คู่มือปฏิบัติงานวารสาร

117 9. สามารถแก้ไขข้อความในอีเมล์เพ่ือแจ้งผ้แู ตง่ (Author) ได้ ถ้าต้องการแนบข้อความจากแบบประเมินที่ผ้ปู ระเมินบทความ (Reviewer) ได้ทาใน ระบบให้กับผู้แต่ง (Author) ให้คลิกที่ป่ มุ +Add Reviews to Email โดยข้อความนัน้ จะแสดงใน เนือ้ หาอีเมล์ ถ้าต้องการส่งไฟล์ของผู้ประเมินบทความ (Reviewer) ท่ีส่งเข้าสู่ระบบให้กับผู้แต่ง (Author) ให้ คลกิ เคร่ืองหมายถกู (≥) ท่ีหน้าไฟล์นนั้ ๆ ) 10. คลิกท่ีป่มุ Record Editorial Decision 11. จากนนั้ รอการแก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะจากผ้แู ตง่ (Author) โดยสถานะของ บทความ จะแสดงเป็น “Revisions have been requested.” ข้อความในอีเมล์เพ่ือแจ้งผู้แต่ง (Author)

118 ผ้แู ตง่ (Author) สง่ บทความท่ีแก้ไขตามข้อเสนอและกลบั มา กรณีที่ 1 ให้ผ้แู ตง่ แก้ไขอีกรอบ ภาพ 15 แสดงวีดทิ ศั น์ผู้แต่ง (Author) ส่งบทความท่ีแก้ไขตามข้อเสนอและกลับมา : กรณีท่ี 1 ให้ผู้แต่งแก้ไขอีกรอบ จากภาพ 15 สามารถอธิบายได้ดงั นี ้ 1. หลงั จากผ้แู ตง่ (Author) แก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะและอพั โหลดไฟล์เข้าส่รู ะบบ เรียบร้อยแล้ว จะได้รับอีเมล์แจ้งจากระบบ คลกิ ที่ลงิ ก์ URL 2. จากนนั้ จะเข้าสเู่ วบ็ ไซต์ของวารสาร และ Log in เข้าสรู่ ะบบ

119 3. ผ้แู ตง่ สามารถเข้าสบู่ ทความได้ 2 วิธี คือ วิธีท่ี 1 เมนู Tasks จะแสดงตวั เลขขนึ ้ มา คลิกท่ีเมนู Tasks เพ่ือตรวจสอบสถานะของ บทความ จากนนั้ คลิกท่ีลงิ ก์ “A revised file has been uploaded for your editorial consideration in Review. ” วิธีที่ 2 หวั ข้อ My Assigned ให้คลิกที่ลิงก์ Review ท้ายช่ือบทความ 4. เข้าสหู่ น้า Review โดยมีรายละเอียดดงั นี ้ หวั ข้อ Status สถานะของบทความ คื อ Revisions have been requested. หวั ข้อ Notification แจ้งความเคล่ือนไหวของบทความ คือ “A revised file has been uploaded for your editorial consideration in Review. ” หวั ข้อ Review Files ไฟล์ท่ีสง่ ให้ผ้ปู ระเมนิ บทความ (Reviewer) หวั ข้อ Reviewers ผ้ปู ระเมนิ บทความ (Reviewer) หัวข้อ Revisions ไฟล์ที่ส่งให้ผู้แต่ง (Author) แก้ไข และไฟล์ท่ีผู้แต่ง (Author) ส่ง บทความตามข้อเสนอแนะกลบั มา

120 หวั ข้อ Review Discussions : ข้อความที่ส่งระหว่างบรรณาธิการ (Editor) หรือกอง บรรณาธิการ (Section editor) กบั ผ้แู ตง่ (Author) 5. ตรวจสอบบทความท่ีผ้แู ตง่ (Author) แก้ไขตามข้อเสนอแนะ กรณีท่ี 1 ให้ผ้แู ตง่ แก้ไขอีกรอบ กรณีท่ี 2 สง่ ให้ผ้ปู ระเมนิ บทความ (Reviewer) ประเมนิ อีกรอบ กรณีที่ 3 ปฏิเสธการตพี มิ พ์บทความ กรณีที่ 4 รับตพี มิ พ์บทความ

121 6. คลิกดาวน์โหลดไฟล์ที่ผ้แู ตง่ (Author) แก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะมาพิจารณา 7. กรณีท่ี 1 ให้ผู้แต่งแก้ไขอีกรอบ โดย คลิก Uplod File และทาตามขัน้ ตอนท่ีกล่าว มาแล้วข้างต้น ไฟล์ที่ผ้แู ตง่ ได้แก้ไขดงั ภาพด้านลา่ ง

122 กรณีที่ 2 สง่ ให้ผ้ปู ระเมินบทความ (Reviewer) ประเมนิ อีกรอบ ภาพ 16 แสดงวีดทิ ศั น์ผู้แต่ง (Author) ส่งบทความท่ีแก้ไขตามข้อเสนอและกลับมา: กรณีท่ี 2 ส่งให้ผู้ประเมนิ บทความ (Reviewer) ประเมินอีกรอบ ภาพ 16 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ดงั นี ้ 1. เข้าสวู่ ารสารท่ีต้องการสง่ บทความ จากนนั้ Log in ในตาแหนง่ บรรณาธิการ (Journal Manager) 2. เลือกบทความที่จะทาการสง่ ให้กบั ผ้ปู ระเมิน รอบ 2

123 3. คลิกที่ลงิ ก์ New Review Round 4. เลือกไฟล์บทความผ้แู ตง่ (Author) เพื่อเข้าส่กู ระบวนการ Review รอบ 2 และคลิกที่ ป่มุ Create New Review Round 5. เข้าสขู่ นั้ ตอนการ Review รอบ 2 ซ่งึ บทความที่ผ้แู ตง่ (Author) แก้ไขตามข้อเสนอแนะ อาจมีช่ือและสงั กดั ของผ้แู ต่ง (Author) ติดอยใู่ นไฟล์นนั้ ด้วย ให้ทาตามขนั้ ตอนที่กลา่ วงมาแล้วใน ข้างต้นในหวั ข้อการพิจารณาบทความ เพ่ือเพม่ิ ผ้ปู ระเมนิ บทความในการพจิ ารณาบทความตอ่ ไป

124 4.2.6 การนาวารสารฉบับเก่าเข้าสู่ระบบโดยวธิ ีการ Quick Submit ภาพ 17 แสดงวีดทิ ศั น์การนาวารสารฉบับเก่าเข้าสู่ระบบโดย วิธีการ Quick Submit จากภาพ 17 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ดงั นี ้ 1. Log in ในตาแหนง่ Journal manager หรือ ตาแหนง่ Journal editor 2. Tools >> คลิกท่ีเมนู Import/Export

125 3. คลกิ ท่ีลงิ ก์ QuickSubmit Plugin 4. กรอกรายละเอียดข้อมลู บทความให้ครบถ้วน 4.1 เลือกภาษาท่ีใช้เขียนบทความ 4.2 เลือกประเภทของบทความ (Section) 4.3 กรอกช่ือบทความ ตามภาษาของบทความ 4.3 กรอกบทคดั ยอ่ ทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4.4 กรอกคาสาคญั (Keywords) โดยการใส่ทีละคา จากกนัน้ คลิก Enter เพ่ือใส่ คาถดั ไป (ถ้าบทความนนั้ เป็นภาษาไทยให้ใสท่ งั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ) 4.5 กรอกผ้แู ตง่ โดย คลิกที่ลงิ ก์ Add Contributor เพื่อกรอกข้อมลู ผ้แู ตง่ ดงั นี ้ First name: ช่ือ

126 Last name: นามสกลุ Email: อีเมล์ Country: ประเทศ Affiliation: สถาบนั หรือหนว่ ยงานท่ีสงั กดั

127 4.6 ให้คลิกเลือก  ที่ตาแหน่ง Author กรณีเป็นผู้แต่งหลักให้คลิกเลือก ท่ี Principal contact for editorial correspondence. ถ้าไม่ใช่ ผู้แต่งหลกั ไม่ต้องคลิกเลือกให้ไปยัง ขนั้ ตอนถดั ไป และคลกิ ป่มุ Save 4.7 หลงั จากนนั้ ให้คลกิ Add galley เพื่อ Upload ไฟล์ PDF แล้วคลิก Save 4.8 พิมพ์ คาวา่ “PDF” ที่หวั ข้อ Galley Lable และ คลิกป่มุ Save

128 4.9 หวั ข้อ Article Component เลือก Article Text 4.10คลกิ ที่ป่มุ Upload File เพื่ออพั โหลดไฟล์ PDF ของบทความ 4.11ไฟล์ PDF ของบทความท่ีอัพโหลดแล้วจะได้ดังภาพด้านล่าง และคลิกท่ีป่ ุม Continue ถ้าต้องการแก้ไขไฟล์ ให้คลิกที่ป่มุ Change File 4.12คลิกที่ป่มุ Continue ถ้าต้องการแก้ไขชื่อไฟล์ในระบบ ให้คลกิ ที่ลิงก์ Edit

129 4.13คลิกป่มุ Continue 4.14คลิกที่ป่มุ Complete 4.15ไฟล์ PDF ของบทความท่ีอัพโหลดเรียบร้ อยแล้ว ถ้ าต้องการแก้ไข ให้คลิกท่ี สญั ลกั ษณ์  4.16เลือกที่ Published 4.17เลือกตวั เลม่ 4.18ใสเ่ ลขหนา้ ของบทความ 4.19เลือกวนั ที่ Published บทความ 4.20คลกิ ป่มุ Save 4.21บทความจะอยู่ในเล่ม กรกฎาคม - ธันวาคม 2561 (July - December 2018) เรียบร้ อยแล้ ว

130 4.2.7 การจัดการเล่มวารสาร (Issue) การสร้ างเล่ มวารสาร ภาพ 18 แสดงวีดทิ ัศน์การสร้างเล่มวารสาร จากภาพ 18 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ด้งนี ้ 1. Log in ในตาแหนง่ Journal manager หรือ Journal Editor

131 2. Issues >> Future Issues 3. คลิกที่ลิงก์ Create Issue 4. กรอกข้อมลู ของเลม่ วารสาร (ISSUE) และคลิก Save ดงั นี ้ Identification (รายละเอียดของเลม่ วารสาร (ISSUE) *จาเป็นต้องกรอก) - Volume (ปีที่) - Number (ฉบบั ท่ี) - Year (ปี ค.ศ.) - Title (ชว่ งเดอื นการตพี ิมพ์) Description (ถ้ามีคาอธิบาย เลม่ วารสาร (ISSUE) สามารถกรอกได้ในหวั ข้อนี)้ Cover Image (ถ้ามีหน้าปกสามารถ Upload Files ได้ในหวั ข้อนี)้ 5. เลม่ วารสารท่ีสร้างใหมจ่ ะอยใู่ นแถบ Future Issues

132 การออนไลน์เล่มวารสาร ภาพ 19 แสดงวีดทิ ศั น์การออนไลน์เล่มวารสาร จากภาพ 19 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ดงั นี ้ 1. ถ้าต้องการออนไลน์ เลม่ วารสารท่ีอยใู่ นแถบ Future Issues ให้ คลกิ ท่ีสญั ลกั ษณ์  2. คลิกท่ีลงิ ก์ Publish Issue 3. คลกิ ที่ป่มุ OK 4. เลม่ วารสารจาก Future Issues จะย้ายไปอยใู่ นแถบ Back Issues

133 รายละเอียดของเล่มวารสาร ภาพ 20 แสดงวีดทิ ัศน์รายละเอียดของเล่มวารสาร จากภาพ 20 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ดงั นี ้ 1. ถ้าต้องการดู รายละเอียดของเลม่ วารสาร ให้ คลกิ ที่สญั ลกั ษณ์  2. คลกิ ที่ลงิ ก์ Edit 3. จะแสดงแถบรายละเอียดของเลม่ วารสาร ดงั นี ้ Table of Contents >> สารบัญ (แสดงรายชื่อบทความที่อยู่ในเล่มวารสาร) ถ้าต้องการเล่ือนตาแหนง่ บทความ ให้คลกิ ท่ีลิงก์ Order จากภาพมีจานวน 1 บทความ

134 ถ้าต้องการดรู ายละเอียดของบทความ ให้คลิกที่สญั ลกั ษณ์  จากนนั้ คลิกท่ีลิงก์ Submission Issue Data >> ข้อมลู เลม่ วารสาร Issue Galleys >> ไฟล์ PDF วารสารฉบบั เตม็ Identifiers >> URL นอกระบบ ThaiJo เพื่อสง่ ลงิ ก์ไปยงั ไฟล์ PDF วารสารฉบบั เตม็

135 4.2.8 การสร้างแบบประเมินบทความ (Review Form) ภาพ 21 แสดงวีดทิ ศั น์การสร้างแบบประเมนิ บทความ (Review Form) จากภาพ 21 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ดงั นี ้ 1. เข้าสเู่ วบ็ ไซตว์ ารสาร และ Log in เข้าสรู่ ะบบ 2. เมนู Settings >> คลกิ ท่ีเมนู Workflow

136 3. คลกิ ท่ีลิงก์ แถบ Review 4. หวั ข้อ Review Forms โดยคลกิ ที่ลงิ ก์ Create Review Form 5. ตงั้ ช่ือแบบประเมนิ บทความ และคลกิ Save

137 7. คลกิ ที่สญั ลกั ษณ์  8. คลิกที่ลิงก์ Edit รายละเอียดหรือคาอธิบายของแบบประเมินบทความ 9. เข้าสแู่ ถบ Form Items 10. คลกิ ท่ีลงิ ก์ Create New Item

138 11. สร้างข้อคาถาม (ทีละข้อ) 12. สร้างเง่ือนไข และเลือกประเภทของคาตอบ 13. คลกิ ที่ป่มุ Save * ถ้าคลกิ เลอื ก  คอื บงั คบั ให้ผ้ปู ระเมนิ (Reviewer) ตอบข้อนี ้ * ถ้าคลกิ เลอื ก  จะแสดงคาตอบให้กบั ผ้แู ตง่ (Author) ทราบโดยคาตอบจะแสดงในเนอื ้ หาอเี มล์ 14. ตวั อยา่ ง แบบประเมนิ บทความท่ีสร้าง

139 15. เปิดใช้งานแบบประเมนิ บทความ โดยการ คลิกเครื่องหมาย  ที่ชอ่ ง Active 16. คลิกที่ป่มุ OK เพื่อยืนยนั การเปิดใช้งานแบบประเมนิ บทความ 17. แบบประเมินบทความท่ีเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้ว จะแสดงดงั ภาพด้านลา่ งนี ้

140 4.2.9 การสร้างประเภทของบทความ (Section) ภาพ 22 แสดงวีดทิ ัศน์การสร้างประเภทของบทความ (Section) ภาพ 22 สามารถอธิบายขนั้ ตอนได้ดงั นี ้ 1. Log in ในตาแหนง่ Journal manager หรือ Journal editor 2. Settings >> คลกิ ท่ีเมนู Journal

141 3. คลกิ ที่แถบ Section 4. คลกิ ท่ีลงิ ก์ Create Section 5. ตงั้ คา่ ประเภทของบทความ (Section) และคลกิ ท่ีป่มุ Save ดงั นี ้ 5.1 Section title = ช่ือประเภทของบทความ (Section) 5.2 Abbreviation = ช่ือยอ่ ประเภทของบทความ (Section) (ควรเป็นภาษาองั กฤษ*) ถ้ามีข้อกาหนดอ่ืนๆ สามารถตงั้ คา่ ได้ตามภาพด้านลา่ ง ข้อกาหนดตา่ งๆ ของ Section - ไมม่ ีการประเมิน - ไมม่ ีบทคดั ยอ่ - ไมจ่ ดั ทาดชั นี - Section นี ้ สามารถ Submit ได้เฉพาะตาแหน่ง Editors และ Section Editors - ไมแ่ สดงชื่อ Section ในสารบญั - ไมแ่ สดงชื่อผ้แู ตง่ ในสารบญั

142 6. ประเภทของบทความ (Section) ที่สร้างข้างต้นจะได้ตามภาพด้านลา่ งนี ้ 4.3 วิธีการตดิ ตามและประเมินผลการปฏิบัตงิ าน มีการนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาชว่ ยในการปฏิบตั งิ าน โดยระบบจะมีการแจ้ง เตอื นให้ทราบผา่ นระบบจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ เม่ือมีการสง่ บทความเข้ามาในระบบ วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ดาเนินการจดั ทาประเมินการใช้ระบบผ่าน ทางเว็บไซต์เพ่ือให้ผู้ใช้ระบบได้มีโอกาสเสนอแนะหน้าจอ หรือเนือ้ หาต่างๆ เพ่ือนามาปรับปรุง พฒั นาระบบวารสารนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั เรศวร ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตอ่ ไป 4.4 จรรยาบรรณ/คุณธรรม/จริยธรรมในการปฏบิ ัติงาน 4.4.1 สาหรับผู้ปฏิบัตงิ านด้านวารสาร 1) มีหลักจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนเอง มีจรรยาบรรณต่อผู้ใช้บริการจะ คานึงถึงความสะดวกสบายของผ้ ูใช้ ก่อนอ่ืนและใช้ วิชาชีพให้ เกิดประโยชน์แก่ผ้ ูใช้ อย่างเต็ม ความสามารถ, จรรยาบรรณตอ่ วิชาชีพ มีการแสวงหาความรู้ และศกึ ษายอมรับสิ่งใหมๆ่ มาปรับใช้ ในการทางานอยู่เสมอ เรียนรู้และเปิดรับส่ิงใหม่ๆ, จรรยาบรรณต่อเพื่อนร่ วมงาน จะเคารพและ ยอมรับฟังความคดิ เห็นของผ้อู ื่น เป็นมติ รกบั เพื่อนร่วมงาน ยดึ มนั่ ในหลกั คณุ ธรรมในการปฏิบตั ติ อ่ ต่อผ้บู งั คบั บญั ชา เพ่ือนร่วมงาน, จรรยาบรรณตอ่ สถาบนั ไม่แสวงหาประโยชน์กับงานที่ทา และ ดาเนินการปฏิบตั ิตามนโยบายของคณะ เพ่ือชื่อเสียงและรักษาประโยชน์ให้ กับหน่วยงาน และ จรรยาบรรณตอ่ สงั คม อทุ ิศตนให้เป็นประโยชน์ตอ่ สงั คม หรือการศกึ ษา 2) ตรงตอ่ เวลา เป็นหวั ใจของการทางานทงั้ ปวง หากขาดความรับผิดชอบส่วนนี ้ อาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและหน่วยงาน การปฏิบตั งิ านจะตรงตอ่ เวลาทกุ ครัง้ เป็นผ้ไู มเ่ คยมา ปฏิบัติงานสาย และเมื่อได้รับมอบหมายจะดาเนินการการให้ทันในระยะเวลาที่กาหนด ทัง้ กับ ผ้บู งั คบั บญั ชาและผ้บู ริหาร หรือหนว่ ยงานอ่ืนๆ

143 3) ความเพียรพยายาม เป็นผู้มีความขยันหม่ันเพียร มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อ ความยากลาบากในงานที่ได้รับมอบหมาย จะดาเนินการจดั ทาจนสาเร็จเพ่ือเป็นส่วนหนึ่งในการ ชว่ ยพฒั นาองค์กรของเรา 4) มีความใจจดจ่อกับการทางาน หรือ จิตตะ ม่งุ ปฏิบตั ิงานอย่างตอ่ เนื่องจนกว่า จะสาเร็จ ไม่ลดหรือเลิกการทางานกลางคนั ไม่ส่งผลกระทบต่องานท่ีทา มีการติดตามงานอยู่ สม่าเสมอ 5) รู้จักสังเกตในการปฏิบัติงานของตนเอง หรือ วิมังสา ว่างานท่ีเราทาอยู่นัน้ เป็นไปตามแผนหรือไม่ มีปัญหาอย่างไร เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์หรือไม่ นาข้อมูลที่ได้จากการติด ตามนนั้ มาวิเคราะห์หาเหตผุ ลของปัญหาที่พบและหาแนวทางในการปรับปรุงหรือพัฒนางานให้ ประสบความสาเร็จ ทัง้ นี ้ หากปัญหาดังกล่าวไม่สามารถแก้ ได้ต้องปรึกษาหรือรายงานให้ ผ้บู งั คบั บญั ชาให้ทราบทนั ที 6) การครองคน นา้ ใจ คาสนั้ ๆ แตเ่ ป็นคาเดยี วที่ทาให้องค์กรหรือหน่วยงานดาเนิน ไปอย่างมีความสขุ และราบรื่น เวลาทางานจะนึกถึงใจเขาใจเราเสมอ หากเพื่อนร่วมงานต้องการ ความชว่ ยเหลือหรือไมต่ ้องร้องขอให้ชว่ ยจะเข้าไปสอบถาม และให้การชว่ ยเหลือตามความสามารถ ของเรา 7) ทางานเป็นทีม องค์กรจะขบั เคล่ือนไปข้างหน้าได้ไม่ใชเ่ พียงแค่บคุ คลใดบคุ คล หน่ึง แต่ต้องอาศัยบุคคลหลายๆ คน เพ่ือวางแผนการทางานร่วมกัน การทางานเป็นทีมมี ความสาคญั และเป็นส่ิงจาเป็นสาหรับการเพ่ิมประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารงาน 8) ไมค่ ดิ ร้ายตอ่ เพื่อนร่วมงาน พยายามเข้าใจปัญหาของเพื่อนร่วมงาน และรับฟัง ปัญหาของเพ่ือนร่วมงาน หากเพื่อร่วมงานทางานผิดพลาด ไม่ซา้ เติม คอยชีแ้ นะแนวทางเบือ้ งต้น หากปัญหาในการทางานนนั้ ไมส่ ามารถแก้ไขได้จงึ จะเสนอผ้บู งั คบั บญั ชาให้ทราบ 9) การประสานงานกันเพ่ือนร่วมงานและหน่วยงานภายนอก สามารถขอความ ร่วมมือและให้รู้ถึงเปา้ หมายในการทางานไปสจู่ ุดหมายเดียวกนั วตั ถปุ ระสงค์ของงานวตั ถปุ ระสงค์ ของการประสานงาน

144 4.4.2 สาหรับผู้แต่ง 1) ผ้แู ตง่ ต้องรับรองว่าเนือ้ หาท่ีส่งมานนั้ ไม่ได้เกิดจากการกระทาละเมิดลิขสิทธ์ิ ของบคุ คลอื่น ไมเ่ คยตีพิมพ์หรือเผยแพร่ที่ใดมาก่อน และมิได้อยรู่ ะหวา่ งการเสนอช่ือเพื่อพิจารณา จะตพี มิ พ์ในวารสารอื่น 2) ผ้แู ต่งต้องรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึน้ ไม่ให้ข้อมลู ท่ีเป็นเท็จ และไม่บิดเบือน ข้อมลู 3) ผ้แู ตง่ ต้องอ้างอิงผลงานของบคุ คลอ่ืนให้ปรากฎในเนือ้ หา (เชิงอรรถ) หากมีการ นาผลงานเหลา่ นนั้ มาใช้ในผลงานตวั เอง รวมทงั้ จดั ทาบรรณานกุ รมท้ายบทความ 4) ผ้แู ตง่ ต้องเขียนบทความให้ถกู ต้องตามรูปแบบที่วารสารกาหนดไว้ 5) ผ้แู ตง่ ที่มีช่ือปรากฎในบทความทกุ คน ต้องเป็นผ้มู ีส่วนในการดาเนินการวิจยั จริง 6) ผ้แู ตง่ ต้องระบแุ หลง่ ทนุ ท่ีสนบั สนนุ ในการทาวิจยั นี ้ 7) ผ้แู ตง่ ต้องระบผุ ลประโยชน์ทบั ซ้อน (ถ้ามี) 4.4.3 สาหรับผู้ประเมนิ บทความ 1) ผ้ปู ระเมินบทความต้องไม่เปิดเผยข้อมลู ของบทความที่ส่งมา เพ่ือพิจารณาแก่ บคุ คลอื่นๆ ที่ไมเ่ กี่ยวข้องในชว่ งระยะเวลาของการประเมินบทความ 2) เมื่อได้รับบทความจากบรรณาธิการวารสาร และผ้ปู ระเมินบทความ ต้องไม่มี ผลประโยชน์ทบั ซ้อนกบั ผ้แู ตง่ หรือรู้จกั กบั ผ้แู ตง่ เป็นการสว่ นตวั หากพบผ้ปู ระเมินบทความควรแจ้ง ให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมนิ บทความนนั้ ๆ 3) ผ้ปู ระเมินบทความ ควรประเมินบทความในสาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญ โดย พิจารณาความสาคญั ของเนือ้ หาในบทความท่ีจะมีต่อสาขาวิชานนั้ ๆ คณุ ภาพการวิเคราะห์ และ ความเข้มข้นของผลงาน ไม่ควรใช้ความคิดเห็นส่วนตวั ท่ีไม่มีข้อมูลรองรับมาเป็นเกณฑ์ตดั สิน บทความ 4) ผ้ปู ระเมินบทความต้องระบผุ ลงานวจิ ยั ที่สาคญั ๆ และสอดคล้องกบั บทความท่ี กาลงั ประเมนิ หากผ้แู ตง่ ไมไ่ ด้มีการอ้างถึงใสใ่ นการประเมินบทความด้วย นอกจากนี ้หากมีสว่ นใด ของบทความท่ีมีความเหมือนหรือซา้ ซ้ อนกับผลงานอื่นๆ ผู้ประเมินบทความต้องแจ้ งให้ บรรณาธิการทราบด้วย

บทท่ี 5 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการแก้ไข และพัฒนางาน 5.1 ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัตงิ าน 5.1.1 ระบบวารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีการย้ายคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ไปอยู่ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) บางครัง้ อาจจะประสบปัญหาคอมพิวเตอร์แม่ข่ายล่มในบางเวลาส่งผลกระทบให้ไม่สามารถเข้าระบบได้ ทนั ที 5.1.2 ผ้แู ตง่ บทความบางทา่ นไมด่ าเนินการจดั รูปแบบบทความตามท่ีวารสารนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวรกาหนด 5.1.3 ผ้ปู ระเมนิ บทความมีการจดั สง่ ลา่ ช้า กวา่ ระยะเวลาที่กาหนด 5.2 แนวทางแก้ไขและพฒั นา 5.2.1 หากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายล่ม ทางวารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จะดาเนินการประสานงานทนั ทีให้ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ทราบ เพื่อแก้ไขปัญหา 5.2.2 จัดทาตัวอย่างรูปแบบการเขียนบทความนาขึน้ เว็บไซต์วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร เพ่ือสามารถดาวน์โหลดนาไปเป็นตวั อย่างในการเขียนให้ถกู ต้องตามรูปแบบ ที่วารสารนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรกาหนด 5.2.3 ดาเนินการติดตามทวงถามเป็นระยะ ในการสอบถามผ้ปู ระเมินบทความประเมิน บทความ เพื่อให้บทความไมล่ า่ ช้าจนเกินไป 5.3 ข้อเสนอแนะ ควรคานึง และให้ความสาคัญถึงการจัดทาวารสารให้เป็นไปตามเกณฑ์ศูนย์ดัชนี การอ้างอิงวารสารไทย และฐานข้อมูลภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Citation Index: ACI) เป็นหลกั เป็นนาไปสกู่ ารพฒั นาวารสารวิชาการให้พฒั นาอย่างตอ่ เนื่อง และเข้าสใู่ นระดบั สากลตอ่ ไป

บรรณานุกรม มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. การอา้ งอิงแบบเชิงอรรถตามหลกั เกณฑ์Turabian. สืบค้นเม่ือ 10 พฤศจิกายน 2562, จาก www.tep.engr.tu.ac.th/download/150410154529_ 306chapter4-Turabian-page67-148.pdf ศนู ย์ดชั นีการอ้างองิ วารสาร. (2560). เอกสารประกอบการฝึกอบรม ThaiJO. กรุงเทพฯ: ศนู ย์ดชั นีการอ้างอิงวารสารไทย. Turabian, K. L. Cition quick guide. Retrived Dember 2, 2018, from https://www.chicagomanualofstyle.org/turabian/turabian-notes-and- bibliography-citation-quick-guide.html Turabian, K. L. (2007). A manual for writers of research papers, theses, and dissertations: Chicago style for students and researchers (revised by Wayne C. Booth, Gregory G. Colomb, Joseph M. Williams, and University of Chicago Press editorial staff) (7th ed.) Chicago: The University of Chicago Press. Willinsky, J., Stranack, K., Smecher, A., & MacGregor, J. (2010). Open Journal Systems: A Complete Guide to Online Publishing (2nd ed.). California: Simon Fraser University Library.

ประวัตผิ ู้จดั ทา

ประวัตผิ ู้จดั ทา ช่ือ-ช่ือสกุล นางสาวนารีจตุ ิ ศรีแสงฉาย เกดิ เม่ือ 5 ตลุ าคม 2523 สถานท่เี กดิ อาเภอเมือง จงั หวดั พิษณโุ ลก สถานท่อี ยู่ปัจจุบัน 81/1 หมู่ 7 ตาบลทา่ ทอง อาเภอเมือง จงั หวดั พิษณโุ ลก 65000 ตาแหน่งหน้าท่ี เจ้าหน้าท่ีบริหารงานทวั่ ไป สถานท่ีทางาน คณะนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร 99 หมู่ 9 ตาบลทา่ โพธิ์ อาเภอเมือง จงั หวดั พษิ ณุโลก 65000 ประวัตกิ ารศกึ ษา พ.ศ. 2555 วท.ม. (เทคโนโลยีสารสนเทศ) มหาวทิ ยาลยั นเรศวร พ.ศ. 2546 ศศ.บ. (บรรณารักษศาสตร์และสารนเิ ทศศาสตร์) สถาบนั ราชภฎั พบิ ลู สงคราม พ.ศ. 2542 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย โรงเรียนเฉลมิ ขวญั สตรี