กจิ กรรมประชมุ เชิงปฏบิ ตั กิ ารคน้ หาผ้ปู ระกอบการชุมชน (Champ) และทดสอบโปรแกรม อดิศร ไชยบญุ เรือง โกศล ขนั ติทานต์
แนวทางการจดั นิทรรศการ แบบกระจายท่ีผชู้ มลงมือปฏิบตั ิด้วยตนเอง D-HOPE D-HOPE: Decentralized อา่ นว่า ดเี ซนเทอไลซ์ หมายถงึ การกระจายอานาจ Hand On อา่ นว่า แฮนด์ ออน หมายถงึ การสง่ ตอ่ การมอบ การลงมอื ทา Program อ่านวา่ โปรแกรม หมายถงึ รายการ Exhibition อา่ นวา่ เอก็ ซบิ ชิ นั่ หมายถงึ การแสดง, นิทรรศการ, เปิดเผย Decentralized: การกระจายอานาจ เรม่ิ จากการคดั เลอื ก วางแผนแจกจ่ายหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ และการ ตดั สนิ ใจในการดาเนินกจิ กรรม หรอื ใหป้ ฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ามทผ่ี มู้ อี านาจในกลุ่มมอบหมาย Hands-on: การลงมอื ทดลองกบั เคร่อื งจรงิ การไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ริ ่วมกบั ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ น หรอื ผทู้ ม่ี ี ประสบการณ์มาก ๆ การทใ่ี หผ้ สู้ นใจไดม้ โี อกาสฝึกทา ทดลองทา ไม่ใชเ่ รยี นแต่จากตารา Program: คอื รายการทเ่ี จา้ ของ หรอื ชุมชน ออกแบบขน้ึ เอง เพอ่ื ใหต้ รงกบั วถิ วี ฒั นธรรม ประเพณี หรอื อาชพี ของชุมชน รวมถงึ การจดั โปรแกรมกจิ กรรมแบบสาเรจ็ รปู ไม่เฉพาะเจาะจง ซง่ึ เป็นโปรแกรมท่ี เจา้ ของ หรอื ชุมชนทาหน้าทเ่ี หมอื นแมบ่ า้ นคอยดแู ล ใหก้ จิ กรรมต่าง ๆ ทางานใหป้ ระสานกนั Exhibition: คอื การจดั กจิ กรรมทางการตลาด เพอ่ื นาเสนอ หรอื แสดงสนิ คา้ ขอ้ มลู ภาพ เสยี ง รวมถงึ การ สาธติ โดยมกี ารกาหนดหลกั การและเหตผุ ล วตั ถุประสงค์ ผรู้ บั ผดิ ชอบ และกล่มุ เป้าหมายทแ่ี น่นอน D-HOPE: คอื การพฒั นาผปู้ ระกอบการชุมชนใหค้ ดิ คน้ กจิ กรรมใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วได้มโี อกาสลงมอื ทา หรอื เขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมของชมุ ชน เพอ่ื ขายประสบการณ์แก่นกั ท่องเทย่ี วและผสู้ นใจ และเป็นการ เช่อื มโยงผลติ ภณั ฑโ์ อทอป กบั การตลาด เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ระกอบการโอทอป มชี ่องทางการตลาดเพมิ่ ขน้ึ อนั นาประโยชน์ใหเ้ กดิ การสรา้ งงาน สรา้ งรายไดแ้ ก่ผผู้ ลติ ผปู้ ระประกอบการโอทอป
งานอีเวนท์ (Event) ความหมายภาษาไทย คอื งานกจิ กรรมตา่ ง ๆ งานต่าง ๆ ทถ่ี กู จดั ขน้ึ ตามช่วงเวลา ทก่ี าหนดไว้ ซง่ึ อย่รู ายรอบในชวี ติ เราทกุ เวลา เช่น การประชุม การอบรม โปรโมชนั่ ตามหา้ งรา้ น คอนเสริ ต์ งานแต่งงาน งานวนั เกดิ กจิ กรรมการกศุ ล งานวดั งานบุญบา้ น งานเลย้ี งสงั สรรค์ และทส่ี าคญั คอื งานแสดงสนิ คา้ ต่าง ๆ ตามสถานทต่ี า่ ง ๆ ตามศูนยก์ ารคา้ ศนู ยแ์ สดงสนิ คา้ อีเวนท์ จงึ เกอื บ กลายเป็นสง่ิ สาคญั ของคนยุคน้ี ไปแลว้ โดยไม่รตู้ วั กิจกรรม (Event) เราจดั ขน้ึ เพอ่ื มงุ่ ประชาสมั พนั ธท์ รพั ยากรทอ้ งถนิ่ และแชมป์ เปียนประจาชุมชนให้ เป็นทร่ี จู้ กั แก่สาธารณะชน กระตนุ้ ใหแ้ ชมป์ เปียน มคี วามเป็นผปู้ ระกอบการ มคี วามคดิ สรา้ งนวตั กรรม โดยทช่ี ุมชนสรา้ งเป็นสงิ่ ดงึ ดูดของหมบู่ า้ น ผ่านกระบวนการมสี ว่ นร่วมแบบองคร์ วม ทงั้ ในชุมชน และ นกั ทอ่ งเทย่ี ว เป็นการสง่ เสรมิ ศกั ยภาพของชมุ ชน ใหเ้ กดิ กจิ กรรมทร่ี องรบั การเขา้ มาใชบ้ รกิ ารของ นกั ทอ่ งเทย่ี ว และสมั ผสั กบั เสน่หข์ องชุมชน กรอบความคิด D-HOPE ต่อการจดั งานอเี วนต์ (Event) เป็นกระตุน้ ผปู้ ระกอบการในชุมชน เพมิ่ ขดี ความสามารถ โดยนาเสนอทรพั ยากรต่างๆในทอ้ งถนิ่ ทค่ี นสว่ นใหญ่มองขา้ ม ผา่ นกลไกของกจิ กรรมท่ี ผสู้ นใจจะไดเ้ รยี นรู้ และมปี ระสบการณ์จากการลงมอื ทา โดยแชมป์ ประจาชมุ ชน จะต้องคน้ หารูปแบบ วธิ กี ารทเ่ี หมาะสม โดยใชท้ รพั ยากรทม่ี อี ยใู่ นทอ้ งถนิ่ ใหเ้ ป็นประโยชน์ สรา้ งรายไดใ้ หแ้ กค่ นในชุมชนให้ มากกวา่ ทเ่ี ป็นอยู่ และนักท่องเทย่ี วเกดิ ความประทบั ใจ พดู งา่ ยๆ คอื เป็นกจิ กรรมทเ่ี อาใจนกั ทอ่ งเทย่ี วขาลุย ทอ่ี ยากคลกุ วงใน เทย่ี วแบบรลู้ กึ รจู้ รงิ แบบเจา้ ถนิ่ ไดล้ งมอื ทากจิ กรรม ไดล้ ุยแบบไปตอ้ งกลวั เลอะ และทไ่ี ดม้ ากไปกว่ารปู ถ่ายสวยไวโ้ พสลง Social Media กจิ กรรมทใ่ี หป้ ระสบการณ์ แบบครงั้ หน่งึ ในชวี ติ ทห่ี าทไ่ี หนไม่ได้ เป็นกระตนุ้ ความอยากรอู้ ยากลองใน ตวั ทุกคน ทจ่ี ะทาใหท้ ุกคนเพลนิ ไปกบั ความน่ารใู้ นกจิ กรรมนนั้ ๆ พรอ้ มรบั ของทร่ี ะลกึ จากฝีมอื ตนเอง ตดิ ไมต้ ดิ มอื เป็นของฝากกลบั บา้ น แนวคิดในการทาอีเวน้ ท์ 1. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคข์ องชุมชนในการพฒั นาแหล่งทอ่ งเทย่ี ว โดยสอดคลอ้ งกบั วถิ ดี าเนินชวี ติ และวฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ 2. บรู ณาการภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ในดา้ นการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ วฒั นธรรมประเพณี รวมถงึ เสน้ ทางและ กจิ กรรมเพอ่ื การทอ่ งเทย่ี ว 3. ค่าใชจ้ า่ ยควรสง่ เสรมิ คนในทอ้ งถนิ่ เพอ่ื เป็นการสรา้ งงานสรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ชุมชนเป็นอนั ดบั แรก 4. สง่ เสรมิ การพฒั นาบุคลากร และสรา้ งความเขม้ แขง็ แกช่ มุ ชน ใหส้ ามารถคดิ เอง ทาเอง ขายเอง เพอ่ื นาไปสกู่ ารพฒั นาทอ้ งถน่ิ อยา่ งยงั่ ยนื 5. เปลย่ี นความคดิ จากผผู้ ลติ หรอื ผจู้ าหน่าย ใหก้ ลายเป็นศนู ยเ์ รยี นรู้ เพราะนอกจากจะไดร้ บั ความ สนใจจากนกั ทอ่ งเทย่ี วแลว้ ยงั สามรถรองรบั การศกึ ษาดูงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ทงั้ ในและนอกจงั หวดั ซง่ึ เป็นการสรา้ งรายไดแ้ บบองคร์ วมในชุมชน
โควิค-19
การเชื่อมโยงแนวคิด การจดั นิทรรศการแบบกระจายท่ีผ้ชู มลงมอื ปฏิบตั ิด้วยตนเอง การจดั นิทรรศการ มี 2 แบบ คือ แบบรวมศนู ย์ และแบบกระจายที่ผชู้ มลงมือปฏิบตั ิด้วยตนเอง การจดั นิทรรศการแบบรวมศนู ย์
นิทรรศการแบบกระจายที่ผชู้ มลงมือปฏิบตั ิด้วยตนเอง คอื เป็นกจิ กรรมท่เี อาใจนักท่องเทย่ี วขาลุย ท่อี ยากคลุกวงใน เท่ยี วแบบรู้ลกึ รู้จรงิ แบบเจา้ ถน่ิ ไดล้ งมอื ทากจิ กรรม ไดล้ ุยแบบไปตอ้ งกลวั เลอะ และทไ่ี ดม้ ากไปกวา่ รปู ถา่ ยสวยไวโ้ พสลง Social Media กจิ กรรมทใ่ี หป้ ระสบการณ์ แบบครงั้ หน่ึงในชวี ติ ทห่ี าทไ่ี หนไมไ่ ด้ เป็นกระตุ้นความอยากรอู้ ยาก ลองในตวั ทุกคน ทจ่ี ะทาใหท้ ุกคนเพลนิ ไปกบั ความน่ารใู้ นกจิ กรรมนัน้ ๆ พรอ้ มรบั ของทร่ี ะลกึ จากฝีมอื ตนเอง ตดิ ไมต้ ดิ มอื เป็นของฝากกลบั บา้ น แบบกระจายที่ผชู้ มลงมอื ปฏิบตั ิด้วยตนเอง
แนวคิด ทฤษฎี เกี่ยวกบั กิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชมุ ชน ชุมชน เป็นผดู้ าเนินการ มกี ารพฒั นาศักยภาพของคน ในชุมชนใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ ใน การตดั สนิ ใจดาเนินกจิ กรรม อยรู่ ว่ มกบั ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างยงั่ ยนื และจาเป็นจะตอ้ งเขา้ ใจหลกั การ ทางานของ การท่องเท่ียวโดยชุมชน ในแง่ความพร้อมของชุมชน และ ประสิทธิภาพในการจดั การ ทอ่ งเทย่ี วชุมช ทส่ี าคญั คอื การพจิ ารณาจากปัจจยั นอกชุมชนทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ไดแ้ ก่ การตลาด นโยบายรฐั ทเ่ี ขา้ มา สนบั สนุน และพฤตกิ รรมของนกั ท่องเทย่ี ว มาเสรมิ ในหลกั ของการทา เพอ่ื กอ่ ใหเ้ กดิ กระบวนการทางาน ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและเขม้ แขง็ และสามารถนาหลกั การน้มี าใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ต่อชุมชนตนเองมากทส่ี ุด Creative Tourism คอื การท่องเท่ยี วเชงิ สรา้ งสรรค์ ท่ีมุ่งให้ความสาคญั ในเร่อื งประสบการณ์ และการมสี ่วนร่วม กบั ผมู้ าเยอื น ในมติ ติ ่างๆ อาทิ การเรยี นรดู้ า้ นศลิ ปะ มรดกทางวฒั นธรรม หรอื ลกั ษณะเฉพาะของพน้ื ท่ี ไมว่ ่าจะเป็น การดารงชวี ติ ประกอบอาชพี อาหาร ความเช่อื การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรค์ เป็นรปู แบบการทอ่ งเทย่ี วทย่ี งั่ ยนื โดยนกั ท่องเทย่ี วจะไดส้ มั ผสั กบั วฒั นธรรมท้องถ่ิน ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม การลงมือทา ท่ีไม่เป็นทางการ และประสบการณ์ท่ี สรา้ งสรรค์ โดยกจิ กรรมดงั กล่าวจดั ขน้ึ แบบ กลุ่มเลก็ จะถูกจดั ขน้ึ ทบ่ี า้ นและสถานทท่ี างานของผสู้ อน ทา ใหน้ ักท่องเท่ยี ว ได้มโี อกาส ค้นหาความรเิ รม่ิ สร้างสรรคภ์ ายในตวั เองและได้ใกลช้ ดิ กบั คนทอ้ งถนิ่ มาก ขน้ึ
การโฆษณาผา่ นปฏิทิน การทาปฏทิ นิ ท่องเทย่ี ว เป็นการโฆษณาอกี รูปแบบหน่ึงทส่ี ามารถนามากาหนดกจิ กรรม ต่างๆ ในแตช่ ว่ งเวลาภายใน1 ปี รวมถงึ การใสร่ ปู สถานทท่ี อ่ งเทย่ี วชุมชนทห่ี น้าสนใจ ในปฏทิ นิ พรอ้ มเขยี นลาย ละเอียด ท่ีท่องเท่ียวในแต่ละเดือนควรเท่ียวท่ีไหน โดยเฉพาะวันหยุดต่อเน่ืองในวันสาคัญๆ นักท่องเท่ยี วส่วนใหญ่ มกั วางแผนท่องเทย่ี วผ่านปฏทิ นิ เพ่อื กาหนดวนั เดนิ ทาง รวมถงึ ระยะเวลาใน การทอ่ งเทย่ี ว แนวคิดการประชาสมั พนั ธท์ างการตลาด การประชาสมั พนั ธข์ องชุมชน เพ่อื สนับสนุนการตลาด เป็นทน่ี ิยมกนั มากในปัจจุบนั เพราะเป็น ยคุ การสอ่ื สารไรพ้ รมแดน และพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคเปลย่ี น อย่างรวดเรว็ จงึ ตอ้ งศกึ ษาพฒั นา และปรบั กล ยุทธใ์ หท้ นั กบั การเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา เพอ่ื ใหท้ นั ตอ่ ความตอ้ งการของกระแสการทอ่ งเทย่ี ว “ เมอ่ื ได้ยิน กจ็ ะลืม เม่อื เหน็ กจ็ ะจาได้ แต่เมื่อลงมอื ทา กจ็ ะเขา้ ใจ ” สภุ าษิตจีน จดั ประเพณีรบั ขวญั นักท่องเท่ียว
ให้นักท่องเที่ยวแต่งกาย แบบชุมชน กาหนดกิจกรรมให้หลากหลาย
การท่องเท่ียวแบบผจญภยั เป็นอีกกิจกรรมท่ีน่าสนใจ ให้ความร้กู บั นักท่องเท่ียว ให้ความร้กู บั นักท่องเท่ียว
กาหนดปฏิทินกิจกรรมของชมุ ชน
ต้นทุนเพ่ือการท่องเท่ียวของ “บ้านปางต้นผงึ้ ” ต้นทนุ ที่ 1 : ท่ีตงั้ ของหมบู่ า้ นมีผลไม้ท่ีหลากหลาย สภาพทางภูมศิ าสตรข์ องบ้านปางต้นผง้ึ ส่วนใหญ่เป็นป่ าเขาท่ยี งั มคี วามสมบูรณ์อยู่มาก ทาให้ บรเิ วณเชงิ เขามคี วามชุ่มช้นื เหมาะในการทาสวนผลไม้ ไดแ้ ก่ ลางสาด ลองกอง ทเุ รยี น กาแฟ อโวคาโด และสตอร์เบอร่ี เป็นต้น อาชีพหลักของคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จึงเป็นชาวสวน และไร่ตามลาดับ นอกจากน้ี ยงั มจี ุดชมววิ ชมธรรมชาตขิ องหม่บู า้ นทอ่ี ย่ใู กลก้ บั วดั ปางตน้ ผง้ึ ต้นทนุ ที่ 2 : แหลง่ โบราณคดี แหล่งโบราณคดปี างตน้ ผง้ึ ตงั้ อยุ่ทางเหนือของสถานีรถไฟปางต้นผง้ึ ประมาณ 500-800 เมตร ในบรเิ วณน้ี พบโบราณวตั ถุอยู่เป็นจานวนมาก เช่น ลูกปัดหนิ มดี สารดิ ขวานสารดิ ลูกปัดสารดิ เศษ ภาชนะดนิ เผา แบบผวิ เรยี บ และแบบผวิ ประทบั ลายต่าง ๆ มี 4 สี คอื สดี า สนี ้าตาล สสี ม้ และสนี วล เน้ือดนิ หยาบ มที รายและแกลบผสม สนั นิษฐานว่าเป็นโบราณวตั ถุสมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ สาเหตุการ พบแหล่งโบราณคดี เน่อื งจาก มกี ารตดั ถนนผา่ น
ต้นทนุ ท่ี 3 : ที่พกั ทพั ปราบกบฏเง้ยี ว พ.ศ. 2446 พวกเงย้ี วก่อการจลาจลทเ่ี มอื งแพร่ โดยมี ประกาหม่องหวั หน้าเงย้ี ว ตงั้ ตนเป็นใหญ่ จบั พระยาสุรราชฤทธานนทข์ า้ หลวงประจามณฑลกบั ขา้ ราชการไทย 38 คนฆา่ แลว้ ยกทพั ลงมาจะยดึ ท่าอดิ กองทพั เมอื งอุตรดติ ถ์ โดยการนาของพระสหี สงคราม ยกทพั ไปตงั้ รบั พวกเงย้ี วทป่ี างออ้ ปางต้น ผงึ้ พระสหี สงคราม ยกไปถงึ เขาพรงึ กพ็ บเงย้ี วยกลงมาดงั คาดไว้ ได้รบกบั เงีย้ วที่ปางต้นผงึ้ ๒ วนั กกั พวกเงย้ี วไวไ้ ด้ พอพวกเงย้ี วรวู้ ่ามกี าลงั เมอื งสวรรคโลกยกขน้ึ ไปเมอื งแพร่ทางขา้ งหลงั อกี กองหน่ึง ก็ พากนั ถอยหนีจาก เขาพรึงกลับไปเมืองแพร่ พระสหี สงคราม รบกับพวกเง้ยี วจนป้องกันเมือง อุตรดติ ถ์ ไวไ้ ดค้ รงั้ นนั้ ปรากฏเกยี รตคิ ณุ ไดร้ บั พระราชทานเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ และเล่อื นบรรดาศกั ดิ ์ เป็นพระยาศรสี รุ ยิ ราชวรานุวตั ิ ทส่ี มุหเทศาภบิ าลมณฑลอุดรธานี
ต้นทุนท่ี 4 : มที างรถไฟผา่ น หม่บู า้ นปางตน้ ผง้ึ มเี สน้ ทางรถไฟสายเหนือผ่าน จงึ มเี ร่อื งราวของการก่อสรา้ ง และเหตุการณ์ การสาคญั ต่างๆ นาเลา่ ขานใหน้ กั ท่องเทย่ี วไดฟ้ ัง - ประวตั กิ ารก่อสรา้ งทางรถไฟ - สถานีรถไฟ - สะพานรถไฟ - อโุ มงคร์ ถไฟ
ความหมายของคาว่า “ผ้ปู ระกอบการชุมชน (Champ) และรูปแบบการจดั ทาโปรแกรม ท่องเที่ยว ของผปู้ ระกอบการชมุ ชน ผปู้ ระกอบการชมุ ชน หมายถงึ ผดู้ าเนนิ กจิ กรรมต่างๆทางเศรษฐกจิ ท่ี เกดิ จากการรวมกลมุ่ ของคนในชุมชน ทงั้ ภาค การเกษตร อุตสาหกรรม บรกิ าร และอน่ื ๆทเ่ี กย่ี วกบั การผลติ การบรโิ ภค และการกระจายผลผลติ ใหค้ น ในชมุ ชนไดม้ สี ว่ นรว่ มในการแก้ปัญหาพน้ื ฐานทางเศรษฐกจิ ของชุมชน ผ้ปู ระกอบการชุมชน ทาหน้าทจ่ี ดั การทุนของชุมชน อย่างสรา้ งสรรค์ ทงั้ ทุนมนุษย์ ทุนทรพั ยากร และ ทุนทางสงั คมทม่ี อี ยู่ เพอ่ื ปรบั ปรุงคณุ ภาพความเป็นอยู่ ของคนในชุมชนใหด้ ขี น้ึ นาไปสกู่ ารพฒั นาใหเ้ กดิ ความร่วมมอื และความเขม้ แขง็ ในชุมชน ซ่งึ ต่างจากวสิ าหกจิ ชุมชนท่ตี ้องทาการข้นึ ทะเบยี น (กลุ่มผู้ ประกอบกจิ การของชมุ ชนทถ่ี กู คดั เลอื ก) แค่เปล่ียน กท็ าให้น่าสนใจ เปล่ียนมุมมองธรรมชาติส่ิงแวดลอ้ ม
เปล่ียนสถานที่ทางานฝี มือจากในบ้านส่พู ื้นท่ีสาธารณะ
เปลี่ยนการเลา่ เรอื่ งธรรมดาๆ ด้วย ภาพประกอบ เปล่ียนอปุ กรณ์เป็นวสั ดธุ รรมชาติขวดพลาสติก สู่กระบอกไมไ้ ผ่
ภมู ิปัญญา วฒั นธรรม และประเพณี
ผ้ปู ระกอบการชุมชน มหี น้าท่ขี บั เคล่อื นเศรษฐกิจภายในชุมชน บนพ้นื ฐานของการใช้องค์ ความรู้ การศึกษา การสร้างสรรค์งาน และการใช้ทรพั ย์สินทางปัญญา ท่ีเช่ือมโยงกบั รากฐานทาง วฒั นธรรม การสงั่ สมความรู้ของสงั คม และเทคโนโลยหี รอื นวตั กรรมสมยั ใหม่ ซ่ึงสามารถนาไปใช้ ประโยชน์ในการสรา้ งความมงั่ คงั่ และสรา้ งงาน ใหเ้ กดิ ขน้ึ ไดโ้ ดยทส่ี ามารถสัง่ สม และสง่ ผ่านจากรุ่นเก่า สรู่ ่นุ ใหม่
สินค้าอปุ โภคบริโภค (Consumer product) เป็นสนิ คา้ ทใ่ี ชก้ นิ หรอื สาหรบั ร่างกาย โดยจาแนก ออกเป็นกลุม่ ดงั น้ี สนิ คา้ สะดวกซอ้ื สนิ คา้ เลอื กซอ้ื สนิ คา้ เจาะจงซอ้ื และสนิ คา้ ไมแ่ สวงซอ้ื 1. สินค้าสะดวกซื้อ หมายถงึ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทผ่ี ู้ บรโิ ภคจะต้องซอ้ื บ่อยๆ โดยเป็นสนิ คา้ ทใ่ี ช้ ในชวี ติ ประจาวนั ทุกวนั เชน่ ผกั ผลไม้ อาหารแปรรปู สบู่ ยาสระผม ยาสฟี ัน ฯลฯ โดยมคี วามถข่ี องการ ซอ้ื สนิ คา้ เป็นจานวนมากตอ่ วนั และราคาขายอย่ใู นระดบั ต่า - ปานกลาง 2. สินค้าเลือกซื้อ หมายถงึ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทผ่ี บู้ รโิ ภคต้องมกี ารเปรยี บเทยี บคุณสมบตั ดิ ้าน ต่าง ๆ จากผู้ขายหลายรายก่อนซ้อื เช่น เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า อาหารเสรมิ สนิ คา้ บารุงร่างกาย ฯลฯ โดยมี ความถข่ี องการซอ้ื สนิ คา้ ในระดบั ปานกลาง และราคาทข่ี ายในระดบั ปานกลาง – สงู
3. สินค้าเจาะจงซื้อ เป็นสนิ คา้ หรอื บรกิ ารทม่ี ลี กั ษณะเป็นเอกลกั ษณ์ หรอื มตี ราทม่ี ชี ่อื เสยี ง ซง่ึ เป็นเหตุใหผ้ ซู้ ้อื เตม็ ใจทจ่ี ะซ้อื สนิ คา้ นนั้ เช่น โทรศพั ทส์ มารท์ โฟน สนิ คา้ แบรนดเ์ นม สนิ คา้ ประจาตาบล เคร่อื งนุ่งห่มทม่ี เี อกลกั ษณ์ โดยมคี วามถ่ขี องการซ้อื สนิ คา้ ระดบั ปานกลาง และราคาทข่ี ายไดอ้ ย่ใู นระดบั ปานกลาง – สงู 4. สินค้าไม่แสวงซื้อ เป็นสนิ คา้ หรอื บรกิ ารทผ่ี บู้ รโิ ภคอาจรจู้ กั หรอื ไม่รจู้ กั กไ็ ด้ แต่ไม่เคยคดิ ท่ี จะซอ้ื มลี กั ษณะ 2 ประการคอื (1) เป็นสนิ คา้ ใหม่ทผ่ี บู้ รโิ ภคยงั ไมร่ ูจ้ กั (2) สนิ คา้ ซง่ึ ผบู้ รโิ ภคไม่มคี วามตอ้ งการ โดยสนิ คา้ ประเภทน้ีจะมลี กั ษณะเฉพาะ โดยมคี วามถ่ขี องการซอ้ื สนิ คา้ ระดบั ต่า และราคาทข่ี าย อยใู่ นระดบั ราคาเฉพาะตวั หรอื สงู กว่าปกตทิ วั่ ไป ดงั นัน้ ผู้ประกอบการชุมชนจะต้องพจิ ารณา “สินค้า” ว่าจดั อยู่ในกลุ่มใด เพ่อื ประเมินระดบั ความถข่ี องการซอ้ื สนิ คา้ และการตงั้ ราคาทเ่ี หมาะสมกบั สนิ คา้ นนั้ ๆ ได้ ตวั อยา่ งการผลิตสินค้าของผปู้ ระกอบการชุมชนโดยนักท่องเที่ยวสามารถลงมือปฏิบตั ิได้ ท่องเท่ียวชุมชน
การจดั กิจกรรมแบบกระจายท่ีผบู้ ริโภค หรือ นักท่องเที่ยวได้ลงมือปฏิบตั ิด้วยตอนเอง การจดั กิจกรรมแบบกระจายที่ผบู้ ริโภค หรอื นักท่องเท่ียวได้ลงมอื ปฏิบตั ิด้วย ตอนเอง ท่องเที่ยวชุมชน
การทาทเุ รียนกวน วิธีการทาทเุ รียนกวน 1.เตรยี มเน้อื ทุเรยี นสาหรบั กวน โดยเลอื กเฉพาะลูกทส่ี ุกงอมจดั ซง่ึ สามารถสงั เกตจากรอยแยก ปรขิ องเปลอื กทเุ รยี น และเน้ือน่มิ เหลว แกะเอาเฉพาะเน้ือทุเรยี นเทา่ นนั้ ในสว่ นเน้อื สขี าวทต่ี ดิ กบั เมด็ ไม่ เอามาผสม เพราะจะทาใหเ้ น้อื ทเุ รยี นทก่ี วนเสรจ็ แลว้ แขง็ เป็นกอ้ น ๆ ในขนั้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถออกไปเกบ็ ทเุ รียนป่ าท่ีหล่นลงมา กบั ชาวบา้ นได้ด้วย ในขนั้ ตอนน้ี ควรใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ทม่ี าของทเุ รยี น : เกดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่างไร ใครนามาปลกู ช่อื พนั ธอุ์ ะไร ฯลฯ เปิดโอกาสใหน้ กั ท่องเทย่ี ว ไดร้ ่วมสมั ผสั กจิ กรรมเกบ็ ทุเรยี น การไดร้ บั ประทานทุเรยี นสด ๆ ในสวนของ นักท่องเทย่ี ว เป็นประสบการณ์ทป่ี ระทบั ใจ ซ่งึ นักท่องเท่ยี ว ยากทจ่ี ะเกบ็ ประสบการณ์เอาไว้คนเดยี ว และโพสเล่าเร่อื งราวความประทบั ใจใหเ้ พอ่ื นๆ รบั รู้ ผ่านสอ่ื โซเชยี ลมเี ดยี วต่างๆ 2.นาทุเรยี นทแ่ี กะเมด็ แลว้ ไปชงั่ น้าหนกั โดยใชส้ ดั สว่ น เน้อื ทเุ รยี น 1 กโิ ลกรมั ต่อ น้าตาลทราย 4 ชอ้ นโตะ๊ แต่ถา้ หากตอ้ งการใหท้ ุเรยี นกวน มรี สหวานจดั ใหใ้ ชอ้ ตั ราสว่ นเน้อื ทุเรยี น 1 กโิ ลกรมั ตอ่ น้าตาล ทราย 200 กรมั
3.ใสท่ ุเรยี นพรอ้ มน้าตาลทรายทผ่ี สมกนั ลงกะทะทแ่ี หง้ สนิท แลว้ กวนดว้ ยไฟอ่อน ๆ เพ่อื ไม่ให้ ทุเรยี นไหม้ การกวนในระยะแรก อาจมกี ารกระเดน็ ของทเุ รยี นทม่ี นี ้าปนอยู่ 4.วธิ กี วนทุเรยี นต้องระวงั อย่าใหเ้ น้ือทุเรยี นตดิ กระทะนานเกนิ ไป เพราะจะทาใหไ้ หมไ้ ด้ เม่อื เน้ือทุเรยี นใกล้แหง้ ใหห้ าก้อนหนิ หรอื ก้อนอฐิ ผูกลวดนามามดั ตดิ กบั หูกระทะเพ่อื ถ่วงไม่ให้กระทะหก หรอื เอยี งเน่ืองจากเน้ือทุเรยี นจะเรม่ิ มคี วามเหนียว ในช่วงน้ีห้ามหยุดกวนเพราะจะทาให้ทุเรยี นไหม้ได้ ง่าย กวนจนกว่าเน้ือทุเรยี นจะแหง้ สนิท โดยสงั เกตจากการทเ่ี น้ือทุเรยี นเรม่ิ มนั ท่ี ผวิ และใชส้ อ้ มจ้มิ เน้ือ ทุเรยี นหากไม่มเี น้อื ทเุ รยี นตดิ สอ้ มขน้ึ มาจงึ ยกขน้ึ ทง้ิ ไวใ้ หเ้ ยน็ เพอ่ื บรรจกุ ลอ่ งต่อไป 5.การบรรจุทุเรยี นกวน ต้องระมดั ระวงั ความสะอาดและความช้นื วสั ดุท่ใี ช้บรรจุ ต้องแห้งสนิท การจบั เน้ือทุเรยี นให้สวมถุงพลาสตกิ ก่อนเพ่อื ป้องกนั ความช้นื จากมอื หรอื วสั ดุท่ใี ช้ตกั ซ่งึ เป็นสาเหตุ ของการเกดิ ราขน้ึ ในการบรรจุ เน้ือทุเรยี นกวน ควรอดั ใหแ้ น่นอย่าใหเ้ กดิ ทว่ี ่าง เพราะจะทาใหเ้ กดิ ราได้ เชน่ กนั
ค้นหาผ้ปู ระกอบการชุมชน (Champ) เพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์ และโปรแกรมการท่องเที่ยว ตามแนวทาง D-HOPE - แบ่งกลุ่มเขียนเรื่องราวของผลิตภณั ฑ์ หรือ สินค้า ภายในชมุ ชน หรอื หมู่บ้าน - เครื่องมือ 7 ชิ้น ในการสร้างโปรแกรมการท่องเที่ยว ตามแนวทาง D-HOPE ในแหล่ง เรียนรชู้ มุ ชน
1. แผนที่เดินดิน แผนท่เี ดินดินเป็นเคร่อื งมอื ช้นิ แรก ท่สี าคญั และเหมาะท่ีจะเป็นบันไดขนั้ แรกของการศึกษา ชุมชน เพราะ ทาใหเ้ หน็ ภาพรวมของชุมชนได้อย่างครบถ้วน ขอ้ มูลมคี วามน่าเช่อื ถอื มากทส่ี ุดเพราะ ไดม้ าจากการสงั เกตดว้ ยตวั เอง ทาใหเ้ หน็ กล่มุ เป้าหมายทจ่ี ะทางานตอ่ ได้ อย่างครอบคลุมและทวั่ ถงึ
2. ผงั เครือญาติ เป็นการใช้สญั ลกั ษณ์แสดงตวั บุคคล และความ สมั พนั ธ์ระหว่างบุคคลในระบบเครอื ญาติ มี ประโยชน์สาคญั คอื ช่วยใหเ้ ขา้ ใจโครงสร้างความสมั พนั ธ์เชงิ เครอื ญาติ ทแ่ี ม้จะมคี วามซบั ซ้อน หลาย ตระกลู กย็ งั สามารถสบื สาวเชอ่ื มโยงกนั ไดด้ ว้ ยแผนผงั ทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย
3. โครงสรา้ งองคก์ รชุมชน การรู้จกั และเขา้ ใจโครงสรา้ งองคก์ รชุมชน ทงั้ ท่เี ป็นทางการและไม่เป็นทางการ จะช่วยใหเ้ รา เห็นความสมั พนั ธ์ในชุมชนว่าคนกลุ่มไหน มีบทบาทต่อชุมชนเชิงการเมอื ง เศรษฐกิจ และสงั คม มี ความสมั พนั ธท์ เ่ี ป็นมติ รหรอื ขดั แยง้ กบั กลมุ่ ไหนบา้ ง ชว่ ยใหเ้ ราจดั การความสมั พนั ธข์ องเรากบั ชุมชนได้ องคก์ ารชุมชนจงึ เป็น “ทุนทางสงั คม” ทส่ี าคญั ในการแกป้ ัญหาและการสรา้ งชมุ ชนทเ่ี ขม้ แขง็
4. ระบบสขุ ภาพชุมชน ทาใหเ้ หน็ “โลกสุขภาพ” ของชาวบา้ น คอื เหน็ ภาพรวมของระบบสุขภาพทส่ี ามารถเช่อื มโยงกบั มิติต่าง ๆ ของชุมชน เห็นความหลากหลายของวัฒนธรรมสุขภาพท่ีดารงอยู่ในชุมชน เข้าใจถึง วฒั นธรรมความเชอ่ื วธิ ปี ฏบิ ตั ิ และพฤตกิ รรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สขุ ภาพของทอ้ งถน่ิ
5. ปฏิทินชุมชน ทาใหเ้ ขา้ ใจวถิ ชี ุมชน ซ่งึ หมายถงึ แบบแผนกจิ กรรมเหตุการณ์รวมทงั้ ประเพณีปฏบิ ตั ขิ องชุมชน ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในรอบปี หรอื แต่ละฤดกู าล ทาใหเ้ ขา้ ใจถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกจิ กรรมหรอื เหตกุ ารณ์ต่างๆ ท่ี เกดิ ขน้ึ ในชุมชน ทาให้สามารถวางแผนการทางาน กบั ชุมชนได้ดีข้นึ เพราะจะทาให้จดั ตารางการทางาน ท่ี สอดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ชมุ ชนได้ สามารถปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและถกู จงั หวะเวลา ประเพณีงานบุญ 12 เดือน ไทยพวน ปฏิทินการเพาะปลกู ของชมุ ชน
ปฏิทินกิจกรรมทางวฒั นธรรมประเพณี
6.ประวตั ิศาสตรช์ มุ ชน เป็นการทาความเขา้ ใจมติ ิ ทางประวตั ศิ าสตรข์ องชุมชน สาคญั ต่องานชุมชน เพราะชมุ ชนมสี ว่ น คลา้ ยกบั บุคคลตรงทม่ี คี วามคดิ เหน็ และมคี วามรสู้ กึ การศกึ ษาประวตั ศิ าสตรช์ ุมชนเหมอื นกบั การได้ เขา้ ใจคนคนหน่ึงวา่ เขามคี วามเป็นมาอย่างไร เตบิ โตมาในครอบครวั แบบไหน เคยประสบกบั อะไรมาบา้ งในชวี ติ ทาใหเ้ ราเขา้ ใจคนคนนัน้ ไดด้ ี ประวตั ศิ าสตรช์ ุมชนกเ็ ช่นเดียวกนั การเขา้ ใจเร่อื งราวความเป็นมาเป็นไปของสง่ิ ต่างๆ ในชุมชน ทาให้ เราสามารถเลอื กวธิ กี ารทางานกบั ชุมชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ประสบการณ์ ความคาดหวงั และศกั ยภาพของ ชมุ ชนไดด้ ขี น้ึ
Search