คู่มอื ฝึกอบรมการปลุกจติ ส�ำ นกึ เพ่อื เตรยี มพรอ้ มรบั ภัยน�ำ้ ทว่ ม ISBN 978-974-225-753-8 จำ�นวนหน้า: 94 พิมพค์ รัง้ ท่ี 1: พ.ศ. 2553 จ�ำ นวน 1,000 เลม่ โดย: โครงการ “การเพ่ิมขีดความสามารถในการบรหิ ารจดั การอุทกภยั ในสภาวะฉุกเฉิน” ภายใต้แผนงานบริหารจัดการและบรรเทาอุทกภยั ของสำ�นักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแมน่ �ำ้ โขง ผรู้ บั ผดิ ชอบการจดั พมิ พ์: ศูนย์เตรียมความพรอ้ มป้องกันภยั พบิ ัตแิ หง่ เอเชีย โทร. 0 2298 0681-92 เว็บไซต:์ www.adpc.net ส�ำ นักพิมพ:์ บริษัท เทมมา กรปุ๊ จ�ำ กัด
สารบัญ หนา้ บทนำ� 2 คำ�ชีแ้ จงการใช้คูม่ ือ 6 9 บทท่ี 1 ภยั พิบตั แิ ละระบบการแจง้ เตือนภัย 10 1.1 ภัยพบิ ตั ิคอื อะไร ประเภทและผลกระทบจากภยั พบิ ัตทิ ีม่ ตี ่อชุมชน 16 1.2 แผนทเี่ สีย่ งภัยชมุ ชน 19 1.3 ระบบการเฝ้าระวงั และแจ้งเตอื นภัยล่วงหน้า 33 บทที่ 2 การเตรียมความพร้อมรบั ภยั นำ้�ท่วม 34 2.1 สาเหตแุ ละผลกระทบจากน้ำ�ทว่ ม 40 2.2 การเตรียมความพร้อมในช่วงก่อน ระหวา่ ง และหลงั การเกดิ น�้ำ ทว่ ม 45 บทท่ี 3 กระบวนการปลกุ จิตสำ�นึกเพือ่ เตรยี มพรอ้ มรบั ภัยน�ำ้ ท่วม 46 3.1 ความหมายและกระบวนการปลุกจิตสำ�นึก 52 3.2 การพฒั นาสื่อเพ่อื กิจกรรมปลกุ จิตสำ�นกึ 57 บทท่ี 4 การสรา้ งเครือขา่ ยและการจดั ทำ�แผนกิจกรรมปลุกจิตสำ�นึก เพ่ือเตรยี มพรอ้ มรบั ภัยน้ำ�ทว่ ม 58 4.1 การจดั ทำ�แผนกจิ กรรมปลกุ จิตสำ�นึกเพ่อื เตรียมพรอ้ มรบั ภัยน�ำ้ ท่วมในระดบั ชุมชน 61 89 ภาคผนวก บรรณานุกรม
บทน�ำ แผนงานบริหารจัดการและบรรเทาอุทกภัย (Flood Management and Mitigation Program: FMMP) สำ�นักงานเลขาธิการคณะกรรมาธกิ ารแมน่ ำ้�โขง ช่วยในการปอ้ งกันและบรรเทาความทุกขย์ ากของประชาชนและความเสียหาย ทางเศรษฐกจิ รวมทงั้ รักษาผลประโยชนท์ างสงิ่ แวดล้อมอันเน่อื งมาจากอุทกภยั แผนงานดงั กล่าวประกอบไปด้วย 5 แผนงาน ยอ่ ย ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. การจัดตงั้ ศูนย์บรหิ ารจัดการและบรรเทาอุทกภยั ระดบั ภมู ภิ าค 2. มาตรการด้านส่งิ ก่อสร้างและการใช้วัสดทุ ี่ทนทานต่อสภาวะน�้ำ ท่วม 3. การสนับสนุนความรว่ มมอื ขา้ มผ่านแดนเพ่อื แก้ปัญหาอุทกภยั 4. การเพม่ิ ขดี ความสามารถในการบรหิ ารจัดการอทุ กภยั ในสภาวะฉกุ เฉิน 5. การบรหิ ารจัดการทด่ี นิ ในส่วนของแผนงานย่อยท่ี 4: การเพิม่ ขีดความสามารถในการบรหิ ารจดั การอทุ กภัยในสภาวะฉกุ เฉิน ภายใต้แผนงานบริหาร จดั การและบรรเทาอทุ กภยั ของส�ำ นกั งานเลขาธิการคณะกรรมาธกิ ารแม่น�ำ้ โขง นนั้ ได้รบั การสนับสนนุ ด้านวชิ าการจาก ศูนย์เตรยี มความพรอ้ มป้องกนั ภัยพิบัตแิ หง่ เอเชยี (Asian Disaster Preparedness Center: ADPC) และการสนบั สนนุ งบประมาณจากรฐั บาลสหพันธส์ าธารณรัฐเยอรมนี ผา่ นทางสำ�นกั งานความรว่ มมือทางวชิ าการของเยอรมัน (Deutsche Gesellschaft fur Technische Zusammenarbeit: GTZ) ในการดำ�เนินกิจกรรมโดยความร่วมมอื จากประเทศสมาชิก ผา่ นคณะกรรมการแมน่ �ำ้ โขงแห่งชาติและส�ำ นกั งานบริหารจดั การภัยพิบตั แิ หง่ ชาติ ตลอดจนหน่วยงานตา่ งๆท่เี ก่ยี วข้อง ทกุ ระดับ แผนงานดงั กล่าวให้ความสำ�คัญในการเตรยี มความพร้อมและเพ่มิ ขดี ความสามารถในการบรหิ ารจัดการอทุ กภัย ในสภาวะฉกุ เฉินในกลุม่ ประเทศลุ่มแม่นำ�้ โขง 4 ประเทศ ไดแ้ ก่ ราชอาณาจกั รกัมพูชา ราชอาณาจกั รไทย สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐสังคมนยิ มเวียดนาม ผา่ นกิจกรรมท่ีมงุ่ เนน้ ในการสร้างศักยภาพ การแลกเปล่ยี น ความรู้และการจดั กิจกรรมปลุกจิตส�ำ นกึ ทั้งในระดับจังหวดั อำ�เภอและชุมชน คู่มอื ฝึกอบรม การปลกุ จิตส�ำ นึกเพือ่ เตรยี มพรอ้ มรบั ภยั น้ำ�ทว่ มฉบับนี้ ไดถ้ ูกพัฒนาขนึ้ เพือ่ เปน็ คมู่ อื สำ�หรบั ผู้ปฏิบตั ิงานดา้ นการ ส่งเสริมการปลุกจิตสำ�นึกเพ่ือเตรียมความพรอ้ มรับภัยนำ้�ทว่ ม กรมทรัพยากรน�ำ้ ขอขอบคณุ คณะทป่ี รึกษา หนว่ ยงานตา่ งๆและประชาชนในพนื้ ทีเ่ ปา้ หมาย สำ�หรบั ข้อมูลและขอ้ เสนอแนะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการฝึกอบรมฉบับนี้จะเป็นประโยชน์แก่หน่วยงานต่างๆในการจัดกิจกรรมปลุกจิตสำ�นึกด้านการ บรหิ ารจดั การภัยพบิ ตั ิตอ่ ไป กรมทรัพยากรนำ้� กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
อุทกภยั นบั เป็นสาธารณภยั ทางธรรมชาติทีก่ ่อใหเ้ กิดความสูญเสยี ทั้งแกช่ วี ิตและทรัพยส์ นิ ของประชาชนในทุกภมู ิภาค สง่ ผลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก นอกจากนน้ั การด�ำ เนินกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจ�ำ วันของมนษุ ยท์ ้งั การ ต้ังชมุ ชน การก่อสร้างต่างๆ การทำ�การเกษตร การเผาป่า และการตดั ไม้ท�ำ ลายปา่ ลว้ นเปน็ สาเหตุส�ำ คัญทท่ี �ำ ให้อทุ กภยั ทวคี วามรนุ แรงมากย่ิงข้ึน กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ซึง่ มภี ารกิจในการบรหิ ารจัดการภัยพบิ ัตใิ นประเทศไทย ได้ เรม่ิ ด�ำ เนินโครงการเสริมสร้างศกั ยภาพชุมชนดา้ นการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยตง้ั แตป่ ี 2547 เป็นต้นมา โดยเนน้ การ ฝกึ อบรมใหค้ วามรู้ในการจัดการความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั โิ ดยอาศัยชมุ ชนเปน็ ฐาน (Community Based Disaster Risk Management : CBDRM) การจัดท�ำ แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของชมุ ชนในพื้นทเี่ สี่ยงภยั และการฝกึ ซ้อมแผน เพอ่ื ใหช้ มุ ชนสามารถป้องกนั และช่วยเหลอื ตนเองไดใ้ นเบือ้ งตน้ รวมทงั้ ชว่ ยเหลอื ชุมชนข้างเคียงที่ประสบภัย อนั เปน็ การลด ความสญู เสียไดท้ างหนงึ่ คมู่ อื ฝึกอบรม การปลุกจติ ส�ำ นกึ เพื่อเตรยี มความพรอ้ มรับภัยน�ำ้ ท่วม ได้ถูกพัฒนาข้ึนโดยความรว่ มมอื ระหว่างกรมปอ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภัย คณะกรรมาธิการแม่น้ำ�โขง กรมทรัพยากรน�้ำ และศนู ย์เตรยี มความพรอ้ มปอ้ งกันภัยพิบัตแิ หง่ เอเชยี (ADPC) โดยได้รับข้อคิดเห็นและขอ้ แนะนำ�จากหนว่ ยงานท่เี กีย่ วขอ้ งในการจัดการสาธารณภยั ในประเทศไทย ประกอบดว้ ย กระทรวงศึกษาธิการ สภากาชาดไทย องคก์ ารชว่ ยเหลอื เดก็ แหง่ สวีเดน รวมถงึ ประชาชนในพืน้ ทนี่ ำ�รอ่ ง จังหวัดนครพนม การ จัดทำ�คู่มือฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคู่มือสำ�หรับผู้ปฏิบัติงานในการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของการป้องกัน อุทกภัย รวมท้ังปลุกจิตสำ�นึกให้ประชาชนมีส่วนรว่ มเตรยี มความพรอ้ มรบั อุทกภยั ในทางกลบั กัน คูม่ อื ฉบบั นก้ี เ็ ปน็ เคร่อื งมอื ใน การสร้างความรแู้ ละความตระหนกั ให้แกช่ ุมชน และ สามารถน�ำ ความรทู้ ่ไี ดร้ บั ไปถา่ ยทอดและขยายผลในพืน้ ท่ใี หม้ ากย่งิ ขึน้ ซง่ึ จะชว่ ยเสริมสร้างความเข้มแขง็ ของชุมชนในการเตรียมพร้อมป้องกนั ภยั อยา่ งยง่ั ยืนตอ่ ไป กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย มุ่งหวงั ว่าคมู่ ือฝึกอบรมฉบบั นี้ จะเป็นประโยชนต์ ่อจงั หวัด อ�ำ เภอ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ โรงเรยี นและชุมชนในพ้ืนท่เี ส่ียงอทุ กภยั ตลอดจนหนว่ ยงานและผเู้ กยี่ วข้องทกุ ๆฝา่ ย ในการชว่ ย สร้างความตระหนักในการเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื ลดความเสยี่ งจากอทุ กภัยและภยั พบิ ัติอนื่ ๆอย่างย่งั ยนื ต่อไป และขอขอบคุณ ทกุ ทา่ นทเ่ี กยี่ วขอ้ งไว้ในโอกาสน้ดี ้วย กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย
ในปัจจุบนั โลกของเราประสบปัญหาภัยพิบตั ิหลายด้าน ภยั อันเกิดจากการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก สง่ ผล กระทบตอ่ ประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่นเดียวกบั ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในส่วนอ่นื ของโลก ทง้ั นี้ รวมถงึ สาธารณภัยใน รูปแบบอืน่ ๆ ทีจ่ ะเกดิ ขึ้นด้วย ผลการวจิ ัยหลายเร่อื ง พบว่า อุณหภูมิสงู สดุ ของประเทศไทยมีแนวโน้มเพ่ิมข้นึ ทั่วประเทศ ท�ำ ให้เกิดการแปรปรวนของฤดูกาล และปรมิ าณน�ำ้ ฝน โดยปรมิ าณฝนจะเพ่มิ ขึน้ ในพืน้ ทที่ ม่ี ฝี นตกมากอยแู่ ลว้ เชน่ บรเิ วณภาคใต้ตอนล่างและชายฝ่งั ด้าน ตะวนั ออก ดังนนั้ อุทกภัยและน้ำ�ทว่ มฉับพลนั อาจจะเกดิ ขนึ้ บ่อยคร้ัง ขณะที่พ้นื ทหี่ า่ งไกลจากทะเลสว่ นใหญ่ทางภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ จะมปี ริมาณฝนตกนอ้ ยลง พายดุ เี ปรสช่ันจะมีปรมิ าณลดลง ซงึ่ จะน�ำ ไปสู่ปญั หาความ แหง้ แล้งและผลผลิตทางการเกษตรไดร้ ับความเสียหาย ซึ่งนบั วนั ภัยพิบัติตา่ งๆเหลา่ นี้ มีแนวโนม้ ที่จะทวคี วามรนุ แรงเพิม่ ขน้ึ เร่ือยๆ ทีผ่ ่านมา ปัญหาสำ�หรบั การเตรยี มความพร้อมของประเทศไทย คือ เรายงั ไมต่ ่ืนตัวเร่ืองการเตรยี มความพร้อม และหลงคิด เสมอว่า มนั คงไมเ่ กดิ ข้ึนอีก แล้วก็ลืมไป อกี ท้ังการสร้างความพรอ้ มในการรับมอื กบั ภัยพิบัติท่ีสมบูรณ์แบบ ตอ้ งมีชุมชนเขา้ มา ร่วมวางแผน และภาครัฐจะตอ้ งมีบทบาทในการเอื้ออำ�นวยให้ชาวบา้ นเปน็ แกนหลกั ศูนย์เตรียมความพรอ้ มปอ้ งกนั ภัยพิบัติแห่งเอเชยี รว่ มกบั คณะกรรมาธกิ ารแมน่ �ำ้ โขง ด�ำ เนนิ แผนงานย่อย ที่ 4: การเพิม่ ขดี ความสามารถในการบริหารจัดการอุทกภยั ในสภาวะฉุกเฉิน ภายใต้แผนงานบริหารจัดการและบรรเทาอุทกภัยของคณะ กรรมาธกิ ารแม่นำ�้ โขง โดยการสนบั สนนุ งบประมาณจากสำ�นกั งานความรว่ มมอื ทางวิชาการของเยอรมนั ไดพ้ ฒั นาค่มู อื ฝึก อบรม การปลกุ จิตสำ�นึกเพ่ือเตรยี มพร้อมรบั ภยั น้ำ�ทว่ ม โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ เป็นคมู่ ือส�ำ หรบั ผู้ปฏบิ ัติงานดา้ นการสง่ เสริมการ ปลกุ จิตสำ�นกึ เพือ่ เตรียมความพร้อมรบั ภัยน�ำ้ ทว่ ม และดา้ นการเตรยี มความพรอ้ มรับภัยพบิ ตั ติ า่ งๆ ให้สามารถน�ำ ไปปรบั ใช้ให้ เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั แผนปฏบิ ัติงานลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติแห่งชาตใิ นเชิงยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2553-2562 ท้ายน้ี ศนู ย์เตรยี มความพร้อมป้องกนั ภยั พิบัตแิ หง่ เอเชีย ขอขอบคุณผูแ้ ทนจากหน่วยงานราชการและองค์กรพฒั นาเอกชนท่ี ท�ำ งานด้านการเตรียมความพรอ้ มรบั ภัยพิบัติ ประกอบดว้ ย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั กรมทรพั ยากรน�้ำ ผู้ชำ�นาญ การศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ สภากาชาดไทย องคก์ ารชว่ ยเหลอื เด็กแหง่ สวเี ดน กระทรวงสาธารณสุข และประชาชนใน พืน้ ทีเ่ ป้าหมาย ทีใ่ ห้ความรว่ มมือเปน็ อย่างดี และทำ�ให้คูม่ อื ฉบบั นสี้ ำ�เร็จลุลว่ งตามวัตถปุ ระสงค์ และหวงั เป็นอย่างย่งิ ว่าคู่มอื ฉบบั น้ี จกั เป็นประโยชน์ตอ่ หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าท่ีที่ปฏบิ ตั งิ านในพ้ืนท่ี โดยเฉพาะเจ้าหนา้ ทจี่ ากกรมป้องกนั และ บรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรน้ำ� กระทรวงศกึ ษาธิการ และองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ ในการสรา้ งความตระหนกั ใน เร่อื งการเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื ลดความเสี่ยงจากอทุ กภยั และภัยพิบัตอิ ื่นๆ อยา่ งยัง่ ยืนตอ่ ไป ศูนย์เตรยี มความพรอ้ มปอ้ งกันภยั พบิ ัตแิ ห่งเอเชยี (ADPC)
คำ�ชแี้ จงการใชค้ มู่ อื คมู่ ือฝึกอบรมการปลกุ จิตสำ�นึกเพือ่ เตรียมพร้อมรบั ภัยน้ำ�ทว่ มฉบบั น้ี ได้ถกู พฒั นาข้ึนเพ่ือเป็นค่มู อื ส�ำ หรบั ผู้ ปฏบิ ตั ิงานดา้ นการสง่ เสรมิ การปลุกจติ ส�ำ นึกดา้ นภยั พิบตั ิ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ภัยจากน้�ำ ท่วม ซ่งึ ถือเปน็ ภยั พิบตั ทิ ่ีส่งผลกระทบ และสร้างความสญู เสยี อยา่ งมากต่อทง้ั ชวี ิตและทรพั ย์สนิ ของประชาชนเป็นประจ�ำ ทกุ ปี แผนงานยอ่ ยที่ 4: การเพ่มิ ขดี ความสามารถในการบรหิ ารจดั การอุทกภัยในสภาวะฉกุ เฉิน ภายใตแ้ ผนงานบริหารจดั การและ บรรเทาอทุ กภยั ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำ�โขง เล็งเหน็ ความสำ�คัญของการปลกุ จติ ส�ำ นกึ เพื่อเตรยี มพร้อมรบั ภยั ต่างๆทจี่ ะเกดิ ข้ึน จงึ ไดท้ �ำ การพัฒนาคูม่ ือฉบับนีข้ ้ึนมา และไดร้ ับความร่วมมอื เปน็ อยา่ งดยี ิง่ จากหน่วยงานราชการ และองค์กรพัฒนาเอกชน ทท่ี �ำ งานด้านการเตรียมความพร้อมรับภัยพบิ ัติ ประกอบด้วย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย กรม ทรัพยากรน้ำ� กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ผ้ชู �ำ นาญการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สภากาชาดไทย และ องค์การชว่ ยเหลอื เด็กแห่งสวีเดน การจัดท�ำ คมู่ ือฝกึ อบรมฉบับนี้ มขี น้ั ตอนตงั้ แต่การรวบรวมองค์ความรู้ ขอ้ มลู และทกั ษะ จากเอกสารการฝกึ อบรมเรอื่ งการ ปลุกจติ ส�ำ นกึ ดา้ นภัยพิบตั ิต่างๆ การสอบถามและสมั ภาษณผ์ เู้ ชีย่ วชาญในการท�ำ งานด้านการเตรยี มความพร้อมรับภยั พบิ ัติ นอกจากนย้ี ังท�ำ การศึกษาความตอ้ งการของผปู้ ระสบภัยน�ำ้ ทว่ มในพน้ื ทนี่ ำ�รอ่ ง จงั หวดั นครพนม คู่มือฉบบั นี้ได้ถูกน�ำ ไปทดลอง ใช้ฝกึ อบรมให้แกก่ ลมุ่ เปา้ หมายในจงั หวดั นครพนม และได้นำ�ขอ้ เสนอแนะและข้อคดิ เหน็ ตา่ งๆท่ไี ดจ้ ากการฝกึ อบรมเปน็ ขอ้ มลู ในการปรบั ปรงุ คู่มือฉบับนี้อีกครง้ั หน่ึง คมู่ ือฝกึ อบรมฉบับน้ี ใช้กระบวนการฝึกอบรมแบบเน้นการมสี ่วนรว่ มของผูเ้ ข้ารว่ มอบรม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การท�ำ งาน ด้านการปลกุ จิตสำ�นึกผ่านทางกจิ กรรม ซงึ่ ได้ออกแบบมาเพ่อื ใหเ้ กิดกระบวนการเรยี นรูแ้ ละท�ำ ความเข้าใจร่วมกนั โดยเนอ้ื หา หลกั ของคู่มอื ฝึกอบรมฉบบั น้ี ประกอบไปด้วยหวั ข้อหลกั 4 หัวขอ้ และกิจกรรมต่างๆท้งั หมด 8 กจิ กรรม ซ่งึ จะใชร้ ะยะเวลา ในการฝกึ อบรมทัง้ สนิ้ 2 วัน เนื้อหาทใ่ี ชส้ ำ�หรับการฝกึ อบรมประกอบดว้ ย 1. ภัยพิบตั ิและระบบการแจ้งเตือนภัย 1.1 ภยั พบิ ตั ิคืออะไร ประเภทและผลกระทบจากภัยพบิ ตั ทิ ม่ี ีตอ่ ชุมชน 1.2 แผนทีเ่ ส่ียงภัยชุมชน 1.3 ระบบการเฝ้าระวังและแจ้งเตอื นภัยลว่ งหน้า 2. การเตรียมความพร้อมรับภัยน้�ำ ท่วม 2.1 สาเหตุและผลกระทบจากน้ำ�ทว่ ม 2.2 การเตรียมความพร้อมในชว่ งก่อน ระหวา่ ง และหลังการเกิดน�ำ้ ท่วม 3. กระบวนการปลกุ จติ สำ�นึกเพื่อเตรียมพรอ้ มรบั ภยั น�้ำ ทว่ ม 3.1 ความหมายและกระบวนการปลุกจิตส�ำ นึก 3.2 การพฒั นาสือ่ เพ่อื กจิ กรรมปลุกจติ สำ�นึก 4. การสร้างเครอื ขา่ ยและการจัดท�ำ แผนกิจกรรมปลุกจติ ส�ำ นกึ เพื่อเตรียมพร้อมรบั ภยั น�ำ้ ท่วม 4.1 การจัดทำ�แผนกิจกรรมปลกุ จติ ส�ำ นกึ เพ่ือเตรยี มพร้อมรับภัยน�ำ้ ทว่ มในระดับชมุ ชน
เน่อื งจากคมู่ ือฝกึ อบรมฉบับนี้ มเี นอ้ื หาบางสว่ นทเ่ี ปน็ ขอ้ มูลเฉพาะทางวิชาการ เช่น การใชเ้ ครอ่ื งมอื เฝ้าระวงั และการแจง้ เตือนภัยน�ำ้ ทว่ ม รวมถงึ ความร้ทู เ่ี กย่ี วกบั ภยั จากน้ำ�ท่วมและภยั พิบัตติ ่างๆ ดงั นั้น เพ่ือใหเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ ตอ่ การใชค้ ู่มือ ฉบบั นี้ จงึ จำ�เปน็ ที่ต้องศึกษาเอกสารทางวิชาการจากหนว่ ยงานผู้เช่ยี วชาญการทำ�งานด้านภยั พบิ ตั ติ า่ งๆเพือ่ ประกอบในการ ฝึกอบรม โดยเอกสารดงั กลา่ วประกอบไปด้วย • หนังสอื เรื่องนำ�้ ทว่ ม ภยั ธรรมชาติใกล้ตวั (ศนู ยเ์ ตรียมความพร้อมป้องกนั ภัยพิบัตแิ หง่ เอเชยี ; ADPC) • คมู่ ือประชาชนในการเตรยี มตัวให้รอดปลอดภัยพบิ ตั ิ (กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2552) • คมู่ อื ประชาชนในการจัดการความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั โิ ดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน: การจัดท�ำ แผนป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยของชมุ ชน เอกสารประกอบการฝึกอบรมผ้นู �ำ ชุมชนตามโครงการเสรมิ สรา้ งศักยภาพชมุ ชนด้านการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั (สำ�นักสง่ เสริมการปอ้ งกันสาธารณภัย กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2551) • คู่มือปฏบิ ตั ิงานอาสาสมัคร “มสิ เตอรเ์ ตือนภัย” ในพนื้ ทเี่ ส่ยี งอทุ กภยั นำ้�ปา่ ไหลหลากและดนิ ถล่ม (สำ�นกั สง่ เสริมการปอ้ งกนั สาธารณภยั กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2552) • แผนแมบ่ ทการป้องกันและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยจากอทุ กภยั วาตภัยและโคลนถลม่ ระยะ 5 ปี (กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2550) • คู่มอื การฝกึ อบรมประชาชน การใชง้ านและบำ�รุงรักษาเครือ่ งมือในระบบเตอื นภยั น�้ำ ท่วมฉับพลัน-ดนิ ถลม่ โครงการ จัดทำ� Early Warning ส�ำ หรบั พื้นท่เี สย่ี งอทุ กภัย-ดนิ ถลม่ ในพ้ืนท่ลี าดชันและพื้นที่ราบเชิงเขา (กรมทรพั ยากรนำ�้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม บริษัทซกิ มา่ ไฮโดรคอนซลั แตนท์ จำ�กดั และ บริษัทพอล คอนซลั แตนท์ จำ�กดั ) • คำ�แนะน�ำ การปอ้ งกนั โรคหลงั ภัยน�ำ้ ทว่ ม (กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ ) • Manual on Flood Preparedness Program for Provincial and District Level Authorities in the Lower Mekong Basin Countries (Flood Management and Mitigation Program; FMMP, Mekong River Commission; MRC) คณะผ้จู ัดท�ำ หวงั เปน็ อย่างยิ่งว่า ค่มู ือฝึกอบรมการปลุกจิตส�ำ นกึ เพอื่ เตรยี มพร้อมรับภยั น�ำ้ ท่วมฉบับนี้ จะเปน็ ประโยชน์ส�ำ หรบั ผ้ปู ฏบิ ัติงานด้านการเตรยี มความพรอ้ มรบั ภัยน�้ำ ทว่ ม และผู้สนใจดา้ นการท�ำ งานปลกุ จิตส�ำ นกึ ในการเตรยี มความพร้อมรบั ภยั พบิ ัตติ ่างๆ สามารถนำ�ไปปรบั ใช้ให้เหมาะสมกับกจิ กรรมของตนเอง
บทท่ี 1 ภยั พิบัตแิ ละระบบการแจง้ เตือนภยั • ภยั พบิ ตั คิ อื อะไร ประเภทและผลกระทบจากภยั พบิ ัติทม่ี ีตอ่ ชุมชน • แผนทีเ่ สย่ี งภยั ชมุ ชน • ระบบการเฝ้าระวงั และแจ้งเตอื นภัยล่วงหนา้
ค่มู ือฝกึ อบรมการปลกุ จติ ส�ำ นกึ เพอ่ื เตรียมพร้อมรบั ภยั น้ำ�ทว่ ม ภัยพบิ ัติคืออะไร ประเภทและ 1.1 ผลกระทบจากภัยพบิ ตั ิท่มี ตี อ่ ชมุ ชน วตั ถปุ ระสงค์ : เพ่ือให้ผู้เขา้ ฝึกอบรมสามารถ 1. เขา้ ใจความหมายและความแตกต่างระหวา่ งภัยกับภยั พบิ ัติ 2. ระบุถึงประเภทของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบตอ่ ชุมชนได้ ขอบเขตเนือ้ หา 1. ความรเู้ ก่ียวกบั ภยั และภัยพิบัติ 2. ประเภทของภยั และภัยพบิ ัติ รวมถงึ ผลกระทบจากภยั พบิ ัติในดา้ นตา่ งๆ ระยะเวลา : 60 นาที สื่อและอุปกรณ์ • กระดาษฟลปิ ชารท์ • ปากกาเคมี • สไลดเ์ ร่อื งภยั และภัยพิบตั ิ (เอกสารประกอบคู่มือฝกึ อบรม ชดุ ที่ 1) • สไลดเ์ ร่อื งภัยพบิ ัตแิ ละผลกระทบ (เอกสารประกอบค่มู อื ฝกึ อบรม ชดุ ที่ 2) การวดั และประเมนิ ผล • ผูเ้ ขา้ รว่ มอบรมสามารถอธบิ ายความหมายและความแตกต่างระหว่างภยั และภัยพบิ ตั ิได้ • ผู้เขา้ ร่วมอบรมสามารถระบุถึงผลกระทบจากภัยพบิ ัติทีเ่ กิดข้ึนกบั ชมุ ชนของตนเองได้ 10
คมู่ อื ฝกึ อบรมการปลกุ จิตส�ำ นกึ เพอื่ เตรียมพรอ้ มรบั ภยั นำ้�ท่วม กระบวนการฝกึ อบรม ประเดน็ ส�ำ คญั วธิ กี าร ส่อื /อปุ กรณ์ ประเดน็ สำ�คัญใน ข้นั ที่ 1 (30 นาที) 1. กระดาษฟลปิ ชารท์ ขัน้ ตอนที่ 1 2. ปากกาเคมี • วิทยากรให้ผเู้ ข้าร่วมอบรม ระดมสมองและตอบ 3. สไลด์เร่อื งภัยและภัยพบิ ัติ คือ ความแตกต่างระหวา่ ง ค�ำ ถามว่า “ภัยคืออะไร” โดยวิทยากรบันทึกคำ� ภยั กับภยั พิบตั ิ โดย ภยั พิบตั ิ ตอบลงในกระดาษฟลิปชาร์ท (5 นาท)ี (เอกสารประกอบคมู่ ือฝึกอบรม ประกอบดว้ ย ชดุ ที่ 1) • วทิ ยากรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมอบรม ระดมสมองและตอบ 4. สไลด์เรือ่ ง ภยั พิบตั ิและผล • ภัย ค�ำ ถามว่า “ภยั พบิ ัตคิ ืออะไร” โดยวิทยากร • ความล่อแหลม บันทึกค�ำ ตอบลงในกระดาษฟลปิ ชารท์ กระทบ (เอกสารประกอบคมู่ อื • ความสามารถในการ (5 นาที) ฝกึ อบรม ชุดที่ 2) จดั การกบั ภัย • วิทยากรใหผ้ เู้ ข้ารว่ มอบรม ระดมสมองและตอบ ค�ำ ถามวา่ “ภยั และภยั พิบัตมิ คี วามแตกต่างกนั อย่างไร” (10 นาที) • วิทยากรสรุปเร่ืองความหมายและความ แตกต่างระหวา่ งภยั กับภัยพิบตั ิ พรอ้ มนำ�เสนอ สไลด์เรอ่ื งภัยและภัยพบิ ัติ (เอกสารประกอบคมู่ อื ฝึกอบรม ชดุ ที่ 1) (10 นาที) ประเดน็ ส�ำ คญั ใน ข้ันที่ 2 (30 นาท)ี ขน้ั ตอนท่ี 2 • วิทยากรใหผ้ ู้เข้าร่วมอบรม ระดมสมองและ คอื การแยกประเภทของภยั ตอบคำ�ถามว่า “ภยั พิบตั มิ ีก่ีประเภท และได้แก่ และภยั พบิ ตั ิ ซ่งึ ไดแ้ ก่ อะไรบ้าง” โดยวิทยากรบนั ทกึ ค�ำ ตอบลงใน • เกิดจากธรรมชาติ กระดาษฟลปิ ชาร์ท (5 นาที) • เกิดจากการกระทำ�ของ • วทิ ยากรใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มอบรม ระดมสมองและตอบ มนษุ ย์ ค�ำ ถามวา่ “ภยั พบิ ัติทเี่ กิดขนึ้ ในชมุ ชนของทา่ น ได้แกอ่ ะไรบา้ ง และมผี ลกระทบตอ่ ชุมชนของ และผลกระทบจากภัยพบิ ตั ิท่ี ท่านอยา่ งไร” โดยวทิ ยากรบนั ทกึ ค�ำ ตอบลงใน มตี อ่ กระดาษฟลปิ ชาร์ท (10 นาที) • ชวี ติ และทรพั ย์สนิ • การประกอบอาชีพ • วิทยากรสรปุ ผลจากการน�ำ เสนอของผูเ้ ข้าร่วม • สาธารณูปโภคพ้ืนฐาน อบรม และน�ำ เสนอสไลด์เร่อื งภยั พบิ ตั แิ ละผล กระทบ (เอกสารประกอบคมู่ อื ฝึกอบรม ชุดที่ 2) (15 นาท)ี 11
ค่มู ือฝึกอบรมการปลกุ จิตสำ�นกึ เพือ่ เตรียมพร้อมรบั ภัยน้ำ�ทว่ ม เนื้อหาประกอบการฝกึ อบรม 1. ความหมายของภัย ภยั (Hazard) หมายถึง อนั ตรายทเ่ี กิดจากธรรมชาติหรือจากการกระท�ำ ของมนษุ ย์ ซงึ่ น�ำ มาซงึ่ ความสญู เสียหรือ ความเสียหาย โดยภยั แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ • ภยั ธรรมชาติ เช่น น�้ำ ท่วม วาตภัย ดนิ ถล่ม ภัยแลง้ ไฟปา่ และแผ่นดินไหว เปน็ ตน้ • ภัยทีเ่ กดิ จากการกระทำ�ของมนุษย์ เชน่ ภยั จากการใชร้ ถใช้ถนน อัคคีภยั ภัยจากสารเคมี ภยั สารพษิ จาก โรงงาน ภยั จากระเบิด และภยั จากการก่อการร้าย เปน็ ตน้ 2. ความหมายของภยั พบิ ตั ิ ภยั พบิ ตั ิ (Disaster) หมายถึง ภยั ทีเ่ กดิ ขึ้นโดยธรรมชาติหรอื จากการกระท�ำ ของมนุษย์ และสง่ ผลกระทบหรอื สร้าง ความเสยี หายต่อชวี ติ และทรพั ยส์ ินของคนในสงั คมหรอื ชุมชน โดยชุมชนทป่ี ระสบภยั พบิ ัติไมส่ ามารถจดั การกบั ภยั พบิ ัติท่ี เกดิ ขึ้นได้ด้วยตนเอง ส�ำ หรบั ประเทศไทย เคยประสบภัยพบิ ตั ทิ ัง้ ทีเ่ กดิ ข้ึนโดยธรรมชาติและจากการกระท�ำ ของมนุษย์หลายครง้ั เชน่ เหตุการณ์น�ำ้ ท่วมใหญก่ รุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2526 เหตกุ ารณ์รถบรรทุกแกส๊ ระเบดิ ทถี่ นนเพชรบรุ ีตดั ใหม่ พ.ศ. 2533 และ เหตุการณโ์ คลนถลม่ ท่ีจังหวดั อุตรดติ ถ์ พ.ศ. 2549 เปน็ ต้น 3. ความแตกตา่ งระหวา่ งภัยและภัยพบิ ัติ การท่ีภยั จะพฒั นาไปเปน็ ภัยพบิ ตั ิได้น้ัน ตอ้ งมีองคป์ ระกอบส�ำ คญั อยู่ 3 ประการ ได้แก่ • ภัย (Hazard) หมายถึง อนั ตรายท่ีเกดิ จากธรรมชาติหรอื จากการกระท�ำ ของมนุษย์ ซ่ึงน�ำ มาซ่งึ ความสญู เสยี หรือ ความเสยี หาย • ความล่อแหลม (Vulnerability) หมายถึง ปจั จัยท้งั ดา้ นกายภาพ เศรษฐกจิ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ มตา่ งๆ ที่ เอื้อให้เกิดผลกระทบจากภัยนน้ั ๆ มากยงิ่ ขน้ึ • ศักยภาพหรอื ความสามารถในการจดั การกับภัย (Capacity) หมายถงึ ความสามารถในการจัดการหรือ รบั มอื กบั ภยั ทเ่ี กิดข้ึน โดยการใช้ทักษะ องคค์ วามรู้ และทรพั ยากรตา่ งๆ ที่มอี ย่ใู นการตอบสนองและเตรยี มการรบั มอื กับภัย ความเสี่ยงในการเกดิ ภัยพบิ ัติ = ภยั x ความล่อแหลม ศักยภาพหรอื ความสามารถในการจัดการกบั ภัย หากชมุ ชนใดท่ปี ระสบภัยและมศี ักยภาพในการจัดการกับภยั ได้ดว้ ยตนเอง ความเสยี หายทีม่ ตี ่อชวี ิตและทรัพย์สินกจ็ ะนอ้ ย ลง แตถ่ า้ หากชุมชนใดไม่มศี ักยภาพเพยี งพอทจ่ี ะจดั การกบั ภัยทเ่ี กิดข้ึน จะส่งผลใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อชวี ติ และทรพั ย์สิน ของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก 12
คู่มือฝึกอบรมการปลุกจิตส�ำ นึกเพ่อื เตรียมพร้อมรับภัยน้ำ�ทว่ ม ภาพตัวอยา่ งแสดงความเสี่ยงในการเกดิ ภยั พบิ ัติ ตามตวั อยา่ งนี้ ก้อนหินไดเ้ คล่อื นตวั มาอยตู่ รงรมิ ภูเขาท่ีอยู่เหนือบรเิ วณทีต่ ง้ั ชมุ ชน ซง่ึ ถอื วา่ ก้อนหนิ คอื “ภัย” และหากมกี ารตงั้ บ้านเรอื นอยู่บรเิ วณเชิงเขา หม่บู ้านเหลา่ นถี้ อื ว่ามี “ความลอ่ แหลม” ทจี่ ะถูกก้อนหนิ หล่นลงมาทับ ซึง่ หากชุมชนไม่มี “ศกั ยภาพ หรือความสามารถในการจดั การ” กับก้อนหนิ ทมี่ ีโอกาสหล่นลงมา กจ็ ะส่งผลใหเ้ กดิ “ความเสี่ยง” ที่จะเกิด “ภัยพิบัต”ิ แก่ ชุมชนหรือหมบู่ า้ นน้ไี ด้ 13
คมู่ อื ฝกึ อบรมการปลกุ จิตสำ�นึกเพ่ือเตรียมพรอ้ มรบั ภัยน้ำ�ทว่ ม ตารางแสดงปฏทิ นิ การเกดิ ภยั ธรรมชาตใิ นประเทศไทย เดภือานค/ เหนอื เตฉะียวงันเหอนอกือ กลาง ตะวันออก ตะใวตัน้ฝอ่ังอก ใตฝ้ ่งั ตะวันตก มกราคม - - - - - อุทกภยั , ฝนแล้ง กมุ ภาพันธ์ ไฟปา่ , ฝนแลง้ - - ฝนแลง้ มีนาคม ไฟป่า ฝนแลง้ พายุฤดูร้อน, ฝนแลง้ ฝนแลง้ เมษายน พายุฤดรู ้อน, พายฤุ ดูรอ้ น, ฝนแล้ง ฝนแลง้ - ฝนแลง้ พฤษภาคม ไฟปา่ , พายุฤดูรอ้ น, พายหุ มนุ เขต มิถนุ ายน ไฟปา่ , ฝนแล้ง ฝนแลง้ ฝนแลง้ รอ้ น, อุทกภัย, ฝนแล้ง ฝนแลง้ พายฤุ ดูรอ้ น, อทุ กภัย, อทุ กภยั อุทกภัย กรกฎาคม พายุฤดรู ้อน, ไฟป่า, พายุฤดูรอ้ น อุทกภยั อทุ กภยั ไฟป่า, ฝนแล้ง อทุ กภัย, อุทกภยั , อุทกภยั สิงหาคม ฝนแลง้ อุทกภยั , ฝนทง้ิ ช่วง ฝนทง้ิ ช่วง อุทกภัย อทุ กภยั , พายฤุ ดรู อ้ น พายุหมนุ เขตรอ้ น, อุทกภัย กนั ยายน พายฤุ ดูรอ้ น อทุ กภัย, อทุ กภัย, อทุ กภัย, อทุ กภัย อุทกภยั , ฝนท้งิ ช่วง พายฝุ นฟา้ คะนอง, ฝนท้ิงช่วง - ฝนทิง้ ชว่ ง พายุหมนุ เขต ฝนท้ิงชว่ ง - พายหุ มุนเขต ร้อน, พายุหมนุ เขต พายุหมนุ เขตรอ้ น, ร้อน, อุทกภยั , พายุหมนุ เขตร้อน, ร้อน, อุทกภยั อทุ กภัย, อทุ กภยั , พายฝุ นฟา้ อทุ กภัย, อุทกภยั , พายฝุ นฟ้า คะนอง, คล่นื พายุซดั ฝ่ัง, คะนอง, ฝนท้งิ ช่วง พายฝุ นฟ้าคะนอง พายฝุ นฟา้ แผ่นดนิ ถลม่ ฝนท้ิงช่วง พายหุ มุนเขต คะนอง พายุหมุนเขตร้อน, พายหุ มุนเขต รอ้ น, พายหุ มนุ เขตรอ้ น, พายุหมนุ เขต ร้อน, อทุ กภยั , อุทกภัย, รอ้ น, อทุ กภยั อุทกภัย, พายุฝนฟา้ อุทกภยั , คล่นื พายซุ ดั ฝัง่ พายฝุ นฟ้า คะนอง พายฝุ นฟา้ คะนอง พายฝุ นฟ้า แผ่นดินถลม่ คะนอง พายหุ มนุ เขต คะนอง พายหุ มนุ เขต รอ้ น, พายหุ มุนเขตร้อน, พายุหมุนเขต อทุ กภัย รอ้ น, อทุ กภัย, อุทกภัย, ร้อน, อทุ กภัย, พายฝุ นฟ้า อุทกภยั , พายฝุ นฟา้ คะนอง พายฝุ นฟ้าคะนอง พายฝุ นฟา้ คะนอง คะนอง - ตุลาคม - พฤศจิกายน - - - -- ธันวาคม - - - -- (ทม่ี า: เวบ็ ไซตก์ รมอุตุนยิ มวิทยา/วชิ าการ/ความรอู้ ุตุนยิ มวิทยา/ภัยธรรมชาติในประเทศไทย http://www.tmd.go.th/info/risk.pdf) 14
คมู่ อื ฝึกอบรมการปลุกจิตสำ�นึกเพ่อื เตรียมพรอ้ มรบั ภยั นำ�้ ท่วม ตารางแสดงผลกระทบจากภยั พิบัตใิ นประเทศไทย ระหวา่ งปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2550 ประเภทของภัย จ�ำ นวน จ�ำ นวนผเู้ สยี ชวี ิต จำ�นวนผ้บู าดเจบ็ จ�ำ นวนผูไ้ ด้ มลู ค่าความ ครั้งท่ี (คน) (คน) รับผลกระทบ เสียหาย เกดิ (USD) (คน) น�้ำ ท่วม 60 629 1,492 15,457,984 48,224,742 ภัยแล้ง - - - 54,092,975 246,412,539 สนึ ามิ 1 8,345 วาตภยั 12,476 199 8,457 58,550 49,944,309 ภยั จากการจราจร 566,655 607 352,370 38,043,133 65,834 430,692 - - อคั คีภยั 9,188 217 526 71,113 112,689,050 (ท่ีมา: http://www.oecd.org/dataoecd/50/13/43726127.pdf) Tip สำ�หรับวิทยากร วิทยากรสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมในเรื่องการให้ความรู้ด้านภัยพิบัติ ได้ด้วยการหาสื่อ วิดีทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภัยพิบัติต่างๆ มานำ�เสนอเพื่อสร้างความเข้าใจถึงประเภท และผลกระทบจากภัยพิบัติได้ นอกจากนี้ ปฏิทินฤดูกาลยังเป็นเครื่องมือหนึ่งในการระดมความคิดเห็นเรื่องภัยต่างๆที่ เกิดขึ้นในชุมชน ซึ่งจะทำ�ให้ผู้เข้าร่วมอบรมเข้าใจได้ง่าย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นใกล้ตัวเป็นประจำ�ทุกปี 15
คูม่ อื ฝึกอบรมการปลกุ จติ ส�ำ นึกเพอ่ื เตรียมพรอ้ มรับภยั นำ�้ ทว่ ม 1.2 แผนทเ่ี สีย่ งภยั ชมุ ชน วัตถปุ ระสงค์ : เพอ่ื ใหผ้ ู้เข้าฝกึ อบรมสามารถ 1. เข้าใจลกั ษณะและความสำ�คญั ของแผนท่เี สี่ยงภัยชุมชน 2. ระบุพื้นท่ีเสยี่ งภยั นำ้�ท่วมและพ้นื ทีป่ ลอดภยั ในชมุ ชนของตนเองได้ ขอบเขตเน้ือหา 1. ความรู้เร่อื งการจดั ทำ�แผนที่เส่ยี งภยั และการอ่านแผนท่เี ส่ียงภัย 2. ความสำ�คัญของแผนท่ีเสี่ยงภยั ในฐานะท่ีเป็นเครื่องมอื หนง่ึ ทีช่ ว่ ยลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ ระยะเวลา : 60 นาที สอ่ื และอุปกรณ์ • กระดาษฟลิปชาร์ท • ปากกาเคมี • ตวั อยา่ งแผนท่เี สย่ี งภัย เอกสารประกอบคมู่ อื การฝึกอบรม ชุดท่ี 3 การวดั และประเมินผล • ผู้เขา้ ร่วมอบรมสามารถจัดท�ำ แผนที่เสยี่ งภยั ในชุมชนของตนเองได้ • ผู้เขา้ รว่ มอบรมสามารถอธบิ ายความส�ำ คญั ของแผนที่เสย่ี งภยั และการน�ำ แผนท่ีเส่ียงภยั ไปใช้เพื่อ เตรียมความพรอ้ มรับภยั ตา่ งๆ ทจ่ี ะเกิดขน้ึ กบั ชมุ ชนของตนเองได้ 16
คู่มือฝกึ อบรมการปลุกจิตสำ�นึกเพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรับภัยนำ�้ ท่วม ประเดน็ ส�ำ คญั วิธีการ กระบวนการฝกึ อบรม สือ่ /อปุ กรณ์ ประเดน็ ส�ำ คญั ขั้นที่ 1 (10 นาท)ี 1. กระดาษฟลปิ ชารท์ ในข้นั ตอนท่ี 1 2. ปากกาเคมี และ 2 • วิทยากรใหผ้ เู้ ข้าร่วมอบรม ระดมสมองและตอบคำ�ถาม 3. ตัวอยา่ งแผนทเ่ี สยี่ งภยั วา่ “พืน้ ท่เี สี่ยงภยั นำ้�ทว่ ม และพนื้ ท่ปี ลอดภัยในชุมชน คือ ความสำ�คัญของ ของตนเองไดแ้ ก่ทใี่ ดบ้าง” และวทิ ยากรบันทึกค�ำ ตอบลง (เอกสารประกอบคมู่ ือการฝกึ แผนที่เส่ยี งภยั ซ่ึงถอื ในกระดาษฟลปิ ชารท์ (5 นาท)ี อบรม ชดุ ท่ี 3) เปน็ หนง่ึ ในเคร่ืองมือที่ ใชล้ ดความเสย่ี ง หรือ • วิทยากรและผ้เู ข้ารว่ มอบรม สรปุ ถงึ พน้ื ทีเ่ ส่ยี งภยั และ ความเสียหาย หากมี พื้นทป่ี ลอดภยั นำ้�ท่วมในชุมชนรว่ มกนั (5 นาที) ภัยพิบัติเกิดขึน้ ขัน้ ท่ี 2 (50 นาที) • วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมอบรมแบ่งกลุ่มตามหมบู่ า้ น หรือ ชมุ ชน พรอ้ มทงั้ แจกกระดาษฟลิปชารท์ และปากกาเคมี (5 นาที) • วทิ ยากรอธบิ ายความหมายและองค์ประกอบของแผนที่ เสยี่ งภัย และ น�ำ เสนอตัวอย่างแผนทีเ่ สย่ี งภยั (เอกสารประกอบค่มู ือฝึกอบรม ชดุ ท่ี 3) (10 นาท)ี • วทิ ยากรใหผ้ ู้เข้ารว่ มอบรมแต่ละกลุม่ วาดแผนทีช่ มุ ชน ของตนเอง พร้อมทงั้ ระบุพ้ืนที่เส่ียงภัยและพนื้ ทปี่ ลอดภัย ในชมุ ชน (10 นาที) • วทิ ยากรใหผ้ ู้เขา้ ร่วมอบรมนำ�เสนอแผนท่ีเสีย่ งภัยใน ชุมชน โดยให้เวลานำ�เสนอ กลมุ่ ละ 5 นาที (20 นาที) • วทิ ยากรสรุปการนำ�เสนอแผนทช่ี ุมชน และ เชอ่ื มโยงเข้า สู่ประโยชนข์ องแผนทีเ่ สย่ี งภยั ในการช่วยลดความเสียหาย จากภัยพิบัติ (5 นาท)ี 17
คูม่ อื ฝกึ อบรมการปลุกจติ สำ�นกึ เพอื่ เตรยี มพร้อมรบั ภยั น้ำ�ท่วม เนื้อหาประกอบการฝึกอบรม แผนทเ่ี สยี่ งภยั แผนท่ีเส่ียงภัย คือ แผนทีท่ ่แี สดงพ้นื ทภี่ ายในชุมชน และ พ้ืนที่ใกล้เคียง ที่อาจจะไดร้ บั ผลกระทบจากภัยท่เี กดิ ข้นึ ซึ่งในพืน้ ที่ เส่ียงภยั จะแสดงให้เห็นถงึ พน้ื ท่ีอันตราย และ พน้ื ทป่ี ลอดภัยรวมถึงเสน้ ทางอพยพอยา่ งชัดเจน โดยการจัดทำ�แผนทีเ่ ส่ยี งภัยนนั้ มีวตั ถุประสงค์เพอ่ื • ใหค้ นในชุมชนได้เขา้ ใจถึงพ้นื ท่ีเสยี่ งภยั และทรัพยากรตา่ งๆในชมุ ชน • เพอ่ื หลีกเลีย่ ง หรือ ลดผลกระทบจากภัยหรือภยั พิบตั ิ • เพ่ือช่วยใหค้ นในชมุ ชนเตรยี มพรอ้ มรับมอื กบั อันตรายทีอ่ าจจะเกดิ ขึ้น ก่อนทีจ่ ะมกี ารจดั ทำ�แผนท่ีเสย่ี งภัยนนั้ ควรมกี ารจดั ทำ�แผนที่ชมุ ชนท่ีประกอบไปด้วยข้อมูลต่างๆ เพอ่ื ใช้ประเมินความเส่ียงภัย โดยแผนท่ีชมุ ชนนั้นควรประกอบไปดว้ ยข้อมลู ต่างๆ ดังนี้ • แสดงท่ีตง้ั ทางกายภาพของชมุ ชน เช่น แสดงทต่ี งั้ บา้ นเรือน อาณาเขตติดต่อ เสน้ ทางการคมนาคม แมน่ �ำ้ ภเู ขา • แผนทชี่ มุ ชนควรแสดงสถานท่สี �ำ คญั เชน่ พืน้ ทป่ี ลอดภัยหากเกิดเหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ และ สถานท่ที ี่ต้องอพยพ ประชาชน วดั โรงเรียน โรงพยาบาล สถานอี นามยั ที่ท�ำ การองค์การบริหารสว่ นต�ำ บล สถานีต�ำ รวจ เปน็ ต้น • แผนที่ชุมชนควรแสดงเสน้ ทางการเดินทางไปยงั พน้ื ทีป่ ลอดภัยให้ชดั เจน เช่น ถนนหรอื แมน่ �ำ้ เป็นตน้ • แผนทช่ี มุ ชนควรมีการระบุบ้านเรอื นของกลุม่ เปราะบาง หรอื กลุ่มทตี่ ้องไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื เป็นพเิ ศษ หากเกิด กรณฉี กุ เฉนิ • ระบุพื้นที่ทีเ่ คยเกิดภัย นอกจากน้คี วรมีการจดั ท�ำ ขอ้ มูลชมุ ชนไวเ้ พอื่ เปน็ ข้อมลู ประกอบกับแผนทช่ี มุ ชน เช่น • ขอ้ มลู ทางเศรษฐกิจ เช่น การประกอบอาชีพ รายได้ • ขอ้ มูลด้านสังคม เช่น คนพิการ คนชรา หรือคนที่ต้องการความชว่ ยเหลือเป็นพิเศษในสงั คม • ข้อมูลการเกิดภยั พบิ ตั ิในชุมชนยอ้ นหลงั และความเสียหายท่เี กดิ ขึน้ เชน่ ปฏิทินฤดูกาลและปฏทิ ินการเกิดภยั Tip สำ�หรับวิทยากร วิทยากรสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมเรื่องแผนที่เสี่ยงภัยได้โดยการใช้แผนที่เสี่ยง ภัยที่มีอยู่แล้วในชุมชนหรือแผนที่ที่ชุมชนได้จัดทำ�ขึ้นเองมาเป็นสื่อประกอบในการ ทบทวนพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ปลอดภัยจากน้ำ�ท่วมในชุมชน ซึ่งวิธีการนี้เหมาะ สำ�หรับชุมชนที่ได้ผ่านการอบรมเรื่องการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัย ชุมชนเป็นฐาน หรือ Community Based Disaster Risk Management (CBDRM) มา แล้ว 18
คู่มอื ฝกึ อบรมการปลกุ จติ สำ�นึกเพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรับภัยน้ำ�ทว่ ม ระบบการเฝา้ ระวงั 1.3 และแจง้ เตือนภยั ลว่ งหน้า วัตถุประสงค์ : เพื่อให้ผ้เู ข้าฝกึ อบรมสามารถ 1. เขา้ ใจถึงระบบการเฝา้ ระวงั และ การแจ้งเตอื นภัยล่วงหนา้ 2. ร่วมกนั ออกแบบระบบการแจง้ เตอื นภยั นำ้�ท่วมล่วงหน้าทเ่ี หมาะสมกับชุมชนตนเอง 3. ตระหนกั ถงึ ความส�ำ คัญของการเฝา้ ระวังและการแจ้งเตือนภัยลว่ งหนา้ ขอบเขตเน้อื หา 1. ความร้เู รือ่ งระบบการเฝา้ ระวงั และ ระบบการแจง้ เตือนภัยลว่ งหน้า 2. ความร้เู บ้ืองต้นในการปฏบิ ตั ิตน เมอื่ ไดร้ บั สญั ญาณ หรอื ขอ้ มลู การแจ้งเตอื นภยั ล่วงหนา้ ระยะเวลา : 120 นาที ส่ือและอปุ กรณ์ • กระดาษฟลิปชาร์ท • ปากกาเคมี • สไลด์ระบบการเฝา้ ระวงั และ ระบบการแจ้งเตอื นภัยล่วงหนา้ (เอกสารประกอบคมู่ อื ฝึกอบรม ชุดท่ี 4) • ตัวอยา่ งระบบการแจง้ เตือนภัยน�ำ้ ท่วมล่วงหน้าของจังหวัดเชียงใหม่ (เอกสารประกอบคู่มือฝกึ อบรม ชุดที่ 5) • สไลดเ์ ร่อื งบทบาทหน้าทข่ี องคณะกรรมการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยชมุ ชน (เอกสาร ประกอบคู่มือฝกึ อบรม ชุดท่ี 6) • ใบงานเหตุการณส์ มมติเรอ่ื งการแจ้งเตือนภยั นำ�้ ท่วมลว่ งหน้า (เอกสารประกอบคูม่ อื ฝึกอบรม ชดุ ที่ 7) การวัดและประเมินผล • ผู้เขา้ รว่ มอบรมสามารถอธิบายระบบการเฝ้าระวังและระบบการแจง้ เตือนภัยล่วงหน้าในชุมชนของ ตนเองได้ • ผู้เข้ารว่ มอบรมสามารถอธบิ ายข้ันตอนของการปฏบิ ตั ติ นเมือ่ ได้รบั ขอ้ มูลหรือสัญญาณแจ้งเตือนภัย ลว่ งหนา้ • ชุมชนมีระบบการแจง้ เตอื นภยั ลว่ งหน้าทีเ่ หมาะสมและสอดคล้องกบั สภาพความเป็นอยู่และ วฒั นธรรมของชุมชน 19
คู่มือฝกึ อบรมการปลุกจติ ส�ำ นึกเพือ่ เตรยี มพรอ้ มรับภัยนำ�้ ท่วม กระบวนการฝึกอบรม วธิ กี าร สื่อ/อุปกรณ์ ประเด็นส�ำ คญั ประเด็นส�ำ คญั ข้ันท่ี 1 (30 นาท)ี 1. กระดาษฟลปิ ชารท์ ในขั้นตอนท่ี 1 2. ปากกาเคมี • วิทยากรนำ�เสนอระบบการเฝา้ ระวงั และระบบการแจ้ง 3. ตวั อย่างระบบการเฝา้ ระวงั และ คือ เตือนภยั ล่วงหน้า ตามเอกสารประกอบคูม่ ือฝึกอบรม • ระบบการเฝา้ ระวงั ชดุ ที่ 4 (10 นาที) ระบบการแจง้ เตอื นภัยน้ำ�ทว่ ม ลว่ งหน้า (เอกสารประกอบคมู่ อื และระบบการแจง้ • วิทยากรให้ผูเ้ ขา้ ร่วมอบรมระดมสมอง และตอบคำ�ถาม ฝกึ อบรม ชดุ ท่ี 4) เตอื นภยั ล่วงหนา้ ท่ี วา่ “ในชมุ ชนของทา่ นมรี ะบบการเฝา้ ระวงั และการแจง้ 4. ตัวอยา่ งระบบการแจง้ เตอื นภยั มอี ยู่ในชมุ ชน เตอื นภยั ล่วงหนา้ หรือไม่ ถ้ามีไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง” โดย น�้ำ ท่วมลว่ งหน้าของจงั หวดั • อุปกรณเ์ ฝา้ ระวังน�ำ้ วทิ ยากรบันทกึ คำ�ตอบลงในกระดาษฟลปิ ชารท์ เชียงใหม่ (เอกสารประกอบคมู่ อื ท่วม (10 นาท)ี ฝึกอบรม ชดุ ท่ี 5) 5. สไลด์เรื่องบทบาทหนา้ ท่ขี องคณะ ประเด็นส�ำ คัญ • วิทยากรสรุปการนำ�เสนอจากผเู้ ขา้ ร่วมอบรม และน�ำ กรรมการปอ้ งกันและบรรเทา ในขั้นตอนท่ี 2 เสนอตัวอย่างระบบการแจง้ เตอื นภยั น้ำ�ท่วมลว่ งหน้า สาธารณภัยชุมชน (เอกสาร ของจงั หวัดเชยี งใหม่ (เอกสารประกอบคู่มอื ฝึกอบรม ประกอบค่มู อื ฝึกอบรม ชุดท่ี 6) คอื ระบบการเฝา้ 6. ใบงานเหตกุ ารณส์ มมติเรื่องการ ระวังและแจ้งเตือน ชดุ ที่ 5) (10 นาท)ี แจ้งเตอื นภยั น้�ำ ทว่ มล่วงหนา้ ภัยล่วงหน้าท่ีมอี ยใู่ น (เอกสารประกอบคูม่ ือฝึกอบรม ชุมชน ไดแ้ ก่ คณะ ขั้นท่ี 2 (30 นาที) ชดุ ท่ี 7) กรรมการปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภยั • วิทยากรอธิบายความเป็นมาและหนา้ ท่ขี องคณะ ชุมชน กรรมการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ชุมชน โดยน�ำ เสนอสไลด์เรอ่ื งบทบาทหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการปอ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภยั ชมุ ชน (เอกสารประกอบคมู่ ือ ฝึกอบรม ชดุ ท่ี 6) (5 นาที) • วิทยากรขอตัวแทนอาสาสมัครปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภัยชุมชน จากฝ่ายตา่ งๆ ดงั ต่อไปน้ี (5 นาท)ี 1) ฝา่ ยปอ้ งกนั และเตรียมความพรอ้ ม 1 คน 2) ฝา่ ยเฝา้ ระวงั และแจง้ เตือนภยั 1 คน 3) ฝา่ ยอพยพ 1 คน 4) ผู้ใหญบ่ า้ น 1 คน 5) นายอ�ำ เภอ 1 คน • วิทยากรให้อาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ชุมชนแสดงบทบาทสมมติ โดยวิทยากรอ่าน เหตกุ ารณ์สมมติ (เอกสารประกอบคูม่ อื ฝกึ อบรม ชุดท่ี 7) และใหอ้ าสาสมัครแสดงบทบาทสมมตติ าม บทบาทหนา้ ท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (15 นาที) • วิทยากรสรปุ ผลการแสดงละครบทบาทสมมติ (5 นาท)ี 20
คู่มือฝึกอบรมการปลกุ จิตส�ำ นกึ เพ่อื เตรยี มพร้อมรบั ภัยน้ำ�ทว่ ม ประเด็นสำ�คญั วธิ ีการ สือ่ /อุปกรณ์ ประเด็นสำ�คญั ขั้นท่ี 3 (60 นาท)ี ในขั้นตอนที่ 3 • วิทยากรให้ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมแบ่งกล่มุ ออกเปน็ 4 กลุ่ม พร้อมแจก กระดาษฟลปิ ชาร์ทและปากกาเคมี (5 นาท)ี คอื การสนับสนนุ ให้มกี าร • วทิ ยากรใหผ้ ้เู ข้ารว่ มอบรม ระดมสมองและตอบคำ�ถามว่า “ทา่ นคดิ ว่า ใชภ้ ูมิปญั ญาชาวบ้าน ระบบการเฝ้าระวังและระบบการแจ้งเตอื นภัยที่มีอย่ใู นชมุ ชนมขี อ้ ดีและ ในการออกแบบวธิ กี าร ขอ้ เสยี อยา่ งไร” โดยให้แตล่ ะกล่มุ เขยี นคำ�ตอบลงในกระดาษฟลิปชารท์ แจง้ เตอื นภยั นำ้�ทว่ ม (10 นาท)ี ลว่ งหนา้ เพ่ือให้ สอดคลอ้ งกับวถิ ชี ีวิต • วิทยากรให้ผู้เขา้ รว่ มอบรมระดมสมองและตอบคำ�ถามว่า “หากท่าน ของคนในชมุ ชน ต้องคดิ วิธกี ารแจง้ เตือนภัยน�ำ้ ทว่ มล่วงหน้าที่เหมาะสมกับชมุ ชนของ ท่าน ท่านจะใชว้ ิธกี ารใดในการแจง้ เตือนภยั นำ้�ทว่ มลว่ งหนา้ ” โดยให้ ผู้เขา้ รว่ มอบรมเขียนค�ำ ตอบลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ท (15 นาที) • วทิ ยากรให้ผูเ้ ข้ารว่ มอบรมนำ�เสนอผลงานกลมุ่ ละ 5 นาที (20 นาท)ี • วิทยากรสรุปการนำ�เสนอผลงานระบบการแจง้ เตอื นภยั ของแต่ละกล่มุ (10 นาที) 21
ค่มู ือฝกึ อบรมการปลกุ จิตสำ�นกึ เพือ่ เตรียมพร้อมรบั ภยั นำ้�ท่วม เนอ้ื หาประกอบการฝกึ อบรม 1. ระบบการเฝ้าระวังภัยน้ำ�ท่วม ระบบการเฝ้าระวังภัยนำ้�ท่วม เปน็ การติดตาม สงั เกตหรอื ปอ้ งกันไม่ใหป้ ริมาณน�ำ้ มากจนสง่ ผลให้เกิดน�ำ้ ท่วมได้ ใน ประเทศไทยหน่วยงานทม่ี หี นา้ ท่เี ฝ้าระวังภัยจากนำ้�ท่วม คอื กรมอตุ นุ ิยมวิทยา ซึ่งเปน็ ผเู้ ฝา้ ระวงั และคอยใหข้ อ้ มลู ขา่ วสารเก่ยี วกับน้ำ�ท่วมให้แก่ประชาชนไดร้ ับทราบ นอกจากน้ยี ังมหี น่วยงานท่ีให้ข้อมูลการเตือนภยั นำ้�ทว่ มในล่มุ น้ำ� ไดแ้ ก่ ส�ำ นักอุทกวทิ ยาและบรหิ ารน�ำ้ กรมชลประทาน และกรมทรัพยากรน้ำ� เป็นตน้ ซ่งึ หน่วยงานเหลา่ นจี้ ะมเี ครอ่ื งมอื วดั ระดับน�ำ้ ซง่ึ ใช้ระบบสื่อสารและระบบคอมพวิ เตอรท์ ี่ ทันสมัยในการประมวลผลเพื่อแจ้งเตือนภยั น�ำ้ ทว่ มให้แกป่ ระชาชนในพนื้ ท่ลี มุ่ น้ำ� 2. ระบบการแจง้ เตือนภยั น�ำ้ ทว่ มล่วงหน้า การแจ้งเตือนภัยน�้ำ ท่วมเป็นการให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับสถานการณน์ ำ�้ หรอื แจ้งสถานการณ์ท่ีจ�ำ เป็นตอ่ การรบั รู้เก่ยี วกบั ภยั จาก น�ำ้ ท่วมแก่ผู้ท่ีไดร้ บั ผลกระทบ หรอื คาดวา่ จะไดร้ บั ผลกระทบ เพ่ือให้เตรียมพร้อมรบั สถานการณ์ และสามารถอพยพ เคลือ่ นย้ายไปสู่ทีป่ ลอดภัยได้ทันเวลา ภายหลังเกิดเหตกุ ารณ์สึนามิ พ.ศ. 2547 ประเทศไทยได้จดั ตัง้ ศนู ยเ์ ตอื นภัยพบิ ัติแหง่ ชาติข้ึนและเรม่ิ ปฏบิ ัติงานเมื่อวนั ท่ี 30 พฤษภาคม พ.ศ.2548 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบการเตอื นภยั พบิ ัตอิ นั เกิดจากธรรมชาติทุกชนิด และท�ำ หนา้ ที่เป็นศนู ยก์ ลาง การกระจายขา่ วท่เี กี่ยวขอ้ งกับภัยพิบัตดิ ังกล่าว ในการด�ำ เนินงานของศูนย์เตอื นภัยพบิ ตั ิแหง่ ชาติ เจา้ หนา้ ท่แี ละผบู้ รหิ าร ของศนู ยเ์ ตือนภัยพิบตั แิ หง่ ชาติ จะตอ้ งทำ�การศึกษาวเิ คราะหค์ วามรุนแรงของภัยพบิ ตั ทิ ี่อาจจะเกดิ ขึ้น เพื่อด�ำ เนินการแจง้ เตอื นภยั ผ่านระบบตา่ งๆ อาทิ หอเตอื นภัยที่ติดตง้ั ในชมุ ชนหรือจุดเสย่ี งภัยตา่ งๆ สถานโี ทรทัศน์รวมการเฉพาะกจิ แหง่ ประเทศไทย สถานวี ทิ ยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพนั ธ์ ระบบขอ้ ความสั้น (SMS) รวมถงึ การแจ้งหน่วยงานป้องกันและ บรรเทาภยั อนื่ ด้วย 3. วธิ กี ารแจง้ เตือนภัยนำ้�ทว่ ม มี 2 วิธี ไดแ้ ก่ 3.1 แจง้ เตอื นประชาชนโดยตรง โดยผ่านทางสถานโี ทรทศั น์ สถานวี ทิ ยุ วทิ ยุสมคั รเลน่ โทรสาร โทรศัพท์มือถือ หอกระจายขา่ ว เสยี งตามสาย ไซเรนเตอื นภยั แบบมือหมนุ และหอเตอื นภยั 3.2 แจง้ เตือนผ่านหนว่ ยงาน โดยใชก้ ลไกระบบการบรหิ ารราชการสว่ นภมู ิภาคและส่วนท้องถิ่นผ่านหนว่ ยงานต่างๆ ดงั นี้ • ส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดและอำ�เภอ • ส่วนทอ้ งถ่นิ ไดแ้ ก่ องค์การบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล เมืองพัทยา และองคก์ ารบริหารสว่ นต�ำ บล 4. ระดบั การแจง้ เตือนภยั นำ�้ ทว่ ม 4.1 การแจง้ เตือนภยั ระดบั จงั หวดั เป็นการแจ้งเตอื นภยั ล่วงหนา้ ผา่ นระบบเครือข่าย ระบบสอ่ื สาร และสอ่ื ประชาสมั พันธข์ องทางราชการและเอกชน เชน่ วิทยุกระจายเสียง วิทยุส่ือสาร โทรสาร ประชาสัมพนั ธจ์ ังหวดั โดย ส�ำ นักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดมีหนา้ ที่ในการแจง้ เตือนภัยไปยังหน่วยงานในพื้นทีท่ ี่เกี่ยวข้อง และ 22
คมู่ ือฝกึ อบรมการปลุกจิตสำ�นกึ เพ่ือเตรยี มพรอ้ มรบั ภยั น�ำ้ ทว่ ม หรอื กองอำ�นวยการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยจงั หวดั อ�ำ เภอ และท้องถิ่นทค่ี าดวา่ จะเกิดภยั เพอ่ื แจ้งเตือนภยั ล่วงหนา้ แก่ผ้ทู ี่คาดว่าจะไดร้ ับผลกระทบในพื้นทเ่ี สย่ี งภัยใหเ้ ฝ้าระวงั และเตรยี มพร้อมรบั สถานการณ์ และสามารถ อพยพเคลอื่ นยา้ ยไปสู่ท่ีปลอดภัยได้ 4.2 การแจ้งเตอื นภัยระดบั อ�ำ เภอ เปน็ การแจ้งเตือนภยั ล่วงหน้า ผ่านระบบเครอื ข่ายและระบบส่อื สารและส่อื ประชาสมั พนั ธข์ องทางราชการและเอกชน เช่น วิทยุชมุ ชน วทิ ยุสือ่ สาร โทรสาร ผา่ นหนว่ ยงาน และเครอื ข่ายท่ี เก่ยี วขอ้ งตา่ งๆ ในระดบั อำ�เภอ ¨Ñ§ËÇ´Ñ การแจ้งเตอื นภัยในระดบั จังหวัด ÃÒ§ҹ¡ÒÃᨌ§àµ×͹ÀÂÑ ¹ÒÂÍÓàÀÍ/ ¹Ò¡à·ÈÁ¹µÃÕ / ¹Ò¡ ͺµ./ ¼¹ÙŒ ÓªÁØ ª¹ ÏÅÏ »ÃÐàÁ¹Ô ãËŒ¤ÇÒÁàË¹ç ªÍºàµ×͹ÀÑ ᨌ§ÊÀÒ¾½¹µ¡Ë¹Ñ¡ / ÃдºÑ ¹Óé ½¹ÊÙ§ ͹ØÁµÑ ÔãËàŒ µ×͹ÀÂÑ Í¾Â¾ ¶§Ö ࡳ±àµ×͹ÀÂÑ ¢Í¤ÇÒÁàË¹ç ªÍºàµÍ× ¹ÀÑ ¼ŒµÙ ÃǨÇÑ´¹éÓ½¹ ¼Œ¤Ù Ǻ¤ÁØ ÊÑÞÞÒ³ä«àù 1. Ê‹§ÊÞÑ ÞÒ³àµ×͹ÀÂÑ Í¾Â¾ àÁ×Íè ä´ŒÃºÑ ¤ÇÒÁàË繪ͺ 2. ʧ‹ ÊÞÑ ÞÒ³àµÍ× ¹ÀÑ·ѹ·Õ àÁÍè× à¡´Ô Ê¶Ò¹¡Òó ÍØ·¡ÀÂÑ ¹Óé »Ò† äËÅËÅÒ¡ áÅдԹ¶ÅÁ‹ ªØÁª¹¾¹×é ·èÕàÊèÂÕ §ÀÂÑ 4.3 การแจง้ เตือนภยั ระดับตำ�บล/ชุมชน เปน็ การแจง้ เตอื นภัยล่วงหนา้ ใหแ้ ก่อาสาสมคั รปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัย และเครือขา่ ยเฝ้าระวงั และแจง้ เตอื นภัยในระดบั ต�ำ บลหรอื ชมุ ชน โดยใชร้ ะบบส่อื สารและสอ่ื ประชาสมั พันธใ์ นการแจง้ เตอื นภัย เชน่ เสยี งตามสาย วิทยุ หอกระจายข่าว ไซเรนเตอื นภยั แบบมอื หมนุ โทรโข่ง นกหวีด หรอื สัญญาณเสยี งที่กำ�หนดใชเ้ ปน็ สัญญาณเตือนภัยประจำ�ชุมชนหรือตำ�บล นอกจากนี้ ยังมกี ลไกการ แจง้ เตือนภยั ในท้องถิ่นอกี กลไกหนึ่งน่ันคอื “มิสเตอร์เตอื นภัย” ซง่ึ เปน็ เครือขา่ ยในการประสานงานในระดับ ท้องถ่ินที่ส�ำ คัญเพ่ือเฝา้ ระวังและแจ้งเตือนภัยพิบตั ิในพ้ืนทีเ่ สยี่ งภัยนำ้�ท่วม ดนิ โคลนถลม่ ใหก้ ับประชาชนไดร้ บั ประโยชน์สงู สดุ 23
ค่มู อื ฝกึ อบรมการปลุกจติ ส�ำ นึกเพือ่ เตรยี มพร้อมรับภยั นำ้�ทว่ ม 4.4 การจดั ต้งั คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ชมุ ชน ในชุมชนท่เี สย่ี งภัย ควรมีการจดั ท�ำ แผนชมุ ชนในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งจดั ตั้งคณะกรรมการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ชมุ ชน และ คณะกรรมการฝา่ ยตา่ งๆ ขึ้น โดยก�ำ หนดบทบาทหน้าท่แี ละผรู้ ับผดิ ชอบของแต่ละฝา่ ย ชว่ งกอ่ นเกิด ภัย ขณะเกดิ ภยั และหลังเกดิ ภยั ให้ชัดเจน ดังนี้ 1) คณะกรรมการฝา่ ยป้องกนั และเตรยี มความพรอ้ ม • จัดฝึกอบรมดา้ นการเตรยี มความพรอ้ มในการจดั การความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ใิ ห้แกช่ มุ ชนเพือ่ เสรมิ สร้าง จิตสำ�นึกแก่ชมุ ชนในส่ิงทค่ี วรทำ�ก่อนเกิดภัย ขณะเกดิ ภัยและหลังเกดิ ภัย • จัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณใ์ ห้พรอ้ มทีจ่ ะเผชิญกับเหตกุ ารณฉ์ กุ เฉิน • จัดการฝกึ ซอ้ มแผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย 2) คณะกรรมการฝ่ายเฝา้ ระวงั และแจ้งเตอื นภัย • เฝ้าติดตามสถานการณ์สาธารณภัยอย่างสม่ำ�เสมอ • แจ้งเตอื นเมือ่ มีสาธารณภยั ในชุมชนให้ทุกคนได้รบั ทราบ พรอ้ มแนวทางปฏิบัตสิ �ำ หรบั การอพยพ 3) คณะกรรมการฝ่ายอพยพ • ประสานงานกบั คณะกรรมการฝา่ ยเฝ้าระวงั เหตุ • ดำ�เนนิ การอพยพประชาชนจากจดุ เส่ยี งไปยงั จดุ ปลอดภยั • ดำ�เนนิ การอพยพประชาชนกลับบ้านเรือนเมือ่ เหตุการณ์คลค่ี ลายแลว้ 4) คณะกรรมการฝ่ายคน้ หา กูภ้ ยั และช่วยชวี ิต • การดำ�เนนิ การคน้ หา ก้ภู ัยและชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัย • ดำ�เนนิ การปฐมพยาบาลเบอื้ งต้นและส่งต่อสถานพยาบาล 5) คณะกรรมการฝ่ายรักษาพยาบาล • ดำ�เนนิ การรกั ษาพยาบาลแกผ่ ู้เจบ็ ป่วยหรอื ได้รบั บาดเจบ็ • ฟนื้ ฟสู ภาพจิตใจ วิถีชวี ิตของผู้ประสบภัย 6) คณะกรรมการฝ่ายรักษาความสงบเรียบรอ้ ย • ดแู ลรกั ษาความปลอดภัยบา้ นเรอื นและทรพั ย์สินอ่นื ๆของผูอ้ พยพ • อำ�นวยความสะดวกดา้ นการเดนิ ทางและการจราจรขณะอพยพ 7) คณะกรรมการฝา่ ยประสานงาน • ประสานกับองคก์ ารบริหารสว่ นตำ�บล สถานีอนามัย สถานีต�ำ รวจ ในการรายงานเหตกุ ารณเ์ พ่ือให้เขา้ มา ชว่ ยเหลือสนับสนนุ การบรรเทาสาธารณภยั ต่อไป • ประสานกบั หนว่ ยกชู้ ีพ กูภ้ ัยตา่ งๆ 24
คูม่ ือฝกึ อบรมการปลุกจิตส�ำ นกึ เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรับภัยน�้ำ ท่วม การแจ้งเตอื นภยั ในระดับชุมชน Tip สำ�หรับวิทยากร กิจกรรมเรื่องการปฏิบัติตนในช่วงก่อน ระหว่างและหลังการได้รับแจ้งเตือนภัยตามที่ ออกแบบไว้ในกิจกรรม 1.3 นั้น เหมาะสำ�หรับกลุ่มเป้าหมายที่เคยได้รับการอบรมเรื่องการ จัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน หรือ CBDRM มาแล้ว เนื่องจาก คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจำ�หมู่บ้านได้ผ่านการฝึกอบรมจากสำ�นัก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมาแล้ว หากเป็นการจัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยผ่านการฝึกอบรม CBDRM มาก่อน วิทยากรควรให้ความรู้เรื่องการปฏิบัติตนในช่วงก่อน ระหว่างและหลังได้รับการแจ้งเตือนภัย ก่อน และควรให้ผู้เข้าอบรมได้รับการฝึกปฏิบัติด้วยเช่นกัน 25
ค่มู อื ฝึกอบรมการปลุกจติ สำ�นกึ เพือ่ เตรยี มพร้อมรับภัยน้ำ�ทว่ ม 5. รปู แบบของการแจง้ เตอื นภัยน�ำ้ ทว่ ม • การแจ้งเตอื นเพอ่ื เตรยี มพร้อม เป็นการแจ้งเตือนเพื่อให้ประชาชนในหมบู่ ้านหรอื พน้ื ที่เสี่ยงภัยเตรียมความพรอ้ ม ส�ำ หรบั การเผชิญกับสถานการณ์ เชน่ การแจง้ เตือนให้ประชาชนฟังประกาศจากกรมอตุ ุนิยมวทิ ยาหรือหนว่ ยงาน ราชการอย่างสม่ำ�เสมอ รวมถึงการเตรยี มความพร้อมในดา้ นอืน่ ๆ เชน่ การเตรยี มความพรอ้ มส�ำ หรับการอพยพ ซ่งึ ควรจดั ทำ�แผนอพยพประชาชนและมกี ารฝึกซ้อมแผนอยเู่ สมอ • การแจ้งเตอื นเพ่ือหนีภยั เปน็ การบอกใหร้ ูว้ ่าภัยก�ำ ลงั จะเกิดข้ึนในเวลาอนั ใกล้ เนอ่ื งจากมีการเปลีย่ นแปลงบางอยา่ ง เชน่ ปรมิ าณน�้ำ ฝนจากกระบอกวดั น้ำ�ฝนมจี ำ�นวนมากอยใู่ นข้นั อนั ตราย มกี ารเปลยี่ นแปลงของปรมิ าณหรอื สขี องแม่น�ำ้ ในล�ำ ธารเหนอื หมบู่ ้านข้นึ ไป โดยวธิ ีการแจง้ เตือนตอ้ งขึน้ กบั วธิ ีการทีไ่ ด้ตกลงกันไวล้ ว่ งหนา้ ในชุมชน ซึง่ อาจจะกระทำ�ได้ หลายวิธเี ชน่ o ไซเรนเตอื นภัยแบบมือหมุน หมุนให้เกดิ เสียงดงั ให้ชาวบา้ นไดย้ นิ และหนีไปตามแผนท่ตี กลงกันไว้ o ตเี กราะเคาะไม้ท่หี มู่บา้ นใชเ้ วลามเี หตุร้าย o ตีกลองเพล โดยต้องตกลงกนั ไว้ก่อน ถ้าตีในเวลาทไี่ ม่ใชเ่ วลาปกติ ให้ถอื วา่ เป็นการเตอื นภยั o เป่านกหวดี เสยี งยาว o จดุ พลุ o การบีบแตรรถยนตห์ รือรถจักรยานยนต์ 6. ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิตนเมื่อไดร้ ับการแจ้งเตอื นภยั น้�ำ ท่วม ระยะเวลา ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติ • ติดตามข่าวสารอย่างใกลช้ ิด • จัดเตรยี มเกบ็ สมั ภาระ เอกสารสำ�คัญและอปุ กรณย์ งั ชพี ทจ่ี ำ�เปน็ กอ่ นเกดิ ภัย • ส�ำ รวจเส้นทางอพยพรว่ มกับคนอืน่ ๆในชมุ ชน • ปฏิบตั ิตามคำ�แนะนำ�หรือคำ�ส่งั ของเจ้าหนา้ และคณะกรรมการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยอย่าง เครง่ ครดั • ตัง้ ใจฟังสญั ญาณเตือนภยั และปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนท่ีได้ตกลงกนั ไว้ ขณะเกดิ ภยั • เม่อื ได้ยนิ สัญญาณเรียกรวมพลให้ไปยงั จุดรวมพล • เตรียมพร้อมอพยพโดยปฏบิ ตั ติ ามค�ำ แนะน�ำ ของเจ้าหน้าท่หี รือคระกรรมการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั ประจ�ำ หมบู่ ้านอยา่ งเครง่ ครดั • เดนิ ทางกลับสู่บา้ นเรอื น หลังเกดิ ภัย • สำ�รวจความเสยี หายและอปุ กรณเ์ คร่ืองใชภ้ ายในบา้ น • แจ้งความเสียหายพร้อมยนื่ เร่ืองเสนอขอความช่วยเหลอื ตอ่ องค์กรท้องถ่นิ หรือหนว่ ยงานท่เี กีย่ วขอ้ ง 7. อปุ กรณ์ในการเฝา้ ระวงั และแจง้ เตอื นภัยน�ำ้ ท่วม 7.1 กระบอกวดั ปรมิ าณนำ�้ ฝน กระบอกวดั ปรมิ าณน�ำ้ ฝนเปน็ อุปกรณท์ ี่ใชส้ ำ�หรับเฝ้าระวังน�ำ้ ทว่ มชนิดหน่งึ โดยใช้วดั ปรมิ าณน�ำ้ ฝนที่ตกลงมาในชว่ ง ระยะเวลา 24 ชว่ั โมง เพอื่ น�ำ ไปใช้คาดการณป์ ริมาณนำ้�เออ่ ล้นหรอื นำ้�ท่วมได้ 26
คมู่ ือฝกึ อบรมการปลกุ จติ สำ�นึกเพ่อื เตรียมพรอ้ มรบั ภยั น้ำ�ท่วม ตวั อย่างกระบอกวัดปริมาณนำ้�ฝน 200 150 100 50 0 การอา่ นค่าปริมาณน้ำ�ฝนจากกระบอกวดั น้ำ�ฝนน้นั สามารถอา่ นจากมาตรวัด (สเกล) ตรงต�ำ แหนง่ ผวิ บนสดุ ของ ระดับน�้ำ ในกระบอกวัดปริมาณนำ้�ฝน มหี น่วยการวดั เป็นมิลลิเมตร และมกี ารก�ำ หนดสีในการแสดงคา่ ปริมาณน�้ำ ฝน ในช่วงต่างๆใหม้ คี วามแตกตา่ งเพื่อความสะดวกในการอา่ นสถานการณ์ โดยมีช่วงสเกลต่างๆ ดังน้ี • สเกล 151-200 ตวั เลขเปน็ สีแสด หมายถงึ ปรมิ าณฝนตกหนักมากท่ีสดุ • สเกล 101-150 ตัวเลขเปน็ สแี ดง หมายถึง ปริมาณฝนตกหนกั มาก • สเกล 51-100 ตวั เลขเปน็ สเี ขยี ว หมายถงึ ปรมิ าณฝนตกหนัก • สเกล 0-50 ตวั เลขเปน็ สีด�ำ หมายถงึ ปรมิ าณฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง นอกจากน้ี ชุมชนหรือครัวเรอื นสามารถดดั แปลงหรือประดษิ ฐ์กระบอกวัดน�ำ้ ฝนได้เอง โดยใช้ขวดน�ำ้ อัดลมขนาด 2 ลิตร ใสป่ นู หรอื ทรายลงไปในกน้ ขวดและอัดให้แนน่ และเรียบ จากน้ันสามารถขอสเกลวดั ปริมาณน�ำ้ ฝนจาก ส�ำ นกั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ได้ ดังตัวอย่างจากรูปดา้ นบน 7.2 จุดวดั ระดบั น�ำ้ จดุ วัดระดบั น�้ำ เป็นอปุ กรณ์เฝ้าระวงั น้ำ�ทว่ มอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งใชก้ ับหม่บู ้านหรอื ชุมชนทตี่ ง้ั อยู่ใกล้กบั ล�ำ หว้ ยหรือล�ำ ธาร ท่ีเป็นแมน่ �้ำ สายหลกั โดยการวัดระดบั น้ำ�ในล�ำ หว้ ย ควรท�ำ ควบคไู่ ปกับการวัดปรมิ าณน�ำ้ ฝน การวดั ระดบั น�้ำ นั้น จะวัดจากระดบั น�้ำ ในแมน่ ้ำ� ณ สถานตี รวจวัดของกรมชลประทาน ซง่ึ ตงั้ อยทู่ างเหนอื ของแหลง่ น้ำ�ในชมุ ชนตา่ งๆ เมื่อระดบั น�้ำ ที่อา่ นได้สงู ถึงจดุ วกิ ฤติท่จี ะเร่ิมเตือนภยั จะทำ�ให้รู้วา่ ปรมิ าณน้ำ�ทไ่ี หลผ่านในล�ำ น้�ำ ก�ำ ลงั จะเกินกว่าระดับ ความจุรับน�ำ้ ได้ (ระดบั น้ำ�ท่วม) จงึ สามารถคาดการณร์ ะดับน�ำ้ ในแมน่ �ำ้ ณ บริเวณท่ชี มุ ชนน้นั ๆ ต้ังอยู่ ว่าจะขึน้ สงู ลน้ ตลง่ิ เมื่อใด รวมถึงระยะเวลาในการอพยพก่อนทนี่ ำ้�จะเขา้ ท่วมชุมชน โดยปกติแลว้ จะสามารถเตือนภยั ล่วงหนา้ ได้ นานพอทปี่ ระชาชนจะอพยพไดท้ ัน 27
คู่มือฝึกอบรมการปลุกจติ สำ�นึกเพอ่ื เตรียมพรอ้ มรบั ภัยน้ำ�ท่วม ตัวอย่างเช่นการเตือนภัยน้ำ�ท่วม ตัวอย่างจดุ วัดระดบั นำ้� หรอื Flood Mark เมอื งเชียงใหม่ จากข้อมลู ทาง อทุ กวิทยา สามารถเตือนภัยลว่ งหน้า ไดป้ ระมาณ 12 ช่วั โมง เนอ่ื งจากแม่ น้ำ�ปิงที่ไหลผ่านเมืองเชียงใหม่มีต้นนำ้� อยู่ที่ อ. เชียงดาว ดงั นนั้ ขอ้ มูล อุทกวิทยาที่นำ�มาใช้วิเคราะห์ในการ เตือนภัยจะประกอบด้วยปริมาณของ ลำ�นำ้�สายหลักที่ไหลรวมกันลงแม่นำ้� ปิง เมอ่ื มปี รมิ าณน�ำ้ ไหลผา่ นในลำ�น้ำ�เกนิ กว่า 350 ลกู บาศกเ์ มตรต่อวนิ าที โดยปรมิ าณน�ำ้ จำ�นวนน้ีเมอ่ื ไหลผา่ น เมอื งเชยี งใหม่ ในเวลาถดั ไปจะมีผลท�ำ ใหพ้ นื้ ท่ีริมฝ่งั แมน่ ้ำ�ปิงบรเิ วณตัวเมอื งเชียงใหมซ่ ง่ึ เปน็ ทลี่ มุ่ เกดิ น�ำ้ ท่วมข้ึน (แม่ นำ�้ ปงิ มคี วามจุรบั นำ้�ได้ประมาณ 350 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ วนิ าท)ี และเม่ือปรมิ าณน�้ำ จากสาขาอน่ื ๆ เพมิ่ มากข้ึน ก็จะ ส่งผลให้เกดิ นำ�้ ท่วมเปน็ บริเวณกว้าง การติดต้ังจุดวดั ระดับนำ้�นั้น หมบู่ า้ นหรือชมุ ชนสามารถดดั แปลงและท�ำ เสาวดั ระดบั น�้ำ ได้ดว้ ยตนเอง โดยมขี ั้นตอน ในการท�ำ ดงั นี้ • ใช้เสาไมข้ นาดทเ่ี หมาะสม เปน็ เสาสเ่ี หลี่ยมหรอื เสากลม ขนาดประมาณ 4-6 นว้ิ โดยปกั ลงในดนิ ท้องคลอง และรมิ ฝง่ั ของล�ำ ห้วยหรอื ลำ�ธารให้แข็งแรงทนต่อกระแสน�้ำ ได้ • ท�ำ สเกลวัดระดับความสงู ของกระแสน้ำ�ในลำ�ธาร โดยใชห้ นว่ ยวดั เปน็ เมตร หรือมคี วามละเอียดอา่ นคา่ ไดเ้ ป็น เซนติเมตร (หากทำ�ได)้ มีขนาดตัวอักษรและตัวเลขอ่านได้อยา่ งชัดเจน (หากตัวอกั ษรและตวั เลขเป็นสีน�้ำ มนั จะทำ�ให้มคี วามคงทนมากข้ึน) 7.3 กระดานข้อมูลเตอื นภยั ระดบั น้ำ�ท่วม กระดานขอ้ มูลเตือนภัยระดับน้ำ�ทว่ ม เปน็ อปุ กรณใ์ นการเฝา้ ระวงั ติดตาม และคาดการณ์สถานการณ์น�ำ้ ในพ้นื ที่ เพือ่ น�ำ ไปสูก่ ารแจ้งเตือนภัยนำ้�ท่วมให้แก่ชุมชนได้ โดยกระดานข้อมูลเตือนภัยระดับน�้ำ ท่วมประกอบดว้ ย • แผนทเี่ สี่ยงภยั นำ้�ท่วมชุมชน โดยแสดงบริเวณทเี่ สย่ี งตอ่ การเกิดภัยน�ำ้ ท่วม พนื้ ที่ปลอดภัยและเส้นทางอพยพไป ยังพ้ืนทป่ี ลอดภยั • หมายเลขโทรศพั ทห์ น่วยงานทเ่ี ปน็ ผู้ให้ ตวั อยา่ งกระดานข้อมูลเตือนภัยน้ำ�ทว่ ม บริการขอ้ มลู เตือนภยั หรอื ข้อมลู ระดับน�้ำ • ข้อมลู ค่าระดบั นำ้� (ระดับเฝ้าระวัง ระดบั เตอื นภยั และ ระดับนำ้�ลน้ ตลงิ่ ) • ชอ่ งวา่ งส�ำ หรับกรอกขอ้ มลู ระดับน้ำ�ใน แต่ละวัน โดยข้อมูลระดับน้ำ�น้ันสามารถใช้ขอ้ มูล อ้างองิ จากกรมอุตุนิยมวทิ ยาหรือศูนย์ อทุ กวทิ ยาและบริหารนำ้� กรมชลประทาน เปน็ ตน้ 28
ค่มู อื ฝกึ อบรมการปลกุ จิตสำ�นกึ เพือ่ เตรยี มพรอ้ มรบั ภัยน�ำ้ ท่วม ตวั อยา่ งไซเรนเตอื นภัยแบบมอื หมุน 7.4 ไซเรนเตอื นภัยแบบมือหมุน ไซเรนเตอื นภยั เปน็ อปุ กรณส์ �ำ หรับใหส้ ัญญาณเตือนภัยในหม่บู า้ น ชุมชน หรือสถานที่อื่นๆตามท่ีผู้ควบคุมและผู้รับฟังสัญญาณไซเรนจะทำ�ข้อ ตกลงนำ�ไปกำ�หนดใช้งาน สามารถใชง้ านในสถานทท่ี ไ่ี ม่มไี ฟฟ้าไดโ้ ดยใช้ มอื หมุน มีรศั มคี วามดังประมาณ 1.5 กโิ ลเมตร ส�ำ หรบั การใชง้ านไซเรนมือหมนุ นั้น ให้หมนุ ด้ามจับท่อี ยู่ดา้ นขา้ งของตวั เครือ่ งไปทศิ ทางตามเข็มนาฬิกา และเพอ่ื ให้ได้ยินเสยี ง 2 เสียง หรือ Two Tone จะตอ้ งทำ�การหมนุ ดา้ มจับสำ�หรับควบคมุ เสยี งท่ีอย่ดู า้ นบน ของตวั เครอื่ งด้วย เพื่อไปหมนุ การทำ�งานของแผน่ เลื่อนภายในตัวเครอื่ ง ท�ำ ใหเ้ กิดเสียงสองเสยี งสลบั กนั ไปมา 7.5 หอเตือนภยั หอเตอื นภัยเป็นอปุ กรณ์กระจายเสียง ซ่งึ ตัง้ อยู่บริเวณพืน้ ท่ีเส่ียงภยั ของประเทศ มคี วามสูงประมาณ 20 ถงึ 30 เมตร สร้างดว้ ยวัสดทุ ่ีมคี วามมัน่ คง และแขง็ แรง ทนทาน สามารถทนแรงลม หรอื แรงกระแทกของคล่นื ได้ หอเตือนภยั ใชพ้ ลงั งานจากแสงอาทติ ย์ และมชี ดุ ล�ำ โพงกระจายเสยี ง เพอ่ื สง่ สัญญาณเตอื นไดร้ อบทศิ ทางในรศั มปี ระมาณ 1 ถงึ 1.5 กโิ ลเมตร (รัศมจี ริงจะขึน้ อย่กู ับชนิด จ�ำ นวน ความดังของล�ำ โพง และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ) การท�ำ งานของระบบหอเตอื นภยั ประกอบด้วย สว่ นควบคมุ หลักซง่ึ ต้งั อยู่ ณ หอ้ งปฏิบตั ิการ ศนู ย์เตือนภยั พิบัตแิ ห่งชาติ จังหวดั นนทบุรี ซง่ึ ท�ำ หนา้ ท่ีในการวิเคราะห์ข้อมูลซ่ึงมาจากหลายแหลง่ ข้อมลู ท้ังในประเทศและตา่ งประเทศ ซง่ึ แหล่ง ขอ้ มูลท่ีส�ำ คญั จากในประเทศประกอบดว้ ย กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา กรมทรพั ยากรธรณี กรมอทุ กศาสตร์ กรมทรพั ยากรน�ำ้ กรมชลประทาน กรมควบคุมมลพิษ การไฟฟ้าฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย กรมป่าไม้ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เป็นต้น สว่ นแหลง่ ขอ้ มลู ท่ีสำ�คญั จากต่างประเทศประกอบด้วย ศนู ยเ์ ตอื นภัยสนึ ามิภมู ิภาค แปซฟิ ิค (Pacific Tsunami Warning Center: PTWC) สำ�นักงานอุตนุ ิยมวิทยาแห่งประเทศญปี่ ุ่น (Japan Meteorological Agency: JMA) หนว่ ยส�ำ รวจธรณวี ทิ ยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey: USGS) องคก์ รการบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแหง่ ชาตสิ หรัฐอเมรกิ า (National Oceanic and Atmospheric Administration: NOAA) ศนู ยแ์ ผ่นดินไหวแห่งสหภาพยโุ รปและทะเลเมดเิ ตอเร เนียน (European Mediterranean and Seismological Center: EMSC) เปน็ ตน้ 29
คมู่ อื ฝกึ อบรมการปลกุ จิตส�ำ นึกเพอ่ื เตรียมพรอ้ มรับภยั นำ�้ ท่วม จากการวเิ คราะหข์ ้อมูล หากคาดว่าจะมภี ยั พิบัตเิ กดิ ขึ้นและมีผลกระทบกับประชาชน ตวั อย่างหอเตอื นภัย ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะดำ�เนินการแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางระบบแจ้งเตือน ต่างๆ ของศูนย์เตอื นภยั พิบัตแิ ห่งชาติ ซึ่งระบบหอเตอื นภัยเป็นระบบหลักระบบหนงึ่ ในการเตอื นภัย เมือ่ มกี ารอนมุ ตั ิให้กดสญั ญาณโดยผ้อู �ำ นวยการศนู ยเ์ ตอื นภัยพิบตั ิ แห่งชาติ (หรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย) สญั ญาณจะถูกสง่ ผ่านระบบดาวเทยี มไปถึงยังหอ เตอื นภัยในพน้ื ท่ที ีต่ อ้ งการ นอกจากการสง่ สัญญาณในสถานการณเ์ ตอื นภยั จริงแล้ว ระบบยังสามารถสง่ สญั ญาณเพือ่ สือ่ สารกบั หอเตอื นภัยในกรณอี นื่ ๆ ได้ โดยระบบหอ เตือนภยั ประกอบด้วยระบบการใชง้ านหลัก ดงั น้ี • การส่งสญั ญาณเสยี งจรงิ (Activate) เปน็ การสง่ สัญญาณเสียงแจง้ เตอื นภยั ตา่ งๆ ตามเหตุการณ์จริง • การสง่ สญั ญาณเสียงเงยี บ (Test) เป็นการส่งสัญญาณเพ่อื ทดสอบระบบล�ำ โพงว่าสามารถใช้งานได้ปกติ หรอื ไม่ โดยหอเตือนภยั จะมเี สียงดังต่ำ�ๆ เหมือนการเปิดล�ำ โพง ถ้าลำ�โพงเกดิ ขัดข้อง หอเตือนภัยจะสง่ ขอ้ มลู ขอ้ ขัดข้องตา่ งๆ กลับมายังศนู ย์เตอื นภยั พบิ ัตแิ หง่ ชาติ • การส่งสญั ญาณตรวจสอบอุปกรณ์ (Poll) เป็นการส่งสัญญาณไปยังหอเตือนภัยเพ่อื ตรวจสอบอุปกรณ์ ตา่ งๆ วา่ มสี ถานะเป็นอย่างไร สามารถใชง้ านได้ปกตหิ รือไม่ เมอ่ื หอเตือนภัยไดร้ บั สญั ญาณตรวจสอบอุปกรณ์ เรียบร้อยแล้ว หอเตอื นภยั จะทำ�การตรวจสอบอปุ กรณต์ ่างๆ โดยอัตโนมตั ิ และสง่ ข้อมลู สถานะของอปุ กรณ์ ต่างๆ กลบั มายงั ศูนย์เตอื นภัยพิบตั ิแหง่ ชาติ 8. การเตอื นภัยด้วยวิธีการอืน่ หรือด้วยวิธีการจากภมู ิปญั ญาชาวบา้ น ระบบการเฝ้าระวังและการแจ้งเตอื นภัยน้ัน อาจใช้อุปกรณ์ท่ีมอี ย่แู ลว้ ในชมุ ชน หรือคิดคน้ ระบบการเฝา้ ระวงั และแจง้ เตือน ภัยท่ีเปน็ ภมู ปิ ญั ญาของคนในชมุ ชนเองขน้ึ มาใหม่ โดยตอ้ งเป็นวิธกี ารหรอื ระบบท่ีคนในชมุ ชนรบั ทราบ ยอมรบั และเขา้ ใจ ตรงกนั ตัวอย่างการแจง้ เตือนภัยทีช่ มุ ชนสามารถคดิ ค้นหรือจัดระบบไดเ้ อง ได้แก่ • การตเี กราะ เคาะไม ้ • การจดุ พลุ • การตกี ลองเพล หรือกลองประจ�ำ หมบู่ ้าน • การบบี แตรรถยนต์หรือรถจกั รยานยนต์ • การเปา่ นกหวดี • การส่นั กระด่ิง ฯลฯ 30
คมู่ อื ฝึกอบรมการปลุกจติ ส�ำ นกึ เพอื่ เตรยี มพร้อมรบั ภยั น�ำ้ ทว่ ม ตวั อย่างแผนทีแ่ สดงการตดิ ตง้ั เครอ่ื งวัดปริมาณน�ำ้ ฝนและเครอื่ งไซเรนเตือนภยั ปี 2545-2549 ของจังหวัดนครพนม หมายเหตุ ปจั จุบนั ไซเรนท่เี คยติดต้ังในจังหวดั นครพนมได้ถกู น�ำ ไปใชใ้ นพ้ืนท่ีประสบภยั โคลนถล่มในภาคเหนอื เครื่องวัดปริมาณน�ำ้ ฝนทป่ี ระจำ�ในแตล่ ะจุดสามารถใชก้ ารได้ โดย ต้องมกี ารซอ่ มแซมบ้างในบางพืน้ ท่ี (ขอ้ มลู จากเจ้าหนา้ ทปี่ ้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย สำ�นกั งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัดนครพนม, มิถุนายน 2553) 31
บทท่ี 2 การเตรียมความพรอ้ มรับภัยน้ำ�ท่วม • สาเหตแุ ละผลกระทบจากนำ้�ทว่ ม • การเตรยี มความพร้อมในช่วงก่อน ระหวา่ ง และหลังการเกดิ น้ำ�ทว่ ม
คูม่ อื ฝกึ อบรมการปลุกจิตสำ�นกึ เพื่อเตรยี มพร้อมรบั ภัยน้ำ�ท่วม 2.1 สาเหตุและผลกระทบจากน�ำ้ ท่วม วัตถปุ ระสงค์ : เพอ่ื ให้ผเู้ ขา้ ฝกึ อบรมสามารถ 1. เขา้ ใจถงึ สาเหตุ ประเภทและผลกระทบจากน�ำ้ ท่วม ขอบเขตเน้ือหา 1. ความรู้เรอื่ งนำ้�ทว่ ม สาเหตุ ประเภท และผลกระทบจากนำ้�ท่วม ระยะเวลา : 40 นาที สื่อและอปุ กรณ์ • กระดาษฟลิปชาร์ท • ปากกาเคมี • สไลดเ์ รือ่ งสถานการณน์ ้ำ�ทว่ ม (เอกสารประกอบคมู่ อื ฝกึ อบรม ชดุ ที่ 8) • สไลดเ์ รอ่ื งผลกระทบจากภัยน้ำ�ท่วม (เอกสารประกอบคูม่ ือฝกึ อบรม ชุดที่ 9) การวดั และประเมนิ ผล • ผ้เู ขา้ รว่ มอบรมสามารถอธบิ ายสาเหตุ ประเภท และผลกระทบจากน�้ำ ท่วม 34
คู่มอื ฝึกอบรมการปลุกจติ สำ�นึกเพือ่ เตรียมพรอ้ มรบั ภยั นำ�้ ท่วม กระบวนการฝกึ อบรม วิธกี าร สอ่ื /อุปกรณ์ ประเด็นส�ำ คญั ประเด็นส�ำ คัญใน ข้ันที่ 1 (20 นาที) 1. กระดาษฟลิปชารท์ ขั้นตอนที่ 1 2. ปากกาเคมี • วิทยากรนำ�เสนอสไลด์สถานการณน์ ำ้�ท่วม 3. สไลด์เรื่องสถานการณน์ ้ำ�ทว่ ม คอื สาเหตขุ องน้ำ�ท่วม ซง่ึ (เอกสารประกอบคมู่ ือฝกึ อบรม ชุดท่ี 8) เพ่ือ เกดิ จากธรรมชาตแิ ละจาก ให้ผู้เข้าร่วมอบรมเขา้ ใจประเภทของน้ำ�ท่วม (เอกสารประกอบคูม่ อื ฝกึ อบรม การกระทำ�ของมนุษย์ (10 นาที) ชดุ ที่ 8) 4. สไลด์เรื่องผลกระทบจากภยั น�ำ้ ประเด็นส�ำ คญั ใน • วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมระดมสมองและตอบคำ�ถาม ขั้นตอนท่ี 2 ว่า “ท่านคดิ ว่าสาเหตุของนำ้�ทว่ มเกิดจาก ท่วม (เอกสารประกอบคมู่ อื อะไร” โดยวิทยากรบันทึกคำ�ตอบลงใน ฝึกอบรม ชุดที่ 9) คือ ผลกระทบจากภยั น�้ำ กระดาษฟลิปชาร์ท (5 นาท)ี ท่วม ไดแ้ ก่ ผลกระทบทมี่ ี ต่อชวี ติ และทรัพย์สนิ ผลกระ • วิทยากรสรุปสาเหตุของน้ำ�ท่วม และเชอ่ื มโยง ทบตอ่ การดำ�รงชวี ติ การท�ำ เขา้ สผู่ ลกระทบจากภัยนำ้�ท่วม (5 นาท)ี มาหากิน และสาธารณปู โภค ตา่ ง ๆ ขน้ั ท่ี 2 (20 นาท)ี • วิทยากรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมอบรม ระดมสมองและตอบ ค�ำ ถามวา่ “ผลกระทบจากน้ำ�ท่วมได้แกอ่ ะไร บา้ ง” โดยวทิ ยากรบนั ทึกคำ�ตอบลงในกระดาษ ฟลปิ ชารท์ (5 นาที) • วิทยากรสรุปผลกระทบทเ่ี กิดจากนำ้�ทว่ ม โดย น�ำ เสนอสไลด์ผลกระทบจากภัยน้ำ�ทว่ ม (เอกสารประกอบค่มู ือฝึกอบรม ชุดที่ 9) (15 นาท)ี 35
ค่มู อื ฝกึ อบรมการปลกุ จติ ส�ำ นึกเพื่อเตรียมพรอ้ มรบั ภยั น้ำ�ทว่ ม เนอื้ หาประกอบการฝึกอบรม 1. น้ำ�ทว่ มและสาเหตขุ องน้ำ�ท่วม น�ำ้ ท่วมเป็นภยั ธรรมชาติทสี่ ่งผลกระทบและสร้างความเสยี หายเปน็ อันดบั ตน้ ๆ ของประเทศไทย และเปน็ ภยั ธรรมชาติที่ สามารถเกิดข้ึนไดต้ ลอดปจี นบางครั้งสรา้ งความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจนกลายสภาพเป็นภยั พิบัตไิ ดท้ ันที สาเหตขุ องน�ำ้ ทว่ มนน้ั เกดิ ข้ึนทั้งตามธรรมชาติ และจากการกระท�ำ ของมนษุ ย์ โดยสาเหตุหลักๆของการเกดิ น�้ำ ท่วม มีได้ ดังน้ี • สาเหตุตามธรรมชาติ ท่สี ่งผลใหเ้ กิดฝนตกชกุ ต่อเนอื่ งจนท�ำ ให้ปรมิ าณน�ำ้ ในทะเลและแมน่ �้ำ เอ่อลน้ ฝง่ั โดยเฉพาะ ช่วงฤดูฝนหรอื ฤดูมรสมุ นั้น เปน็ ผลมาจาก 1) หยอ่ มความกดอากาศต่ำ� 2) พายุหมนุ เขตร้อน ได้แก่ พายุดเี ปรสชน่ั พายโุ ซนรอ้ น พายุใตฝ้ นุ่ 3) ร่องมรสมุ หรือร่องความกดอากาศตำ่� 4) ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ 5) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนอื 6) เขอ่ื นพัง • สาเหตจุ ากการกระท�ำ ของมนุษย์ ได้แก่ 1) การตดั ไม้ทำ�ลายป่า ซึ่งกอ่ ให้เกิดน้ำ�ทว่ มฉับพลนั และนำ้�ปา่ ไหลหลาก 2) การบกุ รุกและปรบั เปล่ยี นการใช้ประโยชนท์ ี่ดนิ 3) การท้งิ ขยะลงแม่น้ำ�ล�ำ คลอง 4) การทิ้งเศษขยะลงในทอ่ นำ้�ทำ�ให้ท่อน้ำ�อดุ ตนั ส�ำ หรบั ประเทศไทยนัน้ มพี ้ืนทเ่ี สย่ี งภยั น�ำ้ ทว่ มในทัว่ ทุกภาคของประเทศ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากแผนทีใ่ นหน้าถัดไป ซ่งึ แสดงพน้ื ที่ เสยี่ งภยั น�้ำ ท่วม พ.ศ. 2553 โดยศูนย์สารสนเทศทรัพยากรน้ำ� กรมทรัพยากรน�้ำ 2. ประเภทของนำ้�ทว่ ม น�้ำ ท่วมหรืออทุ กภยั แบ่งไดเ้ ปน็ 3 ประเภท ได้แก่ 2.1 น�ำ้ ป่าไหลหลาก หรอื น้ำ�ทว่ มฉบั พลัน (Flash Flood) มักจะเกิดข้นึ ในทรี่ าบต�ำ่ หรือทร่ี าบล่มุ บรเิ วณใกล้ ภูเขาตน้ น�ำ้ เกดิ ข้นึ เนื่องจากฝนตกหนกั เหนือภเู ขาต่อเน่อื งเป็นเวลานาน ทำ�ใหจ้ ำ�นวนนำ้�สะสมมีปริมาณมากจน พ้นื ดนิ และต้นไมด้ ูดซบั ไม่ไหวไหลบ่ า่ ลงส่ทู ่ีราบต�ำ่ เบือ้ งล่างอยา่ งรวดเรว็ มีอ�ำ นาจทำ�ลายล้างรนุ แรงระดับหนง่ึ จน ท�ำ ใหบ้ า้ นเรอื นพังทลายเสยี หายและอาจท�ำ ใหเ้ กิดอันตรายถึงชีวติ ได้ 2.2 นำ้�ท่วมขัง (Drainage Flood) เป็นลกั ษณะของอทุ กภยั ทเ่ี กดิ ข้นึ จากปริมาณนำ้�สะสมจำ�นวนมากทีไ่ หลบา่ ใน แนวระนาบจากท่ีสงู ไปยงั ทตี่ �่ำ เข้าทว่ มอาคารบ้านเรอื น เรือกสวน ไรน่ า ท�ำ ให้ไดร้ บั ความเสียหายหรอื เป็นสภาพน�ำ้ ท่วมขัง ในเขตเมอื งใหญท่ ่ีเกดิ จากฝนตกหนักต่อเนื่องเปน็ เวลานาน มสี าเหตุมาจากระบบการระบายน�ำ้ ทไ่ี มด่ ีพอ มี ส่ิงก่อสรา้ งกดี ขวางทางระบายน�้ำ หรือเกิดน�ำ้ ทะเลหนนุ สูงกรณีพื้นทอี่ ยูใ่ กล้ชายฝั่งทะเล 36
คู่มอื ฝึกอบรมการปลกุ จติ สำ�นกึ เพื่อเตรยี มพรอ้ มรับภยั น้ำ�ทว่ ม แผนที่แสดงพื้นท่เี สี่ยงอทุ กภยั ของประเทศไทย พ.ศ. 2553 37
คู่มือฝกึ อบรมการปลกุ จติ สำ�นึกเพื่อเตรียมพร้อมรับภัยน้ำ�ทว่ ม 2.3 น้ำ�ล้นตลิ่ง (River Flood) เกดิ ข้นึ จากปริมาณน�้ำ จำ�นวนมากอันเนอ่ื งมาจากฝนตกหนกั ตอ่ เนื่องไหลลงสลู่ �ำ น�ำ้ หรอื แมน่ �ำ้ ปริมาณมากจนระบายลงสูล่ ่มุ น้ำ�ดา้ นลา่ งหรอื ออกสูป่ ากน�้ำ ไม่ทัน ทำ�ให้เกิดสภาวะน�้ำ ล้นตลิ่งเข้าทว่ ม เรือกสวน ไรน่ าและบ้านเรือนตามสองฝัง่ น้ำ�จนได้รบั ความเสยี หาย ถนนหรอื สะพานอาจชำ�รดุ เสน้ ทางคมนาคมถูก ตดั ขาดได้ 3. ผลกระทบจากนำ้�ท่วม น�้ำ ทว่ มสง่ ผลกระทบต่อชีวิตและทรพั ยส์ ินของผทู้ ่อี ย่ใู นพนื้ ที่ประสบภยั ในหลายระดบั ท้งั นีข้ ึ้นอยูก่ บั ระดับความรุนแรงของ น�ำ้ ทว่ มทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยสามารถแบ่งอันตรายและความเสยี หายทเ่ี กิดจากนำ�้ ทว่ มได้ดังนี้ 3.1 ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ • เสียชวี ติ เช่น จมน�้ำ ได้รับอนั ตรายจากไฟฟา้ รั่ว สัตว์มพี ิษกดั หรอื ตอ่ ย • บาดเจบ็ เชน่ บาดเจบ็ จากของมคี มทล่ี อยมาตามน�ำ้ หรอื ขณะอพยพหลบหนภี ยั จากนำ�้ ทว่ ม และถูกสัตว์มีพิษกดั หรือตอ่ ย • ไดร้ ับความกระทบกระเทอื นทางจิตใจ เช่น ต้องสญู เสยี บคุ คลในครอบครัวจากเหตุการณน์ �ำ้ ท่วม 3.2 ผลกระทบทางดา้ นสขุ ภาพอนามยั ของคนในชุมชน • การระบาดของโรคตดิ ตอ่ เชน่ โรคฉีห่ นู โรคตาแดง โรคผวิ หนงั โรคทอ้ งร่วง อหิวาตกโรค โรคระบบทางเดิน หายใจ โรคไขเ้ ลอื ดออกและโรคมาลาเรยี เปน็ ตน้ • การถกู สัตวม์ ีพิษกดั หรอื ตอ่ ย เชน่ งู ตะขาบ แมงป่อง เปน็ ตน้ 3.3 ผลกระทบตอ่ ทรัพย์สนิ • ทรัพย์สินสูญหายหรอื เสยี หาย เชน่ รถยนต์ รถจกั รยานยนต์ และสิ่งของมีค่าอืน่ ๆ • อาคารบา้ นเรือนหรอื สงิ่ ก่อสร้างพังเสยี หาย เชน่ บ้านพงั โรคเรือนเลย้ี งสตั ว์หรือโรงเรอื นเพาะชำ�ไดร้ บั ความ เสยี หาย 3.4 ผลกระทบต่อสาธารณูปโภค • ไฟฟ้า นำ้�ประปา โทรศพั ท์ อนิ เตอร์เนต และสัญญาณถูกตัดขาด • เส้นทางคมนาคมและการขนสง่ อาจจะถกู ตัดขาดเปน็ ชว่ งๆ โดยความแรงของกระแสน�ำ้ 3.5 ผลกระทบต่อพชื ผลทางการเกษตรหรือการเลีย้ งสตั ว์ • พืน้ ทก่ี ารเกษตร และ การปศสุ ัตว์ ไดร้ ับความเสียหาย เช่น พืชผล ไร่นา อาจถูกนำ้�ท่วมตายได้ • สัตวพ์ าหนะ วัว ควาย สัตวเ์ ลยี้ ง ตลอดจนผลผลิตท่ีเกบ็ กักตนุ หรือมีไวเ้ พอ่ื ท�ำ พนั ธุ์ ได้รบั ความเสยี หาย 38
คมู่ อื ฝกึ อบรมการปลุกจิตสำ�นกึ เพือ่ เตรยี มพร้อมรบั ภยั นำ้�ทว่ ม ตารางแสดงสถิตภิ ยั พบิ ัติจากนำ้�ทว่ ม เดือน/ปี พ.ศ. ประเภทภัยพบิ ัติ สถานท่เี กดิ ผู้เสียชีวิต ความเสียหาย เมษายน 2550 น�้ำ ทว่ มฉับพลัน ภาคใต้ 23 - ตลุ าคม 2549 น�ำ้ ทว่ ม ท่วั ทุกภาค 32 พฤษภาคม 2549 57 - ธันวาคม 2548 น�ำ้ ทว่ มฉบั พลันและดนิ ถล่ม ภาคเหนือ 35 บา้ นเรอื นเสียหายกว่า สิงหาคม 2548 น้�ำ ท่วมและดินถล่ม ภาคใต้ 11 1,000 หลังคาเรือน นำ�้ ท่วมและดนิ ถล่ม ภาคเหนือ ธันวาคม 2547 8,345 - สึนามิ ภาคใต้ บ้านเรอื นเสียหายกวา่ ธนั วาคม 2546 8 100,000 หลงั คาเรือน น�ำ้ ท่วม ภาคใต้ ประชาชนไรท้ อ่ี ยอู่ าศยั ตุลาคม 2546 1 น�ำ้ ทว่ ม ทว่ั ทกุ ภาค 67,007 คน ตลุ าคม 2545 128 บ้านเรือนเสยี หายกว่า น�ำ้ ท่วม ทั่วทกุ ภาค 10,000 หลังคาเรอื น กันยายน 2545 - ประชาชนไรท้ ่ีอยู่อาศยั ดนิ ถล่ม ภาคเหนือ กนั ยายน 2545 64 200,000 คน สงิ หาคม 2544 น�้ำ ทว่ ม ภาคเหนอื 170 บ้านเรอื นเสยี หาย สงิ หาคม 2540 30 890,000 หลงั คาเรอื น พฤศจิกายน 2531 น�้ำ ท่วมฉับพลัน ภาคเหนอื 602 ประชาชนไรท้ อ่ี ยูอ่ าศัย นำ้�ท่วมและดินถลม่ จากพายุไตฝ้ นุ่ ซีต้า ภาคใต้ 800 คน น�ำ้ ท่วมและดนิ ถล่มจากพายเุ กย์ ภาคใต้ บา้ นเรอื นเสียหาย 150,000 หลงั คาเรือน - - เสยี หายเป็นมูลค่า หลายลา้ นบาท 39
คูม่ อื ฝกึ อบรมการปลุกจิตสำ�นกึ เพือ่ เตรียมพร้อมรับภัยนำ�้ ทว่ ม การเตรียมความพรอ้ มในช่วงกอ่ น 2.2 ระหวา่ งและหลังการเกดิ น�ำ้ ทว่ ม วัตถุประสงค์ : เพอ่ื ใหผ้ ู้เขา้ ฝกึ อบรมสามารถ 1. เข้าใจถึงข้ันตอนการเตรยี มความพร้อมในช่วงกอ่ น ระหว่าง และหลังการเกดิ น�ำ้ ทว่ ม 2. ตระหนกั ถงึ ความสำ�คญั ของการเตรียมความพรอ้ มรับภยั น�้ำ ทว่ ม ในการชว่ ยลดความ สูญเสยี ทั้งชวี ติ และทรัพยส์ นิ ได้ ขอบเขตเนอ้ื หา 1. ความรเู้ ร่อื งขั้นตอนการเตรยี มความพรอ้ มรับภยั น�้ำ ทว่ มทง้ั ในช่วงกอ่ น ระหว่าง และหลัง การเกดิ นำ้�ท่วม 2. ความร้เู รอื่ งการปฏบิ ตั ติ นเพือ่ เตรยี มความพร้อมรบั ภัยน�ำ้ ทว่ ม ระยะเวลา : 90 นาที ส่อื และอปุ กรณ์ • กระดาษฟลปิ ชารท์ • ปากกาเคมี • สไลด์เรอ่ื งภาพเหตุการณน์ ้ำ�ทว่ มที่ประเทศฟิลปิ ปนิ ส์ (เอกสารประกอบคู่มอื ฝึกอบรม ชดุ ที่ 10) • สไลด์เร่อื งการเตรยี มความพรอ้ มรบั ภัยน�้ำ ทว่ ม (เอกสารประกอบคู่มือฝกึ อบรม ชุดที่ 11) • ใบงานเหตุการณ์สมมติเรอื่ งการแจ้งเตอื นภยั นำ้�ทว่ มล่วงหน้า (เอกสารประกอบคู่มือฝึก อบรม ชดุ ที่ 12) • วดิ ีทัศนข์ องประเทศเวียดนาม (สือ่ ประกอบคู่มอื ฝึกอบรม ชดุ ท่ี 13) การวดั และประเมนิ ผล • ผเู้ ข้ารว่ มอบรมสามารถอธิบายเช่อื มโยงผลกระทบจากภยั น�้ำ ท่วมกบั กระบวนการในการ เตรยี มความพร้อมรับภยั นำ้�ทว่ มได้ • ผเู้ ข้าอบรมสามารถอธิบายขัน้ ตอนในการเตรยี มความพร้อมรบั ภัยน�ำ้ ท่วมในช่วงก่อน ระหวา่ งและหลังเกดิ นำ้�ท่วม 40
คู่มือฝึกอบรมการปลุกจิตสำ�นึกเพ่ือเตรียมพร้อมรบั ภยั นำ�้ ทว่ ม กระบวนการฝึกอบรม วิธีการ ส่อื /อปุ กรณ์ ประเด็นส�ำ คญั ประเด็นสำ�คัญ ขั้นที่ 1 (30 นาท)ี 1. กระดาษฟลิปชารท์ ในข้นั ตอนท่ี 1 2. ปากกาเคมี • วิทยากรน�ำ เสนอสไลดร์ ูปภาพน้ำ�ทว่ มทป่ี ระเทศฟลิ ิปปนิ ส์ 3. สไลด์รปู ภาพเหตกุ ารณ์น้�ำ คือ การเตรยี มความ (เอกสารประกอบคู่มือฝกึ อบรม ชุดที่ 10) และซกั ถาม พรอ้ มรับภัยนำ้�ท่วมเพอื่ ผเู้ ข้ารว่ มอบรมวา่ “กลุ่มคนในภาพมคี วามเสี่ยงอะไรบา้ ง” ท่วมทีป่ ระเทศฟิลิปปินส์ ลดความสญู เสียที่อาจ โดยวิทยากรบันทึกคำ�ตอบลงในกระดาษฟลิปชาร์ท (เอกสารประกอบคมู่ ือฝึก จะเกดิ ขน้ึ (5 นาท)ี อบรม ชุดท่ี 10) 4. สไลดเ์ ร่ืองการเตรยี มความ ประเดน็ สำ�คญั • วทิ ยากรใหผ้ ู้เข้ารว่ มอบรม ระดมสมองและตอบคำ�ถามว่า พรอ้ มรบั ภยั น�้ำ ทว่ ม (เอกสาร ในข้ันตอนท่ี 2 “มีวิธกี ารใดบา้ ง ทีส่ ามารถชว่ ยลดความเสี่ยงภัยนำ้�ท่วม ประกอบค่มู อื ฝกึ อบรม ใหแ้ กก่ ลุม่ คนในภาพได”้ (5 นาท)ี ชุดท่ี 11) คือ การปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื 5. ใบงานเหตุการณ์สมมติเรอ่ื ง เตรยี มความพรอ้ มใน • วิทยากรสรปุ ค�ำ ตอบจากผเู้ ขา้ รว่ มอบรม และเช่ือมโยงเข้า การแจ้งเตือนภยั นำ้�ทว่ มลว่ ง ช่วงกอ่ น ระหว่าง และ สู่ข้ันตอนการเตรียมความพรอ้ มในชว่ งกอ่ นระหวา่ ง และ หน้า (เอกสารประกอบคมู่ ือ หลงั เกดิ ภยั น้ำ�ท่วม หลังการเกิดน�ำ้ ทว่ ม โดยนำ�เสนอสไลดเ์ รอื่ งการเตรยี ม ฝึกอบรม ชดุ ท่ี 12) ความพรอ้ มรับภยั นำ�้ ทว่ ม (เอกสารประกอบคมู่ ือฝึกอบรม 6. วดิ ที ศั นข์ องประเทศเวียดนาม (สอ่ื ประกอบคู่มอื ฝกึ อบรม ชดุ ที่ 11) (20 นาที) ชดุ ที่ 13) ข้นั ท่ี 2 (60 นาท)ี • วิทยากรขออาสาสมคั รจากผเู้ ขา้ รว่ มอบรมจำ�นวน 5 คน (5 นาท)ี • วทิ ยากรใหอ้ าสาสมัครแต่ละคนแสดงบทบาทสมมตติ ่างๆ ไดแ้ ก่ (5 นาที) 1. แม่ มีอาชีพเปน็ เกษตรกร 2. พ่อ มอี าชพี เปน็ นายกองคก์ ารบริหารส่วนตำ�บล 3. ลกู สาว เป็นนกั เรียน 4. ตา มอี าชพี เปน็ ชาวประมง 5. ยาย เป็นแม่บ้าน • วทิ ยากรอา่ นใบงานเหตกุ ารณ์สมมตเิ รอ่ื งการแจ้งเตอื นภัย น�ำ้ ท่วมล่วงหนา้ จากเอกสารประกอบคู่มือฝกึ อบรม ชดุ ท่ี 12 และให้อาสาสมัครแสดงบทบาทสมมตใิ นการ ปฏิบัติตน หลังจากไดร้ บั การแจ้งเตอื นภยั แล้ว (20 นาท)ี • วทิ ยากรสรปุ กจิ กรรมแสดงบทบาทสมมติ และเช่อื มโยง เข้าส่ตู วั อยา่ งการเตรยี มความพรอ้ มในชว่ งก่อน ระหว่าง และหลงั การไดร้ บั แจง้ เตือนภัยนำ้�ทว่ ม (10 นาท)ี • วทิ ยากรน�ำ เสนอตวั อย่างการเตรียมความพร้อมรบั ภัยนำ้� ทว่ มจากวิดที ัศน์ของประเทศเวยี ดนาม ส่อื ประกอบคมู่ ือ ฝกึ อบรม ชดุ ที่ 13 (20 นาที) 41
ค่มู อื ฝกึ อบรมการปลุกจิตสำ�นกึ เพื่อเตรยี มพร้อมรับภยั น�้ำ ทว่ ม เนอ้ื หาประกอบการฝกึ อบรม การเตรียมความพร้อมรับภยั น�้ำ ท่วมและวิธีการปฏิบตั ิตนเม่ือไดร้ บั การแจ้งเตือนภัย น้ำ�ท่วมเป็นภยั ธรรมชาตทิ ่ีสามารถเกิดขน้ึ ไดต้ ลอดเวลา และเกิดจากสาเหตุหลายประการท้ังจากเหตกุ ารณ์ทางธรรมชาตแิ ละ จากการกระท�ำ ของมนุษย์ ดงั น้ันการเตรยี มความพร้อมรบั ภัยน้ำ�ทว่ มเปน็ สิง่ ท่คี วรค�ำ นึงถึงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผูท้ ่ี อาศยั อยูใ่ นพื้นที่เสยี่ งหรอื ประสบภยั น้ำ�ทว่ มเป็นประจำ�ทุกปี เพราะเมอื่ ใดทเี่ กิดน�้ำ ทว่ ม ทั้งชมุ ชนและครอบครัวสามารถที่จะ รบั มอื กบั ภยั น�ำ้ ท่วมไดอ้ ย่างทันทว่ งที เพ่ือลดความสูญเสยี ทง้ั ชีวติ และทรพั ยส์ ิน โดยทัว่ ไปแล้วการเตรยี มความพร้อมรบั ภยั น้�ำ ท่วมนน้ั สามารถกระทำ�ไดต้ ลอดเวลาท้ังในชว่ งกอ่ น ระหวา่ ง และหลงั ฤดูมรสมุ หรอื ฤดฝู น นอกจากน้ยี ังมสี ัญญาณการแจง้ เตอื นภยั ทางธรรมชาตอิ กี หลายอยา่ ง ที่เป็นสญั ญาณแจง้ เตอื นก่อนเกิดภัยน�ำ้ ทว่ ม และท�ำ ใหเ้ ราสามารถเตรียมการรบั มือกบั ภัย นำ้�ท่วมท่อี าจจะเกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที เช่น • การอพยพของสัตว์บางประเภท เชน่ สัตวเ์ ลือ้ ยคลาน มดหรอื แมลงบางชนดิ • น�้ำ ทไี่ หลมาเปน็ ของสดี นิ จากภูเขา เช่น สีแดงหรือสีด�ำ อมเทา การเตรียมความพร้อมรับภัยน้ำ�ท่วมนัน้ เป็นกระบวนการในการเตรียมตัวและปฏิบัตติ นเมือ่ ได้รับการแจง้ เตอื นภยั หรอื จาก การสังเกตการณเ์ ปลี่ยนแปลงของธรรมชาติรอบตวั ซ่งึ กระบวนการเตรยี มความพร้อมรบั ภัยน�ำ้ ทว่ มควรเกิดขึ้นทงั้ ในระดับ บคุ คล ครอบครัว และชุมชน ซงึ่ ข้ันตอนการเตรยี มความพรอ้ มรบั ภัยน้ำ�ท่วมน้ันสามารถปฏิบัตไิ ด้ ดงั น้ี • กอ่ นเกิดน้ำ�ทว่ ม 1) ติดตามรายงานขา่ วของกรมอุตุนยิ มวิทยาอย่างต่อเนอ่ื ง โดยเฉพาะฤดูฝนและฤดูมรสมุ และควรปฏบิ ัตติ ามค�ำ เตือน อยา่ งเครง่ ครดั 2) ควรน�ำ เอกสารส�ำ คญั ติดตัว หรือจดั รวบรวมไวเ้ พื่อความสะดวกในการพกพา กรณที ต่ี ้องอพยพหนีภัย เชน่ สตู บิ ัตร บัตรประจ�ำ ตวั ประชาชน ทะเบยี นบา้ น ใบขบั ขีร่ ถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ส�ำ เนาทะเบียนรถ 3) เตรยี มอุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชไ้ ว้ใช้ในยามจำ�เป็น เช่น • วิทยกุ ระเป๋าห้วิ (ถา้ ม)ี ไฟฉายและถา่ นไฟฉายสำ�รอง • เทยี นไข ไวใ้ ช้เมอื่ เกิดไฟฟา้ ดบั • ฟืนแหง้ เพือ่ ใชก้ อ่ ไฟทำ�อาหาร หม้อข้าว จาน ชาม ช้อนเทา่ ท่ีจำ�เป็น • เตรียมอาหารกระป๋องหรืออาหารแหง้ ไวส้ ำ�รอง รวมท้งั นำ้�สะอาด ส�ำ หรับพอทีจ่ ะรับประทานหากเกดิ นำ�้ ทว่ มเปน็ ระยะเวลานาน • เตรียมเคร่อื งเวชภัณฑ์ ยารักษาโรคประจำ�ตัวและยารักษาโรคท่ัวไปเพอ่ื ใชก้ รณฉี กุ เฉิน เช่น ยารักษาแผล ยาแก้ พษิ แมลงสตั ว์กัดตอ่ ย เชน่ แมงป่อง ตะขาบ งู • รองเทา้ บทู ถุงมอื ยาง (ถ้ามี) • เสื้อผ้า ผา้ ห่ม และเคร่ืองใชจ้ ำ�เปน็ เพ่อื ใชเ้ วลาน�ำ้ ท่วม ส่วนทรัพยส์ นิ มคี ่าใหเ้ ก็บไวใ้ นถงุ กนั น�ำ้ และเกบ็ ไว้ในที่ ปลอดภัย 4) สำ�รวจและศกึ ษาพ้ืนทป่ี ลอดภยั รวมถงึ เส้นทางในการเดนิ ทางไปยังพื้นทป่ี ลอดภยั 5) ฝกึ ใหเ้ ดก็ หรือผู้ที่วา่ ยน�้ำ ไมเ่ ปน็ สามารถว่ายน�ำ้ ได้ หากเกดิ กรณฉี ุกเฉิน 6) เคลือ่ นยา้ ยส่งิ ของ เครือ่ งใชส้ �ำ คญั เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ภายในบ้านใหอ้ ยรู่ ะดับสูงกว่าพน้ื บา้ น รวมทงั้ อพยพสัตวเ์ ลย้ี งไปไว้ ในท่ีปลอดภัย 42
คู่มอื ฝกึ อบรมการปลุกจติ สำ�นกึ เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรบั ภยั น้ำ�ทว่ ม 7) เตรยี มเรือไม้ เรอื ยาง หรอื แพไม้ เพ่อื ใช้เปน็ พาหนะในกรณีทเ่ี กดิ น�้ำ ท่วมเป็นเวลานาน 8) จดั เตรยี มดินหรอื ทรายใสก่ ระสอบ เพื่อช่วยเสรมิ คันดินกัน้ นำ�้ ใหส้ งู ขึน้ • ขณะเกดิ น�ำ้ ทว่ ม 1) ตัดสะพานไฟ และปิดแกส๊ หงุ ตม้ ใหเ้ รยี บร้อย 2) ไมค่ วรเล่นน�ำ้ หรือว่ายน้ำ�เลน่ ในขณะเกดิ น้ำ�ทว่ ม 3) ระวังสตั ว์มีพิษกัดตอ่ ย เชน่ งู แมงป่อง ตะขาบ เป็นต้น 4) ไมค่ วรขับข่ียานพาหนะในชว่ งกระแสน้�ำ หลาก 5) ติดตามเหตกุ ารณอ์ ยา่ งใกลช้ ิด เช่น สังเกตลมฟา้ อากาศ และติดตามค�ำ เตือนเก่ียวกับลกั ษณะอากาศจาก กรมอุตุนยิ มวิทยา 6) เตรียมพรอ้ มทีจ่ ะอพยพไปในทีป่ ลอดภยั หรอื ปฏบิ ัตติ ามค�ำ แนะน�ำ ของทางราชการ 7) หากมีการอพยพ ควรอพยพคนชรา คนพิการ หรือเด็กก่อน • หลังเกิดน�ำ้ ท่วม 1) ตรวจเชค็ ปลั๊กไฟ สายไฟ เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าภายในบ้าน ใหม้ ่ันใจวา่ สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ 2) ควรต้มน�้ำ และปรุงอาหารใหส้ กุ และสะอาดก่อนรับประทาน 3) ท�ำ ความสะอาดบ้านเรือน ถนนหนทาง และส่ิงชำ�รดุ เสียหายใหก้ ลบั สูส่ ภาพปกติ 4) ภายหลงั น�้ำ ทว่ มอาจมซี ากสัตว์ตาย ให้ด�ำ เนินการเกบ็ หรือฝังโดยเร็ว 5) อย่าเขา้ ไปในเขตอันตรายหลงั น้�ำ ท่วม 6) ระมดั ระวังโรคระบาด 7) ควรแจง้ และขอความชว่ ยเหลอื จากหนว่ ยงานราชการ เช่น องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บล อ�ำ เภอ จังหวดั และ หนว่ ยงานบรรเทาสาธารณภยั ตา่ งๆ 43
บทท่ี 3 กระบวนการปลกุ จติ สำ�นกึ เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรบั ภัยน้ำ�ท่วม • ความหมายและกระบวนการปลุกจิตส�ำ นกึ • การพัฒนาสื่อเพือ่ กิจกรรมปลุกจิตสำ�นกึ
คู่มอื ฝึกอบรมการปลุกจิตสำ�นกึ เพ่ือเตรยี มพร้อมรับภยั น�ำ้ ท่วม ความหมายและกระบวนการ 3.1 ปลกุ จิตส�ำ นึก วัตถปุ ระสงค์ : เพอื่ ให้ผ้เู ข้าฝกึ อบรมสามารถ 1. เขา้ ใจถงึ ความหมายและวัตถุประสงค์ของการปลุกจิตส�ำ นกึ 2. เขา้ ใจถึงขน้ั ตอนและกระบวนการในการจัดกจิ กรรมเพอื่ ปลกุ จิตส�ำ นกึ 3. เข้าใจถึงปจั จยั ส�ำ คญั ในการจัดกจิ กรรมเพอ่ื ปลกุ จิตส�ำ นึก 4. ออกแบบกิจกรรมปลกุ จติ ส�ำ นกึ เพ่อื เตรียมพรอ้ มรบั ภัยน�ำ้ ท่วมทเ่ี หมาะสมกบั ชุมชนของ ตนเอง ขอบเขตเน้อื หา 1. ความร้เู รือ่ งความหมาย และวตั ถปุ ระสงคข์ องการปลุกจิตส�ำ นึก 2. ขน้ั ตอนในการเตรียมการจดั กจิ กรรมเพอื่ ปลกุ จติ ส�ำ นกึ 3. ปจั จยั ส�ำ คญั ในการปลกุ จติ สำ�นกึ เชน่ การก�ำ หนดกลมุ่ เปา้ หมาย ข้อความการส่ือสาร วธิ ีการสอ่ื สาร และระยะเวลาท่ีเหมาะสม 4. กระบวนการออกแบบกิจกรรมปลุกจิตส�ำ นึกเพ่ือเตรยี มพรอ้ มรับภยั น�ำ้ ทว่ ม ระยะเวลา : 90 นาที สอื่ และอุปกรณ์ • กระดาษฟลิปชารท์ • ปากกาเคมี • สไลด์ เร่ือง ความหมายและวัตถุประสงคข์ องการปลกุ จิตส�ำ นึก (เอกสารประกอบคมู่ ือ ฝึกอบรม ชดุ ท่ี 14) • สไลดเ์ รื่องกระบวนการปลุกจิตสำ�นกึ (เอกสารประกอบคูม่ ือฝกึ อบรม ชุดท่ี 15) • ตัวอยา่ งตารางออกแบบกจิ กรรมปลกุ จิตส�ำ นกึ (เอกสารประกอบคู่มอื ฝกึ อบรม ชุดท่ี 16) • สไลดเ์ รอ่ื งตัวอย่างของกิจกรรมปลกุ จติ ส�ำ นึก (เอกสารประกอบค่มู ือฝึกอบรม ชดุ ที่ 17) การวัดและประเมนิ ผล • ผู้เข้ารว่ มอบรมสามารถอธบิ ายความหมาย วัตถปุ ระสงค์ และความส�ำ คญั ของการปลุก จติ สำ�นึกเพื่อเตรียมความพร้อมรบั ภัยน�้ำ ทว่ มได้ • ผ้เู ข้าร่วมอบรมสามารถอธบิ ายขน้ั ตอนในการเตรียมการจัดกจิ กรรมปลกุ จิตส�ำ นึกได้ • ผ้เู ข้ารว่ มอบรมสามารถระบุถงึ ปจั จยั สำ�คญั ในการจดั กจิ กรรมปลกุ จติ ส�ำ นึกได้ • ผเู้ ข้ารว่ มอบรมสามารถออกแบบกจิ กรรมปลุกจิตส�ำ นึกเพื่อเตรียมความพรอ้ มรับภัยน�้ำ ท่วม ทีเ่ หมาะสมกับชมุ ชนของตนเองได้ 46
คู่มอื ฝึกอบรมการปลกุ จิตส�ำ นึกเพ่ือเตรยี มพร้อมรบั ภยั น�้ำ ทว่ ม ประเด็นส�ำ คญั วธิ ีการ กระบวนการฝกึ อบรม สือ่ /อปุ กรณ์ ประเด็นส�ำ คญั ข้ันที่ 1 (15 นาที) 1. กระดาษฟลิปชาร์ท ในขน้ั ตอนที่ 1 • วทิ ยากรใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มอบรม ระดมสมองและตอบคำ�ถามว่า “การ 2. ปากกาเคมี คือ ความหมาย ปลุกจติ ส�ำ นึกหมายความวา่ อยา่ งไร” และวิทยากรบันทกึ ค�ำ ตอบ ความส�ำ คญั และ ลงในกระดาษฟลิปชาร์ท (5 นาท)ี 3. สไลด์เรือ่ งความหมาย วตั ถปุ ระสงคข์ อง และวตั ถปุ ระสงค์ การปลกุ จิตสำ�นึก • วทิ ยากรให้ผู้เข้าร่วมอบรม ระดมสมองและตอบคำ�ถามเรื่อง “การ ของการปลกุ จิตสำ�นกึ ปลุกจติ ส�ำ นึกเพอ่ื เตรียมพรอ้ มรบั ภัยนำ้�ท่วมหมายความว่าอยา่ งไร” (เอกสารประกอบ ประเด็นสำ�คญั และวิทยากรบนั ทึกค�ำ ตอบลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ท (5 นาที) ในขัน้ ตอนที่ 2 คมู่ ือฝึกอบรม • วิทยากรสรุป และน�ำ เสนอสไลด์เร่อื งความหมายและวัตถปุ ระสงค์ ชดุ ท่ี 14) คอื ความเข้าใจ ของการปลุกจติ ส�ำ นึก (เอกสารประกอบค่มู อื ฝกึ อบรม ชุดท่ี 14) เร่อื งขนั้ ตอนและ (5 นาที) 4. สไลดเ์ ร่อื งกระบวน ปจั จยั สำ�คญั ของ การปลุกจิตสำ�นกึ การจดั กิจกรรมปลกุ ขน้ั ที่ 2 (15 นาที) จติ สำ�นึก (เอกสารประกอบ • วิทยากรใหผ้ ู้เข้าร่วมอบรมระดมสมองและตอบคำ�ถามว่า “ขนั้ ตอน คมู่ อื ฝึกอบรม ประเด็นส�ำ คัญ ของการจัดกจิ กรรมปลุกจติ สำ�นกึ ควรมีอะไรบ้าง” โดยวทิ ยากร ชุดท่ี 15) ในข้นั ตอนท่ี 3 บนั ทึกคำ�ตอบลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ท (5 นาที) 5. ตัวอย่างตาราง คอื การจัดกจิ กรรม • วทิ ยากรใหผ้ ู้เข้าร่วมอบรมระดมสมองและตอบคำ�ว่า“หากท่าน ออกแบบกจิ กรรม ที่เหมาะสมกบั ต้องการจดั กจิ กรรมปลกุ จติ สำ�นกึ เพอ่ื เตรยี มพร้อมรับภัยน้ำ�ทว่ ม ปลุกจติ สำ�นึก สภาพชุมชนของ 1 กิจกรรม ท่านตอ้ งคำ�นึงถงึ ปัจจัยอะไรบ้าง” โดยวิทยากรบนั ทกึ (เอกสารประกอบ ตนเอง โดยค�ำ นงึ ถึง ค�ำ ตอบลงในกระดาษฟลิปชารท์ (5 นาท)ี ความตอ้ งการและ ค่มู ือฝึกอบรม ทรัพยากรทีม่ อี ยู่ใน • วิทยากรสรุปและน�ำ เสนอสไลดเ์ ร่อื ง “กระบวนการปลกุ จติ สำ�นกึ ” ชดุ ท่ี 16) ชุมชน (เอกสารประกอบคมู่ อื ฝกึ อบรม ชุดท่ี 15) (5 นาที) 6. สไลดเ์ ร่อื งตัวอย่าง ข้ันที่ 3 (60 นาท)ี ของกิจกรรมปลุก จติ สำ�นึก (เอกสาร • วิทยากรใหผ้ เู้ ข้ารว่ มอบรมแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 คน และแจกกระดาษ ฟลิปชาร์ทและปากกาเคมี (5 นาท)ี ประกอบคมู่ ือฝกึ อบรม ชดุ ท่ี 17) • วทิ ยากรใหผ้ ู้เข้ารว่ มอบรมเขียนตารางออกแบบกจิ กรรมปลกุ จิตสำ�นกึ ตามตวั อยา่ ง (เอกสารประกอบคมู่ อื ฝกึ อบรม ชดุ ท่ี 16) (5 นาท)ี • วทิ ยากรให้ผู้เขา้ ร่วมอบรมระดมสมองและคดิ หากจิ กรรมทเ่ี กี่ยวข้อง กับการปลุกจติ ส�ำ นกึ เพ่ือเตรยี มพร้อมรบั ภัยน้ำ�ทว่ มในชุมชน กลุม่ ละ 1 กิจกรรม โดยระบรุ ายละเอยี ดกิจกรรมลงในตาราง (20 นาท)ี • ผเู้ ขา้ ร่วมอบรมนำ�เสนอกจิ กรรม กลุ่มละ 5 นาที (20 นาท)ี • วทิ ยากรสรปุ กิจกรรมของผเู้ ขา้ ร่วมอบรมในแต่ละกล่มุ และนำ�เสนอ ตัวอย่างกจิ กรรมการปลกุ จติ สำ�นกึ จากสไลด์ เรอื่ ง ตัวอยา่ งของ กิจกรรมปลกุ จติ ส�ำ นกึ (เอกสารประกอบคู่มือฝึกอบรม ชุดที่ 17) (10 นาที) 47
คมู่ อื ฝึกอบรมการปลุกจิตส�ำ นกึ เพือ่ เตรียมพรอ้ มรับภยั นำ้�ทว่ ม เน้อื หาประกอบการฝึกอบรม 1. ความหมายของการปลกุ จติ ส�ำ นกึ การปลกุ จิตส�ำ นกึ เปน็ กระบวนการที่ทำ�ให้ประชาชนท่มี คี วามเสยี่ ง หรอื อาศยั อยูใ่ นพื้นทอี่ ันตรายจากภัยต่างๆ ไดเ้ ข้าใจ และตระหนักถึงอันตรายรา้ ยแรงท่อี าจจะเกิดขนึ้ จากภยั น้นั ๆ นอกจากนี้ การปลกุ จิตส�ำ นกึ ยังหมายถงึ ยทุ ธศาสตรท์ ีเ่ หมาะสมในการลดภัย มาตรการเตรยี มความพร้อมและการรบั มอื กับภยั เพ่อื บรรเทาหรอื ขจดั ผลกระทบที่อาจจะเกดิ ขน้ึ ต่อชีวิตและทรพั ยส์ นิ กลา่ วโดยสรปุ คอื การปลุกจติ ส�ำ นกึ เปน็ กระบวนการท่ีต้องการเนน้ ในเรอ่ื ง • วธิ ีการปอ้ งกัน • วธิ กี ารเตรยี มความพร้อม • วธิ ีการลดความเส่ียง • วิธีการตอบสนองตอ่ ภัย 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการปลุกจิตสำ�นึก 1) เพื่อแจง้ ให้ทราบเก่ยี วกบั ภัย ความลอ่ แหลม ความเสยี่ ง การตอบสนองหรือการเตรยี มความพร้อมต่อภัยพิบตั ิทจ่ี ะเกิด ขน้ึ 2) เพอ่ื แนะน�ำ เกย่ี วกบั วิธกี ารต่างๆ เชน่ การปอ้ งกัน การเตรียมความพรอ้ ม การลดความเสีย่ ง และการตอบสนองกับ ภัยที่เกดิ ข้นึ 3) เพอื่ กำ�หนดว่าต้องท�ำ อะไร ที่ไหน อยา่ งไร เม่อื เกิดภัยข้ึน 3. ความหมายของการปลุกจิตส�ำ นึกเพ่ือเตรียมความพร้อมรบั ภยั น้ำ�ท่วม กระบวนการทีส่ ร้างใหป้ ระชาชนทอี่ าศยั อยู่ในพน้ื ท่ีเส่ยี งภัยน้�ำ ทว่ ม ได้เขา้ ใจหรือตระหนักถึงอนั ตรายจากน�้ำ ท่วม ซ่งึ กระบวนการนีร้ วมถึงการใหค้ วามรู้ การแจ้งใหท้ ราบ การแจง้ เตอื นภัยเก่ียวกับน�้ำ ท่วม และการใหค้ วามช่วยเหลอื ใน การเตรยี มความพร้อมรบั มือกับสถานการณน์ �้ำ ท่วมฉบั พลนั โดยใช้กระบวนการที่เหมาะสม และอาศยั ความช่วยเหลอื จาก องค์กรภายนอกให้นอ้ ยลง 4. วตั ถุประสงค์ของการปลุกจติ สำ�นึกเพ่อื เตรยี มพร้อมรับภยั น้ำ�ท่วม • เพื่อเพ่ิมพูนความรเู้ รอ่ื งน้ำ�ท่วม ประเภทของนำ้�ท่วม และผลกระทบจากน�ำ้ ท่วมใหแ้ ก่ประชาชนไดร้ บั ทราบ • เพอ่ื พัฒนาองคค์ วามรู้ ด้านมาตรการเตรยี มความพร้อมในทางปฏบิ ตั ิสำ�หรบั ครวั เรอื นหรอื ชุมชนทส่ี ามารถด�ำ เนนิ การ ได้ดว้ ยตนเอง • เพ่ือแจ้งให้ประชาชนไดร้ บั ทราบ เก่ยี วกบั ระบบการแจ้งเตือนภัยน�้ำ ทว่ มล่วงหน้า และวิธกี ารสือ่ สารท่หี ลากหลาย รวมถึง การรบั สญั ญาณแจง้ เตอื นและขอ้ มูลน้�ำ ทว่ ม • เพ่อื เผยแพร่ข้อมูลการเตรยี มความพร้อมรับภยั น�ำ้ ท่วมในระดบั จังหวดั อำ�เภอและชุมชน รวมถงึ การระดมความช่วยเหลือ ในการจดั กิจกรรมเพือ่ รับมอื กับภยั น�้ำ ทว่ ม 48
Search