-1-
-2- บัตรคำสง่ั ท่ี 1 เรือ่ ง ระบบนิเวศ สภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติในแตล่ ะท้องถนิ่ มีความแตกต่างหลากหลาย เชน่ บางบริเวณมีแม่นำ้ ลำธาร คลอง ชายทะเล ปา่ ชายเลน และท่ีราบ เปน็ ตน้ และในแต่ละบรเิ วณ มักพบสงิ่ มีชีวติ มากมายหลายชนดิ อาศัยอยู่ร่วมกนั ต้องพึง่ พาอาศัยซง่ึ กนั และกนั เสมอ ประกอบดว้ ย กล่มุ สิ่งมชี ีวิต แหล่งที่อยู่ และสง่ิ แวดล้อม กลุ่มส่ิงมชี ีวิต (community) หมายถงึ สิง่ มีชวี ิตตง้ั แต่ 2 ชนดิ (สปีชีส)์ ข้ึนไปอาศัยอยู่ รว่ มกนั และมีความสัมพันธ์กัน เชน่ ปลากับพชื ในน้ำ แหล่งที่อยู่ (habitat) หมายถึง สถานท่ที ี่มสี ่งิ มีชวี ิตอาศยั อยตู่ ามธรรมชาติ เชน่ ใตข้ อนไม้ เปน็ แหล่งท่อี ยู่ของมด กิ้งกือ เหด็ ฯลฯ สระน้ำเป็นแหลง่ ที่อยู่ของปลา จอก แหน เปน็ ตน้ แหล่งทอ่ี ยูใ่ นน้ำ ได้แก่ แหล่งนำ้ จืด ทะเล มหาสมุทร แหลง่ ท่ีอยู่บนบก ได้แก่ ที่ราบลุม่ ทร่ี าบสงู ทุ่งหญา้ ป่า ทะเลทราย สง่ิ แวดล้อม (environment) หมายถงึ สิ่งต่าง ๆ ท่ีอยู่ลอ้ มรอบตวั ของสงิ่ มชี ีวิต รวมทัง้ ภาวะการณ์ตา่ ง ๆ ท่มี ีอิทธิพลต่อการเจรญิ เตบิ โต และการดำรงชวี ติ ของสิ่งมีชวี ติ น้ัน กลมุ่ ส่ิงมชี ีวิต (community) ระบบนิเวศ (Ecosystem) สงิ่ แวดลอ้ ม แหล่งทอี่ ยู่ (environment) ความสัมพนั ธ์ในระบบนิเวศ (habitat) คำถาม ความสัมพันธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศท่ีต้องพึง่ พาอาศัยกนั และกนั ประกอบดว้ ย
คำตอบ -3- กล่มุ สิ่งมชี วี ติ แหล่งทอ่ี ยู่ และสงิ่ แวดลอ้ ม ระบบนิเวศ (Ecosystem) หมายถึง ความสมั พันธ์ของส่ิงมชี ีวติ อาศยั ในแหลง่ ทีอ่ ยู่ เดยี วกัน มคี วามสัมพนั ธ์ซ่งึ กันและกนั และมคี วามสมั พันธ์ระหวา่ งกลมุ่ สิ่งมชี วี ิตเหล่าน้ันกบั สภาพแวดลอ้ ม ระบบนิเวศอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ ข้นึ อย่กู ับลกั ษณะของสง่ิ มชี วี ติ และแหลง่ ท่ีอยู่ อาศัยของส่งิ มชี วี ติ เชน่ แอ่งน้ำเปน็ ระบบนิเวศขนาดเล็ก ท่ีอาจซอ้ นอยู่ในป่าซง่ึ เป็นบริเวณระบบ นเิ วศขนาดใหญ่ ระบบนิเวศขนาดใหญ่ประกอบดว้ ยระบบนเิ วศต่าง ๆ กนั จำนวนมาก ในแตล่ ะ ระบบนิเวศจะมีท้ังพืชและสัตว์อาศัยอย่รู ่วมกนั และมีความสมั พันธ์กนั เรียกว่า โลกของส่ิงมีชีวติ (biosphere) แนวปะการัง ลำธาร นาขา้ ว ชุมชนเมอื ง ภาพประกอบ ระบบนิเวศต่าง ๆ ทมี่ า : http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=1754 วันเขา้ ถึงข้อมลู 5 พฤษภาคม 2562 คำถาม ระบบนเิ วศ หมายถงึ
-4- คำตอบ ระบบนเิ วศ (Ecosystem) หมายถงึ ความสัมพันธ์ของส่งิ มชี ีวิตอาศยั ในแหลง่ ทอ่ี ยู่เดียวกัน มคี วามสัมพันธซ์ ่งึ กนั และกัน และมคี วามสัมพันธร์ ะหว่าง กลมุ่ สงิ่ มชี วี ิตเหลา่ นน้ั กับสภาพแวดล้อม บัตรความรู้ท่ี 2 เร่อื ง ประเภทของระบบนิเวศ ประเภทของระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศแต่ละระบบมคี วามแตกต่างกันข้นึ อยู่กบั ลักษณะแหลง่ ท่ีอยู่ ซึง่ มีความสำคญั อยา่ งยง่ิ ตอ่ การดำรงชีวิต หากใชแ้ หลง่ ท่อี ยเู่ ป็นเกณฑ์ในการแบง่ ประเภทของระบบนเิ วศ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คอื 1. ระบบนเิ วศบนบก (Terrestrial Ecosystem) หมายถึง ลกั ษณะของระบบนิเวศที่กลมุ่ ส่ิงมีชวี ิตภายในระบบอาศัยอยู่บนพื้นดนิ เชน่ ระบบนิเวศบนขอนไม้ ระบบนเิ วศในท่งุ หญ้า ระบบ นิเวศในป่า ปา่ ไม้ ทุ่งหญ้า ปา่ ชายเลน ทะเลทราย ชุมชนเมือง แปลงผัก ภาพประกอบ ระบบนเิ วศบนบก ทมี่ า : http://www.livetogether.org/content วันเข้าถงึ ข้อมูล 10 พฤษภาคม 2562 คำถาม คำตอบ ถา้ ใช้แหล่งทอี่ ยู่เป็นเกณฑ์ในการแบ่งระบบนิเวศสามารถแบ่งไดก้ ปี่ ระเภท 2 ประเภท
-5- 2. ระบบนเิ วศในนำ้ (Aquatic Ecosystem) หมายถึง ความสมั พันธ์ระหว่างกลุ่มสิง่ มชี ีวิตทอ่ี ยู่ ในน้ำและระหว่างสิง่ มีชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ มในน้ำ เชน่ ระบบนิเวศในสระน้ำ ระบบนเิ วศในทะเล ระบบนเิ วศในตู้ปลา แมน่ ้ำ ทะแล พ้ืนท่ชี ุม่ นำ้ ลำธาร ตู้ปลา เข่อื น ภาพประกอบ ระบบนิเวศในนำ้ ท่ีมา : http://www.healthcorners.com/new_read_travel.php?category=sourcetour&id=221 วันเขา้ ถึงข้อมลู 13 พฤษภาคม 2562 นอกจากแหล่งท่ีอยูอ่ าศยั แล้ว สามารถใชอ้ งค์ประกอบภายในระบบนิเวศ แบ่งระบบนเิ วศ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ซงึ่ ในทีน่ จี้ ะได้กล่าวถงึ ระบบนเิ วศท่ีสำคญั ดังน้ี 1. ระบบนเิ วศแหล่งน้ำจดื เป็นแหล่งอาศัยของสตั วน์ ้ำและพืชนำ้ เปน็ แหล่งอาหารทสี่ ำคญั ของมนุษย์และสตั วต์ า่ ง ๆ เป็นแหลง่ ท่ีใหน้ ำ้ ในการอุปโภค บรโิ ภค และทำการเกษตร สิ่งมชี ีวิตในแหล่งน้ำจืด เชน่ จอก สาหรา่ ย แหน หอย กุ้ง ปลาตา่ งๆ การดำรงชวี ติ ของส่งิ มชี ีวติ ในแหล่งนำ้ จืด ตอ้ งมีการปรบั ตัวในดา้ น การปรบั เปล่ียนอุณหภมู ขิ องแหล่งน้ำ แสง ปรมิ าณกา๊ ซออกซิเจน ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ ปรมิ าณ แรธ่ าตุ ความข่นุ ใสของน้ำ ความเร็วและความแรงของกระแสนำ้ และปรับตวั ให้เขา้ กบั สิ่งมชี วี ิตชนิด อนื่ ๆ ได้ดี ระบบนเิ วศแหล่งน้ำจืดแบ่งได้ 2 ชุมชน ดังน้คี ือ ชมุ ชนในแหล่งน้ำนงิ่ ประกอบด้วย พชื มีรากยดึ อยู่ในพนื้ ดินใต้ทอ้ งนำ้ เช่น
-6- พวกกกบวั กระจดู นอกจากนี้ ยงั มแี พลงก์ตอนพชื และพืชลอยนำ้ ต่างๆ สาหร่าย ไดอะตอม แหน จอก และสงิ่ มีชีวิตทีเ่ กาะอยู่ตามต้นไม้ หรอื ใบไม้ ของพชื น้ำ เช่น หอยโขง่ หอยขม ไฮดรา พลานาเรีย ชมุ ชนในแหลง่ นำ้ ไหล ได้แก่ ➢ เขตนำ้ ไหลเช่ยี ว เปน็ บรเิ วณท่กี ระแสนำ้ ไหล ก้นลำธารสะอาด ไมม่ ีการ สะสมของตะกอนใต้นำ้ เหมาะกับการดำรงของสิ่งมชี ีวติ พวกท่ีสามารถเกาะตดิ กับวตั ถุใต้น้ำได้ หรอื คบื คลานไปมาได้สะดวก หรือ พวกท่ีสามารถว่ายนำ้ ทส่ี ูค้ วามแรงของกระแสนำ้ ได้ จะไม่พบ แพลงก์ตอน ➢ เขตน้ำไหลเอ่ือย เปน็ บรเิ วณทมี่ ีความลึกและความเร็วของกระแสนำ้ ลดลง มีการตกตะกอนของอนุภาคใตน้ ำ้ การทบั ถมของตะกอนมาก เหมาะกบั พวกทีข่ ุดรูอยแู่ ละพวก ท่วี ่ายนำ้ ไปมา ไดอ้ ยา่ งอสิ ระ รวมท้งั แพลงก์ตอนด้วย ภาพประกอบ ระบบนิเวศแหลง่ นำ้ จดื ทม่ี า : http://www.gotoknow.org/media/folders/56550 วนั เขา้ ถึงข้อมูล 14 พฤษภาคม 2562 คำตอบ 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนในแหล่งน้ำนิง่ และชุมชนในแหลง่ น้ำไหล
-7- 2. ระบบนิเวศในทะเล เป็นแหลง่ ทรัพยากรธรรมชาติท่ใี หญ่ทสี่ ุด ทะเลและมหาสมุทรมีอาณาเขตกวา้ งใหญ่ไพศาล และติดต่อกันตลอด ทำใหส้ ่งิ มีชวี ิตในแต่ละแหง่ ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับ อุณหภูมิ ระดับความเคม็ และ ระดบั ความลึก กระแสน้ำในมหาสมทุ รมีการหมนุ เวียนเชือ่ มตอ่ กัน กระแสนำ้ ทีเ่ คล่อื นทจี่ ากส่วนลกึ จะ พาเอาแรธ่ าตทุ ่ีอยู่กน้ ทะเลขึ้นมาสูผ่ วิ น้ำ ทำให้แพลงกต์ อนพืชได้รับอาหารอุดมสมบรู ณ์ทะเลมีคลน่ื และน้ำขน้ึ นำ้ ลง ทำใหม้ ีผลต่อการดำรงชวี ิตของสิ่งมชี ีวิตบรเิ วณชายฝ่ัง น้ำทะเลมีความเค็ม ความเคม็ นเ้ี กิดจากเกลือแร่ท่ลี ะลายอยู่จะแตกตวั ในรูปของไอออน ซึ่งส่วนใหญ่เปน็ ไอออนของโซเดียม (Na+) และไอออนของคลอรนี (Cl-) สง่ิ มชี วี ติ สว่ นใหญ่ในทะเลมีการปรบั ตวั โดยมคี วามเขม้ ขน้ ของเกลอื แร่ ภายในรา่ งกายใกล้เคียงกบั นำ้ ทะเล ส่วนพวกท่ีมคี วามเขม้ ข้นของเกลอื แรภ่ ายในร่างกายตำ่ กว่า ภายนอกจะมีการปรับตัวโดยการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการขับเกลอื ออกใหไ้ ดม้ าก ทะเลมีธาตุอาหาร ต่างกัน จึงเปน็ ตัวกำหนดจำนวนประชากรในท้องทะเล สง่ิ มชี ีวติ ในทะเล มที ้ังแพลงก์ตอนพชื และสัตว์ เช่น ไดอะตอม กุง้ เคย ตวั อ่อนของเพรียงหิน และยังมีพวกสาหร่าย เช่น สาหรา่ ยสีเขยี ว สาหร่ายสเี ขยี วแกมน้ำเงนิ สง่ิ มีชีวติ ท่วี า่ ยน้ำเป็นอิสระ เชน่ พวกปลาต่างๆ เต่า หมึก ปลาวาฬ ปลาโลมา สิ่งมีชวี ิตหนา้ ดนิ พบอยู่ทวั่ ไป เชน่ ฟองนำ้ ปะการัง เพรยี งหิน หอยนางรม ดอกไม้ทะเล ปลิงทะเล ดาวทะเล หอยแครง พลบั พลึงทะเล ระบบนเิ วศ ในทะเลมี 3 ชุมชน ดังนี้ ชมุ ชนหาดทราย เป็นบรเิ วณที่ไมเ่ หมาะกับการอาศัยของส่ิงมชี ีวิตในทะเลท่วั ไป เพราะมี สภาพแวดล้อมทรี่ ุนแรง ส่ิงมีชวี ติ จึงมีการปรบั ตวั คอื มผี ิวเรยี บ ลำตัวแบนราบกับพืน้ ทราย เพื่อสะดวกแก่การแทรกตวั หนีลงทราย เช่น หอยตา่ ง ๆ เหรยี ญทะเล ลดขนาดของสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายลง เพอ่ื ตา้ นทานกับทรายท่ถี ูกคลื่นซัดเปน็ ประจำ เช่น ปู ทนความแหง้ แลง้ ได้ดีเคลอื่ นไหว ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เพือ่ สามารถหลบหลีกศตั รไู ด้อยา่ งรวดเรว็ ชอบฝงั ตัวหรือขดุ รูอยู่ในทราย ชุมชนหาดหนิ เป็นบริเวณที่ประกอบไปดว้ ยหินเป็นส่วนใหญ่ สง่ิ มีชีวติ มีการปรับตัว คอื มีความคงทน และทนทานตอ่ การเปลยี่ นแปลงอุณหภูมิ โดยจะมสี ารเคลือบพวกเจลลาติน รักษาความชน้ื และป้องกนั การระเหยของน้ำสามารถดูดซึมนำ้ เอาไว้ใชเ้ วลาน้ำลงได้ เชน่ พวกไลเคนมีสารหมุ้ ตวั เพอ่ื ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซได้ดี คำถาม ระบบนเิ วศในทะเลแบง่ ไดก้ ่ีชุมชน อะไรบ้าง
-8- คำตอบ 3 ชุมชน ไดแ้ ก่ ชุมชนหาดทราย ชมุ ชนหาดหิน ชุมชุนแนวปะการัง ชุมชนแนวปะการงั ประกอบดว้ ยปะการังหลายชนดิ มีรปู ร่างต่าง ๆ กนั ประกอบด้วยแคลเซยี มคาร์บอเนต (CaCO3) ซึง่ การสร้างปะการังจะมีมากหรือนอ้ ยข้นึ อย่กู ับ อุณหภูมิและแสงสวา่ ง บรเิ วณทม่ี แี สงมากจะมปี ะการังมาก เพราะปะการัง ส่วนใหญ่เจริญได้ดี เมอ่ื อย่รู วมกับสาหรา่ ย ปะการังสืบพนั ธไุ์ ดโ้ ดยการแตกหน่อเชอ่ื มติดกนั หาดทราย หาดหิน แนวปะการัง ภาพประกอบ ระบบนิเวศในทะเล ทม่ี า : http://www.technicchan.ac.th/?name=news&file=readnews_dep&id=533 วนั เขา้ ถงึ ข้อมลู 10 พฤษภาคม 2562 3. ระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นแหลง่ อาศัยและขยายพนั ธ์สุ ัตวน์ ้ำ เปน็ ตวั กลางทำใหเ้ กิดความสมดุลระหว่างทะเลกบั บก แหลง่ พนั ธไ์ุ ม้ต่างๆ ท่ีมคี วามสำคัญทางเศรษฐกิจ แหล่งอาหารทอี่ ุดมสมบรู ณ์ เป็นฉากกำบังลม ป้องกนั การชะล้างทีร่ ุนแรงที่เกิดจากลมมรสุมและเป็นเสมอื นกำแพงป้องกนั การพังทลายของดิน ราก ของพันธไุ์ ม้ช่วยกรองสงิ่ ปฏกิ ูลตา่ ง ๆ ในนำ้ ปา่ ชายเลน เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนบรเิ วณปากแมน่ ้ำ ประกอบไปดว้ ยทราย โคลน และดิน บรเิ วณทีต่ ดิ กับปากแม่น้ำเป็นดินเหนยี ว ถดั ไปเปน็ ดนิ ร่วนและบรเิ วณท่ลี กึ เข้าไปจะมีทราย มากขนึ้ นอกจากน้ี บรเิ วณตา่ งๆ ของป่าชายเลนยงั แตกตา่ งในด้านของความเป็นกรด-เบส ความเค็ม รวมทงั้ ความสมบรู ณข์ องดนิ ซึ่งวัดได้จากปรมิ าณของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โปแตสเซยี ม (K) คำถาม ลักษณะของพชื ในระบบนิเวศปา่ ชายเลนมลี ักษณะอย่างไร
-9- คำตอบ มรี ากค้ำจนุ เพอ่ื ชว่ ยพยุงลำต้นไม่ให้ลม้ โครงสร้างของใบสามารถเกบ็ สะสม น้ำไดม้ าก และปอ้ งกนั การสูญเสยี น้ำ ลักษณะของสิง่ มีชีวติ ในปา่ ชายเลน พืชจะมีรากค้ำจุน เพ่ือช่วยพยงุ ลำตน้ ไมใ่ ห้ลม้ เมอื่ อยูใ่ น ดนิ เลน เมลด็ พืชจะงอกตง้ั แต่อยบู่ นต้นแม่ มีโครงสร้างของใบทที่ ำใหส้ ามารถเก็บสะสมนำ้ ได้มาก และมโี ครงสรา้ งทป่ี ้องกันการสูญเสียน้ำโดยการคายนำ้ สง่ิ มีชีวิตทอ่ี าศัยตามชายฝั่งป่าชายเลน ได้แก่ โกงกาง แสมดำ โปร่งขาว โปรางหนู รงั กะแท้ ชะคราม ตะบนู ตีนเปด็ ทะเล ตาตมุ่ ทะเล ปรงทะเล เทียนทะเล ชลู ลำพู ลำแพน ถัว่ ขาว ผกั บงุ้ ทะเล ปู หอยตา่ งๆ ปลาตีน ปเู สฉวน ปูแสม ทากทะเล หอยขนี้ ก กุง้ ดีดขนั ปูก้ามดาบ สตั ว์ในดิน ได้แก่ ไสเ้ ดือนทะเล หอยฝาเดียว ภาพประกอบ ระบบนิเวศป่าชายเลน ท่มี า : http://radio.prd.go.th/satun/ewt_news.php?nid=619&filename=index วนั เขา้ ถึงข้อมูล 17 พฤษภาคม 2562 4. ระบบนิเวศปา่ ไม้ เป็นแหลง่ รวมพันธไุ์ ม้และสตั ว์ป่าต่างๆ ชว่ ยกำบงั ลมพายุ แหลง่ ต้นน้ำลำธาร ทำให้ฝนตกตาม ฤดกู าล ช่วยควบคุมอุณหภูมิบนโลก ช่วยรกั ษาความช่มุ ช้ืนของผิวดิน และอากาศ ผลิตก๊าซ ออกซเิ จน (O2) และใช้ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) แหล่งสะสมปุ๋ยธรรมชาติ ลดความรนุ แรงของ นำ้ ปา่ และการพงั ทลายของหน้าดนิ ที่เกิดจากกระแสนำ้ ไหลบา่ คำถาม จงยกตวั อยา่ งระบบนิเวศปา่ ไม้ในประเทศไทยมา 3 ประเภท
-10- คำตอบ ป่าพรุ ป่าสนเขา ป่าดิบช้นื ลกั ษณะของป่าไม้และสังคมสิ่งมชี ีวิตในปา่ ของประเทศไทย เชน่ ป่าพรุ (Freshwater Swamp Forest) พบตามทลี่ ่มุ ในภาคใต้ เปน็ ป่าท่ีมีนำ้ จืดขงั อยู่ ตลอดปี และ นำ้ มีความเป็นกรดสงู ลักษณะของป่าแน่นทึบ พนั ธไ์ุ มส้ ่วนใหญเ่ ปน็ ไม้ขนาดเลก็ เชน่ หวาย หมากแดง เป็นตน้ ปา่ สนเขา (Coniferous Forest Biomes) เปน็ ป่าเขียวตลอดปี ประกอบด้วย พชื พรรณพวกที่มี ใบเรยี วเล็ก เรยี วยาว ขึน้ อยา่ งหนาแนน่ มยี อดปกคลุมทบึ ตลอดปี ไม่มกี ารผลดั ใบ แสงผ่านลงมาถึง พ้ืนดิน นอ้ ย ดินเป็นกรด ขาดธาตอุ าหาร สิ่งมีชวี ิตท่พี บ เชน่ แมวป่า หมาป่า หมี เม่น กระรอก และนก ป่าดบิ ชน้ื (Tropical Rain Forest Biomes) เป็นป่าทีม่ ีฝนตกตลอดปี พชื เปน็ พวก ใบกว้างไมผ่ ลัดใบ ปก คลุมหนาแนน่ มีอณุ หภมู แิ ละความชนื้ พอเหมาะตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช ประกอบดว้ ยไมย้ ืนต้นนานาชนิด พื้นดนิ มตี ้นไม้ขน้ึ กระจัดกระจาย เพราะได้รบั แสงไม่เพียงพอ พนั ธ์ุ ไม้ท่ีพบ ได้แก่ ไมย้ าง ไม้ ตะเคียน บริเวณพ้นื ดินเปน็ พวกเฟริ ์น หวาย ไม้ไผ่และเถาวัลย์ ป่าพรุ ปา่ สนเขา ปา่ ดิบชนื้ ภาพประกอบ ระบบนิเวศป่าไม้ ทีม่ า : http://www.thaitravelhealth.com/blog/archives/1338 วนั เข้าถงึ ข้อมูล 12 พฤษภาคม 2562
-11- บตั รกจิ กรรมกลมุ่ กิจกรรมท่ี 1.1 สำรวจระบบนิเวศรอบ ๆ ตวั สาระสำคัญ ระบบนิเวศ (Ecosystem) หมายถึง ระบบท่ีกล่มุ สิ่งมีชีวิตอาศัยในแหล่งที่อยเู่ ดียวกัน มีความสัมพนั ธ์ซ่ึงกันและกนั และมีความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกลมุ่ สิ่งมีชีวติ เหลา่ นน้ั กับสภาพแวดล้อม จดุ ประสงค์กจิ กรรม 1. ทำกจิ กรรมและสรุปผลการทำกิจกรรมเรื่อง สำรวจระบบนเิ วศรอบ ๆ ตัวได้ 2. ระบุชนดิ และจำนวนของสิง่ มชี ีวิตกบั ส่ิงไม่มีชวี ิตในระบบนเิ วศท่ีสำรวจได้ 3. บอกเหตผุ ลของความแตกต่างทัง้ ชนิดและจำนวนของสิ่งมชี ีวิตและไม่มชี วี ิตใน ระบบนเิ วศท่สี ำรวจได้ อปุ กรณ์ 1. ปากคบี 2. แว่นขยาย 3. ตลับเมตร 4. เชือกฟาง วธิ ที ำกิจกรรม 1. เลอื กบรเิ วณใดบรเิ วณหนึง่ ของโรงเรยี นภายในพืน้ ที่ 4 เมตร x 4 เมตร 2. ใชเ้ ชือกฟางก้ันพ้นื ทท่ี ่ีเลือกไว้ 3. สำรวจสงิ่ ตา่ ง ๆ ภายในบรเิ วณที่เลอื ก จดบนั ทกึ ช่ือ ปรมิ าณหรอื จำนวน และแหลง่ ท่ีพบสงิ่ นน้ั ลงในตาราง 4. เขยี นแผนผังบรเิ วณที่สำรวจ พร้อมทัง้ แสดงตำแหน่งของสิ่งทีพ่ บ
-12- แบบรายงานผลการทำกิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมที่ 1.1 เรอ่ื ง สำรวจระบบนเิ วศรอบ ๆ ตวั สมาชิกในกลุ่มที่ ............ 1) .....................................................เลขท.่ี ......... 2) ....................................................เลขท.ี่ ......... 3) .....................................................เลขท.่ี ......... 4) ....................................................เลขท่.ี ......... 5) .....................................................เลขท.ี่ ......... 6) ....................................................เลขท่.ี ......... บันทึกผลการศึกษา บริเวณท่ีสำรวจ.................................................................................................................................... กลุม่ ชอื่ จำนวน ลักษณะแหลง่ ท่ีอยู่ สงิ่ มชี ีวิต สิ่งไม่มีชวี ิต สรุปผลการสำรวจ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………..…………………………………………………………………………………………………………………………. …………………..………………………………………………………………………………………………………………………….
-13- แผนผงั สำรวจระบบนเิ วศรอบ ๆ ตวั
-14- คำถามท้ายกจิ กรรม 1. ในบริเวณท่ีสำรวจ นกั เรยี นพบเหน็ ส่งิ มีชวี ติ อะไรบา้ ง ..................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................ .................................................................................................................................................... 2. นกั เรยี นพบเห็นสตั วอ์ าศัยอยู่รวมกันในสภาพแวดลอ้ มที่เป็นกลุม่ พืชหรือไม่ และมปี ริมาณมาก นอ้ ยเพียงใด ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................ ..................................................................................................................................................... 3. ในบรเิ วณตา่ งกันมสี งิ่ แวดล้อมท่เี หมอื นหรือตา่ งกันอยา่ งไร ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................ ..................................................................................................................................................... 4. ถา้ บริเวณทส่ี ำรวจมีสภาพแวดลอ้ มคล้ายกนั นกั เรยี นพบเห็นส่ิงมชี วี ิตชนิดเดยี วกนั หรือไม่ อย่างไร ..................................................................................................................................................... ............................................................................................................. ........................................ 5. สิ่งมชี วี ติ และไม่มชี ีวิตทมี่ ีความสัมพันธก์ นั ในบรเิ วณทสี่ ำรวจไดแ้ ก่อะไรบ้าง ยกตวั อย่างมา 2 ชนิด ....................................................................................................................... .............................. ..................................................................................................................................................... 6. นอกจากระบบนเิ วศท่นี กั เรียนสำรวจในโรงเรียนแลว้ นกั เรียนคดิ วา่ มรี ะบบนิเวศอ่ืน ๆ อกี หรอื ไม่ อย่างไร ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................ 7. ระบบนิเวศทส่ี ำรวจจัดเปน็ ระบบนิเวศประเภทใด ....................................................................................................................................................... ............................................................................................ ......................................................... ............................................................................................................................. ........................
-15- บตั รแบบฝกึ เสรมิ การเรียนรทู้ ่ี 1 ชอื่ -สกุล....................................................................กลมุ่ ท่ี.................ชน้ั /หอ้ ง.................... 1. ให้นักเรียนดภู าพ แล้วพิจารณาจากหวั ข้อตอ่ ไปน้ี ภาพ 1 ภาพ 2 1.1 มกี ลุ่มส่งิ มชี ีวิตอะไรบ้าง ภาพ 1............................................................................................................................... ภาพ 2............................................................................................................................. ... 1.2 แหล่งที่อยู่มีลักษณะอยา่ งไร ภาพ 1............................................................................................................................... ภาพ 2................................................................................................................................ 1.3 สิง่ แวดล้อมอ่ืน ๆ ภายในระบบนิเวศท่เี ก่ียวขอ้ งกับการดำรงชวี ิตของส่งิ มีชีวิต มอี ะไรบา้ ง ภาพ 1............................................................................................................................. .. ภาพ 2................................................................................................................................
-16- 2. ให้นกั เรียนสรปุ ความสัมพันธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศตามแผนภาพต่อไปนี้ ระบบนเิ วศ หมายถงึ หมายถงึ หมายถงึ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ................................ ............. ............. ............. ........................ หมายถึง หมายถงึ 3. ระบบนเิ วศ หมายถึง...................................................................................................................... . ......................................................................................................................... ............................. . ...................................................................................................................................... ................ ........................................................................................................................................................ 4. การจำแนกประเภทของระบบนิเวศตามลักษณะแหลง่ ท่ีอยู่สามารถแบ่งได้กป่ี ระเภทอะไรบ้าง ...................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................. ......................... ........................................................................................................................................................ 5. นักเรยี นคิดว่าพืชควรมลี ักษณะใดบา้ งที่เหมาะสมต่อการดำรงชวี ิตในระบบนิเวศปา่ ชายเลน ....................................................................................................................................................... ............................................................................................... .......................................................... . ............................................................................................................................. ......................... . ......................................................................................................................................................
-17- 6. ให้นักเรยี นดภู าพระบบนิเวศที่กำหนดให้ แล้วเติมคำตอบใหต้ รงกบั ภาพ 6.1 ชื่อระบบนเิ วศ .................................................................... ยกตวั อย่างสิ่งมชี ีวติ ท่ีอาศยั อยู่ มา 3 ชนดิ .................................................................... ..................................................................... 6.2 ชือ่ ระบบนเิ วศ .................................................................... ยกตวั อยา่ งสิ่งมีชวี ติ ทอ่ี าศยั อยู่ มา 3 ชนดิ .................................................................... ..................................................................... 6.3 ชื่อระบบนิเวศ .................................................................... ยกตัวอยา่ งสง่ิ มีชีวติ ทอ่ี าศยั อยู่ มา 3 ชนดิ .................................................................... ..................................................................... 6.4 ชือ่ ระบบนเิ วศ .................................................................... ยกตวั อย่างสง่ิ มชี วี ิตทีอ่ าศัยอยู่ มา 3 ชนดิ .................................................................... .....................................................................
-18- เกมแผน่ ป้ายใบค้ ำ คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ เปดิ แผน่ ป้าย กลมุ่ ละ 1 แผ่นป้าย พรอ้ มตอบคำถามวา่ แผน่ ปา้ ยท่ี กำหนดให้ เปน็ ระบบนิเวศประเภทใด
-19- แผนผังความคิด คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นสรปุ แนวความคิดเรอ่ื ง ระบบนิเวศ มาสร้างแผนผังความคดิ ของกลุ่ม (10 คะแนน)
-20- ชือ่ กลมุ่ ………………………………………………………………………………… บัตรแบบทดสอบท้ายกิจกรรม ชุดที่ 1 ระบบนิเวศ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบทีเ่ หน็ วา่ ถูกที่สุดเพียงข้อเดยี ว แลว้ เขียนเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งตัวเลอื กในกระดาษคำตอบ 1. ส่ิงมีชวี ติ ในข้อใดต่อไปน้ีจัดเป็นกลมุ่ ส่ิงมชี วี ิต ก. นกเอย้ี ง 7 ตวั บนกงิ่ ไม้ ข. ปลวกจำนวนมากมายในรงั ค. ปลาและก้งุ ใต้กอบัว ง. ปลาหางนกยงู 20 ตัวในอ่างน้ำ 2. บริเวณท่กี ล่มุ สงิ่ มชี วี ิตอาศัยอย่เู รยี กว่าอะไร ก. บ้านมนษุ ย์ ข. แหล่งท่ีอยู่ ค. ท่ีพกั อาศัย ง. รังนก 3. พืชและสตั ว์มากมายหลายชนดิ อาศัยอยู่ร่วมกนั ในท่แี ห่งหนงึ่ ลกั ษณะเชน่ นเ้ี รยี กว่าอะไร ก. ชนิดของส่งิ มชี ีวติ ข. สภาพแวดล้อม ค. กลมุ่ สิง่ มีชวี ติ ง. ระบบนเิ วศ 4. ข้อใดคือความหมายของระบบนิเวศ ก. สถานท่ซี ่ึงมีสิง่ มีชวี ิตอาศัยอยู่ ข. สิง่ ตา่ ง ๆ ท่ีอยู่ร่วมกับสิ่งมีชวี ติ ค. กลมุ่ ของสงิ่ มชี วี ิตที่อยรู่ ว่ มกันในแต่ละแหง่ ง. ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มีชวี ิตตา่ งๆ ท่ีอยู่รว่ มกันในแหล่งทอ่ี ยู่ 5. ขอ้ ใด ไม่ จัดเป็นระบบนเิ วศ ก. สนามคอนกรตี หนา้ เสาธง ข. บอ่ น้ำท่มี สี ่งิ มีชวี ิตอยู่เต็ม ค. สนามหญ้าและสระน้ำหน้าโรงเรยี น ง. อทุ ยานแห่งชาตแิ ละป่าสงวน
-21- 6. ระบบนิเวศที่ใหญท่ ่ีสุด คอื ก. ขอนไม้ ข. ท่งุ หญา้ ค. ทะเล ง. โลกของส่ิงมชี วี ิต 7. สง่ิ มีชวี ิตใดเปน็ สิ่งมีชีวิตในระบบนเิ วศปา่ ชายเลน ก. ประดู่ ข. แสม ค. ตะแบก ง. ตะบนู 8. ระบบนเิ วศใดมีความอุดมสมบรู ณแ์ ละความหนาแน่นของสง่ิ มีชวี ติ น้อยทส่ี ดุ ก. ระบบนเิ วศใต้ทะเลลกึ ข. ระบบนิเวศชายหาด ค. ระบบนิเวศรมิ ฝัง่ แมน่ ำ้ ง. ระบบนเิ วศปา่ ชายเลน 9. ข้อใดเปน็ ลักษณะเฉพาะของระบบนิเวศในทะเล ก. มีอณุ หภมู ิคงท่ใี นช่วงวนั หน่ึง ๆ ข. มอี ุณหภมู ิไม่คงที่ในชว่ งวันหน่ึง ๆ ค. มคี วามหลากหลายของสิ่งมชี วี ติ มาก ง. มีความชน้ื เปน็ องคป์ ระกอบหลกั ของระบบนิเวศ 10. ชว่ งรอยต่อระหว่างแหลง่ น้ำจดื กับแหลง่ น้ำเคม็ มาบรรจบกนั เรยี กว่าอะไร ก. แหล่งนำ้ กรอ่ ย ข. แหล่งนำ้ จืด ค. แหล่งน้ำเคม็ ง. แหล่งน้ำน่งิ
-22- บตั รเฉลยแนวคำตอบ ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
-23- บัตรเฉลยกจิ กรรมกลมุ่ กิจกรรมท่ี 1.1 สำรวจระบบนิเวศรอบ ๆ ตัว แบบรายงานผลการทำกิจกรรมกลมุ่ แนวคำตอบ ตวั อยา่ งบนั ทึกผลการศึกษา บริเวณทส่ี ำรวจ ด้านทศิ ตะวันออกของโรงอาหาร กลุม่ ช่อื จำนวน ลักษณะแหล่งที่อยู่ ส่งิ มีชีวิต ตน้ กา้ มปู จำนวนมาก บนพ้ืนดิน บนพนื้ ดนิ ,ใตด้ นิ ไส้เดือน 2 ตัว บนพ้ืนดนิ ,ใต้ดิน บนต้นก้ามปู มดดำ จำนวนมาก บนพน้ื ดิน,ใต้ดนิ แมงมุม 1 ตวั ไขม่ ด จำนวนมาก ส่งิ ไมม่ ชี วี ติ กิง่ ไมแ้ หง้ 7 ก่งิ บนพน้ื ดนิ หิน 12 ก้อน บนพ้ืนดนิ ดนิ จำนวนมาก บนพน้ื ดิน ใบไมแ้ ห้ง 20 บนพ้นื ดิน ถุงพลาสติก 6 ใบ บนพื้นดิน,บนต้นกา้ มปู (อยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอนขึน้ อยูก่ ับระบบนเิ วศท่ีนักเรียนเลือกสำรวจ) แนวคำตอบ สรปุ ผลการสำรวจ ในระบบนิเวศท่ีสำรวจในแต่ละแหง่ มกั จะพบทงั้ ส่งิ ท่มี ีชวี ิตและไม่มีชวี ิตอยู่ร่วมกันเสมอ จำนวนและชนิดของสงิ่ มชี ีวติ ในแต่ละแหง่ จะแตกต่างกันไปตามลักษณะบรเิ วณทีอ่ ยู่อาศัย และมกั พบวา่ ในบริเวณเดียวกันจะมีสิง่ มชี วี ติ ท่ีเปน็ ทง้ั พืชและสตั ว์อาศัยอยรู่ ว่ มกันเสมอ
-24- เฉลยคำถามท้ายกิจกรรม 1. ในบริเวณทสี่ ำรวจ นักเรยี นพบเห็นสงิ่ มีชวี ติ อะไรบา้ ง (อยใู่ นดุลยพินิจของครูผู้สอน) แนวคำตอบ มด แมลง ไสเ้ ดือน หญ้า ต้นไมใ้ หญ่ ดอกไม้ ผีเสอ้ื 2. นักเรียนพบเห็นสตั วอ์ าศัยอยู่รวมกนั ในสภาพแวดล้อมทเ่ี ป็นกลุ่มพืชหรือไม่ และมปี ริมาณมาก นอ้ ยเพียงใด (อยูใ่ นดุลยพินจิ ของครูผูส้ อน) แนวคำตอบ พบเหน็ (ปรมิ าณขน้ึ อยู่กับระบบนเิ วศทนี่ ักเรยี นเลือกสำรวจ) 3. ในบริเวณต่างกันมีสิง่ แวดล้อมที่เหมือนหรือต่างกันอยา่ งไร แนวคำตอบ แตกตา่ งกนั เพราะ สภาพแวดลอ้ มในบริเวณที่แตกต่างกัน จะมสี ่งิ ไมม่ ีชีวิตและมีชวี ตอาศัยอย่แู ตกต่างกนั 4. ถ้าบริเวณทีส่ ำรวจมีสภาพแวดล้อมคล้ายกัน นกั เรียนพบเหน็ ส่ิงมีชีวติ ชนิดเดยี วกนั หรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ พบเห็น เพราะ สภาพแวดลอ้ มทค่ี ลา้ ยกันทำให้สงิ่ มชี วี ติ ชนิด เดียวกันสามารถปรบั ตัวอาศยั อยูไ่ ดง้ ่ายกวา่ สภาพแวดล้อม ที่แตกตา่ งกัน 5. สิ่งมชี วี ติ และไม่มชี ีวติ ท่มี คี วามสัมพันธก์ ันในบรเิ วณทสี่ ำรวจไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ยกตัวอยา่ ง มา 2 ชนิด แนวคำตอบ มอสและหนิ ใบไมแ้ หง้ กับแมลง ปลากับน้ำ ไส้เดอื นกับดนิ 6. นอกจากระบบนิเวศทีน่ กั เรยี นสำรวจในโรงเรียนแล้ว นักเรียนคดิ ว่ามรี ะบบนเิ วศอน่ื ๆ อกี หรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ มี ได้แก่ ระบบนเิ วศน้ำจดื ระบบนิเวศทางทะเล ระบบนเิ วศปา่ ชายเลน ระบบนเิ วศปา่ ไม้ 7. ระบบนิเวศทน่ี ักเรียนสำรวจจัดเป็นระบบนิเวศประเภทใด (อยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน) แนวคำตอบ ระบบนิเวศบนบก หรือ ระบบนเิ วศในนำ้ (ขึน้ อยู่กบั ระบบนิเวศท่ีนักเรียนเลือกสำรวจ)
-25- บัตรเฉลยแบบฝกึ เสรมิ การเรยี นรทู้ ี่ 1 1. ให้นกั เรยี นดภู าพ แลว้ พิจารณาจากหัวข้อต่อไปนี้ 1.1มกี ลมุ่ สิง่ มีชีวติ อะไรบา้ ง แนวคำตอบ ภาพ 1 ปลา ภาพ 2 ช้าง ต้นไม้ หญ้า 1.2 แหลง่ ที่อยมู่ ลี ักษณะอย่างไร แนวคำตอบ ภาพ 1 น้ำ ภาพ 2 ป่า 1.3 สิ่งแวดล้อมอ่นื ๆ ภายในระบบนเิ วศทเี่ กี่ยวข้องกบั การดำรงชวี ิตของสิง่ มชี ีวิตมีอะไรบา้ ง ภาพ 1 อากาศ แสง น้ำ ดนิ แรธ่ าตุ แนวคำตอบ ภาพ 2 อากาศ แสง นำ้ ดนิ แร่ธาตุ 2. ใหน้ ักเรยี นสรุปความสัมพันธ์ของสงิ่ ต่าง ๆ ในระบบนิเวศตามแผนภาพตอ่ ไปน้ี แนวคำตอบ ระบบนิเวศ กลุ่มสงิ่ มชี วี ติ แหล่งท่ีอยู่ สง่ิ แวดลอ้ ม หมายถงึ หมายถึง หมายถึง กลุม่ ของส่งิ มีชีวติ ต่าง ๆ บริเวณทส่ี ิง่ มีชีวติ อาศัยอยู่ องคป์ ระกอบท่ีไม่มชี วี ิตซ่งึ เชน่ ตน้ ไม้ นก กระรอก งู เช่น เปน็ แหลง่ ทีอ่ ยู่อาศัย มคี วามสมั พันธแ์ ละ กวาง ทีอ่ าศัยอยู่บริเวณ บนบกมสี ภาพเปน็ ป่าหรอื เก่ยี วข้องกับระบบนิเวศ เดยี วกัน แหล่งท่อี ยู่ในหนองนำ้ เช่น ดิน น้ำ อากาศ แสง
-26- 3. ระบบนิเวศ หมายถงึ แนวคำตอบ ระบบทก่ี ลุ่มส่ิงมชี วี ติ อาศยั ในแหลง่ ทีอ่ ย่เู ดียวกนั มีความสัมพันธ์ ซึ่งกันและกนั และมคี วามสัมพันธร์ ะหวา่ งกลุ่มสิ่งมชี ีวิตเหล่านน้ั กับสภาพแวดลอ้ ม 4. การจำแนกประเภทของระบบนิเวศตามลกั ษณะแหลง่ ที่อยู่สามารถแบ่งได้ก่ีประเภทอะไรบา้ ง แนวคำตอบ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ ระบบนเิ วศบนบก และระบบนเิ วศในนำ้ 5. นกั เรียนคิดว่าพืชควรมลี ักษณะใดบ้างท่เี หมาะสมต่อการดำรงชวี ิตในระบบนิเวศป่าชายเลน แนวคำตอบ ตน้ แสม ต้นโกงกาง ตน้ ลำพู มรี ากคำ้ จุนชว่ ยในการพยงุ ลำตน้ มีรากสำหรบั หายใจ โผลพ่ น้ ดินขึ้นมา มีใบอวบน้ำเพราะมีเน้ือเย่ือ กักเก็บนำ้ ในใบ ผลของโกงกางมรี ากงอกออกมาเมื่อหล่นลงสู่พืน้ ดิน ก็จะเจรญิ ได้ทนั ที 6. ให้นักเรียนดภู าพระบบนเิ วศทกี่ ำหนดให้ แลว้ เตมิ คำตอบใหต้ รงกบั ภาพ 6.1 แนวคำตอบ ชอ่ื ระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศนำ้ จดื ยกตัวอยา่ งสง่ิ มีชีวติ ทอ่ี าศัยอยู่ มา 3 ชนดิ บัว ปลา สาหรา่ ย กุง้ หอย (อยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน) 6.2 แนวคำตอบ ชอ่ื ระบบนิเวศ ระบบนเิ วศป่าพรุ ยกตัวอย่างสิ่งมีชวี ติ ท่อี าศยั อยู่ มา 3 ชนิด ตน้ หมากแดง ต้นอนิ ทนิลฯลฯ (อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน) 6.3 แนวคำตอบ ชื่อระบบนิเวศ ระบบนิเวศป่าชายเลน ยกตัวอย่างส่ิงมชี วี ิตทอ่ี าศัยอยู่ มา 3 ชนิด ปลาตนี ปูเสฉวน ตน้ โกงกาง ฯลฯ (อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน) 6.4 แนวคำตอบ ชื่อระบบนเิ วศ ระบบนิเวศปา่ ไม้ ยกตัวอย่างสง่ิ มีชวี ติ ทอ่ี าศัยอยู่ มา 3 ชนดิ ช้าง เถาว์วัลย์ ตน้ ประดู่ ฯลฯ (อยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
-27- เฉลยเกมแผ่นป้ายใบ้คำ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เปิดแผ่นปา้ ย กลุม่ ละ 1 แผน่ ป้าย พรอ้ มตอบคำถามว่าแผ่นปา้ ยท่ี กำหนดให้ เป็นระบบนเิ วศประเภทใด ระบบนิเวศทางทะเล ระบบนิเวศทางทะเล ระบบนิเวศปา่ ชายเลน ระบบนิเวศป่าไม้
-28- จืด ระบบนิเวศแหล่งน้ำจดื ระบบนิเวศแหลง่ นำ้ จดื ทะเล น ระบบนเิ วศป่าไม้ ระบบนเิ วศป่าชายเลน
-29- เฉลยแผนผงั ความคดิ คำช้ีแจง ให้นักเรยี นสรปุ แนวความคดิ เร่ือง ระบบนเิ วศ มาสรา้ งแผนผงั ความคดิ ของกลุ่ม ระบบนิเวศ ประเภท ความหมาย ความสัมพนั ธ์ของส่งิ มีชีวิตอาศยั ในแหลง่ ทีอ่ ยู่ ใช้แหล่งท่ีอยเู่ ป็นเกณฑ์ เดยี วกนั มีความสมั พนั ธ์ซึง่ กันและกัน และมี แบง่ เปน็ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกลมุ่ สง่ิ มชี วี ิตเหลา่ น้นั กับ 2 ประเภท สภาพแวดล้อม - ระบบนเิ วศบนบก - ระบบนเิ วศในน้า ใชอ้ งค์ประกอบภายในระบบนิเวศ เป็นเกณฑ์ แบง่ เปน็ 4 ประเภท - ระบบนิเวศในทะเล - ระบบนเิ วศปา่ ไม้ - ระบบนิเวศป่าชายเลน - ระบบนิเวศในนา้ จืด
-30- บัตรเฉลยแบบทดสอบท้ายกจิ กรรม ชุดที่ 1 ระบบนิเวศ 1. ค 2. ข 3. ค 4. ง 5. ก 6. ง 7. ข 8. ก 9. ค 10. ก
-31- บรรณานกุ รม ถนัด ศรีบุญเรือง และคณะ. หนงั สอื เรยี น สาระการเรยี นรพู้ ืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ม.๓. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทัศน์, 2553. . สัมฤทธิ์มาตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1กรงุ เทพฯ : อักษรเจรญิ ทัศน,์ 2553. บัญชา แสนทวี และคณะ. ว 411 วทิ ยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย. กรุงเทพฯ : วฒั นาพานชิ , 2547. ประดับ นาคแก้ว และคณะ. หนังสือเรียนสาระการเรยี นรู้พนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ม.3 ช่วงช้นั ที่ 3. กรงุ เทพฯ : แมค็ , 2548. ปรชี า สุวรรณพนิ ิจ และคณะ. ชีวติ กบั ส่ิงแวดล้อม ม.3. กรุงเทพฯ : ฐานบัณฑิต, มปป. พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และคณะ. หนงั สอื เรยี นสาระการเรยี นร้พู ื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์ ม.3. กรงุ เทพฯ : สำนกั พมิ พ์พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จำกัด, 2548. ราชบณั ฑิตสถาน. ศัพทว์ ิทยาศาสตร์ องั กฤษ -ไทย ไทย – องั กฤษ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน. พมิ พ์ครัง้ ท่ี 5 (แก้ไขเพมิ่ เติม). กรงุ เทพฯ : ราชบณั ฑติ ยสถาน, 2546. วิชาญ เลศิ ลพ และคณะ. กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ ช่วงชั้นท่ี 3 (ม.1-ม.3) ครบทกุ สาระ. กรงุ เทพฯ : ประสานมติ ร, 2545. ศรลี กั ษณ์ ผลวัฒนะ และคณะ. ส่อื การเรียนรแู้ ละเสริมสร้างทักษะตามมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ม.3 ชว่ งชัน้ ที่ 3. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพน์ ิยมวิทยา, 2548. . วทิ ยาศาสตร์ พนั ธกุ รรมและความหลากหลายของส่ิงมีชิวิตช่วงชัน้ ที่ 3 (ม.1-3). กรุงเทพฯ : นิยมวิทยา, 2547 ศึกษาธิการ, กระทรวง, กรมวิชาการ. การจดั สาระการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ตามหลักสูตรการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2544. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์คุรสุ ภา ลาดพร้าว, 2546. สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ เล่ม 2 ว 102 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์คุรุสภาลาดพรา้ ว, 2543. . หนงั สือเรยี นสาระการเรียนร้พู นื้ ฐาน ชีวติ กบั ส่ิงแวดล้อม ส่ิงมีชวี ติ กับกระบวนการ ดำรงชีวติ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว, 2544. ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบนั . คมู่ ือครสู าระการเรียนรูพ้ ืน้ ฐาน ชีวติ กบั สิ่งแวดล้อม สิ่งมชี วี ติ กับกระบวนการดำรงชีวิต กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ครุ ุสภาลาดพร้าว, 2549.
-32- ทรปู ลกู ปญั ญา. ระบบนเิ วศ. ค้นเมอ่ื วันที่ 15 พฤษภาคม 2562. จาก http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=1 141 ศนู ยส์ ารสนเทศส่งิ แวดล้อม. ระบบนเิ วศ. ค้นเมอ่ื วันท่ี 30 เมษายน 2562. จาก http://www.environnet.in.th/index.php?option=com_content&view=article&id=8 97&catid=5&Itemid=296 สสวท. พจนานุกรม วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี. คน้ เมอื่ 17 พฤษภาคม 2562. จาก http://escivocab.ipst.ac.th/index.php?
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: