Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระเบียบกรมสรรพากรงดลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม2550

ระเบียบกรมสรรพากรงดลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม2550

Published by audamnat.rd, 2020-06-24 04:29:43

Description: ระเบียบกรมสรรพากรงดลดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม2550

Keywords: ระเบียบ,า

Search

Read the Text Version

ระเบยี บกรมสรรพากร ว-าดว/ ยการงดหรือลดเบ้ยี ปรับหรือเงนิ เพิ่มภาษอี ากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2550 เพอื่ ให้การงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงนิ เพิ่มภาษอี ากร มปี ระสิทธิภาพ กรมสรรพากรกำหนดระเบยี บปฏบิ ัตไิ ว้ ดังต่อไปน้ี ขอ้ 1 ระเบยี บนี้เรียกว่า “ระเบยี บกรมสรรพากร วา่ ด้วยการงดหรอื ลดเบี้ยปรับหรือเงนิ เพม่ิ ภาษอี ากร ตาม ประมวลรษั ฎากร พ.ศ. 2550” ขอ้ 2 ระเบียบน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วันท่ี 15 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ขอ้ 3 ให้ยกเลิก ระเบยี บกรมสรรพากร ว่าดว้ ยการงดหรอื ลดเบ้ียปรับหรือเงนิ เพิม่ ภาษอี ากร ตามประมวล รัษฎากร พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 23 มิถนุ ายน พ.ศ. 2547 ขอ้ 4 ในระเบยี บนี้ “อธบิ ด”ี หมายความวา่ อธิบดีกรมสรรพากร หรือผูท้ ี่อธบิ ดีกรมสรรพากร มอบหมาย “เบ้ยี ปรบั ” หมายความว่า เบย้ี ปรับภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร “เงนิ เพิ่ม” หมายความวา่ เงนิ เพ่ิมภาษอี ากร ตามประมวลรษั ฎาก “คำร้อง” หมายความวา่ คำรอ้ งของดหรือลดเบ้ยี ปรบั หรือเงินเพ่มิ ภาษีอากร ตาม ประมวลรษั ฎากร “ผู้รอ้ ง” หมายความว่า ผทู้ ย่ี น่ื คำรอ้ งของดหรือลดเบีย้ ปรบั หรือเงินเพ่ิมภาษีอากร ตามประมวลรษั ฎากร “หน่วยงานประเมนิ ” หมายความวา่ สำนักงานสรรพากรพน้ื ท่ี สำนกั บรหิ ารภาษีธุรกิจขนาด ใหญ่ และสำนกั ตรวจสอบภาษกี ลาง “วนั รบั คำรอ้ ง” หมายความว่า วันที่รบั คำรอ้ งจากผรู้ ้อง

หมวด 1 การของดหรือลดเบ้ียปรับหรือเงนิ เพ่มิ ขอ้ 5 การของดหรอื ลดเบ้ยี ปรับหรอื เงนิ เพม่ิ ให้ผูร้ ้องยนื่ คำร้องของดหรอื ลดเบยี้ ปรับหรือเงินเพมิ่ ต่ออธบิ ดีก่อนท่เี จ้าพนกั งานประเมินมี หนงั สือแจง้ การประเมนิ ถ้าผูร้ ้องไดร้ บั หนงั สอื แจ้งการประเมนิ แลว้ ใหย้ น่ื อุทธรณต์ ่อคณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ ตามประมวลรัษฎากร ข้อ 6 แบบคํารอ: ง 6.1 กรณผี ู้ร้องได้ยนื่ แบบแสดงรายการภาษแี ละชำระภาษีพรอ้ มกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษี โดย ไมไ‹ ดŒรบั คำเตอื นหรอื คำเรียกตรวจสอบไตส‹ วนโดยตรงเปšนหนงั สอื และประสงค์จะขอลด เบย้ี ปรับหรือเงนิ เพิ่ม ตามหลักเกณฑท์ ่อี ธิบดกี ำหนดโดยอนมุ ัตริ ฐั มนตรวี ่าการ กระทรวงการคลัง ใหถ้ อื วา่ แบบแสดงรายการภาษีน้ันเป็นคำรอ้ ง 6.2 กรณขี องดหรอื ลดเบย้ี ปรับหรอื เงนิ เพ่มิ นอกจากข้อ 6.1 ให้ผู้ร้องจัดทำคำร้องเปน็ หนงั สอื ยื่นตอ่ อธบิ ดโี ดยใหช้ ีแ้ จงข้อเทจ็ จรงิ ของประเดน็ ความผิดและเหตผุ ลทีม่ ไิ ด้ปฏบิ ตั ใิ หถ้ กู ต้องตาม กฎหมาย เพอ่ื ประกอบการของดหรือลดเบ้ยี ปรบั หรอื เงนิ เพม่ิ นั้น พร้อมทงั้ แนบเอกสาร หลกั ฐานท่ีเก่ียวขอ้ งเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาคำร้อง เวน้ แต่กรณีอธบิ ดีพจิ ารณาเห็นสมควรจะ ส่ังให้งดหรอื ลดเบยี้ ปรับหรือเงนิ เพิม่ โดยไมต่ ้องมคี ำร้องก็ได้ ขอ้ 7 หน่วยงานรับคำรอ้ ง (à¤ÂÍÍ¡Êͺ ª¹¾.»‚Å‹ÒÊØ´ ¶ÒÁÇ‹Ò Ë¹‹Ç§ҹã´äÁ㋠ª‹Ë¹‹ÇÂ§Ò¹ÃºÑ ¤íÒÃ͌ § ?) ใหห้ นว่ ยงานต่อไปนี้ เป็นหน่วยงานรบั คำรอ้ ง 7.1 สำนักงานสรรพากรพนื้ ที่สาขา 7.2 สำนักงานสรรพากรพ้ืนทที่ ี่ผู้รอ้ งมีภมู ิลำเนาหรอื สำนกั งานตัง้ อยใู่ นเขตทอ้ งทีส่ ำนักงานสรรพากร พน้ื ทีน่ ั้น 7.3 สำนักงานสรรพากรภาคทผี่ ้รู อ้ งมภี ูมิลำเนาหรอื สำนักงานตั้งอยูใ่ นเขตทอ้ งท่ีสำนักงานสรรพากร ภาคนน้ั 7.4 สำนักบรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ กรณีผ้รู ้องเป็นผู้ประกอบธรุ กิจ ซึ่งกรมสรรพากรกำหนดให้อยู่ ในความรับผดิ ชอบของสำนักบริหารภาษธี รุ กิจขนาดใหญ่ 7.5 สำนักตรวจสอบภาษกี ลาง กรณผี ู้รอ้ งถกู เรียกตรวจสอบไต่สวนโดยสำนักตรวจสอบภาษีกลาง 7.6 หน่วยงานสงั กัดกรมศุลกากร ซ่ึงเปน็ หน่วยงานทเ่ี รยี กเก็บภาษีมูลค่าเพ่ิมจากการนำเขา้ 7.7 สำนกั อุทธรณ์ภาษี

ขอ้ 8 หน่วยงานพจิ ารณาคำรอ้ ง ให้หนว่ ยงานตอ่ ไปน้ี เป็นหนว่ ยงานพิจารณาคำรอ้ ง 8.1 สำนักงานสรรพากรพ้ืนท่ีสาขา กรณีผู้รอ้ งยนื่ แบบแสดงรายการภาษีพร้อมกับชำระ ภาษี โดยขอลดเบ้ยี ปรบั หรือเงินเพมิ่ ตามมาตรา 67 ตรี แหง่ ประมวลรัษฎากร หรอื กรณี ย่นื คำร้องขอลดเงินเพิ่มอากรเป็นหนังสือตอ่ อธิบดี 8.2 สำนกั งานสรรพากรพน้ื ท่ี กรณผี ้รู อ้ งมีภมู ิลำเนาหรือสำนักงานต้งั อยู่ในเขตทอ้ งท่ี สำนกั งานสรรพากรพ้ืนทนี่ นั้ 8.3 สำนักงานสรรพากรภาค กรณีผรู้ ้องมภี มู ลิ ำเนาหรือสำนกั งานต้งั อยใู่ นเขตทอ้ งที่ สำนักงานสรรพากรภาคนนั้ 8.4 สำนักบริหารภาษีธรุ กิจขนาดใหญ่ กรณผี รู้ อ้ งเป็นผปู้ ระกอบธรุ กิจ ซึ่งกรมสรรพากร กำหนดใหอ้ ยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของสำนักบรหิ ารภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่ 8.5 สำนกั ตรวจสอบภาษีกลาง กรณผี ู้รอ้ งถกู เรยี กตรวจสอบไตส่ วนโดยสำนกั ตรวจสอบ ภาษีกลาง 8.6 หน่วยงานสังกัดกรมศุลกากร ซ่งึ เป็นหนว่ ยงานทีเ่ รยี กเก็บภาษมี ลู คา่ เพิ่มจากการ นำเขา้ 8.7 สำนกั อุทธรณภ์ าษี สำหรับคำร้องทไ่ี มอ่ ยูใ่ นอำนาจการพิจารณาสง่ั การของหนว่ ยงาน พิจารณาคำร้องอนื่ ท้งั น้ี หน่วยงานพจิ ารณาคำร้องมีอำนาจพจิ ารณาสั่งการตามทอ่ี ธบิ ดีมอบหมายให้อำนาจไว้ โดย ต้องพจิ ารณาตามหลกั เกณฑ์และเง่ือนไขท่กี ำหนดไวใ้ นกฎกระทรวง หรือตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขท่อี ธบิ ดี กำหนด

หมวด 2 การพจิ ารณาคำร้อง ข้อ 9 การดำเนนิ การของหน่วยงานรบั คำร้องและหน่วยงานพจิ ารณาคำรอ้ ง 9.1 กรณีผรู้ อ้ งยน่ื แบบแสดงรายการภาษพี รอ้ มกับชำระภาษตี ่อสำนกั งานสรรพากรพน้ื ที่สาขา โดย ผู้ร้องประสงค์จะขอลดเบี้ยปรับหรือเงนิ เพิ่มตามมาตรา 67 ตรี แหง่ ประมวลรัษฎากร ให้ Êíҹѡ§Ò¹ÊÃþҡþ¹×é ·èÊÕ Ò¢Ò¾Ô¨ÒóÒÅ´àºÕÂé »ÃѺËÃ×Íà§¹Ô à¾ÁèÔ µÒÁËÅ¡Ñ à¡³± ÇÔ¸¡Õ Òà áÅÐà§è×͹䢷ÍèÕ ¸Ôº´¡Õ Òí ˹´ กรณีผูร้ อ้ งย่นื คำร้องขอลดเงินเพม่ิ อากรเป็นหนังสอื ใหส้ ำนักงานสรรพากรพ้นื ที่ สาขาพิจารณาตามหลักเกณฑ์ทีก่ ำหนดในกฎกระทรวง กรณีผู้รอ้ งย่ืนคำร้องทไี่ มอ่ ยใู่ นอำนาจการพจิ ารณาของสำนกั งานสรรพากรพ้ืนที่สาขา ให้สง่ คำรอ้ งน้นั ไปยังสำนักงานสรรพากรพน้ื ทท่ี ผ่ี ้รู ้องมภี ูมลิ ำเนาหรอื สำนกั งานต้งั อยูใ่ นเขต ทอ้ งทีน่ ั้น ภายใน 5 วนั นับแต่วนั รบั คำร้อง เพ่ือดำเนนิ การตอ่ ไป 9.2 กรณผี ้รู ้องยน่ื คำรอ้ งทีห่ นว่ ยงานรับคำรอ้ งตามข้อ 7 เวน้ แต่ สำนกั งานสรรพากรพืน้ ทสี่ าขา และหนว่ ยงานสังกัดกรมศุลกากร และคำร้องอยู่ในอำนาจการพจิ ารณาสั่งการของหนว่ ยงาน นั้น ให้ดำเนนิ การ ดงั น้ี 9.2.1 กรณหี น่วยงานรบั คำรอ้ งเป็นหนว่ ยงานประเมิน ใหพ: จิ ารณาคาํ รอ: งจนแล:วเสร็จ และแจง: ผลการพิจารณาไปยงั ผ:รู อ: งและหนEวยงานท่ีเกี่ยวขอ: ง 9.2.2 กรณีหน่วยงานรับคำรอ้ งมใิ ชห่ นว่ ยงานประเมนิ ให้แจ้งเร่ืองการรบั คำร้องไปยัง หนว่ ยงานประเมิน ภายใน 5 วนั นับแตว่ นั ท่ไี ด้รบั คำรอ้ ง เพ่ือใหห้ นว่ ยงาน ประเมนิ ชแี้ จงพร้อมเสนอความเห็น รวมทง้ั จัดส่งเอกสารหลกั ฐานทเี่ ก่ยี วข้อง กลบั มา ภายใน 15 วนั นบั แตว่ นั ได้รบั แจง้ เร่อื งการรบั คำร้อง และเม่อื ได้รบั คำ ชแ้ี จงจากหนว่ ยงานประเมินแล้ว ให้พิจารณาคำรอ้ งจนแลว้ เสร็จ และแจ้งผลการ พจิ ารณาไปยังผู้รอ้ งและหน่วยงานท่เี ก่ียวข้อง 9.3 กรณผี ู้ร้องยื่นคำรอ้ งทห่ี น่วยงานรบั คำร้องตามขอ้ 7 เวน้ แต่ สำนักงานสรรพากรพน้ื ท่สี าขา และหน่วยงานสังกัดกรมศลุ กากร และคำรอ้ งไม่อยู่ในอำนาจการพจิ ารณาส่งั การของหน่วยงาน นัน้ ให้ดำเนนิ การ ดังนี้ 9.3.1 กรณหี น่วยงานรับคำร้องเปน็ หน่วยงานประเมนิ ใหส้ ่งคำร้องพร้อมคำช้แี จงและ ความเห็น รวมท้งั เอกสารหลักฐานท่เี กยี่ วขอ้ งไปยงั หน่วยงานพิจารณาคำรอ้ งซึง่ มี อำนาจพิจารณาสงั่ การ ภายใน 15 วัน นบั แต่วันได้รับคำร้อง กรณผี ูร้ ้องเป็นผูป้ ระกอบธุรกิจซ่ึงกรมสรรพากรกำหนดให้อยใู่ นความ รบั ผดิ ชอบของสำนักบรหิ ารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่ หรือผรู้ อ้ งถกู เรียกตรวจสอบไตส่ วน โดยสำนกั ตรวจสอบภาษกี ลาง ใหห้ นว่ ยงานรบั คำร้องตามวรรคหนง่ึ ส่งคำรอ้ งไปยัง สำนกั บรหิ ารภาษธี รุ กิจขนาดใหญ่หรอื สำนกั ตรวจสอบภาษกี ลางแลว้ แต่กรณี ภายใน 5 วัน นับแต่วันรับคำรอ้ ง เพื่อดำเนินการต่อไป 9.3.2 กรณีหน่วยงานรับคำรอ้ งมิใชห่ นว่ ยงานประเมิน ใหส้ ่งคำรอ้ งไปยงั หน่วยงานพิจารณา คำรอ้ งซงึ่ มอี ำนาจพิจารณาสั่งการ ภายใน 5 วัน นบั แตว่ นั ไดร้ บั คำร้อง เมอ่ื หนว่ ยงานพจิ ารณาคำรอ้ งซึง่ มอี ำนาจพิจารณาส่งั การ ได้รบั คำรอ้ งตาม 9.3.1 หรือ 9.3.2 ให้หนว่ ยงานพิจารณาคำร้อง ดำเนนิ การพิจารณาคำรอ้ งจนแลว้ เสรจ็ และแจ้งผลการพจิ ารณาไปยงั ผรู้ อ้ งและหน่วยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ ง

9.4 กรณีผ้รู อ้ งย่ืนคำรอ้ งทีห่ นว่ ยงานรบั คำร้องตามข้อ 7 และผู้ร้องถกู เรียกเก็บภาษมี ลู คา่ เพม่ิ จาก การนำเข้า ให้ดำเนนิ การ ดงั นี้ 9.4.1 กรณีผูร้ ้องย่ืนคำรอ้ งท่ีหนว่ ยงานสังกัดกรมศลุ กากร กรณีคำร้องอยใู่ นอำนาจการพิจารณาของหนว่ ยงานสังกัดกรมศลุ กากร ให้หน่วยงานสังกัดกรมศลุ กากรดำเนินการพิจารณาคำรอ้ งน้นั จนแลว้ เสรจ็ กรณีคำร้องไมอ่ ยใู่ นอำนาจการพิจารณาของหน่วยงานสงั กัดกรมศุลกากร เมอื่ กรมศลุ กากรส่งคำรอ้ งพร้อมรายละเอียดขอ้ เท็จจรงิ และเอกสารหลักฐานท่ี เกี่ยวข้องกบั คำร้องนนั้ มายงั กรมสรรพากรแล้ว ให้สำนกั อุทธรณภ์ าษีดำเนนิ การ พิจารณาคำร้องใหแ้ ล้วเสร็จและแจ้งผลการพจิ ารณาไปยงั ผรู้ ้องและกรมศุลกากร 9.4.2 กรณีผู้ร้องย่ืนคำร้องทหี่ น่วยงานรบั คำร้องอืน่ ทีม่ ใิ ชส่ ำนักอทุ ธรณภ์ าษีและ หน่วยงานสังกดั กรมศลุ กากร ใหห้ น่วยงานนน้ั ส่งคำร้องให้สำนักอทุ ธรณ์ภาษี ภายใน 5 วนั นบั แต่วันรับคำรอ้ ง 9.4.3 กรณผี ูร้ ้องย่ืนคำร้องทส่ี ำนักอุทธรณ์ภาษี หรือสำนักอุทธรณ์ภาษีได้รบั คำรอ้ งจาก หนว่ ยงานอนื่ ตามข้อ 9.4.2 ให้สำนักอุทธรณ์ภาษีแจ้งเรื่องการรบั คำรอ้ งและขอ ทราบขอ้ เท็จจรงิ และเอกสารหลกั ฐานท่ีเกยี่ วข้องกบั คำร้องไปยังกรมศุลกากร ภายใน 5 วนั นับแตว่ นั ไดร้ ับคำรอ้ ง เม่อื ไดร้ บั คำช้ีแจงจากกรมศุลกากร ให้ พิจารณาคำร้องจนแลว้ เสรจ็ และแจง้ ผลการพจิ ารณาไปยงั ผรู้ อ้ งและกรมศุลกากร 9.5 กรณผี ู้รอ้ งยน่ื คำร้องของดหรอื ลดเฉพาะเงินเพ่ิม ตามมาตรา 27 มาตรา 89/1 และมาตรา 89/1 ประกอบมาตรา 91/21(6) แห่งประมวลรษั ฎากร เพยี งกรณีเดยี ว ให้หนว่ ยงานรบั คำรอ้ ง ตามข้อ 7 เว้นแตห่ นว่ ยงานสงั กัดกรมศลุ กากร ดำเนินการพิจารณาคำร้องใหแ้ ลว้ เสร็จ และ แจ้งผลการพจิ ารณาไปยงั ผู้ร้อง ข้อ 10 การพจิ ารณาคำรอ้ ง 10.1 เม่อื เจา้ หนา้ ท่ผี ู้มีหน้าท่พี ิจารณาคำร้องไดร้ ับคำร้องไวพ้ จิ ารณา ใหต้ รวจสอบเอกสารหลักฐาน ประกอบขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อกฎหมาย ตามเหตุผลอา้ งอิง กรณมี เี หตุจำเป็นและสมควรท่จี ะต้องออกหนงั สอื เชญิ พบผ้รู อ้ ง เพอื่ ใหไ้ ด้ ขอ้ เท็จจริงเพ่มิ เติม และหรือใหน้ ำเอกสารหลกั ฐานมาส่งมอบเพือ่ ประกอบการพจิ ารณา ให้ ออกหนงั สอื เชญิ พบโดยกำหนดเวลาใหผ้ รู้ ้องมาใหถ้ อ้ ยคำ และหรือใหน้ ำเอกสารหลกั ฐานมา สง่ มอบภายใน 10 วนั นับแตว่ นั ทส่ี ง่ หนงั สอื เชิญพบ และให้ระบุในหนงั สอื เชิญพบด้วยว่า หากผู้รอ้ งไมป่ ฏิบตั ิตามหนงั สอื เชญิ พบภายในระยะเวลาทีก่ ำหนด จะพิจารณาตามหลกั ฐาน เท่าทปี่ รากฏ 10.2 ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ผี ูม้ หี น้าท่ีพิจารณาคำรอ้ งดำเนนิ การพิจารณาคำรอ้ งและเสนอความเหน็ ตอ่ ผ้บู ังคบั บญั ชาเพือ่ พิจารณาส่ังการ โดยจัดทำเปน็ บนั ทกึ การพจิ ารณาคำรอ้ งมีรายละเอียด ดังนี้ 10.2.1 รายละเอยี ดเบอ้ื งตน้ เกย่ี วกับผู้รอ้ ง 10.2.2 ขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ กฎหมายเกี่ยวกบั ประเด็นความผิดอนั เปน็ เหตใุ หต้ ้องรบั ผดิ เบี้ย ปรบั หรอื เงินเพ่มิ 10.2.3 สาเหตุของประเดน็ ความผดิ ที่ผูร้ อ้ งของดหรอื ลดเบ้ียปรับหรือเงินเพ่ิม โดยระบุ ขอ้ เท็จจริงท่ผี รู้ ้องมิไดป้ ฏิบัติตามทกี่ ฎหมายกำหนด 10.2.4 ความเห็นของเจ้าหน้าที่ผู้มหี น้าที่พิจารณาคำร้อง

หมวด 3 การรายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคำรอ้ ง ขอ้ 11 ใหส้ ำนักงานสรรพากรพ้ืนที่ สำนักงานสรรพากรภาค สำนกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ สำนัก ตรวจสอบภาษีกลาง และสำนกั อทุ ธรณภ์ าษี รายงานการรบั คำร้อง การพิจารณา คำร้องแลว้ เสร็จ และคำรอ้ งคา้ งดำเนินการจำแนกตามอายงุ านค้าง ใหก้ รมสรรพากรทราบเป็นรายเดือน ภายในวนั ที่ 10 ของเดอื นถดั ไป ขอ้ 12 บรรดาระเบยี บ คำสง่ั หรือหนงั สอื อื่นใดในส่วนท่ขี ัดหรอื แย้งกบั ข้อกำหนดในระเบียบน้ี ให้ใช้ ระเบยี บนีแ้ ทน ขอ้ 13 ใหผ้ อู้ ำนวยการสำนกั อทุ ธรณ์ภาษี รักษาการตามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2550 ศานติ ร่างนอ้ ย (นายศานิต ร่างนอ้ ย) อธบิ ดกี รมสรรพากร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook