บทที่ 6 ทรัพยส์ ินทางปญั ญา ความหมายของทรพั ยส์ ินทางปัญญา ทรัพย์สินทางปญั ญา ทรพั ย์สนิ คือ วัตถุทีม่ รี ูปร่างซ่งึ อาจมีราคาและอาจถือเอาได้ เช่น บา้ น ที่ดนิ ลขิ สทิ ธิ์ สิทธิบัตร เป็นต้น ปัญญา คือ ความรอบรู้ ความรู้ทั่วไปความฉลาดเกิดแต่เรียนและความคิด เมื่อรวมทั้ง 2 คำเข้าด้วยกัน ทรัพย์สินทาง ปัญญา จึงหมายถงึ ความรูท้ ่ีเกดิ จากการคิดค้นจนทำให้เกิดมีคา่ ข้ึนได้ หรอื จะกลา่ วอีกนัยหน่ึงว่า ทรัพย์สินทาง ปัญญาได้แก่การที่ผู้ใดหรือคณะบุคคลใดร่วมกันประดิษฐ์คิดค้น ออกแบบ สร้างสรรค์ จนเกิดผลขึ้นมา และ ผลงานนัน้ มีคณุ ค่าสามารถใชป้ ระโยชนไ์ ด้ท้ังงานเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม และพาณชิ ยกรรม ทรพั ยส์ ินทางปัญญามคี วามสำคัญอยา่ งไร ปัจจุบันทรัพย์สินทางปัญญานับว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และควรค่าต่อการที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ด้วยเหตุผลที่ว่า การประดิษฐ์คิดค้น กรรมวิธีต่างๆ นั้น จุดกำเนิดของการได้มานั้นมาจากความคิดมาจาก มันสมองผนวกกับระยะเวลาที่ทุ่มเทให้กับการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทรงคุณค่า เปน็ ท่ีภมู ใิ จของผู้ประดิษฐ์ ดงั นัน้ ดว้ ยเหตุ นี้เองผลงานดังกลา่ วจึงควรค่าแก่การคุ้มครอง จากเหตุที่กล่าวมาจึง ไดม้ กี ารบัญญตั ิเปน็ กฎหมายเพ่ือใหก้ ารคุ้มครอง โดยมีพระราชบญั ญตั ิสิทธิบตั ร ลขิ สทิ ธิ์ เครือ่ งหมายการค้า ให้ การคมุ้ ครองในหลกั การรปู แบบท่ีแตกต่างกันไป ประเภทของทรัพย์สนิ ทางปญั ญา โดยทั่ว ๆ ไป คนไทยส่วนมากจะคุ้นเคยกับคำว่า \"ลิขสิทธิ์\" ซึ่งใช้เรียกทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท โดยที่ ถูกต้องแล้ว ทรัพย์สินทางปัญญาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ที่เรียกว่า ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial property) และลิขสิทธิ์ (Copyright) ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมไม่ใช่สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ ในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม แท้ที่จริงแล้วทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมนี้เป็นความคิด สร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เกี่ยวกับสินคา้ อตุ สาหกรรม ความคดิ สร้างสรรคน์ ้ีจะเป็นความคิดในการประดิษฐ์คิดค้น การออกแบบผลิตภณั ฑ์ทางอุตสาหกรรม ซึ่งอาจจะเป็นกระบวนการ หรือเทคนิคในการผลิตทีไ่ ด้ปรบั ปรุงหรอื คิดค้นข้ึนใหม่ หรอื ทเ่ี ก่ียวกับตวั สนิ ค้า หรือผลิตภณั ฑ์ท่เี ป็นองคป์ ระกอบ และรูปรา่ งสวยงามของตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องหมายการค้าหรือยี่ห้อ ชื่อ และถิ่นที่อยู่ทางการค้า ที่รวมถึงแหล่งกำเนิดสินค้าและ การป้องกนั การแข่งขันทางการค้าที่ไมเ่ ป็นธรรม ทรัพย์สินทางอตุ สาหกรรม สามารถแบ่งออก ไดด้ งั น้ี สทิ ธบิ ัตร (Patent) เครือ่ งหมายการคา้ (Trademark) แบบผงั ภมู ขิ องวงจรรวม (Layout-Designs of Integrated Circuit) ความลับทางการคา้ (Trade Secrets) ชื่อทางการคา้ (Trade Name) ส่งิ บง่ ช้ที างภูมศิ าสตร์ (Geographical Indication) ความหมายของทรัพยส์ นิ ทางปัญญาแต่ละประเภท ลขิ สิทธิ์ งานหรือความคดิ สร้างสรรค์ในสาขาวรรณกรรม ศลิ ปกรรม ดนตรกี รรม งานภาพยนตร์ หรอื งานอื่นใด ในแผนกวิทยาศาสตร์
สิทธิ์ข้างเคียง (Neighbouring Right) คือ การนำเอางานด้านสิทธิ์ออกแสดง เช่น นักแสดง ผู้บันทึกเสียงและ สถานีวทิ ยุ โทรทศั น์ ในการบันทึกหรอื ถา่ ยทอดเสียงหรือภาพ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Program หรือ Computer Software) คือ ชุดคำสั่งที่ใช้กับเครื่อง คอมพิวเตอรเ์ พอ่ื กำหนดใหเ้ คร่อื งคอมพิวเตอร์ทำงาน งานฐานข้อมลู (Database) คือ ข้อมูลทไี่ ดเ้ กบ็ รวบรวมข้นึ เพือ่ ใชป้ ระโยชนด์ ้านตา่ ง ๆ สิทธิบัตร หมายถึง หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์( Invention) การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) หรือผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ (Utility Model) ทีม่ ีลกั ษณะตามทีก่ ฎหมายกำหนด การประดิษฐ์ คือ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับลักษณะ องค์ประกอบ โครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทงั้ กรรมวิธี ในการผลิต การรกั ษาหรอื ปรบั ปรุงคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับการทำให้รูปร่างลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์เกิด ความสวยงาม และแตกตา่ งไปจากเดิม ผลิตภณั ฑ์อรรถประโยชน์ หรือทเี่ รยี กอีกอย่างหนึง่ วา่ อนุสิทธิบตั ร ( Petty Patent) จะมีลักษณะคล้ายกันกับ การประดิษฐ์ แต่เป็นความคดิ สร้างสรรคท์ ีม่ ีระดับการพัฒนาเทคโนโลยีไม่สูงมาก หรือเป็นการประดษิ ฐ์คิดคน้ เพยี งเลก็ น้อย แบบผังภูมิของวงจรรวม หมายถึง แผนผังหรือแบบที่ทำขึ้น เพื่อแสดงถึงการจัดวางและการเชื่อมต่อของ วงจรไฟฟา้ เชน่ ตวั นำไฟฟ้า หรอื ตัวตา้ นทาน เป็นต้น เครอ่ื งหมายการคา้ (Trade Mark) เคร่อื งหมายหรือสญั ลกั ษณห์ รือตราทใ่ี ช้สินค้า หรอื บรกิ าร ได้แก่ - เครื่องหมายบรกิ าร (Service Mark) คือ เครื่องหมายทีใ่ ช้เป็นที่หมายเกี่ยวขอ้ งกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินคา้ ท่ี ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่อง หมายบริการของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมายของสายการบิน ธนาคาร โรงแรม เปน็ ต้น - เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เป็นที่หมายหรือ เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้า หรือบริการนั้น เช่น เชลล์ชวนชมิ แมช่ ้อยนางรำ เปน็ ตน้ - เครื่องหมายร่วม (Colective Mark) คือ เครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือ รัฐวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กร อื่นใดของรัฐหรือเอกชน เช่น ตราช้าง ของบรษิ ทั ปูนซีเมนตไ์ ทย จำกัด เปน็ การปกปอ้ งทรพั ย์สนิ ทางปัญญา การปอ้ งปรามการละเมิดทรัพย์สนิ ทางปัญญา 1. กรณีถูกดำเนินคดีอาญา ผู้ถูกจับย่อมมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะขอตรวจดูเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการ กระทำใด ๆ อนั กระทบต่อสิทธแิ ละเสรีภาพของตนเอง 2. การค้นในทร่ี โหฐานจะต้องมคี ำส่งั หรอื หมายศาล มาแสดงกอ่ นจงึ จะทำการค้น 3. ของกลางในคดีละเมดิ ลขิ สิทธิท์ ่ีถูกยึดหรอื อายดั คือ เครื่องมอื หรอื อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการกระทำความผดิ เท่าน้ัน เชน่ คอมพิวเตอรท์ ี่บนั ทึกเพลงละเมิดลขิ สิทธิ์ เป็นต้น 4. กรณตี กเปน็ ผู้ตอ้ งหายอ่ มมีสิทธ์ิ ดงั นี้ ก. สิทธิพ์ บและปรึกษาผทู้ ี่จะเป็นทนายความสองต่อสอง ข. สิทธ์ิไดร้ ับการเยย่ี มตามสมควร ค. สทิ ธไ์ิ ด้รบั การรกั ษาพยาบาล โดยเรว็ เม่ือเกิดอาการเจบ็ ปว่ ย ง. สทิ ธขิ์ อทราบข้อกล่าวหาในการกระทำความผิด เนอื่ งจากบคุ คลย่อมเสมอกันในกฎหมายและไดร้ บั การความคุม้ ครองตามกฎหมายเทา่ เทียมกันโดยไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ
5. การประกนั ตวั ผตู้ อ้ งหา หลกั ฐานทต่ี อ้ งนำมาใชใ้ นการประกนั ตัวผู้ต้องหา คอื โฉนด ทีด่ ิน เงนิ สด หรือบุคคล ที่เปน็ ข้าราชการพลเรือนตำแหน่งระดับ 6 ขึ้นไป กรณนี คี้ ณะรฐั มนตรีไดม้ ีมติ เม่ือวันท่ี 1 กรกฎาคม 2546 ให้ ถือปฏิบัติห้ามไม่ให้ข้าราชการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหลั กเกณฑ์เบื้องต้นในการ พจิ ารณาสินคา้ ลอกเลียนแบบ การพิจารณาสินคา้ ละเมิดทรัพยส์ ินทางปญั ญามหี ลกั เกณฑใ์ นการพิจารณาเบือ้ งตน้ 3 ประการ ดงั น้ี 1. สถานทจ่ี ำหนา่ ยสินค้า 1.1 กรณสี ินคา้ ที่มเี คร่อื งหมายการค้า สินค้าของแท้จะวางขายตามร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่มีหลักแหล่งเป็นที่แน่นอ น เช่น ใน ห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มโพเรี่ยม สยามพารากอน และเกษรพลาซ่า เป็นต้น สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบ จะวางตามร้านค้าหรอื แผงลอยริมฟุตบาท ตามแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วหรือตลาดเปิดท้ายขายของ หรือวางโชว์เฉพาะ แคตตาล๊อคสนิ คา้ ให้ลกู ค้าเลอื กซ้อื 1.2 กรณสี นิ ค้าลิขสทิ ธิ์ สินคา้ ของแท้จะวางขายตามร้านค้าหรือแผงลอยที่มหี ลักแหล่งเป็นท่ีแน่นอน มเี อกสารการจดทะเบียนพาณิชย์ ใบรา้ นคา้ สนิ คา้ ลขิ สิทธ์ิ และใบอนญุ าตคา้ ของกรมส่งเสริมวฒั นธรรมแสดงทรี่ ้านคา้ หรือแผงลอย สินค้าของปลอมส่วนมากจะวางโชว์ปกให้ลูกค้าเลือกซื้อ โดยให้จ่ายเงินกอ่ น และให้รอรับสินคา้ ประมาณ 10– 15 นาที หรือสะกิดขาย หรอื ในบางพื้นท่ีจะวางโชว์สนิ คา้ ของแทป้ ะปนกบั ของปลอม 2. คุณภาพของสนิ คา้ 2.1 กรณีสนิ คา้ ที่มีเครอ่ื งหมายการคา้ สินค้าของแท้จะใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการผลิต การผลิตมีความปราณีตและมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนนำ สินค้าออกวางจำหน่ายในท้องตลาด จึงเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของผู้ผลิตแต่ละราย จึงมีความ สวยงาม แขง็ แรง ทนทาน ใช้งานไดน้ าน สนิ ค้าของปลอมหรอื ลอกเลียนแบบจะใช้วตั ถุดิบท่ีไม่มีคุณภาพมาใชใ้ นการผลิตไมม่ ีความปราณตี ในการผลิตจึง ขาดความแขง็ แรงทนทานและมีอายุการใชง้ านท่สี น้ั กวา่ 2.1 กรณีสินค้าลขิ สิทธิ สินค้าของแท้กรณีเป็นแผ่นซีดีส่วนใหญ่ จะเป็นแผ่นปั๊มจากโรงงาน ปกกระดาษจะมีสีสดคมชัด ภาพคมชัด กล่องบรรจมุ รี ูปทรงสวยงาม มีโลโก้หรอื สัญลกั ษณข์ องผู้ผลิตอยูบ่ นแผน่ รวมทัง้ ระบแุ หล่งผลิต สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบส่วนใหญ่จะเป็นแผน่ ไรท์จากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และใช้แผ่นสติ๊กเกอร์ปดิ บนแผ่นซีดีแทนการพิมพ์สี ปกใช้วิธีถ่าย เอกสารมีสีไม่คมชัด ส่วนใหญ่บรรจุอยู่ในซองพลาสติก ไม่มีโลโก้หรือ สญั ลักษณข์ องผ้ผู ลติ อยู่บนแผ่นรวมทงั้ ไมร่ ะบแุ หล่งผลิต 3. ราคาสนิ ค้า 3.1 กรณีสนิ คา้ ที่มีเครื่องหมายการคา้ สินค้าของจริงเป็นสินค้าที่มีต้นทุนในการประดิษฐ์คิดค้น ใช้วัสดุคุณภาพดี มีต้นทุนในการโฆษณาสินค้า และ ต้องเสียภาษีถกู ต้องตามกฎหมาย จึงมีราคาสงู สนิ คา้ ของปลอมหรือลอกเลียนแบบไม่มตี ้นทุนด้านทรัพย์สนิ ทางปัญญา ไม่มีตน้ ทนุ ในการโฆษณาสนิ ค้า ใช้วัสดุ คณุ ภาพตำ่ และไม่เสยี ภาษี จงึ มรี าคาถูกกวา่ สนิ ค้าของแท้เป็นอยา่ งมาก 3.2 กรณสี ินคา้ ลิขสิทธิ์
สินค้าของจริงมีต้นทุนในการสร้างสรรค์ผลงาน ต้นทุนในการผลิตผลงาน ต้นทุนในการโฆษณา และต้องเสีย ภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งผลงานลิขสิทธิ์ไมใ่ ช้ประสบความสำเร็จในทุกชุดหรือทุกอัลบัม๊ ราคาสินค้าที่จำหน่ายจงึ มี ราคาสูง สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบไม่มีต้นทุนในการสร้างสรรค์ ไม่มีต้นทุนในการผลิตผลงาน ไม่มีต้นทุนใน การโฆษณา ไม่เสียภาษี และลอกเลียนเฉพาะสินคา้ ที่ประชาชนเป็นที่นิยมเท่านั้น สินค้าที่ผลิตใช้วัสดุคุณภาพ ต่ำจงึ มรี าคาถกู กวา่ สนิ คา้ ของแท้เปน็ อย่างมาก การใช้งานอย่างชอบธรรม สำหรบั นโยบายดา้ นการใชง้ านโดยชอบธรรมของวกิ พิ ีเดีย ดทู ่ี วิกพิ เี ดีย:เนอื้ หาที่ใชง้ านโดยชอบธรรม ภาพที่ใช้งานโดยชอบธรรมได้การใช้งานโดยชอบธรรม (อังกฤษ: Fair use) เป็นส่วนหนึง่ ของกฎหมายลิขสทิ ธิ์ ของสหรฐั อเมริกา ทีอ่ นญุ าตให้การอา้ งถึง หรอื การนำเนือ้ หาทม่ี ีลขิ สทิ ธ์ิไปประกอบในงานของผู้อืน่ สามารถทำ ได้บนเง่อื นไขบางประการ คำว่า \"การใช้งานโดยชอบธรรม\" นีเ้ ปน็ เรื่องเฉพาะของสหรัฐอเมริกา แม้ในประเทศ อน่ื อาจจะมีหลักการทค่ี ลา้ ย ๆ กนั อยู่บ้างกต็ าม ซึ่งใช้งานโดยชอบธรรมไมม่ ผี ลตามกฎหมายในประเทศไทย การใช้งานโดยชอบธรรมประกอบด้วย การใช้โลโก้หรือสัญลักษณ์ทางการค้า หรือการนำภาพส่วนใดส่วนหน่ึง ของภาพยนตร์ หรือปกหนังสือไปใช้งานในความละเอียดต่ำหรือมีขนาดเล็ก โดยไม่ทำให้ก่อให้เกิดความ เสียหายของสินค้า หรือทำให้สินค้านั้นขาดรายได้ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโปรแกรมงานในประเด็นหัวข้อ สาระสำคัญ / ประเดน็ ท่ีเกยี่ วข้องกบั หลายเร่ือง Description: http://chm-thai.onep.go.th/chm/images/bullet.gif โปรแกรมงานในประเด็นที่เกี่ยวข้อง กบั หลายเรอ่ื ง (cross-cutting issues) อนุสัญญาฯ ได้จำแนกระบุประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลายเรื่อง (Cross-Cutting Issues) ซ่ึงมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกับโปรแกรมงานในประเด็นหวั ขอ้ สาระสำคัญ (Thematic Programmes) โดยประเด็นเหลา่ นี้ระบุอยู่ ในมาตรา 6 ถึงมาตรา 20 ของอนุสัญญาฯ ตัวอย่างเช่น ความปลอดภัยทางชีวภาพ การเข้าถึงทรัพยากร พันธุกรรม ทรัพย์สินทางปัญญา อนุกรมวิธาน หรือในมาตรา 8 (j) ที่เกี่ยวกับประเด็นความรู้ การประดิษฐ์ คิดค้น และวิธีการปฏิบัติของชุมชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งในบางประเด็นมีหัวข้อการจัดทำ โปรแกรมงานแล้ว เช่น โปรแกรมงานว่าด้วยพื้นที่คุ้มครอง โปรแกรมงานว่าด้วยการถ่ายทอดเทคโนโลยีและ ความร่วมมือทางเทคโนโลยี ส่วนประเด็นหัวข้ออื่นๆ มีการจัดทำหลักการหรือแนวทางเพื่อเป็นพื้นฐานและ แนวทางในการดำเนินการ เช่น แนวทางบอนน์ว่าด้วยการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากร พันธกุ รรม และหลักการแอดดิส อาบาบาวา่ ด้วยการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เปน็ ต้น ประเดน็ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั หลายเรอื่ ง (cross-cutting issues) มีดงั ตอ่ ไปนี้ การเข้าถึงและการแบ่งปนั ผลประโยชน์จากทรพั ยากรพนั ธุกรรม ชนดิ พันธุ์ต่างถ่นิ ความรูต้ ามธรรมเนียมประเพณีท่เี กย่ี วกับความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชวี ภาพกบั การทอ่ งเทีย่ ว การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ แนวทางสรู่ ะบบนเิ วศ กลยทุ ธ์ท่ัวโลกสำหรบั การอนรุ กั ษพ์ ชื เปา้ หมายลดการสูญเสยี ความหลากหลายทางชีวภาพในปี ค.ศ. 2010 การรเิ ริ่มทั่วโลกทางอนกุ รมวธิ าน การวิเคราะห์ผลกระทบ
พ้ืนทคี่ มุ้ ครอง การให้การศึกษาและความตระหนักแก่สาธารณชน การใชป้ ระโยชนอ์ ย่างยงั่ ยืน การถ่ายทอดเทคโนโลยแี ละความร่วมมอื ภาคธุรกิจกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ งานวจิ ยั ความหลากหลายทางชวี ภาพในเมอื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพเพอ่ื การพฒั นา เศรฐกจิ การคา้ และมาตรการแรงจูงใจ ความเท่าเทยี มระหวา่ งเพศกับความหลากหลายทางชีวภาพ การรับผิดและการแก้ไข กรณีศึกษา กรณศี ึกษาเรื่องทรัพย์สนิ ทางปัญญา หนงึ่ ปัญหาด้านสิทธิเครอื่ งหมายการค้า ชแ้ี จงปัญหา ความตระหนักในเรื่องเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าธุรกิจ เครื่องหมายการค้า หมายความถึง สัญลักษณ์เด่นชัดท่ีผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการใช้สำหรับสินค้าท่ีผลิตหรือประกอบการ เพื่อจำแนกแยกแยะจาก สนิ ค้าประเภทเดียวกันหรือประเภทใกล้เคียงกัน โดยทว่ั ไปมกั ประกอบดว้ ย ตวั อักษร หรือรูปภาพหรือทั้งสอง อย่างประกอบกนั สิทธิเครอื่ งหมายการค้า หรือสิทธิเฉพาะเคร่ืองหมายการคา้ จดทะเบยี น หมายความถงึ สิทธิ ที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าพึงได้รับจากการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับสำนักงานเครื่องหมายการค้า แห่งชาติ สิทธเิ ครอ่ื งหมายการคา้ มีลักษณะเฉพาะทางกฎหมายดังต่อไปนี้ : 1. การผูกขาด การผูกขาดหรือเรียกวา่ การบ่งใช้เฉพาะ หมายความถึง สิทธิการผูกขาดในการใช้เครื่องหมาย การค้าจดทะเบียนที่ผู้จดทะเบียนเคร่ืองหมายการคา้ พึงได้รับ สิทธิการผูกขาดในการใช้เคร่ืองหมายการค้าจด ทะเบียนที่เจ้าของเคร่ืองหมายการค้าพึงได้รับ ผู้ใดก็ตามที่ไมไ่ ด้รบั อนญุ าตจากเจ้าของเครือ่ งหมายการค้า ไม่ สามารถใช้เครื่องหมายการคา้ นีไ้ ด้ 2. ด้านเวลา กฎหมายได้จำกัดระยะเวลาในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้า เม่ือผ่านพ้นระยะเวลาตามที่ กฎหมายกำหนดก็สิ้นสุดผลทางกฎหมาย “พระราชบัญญัติเคร่ืองหมายการค้า”ของประเทศจีนกำหนด ระยะเวลาการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้มีผลบังคับใช้ 10 ปี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดว่าเมื่อครบ กำหนดระยะเวลาแลว้ สามารถทำการตอ่ อายุได้ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งในการตอ่ อายุ 3. ด้านขอบเขต ด้านขอบเขตสิทธิเครื่องหมายการค้า หมายความถึง สิทธิเครื่องหมายการค้ามีผลบังคับใช้ ภายในขอบเขตที่กำหนดไว้ พ้นจากขอบเขตที่กำหนดก็สิ้นสุดผลทางกฎหมายในการใช้สิทธิเฉพาะนี้ เจ้าของ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนสามารถใช้สิทธิและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเฉพาะในประเทศที่ให้สิทธิ เครื่องหมายการคา้ เท่าน้ัน หากต้องการได้รับความคุ้มครองจากประเทศน้ัน กต็ อ้ งย่นื จดทะเบียนเคร่ืองหมาย การคา้ ตามกฎหมายทปี่ ระเทศนั้นกำหนด เน้อื หาเรื่องสิทธเิ ครอื่ งหมายการค้า ประกอบด้วย สิทธกิ ารใช้ สิทธิการหา้ ม สิทธกิ ารโอน และสิทธกิ ารอนุญาต ใหใ้ ช้ เปน็ ตน้ 1. สิทธิการใช้ หมายความถึง สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของเจ้าของเครื่องหมายการค้า ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับสินค้าท่ีไดร้ บั การตรวจสอบและอนุมัตแิ ลว้
2. สิทธิการห้าม หมายความถึง สิทธิตามกฎหมายของเจ้าของเครื่องหมายการค้าในการห้ามมิให้ผู้อื่นกระทำ การอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย สิทธิในการห้ามมิให้ผู้อื่นกระทำการปลอมแปลง หรือสร้างสัญลักษณ์ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนไว้เองโดยพลการ หรือการใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับ เครอ่ื งหมายการค้าจดทะเบยี นในสนิ ค้าประเภทเดียวกนั หรือใกล้เคยี งกนั 3. สิทธกิ ารโอน หมายความถงึ สิทธติ ามกฎหมายของเจ้าของเครื่องหมายการคา้ ในการโอนเคร่ืองหมายการค้า จดทะเบยี นนใ้ี ห้กบั ผู้อ่นื 4. สิทธิการอนุญาตให้ใช้ หมายความถึง สิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าในการลงนามสัญญาการอนุญาต ใหใ้ ช้เครอื่ งหมายการคา้ แกผ่ ้อู ่ืน โดยอนุญาตใหผ้ ู้อน่ื สามารถใชเ้ คร่อื งหมายการค้าจดทะเบยี นนี้ได้ องค์ประกอบสำคัญของสิทธิเครื่องหมายการค้า คือ ผู้ที่พึงได้รับสิทธิเฉพาะในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและได้รับสิทธิเฉพาะในเครือ่ งหมายการค้า และผู้ที่ได้รับ สิทธิเฉพาะในเครื่องหมายการค้าตามกฎหมายหรือตามสัญญา ประเภทหลักของสิทธิเครื่องหมายการค้า ประกอบด้วย หนว่ ยงานธุรกิจ กลุ่มสังคม อุตสาหกรรมพาณชิ ยเ์ ฉพาะสว่ นและห้างหุ้นสว่ นบุคคล ผู้ได้รับสิทธิ เคร่ืองหมายการค้าและผสู้ ืบทอดสิทธอิ ย่างอนื่ รวมถงึ ชาวตา่ งประเทศท่พี งึ ไดร้ ับสิทธเิ ครือ่ งหมายการคา้ เรอื่ ง สทิ ธเิ ครอ่ื งหมายการค้าก็คือเป้าหมายในการคุ้มครองสิทธิเคร่ืองหมายการค้าโดยเฉพาะของกฎหมายนน่ั เอง “พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า” และระเบียบดำเนินการเครื่องหมายการค้ากำหนดว่า รูปแบบการใช้ เครือ่ งหมายการคา้ ดงั ต่อไปน้เี ป็นรปู แบบที่แสดงถึงการละเมิดสทิ ธเิ ฉพาะของเครอื่ งหมายการค้า : 1. การใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ที่เหมอื นกับเครื่องหมายการคา้ จดทะเบียนในสินคา้ ประเภทเดียวกันโดยพลการ 2. การใชเ้ ครอ่ื งหมายการค้าท่ีใกลเ้ คียงกบั เครื่องหมายการคา้ จดทะเบยี นในสนิ คา้ ประเภทเดียวกนั โดยพลการ 3. การใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนกันกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในสินค้าประเภทใกล้เคียงกันโดย พลการ 4. การใช้เครื่องหมายการค้าที่ใกล้เคียงกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในสินค้าประเภทใกล้เคียงกันโดย พลการ 5. ขายสินค้าที่ละเมิดสิทธิเฉพาะของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน (แต่ถ้าหากผู้ขายไม่ทราบว่าเป็นสินค้าที่ ละเมิดสิทธิเฉพาะของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน สามารถทำการยืนยันได้ว่าสินค้านี้ตนได้รับมาอย่างถูก กฎหมายพร้อมท้ังใหช้ ่ือผมู้ อบสินคา้ มา จะไมต่ ้องรบั ผิดชอบภาระในการจ่ายคา่ ชดเชย 6. ปลอมแปลงหรอื สร้างสัญลกั ษณเ์ คร่อื งหมายการคา้ จดทะเบียนของผู้อืน่ โดยพลการ 7. ขายสญั ลกั ษณ์เคร่ืองหมายการค้าจดทะเบียนของผู้อน่ื ท่ปี ลอมแปลงมาหรอื สร้างขึน้ มาโดยพลการ 8. ใช้ตัวอักษรหรือรูปที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของผู้อื่นเป็นชื่อสินค้าหรือ ประดบั สนิ คา้ ในสินคา้ ประเภทเดยี วกันหรอื ประเภทใกลเ้ คียงกัน ซงึ่ ทำใหเ้ กดิ การเขา้ ใจผดิ ได้ 9. พฤติกรรมเจตนาละเมิดสิทธิเฉพาะในเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น โดยให้เงื่อนไขอำนวยความสะดวกด้าน คลงั สินคา้ การขนสง่ การสง่ ทางไปรณยี ์ การปดิ บงั ซอ่ นเร้นเปน็ ตน้ 10. ทำใหส้ ทิ ธเิ ฉพาะในเครอื่ งหมายการคา้ จดทะเบียนของผู้อน่ื ได้รับความเสยี หาย เครอ่ื งหมายการค้าเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตนท่ีมีความสำคัญต่อองค์กร เปน็ อาวธุ ทางการตลาดในการบุกเบิก ยึด ครองและสร้างเสถียรภาพในตลาด การฟูมฟักและรักษาเครือ่ งหมายการค้าความจริงแล้วเป็นการฟูมฟักและ รักษาชื่อเสียงทางการแข่งขันในตลาดของตัวองค์กรเอง แต่ความเป็นจริง ปัจจุบันนี้การตระหนักรับรู้ในสิทธิ เครือ่ งหมายการคา้ ในประเทศจีนนนั้ ยงั ไม่เข้มแขง็ นัก หลงั จากทจี่ นี เขา้ รว่ มองคก์ รการค้าโลก(WTO) สงคราม ตราสินค้าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัทข้ามชาติในการแข่งขันกับคู่แข่งและการช่ว งชิงส่วนแบ่งตลาด ต่างประเทศ สถิติจากศาลแสดงว่า :กรณีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเคร่ืองหมายการค้าระหว่างบริษัทจีนและ
บริษัทต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ยกตัวอย่างเช่นที่เมืองเทียนจิน ก่อนหน้านั้น1ปี ศาลประชาชน สูงสุดของเมืองเทียนจินโดยเฉลี่ยแล้วไม่มีคดีต่างชาติเกี่ยวกับสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ทว่าเริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน ค.ศ.2001 จนถึงเดือนกันยายน ค.ศ.2002 มีคดีต่างชาติเกี่ยวกับสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาถึง 8 คดี หลังประเทศจนี เข้าร่วมในองค์กรการค้าโลก ทำให้บริษทั ในประเทศจนี ตอ้ งเผชิญหนา้ กบั การแข่งขันในตลาดที่ รุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มการตระหนักรับรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเครื่องหมายการค้าเป็นการด่วน และเป็นผู้ใช้กฎระเบียบข้อบังคับคุ้มครองเครื่องหมายการค้าเพื่อรักษาสิทธิเครื่องหมายการค้าของตน พร้อม ทั้งทำความคุ้นเคยโดยเร็วกับกฎระเบียบข้อบังคบั คุ้มครองเครือ่ งหมายการค้าที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จะได้ไม่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นเพราะความไม่เข้าใจในกฎระเบียบข้อบังคับ โดยข้างล่างนี้เป็น กรณศี ึกษาเรื่องการคุ้มครองสิทธเิ คร่ืองหมายการค้าของ “เสียวหม่าจวี/ลูกมา้ น้อย” ซึ่งแสดงใหเ้ หน็ ว่า องค์กร ในประเทศจีนตอ้ งยกระดับความตระหนกั รับรูใ้ นสิทธิเครือ่ งหมายการคา้ เปน็ การเรง่ ดว่ น กรณศี กึ ษาท่ี 1 กรณศี ึกษาเรือ่ งการคุ้มครองสิทธิเคร่ืองหมายการคา้ “เสยี วหมา่ จว/ี ลูกมา้ น้อย” วันท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ ค.ศ.2001 คณะพิจารณาตรวจสอบเครือ่ งหมายสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งชาติ (ต่อไปนี้เรียกย่อว่าคณะพิจารณาพาณิชย์)ส่งหนังสือการพิจารณาตรวจสอบการค้า เลขที่ 159 (ปีค.ศ.2001) หัวขอ้ เรอื่ ง “หนงั สอื ตัดสนิ ช้ีขาดอีกคร้ังเร่ืองการเพิกถอนเครื่องหมายการค้าเลขท่ี 753570 “เสียวหม่าจวี/ลูก มา้ น้อย”” ไปยงั หน่วยงานใตบ้ งั คบั บัญชา ในทสี่ ดุ เร่ืองราวท่สี ำนกั งานเครอื่ งหมายการค้ามหานครฉงชงิ่ ได้เป็น ตัวแทนในคดกี ารคมุ้ ครองเครื่องหมายการค้าท่ีดำเนินมาเปน็ ระยะเวลาสองปีไดบ้ ังเกดิ ผลในท่ีสุด เครื่องหมาย การค้า“เสียวหม่าจวี/ลูกม้าน้อย”ที่เป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตนแต่มีมูลค่าค่อนข้างสูงนั้นไม่ได้สูญเสียให้กับ ตา่ งประเทศไป แตไ่ ดก้ ลบั มาสู่ออ้ มอกของฉงชิ่งอกี ครั้ง เครื่องหมายการค้า“เสียวหม่าจวี/ลูกม้าน้อย”เป็นของโรงงานผลิตเสื้อผ้าม้าดำในมหานครฉงชิ่ง(ต่อไปนี้เรียก ย่อว่า “โรงงานม้าดำ”) ในปี ค.ศ. 1993ได้ยื่นคำร้อง วันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ.1996 สำนักเครื่องหมายการคา้ สำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งชาติได้ตรวจสอบและอนุมัติการจดทะเบียน ทะเบียนการค้าเลขท่ี 753570 แตเ่ นือ่ งจากตลาดอ่อนแรง ขาดทุนอย่างหนัก โรงงานมา้ ดำจึงถูกโรงงานเครื่องจักรสิ่งทอที่หน่ึงมหา นครฉงชิ่งควบรวมกิจการโดยวิธีรับผิดชอบแบกรับภาระหนี้สิน ทว่าไม่ได้ดำเนินขั้นตอนการโอนเครื่องหมาย การคา้ ให้ ขณะเดยี วกันก็ไดจ้ ัดตง้ั กลุ่มชำระบญั ชที รัพย์สินคดลี ้มละลาย(ต่อไปนีเ้ รียกย่อว่า “กลุ่มชำระบัญชี” หลังจากนั้นก็ได้จัดการผลิตและขายสินค้าคงคลังในนามของกลุ่มชำระบัญชี แต่ในขณะนั้นยังคงไม่ได้จัดการ เร่ืองการโอนเครือ่ งหมายการค้า ซึ่งไดท้ ้ิงภัยพบิ ัตซิ อ่ นเร้นเอาไว้ กอ่ นหน้าทโ่ี รงงานเคร่ืองจักรสงิ่ ทอจะล้มละลาย เม่ือเดอื นกุมภาพันธ์ ค.ศ.1997 บริษทั พนั ธมิตรรักบี้แห่งชาติ อเมริกาได้ใช้ชื่อเดียวกันนี้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าประเภทเดียวกันในประเทศจีน แต่ถูกตีกลับโดย อา้ งองิ ถึงโรงงานม้าดำที่ได้จดทะเบียน“เสียวหม่าจวี/ลูกม้าน้อย”ไปก่อนแล้ว แตบ่ รษิ ทั นี้ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ โดยไดม้ อบหมายให้บริษัท ตัวแทนสิทธิบัตรจนี (ฮ่องกง) จำกดั เปน็ ผ้แู ทนในการคิดหามาตรการเพื่อให้ได้มาซึ่ง สิทธิในเครื่องหมายการค้า บริษัทตัวแทนนี้รู้เพยี งสถานการณ์ที่โรงงานม้าดำถูกควบกิจการล้มละลาย ฉะนนั้ เมอื่ วันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ.1998 จงึ ยื่นคำรอ้ งต่อสำนักเคร่ืองหมายการค้าสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ แห่งชาติ ให้เพิกถอนสิทธิเครื่องหมายการค้า โดยให้เหตุผลว่าโรงงานม้าดำไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้า “เสียว หม่าจวี/ลูกม้าน้อย” มาเป็นเวลาติดต่อกันสามปีแล้ว สำนักเครื่องหมายการค้าได้รับพิจารณาคำขอนี้ตาม ข้อกำหนดที่ 29 ของ “รายละเอียดระเบียบการปฏิบัติตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าแห่งสาธาณรัฐ ประชาชนจีน” เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ในปีเดียวกัน สำนักเครื่องหมายการค้าได้ทำหนังสอื ส่งออกไปยังโรงงาน
มา้ ดำ เรียกร้องให้นำหลักฐานการใช้เคร่ืองหมายการค้ามาแสดง แต่ทีอ่ ยูข่ องโรงงานม้าดำเดิมได้เปล่ียนไปทำ อย่างอนื่ แล้ว เอกสารจึงไม่มีผ้รู ับ และไม่สามารถสง่ ไปถึงมือของกลุ่มชำระบญั ชไี ด้ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปหนึ่งปี สำนักเครื่องหมายการค้าได้ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นการประกาศ เป็นต้น จนกระทั่งวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.1999 ได้ออกหนังสือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายการค้าเลขที่ 446 (ปี ค.ศ.1999) หัวข้อเรื่อง “เกี่ยวกับการตัดสินชี้ขาดการเพิกถอนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 753570 “เสียวหม่าจ วี/ลูกม้าน้อย CQHM และรูป”” เหตุผลคือโรงงานม้าดำไม่ได้ยื่นหลักฐานการใช้เครื่องหมายการค้านี้ตาม ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเรียกร้องให้โรงงานม้าดำนำยื่น “หลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมาย การคา้ ” ภายใน 30 วนั หลังจากทีไ่ ด้รับหนงั สอื ตัดสินชี้ขาดฉบับนี้ แตโ่ รงงานม้าดำยงั คงไม่ไดร้ ับหนังสือฉบับน้ี โดยหนังสือได้ถูกไปรษณีย์ตีกลับไปยังสำนักเครื่องหมายการค้าในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ.1999 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน กรมอุตสาหกรรมการพาณิชย์แห่งชาติได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานบริหารจัดการอุตสาหกรรม และพาณิชย์มหานครฉงชิ่ง โดยสั่งการใหย้ ึดหลกั ฐานการจดทะเบยี นเครือ่ งหมายการค้า “เสียวหม่าจวี/ลูกมา้ นอ้ ย” ซ่งึ ไดด้ งึ ดดู ความสนใจจากสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณชิ ย์ฉงช่ิงเปน็ อย่างมาก แต่ข้ันตอนทั้งหมดได้ เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่“เสียวหม่าจวี/ลูกม้าน้อย”ถูกตัดสินในครั้งแรกให้ต้องโทษ “ประหารชีวิต” ช่วงเวลาน้ี สำนักราชการมหานครฉงชิ่งได้ยื่นหนังสือไปยังคณะพิจารณาพาณิชย์เพื่อขอความสนับสนุนและคุ้มครอง ผลประโยชน์ตามกฎหมายให้กับองค์กร ผู้บริหารกรมอุตสาหกรรมการพาณิชย์ฉงชิ่งได้ให้ความสำคัญพร้อม สนบั สนุนอยา่ งเตม็ ท่ี โดยมอบหมายใหข้ บวนการสรู้ บฝมี อื ดีคอยใหบ้ ริการในครัง้ นี้ ขณะเดยี วกันก็ได้ยน่ื หนังสือ ไปยังคณะพิจารณาพาณิชย์เพื่ออธิบายเหตุการณ์พร้อมเสนอความคิดเห็นในการคุ้มครองสิทธิ ซึ่งเป็นการ วางรากฐานอยา่ งมั่นคงให้กบั การพิจารณาตัดสินคดีนี้อีกครงั้ ศาลชั้นสูง ศาลชั้นกลางของมหานครฉงชิ่งได้ทำการตอบปัญหาในหลักสำคัญของคดีนี้อย่างชัดเจนโดยอ้างอิง ตามข้อกำหนดกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญในคดีนี้ คณะกรรมการพจิ ารณาตรวจสอบเคร่ืองหมายการค้าให้ความสำคญั กับคดีน้ีอย่างมาก โดยได้ทำการศึกษาวิจัย และพิสูจน์หลักฐาน โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากทั้งมหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมาย แผนก กฎหมายสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งชาติ สำนักงานจดทะเบียนบริษัท สำนักงานเครื่องหมาย การค้า แผนกกฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ศาลชั้นกลางที่สองมหานครปักกิ่ง ศาลชั้นกลางที่หนึ่งมหานคร ปักกิ่ง และผู้รับผดิ ชอบจากหนว่ ยงานตวั แทนเครื่องหมายการค้า 26 แห่งจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานสัมมนา ในหัวข้อพิเศษ ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดได้มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า :อ้างอิงตามข้อกำหนดท่ี เกี่ยวข้องจากกฎหมาย “หลักทั่วไปประมวลกฎหมายแพ่ง” “กฎหมายองค์กร” เป็นต้นนั้น หลังจากที่ โรงงานผลิตเสื้อผ้าม้าดำมหานครฉงชิ่งได้ถูกโรงงานเครื่องจักรสิ่งทอที่หนึ่งมนานครฉงชิ่งควบรวมกิจการแล้ว สิทธิและภาระหน้าท่ีนี้ควรเป็นสิ่งที่โรงงานเครื่องจักรสิ่งทอที่หนึ่งมนานครฉงชิ่งพึงได้รับและต้องรับผิดชอบ สิทธิเครื่องหมายการค้า“เสียวหม่าจวี/ลูกม้าน้อย”เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิในทรัพย์สินของบริษัทโรงงานม้าดำ มหานครฉงช่ิงซึ่งถูกโรงงานเครื่องจักรสิ่งทอที่หนึ่งมนานครฉงชิ่งมารับช่วงต่อไป สิทธิเครื่องหมายการค้า “เสยี วหมา่ จวี/ลกู ม้าน้อย”นั้นไม่ได้เป็นเพราะผมู้ สี ทิ ธใ์ิ นเครื่องหมายการค้าเดิมถูกลบออกจากทะเบียนจึงทำให้ เกิดการสูญสิ้นซึ่งสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น นี่เป็นความจริงตามกฎหมาย สำหรับกรณีที่โรงงานเครื่องจักรสิ่งทอท่ี หนึ่งมนานครฉงชิ่งไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือโอน ณ สำนักงานเครื่องหมาย การคา้ น้ัน เป็นเพียงความบกพร่องทางพฤตกิ รรม ไม่ได้ส่งผลให้เครือ่ งหมายการค้าถูกเพกิ ถอน ภายใต้เงื่อนไข นี้ การให้สำนักงานเครื่องหมายการค้าเป็นผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติมตามขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือโอน จึงเป็นการสมเหตุสมผล ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความสัมพันธ์ด้านทรัพย์สินแล้วก็ถูกต้องกฎหมายด้วย กลุ่มชำระบัญชีเป็นนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติทางแพ่ง มีสิทธิ์ในการเรียกร้องให้คณะพิจารณาพาณิชย์ทำการ
พิจารณาตัดสินใหม่อีกครัง้ จากสถานการณ์ท่ีโรงงานม้าดำฉงช่ิงไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้า“เสียวหม่าจวี/ลูก ม้าน้อย”เป็นเวลาสามปีนั้น ยังไม่ได้เป็นความจริงตามกฎหมาย สำนักงานเครื่องหมายการค้าจึงยกเว้น ข้อบกพร่องให้สำหรับเครื่องหมายการค้านี้ และท้ายที่สุดเมื่อคณะพิจารณาตรวจสอบได้ทำการตรวจสำนวน คดอี ย่างรอบคอบแลว้ จึงได้ทำการตดั สินช้ขี าดดังที่กลา่ วมาในขา้ งตน้
Search