PATTANISELAMAT DATANG KE สวสั ดีปตั ตานี บรรยายสรปุ จังหวดั ปัตตานี
สัญลกั ษณป์ ระจำ�จังหวัดปัตตานี ธงประจ�ำจงั หวดั ตราประจำ�จงั หวัด รปู ปนื ใหญ่ หมายถงึ ปนื นางพญาตานซี งึ่ มขี นาดใหญท่ ส่ี ดุ (มีขนาดยาว ๓ วา ศอกคืบนิ้วคร่งึ กระสนุ มีลักษณะกลม มเี สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ๑๑ นว้ิ ) ซง่ึ เปน็ ปนื ใหญก่ ระบอกส�ำ คญั ที่ใช้ป้องกันเมืองปัตตานีตลอดมา ชาวเมืองปัตตานีจึง ถือวา่ เปน็ ของคบู่ ้านคู่เมอื งมาแต่สมัยโบราณ จังหวัดปตั ตานี ใช้อกั ษรย่อว่า “ปน” คำ�ขวญั จังหวดั “เมอื งงามสามวฒั นธรรม ศูนย์ฮาลาลเลศิ ลาํ้ ชนน้อมนำ� ศรัทธา ถ่ินธรรมชาติงามตา ปตั ตานีสันติสขุ แดนใต้” ดอกไม้ประจำ� จังหวดั ตน้ ไมป้ ระจำ� จังหวัด “ดอกชบา” ชื่อพรรณไม้ “ตะเคยี นทอง” ช่อื วิทยาศาสตร์ Hopeaodorata
คำ�น�ำ “ปตั ตานี” เป็นจงั หวัดชายแดนภาคใตท้ ม่ี เี อกลกั ษณ์เฉพาะตัว เพยี บพรอ้ ม ด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีชีวิตท่ี หลากหลาย และยังมีความพร้อมในทรัพยากรธรรมชาติท่ีอุดมสมบูรณ มีพื้นที่ ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย นับเป็นอีกจังหวัดท่ีงดงามด้วยวิถีชีวิตของผู้คนและสภาพ ภมู ปิ ระเทศ ซง่ึ มพี ฒั นาการทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละอารยธรรมเจรญิ รงุ่ เรอื งมาเปน็ เวลานาน “สวสั ดีปัตตาน”ี เปน็ เอกสารประชาสมั พนั ธ์จังหวัดปตั ตานีทรี่ วบรวมขอ้ มูล สำ�คัญของจังหวัดปัตตานี ประกอบด้วย ภาคความเป็นมา ภาคความเป็นอยู่ และ ภาคความเป็นไป ซ่ึงเป็นข้อมูลท่ีเป็นปัจจุบัน และทันสมัยของจังหวัดปัตตานี จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้แก่บุคคลภายนอก ผู้ที่สนใจ รวมทั้งคณะต่างๆ ท่ีเดินทางมาเยี่ยมเยียนจังหวัดปัตตานี ได้ทำ�ความรู้จัก จังหวัดปตั ตานีให้ดยี ิ่งขึน้ สำ�หรับผู้ที่ต้องการโอกาสทางธุรกิจ “ปัตตานี” ยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทน่ี กั ลงทนุ ไมค่ วรมองขา้ มโอกาสทจ่ี ะไดร้ บั การสง่ เสรมิ การลงทนุ จากภาครฐั และเปน็ ประตดู า่ นแรกทจ่ี ะเปดิ กวา้ งเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี นและตลาดสนิ คา้ ฮาลาลระดบั โลก อกี ด้วย ขอขอบคณุ ทกุ สว่ นราชการ และทกุ หนว่ ยงานทไ่ี ดใ้ หค้ วามรว่ มมอื เปน็ อยา่ งดี ในการสนบุ สนนุ ขอ้ มลู ในการจัดทำ�เอกสารประชาสมั พันธ์ “สวสั ดีปตั ตาน”ี ส�ำ เร็จ ลลุ ่วงไปดว้ ยดี จงึ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ จังหวดั ปัตตานี
Contents ภาคที่ ๑ ความเปน็ มา ๗ ประวตั ิศาสตรจ์ ังหวดั ปัตตานี ภาคท่ี ๒ ความเปน็ อย ู่ สภาพทวั่ ไป ๑๑ การบรหิ ารราชการจังหวดั ๑๖ สภาพเศรษฐกจิ ๓๑ สภาพสังคม ๖๔ แหลง่ ท่องเทยี่ ว ๘๙ งานประเพณี การละเลน่ พ้ืนเมือง ๙๓ และอาหารประจำ�ถิน่ ท่ีสำ�คัญ
ภาคที่ ๓ ความเป็นไป วิสยั ทศั นจ์ งั หวดั ปตั ตาน ี ๑๐๓ แผนปฏิบตั ริ าชการประจำ�ปีของจังหวัดปตั ตาน ี ๑๐๖ ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๙ แผนปฏบิ ัติราชการประจำ�ปขี องจงั หวัดปัตตาน ี ๑๐๗ ประจำ�ปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ โครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำ�ริ ๑๐๘ ทศิ ทางแนวโน้มของจงั หวดั ปตั ตานี ๑๑๕ เพือ่ มุ่งสู่วิสยั ทศั นท์ ี่กำ�หนด
ภาคที่ ๑ ความเป็นมา
ประวตั ิศาสตร์ จังหวัดปัตตานี หลกั ฐานเอกสารโบราณปรากฏนามเมอื งหรอื รฐั ส�ำ คญั แหง่ หนง่ึ บนแหลมมลายู ซงึ่ ออกเสยี งตามสำ�เนยี งในแต่ละภาษา เชน่ หลังยาซวู หลังยาซเี จยี (ภาษาจีน) ลังคาโศกะ อิ ลงั คาโศกะ (ภาษาสันสกฤต ภาษาทมิฬ) เล็งกะสุกะ (ภาษาชวา) ลังคะศกุ า (ภาษาอาหรับ) ลงั กะสกุ ะ สงั กาสกุ ะ (ภาษามลาย)ู โดยนกั วชิ าการสนั นษิ ฐานวา่ นา่ จะเปน็ ชอื่ เมอื งเดยี วกนั ที่น่าจะเคยตั้งอยู่ในรัฐเคดาห์ ประเทศสหพันธรัฐมาเลเซียและจังหวัดปัตตานีในปัจจุบัน นกั วชิ าการทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละโบราณคดเี ชอื่ วา่ ปตั ตานี เปน็ ทแี่ วะพกั จอดเรอื เพอื่ แลก เปลยี่ นซอื้ - ขายสนิ คา้ ระหวา่ งพอ่ คา้ ชาวอนิ เดยี ทางตะวนั ตกกบั พอ่ คา้ ชาวจนี ทางตะวนั ออก และชนพ้นื เมอื งบนแผน่ ดินและหมเู่ กาะใกล้เคยี งตา่ งๆ นอกจากน้ี ยงั เชอื่ วา่ เดมิ ปตั ตานเี ปน็ อาณาจกั รทเ่ี กา่ แกแ่ ละมคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งในอดตี เน่ืองจากมีหลักฐานทางโบราณคดีว่าบริเวณอำ�เภอยะรัง มีซากร่องรอยของเมืองโบราณ ขนาดใหญ่ซ้อนทบั กันถงึ ๓ เมอื ง มีซากโบราณสถานและศาสนสถานหลายแห่ง นอกจาก นีย้ ังคน้ พบโบราณวตั ถจุ �ำ นวนมาก โดยวตั ถุบางชน้ิ มีตัวอกั ษร ซึ่งนกั ภาษาโบราณอ่านและ แปลว่าเป็นอักษรปัลลวะ (อินเดียใต้) ภาษาสันสกฤตเขียนเป็นคาถาในพุทธศาสนาลัทธิ มหายาน พระโพธสิ ตั วส์ มั ฤทธ์ิ และเศษภาชนะดนิ เผาทมี่ อี ายอุ ยใู่ นราวพทุ ธศตวรรษท๑่ี ๒- ๑๓ สอดคล้องกับจดหมายเหตุจีนท่ีได้กล่าวถึงไว้ นอกจากน้ันหลักฐานที่ได้ขุดค้นพบยัง บรรยายสรุปจังหวดั ปัตตานี 7
แสดงให้เห็นด้วยวา่ บริเวณทีต่ ัง้ อำ�เภอยะรังในปัจจุบัน เปน็ ชมุ ชนทม่ี คี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งใน อดีตและต่อมาได้ย้ายเมืองปัตตานีมาบริเวณบ้านกรือเซะ สันนิษฐานว่าเกิดจากการ เปลย่ี นแปลงทางภมู ศิ าสตรท์ �ำ ใหเ้ มอื งเดมิ ไมเ่ หมาะในการเปน็ เมอื งทา่ การคา้ เมืองปัตตานีได้ชื่อว่าเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้ปลายแหลมมลายูที่มีฐานะเป็นเมือง ประเทศราชของกรงุ ศรอี ยธุ ยามาตง้ั แตร่ ชั สมยั สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ.๑๙๙๑–๒๐๓๑) เป็นต้นมา จนในปีพ.ศ. ๒๐๕๔ โปรตุเกสยึดครองมะละกาได้สำ�เร็จ และพยายามขยาย อทิ ธพิ ลทางการคา้ ขน้ึ มาทางตอนเหนอื ของคาบสมทุ รมลายู ประกอบกบั สมเดจ็ พระรามาธบิ ดี ท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๐๓๔ – ๒๐๗๒) ทรงยนิ ยอมให้โปรตุเกสเขา้ มาตงั้ สถานีการคา้ ในเมืองชายฝ่งั ทะเล เชน่ นครศรธี รรมราช มะรดิ ตะนาวศรี และปตั ตานี ท�ำ ใหป้ ตั ตานกี ลายเป็นเมืองทา่ หลักเมืองหน่งึ แมว้ ่าปัตตานีจะเปน็ เมืองประเทศราชของกรงุ ศรีอยธุ ยา แตด่ ว้ ยเหตทุ ่ีเป็น เมอื งทมี่ คี วามเจรญิ มน่ั คงทางเศรษฐกจิ ท�ำ ใหเ้ จา้ เมอื งปตั ตานตี อ้ งการความเปน็ อสิ ระ และ ท�ำ การแข็งเมอื งอยบู่ อ่ ยครั้งเมือ่ มโี อกาส จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบที่เมืองโบราณยะรังทราบว่า แต่เดิมชาวเมือง ปัตตานีนับถือศาสนาพุทธและพราหมณ์ และเปล่ียนมานับถือศาสนาอิสลามหลังจากที่ อาณาจักรศรีวิชัยเสื่อมอำ�นาจ โดยได้รับอิทธิพลจากราชวงศ์มัชปาหิตในชวาที่แผ่อำ�นาจ เขา้ มาสู่แหลมมลายู ก่อให้เกิดความร่วมมอื ด้านการเมืองและดา้ นเศรษฐกิจ ท�ำ ให้การคา้ ในภูมิภาคเข้มแข็งและส่งผลให้ศาสนาอิสลามมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น นอกจากนี้ มีการ ก่อสร้างมัสยิดเพื่อใช้ประกอบศาสนกิจท่ีสำ�คัญคือ มัสยิดกรือเซะ และมัสยิดบ้านดาโต๊ะ ตอ่ มาในรัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช (พ.ศ. ๒๓๒๕–๒๓๕๒) ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเดจ็ กรมพระราชวงั บวรมหาสรุ สิงหนาทยกทพั หลวงมาปราบปราม พมา่ ทม่ี าตหี วั เมอื งทางแหลมมลายจู นเรยี บรอ้ ย และในปี พ.ศ. ๒๓๒๘ กรมพระราชวงั บวรฯ เสด็จลงไปประทับท่ีเมืองสงขลา ได้มีกระแสรับส่ังออกไปยังหัวเมืองปัตตานี เมืองไทรบุรี และเมืองตรังกานูให้มายอมเป็นเมืองข้ึนเช่นเดิม แต่สุลต่านมูฮัมหมัด พระยาปัตตานี ใน ขณะนนั้ ขดั ขนื กรมพระราชวงั บวรฯ จงึ มรี บั สงั่ ใหพ้ ระยากลาโหมยกกองทพั ไปตเี มอื งปตั ตานี ได้ในปี พ.ศ. ๒๓๒๙ โดยได้กวาดตอ้ นครอบครัวและศาสตราวธุ มาเปน็ จำ�นวนมาก รวมทงั้ ปืนใหญ่ ๒ กระบอก แต่สามารถนำ�มาได้เพียงกระบอกเดียว จึงนำ�ข้ึนทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก และทรงโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ารกึ ชอื่ ปนื “พญาตาน”ี นบั วา่ เปน็ ปนื ใหญก่ ระบอกใหญท่ ส่ี ดุ ของประเทศไทย ปจั จบุ นั ตงั้ อยหู่ นา้ กระทรวงกลาโหม กรงุ เทพมหานคร 8 สวัสดีปัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัย (พ.ศ. ๒๓๕๒ – ๒๓๖๗) เกดิ ความไมส่ งบบอ่ ยครงั้ จงึ โปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ผี กู้ �ำ กบั ดแู ลหวั เมอื งมลายู โดยแบง่ เมอื งตานอี อก เปน็ ๗ หวั เมือง ประกอบด้วย เมอื งปตั ตานี เมอื งยะหริ่ง เมอื งสายบรุ ี เมอื งหนองจิก เมอื ง ระแงะ เมืองรามันห์และเมืองยะลา ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยหู่ ัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลกิ วิธีการปกครองแบบจตุสดมภ์ (เวียง วงั คลัง นา) ตัง้ แต่ปี พ.ศ.๒๔๓๕ เปน็ ต้นมา โดยจดั การปกครองแบบ ๑๒ กระทรวง มกี ระทรวงมหาดไทยเปน็ กระทรวงการแผน่ ดนิ ได้จัดการปกครองเป็นระบบเทศาภบิ าล โดยจดั แบ่งเปน็ มณฑลทรง ใช้นโยบายประนีประนอมและดำ�เนินการเป็นขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน ตอ่ การปกครองของเจา้ เมอื งทง้ั ๗ หวั เมอื ง ประกอบดว้ ย ปตั ตานี ยะหรง่ิ สายบรุ ี หนองจกิ ระแงะ รามันห์ และยะลา ซ่ึงขน้ึ กับมณฑลนครศรธี รรมราช มีขา้ หลวงเทศาภบิ าลมณฑล เปน็ ผวู้ า่ ราชการเมืองดแู ล ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๔๙ ได้แยกหวั เมืองทั้ง ๗ ออกจากมณฑล นครศรธี รรมราช มาตงั้ เปน็ มณฑลปตั ตานี พรอ้ มทง้ั เปลย่ี นฐานะเมอื งเปน็ อ�ำ เภอและจงั หวดั ได้แก่ จังหวัดปัตตานี รวมเมืองหนองจิกและเมอื งยะหร่งิ จังหวัดสายบุรี รวมเมืองระแงะ จังหวัดยะลา รวมเมอื งรามนั ห์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ตกตา่ํ ภายหลงั จากการเปลย่ี นแปลงการปกครองในปี พ.ศ.๒๔๗๕ รฐั บาลจ�ำ เปน็ ตอ้ งตดั ทอน รายจา่ ยใหน้ อ้ ยลงเพอ่ื รกั ษาเสถยี รภาพทางการคลงั ของประเทศ จงึ ใหย้ บุ เลกิ มณฑลปตั ตานี คงสภาพเป็นจังหวัด ยุบจังหวัดสายบุรีเป็นอำ�เภอตะลุบัน (ภายหลังช่ืออำ�เภอสายบุรี) และแบ่งพืน้ ที่บางส่วนของสายบุรี คือ ระแงะและบาเจาะไปขึน้ กบั จังหวัดนราธิวาส ท่มี า : วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ เอกลกั ษณ์และภูมิปญั ญาจังหวดั ปัตตานี หนา้ ๒๗ – ๓๓ บรรยายสรุปจงั หวัดปัตตานี 9
ภาคที่ ๒ ความเป็นอยู่
สภาพทวั่ ไป ทตี่ ั้งและอาณาเขต จงั หวัดปตั ตานี ต้งั อย่ภู าคใตข้ องประเทศไทย ห่างจากกรงุ เทพฯ ๑,๐๕๕ กม. มี เนื้อท่ีประมาณ ๑,๙๔๐.๓๕ ตร.กม. หรือประมาณ ๑,๒๑๒,๗๒๓ ไร่ มีอาณาเขตตดิ ต่อกับ จงั หวัดใกล้เคียง ดงั น้ี ทิศเหนือ ติดต่อกับอ่าวไทย ทิศใต้ ติดต่อกับเขตอำ�เภอเมืองยะลา อำ�เภอรามัน จังหวัดยะลา และ เขตอ�ำ เภอบาเจาะ จังหวดั นราธวิ าส ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับอา่ วไทย ทิศตะวันตก ตดิ ต่อกับเขตอำ�เภอเทพา และอำ�เภอสะบา้ ย้อย จังหวดั สงขลา บรรยายสรุปจังหวัดปตั ตานี 11
12 สวัสดปี ัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
หนว่ ยการปกครอง จังหวดั ปตั ตานี ได้แบ่งหนว่ ยการปกครองออกเปน็ ๑๒ อำ�เภอ ๑๑๕ ต�ำ บล ๖๔๒ หมบู่ ้าน โดยมหี นว่ ยการปกครองส่วนท้องถ่ิน ประกอบด้วย องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ๑ แหง่ เทศบาลเมอื ง ๒ แหง่ (เทศบาลเมอื งปตั ตานี และเทศบาลเมอื งตะลบุ นั ) เทศบาลต�ำ บล ๑๕ แหง่ องคก์ ารบริหารสว่ นต�ำ บล ๙๖ แหง่ อำ�เภอ เน้ือท่ี ตำ�บล หมบู่ า้ น อบต. เทศบาล ชมุ ชน ร้อยละของ ระยะห่างจาก (ตร.กม.) พ้นื ท่ีจงั หวัด จงั หวัด (กม.) ๑.เมืองปตั ตานี ๙๖.๘๓๗ ๑๓ ๖๖ ๙ ๒ ๑๙ ๔.๙๙ ๐.๐๕ ๙.๔๘ ๑๕ ๒. ยะรงั ๑๘๓.๙๕๒ ๑๒ ๗๒ ๑๒ ๑ - ๑๑.๙๓ ๘ ๑๗.๔๙ ๒๖ ๓. หนองจิก ๒๓๑.๕๒๖ ๑๒ ๗๖ ๑๑ ๒ - ๑๐.๑๔ ๑๔ ๗.๔๒ ๔๓ ๔. โคกโพธ์ิ ๓๓๙.๔๑๔ ๑๒ ๘๒ ๑๑ ๓ - ๑๑.๑๔ ๒๙ ๙.๒๐ ๕๐ ๕. ยะหร่ิง ๑๙๖.๘๒๙ ๑๘ ๘๑ ๑๔ ๔ - ๒.๘๔ ๖๕ ๕.๙๓ ๔๕ ๖. ปะนาเระ ๑๔๔.๐๕๘ ๑๐ ๕๓ ๘ ๒ - ๔.๘๓ ๖๘ ๔.๖๐ ๓๐ ๗. มายอ ๒๑๖.๑๓๖ ๑๓ ๕๙ ๑๐ ๑ - ๑๐๐ - ๘. สายบรุ ี ๑๗๘.๔๒๔ ๑๑ ๖๔ ๘ ๒ ๒๐ ๙. ไมแ้ ก่น ๕๕.๒๐๑ ๔ ๑๗ ๓ - - ๑๐. ทงุ่ ยางแดง ๑๑๔.๙๗๐ ๔ ๒๓ ๔ - - ๑๑. กะพ้อ ๙๓.๘๑๕ ๓ ๒๗ ๓ - - ๑๒. แม่ลาน ๘๙.๑๙๔ ๓ ๒๒ ๓ - - รวม ๑,๙๔๐.๓๕๖ ๑๑๕ ๖๔๒ ๙๖ ๑๗ ๓๙ ท่ีมา : ท่ที �ำ การปกครองจงั หวดั ปตั ตานี ณ วนั ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ บบรรรรยยาายยสสรรปุปุ จจังังหหววัดดั ปปัตตั ตตาานนีี 13
ประชากรและศาสนา จังหวัดปัตตานี เป็นอาณาจักรที่เก่าแก่และมีความเจริญรุ่งเรือง ทำ�ให้เป็นแหล่ง ศนู ยร์ วมของประชากรหลากหลายเชอื้ ชาติ ศาสนามาตงั้ แตใ่ นอดตี ปจั จบุ นั เปน็ แหลง่ ชมุ ชน ที่มีผอู้ ยู่อาศยั หนาแน่น โดยเฉพาะบรเิ วณลุ่มนํา้ ปตั ตานี ประชากร ตารางแสดงจ�ำ นวนประชากรรายอ�ำ เภอในปี ๒๕๖๐ ลำ�ดับท่ี อ�ำ เภอ จ�ำ นวนประชากร (คน) ครัวเรือน ๑. อ�ำ เภอเมืองปตั ตานี ชาย หญิง รวม ๔๓,๙๐๓ ๒. อำ�เภอโคกโพธ์ิ ๖๓,๘๖๓ ๖๖,๔๘๗ ๑๓๐,๓๕๐ ๑๙,๙๗๘ ๓. อ�ำ เภอหนองจิก ๑๙,๕๖๕ ๔. อ�ำ เภอสายบรุ ี ๓๒,๙๕๗ ๓๔,๗๘๔ ๖๗,๗๔๑ ๑๖,๘๕๑ ๕. อำ�เภอยะหรงิ่ ๑๙,๒๕๓ ๖. อำ�เภอยะรงั ๔๐,๘๖๘ ๓๘,๐๒๕ ๗๘,๘๙๓ ๒๑,๒๙๙ ๗. อ�ำ เภอปะนาเระ ๑๑,๕๔๘ ๘. อ�ำ เภอมายอ ๓๓,๙๓๑ ๓๕,๓๗๒ ๖๙,๓๐๓ ๑๓,๐๙๙ ๙. อ�ำ เภอทงุ่ ยางแดง ๕,๔๒๐ ๑๐. อำ�เภอกะพอ้ ๔๓,๑๑๑ ๔๓,๗๖๘ ๘๖,๘๗๙ ๔,๑๖๙ ๑๑. อ�ำ เภอแมล่ าน ๔,๒๐๘ ๑๒. อำ�เภอไมแ้ กน่ ๔๖,๑๐๓ ๔๖,๒๐๘ ๙๒,๓๑๑ ๓,๑๘๘ ๑๘๒,๔๘๑ รวม ๒๒,๖๒๔ ๒๓,๔๑๕ ๔๖,๐๓๙ ๒๙,๔๓๙ ๓๐,๓๔๕ ๕๙,๗๘๔ ๑๑,๕๙๙ ๑๒,๐๔๗ ๒๓,๖๔๖ ๘,๙๘๐ ๙,๒๒๔ ๑๘,๒๐๔ ๘,๒๔๓ ๘,๕๒๙ ๑๖,๗๗๒ ๖,๑๑๗ ๖,๓๘๑ ๑๒,๔๙๘ ๓๔๗,๘๓๕ ๓๕๔,๕๘๕ ๗๐๒,๔๒๐ ท่มี า : ท่ที �ำ การปกครองจังหวัดปัตตานี ณ วนั ที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๐ 14 สวัสดีปัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
แผนภมู ิแทง่ แสดงจ�ำ นวนประช-6า-กรจงั หวัดปตั ตานใี นหว้ งเวลา ๓ ปี แผนภมู แิ ท่งแสดงจํานวนประชากตร้งัจแงั หตว่ปดั ีปพตั .ตศา.น๒ใี น๕ห๕ว้ ๘งเว–ลา๒3๕ป๖ี ๐ต้ังแตป่ ี พ.ศ.2558 – 2560 จาํ นวนประชากรจังหวัดปตั ตานี จํานวนประชากร ปี 2560 702,420.00 ปี 2559 697,668.00 ปี 2558 694,023.00 688,000.00 690,000.00 692,000.00 694,000.00 696,000.00 698,000.00 700,000.00 702,000.00 704,000.00 ปขอระงปชารป กะรรชาากกรฏเพวจิ่มา่ จาขาแก้ึนกนทกกวุกาารปโรสนีสําซม้ �ำร่ึงวขรสจวืบอจจเงาํนจปน่ือำ�วรงนนมะปาชวจรนาาะกปกชรอารกเัตะพรรชใามิ่ นกาขหกานึ้ว้รรเงทกใเวนิดกุ ลทหปา่ีเว้พี3ซงิ่มงึ่เปขวสี้ึนลตบื ขา้ังเอแนงต๓จอ่ื ่ปํางีนปพมว.ีาศนตจ.ป2งั้าร5แกะ5ชตอ8าป่ตั ก–รีรพา2ก.แ5ศาล6.ระ๒0เอก๕ัตปดิ ร๕ราทา๘กกเี่ าพฏร-วยมิ่ ่า้าข๒ยแนึ้ เ๕นขข๖ว้าอขโ๐นอง้มง จำ�นวนปประระชชาากกรรณแลเดะอื อนตัมนีราาคกมา2ร5ย6า้ 0ยเจขาํ า้ นขวอนปงประรชะากชราทก้งั รสนิ้ 702,420 คน เปน็ ชาย 347,835 คน เไจปดงั แ้น็หกหว่ดัญอช ปํางิ าตัเภ3ยตอ5าย๓น4ะี,๔รเ5ปฉัง๗8ลรจ5ย่ี,ะํา๘น3ชค๓วน6าน๕ก2อ9ราํคค2เนภณ,น3/อต1ทเาเ1่ทีปดรีปา็นคอื งรนกหนะโิชแญมลลาเีนกงิมะรอาตม๓ําครเาภ๕มอกอาํท๔ยเ๒่ีสภ,ะ๕ุด๕อหท๘ร๖คง่ิ่มี อื๕๐ีคจอวาํ คาําจนเมนว�ำภหนนอนอเ8วมา�ำ6นแอื เ,นงป8ภปน่ 7รอัตข9ะทตอชางคท่ี นปานีปีรกจอะรราํ ชัตะนทารวชกาัง้ นคารสวมก1ิ้นาารม3กมห๗0ทาน,ี่ส๐3กาุด๒5แทนค0,่ีส๔น่ือคุดข๒นออ๐งคาํ รปเอือภรคงอะลนอชเมงา�ำมอืกเเางรปภขน็ออง ปตั ตานเมี โดอื ยงมปีอัตตั ตราาเนฉลี ีย่จำ�1น,3ว4น6๑คน๓/๐ตา,๓รา๕งก๐ิโลเคมนตรรรอองลลงงมมาาไดไ้แดกแ้ ่ อกํา่ เอภำ�อเยภะรอังยมะอี รตั ังราจเฉ�ำ ลน่ียว5น0๙2๒คน,๓/ต๑า๑รางคน กคโิือลอเมําตปแเภรลัตออะตแําอมาเภ่ล�ำนอาเีภนยเฉะอมหลยอี รยี่ตัะง่ิ รห๓มารเอี ๖ฉงิ่ัตล๒ร่ยี าจเค1�ำฉนนล8่ยี8/วตน4คา4นร๘1/าต๖งคากรน,๘าิโ/งตล๗กาเโิ๙รมลาเตงมคกรตโินรลอเำ�มอเตภตั รรอแาทลคะม่ี วอีคําาเวมภาหอมทนหม่ี าคีนแวานาแมน่ นหขน่นอาขแงอนปงน่ รปขะอรชงะาปชกราะรกชขารอกมรงานจก้องั ยทหทส่ีว่สี ดัดุ ดุ คือ อำ�เภอเมืองปัตตานี โดยมีอัตราเฉล่ีย ๑,๓๔๖ คน/ตารางกิโลเมตร รองลงมาได้แก่ อ�ำ เภอยะรงั มอี ตั ราเฉลยี่ ๕๐๒ คน/ตารางกโิ ลเมตร อ�ำ เภอยะหรงิ่ มอี ตั ราเฉลย่ี ๔๔๑ คน/ ตารางกิโลเมตร และอ�ำ เภอทม่ี คี วามหนาแนน่ ของประชากรน้อยทส่ี ดุ คอื อ�ำ เภอแมล่ าน มอี ัตราเฉลย่ี ๑๘๘ คน/ตารางกิโลเมตร บรรยายสรปุ จงั หวดั ปัตตานี 15
ศาสนา การนบั ถอื ศาสนาของประชากรในจงั หวดั ปตั ตานี (ขอ้ มลู จปฐ.) ระหวา่ งปี ๒๕๕๗ - ๒๕๕๙ การนบั ถือศาสนาของประศชาาสนการพใทุ นธจังหวดั ปตั ตานศ(ีาขสนอ้ ามอสิูลลาจมปฐ.) ระหศวา่าสงนปาคี ร๒ิสต๕/์ ๕อื่น7ๆ– ๒๕๕9 ปี พ.ศ. ป65จร31าํะปน64๕๖๖ชจร๓๑๕วำ�26ศาะน๔๔๖ชนกา67ว๒๖๕ารสนก๗๖๗รนาพทุ ธ11ร๑๑๑รอ้้อ๓๓๒32ย...ย๔๗๓..ล37ล๒๔๐ะ24ะ ๔๓๔ปจ๖๑๒ร�ำะ๑๒๒34นปช๘๘๖วจา61ร๓๗๔นกําะ๙๔๑12รนศช86าวา74สนก14นร๘๘๘รา้อ๖๗๖อย...๔๕๖ลสิ ๗๘๙ะล88ราอ้67มย..46ลปจ79ระำ�ะ๘๘๔นช๕๔๒วานกร ศาสรอ้นยาลคะ รสิ ต/์ อน่ื ๆ ปี พ.ศ. ปจรําะ48นช45๐๐๐วา...๐๐๐นก๒๒๒ร ร้อยละ ๒๕๕๗ ๒๕๕๗ ๐.๐2 2558 ๒๕๕๘ ๐.๐2 ๒๕๕๙ 2559 แผนภูม6ิแ5ส4ด5งส7ดั สว่ นขอ1ง3ผนู้.4บั 0ถือศาสน4า2ต2า่ ง8ๆ3ใ9นจังหว8ัด6ป.ตั5ต8านปี ระจำ�8ป2ี ๒๕๕๘ 0.02 แผนภมู แิ สดงสดั ส่วนของผนู้ บั ถือศาสนาต่างๆ ในจังหวัดปตั ตานปี ระจําปี ๒๕๕๘ ศาสนาคริสต์/อ่ืน ๆ, ๐.๐๒ ศาสนาพทุ ธ, ๑๓.๔๐ ศาสนาอสิ ลาม, ๘๖.๕๘ รหิ ารราชการ หนว่ ยงานในจ1ัง6หวัดปสวตั สั ตดาีปนตั ตปี ารนีะSกELอAบMAดT้วยDAหTนAN่วGยงKาEนPผAแู้ TทTAนNกI ระทรวงทุกกระทรวงยกเว้น ๒ กระทรวงที่ไม่ งานผู้แทนกระทรวงในจังหวัด คือ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การบริหารราชการ หน่วยงานในจังหวัดปัตตานีประกอบด้วยหน่วยงานผู้แทนกระทรวงทุกกระทรวง ยกเวน้ ๒ กระทรวงทไ่ี มม่ หี นว่ ยงานผแู้ ทนกระทรวงในจงั หวดั คอื กระทรวงการตา่ งประเทศ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหน่วยงานท่ีมีท่ีต้ังสำ�นักงานในจังหวัดปัตตานี จำ�แนกได้ ๕ ประเภท ดังนี้ ๑. หนว่ ยงานส่วนภูมภิ าค จำ�นวน ๓๓ หนว่ ยงาน อยใู่ นการบรหิ ารราชการของ ผู้ว่าราชการจงั หวัด ๒. หนว่ ยงานสว่ นกลาง จ�ำ นวน ๖๖ หนว่ ยงาน ขน้ึ ตรงตอ่ สว่ นกลาง (กรมตน้ สงั กดั ) ๓. หนว่ ยงานสว่ นทอ้ งถนิ่ จ�ำ นวน ๑๑๔ หนว่ ยงาน ประกอบดว้ ย องคก์ ารบรหิ าร ส่วนจงั หวดั ๑ แห่ง เทศบาล ๑๗ แหง่ องค์การบริหารสว่ นต�ำ บล ๙๖ แห่ง ๔. หน่วยงานรัฐวสิ าหกจิ จ�ำ นวน ๑๘ หนว่ ยงาน ๕. หนว่ ยงานอิสระ จำ�นวน ๙ หน่วยงาน บรรยายสรปุ จังหวัดปัตตานี 17
หน่วยงานสว่ นท้องถิ่น ๑. องค์การบริหารสว่ นจงั หวัด ๑ แหง่ ๒. เทศบาล ๑๗ แห่ง แบ่งตามประเภทไดด้ ังน้ี เทศบาล ประเภท พิเศษ จ�ำ นวน ๑ แห่ง ประเภท สามญั จ�ำ นวน ๑๖ แห่ง ๓. องค์การบรหิ ารสว่ นต�ำ บล ๙๖ แห่ง แบ่งตามขนาดได้ดงั นี้ ขนาดใหญ่ ๑ แหง่ ขนาดกลาง ๘๗ แหง่ ขนาดเลก็ ๘ แหง่ ทมี่ า : ส�ำ นกั งานทอ้ งถ่นิ จังหวดั ปตั ตานี ข้อมูล ณ วนั ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ ลักษณะภูมปิ ระเทศ แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ ประกอบด้วย พื้นราบชายฝ่ังทะเล ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีส่วนใหญ่ ประมาณ ๑ ใน ๓ ของพืน้ ทีจ่ ังหวดั ได้แก่ ทางตอนเหนอื และทางตะวันออกของจังหวดั มี หาดทรายยาว และเปน็ ทร่ี าบชายฝง่ั กวา้ งประมาณ ๑๐ - ๓๐ กโิ ลเมตร พน้ื ทร่ี าบลมุ่ บรเิ วณ ตอนกลาง และตอนใต้ของจังหวัด มีแม่น้ําปัตตานีไหลผ่านท่ีดินมีความเหมาะสม ใน การเกษตรกรรม และพื้นที่ภูเขา ซึ่งเป็นพ้ืนท่ีส่วนน้อยอยู่ทางตอนใต้ของอำ�เภอโคกโพธิ์ อ�ำ เภอกะพ้อ และทางตะวนั ออกของอำ�เภอสายบรุ ี ลักษณะอากาศทว่ั ไป จงั หวัดปตั ตานี อยูภ่ ายใต้อทิ ธิพลของลมมรสุมทพี่ ดั ประจำ�ฤดูกาล ๒ ชนิด คือ ๑. ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือฤดูหนาว จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียง เหนอื ซงึ่ เปน็ ลมเยน็ และแหง้ จากประเทศจนี พดั ปกคลมุ ประเทศไทย ท�ำ ใหป้ ระเทศไทยตอน บนต้ังแต่ภาคกลางข้ึนไปมีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งท่ัวไป ภาคใต้ต้ังแต่จังหวัด ประจวบครี ขี นั ธล์ งไปกลบั มฝี นตกชกุ เพราะลมมรสมุ นพ้ี ดั ผา่ นอา่ วไทยจงึ พดั พาเอาไอนาํ้ ไป ตกเปน็ ฝนทวั่ ไป ตง้ั แตจ่ งั หวดั ชมุ พรลงไปอากาศไมห่ นาวดงั เชน่ ภาคอน่ื ๆ ทอี่ ยทู่ างตอนบน ของประเทศและจงั หวดั ปตั ตานซี ง่ึ อยทู่ างดา้ นฝงั่ ตะวนั ออกไดร้ บั อทิ ธพิ ลของลมมรสมุ นจ้ี งึ ทำ�ให้มฝี นตกอยใู่ นเกณฑ์ปานกลางและมีอากาศเย็นเป็นคร้ังคราว ๒. ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใตซ้ งึ่ พดั ผา่ นมหาสมทุ รอนิ เดยี จงึ พาเอาไอนา้ํ และความ 18 สวสั ดปี ตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ชุ่มชื้นมาสู่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเทือกเขาตะนาวศรีด้านตะวันตกซ่ึงปิดกั้นกระแสลม เอาไว้ จงึ ท�ำ ใหบ้ รเิ วณภาคใตฝ้ งั่ ตะวนั ออกและจงั หวดั ปตั ตานมี ฝี นนอ้ ยกวา่ ภาคใตฝ้ งั่ ตะวนั ตกซงึ่ เปน็ ด้านรับลมมรสุม ฤดูกาล ฤดกู าลของจงั หวดั ปตั ตานแี บง่ ตามลกั ษณะของลมฟา้ อากาศของประเทศไทยออก ไดเ้ ป็น ๒ ฤดู คอื ๑. ฤดรู อ้ น เร่ิมตั้งแตก่ ลางเดอื นมกราคม ถงึ กลางเดอื นพฤษภาคม ระยะนีเ้ ป็นช่วง ว่างของฤดูมรสมุ หลังจากส้นิ ฤดูมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนอื อากาศจะเริ่มร้อนและอากาศ จะรอ้ นจดั ทสี่ ดุ ในเดอื นเมษายนและพฤษภาคม แตไ่ มร่ อ้ นมากนกั เนอื่ งจากภมู ปิ ระเทศเปน็ คาบสมทุ รอยู่ใกล้ทะเล กระแสลมและไอน้าํ จากทะเลทำ�ให้อากาศคลายความรอ้ นไปมาก ๒. ฤดฝู น เริม่ ตงั้ แตก่ ลางเดอื นพฤษภาคมถงึ กลางเดอื นมกราคม เป็นระยะเวลา ๙ เดือน โดยแบ่ง ออกไดเ้ ปน็ ๒ ชว่ ง คือ ชว่ งแรก จะเรม่ิ ตง้ั แตเ่ ดอื นพฤษภาคมไปจนถงึ เดอื นกนั ยายนเปน็ ระยะเวลา ๕ เดือน ช่วงนี้จะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย ในชว่ งนฝี้ นจะตกอยา่ งสมาํ่ เสมอแตม่ ปี รมิ าณไมม่ ากนกั โดยจะตกในชว่ งบา่ ยถงึ คา่ํ ซงึ่ แตล่ ะ เดือนจะมปี รมิ าณนํา้ ฝนเฉลยี่ อยู่ระหวา่ ง ๑๐๐ - ๑๕๐ มลิ ลเิ มตร ส�ำ หรับปี พ.ศ.๒๕๕๙ มี ฝนตกในช่วงนี้ ๕๙๐.๑ มิลลเิ มตร ชว่ งทส่ี อง เรม่ิ ตงั้ แตเ่ ดอื นตลุ าคมถงึ เดอื นมกราคม เปน็ ชว่ งทไ่ี ดร้ บั มรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พดั ผา่ นอา่ วไทย เปน็ ชว่ งทม่ี ฝี นตกมาก โดยเฉพาะในเดอื นพฤศจกิ ายนและ ธนั วาคม ปรมิ าณน้าํ ฝนสูงถึง ๓๗๐ - ๔๑๐ มิลลเิ มตร ส�ำ หรับปี พ.ศ.๒๕๕๙ มีฝนตกในชว่ ง น้ี ๘๖๕.๕ มลิ ลิเมตร บรรยายสรุปจังหวัดปัตตานี 19
อณุ หภูมิ เนอ่ื งจากจงั หวดั ปตั ตานตี งั้ อยใู่ นคาบสมทุ รทเ่ี ปน็ แหลมยนื่ ออกไปในทะเล จงึ ไดร้ บั อิทธพิ ลจาลมมรสุมอยา่ งเต็มทค่ี ือลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใตจ้ ากมหาสมุทรอนิ เดยี และลม มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดผ่านอ่าวไทย ทำ�ให้ได้รับไอนํ้าและความชุ่มชื้นมาก อุณหภูมิเฉล่ียจึงไม่สูงมาก และอากาศไม่ร้อนจัดในฤดูร้อน และจะมีอากาศเย็นได้ในบาง ครั้ง อุณหภูมเิ ฉลีย่ ตลอดปีในคาบ ๓๐ ปี (ปี ๒๕๒๔ - ๒๕๕๓) มีค่าอยู่ท่ี ๒๗.๑ องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ๓๒.๒ องศาเซลเซียส อุณหภูมิตํ่าสุดเฉลี่ย ๒๓.๓ องศา เซลเซยี ส ส�ำ หรับปี พ.ศ. ๒๕๕๙ มีอุณหภูมเิ ฉลีย่ มีคา่ อยู่ที่ ๒๙.๒๔ องศาเซลเซียส อณุ หภูมิ สงู สดุ เฉลย่ี ๓๕.๖๕ องศาเซลเซยี ส อณุ หภูมติ าํ่ สดุ เฉล่ยี ๒๒.๘๓ องศาเซลเซียส ความชนื้ สัมพัทธ์ ความชนื้ สมั พทั ธส์ มั พนั ธก์ บั มวลอากาศและอทิ ธพิ ลของลมมรสมุ เปน็ ส�ำ คญั ตลอด ท้ังปีของจังหวัดปัตตานีจะมีความช้ืนสัมพัทธ์อยู่ในเกณฑ์สูง เนื่องจากได้รับอิทธิพลจาก มรสุมท้ังสองฤดูคือมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มรสุมทั้งสองน้ี กอ่ นจะพดั เขา้ สบู่ รเิ วณจงั หวดั ปตั ตานไี ดพ้ ดั ผา่ นทะเลและมหาสมทุ รจงึ ไดพ้ าเอาไอนา้ํ และ ความชุ่มชื้นมาด้วย ทำ�ให้บริเวณจังหวัดปัตตานีมีความชื้นสัมพัทธ์สูงเป็นเวลานาน ความชน้ื สมั พทั ธ์เฉลยี่ ตลอดปี ๗๘-๘๕ % ความชนื้ สัมพทั ธ์สงู สดุ เฉล่ีย ๙๔ - ๙๖ % ความ ช้นื สัมพทั ธต์ า่ํ สุดเฉลยี่ ๕๖ - ๗๑ % สำ�หรบั ปี พ.ศ.๒๕๕๙ ความชื้นสัมพทั ธ์เฉลีย่ ตลอดปี ๗๑.๗๕ % ความชน้ื สมั พทั ธส์ งู สดุ เฉลย่ี ๙๗.๕๘ % ความชน้ื สมั พทั ธต์ า่ํ สดุ เฉลย่ี ๔๕.๙๒ % ฝน ปัตตานีเป็นจังหวัดท่ีอยู่ทางภาคใต้ฝ่ังตะวันออกจัดว่าเป็นจังหวัดท่ีมีฝนตกตลอด ทง้ั ปใี นฤดมู รสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จะมฝี นตกชกุ กวา่ ในฤดมู รสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ เพราะ อยู่ทางด้านตะวันออก ไม่มีภูเขาสูงใดกั้น จึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมนี้เต็มท่ีทำ�ให้มีฝนตก ชุก โดยเฉพาะเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ส่วนในฤดมู รสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้มฝี นตกนอ้ ย กวา่ ฤดมู รสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เพราะภมู ปิ ระเทศมแี นวเทอื กเขาตะนาวศรปี ดิ กน้ั ท�ำ ให้ ได้รับกระแสลมจากมรสุมน้ีไม่เต็มที่ ปริมาณฝนเฉลี่ยของจังหวัดปัตตานีอยู่ในเกณฑ์ดีถ้า เทียบท้ังประเทศ แต่ถ้าเทียบภายในภาคเดียวกันมีฝนอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ส�ำ หรับในปี 20 สวัสดีปัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
พ.ศ. ๒๕๕๙ มีปริมาณฝนรวม ๑,๗๘๑.๔ มลิ ลิเมตร มีฝนตก ๑๓๒ วัน ซงึ่ เดอื นทม่ี ฝี นตก มากที่สดุ คอื เดอื นธนั วาคม วดั ปรมิ าณได้ ๖๔๑.๐มิลลิเมตร หมอก ฟา้ หลัว และทศั นวสิ ัย โดยเฉลย่ี แลว้ จงั หวดั ปตั ตานมี โี อกาสเกดิ หมอกไดน้ อ้ ยมากประมาณเดอื นละ ๑ - ๒ วัน ส่วนมากจะเกิดระหวา่ งเดอื นกุมภาพันธ์ถงึ เมษายน วันทเี่ กดิ หมอกทัศนวสิ ัยไม่ดี มอง เหน็ ไดต้ า่ํ กวา่ ๑ กโิ ลเมตร สว่ นฟา้ หลวั เกดิ ไดต้ ลอดทง้ั ปี วนั ทมี่ ฟี า้ หลวั ทศั นวสิ ยั จะมองเหน็ ไดไ้ กลประมาณ ๖ - ๘ กโิ ลเมตร ทศั นวสิ ยั เฉลยี่ เวลา ๐๗.๐๐ น. จะมองเหน็ ไดไ้ กลประมาณ ๖-๘ กโิ ลเมตร และทัศนวสิ ยั เฉลี่ยตลอดวนั ประมาณ ๗-๙ กโิ ลเมตร ส�ำ หรับปี พ.ศ.๒๕๕๙ จงั หวดั ปัตตานี มหี มอก ๕ วัน มฟี ้าหลวั ชืน้ ๒๙๓ วนั และทศั นวสิ ัยเฉลี่ย ๙.๑๕ กโิ ลเมตร ลม ระบบหมุนเวยี นของลมในจงั หวดั ปตั ตานี ในฤดมู รสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หรอื ฤดู หนาว ลมส่วนใหญ่จะพัดจากทิศตะวันออกโดยตลอด จนเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนจนถงึ เมษายน กำ�ลงั ลมเฉล่ียประมาณ ๖ - ๑๑ กม./ชม. หลังจากสน้ิ ฤดรู ้อน เข้าสู่ฤดูฝนต้ังแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมจะเป็นลมทิศตะวันตก กำ�ลังลมเฉล่ีย ประมาณ ๖ - ๙ กม./ชม. ส�ำ หรบั ปี พ.ศ.๒๕๕๙ มคี วามเร็วลมเฉลี่ย ๒.๖ กม./ชม. บรรยายสรปุ จังหวดั ปตั ตานี 21
พายหุ มุนเขตรอ้ น พายุหมุนเขตร้อนท่ีผ่านบริเวณภาคใต้และส่งผลกระทบจังหวัดปัตตานี ส่วนมาก เป็นพายุดีเปรสชั่นท่ีมกี �ำ ลงั อ่อน ซึ่งกอ่ ตวั ขนึ้ ในทะเลจนี ใตห้ รือมหาสมุทรแปซิฟกิ เคลอ่ื น ตวั เขา้ มาในอา่ วไทยระหวา่ งเดือนตลุ าคมถึงธันวาคม พายนุ ี้จะทำ�ใหม้ ีฝนตกหนัก พายลุ ม แรงและเกิดสภาวะน้ําท่วมฉับพลันขึ้นได้ กำ�ลังแรงของลมและคลื่นลมในทะเลจะสูงขึ้น ทำ�ให้เกิดอนั ตรายแกก่ ารเดนิ เรือ และอาคารบ้านเรอื นทอี่ ย่ตู ามชายฝง่ั ทะเลได้ ส�ำ หรับ ปี พ.ศ.๒๕๕๙ ไมม่ พี ายุหมุนเขตเคลอ่ื นผ่านบริเวณจงั หวัดปัตตานแี ต่อย่างใด ตารางแสดงสถิตภิ ูมอิ ากาศรายเดอื นของจังหวดั ปตั ตานี ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ เดือน อณุ หภูมิ (เซลเซียส) ความชืน้ สัมพัทธ์ (%) ปริมาณฝน (มม.) มกราคม สงุ สุด ตํา่ สุด เฉล่ยี สงู สดุ ต่าํ สุด เฉล่ยี รวม วนั ที่ตก สงู สดุ กุมภาพนั ธ์ มีนาคม ๓๒.๙ ๒๓.๙ ๒๘.๔๐ ๙๗ ๕๑ ๗๔.๐๐ ๖๓.๐ ๙ ๒๖.๙ เมษายน ๓๓.๐ ๒๓.๕ ๒๘.๒๕ ๙๖ ๓๙ ๖๗.๕๐ ๑๓.๘ ๕ ๕.๕ พฤษภาคม ๓๕.๒ ๒๓.๓ ๒๙.๒๕ ๙๖ ๔๑ ๖๘.๕๐ ๐.๐ ๐ ๐.๐ มถิ นุ ายน ๓๖.๕ ๒๔.๕ ๓๐.๕๐ ๙๕ ๓๙ ๖๗.๐๐ ๐.๐ ๐ ๐.๐ กรกฎาคม ๓๕.๐ ๒๕.๒ ๓๐.๑๐ ๙๘ ๔๒ ๗๐.๐๐ ๒๐๖.๙ ๑๐ ๕๒.๒ สงิ หาคม ๓๓.๙ ๒๔.๖ ๒๙.๒๕ ๙๗ ๔๘ ๗๒.๕๐ ๑๒๑.๑ ๑๒ ๒๙.๘ กนั ยายน ๓๓.๘ ๒๔.๔ ๒๙.๑๐ ๙๙ ๕๓ ๗๖.๐๐ ๑๖๒.๔ ๑๓ ๖๙.๘ ตุลาคม ๓๓.๙ ๒๔.๗ ๒๙.๓๐ ๙๙ ๔๕ ๗๒.๐๐ ๕๖.๘ ๑๑ ๑๕.๓ พฤศจกิ ายน ๓๓.๖ ๒๔.๔ ๒๙.๐๐ ๙๗ ๔๐ ๖๘.๕๐ ๔๒.๙ ๙ ๑๕.๐ ธนั วาคม ๓๒.๘ ๒๔.๕ ๒๘.๖๕ ๙๙ ๔๙ ๗๔.๐๐ ๒๔๙.๐ ๒๐ ๔๗.๗ รวม ๓๑.๙ ๒๔.๖ ๒๘.๒๕ ๙๙ ๕๖ ๗๗.๕๐ ๒๒๔.๕ ๒๑ ๔๔.๒ เฉล่ีย ๓๐.๔ ๒๔.๐ ๒๗.๒๐ ๙๙ ๔๘ ๗๓.๕๐ ๖๔๑.๐ ๒๒ ๒๑๙.๒ ๔๐๒.๙ ๒๙๑.๖ ๓๔๗.๒๕ ๑๑๗๑ ๕๕๑ ๘๖๑.๐๐ ๑๗๘๑ ๑๓๒ ๕๒๕.๖ ๓๓.๕๘ ๒๔.๓๐ ๒๘.๙๔ ๙๗.๕๘ ๔๕.๙๒ ๗๑.๗๕ ๑๔๘.๔๕ ๔๓.๘๐ ๔๓.๘ ท่ีมา : สถานีอตุ นุ ยิ มวทิ ยาจังหวดั ปตั ตานี 22 สวสั ดีปัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ทรพั ยากรธรรมชาติ (๑) ปา่ ไม้ จงั หวดั ปตั ตานี มเี นอ้ื ทปี่ า่ ตามพระราชบญั ญตั ปิ า่ สงวนแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ ทง้ั สนิ้ ๙๙,๖๔๙ ไร่ ปา่ ไม้ถาวรตามมตคิ ณะรฐั มนตรี ๒๕,๙๙๕.๓๗๕ ไร่ กรมป่าไม้ได้ส่งมอบพื้นท่ี ใหส้ ำ�นกั งานปฏริ ปู ทีด่ ิน เพ่อื เกษตรกรรม ด�ำ เนนิ การปฏริ ปู ทด่ี ิน ส.ป.ก. ใหแ้ กเ่ กษตรกร ทั้งสิน้ ๙,๒๙๒-๓-๖๙ ไร่ มอี ุทยานแหง่ ชาติ ๒ แห่ง คืออุทยานแหง่ ชาตบิ ูโด-สไุ หงปาดี มี เนอ้ื ทป่ี ระมาณ ๒๑๓,๑๒๕ ไร่ ครอบคลุมพน้ื ท่ี ๓ จงั หวัด คือ จงั หวดั ปัตตานี (อำ�เภอกะพอ้ เน้อื ท่ี ๙,๖๐๗ ไร)่ จงั หวัดยะลา และจงั หวัดนราธิวาส และอุทยานแหง่ ชาตนิ ้าํ ตกทรายขาว มีเน้ือท่ีประมาณ ๔๓,๔๙๒ ไร่ ครอบคลมุ ๓ จงั หวัด คอื จังหวดั ปตั ตานี (อ�ำ เภอโคกโพธิ์ เนอ้ื ที่ ๑๖,๓๑๒.๕๐ ไร่) จงั หวดั ยะลา และจังหวดั สงขลา และเขตหา้ มล่าสตั ว์ปา่ ๑ แห่ง คอื เขตหา้ มลา่ สตั วป์ ่าปา่ รังไก่ สภาพปา่ สว่ นใหญข่ องจงั หวดั ปตั ตานเี ปน็ ป่าดิบชน้ื ป่าชาย เลน และปา่ พรุ จากขอ้ มูลเมอ่ื พ.ศ.๒๕๔๗ จากการแปลภาพถ่ายดาวเทียม Landsat - ๕ ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๔๗ จังหวัดปตั ตานี มเี นอื้ ท่ปี า่ ไม้รวม ๕๐,๑๒๕ ไร่ ปา่ บก ๒๖,๙๓๗ ไร่ ป่า ชายเลน ๒๓,๑๙๙ ไร่ (เนอ้ื ทป่ี า่ ไม้ หมายถงึ เนอ้ื ทปี่ า่ ทกุ ชนดิ ไมว่ า่ จะอยใู่ นเขตปา่ สงวนแหง่ ชาติ อทุ ยานแหง่ ชาติ หรือเน้อื ท่ปี า่ อนื่ ๆ) บรรยายสรุปจังหวัดปัตตานี 23
ประเภทของพ้ืนที่ป่าไม้ ๑. ปา่ สงวนแหง่ ชาติ ประกอบด้วย ๑๕ ป่า เนอ้ื ท่ี ๙๙,๖๔๘ ไร่ ตามกฎกระทรวง ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดงั นี้ ล�ำ ดับที่ พน้ื ทป่ี ่าไม้ ท้องท่อี �ำ เภอ จ�ำ นวน เนอื้ ท่ี หมายเหตุ (ไร่) กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ัง รับผิดชอบ จ�ำ นวน ๕ ปา่ ๑ ป่าเลนยะหรงิ่ ยะหรงิ่ ๑ ป่า ๖,๒๑๒ ๒ ป่าเลนยะหรง่ิ แปลงท่ี ๒ ยะหรงิ่ ๑ ปา่ ๑,๒๕๐ ๓ ปา่ เลนยะหรง่ิ แปลงที่ ๓ ยะหร่ิง ๑ ปา่ ๓๗๕ ๔ ปา่ เลนหนองจกิ หนองจกิ ๑ ปา่ ๑๒,๑๘๗ ๕ ปา่ ดอนนา หนองจิก ๑ ป่า ๔,๘๔๔ กรมป่าไม้ รับผิดชอบ จำ�นวน ๑๐ ปา่ ๑ ปา่ ไมแ้ กน่ ไมแ้ ก่น ๑ ป่า ๔,๐๒๐ ๒ ปา่ สายโฮ่ ๓ ปา่ บาโงจะลาฆี หนองจกิ ๑ ป่า ๖,๗๕๐ ๔ ป่าเขายโี ดะ๊ ยะรงั ๑ ปา่ ๖๒๕ ๕ ป่าบูเกะ๊ ก้งุ ๖ ป่าเขาตูม มายอ,ท่งุ ยางแดง, ๑ ปา่ ๒๒,๕๐๐ ๗ ปา่ เทือกเขาเปาะยานิ สายบรุ ี ๘ ป่ากะรบุ ี มายอ, ทุ่งยางแดง ๑ ปา่ ๙๓๓ ๑๐ ปา่ บเู ก๊ะตางอ ปา่ เขาใหญ่ ยะรงั ๑ ปา่ ๑,๘๕๐ ยะรงั , มายอ ๑ ปา่ ๑๐,๐๐๘ สายบุรี ๑ ปา่ ๒,๕๐๐ ประกาศกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๘๘๓ (๒๕๒๓) ซึ่ง ขณะนัน้ ต.กะรบุ ี ยงั อยใู่ น อ.สายบุรี ท่งุ ยางแดง ๑ ป่า ๑,๒๑๙ โคกโพธิ์ ๑ ปา่ ๒๔,๓๗๕ บางส่วนอย่ใู นเขตอทุ ยาน แหง่ ชาตนิ ้ําตกทรายขาว 24 สวสั ดีปตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
๒. อุทยานแห่งชาติ ประกอบด้วย ๒ อุทยาน ดังนี้ ลำ�ดับที่ พื้นท่ปี า่ ไม้ ท้องท่ีอ�ำ เภอ จำ�นวน เนอื้ ท่ี (ไร)่ หมายเหตุ กะพ้อ ๑ อุทยานแห่งชาติบโู ด - ๑ แหง่ ๘,๖๐๗ ครอบคลุม ๓ จงั หวัด คอื สุไหงปาดี โคกโพธิ์ ๑ แห่ง ๑๖,๓๑๒.๕ ปัตตานี ยะลา และ นราธวิ าส เนอ้ื ที่ประมาณ ๒ อุทยานแห่งชาติ ๒๑๓,๑๒๕ ไร่ นา้ํ ตกทรายขาว ครอบคลมุ ๓ จังหวดั คอื ปตั ตานี ยะลา และสงขลา เนอ้ื ทีป่ ระมาณ ๔๓,๔๘๒ ไร่ บบรรรรยยายายสสรรปุ ปุ จจงั งัหหววัดัดปปัตตั ตตานานี ี 25
๓. พน้ื ทท่ี กี่ รมปา่ ไมม้ อบใหส้ �ำ นกั งานการปฏริ ปู ทดี่ นิ เพอ่ื เกษตรกรรม (ส.ป.ก) ทอ้ ง ท่จี งั หวดั ปัตตานี ประกอบดว้ ย ๕ ป่า เน้ือทร่ี วม ๙,๒๙๒-๓-๖๘ ไร่ ดังนี้ ล�ำ ดับที่ ป่าสงวนแหง่ ชาติ เนือ้ ที่ มอบให้ คงเหลือ (พื้นที่ตามการจำ�แนกการใช้ (ไร-่ งาน-ตาราวา) (ไร-่ งาน-ตารางวา) (ไร่-งาน-ตารางวา) ประโยชน์) ๑. ปา่ สายโฮ่ ๖,๗๕๐-๐-๐๐ ๒,๕๙๐-๓-๒๕ ๔,๑๕๙-๐-๗๕ ๓๘,๖๙๐ ๒. ปา่ บาโงจะลาฆี ๑,๗๒๕-๐-๐๐ ๑,๕๗๐-๒-๔๘ ๑๕๔-๑-๕๒ ๓. ปา่ เทอื กเขาเปาะยานิ ๑๐,๐๐๘-๐-๐๐ ๒,๑๖๐-๐-๐๐ ๗,๘๔๘-๐-๐๐ ๔. ป่าเขายโี ด๊ะ ๒๘,๐๕๐-๐-๐๐ ๒,๔๘๑-๐-๐๐ ๒๕,๕๖๙-๐-๐๐ ๕. ปา่ บูเกะ๊ กงุ้ ๑,๔๕๐-๐-๐๐ ๑๙๐-๑-๙๕ ๙๕๙-๓-๐๕ รวม รวม ๕ แหง่ ๕ แหง่ ๔๗,๙๘๓๔-๐๗-๐,๐๙๘๓๘-,๙๐๙-๒๐-๓๐-๖๘ ๘,๓๙๘๙,๖๙๒๐--๑๓-๓-๒๖๘ มายเหตุ หมาสยําเหหตรุับสพำ�ห้ืนรทับี่ปพ่าน้ื คทง่ปี สา่ ภคางสพภแาพละแพลื้นะพท้ืนี่ปท่าีป่ เส่าเื่อสมื่อมโทโทรรมมปปัจจั จจุบุบัันนกกรรมมปป่า่าไมไม้ แ้ และลกะรกมรมอุทยานแห่ง อุทปยา่ าแนลแะหพ่งชนั าธตพ์ุิสัตชื ว์ปย่าังแไมลมะ่ พกี ันาธร์พุสชืาํ รยวังจไมในม่ ีกพา้ืนรทส�ำจี่ รงึ วไจมในม่ พีขืน้อ้ ทมจ่ีลู ึงแไมต่ม่อขีย้อา่ มงูลใดแตอ่ ย่างใด พน้ื ทพ่ีปน้ื า่ ทสงป่ี วา่ นสในงวจนงั หใวนัดจปงั ตัหตวาดั นปี ตั ตานี ที่มาท่มี: าสํา: นส�ำกั นงักางนาทนรทพัรัพยยาากกรรธธรรมชชาาตตแิ ิแลละะสส่ิงแง่ิ วแดวลด้อลม้อจมงั หจวงั ัดหปวตัดั ตปาัตนตี านี ) แร่ธาตุ 26 สวสั ดีปัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI จังหวัดปัตตานีมีรายได้จากค่าภาคหลวงแร่และค่าธรรมเนียมแรไ่ ม่มากนัก เนื่องจากได้รบั สิท
(๒) แรธ่ าตุ จงั หวดั ปตั ตานมี รี ายไดจ้ ากคา่ ภาคหลวงแรแ่ ละคา่ ธรรมเนยี มแรไ่ มม่ ากนกั เนอื่ งจาก ไดร้ บั สทิ ธกิ ารท�ำ เหมอื งมปี ระทานบตั รเพยี งจ�ำ นวน ๑ แปลงทบ่ี า้ นเตราะปลงิ ต�ำ บลทงุ่ คลา้ อำ�เภอสายบรุ ี ชนดิ แรห่ นิ แกรนิต (เพื่ออตุ สาหกรรมการก่อสรา้ ง) ปัจจุบันไมไ่ ดเ้ ปิดการทำ� เหมอื งผลติ แรแ่ ตอ่ ยา่ งใดเนอื่ งจากอยรู่ ะหวา่ งการขอใบอนญุ าตซอื้ มใี ช้ ซงึ่ วตั ถรุ ะเบดิ (แบบ ป.๕) รายไดท้ จ่ี ดั เก็บได้จงึ มีเฉพาะค่าธรรมเนียมแรเ่ ท่านั้น การใชแ้ ละถือครองท่ีดิน การออกเอกสารสทิ ธิ มพี น้ื ทอี่ อกเอกสารสทิ ธแิ ลว้ จ�ำ นวน ๔๘๕,๙๓๓ แปลง เนอ้ื ที่ ๖๔๑,๑๗๐ ไร่ และสามารถเปรยี บเทยี บเอกสารสิทธแิ ตล่ ะประเภทต่อพ้นื ทท่ี ี่ออกเอกสาร สิทธิทั้งหมด ดังน้ี ๑. เอกสารสทิ ธิประเภท โฉนดที่ดนิ ๓๙๔,๘๐๕ แปลง เนือ้ ที่ ๔๐๖,๖๒๑ ไร่ ๒ งาน ๗๑.๘ ตารางวา ๒. เอกสารสทิ ธิ น.ส.๓ ก ๗๔,๐๘๑ แปลง เนือ้ ท่ี ๑๓๑,๓๖๒ ไร่ ๑ งาน ๐๙.๖ ตารางวา ๓. เอกสารสิทธิ น.ส.๓ ๑๔,๕๐๑ แปลง เน้ือท่ี ๖๔,๒๔๖ ไร่ ๒ งาน ๔๖.๔ ตารางวา ๔. เอกสารสิทธปิ ระเภทใบจอง ๘๐๐ แปลง เน้อื ท่ี ๓,๙๖๓ ไร่ ๕. หนงั สือส�ำ คัญส�ำ หรบั ทหี่ ลวง (นสล.) ๑,๗๔๖ แปลง เนือ้ ท่ี ๓๔,๙๗๘ ไร่ แหลง่ นาํ้ ๑. แมน่ า้ํ ปตั ตานี มตี น้ นาํ้ เกดิ จากเทอื กเขาสนั กาลาครี ี บรเิ วณรอยตอ่ เขตแดนไทย มาเลเซยี ในเขตอ�ำ เภอเบตง จงั หวดั ยะลาไหลจากทศิ ใตไ้ ปทศิ เหนอื ผา่ นอ�ำ เภอเบตง อ�ำ เภอ ธารโต อ�ำ เภอบนั นงั สตา อ�ำ เภอกรงปนิ งั อ�ำ เภอเมอื งยะลา ผา่ นอ�ำ เภอยะรงั อ�ำ เภอหนองจกิ และอ�ำ เภอเมอื งปตั ตานี มีความยาว ประมาณ ๑๙๐ กิโลเมตร พืน้ ทล่ี ุม่ นา้ํ ๔,๙๗๙ ตาราง กโิ ลเมตร มีนํา้ ไหลตลอดปี เปน็ แมน่ ํ้าสายส�ำ คัญใช้ ประโยชน์ในการอปุ โภค อตุ สาหกรรม บรรยายสรุปจังหวัดปัตตานี 27
เกษตรกรรม ผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ตอนบนของแม่น้ําได้มีการ ก่อสรา้ งเข่อื นบางลาง ท่อี �ำ เภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ปรมิ าตรความจะเกบ็ กกั ๑,๔๒๐ ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ําอเนกประสงค์แห่งแรกของภาคใต้ ติดตั้งเคร่ือง ก�ำ เนิดไฟฟา้ ๓ เครอ่ื ง ขนาดเครือ่ งละ ๒๔,๐๐๐ กโิ ลวัตต์ มกี ำ�ลงั ผลติ รวม ๗๒,๐๐๐ กโิ ล วัตต์ ให้พลงั งานไฟฟา้ ปลี ะ ประมาณ ๒๐๐ ลา้ นกิโลวัตต์ชวั่ โมง ๒. แม่นํ้าสายบุรี ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขาสันกาลาคิรี ในเขตอำ�เภอสุคิรินจังหวัด นราธวิ าส มีความยาวประมาณ ๑๗๐ กิโลเมตรไหลผา่ นอ�ำ เภอ จะแนะ ศรีสาคร รอื เสาะ จังหวัดนราธิวาส และอำ�เภอรามัน จังหวัดยะลา ไหลลงสู่ทะเลที่อำ�เภอสายบุรี จังหวัด ปัตตานี มีพื้นท่ีลุ่ม ๔,๖๐๐ ตารางกิโลเมตร มีนํ้าไหลตลอดปีใช้ในการอุปโภค-บริโภค 28 28บรรยาสยวสัสรดปุ จปี ังตั หตวาดันปี SัตEตLAานMี AT DATANG KE PATTANI
เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ตน้ นา้ํ สายบรุ ีมีแหล่งแร่ทองค�ำ คอื เหมืองโต๊ะโมะในอดีต แม่น้ําสายบุร่ีเป็นแหล่งทองคำ�ทรายท่ีสามารถร่อนหาได้ตลอดแนวลำ�น้ํา การใช้น้ํา จาก แม่นํ้าสายบุรี เพ่ือประโยชน์ด้านชลประทานในปัจจุบันมีน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับแม่นํ้า สายอน่ื ๆ ๓. คลองท่าเรอื เดมิ มีต้นนํ้าอยู่ที่บา้ นห้วยน้ําเย็น บริเวณเขาลาแมในตำ�บลปุโละ ปุโย อำ�เภอหนอกจิก ตอ่ มากรมชลประทานได้พฒั นาขุดลอกเป็นคลองระบายน้ําสายใหญ่ ชอื่ คลองดหี นง่ึ (D๑) และไดเ้ พม่ิ ความยาวของคลองไปยงั ตน้ นา้ํ จนถงึ บา้ นควนโนรี อ�ำ เภอ โคกโพธิ์ เพื่อให้รับนํ้าจากบริเวณต้นน้ําได้มากข้ึนปัจจุบันคลองท่าเรือ มีความยาว ๔๒ กโิ ลเมตร ไหลจากทศิ ใตไ้ ปทางทศิ ตะวันตกเฉยี งเหนือผ่านอำ�เภอโคกโพธิ์ จังหวัดปตั ตานี ลงสทู่ ะเลทบ่ี า้ นท่ายาม อำ�เภอหนองจกิ สภาพลำ�น้ํามีคลองสาขายอ่ ยหลายสาขาทำ�ให้มนี ้ํ าตลอดปี ในอดดี เปน็ คลองทม่ี คี วามอดุ มสมบรู ณเ์ ปน็ อยา่ งมาก เคยเปน็ สาขาหนง่ึ ของแมน่ ้ํ าปตั ตานี ภายหลงั ล�ำ นาํ้ ตน้ื เขนิ เปลย่ี นทางเดนิ ท�ำ ใหส้ ภาพทางนา้ํ เปลย่ี นไป ปจั จบุ นั มกี าร ใชป้ ระโยชน์ทางด้าน การเกษตร การประมง และการบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้าํ ตานี ๔. คลองตยุ ง หรอื คลองหนองจกิ ตน้ นา้ํ แยกจากแมน่ าํ้ ปตั ตานี ทต่ี �ำ บลยาบี อ�ำ เภอ หนองจกิ ไหลไปทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ผา่ นต�ำ บลลปิ ะสะโงเกาะเปาะแล ตยุ ง ไหลออก ทะเลที่ตำ�บลบางตาวาใน เขตอ�ำ เภอหนองจกิ เรยี กวา่ คลองบางตาวา ชว่ งท่ีไหลผา่ นบา้ น มะพร้าวต้นเดียว บ้านต้นหยงปุโละ บ้านกา เดาะบ้านคลองวัว เรียกช่ือคลองกาแลกูโบ และชว่ งทไี่ หลผา่ นต�ำ บลตยุ งเรยี กชอ่ื วา่ คลองตยุ ง ในชว่ งตน้ นา้ํ แยกจากแมน่ า้ํ ปตั ตานี เรยี ก วา่ คลองหนองจิก เดิมเป็นแม่น้าํ สายหลักของแมน่ ้ําปตั ตานี และมคี วามส�ำ คญั มากที่สดุ ใน อดีด (Cameron, ๑๘๘๓ : ๔๔) พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวเสด็จประพาส เมอื งหนองจิก ผ่านทางแม่นา้ํ สายนี้เมือ่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๒ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๓๙ สมเด็จกรมพระยาดำ�รง ราชานุภาพเสดจ็ ตรวจราชการเมืองหนองจกิ และกล่าวถงึ ความ อุดมสมบูรณ์ของลำ�น้ําสายน้ีด้วยเช่นกัน จนถึงปัจจุบัน สภาพคลองตื้นเขิน เน่ืองจากนํ้า เปลย่ี นทศิ ทาง ท�ำ ให้น้าํ เค็มรุกลํา้ เข้ามามาก กรมชลประทาน ต้องทำ�โครงการปอ้ งกันนาํ้ เค็มโดยสร้างประตูระบายน้ําท่ีบ้านตุยงป้องกันไว้เพ่ือให้สามารถใช้นํ้าจืด เพ่ือการเกษตร กรรมได้ ๕. คลองบางเขา เดมิ มตี น้ นาํ้ อยบู่ รเิ วณบา้ นปะแดลางา ในเขตต�ำ บลบอ่ ทอง อ�ำ เภอ หนองจกิ ปจั จบุ นั ไดร้ บั การพฒั นาโดยกรมชลประทานท�ำ การขดุ คลองเปน็ คลองระบายนาํ้ สายใหม่ ช่อื คลองดสี อง (D๒) และเพ่ิมความยาวไปทางต้นน้ํา เขา้ ไปรับนํ้าที่บา้ นทองหลา บรรยายสรปุ จงั หวดั ปัตตานี 29
ต�ำ บลแมล่ าน อ�ำ เภอแมล่ าน จงั หวดั ปตั ตานี ไหลจากทศิ ใตไ้ ปทศิ เหนอื ผา่ นอ�ำ เภอหนองจกิ และเล้ียวไปทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ทบ่ี ้านบาง เขาไปรวมกบั คลองกาแล และคลองท่า ยามู ลงทะเลที่บ้านต้นหยงเปาว์ มีน้ําตลอดปี มีการใช้ประโยชน์ด้าน เกษตรกรรม การ ประมง และ การเลี้ยง กุ้งกุลาดำ� ในอดีดสองฝ่ังคลองนีท้ ี่บริเวณบ้านโคกกอ เคยเปน็ อู่ขา้ วอนู่ ้ํา ขนาดใหญ่ของเมืองปัตตานี ๖. คลองตันหยง ตน้ น้าํ อยูท่ ่เี ขาบเู กะกาบอ และเขาหนิ ขาวทีบ่ ้านนา้ํ ใส ตำ�บลลุ โบะยไิ ร อ�ำ เภอมายอ จงั หวัดปัตตานี ไดร้ ับการพฒั นาจากกรมชลประทาน ท�ำ การขดุ ลอก เป็นคลองระบายน้ําสายใหญ่ เรียกว่าคลองดีสาม (D๓) ไหลไปทางทิศเหนือไปตามคลอง นาํ้ ใสเดมิ รวมกบั คลองเขา้ วงั เรยี กวา่ คลองมายอ ผา่ นตวั อ�ำ เภอมายอไปรวมกบั คลองกระ เสาะ ท่ีบ้านถนน ตำ�บลถนน เรียกวา่ คลองลางสาด ไหล ผา่ นบ้านโต้ะกอตา บา้ นตนั หยง ดาลอ เรยี กวา่ คลองตันหยง รวมกับคลองสาบนั ไหลเลยี้ วไปทางทิศ ตะวันตกเฉยี งเหนอื เรยี กวา่ คลองยะหรง่ิ ไหลลงคลองยามู และไปลงทะเลทอ่ี า่ วบางปู บา้ นตาโละอาโห อ�ำ เภอ ยะหริง่ จังหวัดปัตตานี ความยาว ประมาณ ๕๓ กิโลเมตร คลองตนั หยงเป็นแม่น้าํ สาย ใหญ่ ในอดีดนิยมใช้เดนิ ทางไปอ�ำ เภอปานาเระ โดยผา่ นไปตามคลองยามู เลยี บผ่านผืนป่า โกงกางขนาดใหญ่ไปตามบ้าน หนองแรด บา้ นคลองกะดี ไปถึง บา้ นท่าม่วงได้ ๗. คลองปาเระและคลองกรือเซะ เป็นแม่น้ําท่ีมีความสำ�คัญในอดีตโดยสามารถ เชื่อมตอ่ กับเมืองโบราณยะรังได้ ปจั จุบันบางตอนไดต้ น้ื เขินไปแล้ว คลองกรือเซะ เชอ่ื มต่อ จากคลองมานิงท่ีบ้านปาแดบองอ ตำ�บลตะลุโบ ไหลขึ้นไปทางทิศเหนือผ่านบ้านจือโระ ต�ำ บลบานา และบ้านกรอื เซะ ตำ�บลตนั หยงลโู ละรวม กบั คลองปาเระ ท่บี ้านดี ต�ำ บลบารา โหม ออกสู่ทะเลทอี่ ่าวปตั ตานี ส่วนต้นนํา้ คลองปาเระ ไหลจากอ�ำ เภอยะรัง ผ่านตำ�บลกะ มยิ อ รวมกับคลอง กรือเซะ บริเวณนีเ้ คยเปน็ แหล่งตง้ั ถ่ินฐานและทำ�การคา้ สมยั โบราณ มี แหลง่ เตาเผามเี ศษภาชนะเครอื่ งถ้วยชามสมัยต่าง ๆ ตกกระจดั กระจายอยู่มากมาย ชมุ ชน ทีเ่ คยมีช่ือเสียงในอดีต เชน่ กาแลบอื ชา (ทา่ เรอื ใหญ)่ กาแลจินอ (ท่าจนี ) และทาระ (ท่า ราบ) เป็นต้น ๘. คลองตะมางนั คลองนข้ี ดุ ขน้ึ ในสมยั รายาฮเิ ยา เนอ่ื งจากล�ำ นาํ้ ทอ่ี ยใู่ กลพ้ ระราช ฐานเกิดน้ําทะเลรกุ ลํา้ เข้าสู่ล�ำ คลองท�ำ ให้ราษฎรไม่สามารถใช้นา้ํ อุปโภค - บรโิ ภคได้ จึงมี การเกณฑ์คนช่วยกนั ขุดคลองทีบ่ ้านตะมางนั ระหว่างตำ�บลเมาะมาวกี บั ตำ�บลปรีกี อ�ำ เภอ 30 สวสั ดปี ัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ยะรงั เพอ่ื ระบายนา้ํ ในแมน่ า้ํ ปตั ตานี ไหลลงสคู่ ลองใหมท่ ข่ี ดุ ขน้ึ จากบา้ นตะมางนั - บา้ นกรอื เซะ ออกสทู่ ะเลทบี่ า้ นตนั หยงลโู ละ ท�ำ ใหร้ าษฎรใชน้ า้ํ อปุ โภค - บรโิ ภค และประกอบการเกษตร กรรมไดผ้ ลดีอกี ดว้ ย (Ibrahim Syukri, ๑๙๘๕) ตอ่ มาปรากฏว่านํา้ จดื จากคลองตะมางนั ท�ำ ใหน้ าเกลอื เสยี หายมาก ท�ำ นาเกลอื ไม่ไดผ้ ล นอกจากนั้นคลองตะมางันถกู กระแสนํ้าใน แม่น้ําปัตตานี ไหลในสมัยรายาบีรู จึงส่ังให้ราษฎรทำ�ทำ�นบกั้นนํ้าในลำ�คลองไว้ (อนันต์ วฒั นานกิ ร, ๒๕๓๑) ปจั จบุ นั เรยี กหมบู่ า้ นที่ สรา้ งท�ำ นบกนั้ นา้ํ นวี้ า่ “บา้ นตาเนาะบาต”ู หรอื บ้านท�ำ นบหนิ อยู่ในเขตทอ้ งท่ี ต�ำ บลบาราเฮาะ อ�ำ เภอเมอื ง จังหวดั ปัตตานี หลังจากสรา้ ง ทำ�นบกั้นลำ�นํ้าไว้ คลองตะมางันก็ค่อยๆ ต้ืนเขิน ปัจจุบันเหลือเพียงร่องรอย ทางน้ําเก่า เท่านั้น ๙. คลองสุไหงบารู (คลองใหม่) อยู่ในเขตอำ�เภอยะรัง เป็นการขุดเชื่อมแม่น้ํา ปตั ตานใี นสมยั การปกครอง ๗ หวั เมอื ง เนอื่ งจากล�ำ นา้ํ ปตั ตานเี ดมิ เมอื่ ไหลผา่ น ถงึ บา้ นปรกี ี กจ็ ะไหลวกไปต�ำ บลคอลอ-ตน้ หยง ตำ�บลยาบี ซงึ่ อยูใ่ นเขตอำ�เภอหนองจิก แล้วจงึ แยกมา ออกทบ่ี า้ นอาเนาะบโุ ละ ต�ำ บลยะรงั สปู่ ากนาํ้ เมอื งปตั ตานี ดงั นน้ั เรอื แพทมี่ าคา้ ขายกบั เมอื ง ยะลาตอ้ งผา่ นดา่ นภาษขี องหนองจกิ เรอื แพเหลา่ น้ี จ�ำ เปน็ ตอ้ งเสยี ภาษใี หแ้ กเ่ มอื งหนองจกิ กอ่ นที่จะถึงด่านภาษีของเมอื งปัตตานี ท�ำ ใหเ้ มอื งปตั ตานขี าดผลประโยชนใ์ นการเก็บภาษี เจ้าเมอื งปัตตานสี มยั นนั้ คอื สุลต่านสุไลมาน ชารฟี ุดิน ชาห์ จงึ สั่งให้ขุดคลอง ลัดขนึ้ ตรง บ้านคลองใหมส่ ู่ตำ�บลยะรงั เขตพืน้ ทีเ่ มืองปัตตานี ความยาวประมาณ ๗ กิโลเมตร ทำ�ให้ แมน่ า้ํ ปตั ตานสี ายเดมิ ในเขตอ�ำ เภอหนองจกิ มนี า้ํ จดื ไหลผา่ นนอ้ ยลงมากสง่ ผลเสยี หาย ตอ่ การทำ�นาข้าว บริเวณท่งุ หนองจิก เนื่องจากน้าํ ทะเลไดร้ ุกลาํ้ เข้าแทนท่ใี นเวลาตอ่ ไป บรรยายสรปุ จงั หวัดปตั ตานี 31
โครงสรา้ งพ้นื ฐาน (๑) ไฟฟา้ สำ�นักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปัตตานี รับผิดชอบ ผู้ใช้ไฟฟ้าและการ จำ�หนา่ ยกระแสไฟฟ้า จ�ำ แนกตามประเภทผใู้ ช้ ประจ�ำ ปงี บประมาณ ๒๕๕๙ มีจ�ำ นวนผูใ้ ช้ ไฟฟ้า ๑๗๐,๗๖๔ ราย การจ�ำ หน่ายกระแสไฟฟา้ ทง้ั ส้ิน ๔๔,๘๑๗,๙๒๖.๐๗ หน่วย แสดง ไดด้ ังนี้ ตารางแสดงการใช้กระแสไฟฟา้ ในพืน้ ทจี่ ังหวดั ปัตตานี ประจำ�ปี ๒๕๕๙ ตารางแสดงการใชก้ ระแสไฟฟา้ ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั ปตั ตานี ประจาํ ปี ๒๕๕9 จํานวนผู้ใช้ไฟฟ้า การจาํ หนา่ ยกระแสไฟฟา้ (ล้านกิโลวตั ต/์ ชว่ั โมง) Eiectricity sales (Gwh.) (ราย) รวม ท่อี ยู่อาศยั สถานธรุ กิจและ สถานทร่ี าชการ อืน่ ๆ อาํ เภอ Number of consumer Total Residential อตุ สาหกรรม และสาธารณะ Others District กฟภ.ปตั ตานี (Person) Business and Government office ไฟชั่วคราว กฟส.หนองจกิ กฟส.โคกโพธ์ิ industry and public utility กฟย.ยะหร่ิง กฟย.ยะรัง 39,610 20,393,062.86 33,970 4,357 16 1,267 กฟย.แมล่ าน กฟอ.สายบุรี 19,427 7,126,576.22 18,133 1,032 25 237 กฟส.มายอ กฟย.ไม้แกน่ 16,429 2,739,490.41 15,127 1,019 17 266 กฟย.ปะนาแระ กฟย.ทงุ่ ยางแดง 10,104 1,730,345.48 9,827 20 16 241 กฟย.กะพอ้ 18,184 2,614,396.17 17,122 774 20 268 7,059 939,956.63 6,702 346 7 24 15,843 2,723,635.94 15,064 773 24 22,715 3,471,974.90 21,588 1,125 2 4,363 678,789 4,180 181 2 6,985 940,157.12 6,709 275 1 5,730 932,750.34 5,474 253 21 4,295 526,791 4,126 166 3 รวม 170,764 44,817,926.07 158,022 10,321 113 2,308 ทมี่ า : การไฟฟ้าสว่ นภูมิภาคจังหวดั ปัตตานี ณ วันท่ี 11 พฤษภาคม 2560 (๒) โทรศพั ท์ จังหวัดปัตตานีมีจํานวนเลขหมายโทรศัพท์ในปี ๒๕๕9 ทั้งส้ิน 29,671 เลขหมาย เป็นเลขหมายที่มีผู้ เชา่ จาก บริษทั ทีโอที จํากัด (มหาชน) จํานวน 21,520 เลขหมาย ในจํานวนน้ีการใช้โทรศัพท์บ้านมีการเช่าเลข หมายมากที่สุด 11,801 เลขหมาย คิดเป็นร้อยละ ๗๐.๖๒ ของจํานวนเลขหมายท้ังหมด รองลงมาเป็น ส่วน ราชการ หน่วยธุรกิจ เลขหมายสาธารณะ และเลขหมาย ท.ศ.ท. ตามลําดับ และมีเลขหมายของผู้ได้รับสัมปทาน คือ บรษิ ัท ทีที แอนด์ที จาํ กดั (มหาชน) จาํ นวน 4,526 เลขหมาย ตารางแสดงบรกิ ารโทรศพั ทใ์ นจังหวดั ระหวา่ งปี ๒๕๕๑– ๒๕๕9 ปี 32 จํานวสนวสั ดีปตั ตานี SELAMAT DจAาํ TนAวNนGเลขKหEมาPยAทTีม่ Tผี A้เู Nช่าI จํานวน เลขหมายที่มี รวม ราชการ บา้ น ธรุ กจิ ท.ศ.ท. สาธารณะ เลขหมายTT&T ๒๕๕๑ ๒๕,๘๙๗ ๑๘,๖๘๘ ๑,๗๓๐ ๑๓,๘๑๓ ๑,๖๔๗ ๒๖๕ ๑,๒๓๓ ๙,๔๒๐
(๒) โทรศัพท์ จงั หวดั ปัตตานมี จี ำ�นวนเลขหมายโทรศพั ทใ์ นปี ๒๕๕๙ ทั้งสิ้น ๒๙,๖๗๑ เลขหมาย เปน็ เลขหมายทีม่ ีผเู้ ชา่ จาก บริษัท ทโี อที จ�ำ กัด (มหาชน) จ�ำ นวน ๒๑,๕๒๐ เลขหมาย ใน จ�ำ นวนน้ีการใช้โทรศัพทบ์ ้านมกี ารเชา่ เลขหมายมากทสี่ ดุ ๑๑,๘๐๑ เลขหมาย คิดเป็นรอ้ ย ละ ๗๐.๖๒ ของจ�ำ นวนเลขหมายทงั้ หมด รองลงมาเปน็ สว่ นราชการ หนว่ ยธรุ กจิ เลขหมาย สาธารณะ และเลขหมาย ท.ศ.ท. ตามล�ำ ดบั และมเี ลขหมายของผไู้ ดร้ บั สมั ปทาน คอื บรษิ ทั ทที ี แอนด์ที จำ�กดั (มหาชน) จ�ำ นวน ๔,๕๒๖ เลขหมาย ตารางแสดงบรกิ ารโทรศพั ทใ์ นจงั หวดั ระหว่างปี ๒๕๕๑– ๒๕๕๙ จำ�นวน จำ�นวนเลขหมายทม่ี ผี ู้เช่า จ�ำ นวน ปี เลขหมาย เลขหมาย ที่มี รวม ราชการ บ้าน ธุรกจิ ท.ศ.ท. สาธารณะ TT&T ๒๕๕๑ ๒๕,๘๙๗ ๑๘,๖๘๘ ๑,๗๓๐ ๑๓,๘๑๓ ๑,๖๔๗ ๒๖๕ ๑,๒๓๓ ๙,๔๒๐ ๒๕๕๒ ๒๘,๒๒๔ ๒๐,๗๒๗ ๑,๘๙๐ ๑๕,๕๗๔ ๑,๖๕๕ ๒๘๖ ๑,๓๒๒ ๖,๗๗๕ ๒๕๕๓ ๒๘,๙๒๐ ๒๐,๕๔๒ ๑,๙๗๐ ๑๕,๒๒๐ ๑,๖๗๙ ๒๘๘ ๑,๓๘๕ ๕,๖๑๐ ๒๕๕๔ ๒๙,๔๑๒ ๒๐,๑๐๖ ๒,๐๑๔ ๑๔,๘๗๖ ๑,๗๐๔ ๒๘๘ ๑,๒๒๔ ๑๐,๗๙๒ ๒๕๕๕ ๒๙,๔๘๔ ๑๘,๙๒๓ ๒,๐๐๔ ๑๓,๗๒๖ ๑,๗๐๔ ๒๘๘ ๑,๒๐๑ ๔,๑๖๙ ๒๕๕๖ ๒๙,๔๘๔ ๑๗,๙๑๒ ๑,๙๙๒ ๑๒,๘๔๐ ๑,๗๐๔ ๒๘๘ ๑,๐๘๘ ๓,๙๔๙ ๒๕๕๗ ๒๙,๕๘๐ ๑๖,๙๘๗ ๑,๙๗๙ ๑๑,๙๐๐ ๑,๗๐๖ ๒๘๘ ๑,๑๘๘ ๔,๓๒๗ ๒๕๕๘ ๒๙,๖๗๑ ๒๑,๕๒๐ ๑,๙๘๔ ๑๑,๘๐๑ ๑,๗๐๕ ๒๘๘ ๑,๒๑๖ ๔,๕๒๖ ๒๕๕๙ ๒๙,๖๐๔ ๑๕,๗๒๔ ๑,๙๔๔ ๑๐,๖๙๗ ๑,๖๘๗ ๒๘๘ ๑,๑๐๘ ๒,๗๐๐ ทีม่ า : โทรศพั ทจ์ งั หวัดปตั ตานี ข้อมูล ณ พฤษภาคม ๒๕๖๐ บรรยายสรุปจงั หวัดปัตตานี 33
(๓) ถนน จงั หวัดปตั ตานี มีระยะทางถนนท่ีก่อสรา้ งแล้วเสร็จ ซงึ่ อยใู่ นความรับผดิ ชอบของ แขวงทางหลวงชนบทปตั ตานี และแขวงทางหลวงปตั ตานี รวมทั้งสิน้ ๙๓๘.๕๓๔ กม. โดย เป็นถนนในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงชนบทปัตตานี ๕๘๔.๗๓๖ กม. เป็นถนน ลาดยาง ๕๗๗.๗๙๑ กม. เปน็ ถนนลูกรงั ๑.๕๐๘ กม. เป็นถนนคอนกรีต ๕.๔๓๗ กม. และ เปน็ ถนนในความรบั ผดิ ชอบของแขวงทางหลวงปตั ตานี ๓๕๓.๗๙๘ กม. ซง่ึ เปน็ ถนนลาดยาง ๓๔๒.๘๓๒ กม. และเป็นถนนลกู รงั ๑๐.๙๖๖ กม. โดยมีถนนสายหลักที่ส�ำ คัญเช่ือมตอ่ กับ จงั หวดั ใกลเ้ คยี ง คือถนนสาย ๔๓ เชื่อมต่อกบั จงั หวดั สงขลา ถนนสาย ๔๑๐ และ ๔๑๘ เชื่อมตอ่ กบั จงั หวดั ยะลา และถนนสาย ๔๒ เชอ่ื มต่อกับจังหวัดนราธิวาส ตารางแสดงระยะทางถนนของจงั หวัด จ�ำ แนกตามหนว่ ยงานทีร่ ับผิดชอบและประเภทผิวจราจร ความรบั ผิด ระยะทาง ปี ๒๕๕๘ ระยะทาง ปี ๒๕๕๙ ชอบ (กม.) ชนิดผวิ ทาง (กม.) (กม.) ชนิดผิวทาง (กม.) ลาดยาง ลูกรัง คอนกรตี ลาดยาง ลูกรัง คอนกรตี แขวงทางหลวง ๕๘๔,๗๓๖ ๕๗๔,๖๔๑ ๑,๕๐๘ ๘,๔๖๒ ๕๘๔.๗๓๖ ๕๗๗.๗๙๑ ๑.๕๐๘ ๕.๔๓๗ ชนบทปัตตานี ๓๕๕,๓๕๗ ๓๕๓.๗๙๘ แขวงทางหลวง ๙๔๐,๐๙๓ ๓๔๒,๘๓๒ ๑๒,๕๒๕ - ๙๓๘.๕๓๔ ๓๔๒.๘๓๒ ๑๐.๙๖๖ - ปัตตานี ๙๑๗,๔๗๓ ๑๔,๐๓๓ ๘,๔๖๒ ๙๒๐.๖๒๓ ๑๒.๔๗๔ ๕.๔๓๗ รวม ทมี่ า : แขวงทางหลวงชนบทปตั ตานี/แขวงทางหลวงปตั ตานี 34 สวัสดปี ตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
สภาพเศรษฐกจิ ผลิตภัณฑม์ วลรวมของจงั หวดั (GPP = GROWTH PROVINCIAL PRODUCT) ตารางแสดงผลติ ภัณฑจ์ งั หวดั จ�ำ แนกตามสาขาการผลติ พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘ สาขาการผลิต ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ภาคเกษตร ๑๖,๙๕๑ ๑๖,๔๘๙ ๑๔,๙๘๕ - เกษตรกรรม การล่าสัตว์ และการป่าไม้ ๕,๘๕๘ ๕,๑๘๓ ๔,๕๘๙ ประมง ๑๑,๐๙๔ ๑๑,๓๐๖ ๑๐,๓๙๖ นอกภาคการเกษตร ๓๐,๘๔๗ ๒๘,๐๘๓ ๓๐,๘๑๖ - เหมอื งแร่ ๒๙ ๒๘ ๓๖ - อุตสาหกรรม ๕,๕๐๕ ๓,๑๑๗ ๓,๓๖๗ - ไฟฟ้า ประปา ๖๑๓ ๖๑๔ ๕๘๔ - กอ่ สรา้ ง ๑,๓๗๖ ๑,๖๒๔ ๑,๖๓๖ - การคา้ ๔,๓๘๘ ๔,๔๖๘ ๔,๙๕๐ - โรงแรมและภตั ตาคาร ๑๙๑ ๑๙๐ ๒๓๑ - ขนส่ง ๘๐๓ ๗๖๗ ๗๙๐ - การเงิน ๑,๒๔๓ ๑,๖๕๑ ๑,๘๑๓ - อสังหารมิ ทรัพย์ ๑,๖๙๘ ๑,๒๙๙ ๑,๓๕๗ - บริหารราชการแผ่นดิน ๗,๑๙๖ ๕,๘๙๘ ๗,๖๑๙ - การศกึ ษา ๖,๓๖๘ ๖,๙๐๕ ๖,๘๐๖ - บริการสขุ ภาพ ๘๒๑ ๙๐๙ ๙๙๙ - บรกิ ารชมุ ชน ๕๘๕ ๕๘๔ ๕๙๙ - ลกู จ้างในชุมชน ๓๑ ๓๐ ๓๐ ผลิตภัณฑ์มวลรวมจงั หวดั ๔๗,๗๙๙ ๔๔,๕๗๒ ๔๕,๘๐๑ ทม่ี า : ข้อมลู GPP ของส�ำ นกั บัญชีประชาชาติ สศช. บรรยายสรปุ จังหวดั ปตั ตานี 35
ผลติ ภณั ฑจ์ งั หวัด จำ�แนกตามสาขาการผลติ พ.ศ.๒๕๕๘ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดปัตตานี ปีพ.ศ.๒๕๕๘ ณ ราคาประจำ�ปี เท่ากับ ๔๕,๘๐๑ ลา้ นบาท โครงสร้างเศรษฐกจิ ของจงั หวดั ปัตตานยี งั คงพ่งึ พาภาคการเกษตรเป็น หลัก แต่มีแนวโน้มการปรับตัวสู่ภาคการบริการมากขึ้น ประกอบกับสาขาที่เกี่ยวกับการ ลงทุนภาครัฐมีมูลค่าสูงขึ้น โดยพิจารณาจากภาคเกษตรมีมูลค่า ๑๔,๙๘๕ ล้านบาท คิด เปน็ ร้อยละ ๓๒.๗ ของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจังหวัด ภาคนอกเกษตรมมี ูลค่า ๓๐,๘๑๖ ล้าน บาท คดิ เปน็ ร้อยละ ๖๗.๓ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจงั หวัด สาขาการผลิตทสี่ รา้ งมูลคา่ มาก ทส่ี ดุ ของจังหวดั คอื สาขาประมง มมี ูลค่า ๑๐,๓๙๖ ล้านบาท คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๒.๗ สาขา บรหิ ารราชการแผน่ ดินมีมลู ค่า ๗,๖๑๙ ล้านบาท คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๖.๖ สาขาการศึกษา มี มลู ค่า ๖,๘๐๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๔.๙ สาขาการคา้ ปลกี มมี ูลคา่ ๔,๙๕๐ ล้านบาท คิดเปน็ ร้อยละ ๑๐.๘ สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์ และการปา่ ไมม้ มี ูลคา่ ๔,๕๘๙ ล้าน บาท คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐.๐ และสาขาอตุ สาหกรรม มีมูลค่า ๓,๓๖๗ ล้านบาท คดิ เปน็ รอ้ ย ละ ๗.๔ ของผลติ ภณั ฑม์ วลรวมจงั หวัด ผลิตภณั ฑ์มวลรวมจังหวัดปัตตานเี ฉลย่ี ตอ่ หวั (GPP Per Capita) ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดปัตตานีเฉล่ียต่อหัว (GPP Per Capita) ต่ํากว่าระดับ ประเทศ โดยปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จังหวดั ปัตตานี มี GPP เฉลยี่ ตอ่ หวั ๗๓,๓๓๘ บาท ขยายตวั รอ้ ยละ ๒.๓๐ เมอื่ เทียบกับปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตา่ํ กว่าระดับประเทศ และระดบั ภาค ท่ีมคี ่า เฉล่ยี ๒๐๓,๓๕๖ บาท และ ๑๓๐,๙๗๘ บาท ตามลำ�ดบั 36 สวสั ดปี ตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ตารางมลู คา่ ผลติ ภณั ฑ์จังหวดั ภาคใตช้ ายแดน/ภาคใต้/ประเทศ ณ ราคาประจ�ำ ปี จงั หวดั ปี ๒๕๕๕ ปี ๒๕๕๖ ปี ๒๕๕๗ ปี ๒๕๕๘ มูลค่า ∆% มูลคา่ ∆% มูลคา่ ∆% มลู ค่า ∆% ปัตตานี ๔๘,๙๐๙ ๔.๗ ๔๘,๗๘๑ -๐.๓๐ ๔๔,๕๗๒ -๓.๙๐ ๔๕,๘๐๑ ๒.๗๖ ยะลา ๔๙,๕๕๙ -๑๔.๐ ๔๔,๐๓๐ -๑๑.๒๐ ๓๙,๔๗๗ -๑๐.๓๐ ๓๙,๘๙๘ ๑.๐๗ นราธิวาส ๔๓,๔๔๔ -๒๗.๒ ๔๑,๑๓๖ -๕.๓๐ ๓๗,๙๘๒ -๗.๗๐ ๓๗,๖๗๘ -๐.๘๐ สงขลา ๒๒๔,๙๔๑ ๐.๒ ๒๒๙,๙๓๑ ๒.๒๐ ๒๑๙,๓๒๙ -๔.๖๐ ๒๓๔,๙๑๑ ๗.๑๐ สตลู ๓๓,๓๓๘ -๐.๔ ๓๑,๐๙๗ -๖.๗๐ ๓๑,๑๙๑ ๐.๓๐ ๓๑,๓๓๕ ๐.๔๖ ภาคใตช้ ายแดน ๔๐๐,๑๙๑ -๕.๑ ๓๙๔,๙๗๖ -๑.๓๐ ๓๗๔,๘๔๒ -๕.๑๐ ๓๘๙,๖๒๓ ๓.๙๔ ภาคใต้ ๑,๑๖๔,๔๕๖ -๑.๙ ๑,๑๕๓,๓๐๐ -๑.๐๐ ๑,๑๒๕,๖๗๓ -๒.๔๐ ๑,๑๙๙,๓๑๕ ๖.๕๔ ประเทศ ๑๒,๓๔๙,๐๒๑ ๙.๓ ๑๒,๙๐๑,๔๙๐ ๔.๕๐ ๑๓,๑๓๒,๒๔๑ ๑.๘๐ ๑๓,๖๗๒,๘๕๑ ๔.๑๒ ทมี่ า : ประมวลขอ้ มลู โดยใชฐ้ านขอ้ มลู GPP ของส�ำ นกั บญั ชปี ระชาชาติ สศช. และส�ำ นกั งาน คลงั จังหวดั ปัตตานี บรรยายสรปุ จังหวัดปตั ตานี 37
ตารางรายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ คนตอ่ ปี (Per capita GPR และ GPP) ณ ราคาประจำ�ปี จังหวดั ปี ๒๕๕๕ ปี ๒๕๕๖ ปี ๒๕๕๗ ปี ๒๕๕๘ Per Capita ∆% Per Capita ∆% Per Capita ∆% Per Capita ∆% ๗๘,๙๓๒ -๐.๗๐ ๗๑,๖๙๒ -๔.๕๐ ๗๓,๓๓๘ ๒.๓๐ ปตั ตานี ๗๙,๕๑๒ ๔.๑ ๑๐๐,๑๕๔ -๑๑.๖๐ ๘๙,๓๓๐ -๑๐.๘๐ ๘๙,๘๗๕ ๐.๖๑ ๖๐,๕๒๗ -๕.๘๐ ๕๕,๖๐๑ -๘.๑๐ ๕๔,๙๒๒ -๑.๒๒ ยะลา ๑๑๓,๒๙๗ -๑๔.๕ ๑๕๒,๑๓๐ ๑.๕๐ ๑๔๔,๒๐๙ -๕.๒๐ ๑๕๓,๕๐๕ ๖.๔๕ ๑๑๒,๓๖๖ -๗.๒๐ ๑๑๒,๑๓๖ -๐.๒๐ ๑๑๒,๐๕๑ -๐.๐๘ นราธวิ าส ๖๔,๒๒๖ -๒๗.๕ ๑๑๒,๐๓๖ -๑.๙๐ ๑๐๕,๗๑๔ -๕.๖๐ ๑๐๙,๓๐๙ ๓.๔๐ ๑๒๗,๕๒๐ -๑.๖๐ ๑๒๓,๖๘๔ -๓.๐๐ ๑๓๐,๙๗๘ ๕.๙๐ สงขลา ๑๔๙,๘๔๐ -๐.๔ สตลู ๑๒๑,๑๑๙ -๑.๐ ภาคใต้ชายแดน ๑๑๔,๑๖๓ -๕.๗ ภาคใต้ ๑๒๙,๖๐๓ -๒.๕ ประเทศ ๑๘๕,๗๒๒ ๘.๘ ๑๙๓,๒๖๖ ๔.๑๐ ๑๙๕,๙๙๕ ๑.๔๐ ๒๐๓,๓๕๖ ๓.๗๖ ทมี่ า : ประมวลขอ้ มลู โดยใชฐ้ านขอ้ มลู GPP ของส�ำ นกั บญั ชปี ระชาชาติ สศช. และส�ำ นกั งาน คลังจงั หวัดปัตตานี 38 สวสั ดปี ัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ภาวะสนิ ค้าเกษตรที่ส�ำ คญั ๑. สรุปข้อมลู ภาวะสินคา้ เกษตรทีส่ �ำ คัญ ปัจจยั พ้ืนฐาน เน้ือท่เี พาะปลกู พืชสำ�คัญ ในปี ๒๕๕๙ เนือ้ ท่ีเพาะปลกู ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง และ มะพรา้ ว ลดลง จากปี ๒๕๕๘ สว่ นเนอื้ ทีป่ ลกู ยางพารา และปาลม์ นํ้ามนั ขยายตัวเพ่มิ ขน้ึ คาดวา่ ในปี ๒๕๖๐ เนอื้ ทปี่ ลกู ขา้ วทง้ั นาปแี ละนาปรงั และเนอื้ ทป่ี ลกู ปาลม์ นาํ้ มนั มที ศิ ทาง เพิม่ ขน้ึ ขณะที่เน้ือที่ปลกู มะพร้าว คอ่ นข้างคงตวั และเนื้อทีป่ ลกู ยางพารามแี นวโน้มลดลง ผลผลติ เฉลยี่ พชื ส�ำ คญั ในปี ๒๕๕๙ ผลผลิตเฉล่ยี ขา้ วนาปี ขา้ วนาปรัง มะพรา้ ว และยางพารา ลดลงจากปี ๒๕๕๘ ส่วนผลผลลติ เฉลยี่ ปาล์มนา้ํ มนั เพ่มิ ขึน้ คาดวา่ ในปี ๒๕๖๐ ผลผลติ เฉลย่ี ของขา้ วทงั้ นาปแี ละนาปรงั ยงั คงอยใู่ นทศิ ทางทเี่ พมิ่ ขนึ้ จากปรมิ าณนา้ํ ตน้ ทนุ ทย่ี งั คงมสี งู กวา่ ปกี อ่ นหนา้ และเกษตรกรเรมิ่ หนั กลบั มาใหค้ วามส�ำ คญั กบั การท�ำ นา มีการนำ�เทคโนโลยีใหมๆ่ มาใช้ มะพร้าวและยางพารามแี นวโนม้ เพมิ่ ข้ึนเนอื่ งจากเกษตรกร ใสป่ ยุ๋ บ�ำ รงุ อยา่ งตอ่ เน่อื งจากราคาขาย ท่ีจูงใจในการลงทุน สว่ นปาลม์ น้ํามัน ผลผลติ คาด ว่าชะลอตัว เนื่องจากเปน็ ปาลม์ ใหม่ที่เพง่ิ ปลูกเร่ิมทยอยให้ผลผลิตเปน็ จำ�นวนมาก บรรยายสรุปจังหวดั ปตั ตานี 39
ตารางเนื้อท่เี พาะปลูก เนื้อท่ีเกบ็ เก่ยี ว ผลผลติ เฉลี่ย พชื ส�ำ คัญ สนิ ค้า เนอ้ื ทเ่ี พาะปลกู เนอ้ื ทีเ่ ก็บเก่ียว ผลผลติ เฉลย่ี การเปลยี่ นแปลง (ไร)่ (ไร)่ (กโิ ลกรัม/ไร่) เนื้อทีป่ ลูก ข้าวนาปี ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ (รอ้ ยละ) ขา้ วนาปรงั ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๓๗๓.๐๘ ๓๗๐ ยางพารา ๔๒๖ ๔๒๔ -๖.๖๐ ปาล์มนํ้ามัน ๘๘,๘๓๗ ๘๒,๙๗๓ ๙๓,๐๘๔ ๘๒,๑๕๔ ๒๕๑.๑๗ ๒๓๕.๕๘ -๗.๒๓ มะพรา้ ว ๑,๘๓๗ ๒,๐๑๔ ๐.๒๔ ๒๒,๖๖๐ ๒๑,๐๒๒ ๒๒,๒๐๘ ๒๐,๘๘๕ ๑,๑๖๑ ๑,๐๔๘ ๖.๖๕ -๕.๙๖ ๓๕๕,๘๓๖ ๓๕๖,๖๙๐ ๓๑๐,๖๙๖ ๓๑๕,๖๐๕ ๑๘,๑๖๑ ๑๙,๓๖๘ ๑๒,๐๙๔ ๑๔,๑๘๘ ๕๗,๒๘๑ ๕๓,๘๖๕ ๔๘,๖๗๗ ๔๙,๓๘๔ ๒. สรุปภาพรวมภาวะเศรษฐกจิ ในดา้ นการเกษตร ในภาพรวมภาวะเศรษฐกิจการค้าทั่วไปของจังหวัดปัตตานี ขึ้นอยู่กับภาค เกษตรกรรมเปน็ หลกั โดยมสี นิ คา้ เกษตรทส่ี �ำ คญั ไดแ้ กก่ ารประมง รองลงมาคอื การเกษตร ด้านการทำ�สวนยาง ซ่งึ เศรษฐกิจของปตั ตานจี ะดีหรือไมด่ ีข้ึนอยกู่ ับกจิ กรรม ๒ ภาคนี้ เปน็ สำ�คัญ สำ�หรับการประมงในปัตตานีมีผลผลิตสัตว์น้ําท่ีจับได้เป็นลำ�ดับต้นๆ ของประเทศ และมที ่าเรอื ซงึ่ สรา้ งโดยภาครัฐท่ีมีขนาดใหญ่ มอี ตุ สาหกรรมต่อเนือ่ งจากการประมง ส่วน ราคายางนั้นก็เป็นปัจจัยท่ีทำ�ให้เศรษฐกิจของปัตตานีมีพ้ืนฐานท่ีแข็งแกร่งพอสมควร ยางพาราปี ๒๕๕๙ ยางแผน่ ดิบชั้น ๓ ราคาเฉลยี่ กิโลกรมั ละ ๔๘.๐๐ บาท นํา้ ยางสด ราคา เฉลยี่ กโิ ลกรมั ละ ๔๗.๐๒ บาท เมอื่ เทยี บกบั ปี ๒๕๕๘ พบว่า ราคาลดลงร้อยละ -๕.๓๕ และ -๔.๓๐ ตามลำ�ดบั ๓. ดา้ นการเกษตร จังหวัดปัตตานีมีเกษตรกรรม ๗๘๕,๘๖๗ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๐๙ ของพื้นที่ จังหวัดปัตตานี มคี รัวเรอื นเกษตรกรทงั้ หมด ๘๗,๕๙๐ ครวั เรือน ๔. ข้อมลู พชื เศรษฐกิจท่ีส�ำ คญั และผลผลิตแตล่ ะชนิดในปี ๒๕๕๙ ๑. ยางพารา 40 สวัสดีปตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
ปกี ารเพาะปลูก ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ครวั เรอื น ๓๗,๙๒๕.๐๐ ๓๘,๐๑๕.๐๐ พืน้ ทเ่ี พาะปลูก (ไร่) ๓๕๕,๘๓๖.๐๐ ๓๕๖,๖๙๐.๐๐ พน้ื ที่ใหผ้ ลผลติ ๓๑๐,๖๙๖.๐๐ ๓๑๕,๖๐๕.๐๐ ผลผลิต (ตัน) ๗๘,๐๓๖.๔๘ ๗๔,๓๕๑.๒๘ ราคา (บาท/กก.) ๔๕.๔๓ ๔๘.๐๐ มลู ค่า (ล้านบาท) ๓,๕๔๕.๒๐ ๓,๕๖๘.๘๖ : พ้ืนที่เพาะปลูก ๓๕๖,๖๙๐ ไร่ พ้ืนท่ีให้ผลผลิต ๓๑๕,๖๐๕ ไร่ ผลผลิตรวม ๗๔,๓๕๑.๒๘ ตนั ราคาเฉลยี่ ๔๘.๐๐ บาท/กโิ ลกรมั ครวั เรอื นที่ปลูก ๓๘,๐๑๕ ครวั เรือน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔๓.๔๐ ของครวั เรอื นเกษตรกรทง้ั หมด มลู คา่ รวม ๓,๕๖๘.๘๖ ล้านบาท เพ่มิ ข้นึ รอ้ ยละ ๐.๖๗ จากปี ๒๕๕๘ ซึ่งมีมูลค่ารวม ๓,๕๔๕.๒๐ ล้านบาท ๒. ข้าว ปกี ารเพาะปลกู ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ครวั เรอื น ๑๙,๙๙๐.๐๐ ๑๘,๑๗๐.๐๐ พืน้ ทเี่ พาะปลกู (ไร่) ๙๔,๒๘๗.๐๐ ๘๒,๙๗๓.๐๐ พนื้ ทใี่ หผ้ ลผลิต ๙๓,๐๘๔.๐๐ ๘๒,๑๕๔.๐๐ ผลผลติ (ตนั ) ๓๕,๓๖๗.๖๘ ๓๐,๔๓๒.๕๖ ราคา (บาท/กก.) ๑๐.๘๖ ๘.๔๘ มูลคา่ (ลา้ นบาท) ๓๘๔.๐๙ ๒๕๘.๐๗ : ข้าวนาปพี ้นื ที่เพาะปลกู ๘๒,๙๗๓ ไร่ พน้ื ท่ีใหผ้ ลผลติ ๘๒,๑๕๔ ไร่ ผลผลิตรวม ๓๐,๔๓๒.๕๖ ตนั ราคาเฉลี่ย ๘.๔๘ บาท/กิโลกรมั ครวั เรือนทป่ี ลูก ๑๘,๑๗๐ ครัวเรอื น คิดเปน็ ร้อยละ ๒๐.๗๔ ของครัวเรอื นเกษตรกรทง้ั หมด มูลค่ารวม ๒๕๘.๐๗ ลา้ นบาท ลด ลงร้อยละ ๓๒.๘๑ จากปี ๒๕๕๘ ซง่ึ มีมูลค่ารวม ๓๘๔.๐๙ ลา้ นบาท บรรยายสรปุ จงั หวัดปตั ตานี 41
๓. ไมผ้ ลทีส่ �ำ คัญ ๓.๑ ลองกอง ปีการเพาะปลกู ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ครัวเรือน ๑๓,๒๔๗.๐๐ ๑๖,๗๑๔.๐๐ พื้นทเ่ี พาะปลกู (ไร่) ๑๖,๘๓๗.๐๐ ๑๖,๗๑๔.๐๐ พื้นที่ให้ผลผลติ ๑๖,๐๙๕.๐๐ ๑๕,๘๐๓.๐๐ ผลผลิต (ตัน) ๖,๘๙๗.๗๓ ๘,๗๕๒.๘๙ ราคา (บาท/กก.) ๑๕.๗๕ ๑๓.๘๗ มูลค่า (ลา้ นบาท) ๑๐๘.๖๔ ๑๒๑.๔๐ : ลองกอง พ้ืนทเ่ี พาะปลกู ๑๖,๗๑๔ ไร่ พน้ื ท่ใี ห้ผลผลิต ๑๕,๘๐๓ ไร่ ผลผลิตรวม ๘,๗๕๒.๘๙ ตัน ราคาเฉลีย่ ๑๓.๘๗ บาท/กิโลกรมั ครัวเรือนท่ปี ลกู ๑๒,๔๔๙ ครวั เรอื น คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๔.๒๑ ของครัวเรือนเกษตรกรทงั้ หมด มูลค่ารวม ๑๒๑.๔๐ ลา้ นบาท เพม่ิ ขนึ้ ร้อยละ ๑๑.๗๕ จากปี ๒๕๕๘ ซ่ึงมมี ูลค่ารวม ๑๐๘.๖๔ ล้านบาท ๓.๒ ทุเรยี น ปีการเพาะปลูก ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ครัวเรือน ๕,๓๑๒.๐๐ ๔,๕๒๖.๐๐ พืน้ ทีเ่ พาะปลูก (ไร)่ ๗,๗๐๘.๐๐ ๘,๓๙๐.๐๐ พน้ื ทใ่ี ห้ผลผลิต ๗,๒๕๗.๐๐ ๗,๑๔๔.๐๐ ผลผลติ (ตัน) ๓,๔๒๘.๔๔ ๓,๒๖๔.๙๗ ราคา (บาท/กก.) ๒๐.๒๕ ๓๖.๔๔ มูลค่า (ลา้ นบาท) ๖๙.๔๓ ๑๑๘.๙๘ : ทุเรียน พืน้ ท่เี พาะปลูก ๘,๓๙๐ ไร่ พน้ื ทใี่ ห้ผลผลิต ๗,๑๔๔ ไร่ ผลผลติ รวม ๓,๒๖๔.๙๗ ตนั ราคาเฉลย่ี ๓๖.๔๔ บาท/กโิ ลกรัม ครวั เรือนทป่ี ลกู ๔,๕๒๖ ครัวเรอื น คดิ 42 สวสั ดีปตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
เปน็ ร้อยละ ๕.๑๖ ของครวั เรือนเกษตรกรทงั้ หมด มลู ค่ารวม ๑๑๘.๙๘ ลา้ นบาท เพิ่มข้นึ รอ้ ยละ ๔๔.๔๔ จากปี ๒๕๕๘ ซึง่ มีมลู ค่ารวม ๖๙.๔๓ ล้านบาท ๓.๓ มงั คดุ ปีการเพาะปลูก ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ครัวเรอื น ๕,๓๑๒.๐๐ ๔,๕๒๖.๐๐ พนื้ ท่ีเพาะปลูก (ไร่) ๗,๗๐๘.๐๐ ๘,๓๙๐.๐๐ พื้นทใ่ี หผ้ ลผลติ ๗,๒๕๗.๐๐ ๗,๑๔๔.๐๐ ผลผลิต (ตนั ) ๓,๔๒๘.๔๔ ๓,๒๖๔.๙๗ ราคา (บาท/กก.) ๒๐.๒๕ ๓๖.๔๔ มูลค่า (ลา้ นบาท) ๖๙.๔๓ ๑๑๘.๙๘ : มังคุด พื้นที่เพาะปลูก ๒,๖๑๐ ไร่ พ้ืนที่ให้ผลผลิต ๒,๕๓๔ ไร่ ผลผลิตรวม ๑,๑๑๘.๙๘ ตนั ราคาเฉลยี่ ๑๓.๐๗ บาท/กโิ ลกรัม ครวั เรอื นท่ปี ลกู ๓,๖๖๓ ครัวเรอื น คิด เปน็ รอ้ ยละ ๔.๑๘ ของครวั เรอื นเกษตรกรทัง้ หมด มลู ค่ารวม ๑๔.๖๓ ลา้ นบาท ลดลงร้อย ละ ๔๔.๔๔ จากปี ๒๕๕๘ ซ่งึ มีมูลคา่ รวม ๑๕.๔๙ ลา้ นบาท ๓.๔ เงาะ ปีการเพาะปลูก ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ครวั เรอื น ๒,๔๙๕.๐๐ ๒,๔๗๙.๐๐ พ้นื ท่ีเพาะปลกู (ไร)่ ๑,๗๗๐.๐๐ ๑,๖๖๗.๐๐ พ้ืนทใี่ ห้ผลผลติ ๑,๗๐๘.๐๐ ๑,๕๗๙.๐๐ ผลผลิต (ตนั ) ๖๓๔.๔๙ ๕๔๒.๑๐ ราคา (บาท/กก.) ๑๒.๕๒ ๑๓.๐๗ มลู ค่า (ลา้ นบาท) ๗.๙๔ ๗.๐๙ บรรยายสรุปจงั หวดั ปัตตานี 43
: เงาะ พน้ื ทเี่ พาะปลกู ๑,๖๖๗ ไร่ พนื้ ทใ่ี หผ้ ลผลติ ๑,๕๗๙ ไร่ ผลผลติ รวม ๕๔๒.๑๐ ตัน ราคาเฉล่ยี ๑๓.๐๗ บาท/กิโลกรัม ครวั เรือนทป่ี ลกู ๒,๔๗๙ ครัวเรือน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒.๘๓ ของครวั เรือนเกษตรกรทัง้ หมด มูลคา่ รวม ๗.๐๙ ลา้ นบาท ลดลงรอ้ ยละ ๑๐.๘๑ จากปี ๒๕๕๘ ซึ่งมมี ลู คา่ รวม ๗.๙๔ ลา้ นบาท ๓.๕ สม้ โอ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๑,๖๓๗.๐๐ ๑,๖๙๘.๐๐ ปีการเพาะปลูก ๑,๔๖๐.๐๐ ๑,๕๘๕.๐๐ ครัวเรือน ๑,๑๙๗.๐๐ ๑,๔๗๘.๐๐ พน้ื ที่เพาะปลกู (ไร)่ ๑,๕๑๙.๑๑ ๑,๙๑๙.๒๗ พื้นที่ให้ผลผลิต ๑๕.๖๕ ๑๘.๖๕ ผลผลติ (ตนั ) ๒๓.๗๗ ๓๕.๗๙ ราคา (บาท/กก.) มลู คา่ (ล้านบาท) : ส้มโอ พ้ืนท่ีเพาะปลูก ๑,๕๘๕ ไร่ พื้นท่ีให้ผลผลิต ๑,๔๗๘ ไร่ ผลผลิตรวม ๑,๙๑๙.๒๗ ตัน ราคาเฉลี่ย ๑๘.๖๕ บาท/กโิ ลกรมั ครวั เรอื นทีป่ ลกู ๑,๖๙๘ ครวั เรอื น คิด เปน็ รอ้ ยละ ๑.๙๔ ของครวั เรอื นเกษตรกรทงั้ หมด มลู คา่ รวม ๓๕.๗๙ ลา้ นบาท เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ย ละ ๕๐.๕๖ จากปี ๒๕๕๘ ซง่ึ มมี ลู ค่ารวม ๒๓.๗๗ ล้านบาท ๔. ไม้ยืนตน้ ที่ส�ำ คญั ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๔.๑ มะพรา้ ว ๒๕,๑๖๑.๐๐ ๒๒,๐๕๑.๐๐ ๕๗,๒๘๑.๐๐ ๕๓,๘๖๕.๐๐ ปีการเพาะปลกู ๔๘,๖๗๗.๐๐ ๔๙,๓๘๔.๐๐ ครวั เรือน ๕๔,๘๗๖.๘๒ ๕๒,๐๗๕.๗๕ พ้ืนที่เพาะปลกู (ไร่) ๘.๓๔ ๑๑.๔๙ พืน้ ทใี่ หผ้ ลผลติ ๔๕๗.๖๗ ๕๙๘.๓๕ ผลผลติ (ตนั ) ราคา (บาท/กก.) มลู ค่า (ล้านบาท) 44 สวสั ดีปตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
: มะพร้าว พน้ื ทีเ่ พาะปลกู ๕๓,๘๖๕ ไร่ พนื้ ทใ่ี หผ้ ลผลติ ๔๙,๓๘๔ ไร่ ผลผลิตรวม ๕๒,๐๗๕.๗๕ ตนั ราคาเฉล่ยี ๑๑.๔๙ บาท/กิโลกรมั ครวั เรือนทป่ี ลูก ๒๒,๐๕๑ ครัวเรือน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๒๕.๑๘ ของครัวเรือนเกษตรกรท้งั หมด มลู ค่ารวม ๕๙๘.๓๕ ล้านบาท เพ่ิม ขน้ึ ร้อยละ ๓๐.๗๔ จากปี ๒๕๕๘ ซงึ่ มมี ูลค่ารวม ๔๕๗.๖๗ ลา้ นบาท ๔.๒ ปาลม์ นํ้ามนั ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๑,๗๙๕.๐๐ ๑,๙๑๓.๐๐ ปีการเพาะปลกู ๑๘,๑๖๑.๐๐ ๑๙,๓๖๘.๐๐ ครวั เรอื น ๑๒,๐๙๔.๐๐ ๑๔,๑๘๘.๐๐ พนื้ ที่เพาะปลูก (ไร่) ๒๕,๒๘๙.๓๒ ๓๓,๐๐๒.๒๕ พื้นท่ีใหผ้ ลผลติ ๔.๓๒ ๕.๓๓ ผลผลติ (ตัน) ๑๐๙.๒๕ ๑๗๕.๙๐ ราคา (บาท/กก.) มูลคา่ (ลา้ นบาท) : ปาลม์ น้าํ มัน พ้นื ท่เี พาะปลกู ๑๙,๓๖๘ ไร่ พน้ื ท่ใี หผ้ ลผลิต ๑๔,๑๘๘ ไร่ ผลผลิต รวม ๓๓,๐๐๒.๒๕ ตนั ราคาเฉลี่ย ๕.๓๓ บาท/กโิ ลกรมั ครวั เรอื นทป่ี ลกู ๑,๙๑๓ ครัวเรอื น คิดเปน็ ร้อยละ ๒.๘๔ ของครัวเรอื นเกษตรกรทั้งหมด มูลค่ารวม ๑๗๕.๙๐ ล้านบาท เพิม่ ข้ึนร้อยละ ๖๑.๐๑ จากปี ๒๕๕๘ ซงึ่ มีมลู ค่ารวม ๑๐๙.๒๕ ลา้ นบาท ๕. พืชไร่ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ปีการเพาะปลกู ๗,๒๙๔ ๖,๘๘๒ พนื้ ทเ่ี พาะปลกู (ไร)่ ๑๕๘.๙๘ ๑๕๙.๐๓ มลู คา่ (ล้านบาท) : จังหวัดปัตตานีมีพื้นท่ีเพาะปลูกพืชไร่ จำ�นวน ๖,๘๘๒ ไร่ ให้มูลค่าผลผลิตรวม ๑๕๙.๐๓ ล้านบาท พืชไร่ท่ีสำ�คัญได้แก่ แตงโม ถ่ัวเขียว ถั่วลิสง ข้าวโพด อ้อย มันเทศ สับปะรด เปน็ ต้น บรรยายสรปุ จังหวัดปตั ตานี 45
๖. พชื ผัก ปีการเพาะปลูก ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ พน้ื ทีเ่ พาะปลกู (ไร่) มูลคา่ (ลา้ นบาท) ๔,๖๖๐ ๕,๗๖๓ ๑๕๔.๒๗ ๑๔๕.๖๑ : จังหวดั ปตั ตานมี พี ้ืนทเี่ พาะปลกู พืชผกั จำ�นวน ๕,๗๖๓ ไร่ ใหม้ ลู ค่าผลผลิตรวม ๑๔๕.๖๑ ลา้ นบาท พชื ผกั ทส่ี �ำ คญั ไดแ้ ก่ แตงกวา ถวั่ ฝกั ยาว พรกิ ขหี้ นสู วน พรกิ หยวก บวบ คะน้า ตะไคร้ เปน็ ตน้ ด้านปศสุ ัตว์ สถานการณก์ ารเลย้ี งสตั วป์ จั จบุ นั ในจงั หวดั ปตั ตานี เปน็ การเลยี้ งโดยเกษตรกรราย ยอ่ ย เลย้ี งเพอ่ื การบรโิ ภคภายในครวั เรอื นและเหลือจำ�หน่าย ในภาพรวมปรมิ าณสัตว์เลยี้ ง ในปี ๒๕๕๙ ลดลงอันเน่ืองมาจากผลกระทบท่ีเกษตรกรลดปริมาณจำ�นวนพ่อแม่พันธ์ุลง เหตุมาจากแรงจูงใจจากภาวะราคาสัตว์สูงข้ึน มีการขายพ่อแม่พันธุ์ ควบคู่กับการบริโภค ภายในจังหวัดท่ีมีอัตราสูงขึ้น ทำ�ให้การเพ่ิมปริมาณสัตว์เลี้ยงลดลง โดยเฉพาะ โค,กระบอื ,แพะ-แกะ ส่วนสัตวป์ กี และสตั วอ์ ืน่ ได้แก่ ไกเ่ นอ้ื เกษตรกรท่เี ลีย้ งคงทแ่ี ละเพิ่ม ปรมิ าณสตั วเ์ ลยี้ งมากขน้ึ ถงึ แมว้ า่ จะมกี ารสนบั สนนุ การเลยี้ งสตั วอ์ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งจากภาครฐั ซ่ึงเป็นที่ต้องการของประชาชนในพื้นท่ี เช่น โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเลี้ยง สตั ว์ โครงการเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลติ ปศสุ ัตว์ในพ้ืนท่จี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ แล้วก็ตาม ก็ยังไม่เพียงพอต่อการบริโภคในจังหวัด ซ่ึงมีผลทำ�ให้ต้องนำ�สัตว์จากต่างจังหวัดเข้ามาใน พืน้ ท่ี ปรมิ าณการเลยี้ งสตั วข์ องจงั หวดั ปตั ตานี ปี ๒๕๕๙ แบง่ เปน็ ชนดิ สตั วท์ สี่ �ำ คญั ๆ ดงั นี้ ๑. โคเนือ้ จ�ำ นวน ๔๒,๔๓๔ ตวั เม่อื เทียบกบั ปี ๒๕๕๘ มปี ริมาณการเลย้ี งลดลง อนั เนอื่ งมาจากเกษตรกรไปประกอบอาชพี อนื่ ทไ่ี ดค้ า่ ตอบแทนเรว็ กวา่ และลดพนื้ ทก่ี ารเลย้ี ง สตั วล์ ง จงึ ทำ�ใหป้ รมิ าณการเลย้ี งลดลง ถึงแมว้ ่าหน่วยงานจะสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารเพิ่มปริมาณ ผลิตสัตว์ โดยใช้วิธีการผสมเทียม และเป็นการผลิตโคเน้ือท่ีมีคุณภาพ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต่อความต้องการ และมีโคเน้ือบางส่วนที่นำ�เข้ามาในจังหวัดเพื่อจำ�หน่าย,ทำ�พันธ์ุหรือเข้า 46 สวสั ดปี ัตตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI
โรงฆ่าสัตว์ เพ่อื สนองความตอ้ งการบรโิ ภคในจงั หวดั ๒. กระบอื มปี ริมาณการเลยี้ งเพ่มิ ข้ึน เม่ือเทียบกับปีที่ผา่ นมา มจี �ำ นวน ๑,๑๗๑ ตวั ซึง่ มกี ารเลี้ยงเพยี งบางพ้ืนท่ีเทา่ นน้ั ๓. แพะ มจี �ำ นวน ๒๗,๗๙๔ ตวั เมอ่ื เทียบกบั ปี ๒๕๕๘ ปริมาณเลย้ี งแพะลดลง เกษตรกรที่เล้ียงแพะส่วนใหญ่เล้ียงแพะเนื้อหรือแพะเนื้อลูกผสมท่ัวไป เลี้ยงแบบปล่อย แทะเล็ม โดยใชพ้ อ่ พนั ธผุ์ สมพนั ธตุ์ ามธรรมชาติ บางสว่ นใช้วธิ ผี สมเทยี ม ในตลาดขายแพะ เนอ้ื จะซอื้ เป็นตวั เพ่อื บรโิ ภคหรอื ใช้ในโอกาสทำ�พธิ ที างศาสนา ๔. แกะ มจี ำ�นวน ๑๑,๐๒๖ ตัว มีปริมาณการเลีย้ งลดลง เมื่อเทยี บกับปที ีผ่ ่านมา เป็นการเลยี้ งแกะลกู ผสมเปน็ ฝูง โดยมพี ่อพันธค์ุ มุ ฝูงและให้ผลผลิตไมแ่ น่นอน ๕. สกุ ร มจี �ำ นวน ๑,๙๘๙ ตวั ปรมิ าณการเลยี้ งสกุ รลดลง เนอ่ื งจากตน้ ทนุ การเลยี้ ง สตั ว์สูงข้นึ โดยเฉพาะวตั ถุดบิ อาหารสตั ว์ มรี าคาแพง เกษตรกรไม่สามารถรบั ราคาวัตถุดิบ ทส่ี งู ได้ ถงึ แมว้ า่ สกุ รมชี วี ติ หนา้ ฟารม์ จะราคาสงู ขน้ึ กต็ าม คาดวา่ ปรมิ าณการเลย้ี งจะไมเ่ พมิ่ ข้นึ โดยปรับปริมาณการเล้ยี งให้เขา้ กับสถานการณ์ด้านราคาและตน้ ทุนด้านอาหารสตั ว์ ๖. ไกเ่ นอื้ จ�ำ นวน ๑๗๔,๑๔๐ ตวั มีปริมาณการเลย้ี งไกเ่ นอื้ ลดลง แตม่ คี วาม ต้องการบริโภคสูงข้ึน เป็นอาหารประเภทเน้ือ ที่มีราคาต่ํา เม่ือเทียบกับเน้ือสัตว์ชนิดอื่น การผลิตไก่เน้ือในจังหวัดปัตตานี เป็นระบบฟาร์มพันธะสัญญา เกษตรกรรายย่อยเป็นผู้ ลงทนุ สรา้ งโรงเรอื นและเปน็ ผ้เู ลยี้ ง ผูป้ ระกอบการเอกชน รับซือ้ ผลผลิตแบบประกันราคา ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายเดิม ไม่มีรายใหม่ แต่จะเพ่ิมปริมาณการผลิตไก่เน้ือ เพื่อตอบ สนองตลาดผูบ้ ริโภค ๗. ไก่ไข่ มจี �ำ นวน ๑๓,๗๙๑ ตวั เม่อื เทยี บกับปี ๒๕๕๘ มกี ารเลี้ยงเพม่ิ ขึน้ ส่วน ใหญเ่ ปน็ เกษตรกรรายยอ่ ย และไดร้ บั การสง่ เสรมิ การเลย้ี งไกไ่ ขเ่ พอ่ื บรโิ ภคในครวั เรอื นจาก ภาครัฐ ปริมาณการเลี้ยงคาดว่าจะไมเ่ พิ่มขน้ึ เน่อื งจากเป็นรายทีเ่ ลย้ี งอยู่เดมิ ๘. ไก่พน้ื เมอื ง มีจำ�นวน ๕๑๐,๙๔๙ ตวั ปริมาณการเล้ียงไกพ่ นื้ เมือง มีปรมิ าณ ลดลงเมอ่ื เทยี บกบั ปที ผี่ า่ นมา เปน็ การเลย้ี งแบบปลอ่ ยหลงั บา้ น เพอื่ บรโิ ภคในครวั เรอื นตาม หลกั เศรษฐกิจพอเพียง และเหลือถึงจำ�หน่าย ไม่มกี ารลงทุนเพอ่ื ขยายผลผลติ ทางการคา้ ๙. เป็ดเทศ มจี ำ�นวน ๑๘๕,๗๘๐ ตวั ปริมาณการเลี้ยงเป็ดเทศลดลง เมอ่ื เทียบกับ ปีท่ีผ่านมา ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่เล้ียงเพื่อการบริโภคในครัวเรือน และเหลือถึงจ�ำ หน่าย เป็นเกษตรกรรายเดิม ไม่มีการลงทนุ การเลี้ยงเชงิ การค้า บรรยายสรปุ จงั หวัดปัตตานี 47
7. ไก่ไข่ มีจํานวน 13,791 ตัว เม่ือเทียบกับปี 2558 มีการเลี้ยงเพ่ิมขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรราย ยอ่ ย และได้รบั การส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่เพ่ือบริโภคในครัวเรือนจากภาครัฐ ปริมาณการเล้ียงคาดว่าจะไม่เพ่ิมขึ้น เน่ืองจากเป็นรายท่ีเลย้ี งอย่เู ดิม 8. ไก่พ้ืนเมือง มีจํานวน 510,949 ตัว ปริมาณการเลี้ยงไก่พื้นเมือง มีปริมาณลดลงเม่ือเทียบกับปีที่ ผ่านมา เป็นการเล้ียงแบบปล่อยหลังบ้าน เพ่ือบริโภคในครัวเรือนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และเหลือถึง จาํ หน่าย ไม่มกี ารล๑งท๐นุ .เพเปื่อด็ขยไขาย่ ผมลจีผ�ำลนติ ทวานงก๓า๔รค,๐า้ ๕๑ ตวั ปริมาณการเลี้ยงลดลงเมอ่ื เทยี บกบั ปีท่ผี า่ น 9ม. าเปแ็ลดะเทสศ่วนมใีจหําญนว่เปน็น1เก8ษ5ต,7ร8กร0ายตัยว่อปยรเิมนาื่อณงจกากรเไลขี้ย่เปงเ็ดปเ็ดปเ็นททศี่ตลด้อลงกง าเรมบื่อรเทิโภียคบใกนับพปื้นีทท่ีผ่ีานรามคาาซ่ึง เกกาษรเตลร้ียกง1รเไผ0ชสมลงิ่ว.่กแนพเาปปใลรห็ดรคอญปไา้ยข่เรไล่ วด้ียมนจ้งีจเเาพํกากนื่อษกวกตานารรรทก3บร�ำ4รกสิโ,ภ0าาค5รมใป1านรรคตะถรัวมลัวงเดปรตรือิม้นนาทแณุนลกะคาเ่ารหอเลลาือ้ียหถงาลึงจรดําสลหัตงนเวม่า์ไ่ือยดเ้โทเดปีย็นยบเใกกชบัษ้วปตัสีทรดก่ีผุทร่า่ีหรนาามยไาเดดแ้ใิมลนะไพสม่ว้ืน่มนทีกใาี่หรเญชลง่่นเปท็นุน เกษตรกรายย่อยเนื่องจากไข่เป็ดเป็นท่ีต้องการบริโภคในพ้ืนท่ี ราคาไม่แปรปรวนเกษตรกรสามารถลดต้นทุน ค่าอาหารสตั วไ์ ดโ้ ดยใช้วัสดทุ ห่ี การไาดฟใ้ นแพส้ืนดทงี่ เปชร่นิมผาลณพกลอายรไเดลจ้ ี้ยางกสกตัารวท์ขาํ อกงาจรปงั รหะวมดังปตั ตานี กราฟแสดงปรมิ าณการเลย้ี งสตั ว์ของจงั หวดั ปตั ตานี 80,000 70,000 โคเนือ้ 60,000 กระบือ 50,000 40,000 30,000 20,000 10,000 0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 45,000 แพะ 40,000 แกะ 35,000 30,000 25,000 20,000 15,000 10,000 5,000 0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 48350,00ส0วัสดีปตั ตานี SELAMAT DATANG KE PATTANI 300,000 250,000
5,000 แกะ 15,000 เป็ดเทศ 10,0000 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 เป็ดไข่ เป็ดเเปท็ศดเนือ้ 5,000 เป็ดไข่ เป็ดเนือ้ 0 350,000 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 ไก่พืน้ เมือง ไก่เนือ้ 300,000 ไก่พไืน้กเ่ไมขอื ่ ง ไก่เนือ้ 350,000 ไก่ไข่ 250,000 300,000 200,000 250,000 150,000 200,000 100,000 150,000 50,000 100,000 0 50,000 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 0 800,000 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 700,000 800,000 600,000 700,000 500,000 600,000 400,000 500,000 300,000 400,000 200,000 300,000 120000,0,00000 100,0000 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 สถาบนั เกษตรกร จงั หวดั ปตั ตานี มจี �ำ นวนสถาบนั เกษตรกรทไี่ ดร้ บั การจดทะเบยี น ตาม พ.ร.บ. สหกรณแ์ ละด�ำ เนนิ งาน จ�ำ นวนทงั้ สนิ้ ๘๘ แหง่ มมี ลู คา่ ปรมิ าณการด�ำ เนนิ งาน จำ�นวนทั้งสิน้ ๔,๐๓๗,๕๙๒,๑๓๖ บาท มีสหกรณจ์ ำ�นวน ๗๕ แหง่ สมาชกิ ๒๐๑,๕๔๐ ครอบครวั และกลุ่มเกษตรกร จำ�นวน ๑๓ แหง่ สมาชกิ ๑,๐๗๖ ครอบครัว บรรยายสรุปจังหวัดปัตตานี 49
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137