Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1

หน่วยที่ 1

Published by Patcharee Matatong, 2018-10-30 00:38:15

Description: การเรียนรู้

Search

Read the Text Version

หนังสอื เรย� น รายวช� าพนื้ ฐานพลศึกษา ป. 1 ช�ันประถมศกึ ษาป‚ท่ี 1 กลม‹ุ สาระการเรย� นรสŒู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข�นั พนื้ ฐานพุทธศักราช 2551 ผูเ รยี บเรียง ดร. ประกติ หงษแสนยาธรรม กศ.บ., กศ.ม., ปร.ด. นันทพล ทองนิลพนั ธ วท.บ., วท.ม. ผูตรวจ หทัยฉัฐ ภูมภิ าค กศ.บ., กศม. สฉุ ันท เทพนนทก ลาง กศ.บ., ศษ.ม. ประดิษฐ พยุงวงศ กศ.บ., กศ.ม. บรรณาธิการ พัชราภรณ ใจมพี ร กศ.บ., บธ.ม. กิตติทตั นาครอด ศษ.บ.

หนงั สอื เร�ยน รายวช� าพนื้ ฐานพลศกึ ษา ป. 1ช�ันประถมศึกษาปท‚ ่ี 1กล‹มุ สาระการเรย� นรŒูสุขศึกษาและพลศกึ ษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั� พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551ผเู้ รียบเรียง ดร. ประกติ หงษ์แสนยาธรรม นายนันทพล ทองนิลพันธ์ผ้ตู รวจ หทยั ฉฐั ภูมิภาค สุฉันท์ เทพนนทก์ ลาง ประดษิ ฐ์ พยุงวงศ์บรรณาธกิ าร พชั ราภรณ์ โจมีพร กิตตทิ ตั นาครอดISBN 978-616-8047-45-3 บริษัท กรพัฒนายงิ่ จาํ กดั เลขที่ 23/34–35 ชนั้ 3 หอง 3B ถนนตรีมติ ร แขวงตลาดนอ ย เขตสมั พันธวงศ กรงุ เทพฯ 10100

คาํ นํา คํานาํ หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน พลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ นจี้ ดั ทำขน้ึ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาโดยมเี ปา หมายใหน้ กั เรยี นและครใู ชเ้ ปน็ สอื่ ในการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นานกั เรยี นใหม้ คี ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ทก่ี ำหนดไวใ้ นหลกั สตู ร และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พฒั นานกั เรยี นให้มีสมรรถนะสำคัญตามท่ีต้องการทงั้ ในดา้ นการสื่อสาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใช้ทกั ษะชีวติและการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทำประโยชน์ให้สงั คม เพ่ือใหส้ ามารถอย่รู ว่ มกับผูอ้ ื่นในสังคมไทยและสังคมโลกได้อย่างมคี วามสขุ ในการจดั ทำหนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน พลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 คณะผจู้ ดั ทำซง่ึ เป็นผเู้ ชย่ี วชาญในสาขาวชิ าและการพฒั นาสอื่ การเรยี นรู้ ไดศ้ กึ ษาหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 อยา่ งลกึ ซง้ึ ทงั้ ดา้ นวสิ ยั ทัศน์ หลกั การ จดุ หมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั ของสาระการเรยี นรู้แกนกลาง แนวทางการจดั การเรยี นรู้ แลว้ จงึ นำองคค์ วามรทู้ ไ่ี ดม้ าออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ แตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรปู้ ระกอบดว้ ยมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ชนั้ ปี สาระการเรยี นรู้ ประโยชนจ์ ากการเรียน และคำถามชวนคิด (คำถามนำสู่การเรยี นรู)้ เน้อื หาสาระแตล่ ะเรอื่ งแตล่ ะหวั ข้อ นานา น่ารู้กิจกรรมเรียนรู้...สู่ปฏิบัติ (กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น) แหลง่ สบื คน้ ความรู้ บทสรปุ หนว่ ยการเรยี นรู้กจิ กรรมเสนอแนะ โครงงาน การประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน และคำถามประจำหนว่ ยการเรียนรู้นอกจากนี้ท้ายเล่มยังมี บรรณานุกรม และคำอภิธานศัพท์ ซึ่งองค์ประกอบของหนังสือเรียนเหล่านีจ้ ะชว่ ยส่งเสรมิ ให้นกั เรียนเกดิ การเรยี นรอู้ ย่างครบถ้วนตามหลักสตู ร การเสนอเนอ้ื หาและออกแบบกจิ กรรมในหนงั สอื เรียนเล่มนี้ ได้จัดทำขนึ้ โดยยึดแนวคดิ การจัดการเรียนรู้ท่ีมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงศักยภาพของนักเรียน เน้นการเรียนรู้แบบองค์รวมบนพ้ืนฐานของการบูรณาการแนวคิดทฤษฎีทางการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างหลากหลายเชน่ การเรยี นรโู้ ดยใชส้ มองเปน็ ฐาน พหปุ ญั ญา การใชค้ ำถามแบบหมวกความคดิ 6 ใบ การเรยี นรู้แบบประสบการณ์และที่เน้นการปฏิบัติ การเรียนรู้แบบโครงงาน เป็นต้น จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เน้นใหน้ กั เรยี นสร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง มงุ่ พฒั นาการคดิ และพฒั นาการเรยี นรูท้ ี่สอดคล้องกับพัฒนาการทางสมองและพัฒนาการทางร่างกายของนักเรียน อันจะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรูอ้ ย่างสมบูรณแ์ ละสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันได้ หวงั เปน็ อย่างยิง่ ว่า หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน พลศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ นี้จะช่วยสนับสนุนให้นักเรียนได้พัฒนาความรู้ด้านทักษะกระบวนการทางพลศึกษาได้เป็นอย่างดีและสนับสนุนการปฏิรูปการเรียนรู้ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 และแก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 คณะผจู้ ัดทำ

คาํ ชี้แจง คาํ นาํ หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่มนไ้ี ด้ออกแบบหน่วยการเรยี นรใู้ หแ้ ตล่ ะหน่วยการเรียนรปู้ ระกอบด้วย 1. มาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเปาหมายที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับนักเรียนเม่ือจบการศึกษาในหนว่ ยการเรียนรู้น้ัน ๆ หรือเมือ่ จบการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน 2. ตวั ชว้ี ดั ชน้ั ป เปน็ เปา หมายในการพฒั นานกั เรยี นใหไ้ ดร้ บั และปฏบิ ตั ไิ ดใ้ นหนว่ ยการเรยี นรู้ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ มีรหสั ของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ัดช้นั ปีกำกบั ไว้หลังตัวชี้วัดชั้นปี เชน่ พ 3.1 ป. 1/1 (รหสั แตล่ ะตวั มคี วามหมายดงั น้ี พ คือ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา 3.1 คือ สาระที่ 3 มาตรฐานการเรยี นรู้ขอ้ ท่ี 1 ป. 1/1 คอื ตวั ชีว้ ดั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 ขอ้ ท่ี 1) 3. สาระการเรยี นรู้ เป็นการนำเสนอขอบขา่ ยเนอ้ื หาท่ีนักเรียนจะไดเ้ รยี นรูใ้ นระดับชน้ั น้ัน ๆ 4. ประโยชนจ์ ากการเรียน นำเสนอไว้เพ่ือกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนนำความรู้ ทักษะจากการเรยี นไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 5. คำ ถามชวนคิด (คำ ถามนำ สู่การเรียนรู้) เป็นคำถามหรือสถานการณ์เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสงสยั และสนใจที่จะค้นหาคำตอบ 6. เนอ้ื หา เปน็ เนอ้ื หาทต่ี รงตามสาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ชน้ั ปี และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง โดยแบง่ เนื้อหาเปน็ ช่วง ๆ แล้วแทรกกิจกรรมพฒั นาการเรยี นรทู้ พี่ อเหมาะกบั การเรยี นรวมท้ังมกี ารนำเสนอดว้ ยภาพ ตาราง แผนภมู ิ และแผนท่ีความคดิ เพอ่ื เปน็ สื่อให้นักเรยี นสร้างความคิดรวบยอดและเกิดความเข้าใจที่คงทน 7. นานา นา่ รู้ (ความรู้เสริมหรอื เกรด็ ความรู)้ เป็นความร้เู พ่อื เพ่ิมพูนให้นกั เรียนมีความรู้กวา้ งขวางขนึ้ โดยคดั สรรเฉพาะเรื่องท่นี กั เรียนควรรู้ 8. กจิ กรรมเรียนรู้...สปู่ ฏบิ ัติ (กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นร)ู้ เป็นกจิ กรรมท่ีกำหนดไว้เมื่อจบเนือ้ หาแตล่ ะตอนหรอื แต่ละหวั ข้อ เปน็ กจิ กรรมท่ีหลากหลาย ใช้แนวคิดทฤษฎีตา่ ง ๆ ทส่ี อดคล้องกับเนื้อหา เหมาะสมกบั วัย และพฒั นาการด้านต่าง ๆ ของนักเรยี น สะดวกในการปฏิบัติ กระตุ้นให้นกั เรยี นไดค้ ิด และสง่ เสริมใหศ้ กึ ษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติม มคี ำถามเปน็ การตรวจสอบผลการเรียนรู้ของนักเรียน ได้ออกแบบกิจกรรมไว้อย่างหลากหลาย และมีมากเพียงพอที่จะพัฒนาให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ตามเปาหมายของหลักสูตร โดยครูผู้สอน/นักเรียนสามารถนำกิจกรรมดังกล่าวมาใชปฏบิ ัติในชว งกจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพ่ิมเวลารไู ด

9. แหลง่ สบื คน้ ความรู้ เปน็ แหลง่ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ตามความเหมาะสม เชน่ เวบ็ ไซต์ หนงั สอืสถานที่ หรือบุคคล เพ่อื ใหน้ กั เรยี นศึกษาค้นคว้าเพิม่ เตมิ ใหส้ อดคล้องกับเรอื่ งทเ่ี รยี น 10. บทสรุปหน่วยการเรียนรู้ ได้จัดทำ�บทสรุปเป็นผังมโนทัศน์ (concept map) เพ่ือให้นักเรยี นได้ใชเ้ ปน็ บทสรุปทบทวนความรู้ โดยวิธกี ารจินตภาพจากผงั มโนทัศนท์ ่ไี ดส้ รุปเนอ้ื หาทไี่ ด้จดั ทำ�ไว้ 11. กจิ กรรมเสนอแนะ เปน็ กจิ กรรมบรู ณาการทกั ษะทร่ี วมหลกั การและความคดิ รวบยอดในเรือ่ งตา่ ง ๆ ท่นี กั เรยี นได้เรยี นรู้ไปแล้วมาประยกุ ต์ใช้ในการปฏิบตั ิกิจกรรม 12. โครงงาน เปน็ ขอ้ เสนอแนะในการกำ�หนดใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั โิ ครงงาน โดยเสนอแนะหวั ขอ้โครงงานและแนวทางการปฏิบัติโครงงานท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดช้ันปีของหนว่ ยการเรียนรู้น้นั เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ การวางแผน และการแก้ปญั หาของนกั เรียน 13. การประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ�วนั เปน็ กจิ กรรมทเ่ี สนอแนะใหน้ กั เรยี นไดน้ ำ�ความรู้ ทกั ษะในการประยกุ ต์ความรใู้ นหน่วยการเรยี นรู้นัน้ ไปใชใ้ นชีวิตประจำ�วัน 14. คำ�ถามประจำ�หน่วยการเรียนรู้ เป็นคำ�ถามท่ีต้องการให้นักเรียนได้สะท้อนความคิดในเน้ือหาท่ไี ดศ้ ึกษา โดยเน้นการนำ�หลักการต้ังคำ�ถามสะทอ้ นคดิ (RCA) มาจัดเรยี งเป็นคำ�ถามตามเน้ือหาท่นี กั เรียนได้เรียนรู้ 15. บรรณานุกรม เป็นรายช่อื หนงั สือ เอกสาร หรอื เวบ็ ไซตท์ ีใ่ ช้ค้นควา้ อา้ งองิ ประกอบการเรียบเรยี งเนอื้ หาความรู้ 16. คำ�อภิธานศัพท์ เปน็ การนำ�คำ�สำ�คัญท่แี ทรกอย่ตู ามเนอื้ หามาอธิบายให้ความหมาย และจัดเรยี งตามลำ�ดับตวั อักษร เพือ่ ความสะดวกในการค้นคว้า

สารบัญหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ธรรมชาตขิ องการเคล่อื นไหว รา่ งกาย .................1–18 • มาตรฐานการเรยี นรู้ .......................... 1 • ตัวชีว้ ดั ชนั้ ป .................................... 1 • สาระการเรยี นรู้ ................................ 1 • ประโยชนจ์ ากการเรยี น ....................... 1 • คำ ถามชวนคิด ................................. 11. ความหมายและความสำ คัญของการ เคล่ือนไหวร่างกาย .............................. 2 2. รปู แบบการเคล่ือนไหวรา่ งกาย ในชวี ิตประจำ วัน ...........................3–62.1 การน่งั ........................................... 32.2 การยืน .......................................... 42.3 การเดิน ......................................... 42.4 การก้มเพื่อเก็บสิง่ ของ ..................... 52.5 การยกสิง่ ของท่มี ีน้ำหนักมาก............ 53. รปู แบบการเคลอ่ื นไหวร่างกาย อยา่ งง่าย ...................................6–13 3.1 การเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยูก่ ับท่ี... 6

3.2 การเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะเคลือ่ นท่ี ...............................10 3.3 การเคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบอุปกรณ์ ..........................12 • บทสรปุ หน่วยการเรียนรู้ท ี่ 1 ............... 16 • กิจกรรมเสนอแนะ ........................... 17 • โครงงาน..................... .................. 17 • การประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ วนั .......... 18 • คำ ถามประจำ หน่วยการเรียนร.ู้ ............ 18หน่วยการเรยี นรู้ท ่ี 2 กิจกรรมทางกาย และเกม ..............19–35 • มาตรฐานการเรียนร ู้......................... 19 • ตัวช้วี ัดชนั้ ป ................................... 19 • สาระการเรียนรู้ ............................... 19 • ประโยชนจ์ ากการเรียน ..................... 19 • คำ ถามชวนคดิ ................................ 19 1. ความหมายและความสําคัญของกิจกรรม ทางกายและเกม ............................... 20 2. การปฏิบัติกิจกรรมทางกายและการเล่นเกม แบบตา่ งๆ ................................21–322.1 การเล่นเกมผลัดกันว่งิ ไปท่ีหมาย.....212.2 การเล่นเกมเดินเลย้ี งของบนหนงั สือ..............................22

2.3 การเลน่ เกมคบี ลูกบอลดว้ ยเทา้ แลว้ กระโดด.................................23 2.4 การเลน่ เกมเดนิ หนีบลูกบอล ไว้ทซี่ อกคอ..................................25 2.5 การเลน่ เกมลงิ ชิงบอล....................26 2.6 การเลน่ เกมเก้าอ้ีดนตรี ..................25 2.7 การเลน่ เกมบทบาทสมมุติ ..............27 • บทสรปุ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ ี 2 .............. 33 • กิจกรรมเสนอแนะ .......................... 34 • โครงงาน..................... ................. 34 • การประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำ วนั ......... 35 • คำ ถามประจำ หน่วยการเรยี นร้ทู ี ่ 2 ....... 35 • บรรณานกุ รม ................................. 36 • คำ อภธิ านศัพท์ ............................... 38

ธรรมชาติ1ของการเคล่ือนไหวร่างกาย หนว� ยการเร�ยนรูทŒ ่ีมาตรฐานการเร�ยนรูŒ พ 3.1 เข้าใจ มที ักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิเปน็ ประจำอย่างสมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพ สทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ติ วิญญาณในการแข่งขนั และชนื่ ชม ในสุนทรยี ภาพของการกีฬาตัวช้วี ดั ชนั� ป‚ 1. เคลอื่ นไหวร่างกายขณะอยกู่ ับที่ เคล่ือนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบ (พ 3.1 ป. 1/1) 2. ออกกำลงั กายและเล่นเกมตามคำแนะนำอยา่ งสนุกสนาน (พ 3.2 ป.1/1) 3. ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ กตกิ า ขอ้ ตกลงในการเล่นเกมตามคำแนะนำ (พ 3.2 ป.1/2)สาระการเร�ยนรูŒ 1. ความหมายและความสำคัญของการเคล่อื นไหวร่างกาย 2. รูปแบบการเคลื่อนไหวรา่ งกายในชีวติ ประจำวนั 3. รปู แบบการเคลื่อนไหวรา่ งกายอยา่ งงา่ ย ประโยชนจากการเรียน คาำ ถามชวนคดิ มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึง • นกั เรยี นคดิ วา่ การอยนู่ ง่ิ ๆ กบั การเคลอ่ื นไหวความส�าคัญของการเคล่ือนไหวร่างกาย ร่างกายอย่างไหนท่ีนักเรียนชอบ เพราะตลอดจนสามารถนำความรู้และทักษะการ เหตใุ ดเคล่ือนไหวไปใช้ในชีวิตประจ�าวันได้อย่างถูกตอ้ ง • นักเรียนคิดว่าการเคลื่อนไหวร่างกายใน ชี วิ ต ป ร ะ จ� า วั น ข อ ง นั ก เ รี ย น มี ก า ร เคล่อื นไหวร่างกายแบบใดบา้ ง

2 หนังสือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน พลศึกษา ป. 1 ธรรมชาตขิ องการเคลื่อนไหวร่างกายของคนเรา แบ่งออกได้2 รปู แบบทส่ี ำคญั ไดแ้ ก่ รปู แบบการเคล่ือนไหวร่างกายในชวี ติประจำวนั และรปู แบบการเคล่อื นไหวรา่ งกายอยา่ งง่าย 1. ความหมายและความสําคญั ของการเคลอ่ื นไหวรา‹ งกาย คำ�ถามนำ�Êูº่ ทเรยี น การเคลือ่ นไหวร่างกายมีประโยชนอ์ ยา่ งไร การเคลอ่ื นไหวร่างกาย หมายถงึ การเปลยี่ นท่ี การไมอ่ ยู่น่งิของรา่ งกาย หรอื การเปล่ียนตำแหนง่ ของรา่ งกายจากท่หี นงึ่ ไปยงัอกี ทหี่ น่งึ เชน่ จากการนัง่ ไปสู่การยนื หรอื นอน หรอื จากการเดนิไปสูก่ ารว่ิงหรอื กระโดด การเคล่อื นไหวรา่ งกายมปี ระโยชน์ทำให้เราทำกจิ กรรมตา่ ง ๆไดต้ ามความตอ้ งการ เช่น เดินไปโรงเรยี น ว่งิ เล่นกับเพ่อื น ดังน้ันนกั เรยี นควรเรยี นรแู้ ละฝก ฝนวธิ กี ารเคลอ่ื นไหวรา่ งกายใหม้ ที า่ ทางท่ีถูกต้อง มีความคล่องแคล่ว สง่างาม เกิดความม่ันใจ และปลอดภัย

หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน พลศึกษา ป. 1 3 2. รูปแบบการเคลอื่ นไหวร‹างกายในชวี ติ ประจําวัน คำ�ถามนำ�Êูº่ ทเรยี น ยกตวั อยา่ งรปู แบบการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายทน่ี กั เรยี นรจู้ กั มาคนละ 1 รูปแบบ 2.1 การน�ัง การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายในชวี ติ ประจำวนั ทน่ี กั เรยี นจะตอ้ งฝก ฝนให้มีท่าทางที่ถูกต้องและมีความสง่างามอยเู่ สมอ มดี ังนี้ ตอ้ งนง่ั หลงั ตรง ไมห่ อ่ ไหล่ โดยใหห้ ลงั ชดิ กบั พนกั พงิ ของเกา้ อ้ีมากท่สี ดุ

4 หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน พลศกึ ษา ป. 1 2.2 การยนื ทา่ การยืนท่ถี กู ตอ้ งจะตอ้ งยนื ให้แนวของศรี ษะ ไหล่ สะโพกและส้นเท้าตรงอย่ใู นแนวเดียวกัน ไม่ยนื หลังคอ่ มหรือยืนแอ่นไปดา้ นหน้า 2.3 การเดนิ ในขณะท่ีเดินจะต้องเดินหลังตรง ศีรษะต้ังตรงและมองไปขา้ งหนา้ ไม่เดินลากสน้ เท้า และแกวง่ แขนกางออกไปดา้ นขา้ งมากจนเกินไป

หนังสอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน พลศึกษา ป. 1 5 2.4 การกมŒ เพ่อื เก็บส�ิงของ การเก็บสิ่งของท่ีพื้นหรือในระดับต่ำกว่าเอวจะต้องย่อตัวลงแลว้ เกบ็ สง่ิ ของ ไมค่ วรโนม้ ตวั ลงเกบ็ โดยทนั ที เพราะอาจทำใหเ้ กดิอาการเจ็บหลังได้ ß 2.5 การยกส�ิงของทม่ี นี ํ�าหนกั มาก ไมค่ วรยกเพยี งลำพงั ควรใหเ้ พอ่ื น ๆ หรือผู้ใหญ่มาช่วยยกซง่ึ หากนกั เรียนจะชว่ ยกันยก ควรเร่ิมจากการที่ทกุ คนกา้ วเท้าขา้ งใดข้างหนง่ึ ไปข้างหนา้ ใหช้ ดิ กับส่งิ ของที่จะยก คอ่ ย ๆ ย่อเข่าลงและอยู่ในท่าคุกเข่า ใช้มือทั้งสองข้างยกสิ่งของขึ้นให้ชิดกับลำตัวมากท่ีสุด แลว้ ค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยใช้แรงดนั จากกำลังขา ไมค่ วรใชว้ ธิ กี ารแอน่ ตวั ไปขา้ งหลงั เพอ่ื ยกสง่ิ ของ เพราะจะทำใหเ้ กดิ อาการเจ็บหลงั ได้

6 หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน พลศกึ ษา ป. 1 คำ�ถาม¾²ั นาความค´ิ นักเรียนคิดว่าการเดินขณะยกของแบบใด ท่ีท�าให้ นักเรยี นมคี วามปลอดภัยทส่ี ดุ กิจกรรมเรียนร.ู ..สปู่ ฎบิ ตั ิ 1. นกั เรยี นสงั เกตลกั ษณะการเคลอื่ นไหวรา่ งกายของตนเองวา่ มี ลักษณะอยา่ งไรบ้าง แล้วนา� มาพดู คุยกบั เพอ่ื น ๆ 2. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2–3 คน ร่วมกนั ฝก การนัง่ การ ยืน การเดนิ และการกม้ เก็บสิง่ ของดว้ ยท่าทางที่ถูกตอ้ ง 3. รปู แบบการเคลอื่ นไหวร‹างกายอยา‹ งง‹าย คำ�ถามนำ�Êู่ºทเรียน การเคล่ือนไหวร่างกายขณะเดินมีความแตกต่างกับการ เคลอื่ นไหวรา่ งกายขณะวงิ่ อยา่ งไร การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างง่ายที่นักเรียนควรเรียนรู้และฝก ปฏิบัตมิ ดี งั น้ี 3.1 การเคล่อื นไหวรา‹ งกายขณะอย‹กู บั ที่ 1) การเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ในขณะนอน มีรูปแบบท่ีนักเรียนสามารถน�าไปฝกปฏิบัติ เพ่ือส่งเสริมการเคลื่อนไหวใหด้ ขี ึน้ ตัวอย่างเชน่

หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน พลศกึ ษา ป. 1 7 รปู แบบการฝƒกที่ 1 นอนหงาย เหยยี ดขาตรง ปลายเทา้ ชดิแขนแนบล�าตัว ยกขาซ้ายข้ึน ใช้มอื ขวาแตะปลายเท้าซ้ายแล้ววางขาซ้ายลง ยกขาขวาข้ึน ใชม้ ือซา้ ยแตะปลายเทา้ ขวา ท�าสลบั กนั การปฏบิ ัตริ ปู แบบการฝกท่ี 1 รูปแบบการฝกƒ ท่ี 2 นอนหงายเหยียดขาตรง ปลายเท้าชดิแขนแนบล�าตัว แนบฝามือวางกับพืน้ ยกขาทั้งสองขา้ งขา้ มศรี ษะให้ปลายเท้าท้ังสองแตะพ้ืนเหนือศีรษะ ยกขาท้ังสองข้างลงในท่าเดิม ทา� ซ�้าในท่าเริ่มตน้ การปฏบิ ตั ิรูปแบบการฝกที่ 2

8 หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน พลศกึ ษา ป. 12) การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะอยกู่ บั ทใี่ นขณะนง่ั มรี ปู แบบท่ีนักเรียนสามารถน�าไปฝกปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมการเคล่ือนไหวให้ดีขึน้ ตัวอย่างเช่น รูปแบบการฝƒกที่ 1 นงั่ แยกขาท้ังสองข้างออกจากกัน กางแขนเสมอไหล่ ก้มตัวเอามือขวาแตะปลายเท้าซ้าย มือซ้ายแตะปลายเท้าขวา ทา� สลบั กัน การปฏิบัติ รปู แบบการฝกที่ 1 รปู แบบการฝกƒ ที่ 2 นง่ั แยกขาทงั้ สอง ขา้ งออกจากกนั ขาเหยยี ดตรง มอื ขวาจบั ท่ีท้ายทอย ก้มตัวลง มือซ้ายแตะปลาย เท้าขวา แล้วเปล่ียนมือซ้ายจบั ทท่ี า้ ยทอย ก้มตัวลง มือขวาแตะปลายเท้าซ้าย ท�า การปฏิบัติ สลบั กันรูปแบบการฝก ที่ 2 รูปแบบการฝกƒ ท่ี 3 นั่งขาเหยยี ด การปฏบิ ัติตรงทั้งสองข้าง ยกขาท้ังสองข้างข้ึน รปู แบบการฝก ท่ี 3พรอ้ ม ๆ กนั โดยใชม้ อื จบั ขาทง้ั สองขา้ งไว้ แลว้ ปลอ่ ยมอื ท่จี บั ปลอ่ ยขาท้ังสองขา้ งลงสพู่ นื้ ชา้ ๆ ทา� ซ้า� ในทา่ เรม่ิ

หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน พลศกึ ษา ป. 1 9 3) การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะอยกู่ บั ทใ่ี นขณะยนื มรี ปู แบบท่ีนักเรียนสามารถน�าไปฝกปฏิบัติ เพ่ือส่งเสริมการเคลื่อนไหวให้ดีขนึ้ ตวั อย่างเชน่ รปู แบบการฝกƒ ที่ 1 ยนื แยกเทา้ กม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ มอื ขวาแตะปลายเท้าซ้าย มือซา้ ยแตะปลายเทา้ ขวา ทา� สลับกัน การปฏิบตั ิ รูปแบบการฝกที่ 1 รปู แบบการฝƒกที่ 2 ยืนเทา้ ชดิ มือเท้าสะเอว เขยง่ ปลายเทา้ ข้ึน–ลง การปฏบิ ัติ รูปแบบการฝก ที่ 2

10 หนงั สอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน พลศึกษา ป. 1 รูปแบบการฝƒกที่ 3 ยืนตรงย่ืนแขนซ้ายเหยียดตรงไปข้างหน้าแบมอื ควา�่ ฝา มอื ลง ยกเทา้ ขวาแตะปลายฝามอื ซ้าย เอาขาลง และเอามือลง ยื่นแขนขวาเหยียดตรงไปขา้ งหน้า แบมือ ควา�่ ฝามือลง ยกเท้าซ้ายแตะปลายฝามือขวา ท�าสลบั กนั การปฏิบตั ิ รูปแบบการฝก ที่ 3 3.2 การเคลอ่ื นไหวรา‹ งกายขณะเคลื่อนที่ 1) การเคล่ือนไหวร่างกายขณะเคล่ือนทใ่ี นขณะเดิน มีรูปแบบท่ีนักเรียนสามารถน�าไปฝกปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมการเคล่ือนไหวใหด้ ขี นึ้ ตัวอย่างเชน่ รูปแบบการฝƒกที่ 1 เดินแกว่งแ ข น ส ลั บ ซ ้ า ย – ข ว า ไ ป ยั ง ทิ ศ ท า งข้างหน้า โดยให้เพ่ิมความเร็วในการเดนิ ไปเรอื่ ย ๆ การปฏบิ ัติรปู แบบการฝกที่ 1

รปู แบบการฝกƒ ที่ 2 หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน พลศึกษา ป. 1 11 เดินซิกแซ็กสลับซ้ายและ รปู แบบการฝƒกท่ี 3ขวา เดนิ ถอยหลงั การปฏิบัตริ ปู แบบการฝก ที่ 2 การปฏบิ ัตริ ปู แบบการฝกท่ี 3 2) การเคล่ือนไหวร่างกายขณะเคลื่อนท่ีในขณะว่ิงมีรูปแบบที่นักเรียนสามารถน�าไปฝกปฏิบัติ เพ่ือส่งเสริมการเคล่อื นไหวให้ดขี น้ึ ตัวอย่างเช่น รปู แบบการฝกƒ ท่ี 1 วงิ่ ไปขา้ งหนา้ ชา้ ๆ แลว้ เพม่ิ ความเรว็ ขึ้นเรื่อย ๆการปฏบิ ตั ริ ปู แบบการฝกที่ 1

12 หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน พลศกึ ษา ป. 1 รูปแบบการฝƒกที่ 3 วงิ่ ถอยหลังรปู แบบการฝƒกที่ 2 วงิ่ ซิกแซก็ สลบั ซ้ายและขวา การปฏิบัตริ ูปแบบการฝก ที่ 2 การปฏิบตั ริ ูปแบบการฝก ท่ี 3 3.3 การเคล่อื นไหวรา‹ งกายประกอบอุปกรณ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายประกอบอปุ กรณ มรี ปู แบบทน่ี กั เรยี นสามารถนา� ไปฝก ปฏิบตั ิ เพ่ือเพิ่มทักษะในการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายประกอบอุปกรณใ์ หด้ ขี ึ้น ตัวอยา่ งเชน่รูปแบบการฝƒกท่ี 1 การนอน การนั่ง การน่ังชันเข่า ขวา้ งลกู บอลการนอนขว้างลกู บอล การนงั่ ขว้างลูกบอล

หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พลศึกษา ป. 1 13 นานา น่ารู เราควรดูความพร้อมของร่างกายว่าแข็งแรงดีหรือไม่ก่อนปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายแบบต่าง ๆ จะได้เกิดประโยชน์กับร่างกายเรามากท่สี ุด การน่งั ชันเข่าขว้างลูกบอล รูปแบบการฝกƒ ที่ 2 การขว้างและรับลูกบอล รปู แบบการฝƒกที่ 3 การโยนและรับลูกบอล

14 หนังสอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน พลศึกษา ป. 1 รปู แบบการฝƒกท่ี 4 การกลงิ้ และรบั ลกู บอล รปู แบบการฝƒกท่ี 5 การกล้งิ ลอดชอ่ งและกลิ้งให้ตรง รูปแบบการฝƒกที่ 6 การปาไกล

หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน พลศึกษา ป. 1 15 คำ�ถาม¾²ั นาความคิ´ “การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายจะประสบผลสำเรจ็ ไดถ้ า้ นกั เรยี น ฝก ปฏบิ ตั อิ ยา่ งสม่ำเสมอ” นกั เรยี นมคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรกบั คำกลา่ วนี้ กิจกรรมเรยี นร.ู ..สู่ปฎิบัติ • นักเรียนจับคู่กับเพื่อน ทดลองเคลื่อนไหวร่างกายขณะเคล่ือนท่ีและประกอบอุปกรณ์ด้วยท่าทางต่าง ๆ แล้วบันทึกผลการปฏบิ ัตลิ งในตารางบันทึก แหลง่ สืบคนความรู นกั เรยี นสามารถคน้ ควา้ ความรเู้ พมิ่ เตมิ เรอื่ ง ธรรมชาตขิ องการ เคลื่อนไหวรางกาย ได้จากการสอบถามครู ผู้ปกครอง หรือ ผทู้ เ่ี ปน็ นกั กฬี าในชุมชน

16 หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน พลศึกษา ป. 1บทสรุปหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 นักเรียนสามารถสรปุ ทบทวนความรู้โดยวธิ กี ารจนิ ตภาพจากผงั มโนทัศน์ (concept map)เพอื่ สรุปองค์ความรู้ได้ดังน้ี เรยี นรเู้ กย่ี วกับ ธรรมชาติของการเคลื่อนไหวรา่ งกายความหมายและความสำ�คัญของการเคล่ือนไหวรา่งกาย ความส�ำ คญั เรียนรู้เกยี่ วกบั การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายทม่ี ปี ระโยชนท์ ำ�ใหเ้ ราทำ�กจิ กรรม ความหมาย ตา่ ง ๆ ไดต้ ามความต้องการประกอบดว้ ยการเปลีย่ นที่ การไม่อยู่นิง่ ของรา่ งกาย หรือการเปลี่ยนตำ�แหน่งของรา่ งกายจากท่ีหน่งึ ไปยงั อกี ท่หี น่งึรูปแบบการเคล่ือนไหวรา่ งกายในชีวิตประจำ�วันเรยี นรเู้ กีย่ วกับการน่ัง การยืน การเดิน การก้มเพอ่ื เกบ็ สิ่งของ การยกส่ิงของทมี่ ีนำ้ �หนักมากประกอบดว้ ย วธิ ีปฏบิ ัติการยืน การยืนท่ีถูกต้องจะต้องยืนให้แนวของศีรษะ การนั่ง ต้องน่งั หลงั ตรง ไม่หอ่ ไหล่ โดยนงั่ หลงั ชดิ กบัไหล่ สะโพก และส้นเท้าตรงอยู่ในแนวเดียวกัน พนักพิงของเก้าอมี้ ากที่สุดไม่ยืนหลงั ค่อม การเดิน เดินจะต้องเดินหลังตรงและมองข้างหน้า ไม่เดินลากสน้ เทา้ และแกว่งแขนกางออกไปการก้มเพื่อเก็บส่ิงของท่ีพ้ืนระดับตำ่ �กว่าเอวจะต้องย่อตัวลงแล้วเกบ็ ส่งิ ของ ไมค่ วรโน้มตัวลงเก็บทนั ที เพราะอาจทำ�ใหเ้ กิดอาการเจ็บหลงั ได้การก้มเพ่ือเก็บสิ่งของท่ีพ้ืนระดับต่ำ�กว่าเอวจะต้องย่อตัวลงแลว้ เกบ็ ส่งิ ของ ไมค่ วรโน้มตวั ลงเกบ็ ทันที เพราะอาจทำ�ใหเ้ กิดอาการเจบ็ หลงั ได้รูปแบบการเคลอ่ื นไหวร่างกายอย่างง่าย เรยี นรู้เกี่ยวกบั การเคลอื่ นไหวรา่ งกายขณะอยกู่ บั ที่ การเคลอื่ นไหวรา่ งกาย ขณะเคลื่อนที่ การเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบอุปกรณ์การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะอยกู่ บั ทใี่ นขณะนอน รปู แบบ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะเคลอ่ื นทใี่ นขณะเดนิ รปู แบบท่ี 1-3 การเคลื่อนไหวรา่ งกายขณะอยกู่ บั ท่ใี นขณะน่งั ที่ 1-3 การเคล่ือนไหวรา่ งกายขณะเคลือ่ นทีใ่ นขณะวิง่รปู แบบที่ 1-3 และการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะอยู่กบั รูปแบบท่ี 1-3ท่ใี นขณะยืน รูปแบบที่ 1-3

หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน พลศึกษา ป. 1 17 กิจกรรมเÊนÍáนะ •เพอ่ื ความเขา้ ใจทคี่ งทนใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอ่ ไปน้ี 1. ให้นักเรียนเลอื กปฏิบัตกิ ิจกรรมในหวั ข้อต้อไปน้ี – รูปแบบการเคลื่อนไหวรา่ งกายในชีวิตประจ�าวัน – การเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่แบบนอน นั่ง และยนื – การเคล่ือนไหวร่างกายขณะเคลื่อนท่ีการเดินและการวิ่ง 2. นักเรียนวาดภาพและระบายสีการเคล่ือนไหวที่นักเรียนช่นื ชอบ และผลดั กันเล่าเร่อื งจากภาพวาดหน้าชั้นเรียน âคร§§าน นกั เรยี นเลอื กทา� โครงงานตอ่ ไปนี้ (เลอื ก 1 ขอ้ ) หรอื อาจเลอื กท�าโครงงานอื่นตามความสนใจ ตามรูปแบบโครงงานที่ผู้สอนกา� หนด (ซงึ่ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมหี วั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี เหตผุ ลทเ่ี ลอื กโครงงานนี้ จุดประสงค์ แผนการปฏบิ ัติการ) 1. โครงงานการทดลองเร่ือง รูปแบบการเคลื่อนไหวร่างกาย ในชวี ิตประจ�าวนั ของนักเรยี นชน้ั ป. 1 2. โครงงานสา� รวจขอ้ มลู เรอื่ ง การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายประกอบ อปุ กรณแ์ บบต่างๆ ของนักเรยี นชนั้ ป. 1 หมายเหตุ: โครงงานที่เลือกตามความสนใจควรได้รับค�าแนะน�าแก้ไข จากผสู้ อน เมื่อได้รบั ความเหน็ ชอบแล้วจึงดา� เนนิ โครงงานน้นั ๆโดยครู ผสู้ อน/ผปู้ กครอง/กลมุ่ เพื่อนประเมินลกั ษณะกระบวนการท�างาน และ นักเรียนควรมีการสรุปแลกเปล่ียนความรู้ซ่ึงกันและกันก่อนพิจารณา เก็บในแฟมสะสมผลงาน

18 หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน พลศกึ ษา ป. 1 การประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำ�วัน • เพอ่ื ความเขา้ ใจทค่ี งทนใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอ่ ไปนี้ นักเรียนน�ำความรู้ทักษะท่ีได้จากการศึกษาและการปฏิบัติในหน่วยการเรียนรู้น้ีในประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับกิจกรรมทางกายและเกม ไปพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวและน�ำความรู้ความเข้าใจดังกลา่ วไปปรบั ใช้ในชีวิตประจำ� วันด้วยตนเอง เพื่อเป็นการสรา้ งเสรมิ ทกั ษะใหก้ บั ตนเองและบคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งต่อไป คำ�ถามประจำ�หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ตอบค�ำถามต่อไปน้ี 1. การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างถูกต้อง จะส่งผลต่อการท�ำ กจิ กรรมตา่ งๆ อย่างไร 2. ถ้าเราเคลอื่ นไหวรา่ งกายไม่ไดจ้ ะเกดิ อะไรข้ึน 3. นักเรยี นต้องนัง่ ยนื เดนิ ด้วยลกั ษณะเช่นใดจึงจะมคี วาม สง่างาม 4. การเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับท่ี ขณะเคลื่อนท่ี และ ประกอบอปุ กรณ์มีความแตกต่างกนั อย่างไร 5. นักเรียนคิดว่าการเคล่ือนไหวแบบใดที่นักเรียนปฏิบัติบ่อย ที่สดุ เพราะเหตใุ ด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook