Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนรู้ ม.1

แผนการเรียนรู้ ม.1

Published by karn09112527, 2021-04-08 03:30:13

Description: แผนการเรียนรู้ ม.1

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง Past simple tense (Adjective) วชิ าภาษาองั กฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี1 นางสาวชดาณฏั ฐ์ จติ รคา้ คณู ครผู ู้สอน ปีการศกึ ษา 2/2563 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 21 ส้านกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ (อ21102) ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 It was there months ago เร่อื ง Past simple tense (Adjective) เวลา 2 ช่วั โมง ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561 สอนวันที่ 30 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2561 ********************************************************************************** 1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และความ คิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวช้ีวัด ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจาวนั 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด รแู้ ละเข้าใจคาศัพท์ และประโยคทใ่ี ช้ในการขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกับบุคคลและเหตุการณ์ในอดีต ชว่ ยใหใ้ ช้ ภาษาในการสื่อสารในชีวิตประจาวนั 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ( K P A) 3.1 ดา้ นความรู้ (K) 1. นักเรยี นเรียนรู้คาคณุ ศัพท์และคากรยิ าชอ่ งท่ี 2 ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) 2. พดู เกี่ยวกบั บุคคลและเหตุการณใ์ นอดตี ได้ 3. บอกโครงสรา้ งไวยากรณ์ท่ีอยูใ่ นเหตุการณใ์ นอดตี ท่ีอา่ นได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 4. มรี ะเบียบวินัยในการทางาน 4. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. นักเรยี นมรี ะเบียบวนิ ยั ในการทางาน 2. นกั เรยี นมีความรับผิดชอบ 3. นกั เรียนมคี วามมุ่งมน่ั ในการทางาน 5. คณุ ธรรมอตั ลักษณ์ของสถานศึกษา มวี ินัย 6. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด 7. สาระการเรียนรู้

ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Adjectives Functions: Talking about past events 2) Language Skills Speaking: พดู ถาม-ตอบเกย่ี วกบั บุคคลและเหตุการณใ์ นอดตี Reading: อ่านเพ่อื ความเข้าใจ ทกั ษะการคดิ 1. ทักษะการรวบรวมข้อมูล – รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับความชอบของเพอ่ื นในอดตี 8.ภาระงาน / ช้นิ งาน แบบฝึกหดั หน้า 111 Ex. 7 แบบฝึกหดั หน้า 111 Ex. 8 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 Warm up 1. ใหน้ ักเรียนสงั เกตภาพในหนังสือเรยี น หนา้ 108 แล้วครถู ามคาถาม เช่น - What animals do you see in the picture? ( crocodiles, a snake ) - Where do you think they are? ( in Australia ) - Who do you think the man is? ( a naturalist and actor ) 2. ครูถามนักเรียนว่า เคยเห็นจระเขต้ วั จริงหรือไม่ อย่างเชน่ ในสวนสัตว์ 3. ครูอธบิ ายวา่ ทีผ่ า่ นมานักเรียนได้เรียนรกู้ ารพูดเกีย่ วกับบคุ คล สิ่งของ และเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นในปัจจบุ นั (Present tenses) แต่ในบทเรยี นน้นี ักเรียนจะได้เรียนร้กู ารพดู เก่ยี วกบั เหตกุ ารณท์ ่เี กิดขึ้นในอดีต (Past tenses) ขนั้ ที่ 2 Presentation 1. ครเู ปดิ CD2/Track 39 ใหน้ ักเรยี นฟังจนจบ โดยไมห่ ยดุ CD ขณะท่ีฟังให้นักเรยี นดูบทสนทนาใน หนังสือเรยี น หน้า 108 Ex.1 ตามไปด้วย จากน้นั ครูเปดิ CD อกี คร้งั โดยในครัง้ นีห้ ยุด CD เป็นระยะๆ เพ่ือ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน ครูใหน้ กั เรียนช่วยกันบอกคาศัพทใ์ หม่ท่พี บใน บทสนทนา ครเู ขยี น คาศัพท์เหล่านี้บนกระดาน แล้วกระตุ้นให้นักเรยี นชว่ ยกันบอกความหมายจากบรบิ ท หรอื ครูอาจช่วยด้วยการ บอกคาจากัดความหรือตวั อย่างประโยค naturalist = a person who studies animals, plants, birds and other living things (นกั ธรรมชาติวทิ ยา) founder = a person who starts an organization, institution, etc. or causes something to be built(ผกู้ อ่ ตั้ง) documentaries = a film or a radio or television programmer giving facts about something (สารคดี) poisonous = producing a poison that can cause death or illness if the animal or insect bites you (ทม่ี ีพิษ)

2. ให้นกั เรยี นทากิจกรรมในหนงั สอื เรียน หนา้ 108 Ex.2 โดยเปดิ CD2/Track 39 ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง โดยหยดุ CD เปน็ ระยะๆ แลว้ ให้นักเรยี นอา่ นบทสนทนาตาม CD ไปด้วยพรอ้ มๆ กนั หรือเป็นรายบุคคล ครู กระตนุ้ ให้นักเรยี นสงั เกตการออกเสยี ง verb to be และคาคุณศัพท์ในบทสนทนาเปน็ พิเศษ 3. ครถู ามนกั เรยี นวา่ was/were เป็นรปู อดตี ของคากริยาคาใด เมื่อได้คาตอบว่า verb to be (is, am, are) แลว้ ครูใหน้ ักเรียนสงั เกตการใช้ was/were ในบทสนทนาใน Ex.1 อกี ครง้ั จากน้ันใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวธิ กี ารใช้ was และ were สน้ั ๆ จากตัวอย่างประโยคเหลา่ น้ี 4. ครนู าเสนอคาคณุ ศัพทต์ อ่ ไปน้ี ดว้ ยการบอกคาจากัดความ แลว้ ให้นักเรยี นบอกคาในภาษาไทยที่ เทยี บเท่ากับคาเหล่าน้ี boring old cowardly dangerous interesting young brave safe boring (adj) = not interesting or boring old (adj) = having lived for a long time cowardly (adj) = fearful of fighting or doing something difficult or dangerous that they should do dangerous (adj) = able to harm or kill you interesting (adj) = attracting your attention because it is special, exciting or unusual young (adj) = having lived for only a short time brave (adj) = not afraid safe (adj) = protected from any danger or harm ขั้นที่ 3 Practice 1. ครูอธิบายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรียนเติมคาลงในช่องว่างในประโยคในหนังสือเรียน หน้า 108 Ex.3 ด้วย คาจากบทสนทนา แล้วให้เวลานักเรียนอ่านบทสนทนาอีกคร้ัง และทาภาระงาน โดยให้นักเรียนทาลงในสมุด เสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรียกนักเรียนหลายๆ คน รายงานคาตอบของตนเอง Answers 2. ‘crocodile hunter’ 3. exciting 1. Melbourne 5. hero 4. 2006 2. ครูสุ่มเรียกนักเรียนหลายๆ คน อ่านคาคุณศัพท์ท่ีกาหนดให้ในหนังสือเรียน หน้า 109 Ex.4 และ ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนทุกคนเข้าใจความหมายของคาศัพท์เหล่าน้ี จากน้ันให้นักเรียนจับคู่ คาคุณศัพท์เหล่าน้ีกับภาพท่ีให้มา ครูบอกนักเรียนว่า นักเรียนจะได้ฟังคาตอบท่ีถูกต้องจาก CD ในกิจกรรม ตอ่ ไป 3. นักเรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 109 Ex.5 โดยครูเปิด CD2/Track 40 ให้นักเรียนฟัง โดย อาจเปิด CD มากกว่า 1 ครัง้ เพ่ือให้นกั เรยี นตรวจคาตอบ Audio script and answers 1. interesting 2. young 3. safe

4. boring 5. old 6. dangerous 4. นักเรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 109 Ex.6 โดยดคู าคุณศัพทใ์ น Ex.4 อีกครั้ง จากนนั้ ครูเขียน คาคุณศพั ท์เหลา่ นี้บนกระดาน แล้วส่มุ เรยี กนกั เรียนออกมาจับคู่คาศัพท์ทม่ี ีความหมาย ตรงกนั ข้ามกัน เสร็จแลว้ ให้นักเรยี นคดั ลอกคาคุณศัพท์และคาตรงกันขา้ มลงในสมุดของตนเอง Weak classes: ให้นกั เรยี นเขยี นความหมายของคาคุณศัพทแ์ ละคาตรงกนั ขา้ มดว้ ย Advanced classes: ใหน้ กั เรยี นเขยี นประโยคดว้ ยคาคุณศพั ท์และคาตรงกันขา้ ม เชน่ My brother Peter is young: he’s 15 years old. My grandfather Martin is old: he’s got white hair. 5. ให้นักเรียนอา่ นประโยคในหนังสือเรียน หน้า 109 หัวขอ้ Look & Use แล้วหาประโยคเหล่านี้ใน บท สนทนา หน้า 108 ครอู ธิบายว่านกั เรยี นตอ้ งใชโ้ ครงสร้างภาษานใี้ นการทากิจกรรมต่อไป 6. ครเู ขยี นคาว่า who / Steve Irvin? บนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นในชน้ั ช่วยกันแต่งเป็นประโยคคาถาม ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน จนไดค้ าตอบที่ถูกต้อง และเขยี นบนกระดาน จากนัน้ ครใู หน้ ักเรียนหาคาตอบ ของคาถามนใี้ นบทสนทนาหน้า 108 เม่อื นกั เรยี นเข้าใจวธิ ที างานแลว้ ครใู หน้ ักเรียนอา่ นข้อมลู ที่ใหม้ าในหนังสอื เรียน หน้า 109 Ex.7 และ ครตู รวจสอบให้แนใ่ จว่านกั เรียนทกุ คนเข้าใจความหมายของคาเหล่าน้ี จากนน้ั ครูใหน้ ักเรียนอา่ นบทสนทนา ในหน้า 108 อีกครั้ง โดยอ่านในใจ ตอ่ มาครใู ห้เวลานักเรียนทางาน โดยจบั คู่พดู ถาม-ตอบกัน ด้วยการตง้ั คาถามโดยใชค้ าท่ีกาหนดให้ และ พูดตอบจากความจา แต่ถ้าจาเป็น นกั เรียนสามารถกลบั ไปดูคาตอบในบทสนทนาได้ ครูเดนิ สงั เกตรอบๆ ช้ัน เรียน เพื่อตรวจสอบว่านักเรยี นใชภ้ าษาอังกฤษในการพูดถาม-ตอบกันหรือไม่ และคอยชว่ ยเหลือนักเรียนท่ี เรยี นอ่อน สุดท้ายครใู หน้ ักเรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบทหี่ นา้ ชนั้ เรียน Answers 1. Where was Steve Irwin from? He was from Australia. 2. How old was he when there was a terrible accident? He was 44 years old. 3. When was Steve Irwin Natalie’s hero? When she was a child. 4. Why was he her hero? Because he was very funny, but also intelligent and brave. 7. นักเรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 109 Ex.8 โดยระดมความคิดเกย่ี วกับบคุ คลที่มีช่ือเสียงใน อดตี ครูบอกนักเรยี นว่า สามารถอ้างถงึ บคุ คลสาคญั นักร้อง นักแสดง หรอื แม้แตส่ มาชิกบางคนในครอบครัว ซง่ึ เสยี ชวี ิตไปแล้ว จากน้ันให้นกั เรียนเลือกมา 1 คน และคิดคาคณุ ศพั ทเ์ พื่อบรรยายบุคคลดงั กลา่ ว แลว้ ให้ นกั เรยี นเขยี นโนต้ ส้ันๆ ในสมุดของตนเอง ต่อจากนัน้ ใหน้ กั เรียนทางานคู่ โดยบอกข้อมลู ซึง่ กันและกันเก่ียวกบั บุคคลทนี่ กั เรียนเลอื ก ครสู งั เกตการแลกเปลี่ยนข้อมลู ของนกั เรยี นเพื่อให้แน่ใจว่านกั เรียนใช้คาคณุ ศัพท์และ Past tense ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 8. ครคู อยสงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในระหวา่ งทากจิ กรรม ดา้ นมวี นิ ัย พรอ้ มทงั้ บนั ทกึ ลงในแบบสังเกต พฤติกรรมตามคุณธรรมอตั ลกั ษณ์ ข้นั ท่ี 4 Production 9. ครูอธบิ ายภาระงานในหนังสือเรียน หนา้ 109 Ex.9 วา่ จะเปน็ การถามเพ่ือใหน้ ักเรยี นคดิ เก่ยี วกบั ส่ิงท่ี นักเรียนชอบเมื่อสมัยทย่ี ังเปน็ เด็กมากๆ แล้วครูถามวา่ นกั เรียนสามารถจดจาชอ่ื วิชา ภาพยนตร์/รายการโทรทัศน์ หนงั สอื /เพลง วรี บรุ ษุ และเพ่ือนทน่ี กั เรยี นชอบเมื่อตอนเป็นเด็กไดห้ รือไม่ จากน้ันสมุ่ เรยี กใหน้ ักเรียนอ่านตวั อย่างคาตอบที่ให้มาในหนังสอื เรียน แลว้ ครูให้นักเรียนทางานเป็นคู่

10. ครใู ห้นกั เรยี นทาช้ินงาน Favourite things in the past ดว้ ยการเตรยี มตารางซงึ่ เขยี นช่อื นกั เรยี นใน แนวตงั้ และเขียนสง่ิ ท่ีนักเรยี นช่ืนชอบ เชน่ วิชา ภาพยนตร์ ในแนวนอน แลว้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนลอกตาราง ลงในสมดุ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นถามคาถามเพ่ือนอยา่ งน้อย 5 คน เพื่อเกบ็ รวบรวมข้อมลู เก่ียวกับสง่ิ ทเี่ พื่อนชอบ ในอดีต เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกใหน้ ักเรียนออกมาพดู รายงานข้อมูล โดยที่ไมบ่ อกช่ือเจา้ ของข้อมลู แล้วใหเ้ พอื่ นๆ ในห้องทายว่าเจ้าของข้อมูลคือใคร เชน่ When I was a child, my favourite subject was Science. Who am I? ถ้ายังไมม่ ีใครทายถกู ให้นกั เรยี นอา่ นข้อมูลต่อไป เช่น When I was a child, my favourite TV programmae was Oum Rak (อ้มุ รกั ). Who am I? ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมเช่นน้ีไปเรือ่ ยๆ จนกว่าจะ มคี นทายถูก Student’s Subject Film / Book / Hero Friends Name TV Song programme 11. ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 86 Ex.1 และหนา้ 87 Exs.1-2 เป็นการบา้ น 12. ครูมอบหมายให้นักเรยี นฝึกอา่ นบทสนทนาในหนังสือเรียน หนา้ 108 Ex.1 เป็นการบา้ น เสรจ็ แล้วให้ ผู้ปกครองเซน็ ช่ือรับรองว่านักเรยี นไดฝ้ ึกอา่ นแล้ว 10 สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ - หนังสอื เรียน Team Up in English 1 ม. 1 - แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม. 1 - Class Audio CDs - Student’s Audio CD

11. การวดั ผลและประเมินผล 11.1 การวดั ผล ส่ิงท่ตี อ้ งการวัด 1. เรียนรู้คาศัพท์ การออกเสยี ง โครงสรา้ งประโยค หนา้ ท่ีทางภาษาและ วฒั นธรรมเก่ียวกับสัตว์ และส่งิ ของทต่ี นเปน็ เจ้าของโดยผา่ นการฝกึ ทักษะการระบุประโยคใหส้ ัมพนั ธก์ ับภาพ 2. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรยี น 3. การอา่ นออกเสียงและการอ่านบทสนทนาเก่ยี วกบั สิง่ ของท่ีตนเปน็ เจา้ ของ 4. เขยี นบรรยายสตั ว์เลี้ยงของตนเอง การนาเสนอข้อมูลสตั วแ์ สนรู้ทงั้ ในประเทศกลุ่มอาเซียนและ ประเทศทวั่ โลก เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 5. ความมีระเบยี บ วนิ ยั ในการทางาน มีความรบั ผิดชอบ และมีความมุง่ ม่นั ในการทางาน 6. คณุ ธรรมอัตลักษณ์ของสถานศึกษา ความมรี ะเบยี บวนิ ัย 7. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ความสามารถดา้ นการสือ่ สาร ความสามารถดา้ นการคดิ วธิ กี ารวดั ผล 1. ตรวจงานจากแบบฝกึ หัด 2. ประเมิน พฤติกรรมความมีระเบียบวินัยในการทางาน มีความรับผิดชอบ และมีความมุ่งม่ันใน การทางาน 3. ประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน เครื่องมือที่ใชใ้ นการวดั ผล 1. แบบฝกึ หดั 2. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ พฤติกรรมความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน มีความรบั ผดิ ชอบ และมคี วามมงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถดา้ นการสอ่ื สาร ความสามารถ ด้านการคดิ 11.2 เกณฑก์ ารประเมินผล 1. ได้รบั คะแนนจากแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขึ้นไป 2. ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ พฤตกิ รรมความมีระเบยี บวินัยในการทางาน มคี วาม รบั ผดิ ชอบ และมีความมุง่ มน่ั ในการทางาน ผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพ 2 (ระดบั ด)ี ขนึ้ ไป 3. ประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ความสามารถดา้ นการส่อื สาร ความสามารถดา้ นการคดิ ผ่านเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ 2 (ระดับด)ี ขึ้นไป 11.3 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 11.3.1 เกณฑ์การประเมนิ ผล ด้านความรู้ วัดจากการทาแบบฝกึ หัด เกณฑ์ตัดสินคะแนน ไดค้ ะแนนร้อยละ 80 - 100 หมายถึง ดเี ยย่ี ม ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 70 - 79 หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนนร้อยละ 60 - 69 หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนนต่ากวา่ รอ้ ยละ 59 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสินการผ่านการประเมิน

นกั เรยี นที่ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนร้อยละ 70 ข้นึ ไป 11.3.2 เกณฑ์การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ดา้ นความมรี ะเบยี บวินัยในการทางาน ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมท่ปี รากฏ 3 มีการวางแผนการทางานตามขัน้ ตอนที่วางไว้ ทุกครั้ง ร้จู กั ปรับปรุงพฒั นาและสรปุ งานใหด้ ขี นึ้ เสมอ 2 มกี ารวางแผนการทางานตามขั้นตอนที่วางไว้บางคร้ัง ปรบั ปรุงพฒั นาและสรปุ งานใหด้ ขี น้ึ เปน็ บางคร้ัง 1 ไมม่ ีการวางแผนการทางานตามขน้ั ตอนท่ีวางไว้ ไม่มีการปรับปรงุ พัฒนาและสรปุ งาน 2. ด้านความรับผดิ ชอบ พฤติกรรมทป่ี รากฏ ระดบั คุณภาพ มีความรบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 3 และส่งงานตามกาหนดเวลาท่ีนดั หมาย 2 มีความรับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 1 ส่งงานชา้ กวา่ กาหนดแตม่ เี หตุผลรบั ฟังได้ มีความรับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมายโดยอาศยั การ 3. ด้านความมงุ่ ม่นั ในการทางาน ตักเตือน ส่งงานช้ากวา่ กาหนดเวลาทน่ี ัดหมาย ระดบั คุณภาพ 3 พฤติกรรมท่ปี รากฏ ตั้งใจและรับผิดชอบในการทางานให้สาเร็จทกุ ครั้ง ทุ่มเททางาน 2 อดทนไมย่ ่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค ปรบั ปรงุ พฒั นาการ ทางานและผลงานด้วยตนเองกระตือรอื รน้ และเตม็ ใจที่จะตอบ 1 คาถามเวลาเพื่อนมีปญั หา ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในการทางาน ทุ่มเททางานเปน็ บางครั้ง ปรบั ปรงุ พัฒนาการทางานและผลงานดว้ ยการชี้แนะจากครูทกุ คร้ัง ไมต่ ้ังใจและไมร่ ับผิดชอบในการทางาน ทุ่มเททางานเปน็ บางคร้งั ปรบั ปรงุ พัฒนาการทางานและผลงานด้วยการช้แี นะจาก ครทู กุ ครั้ง เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั 1 หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 หมายถึง ดี 1 – 3 คะแนน ระดับ 3 หมายถงึ ดีมาก 4 – 6 คะแนน 7 – 9 คะแนน

หมายเหตุ เกณฑ์การผ่าน ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 (ดี) ขึ้นไป 11.3.2 เกณฑก์ ารประเมินคุณธรรมอัตลักษณ์ ประเดน็ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน คุณภาพ (4) คณุ ภาพ (3) คณุ ภาพ (2) คณุ ภาพ (1) 1. เข้าเรียนตรง มาก่อนเวลาเรยี น มาตรงเวลาเรียน มาสายในชว่ ง 10 มาสายเกนิ กว่า ตอ่ เวลา นาที 10 นาที 2. ต้ังใจเรยี น ให้ความรว่ มมือใน ใหค้ วามร่วมมือใน ให้ความร่วมมือใน ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ การเรยี นการสอน การเรียนการสอน การเรยี นการสอน ในการเรยี นการ ตลอดคาบเรยี น เป็นส่วนใหญ่แต่ สอนบา้ งเป็น สอน ไม่ตลอดคาบเรียน บางครงั้ 3. แตง่ กายถูก แต่งกายถกู แตง่ กายถกู แต่งกายถกู แตง่ กายไม่ถูก ระเบียบ ระเบียบตลอด ระเบยี บเกนิ คร่ึง ระเบียบเกนิ ครง่ึ ระเบยี บมาเขา้ คาบ ชั่วโมงแต่ไม่ตลอด ชัว่ โมง เรยี น คาบ เกณฑ์ตัดสนิ คะแนน ช่วงคะแนน 10 -12 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ 4 เทา่ กับ ดีเย่ยี ม ชว่ งคะแนน 7 -9 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ 3 เทา่ กบั ดี ช่วงคะแนน 4 -6 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ 2 เทา่ กับ พอใช้ ชว่ งคะแนนต่ากว่า 3 คะแนน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ 1 เทา่ กบั ปรบั ปรุง หมายเหตุ ระดบั คุณภาพ 2 ข้ึนไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 11.3.3 เกณฑ์การประเมนิ ด้านสมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น ประเด็นประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน 1.ความสามารถ ในการส่อื สาร คุณภาพ (3) คุณภาพ (2) คุณภาพ (1) คุณภาพ (0) ใชภ้ าษาอังกฤษ 2. ความสามารถ ใช้ภาษาองั กฤษใน ใชภ้ าษาอังกฤษใน ใช้ภาษาองั กฤษใน ในด้านการอา่ น ในการคดิ และการเขียนไม่ ดา้ นการอ่านและ ดา้ นการอ่านและ ดา้ นการอ่านและ ถูกต้องเปน็ ส่วน ใหญ่ ไมส่ ามารถ การเขียนได้ การเขยี นได้ การเขียนไดเ้ ป็น ถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความ ถูกต้อง เหมาะสม ถูกต้อง เหมาะสม ส่วนใหญ่ สามารถ เข้าใจของตนเอง ใหผ้ อู้ ื่นได้ สามารถถา่ ยทอด สามารถถา่ ยทอด ถ่ายทอดความรู้ ต้องให้เพ่ือนคอย ความรู้ ความคดิ ความรู้ ความคดิ ความคิด ความ ชว่ ยเหลือตลอด ไม่มีการวาง ความเขา้ ใจของ ความเขา้ ใจของ เข้าใจของตนเอง แผนการทา ตนเองให้ผู้อื่น ตนเองใหผ้ ู้อื่น ใหผ้ อู้ ืน่ ได้ใน เข้าใจได้เปน็ อย่าง เขา้ ใจได้ใน บางครั้ง ดี บางคร้ัง ใช้การคิดอยา่ ง ใช้การคดิ อย่าง ใช้การคดิ อยา่ ง สรา้ งสรรค์ ไม่ สร้างสรรค์ โดยให้ สร้างสรรค์ โดยให้ ซกั ถามใคร มี เพอื่ นอธบิ ายให้ เพ่ือนอธบิ ายให้ 3 ความสามารถใน 1–2 ครง้ั ครัง้ ขึน้ ไป มี

การวางแผนการ มีความสามารถใน ความสามารถใน กจิ กรรมตามแบบ ทากจิ กรรมตาม การวางแผนการ การวางแผนการ ฝึกทักษะ แบบฝกึ ทักษะ ทากจิ กรรมตาม ทากิจกรรมตาม อยา่ งเปน็ ระบบดี แบบฝึกทกั ษะ แบบฝกึ ทกั ษะ มาก อย่างเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ บางครง้ั เกณฑ์ตัดสนิ คะแนน ชว่ งคะแนน 9 -10 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ 4 เท่ากับ ดีเยีย่ ม ช่วงคะแนน 7 -8 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ 3 เทา่ กับ ดี ชว่ งคะแนน 5 -6 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ 2 เทา่ กับ พอใช้ ช่วงคะแนนตา่ กว่า 4 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 1 เท่ากบั ปรับปรงุ หมายเหตุ ระดับคณุ ภาพ 2 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 12. กิจกรรมเสนอแนะ นักเรียนทบทวนคาศพั ทใ์ นเวลาวา่ ง

บันทกึ หลงั การสอน ๑. ผลการสอน / ผลการเรยี นรู้ (K) นกั เรยี นบรรลุตามประสงค์การเรยี นรูเ้ กย่ี วกับคาศัพทแ์ ละคากริยาช่องที่ 2 ได้ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน 104 คน คดิ เป็นร้อยละ 100.00 ด้านทักษะ / กระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถพูดบรรยายเกยี่ วกับบุคคลและเหตุการณ์ในอดตี บอกโครงสรา้ งไวยากรณ์ทอ่ี ยู่ใน เหตุการณท์ เ่ี กิดข้ึนในอดตี ได้ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน 95 คน คดิ เป็นร้อยละ 91.34 และมีวนิ ยั ในตนเอง จานวน 95 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 91.34 ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม (A) นักเรียนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ และมีระเบียบวินยั ในการทางาน เกณฑ์คณุ ภาพระดบั ดีมาก จานวน 70 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 67.30 ระดบั ดี จานวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.61 ระดับพอใช้ จานวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 23.07 ๒. ปญั หา / อปุ สรรค และข้อค้นพบ นกั เรียนบางคนยังอา่ นออกเสียงคาศัพท์ และเรยี นรูเ้ กยี่ วกับคากรยิ าชอ่ งที่ 2 ยังไม่ค่อยได้และเรียนรู้ คาศัพท์กริยาช่องที่ 2 ยังไม่ค่อยรูค้ วามหมายของคาศพั ท์จานวน 9 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 8.65 ๓. ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข และผลการแกไ้ ข ฝึกนักเรียนอา่ นออกเสยี งคาศัพท์ และเขียนคาศัพทพ์ ร้อมบอกความหมายของคาศัพท์ได้ ลงชอ่ื ……………………………………………………ผสู้ อน ( นางสาวสาวติ รี มลู วิลัย) ความคดิ เหน็ หัวหน้ากลมุ่ สาระ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ (ลงชอ่ื ) ............................................. (นางสาวอาภา อินทะลา) (ครู คศ.3) ความคิดเห็นผู้บรหิ าร ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื ) ............................................ (นายสมชาย จนั ทนา) ผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21

แบบสังเกตพฤติกรรมตามคุณธรรมอัตลกั ษณ์ ด้านมีวนิ ยั เร่ือง Past simple tense (Adjective) พฤติกรรมตัวบ่งช้ี เ ้ขาเรียนตรงเวลา สรุปผลการ ้ัตงใจเรียน ประเมนิ เลขท่ี ชือ่ – สกลุ แต่งกาย ูถกระเบียบ รวม 12 คะแนน ผ่าน ไม่ผา่ น ระ ัดบ ุคณภาพ 444 1 เดก็ ชายสวุ ิชา กฤษ์บุษยา 33393 ⁄ 2 เดก็ ชายณฐั วุฒิ ชวนนั ต์กลุ 33393 ⁄ 3 เดก็ ชายสนั ติ ดวงต๊บิ 22373 ⁄ 4 เดก็ ชายทรงชยั ศิวเดชเกรยี งไกร 22373 ⁄ 5 เดก็ ชายณฐั ภูมิ พร้อมไพรสขุ 33393 ⁄ 6 เด็กชายทิวากร กันทรบรมสุข 33393 ⁄ 7 เดก็ ชายสรสชิ เหตผุ ลดี 22373 ⁄ 8 เด็กชายยศพัทธ์ กนั ทรมงคลกิจ 22373 ⁄ 9 เดก็ ชายอาชัญวิชญ์ จตรุ วทิ ย์สถาพร 22373 ⁄ 10 เดก็ หญงิ รสนันท์ มโนรัตน์ 22373 ⁄ 11 เดก็ หญงิ ศริ ิพร ชลพิไลรตั น์ 22373 ⁄ 12 เด็กหญงิ สทุ ธดิ า สกลุ โลภา 22373 ⁄ 13 เด็กหญิงวรยิ า เฉลิมวงศ์ถาวร 4 4 4 12 4 ⁄ 14 เด็กหญงิ เสาวภา กรุงเอกชน 4 4 4 12 4 ⁄ 15 เดก็ หญิงฑิฆมั พร ถาวรยศวิจิตร 4 4 4 12 4 ⁄ 16 เด็กหญงิ ปภาวี กอ่ เผ่าพานชิ 4 4 4 12 4 ⁄ 17 เด็กหญิงกอฝา้ ย กนกวงศศ์ ริ ิ 4 4 4 12 4 ⁄ 18 เดก็ หญิงกุลธิดา ถาวร 4 4 4 12 4 ⁄ 19 เดก็ หญิงฐิตกิ ร สพุ งศ์พันธนุ์ ธิ ิ 4 4 4 12 4 ⁄ 20 เด็กหญิงธัญชนก โชคนที 4 4 4 12 4 ⁄ 21 เดก็ หญงิ นรมน ใจเลิศฤทธิ์ 4 4 4 12 4 ⁄ 22 เดก็ หญิงนติ า เจริญมณกี ลุ 4 4 4 12 4 ⁄

23 เด็กหญิงปรีณดา กุศลเก้อื กลุ 4 4 4 12 4 ⁄ 24 เดก็ หญิงมณีรตั น์ มจี ติ ใจ 4 4 4 12 4 ⁄ 25 เดก็ หญงิ มติกา เอกมณไี พรพงศ์ 4 4 4 12 4 ⁄ 26 เดก็ หญงิ วกิ ัลยา ไผ่สีคาทอง 4 4 4 12 4 ⁄ 27 เด็กหญงิ วพิ าภรณ์ เกษมวิวฒั น์ 4 4 4 12 4 ⁄ เ ้ขาเรียนตรงเวลา สรปุ ผลการ ตั้งใจเรียน พฤติกรรมตัวบ่งช้ี แต่งกาย ูถกระเบียบ ประเมนิ รวม 12 คะแนน ระ ัดบ ุคณภาพ เลขที่ ผ่าน ไม่ผ่าน ชอ่ื – สกลุ 28 เดก็ หญิงศศภิ า วนาก้องเกยี รติ 4 4 4 12 4 ⁄ 29 เด็กหญงิ ศวิ รักษ์ ปองเรืองศกั ดิ์ 4 4 4 12 4 ⁄ 30 เดก็ หญิงสิริธร วงศเ์ ชิดศักดิ์ 4 4 4 12 4 ⁄ 31 เดก็ หญิงสชุ าวดี มีจิตใจ 4 4 4 12 4 ⁄ 32 เดก็ ชายภวู ดล รอดพนั ธ์ุ 22373 ⁄ เกณฑต์ ัดสินคะแนน เท่ากบั ดเี ยีย่ ม ช่วงคะแนน 10 -12 คะแนน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ 4 เทา่ กบั ดี ชว่ งคะแนน 7 -9 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ 3 เทา่ กบั พอใช้ ชว่ งคะแนน 4 -6 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ 2 เท่ากับ ปรับปรุง ช่วงคะแนนตา่ กว่า 3 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ 1 หมายเหตุ ระดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน (นางสาวสาวิตรี มลู วลิ ัย) ครผู ู้สอน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook