โคมไฟญี่ปุ่น

1 บทท่ี1 บทนำ 1.1ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน โคมไฟเป็นของใชแ้ ละของตกแตง่ ท้งั ภายในบา้ นและภายนอกบา้ น ซ่ึงโคมไฟเป็นสิ่งท่ี อานวยความสะดวกใหเ้ ราสามารถมองเห็นในที่มืดได้ เพราะโคมไฟเป็นสิ่งท่ีใหแ้ สงสวา่ งใน เวลากลางคืนหรือแมแ้ ตใ่ นที่มืด เป็นโคมไฟที่ใชภ้ ายในบา้ นและวางไวต้ ามจุดต่างๆของบา้ น อาจจะวางไวบ้ นโต๊ะหรือบนโต๊ะทางาน จึงถือไดว้ า่ โคมไฟเป็นของใชท้ ี่จาเป็นอยา่ งใน ชีวติ ประจาวนั โคมไฟจะใหแ้ สงสวา่ งแลว้ โคมไฟยงั ใชเ้ ป็นของประดบั และตกแตง่ ภายในบา้ น ซ่ึงจะทาใหบ้ ริเวณน้นั เกิดความสวยงามอีกดว้ ย ดงั น้นั ทางคณะผจู้ ดั ทาจึงไดค้ ิดที่จะจดั ทาโคมไฟจากไม้เสยี บลกู ชนิ ้ และกระดาษทีเ่ หลอื ใช้ เพ่อื ให้มปี ระโยชน์ไม่ต้องทงิ ้ และประหยดั คา่ ใช้จ่าย 1.2วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ประดษิ ฐโ์ คมไฟจากไมเ้ สยี บลกู ชน้ิ และกระดาษ 2. เพอ่ื ประดษิ ฐข์ องใชแ้ ละของตกแต่งบา้ นจากสงิ่ ของเหลอื ใช้ 3. เพอ่ื นาสงิ่ ของเหลอื ใชม้ าทาใหเ้ กดิ มลู คา่ 4.เพอ่ื ฝึกความคดิ สร้างสรรค์

2 1.3ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า 1. ศกึ ษาเกย่ี วกบั การทาโคมไฟญป่ี ่นุ เพอ่ื ทาโคมไฟจากไมเ้ สยี บลกู ชน้ิ 2.กาหนดเวลาทางานท่ีใช้ในการทาระหวา่ งเดือนธนั วาคม-มกราคม 1.4ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ 1.ไดโ้ คมไฟจากไมเ้ สยี บลกู ชน้ิ และกระดาษ 2.ไดป้ ระดษิ ฐข์ องใชแ้ ละของตกแตง่ บา้ น 3.ไดน้ าไมแ้ ละกระดาษทเ่ี หลอื มาใชป้ ระโยชน์ใหส้ งู สุด 4.ได้เรียนรู้เก่ียวกบั การประสานงาน 5.ได้กล้าคดิ กล้าทา กล้าแสดงออก 6.ได้ความคดิ ความสร้างสรรค์จากการทาโครงงานนี ้ 7.ได้รู้จกั การแก้ปัญญาตา่ งๆ ด้วยตนเอง 8.ได้รู้จกั ความสามคั คแี ละการทางานร่วมกนั

3 บทท่2ี เอกสำรท่เี ก่ยี วข้อง ในการจดั ทาโครงงานในครัง้ นี ้กลมุ่ ของข้าพเจ้าได้ศกึ ษาการทาโคมไฟและความสาคญั ของอปุ กรณ์ตา่ งๆทไี่ ด้ทา 2.1ความสาคญั ของโคมไฟ โคมไฟ เป็นของตกแต่งบา้ นอกี ประเภทหน่งึ ทน่ี อกจากใหแ้ สงสวา่ งภายในบา้ นในหอ้ ง ทางานหรอื ใหแ้ สงสว่างภายในบรเิ วณบา้ นแลว้ การเลอื กประเภทและรปู แบบของโคมไฟยงั เพม่ิ ความสวยงามทาใหบ้ า้ นโดดเด่นบ่งบอกรสนยิ มของเจา้ ของบา้ นไดเ้ ป็นอยา่ งดี ประโยชน์ ของโคมไฟ 1. แสงสวา่ งจากโคมไฟหลากหลายประเภทใหค้ วามสวยงามและใหแ้ สงสวา่ งทแ่ี ตกตา่ งกนั ทาใหเ้ หมาะกบั การเลอื กใชง้ านทห่ี ลากหลาย 2. โคมไฟบางรปู แบบสามารถนาประยกุ ตเ์ ป็นของประดบั ตกแตง่ บา้ นใหส้ วยงามได้ เช่น โคมไฟตดิ เสารวั้ โคมไฟตดิ ผนงั นอกบา้ น หรอื โคมไฟระเบยี งบา้ น 3. โคมไฟ นอกจากจะใหแ้ สงสว่าง ยงั ใชป้ ระดบั สวนทอ่ี ยภู่ ายในบรเิ วณบา้ น ทาใหบ้ า้ นและ สวนดสู วยขน้ึ ยง่ิ ขน้ึ โคมสามารถเป็นทงั้ สงิ่ ทม่ี ผี ลใชส้ อยหรอื ใชต้ กแต่งตกแต่งเช่นไฟสายราวกบั โรงละครไดต้ ดิ ไว้ รอบๆ ทางเขา้ อาคารบา้ นเรอื น ช่วยทาใหเ้ กดิ ความนุ่มนวล และเมอ่ื รวมกนั กบั ลกู บอล กระจกยอ่ มๆ สง่ ใหเ้ กดิ ความสวา่ งไสววบิ วบั ไปทวั่ ทงั้ หอ้ งหบั โคมไฟแกว้ ระยา้ ทเ่ี ป็นหน้า เป็นตาถดั ออกไปเพมิ่ ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ คลาสสคิ แบบผใู้ หญ่มากขน้ึ

4 2.2วธิ ีการทาโคมไฟ 1.การต่อสายหลอดไฟ 2.การทาโครง 3.เจาะรูใสท่ ี่เสยี บลกู ชนิ ้ 4.ใสก่ ระดาษ 5.ประกอบให้เข้าที่และวาดลวดลายทชี่ อบ

5

6 2.3ประโยชน์ของโคมไฟ 1. ทาใหม้ แี สงสว่างสวยงาม 2. ประดบั ตกแตง่ บา้ นใหส้ วยงาม 3. นามาใชป้ ระโยชน์ไดใ้ นชวี ติ ประจาวนั 4. ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยในครวั เรอื น 5. สามารถนามาสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเอง

7 บทท่3ี วธิ ีกำรดำเนนิ โครงงำน