Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการสังเคราะห์

รายงานการสังเคราะห์

Published by jinnii191, 2021-12-05 09:01:00

Description: รายงานการสังเคราะห์

Search

Read the Text Version

รายงานการสงั เคราะห์ผลการแกป้ ัญหาและพัฒนาผเู้ รยี น เรือ่ ง การพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนโดยใช้สอ่ื บทเรยี นสำเรจ็ รูป เร่ือง กฎหมายในชวี ิตประจำวัน โดย นางสาวจนิ ตนา อทุ ยานิก ตาแหน่ง ครู โรงเรยี นบา้ นท่งุ คา อาเภอบางละมงุ สานกั งายเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชลบรุ ี เขต 3 สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน

รายงานการสังเคราะหผ์ ลการแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน เร่ือง การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นโดยใชส้ อื่ บทเรียนสำเรจ็ รูป เรือ่ ง กฎหมายใน ชีวติ ประจำวนั สาขาวชิ า สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม .......................................................................................................... 1 ปญั หาและขอบเขตของปัญหา ตามธรรมชาติของวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นวิชาที่นักเรียนคิดว่าน่าเบ่ือ เขา้ ใจยากอยู่ และครผู ูส้ อนยังใช้รูปแบบการบรรยายอธิบายแบบเก่าอยู่ จึงยิง่ ทำให้นักเรียนเบ่ือการ เรียน ไม่อยากเรียน หลบหลีกการทำงานที่มอบหมายหรือการบ้าน จึงทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนตำ่ ดังนั้นครูจึงต้องปรับวธิ ีเรียน เปลี่ยนวิธสี อน โดยให้มีกจิ กรรม สื่อ เทคโนโยลีต่างๆมา ชว่ ยดว้ ย โดยเนน้ ผูเ้ รียนสำคญั ที่สุด จากปัญหาที่พบ ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะแก้ไขปัญหาโดยใช้สื่อการเรียนการสอนที่ เรียกว่าบทเรียนสำเร็จรูปและรูปแบบการสอนเน้นการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักเรียนได้ลงมือศึกษา หาความรู้ด้วยตนเอง ครูคอยแนะนำ เพื่อให้นักเรยี นสามารถสร้างองค์ความรูด้ ้วยตนเอง และเพื่อให้ นักเรยี นได้ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และส่งิ ทสี่ ำคญั ทีส่ ุด คือ จะทำให้นักเรียนเห็นคุณประโยชน์ของการอ่าน และรักที่จะแสวงหาความรู้อยู่เสมอจากแหล่งเรียนรู้ใน ท้องถนิ่ เปน็ การเพิม่ พูนความรู้และส่งผลใหผ้ ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขน้ึ ในระดับคุณภาพดขี ้ึนไป 2 รูปแบบ เทคนิค วธิ ีการแกป้ ญั หา ขา้ พเจ้าไดแ้ ก้ปญั หาและพฒั นาผ้เู รียนโดยจัดทำการวจิ ัยเรือ่ ง เร่ือง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นโดยใชส้ ่อื บทเรยี นสำเรจ็ รปู การพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนโดยใช้ส่อื บทเรยี น สำเร็จรปู เรือ่ ง กฎหมายในชีวติ ประจำวัน เพอ่ื วัดผลการเรียนรู้ โดยดำเนนิ การตามขนั้ ตอนดงั น้ี 1. ชั่วโมงแรกช้ีแจงขั้นตอนการใช้สื่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนโดยใช้สื่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน เมื่อนักเรยี นเขา้ ใจดีแลว้ ให้ เริ่มต้นศึกษา โดยทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แล้วบันทึกคะแนนที่ได้จากการทดสอบ ครงั้ นี้เป็นคะแนนทดสอบก่อนเรียน (Pretest) 2. ดำเนินการสอนโดยให้ผู้เรียนศึกษาด้วยตนเองจากสื่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรอ่ื ง กฎหมายในชีวติ ประจำวนั โดยนักเรียนต้องเข้าบทเรียนดว้ ยตนเอง 3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายบทเรียนแต่ละบท แล้วบันทึกผลการทำ แบบทดสอบไวเ้ ปน็ คะแนนระหวา่ งเรยี น

3.การนำรูปแบบเทคนิควธิ กี ารแก้ปัญหาหรือพัฒนาไปใช้ในการแกป้ ญั หาหรอื พัฒนาและผลที่ เกดิ ขนึ้ จากการใชส้ ือ่ บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรื่อง เร่อื ง กฎหมายในชีวติ ประจำวัน เป็นสื่อการเรียน ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้เรียนได้รับความรู้ มีความสามารถตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ทั้งใน ภาพรวมและ ในส่วนย่อย เป็นไปตามจุดมุ่งหมายในการวิจัย นักเรียนที่เรียนโดยใช้นวัตกรรมการ เรียนดงั กล่าว มผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรียนสูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องมาจาก นักเรียนที่เรียนโดยใช้สื่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรื่อง เรื่อง กฎหมายใน ชีวิตประจำวัน มีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนด้วยตนเอง การจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนมี ส่วนร่วมในการเรียน ได้คิดและลงมือปฏิบัติทีละขั้นตอน ทราบผลการกระทำของตนเอง เป็นการ จัดโอกาสให้นักเรียนได้ประสบความสำเร็จในการเรียนและยังเป็นการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นักเรียนมีโอกาสไดร้ ว่ มกิจกรรมอย่างทัว่ ถึงตามความสามารถของตนเอง การที่นักเรียนได้มีส่วนรว่ ม ในกิจกรรมการเรียนการสอนเช่นนี้ จะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพัฒนาไปตามแนวทางที่พึง ประสงค์ นอกจากนี้หากผู้เรียนตอบคำถามในระหว่างเรยี นไม่ถูกต้องก็สามารถกลับไปศึกษาเรื่องเดมิ ไดใ้ หม่ จนกวา่ จะเขา้ ใจ ทงั้ นี้สอ่ื บทเรียนสำเรจ็ รูป เรือ่ ง เรอ่ื ง เร่ือง กฎหมายในชวี ติ ประจำวัน เป็น สิ่งที่นักเรียนมีความสนใจเกิดความกระตือรือร้นต้องการที่จะเรียน การทำกิจกรรม การตอบคำถาม ระหว่างเรยี น การทำแบบทดสอบหลงั เรยี น ช่วยใหผ้ ู้เรียนเกิดทักษะและความเขา้ ใจดยี ิ่งข้นึ สื่อบทเรียนสำเร็จรูป เร่อื ง เร่ือง กฎหมายในชีวติ ประจำวัน ทำใหน้ กั เรยี นมีระบบการเรียน ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ได้รับความรู้ มีความสามารถตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นการ ส่งเสรมิ ให้ผ้เู รยี นเกดิ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ทำให้นกั เรยี นมีโอกาสในการทบทวนบทเรียนได้มาก ทำ ใหน้ ักเรียนที่เรยี นโดยใชส้ ่อื บทเรียนสำเร็จรปู ดังกล่าว มผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนสูงขนึ้

ตารางท่ี 1 คะแนนทดสอบก่อนเรยี น ลำดับ ช่อื – สกลุ คะแนนกอ่ นเรียน ที่ ( 10 คะแนน ) 1 เด็กชายบอย ทองสุข 2 2 2 เด็กชายวรี วัฒน์ ทองนาค 4 2 3 เดก็ ชายธีรภทั ร รัตนวงศ์ 3 3 4 เด็กชายวรินทร์ ทองนาท 3 3 5 เด็กชายอรรถชยั เอย่ี มสวัสดิ์ 4 3 6 เดก็ ชายธนกร พนั ธแุ์ หยม 3 3 7 เดก็ ชายอรรถพล อินทสงิ ห์ 2 4 8 เดก็ ชายอินทร สงิ หโ์ ตทอง 2 1 9 เดก็ ชายธรี เมธ ทองอยู่ 2 1 10 เดก็ ชายศุภวนิ ท์ งามเลิศทรัพย์ 1 2 11 เด็กชายสรอรรถ อนิ ตา 2 2 12 เด็กชายกฤษฎา กลอ่ มจติ 3 2 13 เดก็ ชายวีรภทั ร ฮาอเู ทอร์ 1 2 14 เดก็ ชายนพรตั น์ บญุ มี 2 15 เด็กชายณัฐพงศ์ นามวงศ์ศรี 16 เด็กชายธันวา หมอกศรสี วสั ดิ์ 17 เด็กชายเขมชาติ แซต้วิ 18 เดก็ ชายนครนิ ทร์ แสงสุข 19 เดก็ ชายวฒุ ินันท วงคส์ ุทธิ์ 20 เด็กหญงิ เหมสุดา ทองนาท 21 เดก็ หญิงจุฑารตั น์ ต่างตาดทอง 22 เด็กหญงิ จริ าพชั ร วงค์เจรญิ 23 เด็กหญิงจาริยา ทองนาค 24 เด็กหญิงพรรณธภิ า ลา่ บัว 25 เดก็ หญงิ วาสนิ ี ตน้ จันทร์ 26 เด็กหญิงปยิ ฉัตร สง่างาม 27 เด็กหญงิ ณฏั ฐณิชา ศริ ิมาก

ลำดบั ช่อื – สกลุ คะแนนกอ่ นเรยี น ที่ ( 10 คะแนน ) 28 เด็กหญิงณัฏฐณชิ า แจม่ ใส 2 3 29 เดก็ หญิงสดุ ารัตน์ พรมมินทร์ 3 3 30 เด็กหญงิ อรไทย เหมิ ทยาน 3 2 31 เดก็ หญงิ เชอรร์ ี่ เจอื เงิน 1 1 32 เดก็ หญิงชาลสิ า นาดี 2 4 33 เด็กหญิงพรธิดา สงิ หท์ อง 2 2 34 เด็กหญิงธนพร บญุ มา 2 35 เดก็ หญงิ สริ ินภา เทอดไตรรงค์ 36 เด็กหญงิ จรี ะนันท์ โชตกิ พงษ์ 37 เดก็ หญิงวรี ดา ครวั กลาง 38 เด็กหญิงธดิ ารตั น์ หลา้ ศรี 39 เดก็ หญิงสมฤทัย อ่อนเพ็ชร 40 เดก็ หญงิ ปวีณา แสงมูล คะแนนผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของนกั เรียนไมด่ ีเท่าที่ควร ผ้วู จิ ยั จงึ คดิ ให้ทำชุดการเรยี นเพื่อ เป็นการเพ่ิมผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นทงั้ 40 คน



ตารางท่ี 4 คะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนประเมินผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ที่ ช่อื – สกลุ คะแนนกอ่ น คะแนนหลงั ระดบั รอ้ ยละ ผลสมั ฤทธิ์ เรยี น เรยี น ทางการเรยี น 1 เดก็ ชายบอย ทองสุข พอใช้ 2 เดก็ ชายวีรวัฒน์ ทองนาค ( 10 คะแนน ( 10 คะแนน พอใช้ 50.00 ผ่านเกณฑ์ 3 เด็กชายธีรภทั ร รตั นวงศ์ )) พอใช้ 50.00 ผา่ นเกณฑ์ 4 เด็กชายวรนิ ทร์ ทองนาท 25 พอใช้ 50.00 ผ่านเกณฑ์ 5 เดก็ ชายอรรถชัย เอ่ียมสวสั ดิ์ 25 พอใช้ 50.00 ผา่ นเกณฑ์ 6 เดก็ ชายธนกร พนั ธุ์แหยม 45 พอใช้ 50.00 ผ่านเกณฑ์ 7 เด็กชายอรรถพล อินทสงิ ห์ 25 พอใช้ 50.00 ผ่านเกณฑ์ 8 เด็กชายอินทร สงิ ห์โตทอง 35 พอใช้ 60.00 ผา่ นเกณฑ์ 9 เด็กชายธีรเมธ ทองอยู่ 35 60.00 ผา่ นเกณฑ์ 10 เดก็ ชายศภุ วินท์ งามเลิศทรัพย์ 36 ดี 80.00 ผ่านเกณฑ์ 11 เดก็ ชายสรอรรถ อนิ ตา 36 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ 12 เดก็ ชายกฤษฎา กล่อมจติ 48 พอใช้ 60.00 ผ่านเกณฑ์ 13 เดก็ ชายวรี ภทั ร ฮาอเู ทอร์ 37 พอใช้ 60.00 ผ่านเกณฑ์ 14 เด็กชายนพรัตน์ บญุ มี 36 พอใช้ 60.00 ผา่ นเกณฑ์ 15 เด็กชายณฐั พงศ์ นามวงศ์ศรี 36 ดี 80.00 ผา่ นเกณฑ์ 16 เด็กชายธันวา หมอกศรสี วัสดิ์ 26 พอใช้ 60.00 ผา่ นเกณฑ์ 17 เดก็ ชายเขมชาติ แซตวิ้ 48 พอใช้ 50.00 ผ่านเกณฑ์ 18 เด็กชายนครนิ ทร์ แสงสุข 26 พอใช้ 60.00 ผ่านเกณฑ์ 19 เดก็ ชายวุฒนิ ันท วงค์สทุ ธ์ิ 15 พอใช้ 50.00 ผา่ นเกณฑ์ 20 เด็กหญิงเหมสุดา ทองนาท 26 พอใช้ 60.00 ผ่านเกณฑ์ 21 เดก็ หญงิ จฑุ ารัตน์ ตา่ งตาดทอง 15 ดี 70.00 ผ่านเกณฑ์ 22 เด็กหญิงจิราพชั ร วงค์เจริญ 16 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ 23 เดก็ หญิงจาริยา ทองนาค 27 พอใช้ 60.00 ผ่านเกณฑ์ 24 เดก็ หญิงพรรณธภิ า ล่าบวั 27 ดี 70.00 ผ่านเกณฑ์ 26 ดี 70.00 ผ่านเกณฑ์ 37 27

25 เด็กหญิงวาสนิ ี ต้นจันทร์ 1 6 พอใช้ 60.00 ผา่ นเกณฑ์ 26 เด็กหญิงปยิ ฉตั ร สงา่ งาม 2 7 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ 27 เดก็ หญงิ ณัฏฐณิชา ศิริมาก 2 7 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ คะแนนกอ่ น คะแนนหลัง ที่ ชอื่ – สกลุ เรยี น เรยี น ระดบั รอ้ ยละ การ ( 10 คะแนน ( 10 คะแนน ประเมนิ ผล )) 28 เดก็ หญงิ ณฏั ฐณชิ า แจ่มใส 2 8 ดี 80.00 ผา่ นเกณฑ์ 29 เดก็ หญงิ สุดารตั น์ พรมมินทร์ 3 9 ดมี าก 90.00 ผ่านเกณฑ์ 30 เด็กหญิงอรไทย เหิมทยาน 3 8 ดี 80.00 ผา่ นเกณฑ์ 31 เด็กหญิงเชอร์รี่ เจอื เงิน 3 8 ดี 80.00 ผา่ นเกณฑ์ 32 เด็กหญิงชาลิสา นาดี 3 8 ดี 80.00 ผา่ นเกณฑ์ 33 เดก็ หญงิ พรธิดา สงิ ห์ทอง 2 7 ดี 70.00 ผ่านเกณฑ์ 34 เดก็ หญิงธนพร บญุ มา 1 7 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ 35 เดก็ หญิงสริ ินภา เทอดไตรรงค์ 1 6 พอใช้ 60.00 ผ่านเกณฑ์ 36 เด็กหญิงจรี ะนนั ท์ โชตกิ พงษ์ 2 7 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ 37 เด็กหญิงวีรดา ครัวกลาง 4 9 ดีมาก 90.00 ผา่ นเกณฑ์ 38 เดก็ หญงิ ธดิ ารตั น์ หลา้ ศรี 2 7 ดี 70.00 ผา่ นเกณฑ์ 39 เดก็ หญิงสมฤทัย อ่อนเพ็ชร 2 7 ดี 70.00 ผ่านเกณฑ์ 40 เด็กหญงิ ปวณี า แสงมูล 2 8 ดี 80.00 ผ่านเกณฑ์ จากตารางคะแนนการประเมนิ ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน โดยใช้สื่อบทเรียนสำเร็จรูป คะแนนทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน และคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ พบว่านักเรียนชั้น ป. 6 ห้อง 1 จำนวน 40 คน มีคะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทุกคน

4. ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายในการแก้ปัญหาและพัฒนาในอนาคต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ถือเป็นวิชาสำคัญวิชาหนึ่ง เนื่องจากสอนให้เด็กได้ เรียนรู้กับวิถีชีวิต และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ ซึ่งรูปแบบการสอนแต่เดิมเป็นไปใน รูปแบบของการท่องจำ ซึ่งทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย และไม่อยากเรียน แต่หากผู้สอนปรับเปลี่ยน วชิ าการสอน โดยดึงเอาส่ือรูปแบบตา่ ง ๆ มาใช้ เพ่ือทำให้ผูเ้ รยี นมคี วามสนใจ และอยากเรยี นรมู้ ากขึ้น จะ สง่ ผลให้ผูเ้ รียนมีพฒั นาการทางการเรียนทด่ี ขี นึ้ ลงชือ่ ......................................ผู้วิจยั ( นางสาวจนิ ตนา อทุ ยานิก) ครโู รงเรยี นบา้ นท่งุ คา

ภาคผนวก

แบบทดสอบก่อนเรียน กฎหมายในชีวติ ประจาวนั คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนทำเครื่องหมำย กำกบำท (X) ทบั ขอ้ ที่ถกู ท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 1. นกั เรียนปฏิบตั ิตำมสัญญำณไฟจรำจรขอ้ ใด จะเป็นกำรฝ่ ำฝืนกฎจรำจรและเกิด อนั ตรำยได้ ก. ไฟเหลือง – ใหร้ ถเตรียมหยดุ ข. ไฟเหลือง – ใหร้ ถไป ค. ไฟแดง – ให้รถหยุด ง. ไฟเขียว – ใหร้ ถไป 2. ใครไม่ปฏบิ ัติตำมกฎหมำยจรำจร ก. สุวิทยส์ วมหมำกนิรภยั ทกุ คร้ังท่ีขบั ข่ีจกั รยำนยนต์ ข. กำนดำปฏิบตั ิตำมสัญญำณไฟจรำจรอยำ่ งเคร่งครัด ค. โสภำไมใ่ ชโ้ ทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ีขณะขบั รถยนต์ ง. ประวิทยข์ บั ข่ีรถยนตใ์ นขณะมึนเมำ 3. พระรำชบญั ญตั ิสำรเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. 2522 แบง่ สำรเสพติดใหโ้ ทษเป็นก่ีประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท

4. กำรไม่ขำ้ มถนนตรงทำงมำ้ ลำยและสะพำนลอยผดิ กฎหมำยใด ก. กฎหมำยแพ่ง ข. กฎหมำยอำญำ ค. กฎหมำยจรำจร ง. กฎหมำยขนส่งทำงบก 5. ถำ้ ไม่มีกฎหมำยควบคุมเกี่ยวกบั สำรเสพติดใหโ้ ทษจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสงั คม อยำ่ งไร ก. สังคมมีควำมร่มเยน็ สงบสุข ข. มีกำรคำ้ ขำยยำเสพติดใหโ้ ทษอยำ่ งเสรี ค. ตำรวจไมต่ อ้ งเสียเวลำจบั ผเู้ สพและผคู้ ำ้ ยำเสพติดใหโ้ ทษ ง. ประชำชนมีคุณภำพชีวิตที่ไมด่ ี สังคมวนุ่ วำย ประเทศชำติไม่พฒั นำ 6. กำรปฏิบตั ิตำมกฎหมำยทะเบียนรำษฎร ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. เม่ือมีเด็กเกิด ตอ้ งแจง้ เกิดภำยใน 24 วนั ข. เม่ือมีคนตำยตอ้ งแจง้ ตำยภำยใน 48 ชว่ั โมง ค. แจง้ ยำ้ ยท่ีอยหู่ ลงั จำกยำ้ ยที่อยไู่ ปแลว้ 30 วนั ง. ทำบตั รประจำตวั ประชำชนเม่ืออำยคุ รบ 7 ปี บริบรู ณ์ 7. หำกที่บำ้ นมีคนตำยในบำ้ นเจำ้ บำ้ นจะตอ้ งแจง้ เจำ้ หนำ้ ท่ีภำยในก่ีชว่ั โมง จ. ก.ภำยใน 7 ชว่ั โมง ฉ. ข.ภำยใน 15 ชวั่ โมง ช. ค.ภำยใน 24 ชว่ั โมง ซ. ง. ภำยใน 30 ชว่ั โมง

8. ขอ้ ใดกล่ำวถึงกฎหมำยไม่ถูกต้อง ก. กฎหมำย คือ ระเบียบหรือขอ้ บงั คบั ใหบ้ คุ คลปฏิบตั ิตำม ข. กฎหมำย คือ ขอ้ บงั คบั หรือขอ้ หำ้ มมิใหก้ ระทำควำมผดิ ค. กฎหมำย คือ กฎท่ีสถำบนั หรือผมู้ ีอำนำจสูงสุดในรัฐไดต้ รำข้ึน ง. กฎหมำย คือ กฎท่ีมีผมู้ ีอิทธิพลไดต้ ้งั ข้ึน เพอื่ ใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ิตำมควำม ตอ้ งกำรของตนเอง 9. ขอ้ มลู ใดที่นกั เรียนจะไม่เห็นในบตั รประจำตวั ประชำชน ก. ท่ีอยู่ ข. อำยแุ ละหมเู่ ลือด ค. ช่ือและนำมสกุล ง. หมำยเลขบตั รประจำตวั ประชำชน 10. ขอ้ ใดจดั เป็นยำเสพติดชนิดร้ำยแรงท่ีสุด ก. ฝิ่น ข. กญั ชำ ค. เฮโรอีน ง. กระทอ่ ม

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน กฎหมายในชีวติ ประจาวนั 1.ข 2.ง 3.ง 4.ค 5.ง 6.ง 7.ค 8.ง 9.ข 10.ค

ใบความรู้ กฎหมายสาคญั ท่ีเกยี่ วข้องกบั ชีวติ ประจาวนั กฎหมำย หมำยถึง ขอ้ บงั คบั ที่รัฐจดั ทำข้ึนเพื่อใชใ้ นกำรบริหำร และบงั คบั บุคคล ให้ปฏิบตั ิตำม โดยมีขอ้ ปฏิบตั ิและบทลงโทษไวอ้ ย่ำงชัดเจน เช่น ผูท้ ำผิดกฎหมำยตอ้ ง ถูกลงโทษเช่นกำรถูกจำคุกกฎหมำยสำคญั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ชีวติ ประจำวนั ของครอบครัว และ ชุมชนมีดงั น้ี กฎหมายจราจร กฎหมำยจรำจรท่ีใช้อยู่ปัจจุบัน คือ พระรำชบัญญัติจรำจรทำงบก พ.ศ. 2522 กำร ประกำศใช้พระรำชบญั ญตั ิน้ี เพื่อลดอุบตั ิเหตุจำกกำรใช้รถใช้ถนน อนั เป็ นเหตุให้เกิด อนั ตรำยต่อชีวติ และทรัพยส์ ิน เครื่องหมายจราจร หมำยควำมว่ำ เครื่องหมำยใด ๆ ที่ไดต้ ิดต้งั ไวห้ รือทำให้ปรำกฏ ในทำงสำหรับใหผ้ ขู้ บั ข่ี คนเดินเทำ้ หรือคนที่จูง ข่ี หรือไล่ตอ้ นสตั ว์ ปฏิบตั ิตำมเคร่ืองหมำย น้นั เช่น เคร่ืองหมำยจรำจร ป้ำยบงั คบั มกั จะมีพ้ืนสีขำว ขอบสีแดง เป็ นป้ำยกำหนด ตอ้ ง ทำตำม เช่น หำ้ มแซง หำ้ มกลบั รถ ใหเ้ ล้ียวขวำ เป็นตน้ เคร่ืองหมายจราจร

สัญญาณจราจร หมำยควำมวำ่ สญั ญำณใด ๆ ไม่วำ่ จะแสดงดว้ ย ธง ไฟฟ้ำ มือ แขน เสียง นกหวดี หรือวิธีอื่นใดสำหรับใหผ้ ขู้ บั ข่ี คนเดินเทำ้ หรือคนท่ีจูงข่ีหรือไลต่ อ้ นสตั ว์ เช่น สญั ญำณ จรำจรไฟฟ้ำ ไฟแดง - ใหร้ ถหยดุ ไฟเหลือง - ใหร้ ถเตรียมหยดุ และไฟเขียว –ใหร้ ถไป เป็นตน้ แ กฎจราจรที่ทุกคนควรปฏิบตั ิ 1. ผขู้ บั ขี่รถจกั รยำนยนต์ตอ้ งสวมหมวกนิรภยั ผูท้ ่ีขบั ข่ีรถยนตต์ อ้ งคำดเขม็ ขดั นิรภยั ขณะขบั รถ 2. ผูข้ บั ขี่รถจกั รยำนยนต์และ ผูท้ ี่ขบั ขี่รถยนต์ตอ้ งไม่ขบั ข่ีรถขณะมึนเมำหรือมีปริมำณ แอลกอฮอลใ์ นร่ำงกำยเกินกวำ่ ท่ีกฎหมำยกำหนด 3. ผขู้ บั ขี่จะตอ้ งปฏิบตั ิตำมสัญญำไฟจรำจรและเคร่ืองหมำยจรำจรอยำ่ งเคร่งครัด 4. ผูข้ บั ข่ีจะต้องใช้ควำมระมดั ระวงั ไม่ให้รถชนหรือโดนคน และตอ้ งให้สัญญำณ เตือนคนเดินเทำ้ ใหร้ ู้ตวั 5. ผขู้ บั ขี่จะตอ้ งไม่ใชโ้ ทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ขณะขบั ข่ีรถยนตแ์ ละไมใ่ ชค้ วำมเร็วเกินกวำ่ ที่ กฎหมำยกำหนด

กฎหมายทะเบียนราษฎร การแจ้งเกดิ กำรแจง้ เกิด คนเกิดในบำ้ นให้เจำ้ บำ้ น หรือบิดำมำรดำ แจง้ ต่อนำยทะเบียนผูร้ ับแจง้ แห่ง ทอ้ งท่ีที่คนเกิดในบำ้ น ภำยใน 15 วนั นบั แต่วนั เกิด เมื่อนำยทะเบียนรับแจง้ เกิดแลว้ จะออก ใบสูตบิ ัตร หรือใบแจง้ เกิดไวเ้ ป็นหลกั ฐำน แ การแจ้งตาย กำรแจง้ ตำย คนตำยให้เจำ้ บำ้ นแจง้ ต่อนำยทะเบียนผูร้ ับแจง้ แห่งทอ้ งที่ที่มีคนตำย ภำยในเวลำ 24ชวั่ โมงเม่ือนำยทะเบียนรับแจง้ ตำยแลว้ จะออกใบมรณบตั รไวเ้ป็นหลกั ฐำน การย้ายท่อี ยู่ กำรยำ้ ยท่ีอยู่ เมื่อมีบุคคลใดยำ้ ยท่ีอยอู่ อกจำกบำ้ นใดเจำ้ บำ้ นจะตอ้ งแจง้ ยำ้ ยที่อยตู่ ่อนำยทะเบียน ผมู้ ีหนำ้ ท่ีรับแจง้ ภำยในเวลำไม่เกิน15วนั นบั แต่วนั ยำ้ ยออกเม่ือมีบุคคลใดยำ้ ยที่อยเู่ ขำ้ มำในบำ้ นใด เจำ้ บำ้ นจะตอ้ งแจง้ กำรยำ้ ยเขำ้ ท่ีอยู่ ภำยใน15วนั นบั แตว่ นั ยำ้ ยเขำ้

ทะเบียนบ้าน เป็ นเอกสำรรำชกำรท่ีสำคญั ซ่ึงทำงรำชกำรจดั ทำเพ่ือระบุรำยละเอียดที่ต้งั ของบำ้ นและ รำยกำรต่ำงของบุคคลในบำ้ น ไดแ้ ก่ ช่ือ – นำมสกุล เลขประจำตวั ประชำชน ช่ือบิดำ-มำรดำ ภูมิลำเนำเดิม และจดั ทำอีกหน่ึงฉบบั มอบให้กบั เจำ้ บำ้ นแต่ละบำ้ น ถือใชป้ ระโยชน์ เรียกว่ำ สำเนำทะเบียนบำ้ น แแ ทะเบียนบำ้ น การทาบัตรประจาตัวประชาชน กำรทำบตั รประจำตวั ประชำชน บุคคลที่มีสัญชำติไทยตอ้ งมีบตั รประจำตวั ประชำชนเพื่อ แสดงให้เห็นว่ำตนเองเป็ นคนไทย รวมท้งั ไวเ้ พื่อประโยชน์อ่ืนๆของผูถ้ ือบตั ร เช่น กำรเรียน กำรทำงำน กำรใชส้ ิทธิเลือกต้งั เป็นตน้ 1. ผูม้ ีสัญชำติไทยที่มีอำยตุ ้งั แต่ 7ปี บริบูรณ์แต่ไม่เกิน 70 ปี บริบูรณ์และมีช่ือในทะเบียน บำ้ น ตอ้ งมีบตั รประชำชน บตั รมีอำยใุ ชไ้ ด้ 8 ปี โดยนบั ต้งั แต่วนั ออกบตั ร 2. หลกั ฐำนในกำรใชป้ ระกอบกำรขอบตั ร 2.1 ผูท้ ี่มีสัญชำติไทย ซ่ึงมีอำยตุ ้งั แต่ 7 ปี บริบูรณ์ข้ึนไป และมีช่ืออยใู่ นทะเบียนบำ้ น ใหย้ นื่ คำร้องขอมีบตั รประจำตวั ประชำชนภำยใน 60 วนั นบั ต้งั แตว่ นั ท่ีอำยคุ รบ 7 ปี บริบูรณ์

2.2 ผูย้ ่ืนคำขอตอ้ งเป็ นบิดำมำรดำ ผูป้ กครอง หรือ บุคคลซ่ึงรับดูแลผูน้ ้ันอยู่เป็ น ผูย้ ่ืนคำขอ เอกสำรที่ตอ้ งใช้ คือ สำเนำสูติบตั รบุตร สำเนำทะเบียนบำ้ นของบุตร กำรขอมี บตั รประจำตวั ประชำชนคร้ังแรกดงั กลำ่ วน้ี ไมต่ อ้ งเสียค่ำธรรมเนียมกำรทำบตั รแต่อยำ่ งใด แ

กฎหมายยาเสพตดิ ให้โทษ กฎหมายเกย่ี วกบั สารเสพติดให้โทษ 1. สารเสพติดให้โทษ สำรเสพติดให้โทษ หมำยถึง สำรใดๆท่ีบุคคลนำเขำ้ สู่ร่ำงกำยไม่วำ่ จะโดยรับประทำน ดม สูบ ฉีด หรือดว้ ยประกำรใดๆ แลว้ ทำใหเ้ กิดผลร้ำยต่อร่ำงกำยและจิตใจ เช่น มีควำมตอ้ งกำรท่ี จะเสพตลอดเวลำ ตอ้ งเพ่ิมขนำดกำรเสพ สุขภำพโดยทว่ั ไปจะทรุดโทรมลงและตกอยู่ใน สภำพท่ีจำเป็นตอ้ งกำรสำรเสพติดใหโ้ ทษน้นั ตลอดไป สำรเสพติดให้โทษ รณรงคต์ ำ้ นยำเสพติด

ประเภทสารเสพตดิ ให้โทษ พระรำชบญั ญตั ิสำรเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 แบ่งสำรเสพติดใหโ้ ทษเป็น 5ประเภท ดงั น้ี 1. สำรเสพติดใหโ้ ทษประเภท1เป็นสำรเสพติดให้โทษชนิดร้ำยแรงที่สำคญั เช่นเฮโรอีน ยำบำ้ 2. สำรเสพติดให้โทษประเภท 2 เป็ นสำรเสพติดให้โทษทวั่ ไป ที่สำคญั เช่น ใบโคคำ โคเคอีน เมทำโดน มอร์ฟี น ฝ่ิน 3. สำรเสพติดใหโ้ ทษประเภท 3 เป็นสำรเสพติดให้โทษท่ีมีลกั ษณะเป็นตำรับยำ และ เสพติดประเภทที่ 2 ผสมอยู่ คือยำรักษำโรค เช่น ยำน้ำแกไ้ อผสมโคเคอีน 4. สำรเสพติดให้โทษประเภท 4 เป็ นสำรเคมีท่ีใช้ในกำรผลิตสำรเสพติดให้โทษ ประเภท 1 หรือ 2 เช่น อำเซติคแอนไฮไดรด์ อำเซติลคลอไรด์ 5. สำรเสพติดให้โทษประเภท 5 เป็นสำรเสพติดให้โทษที่ไม่เขำ้ อยใู่ นประเภทท่ี 1 ถึง 4 เช่น กญั ชำ กระทอ่ ม ประเภทยำเสพติด ควำมผิดเกี่ยวกบั ยำเสพติดใหโ้ ทษ แบง่ ออกอยำ่ งกวำ้ งๆได้ 5 ฐำน คือ ❖ ฐำนเสพยำเสพติดใหโ้ ทษ ❖ ฐำนผลิต นำเขำ้ ส่งออก ซ่ึงยำเสพติดใหโ้ ทษ ❖ ฐำนมีไวเ้ พ่ือครอบครองซ่ึงยำเสพติดใหโ้ ทษ ❖ ฐำนจำหน่ำย หรือมีไวใ้ นครอบครองเพอื่ จำหน่ำยซ่ึงยำเสพติดใหโ้ ทษ ❖ ฐำนโฆษณำเพอ่ื กำรคำ้ ซ่ึงยำเสพติดใหโ้ ทษ

โทษของผู้กระทาความผดิ ปัจจุบนั มีผูก้ ระทำผิดเกี่ยวกับยำเสพติดให้โทษอยูเ่ สมอ บำงคนก็ถูกชกั จูงให้ ร่วมกนั กระทำควำมผิดโดยควำมไม่รู้ และเม่ือถูกเจำ้ หนำ้ ท่ีตำรวจจบั ไดจ้ ะถูกดำเนินคดี ใน ที่สุดกต็ อ้ งไดร้ ับโทษทำงกฎหมำย เช่น 1. ผทู้ ่ีมียำเสพติดใหโ้ ทษประเภทที่ 1โดยไม่ไดร้ ับอนุญำต เช่นเฮโรอีนไวใ้ นควำม ครอบครอง มีปริมำณคำนวณเป็ นสำรบริสุทธ์ิไม่ถึง 20 กรัม ตอ้ งระวำงโทษจำคุกต้งั แต่ 1-10 ปี และ ปรับต้งั แต่ 10,000-100,000 บำท 2. ผูท้ ี่มียำเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 โดยไม่ไดร้ ับอนุญำต ตอ้ งระวำงโทษจำคุก ต้งั แต่ 1-20 ปี และปรับต้งั แต่ 10,000-100,000บำท ถำ้ มอร์ฟี น ฝิ่ น หรือ โคเคอีน น้นั มีปริมำณคำนวณ เป็ นสำรบริสุทธ์ิเกินกว่ำ 100กรัมข้ึนไป ตอ้ งระวำงโทษจำคุกต้งั แต่ 5 ปี จำคุกตลอดชีวิต และ ปรับต้งั แต่ 50,000-500,000 บำท 3. ผูท้ ่ีมียำเสพติดให้โทษประเภทท่ี 3(กญั ชำ)ไวใ้ นควำมครอบครอง ตอ้ งระวำงโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 50,000บำท ถำ้ มีไวค้ รอบครองเพ่ือจำหน่ำยตอ้ งระวำงโทษจำคุก 2-5 ปี และปรับต้งั แต่ 20,000-150,000 บำท โทษของผกู้ ระทำควำมผิด

แบบฝึ กหัดที่ 1 เล่มที่ 1 กฎหมายในชีวิตประจาวนั คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนนำอกั ษรหนำ้ ขอ้ ทำงขวำมือมำวำงหนำ้ ขอ้ ควำมที่ถกู ตอ้ ง สัมพนั ธ์กนั ทำงซำ้ ยมือ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ก. สะพำนลอย จ. กฏหมำยทะเบียน ซ. ทะเบียนบำ้ น ข. 15 วนั รำษฎร ฌ. ไฟแดง ค. หมวกนิรภยั ญ. เขม็ ขดั นิรภยั ง. เจำ้ บำ้ น ฉ. ใบมรณบตั ร ฎ. พ.ศ. 2552 ช. พ.ศ. 2522 1. อปุ กรณ์ท่ีสำคญั ที่สุดที่ผขู้ บั ข่ีรถยนตต์ อ้ งใชท้ กุ คร้ัง 2. ระยะเวลำเม่ือมีคนเกิดในบำ้ นเจำ้ บำ้ นจะตอ้ งแจง้ แก่ทำงรำชกำร 3. ปี ที่มีกำรประกำศใชพ้ ระรำชบญั ญตั ิจรำจรทำงบก 4. กฎหมำยท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ทะเบียนคนเกิด คนตำย ทะเบียนบำ้ น 5. ผทู้ ี่เป็นหวั หนำ้ ครอบครัว และเป็นผคู้ รอบครองบำ้ น 6. อุปกรณ์ท่ีขำดไมไ่ ดผ้ ขู้ บั ขร่ี ถยนตต์ อ้ งใชท้ ุกคร้ัง 7. เอกสำรสำคญั ท่ีนำยทะเบียนรับแจง้ กำรตำยแลว้ จะออก ให้ เก็บไวเ้ ป็นหลกั ฐำน 8. เส้นทำงที่ปลอดภยั ท่ีสุดในกำรขำ้ มถนนที่มีรถพลกุ พลำ่ น 9. เป็นสัญญำณตำมกฎหมำยจรำจรท่ีแสดงวำ่ ใหร้ ถหยดุ 10. เอกสำรสำคญั ที่ทุกบำ้ นตอ้ งมี เพือ่ แสดงหลกั แหลง่ ที่อยู่ และตวั ตนท่ีมีอยู่

เฉลยแบบฝึ กหัดท่ี 1 กฎหมายในชีวิตประจาวนั คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนนำอกั ษรหนำ้ ขอ้ ทำงขวำมือมำวำงหนำ้ ขอ้ ควำมท่ีถูกตอ้ ง สัมพนั ธ์กนั ทำงซำ้ ยมือ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ก. สะพำนลอย จ. กฏหมำยทะเบียน ซ. ทะเบียนบำ้ น ข. 15 วนั รำษฎร ฌ. ไฟแดง ค. หมวกนิรภยั ญ. เขม็ ขดั นิรภยั ง. เจำ้ บำ้ น ฉ. ใบมรณบตั ร ฎ. พ.ศ. 2552 ช. พ.ศ. 2522 1. ญ อุปกรณ์ที่สำคญั ท่ีสุดที่ผขู้ บั ขี่รถยนตต์ อ้ งใชท้ กุ คร้ัง 2. ข ระยะเวลำเมื่อมีคนเกิดในบำ้ นเจำ้ บำ้ นจะตอ้ งแจง้ แก่ทำงรำชกำร 3. ช ปี ที่มีกำรประกำศใชพ้ ระรำชบญั ญตั ิจรำจรทำงบก 4. จ กฎหมำยที่เกี่ยวขอ้ งกบั ทะเบียนคนเกิด คนตำย ทะเบียนบำ้ น 5. ง 6. ค ผทู้ ี่เป็นหวั หนำ้ ครอบครัว และเป็นผคู้ รอบครองบำ้ น อุปกรณ์ท่ีขำดไมไ่ ดผ้ ขู้ บั ข่รี ถยนตต์ อ้ งใชท้ ุกคร้ัง 7. ฉ เอกสำรสำคญั ท่ีนำยทะเบียนรับแจง้ กำรตำยแลว้ จะออก ให้ เก็บไวเ้ ป็นหลกั ฐำน 8. ก เส้นทำงที่ปลอดภยั ท่ีสุดในกำรขำ้ มถนนท่ีมีรถพลกุ พลำ่ น 9. ฌ 10. ซ เป็นสญั ญำณตำมกฎหมำยจรำจรที่แสดงวำ่ ใหร้ ถหยดุ เอกสำรสำคญั ท่ีทุกบำ้ นตอ้ งมี เพ่อื แสดงหลกั แหล่งท่ีอยู่ และตวั ตนท่ีมีอยู่

แบบฝึ กหัดท่ี 2 กฎหมายในชีวิตประจาวนั คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนจำแนกประเภทของสำรเสพติดใหโ้ ทษ 5 ประเภท (ขอ้ ละ 10 คะแนน) สารเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 ...................................................................... ประเภทที่ 2 ...................................................................... ประเภทที่ 3 ...................................................................... ประเภทที่ 4 ประเภทที่ 5 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ......................................................................

เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี 2 กฎหมายในชีวติ ประจาวนั คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนจำแนกประเภทของสำรเสพติดใหโ้ ทษ 5 ประเภท (ขอ้ ละ 10 คะแนน) สารเสพติดให้โทษ ประเภทท่ี 1 ...................................................................... ประเภทท่ี 2 ประเภทที่ 3 ..ส...า..ร..เ.ส...พ...ต...ิด...ใ..ห..้.โ.ท....ษ...ช..น...ดิ...ร..้.า..ย..แ..ร...ง...เ.ช...่น........ ประเภทท่ี 4 ..เ.ฮ...โ.ร...อ..นี....ย...า..บ...้า.............................................. ประเภทที่ 5 ...................................................................... ...ส...า.ร...เ.ส...พ...ต...ิด...ใ..ห..้.โ.ท...ษ...ท...มี่...ลี...กั...ษ...ณ...ะ...เ.ป..็.น...ต...า.... ...ห...ร..ับ...ย...า..เ.ช..่.น.....ย...า.แ...ก..้ไ..อ...ผ...ส...ม...โ.ค...เ.ค...อ...นี ........... ...................................................................... ..ส...า..ร..เ.ส...พ...ต...ดิ...ใ.ห...้โ..ท...ษ..ท....่ัว..ไ.ป.....เ.ช..่.น.....ใ.บ...โ.ค...ค..า...... ..โ.ค...เ.ค...อ...นี .....เ.ม...ท...า..โ..ด...น.....ม...อ...ร..์ฟ...ี .น.....ฝ..ิ่ .น............. ...................................................................... ..ส...า..ร..เ.ค...ม...ีท...ี่ใ..ช..้ใ..น...ก...า..ร..ผ...ล..ติ...ส...า..ร..เ..ส..พ....ต...ดิ ..ใ..ห...้.. ..โ..ท...ษ...ป...ร..ะ..เ..ภ...ท....1....ห...ร..ื.อ...2............................... ...................................................................... ..ส...า..ร...เ.ส...พ...ต...ิด...ท...ไ่ี ..ม..่.เ.ข..้.า..อ..ย...่ใู .น...ป...ร...ะ..เ.ภ...ท...ท...ี่..1...-.4 ..เ..ช..่น......ก..ญั....ช...า....ก..ร...ะ..ท...่อ...ม................................ หรืออย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน

แบบทดสอบหลงั เรียน กฎหมายในชีวติ ประจาวนั คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนทำเคร่ืองหมำย กำกบำท (X) ทบั ขอ้ ท่ีถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 1. กำรปฏิบตั ิตำมกฎหมำยทะเบียนรำษฎร ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. เม่ือมีเด็กเกิด ตอ้ งแจง้ เกิดภำยใน 24 วนั ข. เม่ือมีคนตำยตอ้ งแจง้ ตำยภำยใน 48 ชว่ั โมง ค. แจง้ ยำ้ ยท่ีอยหู่ ลงั จำกยำ้ ยที่อยไู่ ปแลว้ 30 วนั ง. ทำบตั รประจำตวั ประชำชนเม่ืออำยคุ รบ 7 ปี บริบรู ณ์ 2. ขอ้ มลู ใดท่ีนกั เรียนจะไม่เห็นในบตั รประจำตวั ประชำชน ก. ที่อยู่ ข. อำยแุ ละหมู่เลือด ค. ช่ือและนำมสกุล ง. หมำยเลขบตั รประจำตวั ประชำชน 3. ถำ้ ไม่มีกฎหมำยควบคุมเกี่ยวกบั สำรเสพติดให้โทษจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคม อยำ่ งไร ก. สังคมมีควำมร่มเยน็ สงบสุข ข. มีกำรคำ้ ขำยยำเสพติดใหโ้ ทษอยำ่ งเสรี ค. ตำรวจไม่ตอ้ งเสียเวลำจบั ผเู้ สพและผคู้ ำ้ ยำเสพติดใหโ้ ทษ ง. ประชำชนมีคุณภำพชีวิตท่ีไม่ดี สงั คมวนุ่ วำย ประเทศชำติไม่พฒั นำ

4. ใครไม่ปฏิบัติตำมกฎหมำยจรำจร ก. สุวิทยส์ วมหมำกนิรภยั ทุกคร้ังท่ีขบั ข่ีจกั รยำนยนต์ ข. กำนดำปฏิบตั ิตำมสัญญำณไฟจรำจรอยำ่ งเคร่งครัด ค. โสภำไม่ใชโ้ ทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ีขณะขบั รถยนต์ ง. ประวทิ ยข์ บั ข่ีรถยนตใ์ นขณะมึนเมำ 5. พระรำชบญั ญตั ิสำรเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. 2522 แบ่งสำรเสพติดใหโ้ ทษเป็นกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 6. กำรไม่ขำ้ มถนนตรงทำงมำ้ ลำยและสะพำนลอยผิดกฎหมำยใด ก. กฎหมำยแพ่ง ข. กฎหมำยอำญำ ค. กฎหมำยจรำจร ง. กฎหมำยขนส่งทำงบก 7. ขอ้ ใดกลำ่ วถึงกฎหมำยไม่ถูกต้อง ก. กฎหมำย คือ ระเบียบหรือขอ้ บงั คบั ใหบ้ ุคคลปฏิบตั ิตำม ข. กฎหมำย คือ ขอ้ บงั คบั หรือขอ้ หำ้ มมิใหก้ ระทำควำมผิด ค. กฎหมำย คือ กฎท่ีสถำบนั หรือผมู้ ีอำนำจสูงสุดในรัฐไดต้ รำข้ึน ง. กฎหมำย คือ กฎที่มีผมู้ ีอิทธิพลไดต้ ้งั ข้ึน เพ่ือใหผ้ อู้ ื่นปฏิบตั ิตำมควำมตอ้ งกำรของตนเอง

8. หำกท่ีบำ้ นมีคนตำยในบำ้ นเจำ้ บำ้ นจะตอ้ งแจง้ เจำ้ หนำ้ ที่ภำยในกี่ชว่ั โมง ก. ภำยใน 7 ชวั่ โมง ข. ภำยใน 15 ชว่ั โมง ค. ภำยใน 24 ชว่ั โมง ง. ภำยใน 30 ชวั่ โมง 9. ขอ้ ใดจดั เป็นยำเสพติดชนิดร้ำยแรงท่ีสุด ก. ฝิ่น ข. กญั ชำ ค. เฮโรอีน ง. กระทอ่ ม 10. นกั เรียนปฏิบตั ิตำมสัญญำณไฟจรำจรขอ้ ใด จะเป็นกำรฝ่ ำฝืนกฎจรำจรและเกิด อนั ตรำยได้ ก. ไฟเหลือง – ใหร้ ถเตรียมหยดุ ข. ไฟเหลือง – ใหร้ ถไป ค. ไฟแดง – ให้รถหยุด ง. ไฟเขียว – ใหร้ ถไป

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน กฎหมายในชีวิตประจาวนั 1.ง 2.ข 3.ง 4.ง 5.ง 6.ค 7.ง 8.ค 9.ค 10.ข


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook