Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานนำเสนอเคสคลอด นางสาวกาญจนา สันเพ็ชร์

งานนำเสนอเคสคลอด นางสาวกาญจนา สันเพ็ชร์

Published by sanphet.kanchana, 2020-10-25 10:01:17

Description: งานนำเสนอเคสคลอด นางสาวกาญจนา สันเพ็ชร์

Search

Read the Text Version

3. สงั เกตพฤตกิ รรมของมารดาทแี่ สดงถึงการมีสมั พนั ธภาพทไี่ มด่ ี เชน่ ไมส่ นใจมองทารก มี สหี นา้ เมินเฉยหรือหนั หนา้ หนี การพดู ถึงทารกในทางลบ การแสดงทา่ ทางหรือคาพดู ทไ่ี มพ่ ึง พอใจขณะตแู ลทารก การขาดความสนใจในการชกั ถามเกย่ี วกบั พฤตกิ รรมของทารกและการเลยี้ งดทู ารก และ ไมแ่ สดงการมีปฏิสมั พนั ธ์ กบั ทารก เชน่ ไมต่ อ้ งทารกหรือไมป่ ระสานสายตา ไมส่ มั ผสั ไมย่ ้ิม ไมอ่ มุ้ ไมโ่ อบกอดทารก เป็ นตน้ 4.จดั ใหม้ ารดาหลงั คลอดไดอ้ ยกู่ บั ทารกโดยเร็ว (rooming-in) เพื่อใหม้ ารดาไดเ้ รียนรทู้ ีจ่ ะเลยี้ งดทู ารกและเรียนรพู้ ฤตกิ รรมของทารก พยาบาลควรชว่ ยในการดแู ลทารกโดยไมป่ ลอ่ ยใหเ้ ป็ น หนา้ ที่ของมารดาทง้ั หมดเพราะมารดายงั ออ่ นเพลียจากการคลอด 5.สง่ เสริมการเลยี้ งทารกดว้ ยนมมารดา เนอื่ งจากการใหท้ ารกดดู นมมารดาจะทาใหส้ มั พนั ธภาพ ระหวา่ งมารดาและทารกแนน่ แฟ้ นย่ิงขนึ้ 6. ใหก้ าลงั ใจพรอ้ มใหค้ าปรึกษาแนะนาแกม่ ารดาเกย่ี วกบั การดแู ลทารก เชน่ การอมุ้ ทารก การพดู คยุ ปลอบประโลมเม่ือทารกรอ้ งไห้ การทาความสะอาดร่างกาย เป็ นตน้ เพื่อใหม้ ารดาเกิด ความมนั่ ใจในบทบาทการเป็ นมารดา และสง่ ผลใหม้ ารดาเกิดความพรอ้ มในการมปี ฏิสมั พนั ธก์ บั ทารกอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 7.สง่ เสริมใหม้ ารดาและครอบครวั มีการปรบั บทบาททงั้ 2 ฝ่ ายโดยครอบครวั ตอ้ งสนบั สนนุ ใหค้ วามมนั่ ใจ กาลงั ใจและร่วมกนั เปิ ดโอกาส ใหม้ ารดามีบทบาทในการเลี้ยงดบู ตุ ร การประเมนิ สมั พนั ธภาพระหวา่ งมารดา บิดาและทารกในระยะหลงั คลอด การประเมินผล 15/ต.ค/63 มารดาสามารถแสดงบทบาทการเป็ นมารดาได้ เชน่ การใหน้ มบตุ ร การอมุ้ ทารกที่ถกู วิธี แสดงความรกั ดว้ ยการพดู คยุ การบตุ ร

การพยาบาล ดา้ นทารก 13 มีโอกาสเกดิ ภาวะอณุ หภมู ิของรา่ งกายต่ากว่าปกติ เน่ืองจากมีไขมนั สะสมนอ้ ยและพ้ืนท่ีผิวกายมากเม่ือเทียบกบั น้าหนกั ตวั 14 มีโอกาสเกิดต่อการติดเช้ือเน่ืองจากระบบภมู ิคมุ้ กนั ของรา่ งกายต่า 15 ทารกอาจเกดิ ภาวะเลอื ดออกง่าย เน่ืองจากมีสารที่ช่วยในการแข็ง ตวั ของเลอื ดต่า (vitamin k dependent f actors)

ขอ้ วินจิ ฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ท่ี 13 มโี อกาสเกดิ ภาวะอณุ หภมู ขิ องรา่ งกายตา่ กวา่ ปกติ เนอ่ื งจากมไี ขมนั สะสมนอ้ ยและพ้ืนทผี่ วิ กายมากเมอ่ื เทยี บกบั นา้ หนกั ตวั ขอ้ มลู สนบั สนนุ S:- O : - ทารกแรกเกดิ BT = 36.2 C , HR = 150/min ,RR = 60/min Oxygen saturation = 99% - Apgar Scores:(1 min) 9คะแนน (5min) 9 คะแนน (10min) 10คะแนน A : - ศนู ยค์ วบคมุ ความรอ้ นของร่างกายทารกยงั ไมส่ มบรู ณแ์ ละทางานไมเ่ ต็มที่อณุ หภมู ขิ องร่างกายจะมีการเปลยี่ นแปลง ไดง้ า่ ย ทาใหม้ โี อกาสสญู เสียความรอ้ นไดง้ า่ ย ถา้ อตั ราการสญู เสียความรอ้ นมากกว่าอตั ราการผลิตความรอ้ นอณุ หภมู ิ ร่างกายจะลดลง อณุ หภมู ทิ ผ่ี วิ ของทารกจะลดลงอยา่ งรวดเร็วในชว่ งเวลา 5 ถึง 10 นาทีหลงั มผี ลทาใหอ้ ณุ หภมู ภิ ายใน ร่างกายลดลงดว้ ยสาเหตทุ ี่อณุ หภมู ลิ ดลงอยา่ งรวดเร็วเนอ่ื งจากความแตกตา่ งระหว่างอณุ หภมู ขิ องผวิ หนังและอณุ หภมู ิ ของอากาศภายนอกของมารดาซ่ึงเย็นกว่าอณุ หภมู ภิ ายในมดลกู ท่ีทารกเคยอยู่ วตั ถปุ ระสงค์ ไมเ่ กดิ ภาวะอณุ หภมู กิ ายตา่ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1) สญั ญาณชพี ปกติ BT = 36.8 - 37.2 C, HR = 120-160 /min, RR = 40-60 /min, O2 saturation > 95% 2) ไมม่ อี าการและอาการแสดงของภาวะอณุ หภมู กิ ายตา่ เชน่ ตวั เย็นปลายมอื ปลายเทา้ เขยี วซึม

กจิ กรรมการพยาบาล 1. ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ Hypothermiaเชน่ ตวั เย็น ปลายมือปลายเทา้ เขยี ว ซึม ไมด่ ดู นม 2. เตรียมอปุ กรณส์ าหรบั ใหค้ วามอบอ่นุ แกท่ ารกไวใ้ หพ้ รอ้ มท่ีจะใชไ้ ดท้ นั ที ไดแ้ ก่ ผา้ หอ่ ตวั ผา้ เช็ดตวั ตอู้ บ (incubator) เครื่องทาความรอ้ น (heater) หรือไฟตงั้ สอ่ งเพ่ือใหเ้ กดิ ความอบอ่นุ เป็ นตน้ เนอ่ื งจากทารกสญู เสียความรอ้ นไดง้ า่ ย 3. จดั ใหท้ ีน่ อน เตยี ง ตอู้ บ ควรตงั้ อย่หู า่ งจากผนงั หอ้ งพอควร โดยเฉพาะผนงั หอ้ งท่ีเป็ นกระจก เพราะอาจทาให้ อณุ หภมู ิของผวิ หนงั ทารกลดลงได้ 4. ใชผ้ า้ แหง้ เช็ดนา้ ครา่ ทตี่ วั ทารกใหแ้ หง้ เพ่ือป้ องกนั การสญู เสียความรอ้ นจากการระเหย ถา้ ตวั ทารกเปี ยกและ อย่ใู นท่ีทมี่ ลี มพดั ผา่ นจะทาใหส้ ญู เสยี ความรอ้ นได้ และหอ่ ตวั ดว้ ยผา้ ทแ่ี หง้ และ อนุ่ วางทารกบนตอู้ บทเี่ ตรียมใหอ้ นุ่ ไวเ้ ป็ นการป้ องกนั การสญุ เสียความรอ้ นจากการแผร่ งั สี (radiation) และการ พาความรอ้ น (convention) เพราะร่างกายท่เี ปี ยกชน้ื ดว้ ยนา้ ครา่ หรือการสมั ผสั กบั อากาศทเี่ ย็นจะทาใหท้ ารกสญู เสียความรอ้ นออกจากร่างกายและมภี าวะอณุ หภมู ริ า่ งกายตา่ สง่ ผลใหก้ าร ไหลเวียนเลอื ดไมส่ ะดวก 5. ทาความสะอาดรา่ งกาย และการพยาบาลตา่ งๆ ในหอ้ งคลอดซึ่งมีอณุ หภมู หิ อ้ งตา่ ควรเปิ ดรา่ งกายทารกทา เทา่ ท่ีจาเป็ นเทา่ นน้ั ใชน้ า้ อนุ่ เช็ดตวั โดยควรทาอย่างรวดเร็วในอณุ หภมู ิหอ้ งท่ีปกติ ไมม่ ีลม หรืออากาศเย็นเกินไป ควรใชไ้ ฟสอ่ ง เครื่องทาความอบอ่นุ หรือเคร่ืองใหค้ วามรอ้ นตลอดเวลาเพ่ือ ป้ องกนั การสญู เสียความรอ้ นออกจากร่างกาย จากนนั้ รีบหอ่ ตวั ทารกหรือสวมเสื้อผา้ ทนั ทเี ม่ือทาความสะอาดเสร็จ

6. จดั เตยี งใหม้ ผี นงั กนั้ โดยรอบ ไมเ่ ปิ ดเผยร่างกายโดยไมจ่ าเป็ นและใชผ้ า้ ปูรองบนโตะ๊ เตยี งหรือผา้ ยางกอ่ นใหท้ ารกนอน เพื่อ ป้ องกนั การสญู เสยี ความรอ้ นออกจากรา่ งกายโดยการสมั ผสั กบั ส่ิงของท่ีมีอณุ หภมู ิตา่ ซ่ึงเป็ นการป้ องกนั สญู เสียความรอ้ นจากการแผร่ งั สี (radiation) 7. ไมเ่ ปิ ดเผยร่างกายทารกโดยไมจ่ าเป็ นและใชผ้ า้ ปูรองบนโตะ๊ เตยี งหรือผา้ ยางกอ่ นใหท้ ารกนอนเพ่ือป้ องกนั การสญู เสยี ความรอ้ น ออกจากร่างกายโดยการสมั ผสั กบั สง่ิ ของทีม่ ีอณุ หภมู ิตา่ ซึ่ง เป็ นการป้ องกนั สญู เสยี ความรอ้ นจากการแผร่ งั สี (radiation) เพ่ือป้ องกนั การแผร่ งั สี 8. ควรทาใหเ้ ครื่องมือ เครื่องใหต้ า่ งๆ อนุ่ กอ่ นจะสมั ผสั รา่ งกาย เพื่อป้ องกนั การสญู เสยี ความรอ้ นแบบนาความรอ้ น 9. ควรทาใหม้ ือและเครื่องใชต้ า่ งๆ อนุ่ กอ่ นท่จี ะสมั ผสั ร่างกายทารก เพ่ือป้ องกนั การสญู เสยี ความรอ้ นจากการนาความรอ้ น (conduction) จากมอื หมอหรือ มือพยาบาลทม่ี อี ณุ หภมู ิตา่ กวา่ การประเมนิ ผล 15/ต.ค/63 อณุ หภมู ิทารก 36.8 องศา ตวั ของทารกห่อดว้ ยผา้ ออ้ ม มารดาเปล่ยี นผา้ ใหท้ ารกเมอ่ื ผา้ เปี ยก ดแู ลทาความสะอาดเม่อื ทารก ขบั ถ่าย

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ที่ 14 มีโอกาสเกิดต่อการติดเช้ือเนื่องจากระบบภมู ิคมุ้ กนั ของรา่ งกายต่า ขอ้ มลู สนบั สนนุ S:- O: ทารกแรกเกดิ BT = 36.2 C , HR = 150/min ,RR = 60/min Oxygen saturation = 99% A: - ทารกแรกเกดิ มี neutrophil storage pool ตา่ กว่าผใู้ หญ่ เมอื่ ไดร้ บั เชอื้ โรคเขา้ ส่รู า่ งกายทารกไมส่ ามารถสรา้ ง neutrophil และ macrophage ขน้ึ ใหมจ่ าก stem cell ได้ จงึ ทาให้ neutrophil ซ่ึงมนี อ้ ยอย่แู ลว้ ถกู ใชห้ มดไป ยง่ิ กว่านน้ั neutrophil ของทารกแรกเกิด ยงั มคี วามผดิ ปกติ สาหรบั HMI และการสรา้ ง opsonin ในทารกแรกเกิดจะใหน้ อ้ ยกว่า ปกติ เนอ่ื งจากมปี ฏิกริ ิยาตอบสนองตอ่ antigen นอ้ ย พรอ้ มกบั มกี ารสรา้ งgammaglobulin ไดน้ อ้ ยและ immunoglobulin จาก มารดาผา่ นทางplacenta หยดุ ลง ดงั นน้ั ทารกแรกเกดิ จงึ เสี่ยงตอ่ การตดิ เชอ้ื แบคทีเรียไดง้ า่ ย วตั ถปุ ระสงค์ ไมม่ ภี าวะตดิ เชอื้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1) Active ดี ทอ้ งไมอ่ ืด สะดอื ไมบ่ วมแดง ไมม่ กี ลนิ่ เหม็น 2) สญั ญาณชพี ปกติ อณุ หภมู ทิ ารก 36.8-37.2 องศา อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ 120-160 ครงั้ /นาที อตั ราการหายใจ 40-60 ครง้ั /นาที ไมม่ กี ารบวม แดง ของสายสะดอื

กจิ กรรมการพยาบาล 1. ประเมนิ อาการและอาการเเสดงของการตดิ เชอื้ เชน่ สายสะดอื บวม แดง มกี ลิ่น ตาเเฉะ 2. จดั สง่ิ แวดลอ้ มใหถ้ กู สขุ ลกั ษณะ เพ่ือป้ องกนั การตดิ เชอ้ื และการแพร่กระจายของเชอื้ โรค หอ้ งทารกควรสะอาด อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก และสามารถควนคมุ อณุ หภมู ิได้ 3. ลา้ งมืออยา่ งถกู วิธีกอ่ นและหลงั การสมั ผสั ทารกทกุ ครง้ั โดยลา้ งจากมอื ถึงขอ้ ศอกดว้ ยนา้ ยาฆา่ เชอื้ สาหรบั ผิวหนงั นาน 3นาที และเช็ด มอื ดว้ ยผา้ แหง้ สะอาดเพ่ือฆา่ เชอื้ และชว่ ยใหเ้ ชอ้ื โรคลดลง 4. เตรียมอปุ กรณท์ ่จี าเป็ นสาหรบั ทารกใหส้ ะอาดหรือปราศจากเชอ้ื พรอ้ มทีจ่ ะใชง้ านไดท้ นั ที ไมว่ างสิ่งของไวเ้ กนิ จาเป็ นเพราะป้ องกนั ไมใ่ หฝ้ ่ ุนละอองสะสม แยกอปุ กรณเ์ คร่ืองใชข้ องทารกไวโ้ ดยเฉพาะทาความสะอาดโตะ๊ เตยี งฝาหอ้ ง และพื้นหอ้ ง ดว้ ยนา้ ยาฆา่ เชอ้ื เป็ นประจา 5. การดแู ลตา ทารกแรกเกิดทกุ รายตอ้ งไดร้ บั การเช็ดตวั ทนั ที 0.9% NSS และป้ ายตาดว้ ย terramycin eye ointment ป้ ายตาทง้ั สองขา้ ง แทน เพ่ือป้ องกนั การตดิ เชอ้ื หนองในซึ่งอาจไดร้ บั ขณะคลอดยาทีใ่ ชต้ อ้ งไมข่ นุ่ หรือหมดอายุ เพราะจะทาใหเ้ ยื่อบตุ าอกั เสบได้ 6. การดแู ลสายสะดอื ภายหลงั การตดั สายสะดอื ตอ้ งสงั เกตการมีเลือดออกทางสายสะดอื เนอ่ื งจากสายสะดอื จะแหง้ และเห่ียวลง เรื่อยๆ เชอื กทผ่ี กู ไวอ้ าจหลวมและทาใหม้ ีเลอื ดออกไดถ้ า้ มีเลอื ดซึมอออกมา ตอ้ งใชส้ าลชี บุ นา้ ยาฆา่ เชอ้ื เช็ดสายสะดอื และผกู ใหมใ่ หแ้ นน่ เพื่อ ป้ องกนั การเสยี เลือดและการตดิ เชอื้ ทางสะดอื โดยเฉพาะเชอื้ บาดทะยกั 7. ปฏิบตั กิ ารพยาบาลโดยใชห้ ลกั Aseptic technique 8. สงั เกตอาการ ซึม ชกั เกร็ง อาเจียน ทอ้ งอืด ซ่ึงเป็ นอาการแสดงการตดิ เชอื้ ถา้ มีอาการใหบ้ นั ทกึ และรายงานแพทยท์ ราบ เพื่อสงั่ การรกั ษา การประเมินผล 15/ต.ค/63 อณุ หภมู ทิ ารก 36.8 องศา อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ 140 ครงั้ /นาที อตั ราการหายใจ 54 ครงั้ /นาที ไมม่ ีเลือดซึมบริเวณสายสะดอื

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ที่ 15 ทารกอาจเกดิ ภาวะเลอื ดออกง่าย เน่ืองจากมีสารที่ชว่ ย ในการแข็งตวั ของเลือดต่า(vitamin k dependent f actors) ขอ้ มลู สนบั สนนุ A: การแข็งตวั ของเลอื ด แรกเกิดถึง 2- 3 วนั สว่ นใหญ่จะมกี ารแข็งตวั ของเลือดชา้ เพราะ prothrombin complex มีการทางานตา่ จนอาจเกิดเลอื ดออกไดแ้ ตภ่ ายหลงั 2-3 วนั ไปแลว้ congulation protein จากคอ่ ยๆเพิ่มจานวนขน้ึ วตั ถปุ ระสงค์ ไมม่ ภี าวะเลอื ดออกงา่ ยหยดุ ยาก เกณฑก์ ารประเมินผล 1) ทารก ไมม่ ีแผลทตี่ ดั สายสะดอื อาเจียนเป็ นเลอื ด อจุ จาระและปัสสาวะเป็ นเลือด พบทารกซึม มรี ปู รา่ งของศีรษะผดิ ปกติ 2) สญั ญาณชพี จรปกติ PR 120-160/min RR40-60/min 5. บนั ทกึ อาการแลละการปฏิบตั กิ ารพยาบาลเพื่อสามารถใหก้ ารพยาบาลอย่างเหมาะสม

กจิ กรรมการพยาบาล 1. ประเมนิ อาการและอาการแสดงของภาวะเลือดออกงา่ ยหยดุ ยาก เชน่ มจี า้ เลอื ด เลอื ดออกบริเวณสายสะดอื 2. ฉีดวิตามนิ เค ขนาด 1มลิ ลิกรมั เขา้ กลา้ มเนอื้ บริเวณตน้ ขาดา้ นหนา้ ของทารก เพอ่ื นชว่ ยในการสรา้ ง prothrombin ในตบั ชว่ ยในการ แขง็ ตวั ของเลอื ดเร็วขนึ้ ป้ องกนั เลอื ดออกผดิ ปกติ 3. สงั เกต อาการเลือดออกของทารก เชน่ แผลท่ีตดั สายสะดือ อาเจยี นเป็ นเลือด อจุ จาระและปัสสาวะเป็ นเลอื ด พบทารกซมึ มรี ปู ร่างของ ศีรษะผดิ ปกตเิ นอ่ื งจากเลือดออกในสมอง ดงั นนั้ หากพบอาการผดิ ปกตริ ายงานอาการแพทยเ์ พ่ือตรวจรกั ษา 4. ป้ องกนั ภาวะช็อก โดยการสงั เกต จานวนเลือดท่ีออด ประเมนิ vital signs หากเลือดออกจากสายสะดือทกุ 1 ชวั่ โมง หลงั เกิด ถา้ มี เลอื ดออกใหผ้ กู สายสะดือใหม่ เพือ่ ป้ องกนั การเสียเลือดท่สี ายสะดอื และถา้ ยงั ออกอีกควรรายงายแพทยเ์ พื่อตรวจรักษา การประเมนิ 15/ต.ค/63 ทารกไมม่ แี ผลทตี่ ดั สายสะดอื ทารกไมซ่ ึม สญั ญาณชพี อตั ราการเตน้ ของหัวใจ 140 /min อตั ราการหายใจ 54 /min อณุ หภมู ขิ องทารก 36.8 องศา และ O2 set = 99 % ไมม่ ถี า่ ยอจุ จาระเป็ นเลอื ด อาเจียน เป็ นเลอื ด หรือจดุ จา้ เลอื ดบรเิ วณรา่ งกาย

การพยาบาล ดา้ นมารดาและทารกหลงั คลอด 16 มีโอกาสติดเช้ือหลงั คลอดเน่ืองจากมีแผลบรเิ วณฝี เยบ็ 17 สง่ เสรมิ ความรใู้ นการเล้ยี งดบู ตุ ร 18 พรอ่ งความรใู้ นการปฏิบตั ิตวั หลงั คลอดท่ีถกู ตอ้ ง 19 สง่ เสรมิ ความรใู้ นการดแู ลตนเองและทารกเม่ือกลบั บา้ น 20 สง่ เสรมิ ความรใู้ นการวางเเผนครอบครวั

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ท่ี 16 มีโอกาสติดเช้ือหลงั คลอดเนื่องจากมีแผลบรเิ วณฝี เย็บ ขอ้ มลู สนบั สนนุ O : - มารดามีแผลในโพรงมดลกู จากการลอกตวั ของรก และมแี ผลฝี เย็บแบบ Left medio-lateral episiotomy A : ตดิ เชอื้ ของมดลกู หลงั คลอด ไดแ้ ก่ มกี ารปนเป้ื อนของเชอื้ แบคทเี รียเขา้ ไปในมดลกู โดยมีปัจจัยเส่ยี งคือ การ ตรวจภายในบ่อยครงั้ การตรวจตดิ ตามทารกในครรภ์ การคลอดทเ่ี นนิ นาน และการผา่ ตดั คลอด ปัจจยั สง่ เสริม ไดแ้ ก่ บาดแผลจากการผา่ ตดั สารแปลกปลอม (foreign body) เนอื้ เย่ือท่ีมเี ลือดไปเล้ียงนอ้ ย และการสะสมของเลอื ด และนา้ เหลอื งใน บริเวณทีผ่ า่ ตดั ทาใหเ้ กดิ การแบ่งและเพิ่มจานวนของแบคทเี รียเขา้ ไปในเนอื้ เย่ือและเกดิ การตดิ เช้ือ เชอ้ื ที่พบในบริเวณ น้ี วตั ถปุ ระสงค์ ไมม่ ีการตดิ เชอ้ื หลงั คลอด เกณฑก์ ารประเมินผล 1) บริเวณ แผลฝี เย็บไมม่ ีการอกั เสบ บวม แดง หนอง 2) นา้ คาวปลาไมม่ ีกล่นิ เหม็น 3) อณุ หภมู ิรา่ งกาย 36.5-37.5 องศา 4) มารดาไมม่ ีอาการแสดงของภาวะตดิ เชอื้ หลงั คลอด เชน่ มไี ข้ ปวดบริเวณแผลฝี เย็บ

กจิ กรรมการพยาบาล 1. ประเมินอาการและอาการแสดงของการตดิ เชอื้ เชน่ แผลมีอาการบวม แดง มหี นอง หรือนา้ คาวปลามีกล่ินเหม็น ควรรายงานเพ่ือนให้ แพทยร์ กั ษา หากพบการบวมควรใหก้ ารพยาบาลโดย การอบฝี เย็บดว้ ยความรอ้ นนาน 20 ถึง 30 นาที เพื่อกระตนุ้ การไหลเวียน เลอื ดบรรเทาความเจ็บปวดและชว่ ยใหแ้ ผลหายเร็ว กอ่ นอบควรชาระอวยั วะสืบพนั ธภ์ุ ายนอกใหส้ ะอาดซบั ใหแ้ หง้ นอนหงายชนั เข่าประมาณ 30 ถึง 45 องศาตงั้ ไฟอบห่างจากฝี เย็บประมาณ 1 ถึง 1.5 ฟุต 52 2. แนะนาใหท้ าความสะอาดอวยั วะเพศทกุ ครงั้ หลงั การถ่ายอจุ จาระและปัสสาวะโดยเช็ดจากหนา้ ไปหลงั ไมเ่ ช็ดยอ้ น เพ่ือกาจัดส่ิงคดั หลงั่ จาก ชอ่ งคลอด คราบปัสสาวะ และอจุ จาระ โดยไมใ่ หเ้ ชอ้ื จะทวารหนกั เขา้ สชู่ อ่ งคลอด เพื่อป้ องกนั การอกั เสบตดิ เชอ้ื ได้ 3. ประเมินลกั ษณะนา้ คาวปลาทอี่ อกมาจากทางชอ่ งคลอด เชน่ สีของนา้ คาวปลา ปริมาณ กลิน่ 4. ดแู ลทาความสะอาดแบบ Universal precaution และกอ่ น/หลงั ทาการพยาบาลใหผ้ ปู้ ่ วยทกุ ครง้ั ควรลา้ งมอื ทกุ ครงั้ เพ่ือป้ องกนั การ แพร่กระจายเชอ้ื โรคสผู่ คู้ ลอด 5. แนะนาใหเ้ ปล่ยี นผา้ อนามยั ทกุ ครงั้ ที่นา้ คาวปลาชมุ่ หรือทกุ 2 ชวั่ โมง เพราะถา้ ปลอ่ ยใหน้ า้ คาวปลาชมุ่ จะเป็ นแหลง่ เพาะเชอ้ื แบคทเี รีย กอ่ ใหเ้ กดิ การตดิ เชอ้ื บริเวณแผล 6. แนะนาใหร้ บั ประทานอาหารที่มโี ปรตนี สงู เชน่ เนอ้ื สตั ว์ ไข่ นม และผลไมท้ ี่มวี ิตามนี ซี ผกั เพ่ือชว่ ยในการซ่อมแซมเนอ้ื เยื่อชว่ ยใหแ้ หลหาย เร็วขนึ้ 7. วดั สญั ญาณชพี ทกุ 4 ชวั่ โมง เพื่อประเมนิ อาการเปลย่ี นแปลงของรา่ งกายตอ่ ภาวะตดิ เชอ้ื ถา้ พบสง่ิ ผดิ ปกติ เชน่ อณุ หภมู ขิ องรา่ งกาย มากกวา่ 38 องศา อนั ตราการเตน้ ของหวั ใจมากกวา่ 100 ครง้ั /นาที อตั ราการหายใจมากกว่า 24 ครง้ั /นาที เพื่อทราบการ เปลี่ยนแปลงของร่างกายและใหก้ ารพยาบาลอย่างเหมาะสม การประเมนิ ผล 16/ต.ค/63 บริเวณ Leftlabia minora ไมม่ ีการอกั เสบ บวม แดง หนอง นา้ คาวปลาไมม่ ีกลิน่ เหม็น อณุ หภมู ิรา่ งกาย 36.8 องศา ไมม่ ไี ข้ และปวดบริเวณ แผลฝี เย็บ

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ท่ี 17 สง่ เสรมิ ความรใู้ นการเล้ียงดบู ตุ ร ขอ้ มลู สนบั สนนุ O:มารดาหลงั คลอดG1P0000 วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหม้ ารดา มีความรใู้ นการเล้ยี งดบู ตุ ร และสามารถปฏิบตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ ง 2. เพ่ือสง่ เสริมสนบั สนนุ ใหม้ ารดา เลี้ยงบตุ รดว้ ยนมมารดาอย่างเดยี ว 6เดอื น เกณฑก์ ารประเมนิ ผล มารดาปฏิบตั ติ ามคาแนะนาไดถ้ กู ตอ้ ง เชน่ อมุ้ ลกู ดดู นมไดถ้ กู ตอ้ ง วิธีอมุ้ ลกู ลบู หลงั ไลล่ ม และสามารถตอบคาถาม เมือ่ ประเมิน ยอ้ นกลบั โดยเจา้ หนา้ ท่ี เรื่องการเลย้ี งดบู ตุ รไดถ้ กู ตอ้ ง กจิ กรรมการพยาบาล 1. แนะนาใหเ้ ลย้ี งดบู ตุ รดว้ ยนมมารดาอยา่ งเดยี วนานอย่างนอ้ ย 6 เดอื น เพราะนา้ นมมารดา มปี ระโยชนม์ ีคณุ คา่ ทางสารอาหารสงู เหมาะสาหรบั เลย้ี งทารก สะอาด ประหยดั และมภี มู ติ า้ นทานโรค 2. สอน สาธิตการอาบนา้ ทารก ควรอาบนา้ ทกุ วนั อย่างนอ้ ยวนั ละครง้ั โดยอาบนา้ อนุ่ ไมค่ วรอาบนา้ นานเกนิ 15 นาที และควรสระผม อย่างนอ้ ยวนั เวน้ วนั เพ่ือรกั ษาความสะอาดของเสน้ ผม สวมใสเ่ สือ้ ผา้ ท่ีสะอาด ใหค้ วามอบอนุ่ อยเู่ สมอ และหลงั อาบนา้ เช็ดสะดอื ดว้ ย Alcohol 70 % และสอนใหม้ ารดาทาตามหลงั จากเช็ดใหด้ ู โดยปกตสิ ะดอื ทารกจะหลดุ ภายใน1 สปั ดาห์ หา้ มแคะ หรือดงึ สะดอื หา้ มโรย แป้ ง และทายาตา่ งๆเพราะจะทาใหส้ ะดอื อกั เสบได้

3. แยกเครื่องใชส้ าหรบั ทารก เสอ้ื ผา้ และผา้ ออ้ ม ควรซักและตากใหแ้ หง้ 4. ลา้ งมือ กอ่ นและหลงั สมั ผสั ตวั เด็ก และควรแยกเด็กจากคนทเี่ ป็ นไขห้ วดั และคนเป็ นโรคตดิ ตอ่ เพราะทารกมีภมู ิตา้ นทานโรคตา่ 5. แนะนาใหด้ แู ลทารกไดร้ บั การพกั ผอ่ น อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 18-20 ชวั่ โมง 6. การใหอ้ าหาร ใหท้ ารกกนิ นมมารดาเพียงอย่างเดยี วนาน6 เดอื น แลว้ จึงใหอ้ าหารเสริมตามวยั ซึ่งดไู ดใ้ นสมดุ บนั ทึกสขุ ภาพสี ชมพู 7. แนะนาการจดั ทา่ นอนท่ถี กู ตอ้ ง คือหลงั จากที่อมุ้ ทารกเรอแลว้ 15 นาที จดั ใหท้ ารกนอนตะแคงดา้ นใดดา้ นหน่ึงเพ่ือป้ องกนั ทารกสาลกั นม 8. สอนเทคนคิ การใหน้ มอย่างถกู วิธี โดยอมุ้ ใหถ้ กู ตอ้ ง ใชม้ อื จบั เตา้ นม โดยใหน้ ว้ิ หวั แมม่ อื อย่ดู า้ นบนและนิ้วอ่ืนๆรองรบั เตา้ นมใช้ หวั นมเขยี่ แกม้ ทารกเพื่อกระตนุ้ การดดู นม โดยใหท้ ารกดดู นมได้ ปากทารกคาบลึกบริเวณลานหวั นม เนน้ การดดู 5 ด. ไดแ้ ก่ ดดู เร็ว ดดู บอ่ ย ดดู ถกู วิธี ดดู เลี้ยงเตา้ และดดู สมา่ เสมอ 9. เเนะนาทารกไปรบั การฉีดวคั ซีนตามนดั ทกุ ครงั้ 10. สงั เกตอาการผดิ ปกตขิ องทารกเชน่ มไี ข้ ชกั ตา ตวั เหลือง ซึมไมย่ อมดดู นม หอบ ถ่ายอจุ จาระเหลวใหร้ ีบมาพบแพทยท์ นั ทีไม่ ตอ้ งรอถึงวนั นดั ไมค่ วรซ้ือยามารบั ประทานเอง 11. ใหไ้ ปแจง้ เกิดทารกภายใน 15 วนั หลงั คลอด เอกสารทต่ี อ้ งเตรียมคือ บตั รประจาตวั ประชาชน บิดาและมารดา พรอ้ มสาเนา ทะเบียนบา้ นไปแจง้ เกิด และแจง้ ยา้ ยเขา้ ทะเบียนบา้ นตนเอง การประเมนิ ผล 16/ต.ค/63 มารดาสามารถตอบคาถามการเลยี้ งลกู ดว้ ยทารกไดถ้ กู ตอ้ ง

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ที่ 18 พรอ่ งความรใู้ นการปฏิบตั ิตวั หลงั คลอดท่ีถกู ตอ้ ง ขอ้ มลู สนบั สนนุ S : มารดาถามวา่ ควรปฏิบตั ติ นอย่างไรบา้ งในการดแู ลตนเองหลงั การคลอดบตุ ร O : ไมส่ ามารถบอกการปฏิบตั ติ นหลงั คลอดไดถ้ กู ตอ้ ง วตั ถปุ ระสงค์ มารดามีความรใู้ นการปฏิบตั ติ วั หลงั คลอดไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เกณฑก์ ารประเมนิ มารดาหลงั คลอดสามารถบอกวิธีปฏิบตั ติ นหลงั คลอดไดถ้ กู ตอ้ ง กิจกรรมกาพยาบาล ใหค้ าแนะนาการปฏิบตั ติ วั หลงั คลอดแกม่ าดา ดงั น้ี 1. การพกั ผอ่ นและการเร่ิมทางาน ควรนอนกลางวนั ประมาณ 1-2 ชวั่ โมง กลางคืน 6-8 ชวั่ โมง ไมค่ วรขน้ึ บนั ไดสงู ๆ ทางาน เบาๆได้ แลว้ ค่อยเพิ่มขน้ึ ตามลาดบั ไมค่ วรยกของหนกั หลงั จาก 6 สปั ดาหห์ ลงั คลอดจึงจะทางานไดต้ ามปกติ 2. การรบั ประทานอาหาร ควรรบั ประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์ เชน่ เนอ้ื สตั วต์ า่ งๆ ไข่ นมสด ผกั ทกุ ชนดิ ผลไม้ และดม่ื นา้ อย่างเพียงพอ เพราะจะชว่ ยใหส้ ขุ ภาพของมารดาแข็งแรง คณุ ภาพของนา้ นมดแี ละยงั ชว่ ยในการขบั ถ่าย

3. การบริหารรา่ งกาย อย่างนอ้ ย 6 สปั ดาหห์ ลงั คลอด - ฝึ กการหายใจ เพ่อื สง่ เสริมการท างานของปอดใหม้ ปี ระสิทธิภาพ - ฝึ กบรหิ ารกลา้ มเนอื้ ขาและขอ้ เทา้ เพื่อใหก้ ารไหลเวียนเลือดสะดวกชว่ ยใหก้ ลา้ มเนอ้ื ขาแข็งแรงการทรงตวั ดี - ฝึ กการพกั ผอ่ นทสี่ มบรู ณใ์ นระยะหลงั คลอด คือ การนอนควา่ ใชห้ มอนรองบรเิ วณหนา้ ทอ้ งเพ่ือชว่ ยใหน้ า้ คาวปลาไหล สะดวก 4. การทาความสะอาดร่างกาย ควรอาบนา้ วนั ละ 2 ครง้ั ทาความสะอาดอวัยวะสบื พนั ธภ์ ายนอก ทกุ ครงั้ หลงั ถ่ายปัสสาวะและอจุ จาระซับใหแ้ หง้ จากดา้ นหนา้ ไปดา้ นหลงั เปล่ยี นผา้ อนามยั ทกุ 4ชวั่ โมง 5. การร่วมเพศ ควรงดการร่วมเพศจนกว่าจะไดต้ รวจหลงั คลอดเมอื่ ครบ 6 สปั ดาหเ์ นอ่ื งจากมแี ผล ในโพรงมดลกู การประเมนิ ผล 16/ต.ค/63 มารดาหลงั คลอดสามารถบอกวิธปี ฏิบตั ติ นหลงั คลอดไดถ้ กู ตอ้ ง

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ท่ี 19 สง่ เสรมิ ความรใู้ นการดแู ลตนเองและทารกเมื่อกลบั บา้ น ขอ้ มลู สนบั สนนุ O : - มารดาไมส่ ามารถบอกวิธปี ฏิบตั ติ วั เมอื่ กลบั บา้ นได้ วตั ถปุ ระสงค์ มารดามคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั การปฏิบตั ติ วั เมอื่ กลบั เกณฑก์ ารประเมิน 1) มารดามคี วามรแู้ ละสามารถตอบคาถามได้ 2) มารดาไมม่ ีความวิตกกงั วลและมคี วามมนั่ ใจการใหค้ าแนะนาและสามารถนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง กจิ กรรมการพยาบาล 1. สรา้ งสมั พนั ธภาพกบั มารดาเพ่ือใหม้ ารดาเกดิ ความไวว้ างใจการใหค้ าแนะนาและสามารถนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 2. แนะนาการรบั ประทานอาหารที่มีประโยชน์ เนน้ อาหารท่มี ีโปรตนี สงู ไดแ้ ก่ ปลา ไข่ ถัว่ นม และ รวมไปถึงผกั ผลไมอ้ าหาร ท่ยี อ่ ยงา่ ย ดื่มนา้ สะอาด วนั ละ 1-2ลิตร อาหารทีค่ วรงดรบั ประทาน ไดแ้ ก่ อาหารที่ปรงุ สกุ ๆ ดบิ ๆ ผกั ผลไมด้ อง อาหารรสจดั เครื่องแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ รวมไป ถึงยาตม้ ทกุ ชนดิ เพราะ มผี ลตอ่ ทารกท่รี บั ประทานนมแม่

3. แนะนาใหม้ ารดาพกั ผอ่ นในชว่ งกลางวนั นอน หลบั ขณะทารกนอนหลบั ประมาร 1-2ชวั่ โมงและ นอนหลบั กลางคืน ควรนอนอย่างนอ้ ย วนั ละ 6-8 ชงั่ โมง 4. แนะนาใหม้ ารดาทาความสะอาดอวยั วะสบื พนั ธ์ุ ทกุ ครงั้ หลงั การขบั ถ่ายดว้ ยนา้ สะอาดหรือสบู่ โดยลา้ งจากดา้ นหนา้ ไปดา้ นหลงั ดา้ นบนไปดา้ นลา่ ง ไมถ่ กู กลบั และซบั ใหแ้ หง้ ทกุ ครงั้ กอ่ นใสผ่ า้ อนามยั ควรเปลยี่ นผา้ อนามยั ทกุ 4 ชวั่ โมง เพื่อป้ องกนั การตดิ เชอื้ 5. แนะนาอาการผดิ ปกตทิ ี่มารดาตอ้ งมาพบแพทยก์ อ่ นวนั นดั เมอ่ื มีอาการ เชน่ นา้ คาวปลาสีไมจ่ าง ลง ปริมาณไมล่ ดลง มีกลนิ่ เหม็นมีไขส้ งู เกนิ 2 วนั ปวดศีรษะ หนา้ มืด วิงเวียน ปัสสาวะแสบขดั ใหร้ ีบมาพบแพทย์ 6. แนะนาการทางานหลงั คลอด การทางานทอ่ี อกแรงนอ้ ย หรือทางานทีง่ ดใชก้ ลา้ มเนอื้ หนา้ ทอ้ ง ไมย่ กของหนกั งานที่สามารถทาได้ การ ทางานบา้ น กวาดขยะ ถบู า้ น 7. แนะนาเร่ืองการอาบนา้ ใหท้ ารก ควรอาบนา้ อย่างนอ้ ยวนั ละ 1 ครงั้ ครง้ั ละ 15-20 นาที โดยทดสอบนา้ ทใี่ ชอ้ าบทารก ควรเป็ นนา้ อนุ่ เช็ด ตวั ใหแ้ หง้ สวมใสเ่ ส้อื ผา้ ท่ีสะอาดแหง้ ไมอ่ บั ชนื้ และความสะอาดสะดอื ดว้ ยสาลีชบุ Alcohol70%หา้ มใชแ้ ป้ งหรือสิ่งตา่ งโรยสะดอื จะทาใหส้ ะดอื อกั เสบ 8. ดแู ลใหท้ ารกดมื่ นา้ แมท่ กุ 2-3 ชวั่ โมง อย่างเดยี วนาน 6เดอื น เพ่ือสรา้ งเสริมพลงั งานและสารอาหาร ใหแ้ ก่ ทารกและทารกและมีภมู ิ ตา้ นทานโรคอีกดว้ ย 9. ดแู ลเปลีย่ นผา้ ออ้ มทนั ที เมอื่ ทารกถ่ายปัสสาวะหรือ อจุ จาระ เพ่ือป้ องกนั การอบั ชน้ื และการสญู เสยี ความรอ้ น การประเมินผล 16/ต.ค/63 มารดาสามารถตอบคาถามการปฏิบตั ติ วั เพื่อดแู ลตนเองและทารกเมือ่ กลบั บา้ นได้

ขอ้ วินิจฉยั ทางการพยาบาลขอ้ ที่ 20 สง่ เสรมิ ความรใู้ นการวางเเผนครอบครวั ขอ้ มลู สนบั สนนุ S: มารดาบอกวา่ “ คมุ กาเนดิ ดว้ ยการยาเม็ดคมุ กาเนดิ ชนดิ เม็ด 28 เม็ด” O:มารดาไมส่ ามารถตอบคาถามการรบั ประทานยาเม็ดคมุ กาเนดิ กรณีที่ลืมทานได้ :มารดาอายุ 30 ปี G1P0000 วตั ถปุ ระสงค์ มารดามคี วามรเู้ รื่องการวางแผนครอบครวั เกณฑก์ ารประเมนิ มารดามคี วามเขา้ ใจในเร่ืองการวางเเผนครอบครวั และสามารถเลอื กแนวทางการวางแผนครอบครวั ท่ี เหมาะสม กจิ กรรมการพยาบาล 1. ประเมนิ ความรเู้ กี่ยวกบั การคมุ กาเนดิ เพ่ือที่ทราบถึงระดบั ความรขู้ องผคู้ ลอด เพื่อทจี่ ะนามาวางแผนในการใหก้ าร พยาบาลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. อธิบายเก่ยี วกบั การคมุ กาเนดิ ชนดิ ตา่ งๆ เพื่อลดการตง้ั ครรภท์ ่ีไมพ่ ึงประสงค์ และมารดาสามารถเล้ียงดบู ตุ รไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ ดงั นี้ -ยาเม็ดคมุ กาเนดิ (Oral contraceptives)มีเเบบฮอรโ์ มนเดี่ยวและฮอรโ์ มนรวม ดงั น้ี 1. ยาคมุ กาเนดิ ชนดิ ฮอรโ์ มนรวม ประกอบดว้ ยฮอรโ์ มนเอสโตรเจนและโปรเจสตนิ ทาหนา้ ทีย่ บั ยง้ั การตกไขท่ าใหม้ กู ชอ่ ง คลอดขน้ ขน้ึ ป้ องกนั อสจุ ิเคลือ่ นตวั ผา่ นปากมดลกู และทาใหผ้ นงั มดลกู ไมเ่ หมาะกบั การฝังตวั

-ยาฉีดคมุ กาเนดิ (DMPA) ยาฉีดคมุ กาเนดิ จะสง่ ผลตอ่ การตกไข่ เยื่อบโุ พรงมดลกู และเพิ่มความขน้ ใหแ้ กม่ กู ชอ่ งคลอด เพ่ือ ป้ องกนั การตง้ั ครรภ์ -แผน่ แปะคมุ กาเนดิ (Transdermal patch) แผน่ แปะคมุ กาเนดิ จะปลอ่ ยฮอรโ์ มนเอสโตรเจนและ โปรเจสตนิ ออกมา สง่ ผลตอ่ การตกไขแ่ ละประสทิ ธิภาพในการฝังตวั ของไข่ รวมถึงทาใหม้ กู ชอ่ งคลอดขน้ ขน้ึ จนอสจุ ิเคลอ่ื นตวั เขา้ ไปไดย้ าก ผใู้ ชต้ อ้ งเปลยี่ นแผน่ แปะคมุ กาเนดิ ใหมท่ กุ สปั ดาหอ์ ย่างตอ่ เนอ่ื งนาน 3 สปั ดาห์ และหยดุ ใชแ้ ผน่ แปะ 1 สปั ดาห์ ใน ระหวา่ งที่ประจาเดือนมา -ถงุ ยางอนามยั (Condoms)มลี กั ษณะบาง ทาจากยางหรือวสั ดอุ ื่น ๆ ใชส้ วมทอ่ี วยั วะเพศชายขณะมีเพศสมั พนั ธ์ เพ่ือไมใ่ หอ้ สจุ ิ ผา่ นเขา้ ไปในชอ่ งคลอดจนเกดิ การตงั้ ครรภ์ -ยาฝังคมุ กาเนดิ (Etonogestrel implant)ลกั ษณะเป็ นหลอดยาขนาดเล็ก ภายในบรรจฮุ อรโ์ มนโปรเจสตนิ ไวใ้ ชฝ้ ังเขา้ ไปใตผ้ วิ หนงั โดยยาฝังคมุ กาเนดิ จะสง่ ผลตอ่ การตกไขแ่ ละเพิ่มความขน้ ใหก้ บั มกู ชอ่ งคลอด เพื่อขดั ขวางการเคล่อื นตวั ของอสจุ เิ ขา้ สมู่ ดลกู -การใสห่ ว่ งคมุ กาเนดิ (Intrauterine device)ขอ้ ดี การใสห่ ว่ งอนามยั ในแตล่ ะครงั้ จะชว่ ยป้ องกนั การตงั้ ครรภไ์ ดส้ งู สดุ ประมาณ 3-5 ปี ขอ้ เสีย อาจไมส่ ะดวกเหมือนวิธกี ารอื่น ๆ เพราะการใสแ่ ละถอดหว่ งอนามยั ตอ้ งทาโดยแพทยใ์ นสถานพยาบาลเทา่ นน้ั

-การทาหมนั หญิง เป็ นการผกู ทอ่ นาไข่ ทาใหอ้ สจุ ิไมส่ ามารถเคลือ่ นตวั เขา้ สมู่ ดลกู ได้ ขอ้ ดี เป็ นวิธีการคมุ กาเนดิ ถาวรรปู แบบหนง่ึ ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพสงู ไมส่ ง่ ผลตอ่ ฮอรโ์ มนเอสโตรเจนหรือโปรเจสตนิ ในรา่ งกาย เมอ่ื เทียบกบั การคมุ กาเนดิ รปู แบบอื่น ๆ ยงั คงมีอารมณท์ างเพศไดเ้ หมือนเดมิ อารมณไ์ มแ่ ปรปรวนและประจาเดอื นยังคงมาตามปกติ ขอ้ เสยี เนอ่ื งจากเป็ นการคมุ กาเนดิ แบบถาวร จึงตอ้ งตดั สินใจใหด้ กี อ่ น เมอ่ื ทาหมนั ไปแลว้ หากเปลย่ี นใจอาจตอ้ งแกไ้ ขโดยการ ผา่ ตดั เพ่ือเปิ ดทอ่ นาไข่ ซ่ึงมคี า่ ใชจ้ า่ ยสงู 3. หลงั จากทีน่ าเสนอชนดิ ของการคมุ กาเนดิ ใหผ้ คู้ ลอดไดท้ ราบแลว้ นน้ั ใหม้ ารดาเลือกวิธีการคมุ กาเนดิ เอง โดยพิจารณาจากอายุ โรคประจาตวั การตงั้ ครรภ์ เป็ นตน้ เพื่อทจ่ี ะสง่ ผลใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพมากที่สดุ และป้ องกนั ภาวะแทรกซอ้ นที่อาจจะเกิดขนึ้ ได้ 4. เปิ ดโอกาสใหผ้ คู้ ลอดไดซ้ ักถามขอ้ สงสยั ประเด็นท่ยี งั คา้ งคาเพื่อสง่ เสริมใหเ้ กดิ ความกระจ่างแจง้ และเขา้ ใจ ในการคมุ กาเนดิ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเพื่อประสทิ ธิภาพของการคมุ กาเนดิ ร่วมดว้ ย 5. แนะนาสถานทโี่ รงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตาบลใกลบ้ า้ นเพ่ือทีจ่ ะปรึกษาใหม้ ีปัญหาหรือขอ้ สงสยั ในการคมุ กาเนดิ รว่ มกบั การ วางแผนครอบครวั เพ่ือสง่ เสริมใหม้ กี ารคมุ กาเนดิ ที่ถกู ตอ้ งและมีประสิทธิภาพอย่างตอ่ เนอ่ื ง การประเมนิ ผล 16/ต.ค/63 มารดาสามารถถามตอบไดเ้ ก่ยี วกบั การรบั ประทานยาเม็ดคมุ กาเนดิ ในกรณีทล่ี มื มารดาสนใจการคมุ กาเนดิ เเบบยาฉีดคมุ กาเนดิ

สรปุ ผลการศึกษา มารดาอายุ 30 ปี G1P0-0-0-0 GA 38+4 wks By U/S LMP 22 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 EDC 26 ตลุ าคม 2563 by U/S ANC 8 ครงั้ รบั ไวใ้ นความดแู ล 15 ตลุ าคม 63 มารดา รสู้ กึ ตวั ดี มสี หี นา้ แสดงความปวด ระดบั ยอดมดลกู 3/4 เหนอื ระดบั สะดอื ถา้ OLA, HE, FHS 148 /นาที PV เวลา 10:29 น พบวา่ Cervix dilatation 9 เซนตเิ มตร EFM 100% MR Station + 2 มารดาเจ็บครรภถ์ ่ีขนึ้ กระสบั กระสา่ ย บอกพยาบาลว่า อยากเบ่ง ยา้ ยเขา้ หอ้ งคลอด เวลา 10:35 น. มารดาสามารถคลอกได้ ตามปกติ ระยะท่ี 1 ของการคลอด ใชเ้ วลา 11 ชวั่ โมง 30นาที ระยะที่ 2 ของการคลอด มารดาไมส่ ามารถไม่ สามารถเบ่งไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี ใชเ้ วลา 50 นาที ในระยะท่ี 3 ของการคลอด รกคลอด ใชเ้ วลา 12 นาที ขณะคลอด และหลงั คลอด ไมเ่ กิดภาวะแทรกซอ้ น สญั ญาณชพี BT 36.6 C PR = 90/min RR = 20/min BP = 108/72 mmHg UC ดี bladder no full,bleeding ปกติ , Remark blood clot 30 cc นา้ นมไหล ทารกดดู ไดแ้ ผลเย็บไมบ่ วมไม่ ซึม ทารกคลอด 11:26 น เพศชาย นา้ หนกั 3100 กรมั ร่างกายสมบรู ณ์ cathedral รอ้ งเสยี งดงั ตวั แดงดี Body Temperature 36.2 1 °. Heart rate = 142/min, Respiratary rate = 54 /min, Oxygen saturation = 97 %, C Head 33 cms Chest 32 cms

เอกสารอา้ งอิง บรรณานกุ รม ดารนิ โตะ๊ กาน.ิ (2559). ทกั ษะทางการพยาบาลมารดาทารกและการผดงุ ครรภ.์ (พมิ พค์ รง้ั ที่4).กรงุ เทพฯ: บริษทั ส. เอเชยี เพรส(1989)จากดั . ปิ ยะนชุ ชโู ต.(2562).การพยาบาลและการผดงุ ครรภ:์ สตรใี นระยะคลอดและหลงั คลอด.เชยี งใหม.่ บริษทั สมารท์ โคตรตง้ิ แอนดเ์ ซอรว์ ิส จากดั . มณีภรณ์ โสมานสุ รณ.์ (2556).การพยาบาลสตู ศิ าสตร์ เล่ม2.(พมิ พค์ รงั้ ที่11).นนทบรุ ี : บริษทั ยทุ ธรินทร์ การพมิ พจ์ ากดั .

THANK YOU


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook