ตัวอย่าง 50 กิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน เรียบเรียง และรวบรวมโดย นางสาวมาติกา วรรณโกวทิ
เป้าหมายของ สพฐ. เดก็ ไทยทกุ คนมีความสขุ กบั การอา่ นอยา่ งน้อย 12 เลม่ ตอ่ ปี หรือ 60 นาทตี อ่ วนั
แนวทางการจดั กจิ กรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน วิธีอ่านหนังสือ สว่ นประกอบท่ีสาคญั ในการอา่ น การอา่ นจะได้ผลดีต้องประกอบด้วย 1. ความรู้และประสบการณ์เดมิ จะมสี ว่ นให้เข้าใจเร่ืองท่ีอา่ นได้เร็ว 2. ความรู้ด้านภาษา คาบางคามคี วามหมายหลายอยา่ ง ความหมายตรง ความหมายแฝง คาใหม่ ศพั ท์บญั ญตั ิ ฯลฯ 3. วิธีการเขียนของผ้แู ตง่ 4. นสิ ยั รักการอา่ น เป็นสว่ นประกอบท่สี าคญั ทจ่ี ะทาให้การอา่ นประสบความสาเร็จ 5. รู้จกั ส่งิ พิมพ์ประเภทตา่ งๆ การรู้จกั ส่ิงพิมพ์แตล่ ะประเภทจะทาให้อา่ นได้เร็วขนึ ้ คณุ สมบตั ิของนกั อา่ นที่ดี 1. มคี วามสนใจในการอา่ นหนงั สือ 2. รู้จกั วิธีการอา่ นหนงั สือได้เร็ว 3. มปี ระสบการณ์ที่จะเข้าใจและซาบซงึ ้ กบั ความหมายของเนอื ้ เรื่อง 4. ติดตามความเคลื่อนไหวทางวิทยาการตา่ งๆ 5. มคี วามรู้เรื่องหนงั สอื สามารถเลอื กหนงั สือได้ตรงกบั ความต้องการและความสนใจได้ 6. มวี ิจารณญาณในการอา่ นคือ อา่ นอยา่ งไตร่ตรอง กอ่ นจะเชื่อหรือไมเ่ ชื่อ
แนวทางการจดั กจิ กรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน การเลอื กหนังสอื อ่าน การเลอื กหนงั สืออา่ น หมายถึง วิธีการเลอื กหนงั สืออา่ นให้ตรงตามทตี่ ้องการ มวี ิธีการดงั นี ้ 1. เลอื กหวั เรื่องทส่ี นใจจากฐานข้อมลู จดเลขเรียกหนงั สอื แล้วไปหาหนงั สือบนชนั้ 2. เลอื กช่ือหนงั สือท่นี า่ สนใจอา่ น 3. พิจารณาจากชื่อผ้แู ตง่ หนงั สอื 4. พิจารณาจากปีท่ีพิมพ์ หากเป็นหนงั สอื ประเภทวิทยาศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ ควรเลอื ก ฉบบั ท่พี ิมพ์ปีท่ี เป็นปัจจบุ นั หรือฉบบั ทพ่ี ิมพ์ลา่ สดุ 5. อา่ นสารบญั พิจารณาแตล่ ะบทวา่ มีเรื่องท่ีต้องการหรือมเี รื่องทน่ี า่ อา่ นหรือไม่ 6. ถ้ามีคาวิจารณ์ให้อา่ นบทวิจารณ์นนั้ จะทาให้ทราบเร่ืองราวของหนงั สือโดยสงั เขป 7. อา่ นหนงั สือ 2-3 หน้าแรก แล้วจึงเปิดพิจารณาตอนกลางของหนงั สอื นนั้ เพื่อทราบเร่ืองราวโดยสงั เขป
กจิ กรรมหลักระดบั ปฐมวัย “หนังสือสนุกปลุกสมอง”
กจิ กรรมหลักระดับปฐมวัย “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 1 มารู้จกั หนังสอื กันเถอะ เวลา 5 - 10 นาที วัตถุประสงค์ การวัดและประเมินผล เพ่ือให้นกั เรียนรู้จกั ลกั ษณะและประโยชน์ของหนงั สอื สงั เกตการมีสว่ นร่วมและการสนทนาโต้ตอบของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ ข้อเสนอแนะ หนงั สอื ภาพสาหรับเด็ก (มีตวั หนงั สอื น้อยทีส่ ดุ ) 1. แนะนาประโยชน์ของหนงั สือเพื่อใช้อา่ นอยา่ งสนกุ สนาน ไมใ่ ช้สาหรับฉีกหรือเลน่ การจดั กิจกรรม 2. แนะนาสว่ นประกอบของหนงั สือ เริ่มตงั้ แต่ ปก ช่ือเร่ือง 1. ครูแนะนาหนงั สอื ภาพสาหรับเดก็ เกี่ยวกบั ลกั ษณะและ เนอื ้ หา รูปเลม่ ประโยชน์ของหนงั สอื 3. หนงั สือสาหรับเด็กเลก็ สามารถทาจากวสั ดหุ ลายชนิด เชน่ 2. ชวนนกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั ปกหนงั สอื (ภาพ สี ช่ือเรื่อง) กระดาษ ผ้า 3. แนะนาสว่ นตา่ งๆ ของหนงั สอื (ปก ช่ือเรื่อง ช่ือผ้แู ตง่ ผ้วู าด 4. แนะนาการเปิดหนงั สืออยา่ งถกู ต้อง ไมข่ ยา ไมก่ ระชาก ภาพ เนอื ้ หา จานวนหน้า รูปเลม่ ) 5. กิจกรรมนี ้ครูผ้รู ับผิดชอบสามารถจดั กิจกรรมได้อยา่ ง 4. อา่ นหนงั สือหรือเลา่ เรื่องให้นกั เรียนฟัง ตอ่ เนื่องสมา่ เสมอ 5. นกั เรียนสมั ผสั สว่ นตา่ งๆ ของหนงั สือด้วยตนเอง
กจิ กรรมหลักระดับปฐมวยั “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 2 หนูน้อยยอดนักฟัง เวลา 5 - 10 นาที วตั ถุประสงค์ การวัดและประเมินผล 1. เพื่อเพ่ิมวงคาศพั ท์ของนกั เรียน 1. สงั เกตการสนทนาโต้ตอบจากนกั เรียน 2. เพื่อให้นกั เรียนมสี มาธิในการฟัง 2. สงั เกตการออกเสยี ง การแสดงทา่ ทางเลียนแบบคล้ายคลึง กบั ต้นแบบ ส่อื และอุปกรณ์ 1. หนงั สอื ภาพหรือการเลา่ เรื่องด้วยนา้ เสียงและประกอบ ข้อเสนอแนะ ทา่ ทาง 1. ครูควรเลา่ หรืออา่ นด้วยเสยี งสอดคล้องกบั เนอื ้ เร่ืองหรือมี 2. เพลงสนั้ ๆ สาหรับเดก็ หรือบทร้องเลน่ ของเด็ก ทา่ ทางประกอบ โดยควรเตรียมความพร้อมหรือฝึกทา่ ทางการ เลา่ มาก่อน การจดั กิจกรรม 2. กิจกรรมนคี ้ วรจดั กิจกรรมอยา่ งตอ่ เน่ืองโดยปรับให้เข้ากบั 1. ครูอา่ นหรือเลา่ เรื่องโดยใช้ภาษาทา่ ทางท่ีสอดคล้องกบั เรื่อง โอกาสตา่ ง ๆ ท่ีมาจากหนงั สอื ภาพ เร่ืองเลา่ บทเพลง 2. นกั เรียนแสดงทา่ ทางเลยี นแบบและออกเสยี งตาม
กจิ กรรมหลักระดับปฐมวัย “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 3 หุ่นน้อยเล่านิทาน เวลา 5 - 10 นาที วตั ถุประสงค์ การวดั และประเมินผล 1. เพ่ือให้นกั เรียนมสี มาธิในการดแู ละฟัง 1. สงั เกตการสนทนาโต้ตอบและการตอบคาถามงา่ ย ๆ 2. เพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจเรื่องราวทด่ี ู และ/หรือฟังโดยสมั พนั ธ์ เกี่ยวกบั เร่ืองเลา่ ของนกั เรียน กบั หนงั สอื 2. สงั เกตการมีสว่ นร่วมเลน่ กิจกรรมของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ ข้อเสนอแนะ 1. หนุ่ นวิ ้ หรือหนุ่ มือท่ีมาจากหนงั สือท่ีครูต้องการเลา่ ให้เด็กฟัง ห้องเรียนที่มีนักเรียนจานวนน้อยครูควรใช้หุ่นนิว้ มือ หาก 2. หนงั สอื ภาพหรือเพลงสาหรับเด็กทีเ่ ป็นโครงเรื่องสาหรับการ ห้องเรียนมนี กั เรียนจานวนมากครูควรใช้หนุ่ มอื เลา่ นิทาน การจดั กจิ กรรม 1. ครูอา่ นและวิเคราะห์นทิ านทตี่ ้องการอา่ นให้นกั เรียนฟัง 2. ครูประดษิ ฐ์ตวั ละครจากหนงั สอื ใช้เป็นหนุ่ สาหรับเลา่ เรื่อง 3. นาหนุ่ มาแสดงทา่ ทางเป็นเรื่องราวสอดคล้องกบั หนงั สอื 4. นกั เรียนฝึกใช้หนุ่ ทาทา่ ทางเลยี นแบบตวั ละครหนุ่
กจิ กรรมหลักระดับปฐมวัย “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 4 สร้างสุข สนุกกับนิทาน เวลา 5 - 10 นาที วัตถุประสงค์ การวดั และประเมินผล เพ่ือให้นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในการแสดงบทบาทสมมตุ ิในเร่ือง 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นร่วมของนกั เรียน 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงออกสอดคล้องกบั คาสงั่ ส่อื และอุปกรณ์ 1. หนงั สือนิทานหรือหนงั สอื ภาพสาหรับเด็ก ข้อเสนอแนะ 2. บทบาทสมมตุ ิ หนงั สือนิทานหรือหนงั สือภาพควรมีตวั ละครท่ีนกั เรียนแสดง การมีสว่ นร่วมได้ทกุ คน การจดั กิจกรรม 1. ครูอา่ นหรือเลา่ เร่ืองจากหนงั สือนทิ านหรือหนงั สือภาพ สาหรับเดก็ 2. นกั เรียนร่วมแสดงบทบาทสมมตุ ิเป็นตวั ละครในเรื่อง โดยมี ครูเป็นผ้นู า
กจิ กรรมหลักระดับปฐมวัย “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 5 ระบายสีกบั นิทาน เวลา 5 - 10 นาที วตั ถุประสงค์ 3. นกั เรียนระบายสีตวั ละครหรือภาพงา่ ยๆ จากนทิ านหรือ 1. เพื่อให้นกั เรียนมสี มาธิในการฟังและรู้จกั ตวั ละครทอ่ี ยใู่ น หนงั สือภาพสาหรับเดก็ นิทาน 4. นาภาพของนกั เรียนทกุ คนจดั ปา้ ยนเิ ทศหรือนทิ รรศการใน 2. เพ่ือฝึกการให้นกั เรียนใช้กล้ามเนอื ้ มดั เล็ก ห้องเรียน เผยแพร่ให้ทกุ คนช่ืนชม 3. เพื่อฝึกให้นกั เรียนคิดสร้างสรรค์และระบายสตี าม จินตนาการ การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมกิจกรรมของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ 2. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ มือของนกั เรียนขณะระบายสี 1. หนงั สือนิทานหรือหนงั สอื ภาพสาหรับเด็ก 3. ตรวจผลงานของนกั เรียนรายบคุ คล 2. แผ่นภาพสาหรับระบายสี 3. สไี ม้หรือสีเทยี น ข้อเสนอแนะ 1. การเลอื กหนงั สอื ควรมีเร่ืองราวท่ีงา่ ยสาหรับทาความเข้าใจ การจดั กิจกรรม ของนกั เรียนและมีตวั ละครไมม่ ากนกั 1. นกั เรียนฟังครูอา่ นหนงั สือนทิ านหรือหนงั สอื ภาพสาหรับเด็ก 2. ภาพร่างควรเป็นตวั ละครเอกหรือตวั ละครเดน่ ของเร่ือง 2. ร่วมกนั สนทนาโต้ตอบเก่ียวกบั นทิ านและตวั ละครในนิทาน
กจิ กรรมหลักระดบั ประถมศกึ ษา “อ่านให้รู้ ดใู ห้เพลนิ ”
กจิ กรรมหลักระดบั ปฐมวยั “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 1 ถ้าโลกนีไ้ ม่มีหนังสือเราจะเป็ นอย่างไร เวลาตามความเหมาะสม วัตถปุ ระสงค์ 3. นากระดาษคาตอบที่รวบรวมได้ มาแบง่ ปันเลา่ ความคิดของแตล่ ะ 1. เพ่ือให้ผ้เู ข้าร่วมตรวจสอบทศั นคติของตนเองท่ีมีกบั การอา่ น คนให้สมาชิกในกลมุ่ ฟัง 2. เพ่ือสร้างนสิ ยั ในการทางานอย่างมีเปา้ หมาย 4. รวบรวมเขียนความคดิ ของสมาชกิ ทกุ คนลงในกระดาษและสรุป ความคิดรวมของกลมุ่ ขนึ ้ มา เป็นข้อความ 1 ข้อความ ส่ือและอุปกรณ์ กระดาษ A4, ปากกา การวัดและประเมนิ ผล สงั เกตการมีส่วนร่วมและการสนทนาโต้ตอบของนกั เรียน การจดั กิจกรรม 1. ให้เดก็ แตล่ ะคนเขียนคาตอบวา่ ข้อเสนอแนะ ในกิจกรรมนีผ้ ู้นากิจกรรมจะพบว่าเด็กๆ มีทัศนคติเก่ียวกบั การอ่าน - ถ้าโลกนีไ้ มม่ ีหนงั สือเราจะเป็นอยา่ งไร เป็นอย่างไร การอ่านที่มีผลกบั เด็กโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน - ถ้าเราไม่อา่ นหนงั สือโลกนีจ้ ะเป็นอยา่ งไร หรือหนงั สือทว่ั ไป บางกรณีเด็กบางคนไมม่ ีหนงั สือท่ีเขาสนใจอยากท่ี เขียนลงในกระดาษ และพบั เป็นชนิ ้ เล็กๆ แล้วนาไปซอ่ น โดยมีกตกิ า จะหยิบมาอ่าน ทาให้ขาดแรงบนั ดาลใจในการอ่าน ไม่ว่าเด็กสนใจ วา่ ให้ซอ่ นในท่ีที่คิดว่าจะไม่มีใครสามารถหาเจอได้ หนงั สือประเภทใดก็ตามล้วนแต่เป็นประโยชน์ที่ได้จากการอ่านทงั้ นนั้ 2. แบง่ เดก็ เป็นกลมุ่ ให้จบั มือกนั เป็นวงกลม ไม่สื่อสารกนั ด้วยคาพดู ให้ใช้วิธีสื่อสารด้วยท่าทาง ช่วยกนั ไปหากระดาษชิน้ เล็กๆ ที่นาไป ซอ่ นกลบั มาให้ได้ครบตามจานวนสมาชกิ ในกลมุ่
กจิ กรรมหลักระดบั ปฐมวยั “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 2 ห้องสมุดในฝันของหนู เวลาตามความเหมาะสม วัตถุประสงค์ 3. ให้ร่วมพดู คยุ แลกเปลี่ยนมมุ ในฝันกบั สมาชิกในกลมุ่ ผ่านภาพวาด 1. เพ่ือให้สามารถแสดงความคิด จินตนาการผ่านงานศิลปะได้อยา่ ง ของตวั เอง เตม็ ท่ี 4. ให้นามมุ ในฝันของตนเองรวมกบั สมาชกิ ในกลมุ่ เพ่ือสร้างเป็น 2. เพื่อให้สามารถออกแบบห้องสมดุ ในฝันผา่ นงานศิลปะ ห้องสมดุ ในฝันหนง่ึ หลงั มีข้อแม้วา่ ต้องออกแบบห้องสมุดที่ไม่เคยมี มากอ่ นในโลก ส่ือและอุปกรณ์ 5. สมาชกิ ในกลมุ่ ช่วยกนั ออกแบบห้องสมดุ ในฝันโดยนามมุ ท่ีวาดมา กระดาษ A4, กระดาษปรู๊ฟ, สีชอล์ก, กรรไกร, กระดาษกาว ตดั ตกแต่งตามต้องการ แล้วนาแต่ละมมุ ตดิ บนกระดาษปรู๊ฟ ออกแบบและระบายสีเพ่มิ เติม จนเป็นห้องสมดุ ในฝันท่ีสมบูรณ์ การจัดกจิ กรรม 6. ตงั้ ช่ือห้องสมดุ ในฝัน 1. ให้เดก็ แต่ละคนนกึ ถงึ สถานที่ท่ีเราอยากอา่ นหนงั สือให้ได้มากที่สดุ 7. สมาชิกในกลมุ่ ชว่ ยกนั เขียนบรรยายแนวคิดของห้องสมดุ ในฝันลง และจะต้องเป็นท่ีพเิ ศษ แปลก มหศั จรรย์ ในกระดาษ A4 2. นาสถานท่ีที่อยากอา่ นหนงั สือมากท่ีสดุ เลือกมา 1 ที่ นามาวาด เป็นรูปภาพ
กจิ กรรมหลักระดับปฐมวยั “หนังสือสนุกปลุกสมอง” กจิ กรรมท่ี 2 ห้องสมุดในฝันของหนู เวลาตามความเหมาะสม การวัดและประเมินผล สงั เกตการมสี ว่ นร่วมและการสนทนาโต้ตอบของนกั เรียน ข้อเสนอแนะ เด็กได้ใช้จินตนาการในการสร้ างสรรค์ห้องสมุดในแบบของ ตนเอง และเมื่อนามารวมกับของเพื่อนในกล่มุ ก็เป็นห้องสมุด ในแบบท่ีต้ องใช้ จิตนาการคิดตาม ในความเป็ นจริงนัน้ ก็ สามารถท่ีจะไปอ่านหนงั สือในท่ีต่างๆ ท่ีจินตนาการได้ แต่เรา สามารถสร้างบรรยากาศให้ใกล้เคียงสถานท่ีแบบนนั้ ได้ ซ่งึ การ ได้อา่ นในทที่ ี่เราอยากอา่ นนนั้ เป็นการกระต้นุ ให้เกิดการอ่านได้ เชน่ กนั
กจิ กรรมหลักระดบั ประถมศกึ ษา “อ่านให้รู้ ดใู ห้เพลิน” กจิ กรรมท่ี 3 ฟังนิทานแสนสนุก เวลา 10 - 15 นาที วตั ถุประสงค์ นกั เรียนและครู (พฤติกรรมตวั ละคร เนอื ้ เรื่อง 1. เพื่อให้นกั เรียนมสี มาธิในการฟังนทิ านหรือหนงั สือภาพ การปฏิบตั ติ นในชีวิตประจาวนั คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์) สาหรับเดก็ 4. อา่ นหรือเลา่ เรื่องย้อนกลบั ร่วมกนั 2. เพ่ือให้นกั เรียนอา่ นเพื่อเลา่ เร่ืองย้อนกลบั ร่วมกนั ได้ 5. นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมตามใบงานทกี่ าหนด 3. เพ่ือให้นกั เรียนอธิบายสว่ นประกอบตา่ งๆ ของหนงั สือ 6. นาใบงานทีน่ กั เรียนทกุ คนทา ไปจดั นิทรรศการผลงาน ส่อื และอุปกรณ์ การวัดและประเมินผล 1. นทิ านหรือหนงั สือภาพสาหรับเดก็ 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการฟังของนกั เรียน 2. ใบงานกิจกรรมอา่ นสนกุ 2. สงั เกตพฤติกรรมการพดู เลา่ หรืออา่ นของนกั เรียน 3. ตรวจผลงานของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล การจดั กิจกรรม 1. ทบทวนลกั ษณะ องค์ประกอบและประโยชน์ของหนงั สือ ข้อเสนอแนะ นทิ านหรือหนงั สือภาพสาหรับเด็ก 1. ใบงานควรเป็นภาพลายเส้นจากตวั ละครในนิทานหรือ 2. นกั เรียนฟังนิทานหรือหนงั สือภาพทีค่ รูอา่ น หนงั สือภาพทนี่ กั เรียนฟัง 3. สนทนาเกี่ยวกบั นิทานหรือหนงั สอื ทอี่ า่ นร่วมกนั ระหว่าง 2. เลอื กนทิ านให้เหมาะสมกบั วยั ของนกั เรียนท่ฟี ัง
ใบงานกจิ กรรมอ่านสนุก ช่อื เรื่อง…………………………………………………………………………………………………………… ผ้แู ตง่ ……………………………………………………………………………………………………………... ผ้วู าดภาพประกอบ……………………………………………………………………………………………..... ตวั ละคร…………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………….... ……………………………………............................................................................................................ ชอบ☺ ไมช่ อบ ชอื่ นกั เรียน……………………………….
กจิ กรรมหลักระดบั ประถมศึกษา “อ่านให้รู้ ดูให้เพลิน” กจิ กรรมท่ี 4 ห้องสมุดของฉัน เวลา 10 - 15 นาที วัตถุประสงค์ การวัดและประเมินผล 1. เพ่ือให้นกั เรียนรู้จกั ห้องสมดุ และแหลง่ การเรียนรู้ในโรงเรียน 1. สงั เกตความสนใจและการมสี ว่ นร่วมของนกั เรียน 2. เพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจมารยาทหรือกฎกติกาการใช้ห้องสมดุ 2. สงั เกตการสนทนาโต้ตอบของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ ข้อเสนอแนะ ส่ือ วสั ดุ ครุภณั ฑ์ของห้องสมดุ โรงเรียน กิจกรรมนีค้ วรเป็ นส่วนหน่ึงของวิชาที่จะใช้ ห้องสมุดของ โรงเรียนเป็นแหลง่ การเรียนรู้ การจดั กิจกรรม 1. ครูสนทนาเกี่ยวกบั แหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ ในโรงเรียน แล้ว เชื่อมโยงถึงห้องสมดุ ของโรงเรียน 2. พานกั เรียนไปห้องสมดุ ของโรงเรียน 3. แนะนาสว่ นตา่ งๆ ของห้องสมดุ เช่น มมุ ตา่ งๆ ในห้องสมดุ บรรณารักษ์ 4. นาเสนอหนงั สือที่นา่ สนใจหรือสอดคล้องกบั กิจกรรมทีจ่ ะ จดั การเรียนรู้ของสาระวิชานนั้ ๆ ตอ่ ไป
กจิ กรรมหลักระดบั ประถมศกึ ษา “อ่านให้รู้ ดูให้เพลิน” กจิ กรรมท่ี 5 เล่มโปรด เวลา 10 - 15 นาที วตั ถุประสงค์ การวดั และประเมินผล 1. นกั เรียนเลือกหนงั สือตามความสนใจหรือความชอบ 1. สงั เกตจากพฤติกรรมการนาเสนอหน้าชนั้ เรียน 2. นกั เรียนนาเสนอความคดิ เห็นจากหนงั สือเลม่ ทีเ่ ลอื กได้ 2. สงั เกตการเลือกหนงั สือและเหตผุ ลประกอบการเลอื ก หนงั สอื ส่อื และอุปกรณ์ หนงั สือท่นี กั เรียนเลอื กจากบ้าน หรือห้องสมดุ โรงเรียน ข้อเสนอแนะ 1. ครูมอบหมายให้นกั เรียนเลอื กและอา่ นหนงั สอื เลม่ ท่ีชอบ การจดั กจิ กรรม ทีส่ ดุ 1 เร่ือง 1. นกั เรียนนาหนงั สอื เลม่ ทเี่ ลือกมานาเสนอให้เพ่ือนๆ และครู 2. ครูเลือกนกั เรียนจากการสมุ่ เลอื ก เริ่มจากนกั เรียนอาสากอ่ น ฟัง โดยบอกเหตผุ ลทชี่ อบหนงั สือเลม่ นี ้ โดยให้นกั เรียนร่วมกิจกรรมครบทกุ คน 2. ครูกาหนดจานวนนกั เรียนตามความเหมาะสมของเวลา แล้ว 3. ควรมีการนาเสนอวนั ละ 1 - 2 คน เพื่อให้มีเวลาสนทนา เปลี่ยนนกั เรียนมานาเสนอในวนั ตอ่ ไปให้ครบทกุ คน ร่วมกนั 4. กิจกรรมนสี ้ ามารถประยกุ ต์สาระการนาเสนอให้เหมาะสม กบั นกั เรียนแตล่ ะระดบั ชนั้
กจิ กรรมหลักระดับประถมศกึ ษา “อ่านให้รู้ ดใู ห้เพลิน” กจิ กรรมท่ี 6 อ่านเป็ น จบั ประเดน็ ได้ เวลา 10 - 15 นาที วัตถุประสงค์ 3. สง่ แบบบนั ทกึ การอา่ นให้ครูผ้รู ับผิดชอบตดิ ตาม 1. เพื่อให้นกั เรียนอา่ นหนงั สืออยา่ งสม่าเสมอ ความก้าวหน้าในการอา่ นของนกั เรียน 2. เพ่ือให้นกั เรียนบอกเลา่ เรื่องราวทอ่ี า่ นได้ 3. เพ่ือให้นกั เรียนประเมินเรื่องทตี่ นเองอา่ นอยา่ งง่ายๆ ได้ การวดั และประเมินผล ตรวจสอบแบบบนั ทกึ การอา่ นของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ 1. หนงั สือทน่ี กั เรียนเลือกตามความสนใจหรือความชอบ ข้อเสนอแนะ 2. แบบบนั ทกึ การอา่ นของ สพฐ. หรือโรงเรียนจดั ทาขนึ ้ ใหม่ 1. หนงั สือท่นี กั เรียนอา่ นให้โรงเรียนกาหนดจานวนตามความ เหมาะสมสอดคล้องกบั วยั นกั เรียน การจดั กจิ กรรม 2. บนั ทกึ การอา่ นของนกั เรียนควรได้รับการตรวจติดตามให้ 1. กาหนดให้นกั เรียนเลอื กหนงั สอื ทส่ี นใจ อา่ นหนงั สอื สปั ดาห์ กาลงั ใจทกุ สปั ดาห์ ละไมน่ ้อยกว่า 1 เลม่ 3. กิจกรรมนคี ้ วรให้นกั เรียนทาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งสม่าเสมอ 2. นกั เรียนเขียนสาระสาคญั ลงในแบบบนั ทกึ การอา่ นทกุ 4. แบบบนั ทกึ การอา่ นควรจดั ทาเป็นเลม่ สาหรับนกั เรียนแตล่ ะ สปั ดาห์สง่ ให้ผ้ปู กครองรับทราบ คน
กจิ กรรมหลักระดับประถมศึกษา “อ่านให้รู้ ดใู ห้เพลิน” กจิ กรรมท่ี 7 กาหนดคาทาให้เป็ นเร่ือง เวลา 10 - 15 นาที วัตถุประสงค์ การวดั และประเมินผล เพื่อให้นกั เรียนสามารถแตง่ เร่ืองจากคาหรืองานทก่ี าหนดให้ ตรวจผลงานการสร้างเรื่องของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ ข้อเสนอแนะ คาที่กาหนดให้ 1. ให้ครูผ้รู ับผิดชอบยดื หยนุ่ เวลาในการจดั กิจกรรมตามความ เหมาะสม การจดั กิจกรรม 2. กิจกรรมนใี ้ ห้ครูผ้รู ับผิดชอบประยกุ ต์ใช้ตามความเหมาะสม 1. นกั เรียนจบั คกู่ บั เพ่ือนตามความชอบใจ กบั ผ้เู รียน 2. นกั เรียนนาคาท่ีกาหนดให้ 3 - 5 คา หรือภาพทกี่ าหนดให้ แตง่ เรื่องจากคาศพั ท์หรือภาพตามข้อตกลงร่วมกนั 3. นกั เรียนนาเสนอหน้าชนั้ เรียนให้ครบทกุ คู่ 4. นาเร่ืองทแ่ี ตง่ ไปออกแบบรูปแบบเพื่อนาเสนอตามความ ถนดั แล้วจดั นิทรรศการแบง่ ปันกนั อา่ น
กจิ กรรมหลักระดบั มัธยมศกึ ษา “อ่านเขียน เรียนรู้โลก”
กจิ กรรมหลักระดบั มัธยมศึกษา “อ่านเขยี น เรียนรู้โลก” กจิ กรรมท่ี 1 ยอดรักนักอ่าน เวลาตามความเหมาะสม วตั ถุประสงค์ 3. ครูทกุ สาระการเรียนรู้เป็นผ้ดู แู ลการอา่ นของนกั เรียนให้ 1. พฒั นาสมาธิกบั การอา่ นของนกั เรียนจากเร่ืองท่ีชื่นชอบ เป็นไปตามเวลาทก่ี าหนด 2. นกั เรียนอา่ นหนงั สือทกุ วนั อยา่ งน้อยวนั ละ 15 นาที ในตอน 4. กาหนดให้อา่ นทกุ ชนั้ เรียน ทกุ ห้องเรียน เช้า 3. นกั เรียนอา่ นออกเสียงทกุ คน ทกุ ห้อง วนั ละ 10 นาที กอ่ น การวัดและประเมินผล กลบั บ้าน 1. สมั ภาษณ์นกั เรียนเพ่ือทราบความพงึ พอใจในการเข้าร่วม กิจกรรม ส่อื และอุปกรณ์ 2. ตดิ ตามสถิตกิ ารเข้าห้องสมดุ หรือยืมหนงั สอื หนงั สอื ทนี่ กั เรียนคดั เลือกด้วยตวั เอง ข้อเสนอแนะ การจดั กิจกรรม ครูทกุ สาระควรเป็นผ้ชู ว่ ยให้กิจกรรมการอา่ นนเี ้ป็นไปตามเวลา 1. นกั เรียนทกุ คนอา่ นหนงั สือทีค่ ดั เลอื กด้วยตนเอง ไมร่ บกวนเวลาการเรียนการสอน 2. กาหนดเวลาอา่ น คอื ชว่ั โมงแรกของทกุ วนั ทกุ สาระ วนั ละ 5-10 นาที
กจิ กรรมหลักระดับมัธยมศกึ ษา “อ่านเขยี น เรียนรู้โลก” กจิ กรรมท่ี 2 สรุปข่าว เล่าเร่ือง เวลาตามความเหมาะสม วตั ถุประสงค์ การวัดและประเมินผล 1. นกั เรียนสรุปความเนอื ้ หาทอี่ า่ นได้ 1. ประเมินการบนั ทกึ สรุปความ 2. นกั เรียนเลา่ เรื่องได้ 2. ประเมนิ การเลา่ สรุปเร่ือง ส่อื และอุปกรณ์ ข้อเสนอแนะ หนงั สอื พิมพ์ ครูควรเลอื กเนอื ้ หาขา่ วท่เี หมาะสมกบั วยั และระดบั ความสนใจ ของนกั เรียน การจดั กจิ กรรม 1. นกั เรียนอา่ นขา่ วหนงั สอื พิมพ์และเลือกหวั ข้อข่าวท่สี นใจ 2. นกั เรียนสรุปขา่ วและบนั ทกึ 3. นกั เรียนเลา่ ขา่ วที่สรุปให้เพ่ือนฟัง 4. นกั เรียนรวบรวมผลงาน สรุปขา่ ว ทาเป็นเลม่ เก็บไว้ที่มมุ หนงั สอื ในชนั้ เรียนหรือในห้องสมดุ
กจิ กรรมหลักระดบั มัธยมศกึ ษา “อ่านเขยี น เรียนรู้โลก” กจิ กรรมท่ี 3 ท่คี ่นั หนังสอื ส่อื ความรู้ เวลาตามความเหมาะสม วตั ถุประสงค์ 4. นกั เรียนประดษิ ฐ์ทคี่ น่ั หนงั สอื และเขียนสานวน คาคม ลงใน 1. ค้นคว้าสานวนและคาคมได้ ท่ีคน่ั หนงั สอื 2. ประดษิ ฐ์ทคี่ น่ั หนงั สือได้ 5. นาเสนอผลงานการประดษิ ฐ์ทีค่ น่ั หนงั สือ ส่อื และอุปกรณ์ การวดั และประเมินผล 1. หนงั สอื งานประดษิ ฐ์ตา่ งๆ แบบประเมนิ ชิน้ งาน 2. หนงั สอื สานวน คาคม 3. กระดาษและวสั ดอุ ปุ กรณ์ทาที่คนั่ หนงั สอื ข้อเสนอแนะ 1. สามารถนาไปปรับใช้ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ตา่ งๆ ได้ การจดั กจิ กรรม 2. ควรสง่ เสริมให้นกั เรียนประดิษฐ์ท่คี นั่ หนงั สือเอาไว้ มอบให้ 1. ครูนาสนทนาถงึ ความสาคญั ของทคี่ น่ั หนงั สอื เพ่ือนหรือผ้ทู ่เี คารพเนื่องในโอกาสตา่ ง ๆ 2. นาเสนอตวั อยา่ งทคี่ นั่ หนงั สอื 3. นกั เรียนอา่ นและค้นคว้าสานวน คาคม จดลงในสมดุ บนั ทกึ
กจิ กรรมหลักระดับมัธยมศกึ ษา “อ่านเขยี น เรียนรู้โลก” กจิ กรรมท่ี 4 ภาษาพาสนุก เวลาตามความเหมาะสม วัตถุประสงค์ การจดั กจิ กรรม 1. เปิดพจนานกุ รมได้ 1. ครูสาธิตการเลน่ เกม “ภาษาพาสนกุ ” 2. รู้จกั คาและความหมายกว้างขนึ ้ - นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน - ครูยกตวั อยา่ งคาบนกระดานเป็นคาหลกั ส่อื และอุปกรณ์ - ตวั แทนกลมุ่ ละ 1 คน ออกมาเขยี นขยายคาหลกั ที่ครูยก 1. หนงั สอื พจนานกุ รมไทย บนกระดานให้เป็นสานวน วลี ทไี่ มซ่ า้ กนั 2. ใบงานเกมภาษาพาสนกุ 2. ครูแจกบตั รคาเพื่อเลน่ เกม “ภาษาพาสนกุ ” และหนงั สอื พจนานกุ รมให้นกั เรียนทาความเข้าใจ ร่วมกนั เกี่ยวกบั กติกา การเลน่ เกม 3. นกั เรียนทกุ กลมุ่ เลน่ เกมภาษาพาสนกุ
กจิ กรรมหลักระดับมัธยมศึกษา “อ่านเขียน เรียนรู้โลก” กจิ กรรมท่ี 4 ภาษาพาสนุก เวลาตามความเหมาะสม การจดั กจิ กรรม การวดั และประเมินผล 4. ร่วมกนั เฉลยหลกั การแขง่ ขนั พร้อมให้เหตผุ ลในการเลือกคา 1. ตรวจผลงาน และความหมาย พร้อมให้ข้อคดิ ในการนาไปใช้ใน 2. สอบถามวิธีเปิดพจนานกุ รม ชีวิตประจาวนั 5. รวมคะแนน ทีมทชี่ นะ รับรางวลั ข้อเสนอแนะ 6. นกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั “เกมภาษาพาสนกุ ” ได้แก่ 1. ครูอาจนาใบงานให้นกั เรียนเลน่ เป็นหวั ข้อ เชน่ ตอ่ คา ตอ่ - ความประทบั ใจ สานวน ตอ่ คาพงั เพย ตอ่ วลี ฯลฯ - เทคนคิ การเลือกคาและหาความหมาย 2. สามารถนาไปปรับใช้ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ตา่ งๆ ได้ - วิธีการค้นหาคาตา่ งๆ ในพจนานกุ รม 7. สรุปความสาคญั ของการใช้คาทมี่ ีความเก่ียวข้องกนั โดยมี ความหมายตา่ งกนั
ใบงานเกมภาษาพาสนุก หมายถงึ ครูแจกใบงานโดยกาหนดคา 1 คา ให้นกั เรียนหาคาทม่ี ีความหมายหรือเก่ียวข้องกบั คาทก่ี าหนด นามาเติมลงในชอ่ งให้ได้มากท่สี ดุ หมายถงึ หมายถึง หมายถงึ กตกิ า “ เกมภาษาพาสนุก” 1. กาหนดคาที่จะใช้เลน่ เกม 1 คา ควรเป็นคาท่ีสามารถหาคา สานวน หรือวลอี ่ืนๆ ที่มีความสมั พนั ธ์และเก่ียวข้องกนั มาตอ่ เติมได้อยา่ งกว้างขวาง และเขยี นคาดงั กลา่ วเป็นคาหลกั ลงในใบงาน 2. เกมนเี ้ลน่ เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลมุ่ ก็ได้ 3. ผ้เู ลน่ สลบั กนั เขียนคา สานวนหรือวลี ที่มีความสมั พนั ธ์หรือเกี่ยวข้องกนั กบั คาหลกั ลงในใบงาน พร้อมเขียนความหมายสนั้ ๆ ประกอบ (เขียนในกรอบเลก็ ๆ) แล้วขีดเส้นเพอ่ื เช่ือมโยงคาตอ่ ไป เร่ือย ๆ 4. เมื่อครบตามเวลา หรือไม่สามารถตอ่ คาได้แล้ว ใครตอ่ คาท่ีมีความหมายสมั พนั ธ์กนั และถกู ต้องได้มากกวา่ เป็นผ้ชู นะ 5. เพือ่ ให้ผ้เู ลน่ สามารถค้นหาคา สานวน หรือวลตี า่ งๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง รวดเร็ว ควรนาหนงั สอื พจนานกุ รมไทยมาใช้ประกอบการเลน่ เกม
กจิ กรรมหลักระดบั มัธยมศกึ ษา “อ่านเขยี น เรียนรู้โลก” กจิ กรรมท่ี 5 นิทานเร่ืองนีไ้ ม่มตี อนจบ เวลาตามความเหมาะสม วัตถุประสงค์ การวดั และประเมินผล แตง่ นิทานได้อยา่ งสร้างสรรค์ 1. ตรวจผลงานนทิ าน 2. ประเมนิ ความพึงพอใจในการเขียนนิทาน ส่อื และอุปกรณ์ 1. หนงั สือนิทานประเภทตา่ งๆ ข้อเสนอแนะ 2. หนงั สอื ที่เก่ียวกบั วิธีการหรือแนวทางการแตง่ นิทาน 1. ครูควรเลา่ นิทานทมี่ ีเนอื ้ หาหลากหลาย 3. ห้องสมดุ 2. ครูควรคานงึ วา่ การแตง่ นทิ านไมม่ ถี กู ผิด แตค่ วรแตง่ เรื่องท่ี 4. อนิ เทอร์เนต็ แฝงคณุ ธรรมและมีข้อคดิ ท่สี มเหตผุ ล 3. ครูควรจดั กิจกรรมให้นกั เรียนฝึกแตง่ นทิ านอยา่ งต่อเนอ่ื ง การจดั กจิ กรรม เป็นการพฒั นาทกั ษะการเขยี นสร้างสรรค์ 1. ครูเลา่ นทิ านให้นกั เรียนฟัง 1 เร่ือง 2. ครูและนกั เรียนสนทนานทิ านท่ีครูเลา่ 3. นกั เรียนแตง่ นทิ านตอ่ จนจบโดยมีข้อแม้วา่ ต้องไม่เหมือนเดมิ และมีความสร้ างสรรค์
นิทานเร่ืองนีไ้ ม่มีตอนจบ : เร่ือง หงส์ขาวผ้กู ลบั ใจ กาลครัง้ หนงึ่ นานมาแล้ว ณ บงึ วิหควารีในป่ าลกึ มีหงส์ขาวอย่ฝู ูงหนึ่ง ได้พกั อาศยั และหากินอย่ใู นบงึ อย่างมีความสขุ และปลอดภยั หงส์ขาวฝงู นีม้ ีข้อตกลงกนั ว่า จะผลดั เปล่ียนกนั มาอยเู่ วรยามวนั ละ 1 ตวั เพื่อเฝา้ ระวงั สตั ว์ร้ายหรือมนษุ ย์ ท่ีอาจเข้ามาทาร้ายพวกตนได้ วนั นีเ้ป็น หน้าท่ีของ “เด่น” หงส์หน่มุ ที่มีรูปร่างงดงาม สมส่วน และมีขนสีขาวนวลตลอดทงั้ ตวั เด่น มกั หย่ิงทรนงในความงดงามของตนเอง เนื่องจากใครๆ ก็พาชื่นชมในความงามของ เด่น จน เด่น คิดวา่ ตนเองเป็นหงส์ขาวที่งดงาม หล่อเหลาท่ีสดุ ในบงึ วิหควารี ขณะท่ี เด่น ควรจะต้องว่ายนา้ อย่เู วร เพ่ือเฝา้ ระวงั ความปลอดภยั แต่ เด่น เผอเรอไม่รู้จกั รับผดิ ชอบต่อหน้าที่เวรยาม เด่น เอาแตว่ ่ายนา้ วนไปเวียนมา เพ่ือจีบหงส์สาวสวยในฝงู อย่าง มีความสขุ โดยหลงลืมหน้าที่ของตนเอง ทนั ใดนนั้ เสียงปืนก็ดงั ขนึ ้ หงส์ตวั หนึ่งถูกยิงตายอย่รู ิมบงึ หงส์ทงั้ ฝงู ตกใจพากนั บินหนีขนึ ้ ไปหมด รวมทงั้ เด่น ด้วยเสียงปืนดงั ขนึ ้ อีก 1 นดั เด่น รู้สกึ เจ็บที่ใบหน้า และมีเลือดไหลออกมาเตม็ ลกู ปืนถากหน้าของ เด่น ไป ทาให้ใบหน้าของ เด่น เกิดแผล ยาวและลึกจนหน้าเกลียด หงส์ทงั้ ฝูงพากันตาหนิ เด่น ท่ีไม่ทาหน้าที่เวรยามท่ีตนได้รับผิดชอบ ทาให้เพื่อนถกู ยิงตายและตวั เองได้รับบาดเจ็บ เด่น เสียใจมากและตงั้ ใจว่าต่อไปนีจ้ ะรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนให้ดีที่สดุ ผ่านไปหลายวัน ครบรอบเวรของ เด่น อีกครัง้ แต่คราวนี ้ เด่น คอยว่ายนา้ ระวังภัยอย่างตงั้ ใจ เด่น ว่ายนา้ ไปรอบๆ บึงอย่างช้าๆ สายตาก็สอดส่ายตามองรอบๆ บงึ อย่างระมดั ระวงั เด่น มองเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวช้าๆ อย่ตู รงกอหญ้า ริมบงึ เด่น ตกใจมาก ทงั้ ๆ ท่ี แสนกลวั แต่ เด่น ก็ฝืนใจวา่ ยนา้ เข้าไปดใู กล้ๆ สิ่งที่ เด่น เห็นคือ นายพรานใจร้ายที่แอบซุ่ม อยู่ในกอหญ้า ในมือของนายพรานมีปืนอย่ดู ้วย เด่น กลวั นายพรานมาก เพราะเคยถกู นายพรานยิงมาแล้ว (โปรดพลิกหน้าหลังแล้วต่อเนือ้ เร่ืองให้จบ)……….................................................... นักเรียนๆ คิดว่านิทานเรื่องนีจ้ ะจบอย่างไร โปรดเขียนตอนจบส่งท่ีห้องสมุด หากตอนจบของใครตื่นเต้น สนุกสนาน เร้าใจ แฝง คณุ ธรรม จะมีของรางวลั มอบให้ หมายเหตุ : 1. ให้นกั เรียนแต่งนทิ านเพิ่มไม่เกนิ 5 บรรทดั 2. นทิ านเร่ืองหงส์ขาวผ้กู ลบั ใจ คดั ลอกมาจากวิทยาลยั การอาชีพเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลาปาง
นิทานเร่ืองหงส์ขาวผ้กู ลับใจ เนือ้ เร่ืองต่อไป…………….………………………………………………………………...............…………........................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. นิทานเร่ืองนีส้ อดแทรกคุณธรรมอะไร............................................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ชื่อ........................................................เลขท่ี...............ชนั้ ................
นิทานเร่ืองนีไ้ ม่มีตอนจบ : เร่ือง ง่ายนิดเดยี ว กาลครัง้ หนง่ึ นานมาแล้วมีครอบครัวอยคู่ รอบครัวหนง่ึ ครอบครัวนมี ้ ีลกู ฝาแฝดถงึ สามคน แฝดคนโตชื่อ เลก็ เพราะตวั เลก็ แฝดคนรองช่ือ กลาง เพราะตวั ไมเ่ ล็กไม่ใหญ่ แฝดคนสดุ ท้อง ชื่อ ใหญ่ เพราะตวั ใหญ่ท่สี ดุ ปกตฝิ าแฝดทว่ั ไปมกั ชอบอะไรๆ เหมือนกนั แตส่ งิ่ ท่ีฝาแฝดทงั้ สามคนนชี ้ อบ กลบั ไมเ่ หมือนกนั เลย ย่ิงไปกวา่ นนั้ สง่ิ ทแ่ี ตล่ ะคนชอบยงั เป็นสงิ่ ที่อีกสองฝ่ายไม่ชอบเลยแม้แต่ นิดเดียว พเ่ี ลก็ แฝดคนโตชอบความเงียบสงบ เรียบร้อย ไม่ชอบสตั ว์หรือเลยี ้ งสตั ว์ เพราะสง่ เสยี งดงั และทาเลอะเทอะ แตแ่ ฝดกลางชอบเลยี ้ งสตั ว์ แต่ไม่ชอบปลกู ต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ๆ เพราะเกียจคร้านท่จี ะดแู ลเน่อื งจากสตั ว์เลยี ้ งอยา่ งเดยี วก็เหน่อื ยแล้ว สว่ นน้องใหญ่ชอบธรรมชาติ ชอบปลกู ต้นไม้แตไ่ ม่ชอบสตั ว์เลยี ้ ง ทงั้ ยงั ไม่ชอบความเงยี บเชน่ กนั เพราะรู้สกึ วา่ ไมม่ ีชีวติ ชีวา ปัญหาคงไม่เกิด ถ้าวนั หนง่ึ พอ่ และแม่ไมเ่ ห็นวา่ ลกู ทงั้ สามโตพอทจ่ี ะไปปลกู บ้านอยกู่ นั เองได้แล้ว และปัญหาอีกอย่างก็จะไม่เกิด ถ้าพ่อและแม่มีเงินพอที่จะแบ่งให้ทงั้ สามคนไปปลกู บ้านคนละหลงั ดงั นนั้ ฝาแฝดทงั้ สามคนเลยต้องสร้างบ้านอยดู่ ้วยกนั เมื่อเป็นเชน่ นนั้ แตล่ ะคนก็เร่ิมตงั้ ข้อแม้ของตวั เอง โดยเริ่มทีพ่ เี่ ลก็ ก่อน “อยกู่ บั ฉนั ห้ามเลยี ้ งสตั ว์นะ เพราะบ้านเลอะเทอะ แถมสตั ว์ ยงั เสยี งดงั อีก ฉนั ไมช่ อบ” ไมไ่ ด้นะ ฉนั ชอบสตั ว์อยากมีสตั ว์เลยี ้ ง นายก็รู้น่ี ต้นไม้สไิ ม่ต้องปลกู หรอก ดแู ลลาบาก โตก็ช้าไมเ่ หมือนสตั ว์ โตเร็วดี ฉนั ชอบ” แฝดคนกลางเร่ิมตงั้ ข้อแม้บ้าง สว่ นน้องใหญ่ทชี่ อบต้นไม้ก็ไมย่ อมจงึ แย้งวา่ “อยา่ งนกี ้ ็แยส่ ิ ถ้าไมม่ ีต้นไม้บ้านก็ร้อนแย่ ไมส่ ดช่ืน ฉนั วา่ สตั ว์เลยี ้ งไม่ต้องมีหรอก เด๋ยี วมนั ทาต้นไม้ฉนั เสยี หายเปลา่ ๆ” แตถ่ ้าไม่มีสตั ว์ฉนั ก็ ไมร่ ู้วา่ บ้านเราจะเงียบเกินไปหรือเปลา่ แต่อยา่ งไรฉนั ก็ชอบต้นไม้มากกวา่ สตั ว์อยดู่ ี เพราะฉะนนั้ ไมต่ ้องมีหรอกสตั ว์เลยี ้ งนะ่ ฝาแฝดทงั้ สามคนเถียงกนั ทะเลาะกนั ด้วยเร่ืองนี ้ไมม่ ีทา่ ทีวา่ จะหยดุ งา่ ยๆ ตกลงกนั ไม่ได้ไม่รู้จะทาอยา่ งไร จะไปปลกู บ้านแยกกนั อยกู่ ็ไม่มีเงนิ นง่ั คดิ นอนคดิ อยหู่ ลายคืน ทงั้ สามคนก็นกึ ขนึ ้ มาได้วา่ ควรนาเร่ืองนไี ้ ปปรึกษาผ้รู ู้ คือ นกั เรียนโรงเรียน…ดีกว่าเพราะนกั เรียนโรงเรียนนีเ้ขามีความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหา วา่ แล้วทงั้ สามคนก็เดินทางไปท่ีโรงเรี ยน...ไปถาม............................................................................................................................. .................................... นกั เรียนอา่ นเรื่องนเี ้สร็จแล้ว ช่วยแก้ไขปัญหาให้แฝดทงั้ สามคนด้วย แต่มีข้อแม้วา่ ต้องแก้ไขปัญหาอย่างสขุ ุมรอบคอบไม่กระทบความรู้สกึ ของทงั้ สามคนที่มีความชอบ และไม่ชอบ ตา่ งกนั จะได้ทาให้ครอบครัวนอี ้ ยกู่ นั อยา่ งมีความสขุ ตลอดไป ครูเช่ือวา่ นกั เรียนโรงเรียน... ทกุ คน สามารถแก้ไขปัญหานไี ้ ด้อยา่ งแนน่ อน....อยา่ ลมื สง่ คาตอบโดยเร็วทห่ี ้องสมดุ หมายเหตุ : 1. ให้นกั เรียนแตง่ นทิ านเพิม่ ไม่เกิน 5 บรรทดั 2. นทิ านเร่ืองนคี ้ ดั ลอกมากจากวารสารเผยแพร่ของ บริษทั ปนู ซีเมนต์ไทย จากดั (โปรดพลิกหน้าหลังแล้วต่อเนือ้ เร่ืองให้จบ)
นิทานเร่ืองง่ายนิดเดยี ว เนือ้ เร่ืองต่อไป…………….………………………………………………………………...............…………........................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. นิทานเร่ืองนีส้ อดแทรกคุณธรรมอะไร............................................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ช่ือ........................................................เลขที่...............ชนั้ ................
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น”
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมท่ี 1 ยอดนักอ่าน เวลาตามที่โรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ 2. นกั เรียนเลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจแล้วจดบนั ทึกการ 1. เพ่ือสง่ เสริมให้นกั เรียนอา่ นหนงั สืออยา่ งตอ่ เนื่องสม่าเสมอ อา่ น จากนนั้ สง่ ผลงานเข้าร่วมการคดั เลอื กตามกาหนดเวลา 2. เพื่อคดั เลอื กนกั เรียนท่ีมผี ลงานการอา่ น 3. ประกาศรายชื่อยอดนกั อา่ นพร้อมมอบรางวลั ท่ีระลกึ และ เกียรติบตั ร ส่อื และอุปกรณ์ 1. หนงั สือหลากหลายประเภทท่มี ีบริการในห้องสมดุ ของ การวัดและประเมินผล โรงเรียน เว้นหนงั สือเรียนและหนงั สือแบบเรียน 1. สงั เกตความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมของนกั เรียน 2. แบบบนั ทกึ การอา่ นของ สพฐ. หรือโรงเรียนจดั ทาขนึ ้ ใหม่ 2. ตรวจบนั ทกึ การอา่ นของนกั เรียน การจดั กิจกรรม ข้อเสนอแนะ 1. ประชาสมั พนั ธ์เชิญชวนนกั เรียนทกุ คนเข้าร่วมกิจกรรม 1. ควรสร้างการมสี ว่ นร่วมระหวา่ งครูบรรณารักษ์และครูผ้สู อน “ยอดนกั อา่ น” โดยกาหนดเกณฑ์เงื่อนไขการคดั เลอื กให้ พร้อมจดั กิจกรรมในรูปของทีมงาน นกั เรียนทกุ คนทราบ 2. การคดั เลอื กควรแบง่ รางวลั ยอ่ ยๆ เพื่อกระจายยอดนกั อา่ น ให้ครอบคลมุ นกั เรียนทกุ ระดบั ชนั้
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมท่ี 2 ยุวบรรณารักษ์ เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วัตถปุ ระสงค์ 3. เปิดโอกาสให้นกั เรียนมีประสบการณ์เป็นผ้นู าการทากจิ กรรม 1. เพื่อส่งเสริมให้นกั เรียนมีจิตอาสาในการทาหน้าท่ีบรรณรักษ์ ส่งเสริมการอา่ นของโรงเรียน ห้องสมดุ ของโรงเรียน 4. ยวุ บรรณารักษ์นาประสบการณ์การให้บริการในห้องสมดุ โรงเรียน 2. เพ่ือให้นกั เรียนร่วมจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นของโรงเรียน หรือการจดั กิจกรรมสง่ เสริมการอา่ นมาแลกเปล่ียนเรียนรู้เพ่ือ ปรับปรุงการทางาน ให้มีประสิทธิภาพ ส่ือและอุปกรณ์ 1. งานบริการของห้องสมดุ โรงเรียน การวัดและประเมนิ ผล 2. หนงั สือ ส่ือ และกจิ กรรมส่งเสริมการอา่ น 1. สงั เกตพฤติกรรมและความสมั พนั ธ์ของยวุ บรรณารักษ์ที่มีตอ่ ผ้รู ับบริการ การจัดกจิ กรรม 2. สารวจความพงึ พอใจในการให้บริการการจดั กจิ กรรมของ 1. ครูบรรณารักษ์หรือครูผ้รู ับผดิ ชอบกจิ กรรมส่งเสริมการอา่ น ยวุ บรรณารักษ์ ประชาสมั พนั ธ์ เชญิ ชวนนกั เรียนเป็นยวุ บรรณารักษ์ของห้องสมดุ โรงเรียน ข้อเสนอแนะ 2. ฝึกอบรมและชีแ้ นะการปฏบิ ตั งิ านบริการในห้องสมดุ ให้แก่ 1. การสรรหายวุ บรรณารักษ์ควรมีนกั เรียนหลายระดบั ชนั้ คละกนั ยวุ บรรณารักษ์ 2. การพฒั นาทกั ษะความสามารถของยวุ บรรณารักษ์ควรได้รับการ สนบั สนนุ จากครูและผ้บู ริหารโรงเรียนร่วมกนั
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมท่ี 3 สัปดาห์ห้องสมุด /สปั ดาห์รักการอ่าน เวลาตามที่โรงเรียนกาหนด วัตถุประสงค์ การจดั กจิ กรรม 1. เพ่ือสง่ เสริมให้นกั เรียนเห็นความสาคญั ของการอา่ น 1. แตง่ ตงั้ คณะทางานในการจดั กิจกรรมสปั ดาห์ห้องสมดุ โดย 2. เพื่อสง่ เสริมให้นกั เรียนเข้าร่วมกิจกรรมการอา่ นอยา่ ง การมสี ว่ นร่วมของผ้บู ริหาร ครู ผ้ปู กครอง ยวุ บรรณารักษ์และ หลากหลายตามความถนดั และความสนใจ ครูผ้รู ับผิดชอบห้องสมดุ โรงเรียนหรือครูสง่ เสริมนิสยั รักการอา่ น วางแผนการจดั กิจกรรมที่กระต้นุ ให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก ส่อื และอุปกรณ์ หนงั สอื ของห้องสมดุ โรงเรียนอยา่ งหลากหลาย 1. เกมการประกวด การแขง่ ขนั กิจกรรมท่ีต้องใช้หนงั สือหรือ 2. ประชาสมั พนั ธ์ให้นกั เรียนเข้าร่วมงาน สอ่ื การอา่ นตา่ ง ๆ 2. หนงั สือ
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมท่ี 3 สปั ดาห์ห้องสมุด /สัปดาห์รักการอ่าน เวลาตามที่โรงเรียนกาหนด การจดั กิจกรรม การวดั และประเมินผล 3. จดั กิจกรรมโดยกระจายไปตามสถานท่ีตา่ งๆ ของโรงเรียน 1. สารวจความพึงพอใจในการเข้าร่วมงานและเข้าร่วมกิจกรรม เช่น การเลา่ นทิ าน การตอบคาถามจากสารานกุ รมไทย แขง่ ขนั ของนกั เรียน ครู ผ้ปู กครอง การเปิดพจนานกุ รม การประกวดอา่ นร้อยแก้ว ประกวดอา่ น 2. สงั เกตพฤติกรรมของผ้เู ข้าร่วมงานและร่วมกิจกรรม ร้อยกรอง ประกวดอา่ นขา่ ว ประกวดอา่ นบทละคร แขง่ ขนั ตอบ 3. ตรวจสอบสถิตกิ ารใช้บริการห้องสมดุ โรงเรียน คาถามจากสาขาวิชาตา่ งๆ เชน่ ปัญหาวิทยาศาสตร์ แขง่ ขนั คดิ เลขเร็ว การเลน่ เกมตอ่ คาศพั ท์ เกมทายปัญหาเชาว์ เกมเติม ข้อเสนอแนะ คาศพั ท์ เวทีคนเก่งห้องแนะนาหนงั สือ เป็นต้น 1. คณะทางานจากผ้เู ก่ียวข้องทกุ ฝ่ายสามารถแสวงหา 4. มอบรางวลั ท่รี ะลกึ ให้แกผ่ ้รู ่วมงานและร่วมกิจกรรมตา่ งๆ เครือขา่ ย และพนั ธมติ รสนบั สนนุ การจดั กิจกรรมตา่ งๆ ได้อยา่ ง เหมาะสมกบั เวลาในการดาเนนิ งาน 2. โรงเรียนควรจดั กิจกรรมนอี ้ ยา่ งน้อยปีละ 1 ครัง้
กจิ กรรมหลักระดับโรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมท่ี 4 ค่ายรักการอ่าน เวลาตามที่โรงเรียนกาหนด วัตถปุ ระสงค์ 5. นกั เรียนและครูร่วมกนั ดาเนนิ กจิ กรรมค่ายตามกตกิ าที่กาหนด 1. เพ่ือส่งเสริมให้นกั เรียนเข้าร่วมกิจกรรมการอา่ นอยา่ งมีความสขุ 6. สรุปและประเมินผลการเข้าคา่ ยรักการอา่ น 2. เพ่ือให้นกั เรียนใช้ทกั ษะทางภาษา การวัดและประเมนิ ผล ส่ือและอุปกรณ์ 1. สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1. หนงั สือ และเอกสารประกอบการจดั กิจกรรม 2. สงั เกตการมีส่วนร่วมของผ้เู ก่ียวข้องในการดาเนนิ กจิ กรรมค่าย 2. สื่อและอปุ กรณ์ประกอบการจดั กิจกรรม 3. ประเมินความพงึ พอใจของนกั เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม 4. ตรวจผลงานหรือทกั ษะการปฏิบตั ิงานของนกั เรียน การจัดกิจกรรม 1. แต่งตงั้ คณะกรรมการจดั ค่ายรักการอา่ นโดยการมีส่วนร่วมของ ข้อเสนอแนะ ผ้บู ริหาร คณะครู ผ้ปู กครอง นกั เรียน และครูผ้รู ับผดิ ชอบงาน 1. การคดั เลือกนกั เรียนเข้าร่วมกจิ กรรม ควรให้นกั เรียนมีวยั ใกล้เคียง ห้องสมดุ โรงเรียนหรือครูสง่ เสริมนิสยั รักการอา่ น กนั 2. กาหนดเวลา สถานท่ี เนือ้ หาสาระ และคณุ สมบตั ขิ องนกั เรียนท่ีจะ 2. การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละฐานควรหลากหลาย เข้าร่วมกจิ กรรม ตอบสนองความต้องการของนกั เรียน 3. ประชาสมั พนั ธ์และชีแ้ จงกติกาการเข้าร่วมกจิ กรรมให้นกั เรียน 3. ครูและผ้ปู กครองควรร่วมวางแผนและสะท้อนผลการดาเนนิ งาน 4. จดั เตรียมและซกั ซ้อมความพร้อมของฐานการเรียนรู้ในค่าย ร่วมกนั
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมท่ี 5 หนังสือทามือ เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ การวดั และประเมินผล 1. เพื่อสง่ เสริมให้นกั เรียนผลิตหนงั สือทามือ 1. สงั เกตการเข้าร่วมกิจกรรมของนกั เรียน 2. เพื่อให้นกั เรียนทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานของนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ 3. ตรวจผลงานของนกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ 1. กระดาษ สี ดนิ สอ ข้อเสนอแนะ 2. วสั ดอุ ่นื ๆ สาหรับการจดั ทาหนงั สือ 1. หนงั สอื ทามอื อาจทาเป็นกลมุ่ หรือบคุ คล 2. ครูและนกั เรียนควรกาหนดประเด็นสาหรับจดั ทาหนงั สือทา การจดั กิจกรรม มือ 1. ประชาสมั พนั ธ์เชิญชวนนกั เรียนท่ีสนใจเข้าร่วมกิจกรรม การทาหนงั สือทามอื 2. เชิญวิทยากรหรือผ้มู ีประสบการณ์มาฝึกอบรมพฒั นาความรู้ ความเข้าใจ ขนั้ ตอนวิธีการในการจดั ทาหนงั สอื 3. นกั เรียนวางแผนและลงมือผลิตหนงั สือทามือ 4. นกั เรียนนาเสนอผลงานและแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหวา่ งกนั
กจิ กรรมเสนอแนะ “อ่าน เพยี ร เขียน สนุกทกุ กจิ กรรม”
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมเสนอแนะ : พ่ีอ่านให้น้องฟัง เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ การวดั และประเมินผล 1. เพ่ือให้นกั เรียนฝึกฟังและอา่ นหนงั สือด้วยกนั 1. นกั เรียน(น้อง) ประเมินนกั เรียน(พ่ี) ช่ืนชม/ บอก/ ว่าพี่อา่ น 2. เพื่อชว่ ยสร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างเพ่ือน พ่ี น้อง ในโรงเรียน ให้ฟังรู้เร่ืองไหม สนกุ ไหม อา่ นทกุ วนั ไหม 3. ฝึกทกั ษะการเลอื กหนงั สอื และการอา่ นออกเสยี ง 2. นกั เรียน(น้อง) คดั เลือกนกั เรียน(พี่) ให้อา่ นออกเสยี งตาม สาย และให้ครู+นกั เรียนเป็นกรรมการให้คะแนนตามการได้ยิน ส่อื และอุปกรณ์ จากเสยี งตามสายเทา่ นนั้ (ถ้าจะให้รางวลั ให้เป็นหนงั สอื และ หนงั สือในห้องสมดุ ตามความสนใจของนกั เรียน เกียรตบิ ตั ร) การจดั กิจกรรม ข้อเสนอแนะ 1. ให้นกั เรียนจบั คตู่ ามความชอบใจหรือครูจดั ให้ แล้วแตค่ วาม 1. ครูควรคดั เลอื กและเสนอแนะหนงั สอื ให้นกั เรียน(พี่) เพ่ือ เหมาะสม เช่น อาจจะเป็น ป.6 คกู่ บั ป.1 หรือ ป.2 ความเหมาะสมกบั วยั 2. ให้นกั เรียน(พี่) อา่ นหนงั สอื ให้น้อง(ค)ู่ ฟัง เวลาเช้าหรือ 2. ควรสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน (พ่ี/ คนู่ ้อง) หรือเร่ืองการ กลางวนั อยา่ งน้อยครัง้ ละ 10-15 นาที สปั ดาห์ละอยา่ งน้อย 3 คดั เลอื กหนงั สอื ความสมา่ เสมอของการอา่ น วนั (หรือทกุ วนั ) ตลอดปีการศกึ ษา 3. พี่อา่ นออกเสียงให้น้องฟัง (ไมใ่ ชเ่ ลา่ เรื่อง)
กจิ กรรมหลักระดับโรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมเสนอแนะ : มาอ่านหนังสือพมิ พ์กันเถอะ เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ การวดั และประเมินผล 1. เพ่ือให้นกั เรียนเลือกอา่ นขา่ วหนงั สอื พิมพ์ได้เหมาะสม 1. ตรวจผลงาน 2. เพ่ือให้นกั เรียนสรุปสาระสาคญั ของขา่ วที่ได้อา่ น 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเข้าร่วมกิจกรรมของ นกั เรียน ส่อื และอุปกรณ์ หนงั สือพิมพ์ ข้อเสนอแนะ 1. ครูสามารถปรับกิจกรรมเป็น “มาอา่ นนติ ยสาร-วารสารกนั การจดั กิจกรรม เถอะ” หรือสิง่ พิมพ์อ่นื ๆ 1. ครูนาสนทนาขา่ วเหตกุ ารณ์ในหนงั สือพิมพ์และวิธีการอา่ น 2. สามารถนาไปปรับกิจกรรมให้สอดคล้องกบั กลมุ่ สาระตา่ งๆ หนงั สอื พิมพ์ 2. อา่ นและเลา่ สรุปสาระสาคญั ของขา่ ว 3. เลอื กขา่ วที่ชอบนามาเขยี นสรุป 4. ครูและนกั เรียนอภิปรายเกี่ยวกบั การอา่ นหนงั สอื พิมพ์ เกี่ยวกบั วิธีการค้นหาขา่ วตา่ งๆ ในหนงั สือพิมพ์ และการนา ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั
กจิ กรรมหลักระดับโรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมเสนอแนะ : เมนูเดด็ รักการอ่าน เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ การวัดและประเมินผล 1. เพ่ือให้นกั เรียนสรุปสาระสาคญั ได้ ตรวจผลงาน 2. เพ่ือให้นกั เรียนบอกประโยชน์ของหนงั สือทอี่ า่ นได้ ข้อเสนอแนะ ส่อื และอุปกรณ์ ควรนาเสนอหนงั สือท่เี หมาะสมกบั ระดบั ของนกั เรียน 1. หนงั สอื 2. อนิ เทอร์เนต็ การจดั กิจกรรม 1. ครูเสนอหนงั สือให้นกั เรียนอา่ นตามความสนใจ 2. ครูแนะนาประโยชน์ของการเขยี นบรรณนิทศั น์และ ยกตวั อยา่ งบรรณนิทศั น์ 3. นกั เรียนลงมอื ปฏิบตั เิ ขยี นบรรณนทิ ศั น์หนงั สือทต่ี นเองอา่ น
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมเสนอแนะ : หรรษาสารานุกรมไทย เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ 3. นกั เรียนค้นหาคาตอบจากสารานกุ รมไทยฯ และตอบคาถาม เพื่อให้นกั เรียนตอบคาถามจากการอา่ นได้ ลงในใบงาน 4. นกั เรียนนากระดาษคาตอบไปแขวนบนต้นไม้ความรู้ ส่อื และอุปกรณ์ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุประโยชน์จากการทากิจกรรม 1. หนงั สอื สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน 2. ใบคาถาม การวดั และประเมินผล 3. ต้นไม้ปลอม (หรือส่ืออื่นๆ ตามความเหมาะสม) ประเมนิ ผลงานนกั เรียน 4. อินเทอร์เนต็ ข้อเสนอแนะ การจดั กิจกรรม ครูควรแนะนาให้นกั เรียนรู้จกั และเข้าค้นคว้าสารานกุ รมไทยฯ 1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกบั โครงการสารานกุ รมไทย และ จากเว็บไซต์ของโครงการสารานกุ รมไทย กระต้นุ ชกั ชวนให้นกั เรียนสนใจอา่ นสารานกุ รมไทยฯ 2. ครูกาหนดเลม่ สารานกุ รมไทยฯ ให้นกั เรียนอา่ นและสรุป เร่ืองทอ่ี า่ น
กจิ กรรมหลักระดับโรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมเสนอแนะ : สนุกกับเพลง เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วตั ถุประสงค์ การจดั กิจกรรม 1. ร้องเพลงลอยกระทงภาคภาษาองั กฤษได้ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั จาลองประเพณีลอยกระทงและ 2. ค้นคว้าและบอกข้อมลู วนั ลอยกระทงได้ กิจกรรมท่นี กั เรียนเคยทาเก่ียวกบั ประเพณี 2. นกั เรียนฟังเพลงลอยกระทงภาคภาษาองั กฤษ ชมวิดที ศั น์ ส่อื และอุปกรณ์ และสนทนาร่วมกนั ดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. แผนภมู เิ พลง - เนอื ้ เพลงมคี วามหมายเกี่ยวกบั อะไร 2. แผน่ ซดี ีพร้อมอปุ กรณ์เปิด - มคี าศพั ท์ภาษาองั กฤษท่ีเก่ียวกบั ลอยกระทงคาใดบ้าง 3. หนงั สือประวตั วิ นั ลอยกระทง - นกั เรียนร่วมกนั ร้องเพลงลอยกระทงพร้อมกนั 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แปลคาศพั ท์ ถอดความเนอื ้ เพลง 4. ร้องเพลงลอยกระทงร่วมกนั 5. นกั เรียนอา่ นหนงั สือเก่ียวกบั ประเพณีลอยกระทง 6. สรุปและบนั ทกึ เนอื ้ หาจากการอา่ น
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมเสนอแนะ : สนุกกบั เพลง เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด การวดั และประเมินผล เนือ้ เพลงลอยกระทง 1. ประเมินการร้องเพลงภาคภาษาองั กฤษ November full moon shine loy kratong loy kratong And 2. ตรวจบนั ทกึ สรุปความ the water's high in local river and the klong loy loy kratong loy loy kratong loy kratong is here and ข้อเสนอแนะ everybody's full of cheers We're together at the Klong 1. ครูเลอื กเพลงอน่ื ๆ ทงั้ ภาษาองั กฤษและภาษาไทยทา each on with each krathong as we push away we pray กิจกรรม we woul see a better day 2. ควรมีหนงั สอื ทเี่ ก่ียวข้องกบั เนอื ้ หาเสริมทกุ ครัง้ ท่ีจดั กิจกรรม
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมเสนอแนะ : เร่ืองแต่งต่อ...ขอจบตามฝัน เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วัตถุประสงค์ 5. นกั เรียนนาเสนอผลงานพร้อมเหตผุ ลประกอบ 1. เพ่ือให้นกั เรียนบอกองค์ประกอบของเรื่องเลา่ ได้ 6. ครูเสนอแนะเพ่มิ เตมิ และเน้นการแต่งเร่ืองตอนจบอย่างสร้างสรรค์ 2. แต่งเร่ืองตามจินตนาการได้อย่างสร้างสรรค์ 7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปถงึ การแต่งเรื่องตามจินตนาการอย่าง สร้ างสรรค์และรวมเป็ นเลม่ ส่ือและอุปกรณ์ นทิ าน ตานาน หนงั สือเร่ืองเลา่ เรื่องสนั้ การ์ตนู ฯลฯ การวัดและประเมินผล ประเมนิ ผลงานเรื่องเลา่ ที่สร้างสรรค์ การจดั กจิ กรรม 1. ครูเลา่ เรื่องที่มีตอนจบแตกตา่ งกนั ไป ข้อเสนอแนะ 2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั บอกองค์ประกอบของเรื่อง ได้แก่ ตวั ละคร 1. ครูทกุ กล่มุ สาระการเรียนรู้สามารถเลือกเร่ืองเลา่ ในการจดั กจิ กรรม เหตกุ ารณ์ ฉาก ฯลฯ ของเร่ือง ให้สอดคล้องกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้ 3. ครูนาสนทนากบั นกั เรียนว่า ถ้าเราต้องการเปลี่ยนตอนจบของเร่ือง 2. ควรให้อสิ ระนกั เรียนแต่งตอนจบของเร่ืองตามจินตนาการอย่าง นนั้ นกั เรียนจะเปลี่ยนตอนจบให้เป็นอยา่ งไร สร้ างสรรค์ 4. นกั เรียนแต่งนทิ านต่อจนจบเรื่อง ตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขียน” กจิ กรรมเสนอแนะ : อ่านข่าวก้าวทนั โลก เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วัตถปุ ระสงค์ 4. นกั เรียนจบั กลมุ่ 3 คน และให้เลือกข่าวเพ่ือนาไปวเิ คราะห์ 1. เพ่ือให้นกั เรียนจาแนกกลมุ่ (ประเภท) ของข่าวได้ 5. ครูนาใบงานวเิ คราะห์ขา่ วให้ผ้เู รียนแตล่ ะกล่มุ 2. เพื่อให้นกั เรียนสนใจขา่ วและแสวงหาความรู้จากข่าวได้ 6. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายข่าวท่ีแต่ละกล่มุ ได้ร่วมกนั วิเคราะห์ 7. นกั เรียนอภปิ รายเก่ียวกบั กจิ กรรมวิเคราะห์ข่าวก้าวทนั โลก ส่ือและอุปกรณ์ 1. ภาพขา่ วจากหนงั สือพมิ พ์ การวัดและประเมินผล 2. ใบงานวิเคราะห์ข่าว ประเมินความสามารถในการวิเคราะห์ขา่ ว การจดั กิจกรรม ข้อเสนอแนะ 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนประเภทข่าวกบั ชีวติ ประจาน พร้อมแจกภาพ ครูอาจใช้บทความที่น่าสนใจจากสื่อความรู้อื่นแทนข่าวจากหนงั สือ- ขา่ วท่ีอย่ใู นหนงั สือพิมพ์ (ภาพที่ไม่มีตวั อกั ษร) พิมพ์ได้ 2. แบง่ นกั เรียนกลมุ่ ละ 3 คน โดยให้อภปิ รายเรื่องข่าวกบั ชีวติ ประจาวนั 3. นกั เรียนนาเสนอและแสดงความคดิ เหน็
ใบงานวเิ คราะห์ข่าว ใคร………………………………………………………… ทาอะไร………………………………………………………….…. …………………………………….……………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………………… …….....................................................................…..... ……………………………………………………………………. ประเภทของขา่ ว………………………. ข่าวเรื่อง…………………………………….…………………………… ที่ไหน…………………………… ………………………………………… ………………………………… …………………………………. แหลง่ ท่ีมา…………………………………….…………………………… เมอ่ื ไหร่………………………………………… ………………………………………………….
กจิ กรรมหลักระดบั โรงเรียน “สนุกอ่าน สาราญเขยี น” กจิ กรรมเสนอแนะ : ยุวนักอ่าน เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด วัตถปุ ระสงค์ - ครูแนะนานกั เรียนในการเชญิ ชวนเพ่ือนมาอา่ นหนงั สือ 1. เพ่ือให้นกั เรียนวยั เดียวกนั กระต้นุ การอา่ นกบั เพื่อน - ยวุ บรรณารักษ์ 1 คน ให้หาเพื่อนได้อยา่ งน้อย 2 คน ตอ่ 1 ภาค 2. เพ่ือให้นกั เรียนอา่ นอย่างมีความสขุ ตามความสนใจ เรียน 3. ท้ายภาคเรียนให้เพื่อนท่ีอา่ นเสนอหนงั สือในห้องสมดุ และนา ส่ือและอุปกรณ์ ผลงานจดั ปา้ ยนิเทศ หนงั สือเหมาะสมกบั วยั 4. มอบใบประกาศเกียรตคิ ณุ ยกย่องเชดิ ชเู กียรติ การจัดกิจกรรม การวัดและประเมนิ ผล 1. ครูคดั เลือกนกั เรียน จานวน 5-10 คน ที่มีคณุ สมบตั ิ ดงั นี ้ 1. สมั ภาษณ์เพิ่มเติมนกั เรียนท่ีเข้าร่วมกิจกรรม - ความสามารถด้านการอา่ น 2. ตรวจผลงานการเขียนบรรณนิทศั น์ - เป็นท่ีรักของเพ่ือน ๆ - มีจติ อาสา ข้อเสนอแนะ 2. ประชมุ ตกลงหน้าท่ี นอกเหนืองานในห้องสมดุ 1. ยวุ นกั อา่ นสามารถเชิญชวนนกั เรียนได้ตามความสมคั รใจของ - อา่ นหนงั สือ 1 เล่ม ตนเอง - สรุปและทาบรรณนทิ ศั น์ว่าเหมาะกบั ใคร 2. ครูร่วมเสนอแนะหนงั สือได้ตามความเหมาะสม
Search