บตั รข้อสอบ กศน.อําเภอ/เขต คลองท่อม สาํ นักงาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบ่ี ระดับ ประถมศกึ ษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความร้พู นื้ ฐาน รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว 31001) ข้อที่....๑… ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกีย่ วกับความหมายของวิทยาศาสตร์ ก. วทิ ยาศาสตรค์ ือองคค์ วามร้ทู ่ีมีแบบแผนพสิ จู น์ได้ ข. คาว่าวิทยาศาสตร์ตรงกับภาษาองั กฤษวา่ Science ค. Scientia ในภาษาลาติน แปลว่า ความร้ตู า่ ง ๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ง. ถูกทุกขอ้ เฉลย............ง............. .....นางพิณนภา มาสวสั ดิ์....ผู้ออก ขอ้ ท่ี....2.กระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ ้ันตอนใดต่อไปนี้ที่จะนําไปสู่การสรุปผลและการศึกษาตอ่ ก. การรวบรวมข้อมลู ข. การตงั้ สมมติฐานและการออกแบบการทดลอง ค. การสังเกต ง. การหาความสัมพันธ์ เฉลย............ข............. 3. ข้อใดไมเ่ ปน็ วิทยาศาสตร์ ก. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ข. แมเ่ หล็กขว้ั เดียวกนั เกดิ แรงผลักกนั ค. สมชายเปน็ คนทาํ ดี ตายแล้วจะไดข้ ึ้นสวรรค์ ง. นาํ้ เกดิ จากก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจนรวมตัวกนั เฉลย............ค............. 4. ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ถ้าหากผลการทดลองทไี่ ดจ้ ากการทดสอบสมมติฐาน ไม่สอดคลอ้ งกับสมมตฐิ าน เราจะดําเนินการอยางไร ก. สงั เกตใหม่ ข. ออกแบบการทดลองใหม่ ค. ตัง้ ปญั หาใหม่ ง. เปลย่ี นสมมติฐาน เฉลย........ง.... .....นางพิณนภา มาสวัสดิ.์ ...ผู้ออก
5. ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ถา้ หากผลการทดลองทไ่ี ดจ้ ากการทดสอบสมมติฐาน ไมส่ อดคล้องกับสมมติฐาน เราจะดาํ เนนิ การอยางไร ก. สงั เกตใหม่ ข. ออกแบบการทดลองใหม่ ค. ตงั้ ปญั หาใหม่ ง. เปล่ียนสมมติฐาน เฉลย............ง.......... .....นางพิณนภา มาสวัสด์.ิ ...ผ้อู อก ๖.ส่วนประกอบใดท่ีพบในเซลล์สัตว์และเซลลพ์ ืช ก. เย่ือหุ้มเซลล์และผนงั เซลล์ ข. เย่อื หมุ้ เซลลแ์ ละนิวเคลียส ค. เย่อื หุ้มเซลล์และคลอโรพลาสต์ ง. ผนงั เซลล์และนิวเคลียส เฉลย ข. เยอ่ื หมุ้ เซลล์และนิวเคลียส เฉลย............ข........ ๗.ขอ้ ใดกลา่ วได้ถูกตอ้ งเกย่ี วกับเซลล์สตั ว์ ก. มผี นังเซลล์แต่ไม่มีเยอ่ื หุม้ เซลล์ ข. มีผนังเซลลแ์ ละคลอโรพลาสต์ ค. มีเยอื่ หุม้ เซลล์แตไ่ มม่ ีไซโทพลาซมึ ง. มีนวิ เคลียสแตไ่ ม่มีคลอโรพลาสต์ เฉลย............ง........ ๘.ส่วนประกอบใดของพืชท่ที าหนา้ ทคี่ ล้ายยาม ก. ผนังเซลล์ ข. นิวเคลยี ส ค. เยื่อห้มุ เซลล์ ง. ไซโทพลาซึม เฉลย...........ค........
๙.กระบวนการออสโมซสิ ในชีวติ ประจาวนั ไดแ้ ก่ข้อใด ก. การแช่ผักผลไม้ในน้า ข. การได้กล่ินหอมของดอกไม้ ค. การฟงุ้ กระจายของสารฆ่าแมลง ง. การเกดิ หยดนา้ บริเวณปลายเส้นใบ เฉลย...........ก........ .....นางพิณนภา มาสวสั ดิ์....ผู้ออก ๑๐.ขอ้ ใดถูกตอ้ งในกระบวนการออสโมซสิ ก. การเคลอื่ นที่ของน้าจากบรเิ วณนา้ มากผา่ นเย่ือเลือกผา่ นไปยังบรเิ วณนา้ น้อย ข. การเคลอ่ื นท่ีของนา้ จากบรเิ วณน้านอ้ ยผ่านเย่อื เลอื กผ่านไปยงั บริเวณนา้ มาก ค. การเคลอ่ื นท่ีของนา้ จากสารละลายเขม้ ขน้ ผา่ นเย่ือเลือกผ่านไปยังสารสะลายท่เี ขม้ ข้นนอ้ ย ง. เป็นการเคลอ่ื นท่ีของน้าจากสารละลายเจอื จางผ่านเยอื่ เลอื กผา่ นไปยังสารละลายที่เข้มข้น มากกวา่ เฉลย...........ก........ .....นางพิณนภา มาสวัสด.์ิ ...ผูอ้ อก ๑1.พนั ธุกรรม(Heredity) หมายถึงข้อใด ก. สิง่ ทีไ่ ดร้ บั การถา่ ยทอดจากคนท่รี ู้จกั ข. สิ่งทไี่ ด้รับจากการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ หรือจากรนุ่ สู่รุ่น ค. ส่งิ ท่ไี ดร้ ับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษเพียงรุ่นเดียว ง. ความผดิ ปกติของร่างกาย เฉลย ข .....นางพิณนภา มาสวสั ดิ.์ ...ผ้อู อก ............................. ..ผ้ตู รวจ 12. ข้อใดไมเ่ ป็นลกั ษณะที่ถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม ก. ถนัดมอื ขวา ข. ลักย้ิม ค. แผลเป็น ง. ตาสองชั้น เฉลย ค .....นางพณิ นภา มาสวัสดิ.์ ...ผอู้ อก ............................. ..ผ้ตู รวจ
13. ลักษณะในข้อใดเกดิ จากการถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม ก. ตี๋ใหญเ่ ปน็ โจรเหมือนพ่อ ข. สมใจมลี ักยิ้มเหมือนแม่ ค. แดงชอบทานไกท่ อดเหมอื นพ่อ ง. สมศรแี ละแม่ป่วยเปน็ โรคกระเพาะ เฉลย ข .....นางพณิ นภา มาสวัสด์ิ....ผู้ออก ............................. ..ผ้ตู รวจ 14. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกยี่ วกับโครโมโซม ก. ออโทโซมทกุ ค่จู ะมีขนาดเทา่ กนั ข. ในเซลลร์ ่างกายจะมีโครโมโซม 46 แท่ง ค. โครโมโซมแต่ละคจู่ ะมีจํานวนยนี ตา่ งกนั ง. เซลล์ไข่หรืออสุจิจะมีโครโมโซม 23 แท่ง เฉลย ง .....นางพณิ นภา มาสวัสดิ.์ ...ผู้ออก ............................. ..ผ้ตู รวจ ๑๕. เทคโนโลยชี วี ภาพสมัยใหม่มขี ้อไดเ้ ปรยี บกวา่ เทคโนโลยีชีวภาพแบบดัง้ เดิมในการเพิม่ ผลผลิตพชื และสัตวใ์ น ลักษณะใด ก. เสียค่าใช้จ่ายนอ้ ยกว่าในกระบวนการผลิต ข. ใช้เวลานานแตไ่ ด้ผลผลติ ที่มคี ณุ ภาพสูงกว่า ค. กาหนดคณุ สมบตั ขิ องผลผลิตไดต้ ามท่ตี อ้ งการ ง. ใช้ความรพู้ ้นื ฐานทางวิทยาศาสตร์ทไ่ี มย่ งุ่ ยากซับซ้อน เฉลย ค ๑๖. ผลจากการตดั แตง่ ยีนในสงิ่ มีชีวติ ทําให้มนุษยม์ คี วามเสี่ยงต่ออนั ตรายท่ีอาจเกดิ ข้ึนได้ในลกั ษณะใด ก. เกิดการกลายพนั ธ์ุในมนุษย์ ข ประชากรมนุษยเ์ พ่ิมมากข้ึนในระยะยาว ค.ไมส่ ามารถควบคุมอตั ราการตายของมนษุ ย์ได้ ง. มนุษย์ได้รับพษิ ภัยจากยีนที่ถูกดัดแปลงซึ่งไมใ่ ช่วธิ ตี ามธรรมชาติ เฉลย ง .....นางพิณนภา มาสวัสด.์ิ ...ผอู้ อก ............................. ..ผตู้ รวจ
๑๗. สาเหตุสําคัญทที่ ําใหเ้ กิดความหลากหลายทางพนั ธุกรรม คอื อะไร ก. การคัดเลอื กโดยธรรมชาติ ข. การคดั เลือกพนั ธุ์โดยมนุษย์ ค. จานวนชนิดของสง่ิ มีชวี ิตในระบบนเิ วศ ง. การเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งของอวัยวะสืบพันธ์ุ เฉลย ก ๑๘. การคกุ คามความหลากหลายทางชีวภาพโดยมนุษยเ์ ปน็ การเร่งให้เกดิ ปัญหาใดในธรรมชาติเรว็ ยง่ิ ข้นึ ก. การสญู พันธุ์ของส่ิงมีชวี ิต ข.การสญู เสียความสมดลุ ทางธรรมชาติ ค. การทาลายแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติ ง. ชนิดพนั ธ์ุของพชื และสัตว์มีปรมิ าณไมแ่ นน่ อน เฉลย ก ๑๙. แอลลีลเดน่ หมายถึงแอลลีลชนิดใด ก. สเี ดน่ มาก ข.ขนาดใหญ่ ค. ควบคมุ ลักษณะแฝง ง.ควบคุมลักษณะที่แสดงออก เฉลย ง ๒๐. กิจกรรมใดของมนษุ ยท์ ่ีทําให้เกดิ การสญู เสียความหลากหลายทางชีวภาพ ก. การเผาป่า ข. การล่าสัตว์ ค การคา้ ขายพชื ปา่ ผดิ กฎหมาย ง.ถูกทุกข้อ เฉลย ง
๒๑. ข้อความใดไมไ่ ด้อธบิ ายความหมายของคาํ วา่ ระบบนเิ วศ ก. แอ่งน้ารมิ ทางเดินมีลกู นา้ ลูกอ๊อด สาหร่าย และตะไคร่นา้ ข. ตน้ จามจรุ สี งู ใหญ่มีมด แมลง เหด็ และกาฝากอาศัยอยู่มากมาย ค. เทือกเขาแห่งหนง่ึ มีต้นไม้ข้ึนอยมู่ ากมายทาใหด้ สู ดชน่ื มีชวี ิตชวี า ง. แนวปะการังชายฝัง่ ทะเลอันดามันมปี ลาต่าง ๆ หลายชนิด ท้งั ปลาปกั เป้าปลากระบอกและปูม้า เฉลย ค ๒๒. ข้อความใดอธิบายความหมายของกลุ่มสิ่งมีชวี ติ ได้ชัดเจนทสี่ ดุ ก. ช้างปา่ จานวน 15 ตวั กาลงั หากนิ อยู่ทช่ี ายป่าแหง่ หน่งึ ข. ต้นสกั ต้นประดู่ ต้นยาง ข้ึนอย่เู ปน็ จานวนมากบนภูเขาแห่งหนึ่ง ค. นกนางแอน่ หลายพนั ตวั อพยพหนีความหนาวเย็นจากประเทศจีนสปู่ ระเทศไทยทกุ ปี ง. บรเิ วณกระแสนา้ อุ่นและกระแสนา้ เยน็ ไหลมาบรรจบกนั จะอุดมไปด้วยฝูงนกฝงู ปลา และสาหร่ายนานาชนดิ เฉลย ง ๒๓. มดดําเป็นผูพ้ าเพลี้ยอ่อนไปไว้บนต้นไมเ้ พล้ียอ่อนดดู นํา้ เลี้ยงจากใบไมแ้ ละถา่ ยนาํ้ หวานออกมาทางก้น มดดาํ คอย ดูดนาํ้ หวาน ความสัมพนั ธข์ องสิ่งมีชีวติ ทั้งสองเหมือนกับคู่ใด ก. ดอกไม้กับแมลง ข. กาฝากกบั ตน้ มะม่วง ค. ต้นถ่ัวกับแบคทเี รยี ไรโซเบียม ง. พยาธไิ ส้เดือนในทางเดินอาหารของคน เฉลย ก ประเมนิ ๒๔. พลังงานเริ่มแรกของสิ่งมีชวี ิตได้มาจากส่งิ ใด ก. พชื ข. สัตว์ ค. แรธ่ าตุ ง. ดวงอาทิตย์ เฉลย ง
๒๕. สิ่งใดไม่ใช่อิทธพิ ลของอุณหภมู ิทีม่ ีผลตอ่ การดํารงชวี ิต ก. การจาศลี ของกบ ข. การมขี นหนาของหมขี วั้ โลก ค. การอพยพย้ายถ่ินท่ีอยูข่ องนก ง. การหุบและบานของใบไมยราบ เฉลย ง ๒๖. ส่งิ มชี ีวติ ทไี่ ดร้ บั พลังงานมาโดยไมต่ ้องอาศยั สิ่งมชี ีวิตอน่ื ๆ คืออะไร ก. ผผู้ ลิต ข. ผูบ้ ริโภค ค. ผ้ยู อ่ ยสลายอนิ ทรยี สาร ง.ผูบ้ ริโภคซากพืชซากสตั ว์ เฉลย ก จากภาพตอบข้อ 24 -25 2๗ CO2ที่ได้จากสิ่งมชี วี ิต ก และส่ิงมชี ีวิต ข ได้มาจากกระบวนการใด ก. การย่อยสลาย อินทรียสาร ข. การหายใจ การสังเคราะห์ด้วยแสง ค. การหายใจ การย่อยสลายอนิ ทรยี สาร ง. การยอ่ ยสลายอนิ ทรียสาร การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เฉลย ค ๒๘. ในระบบนเิ วศส่ิงมชี ีวิตกลมุ่ ใดมีบทบาททาํ ให้ “สาร” หมนุ เวียนอยู่ตลอดเวลา ก. ผผู้ ลติ ข. ผบู้ ริโภคอนั ดับ 2 ค. ผู้บรโิ ภคอันดบั สุดทา้ ย ง.ผูย้ อ่ ยสลายอินทรยี ส์ าร เฉลย ง
2๙. ปัจจบุ นั ตามเมืองใหญ่ ๆ นยิ มปลกู ตน้ ไมไ้ ว้บริเวณถนน หรอื จดั ทําเป็นสวนสาธารณะ ซง่ึ จะได้รับผลดตี าม หลักเกณฑท์ างวิทยาศาสตรใ์ ด ก. อนุรกั ษ์พันธไ์ุ ม้ที่หายาก ข. เพม่ิ ปริมาณแก๊สออกซิเจน ค. ลดสารพิษตกค้างในอากาศ ง. เพ่ิมปริมาณแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ เฉลย ง ๓๐. .ข้อใดเป็นการแปลงสภาพของโปรตีน ? ก.โปรตีนตกผลึก ข.พนั ธะเพปไทดใ์ นโมเลกลุ โปรตีนถกู ทาลาย ค.พันธะเพปไทด์ และพันธะไฮโดรเจนในโมเลกลุ ของโปรตีนถูกทาลาย ง.พันธะไฮโดรเจน ในโมเลกลุ ถูกทาลาย แต่พนั ธะเพปไทด์ไมถ่ ูกทาลาย เฉลย ง ๓๑.โปรตีนแตล่ ะชนิดต่างกนั ดงั ต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด ? ก.ชนิดของกรดอะมโิ นทเ่ี ป็นองคป์ ระกอบ ข.จานวนของกรดอะมโิ นในแตล่ ะโมเลกุล ค.ชนิดของธาตุพ้ืนฐานสาคญั ทีเ่ ป็นองคป์ ระกอบ ง.ลาดับและการจัดเรยี งตวั ของกรดอะมิโนในพอลเิ พปไทด์ เฉลย ค ๓๒.ข้อใดกล่าวถึงไขมันและน้ามันได้ถกู ต้อง ? ก.เป็นสารประกอบพวกไตรกลีเซอไรด์ ข.ประกอบด้วยกลีเซอรอลที่มีองคป์ ระกอบเป็นกรดไขมนั ค.เป็นสารโมเลกลุ ใหญเ่ กดิ จากการรวมตวั กันของกรดไขมนั ง.ประกอบดว้ ยกรดไขมันอม่ิ ตัวและไม่อิ่มตัวเช่ือมต่อกนั ดว้ ยพนั ธะเดยี่ ว เฉลย ก ๓๓. พอลเิ มอร์ท่ีมีโครงสร้างแบบใดเมื่อได้รบั ความร้อนจะไมห่ ลอมและไม่สามารถเปลย่ี นแปลงรูปรา่ งได้ ? ก.โครงสร้างแบบก่ิง ข.โครงสรา้ งแบบเส้น ค.โครงสร้างแบบร่างแห ง.โครงสรา้ งแบบกิ่งและแบบเส้น เฉลย ค ๓๔. ปโิ ตรเลยี มเกดิ ข้นึ ได้อย่างไร ? ก. เกดิ จากซากสัตว์ทะเลเล็ก ๆ ทถ่ี กู ทบั ถมอยใู่ ต้ดนิ ข.เกดิ จากซากสัตวก์ ินพืชจมอยใู่ ต้พื้นหินเป็นเวลานาน ๆ ค.เกิดจากซากพืชหรือตน้ ไมซ้ ึ่งจมอยใู่ ต้ดินและหนิ ลึก ๆ ง.เกดิ จากพืชและสตั วท์ ะเลท่ีถกู ทับถมอยใู่ ต้ดินเปน็ เวลานาน ๆ เฉลย ง
35. โครโมโซมมีองคป์ ระกอบเป็นสารประเภทใด ก. ไขมันและโปรตนี ข. กรดนวิ คลีอิกและไขมัน ค. กรดนวิ คลอี กิ และโปรตนี ง. กรดนิวคลีอกิ ไขมัน และโปรตีน 36. โอกาสท่ีจะไดล้ ูกสาวมีค่าเทา่ กับเทา่ ใด ก. 25% ข. ข. 50% ค. 75 % ง. 100% เฉลย ข 37. เมนเดลไดศ้ ึกษาเรือ่ งราวของพนั ธกุ รรม โดยคน้ พบหลักเกณฑ์ในข้อใด ก. สิง่ มีชวี ติ ถ่ายทอดลักษณะตา่ งๆ ไปสรู่ ่นุ หน่ึง ข. เม่ือมีการปฏิสนธิ ท้ังยนี และโครโมโซมจะถูกถา่ ยทอดไปสลู่ ูกพรอ้ มๆ กัน ค. โครโมโซมจะแยกกนั อยู่อยา่ งอิสระ เมื่อมีการปฏิสนธจิ ะมกี ารรวมกนั ของโครโมโซมอีกครง้ั หนึ่ง ง. ยีนทอ่ี ยู่เปน็ คๆู่ ในส่ิงมชี ีวิตจะแยกออกจากกนั อย่างอิสระเมอ่ื มีการสร้างเซลล์สบื พันธ์ุ และจะกลบั มารวมกันอกี ครง้ั เม่อื มีการ ปฏิสนธิ เฉลย ง 38. ลักษณะในข้อใดนา่ จะนาํ โดยยนี ด้อย ก. พบลกั ษณะนั้นๆ ในทุกร่นุ ข. พบลกั ษณะน้นั ๆ บางช่ัวรุน่ ค. คนสว่ นมากมีลกั ษณะน้ันๆ อยู่แล้ว ง.ไม่มลี กั ษณะใดๆ ทน่ี าํ โดยยีนดอ้ ย เฉลย ข
39. โรคกลุ่มใดเกดิ จากความผิดปกติของออโทโซม ก. ตาบอดสี ข. ดาวน์ซนิ โดรม ค. ไคลน์เฟลเตอร์ซินโดรม ง. เทอร์เนอรซ์ ินโดรม เฉลย ข 40. ข้อใด ไม่ ตรงกับข้อเทจ็ จริง ก. โรคทางพนั ธกุ รรมในมนษุ ยส์ ่วนใหญร่ ักษาได้ ข. ปจั จุบนั มนษุ ย์สามารถตัดตอ่ ยนี เพ่ือผลติ ฮอรโ์ มนอนิ ซลู ินได้ ค. โรคทางพนั ธกุ รรมในมนษุ ย์บางครั้งพบว่าไม่แสดงอาการให้เห็น ง. ลกั ษณะที่คนส่วนใหญ่มหี รือแสดงออกคือลักษณะที่ถกู ควบคุมโดยยนี เดน่ เฉลย ก 41. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเก่ียวกบั เทคนคิ พันธุวศิ วกรรม ก. เป็นการนาํ ยีนของสิ่งมีชีวิตชนดิ เดยี วกันมาต่อกัน ข. เป็นการนํายีนของส่ิงมีชีวติ ต่างชนดิ มาต่อกัน ค. เป็นการตดั ยนี ท่ไี ม่ดีทง้ิ ไป ง. เป็นการเพิ่มจํานวนยนี ให้มีมากขึน้ ตามท่ตี ้องการ 42. ขอ้ ใดประโยชนจ์ ากเทคโนโลยีชีวภาพ ก. การเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือพืช ข. การโคลนนิ่ง ค. พืช GMOs ง. ถกู ทุกข้อ เฉลย ง
43. ทําไมจึงต้องมีการคัดเลือกพนั ธ์ุ ก. เพื่อปรบั ปรุงพนั ธ์พืชและสัตว์ ข. เพอ่ื ปรับปรุงให้ได้สายพนั ธุ์ใหม่ ง. ถูกทง้ั ก และ ข ง. ไมมีข้อถูก
ข้อท่ี 1. ข้อใดให้ความหมายของสารปรงุ แต่งไดถ้ ูกตอ้ ง ก. สารพษิ ทปี่ นมากับอาหาร ข. สารเคมีตา่ งท่ีใช้ปรุงอาหาร ค. สผี สมอาหาร ง. สารปรุงรสและวตั ถุเจือปนในอาหารท่ีนามาใชป้ รงุ แต่งสี กล่ิน รส เฉลย ง ขอ้ ที่ 2 ขอ้ ใดเป็นวธิ ตี รวจสอบผงชูรสวา่ แทห้ รอื ปลอม ก. ตรวจสอบดว้ ยสารละลายไอโอดีน ข. ตรวจสอบด้วยกระดาษขมน้ิ ค. ตรวจสอบด้วยกระดาษลิตมัส ง. ตรวจสอบดว้ ยนา้ ยาเจนเชียนไวโอเลต เฉลย ข ขอ้ ท่ี 3.ข้อใดเปน็ วิธีสงั เกตที่เหมาะสมวา่ ร้านกว๋ ยเตย๋ี วใช้น้าส้มสายชแู ท้หรอื ปลอม ก. สงั เกตภาชนะบรรจุ ข. สงั เกตสีของน้าส้มสายชู ค. สังเกตพริกสดในนา้ สม้ สายชู ง. ดมกลิน่ นา้ สม้ สายชู เฉลย ค 1.พลงั งาน(Energy)หมายถึงส่ิงที่สามารถทาใหว้ ตั ถุตา่ งๆทางานได้ มี 2 ประเภทไดแ้ ก่ขอ้ ใด. ก. พลงั งานชีวมวล พลงั งานแสงอาทิตย์ ข. พลงั งานหมุนเวยี น พลงั งานสิ้นเปลือง ค. พลงั งานหมุนเวยี น พลงั งานเช้ือเพลิง ง. พลงั งานธรรมชาติ พลงั งานหมุนเวยี น เฉลย ข
2.พลงั งานหมุนเวยี นคือพลงั งานท่ีสามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ได้ ขอ้ ใดไมใ่ ช่พลงั งานหมุนเวยี น. ก. พลงั านน้า ป่ าไม้ กากออ้ ย ข. พลงั งานชีวมวล พลงั งานลม ค. พลงั านชีวมวล พลงั งานแสงอาทิตย์ ง. พลงั งานคล่ืน พลงั งานเช้ือเพลิง แก๊สธรรมชาติ เฉลยขอ้ ง บัตรขอ้ สอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สํานกั งาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบี่ ระดบั ประถมศกึ ษา ม.ตน้ ม.ปลาย สาระ ความรพู้ น้ื ฐาน รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานที่ มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพื้นฐานเกีย่ วกับคณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู/้ หวั เร่ือง แรงพลงั งานเพอื่ ชีวิตแรงการเคล่ือนที่ ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง นาํ ความร้เู รอื่ งแรงไปใช้ในชีวติ ประจําวันได้ พฤตกิ รรมท่ีวัด จํา เขา้ ใจ นาํ ไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมิน 3.พลงั งานสิ้นเปลือง(Conventional energy)แบ่งออกได้ 3 ประเภท ขอ้ ใดไม่ใช่พลงั งานสิ้นเปลือง. ก. เช้ือเพลิงแขง็ ข. เช้ือเพลิงเหลว ค. แสงอาทิตย์ ง.แก๊สธรรมชาติ เฉลยขอ้ ค บตั รข้อสอบ กศน.อําเภอ/เขต คลองท่อม สาํ นักงาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบี่ ระดบั ประถมศึกษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรพู้ ืน้ ฐาน รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานท่ี มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะพน้ื ฐานเกย่ี วกับคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้/หวั เรื่อง แรงพลังงานเพือ่ ชีวิตแรงการเคลื่อนที่ สังเคราะห์ ประเมิน ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาํ ความรู้เร่ืองแรงไปใช้ในชีวติ ประจําวันได้ พฤติกรรมท่ีวดั จาํ เข้าใจ นาํ ไปใช้ วิเคราะห์ 4.พลงั งานในขอ้ ใดสะอาดและไมส่ ร้างมลพษิ ใดๆขณะใชง้ าน. ก. พลงั งานแสงอาทิตย์ ข. พลงั งานใตพ้ ภิ พ(Geothermal energv)
ค. พลงั งานชีวมวล(Biomass energy) ง. พลงั งานจากแหล่งเช้ือเพลิงธรรมชาติ เฉลยขอ้ ก บัตรข้อสอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สํานกั งาน กศน. จังหวัด/กทม กระบี่ ระดับ ประถมศกึ ษา ม.ตน้ ม.ปลาย สาระ ความรพู้ ้ืนฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานที่ มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพนื้ ฐานเกย่ี วกับคณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนร/ู้ หัวเรื่อง แรงพลงั งานเพือ่ ชีวติ แรงการเคล่ือนที่ ผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวัง นาํ ความรูเ้ รอ่ื งแรงไปใช้ในชีวติ ประจําวันได้ สงั เคราะห์ ประเมนิ พฤตกิ รรมท่ีวดั จาํ เขา้ ใจ นําไปใช้ วเิ คราะห์ 6.พลงั งานชีวมวล(Biomass energy)คือขอ้ ใด. ก. พลงั งานทดแทนท่ีสะอาดไม่สร้างมลพิษใดๆ ขณะใชง้ าน ข. พลงั งานธรรมชาติที่เกิดจากความร้อนที่ถูกกกั กเก็บใตผ้ วิ โลก ค. พลงั งานท่ีไดจ้ ากการเกษตรและป่ าไมเ้ ช่นไม้ กากออ้ ย ขยะ ง. พลงั งานที่เกิดจากการปล่อยออกมาเมื่อมีการแยกรวม หรือแปลงนิวเคลียสของปรมาณูในรูปของกมั มนั ตรังสี เฉลยขอ้ ค เฉลยขอ้ ง 10.หลอดกระเปราะแกว้ หุม้ บรรจุแกส๊ ไนโตรเจนและอาร์กอนเพื่อ ใหใ้ ส้หลอดระเหยชา้ มีคุณสมมบตั ิการนาใชง้ านในขอ้ ใด. ก. สะดวก ง่าย และประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายต่อการติดต้งั เพราะไมม่ ีอุปกรณ์ ประกอบวงจร ข. แสงที่ไดค้ อ่ นขา้ งแดงมองเห็นคอนขา้ งต่า ค. หลอดไส้มีอายกุ ารใชง้ าน 750-1,000 ชว่ั โมง หลอดทงั สเตน
ฮาโลเจน 2,500-3,000 ชวั่ โมง เหมาะสาหรับการติดต้งั หอ้ งเกบ็ ของ ง. ถูกทุกขอ้ เฉลยขอ้ ง บตั รข้อสอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สาํ นักงาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบ่ี ระดบั ประถมศึกษา ม.ตน้ ม.ปลาย สาระ ความรพู้ ้ืนฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานท่ี มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพนื้ ฐานเกยี่ วกับคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้/หวั เรื่อง ดาราศาสตรเ์ ทคโนโลยอี วกาศเพื่อชวี ิต ผลการเรียนร้ทู ีค่ าดหวงั บอกโครงการการสํารวจอวกาศท่สี ําคัญในปัจจบุ นั พฤติกรรมที่วดั จํา เขา้ ใจ นําไปใช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ ข้อท่ี 1 ข้อใดเรียงลาดับจากระบบใหญ่ไปสู่ระบบเล็กตามลาดับอยา่ งถูกต้อง ก. กลมุ่ ดาว เอกภพ กาแลก็ ซี แนวทางชา้ งเผอื ก ข. เอกภพ กาแล็กซี แนวทางช้างเผือก กลมุ่ ดาว ค. กาแล็กซี แนวทางชา้ งเผือก กลุ่มดาว เอกภพ ง. แนวทางชา้ งเผอื ก กลมุ่ ดาว เอกภพ กาแลก็ ซี ตอบ ข บตั รขอ้ สอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สํานกั งาน กศน. จังหวัด/กทม กระบี่ ระดับ ประถมศึกษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรพู้ นื้ ฐาน รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานที่ มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพื้นฐานเกีย่ วกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนร้/ู หวั เรื่อง ดาราศาสตร์เทคโนโลยอี วกาศเพ่ือชีวิต ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวงั อธิบายการนําเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชนืได้ พฤตกิ รรมท่ีวัด จาํ เข้าใจ นําไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ขอ้ ที่ 2 ข้อใดกล่าวถงึ ลักษณะและสมบตั ขิ องหลุมดา ก. มมี วลต่าอยูร่ อบนอกของกาแล็กซี ข. มีมวลต่า อย่ศู ูนย์กลางของกาเล็กซี ค. มีมวลมหาศาลอยู่ ณ ศนู ย์กลางของกาแลก็ ซี ง. ไม่มขี ้อใดถูก ตอบ ค. บัตรขอ้ สอบ กศน.อําเภอ/เขต คลองท่อม สํานกั งาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบ่ี ระดบั ประถมศึกษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรู้พ้นื ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานท่ี มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพนื้ ฐานเกยี่ วกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนร้/ู หัวเร่ือง ดาราศาสตร์เทคโนโลยีอวกาศเพื่อชวี ติ สังเคราะห์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง อธิบายการนาํ เทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชน์ พฤตกิ รรมท่ีวัด จาํ เขา้ ใจ นาํ ไปใช้ วิเคราะห์ ขอ้ ท่ี 4 นกั ดาราศาสตร์แบง่ ชนิดของดาวฤกษ์ โดยใช้เกณฑ์ในข้อใด ก. สแี ละมวล ข. มวลและอุณหภูมผิ วิ ค. มวลและความสว่าง ง. มวลและกาลงั สอ่ งสวา่ ง ตอบ ข บตั รข้อสอบ กศน.อําเภอ/เขต คลองท่อม สํานกั งาน กศน. จังหวัด/กทม กระบ่ี ระดบั ประถมศกึ ษา ม.ตน้ ม.ปลาย สาระ ความรู้พน้ื ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานที่ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพนื้ ฐานเก่ียวกับคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้/หวั เร่ือง ดาราศาสตรเ์ ทคโนโลยีอวกาศเพื่อชีวติ ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั อธิบายการนาํ เทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชน์ พฤตกิ รรมที่วัด จาํ เข้าใจ นําไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ข้อที่ 5 สีของดาวฤกษใ์ นขอ้ ใดมกี ารเรยี งลาดับตามอณุ หภูมิพ้ืนผวิ จากสูงไปตา่ ก. ขาว แดง ส้ม ข. แดง เหลอื ง ค. น้าเงิน ขาว สม้ ง. เหลือง สม้ นา้ เงนิ ตอบ ค. บตั รข้อสอบ กศน.อําเภอ/เขต คลองท่อม สาํ นกั งาน กศน. จังหวัด/กทม กระบี่ ระดบั ประถมศกึ ษา ม.ตน้ ม.ปลาย
สาระ ความรูพ้ ้ืนฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานท่ี มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพืน้ ฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้/หวั เรื่อง ดาราศาสตรเ์ ทคโนโลยีอวกาศเพื่อชวี ติ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง อธิบายการนาํ เทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ พฤตกิ รรมที่วดั จํา เข้าใจ นาํ ไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ ขอ้ ท่ี ๕ ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับการเกดิ ปฏิกิริยาเทอร์โมนวิ เคลยี ร์ในดวงอาทติ ย์ ก. หลอมนิวเคลยี สของไฮโดรเจนเปน็ นิวเคลียสของฮเี ลยี ม ข. หลอมนวิ เคลียสของฮเี ลียมเป็นนวิ เคลียสของไฮโดรเจน ค. ระเบิดอะตอมของฮเี ลียมใหแ้ ตกตวั ง. ระเบิดอะตอมของคาร์บอนใหแ้ ตก เฉลย ก บัตรข้อสอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สํานกั งาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบี่ ระดับ ประถมศึกษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรพู้ น้ื ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานท่ี มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะพ้นื ฐานเกีย่ วกับคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู/้ หัวเรื่อง อาชพี ช่างไฟฟ้า ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง นาํ ความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจําวัน พฤตกิ รรมที่วดั จํา เขา้ ใจ นาํ ไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ 57.ไฟฟา้ ลดั วงจรในบ้านเกิดจากสาเหตุอะไร ก.สายไฟฟา้ ใชน้ านฉนวนผเุ ป่อื ยขาดจนสายไฟแตะกัน ข.ฉนวนท่ีหุ้มสายไฟในบา้ นทบั แตะกบั มากเกนิ ค. ในบ้านใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟ้ามากเกนิ จนไฟฟ้าตก ง. เวลาเสยี บปล๊กั หรือเตา้ เสียบขาหลวมผดิ ปกติ เฉลย ง บตั รข้อสอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สาํ นักงาน กศน. จงั หวัด/กทม กระบี่
ระดบั ประถมศกึ ษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรพู้ ืน้ ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานที่ มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้/หวั เร่ือง อาชีพช่างไฟฟ้า ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง นาํ ความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาํ วัน พฤติกรรมท่ีวัด จํา เข้าใจ นาํ ไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมิน 58.อปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนกิ สต์ ามข้อใดที่ใช้วัดค่าของกระแสไฟฟา้ และค่าความตา่ งศักย์ของไฟฟา้ ในวงจร ก.ไดโอด ข. แอมมิเตอร์และโวลต์มเิ ตอร์ ค. กัลปว์ านอมิเตอร์และแอมมเิ ตอร์ ง. แอมมิเตอร์และโอห์มมิเตอร์ เฉลย ข บตั รข้อสอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สํานักงาน กศน. จังหวัด/กทม กระบี่ ระดับ ประถมศึกษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรู้พน้ื ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานท่ี มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะพน้ื ฐานเกยี่ วกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนร/ู้ หวั เรื่อง อาชพี ชา่ งไฟฟ้า ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวงั นําความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตประจําวัน พฤตกิ รรมที่วดั จาํ เขา้ ใจ นาํ ไปใช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ 59.อุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสต์ ามขอ้ ใดที่ใชส้ ําหรบั ปดิ - เปดิ ให้กระแสไฟฟา้ ไหลในวงจร ก. สวติ ช์ ข. ไดโอด ค. วงจรรวม
ง.ทรานซิสเตอร์ เฉลย ก บัตรข้อสอบ กศน.อาํ เภอ/เขต คลองท่อม สาํ นกั งาน กศน. จังหวัด/กทม กระบ่ี ระดับ ประถมศกึ ษา ม.ต้น ม.ปลาย สาระ ความรู้พนื้ ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 31001) มาตรฐานที่ มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะพนื้ ฐานเกยี่ วกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้/หวั เรื่อง อาชีพชา่ งไฟฟ้า ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง อธิบายการใชอ้ ุปกรณืไฟฟ้าในการจดั การอาชีพได้ พฤติกรรมที่วดั จํา เข้าใจ นําไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ 60.หลักการทํางานของอุปกรณ์ในข้อใด ทีเ่ กิดจากการหมนุ ของขดลวดในสนามแมเ่ หลก็ แล้วไดก้ ระแสไฟฟา้ ใน ขดลวด ก. มอเตอร์ ข. ไดนาโม ค. เซลลไ์ ฟฟ้าเคมี ง. เครอ่ื งวัดกระแสไฟฟา้ เฉลย ง บตั รขอ้ สอบวชิ าสังคม ม.ตน๎ ขอ๎ ที่ 1. ทกุ ศาสนามีคมั ภีรห์ รือตาราทางศาสนาเปน็ หลกั ในการส่ังสอน คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเรียกวํา ก. อัลกุรอาน ข. ไบเบลิ ค. พระไตรปฎิ ก ง. พระอภธิ รรม ขอ๎ ท่ี 2. เจ๎าชายสิทธตั ถะ สัมพันธ์กบั ข๎อใด ในฐานะผูใ๎ ห๎กาเนิด ก. พระเจ๎าสุทโธทนะ – พระนางสริ มิ หามายา ข. พระเจ๎าพิมพสิ าร - พระนางโกศลเทวี ค. พระเจ๎าอโศกมหาราช – พระนางหัตถา ง. พระเจา๎ รามา – พระนางปยิ า ขอ๎ ท่ี 3. ความสาคัญของงานทกุ ชนดิ คือผลของหลักธรรมในขอ๎ ใด
ก. ความพอใจ ข. ความอดทน ค. ความสามคั คี ง. ความเกรงกลวั ข้อที่ 4. พระวนิ ยั ปฏิ ก เป็นธรรมที่เกย่ี วกบั กฎเกณฑพ์ ระสงฆ์ กาหนดไว๎กข่ี ๎อ ก. 220 ขอ๎ ข. 225 ขอ๎ ค. 227 ข๎อ ง. 231 ขอ๎ ขอ้ ท่ี 5. การปฏิบัตติ ามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา จะกํอให๎เกิดประโยชนอ์ ยาํ งไร ก. เปน็ ผ๎ูประพฤติตนดี ข. ไมเํ บียดเบยี นผอ๎ู น่ื ค. เป็นคนชอบชํวยสังคม ง. ถกู ทกุ ข๎อ ขอ้ ท่ี 6. พระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยหูํ วั ภมู ิพลอดุลยเดช ทรงใช๎หลักธรรมในการดารงชวี ิตทั้งหมดกีข่ ๎อ ก. 23 ขอ๎ ข. 24 ข๎อ ค. 25 ขอ๎ ง. 25 ข๎อ ขอ้ ท่ี 7. การแก๎ใขปัญหาความขดั แย๎งในสงั คม วิธีใดเปน็ วิธที ด่ี ที ส่ี ดุ ก. ใชห๎ ลักธรรมทางศาสนา ข. ใช๎หลักกฎหมาย
ค. ใชห๎ ลักเจรจา ง. ใช๎คณะกรรมการ ข้อที่ 8. สังคมที่มีความเจรญิ ก๎าวหน๎าทางวัตถเุ ป็นสังคมวตั ถนุ ิยม ประชาชนควรมีคาํ นยิ มใดจึงจะเหมาะสม ก. รู๎รักสามัคคี ข. มรี ะเบยี บวนิ ัย ค. ใชช๎ ีวติ เรยี บงําย ง. ประหยัดและนิยมไทย ขอ้ ที่ 9. ขอ๎ ใดคือจุดมงํุ หมายของประเพณีการแหํนางแมวและแหํบงั้ ไฟของภาคอสี าน ก. เพ่อื ขอฝน ข. เพื่อความสนุกสนาน ค. เพอ่ื แสดงความสามารถ ง. เพ่ือเปน็ การพกั ผํอนจาการทางาน ข้อท่ี 10. ประเพณใี ดชํวยสงํ เสรมิ ใหล๎ ูกหลานแสดงความกตญั ญแู กํญาติผูใ๎ หญํ ก. ประเพณลี อยกระทง ข. ประเพณีแรกนาขวัญ ค. ประเพณีสงกรานต์ ง. ประเพณีแหํเทยี นพรรษา ข้อที่ 11. ประเพณี วิ่งควาย อยํใู นจังหวดั ใด ก. ชัยนาท ข. ชยั ภูมิ ค. ชลบรุ ี ง. อาํ งทอง ขอ้ ที่ 12. ข๎อใดจดั เป็นประเพณีและวฒั นธรรมเกย่ี วกับอาชีพ
ก. พระราชพิธฉี ัตรมงคล ข. ประเพณีวนั วิสาขบูชา ค. ประเพณีตกั บาตรเทโวโรหณะ ง. พระราชพธิ ีจรดพระนังคัลแรกนาขวญั ขอ้ ที่ 13. นักเรียนในฐานะสมาชกิ ในชมุ ชน เม่อื พบวํา วัฒนธรรม ประเพณีพ้ืนบ๎านกาลังถูกลมื สญู หายไปหรือปฏบิ ัติไดไ๎ มํ ถกู ต๎อง เพื่อเป็นการสบื ทอดวฒั นธรรมและประเพณีให๎ถูกต๎อง นกั เรยี นสมควรปฏบิ ตั ิตนตามข๎อใด จึงจะเหมาะสม ทส่ี ดุ ก. เขา๎ รํวมในกจิ กรรมประเพณีพื้นบา๎ นทจ่ี ดั ขึน้ ข. เสนอโครงการรณรงค์อนุรักษว์ ัฒนธรรมประเพณีพนื้ ฐาน ค. จดั แสดงนิทรรศการดา๎ นวฒั นธรรมและประเพณีพน้ื บา๎ นในแตํละท๎องถิ่น ง. ฝึกอาสาสมคั รหมบํู ๎านเป็นผู๎นาหรือตัวแทน เผยแพรํวฒั นธรรมประเพณีท่ถี ูกต๎อง เฉลย ข๎อ ก. เขา๎ รวํ มในกจิ กรรมประเพณีพ้ืนบ๎านทจ่ี ดั ขน้ึ ข้อที่ 14. นักเรยี น รํวมมือกันปลกู ป่าชายเลน เพื่อเปน็ การอนุรักษส์ ํงแวดลอ๎ ม จดั ได๎วาํ เปน็ พลเมืองดีในเรื่องใด ปฏบิ ัติตนตามหลักศลี ธรรม ก. เหน็ แกปํ ระโยชนส์ วํ นรวม ข. ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของสงั คม ค. เคารพในสิทธเิ สรภี าพของผอู๎ ่ืน ขอ้ ที่ 16. ประชาธิปไตยหมายถึง ก. ระบอบการปกครองท่ีมีมตปิ ระชาชนเปน็ สํวนใหญํหรอื การถือเสียงข๎างมากเปน็ สํวนใหญํ ข. การปกครองของประชาชน โดยประชาชนและเพ่ือประชาชน ค. การทีป่ ระชาชนมีอานาจปกครองตนเองหรือ ประชาธปิ ไตย เป็นวถิ ีชวี ติ แบบหนึง่ ซง่ึ มีแบบแหงํ พฤติกรรม ในทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม รักษาระเบยี บ ง. ถกู ทุกข๎อ ขอ้ ที่ 15. ความเจรญิ ทางดา๎ นใดทีส่ ํงผลใหป๎ ระเทศชาติพัฒนาได๎อยํางยั่งยืน ก. ความเจรญิ ทางดา๎ นวัตถุ ข. ความเจริญทางด๎านจติ ใจ ค. ความเจริญทางด๎านครอบครวั ง. ถูกท้งั ข๎อ ก และ ข
ข้อที่ 17. ศกั ดิศ์ รีความเป็นมนุษย์เกีย่ วข๎องกบั เร่ืองใดมากทสี่ ุด ก.สิทธิ ข.หนา๎ ท่ี ค.บทบาท ง.สถานภาพ ขอ๎ ท่ี 18. การใช๎ชวี ิตประชาธปิ ไตย ตอ๎ งเรม่ิ ต๎นที่ใดเป็นแหงํ แรก ก. ครอบครวั ข. โรงเรยี น ค. ไปใช๎สทิ ธเิ ลือกตัง้ ง. การเลอื กตง้ั ผู๎ใหญํบา๎ น ข้อท่ี 19. ผ๎ใู ดตอํ ไปน้ขี าดคณุ สมบัติในการเลือกต้งั เป็นสมาชกิ สภาผ๎ูแทนราษฎร ก.นายเมธาวีจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ข.นางสาวองิ อรไมํไปเลือกตง้ั ทกุ ครั้ง ค.นายวไิ ลย์ไปเลือกตัง้ ทุกครั้ง ง.นายสรเพชรสังกดั พรรกการเมือง ข้อท่ี 20. การปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ทาใหเ๎ กิดผลดอี ยํางไร ก. รายได๎เพ่ิมขึ้น ข. สังคมสงบสุข ค. ได๎รบั ยกยํองชมเชย ง. รับบาลมีความม่ันคง ขอ้ ที่ 21. ขอ๎ ใดเปน็ หน๎าท่ขี องพลเมืองดีที่มีตํอประเทศ ก. นับถอื พระพุทธศาสนา ข. ประกอบอาชีพสุจริต ค. แตงํ กายให๎ทันสมยั ง. ละเมิดสิทธผิ ูอ๎ ่นื ข้อท่ี 22. ขอ๎ ใดไมํใชํการอยรํู ํวมกนั ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ก. ชํวยเหลอื ซ่งึ กันและกัน ข. ใชเ๎ หตผุ ลในการแกป๎ ญั หา
ค. ปฏบิ ัติตํอกันด๎วยความเคารพ ง. ถอื วําเสียงสํวนน๎อยเปน็ ฝ่ายผิด ข้อท่ี 23. ข๎อใดคอื ความสาคัญของกฎหมาย ก. มีความเก่ยี วข๎องกับมนุษย์ต้ังแตเํ กิดจนตาย ข. เป็นเครอื่ งมือสรา๎ งระเบยี บใหส๎ ังคมและประเทศชาติ ค. กํอให๎เกิดความเปน็ ธรรมในสงั คม ง. ถูกทุกข๎อ ขอ๎ ท่ี 24. ขอ๎ ใดเรยี งลาดับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา 5 สถานจากโทษหนักไปโทษเบาไดถ๎ ูกต๎อง ก. ประหารชีวิต จาคุก กักขัง ปรบั ริบทรพั ย์สนิ ข. ประหารชวี ิต กักขัง จาคุก ปรบั ริบทรพั ย์สิน ค. จาคุก ประหารชีวิต กักขัง ปรบั ริบทรพั ย์สนิ ง. ประหารชวี ติ จาคกุ ปรบั กักขงั ริบทรัพย์สนิ ขอ้ ท่ี 25. ขอ๎ ใดจาเป็นตอ๎ งใช๎เพ่อื แสดงตนในการใชส๎ ทิ ธิ์เลือกตัง้ ก. บตั รประจาตวั ประชาชน ข. ใบขบั ข่ี ค. บตั ร อสม. ง. บัตรประจาตัวนักศึกษา ขอ้ ท่ี 26. การปฏิบตั ิตามกฎจราจรควรทาตามข๎อใด ก. สวมหมวกกันนอ็ คเม่ือขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ข. คาดเข็มขัดนิรภัยเม่อื ขบั ขีร่ ถยนต์ ค. หยุดเมื่อสญั ญาณไฟแดง ง. ถกู ทกุ ขอ๎ ขอ้ ท่ี 27. ประชาชนอายุเทําใดจงึ มีสิทธ์ใิ นการถาํ ยบัตรประชาชน ก. 7 ปี ข. 8 ปี ค. 9 ปี ง. 10 ปี ขอ้ ที่ 28. หลักสาคัญในการประชมุ รํวมกันคืออะไร
ก. รกั ษาระเบียบ ข. มีสวํ นรํวมในการจัดประชุม ค. ยอมรับฟังความคดิ เห็นของผูอ๎ นื่ ง. เคารพกฎกติกา ขอ้ ที่ 29. ผ๎ทู ป่ี ระกอบอาชีพลกู จ๎างอยใํู นความค๎ุมครองของกฎหมายใด ก. กฎหมายแพงํ ข. กฎหมายอาญา ค. กฎหมายครอบครัว ง. กฎหมายประกันสงั คม ข้อท่ี 30. เพราะเหตใุ ดประชาชนจงึ ควรมีความร๎ทู างกฎหมาย ก. เพอ่ื ให๎ทันยุคทนั สมยั กับเหตุการณ์ปจั จบุ ัน ข. นามาสรา๎ งอทิ ธิพลใหก๎ ับตนเองเพือ่ ใชข๎ ํมขํูคนอ่ืน ค. เพือ่ นาไปใชแ๎ สวงหาผลประโยชนเ์ ขา๎ ตนเองให๎ได๎มากที่สดุ ง. ป้องกันไมํใหผ๎ ูอ๎ ื่นเอาเปรยี บ และถกู โกงด๎วยความไมรํ กู๎ ฎหมาย บตั รขอ้ สอบ ขอ้ ท่ี 1. อาชพี หมายถึง อะไร ข้อใดตอบไดถ้ ูกต้องท่สี ดุ ก. การประกอบการที่มรี ายได้ ข. รายไดจ้ ากการใช้แรงงาน ค. การประกอบการจากการใชแ้ รงงาน ง. การประกอบการท่ีมรี ายได้ตอบแทนโดยใช้แรง
เฉลย ง. การประกอบการที่มีรายไดต้ อบแทนโดยใช้แรง ข้อท่ี 2. ขอ้ ใดเป็นอาชีพท่ีเกี่ยวกับงานบา้ นทัง้ หมด ก. ผ้าและเครื่องแต่งกาย เคร่ืองด่ืม ขนม ข. ผ้าและเครื่องแต่งกาย อาหาร และโภชนาการ ค. ผ้าและเคร่ืองแตง่ กาย อาการ และเครอ่ื งดื่ม ง. ผ้าและเครื่องแต่งกาย เคร่ืองด่ืม เฉลย ข. ผา้ และเครือ่ งแตง่ กาย อาหาร และโภชนาการ ขอ้ ที่ 3. ความสาคัญของอาหารมีวาํ อยํางไร ก. ทาใหร๎ าํ งกายมกี ารเจริญเติบโต ข. ทาใหร๎ ํางกายมีภมู ติ า๎ นทานโรค ค. มอี ายยุ นื ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ง. ถกู ทกุ ข๎อ ข้อที่ 4. อาหารหลกั 5 หมํู อาหารประเภทผกั ใบเขยี ว พชื ผักตํางๆ อยูํในหมวดหมูใํ ด ก. หมํทู ่ี 1 ข. หมูํที่ 2 ค. หมูํท่ี 3 ง. หมทํู ่ี 4 เฉลย ค. หมํทู ่ี 3 ขอ้ ท่ี 5. อาหารประเภทน้ามนั หมู น้ามนั ถั่ว นา้ มันงา นา้ มันราข๎าว อยํูในหมวดหมูํใด ก. หมทํู ่ี 1 ข. หมํูที่ 2 ค. หมูํท่ี 3 ง. ไมํมีขอ๎ ใดถกู เฉลย ง. ไมํมขี ๎อใดถูก ข้อท่ี 6. การเก็บอาหารสดประเภทเนอ้ื สตั ว์ มีวธิ ีการเกบ็ แบใด ก. แชํในตู๎เย็น หรอื ถงั น้าแขง็ ข. ลา๎ งแลว๎ แชํเยน็ ค. ลา๎ งแล๎วซับใหแ๎ หง๎ แชใํ นชอํ งเย็นจัด
ง. ไมมํ ีขอ๎ ถกู เฉลย ค. ล๎างแลว๎ ซบั ใหแ๎ ห๎ง แชํในชํองเยน็ จัด ข้อท่ี 7. ปยุ๋ เคมเี ปน็ สารประกอบที่ได๎จาก อะไร ก. สารประกอบที่ได๎จากสง่ิ มีชวี ิต ข. สารประกอบของอินทรีย์ ค. สารประกอบจากอนนิ ทรยี ท์ ี่ใหธ๎ าตุอาหารพชื ง. สารประกอบจากทริปเปลิ ซุปเปอร์ฟอสเฟส เฉลย ค. สารประกอบจากอนนิ ทรีย์ทีใ่ หธ๎ าตอุ าหารพชื ขอ้ ท่ี 8. วสิ าหกจิ ชุมชน คือ อะไร ก. การประการโดยชุมชนท่มี สี มาชกิ ชุมชนเปน็ เจา๎ ของปัจจัยการผลติ ข. การประการโดยมอี งค์กรทมี่ สี มาชิกองคก์ รเป็นเจ๎าของปัจจัยการผลติ ค. การประกอบการโดยมี บคุ คลที่มีสมาชกิ บุคคลเปน็ เจ๎าของปจั จยั กาผลิต ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ก. การประการโดยชุมชนทมี่ ีสมาชิกชมุ ชนเป็นเจ๎าของปจั จยั การผลิต ขอ้ ที่ 9. วสิ าหกิจชมุ ชน เป็นแนวคิดที่มงํุ หวงั ในเรื่องใด ข๎อใดกลาํ วผดิ ก. มงุํ กระจายผลประโยชนค์ วบคูํไปกับ การสรา๎ งสังคม ข. มุํงผลติ หรือบรกิ าร ค. มุงํ เสริมสร๎างสขุ ภาพสังคม ง. มงํุ ดา๎ นการบรโิ ภคแบบพึง่ พาตนเอง เฉลย ก. มํงุ กระจายผลประโยชนค์ วบคไํู ปกับ การสร๎างสงั คม ข้อที่ 10. ประโยชนข์ องการทาบัญชี ขอ๎ ใดกลําวถูก ก. เจา๎ ของกิจการทราบวําธรุ กิจมกี าไรหรือขาดทุน
ข. ทราบเกี่ยวกับราคาส่งิ ของท่ีซ้ือและราคาขายผลผลิต ค. เป็นข๎อมลู การพฒั นาธุรกิจในครั้งตํอไป ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ง. ถูกทุกข๎อ ขอ๎ ที 11. แรทํ องคา มีมากทีป่ ระเทศอะไร ก. ออสเตรเลยี ข. มาเลเซีย ค. ฟลิ ิปินส์ ง. อนิ โดนีเซยี เฉลย ก. ออสเตรเลีย ข๎อที่ 12. ภูมภิ าคแอฟริกา มีการดาเนนิ งานอาชพี ด๎านใด ก. ดา๎ นอตุ สาหกรรม ข. ดา๎ นเกษตร ค. ด๎านการประมง ง. ดา๎ นเกษตรกรรม เฉลย ก. ด๎านอุตสาหกรรม. ขอ๎ ท่ี 13.การเล้ยี งสัตว์ในเขตอเมรกิ าใต๎ และอเมริกาเหนือ มกี ารเล้ยี งสัตว์ใดบา๎ ง ก. โคเนอื้ โคนม ข. สุกร ค. กระบือ ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ก. โคเนือ้ โคนม ข๎อที่ 14.แผนพัฒนาเศรษฐกจิ สังคมแหํงชาติ ( พ.ศ. 2555- 2559 ) คอื ฉบบั ใด ก. ฉบบั ท่ี 11
ข. ฉบบั ท่ี 12 ค. ฉบับที่ 13 ง. ฉบับท่ี 14 เฉลย ก. ฉบับที่ 11 ขอ๎ ที่ 15.สํวนมากปา่ ไม๎ในเขตหนาวจะเปน็ ป่าอะไร ก. ป่าตน๎ สน ข. ป่าไมด๎ งดบิ ค. ปา่ ไมเ๎ นื้อแข็ง ง. ปา่ ไมํธรรมชาติ เฉลย ก. ปา่ ตน๎ สน ข๎อที่ 16.การจดั การตลาด หมายถงึ ก. การซอ้ื ขาย ข. การประกอบอาชพี ค. การซอื้ มา ขายไป ง. การวเิ คราะห์ การวางแผน การปฏิบัติงาน เฉลย ง. การวเิ คราะห์ การวางแผน การปฏิบัตงิ าน ขอ๎ ที่ 17.ปจั จัยการผลิตซง่ื แบํงออกเป็นกี่ชนดิ ก. 1 ชนิด ข. 2 ชนิด ค. 3 ชนิด ง. 4 ชนิด เฉลย ข. 2 ชนิด ข๎อท่ี 18.ปรัชญา ใดทเี่ ช่ือวาํ มนษุ ยท์ ุกคนมีพื้นฐานชวี ิตทแี่ ตกตาํ งกนั ก. คดิ เป็น ข. ทาเป็น ค. อาํ นเป็น ง. แสดงความคดิ เหน็ เฉลย ก. คดิ เป็น ขอ๎ ที่ 19.ลักษณะของคนคิดเป็นมกี ปี่ ระเภท ก. 7 ประการ ข. 8 ประการ ค. 9 ประการ
ง. 10 ประการ เฉลย ข. 8 ประการ ข๎อท่ี 20.ปัจจยั การผลติ มอี ะไรบ๎าง ก. เงนิ ทนุ ที่ดนิ แรงงาน ข. ความถนดั ของแตํละบุคคล ค. ความรักและความจรงิ ใจ ง. ที่อยํูรอบๆๆตัวเรา เฉลย ก. เงินทนุ ทดี่ นิ แรงงาน ขอ้ ท่ี 21 สังคม ชมุ ชน หมายถงึ ก. สถานที่ประกอบอาชีพ ข. สถานทที่ างาน ค. สถานท่ปี ระกอบการ ง. สถานทส่ี งํ เสียงดงั เฉลย ก. ข้อที่ 22. มนษุ ยจ์ ะเลือกหนทางไหนในการดาเนนิ ชีวิตถึงจะเกิดความสุข ก. การคิดเป็น ข. การทาเปน็ ค. การพูดเป็น ง. การกลา๎ แสดงออก เฉลย ก. การคดิ เป็น ข้อท่ี 23. การแก๎ไขปัญหาตาํ งๆ จะนาข๎อมูลมาประกอบการตัดสินใจอยาํ งน๎อยกี่ประการ ก. 3 ประการ ข. 4 ประการ ค. 5 ประการ ง. 6 ประการ เฉลย ก. 3 ประการ ข้อที่ 24.จุดค๎มุ ทนุ หมายถึง ก. ปรมิ าณการขายที่ทาใหม๎ ีรายไดท๎ ้ังหมดเทํากบั ต๎นทนุ ข. ได๎กาไรสูง ค. มีการลงทนุ ของปจั จยั การผลิต
ง. รายได๎จากการขายผลผลิต เฉลย ก. ปริมาณการขายทที่ าให๎มีรายได๎ท้ังหมดเทาํ กับตน๎ ทุน ข้อท่ี 25.สถานภาพของปัญหา มอี ะไรบ๎าง ก. ตนเอง ข. สังคม ค. วิชาการ ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ง. ถูกทกุ ขอ๎ ข้อท่ี 26. ทรพั ยากรธรรมชาติ หมายถงึ ก. สิ่งท่ีเกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ ข. สิง่ ทม่ี นษุ ยส์ ร๎างขึ้น ค. ส่ิงที่ใช๎แล๎วหมดไป ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ก. ส่งิ ท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ขอ้ ท่ี 27.การวิเคราะหศ์ ักยภาพมกี ่ีด๎าน ก. 3 ดา๎ น ข. 4 ดา๎ น ค. 5 ดา๎ น ง. 6 ดา๎ น เฉลย ค. 5 ดา๎ น ข้อท่ี 28. ประเทศไทย ภาคกลางมอี ากาศ แบบใด ก. อากาศร๎อน ข. อากาศหนาว ค. อากาศเย็น ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ก. ถูกทกุ ข๎อ ข้อที่ 29.ประเทศไทย ภาคเหนอื มีอากาศแบบใด ก. อากาศเย็น ข. อากาศหนาว ค. อากาศร๎อน ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ก. อากาศเยน็
ขอ้ ที่ 30. พนื้ ท่ีราบลมํุ เหมาะแกํการปลูกพชื ชนดิ ใด ก. ข๎าวโพด ข. ข๎าว ค. มนั สาปะลงั ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ข. ข๎าว ข้อท่ี 1. ข้อใดคือความหมายของทัศนศลิ ป์ที่ถูกท่สี ดุ ก. ศลิ ปะท่ีรับรู๎ได๎ด๎วยการมอง ได๎แกํรูปภาพทวิ ทัศน์ท่ัวไปเป็นสาคัญอันดบั ตน๎ ๆ ข. ศลิ ปะทีร่ บั ร๎ไู ดด๎ ๎วยการเหน็ คือรูปภาพคน ค. ศลิ ปะที่รับร๎ูได๎ด๎วยการมอง คอื เน๎นเฉพาะภาพทิวทัศน์เปน็ สาคญั ง. ศลิ ปะท่ีรับรู๎ได๎ด๎วยการมอง คือ เนน๎ เฉพาะภาพชุมชนพื้นบา๎ น เฉลย ก. ศิลปะท่รี ับรไ๎ู ด๎ด๎วยการมอง ไดแ๎ กรํ ูปภาพทิวทศั น์ท่ัวไปเป็นสาคัญอันดับต๎น ๆ ข้อท่ี 2. ทัศนศลิ ปพ์ น้ื บ้าน หมายถึงข้อใด ก. ผลงานทางศิลปะที่ดีของชาวบ๎าน ข. ผลงานทางศลิ ปะท่มี ีความงาม ความเรยี บงาํ ยจากฝมี ือชาวบ๎านท่วั ๆ ไป ค. ศลิ ปะทช่ี าวบ๎านสรา๎ งสรรค์ขึ้นมา ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ข. ผลงานทางศลิ ปะท่ีมีความงาม ความเรียบงํายจากฝีมือชาวบ๎านทว่ั ๆ ไป ข้อท่ี 3. การนาองคป์ ระกอบทางทัศนศิลป์ มาจัดภาพให้ปรากฏเด่น และจดั เรื่องราวส่วนประกอบตา่ ง ๆ ในภาพเข้า ดว้ ยกันอย่างเหมาะสมเรยี กวา่ อะไร ก. การวางภาพ ข. การวาดภาพ ค. การจัดภาพ ง. การผสมองคป์ ระกอบภาพ เฉลย ค. การจดั ภาพ ข้อท่ี 4. ขอ้ ใดคือ ศิลปะพ้ืนบ้านของไทยท่ปี รากฏตามทอ้ งถนิ่ ต่าง ๆ ก. สมดุ ขอํ ย ข. พานบายศรี ค. หนุํ กระบอก ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ง. ถูกทุกข๎อ ขอ้ ที่ 5. การวิเคราะห์ วจิ ารณ์ ถึงความสวยงานของทัศนศลิ ป์พน้ื บา้ นมีแนวทางก่ดี ้าน ก. 1 ดา๎ น คือ ด๎านความงาม
ข. 2 ด๎าน คอื ด๎านความงาม ด๎านสาระ ค. 3 ด๎าน คือ ด๎านความงาม ดา๎ นสาระ ด้านอารมณแ์ ละความรู้สึก ง. 4 ด๎าน คอื ด๎านความงาม ด๎านสาระ ดา้ นอารมณ์ ด๎านชุมชนสังคม เฉลย ค. 3 ดา๎ น คือ ด๎านความงาม ดา๎ นสาระ ดา้ นอารมณ์และความรสู้ กึ ขอ้ ท่ี 6. งานทัศนศิลป์ใด เป็นงานทศั นศิลปพ์ ้นื บ้านทอี่ อกแบบให้กลมกลนื กับธรรมชาติ ก. พานบายศรี ข. ไซดกั ปลา ค. หุํนกระบอก ง. สมุดข่อย เฉลย ข. ไซดกั ปลา ข้อท่ี 7. ขอ้ ใดคือ ความหมายของคาวา่ เคร่ืองแต่งกาย ก. สง่ิ ทีม่ นุษย์นามาใช๎เป็นเคร่ืองหอํ หุ๎มรํางกาย ข. สง่ิ ทมี่ นุษยน์ ามาใชเ๎ ปน็ เครื่องหอํ ห๎ุมราํ งกาย จากธรรมชาติ ค. ส่งิ ทที่ าใหม๎ นุษย์มีความสวยงามเม่ือสวมใสํ ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ก. ส่งิ ทม่ี นุษย์นามาใช๎เป็นเครื่องหํอหุ๎มราํ งกาย ขอ้ ท่ี 8. ขอ้ ใดคอื ความสาคญั ของวฒั นธรรมและประเพณี ก. แสดงใหเ๎ ห็นความแตกตาํ งของบุคคล กลมุํ คนหรอื ชมุ ชน ข. เป็นตวั กาหนด ปจั จยั 4 คือ อาหาร เคร่ืองนุํงหํม ทีอ่ ยูํอาหาร ยารกั ษาโรค ค. เปน็ สิง่ ทีบ่ อกใหร๎ ูว๎ ําคนแตกตาํ งจากสตั ว์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ เฉลย ง. ถูกทกุ ข้อ ข้อท่ี 9. นาฏศลิ ป์พ้นื บ้านเป็นการแสดงทสี่ ะทอ้ นความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคตา่ งๆ ของประเทศไทยยกเวน้ ข้อใด ก. แสดงตามลกั ษณะพืน้ ที่ ข. แสดงตามสภาพสังคมปัจจุบนั ค. แสดงตามวัฒนธรรมทอ๎ งถ่ิน ง. แสดงตามประทีม่ ีอยคํู ํูกบั สังคมชนบท เฉลย ข. แสดงตามสภาพสังคมปจั จุบนั ขอ้ ท่ี 10. ขอ้ ใดคือการฟ้อน แบบอย่างดั่งเดิม ของภาคเหนือทั้งหมด ก. ฟ้อนเมือง ฟ้อนมําน ฟ้อนเง้ียว ข. ฟ้อนเลบ็ ฟ้อนสาวไหม ฟอ้ นเงีย้ ว ค. ฟอ้ นเมือง ฟ้อนมําน ฟ้อนเทียน ง. ฟ้อนลํองนําน ฟ้อนมําน ฟอ้ นเล็บ เฉลย ก. ฟอ้ นเมือง ฟ้อนมําน ฟอ้ นเงีย้ ว
ข้อที่ 11. ขอ้ ใดเป็นเคร่ืองดนตรีทใ่ี ช้ประกอบการฟอ้ นเล็บ ก. ป่ีแน ระนาด ฉาบ ฉิง่ ข. ซอ กลองแอว ฉงิ่ โหมํง ค. ป่ีแน กลองแอว ฉาบ โหมํง ง. ซงึ กลองแขก ฉาบ โหมํง เฉลย ค. ปแี่ น กลองแอว ฉาบ โหมํง ข้อที่ 12. ราเหย่อย คือ การราพนื้ เมอื งทเี่ ก่าแกช่ นิดหนึ่งของภาคกลาง มีต้นกาเนิดท่ีจงั หวดั ใด ก. พระนครศรอี ยธุ ยา ข. สุโขทัย ค. พิษณโุ ลก ง. กาญจนบรุ ี เฉลย ง. กาญจนบรุ ี ขอ้ ท่ี13. การละเลํนชนิดใดเป็นการละเลนํ พ้ืนเมอื งของชาว ภูไท ก.การแสดงกลองกันตรมึ ข.การแสดงรรองเง็ง ค.การเซิ้งกระตบ๊ิ ขา๎ ว ง.การแสดงหนงั ตะลงุ เฉลย ค ขอ้ ท่ี14. ข๎อใดเป็นการแสดงนาฎศลิ ปพ์ ้นื บา๎ นของภาคใตข๎ องกลํุมวัฒนธรรมไทยพุทธ ก. การแสดงรอ็ งเง็ง ข.การแสดงลิเกซูลู ค.การแสดงซาเป็ง ง.การแสดงโนรา เฉลย ง ขอ้ ท่ี15. เครอื่ งดนตรที ่ียงั คงเปน็ เอกลกั ษณ์ของการแสดงโนราและชาตรีคือข๎อใด ก. โทน( ทน ) ฆ๎อง และ ป่ี ข. ซอดว๎ ง แคน ค. กลองกันตรึม ฉิ่ง ง. ปี่ออ๎ ปีส่ ไล และกรับ เฉลย ก. ขอ้ ท่ี 16. ข๎อใดกลําวถงึ ลกั ษณะของเครื่องดนตรีพ้ืนบ๎านได๎ถกู ต๎อง ก. เพลงพ้ืนบา๎ นมักเปน็ เพลงท่ีใชใ๎ นการประกอบกิจกรรมตํางๆ ข. รูปแบบของเพลงไมํพื้นบ๎านไมซํ บั ซอ๎ น เชํน การฟ้อนรา หรือ การเต๎นรา ค. ลีลาการรอ๎ งเพลงพ้นื บ๎านมักเป็นไปตามธรรมชาติ
ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ง ข้อที่ 17. ข๎อใดคือลักษณะเดํนของดนตรีพืน้ บ๎านของภาคกลางข๎อใดถกู ตอ๎ ง ก. วงปพี าทย์ ข. วงมโหรี ค. วงเครือ่ งสาย ง. วงเร่อื งสี เฉลย ก ข้อที่ 18. ขอ๎ ใดคือเคร่ืองดนตรที ใี่ ช๎ในงานสิรมิ งคล เปน็ ขวัญกาลังใจให๎แกํเหลําทหารในการตอํ สูํให๎ชยั ชนะ คือเคร่อื งดนตรี ประเภทใด ก. กลองตงิ โนง ข. กลองเตาํ ถง้ิ ค. กลองสะบัดชยั ง. กลองตะหลดปด เฉลย ค ขอ๎ ที่ 19. ข๎อใดคอื การอนรุ ักษแ์ ละสืบทอดผลงานทางดนตรขี อ๎ ใดกลาํ วไมํถกู ต๎อง ก. ศึกษาค๎นความความเป็นมาของวงดนตรปี ระเภทตํางๆทีส่ นใจ ข. รวบรวมหรอื จดบนั ทกึ เก่ยี วกับผลงานทางดนตรขี องศลิ ปินที่นําสนใจเพื่อใช๎เป็นข๎อมูลในการศึกษาหาความรูต๎ อํ ไป ค. ดนตรเี ป็นหลักฐานทางวทิ ยาศาสตร์ ง. ถา๎ มีโอกาสให๎ไปเย่ยี มชมพิพธิ ภณั ฑเ์ กี่ยวกับงานดนตรี เพื่อดูขอ๎ มูลหรือเรอื่ งราวเกย่ี วกบั ดนตรีและววิ ัฒนาการทาง ดนตรี เฉลย ค ขอ้ ที่ 20. คา “ผญา” เป็นแบบอยํางฉันทลักษณ์ที่เข๎าขน้ั วรรณกรรมพ้ืนบา๎ น ของภาคใด ก.ภาคเหนือ ข.ภาคกลาง ค.ภาคอสี าน ง.ภาคใต๎ เฉลย ค
กศน.อาเภอ/เขต โคกโพธ์ไิ ชย สานกั งาน กศน. จงั หวดั /กทม. ขอนแกํน ระดับ ประถมศึกษา ม.ตน๎ ม.ปลาย ชือ่ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความร๎ู ความเขา๎ ใจ และเจตคติทดี่ เี ก่ียวกับศลิ ปะและสุนทรียภาพ ขอบขํายสาระ ทักษะการดาเนนิ ชวี ิต รายวิชา.. ศิลปศกึ ษา ทช11003 ตวั บํงชี้..อธิบายแนวทางการอนุรักษ์นาฏศิลป์พืน้ บา๎ น วฒั นธรรมประเพณี และภูมิปญั ญาท๎องถน่ิ พฤติกรรมทวี่ ัด จา เข๎าใจ นาไปใช๎ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ คํา รปู แบบขอ๎ สอบ ปรนยั อตั นัย ข้อท่ี 21. ในสมัยใดถือวําเป็นยคุ ทอง ของเพลงพืน้ บา๎ นท่ีเปน็ เพลงปฏพิ ากย์ปรากฏเปน็ มหรสพในงานพระราชพิธีและมีการ สรา๎ งเพลงชนดิ ใหมๆํ ข้นึ มา ก. สมัยอยธุ ยา ข. สมยั รัตนโกสนิ ทร์ ค. สมยั สโุ ขทัย ง. สมยั กรงุ ธนบรุ ี เฉลย ข ลงช่ือ.....ชัยยา....หลาวเหลก็ ......ผู๎ออกขอ๎ สอบ (.นายชัยยา....หลาวเหลก็ ..) บตั รขอ้ สอบ กศน.อาเภอ/เขต โคกโพธไิ์ ชย สานักงาน กศน. จงั หวดั ขอนแกนํ ระดับ ประถมศึกษา ม.ตน๎ ม.ปลาย ชอื่ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู๎ ความเขา๎ ใจ และเจตคติที่ดีเกี่ยวกับศิลปะและสุนทรยี ภาพ ขอบขํายสาระ ทักษะการดาเนินชวี ิต รายวิชา.. ศลิ ปศึกษา ทช11003 ตวั บํงชี.้ .อธิบายแนวทางการอนุรักษ์นาฏศิลป์พนื้ บา๎ น วัฒนธรรมประเพณี และภมู ปิ ัญญาท๎องถิน่ พฤติกรรมทีว่ ดั จา เขา๎ ใจ นาไปใช๎ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ คาํ รปู แบบข๎อสอบ ปรนยั อตั นยั
ขอ้ ท่ี 22. ในฐานะทเ่ี ราเป็นนักศกึ ษาเราจะอนุรักษ์เพลงพ้นื บ๎านในทอ๎ งถิน่ อยาํ งไร ก. ร๎องบอํ ยๆ ข. อบรมสั่งสอนคนรุํนหลงั ใหอ๎ นุรักษ์ ค. จัดประเพณีอนรุ ักษเ์ พลงพนื้ บ๎าน ง. ถกู ทุกข๎อ เฉลย ง ลงชื่อ.ชัยยา.......หลาวเหลก็ ....ผอู๎ อกขอ๎ สอบ (.นายชัยยา หลาวเหลก็ ....) ......28........./...05........./...2556...... บัตรขอ้ สอบ กศน.อาเภอ / เขต โคกโพธไิ์ ชย สานักงาน กศน. จงั หวดั ขอนแกํน ระดับ ประถมศกึ ษา ม. ตน๎ ม. ปลาย ชือ่ มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามร๎ู ความเขา๎ ใจ และเจตคติทดี่ ี เกีย่ วกบั ศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ ขอบข่ายสาระ ชอํ งทางการจาหนําย รายวชิ า ศลิ ปศกึ ษา (ทช1103) ตวั บง่ ช้ี 1. บอกแนวทางการประกอบอาชีพผลิตเคร่ืองดนตรีพน้ื บ๎าน พฤติกรรมที่วดั จา เข๎าใจ นาไปใช๎ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมิน รปู แบบขอ้ สอบ ปรนัย อตั นยั ข้อท่ี 23. ปจั จยั หลกั ในการประกอบอาชีพส่ิงท่ีสาคญั ทีส่ ุดคือส่งิ ใด ก. เงนิ ทนุ ข. เพ่ือนบ๎าน ค. สถานที่ ง. ชมุ ชน เฉลย ก. เงินทุน ลงช่อื ……………………………….........ผู๎ออกข๎อสอบ ( นางสาวนศุ รา โสดา ) กศน.อาเภอ / เขต โคกโพธ์ไิ ชย สานักงาน กศน. จงั หวดั ขอนแกนํ ระดับ ประถมศึกษา ม. ต๎น ม. ปลาย ชื่อมาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามร๎ู ความเข๎าใจ และเจตคติทีด่ ี เกยี่ วกบั ศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ ขอบข่ายสาระ ลกั ษณะการผลติ เครื่องดนตรีพืน้ บา๎ น เชํน ขลํยุ กลองยาว แคน กลอง
รายวชิ า ศิลปศึกษา (ทช1103) ตวั บง่ ช้ี 1.อธิบายคณุ ลักษณะของเคร่ืองดนตรีพ้นื บ๎าน พฤตกิ รรมท่ีวดั จา เข๎าใจ นาไปใช๎ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ รูปแบบขอ้ สอบ ปรนยั อัตนยั ข้อท่ี 24. เครือ่ งดนตรีประเภท \" แคน\" เปน็ เคร่อื งดนตรีประเภทใด ก. ดดี ข. สี ค. ตี ง. เป่า เฉลย ง. เป่า ลงชอ่ื ……………………..…………..........ผอ๎ู อกข๎อสอบ ( นางสาวนุศรา โสดา ) กศน.อาเภอ / เขต โคกโพธิไ์ ชย สานกั งาน กศน. จงั หวัด ขอนแกํน ระดบั ประถมศึกษา ม. ต๎น ม. ปลาย ช่อื มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามร๎ู ความเขา๎ ใจ และเจตคติท่ดี ี เกี่ยวกบั ศิลปะและสนุ ทรียภาพ ขอบข่ายสาระ ลกั ษณะเครือ่ งดนตรพี ืน้ บา๎ น เชนํ ขลํุย แคน กลองยาว กลอง รายวชิ า ศลิ ปศึกษา (ทช1103) ตวั บ่งชี้ 1. อธิบายคณุ ลักษณะของเครอื่ งดนตรีพน้ื บ๎าน พฤตกิ รรมที่วัด จา เข๎าใจ นาไปใช๎ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ รูปแบบขอ้ สอบ ปรนยั อตั นยั ขอ้ ที่ 25. การตกี ลองสะบดั ชัยถือเป็นอาชพี การแสดงโชว์ ถ้าท่านตอ้ งการชมการแสดงดังกลา่ วควรไปชมไดท้ ่ภี ูมิภาค ใด ก. ภาคกลาง ข. ภาคใต๎ ค. ภาคเหนือ ง. ภาคอสี าน เฉลย ค. ภาคเหนอื ลงชือ่ …………………….……...... ....…...ผู๎ออกข๎อสอบ ( นางสาวนศุ รา โสดา ) กศน.อาเภอ / เขต โคกโพธิไ์ ชย สานักงาน กศน. จังหวัด ขอนแกํน ระดับ ประถมศึกษา ม. ต๎น ม. ปลาย ชอ่ื มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู๎ ความเข๎าใจ และเจตคติท่ดี ี เกยี่ วกับศิลปะและสุนทรยี ภาพ
ขอบขา่ ยสาระ ชอํ งทางการจาหนําย รายวิชา ศิลปศึกษา (ทช1103) ตวั บง่ ชี้ 1. บอกแนวทางการประกอบอาชีพผลิตเครื่องดนตรีพืน้ บ๎าน 2.สามารถบอกชอํ งทางการจาหนาํ ย พฤติกรรมท่ีวัด จา เขา๎ ใจ นาไปใช๎ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ รปู แบบขอ้ สอบ ปรนยั อัตนยั ข้อที่ 26. ถ้าต้องการผลติ เครื่องดนตรปี ระเภท \"แคน\"เพอ่ื จาหน่าย ควรเลอื กทาเลทตี่ ง้ั การผลติ และการตลาด ภูมิภาคใดเหมาะสมท่ีสดุ ก. ภาคเหนือ ข. ภาคใต๎ ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลย ง. ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ลงชอ่ื …………………........………...ผอู๎ อกข๎อสอบ ( นางสาวนศุ รา โสดา ) กศน.อาเภอ/เขต โคกโพธ์ิไชย สานักงาน กศน. จังหวดั ขอนแกน่ ประเมนิ คํา ระดับ ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน๎ มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจ และเจตคติทีด่ ีเก่ียวกับศิลปะและสุนทรียภาพ ขอบขํายสาระ ลักษณะการผลิตเคร่ืองดนตรีพืน้ บา๎ น เชํน ขลยํุ รายวิชา ทช11003 ศลิ ปศึกษา ตัวบงํ ช้ี อธบิ ายคณุ ลักษณะของเคร่ืองดนตรีพน้ื บา๎ น พฤติกรรมท่ีวดั จา เขา๎ ใจ นาไปใช๎ วิเคราะห์ สังเคราะห์ รูปแบบข๎อสอบ ปรนยั อตั นยั ขอ้ ที่ 27. ข๎อใดกลาํ วถึงลักษณะของขลุํยท่ีดีได๎ถกู ตอ๎ ง ก. ขลยุํ ทาจากไม๎ไผํเฉพาะพันธ์เุ ทาํ นน้ั ข. ไมไ๎ ผํทีท่ าขลํยุ สวํ นใหญํมาจากสระบุรแี ละนครราชสีมา ค. ไม๎ไผํมีข๎อโดยธรรมชาติ สวํ นปลายของขลุยํ ทีไ่ มใํ ช๎เป่ามีขอ๎ ตดิ อยูํด๎วยแตเํ จาะเป็นรู ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ง ลงช่ือ...................................ผ๎ูออกขอ๎ สอบ
( นางพลิ าภร อบุ ลสาร ) กศน.อาเภอ/เขต โคกโพธิ์ไชย สานักงาน กศน. จังหวดั ขอนแก่น ระดับ ประถมศกึ ษา มัธยมศกึ ษาตอนต๎น มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามร๎ู ความเข๎าใจ และเจตคติทดี่ เี กยี่ วกับศลิ ปะและสุนทรียภาพ ขอบขํายสาระ ลักษณะการผลติ เครื่องดนตรีพน้ื บ๎าน เชํน ขลุํย รายวิชา ทช11003 ศิลปศกึ ษา ตัวบํงช้ี อธบิ ายคุณลกั ษณะของเครื่องดนตรีพื้นบา๎ น พฤติกรรมที่วัด จา เขา๎ ใจ นาไปใช๎ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คาํ รูปแบบขอ๎ สอบ ปรนยั อตั นยั ข้อที่ 28. แคนแบงํ ตามรูปราํ งและลกั ษณะการบรรเลงสามารถแบงํ ออกได๎กี่ชนดิ ก. 2 ชนดิ คือ แคนหก แคนเจ็ด ข. 3 ชนดิ คือ แคนหก แคนเจ็ด แคนแปด ค. 4 ชนดิ คือ แคนหก แคนเจด็ แคนแปด แคนเกา๎ ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ค. ลงช่อื ...................................ผอ๎ู อกข๎อสอบ ( นางพลิ าภร อุบลสาร ) กศน.อาเภอ/เขต โคกโพธ์ิไชย สานักงาน กศน. จังหวดั ขอนแกน่ ประเมินคาํ ระดับ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน๎ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจ และเจตคติทด่ี ีเก่ียวกับศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ ขอบขํายสาระ ลักษณะการผลิตเครื่องดนตรีพ้ืนบ๎าน เชนํ ขลุํย รายวิชา ทช11003 ศิลปศกึ ษา ตวั บงํ ช้ี อธบิ ายคณุ ลักษณะของเครื่องดนตรีพนื้ บา๎ น พฤติกรรมที่วดั จา เขา๎ ใจ นาไปใช๎ วิเคราะห์ สังเคราะห์ รูปแบบข๎อสอบ ปรนยั อัตนยั ข้อท่ี 29. กรรมวิธีในการทากลองแขกมีก่ีขัน้ ตอน ก. 3 ขน้ั ตอน ข. 4 ขน้ั ตอน ค. 5 ข้นั ตอน ง. 6 ขน้ั ตอน เฉลย ค ลงชือ่ ...................................ผ๎อู อกข๎อสอบ
( นางพลิ าภร อบุ ลสาร ) กศน.อาเภอ/เขต โคกโพธไ์ิ ชย สานักงาน กศน. จังหวดั ขอนแกน่ ระดับ ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต๎น มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู๎ ความเขา๎ ใจ และเจตคติทด่ี ีเกยี่ วกบั ศิลปะและสุนทรยี ภาพ ขอบขํายสาระ ลกั ษณะการผลติ เคร่ืองดนตรีพืน้ บ๎าน เชํน ขลยํุ รายวิชา ทช11003 ศลิ ปศกึ ษา ตวั บํงชี้ อธิบายคณุ ลกั ษณะของเครื่องดนตรีพื้นบ๎าน พฤตกิ รรมที่วดั จา เขา๎ ใจ นาไปใช๎ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมินคํา รูปแบบขอ๎ สอบ ปรนยั อัตนยั ข้อท่ี 30. ข๎อใดคอื เอกลักษณ์ของกลองแขก ก. รปู ทรงสวยงาม ข. เสียงดังกงั วานทุกเสียงถูกต๎องตามความนิยม ค. ทนทานไมํขาดงํายมีอายกุ ารใชง๎ านยาวนาน ง. ถูกทุกข๎อ เฉลย ง ลงช่ือ...................................ผ๎ูออกข๎อสอบ ( นางพิลาภร อุบลสาร ) บตั รข้อสอบหน้าที่พลเมือง ม.ปลาย ขอ๎ ที่ 1. ทกุ ศาสนามีคัมภีรห์ รือตาราทางศาสนาเปน็ หลกั ในการส่ังสอน คัมภีรท์ างพระพุทธศาสนาเรยี กวํา จ. อลั กรุ อาน ฉ. ไบเบิล ช. พระไตรปฎิ ก ซ. พระอภิธรรม ขอ๎ ที่ 2. เจา๎ ชายสิทธัตถะ สัมพนั ธก์ ับข๎อใด ในฐานะผ๎ูให๎กาเนิด จ. พระเจ๎าสทุ โธทนะ – พระนางสริ มิ หามายา
ฉ. พระเจ๎าพมิ พสิ าร - พระนางโกศลเทวี ช. พระเจา๎ อโศกมหาราช – พระนางหตั ถา ซ. พระเจ๎ารามา – พระนางปยิ า ขอ๎ ที่ 3. ความสาคัญของงานทกุ ชนิดคือผลของหลักธรรมในข๎อใด จ. ความพอใจ ฉ. ความอดทน ช. ความสามัคคี ซ. ความเกรงกลัว ข้อท่ี 4. พระวินยั ปิฏก เป็นธรรมท่เี กยี่ วกับกฏเกณฑ์พระสงฆ์ กาหนดไว๎กี่ข๎อ ก. 220 ขอ๎ ข. 225 ขอ๎ ค. 227 ข๎อ ง. 231 ขอ๎ ข้อที่ 5. การปฏบิ ตั ติ ามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา จะกํอใหเ๎ กิดประโยชน์อยํางไร ก. เป็นผ๎ปู ระพฤติตนดี ข. ไมํเบียดเบยี นผอ๎ู ่นื ค. เปน็ คนชอบชวํ ยสงั คม ง. ถูกทกุ ข๎อ ข้อที่ 6. พระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยูํหัวภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงใชห๎ ลกั ธรรมในการดารงชีวิตท้ังหมดก่ขี ๎อ ก. 23 ข๎อ ข. 24 ข๎อ ค. 25 ข๎อ
ง. 25 ข๎อ ขอ้ ที่ 7. การแกใ๎ ขปัญหาความขัดแยง๎ ในสงั คม วิธีใดเป็นวธิ ีทดี่ ที ี่สดุ ก. ใชห๎ ลักธรรมทางศาสนา ข. ใช๎หลักกฎหมาย ค. ใชห๎ ลักเจรจา ง. ใช๎คณะกรรมการ ข้อที่ 8. สงั คมที่มีความเจรญิ กา๎ วหน๎าทางวัตถุเป็นสงั คมวัตถุนยิ ม ประชาชนควรมคี าํ นยิ มใดจงึ จะเหมาะสม ก. ร๎รู ักสามัคคี ข. มรี ะเบียบวนิ ัย ค. ใช๎ชีวติ เรียบงําย ง. ประหยัดและนิยมไทย ขอ้ ท่ี 9. ขอ๎ ใดคือจุดมงุํ หมายของประเพณกี ารแหํนางแมวและแหบํ งั้ ไฟของภาคอสี าน ก. เพือ่ ขอฝน ข. เพือ่ ความสนุกสนาน ค. เพื่อแสดงความสามารถ ง. เพื่อเป็นการพกั ผํอนจาการทางาน ขอ้ ท่ี 10. ประเพณีใดชวํ ยสงํ เสริมใหล๎ ูกหลานแสดงความกตัญญแู กํญาติผ๎ูใหญํ ก. ประเพณีลอยกระทง ข. ประเพณีแรกนาขวญั ค. ประเพณีสงกรานต์ ง. ประเพณีแหเํ ทียนพรรษา
ข้อที่ 11. ประเพณี วิง่ ควาย อยํใู นจังหวัดใด ก. ชยั นาท ข. ชัยภูมิ ค. ชลบุรี ง. อาํ งทอง ข้อท่ี 12. ข๎อใดจัดเปน็ ประเพณแี ละวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาชพี ข. พระราชพธิ ฉี ัตรมงคล ข. ประเพณวี ันวิสาขบูชา ค. ประเพณีตกั บาตรเทโวโรหณะ ง. พระราชพธิ จี รดพระนังคลั แรกนาขวัญ ข้อท่ี 13. นกั เรยี นในฐานะสมาชกิ ในชมุ ชน เมือ่ พบวาํ วัฒนธรรม ประเพณีพื้นบา๎ นกาลังถูกลืม สญู หายไปหรือปฏบิ ตั ิได๎ไมํ ถกู ต๎อง เพ่ือเป็นการสืบทอดวฒั นธรรมและประเพณีให๎ถูกต๎อง นกั เรยี นสมควรปฏิบัตติ นตามข๎อใด จึงจะเหมาะสม ทสี่ ุด ก. เขา๎ รํวมในกิจกรรมประเพณีพ้ืนบ๎านทจี่ ดั ขึน้ ข. เสนอโครงการรณรงคอ์ นุรักษว์ ัฒนธรรมประเพณีพ้นื ฐาน ค. จัดแสดงนทิ รรศการด๎านวัฒนธรรมและประเพณีพ้นื บ๎านในแตลํ ะท๎องถ่ิน ง. ฝึกอาสาสมคั รหมํูบ๎านเปน็ ผ๎นู าหรือตัวแทน เผยแพรวํ ัฒนธรรมประเพณีทถ่ี ูกต๎อง ขอ้ ท่ี 14. นักเรยี น รวํ มมอื กันปลูกปา่ ชายเลน เพอ่ื เป็นการอนรุ ักษ์สํงแวดล๎อม จัดได๎วําเปน็ พลเมืองดีในเร่ืองใด ง. ปฏิบตั ติ นตามหลกั ศลี ธรรม จ. เหน็ แกํประโยชนส์ ํวนรวม ฉ. ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบของสังคม ช. เคารพในสิทธิเสรภี าพของผู๎อื่น ขอ้ ท่ี 16. ประชาธปิ ไตยหมายถงึ ก. ระบอบการปกครองท่ีมมี ตปิ ระชาชนเปน็ สํวนใหญหํ รอื การถือเสียงข๎างมากเปน็ สํวนใหญํ ข. การปกครองของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน
ค. การท่ีประชาชนมีอานาจปกครองตนเองหรือ ประชาธิปไตย เป็นวิถชี วี ิตแบบหนง่ึ ซึ่งมีแบบแหงํ พฤตกิ รรม ในทางการเมือง เศรษฐกิจและวฒั นธรรม รกั ษาระเบยี บ ง. ถูกทกุ ขอ๎ ข้อที่ 15. ความเจริญทางด๎านใดทีส่ ํงผลใหป๎ ระเทศชาติพัฒนาได๎อยํางยั่งยืน ก. ความเจริญทางดา๎ นวตั ถุ ข. ความเจรญิ ทางดา๎ นจติ ใจ ค. ความเจริญทางดา๎ นครอบครัว ง. ถูกทัง้ ข๎อ ก และ ข ข้อท่ี 17. ศกั ด์ศิ รีความเป็นมนุษยเ์ ก่ยี วข๎องกับเรื่องใดมากทส่ี ุด ก.สิทธิ ข.หน๎าที่ ค.บทบาท ง.สถานภาพ ข๎อท่ี 18. การใช๎ชวี ติ ประชาธิปไตย ต๎องเรมิ่ ตน๎ ที่ใดเป็นแหงํ แรก ก. ครอบครวั ข. โรงเรียน ค. ไปใช๎สิทธิเลอื กตง้ั ง. การเลือกตง้ั ผ๎ใู หญํบ๎าน ขอ้ ที่ 19. ผใ๎ู ดตํอไปนขี้ าดคณุ สมบัตใิ นการเลือกตัง้ เป็นสมาชกิ สภาผ๎แู ทนราษฎร ก.นายเมธาวีจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ข.นางสาวองิ อรไมํไปเลือกตัง้ ทุกคร้ัง ค.นายวไิ ลยไ์ ปเลอื กตงั้ ทุกครง้ั ง.นายสรเพชรสงั กัดพรรกการเมือง ข้อท่ี 20. การปฏบิ ัติตามกฎหมาย ทาใหเ๎ กิดผลดีอยํางไร จ. รายไดเ๎ พิ่มขน้ึ ฉ. สังคมสงบสขุ ช. ได๎รบั ยกยํองชมเชย
ซ. รับบาลมคี วามม่นั คง ขอ้ ที่ 21. ข๎อใดเป็นหนา๎ ทขี่ องพลเมืองดีที่มีตอํ ประเทศ ก. นับถอื พระพทุ ธศาสนา ข. ประกอบอาชีพสจุ ริต ค. แตํงกายให๎ทันสมัย ง. ละเมิดสทิ ธิผอ๎ู ืน่ ข้อที่ 22. ขอ๎ ใดไมํใชกํ ารอยํูรํวมกนั ตามวิถีประชาธปิ ไตย ก. ชํวยเหลือซ่ึงกันและกนั ข. ใชเ๎ หตผุ ลในการแกป๎ ัญหา ค. ปฏบิ ัตติ ํอกันดว๎ ยความเคารพ ง. ถอื วําเสียงสวํ นนอ๎ ยเปน็ ฝา่ ยผิด ข้อท่ี 23. ข๎อใดคือความสาคัญของกฎหมาย ก. มคี วามเกี่ยวข๎องกับมนุษย์ตงั้ แตเํ กิดจนตาย ข. เปน็ เคร่อื งมือสร๎างระเบียบใหส๎ งั คมและประเทศชาติ ค. กํอให๎เกิดความเปน็ ธรรมในสังคม ง. ถกู ทกุ ข๎อ ข๎อท่ี 24. ข๎อใดเรยี งลาดบั โทษตามประมวลกฎหมายอาญา 5 สถานจากโทษหนักไปโทษเบาไดถ๎ ูกต๎อง ก. ประหารชีวติ จาคกุ กักขงั ปรบั รบิ ทรพั ย์สิน ข. ประหารชีวติ กักขัง จาคุก ปรบั ริบทรพั ยส์ ิน ค. จาคุก ประหารชีวิต กกั ขัง ปรบั ริบทรัพย์สนิ ง. ประหารชีวิต จาคกุ ปรบั กักขัง รบิ ทรัพยส์ นิ ขอ้ ที่ 25. ขอ๎ ใดจาเปน็ ต๎องใช๎เพื่อแสดงตนในการใช๎สทิ ธเิ์ ลือกตง้ั ก. บตั รประจาตัวประชาชน
ข. ใบขับข่ี ค. บัตร อสม. ง. บตั รประจาตัวนกั ศึกษา ขอ้ ท่ี 26. การปฏบิ ัตติ ามกฎจราจรควรทาตามข๎อใด ก. สวมหมวกกันน็อคเม่ือขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ข. คาดเขม็ ขดั นริ ภยั เม่ือขับขร่ี ถยนต์ ค. หยดุ เมอื่ สญั ญาณไฟแดง ง. ถูกทกุ ข๎อ ข้อท่ี 27. ประชาชนอายุเทาํ ใดจึงมสี ิทธใ์ิ นการถาํ ยบตั รประชาชน ก. 7 ปี ข. 8 ปี ค. 9 ปี ง. 10 ปี ขอ้ ที่ 28. หลักสาคัญในการประชมุ รวํ มกันคืออะไร ก. รักษาระเบยี บ ข. มีสวํ นรวํ มในการจดั ประชุม ค. ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผ๎อู ่ืน ง. เคารพกฏกติกา ข้อท่ี 29. ผูท๎ ี่ประกอบอาชีพลูกจา๎ งอยํใู นความค๎ุมครองของกฎหมายใด ก. กฎหมายแพงํ ข. กฎหมายอาญา ค. กฎหมายครอบครัว ง. กฎหมายประกันสงั คม ข้อที่ 30. เพราะเหตุใดประชาชนจึงควรมคี วามรู๎ทางกฎหมาย ก. เพื่อให๎ทันยุคทันสมยั กับเหตกุ ารณป์ จั จุบัน ข. นามาสรา๎ งอิทธิพลใหก๎ บั ตนเองเพ่อื ใชข๎ ํมขูํคนอ่ืน
ค. เพอ่ื นาไปใชแ๎ สวงหาผลประโยชน์เขา๎ ตนเองใหไ๎ ด๎มากที่สดุ ง. ปอ้ งกนั ไมใํ ห๎ผอู๎ น่ื เอาเปรียบ และถูกโกงด๎วยความไมํรก๎ู ฎหมาย บตั รขอ้ สอบกลางภาควชิ าสังคม.ม.ปลาย ก. ประชาชนมีสวํ นรวํ ม ข. ทาเปน็ กระบวนการและประเมินผลอยาํ งตอํ เน่ือง ค. ยึดประชาชนเป็นหลกั ในการพัฒนา ง. พัฒนาทุกด๎านไปพรอ๎ มๆกันอยํางรวบรัดและเรํงรีบ เฉลย ง 2. แนวทางในการพฒั นาตนเองอนั ดบั แรกคอื อะไร ก. ปลุกใจตนเอง ข. สารวจตนเอง ค. ลงมอื พฒั นาตนเอง ง. ปลกู คณุ สมบัตทิ ี่ดงี าม เฉลย ข 3. กจิ กรรมใดเปน็ กจิ กรรมระดับประเทศ ก. การสัมมนา ข. การสารวจประชาสมติ ค. การประชุมกลุํมยํอย ง. การจัดทาเวทปี ระชาคม เฉลย ข 4. ขอ๎ ใดเปน็ บทบาทที่สาคญั ท่ีสดุ ของประชาชนในการดแู ลชุมชน ก. เขา๎ รวํ มประชุมทุกครงั้ ข. แสดงความเหน็ ในการประชมุ ค. เห็นคลอ๎ ยตามผ๎ูนาทุกเรื่อง ง. ทากจิ กรรมพัฒนาชมุ ชนรํวมกันทุกคร้ัง เฉลย ก
5. สถาบนั ใดท่มี ีสวํ นสาคญั เป็นลาดับแรกปอ้ งกนั ไมํใหเ๎ กดิ ปัญหาสังคม ก. สถาบนั การเงิน ข. สถาบันศาสนา ค. สถาบันครอบครวั ง. สถาบันการศกึ ษา เฉลย ค 6.ขอ๎ ใดคอื การรวมตัวของสมาชกิ ในชุมชนเพ่อื รวํ มกนั ทากิจกรรมตํางๆ ในชุมชน ด๎วยตนเอง ก. เวทปี ระชาคม ข. การทาประชาพจิ ารณ์ ค. การเลอื กตั้ง ง. การเขียนโครงการ เฉลย ก 7. ขอ๎ ใดคือประโยชนข์ องการทาขอ๎ มลู การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม ก. เพอื่ เปน็ แนวทางในการพัฒนาด๎านตํางๆ ข. เพอื่ ใหช๎ มุ ชนยกยํอง ค. เพอ่ื ใช๎ในการตดั สนิ ใจ ง. ถกู ทัง้ ข๎อ ก. และ ข๎อ ค. เฉลย ง 8.ข๎อใดเป็นขอ๎ มูลท่ีเกีย่ วขอ๎ งกบั การพัฒนาชุมชน ก. ขอ๎ มูลด๎านครอบครวั ข. ข๎อมลู ด๎านสงั คม ค. ขอ๎ มลู ดา๎ นเศรษฐกิจ ง. ขอ๎ มูลดา๎ นครอบครวั เฉลย ข 9.ข๎อใดไมํใชํเทคนคิ การเก็บรวบรวมขอ๎ มลู ในชุมชน ก. อธบิ าย ข. สงั เกต ค. สัมภาษณ์ ง. สนทนากลมํุ เฉลย ก 10.ข๎อใดเป็นการมีสวํ นรํวมในการวเิ คราะห์ข๎อมลู ชมุ ชน ก.แดงอธิบายขอ๎ มูลครอบครัว ข. ดาสงั เกตการเปล่ียนแปลงของชมุ ชน
Search
