Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือกราฟิกเบื้องต้น

หนังสือกราฟิกเบื้องต้น

Published by อารียา แซ่หมี, 2021-01-26 09:50:10

Description: หนังสือกราฟิกเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

D

คำนำ หนังสือเรียนวิชา โปรแกรมกราฟกิ รหัสวิชา 20204-2009 เล่มนี้ ได้จัดทำข้ึนเพ่ือใช้ประกอบ ในการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พศ.2562 ผู้จัดทำ ได้แบ่งเนื้อหาการเรียนการสอนออกเป็น 10 หน่วยการเรียนรู้ซึ่งหลักจากที่ผู้เรียนได้เรียนครบท้ัง 10 หน่วยการเรียนรู้แล้ว ผู้เรียนสามารถที่จะมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องของการใช้โปรแกรม เป็น อย่างดีให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนนั้นมีความสามารถในการใช้โปรแกรมได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ผู้จัดทำหวังเปน็ อยา่ งยิ่งวา่ หนังสือเล่มนี้ จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อกระบวนการเรียนการสอน ได้เปน็ อย่างดี หากอาจารย์ผสู้ อนหรอื ผู้เรียนมขี อ้ เสนอแนะเพ่ิมเติมประการใด ขอใหแ้ จง้ ข้อเสนอแนะ มายังผู้จดั ทำหนังสือหรือติดตอ่ ผจู้ ัดทำโดยตรงจกั เปน็ พระคณุ อย่างยง่ิ สดุ ารตั น์ แซ่แจา๊ โปะ๊ กา พะดี อารียา แซห่ มี

สารบัญ 1 1 1 ความรเู้ บอื้ งต้นเกีย่ วกับคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก 2 ความหมายคอมพิวเตอรก์ ราฟิก 2-3 คุณคา่ และความสำคญั ของงานกราฟกิ 4 ภาพกราฟกิ ทใ่ี ช้กบั คอมพิวเตอร์ ภาพจำลองกราฟิกแบบ Vector 5-6 7 หลักการใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์ 8-11 คอมพิวเตอร์กราฟกิ กบั การประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานดา้ นต่าง ๆ 12 คอมพวิ เตอร์กราฟกิ กับการประยกุ ต์ใชใ้ นงานด้านต่าง ๆ 12-14 15 2 การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกแบบ Raster 15-19 อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับงานกราฟิก 20-24 คุณสมบตั ขิ องโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 25-28 29 การตดิ ต้ังโปรแกรม AdobePhotoShop 7.0 29 การติดตั้งฟอนด์ไทย 30-31 การเข้า/ออกโปรแกรม Adobe AdobePhotoShop 7.0 32-34 3 มุมมองภาพและการตกแตง่ ภาพดว้ ยเลเยอร์ (Layer) 35-40 การกำหนดมมุ มอง 41-43 การยอ่ และขยายรปู ภาพ 44 การสรา้ งไฟล์ภาพใหม่ 44 การเปดิ ไฟล์รปู ภาพด้วยคำสัง่ File Browser 47-51 การพมิ พร์ ปู ภาพ 52 4 การสรา้ ง Selection ภาพกราฟฟิก 53-54 การใช้งาน Layer 55-63 การสรา้ ง Selection การสร้าง Selection ด้วยคำส่งั Color Range การใช้ Extract แยกภาพออกจากพนื้ หลัง การตดั รปู ภาพ

5 การสรา้ งตวั อกั ษรและขอ้ ความ 64 การใชเ้ คร่ืองมือ Text สร้างตัวอักษร 64 การใช้ Horizontal Type Mask Tool 65-68 การสรา้ งขอ้ ความแบบหลายบรรทัดและการจัดการข้อความ 69-72 6 การระบายสีและภาพกราฟิกสำหรบั เวบ็ เพจ 73 การเลือกใช้รปู แบบสตี ่างๆ 73 7 การวาดภาพ (DRAWING) 80 การใชเ้ ครอ่ื งมอื PENCIL,ERASER และ BRUSHH 80-82 การใชเ้ ครอ่ื งมือในกลมุ่ Shape Tool 83 การใช้เครอ่ื งมือ Rectangle 84-86 การใชเ้ คร่อื งมือ Custom Shape 87-89 การเคลือ่ นยา้ ยเสน้ Path ด้วย Path Selection Tool 90-95 การเตมิ สีดว้ ยเครอื่ งมอื Gradient 96-97 8 การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกแบบ VECTOR 98 การติดตัง้ โปรแกรม Adobe Illustrator 98-99 การเรียกใช้กลมุ่ เครอ่ื งมือ 100 9 การสร้างขอ้ ความ การปรบั รปู ทรงภาพ และการใช้พาเลต็ PATHFINDER 101 การใช้เครื่องมือ Type ในการสร้างขอ้ ความ 101 การใช้เครือ่ งมอื Vertical Type 101 การปรับรูปทรงภาพดว้ ยคำส่ัง Scale 102 การทำงานในสว่ นของ Shape Modes 103-105 10 การสรา้ งภาพเคลอื่ นไหว 106 ความหมายภาพเคลื่อนไหว 106 การเกบ็ ขอ้ มลู ภาพเคลอ่ื นไหว 107 ประโยชน์ของภาพเคลอื่ นไหว 108-119

2 ในปัจจุบันภาพกราฟิกับบทบาทกับงานด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก เช่น งานนำเสนอข้อมูลใน รูปแบบของเส้นกราฟ กราฟแท่ง แผนภู การใช้กราฟิกประกอบการโฆษณาสิงค้าต่างๆ การสร้างเว็บ เพจ การสรา้ งส่ือการสอน (CAT) การสร้างการ์ตูน การสร้างโลโก้ และงานออกแบบตา่ งๆ เป็นต้น โดย ภาพกราฟกิ จะทำให้งานมีความสวยงามและน่าสนใจยง่ิ ขึ้น 1. ความหมายคอมพวิ เตอร์กราฟิก 2. คุณค่าและความสำคญั ของงานกราฟกิ 3. ภาพกราฟกิ ท่ีใชก้ บั คอมพิวเตอร์ 4. ภาพจำลองกราฟกิ แบบ Vector 5. หลักการใชส้ ีและแสงในคอมพวิ เตอร์ 6. คอมพวิ เตอรก์ ราฟิกกบั การประยกุ ตใ์ ช้ในงานด้านตา่ ง ๆ 7. คอมพวิ เตอร์กราฟกิ กบั การประยุกตใ์ ชใ้ นงานดา้ นตา่ ง ๆ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ความเป็นมาของคอมพิวเตอรก์ ราฟิก 2. บอกความหมายของกราฟกิ และคอมพิวเตอร์กราฟกิ ได้ 3. อธบิ ายการเกดิ ภาพบนเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ได้ 4. บอกหลกั การใชส้ ีและแสงในคอมพวิ เตอร์ได้ 5. จำแนกรูปแบบของภาพได้ 6. อธิบายรูปแบบของไฟล์ภาพได้

1 หน่วยท1ี่ ความรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์กราฟิก 1.1 ความหมายคอมพวิ เตอร์กราฟกิ 1.1.1 กราฟิก หมายถึง ศิลปะหรือศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่สื่อความหมายโดยใช้เส้น ภาพเขียน สัญลักษณ์ ภาพถา่ ย ซึง่ มลี ักษณะเหน็ ไดช้ ดั เจนเขา้ ใจความหมายได้ทันทแี ละถูกต้องตรงตามทีผ่ ู้ใชต้ ้องการ 1.1.2 คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ หมายถึง การสรา้ งและการจดั การภาพกราฟกิ โดย ใช้ คอมพิวเตอร์ การใชค้ อมพวิ เตอร์สร้างภาพ การตกแต่งแก้ไข ภาพ หรือการจัดการเกี่ยวกับภาพ เช่น ภาพยนตร์ วิดีทัศน์ การตกแต่งภาพถ่าย การสร้างภาพตามจินตนาการ และการใช้ภาพกราฟิกในการนำเสนอข้อมูลต่างๆเพื่อให้สามารถสื่อความหมายให้ชัดเจนและทำความเข้าใจได้ง่า ยกว่เดิม เช่น การนำเสนอข้อมูลด้วยแผนภาพหรือกราฟ แทนที่จะเป็นตารางของตัวเลข ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้ คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการศึกษา งานด้านธุรกิจ งานด้านการ ออกแบบ งานด้านบันเทิง หรืองานด้านการแพทย์ เป็นตน้ สรุป คอมพิวเตอร์กราฟิก หมายถึง การสร้าง การตกแต่งแกไ้ ขภาพ โดยใชค้ อมพิวตอร์ในการจัดการกบั ภาพ เช่น การตกแต่งภาพคนแก่ให้มีวัยสาว หรือสร้างภาพตามจินตนาการต่างให้กับภาพ เพื่อนำภาพประกอบการเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้ในการสื่อความหมายให้ชัดเจนตรงตามที่ผู้สื่อสารต้องการ และน่าสนใจด้วยภาพกราฟิก 1.1.3 ประเภทของภาพกราฟกิ ประเภทของภาพกราฟิก แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ภาพกราฟิกประเภท 2 มิติ เป็นภาพกราฟิกที่มีแต่ความกว้างและความยาว แต่จะไม่มีความหนาหรือความลึก ได้แก่ ภาพ สามเหลี่ยม ภาพสี่เหลี่ยม ภาพถ่าย ภาพลายเส้น ภาพวาด เป็นต้น โดยทั่วไปเรียกภาพกราฟิกประเภท 2 มิติว่า ภาพรา่ ง ดงั แสดงในภาพท่ี 1.1 ท่ี 1.1 กราฟิกประเภท 2 มติ ิ

2 2. ภาพกราฟิกประเภท 3 มิติ คือ ภาพที่เกิดจากการใช้โปรแกรมสร้างภาพ 3 มิติ ภาพที่ได้จะมีลักษณะเหมือน ภาพที่มองจากตาคน โดยภาพกราฟิกประเภท 3 มิติจะมีส่วนโค้ง เว้า มุม แสง ความลึกและรายละเอียดที่สูงขึ้น จากภาพกราฟกิ ประเภท 2 มิติ มีลกั ษณะการมองภาพท่ีเหมือนจริง ดงั แสดงในภาพที่ 1.2 รูปที่ 1.2 กราฟิกประเภท 3 มิติ 1.2 คุณคา่ และความสำคัญของงานกราฟิก งานกราฟิกเปน็ การส่ือสารดว้ ยศิลปะระหวา่ งผู้สร้าง กับผู้รับ (ผ้ดู ู ผเู้ หน็ ) ดงั น้ันงานกราฟิกจงึ มคี ุณค่าและความสำคัญดงั นี้ 1.สรา้ งระบบการเรียนรู้ สรา้ งแนวคดิ ใหม่ ๆ เชิงสร้างสรรค์ และเป็นสือ่ กลางในการสือ่ ความหมาย 2.สร้างความเรา้ ใจ น่าสนใจ ประทบั ใจ และความเช่อื ถือได้ของผลงาน 3.สร้างความคดิ สร้างสรรคร์ ูปแบบใหม่ โดยการประยกุ ต์ความคดิ จากผลงานเดมิ 4.ช่วยสรุปความคดิ จินตนาการออกมาเปน็ ข้อมูลทีส่ ่ือสารไดง้ ่าย 5.สร้างระบบการถ่ายทอดทีม่ ีความเด่นชัด แปลความหมายไดร้ วดเร็ว 6.สร้างความเจรญิ กา้ วหนา้ ใหธ้ ุรกิจ สร้างอาชีพและรายได้ในสังคม 7.สร้างค่านยิ มทางความคดิ ที่งดงาม ไดแ้ นวคดิ ที่ดี 1.3 ภาพกราฟิกทใ่ี ชก้ บั คอมพิวเตอร์ ภาพที่เกิดบนจอคอมพิวเตอร์ (Monitor) เกิดจากการทำงานของโหมดสีแบบ RGB Color ซึ่งประกอบด้วย สีแดง (Red) สเี ขียว (Green) และสนี ้ำเงนิ (Blue) โดยใช้หลักการยงิ ประจุไฟฟ้าใหเ้ กดิ การเปลง่ แสงของสีทัง้ 3 สี มาผสม กันทำให้เกิดเป็นจุดสีเลก็ ๆ ที่เรียกว่า พิกเซล (Pixel) โดยพิกเซลจะมหี ลากหลายสี เมื่อนำมาวางต่อกันจะเกิดเปน็ รปู ภาพ ซ่ึงภาพทีใ่ ช้กบั เครื่องคอมพวิ เตอร์ มี 2 แบบ คือ 1.3.1 ภาพกราฟิกแบบแรสเตอร์ (Raster) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แบบบิตแมท (Bitmap) เป็น ภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวของจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลากหลายสี ที่เรียกว่า พิกเซล (คล้าย ๆ กับการปัก ผ้าครอสติก) ประกอบกันจนเป็นภาพขนาดใหญ่ โดยเม็ดสีแต่ละเม็ดจะมีค่าสีแตกต่างกันไป ภาพกราฟิกแบบแร

3 สเตอรจ์ ะต้องกำหนดจำนวนพิกเซลให้กบั ภาพ ภาพทีม่ ีจำนวนเม็ดสีมาก ๆ ภาพจะมีความละเอียดมาก สวยคมชัด ภาพที่มีจำนวนเม็ดสีนอ้ ย เม็ดสีที่ประกอบเป็นภาพจะเรียงกนั แบบห่าง ๆ และมองเห็นเม็ดสีในภาพแต่ละเม็ด ทำ ให้ภาพนั้นมีความหยาบ การกำหนดจำนวนพิกเซลบอกถึงความละเอียดของภาพ ดังนั้นหากภาพถูกกำหนดให้มี ความละเอยี ด 1,200 ppi (ความละเอียด 1,200 เม็ดสตี ่อตารางน้ิว) จำนวนพกิ เซลควรกำหนดให้เหมาะสมกับงาน ที่สร้าง เช่น ภาพสำหรับเว็บไซต์ เป็นภาพที่มีความละเอียดน้อยไฟล์ภาพควรกำหนดจำนวนพิกเซล ประมาณ 72 ppi เพื่อความสะดวกในการนำภาพอัพโหลด (Upload)ไฟล์ขึ้นเซิร์ฟเวอร์ (Server) ได้รวดเร็วส่วนภาพสำหรับ นิตยสาร ปกหนงั สอื โปสเตอรข์ นาดใหญแ่ ละงานแบบพมิ พ์กำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ300-350 ppi เนอ่ื งจาก ตอ้ งการภาพท่มี คี วามละเอียดมากทำให้ภาพสวยสมจริงภาพกราฟิกแบบ Bitmap สามารถแกไ้ ขปรบั แต่งสีโดยการ ตกแต่งภาพทำได้งายและมีความสวยงาม ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิกแบบ Bitmap คือAdobe PhotoShop , Adobe PhotoShop ,เป็นตน้ 1.คุณลกั ษณะของไฟลภ์ าพกราฟิกแบบBitmapคอื ไฟลภ์ าพคุณลกั ษณะนามสกุลทแ่ี ตกต่างกัน นามสกลุ ที่ แตกตา่ งกันตามรปู แบบจากโปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆเชน่ .JPG,.JPEG,JPE.GIFใชส้ ำหรบั รูปภาพท่วั ไป เหมาะกับงาน ที่ไม่ต้องการความละเอียดสีไม่มาก งานเว็บเพจ และงานที่มีความจำกัดในด้านพื้นที่หน่วยความจำ Photoshop Paint ShopPro Illustrator.TIFF, .TIF เหมาะสำหรับงานด้านนิตยสารปกหนังสือเพราะมีความละเอียดของภาพสูงPhotoshop.BMP,.DIBไฟล์ มาตรฐานของระบบปฏิบัติการวินโดวส์Paint ShopPro Paint.PCX เป็นไฟล์ดั้งเดิมของโปรแกรมแก้ไขภาพแบบ บิตแมป ไม่มีโมเดลเกรย์สเกล ใช้กับภาพทั่วไป CorelDraw, Illustrator, Paintbrush.PNG เป็นไฟล์ท่ีรวมเอา คุณสมบัติของไฟล์นามสกุล GIF และJPEG เข้าด้วยกัน สามารถบีบอัดไฟล์ภาพให้เล็กลงได้มากกว่า GIF ถึง 30% แต่กย็ ังแสดงสไี ดเ้ หมือนกับ JPEG นอกจากนี้ยงั บนั ทกึ ไฟล์แบบพืน้ หลงั ทะลุ(Transparency) Photoshop รปู ท่ี 1.1 คุณลักษณะของไฟลภ์ าพกราฟิกแบบ Bitmap

4 1.3.2 ภาพกราฟิกแบบเวคเตอร์ (Vector) ภาพกราฟิกเวกเตอร์ (Vector Graphics) เป็นภาพท่ีสรา้ งด้วย ส่วนประกอบของเส้นลักษณะต่างๆ และคุณสมบัติเกี่ยวกับสีของเส้นนั้น ๆ ซึ่งสร้างจากการคำนวณทาง คณติ ศาสตร์ เช่น ภาพถา่ ยของคน จะถกู สร้างดว้ ยจุดของเสน้ หลายๆ จดุ เปน็ ลกั ษณะของโครงร่าง (Outline) และ สีของคนกเ็ กิดจากสีของเส้นโครงร่างนน้ั ๆ กบั พืน้ ท่ผี วิ ภายใน เมือ่ มีการแก้ไขภาพกจ็ ะเป็นการแก้ไขคุณสมบัติของ เส้นทำให้ภาพไม่สูญเสียความละเอียด ไฟล์ภาพมีขนาดไฟล์เล็กแต่อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลภาพ เช่น จอภาพ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์ จะเป็นการแสดงผลภาพแบบเวคเตอร์ นิยมใช้เพื่องานสถาปัตยกรรมตกแต่งภายใน และดา้ นการออกแบบตา่ งๆ เชน่ การออกแบบรถยนต์ การออกแบบอาคาร การสร้างการ์ตูน ซงึ่ โปรแกรมทนี่ ิยมใช้ สร้างภาพกราฟิกแบบเวคเตอร์ เช่น โปรแกรม Illustrator CorelDraw 3Ds และMax ภาพกราฟิกแบบเวคเตอร์ เม่ือปรบั ขยายใหญข่ น้ึ ความละเอียดของภาพคงเดิมดงั ภาพ 1.4 ความแตกต่างของกราฟิกแบบแรสเตอร์ กับแบบเวคเตอรภ์ าพกราฟิกแบบเวคเตอร์ 1. เป็นภาพกราฟิกท่ีเกิดจากจดุ สี่เหลีย่ มเล็ก ๆ หลากหลายสี ทเี่ รียกวา่ พกิ เซล มาเรยี งตอ่ กันจนเป็นรูปภาพ 2. ภาพถูกสร้างด้วยจุดของเส้นหลายๆ จุด เป็นลักษณะของโครงร่าง (Outline) และสีของภาพก็เกิดจากสี ของเสน้ โครงรา่ งนน้ั ๆ กบั พ้นื ทีผ่ ิวภายใน 3. การขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะทำให้ความละเอียดของภาพลดลง จึงมองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยม เลก็ ๆ มีความหยาบ 4. เมอ่ื มีการแกไ้ ขภาพก็จะเปน็ การแกไ้ ขคุณสมบัติของเสน้ ทำให้ภาพไมส่ ูญเสยี ความละเอียด ภาพจะยังคงมี ความละเอยี ดชดั เจนเหมือนเดิม 5. การตกแต่งและแก้ไขภาพ สามารถทำไดง้ า่ ยและสวยงาม เชน่ การปรับสผี วิ หนา้ และผิวกายให้ขาวเนยี น ข้นึ 6. เหมาะกบั งานออกแบบตา่ งๆเช่นงานสถาปัตย์ออกแบบโลโก้เป็นต้น 7. การประมวลผลภาพสามารถทำไดร้ วดเร็ว 1.5 หลกั การใชส้ แี ละแสงในคอมพิวเตอร์ จอภาพคอมพิวเตอร์สามารถแสดงผลของภาพในรูปแบบสีต่างๆ ซึ่งแบ่งหลักการใช้สีและแสดงใน คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานด้านกราฟิกทั่วไปเป็นโหมด (Mode) สี 4 แบบ คือ โหมดสีแบบ RGB Color โหมดสีแบบ CMYK Color โหมดสีแบบ HSB Color โหมดสแี บบ LAB Color 1. 5.1 โหมดสีแบบ RGB Color คือ โหมดสีปกติของภาพที่ใช้งานในโปรแกรมโฟโต้ช้อป ซึ่งภาพเหล่าน้ี ได้มาจากกล้องดิจิตอลเปน็ สว่ นใหญ่ ภาพที่มีโหมด RGB ประกอบด้วย แมส่ ี 3 สี คอื สแี ดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงนิ (Blue) เมื่อนำสีดังกลา่ วมาผสมกันทำใหเ้ กิดเป็นสตี ่าง ๆ บนจอภาพคอมพิวเตอร์มากถึง 16.7 ล้านสี ซึ่งใกล้เคียงกับสีที่ตามนุษย์มองเห็นปกติ สีที่ได้จากการผสมสีนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มของสี โดยถ้าสีมีความเข้มข้น มากเมื่อนำมาผสมกันจะทำให้เกิดเป็นสีขาว จึงเรียกระบบสีนี้ว่า การผสมสีแบบบวก ดังภาพ (ทิพพาภรณ์ ประดู.่ 2549) 1.5.2 โหมดสีแบบ CMYK Color คือ ระบบสีที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ที่พิมพ์ออกทางกระดาษหรือวัสดุผิว เรียบอื่น ๆ โดยภาพที่กำหนดโหมดสีแบบ CMYK จะมีสีค่อนข้างทึบเมื่อแสดงบนจอภาพ แต่เมื่อพิมพ์ออกทาง เคร่ืองพมิ พ์จะมสี ที ีส่ ดใสสวยงาม โหมดสี CMYK ประกอบดว้ ยสหี ลัก 4 สี คอื สฟี ้า (Cyan) สดี ำ (Black) สีม่วงแดง (Magenta) และสีเหลือง (Yellow) เมื่อนำมาผสมกันจะเกิดสีเป็นสีดำแต่จะไม่ดำสนิท เนื่องจากหมึกพิมพ์มีความ

5 ไม่บริสุทธิ์จึงเป็นการผสมสีแบบลบ (Subtractive) หลักการเกิดสีของระบบนี้คือ หมึกสีหนึ่งจะดูดกลืนแสงจากสี หนึ่งแล้วสะท้อนกลับออกมาเป็นสีต่างๆ เช่น สีฟ้าดูดกลืนแสงของสีม่วงแล้วสะท้อนออกมาเป็นสีน้ำเงิน จะ สังเกตเห็นไดว้ ่าสีทีส่ ะท้อนออกมาจะเปน็ สีหลักของโหมดสีแบบ RGB การเกดิ สีน้ี แบบสจี ึงตรงขา้ มกับการเกิดสีใน แบบ RGB 1.5.3 โหมดสีแบบ HSB Color สสี ว่ นใหญ่ท่ีมองเหน็ จะมีระดบั ความเข้มข้นท่ีแตกตา่ งกัน ซ่ึงสายตามนุษย์สามารถ แยกออกได้ เป็น 3 ลกั ษณะ คอื 1. Hue คือสตี า่ ง ๆ ที่สะท้อนออกมาจากวัตถุแลว้ เข้าสูส่ ายตามนุษย์ ซงึ่ มักเรียกสตี ามชื่อสี เชน่ สีเขยี ว สีแดง สเี หลอื ง เป็นต้น 2. Saturation คอื ค่าความสดของสี โดยค่าความสดของสีจะเร่มิ ท่ี 0 ถงึ 100 ถ้ากำหนดSaturation ที่ 0 สีจะ มีความสดน้อย แตถ่ า้ กำหนดท่ี 100 สีจะมีความสดมาก 3. Brightness คอื ระดบั คา่ ความสวา่ งของสี โดยค่าความสว่างของสจี ะเรม่ิ ท่ี 0 ถึง 100 ถ้ากำหนดท่ี 0 ความสว่างจะน้อยซง่ึ จะเป็นสดี ำ แต่ถ้ากำหนดที่ 100 สจี ะมคี วามสว่างมากทีส่ ดุ รูปที่ 1.8 โหมดสแี บบ HSB Color 1.5.4 โหมดสีแบบ LAB Color โหมดสีแบบ Lab Color เป็นโหมดสีที่มีช่วงความกว้างในกแสดงสีได้สูงที่สุด เทียบเท่ากับสีดวงตาของมนุษย์สามารถรับได้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.“L” หรือ Luminance เป็นการ กำหนดคา่ ความสวา่ ง ซ่ึงมีค่าต้ังแต่ 1 ถงึ 100 ถา้ กำหนดท่ี 0 จะกลายเปน็ สดี ำ แต่ถา้ กำหนดท่ี 100 จะกลายเปน็ สี ขาว 2.“A” เป็นคา่ ของสที ี่ไล่จากสเี ขยี วไปสแี ดง 3.“B” เป็นคา่ ของสีที่ไลจ่ ากสนี ำ้ เงินไปสี

6 รูปท่ี 1.9 โหมดสีแบบ LAB Color 1.6 คอมพวิ เตอร์กราฟกิ กบั การประยุกตใ์ ชใ้ นงานดา้ นต่าง ๆ งานด้านกราฟิกมีการพัฒนาอยา่ งรวดเรว็ และแพร่หลาย คอมพวิ เตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ ใช้ในงานด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1.6.1 คอมพิวเตอร์กราฟกิ กบั งานออกแบบ (Computer – Aided Design) คอมพิวเตอร์กราฟิกได้เข้ามามีบทบาทกับงานด้านออกแบบในสาขาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น การออกแบบ รถยนต์ การออกแบบเครื่องจักร การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบตกแต่งภายใน และการออกแบบ เครื่องประดบั เป็นต้น CAD (Computer – Aided Design) เป็นโปรแกรมช่วยในการออกแบบทางวิศวกรรม ซึ่งจะช่วยให้ ผู้ออกแบบ หรือวิศวกรออกแบบงานได้ง่ายและสะดวกยิง่ ขึ้นเมื่อต้องการแกไ้ ขก็สามารถทำได้ง่ายกว่า การทำงาน ในกระดาษ สามารถออกแบบลกั ษณะลายเส้น ใส่สี แสงเงา เพื่อให้ดูคลา้ ย ของจริง สำหรับงานดา้ นวศิ วกรรมไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบวงจรต่าง ๆ โดยใช้สัญลักษณ์ที่ระบบมีให้ แล้วทำการประกอบ เป็นวงจรที่ต้องการ ผู้ออกแบบสามารถแก้ไขตัดต่อ เพิ่มเติมวงจรได้ เช่น การออกแบบรถยนต์ เครื่องบิน หรือ เครอื่ งจักรต่าง ๆ นกั ออกแบบจะใช้ CAD ออกแบบส่วนยอ่ ย ๆ แตล่ ะสว่ นก่อนแลว้ จงึ ประกอบกนั เปน็ สว่ นใหญ่ ซ่ึง บางระบบสามารถทดสอบแบบจำลองที่ออกแบบไว้ เชน่ การออกแบบรถยนต์ แล้วนำโครงสรา้ งของรถท่ีออกแบบ มาจำลอง การวิ่ง แล้วเก็บผลมาตรวจสอบค่า หรือการออกแบบโครงสร้างตึก บ้าน สะพาน และสถาปัตยกรรม เพื่อแสดงภาพในมุมมองต่าง ๆ ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ ตัวอย่างการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงาน ออกแบบ โครงสรา้ งภาพคน ดังแสดงในภาพท่ี 1.10

7 รูปที่ 1.10 คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ กบั งานออกแบบโครงสร้างภาพคน 1.7 คอมพิวเตอร์กราฟิกกบั การประยกุ ต์ใชใ้ นงานด้านตา่ ง ๆ คอมพิวเตอร์กราฟิกในปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านการใช้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และมีการนำคอมพิวเตอร์มา พฒั นาในเรื่องของการส่ือสารใหม้ ีสีสันสวยงาม สมจริงเสมอื นการจำลองเหตกุ ารณ์ เพือ่ ดึงดูดสายตาผู้พบเห็น หรือ เพื่อการแขง่ ขนั การแสดงสนิ ค้า ซึง่ แบ่งภาพกราฟกิ ตามลักษณะการใช้งานในแตล่ ะดา้ นได้ดังน้ี 1.7.1 กราฟิกด้านการออกแบบ คอมพิวเตอร์กราฟิกได้ถกู นำมาใชใ้ นการออกแบบมาเปน็ เวลานาน เราคง จะเคยไดย้ ินคำว่า CAD (Computer - Aided Design) ซึ่งเปน็ โปรแกรมสำหรับชว่ ยในการออกแบบทางวิศวกรรม โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ออกแบบ หรือวิศวกรออกแบบงานต่างๆ ได้สะดวกขึ้น กล่าวคือ ผู้ออกแบบสามารถ เขียนเป็นแบบลายเส้นแลว้ ลงสี แสงเงา เพอ่ื ใหด้ ูคลา้ ยกบั ของจริงได้ และผอู้ อกแบบสามารถกำหนดขนาดของวัตถุ ลงในระบบ CAD โดยสามารถย่อ หรือขยายภาพ หมุนภาพไปในมุมต่างๆ การแก้ไขแบบก็ทำได้ง่าย และสะดวก กว่าการออกแบบบนกระดาษ รูปท่ี 1.11 กราฟกิ ด้านการออกแบบ 1.7.2 กราฟิกกับงานด้านโฆษณา ปัจจุบันในการโฆษณาสินค้าต่างๆ ได้นำภาพกราฟิกเข้าช่วยในการ โฆษณา เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าต่อผู้บริโภค เช่น ภาพสำหรับการโฆษณา เราสามารถทำให้ภาพที่เห็น เหมือนภาพถ่ายนั้น แปลกออกไปจากเดิมได้ โดยมีภาพบางอย่างเพิ่มเข้าไปในภาพ หรือบางส่วนของภาพนั้น

8 หายไป ทำให้เกิดภาพที่ไม่น่าจะเป็นจริงแต่ดูเหมือนกับเกิดขึน้ จริงเช่น การนำการ์ตูนมาโฆษณาขายสินค้าสำหรับ เด็ก, ปา้ ยโฆษณาโทรศัพท,์ ป้ายโฆษณารถยนต์ และปา้ ยหน้าร้านคา้ ตามแหล่งชมุ ชนต่าง ๆ รูปที่ 1.12 คอมพวิ เตอร์กราฟิกกับงานด้านโฆษณาภาพยนต์ รูปที่ 1. 12 กราฟิกกบั งานดา้ นโฆษณาสินคา้ 1.7.3 กราฟิกกับงานด้านการนำเสนอ เป็นการสื่อสารด้วยศิลปะระหว่าง ผู้สร้าง กับ ผู้รับ (ผู้ดู ผู้เห็น) ดังนั้นภาพกราฟิกจึงเข้ามาช่วยเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้รับสาร เพื่อให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น แผนภาพแสดง การเงิน สถิติ และข้อมูลทางเศรษฐกิจ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร หรือผู้จัดการกิจการต่างๆ มากขึ้น เนื่องจาก สามารถทำความเขา้ ใจกับข้อมูลได้ง่าย และรวดเรว็ กว่าเดิม โดยในกลมุ่ งานการวิจัยตา่ งๆ เช่น การศึกษาทางฟสิ ิกส์ กราฟ และแผนภาพมสี ว่ นชว่ ยใหน้ กั วิจัยทำความเขา้ ใจกับข้อมูลได้ง่ายขึน้ เมื่อขอ้ มูลท่ีตอ้ งวเิ คราะห์มีจำนวนมาก

9 \\ รูปที่ 1. 13 กราฟิกกบั งานดา้ นการนำเสนอ 1.8. คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้านเว็บเพจ ธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างเว็บเพจให้กับบริษัทหรือหน่วยงาน ต่างๆ ได้นำคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ามาช่วยในการสร้างเว็บเพจ เพื่อให้เว็บเพจมีความสวยงาม และสร้าง ภาพเคล่อื นไหว เพม่ิ ความนา่ สนใจมากขึ้น

10 คำชแี้ จง 1. ขอ้ สอบเปน็ แบบปรนยั มที ั้งหมด 10 ข้อ 10 คะแนน 2. หา้ มขดี เขยี นข้อความใดๆ ลงในข้อสอบโดยเด็ดขาด 3. จงเลือกคำตอบที่ถกู ต้องที่สดุ เพยี งคำตอบเดียว คำสัง่ ให้นกั เรยี นเลือกกากบาท ( ✘ ) ทบั ขอ้ ทเี่ ห็นว่าถกู ท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว ลงในกระดาษคำตอบลงในกระดาษา 1. กราฟิกหมายถงึ ขอ้ ใด ก. การส่ือสารความหมายด้วยการใชศ้ ลิ ปะและศาสตร์ ข. ภาพวาด ภาพเขียน แผนภาพ ค. ถกู ทัง้ ขอ้ ก. และ ข. ง. ถกู ขอ้ ก. จ. ไม่มขี ้อใดถกู 2. ขอ้ ใดคือความหมายของ “คอมพิวเตอรก์ ราฟิก” ก. สรา้ งและจัดการภาพกราฟิกโดยใชค้ อมพิวเตอร์ ข. สร้างและจัดการกราฟกิ ค. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ง. การใช้งานกราฟกิ ทดี่ ี จ. เป็นการสรา้ งภาพทีใ่ ช้ทกุ ศาสตรผ์ สมผสานกัน 3. ภาพทีม่ ีความหมายละเอียดสูงหรือคณุ ภาพดี ควรมีความละเอียดเทา่ ใด ก. 300*300 ppi ง. 900*900 ppi ข. 200*200 ppi จ. ถูกทุกขอ้ ค. 600*600 ppi 4. พกิ เซล หมายถงึ ขอ้ ใด ก. จดุ ดำเล็ก ๆ ที่รวมกัน ข. จุดมากมายแตล่ ะภาพสร้างขึ้น ค. จุดสเ่ี หล่ียมเลก็ ๆ ทรี่ วมกัน ง. จดุ สามเหลีย่ มสีแดงเล็ก ๆ ท่ีรวมกัน จ. ถกู ทกุ ข้อ 5. ข้อใดหมายถึงโปรแกรมวาดรูป ก. Auto CAD ข. Adobe IIIustrator ค. Deamweaver ง. Adobe Web Design จ. ถกู ข้อ ก. และ ข.

2 6. ภาพบิตแมปเป็นท่ีมีจำนวนพิกเซลคงที่ หากนำมาขยายภาพจะมีลักษณะในขอ้ ใด ก. ความละเอียดมากขน้ึ ข. ความละเอยี ดคงท่ี ค. ความละเอยี ดไมเ่ ปล่ียนแปลง ง. ความละเอียดลดลง จ. ถูกขอ้ ก. และ ข. 7. กระดานกราฟิก ( Graphic Tablet ) เป็นอปุ กรณืในขอ้ ใด ก. ช่วยวาดภาพกราฟกิ ในคอมพิวเตอร์ ข. บอกตำแหน่งของการวาด ค. สร้างตารางกราฟกิ ง. ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใชง้ าน จ. ถกู ขอ้ ก. และ ข. 8. ความละเอยี ดของภาพ หรือ (Resolution) มีหน่วยเป็นอะไร ก. Ppi ง. .kpi ข. Dpi จ. ถกู ทกุ ขอ้ ค. Pci 9. ข้อใดเปน็ ไฟล์รปู ภาพที่เป็นนามสกลุ ของการประมวลผลแบบ Raster ก. .EPS ง. .DRW ข. .BMP จ. .VEC ค. .CGM 10. การแสดงผลของเครอ่ื งพมิ พแ์ บบดอตเมทริกซ์ และ เลเซอร์ เปน็ การแสดงผลแบบใด ก. แบบ Vector ง. ไมม่ ขี ้อถกู ข. แบบ Raster จ. ถกู เฉพาะขอ้ ค. ค. แบบ Vector และ Raster

2 หนว่ ยท่ี 2 การใชโ้ ปรแกรมกราฟกิ แบบ Raster สาระสาคญั ในปจั จบุ นั ภาพกราฟกิ มบี ทบาทกบั งานดา้ นตา่ งๆเป็นอยา่ งมากเชน่ งานนาเสนอ ขอ้ มลู ในรปู แบบของเสน้ กราฟกราฟแทง่ แผนภมู กิ ารใชก้ ราฟกิ ประกอบการโฆษณาสนิ คา้ ตา่ ง ๆการสรา้ งเวบ็ เพจการสรา้ งสอื่ การสอน(CAT)การสรา้ งการต์ นู การสรา้ งโลโกแ้ ละงาน ออกแบบตา่ งๆเป็นตน้ โดยภาพกราฟกิ จะทาใหง้ านมคี วามสวยงามและนา่ สนใจยง่ิ ขนึ้ สาระการเรยี นรู้ 1. อุปกรณ์คอมพวิ เตอรท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานกราฟิก 2. คุณสมบตั ขิ องโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 3. การตดิ ตงั้ โปรแกรม AdobePhotoShop 7.0 4. การตดิ ตงั้ ฟอนดไ์ ทย 5. การเขา้ /ออกโปรแกรม Adobe AdobePhotoShop 7.0 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. อธบิ ายมติ ิ และระบบพกิ ดั ในภาพกราฟิกได้ 2. อธบิ ายอุปกรณร์ อบขา้ งสองมติ ไิ ด้ 3. อธบิ ายการสรา้ งภาพคอมพวิ เตอรก์ ราฟิกสองมติ ไิ ด้ 4. อธบิ ายขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งรปู ทเกี่ ดิ จากการวาดและรปู ทเ่กี ดิ จากการระบายได้

3 หน่วยท่ี 2 การใช้โปรแกรมกราฟกิ แบบ Raster โปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 เป็นโปรแกรมหนึ่งที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิก เช่น การทำ Retouching Image จากภาพเก่าให้เป็นภาพตามต้องการ การสร้างภาพกราฟิกขึน้ ใหม่ การตกแต่งหรือการแก้ไข ภาพ ซึ่งโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 สามารถใช้งานได้ง่ายและเหมาะสำหรับบุคคลที่สนใจสร้าง ภาพกราฟกิ เพือ่ ใช้ในงานดา้ นตา่ ง ๆ อปุ กรณ์คอมพวิ เตอรท์ เ่ี ก่ียวข้องกับงานกราฟิก อปุ กรณค์ อมพวิ เตอรท์ ี่เกยี่ วข้องกบั งาน กราฟกิ มีดังนี้ 1.ไมโครโพรเซสเซอร์ (CPU) เพนเทียมขนึ้ ไป 2. RAM 128 MB 3. HARD DISK มีเน้ือท่วี า่ งอยา่ งนอ้ ย125 MB 4. การ์ดจอทีส่ ามารถแสดงผลได้ 256 สขี ้ึนไป อปุ กรณ์เสริมทจ่ี ำเปน็ สามารถนำมาใช้งานตามความต้องการได้แก่ กลอ้ งดจิ ิตอล เป็นอุปกรณช์ นิดหนง่ึ ท่ีใชส้ ร้างภาพน่งิ หรือวดี โิ อและใช้ต่อกบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์สำหรับนำ ภาพนิ่งหรือวีดิโอเข้ามาแก้ไข ปรับแต่ง เพิ่มเติม จัดเก็บและแสดงผลออกมาทางจอภาพ หรือทางเครื่องพิมพ์ ปจั จุบนั กลอ้ งดิจิตอลไดพ้ ฒั นาใหม้ ีความละเอียดของภาพและความจุสงู เคร่อื งกราดภาพ (Scanner) เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ที่ใช้ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้สำหรับนำข้อความหรือภาพเข้าไปเก็บไว้ใน หนว่ ยความจำด้วยวธิ กี ารกราดแสงผ่านคอมพวิ เตอรส์ ามารถนำข้อมูลทสี่ ่งเข้าไปมาแก้ไข ปรบั แตง่ เพิ่มเติม จัดเก็บ และแสดงผลออกมาได้ทั้งทางอภาพและเครื่องพิมพ์ แต่เดิม เมื่อใช้เครื่องจับภาพอ่านข้อมูลที่เป็นเอกสารเข้าไป

4 คอมพิวเตอร์จะนำไปเก็บในลักษณะของภาพ(Image) กล่าวคือไม่สามารถนข้อความนั้นมาแก้ไขได้ แต่ในปัจจุบัน การพัฒนาได้ก้าวไปไกลถงึ การทส่ี ามารถแปลงตัวอกั ษรท่เี ปน็ ภาพ โดยใชร้ ่วมกับโปรแกรมทางด้านการรับรู้อักขระ ด้วยแสง(Optical Character Recognition :OCR) ให้มลี ักษณะเป็นเอกสารทน่ี ำมาแก้ไขตวั สะกดได้ โดยนำมาทำ ในโปรแกรมประมวลผลคำ(WordProcessing) เครื่องกราดตรวจที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมี 2 แบบคือแบบระนาบ (Flatbed) กบั แบบมือถอื (Hand-Held) เชน่ แบบที่ใชใ้ นการอา่ นรหสั แทง่ (Bar Code) ใชต้ ามห้างสรรพสินคา้ เครื่องพิมพ์ (Printer) เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่ใชแ้ สดงผลข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อความ ตัวเลขรูปภาพ สัญลักษณ์ ฯลฯ ออกทาง กระดาษหรอื วัตถผุ วิ เรยี บ ซ่งึ สามารถแบ่งเคร่ืองพมิ พ์ออกเป็น 3 แบบ คอื 1.เครื่องพิมพ์แบบด็อตแมทริกซ์ (DotMatrix Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ท่ีทำงาน โดยใช้หัวเข็มในการพิมพ์ เหมาะกับงานด้านเอกสารข้อความหรือการทำสำเนามากกว่าการใช้กับงานกราฟิก ซึ่งการทำงานจะชา้ และเสียงดัง ขอ้ ดีของเครื่องพิมพช์ นดิ นคี้ ือ ผา้ หมกึ ราคาถกู และทนทาน เครอ่ื งพมิ พแ์ บบดอ็ ตแมทรกิ ซ์ 2.เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยวิธีการพ่นหมึกจากตลับหมึกสี และหมึกดำ ซึ่งใช้โมเดล CMYK ในการผสมสีเพื่อให้ได้สีใกล้เคียงกับภาพบนจอคอมพิวเตอร์มากที่สุด ข้อดีของ เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก คือ สามารถทำงานได้รวดเร็วและเงียบ ภาพมีความละเอียดคมชัด ข้อเสียคือ หมึกราคา แพง

5 เคร่อื งพิมพแ์ บบพน่ หมึก 3. เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer) เป็นเครื่องพมิ พ์ท่ีทำงานโดยการยิงแสง จึงทำให้การทำงานมี ความรวดเรว็ และภาพมคี วามละเอียดมาก แตเ่ ครื่องพมิ พ์และหมกึ มีราคาแพง เคร่ืองพิมพ์แบบเลเซอร์ พลอ็ ตเตอร์ (Plotter)ลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าและการทำงานจะใช้ปากกหลาย สเี คลื่อนไปบนแกนของพล็อตเตอร์ ซึ่งใช้สำหรบั พิมพ์แบบแปลนบา้ น งานออกแบบหรืองานทางวิศวกรรม เป็นสว่ น ใหญ่ พล็อตเตอร์

6 กระดานกราฟิก (Graphic Tablet)เป็นอปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการวาดภาพ ซง่ึ ลกั ษณะของอปุ กรณไ์ ด้ออกแบบมา ให้เหมือนกับกระดานวาดภาพ และจะมีปากกาหลากสีไว้ให้ใช้งาน ซึ่งภาพที่วาดบนกระดานกราฟิกจะแสดงที่ จอคอมพวิ เตอรด์ ว้ ย กระดานกราฟิก คณุ สมบัติของโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 โปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้ในการสร้าง ปรับเปลี่ยนตกแต่งและแก้ไข รูปภาพเพราะสามารถใช้งานได้ง่ายและสามารถสร้างชิ้นงานได้หลากหลาย เช่น การสร้างภาพเพื่อใช้ในงานเว็บ เพจ การปรบั แตง่ แกไ้ ขภาพเพื่อให้ได้รูปภาพตามต้องการ เชน่ การทำ Image Retouching ให้เปน็ ภาพตามแบบท่ี ต้องการและการสรา้ งภาพตามจินตนาการเปน็ ต้น การติดตั้งโปรแกรม AdobePhotoShop 7.0 1.นำแผ่น CD โปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0ใส่ใน CD-ROM Drive 2.ดบั เบิลคลกิ ท่ีไอคอน My Computer 3.ดับเบิลคลิกที่ CD-ROM Drive 4.ดบั เบิลคลิกท่โี ฟลเดอร์ Adobe PhotoShop 7.0 5. ดับเบลิ คลกิ ท่ีไฟล์ SERIAL.TXTจะปรากฏหนา้ ต่าง Serial Number ให้เลือก CD Key หรือ Serial Number จากน้ันคลกิ เมาสด์ า้ นขวาเลือกคำส่งั Copy 6. ดบั เบิลคลกิ ทีไ่ อคอน Setup จะปรากฏหน้าตา่ งการตดิ ตั้งโปรแกรมดงั รปู

7 7.จากนัน้ จะปรากฏหนา้ ต่างยนิ ดตี อ้ นรบั เขา้ ส่กู ารตดิ ตั้งโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 คลิกที่ป่มุ Next 8. จะปรากฏหน้าตา่ งเตอื น ก่อนตดิ ต้ังโปรแกรมใหป้ ดิ โปรแกรมประยกุ ต์ของ Adobe ทกุ โปรแกรมกอ่ นดำเนินการ ติดต้งั โปรแกรม คลกิ ท่ีปมุ่ OK 9. จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ ลือกภาษาใหค้ ลิกเลือกภาษา US English จากน้นั คลกิ ทป่ี มุ่ Next

8 10. จากนัน้ จะปรากฏหน้าต่างใหอ้ า่ นขอ้ ตกลงใช้ลขิ สิทธขิ์ องโปรแกรม ใหค้ ลิกท่ปี ุม่ Accept เพื่อยอมรับขอ้ ตกลง 11. จะปรากฏหน้าต่างใหผ้ ูใ้ ชโ้ ปรแกรมกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบทุกช่องโดยที่ช่องของSerial Number ให้ คลกิ เมาสด์ า้ นขวาเลอื กคำสง่ั Paste เพื่อวาง Serial Number ที่ Copy ในขัน้ ตอนที่ 5 ดงั รปู

9 12. จะปรากฏหน้าต่างแจ้งข้อมูลที่ได้จดทะเบียนภายใต้เงื่อนไขการใช้โปรแกรม และถามยืนยันข้อมูลว่าถูกต้อง หรือไม่ ให้คลกิ ทีป่ ุ่ม OK 13. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างให้เลือกรูปแบบการติดตั้ง ดังนี้ แบบ Typical เป็นการติดตั้งแบบธรรมดาเหมาะ สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แบบ Custom เป็นการติดตั้งแบบเลือกส่วนที่ต้องการใช้งานได้ตามต้องการเหมาะสำหรับผู้ใช้ โปรแกรมชั้นสูง คลิกเลอื กที่ปุ่ม Typical จากนน้ั คลกิ ที่ปุม่ Next

10 14. จะปรากฏหนา้ ตา่ งให้เลอื กรปู แบบไฟล์ทีจ่ ะใช้กบั โปรแกรม PhotoShop และ Image Ready เพ่อื ใช้เปิดหรอื กำหนดสว่ นของโปรแกรมตามรปู แบบแต่ละคน โดยไม่ให้เปลยี่ นแปลงตัวเลือก NC เพื่อการเลอื กทีถ่ ูกตอ้ ง จากนั้น คลิกทปี่ ่มุ Next 15.จะปรากฏหน้าต่างแจ้งให้ทราบว่าข้อมูลเพียงพอกับการติดตั้งโปรแกรมโดยจะเริ่มการคัดลอกไฟล์ ถ้าต้องการ ตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดตั้งให้คลิกที่ปุ่ม Back ถ้าแน่ใจเกี่ยวกับการติดตั้งให้คลิกที่ปุ่ม Next เพ่ือ เริ่มการคดั ลอกไฟล์ 16.จะปรากฏหน้าต่างการคัดลอกไฟลจ์ นครบ 100%

11 17. จะปรากฏหนา้ ตา่ งแจง้ ใหท้ ราบการตดิ ตั้งเสรจ็ สมบรู ณ์ คณุ สามารถดทู ี่ ไฟล์ ReadMe ในเวลาน้ี ถ้าไม่ต้องการ อ่านใหค้ ลกิ เครื่องหมายถูกออกท่ี Display PhotoShop Readme File จากน้ันคลกิ ท่ปี มุ่ Finish 18. จะปรากฏหนา้ ต่างขอบคุณทเ่ี ลือกใช้โปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 ใหค้ ลิกที่ป่มุ OK การตดิ ต้งั ฟอนดไ์ ทย การใช้โปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 จำเปน็ ต้องติดต้งั ฟอนตไ์ ทยเพ่ือใหส้ ามารถใช้ ภาษาไทยได้ โดยมีขน้ั ตอนการติดตัง้ ดังนี้ 1.นำแผน่ CD ฟอนตไ์ ทย ใส่ใน CD-ROM Drive 2. ดับเบลิ คลกิ ที่ไอคอน My Computer 3. ดับเบิลคลิกที่ CD-ROM Drive 4. ดับเบลิ คลิกทีโ่ ฟลเดอร์ Font Thai for PhotoShop 5. คลิกเลอื กโฟลเดอร์รปู แบบฟอนต์ไทย จากน้ันคลกิ เมาสด์ ้านขวาเลือกท่ีคำสั่ง Copy 6. ดบั เบลิ คลกิ ท่ี Drive C : จากนัน้ ดบั เบิลคลิกทีโ่ ฟล์เดอร์ Program File 7. ดบั เบิลคลกิ ที่โฟลเดอร์ Common Files จากนนั้ ดับเบิลคลกิ ทีโ่ ฟลเดอร์ Adobe คลิกเมาสด์ า้ นขวาเลือกคำส่ัง Paste การติดต้ัง Plug – in การใช้ Plug – in จะชว่ ยให้สามารถปรับแต่งรูปภาพกราฟกิ ได้หลายรูปแบบและงา่ ยข้นึ โดยมีขน้ั ตอน การตดิ ตงั้ 2 วธิ ดี ังนี้ 1.นำแผ่น CD PhotoShop Plug – in ใส่ใน CD-ROM Drive 2. จะปรากฏหน้าต่างการตดิ ต้ัง Plug – in ใหค้ ลิกที่ Install Program

12 3. จะปรากฏหน้าต่าง Microsoft Internet Explorer ใหด้ บั เบิลคลกิ ทโ่ี ฟลเดอร์ Digital Element Aurora v 1.0 for Ps 4. จากนนั้ ดบั เบิลคลิกท่ีไฟล์ Setup จะปรากฏหน้าตา่ งการติดต้งั โปรแกรม 5. จากนัน้ จะปรากฏหน้าต่าง Aurora Setup ให้คลิกที่ปุม่ Next 6. จะปรากฏหนา้ ต่างเง่ือนไขการใชส้ ิทธิ์โปรแกรม ให้คลิกท่ีปุ่ม Yes เพ่อื ยอมรบั 7. จะปรากฏหน้าตา่ งให้กรอกรายละเอยี ดผูใ้ ชแ้ ละรหสั โปรแกรม จากน้ันคลิกท่ปี ุ่ม Next

13 8. จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ ลอื กตำแหนง่ ทีจ่ ะตดิ ตง้ั Plug – in ให้คลกิ ท่ีป่มุ Browse 9. คลิกที่ไดรฟ์ C: จากนั้นคลิกที่ Program Files แล้วเลือกที่โฟลเดอร์ Adobe PhotoShop เลือกที่ Filters จากน้นั คลกิ ทป่ี มุ่ OK 10. จะปรากฏหน้าตา่ งการติดตง้ั Plug – in ในตำแหนง่ ทเ่ี ลือก จากนนั้ คลกิ ทป่ี ุ่ม Next 11. จะปรากฏหน้าตา่ ง Aurora Setup คลกิ ทป่ี ุม่ Next

14 12. คลกิ ทีป่ ุ่ม Finish เพือ่ สิน้ สดุ การตดิ ตงั้ โปรแกรม วิธีที่ 2 1.นำแผ่น CD PhotoShop Plug-in ใสใ่ น CD-ROM Drive 2. ดับเบิลคลกิ ท่ีไอคอน My Computer 3. ดบั เบลิ คลกิ ท่ี CD-ROM Drive 4. ดบั เบลิ คลิกท่ีฟลเดอร์ Install Program จากน้นั ดบั เบลิ คลกิ ทีโ่ ฟลเดอร์Flaming Pear 5. คลิกเลือกไฟล์ Plug – in ที่ต้องการจากนนั้ คลิกเมาสด์ า้ นขวาเลอื กคำส่งั Copy 6. ดับเบลิ คลกิ ที่ Drive C: จากน้นั ดบั เบิลคลิกท่ีโฟลเดอร์ Program Files 7. ดับเบลิ คลกิ ที่โฟลเดอร์ Adobe จากนัน้ ดับเบลิ คลิกทโี่ ฟลเดอร์ PhotoShop 7.0 8. ดับเบลิ คลกิ ท่โี ฟลเดอร์ Plug-ins จากน้ันดับเบลิ คลิกที่โฟลเดอร์ 9. คลิกเมาส์ดา้ นขวาเลือกคำสั่ง Paste

15 การเขา้ /ออกโปรแกรม Adobe AdobePhotoShop 7.0 การเขา้ โปรแกรม Adobe Photoshop 7.0 1.คลกิ ที่ Start -> Programs -> Adobe PhotoShop 7.0 หรือดับเบิลคลกิ ทไี่ อคอนบน หนา้ ต่างเดสกท์ ็อป 2.จะปรากฏหน้าตา่ งใหเ้ ลอื กการจดทะเบียน ดงั นี้ I want to register online. I have an Internet connection. กรณีทตี่ อ้ งการจดทะเบียนผา่ นระบบเครือขา่ ย โดยมกี ารเชอื่ มต่ออนิ เทอรเ์ น็ตI want ot print out my registration form to bemailed or faxed. กรณที ี่ ต้องการจดทะเบียนโดยการใชจ้ ดหมายหรือแฟกซ์ Do not display this dialog again. กรณีที่ไมต่ ้องการให้ แสดงหน้านี้อีกคลกิ เลือกท่ี Do not display this dialog again. จากนนั้ คลิกท่ปี ุ่ม Continue 3.จะปรากฏหน้าตา่ งใหต้ ิดตั้งสีสำหรบั โปรแกรม PhotoShop 7.0 ใหค้ ลกิ ทป่ี ่มุ No 4. รอสักครู่จะปรากฏหนา้ ต่างของโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0

16 การออกจากโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0มวี ธิ กี ารออกจากโปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 มี 2 วธิ คี อื 1.คลกิ ที่ปุ่ม Close X ที่มุมขวาบนของหน้าตา่ งหลกั หรือ 2.คลกิ ที่เมนู File -> Exitสว่ นประกอบของ โปรแกรม Adobe PhotoShop 7.0 ไตเติลบาร์ ไตเตลิ บาร์มหี น้าทีแ่ สดงชอ่ื โปรแกรมและช่ือไฟลท์ ี่กำลงั ใช้งาน ซึง่ มุมขวาจะมีปุม่ ย่อ/ขยายและปุ่มออก จากโปรแกรม เมนบู าร์เป็นเคร่ืองมือที่เกบ็ รวบรวมคำสัง่ ไว้เปน็ หมวดหมู่ เพ่อื ใชจ้ ดั การกับรปู ภาพ และปรับคา่ ต่าง ๆ ซึ่ง ประกอบด้วย -เมนู File มีหน้าท่จี ัดการเก่ยี วกับการสร้าง การเปิด การบันทึกและการต้งั คา่ ต่าง ๆ -เมนู Edit มหี น้าทีเ่ กี่ยวกับการยกเลกิ การคัดลอก การปรบั เปลี่ยนต่าง ๆ -เมนู Image มีหนา้ ทเ่ี ก่ยี วกบั การปรบั ภาพให้มีลักษณะสตี า่ ง ๆ และเปล่ียนโหมดภาพ -เมนู Layer มีหนา้ ทจ่ี ดั การ Layer -เมนู Select มีหน้าที่เกย่ี วกับการเลือกรปู ภาพทีจ่ ะทำการแกไ้ ขปรับเปล่ยี น -เมนู Filter มหี น้าที่เก่ยี วกับการใส่ลกั ษณะต่าง ๆ ใหก้ ับภาพ -เมนู View มีหน้าที่เกย่ี วกบั การกำหนดมมุ มองแบบตา่ ง ๆ -เมนู Window มีหนา้ ทีเ่ ปิด/ปดิ พาเลต็ ตา่ ง ๆ -เมนู Help มหี นา้ ท่แี นะนำการใชเ้ คร่อื งมือตา่ ง ๆ

17 ออปชนั บาร์ เป็นส่วนทใี่ ช้ปรบั รปู แบบของเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งออปชนั บารจ์ ะเปลีย่ นไปตามเคร่ืองมือที่เลอื กใช้ ยกตัวอย่างเชน่ ออปชันบาร์ของเครื่องมอื Brush จะมีลกั ษณะใหป้ รับเปล่ียนขนาดและหวั พู่กัน โหมดในการระบาย และความ โปร่งใสของสี กล่องเครื่องมือ กล่องเครื่องมือหรือทูลบ็อกซ์ประกอบด้วยเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานมากมาย โปรแกรม Adobe PhotoShop จึงได้จดั กลุ่มให้เคร่อื งมือต่าง ๆ ทม่ี ลี กั ษณะการทำงานคล้ายกันอยใู่ นกลมุ่ เดียวกัน โดยเคร่อื งมือที่จัด กลุ่มจะมีรูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ตรงมุมขวาล่าง การเรียกใช้เครื่องมือที่อยู่ในกลุ่มให้คลิกที่เครื่องมือที่ต้องการคลิก ค้างไว้สักพักจะปรากฏกล่มุ เครอื่ งมือหรอื คลิกเมาสด์ า้ นขวาที่เครื่องมือจะปรากฏเครื่องมือตา่ ง ๆ ดงั น้ี พาเล็ตต่าง ๆเปิดหน้าต่างที่ใช้สำหรับประกอบการทำงานต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพาเล็ตมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน เช่น พาเล็ต Color ใชส้ ำหรับเลอื กสี, พาเลต็ History ใชส้ ำหรบั บนั ทึกการทำงานท่ีผา่ นมา พาเล็ต Info ใช้สำหรับ แสดงข้อมูลและพาเล็ต Layer ใช้สำหรับแสดงข้อมูลและพาเล็ต Layer ใช้สำหรับควบคุมการใช้งานเลเยอร์ เป็น ตน้

18 คำช้แี จง 1. ข้อสอบเปน็ แบบปรนัยมที ้ังหมด 10 ขอ้ 10 คะแนน 2. ห้ามขีดเขียนข้อความใดๆ ลงในขอ้ สอบโดยเด็ดขาด 3. จงเลือกคำตอบทถี่ กู ต้องที่สุดเพยี งคำตอบเดียว คำสง่ั ใหน้ ักเรียนเลอื กกากบาท ( ✘ ) ทบั ข้อที่เหน็ ว่าถกู ทส่ี ุดเพียงข้อเดียว ลงในกระดาษคำตอบลงในกระดาษ 1. โปรแกรมใดท่ีนำมาประยุกต์ใชก้ บั คอมพิวเตอรช์ ่วยออกแบบและสรา้ งชนิ้ งานจำลองได้เหมาะสมท่ีสดุ ก. illustrator ง. CSS ข.CAD จ.CAI ค.Flash 2. ข้อความใดเขยี นผดิ ก. เครือ่ ง SPECT มหี ัววัดรังสไี ม่เกิน 2 ตัว ข. เคร่ือง SPECT คือเคร่ืองแกมมาคาเมราชนดิ หมุนรอบตวั ผู้ปว่ ย ค. ภาพถ่ายท่ีได้หลังการสร้าภาพเปน็ 2 มติ ิ ง. ภาพถ่ายท่ีไดห้ ลังการสร้างภาพเป็น 3 มติ ิ จ. ไม่มีขอ้ ใดถูก 3. ภาพ คืออะไร ก. ภาพถา่ ย Planar ในแต่ละมุมเป็นภาพ 1 มิติ ข. ภาพถ่าย Planar ในแตล่ ะมมุ เปน็ ภาพ 2 มิติ ค. ภาพถา่ ย Planar ในแตล่ ะมุมเปน็ ภาพ 3 มิติ ง. ภาพถ่าย Planar ในแตล่ ะมมุ เป็นภาพ 4 มิติ จ. ภาพถ่าย Planar ในแต่ละมุมเป็นภาพ 4 มติ ิ 4. มคี วามสัมพันธ์กับ อย่างไร ก. เปน็ สงิ่ เดียวกนั ข. เป็นการนำเอาภาพ มาแสดงโดยในแนวแกน ✗ เป็น เปลียนไปตามมดุ ที่หวั วดั หมนุ รอบ ค. คอื การแสดงภาพ โดยภาพ ในแนวแกน ✗ ท่สี มั พนั ธ์กบั มมุ ทเ่ี ปลยี นไป (y) ง. Sinogram เปน็ การแสดงภาพ sine wave จ. Sinogram เปน็ การแสดงภาพ Cold wave

2 5. โปรแกรมเพาเวอรพ์ อยต์ เป็นงานกราฟิกประเภทใด ก. กราฟิกวาดภาพ ง. กราฟิก 2 มิติ ข. กราฟิกการนำเสนอ จ. กราฟิก 3 มติ ิ ค. กราฟิก 1 มติ ิ 6. งานออกแบบแปลนตึก เป็นงานกราฟิกในโปรแกรมใด ก. โปรแกรมช่วยออกแบบ ง. กราฟิก 2 มติ ิ ข. โปรแกรมกราฟกิ การนำเสนอ จ. กราฟิก 3 มิติ ค. โปรแกรมสรา้ งภาพและตกแต่ง 7. โปรแกรมสรา้ งและตกแต่งภาพ ถอื เปน็ งานกราฟิกประเภทใด ก. งานชว่ ยออกแบบ ง. งานกราฟิก 3 มติ ิ ข. งานกราฟิกนำเสนอ จ. งานกราฟิกภาพเคล่อื นไหว ค. งานกราฟิกวาดภาพ 8. เทคนคิ กราฟิกแบบบิตแม็ป เรยี กอกี ช่ือหนึ่งวา่ อะไร ก. โปรแกรมระบายสี (Paint program) ข. โปรแกรมอะโดบีโฟโต้ชอ้ ป (photoshop) ค. โปรแกรมคอเรลดรอว์ (Corel draw) ง. โปรแกรมเวิรด์ (Word) จ. โปรแกรมเอ็กเซลล์ (Excel) 9. ข้อใดคือเทคนิคการสร้างภาพกราฟิกด้วยคอมพิวเตอร์ ก. กราฟิกแบบบิตแมป็ , กราฟิกแรสเตอร์ ข. กราฟิกแบบบติ แม็ป, กราฟิกแบบเวคเตอร์ ค. กราฟิกเสน้ สมมต,ิ กราฟกิ เชิงวตั ถุ ง. กราฟกิ แบบบติ แมป็ , กราฟิกเชิงวัตถุ จ. กราฟิกแบบแวกเตอร,์ กราฟิกเชงิ วตั ถุ 10. ขอ้ ใดคือขอ้ เสียของกราฟิกแบบเวคเตอร์ 1. จัดเกบ็ ในรูปแบบสตู รของเส้น 4. ไมส่ ามารถเก็บรายละเอยี ดของสีตา่ ง ๆ 2. ใชเ้ นือ้ ทจ่ี ัดเกบ็ น้อย ได้ 3. เปล่ียนแปลงขนาดของภาพไมไ่ ด้ ก. ข้อ 1 และ 2 ข. ข้อ 2 และ 3 ค. ข้อ 3 และ 4 ง. ขอ้ 2 และ 4 จ. ข้อ 1 และ 4

2 มมุ มองภาพและการตกแต่งภาพด้วยเลเยอร์ (Layer) สาระสาคญั ในโปรแกรมPhotoshopทกุ เวอรช์ นั มกี ารสรา้ งLayerเพอื่ ใชง้ านในการจดั วางภาพทซี่ อ้ น กนั อยใู่ หส้ ะดวกในการจดั วางภาพทว่ี างซอ้ นกนั นน้ั ใหท้ างานไดเฉ้ พาะสว่ นหรอื เฉพาะชน้ั ทเรี่ าเลอื กได้ อยา่ งอสิ ระตอ่ กนั ไมม่ ผี ลกระทบกนั สว่ นอน่ื หรอื ชน้ั อนื่ ๆซง่ึ ผเู้รยี นจาเปน็ จะตอ้ งเรยี นรกู้ ารทางานของ Layer เพอ่ื จะไดท้ าความเข้าใจกบั โปรแกรม Photoshop ไดม้ ากยง่ิ ขนึ้ สาระการเรยี นรู้ 1. การกาหนดมุมมอง 2. การยอ่ และขยายรปู ภาพ 3. การสรา้ งไฟลภ์ าพใหม่ 4. การเปิดไฟลร์ ูปภาพดว้ ยคาส่ัง File Browser 5. การพมิ พร์ ูปภาพ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. ตดิ ตง้ั และเรม่ิ ตน้ ใช้งานโปรแกรม Photoshop CS6 ได้ 2. อธบิ ายส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรมาด้ 3. สามารถสรา้ งไฟลง์ านไดใ้ หม่ 4. สามารถเปิดไฟลไ์ ด้ 5. บอกการจดั เก็บไฟลด์ ว้ ยคาส่ัง Save ได้ 6. จดั การส่วนตา่ ง ๆ เบอื้ งตน้ ของโปรแกรมได้ 7. อธบิ ายมุมมองตา่ ง ๆ ในโปรแกรม Adobe Photoshop CS6 ได้ 8. จดั เรยี งหน้าตา่ งภาพได้

3 หนว่ ยที่ 3 มุมมองภาพและการตกแตง่ ภาพด้วยเลเยอร์ (Layer) การกำหนดมุมมอง การกำหนดมุมมองด้วยเมนู View มี 3 แบบ คอื 1.การแสดงขนาดรูปภาพตามจรงิ ตามจำนวนพิกเซล ซึ่งมีขั้นตอนดังน้ี คลกิ ท่เี มนู View -> Actual Pixels หรือกดปุ่ม Alt + Ctrl + 0 ท่แี ป้นพมิ พ์ 2. การแสดงขนาดรูปภาพตามพืน้ ท่ีการทำงานของแตล่ ะรปู มีขั้นตอนดังน้ี คลกิ ที่เมนู View -> Fit on Screen หรอื กดปุ่ม Ctrl + 0 ทีแ่ ป้นพมิ พ์ 3. การแสดงขนาดรูปภาพในรูปแบบของการพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ มีขน้ั ตอนดงั นี้ คลิกทีเ่ มนู View -> Print Size

4 การแสดง/ซ่อนไม้บรรทดั คลิกท่เี มนู View -> Rulers ถ้าตอ้ งการซ่อนให้คลิกทเี่ มนู View -> Rulers อกี คร้ัง การแสดง/ซ่อนเสน้ Grid คลิกทเ่ี มนู View -> Show -> Grids ถ้าตอ้ งการซ่อนให้คลิกที่ เมนู View -> Show -> Grids อกี ครง้ั การยอ่ และขยายรปู ภาพ การยอ่ และขยายรูปภาพดว้ ยเมนู View มขี ั้นตอนดังนี้ 1.การย่อภาพคลกิ ท่ีเมนู View -> Zoom Out หรือกดป่มุ Ctrl + - ที่แปน้ พมิ พ์ 2.การขยายภาพคลกิ ท่ีเมนู View - > Zoom In หรอื ปุ่ม Ctrl + + ท่แี ป้นพมิ พ์ การย่อและขยายรปู ภาพด้วย Zoom Tools 1. คลิกทเี่ ครอื่ งมือ Zoom Tools เมอื่ ต้องการย่อ/ขยายรูปภาพโดยกำหนดคุณสมบัติ ของ Zoom tools ในออปชันบาร์ดงั นี้ 2. หรือคลกิ ที่เคร่ืองมือ Zoom Tools รปู เมาส์พอยเตอรจ์ ะเปลย่ี นเปน็ รปู แวน่ ขยายมี เครือ่ งหมาย + จากนัน้ คลกิ ท่ีรปู ภาพทต่ี อ้ งการขยาย 3.การย่อขนาดรปู ภาพให้กดปุ่ม Alt ทแ่ี ป้นพิมพ์รปู เมาส์พอยเตอรจ์ ะเปลยี่ นเปน็ รปู แว่นขยายมี เครื่องหมาย - จากนนั้ คลกิ ทร่ี ูปภาพท่ตี ้องการย่อขนาดการจดั เรียงแฟ้มรูปภาพการจดั เรียงแฟ้มภาพท่ี เปดิ ขน้ึ มาพรอ้ มกันหลาย ๆ แฟ้มสามารถจัดเรยี งไดห้ ลายรปู แบบ ดังน้ี 1.การจัดเรยี งแบบขัน้ บนั ได-คลกิ ที่เมนู Windows -> Document - > Cascade

5 2. การจดั เรยี งแบบให้เหน็ ภาพทุกแฟ้ม -คลิกท่เี มนู Windows -> Document -> Tile การเลื่อนดูภาพด้วย Hand Tool จากนั้นคลกิ เมาสด์ ้านซ้ายค้างไว้ทรี่ ปู ภาพแล้วเลื่อน รปู ภาพในตำแหนง่ ท่ีตอ้ งการ การปรับขนาดรปู ภาพและการเลื่อนรปู ภาพดว้ ย Navigator Palette คลิกทีเ่ มนู Windows -> Navigator จะปรากฏหนา้ ต่าง Navigator Palette ซง่ึ มีส่วนประกอบดงั ต่อไปน้ี

6 การสร้างไฟลภ์ าพใหม่ 1.คลิกที่เมนู File -> New จะปรากฏหนา้ ต่างที่ใชส้ ร้างไฟลภ์ าพใหม่ ซึ่ง มีส่วนประกอบดังต่อไปน้ี

7 Name ใชต้ ัง้ ช่อื ไฟล์ภาพ Preset Sizes ใชเ้ ลอื กขนาดพื้นที่หน้าตา่ งการทำงาน Preset Sizes ทตี่ ้องการหรือกำหนดขนาดหน้าตา่ งการ Custom กำหนดขนาดทช่ี อ่ งกำหนดขนาดดงั นี้ ทำงานโดยเลอื กตวั เลือก กำหนดความกว้างของพืน้ ทหี่ นา้ ตา่ งการทำงาน กำหนดความสงู ของพ้นื ทีห่ น้าต่างการทำงาน Width Height พกิ เซล น้ิว ซง่ึ มหี น่วยวัด ดังนี้ เซนติเมตร มลิ ลเิ มตร Pixels จดุ Inches ไพคะ Cm สดมภ์ mn กำหนดความละเอียดของภาพ-ซึ่งมีหน่วยวัดเป็น Point Pixels/Inch Picas Columns กำหนดโหมดภาพ ซงึ่ ประกอบด้วย Resolution Resolution แบบจดุ สี แบบขาวดำ Mode แบบ Additive Bitmap แบบใช้กับส่งิ พมิ พ์ Grayscale แบบไมค่ ำนงึ ถงึ อปุ กรณท์ ี่นำมาใช้ RGB Color กำหนดรปู แบบของพ้ืนหลงั ซง่ึ ประกอบด้วย CMYK Color พนื้ หลงั สีขาว Lab Color พนื้ หลงั เปน็ สตี ามตงั้ ไวท้ ่ี Background Contents พนื้ หลังโปร่งแสง White Background Color Transparent

8 2. เมื่อกำหนดรปู แบบของไฟล์ภาพใหม่แล้วคลกิ ท่ปี ุ่ม OKตัวอยา่ ง การสร้างไฟลภ์ าพใหม่ 1.คลิกทเี่ มนู File -> New 2. จะปรากฏหนา้ ตา่ งทีใ่ ชส้ รา้ งไฟลภ์ าพใหม่ ให้กำหนดตามหนา้ ตา่ งด้านลา่ งน้ี Name ตั้งช่อื แฟ้มเป็น test Width กำหนดความ กว้าง 800 Pixels Height กำหนดความสูง 600 Pixels Resolution กำหนดรายละเอียดของภาพเปน็ 72 Pixels Mode กำหนดโหมดภาพเปน็ RGB Mode Contents กำหนดเปน็ White 3. คลกิ ทป่ี ุม่ OK จะปรากฏพนื้ ทห่ี น้าต่างการทำงานตามทก่ี ำหนดการเปดิ ไฟลร์ ูปภาพการเปิดไฟล์ รปู ภาพสามารถทำไดห้ ลายวิธี ดังน้ี การเปิดไฟล์รูปภาพด้วยคำส่ัง Open

9 คลิกทเ่ี มนู File -> Open จะปรากฏหน้าต่าง Open คลิกเลอื กไฟลร์ ปู ภาพท่ี ต้องการ จากนัน้ คลิกท่ปี มุ่ Open จะแสดงไฟล์ภาพทเ่ี ลือก การเปดิ ไฟล์รูปภาพด้วยคำสงั่ File Browser 1.คลกิ ท่เี มนู File -> Browser จะปรากฏหน้าต่าง File Browser คลิกโฟลเดอร์ท่ตี ้องการ จะปรากฏภาพในโฟลเดอรท์ ี่เลอื ก ดงั รูป 2. ดับเบิลคลิกรูปทต่ี อ้ งการเปิด 3. ปดิ หน้าตา่ ง File Browser โดยคลกิ ทเ่ี ครื่องหมาย X หนา้ ตา่ ง File Browser หรอื คลิกท่ีเมนู Windows -> File Browser การเปดิ ไฟล์รปู ภาพอยา่ งรวดเรว็ ด้วยคำส่งั Open Recent คำสัง่ Open Recent เป็นคำส่งั การเปดิ ไฟลร์ ูปภาพอยา่ งรวดเร็ว ซึ่งจะเก็บช่ือไฟลภ์ าพ ท่เี คยเปิดใช้งานแลว้ ก่อนหน้า 10 ไฟล์ โดยมีขน้ั ตอนดงั นี้ 1.คลิกทเี่ มนู File -> Open Recent จะปรากฏชอื่ ไฟล์ต่าง ๆ คลกิ เลือกไฟล์ท่ีต้องการ

10 การบนั ทึกไฟล์รปู ภาพ การบันทกึ ไฟล์ภาพน้ัน ภาพแตล่ ะภาพท่ที ำการบนั ทกึ จะมคี ณุ ภาพของภาพท่ีแตก ตา่ งกันตามประเภทของไฟลท์ ่ีเราบันทึก ซ่งึ การที่จะเลือกประเภทของไฟล์น้ันขน้ึ อย่กู บั งานท่ีใช้ ยกตัวอย่างเชน่ 1.ไฟล์นามสกุล .PSD (PhotoShop File) เป็นไฟล์ที่เก็บขั้นตอนการทำงานไว้โดยดูจากเลเยอร์การ ทำงาน ซ่ึงสามารถนำไฟลไ์ ปปรับปรงุ แก้ไขได้ 2.ไฟล์นามสกุล .TIFF (Tagged Image File Format) เป็นไฟล์ที่เก็บขั้นตอนการทำงานไว้โดยดูจากเล เยอรก์ ารทำงาน ซ่ึงสามารถนำไฟล์ไปปรบั ปรงุ แก้ไขได้ 3.ไฟลน์ ามสกลุ .JPG,.JPEG (Joint PhotoShop Experts Group) เป็นไฟลข์ นาดเล็ก เพราะสามารถบีบ อดั ขอ้ มลู ได้ เหมาะกับการทำงานดา้ นเว็บเพจ 4.ไฟล์นามสกุล .GIF (Graphics Interchange Format) เป็นไฟล์ขนาดเล็กเหมือนกันกับ.JPG, .JPEG แต่ เหมาะกบั งานดา้ นภาพลายเส้นมากกว่าการบันทึกไฟล์รูปภาพด้วยคำส่ัง Save มขี น้ั ตอนดังน้ี 1.คลกิ ท่เี มนู File -> Save จะปรากฏหน้าต่าง

11 2. คลิกท่ีปุ่ม Save จะปรากฏหนา้ ต่าง JPEG Options ใหป้ รับเปลี่ยนคุณภาพของไฟลร์ ปู ภาพซง่ึ มี รายละเอียดดังนี้ Image Options Quality คอื คุณภาพของไฟล์รูปภาพ ประกอบดว้ ย Low คุณภาพต่ำ Medium คณุ ภาพปานกลาง High คณุ ภาพดี Maximum คณุ ภาพดสี ูงสุด Small File / Large File การปรับขนาดไฟล์ภาพโดยถ้าลากแถบเลื่อนไป ด้านซ้ายไฟลภ์ าพจะมขี นาดเล็กแต่ถ้าเล่ือนไปด้านขวา ไฟล์ภาพจะมีขนาดใหญ่ Format Options คือ คณุ สมบตั ิไฟล์รูปภาพ ประกอบดว้ ย Baseline (“Standard”) กำหนดเป็นไฟลแ์ บบมาตรฐานสามารถรองรบั ราวเซอร์ได้หลายบริษทั Baseline Optimized กำหนดเป็นไฟล์แบบลดคุณภาพของสีลงแต่ใชไ้ ดก้ บั บางบราวเซอร์ Progressive กำหนดเป็นไฟล์แบบแสดงภาพขนึ้ มาทีละนิดขณะโหลดไฟล์ ใชไ้ ด้- กบั บางบราวเซอร์ Size คอื ขนาดของไฟลร์ ูปภาพซึ่งเร่ิมที 14.4 Kbps ถึง 2 bps

12 3. จากน้ันคลิกท่ีปุ่ม OK แท็บ Image Size 1. คลิกท่ปี ุ่ม Save จะปรากฏหน้าต่าง Save Optimized As 2. เลือกรูปแบบของ Web Photo Gallery 3. ระบุ E-mail ที่ตอ้ งการแสดง 4. นามสกลุ ไฟล์ทสี่ ร้าง 5. การใช้โฟลเดอร์เพื่อสร้างเว็บเพจ Folders ประกอบดว้ ย Browse ป็นปุ่มทใี่ ชค้ ลกิ เลอื กโฟลเดอร์รปู ภาพท่ี ต้องการสร้างเว็บเพจ Include All subfolders สรา้ งเวบ็ เพจที่มีรูปภาพอยู่ในโฟลเดอรย์ อ่ ยดว้ ย Destinations เป็นป่มุ ท่ีใช้คลกิ เลือกโฟลเดอร์ท่ตี ้องการเก็บเว็บเพจ 6. การกำหนดขอ้ ความท่ีตอ้ งการแสดงบนเว็บเพจOptions เปน็ การกำหนดข้อความทตี่ อ้ งการแสดงบนเวบ็ เพจ ประกอบด้วย Site Name ช่ือเว็บเพจ Photographer ช่อื เจา้ ของเวบ็ เพจ Contact Info ข้อมลู สำหรับติดต่อกบั ผู้สรา้ งเวบ็ เพจ Date วนั ท่สี รา้ งเวบ็ เพจ

13 Font รูปแบบตัวอกั ษร Font Size ขนาดของตัวอักษร 7. คลิกทปี่ มุ่ Save จะปรากฏหน้าต่าง Browser แสดงเวบ็ เพจท่ีสรา้ งดงั รูป 3. คลิกที่ปุม่ Saveการสร้างอัลบั้มภาพในรูปแบบของเวบ็ เพจการสร้างอัลบั้มภาพในรูปแบบของเว็บเพจ ไฟล์ภาพ ที่สร้างจะแสดงที่บราวเซอร์ซึ่งใช้ภาพเล็กหรอื ชื่อรูปภาพลงิ ก์ไปที่ภาพใหญ่ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ซึ่งใช้ภาพเลก็ หรือชือ่ รปู ภาพลิงกไ์ ปทภ่ี าพใหญ่ ซงึ่ มขี ้นั ตอนดังนี้ 1.คลิกท่ีเมนู File -> Automate -> Web Photo Gallery จะปรากฏหน้าต่าง Web Photo Gallery ซงึ่ มี สว่ นประกอบดังนี้ 2. เลือกรูปแบบของ Web Photo Gallery 3. ระบุ E-mail ท่ตี ้องการแสดง 4. นามสกลุ ไฟลท์ สี่ ร้าง 5.การใชโ้ ฟลเดอร์เพ่ือสร้างเว็บเพจ Folders ประกอบด้วย Browse เปน็ ปุ่มท่ีใช้คลกิ เลือกโฟลเดอร์รปู ภาพ ทต่ี ้องการสร้างเว็บเพจ Include All subfolders สร้างเว็บเพจทีม่ ีรปู ภาพอยู่ในโฟลเดอร์ยอ่ ยด้วย Destinations เป็นปมุ่ ที่ใชค้ ลิกเลือกโฟลเดอรท์ ่ตี อ้ งการเก็บเว็บเพจ 6. การกำหนดขอ้ ความที่ตอ้ งการแสดงบนเวบ็ เพจOptions เป็นการกำหนดข้อความที่ต้องการแสดงบน เว็บเพจ ประกอบดว้ ย Site Name ช่ือเวบ็ เพจ Photographer ชื่อเจ้าของเว็บเพจ Contact Info ข้อมูลสำหรับติดตอ่ กับผูส้ รา้ งเว็บเพจ Date วันทส่ี ร้างเว็บเพจ Font รปู แบบตวั อกั ษร Font Size ขนาดของตวั อักษร 7. คลกิ ท่ปี ุ่ม Save จะปรากฏหน้าตา่ ง Browser แสดงเวบ็ เพจท่สี รา้ ง ดงั รูป

14 การพมิ พ์รปู ภาพ การพิมพร์ ปู ภาพด้วยคำสง่ั Print with Previewคลกิ ท่ีเมนู File -> Print with Preview จะปรากฏหน้าตา่ งดังภาพ Center Image การจดั ภาพใหอ้ ยู่กงึ่ กลางหน้ากระดาษ Scaled Print Size การกำหนดขนาดรปู ภาพที่จะพิมพ์ ซึ่งมีองคป์ ระกอบดังน้ี Scaled กำหนดขนาดภาพเป็นเปอรเ์ ซ็นต์ซึ่งเทยี บกับขนาดไฟล์รูปภาพหรือจะกำหนดโดยระบุขนาดภาพ ดงั น้ี Height กำหนดความสู Width กำหนดความกว้าง Scale to Fit Media กำหนดใหภ้ าพพอดีกบั

15 Center Image การจดั ภาพให้อยู่กงึ่ กลางหน้ากระดาษ Scaled Print Size การกำหนดขนาดรูปภาพทีจ่ ะพิมพ์ ซึง่ มอี งคป์ ระกอบดังนี้ Scaled กำหนดขนาดภาพเป็นเปอรเ์ ซ็นตซ์ ่ึง เทียบกับขนาดไฟล์รูปภาพหรือจะกำหนด โดยระบุขนาดภาพ ดังนี้ Height กำหนดความสูง Width กำหนดความกวา้ ง Scale to Fit Media กำหนดให้ภาพพอดีกบั หน้ากระดาษ Show Bounding Box แสดงกรอบรูปภาพเพื่อใหส้ ามารถย่อขยาย ได้ Show More Option ซอ่ นหรอื แสดงออปชันการพิมพ์รูปภาพ ดว้ ยคำสัง่ Picture Package การพิมพ์รูปภาพด้วยคำสัง่ Picture Package เป็นการพิมพ์รปู ภาพแบบทำสำเนา โดยจะมรี ูปแบบให้ เลือกวา่ ต้องการพิมพ์รปู ภาพแบบใด ตอ้ งการทำสำเนาก่รี ูปและแต่ละรปู จะมีขนาดเทา่ ใด โดยจะพมิ พใ์ นกระดาษ แผ่นเดียวเหมือนกบั การพิมพ์สตกิ เกอร์ตามหา้ งสรรพสินคา้ ซึ่งมขี ้นั ตอน ดงั น้ี 1.คลกิ ทเ่ี มนู File -> Automate -> Picture Package จะปรากฏหนา้ ต่างการทำงานซึ่งมอี งคป์ ระกอบ ดงั นี้

16 Use ประกอบด้วย File ใชก้ รณพี ิมพ์รูปเพยี งรูปเดียว Folder ใช้พิมพ์รูปในโฟลเดอร์ที่เลือก โดยคลิกที่ ปุ่ม Browse เพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการ และ ถ้าต้องการ รูปท่ีอยูใ่ นโฟลเดอร์ย่อยด้วยให้คลิกท่ี ปุม่ Include All Subfolders Front most Documents ใช้พิมพ์รูปภาพท่ี เปิดอยู่ Document ประกอบดว้ ย Page size ใช้กำหนดขนาดกระดาษทีต่ ้องการพิมพ์ Layout ใชเ้ ลอื กรูปแบบ ที่ต้องการพิมพ์ Resolution ใช้กำหนดความละเอียดของรูปภาพ Mode ใช้กำหนดโหมดสีของภาพ Flatten All Layers ใช้กำหนดให้ทำสำเนาทกุ ภาพ Label ประกอบด้วย Content ใช้พิมพ์ข้อความทีต่ ้องการ โดยเลือกที่ Custom Text สว่ นตวั เลือกอืน่ จะมา จาก File Info ซึง่ ไม่สามารถปรับเปลีย่ นได้ Custiom Text พมิ พข์ อ้ ความที่ต้องการแสดง Font ใช้เลือกรปู แบบของตวั อักษร Font Size ใชเ้ ลอื กขนาดของตัวอกั ษร Color ใชเ้ ลือกสีตัวอักษร Opacity ใชก้ ำหนดความโปรง่ ใสใหก้ ับข้อความ Position ใชก้ ำหนดตำแหนง่ ของข้อความท่จี ะพิมพ์ Rotate ใช้หมนุ ข้อความตามมมุ ท่กี ำหนด 2. เมอ่ื กำหนดรปู แบบได้ตามต้องการแลว้ ใหค้ ลกิ ท่ปี ุ่ม OK

17 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี 3 คำสง่ั ให้นกั เรยี นเลือกกากบาท (X) ทับข้อท่เี ห็นวา่ ถูกท่สี ดุ เพียงข้อเดียวลงในกระดาษคำตอบ จากตัวเลอื กต่อไปนใี้ ช้ตอบคำถามข้อ 1-5 ก. Picture Package ข. Crop and Straighten ค. Contact Sheet ง. Photomerge จ. Web Photo Gallery 1. การเรียงภาพก่อนพิมพแ์ บบอัตโนมัตใิ ชค้ ำสัง่ ใด ก. Picture Package 2. คำส่งั อัตโนมัติท่ีใช้ในการตดั ส่วนเกิดออกจากภาพคือข้อใด ข. Crop and Straighten 3. การสร้างปก CD สามารถทำไดโ้ ดยใชค้ ำสง่ั ใด ง. Photomerge 4. คำสั่งท่ใี ช้สร้างภาพยาว ๆ แบบ Panorama จากการต่อภาพเข้าดว้ ยกันคือข้อใด ค. Contact Sheet 5. การสร้างแกลเลอรแี สดงรปู ภาพสำหรับเว็บไซต์ จ.Web Photo Gallery 6. Flatten All Layers หมายถงึ ก. สั่งใหโ้ ปรแกรมทั้งหมดจัดเรยี งภาพ ข. กำหนดจำนวนแถวในแนวต้งั และแนวนอน ค. กำหนดโหมดสีให้เป็นแบบ RGB Color ง. สั่งใหโ้ ปรแกรมแสดงขอ้ ความเป็น Pahe 1 of 2 จ. สัง่ ใหโ้ ปรแกรมรวมภาพท้งั หมดเป็นเลเยอร์เดียว 7. คลกิ คำสง่ั File > Automate > Picture Package เปน็ รูปแบบของ ก. คำสัง่ ทชี่ ่วยจดั เรยี งภาพลงในหน้ากระดาษโดยอัตโนมตั ิ ข. คำสั่งสำหรับกำหนดรายละเอียด ค. คำส่ังเลือกขนาดกระดาษทต่ี ้องการ ง. คำสงั่ เลอื ก Layout ท่ตี ้องการพิมพ์ จ. คำส่ังกำหนดความละเอยี ดและโหมดสี 8. ขอ้ ใดเปน็ การกำหนดคา่ ต่าง ๆ สำหรบั สรา้ ง Layout ของ Web Photo Gallery ก. Banner กำหนดส่วนประกาศตวั กับผู้ชม ข. Large Images กำหนดรายละเอียดของรปู ภาพขนาดใหญ่ ค. Thumbnails กำหนดรายละเอยี ดใหร้ ปู ภาพขนาดเล็ก ง. Custom กำหนดสีให้ส่วนตา่ ง ๆ จ. ถกู ทุกข้อ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook