Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการติดตามประเมินผลฉบับสมบูรณ์

รายงานการติดตามประเมินผลฉบับสมบูรณ์

Description: รายงานการติดตามประเมินผลฉบับสมบูรณ์

Keywords: e Book วิทยาลัยการปกครอง

Search

Read the Text Version

บทท่ี 3 ขอบเขตและวธิ กี ารศึกษา การศึกษาวิจัยโครงการประเมินผลการฝึกอบรม ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 เปน็ การศกึ ษาวิจัย แบบผสมผสาน ประกอบด้วย การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากข้าราชการท่ีผ่านการฝึกอบรม และผู้บังคับบัญชาของข้าราชการที่ผ่านการฝึก อบรม และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (Indepth interview) จากผู้ผ่านการฝึกอบรม และผู้บังคับบัญชาของผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรของวิทยาลัยการปกครอง จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นท่ี 248 - 250 และหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง รนุ่ ที่ 50 ทำการประเมินผลภายหลังการฝึกอบรมใน 2 มิติ คือ มิติที่ 1 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทไ่ี ด้รับจากการฝกึ อบรมไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน ประเมินผลจากข้าราชการท่ีผ่านการฝึกอบรม โดยตรง และมิติท่ี 2 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปฏิบัติตน การปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลัง ผา่ นการฝึกอบรม ประเมินผลจากผู้บังคับบัญชาของข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรม มีขอบเขตและวิธีการศึกษา ดงั ต่อไปน้ี 1. การวิจยั เชิงปรมิ าณ 1.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากร คือ ข้าราชการผู้ผ่านการฝึกอบรม และผู้บังคับบัญชาของข้าราชการท่ีผ่านการฝึก อบรมหลกั สูตรการฝึกอบรมของวิทยาลยั การปกครอง 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรปลัดอำเภอ รุน่ ท่ี 248 - 250 ประกอบด้วย ข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรม จำนวน 220 คน และผู้บังคับบัญชา จำนวน 220 คน รวมท้ังสิ้น 440 คน และหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง รุ่นท่ี 50 ประกอบด้วยข้าราชการท่ีผ่านการฝึก อบรม จำนวน 96 คน และผูบ้ งั คับบญั ชา จำนวน 96 คน รวมทงั้ สิน้ 192 คน กลุ่มตัวอย่างท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังนี้ ใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่างและจำนวนประชากรท้ังหมด เป็นขนาดตัวอย่าง โดยจัดส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ไปยังข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมและผู้บังคับบัญชา ของขา้ ราชการท่ผี ่านการฝกึ อบรมทุกคน ตามบญั ชรี ายชื่อผู้ทผ่ี ่านการฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตร 1.2 เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการศึกษา เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวมรวบข้อมูล คือ แบบสอบถาม (รายละเอียดปรากฏตามภาคผนวก) โดยในแตล่ ะหลักสตู รประกอบด้วยแบบสอบถาม จำนวน 2 ชดุ คือ 1.2.1 ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามที่ใช้ประกอบการประเมินผลการฝึกอบรมในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ปฏิบัติงาน โดยประเมินผล จากข้าราชการทผี่ า่ นการฝึกอบรมโดยตรง ประกอบด้วย 3 สว่ น ได้แก่ หน้า | 37

1) ส่วนท่ี 1 ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ เพศ อายุ อายุราชการ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง ระดับ ของตำแหน่ง และรุ่นที่ผา่ นการฝกึ อบรม 2) ส่วนที่ 2 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจาก การฝึกอบรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน เป็นข้อคำถามท่ีวัดระดับคะแนนความเห็นการนำไปใช้ในการปฏิบัติงานแบบ ลเิ คิรท์ สเกล (Likert scale) 5 ระดบั คะแนนความเห็น ดงั นี้ ระดบั ความเห็นการนำไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน คะแนนท่ไี ด้ นำไปใช้มากท่ีสุด 5 นำไปใช้มาก 4 นำไปใชป้ านกลาง 3 นำไปใช้น้อย 2 นำไปใช้นอ้ ยทสี่ ุด 1 หลังจากนนั้ จะนำคะแนนทไ่ี ด้ในแตล่ ะขอ้ คำถามมาคำนวณหาค่าเฉลีย่ เพอื่ ปรับเป็นระดับ ความเห็นในการนำไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงานใน 5 ระดบั ความเห็น ดงั น้ี คะแนนเฉลยี่ ท่ีได้ ระดับความเหน็ การนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน 1.00 - 1.80 นำไปใช้นอ้ ยท่สี ุด 1.81 - 2.61 นำไปใช้นอ้ ย 2.62 - 3.42 นำไปใช้ปานกลาง 3.43 - 4.23 นำไปใช้มาก 4.24 - 5.00 นำไปใช้มากที่สดุ 3) ส่วนที่ 3 ปัญหา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะเกยี่ วกบั การจดั อบรมหลักสูตรของวทิ ยาลัย การปกครอง ซึ่งจัดทำเป็นข้อคำถามปลายเปิด (Open-ended) ประกอบด้วย ด้านหลักสูตร ด้านกระบวนการ ฝึกอบรม ด้านวิทยากร และด้านอน่ื ๆ 1.2.2 ชุดท่ี 2 เป็นแบบสอบถามท่ีใช้ประกอบการประเมินผลการฝึกอบรมในการปรับเปล่ียน พฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงานภายหลังผ่านการฝึกอบรม โดยประเมินผล จากผูบ้ ังคบั บญั ชาของข้าราชการทผ่ี ่านการฝึกอบรม ประกอบด้วย 3 สว่ น ไดแ้ ก่ 1) ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ เพศ อายุ อายุราชการ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง ระดับ ของตำแหน่ง รุ่นที่ผู้ใต้บังคับบัญชาผ่านการฝึกอบรมและการเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เข้ารับการฝึกอบรมก่อน หรือหลงั การฝึกอบรม หนา้ | 38

2) ส่วนที่ 2 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เป็นข้อคำถามที่วัด ระดับคะแนนความเห็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมแบบลิเคิร์ทสเกล (Likert scale) 5 ระดบั คะแนนความเหน็ ดังนี้ ระดบั ความเหน็ การปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรม คะแนนที่ได้ ดขี ึน้ อยา่ งมาก 5 ดขี นึ้ 4 เหมือนเดิม 3 ควรปรับปรุง 2 ควรปรับปรงุ อยา่ งยิ่ง 1 หลังจากน้ันจะนำคะแนนที่ได้ในแตล่ ะข้อคำถามมาคำนวณหาค่าเฉลย่ี เพ่อื ปรบั เปน็ ระดับ ความเหน็ การปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมของผทู้ ่ีผา่ นการฝึกอบรมใน 5 ระดบั ความเหน็ ดังน้ี คะแนนเฉล่ียทไี่ ด้ ระดับความเห็นการปรบั เปล่ียนพฤติกรรม 1.00 - 1.80 ควรปรับปรุงอย่างยง่ิ 1.81 - 2.61 ควรปรับปรุง 2.62 - 3.42 เหมือนเดิม 3.43 - 4.23 ดขี ึน้ 4.24 - 5.00 ดขี น้ึ อยา่ งมาก 3) ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการฝึกอบรมของวิทยาลัยการปกครอง ซึ่งจัดทำเป็น ข้อคำถามปลายเปิด (Open-ended) 1.3 การวิเคราะหข์ ้อมลู การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป โดยใช้สถิติเชิง พรรณนา (Descriptive Statistics) ในการอธิบายลักษณะท่ัวไปของข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน เสอนผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ในลักษณะการบรรยายประกอบตาราง หน้า | 39

2. การวิจยั เชงิ คุณภาพ 2.1 กลุ่มตัวอยา่ ง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศกึ ษาวิจัยคร้ังน้ี เป็นขา้ ราชการที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสตู รของวิทยาลัย การปกครองในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการท่ีผ่านการฝึกอบรม ใช้การสุ่ม ตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling) วิธีการสุ่มตามวัตถุประสงค์ (Purposive sampling) ซ่ึงคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างภายในเง่ือนไข คือ ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาทั้งก่อนและหลังการฝึกอบรม เพอ่ื ประเมินผลความเปลยี่ นแปลงของผู้ผา่ นการฝึกอบรม โดยกำหนดขนาดตวั อยา่ งดงั นี้ 1) หลักสตู รปลัดอำเภอ จำนวน 3 รนุ่ คอื รุ่นที่ 248 - 250 เก็บข้อมลู จากข้าราชการท่ีผ่านการฝึก อบรมและผู้บงั คบั บญั ชาของข้าราชการที่ผา่ นการฝึกอบรม รวมทง้ั สิน้ 12 คน 2) หลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง จำนวน 1 รุ่น คือ รุ่นที่ 50 เก็บข้อมูลจาก ข้าราชการทผ่ี า่ นการฝึกอบรมและผู้บังคับบญั ชาของข้าราชการท่ผี า่ นการฝึกอบรม รวมทง้ั สิน้ 4 คน รายช่ือผู้ให้สมั ภาษณ์ ข้าราชการผผู้ ่านการฝกึ อบรม 1. นายสริ วิชญ์ ทองศรีนุช ตำแหนง่ ปลดั อำเภอ อำเภอเกาะช้าง จังหวดั ตราด 2. นายทรงวิทย์ อินไชยยา ตำแหน่ง เจา้ พนักงานปกครอง ทีท่ ำการปกครองจังหวดั บึงกาฬ 3. นางสาวธญั ญารัตน์ เหล่าบุตรศรี ตำแหน่ง ปลดั อำเภอ อำเภอหวา้ นใหญ่ จงั หวดั มุกดาหาร 4. นางสาวอมรรตั น์ จิรนนทว์ งศ์ ตำแหน่ง นิตกิ ร กองการเจา้ หน้าที่ กรมการปกครอง 5. นายกติ ติพงศ์ วงคส์ วัสด์ิ ตำแหนง่ ปลดั อำเภอ อำเภอบา้ นลาด จังหวัดเพชรบรุ ี 6. นายจรูญวิทย์ ภกั ภิรมย์ ตำแหน่ง ปลัดอำเภอ อำเภอกนั ตงั จังหวดั ตรงั 7. นางสาวนันทิยา ฟอ้ งเสยี ง ตำแหน่ง ปลัดอำเภอ อำเภอกุดชุม จงั หวดั ยโสธร 8. นายประเสรฐิ ศกั ดิ์ ทองดุลย์ ตำแหน่ง ปลดั อำเภอ อำเภอเมืองอทุ ยั ธานี จงั หวัดอทุ ยั ธานี 1. นายฉัตรชยั ทองหลี ผู้บงั คบั บัญชาของผู้ผา่ นการฝกึ อบรม 2. นายชยั ณรงค์ สุระดะนัย ตำแหน่ง นายอำเภอเกาะช้าง 3. นายสมศักด์ิ บุญจนั ทร์ ตำแหน่ง ป้องกันจงั หวัดบงึ กาฬ 4. นายธนณัฏฐ์ นวไพบลู ย์ ตำแหน่ง นายอำเภอหวา้ นใหญ่ 5. นายไพศาล ช่อผกา ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการส่วนงานวินัย กองการเจ้าหน้าท่ี 6. นายจักรพงษ์ รชั นกี ุล ตำแหน่ง นายอำเภอบ้านลาด 7. นายดสุ ิต สุทธปิ ระภา ตำแหน่ง นายอำเภอกันตัง ตำแหน่ง ปลดั อำเภอ หน.กง.บรหิ ารงานปกครอง 8. นายศภุ โชค วนิ ยั พาณชิ อำเภอกดุ ชมุ จังหวดั ยโสธร ตำแหนง่ ปลดั อำเภอ หน.กง.บรหิ ารงานปกครอง หนา้ | 40 อำเภอเมือง จงั หวัดอุทยั ธานี

2.2 เครื่องมือทีใ่ ช้ในการศกึ ษา โดยใช้แบบสัมภาษณ์ก่ึงมโี ครงสรา้ งประกอบดว้ ยขอ้ คำถามปลายเปดิ ทง้ั 2 หลักสตู ร ดังนี้ 1.1 แบบสัมภาษณ์ สำหรับข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ และหลักสูตร สืบสวนสอบสวนพนกั งานฝ่ายปกครอง จำนวน 5 คำถาม ตามกรอบแนวคดิ ในการศกึ ษาวิจยั ดังน้ี 1) หลงั ผ่านการฝึกอบรม ท่านได้รบั องค์ความรู้อะไรบา้ ง 2) หลังผา่ นการฝึกอบรม ทา่ นไดน้ ำหลกั สมรรถนะไปปฏิบัติงานดขี ึ้นหรอื ไม่ อยา่ งไร 3) หลังผ่านการฝกึ อบรม ทา่ นได้นำแนวคดิ และวิสยั ทศั น์ไปปฏบิ ัตงิ านดขี น้ึ หรือไม่ อยา่ งไร 4) หลังผ่านการฝึกอบรม ทา่ นมีการปรบั เปล่ียนทัศนคตติ ่อตำแหนง่ หน้าท่ีอยา่ งไร 5) ทา่ นมปี ัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกยี่ วกบั การจดั อบรมหรือไม่ อย่างไร 1.2 แบบสัมภาษณ์เชิงลึก สำหรับผู้บังคับบัญชาของผู้ท่ีผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ และหลักสตู รสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง จำนวน 4 คำถาม ตามกรอบแนวคิดในการศึกษาวิจัย ดังนี้ 1) ภายหลังการฝึกอบรมผู้ใตบ้ งั คบั บัญชาของท่านมกี ารปรับเปล่ียนพฤติกรรม ในการปฏบิ ตั ติ นหรือไม่ อยา่ งไร 2) ภายหลังการฝึกอบรมผใู้ ต้บงั คบั บัญชาของทา่ นมีการปรับเปลยี่ นพฤติกรรม ในการปฏิบัตงิ านหรอื ไม่ อย่างไร 3) ภายหลังการฝึกอบรมผู้ใต้บงั คับบัญชาของท่านมีการปรับเปลยี่ นพฤติกรรม ทางดา้ นหน่วยงาน (การสรา้ งภาพลักษณท์ ี่ดีใหก้ ับองค์กร) หรอื ไม่ อยา่ งไร 4) ทา่ นมขี ้อเสนอแนะเกีย่ วกับการฝึกอบรมของวิทยาลยั การปกครองหรือไม่ อย่างไร 2.3 การวเิ คราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้กรอบแนวคิดทฤษฎีระบบ (Systems theory) คือ ทำการประเมินผลผลิต ทไ่ี ดจ้ ากการฝึกอบรม ภายหลงั การฝึกอบรมใน 2 มิติ คือ มติ ิที่ 1 ประเมนิ ผลจากขา้ ราชการทีผ่ ่านการฝึกอบรม โดยตรง และ มิติที่ 2 ประเมินผลจากผู้บังคับบัญชาของข้าราชการท่ีผ่านการฝึกอบรม ท้ังน้ี จะทำการติดตาม และประเมนิ ผล 2 ดา้ น คือ 1) การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ ในการปฏิบตั งิ าน ประเมนิ ผลจากข้าราชการทผ่ี า่ นการฝกึ อบรมโดยตรง 2) การปรับเปลีย่ นพฤติกรรมในการปฏิบัตติ น การปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลังผ่าน การฝึกอบรม ประเมินผลจากผ้บู ังคบั บัญชาของข้าราชการทผ่ี ่านการฝึกอบรม หน้า | 41

บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล การศึกษาวิจัยโครงการประเมินผลการฝึกอบรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เป็นการติดตาม ประเมินผลการฝึกอบรมของวิทยาลัยการปกครอง 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นท่ี 248 - 250 และหลักสตู รสบื สวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง ร่นุ ท่ี 50 ทำการประเมนิ ผลภายหลังการฝึกอบรมใน 2 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 การนำความรู้ ทักษะ สมรรถนะ ทัศนคติ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ ในการปฏบิ ตั งิ าน ประเมินผลจากข้าราชการที่ผา่ นการฝึกอบรมโดยตรง และมิติที่ 2 การปรบั เปลีย่ นพฤติกรรม ในการปฏิบัติตน การปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลังผ่านการฝึกอบรม ประเมินผลจากผู้บังคับบัญชา ของขา้ ราชการทผ่ี า่ นการฝึกอบรม สามารถอธิบายผลการศึกษาวิจัยไดด้ งั ตอ่ ไปนี้ ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม 1. หลกั สูตรปลดั อำเภอ ร่นุ ท่ี 248 - 250 ผลการศึกษาวิจัยโครงการประเมินผลการฝึกอบรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 หลักสูตร ปลัดอำเภอ รนุ่ ท่ี 248 - 250 สามารถจำแนกไดต้ ามมติ ขิ องการประเมินผล ดงั ต่อไปน้ี 1.1 มิติที่ 1 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม หลกั สูตรปลัดอำเภอไปใชใ้ นการปฏิบัติงาน การประเมินผลในมิติที่ 1 นี้ใช้วิธีการประเมินผลจากข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร ปลดั อำเภอ รนุ่ ที่ 248 - 250 ปรากฏผลดงั น้ี 1.1.1 ข้อมูลทั่วไป กลุม่ ตวั อย่างทต่ี อบแบบสอบถาม จำนวน 134 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 60.9 เปน็ เพศชาย มากที่สุด จำนวน 86 คน คิดเปน็ ร้อยละ 64.2 และเป็นเพศหญงิ จำนวน 48 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 35.8 มีอายุ 26-35 ปี มากที่สุด จำนวน 89 คน คิดเป็นร้อยละ 66.4 รองลงมามีอายุ 36-45 ปี จำนวน 33 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 24.6 มีอายุตำ่ กว่า 26 ปี จำนวน 10 คน คิดเปน็ ร้อยละ 7.5 และมีอายุมากกว่า 46 ปีขึ้นไป จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 1.5 ตามลำดับ และผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดมีอายุราชการอยู่ ระหวา่ ง 1-10 ปี คิดเป็นร้อยละ 100 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มากที่สุด จำนวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 77.6 และสำเร็จ การศกึ ษาระดับปริญญาโท จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 22.4 ปฏิบัติงานในตำแหน่งปลัดอำเภอ มากที่สุด จำนวน 127 คน คิดเป็นร้อยละ 94.8 รองลงมา ปฏิบัติงานในตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครอง จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 3.7 และปฏิบัติงานในตำแหน่งนิติกร จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 1.5 อยู่ในตำแหน่งระดับปฏิบัติการ มากที่สุด จำนวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 99.3 รองลงมา คือ ระดับชำนาญการ จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.7 หนา้ | 42

ผ่านการฝกึ อบรมหลักสตู รปลัดอำเภอ รนุ่ ที่ 250 มากทสี่ ุด จำนวน 68 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 50.7 รองลงมารุ่นที่ 249 จำนวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 25.4 และรุ่นที่ 248 จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 23.9 ตามลำดับ รายละเอยี ดปรากฏตามตารางท่ี 4-1 ตารางท่ี 4-1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามท่ีผา่ นการฝึกอบรมหลกั สตู รปลดั อำเภอ รนุ่ ท่ี 248 - 250 1. เพศ ขอ้ มูลทั่วไป ความถ่ี (คน) ร้อยละ 2. อายุ ชาย 86 64.2 3. อายุราชการ หญิง 48 35.8 4. ระดบั การศึกษา ตำ่ กว่า 26 ปี 10 7.5 5. ตำแหน่ง 26 - 35 ปี 89 66.4 36 - 45 ปี 33 24.6 6. ระดับ 46 ปขี นึ้ ไป 2 1.5 7. ร่นุ ท่เี ข้ารบั การฝกึ อบรม 1 - 10 ปี 134 100 ปรญิ ญาตรี 104 77.6 ปริญญาโท 30 22.4 ปลัดอำเภอ 127 94.8 เจ้าพนกั งานปกครอง 5 3.7 นิติกร 2 1.5 ปฏบิ ตั กิ าร 133 99.3 ชำนาญการ 1 0.7 รนุ่ ท่ี 248 32 23.9 รุ่นท่ี 249 34 25.4 ร่นุ ท่ี 250 68 50.7 หนา้ | 43

แผนภมู ทิ ี่ 1 กราฟแสดงขอ้ มลู ทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถามทีผ่ ่านการฝึกอบรมหลกั สูตรปลดั อำเภอ รุ่นท่ี 248 - 250 140 134 133 120 127 100 68 104 32 34 86 89 21 80 60 48 33 30 40 5 20 10 2 0 1.1.2 ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม หลักสูตรปลดั อำเภอไปใชใ้ นการปฏิบัตงิ าน ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตร ปลัดอำเภอไปใช้ในการปฏิบัติงานในภาพรวม ปรากฏตามตารางที่ 4-2 สามารถอธิบายผลการนำความรู้ ทักษะ ทศั นคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีไดร้ บั จากการฝึกอบรมไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน โดยจำแนกแต่ละด้านได้ดงั น้ี ตารางท่ี 4-2 ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณท์ ่ีได้รบั จากการฝึกอบรม หลักสตู รปลดั อำเภอในภาพรวมไปใช้ในการปฏิบตั ิงาน ภาพรวมของการนำความรู้ ระดบั การนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน ไปใช้ในการปฏิบัติงานแตล่ ะดา้ น มาก ปาน นอ้ ย ̅X S.D. การ 1. ความรู้ความเข้าใจในการเป็น ทีส่ ุด มาก กลาง น้อย ทส่ี ุด แปลผล ปลัดอำเภอของกรมการปกครอง 27.6 61.2 11.2 - - 4.16 0.60 มาก 2. ความรู้ความเขา้ ใจในการเปน็ ตวั แทนของรฐั บาลในพื้นท่ี 38.8 50.7 10.4 - - 4.28 0.64 มาก 68.8 29.9 1.5 - ท่ีสุด 3. ความรู้ความเขา้ ใจในการเปน็ ปลดั อำเภอทมี่ คี ุณธรรม - 4.67 0.50 มาก ทส่ี ดุ หนา้ | 44

ภาพรวมของการนำความรู้ ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน ไปใช้ในการปฏิบตั งิ านแตล่ ะดา้ น มาก ปาน น้อย ̅X S.D. การ 4. ความรูค้ วามเขา้ ใจในการเสรมิ ทสี่ ดุ มาก กลาง นอ้ ย ทีส่ ุด แปลผล สร้างภาวะผู้นำ 38.1 57.5 4.5 - - 4.33 0.56 มาก 5. การนำทักษะและความรู้ 50.7 44.8 4.5 - ที่สดุ ในการเรียนรเู้ ชงิ ปฏิบัติ 51.5 41.8 6.7 - - 4.46 0.58 มาก 6. การนำความรู้จากการศึกษา ท่สี ดุ ดูงานเกี่ยวกับงานในหนา้ ท่ี - 4.45 0.62 มาก ทีส่ ดุ แผนภูมทิ ี่ 2 กราฟแสดงผลการนำความรู้ท่ีไดร้ บั จากการฝกึ อบรมหลักสูตรปลดั อำเภอในแตล่ ะด้านไปใช้ ปฏบิ ตั ิงาน การศกึ ษาดงู าน การเปน็ ปลัดอาเภอของกรมการปกครอง 19% 10% การเปน็ ตวั แทนรฐั บาลในพืน้ ที่ 14% การเรียนรเู้ ชงิ ปฏิบตั ิ 18% การเปน็ ปลดั อาเภอทม่ี คี ุณธรรม 25% 1) ผลการนำความร้คู วามเข้าใจในการเป็นปลดั อำเภอของกรมการปกครองไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจ ในการเป็นปลัดอำเภอของกรมการปกครองไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย อยู่ระหว่าง 3.63-4.59 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงาน มากที่สุด ได้แก่ ปรัชญาของการเป็นข้าราชการที่ดีประโยชน์ของแผ่นดินและบทบาทหน้าที่ จิตสำนึกของ การเป็นข้าราชการที่มีคุณธรรม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.59 รองลงมาได้แก่ ความรู้ ทักษะ หน้า | 45

สมรรถนะที่จำเป็นต่อการปฏบิ ัติราชการ มีค่าเฉลี่ยเทา่ กับ 4.53 ความรู้และทักษะเพื่อการดำรงตนอย่างสมดุล ในศตวรรษที่ 21 มคี ่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 และการรกั ษาความสงบเรียบร้อยในหน้าท่ีของฝ่ายปกครอง มีค่าเฉล่ีย เท่ากับ 4.31 รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 4-3 ตารางท่ี 4-3 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตร ปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในการเป็นปลัดอำเภอของกรมการปกครองไปใช้ใน การปฏิบตั งิ าน” ขอบเขตวิชาการเปน็ ปลัดอำเภอ ระดบั การนำไปใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน ของกรมการปกครอง มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 1. ปรัชญาของการเปน็ ข้าราชการท่ดี ี ทีส่ ดุ มาก กลาง นอ้ ย ท่สี ุด แปลผล ประโยชน์ของแผน่ ดินและบทบาท หนา้ ท่ี จติ สำนกึ ของการเป็น 59.0 41.0 - - - 4.59 0.49 มาก ขา้ ราชการทมี่ คี ุณธรรม ท่สี ุด 2. ความรู้ ทักษะ สมรรถนะที่จำเป็น 54.5 44.0 1.5 - - 4.53 0.53 มาก ตอ่ การปฏบิ ัติราชการ ที่สุด 3. ความรูแ้ ละทักษะเพื่อการดำรงตน 41.8 50.7 7.5 - - 4.34 0.61 มาก อย่างสมดุลในศตวรรษที่ 21 ท่สี ุด 4. การบูรณาการแผนพฒั นาในพื้นที่ 29.1 56.7 14.2 - - 4.15 0.64 มาก 5. งานการคลงั การงบประมาณ 14.9 47.8 35.1 2.2 - 3.75 0.73 มาก และงานพสั ดุ 38.8 47.8 13.4 - - 4.25 0.67 มาก 6. กฎหมายวิธปี ฏิบตั ริ าชการทาง ท่สี ุด ปกครอง ความรับผดิ ทางละเมิด 40.3 47.0 11.2 1.5 - 4.26 0.71 มาก ของเจ้าหนา้ ที่ และสิทธใิ นการ ที่สดุ เขา้ ถึงขอ้ มลู ขา่ วสารของราชการ 7. การบรหิ ารงานสารบรรณ 23.1 53.0 23.9 - - 3.99 0.68 มาก 41.0 51.5 6.7 0.7 - 4.33 0.63 มาก 8. การบันทกึ รายงานการประชมุ 9. งานดา้ นการปกครองท้องท่ี ทสี่ ุด หนา้ | 46

ขอบเขตวิชาการเปน็ ปลัดอำเภอ ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน ของกรมการปกครอง มาก ปาน น้อย ̅X S.D. การ ท่สี ดุ มาก กลาง นอ้ ย ท่ีสุด แปลผล 10. งานดา้ นการทะเบียนราษฎร 32.8 46.3 18.7 2.2 - 4.10 0.77 มาก ทะเบยี นท่วั ไปทะเบียนบัตร ประจำตัวประชาชนและกฎหมาย ว่าดว้ ยสัญชาติ 11. การอำนวยความเป็นธรรม 40.3 42.5 16.4 0.7 - 4.22 0.74 มาก 12. การรักษาความสงบเรียบรอ้ ย 44.0 43.3 11.9 0.7 - 4.31 0.70 มาก ในหนา้ ทข่ี องฝา่ ยปกครอง ทสี่ ุด 13. การสืบสวนสอบสวนคดอี าญา 27.6 50.0 18.7 3.0 0.7 4.01 0.80 มาก ของพนกั งานฝ่ายปกครอง 14. งานกองอาสารักษาดินแดน (อส.) 39.6 42.5 13.4 4.5 - 4.17 0.82 มาก 15. งานกจิ การความมน่ั คงภายใน 29.1 46.3 21.6 3.0 - 4.01 0.79 มาก 16. งานดา้ นการขา่ ว 27.6 46.3 23.9 2.2 - 3.99 0.78 มาก 17. การปฏบิ ตั ิงานดา้ นการส่อื สาร 23.9 42.5 29.9 3.7 - 3.87 0.82 มาก กรมการปกครอง 18. นติ ิวทิ ยาศาสตรท์ เ่ี กีย่ วขอ้ ง 13.4 47.0 31.3 6.0 2.2 3.63 0.87 มาก กับฝ่ายปกครอง 19. การขบั เคลื่อนการดำเนนิ งาน 32.1 51.5 16.4 - - 4.16 0.68 มาก ของคณะกรรมการหม่บู า้ น (กม.) 20. ยุทธวธิ ีการตรวจคน้ 25.1 34.3 23.1 5.2 2.2 3.95 0.99 มาก 2) ผลการนำความรคู้ วามเขา้ ใจในการเป็นตวั แทนของรัฐบาลในพน้ื ที่ไปใช้ในการปฏบิ ตั งิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจ ในการเป็นตัวแทนของรัฐบาลในพ้ืนที่ไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน” อย่ใู นระดับมากถงึ มากทส่ี ุด มคี า่ เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.60-4.64 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผา่ นการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบตั ิงานมากที่สุด ได้แก่ สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.64 รองลงมา ได้แก่ การขับ เคลื่อนนโยบายการปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 และการพัฒนาชนบทเชิงพื้นท่ี ประยุกตต์ ามแนวพระราชดำริ มีค่าเฉล่ียเทา่ กบั 4.48 รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 4-4 หนา้ | 47

ตารางที่ 4-4 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ไี ดร้ บั จากการฝกึ อบรม หลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในการเป็นตัวแทนของรัฐบาล ในพ้นื ที่ไปใช้ในการปฏิบตั ิงาน” ขอบเขตวิชา ระดบั การนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน การเป็นตัวแทนของรัฐบาลในพ้นื ที่ มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ ทีส่ ุด มาก กลาง นอ้ ย ที่สดุ แปลผล 1. สถาบันพระมหากษัตรยิ ก์ ับ 67.2 29.9 3.0 - - 4.64 0.54 มาก ประเทศไทย ทีส่ ุด 2. การพัฒนาชนบทเชงิ พื้นที่ประยกุ ต์ 53.7 40.3 6.0 - - 4.48 0.61 มาก ตามแนวพระราชดำริ ทส่ี ดุ 3. การขับเคล่ือนนโยบายการปกป้อง 60.4 35.1 4.5 - - 4.56 0.58 มาก เทดิ ทูนสถาบนั หลกั ของชาติ ท่สี ดุ 4. การปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา 45.5 41.8 12.7 - - 4.33 0.69 มาก ยาเสพติด ที่สดุ 5. ความสัมพันธ์กับประเทศ 20.9 37.3 27.6 9.0 5.2 3.60 1.07 มาก เพื่อนบา้ น 6. การกำกบั ดูแลองคก์ รปกครอง 38.1 40.3 18.7 3.0 - 4.13 0.82 มาก ส่วนทอ้ งถ่นิ 7. การบรหิ ารจดั การภยั พบิ ัติ 40.3 39.6 17.9 2.2 - 4.18 0.80 มาก ในพ้นื ที่ 8. การขบั เคลื่อนงานสภากาชาดไทย 26.1 42.5 26.9 4.5 - 3.90 0.84 มาก 9. ศนู ย์ราชการสะดวก 30.6 49.3 17.2 3.0 - 4.07 0.77 มาก 10. การจดั งานพระราชพธิ ี รัฐพิธี 53.7 30.6 14.2 1.5 - 4.37 0.78 มาก และงานพิธตี า่ งๆ ทสี่ ุด 3) ผลการนำความรู้ความเขา้ ใจในการเป็นปลัดอำเภอท่ีมคี ณุ ธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจใน การเป็นปลดั อำเภอท่ีมีคุณธรรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยูใ่ นระดบั มากทส่ี ุด มีค่าเฉลีย่ อยูร่ ะหว่าง 4.63-4.64 ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงานมากที่สุด ได้แก่ คุณธรรมและจริยธรรมของข้าราชการ มีค่า เฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.64 รองลงมาได้แก่ การบริหารราชการตามหลักธรรมาภิบาล มีค่าเฉล่ีย เทา่ กบั 4.63 รายละเอยี ดดงั ตารางท่ี 4-5 หน้า | 48

ตารางที่ 4-5 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการฝึกอบรม หลักสตู รปลดั อำเภอ “ดา้ นการนำความรู้ความเข้าใจในการเปน็ ปลัดอำเภอท่ีมีคุณธรรมไปใช้ ในการปฏิบัติงาน ขอบเขตวชิ า ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน การเป็นปลัดอำเภอท่มี ีคณุ ธรรม มาก ปาน น้อย X̅ S.D. การ 1. คุณธรรมและจริยธรรมของ ท่ีสุด มาก กลาง นอ้ ย ท่ีสุด แปลผล ขา้ ราชการ 67.9 28.4 3.7 - - 4.64 0.55 มาก 2. การบรหิ ารราชการตามหลัก 64.9 32.8 2.2 - ท่สี ดุ ธรรมาภบิ าล - 4.63 0.53 มาก ทีส่ ุด 4) ผลการนำความร้คู วามเขา้ ใจในการเสริมสร้างภาวะผนู้ ำไปใชใ้ นการปฏิบตั งิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจใน การเสริมสร้างภาวะผู้นำไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.88-4.57 หากพิจารณาเป็นรายวิชาพบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงานมากที่สุด ได้แก่ บุคลิกภาพ และการสมาคม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.57 รองลงมาได้แก่ หลักการและศิลปะการพูด ในที่ชุมชน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 และการวิเคราะห์ตนเอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 รายละเอียดดังตาราง ที่ 4-6 ตารางท่ี 4-6 การนำความรู้ ทกั ษะ ทศั นคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝกึ อบรมหลักสูตร ปลดั อำเภอ “ดา้ นการนำความรู้ความเขา้ ใจในการเสริมสร้างภาวะผูน้ ำไปใช้ในการปฏิบตั ิงาน” ขอบเขตวชิ า ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน การเสริมสร้างภาวะผู้นำ มาก ปาน น้อย X̅ S.D. การ 1. บุคลกิ ภาพและการสมาคม ท่ีสดุ มาก กลาง น้อย ทสี่ ุด แปลผล 2. การวเิ คราะห์ตนเอง 59.7 38.1 2.2 - - 4.57 0.54 มาก ที่สุด 3. หลกั การและศลิ ปะการพดู ในทชี่ มุ ชน 50.7 44.8 4.5 - - 4.46 0.58 มาก ท่ีสดุ 56.0 38.8 4.5 0.7 - 4.50 0.62 มาก ทส่ี ดุ หน้า | 49

ขอบเขตวชิ า ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ตั งิ าน การเสริมสรา้ งภาวะผู้นำ มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 4. การบริหารเชงิ กลยุทธ์ ทีส่ ดุ มาก กลาง นอ้ ย ทสี่ ดุ แปลผล 5. คอมพิวเตอร์สารสนเทศ 39.6 51.5 7.5 1.5 - 4.29 0.67 มาก ท่สี ุด 6. ภาษาองั กฤษสำหรับข้าราชการ กรมการปกครอง 41.0 44.0 14.9 - - 4.26 0.70 มาก ท่สี ุด 7. การฝกึ ยงิ ปนื พกระบบการต่อสู้ ปอ้ งกันตัวแบบ P.P.C 21.6 49.3 24.6 4.5 - 3.88 0.79 มาก 8. การฝึกยิงปนื พกทดสอบของ 36.6 43.3 18.7 1.5 - 4.15 0.77 มาก วทิ ยาลัยการปกครอง 33.6 46.3 17.2 3.0 - 4.10 0.78 มาก 9. กจิ กรรมเสริมสร้างคุณลกั ษณะ เฉพาะ“วถิ ีธญั บุรี” 46.3 42.5 11.2 - - 4.35 0.67 มาก ทส่ี ุด 5) ผลการนำทักษะและความรูใ้ นการเรียนร้เู ชงิ ปฏบิ ตั ิไปใช้ในการปฏิบตั งิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำทักษะและความรู้ ในการเรยี นร้เู ชิงปฏิบตั ไิ ปใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน” อยใู่ นระดับมากทีส่ ุด มคี ่าเฉลยี่ 4.46 รายละเอียดดงั ตารางท่ี 4-7 ตารางที่ 4-7 การนำความรู้ ทักษะ ทศั นคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทีไ่ ดร้ บั จากการฝกึ อบรมหลักสูตร ปลดั อำเภอ“ดา้ นการนำทกั ษะและความรู้ในการเรยี นรเู้ ชิงปฏิบัติไปใช้ในการปฏิบัติงาน” ขอบเขตวชิ า ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน การเรยี นรเู้ ชงิ ปฏบิ ตั ิ มาก ปาน น้อย ̅X S.D. การ การเรยี นรเู้ ชงิ ปฏบิ ตั ิ (Action ท่ีสดุ มาก กลาง นอ้ ย ที่สดุ แปลผล Learning) 50.7 44.8 4.5 - - 4.46 0.58 มาก ท่สี ุด หน้า | 50

6) การนำความรู้จากการศึกษาดูงานเกีย่ วกับงานในหนา้ ที่ไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ “ด้านการนำความรู้จากการศึกษา ดูงานเกี่ยวกับงานในหน้าที่ไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.45 รายละเอียดดังตาราง ที่ 4-8 ตารางท่ี 4-8 การนำความรู้ ทักษะ ทศั นคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทีไ่ ด้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตร ปลัดอำเภอ“ด้านการนำความรู้จากการศึกษาดูงานเกยี่ วกับงานในหนา้ ที่ไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน” ขอบเขตวิชา ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน การศึกษาดูงาน มาก ปาน นอ้ ย ̅X S.D. การ ท่ีสุด มาก กลาง น้อย ที่สดุ แปลผล ความร้จู ากการศกึ ษาดงู านเกี่ยวกบั งาน 51.5 41.8 6.7 - - 4.45 0.62 มาก ในหนา้ ท่ี ทส่ี ดุ 1.2 มิติที่ 2 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลงั ทผ่ี ่านการฝกึ อบรมหลกั สตู รปลดั อำเภอ การประเมินผลในมิตทิ ่ี 2 นี้ ใชว้ ิธกี ารประเมนิ ผลจากผู้บังคับบญั ชาของข้าราชการผูท้ ี่ผ่านการฝึก อบรมหลักสตู รปลัดอำเภอ รุ่นที่ 248 - 250 ปรากฏผลดงั น้ี 1.2.1 ข้อมลู ท่ัวไป กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม จำนวน 134 คน เป็นเพศชาย มากที่สุด จำนวน 115 คน คดิ เป็นร้อยละ 88.5 และเปน็ เพศหญงิ จำนวน 19 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 14.2 มีอายุ 51-60 ปี มากที่สุด จำนวน 84 คน คิดเป็นร้อยละ 62.7 รองลงมา คือ อายุ 41-50 ปี จำนวน 41 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 30.6 และอายุ 30-40 ปี จำนวน 9 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.7 ตามลำดบั มอี ายุราชการ 21-30 ปี มากท่สี ุด จำนวน 74 คน คดิ เป็นร้อยละ 55.2 รองลงมามีอายุราชการ 10-20 ปี จำนวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 25.4 และมีอายุราชการ 31-40 ปี จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 19.4 ตามลำดบั สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท มากที่สุด จำนวน 106 คน คิดเป็นร้อยละ 79.1 รองลงมา คือ ระดับปริญญาตรี จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 20.1 และระดับปริญญาเอก จำนวน 1 คน คิดเป็น ร้อยละ 0.7 ตามลำดับ หน้า | 51

ปฏิบัติงานในตำแหน่งปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงาน/ฝ่ายบริหารงานปกครอง มากที่สุด จำนวน 72 คน คิดเป็นร้อยละ 53.7 รองลงมาปฏิบัติงานในตำแหน่งนายอำเภอ จำนวน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 41.0 รองลงมาตำแหน่งปลัดจังหวัด จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 3.0 ตำแหน่งจ่าจังหวัด จำนวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 1.5 และตำแหน่งป้องกนั จังหวัด จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0.7 ตามลำดบั ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ มากที่สุด จำนวน 75 คน คิดเป็นร้อยละ 56.0 รองลงมา ตำแหน่งระดับอำนวยการสูง จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 29.1 และตำแหน่งระดับอำนวยการต้น จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 14.9 ตามลำดับ เป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 250 มากที่สุด จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 50.7 รองลงมารุ่นที่ 249 จำนวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 25.4 และรุ่นที่ 248 จำนวน 32 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 23.9 ตามลำดบั เป็นผู้บังคับบัญชาก่อนผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ารับการฝึกอบรม มากที่สุด จำนวน 91 คน คิดเป็น ร้อยละ 67.9 และเป็นผู้บังคับบัญชาหลังผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 43 คน คิดเป็น ร้อยละ 32.1 รายละเอยี ดดงั ตารางท่ี 4-9 ตารางท่ี 4-9 ข้อมลู ทั่วไปของผ้บู ังคบั บัญชาผู้ผา่ นการฝึกอบรมหลักสตู รปลดั อำเภอ รุ่นที่ 248 - 250 1. เพศ ข้อมูลท่ัวไป ความถี่ (คน) รอ้ ยละ 2. อายุ 3. อายรุ าชการ ชาย 115 85.8 4. การศึกษา หญงิ 19 14.2 5. ตำแหนง่ 30 - 40 ปี 9 6.7 41 - 50 ปี 41 30.6 51 - 60 ปี 84 62.7 10 - 20 ปี 34 25.4 21 - 30 ปี 74 55.2 31 - 40 ปี 26 19.4 ปรญิ ญาตรี 27 20.1 ปรญิ ญาโท 106 79.1 ปรญิ ญาเอก 1 0.7 ปลัดจงั หวัด 4 3.0 นายอำเภอ 55 41.0 จา่ จงั หวดั 2 1.5 ปอ้ งกันจงั หวัด 1 0.7 ปลดั อำเภอหัวหนา้ กลมุ่ งาน/ฝา่ ยบริหารงานปกครอง 72 53.7 หนา้ | 52

ขอ้ มูลท่ัวไป ความถ่ี (คน) ร้อยละ 6. ระดบั ตำแหนง่ อำนวยการสูง 39 29.1 อำนวยการต้น 20 14.9 ชำนาญการพิเศษ 75 56.0 รนุ่ ท่ี 248 32 23.9 ร่นุ ท่ี 249 34 25.4 รุน่ ท่ี 250 68 50.7 เป็นผู้บงั คบั บัญชาก่อนการฝึกอบรม 91 67.9 เป็นผู้บงั คบั บัญชาหลงั การฝึกอบรม 43 32.1 แผนภมู ิท่ี 3 กราฟแสดงข้อมูลทัว่ ไปของผู้บังคับบญั ชาผผู้ ่านการฝกึ อบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 248 - 250 1.2.2 ผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลงั ทผ่ี า่ นการฝกึ อบรมหลกั สตู รปลดั อำเภอ ผลการศึกษาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของข้าราชการผู้ท่ีผา่ นการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ ภาพรวมในแต่ละด้าน ปรากฏตามตารางที่ 4-10 สามารถอธิบายผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในแต่ละด้าน ไดด้ งั นี้ หนา้ | 53

ตารางที่ 4-10 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในภาพรวมของผทู้ ่ผี า่ นการฝกึ อบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 248 - 250 ระดับความเห็นของการปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม ภาพรวมของการปรบั เปลย่ี น ควร พฤติกรรมแต่ละดา้ น ดขี น้ึ เหมือน ควร ปรบั ปรุง ̅X S.D. การ 1. ดา้ นการปฏบิ ัตติ น 2. ดา้ นการปฏิบตั ิงาน อยา่ งมาก ดขี ้นึ เดมิ ปรับปรงุ อย่างยงิ่ แปลผล 3. ดา้ นหนว่ ยงาน 64.2 35.8 - - - 4.64 0.48 ดขี น้ึ 47.0 53.0 - - อย่างมาก 61.9 36.6 1.5 - - 4.47 0.50 ดขี นึ้ อย่างมาก - 4.60 0.52 ดีขน้ึ อย่างมาก แผนภูมิที่ 4 กราฟแสดงผลการปรบั เปลี่ยนพฤติกรรมแต่ละดา้ นของผ้ผู ่านการฝึกอบรมหลกั สตู รปลดั อำเภอ รุ่นที่ 248 - 250 ด้านหนว่ ยงาน 36% ด้านการปฏบิ ัติตน 37% ดา้ นการปฏิบัตงิ าน 27% 1) ดา้ นการปฏิบัตติ น กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้าน การปฏิบัติตน อยู่ในระดับดีขึ้นอย่างมากทุกรายการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.53-4.68 หากพิจารณาแต่ละ ประเด็นย่อย พบว่า การมีคุณธรรมและจริยธรรม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.68 รองลงมาได้แก่ หน้า | 54

การมีมนุษยสัมพันธ์และการสมาคม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 และความมีระเบียบวินัย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62 รายละเอียดดงั ตาราง ที่ 4-11 ตารางท่ี 4-11 การปรับเปล่ียนพฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน สามารถจำแนกรายละเอียดแต่ละประเด็นย่อย ได้ดังนี้ ระดับความเหน็ ของการปรบั เปลย่ี นพฤติกรรม ประเดน็ ยอ่ ยด้านการปฏิบตั ิตน ควร ดขี ึน้ เหมือน ควร ปรบั ปรงุ ̅X S.D. การ อยา่ งมาก ดขี ้นึ เดมิ ปรบั ปรุง อย่างยง่ิ แปลผล 1. ความเหมาะสมในการแตง่ กาย 58.2 41.8 - - - 4.58 0.46 ดขี น้ึ อยา่ งมาก 2. ความเหมาะสมในการวางตัว 61.2 38.8 - - - 4.61 0.48 ดขี น้ึ 3. ความมรี ะเบียบวินยั 61.9 38.1 - - อย่างมาก 4. สุขภาวะดา้ นอารมณ์ 58.2 38.1 3.0 0.7 - 4.62 0.48 ดขี นึ้ อยา่ งมาก 5. การมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ 65.7 34.3 - - และการสมาคม 67.9 32.1 - - - 4.53 0.63 ดีขนึ้ อย่างมาก 6. การมีคุณธรรมและจรยิ ธรรม - 4.66 0.47 ดขี ึ้น อย่างมาก - 4.68 0.46 ดขี ึ้น อยา่ งมาก 2) ดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน กลุ่มตัวอย่างท่ีตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเหน็ ตอ่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้าน การปฏิบัติงาน อยู่ในระดับดีขึ้นอย่างมากทุกรายการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.33-4.65 หากพิจารณาแต่ละ ประเด็นย่อย พบว่า การมีจิตสำนึกในการให้บริการที่ดี มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.65 รองลงมา ได้แก่ การสรา้ งความรว่ มแรงรว่ มใจและทีมงาน มีค่าเฉลีย่ เทา่ กับ 4.61 และการใช้เครื่องมือ คอมพวิ เตอร์ และ เทคโนโลยที ่ีทันสมยั มีคา่ เฉลย่ี เท่ากบั 4.56 รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 4-12 หน้า | 55

ตารางท่ี 4-12 การปรบั เปล่ียนพฤติกรรมดา้ นการปฏบิ ัตงิ าน สามารถจำแนกรายละเอียดแตล่ ะประเด็นยอ่ ย ไดด้ ังนี้ ระดบั ความเห็นของการปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม ประเดน็ ย่อยดา้ นการปฏิบัติงาน ควร ดขี นึ้ เหมอื น ควร ปรับปรุง X̅ S.D. การ อย่างมาก ดขี น้ึ เดิม ปรับปรงุ อยา่ งยงิ่ แปลผล 1. การปฏบิ ตั งิ านมีความถกู ต้อง 47.0 52.2 0.7 - - 4.45 0.58 ดีขึน้ อยา่ งมาก 2. การปฏิบัตงิ านมีความเทีย่ งตรง 51.5 48.5 - - ตามกำหนดเวลา 44.8 54.5 0.7 - - 4.51 0.50 ดีขน้ึ อยา่ งมาก 3. การแกไ้ ขปัญหา - 4.44 0.51 ดขี น้ึ 4. การวางแผน 38.8 59.0 2.2 - อย่างมาก 5. การตดั สินใจ 44.8 54.5 0.7 - - 4.37 0.52 ดีขึ้น อยา่ งมาก 6. การประสานงาน 56.0 43.3 0.7 - - 4.44 0.51 ดีขึ้น 7. การสื่อสารและสร้างแรงจูงใจ 45.5 54.5 - - อย่างมาก 8. การแสดงความคดิ เห็น 54.5 48.5 - - - 4.55 0.51 ดขี ึ้น ในท่ีชมุ ชน 58.2 39.6 2.2 - อย่างมาก 53.0 45.5 1.5 - 9. การใช้เครอื่ งมอื คอมพวิ เตอร์ - 4.46 0.50 ดขี ึ้น และเทคโนโลยีทท่ี นั สมยั อย่างมาก 10. การมคี วามคดิ รเิ ร่ิม - 4.51 0.50 ดีขน้ึ อยา่ งมาก 11. การคดิ เชงิ บูรณาการ 50.7 46.3 3.0 - - 4.56 0.54 ดขี น้ึ 12. การคดิ เชงิ วิเคราะห์ 48.5 47.8 3.7 - อย่างมาก 13. การคดิ สรา้ งสรรคน์ วตั กรรม 41.8 52.2 6.0 - - 4.51 0.53 ดขี ึ้น หรอื วิธีการทำงานใหม่ ๆ อย่างมาก - 4.48 0.55 ดีขึ้น อย่างมาก - 4.45 0.56 ดขี นึ้ อยา่ งมาก - 4.36 0.59 ดีขึน้ อยา่ งมาก หนา้ | 56

ระดบั ความเหน็ ของการปรับเปลีย่ นพฤติกรรม ประเดน็ ย่อยด้านการปฏิบัติงาน ควร ดขี น้ึ เหมือน ควร ปรบั ปรงุ X̅ S.D. การ อยา่ งมาก ดขี น้ึ เดมิ ปรับปรงุ อยา่ งยง่ิ แปลผล 14. การทำงานเชิงรุก 50.0 49.3 0.7 - - 4.49 0.51 ดขี นึ้ อยา่ งมาก 15. การมภี าวะความเป็นผู้นำ 49.3 47.0 3.7 - - 4.46 0.57 ดขี ึ้น 16. การมจี ิตสำนึกในการให้ 64.9 35.1 - - อยา่ งมาก บริการทีด่ ี 36.6 59.7 3.7 - 52.2 46.3 1.5 - - 4.65 0.47 ดขี น้ึ 17. การมีความเช่ียวชาญในงาน อยา่ งมาก อาชพี - 4.33 0.54 ดีขึ้น 18. การทำงานแบบมุ่งผลสมั ฤทธิ์ อยา่ งมาก 19. การสรา้ งความร่วมแรงรว่ มใจ 63.4 34.3 2.2 - - 4.51 0.53 ดีขึ้น และทีมงาน 41.8 52.2 6.0 - อย่างมาก 46.3 50.7 3.0 - 20. การทำงานเชิงยุทธศาสตร์ - 4.61 0.53 ดีขึ้น และมีวสิ ัยทัศน์ อย่างมาก 21. การตรวจสอบความถกู ต้อง - 4.36 0.59 ดีขน้ึ ของกระบวนการทำงาน อย่างมาก - 4.43 0.55 ดขี น้ึ อยา่ งมาก 3) ดา้ นหนว่ ยงาน กลุ่มตัวอย่างท่ีตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นต่อการปรับเปล่ียนพฤติกรรมในด้าน หน่วยงาน อยู่ในระดับดขี ึน้ อยา่ งมาก มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.45-4.57 หากพิจารณาแตล่ ะประเด็นยอ่ ย พบวา่ การเสริมสร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานให้ดีขึ้น มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.57 รองลงมาได้แก่ การเสริมสร้างหรือปรับปรุงภารกิจของหน่วยงานที่ยังบกพร่องอยู่ให้ดีขึ้น มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 รายละเอียด ดงั ตารางท่ี 4-13 หน้า | 57

ตารางที่ 4-13 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านหน่วยงาน สามารถจำแนกรายละเอียดแตล่ ะประเด็นย่อย ได้ดังนี้ ระดบั ความเหน็ ของการปรบั เปล่ยี นพฤติกรรม ประเด็นยอ่ ยดา้ นหน่วยงาน ควร 1. การเสรมิ สรา้ งหรือปรับปรุง ดขี น้ึ เหมอื น ควร ปรบั ปรุง ̅X S.D. การ ภารกจิ ของหนว่ ยงาน ที่ยังบกพรอ่ งอยู่ใหด้ ีขน้ึ อยา่ งมาก ดขี นึ้ เดิม ปรับปรุง อย่างยิ่ง แปลผล 2. การเสริมสรา้ งภาพลักษณ์ 49.3 46.3 4.5 - - 4.45 0.58 ดขี ึน้ ของหนว่ ยงานใหด้ ขี ึน้ อย่างมาก 58.2 40.3 1.5 - - 4.57 0.52 ดขี ึน้ อย่างมาก 1.3 ปญั หา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะการฝกึ อบรมหลกั สูตรปลัดอำเภอ รนุ่ ท่ี 248 - 250 สำหรับปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 248 - 250 ผลการศึกษามสี าระสำคญั สามารถสรปุ เป็นด้านตา่ งๆ ได้ดงั น้ี 1. ดา้ นหลกั สตู ร 1.1 ควรจัดทำเน้ือหาหลักสูตรให้มีความกระชบั ตรงประเดน็ เนอื่ งจากหลักสูตรปลัดอำเภอ มเี นื้อหามากแต่มีระยะเวลาในการฝึกอบรมนอ้ ย 1.2 ควรเพิ่มระยะเวลาการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของ ปลัดอำเภอ 1.3 ควรจดั หวั ข้อวิชาใหท้ ันสมัย สอดคล้องกบั สถานการณ์ในปัจจุบัน สามารถนำไปประยุกต์ ใช้ในการทำงานของปลัดอำเภอได้ 1.4 ควรเพิ่มเวลาการบรรยายในหัวข้อวิชาที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ ปลัดอำเภอ เช่น งานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน การสอบสวนคดีอาญาในหน้าที่ของพนักงานฝ่าย ปกครอง การอำนวยความเป็นธรรม ระเบียบงานสารบรรณ งานปกครอง นิติวิทยาศาสตร์ กฎหมายในความ รบั ผิดชอบของกรมการปกครอง การจดั ทำแผน การใชอ้ าวธุ และการต่อสู้ เป็นตน้ 1.5 ควรเพมิ่ หัวขอ้ วิชาทีส่ ามารถนำไปใชใ้ นการปฏิบัตงิ านในพื้นท่ี 1.6 ควรจัดเวลาการบรรยายแต่ละหัวข้อวิชาให้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชา เนื่องจากบางหัวข้อ วิชามเี นอ้ื หาจำนวนมากแตม่ ีเวลาการบรรยายน้อย และควรตัดหวั ขอ้ วิชาทีไ่ มจ่ ำเปน็ ออก 1.7 ควรเนน้ ประเด็นปญั หา อุปสรรคในการปฏิบัติงานจรงิ และแนะนำแนวทางแก้ไขหรือวิธี การจดั การกบั ปัญหาเพอ่ื นำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านได้จรงิ หน้า | 58

1.8 ควรลดการบรรยายและเพ่มิ การฝึกปฏิบัติใหม้ ากข้นึ โดยใหม้ ีการฝกึ ปฏบิ ตั ิในพื้นท่ีจริง 1.9 ระยะเวลาการฝกึ อบรมในแต่ละวันมากเกินไป ควรหยุดการฝึกอบรมในวันเสาร์-อาทิตย์ เพอื่ ใหผ้ ู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมได้ผ่อนคลายจากการฝกึ อบรม หรือจดั เป็นกิจกรรมภาคปฏิบัติ เชน่ ยิงปนื 1.10 บางหัวข้อวชิ ามีการบรรยายนอกเหนือจากเนือ้ หาในวิชา 1.11 ควรปรบั ปรุงหลักสูตรให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เน้นบทบาทหน้าท่ี รูปแบบใหม่ของข้าราชการฝ่ายปกครองที่ต้องขับเคลื่อนให้ทันต่อเหตุการณ์และตรงตามความต้องการของ ประชาชนโดยเฉพาะการเปน็ ผปู้ ระสานงานกบั ทุกภาคสว่ นในพื้นที่ 1.12 ควรเพิ่มเน้อื หาวชิ ากฎหมายให้ครอบคลุมการปฏิบตั ิงานในอำนาจหนา้ ที่ของปลัดอำเภอ 1.13 ควรมีวชิ าที่เก่ียวกับคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และสร้างทัศนคติใหเ้ ป็นข้าราชการมืออาชีพ 1.14 ควรเพมิ่ การฝกึ อบรมเกี่ยวกบั งานพระราชพิธีให้มากขึ้น โดยเฉพาะรปู แบบของกิจกรรม จิตอาสาพระราชทาน 2. ด้านกระบวนการฝึกอบรม 2.1 สถานที่ฝึกอบรมทรุดโทรม ลานฝึกปฏิบัติมีความคับแคบ ไม่เหมาะสมกับจำนวนผู้เข้า รับการฝึกอบรมซึ่งมจี ำนวนมาก ทำให้มปี ญั หาเวลาทำกจิ กรรม 2.2 โต๊ะและเก้าอไี้ ม่เหมาะสมกบั การจดบันทึก ทำกจิ กรรมหรือน่งั ฟงั บรรยายเป็นเวลานาน 2.3 ควรปรับปรุงอาคารสถานที่พัก ระบบน้ำประปา เครื่องปรับอากาศให้มีความสะอาดอยู่ ในสภาพพร้อมใช้งาน และจดั ทพี่ ักใหเ้ พียงพอกับผเู้ ข้ารับการอบรมโดยไม่แออัดจนเกินไป 2.4 สถานที่จอดรถมไี ม่เพียงพอ โดยเฉพาะชว่ งเวลาฝนตกและมีนำ้ ขัง 2.5 ควรปรับปรงุ อาหาร รวมถงึ รสชาติ ความหลากหลาย และความสะอาดถูกหลกั อนามยั 2.6 ควรจัดให้มสี ญั ญาณอินเตอรเ์ นต็ แบบไรส้ ายครอบคลมุ ทุกพื้นที่ 2.7 เจา้ หนา้ ทฝ่ี กึ อบรมมจี ำนวนนอ้ ยเมอ่ื เทียบกบั ผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรม 3. ดา้ นวิทยากร 3.1 วทิ ยากรบางท่านบรรยายไม่ครอบคลมุ เนือ้ หาวชิ า 3.2 ควรจัดหาวิทยากรที่รับราชการอยู่ในปัจจุบันและมีแนวความคิดที่ทันสมัยมาบรรยาย จะทำให้สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ในการปฏิบัติราชการได้สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน ซึ่งวิทยากรทีร่ บั ราชการมาแลว้ เป็นเวลาหลายปีจะมปี ระสบการณ์การปฏิบตั ริ าชการที่ไม่สอดคล้องกนั ทำให้ไม่ สามารถนำแนวคิดมาใช้ในการปฏิบตั ิราชการได้ 3.3 ควรเพิ่มวิทยากรด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและระบบปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอรท์ ีเ่ กี่ยวข้อง กับงานในอำนาจหน้าท่ีของปลัดอำเภอ 3.4 วิทยากรบางทา่ นเนน้ บรรยายมากเกนิ ไป ควรจดั ใหม้ ีการทำกจิ กรรมกลุ่มและมีกิจกรรม ทห่ี ลากหลายในแตล่ ะหวั ขอ้ วชิ า 3.5 ควรให้วิทยากรที่ปฏบิ ัติงานเกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชามาบรรยาย ไม่ควรให้ผู้แทนหรือบุคคล ท่ีไม่ได้ปฏิบัติงานน้ันๆ มาบรรยายแทน หน้า | 59

4. ดา้ นอ่ืนๆ 4.1 ควรให้ปลดั อำเภอแต่ละคนได้ปฏบิ ัติงานในหนา้ ท่ีระยะเวลาหนึง่ ก่อนเข้ารับการฝึกอบรม จะทำใหท้ ราบปัญหาในการปฏิบตั งิ านและนำมาสอบถามวิทยากรได้ 4.2 ควรเปลย่ี นสถานท่ศี ึกษาดงู าน ควรศกึ ษาดงู านสถานท่ีท่ีเป็นต้นแบบ นวัตกรรมทันสมัย เปน็ การปฏิบัตงิ านจริง สามารถนำมาปรับใช้และเปน็ แนวทางในการปฏบิ ัติงานได้จรงิ 4.3 ควรเพ่มิ ระยะเวลาศกึ ษาดูงานบางสถานท่ีทมี่ ีความสำคญั กับการนำไปใชป้ ฏิบตั ิงาน 4.4 ให้ผเู้ ข้ารับการอบรมเสนอและคัดเลือกสถานที่ศึกษาดงู าน เน่อื งจากที่ผ่านมาสถานท่ีพัก ในการศกึ ษาดูงานไมส่ ะอาด อากาศถ่ายเทไมส่ ะดวก 4.5 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (โควิด-19) สง่ ผลกระทบต่อ การฝึกอบรม ทำให้ระยะเวลาในการฝึกอบรมน้อยลงและไม่ได้ทำกิจกรรมบางประเภท เช่น กระโดดร่ม เนื่องจาก ต้องกักตัวอยแู่ ตใ่ นสถานทีฝ่ กึ อบรม 4.6 การฝกึ อบรมสามารถปรับเปล่ียนพฤติกรรมได้เลก็ น้อย ควรมีการฝกึ อบรมอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ขา้ ราชการเกิดการพัฒนาตนเองและส่งผลการตอ่ พฒั นางานในหน้าท่มี ากข้ึน 2. หลกั สตู รสบื สวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง รุน่ ท่ี 50 ผลการศึกษาวิจัยโครงการประเมินผลการฝึกอบรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 หลักสูตร สบื สวนสอบสวนพนกั งานฝ่ายปกครอง รุ่นที่ 50 จำแนกตามมิตขิ องการประเมินผลได้ดังต่อไปน้ี 2.1 มิติที่ 1 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม หลกั สตู รสบื สวนสอบสวนพนกั งานฝา่ ยปกครองไปใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน การประเมินผลในมิติที่ 1 นี้ ใช้วิธีการประเมินผลจากข้าราชการผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร สบื สวนสอบสวนพนักงานฝา่ ยปกครอง รุ่นที่ 50 ปรากฏผลดงั น้ี 2.1.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม จำนวน 58 คน คิดเป็นร้อยละ 60.41 เป็นเพศชายมากที่สุด จำนวน 41 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 70.7 เป็นเพศหญงิ จำนวน 17 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 29.3 มีอายุ 36-45 ปี มากที่สุด จำนวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 63.8 รองลงมา คือ อายุ 26-35 ปี จำนวน 16 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 27.6 และมอี ายุ 46 ปีขึ้นไป จำนวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.6 โดยมีอายุราชการ 1-10 ปี มากท่สี ุด จำนวน 45 คน คิดเปน็ ร้อยละ 77.6 รองลงมามีอายรุ าชการ 11-20 ปี จำนวน 10 คน คิดเป็น ร้อยละ 17.2 และมีอายรุ าชการ 21-30 ปี จำนวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.2 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท มากที่สุด จำนวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 58.6 และระดับ ปรญิ ญาตรี จำนวน 24 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 41.4 ตามลำดับ หนา้ | 60

ปฏิบัติงานในตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครอง มากที่สุด จำนวน 52 คน คิดเป็นร้อยละ 89.7 รองลงมา คอื ตำแหนง่ ปลดั อำเภอ จำนวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.9 และตำแหนง่ นติ ิกร จำนวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 3.4 ตามลำดับ ปฏิบัติงานอยู่ในระดับปฏิบัติการ มากที่สุด จำนวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 58.6 รองลงมา คือ ระดบั ชำนาญการ จำนวน 24 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 41.4 รายละเอียดตามตารางที่ 4-14 ดังน้ี ตารางที่ 4-14 ขอ้ มลู ท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามท่ีผา่ นการฝกึ อบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวน พนกั งานฝา่ ยปกครอง รุ่นที่ 50 1. เพศ ข้อมูลทั่วไป ความถ่ี (คน) ร้อยละ 2. อายุ ชาย 41 70.7 3. อายรุ าชการ หญงิ 17 29.3 26 - 35 ปี 16 27.6 4. การศึกษา 36 - 45 ปี 37 63.8 5. ตำแหน่ง 46 ปีข้ึนไป 5 8.6 1 - 10 ปี 45 77.6 6. ระดบั ตำแหน่ง 11 - 20 ปี 10 17.2 21 - 30 ปี 3 5.2 ปรญิ ญาตรี 24 41.4 ปรญิ ญาโท 34 58.6 ปลัดอำเภอ 4 6.9 เจ้าพนักงานปกครอง 52 89.7 นิตกิ ร 2 3.4 ปฏบิ ัตกิ าร 34 58.6 ชำนาญการ 24 41.4 หน้า | 61

แผนภูมิท่ี 5 กราฟแสดงข้อมูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามท่ีผ่านการฝึกอบรมหลักสตู รสบื สวนสอบสวน พนักงานฝา่ ยปกครอง รุ่นท่ี 50 60 53 39 38 46 50 36 40 30 16 13 12 18 20 2 10 5 7 1 1 3 0 2.1.2 ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม หลักสตู รสืบสวนสอบสวนพนกั งานฝ่ายปกครองไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม หลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครองไปใช้ในการปฏิบัติงานในภาพรวม ปรากฎตามตารางท่ี 4-15 สามารถอธิบายผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ ในการปฏิบตั งิ าน โดยจำแนกแตล่ ะด้านได้ดงั นี้ ตารางที่ 4-15 ผลการนำความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทีไ่ ดร้ บั จากการฝึกอบรม หลักสตู รสบื สวนสอบสวนพนกั งานฝ่ายปกครองในภาพรวมไปใชใ้ นการปฏิบัติงาน ภาพรวมของการนำความรู้ ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน ไปใชใ้ นการปฏิบัตงิ านแต่ละด้าน มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 1. ความรู้ความเข้าใจในวชิ า ท่ีสดุ มาก กลาง น้อย ทสี่ ดุ แปลผล พน้ื ฐาน 43.1 46.6 10.3 - - 4.32 0.65 มาก 2. ความร้คู วามเขา้ ใจในวชิ า 39.7 43.1 17.2 - ที่สดุ การสบื สวน - 4.22 0.72 มาก 3. ความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชา การฝึกทางยุทธวธิ ี 27.6 43.1 20.7 5.2 3.4 3.86 0.99 มาก หนา้ | 62

ภาพรวมของการนำความรู้ ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน ไปใช้ในการปฏบิ ตั งิ านแตล่ ะดา้ น มาก ปาน นอ้ ย ̅X S.D. การ 4. ความร้คู วามเข้าใจในวิชา ท่สี ดุ มาก กลาง น้อย ท่สี ดุ แปลผล การจบั กมุ ปราบปราม 32.8 43.1 17.2 6.9 - 4.01 0.88 มาก 5. ความรคู้ วามเขา้ ใจในวชิ า การสอบสวน 17.2 37.9 25.9 19.0 - 3.53 0.99 มาก 6. ความรู้ความเขา้ ใจในวิชาพิเศษ 53.4 41.4 5.2 - - 4.48 0.59 มาก 36.2 51.7 12.1 - ทส่ี ดุ 7. ความรคู้ วามเขา้ ใจวชิ าศกึ ษา 31.0 56.9 12.1 - ดูงาน - 4.24 0.65 มาก ทส่ี ุด 8. ความรู้ความเข้าใจในวชิ าเสรมิ - 4.18 0.63 มาก แผนภมู ิที่ 6 กราฟแสดงผลการนำความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากการฝกึ อบรมหลกั สตู รสืบสวนสอบสวนพนักงาน ฝา่ ยปกครองในแต่ละดา้ นไปใช้ปฏบิ ัตงิ าน วิชาเสริม วิชาพื้นฐาน 11% 15% วชิ าศึกษาดงู าน วิชาการสืบสวน 13% 14% วชิ าพิเศษ วชิ าการฝกึ ทางยุทธวิธี 19% 10% วิชาการสอบสวน วชิ าการจับกมุ 6% ปราบปราม 12% หน้า | 63

1) ผลการนำความรูค้ วามเข้าใจในวิชาพ้นื ฐานไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาพื้นฐานไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉล่ีย อยู่ระหว่าง 4.14-4.40 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงาน มากท่สี ดุ ไดแ้ ก่ อำนาจหนา้ ท่ีของพนักงานฝ่ายปกครองในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา มคี ่าเฉล่ียอยู่ในระดับ มากที่สุด เท่ากับ 4.40 รองลงมาได้แก่ นโยบายและบทบาทของพนักงานฝ่ายปกครองในการรักษาความสงบ เรียบร้อยและอำนวยความเป็นธรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 และหลักกฎหมายอาญาทั่วไป มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.36 รายละเอียดดงั ตารางที่ 4-16 ตารางที่ 4-16 ผลการนำความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณท์ ่ีไดร้ บั จากการฝึกอบรม หลักสตู รสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ดา้ นการนำความรู้ความเขา้ ใจ ในวชิ า พน้ื ฐานไปใชใ้ นการปฏิบัติงาน” ขอบเขตวชิ า ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน ความรคู้ วามเขา้ ใจในวชิ าพื้นฐาน มาก ปาน นอ้ ย ̅X S.D. การ 1. นโยบายและบทบาทของพนักงาน ท่สี ุด มาก กลาง น้อย ท่สี ดุ แปลผล ฝา่ ยปกครองในการรกั ษาความสงบ เรียบร้อยและอำนวยความเปน็ ธรรม 44.8 50.0 5.2 - - 4.40 0.59 มาก ทส่ี ดุ 2. หลักกฎหมายอาญาท่วั ไป 48.3 39.7 12.1 - - 4.36 0.69 มาก 3. หลกั กฎหมายวิธพี ิจารณาความ ทีส่ ุด อาญาวา่ ดว้ ยการสืบสวนสอบสวน คดีอาญา 39.7 44.8 12.1 3.4 - 4.21 0.78 มาก 4. อำนาจหนา้ ทขี่ องพนกั งานฝา่ ย 51.7 37.9 8.6 1.7 - 4.40 0.72 มาก ปกครองในการสืบสวนสอบสวน ทีส่ ดุ คดอี าญา 31.0 53.4 13.8 1.7 - 4.14 0.71 มาก 5. กระบวนการยุติธรรม สิทธิมนษุ ยชน และคณุ ธรรมของเจ้าหนา้ ทีส่ ืบสวน สอบสวน หน้า | 64

2) ผลการนำความรู้ความเขา้ ใจในวิชาการสบื สวนไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาการสืบสวนไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน” อยใู่ นระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉล่ีย อยู่ระหว่าง 3.95-4.36 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงาน มากที่สดุ ไดแ้ ก่ หลักการสืบสวนและเทคนิคการสืบสวน มคี า่ เฉลย่ี อยู่ในระดับมากท่สี ุด เท่ากับ 4.36 รองลงมา ได้แก่ ปฏิบัติการสืบสวน และหลักการจัดทำรายงานการสืบสวน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เท่ากับ 4.17 และ 3.97 ตามลำดบั รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 4-17 ตารางที่ 4-17 ผลการนำความรู้ ทกั ษะ ทศั นคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทไี่ ด้รับจากการฝึกอบรม หลักสตู รสบื สวนสอบสวนพนักงานฝา่ ยปกครอง “ดา้ นการนำความรู้ความเขา้ ใจ ในวิชา การสืบสวนไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน” ขอบเขตวชิ า ระดบั การนำไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน ความรู้ความเข้าใจในวิชาการสบื สวน มาก ปาน น้อย ̅X S.D. การ ที่สดุ มาก กลาง นอ้ ย ท่สี ุด แปลผล 1. หลกั การสืบสวนและเทคนิค 46.6 44.8 6.9 1.7 - 4.36 0.69 มาก การสบื สวน ทส่ี ุด 2. การสืบสวนทางอเิ ล็กทรอนิกส์ 27.6 44.8 22.4 5.2 - 3.95 0.84 มาก 3. หลักการจดั ทำรายงานการสืบสวน 32.8 36.2 25.9 5.2 - 3.97 0.89 มาก 4. ปฏบิ ัตกิ ารสบื สวน 39.7 41.4 15.5 3.4 - 4.17 0.81 มาก 3) ผลการนำความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าการฝกึ ทางยทุ ธวิธีไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาการฝึกทางยุทธวิธีไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากทุกรายการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.71-4.19 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ ปฏิบัติงานมากที่สุด ได้แก่ การตั้งจุดตรวจ/สกัด มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เท่ากับ 4.19 รองลงมา ได้แก่ หลักการเผชิญเหตุของเจ้าหน้าที่ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.91 การหยุด/ควบคุมยานพานะ (VEHICLE STOP AND OCCUPANTS CONTROL หรือ V.S.O.C.) และปฏิบัติการทางยุทธวิธีในสถานการณ์จำลอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.90 รายละเอียดดงั ตารางท่ี 4-18 หน้า | 65

ตารางที่ 4-18 ผลการนำความรู้ ทักษะ ทศั นคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทไ่ี ดร้ ับจากการฝึกอบรม หลกั สตู รสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจ ในวิชา การฝึกทางยุทธวิธีไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน” ขอบเขตวิชา ระดับการนำไปใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน การฝึกทางยุทธวิธี มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 1. หลักการเผชิญเหตขุ องเจา้ หนา้ ที่ ทีส่ ุด มาก กลาง นอ้ ย ทสี่ ุด แปลผล 2. การยิงปืนระบบต่อสู้ป้องกันตัว 3. ยุทธวธิ กี ารรอดพ้นอันตรายของ 27.6 44.8 19.0 8.6 - 3.91 0.90 มาก 25.9 39.7 19.0 10.3 5.2 3.71 1.12 มาก เจ้าหนา้ ที่ (Officer Survival 19.0 48.3 20.7 8.6 3.4 3.71 0.99 มาก Tactics หรือ O.S.T.) 4. การเข้าตรวจค้นและปฏบิ ัติการ 27.6 44.8 17.2 6.9 3.4 3.86 1.01 มาก ในอาคาร (Close Quarters Battle หรอื C.Q.B.) 29.3 43.1 19.0 5.2 3.4 3.90 1.00 มาก 5. การหยุด/ควบคุมยานพานะ (VEHICLE STOP AND 44.8 37.9 12.1 1.7 3.4 4.19 0.96 มาก OCCUPANTS CONTROL 32.8 37.9 19.0 6.9 3.4 3.90 1.05 มาก หรือ V.S.O.C.) 6. การตงั้ จดุ ตรวจ/สกัด 7. ปฏบิ ัตกิ ารทางยทุ ธวิธใี นสถานการณ์ จำลอง 4) ผลการนำความร้คู วามเขา้ ใจในวิชาการจับกุมปราบปรามไปใชใ้ นการปฏิบัตงิ าน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาการจับกุมปราบปรามไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับปานกลาง ถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.05-4.40 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรม นำไปใช้ปฏิบัติงานมากที่สุด ได้แก่ การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายที่อยู่ในความ รับผิดชอบของพนักงานฝ่ายปกครอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.40 รองลงมาได้แก่ การจัดทำ บันทึกการจับกุม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 และการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 รายละเอียดดงั ตารางท่ี 4-19 หนา้ | 66

ตารางท่ี 4-19 ผลการนำความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณท์ ไี่ ดร้ บั จากการฝึกอบรม หลกั สตู รสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ดา้ นการนำความรู้ความเข้าใจ ในวิชา การจบั กมุ ปราบปรามไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน” ขอบเขตวชิ า ระดบั การนำไปใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน การจับกมุ ปราบปราม มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 1. หมายคน้ /หมายจบั และหมาย ทีส่ ดุ มาก กลาง นอ้ ย ท่สี ุด แปลผล อาญาต่างๆ 29.3 39.7 17.2 12.1 1.7 3.83 1.04 มาก 2. ฝึกภาคปฏิบัติการขอหมายค้น และหมายจับ 29.3 37.9 19.0 10.3 3.4 3.79 1.08 มาก 3. การจดั ทำบันทึกการจบั กมุ 48.3 43.1 3.4 3.4 1.7 4.33 0.84 มาก ที่สดุ 4. การปอ้ งกนั และปราบปราม การกระทำความผดิ ตามกฎหมาย 53.4 32.8 13.8 - - 4.40 0.72 มาก ทีอ่ ย่ใู นความรบั ผิดชอบของ ทส่ี ดุ พนักงานฝา่ ยปกครอง 39.7 37.9 13.8 8.6 - 4.09 0.94 มาก 5. การป้องกนั และปราบปราม คดีอาชญากรรมทัว่ ไป 50.0 32.8 10.3 6.9 - 4.26 0.90 มาก ที่สุด 6. การป้องกันและปราบปราม ยาเสพตดิ 46.6 36.2 12.1 5.2 - 4.24 0.86 มาก ที่สดุ 7. การสืบสวนปราบปรามคดียาเสพติด 31.0 32.8 24.1 10.3 1.7 3.81 1.05 มาก 8. การป้องกันและปราบปราม การคา้ มนุษย์ 29.3 31.0 22.4 6.9 10.3 3.62 1.26 มาก 9. การสืบสวนปราบปรามคดี 29.3 27.6 25.9 10.3 6.9 3.62 1.21 มาก ค้ามนุษยแ์ ละการคดั แยกผู้เสยี หาย 25.9 41.4 15.5 10.3 6.9 3.69 1.17 มาก จากการค้ามนุษย์ 10. การสบื สวนปราบปรามคดปี ่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ 11. การสืบสวนปราบปราม อาชญากรรมรูปแบบใหม่ หน้า | 67

ขอบเขตวชิ า ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน การจบั กมุ ปราบปราม มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 12. การดำเนินคดีความผิดท่ีอย่ใู น ที่สุด มาก กลาง น้อย ที่สดุ แปลผล อำนาจหน้าทขี่ อง ป.ป.ท./ป.ป.ช. 13.8 39.7 31.0 8.6 6.9 3.45 1.06 มาก 13. การดำเนนิ คดีความผดิ ท่ีอยู่ใน อำนาจหนา้ ทขี่ อง ปปง. 6.9 32.8 32.8 13.8 13.8 3.05 1.14 ปาน กลาง 14. ฝกึ ภาคปฏบิ ตั ิการจัดทำบันทึก การจับกมุ 46.6 27.6 13.8 5.2 6.9 4.02 1.20 มาก 5) ผลการนำความรู้ความเขา้ ใจในวิชาการสอบสวนไปใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ดา้ นการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาการสอบสวนไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยใู่ นระดับปานกลางถึงมาก มีคา่ เฉลี่ย อยู่ระหว่าง 3.16-4.16 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงาน มากที่สุด ได้แก่ ระเบียบการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เท่ากับ 4.16 รองลงมาได้แก่ การจัดทำรายงานการสอบสวนและสำนวนการสอบสวน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.93 หลักการสอบสวนปากคำและการทำความเห็นของพนักงานสอบสวน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.90 รายละเอียดดัง ตารางท่ี 4-20 หน้า | 68

ตารางท่ี 4-20 ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณท์ ่ีได้รับจากการฝึกอบรม หลกั สตู รสบื สวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจ ในวิชา การสอบสวนไปใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน” ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน ขอบเขตวิชาการสอบสวน มาก ปาน น้อย ̅X S.D. การ ที่สดุ มาก กลาง น้อย ทสี่ ดุ แปลผล 1. ระเบยี บการสอบสวนคดีอาญาของ 36.2 46.6 13.8 3.4 - 4.16 0.70 มาก พนักงานสอบสวนฝา่ ยปกครอง 2. อำนาจเปรียบเทียบปรับของ 17.2 44.8 29.3 8.6 - 3.71 0.85 มาก พนกั งานสอบสวนและการสอบสวน คดีละเมิดข้อบญั ญัติทอ้ งถิ่นและ กฎหมายในอำนาจหนา้ ที่องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน 3. ฝกึ ภาคปฏบิ ตั ิการทำสำนวน 29.3 31.0 29.3 6.9 3.4 3.76 1.06 มาก เปรียบเทียบปรับ 4. หลักกฎหมายลักษณะพยาน 13.8 48.3 20.7 13.8 3.4 3.55 1.01 มาก และการชงั่ น้ำหนักพยาน 5. หลักการดำเนินคดีในเขตอำนาจ 22.4 41.4 13.8 12.1 10.3 3.53 1.26 มาก ศาลแขวง 6. หลกั การดำเนินคดีในเขตอำนาจ 13.8 43.1 19.0 13.8 10.3 3.36 1.19 ปาน ศาลเยาวชนและครอบครัว กลาง 7. หลกั การวางรปู คดีและการรวบรวม 25.9 39.7 15.5 10.3 8.6 3.64 1.22 มาก พยานหลักฐาน 8. หลักการสอบสวนปากคำและการทำ 29.3 44.8 12.1 13.8 - 3.90 0.98 มาก ความเหน็ ของพนักงานสอบสวน 9. ฝึกภาคปฏิบัตกิ ารทำสำนวน 25.9 36.2 17.2 12.1 8.6 3.59 1.24 มาก การสอบสวนในเขตอำนาจศาลแขวง 10. การตรวจสอบการทุจรติ บตั ร 24.1 51.7 13.8 8.6 1.7 3.88 0.93 มาก ประจำตัวประชาชนและทะเบียน ราษฎร 11. การจัดทำรายงานการสอบสวน 36.2 32.8 20.7 8.6 1.7 3.93 1.04 มาก และสำนวนการสอบสวน หนา้ | 69

ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน ขอบเขตวชิ าการสอบสวน มาก ปาน น้อย ̅X S.D. การ ทสี่ ดุ มาก กลาง นอ้ ย ทีส่ ดุ แปลผล 12. ฝึกภาคปฏิบตั ิการทำสำนวน การสอบสวนคดบี ัตรประจำตัว 24.1 44.8 17.2 8.6 5.2 3.74 1.08 มาก ประชาชนและทะเบียนราษฎร 15.5 43.1 25.9 12.1 3.4 3.55 1.01 มาก 13. การรกั ษาและการตรวจสถานท่ี เกดิ เหตุ 6.9 37.9 34.5 10.3 10.3 3.21 1.07 ปาน กลาง 14. นติ ิวิทยาศาสตร์และการตรวจ พิสูจน์หลกั ฐานทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 6.9 41.4 27.6 15.5 8.6 3.22 1.07 ปาน กลาง 15. นิตวิ ทิ ยาศาสตรแ์ ละการชนั สตู ร พลิกศพ 12.1 36.2 32.8 10.3 8.6 3.33 1.09 ปาน กลาง 16. การจัดทำรายงานการชนั สตู ร พลกิ ศพ 13.8 31.0 24.1 19.0 12.1 3.16 1.24 ปาน กลาง 17. เทคนคิ การสอบสวนคดีวิสามญั ฆาตกรรม 13.8 36.2 27.6 13.8 8.6 3.33 1.14 ปาน กลาง 18. เทคนิคการสอบสวนคดีป่าไม้ และทรพั ยากรธรรมชาติ 20.7 41.4 17.2 8.6 12.1 3.50 1.26 มาก 19. การทำสำนวนการสอบสวนในเขต 27.6 37.9 10.3 13.8 10.3 3.59 1.31 มาก อำนาจศาลจังหวัด 19.0 34.5 19.0 13.8 13.8 3.31 1.31 ปาน 20. สมั มนาการจดั ทำสำนวน กลาง การสอบสวนคดอี าญาของ พนกั งานสอบสวนฝา่ ยปกครอง 12.1 39.7 19.0 12.1 17.2 3.17 1.30 ปาน กลาง 21. การเบกิ ความในช้ันศาล 15.5 39.7 15.5 12.1 17.2 3.24 1.34 ปาน 22. การคมุ้ ครองพยานในคดีอาญา กลาง 23. วธิ กี ารรกั ษาความปลอดภัยพยาน ในคดอี าญาและบุคคลสำคัญอนื่ ๆ หนา้ | 70

6) ผลการนำความร้คู วามเข้าใจในวชิ าพิเศษไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาพิเศษไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉล่ีย อยู่ระหว่าง 4.16-4.50 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงาน มากทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์กบั ประเทศไทย มคี ่าเฉลีย่ อยูใ่ นระดับมากทสี่ ุด เทา่ กับ 4.50 รองลงมา ไดแ้ ก่ การขับเคลอ่ื นงานสภากาชาดไทย มคี ่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.16 รายละเอยี ดดงั ตารางท่ี 4-21 ตารางที่ 4-21 ผลการนำความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ทไ่ี ดร้ บั จากการฝกึ อบรม หลกั สูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝา่ ยปกครอง “ด้านการนำความรคู้ วามเข้าใจ ในวชิ า พเิ ศษไปใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน” ขอบเขตวชิ า ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน ความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชาพเิ ศษ มาก ปาน นอ้ ย ̅X S.D. การ 1. สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ที่สุด มาก กลาง นอ้ ย ท่ีสดุ แปลผล กับประเทศไทย 53.4 43.1 3.4 - - 4.50 0.57 มาก 2. การขบั เคล่ือนงานสภากาชาดไทย ท่สี ุด 34.5 48.3 15.5 1.7 - 4.16 0.74 มาก 7) การนำความรู้ความเข้าใจจากการศึกษาดงู านไปใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจจากการศึกษาดูงานไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.24 รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 4-22 ตารางท่ี 4-22 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีไดร้ ับจากการฝึกอบรม หลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้จากการศึกษา ดูงานไปใช้ในการปฏิบตั ิงาน” ระดบั การนำไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน ขอบเขตวชิ าการศึกษาดงู าน มาก ปาน นอ้ ย ̅X S.D. การ ความรคู้ วามเข้าใจจากการศึกษาดูงาน ทสี่ ดุ มาก กลาง นอ้ ย ทสี่ ดุ แปลผล 36.2 51.7 12.1 - - 4.24 0.65 มาก ทส่ี ุด หน้า | 71

8) การนำความรู้ความเขา้ ใจในวิชาเสรมิ ไปใช้ในการปฏบิ ัติงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความเห็นในการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจในวิชาเสริมไปใช้ในการปฏิบัติงาน” อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย อยู่ระหว่าง 4.09-4.43 หากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า ความรู้ที่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมนำไปใช้ปฏิบัติงาน มากที่สุด ได้แก่ ประสบการณ์สืบสวนสอบสวน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.43 รองลงมาได้แก่ การประสานงานและการบรหิ ารจัดการสือ่ มีค่าเฉลี่ยเท่ากบั 4.26 และการปฐมพยาบาลเบื้องตน้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ ในระดับมาก มีคา่ เฉลยี่ เท่ากับ 4.09 รายละเอียดดงั ตารางที่ 4-23 ตารางที่ 4-23 ผลการนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการฝึกอบรม หลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝา่ ยปกครอง “ด้านการนำความรู้ความเข้าใจ ในวิชา เสริมไปใช้ในการปฏิบตั ิงาน” ขอบเขตวิชา ระดับการนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน ความรู้ความเขา้ ใจในวิชาเสริม มาก ปาน นอ้ ย X̅ S.D. การ 1. การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทส่ี ุด มาก กลาง น้อย ที่สุด แปลผล 2. ประสบการณ์สืบสวนสอบสวน 27.6 55.2 15.5 1.7 - 4.09 0.70 มาก 3. การประสานงานและการบริหาร 48.3 46.6 5.2 - - 4.43 0.59 มาก จัดการสอ่ื ท่ีสดุ 36.2 53.4 10.3 - - 4.26 0.63 มาก ที่สุด 2.2 มิติที่ 2 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลังทผี่ า่ นการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝา่ ยปกครอง การประเมินผลในมิติที่ 2 นี้ ใช้วิธีการประเมินผลจากผู้บังคับบัญชาของข้าราชการผู้ที่ผ่าน การฝึกอบรมหลักสตู รสืบสวนสอบสวนพนกั งานฝา่ ยปกครอง รุน่ ท่ี 50 ปรากฏผลดังน้ี 2.2.1 ขอ้ มลู ทั่วไป กลุ่มตัวอยา่ งทตี่ อบแบบสอบถาม จำนวน 58 คน เป็นเพศชายมากทีส่ ดุ จำนวน 53 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 91.4 และเป็นเพศหญงิ จำนวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 8.6 มีอายุ 51-60 ปี มากที่สุด จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 67.2 รองลงมา คือ อายุ 41-50 ปี จำนวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 27.6 และอายุ 30-40 ปี จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.2 ตามลำดับ หน้า | 72

มอี ายรุ าชการ 21-30 ปี มากทีส่ ดุ จำนวน 38 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 65.5 รองลงมามีอายุราชการ 31-40 ปี จำนวน 13 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 22.4 และมีอายุราชการ 10-20 ปี จำนวน 7 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 12.1 ตามลำดับ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท มากที่สุด จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 79.3 และระดับ ปริญญาตรี จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 20.7 ปฏิบัติงานในตำแหน่งนายอำเภอ มากท่ีสุด จำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 62.1 รองลงมา ปฏบิ ัติงานในตำแหน่งปลดั อำเภอหวั หนา้ กลุม่ งาน/ฝา่ ยบริหารงานปกครอง จำนวน 18 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 31.0 รองลงมา คือ ตำแหน่งป้องกันจังหวัด จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 3.4 รองลงมาเป็นตำแหน่งปลัดจังหวัด และจา่ จงั หวดั ตำแหน่งละ 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.7 ตามลำดบั ดำรงตำแหน่งในระดับอำนวยการสูง มากที่สุด จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 53.4 รองลงมา คือ ตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 36.2 และตำแหน่งระดับอำนวยการต้น จำนวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 10.3 ตามลำดับ เป็นผู้บังคับบัญชาก่อนผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ารับการฝึกอบรม มากที่สุด จำนวน 46 คน คิดเป็น ร้อยละ 79.3 และเป็นผู้บังคับบัญชาหลังผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 20.7 รายละเอยี ดตามตารางท่ี 4-24 ดังนี้ ตารางที่ 4-24 ขอ้ มลู ทว่ั ไปของผ้บู ังคับบญั ชาผู้ผา่ นการฝกึ อบรมหลักสตู รสบื สวนสอบสวนพนกั งานฝ่าย ปกครอง รุ่นที่ 50 ข้อมูลท่ัวไป ความถี่ (คน) ร้อยละ 1. เพศ ชาย 53 91.4 2. อายุ หญงิ 5 8.6 30 - 40 ปี 3 5.2 3. อายรุ าชการ 41 - 50 ปี 16 27.6 51 - 60 ปี 39 67.2 4. การศึกษา 10 - 20 ปี 7 12.1 5. ตำแหนง่ 21 - 30 ปี 38 65.5 31 - 40 ปี 13 22.4 ปรญิ ญาตรี 12 20.7 ปรญิ ญาโท 46 79.3 ปลัดจงั หวดั 1 1.7 นายอำเภอ 36 62.1 จ่าจังหวดั 1 1.7 หนา้ | 73

ขอ้ มูลท่ัวไป ความถี่ (คน) รอ้ ยละ 5. ตำแหน่ง (ต่อ) ปอ้ งกันจงั หวดั 2 3.4 ปลดั อำเภอหัวหนา้ กลุ่มงาน/ฝ่ายบรหิ ารงานปกครอง 18 31.0 31 53.4 6. ระดบั ตำแหน่ง อำนวยการสูง 6 10.3 อำนวยการต้น 21 36.2 ชำนาญการพิเศษ 46 79.3 7. การเปน็ ผบู้ ังคับบัญชาของผ้ทู ผี่ า่ นการฝึกอบรมหลักสูตรสบื สวนสอบสวนฯ 12 20.7 เปน็ ผูบ้ งั คบั บญั ชาก่อนการฝึกอบรม เป็นผู้บังคบั บญั ชาหลังการฝึกอบรม แผนภมู ิท่ี 7 กราฟแสดงข้อมูลทวั่ ไปของผู้บังคับบญั ชาผูผ้ ่านการฝึกอบรมหลกั สูตรสืบสวนสอบสวนพนักงาน ฝา่ ยปกครอง รนุ่ ที่ 50 60 53 50 46 46 40 39 38 36 31 30 20 16 21 13 12 18 12 10 5 3 7 6 0 1 12 2.2.2 ผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลงั ทผี่ า่ นการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง ผลการศึกษาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของข้าราชการผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวน สอบสวนพนักงานฝ่ายปกครองในภาพรวม ปรากฏตามตารางที่ 4-25 สามารถอธิบายผลการปรับเปลี่ยน พฤตกิ รรมแตล่ ะดา้ นได้ดงั น้ี หนา้ | 74

ตารางที่ 4-25 การปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมในภาพรวมของผู้ผา่ นการฝกึ อบรมหลกั สตู รสบื สวนสอบสวน พนกั งานฝ่ายปกครอง รุน่ ที่ 50 ระดับความเหน็ ของการปรบั เปลีย่ นพฤติกรรม ภาพรวมของการปรับเปล่ยี น ควร พฤติกรรมแตล่ ะดา้ น ดีขึ้น เหมือน ควร ปรับปรุง X̅ S.D. การ อย่างมาก ดีขึน้ เดิม ปรับปรงุ อย่างยง่ิ แปลผล 1. ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น 51.7 46.6 1.7 - - 4.50 0.53 ดขี ึน้ อย่างมาก 2. ด้านการปฏบิ ตั ิงาน 25.9 69.0 5.2 - - 4.20 0.52 ดขี นึ้ 3. ด้านหนว่ ยงาน 43.1 53.4 3.4 - - 4.39 0.56 ดขี ้ึน อย่างมาก แผนภูมทิ ี่ 8 กราฟแสดงผลการปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรมแต่ละดา้ นของผู้ผ่านการฝกึ อบรมหลักสูตรสืบสวน สอบสวนพนกั งานฝา่ ยปกครอง ร่นุ ท่ี 50 ด้านหน่วยงาน การปฏิบตั ติ น 36% 43% การปฏบิ ตั ิงาน 21% 1) ดา้ นการปฏิบัติตน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้าน การปฏิบัติตน อยู่ในระดับดีขึ้นอย่างมากทุกรายการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.40-4.50 หากพิจารณาแต่ละ ประเดน็ ยอ่ ย พบว่า การมมี นุษยสมั พนั ธ์และการสมาคม มคี า่ เฉลยี่ อยใู่ นระดบั มากท่สี ุด เทา่ กับ 4.50 รองลงมา ได้แก่ ความมีระเบียบวินัย สุขภาวะด้านอารมณ์ และการมีคุณธรรมและจริยธรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47 รายละเอียดดงั ตารางที่ 4-26 หน้า | 75

ตารางท่ี 4-26 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดา้ นการปฏบิ ตั ติ น สามารถจำแนกรายละเอียดแตล่ ะประเด็นย่อย ได้ดังนี้ ระดับความเหน็ ของการปรับเปลย่ี นพฤติกรรม ประเด็นย่อยดา้ นการปฏิบัติตน ควร ดขี ้ึน เหมอื น ควร ปรับปรุง X̅ S.D. การ อย่างมาก ดขี ึ้น เดมิ ปรับปรงุ อย่างยิง่ แปลผล 1. ความเหมาะสมในการแต่งกาย 48.3 46.6 5.2 - - 4.43 0.59 ดีขน้ึ อยา่ งมาก 2. ความเหมาะสมในการวางตวั 46.6 46.6 6.9 - - 4.40 0.62 ดีขึ้น 3. ความมรี ะเบยี บวนิ ัย 50.0 46.6 3.4 - อยา่ งมาก 4. สุขภาวะดา้ นอารมณ์ 48.3 50.0 1.7 - - 4.47 0.56 ดขี น้ึ อย่างมาก 5. การมีมนษุ ยสัมพันธ์ 55.2 39.7 5.2 - และการสมาคม 53.4 43.1 1.7 1.7 - 4.47 0.53 ดขี ้ึน อย่างมาก 6. การมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม - 4.50 0.60 ดีขึ้น อย่างมาก - 4.47 0.70 ดีขึน้ อย่างมาก 2) ด้านการปฏบิ ตั ิงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้าน การปฏบิ ตั ิงาน อย่ใู นระดบั ดขี ึ้นถึงดีขึน้ อย่างมาก มคี า่ เฉล่ยี อยรู่ ะหว่าง 3.93-4.34 หากพิจารณาในประเดน็ ย่อย พบว่า การปฏบิ ตั งิ านมคี วามถูกต้อง และการปฏบิ ัตงิ านมีความเทย่ี งตรงตามกำหนดเวลา มคี ่าเฉลยี่ อยู่ในระดับ มากที่สุด เทา่ กับ 4.34 รองลงมาไดแ้ ก่ การสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติด มีคา่ เฉลยี่ เท่ากบั 4.29 รายละเอียดดัง ตารางที่ 4-27 หนา้ | 76

ตารางที่ 4-27 การปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน สามารถจำแนกรายละเอยี ดแต่ละประเด็นย่อย ไดด้ ังน้ี ระดบั ความเหน็ ของการปรับเปลย่ี นพฤติกรรม ประเด็นยอ่ ยดา้ นการปฏิบตั ิงาน ควร ดขี ้ึน เหมือน ควร ปรบั ปรงุ ̅X S.D. การ อย่างมาก ดขี ้ึน เดมิ ปรบั ปรุง อย่างยง่ิ แปลผล 1. การปฏิบตั งิ านมีความถูกต้อง 36.2 62.1 1.7 - - 4.34 0.51 ดขี น้ึ อยา่ งมาก 2. การปฏิบตั ิงานมคี วามเทยี่ งตรง 39.7 55.2 5.2 - ตามกำหนดเวลา - 4.34 0.57 ดีขน้ึ 20.7 77.6 1.7 - อยา่ งมาก 3. การสบื สวนคดีอาญาท่วั ไป 19.0 81.0 - - 4. การสอบสวนคดอี าญาท่วั ไป 17.2 77.6 5.2 - - 4.19 0.43 ดีขึ้น 5. การรวบรวมพยานหลกั ฐาน - 4.19 0.39 ดีขึน้ 10.3 77.6 12.1 - - 4.12 0.46 ดีขนึ้ คดีอาญา 15.5 74.1 10.3 - 6. การขอออกหมายคน้ หมายจบั - 3.98 0.47 ดขี น้ึ 7. การสอบสวนและเปรยี บเทียบ 10.3 72.4 17.2 - - 4.05 0.51 ดขี ึ้น คดลี ะเมดิ กฎหมายทอ้ งถิ่น 17.2 72.4 10.3 - - 3.93 0.52 ดีขึ้น 8. การสอบสวนคดวี ิสามัญ 15.5 74.1 10.3 - - 4.07 0.52 ดีขึ้น ฆาตกรรม 24.1 65.5 10.3 - - 4.05 0.51 ดีขึ้น 9. การชันสูตรพลิกศพ 36.2 56.9 6.9 - 10. การสืบสวนสอบสวนคดปี ่าไม้ - 4.14 0.57 ดีขึ้น 27.6 69.0 3.4 - - 4.29 0.59 ดีขึ้น และทรพั ยากรธรรมชาติ 11. การสบื สวนสอบสวนคดที ่ีดนิ 27.6 69.0 3.4 - อย่างมาก 12. การสบื สวนสอบสวนคดี - 4.24 0.50 ดีขึ้น ยาเสพติด อยา่ งมาก 13. การสืบสวนสอบสวนคดี - 4.24 0.50 ดขี น้ึ ตามกฎหมายการทะเบยี น อยา่ งมาก ราษฎร 14. การสืบสวนสอบสวนคดี ตามกฎหมายบตั รประจำตัว ประชาชน หนา้ | 77

ระดับความเห็นของการปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม ประเดน็ ย่อยด้านการปฏบิ ตั ิงาน ควร ดขี ้นึ เหมอื น ควร ปรบั ปรงุ ̅X S.D. การ อยา่ งมาก ดีขึ้น เดมิ ปรับปรุง อย่างยงิ่ แปลผล 15. การสบื สวนสอบสวนคดี 37.9 55.2 6.9 - - 4.31 0.59 ดีขน้ึ ตามกฎหมายการพนัน อยา่ งมาก 16. การสบื สวนสอบสวนคดี 29.3 67.2 3.4 - - 4.26 0.51 ดขี ึ้น ตามกฎหมายโรงแรม อยา่ งมาก 17. การสบื สวนสอบสวนคดี 25.9 67.2 6.9 - - 4.19 0.54 ดขี ึ้น ตามกฎหมายอาวุธปนื ฯ 18. การสบื สวนสอบสวนคดี 32.8 60.3 6.9 - - 4.26 0.57 ดีขนึ้ ตามกฎหมายสถานบรกิ าร อยา่ งมาก 19. การสืบสวนสอบสวนคดี 32.8 60.3 6.9 - - 4.26 0.57 ดีขน้ึ ตามกฎหมายขายทอดตลาด อยา่ งมาก และค้าของเกา่ 20. การสบื สวนสอบสวนคดี 27.6 65.5 6.9 - - 4.21 0.55 ดีขน้ึ ตามกฎหมายโรงรบั จำนำ และการเรยี่ ไร 21. การทำสำนวนการสอบสวน 17.2 67.2 15.5 - - 4.02 0.57 ดีขึ้น คดใี นอำนาจศาลเด็กเยาวชน และครอบครวั 22. การทำสำนวนการสอบสวน 17.2 72.4 10.3 - - 4.07 0.52 ดีขึน้ คดีในอำนาจศาลแขวง 3) ดา้ นหนว่ ยงาน กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม มีระดับความคิดเห็นต่อการปรับเปลีย่ นพฤติกรรมในด้าน หน่วยงาน อยู่ในระดับดีขึ้นอย่างมาก ทั้งการเสริมสร้างหรือปรับปรุงภารกิจของหน่วยงานที่ยังบกพร่องอยู่ให้ ดขี ึ้นและการเสริมสร้างภาพลักษณข์ องหนว่ ยงานใหด้ ีข้ึน มคี า่ เฉลีย่ เท่ากับ 4.38 รายละเอยี ดดงั ตารางท่ี 4-28 หน้า | 78

ตารางที่ 4-28 การปรบั เปล่ียนพฤติกรรมดา้ นหนว่ ยงาน สามารถจำแนกรายละเอยี ดแตล่ ะประเด็นย่อย ได้ดังน้ี ระดับความเหน็ ของการปรบั เปล่ยี นพฤติกรรม ประเดน็ ยอ่ ยดา้ นหน่วยงาน ควร 1. การเสริมสร้างหรือปรบั ปรุง ดขี ึ้น เหมอื น ควร ปรบั ปรุง X̅ S.D. การ ภารกิจของหนว่ ยงาน ทย่ี งั บกพรอ่ งอยู่ให้ดีข้ึน อย่างมาก ดขี นึ้ เดิม ปรับปรงุ อยา่ งยิง่ แปลผล 2. การเสรมิ สร้างภาพลักษณ์ 41.4 55.2 3.4 - - 4.38 0.55 ดขี ้ึน ของหนว่ ยงานใหด้ ขี ้นึ อยา่ งมาก 41.4 55.2 3.4 - - 4.38 0.55 ดีขน้ึ อยา่ งมาก 2.3 ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่าย ปกครอง รุ่นที่ 50 สำหรับปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่าย ปกครอง รุ่นที่ 50 ผลการศึกษามีสาระสำคัญสรุปแยกเปน็ ดา้ นตา่ งๆ ได้ดงั นี้ 1. ด้านหลกั สูตร 1.1 ควรแยกอบรมหลักสูตรการสืบสวนและหลักสูตรการสอบสวนออกจากกัน เพื่อให้มี ระยะเวลาในการฝึกอบรมการสืบสวนและการสอบสวนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีความเชี่ยวชาญทั้งในการสืบสวน และสอบสวน 1.2 ควรเพิ่มระยะเวลาการฝกึ ปฏบิ ตั ิ และจัดให้มกี ารฝกึ ปฏิบัติทกุ ขัน้ ตอนตั้งแต่การสืบสวน จนถึงการดำเนินคดี โดยแบง่ กลุ่มตามประเภทคดที ่ีพนกั งานฝา่ ยปกครองมีอำนาจสืบสวนสอบสวน 1.3 ควรเน้นการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การสอบข้อเท็จจริง การสอบสวนทางวินัย และการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดขององค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถ่ิน 1.4 บางวิชามีเนื้อหาจำนวนมากแต่ชั่วโมงการบรรยายน้อย ทำให้วิทยากรบรรยายเนื้อหาวิชา ไดไ้ ม่ละเอียด ควรเพม่ิ ชว่ั โมงการบรรยายบางรายวิชา เชน่ การกำกบั ดูแลองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน การจัดซ้ือ จดั จ้าง เป็นต้น 2. ด้านกระบวนการฝกึ อบรม 2.1 สถานท่ฝี กึ อบรมคับแคบ ควรจดั สถานที่ใหม้ ีพน้ื ท่ีมากข้นึ สำหรับการฝกึ ภาคปฏิบัติ 2.2 ควรปรับปรงุ อาหารให้มีความหลากหลาย 2.3 อาคารทพี่ ักชำรดุ ทรดุ โทรม ระบบนำ้ ประปาใช้งานมานาน ควรมีการปรับปรงุ ซอ่ มแซม หนา้ | 79

3. ดา้ นวทิ ยากร 3.1 วิทยากรบางท่านถ่ายทอดความรู้ได้ไม่ดี บรรยายไม่ตรงตามวตั ถุประสงค์ของหวั ข้อวชิ า เนอ่ื งจากระยะเวลาในการฝกึ อบรมน้อยเกนิ ไป 3.2 ควรจัดหาวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากหน่วยงานภายนอกมาถ่ายทอดประสบการณ์จริง ในการปฏบิ ตั ิงาน 4. ด้านอ่ืน ๆ 4.1 ควรเพมิ่ ระยะเวลาการศึกษาดูงานในสถานท่ปี ฏิบตั ิงานจรงิ เชน่ การชนั สตู รพลิกศพ 4.2 จำนวนชว่ั โมงการฝึกอบรมในแต่ละวันมากเกินไป 4.3 ควรใหผ้ ู้เข้ารบั การฝกึ อบรมทกุ คนได้ฝึกทำสำนวนใหค้ รบทุกประเภทคดี 4.4 ควรให้ปลัดอำเภอทุกคนเข้ารับการฝึกอบรม หรือควรเพิ่มการฝึกอบรมให้ทุกอำเภอ มปี ลดั อำเภออยา่ งนอ้ ยอำเภอละ 2 คน ไดผ้ ่านการฝกึ อบรม หรอื มีการฝึกอบรมทบทวนความรู้ประจำปี 4.5 ควรมีเอกสารประกอบการฝกึ อบรมแยกเปน็ รายวชิ า และจัดทำเปน็ รูปเล่ม ผลการสมั ภาษณ์เชิงลึก ทำการประเมนิ ผลภายหลังการฝกึ อบรมใน 2 มติ ิ คือ มติ ทิ ี่ 1 การนำความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน ประเมินผลจากข้าราชการผู้ที่ผ่านการฝึก อบรมโดยตรง และมิตทิ ่ี 2 การปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏบิ ตั ิงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลังผา่ นการฝึกอบรม ซง่ึ ประเมินผลจากผู้บงั คบั บญั ชาของผ้ทู ผี่ ่านการฝึกอบรม 1. หลกั สูตรปลัดอำเภอ ร่นุ ท่ี 248 - 250 ผลการสมั ภาษณ์ มิติที่ 1 การนำความรู้ ทักษะ ทัศนคติ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝกึ อบรมไปใช้ ในการปฏิบัติงาน ซึ่งประเมินผลจากข้าราชการผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมโดยตรง มีความคิดเห็นแยกตาม ประเด็นขอ้ คำถามดงั ต่อไปน้ี 1. การนำความร้ทู ่ีไดร้ บั จากการฝึกอบรมไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน “ความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมสามารถนำกลับมาใช้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการประสานงาน การสร้างความสัมพันธ์กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนราชกร และประชาชน ในพืน้ ที่ และความรู้เก่ยี วกบั กฎหมาย ทำใหป้ ฏบิ ตั ิงานถูกตอ้ งตามระเบียบกฎหมายมากย่งิ ขึ้น โดยเฉพาะในช่วง สถานการณ์เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมมาใช้ในการ ตั้งด่านตรวจคัดกรอง โดยได้ดำเนินการตามที่ระเบียบกฎหมายกำหนด เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้งคณะกรรมการ ให้ครอบคลุมบุคลากรจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ให้คำแนะนำในการตั้งด่านตรวจคัดกรองให้เป็นไปตาม หนา้ | 80

มาตรการป้องกันและควบคุมโรค โดยเน้นการประสานงานในการปฏิบัติงานและการดำเนินการให้เป็นไปตาม กฎหมาย” (นายสริ วิชญ์ ทองศรีนุช ปลัดอำเภอเกาะชา้ ง, สัมภาษณ)์ “ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอมีความรู้ในการปฏิบัติงานจากการอ่าน หนังสือสอบเข้ารับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอเท่านั้น แต่หลังจากผ่านการฝึกอบรมแล้วได้รับความรู้และ แนวทางในการปฏิบตั งิ านในอำนาจหนา้ ท่ีของปลัดอำเภอมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความรู้เกีย่ วกับระเบียบกฎหมาย และงานอาสารักษาดินแดน” (นายทรงวิทย์ อินไชยยา เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ ที่ทำการปกครอง จังหวดั บึงกาฬ, สมั ภาษณ์) “ได้รับองค์ความรู้ที่หลากหลาย เช่น บทบาทหน้าที่ และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ อำนาจหน้าที่ของฝ่ายปกครอง แนวทางในการปฏิบัติงาน ความรู้เชิงลึกทั้งจากวิทยากรและผู้มีประสบการณ์ ทำใหม้ ีความมัน่ ใจในการทำงานมากขน้ึ ” (นางสาวธญั ญารตั น์ เหลา่ บตุ รศรี ปลัดอำเภอหวา้ นใหญ่, สมั ภาษณ)์ “หลังจากผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรปลัดอำเภอ สิ่งแรกที่ได้รับโดยตรงจากการอบรม หลักสูตรดังกลา่ ว ไดแ้ ก่ ความรูพ้ ื้นฐานเก่ยี วกบั การปฏิบตั ิหนา้ ทีป่ ลัดอำเภอ และแนวทางปฏิบตั งิ านที่เกี่ยวข้อง กับตำแหน่งปลัดอำเภอทั้งหมด เช่น ความรู้เกี่ยวกับสัญชาติ การขอสัญชาติ การทำบัตรประจำตัวประชาชน การแจ้งเกิด แจ้งตาย ซึ่งต้องใช้ปฏิบัติหน้าที่ด้านงานทะเบียน ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือราชการ และ งานสารบรรณ การจัดทำโครงการ การจดั ซ้ือจัดจ้าง การตรวจรบั งานโครงการต่างๆ การแสวงหาพยานหลักฐาน การชันสูติพลิกศพ การฝึกยุทธวิธีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งปลดั อำเภอ นอกจากแนวทางในการปฏิบตั ิงาน ที่กล่าวมาขา้ งตน้ แล้ว ยงั มีระเบียบ ข้อกฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องอีกดว้ ย เน่ืองจากการอบรมหลกั สูตรปลัดอำเภอเป็น การจดั อบรมในลักษณะกลุ่มใหญ่ สง่ิ ท่ีได้รับนอกเหนือจากเน้ือหาในรายวชิ าแลว้ นั้น ยงั ไดฝ้ ึกฝนการปฏิบัติงาน ร่วมกับผู้อื่น การทำงานเป็นทีม และได้ฝึกฝนภาวะผู้นำอีกด้วย” (นางสาวอมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ นิติกร กองการเจา้ หนา้ ท,่ี สัมภาษณ)์ “หลงั จากทเ่ี ข้ารับการฝกึ อบรมมาแลว้ ได้รบั ความรใู้ นการปฏบิ ัติงานหลายดา้ น เช่น ทักษะ การพูดในที่ชุมชน กฎระเบียบต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ทำให้มีทักษะในการทำงานที่ดี และทำงานได้อย่างเป็น ระบบมากขนึ้ ” (นางสาวนันทยิ า ฟ้องเสียง ปลดั อำเภอกุดชมุ , สัมภาษณ์) “ได้รบั การพฒั นาทั้งทางดา้ นวิชาการ ร่างกาย บุคลิกภาพ รวมถึงด้านจิตใจ โดยผู้เข้าอบรม จะต้องปฏิบัติภายใต้กฎกติกาอย่างเดียวกัน โดยแต่ละโครงการฝึกอบรมจะใช้ชีวิตร่วมกัน ร่วมกิน ร่วมนอน รว่ มเรียน ร่วมกจิ กรรม ทเี่ รยี กวา่ วถิ ีธัญบุรี ซึง่ บง่ บอกถึงความเรยี บง่าย ประหยัด สามคั คี มีวินยั และชว่ ยตนเอง สะท้อนการใช้ชีวิตร่วมกัน หล่อหลอมให้ผู้เข้าอบรมมีความสามัคคีผูกพันรักใคร่ แบ่งหน้าที่กันทำ ฝึกการเป็น ผู้นำความอดทน รู้จักการอยู่ร่วมกันในหมู่คณะ โดยมีผู้อำนวยการโครงการฝึกอบรมและคณะคอยช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาเพ่ือบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ของหลกั สูตรตลอดระยะเวลาฝึกอบรม 6 สัปดาห์” (นายประเสริฐศักดิ์ ทองดลุ ย์ ปลดั อำเภอเมอื งอทุ ยั ธานี, สัมภาษณ)์ หน้า | 81

2. การนำหลกั สมรรถนะท่ีไดร้ บั จากการฝกึ อบรมไปใชใ้ นการปฏิบัติงาน “การปฏิบัติงานหลังการฝึกอบรมแตกต่างจากการปฏิบัติงานก่อนเข้ารับการฝึกอบรม อย่างมาก ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมจะเป็นการปฏิบัติงานโดยการสอบถามจากปลัดอำเภอท่านอื่นๆ และ ปฏิบัติงานตามที่เคยปฏิบัติกันมา แต่หลังจากเข้ารับการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมมาใช้ ในการปฏิบัติงาน โดยการศึกษาระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความถูกต้องมี ความละเอียดรอบคอบ และมีความมั่นใจในการปฏิบัตงิ านมากข้ึน” “ไดน้ ำความรู้เกยี่ วกับกฎหมายท่ีดนิ มาใช้ในการปฏิบัติงานจริง เน่อื งจากในพื้นที่มีข้อพิพาท เกี่ยวกับที่ดินจำนวนมาก โดยเป็นข้อพิพาทระหว่างประชาชนในพื้นที่กับหน่วยงานของรัฐซึ่งการปฏิบัติงาน มีความจำเป็นต้องลงปฏิบัติงานในพื้นที่จริง โดยจะต้องรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีพิพาทและต้องประสานงาน กับสำนักงานที่ดินเกี่ยวกับทะเบียนที่ดิน การรังวัดที่ดิน และการระวังชี้แนวเขตที่ดิน นอกจากนั้นได้นำความรู้ เกี่ยวกับงานการอาสารักษาดินแดน ศิลปะการป้องกันตัว และการใช้อาวุธมาใช้ในการปฏิบัตงิ านจริงอีกด้วย” (นายสิรวชิ ญ์ ทองศรีนชุ ปลัดอำเภอเกาะชา้ ง, สัมภาษณ์) “มีการปฏิบัติงานด้วยความถูกต้องตามขั้นตอนตามระเบียบกฎหมาย ป้องกันการถูก ดำเนนิ คดีจากการปฏิบตั ิหน้าท่ีในภายหลงั ทำใหม้ คี วามม่ันใจในการปฏบิ ัติงานมากกว่าก่อนเข้ารับการฝึกอบรม เช่น การจบั กุม มีการประชุมสมาชกิ กองอาสารกั ษาดินแดนก่อนการปฏบิ ัตงิ าน มกี ารวางแผนการจับกุม เตรียม บันทึกการจบั กุม การเตรยี มกำลังพล การหาข่าวโดยใหส้ ายลับเขา้ ไปในพ้ืนที่กอ่ น เพ่ือใหท้ ราบว่าข่าวทไ่ี ด้รับมา เป็นขา่ วจรงิ หรือไม่ การทำงานจิตอาสา มกี ารประชุมและมอบหมายงานในหน้าทใ่ี ห้ทมี งานแต่ละคนรับผิดชอบ ดำเนินการ มีการจัดกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนประจำด่านตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งการปฏิบัติงานต้องประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานอื่นๆ หลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ มีการทำงานเป็นทีมและใช้ทักษะการประสานงาน ซึ่งก่อน เข้ารับการฝึกอบรมไม่มีแนวทางในการปฏิบัติงานและไม่มีทักษะการพูดในที่สาธารณะ แต่หลังจากผ่าน การฝกึ อบรมมแี นวทางในการปฏบิ ตั ิงานและมีทักษะการพดู การสือ่ สาร การประสานงานมากยงิ่ ข้ึน” “วิชาการอาสารักษาดินแดนสามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเรียกแถว การฝกึ บุคคลทา่ มือเปล่า ซึ่งก่อนเขา้ รับการฝึกอบรมยังไม่มีความรมู้ ากนัก แต่หลังจาก ผ่านการฝึกอบรมแลว้ มีความมนั่ ใจในการสงั่ แถวกำลงั พลมากขน้ึ ” “ได้นำวิถีธัญญบุรีมาถ่ายทอดให้กับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ได้ฝึกการตื่นเช้าและ ฝกึ ระเบยี บวินัย” (นายทรงวทิ ย์ อินไชยยา เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ ทที่ ำการปกครองจังหวัดบึงกาฬ, สัมภาษณ)์ “นำแนวคิดที่ได้รับจากวิทยากรมาปรับใช้กับการทำงาน ทำให้การทำงานมีความถูกต้อง และนำความรู้ที่ได้รับมาต่อยอดในการทำงานทำให้การทำงานนั้นดีขึ้น” (นางสาวธัญญารัตน์ เหล่าบุตรศรี ปลัดอำเภอหวา้ นใหญ่, สมั ภาษณ์) หน้า | 82

“ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งนิติกร ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการดำเนินการ ทางวินัยของข้าราชการกรมการปกครอง ลักษณะงานดังกล่าวต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงาน ของตำแหน่งปลัดอำเภอค่อนขา้ งเยอะ ซึง่ หลังจากทไี่ ด้รบั การอบรมหลักสูตรปลดั อำเภอ ทำใหข้ ้าพเจ้าสามารถ ปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ได้เข้าใจมากขึ้น เนื่องจากได้ทราบระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง ปลัดอำเภอ แนวทาง ขั้นตอน ในการปฏิบัติงานของปลัดอำเภอเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้ลงไป ปฏิบัติหนา้ ทป่ี ลัดอำเภอโดยตรงก็อาจจะทำให้ไม่สามารถรับทราบหรือเข้าใจถึงกระบวนการและข้ันตอนทั้งหมด ในการปฏิบตั หิ น้าท่ดี งั กล่าวได้” (นางสาวอมรรตั น์ จิรนนท์วงศ์ นติ กิ ร กองการเจา้ หนา้ ท่ี, สัมภาษณ์) “ก่อนการฝึกอบรมยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะไม่เคยทำงานราชการมาก่อน หลังผ่าน การฝึกอบรมดิฉันได้รับผิดชอบฝ่ายทะเบียนฯ สามารถนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น รู้แนวทางในการดำเนินงานและมีคอนเนคชั่นที่สามารถปรึกษา สอบถาม ระหว่างเพื่อน รว่ มรุ่นสามารถช่วยแกไ้ ขปัญหาการทำงานได้ดีขึ้น เชน่ งานทะเบยี น งานสัญชาติ” (นางสาวนันทิยา ฟ้องเสียง ปลัดอำเภอกดุ ชุม, สัมภาษณ)์ “ได้รับความรใู้ หม่ๆ ทำให้มคี วามรู้ ทักษะ และทัศนคตทิ ีจ่ ำเป็นในการปฏบิ ัตงิ าน ช่วยเพิ่ม ขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน และมีกลุ่มเพื่อนที่ผ่านการฝกึ อบรมในรุ่นเดียวกันสามารถช่วยเหลอื ในเรื่อง การทำงาน ซง่ึ เป็นประโยชนต์ อ่ การปฏิบัตงิ านในหน้าที่ เป็นเครือขา่ ยช่วยเหลือแบง่ ปันข้อมลู และประสบการณ์ ร่วมกนั ทำใหเ้ พิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเขา้ ใจในบทบาทหนา้ ท่ีที่ดำรงตำแหน่งมากข้ึน” (นายประเสรฐิ ศกั ด์ิ ทองดลุ ปลัดอำเภอเมอื งอทุ ยั ธานี, สัมภาษณ์) 3. การนำแนวคดิ และวิสัยทศั น์ที่ไดร้ ับจากการฝึกอบรมไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน “ปลดั อำเภอเปน็ อาชีพทตี่ ้องมีความพรอ้ มในการปฏบิ ตั งิ านอย่ตู ลอดเวลา ผมจะเน้นปรึกษา ปลัดอำเภอที่ทำงานมาก่อนและศึกษาการทำงานของคนเก่าแล้วจึงนำมาปรับใช้กับการทำงานของเรา อีกทั้ง ต้องศึกษาข้อกฎหมายเพื่อนำมาประกอบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และวางแผนขั้นตอนการทำงาน กอ่ นลงพืน้ ท”่ี (นายสริ วชิ ญ์ ทองศรีนุช ปลัดอำเภอเกาะช้าง, สัมภาษณ์) “การปฏิบัติงานที่สำคัญของปลัดอำเภอนอกจากทำงานได้หลากหลายภารกิจแล้ว ต้องมี การทำงานเป็นทีม มีการทำงานเป็นขั้นตอน ต้องใช้ทักษะในการประสานงาน และทักษะการพูดในที่ชุมชน” (นายทรงวิทย์ อนิ ไชยยา เจา้ พนกั งานปกครองปฏบิ ัตกิ าร ทีท่ ำการปกครองจังหวัดบึงกาฬ, สัมภาษณ์) “ยึดการทำงานตามค่านิยมของกรม คือการทำให้ประชาชนทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น และ การทำงานแบบบูรณาการในภารกิจของกรมการปกครอง โดยการใช้กำลัง อส. มาช่วยทำงานและสร้างที ม การทำงานใหเ้ กิดความเขม้ แขง็ ” (นางสาวธญั ญารตั น์ เหล่าบตุ รศรี ปลดั อำเภอหว้านใหญ่, สมั ภาษณ์) หน้า | 83

“แนวคิดและวิสัยทัศน์สำหรับการปฏิบัติงานไม่ว่าท่านจะปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ใด สงิ่ สำคัญที่สุดในการปฏิบตั งิ านเกย่ี วกบั ตำแหนง่ หน้าทนี่ ้นั คือ การศึกษาเรยี นรู้และทำความเข้าใจภารกิจหน้าท่ี ที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด” (นางสาวอมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ นิติกร กองการเจ้าหน้าท่ี, สัมภาษณ์) “รู้สึกมีความมั่นใจในการปฏิบัติงานมากขึ้น บวกกับได้รู้ว่างานที่เราทำส่งผลดีต่อใครบ้าง สง่ิ สำคญั หลังการฝกึ อบรมคือไดป้ ระสบการณ์ มีทกั ษะในงานเพิ่มขนึ้ และสามารถนำไปต่อยอดได้” (นางสาวนันทยิ า ฟ้องเสยี ง ปลดั อำเภอกุดชมุ , สัมภาษณ)์ “ตำแหน่งปลดั อำเภอ ต้องมลี กั ษณะของความเป็นผูน้ ำทด่ี ีหรือมีคุณสมบตั ิของนักปกครอง โดยภารกจิ ของกรมการปกครองมีความเกยี่ วข้องกับการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นอนั มากตั้งแต่เกิด จนกระทั่งตาย ความเกี่ยวข้องดังกล่าวมีลักษณะเป็นหน้าที่ในการให้บริการแก่ประชาชน ทั้งเรื่องที่กฎหมาย กำหนดไวแ้ ละงานทางปกครอง ปลดั อำเภอจงึ จำเป็นต้องมจี ิตใจท่ีพร้อมจะเสียสละและรบั ใช้ประชาชน ควบคู่ไป กับความสามารถในการปกครองคนดว้ ย” (นายประเสรฐิ ศักดิ์ ทองดลุ ย์ ปลัดอำเภอเมอื งอุทัยธานี, สมั ภาษณ์) 4. การปรับเปล่ยี นทศั นคติทีด่ ีตอ่ ตำแหนง่ หนา้ ทภ่ี ายหลงั จากการฝึกอบรม “การมาเป็นปลัดอำเภอต้องทำงานอย่างทุ่มเท เป็นอาชีพที่เป็นผู้ให้ เสียสละ ทำงานเพื่อ ประชาชน” (นายสิรวิชญ์ ทองศรีนุช ปลดั อำเภอเกาะช้าง, สมั ภาษณ์) “มคี วามรูส้ ึกภาคภูมิใจกับอาชีพรับราชการ ก่อนเข้ามาทำงานในหน้าท่ีฝ่ายปกครอง มองว่า ตำแหน่งปลัดอำเภอมีภารกิจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น พอเข้ามาทำงานจริงๆ หน้าที่อื่นใดที่อยู่ นอกเหนอื จากภารกิจหนา้ ท่ี ถือวา่ เป็นหน้าที่ของฝา่ ยปกครองตอ้ งทำเพอ่ื ประโยชน์สุขของประชาชน” (นายทรงวทิ ย์ อนิ ไชยยา เจา้ พนักงานปกครองปฏิบัติการ ทท่ี ำการปกครองจังหวดั บงึ กาฬ, สมั ภาษณ)์ “หลังผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว ทำให้รู้บริบทการทำงานและความรับผิดชอบในตำแหน่ง หน้าที่ของปลัดอำเภอมากขึ้น นอกจากภารกิจงานของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังมีภารกิจ งานที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และงานของกระทรวงอื่นที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของ ประชาชนและประโยชน์สว่ นรวม” (นางสาวธญั ญารัตน์ เหลา่ บตุ รศรี ปลัดอำเภอหว้านใหญ่, สัมภาษณ์) “การทำงานในตำแหน่งหน้าที่ควรใช้ความระมัดระวัง คิดให้รอบคอบ ยอมรับในความผิด พลาดของตนเอง และพร้อมที่จะปรับปรุงตัวเอง พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และทุกตำแหน่งหน้าที่มีความสำคัญ เทา่ กนั ” (นางสาวอมรรตั น์ จริ นนท์วงศ์ นติ ิกร กองการเจ้าหน้าที่, สัมภาษณ์) “คิดว่าตำแหน่งที่เราเป็นอยู่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างมากมายและ กว้างขวาง ทำให้มีความกระตือรือร้นในการทำงาน รักและมีความสุขในการทำงานมากขึ้น” (นางสาวนันทิยา ฟอ้ งเสยี ง ปลดั อำเภอกุดชุม, สมั ภาษณ์) หน้า | 84

“ตำแหน่งปลัดอำเภอ เป็นตำแหนง่ ท่ีสำคญั ท่ีใกลช้ ิดกับประชาชนหรือชาวบ้าน ปลัดอำเภอ เปรียบเสมือนหนา้ ดา่ นหรือเปน็ ตัวแทนของรฐั ในระดับพื้นท่ี ทง้ั นย้ี ังเป็นผปู้ ระสานความต้องการของประชาชน ในพน้ื ทก่ี ับการดำเนินการของรฐั ในทุกระดับ และเปน็ กลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติด้วย อีกท้ัง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในความรับผิดชอบในพื้นท่ี รักษาความสงบเรียบร้อย เยียวยาและ ดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมในสังคม หากสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จส่ิงท่สี ะท้อนกลับมาคือความภาคภูมิใจที่เรา สามารถแกป้ ัญหาหรือช่วยเหลือคนเขาทเี่ ดือดร้อนได้ เปน็ กลไกสว่ นหน่ึงท่ีทำใหส้ ังคมมีความสงบสุข ซึ่งเป็นสิ่ง ตอบแทนทม่ี ีค่ามากกว่าเงนิ ทองอยู่ในจิตวิญญาณของนักปกครอง” (นายประเสริฐศักด์ิ ทองดลุ ย์ ปลัดอำเภอ เมอื งอทุ ัยธานี, สมั ภาษณ์) 5. ขอ้ เสนอแนะเก่ียวกบั หลกั สตู รปลดั อำเภอ “ควรเพิ่มระยะเวลาการฝึกอบรมซึ่งจะทำให้ได้เนื้อหาวิชาที่ครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และควรเพิ่มการฝึกปฏิบัติควบคู่กับการเรียนทฤษฎี ส่วนวิถธี ัญบุรีเป็นเสนห่ ์อย่างหน่ึงของหลักสูตรปลัดอำเภอ เป็นการฝึกวินัยในตนเองให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานตลอดเวลา” (นายสิรวิชญ์ ทองศรีนุช ปลัดอำเภอ เกาะชา้ ง, สัมภาษณ์) “เนื้อหาในการฝึกอบรมค่อนข้างมากไม่สอดคล้องกับระยะเวลาการฝึกอบรม ทำให้เวลา เรียนบางวิชาบีบอัดมากเกินไปจึงไม่ได้รับความรู้เต็มที่ ควรขยายเวลาจากเดิมออกไปเป็น 60 วัน เจ้าหน้าท่ี โครงการฯ ให้การดูแลดี การจัดเวลาเรียนและการศึกษาดูงานจัดไดด้ ี ส่วนอาคารสถานท่คี วรได้รบั การปรับปรุง ให้ดีขน้ึ ” (นางสาวธัญญารัตน์ เหลา่ บุตรศรี ปลดั อำเภอหวา้ นใหญ่, สมั ภาษณ์) “การจัดอบรมมีวิชาจำนวนที่ค่อนข้างเยอะ ถ้าเปรียบเทียบกับระยะเวลาการฝึกอบรม ทำให้ไม่ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ ควรปรับเวลาการฝึกอบรมให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมมีความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถปฏบิ ัตหิ น้าทไ่ี ด้ทันทีและมคี วามถกู ต้องมากท่ีสุด อกี ทง้ั ยงั ขาดการฝกึ ภาคปฏิบัติที่สามารถ ส่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริง” (นางสาวอมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ นิติกร กองการเจ้าหน้าท่ี, สัมภาษณ์) “ควรเพ่ิมเวลา/ชั่วโมง ในวิชาท่ีไดน้ ำมาใชป้ ฏบิ ัตงิ านจรงิ เชน่ งานสำนักงาน แผนโครงการ งานทะเบียนฯ ควรเนน้ ใหค้ วามรู้กบั ปลดั อำเภอทรี่ บั ผิดชอบงานในหนา้ ทม่ี ากขึน้ การให้ความรูท้ างดา้ นวชิ าการ และภาคปฏบิ ตั คิ วรทำควบคู่กัน เพือ่ ให้การนำไปใช้ปฏิบัติงานมปี ระสทิ ธิภาพและเกดิ ประโยชน์สูงสุด” (นางสาวนนั ทิยา ฟ้องเสยี ง ปลัดอำเภอกดุ ชมุ , สัมภาษณ์) “ตารางเรยี นแน่นไป ควรขยายเวลาการฝกึ อบรมออกไปเปน็ 2 เดือน ควรเพ่ิมจำนวนเวลา เรียนในวชิ าอำนวยความเป็นธรรม และเน้นการฝกึ ปฏิบตั ิมากขึ้น” (นายประเสริฐศักดิ์ ทองดุลย์ ปลัดอำเภอ เมอื งอทุ ัยธานี, สมั ภาษณ์) หนา้ | 85

มิติที่ 2 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการปฏิบัติตน ด้านการปฏิบัติงาน และด้านหน่วยงาน ภายหลังผ่านการฝึกอบรม โดยประเมินผลจากผู้บังคับบัญชาของผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม มีความคิดเห็น ดงั ต่อไปน้ี 1. การปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรมด้านการปฏบิ ัติตน “ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ให้ความเคารพผู้อาวุโส มีความสัมพันธ์ที่ดี กบั ผูร้ ่วมงานและผู้ใต้บังคบั บัญชา หลงั ผา่ นการฝึกอบรมมีการปฏบิ ัติตนเปล่ียนแปลงไปในทางที่ดีข้ึน ซึ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ใต้บังคับบัญชาต่างให้ความชื่นชม” (นายฉัตรชัย ทองหลี นายอำเภอ เกาะชา้ ง, สมั ภาษณ์) “หลังผ่านการฝึกอบรมมาแล้วมีความมั่นใจมากขึ้น มีการแต่งกายได้เหมาะสม ปรับปรุง ตนเองอยู่ในระดับที่ดี มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นมีความเป็นผู้นำและสุขุม สุภาพเรียบร้อย สามารถปฏิบัติหน้าท่ี รว่ มกับเพ่อื นร่วมงานได้ดี” (นายชัยณรงค์ สรุ ะดะนัย ป้องกนั จังหวดั บึงกาฬ, สัมภาษณ์) “ก่อนเข้ารับการฝึกอบรม ผู้เข้ารับการฝึกอบรมขาดทักษะในการบังคบั บัญชาสมาชิกกอง อาสารกั ษาดินแดน (อส.) แต่หลังผา่ นการฝกึ อบรมผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรมกล้าตัดสินใจและกล้าแสดงออกมากข้ึน สามารถบังคับบัญชาสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ให้มีระเบียบวินัยมากขึ้น มีการแต่งกายถูกต้องตาม ระเบียบเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.)” (นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอ หวา้ นใหญ่, สัมภาษณ์) “ก่อนการฝึกอบรมยังขาดเรื่องวัฒนธรรมองค์กร หลังจากที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว สามารถทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานและองค์กรต่างๆ ได้ดีขึ้น การเสนองานต่อผู้บังคับบัญชามีขั้นตอนและ กระบวนการที่ชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น” (นายธนณัฏฐ์ นวไพบูลย์ ผอ.ส่วนงานวินัย กองการเจ้าหน้าท่ี, สัมภาษณ์) “หลงั จากผ่านการฝกึ อบรมแล้วผ้เู ข้ารับการฝึกอบรมมีการพัฒนาบุคลิกภาพท่ีดขี นึ้ มคี วาม เชื่อมั่นในตนเอง มีระเบียบวินัย แต่งกายถูกกฎระเบียบ มีการวางตัวที่ดี มีความเป็นผู้นำ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีการประสานงานมากข้ึน มีทกั ษะในการสือ่ สาร การพดู ในท่ชี มุ ชน กลา้ แสดงออกมากขน้ึ และมีจติ บรกิ ารที่ดี” (นายดสุ ิต สทุ ธิประภา ปลัดอำเภอหวั หนา้ กล่มุ งานบรหิ ารงานปกครอง อำเภอกดุ ชุม, สมั ภาษณ์) “ผูเ้ ขา้ รับการฝึกอบรมมาแล้วมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ประสานงานกบั ทุกส่วนราชการได้ดี สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานและปฏิบัติตนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ การประสานงานและการศึกษาระเบียบกฎหมาย” (นายศุภโชค วินัยพาณิช ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงาน บรหิ ารงานปกครอง อำเภอเมอื งอุทยั ธานี, สัมภาษณ์) 2. การปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมด้านการปฏบิ ตั ิงาน “ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมมาใช้ในการปฏิบัติงานได้ เป็นอย่างดี ความรู้จากการฝึกอบรมบางเรื่องไม่สามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ได้โดยตรง เนื่องจาก พื้นที่มีบริบทและสภาพแวดล้อมแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ แต่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมก็ได้นำความรู้มาประยุกต์ใช้ หน้า | 86