Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขุนช้างและขุนแผน

ขุนช้างและขุนแผน

Published by สุภัชชา สาคร, 2020-11-26 18:31:41

Description: ขุนช้างและขุนแผน12

Search

Read the Text Version

ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอน ขุนชา้ งถวายฎกี า

ก คำนำ รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนหน่งึ ของวิชา ท ๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ โดยมจี ดุ ประสงค์ เพื่อการศกึ ษาความรทู้ ไ่ี ด้ จากเร่ืองขุนชา้ งขุนแผน ซึง่ รายงานน้ีมเี นือ้ หาเก่ยี วกบั ประวัตศิ าสตร์ ได้เรยี นรกู้ ารวิเคราะหบ์ ทละคร การขบั เสภา อทิ ธิพลต่าง ๆ ท่ีสะท้อนความคิด ความเชื่อ และค่านยิ มของคน ไทยในสมัยอยธุ ยาและรตั นโกสินทร์ ผจู้ ัดทาไดเ้ ลอื ก หวั ขอ้ น้ีในการทารายงาน เนือ่ งมาจากเปน็ เรื่องทน่ี า่ สนใจ รวมถึงเป็นการราลกึ ถึงพระสนุ ทรโวหาร และ ตานานของขุนช้างขนุ แผน ผจู้ ดั ทาจะต้องขอขอบคุณ อ.ชมัยพร แก้วปานกัน ผู้ใหค้ วามรู้ และแนวทางการศึกษาเพ่ือนๆ ทกุ คนที่ ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทาหวังวา่ รายงานฉบบั นีจ้ ะ ใหค้ วามรู้ และเป็นประโยชนแ์ ก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน คณะผจู้ ดั ทา วันท่ี ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓





สำรบัญ ข เรอ่ื ง หนำ้ คานา ก สารบัญ ข 1-2 ประวตั คิ วามเป็นมา 3 4-6 ประวัติผ้แู ตง่ 7-12 13-16 ลักษณะคาประพนั ธ์ 17-20 เนอื้ เร่อื งขนุ ชา้ งขุนแผน (แบบย่อ) 21-24 25-28 ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา 29-30 วเิ คราะหค์ ณุ คา่ 1.ด้านเนือ้ หา 2.ดา้ นวรรณศิลป์ 3.ด้านสงั คม บรรณานุกรม

1 ประวตั ิควำมเป็นมำ เร่ืองขุนช้าง ขนุ แผน มีเน้ือความปรากฏในหนังสือ คาใหก้ ารชาวกรงุ เกา่ ซ่งึ นบั เปน็ เรื่อง ในพระราช พงศาวดาร เรื่องขนุ ช้างขุนแผนนี้ เป็นวรรณกรรม อมตะ นทิ านไทยพืน้ บา้ นของสุพรรณบุรีมาแต่ช้านาน เกิดขึน้ ในสมยั กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซ่ึงมีหลักฐานอยู่ ในหนงั สอื คาให้การชาวกรงุ เก่า โดยแตง่ เป็นบทกลอน สาหรบั ขบั เสภา (เสภาคอื หนงั สอื กลอนโบราณ ที่นาเอา นิทานมาแต่งเป็นกลอนสาหรับขับลานา) ให้ประชาชนฟัง เหลอื มาถึงกรุงรตั นโกสินทรบ์ างตอนเพราะถกู ไฟไหม้และ สูญหายไปเมอ่ื ครั้งเสียกรุงกบั พมา่ พระบาทสมเด็จพระ- พุทธเลศิ หลา้ นภาลยั (รัชกาลที่ 2) ทรงโปรด ให้กวหี ลาย ท่าน เชน่ พระองคก์ รมหม่ืนเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที่ ๓) สนุ ทรภู่ หรอื ครแู จ้ง เป็นต้น ใหช้ ว่ ยกนั แต่งเพิ่มเตมิ ข้นึ โดยแบง่ กันแตง่ เปน็ ตอน ๆ ไปจนจบเรอื่ ง

2 เสภาเรือ่ งขนุ ชา้ งขนุ แผนฉบับทร่ี วบรวม ในปัจจบุ นั มีท้ังหมด 43 ตอน แตม่ ีอยู่ 8 ตอนทวี่ รรณคดสี มาคม ซ่ึงมีพระเจา้ บรม วงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานภุ าพทรง เปน็ ประธานได้ลงมติไวใ้ น พ.ศ.2474 วา่ แตง่ ดีเป็นยอดเย่ียม ไดแ้ ก่ 1.ตอนพลายแกว้ เป็นชนู้ างพมิ 2.ตอนขุนช้างขอนางพมิ 3.ตอนขนุ แผนขึน้ เรอื นขุนชา้ ง 4.ตอนขุนแผนพาวันทองหนี 5.ตอนกาเนดิ พลายงาม 6.ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า 7.ตอนฆ่าวนั ทอง 8.ตอนพระไวยถกู เสนห่ ์

ประ 3 วตั ิ ผู้ แตง่ วรรณคดีเรอ่ื งขุนช้างขุนแผน มีกวแี ตง่ กันหลาย คน ในปลายสมัยอยุธยา และ ในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ ตอนตน้ ตอนที่ไพเราะสว่ นมากแตง่ ในสมัย พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัย (รชั กาลที่ ๒) การแตง่ เสภาเรอ่ื งขนุ ช้างขุนแผนไม่นยิ มบอกนามผู้แต่ง มเี พียงการสันนฐิ านผู้แต่งโดยพิจารณาจากสานวนการ แต่งเท่านั้น เสภาขนุ ช้างขนุ แผน ตอน ขนุ ช้างถวาย ฎกี าจงึ ไม่ทราบนามผ้แู ต่งท่ีแนช่ ดั

4 ลักษณะคำประพันธ์ เร่ืองขนุ ช้างขุนแผนเปน็ คาประพนั ธ์ ประเภทกลอน เสภา ๔๓ ตอน ซึ่งมอี ยู่ ๘ ตอนท่ไี ดร้ บั การยกยอ่ ง วา่ แตง่ ดียอดเย่ียมจากวรรณคดีสมาคม อนั มีสมเด็จ พระเจา้ บรมวงศ์ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ ทรง เป็นประธานโดยลงมตเิ มอื่ พ.ศ.๒๔๗๔ และตอน ขุนชา้ งถวายฎีกาเปน็ หน่งึ ในแปดตอนท่ี ไดร้ ับการยก ย่อง ลักษณะคาประพนั ธ์กลอนเสภาเป็นกลอน สภุ าพ เสภาเปน็ กลอนขนั้ เล่าเร่ืองอยา่ งเลา่ นิทานจึง ใช้คามากเพ่อื บรรจุข้อความใหช้ ดั เจนแก่ผ้ฟู ัง และมงุ่ เอาการขบั ได้ ไพเราะเปน็ สาคัญ สมั ผสั ของคา ประพันธ์ คือ คาสดุ ทา้ ยของวรรคต้น ส่งสัมผัสไปยงั คาใดคาหนึ่งใน ๕ คาแรกของวรรคหลงั สัมผัสวรรค อนื่ และสมั ผัสระหว่างบทเหมือนกลอนสุภาพ

5 ขนุ ชา้ งขุนแผนแต่งเป็นกลอน สภุ าพและใชเ้ ปน็ บทเสภาขับ ลักษณะ สาคัญของกลอนเสภานนั้ เปน็ กลอน สภุ าพใชข้ บั ทานอง กาหนดคาไม่ แน่นอนจงึ ใช้คา ๗ คา ถงึ ๙ คา โดยใช้ กรับเป็นเคร่ืองประกอบจังหวะ ใน เบอื้ งต้นน้นั เลา่ เปน็ เพยี งนิทานขนาด ยาวแล้วแตง่ เป็นกลอนเสภาเฉพาะบาง ตอนท่ีเน้นสนุกสนานหรอื สะเทือน อารมณ์

6 ตวั อยา่ ง ตอนที่นางวนั ทองราพันความทุกขใ์ นใจของนาง คราน้ันจึงโฉมเจา้ วันทอง เศรา้ หมองดว้ ยลูกเปน็ หนกั หนา พอ่ พลายงามทรามสวาดิของแมอ่ า แม่โศกาเกือบเจียนจะบรรลัย ใชจ่ ะอ่มิ เอิบอาบดว้ ยเงนิ ทอง มิใชข่ องตัวทามาแต่ไหน ทั้งผ้คู นช้างมา้ แลขา้ ไท ไม่รักใคร่เหมือนพอ่ กับพลายงาม ทุกวนั น้ีใช่แมจ่ ะผาสกุ มแี ตท่ ุกขใ์ จเจบ็ ดังเหนบ็ หนาม ตอ้ งจาจนทนกรรมท่ตี ดิ ตาม จะขืนความคิดไปกใ็ ช่ที

7 ขนุ ชำ้ งขนุ แผน ขุนช้างขุนแผน กล่าวถงึ ครอบครวั สามครอบครวั คอื ครอบครวั ของขนุ ไกรพลพ่ายรบั ราชการทหาร มภี รรยาช่ือ นาง ทองประศรี มีลูกชายดว้ ยกนั ชอ่ื พลายแก้ว (ขนุ แผน) ครอบครัว ของขนุ ศรวี ิชัย เศรษฐใี หญข่ องเมอื งสพุ รรณบุรี รบั ราชการเป็น นายกองกรมชา้ งนอก ภรรยาชอื่ นางเทพทอง มีลูกชายช่อื ขุน ช้าง ซ่งึ หัวล้านมาแตก่ าเนดิ และครอบครวั ของพนั ศรโยธา เป็น พอ่ ค้า ภรรยาช่ือ ศรีประจัน มีลูกสาวรูปรา่ งหน้าตางดงามชื่อ นาง พมิ พิลาไลย (วนั ทอง) เมอ่ื พลายแกว้ อายุได้ ๑๕ ปี ก็บวชเณรเรยี นวิชาอยูท่ ่วี ดั ส้มใหญ่ แลว้ ย้ายไปเรียนตอ่ ทว่ี ดั ป่าเลไลยก์ ตอ่ มาทว่ี ัดป่าเลไลยกจ์ ัดใหม้ ี เทศนม์ หาชาติ เณรพลายแก้วเทศน์กณั ฑ์มัทรี นางพมิ เลอื่ มใสมาก จนเปลือ้ งผ้าสไบบชู ากณั ฑ์เทศ์ ขุนชา้ งเห็นเชน่ นน้ั ก็เปล้ืองผา้ หม่ ของตนวางเคียงกับผ้าสไบของนางพิม อธฐิ านขอใหไ้ ดน้ างเป็น ภรรยา ตอ่ มาเณรพลายแก้วสึกแล้วใหน้ างทองประศรสี ขู่ อนางพมิ และแตง่ งานกนั

8 ทางกรุงศรอี ยธุ ยาได้ขา่ วว่ากองทพั เชียงใหม่ตไี ด้เมอื งเชยี งทอง ซ่งึ เปน็ เมอื งขน้ึ ของ กรงุ ศรอี ยุธยา สมเด็จพระพันวษาถามหาเชื้อสายของขนุ ไกร ขุนช้างซ่งึ เขา้ ไปรับ ราชการอยู่จึงเลา่ เรื่องราวความเก่งกล้าสามารถของพลายแกว้ เพือ่ หวังจะพราก พลายแกว้ ไปใหห้ ่างไกลนางพมิ พลายแก้วถกู แต่งต้ังใหเ้ ปน็ แมท่ ัพไปรบกบั เมืองเชียงใหมแ่ ละไดช้ ยั ชนะ นายบ้าน แสนคาแมนแห่งหมบู่ ้านจอมทอง เหน็ วา่ พลายแกว้ กับพวกทหารไมไ่ ด้เบียดเบยี นให้ ชาวบ้านเดือดร้อนจึงยกนางลาวทองลกู สาวของตนใหเ้ ป็นภรรยาของพลายแกว้ สว่ นนางพมิ พิลาไลย เม่ือสามจี ากไปทพั ไดไ้ มน่ านกป็ ่วยหนักรักษาเทา่ ไรก็ไมห่ าย ขรวั ตาจูวัดปา่ เลไลยแนะนาใหเ้ ปลย่ี นชื่อเป็นวนั ทอง อาการไข้จงึ หาย ขุนชา้ งทา อุบายนาให้นางศรปี ระจันกับนางวันทองเชอ่ื วา่ พลายแก้วตายแลว้ และข่วู า่ นางวนั ทองจะต้องถูกคุมตวั ไวเ้ ป็นม่ายหลวงตามกฎหมาย นางวันทองไมเ่ ชื่อ แตน่ างศรี ประจนั คิดวา่ จรงิ ประกอบกบั เหน็ ว่าขนุ ชา้ งเปน็ เศรษฐจี ึงบังคับใหน้ างวนั ทอง แตง่ งานกบั ขุนชา้ ง นางวันทองจาต้องตามใจแม่แต่นางไม่ยอมเขา้ หอ ขณะนนั้ พลายแกว้ กลับมาถึงกรุงศรอี ยุธยา นางวนั ทองเห็นขุนแผนพาภรรยาใหม่มา กโ็ กรธดา่ ทอโต้ตอบกบั นางลาวทองและลมื ตวั พูดก้าวรา้ วขุนแผน ทาให้ขนุ แผนโมโห พานางลาวทองไปอย่ทู ี่กาญจนบรุ ี สว่ นนางวันทองก็ตกเป็นภรรยาของขุนชา้ งอย่าง จาใจ

9

10 ต่อมาขุนช้างและขุนแผนเข้าไปรบั ราชการและไดเ้ ปน็ มหาดเลก็ เวรท้ังสอง คน วันหนงึ่ นางลาวทองปว่ ยหนกั ขุนแผนจึงฝากเวรไว้กับขนุ ชา้ งแลว้ ไปดู อาการของนางลาวทอง ตอนเช้าสมเด็จพระพนั วษาถามถึงขนุ แผน ขุน ชา้ งบอกว่าขนุ แผนปนี กาแพงวงั หนีไปหาภรรยา สมเด็จพระพันวษาโกรธ จึงสัง่ ใหน้ าตัวนางลาวทองมากกั ไว้ในวัง สว่ นขุนแผนให้ไปตระเวนดา่ น ห้ามเขา้ วังอกี ทาให้ขุนแผนแคน้ ขนุ ชา้ งมากคดิ ชว่ งชิงนางวันทองกลบั คนื มา จงึ ออกหาของวิเศษ ๓ อย่าง คอื ดาบวิเศษ กมุ ารทอง และมา้ ฝเี ทา้ ดี ขนุ แผนเดนิ ทางไปถึงซอ่ งโจรของหมนื่ หาญกส็ มคั รเขา้ เป็นสมนุ วนั หนง่ึ ได้ ช่วยชีวติ หมน่ื หาญ เขาจงึ ยกนางบัวคล่ลี ูกสาวของตนใหเ้ ป็นภรรยาของ ขุนแผน หม่นื หาญเห็นขนุ แผนมีวชิ าอาคมเหนือกวา่ ตนกค็ ิดกาจัด โดยส่ังให้นางบัว คลว่ี างยาพิษฆ่าขนุ แผน แตโ่ หงพรายมาบอกให้ขนุ แผนร้ตู ัว คืนนนั้ พอนาง บวั คล่นี อนหลับ ขนุ แผนก็ผ่าท้องนางควกั เอาเด็กไปทาพธิ ปี ลกุ เสกเปน็ กุมารทอง ตอ่ จากนน้ั ก็ทาพธิ ีตดี าบฟา้ ฟน้ื และไปซอ้ื ม้าลกั ษณะดไี ด้ตัวหน่ึง ชือ่ ม้าสหี มอก แลว้ ขนุ แผนกไ็ ปท่บี า้ นของขุนชา้ งสะกดคนให้หลบั หมดแล้วขนึ้ ไปบนบ้านแตเ่ ขา้ หอ้ งผิด จงึ พบนางแกว้ กริ ิยาและได้นางเป็น ภรรยา จากน้ันกไ็ ปปลกุ นางวันทองพาขน้ึ มา้ หนีเข้าป่าไป

11 ขุนแผนกับนางวันทองหลบซอ่ นอยู่ ในป่าจนนางตั้งท้อง จงึ พากัน ออกมามอบตัวสู้คดีกับขุนช้างจน ชนะคดี ขุนแผนนางวนั ทอง และ นางแกว้ กริ ยิ าจงึ อยู่รว่ มกนั ดว้ ย ความสุข แต่ขนุ แผนนึกถึงนางลาวทองจึงขอร้องจม่ืนศรเี สาวรักษใ์ ห้ขอตัวนาง จากสมเดจ็ พระพันวษาทาให้พระองค์โกรธวา่ ขุนแผนกาเริบจึงส่งั จาคกุ ขุนแผนไว้ นางแก้วกริ ิยาตามไปปรนนิบัติขนุ แผนดว้ ย สว่ นนาง วันทองพกั อย่ทู บี่ า้ นของหม่ืนศรี ขุนช้างจงึ พาพรรคพวกมาฉุดนางวัน ทองไปเปน็ ภรรยาอีก ตอ่ มานางก็คลอดลูกชาย แล้วต้งั ช่อื ใหว้ า่ พลายงาม ขุนช้างรวู้ า่ ไม่ใช่ ลกู ของตนก็เกลียดชัง จงึ หลอกพาเข้าไปในปา่ ทบุ ตีจนสลบแลว้ เอา ทอ่ นไมท้ ับไว้ โหงพรายของขุนแผนมาชว่ ยได้ทัน นางวันทองจึงใหล้ ูก ไปอยูก่ บั นางทองประศรีท่ีกาญจนบุรพี ลายงามได้ร่าเรียนวชิ าของพอ่ เชีย่ วชาญ ขุนแผนจึงพาไปฝากไวก้ บั หมื่นศรี เพอื่ หาโอกาสใหเ้ ข้ารับ ราชการ

12 พลายงามอาสาออกไปรบกบั เชยี งใหม่ และขอให้ปลอ่ ยขนุ แผนออกจากคุก เพื่อจะไดช้ ่วยกนั ทาศกึ ขุนแผนจึงพ้นโทษ ในขณะที่กาลังเตรียมทัพนาง แกว้ กิรยิ ากค็ ลอดลกู เปน็ ชาย ขุนแผนต้งั ชอ่ื ว่า พลายชุมพล พลายงามไดพ้ บนางศรีมาลา ระหวา่ งทางไปเชยี งใหมแ่ ละไดน้ างเปน็ ภรรยา จากนั้นกค็ ุมทพั ไปรบกับเชยี งใหม่ได้ชยั ชนะ เม่อื กลบั ถงึ กรุงศรี อยธุ ยา สมเดจ็ พระพันวษากย็ กนางสรอ้ ยฟ้าธดิ าของพระเจ้าเชียงอินทร์ให้ แตง่ งานกบั พลายงามพรอ้ ม ๆ กบั นางศรีมาลา พลายงามอยากให้แมม่ าอยกู่ บั ตนและคนื ดกี ับพอ่ จึงไปลักพานางวนั ทอง มา ขุนช้างเคืองมากไปฟอ้ งสมเด็จพระพนั วษา จึงมีการไต่สวนคดกี นั อกี คร้ังหนงึ่ ในท่ีสดุ สมเด็จพระพนั วษากถ็ ามความสมัครใจของนางว่าจะเลอื ก อยู่กับใคร นางตดั สินใจไม่ได้ สมเดจ็ พระพนั วษาหาวา่ นางเปน็ หญิงสองใจ จึงสง่ั ให้นาตวั ไปประหารชวี ติ

13 ขุนชำ้ งขนุ แผน ตอน ขุนช้ำงถวำยฎกี ำ กล่าวถึงพลายงาม เม่ือชนะคดีความขนุ ช้างแลว้ ขนุ ชา้ งได้พานางวัน ทองกลบั ไปอยู่สพุ รรณบรุ ี ส่วนตวั พลายงามเองกก็ ลบั ไปอยบู่ ้าน พรอ้ มหน้าญาติและพอ่ ขาดก็แตแ่ ม่ ทาใหพ้ ลายงามเกดิ ความคดิ ท่ีจะ พา นางวันทองกลบั มาอยดู่ ว้ ยกัน จะไดพ้ รอ้ มหน้าพอ่ แม่ ลกู พอตก ดึกจงึ ไปลอบข้นึ เรือนขุนช้างแลว้ พานางวนั ทองหนีมาอยู่ท่ีบ้านกับตน ตอนแรกนางก็ไมย่ ินยอมท่จี ะมา เพราะกลัวจะเปน็ เร่ืองให้อบั อายวา่ คนนนั้ ลากไป คนนลี้ ากมาอีก และเกรงจะมปี ญั หาตามมาภายหลงั จงึ บอกใหพ้ ลายงามนาความไปปรึกษาขุนแผน เพอ่ื ฟ้องรอ้ งขนุ ช้าง ดีกวา่ จะมาลักพาตวั ไป

14 แต่พลายงามไมย่ อม สดุ ทา้ ยนางวันทองจงึ จาตอ้ งยอมไปกบั พลายงาม ฝา่ ยขนุ ชา้ งนอนฝันรา้ ยกผ็ วาตื่นเอาตอนสาย ครัน้ ต่นื ขึ้นมากร็ ้องเรียก หานางวันทอง ออกมาถามบ่าว ไพรก่ ไ็ มม่ ีใครเหน็ จงึ โกรธเป็นฟนื เป็น ไฟ มงุ่ ม่ันจะตามนางวันทองกลบั มาใหไ้ ด้ ฝา่ ยพลายงามก็เกรงวา่ ขุน ช้าง จะเอาผิด ถ้ารวู้ า่ ตนไปพานางวนั ทองมาจะเพด็ ทลู สมเดจ็ พระ พนั วษาอีก แมอ่ าจจะต้องโทษได้ จงึ ใชใ้ หห้ มื่นวิเศษผลไปบอกขุนช้าง ว่า ตนน้นั ปว่ ยหนกั อยากเห็นหน้าแม่จึงใช้ให้คนไปตามนางวันทองมา เมอ่ื กลางดกึ ขอใหแ้ มอ่ ยู่กับตนสกั พักหนึง่ แลว้ จะสง่ ตวั กลบั มาอยกู่ บั ขนุ ชา้ งตามเดมิ

15 ขุนช้างโมโหและแคน้ ย่ิงนักทีพ่ ลายงามทาเหมือนขม่ เหงไม่เกรงใจตน จึงร่างคารอ้ ง ถวายฎีกา แล้วลอยคอมายงั เรอื พระท่นี ่งั ของสมเดจ็ พระพันวษาเพอ่ื ถวายฎีกา ทาให้ สมเดจ็ พระพันวษาพิโรธมาก ให้ทหารรบั คาฟ้องมาแล้วให้เฆ่ียนขนุ ชา้ ง ๓๐ ที แล้ว ปล่อยไป และยังทรงตง้ั กฤษฎีกาการรกั ษาความปลอดภยั ว่า ตอ่ ไปขา้ ราชการผูใ้ ดทมี่ ี หนา้ ทีร่ กั ษาความปลอดภัยแลว้ ปล่อยให้ใครเขา้ มาโดยมิไดร้ บั อนุญาตจะมีโทษมหนั ต์ ถึงประหารชีวิต กล่าวฝา่ ยขนุ แผนนอนอยูใ่ นเรอื นกับนางแก้วกริ ิยาและนางลาวทอง อย่างมีความสุข ครน้ั สองนางหลบั ขุนแผนกค็ ดิ ถึงนางวันทองทพ่ี ลายงามไปนาตวั มา ไวท้ ี่บา้ น จงึ ออกจากห้องยอ่ งไปหานางวันทองหวงั จะร่วมหลบั นอนกนั แต่นางปฏิเสธ แล้วพากนั หลบั ไป แต่พอตกดกึ นางวนั ทองก็เกิดฝันรา้ ยตกใจตืน่ เล่าความฝนั ให้ ขุนแผนฟงั ขุนแผนฟังความฝนั ของนางก็รู้ทนั ทวี า่ เปน็ เร่อื งร้ายอนั ตรายถงึ ชวี ติ แน่นอน แตก่ แ็ กล้งทานายไปในทางดเี สียเพอ่ื นางจะได้สบายใจ ฝา่ ยสมเดจ็ พระ พันวษา ครนั้ ทรงอา่ นคาฟ้องของขุนชา้ งก็ทรงกร้วิ ย่ิงนัก ให้ทหารไปตามตวั นางวนั ทอง ขุนแผนและพระไวยมาเฝา้ ทันที ขุนแผนเกรงว่านางวนั ทองจะมภี ยั จึงเสกคาถา และขผ้ี ้ึงใหน้ างวันทองทาปาก เพ่ือให้พระพันวษาเมตตา แล้วจงึ พานางเขา้ เฝา้

16 เม่อื พระพนั วษาเห็นนางวนั ทองกใ็ จอ่อน เอน็ ดู ตรัสถามเรือ่ งราวท่เี ป็นมาจากนางวนั ทองว่า ตอนชนะคดใี ห้ไปอยู่กบั ขุนแผนแลว้ ทาไมจึงไปอยู่กับขุนช้างนางวันทองกก็ ราบ ทลู ด้วยความกลัวไปตามจรงิ ว่า ขนุ แผนถกู จองจา ขนุ ชา้ งเอาพระโองการไปอา้ งให้ฉุด นางไปอยดู่ ้วย เพือ่ นบ้านเห็นเหตุการณก์ ไ็ ม่ กลา้ เข้าช่วยเพราะกลวั ผดิ พระโองการ สมเดจ็ พระพนั วษาฟงั ความทรงกริ้วขนุ ช้างมาก ทรงถามนางวันทองอกี ว่าขุนชา้ งไปฉดุ ใหอ้ ยู่ ดว้ ยกันมาตง้ั ๑๘ ปี แล้วคราวน้หี นมี าหรือมี ใครไปรับมาอยู่กับขุนแผน นางวันทองก็กราบทลู ไปตามจรงิ วา่ พระไวยเปน็ ผ้ไู ปรบั มาเวลาสองยาม ขนุ ชา้ งจึงหาความว่าหลบหนี สมเดจ็ พระพันวษาทรงกรว้ิ พระไวยท่ีทาอะไร ตามใจตน นกึ จะข้ึนบา้ นใครก็ขึ้น ทาเหมอื นบ้านเมอื งไมม่ ีข่ือมแี ป และวา่ ขนุ แผนรู้เหน็ เปน็ ใจ สมเดจ็ พระพันวษาทรงคิดวา่ สาเหตขุ องความวุ่นวาย ท้ังหมดนีเ้ กิดจากนางวนั ทองจึงให้นางวนั ทอง ตัดสินใจว่าจะอยู่กับใคร นาง วนั ทองตกใจ ประหมา่ อีกทง้ั จะหมดอายุขัยจงึ บนั ดาลให้พูดไมอ่ อกบอกไม่ถูก วา่ จะอยู่กับใคร นางให้เหตผุ ลว่า นางรักขนุ แผน แต่ขุนช้างก็ดีกบั นาง ส่วน พลายงามก็เป็นลูกรกั ทาให้สมเด็จพระพันวษากรวิ้ มาก เห็นว่านางวันทอง เปน็ คนหลายใจ เป็นหญงิ แพศยา จึงให้ประหารชีวิตนางวันทองเพื่อมิ ให้เป็น เยยี่ งอย่างแก่ผ้อู ืน่ ต่อไป

วเิ ครำะหค์ ุณค่ำ 17 ด้ำนเน้อื หำ 1.รูปแบบ  ร้อยแก้ว คือ คาประพนั ธ์ท่ีไมจ่ ากัดถ้อยคาและประโยค ไมม่ ี กฎเกณฑ์ ทางฉันทลกั ษณเ์ ปน็ รปู แบบต่างๆ ตายตวั การ พจิ ารณาความหมายในคาประพนั ธป์ ระเภทรอ้ ยแกว้ ขึน้ อยู่ กับจดุ ประสงคแ์ ละเนอื้ หาของเรื่อง  รอ้ ยกรอง คือคาประพันธ์ที่นาคามาประกอบกันข้นึ ใหม้ ี ลักษณะรูปแบบตามทก่ี าหนดไวแ้ ละมีกฎเกณฑ์ข้อบังคบั ต่างๆ วรรณคดสี มาคมไดม้ ีการบัญญัติคาว่า รอ้ ยกรอง เป็น คารวมเรียกโคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน และร่าย รอนรอนสรุ ยิ โอ้ อสั ดง เรอื่ ยเร่อื ยลับเมรุลง ค่าแลว้ รอนรอนจติ จานง นุชพี่ เพยี งแม่ เรอ่ื ยเร่อื ยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรยี มเหลยี ว

18 2.องคป์ ระกอบของเร่ือง  สาระ ผแู้ ต่งตอ้ งการส่อื มายังผู้อ่านเปน็ เร่ืองอะไร เชน่ ใหค้ วามรู้ ข้อเทจ็ จรงิ ข้อคดิ เห็น หรือ แสดงความรู้สกึ นึกคดิ ออกมา ควรจบั สาระสาคัญหรอื แกน่ ของเรอ่ื งให้ได้วา่ ผ้แู ตง่ ตอ้ งการส่ืออะไร แก่นเรือ่ งมลี ักษณะแปลกใหม่ น่าสนใจเพยี งใด  โครงเรื่อง การเรียงลาดบั ความคดิ หรือ เหตุการณ์ในเรอ่ื งวา่ เปดิ เรอื่ งอยา่ งไร ดงั เช่น โครงเร่อื งของเสภาเร่ืองขุนช้างขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า คอื ผหู้ ญิงท่ตี อ้ งเลอื กไปอยกู่ ับ ผ้ชู ายคนใดคนหนึ่ง ซง่ึ คนหนึ่งตนก็รักมากอีกคน หน่งึ ก็ดีตอ่ ตนมาก กวมี ีวธิ วี างโครงเร่ืองได้ดี หรือไม่ การลาดบั ความไปตามลาดบั ข้นั ตอน หรอื ไม่ มวี ธิ กี ารวางลาดับเหตุการณน์ ่าสนใจ อย่างไร และมีการสร้างปมขัดแยง้ อะไรทน่ี าไปสู่ จดุ สูงสุดของเรอื่ ง เปน็ ต้น

19  ฉากและบรรยากาศ การพรรณนาหรอื บรรยายฉาก ของเร่ืองโดยบรรยากาศน้นั สร้างโดยการบรรยายฉาก ซึ่งเกดิ จากการสรา้ งเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในเร่ือง กวตี ้องให้รายละเอียดเก่ียวกบั สถานทีแ่ ล สภาพแวดล้อม เพอ่ื ให้ผ้อู ่านเกิดความรู้สึกคลอ้ ยตาม  ตัวละคร ลกั ษณะนสิ ัยของตวั ละครเปน็ สว่ นสาคญั ของเรอ่ื งโดยตอ้ งพจิ ารณาว่ามบี คุ ลิกภาพอยา่ งไรและ มบี ทบาทอยา่ งไร พฤตกิ รรมท่แี สดงออกมาดีหรอื ไม่  กลวิธีการแตง่ การเลือกใช้ถอ้ ยคา และการนาเสนอ วา่ กวีนาเสนออย่างไร เช่น เสนออยา่ งตรงไปตรงมา เสนอโดยใหต้ ีความจากสญั ลกั ษณห์ รอื ความเปรียบ

20 ตวั อยา่ ง การเคารพกฎหมายบา้ นเมือง *อา้ ยหม่ืนไวยทาใจอหังการ์ ตกว่าบา้ นเมอื งไม่มนี าย *อัยการศาลโรงกม็ อี ยู่ ฤๅวา่ กตู ดั สนิ ใหไ้ ม่ได้ ความเชื่อ/ลางสังหรณ์/เวทมนต์ * คะเนนบั ย่ายามไดส้ ามครา ดเู วลาปลอดหว่ งทกั ทิน * จึงเซน่ เหล้าขา้ วปลาให้พรายกนิ เสกขม้ินว่านยาเข้าทาตวั

21 ด้ำนวรรณศลิ ป์ 1.การพรรณนาให้เห็นภาพ ตวั อยา่ ง การพรรณนาถึงเรอ่ื งฝนั ร้าย ...ครง้ั น้นี า่ จะมอี นั ตราย ฝันร้ายสาหัสตดั ตารา พิเคราะหด์ ทู ง้ั ยามอฐั กาล ก็บนั ดาลฤกษแ์ รงเป็นหนักหนา มริ ทู้ จ่ี ะแถลงแจ้งกจิ จา กอดเมยี เมินหน้านา้ ตากระเดน็ 2.รสทางวรรณคดี  เสาวรจนยี ์ (การบรรยายโวหาร ) ฟา้ ขาวดาวเด่นดวงสว่าง จันทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดมฆส้นิ จึงเซน่ เหลา้ ข้าวปลาให้พรายกิน เสกขม้ินว่านยาเข้าทาตัว

22  นารปี ราโมทย์ (การพรรณนาโวหาร) จะเป็นตายง่ายยากไม่จากรกั จะฟูมฟกั เหมอื นเมอ่ื อยใู่ นกลางเถอ่ื น ขอโทษท่ีพ่ีผิดอยา่ บิดเบือน เจา้ เพื่อนเสนห่ าจงอาลัย  พิโรธวาทงั (สะทอ้ นถึงอารมณโ์ กรธแค้นและสะเทอื นใจ) ยงิ่ คดิ เดอื ดดาลทะยานใจ ฉวยได้กระดานชนวนมา รา่ งฟ้องทอ่ งเทยี บใหเ้ รียบร้อย ถอ้ ยคาถ่ถี ้วนเป็นหนกั หนา...  สลั ลาปงั คพสิ ัย (ใช้ถอ้ ยคาเกดิ ความเศรา้ สะเทอื นใจสงสาร ในชะตากรรมของตัวละคร) ...วันนแี้ มจ่ ะลาพ่อพลายแลว้ จะจาจากลูกแกว้ ไปสูญส้ิน พอบ่ายก็จะตายลงถมดนิ ผนิ หน้ามาแม่จะขอชม เกดิ มาไม่เหมอื นกบั เขาอน่ื มไิ ด้ชน่ื เชยชิดสนทิ สนม...

23  หาสยรส (กวแี ทรกอารมณ์ขันในการแต่ง) ขุนช้างเหน็ ข้าไมม่ าใกล้ ขัดใจลุกขนึ้ ทงั้ แกผ้ ้า แหงนเถอ่ เปอ้ ปังยืนจงั กา ย่างเท้าก้าวมาไมร่ ู้ตัว ยายจันงนั งกยกมอื ไหว้ น่นั พอ่ จะไปไหนพ่อทูนหวั ไม่นุ่งผ่อนนงุ่ ผ้าดนู ่ากลวั ขนุ ชา้ งมองดตู ัวก็ตกใจ ๓) ภาพพจนโ์ วหาร  อปุ มาโวหาร \"เห็นคนนอนล้อมอ้อมเปน็ วง ประตลู ่ันมน่ั คงขอบรั้วก้ัน กองไฟสว่างดังกลางวัน หมายสาคญั ตรงมาหน้าประตู“ (เปรยี บกองไฟทสี่ ว่างเหมอื นตอนกลางวนั )

24 มึงนถี่ อ่ ยยง่ิ กวา่ ถอ่ ยอที ้ายเมอื ง จะเอาเร่ืองไมไ่ ดส้ ักส่ิงสรรพ์ ละโมบมากตัณหาตาเปน็ มนั สกั ร้อยพันใหม้ ึงไมถ่ งึ ใจ วา่ หญงิ ช่วั ผวั ยงั คราวละคนเดยี ว หาตามตอมกนั เกรยี วเหมือนมงึ ไม่ (พระพนั วษาโกรธและดา่ นางวันเปรียบนางวันทองเปน็ หญงิ ขายบริการ)  คาถามเชงิ วาทศลิ ป์ จะพ่งึ พาใครได้ทไ่ี หนนน่ั \" \"มันจึงขม่ เหงไมเ่ กรงใจ ๔) สมั ผัสอกั ษร นอนทับคว่าหงายกา่ ยกนั เปรอะ โงกเงอะงยุ งมไมส่ มประดี” \"ทั้งชายหญงิ งว่ งงมลม้ หลับ จปี่ ลาคาไฟมันไหลเลอะ

25 คณุ ค่ำด้ำนสงั คม  ความเชอื่ ของบญุ บาป ผดิ ศลี ข้อ ๓ ว่าด้วยการประพฤตผิ ดิ ในกาม ถึงตวั ไปใจยงั นบั อย่วู ่าผัว นอ้ งนี้กลัวบาปทับเม่อื ดับจติ หญิงเดียวชายครองเป็นสองมติ ร ถา้ มิปลิดเสยี ให้เปล้อื งไม่ตามใจ  ความเชอ่ื เรอ่ื งความฝนั ความเชื่อของคนในสมยั กอ่ นที่เชอ่ื วา่ ความฝันต่าง ๆ จะเป็นลาง บอกเหตทุ งั้ ดีและรา้ ย ซึง่ ในตอนนี้ เปน็ ตอนทน่ี างวนั ทองฝันร้ายและ เชือ่ ว่าเป็นลางบอกเหตุรา้ ย

26  ความเชือ่ เร่ืองลางสังหรณ์ ปรากฏในเรือ่ งจะเปน็ ลางรา้ ย มากกวา่ ลางดี คอื นางวนั ทองเหน็ แมงมมุ กาลงั ทุ่มอกตัวเอง เมื่อคราวทพี่ ลายงามกาลงั จะถกู ขุนชา้ งฆ่า อยกู่ ลางป่า  ความเชอื่ เกี่ยวกบั การใช้เวทมนคาถา จงึ ร่ายมนตรามหาสะกด ภูตพรายนายขนุ ชา้ งวางวง่ิ พรู เสื่อมหมดอาถรรพณ์ท่ีฝังอยู่ คนผใู้ นบา้ นกซ็ านเซอะ

27  ความเชื่อเกยี่ วกับความเป็นกาลกิณีแกบ่ า้ นเมืองหรอื แผ่นดนิ ถ้าเลือดของหญิงหรอื ชายชวั่ คนใด แม้จะถกู ประหารจนตายแลว้ ก็หา้ มให้เลอื ดมาแปดเปอ้ื นพน้ื แผ่นดิน เพราะจะทาใหเ้ ปน็ เสนียด จัญไรหรอื กาลกิณีต่อแผ่นดิน นอกจากนี้ยังสะท้อนใหเ้ ห็นความเช่อื ของคนโบราณเกี่ยวกับหญงิ สาววา่ “ผูห้ ญิงสองใจเป็นกาลกิณี” ใครทไ่ี ดม้ าเปน็ ภรรยาหรอื คบ คา้ สมาคมจะทาใหช้ วี ติ ตกตา่ และเป็นกาลกิณตี อ่ ชวี ติ ”  ความรักระหวา่ งแมก่ บั ลูก ความรกั ของแมท่ ีม่ ีต่อลูก จากบทประพนั ธก์ ล่าวได้วา่ ด้วย ความทีล่ ูกรักแม่ จงึ ไปรับแมก่ ลบั มาจาก ขนุ ช้าง เจ้าพลายงามตามรับเอากลับมา ทีนีห้ น้าจะดาเปน็ น้าหมกึ กาเรบิ ใจดว้ ยเจา้ ไวยกาลงั ฮึก จะพาแม่ตกลึกให้จาตาย

28  การมสี ัมมาคารวะ พลายงามรจู้ ักแสดงความเคารพนอบน้อม แมจ้ ะอยใู่ น สถานการณข์ นุ่ เคอื งใจอยู่ก็ตาม แต่เม่ือเหน็ มารดาก็ยังระลกึ ถึง พระคุณแล้วเขา้ กราบไหว้ จะใครถีบขุนชา้ งที่กลางตวั นกึ กลวั จะถูกแม่วนั ทองนนั่ พลางน่งั ลงนอบนบอภิวนั ทน์ สะอื้นอ้นั อกแคน้ น้าตาคลอ

29 บรรณำนกุ รม (๒๕๖๐). เสภาเร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า. สืบคน้ ๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓,จาก http://elsd.ssru.ac.th/kwanjira_ph/pluginfile.php/46/course/su mmary/ นางสาวเกศศริ ิ คนงึ คดิ . (๒๕๕๙). เสภาเรือ่ งขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ ง ถวายฎกี า. สืบคน้ ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓,จาก https://sites.google.com/a/banraiwitthaya.ac.th/krucartoon/ra bb-than-khxmul/bth-thi-1 ภาษาไทยครูป๊ิก. (๒๕๖๒). เสภาเร่อื งขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวาย ฎีกา. สบื ค้น ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓,จาก https://sites.google.com/site/phasathiykhrupik/wicha-phasa- thiy11/khunchangkhunphaentxnkhunchangthwaydika

30 krunucharin. (๒๕๕๙). เสภาเร่อื งขนุ ชา้ ง ขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า. สืบคน้ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓,จาก https://kunchangkunpaneasy.simdif.com /page-3162995.html oknation.nationtv.tv. เสภาเรอื่ งขนุ ชา้ ง ขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า. สบื ค้น ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓,จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/ThaiTea cher/2011/06/22/entry-1 KINGSWRITINGBLOG. (2559). เสภาเรือ่ งขนุ ชา้ งขุนแผน. สืบค้น26 พฤศจกิ ายน 2563, จาก https://kingswritingblog.wordpress.com/ 2016/09/27

Thank you


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook