Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฤๅษีดัดตน

ฤๅษีดัดตน

Published by prprae19, 2021-12-26 06:19:37

Description: วิธีการดูแลรักษาสุขภาพ ฤๅษีดัดตน

Search

Read the Text Version

ฤาษดี ัดตน ขยับกาย สบายชวี ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพ้นื ฐาน ๑๕ ทา่ ทปี่ รกึ ษา ๑. นายแพทยส์ มชยั นิจพานชิ อธบิ ดกี รมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ๒. นายแพทยป์ ภสั สร เจียมบุญศรี รองอธบิ ดกี รมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ ๓. นายแพทย์ณัฐวุฒ ิ ประเสริฐสิรพิ งศ์ รองอธบิ ดกี รมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ จดั ทา� โดย กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ แสดงแบบ ลัดดาวัลย ์ จาดพันธอ์ุ ินทร์ ศุภจติ แพจยุ้ ออกแบบ ธงไทย โลหติ คุปต์ พิมพ์คร้งั ท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๖ จา� นวน ๒๕,๐๐๐ เลม่ (ภายใตโ้ ครงการสืบสานตา� นานภูมิปัญญาไทย มรดกไทย สู่สขุ ภาพไทยและสุขภาพโลก) พิมพ์ที่ บรษิ ทั โพสตพ์ ับลิชชง่ิ จ�ากัด (มหาชน) Dhammaintrend

ขยบั กาย สบายชีวี ด้วยกายบริหารแบบไทย ฤๅษีดัดตนพน้ื ฐาน ๑๕ ทา่ กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข •3•

ฤๅษดี ดั ตน ขยับกาย สบายชวี ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดัดตนพ้ืนฐาน ๑๕ ทา่ 0•40 •

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข •500•

ฤๅษดี ดั ตน ขยบั กาย สบายชวี ี ด้วยกายบริหารแบบไทย ฤาษดี ดั ตนพื้นฐาน ๑๕ ทา่ •060•

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ •700•

ฤๅษีดดั ตน ขยับกาย สบายชวี ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ดั ตนพื้นฐาน ๑๕ ท่า สารบญั ค�าน�า ๕ ๑ กายบรหิ ารแบบไทย “ฤๅษีดัดตน” บทน�า ๑๑ ประวัติความเป็นมา ๑๒ ประโยชน์ ๑๓ การคดั เลือกทา่ พน้ื ฐาน ๑๓ การฝกึ ลมหายใจ ๑๔ ๒ การตรวจสมดลุ ของโครงสร้างรา่ งกาย แนวคิดเกย่ี วกับสมดุลโครงสรา้ งของรา่ งกาย ๑๕ การตรวจสมดุลโครงสร้างของรา่ งกาย ๑๖ การตรวจความผิดปกตขิ องรา่ งกาย ๑๗ ๓ กายบรหิ ารแบบไทยฤๅษดี ัดตนพื้นฐาน ๑๕ ท่า ๒๔ •080 •

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ท่าท่ี ๑ นวดบริเวณกล้ามเนือ้ ใบหนา้ ๗ ทา่ ๒๔ ท่าที่ ๒ แกล้ มข้อมอื และแกล้ มในล�าลงึ ค์ ๓๒ ทา่ ท่ี ๓ แกป้ วดทอ้ งและขอ้ เท้า และแกล้ มปวดศรษี ะ ๓๕ ท่าที่ ๔ แกล้ มเจ็บศรษี ะและตามวั และแกเ้ กยี จ ๓๙ ท่าท่ี ๕ แกแ้ ขนขัด และแกข้ ัดแขน ๔๒ ท่าที่ ๖ แกก้ ลอ่ น และแก้เข่าขดั ๔๕ ทา่ ท่ี ๗ แกก้ ล่อนปัตคาต และแกเ้ ส้นมหาสนุกระงับ ๔๘ ท่าท่ี ๘ แก้ลมในแขน ๕๑ ทา่ ที่ ๙ ดา� รงกายอายุยืน ๕๔ ท่าท่ี ๑๐ แก้ไหล่ ขา และแก้เข่า ขา ๕๖ ทา่ ที่ ๑๑ แกโ้ รคในอก ๕๙ ท่าท่ี ๑๒ แก้ตะคริวมือตะครวิ เท้า ๖๓ ทา่ ที่ ๑๓ แกต้ ะโพกสลักเพชร และแก้ไหลต่ ะโพกขดั ๖๕ ท่าท่ี ๑๔ แกล้ มเลอื ดนัยนต์ ามัว และแก้ลมอันรัดทัง้ ตัว ๖๘ ทา่ ท่ี ๑๕ แกเ้ มอื่ ยปลายมือปลายเทา้ ๗๐ •090•

ฤๅษีดัดตน ขยบั กาย สบายชวี ี ด้วยกายบริหารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพื้นฐาน ๑๕ ท่า •0100•

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย ๑ และการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข กายบรหิ ารแบบไทย “ฤๅษีดดั ตน” บทน�า ฤๅษี หมายถงึ นกั พรตหรอื นักบวชที่อยตู่ ามปา่ เขาลา� เนาไพร ในต�านานหรือนิทาน โบราณ มกั จะเรยี กผทู้ เ่ี ปน็ นกั บวชวา่ “ฤๅษ”ี ซง่ึ เมอื งไทยในอดตี นา่ จะมนี กั บวชประเภทน้ี แสวงหาความสงบสันโดษ อยู่ตามป่าเขา เม่ือได้บ�าเพ็ญเพียรสมาธินานๆ อาจมีอาการ เม่ือยขบ จงึ ไดท้ ดลองขยับเขย้อื นร่างกาย มกี ารยืดงอและเกรง็ ตัวดดั ตน ท�าให้เกิดเปน็ ทา่ ดดั ตา่ งๆ ซงึ่ ทา� ใหอ้ าการเจบ็ ปว่ ย เมอื่ ยขบหายไปได ้ จงึ ไดข้ อ้ สรปุ ประสบการณบ์ อกเลา่ สืบต่อกันมา หรืออาจเกิดจากการคิดค้นโดยบุคคลท่ัวๆ ไป เพราะในสังคมไทยกว่า ๒,๐๐๐ ป ี เรามีศาสนาพุทธเป็นที่ยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติตน ดังนั้น นักบวช นักพรต ก็อาจเป็นชาวพุทธที่นิยมน่ังสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน หรืออาจเป็นอุบาสกอุบาสิกา และแมแ้ ตพ่ ระสงฆ์ สา� หรับการปัน้ เป็นรูปฤๅษนี น้ั ไม่มีหลักฐานวา่ พระมหากษัตรยิ ์ไทยลอกแบบมาจาก ท่ีใด แต่เปน็ ทยี่ อมรับกันโดยท่วั ไปว่าคนไทยเคารพนบั ถือฤๅษีเปน็ ครบู าอาจารย์ การป้นั เปน็ รปู ฤๅษแี ละระบชุ อื่ ฤๅษเี ปน็ ผคู้ ดิ คน้ ทา่ เหลา่ นนั้ อาจเปน็ กลวธิ ีใหเ้ กดิ ความขลงั เพราะ ผูฝ้ กึ ตอ้ งมาฝึกท่าทางต่างๆ กับรูปป้นั ฤๅษี เปรยี บเสมอื นไดฝ้ กึ กับคร ู เพราะฤาษีเปน็ ครู ของศลิ ปะวิทยาการตา่ งๆ จากที่ผ่านมามีผู้ศึกษาบางคนพยายามเชื่อมโยงว่าคนไทยเลียนแบบท่าฤๅษีดัดตน จากทา่ โยคะของอนิ เดีย แลว้ พยายามน�าทา่ ไปเทยี บเคยี งกัน ซึ่งเม่อื พิจารณาแล้วพบวา่ ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะท่าดัดตนของไทยไม่ใช่ท่าผาดโผนหรือฝืนร่างกายจนเกินไป ส่วนใหญ่เป็นท่าดัดตามอิริยาบถของคนไทย มีความสุภาพและคนทั่วไปสามารถท�าได ้ แต่อย่างไรก็ตาม ในจ�านวนท่า ฤๅษีดัดตน ๘๐ ทา่ มีท่าแบบจีน ๑ ท่า ทา่ แบบแขก ๑ ทา่ ทา่ ดดั ค ู้ ๒ ทา่ แสดงถงึ การแลกเปลย่ี น ความรกู้ นั และมกี ารระบไุ วช้ ดั เจนวา่ เปน็ ของ ต่างชาติ ซ่ึงเช่ือว่าเป็นการปั้นเพิ่มเติมข้ึนภายหลัง เพราะมนุษย์ต่างก็แสวงหาแนวทาง เพ่ือช่วยเหลือตนเอง เพ่ือใหร้ ่างกายแข็งแรงและมีอายยุ ืนยาว เช่น อินเดีย มกี ารบรหิ าร ร่างกายท่ีเรียกว่า โยคะ จีนมีการร�ามวยจีนที่เรียกว่า ไทเก๊ก ไทยมีการบริหารร่างกาย ดว้ ยทา่ ฤๅษดี ัดตน เป็นตน้ •1010•

ฤๅษดี ัดตน ขยบั กาย สบายชีว ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพืน้ ฐาน ๑๕ ทา่ ประวตั ิความเปน็ มา พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกทรงปฏสิ งั ขรณว์ ดั โพธาราม (วดั พระเชตพุ น- วิมลมังคลาราม) เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ รวบรวมต�ารายาและ ปั้นท่าฤๅษีดัดตนไว้เป็นทาน รูปปั้นท่าฤๅษีดัดตนท่ีสร้างขึ้น ในสมัยรัชกาลท่ี ๑ นั้น ไม่ทราบจา� นวนแนช่ ดั เดิมปน้ั ดว้ ยดินปิดทอง จึงช�ารุดเสอ่ื มสภาพได้ง่าย ตอ่ มาในสมยั รชั กาลท ่ี ๓ พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงโปรดใหก้ รมหมน่ื ณรงค์หรริ ักษ์ (พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๑ พระนามเดิมพระองค์เจ้าชายดวงจักร) เปน็ ผทู้ รงก�ากับช่างหล่อรูปฤๅษีดัดตนท่าตา่ งๆ รวม ๘๐ ท่า โดยหล่อด้วยสังกะสีผสมดบี กุ เรียกว่า “ชิน” ปั้นแล้วน�าไปตั้งไว้ตามศาลารายโดยมีศิลาจารึกบรรยายสรรพคุณไว้เป็น โคลงสี่สุภาพซ่ึงแต่งโดยกวีมีชื่อในสมัยรัชกาลที่ ๓ แม้แต่องค์พระมหากษัตริย์ก็ได้ทรง พระราชนพิ นธ์โคลงเองถงึ ๖ บทดว้ ยกนั นอกจากนยี้ งั มพี ระเจา้ นอ้ งยาเธอ, พระเจา้ ลกู ยาเธอ, ขนุ นาง, พระภกิ ษ ุ ตลอดจนสามญั ชน รวม ๓๕ ทา่ น รว่ มกนั นพิ นธแ์ ละแตง่ โคลงรวมทงั้ สน้ิ ๘๐ บท แล้วจารึกไวด้ ังคา� โคลงบานแผนกไว้วา่ “จ่งึ สมเด็จนฤบาล ธ ก็บรรหารเสาวพจน์ ใหล้ ขิ ิตบทโคลง ทรงลงจารึกเสลา ตราติด ผนังก�ากบั ส�าหรับรูปหล่อหลาย แลว้ ให้พนาย จิตกรรม์ สฤษฎริ ังสรรค์ เสาวเลขรจเรขชฎลิ ดัดกายนิ ถว้ นองคล์ งในสมดุ ดุจหล่อส่อทา่ ตราแผนไว้ ธก็ใหเ้ ลขกามาตย์ จา� ลองศาสตรเสน้ รง แสดงโครงทรงสืบสร้าง เปน็ ตา� หรบั ฉบบั อา้ งคหู่ ลา้ แหล่งเฉลมิ ” จะเห็นวา่ หลงั ป้ันรปู และไดแ้ ต่งโคลงเสรจ็ ได้มกี ารวาดภาพ ลงสมดุ ไทย และมโี คลงกา� กบั ไว ้ ผูว้ าดภาพคือ ขนุ รจนา ขนุ อาลกั ษณ์ วิสทุ ธิอักษร เปน็ คนตรวจทาน เขียนโคลงลงในสมุด ดังคา� โคลง ขา้ พระชา่ งวาดซ้าย สมญา ยศฤๅ เสนอชอื่ รจนา มาศรู้ ช�านาญรจนาขวา ตา� แหนง่ หม่ืนเอย ฉลลุ กั ษณนักสิทธ์ผ ู้ ดดั ถา้ ทั้งมวล ขนุ ข้าอาลักษณน์ ี้ นามกร คอื วสิ ุทธอิ ักษร ทตี่ ้ัง ทานเทียบระเบยี บกลกลอน โคลงราช นพ้ี อ่ จารึกอกั ขรทงั้ เล่มสน้ิ เสร็จแสดง 0•102•

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข การคดั ลอกเสรจ็ เมอื่ แรม ๑ คา่� เดอื น ๗ ปจี อ จ.ศ. ๑๒๐๐ นบั เปน็ การรอบคอบอยา่ งยงิ่ ที่ได้มีการวาดภาพและเขียนโคลงลงในสมุดไทยไว้ด้วย เพราะโคลงที่จารึกไว้ตามผนัง ศาลารายรอบวดั สญู เสยี ไปอยา่ งมาก เหลอื ไวเ้ พยี งเฉพาะ ชอื่ แตล่ ะบทเทา่ นนั้ อกี ทง้ั มกี าร เคลอ่ื นยา้ ยรปู ปน้ั ทา� ใหโ้ คลงแยกจากรปู ปน้ั จงึ เกดิ ความสบั สนสา� หรบั คนรนุ่ หลงั ทต่ี อ้ งการ ศึกษา อีกทั้งคนไทยบางคนได้ท�าลายมรดกของชาติด้วยการขโมยเอาไปขายอีกด้วย ได้มีผู้ขโมยไปหลายครงั้ ทจี่ ับไดม้ หี ลักฐานคอื นายสุก ทหารรักษาวัง ขโมยไปถงึ ๑๖ ตน เหตกุ ารณเ์ กดิ ขน้ึ ในสมยั รชั กาลท ่ี ๕ การสญู เสยี เชน่ นท้ี า� ใหเ้ ราไมเ่ หน็ รปู ปน้ั ดง้ั เดมิ การปน้ั ขึ้นใหม่ อาจทา� ใหท้ า่ ดดั ตนไม่สอดคลอ้ งกับโคลงได ้ ซง่ึ จะเหน็ ไดว้ า่ มีการคดั ลอกรวบรวม ภาพและท่าฤๅษีดดั ตนกันตอ่ ๆ มา จากตา� ราหลายเล่มพบว่า ภาพและโคลงไม่สอดคล้อง และเพี้ยนไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างย่ิงภาพจากศิลาจารึกวัดโพธิ์ ซึ่งมีอยู่หลายภาพท่ีไม่มี ค�าโคลงอธิบายหรือไม่สามารถน�าโคลงมาจับคู่กับภาพได้ ทั้งน้ีอาจเป็นท่าที่คิดค้นขึ้น มาใหม่ก็ได้ และบางตา� รายังพบโคลงใหม่เพิ่มเติมขน้ึ จากโคลงท่ีมอี ยู่เดมิ ประโยชน์ การบริหารร่างกายด้วยท่าฤๅษีดัดตน นอกจากใช้เป็นท่าในการบริหารร่างกายแล้ว ท�าให้ร่างกายต่ืนตัว แข็งแรง และเป็นการพักผ่อน ท่าต่างๆ ที่ใช้ยังมีสรรพคุณในการ รกั ษาโรคเบยื้ งต้นได้อีกด้วย นบั ว่ามปี ระโยชน์เป็นอนั มาก ได้แก่ ช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของแขนขาหรือข้อต่างๆ เป็นไปอย่าง คลอ่ งแคลว่ มกี ารเน้นการนวดโดยบางท่าจะมกี ารกดหรอื บบี นวดร่วมไปด้วย ท�าให้โลหิตหมุนเวียน เลือดลมเดินได้สะดวก นับเป็นการออกก�าลังกายที่สามารถ ทา� ไดใ้ นทุกอิรยิ าบถของคนไทย เปน็ การตอ่ ต้านโรคภยั บ�ารงุ รักษาสขุ ภาพใหม้ ีอายุยืนยาว มีการใชส้ มาธิร่วมด้วยจะช่วยยกระดับจติ ใจให้พ้นอารมณข์ ุ่นมวั หงุดหงิด ความงว่ ง ความท้อแท้ ความเครียด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการหายใจหากมีการฝึกการ หายใจให้ถูกต้อง การคดั เลือกท่าพน้ื ฐาน สถาบนั การแพทย์แผนไทย ได้ด�าเนนิ การคัดเลอื กทา่ ฤๅษดี ดั ตนพ้ืนฐาน ๑๕ ท่า จาก ทา่ ฤๅษีดดั ตนท่ีได้รวบรวมไวท้ ง้ั หมด ๑๒๗ ทา่ โดยมแี นวคิดและหลักการคดั เลือก ดังน้ี •1300•

ฤๅษีดดั ตน ขยบั กาย สบายชีว ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดดั ตนพืน้ ฐาน ๑๕ ทา่ ๑. เป็นท่าที่เปน็ ตัวแทนของอริ ยิ าบถต่างๆ และสามารถบรหิ ารรา่ งกายได้ครอบคลมุ ทุกสว่ น ต้ังแต่ คอ ไหล่ แขน อก ท้อง เอว เขา่ ไปจนถงึ เท้า ๒. เป็นท่าพ้ืนฐานท่ัวไป ส�าหรับการเร่ิมต้นฝึกปฏิบัติให้เกิดความเคยชินและ ช่วยให้เหน็ ความสา� คัญของการจดั โครงสร้างร่างกายของตนเองให้สมดุล ๓. เป็นท่าที่เลือกมาจากท่าฤๅษีดัดตนซึ่งมีมาตั้งแต่ด้ังเดิมแล้วปรับประยุกต์ใช้ในท่า ตา่ งๆ เช่น น่ัง นอน หรือยืน มีการสรุปความเคล่ือนไหวตอ่ เนอ่ื งหรอื น�าทา่ เดมิ หลายท่า มาเคลือ่ นไหวต่อเนอ่ื งกนั ๔. การคัดเลอื กทา่ ตา่ งๆ จะใช้แนวคิดเกีย่ วกบั ความสมดลุ ของโครงสรา้ งร่างกายและ การบรหิ ารรา่ งกายตามแนวต่างๆ เชน่ แนวดิง่ แนวราบ แนวเฉยี ง โดยเพม่ิ เติมการตรวจ ร่างกายอย่างง่ายๆ เพื่อให้ทราบถึงโครงสร้างร่างกายของตนเองที่ไม่สมดุล โดยอาศัย แนวคิดด้าน ดุลยภาพ ของ รศ.พญ.ลดาวัลย์ สุวรรณกิตติ มาใช้ในการคัดเลือกท่าท ่ี เหมาะสม เพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถฝึกหัดได้โดยไม่ท�าให้โครงสร้างท่ีเสียสมดุลอยู่เดิมมี ความเสยี หายมากขน้ึ ๕. ในการคดั เลือกท่าฤๅษดี ดั ตน ได้เพม่ิ ทา่ บริหารกลา้ มเน้ือบนใบหนา้ ซ่งึ คิดค้นโดย รศ.นพ.กรุงไกร เจนพาณิชย์ ผ้ลู ่วงลับไปแลว้ ซึง่ เปน็ แพทยผ์ ้เู ชีย่ วชาญทางดา้ นกระดูก และข้อ และเคยศึกษาการนวดไทยจากอาจารย์ณรงค์สักข์ บุญรัตนหิรัญ หมอนวด ราชสา� นัก ก่อนที่จะเสยี ชีวิตสามารถคิดคน้ ท่านวดกลา้ มเนือ้ บนใบหนา้ ๗ ท่าข้ึนมา ๖. การคัดเลือกท่าต่างๆ ไม่เน้นการรักษาเฉพาะโรค แต่เป็นการเตรียมพร้อมการ ปรับสมดลุ โครงสร้างร่างกาย อยา่ งง่ายดว้ ยตัวเอง ๗. ท่าที่คัดเลือกไว้นี้ แม้จะมีการวิเคราะห์โดยใช้ความรู้ทางแพทย์แผนปัจจุบันท้ัง ในแง่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลแล้วก็ตาม สถาบันการแพทย์แผนไทย ยังมีแนวคิด ทจ่ี ะสนบั สนนุ ใหเ้ กิดการวิจยั ควบคไู่ ปกับการส่งเสรมิ ให้มกี ารฝึกปฏบิ ัติดว้ ยตนเอง การฝกึ ลมหายใจ การฝึกทา่ ฤๅษดี ัดตนนัน้ ในต�ารามิได้มีการระบชุ ัดเจนเกี่ยวกบั การหายใจ แต่อย่างไร ก็ตาม ในศาสนาพุทธมีการน่ังสมาธิ โดยการฝึกบริหารลมหายใจเช่นกัน ดังนั้นท่า ฤๅษีดัดตนจึงน่าจะให้ความส�าคัญเกี่ยวกับการก�าหนดลมหายใจและการกล้ันลมหายใจ ดงั นน้ั กอ่ นทจี่ ะบรหิ ารรา่ งกายดว้ ยทา่ ฤๅษดี ดั ตน ควรเรม่ิ ตน้ นงั่ สมาธแิ ละการฝกึ การหายใจ ใหถ้ กู ตอ้ ง •0104•

กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข หายใจเข้า - สูดลมหายใจเข้าช้าๆ ค่อยๆ เบ่งช่องท้องให้ท้องป่องออก อกขยาย ซ่ีโครงสองขา้ งจะขยายออก ปอดขยายใหญม่ ากขน้ึ ยกไหลข่ นึ้ จะเป็นการหายใจเข้าให้ ลึกที่สดุ กลั้นลมหายใจไว้สกั คร ู่ ในชว่ งนผี้ นงั ชอ่ งท้องจะยบุ เล็กนอ้ ยหนา้ อกจะยดื เต็มท่ี หายใจออก - คอ่ ยๆ ผ่อนลมหายใจออกชา้ ๆ โดยยุบท้อง หุบซ่ีโครงสองขา้ งเขา้ มา แล้วกดไหลล่ ง จะท�าให้หายใจออกได้มากท่สี ุด กายบริหารแบบไทย ท่าฤๅษีดัดตน เป็นการบริหารร่างกายของคนไทยท่ีมีมา แต่โบราณ ซึ่งเน้นการฝึกลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย จึงเป็นท้ังการบริหารร่างกาย และบรหิ ารจิต รวมทงั้ ชว่ ยในการบา� บัดอาการเจ็บปว่ ยเบอ้ื งต้นได้ในระดับหนงึ่ ๒ การตรวจสมดลุ ของโครงสรา้ งรา่ งกาย แนวคดิ เกี่ยวกับสมดลุ โครงสรา้ งของร่างกาย ๑. อริ ิยาบถต่างๆ ของมนุษย์ม ี เดิน ยืน น่งั นอน ร่างกายม ี ๒ ดา้ น เช่น มี ๒ ตา ๒ แขน ๒ มือ เปน็ ตน้ ธรรมชาติได้ใหไ้ ว้อย่างมีศิลปะ มีความสมดุลเท่ากนั เชน่ มีขา เทา่ กัน แขนเทา่ กัน เปน็ ต้น ๒. สงิ่ ผดิ ปกตทิ เี่ กดิ ขน้ึ อาจมสี าเหตหุ รอื เปน็ ความพกิ ารแตก่ า� เนดิ ซงึ่ อาจทา� ใหอ้ วยั วะ ตา่ งๆ ผิดปกติไปหรอื ไม่เหมอื นกัน เช่น แขนด้วน ตาเหล ่ ตาเข เป็นตน้ นอกจากน้คี วาม ผดิ ปกตขิ องโครงสรา้ งรา่ งกายมสี าเหตมุ าจากการฝนื อริ ยิ าบถ หรอื การเคลอื่ นไหวผดิ ปกต ิ การกระทบกระแทกของรา่ งกายเปน็ ไปอยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป จนทา� ใหโ้ ครงสรา้ งทเ่ี คยสมดลุ และมีการท�างานปกต ิ เกิดความเสยี หายหรอื เสียสมดลุ ไป ๓. การเสยี สมดุลของโครงสรา้ งร่างกายต่างๆ ท่ีเกดิ ขนึ้ ในข้อ ๒ ดงั กล่าว หากเพงิ่ เริ่มต้น จะมีผลกระทบกับระบบไหลเวียนโลหิตและระบบประสาทยังไม่มาก จึงอาจไม่ •1500•

ฤๅษีดดั ตน ขยบั กาย สบายชีว ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดดั ตนพ้นื ฐาน ๑๕ ทา่ แสดงอาการ เจบ็ ปว่ ย หรอื อาจเกิดอาการบา้ งโดยทผ่ี ู้ป่วยมิไดส้ งั เกต ตอ่ เมอื่ มากจนเกดิ โรคหลายๆ โรคแลว้ จงึ จะรสู้ กึ ไดว้ า่ ไมส่ บาย ซงึ่ กเ็ กอื บสายไป ผปู้ ว่ ยทมี่ าดว้ ยหลายอาการ อันเนือ่ งจาก เสน้ เลอื ดหรอื เส้นประสาทนัน้ เปรยี บดังสายน้�าท่ีไหลผา่ นเมืองตา่ งๆ ย่อม ส่งผลถึงเมืองท่ีอยู่ริมแม่น�้า ซ่ึงจะได้รับผลกระทบทั้งส้ิน เช่นเดียวกับอวัยวะน้อยใหญ่ที่ เลอื ดไปหลอ่ เลยี้ งไดไ้ มท่ วั่ ถงึ ยอ่ มพกิ ารเกดิ อาการเปน็ ไปตา่ งๆ ดงั นน้ั หากแพทย์ไมส่ นใจ ตน้ เหตุ กจ็ ะให้การรักษาโรคตามอาการ ๔. บคุ คลควรร้จู กั ตนเองและวเิ คราะหเ์ สียก่อนวา่ โครงสรา้ งต่างๆ เสียสมดลุ หรือไม่ หากยังไม่เสียสมดุล ควรปฏิบัติดัดตนเพ่ือตรวจสอบหรือปรับสภาพการเคลื่อนไหวของ โครงสรา้ งรา่ งกาย ขอ้ เสน้ เอน็ ตา่ งๆอยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั การ อยา่ งสมา�่ เสมอ เพอื่ ปอ้ งกนั และแก้ไขการเสยี สมดุลโครงสรา้ งเหล่านน้ั ๕. ตามหลกั การสมดลุ ของโครงสรา้ งร่างกาย แพทยห์ ญิงลดาวัลย์ สุวรรณกติ ติ ได ้ กลา่ วไวว้ ่าร่างกายของคนเรา ถา้ เสียสมดุล โครงสรา้ งกระดกู กล้ามเนื้อ เส้นเอน็ และ เนอ้ื เยอ่ื ตา่ งๆ ยอ่ มสง่ ผลตอ่ ระบบไหลเวยี นโลหติ ระบบอวยั วะและระบบอตั โนมตั ติ า่ งๆ ทา� ให้ เกดิ อาการผิดปกตไิ ดเ้ กือบทกุ ระบบ เมอื่ แก้ไขดว้ ยการให้ผู้ปว่ ยฝกึ กายบริหารและฝังเข็ม รว่ มดว้ ย ชว่ ยใหอ้ าการตา่ งๆ หายไปไดอ้ ยา่ งประหลาด เปน็ วชิ าทเ่ี รยี กวา่ “ดลุ ยภาพบา� บดั ” ปัจจุบันคนสว่ นใหญ่ยังมองคณุ ค่า ของท่าฤๅษดี ดั ตนวา่ เป็นเพยี งกายบรหิ ารทว่ั ไป แมว้ า่ คนไทยได้คิดค้นกันมานานแล้ว ดังนั้นข้อเท็จจริงในการดัดตนเข้าสู่ความสมดุลซ่ึง อธิบายโดยแพทย์แผนปัจจุบัน ช่วยเป็นผลสะท้อนจะเป็นแรงกระตุ้นให้สังคมเห็นคุณค่า กายบริหารแบบไทยฤๅษดี ัดตนได้กวา้ งขวางเพม่ิ ขน้ึ ๖. การตรวจตนเองว่าจะเสียสมดุลท�าได้อย่างไรนั้น ได้เลือกแนวคิด ๒ ทาง คือ แนวคดิ แบบดลุ ยภาพบา� บัดของ แพทยห์ ญิงลดาวลั ย ์ สุวรรณกิตติ และแนวคดิ เก่ียวกบั ท่าพ้ืนฐานฤๅษดี ัดตน การตรวจสมดุลโครงสร้างรา่ งกาย กอ่ นทจ่ี ะฝึกกายบรหิ ารท่าฤๅษีดัดตนนัน้ ควรตรวจสมดลุ โครงสร้างของรา่ งกายก่อน อย่างน้อยในคร้ังแรกที่จะเริ่มมีการปฏิบัติ และเพ่ือประเมินการเปลี่ยนแปลง หลังจากม ี การฝึกปฏบิ ัติอย่างตอ่ เนื่อง 0•106•

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ ดา้ นบน แนวกลางตัว ดา้ นข้าง ด้านล่าง การตรวจความผดิ ปกติของรา่ งกาย ยืนตรง เท้าท้ัง ๒ ข้างชิดกัน ตามองตรง ถ้าตรวจด้วยตนเองหน้ากระจก ให้เร่ิม พิจารณาตั้งแต่ศรีษะจรดเทา้ ไปตามล�าดบั •1700•

ฤๅษีดัดตน ขยบั กาย สบายชวี ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพน้ื ฐาน ๑๕ ทา่ การตรวจความผิดปกตบิ ริเวณใบหนา้ ใหพ้ ิจารณาบริเวณใบหน้า ตา ดง้ั จมูก และมมุ ปากวา่ มคี วามผดิ ปกตอิ ยา่ งไรบา้ ง ลักษณะตาเข 0•108•

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข การตรวจความผดิ ปกตบิ ริเวณไหล่ ให้พจิ ารณาไหลท่ ง้ั ๒ ขา้ ง ขา้ งใดเอียง ข้างใดลด •1090•

ฤๅษีดดั ตน ขยับกาย สบายชวี ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ดั ตนพ้ืนฐาน ๑๕ ทา่ การตรวจความผดิ ปกติบริเวณหนา้ อก ใหพ้ จิ ารณาหนา้ อกท้งั สองข้าง ข้างใดนูน ข้างใดแฟบ การตรวจความผดิ ปกติบรเิ วณมอื ใหพ้ จิ ารณามอื ท้งั ๒ ข้าง โดยสังเกตสีของมอื และอุ้งมอื วา่ ลีบหรอื ไม่ •020 0•

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข การตรวจความผิดปกตบิ รเิ วณขาและเทา้ ใหพ้ จิ ารณาสผี วิ หนงั ของขา ความ สั้นยาวของขนหน้าแข้ง เหง่ือออก ขา้ งใดมากกว่ากนั พิจารณา สีผิวของ เทา้ นิ้วเท้า ๒ ขา้ ง กางต่างกันหรือไม ่ สีของเล็บเท้าและขนบริเวณหัวแม่เท้า มปี รมิ าณเท่ากันหรอื ไม่ •2010•

ฤๅษีดัดตน ขยบั กาย สบายชวี ี ด้วยกายบริหารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพ้นื ฐาน ๑๕ ท่า การตรวจความผิดปกติบรเิ วณดา้ นหลังของร่างกาย ให้พจิ ารณาไรผม ไหล่ และกล้ามเนอื้ บ่าทั้ง ๒ ขา้ งเทา่ กนั หรือไม ่ สะบักทงั้ ๒ ขา้ ง อยู่ในระดับเดียวกันหรือไม่ เส้นกลางหลังเป็นร่องตรง กระดูกสันหลังอยู่ในแนวด่ิงตรง หรอื คด สะโพก ๒ ขา้ ง ข้างใดสงู หรือต�่ากวา่ กัน น่อง ๒ ขา้ งเท่ากนั หรอื ไม่ เมอ่ื ตรวจพจิ ารณา พบวา่ มคี วามเสยี สมดลุ ขา้ งใด ตอ้ งพยายามปรบั โครงสรา้ งรา่ งกาย ตนเองขณะดดั ตน อาจตรวจสอบทหี่ นา้ กระจกกอ่ น เชน่ ถา้ ไหลข่ า้ งหนง่ึ เอยี ง ควรพยายาม ยกไหล่ข้างนั้นให้มากข้ึน และหากมีข้อติดขัดมาก ควรดัดตน แบบค่อยเป็นค่อยไป ไมต่ ้องฝืนร่างกาย ถ้าหากกล้ามเนื้อขา้ งใดยึดมากอยู่แล้วกค็ วรระวงั •020 2•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ สะบักท้ังสองข้าง ตอ้ งนนู เทา่ กัน รอ่ งกระดกู สันหลัง ต้องเป็นเส้นตรง ขอบสะโพก อยู่ในระดบั เดียวกัน นอกจากน ี้ ในการนวดตนเองก็ดี หรือนวดให้ผู้ปว่ ยก็ดี หากไม่ระมดั ระวงั หรือตรวจ ร่างกายก่อนว่ามีข้อบกพรอ่ ง เสอ่ื ม ชา� รดุ คด หรือเอียงบริเวณใดใหช้ ดั เจนเสยี ก่อน หาก มกี ารดดั ดงึ อยา่ งไมร่ ะมดั ระวงั หรอื ทา� อยา่ งไมถ่ กู วธิ จี ะเปน็ การซา้� เตมิ ใหเ้ กดิ ความผดิ ปกติ ของโครงสร้างร่างกายขึน้ ได้ •2300•

ฤๅษดี ัดตน ขยบั กาย สบายชวี ี ด้วยกายบริหารแบบไทย ๓ฤาษีดัดตนพ้ืนฐาน ๑๕ ทา่ กายบรหิ ารแบบไทย ฤๅษีดดั ตนพ้ืนฐาน ๑๕ ทา่ ฤๅษดี ัดตนทา่ ท่ี ๑ ทา่ นวดบริเวณกล้ามเนื้อใบหน้า ๗ ท่า เปน็ ทา่ ท ี่ รศ.นพ.กรงุ ไกร เจนพาณชิ ย ์ ใช้ นวดถนอมสายตา (บริหารกล้ามเนื้อใบหน้า ๗ ท่า) ในการบริหารแต่ละท่า ให้ก�าหนด ลมหายใจเขา้ -ออกไปด้วย ทา่ เตรยี ม น่ังขดั สมาธิลา� ตวั ตรง 0•20 4•

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ท่าบรหิ าร ๑.ท่าเสยผม ๑. ใชป้ ลายน้ิวช ี้ น้ิวกลาง นวิ้ นาง กด ขอบกระบอกตาบนทั้งสองข้างพรอ้ มๆ กัน ๒. ค่อยๆ กดพรอ้ มกับเล่ือนนว้ิ มอื ๓. ตอ่ เนอ่ื งไปจนถงึ ท้ายทอย ทงั้ ๒ นวิ้ เรอ่ื ยขนึ้ ไปบนศรษี ะ ในทา่ เสยผม ทา� ซา�้ ๑๐ ครั้ง •2500•

ฤๅษดี ัดตน ขยับกาย สบายชีว ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพ้นื ฐาน ๑๕ ท่า ๒. ท่าทาแปง้ ๑. ใช้น้ิวกลางท้ังสองขา้ ง กดด้านขา้ งดัง้ จมกู พรอ้ มกัน ๒. ค่อยๆ กดพร้อมกับเลื่อนน้ิวขึ้นไป จนถึงหน้าผาก โดยให้ปลายนิ้วกลางจรดกัน ท่กี ลางหนา้ ผาก ๓. จากนั้นรูปมือท้ังสองข้างไปทาง หางคิ้ว ผ่านแก้ม ต่อเน่ืองไปจนถึงคาง ท�าซ้า� ๑๐ ครัง้ 0•20 6•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ๓.ทา่ เชด็ ปาก ๑. ใชฝ้ ่ามอื ซา้ ยวางทาบบนปาก ๒. ลากมอื มายังดา้ นซ้าย พรอ้ ม โดยให้ปลายน้ิวก้อยวางอยู่ที่ปลาย กับเม้มรมิ ฝีปาก โดยใหฝ้ า่ มอื กดแนบ ต่ิงหูขา้ งขวา สนทิ ขณะท�า ๓. สลบั เป็นมือขวา ทา� ซา้� ขา้ งละ ๑๐ คร้ัง •2700•

ฤๅษดี ัดตน ขยบั กาย สบายชีว ี ด้วยกายบริหารแบบไทย ฤาษีดดั ตนพ้ืนฐาน ๑๕ ท่า ๔. ท่าเช็ดคาง ๑. ใช้หลังมือซา้ ยวางทาบใต้คาง ๒. ลากมือตั้งแต่ติ่งหูขวาไปตาม โดยให้ปลายนิว้ อยทู่ ี่ตง่ิ หขู วา คาง จนถงึ ใตห้ ซู ้าย โดยใหห้ ลงั มอื กด แนบสนทิ ขณะท�า ๓. สลบั มือท�าแบบเดียวกัน ท�าซา�้ ขา้ งละ ๑๐ ครง้ั •020 8•

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ๕. ทา่ กดใตค้ าง ๑. ใช้ปลายน้ิวหัวแม่มือท้ังสองข้าง กดตรงกลางคาง โดยใหป้ ลายนว้ิ หวั แมม่ อื ต้ังฉากกับคาง กม้ หนา้ เล็กน้อย เพื่อต้าน นิ้วมือ ใช้แรงกดพอสมควร นิ่งสักครู่ นบั ๑-๑๐ ในใจ ๒. เลอื่ นจดุ ใหท้ วั่ บรเิ วณใตค้ าง โดยเลอ่ื นทลี ะน้ิวมอื ทา� ซ้�า ๑๐ คร้งั •2090•

ฤๅษีดดั ตน ขยบั กาย สบายชีว ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดัดตนพน้ื ฐาน ๑๕ ท่า ๖. ท่าถหู น้าหแู ละหลังหู ๑. ใชน้ ิว้ ช้แี ละนิว้ กลางทั้งสองข้าง คบี หหู ลวมๆ โดยใหฝ้ า่ มอื แนบกบั แกม้ ๒. ถนู วิ้ มือขึน้ ลงแรงๆ นับ เปน็ ๑ ครงั้ ทา� ซา้� ๒๐ ครั้ง 0•30 0•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ๗. ทา่ ตบทา้ ยทอย ๑. ใชส้ น้ มอื ทงั้ สองขา้ งปดิ หูไวโ้ ดย ให้ปลายน้ิวท้ังสองข้าง วางอยู่บริเวณ ทา้ ยทอย ปลายนวิ้ กลางจรดกัน ๒. กระดกน้ิวมือท้ังสองข้าง ให้มากท่ีสุด แล้วตบที่ท้ายทอย พร้อมกันโดยไม่ยกฝ่ามือ ท�าซ�้า ๑๐ คร้ัง •3010•

ฤๅษดี ดั ตน ขยบั กาย สบายชวี ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ดั ตนพืน้ ฐาน ๑๕ ทา่ ฤๅษีดัดตนทา่ ท่ี ๒ เปน็ ทา่ กายบรหิ ารทปี่ ระยกุ ตม์ าจากทา่ ฤๅษดี ดั ตน แกล้ มขอ้ มอื และแกล้ มในลา� ลงึ ค์ ดัดตนแกล้ มขอ้ มือ ตาถลึง อนิตถิคนั ธท์ ่านนิ่วหนา้ ปวดติ้ว ลมเสียดสองหดั ถ์ตงึ นกึ ดัด ดงั ฤๅ พับเข่านงั่ ค�านงึ นบถ้าเทพพนม กายชดชระดดั นิ้ว พระญาณปรญิ ตั ิ ดดั ตนแกล้ มในล�าลงึ ค์ อคั ตะตบะเพย้ี ง เพลงิ ผลาญ ภพฤๅ ถวายเกราะองค์อวตาร ทา่ นนั้น น่ังดัดหดั ถส์ องผสาน พนมนิ่ง อยนู่ า เพ่อื ขัดปัสสาวะอนั้ ออกไดโ้ ดยใจ พระอมรโมลี ประโยชน์ เป็นทา่ เริม่ ต้น เตรียมความพร้อมของรา่ งกายและฝกึ ลมหายใจ ได้ผลทัง้ ๒ ทาง คอื เป็นการบริหารข้อมอื และเม่ือเพ่ิมการขมบิ ก้น เป็นการบรหิ ารบรเิ วณฝีเยบ็ •030 2•

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ทา่ เตรียม นั่งขัดสมาธิ พนมมือในท่าเทพพนม โดยให้มือที่พนมอยู่ห่างจาก หน้าอก แขนตงั้ ฉากกับลา� ตัว •3300•

ฤๅษีดัดตน ขยบั กาย สบายชวี ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดัดตนพนื้ ฐาน ๑๕ ทา่ ท่าบริหาร ๑. ใชม้ อื ซา้ ยดนั มอื ขวา มอื ขวาตา้ นแรงมอื ซา้ ย พร้อมกับดัดปลายนิ้วให้โน้มไปด้านตรงข้าม ใน ขณะดันมือ ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าให้ลึกท่ีสุด กล้นั ลมหายใจ แขมว่ ทอ้ ง ขมิบกน้ ไว้สักคร ู่ ผ่อน ลมหายใจออกพร้อมกับคอ่ ยๆคลายมือ ๒. กลบั มาอยู่ในทา่ เตรยี ม ๓. ท�าสลับกันระหว่างมือซ้ายกับ มือขวา ข้างละ ๕-๑๐ คร้ัง 0•30 4•

กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ฤๅษดี ดั ตนท่าที่ ๓ เป็นท่ากายบริหารที่ประยุกต์มาจากท่าฤๅษีดัดตน แก้ปวดท้องและข้อเท้า และแกล้ มปวดศรษี ะ ดดั ตนแกป้ วดท้องและขอ้ เท้า นามนคร รามเอย ฤๅษสี ีชื่อให ้ อะตั้ง อจั นะคาวอี ักษร สองไปล ่ หลังนา พับชงฆเ์ ทดิ ถวดั กร ปว่ ยทอ้ งบรรเทา แกข้ ดั ข้อเทา้ ทัง้ กรมหมนื่ นชุ ติ ชโิ นรส ดดั ตนแก้ลมปวดศรีษะ ดงยงู ยางแฮ พระมโนชส�านักดา้ ว มฤครา้ ย จติ รพรนั่ หวัน่ หวาดฝงู สังเวช องค์เอย กา� เรบิ โรคขบสงู นบเกล้าบรกิ รรม น่ังดัดหดั ถข์ วาซ้าย พระราชนิพนธฯ์ ประโยชน์ เมอื่ ฝกึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทา� ใหก้ ารเคลอื่ นไหวของขอ้ ไหลเ่ ปน็ ไปดว้ ยด ี และเมอ่ื ฝกึ ไดค้ รบชดุ เปน็ การบรหิ ารไหล่ คอ อก ทอ้ ง และกระตนุ้ การไหลเวยี นของโลหิตทศ่ี รีษะและแขน •3500•

ฤๅษดี ดั ตน ขยบั กาย สบายชวี ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพืน้ ฐาน ๑๕ ทา่ ท่าเตรยี ม นั่งขดั สมาธ ิ มอื ท้ังสองขา้ ง ประสานกนั ประมาณระดับลนิ้ ปี่ ทา่ บรหิ าร ๑. สูดลมหายใจเขา้ ให้ลึกท่ีสดุ พร้อมกับ ค่อยๆ ชูมือขึ้นเหนือศรีษะ แขนทั้งสองข้าง เหยยี ดตรงแนบชดิ ใบหู •030 6•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข ๒. กลั้นลมหายใจไว้สักครู่พร้อมกับ ดดั มอื ทีป่ ระสานกันเหนือศรษี ะใหห้ งายขนึ้ ๓. ผอ่ นลมหายใจออกพรอ้ มกบั ค่อยๆ วาดมือท้ังสองข้างออกจาก กันไปทางดา้ นหลงั ๔. คอ่ ยๆ งอแขนกา� หมดั มาวางไวท้ บ่ี นั้ เอวทง้ั สองขา้ ง ใชก้ า� ปน้ั กดบรเิ วณเอว ท้ัง ๒ ข้าง ขณะกดสดู ลมหายใจ เข้าใหล้ ึกท่ีสดุ •3700•

ฤๅษีดัดตน ขยบั กาย สบายชีว ี ด้วยกายบริหารแบบไทย ฤาษดี ดั ตนพนื้ ฐาน ๑๕ ท่า ๕. กลั้นลมหายใจไว้สักครู่พร้อมกับ กดเน้น ผ่อนลมหายใจออก พร้อมกับ คลายการกดกา� ป้ัน ๖. เล่ือนต�าแหน่งที่กดไปกลางหลังทีละน้อย จนก�าปั้น ชดิ กันทบ่ี รเิ วณกลางบั้นเอว ทา� ซา้� ๕-๑๐ ครง้ั •030 8•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ฤๅษดี ดั ตนท่าท่ี ๔ เป็นท่ากายบริหารที่ประยุกต์มาจากท่าฤๅษีดัดตน แกล้ มเจบ็ ศรีษะและตามวั และแก้เกียจ ดัดตนแกล้ มเจบ็ ศรษี ะและตามวั เพียงใด มนุ มี ีฤทธมิ าก นน้ั ได้ ฤๅพน้ ทุกข์โรคภยั อาจแกห้ ายนา ปวดเวยี นเศียร มวั นัยน์ หัตถ์น้ัน องิ เศยี ร ขัดสมาธยิ กหัตถข์ น้ึ หงสท์ อง รคนเจอื ดดั ตนแกเ้ กียจ สถติ ย์ไว้ สังกะสดี ีบุกเขา้ ขอ้ ยหนุ่ม นักนอ หลอ่ คณะนงุ่ หนงั สือ แตแ่ กเ้ กียจกาย กามันตะก่เี ขือ พระราชนิพนธ์ เหยียดยดื หัดถด์ ดั ไว้ ประโยชน์ เป็นท่าที่ใชก้ นั บอ่ ย คือ บดิ ข้ีเกยี จ โดยประยกุ ต์ใหเ้ คลอ่ื นไหวครบทุกด้าน ท้งั ซ้าย ขวา หนา้ และยกชสู งู เหนอื ศรษี ะ เปน็ การยดื บรหิ ารสว่ นแขน •3090•

ฤๅษดี ัดตน ขยับกาย สบายชีว ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพ้นื ฐาน ๑๕ ท่า ทา่ เตรยี ม นง่ั ขดั สมาธ ิ มอื ทง้ั สองขา้ งประสานกนั ประมาณระดบั ลนิ้ ปี่ ทา่ บริหาร ๑. สดู ลมหายใจเขา้ ใหล้ กึ ทส่ี ดุ พรอ้ มกบั เหยยี ดแขนดดั ใหฝ้ า่ มอื ยน่ื ไปทางดา้ ยซา้ ยให้ มากทสี่ ดุ โดยใหล้ า� ตวั ตรง หนา้ ตรง แขนตงึ กล้ันลมหายใจไว้สกั ครู่ ๒. ผอ่ นลมหายใจออกพรอ้ มกบั งอแขน ท้ังสองข้างกลับมาอยู่ในท่าเตรียม ท�าซ�้า เช่นเดิมแต่เปล่ียนเป็นเหยียดแขน ดัดให้ ฝ่ามือยน่ื ไปทางดา้ นขวา •040 0•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ๓. ท�าซ�้าเช่นเดมิ แต่เปล่ียน เปน็ เหยยี ดแขน ดดั ใหฝ้ า่ มอื ยนื่ ไป ทางด้านหนา้ ๔. ท�าซ้�าเช่นเดิม แต่เปล่ียนเป็น เหยยี ดแขน ดดั ใหช้ ขู นึ้ เหนอื ศรษี ะ แขน ทัง้ สองขา้ งเหยยี ดตรงแนบชดิ ใบหู ๕. ผ่อนลมหายใจออก พร้อมกับลด แขนลงให้มือทั้งสองข้างพักไว้บนศรีษะ ใน ลกั ษณะหงายมือ ๖. และคอ่ ยๆ ลดมอื ลงมาอยู่ในทา่ เตรยี ม เรมิ่ ต้นท�าซา�้ ใหม่ โดยเหยยี ดแขนไปทางด้าน ซา้ ย ดา้ นขวา ดา้ นหนา้ และดา้ นบนตามลา� ดบั นับเป็น ๑ คร้งั ทา� ซา้� ๕-๑๐ คร้งั •4010•

ฤๅษดี ดั ตน ขยับกาย สบายชีว ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพ้ืนฐาน ๑๕ ทา่ ฤๅษีดัดตนทา่ ที่ ๕ เป็นท่ากายบริหารที่ประยุกต์มาจากท่าฤๅษีดัดตน แกแ้ ขนขัด และแก้ขดั แขน ดดั ตนแกแ้ ขนขดั มีฌานกลา้ พระนารอทโยคี ฤๅหา้ มได้ แตย่ งั คงเม่ือยล้า ตามบอก ไว้เอย จงึ ดดั ตนเรง่ คน้ คว้า อกี ไคลค้ ลึงคาง พับเพยี บหตั ถ์คลงึ ศอกได้ ธนทู อง ดดั ตนแก้ขัดแขน ดงดรมึ พระโสณสันโดษดา้ ว กูก่ ้อง ภูตโขมดโฆษครหมึ ยอกขัด แขนขา ลม้ ไขข้ บเศียรซึม จรดซา้ ยเปล่ียนขวา ยกศอกขน้ึ เข่าจอ้ ง พระองค์จา้ วทนิ กร ประโยชน์ เป็นการบริหารบรเิ วณหัวไหล ่ ชว่ ยลดอาการแขนขดั ซ่งึ มักพบไดบ้ ่อย 0•40 2•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ทา่ เตรยี ม น่ังขัดสมาธิ ล�าตัวตรง ยกศอกข้างซ้าย ให ้ ตั้งฉากกับล�าตัว โดยให้ฝ่ามือวางไว้แนบแก้มซ้าย มอื ข้างขวากุมใตศ้ อกซ้ายท่ตี งั้ ขนึ้ ทา่ บริหาร ๑. สูดลมหายใจให้ลึกที่สุด พร้อมกับใช้ มือขวาที่กุมศอก ดึงข้อศอกซ้ายมาทางแขน ข้างขวาให้มากที่สุด พร้อมกับ เกร็งข้อศอก ซา้ ยดา้ นมอื ขวาไว ้ ขณะดงึ ขอ้ ศอก ฝ่ามอื ขา้ ง ที่ตั้งศอกจะถูกดึงให้ไล้ไปตามแนวคาง กล้ัน ลมหายใจไว้สักครู่ ผ่อนลมหายใจออกพร้อม กบั ปล่อยมือใหก้ ลับมาอยู่ในทา่ เตรียม •4300•

ฤๅษดี ดั ตน ขยับกาย สบายชีว ี ดว้ ยกายบริหารแบบไทย ฤาษีดัดตนพน้ื ฐาน ๑๕ ท่า ๒. ท�าซ้�าเชน่ เดิม แต่ เปลี่ยนเป็นใช้หลังมือซ้าย แนบแก้มซา้ ย ๓. เร่ิมต้นทา� ซา้� ใหม่ แตเ่ ปลย่ี นเปน็ ยกศอกข้างขวาให้ต้ังฉากกับล�าตวั โดยให้ฝ่ามือ วางไว้แนบแกม้ ขวา มอื ข้างซ้ายกุมใต้ศอกขวาท่ตี ้ังข้นึ ท�าซา้� เช่นเดิม เรมิ่ ต้นท�าซา้� ใหม่ สลบั ซ้ายและขวา นับเปน็ ๑ ครั้ง ท�าซ้า� ๕-๑๐ คร้ัง 0•40 4•

กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ ฤๅษดี ดั ตนทา่ ท่ี ๖ เป็นท่ากายบริหารท่ีประยุกต์มาจากท่าฤๅษีดัดตน แกก้ ลอ่ น และแก้เขา่ ขดั แก้กลอ่ น โนม้ กาย ธาระนีพัฒนง่ั นอ้ ม แม่เท้า เทา้ เหยยี ดมือหยบิ ปลาย เห็นประจกั ษ์ ลมกลอ่ นเหอื ดห่างหาย ระงับเสน้ กลอ่ มกระษยั อีกแนน่ นาภีเร้า พระสมบัติธิบาล พรหมจรรย์ เลศิ แท้ ขย�าเข่าสองนา แกเ้ ข่าขดั เมอ่ื ยล้าลมถอย นักสทิ ธิโสภาคยพ์ รอ้ ม พระอมรโมรี ชอ่ื มหาสุธรรม์ เทา้ เหยียบยดื หัดถย์ ัน ขบขดั ข้อเข่าแก ้ ประโยชน์ เปน็ การบรหิ ารบรเิ วณเขา่ หลงั เอว (คา� วา่ ”กลอ่ น” คอื ความเสอ่ื ม “กลอ่ นกษยั ” คอื โรคเรอ้ื รงั มคี วามเสอื่ มของอวยั วะนนั่ เอง) •4500•

ฤๅษีดดั ตน ขยับกาย สบายชวี ี ด้วยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษดี ัดตนพนื้ ฐาน ๑๕ ทา่ ท่าเตรยี ม นั่งเหยยี ดขาทงั้ สองขา้ ง เท้าชิดกัน มือทั้งสองข้าง วางไว้บริเวณหน้าขา หน้าตรง หลังตรง ท่าบรหิ าร ๑. สูดลมหายใจเข้าให้ลึก ท่ีสุด พร้อมกับใช้มือท้ังสองข้าง นวดต้ังแต่ต้นขาต่อเน่ืองไปจนถึง ปลายเทา้ •040 6•

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข ๒. ใชม้ อื จบั ปลายเทา้ และก้มหน้าให้มากท่ีสุด กลั้นลมหายใจไวส้ กั ครู่ ๓. ผ่อนลมหายใจออกพร้อมกับ คลายมือจากปลายเท้า นวดจากข้อเทา้ กลบั ขน้ึ มาจนถึงต้นขา ๔. แล้วกลับมาอยู่ในท่าเตรียม เรม่ิ ต้นทา� ซ้�าจนครบ ๕-๑๐ คร้งั •4700•

ฤๅษีดดั ตน ขยับกาย สบายชีว ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดดั ตนพ้ืนฐาน ๑๕ ทา่ ฤๅษดี ดั ตนท่าที่ ๗ เป็นท่ากายบริหารที่ประยุกต์มาจากท่าฤๅษีดัดตน แก้กลอ่ นปตั คาต และแกเ้ สน้ มหาสนกุ ระงบั ดดั ตนแกก้ ลอ่ นปัตคาต ลงสง สารแฮ สัชนาไลยลหี้ ลีก อ่อนแล้ ยนื ยา่ งหยัดเหยยี ดองค์ ศรสารท ไปเอย สองหดั ถ์ท่าทีทรง กลอ่ นแห้งหดื หาย บา� บดั ปตั นาฏแก้ หลวงชาญภเู บศ ดัดตนแกเ้ สน้ มหาสนกุ ระงับ เหยียดหยดั กามินทรม์ อื ยดุ เทา้ สมาธคิ ู้ มอื หนงึ่ เท้าเขา่ ขัด ทุกค่�าคนื นา เข้าฌานช่วยแรงดัด โรครา้ ยภายใน รงบั ราคอยากจะสู้ พระมหามนตรี ประโยชน์ เปน็ การบรหิ ารส่วนอก และขา เป็นท่าต่อเน่ืองจากทา่ ท ี่ ๖ แต่ถา้ อยู่ในทา่ ยืน อาจใช้ เพียงทา่ ท่ี ๗ เท่านั้น (“กร่อนปตั คาต”หมายถงึ ภาวะอาการขดั เจบ็ ของกล้ามเนอื้ บริเวณ ต่างๆ อันเนื่องมาจากความเส่ือมจากการใช้งานผิดปกติ ของกล้ามเนื้อและเส้นเลือด ภายใน) •040 8•

กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ ท่าเตรียม นั่งเหยียดขาข้างซ้ายให้ เฉียงออกไปทางด้านซ้าย งอ เขา่ ขวาใหฝ้ า่ เทา้ ชดิ ตน้ ขาซา้ ย กา� หมดั ทงั้ สองขา้ งใหข้ นานกนั ไวท้ รี่ ะดบั อกโดยใหห้ า่ งจากอก ท่าบรหิ าร ๑. สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุด พร้อมกับยื่นก�าปั้นซ้ายเหยียดออกไป ทางปลายเท้าซ้าย ๒. หนั หน้าไปตามกา� ปั้น ในลักษณะเล็งเป้าหมาย ดึง กา� ปน้ั และศอกขา้ งขวาไปทาง ด้านหลังให้เต็มที่ จนรู้สึกตึง สะบกั และหลงั กลน้ั ลมหายใจ ไว้สักครู่ •4090•

ฤๅษีดดั ตน ขยบั กาย สบายชวี ี ดว้ ยกายบรหิ ารแบบไทย ฤาษีดดั ตนพน้ื ฐาน ๑๕ ทา่ ๓. ผอ่ นลมหายใจออก พร้อมกับเปลี่ยน กลบั มาอยู่ในท่าเตรียม ๔. เริม่ ต้นทา� ซ้�าใหม ่ แต่เปล่ียนเป็นเหยียดขา ขวาและก�าปั้นขวา ท�า สลบั กนั ซ้าย ขวา นบั เปน็ ๑ คร้ัง ท�าซ้า� ๕-๑๐ คร้ัง •050 0•


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook