Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore newborn up

newborn up

Published by siriporncha, 2021-01-08 04:24:12

Description: newborn up

Search

Read the Text Version

89 2) ถ้าชพี จรมากกว่า 100 คร้ัง/นาที และทารกเรมิ่ หายใจเอง ควรลดการชว่ ยหายใจลง ชา้ ๆ เชน่ เดียวกับหัวข้อการชว่ ยหายใจ 3) ถ้าหัวใจยังเต้นช้ากว่า 60 คร้ัง/นาที ให้ใส่ท่อหายใจทารก ถ้ายังไม่ได้ทำมาก่อนน้ี และทำการนวดหวั ใจสลับกบั การช่วยหายใจต่อไป พร้อมทง้ั พจิ ารณาให้ยากระตุ้นหัวใจ 4. การให้ยา 4.1 อพิ ิเนฟริน (Epinephrine) ข้อบ่งช้ี เม่ือให้การช่วยหายใจนาน 30 วินาที ตามด้วยนวดหัวใจร่วมกับการช่วยหายใจ ตอ่ อีก 30 วินาทแี ล้วหัวใจทารกยงั เต้นช้ากว่า 60 ครั้ง/นาที ขนาดทใ่ี ช้ 0.1 – 0.3 มล./กก ของสารลาย epinephrine 1 : 10,000 วิธีการให้ยา สามารถให้ได้ 2 ทางคือ ให้ทางท่อหายใจ หรือให้ทางเส้นเลือดดำท่ีสะดือ โดยต้องใส่สายสวนเส้นเลือดดำท่ีสะดือขนาด 3.5 หรือ 5 F ด้วยวิธีปลอดเชื้อให้ลึกประมาณ 2 – 4 ชม จนกระทัง่ สามารถดดู เลอื ดออกมาได้สะดวก แล้วใหย้ าทางสายนี้ เมื่อให้ยา epinephrine แล้วให้ทำการนวดหัวใจสลับกับการช่วยหายใจทารกต่อ ภายใน เวลา 30 วินาทีหลังจากให้ยา epinephrine อัตราการเต้นของหัวใจควรเพ่ิมข้ึนจนมากกว่า 60 ครั้ง/ นาที ถ้าหัวใจทารกยงั เตน้ ชา้ กว่า 60 ครง้ั / นาที ใหย้ าซำ้ ได้อกี ทุก 3 – 5 นาที 4.2 สารนำ้ (volume expanders) ขอ้ บง่ ชี้ 1. ทารกไมต่ อบสนองตอ่ การกชู้ ีวติ 2. มีอาการแสดงของการเสียเลือดมาก ได้แก่ ซีด ชีพจรเบา, ชีพจรช้าหรือเร็วอยู่ตลอด และชีพจรไมด่ ขี ึน้ หลังจากการช่วยเหลอื ตามขั้นตอนข้างต้น ชนิดของสารน้ำท่ีให้ สารละลาย normal saline หรือ Ringer’s lactate หรืออาจให้ เลือดกลุ่ม O-Rh negative ที่ทำการ cross match กับเลือดมารดาไว้ล่วงหน้าในกรณีท่ีต้องให้เลือดแก่ ทารกอย่างเรง่ ด่วนอาจให้เลอื ดกลมุ่ O-negative ที่เตรียมจากหอ้ งเลอื ดฉกุ เฉิน ขนาดทใ่ี ช้ เริม่ ท่ี 10 มล/กก. ถา้ ทารกไมต่ อบสนองให้ซ้ำไดอ้ ีกในขนาดเทา่ เดมิ วิธีการให้ ให้ทางเส้นเลือดโดยให้เข้าทางสายสวนเส้นเลือดดำที่สะดือ โดยให้หมดในเวลา 5 – 10 นาที 4.3 โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) ข้อบ่งช้ี เม่ือสงสัยหรือทราบจากการวิเคราะห์ก๊าซในเลือดว่าว่าทารากมีภาวะเลือดเป็น กรดอยา่ งรุนแรง ขนาดยาท่ีใช้ 2 mEq/กก. ก่อนให้ต้องเจือจางดว้ ยนำ้ กลนั่ อย่างน้อยเท่าตัว วธิ ีใหย้ า ให้ทางสายสวนเสน้ เลอื ดดำทีส่ ะดือโดยใหช้ ้า ๆ ในอตั ราไม่เกิน 1 mEq/กก/นาที

90 4.4 นารอกโซน (Naloxone) Naloxone hydrochioride เป็นยาต้านฤทธ์ิยาเสพติดระงับปวด ตัวยาไม่มีฤทธิ์กดการ หายใจ ใชเ้ ป็นยาแกไ้ ขภาวะหยดุ หายใจในทารกที่มารดาได้ยาระงับปวดก่อนคลอด ข้อบ่งช้ี 1) ทารกไมห่ ายใจเองหลังจากการชว่ ยหายใจจนมีชพี จรและสีผิวเปน็ ปกติแลว้ 2) มีประวัติมารดาได้ยาระงบั ปวดภายในเวลา 4 ชม.ก่อนคลอด ข้อหา้ ม ห้ามให้กับทารกท่ีมารดาติดยาเสพติดกลุ่ม opiates เพราะจะทำให้ทารกเกิดอาการชัก จากการถอนยาเสพติดได้ ขนาดยาทีใ่ ช้ 0.1 มก/กก. ตวั ยาอย่ใู นรูปความเขม้ ข้น 1 มก/มล. หรือ 0.4 มก.มล. วิธีการให้ยา ให้ได้ทางท่อหายใจ ทางเส้นเลือดดำหรือโดยการฉีดเข้ากล้ามหรือใต้ผิวหนัง หลังให้ยาต้องช่วยหายใจทารกต่อจนกระทั่งทารกหายใจได้เองและต้องเฝ้าดูการหายใจของทารกอย่าง ตอ่ เนื่องเพราะฤทธ์กิ ดการหายใจของสารเสพติดมักอยู่นานกว่าฤทธ์ิของ naloxone ทารกอาจหายใจช้า ลงหรือหยดุ หายใจไดอ้ ีก ในกรณนี สี้ ามารถให้ยา naloxone ซ้ำได้อีกในขนาดเท่าเดิม การประเมินและแกไ้ ขทารกทไ่ี มต่ อบสนองตอ่ การกู้ชีวิต ถ้าทารกไม่มีการตอบสนองต่อการกู้ชีวิต ควรตรวจสอบว่า การกู้ชีวิตในขั้นตอนต่างๆ คือ การช่วยหายใจ การนวดหัวใจ การนวดหัวใจ และการให้ยาทำได้ถูกต้องหรือไม่ รวมท้ังหาสาเหตุอ่ืนที่ ทำให้ทารกไม่ตอบสนองต่อการกู้ชีวิต และแก้ไขภาวะนั้น ๆ เช่น ความพิการผิดรูปของทางเดินหายใจ ภาวะมีลมรั่วในช่องปอด (pneumothorax) หรือมีน้ำในช่องปอด (pleural effusion) โรคไส้เล่ือน กะบงั ลม (diaphragmatic hernia) หรอื โรคหวั ใจพกิ ารแต่กำเนดิ การหยุดการช่วยกู้ชวี ติ ทารก จากข้อมูลทางการแพทย์ที่มีอยู่ช้ีให้เห็นว่า โอกาสท่ีทารกจะรอดชีวิต หรือรอดชีวิตโดยไม่ เกิดความพิการอย่างถาวร มนี ้อยมากหากให้การกู้ชวี ิตอย่างเหมาะสมนานเกินกว่า 10 นาทีแล้วทารกยัง ไม่ตอบสนอง ดังน้ัน อาจพิจารณาหยุดการปฏิบัติการกู้ชีวิตหากทารกไม่มีการตอบสนองต่อการกู้ชีวิตท่ี ทำอย่างเต็มที่แล้ว กล่าวคือ หากทารกไม่มีการเต้นของหัวใจหลังจากได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง นานกว่า 15 นาที การเตรยี มความพรอ้ มในการช่วยชีวิตทารกแรกเกิด 5. อุปกรณแ์ ละเครื่องมอื ท่ใี ช้ในการดูแลแกไ้ ขทารก 5.1 เตียงทารกพร้อมอปุ กรณ์ให้ความอบอุ่น overhead radiant warmer bed 5.2 อุปกรณส์ ำหรบั ดดู เสมหะ - ลูกยาง (bulb syringe) เครื่องดูดเสมหะ meconium aspirator สายสำหรบั ดดู เสมหะ เบอร์ 5, 8, 10, 12 หรอื 14F

91 5.3 อุปกรณ์สำหรับให้ออกซิเจน ออกซิเจน, flow meter ฝาครอบหน้า (face mask) ของ ทารกขนาดต่าง ๆ (เบอร์ 0, 1, 2) self-inflating resuscitation bag with oxygen reservoir 5.4 อุปกรณ์สำหรับใส่ท่อหลอดลม laryngoscope blade เบอร์ 0 และ 1- ท่อหลอดลม คอ ขนาด 2.5, 3.0, 3.5, 4.0 ม.ม 5.5 ยาepinephrine 1:1,000 naloxone 0.4 มก/มล sodium bicarbonate (NaHCO3) sterile water สารนำ้ 5% D/W, 10% D/W, NSS, Ringer’s lactate 5.6 เบด็ เตล็ด ถุงมอื หฟู งั เข็มและ syringes ขนาดตา่ ง ๆ feeding tube เบอร์ 5, 8 umbilical catheter เบอร์ 3.5, 5 ชุดสำหรับใส่ umbilical catheter แอลกอฮอล์, adhesive tape, กรรไกร ผ้าอุน่ ใชเ้ ชด็ ตวั และหอ่ ตวั ทารก นาฬิกาจับเวลา 5.7 อุปกรณ์ที่อาจมีเพิ่มเติม (optional) flow inflating bag oxygen blender pulse oximeter T- piece resuscitator humidifier ตรวจเครือ่ งมอื ตา่ ง ๆ ให้มีครบและอยใู่ นสภาพใช้งานไดก้ อ่ นใช้ทุกคร้ัง สรุป การชว่ ยกู้ชีพทารกแรกเกิดเป็นส่ิงท่ีสำคัญ การเฝ้าระวงั เพ่ือไม่ให้เกิดการกู้ชีพเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง แต่หากมีความจำเป็นท่ีจะต้องกู้ชีพทารกควรประเมินสภาพทารกก่อนคลอดโดยศึกษาประวัติการฝาก ครรภ์และการเฝ้าคลอดเป็นอย่างดี เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหาใน ระหว่างการเฝ้าคลอด ทีมบุคลากรทางการแพทย์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีการประสานงานกัน อุปกรณ์ ในการกู้ชีพจะต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ รวมถึงยาท่ีจำเป็น เพื่อการช่วยกู้ชีพทารกจะเกิดประสิทธิผล ทารกแรกเกดิ จะได้มคี ุณภาพชีวิตทดี่ ีและเปน็ ทรัพยากรทีส่ ำคัญของประเทศต่อไป

92 บรรณานกุ รม กนกวรรณ ฉันธนะมงคล. (2554). การพยาบาลทารกแรกเกิด. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยหัว เฉียวเฉลมิ พระเกียรติ. กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์, พรรณรัตน์ แสงเพ่ิม, นันทิยา วัฒนายุ, สุพินดา เรืองจิราษเฐียร, และสุดาภรณ์ พยัคฆเรือง. (2555). การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา. โครงการตำราคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. กรงุ เทพฯ: พรี-วนั . นันทพร แสนศิริพันธ์, สุกัญญา ปริสัญญกุล. (2558).การพยาบาลในระยะคลอด: แนวคิด ทฤษฎี สู่การ ปฏิบัต.ิ เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตรม์ หาวิทยาลยั เชียงใหม่. ฐิติพร อิงคถาวรวงศ์และแก้วตะวัน ศิริลักขนานันท์. (2559). การใช้ยาในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร. กรงุ เทพ: วิทยาลัยพยาบาลเซนหลยุ ส์. ปิยะนันท์ ลิมเรืองรอง. (2559). การพยาบาลสตรีระยะตั้งครรภ์. กรุงเทพ : โครงการตำราคณะ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหิดล. พัชรี วรกจิ พูนผล. (2555). คู่มือการฝกึ ปฏบิ ัติการพยาบาลทารกแรกเกดิ . ขอนแกน่ : คลังนานาวทิ ยา. สมาคมเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์(ไทย).Common problem in breastfeeding.เอกสาร ประกอบการประชุมวชิ าการประจำปี สมาคมเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์(ไทย) วันที่ 2 พฤษภาคม 2554 ณ โรงแรมเดอะไทน์ รีสอร์ท บางแสน จ.ชลบรุ ี อภิรัช อินทรางกูร. (2554). ความรู้เบ้ืองต้นการพยาบาลผดุงครรภ์ เล่ม 2. เชียงใหม่ : ครองช่างพร้ินติ้ง จำกัด อัญชลี ลิ้มรังสิกุลและพฤหัส พงษ์มี.พิมพ์คร้ังท่ี 6. (2555). การช่วยกู้ชีพทารกแรกเกิด. ชมรมเวชศาสตร์ ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย. อำไพ จารวุ ัชรพาณิชกุล.(2560). กระบวนการคลอดและกลไกการคลอดปกต.ิ เชยี งใหม่:สยามพมิ พ์ นานา Blackburn, Susan. 2017. Maternal, Fetal, & Neonatal Physiology - E-Book: A Clinical Perspective. Elsevier Health Sciences. Bowlby, John. 1999. Attachment and Loss. 2nd ed. New York: Basic Books. Calmes, Selma H. 2015. “Dr. Virginia Apgar and the Apgar Score: How the Apgar Score Came to Be.” Anesthesia & Analgesia 120(5):1060–1064.

93 Desalew, Assefa, Agumasie Semahgn, and Gezahegn Tesfaye. 2020. “Determinants of Birth Asphyxia among Newborns in Ethiopia: A Systematic Review and Meta- Analysis.” International Journal of Health Sciences 14(1):35–47. Escobedo Marilyn B., Aziz Khalid, Kapadia Vishal S., Lee Henry C., Niermeyer Susan, Schmölzer Georg M., Szyld Edgardo, Weiner Gary M., Wyckoff Myra H., Yamada Nicole K., and Zaichkin Jeanette G. 2019. “2019 American Heart Association Focused Update on Neonatal Resuscitation: An Update to the American Heart Association Guidelines for Cardiopulmonary Resuscitation and Emergency Cardiovascular Care.” Circulation 140(24):e922–30. Gardner, Sandra Lee, Brian S. Carter, Mary I. Enzman-Hines, and Susan Niermeyer. 2020. Merenstein & Gardner’s Handbook of Neonatal Intensive Care - E-Book: An Interprofessional Approach. Elsevier Health Sciences. Gleason, Christine A., and Sherin Devaskar. 2011. Avery’s Diseases of the Newborn E- Book. Elsevier Health Sciences. Gutbir, Yuval, Tamar Wainstock, Eyal Sheiner, Idit Segal, Ruslan Sergienko, Daniella Landau, and Asnat Walfisch. 2020. “Low Apgar Score in Term Newborns and Long-Term Infectious Morbidity: A Population-Based Cohort Study with up to 18 Years of Follow-Up.” European Journal of Pediatrics 179(6):959–71. Information, National Center for Biotechnology, U. S. National Library of Medicine 8600 Rockville Pike, Bethesda MD, and 20894 Usa. 2009. The Physiological Basis of Breastfeeding. World Health Organization. Josephsen, Justin B., and Marya L. Strand. 2017. “Providing Ventilation to the Newborn Infant in the Delivery Room.” NeoReviews 18(11):e658–64. Pediatrics, American Academy of, Committee on Fetus and Newborn, American College of Obstetricians and Gynecologists, and Committee on Obstetric Practice. 2006. “The Apgar Score.” Pediatrics 117(4):1444–47. Pickerel, Kathy Kay, Julee Waldrop, Emily Freeman, Jamie Haushalter, and Jennifer D’Auria. 2020. “Improving the Accuracy of Newborn Weight Classification.” Journal of Pediatric Nursing 50:54–58. Qian, Yiyu, Qiujing Lu, Hailing Shao, Xinxin Ying, Wenle Huang, and Ying Hua. 2020. “Timing of Umbilical Cord Clamping and Neonatal Jaundice in Singleton Term Pregnancy.” Early Human Development 142:104948.

94 Quattrin, Rosanna, Kim Iacobucci, Anna Lisa De Tina, Letizia Gallina, Carla Pittini, and Silvio Brusaferro. 2016. “70% Alcohol Versus Dry Cord Care in the Umbilical Cord Care.” Medicine 95(14). salama, Ahmed, Lotfy El-Seheim), and Mohamed elsamanoudy. 2020. “Inhaled Salbutamol for the Treatment of Transient Tachypnea of the Newborn.” International Journal of Medical Arts 0(0):0–0. Shah, Piyush, Ajay Anvekar, Judy McMichael, and Shripada Rao. 2015. “Outcomes of Infants with Apgar Score of Zero at 10 Min: The West Australian Experience.” Archives of Disease in Childhood - Fetal and Neonatal Edition 100(6):F492–94. Turyasiima, Munanura, Martin Nduwimana, Silva Manuel Andres, Gloria Kiconco, Walufu Ivan Egesa, Bernis Melvis Maren, and Robinson Ssebuufu. 2020. “Neonatal Umbilical Cord Infections: Incidence, Associated Factors and Cord Care Practices by Nursing Mothers at a Tertiary Hospital in Western Uganda.” Open Journal of Pediatrics 10(02):288. White, Lois. 2005. Foundations of Maternal & Pediatric Nursing. Cengage Learning. Wright, Clyde J., Michael A. Posencheg, Istvan Seri, and Jacquelyn R. Evans. 2018. “30 - Fluid, Electrolyte, and Acid–Base Balance.” Pp. 368-389.e4 in Avery’s Diseases of the Newborn (Tenth Edition), edited by C. A. Gleason and S. E. Juul. Philadelphia.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook