Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

Description: หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ที่ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจาหนว่ ย 1 ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แสดงความรู้เก่ียวกับทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2 โครงงานวิทยาศาสตร์ นาความรูแ้ ละวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตรม์ าประยกุ ต์ใช้ในการทาโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ 3 หน่วยและการวัด แสดงความรู้เก่ียวกับการเลอื กใช้หน่วยและเคร่อื งมอื วัดไดเ้ หมาะสมกบั 4 แรงและการเคลอื่ นที่ ปริมาณตา่ ง ๆ 5 นาโนเทคโนโลยี แสดงความร้เู กย่ี วกบั แรงและการเคลือ่ นทโี่ ดยคานวณแรงลัพธด์ ้วย 2 วธิ ีการสรา้ งรูปและวธิ กี ารคานวณ แสดงความรู้เกยี่ วกับนาโนเทคโนโลยีในประเทศและต่างประเทศ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ สมรรถนะประจาหนว่ ย 6 โครงสรา้ งอะตอมและตารางธาตุ แสดงความรู้เก่ียวกบั โครงสร้างอะตอมและตารางธาตุ 7 สารและการเปลย่ี นแปลง แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั สารและการเปล่ียนแปลง 8 ปฏิกริ ิยาเคมใี นชวี ติ ประจาวนั แสดงความร้เู กยี่ วกับปฏิกิริยาเคมใี นชีวติ ประจาวัน 9 ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยชี ีวภาพ แสดงความรเู้ กี่ยวกับความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยชี ีวภาพ 10 ระบบนเิ วศ แสดงความรู้เก่ียวกบั ระบบนิเวศ 3

4

วิทยาศาสตรแ์ ละ อาชีพ วฒั นธรรม เทคโนโลยีมีผลต่อ สงั คม ชวี ติ การดารงชวี ิต ประจาวนั ของมนษุ ย์ 5

รากศัพท์ หมายถงึ ตวั อย่าง - ภาษาลาตนิ - ความร้เู กย่ี วกบั สงิ่ ต่างๆ ใน - การเกิดจนั ทรุปราคา / - Scientia ธรรมชาติ ซงึ่ สามารถอธิบายได้ เกิดจากการบงั กันระหวา่ งดวง - แปลว่า ความรู้ (Knowledge) ดว้ ยหลกั ฐานและความเป็นเหตุ อาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ และผลทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใชเ่ พราะยกั ตท์ ่ีชื่อราหไู ดอ้ ม จนั ทรไ์ ว้ 6

7

จาแนกตาม ธรรมชาติวิชา 3 สาขา วทิ ยาศาสตร์กายภาพ วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ วิทยาศาสตร์สังคม - เกย่ี วขอ้ งกับธรรมชาติและ - เกีย่ วขอ้ งกบั ธรรมชาติและ - เกี่ยวข้องกบั ธรรมชาติและ ปรากฎการณ์ตา่ งๆของทกุ สง่ิ ใน ปรากฎการณ์ตา่ งๆของทกุ สิง่ ใน พฤตกิ รรมของมนษุ ย์ทร่ี วมกนั โลกและจกั รวาล ในสว่ นของ โลกและจกั รวาล ในส่วนของ อยูเ่ ปน็ ชมุ ชนหรอื สงั คม ส่ิงไม่มีชีวติ สิ่งมีชีวิต - สงั คมศาสตร์ มนุษยศ์ าสตร์ เป็น - ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ เคมี - ชีววิทยา สตั ววิทยา เปน็ ต้น ตน้ ธรณวี ิทยา คณติ ศาสตร์ เป็นต้น 8

ผลที่ไดจ้ ากการใชก้ ระบวนการทาง ขอ้ เทจ็ จริง (Fact) กฎ (Law) วทิ ยาศาสตร์คน้ หาความรู้ ความรทู้ ่ีสังเกตได้โดยตรง+ทดสอบ หลักการทีส่ ามารถเขยี นสมการ = ผลเหมือนเดมิ ทกุ ครัง้ เหตแุ ละผลได้ 9 ความคิดรวบยอด (Concept) ทฤษฎี (Theory) ความคิดความเขา้ ใจ+แตกตา่ งตาม ข้อความทบี่ รรยายถึงปรากฎการณส์ ามารถ ประสบการณ์ = ผลไม่เหมือนเดิมทุกครัง้ ใช้อธิบายหรอื ทานายปรากฎการณน์ ัน้ ๆได้ หลกั การ (Principle) สมมติฐาน (Hypothesis) ความคิดรวบยอด+ทดสอบว่าเป็นจรงิ คาตอบล่วงหนา้ กอ่ นดาเนนิ การทดลอง +เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ หรือแนวคดิ ทแี่ สดงการคาดคะเนสิง่ ทไี่ ม่ = ผลเปน็ ท่เี ขา้ ใจตรงกนั สามารถตรวจตอบได้ด้วยการสงั เกต

1. ขนั้ ระบปุ ัญหา (Problem) 10 2. ขนั้ ตงั้ สมมติฐาน (Hypothesis) 3. ขน้ั ทดลอง (Experiment) 4. ขน้ั วเิ คราะหข์ อ้ มลู (Analysis of Data) 5. ข้นั สรุปผลการทดลอง (Conclusion)

การสงั เกต สอ่ื การ การลง ความสมั พนั ธ์ ความหมาย การลง พยากรณ์ ความเหน็ ความเหน็ จากขอ้ มลู ระหว่าง ขอ้ มูล จากขอ้ มูล สเปส 4. ทกั ษะ 4. ทกั ษะ กระบวนการทาง ตีความหมาย กระบวนการทาง กาหนดและ การใช้ วทิ ยาศาสตร์ การจาแนก ขอ้ มลู วทิ ยาศาสตร์ ควบคุมตวั แปร ตวั เลข ประเภท การวดั การ ตง้ั สมมตฐิ ทดลอง าน 11

การสงั เกต การใช้ประสาทสัมผสั อย่างใด 4.1 ทกั ษะ เลนสร์ บั แสง ภาพปรากฏท่เี รตินา เชงิ คุณภาพ อย่างหนึ่งหรือทั้ง 5 อย่าง เสน้ ประสาทสง่ สญั ญาณไปสมอง สารวจวัตถหุ รือปรากฎการณ์ การสงั เกต สมองรบั สญั ญาณสง่ ไปทวั่ ร่างกาย เช่น สี รปู ร่าง ต่างในธรรมชาติ/การทดลอง รส กลนิ่ รบั เสยี ง คลน่ื เสยี งสนั่ แกว้ หู โดยไมใ่ ส่ความคิดเห็นเพมิ่ ลงไป สะเทอื น กระดูกรูปหอยโข่งสนั่ การสงั เกต สง่ สญั ญษณไปตามเสน้ ประสาทสู่ เชงิ ปรมิ าณ แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท สมองสง่ ไปทวั่ รา่ งกาย เช่น คามยาว ความสูง น้าหนกั ดมกลน่ิ โดยเย่อื บจุ มูกท่ใี ชร้ บั กลิ น่ ป่มุ รบั รสแยกรส 4 รส คอื หวาน 12 ขม เคม็ เปร้ยี ว รบั ความรูส้ กึ ไดห้ ลายอย่าง เช่น เจบ็ รอ้ น เยน็

มองภาพแลว้ นกั เรยี น เห็นอะไรบา้ ง 13

หมายถึง การใชป้ ระสาทสมั ผสั ทง้ั 5 สงั เกตสิ่งๆ /ปรากฎการณต์ ่างๆ แลว้ เติมความคิดเห็น สว่ นตวั ลงไป เงอ่ื นไข 1. ปริมาณความกวา้ งของขอ้ มลู สรปุ 2. ความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู 3. ความรแู้ ละประสบการณเ์ ดมิ ของผลู้ งความเห็น 4. ความสามารถในการสงั เกต ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสังเกต ลงความเหน็ สว่ นตวั (ประสาทสมั ผสั ทง้ั 5) (ใช้ความรแู้ ละประสบการณ์) 14

ดอกกหุ ลาบ จึงเป็ นพืช ใบเล้ยี งคู่ 15

ตวั อยา่ ง การแบ่งพวก/จัดจาแนก/ 16 เรียงลาดับ/ปรากฎการณ์ต่าง 4.3 ต้องการศึกษาให้เป็ นหมวดหมู่ ทกั ษะการ มีระบบ จดั จาแนก โดยหาลักษณะหรือสมบตั ิร่วม การจัดสง่ิ มีชวี ิตตามลกั ษณะของเซลลแ์ ละองคป์ ระกอบ บางประการมาเป็ นเกณฑ์ ทางเคมี ระดบั เซลลท์ เ่ี หมือนกันหรือคลา้ ยกนั มากทสี่ ุด เกณฑ์คิดเอง/กาหนดไว้แล้ว ก็ได้

หมายถึง ความสามารถในการเลือกใช้เครื่องมอื ได้ถกู ต้อง การนับจานวนของวัตถแุ ละการนาค่าของตัวเลขท่ีได้จาก และแมน่ ยากับปริมาณของส่ิงต่างๆ การวัดและการนับจัดกระทาให้เกิดค่าใหม่ - วธิ ี บวก ลบ คูณ หาร - การหาพนื้ ท่ี การหาปริมาตร และการหาค่าเฉลยี่ เป็ นต้น 17

คือ การทานายหรอื การคาดคะเนคาตอบ โดยใชข้ ้อมลู ทไี่ ดจ้ ากการสงั เกต ประสบการณท์ ่เี กิดบอ่ ยๆ หรอื นาหลกั การ ทฤษฎมี าชว่ ยสรุปหาคาตอบ การพยากรณ์ภายในขอบเขต การพยากรณภ์ ายนอกขอบเขต ข้อมลู ข้อมลู - คาตอบทค่ี าดว่าจะเกิดขน้ึ - คาดเดาคาตอบโดยอาศัย ไดโ้ ดยอาศยั ขอ้ มลู จากการ คาตอบจากการทดลอง ทดลองท่ไี ด้ผลแลว้ เชน่ เดียวกนั แตย่ ังไม่ได้ ทดลองจรงิ 18

สเปส (Space) หมายถงึ ที่ว่างที่วตั ถนุ ้นั ครองซึง่ จะมีรูปรา่ งเหมอื นวตั ถุนั้น โดยท่ัวไปสเปสจะมี 3 มติ ิ (ความกวา้ ง ความยาว และความสงู ) ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสเปสกับสเปสของวตั ถุ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสเปสเวลา ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งวัตถุ 2 มติ ิ กับ 3 มิติ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสเปสของวัตถทุ ่ี นา้ ตาลก้อนเปลีย่ นไปอยา่ งไร 19 เปล่ยี นไปกบั เวลา เช่น การบอกทิศทางหรอื ในเวลาเปลยี่ นไป ตาแหนง่ ของวตั ถเุ มือเทียบกบั ตัวเองหรอื สง่ิ อ่ืน

- การนาขอ้ มูลดบิ มาจดั ลาดบั จัดกลุ่ม หาความถี่ หาความสัมพนั ธ์ - การใช้ภาษาพูดหรือท่าทางในการสอื่ สารตดิ ตอ่ กับผอู้ ืน่ - องคป์ ระกอบ คือ ผู้ส่งสาร สาร ชอ่ งทางการรบั สาร ผ้รู ับสาร 1. การสอ่ื ความหมายทางเดยี ว (ผู้รบั สารไมม่ ีโอกาสซักถามขอ้ สงสัย) เช่น การเขียนรายงานผลการทดลอง 20 2. การส่ือความหมายหลายทาง (ผ้รู บั สารมโี อกาสซกั ถามขอ้ สงสยั ) เชน่ การบรรยาย

สิ่งทแี่ ตกต่างหรอื เปลี่ยนไปจากเดมิ เมือ่ อยใู่ นสถานการณต์ ่างๆ กัน สิ่งที่โดยสภาพท่วั ๆ ไปแลว้ สามารถแปรคา่ ได้ 21

- ความหมายของคาหรอื ขอ้ ความมตา่ งๆ ทใ่ี ช้ใน 22 การทดลองทสี่ ามารถสังเกต ตรวจสอบ หรอื ทา การวัดได้ ตัวอย่าง - การเจริญเตบิ โตของพชื หมายถงึ การท่ีพืชสูงข้ึน ลาตน้ มขี นาดใหญข่ ้นึ และมีจานวนใบมากข้นึ

ขัน้ ที่ 1 ขั้นท่ี 2 ขัน้ ที่ 3 ออกแบบการทดลอง การปฏิบัตกิ ารทดลอง การบันทกึ ผลการทดลอง - จดุ ประสงค์ - ทดลอง - จดบนั ทกึ ขอ้ มูล เป็นกระบวนการหา - สมมตฐิ าน คาตอบจากสมมตฐิ าน - วธิ ีการทดลอง - ลงมือปฏบิ ตั จิ ริง ท่ไี ด้ทดลองไว้ - วัสดอุ ุปกรณ์ ตามทอ่ี อกแบบ - อาศัยทกั ษะ ไว้ พน้ื ฐาน 23

1. ความอยากรอู้ ยากเหน็ 2. ความรบั ผดิ ชอบและเพียรพยายาม 3. ความมีเหตผุ ล 4. ความมรี ะเบียบและความรอบคอบ 5. ความซื้อสัตย์ 6. ความใจกว้าง 7. ความประหยดั 8. ความสามารถในการทางานรว่ มกับ ผู้อ่ืน 24

25