Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-Book คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน Rev.00

E-Book คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน Rev.00

Published by kamonchanok Promsri, 2021-09-14 07:46:53

Description: E-Book คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน Rev.00

Search

Read the Text Version

บรษิ ัท ไบนารี่ เพาเวอร์ เอ็นจิเนยี ริง่ จากัด คู่ มื อ ความ ป ล อ ด ภั ย ในการทางาน

บญั ญตั ิ 10 ประการ สารบัญ นโยบายความปลอดภยั เก่ียวกบั ความปลอดภยั 2 คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เร่ืองความปลอดภัย สาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั ิเหตุ 3 และการเจ็บป่วยจากการทางาน 6 การสูญเสยี เนอ่ื งจากการเกิดอุบัติเหตุ 7 กฎกระทรวง 8 หมวด 1 ความรอ้ น 9 หมวด 2 แสงสวา่ ง หมวด 3 เสียง 10 หมวด 4 อุปกรณ์ 10 การป้องและระงับเหตุการเกิดอัคคภี ยั คุ้มครองความปลอดภัยสว่ นบุคคล 11 12 ความปลอดภัยในสานักงาน ความปลอดภัยในการ 13 เคลื่อนย้ายของหนกั ด้วยมือ 15 ความปลอดภัยในการทางาน 16 เกย่ี วกบั ไฟฟา้ ความปลอดภยั ในการ 17 ความปลอดภัยในการใช้ ทางานเกี่ยวกบั สารเคมี 19 งานนัง่ รา้ น 21 ความปลอดภัยในการทางานสาหรบั ความปลอดภยั 23 ผูร้ บั เหมา ในการทางานบนทส่ี งู 25 27 ความปลอดภัยในการใชง้ าน 29 Personnel Lift แนวทางการใช้ Hand Lift อยา่ งปลอดภยั การปฐมพยาบาล

ค คำนำ ประกาศ บรษิ ทั ไบนาร่ี เพาเวอร์ เอน็ จเิ นียรง่ิ จากดั เลขท่ี 009/2562 คำนำ เร่อื ง นโยบายความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ความปลอดภยั ในการทางานถอื เป็นหนา้ ท่ขี องทุกคนในบริษทั ฯ ตง้ั แต่ผูบ้ ริหารระดบั สูงไปจนถงึ พนกั งานทกุ คน ทต่ี อ้ งร่วมใจกนั สรา้ งและธารงรกั ษาไวซ้ ่งึ สภาพการทางานทป่ี ลอดภยั ดว้ ย บริษทั ไบนาร่ี เพาเวอร์ เอน็ จเิ นียร่งิ จากดั มคี วามห่วงใยต่อชีวติ และสุขภาพของพนกั งาน ดงั นน้ั จงึ เห็นสมควรใหม้ กี ารดาเนินงานดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการ บริษทั ไบนาร่ี เพาเวอร์ เอน็ จเิ นยี ร่งิ จากดั ตระหนกั ถงึ ความรบั ผดิ ชอบและความสาคญั ในดา้ น ทางานควบคู่ไปกบั หนา้ ทป่ี ระจาของพนกั งาน จงึ ไดก้ าหนดนโยบาย ดงั น้ี น้ี จึงจดั ใหม้ โี ครงสรา้ ง และการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการ ทางาน อีกทง้ั จดั ใหม้ แี ผนการดาเนินงานครอบคลุมทุกๆ ดา้ น เช่น การตรวจสอบความปลอดภยั ฯ 1. บริษทั ฯ ดาเนินการพมั นา ปรบั ปรุงระบบการจดั การอาชีวอนามยั และความปลอดภยั อย่าง การฝึกอบรม การปฏบิ ตั ิตามกฎหมายความปลอดภยั เป็นตน้ ต่อเน่ือง โดยมกี ารปฏติ งิ านทส่ี อดคลอ้ งกบั ขอ้ กาหนดของกฎหมาย กฎระเบยี บทเ่ี ก่ยี วขอ้ งของทางราชการ และขอ้ กาหนดอน่ื ๆของลูกคา้ อย่างเคร่งครดั คู่มอื ความปลอดภยั ฉบบั น้ถี อื วา่ เป็นส่วนหน่งึ ของขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยการทางาน ขอใหพ้ นกั งานทุก คนไดต้ ระหนักและเรียนรูท้ าความเขา้ ใจใหถ้ ่องแท้ หากมีขอ้ สงสยั ใหส้ อบถามหัวหนา้ งาน 2. บรษิ ทั ฯ ม่งุ มนั่ พฒั นาบคุ ลากรอย่างต่อเน่ือง ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทศั นคตทิ ด่ี ี มสี ว่ นร่วมต่อ ผูบ้ งั คบั บญั ชา เพอ่ื ความกระจ่างชดั เจนย่งิ ข้นึ และสามารถนาไปปฏบิ ตั ิไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง อนั จะนามาซ่งึ การดาเนินการความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน มจี ติ สานึกและตระหนกั ใน ความปลอดภยั ของตวั พนกั งานเอง ความรบั ผดิ ชอบต่อความปลอดภยั จดั ทาโดย 3. บรษิ ทั ฯ ใหก้ ารสนบั สนุนและจดั สรรทรพั ยากรใหเ้พยี งพอและเหมาะสมต่อการดาเนินงานดา้ น คณะกรรมการความปลอดภยั ฯ ความปลอดภยั เพอ่ื ใหบ้ รรลนุ โยบาย ดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ผูอ้ นุมตั ิ ประกาศ ณ วนั ท่ี 7 มกราคม พ.ศ. 2562 (คณุ ศกั ดา โพธ์ปิ ระดษิ ฐ)์ (คุณวชิ ยั เอย่ี มดนยั ) ประธานกรรมการผูแ้ ทนนายจา้ งระดบั บรหิ าร กรรมการผูจ้ ดั การ 6 กนั ยายน 2564 แกไ้ ขครง้ั ท่ี 00 2 1

10 บัญญัติเกยี่ วกับ ข้อที่ 6 “ความปลอดภัย” สวมอุปกรณ์ PPE และรกั ษาให้อยูใ่ นสภาพที่ใช้ไดเ้ สมอ ปฏบิ ัตติ ามกฎ ขอ้ บังคับ เครื่องหมาย และคาสอน โดยเครง่ ครัด อย่าเสี่ยง ถ้าไมร่ จู้ งถามผูร้ ู้ ข้อที่ 7 ดแู ลรักษาเครื่องมือ เครื่องจักรใหอ้ ยูใ่ นสภาพเรียบร้อย ข้อที่ 1 ข้อที่ 8 แจง้ หรือรายงานสภาพที่ไมป่ ลอดภัย การยกของหนัก ต้องมีคนช่วย และยกให้ถูกวธิ ี ในบริษทั ทันทีที่พบ ข้อที่ 9 ข้อที่ 2 ห้ามหยอกล้อ หรือกวนใจผู้อื่น ขณะปฏิบัตงิ าน ชว่ ยกันระวงั รักษาทุกสงิ่ ทุกอย่างให้สะอาด ข้อที่ 10 เรียบร้อยและปลอดภัย เชื่อฟงั กฎ ข้อบงั คับ เครือ่ งหมาย และคาแนะนา ข้อที่ 3 เกี่ยวกับความปลอดภัยในบรษิ ัท ใช้เครื่องมือทีถ่ ูกตอ้ งในวิธีท่ปี ลอดภัย ข้อที่ 4 4 รายงานความบาดเจ็บท้งั หมดทีเ่ กิดข้นึ และมีการรกั ษาพยาบาลทเ่ี หมาะสมทันที 3 ข้อที่ 5

คำศพั ท ์ เกยี่ วกบั เรอื่ ง ควำมปลอดภยั Incident อุบัตกิ ารณ์ เห ตุ ก า รณ์ ท่ีไ ม่พึงป ร ะ ส ง ค์ เกดิ ขน้ึ แลว้ มผี ลใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตุ ห รือ อ า จ ห ม า ย ถึ ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ เกอื บเกดิ อุบตั เิ หตุ Accident อบุ ัตเิ หตุ เหตุการณ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงคท์ ่อี าจเกดิ จากการท่ไี ม่ได้คาดคิดไว้ล่วงหน้า แต่เม่อื เกิดข้นึ แล้วมผี ลให้เกิดการ บาดเจ็บ หรือการเสียชีวิต หรือ 5 ความสญู เสยี ต่อทรพั ยส์ นิ 6

สาเหตขุ องการเกดิ 1.การสญู เสยี ทางตรง เปน็ ผลกระทบทเ่ี กดิ กบั อุบัตเิ หตแุ ละการเจบ็ ปว่ ย รา่ งกายและทรพั ทยส์ นิ ท่เี กยี่ วกบั ผไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ โดยตรง 1จากการทางาน ผปู้ ฏบิ ตั งิ านขาดความตระหนกั ในเรอ่ื งความปลอดภยั มพี ฤตกิ รรมในการ ไดร้ บั บาดเจบ็ พกิ าร หรอื เสยี ชวี ติ อปุ กรณ์ เคร่อื งมอื เคร่อื งจกั ร หรอื ทรพั ยส์ นิ เสยี หาย 2 ทางานไม่เหมาะสม เช่น หยอกลอ้ กนั ใชเ้ ครอ่ื งมอื ในการทางานไมถ่ ูกตอ้ ง ไดค้ า่ รกั ษาพยาบาล เครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั รทใ่ี ชช้ ารุด การใชเ้ คร่อื งมอื ไมเ่ หมาะสมกบั ประเภทของงานหรอื ปราศจาก คา่ ทาขวญั 3อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตราย รวมถงึ ไม่มกี ารบารงุ รกั ษาเครอ่ื งมอื ตามระยะเวลาทก่ี าหนด ค่าทาศพ มกั เกดิ กบั บคุ คลทเ่ี ขา้ มาทางานใหมข่ าดความรคู้ วามเขา้ ใจในกระบวนการ 2.การสูญเสยี ทางออ้ ม 4 ปฏบิ ตั งิ านและการทางานของเครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั ร สภาพจติ ใจของผปู้ ฏบิ ตั งิ านไมอ่ ยใู่ นสภาวะปกติ ขาดความตงั้ ใจในการทางาน เป็นผลกระทบดา้ นอนื่ ๆ ไมส่ ามารถควบคุมอารมณ์ในขณะทางานได้ เช่น ต่นื เตน้ ง่าย ตกใจงา่ ย เป็นตน้ สญู เสยี เวลาการทางานของผบู้ าดเจบ็ 5 สภาพรา่ งกายของผปู้ ฏบิ ตั งิ านขาดความพรอ้ มในการทางาน เช่น อ่อนเพลยี สญู เสยี ขวญั กาลงั ใจในการทางาน สญู เสยี เวลาในการจดั หาบุคลากรมาทางาน 6 เม่อื ยลา้ ขาดการพกั ผอ่ นทเ่ี พยี งพอ หรอื มโี รคประจาตวั คา่ ใชจ้ า่ ยในการซอ่ มแซมเครอ่ื งจกั ร สภาพแวดลอ้ มในฏบิ ตั งิ านทไ่ี มเ่ หมาะสมไมป่ ลอดภยั เช่น แสงสวา่ งไม่เพยี งพอ สนิ คา้ ไดร้ บั ความเสยี หาย 7 หรอื สง่ิ ของกดี ขวางทางเดนิ กระบวนการผลติ ขดั ขอ้ ง 8

กฎกระทรวง หมวด 1 ความรอ้ น กำหนดมำตรฐำนในกำรบริหำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำน ควำมปลอดภัย อำชีวอนำมัยและสภำพแวดล้อมในกำร ลกั ษณะงำน กำรเผำผลำญอำหำร ในร่ำงกำย ระดบั ควำมร้อน (WBGT) ทำงำนเกีย่ วกับควำมรอ้ น แสงสวำ่ ง และเสยี ง พ.ศ. 2559 งำนเบำ กิโลแคลอร่ี/ชว่ั โมง ไม่เกินคำ่ เฉลย่ี องศำเซลเซียส งำนปำนกลำง ลักษณะการทางาน งำนหนัก น้อยกว่ำ 200 34 “งานเบา” คอื ลกั ษณะงานทใ่ี ชแ้ รงน้อยหรอื ใช้ 200 – 350 32 กาลงั งานทท่ี าใหเ้ กดิ การเผาผลาญอาหาร ในร่างกาย มำกกวำ่ 350 30 ไม่เกิน 200กิโลแคลอรีต่อชัว่ โมง เช่น งานเขียน หนงั สอื • นำยจ้ำงต้องจัดให้สถำนประกอบกิจกำรมีควำมเข้ม ข อ ง แ ส ง ส ว่ ำ ง ใ ห้ เ พี ย ง พ อ ต่ อ ก ำ ร ท ำ ง ำ น ไ ม่ ต่ ำ ก ว่ ำ “งานปานกลาง” คือ ลักษณะงานท่ีใช้แรง มำตรฐำนตำมกระทรวงตลอดระยะเวลำกำรทำงำน ปานกลางหรอื ใช้กาลงั งานท่ที าให้เกิดการเผาผลาญ • ในกรณีทล่ี กู จ้ำงตอ้ งทำงำนในสถำนที่มดื ทึบ และคับ อาหารในร่างกายเกิน 200 กิโลแคลอรตี ่อชวั่ โมง ถึง แคบ เชน่ ในถ้ำ อุโมงค์ นำยจำ้ งต้องจัดให้มีอุปกรณ์ 350 กโิ ลแคลอรตี ่อชวั่ โมง เช่น งานยก ลาก ดนั สอ่ งแสงสวำ่ งติดอยู่ในพ้ืนทท่ี ำงำนหรอื ติดท่ตี วั บุคคล ได้ “งานหนัก” คือ ลกั ษณะงานท่ีใช้แรงมากหรอื ใช้ 10 กาลงั งานท่ที าให้เกดิ การเผาผลาญอาหารในร่างกายเกิน ๓๕๐ กิโลแคลอรตี ่อชวั่ โมง เช่นงานยก หรอื เคล่อื นย้าย ของหนกั ขน้ึ ทส่ี งู หรอื ทล่ี าดชนั 9

หมวกนริ ภยั (Safety Helmet) ใชส้ าหรบั ป้องกนั ศรี ษะทเ่ี กดิ จาก การกระแทก ปลกั๊ ลดเสยี ง ถุงมอื นริ ภยั (Ear Plugs) (Safety Gloves) ใชส้ าหรบั ป้องกนั หจู ากการรบั สมั ผสั ใชส้ าหรบั ป้องกนั มอื จากของมคี ม เสยี งทด่ี งั มากกว่าปกติ ความรอ้ น การสมั ผสั สารเคมที ่ี อาจระคายเคอื งหรอื บาดเจบ็ ได้ หมวด 3 ➢ นายจา้ งต้องควบคุมระดบั เสยี งทล่ี ูกจา้ งไดร้ บั เฉล่ียตลอดเวลา แวน่ ตานริ ภยั รองเทา้ นริ ภยั เสยี ง การทางานในแต่ละวนั มใิ หเ้ กนิ มาตรฐานตามทอ่ี ธบิ ดีประกาศ (Safety Shoes) กาหนด (Safety Glasses) 11 ใชส้ าหรบั ป้องกนั อนั ตรายจาก ➢ ในบรเิ วณท่มี รี ะดบั เสยี งเกนิ มาตรฐานท่กี าหนดนายจ้างต้อง ใชส้ าหรบั ป้องดวงตาจากเศษฝ่นุ การทางานในพน้ื ทเ่ี สย่ี งต่อการ จดั ใหม้ เี ครอ่ื งหมายเตอื นใหใ้ ชอ้ ุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั สารเคมที อ่ี าจโดนดวงตา กระแทกหรอื สงิ่ ของทม่ี นี ้าหนกั ตกใสเ่ ทา้ สว่ นบุคคลตดิ ไวใ้ หล้ กู จา้ งเหน็ ไดโ้ ดยชดั เจน ขณะปฏบิ ตั งิ านได้ หมวด 4 ➢ ในกรณีท่สี ภาวะการทางานในสถานประกอบกจิ การมรี ะดบั เสียงท่ลี ูกจ้างได้รบั เฉล่ยี ตลอดระยะเวลาการทางานแปด เขม็ ขดั นริ ภยั ชนดิ เตม็ ตวั อุปกรณ์คุ้มครอง ชวั่ โมงตงั้ แต่ 85 dB(A) ขน้ึ ไป นายจา้ งตอ้ งจดั ใหม้ มี าตรการ ความปลอดภัย อนุรกั ษ์การไดย้ นิ (Full body Harness) ส่วนบุคคล ใชส้ าหรบั การทางานบนทส่ี งู 12 เพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ หผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ าน ตกลงมาดา้ นล่าง

การป้อง องคป์ ระกอบของไฟ ประเภทของถงั ดบั เพลิง และระงบั เหตกุ ารเกดิ อคั คภี ยั ไฟ คือ ปฏิกริ ิยาทางเคมีระหว่างเชอ้ื เพลิง ความรอ้ น 1. ชนิดผงเคมีแหง้ (Dry Chemical) ขอ้ เสีย คือ เมอ่ื ฉีดออกมาจะฟ้ ุงกระจาย และเมื่อเรา 13 และออกซิเจน ไฟจะเกดิ ขนึ้ เม่ือมี 3 อย่างนี้พรอ้ มๆ กนั ถา้ ทาการฉีดแลว้ แรงดนั จะตก ไมส่ ามารถใชง้ านไดอ้ ีก 2. ชนิดน้ำยำเหลวระเหย (Halotron) ขาดอย่างใดอยา่ งหนงึ่ ไฟจะเกดิ ขนึ้ ไมไ่ ด้ ไมม่ กี ลิน่ ไมต่ ดิ ไฟ ไมเ่ ป็ นสอื่ นาไฟฟ้ า เมอ่ื ฉีดออกจะ เป็ นไอระเหยสีขาว และจะระเหยไปเอง ไฟ แบง่ ออกเป็ น 4 ประเภท คือ 3. ชนิดเคมีสตู รน้ำ (Water Mist) สารเคมจี ะเป็ นนา้ ยาชอื่ ว่า “ABFFC” ทีใ่ ชส้ าหรบั การ 1.ไฟประเภท A ดบั ไฟไดด้ ี ไมเ่ ป็ นสอ่ื นาไฟฟ้ า เป็ นไฟทีเ่ กดิ จากเชอื้ เพลิง เชน่ ไม้ กระดาษ ผา้ ยาง และ 4. ชนิดกำ๊ ซคำรบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) พลาสตกิ บรรจกุ า๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ฉีดออกมาจะเป็ นไอเย็น 2.ไฟประเภท B จดั คลา้ ยนา้ แข็งแหง้ ลดความรอ้ นของไฟได้ เป็ นไฟท่ีเกดิ จากเชอ้ื เพลิงเหลวตดิ ไฟ เชน่ นา้ มนั เบนซิน 5. ชนิดโฟม นา้ มนั ดเี ซล, สี, สารละลาย ฉีดออกมาจะเป็ นฟองโฟมคลมุ ผวิ เชอื้ เพลิงทล่ี กุ ไหม้ 3.ไฟประเภท C 6. ชนิดน้ำผสมแรงดนั (Water gas) เป็ นไฟทีเ่ กดิ จากเชอ้ื เพลิงทมี่ กี ระแสไฟฟ้ า ใชน้ า้ อดั ใส่ถงั ดบั เพลิงสะสมแรงดนั เพอื่ ใหฉ้ ีดออกมา 4.ไฟประเภท D ไดแ้ รงดนั ท่เี พ่ิมขนึ้ เป็ นไฟทเ่ี กดิ จากเชอ้ื เพลิงท่ีเป็ น โลหะลกุ ตดิ ไฟ 5.ไฟประเภท K เป็ นไฟท่ีเกดิ จากเชอื้ เพลงิ นา้ มนั ทาอาหาร นา้ มนั พืช นา้ มนั จากสตั ว์ “จากประเภทของเครื่องดบั เพลงิ ท่ีกลา่ วมาขา้ งตน้ สามารถสรปุ ” ประเภทของเพลงิ ท่ีเคร่อื งดบั เพไฟลงิ เปป็นระปเฏภกิทริตยิ า่ างทๆางสเคามมีราะรหถวด่างบั เไชด้อื ้ ดเพงั ลแิงสคดวงาในมรตอ้ านราแงละออกซเิ จน ไฟจะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื มี 3 อยา่ งนีพ้ ร้อม ๆ กนั ถ้าขาดอยา่ งใดอย่างหน่ึงไฟจะเกิดข้นึ ไมไ่ ด้ ประเภทเครอื่ งดบั เพลงิ ประเภทของเพลงิ ประเภท E ประเภท A ประเภท B ประเภท C ประเภท D ชนิดผงเคมแี หง้ ชนดิ นำ้ ยำเหลวระเหย องคป์ ระกอบของไฟ ชนิดเคมสี ตู รนำ้ ชนดิ กำ๊ ซคำรบ์ อนไดออกไซด์ ชนิดโฟม ชนิดนำ้ ผสมแรงดนั 14

ความปลอดภยั ในการ กฎที่ต้องปฏิบัติ เคลือ่ นย้ายของหนกั ดว้ ยมือ 1) เมื่อขึน้ หรอื ลงบันไดบนั ได ใหเ้ ดินดว้ ยควำมระมดั อย่ำวง่ิ และจบั รำว บนั ไดไวเ้ พื่อชว่ ยให้ปลอดภัยยิง่ ข้นึ กำรขนย้ำยวัสดุที่ดีที่สุดคือ ไม่ต้องมีกำรขนย้ำยวัสดุ ใดๆเลยหำกงำนขนย้ำยยังจำเป็ นต้องมีอยู่ ให้พิจำรณำ 2) เมื่อนัง่ เกำ้ อ้ีอย่ำเอนหลังจนเสยี กำรทรงตัวเพรำะจะทำให้ลม้ และได้รับ ออกแบบระบบกำรผลิตให้มีข้ันตอนกำรเคล่ือนย้ำยวัสดุให้น้อย บำดเจบ็ หรือเป็นอันตรำยถงึ แก่ชีวิตได้ ที่ สุ ด เ ลื อ ก ใ ช้ เ ค รื่ อ ง ทุ่ น แ ร ง ที่ เ ห ม ำ ะ ส ม แ ล ะ ท ำ ก ำ ร ย ก เคลือ่ นยำ้ ย อย่ำงถกู วธิ ี 3) เมื่อนำ้ หรอื ของเหลวอน่ื ๆ หกเรยี่ รำดบนพื้นตอ้ งรบี เชด็ ถทู นั ที เพ่ือ ปอ้ งกนั กำรลื่นหกล้ม กฎท่ีต้องปฏิบัติ ข้อแนะนา 4) สำยไฟ สำยโทรศัพท์ จะต้องวำงใหเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อปอ้ งกนั ▪ ตอ้ งสวมถงุ มือขณะทำกำรยก 1. ถ้ำของหนักเกินกว่ำจะยกได้ ควรเรียกคนมำ กำรสะดดุ ซึ่งอำจทำให้หกลม้ ไดง้ ่ำย ▪ ต้องสวมรองเทำ้ นิรภัย ชว่ ย 5) ในกรณที ไ่ี ม่สำมำรถจะเคลือ่ นยำ้ ย หรือยกของที่หนกั เกินกำลงั ให้ขอ 15 2. ควรมกี ำลงั ขำและกำรทรงตัวทีด่ ี ควำมชว่ ยเหลือจำกเพ่ือนรว่ มงำน 3. ควรวำงเทำ้ ขำ้ งหนง่ึ อยขู่ ้ำงๆ ของท่ีจะทำกำรยก 6) มือและน้วิ มือ เป็นส่วนทไ่ี ด้รบั บำดเจ็บงำ่ ยทสี่ ุดไมค่ วรใชม้ อื หรือนิว้ มอื และอีกขำ้ งหน่งึ อยขู่ ำ้ งหลัง แทนเครื่องมือต่ำง ๆ เช่น อย่ำใช้มอื ถอนเข็มเยบ็ กระดำษ 4. งอเขำ่ และคลู้ งต่ำใกล้ของ 5. ให้ลำตวั เข้ำชดิ ของ 7) เครอ่ื งมือเคร่อื งใชภ้ ำยในสำนักงำน โดยเฉพำะเครอ่ื งใช้ไฟฟำ้ ต้อง 6. ตอ้ งจับของให้กระชับแน่น ได้รับกำรตรวจสอบให้อยู่ในสภำพดีอยเู่ สมอ 7. หลังตรงเกอื บเป็นแนวดงิ่ แล้วยึดขำทง้ั 8) อคั คีภัยเกดิ ขึน้ เพรำะควำมประมำท ดงั นั้นตอ้ งระมดั ระวังเป็นพิเศษ สองขนึ้ เช่น จัดใหม้ ีถงั ขยะรองรับขยะต่ำง ๆ ฯลฯ 8. ควรหลีกเลีย่ งกำรขดลำตัวใชข้ ยบั ขำแทน 9. ควรมองเห็นทำงข้ำงหนำ้ ได้ชดั เจนขณะยก 9) มแี ผนผงั หนภี ัยในกรณฉี ุกเฉนิ และมอี ปุ กรณด์ ับเพลิงซ่งึ ควรจะตดิ ไว้ ในสถำนทีท่ ี่สำมำรถหยิบฉวยได้ง่ำย ของเดนิ ไป 10. เม่ือจะวำงของลงให้ทำยอ้ นกลับตำมวิธี ความปลอดภยั ในสานกั งาน ข้ำงลำ่ ง 16

ความปลอดภยั ในการทางาน เส้นทางการรบั สมั ผสั สารเคมี เอกสาร SDS คืออะไร? ทาไมต้องมี เกยี่ วกบั สารเคมี 1.หายใจเขา้ ทางปาก/จมกู เขา้ สปู่ อด Safety Data Sheet (SDS) หมายถงึ เอกสารขอ้ มูล 17 2. การรบั สมั ผสั ทางผวิ หนงั และดวงตา ความปลอดภยั สารเคมซี ง่ึ เป็นเอกสารทแ่ี สดงขอ้ มูลของ 3. การกนิ ดม่ื กลนื สารเคมีหรือเคมีภัณฑ์เก่ียวกับลักษณะความเป็ น อนั ตราย พษิ วธิ ใี ช้ การเกบ็ รกั ษา การขนส่ง การกาจดั กฎระเบียบความปลอดภยั และการจดั การอ่นื ๆ เพ่อื ให้ดาเนินการเก่ยี วกับสารเคมี นนั้ เป็นไปอย่างถกู ตอ้ งและปลอดภยั • หา้ มพนกั งานพกั ผอ่ นในสถานทท่ี างานทเ่ี กบ็ สารเคมี • กรณนี าสารเคมเี ขา้ มาใช้ ตอ้ งส่งขอ้ มลู ความปลอดภยั 1) ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สารเคมี และบรษิ ทั ผผู้ ลติ 2) ขอ้ มลู ความเป็นอนั ตราย SDS ใหแ้ ก่แผนก ความปลอดภยั และประกนั คุณภาพ 3) สว่ นประกอบและขอ้ มลู เกย่ี วกบั สว่ นผสม ก่อน เพอ่ื อนุมตี นิ ามาใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านครงั้ แรก 4) มาตรการปฐมพยาบาล • ตอ้ งทราบถงึ อนั ตรายของสารเคมแี ละวธิ กี ารควบคุม 5) มาตรการผจญเพลงิ ในเอกสารความปลอดภยั ของสารเคมี (SDS) 6) มาตรการจดั การเม่อื มกี ารหกรวั่ ไหล • ตอ้ งลา้ งมอื ทุกครงั้ หลงั ปฏบิ ตั งิ านกบั สารเคมี 7) การใชแ้ ละการจดั เกบ็ • สวมอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คลเสมอ 8) การควบคุมการไดร้ บั สมั ผสั และการป้องกนั สว่ นบุคคล • ทาความสะอาดบรเิ วณทางานทุกครงั้ หลงั เลกิ งาน 9) สมบตั ทิ างกายภาพและเคมี • ปิดฝาภาชนะใหแ้ น่นทุกครงั้ หลงั เลกิ ใช้ 10) ความเสถยี รและการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า • จดั เกบ็ สารเคมไี วใ้ นทเ่ี ยน็ อากาศถ่ายเทดี ห่าง 11) ขอ้ มลู ดา้ นพษิ วทิ ยา แหลง่ กาเนิดประกายไฟ 12) ขอ้ มลู ดา้ นระบบนเิ วศ • อยา่ ! ทดสอบโดยการสดู ดมหรอื กลนื กนิ 13) ขอ้ พจิ ารณาในการกาจดั 14) ขอ้ มลู สาหรบั การขนสง่ 15) ขอ้ มลู เกย่ี วกบั กฎขอ้ บงั คบั 16) ขอ้ มลู อน่ื ๆ ผลกระทบจากการสมั ผสั สารเคมี - รา่ งกาย - สงิ่ แวดลอ้ ม - ทรพั ยส์ นิ และสงั คม 18

ระบบ Log out และป้าย Tag out คอื เป็นระบบท่นี ามาใช้ในการ “ควบคุมอนั ตราย” ท่อี าจเกดิ ข้ึนจากการซ่อมบารงุ เคร่ืองจักร หรอื อุปกรณ์ ต่าง ๆ ท่มี แี หล่งจ่ายพลังงาน เช่น พลงั งานกล พลงั งานไฟฟ้ า เป็นต้น 1. ระบบลอ็ กเอ้าท์ (Lock Out) เป็นระบบท่ใี ช้ในการตดั แยกอุปกรณท์ ่เี ป็นแหล่งกาเนดิ พลังงาน โดยการ ใช้อุปกรณท์ ่อี อกแบบมาสาหรบั ใช้เป็นเคร่ืองมือในการลอ็ ก นาไปลอ็ กท่แี หล่งกาเนิดพลงั งาน 2. ระบบป้ ายแทกเอ้าท์ (Tag Out) คือการควบคุมอนั ตรายท่อี าจเกดิ ข้นึ กบั ผู้ปฏบิ ตั งิ าน โดยมีลักษณะเป็น แผ่นป้ ายแสดงข้อความเตอื นอนั ตราย หลังจากทาการลอ็ กท่แี หล่งกาเนิดพลงั งานกจ็ ะต้องทาการแขวนแทกเอ้าทไ์ ว้ท่ี อุปกรณ์น้นั ด้วย ความปลอดภยั กฎระเบียบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้า ข้อห้ามท่ีไม่ควรทาเม่ือช่วยเหลือผู้ที่ได้รับอันตรายจากไฟฟ้า ในการทางาน เกี่ยวกบั ไฟฟ้า 1. เม่อื เกดิ ไฟฟ้าลดั วงจรตอ้ งทาการตดั กระแสดว้ ยสวิตซต์ ดั 1. ห้ามเข้าไปช่วยผู้ถูกไฟฟ้ าช็อต จนกว่าจะแน่ใจได้ว่าผู้บาดเจบ็ มิได้มีการสมั ผัสสายไฟหรือตัวนา ตอน (ยกคทั เอาท)์ ไฟฟ้ าใดๆ ถ้าจาเป็นต้องหาวัสดทุ ่เี ป็นฉนวนไม่นากระแสไฟฟ้ า เช่น ไม้หรอื ผ้าเข่ียสายไฟออกจากผ้บู าดเจบ็ 2. ถ้าพบอุปกรณ์ไฟฟ้ าชารุดต้องเลิกใช้ รีบแก้ไข หรือ 2. ถ้าผวิ หนงั ผู้ท่ชี ่วยน้ันเปี ยกช้ืน ห้ามเข้าไปช่วยเพราะอาจเป็นตัวนากระแสไฟฟ้ าดูดได้ ซ่อมแซมโดยเรว็ 3. ถ้าไม่แน่ใจว่าจะปลอดภยั เน่อื งจากไม่มคี วามร้ใู นการตัดกระแสวงจรไฟฟ้ าหรอื วิธกี ารช่วยท่ถี ูกต้อง ให้รับตามคนมาช่วย 3. รอยต่อสายไฟฟ้าทกุ แหง่ ตอ้ งใชเ้ ทปพนั สายไฟฟ้าพันหมุ้ ลวดทองแดงใหม้ ดิ ชดิ และแน่นหนาจนแน่ใจว่าจะไม่หลุด เพ่อื ไม่ให้ การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด ลวดทองแดงทม่ี กี ระแสไฟฟ้าโผลอ่ อกมา ซง่ึ อาจจะเป็นอนั ตราย 1. หม่ันตรวจเชค็ อปุ กรณแ์ ละสายไฟอยู่เสมอ และควรซ่อมแซม 4. ทุกครงั้ ท่ที าการต่อสายไฟฟ้าหรอื เดนิ สายไฟฟ้ าต้องตดั สว่ นท่ชี ารดุ ให้เรียบร้อย ไฟฟ้าดว้ ยสวติ ชเ์ สยี กอ่ นเพ่อื ป้องกนั ไมใ่ หม้ กี ระแสไฟฟ้าในสายไฟฟ้า เสน้ นนั้ 2. บรเิ วณท่วี างสายไฟ ไม่ควรวางของท่มี นี า้ หนักมาทบั ลงไป และวางให้พ้นทางเดิน 5. หลอดไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าทุกชนิดท่จี ะทาให้เกิด ความรอ้ นได้ ไมค่ วรใหต้ ดิ อยู่กบั ผา้ หรอื เชอ้ื เพลงิ อน่ื ๆ ทอ่ี าจทาใหเ้ กดิ 3. ห้ามซ่อมเคร่อื งใช้ไฟฟ้ าเองโดยไม่มีความรู้ การลกุ ไหมไ้ ดง้ า่ ย 4. ไม่ควรใช้ไฟฟ้ าหลายอย่างกบั ปล๊กั ไฟตวั เดยี ว 5. ต่อสายดนิ เพ่ือป้ องกนั อนั ตรายเม่ือไฟฟ้ าร่วั 6. หา้ มใชต้ วั นาอ่นื ๆ แทนฟิวส์ 19 20

ความปลอดภยั 4. พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านทเ่ี ป็นบ่อ ถงั ทอ่ี าจทาใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั งิ านพลดั ตก 10. การตดั การเช่อื มบนท่สี ูง ใหต้ รวจสอบและเคล่ือนยา้ ย ในการทางานบนทสี่ งู ลงไปได้ ผูค้ วบคุมงานตอ้ งจดั ทารวั่ กน้ั ทม่ี คี วมสูงประมาณ 90- เช้อื เพลงิ และสารไวไฟทกุ ชนิดในพ้นื ทเ่ี บ้อื งล่างก่อน รวมถงึ 110 เซนตเิ มตร ขณะตดั หรือเช่อื ม ใหท้ าดว้ ยความระมดั ระวงั 1 พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านทส่ี ูงตงั้ แต่ 2 เมตรข้นึ ไปและเป็นทเ่ี ปิดมอี นั ตรายต่อการ 5. พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านทต่ี ่างระดบั กนั อาจมวี สั ดุตกหลน่ ตอ้ งปิด 11. การข้นึ และลงบนั ไดในแนวตงั้ ใหท้ าการข้นึ และลงทลี ะ พลดั ตก ผูค้ วบคมุ งานตอ้ งออกแบบและจดั เตรยี มวสั ดุ อปุ กรณป์ ้องกนั การพลดั กนั้ เขตพ้นื ทด่ี า้ นลา่ งดว้ ยธงราวขาว-แดง หรืออกุ ปรณ์ปอดกนั้ คนหนั หนา้ เขา้ หาบนั ได สมั ผสั จบั ยดึ บนั ไดขณะปีน ส่วนของ ตกของผูป้ ฏบิ ตั งิ านก่อนเร่มิ งาน ชวั่ คราว โดยแสดงคาเตอื นหรอื หา้ มไมใ่ หผ้ ูท้ ไ่ี ม่เกย่ี วขอ้ งผ่าน ร่างกายสมั ผสั 3 จดุ ตลอดเวลาและหา้ มข้นึ ไปเหยยี บสองขน้ั เขา้ -ออ สุดทา้ ย 1.1 จดั ทาราวกนั ตกความสูงประมาณ 90-110 ซม. ป้องกนั การพลดั ตก ในบริเวณทม่ี ผี ูป้ ฏบิ ตั งิ านเขา้ ใชพ้ ้นื ท่ี 6. พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านชวั่ คราว เช่น นงั่ รา้ น หา้ มนาวสั ดอุ ปุ กรณ์มา 12. การปีนบนั ได ตอ้ งใชบ้ นั ไดทแ่ี ขง็ แรง การใชบ้ นั ไดแบบ จดั เก็บหรือวาง เน่อื งจากไมไ่ ดอ้ อกแบบเพอ่ื รองรบั นา้ หนกั ของ เคลอ่ื นยา้ ยได้ มมุ บนั ไดท่อี ยู่ตรงขา้ มกบั ผนังท่พี ิง จะตอ้ ง 1.2 จดั ทา Platform หรือนงั่ รา้ นสาหรบั พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ าน หา้ มปีนป่าย ยนื วสั ดอุ ปุ กรณน์ น้ั ๆ วางางบนั ไดบนฐานทม่ี นั่ คง ไมล่ น่ื ทามมุ 75 หรอื เดนิ ในทท่ี ไ่ี มไ่ ดจ้ ดั ไวใ้ ห้ 7. หากตอ้ งการพกเคร่ืองมอื ข้นึ ไปดว้ ย ใหใ้ สอ่ ปุ กรณ์ทจ่ี าเป็น 13. ไม่วางบนั ไดพาดสายไฟฟ้า หรือผนงั ท่อี ่อนนุ่มหา้ มใช้ 2 พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านทส่ี ูงตง้ั แต่ 4 เมตรข้นึ ไป และเป็นทเ่ี ปิดอนั ตรายต่อการ ในกระเป๋าพกพาทต่ี ดิ เขม็ ขดั เท่านนั้ บนั ไดโลหะกบั งานไฟฟ้า และยดึ ขาบนั ได, ช่วงกลาง และจดุ พาดหรือใชค้ นช่วยจบั พลดั ตกควรปฏบิ ตั เิ พม่ิ เตมิ ดงั น้ี 8. ผูท้ ค่ี วบคมุ งานตอ้ งตรวจสอบใหจ้ ดั เกบ็ ทาความสะอาดใน พ้นื ทท่ี างานบนทส่ี ูงอยูเ่ สมอ 14. ในกรณีทม่ี กี ารทางานบนทล่ี าดชนั ทท่ี ามมุ ลาดชนั เกิน 15 2.1 ผูป้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งใชเ้ขม็ ขดั นริ ภยั ร่วมกบั สายช่วยชีวติ หรอื จดุ เกย่ี วท่ี องศาองศาแต่ไม่เกิน 30 องศาตอ้ งมกี ารติดตงั้ นงั่ รา้ นหรือ มนั่ คงแขง็ แรงในขณะปฏบิ ตั งิ าน 9. หา้ มดดั แปลงนาบนั ไดไปใชง้ านอย่างอน่ื เช่น พาดทาเป็น เข็มขดั นิรภยั พรอ้ มอุปกรณ์หรือมาตรการป้ องกนั การพลดั ทางเดนิ ระหวา่ งตกึ และหา้ มนงั่ ทางานบนบนั ได ตกอน่ื ใดทเ่ี หมาะสมกบั สภาพของการทางาน 2.2 ตรวจสอบใหม้ กี ารใชอ้ ปุ กรณ์ป้องกนั การพลดั ตกจากทส่ี ูง และจดั ทา ทย่ี ดึ ตรึงไวก้ บั ส่วนหน่ึงของโครงสรา้ ง 22 2.3 จดั ทามาตรการป้องกนั การกระเดน็ ตกหลน่ ของวสั ดุ หรอื พลดั ตก ของผูป้ ฏบิ ตั งิ านโดยใชแ้ ผงกน้ั โดยวศิ วกรควบคุมงานเป็นผูก้ าหนด วธิ กี ารจดั ทา 3 พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านบนทส่ี ูง ถา้ มชี ่องเปิด(Block Out) ตอ้ งจดั ทาฝาปิดหรอื รวั้ กนั้ และตดิ ป้ายเตอื นใหเ้หน็ ชดั เจนโดยท่ี 4.1 ช่องเปิดขนาดไมเ่ กนิ 0.80 x 0.80 เมตร ตอ้ งจดั ทาฝาปิดทแ่ี ขง็ แรง รบั นา้ หนกั ผูป้ ฏบิ ตั งิ านได้ 4.2 ช่องเปิดขนาดใหญ่กวา่ 0.80 x 0.80 เมตร ตอ้ งจดั ทาราวกนั ตกท่ี 21 แขง็ แรง และทาสขี าว-แดง

ความปลอดภยั ในการใช้ 5. ผูป้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งผา่ นการอบรมการปฏบิ ตั งิ านบนนงั่ รา้ นและก่อนการ งานนั่งรา้ น ปฏบิ ตั งิ านกบั นงั่ รา้ นตอ้ งมกี ารตรวจสุขภาพวา่ มโี รคประจาตวั หรือไม่ 1. ในพ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านทม่ี คี วามสูงตงั้ แต่ 2 เมตรข้นึ ไป ควรจดั ทาอปุ กรณ์ ยดึ โย่ง เพ่อื เก่ยี วคลอ้ ง 5. ตอ้ งตรวจสอบอปุ กรณ์นงั่ รา้ นทกุ ครง้ั ก่อนเร่มิ ใชง้ าน หากอปุ กรณ์ชารุด เขม็ ขดั นริ ภยั ใหแ้ ก่ผูป้ ฏบิ ตั งิ านได้ หา้ มนามาใชเ้ดด็ ขาด 2. นงั่ รา้ นเสาเรียงเด่ียวท่ีสูงเกิน 7 เมตรข้นึ ไป หรือนงั่ รา้ นท่ีสูงไม่เกิน 21.00 เมตร ผูท้ ่ี 7. พ้นื ทท่ี างเดนิ ตอ้ งวางและยดึ อย่างมนั่ คงกบั โครงสรา้ งของนงั่ รา้ นเสา ออกแบบและกาหนดรายละเอยี ดนงั่ รา้ นจะตอ้ งเป็นผูท้ ไ่ี ดร้ บั ใบอนุญาตเป็นผูป้ ระกอบวชิ าชพี คา้ ยนั นงั่ รา้ นตอ้ งตง้ั ใหไ้ ดฉ้ ากกบั แนวระดบั วศิ วกรรมควบคมุ ตามท่ี (กว.) ตามกาหนด 8. นงั่ รา้ นท่ีสูงกว่า 2 เมตรตอ้ งมีราวกนั ตก โดยความสูงจากพ้ืน 3. พ้นื นงั่ รา้ นตอ้ งมคี วามกวา้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 35 เซนตเิ มตร นงั่ รา้ นแต่ละชนั้ ไม่ตา่ กว่า 90 เซนติเมตร และสูงไม่เกิน 110 เซนตเิ มตร 4. พ้นื รองรบั ขาตง้ั และขอ้ ต่อของนงั่ รา้ น ตอ้ งมคี วามแขง็ แรงพอท่จี ะรบั นา้ หนกั ของนงั่ รา้ นชนิด นน้ั ๆ ได้ และอยู่ในสภาพท่ดี มี คี วามมนั่ คง ไม่สนั่ คลอนขณะปฏบิ ตั ิงานและควรผ่านการ 9. ตอ้ งจดั ใหม้ บี นั ไดภายในของนงั่ รา้ นและมคี วามลาดเอยี งไม่เกิน ตรวจสอบจากวศิ วกรทม่ี คี วามชานาญอยู่เสมอ 45 องศา ยกเวน้ นงั่ รา้ นเสาเดย่ี ว 23 10. ผูป้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งสวมใส่อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายต่างๆ เช่น เขม็ ขดั นริ ภยั หมวกนริ ภยั ถงุ มอื รองเทา้ ตลอดเวลาปฏบิ ตั ิงาน 11. กรณีตดิ ตง้ั นงั่ รา้ นใกลส้ ายไฟทไ่ี ม่มฉี นวนหุม้ หรืออปุ กรณ์ไฟฟ้าตอ้ ง ดาเนินการจดั ใหม้ กี ารหุม้ ฉนวนทเ่ี หมาะสม 12. หา้ มทางานบนนงั่ รา้ นแขวนหรือนงั่ รา้ นแบบกระเชา้ ขณะฝนตกหรือ ลมแรงอนั อาจเป็นอนั ตราย และในกรณีทม่ี เี หตกุ ารณด์ งั กลา่ วใหร้ บี นานงั่ รา้ นดงั กลา่ วลงสู่พ้นื ดนิ 24

ความปลอดภยั ใน ลิฟตก์ ระเชำ้ สว่ นบคุ คล กำรใช้ Hand Lift อยำ่ งปลอดภยั สำคญั อย่ำงไร? การใช้งาน (Personnel Lift) Personnel Lift อย่ำงที่เรำทรำบกันดีว่ำ ควำมปลอดภัยของคนสำคัญมำก ถ้ำใช้เคร่ืองมือ Hand Lift อย่ำงประมำท อำจเกิดควำมเสียหำยขึ้นอย่ำงไม่คำดคิดด้วยควำมท่ีแฮนด์ลิฟท์เป็น เครื่องมือท่ีมีน้ำหนักมำก และยังต้องขนของที่มีน้ำหนักหลำย ๆ ตันไปด้วยอีก โดยเฉพำะ อย่ำงย่ิงรถลำกที่เป็น Hand Pallet แบบ Manual ที่ต้องใช้แรงงำนคนในกำรควบคุม มั น อ ำ จ จ ะ ต้ อ ง ใ ช้ ทั ก ษ ะ แ ล ะ ค ว ำ ม ร ะ มั ด ร ะ วั ง ม ำ ก เ ป็ น พิ เ ศษ เ พ ร ำ ะ ห ำ ก ใ ช้ ง ำ น อ ย่ ำ ง ไ ม่ ระมัดระวัง เช่น กำรลำกแฮนด์พำเลทลงในทำงลำดชันที่ผิดวิธี จึงทำให้กล่องลังต่ำง ๆ หลน่ ลงจำกพำเลท ซง่ึ มนั อำจทำให้มกี ำรบำดเจบ็ เกิดขึน้ ได้ คุณสมบตั ขิ องผปู้ ฎบิ ตั งิ ำน 1. ตรวจเชค็ ทกุ อยำ่ งกอ่ นปฏิบัติงำน 5. ควรใชก้ ำรดึงหรือลำกมำกกว่ำกำรเขน็ 1. ผ้ปู ฎบิ ตั ิงำนจะตอ้ งไดร้ ับกำรอบรมกำรใช้เครื่องก่อนท่ีจะปฎิบัติ ก่อนจะใช้งำน Hand Lift ต้องตรวจสอบทุกอย่ำงให้เรียบร้อย เมอ่ื คุณใชก้ ำรดึงหรือลำกเข้ำหำตัว จะทำให้คุณสำมำรถ หรือได้รบั มอบหมำยใหส้ ำมำรถปฎิบตั ิงำนเครื่องดังกลำ่ วได้ ก่อนกำรปฏิบตั ิงำนจรงิ ควบคุมตัวรถแฮนด์พำเลทได้ดีกว่ำ เพรำะกำรเข็นหรือ 2. ต้องปฏิบตั ติ ำมคำแนะนำในหนงั สือคู่มือกำรใช้ กำรดันออกไปเพ่ือให้รถเคล่ือนท่ี มีโอกำสท่ีจะทำให้ล้อ 2. ระวังเรือ่ งน้ำหนักสนิ คำ้ เปล่ยี นทศิ ทำง และเสียกำรทรงตัวไดง้ ่ำย ซึง่ อำจจะทำให้ 3. กำรซ่อมหรือกำรปรับแต่งต้องเป็นผู้ที่มีควำมชำนำญและ ดูวำ่ แฮนดล์ ิฟท์หรอื แฮนด์พำเลทของคุณสำมำรถรองรับน้ำหนัก เกิดกำรพลิกคว่ำได้ ได้รบั กำรอบรม ไดม้ ำกทส่ี ุดเท่ำไหร่ และอย่ำบรรทุกสินค้ำทมี่ นี ้ำหนกั เกินกวำ่ นั้น 6.หำ้ มขึ้นไปบนรถลำกเด็ดขำด 4. ต้องไม่มีกำรปรับเปลี่ยนแก้ไขลิฟต์กระเช้ำดังกล่ำวโดยไม่ได้ 3. ไม่ควรว่ิงขณะกำลังเคลือ่ นท่ี ห้ ำ ม ข้ึ น ไ ป บ น ร ถ ล ำ ก พ ำ เ ล ท ไ ม่ ว่ ำ จ ะ ใ น ก ร ณี จ ำ เ ป็ น ห รื อ รบั อนมุ ตั ิจำกผ้ผู ลิตต้องมีกำรตรวจสอบลิฟต์กระเช้ำก่อนใช้ จำไว้เสมอว่ำรถลำกพำเลทนั้นไม่มีเบรก ฉะนั้นจึงควรควบคุม นำไปขี่เลน่ กต็ ำม เพรำะอำจส่งผลให้รถเสื่อมสภำพกำรใช้ งำนทุกครง้ั ควำมเร็วของกำรเคล่ือนที่ด้วยกำรเดิน ไม่ควรวิ่ง เวลำเล้ียว งำน และยังเป็นอนั ตรำยต่อคนที่ขึ้นไปข่อี ีกดว้ ย ควรเลีย้ วไปในทศิ ทำงท่ีชดั เจน 5. ต้องมกี ำรตรวจสอบสถำนที่ท่ีจะนำลิฟต์กระเช้ำไปใช้งำน ถ้ำ 7. อย่ตู ำแหน่งทเี่ หมำะสม สถำนท่ีดังกล่ำวไม่ปลอดภัย ห้ำมใช้ลิฟต์ กระเช้ำโดย 4. ควบคมุ ควำมเร็วในทำงลำดชนั เด็ดขำด แม้วำ่ เรำจะไม่ควรลำกแฮนด์ลิฟท์และแฮนด์พำเลทไปในทำงลำดชัน ก่อนอื่นคุณอำจจะต้องกำหนดทิศทำงกำรเคล่ือนท่ีกับ แต่ในบำงคร้งั เรำอำจไม่สำมำรถหลีกเลี่ยงท่จี ะเดนิ ผำ่ นมันได้ ขอ้ ควรปฎบิ ตั ใิ นกำรใชล้ ฟิ ตก์ ระเชำ้ พนักงำนทุกคนท่ีใช้งำนต้ังแต่แรกว่ำ ควรเดินทำงซ้ำย • หลีกเลี่ยงสถำนกำรณ์ท่ีเสี่ยงต่ออันตรำย เช่น ใกล้แนว หรือขวำ เพ่ือให้เข้ำใจตรงกันในโรงงำน ซึ่งก็จะเป็น สำยไฟฟำ้ ระเบียบและเกดิ อันตรำยไดน้ อ้ ยท่สี ุด 26 • ควรตรวจเชค็ เครื่องกอ่ นกำรใชง้ ำนทกุ คร้งั • ทดสอบปมุ่ และสวทิ ช์ต่ำงๆ ของเครือ่ งก่อนกำรใชง้ ำนทกุ คร้งั • สำรวจพื้นท่ที จ่ี ะใช้ลฟิ ต์กระเช้ำกอ่ นกำรใชง้ ำนทกุ ครง้ั • โปรดอ่ำนข้อแนะนำควำมปลอดภัยของผู้ผลิตจำกคู่มือกำรใช้ งำนและปำ้ ยเตือนตำ่ งๆ ทต่ี ดิ ไว้ทเี่ ครื่องใหล้ ะเอยี ด • ปฎิบตั ติ ำมกฎควำมปลอดภัยของสถำนประกอบกำรนั้นๆ • ปฎบิ ัตติ ำมมำตรกำรควำมปลอดภยั ของกระทรวง อ้ำงอิง ปจ. ใหม่ 25

ความปลอดภยั กฎความปลอดภยั ในการทางาน ในการทางานสาหรับผูร้ ับเหมา 1) การแต่งกาย ตอ้ งแต่งกายรดั กมุ สวมเส้อื กางเกงขายาว รองเทา้ 27 Safety หรอื หมุ้ สน้ 2) การทางานของผูร้ บั เหมา จะตอ้ งมหี วั หนา้ ควบคุมดูแลทกุ ครง้ั 28 3) การต่อสายไฟฟ้า ตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากผูร้ บั ผดิ ชอบก่อนทกุ ครง้ั 4) ผ่านการอบรมความปลอดภยั ก่อนเร่ิมงานและปฏิบตั ิตาม ขอ้ กาหนดของกฎหมายและระเบยี บวธิ กี ารปฏบิ ตั ขิ องบรษิ ทั ฯ 5) ปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดดา้ นความลปอดภยั อาชีวอนามยั และ สภาพแวดลอ้ มในการทางานของบรษิ ทั ฯ 6) รบั ผดิ ชอบต่อการกระทาผดิ กฎหมายหรือขอ้ กานดของบริษทั อนั เก่ียวเน่ืองจากความผิดพลาดของลูกจา้ งตวั แทนและผูร้ ับเหมา ย่อยของตน 7) ก่อนเร่ิมดาเนินงาน บนั ทึกและปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดดา้ นการ ทางานเพ่ือป้ องกนั พนกั งานจากอนั ตรายโดยการปฏิบตั ิตาม ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน การฝึกฝน และการตรวจสอบสถานท่ี ทางาน วสั ดอุ ปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื และการปฏบิ ตั งิ าน 8) อบรมลูกจา้ งใหม้ คี วามตระหนกั ในการหลกี เลย่ี งสถานการณ์ทไ่ี ม่ ปลอดภยั หรอื ละเมดิ ต่อขอ้ กาหนด 9) จดั เตรียมอุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลตาม ขอ้ กาหนดของบรษิ ทั และกฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 10) จดั เตรียมอุปกรณ์เคร่ืองมือท่ีจาเป็นสาหรบั การปฏิบตั ิงานให้ ปลอดภยั เคร่ืองมอื และ/หรืออุปกรณ์นนั้ กาหนดใหม้ ีการสอบ เทยี บตอ้ งมนั่ ใจวา่ ปฏบิ ตั ติ าม 11) เจา้ หนา้ ทร่ี กั ษาความปลอดภยั ของบรษิ ทั มสี ทิ ธใิ นการตกั เตอื นว่า กลา่ วไดใ้ นกรณีทพ่ี บเหน็ เหตกุ ารณไ์ ม่ปลอดภยั และการฝ่าฝืนกฎ ความปลอดภยั ของบรษิ ทั

กำรปฐมพยำบำล กำรปฐมพยำบำลเบ้ืองต้น คือ กำรช่วยเหลือ FIRST AID เบื้องต้นโดยรี บด่วนแก่ผู้ได้รั บบำดเจ็บหรื อ เจ็บปว่ ยอย่ำงกะทันหัน เพ่ือช่วยบรรเทำควำม เจบ็ ปวด และทำให้ไดร้ ับอนั ตรำยน้อยที่สุด ก่อนท่ี จะ น ำ ส่ ง โ ร ง พ ย ำ บ ำ ล ใ ห้ แ พ ท ย์ รั ก ษ ำ ต่ อ ไ ป สำหรับผู้ให้กำรช่วยเหลือ จะต้องมีควำมรู้ในกำร ปฐมพยำบำลช่วยเหลืออย่ำงรวดเรว็ และถกู วิธี ข้อแนะนำ กำรปฐมพยำบำล กำรปฐมพยำบำล กำรปฐมพยำบำล กำรปฐมพยำบำล เบือ้ งตน้ วธิ ีกำรหำ้ มเลอื ด เบือ้ งต้นกรณีถกู ไฟฟำ้ ดูด เบอื้ งตน้ ภำวะฮที สโตรค - หำกรู้สึกวำ่ ปว่ ยจนไมส่ ำมำรถทำงำนไดใ้ หแ้ จง้ หวั หนำ้ 1. ใช้ผำ้ สะอำดๆกดทับลงไปบนบำดแผลพันแผลให้ 1. ควรแยกผู้ประสบเหตุออกจำกวงจรไฟฟำ้ โดย โรคลมแดด มักเกิดในช่วงหน้ำร้อน เน่ืองจำก งำนทรำบทนั ที แน่นพอดีทับลงบนผำ้ ทก่ี ดทบั แผลไว้ ปลดสวิตช์ท่ีจ่ำยไฟ เช่น คัทเอำท์ เต้ำเสียบออก สภำพอำกำศที่ร้อนจัดทำให้อุณหภูมิในร่ำงกำย - ถำ้ หำกไดร้ บั บำดเจบ็ ในกำรทำงำนตอ้ งแจง้ ให้หัวหน้ำ ห รื อ ใ ช้ ไ ม้ แ ห้ ง เ ชื อ ก แ ย ก ผู้ ป่ว ย อ อ ก จ ำ ก สูงขึ้นอย่ำงรวดเร็ว เบอื้ งต้นอำจแสดงอำกำรเป็น งำนทรำบทันทีไม่วำ่ มำกหรือน้อย 2. ถำ้ บำดแผลเกิดทปี่ ลำยเท้ำ ปลำยแขน หรือส่วน วงจรไฟฟำ้ ตะคริวแดด หรืออำกำรอ่อนเพลียแดด เม่ือยล้ำ - กำรปฐมพยำบำลจะทำได้เฉพำะรำยที่บำดเจ็บเพียง อื่นๆ ที่ต่ำ ควรทำกำรยกข้ึนให้อยู่ในระดับสูง อ่อนเพลีย หนำ้ มืด ปวดศรษี ะ เป็นลม เลก็ น้อย สว่ นที่บำดเจ็บมำกควรให้แพทย์เป็นผู้ดูแล พึง โดยใช้หมอนรองหรอื วสั ดอุ นื่ ๆก็ได้ 2. ประเมินผู้ปว่ ยว่ำยังรู้สึกตัวอยู่หรือไม่ หำกไม่มีสติ วธิ กี ำรชว่ ยคนภำวะฮที สโตรค ระลึกไว้เสมอว่ำในรำยท่ีบำดเจ็บมำก ๆ กำรปฐม ค ล ำ หำ ชี พ จร หำ ก ไ ม่ พ บ ค ว ร เ รี ย ก ข อ ค ว ำ ม พ ย ำ บ ำ ล จ ะ ท ำ เ พี ย ง เ บ้ื อ ง ต้ น ก่ อ น ถึ ง มื อ แ พ ท ย์ 3. ถ้ำค นเจ็ บเกิ ดกร ะหำ ยน้ ำ ให้ ด่ืมไ ด้แต่ น้อ ย ช่วยเหลือหรือเรียกบริกำรกำรแพทย์ฉุกเฉินจำก 1. หลักสำคัญที่สุด คือ กำรลดระดับควำม กำรช่วยเหลืออย่ำงฉับพลันทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุอำจ (ประมำณคร่ึงแก้วต่อทุกๆ 30 นำที) และคน หนว่ ยงำนต่ำงๆทนั ที รอ้ นจำกร่ำงกำยลงให้เร็วท่ีสุดก่อนนำส่ง เป็นกำรช่วยชีวติ ไว้ได้ เจ็บ จะต้องไม่เป็นผู้มีบำดแผลในช่องท้องหรือ โรงพยำบำลเช่น ใช้ผ้ำชุบน้ำเย็น หรือถุง หน้ำอกส่วนล่ำง ห้ำมมิให้คนเจ็บดื่มเคร่ืองดื่มท่ี 3. ทำกำรกดหน้ำอกอย่ำงถูกต้องและทันท่วงที ให้ ใ ส่ น้ ำ แ ข็ ง หมุ นเ วี ย น ป ร ะ ค บ ต ำ มค อ ผสมแอลกอฮอล์อย่ำงเดด็ ขำด ทำ CPR ไปจนกว่ำกู้ชีพจะมำถึงหรือจนกว่ำผู้ปว่ ย ลำตัว แขนขำ ขอ้ พับตำ่ ง ๆ จะรูส้ กึ ตวั 4. นำคนเจบ็ สง่ โรงพยำบำลโดยดว่ น หรอื ขอควำม 2. จัดทำงให้ผู้ป่วยนอนหงำย ยกเท้ำให้ ช่วยเหลือจำกหน่วยแพทย์ สู งขึ้ น เ พ่ื อ ช่ ว ย เ พิ่ มป ริ ม ำ ณ เ ลื อ ด ท่ี ไหลเวียนกลับสูห่ ัวใจไดม้ ำกขึ้น 29 3. เมื่อผู้ปว่ ยรู้สึกตัวดีขึ้นสำมำรถดื่มน้ำเพื่อ ชดเชยภำวะขำดน้ำของรำ่ งกำยได้ 30


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook