สรุปผลโครงการหลกั สตู รการคา้ ออนไลน์ เรอื่ ง การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ และการออกแบบบรรจุภณั ฑ์ วนั ท่ี 23-24 กรกฎาคม 2563 ณ กศน.ตาบลสตั หีบ กศน.ตาบลสัตหบี ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสตั หบี สานักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี
บทสรุปผบู้ รหิ าร โครงการหลักสูตรการค้าออนไลน์ เร่ือง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์จัดข้ึนใน คร้ังนี้ มวี ัตถุประสงค์เพอื่ ให้ผเู้ ข้ารบั การอบรมได้รู้ถงึ ความสาคญั ของการขายและการนาเสนอสินค้า เพิ่มคุณค่า สนิ ค้าดว้ ยการออกแบบผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจภุ ณั ฑ์ การสร้างแบรนด์สินคา้ และการสร้างโลโกแ้ ละแต่งภาพสินค้า และนาความรู้ท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ในการทางานจริง โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชน ในพื้นที่ตาบลสัตหีบ จานวน 16 คน โดยจะใช้กลุ่มเป้าหมายท้ังหมดในการคานวณโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปคอมพิวเตอร์ (โปรแกรมตารางคานวณ) เพอื่ สรุปผลการดาเนินงานในครัง้ น้ี วิธีการดาเนินงาน โดยการสารวจความต้องการของประชาชนและนาผลจากการสารวจมาจัดทา กิจกรรมโครงการหลักสูตรการค้าออนไลน์ เร่ือง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้กับ ประชาชน ในพืน้ ทตี่ าบลสัตหีบ จานวน 16 คน ในวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2563 ณ กศน.ตาบลสัตหีบ ตาบล สัตหบี อาเภอสตั หีบ จังหวดั ชลบุรี โดยมี นางสาวสุภาวดี บางโสก นางสาวปารย์พิชชา เจริญศรี และ นาง ปิยวดี เตชะวงศ์ เปน็ วิทยากร จัดการเรียนการสอนในคร้ังนี้ หลังจากการจัดกิจกรรมโครงการแล้วมีการแบบ ประเมนิ สาหรับผู้เข้าร่วมโครงการท้ังหมด จานวน 16 ชุด แล้วนาข้อมูลที่ได้มาคานวณทางสถิติ หาค่าร้อยละ คา่ เฉลย่ี ในการแปรผล ผลการดาเนินงาน จากการนาข้อมูลท่ีได้มาทาการคานวณหาค่าสถิติต่างๆ สรุปว่า ผู้เข้าร่วม กจิ กรรม มคี วามพึงพอใจอยู่ใน ระดบั มากทส่ี ุด (µ =4.72)
คานา จากการท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ กศน.ตาบลสัตหีบ ได้จัดทาโครงการหลักสูตรการค้าออนไลน์ เร่ือง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพ่อื ตอบสนองต่อนโยบายของสานกั งาน กศน. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รู้ถึงความสาคัญ ของการขายและการนาเสนอสินค้า เพ่ิมคุณค่าสินค้าด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การสร้าง แบรนด์สินค้าและการสร้างโลโก้และแต่งภาพสินค้า และนาความรู้ท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ในการทางานจริง ซ่ึงโครงการดาเนินการจัดในวันท่ี 23-24 กรกฎาคม 2563 ณ กศน.ตาบลสัตหีบ ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จงั หวัดชลบุรี โดยมี นางสาวสุภาวดี บางโสก นางสาวปารย์พชิ ชา เจรญิ ศรี และ นางปิยวดี เตชะวงศ์ เป็น วทิ ยากร จดั การเรยี นการสอนในคร้งั น้ี เพอื่ ให้ผู้เข้าอบรมสามารถนาความรทู้ ่ีได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทางาน ได้จรงิ โครงการดังกล่าวได้ดาเนินการเสร็จส้ินไปได้ด้วยดี ซ่ึงรายละเอียดผลการดาเนินงานต่างๆ ตลอดจน ปญั หาและอุปสรรค ได้สรุปไวแ้ ลว้ เพื่อรวบรวมกระบวนการดาเนินงาน ผลที่ได้นาไปใช้ ตลอดจนการพัฒนา เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิต และการตอบสนองความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนาไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงและสามารถแนะนาผู้อื่นได้ เพ่ือให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่าง ต่อเน่ือง กศน.ตาบลสัตหบี กนั ยายน 2563
สารบญั หนา้ บทท่ี 1 บทนา.....................................................................................................................................................1 ความเปน็ มา .................................................................................................................................1 วตั ถุประสงค์.................................................................................................................................1 เปา้ หมาย......................................................................................................................................2 ผลที่คาดวา่ จะได้รบั ......................................................................................................................2 ดัชนีวดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ ......................................................................................................2 2 เอกสารการศกึ ษาและรายงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง..............................................................................................3 นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน กศน.ปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ...........................................3 นโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน กศน.ตาบลสัตหบี ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563..............11 เอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง........................................................................................................................21 3 วธิ ีดาเนนิ งาน...........................................................................................................................................46 ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศึกษา...........................................................................................46 จดั ตั้งคณะทางาน ........................................................................................................................46 ประสานงานกับหนว่ ยงานและบคุ คลทเ่ี ก่ียวขอ้ ง .........................................................................46 ดาเนินการตามแผน ..................................................................................................................... 46 วัดผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรายงาน.......................................................................................47 4 ผลการดาเนนิ งานและการวเิ คราะหข์ ้อมูล .............................................................................................48 ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ส่วนตัวผูแ้ บบสอบถามของผ้เู ข้ารบั การอบรมในโครงการหลักสูตรการคา้ ออนไลน์ เรอ่ื ง การพัฒนาผลิตภัณฑแ์ ละการออกแบบบรรจุภณั ฑ์...............................................................48 ตอนที่ 2 ขอ้ มลู เกีย่ วกับความคิดเหน็ ทม่ี ตี ่อโครงการหลักสตู รการค้าออนไลน์ เรื่อง การพฒั นา ผลติ ภัณฑ์และการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์........................................................................................49 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ................................................................................................51 สรุปผลการดาเนินงาน ................................................................................................................. 51 อภิปรายผล..................................................................................................................................51 ปัญหาและอปุ สรรค.....................................................................................................................52 ขอ้ เสนอแนะ................................................................................................................................52 บรรณานุกรม……………………………………………………………………………………………………………………………….53 ภาคผนวก
สารบญั ตาราง ตารางที่ หน้า 1 แสดงค่ารอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ.........................................................48 2 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ.........................................................48 3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชีพ.......................................................48 4 ผลการประเมนิ โครงการหลักสูตรการคา้ ออนไลน์ เรอื่ ง การพฒั นาผลติ ภัณฑ์และการออกแบบ บรรจภุ ณั ฑ์...........................................................................................................................................49
บทท่ี 1 บทนา หลักการและเหตุผล พาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์หรืออีคอมเมิร์ซคือ การค้าขายผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตจะ เปลี่ยนวิถีทางการดารงชีวิตของทุกคน อินเตอร์เน็ตจะเปลี่ยนวิธีการศึกษาหาความรู้ อินเตอร์เน็ตจะเปล่ียน วิธกี ารทามาค้าขาย อินเตอรเ์ น็ตจะเปลยี่ นวิธีการหาความสุขสนุกสนาน อินเตอร์เน็ตจะเปล่ียนทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างจะรวมกันเข้ามาหาอินเตอร์เน็ต กล่าวกันว่าในปัจจุบันน้ีถ้าบริษัทห้างร้านใดไม่มีหน้า โฮมเพจในอนิ เตอรเ์ น็ตบรษิ ทั หา้ งรา้ นน้นั ก็ไม่มตี ัวตน น่ันคอื ไม่มใี ครรจู้ กั เม่อื ไม่มีใครรจู้ ักกไ็ ม่มีใครทามาค้าขาย ด้วย แล้วถ้าไม่มีใครทามาค้าขายด้วยก็อยู่ไม่ได้ต้องล้มหายตายจากไป ว่ากันว่าอินเตอร์เน็ตคือแหล่งข้อมูล ข่าวสาร และข้อมูลข่าวสารอย่างหนึ่งก็คือ ข้อมูลเก่ียวกับราคาสินค้า ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าน้ันๆ และข้อมลู เกย่ี วกบั ผขู้ ายผู้ผลติ ซง่ึ ในปัจจบุ ันผบู้ รโิ ภคมที างเลือกในการที่จะซ้ือสินค้ากันมากขึ้น เช่นการเข้าไป เลอื กซอ้ื จากในเวบ็ ไซต์ มีการเข้าไปเปรียบเทียบราคาสนิ คา้ ก่อนทจ่ี ะซอ้ื หากจะกล่าววา่ “ข่าวสาร” คืออานาจ ในปจั จบุ ันน้ีผ้บู ริโภคก็ไดร้ บั การติดอาวธุ อยา่ งใหมท่ ่ีมีอานาจมากพอท่ีจะต่อรองกับผู้ผลิต และผู้จาหน่ายสินค้า ได้ผลดที ส่ี ุดเท่าที่เคยมมี าและพฤติกรรมของผบู้ ริโภคทว่ั โลกก็เปลีย่ นแปลงไปอยา่ งส้นิ เชงิ ในการทาอีคอมเมิร์ซ นนั้ ไม่ใช่เพยี งแค่เปน็ เว็บเพจหรือชอ่ งทางการจาหน่ายสินค้า แต่ อีคอมเมิร์ซยังมีความหมายรวมไปถึงการนา เทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทางธุรกจิ เพ่อื ลดคา่ ใชจ้ า่ ย ลดเวลาท่ีต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ และยัง ช่วยเพิ่มประสทิ ธภิ าพในการดาเนินอีกด้วย ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นปราการด่านแรกท่ีผู้บริโภคจะ มองเห็น เมื่อผู้บริโภคเห็นบรรจุภัณฑ์แล้วเกิดความประทับใจ สะดุดตาในทุกองค์ประกอบของบรรจุภัณฑ์ ก็ สามารถท่ีจะโนม้ น้าวใจให้ผ้บู รโิ ภคเกิดความสนใจและต้องการทีจ่ ะรบั รขู้ ้อมลู ต่างๆของตัวสินค้านน้ั ๆให้มากขึ้น บรรจุภัณฑ์จึงถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด อีกทางหนึ่งท่ีผู้ผลิตจะสามารถสร้างบรรจุภัณฑ์ให้เป็นท่ีดึงดูดตา ดึงดูดใจ ทาให้ผบู้ รโิ ภคเกดิ ความสนใจอยากเขา้ มาหยิบบรรจภุ ณั ฑ์พิจารณารูปลักษณ์ และรายละเอียดของตัว สินค้ารวมไปด้วย จนทาให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจในตัวสินค้านั้นโดยไม่รู้ตัว (First Impression) ด้วย เหตุน้ีเราจึงต้องเรียนรู้ความสาคัญของการทาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดท่ีมีผู้บริโภคเป็นผู้เลือก บรรจุ ภัณฑ์ที่โดดเด่นจะช่วยเพ่ิมมูลค่าให้กับตัวสินค้าและองค์กร ช่วยเพ่ิมยอดขาย ผู้บริโภคเองก็อยากเก็บบรรจุ ภัณฑ์ของสินค้านั้นไว้เพราะภาพลักษณ์ที่สวยงาม เป็นการโฆษณาสินค้าได้ในระยะยาว เพราะเม่ือผู้บริโภค หยบิ บรรจุภัณฑ์นั้นข้ึนมาเม่ือใด ก็จะเห็นว่าสินค้าน้ันเป็นแบรนด์อะไร สร้างการจดจาแบรนด์ให้กับผู้บริโภค โดยไมร่ ู้ตวั และแนวโน้มการคา้ ขายออนไลนข์ องไทยมคี วามพร้อมกบั การคา้ ขายออนไลนอ์ ยา่ งมาก ดงั น้นั หาก คนที่มีธุรกิจ และยังไม่ได้เข้ามาสู่การค้าขายออนไลน์ ปีน้ีดูจะเป็นท่ีเหมาะสมและควรนาธุรกิจเข้าสู่โลกออก ไลนไ์ ด้แล้ว เพราะองค์ประกอบทกุ อยา่ งพร้อมมาก หากยง่ิ ชา้ ไป โอกาสการแขง่ ขันของธุรกิจในโลกออนไลน์จะ ย่ิงตา่ ลง เพราะในธรุ กจิ การคา้ ในโลกออนไลนไ์ ม่ได้มีแคค่ ูแ่ ข่งในประเทศเทา่ นัน้ เพราะอาจจะต้องเจอกับคู่แข่ง ต่างประเทศทเี่ รม่ิ ยกพลมาขายในเมืองไทยผา่ นเวบ็ ไซต์กันมากขึ้น วัตถปุ ระสงค์ 1 เพือ่ ให้ผู้เขา้ รับการอบรมไดร้ ู้ถึงความสาคญั ของการขายและการนาเสนอสินค้า 2 เพือ่ ให้ผูเ้ ข้ารบั การอบรมไดร้ ้ถู งึ การเพม่ิ คณุ ค่าสนิ คา้ ด้วยการออกแบบผลติ ภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ 3 เพื่อให้ผเู้ ขา้ รบั การอบรมไดร้ ถู้ งึ การสร้างแบรนดส์ นิ คา้ และการสรา้ งโลโกแ้ ละแต่งภาพสนิ คา้ 4 เพ่อื ให้ผเู้ ขา้ รบั การอบรมไดน้ าความรู้ท่ไี ดไ้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการทางานจริง
เป้าหมาย 1 เชิงปรมิ าณ ประชาชนในตาบลสัตหีบ จานวน 16 คน 2 เชงิ คุณภาพ 2.1 ร้อยละ 80 ของประชาชนผู้เข้ารบั การอบรมรู้ถงึ ความสาคัญของการขายและการ นาเสนอสนิ คา้ และการเพม่ิ คุณค่าสนิ ค้าด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจภุ ัณฑ์ 2.2 ร้อยละ 80 ของประชาชนผูเ้ ข้ารบั การอบรมมีการพัฒนาผลติ ภณั ฑแ์ ละการออกแบบ บรรจุภณั ฑ์ การสร้างแบรนด์สินค้าและการสร้างโลโกแ้ ละแต่งภาพสินค้าและนาความร้ทู ่ไี ด้ไปประยุกต์ใช้ใน การทางานจรงิ ระยะเวลาดาเนนิ งาน ในระหว่างวนั ที่ 23-24 กรกฎาคม 2563 ผลลพั ธ์ ผู้เข้าอบรมมีความรู้ถึงความสาคัญของการขายและการนาเสนอสินค้าและการเพิ่มคุณค่าสินค้าด้วย การออกแบบผลิตภณั ฑ์และบรรจุภณั ฑ์ มีการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์และการออกแบบ บรรจุภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ สนิ ค้าและการสร้างโลโกแ้ ละแต่งภาพสนิ คา้ และนาความรูท้ ไี่ ด้ไปประยุกต์ใช้ในการทางานจรงิ ดัชนีวัดผลและความสาเรจ็ ของโครงการ ตัวชว้ี ัดผลผลติ (Outputs) - มผี ู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 ของกล่มุ เปา้ หมาย - ผู้เข้ารว่ มโครงการมีความพงึ พอใจในระดบั ดีข้นึ ไปไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ตัวช้วี ัดผลลพั ท์ (Outcome) - ผูเ้ ข้าร่วมโครงการฯ รอ้ ยละ 80 ไดน้ าความรู้การเพิ่มคณุ ค่าสินคา้ ดว้ ยบรรจุภัณฑ์ - ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการฯ ร้อยละ 80 ไดน้ าความรทู้ ี่ได้ไปมพี ฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละการออกแบบ บรรจุภณั ฑ์ การสร้างแบรนดส์ นิ ค้าและการสร้างโลโกแ้ ละแต่งภาพสินค้าและนาความรู้ท่ีได้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น การทางานจริง
บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยที่เกย่ี วขอ้ ง ในการจัดทารายงานครั้งน้ี ได้ทาการศกึ ษาค้นคว้าเนือ้ หาจากเอกสารการศกึ ษาและ รายงานท่เี กี่ยวขอ้ ง ดงั ต่อไปนี้ 1. นโยบายและจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 1.1 วสิ ัยทศั น์ 1.2 พันธกจิ 1.3 เปา้ ประสงค์ 1.4 ตัวชี้วัดความสาเร็จ/ยทุ ธศาสตร/์ โครงการ 2. นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน กศน.อาเภอสัตหบี ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 3. การศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาทักษะชวี ติ 4. เอกสารทีเ่ กยี่ วข้อง นโยบายและจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 วสิ ยั ทัศน์ คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ติ อยา่ งมีคุณภาพ สามารถดารงชวี ิตท่เี หมาะสม กบั ชว่ งวัย สอดคลอ้ งกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทกั ษะท่จี าเปน็ ในโลกศตวรรษท่ี 21 พันธกจิ 1. จดั และส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยทมี่ คี ุณภาพ เพอื่ ยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปล่ียนแปลง บรบิ ททางสงั คม และสรา้ งสังคมแห่งการเรยี นรตู้ ลอดชีวิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมท้ังการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการ เรยี นรูอ้ ่นื ในรูปแบบตา่ ง ๆ 3. ส่งเสรมิ และพฒั นาการนาเทคโนโลยที างการศกึ ษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 4. พฒั นาหลักสตู ร รปู แบบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื และนวตั กรรม การวัดและประเมินผลในทุก รปู แบบให้สอดคล้องกับบริบทในปจั จบุ นั 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการใหม้ ปี ระสิทธิภาพ เพอื่ ม่งุ จดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ท่ี มคี ณุ ภาพ โดยยึดหลกั ธรรมาภิบาล เปา้ ประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมท้ังประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตาม อธั ยาศัย ท่มี ีคุณภาพอย่างเท่าเทยี มและทวั่ ถงึ เป็นไปตามสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการของแต่ละ
กลมุ่ เป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็น พลเมือง อันนาไปสกู่ ารยกระดบั คุณภาพชีวติ และเสรมิ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคง และย่งั ยนื ทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์ และส่งิ แวดล้อม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง สร้างสรรค์ 4. ประชาชนไดร้ ับการสรา้ งและสง่ เสรมิ ใหม้ ีนสิ ัยรักการอา่ นเพ่อื การแสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง 5. ชุมชนและภาคเี ครอื ขา่ ยทุกภาคสว่ น ร่วมจดั สง่ เสริม และสนับสนุนการดาเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย รวมทั้งการขับเคล่ือนกิจกรรมการเรยี นรขู้ องชุมชน 6. หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาพัฒนา เทคโนโลยที างการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คณุ ภาพในการจดั การเรยี นรแู้ ละเพม่ิ โอกาสการเรียนรู้ให้กบั ประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือแก้ปัญหาและพัฒนา คุณภาพชวี ติ ที่ตอบสนองกับการเปลย่ี นแปลงบริบทดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดลอ้ ม รวมทง้ั ตามความตอ้ งการของประชาชนและชมุ ชนในรปู แบบทีห่ ลากหลาย 8. หน่วยงานและสถานศกึ ษามีระบบการบริหารจัดการทเ่ี ปน็ ไปตามหลักธรรมาภิบาล 9. บคุ ลากรของหนว่ ยงานและสถานศึกษาไดร้ ับการพฒั นาเพือ่ เพมิ่ สมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชวี้ ดั ตวั ช้วี ัดเชงิ ปริมาณ 1. จานวนผู้เรยี นการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาชั้นพน้ื ฐานทีไ่ ดร้ ับการสนบั สนุนคา่ ใชจ้ า่ ยตาม สทิ ธิทก่ี าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบริการกิจกรรม การศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง และการศึกษาตามอธั ยาศยั ทีส่ อดคลอ้ งกับสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการ 3. ร้อยละของกาลังแรงงานท่สี าเร็จการศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้นข้นึ ไป 4. จานวนภาคีเครือขา่ ยทเี่ ข้ามามีส่วนรว่ มในการจัด/พฒั นา/ส่งเสรมิ การศกึ ษา (ภาคีเครือข่าย: สถาน ประกอบการ องค์กร หน่วยงานที่มารว่ มจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศกึ ษา) 5. จานวนประชาชน เดก็ และเยาวชนในพ้ืนทส่ี ูง และชาวไทยมอแกน ในพน้ื ท่ี 5 จงั หวัด 11 อากอ ได้รบั บรกิ ารการศึกษาตลอดชวี ติ จากศูนย์การเรียนชุมชนสังกดั สานกั งาน กศน. 6. จานวนผูร้ ับบริการในพื้นท่เี ปา้ หมายได้รับการส่งเสริมด้านการรหู้ นังสอื และการพฒั นาทกั ษะชีวติ 7. จานวนนักเรยี นนักศกึ ษาท่ไี ด้รับบรกิ ารตวิ เขม้ เตม็ ความรู้ 8. จานวนประชาชนทไ่ี ด้รับการฝึกอาชีพระยะส้นั สามารถสร้างอาชพี เพ่ือสรา้ งรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพื้นที่ กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการ สอนภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 10. จานวนประชาชนท่ไี ดร้ ับการฝกึ อบรมภาษาต่างประเทศเพ่ือการสื่อสารดา้ นอาชีพ 11. จานวนผู้สงู อายภุ าวะพง่ึ พิงในระบบ Long Term Care มผี ดู้ ูแลทม่ี ีคณุ ภาพและมาตรฐาน 12. จานวนประชาชนที่ผ่านการอบรมจากศูนยด์ จิ ทิ ัลชุมชน 13. จานวนศนู ย์การเรยี นชุมชน กศน. บนพ้ืนท่ีสูง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการ ฟัง พดู ภาษาไทยเพ่ือการสือ่ สาร ร่วมกันในสถานศึกษาสังกดั สพฐ. ตชด. และกศน. 14.จานวนบุคลากร กศน. ตาบลทีส่ ามารถจดั ทาคลังความรู้ได้
15. จานวนบทความเพอ่ื การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ในระดับตาบลในหัวข้อตา่ ง ๆ 16. จานวนหลักสตู รและสื่อออนไลนท์ ใ่ี ห้บรกิ ารกับประชาชน ทงั้ การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษา ข้ันพ้นื ฐาน การศึกษาต่อเน่อื ง และการศกึ ษาตามอัธยาศัย ตวั ชีว้ ัดเชงิ คุณภาพ 1. รอ้ ยละของคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทกุ ระดบั 2. รอ้ ยละของผูเ้ รยี นทไ่ี ด้รับการสนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานเทยี บกบั คา่ เปา้ หมาย 3. รอ้ ยละของประชาชนกล่มุ เป้าหมายท่ีลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง เทยี บกับเปา้ หมาย 4. ร้อยละของผผู้ ่านการฝกึ อบรม/พฒั นาทักษะอาชีพระยะส้นั สามารถนาความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชพี หรอื พฒั นางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้าน อาชพี สามารถมงี านทาหรอื นาไปประกอบอาชีพได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของ หลกั สูตรกจิ กรรม การศกึ ษาต่อเน่อื ง 7. ร้อยละของประชาชนท่ีได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาตามอธั ยาศยั 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมท่ีมีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทักษะ ตามจดุ มุง่ หมายของกจิ กรรมทก่ี าหนด ของการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ เพิ่มสูงขึน้ 10. รอ้ ยละของผู้สงู อายทุ เ่ี ป็นกลมุ่ เปา้ หมาย มโี อกาสมาเข้าร่วมกจิ กรรมการศกึ ษาตลอดชวี ติ นโยบายเรง่ ด่วนเพ่อื รว่ มขบั เคล่ือนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศ 1.ยทุ ธศาสตร์ดา้ นความมนั คง 1.1 พัฒนาและเสรมิ สร้างความจงรักภักดีตอ่ สถาบันหลักของชาติ โดยปลูกฝังและสรา้ งความตระหนัก รถู้ ึงความสาคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และชาติไทย น้อมนาและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงแนวทาง พระราชดารติ า่ ง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ ในบริบทของไทย มีความเปน็ พลเมอื งดี ยอมรับและเคารพ ความหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทง้ั ยาเสพติด การคา้ มนษุ ย์ ภยั จากไซเบอร์ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคอุบตั ใิ หม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาและสรา้ งเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นทช่ี ายแดนอ่นื ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพ่ือนบ้านยอมรับ และเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ุ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลักษณะ พหสุ งั คมทอ่ี ยู่ร่วมกัน
2 ยุทธศาสตร์ด้านการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพื่อยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้ เป็นอาชีพท่ีรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณาการ ความรว่ มมือในการพัฒนาและเสรมิ ทกั ษะใหม่ด้านอาชพี (Upskill & Reskill) รวมถงึ มุ่งเนน้ สรา้ งโอกาสในการ สร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพน้ื ท่ีเขตระเบยี งเศรษฐกิจ และเขตพัฒนาพเิ ศษตามภมู ิภาคต่าง ๆ ของประเทศสาหรับพ้ืนท่ีปกติ ใหพ้ ฒั นาอาชีพทเ่ี นน้ การตอ่ ยอดศกั ยภาพและตามบริบทของพน้ื ที่ 2.2 จัดการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาพ้ืนที่ภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบการศึกษา อย่างน้อยการศึกษาภาคบงั คับ สามารถนาคณุ วฒุ ิที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชีพตามความตอ้ งการของประชาชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคม และชุมชน รวมทงั้ รองรับการพัฒนาเขตพน้ื ท่รี ะเบยี บเศรษฐกจิ ภาคตะวนั ออก (EEC) 2.3 พัฒนาและสง่ เสริมประชาชนเพ่อื ต่อยอดการผลิตและจาหนา่ ยสนิ ค้าและผลติ ภัณฑ์ ออนไลน์ 1) เร่งจัดตั้งศนู ยใ์ ห้คาปรกึ ษาและพฒั นาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าและ ผลติ ภัณฑ์ การบรหิ ารจดั การท่ีครบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจาหน่าย) รวมทั้ง สง่ เสริมการใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทลั ในการเผยแพร่และจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ 2) พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความ รว่ มมือกบั สถานีบรกิ ารน้ามนั ในการเป็นซ่องทางการจาหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวาง ยง่ิ ขนึ้ 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เช่ือมโยงความรู้กับ ผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความเป็น \"ครูมืออาชีพ\" มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ สังคมและเปน็ \"ผอู้ านวยการการเรียนรู้\" ท่ีสามารถบริหารจัดการความรู้ กิจกรรม และการเรยี นรูท้ ีด่ ี 1) เพ่ิมอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทุกแห่ง โดยเร่งดาเนินการเรื่องการหาอัตราตาแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแต่งตง้ั ขา้ ราชการครู 2) พฒั นาขา้ ราชการครูในรปู แบบครบวงจร ตามหลกั สตู รทเี่ ชอื่ มโยงกับวิทยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตาบลให้สามารถปฏบิ ัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเร่ืองการพัฒนาทักษะ การจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาต่างประเทศ ทกั ษะการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 4) พัฒนาศกึ ษานิเทศก์ ให้สามารถปฏิบตั กิ ารนเิ ทศได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เร่ืองการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและ ภาษาต่างประเทศทจี่ าเป็น 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพร้อมในการ ใหบ้ รกิ ารกจิ กรรมการศกึ ษาและการเรยี นรู้ เปน็ แหลง่ สารสนเทศสาธารณะท่ีง่ายต่อการเข้าถึง มีบรรยากาศท่ี เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นพ้ืนที่การเรียนรู้สาหรับคนทุกช่วงวัย มีสิ่งอานวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงามมี ชวี ิต ทด่ี ึงดดู ความสนใจ และมคี วามปลอดภยั สาหรับผูใ้ ช้บรกิ าร 1) เร่งยกระดับ กศน.ตาบลนาร่อง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตาบล 5 ดี พรีเม่ียม ท่ีประกอบด้วย ครูดี สถานท่ีดี (ตามบริบทของพื้นท่ี) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีมี ประโยชน์ 2) จดั ใหม้ ีศูนยก์ ารเรียนรตู้ น้ แบบ กศน. เพอื่ ยกระดบั การเรียนรู้ ใน 6 ภมู ภิ าค เปน็ พื้นที่การเรียนรู้ (Co - Learning Space) ทท่ี ันสมยั สาหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พ้ืนที่สาหรับการ ทางาน/การเรียนรู้ พื้นท่ีสาหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมท้ังทางานร่วมกับห้องสมุด
ประชาชนในการให้บรกิ ารในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต ส่ือมัลติมีเดีย เพ่ือรองรับการเรียนรู้ แบบ Active Learning 3) พฒั นาห้องสมุดประชาชน \"เฉลิมราชกมุ ารี\" ให้เป็น Digital Library โดยให้มบี ริการหนงั สือ ในรูปแบบ e - Book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมท้ัง Free Wifi เพื่อการสืบค้น ขอ้ มลู 3.3 ส่งเสรมิ การจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เอ้ือต่อการเรียนรู้สาหรับทุกคน สามารถ เรยี นได้ทุกทีท่ กุ เวลา มกี ิจกรรมที่หลากลาย นา่ สนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพ่ือพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ของประชาชน รวมท้ังใช้ประโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่ อ เชอื่ มโยงความสัมพนั ธ์ของคนในชมุ ชนไปสกู้ ารจัดการความรขู้ องชมุ ชนอย่างย่งั ยนื 1) ส่งเสริมการจัดกจิ กรรมการเรียนรูท้ ่ีปลูกฝงั คุณธรรม สรา้ งวินยั จิตสาธารณะ ความรับผดิ ชอบ ต่อส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจนสนับสนนุ ให้มกี ารจดั กจิ กรรมเพื่อปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรมใหก้ ับบคุ ลากรในองคก์ ร 2) จดั ให้มหี ลกั สตู รลูกเสอื มคั คุเทศก์ โดยใหส้ านักงาน กศน.จงั หวดั ทุกแห่ปกทม. จดั ตั้งกองลูกเสอื ทลี่ ูกเสือมคี วามพรอ้ มดา้ นทกั ษะภาษาต่างประเทศ เปน็ ลกู เสอื มัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพื่อส่งเสริมลูกเสือ จิตอาสาพฒั นาการท่องเทยี่ วในแตล่ ะจงั หวดั 3.4 เสรมิ สรา้ งความร่วมมือกบั ภาคีเครือขา่ ย ประสาน สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ภาคเี ครอื ขา่ ย ทั้งภาครฐั เอกชน ประชาสงั คม และองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ รวมท้ังส่งเสรมิ และสนบั สนุนการมีส่วนรว่ มของชุมชน เพอ่ื สร้างความเขา้ ใจ และให้เกิดความรว่ มมือในการสง่ เสรมิ สนับสนนุ และจดั การศกึ ษาและการเรียนรใู้ ห้กบั ประชาชนอยา่ งมคี ุณภาพ 1) เร่งจัดทาทาเนียบภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินในแตล่ ะตาบล เพ่อื ใชป้ ระโยชน์จากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ในการสร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรม อย่างย่งั ยืน 2) สง่ เสรมิ ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ินสกู่ ารจดั การเรยี นรู้ชุมชน 3) ประสานความรว่ มมือกับภาคเี ครอื ขา่ ยเพอ่ื การขยายและพฒั นาการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยใหเ้ ขา้ ถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. 3.5 พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพอ่ื ประโยชน์ตอ่ การจดั การศึกษาและกล่มุ เป้าหมาย 1) พัฒนาการจัดการศกึ ษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรปู แบบของการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน การพัฒนาทักษะ ชีวิตและทักษะอาชีพ การศกึ ษาตามอัธยาศยั รวมท้งั การพฒั นาชอ่ งทางการคา้ ออนไลน์ 2) สง่ เสรมิ การใช้เทคโนโลยใี นการปฏิบตั งิ าน การบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ 3) ส่งเสริมให้มีการใช้การวิจยั อย่างง่ายเพ่ือสร้างนวัตกรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศกั ยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ลั (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรแู้ ละทกั ษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เพ่อื พฒั นา รปู แบบการจัดการเรียนการสอน 2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยดี ิจิทลั เพอ่ื ให้ประชาชนมีทักษะความเขา้ ใจและ ใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัลที่สามารถนาไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน รวมทั้งสรา้ งรายไดใ้ ห้กับตนเองได้ 3.7 พฒั นาทกั ษะภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพ่อื อาชีพ ทง้ั ในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว รวมท้ังพัฒนาส่ือการเรียนการ สอนเพ่อื ส่งเสริมการใช้ภาษาเพ่อื การสอ่ื สารและการพัฒนาอาชพี 3.8 เตรยี มความพร้อมการเข้าสูส่ ังคมผู้สูงอายทุ เี่ หมาะสมและมีคุณภาพ
1) ส่งเสรมิ การจัดกจิ กรรมใหก้ ับประชาชนเพื่อสรา้ งความตระหนักถงึ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ สงั คมผสู้ ูงอายุ (Aging Society) มีความเขา้ ใจในพฒั นาการของช่วงวยั รวมทงั้ เรยี นรูแ้ ละมสี ่วนรว่ มในการดแู ล รับผดิ ชอบผสู้ ูงอายุในครอบครัวและชมุ ชน 2) พัฒนาการจดั บรกิ ารการศึกษาและการเรยี นรสู้ าหรับประชาชนในการเตรียมความพรอ้ ม เขา้ สู่วัยสงู อายุที่เหมาะสมและมคี ณุ ภาพ 3) จัดการศกึ ษาเพื่อพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ สาหรบั ผสู้ ูงอายุภายใตแ้ นวคดิ \"Active Aging\" การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาคณุ ภาพชวี ิต และพัฒนาทกั ษะชวี ติ ให้สามารถดแู ลตนเองทงั้ สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ และรู้จกั ใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิศ์ รขี องผ้สู งู อายุ เปดิ โอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมปิ ัญญา ของผู้สูงอายุ และให้มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมดา้ นตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เช่น ดา้ นอาชีพ กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม 5) จดั การศกึ ษาอาชีพเพ่ือรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ในทกุ ระดบั 3.9 การส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์เพือ่ การศึกษา 1) จัดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชนทั้ง วิทยาศาสตร์ในวิถชี ีวติ และวทิ ยาศาสตรใ์ นชวี ติ ประจาวนั 2) พฒั นาสอื่ นทิ รรศการเละรปู แบบการจัดกจิ กรรมทางวทิ ยาศาสตรใ์ หม้ ีความทนั สมยั 3.10 สง่ เสริมการรู้ภาษาไทยให้กบั ประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพื้นท่ีสูงให้ สามารถฟัง พูด อ่าน และเขยี นภาษาไทย เพอ่ื ประโยชน์ในการใช้ชวี ติ ประจาวนั ได้ 4 ยุทธศาสตร์ต้นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม 4.1 จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สาหรับทุกช่วงวัย ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สามารถให้บริการ ประชาชนได้ทกุ คน ทกุ ชว่ งวยั ท่มี ีกิจกรรมท่หี ลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแต่ละวัยและ เป็นศนู ย์บรกิ ารความรู้ ศนู ยก์ ารจัดกิจกรรมทีค่ รอบคลุมทกุ ช่วงวยั เพอื่ ให้มพี ัฒนาการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมและมี ความสขุ กับการเรียนร้ตู ามความสนใจ 1) เรง่ ประสานกบั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน เพอ่ื จดั ทาฐานข้อมูลโรงเรียนที่ถูกยุบ รวม หรือคาดวา่ นา่ จะถกู ยุบรวม 2) ใหส้ านักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดที่มีโรงเรียนท่ีถูกยุบรวม ประสานขอใช้พ้ืนที่เพื่อ จดั ตัง้ ศูนยก์ ารเรียนร้สู าหรับทกุ ชว่ งวยั กศน. 4.2 ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้สาหรับกล่มุ เป้าหมายผูพ้ กิ าร 1) จัดการศึกษาข้นั พื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษา ตามอัธยาศัย โดยเน้นรูปแบบการศกึ ษาออนไลน์ 2) ให้สานักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทาความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจา จังหวัด ในการใช้สถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาและการ เรียนรสู้ าหรบั กลุ่มเปา้ หมายผู้พกิ าร 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอื่น ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนท่ีอยู่นอกระบบการศึกษาให้จบการศึกษานอก ระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน สามารถนาความรู้ทไี่ ดร้ ับไปพัฒนาตนเองไดอ้ ยา่ งต่อเน่อื ง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับ บรบิ ทของพ้นื ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผู้รบั บริการ
5. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสร้างการเติบโตบนคณุ ภาพชวี ิตทเี่ ป็นมติ รตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพ่ือลดความเสียหายจากภัย ธรรมชาตแิ ละผลกระทบท่เี กี่ยวข้องกบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เก่ียวกับการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใช้ช้า เพื่อลดปริมาณและต้นทุนในการ จดั การขยะของเมือง และสามารถนาขยะกลับมาใชป้ ระโยชน์ไดโ้ ดยงา่ ย รวมทง้ั การจดั การมลพษิ ในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมท้ังลดการใช้ ทรพั ยากรทสี่ ่งผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ รณรงคเ์ รือ่ งการลดการใช้ถงุ พลาสตกิ การประหยัดไฟฟ้า เป็นต้น 6. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการปรับสมดลุ และพัฒนาระบบหารบริหารจัดการภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติ มิชอบ บรหิ ารจัดการบนข้อมลู และหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธ์ิมคี วามโปร่งใส 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทางานที่เป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนางาน สามารถเช่ือมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ท่ี สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทาให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเน่ืองกันต้ังแต่ต้นจนจบกระบวนการ และใหป้ ระชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเขา้ ถงึ บริการไดอ้ ย่างทันที ทกุ ทแี่ ละทุกเวลา 6.3 ส่งเสริมการพฒั นาบคุ ลากรทุกระดับอยา่ งต่อเนอื่ ง ใหม้ ีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตาแหน่ง ให้ตรงกบั สายงาน ความชานาญ และความต้องการของบุคลากร แนวทาง/กลยทุ ธ์การดาเนนิ งาน ของ กศน.อาเภอสัตหบี ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ปรชั ญา คดิ เป็น ทาเป็น เน้นคุณธรรม วสิ ัยทศั น์ “ภายในปี 2565 ผเู้ รียน/ผู้รบั บรกิ าร ของศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ สัตหีบ มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา ส่ือเทคโนโลยี ในการจัดกระบวนการ เรียนรู้ โดยเครอื ขา่ ยมีสว่ นรว่ ม” อัตลักษณ์ “เท่าทนั เทคโนโลยี” ความหมาย การใช้เทคโนโลยี ในการเรียนรู้และการดารงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เอกลกั ษณ์ “องคก์ ร ออนไลน์” หมายถงึ สถานศึกษาใช้เทคโนโลยีในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ และการบรหิ ารงานภายในองคก์ ร พันธกจิ 1. ออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกบั หลักสูตร 2. จัดระบบสารสนเทศเพอ่ื การเรยี นรู้และการบรหิ ารการศกึ ษา 3. พัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้/สื่อ/การประเมินผล 4. สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การมีสว่ นรว่ มของภาคเี ครอื ข่ายและชุมชนในการจดั กิจกรรมการศกึ ษา
เปา้ ประสงค์ 1. ใช้สอ่ื เทคโนโลยใี นการจดั การเรียนรู้ 2. จัดการเรียนรูร้ ว่ มกับเครือข่าย กลยุทธ์ กลยทุ ธ์ วัตถุประสงค์ 1. พฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมค่านยิ มอนั พึงประสงค์ 2. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมที กั ษะและความสามารถในการแสวงหาความรู้ 3. เพื่อให้ผู้เรยี นมีทักษะและความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ 4. เพื่อให้ผู้เรยี นมีผลสมั ฤทธท์ิ างการศกึ ษาตามนโยบายสถานศกึ ษา 5. เพื่อให้ผู้เรยี นการศกึ ษาต่อเนอื่ งนาความรู้ไปใชไ้ ด้ 6. เพ่อื ให้ผ้เู รียนการศกึ ษาเศรษฐกิจพอเพยี งสามารถนาความรไู้ ปใชไ้ ด้ 7. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นการศึกษาดจิ ทิ ลั ชมุ ชนสามารถนาความรไู้ ปใช้ได้ 8. เพื่อใหผ้ รู้ บั บรกิ ารการศกึ ษาตามอัธยาศัยนาความรูไ้ ปใชไ้ ด้ 9. เพ่ือให้ผู้เรียน/ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศและสามารถนา ความร้ไู ปใช้พฒั นาตนเองได้ 2. พัฒนาบคุ ลาการ 1. เพือ่ ใหบ้ ุคลากรมีความรู้และทักษะด้านการออกแบบการจดั กระบวนการเรียนการสอน 2. เพื่อใหบ้ ุคลากรมคี วามร้แู ละทกั ษะดา้ นการออกแบบส่ือการเรยี นการสอน 3. เพอ่ื ให้บคุ ลากรมคี วามรู้และทักษะดา้ นวธิ กี ารประเมนิ ผลที่มคี ุณภาพ 3.บรหิ ารการจัดการสถานศกึ ษา 1. เพื่อจดั ระบบสารสนเทศเพือ่ การเรียนร้แู ละการบริหารสถานศกึ ษา 4.ภาคีเครือข่ายร่วมจัดกิจกรรม 1. เพื่อใหเ้ ครือข่ายมีสว่ นรว่ มส่งเสรมิ สนับสนุนและรว่ มจดั การจดั กจิ กรรมการศกึ ษา ผลการวิเคราะห์ SWOT (Swot Analysis) ของ กศน.อาเภอสตั หบี S = จุดแข็ง 1. ดา้ นอาคารสถานท่ตี ้งั อย่ใู นเขตชุมชนเมอื ง สะดวกในการตดิ ตอ่ 2. ด้านบุคลากรมจี านวนเพยี งพอต่อการปฏบิ ัติงาน 3. มรี ะบบการจดั เก็บและสบื ค้นข้อมลู ท่ที นั สมยั สามารถสืบค้นขอ้ มลู ทางเวปไซด์ได้ W = จุดอ่อน 1. สอ่ื วสั ดุ อปุ กรณ์ ไมเ่ พียงพอตอ่ การดาเนินงานและการบริการ 2. ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต wifi ไม่เพียงพอต่อการดาเนินงานและการบริการ ประชาชนและนกั ศกึ ษา 3. สถานทีค่ ับแคบ ไมเ่ หมาะสมกับการจดั กิจกรรมขนาดใหญ่ O = โอกาส 1. ไดร้ บั ความรว่ มมือกบภาคเี ครือข่ายเป็นอยา่ งดี 2. ไดร้ ับการยอมรบั จากชุมชนและหน่วยงานอน่ื ๆ 3. มีแหล่งเรยี นรแู้ ละภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ท่ีโดดเดน่ จากเศรษฐกจิ พอเพียง 4. มกี รอบแนวทางการดาเนนิ งานที่ชัดเจน T = อุปสรรค 1. สถานท่ี 2. นักศึกษาไมส่ ามารถเข้าร่วมกจิ กรรมได้บ่อยครง้ั 3. ผูเ้ รยี นไม่คอ่ ยพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่อื ง
4. การจัดสรรงบประมาณจากหนว่ ยงานล่าช้า นโยบายและจดุ เนน้ ของ กศน.อาเภอสตั หีบ ตวั ชี้วดั 1. จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ กาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่างๆ (กลุ่มเป้าหมายท่ัวไป กลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มคนไทยทั่วไป เป็นต้น) ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยท่ี สอดคลอ้ งกับสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการ 3. ร้อยละผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบสามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมาย ของหลักสตู ร/กจิ กรรมทกี่ าหนด 4. จานวนแหล่งเรียนรู้ในระดับตาบลที่มีความพร้อมในการให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั 5. จานวนประชาชนกลมุ่ เป้าหมายทเ่ี ข้ารับการฝึกอาชพี เหน็ ช่องทางในการประกอบอาชพี 6. รอ้ ยละของผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ามารถอ่านออกเขยี นไดแ้ ละคดิ เลขเป็นตามจดุ มงุ่ หมายของกจิ กรรม 7. ร้อยละของประชาชนกลุม่ เปา้ หมายท่ีได้รบั บริการเข้าร่วมกจิ กรรมแหลง่ เรียนรู้ตามอธั ยาศัย มีความร้คู วามเขา้ ใจ เจตคติ ทักษะตามจดุ ม่งุ หมายของกิจกรรมทกี่ าหนด 8. จานวนผดู้ แู ลประชาชนท่ผี า่ นการอบรมตามหลักสตู รทก่ี าหนด 9. จานวนองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังในและต่างประเทศ ท่ีร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 10. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปท่เี ข้าถึงบริการการเรยี นรทู้ างด้านวิทยาศาสตรใ์ นรปู แบบ 11. จานวน/ประเภทของสื่อ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพื่อส่งเสริมการ เรยี นร้ขู องผู้เรียน/ผรู้ บั บรกิ ารการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปท่ีเข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยผ่านช่องทางสอื่ เทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยีการสอื่ สาร 13. รอ้ ยละของนักศึกษาท่มี ผี ลสัมฤทธิท์ างการเรียนที่ได้รับบริการตวิ เขม้ เตม็ ความรเู้ พม่ิ สูงขนึ้ 14. จานวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพ่ิมสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 15. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดท่ีมีระบบประกันคุณภาพภายในและมีการจัดทารายงานการประเมิน ตนเอง 16. รอ้ ยละของหนว่ ยงาน และสถานศึกษา กศน. ท่มี ีการใชร้ ะบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการ จดั ทาฐานขอ้ มลู ชุมชนและการบรหิ ารจดั การ เพ่ือสนบั สนุนการดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศยั ขององคก์ าร 17. รอ้ ยละของหน่วยงาน และสถานศกึ ษา กศน. ทีส่ ามารถดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามบทบาทภารกิจท่ี รบั ผดิ ชอบได้สาเร็จตามเปา้ หมายทีก่ าหนดไว้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า/ตามแผน ทกี่ าหนดไว้
จุดเนน้ การดาเนินงาน กศน. ตามยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงศึกษาธกิ าร 6 ยุทธศาสตร์ 1. พฒั นาหลกั สตู ร กระบวนการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล จุดเนน้ การดาเนินงาน 1.1 จัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงและความต้องการของประชาชนชุมชน และสงั คม ในรปู แบบที่หลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ความรู้เร่อื งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข/การเลือกตั้ง แนวทางและ ทิศทางการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ร่วมจัดทาเนื้อหาและส่ือประกอบการจัดกระบวนการเรียนรู้ รวมทั้งให้มีการจัดทาแผนการเรียนรู้รายชุมชน เพื่อพฒั นาส่ชู ุมชน/เมอื งแหง่ การเรียนรู้ 1.2 ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบ “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) โดยบูรณาการ ความรูด้ ้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพอ่ื พัฒนาทกั ษะชีวิต สู่การประกอบอาชีพ ประยุกต์ใช้ ในการทางาน และเป็นแนวทางของการสรา้ งแรงงานท่ีมีศักยภาพได้ในอนาคต 1.3 จัดการศึกษาเพ่อื เพ่มิ อตั ราการรูห้ นงั สือใหค้ นไทยให้สามารถอ่านออกเขยี นได้ โดยใช้หลกั สูตรการ รู้หนงั สอื ของคนไทยของสานักงาน กศน.และสือ่ ทเ่ี หมาะสมกบั สภาพและพื้นที่ของกลุ่มเปา้ หมาย 2. การผลติ พฒั นา ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา จดุ เนน้ การดาเนนิ งาน 2.1 จัดทาแผนพฒั นาอตั รากาลังล่วงหนา้ ระยะ 10 ปี เพอื่ ใชเ้ ป็นขอ้ มูลสาหรบั การขอกรอบอัตรากาลัง เพม่ิ เตมิ ให้เพยี งพอต่อขอบข่ายการดาเนินงานของ กศน. 2.2 เรง่ พัฒนาศกั ยภาพครู กศน. ทุกประเภท เพ่ือให้สามารถเป็นทั้งผู้สอนและผู้ออกแบบการเรียนรู้ รายบคุ คล และจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ และจัดทาแผนพัฒนาครู กศน.ทุกประเภท และ ทุกระดับ ชว่ งระยะ 10 ปี เพื่อพัฒนาสมรรถนะครู กศน. ให้ได้เกณฑ์มาตรฐานท่กี าหนด 2.3 สารวจข้อมลู และทบทวนหลกั เกณฑ์การจ้างลูกจา้ งแบบจ้างเหมาบรกิ าร และพนกั งานราชการให้ ตรงตามความต้องการของพื้นท่ี 3. ผลิต และพัฒนากาลังคน รวมทั้งงานวิจัยท่ีสอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนา ประเทศ จุดเน้นการดาเนนิ งาน 3.1 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้จบการศึกษาภาคบังคับอย่างมี คุณภาพ โดยเนน้ การเรยี นรปู แบบโปรแกรมเรยี นร้รู ายบุคคล 3.2 จัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้สอดคล้องและรองรับกับความต้องการของ การพัฒนาตามบริบทของแต่ละพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุ่งเน้นผลิตกาลังคนให้สอดคล้องกับ ความต้องการของพ้ืนท่ี พร้อมท้งั สรา้ งทักษะทางวชิ าชพี โดยเนน้ ด้านการบริหารและการประกอบการ เพื่อให้ ประชาชนในพ้นื ท่ีได้รบั การพัฒนาศักยภาพในแนวทางที่ดขี นึ้ 4. ขยายโอกาสในการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศกึ ษาและการเรียนร้อู ยา่ งตอ่ เนอ่ื งตลอดชีวติ จดุ เน้นการดาเนนิ งาน 4.1 เร่งบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยประสานข้อมูลโรงเรียนขนาดเล็กจากสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.) และประสานหน่วยงานในพื้นท่ีเพื่อสารวจความต้องการในกา จัดการโรงเรียนขนาดเลก็ เพื่อทาเปน็ กศน. ตาบลหรอื แหลง่ การเรียนร้ขู องชมุ ชนภายในตาบลสตั หีบ
4.2 จัดและส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ กลมุ่ เปา้ หมายเด็กออกกลางคนั /เด็กตกหลน่ และกล่มุ คนพิการในตาบลสัตหีบ 4.3 เร่งสารวจข้อมูลการรู้หนังสือของคนไทย โดยให้ความสาคัญกับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา กศน.ใน ตาบล สตั หีบ 4.4 พัฒนา กศน.ตาบล/แขวง ให้เป็นฐานการขับเคล่ือนการจัดการศึกษา โดยเน้นการประสาน เชื่อมโยงระหว่างชุมชนและภาคีเครือข่าย ในการจัดการศึกษารูปแบบ กศน.ตาบล 4 ศูนย์ ได้แก่ (1) ศูนย์ เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบล (2) ศูนย์ส่งเสริมพัฒนา ประชาธิปไตยตาบล (3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และ (4) ศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน เพื่อสนองตอบต่อความ ตอ้ งการของประชาชนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั สร้างและกระจายโอกาสในการเรียนร้ตู ลอดชวี ิตในชุมชน 4.5 จดั การศึกษาเพอื่ พฒั นาคุณภาพชีวิตประชาชนทกุ ช่วงวัย“กศน.เพื่อประชาชน”เช่น จัดการเรียน วิชาชีพระยะสั้น (โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) ให้กับประชาชนท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดแรงงาน บริบทของพื้นที่ จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มประชาชนและการพัฒนา ทกั ษะชีวติ ในการเตรียมความพร้อมรบั มือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และการเขา้ ส่สู งั คมเศรษฐกจิ ท่ีขับเคลื่อนดว้ ยนวตั กรรม (Thailand 4.0) 4.6 มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดชุมชนรักการอ่านภายในตาบลสัตหีบ “นั่งที่ไหน อ่านที่น่ัน” ในรูปแบบ ต่าง ๆ เช่นอาสาสมคั รสง่ เสริมการอา่ น หอ้ งสมดุ ประชาชน บ้านหนงั สอื ชมุ ชน ตู้หนังสือเคล่ือนที่ในตลาด และ หนงั สือพมิ พ์ฝาผนัง เปน็ ต้น 5. ส่งเสริมและพฒั นาระบบเทคโนโลยีดจิ ิทลั เพ่อื การศกึ ษา จุดเนน้ การดาเนนิ งาน 5.1 พัฒนา กศน. ตาบลสัตหีบ ให้มีความพร้อมเกี่ยวกับโครงสร้างพ้ืนฐานด้าน ICT และเทคโนโลยี เพ่ือการศึกษาอื่นท่ีเหมาะสมกับพื้นท่ี เพ่ือให้ กศน.ตาบลสัตหีบ เข้าถึงการใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตมีความ พร้อมในการให้บริการการศกึ ษาและการเรยี นรู้ทเ่ี ปน็ ไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน และสร้าง โอกาสในการเรยี นรูไ้ ด้อยา่ งทวั่ ถงึ 5.2 พัฒนาระบบช่องทางแหล่งเรียนรอู้ อนไลน์ (Portal Web) และสง่ เสรมิ ให้ประชาชนนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ และการ พัฒนาอาชีพ เช่น การแสวงหาความรู้เพ่ือการดารงชีวิต การพัฒนาต่อยอดอาชีพเพ่ือสร้างรายได้ โดยผ่าน กลไกของศูนย์ดจิ ิทัลชมุ ชน เพอ่ื ให้ผเู้ รียนสามารถนาความรคู้ วามสามารถ เจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพและ ทักษะท่ีพัฒนาข้ึนไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริงและการพัฒนาสู่เศรษฐกิจเชิง สร้างสรรคต์ ่อไป 6. พฒั นาระบบบริหารจดั การสง่ เสริมใหท้ ุกภาคสว่ นมีส่วนรว่ มในการจัดการศกึ ษา จุดเนน้ การดาเนินงาน 6.1 สารวจ วิเคราะห์ และปรบั ปรงุ ค่าใชจ้ ่ายในการจดั การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซ้ือตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่า เลา่ เรียนอยา่ งทัว่ ถึง และเหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษา เพ่ือเพิ่มโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไม่เสยี ค่าใช้จ่าย 6.2 สร้างความรู้ ความตระหนัก และปลูกจิตสานึกตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความรู้เรื่อง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และอ่ืนๆที่เก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทุกระดับทุกประเภทโดย
ส่งเสรมิ การจัดกิจกรรม การจดั ทานวัตกรรมเก่ยี วกับองค์ความรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม การป้องกันการทุจริต และราชการใสสะอาด ของหน่วยงานและสถานศึกษา เพื่อให้ กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นองค์กรแห่งศักด์ิศรีและ สุจรติ ธรรมทป่ี ระชาชนมีความเชอ่ื ม่นั ศรทั ธาและมคี วามไวว้ างใจในการปฏิบตั งิ าน ภารกิจตอ่ เนอ่ื ง 1. ดา้ นการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพื้นฐานโดย ดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซ้ือตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่า เรยี นอย่างท่วั ถงึ และเพยี งพอเพ่อื เพมิ่ โอกาสในการรับการศกึ ษาท่ีมคี ุณภาพโดยไม่เสียค่าใชจ้ า่ ย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาดและ ขาดโอกาสทางการศึกษา ทั้งระบบการให้บริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวัดและประเมินผลการ เรยี น ผ่านการเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลมุ่ การเรยี นแบบช้ันเรยี น และการจัดการศึกษาทางไกล 3) จัดใหม้ กี ารประเมนิ เพอื่ เทียบระดบั การศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ท่ีมีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กล่มุ เปา้ หมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) ส่งเสริมให้ผู้เรียนต้องเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต เพ่ือดาเนินกิจกรรม เสริมสร้างความสามัคคี บาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จติ อาสา การจัดต้ังชมรม/ชมุ นมุ และเปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รยี นนากจิ กรรมการบาเพ็ญประโยชน์อื่น ๆนอกหลักสูตร มาใชเ้ พม่ิ ชัว่ โมงกจิ กรรมให้ผเู้ รียนจบตามหลักสูตรได้ 5) จดั ตงั้ ศนู ย์แนะแนวและประสานการศกึ ษาพิเศษอาเภอ/เขต ใหค้ รบทกุ อาเภอท่ัวประเทศ 1.2 การศึกษาตอ่ เนอ่ื ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษา อาชีพเพ่ือการมีงานทาประเภทช่างพ้ืนฐาน/ช่างชนบท และอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนและ ศักยภาพของแต่ละพน้ื ที่ 2) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดกิจกรรมการศึกษาใน รูปแบบต่างๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดต้ังชมรม/ชุมนุม การส่งเสริมความสามารถพิเศษต่างๆ ท่ี มงุ่ เนน้ ใหท้ ุกกลมุ่ เปา้ หมายมีความรคู้ วามสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ มีคุณธรรมจรยิ ธรรม รวมทงั้ สามารถใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครวั และชมุ ชน 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การเรียนทางไกล การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปล่ียน เรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมจิตอาสา การสรา้ งชมุ ชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่นๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและ บริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนที่ โดยเน้นการดาเนินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างจิตสานึก ความเปน็ ประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การบาเพ็ญประโยชน์ การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม 4) สง่ เสรมิ การจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสานึกและวินัยในชุมชน เช่น การส่งเสริมคุณธรรม และจรยิ ธรรมในชมุ ชน การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารจัดการขยะมลู ฝอยของชุมชน ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหมป่ ระจาตาบลสตั หบี 1.3 การศึกษาตามอัธยาศยั
1) ส่งเสริมให้มีการขยายและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับตาบล เพื่อการถ่ายทอดองค์ ความรู้ และจัดกิจกรรมเพ่อื เผยแพร่องคค์ วามรใู้ นชมุ ชนไดอ้ ยา่ งท่วั ถึง 2) จดั กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อปลูกฝังนสิ ยั รกั การอ่าน และพัฒนาความสามารถในการ อ่านและศกั ยภาพการเรยี นรูข้ องประชาชนทกุ กล่มุ เปา้ หมายใหไ้ ด้ระดับอ่านคล่อง อ่านเข้าใจความเขียนคล่อง และอ่านเชิงคดิ วิเคราะหพ์ นื้ ฐาน และให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้องและทันเหตุการณ์ เพื่อ สามารถนาความรทู้ ่ไี ด้รับไปใช้ประโยชนใ์ นการปฏบิ ัติจรงิ 3) สง่ เสรมิ ให้มีการสรา้ งบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยสนับสนนุ การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชน ทกุ แห่งให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการเคลื่อนท่ีพร้อมอุปกรณ์เพ่ือส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ท่ี หลากหลายออกให้บริการประชาชนในพน้ื ทีต่ า่ ง ๆ อย่างทวั่ ถงึ สม่าเสมอ รวมท้ังเสริมสร้างความพร้อมในด้าน ส่อื อุปกรณ์เพอ่ื สนบั สนนุ การอา่ น และการจดั กจิ กรรมเพ่อื สง่ เสรมิ การอา่ นอยา่ งหลากหลาย 4) จัดทามุมวิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษา ให้เปน็ แหลง่ การเรียนรู้เชิงวิชาการประจาตาบล โดย พัฒนาและจัดทานทิ รรศการ และจัดกิจกรรมท่ีเน้นการเสริมสร้างทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ เพ่ือให้นักศึกษา ประชาชนนาความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ ไปใช้พัฒนาทักษะการคิด วเิ คราะหบ์ นฐานขอ้ มลู ที่ถกู ตอ้ ง และสามารถปรับตวั รองรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในอนาคตได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพ รวมทง้ั เชอ่ื มโยงกระบวนการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์เพ่อื พัฒนาชุมชน ให้ผู้รับบริการสามารถนาไป ประยุกตใ์ ชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ การพัฒนาอาชพี การรกั ษาสง่ิ แวดล้อม และการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติใน พ้ืนที่ 2. ด้านหลักสูตร สื่อ รูปแบบการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล งานบริการทางวิชาการและ การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทหี่ ลากหลาย ทันสมยั รวมท้ังหลักสูตรท้องถ่ินท่ีสอดคล้องกับ สภาพบริบทของพื้นที่ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน เช่น การจัดโปรแกรมการเรียนรู้ รายบคุ คล และแผนการเรียนรรู้ ายชมุ ชน 2.2 พัฒนารปู แบบการจดั การศึกษาทางไกลใหม้ คี วามทันสมยั ด้วยระบบหอ้ งเรยี นและการควบคุมการ สอบออนไลน์ 2.3 พฒั นาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศกึ ษา และการเทียบโอนความรแู้ ละประสบการณ์ให้ มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความตอ้ งการของกลมุ่ เปา้ หมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.4 ส่งเสริมการพัฒนาส่ือแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และส่ืออื่นๆ ที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลมุ่ เปา้ หมายทั่วไปและกลุ่มเป้าหมายพเิ ศษ 2.5 พัฒนาระบบการวัดผลและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรใน ระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐานให้ได้มาตรฐาน โดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเลก็ ทรอนิกส์ (e- Exam) มาใชอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และ เผยแพรร่ ูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนบั สนนุ การจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้มี การนาไปสูก่ ารปฏิบตั อิ ยา่ งกว้างขวางและมีการพฒั นาให้เหมาะสมกับบรบิ ทอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาให้ได้มาตรฐาน เพอ่ื พรอ้ มรับการประเมินคุณภาพ ภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถดาเนนิ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การประเมินภายในด้วย
ตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพ่ีเล้ียงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับ การประเมนิ คุณภาพภายนอก ใหพ้ ฒั นาคณุ ภาพการจัดการศึกษาให้ไดค้ ณุ ภาพตามมาตรฐานทีก่ าหนด 3. ด้านเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวทิ ยแุ ละรายการโทรทัศนเ์ พ่ือการศกึ ษาใหเ้ ช่ือมโยงและตอบสนองต่อการ จัดกจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพ่ือกระจายโอกาสทางการศึกษา สาหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้ รเู้ ท่าทนั สือ่ และ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การส่อื สาร เชน่ รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทารายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทาง อนิ เทอร์เน็ต 3.2 พัฒนาช่องทางการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านระบบ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารแบบออนไลน์ เพ่ือส่งเสริมให้ครู กศน.นาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่อื สารมาใช้ในการสรา้ งกระบวนการเรียนร้ดู ้วยตนเอง (Do It Yourself: DIY) 3.3 พฒั นาสถานีวทิ ยุศกึ ษา และสถานีโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศใหก้ ลุ่มเป้าหมายสามารถใชเ้ ป็นชอ่ งทางการเรยี นรูท้ ีม่ ีคุณภาพไดอ้ ย่างตอ่ เน่อื งตลอดชีวิต โดยขยาย เครอื ข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนท่ีทั่วประเทศและเพ่ิมช่องทางให้สามารถ รับชมรายการโทรทัศนไ์ ด้ท้ังระบบ Ku - Band , C - Band และทางอินเทอร์เน็ตพร้อมที่จะรองรับการพัฒนา เป็นสถานีวิทยโุ ทรทัศนเ์ พอื่ การศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการส่ือเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้ได้หลายช่องทางทั้งทางอินเทอร์เน็ต และรูปแบบอ่ืน ๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคลื่อนท่ี และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นต้น เพือ่ ใหก้ ลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใชบ้ รกิ ารเพื่อเข้าถงึ โอกาสทางการศกึ ษาและการเรยี นรูไ้ ด้ตามความตอ้ งการ 3.5สารวจ วจิ ยั ตดิ ตามประเมินผลด้านส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และนาผลมาใช้ใน การพฒั นางานใหม้ ีความถกู ตอ้ ง ทนั สมัยและสามารถส่งเสริมการศกึ ษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ิตของประชาชน ได้อยา่ งแท้จริง 5. ด้านบุคลากรระบบการบรหิ ารจดั การ และการมสี ่วนร่วมของทุกภาคส่วน 5.1 การพฒั นาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง ทั้งก่อนและ ระหว่างการดารงตาแหน่งเพ่ือให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ ดาเนินงานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดพัฒนา ตนเองเพื่อเลอื่ นตาแหน่งหรือเล่ือนวิทยฐานะโดยเน้นการประเมนิ วทิ ยฐานะเชิงประจักษ์ 2) พฒั นาหวั หนา้ กศน. ตาบล ให้มีสมรรถนะสูงข้ึนในการบริหารจัดการ กศน. ตาบลสัตหีบ และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อานวย ความสะดวกในการเรยี นร้เู พ่อื ใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรยี นรทู้ ่มี ปี ระสิทธิภาพอย่างแทจ้ รงิ 3) พัฒนาครู กศน. และผู้ที่เก่ียวข้องให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพโดย สง่ เสรมิ ใหม้ ีความรู้ความสามารถในการจดั ทาแผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการวิจัยเบอ้ื งตน้ 4) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ กศน. ตาบลสัตหีบ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการ บรหิ ารการดาเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน. ตาบลสตั หบี อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
5) พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีความรู้ ความสามารถและความเป็นมอื อาชีพในการจดั บริการสง่ เสริมการเรียนรูต้ ลอดชวี ิตของประชาชนตาบลสัตหบี 6)พัฒนาอาสาสมคั ร กศน.สตั หบี ให้สามารถทาหน้าท่เี ป็นผู้จดั ส่งเสริมและสนบั สนนุ การจัด 7)การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยได้อย่างมีประสิทธภิ าพ 8) เสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากร รวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งในตาบลและตาบล ใกล้เคยี งในทุกระดบั เพ่ือเพิม่ ประสทิ ธิภาพในการทางานร่วมกัน โดยจัดให้มกี ิจกรรมการพัฒนาสมรรถนะ และ เสรมิ สร้างความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบคุ ลากร และภาคีเครือข่ายในรปู แบบทหี่ ลากหลายอย่างตอ่ เน่อื ง 5.2 การพัฒนาโครงสร้างและอตั รากาลงั 1) จัดทาแผนการพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานและดาเนินการปรับปรุงสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ ใหม้ ีความพรอ้ มในการจัดการศกึ ษา 2) แสวงหาภาคเี ครอื ข่ายในทอ้ งถ่ินเพ่ือการมีส่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรม การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังระดมทรัพยากรเพ่ือนามาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มี ความพรอ้ มสาหรับดาเนินกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ของประชาชน 3) บริหารอัตรากาลังทม่ี อี ยูท่ งั้ ในสว่ นที่เปน็ ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจา้ งให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสดุ ในการปฏิบัตงิ าน 5.3 การพัฒนาระบบบรหิ ารจดั การ 1) เรง่ ผลกั ดนั ใหม้ กี ารประกาศใชก้ ฎหมายว่าดว้ ยการศกึ ษาตลอดชวี ติ 2) เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคุมและ เรง่ รดั การเบิกจา่ ยงบประมาณให้เปน็ ตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันทั่วประเทศ อย่างเป็นระบบเพ่ือให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏบิ ัติงาน การตดิ ตามประเมินผล และการนาผลมาพัฒนาการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องตาม วงจรคุณภาพ เดมมิ่ง (PDCA) รวมท้ังจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมี ประสิทธภิ าพ 4) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน.ตาบลสัตหีบ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเชอ่ื มโยงกันท่วั ประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัด การศกึ ษาใหก้ ับผู้เรียนและการบรหิ ารจัดการอยา่ งมีประสิทธิภาพ 5) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษา วจิ ัยเพอ่ื สามารถนามาใชใ้ นการพัฒนาประสทิ ธภิ าพการดาเนนิ งานทส่ี อดคล้องกบั ความต้องการของประชาชน และชมุ ชนพรอ้ มท้งั พัฒนาขีดความสามารถเชงิ การแข่งขนั ของหน่วยงานและสถานศึกษา 6) สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการพัฒนาและ ส่งเสริมการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย และการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต 5.4 การกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให้เช่ือมโยงกบั หนว่ ยงาน สถานศกึ ษา และภาคีเครือข่ายทัง้ ระบบ 2)ให้หนว่ ยงานและสถานศึกษาที่เก่ียวขอ้ งทกุ ระดับ พฒั นาระบบกลไกการกากบั ตดิ ตามและ รายงานผลการนานโยบายสู่การปฏบิ ตั ิ ให้สามารถตอบสนองการดาเนนิ งานตามนโยบายในแต่ละเร่ืองได้อย่าง มีประสทิ ธภิ าพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และส่ืออื่น ๆ ท่ีเหมาะสม เพื่อการ กากับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏิบัติราชการ ประจาปขี อง กศน.ตาบล เพ่อื การรายงานผลตามตวั ช้วี ัดในคารบั รองการปฏบิ ตั ริ าชการประจาปีของสานักงาน กศน. ใหด้ าเนินไปอย่างมีประสทิ ธิภาพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วธิ ีการ และระยะเวลาท่กี าหนด 5) ให้มีการเช่ือมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่ือความเป็นเอกภาพในการใช้ ขอ้ มลู และการพฒั นางานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ทศิ ทางการพัฒนาและโอกาสของ กศน.ตาบลสตั หบี 1. การพฒั นาชุมชนตาบลสัตหีบตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชุมชนตาบลสัตหีบ ประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพที่หลากหลาย เช่น ทาประมง ค้าขาย รับจา้ งทั่วไป พนักงานบริษัทเอกชนเนื่องจากอยู่ใกล้เขตใกล้โรงแรม และ อาชีพเกษตรกรเนื่องจากเป็นพื้นที่ ราบลุ่มภูเขา ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ทิศทางการพัฒนาชุมชนที่เหมาะสมและมีความย่ังยืนคือการใช้แนวคิด ทศิ ทางการพัฒนาประเทศสคู่ วามยัง่ ยนื ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดล้อมทีม่ ีอย่ใู นชุมชนอย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นท่ี และวิถีการดาเนินชีวิตในประจาวันของคนในชุมชน เป็น 6 ทุน ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนกายภาพ ทุนทางการเงิน ทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุนวฒั นธรรมมาใช้ประโยชนอ์ ย่างบูรณาการและเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะการสร้างฐานทางปัญญา เพ่ือเป็น ภูมิคุ้มกันให้กับคนในสังคม ภาคเกษตร รวมทั้งการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกบั การเสริมสร้างระบบ ธรรมาภิบาลและความสมานฉันท์ในชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ตาบล สัตหีบและชุมชนใกล้เคยี งอยรู่ ่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขและเป็นธรรม 2. การส่งเสริมการเรยี นร้ตู ลอดชีวติ ของชมุ ชนตาบลสตั หีบ กศน.ตาบลสตั หบี มุ่งเน้นใหป้ ระชาชนในพื้นท่ไี ด้เรียนรู้ ตลอดชวี ิตอยา่ งมคี ุณภาพ โดยพัฒนาคุณภาพ การศึกษาและการเรียนรู้ อย่างเป็นระบบโดยใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนมาช่วยในการจัดการศึกษาเพิ่ม โอกาสทางการ ศึกษาและ การ เรียน รู้จากการมีส่วน ร่ว มของ ภาคีเครือข่ายใน ชุมชน เพ่ือให้ปร ะ ชาชน ทุก กลมุ่ เปา้ หมายได้เรยี นรู้ ตลอดชีวิตดา้ นการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัยอยา่ งมคี ุณภาพมีเป้าหมายเพ่ือให้ ประชาชนในพนื้ ทีเ่ ป็นคนเกง่ คนดี มีความสขุ มีความรู้ ความชานาญด้านทักษะการประกอบอาชีพมีคุณธรรม จริยธรรมใฝ่เรียนรู้ และแสวงหาความรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีความสุข มีสุขภาพท้ังกายและใจท่ีสมบูรณ์สามารถประกอบอาชีพและอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมี ความสุข 3. การจัดการศกึ ษาเพือ่ สง่ เสรมิ ศลิ ปะและวัฒนธรรมในท้องถ่นิ ธรรม กศน.ตาบลสตั หบี มุ่งเนน้ ใหป้ ระชาชนในพน้ื ท่ศี กึ ษาเรยี นรดู้ า้ นทานุบารุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม ในท้องถนิ่ ดงั นี้ 3.1 จัดใหม้ ีการศกึ ษาและการเรยี นรู้ ทางเลือกตามความสนใจของผู้เรียนและกลมุ่ เปา้ หมาย 3.2 สนบั สนนุ การศึกษาให้สอดคลอ้ งกบั ความจาเป็นของผู้เรยี นโดยนาแนวทางการใช้คูปองการศึกษา เพ่อื การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยมาปรบั ใช้กบั การจัดการศกึ ษาของ กศน.ตาบลสตั หีบ 3.3 ร่วมมอื กบั ภาคีเครือขา่ ยองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินตาบลสัตหีบ กานนั ผใู้ หญ่บา้ นและประชาชน ทั่วไปจัดการการเรียนรทู้ ่มี คี ณุ ภาพและทวั่ ถงึ 3.4 จัดการศึกษาให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายโดยส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตโดยเน้นความร่วมมือ ระหว่างผเู้ ก่ยี วขอ้ ง 3.5 พฒั นาตนเองใหม้ ีคุณภาพและมจี ติ วญิ ญาณของความเป็นครู
3.6 สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับองค์กรทางศาสนาในชุมชน เพ่ือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การสร้างสันติสุขค่านิยมไทย 12 ประการและจัด กิจกรรมส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ในชุมชนอย่าง ย่งั ยนื 3.7 สนับสนุนภาคีเครือข่าย ประชาชนในพ้ืนที่ให้มีการอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และเผยแพร่มรดกทาง วัฒนธรรม ภาษาไทย และภาษาถ่ิน ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ เพอ่ื การเรยี นรู้ การสร้างจิตสานกึ ความเปน็ ไทยและการ เพ่มิ มูลค่าทางเศรษฐกจิ ให้แก่คนในชุมชน 3.8 สนับสนุนการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านและวัฒนธรรมสากล ตลอดจนสง่ เสริมและอนรุ ักษภ์ าษาทอ้ งถนิ่ ในชุมชน 3.9 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกดีให้เยาวชนและประชาชนพ้ืนที่ ได้มีโอกาสแสดงออกอย่าง สร้างสรรค์ ตวั ช้วี ัดความสาเร็จตามยุทธศาสตร์ และจุดเนน้ กศน.ตาบลสัตหบี 1. จานวนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบมี ผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษาท่ีได้รับบริการ การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานโดยไมเ่ สียคา่ ใช้จ่ายมีจานวนเพ่มิ 2. จานวนประชากรกลุม่ เปา้ หมายในตาบลสัตหีบท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรม การศกึ ษาต่อเน่อื ง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคลอ้ งกับสภาพ ปัญหา และความต้องการไดโ้ ดยทัว่ ถึง 3. รอ้ ยละของผู้เรียนและผู้รับบริการในตาบลสัตหีบท่ีมีผลสัมฤทธ์ิตามจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของแต่ ละหลักสูตร/กจิ กรรมเพ่มิ ขน้ึ 4. รอ้ ยละของผไู้ ม่รหู้ นังสอื ในตาบลสัตหบี ท่ผี า่ นการประเมินการร้หู นงั สือตามหลักสูตรส่งเสริมการ รหู้ นังสอื เพมิ่ ข้นึ 5. รอ้ ยละของชมุ ชนในตาบลสัตหบี ท่มี ีการจัดการความรู้และกระบวนการเรียนรู้อันเป็นผลเนื่องจาก การเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่มิ ขน้ึ 6. ร้อยละของชุมชนในตาบลสัตหีบท่ีใช้แหล่งการเรียนรู้ชุมชนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน เพิม่ ขึน้ 7. จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบท่ีได้รับการศึกษาอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ และภาษากล่มุ ประเทศอาเซยี นมีจานวนเพิม่ มากขนึ้ 8. รอ้ ยละของผู้รับการฝึกอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษากลุ่มประเทศอาเซียน และ อาเซยี นศกึ ษาท่ีผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามหลกั สตู รมจี านวนเพ่ิมมากขน้ึ 9. จานวนกิจกรรม/หลักสูตรท่ีใช้กระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเป็น กระบวนการ/สาระในการเรียนรใู้ น กศน.ตาบลสตั หีบมีกิจกรรมที่หลากหลายมากยิง่ ข้ึน 10. จานวนองค์กรภาคส่วนต่างๆ ในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบท่ีร่วมเป็นภาคี เครือขา่ ยในการดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยมีจานวนเพิม่ ขึ้น 11. จานวน/ประเภทของสื่อ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพื่อ สง่ เสรมิ การเรียนรขู้ องผู้เรียน/ผู้รับบรกิ ารการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตาบลสัต หีบมีจานวนเพม่ิ ขึ้นหลากหลาย 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบที่ เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และ เทคโนโลยีการสอื่ สารมจี านวนเพิ่มข้นึ
ปัจจัยหลกั แหลง่ ความสาเรจ็ กศน.ตาบลสตั หีบ 1. กศน.ตาบลสัตหบี ยดึ หลกั วชิ า หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลกั ปรชั ญาคิดเปน็ หลัก ธรมมาภิบาล และผลสมั ฤทธ์ใิ นการบริหารจดั การ ทงั้ ด้านวิชาการงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการ บริหารท่ัวไปท้งั ภายในกศน.ตาบลสัตหบี และการทางานรว่ มกันกับภาคีเครือข่าย 2. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ในการดาเนินงาน ท้ังที่ยึดพ้ืนที่ ยึดสภาวะแวดล้อม ยึด กลมุ่ เปา้ หมายาและความตอ้ งการยึดประเดน็ ปัญหาของกลมุ่ เปา้ หมายหรือประเด็นการพัฒนา ยึดความสาเร็จ และยดึ นโยบายเปน็ ฐาน 3. กศน.ตาบลสัตหีบ การเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ท้ังเครือข่ายเชิงพ้ืนที่ เครือข่ายเชิงภารกิจและการสรา้ งความเขม้ แขง็ รว่ มมือและความยงั่ ยืนในการเป็นภาคีเครือขา่ ย 4. กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นฐานและสถานีปลายทาง ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับประชาชนใน พ้นื ที่ โดยได้รบั การพัฒนาให้มีศกั ยภาพและพรอ้ มในการปฏิบัติงานตลอดเวลา 5. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้สถานศึกษาเป็นกลไกขับเคลื่อนการบริหารนโยบายในระดับพ้ืนที่ โดยมี คณะกรรมการสถานศึกษาคณะกรรมการ กศน.ตาบลเป็นผู้เสนอแนะ กากับติดตาม นิเทศการดาเนินงาน เพือ่ ให้สามารถจัดการศกึ ษาในระดบั พืน้ ฐานไดอ้ ย่างคล่องตัวและมีประสทิ ธภิ าพ 6. กศน.ตาบลสัตหีบ มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามจุดเน้น มาใช้ในการวางแผนการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ 7. กศน.ตาบลสัตหีบ มีระบบการนิเทศกากับติดตามและรายงานผล การปฏิบัติงานและการใช้จ่าย งบประมาณท่ีสามารถตรวจสอบความก้าวหนา้ ในการดาเนินงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 8. กศน.ตาบลสตั หีบ มีกลไก/ระบบที่สามารถเชอื่ มโยงการทางานระหว่างส่วนราชการและหน่วยงาน ต่างๆ ทไ่ี ด้รับมอบหมายจากสถานศึกษาเช่น ระบบ ฐานข้อมูลท่ีเก่ียวข้องและการจัดกิจกรรมเพ่ือตอบสนอง นโยบายเร่งด่วนหรือ นโยบายเฉพาะท่ไี ด้รับมอบหมายจากสถานศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 9. กศน.ตาบลสัตหีบ มีหน่วยงาน/สถานศึกษารับผิดชอบตัวช้ีวัดความสาเร็จ ตามยุทธศาสตร์และ จุดเน้นที่ตรงตามภารกิจอย่างชัดเจนที่กากับติดตามและรายงานผลตัวช้ีวัดท้ังส่วนกลางระดับจังหวัด และ ระดบั สถานศึกษาอยา่ งเปน็ ระบบ จุดเน้นของ กศน.ตาบลสัตหบี และภาคีเครือข่าย 2.1 ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการ กศน.ตาบล และครู กศน.ตาบล ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มี ศักยภาพและความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ ตามบทบาทหน้าทีอ่ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 2.2 มีการประสานเชื่อมโยงการทางานตามโครงสรา้ งภายใน กศน.ตาบลกับภาคีเครือข่ายทั้งในระดับ นโยบายและระดับปฏิบัติอย่างเป็นระบบโดยมีเอกภาพในเชิงนโยบาย และเน้นผลสัมฤทธ์ิเป็นเป้าหมาย ความสาเร็จในการทางาน 2.3 กศน.ตาบลมีแผนจุลภาค (Micro Planning) เป็นเคร่ืองมือในการจัดกิจกรรมหรือออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ ทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายใน พ้ืนท่ี โดยมีข้อมูลพื้นฐานที่สาคัญ ได้แก่ สภาพทางกายภาพของชุมชน ปัญหา/ความต้องการของประชาทาง การศึกษา กลุ่มเป้าหมาย แตล่ ะกลุ่ม แต่ละประเภท แหล่งวิทยากรชุมชน (ทุนมนุษย์ ทุนสังคมกายภาพ และ ทกุ การเงิน) ซึง่ มีการปรบั ปรงุ ข้อมลู ดงั กล่าวให้เป็นปัจจบุ ันทกุ รอปงี บประมาณ
จุดเน้นดา้ นผลสัมฤทธิ์ กศน.ตาบลสัตหบี 3.1 ประชากรกลุ่มเป้าหมาย อาเภอสัตหีบ ที่สาเร็จหลักสูตรหรือร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั มผี ลสมั ฤทธิ์ทีม่ คี ณุ ภาพ ตรง ตามจดุ มุ่งหมายของหลักสูตรหรือกิจกรรมการศึกษา /การเรียนรูท้ ก่ี าหนดไว้ และสามารถนาความรู้ และประสบการณ์การเรียนรโู้ ยชน์ได้จริงทไ่ี ดร้ ับไปใช้ 3.2 นักศึกษา/ผู้เรียนที่สาเร็จหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีคุณธรรม จริยธรรม ยึดค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการดาเนินชีวิตและมีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียนอย่างต่อเน่ือง ตลอดชีวติ เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ ง หลักการขายออนไลน์ ความหมายของพาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-Commerce) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทาธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซ้ือขายสินค้า/บริการ การชาระเงิน การโฆษณาโดยผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดาเนินธุรกิจทุก รูปแบบทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การซ้อื ขายสินคา้ และบรกิ ารผา่ น และระบบสอ่ื สารโทรคมนาคมหรอื ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ องค์กรการค้าโลก ให้คาจากัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนสง่ ผลติ ภัณฑ์และบริการโดยใชส้ ื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ ความหมายของการขายออนไลน์ ความหมายของการขายสินคา้ ออนไลน์และคาทีเ่ กย่ี วขอ้ ง มดี ังนี้ 1. ความหมายของการซอ้ื ขายออนไลน์ ให้ความหมายการซ้อื ขายสนิ คา้ ออนไลน์ หมายถึง พาณชิ ย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)เป็นการทา ธรุ กรรมการซอ้ื ขายสนิ คา้ ระหว่างผขู้ ายและผ้ซู ้อื ผ่านทางอนิ เทอรเ์ น็ต โดยทั้งสองฝา่ ยไมต่ อ้ ง พบกัน แต่ใช้การ ตดิ ตอ่ ขายทางอินเทอรเ์ นต็ ก็สามารถซอ้ื ขายสนิ คา้ ได้ทุกรปู แบบสินค้าทกุ ประเภท ตลอด 24 ช่ัวโมงทั่วโลก เกิด ความสะดวกสบาย 2. ความหมายของการขายออนไลน์ ใหค้ วามหมายของการขายออนไลน์ หมายถึง การนาสินค้าไปประกาศขายตามเว็บไซต์ที่เป็นทาเล หรือ Maketplaceท่ีผู้ซื้อกับผู้ขายออนไลน์พบกัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ในไทย หรือ ในต่างประเทศเช่น Trade.com และ weloveshopping.com หรือ ในต่างประเทศ เช่น amazon.comและ ebaly.com ซึ่ง เปน็ เวบ็ ไซตส์ าเร็จรูปทสี่ ามารถประกาศขายได้ทันทีมีบุคคลเข้ามาดูสินค้าหรือ สอบถามรายละเอียด เพ่ิมเติม เพราะเปน็ เว็บไซตข์ นาดใหญ่ และ มคี า่ ใชจ้ ่ายต่า 3. ความหมายของการเปิดรา้ นคา้ ออนไลน์ ให้ความหมายการเปิดร้านค้าออนไลน์ หมายถึง การสร้างเว็บไซต์ข้ึนมาเพ่ือนาสินค้าของตนเองมา จาหน่ายผ่านทางชอ่ งทางออนไลน์ ซง่ึ ร้านคา้ ออนไลน์จะเหมือนกับร้านค้าท่ัวไปนาสินค้ามาวางขายแต่มีความ แตกตา่ งกันตรงทีท่ าการซอ้ื ขายทกุ ข้ันตอนผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตเท่านน้ั สามารถซอ้ื ขายไดท้ กุ ที่ ทกุ เวลา
ความสาคญั ของการขายออนไลน์ ในโลกปจั จบุ นั อินเทอร์เนต็ ไดเ้ ข้ามามีบทบาทสาคัญอยา่ งย่งิ ในชีวิต ไม่เพียงแต่การสืบค้นข่าวสารข้อมูล ต่างๆ การติดต่อสื่อสารในกลุ่มเพ่ือน แต่รวมไปถึงการซื้อขายสินค้าแบะบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือ ทเ่ี รียกกนั วา่ E-Commerce เพราะ E-Commerce คอื บริการการซื้อขายออนไลน์ มีความสาคัญ ดังน้ี ทาให้ การซ้ือขายออนไลน์ สามารถซือ้ ขายไดท้ ุกที่ สรา้ งความสะดวกสบายให้ผู้ซอื้ และผูข้ าย เทคโนโลยี ก็ยังถือปัจจัยหลักท่ีช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตไปได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะทาธุรกิจ E-Commerce ปัจจุบัน สามารถใช้งานได้หลากหลายช่องทางทั้งทางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบของ E-Commerce มีความปลอดภัย โดย เว็บไซต์ E-Commerce ส่วนใหญ่จะมี ระบบการจ่ายเงนิ ทีส่ ะดวกสบายแต่ระบบความปลอดภัยสูงมาก เป็นช่องทางใหมส่ าหรบั ผู้ประกอบการ ซงึ่ ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยสร้างโอกาสในการขยายช่องทาง การค้าขายให้ผู้ประกอบการได้มากยิ่งข้ึน และเป็นตัวช่วยหนึ่งในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและตรง กลุ่มเปา้ หมายมากขึ้น เป็นวิธีท่ีดีในการสร้างแบรนด์ให้เป็นท่ีรู้จัก เพราะปัจจุบันสังคมออนไลน์ถือเป็นส่ือหลักที่ช่วยในการ โฆษณาและประชาสมั พันธ์ได้อย่างดีเยีย่ ม ได้รบั ความนยิ มอยา่ งแพรห่ ลาย ดงั น้ัน จึงถือเป็นอีกช่องทางหน่ึงใน การชว่ ยขยายแบรนด์ ซึ่งช่วยเพม่ิ ฐานลกู คา้ และขยายฐานธุรกิจออกไปอกี ดว้ ย ลกั ษณะของการขายออนไลน์ การขายสนิ คา้ โดยปกติ ตอ้ งมีหน้าร้านหรือแผงสาหรับการขายสินค้า อาจต้องเช้าพ้ืนที่ในห้าง หรือ ต้อง หาพื้นทีเ่ ช่าอื่นๆในราคาไม่แพง นอกจากนัน้ ยงั ตอ้ งซือ้ สินค้ามาจัดวาง แต่การขายออนไลน์นน้ั ไม่ได้ย่งุ ยากเพยี ง แค่ลงรายการสินค้า ลงรูป รายละเอียด และราคาของสินค้าในเว็บไซต์ก็สามารถขายของได้แล้ว ในกรณีใช้ บริการเปดิ ร้านคา้ ออนไลน์ สามารถตั้งช่ือร้าน ตกแต่งป้ายร้านและหน้าตาของร้านได้ตามต้องการ ดังนั้น จะ เหน็ ว่าการขายออนไลนม์ ลี กั ษณะทตี่ ่างจากรา้ นคา้ ปกติ ดังนี้ 1. ใช้ต้นทุนตา่ กวา่ เปดิ รา้ นจรงิ การขายออนไลน์นนั้ มีต้นทนุ ตา่ กว่าเปิดร้านจรงิ ๆ เนือ่ งจากไมต่ ้องเสียค่า เช่าร้าน ค่าน้า ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน แต่ถ้าต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง หรือ ไปสมัครใช้บริการตาม เว็บไซต์ที่ให้บริการเปิดร้านค้าออนไลน์หรือฝากขายสินค้าก็ต้องมีค่าเช่าพ้ืนท่ี ค่าธรรมเนียมรายเดือน-รายปี หรืออาจจะแบ่งเปอร์เซน็ จากการขาย เปน็ ต้น 2. กลุ่มลูกค้ามีจานวนมาก อัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพ่ิมข้ึนทุกปี ทาให้โอกาสในการขายของ ออนไลนเ์ พิ่มขึน้ ตามไปด้วย จากสถิติผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2012 พบว่าประเทศไทยมีจานวนผู้เข้าใช้งาน อินเทอร์เน็ตในแต่ละวันมากกว่า 6 ล้านคน แต่ละคนจะเข้าเย่ียมชมหน้าเว็บอย่างน้อย 50 หน้าในแต่ละวัน เวลาท่ีคนเข้าชมเว็บไซต์มากที่สุดคือ ช่วง 4-5 โมงเย็น และแต่ละยัง Search Enginge ในการค้นหาข้อมูล หรือ สินคา้ ประมาณ 8 คร้ังต่อวันอกี ด้วย 3. เปดิ ร้านค้าได้ทกุ วัน การเปดิ รา้ นคา้ ท่ัวไปจะต้องมีเวลาเปิด-ปิด เช่น เปิดร้านค้าเวลา 10 โมงเช้า ปิด ร้านเวลา 1 ทุ่ม เปดิ ทุกวันจันทร์-เสาร์ หยดุ วันอาทติ ย์ เปน็ ต้น นอกจากนีย้ ังต้องมีคนคอยเฝ้าร้าน ซึ่งต้องแบ่ง เวลาไปทาธุรกิจอ่นื ๆ แต่สาหรับการขายหรือเปิดร้านค้าออนไลน์แล้ว สามารถเปิดได้ทุกวัน ไม่จากัดเวลา ทา ใหล้ กู ค้าสามารถเข้ามาชมสินคา้ ภายในรา้ นคา้ หรือกระท้ขู ายของไดต้ ลอดเวลา 4. เพ่ิมช่องทางในการขายสินค้า สาหรับผู้ที่มีหน้าร้านค้าจริงอยู่แล้ว สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์เพื่อ เพิ่มช่องทางการขายสินค้าอีกทางหนึ่งเน่ืองจากการเปิดร้านค้าออนไลน์ใช้ทุนไม่มาก สามารถลงรูปพร้อม
รายละเอียดของสินค้าโปรโมช่ันใหม่ๆที่อยู่ของร้าน นอกจากน้ียังช่วยโฆษณาและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ รา้ นได้ 5. ใช้เวลาไม่มากทาเป็นอาชีพเสริมได้ ถึงแม้ว่าจะมีงานประจาทาอยู่แล้ว ก็สามารถขายของหรือเปิด ร้านคา้ ออนไลน์เปน็ รายได้เสรมิ อีกทางหน่ึงได้ เพราะใช้เวลาในการดูแลร้านไม่มาก สามารถใช้เวลาในช่วงเช้า หรือพักเท่ียง เพ่ืออีกทางหนงึ่ ได้ เพราะใช้เวลาในการดูแลร้านไม่มาก สามารถใช้เวลาในช่วงเช้าหรือพักเที่ยง เพ่ือเขา้ มาตรวจสอบดูกระทใู้ นเว็บบอร์ดหรอื อ่านอีเมล วา่ มีลูกค้าเข้ามาสอบถามหรือส่ังซื้อสินค้าของทางร้าน หรือไม่ และเวลาจะส่งสินค้าให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ สามารถไปส่งที่ไปรษณีย์ ในวันเสาร์ก่อนเท่ียงได้ เพราะ ไปรษณีย์ไทยเปดิ ทาการในวนั เสาร์ครง่ึ วันดว้ ย จะได้ไม่รบกวน เวลาทางานจนเสียงาน หรือ หากท่ีทางานอยู่ ใกลไ้ ปรษณีย์ก็ถือว่าสะดวกมาก สามารถส่งสนิ ค้าได้ทุกวัน องคป์ ระกอบทางการตลาด 1. การวเิ คราะห์เกี่ยวกบั ความจาเป็น ความตอ้ งการ และความตอ้ งการซอ้ื (อปุ สงค์) 1.1 ความจาเป็น เปน็ อานาจพ้ืนฐานท่ที าให้บุคคลต้องการส่ิงใดสง่ิ หน่ึง เพื่อสนองความต้องการข้ัน พน้ื ฐานของรา่ งกาย ประกอบดว้ ยความต้องการในปัจจัย 4 ได้แกอ่ าหาร เครือ่ งนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษา โรค รวมถึงความต้องการพกั ผอ่ น และความตอ้ งการทางเพศ 1.2 ความต้องการ เป็นรูปแบบหนึ่งของความจาเป็นท่ีพัฒนามาจากความจาเป็นขั้นพื้นฐาน เป็น ความปรารถนาของบคุ คลท่ีจะไดร้ ับการตอบสนองความพอใจ ซ่ึงเป็นความต้องการในระดับที่ลึกซ้ึงกว่าความ จาเป็น โดยได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและบุคลิกภาพส่วนบุคคลเกิดจากการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมและ สงั คม และการยกย่องทางสังคมรวมถงึ ต้องการประสบความสาเรจ็ สูงสุดในชีวิต เช่นความต้องการรับประทาน อาหารในร้านหรู ราคาหลายสบิ ล้านบาท ต้องการที่ดินทาเลดี เพ่ือหวังผลกาไรสูงสุดในอนาคต ฯลฯ มักจะให้ ความสาคัญกับความลกึ ซง้ึ ของความหมาย เพ่ือใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการสินค้า และบรกิ าร 1.3 ความต้องการซื้อ (อุปสงค์) เป็นความต้องการผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง ท่ีต้องมี ความสามารถในการซ้ือ ซง่ึ จะประกอบดว้ ยองค์ประกอบ 3 ประการ คือ 1. ความตอ้ งการหรือความจาเปน็ ในผลิตภัณฑ์ 2. ความสามารถในการซ้อื หรอื มีอานาจซ้อื มีเงินพอทจ่ี ะซือ้ 3. ความเตม็ ใจที่จะซือ้ สินคา้ นัน้ ความจาเป็นหรือความต้องการสามารถเปลี่ยนเป็นความต้องการซื้อได้ถ้ามีอานาจซ้ือและมีความ เต็มใจซือ้ มาประกอบกนั ความจาเปน็ ความตอ้ งการและความตอ้ งการการซ้ือเป็นจุดเร่ิมต้นของการตลาด ทา ให้เกิดความคิดที่จะเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อท่ีจะสนองความต้องการของบุคคล ดังนั้นจุดเริ่มต้นของ การตลาดก็คือการวิเคราะห์และวิจัยถึงความต้องการของบุคคลท่ียังไม่ได้รับการตอบสนองแล้ว จึงจะพัฒนา ผลติ ภัณฑ์เพ่ือทจ่ี ะสนองความตอ้ งการเหล่าน้ัน 2. ธรุ กจิ ต้องเสนอผลติ ภณั ฑ์ (product) เพื่อสนองความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค ผลติ ภัณฑ์ (product) หมายถงึ สง่ิ ทน่ี าเสนอตอ่ ตลาด เพื่อตอบสนองความจาเป็น หรือความต้องการ ของผ้บู รโิ ภค อาจเป็นสิ่งท่ีมีลักษณะทางกายภาพ ซ่ึงเรียกว่าสินค้า (good) และรวมถึงบริการ (services) ซ่ึง เป็นกิจกรรมหรือผลประโยชน์ที่มีการเสนอขาย นอกจากน้ีผลิตภัณฑ์ยังหมายถึงความรู้ ความชานาญ บุคคล สถานที่ องค์การ ข้อมลู และแนวคดิ ดงั นั้นผลติ ภณั ฑจ์ ึงมคี วามหมายกว้างมาก ผลิตภัณฑ์ที่สนองความต้องการ ของผู้บรโิ ภคไดน้ ั้น อาจเป็นสิ่งท่ีสนองความต้องการของร่างกาย เช่น อาหารท่ีทาให้อิ่ม อาจเป็นสถานท่ีซ่ึงมี บรรยากาศเป็นท่ีต้องการ เช่น ริมน้าท่ีได้กล่ินของแม่น้า อาจเป็นเหตุการณ์ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์ของ ผบู้ รโิ ภคเอง เช่น ดภู าพยนตร์บางเรอ่ื งท่ีทาให้นกึ ถึงเหตุการณเ์ มื่อยังเด็ก อาจเป็นความบันเทิงหรือเพลิดเพลิน
เช่น การฟังเพลง ความคิดซึ่งเป็นท่ียอมรับ เช่น นโยบายของพรรคการเมือง สิ่งเหล่าน้ีถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ ท้งั น้ัน ดังน้นั การเสนอผลติ ภณั ฑ์จงึ ควรคานงึ ถึงผลประโยชนท์ ี่ผบู้ รโิ ภคจะไดร้ ับมากกว่าทจ่ี ะเป็นตัวผลติ ภัณฑ์ 3. ผลิตภัณฑน์ น้ั ตอ้ งมีคณุ คา่ (value) ตอ้ งคานึงถึงความตอ้ งการของลูกคา้ หรอื ราคาสนิ ค้าที่ลูกค้าซอ้ื และความพงึ พอใจของลูกคา้ (satisfaction) ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินคา้ หรือไม่นั้น เขาย่อมคานึงถึงคณุ ค่าของสินค้า ตลอดจนความพึง พอใจท่มี ีตอ่ สนิ ค้านนั้ รวมทั้งความสามารถในการจา่ ยซึ่งหมายถึงราคาสินค้าหรอื ตน้ ทุนสินค้าในสายตา ผบู้ รโิ ภคนั่นเอง ซึง่ สิ่งเหลา่ นสี้ ามารถอธบิ ายรายละเอียดไดด้ ังน้ี 3.1 คุณค่า (value) หมายถึงคุณค่าสินค้าหรือบริการ เพื่อจูงใจให้ผลิตภัณฑ์เกิดการ แลกเปลี่ยน ซึง่ ผลิตภัณฑท์ ่เี สนอให้กับลกู คา้ ต้อมคี ุณคา่ (value) ในสายตาของลูกค้า กล่าวคือ ต้องมีลักษณะต่างจากคู่แข่ง นักการตลาดต้องพัฒนาผลติ ภัณฑ์ของตนเองใหม้ ีคุณ่าเพ่มิ ในสายตาของลกู ค้า 3.2 ตน้ ทนุ (cost) ของลกู คา้ หมายถึงตน้ ทุนของลูกค้าที่เกดิ จากการตัดสินใจซอ้ื สินค้าชนิดใดชนิด หนึ่ง สมมตุ ิว่าผ้บู รโิ ภคตัดสินใจซ้ือผ้าไหม ต้นทุนที่สาคัญในการตัดสินใจซ้ือผ้าไหมหนึ่งชิ้นประกอบด้วยต้นทุน ต่อไปนี้ - ราคาในรปู ตัวเงนิ ของผา้ ไหมท่ีผบู้ รโิ ภคในการตดั สนิ ใจซือ้ - ต้นทุนด้านเวลา หมายถึง เวลาที่ลูกค้าสูญเสียไปหรือใช้ไปในการซื้อผ้าไหมเวลาในการ ตรวจสอบ คณุ สมบัติของผา้ ไหม เวลาในการแสวงหารา้ นทีข่ าย - ต้นทุนพลังงาน หมายถึง พลังงานท่ีลูกค้าสูญเสียไปจากการใช้พลังความคิดใน การ ตัดสินใจตลอดจนความเหนด็ เหนือ่ ยในการสารวจหาลายผ้า แหลง่ จาหน่าย - ต้นทุนดา้ นจิตวทิ ยา เป็นความไม่สบายใจหรือความวิตกกังวลที่เกิดจากการใช้ผ้าไหม เช่น ความกงั วลต่อวธิ ีการซัก ความกงั วลต่อการตดั เยบ็ กังวลต่อสายต่อคนรอบข้างเมือ่ ใสผ่ ้าไหม ฯลฯ 3.3 คุณค่าในมุมมองของผู้บริโภค (customer value) เป็นความแตกต่างระหว่างผลประโยชน์ที่ ผู้บรโิ ภคได้รับจากการบริโภคผลิตภัณฑ์นั้น เทียบกับต้นทุนท่ีต้องจ่ายไป เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ ซ่ึงในบาง กรณ๊ผู้บริโภคจะใช้คุณค่าที่ตนรับรู้ได้ (perceived value) เป็นสิ่งกาหนด ผู้ซ้ือจะตัดสินใจซ้ือสินค้าอย่างใด อย่างหน่ึง โดยพิจารณาถึงคุณค่าผลิตภัณฑ์ (value) และต้นทุนท่ีเขาต้องจ่ายซ้ือสินค้า เม่ือใดที่เขารู้สึกว่า คุณคา่ ผลิตภณั ฑ์สูงกว่าต้นทุน หรือเงินท่ีเขาต้องจ่ายซื้อสินค้า แสดงว่าเขาได้รับประโยชน์ หรือกาไรจากการ ขายสินคา้ นน้ั 3.4 ความพึงพอใจของลูกค้า (satisfaction) เกิดจากการได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าสูงกว่าต้นทุนที่ เขาตอ้ งจา่ ยไปและยงั ข้ึนกบั เครือ่ งมอื การตลาดและกจิ กรรมการตลาดอื่น ๆ ด้วย 4. ผลติ ภณั ฑ์จะมีการแลกเปลี่ยน (exchange) และการติดตอ่ ธรุ กิจ (transation) บุคคลจะไดร้ ับผลิตภัณฑส์ องวิธีด้วยกัน คือ 4.1 การแลกเปลี่ยน (exchange) เปน็ กจิ กรรมทไ่ี ด้รับผลิตภัณฑ์จากบุคคลหน่ึง โดยการเสนอส่ิงที่ มคี ณุ คา่ เป็นการตอบแทน ลักษณะของการแลกเปลย่ี นประกอบด้วย 1. บคุ คลหรือกลมุ่ บคุ คลตัง้ แต่สองฝ่ายขึน้ ไป 2. แตล่ ะฝา่ ย มบี างสิ่งที่มคี ณุ คา่ สาหรับอีกฝา่ ยหนงึ่ 3. แต่ละฝา่ ยมีความสามารถในการตดิ ตอ่ ส่อื สาร และการส่งมอบ 4. แต่ละฝา่ ยมีอสิ ระท่จี ะยอมรบั หรอื ปฎิเสธในส่งิ ทอ่ี กี ฝ่ายหน่งึ เสนอ 5. แต่ละฝ่ายเชื่อว่าเปน็ การเหมาะสม หรือพอใจทจ่ี ะติดต่อสื่อสารกับอีกฝ่ายหน่ึง ซ่ึงสรุปได้ ว่า การแลกเปลี่ยนระหว่างนักการตลาดและผู้ท่ีคาดว่าจะเป็นลูกค้า กล่าวคือนักการตลาดจะต้องเสนอ เครื่องมือการตลาด (ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจาหน่าย การส่งเสริมการตลาด) ท่ีเหมาะสม เพื่อสนอง
ความต้องการของลูกค้า หรือผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจและในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการ ขายผลติ ภณั ฑไ์ ด้ในราคาท่เี หมาะสม การชาระเงินตรงเวลาและการเจราขายไดผ้ ล 4.2 การติดต่อธุรกิจ ประกอบด้วยการทาการค้าระหว่าง 2 ฝ่าย ในที่น้ีได้แก่ ฝ่ายผู้ขาย และผู้ซื้อ การตดิ ต่อธุรกิจมีดังน้ี 1. ตอ้ งมสี องสิ่งทมี่ คี ุณคา่ 2. มีการตกลงภายใตเ้ ง่ือนไข 3. มีระยะเวลาของการตกลง 4. มีสถานท่ใี นการตกลง 4.3 การสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีกับลูกค้าและการสร้างเครือข่าย การตลาด ต้องอาศัยการสร้าง ความสมั พนั ธ์ท่ดี กี ับลกู ค้า และอาศยั เครอื ข่ายทางการตลาดดงั นี้ 1. การตลาดเพอ่ื ความสัมพันธ์ท่ีดี เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่กลุ่มต่าง ๆ เช่นลูกค้า ผ้บู ริโภค ผ้จู ัดจาหน่ายคนกลาง ผู้ขายปัจจัยการผลิต ฯลฯ ซ่ึงจะมีการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ราคาเหมาะสม การจัดจาหน่ายรวดเร็ว และการส่งเสริมการตลาดท่ีเหมาะสม หลักการสาคัญคือการสร้าง ความสัมพนั ธ์ทดี่ ีและสามารถสร้างกาไรได้ ผลลัพธ์จากการใช้เครื่องมือทางการตลาด เพ่ือสร้างความสัมพันธ์ อันดที าให้เกิดสิ่งท่มี คี ุณค่ากบั กจิ การเรยี กวา่ \"เครอื ข่ายการตลาด\" 2. เครือข่ายทางการตลาด ประกอบด้วยกิจการและกลุ่มผู้ที่เก่ียวข้องกับองค์การ ซ่ึงเป็น กลมุ่ บุคคลต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุน มผี ลต่อการดาเนินธุรกจิ ขององค์การ เช่น ลูกค้าพนักงาน ชุมชนในท้องที่ และผู้ถือหนุ้ 5. การตลาด คอื กล่มุ เป้าหมายของการขายผลติ ภัณฑซ์ ่งึ หมายถึงลูกคา้ ซึ่งมศี กั ยภาพทั้งหมดที่มีความ จาเป็น และความต้องการผลิตภัณฑซึ่งอาจมีความเต็มใจและความสามารถที่จะแลกเปลี่ยนเพื่อสนองความ จาเป็นหรือความต้องการให้ได้รับความพอใจของตน โดยใช้เงินในการจ่ายซ้ือความพึงพอใจเหล่าน้ั น องค์ประกอบท้งั 5 ประการเป็นกระบวนการทางการตลาด (marketing process) ซ่ึงเร่ิมจากการกาหนดและ วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและส่งิ แวดล้อม การวางแผนส่วนประสมการตลาด การปฎิบัติตามแผนและ การควบคุมให้เปน็ ไปตามแผนถอื วา่ เป็นกระบวนการตลาด มาประยุกต์ใช้กับปัญหาทางธุรกิจ ท้ังด้านการวางแผนและการควบคุม ส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้มักได้มาจาก แบบจาลอง (model) ทใ่ี ช้เทคนิคความรู้ทางธุรกิจและทางการตลาดขั้นสูงสร้างขึ้นมา แล้วนาเอาความรู้ทาง สถิติไปพิจารณาหาความสัมพันธ์ของข้อมูล และทดสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วย ข้อมูลที่ได้จาก แบบจาลองเหลา่ นีจ้ ะเป็นประโยชน์ในการตดั สนิ ใจวางแผนและแก้ไขสถานการณ์ทางธุรกิจได้ เช่น การพัฒนา ผลิตภณั ฑใ์ หม่ การกาหนดราคา การวางแผนการตลาด องคป์ ระกอบของการประกอบธุรกจิ 1. การจดั องค์กร คอื กิจกรรมที่ทาให้องค์การสามารถจดั รูปแบบการทางานของบุคลากรภายในองค์กร ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2. การผลติ และปฏิบตั ิการ คอื กจิ กรรมของการนาเอาวตั ถุดิบมาผา่ นกระบวนการในการผลิตเพื่อทาให้ เกดิ มสี นิ ค้าหรือบรกิ าร 3. การตลาด คือการดาเนินการเพ่ือจะทาให้สินค้าหรือบริการท่ีผลิตแล้วได้รับการเปล่ียนมือไปถึงมือ ผู้บริโภค 4. การบัญชีและการเงนิ คอื การเกบ็ บันทกึ ขอ้ มูลการดาเนินงานการจัดทางบการเงนิ งบประมาณ การ จัดหาเงนิ ทนุ การใช้เงนิ ทุนและลงทุนอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ โดยบรหิ ารใหเ้ งินทุนหมุนเวยี นอยา่ งพอเหมาะ
5. การจัดหาวตั ถดุ ิบมาป้อนโรงงาน คอื กิจกรรมในการจัดซือ้ และควบคุมการจดั ซ้อื วตั ถุดิบ รวมท้ังการ ตรวจนับสนิ คา้ คงคลงั 6. การบรหิ ารงานบุคคล คือการดาเนินการจัดสรรพนักงาน การฝึกอบรม การจัดหารูปแบบของการ จงู ใจและสวสั ดิการต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารบุคคลซง่ึ ส่งผลตอ่ ความสาเร็จขององค์กร 7. การจัดการระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ คอื การนาเอาเทคโนโลยสี มัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อความมี ประสิทธิภาพในการดาเนนิ งานดา้ นตา่ งๆ 8. การวิจัยและพัฒนา คือกิจกรรมเพื่อเน้นความคิดสร้างสรรค์ ค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆในผลิตภัณฑ์ ต่างๆเพื่อความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคอย่างสงู สดุ สงิ่ ทต่ี ้องเตรยี มตัวก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์ ปัจจบุ นั การซอื้ ขายสินค้าผ่านหน้าร้านออนไลน์ในประเทศไทย คนสว่ นใหญใ่ นประเทศให้การยอมรับ เปิดกวา้ งมากขนึ้ เพราะทกุ คนสามารถเข้าถงึ เทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งทัว่ ถึง หรอื โลกออนไลนไ์ ดอ้ ย่างท่ัวถงึ เกอื บท้ัง ประเทศ ทาให้ผู้ประกอบการหันมาหาช่องทางการคา้ ขายสินค้าเพิ่มมากขึ้นโดยการเปิดรา้ นค้าออนไลน์ แต่ ปัญหาก็คือรา้ นค้าหรือผู้สนใจไม่มีความรู้เกี่ยวกบั ร้านค้าออนไลน์ วา่ จะต้องเร่มิ ต้นอย่างไร จะตอ้ งติดต่อใคร บา้ ง ใช้งบประมาณเท่าไร เปดิ ร้านแลว้ จะขายได้หรือไม่ ดงั นน้ั การขายออนไลน์จึงเตรียมส่ิงตอ่ ไปน้ี 1. สนิ คา้ อนั ดับแรกกอ่ นทีจ่ ะเปดิ รา้ นคา้ สงิ่ ทจ่ี าเป็นทส่ี ุดของจดุ มุง่ หมายน้คี อื การขายสินคา้ เพราะฉะน้นั สนิ คา้ จงึ เปน็ หัวใจสาคญั ในการทารายไดท้ งั้ หมด 2. ข้อมูลรา้ นและข้อมูลสนิ ค้า ในเมอ่ื มสี นิ ค้าที่ตอ้ งการนามาขายผา่ นระบบออนไลน์แลว้ สงิ่ ท่ตี ้องจัดเตรยี มตอ่ มา คือ ขอ้ มลู รายละเอยี ดต่างๆ ของสินคา้ ที่จะขายนอกจากข้อมลู ของสนิ คา้ ตัวเองควรจัดเตรียมขอ้ มูลติดต่อกับทางลูกค้า ของทางรา้ นลงไปดว้ ย 3. รูปภาพประกอบ มขี ้อมลู แลว้ สงิ่ ทีข่ าดไม่ไดส้ าหรบั ผ้ทู ที่ าการขายสินคา้ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้แก่ รปู ภาพเป็นส่งิ สาคญั ยงิ่ ผซู้ ้ือทางอนิ เทอรเ์ นต็ จะซอ้ื ไม่ซื้อ ขน้ึ อยกู่ ับรูปภาพย่งิ มรี ปู มากก็จะเป็นการดี การเรม่ิ ตน้ ทาธุรกิจขายออนไลน์ 1. ศกึ ษาสนิ ค้าทจ่ี ะขาย 2. ศึกษาทาความเข้าใจกบั พาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ 3. เลอื กระบบรา้ นคา้ ออนไลน์
4. จัดแต่งหนา้ รา้ นคา้ ออนไลน์ 5. จดั หมวดหมู่สินคา้ 6. ทาการส่งเสริมการตลาดรา้ นคา้ ออนไลน์ วิธีการขายสินคา้ ออนไลน์ 1. การขายออนไลน์แบบมสี นิ คา้ สาหรับส่งทนั ที 1.1 ข้อดขี องการขายออนไลน์แบบมีสนิ คา้ สาหรบั สง่ ทนั ที คอื สามารถนาสินคา้ มาถ่ายรูปไดท้ กุ มมุ ของสินค้า ลกู คา้ ตดั สินใตซ้ือสนิ ค้าไดอ้ ย่างรวดเร็ว สามารถแจง้ สภาพของสินคา้ ใหล้ กู คา้ ทราบไดว้ ่ามตี าหนิตรงไหน 1.2 ขอ้ เสยี ของการขายออนไลนแ์ บบมสี นิ ค้าสาหรับส่งทันที คอื ผ้ขู ายออนไลน์ต้องลงทนุ ซ้ือสินค้าต่างๆ มาเก็บไวเ้ พอ่ื รอคาส่งั ซื้อ หากสนิ คา้ ทซ่ี อ้ื มาเพอื่ ขอคาสงั่ ซอ้ื ขายไมห่ มดจะทาให้ทนุ จม รูปแบบของการขายออนไลน์ รปู แบบการขายออนไลน์ แบง่ ได้ 3 ลกั ษณะ ตามความสมั พนั ธก์ ับคู่คา้ ตามรูปแบบการคา้ และแบบ M-commerce คอื การดาเนนิ กิจกรรมผ่านเครอื ขา่ ยโทรศพั ทเ์ คลือ่ นท่ี มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 1. แบง่ ตามลกั ษณะความสมั พนั ธ์กบั ลูกค้า รูปแบบการขายออนไลนแ์ บง่ ตามลักษณะความสัมพันธก์ ับคคู่ ้า มี 6 รูปแบบดังนี้ ธรุ กิจกบั ธุรกจิ ธรุ กิจกบั ผบู้ รโิ ภค ธรุ กิจกบั รฐั บาล ผู้บรโิ ภคกบั ผูบ้ ริโภค ผู้บรโิ ภคกับรฐั บาล รัฐบาลกับรัฐบาล 2. แบ่งตามรูปแบบการค้า รูปแบบการขายออนไลน์แบง่ ตามลกั ษณะรปู แบบการค้าสามารถแบ่งได้ 5 รปู แบบดังนี้ รูปแบบการขายสนิ คา้ ออนไลน์ ร้านค้าปลกี การประมลู สินค้า ประกาศซื้อขายสนิ คา้ ตลาดกลางอิเลก็ ทรอนิกส์ 3. การทาธรุ กรรมเชงิ พาณิชยผ์ ่านโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี ( M-Commerce ) M-Commerce คือ กาดาเนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ ที่เกย่ี วข้องกับธุรกิจ หรอื การเงนิ โดยผา่ นเครอื ขา่ ย โทรศพั ท์เคลอื่ นที่ หรือการค้าขายตามระบบแนวความคิดของระบบการค้าอิเล็กทรอนกิ ส์ อี-คอมเมริ ช์ ทีใ่ ช้ อุปกรณพ์ กพาไร้สายเปน็ เครื่องมือในการสง่ั ซือ้ ประโยชน์ของการขายออนไลน์ 1. ชว่ ยใหข้ ายสินค้าได้สะดวกมากยง่ิ ขึ้น ไม่ต้องเฝา้ หนา้ ร้านตลอดเวลา วันไหนไมอ่ ย่รู ้านกส็ ามารถเปิด ร้านออนไลนไ์ ดป้ กติ
2. ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างร้านคา้ หลายๆ ร้าน เพียงมรี ้านค้าออนไลนร์ า้ นเดียว กส็ ามารถ ขายสนิ ค้าได้ทกุ ที่ ท่วั ประเทศและทว่ั โลกอกี ด้วย 3. ทาให้สามารถเปิดร้านขายสนิ คา้ ไดต้ ลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนงั่ เฝา้ หนา้ รา้ นตลอดเวลา 4. ช่วยให้ขายของไดท้ ุกพื้นท่ี ไมว่ า่ ลกู ค้าจะอยู่ท่ีใดในประเทศ หรือในโลก เพียงแคม่ ีอินเทอรเ์ น็ต 5. ชว่ ยให้ลูกคา้ ประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยดั เวลาในการเดินทางมาซ้อื สินคา้ หมดกังวลเกย่ี วกบั ปัญหารถติดและสามารถเลอื กซอื้ สินค้าได้ทบ่ี ้าน ตลาดเป้าหมายและแนวโน้มการขายออนไลน์ ความหมายและการกาหนดกลุ่มเปา้ หมาย 1. ความหมายของการตลาดเป้าหมาย ตลาดเป้าหมาย คือ กลุม่ เป้าหมายคือกลุม่ คนท่คี ุณต้องการจะส่ือสารหรอื ขายสินคา้ กับพวกเขา กลา่ วอกี นยั หน่งึ พวกเขาอาจจะเป็นผู้ท่ซี อ้ื สนิ ค้าหรือเป็นลูกคา้ ในปัจจุบันของคุณอย่แู ลว้ กลมุ่ เป้าหมาย จะมีลกั ษณะร่วมบางอย่างท่ีคล้ายคลงึ กนั ในด้านใดด้านหน่ึง หรือหลายด้านก็ไดเ้ ช่น มคี ุณสมบตั บิ างอยา่ งที่คล้ายกัน อยู่ในพืน้ ทใ่ี ดพ้นื ท่หี นงึ่ หรอื มพี ฤติกรรมบางอยา่ งในทานองเดยี วกนั เป็นต้น 2. การกาหนดกลุม่ เปา้ หมาย วตั ถุประสงค์ของการกาหนดกลุ่มเป้าหมาย คอื การคดั เลือกรายชอื่ หรือกล่มุ คนทม่ี ีความตอ้ งการ ในสินค้าหรือบรกิ ารของกิจการ กลุ่มเป้าหมายหน่ึง ๆ จะมลี ักษณะความสนใจ ความปรารถนา และพฤตกิ รรมที่แตกตา่ งจากตลาด ผ้บู รโิ ภคทัว่ ไป การกาหนดกลมุ่ เปา้ หมายจะเกีย่ วข้องกบั การกาหนดวา่ ใครซ้อื อะไร ท่ีไหน เหลา่ นอี้ ย่างไร และ ทาไม ข้อมลู คาตอบ เหลา่ นี้เปน็ สิง่ จาเปน็ ในการตลาด เพ่ือการบรหิ ารทรพั ยากรองค์กรใหเ้ กิดประสิทธิภาพ หรือใหผ้ ลคมุ้ ค่ามากที่สุด ขอ้ มลู ลกู คา้ เปา้ หมาย 1. ลกั ษณะของขอ้ มูลลูกค้า ลักษณะของขอ้ มูลลกู ค้า ( Customer Profile ) ประกอบด้วย คุณลกั ษณะ/ขอ้ มูลเชงิ ประชากรศาสตร์ พนื้ ท่/ี ข้อมูลเชงิ ภมู ศิ าสตร์ และข้อมลู เชิงจติ วิทยา ซ่ึงทั้ง 3 ประเภทคอื ขอ้ มูลท่บี อกถึงตลาดเป้าหมายหรอื กลุ่มเป้าหมายหนึ่งๆ ว่ามีลกั ษณะอยา่ งไร 1. ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ 2. พน้ื ท/ี่ ขอ้ มูลเชิงภูมศาสตร์ 3. ขอ้ มูลเชิงจิตวิทยา 2. การกาหนดลักษณะเฉพาะของกลุ่มเปา้ หมาย การกาหนดลกั ษณะของกลมุ่ เป้าหมายได้เจาะจงมากเพยี งใด โอกาสทกี่ ลุ่มเป้าหมายจะตอบสนองตอ่ แคมเปญการตลาดทางตรงของกจิ การก็จะมากขนึ้ เทา่ น้นั การกาหนดลกั ษณะของกลุม่ เป้าหมาย สามารถทาได้โดยการศึกษาวเิ คราะหข์ ้อมูลลูกคา้ เพื่อนาขอ้ มลู เหล่านน้ั มากาหนดเป็นลกั ษณะเฉพาะของกลุ่มเป้าหมาย ตวั อย่างเช่น มีบ้านหรอื ทีพ่ กั อาศัยเปน็ ของตนเอง สมรสแล้ว
จานวนบตุ รตั้งแต่ 2 คนข้นึ ไป 3. แหล่งทม่ี าของรายช่ือประเภทต่างๆ นกั การตลาดทางตรงได้แบ่งรายช่ือกลุ่มเปา้ หมายเป็นกลุ่มตา่ งๆ ตามแหล่งทม่ี าของรายชื่อ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการใช้งานเปน็ หลัก ท้ังการแบง่ รายช่ือบางประเภท จะมคี วามคลา้ ยคลงึ กนั ในบางกล่มุ ดงั นี้ รายช่อื ภายใน รายชอ่ื สมาชิก รายชื่ออเี มล รายชอ่ื อน่ื ๆ วัตถุประสงคข์ องการกาหนดเปา้ หมายทางการตลาด 1. เพ่อื เพม่ิ ยอดขาย 2. เพื่อการสรา้ งประชาสมั พันธ์ 3. เพอ่ื สร้างความสมั พนั ธ์ท่ถี าวรกบั ลกู คา้ เป้าหมาย 4. เพ่ือรกั ษาลูกค้าเดิมและเพิ่มกลมุ่ ลกู คา้ ใหม่ แนวโน้มการขายออนไลนใ์ นประเทศไทย ปจั จบุ ันการขายออนไลนใ์ นประเทศไทย กาลังจะเริม่ ตน้ และบคุ คลท่ัวไปให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นวา่ มีปจั จยั หลายอยา่ งที่เข้ามาทาใหว้ งการอีคอมเมริ ช์ ของประเทศไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยลูกค้าซื้อของออนไลน์ได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนั้น มีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มการ ขายออนไลน์ของประเทศไทยมดี ังนี้ 1. ระบบชาระเงินออนไลนท์ ่ีสะดวก 2. เวบ็ ไซตส์ ามารถสรา้ งได้ง่าย 3. สินค้าขายออนไลนม์ ีการสง่ เสริมการขายโดยวธิ ีการลดราคา 4. รูปแบบรว่ มกันซ้อื แล้วลด การค้าผ่านโซเชยี ลคอมเมริ ช์ 5. การเขา้ สูโ่ ลกออนไลนข์ องห้างออฟไลน์ การค้าบนโลกออนไลนข์ องไทยขณะนีเ้ ติบโตอยา่ งมาก โดยเฉพาะปี 2555 ซึ่งถือเป็นปีท่ีเปล่ียนแปลง มากทีเดียว เป็นปีท่ีระบบพ้ืนฐานสนับสนุนการค้าออนไลน์พัฒนาเพิ่มข้ึน ได้แก่ การขนส่งสินค้าท่ี หลากหลาย ระบบชาระเงนิ ท่หี ลากหลาย พฤติกรรมคนไทยท่ีเร่ิมจับจ่ายซื้อของออนไลน์เพิ่ม ผู้ให้บริการ อคี อมเมิรซ์ ที่เริ่มมมี ากขึ้นจากปกี อ่ นๆ
ผมมองว่ายงั อยใู่ นชว่ งเร่มิ ตน้ เทา่ นนั้ แต่หากลองมาดูว่าอะไร คือ แนวโนม้ หรือเทรนด์อีคอมเมิร์ซ ไทยในปี 2556 จากประสบการณ์ และมุมมองผมเอง จะสร้างความได้เปรียบให้คุณมากเลยทีเดียวหาก นามาประยกุ ตใ์ ช้กับธรุ กจิ ของคณุ ไดก้ ่อนคนอ่นื 1. พฤตกิ รรมคนไทยจะซอ้ื สินคา้ ทางออนไลนม์ ากข้นึ (Online Shopping Behavior Shift) ปี 2555 มคี นไทยใช้อินเทอร์เนต็ มากกวา่ 25 ล้านคน และตอนน้ี มีสนิ ค้าผ้ปู ระกอบการไทยที่ขาย ในโลกออนไลน์มากกว่า 10 ล้านรายการแล้ว มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ทาให้การค้นหาซ้ือสินค้าทาง ออนไลนเ์ ปน็ เรือ่ งง่าย และสะดวกสาหรับทกุ คนในประเทศ ส่งิ ทเ่ี หน็ ชดั จากการสารวจของศนู ย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พบวา่ คนไทยซ้อื สนิ คา้ ออนไลน์เพิ่มข้ึนจาก 47.8% เป็น 57.2% และตวั เลขการเพ่ิมขนึ้ ของผูป้ ระกอบการ ออนไลน์ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ทาให้เห็นชัดว่า พฤติกรรมคนไทย เริ่มค้นหาสินค้า และจับจ่ายผ่านทาง ออนไลนเ์ พม่ิ อยา่ งต่อเนอื่ ง อีกท้ังการรวมกันของกลุ่มประเทศอาเซียน (เออีซี) จะยิ่งทาให้โอกาสค้าขายทางออนไลน์เปิด กวา้ งมากขนึ้ และขยายโอกาสเขา้ สคู่ นมากกว่า 600 ล้านคน ช่องทางออนไลน์ คือ ชอ่ งทางเดยี ว ประหยัด ค่าใชจ้ า่ ยแต่มศี กั ยภาพเพ่มิ ยอดขายใหธ้ รุ กจิ ทางตรงทนั ที คาแนะนา : หากธุรกจิ คณุ ยงั ไม่มีเว็บขายสินค้า คงได้เวลาเตรียมอย่างเป็นกิจจะแล้ว เพ่ือรองรับ ความตอ้ งการ รวมถึงการมีหลายภาษาอย่างภาษาองั กฤษเปิดโอกาสให้ตา่ งชาติเขา้ มาซอ้ื สินค้าคณุ ได้ 2. จากแคตตาลอ็ กออนไลน์สรู่ า้ นค้าออนไลน์เต็มรปู แบบ (E-Catalog move to E-Tailor) ปจั จุบนั เวบ็ จานวนมากของหลายธรุ กจิ ในไทย ยังเป็นเว็บให้ข้อมูลบริษัท (Corporate Web Site) หรือเป็นแค่แคตตาล็อกสินค้า (Catalogue Web Site) ท่ีสั่งซ้ือสินค้าผ่านเว็บไซต์ทันทีไม่ได้ ต้องโทรหรือ ติดตอ่ ไปผ่านทางชอ่ งทางอ่ืนแทน ซงึ่ จะทาใหส้ ญู เสียโอกาสการขายสนิ ค้าไป ในโลกออนไลนห์ ากคณุ ปลอ่ ยให้ลกู ค้าต้องโทรติดต่อ หรือติดตามคุณ น่ันหมายถึงโอกาสที่คุณจะ สูญเสียลูกค้าเหล่านั้น สูงมากกว่า 50% แต่หากธุรกิจคุณมีระบบการค้าออนไลน์ท่ี เปิดโอกาสให้ลูกค้า คลิกส่ังซื้อสินค้าของธุรกิจของคุณได้ทันที น่ันหมายถึงคุณจะสามารถปิดการขายลูกค้าได้ทันทีเป็น ชอ่ งทาง ทเ่ี ข้าถงึ กลมุ่ ลกู คา้ ได้ท่วั ประเทศและทั่วโลก ไมต่ อ้ งมคี นมานัง่ เฝา้ ตลอดเวลา ดงั นน้ั ปี 2556 จะเป็นปที หี่ ลายๆ ธุรกิจไทย เริ่มเห็นถึงศักยภาพการค้าออนไลน์มากข้ึน เพราะมี หลายคนเร่ิมประสบความสาเร็จและเพ่ิมยอดขายได้มากมาย ผ่านช่องทางน้ี ทาให้หลายธุรกิจจะเร่ิม เปล่ียนจากเวบ็ ไซต์รปู แบบเดมิ ๆ เข้าสู่เวบ็ ไซตร์ า้ นค้าออนไลน์ (E-Tailor) เต็มรปู แบบมากข้ึน คาแนะนา : สรา้ งเว็บไซต์ของคณุ ใหร้ องรับการซ้อื สนิ คา้ ออนไลนท์ ันที นึกไม่ออกลองไปใช้บริการ ฟรี ของ TARAD.com ได้ 3.สินคา้ อุปโภคบริโภคจะเริ่มเขา้ สู่โลกการค้าออนไลน์มากขึน้ (FMCG Goods Go Online) จากเดิมทส่ี นิ ค้าอปุ โภคบรโิ ภค จะเน้นการตลาดในการสื่อสารสร้างแบรนด์ และโปรโมช่ันแล้วดึง คนไปซื้อตามจุดขายต่างๆ เป็นหลัก แต่ปี 2556 จะเป็นปีที่สินค้าหลายๆ ตัวจะเริ่มต้นการใช้ช่องทาง ออนไลนเ์ ปน็ ชอ่ งทางขายสินค้าเพ่ิมมากข้ึน และใช้การตลาดออนไลน์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดยอดขาย ผ่าน ไปยังกลุม่ เปา้ หมายลูกค้าท่ัวประเทศ แนวโน้มนี้จะเห็นได้จากสินค้าหลายๆ ตัวที่เริ่มขายในโลกออนไลน์ แล้ว เชน่ เถา้ แกน่ ้อย, สนิ คา้ ของค่ายแบรนด์ เป็นตน้ คาแนะนา : ออนไลน์ คือ ช่องทางท่ีมีศักยภาพเข้าถึงคนจานวนมาก การสร้างแบรนด์หรือการ จดจาอยา่ งเดยี วอาจจะไม่พอ มันสามารถสร้างตอ่ เน่อื งไปถงึ การสร้างยอดขายไดท้ ันที อยากให้ลองครบั 4. คนไทยจะชอ็ ปผา่ นมอื ถือและแทบเล็ตเพิม่ มากขึน้ (Growth of Mobile Commerce) ปี 2556 จะเป็นปีท่ี 3จี แท้ของไทยออกมายลโฉมกันจริงๆ สักที ราคาจะถูกลงด้วย และมือถือ และอปุ กรณ์พกพาราคาจะถูกลง ฉลาดและเกง่ มากข้ึน มือถือในมือคนไทยจะต่ออินเทอร์เน็ต ได้เพ่ิมมาก ขน้ึ
คนไทยจะเริม่ เปลีย่ นพฤติกรรมใชอ้ ินเทอร์เน็ตผา่ นมอื ถอื กนั มากข้ึน แนน่ อนเมอ่ื ใชม้ ากขึ้น การซ้ือ สินค้าผา่ นช่องทางนี้ ก็จะเพิม่ มากข้ึนอย่างเชน่ กนั ทาใหเ้ ราก้าวเขา้ สู่ ยุคที่ 4 ของอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว (http://www.pawoot.com/thailand-E-Commerce-Generatio) อย่างตอนน้ี จานวนคนใช้มือถือและอุปกรณ์พกพาเข้ามาท่ี TARAD.com มากถึง 30% ของ จานวนคนเข้าเว็บไซต์ท้ังหมด และมียอดขายท่ีเกิดขึ้นผ่านช่องทางนี้ 11% และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทกุ ๆ เดือน เป็นช่องทางทน่ี ่าจับตามองอยา่ งยิง่ คาแนะนา : เรม่ิ สร้างเวบ็ ไซต์ในรูปแบบที่เหมาะสมสาหรับ มือถือ (Mobile Site) นอกเหนือจาก การสรา้ งเว็บไซต์ อย่าเพง่ิ ไป สร้างแอพ เพราะจากข้อมลู ทัว่ โลก พบว่าคนใช้เว็บบนมือถือมากกว่าแอพใน การซ้อื สนิ คา้ และการเช่ือมโยงจะทาได้ดีกว่า (หากเป็นแอพ คุณต้องกระตุ้นให้คนโหลดแอพอีก แต่หาก เป็นหน้าเวบ็ สาหรับ มอื ถอื มันเข้าได้ทันที) 5. การชาเงนิ ผา่ นบัตรเดบติ (บัตรเอทเี อม็ ) จะเตบิ โตมากขน้ึ (Raise of Debit Card Payment) ปี 2555 เป็นปีที่หลายๆ ธนาคารเริ่มหันมาเปิดให้บัตรเดบิต (Debit Card) หรือบัตรเอทีเอ็ม สามารถใชซ้ อ้ื สนิ ค้าทางออนไลน์ไดเ้ หมอื นบัตรเครดติ ทาให้กลุ่มคนท่ีถือบัตรเดบิตท่ีมีมากกว่า 35 ล้านใบ ท่ัวประเทศ ท่ีจะเป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลายมากข้ึน เช่นเด็กวัยรุ่น และคนท่ัวไป ซึ่งจะมีจานวน มากกว่าคนที่ถือบัตรเครดิตท่ีมีเพียง 14 ล้านใบเท่านั้น กลุ่มคนจานวนมากเหล่านี้จะสามารถจับจ่ายซื้อ สินค้าทางออนไลนไ์ ดม้ ากขน้ึ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารการขายออนไลน์ ความหมายและการเชอ่ื มต่ออนิ เทอร์เนต็ อนิ เทอรเ์ นต็ (องั กฤษ: Internet) หมายถึง เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีมีขนาดใหญ่ มีการเชื่อมต่อระหว่าง เครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผใู้ ชเ้ ครือข่ายนีส้ ามารถสอื่ สารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้น ข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมท้ังคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้ การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตใน ปัจจุบันทาได้หลากหลาย อาทิ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (email), สนทนา (chat), อ่านหรือแสดง ความคิดเห็นในเว็บบอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้นข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซื้อสินค้า ออนไลน์, การดาวโหลด เกม เพลง ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ, การติดตามข้อมูล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่าง ๆ ออนไลน์, การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์, การเรียนรู้ออนไลน์ (e-learning), การประชุมทางไกลผ่าน อินเทอร์เน็ต (video conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรืออ่ืน ๆ แนวโน้มล่าสดุ ของการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพ่ือสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) ซ่ึงพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกาลังได้รับความนิยมอย่าง แพร่หลายเช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ทวิตเตอร์ ไฮไฟฟ์ และการใช้เริ่มมีการแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน โทรศพั ทม์ ือถอื (Mobile Internet) มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันสนับสนุนให้การเข้าถึงเครือข่ายผ่าน โทรศพั ท์มือถอื ทาได้ง่ายขึ้นมาก
โปรแกรมสาหรบั การใชง้ านบนอนิ เทอรเ์ นต็ ความร้พู นื้ ฐานของการใช้งาน อนิ เตอรเ์ น็ต (Internet)นั้น ประกอบด้วยการใชง้ านดา้ นการค้นหา ขอ้ มลู และส่อื สารข้อมูล เป็นหลัก ในทน่ี ี้ จะกล่าวถึงการใชง้ าน Browser ในการคน้ หาขอ้ มูลและส่อื สาร ข้อมูล โดย การค้นหาขอ้ มลู จะกลา่ วถงึ การใช้งาน Search Engine และการสื่อสารขอ้ มูลจะเปน็ ลกั ษณะของ การสือ่ สาร ขอ้ มลู ดว้ ย E-Mail Browser คืออะไร Browser คอื โปรแกรมระบบงานท่ีใช้เพ่อื ค้นหาทรพั ยากรตา่ ง ๆ ใน Internet โดย Browser น้ัน จะให้ ผู้ใชเ้ ดินทางจากจุดหนึ่งไปยงั อกี จุดหน่งึ โดยไมส่ นใจรายละเอียดทางเทคนิคของการเชื่อมต่อระหวา่ งจดุ หรือ วิธีการเฉพาะท่จี ะเขา้ ไปใชจ้ ุดเหล่าน้ัน และนาเสนอขอ้ มูลท่เี ป็นขอ้ ความ ( Text ) , ภาพ ( Graphics ) , เสยี ง ( Sound ) หรอื ภาพเคลื่อนไหว ( Animation ) ในเอกสารบนจอภาพ การใชง้ าน Internet Explorer Internet Explorer (IE) เป็น Browser ซ่ึงผลติ โดยบริษทั Microsoft ซ่ึงมมี าให้พร้อมกบั Microsoft Windows ตงั้ แต่ Windows 98 ขึ้นไป โดยทห่ี ากเปน็ Windows98 ก็จะเปน็ IE4.0 , Windows98 SE ก็จะ เป็น IE5.0 , Windows Me กจ็ ะเปน็ IE5.5 , สดุ ท้ายถา้ เป็น Windows XP ก็จะเป็น IE6.0 ดังนัน้ หากคิดจะ ใช้ อินเตอร์เน็ตดว้ ย IE แลว้ จาเปน็ ต้องทราบเทคนคิ พ้นื ฐานเบอื้ งต้นในการใช้ IE ด้วย ร้จู ักกบั เมนู ป่มุ และคาส่งั ในเบ้อื งต้น 1.ปุ่มคาสง่ั ในเบ้อื งต้น - ป่มุ Back ใช้สาหรบั ย้อนกลบั ไปหนา้ ท่ีผ่านมาแล้ว - ปมุ่ Forward ใชส้ าหรบั เปลี่ยนไปหนา้ ต่อไป (หลงั จากทย่ี อ้ นกลบั มา) - ปุม่ Stop ใชส้ าหรับหยดุ การโหลดข้อมูลในหน้า Web Page นนั้ ปมุ่ Refresh ใช้สาหรับการเรียก โหลดขอ้ มูลหนา้ Web Page ใหม่อกี ครง้ั - ปมุ่ Home ใชส้ าหรบั กลบั ไปหนา้ แรกหรือกลับไปที่ URL ท่ีตั้งไวใ้ ห้เป็นหนา้ แรก - ปมุ่ Search ใชส้ าหรับค้นหาเว็บไซต์ ปุ่ม Favorites ใชส้ าหรบั เลอื กเวบ็ ไซต์จาก Favorites หรือ Book Mark - ปุม่ History ใช้สาหรับการย้อนกลบั ไปดูเวบ็ ไซตท์ ี่เคยเข้าไปดูมาแล้ว - ปุ่ม Mail ใช้สาหรบั การ รบั -ส่ง อเี มล์ - ปมุ่ Print ใชส้ าหรบั การพมิ พห์ น้าเว็บออกเคร่อื งพมิ พ์ - ปุ่ม Edit ใชส้ าหรบั การแกไ้ ขหนา้ Web Page นั้น ๆ การกาหนด Text Size และ Encode ของตัวอกั ษร เปน็ การกาหนดขนาดของตัวอักษรและการเขา้ รหัสภาษา ทแี่ สดงในแต่ละหนา้ ของ Web Page ซ่งึ เรา สามารถทาการปรบั แต่งขนาด และการกาหนดภาษานี้ได้ ซ่งึ ในบางคร้งั หากผู้ใช้เข้าไปบาง Web Site แล้วไม่ สามารถอ่านภาษาไทยได้ ใหท้ าการเปลีย่ น Encoding ช่องนี้ใหเ้ ป็น Thai กจ็ ะแสดงตัวอักษรไทยออกมา สามารถทาได้ คอื คลิกเมนู View -> เลือก Text Size หรือ Encoding -> เลอื กขนาดตัวอักษร หรอื รหสั ภาษา 3.การเกบ็ Link หรอื URL ของ Web Site ท่ีใช้งานบอ่ ยคร้ังไว้ใน Favorites ขณะที่ใชง้ าน Internet ไปแล้วพบวา่ มี Web Site ทีใ่ ช้งานบอ่ ยครั้ง แลว้ ต้องการเกบ็ Link หรือ URL ของหน้า Web Page น้ันไว้ ก็ สามารถทาได้ มีวธิ ีทาดงั น้ี คอื
คลิกเลือกเมนู Favorites -> คลิก Add to Favorite -> เปล่ียนชือ่ page เลอื ก ->โฟลเดอร์ ท่ี ตอ้ งการเกบ็ หรอื สร้างโฟลเดอรใ์ หม่ -> คลกิ OK 4.การใชง้ าน Internet Explorer แบบ Offline การใช้งานแบบ Offline กค็ อื การทเ่ี ราทาการ เก็บขอ้ มลู ของหนา้ Web Page ที่ได้เคยเขา้ ไปเยย่ี มชม แล้ว และทาการเรยี กมาดใู หมอ่ ีกคร้ัง โดยทีไ่ ม่ต้องทา การเชอ่ื มต่ออินเตอรเ์ นต็ มวี ิธที าคอื คลิกเมนู File -> เลอื ก Save As… -> เลือก Drive และ โฟลเดอรท์ ่ีตอ้ งการเกบ็ -> คลกิ OK 5.การตั้งคา่ หน้า Web page เรมิ่ ต้น เม่อื เปิดโปรแกรม Internet Explorer เมือ่ เราตอ้ งการให้ หนา้ Web page ที่เราเปิด Internet Explorer ครั้งแรก เป็นเวบ็ ใดหรอื แบบใด เพือ่ ความสะดวกในการใช้ งาน สามารถทาได้ ดังนี้ คลกิ เมนู Tools -> คลิก Internet option… -> เลอื กแท็บ General - Use current คอื การต้ังหนา้ Web Page ปจั จุบัน ใหเ้ ป็นหนา้ แรก - Use default คือการต้ังเปน็ คา่ เดิมของ Microsoft.com - Use blank คอื การตง้ั หน้าแรกเป็นหน้าว่างเปล่า 6.การพมิ พ์หนา้ Web page ที่ต้องการ - การ Preview ดู กอ่ นส่งั พิมพห์ น้า Web Page มวี ธิ ที าดังน้ี คลิกเมนู File -> คลกิ Print Preview… - การตงั้ ค่าหน้ากระดาษ กอ่ นพิมพ์ มวี ิธที า ดงั น้ี คลิกเมนู File -> คลิก Page Setup… - การสัง่ พิมพ์หนา้ Web page มีวธิ ีทา ดังนี้ คลกิ เมนู File -> คลกิ Print… 7.การเคลยี ร์ Username และ Password หลังจากได้ถกู บันทึกไวใ้ นเครื่อง หลังจากทีเ่ ราได้เข้าใชง้ าน ไม่วา่ จะเปน็ ระบบใดก็ตามผ่าน Web ทต่ี ้องใหม้ ีการเขา้ ใชง้ านโดยการ กรอก Username และ Password ตา่ ง ๆ และได้บันทึก Username และ Password เหล่านนั้ ไว้ ซึง่ จะเปน็ อันตรายอยา่ งมาก ในกรณที ่ใี ช้เครือ่ งรว่ มกบั ผู้อืน่ วิธีการลบ โดยไมใ่ หเ้ ครื่องจดจา Username และ Password ของเราสามารถทาได้ ดังนี้ 1.คลิกเมนู Tools -> คลกิ Internet option… -> เลอื กแท็บ Content 2.คลิกป่มุ AutoComplete -> คลิกปุ่ม Clear Forms -> คลิก OK 3.คลิกปุม่ Clear Passwords -> คลกิ OK เทคนคิ การใช้งาน Internet Explorer - การกดปุ่ม เมาสข์ วาเพอื่ เรียกเมนูใช้งานอย่างรวดเร็ว เชน่ การเกบ็ รูปภาพ การเปดิ หนา้ ตา่ งใหม่ หรอื อนื่ ๆ - การกดปมุ่ ALT + ปุ่มลูกศร ซา้ ย หรอื ขวา จะเปน็ การเรยี กใช้เมนู Back หรอื Forward ได้เชน่ กนั - การกดปุม่ Ctrl + N เปน็ การเปิดหน้าต่างใหมเ่ พมิ่ ขึ้นมา - การค้นหาข้อความในหน้า Web Page สามารถใช้เมนู Edit และ Find (on This Page) หรือกด Ctrl + F ได้ - หากพบภาพท่ีถกู ใจ สามารถตัง้ ให้เปน็ Wall Paper ไดท้ นั ทีโดยกดปุม่ เมาสข์ วา เลอื กท่ี Set as wallpaper - การกดป่มุ Ctrl + N เป็นการเปดิ หนา้ ต่างใหมเ่ พิม่ ขึ้นมา
การสืบคน้ ข้อมลู โดยการใช้ Search Engine Search Engine คือ โปรแกรมซง่ึ ทาหน้าที่เปน็ ตวั ค้นหาขอ้ มลู ในระบบอนิ เตอรเ์ นต็ ซึง่ Search Engine ทีน่ ยิ มใช้น้นั มดี ้วยกนั หลายตวั ด้วยกนั เช่น Google (www.google.co.th),Dogpile (www.dogpile.com) ALLTHEWEB ( www.alltheweb.com ) Yahoo (www.yohoo.com) เป็นต้น แต่ในทนี่ จ้ี ะอธิบายวธิ ีการใช้ งาน Google ซึ่งเปน็ Search Engine ทีม่ ีความนิยมทส่ี ุดในขณะนี้ หลกั พืน้ ฐานในการคน้ หาขอ้ มลู ด้วย Google การคน้ หาขอ้ มูลด้วย Google นัน้ ทาได้ไมย่ าก เพียงแค่พิมพห์ ัวข้อคน้ หา (ซ่งึ เป็นคาหรอื วลที ี่อธิบาย ข้อมลู ที่คณุ ตอ้ งการคน้ หาได้ดีที่สุด) ในกลอ่ งข้อความ จากนน้ั กดป่มุ ‘Enter’ หรือคลิกท่ปี ่มุ ‘Google Search’ หรอื \"ค้นหาโดย Google” จากนนั้ Google กจ็ ะคืนผลลพั ธ์ เปน็ รายการของหน้าเวบ็ ที่มีเน้อื หา เก่ยี วขอ้ งกับ หวั ข้อคน้ หาของคุณ โดยหนา้ เวบ็ ที่มีข้อมูลเกีย่ วข้องที่ชัดเจนที่สุดจะปรากฏออกมาเป็นลาดบั แรก (วิธที า ในเอกสาร \"วิธีการใชง้ าน Google ค้นหาข้อมลู ) รูปแบบบรกิ ารอินเทอร์เน็ต การบรกิ ารต่างๆบนอินเทอร์เนต็ มีอยู่มากมายข้นึ อยูก่ ับผใู้ ช้บรกิ ารแต่ละบคุ คลจะเลอื กนาไปใช้ แต่ละ บคุ คลเมือ่ เดนิ มาท่องโลกบนอนิ เทอรเ์ นต็ จะมจี ดุ มุ่งหมายที่แตกต่างกัน และจะเลือกบริการให้เหมาะสมกบั งานหรอื ตามจดุ ประสงค์ บนเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ ควรจะทาความเขา้ ใจถงึ บรกิ ารดังตอ่ ไปนี้ 1.เครือข่ายใยแมงมมุ (www) การเช่ือมโยงเอกสารในเครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ตทม่ี ีอยู่ทัว่ โลกคลา้ ยกับใยแมงมุม ลกั ษณะของการเชือ่ มโยงข้อมูล คือ การเช่อื มโยงเอกสาร หรอื ท่ีเรยี กว่า Link จากเอกสารภายใน หนา้ เดยี วกนั เชือ่ มโยงไปยงั หนา้ อน่ื ๆหรอื ไปยงั เวบ็ ไซต์อน่ื ๆได้โดยการเชอ่ื มโยงในลักษณะของขอ้ ความ หรอื ไฮเปอรเ์ ท็กซ์ และสอ่ื ประสมต่างๆ เว็บเพจ คือ หนา้ เอกสารเวบ็ แต่ละหนา้ สามารถเช่อื มโยงกนั ได้เปรยี บเสมือนหน้าของหนงั สอื ทเี่ ราอา่ น แตล่ ะหนา้ เวบ็ ไซต์ คอื หนา้ เว็บเพจหลายๆหน้า นามร่วมกนั เปรียบไดก้ ับหนังสอื 1 เล่ม ทปี่ ระกอบด้วยหน้าของ หนังสือหลายหน้า โฮมเพจ คอื หน้าแรกของเวบ็ ไซตเ์ ปรยี บได้กบั หนังสือหนา้ แรกสดุ
2.โดเมนเนม(Domain Name) โดเมนเนม หรือทเี่ ราเรียกวา่ ที่อยู่ของเวบ็ ไซต์ เป็นชอ่ื ทถ่ี ูกการเรียกแทนหมายเลข IP Address เนื่องจากเกิดความยุ่งยากในการจาหมายเลข เวลาทต่ี อ้ งการทอ่ งเท่ยี วในอนิ เทอรเื นต็ จงึ ได้นาตวั อกั ษรมาใช้ แทน มักเป็นช่อื ท่มี สี อ่ื ความหมายเปน็ หน่วยงาน หรอื เจา้ ของเวบ็ ไซตน์ น้ั ชอื่ ของโดเมนเนมแตล่ ะช่ือจะอยหู่ นึง่ เดยี วเทา่ นนั้ 2.1Organization Domains โดเมนเนม 2 ระดับ แสดงถงึ องคก์ ร หรือหนว่ ยงานทีม่ ีลักษณะดงั นี้ เช่น www.thai2learn.com www.berkeley.edu การแสดงตัวอยา่ งประเภทองค์กร สาหรบั Organization Domains ตัวย่อ ประเภทองค์กร .com บรษิ ัทหรือองคก์ รพาณชิ ย์ .edu สถาบนั การศึกษา .net องค์กรท่ีใหบ้ ริการเครือข่าย .mil องค์กรทางทหาร .gov องค์กรของรฐั 2.2Geographical Domains โดเมน 3 ระดบั มีลกั ษณะดงั นี้ www.google.com www.nvc- koran.ac.th แตกต่างจากรปู แบบ 2 ระดบั คอื หลงั จากบอกประเภทองคก์ รแลว้ จะตามดว้ ยชอ่ื ประเทศท่ตี งั้ ขององคก์ รนน้ั การแสดงตัวยอ่ ของประเภทองคก์ ร สาหรับ Geographical Domins ตัวย่อ ประเภทองค์กร .co บริษัทหรอื องคก์ รพาณชิ ย์ .ac สถาบนั การศกึ ษา .go องคก์ รของรฐั .net องค์กรทีใ่ ห้บริการเครือขา่ ย 3. ไปรษณอี เิ ลก็ ทรอนิกส์ บริการหนึง่ ทไ่ี ด้รบั การนยิ มมาก เพราะเปน็ วธิ ตี ดิ ตอ่ ทเ่ี ปน็ มาตรฐาน สามารถจะรับและส่งเอกสารที่ เปน็ เอกสารทเ่ี ป็นเอกสารขอ้ ความและเปน็ เอกสารเเบบมัลติมีเดียมีท้ังภาพและเสียงโดยสามารถสื่อสารกันได้ ไม่ว่าผู้รับหรอผู้ส่งจะอยู่ไกลหรือใกล้เพียงใดก็ตาม บุรุษไปรษณีย์จะทาหน้าที่ส่งจดหมายให้กับ เรา คอื เว็บไซต์ท่ีลงทะเบยี นเปน็ สมาชกิ เพอ่ื ขอใชบ้ รกิ าร เม่อื ลงทะเบยี นเรียบร้อยเเล้ว จะได้ที่อยู่ บนเครือขา่ ยอินเทอรเ์ น็ตสาหรบั ติดตอ่ ส่อื สารกบั ผู้อืน่ ที่เรียกวา่ E-mail Address ทม่ี รี ปู แบบด้งน้ี [email protected] ช่อื ผใู้ ช้ @ ที่อยู่ ผใู้ ช้ คือ ชอ่ื อะไรกไ็ ด้ท่ผี ้ใู ชบ้ รกิ ารอีเมลไดต้ งั้ ข้ึน โดยจะตอ้ งไมซ่ ากบั สมาชกิ ของคนอนื่ @ คอื อา่ นวา่ แอท เปน็ สญั ญาลก้ ษณ์ท่ีคั่นระหว่างข่ือและท่อี ยู่ของอีเมลแอดเดรส ท่อี ยู่ คือ ชอ่ื โดเมนเนมของเว็บไซตท์ ใ่ี ห้บริการอเี มล เช่น hotmail.com
โครงสรา้ งพืน้ ฐานของการขายออนไลน์ ความหมายของธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ และ การพาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ Electronic Business คือ กระบวนการดาเนินธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยี เครือข่าย ที่เรียกว่า องค์การเครือข่ายร่วม Internetworked Network ไม่ว่าจะเป็นการพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ Electronic Commerce การติดต่อส่ือสารและการทางานร่วมกัน หรือแม้แต่ระบบธุรกิจ ภายในองคก์ ร พาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ Electronic Commerce คอื การดาเนนิ ธรุ กจิ โดยใชส้ ือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ พาณชิ ย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ Electronic Commerce คอื การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือ การขนส่งผลิตภณั ฑ์และบริการ โดยใชส้ ื่อเิ ล็กทรอนกิ ส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Electronic Commerce คือ ขบวนการท่ีใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือ ทาธุรกิจท่ีจะบรรลุเป้าหมายขององค์กร พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใช้เทคโนโลยีประเภทต่างๆและครอบคลุม รูปแบบทางการเงินท้ังหลาย เช่น ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โทรสาร แคตตาล็อค อิเล็กทรอนกิ ส์ การประชมุ ทางไกล และรปู แบบตา่ งๆที่เป็นขอ้ มลู ระหว่างองค์กร พาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ Electronic Commerce คือ ธุรกรรมทุกรูปแบบท่ีเก่ียวข้องกับกิจกรรมเชิง พาณิชย์ ท้ังในระดับองค์กร และส่วนบุคคล บนพ้ืนฐานของการประมวล และการส่งข้อมูลดิจิทัล ที่มีท้ัง ข้อความ เสยี ง และภาพ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Electronic Commerce คือ การทาธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงขึ้นอยู่กับ การประมวล และการส่งข้อมูล ที่มีข้อความ เสียง และภาพ ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการ ขายสินค้าและบริการด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การขนส่งผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นเน้ือหาข้อมูลแบบดิจิทัลใน ระบบ ออนไลน์ การประมูล การออกแบบทางวิศวกรรมร่วมกัน การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ การขายตรง การ ใหบ้ รกิ ารหลงั การขาย ทั้งน้ใี ชก้ ับสินค้า (เช่น สนิ คา้ บริโภค อปุ กรณ์ทางการแพทย์) และบริการ (เช่น บริการ ขายข้อมูล บริการด้านการเงิน บริการด้านกฎหมาย) รวมทั้งกิจการทั่วไป (เช่น สาธารณสุข การศึกษา ศูนยก์ ารคา้ เสมือน Virtual Mall) สรุป พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Electronic Commerce คือ การทาธุรกรรมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ในทุก ช่องทางทีเ่ ป็นอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น การซื้อขายสินคา้ และบรกิ าร การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่อินเตอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือลดค่าใช้จ่าย และเพ่ิม ประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทาเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ
โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนาสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็น ตน้ จงึ ลดขอ้ จากดั ของระยะทางและเวลาลงได้ E-Business และ E-Commerce เหมือนหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร E-Business คือ การดาเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ การสอ่ื สารและอนิ เตอร์เน็ต เพอื่ ทาใหก้ ระบวนการทางธุรกิจ มีประสิทธิภาพและตอบสนองความ ตอ้ งการของลกู คา้ และลูกคา้ ให้ตรงใจและรวดเรว็ เพ่อื ลดตน้ ทนุ และขยายโอกาสทางการค้าและการบริการ E-Commerce คือ การทาธุรกรรมผ่านส่อื อิเล็กทรอนิกส์ในทุกชอ่ งทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การ ซ้ือขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุหรือแม้แต่ อนิ เตอรเ์ นต็ เปน็ ต้น โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อลดคา่ ใช้จา่ ย และเพิ่มประสทิ ธภิ าพขององค์กร โดยการลดบทบาท องค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทาเลท่ีตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึง พนกั งานขาย พนกั งานแนะนาสนิ ค้า พนกั งานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจากัดของระยะทางและเวลาลง ได้ จากความหมายของ E-Business กับ E-Commerce จะเห็นได้ว่าสองคานมี้ คี วามหมายที่ใกล้เคียงกัน แตไ่ ม่เหมอื นกันทเี ดียว โดย E-Business มขี อบเขตทกี่ ว้างกว่า เป็นการทากิจกรรมทุกๆอย่าง ทุกขั้นตอนของ กระบวนการทางธุรกิจ ผ่านทางส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในขณะท่ี E-Commerce จะเน้นเฉพาะการซ้ือขายสินค้า หรือบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนตเท่าน้ัน จึงสรุปได้ว่า E-Commerce เป็นเพียงส่วนหน่ึงของ E- Business เทา่ น้นั กรอบการทางานและโครงสร้างพ้นื ฐานของการพาณชิ ย์อิเลก็ ทรอนิกส์ กรอบการทางาน E-Commerce Framework
E-Commerce Framework ประกอบด้วย 4 สว่ น ได้แก่ 1. การประยุกตใ์ ช้ E-Commerce Application 2. โครงสร้างพน้ื ฐาน E-Commerce Infrastructure 3. การสนบั สนุน E-Commerce Supporting 4. การจดั การ E-Commerce Management 1. การประยกุ ต์ใช้ E-Commerce Application - การคา้ ปลกี อิเลก็ ทรอนิกส์ E-Retailing - การโฆษณาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ E-Advertisement - การประมลู อิเล็กทรอนกิ ส์ E-Auctions - การบรกิ ารอิเล็กทรอนกิ ส์ E-Service - รัฐบาลอิเลก็ ทรอนิกส์ E-Government - การพาณชิ ยผ์ ่านระบบโทรศพั ท์เคลอื่ นท่ี M-Commerce : Mobile Commerce 2. โครงสรา้ งพื้นฐาน E-Commerce Infrastructure องค์ประกอบหลักสาคัญด้านเทคโนโลยีพ้ืนฐาน ท่ีจะนามาใช้เพื่อการพัฒนาระบบพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ แบง่ ออกเป็น 4 ส่วน ไดแ้ ก่ 1. ระบบเครือขา่ ย Network System 2. ช่องทางการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร Communication Channel 3. การจดั รปู แบบและการเผยแพรเ่ นื้อหา Format and Content Publishing 4. การรกั ษาความปลอดภัย Security 3. การสนบั สนุน E-Commerce Supporting สว่ นของการสนบั สนุน จะทาหน้าทชี่ ว่ ยเหลอื และสนับสนนุ สว่ นของการประยุกต์ใช้งานให้ทางานได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ เปรียบเสมอื นเสาหลักของบา้ น ทที่ าหนา้ ทคี่ า้ จุนให้หลังคาบ้าน อย่างไรก็ตามเสาบ้านก็ ต้องอาศยั พ้นื บา้ นในส่วนของโครงสรา้ งพื้นฐานเพอ่ื ที่จะยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงต่อไป สาหรับส่วนสนับสนุน ของ E-Commerce มอี งคป์ ระกอบ 5 ส่วน ดงั น้ี 1. การพัฒนาระบบงาน E-Commerce Application Development 2. การวางแผนกลยุทธ์ E-Commerce Strategy 3. กฎหมายพาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ E-Commerce Law 4. การจดทะเบียนโดเมนเนม Domain Name Registration 5. การโปรโมทเว็บไซต์ Website Promotion ปัจจัยท่ีทาให้ E-Commerce ประสบความสาเร็จการนา E-commerce ไปใช้ในธุรกิจจาเป็นต้องมี สารสนเทศท่ีถูกต้อง มโี ครงสร้างพื้นฐาน และมีระบบสนบั สนุน ซ่ึงปัจจยั ทที่ าให้ประสบความสาเร็จมี5 อย่าง ดังนี้ - คน (People) หมายถงึ ผู้ขาย ผู้ซือ้ คนกลาง พนกั งาน IT และอ่นื ๆ ที่มสี ่วนเก่ียวข้อง - นโยบายสาธารณชน หมายถึง กฎหมาย ภาษี และนโยบายหลักๆ ท่ีสาคัญ เช่น สิทธิส่วนบุคคล ที่ ถูกกาหนดดว้ ยรฐั บาล ในที่น้ีนโยบายจะรวมถงึ มาตรฐานดา้ นเทคนิค และ โปรโตคอล(Protocol) - การตลาด และการโฆษณาประชาสมั พันธ์ เวบ็ ไซตเ์ ปน็ สิ่งสาคัญเพอื่ ใช้ตดิ ต่อกับลูกค้า และทาธุรกิจ ค้าขาย รวมถงึ การมองหาตลาดแหล่งใหม่ ๆ และกลยุทธ์ในการโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ - พันธมิตรธุรกิจ E-commerce ถูกนามาใช้ในการบริหาร Supply Chain หรือ ระหว่างคู่ค้า และ พันธมติ รทางการคา้
- บริการสนับสนุนอื่น สิ่งสาคัญ คือการวิจัยตลาด การสร้างเนื้อหา และการบริการอ่ืนๆเพิ่มเติมไม่ว่าจะ เป็น ระบบการชาระ การขนสง่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และระบบรกั ษาความปลอดภัย 4. การจดั การ E-Commerce Management แบบจาลองทางธุรกิจ Business Model The Dimensions Of E-Commerce Pure Electronic Commerce ทุกอยา่ งเป็นอิเล็กทรอนกิ ส์ เชน่ ขายเพลงผา่ นเว็บ จา่ ยเงนิ ผ่านเว็บดว้ ย Partial Electronic Commerce เช่น ขายของบนเฟสบคุ๊ สินค้าวางหนา้ รา้ น ส่งทาง EMS ได้ Pure E-commerce คอื การทาธรุ กรรม E-commerce ในรูปแบบดิจิตอล Digital ทุกข้ันตอน ไม่ว่าจะเป็น ขน้ั ตอนท่เี รมิ่ จาก - การสั่งซือ้ สนิ คา้ หรอื บริการ - กระบวนการชาระเงนิ - การสง่ มอบ ตวั อยา่ งเชน่ การซ้อื ขาย โปรแกรม เพลง หรือ เกมส์ ผ่านอินเทอรเ์ นต็ ด้วยบัตรเครดิต Partial E-commerce คือ การทาธุรกรรม E-commerce ท่ีบางข้ันตอนยังอยู่ในรูปแบบกายภาพ (Physical) เช่น การสั่งซ้ือตารา ต้องมีการขนส่งผ่านระบบขนส่งปกติท่ัวไป หรือ การชาระเงินโดยใช้วิธี โอนผ่านธนาคาร หรือ ATM เปน็ ต้น Business Model Of E-Commerce Brick – and – Mortar Organization Old-economy organizations (corporations) that perform most of their business off-line ,selling physical product by means of physical agent. => Traditional Virtual Organization Organization that conduct their business activities solely online. => Pure Click – and – Mortar Organization
Organization that conduct some e-commerce activities , but do their primary business in the physical world. => Partial - รูปแบบของการทา e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ท่ีมีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิด ใหบ้ รกิ ารทาการคา้ จรงิ ๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกชอ่ งทางหนึ่งในการขาย - คาวา่ Mortar คอื การก่อสรา้ งบ้านอาคาร เปรียบได้กับธุรกิจท่ีมีหน้าร้านค้าจริงๆ โดยบางคนจะเลือกใช้คา วา่ “Brick” แทนคาวา่ Mortar - เหมาะสาหรับผู้ที่มีกิจการค้าเดิมอยู่แล้ว และต้องการขยายเพิ่มช่องทางการค้าไปสู่ภายนอกทั้ง ระดบั ประเทศและทัว่ โลก - การทา e-commerce ที่มรี ูปแบบการค้าขายหรอื ใหบ้ ริการผ่านทางเว็บไซต์และอินเทอร์เน็ตเพียงช่องทาง เดียวเทา่ นั้น ไม่มีธุรกิจหรอื รา้ นคา้ จรงิ ๆ ทีใ่ ห้คนสามารถไปซือ้ หรือรับสนิ ค้าหนา้ รา้ นได้ ประเภทของการพาณชิ ยอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ แบ่งออกเปน็ 1. กลุ่มธรุ กจิ ทีค่ า้ กาไร Profit Organization - Business – to – Business (B2B) คอื รปู แบบการซือ้ ขาย สินค้าระหวา่ งธรุ กิจกบั ธรุ กิจ เป็นการซื้อขายทลี ะปรมิ าณมากๆ มีมูลค่าการซ้ือขาย แต่ ละครัง้ เปน็ จานวนมาก เป็นการค้าส่ง เช่น ผู้ผลิตขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลางเป็นธุรกิจนาเข้า - ส่งออก ชาระ เงนิ ผ่านระบบธนาคารด้วยการเปิด L/C หรือในรูปของ Bill of Exchangeอน่ื ๆ - Business – to – Customer (B2C) คือรูปแบบการจาหน่ายสนิ คา้ โดยตรงจากผู้ค้ากับผ้บู ริโภคโดยตรง เป็นการค้าปลกี - Business – to – Business – to – Customer (B2B2C) หมายถึง การเช่ือมต่อ B2B และ B2C เข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เป็นรูปแบบการดาเนินธุรกรรมที่ธุรกิจได้ขายช่วง ต่อไปยังภาคธุรกิจด้วยกัน ซ่ึงอาจเป็นบริษัทในเครือหรือกลุ่มธุรกิจเดียวกันแต่ในด้านการส่งมอบสินค้าหรือ บริการ ก็ยังคงส่งมอบไปยังผู้บริโภคโดยตรงในแต่ละราย หรือองค์กรธุรกิจขายให้องค์กรธุรกิจด้วยกัน แต่ องคก์ รจะจดั ส่งสินค้าใหล้ กู คา้ อีกทหี นง่ึ - Customer – to – Customer (C2C) เป็นรูปแบบการซือ้ ขาย สนิ ค้าระหวา่ งผบู้ ริโภคกับผู้บรโิ ภค เชน่ การประกาศขายสนิ ค้าใช้แล้ว - Customer – to – Business (C2B) หมายถึง เป็นการดาเนนิ ธุรกรรมระหวา่ งผู้บริโภคกับผู้ประกอบการในอีกรูปแบบหนึ่งท่ีผู้บริโภคกลับมีสถานะ เป็นผู้ค้าและมีบทบาทในการต่อรองเพ่ือต้ังราคาสินค้า จากนั้นผู้ประกอบการก็จะนาราคาท่ีลูกค้าเสนอมา ให้กับผู้ขายปัจจัยการผลิตพิจารณาว่าสามารถจาหน่ายหรือขายได้ในราคานี้หรือไม่ หรือการท่ีลูกค้าสามารถ ระบตุ วั สนิ ค้าหรอื บรกิ ารเฉพาะเจาะจงลงไป แล้วองค์กรเปน็ ตวั จดั หาสินคา้ หรอื บรกิ ารใหล้ กู คา้ เป็นรูปแบบการค้าที่ใกล้ตัวมากๆ จนเรานึกไม่ถึง เป็นรูปแบบการค้าที่ Consumer หรือผู้ใช้นาสินค้า มา Reviews หรื อวิ เ คร าะ ห์สิน ค้า จ น เว็ บเร า ดัง มี คน สน ใจเ ข้ามา ชมม าก เ ร าก็ จะ ทา ธุ ร กิ จ (Business) กบั Amazon โดยการเอาสนิ ค้าที่เกี่ยวข้องกับที่เรา Reviews มาขาย ซ่ึงถ้าขายได้ Amazonก็จะ แบ่งตังให้กับเรา หรือแม้แต่ Adsense ก็เป็นธุรกิจแบบ C2B คือ Consumer ทาธุรกิจกับ Businessโดย นาเสนอสิ่งท่ี Business ต้องการ ซึ่งในกรณี Adsense ท่ีเขาต้องการก็คือเน้ือหาเว็บที่ดีมีประโยชน์ ของ Consumer ที่ทาง Google จะเอาไปขายต่อให้กับพวกที่ต้องการโฆษณาบนเว็บท่ีมีเน้ือหาเก่ียวข้องกับ สนิ ค้าตนเอง หรอื พวกทท่ี า Adwords ไงครบั - Mobile Commerce
หรอื M-Commerce หมายถงึ การดาเนินกจิ กรรมตา่ งๆที่เกยี่ วข้องกับธุรกรรมหรือการเงิน โดยผ่านเครือข่าย โทรศัพท์เคล่อื นท่ี หรอื การค้าขายตามระบบแนวความคิดของระบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์E-Commerce ท่ีใช้ อุปกรณ์พกพาไร้สายเป็นเคร่ืองมือในการสั่งซื้อและขายสินค้าต่างๆ ทั้งการส่ังซื้อสินค้าท่ีเป็นรูปธรรมหรือ นามธรรม รวมทั้งการรับ-ส่งอีเมล์ หรือการทาธุรกรรมเชิงพาณิชย์ผ่านโทรศัพท์เคล่ือนที่ ซึ่งมีความ สะดวกสบาย ไมม่ ีขอ้ จากดั ในการจบั จ่าย โดย M-Commerce เป็นการแตกแขนงของเทคโนโลยีที่มีผลกระทบ โดยตรงต่อการขยายตัวของธุรกจิ พาณชิ ย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง M-Commerce จะช่วยเร่งอัตราการเติบโตให้กับ การ ดาเนิน ธุ รก ร รมผ่านเครือข่ายอิเล็ก ทรอ นิกส์ไ ด้เร็ วก ว่ าการ ใช้เทคโ นโ ลยี E-Commerce ขอบเขตของ M-Commerce จะครอบคลุมทั้งการดาเนินธุรกรรมระหว่างผู้ดาเนินธุรกิจกับผู้ใช้บริการ โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี B2C และระหว่างผูด้ าเนินธรุ กจิ ด้วยกันเอง B2B 2. กลมุ่ ธรุ กิจทไ่ี ม่คา้ กาไร Non-Profit Organization - Intrabusiness (Organization) E-Commerce อคี อมเมริ ซ์ ภายในองคก์ รหรอื แบบอินทราออร์ก (Intra-Org E-commerce) คือ การใช้อีคอมเมิร์ซในการช่วย ให้บริษัทหรือองค์ใดองค์กรหนึ่งสามารถปรับปรุงการทางานภายในและให้บริการลูกค้าได้ดีข้ึน ดังตัวอย่าง ต่อไปน้ี - การติดต่อส่ือสารภายในองค์กรจะสะดวกรวดเร็วจะได้ผลดีข้ึน โดยใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ วีดีโอคอน เฟอเรนซ์ และป้ายประกาศ เป็นตน้ - การจัดพิมพ์เอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีพับลิซซิง (Electronic Publishing) ช่วยให้บริษัทสามารถ ออกแบบเอกสาร จัดพิมพ์เอกสาร และแจกจ่ายเอกสารได้สะดวกรวดเร็ว และใช้ค่าใช้จ่ายน้อย ไม่ว่าจะเป็น คมู่ ือขอ้ กาหนดสนิ ค้า (Product Specifications) รายงานการประชุม เป็นตน้ ท้ังน้โี ดยผา่ นเวบ็ - การปรบั ปรงุ ประสิทธิภาพพนกั งานขาย การใชอ้ ีคอมเมิร์ซแบบนช้ี ว่ ยปรับปรุงการสื่อสารระหว่างฝ่ายผลิต กับฝา่ ยขาย และระหว่างฝ่ายขายกบั ลกู คา้ ทาใหไ้ ด้ประสิทธภิ าพดีขน้ึ - Business – to – Employee (B2E) การทาธรุ กรรมระหวา่ งธุรกิจกับพนักงาน (Business-To-Employee–B2E) มุ่งเน้นการให้บริการแก่พนักงาน ในด้านต่าง ๆ เช่น ข้อมูลของสินค้าและบริการ กิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างผู้ประกอบการ องค์กร กับพนักงาน โดยอาศยั ระบบเครือข่าย - Government – to – Citizen (G2C) การทาธุรกรรมระหว่างองค์กรของรัฐกับประชาชน (Government-To-Citizen–G2C) เป็นการทาธุรกรรม ระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐกบั ประชาชนโดยไม่หวังผลกาไร แต่เพื่ออานวยความสะดวกในการให้ บริการข้อมูล ข่าวสารแก่ประชาชน เชน่ การยื่นแบบชาระภาษีของกรมสรรพากร - Collaborative Commerce (C-Commerce) เชน่ เครือซีเมนตไ์ ทย ซี คอมเมริ ์ซ (c-Commerce) หรอื Collaborative Commerce เป็นทีร่ ู้จักกันในต่างประเทศได้เป็นเวลานาน พอควรแล้วภายหลังจากการเกิดข้ึนของอินเทอร์เน็ต เนื่องจากได้สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive advantage) แก่บริษัทท่ีนาไปใช้อย่างเห็นได้ชัด อุตสาหกรรมที่ริเร่ิมใช้ ได้แก่ อุตสาหกรรม รถยนต์ และอตุ สาหกรรมอากาศยาน และในปัจจุบันได้แพร่ขยายไปยังอุตสาหกรรมอ่ืนๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง เครอ่ื งจกั ร รวมไปถงึ อตุ สาหกรรมบรกิ ารต่างๆ สาหรับในประเทศไทยซี-คอมเมิร์ซ เร่ิมมีการกล่าวถึงมากข้ึน เน่ืองจากการตระหนักถึงความสาคัญของการ ลงทนุ ทางดา้ นเทคโนโลยี เพื่อเตรียมความพรอ้ มในการต่อสู้กับสภาวะการแข่งขันท่ีรุนแรงของตลาดโลก และ ตัวอย่างของความสาเร็จท่ีเกิดขึ้นในต่างประเทศ Wasserstein Perella Securities, Inc. ได้ออกรายงาน การศึกษาว่า นับจากนี้ไปถึง 5 ปีข้างหน้า บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ท้ังสามของ สหรัฐอเมริกา จะสามารถ
- Exchange – to – Exchange (E2E) การทาธุรกรรมด้านการแลกเปลี่ยนสินค้าและบรกิ าร (Exchange-To-Exchange–E2E) เป็นช่องทางสาหรับใช้ แลกเปลี่ยนสินคา้ และบรกิ ารระหว่างองคก์ รทง้ั ภาครัฐ และเอกชน - E-Learning e-Learning คอื การเรยี น การสอนในลักษณะ หรอื รูปแบบใดก็ได้ ซึ่งการถ่ายทอดเนื้อหานั้น กระทาผ่านทาง สอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซีดีรอม เครือข่ายอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซทราเน็ต หรือ ทางสัญญาณโทรทัศน์ หรือ สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ฯลฯ เป็นต้น ซ่ึงการเรียนลักษณะนี้ได้มีการนาเข้าสู่ตลาดเมืองไทยใน ระยะหนึ่งแล้ว เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยซีดีรอม, การเรียนการสอนบนเว็บ (Web-Based Learning), การเรียนออนไลน์ (On-line Learning) การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ การเรียนด้วยวีดีโอ ผา่ นออนไลน์ เปน็ ตน้ E-Commerce Business Model แบบจาลองทางธรุ กจิ แบบจาลองทางธุรกจิ หมายถึง วิธีการดาเนินการทางธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้ อันจะทาให้บริษัทอยู่ ต่อไปได้ นอกจากน้ี ยงั รวมถงึ กจิ กรรมทชี่ ว่ ยสร้างมูลคา่ เพิม่ Value Add ให้กับสนิ คา้ และบริการ วิธีการที่องค์กรคิดค้นข้ึนมา เพ่ือประยุกต์ใช้ทรัพยากรขององค์กรอย่างเต็มท่ี อันจะก่อให้เกิดผล กาไรสูงสดุ และเพ่ิมมลู คา่ ของสินคา้ และบรกิ าร ธรุ กจิ ทหี่ ารายได้จากคา่ สมาชกิ ตัวอย่างของธุรกิจที่หารายได้จากค่าสมาชิกในการศึกษาได้แก่ AOL (ธุรกิจ ISP), Wall Street Journal (หนังสือพิมพ์), JobsDB.com (ข้อมูลตลาดงาน), และ Business Online (ข้อมูลบริษัท) ธุรกิจใน กลุ่มนหี้ ลายรายเปน็ ธุรกจิ ทไี่ ดก้ าไรแล้วเนื่องจากรายได้จากค่าสมาชิกเป็นรายได้ที่มีความม่ันคงกว่ารายได้จาก แหล่งอ่ืนเชน่ รายไดจ้ ากการโฆษณาหรือคา่ นายหน้า อยา่ งไรกต็ าม ปจั จยั ในความสาเรจ็ ของธุรกิจท่ีจะสามารถ หารายได้จากค่าสมาชิกได้ก็คือ การมีสารสนเทศหรือบริการที่มีคุณภาพที่ดี พอที่จะทาให้ลูกค้ายอม จ่ายค่า สมาชิกดังกล่าว เช่น ต้องมีสารสนเทศที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น (Wall Street Journal หรือ Business Online) หรอื ใช้กลยุทธท์ างการตลาดในการรักษาฐานลูกค้าไว้ เช่น AOL รักษาฐานลูกค้าของ ตนด้วยหมายเลขอีเมลห์ รอื หมายเลข ICQ ซงึ่ ลูกค้าที่ใช้บรกิ ารไปแล้วระยะหน่ึงไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจ ทม่ี รี ายได้จากสมาชกิ ยงั สามารถใชฐ้ านลกู คา้ ของตนท่ีมีอยู่ขยายต่อ ไปยังธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ เช่น AOL ใช้ฐาน สมาชิกของตนในการหารายได้จากการโฆษณาออนไลน์ และธรุ กจิ ค้าปลีก ธรุ กจิ โครงสร้างพืน้ ฐาน ธรุ กิจโครงสร้างพ้นื ฐานเปน็ ธุรกิจ E-Commerce ทีใ่ ห้บรกิ ารแก่ธุรกจิ Ecommerce อื่น ตวั อย่างของ ธุรกจิ พนื้ ฐานในการศึกษา ได้แก่ Consonus (ธรุ กิจศูนยข์ อ้ มูล และ ASP), Pay Pal (ธรุ กิจชาระเงินออนไลน์), Verisign (ธรุ กิจออกใบรับรองดจิ ิตลั ), BBBOnline (ธุรกิจรบั รองการประกอบธุรกิจท่ีได้มาตรฐาน), Siamguru (บริการเสิร์ชเอนจิน้ ), และ FedEx (บริการจัดส่งพัสดุ) ปัจจัยในความสาเรจ็ ของธุรกิจในกลุ่มนี้จะข้ึนอยู่กับการ ขยายตวั ของตลาด E-Commerce โดยรวม กลา่ วคือ หากเศรษฐกจิ อยู่ในชว่ งขยายตวั และมีผู้ประกอบการ E- Commerce มาก รายได้ของธรุ กิจเหล่านก้ี จ็ ะเพ่ิมขึ้น ดังน้ัน หากเรามองว่าธุรกิจ E-Commerce มีแนวโน้ม ที่จะขยายตวั อยา่ งต่อเนื่องในระยะยาว ธุรกิจโครงสร้างพนื้ ฐานทีส่ ามารถสรา้ งความแตกต่างจากคู่แข่งได้ ก็จะ มแี นวโน้มท่จี ะเตบิ โต และนา่ จะทากาไรได้ในระยะยาว เชน่ True Money ธุรกิจคา้ ปลีกอเิ ลก็ ทรอนิกส์
ธรุ กจิ ค้าปลีกอิเลก็ ทรอนกิ ส์เปน็ รปู แบบของธุรกิจ E-Commerce ซ่ึงเป็นที่รู้จักกันดีท่ีสุด เมื่อกล่าวถึง ธุ ร กิ จ E-Commerce ค น ทั่ ว ไ ป จึ ง มั ก จ ะ นึ ก ถึ ง ธุ ร กิ จ ใ น ก ลุ่ ม นี้ ตั ว อ ย่ า ง ข อ ง ธุ ร กิ จ ค้ า ป ลี ก อิเล็กทรอนิกส์ (Online Retailer) ในกรณีศึกษาได้แก่ Amazon (หนังสือ), 7dream (ของชา), EthioGift (ของขวัญวันเทศกาลของเอธิโอเปีย), 1-800-Flowers (ดอกไม้), Webvan (ของชา), Tony Stone Image (รูปภาพ), และ Thaigem (อัญมณี) รายได้หลักของธุรกิจค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์มาจากการจาหน่ายสินค้า ในช่วงแรกผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ มักคาดหวังว่า การประกอบการโดยไม่ต้องมีร้านค้าทาง กายภาพจะช่วยให้ตนมีต้นทนุ ทต่ี า่ และสามารถขายสินค้าให้แก่ ลูกค้าในราคาท่ีต่ากว่าคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมาเราจะพบว่า ปัจจัยในความสาเร็จของโมเดลทางธุรกิจดังกล่าวมักจะข้ึนอยู่กับความสามารถ ในการจัดการส่งสินคา้ และให้บริการหลังการขายให้แก่ลูกค้า เราจึงพบว่าธุรกิจค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่มี ร้านค้าทางกายภาพมีแนวโน้มท่ีจะต้องสร้าง ร้านค้าหรือคลังสินค้าขึ้นด้วยจนกลายเป็นธุรกิจท่ี รียก ว่า Clickand-Mortar หรอื อาจใชว้ ธิ ีการสรา้ งพนั ธมิตรทางธรุ กจิ กบั รา้ นคา้ ปลีกแบบเดิม ตวั อย่างของธุรกจิ ทเี่ รียกว่า Click-and-Mortar ได้แก่การที่ Amazon ไดล้ งทนุ สร้างคลงั สินคา้ และพยายามทา ความตกลงเป็นพันธมิตรกับ Walmart ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกท่ีมีช่องทางจัดจาหน่าย ในขณะเดียวกันเรายังเห็น แนวโน้มของการท่ีร้านค้าปลีกแบบเดิมเช่น 7-Eleven หันมาประกอบธุรกิจออนไลน์ด้วย ดังตัวอย่าง ของ 7dream ซ่งึ เปน็ การใชป้ ระโยชน์จากการมีร้านค้าทางกายภาพ และการทาธรุ กิจออนไลน์ รว่ มกัน ธุรกจิ ท่หี ารายไดจ้ ากโฆษณา ในชว่ งหลงั ธรุ กิจ E-Commerce ท่ีหวงั หารายได้จากการโฆษณาซบเซาลงไปมาก เน่ืองจากการเข้าสู่ ตลาดดังกล่าวทาได้ง่าย ทาให้จานวนพ้ืนท่ีโฆษณาเพ่ิมขึ้นอย่างรวดเร็ว ซ่ึงมีผลทาให้เกิดการแข่งขันอย่าง รนุ แรง และมีผลกระทบตอ่ รายได้ของผปู้ ระกอบการแทบทกุ ราย นอกจากนี้ การจดั ทาเว็บไซต์ที่มีเน้ือหาดึงดูด ให้ผู้ใช้เข้ามาใชต้ อ้ งอาศยั การลงทุนสูง และจาเป็นต้องทาการตลาดและการประชาสัมพันธ์ผ่าน ส่ือต่างๆมาก ปัจจัยในความสาเรจ็ ของธรุ กจิ ในกลุ่มนี้จงึ ได้แกก่ ารสรา้ งจุดเดน่ ที่แตกตา่ งจากธรุ กิจในแนวเดียวกัน ในขณะท่สี ามารถควบคุมต้นทุนได้ ตัวอยา่ งของธรุ กจิ ทห่ี ารายได้จากคา่ โฆษณาท่ียังคงสามารถทากาไรได้ คือ Yahoo! ซึ่ง เป็นเว็บทา่ (Portal Site) ท่ีมชี ื่อเสียงมานานและมี ต้นทนุ ในการสร้างเน้ือหาน้อย เนื่องจากใช้วิธีการเชื่อมโยง ไปยงั เนอื้ หาของผ้อู ่นื นอกจากนี้ยังมีอีกตัวอย่างหนึ่งท่ีน่าสนใจ คือ GreaterGood ซึ่งเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่ หารายได้จากการแนะนาลูกค้าใหแ้ ก่เวบ็ ไซตอ์ น่ื ๆ ซ่ึงคล้ายกบั การหารายได้จากคา่ โฆษณา บริการรัฐบาลอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ตัวอย่างของบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government) ในกรณีศึกษา ได้แก่ MERX (การให้ ข้อมูลการประกวดราคาของโครงการรัฐ), Buyers.Gov (การจัดซ้ือจัดจ้างของรัฐ) และ eCitizen (การ ใหบ้ ริการของรัฐแก่ประชาชน) บริการในกลุ่มน้ีมักมีจุดประสงค์เพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและ ธุรกจิ ในการตดิ ต่อกับภาครัฐ (eCitizen) เพิ่มความโปร่งใสในการดาเนินงาน (MERX) เพิ่มประสิทธิภาพ และ ลดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการของภาครัฐ (Buyers.Gov) เป็นต้น ปัจจัยในความสาเร็จของบริการรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์คือการศึกษาความต้องการของประชาชนหรือผู้ใช้บริการ แล้วออกแบบระบบให้มีความ สอดคล้องกับความต้องการนั้น นอกจากนี้ ปัจจัยท่ีสาคัญอีกประการหนึ่งต่อความสาเร็จของบริการรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์คือ การกาหนด มาตรฐานของข้อมูลและโปรแกรมประยุกต์ของบริการต่างๆ ที่ต้องทางาน ร่วมกันให้มีความสอดคล้องกันเช่น ในกรณีของ eCitizen ซ่ึงสามารถ ทาให้เกิดบริการแบบจุดเดียว เบ็ดเสรจ็ (Single StopService)
ธุรกิจตลาดประมลู ออนไลน์ ธรุ กจิ ในกล่มุ นีม้ รี ปู แบบการหารายไดท้ งั้ ในแบบ B2C ซึ่งหารายไดจ้ ากการจาหน่ายสินค้าส่วนเกินของ บรษิ ัทโดยไม่เกิดความขัดแยง้ กับชอ่ งทางเดิม นอกจากนต้ี ลาดประมลู ออนไลน์ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถหาราคา ท่ีเหมาะสมของสินค้า ตัวอย่างของธุรกิจตลาดประมูลออนไลน์ แบบ B2C ในกรณีศึกษาได้แก่ Egghead (สินค้าอิเล็กทรอนิกส์) และPriceline (สินค้าท่องเที่ยว) เป็นต้น รูปแบบธุรกิจตลาดประมูลออนไลน์อีก ประเภทหน่ึง คือแบบ C2C ธุรกิจในกลุ่มน้ีจะหารายได้จากค่านายหน้าในการให้บริการตลาดประมูลซึ่งช่วย จับคู่ผู้ซ้ือและผู้ขายเข้าด้วยกัน ตัวอย่างของธุรกิจตลาดประมูลดังกล่าวนี้คือ Ebay ซึ่งเป็นตลาดประมูล ออนไลน์ที่มีช่ือเสียง และมีผลประกอบการท่ีได้กาไรต้ังแต่ปี 1996ปัจจัยในความสาเร็จของธุรกิจประมูล แบบ B2C คอื ความสามารถในการหาสนิ คา้ ท่มี คี ณุ ภาพดีแตม่ ีตน้ ทนุ ตา่ มาประมูลขาย ซึ่งจาเป็น ต้องอาศัยการ มีพันธมิตรรายใหญ่ท่ีมีสินค้าเหลือจานวนมาก ส่วนปัจจัยในความสาเร็จของธุรกิจประมูลแบบ C2C คือ ความสามารถในการสร้างความภักดขี องลกู ค้าและป้องกันการฉอ้ โกงระหวา่ งผ้ซู อ้ื และผูข้ าย ธรุ กจิ ตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ ตวั อยา่ งของธรุ กิจตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Marketplace) ในกรณีศึกษา ได้แก่PaperExchange (กระดาษ), FoodMarketExchange (อาหาร), DoubleClick (แบนเนอร์ในอินเทอร์เน็ต), Half.com (สินค้า ใช้แล้ว), และ Translogistica (ขนส่งทางบก) ธุรกจิ ในกลุม่ นจี้ ะหารายได้จากค่านายหนา้ ในการใหบ้ ริการตลาด กลางซ่ึงช่วยจบั คู่ผซู้ ้อื และผูข้ ายเขา้ ด้วยกนั ในช่วงแรกธุรกิจตลาดกลางมักดาเนินการโดยผู้บริหารตลาดท่ีเป็น อิสระจากผู้ซ้อื หรือผู้ขาย (Independent Market Maker) อย่างไรก็ตามต่อมาพบว่า ผู้บริหารตลาดอิสระมัก ไม่สามารถชักชวนผู้ซ้ือหรือผู้ขายให้เข้าร่วมในตลาดจนมีจานวนท่ีมากพอได้ ในช่วงหลังเราจึงเริ่มเห็น ผู้ประกอบการรายใหญ่ หรือกลุ่มของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่รวมตัวกันในลักษณะของ consortium เป็น แกนกลางในการบริหารตลาดกลางเอง โดยชักชวนให้ซัพพลายเออร์และลูกค้าของตนเข้าร่วมในตลาด ปัจจัย ในความสาเร็จของตลาดกลางอเิ ล็กทรอนิกส์คอื ความสามารถในการดึงดูดผู้ซ้ือและผู้ขายจานวนมากให้มาเข้า รว่ มในตลาดทาใหต้ ลาดมีสภาพคลอ่ ง (liquidity) มากพอ ซึ่งจาเป็นต้องอาศัยการมีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ซ้ือ หรือผ้ขู ายแลว้ แตก่ รณี ธรุ กิจทใี่ ช้ E-Commerce ในการเพ่ิม Productivity รูปแบบในการใช้ E-Commerce ในการเพ่ิม productivity ที่มีประสิทธิผลมากท่ีสุดมักได้แก่ การ บริหารซัพพลายเชน (Supply Chain Management) และการให้บริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management) ตวั อย่างของการบริหารซัพพลายเชน ในกรณีศึกษาได้แก่ Dell (คอมพิวเตอร์ ส่วนบคุ คล), Boeing (เครื่องบิน), TESCO (ของชา), W.W.Grainger (สินค้า MRO), และGMBuyPower (ยาน ยนต์) ระบบบริหารซัพพลายเชนดังกล่าวมักจะช่วยลดต้นทุนในการติดต่อกับซัพพลายเออร์ ลดต้นทุนการ บริหารคลังสนิ คา้ (Inventory) เน่ืองจากการแลกเปลยี่ นข้อมลู ระหว่างผผู้ ลิตและซพั พลายเออร์จะช่วยให้สามารถคาดการยอดขายได้ดีข้ึน ตลอดจนลดเวลาในการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าส่วนตัว อย่างของการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่นาเสนอในการศึกษาได้แก่ CISCO(อุปกรณ์โทรคมนาคม) Southern Airlines (สายการบนิ ) Wells Fargo (ธนาคาร), GE Appliance (ศูนย์บริการลูกค้า), DaimlerChrysler (ยาน ยนต์), The Value System (เทคโนโลยีสารสนเทศ) และ Cement Thai Online (อุปกรณ์ก่อสร้าง) ระบบ บริการลูกคา้ สัมพันธ์ท่ีดจี ะชว่ ยใหธ้ รุ กจิ เหล่าน้สี ามารถให้บริการลูกค้าโดยมีต้นทุนท่ีลดลงจากการลดพนักงาน หรอื สานกั งานทางกายภาพ ในขณะท่สี ามารถเพม่ิ หรอื รักษาระดับความพงึ พอใจของลูกค้าได้การเพิ่มผลิตภาพ ของธรุ กจิ จากการนาเอาระบบ E-Commerce มาใช้ในท้ังสองลกั ษณะดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถ
ในการแข่งขันเพิ่มข้ึน อย่างไรก็ตาม การเพ่ิมผลิตภาพของธุรกิจจาก E-Commerce จะไม่สามารถเกิดข้ึนได้ หากธุรกจิ ไมม่ ีระบบภายใน (Back Office) ซึ่งถือ เปน็ ปจั จัยในความสาเรจ็ ท่สี าคัญทส่ี ดุ ประการหนงึ่
Search