เฉลี่ย S.D. รอ้ ยละ ลงชือ่ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี 4 รายวชิ า วิทยาการคานวณ รหัสวิชา ว22104 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 รายวชิ าพน้ื ฐาน ชื่อหน่วยที่ 1 แนวคดิ เชิงคานวณ ช่ือแผน ถกู ต้อง ปลอดภยั ใช่เลย สอนโดย ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจักร วีระพนั ธ์ เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 สอนวันท่ี.....เดอื น.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด/ผลกำรเรยี นรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นขัน้ ตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม 2. สำระสำคัญ การใช้งานอินเทอร์เน็ตทาให้เกิดเสรีภาพในการสรา้ งขอ้ มูล การแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้งา่ ย และ สามารถเผยแพร่ในวงกวา้ งใชเ้ วลารวดเรว็ ซงึ่ จะมีทัง้ ข้อมลู ท่ถี กู ต้อง ขอ้ มูลท่บี ิดเบือนความเปน็ จริง ขอ้ มูลที่ ไม่เหมาะสม เช่น เนอื้ หาทม่ี ีการคุกคามทางเพศ เนือ้ หาทีเ่ ก่ียวกับความรุนแรง การกอ่ การรา้ ย การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ ทุกคนสามารถชว่ ยปอ้ งกนั การเผยแพร่ขอ้ มลู ทีม่ ีเน้ือหาไมเ่ หมาะสมได้ โดยอาจปฏิเสธการรับข้อมลู ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง ไม่เปิดดู ไมบ่ ันทึกเก็บไว้ ไม่กดไลค์ ไมส่ ่งต่อ ไม่แชร์ ถา้ ประสบปัญหาทไ่ี มส่ ามารถจัดการดว้ ย ตนเองได้ใหแ้ จ้งครู ผปู้ กครอง เจา้ หนา้ รัฐ หรอื ผ้ทู ่ีเก่ียวขอ้ งในการดแู ลระบบทีน่ ักเรียนใช้บรกิ ารนนั้ ๆ นอกจากนี้ กอ่ นการนาเสนอข้อมูล แสดงความคิดเห็น เผยแพร่ และนาสอ่ื ตา่ ง ๆ ไปใช้ ควรคิดใหร้ อบคอบ คานงึ ถึงผล กระทบทมี่ ีต่อตนเอง และผูอ้ ่ืน โดยพิจารณาถึงจริยธรรมทีเ่ กีย่ วข้องกบั ขอ้ มลู และการติดตอ่ ส่อื สาร ที่เรียกวา่ พาพา ซง่ึ ประกอบดว้ ย ความเป็นสว่ นตวั (privacy) ความถกู ตอ้ ง (accuracy) ทรัพยส์ ินหรอื ความเป็นเจ้าของ (property) และการเขา้ ถงึ (access) 3. ผลกำรเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ผลการเรียนรู้ นักเรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผิดชอบ สร้าง และแสดง สิทธใ์ิ นการเผยแพร่ผลงาน มาตรฐานตวั ชีว้ ดั ตัวช้ีวัดที่ 1 ประยุกต์ใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการพัฒนา โครงงานท่มี กี ารบูรณาการกบั วิชา อ่นื อย่างสร้างสรรค์ และเชื่อมโยงกับชวี ิตจริง
4. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 1 บอกผลกระทบ แนวทางป้องกัน และวิธีการแก้ปัญหาในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย (K) 2 นักเรยี นใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมคี วามรบั ผดิ ชอบ (P) 3. เห็นคณุ ค่าของการเรียนวชิ าเทคโนโลยี และการตระหนักในคณุ ค่าของความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยีท่ีใช้ในชวี ิตประจาวัน (A) 5. สมรรถนะท่ีสำคัญ 5.1 ทักษะในการทางานรว่ มกัน 5.2 ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 5.3 ทกั ษะการสือ่ สาร 5.4 ทกั ษะด้านการสอ่ื สารสารสนเทศและรเู้ ทา่ ทันสอ่ื 5.5 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร 6. สำระกำรเรียนรู้ ❍ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั โดยเลอื กแนวทางปฏบิ ัตเิ มื่อพบเนอื้ หาทไี่ มเ่ หมาะสม เชน่ แจง้ รายงานผเู้ กย่ี วขอ้ ง ปอ้ งกนั การเขา้ มาของข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ไม่โต้ตอบ ไม่เผยแพร่ ❍ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมีความรบั ผิดชอบ เช่น ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูล ❍ ผลกระทบการเผยแพรข่ ้อมูลทไ่ี มเ่ หมาะสม ❍ มารยาทในการตดิ ต่อส่อื สารผา่ นอเี มล แชท ส่อื สังคมออนไลน์ 7. ควำมสัมพนั ธก์ บั กลุ่มสำระกำรเรยี นรอู้ น่ื ๆ / บรู ณำกำร 1. กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี 2. กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บูรณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพอ่ หลวงรัชกาลท่ี 9 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 8.1 การจดั เตรียม 8.1.1 ใบกิจกรรมที่ 1.1 - 1.2 ตามจานวนกลมุ่ 8.1.2 แบบประเมนิ ใบกิจกรรมที่ 1.1 - 1.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มในชน้ั เรียน แบบประเมนิ
การทางานกลุ่ม และแบบสังเกตพฤติกรรมการนาเสนอและเผยแพรข่ อ้ มูล 8.2 ขนั้ ตอนการดาเนินการ ช่วั โมงที่ 1 8.2.1 ผ้สู อนยกตัวอยา่ งสถานการณห์ รือปัญหาทเี่ กิดขนึ้ จากการใช้งานเครือข่ายสังคม หรือเปิดคลิปวิดโี อ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตวั อยา่ งสถานการณ์ เชน่ บุคคลอืน่ บันทึกภาพ แล้วนาขอ้ มูลส่วนตวั ของผ้เู รียนไปสมัคร บญั ชีผูใ้ ช้ในเครือขา่ ยสงั คม จากนัน้ นาบัญชีผู้ใชด้ ังกลา่ วไปใช้ขายสินคา้ ออนไลน์ หรอื ใช้ถ้อยคาท่ี ไม่สุภาพในการแสดงความคิดเหน็ จากสถานการณ์ดงั กลา่ ว ให้ผู้เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเพ่อื ตอบ คาถามตอ่ ไปน้ี ❍ นกั เรยี นได้รบั ผลกระทบอย่างไร ❍ ผ้ทู ่นี าบญั ชีนักเรียนไปกระทาดังกล่าวจะได้รับผลกระทบอยา่ งไร ❍ มีบคุ คลอนื่ ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ีอกี หรอื ไม่ อยา่ งไร ❍ นกั เรียนมแี นวทางปฏิบัติเพอ่ื แกไ้ ขปญั หานอ้ี ย่างไร 8.2.2 ให้ผ้เู รยี นศึกษาหวั ข้อ 6.1 เร่ือง แนวทางปฏบิ ตั เิ มอ่ื พบเนือ้ หาที่ไมเ่ หมาะสม และหัวข้อ 6.2 เรือ่ ง ผลกระทบในการเผยแพร่ขอ้ มูลไม่เหมาะสม จากหนังสือเรียน 8.2.3 ผสู้ อนแบ่งผู้เรยี นเปน็ กลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน แลว้ แจกบัตรสถานการณ์ 8.2.4 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นคน้ หาขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ งกับสถานการณท์ ี่ได้รบั แล้วทาใบกจิ กรรมที่ 1.1 เร่อื ง จรงิ หรือมว่ั ชวั รห์ รือไม่ 8.2.5 ผู้สอนสมุ่ ผ้เู รยี นนาเสนอคาตอบในใบกิจกรรมที่ 1.1 8.2.6 ผู้สอนให้ผู้เรยี นศกึ ษาหวั ขอ้ 6.5 เรอ่ื ง มารยาทในการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร จากหนังสือเรียน แล้วรว่ มกัน อภปิ รายประเดน็ ในกจิ กรรมท้ายบทจากหนังสอื เรยี น 8.2.7 ผู้สอนนาผเู้ รียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ แนวทางปฏิบตั ิเมื่อพบเนือ้ หาทไ่ี มเ่ หมาะสมในส่อื ต่าง ๆ การตระหนกั ถึงผลกระทบก่อนการสรา้ ง เผยแพร่ นาข้อมลู ไปใช้ และมารยาทในการตดิ ต่อสอ่ื สาร ช่วั โมงที่ 2 8.2.8 ผู้สอนรว่ มสนทนากับผู้เรียนถึงขอ้ มลู ข่าวสารในชวี ิตประจาวนั ซึง่ มจี านวนมาก ผเู้ รียนตอ้ งเลือกใหเ้ หมาะสม ตอ้ งพจิ ารณาก่อนการนาไปใช้ โดยยกตวั อย่างสถานการณ์ท่ีมี การเผยแพร่ขอ้ มูลในอินเทอร์เน็ต เชน่ “มะนาวโซดาช่วยรกั ษาโรคมะเร็งได้”โดยให้ผเู้ รยี นพจิ ารณาวา่ ข้อมลู น้ี มคี วามถูกตอ้ งหรอื ไม่ และมแี นวทางในการพจิ ารณาอยา่ งไร กอ่ นการเผยแพร่ข้อมูล 8.2.9 ผสู้ อนให้ผู้เรียนศึกษาหัวข้อ 6.3 เรื่อง แนวทางพจิ ารณาเนอื้ หาก่อนเผยแพร่ขอ้ มลู จากหนังสือ เรยี น แลว้ ทาใบกิจกรรมที่ 1.2 เร่อื ง เชื่อไม่เชือ่ แชร์ไม่แชร์ 8.2.10 ผ้สู อนสุม่ ผู้เรยี นนาเสนอคาตอบในใบกิจกรรมท่ี 1.2 พรอ้ มกับสรุปแนวคดิ ในการพจิ ารณาเน้ือหา กอ่ นการเผยแพร่ข้อมลู
8.2.11 ผ้สู อนและผ้เู รยี นรว่ มกันอภิปรายสรุป การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ แนวทางในการพิจารณาก่อนการเผยแพร่ข้อมูลและแนวทางปฏิบตั เิ มอ่ื พบเน้ือหาทีไ่ ม่เหมาะสม บัตรสถำนกำรณก์ ิจกรรมท่ี 1.1
ตัวอย่ำงข้อมูลหรือคลิปสำหรับกำรทำใบกจิ กรรมท่ี 1.2 ดงั น้ี ❍ การชาร์ตมอื ถอื ในไมโครเวฟ
❍ คลปิ ฮโี ร่ตวั จวิ๋ แท้จริงเปน็ แค่คลิปวิดีโอต่อต้านความรุนแรงในซเี รีย ❍ มีการจากดั อายกุ ารใชง้ านรถยนต์ “หา้ มรถเก่าอายเุ กนิ 7 ปวี ิง่ ในกรงุ เทพฯ” ❍ สองยายว่งิ หนา้ ตั้ง!! หาปลาเจอพญานาค เชือ่ ขึ้นมาเล่นนา้ ฝนสงกรานต์ใหโ้ ชค แห่ไหวต้ เี ลขเด็ด ❍ คลิปนาเสนอกรรมวิธใี นการผลิตไกท่ อดของรา้ นฟาสต์ฟดู้ ระบขุ อ้ ความว่า “พนักงานรา้ นไกท่ อดชอื่ ดัง โชวว์ ธิ หี มักปกี ไก่ทอดโดยใชเ้ ท้าเหยียบ” ❍ นาโทรศพั ทม์ ือถือไอโฟนทีม่ แี บตเตอร่ีอย่นู อ้ ย เขา้ ตู้อบไมโครเวฟพรอ้ มกดอุ่น 1 วนิ าที วิธีการดังกล่าว จะทาให้มีปริมาณแบตเตอรเี่ พ่มิ ขึน้ 70% ดวู ิธีการชาร์ตแบตเตอร่ไี ด้ท่ี https://youtu.be/o3TfFEB7LDE ❍ รปู ภาพการฉีดน้าหวานใหเ้ นอื้ แตงโมหวาน ❍ มีขอ้ ความผ่านทางไลน์ว่า ออมสินแจกเงินฟรสี าหรับผู้ทม่ี เี ลข 8 และ 28 ในบัตรประชาชน ❍ วติ ามนิ B17 รกั ษามะเร็ง ❍ ฮือฮา! พบรอยปริศนา คล้ายพญานาคหน้าตึกอกั ษร จุฬาฯ ใบกจิ กรรมที่ 1.1 จรงิ หรอื มว่ั ชัวรห์ รือไม สมำชกิ ในกลมุ่ ที่ …………………….. 2. ชอ่ื -สกลุ …….………………………..…….……….. เลขที่ ............ 1. ชอ่ื -สกุล …………….…………………………….….….. เลขท่ี ............ 4. ชอ่ื -สกลุ ………………………..….…..…….….….. เลขท่ี ........... 3. ชอ่ื -สกุล ……………………………………….….….….. เลขท่ี ............ 1. ศึกษาเนอื้ หาหวั ขอ้ 6.1 เร่อื ง แนวทางปฏิบัตเิ มอ่ื พบเน้อื หาท่ไี ม่เหมาะสม และหัวขอ้ 6.2 เร่อื ง ผลกระทบ ในการเผยแพร่ขอ้ มลู ไมเ่ หมาะสม จากหนงั สอื เรียน 2. รบั บัตรสถานการณ์จากครู สถานการณ์ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย คอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………………........ ... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………........ ... 3. จากสถานการณ์ใครเป็นผูไ้ ด้รับผลกระทบบา้ ง ไดร้ บั ผลกระทบอย่างไร และผลท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ตามมาคืออะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………........... 4. จากสถานการณ์ หากมีผอู้ ่นื โพสตข์ ้อมูลน้ใี นเครอื ขา่ ยสังคมและแทก็ นกั เรียนด้วย นักเรยี นจะปฏบิ ตั ิอย่างไร ใหท้ าเครอ่ื งหมาย ✓ หน้าขอ้ ความ (เลอื กได้มากกวา่ 1 ข้อ)
ใบกิจกรรมท่ี 1.2 เชอ่ื ไม่เช่อื แชรไ์ ม่แชร์ 2. ชอ่ื -สกุล …….………………………..…….……….. เลขท่ี ............ 4. ชอ่ื -สกุล ………………………..….…..…….….….. เลขที่ ........... สมำชิกในกลมุ่ ท่ี …………………….. 1. ชอ่ื -สกลุ …………….…………………………….….….. เลขท่ี ............ 3. ชอ่ื -สกุล ……………………………………….….….….. เลขท่ี ............ 1. ศึกษาเน้ือหาหัวขอ้ 6.3 เรือ่ ง แนวทางการพจิ ารณาก่อนการเผยแพร่ข้อมลู จากหนงั สอื เรยี น 2. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มค้นหาข้อมูลทีม่ ีการเผยแพรใ่ นสอ่ื สงั คมหรอื เว็บไซตต์ ่าง ๆ 1 สถานการณ์ แล้วรว่ มกนั วเิ คราะห์วา่ หากนกั เรยี นได้รบั ขอ้ มูลนี้ จะเผยแพร่ต่อหรือไม่ เพราะเหตใุ ด โดยสรุปในประเดน็ ความเป็น สว่ นตัวความถูกต้อง ความเปน็ เจา้ ของ และการเข้าถงึ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………........... 9. สอื่ /แหลง่ กำรเรียนรู้ 10. กำรวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วธิ กี ำรวดั ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์กำรผ่ำน 1. ด้ำนควำมรู้ -การสงั เกต -แบบสงั เกต 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ น -การทดสอบปฏบิ ัติ -แบบประเมินผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ น ระดับพอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดบั ปรับปรุง
2. ดำ้ นทักษะ -การสังเกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น กระบวนกำร -การทดสอบปฏบิ ตั ิ -แบบประเมินผลงาน ระดบั ดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน ระดบั พอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับปรับปรงุ 3. ดำ้ นคุณลักษณะอัน -การสงั เกต -แบบสังเกต ระดับ 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ใน พงึ ประสงค์ -การตรวจผลงาน -แบบประเมินผลงาน ระดบั ดี ระดบั 2 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ใน ระดบั ปรับปรงุ 11.กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 การตอบคาถามในใบกิจกรรมที่ 1.1 - 1.2 ผู้สอนอาจใหแ้ ต่ละกลุ่มเขียนคาตอบลงในเว็บไซต์ หรอื บรกิ าร ต่าง ๆ ทผี่ ู้เรยี นสามารถแสดงความคิดเหน็ หรือใช้งานรว่ มกนั ได้ เช่น Google Drive, www.padlet.com 11.2 กิจกรรมนเ้ี นน้ ใหผ้ เู้ รยี นใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งมีความรบั ผิดชอบ พจิ ารณาขอ้ มูลกอ่ นเผยแพร่ และแนวทาง ปฏบิ ัตเิ ม่อื พบวา่ ข้อมูลน้ันมเี น้อื หาทีไ่ ม่เหมาะสม ทั้งน้ผี ้สู อนควรให้ความสาคัญคอยดูแลใหค้ าปรกึ ษา อยา่ งใกล้ชดิ 11.3 สาหรับการทาใบกจิ กรรมที่ 1.2 นน้ั จะพิจารณาประเดน็ จรยิ ธรรมที่เก่ียวขอ้ งกับขอ้ มูลและการสือ่ สาร ที่เรยี กวา่ พาพา (Privacy, Accuracy, Property, Access: PAPA) ก่อนการเผยแพร่ข้อมลู ซึง่ ในการ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ผสู้ อนควรทบทวนประเดน็ อื่น ๆ ประกอบการพิจารณา เช่น เนื้อหานน้ั มีจาเป็น ต้องเผยแพร่ตอ่ หรือไม่ เป็นประโยชนก์ ับผใู้ ด ช่วยสรา้ งแรงบันดาลใจท่ีดหี รือมคี วามปรารถนาดีต่อสังคม มากนอ้ ยเพียงใด 11.4 ผู้สอนควรยกตวั อย่างสถานการณ์ทเ่ี ป็นปจั จุบนั ให้นกั เรียนพจิ ารณาความเหมาะสมของขอ้ มลู และ แนวทางปฏิบัตเิ มอื่ พบเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสมในส่อื ต่าง ๆ 11.5 ผูส้ อนควรระมัดระวังในการยกตัวอย่างสถานการณ์ เพราะบางกรณอี าจเปน็ การช้ีนาให้ผู้เรียนทาตาม 11.6 หากมีเวลาเพยี งพอ ผู้สอนควรใหผ้ ู้เรียนอภปิ รายประเดน็ ในแบบฝกึ หัดท้ายบทจากหนงั สือเรียน หรือ แทรกไปในกิจกรรมอ่ืนเพื่อใหผ้ ู้เรียนตระหนกั และมีจิตสานึกในการใช้เทคโนโลยีอยา่ งมีความรบั ผิดชอบ 11.7 ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรอู้ าจนาคาถามชวนคดิ มาอภิปรายในชนั้ เรียน 12.ข้อเสนอแนะและควำมคิดเหน็ หัวหนำ้ สถำนศกึ ษำ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ........................................... (นายยรรยง วงคค์ าจันทร์) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรียนรัตนบรุ ี 13 บันทกึ ผลหลังสอน 1. ด้านความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ด้านทกั ษะ/สมรรถนะผเู้ รียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
4. ปัญหาและอุปสรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงชื่อ ................................................ (วา่ ท่ี ร.ต.ธรรมจักร วีระพันธ.์ ) ครู/ผู้สอน ......../ .........../ .............. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เลขท่ี รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 ระดบั คณุ ภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดับ 2 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดับปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ปรับปรุง เกณฑก์ ำรประเมินคุณลกั ษณอ์ ันพึงประสงค์ ประเดน็ กำรประเมนิ ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง(1) เขา้ เรียน สง่ สรุปความรทู้ ่ีได้ทา้ ย ชม. ระดับคุณภาพที่ใช้ในการประเมนิ ระดับ 3 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดับปรบั ปรงุ
เกณฑ์การประเมนิ /ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดับพอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยกำรประเมนิ ระดบั คณุ ภำพ กลมุ่ ท่ี เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรุง) (พอใช้) (ด)ี ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด
2 3 แบบบันทกึ คะแนนระหวำ่ งเรียน แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง .................. หน่วยการเรียนรู้ ที่ 1 วิชา.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว22104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชั่วโมง นกั เรยี น คะแนน ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบก่อน จดุ ประสงค์ท่ี จุดประสงค์ที่ ก่อนเรียน 1 เรยี น 2 3
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรยี น (ต่อ) แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วชิ า วิทยาการคานวณ รหัสวิชา ว22104 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชวั่ โมง นักเรียน คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรียน รวม คะแนนทดสอบ เลขท่ี ก่อนเรยี น จุดประสงคท์ ี่ จุดประสงคท์ ี่ หลังเรยี น 21 22
23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. ร้อยละ ลงชือ่ ............................................(ผู้บันทึก) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ่ี 5 รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ รหสั วิชา ว22104 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 รายวิชาพ้ืนฐาน ชื่อหน่วยท่ี 1 แนวคดิ เชิงคานวณ ชื่อแผน สิทธขิ์ องเรา สอนโดย วา่ ท่ี ร.ต.ธรรมจกั ร วรี ะพันธ์ เวลาเรียน 2 ช่วั โมง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 สอนวนั ที่.....เดือน.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ดั /ผลกำรเรียนรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจรงิ อย่างเป็นข้ันตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมจี ริยธรรม 2. สำระสำคัญ ข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ เชน่ เอกสาร รูปภาพ หรือวีดิทัศน์ นับว่าเปน็ ทรัพย์สนิ ประเภทหน่ึง ท่ีเจ้าของ สามารถระบุความเป็นเจา้ ของและเง่ือนไขการนาข้อมลู ไปใชง้ าน ซ่ึงการกาหนดสิทธ์สิ ามารถทาไดห้ ลาย รปู แบบ เช่นการใส่ชอ่ื การระบุสญั ลักษณ์ การใสล่ ายน้า หรอื ขอ้ ความระบเุ งือ่ นไขการนาไปใช้ 3. ผลกำรเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด ผลการเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรับผดิ ชอบ สร้างและแสดง สทิ ธ์ิ ในการเผยแพรผ่ ลงาน มาตรฐานตวั ช้วี ดั ตวั ช้วี ัดท่ี 1 ประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดเชิงคานวณในการพฒั นา โครงงานทีม่ ีการบูรณาการกับวิชา อื่น อย่างสร้างสรรค์ และเชือ่ มโยงกบั ชีวติ จรงิ 4. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1 อธิบายขอ้ กาหนดของสอ่ื ทนี่ ามาใชง้ าน (K) 2 สรา้ งและกาหนดสิทธคิ์ วามเปน็ เจ้าของผลงาน (P) 3. เห็นคุณคา่ ของการเรยี นวิชาเทคโนโลยี และการตระหนกั ในคุณค่าของความรทู้ างวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจาวัน (A)
5. สมรรถนะที่สำคญั 5.1 ทักษะการคิดวิเคราะห์ 5.2 ทักษะการสอ่ื สาร 5.3 ทักษะดา้ นการสื่อสารสารสนเทศและรูเ้ ทา่ ทันส่ือ 5.4 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร 6. สำระกำรเรยี นรู้ ❍ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรบั ผิดชอบ เช่น ตระหนกั ถึงผลกระทบในการเผยแพร่ขอ้ มูล ❍ การสรา้ งและแสดงสิทธค์ิ วามเป็นเจา้ ของผลงาน ❍ การกาหนดสทิ ธ์ิการใชข้ อ้ มูล 7. ควำมสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้อ่ืนๆ / บูรณำกำร 1. กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี 2. กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บรู ณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพอ่ หลวงรัชกาลท่ี 9 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 8.1 การจดั เตรยี ม 8.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 ตามจานวนกลุม่ และใบกิจกรรมท่ี 2.2 ตามจานวนผู้เรยี น 8.1.2 แบบประเมินใบกิจกรรมที่ 2.1 และ 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนรว่ มในชน้ั เรยี น และ แบบประเมินการทางานกลมุ่ 8.2 ข้นั ตอนการดาเนนิ การ 8.2.1 ผสู้ อนถามผู้เรียนเกย่ี วกบั ข้อมลู ต่าง ๆ ทีพ่ บในชีวติ ประจาวนั วา่ มีอะไรบา้ ง และอยูใ่ นรปู แบบใด ผู้เรียนสามารถสร้างขอ้ มลู เหล่าน้ีได้เองหรือไม่ และมีวิธกี ารบอกผอู้ นื่ อย่างไร ในการนาขอ้ มูลของผเู้ รียนไปใช้ งานได้อยา่ งถูกต้อง ตรงตามวตั ถุประสงค์ 8.2.2 ผู้เรยี นศึกษาเนอ้ื หาหัวขอ้ 6.4 เรื่อง การสร้างและแสดงสทิ ธิ์ความเปน็ เจ้าของผลงานจากหนงั สอื เรยี น 8.2.3 ผ้สู อนแบง่ ผู้เรียนเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มคน้ หาข้อมูลตา่ ง ๆ ที่ต้องการในอินเทอร์เน็ต เช่น ภาพ ข้อมูล เว็บไซต์ หรือส่ืออ่ืน ๆ แลว้ เลือกมา 1 อยา่ ง หรอื ผสู้ อนจัดเตรียมไวใ้ ห้ โดยอาจให้ผเู้ รยี นเลอื ก รูปในกิจกรรมที่ 6.1 ขอ้ 1 จากหนังสอื เรยี นหรือเวบ็ ไชตต์ ่างๆ เช่น ❍ http://www.ipst.ac.th/ ❍ http://www.mcot.net/
❍ https://openclipart.org/ ❍ https://www.youtube.com/audiolibrary/music (แตล่ ะกลมุ่ ไดร้ บั ขอ้ มูลที่แตกต่างกัน) 8.2.3 ผ้สู อนให้แตล่ ะกลมุ่ ค้นหาว่าขอ้ มูลทไี่ ด้รบั ใครเปน็ เจา้ ของ และมกี ารระบเุ งอ่ื นไขการนาไปใชอ้ ย่างไร เชน่ นาไปใช้ในการเรียนไดห้ รอื ไม่ นาไปใช้ในการค้าได้หรือไม่ นาไปเผยแพร่ไดห้ รอื ไม่ โดยทาลงในใบกจิ กรรม ท่ี 2.1 เร่ือง งานของใครใชไ้ ดแ้ คไ่ หนแลว้ นาเสนอหนา้ ช้ันเรียน 8.2.4 ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ การกาหนดสทิ ธขิ์ องผลงานในรูปแบบต่าง ๆ รวมถงึ วธิ กี ารนาผลงาน ของผอู้ ืน่ ไปใช้งานไดถ้ กู ต้องตามขอ้ กาหนด 8.2.5 ผเู้ รยี นแตล่ ะคนทาใบกจิ กรรมที่ 2.2 เร่อื ง สิทธิข์ องเรา ขอ้ 1 แล้วใหแ้ ลกเปลี่ยนผลงานกบั เพือ่ น แลว้ พิจารณาผลงานของเพอื่ นว่าสามารถนาไปใช้งานไดแ้ ค่ไหน โดยระบุลงใน ขอ้ 3 8.2.6 ผูส้ อนเลือกชนิ้ งานทีถ่ ูกตอ้ งและสมบูรณ์มาอย่างนอ้ ย 5 ชนิ้ งาน มาเปน็ ตวั อยา่ งในการสรุปบทเรยี น เร่อื ง การสรา้ งและแสดงสิทธคิ์ วามเป็นเจ้าของผลงาน
ใบกิจกรรมท่ี 2.1 งานของใคร ใชไ้ ดแ้ ค่ไหน 2. ชอ่ื -สกลุ …….………………………..…….……….. เลขท่ี ............ 4. ชอ่ื -สกลุ ………………………..….…..…….….….. เลขท่ี ........... สมำชกิ ในกลมุ่ ที่ …………………….. 1. ชอ่ื -สกุล …………….…………………………….….….. เลขท่ี ............ 3. ชอ่ื -สกุล ……………………………………….….….….. เลขที่ ............ ข้อมูลหรือแหล่งข้อมูลทก่ี ลุ่มนกั เรยี นได้รับมอบหมาย คอื ……………………………………………………..………………..…….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………................. . พจิ ารณาข้อมูลหรอื แหล่งขอ้ มลู ท่ีนกั เรยี นได้รับมอบหมาย แล้วตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. ใครเปน็ เจ้าของ …………………………………………………………………….………………………………………………..... 2. มีการระบุเง่อื นไขการใชง้ านไวท้ ส่ี ่วนใด ………...………………..……………………..………………………..…............. 3. ขอ้ ความหรอื สญั ลกั ษณ์ระบุเงือ่ นไขการใชง้ าน คือ ………..……………………..……………………………................ 4. เมื่อพิจารณาเง่ือนไขการใชง้ านแลว้ แล้วเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ในชอ่ ง ❐ หน้าข้อความที่ตรงกับเง่อื นไข การใชง้ าน ❐ แชรไ์ ด้ ❐ ต้องอ้างอิง ❐ หา้ มนาไปใช้เพอ่ื การค้า ❐ ห้ามดดั แปลง ❐ อ่ืน ๆ โปรดระบุ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… ……………………………………
ใบกิจกรรมที่ 2.2 สิทธิ์ของเรา ชื่อ-สกุล …………….………………………………….……………………….….….. เลขท่ี ............ ห้อง ................. 1. สร้างเอกสาร 1 หน้าที่เป็นประโยชน์กบั ผอู้ ่นื ซ่ึงประกอบไปดว้ ยภาพทน่ี ักเรียนถ่ายเอง และข้อความท่ี นักเรียน ต้องการ พร้อมระบชุ ือ่ ผลงาน เจ้าของผลงาน และข้อกาหนดในการนาไปใช้งาน โดยเลือกใช้ซอฟต์แวรท์ ่ี ตอ้ งการ หรอื ใชบ้ ริการบนเวบ็ ไซต์ 2. ประโยชนท์ ผ่ี อู้ ื่นจะได้รับจากเอกสารท่ีนกั เรยี นสรา้ งขึน้ คือ ……………………………………………………….............….…………………………………………………………………………………… 3. แลกเปล่ียนเอกสารกบั เพ่อื น ชือ่ …………………………………………………………………………….............................. 4. พิจารณาเอกสารที่ได้รับจากเพ่ือน แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 4.1 ใครเปน็ เจ้าของ ……………………………………………………………………………………………………....................... 4.2 มีการระบเุ ง่อื นไขการใช้งานไวท้ สี่ ว่ นใด ………...………………..……………………..………………………..…............ 4.3 ขอ้ ความหรือสญั ลกั ษณร์ ะบเุ ง่อื นไขการใชง้ าน คอื …………..……………………..……………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………...... 4.4 จากผลงานของเพ่ือน ให้นกั เรยี นพจิ ารณาขอ้ ความดา้ นล่าง แลว้ เขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ในชอ่ ง ❐ หน้า ข้อความทต่ี รงกบั เงือ่ นไขการใช้งาน ❐ แชรไ์ ด้ ❐ ตอ้ งอา้ งอิง ❐ หา้ มนาไปใชเ้ พ่ือการค้า ❐ หา้ มดัดแปลง ❐ อน่ื ๆ โปรดระบุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………
9. ส่ือ/แหลง่ กำรเรยี นรู้ 10. กำรวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วธิ ีกำรวัดผล เครื่องมอื เกณฑก์ ำรผำ่ น 1. ดำ้ นควำมรู้ -การสงั เกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน -การทดสอบปฏบิ ตั ิ -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน ระดบั พอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน ระดับปรับปรงุ 2. ดำ้ นทกั ษะ -การสงั เกต -แบบสงั เกต 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน กระบวนกำร -การทดสอบปฏบิ ตั ิ -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดับพอใช้ 1-5 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน ระดับปรับปรงุ 3. ด้ำนคุณลกั ษณะอนั -การสังเกต -แบบสงั เกต ระดบั 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ใน พึงประสงค์ -การตรวจผลงาน -แบบประเมนิ ผลงาน ระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ใน ระดับปรบั ปรงุ 11.กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 การตอบคาถามในช่ัวโมงแรก ผ้สู อนอาจให้ผู้เรยี นเขยี นคาตอบลงในเวบ็ ไซตห์ รอื บรกิ ารตา่ ง ๆ ทีส่ ามารถ แสดงความคิดเหน็ หรือใช้งานรว่ มกันได้ เช่น Google Docs, www.padlet.com 11.2 ควรใหผ้ ู้เรยี นชว่ ยกันตอบคาถามชวนคิดในหนังสอื เรยี น 11.3 หากมเี วลาเพียงพอ ผู้สอนควรให้ผู้เรยี นอภปิ รายประเด็นในแบบฝึกหดั ท้ายบทจากหนังสอื เรียน หรอื แทรกไปในกิจกรรมอืน่ 11.4 อาจให้ผู้เรียนนาผลงานทส่ี รา้ งขนึ้ ในใบกิจกรรมท่ี 2.1 ไปโพสตไ์ วใ้ นเครอื ขา่ ยสงั คม
12.ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นหัวหนา้ สถานศึกษา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ........................................... (นายยรรยง วงค์คาจนั ทร)์ ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียนรัตนบรุ ี
13 บนั ทกึ ผลหลงั สอน 1. ด้านความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ด้านทักษะ/สมรรถนะผ้เู รียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปญั หาและอุปสรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงช่อื ................................................ (วา่ ที่ ร.ต.ธรรมจกั ร วรี ะพันธ.์ ) ครู/ผู้สอน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ลกั ษณอ์ ันพงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมิน ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) เข้าเรยี น สง่ สรุปความรู้ท่ีได้ท้าย ชม. ระดับคุณภาพท่ีใช้ในการประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดับ 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดับปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดับดี 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยกำรประเมิน ระดับคุณภำพ กลุ่มท่ี เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรุง) (พอใช)้ (ดี) ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทกึ คะแนนระหว่ำงเรยี น แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22104 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหว่างเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบกอ่ น จดุ ประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี ก่อนเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรียน (ต่อ) แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรียน จดุ ประสงค์ที่ จดุ ประสงค์ที่ หลงั เรียน 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. รอ้ ยละ ลงชื่อ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี 6 รายวิชา วทิ ยาการคานวณ รหสั วชิ า ว22104 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวชิ าพ้นื ฐาน ชอื่ หนว่ ยท่ี 1 แนวคดิ เชิงคานวณ ชอ่ื แผนเลอื กทางไหน สอนโดย วา่ ท่ี ร.ต.ธรรมจักร วีระพนั ธ์ เวลาเรียน 6 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 สอนวนั ท่ี.....เดือน.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด/ผลกำรเรียนรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็นขน้ั ตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม 2. สำระสำคัญ ตัวดาเนนิ การบลู ีน เป็นตัวดาเนนิ การสาหรบั ตรวจสอบเงอ่ื นไข ตัวดาเนินการประเภทนี้จะใช้กระทา กับตัวถกู ดาเนนิ การท่เี ปน็ นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ หรอื ขอ้ มูลบูลนี ตวั ดาเนินการประเภทน้ี ได้แก่ AND OR และ NOT โดย NOT จะกระทากบั ตวั ถูกตวั ดาเนนิ การตวั เดียว สว่ นตัวดาเนนิ การตัวอน่ื ๆ จะกระทากับตัว ถกู ดาเนินการสองตัว การวนซา้ ดว้ ยคาสั่ง while เหมาะกับการวนซา้ ทไ่ี ม่ทราบจานวนรอบทแี่ นน่ อน ใช้การ ตรวจสอบเง่ือนไข ก่อนเริ่มทางานแลว้ วนซา้ ไปจนกว่าเง่ือนไขเปน็ เท็จ หรอื ยกเลกิ การวนซา้ ดว้ ยคาสั่ง break การเขียนโปรแกรมทม่ี หี ลายทางเลือกอาจใช้คาสง่ั if-else ซ้อนกัน (nested if) จนครบทางเลอื ก ทถ่ี กู ออกแบบไว้ นอกจากนี้ในภาษาไพทอนมีคาส่ัง if-elif-else ซง่ึ จะชว่ ยใหส้ ะดวกข้นึ 3. ผลกำรเรยี นรู้/ตัวชี้วัด ผลการเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย มคี วามรับผดิ ชอบ สรา้ งและแสดง สทิ ธิ์ ในการเผยแพร่ผลงาน มาตรฐานตวั ชีว้ ัด ตัวช้ีวดั ที่ 1 ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการพฒั นา โครงงานทม่ี กี ารบูรณาการกับวชิ า อื่น อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชอ่ื มโยงกับชวี ติ จรงิ
4. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 1 ใชต้ ัวดาเนนิ การบูลีนในการแกป้ ัญหา (K) 2 เขยี นโปรแกรมโดยใช้ while และ if-elif-else (P) 3. เหน็ คุณค่าของการเรยี นวชิ าเทคโนโลยี และการตระหนกั ในคุณคา่ ของความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยที ี่ใช้ในชวี ติ ประจาวัน (A) 5. สมรรถนะท่สี ำคญั 5.1 ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 5.2 ทกั ษะการสือ่ สาร 5.3 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 5.4 ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร 6. สำระกำรเรียนรู้ 1 การออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่มี ีการใชต้ รรกะ 2 การแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ขน้ั ตอนจะช่วยใหแ้ กป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 3 ซอฟต์แวร์ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, Python, Java, C 7. ควำมสมั พนั ธก์ ับกลมุ่ สำระกำรเรยี นร้อู น่ื ๆ / บรู ณำกำร 1. กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี 2. กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บรู ณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพยี ง ตามรอยพ่อหลวงรชั กาลที่ 9 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 8.1 การจดั เตรียม 8.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 6.1 ตามจานวนผู้เรยี น และ 6.2-6.3 ตามจานวนกลุ่ม 8.1.2 ตดิ ตงั้ โปรแกรม PyCharm Edu ในเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ (ดาวนโ์ หลดจาก https://www.jetbrains. com/pycharm-edu/download/) หรือตดิ ตั้งไอดีอีสาหรับเขยี นโปรแกรมไพทอนตวั อื่น เชน่ Winpython, Python3.7 8.1.3 แบบทดสอบเรือ่ ง ทนุ การศกึ ษา ตามจานวนผู้เรยี น 8.1.4 แบบประเมินการแกป้ ญั หาและการเขยี นโปรแกรม แบบสังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นรว่ มในชั้นเรยี น 8.2 ขนั้ ตอนการดาเนนิ การ
ช่วั โมง 1-2 8.2.1 ผู้สอนยกตัวอย่างที่ 2.1 สถานการณ์ปัญหาการคิดค่าโดยสารจากหนังสือเรียน แล้วให้ผู้เรียนชว่ ยกนั ตงั้ คาถามย่อยเพื่อนาไปสู่วธิ กี ารในการหาคาตอบ หลงั จากนั้นใหช้ ่วยกันตอบคาถามย่อยทีผ่ ู้เรยี นตั้งข้ึน 8.2.2 ผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาแนวทางการหาคาตอบจากปญั หาการคิดค่าโดยสารตัวอยา่ งที่ 2.1ในหนงั สือเรยี น แลว้ ถามผู้เรียนวา่ มีส่วนใดทม่ี ีการการตัดสินใจ และมีการใช้ตวั ดาเนินการท่ผี เู้ รยี นไมร่ ู้จัก หลงั จากนั้นเช่อื มโยง สกู่ ารทางานแบบมีทางเลือกรปู แบบต่าง ๆ และยกตวั อย่างหากมสี ถานการณท์ ่มี ีหลายเงอื่ นไข ใหผ้ ู้เรยี นลอง คดิ อลั กอริทมึ ในการตรวจสอบเงือ่ นไขแลว้ สมมติข้อมูลเข้าและบอกขอ้ มลู ออกหรือผลลพั ธ์ที่ได้ เชน่ สถานการณ์ ถ้าวันน้ฝี นตกและสัปดาห์หนา้ มีการสอบ จะอยบู่ า้ นอ่านหนังสือ ไมเ่ ช่นนนั้ จะรวมกล่มุ ไปชว่ ยเก็บขยะที่สถานทีท่ ่องเท่ียวใกลบ้ ้าน แนวคาตอบ ถ้าวนั นฝี้ นตกและสปั ดาห์หน้ามีการสอบ จะอยู่บา้ นอ่านหนังสอื ไม่เช่นน้ันรวมกลุ่มเพ่อื นไปชว่ ยเก็บขยะที่ สถานท่ี ท่องเที่ยวใกลบ้ ้าน ข้อมลู เข้า วนั นีฝ้ นไมต่ ก และสปั ดาหห์ น้าไมม่ ีการสอบ ผลลพั ธ์ทไี่ ด้ รวมกลุ่มเพ่อื นไปชว่ ยเกบ็ ขยะท่ีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วใกลบ้ ้าน สถานการณอ์ ่นื ๆ เช่น ❍ ถ้ามเี งนิ มากกว่า 100 บาท และมขี นมหวานทีช่ อบ จะซือ้ ขา้ วแกงและขนมหวาน ไม่เช่นนั้นจะซอื้ ขา้ วแกง อยา่ งเดียว ❍ ถา้ หอ่ ข้าวกับไขเ่ จียวไปโรงเรยี นและโรงอาหารมีก๋วยเตย๋ี วขาย จะกินขา้ วทีห่ อ่ มาและซ้อื เกาเหลาเพมิ่ แต่ ถา้ ไมไ่ ดห้ ่อข้าวมา จะซ้อื ขา้ วผัด ❍ หากกลบั ถงึ บ้านก่อนหกโมงเย็นและไมม่ ีการบา้ น จะช่วยผปู้ กครองกวาดบา้ นและล้างจาน ไมเ่ ชน่ นนั้ จะล้างจานอยา่ งเดยี ว 8.2.3 ผู้เรียนศึกษาเน้อื หา หัวขอ้ 2.2 เรอื่ ง ตัวดาเนินการบลู ีน ในหนงั สือเรยี นบทท่ี 2 และทดลองทา ตวั อยา่ งท่ี 2.2 และ 2.3 สุ่มผู้เรยี นตอบคาถามชวนคดิ แลว้ ใหผ้ เู้ รียนทาใบกจิ กรรมท่ี 6.1จริงหรอื ไม่ ใช่หรอื เปลา่ หลังจากนน้ั ผู้สอนสุม่ ผู้เรยี นนาเสนอคาาตอบ 8.2.4 ผสู้ อนแบ่งผเู้ รียนเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แลว้ ให้ผู้เรียนแต่ละกลมุ่ ทาใบกจิ กรรมที่ 6.2 เรือ่ งลองคิดจาก สถานการณ์ สถานการณ์ท่ี 1 และสถานการณ์ที่ 2 8.2.5 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันตรวจโดยนาขอ้ มูลทดสอบทเี่ ตรยี มไว้ ทดสอบกับโปรแกรมของเพ่ือนกลุ่มอื่น หลงั จากนน้ั ผู้สอนสอบถามผลการตรวจสอบของทุกกลุม่ แลว้ ให้ผู้เรียนนาเสนอสาเหตุและวธิ แี ก้ไขในกรณีที่ โปรแกรมแสดงผลลพั ธ์ไม่ถกู ตอ้ ง
8.2.6 ผู้สอนทบทวนคาสัง่ วนซ้าที่เคยเรยี นไปแล้ว ซ่ึงเปน็ การวนซ้าโดยระบุจานวนรอบในการทางานและถ้า ผู้เรยี นตอ้ งการทางานแบบวนซ้าโดยไมต่ อ้ งการระบุจานวนรอบจะทาอยา่ งไร ให้ผู้เรียนยกตัวอย่างสถานการณ์ ในชวี ติ ประจาวนั ทม่ี ีการทางานแบบวนซ้าทีไมส่ ามารถระบุจานวนรอบได้ซงึ่ ขึ้นอยกู่ ับสถานการณ์ เชน่ ยนื รอท่ี ป้ายรถจนกว่ารถประจาทางสายทต่ี ้องการจะมาถึง แลว้ ให้ขนึ้ รถ หลังจากน้ันใหผ้ เู้ รียนศึกษาหวั ข้อ 2.3 การวน ซา้ ดว้ ยคาสัง่ while แล้วทดลองทาตาม ตัวอย่างที่ 2.4 จากหนังสือเรียน 8.2.7 ใหผ้ ้เู รียนทาใบกจิ กรรมที่ 6.2 สถานการณ์ที่ 3 และสถานการณ์ท่ี 4 แลว้ ผู้สอนสมุ่ ผเู้ รยี นนาเสนอ คาตอบและวิธกี ารแกป้ ญั หา ช่ัวโมง 3-4 8.2.8 ผ้สู อนให้ผเู้ รยี นช่วยกันยกตัวอย่างสถานการณใ์ นชวี ติ ประจาวันทตี่ ้องตดั สินใจ โดยทีบ่ างครง้ั อาจมีสอง ทางเลอื ก หรือมากกว่าสองทางเลือก 8.2.9 ใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาเนื้อหา หัวข้อ 2.4 เรอ่ื ง เง่ือนไขหลายทางเลอื ก จากหนงั สือเรยี นบทที่ 2 แล้วให้ทดลอง ทาตวั อย่างท่ี 2.5 และ 2.6 แล้วใหผ้ ู้เรยี นทากจิ กรรมท่ี 2.1 ในหนังสอื เรยี น 8.2.10 ใหผ้ ู้เรยี นแต่ละกลุ่มผลัดกนั ทดสอบโปรแกรมของเพอ่ื นกล่มุ อื่น แลว้ สุม่ กลมุ่ นาเสนอวธิ กี ารในการหา คาตอบหรือเทคนคิ ในการเขียนโปรแกรม 8.2.11 ผู้สอนสุ่มผู้เรียนนาเสนอคาตอบและวิธกี ารแก้ปญั หา แล้วรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ทไี่ ด้จากการทากจิ กรรม ชั่วโมง 5-6 8.2.12 ใหผ้ ู้เรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 6.3 แล้วสุม่ ผเู้ รียนนาเสนอคาตอบ 8.2.13 ใหผ้ เู้ รียนแต่ละกลมุ่ ผลัดกนั ทดสอบโปรแกรมของเพ่ือนกลุ่มอน่ื แล้วสุ่มกลุม่ นาเสนอวธิ ีการในการ หาคาตอบหรือเทคนคิ ในการเขียนโปรแกรม 8.2.14 ผเู้ รยี นและผสู้ อนร่วมกันสรุปการใชต้ ัวดาเนนิ การบูลีน และการทางานที่มหี ลายทางเลือก
ใบงานท่ี 6.1 จริงหรือไม่ใช่หรือเปล่า ชื่อ-สกุล..................................................................................................................เลขท่ี................หอ้ ง........... 1. ศึกษาเน้ือหาหวั ขอ้ 2.2 เรอ่ื ง ตวั ดาเนินการบลู ีน จากหนังสอื เรียน แล้วทดลองทาตามตัวอย่างที่ 2.2 และ 2.3 2. ใหน้ ักเรยี นพิจารณาโปรแกรมแตล่ ะขอ้ วา่ มีผลลัพธ์เปน็ ค่าใด แลว้ เขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งท่ถี ูกตอ้ ง ข้อ โปรแกรม ผลลัพธ์ จริง เทจ็ 2.1 a=1 b=2 print(a==b) 2.2 a=1 b=2 print(a!=b 2.3 a=2 b=2 print(a>=b 2.4 a=2 b=2 print(a<=b) 2.5 a=3 b=5 c=7 print(a>b or c>b 2.6 a=3 b=5 c=7 print(a>b and c>b)
ขอ้ โปรแกรม ผลลพั ธ์ จรงิ เทจ็ 2.7 a=3 b=5 c=7 print(a<b and c>b) 2.8 a=3 b=5 c=7 print(a<b and c>b or c>a) 2.9 a=3 b=5 c=7 print(a<b and c>b and c==a) 2.10 a=11 b=15 c=17 print(a<b and c>b and a != b)
ใบกิจกรรมที่ 6.2 ลองคิดจากสถานการณ์ สมาชิกในกลุ่ม 1. ชื่อ-สกุล..................................................เลขท.ี่ ......... 2. ช่ือ-สกุล..................................................เลขท่.ี ......... 3. ชือ่ -สกุล..................................................เลขท่ี.......... 4. ชอื่ -สกุล..................................................เลขที่.......... พจิ ารณาสถานการณ์ต่อไปนี้ แลว้ ดาเนินการเขยี นโปรแกรมตามขั้นตอนการแกป้ ัญหา สถานการณท์ ่ี 1 ถ้า ด.ช.บวิ ตอ้ งการซื้อเมาสใ์ นราคาไม่เกิน 500 บาท โดยมเี งือ่ นไขว่าถ้าราคาเมาส์ไร้สายแพงกว่าราคาเมาส์ มสี ายไมเ่ กนิ 100 บาท จะเลือกซ้ือเมาส์ไร้สาย แต่ถ้าราคาแพงเกนิ กว่า 100 บาทจะเลือกซ้อื เมาส์มีสาย 1. การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอียดของปัญหา 1) ขอ้ มลู เขา้ คอื ……………………………………………………………………………………………………………........ 2) ข้อมลู ออก คอื ………………………………………………………………………………………………………………….. 3) วธิ กี ารตรวจสอบความถูกต้อง …………………………………………………………………………………………………………………………................ …………………………………………………………………………………………………………………………................ …………………………………………………………………………………………………………………………................ 2. การวางแผนการแกป้ ญั หา (รหัสลาลองหรอื ผงั งาน)
3. เขียนโปรแกรมตามท่อี อกแบบไว้ พร้อมทง้ั ตรวจสอบและประเมนิ ผล สถานการณท์ ่ี 2 เอกต้องการรกั ษาสขุ ภาพ ซง่ึ จะกนิ อาหารไม่เกนิ วนั ละ 1,500 กิโลแคลอรี แต่ตอ้ งกนิ อาหารให้ครบสามมื้อ และออกกาลงั กายตอนเย็นโดยการว่งิ เอกต้องวง่ิ ท้งั หมดก่ีนาที ถ้ามีเง่ือนไขดังน้ี ❍ ถ้าวิ่งบนลูว่ ง่ิ ท่ีออกแบบมาพเิ ศษ 1 นาที ลดได้ 10 กโิ ลแคลอรี ❍ ถ้าวนั ไหนกินอาหารไมเ่ กิน 1,500 กโิ ลแคลอรี จะวงิ่ เพียง 15 นาที ❍ ถ้าวนั ไหนกินเกนิ 1,500 กโิ ลแคลอรี แต่ไม่เกนิ 1,800 กิโลแคลอรี ต้องวิง่ จนกว่าจะเหลือ 1,500 กโิ ล แคลอรี โดยต้องว่งิ ไมต่ ่ากว่า 15 นาที ❍ ถ้าเกินกวา่ 1,800 กิโลแคลอรี จะว่งิ เปน็ เวลา 60 นาที 1. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1) ขอ้ มลู เข้า คอื จานวนกโิ ลแคลอรี จากการรับประทานแต่ละม้ือ จานวน 3 มื้อ 2) ขอ้ มูลออก คือ ระยะเวลาทต่ี อ้ งว่งิ 3) วธิ กี ารตรวจสอบความถกู ตอ้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………................ …………………………………………………………………………………………………………………………................ …………………………………………………………………………………………………………………………................ …………………………………………………………………………………………………………………………................ …………………………………………………………………………………………………………… 2. การวางแผนการแกป้ ัญหา (รหสั ลาลองหรือผงั งาน)
3. เขียนโปรแกรมตามที่ออกแบบไว้ พร้อมทัง้ ตรวจสอบและประเมินผล ศกึ ษาเน้อื หาหัวข้อ 2.3 เร่ือง การวนซา้ ดว้ ยคาสั่ง while จากหนังสือเรยี น สถานการณ์ที่ 3 รา้ นหนงั สอื จดั โปรโมชนั สว่ นลดใหก้ บั ลูกค้าสาหรับหนังสอื ทีม่ รี าคาเกนิ 50 บาท ดังน้ี ❍ ถา้ ซอ้ื หนังสือเพียง 1 เล่ม ไดร้ ับสว่ นลด 5 บาท ❍ ถา้ ซื้อหนังสอื 2 เล่มขนึ้ ไปแตไ่ มเ่ กนิ 5 เลม่ ได้รบั ส่วนลดเล่มละ 10 บาททุกเล่ม ❍ ถ้าซ้ือหนังสือตง้ั แต่ 6 เลม่ ขึน้ ไป ได้รบั สว่ นลด เลม่ ละ 12 บาททุกเล่ม หรอื ลด 5% จากราคารวม โดยเลอื กสิทธ์ทิ ีไ่ ด้รับสว่ นลดมากกวา่ ใหค้ านวณส่วนลดทไี่ ด้จากการซอ้ื หนังสือในคร้งั นี้ 1. การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1) ข้อมลู เข้า คอื ……………………………………………………………………….…………………………….......………. 2) ข้อมูลออก คือ ………...………………………………………………………………………………………………........... 3) วธิ ีการตรวจสอบความถกู ต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………… 2. การวางแผนการแกป้ ัญหา (รหัสลาลองหรอื ผังงาน)
3. เขียนโปรแกรมตามทอี่ อกแบบไว้ พร้อมทั้งตรวจสอบและประเมนิ ผล สถานการณ์ท่ี 4 เรอื รับนา้ หนักคนลงเรอื ไดไ้ มเ่ กิน 1,000 กิโลกรมั ใหน้ กั เรียนออกแบบและเขยี นโปรแกรมรับน้าหนักคนลงเรอื ทีละคน แลว้ ตรวจสอบวา่ นา้ หนักคนทีจ่ ะลงเรอื รวมกับคนที่อยใู่ นเรือวา่ เกนิ ตามกาหนดหรอื ไม่ ถ้าไมเ่ กินแสดง ข้อความ “คณุ สามารถลงเรอื ได้” ถ้านา้ หนักรวมเกนิ กาหนด แสดงข้อความว่า “คณุ ไมส่ ามารถลงเรือได้” 1. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา 1) ขอ้ มูลเขา้ คือ ..................…………………………………………………………………………………………………… 2) ข้อมลู ออก คือ ....................………………………………………………………………………………………………… 3) วธิ กี ารตรวจสอบความถูกตอ้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………… 2. การวางแผนการแก้ปญั หา (รหสั ลาลองหรอื ผงั งาน) 3. เขยี นโปรแกรมตามท่ีออกแบบไว้ พรอ้ มทง้ั ตรวจสอบและประเมนิ ผล
ใบกจิ กรรมท่ี 6.3 สถานการณ์หลายทางเลือก สมาชิกในกลุม่ 1. ช่อื -สกุล..................................................เลขท.่ี ......... 2. ช่ือ-สกุล..................................................เลขท.่ี ......... 3. ช่ือ-สกุล..................................................เลขที่.......... 4. ชอ่ื -สกุล..................................................เลขท.่ี ......... ให้นกั เรียนดาเนนิ การแกป้ ญั หาสถานการณ์ตอ่ ไปน้ี สถานการณ์ท่ี 1 นอ้ งโน้ตต้องตดั สินใจเลือกวา่ จะทาอะไรในวนั หยุด โดยถา้ ฝนตกหนักและน้าท่วม จะน่ังอา่ นหนงั สอื อยู่บา้ น แต่ถา้ ฝนตกหนัก แต่น้าไมท่ ่วม ก็จะออกไปเย่ียมเพอ่ื นที่ปากซอย ถา้ ฝนตกปรอย ๆ จะออกไปเดนิ เลน่ ทห่ี ้าง สรรพสนิ ค้าใกล้บ้าน และถ้าฝนไมต่ ก จะไปพักผอ่ นท่ีตา่ งจงั หวดั 1. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1) ขอ้ มลู เข้า คอื ……………………................………………………………………………………………………………… 2) ขอ้ มูลออก คือ …………………………………...............…………………………………………………………………… 3) การตัดสนิ ใจมที ้ังหมด ……………………….….. ทางเลอื ก 4) วธิ ีการตรวจสอบความถกู ต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การวางแผนการแก้ปัญหา (รหัสลาลองหรือผงั งาน)
3. เขยี นโปรแกรมตามท่อี อกแบบไว้ พรอ้ มทง้ั ตรวจสอบและประเมินผล สถานการณท์ ่ี 2 คณุ ประหยดั ต้องการให้ชว่ ยเลอื กซอ้ื โทรศพั ท์มือถือหนึ่งเครือ่ ง คุณเอื้อสารวจราคา ตลาดแลว้ สรุปข้อมูลไดด้ ังน้ี ❍ สมาร์ตโฟนร่นุ เทพ ราคามากกวา่ 20,000 บาท ❍ สมาร์ตโฟนรนุ่ มนิ ิเทพ ราคาไม่เกิน 20,000 บาท ❍ สมารต์ โฟนรนุ่ กลาง ราคาไมเ่ กิน 10,000 บาท ❍ โทรศพั ท์มือถอื รนุ่ ปมุ่ กด ราคา 500 - 1,000 บาท 1. การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1) ข้อมลู เข้า คือ …………………………………………………………………………………………………..........………… 2) ขอ้ มูลออก คอื ………………………………………………………………………………………………........…………… 2) การตดั สนิ ใจมีท้ังหมด ……………………….….. ทางเลือก 4) วิธกี ารตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การวางแผนการแก้ปัญหา (รหัสลาลองหรือผงั งาน)
3. เขียนโปรแกรมตามทอี่ อกแบบไว้ พร้อมทั้งตรวจสอบและประเมนิ ผล สถานการณท์ ี่ 3 คุณชายตอ้ งการให้คะแนนข้อสอบ 5 ขอ้ ข้อละ 5 คะแนน โดยมเี กณฑพ์ เิ ศษดงั นี้ ❍ ถ้าตอบข้อ 1 และข้อ 2 ถูก ได้เพิม่ 2 คะแนน ❍ ถ้าตอบข้อ 4 หรือ ข้อ 5 ถกู ไดเ้ พ่ิม 1 คะแนน 1. การวิเคราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1) ข้อมูลเข้า คอื …………………………………………………………………………………………………..........………… 2) ข้อมูลออก คือ ……………………………………………………………………………………………………………........ 3) การตดั สนิ ใจมที ัง้ หมด ……………………….….. ทางเลือก 4) วธิ ีการตรวจสอบความถูกต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การวางแผนการแก้ปญั หา (รหัสลาลองหรอื ผงั งาน) 3. เขียนโปรแกรมตามทีอ่ อกแบบไว้ พร้อมทั้งตรวจสอบและประเมนิ ผล
สถำนกำรณ์ท่ี 4 ประชากรในประเทศหน่ึงมีค่านิยมในการเลอื กคนรกั ในแตล่ ะช่วงอายแุ ตกต่างกันดงั น้ี ❍ ถ้าอายไุ มถ่ ึง 19 ปี จะยังไมม่ คี นรัก ❍ ถ้าอายุ 19 ปขี น้ึ ไป จะเลอื กคนรกั หน้าตาดี นิสัยดี ฐานะดี ❍ ถา้ อายุ 29 ปีขน้ึ ไป จะเลือกคนรักหนา้ ตาดี นิสยั ดี ❍ ถ้าอายุ 35 ปีขึ้นไป จะเลือกคนรักนิสัยดี ❍ ถ้าอายุ 45 ปีขึน้ ไป จะเลือกโดยไม่มเี งอ่ื นไข 1. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปญั หา 1) ข้อมูลเข้า คอื ………………………………………………………………………………………….............……………… 2) ขอ้ มลู ออก คือ ………………………………………………………………………………………………………...........… 3) การตดั สินใจมีทง้ั หมด ……………………….….. ทางเลือก 4) วธิ กี ารตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การวางแผนการแกป้ ญั หา (รหสั ลาลองหรอื ผงั งาน)
3. เขียนโปรแกรมตามทอี่ อกแบบไว้ พรอ้ มท้งั ตรวจสอบและประเมนิ ผล สถำนกำรณท์ ี่ 5 ในการตรวจสอบคุณสมบัตผิ ู้สมัครนกั ศึกษาวิชาทหาร จะพิจารณาอายุ 15 ปีข้ึนไป ส่วนสูงไมน่ ้อยกวา่ 160 เซนติเมตรและนา้ หนกั 50 กโิ ลกรัมข้ึนไป ให้รับข้อมลู ผสู้ มัครทง้ั หมด แล้วแสดงผลจานวนผสู้ มคั รท่ีผ่านเกณฑ์ 1. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา 1) ขอ้ มลู เข้า คือ ………………………………………………………………………………………………….........………… 2) ขอ้ มลู ออก คือ ……………………………………………………………………………………………………………........ 3) การตดั สินใจมีทงั้ หมด ……………………….….. ทางเลอื ก 4) วธิ ีการตรวจสอบความถูกต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การวางแผนการแก้ปญั หา (รหัสลาลองหรือผงั งาน) 3. เขียนโปรแกรมตามทอี่ อกแบบไว้ พร้อมท้งั ตรวจสอบและประเมินผล
แบบทดสอบ ชอื่ -สกลุ ......................................................................................หอ้ ง.........เลขท.่ี .......... คาชี้แจง จากสถานการณท์ ี่กาหนด ใหน้ ักเรียนดาเนินการแก้ปญั หา 4 ขั้นตอน สถานการณ์ โรงเรียนจะมอบทนุ การศกึ ษาให้นักเรยี นในระดบั ชั้น ม.2 เพอ่ื เป็นการสนับสนุนนกั เรยี นในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี ❍ ถ้าเปน็ นกั เรียนเรียนดี เกรดเฉลีย่ มากกวา่ 3 ขน้ึ ไป จะได้รับทุนการศกึ ษา 5,000 บาท ❍ ถ้ารายได้ของครอบครวั น้อยกวา่ 1 แสนบาทตอ่ ปี จะได้รับทุนการศกึ ษา 5,000 บาท ❍ หากเปน็ นักเรยี นเรยี นดแี ละรายได้ครอบครวั ต่ากว่า 1 แสนบาทตอ่ ปี จะได้รับทนุ การศกึ ษา 15,000 บาท 1. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา 1) ข้อมลู เขา้ คอื ……………………………………………………................………………………………………………… 2) ขอ้ มลู ออก คือ …………………………………………………………………...............………………………………….. 3) วิธีการตรวจสอบความถูกต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การวางแผนการแกป้ ญั หา (รหสั ลาลองหรือผังงาน)
3. เขยี นโปรแกรมตามท่อี อกแบบไว้ พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบและประเมินผล 9. ส่อื /แหลง่ กำรเรียนรู้ ใบกจิ กรรมท่ี เรื่อง 6.1 จรงิ หรือไม่ ใชห่ รือเปล่ำ 6.2 ลองคิดจำกสถำนกำรณ์ 6.3 สถำนกำรณ์หลำยทำงเลอื ก 10. กำรวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วธิ กี ำรวดั ผล เครือ่ งมือ เกณฑ์กำรผำ่ น 1. ดำ้ นควำมรู้ -การสงั เกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ น -การทดสอบปฏบิ ัติ -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ น ระดบั พอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน ระดบั ปรบั ปรงุ 2. ดำ้ นทักษะ -การสงั เกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน กระบวนกำร -การทดสอบปฏบิ ตั ิ -แบบประเมินผลงาน ระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดบั พอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดับปรบั ปรุง 3. ด้ำนคุณลกั ษณะอัน -การสงั เกต -แบบสงั เกต ระดบั 3 หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ใน พงึ ประสงค์ -การตรวจผลงาน -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับดี ระดับ 2 หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ใน ระดบั ปรบั ปรงุ 11.กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 สาหรับขน้ั ตอนการวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา ผู้สอนควรกระตุน้ ให้ผู้เรียนคดิ วธิ กี าร ตรวจสอบความถกู ต้องใหค้ รอบคลุมทกุ กรณี และพยายามใหผ้ ู้เรียนเขยี นโปรแกรมครอบคลุมกรณี
เหล่านัน้ หากมีกรณีใดทีโ่ ปรแกรมไม่รองรับใหเ้ ขียนส่วนดักจบั กรณดี ังกลา่ วไว้ 11.2 สาหรบั การประเมนิ ผล ผู้สอนอาจให้ผู้เรยี นผลัดกันทดสอบโปรแกรม โดยทดสอบจากข้อมูลเขา้ หลายชดุ ที่ครอบคลุมกรณที เี่ ป็นไปได้ท้ังหมด 11.3 สาหรับโรงเรียนทใ่ี ชร้ ะบบปฏิบัตกิ าร Windows XP นนั้ จะรองรับ Python ได้สูงทสี่ ุดคอื ไพทอน เวอร์ชนั 3.4.4 ใหด้ าเนนิ การตดิ ตั้ง PyCharm Edu 3.5 สาหรับเขียนโปรแกรม โดยวธิ กี ารตดิ ตั้ง จะอย่ใู น โฟลเดอร์ Act5 12.ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นหัวหนา้ สถานศกึ ษา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ........................................... (นายยรรยง วงคค์ าจนั ทร)์ ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรียนรตั นบรุ ี
13 บนั ทึกผลหลังสอน 1. ด้านความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ด้านทกั ษะ/สมรรถนะผู้เรียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปญั หาและอุปสรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงช่อื ................................................ (ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจกั ร วรี ะพันธ.์ ) ครู/ผสู้ อน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑ์กำรประเมนิ คุณลกั ษณอ์ ันพงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมิน ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) เข้าเรยี น สง่ สรุปความรู้ท่ีได้ท้าย ชม. ระดับคุณภาพท่ีใช้ในการประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี ระดับ 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ปรับปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับพอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดับปรบั ปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131