Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติแบดมินตัน

ประวัติแบดมินตัน

Published by afcudolkjcihn, 2022-01-20 11:37:09

Description: ประวัติแบดมินตัน

Search

Read the Text Version

จดั ทำโดย นำงสำววิชญำพร กอภกั ดี ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4/2 เลขท่ี 35 เสนอ คณุ ครู สวุ ิชำ วรรณคง รำยงำนนีเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของรำยวชิ ำสขุ ศกึ ษำและ พลศกึ ษำ 2 รหสั วชิ ำ พ31102 ภำคเรยี นท่ี 2 ปีกำรศกึ ษำ 2564 โรงเรยี นพระแสงวิทยำ



เรอ่ื ง 4 ประวตั คิ วำมเป็นมำและประโยชนข์ องกีฬำ 8 “แบดมินตนั ” 10 11 ประวตั แิ บดมนิ ตนั ในประเทศไทย 21 ลกั ษณะของกำรเลน่ กีฬำแบดมินตนั กตกิ ำของกีฬำแบดมนิ ตนั ประโยชนข์ องกีฬำแบดมนิ ตนั

ประวตั ิควำมเป็นมำและประโยชนข์ องกีฬำ “แบดมนิ ตนั ” แบดมินตนั บนั ทกึ ได้ แนน่ อนในปี พ.ศ. 2413 (1870) ในประเทศองั กฤษ โดยมเี ร่อื งเลำ่ ว่ำ นำยทหำรคน หนง่ึ ท่ไี ปประจำกำรอยใู่ นเมอื งปนู ำ ประเทศอนิ เดีย (Poona เป็นเมอื งเล็กๆ ห่ำง จำกเมืองบอมเปยป์ ระมำณ 50 ไมล)์ ไดเ้ ห็นกีฬำท่รี วมกำรเลน่ สองอย่ำงเขำ้ ดว้ ยกนั คอื กำรเลน่ ปนู ำของประเทศอินเดยี และกำรเลน่ ไมต้ ีกบั ลกู ขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของยโุ รป ในระยะแรกๆ กำรเลน่ จะเลน่ กนั เพียงแต่ในหมู่ นำยทหำรของกองทพั และสมำชิกชนชนั้ สงู ของอินเดยี จนกระท่งั นำยทหำรองั กฤษ ท่ไี ปประจำกำรอย่ทู ่เี มืองปนู ำ นำกลบั ไปเลน่ ในองั กฤษ ณ คฤหำสน์ “แบดมินตนั ” ของดยคุ แหง่ บิวฟอรด์ ท่กี ล๊อสเตอรเ์ ชอร์ ในปี พ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) เกมกีฬำตี ลกู ขนไก่จงึ ถกู เรยี กวำ่ “แบดมินตนั ” ตำมช่ือของสถำนท่นี บั ตงั้ แตน่ นั้ มำ 4

กีฬำแบดมนิ ตนั เร่มิ แพรห่ ลำยในประเทศแถบภำคพืน้ ยโุ รป เพรำะเป็นเกม ท่คี ลำ้ ยเทนนิส แตส่ ำมำรถเลน่ ไดภ้ ำยในตวั ตกึ โดยไมต่ อ้ งกงั วลตอ่ ลมหรอื หิมะ ในฤดหู นำว ชำวยโุ รปท่อี พยพไปสทู่ วีปอเมรกิ ำ ไดน้ ำกีฬำแบดมินตนั ไปเผยแพร่ รวมทงั้ ประเทศตำ่ งๆ ในทวปี เอเชียและออสเตรเลียท่อี ยภู่ ำยใตอ้ ำณำนิคมของ องั กฤษ เนเธอรแ์ ลนด์ ตำ่ งนำเกมแบดมนิ ตนั ไปเลน่ ยงั ประเทศของตนอย่ำง แพรห่ ลำย เกมกีฬำแบดมนิ ตนั จงึ กระจำยไปสสู่ ว่ นตำ่ งๆ ของโลก รวมทงั้ ประเทศไทยดว้ ย กำรเลน่ แบดมนิ ตนั ในระยะแรกๆ มิไดม้ ีกฎเกณฑ์ แตเ่ ป็นเพียงตโี ตล้ กู กนั ไป มำไมใ่ หล้ กู ตกพืน้ เทำ่ นนั้ เสน้ แบ่งแดนก็ใชต้ ำขำ่ ยผกู โยงระหวำ่ งตน้ ไมส้ องตน้ ไมไ่ ดค้ ำนงึ ถึงเร่อื งต่ำ สงู เลน่ กนั ขำ้ งละไมน่ อ้ ยกวำ่ 4 คน สว่ นมำจะเลน่ ทมี ละ 6 ถงึ 9 คน ผเู้ ลน่ แตง่ ตวั ตำมสบำย สภุ ำพสตรสี วมกระโปรงยำวทงั้ ชดุ ใสห่ มวกตดิ ผำ้ ลำย ลกู ไม้ สภุ ำพบรุ ุษแตง่ สำกลผกู โบวไ์ ทด์ เพรำะกีฬำแบดมินตนั ไดร้ บั ควำม นิยมแพรห่ ลำยออกไปตำมบำ้ นขำ้ รำชกำร พ่อคำ้ คหบดี และประชำชน

จนกระท่งั ปี พ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) ไดม้ กี ำรจดั ตงั้ สมำคมแบดมินตนั แหง่ ประเทศองั กฤษขนึ้ ซง่ึ นบั เป็นสมำคมแบดมนิ ตนั แหง่ แรกของโลก มีกำรจดั แข่งขนั แบดมินตนั ชิงชนะเลิศแหง่ ประเทศองั กฤษ หรอื ท่เี รยี กกนั วำ่ ออลอิงแลนด์ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) เป็นตน้ มำ ไดต้ งั้ กฎเกณฑข์ องสนำมมำตรฐำนขนึ้ คือ ขนำดกวำ้ ง 22 ฟตุ ยำว 45 ฟตุ (22 x 45) เป็นสนำมขนำดมำตรฐำนประเภทคทู่ ่ี ใชใ้ นปัจจบุ นั ตงั้ แตน่ นั้ มำกำรปรบั ปรุงดดั แปลงในเรอ่ื งอปุ กรณก์ ำรเลน่ ไดก้ ระทำ ใหด้ ขี นึ้ เป็นลำดบั ตอ่ มำไดร้ บั ควำมนิยมแพรห่ ลำยไปท่วั โลก แบดมนิ ตนั ไดก้ ลำยเป็นเกมกีฬำท่เี ลน่ กนั ระหวำ่ งชำติ โดยมกี ำรยกทมี ขำ้ ม ประเทศเพ่ือแข่งขนั ระหวำ่ งชำติในทวีปยโุ รป ในปี พ.ศ. 2468 กลมุ่ นกั กีฬำของ ประเทศองั กฤษไดแ้ ข่งขนั กบั กลมุ่ นกั กีฬำประเทศแคนำดำ หำ้ ปีหลงั จำกนนั้ พบว่ำประเทศแคนำดำมสี โมสรสำหรบั ฝึกแบดมินตนั มำตรฐำนแทบทกุ เมือง สมำคมแบดมินตนั ของประเทศองั กฤษเป็นผนู้ ำในกำรกอ่ ตงั้ สหพนั ธ์ แบดมนิ ตนั ระหวำ่ งประเทศ โดยมีชำตติ ำ่ งๆ อกี 8 ชำติคอื แคนำดำ เดนมำรก์ องั กฤษ ฝร่งั เศส ไอรแ์ ลนด์ เนเธอรแ์ ลนด์ นิวซแี ลนด์ สก๊อตแลนด์ และเวลล์ โดย มศี นู ยก์ ลำงอย่ทู ่กี รุงลอนดอน

ในปี พ.ศ. 2482 Sir George Thomas นกั แบดมินตนั อำวโุ สชำว องั กฤษเป็นผมู้ อบถว้ ยทองรำคำ 5,000 ปอนด์ เพ่ือมอบเป็นรำงวลั ใหแ้ ก่ ผชู้ นะเลศิ ประเภทชำยในกำรแข่งขนั แบดมนิ ตนั ระหวำ่ ง ประเทศ ซง่ึ สหพนั ธแ์ บดมนิ ตนั ไดร้ บั ไวแ้ ละดำเนินกำรตำมประสงคน์ ี้ แมว้ ำ่ ตำม ทำงกำรจะเรยี กวำ่ กำรแข่งขนั ชิงถว้ ยชนะเลศิ แบดมนิ ตนั ระหวำ่ ง ประเทศ แตน่ ิยมเรยี กกนั วำ่ โธมสั คพั (Thomas Cup) กำรแขง่ ขนั จะจดั ขนึ้ ทกุ ๆ 3 ปี โดยสหพนั ธไ์ ดแ้ บง่ เขตกำรแขง่ ขนั ของชำติสมำชิก ออกเป็น 4 โซน คอื 1. โซนยโุ รป 2. โซนอเมรกิ ำ 3. โซนเอเชีย 4. โซนออสเตรเลเซีย (เดมิ เรยี กวำ่ โซนออสเตรเลยี )

กำรเลน่ แบดมนิ ตนั ไดเ้ ขำ้ มำสปู่ ระเทศไทยในรำวปี พ.ศ. 2456 โดยเร่มิ เล่นกีฬำ แบดมินตนั แบบมีตำขำ่ ย โดยพระยำนิพทั ยกลุ พงษ์ ไดส้ รำ้ งสนำมขนึ้ ท่บี ำ้ น ซง่ึ ตงั้ อยรู่ มิ คลองสมเดจ็ เจำ้ พระยำธนบรุ ี แลว้ นิยมเลน่ กนั อย่ำงแพรห่ ลำยออกไป สว่ นมำกเลน่ กนั ตำมบำ้ นผดู้ ีมีตระกลู วงั เจำ้ นำย และในรำชสำนกั กำรเลน่ แบดมนิ ตนั ครงั้ นนั้ นิยมเลน่ ขำ้ งละ 3 คนกนั มำก ประมำณปี พ.ศ. 2462 สโมสร กลำโหมไดเ้ ป็นผจู้ ดั แข่งขนั แบดมินตนั ท่วั ไปขนึ้ เป็นครงั้ แรก โดยจดั กำรแขง่ ขนั 3 ประเภทไดแ้ กป่ ระเภทเด่ยี ว ประเภทคู่ และประเภทสำมคน ปรำกฏวำ่ ทีม แบดมินตนั บำงขวำงนนทบรุ ี (โรงเรยี นรำชวิทยำลยั บำงขวำงนนทบรุ ี) ชนะเลิศทกุ ประเภท นอกจำกนี้ มีนกั กีฬำแบดมนิ ตนั ฝีมือดเี ดินทำงไปแขง่ ขนั ยงั ประเทศ ใกลเ้ คียงอย่บู ่อยๆ 8

ตอ่ มำปี พ.ศ. 2494 พระยำจินดำรกั ษไ์ ดก้ ่อตงั้ ขนึ้ เป็นสมำคมช่ือวำ่ “สมำคม แบดมินตนั แหง่ ประเทศไทย” เม่อื แรกตงั้ มีอยู่ 7 สโมสร คือ สโมสรสมำนมติ ร สโมสร บำงกอก สโมสรนิวบอย สโมสรยนู ิตี้ สโมสร ส.ธรรมภกั ดี สโมสรสงิ หอ์ ดุ ม และ สโมสรศริ บิ ำเพญ็ บญุ ซง่ึ ในปัจจบุ นั นีเ้ หลือเป็นสโมสรสมำชิกของสมำคมอยเู่ พียง 2 สโมสร คอื สโมสรนิวบอย และสโมสรยนู ิตเี้ ทำ่ นนั้ และในปีเดียวกนั สมำคม แบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยก็ไดส้ มคั รเขำ้ เป็นสมำชิกของสหพนั ธแ์ บดมนิ ตนั นำนำชำตดิ ว้ ย สมำคมแบดมินตนั แหง่ ประเทศไทยมนี กั กีฬำแบดมนิ ตนั ท่มี ีฝีมอื ดี อย่มู ำก และจำกกำรท่ไี ดเ้ ขำ้ แข่งขนั ในรำยกำรตำ่ งๆของโลกไดส้ รำ้ งช่ือเสยี งใหก้ บั ประเทศไทยเป็นอย่ำงมำก ทงั้ โธมสั คพั อเู บอรค์ พั และกำรแขง่ ขนั ออลองิ แลนด์ ซง่ึ วงกำรแบดมินตนั ถือวำ่ เป็นกำรแข่งขนั ชิงชนะเลิศของโลกประเภทรำยบคุ คล ซง่ึ นกั กีฬำของประเทศไทยก็เคยไดต้ ำแหน่งรองชนะเลิศทงั้ ประเภทชำยเด่ยี ว และชำย คมู่ ำแลว้ วงกำรแบดมินตนั ของไทยยกยอ่ ง นำยประวตั ิ ปัตตพงศ์ (หลวงธรรมนญู วฒุ กิ ร) เป็นบิดำแหง่ วงกำรแบดมินตนั ของประเทศไทย ปัจจบุ นั กีฬำแบดมนิ ตนั ใน ประเทศไทยเป็นท่นี ิยมกนั มำก เลน่ กนั ท่วั ประเทศทงั้ เดก็ ผใู้ หญ่ ผหู้ ญิง ผชู้ ำย มกี ำรเรยี นกำรสอนในโรงเรยี นในสถำบนั อดุ มศกึ ษำ มีสนำม แบดมินตนั อย่ทู ่วั ประเทศ มีอปุ กรณท์ ่ไี ดม้ ำตรฐำน ซง่ึ ผลิตไดเ้ อง มกี ำรอบรม ฝึกสอนกีฬำแบดมนิ ตนั โดยองคก์ รท่มี มี ำตรฐำน มผี ฝู้ ึกสอนทงั้ ในประเทศ และ ตำ่ งประเทศท่ที ำงำนเตม็ เวลำ มีกรรมกำรผตู้ ดั สินท่เี ป็นมำตรฐำน มรี ำยกำรแข่งขนั ภำยในประเทศท่จี ดั ขนึ้ ใน แตล่ ะปีไมน่ อ้ ยกวำ่ 20 รำยกำร มีนกั กีฬำท่มี ี ควำมสำมำรถตดิ อนั ดบั 1 ใน 10 ของโลก ทงั้ ชำยและหญิง ภำยใตก้ ำรทำงำนของ สมำคมแบดมินตนั แหง่ ประเทศไทยในพระบรมรำชปู ถมั ภท์ ่จี รงิ จงั และเขม้ แขง็ เช่ือ วำ่ อีกไมน่ ำนประเทศไทยคงจะกำ้ วหนำ้ ไปเป็นผนู้ ำในกีฬำแบดมนิ ตนั ของโลกใน โอกำสขำ้ งหนำ้ อยำ่ งแน่นอน

แบดมินตนั มกี ำรเลน่ กนั อยู่ 5 ประเภท คือ 1. ประเภทชำยเด่ยี ว กำหนดกำรเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 2. ประเภทหญิงเด่ยี ว กำหนดกำรเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 3. ประเภทชำยคู่ กำหนดกำรเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 4. ประเภทหญิงคู่ กำหนดกำรเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 5. ประเภทคผู่ สม (ชำย – หญิง) กำหนดกำรเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน ***ประเภทเด่ยี วจะมีผเู้ ลน่ ขำ้ งละ 1 คน และประเภทคจู่ ะมีผเู้ ลน่ ขำ้ ง 2 คน ***เกรด็ อ่นื ๆ สำหรบั กีฬำแบดมนิ ตนั ประเภท 3 คน มีเพียงประเทศไทยแหง่ เดยี วใน โลกท่เี คยมเี กมกำรแข่งขนั และนิยมเลน่ ในประเภทนี้ 10

1. สนำมและอปุ กรณส์ นำม 1.1 สนำมจะเป็นรูปส่เี หล่ยี มผืนผำ้ ประกอบดว้ ยเสน้ กวำ้ งขนำด 40 มลิ ลเิ มตร ดงั ภำพ 1.2 เสน้ ทกุ เสน้ ตอ้ งเดน่ ชดั และควรทำดว้ ยสี ขำวหรอื สีเหลือง 1.3 เสน้ ทกุ เสน้ เป็นสว่ นประกอบของพืน้ ท่ซี ง่ึ กำหนดไว้ 1.4 เสำตำขำ่ ยจะตอ้ งสงู 1.55 เมตรจำกพืน้ สนำม และตงั้ ตรงเม่อื ขงึ ตำขำ่ ยใหต้ งึ ตำมท่ไี ดก้ ำหนดไวใ้ นกติกำ ขอ้ 1.10 โดยท่จี ะตอ้ งไมม่ สี ว่ นหนึง่ สว่ นใดของเสำย่ืนเขำ้ มำในสนำม (เฉพำะรำยกำรท่รี บั รองโดย IBF จะตอ้ งใชร้ ะเบียบนี้ จนกระท่งั 1 สิงหำคม พ.ศ. 2547 ทกุ รำยกำรท่แี ข่งขนั จะตอ้ งยดึ ตำมระเบียบนี)้ 1.5 เสำตำขำ่ ยจะตอ้ งตงั้ อย่บู นเสน้ เขตขำ้ งของประเภทคู่ ตำมท่ไี ดแ้ สดงไวใ้ นภำพผงั ก. โดยไมต่ อ้ งคำนงึ วำ่ จะเป็นประเภทเด่ยี วหรอื เลน่ คู่ 1.6 ตำขำ่ ยจะตอ้ งถกั ดว้ ยเสน้ ดำ้ ยสเี ขม้ และมขี นำดตำกวำ้ งไมน่ อ้ ยกวำ่ 15 มลิ ลเิ มตร และไมเ่ กิน 20 มิลลเิ มตร 111.7 ตำขำ่ ยตอ้ งมีควำมกวำ้ ง 760 มิลลเิ มตร และควำมยำวอย่ำงนอ้ ย 6.1 เมตร

1.8 ขอบบนของตำข่ำยตอ้ งมแี ถบผำ้ สีขำวพบั สอง ขนำดกวำ้ ง 75 มิลลเิ มตร ทบั บนเชือก หรอื ลวดท่รี อ้ ยตลอดแถบผำ้ ขำว 1.9 เชือกหรอื ลวดตอ้ งมีขนำดพอท่จี ะขงึ ใหต้ งึ เตม็ ท่กี บั หวั เสำ 1.10 สดุ ขอบบนตำขำ่ ยตอ้ งสงู จำกพืน้ ท่ตี รงกง่ึ กลำงสนำม 1.524 เมตร และ 1.55 เมตร เหนือเสน้ เขตขำ้ งของประเภทคู่ 1.11 ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งวำ่ งระหวำ่ งสดุ ปลำยตำขำ่ ยกบั เสำ ถำ้ จำเป็นตอ้ งผกู รอ้ ยปลำยตำขำ่ ย ทงั้ หมดกบั เสำ 2. ลกู ขนไก่ 2.1 ลกู ขนไกอ่ ำจทำจำกวสั ดธุ รรมชำติ หรอื วสั ดสุ งั เครำะห์ ไมว่ ำ่ ลกู นนั้ จะทำจำก วสั ดชุ นิดใดกต็ ำม ลกั ษณะวิถีว่งิ ท่วั ไป จะตอ้ งเหมือนกบั ลกู ซง่ึ ทำจำกขนธรรมชำติ ฐำนเป็นหวั ไมก้ ๊อก หมุ้ ดว้ ยหนงั บำง 2.2 ลกู ขนไกต่ อ้ งมขี น 16 อนั ปักอยบู่ นฐำน

2.3 วดั จำกปลำยขนถงึ ปลำยสดุ ของฐำน โดยควำมยำวของขนในแตล่ ะลกู จะเทำ่ กนั หมด ระหวำ่ ง 62 มิลลิเมตร ถงึ 70 มิลลเิ มตร 2.4 ปลำยขนแผเ่ ป็นรูปวงกลม มีเสน้ ผ่ำศนู ยก์ ลำงระหว่ำง 58 มลิ ลิเมตร ถงึ 68 มลิ ลิเมตร 2.5 ขนตอ้ งมดั ใหแ้ น่นดว้ ยเสน้ ดำ้ ย หรอื วสั ดอุ ่นื ท่เี หมำะสม 2.6 ฐำนของลกู ตอ้ งมีเสน้ ผ่ำศนู ยก์ ลำง 25 มลิ ลิเมตร ถงึ 28 มิลลเิ มตร และสว่ นลำ่ งมน กลม 2.7 ลกู ขนไกจ่ ะมนี ำ้ หนกั ตงั้ แต่ 4.74 ถงึ 5.50 กรมั 2.8 ลกู ขนไกท่ ่ไี มใ่ ชข้ นธรรมชำติ 2.8.1 ใชว้ สั ดสุ งั เครำะหแ์ ทนขนธรรมชำติ 2.8.2 ฐำนลกู ดงั ท่ไี ดก้ ำหนดไวใ้ นกติกำขอ้ 2.6 2.8.3 ขนำดและนำ้ หนกั ของลกู ตอ้ งเป็นไปตำมท่ไี ดก้ ำหนดไวใ้ นกตกิ ำขอ้ 2.3, 2.4 และ 2.7 อย่ำงไรก็ตำม ควำมแตกตำ่ งของควำมถว่ งจำเพำะ และคณุ สมบตั ิของ วสั ดสุ งั เครำะหโ์ ดยกำรเปรยี บเทยี บกบั ขนธรรมชำติ ยอมใหม้ ีควำมแตกตำ่ งไดถ้ งึ 10% 2.9 เน่ืองจำกมิไดก้ ำหนดควำมแตกตำ่ งในเร่อื งลกั ษณะท่วั ไป ควำมเรว็ และวถิ ีว่งิ ของลกู อำจมกี ำรเปล่ยี นแปลงคณุ ลกั ษณะดงั กลำ่ วขำ้ งตน้ ไดโ้ ดยกำรอนมุ ตั จิ ำกองคก์ รแหง่ ชำติ ท่เี ก่ียวขอ้ งในท่ซี ง่ึ สภำพควำมกดอำกำศสงู หรอื สภำพดนิ ฟำ้ อำกำศ เป็นเหตใุ หล้ กู ขนไก่ ตำมมำตรฐำนท่กี ำหนดไวไ้ ม่เหมำะสม

3. กำรทดสอบควำมเรว็ ของลกู 3.1 กำรทดสอบ ใหย้ ืนหลงั เสน้ เขตหลงั แลว้ ตีลกู ใตม้ อื อยำ่ ง สดุ แรง โดยจดุ สมั ผสั ลกู อยเู่ หนือเสน้ เขตหลงั ลกู จะพ่งุ เป็น มมุ สงู และอย่ใู นแนวขนำนกบั เสน้ เขตขำ้ ง 3.2 ลกู ท่มี คี วำมเรว็ ถกู ตอ้ ง จะตกหำ่ งจำกเสน้ เขตหลงั ของ อีกดำ้ นหนง่ึ ไมน่ อ้ ยกวำ่ 530 มิลลเิ มตร และไมม่ ำกกวำ่ 990 มลิ ลิเมตร (ดงั ภำพ.) 4. กำร \"เอำใหม\"่ 14.1 กำร เอำใหม่ จะขำนโดยกรรมกำรผตู้ ดั สนิ หรอื โดยผเู้ ลน่ (ถำ้ ไมม่ ีกรรมกำรผู้ ตดั สนิ ) ขำนใหห้ ยดุ เลน่ ในกรณีท่ี 14.1.1 ถำ้ ผสู้ ง่ ลกู สง่ ลกู โดยท่ผี รู้ บั ลกู ยงั ไมพ่ รอ้ ม (ดกู ตกิ ำขอ้ 9.6) 14.1.2 ถำ้ ในระหวำ่ งกำรสง่ ลกู ผรู้ บั และผสู้ ง่ ลกู ทำเสีย พรอ้ มกนั ทงั้ สองฝ่ำยใน เวลำเดียวกนั 14.1.3 ถำ้ ลกู ไปตดิ และคำ้ งอย่บู นตำขำ่ ย หรอื ลกู ขำ้ มตำข่ำยแลว้ ติดคำ้ งอย่ใู น ตำข่ำยยกเวน้ ในกำรสง่ ลกู 14.1.4 ถำ้ ในระหวำ่ งกำรเลน่ ลกู ขนไก่แตกแยกออกเป็นสว่ น ๆ และฐำนแยก ออกจำกสว่ นท่เี หลอื ของลกู โดยสนิ้ เชิง 14.1.5 ถำ้ กรรมกำรกำกบั เสน้ มองไมเ่ หน็ และกรรมกำรผตู้ ดั สินไมส่ ำมำรถ ตดั สินใจได้ 14.1.6 สำหรบั กรณีท่เี กิดขนึ้ เน่ืองจำกควำมผิดในสนำมสง่ ลกู ตำมท่รี ะบใุ น กตกิ ำขอ้ 12.2.1 หรอื 12.2.3 หรอื 14.1.7 สำหรบั กรณีท่เี กิดขนึ้ โดยไมค่ ำดคิดมำกอ่ น หรอื โดยเหตบุ งั เอญิ 14.2 เม่อื มกี ำร เอำใหม่ กำรเลน่ หลงั จำกกำรสง่ ลกู ครงั้ สดุ ทำ้ ยถือเป็นโมฆะ และผเู้ ลน่ ท่สี ง่ ลกู จะไดส้ ง่ ลกู อกี ครงั้ หนง่ึ ยกเวน้ หำกเป็นไปตำมกติกำขอ้ 12

5. ลกู ไมอ่ ยใู่ นกำรเลน่ ลกู ไมอ่ ยใู่ นกำรเลน่ เม่อื 15.1 ลกู ชนตำข่ำยแลว้ ตดิ อยทู่ ่ตี ำข่ำย หรอื คำ้ งอยบู่ นขอบตำข่ำย 15.2 ลกู ชนตำขำ่ ยหรอื เสำตำข่ำยแลว้ ตกลงบนพืน้ สนำมในดำ้ นของผตู้ ลี กู 15.3 ลกู ถกู พืน้ สนำม หรอื 15.4 เกิดกำร เสีย หรอื กำร \"เอำใหม่ 6. กำรเลน่ ตอ่ เน่ือง, กำรทำผิด, กำรลงโทษ 16.1 กำรเลน่ ตอ้ งตอ่ เน่ืองตงั้ แตเ่ ร่มิ ส่งลกู ครงั้ แรกจนสนิ้ สดุ กำรแขง่ ขนั ยกเวน้ ตำมท่ไี ด้ อนญุ ำตไวใ้ นกติกำขอ้ 16.2 และ 16.3 16.2 พกั ระหวำ่ งกำรจบเกมท่ี 1 และเร่มิ เกมท่ี 2 ไดไ้ มเ่ กิน 90 วนิ ำที และไมเ่ กิน 5 นำที ระหวำ่ งจบเกมท่ี 2 และเร่มิ เกมท่ี 3 อนญุ ำตสำหรบั ทกุ แมทชข์ องกำรแขง่ ขนั (ในกำร แขง่ ขนั ท่มี ีกำรถ่ำยทอดโทรทศั น์ กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดอำจตดั สินใจก่อนเรม่ิ กำรแขง่ ขนั วำ่ กำรพกั ตำมกติกำขอ้ 16.2 อยใู่ นอำณตั ิและเวลำกำหน 16.3 พกั กำรเลน่ เม่อื มีควำมจำเป็นจำกสภำพแวดลอ้ มท่มี ไิ ดอ้ ยภู่ ำยใตก้ ำรควบคมุ ของ ผเู้ ลน่ กรรมกำรผตู้ ดั สินอำจส่งั ใหพ้ กั กำรเลน่ ช่วั ครำวตำมท่พี ิจำรณำเห็นวำ่ จำเป็น ภำยใตส้ ภำพแวดลอ้ มอ่นื ๆ ท่ผี ิดปกติ กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดอำจแนะนำใหก้ รรมกำรผตู้ ดั สิน พกั กำรเลน่

16.3.1 เม่อื มีควำมจำเป็นจำกสภำพแวดลอ้ มท่มี ิไดอ้ ย่ภู ำยใตก้ ำรควบคมุ ของ ผเู้ ลน่ กรรมกำรผตู้ ดั สนิ อำจส่งั ใหพ้ กั กำรเลน่ ช่วั ครำวตำมท่พี ิจำรณำเห็นว่ำจำเป็น 16.3.2 ภำยใตส้ ภำพแวดลอ้ มอ่นื ๆ ท่ผี ิดปกติ กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดอำจแนะนำให้ กรรมกำรผตู้ ดั สนิ พกั กำรเลน่ 16.3.3 ถำ้ มีกำรพกั กำรเลน่ คะแนนท่ไี ดจ้ ะอย่คู งเดมิ และจะเร่มิ ใหมจ่ ำก คะแนนนนั้ 16.4 กำรถ่วงเวลำกำรเลน่ 16.4.1 ไมว่ ำ่ กรณีใด ๆ ทงั้ สนิ้ หำ้ มถ่วงเวลำกำรเลน่ เพ่ือใหผ้ เู้ ลน่ ฟื้นคืนกำลงั หรอื หำยเหน่ือย 16.4.2 กรรมกำรผตู้ ดั สินจะวนิ ิจฉยั ควำมลำ่ ชำ้ แตเ่ พียงผเู้ ดยี ว 16.5 คำแนะนำและกำรออกนอกสนำม 16.5.1 หำ้ มผเู้ ลน่ รบั คำแนะนำระหวำ่ งกำรแข่งขนั ยกเวน้ กำรพกั ตำมกติกำขอ้ 16.2 และ 16.3 16.5.2 หำ้ มผเู้ ลน่ เดนิ ออกนอกสนำมระหวำ่ งกำรแข่งขนั โดยมไิ ดร้ บั อนญุ ำต จำกกรรมกำรผตู้ ดั สิน ยกเวน้ ระหวำ่ งพกั 5 นำที ตำมท่ไี ดก้ ำหนดไวใ้ นกตกิ ำขอ้ 16.2 16.6 ผเู้ ลน่ ตอ้ งไมจ่ งใจถ่วงเวลำ หรอื พกั กำรเลน่ , จงใจแปลงหรอื ทำลำยลกู เพ่ือเปล่ยี น ควำมเรว็ และวถิ ี, แสดงกิรยิ ำกำ้ วรำ้ ว หรอื กระทำผิดนอกเหนือกติกำ 16.7 กรรมกำรผตู้ ดั สนิ จะตอ้ งดำเนินกำรกบั ควำมผิดตำมกตกิ ำขอ้ 16.4, 16.5 หรอื 16.6 โดย 16.7.1 เตอื นผกู้ ระทำผิด 16.7.2 ตดั สิทธิ์ผกู้ ระทำผิดหลงั จำกไดเ้ ตอื นก่อนแลว้ 16.7.3 ในกรณีผิดอยำ่ งเหน็ ไดช้ ดั หรอื ผิดอยตู่ ลอด ใหต้ ดั สิทธิ์ผกู้ ระทำผิด แลว้ รำยงำนใหก้ รรมกำรผชู้ ีข้ ำดทรำบทนั ที ซง่ึ กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดมอี ำนำจส่งั ใหผ้ กู้ ระทำผิดออก จำกกำรแขง่ ขนั

7. กรรมกำรสนำมและกำรอทุ ธรณ์ 17.1 กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดเป็นผดู้ แู ลรบั ผิดชอบกำรแขง่ ขนั ทงั้ หมด 17.2 หำกมีกำรแตง่ ตงั้ กรรมกำรผตู้ ดั สิน ใหม้ ีหนำ้ ท่คี วบคมุ กำรแข่งขนั สนำม และบรเิ วณ โดยรอบสนำมแขง่ ขนั กรรมกำรผตู้ ดั สินตอ้ งรำยงำนตอ่ กรรมกำรผชู้ ีข้ ำด 17.3 กรรมกำรกำกบั กำรสง่ ลกู เป็นผขู้ ำน เสีย สำหรบั กำรส่งลกู ท่ผี สู้ ง่ ลกู เป็นผกู้ ระทำผิด (กติกำขอ้ 9) 17.4 กรรมกำรกำกบั เสน้ เป็นผใู้ หส้ ญั ญำณ ดี หรอื ออก ในเสน้ เขตท่ไี ดร้ บั มอบหมำย 17.5 กำรตดั สินใจเก่ียวกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ทงั้ หมดของกรรมกำรสนำมท่รี บั ผิดชอบถือว่ำสนิ้ สดุ 17.6 กรรมกำรผตู้ ดั สนิ จะตอ้ ง 17.6.1 ควบคมุ กำรแขง่ ขนั ใหด้ ำเนินไปภำยใตก้ ฏกตกิ ำอยำ่ งเครง่ ครดั โดยเฉพำะอยำ่ งย่ิงกำรขำน เสีย หรอื เอำใหม่ เม่อื มีกรณีเกิดขนึ้ 17.6.2 ตดั สนิ คำอทุ ธรณเ์ ก่ียวกบั กำรโตแ้ ยง้ ซง่ึ มขี นึ้ ก่อนกำรสง่ ลกู ครงั้ ตอ่ ไป 17.6.3 แนใ่ จวำ่ ผเู้ ลน่ และผชู้ มไดท้ รำบถงึ ควำมคบื หนำ้ ของกำรแขง่ ขนั 17.6.4 แตง่ ตงั้ หรอื ถอดถอนกรรมกำรกำกบั เสน้ หรอื กรรมกำรกำกบั กำรสง่ ลกู หลงั จำกไดป้ รกึ ษำกบั กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดแลว้ 17.6.5 หำกไมม่ กี ำรแตง่ ตงั้ กรรมกำรสนำมอ่นื จะตอ้ งปฏิบตั หิ นำ้ ท่นี นั้ ให้ เรยี บรอ้ ย 17.6.6 หำกกรรมกำรสนำมท่ไี ดร้ บั กำรแตง่ ตงั้ มองไมเ่ ห็น ตอ้ งดำเนินกำรใน หนำ้ ท่ขี องกรรมกำรนนั้ หรอื ให้ “เอำใหม”่ 17.6.7 บนั ทกึ และรำยงำนตอ่ กรรมกำรผชู้ ีข้ ำดทกุ เร่อื งท่เี ก่ียวกบั กติกำขอ้ 16 และ 17.6.8 เสนอคำอทุ ธรณท์ ่ไี มพ่ งึ พอใจในปัญหำเก่ียวกบั กตกิ ำตอ่ กรรมกำรผชู้ ี้ ขำด (คำอทุ ธรณด์ งั กลำ่ ว จะตอ้ งเสนอก่อนกำรสง่ ลกู ครงั้ ตอ่ ไป หรอื เม่อื กำรแขง่ ขนั สนิ้ สดุ ลงกอ่ นท่ฝี ่ำยอทุ ธรณจ์ ะเดนิ ออกจำกสนำม)

8 มำรยำทกำรเลน่ มารยาทผู้เล่น 1. ผแู้ ขง่ ขนั ตอ้ งตระหนกั อยเู่ สมอวำ่ ผเู้ ขำ้ แขง่ ขนั เป็นนกั กีฬำสมคั รเล่น ซง่ึ ตอ้ งมีนำ้ ใจ เป็นนกั กีฬำอย่เู สมอ และพรอ้ มท่จี ะใหอ้ ภยั แกควำมผิดพลำดทกุ โอกำส โดยไม่คำนงึ ถึง ผลแพช้ นะเป็นสำคญั จนเกินไป 2. ผเู้ ขำ้ แขง่ ขนั แตง่ กำยดว้ ยชดุ กีฬำสีขำว สะอำด เรยี บรอ้ ย 3. ยิม้ แยม้ แจ่มใสตอ่ คแู่ ขง่ ขนั แสดงออกถงึ มติ รภำพควำมสภุ ำพ ออ่ นโยนดว้ ยกำร สมั ผสั มอื หรอื เปิดโอกำสใหค้ แู่ ขง่ ขนั ไดว้ อรม์ รวมทงั้ ไมเ่ อำเปรยี บคตู่ อ่ สหู้ รอื คแู่ ข่งขนั ใน กำรเส่ยี ง ใหโ้ อกำสคตู่ อ่ สเู้ ป็นผนู้ ำกำรเลอื กเส่ยี งก่อน 4. ไมแ่ สดงกรยิ ำท่ไี มด่ ีเม่อื ทำเสยี เอง ดว้ ยท่ำทำงหรอื คำพดู รวมทงั้ กำรกลำ่ วตำหนิผู้ เลน่ ฝ่ำยเดยี วกนั 5. ใชค้ ำพดู ท่สี ภุ ำพในกำรแขง่ ขนั 6. กำรถำมขอ้ สงสยั หรอื ถำมคะแนนตอ่ ผตู้ ดั สนิ ในระหว่ำงกำรแข่งขนั ควรจะใชถ้ อ้ ยคำ ท่สี ภุ ำพ 7. กำรอทุ ธรณค์ ำวินิจฉยั ของผตู้ ดั สิน ก็เป็นอีกเร่อื งหนึ่งท่ผี แู้ ข่งขนั ควรจะใชถ้ อ้ ยคำท่ี ระมดั ระวงั และเม่อื ไดท้ ำกำรอทุ ธรณแ์ ลว้ ผอู้ ทุ ธรณต์ อ้ งอย่ใู นควำมสงบ และพรอ้ มท่ี จะทำกำรแข่งขนั ตอ่ ไปได้ และเม่อื ผตู้ ดั สนิ ชีข้ ำดอย่ำงไรกต็ อ้ งปฏบิ ตั ิตำมดว้ ยควำมเตม็ ใจ 8. เม่อื ขณะดำเนินกำรแข่งขนั อยหู่ ำกจะหยดุ พกั เชน่ ขอเช็ดเหง่ือ ด่มื นำ้ เปล่ยี น แรก็ เกต เปล่ยี นรองเทำ้ ถงุ เทำ้ ฯลฯ ตอ้ งขออนญุ ำตผตู้ ดั สินทกุ ครงั้ เม่อื ไดร้ บั อนญุ ำติ แลว้ จงึ ปฏิบตั ิได้ 9. ในกำรสง่ ลกู เสยี ไปใหค้ ตู่ อ่ สจู้ ะตอ้ งสง่ ลกู ขำ้ มตำขำ่ ยไปใหเ้ สมอ กำรสง่ ลกู ลอดใตต้ ำ ข่ำยไปใหค้ ตู่ อ่ สถู้ ือวำ่ เป็นกำรเสยี มำรยำทอยำ่ งรุนแรง 10. ในระหวำ่ งกำรแขง่ ขนั ถำ้ ผตู้ ดั สนิ ทำหนำ้ ท่ผี ิดพลำดแตเ่ รำอย่ใู นฐำนะไดเ้ ปรยี บไม่ ควรใชค้ วำมไดเ้ ปรยี บนนั้ เป็นประโยชน์

11. กำรตีลกู เสยี นกั กีฬำท่ดี ีตอ้ งรอ้ งออกมำดงั ๆ วำ่ \"เสีย\" โดยไมต่ อ้ งรอใหผ้ ตู้ ดั สนิ รอ้ งออกมำก่อน แตถ่ ำ้ ผตู้ ดั สินดไู มท่ นั ผตู้ ีลกู เสียไมค่ วรจะฉวยโอกำสเลน่ ตอ่ ไปดว้ ย เพรำะกำรฉวยโอกำสเชน่ นีเ้ ป็นกำรกระทำท่ไี มส่ จุ รติ 12. เม่อื กำรแขง่ ขนั เสรจ็ สนิ้ ลง ถำ้ เรำเป็นฝ่ำยชนะจะตอ้ งไมแ่ สดงควำมดใี จจนเกิน ควร ตอ้ งเขำ้ ไปจบั มอื คแู่ ข่งขนั ทนั ทีพรอ้ มแสดงควำมเสยี ใจ ถำ้ เป็นฝ่ำยแพไ้ มค่ วรจะ แสดงอำรมณฉ์ นุ เฉียวตอ้ งควบคมุ อำรมณ์ และรบี ไปแสดงควำมยินดกี บั คแู่ ขง่ โดย ทนั ทเี หมือนกนั 13. ยอมรบั และเช่ือฟังกำรตดั สินโดยไมโ่ ตแ้ ยง้ และเม่อื เสรจ็ สนิ้ กำรแข่งขนั ควรแสดง ควำมเคำรพผตู้ ดั สนิ้ 14. ในสนำมท่มี ผี มู้ ำรอเลน่ อยมู่ ำก และไมใ่ ชก่ ำรแข่งขนั ไมค่ วรเลน่ กนั นำนจนเกินไป ควรเปิดโอกำสใหผ้ อู้ ่นื ไดเ้ ลน่ บำ้ ง มารยาทผู้ชม 1. แตง่ กำยใหส้ ภุ ำพ เรยี บรอ้ ย เป็นกำรใหเ้ กียรติแกก่ ำรแข่งขนั นนั้ ๆ 2. ใหเ้ กียรตแิ กน่ กั กีฬำทงั้ 2 ฝ่ำย ดว้ ยกำรปรบมือเม่อื มกี ำรแนะนำค่แู ข่งขนั 3. ไมก่ ลำ่ ววำจำไมส่ ภุ ำพ และไมเ่ ชียรฝ์ ่ำยใดฝ่ำยหน่งึ จนไม่น่ำดู 4. ขณะกำรแขง่ ขนั ยงั ดำเนินอยไู่ มค่ วรรบกวนสมำธิของผแู้ ขง่ หรอื ผชู้ มดว้ ยกนั 5. กำรน่ิงเงียบ ในขณะท่นี กั กีฬำกำลงั เลน่ ถือวำ่ เป็นมำรยำทของผชู้ มท่ีดี 6. ควรปรบมือเม่อื ผเู้ ลน่ ฝ่ำยใดฝ่ำยหนง่ึ เลน่ ไดด้ ี สวยงำม และกระทำเม่อื ลกู ไมไ่ ดอ้ ยู่ ในกำรเลน่ 7. ไมแ่ สดงออกดว้ ยกิรยิ ำ หรอื วพิ ำกษว์ ิจำรณก์ ำรตดั สนิ ของกรรมกำร ขณะทำกำร แขง่ ขนั แมว้ ำ่ จะมีขอ้ ผิดพลำด 8. เม่อื กำรแข่งขนั สนิ้ สดุ ลง ควรปรบมือเป็นเกียรตแิ ก่นกั กีฬำทงั้ สองฝ่ำย

มารยาท ผู้ตัดสนิ 1. เม่อื เขำ้ สสู่ นำมแขง่ ขนั ตอ้ งแต่งกำยใหถ้ กู ตอ้ งตำมลกั ษณะของกำรเป็นผตู้ ดั สิน เคร่อื งแตง่ กำยตอ้ งประณีต และสะอำด วำงตวั ในลกั ษณะสภุ ำพออ่ นนอ้ ม แตส่ ำรวม ไมห่ ลอกลอ้ กบั ผหู้ น่งึ ผใู้ ด แสดงออกถงึ อำกำรท่จี ะใหค้ วำมรว่ มมือกบั ผอู้ ่นื ดว้ ยทำ่ ที กระฉบั กระเฉง ไมใ่ ช่ประหมำ่ หรอื ลกุ ลลี้ กุ ลน 2. ระหวำ่ งกำรแขง่ ขนั หลีกเล่ยี งกำรพบปะสนทนำกบั ผเู้ ลน่ ผฝู้ ึกสอน ตลอดจนผู้ คนุ้ เคยอ่นื ๆ พยำยำมตงั้ ใจจรงิ ในกำรปฏิบตั ิหนำ้ ท่ใี นกำรตดั สนิ ตดั สินใจดว้ ยควำม เดด็ ขำดถกู ตอ้ ง แสดงออกถงึ ควำมมนี ำ้ ใจเป็นนกั กีฬำ ไมแ่ สดงอำรมณอ์ อกมำ ควร ใชว้ ำจำเฉพำะในส่งิ ท่จี ำเป็นพดู เฉพำะหลกั กำรเทำ่ นนั้ เพ่ือสรำ้ งควำมเช่ือม่นั แกผ่ ฟู้ ัง และไมค่ วรโตเ้ ถียงกบั ผใู้ ดผหู้ นง่ึ ซง่ึ จะเป็นกำรลดฐำนะของตนเอง อนั เป็นกำรทำให้ เส่ือมศกั ดศิ์ รี และเป็นกำรนำไปสกู่ ำรทะเลำะวิวำทหรอื ทำใหเ้ กิดคบั ขอ้ งข่นุ เคอื งใจ ได้ 3. เม่อื จบกำรแขง่ ขนั หลงั จำกตรวจใบนบั คะแนนเรยี บรอ้ ยแลว้ ควรรบี ออกจำก สนำมแข่งขนั ทนั ที ไมค่ วรรรี ออย่เู พ่ือขออภยั ในควำมผิดพลำดในกำรตดั สิน หรอื เพ่ือ แสดงควำมยินดีหรอื เสยี ใจตอ่ คแู่ ขง่ ไมค่ วรแสดงควำมคิดเหน็ ใด ๆ เก่ียวกบั ปัญหำ ตำ่ ง ๆ ท่มี ีกำรถกเถียงกนั ในกรณีท่มี ีผสู้ ่อื ขำ่ วขอสมั ภำษณ์ ควรใหค้ วำมรว่ มมอื ดว้ ย อธั ยำศยั อนั ดี โดยชีแ้ จงอย่ำงเป็นธรรมและเหมำะสมในขอบเขตของกำรเป็นผตู้ ดั สิน แตไ่ มค่ วรแสดงควำมคิดเหน็ ท่ซี ำ้ เตมิ หรอื กำ้ วก่ำยหนำ้ ท่ขี องผอู้ ่นื

แบดมนิ ตนั ก็เช่นเดียวกบั กีฬำชนิดอ่นื ๆท่มี ปี ระโยชนม์ ำกสำหรบั ผเู้ ลน่ ซง่ึ สำมำรถสรุปได้ เป็นขอ้ ๆ ดงั นี้ 1. ทำใหม้ พี ลำนำมยั สมบรู ณแ์ ขง็ แรงทงั้ รำ่ งกำยและจิตใจ 2. ทำใหม้ ีสำยตำและกำรเคล่อื นไหวท่รี วดเรว็ วอ่ งไว 3. ทำใหเ้ ป็นผทู้ ่มี กี ำรคำดกำรณล์ ว่ งหนำ้ ได้ 4. ทำใหเ้ ป็นผทู้ ่สี ำมำรถตดั สินใจไดอ้ ย่ำงรวดเรว็ ทนั เวลำ 5. ทำใหร้ ูจ้ กั แบ่งหนำ้ ท่แี ละรกั ษำหนำ้ ท่ี มีกำรรว่ มมือกบั ผอู้ ่นื ไดด้ ี 6. สำมำรถเขำ้ กบั คนอ่นื ได้ และมีมนษุ ยส์ มั พนั ธท์ ่ดี ี 7. ทำใหเ้ ป็นผทู้ ่มี นี ำ้ ใจเป็นนกั กีฬำรูแ้ พร้ ูช้ นะและรูจ้ กั ใหอ้ ภยั 8. ทำใหเ้ ป็นผทู้ ่รี ูจ้ กั ใชเ้ วลำวำ่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ 21

เอกสำรอำ้ งองิ ประวตั ิกีฬำแบดมนิ ตนั (ออนไลน์ ) 2562 สบื คน้ จำก: https://hilight.kapook.com/view/71895 {วนั ท่ีสบื คน้ 18 / พฤศจิกำยน / 64}


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook