แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยกำรประเมิน ระดับคุณภำพ กลุ่มท่ี เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรุง) (พอใช)้ (ดี) ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทกึ คะแนนระหว่ำงเรยี น แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22104 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหว่างเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบกอ่ น จดุ ประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี ก่อนเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรียน (ต่อ) แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรียน จดุ ประสงค์ที่ จดุ ประสงค์ที่ หลงั เรียน 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. รอ้ ยละ ลงชื่อ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 7 รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 รายวิชาพื้นฐาน ช่อื หนว่ ยท่ี 1 แนวคดิ เชงิ คานวณ ชื่อแผนฟงั ก์ชัน สอนโดย วา่ ที่ ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพันธ์ เวลาเรียน 6 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 สอนวนั ท่ี.....เดือน.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด/ผลกำรเรียนรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเป็นขน้ั ตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม 2. สำระสำคญั ฟังกช์ นั (function) เปน็ โปรแกรมย่อยที่เขียนขนึ้ เพ่ือใหท้ างานเฉพาะตามทีก่ าหนด โดยมีการนยิ าม ชือ่ ท่ใี ช้สาหรับอ้างองิ แทนโปรแกรมย่อยนน้ั เพือ่ ใหส้ ามารถเรียกทางานได้ตามต้องการ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถ เรียกใช้ฟังกช์ นั ได้สะดวกโดยไม่ต้องเขยี นชุดคาส่งั นั้นซา้ ๆ กนั อกี ทาให้การเขยี นโปรแกรมขนาดใหญ่ทาได้ รวดเร็ว และตรวจสอบความถกู ตอ้ งของโปรแกรมไดง้ ่ายขนึ้ ภาษาสาหรับเขยี นโปรแกรมส่วนใหญจ่ ะมีฟงั ก์ชันให้เรียกใช้งาน 2 แบบ คอื ฟังก์ชนั ทม่ี ีมากับภาษา น้ัน และสามารถเรยี กใชไ้ ด้ทันที (standard function) อีกแบบหน่ึงคือ ฟังก์ชันทผ่ี เู้ ขยี นโปรแกรมสรา้ งข้ึนเอง เพือ่ ใชง้ าน (defining function) 3. ผลกำรเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ผลการเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มีความรบั ผดิ ชอบ สรา้ งและแสดง สิทธิ์ ในการเผยแพรผ่ ลงาน มาตรฐานตวั ช้วี ดั ตวั ชีว้ ดั ท่ี 1 ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการพัฒนา โครงงานทม่ี กี ารบูรณาการกบั วิชา อื่น อยา่ งสร้างสรรค์ และเช่อื มโยงกบั ชีวติ จรงิ
4. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1 วางแผนการแกป้ ญั หาโดยมกี ารกาหนดฟงั ก์ชนั ตามหนา้ ทีก่ ารทางาน (K) 2 เพ่อื แกป้ ญั หาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน (P) 3. เห็นคุณคา่ ของการเรยี นวิชาเทคโนโลยี และการตระหนักในคุณคา่ ของความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่ใช้ในชวี ติ ประจาวัน (A) 5. สมรรถนะทส่ี ำคัญ 5.1 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 5.2 ทักษะการสอ่ื สาร 5.3 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 5.4 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร 6. สำระกำรเรยี นรู้ 6.1 การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการใชฟ้ งั ก์ชนั 6.2 การออกแบบอลั กอรทิ มึ เพ่ือแก้ปัญหา อาจใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการออกแบบเพ่อื ให้การ แก้ปัญหามปี ระสิทธิภาพ 6.3 การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนจะชว่ ยให้แก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 6.4 ซอฟต์แวรท์ ีใ่ ชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c 7. ควำมสัมพันธ์กบั กลุ่มสำระกำรเรียนรอู้ ืน่ ๆ / บูรณำกำร 1. กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี 2. กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บรู ณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพยี ง ตามรอยพอ่ หลวงรชั กาลที่ 9 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 8.1 การจัดเตรียม 8.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 7.1 ตามจานวนกล่มุ และ 7.2 ตามจานวนผู้เรียน 8.1.2 ไฟลโ์ มดูล turtlelap9.py ไว้ในเครือ่ งผูเ้ รยี นโฟลเดอรเ์ ดยี วกับทเ่ี กบ็ ไฟล์โปรแกรม
8.1.3 บรรจเุ มล็ดถั่ว 3 ชนดิ คละจานวนลงในถุง กลมุ่ ละ 3 ถุง และสาหรบั ตัวแทนกลุ่ม ตามจานวนกลุม่ โดยแต่ ละถุงไมจ่ าเป็นต้องมจี านวนเมล็ดถั่วเทา่ กัน 8.1.4 ติดต้ังโปรแกรม PyCharm Edu ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ (ดาวนโ์ หลดจาก https://www.jetbrains. com/pycharm-edu/download/) หรอื ตดิ ต้งั ไอดีอีสาหรับเขยี นโปรแกรมไพทอนตัวอื่น เชน่ Winpython, Python3.7 8.1.5 แบบประเมนิ ฟงั ก์ชัน แบบประเมินการแก้ปญั หาและการเขียนโปรแกรม แบบสงั เกตพฤติกรรม การมสี ่วนร่วมในช้นั เรยี น 8.2 ขัน้ ตอนการดาเนินการ ช่ัวโมงที่ 1 - 2 8.2.1 ผ้สู อนแบง่ ผ้เู รยี นเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ สุ่มผู้เรยี นเพอื่ เป็นตวั แทนกลุ่มละ 1 คน ออกมา ปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยผู้สอนแจกถงุ ที่มถี วั่ 3 ชนดิ คละกนั ใหต้ ัวแทนกลมุ่ คนละ 1 ถงุ แลว้ ให้ ตวั แทนกลุม่ นบั จานวนถัว่ แต่ละชนดิ ในถงุ ทีไ่ ด้รบั โดยถ้าใครเสรจ็ ก่อนและถกู ตอ้ งจะได้รบั รางวลั (ให้สมาชกิ ในกล่มุ ท่ีเหลือคอยใหก้ าลังใจและสงั เกตการทางานของตวั แทนกลมุ่ ) 8.2.2 ตัวแทนกลุ่มกลับเข้ากลมุ่ แล้วให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมซา้ อีกครัง้ ให้แต่ละกลุ่ม นบั จานวนถั่วแต่ละชนิดในแต่ละถุง โดยผู้สอนจะทยอยแจกถงุ ถวั่ ทีละ 1 ถุง ทุก ๆ 2 นาที จน ครบทัง้ สามถงุ กลุ่มใดเสรจ็ ก่อนและถูกตอ้ งจะไดร้ างวัล (ซึ่งจะมีบางกลุม่ ท่ปี ฏบิ ตั ภิ ารกิจสาเร็จ ก่อนเพราะมีการแบ่งงานกนั ทา เชน่ คนที่ 1 นบั ถว่ั เขียว คนท่ี 2 นบั ถ่ัวเหลือง คนท่ี 3 นบั ถว่ั ดา คนท่ี 4 จดบนั ทึก) ผู้สอนถามจานวนถว่ั แตล่ ะชนดิ รวม 3 ถุง ของกลุ่ม แล้วสังเกตการหาคาตอบ 8.2.3 ผูส้ อนให้กลุม่ ทป่ี ฏบิ ัติภารกจิ สาเร็จและรวดเรว็ ออกมานาเสนอวา่ ทางานอยา่ งไรจงึ สาเร็จอย่าง รวดเรว็ แล้วผู้สอนนาอภปิ รายการทากิจกรรมวา่ การแบ่งงาน เปรียบได้กบั แบง่ โปรแกรมย่อย หรอื ฟังกช์ ัน ให้ผูเ้ รยี นอภปิ รายถงึ ประโยชนข์ องการสรา้ งฟงั กช์ ัน 8.2.4 ผ้สู อนตั้งคาถามวา่ จากโปรแกรมทผี่ เู้ รยี นได้เขียนมาแลว้ มีโปรแกรมใดบา้ งที่สามารถนามา สร้างฟังกช์ ันได 8.2.5 ผู้สอนให้ผู้เรยี นศกึ ษาหวั ข้อ 2.5 ฟังก์ชัน จากหนังสือเรยี น แล้วแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 2 คน เพอื่ ทา ใบกิจกรรมที่ 7.1 เรือ่ ง ฟงั ก์ชัน 8.2.6 ผู้สอนสุ่มผูเ้ รยี นนาเสนอคาตอบจากการทาใบกจิ กรรม 8.2.7 หากมเี วลาเพยี งพอผ้สู อนอาจทบทวนโจทย์พาเต่ากลบั บา้ นทนี่ กั เรยี นไดเ้ คยปฏิบัติในช้ัน ม.1แลว้ ให้ ผู้เรียนทาโจทย์ทา้ ทายท่เี ป็นภาคตอ่ โดยเขียนโปรแกรมเพื่อพาเต่าไปเยย่ี มเพอื่ นท่บี า้ นศึกษารายละเอียดไดท้ ่ี ใบกจิ กรรมเสริม ชวั่ โมงท่ี 3 - 4 8.2.8 ผู้สอนสอบถามผู้เรยี นเกย่ี วกบั การใช้คาสงั่ ไพทอนทีใ่ ชใ้ นการวาดเส้นเป็นรปู ต่าง ๆ รวมถงึ การ กาหนดมุมที่ต้องการ ซึง่ จะต้องประกาศส่วนหวั โปรแกรมดว้ ยคาสัง่ from turtle import* 8.2.9 ผู้สอนให้ผู้เรยี นแต่ละคนทากิจกรรมที่ 2.2 จากหนงั สือเรียน และทาใบกิจกรรมที่ 7.2 เร่ือง
ต.เต่า ก้าวเดิน หลังจากน้ันผู้สอนสุ่มผู้เรยี นนาเสนอวธิ กี ารในการเขียนโปรแกรม 8.2.10 ผูเ้ รียนและผูส้ อนร่วมกันสรุปการเขยี นโปรแกรมแกป้ ญั หาโดยใช้ฟงั ก์ชนั ใบกิจกรรมที่ 7.1 ฟงั ช่นั สมาชิกในกลุม่ 1. ชอ่ื -สกุล..................................................เลขที่.......... 2. ชื่อ-สกุล..................................................เลขท่.ี ......... 3. ชอ่ื -สกุล..................................................เลขที่.......... 4. ช่ือ-สกุล..................................................เลขท่ี.......... 1. ศึกษำเนอ้ื หำหัวข้อ 2.5 เรอ่ื ง ฟังกช์ นั จำกหนงั สือเรยี น 2. จำกโปรแกรมให้ระบวุ ำ่ ชอื่ ฟงั ก์ชันมำตรฐำนและฟังกช์ นั ทส่ี ร้ำงเอง พร้อมระบุว่ำเป็นประเภทใด โปรแกรม ช่ือฟังก์ชนั มำตรฐำน ชอื่ ฟังกช์ ันสร้ำงเอง ประเภทฟงั กช์ ัน คืนคำ่ ไม่คนื คำ้ def hello1(name): print('สวสั ดี', name) hello1('ประวิทย์') x=1 y=2 def plus(a,b): print(a+b) plus(x,y) x=1 y=2 def minus(a,b): return a-b print(minus(x,y) x = int(input()) y = int(input()) def areasq(a,b): return a*b print(areasq(x,y)) x = int(input()) y = int(input())
def areatri(a,b): print(a*b/2) areatri(x,y) 3. ใหน้ ักเรียนออกแบบและเขียนโปรแกรมตอ่ ไปน้ตี ำมขนั้ ตอนกำรแกป้ ญั หำ 3.1 คำนวณพน้ื ท่ีสำมเหล่ียมและสเ่ี หล่ียม 3.1.1 กำรวิเครำะหแ์ ละกำหนดรำยละเอียดของปัญหำ 1) ข้อมูลเข้ำ คอื ...................................................................................................................... 2) ขอ้ มลู ออก คือ .................................................................................................................... 3) วิธีกำรตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง ............................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… 3.1.2 กำรวำงแผนกำรแกป้ ญั หำ มีจำนวน ………………... ฟงั ก์ชนั ดังนี้ ลำดับที่ ชื่อฟังชน่ั ชนิด หน้ำที่ รหสั ลำลองหรอื ผงั งำนมีดังนี้ 3.3.3 เขียนโปรแกรมตำมทอ่ี อกแบบไว้ พร้อมทงั้ ตรวจสอบและประเมนิ ผล
ใบกิจกรรมท่ี 7.2 ต เต๋ำก้ำวเดนิ ชอ่ื -สกุล...................................................................................................เลขท.ี่ ............... 1. ใช้เต่ำในกำรเขยี นโปรแกรมทม่ี กี ำรสร้ำงฟงั ก์ชันเพ่ือให้ไดร้ ูปดังต่อไปนี้ 1.1 มีจำนวน …………. ฟังก์ชัน ดงั น้ี ลำดบั ที่ ชือ่ ฟังชั่น ชนดิ หนำ้ ท่ี 1.2 เขยี นโปรแกรมโดยสรำ้ งฟงั ก์ชันตำมทีไ่ ด้ออกแบบไว้ พรอ้ มท้ังตรวจสอบและประเมนิ ผล 2. ใช้เตำ่ ในกำรเขียนโปรแกรมทม่ี ีกำรสร้ำงฟังก์ชนั เพ่อื ให้ไดร้ ูปดงั ต่อไปน้ี 2.1 มีจำนวน …………. ฟังก์ชัน ดงั นี้ ลำดับท่ี ชื่อฟังช่นั ชนิด หนำ้ ที่ 2.2 เขียนโปรแกรมโดยสรำ้ งฟงั ก์ชนั ตำมที่ได้ออกแบบไว้ พรอ้ มทัง้ ตรวจสอบและประเมินผล
9. สอื่ /แหลง่ กำรเรียนรู้ เรอ่ื ง ใบกิจกรรมที่ จริงหรือไม่ ใชห่ รือเปล่ำ 6.1 ลองคิดจำกสถำนกำรณ์ 6.2 สถำนกำรณ์หลำยทำงเลือก 6.3 10. กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ วิธีกำรวดั ผล เครอื่ งมือ เกณฑก์ ำรผ่ำน 1. ด้ำนควำมรู้ -การสังเกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น -การทดสอบปฏิบตั ิ -แบบประเมินผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดบั ปรับปรงุ 2. ด้ำนทกั ษะ -การสังเกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ น กระบวนกำร -การทดสอบปฏิบตั ิ -แบบประเมินผลงาน ระดบั ดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดับปรบั ปรุง 3. ดำ้ นคุณลักษณะอนั -การสังเกต -แบบสงั เกต ระดับ 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ใน พึงประสงค์ -การตรวจผลงาน -แบบประเมนิ ผลงาน ระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ใน ระดบั พอใช้ ระดบั 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ใน ระดับปรับปรงุ 11.กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 สาหรบั ขน้ั ตอนการวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา ผู้สอนควรกระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รียนคิดวิธีการ ตรวจสอบความถกู ต้องให้ครอบคลุมทกุ กรณี และพยายามให้ผู้เรยี นเขยี นโปรแกรมครอบคลมุ กรณีเหลา่ นนั้ หากมีกรณีใดทโี่ ปรแกรมไมร่ องรบั ให้เขยี นสว่ นดกั จับกรณีดังกลา่ วไว้
11.2 สาหรับการประเมินผล ผู้สอนอาจให้ผูเ้ รียนผลดั กันทดสอบโปรแกรม โดยทดสอบจากข้อมูลเขา้ หลายชดุ ทค่ี รอบคลมุ กรณีที่เปน็ ไปได้ทั้งหมด 11.3 ใบกจิ กรรมเสรมิ อยใู่ นโฟลเดอร์ Act7 ใช้คู่กับไฟลโ์ มดูล turtlelab9.py 12.ขอ้ เสนอแนะและความคิดเหน็ หวั หนา้ สถานศกึ ษา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ........................................... (นายยรรยง วงคค์ าจันทร)์ ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนรัตนบุรี
13 บนั ทึกผลหลงั สอน 1. ด้านความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ดา้ นทักษะ/สมรรถนะผเู้ รียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปัญหาและอปุ สรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................ (ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจักร วีระพนั ธ.์ ) ครู/ผูส้ อน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ลกั ษณอ์ ันพงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมิน ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) เข้าเรยี น สง่ สรุปความรู้ท่ีได้ท้าย ชม. ระดับคุณภาพท่ีใช้ในการประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดับ 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดับปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดับดี 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยกำรประเมิน ระดับคุณภำพ กลุ่มท่ี เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรุง) (พอใช)้ (ดี) ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทกึ คะแนนระหว่ำงเรยี น แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22104 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหว่างเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบกอ่ น จดุ ประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี ก่อนเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรียน (ต่อ) แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรียน จดุ ประสงค์ที่ จดุ ประสงค์ที่ หลงั เรียน 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. รอ้ ยละ ลงชื่อ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี 8 รายวชิ า วิทยาการคานวณ รหัสวิชา ว22104 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 รายวิชาพืน้ ฐาน ชอื่ หนว่ ยท่ี 1 แนวคิดเชงิ คานวณ ช่ือแผน การประยุกตใ์ ชง้ าน สอนโดย ว่าที่ ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพนั ธ์ เวลาเรยี น 6 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 สอนวนั ท่ี.....เดือน.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั /ผลกำรเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม 2. สำระสำคญั การแก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ หรืองานในชีวิตประจาวัน สามารถใชโ้ ปรแกรม คอมพวิ เตอรม์ าช่วยใหก้ ารแกป้ ัญหามีประสิทธภิ าพ ถูกตอ้ ง และรวดเร็ว 3. ผลกำรเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ผลการเรยี นรู้ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทีใ่ ชต้ รรกะและฟงั กช์ นั ในการแก้ปัญหา มาตรฐานตวั ช้ีวัด ตัวชี้วัดที่ 1 ประยุกต์ใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการพัฒนา โครงงานทม่ี ีการบูรณาการกับวชิ า อื่น อย่างสรา้ งสรรค์ และเชือ่ มโยงกบั ชวี ติ จริง 4. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 1 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทมี่ กี ารใชต้ รรกะ และฟงั กช์ ัน (K) 2 เพ่ือแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน (P) 3. เหน็ คณุ คา่ ของการเรียนวิชาเทคโนโลยี และการตระหนกั ในคุณคา่ ของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่ใช้ในชวี ิตประจาวนั (A)
5. สมรรถนะทส่ี ำคัญ 5.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 5.2 ทกั ษะการสอื่ สาร 5.3 ทกั ษะการแกป้ ญั หา 5.4 ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร 6. สำระกำรเรยี นรู้ 6.1 การออกแบบและเขยี นโปรแกรมทม่ี กี ารใช้ฟังก์ชนั 6.2 การออกแบบอัลกอรทิ ึมเพื่อแกป้ ญั หา อาจใช้แนวคิดเชิงคานวณในการออกแบบเพอ่ื ใหก้ าร แกป้ ญั หามีประสทิ ธภิ าพ 6.3 การแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขนั้ ตอนจะชว่ ยใหแ้ ก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 6.4 ซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c 7. ควำมสมั พนั ธก์ ับกลุม่ สำระกำรเรยี นรอู้ นื่ ๆ / บูรณำกำร 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ 2. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บรู ณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงรชั กาลที่ 9 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.1 การจัดเตรียม 8.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 8.1 ตามจานวนกลุ่ม และใบกิจกรรมที่ 8.2 ตามจานวนผูเ้ รียน 8.1.2 ตดิ ต้ังโปรแกรม PyCharm Edu ในเคร่อื งคอมพิวเตอร์ (ดาวนโ์ หลดจาก https://www. jetbrains.com/pycharm-edu/download/) หรือตดิ ตงั้ ไอดีอสี าหรบั เขยี นโปรแกรมไพทอน ตวั อนื่ เชน่ Winpython, Python3.7 8.1.3 แบบประเมินฟงั ก์ชนั แบบประเมนิ การแกป้ ญั หาและการเขยี นโปรแกรม แบบสังเกตพฤติกรรม การมีสว่ นร่วมในชน้ั เรียน แบบประเมินการทางานกลุ่ม 8.2 ขัน้ ตอนการดาเนินการ 8.2.1 ผ้สู อนแบ่งผเู้ รียนเปน็ กล่มุ กล่มุ ละ 4 คน แลว้ ให้แต่ละกล่มุ ทาใบกิจกรรมที่ 8.1 ซึ่งเปน็ สถานการณ์ ทผี่ เู้ รยี นเคยศกึ ษามาแลว้ ในบทที่ 2 ผูส้ อนควรแนะนาให้ผู้เรียนฝกึ สร้างฟงั กช์ ันในโปรแกรม 8.2.2 ใหผ้ เู้ รยี นแต่ละกลุม่ ผลัดการทดสอบโปรแกรมของเพ่ือนกลมุ่ อน่ื โดยนาวิธีการตรวจสอบท่เี ตรยี มไวไ้ ป ทดสอบกับโปรแกรมของเพื่อนว่าไดค้ าตอบที่ถกู ต้องกขี่ ้อ
8.2.3 ให้ผูเ้ รยี นแต่ละคนทากิจกรรมทา้ ยบท และแบบฝึกหดั ทา้ ยบทจากหนงั สอื เรียน โดยดาเนนิ การแก้ปญั หา ลงในใบกิจกรรมที่ 8.2 หลังจากนนั้ ให้ผูเ้ รยี นผลัดกนั การตรวจ แลว้ ผู้สอนสุม่ ผ้เู รียนนาเสนอคาตอบ 8.2.4 ผเู้ รียนและผ้สู อนรว่ มกันสรุปการแก้ปัญหาโดยใชก้ ารเขยี นโปรแกรมเป็นเคร่ืองมือ ใบกิจกรรมที่ 8.1 คา่ โดยสาร สมาชิกในกลุ่ม 1. ชอื่ -สกุล..................................................เลขท.่ี ......... 2. ชอ่ื -สกุล..................................................เลขท่ี.......... 3. ชอื่ -สกุล..................................................เลขท.่ี ......... 4. ช่อื -สกุล..................................................เลขท่.ี ......... คำชี้แจง จำกสถำนกำรณ์ในหวั ข้อ 2.1 บทท่ี 2 จำกหนงั สอื เรียน ใหน้ กั เรยี นดำเนินกำรแกป้ ัญหำ 1. กำรวิเครำะห์และกำหนดรำยละเอียดของปัญหำ 1) ข้อมูลเข้ำ คอื …………………………………………………………...………………………………………......................... 2) ขอ้ มลู ออก คือ …………………………………………………………...………………………………………....................... 3) วธิ ีกำรตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... 2. กำรวำงแผนกำรแกป้ ญั หำ 3. เขยี นโปรแกรมตำมที่ออกแบบไว้ พร้อมทัง้ ตรวจสอบและปรับปรุง
ใบกิจกรรมท่ี 8.2 กำรประยุกต์ใช้งำน ช่อื -สกลุ ...................................................................................................เลขท.่ี ............... คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นพิจำรณำสถำนกำรณจ์ ำกกิจกรรมทำ้ ยบท และแบบฝึกหดั ทำ้ ยบทท่ี 2 จำกหนังสอื เรยี น แล้วดำเนินกำรแก้ปญั หำ 1. กำรวเิ ครำะห์และกำหนดรำยละเอยี ดของปัญหำ 1) ขอ้ มลู เขำ้ คือ …………………………………………………………...………………………………………......................... 2) ข้อมูลออก คือ …………………………………………………………...………………………………………....................... 3) วธิ กี ำรตรวจสอบควำมถูกต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... 2. กำรวำงแผนกำรแกป้ ัญหำ 3. เขยี นโปรแกรมตำมทอ่ี อกแบบไว้ พร้อมท้ังตรวจสอบและปรับปรุง
แบบฝึกหัดทำ้ ยบทข้อท่ี 1 1. กำรวิเครำะห์และกำหนดรำยละเอยี ดของปญั หำ 1) ขอ้ มูลเขำ้ คือ …………………………………………………………...………………………………………......................... 2) ขอ้ มูลออก คอื …………………………………………………………...………………………………………....................... 3) วธิ กี ำรตรวจสอบควำมถกู ต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... 2. กำรวำงแผนกำรแกป้ ญั หำ 3. เขียนโปรแกรมตำมท่อี อกแบบไว้ พรอ้ มทั้งตรวจสอบและปรับปรงุ
แบบฝกึ หดั ท้ำยบทข้อที่ 1 1. กำรวิเครำะหแ์ ละกำหนดรำยละเอยี ดของปญั หำ 1) ขอ้ มูลเขำ้ คือ …………………………………………………………...………………………………………......................... 2) ขอ้ มลู ออก คือ …………………………………………………………...………………………………………....................... 3) วธิ กี ำรตรวจสอบควำมถูกต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... ………………………………………………………………………………………………………………………………............... 2. กำรวำงแผนกำรแกป้ ัญหำ 3. เขียนโปรแกรมตำมทีอ่ อกแบบไว้ พร้อมทง้ั ตรวจสอบและปรับปรงุ
9. สื่อ/แหลง่ กำรเรยี นรู้ เร่อื ง ใบกิจกรรมท่ี จริงหรอื ไม่ ใช่หรือเปล่ำ 6.1 ลองคิดจำกสถำนกำรณ์ 6.2 สถำนกำรณ์หลำยทำงเลือก 6.3 10. กำรวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ วิธกี ำรวดั ผล เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ำรผำ่ น 1. ด้ำนควำมรู้ -การสงั เกต -แบบสงั เกต 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ น -การทดสอบปฏิบัติ -แบบประเมนิ ผลงาน ระดบั ดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน ระดบั พอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดับปรบั ปรงุ 2. ด้ำนทักษะ -การสังเกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน กระบวนกำร -การทดสอบปฏิบตั ิ -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดับพอใช้ 1-5 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน ระดบั ปรบั ปรงุ 3. ดำ้ นคณุ ลักษณะอนั -การสังเกต -แบบสังเกต ระดับ 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ใน พงึ ประสงค์ -การตรวจผลงาน -แบบประเมินผลงาน ระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ใน ระดบั พอใช้ ระดบั 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ใน ระดบั ปรับปรงุ 11.กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 สาหรบั ข้ันตอนการวิเคราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา ผู้สอนควรกระตนุ้ ให้ผเู้ รียนคดิ วธิ กี าร ตรวจสอบความถกู ต้องใหค้ รอบคลุมทุกกรณี และพยายามให้ผู้เรียนเขยี นโปรแกรมครอบคลุมกรณเี หล่านัน้ หากมีกรณใี ดทโ่ี ปรแกรมไม่รองรบั ใหเ้ ขียนสว่ นดักจบั กรณดี งั กลา่ วไว้ 11.2 สาหรับการประเมนิ ผล ผู้สอนอาจให้ผู้เรยี นผลัดกันทดสอบโปรแกรม โดยทดสอบจากขอ้ มูลเข้าหลายชดุ ทคี่ รอบคลุมกรณีท่ีเป็นไปไดท้ ั้งหมด 11.3 ใบกิจกรรมเสรมิ อยู่ในโฟลเดอร์ Act7 ใชค้ ู่กับไฟลโ์ มดูล turtlelab9.py
12.ข้อเสนอแนะและความคดิ เหน็ หัวหน้าสถานศึกษา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ........................................... (นายยรรยง วงคค์ าจนั ทร์) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรยี นรัตนบุรี
13 บนั ทึกผลหลงั สอน 1. ดา้ นความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ด้านทักษะ/สมรรถนะผเู้ รียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปญั หาและอปุ สรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงชอื่ ................................................ (ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพนั ธ.์ ) ครู/ผู้สอน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ลกั ษณอ์ ันพงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมิน ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) เข้าเรยี น สง่ สรุปความรู้ท่ีได้ท้าย ชม. ระดับคุณภาพท่ีใช้ในการประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับดี ระดับ 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ดี 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดับปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยกำรประเมิน ระดับคุณภำพ กลุ่มท่ี เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรุง) (พอใช)้ (ดี) ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทกึ คะแนนระหว่ำงเรยี น แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22104 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหว่างเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบกอ่ น จดุ ประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี ก่อนเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรียน (ต่อ) แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรียน จดุ ประสงค์ที่ จดุ ประสงค์ที่ หลงั เรียน 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. รอ้ ยละ ลงชื่อ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131