Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บูรณาการศุภกร 22

บูรณาการศุภกร 22

Published by Guset User, 2022-06-30 02:32:40

Description: บูรณาการศุภกร 22

Search

Read the Text Version

รหสั วชิ า 20000-1401

คำ�น�ำ ตามทสี่ ำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ได้ ก�ำ หนดใหม้ กี ารพัฒนา หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) พ.ศ. 2562 เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกับการปฏริ ูป การศกึ ษาตามแผนพฒั นา เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ แผนการศึกษาแหง่ ชาติ และพระราชบญั ญตั ิการ อาชีวศกึ ษา จงึ จำ�เปน็ อยา่ งยงิ่ ทผี่ เู้ รยี นในสายวชิ าชพี จะต้องได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกบั มาตรฐานอาชพี หรอื มาตรฐานสมรรถนะของแตล่ ะ สาขาอาชพี ตามความต้องการของตลาดแรงงานและความเจริญกา้ วหนา้ ทาง เทคโนโลยี รองรบั การเขา้ สู่ ประชาคมอาเซยี น ทัง้ ดา้ นความรู้ ทกั ษะ และคณุ ธรรมจริยธรรมท่เี หมาะสมกบั การ ปฏิบัติงาน การอยรู่ ว่ มกัน ในสงั คม และบรู ณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง คณะผู้จัดท�ำ จงึ ได้ดำ�เนนิ การจัดทำ�หนงั สอื เรียนวิชาคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐานอาชพี ข้ึน ซง่ึ มี เนอ้ื หา ตรงตามจุดประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวิชาและคำ�อธิบายรายวชิ า และมแี ผนการ จัดการเรยี นท่บี รู ณาการ ทักษะกระบวนการคดิ และวิธีการสอนอย่างหลากหลายท่เี ป็นการปฏิบัติจรงิ โดยจดั ท�ำ ในรูปของหน่วยการเรยี น นำ�เสนอเนอ้ื หาสาระที่เหมาะสมกบั ผู้เรียน สอดแทรกสาระนา่ รู้ อาเซียนนา่ รู้ คำ�ถาม ชวนคดิ คำ�ศพั ทท์ ี่ควรรู้ เว็บไกด์ กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ แบบฝึกหัดตามล�ำ าดับการเรียนรู้ และเกม ทุก หน่วยการเรยี น คณะผจู้ ัดทํา ขอขอบคณุ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา ครอู าจารย์ นกั เรียน นักศึกษาทกุ ท่าน ที่ ไว้วางใจใช้

สารบญั หน่วยที่ 1 สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียว 1 หนว่ ยท่ี 2 ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปร หน่วยท่ี 3 สถติ ิ หน่วยท่ี 4 การแจกแจงความถ ่ี หนว่ ยที่ 5 คา่ เฉล่ยี เลขคณติ หน่วยท่ี 6 มธั ยฐาน หน่วยที่ 7 ฐานนยิ ม หน่วยที่ 8 การวัดต�ำ เหนง่ ของข้อมลู หนว่ ยที่ 9 การวดั การกระจายสัมบูรณ์ หน่วยท่ี 10 การวัดการกระจายสัมพทั ธ ์

สถติ ิ 1.ความหมายของสถิติ (Meaning of Statistics) สถติ ิ อาจมีความหมายได้ 2 ประการ คอื 1.สถติ ิ หมายถงึ ตัวเลขท่เี เสดงข้อเทจ็ จริงอย่างใดอยา่ ง หนงึ่ เชน่ คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรข์ องนักเรียนห้อง หนง่ึ ค่าใชจ้ า่ ยในแตล่ ะเดือนของครอบครวั จำ�นวนนัก เรยี นทม่ี ีความสูงเกนิ 160 เซนติเมตร เป็นต้น 2.สถิติ หมายถงึ ศาสตรท์ ี่เป็นท้งั วทิ ยาศาสตรแ์ ละศลิ ป ศาสตร์ ซ่งึ เรยี กวา่ ระเบียบวธิ ีการทางสถติ ิประกอบไป ด้วย การเก็บรวบรวมข้อมลู (Analysis of Data)และ การตีความหมายข้อมลู (Interperpretattion of Data) 2.ข้อมูลสถติ ิ (Statistici Data) ข้อมลู สถิติ หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงที่อาจเป็นตวั เลข หรือไม่ใช่ตัวเลข ซง่ึ เก่ยี วขอ้ งกบั เร่อื งใดเรื่องหนง่ึ ทีต่ ้อง ศกึ ษา และข้อเท็จจรงิ ดงั กล่าวนนั้ จะตอ้ งมจี ำ�นวนมาก พอส�ำ หรับแสดงถึงลักษณะของสิ่งนั้นเพอ่ื ที่จะน�ำ ไปใช้ ในการเปรียบเทยี บและตีความหมายได้ เชน่ ผลการวดั ส่วนสูงของนักเรยี นกลุม่ หนง่ึ ขอ้ มูลแสดงปริมาณการจ�ำ หน่ายสินคา้ ในแตล่ ะปขี องบรษิ ทั แหง่ หนงึ่

ชนิดของขอ้ มลู อาจจำ�แนกได้เปน็ 2 ประเภท ดงั น ี้ 1.ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Data) เปน็ ขอ้ มูลท่ี แสดงข้อเท็จจริงเก่ียวกบั ปริมาณท่สี ามารถวดั ได้เป็น ตัวเลข เชน่ น�ำ้ หนัก ความสูง อายุ รายได้ คะแนนสอบ ค่าใชจ้ า่ ยจำ�นวนผมผลิต เป็นต้น 2.ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) เปน็ ข้อมลู ที่ แสดงถงึ คุณลักษณะ สมบตั ิ สภาพ สภานะ อาจจะเป็น ตัวเลขหรอื ขอ้ ความ เช่น สถติ ปิ ระชากรจ�ำ แนกตามเพศ สถติ คิ นไขจ้ ำ�แนกตามชนดิ ของโรค สถติ ขิ องพนกั งาน ในบริษทั จำ�แนกตามสถานภาพการสมรส ขนาดของ รองเทา้ หมายเลขโทรศพั ท์ เปน็ ต้น นอกจากน้ี ขอ้ มูลบางชนดิ อาจจำ�แนกตามแหล่งท่ีเกดิ ข้อมูล ดังนี้ 1.ขอ้ มลู ปฐมภูมิ (Primary Data) เปน็ ข้อมลู ซ่ึงเก็บรวบ รวมได้จากแหลง่ ท่ีเกดิ ขอ้ มูลน้ันๆ โดยตรง เช่น การ ศกึ ษาเกย่ี วกบั ระยะทางท่นี ักเรียนของวทิ ยาลัยแห่งหนง่ึ ใช้สำ�หรบั เดินทางจากบ้านไปวทิ ยาลยั แหลง่ ทจ่ี ะไหข้ อ้ มูลดังกล่าวคอื นกั เรียนของวิทยาลัยแหงนนั้ และข้อมูล ทีเ่ ก็บรวบรวมได้จากนกั เรยี นเหล่านัน้ เรยี กว่าข้อมูลปฐม ภูมิ เป็นต้น

2.ขอ้ มูลทตุ ยิ ภูมิ (Secondary Data) เป็นข้อมลู ทเ่ี ก็บ รวบรวมได้จากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี ไดร้ วบรวมขอ้ มูลเหลา่ น้นั ไวแ้ ลว้ เชน่ การศกึ ษาเกยี่ วกับราคาสนิ ค้าในแต่ละเดอื น ของ พ.ศ. 2561 แหลง่ ที่จะไหข้ อ้ มลู นี้ ได้แก่ กรมการ ค้าภายใน ซ่งึ เป็นผู้เก็บรวบรวมขอ้ มูลน้ี ไวก้ ่อนแลว้ ดงั นัน้ ข้อมลู ท่ี ไดม้ าจากกรมการคา้ ขายภายในดังกลา่ วน้ี เรียกวา่ ขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ เปน็ ต้น 3.การเก็บรวบรวมขอ้ มลู (Collection of Data) การเก็บรวบรวมข้อมูล หมายถึง กระบวนการเพ่อื จะไห้ ไดข้ อ้ มลู ทตี่ อ้ งการศกึ ษาภายใต้ขอบข่ายท่ีก�ำ หนดในการ ศึกษาเกย่ี วกบั ขอ้ มลู เรือ่ งใดเร่ืองนนั้ กล่มุ ของขอ้ มูลทงั้ หมดท่ีอยู่ในขอบข่ายทตี่ ้องการจะศึกษา ซ่ึงอาจไดแ้ ก่ คน สตั ว์ สง่ิ ของ หรอื ปรากฏการณ์ตา่ งๆ เรียกวา่ ประ ชากร (Population) สว่ นค่าทแี่ สดงลกั ษณะหรอื สมบตั ิ ของประชากรเรยี กว่า ค่าพารามเิ ตอร์ (Paramete) ในกรณที ี่ ไม่สามารถเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากประชากรทงั้ หมดทตี่ อ้ งการได้ อาจเนอ่ื งจากประชากรมจี ำ�นวนมาก ทำ�ไหต้ อ้ งใช้เงิน เวลา และกำ�ลงั คนเป็นจ�ำ นวนมากเพื่อ ไห้ไดข้ ้อมูลนน้ั มา จงึ ไม่สะดวกในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดงั กลา่ ว ดังนั้น จึงอาจเก็บรวบรวมจากบางสว่ น

วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมูล โดยทวั่ ไปนั้นอาจจำ�แนกออกได้ เปน็ 4 วธิ ี คอื 3.1การเก็บรวบรวมข้อมูลจากทะเบียนประวตั ิหรอื รายงาน เป็นการ เกบ็ รวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ทมี่ ีข้อมูล เหลา่ น้นั อยู่แลว้ เชน่ ข้อมลู เกย่ี วกับรายละเอียดของ นกั เรียนสามารถเกบ็ ไดจ้ ากงานทะเบยี น ทางวิทยาลัย 3.2การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสำ�รวจ การเก็บ รวบรวมขอ้ มูลโดยวธิ นี ี้ ผสู้ ำ�รวจจะต้องเตรียมแบบ ส�ำ รวจ ไวล้ ว่ งหนา้ และวธิ ีส�ำ รวจที่จะไห้ได้ขอ้ มูล 3.2.1 การสมั ภาษณ์ วธิ นี ผ้ี ู้สำ�รวจจะตอ้ งออกไป สัมภาษณ์ผทู้ ีเ่ ก่ยี วข้องกบั ข้อมลู ท่ตี ้องการโดยตรง เช่น บริษัทผู้ผลติ ครง้ั ตอ่ ไปดังนัน้ ทาง บรษิ ทั จึงอาจสง่ พนักงานไปเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากผู้ ท่ีใชส้ ินค้าชนดิ น้ี เป็นตน้ 3.2.2 การสง่ แบบสอบถามวธิ ีนีผ้ สู้ �ำ รวจจะตอ้ งสง่ แบบสอบถามไปยังผทู้ ่อี ยู่ในข่ายทจ่ี ะสำ�รวจเพ่ือกรอก ข้อมูลแล้วสง่ กลับคืนมายงั ผู้สำ�รวจเชน่ ผจู้ ดั รายการเกม โชวท์ างโทรทศั น์ตอ้ งการปรบั ปรงุ รูป แบบรายการจงึ ได้สง่ แบบสอบถามไปยังผูช้ มเพื่อให้ผู้ชมได้กรอกราย ละเอียดในแบบสอบ แลว้ สง่ กราฟคืนไปยงั ผู้จดั การ

3.3การเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากการทดลอง เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากผลการทดลอง ซ่ึงได้แก่ การทดลอง ด้านทางวทิ ยาศาสตร์ การทดลองดา้ นการเกษตร การทดลองทางดา้ นการแพทย์ 3.4การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยวธิ ีสงั เกต เป็นการเกบ็ รวบรวมข้อมลู โดยผูท้ �ำ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลต้องทำ� การจดบันทึกข้อมลู ที่ ไดพ้ บเหน็ จากการสังเกต เช่น การจดบันทึกจำ�นวนรถจกั รยานตท์ ่ผี า่ น ณ จดุ จดุ หน่ึง 4การน�ำ เสนอข้อมูล (Presentation of Data) การน�ำ เสนอขอ้ มูลเป็นการนำ�เสนอข้อมลู ทรี่ วบรวม ไดม้ าจัดแสดงใหบ้ ุคคลท่ีสนใจได้ทราบโดยทวั่ ไปขอ้ มูล ทเ่ี ก็บรวบรวมมาได้นั้นมกั จะไม่เป็นระเบียบและราย ละเอียดตา่ ง ๆ ทีต่ อ้ งการทราบมกั ปรากฏไม่ชัดเจน ท�ำ ให้ไมส่ ามารถมองเหน็ ขอ้ เทจ็ จริงและข้อเปรียบ เทียบตา่ ง ๆ ท่ีตอ้ งการทราบได้จึงจำ�เปน็ จะตอ้ งการ น�ำ เสนอขอ้ มูลด้วยวิธกี ารต่าง ๆ เพอ่ื ให้ผอู้ า่ นไดเ้ ห็นขอ้ เท็จจรงิ ที่ต้องการทราบไดอ้ ย่างชดั เจนสะดวกรวดเรว็ ทั้งยังสามารถนำ�ขอ้ มูลไปใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ ได้ โดยง่ายวิธกี ารน�ำ เสนอข้อมูลนั้นแบ่งเปน็ 2 วธิ ีใหญซ่ ึ่ง ไดแ้ ก่ การนําเสนอข้อมูลอย่างไมเ่ ปน็ แบบแผน

4.1การน�ำ เสนอขอ้ มลู อยา่ งไมเ่ ป็นแผน (Informal Pre- sentation) เป็นการนำ�เสนอข้อมูลท่ี ไม่ต้องมกี ฎเกณฑ์ 4.1.1การนำ�เสนอขอ้ มลู ในรูปบทความ เปน็ การ นำ�เสนอข้อมูลที่ตอ้ งการเสนอมาอธบิ าย หรอื สรปุ ไห้ได้รายละเอยี ดเกี่ยวกบั ขอ้ มูลน้ั นๆ 4.1.2การน�ำ เสนอ ข้อมลู ในรูปบทความก่ึงตาราง เป็นการน�ำ เสนอข้อมลู ทต่ี อ้ งการเสนอแยกข้อมความและตัวเลข เพื่อไหเ้ ห็น การเปรียบเทียบไดช้ ดั เจนขน้ึ การประกนั สงั คม ประเภทกองทนุ กรณเี จ็บปว่ ยฉกุ เฉนิ จำ�เปน็ จะตอ้ งเขา้ ศึกษาสถานพยาบาลอื่นกอ่ นและไหผ้ ูป้ ระกนั ตนจ่ายเงิน ค่ารกั ษาไปกอ่ น ผูป้ ว่ ยนอก ไม่เกิน 200 บาท/คร้ัง ไมเ่ กิน 400 บาท/ปี ผู้ป่วยใน ไม่เกิน 1,600 บาท/คร้ัง ไมเ่ กิน 3,200 บาท/ปี ผปู้ ่วยในและผา่ ตัด ไม่เกนิ 10,000 บาท/ครงั้ ใหญ่

4.2การนำ�เสนอข้อมลู อย่างเป็นแบบแผน (Formal Pre- sentation) เป็นการน�ำ เสนอข้อมูลที่มกี ารกำ�หนด ระเบียบกฎเกณฑ์ตา่ งๆ วิธีที่นยิ มใชม้ ี 6 วธิ ี ดังต่อไปน้ี 4.2.1การนำ�เสนอข้อมลู ในรปู ตาราง เป็นการน�ำ ขอ้ มลู มาจดั ไห้อยู่ในรปู ตามแนวนอน หรือเรยี กว่า แถว (Row) และตาม แนวตงั้ หรอื เรียกวา่ สดมภ์ (Column) ทงั้ น้ีเพอื่ ไหเ้ หน็ ข้อมูล ได้ชัดเจน สะดวกในการอา่ น การวิเคราะห์ 4.2.2การน�ำ เสนอขอ้ มูลโดยใชแ้ ผนภูมิแทง่ เปน็ การน�ำ เส นอขอ้ มูลโดยใช้สี่เหล่ยี มมุมฉากรูปส่เี หล่ยี มมุมฉากแตล่ ะ รปู จะมีดา้ นเทา่ กันทกุ รูป ส่วนดา้ นยาวของแตล่ ะรปู ขึ้นอยู่ ปริมาณของข้อมูลรูปสี่เหลยี่ มมุมฉากน้วี ่า แท่ง การระ บายสแี รเงา หรือท�ำ เครือ่ งหมายแตล่ ะแท่งจะท�ำ ไห้ดสู วย งามและเห็นขอ้ มลู ได้ชัดเจนข้นึ การเขียนตวั เลขแสดงข้อ มลู ที่แท้จรงิ กำ�กบั ไว้บนยอดหรือตอนปลายของแต่ละแทง่ จะท�ำ ไหส้ ามารถอ่านปริมาณของข้อมูลไดถ้ กู ตอ้ ง แนน่ อน แผนภูมิแท่งเชิงเดยี ว (Simple Bar Chart) เปน็ แผนภูมิแท่ง ท่ีแสดงถึงการเปรียบเทยี บข้อมลู ท่สี นใจเพียงชนิดเดยี ว เช่น

การจดั หาและจำ�หนา่ ยน้�ำ มันเบนซนิ ของไทย พ.ศ. 2561 ข้อมลู ปรมิ าณ (ล้านลติ ร) การผลิต 8,316 การนำ�เขา้ 144 การจ�ำ หนา่ ย 6,857 การส่งออก 1,481 จากขอ้ มูลขา้ งตน้ สามารถนำ�เสนอดว้ ยแผนภมู แิ ทง่ เชงิ เดียว โดยเรยี งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากตามแนวตั้งได้ดัง้ น้ี .

ถา้ เขยี นแผนภูมิแทง่ เชิงเดียว โดยเรียงรปู ส่เี หล่ยี มมุมฉาก ตามแนวนอน จะไดด้ งั น้ี

2แผนภมู แิ ท่งเชิงซอ้ น (Multiple Bar Chart) เป็นแผนภูมิแท่งการเอาเปรยี บเทยี บไห้เหน็ ถึงลักษณะของขอ้ มูลตั้งแต่ 2 ชุดขึน้ ไป เช่น 3แผนภูมิแท่งส่วนประกอบ (Component Bar Chart) เปน็ แผนภูมิแท่งท่ีใช้แสดงรายละเอียดสว่ นย่อยของข้อมลู ที่จะน�ำ เสนอ เช่น 4แผนภมู ิแท่งบวก-ลบ (Plus-minus Bar Chart)เป็นแผนภูมิ แทง่ ที่ใช้เปรียบเทียบขอ้ มูลท่มี ีท้งั บวกและค่าลบ เชน่ 5แผนภูมิแท่งซอ้ นกนั (Overlapping Bar Chart) จ�ำ นวนนักเรียน-นักศกึ ษาของวิทยาลัยแห่งหนงึ่ ปกี าร ศกึ ษา2561 จ�ำ นวนคน ระดบั (สาขาวิชา) ปวช. 3,689 ปวส. (การบญั ชี) 1,041 ปวส.(การตลาด) 857 ปวส.(คอมพวิ เตอรธ์ รกจิ ) 397 ปวส.(การเลขานกุ าร) 134 รวม 6,118 จากขอ้ มูลขา้ งต้น ถา้ ต้องการน�ำ เสนอชอ้ มูลวธิ ีแผนภมู ริ ูปวง กลม ก่อนอ่ืนจะตอ้ งนำ�ข้อมูลจ�ำ นวน นกั เรยี น-นักศกึ ษา

4.2.4การนำ�เสนอข้อมูลโดยใชแ้ ผนภมู ิรปู ภาพ (Pictogram) เปน็ แผนภมู ิท่ีใช้รปู ภาพแทนข้อมูลซ่งึ ต้องการน�ำ เสนอ เช่น ใช้ รปู ภาพคน 1 คน แทนประชากร 1 ล้านคน ถ้าประชากรทน่ี �ำ เสนอในครง้ั น้มี จี �ำ นวน 4,432,500 คน แสดงวา่ รูปภาพคน ท่ีใชแ้ ทนจำ�นวนประชากรน้ันเทา่ กบั 4,4325 รปู ซึง่ ประกอบ ดว้ ยรูปภาพที่เต็มรูปจ�ำ นวน 4 คน และรูปภาพคนที่ไม่เต็มรปู จ�ำ นวน 0.4325 ของรปู ภาพ คนหน่ึงคน ดังน้ี

แบบทดสอบหลังเรยี น 1. ข้อมูลในข้อใด ไม่ เป็นข้อมลู สถติ ิ ก. ปรมิ าณขา้ วส่งออกรายเดอื น ข. ตวั เลขแสดงการเปลีย่ นแปลงราคาสินคา้ ในแตล่ ะปี ค. จำ�นวนอาชญากรรมแต่ละจงั หวัดในรอบปี ง. ผลผลติ เฉลี่ยตอ่ ไรข่ ้าวโพดเลย้ี งสตั ว์ในปีเพาะปลกู 2560/2561 จ. คะแนนสอบกลางภาคเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์ของมนัส 2 ข้อใดเปน็ ขอ้ มูลเชงิ คณุ ภาพ ก. ขนาดเสอื้ ข. อายุ ค. นำ้�หนัก ง. สว่ นสูง จ. รายได้ 3. ผูจ้ ัดการผา่ ยบคุ ลของบริษทิ แหง่ หนึง่ ต้องการทราบ ว่านักเรียนของวิทยาลัยแห่งหนง่ึ ท่จี บระดับ ปวช. ปีการ ศึกษา2561 และยังไมม่ งี านทำ� แยกตามกลมุ่ วชิ ามกี คี่ นเขา จงึ ไปตดิ ต่อขอ้ มูลจากหัวหน้างานแนะแนวอาชพี และจัดหา ของวทิ ยาลัยแห่งน้ี ซ่งึ ได้รวบรวมขอ้ มูลไว้แสดงวา่ ผูจ้ ัดการ ฝา่ ยบคุ ลผนู้ ้ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยวิธีใด

ก. การสังเกต ข. การทดลอง ค. การสัมภาษณ์ ง. การส่งแบบสอบถาม จ. การคัดลอกจากทะเบียนประวัติหรอื รายงาน 4. การนัง่ จดบันทกึ จ�ำ นวนของลกู ค้าเข้ามาชมงานนิทรรศการ แหง่ หนึง่ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีใด ก. การสำ�รวจ ข. การทดลอง ค. การสังเกต ง. การลงทะเบียน จ. การคัดลอกจากทะเบียนลูกค้า 5. มานพตอ้ งการศกึ ษาเปรียบเทียบผลผลติ ของผักบุง้ ทป่ี ลกู ในดินธรรมดากับดินวทิ ยาศาสตรเ์ ขาจงึ ปลูกผักบุ้งในดนิ 2 ประเภทดังกลา่ วแสดงว่ามานพเก็บรวบรวมข้อมลู โดยวธิ ีใด ก. การสังเกต ข. การสำ�รวจ ค. การทดลอง ง. การลงทะเบียน จ. ถูกทุกขอ้

6. ปา้ ยซ่ึงแสดงรายการและราคาอาหารตามรา้ นอาหาร ทั่วไป เปน็ เรือ่ งเก่ียวกับข้อใด ก. การเก็บรวบรวมข้อมูล ข. การน�ำ เสนอข้อมูล ค. การวิเคราะห์ข้อมูล ง. การตีความหมายข้อมลู จ. ถูกทกุ ขอ้ 7. ในการจดั สรรงบประมาณส�ำ หรบั การจดั ไห้มนี ำ้�สะอาดใช้ ในชนบทของต�ำ บลหนึ่ง ปรากฏวา่ ตำ�บลน้ีได้งบประมาณใน การจดั ไหม้ ีน�ำ้ สะอาดใช้ โดยแบ่ง ประเภทต่างๆ ดังน้ี สรา้ งบ่อน้ำ�ตืน้ จำ�นวน 16,500 บาท สรา้ งถังคอนกรตี จ�ำ นวน 9,500 บาท สร้างและซ่อมแซมสระหนอง บึง จ�ำ นวน 24,000 บาท รวมทัง้ ส้ิน 50,000 บาท การน�ำ เสนอขอ้ มลู ดังกล่าวเป็นการน�ำ เสนอโดยวิธีใด ก. บทความ ข. บทความกง่ึ ตาราง ค. ตาราง ง. แผนภมู ิแท่ง

จ. แผนภูมิรูปวงกลม 8. ในการน�ำ เสนอขอ้ มลู แบบตารางน้ัน ตารางบาง ตารางอาจ ไมม่ อี งคป์ ระกอบในขอ้ ใดก็ได้ ก. ช่ือเร่อื ง ข. ต้นข้วั ค. หวั เร่อื ง ง. ตัวเร่ือง จ. หมายเหตลุ า่ ง 9. ตารางแสดงปรมิ าณสารคอเลสเตอรอลในอาหารชนดิ ตา่ งๆ ชอ่ื อาหาร ปริมาณสารคอเลสเตอรอล (มิลลิกรมั ) ไขป่ ลา 300 ไข่แดง 1,500 ตับหมู 280 เนย 250 นำ้�มนั หมู 95 ตับววั 320 ถ้ามกี ารนำ�เสนอขอ้ มูลสถติ ิในตารางดังกล่าวเสยี ใหม่ โดยใช้ แผนภมู ิ ควรใช้แบบในข้อใดจงึ จะเหมาะสมที่สดุ ก. แผนภูมแิ ท่งเชิงเดียว ข. แผนภูมแิ ทง่ เชงิ ซอ้ น

ค. แผนภมู ิแทง่ ส่วนประกอบ ง. แผนภมู แิ ทง่ ซ้อนกัน จ. แผนภูมแิ ทง่ บวก-ลบ 10. แผนภมู ิรปู ภาพมลี ักษณะเด่นทสี่ ดุ ในข้อใด ก. แสดงการเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ตง้ั แต่ 2 ชดุ ขนึ้ ไป ข. แสดงรายละเอียดส่วนยอ่ ยของข้อมูล ค. เปรียบเทียบขอ้ มลู ท่ีมีทง้ั ค่าบวกและลบ ง. ช่วยไหเ้ ห็นภาพรวมของขอ้ มูลได้รวดเรว็ จ. นำ�เสนอขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์

เฉลยแบบทดสอบ 1.ก.ปรมิ าณสง่ ออกรายเดอื น 2.จ.รายได้ 3.ก.การสงั กต 4.ง.การลงทะเบยี น 5.จ.ถกู ทุกข้อ 6.จ.ถูกทุกข้อ 7.ข.บทความก่ึงตาราง 8.ก.ชอ่ื เรอื่ ง 9.ก.แผนภมู แิ ท่งเชงิ เดยี ว 10.จ.นำ�เสนอข้อมูลทางภูมศิ าสตร์

บรรณานกุ รม sกง่ิ พร ทองใบ และคณะ คณติ ศาสตรแ์ ละสถิติ หน่วย ท่ี 9-15พมิ พค์ ร้งั ทีหนงั สือคณติ ศาสตร์ ค.203-ศ.204 กรงุ เทพฯ: ครุ ุสภาลาดพรา้ ว,2521คณิตศาสตร์ประยกุ ต์ 2 กรงุ เทพฯ: ส�ำ นักงานพิมพศ์ นู ยส์ ง่ เสรมิ วชิ าการ2554คณติ ศาสตร์พ้นื ฐานอาชพี ,กรงุ เทพฯ:สำ�นักพิมพศ์ ูนยส์ ่งเสรมิ วชิ าการ 2556


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook