆ) ตลอดจนการไดม้ โี อกาสสมั ผสั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ของ บุคลากรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีส่วนสำคัญ ชาวบา้ น มผี ลตอ่ การปรบั ตวั ในสงั คมทต่ี า่ งกนั มคี วามอดทน ในการสนบั สนนุ งานทง้ั ด้านวิชาการ และการปฏิบตั ริ ว่ มกับ ต่อการทำงาน และเป็นคนท่ีมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง หนว่ ยงานอน่ื เพอ่ื ใหโ้ ครงการบรรลเุ ปา้ หมายตามพระราชดำริ ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งมีผลกระทบในวงกว้างท่ัวไป นอกจากได้มีโอกาสสนอง ภาพท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรากตรำ พระราชดำริในโครงการของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณอัน พระวรกายและทรงงานหนัก เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเรา ประเสริฐแล้ว ยังไดต้ อบแทนคณุ แผ่นดินอีกดว้ ย สง่ิ สำคญั ทกุ คนตง้ั ใจและทำงานหนกั เพอ่ื ให้งานบรรลเุ ปา้ หมายตาม อนั ทรงคณุ คา่ ทบ่ี คุ ลากรของมหาวทิ ยาลยั ไดร้ บั คอื ไดม้ โี อกาส พระราชดำริ (ซง่ึ ทำใหร้ ้สู กึ ปีตมิ ากเม่อื งานสำเรจ็ ) ข้าพเจา้ สัมผัสชีวิตความเป็นอยขู่ องเกษตรกรในถิ่นทรุ กันดาร ซ่ึงยัง ยงั จำไดด้ ถี งึ เหตกุ ารณเ์ มอ่ื ครงั้ นำศาสตราจารยช์ าวญป่ี นุ่ ไปดู ต้องการความช่วยเหลือ ได้ปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง งานทโี่ ครงการศนู ยบ์ รกิ ารการพฒั นาขยายพนั ธไุ์ มด้ อกไมผ้ ล ทำให้เห็นปัญหาในแปลงเกษตรท่ีต้องหาทางแก้ไข ทั้งด้าน บา้ นไรอ่ นั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ ณ บา้ นโรงววั อำเภอจอมทอง วชิ าการและดา้ นการจดั การ การเขา้ ไปทำงานในระดบั หมบู่ า้ น จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางไปบ้านโรงวัว สมัยเม่ือเริ่ม ทำให้สามารถเก็บเก่ียวประสบการณ์และข้อมูล มีมุมมอง โครงการก่อนพุทธศักราช ๒๕๒๗ ลำบากมาก ต้องเดินทาง ทกี่ ว้าง ช่วยใหเ้ กดิ ความคดิ ใหม่ที่สามารถนำมาถ่ายทอดให้ ข้ามจากฝ่ังตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังท่ีตั้งหมู่บ้าน ต้องเดิน นักศึกษาผ่านระบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ขา้ มแม่นำ้ หากเป็นฤดฝู น ต้องนง่ั เรอื หางยาวขา้ มแมน่ ำ้ ที่ และริเริ่มงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อวงวิชาการ และการ เชย่ี วกราก เพอ่ื ขน้ึ รถตอ่ ไปยงั แปลงปลูกดอกไม้ ถนนเปน็ พฒั นาอาชพี ของเกษตรกร ไมเ่ พยี งแตอ่ าจารยแ์ ละเจา้ หนา้ ที่ หลุมเป็นบ่อลึก ทำให้กระเทือนมาก แขกชาวญี่ปุ่นถามวา่ เท่าน้ันท่ีได้มีโอกาสเรียนรู้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรง พระเจา้ แผน่ ดนิ ของเธอเคยมาทนี่ ห่ี รอื เปลา่ เมอ่ื ไดร้ บั คำตอบ นกั ศกึ ษาจำนวนมากทท่ี ำงานวจิ ยั ภายใตก้ ารดแู ลของอาจารย์ ว่าเคย และพระองค์ทรงขับรถเอง เสด็จพระราชดำเนิน ในโครงการ ยังได้รับโอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์ ทรงเยยี่ มโครงการตามดอยตา่ งๆ เสมอดว้ ย เขาถงึ กบั ตะลงึ ตรงเชน่ เดยี วกนั อกี ทง้ั ยงั มโี อกาสฝกึ ทำงานวจิ ยั กบั อาจารย์ และบอกว่าไม่เคยคิดว่ากษัตริย์ของไทยจะทรงงานหนัก ในลกั ษณะ “ศิษยก์ น้ กฏุ ”ิ อีกดว้ ย การไดร้ บั การฝึกฝนและ อย่างนี ้

พระบารมอี งค์ภมู นิ ทร์ ปนิ่ สยาม ๖๙ ชาวบา้ นกลมุ่ หนองบวั ชมุ จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ ฝกึ เทคโนโลยกี ารเตรยี มแปลงปลกู แกลดิโอลสั การเก็บเก่ียวหวั พนั ธ์แุ กลดิโอลัสพรอ้ มขนส่ง ของชาวบ้านกลมุ่ หนองบัวชุม จังหวัดกาฬสินธ์ุ กลุ่มชาวบา้ นเขาสามยอด จังหวดั ชมุ พร ตรวจดตู น้ ออ่ นเหลยี ง จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ชาวบ้านกลมุ่ หนองบัวชมุ เริ่มเก็บเกี่ยวมะม่วงมหาชนก ชาวบ้านกลมุ่ หนองบัวชมุ จงั หวดั กาฬสินธ ุ์ ฝกึ เทคโนโลยกี ารขุดพนั ธแ์ุ กลดิโอลัส ชาวบ้านกลุ่มหนองบัวชุม จังหวัดกาฬสินธุ ์ ฝึกเทคโนโลยีการเตรยี มหวั พนั ธ์แุ กลดโิ อลสั

๗๐ พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ป่ินสยาม แปลงสาธิตแกลดโิ อลสั ในงานเกษตรภาคเหนือ เม่ือมีโอกาสรับเสด็จพระราชดำเนินในการเสด็จ เทคโนโลยสี ารสนเทศภมู ศิ าสตรโ์ ดยการถา่ ยภาพจากดาวเทยี ม พระราชดำเนนิ เยยี่ มโครงการตา่ งๆ จำไดว้ า่ พวกเรามคี วามกลวั ในคราวเสด็จพระราชดำเนินยังบริเวณแปลงปลูกไม้ดอก คำถามของพระองค์ท่ีเป็นคำถามของผู้รู้จริง เจาะลึก และ ใกล้เนินเขาที่ห้วยทุ่งจ๊อ จังหวัดเชียงใหม่ ขณะทรงงาน ลงในรายละเอยี ดในทกุ เร่ือง เช่น ขณะเสด็จพระราชดำเนนิ พระองค์ทอดพระเนตรแผนที่ท่ีหน่วยราชการทูลเกล้า ทรงเยย่ี มแปลงผลติ เมลด็ ดาวเรอื ง หลงั จากทห่ี วั หนา้ คณะวจิ ยั ทูลกระหมอ่ มถวาย แลว้ รับสัง่ ว่า ไมด้ อก ดร.พศิ ษิ ฐ์ วรอไุ ร ไดก้ ราบบงั คมทลู รายงานวา่ ผลการ ผลติ เมลด็ ดาวเรอื งในชว่ งฤดฝู นไมด่ ี อาจเนอ่ื งจากฝนตกชกุ “เส้นบอกระดบั นี้ผิด และขาดไป ๑ เส้น” พระองคท์ า่ นมีรับสงั่ ถามวา่ ซ่ึงต่อมามกี ารตรวจสอบภายหลังพบว่าผิดจริง ความสนพระราชหฤทัยของพระองค์ไม่ได้จำกัดอยู่ “หลังจากเกสรตัวผ ู้ แต่เรื่องวิชาการเท่านั้น หากพระองค์ทรงจดจำทุกเร่ืองท่ี ตกลงบนเกสรตัวเมียแล้ว ผ่านพระเนตร พระกรรณ แมเ้ ปน็ เรอ่ื งเล็กน้อยมาก และ ใช้เวลาในการผสมนานเทา่ ไร” กาลเวลาไดผ้ า่ นไปนบั ปี เมอื่ เสดจ็ พระราชดำเนนิ กลบั มาเยยี่ ม โครงการในปถี ดั ไป พระองคส์ ามารถรบั สง่ั ถามถงึ ความกา้ วหนา้ คำถามน้ี ทำใหผ้ ู้กราบบงั คมทลู รายงานถงึ กบั อึ้งไป ต่อคำแนะนำที่ได้พระราชทานไว้เม่ือเสด็จพระราชดำเนิน อีกเร่ืองที่ข้าพเจ้ายังประทับใจในพระอัจฉริยภาพ มาครั้งก่อนได้อย่างแม่นยำ เป็นท่ีประหลาดใจแก่ผู้เข้าเฝ้า และยังไม่เข้าใจจนบัดน้ีว่า พระองค์ทรงทราบได้อย่างไร ทลู ละอองธลุ พี ระบาทวา่ พระมหากษตั รยิ ท์ มี่ พี ระราชภารกจิ ประมาณ ๓๐ ปีกอ่ น ราวพทุ ธศักราช ๒๕๒๐ เมื่อยงั ไม่มี

พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปนิ่ สยาม ๗๑ ตัวอย่างพืชวจิ ัยของศูนยบ์ รกิ ารการพฒั นาขยายพันธ์ุไม้ดอกไมผ้ ลบ้านไร่ฯ สนองพระราชดำริ โดยนักวชิ าการจากมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม ่ เอื้องดนิ ใบหมาก กลว้ ยไม้ดินปัดแดง รองเทา้ นารเี หลอื งปราจนี หงส์เหิน มากหลายดา้ น (ในขณะทย่ี งั ไมม่ คี อมพวิ เตอรช์ ว่ ยบนั ทกึ ขอ้ มลู ) นบั เปน็ เวลาราว ๓๕ ปี ทพี่ ระองคไ์ ดพ้ ระราชทานพระราชทรพั ย์ จะทรงจำรายละเอยี ดไดถ้ งึ เพียงน้ ี แกบ่ คุ ลากรของมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ (ดร.พิศษิ ฐ์ วรอุไร) การเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการต่างๆ เพอ่ื เรม่ิ งานทดสอบพนั ธไุ์ มด้ อกบนทส่ี งู (โครงการหลวง) นบั เปน็ หลายครงั้ ขา้ พเจา้ ไดป้ ระจกั ษถ์ งึ ความเปน็ “พอ่ ของแผน่ ดนิ ” จุดเริ่มตน้ ทส่ี ำคญั ของวงการไมด้ อกเมอื งหนาวของประเทศ ที่ทรงซักถาม “ลูกของแผ่นดิน” ราษฎรของพระองค์ด้วย ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๒๓ ได้พระราชทาน พระราชจรยิ วตั รทงี่ ดงาม ดอู บอนุ่ ทำใหผ้ เู้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ ี พระราชทรัพย์ให้เริ่มงานไม้ดอก เพ่ือปลูกในพื้นท่ีราบ พระบาทรสู้ กึ เปน็ บญุ และรสู้ กึ ยดึ เปน็ ทพ่ี ง่ึ ได้ ทรงเปน็ แบบอยา่ ง (โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ)๑ ทำให้สามารถ ของครทู ดี่ ี ทสี่ นพระราชหฤทยั ในวชิ าการ และศกึ ษาจนรจู้ รงิ คดั เลือกพันธท์ุ ่เี หมาะสม และเปน็ แหล่งกระจายพันธ์ุใหญ่ ทรงเปน็ “ครขู องนกั วจิ ยั ” ทม่ี องการณไ์ กล พระองคท์ รงเรมิ่ ตน้ แก่เกษตรกร ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ เช่น จากเปา้ หมายของงาน เชน่ การแกป้ ญั หาตา่ งๆ ของทอ้ งถน่ิ แกลดิโอลัส และพืชกลุ่มกระเจียว ท้ังสองกรณีเกิดข้ึน และโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหม้ กี ารดำเนนิ การโดยความ ก่อนท่ีจะมีการประกาศแผนการพัฒนาด้านไม้ดอกในแผน รว่ มมอื ของหลายหนว่ ยงาน (แบบบรู ณาการในปจั จบุ นั ) จน พฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ในพุทธศักราช ๒๕๓๐ สามารถนำผลงานไปใชไ้ ดจ้ รงิ โดยคำนงึ ถงึ ผใู้ ชผ้ ลงานวจิ ยั นน้ั ต่อมาหมอ่ มเจ้าจักรพนั ธเ์ พ็ญศริ ิ จักรพนั ธุ์ (พระอิสรยิ ยศ คอื เกษตรกร (ผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย) ขณะน้ัน) ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกำกับดูแล พระอัจฉริยภาพเกี่ยวกับสายพระเนตรที่ยาวไกล โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ผล ตอ่ การพัฒนาประเทศแบบยัง่ ยนื เป็นทรี่ ับรู้โดยทว่ั ไป ในที่น้ี บา้ นไรอ่ ันเน่อื งมาจากพระราชดำริ ตา่ งพระเนตรพระกรรณ จะขอกล่าวถึงงานด้านไม้ดอกท่ีข้าพเจ้าได้สัมผัสใกล้ชิด ทรงมอบนโยบายการพัฒนาพันธ์ุไม้ดอกให้เป็นของประเทศ ๑ ศนู ยบ์ รกิ ารการพฒั นาขยายพนั ธไุ์ มด้ อกไมผ้ ลบา้ นไรอ่ นั เนอ่ื งมาจากพระราชดำร.ิ ใน พระภบู าลปานตะวนั อนั โอภาส พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั กบั มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ (เชียงใหม่: มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ๒๕๔๐). หนา้ ๘๘.

๗๒ พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปิน่ สยาม ในปจั จบุ นั พันธพุ์ ชื ใหมโ่ ดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ไม้ดอกทไี่ ดพ้ ฒั นา ว่านสี่ทิศพนั ธ์พุ ้ืนเมอื ง ขน้ึ ในตา่ งประเทศมกี ารจดทะเบยี นคมุ้ ครองพนั ธพ์ุ ชื (คมุ้ ครอง แกลดโิ อลสั พันธสุ์ ง่ เสรมิ ในงานเกษตรภาคเหนอื ทรัพย์สินทางปัญญา) เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมีปัญหาเม่ือ เกษตรกรนำมาขยายพนั ธเ์ุ พอื่ การคา้ จงึ ควรมกี ารเตรยี มการ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม ่ ไวล้ ว่ งหนา้ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ พันธ์พุ ชื พน้ื เมืองทีม่ ีศกั ยภาพ ในเชิงพาณิชย์ จากพระราชปณิธานอันแน่วแน่ท่ีจะช่วยราษฎรของ พระองค์ให้พ้นจากความทุกข์ยาก และมีคุณภาพชีวิตท่ีดี เรมิ่ จากพระราชทานแนวพระราชดำริ ทรงมพี ระเมตตาในการ ตดิ ตามงานในโครงการตา่ งๆ ตลอดจนพระราชทานคำแนะนำ แกผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านในโอกาสตา่ งๆ ทำใหโ้ ครงการทด่ี ำเนนิ การอยู่ (กรณีศึกษาของศูนย์ฯ ขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ฯ) สัมฤทธิ์ผลในเวลาไมน่ านนัก ย่งิ กาลเวลาผ่านไป ภาพความ สำเรจ็ ยงิ่ ชดั เจนขน้ึ ราษฎรสามารถดแู ลตนเองและแกป้ ญั หา ระดับพ้ืนฐานเองได้ ลกู หลานของสมาชกิ ในโครงการไดร้ บั การศกึ ษาดีข้นึ มีการสบื ทอดอาชีพสู่รุน่ ลกู และหลายรายมี เงนิ ออมไปถงึ รนุ่ หลาน ไมเ่ พยี งแตก่ ารพฒั นาดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วแลว้ สงิ่ สำคญั ทส่ี ามารถสมั ผสั ไดค้ อื การอยอู่ ยา่ งดมี สี ขุ มคี วามสขุ ตามอตั ภาพในแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ราษฎรในหลายพน้ื ท่ี สามารถสรา้ งบา้ นทมี่ นั่ คง มเี งนิ เพยี งพอทจี่ ะซอ้ื พาหนะสำหรบั ขนส่งผลผลิตเอง) ภาพแววตาของชาวบ้านในถิน่ ทรุ กันดาร ทแ่ี สดงความทอ้ แทเ้ หนอื่ ยตอ่ การสู้ชวี ติ เปล่ียนมาฉายแสง แห่งความสุข ความเช่ือมั่นในการประกอบอาชีพ และการ ดำเนนิ ชวี ติ ๒ ทำใหข้ า้ พเจา้ (ในวยั เกษยี ณอายรุ าชการ) ตอ้ งหา โอกาสไปเยยี่ มเยยี น เพอื่ ชนื่ ชมความกา้ วหนา้ ของกลมุ่ เกษตรกร ที่รู้สึกมีความผูกพัน นับตั้งแต่การผลิตในท้องถ่ิน ไปเป็น การผลิตมะม่วงในแหล่งใหญ่ที่สำคัญเพ่ือการส่งออก และ การขยายงานการผลิตไม้ดอก การดำเนนิ งานของโครงการสง่ ผลดอี ยา่ งกวา้ งขวางใน หมขู่ องเกษตรกร ทง้ั ในแงค่ วามสำนกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ การตอบแทนคณุ ของแผน่ ดนิ ในเรอื่ งความสามคั คี ความซอื่ สตั ย์ และการชว่ ยเหลอื เพอ่ื นเกษตรกรตา่ งกลมุ่ ทยี่ งั มปี ระสบการณน์ อ้ ย ตลอดจนเปน็ แหลง่ เรยี นรู้แก่นกั ศึกษา และประชาชนทั่วไป ด้วยพระบารมีปกเกลา้ ปกกระหม่อม มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่จงึ เปน็ ดจุ สายธารพระเมตตา ทแี่ ผ่กระจายออกไปไมม่ ที ีส่ ิน้ สุด ๒ “โครงการศนู ยบ์ รกิ ารการพฒั นาขยายพนั ธไ์ุ มด้ อกไมผ้ ลบา้ นไรอ่ นั เนอ่ื งมาจากพระราชดำร”ิ . วารสารอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ ๔,๔ (ตลุ าคม-ธนั วาคม ๒๕๔๙) หนา้ ๕๙.

พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปน่ิ สยาม ๗๓ คนไทยรจู้ ัก ไม้ดอกเมอื งหนาว ดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ณุ ดร.อดศิ ร กระแสชยั * พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ เกษตรกรที่เป็นชาวเขา งานวิจัยเบื้องต้นประสบผลสำเร็จ โปรดกระหม่อมให้ก่อตั้งโครงการหลวงตั้งแต่พุทธศักราช เป็นอย่างดี โดยพบวา่ สามารถปลกู เล้ยี งกล้วยไมซ้ มิ บิเดียม ๒๕๑๒ และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการวิจัยเพื่อหา บนพนื้ ดนิ ดว้ ยการวางตน้ บนวสั ดปุ ลกู ทร่ี ว่ นซยุ มกี ารระบาย พชื ท่ีมคี วามเหมาะสมทีจ่ ะใช้เปน็ พชื ท่มี รี ายไดแ้ ทนฝ่นิ ท่ไี ด้ น้ำดี และจัดให้มีร่มเงาจากต้นไม้โตเร็วท่ีปลูกระหว่างแถว มกี ารปลกู มาอยา่ งยาวนานตามภเู ขาทางภาคเหนอื ทน่ี อกจาก กลว้ ยไมเ้ ปน็ ระยะๆ กลว้ ยไมจ้ ะแตกหนอ่ ใหม่ และขยายขนาด จะไมไ่ ด้ทำใหช้ ีวติ เกษตรกรเหล่านน้ั ดีข้ึนแล้ว ยงั เปน็ ภยั ตอ่ ของกอได้ดี ได้ช่อดอกที่ยาว และจำนวนดอกต่อช่อมาก มวลมนุษยชาติ และป่าต้นน้ำยังถูกทำลายเป็นจำนวนมาก ปจั จบุ นั กลว้ ยไมช้ นดิ นย้ี งั คงไดร้ บั การศกึ ษาวจิ ยั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อีกด้วย โดยไม้ผลเป็นพืชกลุ่มแรกท่ีได้รับการวิจัยบนท่ีสูง และไดน้ ำกลว้ ยไมซ้ มิ บเี ดยี มพนั ธใุ์ หมๆ่ จากประเทศนวิ ซแี ลนด์ ตามดว้ ยพชื ผกั อน่ื ๆ อกี หลายชนดิ และไมด้ อก ดว้ ยพระองค์ และไตห้ วนั เขา้ มาศกึ ษามากขนึ้ อยา่ งไรกต็ าม จนถงึ ปจั จบุ นั นี้ ทรงมสี ายพระเนตรอนั ยาวไกล จึงทรงเหน็ ว่านกั วิจยั นา่ จะ ยังไม่สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นพืชหลักได้ ใชป้ ระโยชนจ์ ากอากาศเยน็ บนท่สี งู เพราะทำให้ไดผ้ ลผลติ เนือ่ งจากยงั ใหผ้ ลตอบแทนแกเ่ กษตรกรไมค่ อ่ ยดีนัก เพราะ ท่ีไม่ต้องมีการแข่งขันทางด้านการตลาดกับพืชที่ปลูกตาม มชี ่วงการออกดอกส้นั ๆ เพยี ง ๓-๔ เดอื น เฉพาะในชว่ ง พืน้ ราบ ไมด้ อกท่ไี ด้มกี ารศกึ ษาในลำดับต้นๆ คือ กลว้ ยไม้ ทมี่ อี ากาศหนาว แตเ่ กษตรกรจะตอ้ งดแู ลพชื นไี้ ปตลอดทง้ั ปี ซิมบิเดียม ด้วยเป็นกล้วยไม้ตัดดอกท่ีต้องการอากาศเย็น และหากตอ้ งการดอกที่มีคณุ ภาพดี จะต้องปลูกในโรงเรอื น เพอื่ การเจรญิ เตบิ โตและออกดอก มีอายุอยไู่ ดห้ ลายปี โดย มาตรฐาน ซงึ่ ตอ้ งการการลงทุนทค่ี อ่ นข้างสงู มจี ดุ ประสงค์เพอื่ ใหเ้ กษตรกรขายเปน็ ไม้ตดั ดอก และบนท่ี ในชว่ งเวลาทค่ี ณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สงู ของประเทศไทย ก็มพี ืชสกลุ น้ีเกิดขนึ้ ตามธรรมชาติ คือ ให้ผมไปปฏิบัติงานสนับสนุนภารกิจของโครงการหลวง กาเรการอ่ น (Cymbidium tracyanum) งานวจิ ยั เรม่ิ ขนึ้ ใน ที่ขุนห้วยช่างเค่ียนและขุนห้วยแม่ใน ระหว่างพุทธศักราช พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๒ โดยอาสาสมคั รจากมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ๒๕๑๖-๒๕๒๒ นนั้ ผมไดม้ โี อกาสเขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท เปน็ ผรู้ บั สนองพระราชดำริ ดว้ ยการซอื้ ตน้ กลว้ ยไมซ้ มิ บเิ ดยี ม รับเสดจ็ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ จากประเทศฝรง่ั เศส และนำมาศกึ ษาวจิ ยั ทพ่ี ระตำหนกั ภพู งิ ค พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ราชนเิ วศน์ และในพุทธศกั ราช ๒๕๑๖ ได้ยา้ ยไปดำเนินการ ซ่ึงเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานวิจัย วจิ ยั ณ สถานวี ิจยั และศนู ย์ฝกึ อบรมทสี่ ูงขุนห้วยชา่ งเคี่ยน พืชต่างๆ ณ ขุนห้วยช่างเคี่ยนและขุนห้วยแม่ใน ซ่ึงนับว่า และขนุ ห้วยแม่ใน ผมไดม้ โี อกาสเป็นผูร้ ับผิดชอบในการเกบ็ เปน็ มงคลสูงสดุ ของชวี ิต และพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ขอ้ มลู การดำเนนิ การวจิ ยั เนน้ การหาวธิ กี ารปลกู ทง่ี า่ ยสำหรบั ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรแปลงปลูกกล้วยไม้ * ผรออู้ งำศนาวสยตกราารจศาูนรยยก์์ ภาารคพวฒั ชิ นาพาโืชคสรวงนกาครณหละวเกงหษว้ตยรลศึกาสอตำรเ์ภมอหเาชวยี ิทงยดาาลวยั จเังชหยี วงดัใหเชมยี ่ งใหม่

๗๔ พระบารมีองค์ภูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว ทอดพระเนตรงานวจิ ยั ไม้ดอก ณ ศูนย์พฒั นาโครงการหลวงหว้ ยลกึ อำเภอเชยี งดาว จงั หวดั เชียงใหม่ พทุ ธศักราช ๒๕๒๗ ซิมบีเดียมดังกล่าวด้วย นอกจากน้ี พระองค์ยังได้เสด็จ อำเภอเชยี งดาว จังหวดั เชยี งใหม่ เมือ่ วนั ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พระราชดำเนินไปทอดพระเนตรงานวิจัยทางด้านไม้ดอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๗ การเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทอดพระเนตร ณ ห้วยทุ่งจ๊อ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เม่ือ งานส่งเสริมการผลิตไม้ดอกของเกษตรกรชาวเขาเผ่าม้ง ณ พุทธศักราช ๒๕๒๐ ซึ่งเป็นงานวิจัยที่โครงการหลวงได้รับ สถานวี จิ ยั โครงการหลวงอนิ ทนนท์ เมอ่ื วนั ที่ ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ ทุนวจิ ยั จากประเทศสหรัฐอเมริกา ในครั้งนัน้ อาสาสมคั ร พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๒ และ วนั ท่ี ๑๑ มนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๕ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้นำพืชเขตหนาวเข้ามาทดสอบ การเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทอดพระเนตรโรงเรอื นวจิ ยั กหุ ลาบ ถึง ๒๐ ชนิด ไม่ต่ำกวา่ ๒๐๐ พันธ์ุ และโรงเรือนรวบรวมพันธ์ุไม้ดอกของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตง้ั แตเ่ รมิ่ ตน้ จนถงึ ปจั จบุ นั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ และพระบรมวงศานวุ งศ์ สยามมกฎุ ราชกุมาร ณ สถานเี กษตรหลวงอา่ งขางในหลาย ได้เสด็จไปให้กำลังใจแก่ผูป้ ฏิบัติงานทางด้านไม้ดอก ซง่ึ มที ้ัง โอกาส โดยครั้งหลังสดุ ไดเ้ สด็จพระราชดำเนิน เม่ือวนั ท่ี อาสาสมคั รจากมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ๓๐ มกราคม พุทธศกั ราช ๒๕๔๖ การเสดจ็ พระราชดำเนนิ และเจ้าหนา้ ทีโ่ ครงการหลวง สว่ นหน่ึงของพระราชภารกิจที่ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอนำมาสำนึกในพระมหากรณุ าธิคณุ ในท่นี ี้ เช่น การเสด็จ เพ่ือทอดพระเนตรระบบการผลิตเบญจมาศโดยเกษตรกร พระราชดำเนนิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไปทอดพระเนตร ท่อี ยู่ภายใตก้ ารดำเนินงานของโครงการหลวง โดยได้เสด็จ งานวิจัยไม้ดอก ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก พระราชดำเนินทอดพระเนตรแปลงแม่พันธ์ุเพื่อผลิตก่ิงชำ

พระบารมีองคภ์ มู นิ ทร์ ปิน่ สยาม ๗๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ีนาถ ทอดพระเนตรงานสง่ เสรมิ การผลติ ไมด้ อก และสมเด็จพระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ของเกษตรกรชาวเขาเผา่ มง้ ณ สถานีวิจัยโครงการหลวงอนิ ทนนท์ ทอดพระเนตรโรงเรือนวิจยั กหุ ลาบและโรงเรือนรวบรวมพนั ธ์ไุ มด้ อก ณ สถานีเกษตรหลวงอา่ งขาง อำเภอฝาง จังหวดั เชียงใหม่ อำเภอจอมทอง จงั หวดั เชยี งใหม่ พทุ ธศักราช ๒๕๓๒ พุทธศกั ราช ๒๕๔๖ โรงเรอื นเพาะชำและโรงเรอื นผลติ เพอ่ื ตดั ดอก ณ ศนู ยพ์ ฒั นา เจา้ หนา้ ทส่ี ถานเี กษตรหลวงปางดะไดม้ โี อกาสเฝา้ ทลู ละอองธลุ ี โครงการหลวงหว้ ยลกึ เมอื่ วนั ที่ ๑๓ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช พระบาทรบั เสดจ็ พระราชดำเนนิ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ๒๕๒๗ และ วันท่ี ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๖ และ สยามบรมราชกมุ ารี ทเ่ี สดจ็ ทอดพระเนตรงานวจิ ยั ดอกหนา้ ววั ท่ีศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึกแห่งนี้ สมเด็จพระเจ้า เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณว์ ลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี กไ็ ดเ้ สดจ็ นับเป็นความโชคดีของปวงชนชาวไทยที่มีโอกาส ทอดพระเนตรงานวจิ ัยด้านต่างๆ ทางดา้ นไม้ดอก เมือ่ วนั ที่ รจู้ กั ไมด้ อกชนดิ ใหมๆ่ ทไี่ ดน้ ำจากทวปี ตา่ งๆ ของโลก เขา้ มา ๒๘ สงิ หาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๘ นบั เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ศกึ ษาโดยโครงการหลวง ซง่ึ เปน็ โครงการของพระบาทสมเดจ็ อนั หาที่สดุ มไิ ด ้ พระเจา้ อยหู่ วั ทม่ี คี วามคลอ่ งตวั สงู จงึ สามารถนำเขา้ พนั ธพ์ุ ชื ปจั จบุ ัน มูลนิธิโครงการหลวงยงั คงดำเนินการวิจัย ได้ในเวลาอันรวดเร็ว หากเป็นการดำเนินงานตามข้ันตอน ทางดา้ นไมด้ อก เพอ่ื สนองพระราชดำรทิ ห่ี นว่ ยวจิ ยั ขนุ หว้ ยแหง้ ตามปกติของทางราชการแล้ว เช่อื ได้ว่า พันธพ์ุ ชื ท่นี ำเข้ามา เป็นการย้ายงานวิจัยจากสถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ ศกึ ษาหลายชนดิ จะไม่มีโอกาสรอดชีวิต เพราะบางคร้งั เปน็ และสถานเี กษตรหลวงอ่างขาง ซ่งึ ทงั้ สองแห่งใชเ้ ป็นท่ีศกึ ษา เพยี งกง่ิ ท่ยี ังไมม่ รี าก การขนสง่ ที่มีประสิทธิภาพ โดยบรษิ ัท การตอบสนองของพชื ตอ่ อากาศเยน็ สว่ นการศกึ ษาการเจรญิ การบินไทย จำกดั (มหาชน) ท่ถี วายการสนับสนุนพระราช ของพชื ทต่ี อบสนองตอ่ อากาศรอ้ น ดำเนนิ การทศ่ี นู ยพ์ ฒั นา ภารกิจ และอีกหลายๆ หน่วยงานท่ีได้ทำงานถวายอย่าง โครงการหลวงห้วยลึกและสถานีเกษตรหลวงปางดะ โดย สดุ ความสามารถ จงึ ทำใหม้ คี วามหลากหลายของพนั ธไุ์ มด้ อก

๗๖ พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปิ่นสยาม สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมาร ี ไดอ้ ยา่ งในปจั จบุ นั และมเี ปน็ จำนวนมากทค่ี นไทยไมเ่ คยเหน็ ทอดพระเนตรระบบการผลิตเบญจมาศ มาก่อน ณ ศนู ยพ์ ัฒนาโครงการหลวงห้วยลกึ นอกจากน้ี ส่ิงทีป่ ระกอบกันเขา้ เปน็ ความกา้ วหนา้ ของงานไมด้ อกของโครงการหลวง ไดแ้ ก่ การทปี่ ระเทศผผู้ ลติ อำเภอเชียงดาว จงั หวัดเชยี งใหม่ พุทธศักราช ๒๕๓๖ ดอกไม้หลายๆ ประเทศได้ให้การสนับสนุนพระราชดำริใน การหาพืชทเี่ หมาะสมแทนฝิ่น ดว้ ยการแบง่ ปันขอ้ มลู ท้ังงาน วจิ ยั และงานผลติ ใหแ้ กบ่ คุ ลากรของโครงการหลวงในระหวา่ ง การไปดูงาน เพื่อเพม่ิ พูนความรูแ้ ละประสบการณท์ ป่ี ระเทศ สมเดจ็ พระเจา้ ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลยั ลกั ษณ์ อัครราชกมุ ารี อังกฤษ ฝร่ังเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน อิตาลี ไต้หวัน ทอดพระเนตรงานวิจัยด้านไม้ดอก ออสเตรเลีย เคนยา แอฟริกาใต้ จนี มาเลเซีย อิสราเอล เกาหลี ญีป่ ุ่น ฯลฯ นอกจากน้ี ยงั ใหก้ ารสนับสนนุ ทางดา้ น ณ ศนู ย์พัฒนาโครงการหลวงหว้ ยลึก อำเภอเชยี งดาว การฝึกอบรมทางด้านไม้ดอกในต่างประเทศที่ประเทศ จังหวดั เชียงใหม่ พทุ ธศักราช ๒๕๓๘ อิสราเอล อังกฤษ และไต้หวัน ซึ่งล้วนแต่เป็นพระบารมี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่ีทำให้ประเทศไทยมี บุคลากรท่ีมีความรู้ความสามารถทางด้านไม้ดอกในหลาย สาขา จนทำให้ในปัจจุบัน มีชนิดของไม้ตัดดอกที่นำออก ส่งเสริมแล้วมากกว่า ๓๐ ชนิด ไม้ตัดใบมากกว่า ๑๐ ชนิด ทำรายได้ให้แก่เกษตรกรปีละประมาณ ๒๐ ล้านบาท องค์ความรู้ทางด้านไม้ดอกที่เกิดขึ้นในโครงการ หลวงนอกจากจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ เกษตรกร ทคี่ ร้ังหนึง่ เคย ปลกู ฝน่ิ เพอื่ เปน็ รายไดเ้ พยี งนอ้ ยนดิ แลว้ ยงั เปน็ ประโยชนต์ อ่ ทกุ สถาบนั การศกึ ษา และอกี หลายหนว่ ยงานของประเทศไทย ทงั้ น้ี เกดิ ขน้ึ ดว้ ยสายพระเนตรอนั ยาวไกลของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั อันเปน็ ทรี่ กั และเทิดทูนยง่ิ ของพวกเรา และ ที่สำคัญที่สุดพระองค์ทรงทำให้ดอกไม้ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจ ของคนไทยทุกคน ขอพระองค์ทรงพระเจรญิ มีพระพลานามยั แข็งแรง และมพี ระชนมมายุยง่ิ ยนื นาน

พระบารมีองค์ภูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๗๗ ไม้ตัดดอกและไม้ตัดใบท่ีได้รับการพัฒนาจาก พันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ ปลูกโดยเกษตรกรของโครงการหลวง อะกาแพนทัส โพรเทยี ออนิโธกาลัม แวกซ์ฟลาวเวอร์ ยโู อนมิ ัส ดาห์เลีย กลอลโิ อซา่ รัสคัส

๗๘ พระบารมอี งค์ภูมินทร์ ป่ินสยาม พระเจา้ อยู่หวั กับการพัฒนางานไมด้ อก ของประเทศ ดร.โสระยา ร่วมรังษี* งานวิจัยด้านการพัฒนาไม้ดอกของประเทศได้รับ นำไปปลกู ซ่งึ เป็นจุดเริ่มของโครงการศูนยบ์ รกิ ารการพัฒนา การสนับสนนุ น้อยมาก เมอ่ื เปรยี บเทยี บกับพืชพันธ์กุ ลมุ่ อน่ื ขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ท้ังนี้ อาจเนอ่ื งมาจากไมไ่ ดใ้ ช้เป็นอาหาร เครื่องนงุ่ หม่ หรอื (ศนู ยฯ์ บา้ นไรฯ่ ) ดำเนนิ การโดยคณาจารยจ์ ากคณะเกษตรศาสตร์ ปัจจยั พน้ื ฐานทสี่ ำคญั อย่างไรกต็ าม หากมองให้ลึกซึ้งแล้ว มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมร่ ว่ มกบั หนว่ ยงานอน่ื เกยี่ วกบั การวจิ ยั จะเห็นได้ว่า ไม้ดอกเข้ามามีบทบาทในชีวิตความเป็นอยู่ และส่งเสริมอาชีพด้านการผลิตไม้ดอกไม้ผลให้กับราษฎร ของผคู้ นเป็นอยา่ งมาก และถอื เป็นตวั ชี้วัดท่ีสำคัญของการ ท่ียากจนในพน้ื ที่แลง้ ดินเลว ต่อมาเม่ือวันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ อยู่ดมี ีสขุ ของชมุ ชนและประเทศชาติ จากการทำงานสนอง พุทธศักราช ๒๕๒๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชดำริด้านการส่งเสริมอาชีพการเกษตรให้กับราษฎร พระราชดำเนินไปทรงเย่ียมกลุ่มราษฎรหมู่บ้านโรงวัว ภายใต้โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ อำเภอจอมทอง จงั หวดั เชยี งใหม่ ซงึ่ ขณะนน้ั ศนู ยฯ์ บา้ นไรฯ่ ผลบา้ นไรอ่ นั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ ซง่ึ มคี ณะเกษตรศาสตร์ ได้ให้การสนับสนุนอยู่ ทรงพระเมตตาอย่างสูงมีรับสั่งกับ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่เปน็ หน่วยงานหลัก พบว่าชมุ ชนใดมี ดร.พศิ ิษฐ์ วรอไุ ร ความสรปุ วา่ การกนิ ดอี ยดู่ ี ผคู้ นกจ็ ะหนั มาสนใจปลูกดอกไม้ เพื่อความ ร่นื รมยท์ างจติ ใจกันมากขน้ึ ในอดตี เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ไมไ่ ดใ้ ห้ความสนใจ “ทีอ่ าจารย์ทำมาน้ี ในการประกอบอาชีพการปลูกไม้ดอกไม้ประดับดังเช่น เปน็ ประโยชน์ถึงประชาชนอยา่ งแทจ้ ริง” ปัจจุบัน เน่ืองจากประสบปัญหาการขาดแคลนพืชพันธุ์ดี พุทธศักราช ๒๕๑๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทานพระราชทรพั ย์ “งานนี้อย่าได้หยุด ใหท้ ำต่อไป จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพือ่ ให้ ดร.พศิ ิษฐ์ วรอุไร จัดซือ้ ชวนอาจารยใ์ นมหาวิทยาลยั ใหม้ าชว่ ยงานกันให้มากขนึ้ พันธ์ุกล้วยไม้ซิมบิเดียมจากประเทศฝร่ังเศส นำมาทดลอง ปลูกศึกษาวจิ ยั ที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม ่ ช่วยให้ถึงประชาชน” พุทธศักราช ๒๕๒๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์อีกเป็นเงิน ๘๐,๐๐๐ บาท นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่คณะทำงานวิจัย ให้ดำเนินการทดลองขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ผลที่บ้านไร่ ไมด้ อกของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ อำเภอหางดง จงั หวัดเชยี งใหม่ และสง่ เสริมอาชพี ให้ราษฎร การที่ทรงให้ความสำคัญเป็นอย่างมากแก่งานวิจัย ดา้ นไมด้ อกของประเทศ และดว้ ยพระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองค์ ที่พระราชทานให้กับทีมวิจัยไม้ดอก คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผลให้งานวิจัยด้านไม้ดอกได้รับ * รผอู้องำศนาวสยตกราารจศานู รยย์บ์ ภรากิ คาวริชกาาพรพชื สฒั วนนาขคยณาะยเพกนัษธต์ไุ รมศด้ าอสกตไรม์ ม้ผหลบาว้าทิ นยไราอ่ลนััยเเนชียอื่ งงใมหามจ่ ากพระราชดำร ิ

พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ป่ินสยาม ๗๙ กลมุ่ ชาวบา้ นกำแพงหินกับกล้วยไม้ซิมบิเดยี ม ท่ไี ดร้ บั รางวลั ยอดเย่ียม งานมหกรรมพชื สวนโลกเฉลมิ พระเกยี รติ : ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และผลงานวจิ ยั เหลา่ น้ี ไดถ้ กู นำมา ถ่ายทอดให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรผ่านทางงานส่งเสริม อาชีพการปลูกไม้ดอกไม้ผลของศูนย์บริการการพัฒนา ขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ ดังเช่น กล้วยไม้ซิมบิเดียมท่ีพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์ให้ทำการวจิ ัยนัน้ ได้นำไปสง่ เสริมใหก้ บั ราษฎร กลมุ่ กำแพงหนิ (พน้ื ทโี่ ครงการปา่ ขนุ แมก่ วง อนั เนอ่ื งมาจาก พระราชดำริ) จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกลุ่มสมาชิกได้นำต้น กลว้ ยไมซ้ มิ บเิ ดยี มมาปลกู เลยี้ ง เพอ่ื จำหนา่ ยเปน็ อาชพี เสรมิ และได้นำส่งเข้าประกวดในการประกวดไม้ดอกนานาชาติ งานมหกรรมพชื สวนโลกเฉลมิ พระเกยี รติ : ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ และไดร้ บั รางวลั ยอดเย่ยี มประจำสัปดาห์ ๑ รางวัล รางวัล เหรียญทอง ๑๒ รางวัล รางวัลเหรียญเงิน ๗ รางวัล และ รางวัลเหรียญทองแดง ๖ รางวัล สร้างความปลื้มปีติและ ขวัญกำลังใจให้กับราษฎรเป็นอย่างมาก ดว้ ยพระบารมขี องพระองค์ งานสง่ เสรมิ อาชพี ใหแ้ ก่ ราษฎรภายใตโ้ ครงการศนู ยบ์ รกิ ารการพฒั นาขยายพนั ธไุ์ มด้ อก ไมผ้ ลบา้ นไรอ่ นั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ไดข้ ยายงานออกไป ในจังหวัดตา่ งๆ ๙ จังหวดั ได้แก่ เชยี งใหม่ พะเยา สุโขทัย พษิ ณโุ ลก พิจติ ร มหาสารคาม กาฬสนิ ธุ์ ฉะเชงิ เทรา และ ชมุ พร จำนวน ๕๔ กลุม่ สมาชิกรวม ๑,๑๙๖ คน โดยการ ดำเนนิ งานมงุ่ เนน้ ในการใชช้ วี ติ อยา่ งพอเพยี ง มคี วามซอ่ื สตั ย์ ต่อกลุม่ สรา้ งความสามัคคี และชว่ ยสร้างเสรมิ เพ่ิมรายได้ เพอื่ เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยในชวี ติ ประจำวนั สง่ ลกู หลานเรยี นหนงั สอื ดงั ความในใจทีร่ าษฎรกล่าวออกมาอย่างปล้ืมปีติ ดังนี ้

๘๐ พระบารมอี งค์ภมู นิ ทร์ ปิน่ สยาม นายสมจติ ร เกตอุ นิ ทร์ ราษฎรกล่มุ เขาสามยอด ดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระองค์ งานวจิ ยั ปทมุ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร กล่าวว่า “รู้สึกซาบซึ้งใน และพชื กลมุ่ กระเจยี ว ซงึ่ เปน็ ไมด้ อกพน้ื เมอื งของไทยทไี่ มค่ อ่ ย พระมหากรณุ าธิคุณ ทไ่ี ดร้ ับการส่งเสรมิ อาชีพ ไม่ทอดทิง้ ” ได้รับการเหลียวแลจากผู้คนมากนัก กลายมาเป็นไม้ดอก นางสาวหน่ึงฤทยั เกตอุ นิ ทร์ อายุ ๑๙ ปี บตุ รสาว กลา่ วว่า เศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน สามารถแขง่ ขันกบั ไมด้ อก “โครงการฯ เข้ามาช่วย ทำให้มีเงินพอท่ีจะเรียนจนจบชั้น ตา่ งประเทศได้ อยา่ งไมแ่ พใ้ คร จนชาวตา่ งประเทศเรยี กขานวา่ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ และนำรายได้จากการขายผลผลิต “สยามทวิ ลปิ ” นอกจากนี้ พนั ธปุ์ ทมุ มาและกระเจยี ว ซง่ึ ไดร้ บั ไปรกั ษาและเปลย่ี นดวงตาเทยี มได้ และดีใจมากที่ได้โอง่ น้ำ การพฒั นาพนั ธโ์ุ ดยศนู ยฯ์ บา้ นไรฯ่ ยงั ไดร้ บั รางวลั ยอดเยย่ี ม พระราชทาน เพอื่ เกบ็ น้ำไวใ้ ชก้ ินแทนนำ้ ในสระที่เคยใชร้ ว่ ม จากการประกวดไม้ดอกนานาชาติ งานมหกรรมพืชสวนโลก กบั สตั ว์เลี้ยง และขอบคุณที่ทำให้ครอบครัวมีทอ่ี ยเู่ ป็นหลกั เฉลิมพระเกียรติ : ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ กลว้ ยไมร้ องเทา้ นารี แหลง่ มเี จา้ หนา้ ทใี่ หค้ ำแนะนำ เชน่ การทำปยุ๋ หมกั ไวใ้ ชเ้ อง” ได้กลับคืนสู่ป่าใหญ่อันเป็นถ่ินเกิด กล้วยไม้ซิมบิเดียมจาก นางวรรณทูล ศาลาพัก อายุ ๕๕ ปี และนางถวลิ ตา่ งประเทศกลายมาเปน็ ผลผลติ ทสี่ รา้ งรายไดใ้ หก้ บั ราษฎรไทย ศิรภิ ิรมย์ อายุ ๗๗ ปี ราษฎรบา้ นสวนเหนอื อำเภอทา่ แซะ แกลดิโอลัสหลากหลายสายพันธุ์ได้เพิ่มจำนวนแพร่หลาย จังหวัดชุมพร (กลุ่มราษฎรประสบภัยพายุเกย์) กล่าวว่า ไปทั่วประเทศ และทำให้ไม้ดอกพ้ืนเมืองของไทยอีกหลาก “ตน้ื ตนั ใจ พดู ไมอ่ อก ดใี จทใ่ี นหลวงสง่ เจา้ หนา้ ทม่ี าเยยี่ มเยอื น หลายชนิดมีความหวังที่จะได้อวดโฉมแข่งกับไม้ดอกต่าง ขอให้พระองคม์ พี ระชนมายยุ ืนนาน” และ “ขอให้ในหลวง ประเทศในอนาคต นบั เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ เปน็ ลน้ พน้ แก่ อายุยนื นาน และจะสวดมนต์ให้ในหลวงทรงพระเจรญิ ” ราษฎรในโครงการฯ นกั ศกึ ษา คณาจารยผ์ สู้ นองพระราชดำริ นางประทมุ บรรจงมณวี ัฒน์ อายุ ๖๗ ปี ราษฎร และมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม ่ กลุ่มวงั ครก อำเภอทา่ แซะ จงั หวัดชมุ พร กลา่ วด้วยความ ปลมื้ ปตี วิ า่ “ดใี จ ภมู ใิ จ ปลมื้ ใจ ทพี่ ระองคท์ า่ นไมท่ งิ้ ราษฎร” รางวัลเหรยี ญทองจากการประกวดไมด้ อกนานาชาติ งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลมิ พระเกยี รติ : ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ ลูกผสมกระเจยี ว ชดุ ๕๐ ปีการครองราชย์ (กาญจนาภิเษก) ลูกผสมปทมุ มา ชดุ ๖๐ ปกี ารครองราชย์

พระบารมีองค์ภูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๘๑ ราษฎรกล่มุ แม่เตีย้ ะ กลุ่มห้วยกง้ั และกล่มุ กำแพงหนิ จำหน่ายผลติ ผลทีไ่ ดจ้ ากการสง่ เสรมิ อาชีพ โดยศนู ยบ์ รกิ ารการพัฒนาขยายพนั ธ์ุไม้ดอกไมผ้ ล บา้ นไร่อนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ ศนู ย์บริการการพฒั นาขยายพันธุ์ไม้ดอก ไมผ้ ลบ้านไร่อนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ รว่ มกบั คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ จัดฝึกอบรมการทำบายศรี และการใช้ประโยชน ์ จากใบตองให้กับกลุม่ ชาวบ้าน สมาชิกกลุ่มหว้ ยกั้ง จังหวัดพะเยา ฝกึ เทคโนโลยีการเพาะเมล็ดลลิ ล่ี

๘๒ พระบารมอี งค์ภูมนิ ทร์ ปน่ิ สยาม เส้ียวหนึง่ ของชวี ติ ที่ได้ทำงานเป็นอาสาสมคั ร โครงการหลวง ดร.โชค มเิ กลด็ * พวกเราชาวมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ จากหลายสาขา เพ่อื นๆ ท่ีประจำอยู่ตามดอยอืน่ ๆ ไดแ้ ก่ รองศาสตราจารย์ ได้มีโอกาสทำงานรบั ใชใ้ ตเ้ บอื้ งพระยคุ ลบาทพระบาทสมเดจ็ ดร.มนัส ทติ ยว์ รรณ บา้ นดอยสามหมนื่ รองศาสตราจารย์ พระเจา้ อยูห่ ัว ในฐานะอาสาสมคั รโครงการหลวง ซึง่ แต่เดมิ ธีระ วิสิทธิ์พานิช บ้านปุย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ เป็นโครงการสว่ นพระองค์ทเ่ี ริ่มมาต้ังแตพ่ ทุ ธศกั ราช ๒๕๑๒ ศรชี ูวงศ์ บ้านแม่โถ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยอ์ นันต์ อสิ ระเสนีย์ ตอ่ มาในพทุ ธศกั ราช ๒๕๓๕ ไดม้ พี ระราชประสงคใ์ หจ้ ดั ตงั้ เปน็ บ้านขุนวาง และรองศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ จิรพรเจริญ มลู นธิ โิ ครงการหลวง พวกเราหลายคนจากคณะเกษตรศาสตร์ อ่างขาง ก็ได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เริ่มต้นทำงานกับโครงการหลวง ด้วยการเป็นเจ้าหน้าท่ีของ พระราชดำเนินเช่นเดียวกันและต่อเนื่องกันมาหลายปี โครงการหลวง ภายใตแ้ ผนปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ จนสน้ิ สดุ โครงการขององคก์ ารสหประชาชาติ จงึ ไดแ้ ยกยา้ ย องค์การสหประชาชาติ หรอื UNPDAC (United Nations กันไปทำหนา้ ทอี่ ่ืนๆ Programme for Drug Abuse Control) เมอื่ พทุ ธศกั ราช หลังจากที่ผมได้ย้ายไปทำงานโครงการเกษตรที่สูง ๒๕๑๖ หลงั จากจบการศึกษาใหมๆ่ ผมทำงานเป็นเจา้ หนา้ ที่ ไทย-ออสเตรเลยี ในพทุ ธศกั ราช ๒๕๑๗ ไดร้ บั การชกั ชวนจาก อยู่ที่สถานีวิจัยและฝึกอบรมเกษตรท่ีสูงขุนช่างเค่ียนเป็น รองศาสตราจารยส์ งั เวยี น โพธศิ์ รี หวั หนา้ ภาควชิ าสตั วศาสตร์ ระยะเวลาสนั้ ๆ เพยี งปีเศษๆ ขณะนนั้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในขณะน้ัน (ปัจจุบันท่านอายุ ๘๑ ปี และยังคงเป็น ดร.จิตติ ป่ินทอง เป็นหัวหน้าสถานี รองศาสตราจารย์ อาสาสมัครของโครงการหลวง) เป็นหัวหน้าทีมอาสาสมัคร สทิ ธพิ ร สขุ เกษม รองศาสตราจารย์ ดร.อดิศร กระแสชยั โครงการหลวงทอ่ี อกเย่ียมเยียน ตดิ ตาม และให้คำแนะนำ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยธ์ วชั ชยั ไชยตระกลู ทรพั ย์ รวมทงั้ ผมเปน็ ความรตู้ า่ งๆ ใหแ้ กเ่ กษตรกรทอ่ี าศยั อยบู่ นพนื้ ทสี่ งู อยเู่ ปน็ ประจำ ทีมงานช่วยกนั ทำงาน มีโอกาสได้เฝ้าทลู ละอองธลุ พี ระบาท ผมจงึ ได้รว่ มงานเปน็ อาสาสมัครโครงการหลวงอยา่ งแท้จรงิ รับเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ ตง้ั แตน่ น้ั เปน็ ตน้ มา ทมี งานของพวกเรา ประกอบดว้ ย สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถเปน็ ครงั้ แรกในเดอื น คณาจารย์และเจ้าหน้าที่จากหลายสาขาวิชา ร่วมกันออก มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๗ พวกเรามีความประทับใจท่ี ปฏิบัติงานในฐานะอาสาสมัครปีละหลายๆ ครั้ง โดยเฉลี่ย พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัย รับส่ังถามถึงกิจกรรมต่างๆ เดอื นละครง้ั เราออกเดนิ ทางในวนั อาทติ ย์ โดยการสนบั สนนุ ที่พวกเราได้เริ่มต้นทำกันในช่วงปีท่ีผ่านมาอย่างละเอียด เครอื่ งบนิ เฮลคิ อปเตอรจ์ ากกองทพั อากาศ การเดนิ ทางโดย และเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปตามจดุ ตา่ งๆ ทกุ จดุ ทพี่ วกเราจดั เคร่อื งบนิ เฮลิคอปเตอรน์ ัน้ คอ่ นขา้ งจะตื่นเตน้ มหี ลายครง้ั เตรยี มถวายใหท้ อดพระเนตร โดยมไิ ดท้ รงแสดงพระอาการ ต้องผ่านพายเุ มฆฝน บางครงั้ กห็ ลงทาง มีครัง้ หน่งึ เราจะ เหนด็ เหนอ่ื ยแตป่ ระการใด ไดท้ ราบตอ่ มาวา่ บรรดาพๆ่ี และ ไปที่บา้ นใหมร่ ม่ เยน็ อำเภอเชียงคำ จงั หวัดพะเยา เราบนิ * รรอองงผศูอ้าสำตนรวายจกาารรยฝ์ า่ภยาบครวิหชิ าารสตั สวำศนากั สบตรรกิ ์ าครณวิชะาเกกษารตรมศหาาสวตทิ รย์ ามลหัยาเวชทิ ยี ยงาใหลมยั ่ เชยี งใหม ่

พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่ินสยาม ๘๓ หลงไป นกั บินต้องลงจอดถามเด็กๆ ที่เลน่ ฟุตบอลอยหู่ น้า ทลู ละอองธลุ พี ระบาท เพอื่ รบั พระราชทานเหรยี ญรตั นาภรณ์ โรงเรยี นว่า ตอนน้ีเราอยทู่ ่ีไหน ปรากฏวา่ เราบินเลยไปถงึ จากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทพ่ี ระตำหนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน์ อำเภอเทงิ จงั หวดั เชยี งราย อกี ครงั้ หนงึ่ เราจะบนิ ไปเตมิ นำ้ มนั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวรบั สง่ั กบั ผมในครงั้ นน้ั ว่า ทฐี่ านบนิ จงั หวดั นา่ น แตบ่ นิ ไปไมถ่ งึ เพราะนำ้ มนั จะหมดกอ่ น เราลงจอดท่สี นามหน้าโรงเรียนแหง่ หน่งึ เพื่อรอใหร้ ถน้ำมัน จากจงั หวดั นา่ นมาเตมิ ให้ นงั่ รอไปคอ่ นขา้ งนาน นกั บนิ ทนรอ “ขอบใจนะอาจารย์ทชี่ ่วยงาน” ไมไ่ หว เลยบอกวา่ เราบนิ สวนทางไป ถา้ เหน็ รถนำ้ มนั ทไี่ หน กล็ งจอดเตมิ กแ็ ลว้ กนั ในทสี่ ดุ เราเหน็ รถนำ้ มนั กล็ งจอดเตมิ ผมได้รบั ไวใ้ สเ่ กล้าใสก่ ระหม่อม และจำไว้มาจนบัดนี้ ผมได้ กลางทุ่งนา ปวารณาตัวทำงานเป็นอาสาสมัครโครงการหลวงมาอย่าง คร้ังท่ีตื่นเต้นท่ีสุดในชีวิตของพวกเรา น่าจะเป็น ต่อเน่ือง ยกเว้นช่วงท่ีเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ เทยี่ วบิน วนั อาทิตย์ท่ี ๑๕ พฤศจกิ ายน พทุ ธศักราช ๒๕๒๔ ในปัจจุบันยังคงทำงานเป็นผู้ประสานงานดูแลงานส่งเสริม วันนั้น เราเดินทางไปปฏิบัติงานที่บ้านใหม่ร่มเย็น อำเภอ พฒั นาดา้ นปศสุ ตั ว์ และดแู ลงานพฒั นาของศนู ยพ์ ฒั นาตา่ งๆ เชยี งคำ จงั หวดั พะเยา เสรจ็ แลว้ กบ็ นิ ตอ่ ไปยงั บา้ นถำ้ เวยี งแก ในมูลนิธิโครงการหลวงภายใต้การกำกับดูแลให้คำปรึกษา อำเภอเชยี งกลาง จงั หวัดนา่ น ระหวา่ งท่ีบนิ ตอ้ งหลบเมฆ จาก หม่อมเจา้ ภศี เดช รชั นี ประธานมูลนธิ ิโครงการหลวง ท่ีหนาออกไปนอกทิศทางที่เคยบินเป็นประจำ จนผ่านไป ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณท่ีพระองค์ท่านได้ ถึงจุดที่เรียกว่าดอยภูลังกา ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ยิง ไว้วางพระราชหฤทัยให้เราได้ทำงานเป็นอาสาสมัครเพ่ือ เคร่ืองบินเราด้วยปืนอาร์ก้า ถูกลำตัวเคร่ืองบินถึง ๔ นัด ช่วยเหลือเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพ้ืนที่สูงค่อนข้างทุรกันดาร แต่ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมพวกเรา (ประกอบ ในวโรกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญ ดว้ ย รองศาสตราจารยส์ งั เวยี น โพธศิ์ รี รองศาสตราจารย์ พระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ดร.ดำเนิน กาละดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิรัตน์ ชวาลกุล พุทธศักราช ๒๕๕๐ นี้ รองศาสตราจารยด์ ุสิต มานะจุติ ผม และตำรวจตระเวน ชายแดนอกี ๑ คน) และทมี นกั บนิ ไมเ่ ปน็ อะไร แตต่ อ้ งบนิ ไป จอดทฐี่ านบนิ จงั หวดั นา่ น และทางกองทพั อากาศไดส้ ง่ พวกเรา ขอพระองคท์ รงมพี ระชนมายุยิง่ ยนื นาน กลบั เชยี งใหมด่ ว้ ยเครอ่ื งบนิ ดาโกตา้ ในวนั รงุ่ ขน้ึ เนอ่ื งดว้ ยเหตนุ ้ี เป็นม่งิ ขวญั ของปวงชนชาวไทย วนั ที่ ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๕ ผมไดม้ โี อกาสเขา้ เฝา้ ตลอดกาลนานเทอญ

๘๔ พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่นิ สยาม ตามรอยในหลวง ชว่ ยเกษตรกรพน้ื ทสี่ ูง ดร.ชวนพิศ บญุ ชติ สิรกิ ลุ * เปน็ ทร่ี กู้ นั วา่ ในหลวงของเราทรงหว่ งใยคนไทย และ การช่วยของเราแม้จะเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวธุลี พยายามทำใหค้ นไทยมคี วามเปน็ อยทู่ ดี่ ขี น้ึ มโี ครงการมากมาย เมื่อเปรียบกับงานของพระองค์ ยังดีกว่าท่ีไม่ได้ทำอะไรเลย ที่พระองค์ได้มีพระราชดำริให้สร้างข้ึน และกระจายไปท่ัว ในฐานะที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปน็ สถาบันการศกึ ษาชั้นนำ ทุกภาคของประเทศไทย บางคร้ังถามตัวเองว่าพระองค์ ของภาคเหนอื คณะเกษตรศาสตรเ์ ปน็ คณะหนงึ่ ทม่ี บี คุ ลากร ทรงนำพลกำลงั จากทไี่ หน ถงึ ทรงงานมากมายขนาดนี้ นค่ี ง เขา้ รว่ มทำงานกบั มลู นธิ โิ ครงการหลวง เพอื่ ชว่ ยในการพฒั นา เป็นเพราะพระองคท์ รงรกั คนไทยและประเทศไทย เราเป็น ผลผลติ ทางการเกษตรใหด้ ยี งิ่ ขนึ้ เมอื่ เกษตรกรมกี ารปลกู พชื คนหน่ึงที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ และได้อาศัยพระบรม ส่ิงที่ตามมาและหลีกเลี่ยงไม่ได้คือปัญหาของดิน โรคและ โพธิสมภารของพระองค์ ได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขก็เพราะ แมลง โดยเฉพาะโรคแมลงท่ีมีการระบาดในพ้ืนท่ีปลูกพืช พระองค์ เราน่าจะมีส่วนร่วมในการช่วยพระองค์ เพอื่ ไม่ให้ ดงั กลา่ ว และนบั วนั มกี ารระบาดเพม่ิ มากขน้ึ ทำใหเ้ กษตรกร พระองค์ทรงเหน็ดเหน่อื ยไปกวา่ นี้ อย่างนอ้ ยท่สี ุด ทท่ี ุกคน ใชส้ ารเคมมี ากขนึ้ ในแตล่ ะปี การทเี่ กษตรกรสว่ นหนงึ่ ไมศ่ กึ ษา ทำได้ คอื การเป็นคนดี ไมส่ รา้ งความเดือดรอ้ นใหแ้ ก่ใคร และไม่ระมัดระวังถึงอันตรายท่ีเกิดจากการใช้สารเคมี มูลนิธิโครงการหลวงเป็นโครงการหน่ึงที่ในหลวง ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีโดยตรง ของเราได้สร้างข้ึนมา เพ่ือช่วยเหลือชาวไทยภูเขาที่ยากจน และผู้บริโภคก็ได้รับผลกระทบโดยอ้อมจากการใช้สารเคมี ซง่ึ ในอดตี นน้ั พนื้ ทเี่ หลา่ นม้ี กี ารปลกู ฝน่ิ เปน็ พชื หลกั ปจั จบุ นั ของเกษตรกร รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ถ้ากลับไปยังพ้ืนท่ีดังกล่าว จะเห็นว่าพืชหลากหลายชนิดได้ ขณะนี้ ไทยเป็นประเทศที่มีการใช้สารเคมีเกษตรมากที่สุด นำมาปลกู ทดแทนการปลกู ฝนิ่ บางชนดิ บางคนไมร่ จู้ กั หรอื ประเทศหนงึ่ ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ทำใหส้ ารเคมี เห็นมาก่อนถ้าไม่เคยไปต่างประเทศ เช่น อติโช้ค เอนไดว์ ท่ีใช้ในภาคเกษตรตกค้างในผลผลิต ทั้งผัก ผลไม้ สะสม โกโบ้ รบู ารบ์ เปน็ ตน้ ปจั จบุ นั เกษตรกรชาวไทยภเู ขามคี วาม ในร่างกายเร่อื ยๆ โดยไมม่ ีการแสดงอาการ และกลายเป็น เป็นอยู่ท่ีดีขึ้น ไม่ปลูกฝิ่น และมีการศึกษาที่ดี มีหลาย มะเร็งในท่สี ุด ซง่ึ ขณะน้ี คนไทยเสียชวี ติ จากโรคมะเรง็ ทกุ ประเทศทมี่ าดโู ครงการของพระองคแ์ ลว้ นำไปเปน็ แบบอยา่ ง ระบบ ปลี ะเกอื บ ๖๐,๐๐๐ ราย เป็นท้งั คนในชนบทและ นบั เปน็ ความภมู ใิ จของเราชาวไทยทกุ คนทมี่ พี ระมหากษตั รยิ ์ คนในเมือง ดงั นน้ั จึงต้องเร่งแกไ้ ขป้องกัน โดยสง่ เสริมให้ อย่างพระองค์ อย่างไรก็ตาม ยังมีงานที่ต้องทรงทำอีก เกษตรกรทวั่ ประเทศใชร้ ะบบผลติ แบบอนิ ทรยี ์ ไมใ่ ชส้ ารเคมี มากมาย พระองค์เพียงลำพังคงไม่ทรงสามารถทำได้ เพ่ือส่งเสริมให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมี ท่ีมีความจำเป็น ทั้งหมด ถึงแม้ได้ทรงทำมาแล้วตลอดพระชนมพรรษาของ ตอ้ งหาสารทดแทนใหแ้ ก่เกษตรกร ดว้ ยการควบคุมโรคโดย พระองค์ ชวี วธิ ี เปน็ วธิ กี ารหนง่ึ ทส่ี ามารถนำมาใชท้ ดแทนการใชส้ ารเคมี * อาจารย์ ภาควชิ าโรคพชื คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม ่

พระบารมอี งคภ์ มู ินทร์ ปน่ิ สยาม ๘๕ ซงึ่ มกี ารใชอ้ ยบู่ า้ งแลว้ เชน่ การใชเ้ ชอื้ ไตรโคเดอรม์ า ควบคมุ การเก็บเกยี่ ว เพื่อใหส้ ามารถเก็บผลผลิตได้นาน นอกจากน้ี โรคพชื ทเ่ี กดิ จากเชอื้ ในดนิ ทเ่ี ปน็ สาเหตขุ องโรคโคนเนา่ และ ยังมีผักต่างๆ โดยเฉพาะพืชตระกูลกะหล่ำท่ีปลูกมากทาง โรคเหย่ี ว อยา่ งไรกต็ าม ยงั ไมม่ เี ชอ้ื ทจี่ ะควบคมุ โรคพชื ทเ่ี กดิ ภาคเหนือ เพราะสามารถปลูกได้ดีในสภาพอากาศที่เย็น กับสว่ นทอ่ี ย่เู หนอื ดนิ เช่น โรคใบจุด โรคใบไหม้ เปน็ ต้น พบวา่ เกษตรกรใชส้ ารเคมใี นการปอ้ งกนั โรคและแมลงในอตั รา ซง่ึ การเขา้ ทำลายของเชอื้ จะมผี ลกระทบตอ่ ผลผลติ ทง้ั ทางตรง ทส่ี งู มากเชน่ เดยี วกนั ตราบใดทย่ี งั ไมส่ ามารถหาสารทดแทน และทางออ้ ม ถ้าเชื้อเขา้ ทำลายทผ่ี ลผลิตโดยตรง จะทำให้ ในการควบคุมโรคและแมลง เกษตรกรยงั คงใชส้ ารเคมีมาก คุณภาพของผลผลิตลดลง แต่ถ้าเข้าทำลายทางอ้อม เช่น เช่นเดิม ดงั น้ัน ผ้เู ขยี นจงึ ได้เขา้ มาร่วมโครงการวจิ ัย เพอื่ ลด ทำลายทีใ่ บ กจ็ ะทำให้ผลผลติ ไมด่ ี หรือมขี นาดเล็ก การใชส้ ารเคมีของเกษตรกร โดยการค้นหาเชื้อจลุ นิ ทรยี ์ท่ีมี สตรอเบอรร์ เ่ี ปน็ พชื ชนดิ หนงึ่ ทม่ี ลู นธิ โิ ครงการหลวง อยู่แล้วในพืชหรือบนผิวใบ มาควบคุมโรคของพืชดังกล่าว นำเข้ามา และส่งเสริมให้มีการปลูกบนพ้ืนท่ีสูง ได้มีการ เพื่อทดแทนการใช้สารเคมี ในการทำวิจัยเบื้องต้นพบว่า ปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณภาพ และรสชาติที่ดีขึ้น เป็นพืชท่ีทำ เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ท์ ไี่ ดค้ ดั เลอื กจากธรรมชาตสิ ามารถควบคมุ โรคพชื รายได้อย่างมากมายให้แก่เกษตรกร สตรอเบอร์รี่เป็นพืช ท่ีสำคัญ ทเ่ี ป็นสาเหตุให้เกษตรกร มีการฉดี พน่ สารเคมมี าก ชนิดหนึ่งท่ีเกษตรกรใช้สารเคมีมาก เพื่อป้องกันโรคท่ีเกิด ซงึ่ ถา้ งานวจิ ยั สำเรจ็ จะสามารถนำมาใชท้ ดแทนการใชส้ ารเคมไี ด้ กับใบและผล ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อเกษตรกรผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม โครงการอยู่ระหว่างการวิจัย และหวังว่าจะ สารเคมี และผบู้ รโิ ภคที่ชอบรับประทานสตรอเบอรร์ ่ี มีเรื่อง ไดเ้ ปน็ ผหู้ นงึ่ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในการชว่ ยเหลอื เกษตรกร ตามรอย เล่าว่า เกษตรกรผู้ผลิตสตรอเบอร์รี่เองไม่กล้าที่จะบริโภค ในหลวงของเรา ดังท่ีในหลวงได้พระราชทานคำสอนแก่ ผลผลิตของตัวเอง เน่ืองจากมักทำการฉีดพ่นสารเคมีก่อน นักวิชาการว่า “เราตอ้ งการนกั วชิ าการทกุ ๆ สาขา เพอื่ ทจี่ ะมาวางโครงการทรี่ อบคอบ และแกไ้ ขสงิ่ ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายนน้ั ชว่ ยกนั ใหค้ วามรคู้ วามคดิ ทถี่ กู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการแกร่ าษฎร แนะนำวธิ กี ารทำงานอาชพี ใหร้ จู้ กั แกไ้ ขอปุ สรรคขดั ขอ้ ง หรอื เปลย่ี นการงานใหเ้ หมาะสมเปน็ ประโยชนด์ กี วา่ เกา่ บำเพญ็ ตนเปน็ นกั วชิ าการทด่ี ี เปน็ นกั ปฏบิ ตั ทิ ส่ี ามารถใชว้ ชิ าความร ู้ ทงั้ ความคดิ สตปิ ญั ญา ใหป้ ระโยชน ์ เกอ้ื กลู ประชาชนและประเทศชาตโิ ดยตรง” พระบรมราโชวาทในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั ร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร ์ ๑๐ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๒

๘๖ พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ปิ่นสยาม ย่ิงใหญ่ในนิรันดร์ เห็นในหลวงทรงงานผ่านทางข่าว หลายหลายคราวแปลกใจงานในหลวง ใชอ่ ยวู่ งั ทรงงานการทงั้ ปวง หากเลาะลว่ งแดนไกลไปทรงงาน ดำเนนิ ถงึ ภรู อ้ นถงึ ดอนแลง้ ถึงลมุ่ แห้งน้ำขอดตลอดละหาน ถึงชายเลนเตยี นโล่งโกงกางลาญ ถน่ิ กันดารอยูท่ ่ใี ดกไ็ ปดล ไปไถ่ถามราษฎรทอนเสย้ี นทุกข์ ไปปลอบปลุกชาวดินส้นิ หมองหมน่ ล้วนเปน็ งานนอกวังท้ังเวยี นผจญ พระยงั วนเวยี นทำดว้ ยนำ้ พระทัย จากเห็นแปลกเปลี่ยนเป็นเหน็ แลว้ ปลมื้ มอิ าจลมื ภาพพระองคท์ รงงานได ้ จะก่รี ้อนฝนหนาวเปลยี่ นคราวไป ในหลวงยังยิ่งใหญ่ไม่เปล่ยี นแปลง ... จะกี่ทิศกที่ างตา่ งเปล่ียนไป ในหลวงยังยิง่ ใหญ่ในนริ นั ดร์ ... ดว้ ยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ขา้ พระพุทธเจ้า รองศาสตราจารย์สพุ รรณ ทองคล้อย (แรคำ ประโดยคำ) ประพันธ ์

พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ปิ่นสยาม ๘๗ มูลนธิ โิ ครงการหลวง หน่งึ ในโครงการ ตามพระราชดำรกิ บั ชาวเกษตร ดร.ประสาทพร สมติ ะมาน* เมอื่ คดิ ถงึ โครงการหลวง ทงั้ ชาวไทยและชาวตา่ งชาติ หรือติดฝ่ิน มีแต่เด็กๆ เท่าน้ัน การปราบฝิ่นในระยะน้ัน จะนกึ ถึงผลติ ผลหรือผลติ ภณั ฑแ์ ปลกใหม่ ส่วนมากจะเปน็ แมแ้ ตจ่ ะใชว้ ธี กี ารสง่ ทหารขน้ึ ไปตดั ตน้ ฝนิ่ ในแปลงยงั ทำไมไ่ ด้ พืชผัก ผลไม้ จากเขตกึ่งหนาวหรือเขตหนาว นอกจากนี้ เพราะถนนท่ีจะขึ้นไปตามดอยสูงยังไม่มี ต้องอาศัยม้าต่าง ยังมีความม่ันใจในคุณภาพของสินค้าตราดอยคำว่ามีความ ขนสมั ภาระและเดนิ ขน้ึ ไป ลานทจี่ ะใหเ้ ครอ่ื งบนิ เฮลคิ อปเตอร์ ปลอดภัยในการบริโภค มีคุณภาพดี แต่บางคนอาจแอบ ลงจอด ก็ยังหาได้ยาก พระราชกระแสที่อัญเชิญมาน้ัน คอ่ นแคะนดิ ๆ (ในใจ) ไมไ่ ดว้ ่า ราคาแพงกว่าที่ชาวบ้านขาย เก่ียวขอ้ งอย่างไร สมัยนน้ั กวา่ ราชการจะทำอะไร ก็ตอ้ งมี กันทวั่ ไป สำหรบั ผทู้ เ่ี คยขน้ึ ไปสัมผสั กบั “สถานีของมลู นธิ ิ การรายงานตามลำดับข้นั ที่ยาวและซับซอ้ น จากผใู้ หญบ่ า้ น โครงการหลวง” ทส่ี ว่ นมากตงั้ อยบู่ นดอยสงู ถงึ สงู มาก จะเขา้ ใจ จนถงึ ทา่ นผใู้ หญใ่ นกระทรวง ใชเ้ วลานานโข และกวา่ จะตอบ เหน็ ใจ ทราบถงึ ทม่ี า และการกำหนดราคาของผลติ ภณั ฑข์ อง กลบั มาอกี ในเวลาทเ่ี ทา่ ๆ กนั เรยี กวา่ จนกลา้ ฝนิ่ กลายเปน็ มูลนธิ ิโครงการหลวงเปน็ อยา่ งดี ตน้ แก่ เลกิ กรดี กนั ไปแลว้ ปญั หาทง้ั ดา้ นสขุ ภาพและเศรษฐกจิ มูลนิธิโครงการหลวงเป็นโครงการส่วนพระองค์ จงึ รมุ สมุ บรรดาคนบนดอย จนเรยี กวา่ กนิ รากลกึ ยากแกก่ าร ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากเปน็ โครงการท่ีมี แกด้ ว้ ยระบบราชการปกติ ดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ณุ ทไ่ี ดเ้ สดจ็ พระราชดำริให้ก่อต้ังขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด และ พระราชดำเนินไปทอดพระเนตร และด้วยสายพระเนตรท่ี ความยากจนของชาวไทยภเู ขาในระยะเรม่ิ แรก พระราชกระแส ยาวไกล จงึ ได้พระราชทานทนุ ทรัพยส์ ่วนพระองค์ ให้ก่อตง้ั ท่ีขออัญเชญิ มา ณ ท่นี ้ี คอื “เรว็ ๆ เข้า ลดขนั้ ตอน ช่วยเขา มลู นธิ โิ ครงการหลวงขนึ้ โดยมหี มอ่ มเจา้ ภศี เดช รชั นี ทรงเปน็ ใหช้ ว่ ยตนเอง” นน้ั กนิ ความอยา่ งลกึ ซงึ้ และมองเหน็ สภาพ ผสู้ นองพระราชดำรใิ นตำแหนง่ ประธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง ปัญหา เม่ือเกือบ ๔๐ ปีก่อนหน้านี้ ช่วงน้ัน บนเขาสูงที่ ตง้ั แต่เริม่ กอ่ ตงั้ จนถงึ ปัจจบุ นั พวกเราเรยี ก “ดอย” หลายแห่งปลกู ฝิ่น พชื ท่ีมีดอกหลากสี ระยะแรกของการทำงานในมลู นธิ โิ ครงการหลวงนน้ั สวยงาม แมแ้ ตเ่ มอื่ กระเปาะฝนิ่ แก่ กย็ งั มคี วามงามจนนำมา เปน็ การวิจยั เพือ่ ทจ่ี ะหาพืชมาให้เกษตรกรปลกู ทดแทนการ ดัดแปลง เพื่อตกแต่งแจกนั ดอกไมท้ ั้งสดและแหง้ ได้อยา่ งดี ปลกู ฝนิ่ โดยตอ้ งใหผ้ ลตอบแทนไมต่ ำ่ กวา่ ฝน่ิ ยงิ่ มากกวา่ ฝนิ่ ฝ่นิ ดิบนำมาใชใ้ นการผลติ เฮโรอีน ยาเสพตดิ ที่รา้ ยแรง หรอื เทา่ ไร จะดมี ากขนึ้ นอกจากน้ี เพอ่ื แกป้ ญั หาการทำไรเ่ ลอื่ นลอย มอรฟ์ ีน ท่เี ปน็ ได้ทัง้ ยาเสพติด และชวี ภณั ฑท์ างการแพทย์ ทีโ่ ดยปกตชิ าวบ้านจะปลูกพชื ในพนื้ ทเ่ี ดมิ ประมาณ ๓–๕ ปี สมัยน้ันคนบนดอยยังสูบท้ังฝ่ิน หรือกินฝิ่น เพ่ือแก้ปวด จนกวา่ ดนิ จะ “จดื ” คอื หมดความอดุ มสมบรู ณเ์ มอื่ ใด กจ็ ะ กระดกู ปวดทอ้ ง หรอื แกห้ นาว มจี ำนวนคนทตี่ ดิ ฝน่ิ มากกวา่ ย้ายไปปลกู ท่ีอื่น ทำให้แต่ละครอบครัวมพี ื้นทท่ี ่ีจะเวยี นไป คนท่ีไม่ “กิน” ฝนิ่ จนพูดกันว่า คนไมม่ ีประสบการณ์กับฝ่นิ เพาะปลูก ๓–๕ แห่ง เช่นกัน การทำไร่เลื่อนลอยเช่นนี้ * รศอูนงยศว์ าจิ สัยตเรทาคจโานรโยล์ ยภีชาีวคภวาิชพาโทราคงพดชืา้ นคพณืชะมเกลู ษนตธิ รโิ ศคารสงกตารร์ หมลหวางว ทิ ยาลัยเชียงใหม ่

๘๘ พระบารมอี งค์ภมู ินทร์ ปิน่ สยาม นอกจากจะเป็นการทำลายพ้ืนที่ป่า ลดพื้นท่ีสีเขียวแล้ว นอกจากนี้ เน่ืองจากผลมีไวตามินซีสูง รวมทั้งมีสารต้าน ยงั กอ่ ใหเ้ กดิ การชะลา้ งของหนา้ ดนิ และการพงั ทลายของพนื้ ที่ อนมุ ูลอสิ ระ จงึ ไดน้ ำมาใช้ในอตุ สาหกรรมเคร่อื งสำอางเพมิ่ ภูเขาด้วย ซ่ึงจะส่งผลต่อการลดการเก็บกักน้ำของพ้ืนท่ีป่า ขนึ้ อกี อยา่ งหนงึ่ โดยทสี่ ตรอเบอรร์ เ่ี ปน็ พชื ทช่ี อบอากาศเยน็ การทำลายแหลง่ ตน้ น้ำลำธาร การทำลายระบบนเิ วศ และ และหากมีช่วงอุณหภูมิกลางวันและกลางคืนต่างกันมาก ที่สำคัญอย่างย่ิง คือ ผลกระทบปริมาณน้ำฝนที่ส่งผลถึง จะทำใหค้ ณุ ภาพผลผลติ ดยี ง่ิ ขนึ้ ดงั นน้ั แหลง่ ปลกู สตรอเบอรร์ ่ี ความแหง้ แล้งของประเทศในท่ีสดุ ดงั น้นั จึงตอ้ งหาไมผ้ ล ทสี่ ำคญั จงึ จำกดั อยใู่ นสว่ นของภาคเหนอื ตอนบน โดยมพี น้ื ท่ี ท่ีเหมาะสมกับพื้นท่ีมาส่งเสริมให้ปลูกมากข้ึน ซ่ึงเป็นการ ผลิตหลักอยูใ่ นจังหวัดเชยี งใหมแ่ ละเชยี งราย อย่างไรกต็ าม ได้ประโยชน์หลายสถาน ท้งั ชว่ ยเพ่ิมพ้นื ทปี่ า่ สเี ขยี ว ลดการ ด้วยการส่งเสริมของศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยี ทำลายดิน ทำให้เกษตรกรอยู่ติดที่ รวมท้ังช่วยแก้ปัญหา ชีวภาพแห่งชาติ ได้ขยายพื้นท่ีการปลูกสตรอเบอร์รี่ไปยัง การทำไร่เลื่อนลอยไดอ้ กี ดว้ ย ระยะตอ่ มา เม่ือคนอยูต่ ิดที่ ภาคอีสานได้อีกแหล่งหนึ่งด้วย ปัญหาท่ีพบในการผลิต การแก้ปัญหาจะทำได้ดีข้ึน ท้ังด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ สตรอเบอร์รี่อย่างหน่ึง คือ การผลิตต้นไหลท่ีมีคุณภาพ เรมิ่ จากการเพมิ่ คณุ ภาพของอาหารทบ่ี รโิ ภค และเรม่ิ หาสตั ว์ เนื่องจากสตรอเบอร์ร่ีเป็นพืชท่ีขยายพันธ์ุโดยการใช้ไหล ทเี่ หมาะสมกบั สภาพภเู ขาสงู ซงึ่ ประโยชนจ์ ากสตั ว์ นอกจาก ดงั นน้ั จงึ มกี ารสะสมของโรคไวรสั ในระดบั ทสี่ งู มาก จากการ จะเปน็ อาหารแลว้ มลู สตั วย์ งั นำมาเปน็ ปยุ๋ บำรงุ ดนิ ตอ่ ไปดว้ ย สนบั สนนุ ของศนู ยพ์ นั ธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ ชาวเกษตร (คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัย ทไี่ ดข้ ยายงานวจิ ยั ของศนู ยว์ จิ ยั เทคโนโลยชี วี ภาพทางดา้ นพชื เชียงใหม่) ได้เข้าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิโครงการหลวง ทำใหส้ ามารถผลติ ต้นพนั ธุ์สตรอเบอรร์ ปี่ ลอดโรคไวรัส เพื่อ ตั้งแต่ระยะแรก โดยเฉพาะในงานด้านการหาพืชอายุสั้น สนบั สนนุ กลมุ่ เกษตรกรในความดแู ลของมลู นธิ โิ ครงการหลวง เพื่อทดแทนฝ่ิน ซึ่งจะเป็นผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ ผลไม้ มาเปน็ โครงการวจิ ยั ขนาดใหญ่ เพอื่ ศกึ ษาวธิ กี ารผลติ ตน้ ไหล ขนาดเล็ก เชน่ สตรอเบอรร์ ี่ กีว่ี เสาวรส อง่นุ เปน็ ตน้ ปลอดโรคในเชงิ การค้า และได้พฒั นาวธิ ีการทปี่ จั จุบันนำไป ไมผ้ ลยนื ตน้ เชน่ อโวคาโด้ พลบั ทอ้ มะเดอ่ื เปน็ ตน้ ไมด้ อก ใช้เพ่ือการผลิตต้นไหลคุณภาพสูงของเกษตรกรกลุ่มต่างๆ ไม้ประดับหลากชนิด เช่น กุหลาบ เบญจมาศ คาร์เนช่ัน อยา่ งแพรห่ ลาย รวมทง้ั ไดข้ ยายผลการนำสายพนั ธสุ์ ตรอเบอรร์ ี่ เยอบีร่า อัลสโตรมีเลีย ฟรีเซีย สแตติส ไลซิแอนตัส ที่ได้รับพระราชทานนามว่า “พันธุ์พระราชทานเบอร์ ๕๐” ว่านส่ีทิศ คาล่า ลิลลี่ และชนิดอ่ืนๆ อีกมาก ดังน้ัน มาเป็นพันธุ์หลักท่ีใช้เพื่อการผลิตภายในประเทศไทยอีก สามารถกล่าวได้ว่า มูลนิธิโครงการหลวงเป็นผู้นำในด้าน พนั ธหุ์ น่ึง การวิจัยการเกษตรบนพืน้ ทีส่ งู และเป็นผนู้ ำในดา้ นพืชพนั ธุ์ ในการผลติ ตน้ พนั ธป์ุ ลอดโรคไวรสั นน้ั เปน็ งานวจิ ยั เมืองหนาว การอนุรักษ์ปา่ ตน้ นำ้ ลำธาร จนเป็นทยี่ อมรบั ใน ทใี่ ชเ้ ทคนคิ thermotherapy รว่ มกบั การเลยี้ งเนอ้ื เยอื่ เจรญิ ระดบั นานาประเทศ รวมทงั้ มหี ลายประเทศไดข้ อสง่ บคุ ลากร ของสตรอเบอร์รข่ี นาดเพยี ง ๐.๓ มลิ ลิเมตร โดยตัดเน้ือเย่ือ มาฝกึ งาน เพอ่ื กลับไปปฏิบัติในประเทศของตน หรือขอให้ เจรญิ หลังจากทเี่ กบ็ ไวใ้ นสภาพอณุ หภมู ิ ๓๗ องศาเซลเซียส ส่งผู้ปฏิบัติงานของมูลนิธิโครงการหลวงไปช่วยวางแผน อยา่ งตอ่ เนอื่ งเปน็ เวลา ๘ สปั ดาห์ หลงั จากพสิ จู นโ์ ดยวธิ กี าร พฒั นาให้กบั ประเทศทขี่ อความชว่ ยเหลอื ก็ม ี ทางเซรุ่มและการตรวจสอบโดยการใช้กล้องจุลทรรศน์ ดังที่ทราบกันอย่างแพร่หลายว่า งานของมูลนิธิ อเิ ลก็ ตรอน เพอ่ื ยนื ยนั ความปลอดเชอื้ ไวรสั รวมถงึ การปลกู โครงการหลวงมหี ลากหลาย โอกาสนจี้ ะขอนำเฉพาะสว่ นเลก็ ๆ ทดสอบในโรงเรอื นและในสภาพแปลง จนแนใ่ จวา่ ปลอดเชอื้ มากลา่ ว ในทนี่ คี้ อื การพฒั นาพนั ธสุ์ ตรอเบอรร์ ใ่ี หเ้ หมาะกบั ไวรัสจรงิ หลงั จากนน้ั จึงนำไปขยายเปน็ แม่พันธุ์ปลอดโรค สภาพของประเทศไทย ให้แกเ่ กษตรกร โดยมีกลุ่มหลักคอื เกษตรกรในความดูแล สตรอเบอร์ร่ีเป็นไม้ผลเขตกึ่งร้อนที่พัฒนาให้เข้ากับ ของมลู นธิ โิ ครงการหลวง และกลมุ่ เกษตรกรผปู้ ลกู สตรอเบอรร์ ี่ สภาพการปลกู ของประเทศไทยไดด้ ี จนกลายเปน็ พชื เศรษฐกจิ ตำบลบ่อแกว้ อำเภอสะเมงิ จงั หวัดเชียงใหม่ ซึง่ เป็นพนื้ ท่ี ทสี่ ำคญั ของประเทศ ผลมกี ลนิ่ หอม มรี สชาตหิ วานอมเปรยี้ ว หลกั ของการปลกู สตรอเบอรร์ ขี่ องประเทศไทย เปน็ กลมุ่ ทรี่ บั ผลสตรอเบอรร์ ี่นอกจากจะใช้เพือ่ การบริโภคสดแล้ว ยังนำ เทคโนโลยสี ำหรบั การพฒั นาพนั ธใุ์ หมน่ น้ั ไดจ้ ากการคดั เลอื ก มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลากชนิด โดยเฉพาะในกลุ่ม จากการผสมตวั เอง ๓ ชวั่ ของพนั ธ์ุ B-๕ ของประเทศสหรฐั ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต เค้ก ไอศครีม เป็นต้น อเมรกิ า มาปลกู ขยายและคดั เลอื กลกู ทม่ี ลี กั ษณะเหมาะสม

พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ป่นิ สยาม ๘๙ สตรอเบอรร์ พ่ี นั ธพุ์ ระราชทาน เบอร์ ๕๐ รปู ร่างสตรอเบอร์รีพ่ นั ธ์พุ ระราชทาน เบอร์ ๕๐ จากการปลกู ในสภาพแปลงปลกู ทส่ี ถานขี องมลู นธิ โิ ครงการหลวง สตรอเบอรร์ ไ่ี ดท้ กุ ระยะ ตงั้ แตร่ ะยะผลติ ไหล ไปจนถงึ ระยะ โดยใชล้ กั ษณะของผล ความแนน่ เนื้อ ความหวาน การทน เวลาเก็บเก่ยี ว นอกจากนี้ เชือ้ สาเหตุของโรคยงั สามารถเขา้ ต่อสภาพการขนสง่ และผลผลิต เปน็ จุดหลกั ในการพจิ ารณา ทำลายไดห้ ลายสว่ น คอื ใบ กา้ นใบ ดอก กา้ นดอก รวมถงึ ผล คดั เลือกพนั ธ์ุพระราชทานเบอร์ ๕๐ จงึ เปน็ โรคทท่ี ำความเสยี หายตอ่ การปลกู สตรอเบอรร์ อี่ ยา่ งมาก ลักษณะของพันธุ์พระราชทานเบอร์ ๕๐ จะเป็น จนถือว่าเป็นโรคอันดับหนึ่งของสตรอเบอรร์ ี่ เกษตรกรต้อง สตรอเบอรร์ ่มี ีทรงพมุ่ ขนาดกลางถงึ ค่อนข้างแนน่ ขนาดพุ่ม ใชย้ าจำนวนมากเพอื่ ปอ้ งกนั กำจดั โรค ซงึ่ พบวา่ ไมไ่ ดผ้ ลดนี กั ปานกลางถึงใหญ่ ข้ึนอยู่กับสภาพการเลี้ยงและการให้สาร รวมทงั้ เปน็ มลพษิ ตอ่ สภาพแวดลอ้ มอกี ดว้ ย ดว้ ยปญั หาดงั กลา่ ว อาหารของเกษตรกร ความกวา้ งขนาด ๔๐.๑๖ เซนตเิ มตร ศูนย์พันธุกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติจึงได้พัฒนา ความสงู ขนาด ๑๕.๙๘ เซนตเิ มตร จำนวนไหลประมาณ ๑๔ พนั ธส์ุ ตรอเบอรร์ ใี่ หต้ า้ นทานตอ่ โรคโดยใชเ้ ทคนคิ toxin elicitor ไหล/กอ ขนาดใบ ๑๐.๒๖ x ๒๐.๓๔ เซนตเิ มตร ความหนา โดยการเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อจากส่วนใบของสตรอเบอร์รี่ ๒.๗๕ มิลลิเมตร แผ่นใบสีเขียวปานกลางถึงเข้ม ผลแก่ ในอาหารทผ่ี สม toxin ของเชอ้ื Colletotrichum fragaria ประมาณ ๒๖ วนั หลงั การผสม จำนวนผล ๑๕-๒๑ ผล/กอ C. acutatum และ C. gloesporioides ซงึ่ เป็นสาเหตุ นำ้ หนักผล ๑๖.๒๕ กรัม ผิวสีแดงถึงแดงเขม้ เนือ้ สแี ดงถงึ ของโรค เมื่อได้ cell lines ที่ต้านทานต่อ toxin แล้ว แดงเข้ม แกนสีแดงถงึ สม้ แกนแนน่ เมล็ดสีแดงเขม้ ปนดำ จึงนำมาชักนำให้เป็นต้น และทดสอบระดับความต้านทาน หรือแดง เมล็ดอยู่เสมอผิวถึงจมอยู่ในผิว ปริมาณน้ำตาล ตอ่ โรค ทงั้ ในสภาพหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และในสภาพแปลงผลจาก ร้อยละ ๙.๕ พันธ์ุพระราชทานเบอร์ ๕๐ ได้รับความนิยม การพฒั นาพนั ธ์ุ ทำให้ได้กลุ่มสตรอเบอร์ร่ที ี่ตา้ นทานต่อโรค เน่ืองจากเนื้อแน่น ผิวมีความมันและแข็งแรง ทำให้ทนต่อ รวมทง้ั ไดค้ ดั เลอื กพนั ธ์ุ เพอื่ ใชส้ ง่ เสรมิ แกเ่ กษตรกร โดยเรม่ิ สภาพการขนส่งได้ดี เมื่อเทียบกับพันธุ์อื่นท่ีส่งเสริม จากบรเิ วณบ้านทุง่ หลวง ตำบลแมว่ นิ อำเภอแม่วาง จงั หวัด เชยี งใหม่ และขยายพนื้ ทกี่ ารปลกู ใหม้ ากยง่ิ ขนึ้ ในระยะตอ่ ไป การพัฒนาพันธตุ์ า้ นทานตอ่ โรคแอนแทรกโนส การปรบั ปรงุ พนั ธแุ์ ตล่ ะพนั ธจุ์ ะใชเ้ วลาไมต่ ำ่ กวา่ ๔ ปี เร่ิมจากปัญหาใหญ่ของสตรอเบอร์รี่ท่ีต้องปลูกใน รวมทั้งงบประมาณจำนวนมาก จึงจะได้พันธ์ุพืชอย่างที่ สภาพอากาศเย็น ความช้ืนสูง ทำให้เหมาะกับการระบาด ตอ้ งการได้ และเมอ่ื เขา้ ระบบการผลติ จะมกี ารควบคมุ และ ของโรคได้ง่าย แอนแทรกโนสเป็นโรคที่สามารถเข้าทำลาย ตรวจสอบการใช้สารเคมีทางการเกษตร รวมทั้งมาตรการ

๙๐ พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ป่นิ สยาม สตรอเบอร์รี่พันธเ์ุ ดิมท่ไี ม่ต้านทานโรค สตรอเบอร์รพี่ ันธ์ตุ ้านทานโรค ตรวจสอบสารพษิ ตกคา้ ง ในผลติ ผลของมลู นธิ โิ ครงการหลวง อยา่ งเขม้ งวด ดว้ ยระบบดงั กลา่ วไดเ้ พมิ่ ความเชอ่ื มน่ั ในความ ปลอดภัยจากการบริโภคผลิตผลตราดอยคำได้อย่างมาก นอกจากนี้ หากพจิ ารณาถงึ สภาพเศรษฐกจิ และชวี อนามยั ของ ชาวไทยภเู ขาจะเหน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนวา่ มกี ารพฒั นาขน้ึ อยา่ งมาก ทส่ี ำคญั คอื การใหค้ วามสำคญั กบั การอนรุ กั ษส์ ภาพปา่ และ ต้นน้ำลำธาร ซง่ึ เป็นส่ิงที่ประเมินค่าไม่ได้ สง่ิ เหลา่ นี้ ลว้ นส่ง ผลดตี อ่ ประชาชนคนไทยทงั้ มวล ใหอ้ ยรู่ ม่ เยน็ ใตร้ ม่ พระบารม ี

พระบารมีองค์ภมู นิ ทร์ ป่ินสยาม ๙๑ พระเจ้าอยู่หัว ในความทรงจำของขา้ พเจ้า ดร.นุชนาฏ จงเลขา* “คนนีจ้ ำได้ นำเสด็จฯ ทชี่ า่ งเคี่ยน” “จำหนา้ ไดน้ ะ แตจ่ ำช่อื ไม่ไดแ้ ล้ว ทำไมผอมไป” เป็นพระราชดำรัสทักทายเม่ือข้าพเจ้าทำหน้าท่ีแทนคณบดี นบั เป็นพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของทัง้ สองพระองคเ์ ป็นอยา่ งยง่ิ ในการพานายดนยั บณุ ยเกยี รติ (รองศาสตราจารย์ ดร.ดนยั ขา้ พเจา้ กราบบงั คมทลู วา่ ขา้ พเจ้าเปน็ โรคกระเพาะ สมเด็จ บณุ ยเกยี รติ ในปจั จบุ นั ) ซงึ่ ไดร้ บั ทนุ อานนั ทมหดิ ลเขา้ เฝา้ ทลู พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีตามเสด็จ ลาไปศกึ ษาตอ่ ทปี่ ระเทศสหรฐั อเมรกิ า ในพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๑ พระราชดำเนนิ ดว้ ยทรงได้ยิน จึงรบั สง่ั แนะนำขา้ พเจ้าให้หา ซงึ่ ในขณะนน้ั ขา้ พเจา้ ดำรงตำแหนง่ รองคณบดคี ณะเกษตรศาสตร์ ขนมลกู อมใส่ไวใ้ นกระเปา๋ เมือ่ เวลาหิวจะไดร้ ับประทาน และเป็นคร้ังแรกท่ีข้าพเจ้าดีใจและภาคภูมิใจมากที่ลูกศิษย์ มีคร้ังหน่ึงที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสกราบบังคมทูลถวาย ของขา้ พเจา้ (คนแรกหลงั จากทข่ี า้ พเจา้ เรยี นจบปรญิ ญาเอก) รายงานและเบิกตัวผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ที่เข้ามา ได้รับทุนอันทรงเกียรติน้ี และย่ิงดีใจเป็นทวีคูณท่ีพระบาท ทำงานร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์ในการพัฒนาพ้ืนท่ีสูง สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวทรงจำขา้ พเจา้ ได้ ทั้งๆ ท่ีพระองคเ์ สด็จ เขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ระหวา่ งรอรบั เสดจ็ พระราชดำเนนิ พระราชดำเนินไปในพื้นท่ีหลายแห่ง และทรงพบกับบุคคล ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้ปรารภกับข้าพเจ้าว่า เคยได้ยินมาว่า มากมาย ในช่วงที่ทำหน้าที่แทนคณบดี (รองศาสตราจารย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระอัจฉริยภาพมาก บญุ วาทย์ ลำเพาพงศ)์ ขา้ พเจา้ ไดม้ โี อกาสนำเสดจ็ พระราชดำเนนิ ทรงรอบรู้ และมักถามคำถามทยี่ ากมาก เขารู้สึกกลัวจริงๆ ไปทอดพระเนตรงานของคณะเกษตรศาสตร์ต่อเน่ืองกัน กลวั วา่ จะตอบไมไ่ ด้ ความจรงิ ขา้ พเจา้ กร็ ู้สึกเช่นนั้น แตด่ ว้ ย หลายครงั้ ในหลายพนื้ ที่ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ นิสยั รกั สนกุ ของขา้ พเจา้ จงึ แกล้งพวกเขาเลน่ เม่อื เขาใหย้ ก มพี ระดำรสั ถามข้าพเจ้าว่า ตัวอย่างคำถามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ขา้ พเจ้า จงึ บอกวา่ “ทำไมถว่ั เหลอื งจงึ มฝี กั อยเู่ หนอื พนื้ ดนิ แตถ่ ว่ั ลสิ ง “อายเุ ท่าไหร่ ยังเด็กอยู่เลย ทำหนา้ ท่ีใหญ่โต” มีฝักอยู่ใต้ดิน” เขาคิดว่าเป็นเรื่องจริง เขาตกใจ และพูด เสียงอ่อยๆ ว่า “พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้” ข้าพเจ้าจึงหัวเราะ ความจรงิ ขณะนน้ั ขา้ พเจา้ อายุ ๓๔ ปแี ลว้ แตอ่ าจจะดยู งั เดก็ อยู่ และบอกเขาว่า พระองค์จะไม่ทรงถามอะไรแบบน้ัน แต่ หลงั จากนัน้ ตอ่ มา ด้วยการหักโหมทำงานอยา่ งตอ่ เนือ่ งของ จะทรงถามเก่ียวกับงานที่ทำ เขาจึงสบายใจข้ึน และเม่ือ ขา้ พเจา้ ประกอบกบั นอนนอ้ ย รบั ประทานอาหารไมเ่ ปน็ เวลา พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาถึง คำถามท่ีพระองค์ทรง เพยี งไมก่ ป่ี ตี อ่ มาเมอ่ื สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ถามพวกเราก็ยากมากจริงๆ ด้วย ขณะนั้นเป็นช่วงที่มี ทรงพบขา้ พเจา้ อกี ครั้งหน่ึง ทรงตรัสวา่ ปัญหาเรอื่ งน้ำมันขาดแคลน รวมท้งั ปญั หาการขาดแคลนน้ำ * ขรอ้ารงาศชากสาตรรบาำจนาารญย์ ภาควชิ าโรคพืช คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ มหาวิทยาลยั เชียงใหม ่

๙๒ พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ปิ่นสยาม ในบางพืน้ ที่ พระองค์จึงสนพระราชหฤทัยในเร่ืองการเกษตร ขณะทรงรับฟังคำบรรยายจากอาจารย์ผู้ปฏิบตั งิ าน ทใ่ี ชแ้ รงงานจากววั ควายแทนการใช้แทรกเตอร์ คำถามก็คือ โดยมีสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พ้ืนท่ีนั้นมีววั ควายกต่ี วั ไมม่ ใี ครตอบได้ เพราะไม่มีใครคาด คดิ มากอ่ น เมอ่ื ไมม่ ใี ครตอบไดพ้ ระองคก์ ไ็ มไ่ ดม้ รี บั สง่ั ตำหนิ และหมอ่ มเจ้าภีศเดช รชั นี ตามเสดจ็ พระราชดำเนิน พวกเรา แต่ทรงแนะนำประโยชน์ของการใช้วัวควาย และ ทรงแนะนำให้ประหยดั นำ้ ข้าพเจ้าได้เริ่มเข้ามาทำงานด้านอารักขาพืชตั้งแต่ พุทธศักราช ๒๕๑๙ ในฐานะผู้วิจัยในโครงการท่ีได้รับเงิน ผ้เู ขียนถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว สนบั สนุนจาก USDA (United States Department of ในการเสดจ็ พระราชดำเนินทศี่ ูนยว์ ิจยั และฝึกอบรม Agriculture) และไดเ้ รมิ่ งานอารกั ขาพชื ในพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๒ แต่การทำงานที่โครงการหลวงในงานอารักขาพืชท่ีข้าพเจ้า คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ รบั ผดิ ชอบอยนู่ น้ั ขา้ พเจา้ ไมไ่ ดม้ โี อกาสกราบบงั คมทลู รายงาน แด่พระองค์โดยตรง เนือ่ งจากจะมผี ู้ท่เี ก่ียวข้องกับการผลิต ทำหนา้ ทน่ี โ้ี ดยเฉพาะ งานอารกั ขาพชื จงึ เปน็ งานทอี่ ยเู่ บอื้ งหลงั ของงานผลติ พชื ทง้ั หมด พระองคไ์ ดร้ บั สง่ั กบั ขา้ พเจา้ ๒ ครง้ั ในคราวที่ข้าพเจ้าและเจ้าหน้าท่ีโครงการหลวงได้รับ พระมหากรณุ าธคิ ณุ พระราชทานเลยี้ งอาหารคำ่ ทพ่ี ระตำหนกั ภูพิงคราชนิเวศน์ ข้าพเจ้าจำไม่ได้ว่าปีใด แต่ท่ีจำได้ไม่ลืม คือมีรับสั่งให้ข้าพเจ้าดูแลเร่ืองการใช้สารกำจัดศัตรูพืช ของเกษตรกรชาวเขา โดย ทา่ นภี (หมอ่ มเจา้ ภีศเดช รชั นี ประธานมูลนธิ ิโครงการหลวง) ไดท้ รงเบกิ ตวั ขา้ พเจ้าเขา้ เฝา้ ทูลละอองธุลีพระบาทวา่ “คนนี้ดแู ลเรือ่ งโรคแมลง และการใชย้ าฆ่าแมลง” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรมาที่ข้าพเจ้า แลว้ ตรัสวา่ “ตอ้ งดูแลให้ดี อย่าใหเ้ ขาใช้ยามาก มันไม่ดตี อ่ สุขภาพ และนำ้ กจ็ ะเป็นพิษ”

พระบารมอี งคภ์ ูมนิ ทร์ ป่นิ สยาม ๙๓ ขา้ พเจา้ รบั ใสเ่ กลา้ ใสก่ ระหมอ่ มดว้ ยความมงุ่ มนั่ จะดแู ลเตม็ ที่ ขา้ พเจา้ ไดแ้ ตย่ ม้ิ เพราะทราบดวี า่ พระองคท์ า่ นทรงเขา้ พระทยั แต่ความลำบากมีมากเหลือเกิน เพราะในขณะน้ัน ชาวเขา สถานการณเ์ ปน็ อยา่ งดี ถงึ จะหา้ มอยา่ งไรถา้ ชาวเขาอยากใช้ สว่ นใหญย่ งั พดู ภาษาไทยไมค่ อ่ ยได้ บางคนพดู ไมไ่ ดเ้ ลย ดงั นน้ั คงจะทำอะไรไมไ่ ด้ เพื่อไมใ่ ห้เขาใชย้ าผดิ โครงการปอ้ งกนั และกำจัดศัตรพู ชื บน อยา่ งไรกต็ าม ดว้ ยกระแสพระราชดำรสั ทพี่ ระราชทาน ทสี่ ูง (ศูนย์อารกั ขาพืชในปจั จุบัน) จึงต้องทำสต๊กิ เกอร์เป็น แกข่ า้ พเจา้ แกผ่ อู้ น่ื ในเรอ่ื งการอนรุ กั ษป์ า่ อนรุ กั ษด์ นิ และนำ้ รูปใบไม้มีจดุ ๆ บนใบ สำหรับสารเคมีกำจัดโรค และทำเปน็ รวมทง้ั อนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม ทำใหข้ า้ พเจา้ ไดเ้ หน็ ถงึ พระวสิ ยั ทศั น์ รปู หนอนกดั กนิ ใบสำหรบั สารเคมกี ำจดั แมลง โดยเจา้ หนา้ ท่ี อันกวา้ งไกล พระองค์มีรับสั่งเตือนเรื่องการประหยัดน้ำมัน ประจำบนดอยจะต้องมารับสารเคมีพร้อมคำแนะนำจาก ประหยดั น้ำ การปอ้ งกนั ดนิ พังทลายดว้ ยการปลกู หญ้าแฝก เจา้ หนา้ ที่ของโครงการป้องกันและกำจดั ศตั รพู ชื เท่าน้ัน ทรงแนะนำเร่ืองการรักษาป่าและการปลูกป่า ทรงแนะนำ พน้ื ทส่ี งู ซงึ่ เปน็ พนื้ ทป่ี า่ มากอ่ น ดนิ ดี มอี นิ ทรยี วตั ถสุ งู ให้ระวังเรื่องพิษภัยของสารเคมี ตั้งแต่ยังไม่มีหน่วยงานใด ธาตอุ าหารต่างๆ กม็ ีอยสู่ มบูรณ์ และยงั มอี ากาศทเ่ี ย็นกวา่ ในประเทศไทยแสดงความตระหนักและรับผดิ ชอบในเรอื่ งนี้ พน้ื ทรี่ าบ ทำใหเ้ หมาะแกก่ ารปลกู พชื เมอื งหนาว เมอื่ ชาวเขา ข้าพเจ้าจึงพยายามท่ีจะสนองเบ้ืองพระยุคลบาทด้วยการ ทำการเกษตร ผคู้ า้ สารเคมกี ต็ ามขน้ึ ไปขาย รวมทง้ั มนี ายทนุ พฒั นางานอารกั ขาพชื มาโดยลำดบั แตด่ ว้ ยจำนวนเกษตรกร ท่ีไปลงทุนให้เกษตรกรและรับซื้อผลผลิต ข้าพเจ้าพยายาม ทเี่ พม่ิ ขน้ึ อยา่ งมาก รวมทงั้ การขยายพนื้ ทใี่ นการปลกู ผกั ซงึ่ ให้ สกัดกั้นสารเคมี ในระยะแรกๆ ได้ขอความร่วมมือจาก รายได้อยา่ งต่อเนือ่ งตลอดปี เพราะเป็นพชื อายสุ ั้น ขา้ พเจา้ เจา้ หนา้ ทด่ี า่ นใหต้ รวจตราสารเคมี มใิ หน้ ำสารเคมอี นั ตรายขนึ้ จึงต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเร่ือยๆ เพ่ือให้ผลผลิตของ บนทส่ี งู โดยใหร้ ายชอื่ ไป แตเ่ จา้ หนา้ ทดี่ า่ นบอกวา่ ไมส่ ามารถ โครงการหลวงปลอดภยั สำหรบั ผบู้ รโิ ภค ในชว่ งประมาณ ๑๐ ปี ทำได้ เพราะชอ่ื สารเคมอี า่ นยากและมจี ำนวนมาก นอกจากนี้ ทผ่ี า่ นมา ไดพ้ ยายามนำความรใู้ นดา้ นการจดั การศตั รพู ชื แบบ ยงั พบวา่ มนี ายทนุ ลกั ลอบนำสารเคมไี ปใหเ้ กษตรกรใช้ โดยถา่ ย ผสมผสาน หรอื เรียกย่อๆ วา่ IPM (Integrated Pest สารเคมใี สข่ วดอ่นื เชน่ ขวดนำ้ ปลา ขวดน้ำหวาน ซึง่ ทำให้ Management) ซง่ึ เปน็ องคป์ ระกอบสำคญั ของการเกษตรดี ควบคมุ ยาก ปญั หาการใชส้ ารเคมปี ราบศตั รพู ชื จงึ มากขนึ้ ตาม ท่เี หมาะสม หรอื GAP (Good Agricultural Practice) ระยะเวลา จำนวนพ้ืนที่ และจำนวนเกษตรกรทเ่ี พม่ิ ข้นึ ไปใชอ้ บรมเจา้ หนา้ ทส่ี ง่ เสรมิ เพอ่ื ใหก้ ารจดั การศตั รพู ชื ไดผ้ ลดี อีกคร้ังหน่ึง ข้าพเจ้าได้รับพระเมตตาให้เข้าร่วม และเป็นการลดการใช้สารเคมีลง ได้มีการอบรมเจ้าหน้าท่ี รับพระราชทานเล้ียงท่ีพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อ ส่งเสริมผักและเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสตรอเบอร์ร่ีอย่างเข้มข้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำเนินผ่านมาตรงที่ ในเร่ือง IPM มีท้ังภาคบรรยายและปฏิบัติการต่อเนื่อง ข้าพเจ้ารอรับเสด็จพระราชดำเนิน ท่านภีกราบบังคมทูล เป็นเวลา ๔ ปี ซงึ่ เป็นโครงการอบรมใหเ้ จา้ หนา้ ทส่ี ง่ เสรมิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า สามารถเปน็ วิทยากรฝึกอบรมดา้ น IPM ได้ (Training of Trainer หรอื TOT) เกษตรกรผนู้ ำ (farmer leader) จงึ ได้ รบั ความรดู้ า้ น IPM สามารถเขา้ ใจหลกั การจดั การกบั เมลด็ พนั ธุ์ “อาจารย์นุชคนนีเ้ ขาเฉยี บขาด (seed treatment) จดั การกบั ดนิ (soil treatment) และ เขาสัง่ ห้ามไม่ใหช้ าวเขาใชย้ ามาก” จดั การกบั พชื ทป่ี ลกู (crop management) รวู้ ธิ กี ารตรวจสอบ แปลงปลกู เพอ่ื รจู้ กั ศตั รธู รรมชาติ (natural enemies) ของ ทั้งนี้คงเป็นเพราะท่านภีเคยพบจดหมายคำสั่งของข้าพเจ้าที่ แมลงศตั รพู ชื รจู้ กั ศตั รพู ชื และลกั ษณะการเขา้ ทำลาย นอกจากนี้ ส่งไปยังเจ้าหน้าทีบ่ นดอย ใหด้ ูแลมใิ ห้เกษตรกรใช้สารกำจัด ยังเรียนรู้วิธีการนำเศษพืชผักไปทำปุ๋ยน้ำ และเรียนรู้วิธีทำ ศตั รพู ชื มากเกนิ ไป และไมใ่ ชส้ ารเคมตี อ้ งหา้ ม หากไมป่ ฏบิ ตั ติ าม นำ้ หมกั สมุนไพรสำหรบั ใช้กำจดั โรคและ/หรือศัตรูพืช จะงดซอ้ื ผลผลติ พระองคท์ รงหยดุ นิ่งและรับสงั่ วา่ “แต่เขาไม่เชอ่ื ใชไ่ หม”

๙๔ พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปน่ิ สยาม เมอื่ กลา่ วถงึ สมนุ ไพร ทำใหข้ ้าพเจ้านกึ ถึงพระบาท เปดิ งานดอยคำทโ่ี รงแรมดเิ อม็ เพรส จงั หวดั เชยี งใหม่ พรอ้ ม สมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว ทม่ี ีรับสงั่ ใหข้ ้าพเจา้ ลองนำน้ำมันจาก ด้วยพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ข้าพเจ้าได้มีโอกาส รากหญา้ แฝก (vetiver oil) ไปใชก้ ำจดั ปลวก เพราะพระองค์ กราบบังคมทูลรายงาน และหลังจากน้ันไม่นาน ได้เสด็จ ทรงอ่านข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ ทรงทราบวา่ น้ำมันดังกลา่ ว พระราชดำเนนิ ทรงเยย่ี มศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหนองหอย สามารถฆ่าปลวกได้ จะได้ไม่ต้องใช้ยากำจัดปลวกท่ีมีพิษ ข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสกราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับการ รา้ ยแรง สำหรบั เรอื่ งนี้ ขา้ พเจา้ ไดท้ ดลองโดยใชก้ ลอ่ งพลาสตกิ อารกั ขาพชื อกี ครงั้ นอกจากนี้ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ และจานแกว้ สำหรับหยดนำ้ มันแฝกลงไป และได้นำปลวกที่ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมสถานี หาได้จากบริเวณสวนและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาทดสอบ เกษตรหลวงปางดะ ขา้ พเจา้ ไดเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท พบวา่ ปลวกตายจริงๆ เม่ือข้าพเจ้าสืบค้นขอ้ มูล พบวา่ ปลวก รับเสด็จพระราชดำเนนิ ๒ ครัง้ มีมากมายหลายชนิด ข้าพเจ้าไม่มีเวลาพอจะทำการศึกษา มลู นธิ โิ ครงการหลวงมงุ่ เนน้ ใหเ้ กษตรกรสรา้ งผลผลติ ต่อมาทราบว่าพระองค์รับส่ังกับข้าราชการในหน่วยงานอ่ืนๆ ที่มคี ุณภาพสงู โดยใชค้ ำขวัญ “สด สะอาด และปลอดภัย อีก ๓ แห่ง และได้มีการจัดประชุมเพื่อวางแผนการวิจัย จากสารพษิ ” นอกจากควบคมุ ดแู ลดา้ นศตั รพู ชื ในแปลงปลกู ในการประชมุ นน้ั ขา้ พเจา้ ไดพ้ บผทู้ จ่ี บปรญิ ญาเอกทางปลวก ศูนย์อารักขาพืชยังดูแลเรื่องการใช้สารเคมีของเกษตรกร เขา้ รว่ มดว้ ย ขา้ พเจา้ จงึ หนั ความสนใจมาศกึ ษาดา้ นประสทิ ธภิ าพ และดแู ลเรอื่ งสารพษิ ตกคา้ ง ทางศนู ยอ์ ารกั ขาพชื เปน็ ผดู้ แู ล ของสารสกดั จากหญา้ แฝกทม่ี ตี อ่ โรคพชื แทน (ตามทขี่ า้ พเจา้ เจ้าหน้าท่ีวิเคราะห์สารตกค้างที่ประจำบนดอย (ตามศูนย์ ถนดั ) โดยใหน้ ักศึกษาปรญิ ญาโทคนหนึง่ ทำวจิ ัย เพือ่ ใช้เปน็ พฒั นาโครงการหลวงตา่ งๆ รวม ๓๖ ศูนย์) ศนู ยล์ ะ ๑ คน วิทยานพิ นธร์ ะดบั ปรญิ ญาโท ดว้ ยพระราชกระแสรบั สัง่ จาก ฝึกอบรมเจ้าหน้าท่ีส่งเสริมให้เป็นหมอพืชประจำศูนย์ๆ ละ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ครง้ั นน้ั ทำใหข้ า้ พเจา้ ไดค้ น้ พบวา่ ๑ คน เพอ่ื รบั ผิดชอบและประสานงานดา้ นอารกั ขาพืชและ ปลวกไม่ชอบหญ้าแฝก หากเอาใบหญ้าแฝกไปกองไว้ท่ีใด ควบคมุ การใชส้ ารเคมี การตรวจสารตกคา้ งในผลผลติ จะทำ ปลวกจะไม่มีตรงนั้น และทำให้ทราบว่า สารสกัดจากราก ๓ คร้งั คอื ส่มุ ตรวจ ๑ ครั้ง กอ่ นเก็บเกี่ยวจากแปลงปลูก หญ้าแฝกสามารถป้องกนั โรคพชื ทเี่ กิดจากเชื้อราได้ ขา้ พเจ้า ๑–๒ วัน สุ่มตรวจทอี่ าคารคัดบรรจบุ นดอย ๑ ครงั้ และ จงึ ใชค้ วามรนู้ แ้ี นะนำใหเ้ กษตรกรปลกู หญา้ แฝกเปน็ แนวกน้ั นำ้ เม่ือผักผลไม้สง่ มาถงึ อาคารคดั บรรจุส่วนกลาง จะมีการสมุ่ มใิ หด้ นิ ถกู ชะลา้ ง และใชใ้ บหญา้ แฝกเปน็ วสั ดคุ ลมุ ดนิ ซงึ่ ไมผ่ ุ ตรวจจากลงั บรรจอุ กี ครงั้ โดยการสมุ่ ตรวจจะใชว้ ธิ กี ารตรวจสอบ ไม่เน่าง่ายเหมือนกับท่ีใช้ฟางข้าว เหมาะสำหรับแปลงปลูก แบบรวดเรว็ (rapid test) โดยใช้ GT Pesticide Test Kit สตรอเบอรร์ ด่ี ว้ ย เพราะสามารถนำไปใชแ้ ทนใบตองตงึ ทปี่ ลวก ซ่ึงผลิตโดยกองอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ห้อง ชอบทำลาย นอกจากปลวกไมช่ อบหญา้ แฝกแลว้ ไสเ้ ดอื นฝอย ปฏบิ ตั กิ ารของศนู ยอ์ ารกั ขาพชื ไดร้ บั การรบั รองทง้ั ประสทิ ธภิ าพ ศตั รพู ืช (พยาธิต้นไม้) ก็ไม่ชอบหญ้าแฝก ซงึ่ มีรายงานใน และความสามารถ ได้รับประกาศนียบัตรเป็นรุ่นแรกของ ตา่ งประเทศวา่ สวนผลไมท้ มี่ ไี สเ้ ดอื นฝอยรบกวน เขาจะปลกู ประเทศไทย สำหรบั การใช้ Test Kit ดงั กลา่ ว ศนู ยอ์ ารกั ขาพชื หญา้ แฝกไวร้ อบๆ สวน นอกจากน้ี ยงั มรี ายงานถงึ สรรพคณุ ยังได้ดัดแปลงวิธีการตรวจสอบให้ละเอียดย่ิงข้ึน ทำให้เกิด ของสารสกัดจากหญ้าแฝกในการรักษาโรคผิวหนังในมนุษย์ ความปลอดภยั มากขนึ้ การตรวจสอบโดยวธิ มี าตรฐานโดยใช้ อีกดว้ ย GC (Gas Chromatograph) และ HPLC (High Performance ดว้ ยความสนพระราชหฤทยั ในดา้ นการเกษตร พระองค์ Liquid Chromatograph) นน้ั จะทำเมอื่ ตรวจพบสารตกคา้ ง จงึ ทรงศกึ ษา และทรงใหค้ ำแนะนำแกเ่ จา้ หนา้ ทโ่ี ครงการหลวง ในผลผลิตในระดับหนึ่ง แม้จะอยู่ในระดับปลอดภัยก็ตาม บางครง้ั พระองคร์ บั สงั่ ผา่ นทา่ นภี ในระยะหลงั นี้ แมพ้ ระองค์ การสมุ่ ตรวจแบบมาตรฐานจะมอี ยา่ งสมำ่ เสมอ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารนี้ ไมส่ ามารถเสดจ็ พระราชดำเนนิ ขน้ึ มาเยยี่ มเกษตรกรได้ กย็ งั มี เป็นท้ังแหล่งเรียนรู้ของนักศึกษา ซึ่งผู้สอนติดต่อขอดูงาน สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถเสดจ็ พระราชดำเนนิ เป็นแหล่งฝึกงาน และเป็นแหล่งทำวิทยานิพนธ์ แทนพระองค์ ทรงเยยี่ มเยยี นเกษตรกรในพนื้ ทโี่ ครงการหลวง สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณว์ ลยั ลกั ษณ-์ เปน็ ประจำ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎราชกมุ าร อคั รราชกมุ ารี เคยเสดจ็ พระดำเนนิ มาทรงเยย่ี มศนู ยอ์ ารกั ขาพชื กเ็ คยเสดจ็ พระราชดำเนนิ มาทรงเยย่ี มเยยี น และทรงตดิ ตาม เมอ่ื พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๘ ทรงพระเมตตาเชญิ ชวนใหข้ า้ พเจา้ ไป งานของโครงการหลวง ครั้งหนงึ่ เสด็จพระราชดำเนินไปทรง ดงู าน ท่สี ถาบนั วิจัยจฬุ าภรณ์ ว่า

พระบารมอี งคภ์ มู ินทร์ ปิน่ สยาม ๙๕ “อยากจะสนบั สนนุ งานของโครงการหลวง สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน เทา่ ทจ่ี ะทำได้ เนื่องจากเปน็ งานหนงึ่ ของเสด็จพอ่ ” พร้อมดว้ ยพระองคเ์ จ้าศรีรัศม์ิ พระวรชายาฯ ผลงานของมลู นธิ โิ ครงการหลวง นอกจากจะชว่ ยเหลอื ณ โรงแรมดิเอม็ เพรส เปดิ งานดอยคำ จงั หวัดเชยี งใหม่ ประชาชนบนพนื้ ท่สี งู ให้มคี วามเป็นอยูท่ ดี่ ขี ึ้น มีการศึกษาที่ ผูเ้ ขียนถวายรายงานเก่ียวกับ ดขี นึ้ แลว้ ยงั ชว่ ยใหเ้ กดิ ผลดแี กป่ ระชาชนชาวไทยทว่ั ประเทศ ในเรื่องการได้บริโภคผลผลิตท่ีเป็นพืชเมืองหนาว ซ่ึงสด การใช้วธิ ีการควบคมุ แมลงศัตรูพชื ทางชีวภาพ สะอาดและปลอดภัย ท้ังนี้เพราะการควบคุมคุณภาพจะทำ อย่างเป็นระบบ คือการป้องกันกำจัดศัตรูพืชและการใช้ สารเคมี ควบคุมโดยศูนย์อารักขาพืช ส่วนมาตรฐานของ ผลผลติ ตามความตอ้ งการของตลาด ควบคมุ โดยงานคดั บรรจุ สมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจา้ ฟ้าจุฬาภรณวลัยลกั ษณ์ อคั รราชกุมารี ศูนย์อารักขาพืชได้วางระบบการทำงาน โดยจัดฝึกอบรม เสดจ็ พระดำเนินมาทรงเย่ียมศนู ย์อารักขาพืช พุทธศักราช ๒๕๓๘ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมที่ประจำตามศูนย์/สถานีของมูลนิธิ โครงการหลวง ๓๘ แห่ง ให้มีความรู้เรื่องการอารักขาพืช ผ้เู ขยี นถวายรายงานเก่ยี วกับงานวเิ คราะห ์ ที่ถูกต้อง โดยใช้หลักการควบคุมศัตรูพืชแบบผสมผสาน สารตกคา้ งของมลู นิธโิ ครงการหลวง เพอื่ ใหเ้ ปน็ พน้ื ฐานของการเกษตรดที เ่ี หมาะสมอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และไดค้ ดั เลอื กเจา้ หนา้ ทส่ี ง่ เสรมิ ในแตล่ ะศนู ยเ์ พอ่ื ฝกึ อบรม เป็น “หมอพชื ” ซึง่ ทุกศูนย/์ สถานจี ะต้องมหี มอพชื ประจำ ๑ คน (ในลักษณะเดยี วกบั แพทย์ประจำตำบล) หมอพืช จะตอ้ งถกู วดั ผลความรทู้ กุ ๆ ๓ เดอื นโดยการสอบ หากหมอพชื คนใดไดค้ ะแนนนอ้ ย จะตอ้ งเขา้ ฝกึ ทบทวนเขม้ ขน้ นอกจากนี้ ศูนย์อารักขาพืชยังฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้ทำหน้าท่ีตรวจสาร ตกค้างในผลผลิตประจำตามศูนย์ท่ีผลิตผักและผลไม้เป็น ปรมิ าณมาก ศนู ย์ละ ๑ คน รวมทง้ั สนิ้ ๒๘ ศนู ย/์ สถานี สำหรบั ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงอนื่ ๆ ทยี่ งั เปน็ ศนู ยข์ นาดเลก็ ผลติ ไดน้ อ้ ย กจ็ ะอาศยั ศนู ยใ์ กลเ้ คยี งชว่ ยตรวจสารให้ เจา้ หนา้ ที่ วเิ คราะหส์ ารจะตอ้ งรบั การทดสอบความแมน่ ยำทกุ ๆ ๓ เดอื น เชน่ กนั โดยการปฏิบตั ิ มิใชส่ อบขอ้ เขยี น ขา้ พเจา้ ถอื ว่างาน วิเคราะห์สารตกค้างเปน็ เรือ่ งสุดท้าย ถงึ แมว้ ่าความจำเป็น และความสำคญั จะมมี ากกต็ าม แตง่ านทต่ี อ้ งทมุ่ เทเปน็ พเิ ศษ คอื งานควบคมุ การใชส้ ารเคมกี ำจดั ศตั รพู ชื อยา่ งถกู ตอ้ งและ ปลอดภยั เปน็ งานทถี่ อื วา่ สำคญั ทส่ี ดุ ขา้ พเจา้ ไดก้ ำหนดใหป้ ี ๒๕๕๐ ซงึ่ เปน็ ปมี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษาพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ครบ ๘๐ พรรษา ใหเ้ ปน็ ปที ล่ี ดการใชส้ ารเคมี ภายในพ้นื ทโ่ี ครงการหลวงลงรอ้ ยละ ๕๐ โดยรณรงค์ใหใ้ ช้ ชวี ภัณฑส์ ารจากธรรมชาติ น้ำหมักสมนุ ไพร ตัวห้ำ ตวั เบียน และวิธีการอื่นๆ ข้าพเจ้าได้จัดทำหนังสือคู่มือในการจัดการ ศัตรูพืชผักให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมและหนังสือคู่มือสำหรับ เกษตรกร จากความรู้ท่ีได้จากผลงานวิจัย และท่ีได้จัดทำ แปลงสาธติ และแปลงปฏบิ ตั กิ ารระหวา่ งการฝกึ อบรม ซง่ึ เปน็

๙๖ พระบารมอี งคภ์ มู นิ ทร์ ปิน่ สยาม หนังสือท่ีอ่านเข้าใจง่าย ศูนย์อารักขาพืชได้ส่งหนังสือนี้ให้ ผ้เู ขียนไดร้ บั พระราชทานเหรยี ญรัตนาภรณ์ หอ้ งสมดุ ของมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ ทมี่ กี ารเรยี นการสอนทางการ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เกษตรทว่ั ประเทศดว้ ย นอกจากน้ี ศนู ยอ์ ารกั ขาพชื ยงั ไดผ้ ลติ ชีวภัณฑ์และน้ำหมักสมุนไพรจำหน่ายให้เกษตรกรในราคา ตน้ ทนุ ซง่ึ ชว่ ยกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การยอมรบั มากขนึ้ เพราะสงั่ ซอ้ื การปฏิบตั กิ ารในท้องท่หี ่างไกล ได้งา่ ย ราคาถกู และไดผ้ ลดี อาจกล่าวได้ว่า มลู นิธิโครงการหลวง ซึ่งเปน็ งานที่ บางคร้งั ตอ้ งเดินทางดว้ ยเครื่องบนิ เฮลคิ อปเตอร ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่ม และพระราชทาน พระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองคใ์ นการดำเนนิ การในระยะแรกๆ นน้ั กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนน์ านปั การตอ่ ปวงชนชาวไทยและชาวโลก ด้วยโครงการหลวงของพระองค์ท่าน เป็นแหล่งความรู้และ เทคโนโลยีทางด้านการเกษตรทุกสาขา มีผู้นำเทคโนโลยี ซงึ่ รเิ รมิ่ โดยโครงการหลวงไปใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลาย เปน็ แหลง่ ให้ นกั ศกึ ษาจากสถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ ทั้งในประเทศและต่าง ประเทศไดเ้ ขา้ มาฝกึ งาน ศกึ ษาดงู าน และทำวจิ ยั เปน็ แหลง่ ทนี่ ักวิชาการทางดา้ นเกษตร การตลาด และสังคม ไดเ้ ขา้ มา ศึกษาหาความรู้ นำความรู้ที่ได้ไปใช้สอน และพัฒนางาน โครงการหลวงจึงเป็นศูนย์รวมของผู้ที่ต้ังใจทำงานถวายแด่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ตามปณธิ านของโครงการหลวง ทตี่ ้ังไว้คอื “ชว่ ยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก” คงไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ ทำไมขา้ พเจา้ จงึ ทมุ่ เทกายใจ ให้กบั งานโครงการหลวง มบี อ่ ยครงั้ ทข่ี า้ พเจ้าทอ้ ใจ เพราะ งานอารกั ขาพืชเป็นงานทร่ี บั ผดิ มากกวา่ รับชอบ การทำงาน กบั เจา้ หนา้ ทสี่ ง่ เสรมิ จำนวนมาก กบั เกษตรกรหลายชาตพิ นั ธ์ุ ในพืน้ ทีท่ ่ไี ปยากลำบาก การควบคมุ สารเคมที ำได้ยาก ต้อง พฒั นากลยทุ ธไ์ ปเรอื่ ยๆ แตเ่ มอ่ื คดิ ดอู กี ที เหน็ วา่ ตนเองโชคดี ทมี่ โี อกาสรบั ใชพ้ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รบั ใชป้ ระเทศชาติ ความเขม้ แขง็ และความมงุ่ มน่ั กก็ ลบั คนื มา เพราะการทำงาน แบบปดิ ทองหลงั พระนี้ แมใ้ ครจะไมเ่ หน็ ขา้ พเจา้ เองเปน็ ผเู้ หน็ และเมอ่ื ถงึ เวลาจะตาย กจ็ ะมคี วามสขุ ดว้ ยนกึ ถงึ สงิ่ ดๆี ทตี่ น ได้ทำไว ้

พระบารมีองคภ์ มู ินทร์ ปนิ่ สยาม ๙๗ ตามรอยพระยคุ ลบาท… สรา้ งงาน สร้างคน ดร.สรุ ินทร์ นิลสำราญจิต* ประมาณพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๓ เมอ่ื ครง้ั ทข่ี า้ พเจา้ ยงั เปน็ พบปะกบั ชาวบ้านในแถบนนั้ มักจะเห็นภาพถ่ายทพ่ี ระองค์ นสิ ิตในมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ และเร่ิมท่ีจะต้องทำงาน เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเย่ียมถึงในบ้านของพวกเขา วิจัยเป็นคร้ังแรก ในครั้งน้ัน ข้าพเจ้าเดินทางไปยังฟาร์ม แขวนไวท้ ผี่ นงั หอ้ ง ซงึ่ ประชาชนตา่ งมคี วามซาบซง้ึ ในพระมหา ส่วนพระองคท์ ่หี าดทรายใหญ่ บ้านเขาเตา่ ตำบลหนองแก กรณุ าธิคณุ เปน็ อยา่ งยิ่ง และชาวบ้านจะนำมาใหข้ ้าพเจา้ ได้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ เป็นสถานที่ท่ขี า้ พเจา้ ชนื่ ชมดว้ ย ทำใหข้ า้ พเจา้ ไดเ้ หน็ วา่ พระองคท์ รงเขา้ ถงึ ประชาชน ไดร้ บั คำแนะนำจากอาจารยข์ องขา้ พเจา้ ใหไ้ ปสำรวจการผลติ และทรงซักถามถึงปัญหาของพวกเขา ตามที่ข้าพเจ้าได้เห็น ทบั ทมิ ทมี่ กี ารปลกู กนั มากทหี่ วั หนิ ขา้ พเจา้ ไดร้ บั รจู้ ากชาวบา้ น ปรากฏตามสอื่ สาธารณะมาถงึ ทกุ วนั น้ี เมอื่ ขา้ พเจา้ เขา้ ศกึ ษา มาว่า เป็นผลไม้ท่ีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในระดับปรญิ ญาโท พุทธศกั ราช ๒๕๒๕ ข้าพเจา้ ได้มีโอกาส ทรงโปรด และทรงขอให้ชาวบ้านรักษาเปน็ อาชพี ไว้ ขา้ พเจา้ เข้ามาทำงานวิจัยในโครงการหลวงท่ีจังหวัดเชียงใหม่ และ ได้มีโอกาสเข้าไปได้รู้จักกับโครงการในพระราชดำริของ ได้ศึกษาวิธีการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั แมเ้ ปน็ ชว่ งเวลาสนั้ ๆ ทข่ี า้ พเจา้ อย่างใกล้ชิดอีกคร้ังหน่ึง ในระยะนั้น ข้าพเจ้าได้ติดตาม เดนิ ทางไปทำงานวจิ ยั และไดเ้ ขา้ พกั คา้ งในฟารม์ สว่ นพระองค์ อาจารยไ์ ปยงั สถานทต่ี า่ งๆ ทพี่ ระองคไ์ ดเ้ สดจ็ พระราชดำเนนิ สถานทแ่ี หง่ นน้ั เปน็ พน้ื ทไ่ี มก่ วา้ งนกั อยตู่ ดิ ทะเล มแี ปลงทดลอง มาและมพี ระราชดำรใิ หพ้ ฒั นาพนื้ ทน่ี น้ั เพอ่ื ชว่ ยเหลอื สง่ เสรมิ ปลกู มะมว่ งหมิ พานตแ์ ละอา่ งเกบ็ นำ้ ทพ่ี ระองคไ์ ดท้ รงรเิ รมิ่ งาน อาชีพให้กับเกษตรกรบนท่ีสูง สถานท่ีท่ีโปรดให้จัดต้ังศูนย์ ดา้ นชลประทานไว้ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ชาวบา้ นทม่ี อี าชพี เกษตรกรรม เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ดแู ลสง่ เสรมิ อาชพี นน้ั มกั เปน็ ทห่ี า่ งไกล ถนน ในแถบนน้ั ไดช้ ว่ ยแกป้ ญั หาเรอื่ งนำ้ ในทอ้ งถนิ่ และยงั สามารถ หนทางยงั ไมส่ ะดวกสบาย เปน็ ดนิ ลกู รงั บา้ ง เปน็ ทางดนิ บา้ ง ใชเ้ ปน็ แหลง่ เลยี้ งปลาของชาวบา้ น ซง่ึ เปน็ การสรา้ งอาชพี ใหม่ พระองคไ์ ดท้ รงบกุ เบกิ เขา้ มาถงึ แลว้ และไดท้ รงเขา้ มาชว่ ยเหลอื ใหช้ าวบ้านได้อกี ดว้ ย ประชาชนในพน้ื ทเี่ หลา่ นนั้ เปน็ บญุ ของปวงพสกนกิ รทมี่ พี อ่ หลวง ในฟาร์มสว่ นพระองค์แหง่ นัน้ ยงั มกี ารทดลองปลกู ทท่ี รงห่วงใยประชาชนในแผ่นดนิ นี้ จะเหน็ ได้ตอ่ มาวา่ เมอื่ พืชอ่ืนๆ เป็นตัวอย่างสำหรับการประกอบอาชีพในสภาพ พระองค์เสดจ็ พระราชดำเนนิ มาถงึ สถานทใ่ี ด การพฒั นาจะ ภูมิประเทศน้ันๆ ให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งนับเป็นต้นแบบของ ติดตามมาพร้อมกับความเจริญและคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึนของ โครงการต่างๆ ที่ช่วยเหลือประชาชนในชนบทอย่างแท้จริง ประชาชนดว้ ยเสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม งานวิจยั ทขี่ ้าพเจ้าศึกษาคน้ คว้า เปน็ ไม้ผลนำเข้ามา ให้มีการศึกษาวิจัยก่อนการนำไปให้ชาวบ้านได้ใช้จริง เมื่อ จากตา่ งประเทศทมี่ โี อกาสพฒั นาสกู่ ารคา้ ได้ เชน่ มะเดอื่ ฝรงั่ ข้าพเจ้าได้ออกสำรวจเก็บข้อมูลงานวิจัย และเข้าไปทำงาน ทับทิมเมล็ดน่มิ ที่ปลูกได้ผลดีบนทีส่ งู ผลมีสีสวย รสชาติดี * ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควชิ าพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่

๙๘ พระบารมอี งคภ์ ูมินทร์ ป่นิ สยาม คุณภาพสูง ไม่มีปญั หาการแข่งขนั การตลาด เหมาะท่ีจะยดึ ทำให้ได้ผลิตผลท่ีมีคุณภาพดีกว่าการปลูกในท่ีราบ ดังนั้น เป็นอาชีพ หรือเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรนอกเหนือจาก จึงสมควรส่งเสริมให้เป็นอาชีพแก่เกษตรกรชาวเขาต่อไป ผลผลิตอนื่ ๆ ที่มอี ยู่แล้ว เชน่ พีช พลมั บว๊ ย สตรอเบอรร์ ่ี จะเห็นได้ว่า โครงการของพระองค์อยู่บนแนวคิดท่ีต้องมี เปน็ ตน้ การศกึ ษาวจิ ยั หาพนั ธพุ์ ชื ใหมท่ เ่ี หมาะสมกบั พน้ื ทสี่ งู การทดลองศึกษาวิจัยก่อนนำไปให้ชาวบ้าน จนถึงทุกวันนี้ ตามแนวพระราชดำริน้ี มาจากการที่พระองค์ทรงเห็นว่า ผลผลติ จากการวจิ ยั ในโครงการหลวงไดส้ รา้ งอาชพี กอ่ ใหเ้ กดิ การปลูกไม้ยืนต้นสามารถช่วยทำให้เกษตรกรชาวเขามี รายได้แก่ประชาชนในพื้นท่ีท่ีทรงให้จัดทำโครงการข้ึนมา ความรู้สึกหวงแหนในพื้นที่ทำกิน และยังเป็นการอนุรักษ์ ข้าพเจา้ โชคดที ่ไี ด้มโี อกาสเดนิ ทางไปในสถานที่เหลา่ นน้ั ได้ ทรัพยากรธรรมชาติ ต้นน้ำลำธารอีกด้วย ทั้งน้ี เนื่องจาก เห็นความมงุ่ มัน่ ของเจา้ หน้าท่ีอาสาสมคั ร ได้เห็นคุณค่าของ การบุกเบิกพื้นท่ีเพื่อทำกินอย่างขาดการดูแลน้ัน ถือว่าเป็น โครงการพระราชดำริ นบั เปน็ ประสบการณอ์ นั มคี า่ ทขี่ า้ พเจา้ การทำลายตน้ นำ้ ลำธาร ซง่ึ สง่ ผลกระทบถงึ ประชาชนจำนวนมาก ไดน้ ำมาประกอบใช้ในอาชีพการงานปจั จบุ นั ท่ตี อ้ งใชท้ รัพยากรนำ้ ด้วยเชน่ กนั นกั ศึกษาทมี่ าทำงานวจิ ยั บนท่ีสูงมีหลายสาขา การ ดงั นนั้ การวจิ ยั ของโครงการหลวงจงึ มกี ารศกึ ษาคน้ ควา้ ท่ีพวกเราได้เข้าไปทำงานในสถานีวิจัยของโครงการหลวง พชื ชนดิ ตา่ งๆ ไวเ้ ปน็ ขอ้ มลู เพอื่ นำมาใชใ้ นงานสง่ เสรมิ อาชพี ทำใหไ้ ดร้ จู้ กั กนั แลกเปลย่ี นความรปู้ ระสบการณซ์ งึ่ กนั และกนั ที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรท่ีมีความแตกต่างกันในด้าน ในตอนนน้ั โครงการหลวงยงั เปน็ งานทไ่ี มใ่ หญม่ ากนกั นกั วจิ ยั ความพร้อมในการรับเทคโนโลยี การปลูกพืชเมืองหนาว กลมุ่ ต่างๆ ตอ้ งรว่ มเดนิ ทางไปในรถยนต์คันเดยี วกนั ทำให้ ท่ีมีการเจริญเติบโตได้ดีจึงเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงให้ความ พวกเราไดร้ จู้ กั กนั และเกดิ เปน็ เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ในเวลา สนพระราชหฤทัย โดยหาพันธุ์พืชใหม่ทดแทนการปลูกฝิ่น ตอ่ มา นักศกึ ษาหลายคนได้เข้าทำงานในหน่วยงานราชการ ซ่ึงจะต้องเป็นพืชที่มีศักยภาพในการปลูกเล้ียง สามารถให้ และสถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ เพราะไดป้ ระสบการณ์ ไดค้ วามรู้ ผลผลติ ดี ทง้ั นี้ เนอ่ื งจากสภาพภมู อิ ากาศบนทส่ี งู มอี ากาศเยน็ จากโครงการหลวง สำหรับข้าพเจ้าเองก็เช่นกัน ภายหลัง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook