ก เอกสารชดุ แนวทางพฒั นาการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 1 สำหรบั นักเรยี นทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรู ้ เลม่ ที่ 1 การเตรยี มความพรอ้ ม สำหรับนักเรียนทีม่ ีความบกพร่อง ง ข ทางการเรียนร ู้ ข ค ง ก ค สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารชุดแนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ สำ�หรับนักเรียนทมี่ คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ ชุดท่ี 1 การเตรยี มความพรอ้ ม สำ�หรบั นกั เรยี นท่ีมีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ เลม่ ท่ี 1 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เร่ือง การเตรียมความพร้อมส�ำ หรบั นักเรียนท่มี ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ เล่มท่ี 1 ผจู้ ัดพมิ พ ์ กลมุ่ การจัดการศกึ ษาเรยี นรว่ ม ส�ำ นกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จำ�นวนพมิ พ์ 2,500 เล่ม ปีทพ่ี มิ พ์ 2554 ISBN 978-616-202-343-9
คำ�น�ำ เอกสารชุด “แนวทางพฒั นาการเรยี นรู้ ส�ำ หรบั นกั เรยี นท่มี คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นร”ู้ น้ี ไดจ้ ัด ทำ�และเผยแพรค่ รั้งแรกในปี พ.ศ. 2551 โดยในคร้ังน้นั ได้จัดทำ�เปน็ เอกสาร 5 เลม่ คือ เลม่ ท่ี 1 ความรู้ พืน้ ฐานและแนวทางพัฒนานักเรยี นทม่ี คี วามบกพร่องทางการเรยี นรู้ เล่มท่ี 2 การเตรียมความพร้อมส�ำ หรับ นักเรียนทมี่ ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ เล่มท่ี 3 เทคนิค วธิ ีการและส่ือ สำ�หรบั นักเรยี นท่ีมคี วามบกพร่อง ทางการเรียนรู้ด้านการอ่าน เล่มที่ 4 เทคนิค วิธีการและส่ือ สำ�หรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการ เรียนรดู้ ้านการเขยี น และเล่มท่ี 5 เทคนคิ วธิ ีการและสื่อ ส�ำ หรบั นกั เรียนทม่ี ีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ดา้ นคณติ ศาสตร์ โดยทผี่ า่ นมาพบวา่ เอกสารชดุ ดงั กลา่ ว เปน็ ประโยชนก์ บั ครผู สู้ อนและผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ งในการใช้ เปน็ แนวทางในการพัฒนานักเรยี นท่มี คี วามบกพร่องทางการเรียนรดู้ ้านตา่ ง ๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี อย่างไรก็ตามเพ่ือให้เอกสารชุดนี้มีความเป็นปัจจุบันและมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สำ�นักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานจงึ เหน็ ควรปรบั ปรุงเอกสารดงั กลา่ ว โดยในการปรับปรงุ ครั้งน้ี นอกจาก ความเหมาะสมของเทคนคิ วธิ กี ารและสอื่ ส�ำ หรบั นกั เรยี นทมี่ คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรแู้ ลว้ ยงั ไดค้ �ำ นงึ ถงึ ความสะดวกของครแู ละผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งในการน�ำ ไปใชด้ ว้ ยเปน็ ส�ำ คญั ดว้ ยเหตนุ จี้ งึ ไดจ้ ดั พมิ พเ์ อกสารชดุ นอี้ อกเปน็ 1 เล่มกับอีก 4 ชดุ เพ่อื ให้เอกสารแตล่ ะเล่มมขี นาดไมห่ นาจนเกนิ ไป โดยประกอบดว้ ยเอกสารตา่ ง ๆ ดงั นี้ เอกสารความรู้พน้ื ฐานและแนวทางพัฒนานกั เรยี นท่มี ีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เอกสารชุดท่ี 1 การเตรียมความพร้อมสำ�หรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยเอกสาร 2 เล่ม เอกสารชุดที่ 2 เทคนคิ วิธกี ารและสือ่ สำ�หรบั นักเรียนท่มี ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ดา้ นการอ่าน ประกอบด้วยเอกสาร 6 เล่ม เอกสารชดุ ที่ 3 เทคนคิ วิธีการและส่อื ส�ำ หรับนักเรยี นท่มี คี วามบกพร่องทางการเรียนรู้ ด้านการเขียน ประกอบด้วยเอกสาร 3 เลม่ เอกสารชดุ ที่ 4 เทคนคิ วธิ ีการและสื่อ ส�ำ หรบั นกั เรียนทมี่ ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ ดา้ นคณติ ศาสตร์ ประกอบดว้ ยเอกสาร 5 เล่ม สำ�หรับเอกสารนี้เป็นเล่มท่ี 1 ในเอกสารชุดท่ี 1 การเตรียมความพร้อมสำ�หรับนักเรียน ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งในเอกสารจะกล่าวถึงสภาพปัญหา แนวทางพัฒนา เทคนิควิธีการ และส่ือการเรียนการสอน รวมท้ังกิจกรรมการจัดการเรียนรู้และแบบฝึก ที่จะนำ�ไปสู่การแก้ไขปัญหา ท่ีเกิดกับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท้ังน้ีในการน�ำ ไปใช้ ครูผู้สอน ผ้ปู กครองและผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งอาจพจิ าณาปรบั เปล่ยี นได้ตามความเหมาะสม
สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำ�เอกสารชุดนี้ หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ เอกสารนจ้ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ครผู สู้ อน ผปู้ กครองและผเู้ กยี่ วขอ้ งทกุ ระดบั ซง่ึ จะไดน้ ำ� ไปประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ พฒั นานกั เรยี นทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม กลา่ วคอื นกั เรยี นทมี่ คี วาม บกพร่องทางการเรียนรู้แต่ละคนจะได้รับการช่วยเหลือและส่งเสริมให้ได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ ซึ่งย่อม สง่ ผลโดยตรงตอ่ คุณภาพการศึกษาและคณุ ภาพชวี ิตของผู้เรียน (นายชนิ ภัทร ภูมริ ตั น) เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
สารบญั เรอื่ ง หนา้ ค�ำ นำ� สารบัญ บทน�ำ การเตรียมความพรอ้ มของนักเรียนทีม่ ีความบกพร่องทางการเรียนรู้................................................... 1 แนวทางในการเตรียมความพรอ้ มส�ำ หรับนกั เรียนท่มี คี วามบกพรอ่ งทางการเรียนรู้..................................... 2 ขอบขา่ ยการเตรียมความพรอ้ มส�ำ หรบั นักเรยี นท่ีมีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้...................................... 6 แผนภาพแนวทางการพัฒนาการเรยี นรเู้ พ่ือเตรียมความพรอ้ มสำ�หรับนักเรยี นท่ีมีความบกพร่อง ทางการเรยี นรู้........................................................................................................................................ 7 เทคนคิ วิธกี ารช่วยเหลอื และพัฒนานักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางการเรยี นรู้....................................... 8 ตารางวิเคราะหแ์ ผนการจดั กจิ กรรมการเตรยี มความพรอ้ ม.................................................................. 9 ดา้ นที่ 1 การเตรยี มความพร้อมด้านสมาธ.ิ ................................................................. 11 แผนการจดั กิจกรรมเตรียมความพรอ้ ม การเพม่ิ ชว่ งความสนใจและการจดจ่อ....... 12 กจิ กรรมท่ ี 1 พาฉันไปถงึ จุดหมายหนอ่ ย............................................................................................. 12 กจิ กรรมท่ี 2 แหวกวา่ ยในขวด............................................................................................................. 15 กิจกรรมที่ 3 ต่อก้านไม้ขดี ................................................................................................................... 17 กจิ กรรมท ่ี 4 ขวดมหาสนุก.................................................................................................................. 19 กจิ กรรมท่ี 5 ลูกปดั แสนรัก.................................................................................................................. 21 กิจกรรมท่ี 6 เพลนิ เสยี งเพลง.............................................................................................................. 23 กิจกรรมท่ ี 7 ฟุตบอลหรรษา................................................................................................................ 26 กจิ กรรมที่ 8 สนกุ คดิ สนกุ ป้ัน............................................................................................................ 29 ดา้ นท่ี 2 การเตรียมความพร้อมในการรับรทู้ างการเหน็ .................................................. 31 แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มความพร้อม การสงั เกต การวาดสายตา............................ 32 กิจกรรม การสงั เกตการวาดสายตา................................................................................................... 32
เรอ่ื ง หน้า แผนการจดั กิจกรรมเตรยี มความพร้อม การต่อเติมภาพให้สมบูรณ.์ ............................ 38 กิจกรรมท ี่ 1 ต่อเติมภาพใหส้ มบรู ณ.์ ................................................................................................... 38 กจิ กรรมท ี่ 2 ต่อเติมฉนั ใหส้ มบรู ณ์...................................................................................................... 43 แผนการจดั กิจกรรมเตรยี มความพร้อม การต่อเตมิ อักษรให้สมบรู ณ์.......................... 64 กจิ กรรม ตอ่ เติมตัวอักษร.................................................................................................................. 64 แผนการจดั กิจกรรมเตรียมความพร้อม การจำ�แนกภาพจากฉากหลงั ......................... 73 กจิ กรรมท่ ี 1 ดดู ดี มี รี างวลั ................................................................................................................... 73 กิจกรรมท่ ี 2 ภาพซอ่ นหาพาสนกุ ........................................................................................................ 76 กจิ กรรมที่ 3 จ�ำ แนกภาพจากฉากหลัง................................................................................................ 84 แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มความพรอ้ ม การจำ�แนกทางการเห็น................................... 90 กิจกรรมท ี่ 1 มองหาคำ�ตอบ................................................................................................................ 90 กจิ กรรมที่ 2 ภาพนม้ี ีชอื่ ..................................................................................................................... 100 กจิ กรรมท ่ี 3 หาพวก........................................................................................................................... 103 กจิ กรรมท ี่ 4 พยัญชนะอะไรเอย่ .......................................................................................................... 106 กจิ กรรมท ี่ 5 เลือกดีดีมรี างวลั ............................................................................................................. 114 แผนการจดั กิจกรรมเตรียมความพร้อม การจ�ำ จากการเห็น........................................... 116 กจิ กรรมท ่ี 1 ถงุ ความจำ�...................................................................................................................... 116 กิจกรรมท ่ี 2 จำ�ไดไ้ หม........................................................................................................................ 118 กจิ กรรมที ่ 3 จ�ำ ฉนั ไดไ้ หม................................................................................................................... 120 แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มความพร้อม การเรียงล�ำ ดับภาพ........................................... 128 กิจกรรม ลำ�ดบั ภาพ...................................................................................................................... 128 บรรณานุกรม................................................................................................................................... 135 คณะทำ�งาน...................................................................................................................................... 136
บทน�ำ การเตรียมความพร้อมของนักเรยี นท่มี คี วามบกพร่องทางการเรยี นรู้ เด็กทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของชาติ มีสิทธิและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันตามสิทธิมนุษยชนและ สิทธิตามกฎหมายในสังคมไทย เด็กทุกคนจึงสมควรได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจังตั้งแต่เร่ิมปฏิสนธิ แรกเกิดและเตบิ โต โดยไดร้ ับความรกั ความอบอุ่นจากพ่อแมแ่ ละผู้เกยี่ วขอ้ งทุกฝา่ ย ตลอดจนได้รับการเตรียม ความพรอ้ มใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ทง้ั ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณแ์ ละสงั คม เพอื่ จะไดเ้ ตบิ โตเปน็ ผใู้ หญท่ มี่ คี ณุ ภาพ ในอนาคต นกั เรยี นทมี่ คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ มรี ะดบั สตปิ ญั ญา (IQ) อยใู่ นระดบั ปกตเิ หมอื นนกั เรยี น ทั่วไป แตม่ ผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนต�ำ่ กว่าความสามารถที่แทจ้ รงิ เน่ืองจากความบกพรอ่ งของกระบวนการ ทางจิตวิทยา (Psychological Processes) ซ่ึงเป็นความบกพร่องในกระบวนการด้านการเห็น (Visual Processing Disabilities) ความบกพร่องในกระบวนการดา้ นการไดย้ ิน (Auditory Processing Disabilities) ความบกพรอ่ งในกระบวนการจดั ล�ำ ดบั (Sequential Processing Disabilities) ความบกพรอ่ งในกระบวนการ สรา้ งความคดิ รวบยอด (Conceptual Processing Disabilities) และความบกพรอ่ งในกระบวนการดา้ นการ ใชค้ วามเร็วในการเคลอ่ื นไหวและท�ำ กจิ กรรม (Processing Speed Disabilities) ท�ำ ให้สง่ ผลกระทบต่อการเรยี น รู้ คือ ความเขา้ ใจภาษา การพดู การอ่าน การเขียน การสะกดค�ำ และคณิตศาสตร์ แสดงออกใหเ้ ห็นโดยมี ปญั หาการอา่ นไม่ได้ พูดไมไ่ ด้ใจความ อา่ นจบั ใจความไม่ได้ เขยี นหนังสอื ไมเ่ ป็นตวั เขียนไม่ตรงเสน้ บรรทดั เขียนตามคำ�บอกไม่ได้ สะกดคำ�ไม่ได้ ไม่เข้าใจความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เป็นต้น นอกจากน้ียัง พบว่านักเรยี นท่มี ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นร้ยู ังมปี ัญหาอนื่ ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ 1. ขาดความเชือ่ มั่นและการยอมรับตนเอง (Self Esteem) ซึง่ แสดงออกโดย ไม่พยายามทำ�สิง่ ใหม่ กลัวความลม้ เหลว ขอ้ี าย เก็บตัว โกรธ กา้ วรา้ ว เบอื่ การอา่ น เบ่ือการเรียน 2. สบั สนกบั บทบาทและการแสดงออกทางสงั คม (Social Confusion) ไม่เข้าใจปฏกิ ิรยิ าของผอู้ ่ืน ท�ำ ใหแ้ สดงพฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสมกบั กาลเทศะ เชน่ แสดงออกมากเกนิ ไป(Overreact) ประเมนิ เรอื่ งเกนิ จรงิ หนุ หันพลนั แลน่ โตต้ อบชา้ เกนิ ไป เปน็ ตน้ 3. มีความยุ่งยากในการส่ือสาร (Communication) สื่อสารไม่ได้ จึงหลีกเล่ียงการพูดคุย หรือ แสดงออกอยา่ งกา้ วรา้ วแทนการพดู ดีๆ ไม่อยากมีเพ่อื นเพราะกลัวถกู ล้อเลยี นท�ำ ให้ดูไมเ่ ปน็ มิตรกับผอู้ ่นื 4. มปี ัญหาดา้ นสมาธิ (Attention) ท�ำ ใหไ้ ม่อย่นู ิ่ง หรอื ทำ�กิจกรรมไมต่ ่อเนอ่ื ง ท�ำ งานไมเ่ สรจ็ ตาม กำ�หนด เป็นตน้ 1
ปัญหาเหล่าน้ีเป็นอุปสรรคสำ�คัญในการเรียนรู้ ทำ�ให้ไม่ประสบความสำ�เร็จในการเรียน ครูและ ผู้เกี่ยวข้องจึงจำ�เป็นต้องช่วยเหลือ โดยการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ต้ังแต่เร่ิมพบปัญหา เพื่อลดข้อจำ�กัดในการเรียนรู้และเป็นการส่งเสริมให้มีความรู้พื้นฐาน ซ่ึงเป็นเครื่องมือ ในการเรียนรู้ในระดบั ท่สี ูงข้ึนต่อไป อย่างไรก็ตามการพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้นั้น จำ�เป็นต้องพัฒนา อย่างมที ศิ ทางและด�ำ เนินการอยา่ งตอ่ เน่ืองเป็นกระบวนการ โดยความรว่ มมอื ของผเู้ ก่ียวขอ้ งทุกฝา่ ย ได้แก่ ครู พอ่ แม่ ผ้บู รหิ าร และผเู้ กย่ี วข้องอ่ืนๆ ซ่งึ ควรมกี ารประเมินความสามารถพ้นื ฐานโดยละเอยี ดและน�ำ ปัญหา ท่พี บมาวเิ คราะห์รวมทั้งก�ำ หนดจดุ ประสงค์ในการพฒั นาอย่างชดั เจน มีการประชุมเพอ่ื จัดทำ�แผนการจัดการ ศึกษาเฉพาะบุคคล และน�ำ ไปสกู่ ารปฏิบัติอยา่ งจรงิ จัง ส�ำ หรบั การช่วยเหลือนกั เรยี นทีม่ ีความบกพร่องทางการเรียนรนู้ ั้นมเี ป้าหมายในการพฒั นา คือ 1. เพอื่ ลดข้อจำ�กัดในการเรียนร้ขู องนักเรยี น 2. เพอื่ ใหน้ ักเรียนยอมรับตนเองและประสบผลส�ำ เรจ็ ในการดำ�เนินชวี ิต 3. เพ่ือพัฒนาความสามารถทางการเรียนรู้ของนกั เรยี นด้านการอ่าน การเขยี น และคณิตศาสตร์ 4. เพ่ือให้นักเรียนสามารถดำ�เนินชีวิตได้อย่างมีความสุข และสามารถทำ�ประโยชน์ให้สังคมและ ประเทศ แนวทางในการเตรียมความพร้อมส�ำ หรบั นกั เรยี นทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ การเตรียมความพรอ้ มส�ำ หรับนักเรียนที่มีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ มีแนวทาง ดงั น้ี 1. การประเมนิ ความสามารถพน้ื ฐาน ครผู ู้สอนสามารถประเมนิ โดยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย ท้ังที่ เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ การทดสอบอยา่ งเปน็ ทางการ ไดแ้ ก่ การวดั ระดบั สตปิ ญั ญา (IQ Test) การวดั ระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น (Achievement Test) การทดสอบอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ ไดแ้ ก่ การสงั เกตพฤตกิ รรม ทางการเรยี นของนกั เรยี น การใชแ้ บบส�ำ รวจปญั หาทางการเรยี น ศกึ ษาจากแบบบนั ทกึ ประวตั ิ การสมั ภาษณ์ ผปู้ กครอง การทดสอบนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล เพอื่ วเิ คราะหส์ ภาพปญั หาทางการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น ดา้ นการ อ่าน การเขียน การสะกดคำ� และคณติ ศาสตร์ และใช้เปน็ ขอ้ มูลในการตดั สินใจ หาแนวทางช่วยเหลือ 2. การส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนและลดข้อจำ�กัดจากปัญหาที่มีอยู่ ครูผู้สอนสามารถ สงั เกตและวเิ คราะห์ลีลาการเรยี นรวู้ า่ นักเรยี นแต่ละคนมีความถนดั หรอื มีลลี าในการเรียนรแู้ บบใด เชน่ การ ใช้ตาในการมอง การฟัง การใชก้ ารสมั ผัสหรอื ลงมอื ท�ำ ชอบการเรียนรู้คนเดียวหรือเรียนเปน็ กลุ่ม เปน็ ตน้ ซง่ึ จะช่วยใหส้ ามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลายและสอดคลอ้ งกบั ความต้องการจ�ำ เปน็ ได้ 3. การวเิ คราะหป์ ญั หาของนักเรียนทม่ี ีความบกพร่องทางการเรยี นรู้ ซึ่งมีความบกพรอ่ งใน การรับรทู้ างจิตวิทยา ประกอบด้วย ความบกพร่องในการรบั ร้ทู างการได้ยิน การเห็น การประสานสมั พนั ธ์ ของตากบั การรบั รูข้ องกล้ามเนอ้ื ความจำ�และการจัดระเบียบในการเรยี นรู้ พิจารณาได้จากประเด็นตอ่ ไปนี้ 2
การรบั รทู้ างการไดย้ ิน เปน็ ความสามารถในการตคี วามสง่ิ เรา้ ท่ีเราไดย้ นิ รวมถงึ ทักษะตา่ งๆ เช่น ความจ�ำ จากการได้ยนิ ความสามารถแยกแยะเสยี ง ความสามารถในการวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะหส์ ่งิ ท่ี ไดย้ นิ ความสามารถในการฟงั และเข้าใจเรอื่ งใดเร่ืองหน่งึ ในขณะท่ีมเี รอื่ งอนื่ ๆ เขา้ มาแทรก การรบั ร้ทู างการเห็น เปน็ ความสามารถในการตคี วามส่ิงท่ีเหน็ รวมถงึ ความจำ�จากการเห็น ความสามารถในการแยกแยะสงิ่ ทเี่ หน็ ความสามารถในการวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหส์ ง่ิ ทเ่ี หน็ และความสามารถ ในการแยกแยะภาพใดภาพหนึง่ เมือ่ มีภาพอ่ืนๆ เข้ามาแทรก การจัดระเบียบในการเรียนรู้ เป็นความสามารถในการจัดระเบียบส่ิงเร้าทั้งท่ีเป็นคำ�พูดและ ท่ีไม่เป็นคำ�พูด ความสามารถในการท่ีจะจัดการกับข้อมูลด้วยตนเอง รวมทั้งความสามารถในการจัดระบบ ค�ำ พดู การจดั ระบบความคดิ และการจดั ระเบียบทางมิติสัมพนั ธ์ การรับรู้ทางกลา้ มเน้ือ เป็นความสามารถในการรับรู้สิ่งเร้าโดยผา่ นประสาทสัมผสั และแสดง ปฏิกิรยิ ากลับออกมาในรูปของการเคลอื่ นไหวของกลา้ มเนื้อ ความจ�ำ เปน็ ความสามารถในการจดั เกบ็ และดึงประสบการณ์เดิมโดยผ่านประสาทสมั ผสั และ การรับรสู้ ิ่งเร้าท่เี คยผ่านมาแล้ว ความจ�ำ แบ่งเปน็ 2 ชนิด คอื ความจ�ำ ระยะสั้น และความจ�ำ ระยะยาว ความ จ�ำ ระยะสนั้ เปน็ การเกบ็ ขอ้ มลู ชว่ั คราวโดยทเ่ี รามกี ารตระหนกั ถงึ สงิ่ นนั้ สว่ นความจ�ำ ระยะยาวเปน็ การเกบ็ ขอ้ มลู อย่างถาวร เป็นกระบวนการโยกย้ายข้อมูลจากความจ�ำ ระยะสั้นมาสู่ความจำ�ระยะยาว สำ�หรับนักเรียนที่มี ความบกพรอ่ งทางการเรียนรูจ้ ะมปี ญั หาด้านความจ�ำ การดึงข้อมูลจากความจำ� เป็นความสามารถในการที่จะระลึกถึงข้อมูลที่จัดเก็บในความจำ� ระยะยาวออกมาใช้ ส�ำ หรบั นกั เรยี นทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรจู้ ะมคี วามยากล�ำ บากในเรอ่ื งดงั กลา่ วเมอ่ื ครใู ห้งานกับนกั เรยี นๆ จะไม่สามารถถึงข้อมูลจากความจำ�ระยะยาวออกมาใชไ้ ด้ ปญั หาทางด้านสังคมและอารมณ์ นกั เรยี นมกั จะมปี ญั หาอารมณ์รนุ แรงและมปี ญั หาในดา้ น ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคลอ่ืน ทั้งน้ีเพราะนักเรียนไม่เข้าใจเง่ือนไขทางสังคม ทำ�ให้มีความรู้สึกต่ำ�ต้อย มีความวิตกกงั วลและมีความหดหูใ่ จ จากการวิเคราะหป์ ญั หา น�ำ ไปสู่การวเิ คราะห์หาหลักการ เทคนิควธิ กี าร แนวทางในการแก้ไขให้ ครอบคลุมสภาพปัญหา ออกแบบแผนการจัดกิจกรรมในการเตรียมความพร้อมและเทคนิควิธีการช่วยเหลือ เบื้องตน้ สำ�หรับนกั เรยี นทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ สามารถสรุปเป็นแนวทางในการเตรยี มความพร้อม ส�ำ หรบั นกั เรยี นทีม่ ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นร้ใู น 5 ดา้ น ดังน้ี 1. การเตรยี มความพร้อมด้านสมาธิ การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นสมาธิ ประกอบดว้ ย การเพมิ่ ชว่ งความสนใจ (Attention Span) และ ความจดจอ่ (Concentration) การฝึกและเตรียมความพร้อมด้านสมาธิมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้นักเรียนไม่วอกแวกง่าย มีความ ต้ังใจในการท�ำ งาน สามารถทำ�งานไดเ้ สร็จทนั กำ�หนดเวลา มผี ลงานทเ่ี รียบร้อย มรี ะเบยี บ รูจ้ ักการรอคอย และเป็นพ้ืนฐานที่จำ�เป็นสำ�หรับนักเรียนในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ ดังน้ันกิจกรรมท่ีใช้ในการฝึกสมาธิจึงควร 3
เปน็ กจิ กรรมทช่ี ว่ ยเพม่ิ ชว่ งความสนใจและความจดจอ่ ใหแ้ กน่ กั เรยี น โดยผา่ นกจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ การเลน่ เกม ทสี่ นใจ การทำ�งานศลิ ปะทีช่ อบ เปน็ ต้น 2. การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นการรับร้ทู างการเห็น การเตรียมความพร้อมด้านการรับรู้ทางการเห็น ประกอบด้วย การสังเกต การกวาดสายตา การตอ่ เติมภาพให้สมบูรณ์ (Visual Closure) การจ�ำ แนกภาพจากฉากหลงั (Visual Figure Ground) การ จ�ำ แนกทางการเห็น (Visual Discrimination) การจำ�จากการเหน็ (Visual Memory) และการเรยี งล�ำ ดับภาพ (Picture Sequencing) เป็นตน้ การฝึกและเตรียมความพร้อมเพ่ือพัฒนาความสามารถในกระบวนการทางการเห็น (Visual Processing Disabilities) สามารถใชเ้ ทคนิควิธกี ารต่างๆ ไดแ้ ก่ กิจกรรมตอ่ ภาพ (Jigsaw) ต่อไมบ้ ลอ็ กหรือ ใหด้ ภู าพ ปดิ ภาพแลว้ จ�ำ ใหไ้ ดว้ า่ มภี าพอะไรบา้ ง ใหด้ ภู าพและสงั เกตวา่ มคี วามผดิ ปกตทิ ใี่ ดบา้ ง ใหด้ ภู าพและ จำ�แนกรปู ทรงเรขาคณิตจากภาพทก่ี ำ�หนดให้หรือให้หาค�ำ จากภาพอักษรปริศนา เปน็ ตน้ 3. การเตรยี มความพร้อมด้านการรับรูท้ างการได้ยนิ การเตรียมความพร้อมด้านการรับรู้ทางการได้ยิน ประกอบด้วย การจำ�แนกทางการได้ยิน (Auditory Discrimination) การจ�ำ จากการไดย้ นิ (Auditory Memory) การเรียงลำ�ดับจากการได้ยิน (Auditory Sequencing) เปน็ ตน้ การฝกึ และเตรยี มความพรอ้ มเพ่อื พฒั นาความสามารถในกระบวนการทางการไดย้ ิน (Auditory Processing Disabilities) สามารถใชเ้ ทคนคิ วธิ กี ารตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ให้นักเรียนน่ังหลบั ตา และถามวา่ นักเรียน ไดย้ ินเสยี งอะไร ใหพ้ ดู ตามเพอื่ นเปน็ คำ� เป็นประโยคใหน้ บั วนั ในรอบสปั ดาห์ หรอื นบั เดอื นในรอบหนงึ่ ปยี อ้ น กลบั เช่น ธนั วาคม พฤศจกิ ายน มกราคม ให้ฟงั เพลงแลว้ นกึ ถงึ คำ�ในเนอื้ เพลงแตล่ ะค�ำ ใหน้ ักเรยี นทอ่ งตัว อกั ษรย้อนกลบั เชน่ ฮ อ ฬ...ก หรือ Z Y X…A ใหเ้ พือ่ นเล่าเรื่องสน้ั ๆ ใหฟ้ ัง หลงั จากจบแล้ว ใหน้ ักเรียน เลา่ เร่ืองที่จบไปเมื่อครนู่ ้ี หรือให้มีกจิ กรรมปฏบิ ตั ิตามค�ำ ส่งั เพอ่ื น เป็นตน้ 4. การเตรียมความพร้อมในการประสานสัมพันธ์ระหว่างสายตากบั มอื การเตรยี มความพร้อมในการประสานสมั พันธร์ ะหวา่ งสายตากบั มือ ประกอบดว้ ย การฝกึ ทกั ษะ การใช้มือ และการประสานความสัมพันธ์ระหว่างตากับมือเพ่ือเตรียมความพร้อมในการเขียน การใช้มือทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ การจบั วัตถเุ ลก็ ๆ การตดั โดยใชก้ รรไกร การเวน้ ช่องไฟในการเขียนหนงั สือ เปน็ ต้น การฝึกและเตรียมความพร้อมเพ่ือพัฒนาความสามารถในกระบวนการด้านการจัดลำ�ดับ (Sequential Processing Disabilities) สามารถใชเ้ ทคนิควิธีการต่างๆ ไดแ้ ก่ ให้นกั เรียนเรยี งลำ�ดับช่ือคน ตามล�ำ ดบั ตวั อกั ษร ก ถงึ ฮ ใหบ้ อกชอื่ ของใชภ้ ายในบา้ น ตามล�ำ ดบั อกั ษรใหเ้ รยี งล�ำ ดบั ตวั อกั ษร ตวั เลข หรอื คำ� ให้มองดภู าพ แลว้ บรรยายภาพ โดยละเอียด ให้ฝึกอ่านคำ�สั่งหลังปฏบิ ตั ติ าม เช่น การติดต้ังเสาโทรทศั น์ การทำ�อาหาร เปน็ ตน้ ให้บอกวันเกิดของเพ่ือนๆ ใหไ้ ด้มากท่สี ดุ ให้เลียนแบบการแสดงทา่ ทางของเพอื่ น แตล่ ะคน เป็นตน้ 4
การฝกึ และเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื พฒั นาความสามารถในกระบวนการดา้ นการใชค้ วามเรว็ ในการ เคล่ือนไหวและทำ�กจิ กรรมต่างๆ (Processing Speed Disabilities) สามารถใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ใหน้ ักเรยี นเล่นเกมคอมพวิ เตอร์ หรอื วิดีโอเกม ครเู ปิดเทปเสยี งโดยใช้ความเรว็ สงู กว่าปกติ แล้วถามนกั เรยี นวา่ ได้ยินประโยคใดบ้าง เข้าใจข้อความใดบ้าง เป็นต้น จับเวลาในการทำ�กิจวัตรประจำ�วันของนักเรียน เช่น การจัดท่ีนอน การนำ�ถุงขยะไปทิ้ง ให้นักเรียนอ่านเรื่องส้ันๆ ให้จบภายในเวลาที่กำ�หนด ให้นักเรียนต่อ ไมบ้ ลอ็ กให้เสรจ็ ในเวลาท่กี �ำ หนดหรือให้เลือกตัวอกั ษร ก – ฮ สระ อะ อี...แลว้ ใหบ้ อกวา่ ตวั อักษรหรอื สระ ดังกล่าว อยรู่ ะหวา่ งตวั อักษร หรอื สระใด เป็นต้น 5. การเตรยี มความพรอ้ มด้านวิชาการ การเตรียมความพร้อมด้านวิชาการ ประกอบด้วยการให้เด็กเรียนรู้ความคิดรวบยอด ขนาด การรบั รู้ ปริมาณ รปู ทรง ตำ�แหน่ง การสงั เกต จำ�แนก เปรียบเทยี บ เวลา การแกป้ ญั หา การใช้ภาษาและ การสื่อสาร เปน็ ตน้ การฝึกและเตรียมความพร้อมเพ่ือพัฒนาความสามารถในกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด (Conceptual Processing Disabilities) สามารถใช้เทคนคิ วิธีการต่างๆ ได้แก่ ให้นักเรยี นพดู คำ�คล้องจอง กันหลายๆ คำ� เช่น ปลาดาว หาวนอน ตอนเยน็ หรอื ให้บอกค�ำ ที่ขน้ึ ตน้ ดว้ ย ก...ข......ฮ ให้หาสัตว์ทซี่ อ่ น อยู่ในภาพ ใหบ้ อกวา่ เคร่อื งมอื ตอ่ ไปนใ้ี ชท้ �ำ อะไรไดบ้ ้าง (มีด จอบ ช้อน) และให้นกั เรยี นบอกส่งิ ท่คี าดว่าจะ พบเหน็ เมื่อจะไปทศั นศึกษา ณ สถานทแ่ี ห่งหนง่ึ เช่น ถ้าไปสวนสตั ว์จะพบอะไรบา้ ง (เสือ สงิ โต ช้าง ลิง) หรอื เม่อื อ่านหนงั สือการ์ตนู เร่อื งขำ�ขนั แล้วให้นักเรยี นบอกวา่ ตลกตรงไหน เปน็ ต้น โดยการเตรยี มความ พร้อมส�ำ หรับนกั เรียนทมี่ คี วามบกพร่องทางการเรยี นรนู้ ้ัน ควรจดั ใหค้ รอบคลุมท้งั 5 ดา้ น ดงั แผนภาพที่ได้ น�ำ เสนอต่อไปนี้ 5
ขอบขา่ ยการเตรียมความพรอ้ มสำ�หรับนักเรยี นท่มี คี วามบกพร่องทางการเรียนรู้ การเตรยี มความพร้อมดา้ นสมาธิ l การเพ่ิมชว่ งความสนใจ (Attention Span) l ความจดจ่อ (Concentration) 6 การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นวิชาการ การเตรยี มความพร้อมในการรับรู้ทางการเห็น l พฒั นาความคิดรวบยอด l การสงั เกต การกวาดสายตา l การแกป้ ญั หา l การตอ่ เตมิ ภาพให้สมบูรณ์ (Visual Closure) l ภาษาและการสื่อสาร l การจำ�แนกภาพจากฉากหลงั (Visual Figure Ground) l การจ�ำ แนกทางการเหน็ (Visual Discrimination) ขอบข่าย l การจ�ำ จากการเหน็ (Visual Memory) l การเรยี งล�ำ ดบั ภาพ (Picture Sequencing) การเตรยี มความพรอ้ มในการประสานสมั พนั ธ์ การเตรียมความพรอ้ มในการรบั ร้ทู างการได้ยิน ระหวา่ งสายตากบั มือ l การจำ�แนกจากการได้ยนิ (Auditory Discrimination) l การหยิบจบั วัตถุ l การจ�ำ จากการได้ยนิ (Auditory Memory) l การขีดเขยี น l การเรยี งล�ำ ดับจากการไดย้ นิ (Auditory Sequencing)
แผนภาพแนวทางการพัฒนาการเรียนรเู้ พื่อเตรยี มความพร้อม สำ�หรบั นกั เรียนท่มี คี วามบกพร่องทางการเรยี นรู้ การเตรียมความพร้อมส�ำ หรบั นักเรียน ทีม่ ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ 1. เพื่อลดข้อจำ�กัดในการเรียนรู้ให้ หลกั การ เป็นรูปแบบวิธีการท่ีจัดให้สอดคล้อง กบั นักเรยี น LD วตั ถุประสงค์ กบั ปญั หาของนกั เรยี น LD ทสี่ ง่ เสรมิ 2.เพ่ือพัฒนาความสามารถทางการ ขอบข่าย และพัฒนานกั เรียน LD ให้เกดิ การ เรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และ 1. ดา้ นสมาธิ เรยี นรอู้ นั จะน�ำ ไปสกู่ ารพฒั นาทงั้ ดา้ น คณติ ศาสตร์ของนกั เรยี น LD 2. ดา้ นการรบั รู้ทางการเห็น วิชาการและด้านทักษะชีวิต สังคม 3. เพ่ือให้นักเรียน LD เกิดการ 3. ดา้ นการรับรู้ทางการได้ยนิ และส่วนตัวให้ครอบคลุมด้านสมาธิ ยอมรบั ตนเองและประสบผลส�ำ เรจ็ ใน 4. ด้านการประสานสัมพันธ์ ด้านการรับรู้ทางการเห็น ด้านการ การดำ�เนินชวี ิต ระหวา่ งสายตากับมือ รบั รู้ทางการไดย้ นิ ดา้ นการประสาน 4. เพ่ือเปน็ พน้ื ฐานสู่การพฒั นาด้าน 5. ด้านวิชาการ สัมพันธ์ระหว่างสายตากับมือ และ อ่ืนๆ ให้มีประสทิ ธภิ าพ ด้านวิชาการ โดยครูผู้รับผิดชอบจัด กจิ กรรม แนวการจัดกิจกรรมเตรยี มความพร้อม 1. ศึกษาวิเคราะหส์ ภาพปัญหาของนกั เรียนท่มี ีความบกพร่องทางการเรยี นรู้ 2. วิเคราะหห์ ลักการ แนวทางแก้ไขใหค้ รอบคลมุ สภาพปญั หา 3. กำ�หนดวัตถปุ ระสงคใ์ นการจัดกิจกรรมเตรียมความพรอ้ ม 4. ออกแบบแผนการจัดกิจกรรมเตรยี มความพร้อมและแบบฝึกทักษะ ให้ครอบคลุมด้านสมาธิ ดา้ นการรับรทู้ างการเหน็ ดา้ นการรับรทู้ างการได้ยิน ด้านการประสานสมั พันธ์ระหวา่ งสายตากับมือ และด้านวิชาการ 5. จดั ท�ำ แผนการจดั กิจกรรมเตรยี มความพร้อม 6. ประเมินความสามารถพน้ื ฐานโดยการทดสอบอยา่ งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ 7. จดั กิจกรรมเตรียมความพร้อมตามแผนและประเมินการจัดกิจกรรมตามเกณฑ์ 8. ประเมินเพื่อตัดสนิ ผลและสรุปผล ซ่อมเสรมิ ประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ไม่ผ่าน ตามทกี่ ิจกรรมกำ�หนด ผ่าน สรุปผล 7
เทคนคิ วธิ กี ารชว่ ยเหลอื และพฒั นานกั เรยี นทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ การเตรียมความพร้อมให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ในเอกสารน้ี จะประกอบด้วย แผนการจดั กจิ กรรมและแบบฝกึ ทกั ษะ เพอื่ พฒั นาทกั ษะใน 5 ดา้ นตามทกี่ ลา่ วไปแลว้ ขา้ งตน้ ซงึ่ ประกอบดว้ ย 1. ด้านสมาธิ 2. ด้านการรับรทู้ างการเห็น 3. ด้านการรบั รู้ทางการไดย้ นิ 4. ดา้ นการประสานสมั พนั ธ์ระหว่างสายตากบั มือ 5. ด้านวชิ าการ สำ�หรับการจัดทำ�แผนการจัดกิจกรรมเพ่ือเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมและแก้ปัญหาใน การเรียนรขู้ องนกั เรียนทีม่ ีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรูน้ นั้ จะประกอบไปดว้ ยปัญหา ระดบั ช้นั ช่อื กิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ สอื่ /อุปกรณ์ วธิ ดี ำ�เนนิ กจิ กรรม การวดั และประเมนิ ผล รวมทั้งข้อเสนอแนะ และเพื่อ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เห็นภาพการเตรียมความพร้อมสำ�หรับนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้อย่างเป็น ระบบ ซง่ึ จะชว่ ยใหส้ ามารถน�ำ ไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมยงิ่ ขน้ึ ในเอกสารนจ้ี งึ ไดน้ �ำ เสนอตารางวเิ คราะห์ แผนการจัดกจิ กรรมการเตรียมความพร้อมไว้ดว้ ย ดังตารางต่อไปน้ี 8
ตารางวเิ คราะหแ์ ผนการจดั กจิ กรรมการเตรียมความพร้อม การเตรยี ม ลักษณะปัญหา แนวทางการเตรยี มความพรอ้ ม ความพร้อม 1. ดา้ นสมาธิ หลกั การ/ทฤษฎี เทคนคิ /วธิ ีการ สอื่ 2. ดา้ นการรบั รู้ 1. ไม่อยูน่ ง่ิ 1. การเพ่มิ ชว่ งความสนใจ 1. เกม 1. ของจริง ทางการเห็น 2. เหม่อลอย 2. ความจดจ่อ 2. เพลง 2. บัตรค�ำ 3. ใจไมจ่ ดจอ่ ในการทำ�งาน 3. การใชป้ ระสาท 3. ส่ิงของ สัมผสั ท่หี ลากหลาย 1. มปี ัญหาในการมองราย 1. การสงั เกต กวาดสายตา 1. เกม 1. ของจริง ละเอียดการเก็บข้อมลู จาก 2. บตั รภาพ สงิ่ ทม่ี องเห็น การต่อเติมภาพให้สมบูรณ์ 2. เพลง 3. แบบฝกึ ทกั ษะ 2. มีความบกพรอ่ งใน การรับรทู้ างการเหน็ 2. การจำ�แนกภาพจาก 3. การใชป้ ระสาท 3. มีปัญหาในการจำ�จาก การเห็น ฉากหลัง สัมผัสที่ลากหลาย 4. จ�ำ แนกภาพจากฉาก หลังไมไ่ ด้ 3. การจำ�แนกทางการเห็น 5. เขียนหนังสือไม่ตรง บรรทัด 4. การจ�ำ จากการเหน็ 6. จำ�แนกสญั ลกั ษณ์และ รูปภาพไมไ่ ด้ 5. การเรยี งล�ำ ดบั ภาพ 7. เรยี งล�ำ ดับเหตกุ ารณ์ ไมไ่ ด้ 3. ดา้ นการรับรู้ 1. จ�ำ แนกเสยี งทีไ่ ด้ยิน 1. การจ�ำ แนกจาก 1. เกม 1. ของจริง ทางการไดย้ ิน ไมไ่ ด้ การได้ยนิ 2.จ�ำ แนกเสยี งพยญั ชนะ 2. การจ�ำ จากการไดย้ ิน 2. เพลง 2. บัตรภาพ ทใี่ กล้เคยี งกนั ไมไ่ ด้ 3. การเรียงลำ�ดบั จาก 3. จ�ำ แนกเสียงคำ�ที่ การได้ยนิ 3. การใชป้ ระสาท 3. แบบฝึกทักษะ ใกลเ้ คยี งกันไม่ได้ 4. เรียงลำ�ดับจากการ สัมผสั ทีห่ ลากหลาย ไดย้ ินไม่ได้ 9
การเตรยี ม ลักษณะปญั หา แนวทางการเตรยี มความพร้อม ความพรอ้ ม หลักการ/ทฤษฎี เทคนิค/วิธกี าร ส่อื 4. ด้านการประสาน 1. การหยบิ จับไม่มนั่ คง การใช้ตากับมือทำ�งานให้ 1. เกม 1. ของจรงิ สมั พันธ์ ระหวา่ ง 2. การประสานสมั พันธ์ ประสานสมั พันธก์ ัน 2. เพลง 2.บัตรภาพ สายตากับมอื ระหว่างสายตากับมอื ไม่ดี 3.ประสาทสัมผสั 3. แบบฝึกทกั ษะ ทห่ี ลากหลาย 5. ดา้ นวิชาการ ไม่มีความคดิ รวบยอดเกี่ยว 1. พัฒนาความคิดรวบยอด 1. เกม 1. ของจรงิ กบั ขนาด ปริมาณ รูปทรง 2. บัตรภาพ ต�ำ แหนง่ การเปรียบเทยี บ 2. การแก้ปัญหา 2. เพลง 3. แบบฝกึ ทกั ษะ เวลา ภาษาและการส่ือสาร 3. ภาษาและการสอ่ื สาร 3. การใช้ประสาท สมั ผัสท่หี ลากหลาย 10
ดา้ นที่ 1 การเตรียมความพรอ้ มด้านสมาธิ การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นสมาธิ l การเพ่มิ ชว่ งความสนใจ (Attention Span) l ความจดจอ่ (Concentration) การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นสมาธิ เปน็ กจิ กรรมที่สง่ เสริมใหน้ กั เรียนท่มี คี วามบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ และมีความบกพร่องทางด้านสมาธิ ท่ีไม่สามารถจดจ่อและสนใจกับส่ิงท่ีต้องเรียนรู้ มีลักษณะเหม่อลอย วอกแวกงา่ ย ซุกซน อยู่ไม่เปน็ สขุ สามารถลดความบกพรอ่ งทก่ี ระทบต่อการเรยี นรู้ให้มีความพรอ้ มทจี่ ะเรียนรู้ ต่อไป โดยใชเ้ ทคนคิ กิจกรรมการเพิม่ ช่วงความสนใจและความจดจอ่ 11
แผนการจัดกจิ กรรมเตรียมความพรอ้ ม การเพ่ิมช่วงความสนใจและการจดจอ่ 1. ปัญหา นักเรียนไมอ่ ยู่นิ่ง ทำ�ให้เปน็ อปุ สรรคตอ่ การเรยี นรู้วชิ าต่างๆ 2. ระดบั ชน้ั ทกุ ระดับชั้น 3. กจิ กรรมท่ี 1 พาฉนั ไปถึงจุดหมายหน่อย 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 เพื่อฝึกสมาธิ 4.2 เพอ่ื ฝึกการทำ�งานให้ส�ำ เรจ็ 5. ส่อื /อปุ กรณ์ 5.1 วตั ถสุ ิง่ ของต่างๆ ทน่ี ักเรยี นชอบหรือสนใจ 5.2 ขนม / สติกเกอร์ ทน่ี ักเรียนชอบ 5.3 เทปสตี ่างๆ ขนาด 2 – 3 นิว้ 5.4 ตะกรา้ 6. วิธดี �ำ เนินกิจกรรม 6.1 ครูน�ำ เทปสมี าท�ำ เปน็ เส้นรปู รา่ งตา่ งๆ บนพ้นื เช่น จุดเรม่ิ ต้น จุดสนิ้ สุด • • จุดเรม่ิ ตน้ • • จุดสิ้นสดุ จดุ เร่ิมตน้ • • จดุ ส้ินสดุ 12
สง่ิ ของต่างๆ จุดเรมิ่ ต้น • ตะกรา้ • จุดสน้ิ สดุ 6.2 ครูนำ�ตะกรา้ มาวางไว้ ณ จดุ สิน้ สดุ และใสข่ องรางวัลทเ่ี ด็กชอบไว้ขา้ งใน 6.3 ครูนำ�ตะกร้าที่ใส่ส่ิงของต่างๆ มาให้นักเรียนเลือก 1 อย่าง พร้อมท้ังอภิปรายชื่อประเภท ลักษณะสิ่งของร่วมกัน นักเรยี นถือส่งิ ของมายนื ณ จุดเร่ิมต้นและเดินบนเส้นท่ีกำ�หนดเพอ่ื นำ�ส่งิ ของมาแลก รางวลั ในตะกร้าท่ีวางไว้ ณ จดุ สิ้นสดุ 6.4 นกั เรียนและครรู ว่ มกันอภิปรายผลการทำ�กจิ กรรม 6.5 นักเรียนทำ�กิจกรรมข้อ 6.2 แต่เปลย่ี นจากถือเปน็ น�ำ ส่ิงของวางไวบ้ นศีรษะ 6.6 นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายผลการทำ�กจิ กรรม 7. การวัดและประเมนิ ผล 7.1 วิธกี ารวดั ผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการวดั ผล 7.2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.2.2 แบบประเมินผล 7.3 เกณฑก์ ารประเมินผล 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง / ทำ�ไม่ถกู ตอ้ ง 1 หมายถึง ทำ�ไดถ้ กู ตอ้ ง แตต่ อ้ งช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตอื นทางกายและวาจา 2 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ตอ้ ง แต่ต้องช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตอื นดว้ ยทา่ ทางและวาจา 3 หมายถงึ ทำ�ได้ถูกตอ้ ง แต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตุน้ เตือนด้วยวาจา 4 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ กู ต้องด้วยตนเอง 13
7.4 เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ นักเรยี นท�ำ กจิ กรรมไดร้ ะดบั คุณภาพ 4 8. ข้อเสนอแนะ การกำ�หนดความยาวของเส้นจากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด ระยะเร่ิมต้นฝึกความคำ�นึงถึงสมาธิของ นกั เรยี นเปน็ ส�ำ คญั หากยาวเกนิ ไปไมส่ อดคลอ้ งกบั นกั เรยี นอาจท�ำ ใหเ้ กดิ ความเบอื่ หนา่ ย ท�ำ กจิ กรรมไมส่ �ำ เรจ็ 14
แผนการจัดกจิ กรรมเตรยี มความพรอ้ ม การเพิม่ ชว่ งความสนใจและการจดจ่อ 1. ปญั หา นักเรียนไม่อยู่น่ิง ท�ำ ใหเ้ ปน็ อุปสรรคตอ่ การเรียนรู้ 2. ระดบั ช้นั ทุกระดบั ช้นั 3. กิจกรรมที่ 2 แหวกวา่ ยในขวด 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 เพือ่ ฝกึ สมาธิ 4.2 เพือ่ ฝึกทำ�งานให้สำ�เรจ็ 5. สอื่ /อุปกรณ์ 5.1 ขวดนำ�้ สใี สทีใ่ ส่น�้ำ เต็มขวด 5.2 ลกู แก้วทม่ี ีสีสนั ตา่ งๆ 5.3 ลกู ปัดท่มี ีขนาดเล็ก 5.4 เทปเพลงคลาสสกิ 6. วธิ ีดำ�เนินกิจกรรม 6.1 ครูนำ�ขวดน�้ำ ขวดแก้ว ลูกปัด มาจดั วางบนโตะ๊ 6.2 ครูให้นกั เรียนจบั ลกู แก้วหยอ่ นใสล่ งในขวดนำ้� โดยกำ�หนดจ�ำ นวนลูกแกว้ เร่มิ จากจำ�นวนน้อยๆ ก่อน และเพิ่มจำ�นวนขึ้นเร่ือยๆ ตามศักยภาพของนักเรียน และขณะทำ�กิจกรรมครูจะเปิดเพลงคลาสสิกเบาๆ เพือ่ ให้นกั เรียนรสู้ ึกสบายและผอ่ นคลาย 6.3 นักเรียนและครรู ว่ มกันอภิปรายผลการท�ำ กจิ กรรม 6.4 นักเรยี นทำ�กิจกรรมในข้อ 6.2 และ 6.3 แต่เปลย่ี นจากลูกแก้วเปน็ ลูกปดั ขนาดเลก็ 6.5 ครูและนักเรียนร่วมกันเกบ็ สอื่ /อปุ กรณ์เขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย 7. การวดั และประเมนิ ผล 7.1 วธิ ีการวดั ผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 15
7.2 เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการวัดผล 7.2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.2.2 แบบประเมินผล 7.3 เกณฑ์การประเมนิ ผล 0 หมายถึง ไม่ตอบสนอง / ทำ�ไม่ถกู ต้อง 1 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกต้อง แตต่ ้องชว่ ยดว้ ยการกระตนุ้ เตือนทางกายและวาจา 2 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ ูกต้อง แต่ตอ้ งช่วยด้วยการกระตุน้ เตอื นดว้ ยท่าทางและวาจา 3 หมายถึง ทำ�ไดถ้ กู ต้อง แต่ต้องช่วยด้วยการกระตุ้นเตือนดว้ ยวาจา 4 หมายถงึ ท�ำ ได้ถูกต้องด้วยตนเอง 7.4 เกณฑ์ผ่านการประเมนิ นกั เรยี นท�ำ กจิ กรรมไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 4 8. ข้อเสนอแนะ หากนกั เรยี นทำ�กจิ กรรมไดด้ ี ครูอาจใหท้ ำ�กจิ กรรมโดยก�ำ หนดเวลา เช่นทำ�กิจกรรมใหเ้ สรจ็ ภายใน เวลา 2 นาที 16
แผนการจดั กจิ กรรมเตรียมความพรอ้ ม การเพ่มิ ช่วงความสนใจและการจดจ่อ 1. ปัญหา นักเรยี นไมอ่ ยู่น่ิง ทำ�ใหเ้ ปน็ อุปสรรคต่อการเรยี นรู้ 2. ระดบั ชน้ั ทุกระดบั ช้ัน 3. กิจกรรมที่ 3 ต่อก้านไม้ขีด 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นมสี มาธิสามารถทำ�กจิ กรรมได้ส�ำ เร็จตามเวลาทกี่ ำ�หนด 5. สอ่ื /อุปกรณ์ 5.1 ก้านไมข้ ีด 5.2 กาวลาเทก็ ซ์ 6. วิธีดำ�เนนิ กจิ กรรม 6.1 ครใู หน้ ักเรียนดตู ัวอยา่ งช้นิ งานท่ีน�ำ กา้ นไมข้ ีดมาต่อกนั และอธบิ ายวิธีการทำ�ใหน้ ักเรยี นเข้าใจ 6.2 นกั เรยี นและครูร่วมกันส�ำ รวจอปุ กรณ์ทีจ่ ะใชท้ ำ�กิจกรรม 6.3 นักเรยี นน�ำ กา้ นไม้ขดี มาต่อกนั ตามแบบและเวลาทค่ี รกู �ำ หนด 6.4 นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ผลงานจากการทำ�กจิ กรรม 6.5 นักเรยี นและครูร่วมกนั เก็บอุปกรณใ์ ห้เรยี บร้อย 7. การวัดและประเมินผล 7.1 วธิ กี ารวัดผล 7.1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ้ นการวดั ผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ 7.2.2 แบบประเมินผล 17
7.3 เกณฑ์การประเมนิ ผล 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง / ทำ�ไมถ่ ูกต้อง 1 หมายถงึ ทำ�ได้ถกู ตอ้ ง แตต่ อ้ งช่วยด้วยการกระตนุ้ เตือนทางกายและวาจา 2 หมายถึง ทำ�ได้ถูกตอ้ ง แต่ต้องช่วยดว้ ยการกระต้นุ เตือนดว้ ยท่าทางและวาจา 3 หมายถึง ท�ำ ได้ถกู ตอ้ ง แตต่ ้องชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตือนด้วยวาจา 4 หมายถึง ท�ำ ได้ถกู ต้องดว้ ยตนเอง 7.4 เกณฑผ์ ่านการประเมนิ นักเรียนทำ�กจิ กรรมได้ระดบั คุณภาพ 4 8. ข้อเสนอแนะ เพอื่ เพมิ่ สมาธแิ ละความอดทนในการท�ำ งานของนกั เรยี น ครอู าจเพม่ิ จ�ำ นวนไมข้ ดี และระยะเวลามากขน้ึ หากนกั เรยี นสามารถท�ำ ชนิ้ งานทค่ี รกู �ำ หนดได้ส�ำ เร็จ 18
แผนการจดั กิจกรรมเตรียมความพรอ้ ม การเพิ่มชว่ งความสนใจและการจดจอ่ 1. ปัญหา นกั เรยี นไม่อยู่น่ิง ท�ำ ใหเ้ ป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ 2. ระดับช้นั ทกุ ระดบั ชน้ั 3. กจิ กรรมท่ี 4 ขวดมหาสนุก 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมสี มาธแิ ละพฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ ใหแ้ ขง็ แรง สามารถบงั คบั กลา้ มเนอื้ มอื ตามทศิ ทาง ท่ีกำ�หนดได้ 5. ส่ือ / อุปกรณ์ 5.1 ขวดพลาสตกิ 5.2 ทพั พี 5.3 น้ำ� 5.4 ถงั น้�ำ พลาสติก 5.5 นกหวีด 6. วิธดี �ำ เนินกิจกรรม 6.1 ครเู ลา่ นทิ านเรอื่ งเทพารักษ์กบั คนตดั ไม้ ใหน้ ักเรยี นฟัง 6.2 ซักถามปญั หาเกย่ี วกบั เน้อื เร่อื งนทิ าน ให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ 6.3 แจกขวดพลาสติกและทพั พีใหน้ ักเรยี นคนละ 1 ชดุ และให้นกั เรียนน่ังรวมกนั เป็นกล่มุ แต่ละ กลุ่มครแู จกถงั น�ำ้ พลาสตกิ ใส่น�ำ้ เตม็ กลมุ่ ละ 1 ใบ 6.4 ให้นักเรียนใช้ทัพพีตักนำ้�จากถังพลาสติก และกรอกลงในขวดของตัวเองจนเต็ม โดยเร่ิมต้น ปฏบิ ตั ิเมือ่ ครูเป่านกหวดี 6.5 เมอื่ หมดเวลาครูเป่านกหวดี ใหส้ ญั ญาณ และตรวจสอบว่ากลมุ่ ใดมีจ�ำ นวนคนท่กี รอกน�ำ้ ได้เต็ม ขวดมากกวา่ กลุ่มอื่น จะเป็นกลมุ่ ชนะ 19
7. การวดั และประเมินผล 7.1 วธิ ีการวัดผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการวัดผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 7.2.2 แบบประเมนิ ผล 7.3 เกณฑ์การประเมนิ ผล 0 หมายถงึ ไม่ตอบสนอง / ท�ำ ไม่ถูกตอ้ ง 1 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ กู ตอ้ ง แต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตอื นทางกายและวาจา 2 หมายถึง ทำ�ได้ถูกต้อง แต่ต้องช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตือนด้วยท่าทางและวาจา 3 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ตอ้ ง แตต่ ้องช่วยด้วยการกระตุ้นเตือนดว้ ยวาจา 4 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ งดว้ ยตนเอง 7.4 เกณฑ์ผ่านการประเมิน นักเรยี นทำ�กิจกรรมได้ระดับคุณภาพ 4 8. ข้อเสนอแนะ ครผู ูส้ อนสามารถปรับเปลย่ี นกจิ กรรมการสอนที่ระบุไว้นี้ได้ตามความเหมาะสม 20
แผนการจัดกิจกรรมเตรียมความพรอ้ ม การเพ่ิมชว่ งความสนใจและการจดจอ่ 1. ปญั หา นกั เรียนอย่ไู ม่นงิ่ ท�ำ ใหเ้ ป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ 2. ระดบั ช้ัน ทกุ ระดับชัน้ 3. กจิ กรรมท่ี 5 ลกู ปัดแสนรกั 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนสามารถบังคบั กล้ามเนื้อให้ทำ�งานไดค้ ลอ่ งแคลว่ และไปในทศิ ทางท่ีก�ำ หนดได้ 5. ส่อื / อุปกรณ์ ลูกปดั ดา้ ย 6. วิธีด�ำ เนนิ กิจกรรม 6.1 ครแู ละนักเรียนร่วมรอ้ งเพลง “ นกนอ้ ย ” 6.2 นกั เรียนท�ำ ท่าทางประกอบการร้องเพลง 6.3 แบง่ กลมุ่ นกั เรียนแล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมารบั ลูกปัดและด้ายไปชว่ ยกนั รอ้ ย 6.4 ครูเดนิ ดูให้นกั เรยี นทกุ คนได้ร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ ที่ได้รับไป 6.5 เมอ่ื รอ้ ยลกู ปดั เสรจ็ ใหแ้ ตล่ ะคนน�ำ ผลงานมาวางเรยี งไว้ ทกุ คนชมผลงานของตนเองและของเพอ่ื น 7. การวัดและประเมินผล 7.1 วิธกี ารวัดผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการวดั ผล 7.2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.2.2 แบบประเมนิ ผล 21
7.3 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 0 หมายถงึ ไม่ตอบสนอง / ท�ำ ไมถ่ ูกต้อง 1 หมายถึง ทำ�ได้ถูกต้อง แตต่ ้องช่วยด้วยการกระตนุ้ เตือนทางกายและวาจา 2 หมายถงึ ทำ�ได้ถูกต้อง แตต่ ้องชว่ ยด้วยการกระตุ้นเตอื นด้วยทา่ ทางและวาจา 3 หมายถึง ท�ำ ได้ถกู ต้อง แต่ตอ้ งช่วยด้วยการกระตนุ้ เตอื นด้วยวาจา 4 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ งดว้ ยตนเอง 7.4 เกณฑผ์ ่านการประเมนิ นกั เรียนท�ำ กจิ กรรมไดร้ ะดับคุณภาพ 4 8. ขอ้ เสนอแนะ ครูผ้สู อนสามารถปรับเปล่ยี นกจิ กรรมการสอนที่ระบไุ วน้ ี้ได้ตามความเหมาะสม 22
แผนการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม การเพิม่ ช่วงความสนใจและการจดจ่อ 1. ปัญหา นักเรยี นขาดช่วงความสนใจ และไมม่ คี วามกระตือรือร้น 2. ชว่ งชั้น ทกุ ระดับชัน้ 3. กิจกรรมที่ 6 เพลนิ เสียงเพลง 4. จดุ ประสงค ์ นักเรยี นมีความสขุ และกระตือรอื ร้นในการเรียน 5. ส่ือ/อปุ กรณ์ 5.1 แผนภมู เิ พลง สระ ออ 5.2 เคร่ืองเคาะดนตรี 6. วธิ ดี �ำ เนนิ การ 6.1 ครแู ละนักเรยี นอ่านแผนภมู ิเพลง สระ ออ นกั เรยี นอา่ นตามครู และอ่านพรอ้ มกนั จนคลอ่ ง 6.2 ครูรอ้ งเพลง สระ ออ ให้นกั เรยี นฟงั นักเรยี นร้องตาม 6.3 ครแู ละนกั เรยี นรอ้ งเพลงพรอ้ มกนั และใชเ้ คร่ืองเคาะดนตรี เคาะจังหวะใหส้ นกุ สนาน 6.4 เมอื่ นกั เรียนร้องเพลงได้แล้ว แสดงท่าทางอิสระตามทน่ี กั เรียนอยากแสดงออก 7. การวดั และประเมนิ ผล 7.1 วธิ กี ารวัดผล 7.1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการวัดผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ 7.2.2 แบบประเมินผล 23
7.3 เกณฑ์การประเมนิ ผล 0 หมายถึง ไม่ตอบสนอง / ท�ำ ไม่ถกู ต้อง 1 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกตอ้ ง แตต่ ้องช่วยด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา 2 หมายถึง ทำ�ไดถ้ กู ต้อง แต่ตอ้ งช่วยด้วยการกระตนุ้ เตือนด้วยทา่ ทางและวาจา 3 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ ง แต่ต้องช่วยด้วยการกระตนุ้ เตือนดว้ ยวาจา 4 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ ูกต้องด้วยตนเอง 7.4 เกณฑ์ผ่านการประเมนิ นกั เรียนทำ�กจิ กรรมได้ระดบั คุณภาพ 4 8. ขอ้ เสนอแนะ 8.1 เปลีย่ นเพลงตามท่ีนกั เรยี นสนใจ 8.2 เพลงท่จี ะนำ�มาให้นกั เรยี นร้องควรเปน็ เพลงท่ีมเี นอื้ หาเกยี่ วกบั การเรยี นกิจกรรมต่อไป 24
เพลง สระ ออ ไมป่ รากฏชอ่ื ผูแ้ ต่ง หนูจ๋าอยา่ หนา้ งอ มะละกอสระ ออ ใช่ไหม ออ น่ันเขาอย่อู ยา่ งไร (ซ�ำ้ ) สระ ออ นนั้ ไซร้หลงั อักษรเอย 25
แผนการจดั กิจกรรมเตรียมความพร้อม การเพ่ิมช่วงความสนใจและการจดจอ่ 1. ปัญหา นกั เรยี นไมต่ ั้งใจและไม่สนใจเรียน 2. ชว่ งชน้ั ทกุ ระดบั ช้นั เรยี น 3. กิจกรรมที่ 7 ฟตุ บอลหรรษา 4. จดุ ประสงค ์ 4.1 นักเรยี นมคี วามสนใจและความกระตือรือรน้ ในการเรยี น 4.2 นักเรยี นมสี มาธิ 4.3 นกั เรียนมคี วามสนกุ สนานในการเรยี น 5. สอื่ /อปุ กรณ์ 5.1 ฟุตบอล 2 – 3 ลกู 5.2 สีเคมี 5.3 เทปเพลง (เสียงดนตรี) 5.4 บัตรค�ำ 6. วธิ ดี ำ�เนินกิจกรรม 6.1 ครแู ละนกั เรยี นสนทนาถึงวธิ กี ารเล่นเกมลูกบอลหรรษาพาเพลิน ครูแนะน�ำ วิธเี ลน่ ใหน้ กั เรียน เขา้ ใจ น�ำ ลูกบอลมาตดิ คำ�ง่าย ๆ ที่ใช้ในชีวติ ประจำ�วัน หรือเขียนคำ�บนลูกฟตุ บอล เชน่ ค�ำ ว่า “บา้ น” “รถ” ติดไว้ทล่ี กู บอล นัง่ ลอ้ มวง ครแู จกฟตุ บอลทเ่ี ตรียมไวใ้ ห้ นักเรยี นถือไว้และเปิดดนตรี ถา้ ดนตรหี ยุดและลกู ฟตุ บอลอยทู่ ใี่ คร ใหน้ กั เรยี นคนนน้ั อา่ นคำ� ถา้ อา่ นไมไ่ ดค้ รใู หเ้ พอ่ื น ๆ ชว่ ยกนั อา่ น ถา้ เพอ่ื นอา่ นไมไ่ ดค้ รอู า่ น ใหฟ้ ัง นักเรียนอ่านตาม 6.2 เปล่ียนเพลงและคำ�ที่ติดอยู่บนลูกฟุตบอลไปเรื่อย ๆ จนนักเรียนเหนื่อยจึงเปลี่ยนเล่นเกม อืน่ ๆ ตอ่ ไป 26
7. การวดั และประเมินผล 7.1 วิธกี ารวดั ผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการวัดผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 7.2.2 แบบประเมินผล 7.3 เกณฑ์การประเมินผล 0 หมายถงึ ไมต่ อบสนอง / ทำ�ไมถ่ กู ตอ้ ง 1 หมายถงึ ทำ�ได้ถกู ตอ้ ง แตต่ ้องช่วยดว้ ยการกระตนุ้ เตอื นทางกายและวาจา 2 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกตอ้ ง แต่ต้องชว่ ยด้วยการกระตุ้นเตอื นด้วยท่าทางและวาจา 3 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ กู ตอ้ ง แตต่ อ้ งชว่ ยดว้ ยการกระตุ้นเตอื นด้วยวาจา 4 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกตอ้ งด้วยตนเอง 7.4 เกณฑผ์ ่านการประเมิน นักเรยี นท�ำ กจิ กรรมไดร้ ะดับคณุ ภาพ 4 8. ขอ้ เสนอแนะ พยายามกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นตลอดเวลา และสังเกตถ้ามนี กั เรียนท่ีแยกตัวเองไมเ่ ล่นกบั เพอ่ื น ๆ ใหค้ รดู ูแลและหาทางชว่ ยเหลือ 27
ตัวอยา่ งสื่อ “ฟุตบอลหรรษา” 28
แผนการจดั กิจกรรมเตรยี มความพร้อม การเพ่ิมชว่ งความสนใจและการจดจอ่ 1. ปญั หา นกั เรียนไม่มสี มาธิในการเรียน อยู่ไมน่ งิ่ 2. ชว่ งช้ัน ทุกระดับช้ัน 3. กิจกรรมท่ี 8 สนุกคิด สนุกปั้น 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4.1 นักเรียนมสี มาธิที่ดีขน้ึ 4.2 นักเรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบ 5. สื่อ/อปุ กรณ์ 5.1 ดินน�้ำ มนั แบบแทง่ หรอื แปง้ โด 5.2 กระดาษแข็งหรอื ไม้อัดท่เี หลือเศษ ขนาด 4 x 6 นว้ิ 5.3 กาวลาเทก็ ซ์ 6. วธิ ีด�ำ เนินกจิ กรรม 6.1 แบง่ กลมุ่ นกั เรียนกลมุ่ ละ 2 – 3 คน 6.2 เตรยี มอปุ กรณ์ใหพ้ ร้อมนำ�กระดาษแข็งหรือไมอ้ ัดขนาด 4 x 6 นิว้ หรือ ตามความตอ้ งการ 6.3 วาดภาพลงกระดาษแขง็ หรอื ไมอ้ ัดตามตอ้ งการ 6.4 น�ำ ดนิ น�ำ้ มนั หรอื แปง้ โดมาปนั้ เปน็ เมด็ เลก็ ๆ เทา่ กบั เมด็ ถว่ั เขยี วหรอื โตกวา่ ทากาวลงบนแผน่ กระดาษแขง็ หรอื ไมอ้ ดั ตรงภาพทจ่ี ะน�ำ ดนิ น�้ำ มนั มาตดิ เรยี งดนิ น�้ำ มนั ทลี ะเมด็ ทปี่ น้ั ไวต้ ดิ ลงไปทภ่ี าพจนส�ำ เรจ็ 6.5 ตกแตง่ ภาพดว้ ยการน�ำ ดนิ น�ำ้ มนั มาปนั้ เปน็ เมด็ เลก็ ๆ วางตามพนื้ ทท่ี เ่ี หลอื จนเตม็ แผน่ กระดาษ แข็งหรือไม้อัด 6.6 ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปผลงานหน้าช้นั เรียน และน�ำ ผลงานติดป้ายนเิ ทศ 6.7 ครูพยายามดแู ลใหก้ ำ�ลงั ใจและแรงเสริม 29
7. การวดั และประเมินผล 7.1 วธิ ีการวดั ผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เครอื่ งมือทใี่ ช้ในการวดั ผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 7.2.2 แบบประเมนิ ผล 7.3 เกณฑก์ ารประเมินผล 0 หมายถงึ ไมต่ อบสนอง / ทำ�ไมถ่ ูกตอ้ ง 1 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ กู ตอ้ ง แตต่ อ้ งช่วยดว้ ยการกระตนุ้ เตอื นทางกายและวาจา 2 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ ง แตต่ อ้ งช่วยดว้ ยการกระต้นุ เตอื นด้วยทา่ ทางและวาจา 3 หมายถึง ทำ�ได้ถกู ต้อง แต่ต้องชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตือนด้วยวาจา 4 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ตอ้ งด้วยตนเอง 7.4 เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ นักเรยี นทำ�กิจกรรมไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 4 8. ข้อเสนอแนะ 8.1 ครผู สู้ อนสามารถปรบั เปลยี่ นดนิ น�ำ้ มนั เปน็ การปน้ั กระดาษหรอื อนื่ ๆ ใหเ้ หมาะสมกบั ความสนใจ ของนักเรียน 8.2 รูปภาพควรมรี ายละเอียดเหมาะสมตามวัยของผเู้ รียน 30
ด้านที่ 2 การเตรียมความพร้อมในการรบั รทู้ างการเห็น การเตรยี มความพร้อมในการรับรู้ทางการเหน็ l การสงั เกต การกวาดสายตา l การตอ่ เติมภาพใหส้ มบรู ณ์ (Visual Closure) l การจ�ำ แนกภาพจากฉากหลัง (Visual Figure Ground) l การจ�ำ แนกทางการเหน็ (Visual Discrimination) l การจ�ำ จากการเห็น (Visual Memory) l การเรียงล�ำ ดบั ภาพ (Picture Sequencing) การเตรยี มความพรอ้ มในการรบั รทู้ างการเหน็ เปน็ การสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นทมี่ คี วามบกพรอ่ งทางการ เรียนรู้ที่ไม่สามารถตีความ การแยกแยะสิ่งที่เห็น ให้มีความสามารถตีความ แยกแยะภาพใดภาพหนึ่งได้ โดยใชก้ จิ กรรมหลากหลาย คอื การสงั เกต การกวาดสายตา การตอ่ เตมิ ภาพใหส้ มบรู ณ์ การจ�ำ แนกภาพจาก ฉากหลงั การจำ�แนกทางการเหน็ การจำ�จากการเหน็ และการเรียงล�ำ ดบั ภาพ 31
แผนการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม การสงั เกต การกวาดสายตา 1. ปญั หา นกั เรยี นมปี ัญหาในการมองรายละเอยี ดการเกบ็ ขอ้ มลู จากสงิ่ ท่มี องเหน็ 2. ระดับชัน้ ทุกระดบั ชัน้ 3. กจิ กรรม การสงั เกต การกวาดสายตา 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพือ่ ฝกึ การสังเกต การดูของนกั เรียน 2. เพือ่ ฝกึ การกวาดสายตา 5. สือ่ /อุปกรณ์ 5.1 บัตรภาพ 5.2 แบบฝกึ ทักษะ ท่ี 1 - 4 6. วธิ ดี ำ�เนนิ กจิ กรรม 6.1 ครูและนกั เรียนรว่ มกันร้องเพลง “ นว้ิ โป้งอยไู่ หน นว้ิ โปง้ อยไู่ หน(ซ�้ำ ) อยู่น่ีจ๊ะ(ซ�ำ้ ) สขุ สบายดหี รือไร(ซำ้�) สขุ สบายทั้งกายและใจ ไปกอ่ นละ(ซ�ำ้ ) สวัสดี 6.2 ครูน�ำ ภาพช้างท่ีปดิ หไู วข้ า้ งหนึง่ ให้นกั เรยี นสงั เกตว่ารปู ชา้ งมีส่ิงใดหายไป 6.3 ให้นักเรยี นฝกึ การสงั เกต และการกวาดสายตาจากแบบฝึกทกั ษะท่ี 1 - 4 7. การวัดและประเมินผล 7.1 วธิ กี ารวัดผล 7.1.1 สงั เกตพฤติกรรม 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในการวัดผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤติกรรม 7.2.2 แบบฝกึ ทักษะ 32
7.3 เกณฑก์ ารประเมินผล 0 หมายถึง ไม่ตอบสนอง/ท�ำ ไมถ่ ูกต้อง 1 หมายถงึ ทำ�ได้ถกู ต้องแต่ต้องชว่ ยดว้ ยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา 2 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ กู ต้องแต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตุ้นเตอื นด้วยท่าทางและวาจา 3 หมายถงึ ท�ำ ได้ถูกตอ้ งแต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตุ้นเตือนดว้ ยวาจา 4 หมายถงึ ทำ�ได้ถูกตอ้ งด้วยตนเอง 7.4 เกณฑผ์ า่ นการประเมินผล นกั เรียนท�ำ กิจกรรมได้ระดบั คณุ ภาพ 4 33
แบบฝกึ ทกั ษะที่ 1 ใครต่างพวก คำ�ชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนกากบาท (x) ภาพทีแ่ ตกต่างจากภาพอื่น เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ประเมินผล ( ) 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง/ท�ำ ไม่ถกู ต้อง ( ) 1 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ กู ต้องแต่ต้องชว่ ยด้วยการกระตุ้นเตอื นทางกายและวาจา ผา่ น ไม่ผ่าน ( ) 2 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ ูกต้องแตต่ ้องชว่ ยดว้ ยการกระตนุ้ เตือนดว้ ยท่าทางและวาจา ขอ้ เสนอแนะ ( ) 3 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ กู ต้องแตต่ อ้ งช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตือนด้วยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถงึ ทำ�ได้ถกู ต้องด้วยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 34
แบบฝึกทกั ษะที่ 2 ฉันเหมอื นใคร คำ�ชแี้ จง ให้นกั เรยี นกากบาท (x) ทบั รปู ทางขวามือทเี่ หมือนกันกับรูปที่อยทู่ างซา้ ยมือ เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมนิ ผล ( ) 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง/ทำ�ไม่ถูกตอ้ ง ผ่าน ไมผ่ า่ น ( ) 1 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ตอ้ งแต่ตอ้ งช่วยด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา ( ) 2 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ ูกต้องแตต่ ้องช่วยด้วยการกระต้นุ เตือนดว้ ยท่าทางและวาจา ขอ้ เสนอแนะ ( ) 3 หมายถึง ทำ�ได้ถูกต้องแต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตอื นด้วยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ต้องดว้ ยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 35
แบบฝึกทักษะท่ี 3 ใครต่างจากพวก คำ�สง่ั ให้นักเรยี นกากบาท (x) ทบั ภาพทีแ่ ตกตา่ งจากภาพทางซ้ายมอื เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ประเมนิ ผล ( ) 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง/ทำ�ไม่ถูกตอ้ ง ( ) 1 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกตอ้ งแต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระต้นุ เตอื นทางกายและวาจา ผ่าน ไมผ่ า่ น ( ) 2 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกต้องแต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตือนด้วยท่าทางและวาจา ขอ้ เสนอแนะ ( ) 3 หมายถึง ทำ�ได้ถกู ตอ้ งแตต่ อ้ งช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตอื นดว้ ยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ตอ้ งดว้ ยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 36
แบบฝึกทกั ษะที่ 4 ใครเหมอื นกัน คำ�ชี้แจง ให้นกั เรยี นโยงเสน้ จับคภู่ าพท่ีเหมือนกนั 1. 2. 3. 4. 5. เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมินผล ( ) 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง/ทำ�ไมถ่ ูกต้อง ผา่ น ไมผ่ ่าน ( ) 1 หมายถึง ทำ�ไดถ้ กู ต้องแตต่ ้องชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตือนทางกายและวาจา ( ) 2 หมายถงึ ทำ�ได้ถกู ต้องแต่ต้องชว่ ยด้วยการกระตุน้ เตอื นด้วยท่าทางและวาจา ข้อเสนอแนะ ( ) 3 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ งแต่ต้องช่วยด้วยการกระตนุ้ เตือนด้วยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถึง ทำ�ไดถ้ ูกต้องดว้ ยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 37
แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มความพร้อม การตอ่ เตมิ ภาพให้สมบรู ณ์ 1. ปญั หา 1.1 นักเรยี นมคี วามบกพรอ่ งในการรบั รทู้ างการเหน็ 1.2 นักเรียนมีปญั หาในการจำ�ทางการเห็นเม่อื เขียนพยัญชนะ สระ ตัวเลขท�ำ ใหเ้ ขยี นผิดตกหลน่ 2. ระดับช้นั ทกุ ระดับชน้ั 3. กจิ กรรมท่ี 1 ต่อเตมิ ภาพให้สมบรู ณ์ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 นกั เรยี นสามารถเหน็ ห่นุ จำ�ลอง คน สัตว์ สิ่งของ ตรงตามสภาพความเป็นจริง 4.2 นกั เรียนสามารถตอ่ เตมิ ภาพห่นุ จ�ำ ลอง คน สัตว์ สิง่ ของให้เป็นภาพทส่ี มบรู ณ์ได้ถูกต้อง 5. ส่ือ/อุปกรณ์ 5.1 หนุ่ จำ�ลอง คน สัตว์ สง่ิ ของ บัตรภาพท่แี ยกส่วนประกอบ 5.2 เทปสขี นาด 2.5 นว้ิ 5.3 แบบฝึกทักษะที่ 1 - 3 6. วิธกี ารด�ำ เนนิ กจิ กรรม 6.1 ครนู ำ�หุ่นจำ�ลอง คน(ตกุ๊ ตา) สตั ว์ สิ่งของตา่ ง ๆ เช่น แก้วน้ำ� รองเทา้ และสว่ นประกอบของ หุ่นจ�ำ ลอง เช่น คน มี แขน ขา มอื ศีรษะ ปาก หู จมกู เท้า ใหน้ กั เรยี นดู แล้วสนทนาซกั ถามนักเรยี น ใหบ้ อกชอ่ื ส่ิงของทีเ่ ห็น 6.2 นกั เรยี นเล่นเกม “ตอ่ เตมิ ภาพใหส้ มบูรณ์” โดยมขี น้ั ตอน ดงั นี้ 6.2.1 ครูน�ำ เทปสที �ำ เป็นเส้นตรงยาว 3 เมตร ไวท้ พี่ ้นื และท�ำ เครือ่ งหมาย จุดเริ่มต้น • • จุดสน้ิ สดุ ยาว 3 เมตร 6.2.2 ครนู ำ�หุ่นจำ�ลองทไี่ ม่สมบูรณ์ เชน่ หุ่นจำ�ลองคน หุ่นจ�ำ ลองสตั ว์ ห่นุ จำ�ลองสิ่งของวาง ไวท้ ตี่ �ำ แหนง่ จดุ สนิ้ สุด จุดเร่ิมต้น • • จุดส้นิ สดุ 38
โดยจำ�นวนวัตถุขึ้นอยู่กับศักยภาพของนักเรียนอาจเริ่มจาก 1 อย่างก่อนแล้วค่อย ๆ เพ่ิมจำ�นวนข้ึนเป็น 2 อย่าง หรือ 3 อย่างตามความเหมาะสม 6.2.3 นักเรียนยนื ท่ีจุดเร่ิมตน้ น�ำ ชิน้ ส่วนของหนุ่ จำ�ลอง เดนิ ตามเสน้ ทก่ี �ำ หนดไปต่อเตมิ หุน่ จ�ำ ลองให้สมบูรณ์ 6.2.4 นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภปิ รายความถกู ตอ้ งและความสมบรู ณข์ องหนุ่ จ�ำ ลองทนี่ กั เรยี น นำ�ชิน้ ส่วนมาตอ่ เติม 6.3 นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ การท�ำ กจิ กรรมและเกบ็ อุปกรณเ์ ข้าท่อี ยา่ งเป็นระเบยี บ 7. การวัดและประเมนิ ผล 7.1 วธิ กี ารวดั ผล 7.1.1 สังเกตพฤติกรรม 7.1.2 ตรวจสอบผลงาน 7.2 เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการวัดผล 7.2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรม 7.2.2 แบบฝึกทกั ษะ 7.3 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 0 หมายถงึ ไมต่ อบสนอง/ทำ�ไม่ถูกต้อง 1 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ตอ้ งแต่ต้องช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตอื นทางกายและวาจา 2 หมายถึง ทำ�ไดถ้ ูกตอ้ งแตต่ ้องช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตือนด้วยทา่ ทางและวาจา 3 หมายถึง ท�ำ ได้ถกู ตอ้ งแต่ต้องช่วยด้วยการกระตุ้นเตือนดว้ ยวาจา 4 หมายถึง ทำ�ได้ถูกต้องด้วยตนเอง 7.4 เกณฑผ์ ่านการประเมินผล นกั เรยี นทำ�กจิ กรรมได้ระดับคุณภาพ 4 8. ขอ้ เสนอแนะ 8.1 ควรเรม่ิ ต้นใหน้ กั เรยี นต่อเตมิ จากวัตถุ 1 ชน้ิ สว่ นของหุ่น 1 อยา่ ง แลว้ ค่อย ๆ เพิ่มจ�ำ นวน ช้นิ เพ่ือกันความสับสน 8.2 เพื่อดึงดูดความสนใจนักเรียนและไม่เบ่ือในการทำ�กิจกรรม ในการจัดทำ�เส้นจุดเริ่มต้นไปจุด ส้ินสดุ ครูอาจทำ�เปน็ รูปเส้นต่างๆ เชน่ เส้นฟันปลา เสน้ โคง้ เป็นต้น 39
แบบฝึกทกั ษะที่ 1 เตมิ ฉันให้ครบ ค�ำ ชี้แจง ให้นักเรยี นนำ�ช้ินสว่ นไปตอ่ เตมิ วัตถจุ �ำ ลองคนให้สมบรู ณ์ จดุ สนิ้ สุด จุดเร่มิ ตน้ จุดเริ่มตน้ จดุ ส้นิ สดุ จุดสนิ้ สดุ จดุ เร่ิมตน้ เกณฑก์ ารประเมินผล ประเมินผล ( ) 0 หมายถึง ไมต่ อบสนอง/ท�ำ ไมถ่ กู ตอ้ ง ( ) 1 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ต้องแต่ต้องช่วยด้วยการกระตนุ้ เตือนทางกายและวาจา ผา่ น ไม่ผา่ น ( ) 2 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ กู ต้องแต่ต้องชว่ ยดว้ ยการกระตุ้นเตือนด้วยท่าทางและวาจา ขอ้ เสนอแนะ ( ) 3 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ กู ต้องแต่ตอ้ งชว่ ยด้วยการกระตนุ้ เตือนดว้ ยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถงึ ท�ำ ได้ถกู ต้องด้วยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 40
แบบฝึกทักษะท่ี 2 ช่วยฉนั ด้วย ค�ำ ชี้แจง ให้นักเรยี นน�ำ ช้นิ สว่ นไปตอ่ เติมหนุ่ จ�ำ ลองสตั วใ์ ห้สมบูรณ์ จดุ เริม่ ต้น จุดส้ินสดุ จดุ สนิ้ สดุ จดุ เริ่มต้น จดุ เรม่ิ ตน้ จดุ สนิ้ สุด เกณฑ์การประเมินผล ประเมนิ ผล ( ) 0 หมายถึง ไม่ตอบสนอง/ท�ำ ไม่ถกู ตอ้ ง ผา่ น ไม่ผา่ น ( ) 1 หมายถงึ ทำ�ไดถ้ ูกตอ้ งแตต่ อ้ งช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา ( ) 2 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ กู ต้องแตต่ ้องช่วยดว้ ยการกระตนุ้ เตอื นดว้ ยทา่ ทางและวาจา ข้อเสนอแนะ ( ) 3 หมายถึง ท�ำ ได้ถูกตอ้ งแต่ต้องชว่ ยดว้ ยการกระตนุ้ เตอื นด้วยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถึง ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ งด้วยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 41
แบบฝกึ ทักษะท่ี 3 ช่วยจับคหู่ น่อย คำ�ชแ้ี จง ให้นกั เรยี นนำ�ช้ินส่วนไปต่อเตมิ หุ่นจำ�ลองของใช้ใหส้ มบูรณ์ จุดสนิ้ สุด จดุ เร่ิมตน้ จดุ เรม่ิ ตน้ จดุ สิ้นสดุ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ประเมนิ ผล ( ) 0 หมายถึง ไม่ตอบสนอง/ทำ�ไม่ถูกตอ้ ง ( ) 1 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ งแตต่ ้องชว่ ยดว้ ยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา ผา่ น ไมผ่ ่าน ( ) 2 หมายถึง ทำ�ได้ถูกตอ้ งแต่ต้องช่วยดว้ ยการกระตุ้นเตือนด้วยท่าทางและวาจา ขอ้ เสนอแนะ ( ) 3 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ กู ต้องแต่ตอ้ งชว่ ยดว้ ยการกระตุ้นเตือนด้วยวาจา ...................................................................................... ( ) 4 หมายถงึ ท�ำ ไดถ้ ูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ...................................................................................... ...................................................................................... 42
แผนการจัดกิจกรรมการเตรยี มความพรอ้ ม การต่อเตมิ ภาพใหส้ มบรู ณ์ 1. ปัญหา 1.1 มีความบกพรอ่ งในการรับรทู้ างการเหน็ 1.2 มีปญั หาในการจำ�ทางการเหน็ และเขยี นพยัญชนะ สระ และตัวเลข ท�ำ ให้เขยี นผดิ ตกหล่น 2. ระดบั ช้นั ทุกระดบั ชน้ั 3. กจิ กรรมที่ 2 ตอ่ เตมิ ฉันให้สมบูรณ์ 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4.1 นกั เรยี นสามารถรบั รจู้ ากการเหน็ ภาพ คน สตั ว์ ส่งิ ของ ตรงตามสภาพความเป็นจริง 4.2 นักเรยี นสามารถต่อเตมิ ทางการเห็น ภาพคน สตั ว์ สิ่งของ ใหเ้ ปน็ ภาพทส่ี มบูรณไ์ ด้ 5. ส่ือ/อปุ กรณ์ 5.1 บตั รภาพ คน สตั ว์ สิง่ ของ 5.2 แบบฝึกทักษะที่ 1 – 18 6. วิธกี ารด�ำ เนินกิจกรรม 6.1 ครูนำ�บตั รภาพทกี่ ำ�หนด จ�ำ นวน10 ภาพ (รองเท้า เสอ้ื กางเกง กระเปา๋ หนังสือ แตงโม ส้ม เสือ นก ปลา) ใหน้ ักเรียนดูแล้วบอกช่ือภาพและประโยชน์ พรอ้ มกบั ใชน้ วิ้ มือลากตามรปู ภาพ 6.2 ครูตัดบตั รภาพออกเปน็ 2 ส่วน และภาพสว่ นหนึ่งนำ�ไปติดบนกระดาน ครใู หน้ กั เรยี นน�ำ ภาพ อกี สว่ นหน่งึ นำ�ไปตอ่ ภาพบนกระดานให้ถูกต้องสมบรู ณ์ในเวลาทก่ี ำ�หนด โดยครูจะเปดิ เพลงเบา ๆ ขณะที่ นกั เรยี นทำ�กจิ กรรม และหยดุ เสยี งเพลงเมือ่ หมดเวลา 6.3 นักเรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายผลของการทำ�กจิ กรรม 6.4 ครใู หน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ ทกั ษะ “ตอ่ เตมิ ฉนั ใหส้ มบรู ณ”์ ตามล�ำ ดบั แบบฝกึ ที่ 1– 18 หากนกั เรยี น ทำ�ไม่ได้ครูจะช่วยเหลือให้ทำ�ได้ โดยการกระตุ้นเตือนทางกายด้วยท่าทางและวาจาตามความสามารถของ นักเรยี น และใหร้ างวัลเม่ือนกั เรยี นท�ำ กจิ กรรมได้สำ�เร็จ 6.5 ครูให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึก “การต่อเตมิ ฉนั ให้สมบูรณ”์ ตามล�ำ ดับตง้ั แตแ่ บบฝกึ ทกั ษะที่ 1- 18 ไปเรื่อยๆ โดยก่อนที่ครจู ะเปลย่ี นให้นกั เรยี นทำ�แบบฝกึ ขนั้ ตอ่ ไปตอ้ งใหน้ กั เรียนผ่านแบบฝกึ ในข้ันตน้ ๆ กอ่ น 6.6 นักเรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายและประเมนิ ผลการทำ�แบบฝกึ ทกั ษะ 43
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150