Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อนวัตกรรม E-book วัฏจักรน้ำ

สื่อนวัตกรรม E-book วัฏจักรน้ำ

Published by Mantrinee Kaewchoo, 2021-07-01 02:48:40

Description: สื่อนวัตกรรม E-book วัฏจักรน้ำ

Search

Read the Text Version

WATER CYCLE

หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่มนี้ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสงขลา ไดจ้ ดั ทาข้ึนตามมาตรการฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยมีเนื้อหา เกย่ี วกบั วัฏจักรนา้ ซง่ึ จะเปน็ ประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการดารงชวี ิต และร้เู ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงของโลก รวมท้ังการ พฒั นาความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้เป็นอย่างดี ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ และเป็น สว่ นสาคัญในการพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษา

บทน้ำ เร่อื งท่ี 3 หยำดนำ้ ฟำ้ 01 • แนวคิดสาคญั 04 • กิจกรรมท่ี 3 ฝน หิมะ และลกู เหบ็ เกิดข้ึนได้ • สารวจความรู้กอ่ นเรียน อย่างไร เรอื่ งที่ 1 แหล่งนำ้ เรื่องท่ี 4 กำรหมนุ เวียนของนำ้ 02 • กจิ กรรมที่ 1.1 น้าแต่ละแหล่งบนโลกมอี ยู่เทา่ ใด 05 • กิจกรรมท่ี 4 วัฏจกั รนา้ เปน็ อย่างไร • กจิ กรรมที่ 1.2 ทาอยา่ งไรจงึ จะใชน้ ้าอยา่ ง ประหยดั และอนรุ กั ษ์แหล่งนา้ ไดใ้ นท้องถ่ิน เร่อื งที่ 2 เมฆ หมอก นำ้ ค้ำง และน้ำคำ้ งแข็ง 03 • กจิ กรรมท่ี 2 เมฆ หมอก น้าคา้ ง และน้าค้าง แขง็ เกิดขึ้นได้อย่างไร

01 01 02 Let's Get Started 03 04 05 06

พ้ืนผิวโลกมีน้าปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเกือบท้ังหมดเป็น 01 น้าเค็ม ส่วนน้าจืดที่นามาใช้ได้มีปริมาณน้อยมาก เราจึงต้องใช้ 02 น้าอย่างประหยัด น้าจากแหล่งน้าต่างๆ ท้ังน้าผิวดิน น้าใต้ดิน 03 น้าในบรรยากาศ และนาในส่ิงมีชีวิตเกิดการหมุนเวียนระหว่าง 04 แหล่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้าค้าง 05 แข็ง ฝน หิมะ และลูกเห็บเป็นปรากฏการณ์ที่ทาให้เกิดการ 06 หมุนเวียนของน้าเป็นวฏั จักร

น้ำผวิ ดนิ น้ำใตด้ นิ 01 02 03 04 05 06 น้ำบำดำล น้ำในอำกำศ Check the answers

น้ำผวิ ดนิ น้ำใตด้ นิ 01 02 03 04 05 06 น้ำบำดำล น้ำในอำกำศ You are right!

น้ำจดื น้ำเคม็ 01 02 03 04 05 06 น้ำใตด้ นิ น้ำในอำกำศ Check the answers

น้ำจดื น้ำเคม็ 01 02 03 04 05 06 น้ำใตด้ นิ น้ำในอำกำศ You are right!

ขอ้ ใดเปน็ แหลง่ นา้ ใตด้ นิ 01 02 ห้วย ลาคลอง 03 04 05 06 น้าบาดาล มหาสมทุ ร Check the answers

ขอ้ ใดเป็นแหล่งน้าใตด้ นิ 01 02 ห้วย ลาคลอง 03 04 05 06 นา้ บาดาล มหาสมทุ ร You are right!

ข้อใดไมใ่ ช่แหล่งน้าจดื 01 02 แม่น้า ลาคลอง 03 ลาหว้ ย ทะเล 04 Check the answers 05 06

ข้อใดไม่ใช่แหล่งน้าจดื 01 02 แมน่ ้า ลาคลอง 03 ลาหว้ ย ทะเล 04 05 You are right! 06

02 01 02 Let's Get Started 03 04 05 06

น้าเป็นสิ่งที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของพืช สัตว์ และ 01 มนุษย์ เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ด่ืมน้า นอกจากน้ี 02 เราใช้ใช้น้าในกิจกรรมต่างๆ เช่น อาบน้า แปรงฟัน ซักผ้า 03 ล้างจาน น้าเหล่านี้มาจาก แหล่งน้าต่างๆ แหล่งน้าเป็น 04 บริเวณที่มีน้าอยู่รวมกันเป็นจานวนมากแหล่งน้ามีอยู่หลาย 05 ประเภท ทั้งแหล่งท่ีอยู่บนผิวดินและแหล่งท่ีอยู่ใต้ผิวดิน 06 น้าบางแหล่งเป็นน้าเค็ม และบางแหล่งเป็นน้าจืด แต่ละ แหล่งจะมปี ริมาณนา้ ที่แตกต่างกัน ปัจจุบันการใช้น้าของมนุษย์ก่อให้เกิดปัญหากับแหล่งน้า อย่างมาก เช่น ทาให้แหล่งน้าเสื่อมโทรม เน่าเสีย แห้งขอด เราจึงควรอนุรักษ์แหล่งน้าเพื่อให้มีน้าสะอาดไว้ด่ืม ไว้ใช้ ตลอดไป

โลกปกคลุมด้วยน้าถึงร้อยละ 70 ของ ประเภทของนำ้ ปรมิ ำณน้ำ (ร้อยละ) 01 พื้นที่ทั้งหมด ปริมาณน้าของโลกท้ังหมด 97.5 02 เป็นน้าเค็มประมาณร้อยละ 97.5 ของ น้ำเคม็ 03 ปริมาณน้าทั้งหมดบนโลก ส่วนท่ีเหลืออีก เชน่ มหาสมทุ รและทะเล 1.75 04 ประมาณร้อยละ 2.5 เป็นน้าจืดแต่ 05 ปริมาณน้าที่สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้ น้ำจืด 0.74 06 นั้นมีน้อยมากโดยร้อยละของปริมาณน้า ❖ น้ำจืดทไ่ี มส่ ำมำรถนำ้ น้ำมำใชไ้ ด้ 0.01 บนโลกเปน็ ดังนี้ เชน่ ธารน้าแขง็ และพืดน้าแขง็ * ช้ันดินเยือกแข็งคงตัว** และน้าแข็งใต้ดิน ความช้ืนใน ดนิ ความชนื้ ในบรรยากาศ น้าในสิง่ มีชวี ิต ❖ นำ้ จดื ทีส่ ำมำรถนำ้ นำ้ มำใชไ้ ด้ • นำ้ จดื ท่ีไมส่ ำมำรถน้ำน้ำมำใชไ้ ด้ทันที เชน่ นา้ ใตด้ ิน ❖ นำ้ จืดทส่ี ำมำรถน้ำนำ้ มำใช้ไดท้ นั ที • เชน่ ทะเลสาบ บงึ แมน่ า้ ปรมิ ำณน้ำทงั หมดบนโลก 100

*พืดนา้ แข็งคือ น้าแข็งที่ปกคลุมพื้นดินเป็นบริเวณกว้าง พืดน้าแขง็ 01 ใหญ่แถบข้ัวโลก โดยเฉพาะท่ีเกาะกรีนแลนด์ และทวีป ชนั้ ดนิ เยอื กแขง็ คงตวั 02 แอนตารก์ ติกา 03 04 *ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว คือ ชั้นดินท่ีมีอุณหภูมิอยู่ใต้จุด 05 เยือกแข็งต่อเน่ืองกันเป็นเวลานานหลายร้อยปีหรือหลาย 06 พันปีช้ันดินเยือกแข็งน้ีเกิดอยู่ในบริเวณซ่ึงความร้อนของ อากาศในฤดูร้อนไม่อาจซึมซาบลงไปถึงช้ันดินน้ีได้ และ พ บ ใ น บ ริ เ ว ณ ที่ มี อุ ณ ห ภู มิ เ ฉ ลี่ ย ข อ ง อ า ก า ศ ป ร ะ จ า ปี ประมาณ -5 องศาเซลเซยี ส หรือต่ากว่าน้ัน เช่นบริเวณข้ัว โลกเหนอื และขัว้ โลกใต้

แหล่งน้าในธรรมชาติเกิดจากน้าฝนท่ีตกลงสู่พ้ืนโลกแล้ว แหลง่ นา้ ผิวดินและแหล่งน้าใตด้ นิ 01 สะสมบนผวิ ดนิ และใต้ดินสามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภท 02 คอื แหลง่ นา้ ผวิ ดนิ และแหล่งนา้ ใตด้ ิน 03 04 แหล่งน้ำผิวดิน หมายถึง แหล่งน้าท่ีอยู่บนผิวดิน 05 เนื่องมาจากภูมิประเทศของพื้นผิวโลกไม่ราบเรียบเสมอกัน 06 ทาให้น้าไหลรวมกันสู่แหล่งน้าผิวดินต่างๆ เช่น มหาสมุทร ทะเล บึง แมน่ ้า แหล่งน้ำใต้ดิน หมายถึง แหล่งน้าท่ีเกิดจากการสะสม ของน้าท่ีซึมผ่านชั้นดินและช้ันหินใต้ดิน น้าท่ีซึมลงไปใต้ดิน บางส่วนจะสะสมอยู่ตามช่องว่างของเม็ดดิน เรียกว่า น้าใน ดิน เม่ือไดร้ ับความรอ้ นจากแสงแดดก็จะระเหยไป ส่วนน้าที่ เหลือจะซึมลงต่อไปแทรกรวมกันอยู่ตามช่องว่างตะกอนใน หินหรือตามรอยยกของชั้นหิน เรียกน้าที่ถูกกักเก็บว่า น้า บาดาล

แหล่งน้าในธรรมชาติเกิดจากน้าฝนที่ตกลงสู่พื้นโลกแล้วสะสมบนผิวดินและใต้ดิน 01 จาแนกเป็น แหล่งน้าผิวดิน แหล่งน้าใต้ดิน นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้าในบรรยากาศ และ 02 แหล่งน้าในสิ่งมีชีวิต ถ้าเปรียบเทียบว่าน้าบนโลกมี 100 ส่วน จะเป็นน้าเค็ม 97.5 ส่วน 03 และ 2.5 ส่วนที่เหลือเป็นน้าจืด น้าจืดส่วนใหญ่อยู่ในรูปที่มนุษย์ไม่สามารถ นามาใช้ได้ 04 หรือนามาใช้ได้ยาก ซ่ึงเป็นน้าบริเวณขั้วโลก เช่น ธารน้าแข็ง และใต้ดิน เช่น น้าบาดาล 05 น้าที่สามารถนามาใช้ทันทีเป็นน้าในแหล่งน้าจืดบนผิวโลกจากทะเลสาบ บึง แม่น้า ซึ่ง 06 ปริมาณน้าจืดจากแหล่งน้าท่ีสามารถนามาใช้ได้นั้นมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับ น้าท้ังหมด บนโลก ดังน้ันหากมีการนาน้ามาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มมากข้ึน โดยไม่ประหยัด และ ไม่อนุรักษ์แหล่งน้าท่ีมีอยู่ อาจทาให้เกิดการขาดแคลนน้าสะอาดได้ เราจึงต้องวางแผน การใชน้ ้าอยา่ งประหยัดและรกั ษาแหล่งน้าเพื่อใหม้ ีนา้ ใชอ้ ยา่ งเพียงพอตอ่ ไป

03 01 02 Let's Get Started 03 04 05 06

01 02 03 04 05 06

ในชว่ งฤดูหนาว ผู้คนมักนิยมไปเที่ยวทางภาคเหนือ หมอกและเมฆ 01 ของประเทศไทยเพื่อท่ีจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นและ 02 มักขึ้นไปชมทะเลหมอกตามยอดดอยต่างๆ ซ่ึงทะเล 03 หมอกเป็นมวลหมอกที่เกิดจากละอองน้าท่ีรวมตัวกัน 04 เปน็ สขี าวอยู่ใกล้พนื้ โลก มองดูคลา้ ยทะเล 05 06 แต่ถ้าเรามองไกลออกไปรอบๆ ยอดดอยเราก็จะ มองเห็นกลุ่มก้อนเมฆสีขาวลอยอยู่ในท้องฟ้าที่ระดับ เดียวกบั ทะเลหมอกบนยอดดอย บางคนอาจเข้าใจว่า เปน็ หมอกแต่ท่ีจริงแล้วเป็นเมฆ ซึ่งเกิดจากละอองน้า รวมตัวกันแล้วลอยอยูใ่ นท้องฟา้ และไม่ได้ลอยอยู่ ใกล้ พ้ืนโลก หรือบนยอดเขา

นอกจากเมฆและหมอกแล้ว ยงั พบน้าคา้ งซึง่ เปน็ หยดน้าเกาะตามใบไม้และพื้นผิววัตถุต่างๆโดยท่ัวไปและถ้าอยู่ 01 บนดอยสูงในวันที่อากาศหนาวนอกจากจะพบน้ำค้ำงแล้ว ยังอาจพบน้ำค้ำงแข็ง ซึ่งเป็นน้าค้างท่ีเปล่ียนสถานะ 02 เป็นของแข็งเกาะอยู่ตามใบไม้ และพ้ืนผิววัตถุต่างๆ น้าค้างแข็งในประเทศไทยเกิดบนดอยสูงแต่ในประเทศเขต 03 อบอุ่นถึงเขตหนาว น้าค้างแขง็ สามารถเกดิ บนพ้ืนที่ราบต่า ทีอ่ ุณหภมู ิตา่ กว่า 0 องศาเซลเซียส 04 05 เหมยขำบ ในภาษาเหนือเป็น 06 ภาษาล้ านนา แต่ เดิ ม ท้ังน้ี พจนานุกรมภาษาล้านนาระบุ ว่า “เหมย” แปลว่า “นา้ คา้ ง” แม่คะนิง เป็นคาจากทางภาค ตะวันออกเฉยี งเหนือ นา้ คา้ งแข็ง

ไอน้าเป็นส่วนประกอบสาคัญของบรรยากาศท่ีทาให้สภาพลมฟ้าอากาศเกิด การ 01 เปลี่ยนแปลง เม่ือไอน้าในอากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้าเล็ก ๆ โดยมี ละออง 02 ลอยซงึ่ เปน็ ฝ่นุ ละอองหรืออนภุ าคอืน่ ๆ เป็นแกนกลางรวมตัวกัน เกิดเป็นเมฆและ หมอก 03 โดยเมฆจะเกิดจากไอน้าในอากาศที่ลอยตัวขึ้นและเย็นลง จากน้ันควบแน่นเป็น ละออง 04 น้าเล็กๆ และรวมตัวกันลอยอยู่ในท้องฟ้า ส่วนหมอกเกิดจากไอน้าในอากาศท่ีมา สัมผัส 05 กับอากาศเย็นบริเวณใกล้พ้ืนโลก จึงควบแน่นเป็นละอองน้าเล็ก ๆ ลอยอยู่ใกล้ พื้นโลก 06 เม่ืออุณหภูมิของอากาศลดลงในตอนเช้าหรือตอนกลางคืนทาให้ไอน้าท่ีอยู่ในอากาศ ควบแน่นเป็นละอองน้าเล็ก ๆ แล้วรวมตัวกันเป็นหยดน้าหรือน้าค้างเกาะอยู่บนพ้ืนผิว วัตถุใกล้พ้ืนโลก ถ้าอุณหภูมิลดลงต่ากว่า 0 องศาเซลเซียส น้าค้างจะเปล่ียนสถานะเป็น ของแข็งเรียกวา่ น้าค้างแข็ง

04 01 02 Let's Get Started 03 04 05 06

01 02 03 04 05 06

หยาดน้าฟ้าเป็นน้าสถานะต่างๆ ท่ีตกจากเมฆมาถึงพื้นดินเช่น ฝน หิมะ ลูกเห็บ ซึ่งหยาดน้าฟ้าแต่ละชนิดมี 01 กระบวนการเกิดและลักษณะแตกต่างกัน ดังน้ี 02 03 ไอน้าเป็นส่วนประกอบสาคัญของบรรยากาศเพราะทาให้ 04 เกิดหยาดน้าฟ้า เมื่ออากาศร้อนลอยสูงขึ้น อากาศจะเย็นลง 05 ทาให้ไอน้าในอากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้าเล็กๆ จับ 06 ตวั กันเป็น“เมฆ”ลอยอยู่ในทอ้ งฟา้ เม่ือละอองน้าในเมฆชนกันและรวมตัวกันมีขนาดใหญ่ขึ้นจนมี น้าหนักมากเกินกว่าที่อากาศจะพยุงไว้ได้ก็จะตกลงมายังพื้นโลก ทีเ่ ราเรียกวา่ “ฝน”

ในบางประเทศที่อยู่ในเขตหนาวหรือในบริเวณยอดเขาที่สูง 01 มากๆ ในเขตอ่ืนๆ ที่มีอุณหภูมิต่ากว่าจุดเยือกแข็งของน้า ไอน้า 02 ในอากาศซึ่งมีสถานะเป็นแก๊สจะระเหิดกลับเปล่ียนสถานะเป็น 03 ของแข็งจับตัวกันเป็นผลึกน้าแข็งและตกลงมาบนผิวโลกเรียกว่า 04 “หิมะ”ซ่ึงอาจมีรูปร่างต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ท่ีพบมักจีรู)ทรง 05 สมมาตรแบบ 6 แฉก 06

เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองภายในเมฆคิวมูโลนิมบัส พายุจะพัดหยดน้า 01 ภายในเมฆข้ึนไปในระดับท่ีสูงและมีอุณหภูมิต่ากว่าจุดเยือกแข็งทาให้ 02 หยดน้าเปล่ียนสถานะเป็นของแข็งและะถูกพัดวนขึ้นลงในเมฆ จนเกิด 03 การพอกตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นอีก จากน้ันจะตกลงมา ถ้าน้าหนักไม่มาก 04 พอจะถูกพัดวนกลับข้ึนไปอีกจนเกิดการพอกตัวของน้าแข็งเป็นช้ันๆ 05 คล้ายกับหัวหอมเป็นเช่นนี้ต่อไปเร่ือย ๆ จนก้อนน้าแข็งมีขนาดใหญ่ขึ้น 06 เม่ืออากาศ ไม่สามารถพยงุ รบั นา้ หนักไว้ได้ กจ็ ะตกลงสู่พื้นโลกในลักษณะ เป็นก้อนน้าแข็ง เรียกว่า “ลูกเห็บ” โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.2-5 เซนติเมตร แต่ในบางคร้ังอาจมีขนาด ใหญ่กว่าและอาจตกลงมา เป็นกอ้ นหรือเกาะรวมกันเปน็ ก้อนขรุขระ

05 01 02 Let's Get Started 03 04 05 06

01 02 03 04 05 06

น้าด่มื ในขวดน้ีมาจากไหน เช่ือหรอื ไม่วา่ น้าดมื่ น้นั มาจากแหลง่ น้าตา่ งๆ เช่น 01 มหาสมทุ ร แม่นา้ ระเหยเปน็ ไอนา้ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า 02 03 เมอ่ื ไอน้าควบแนน่ เป็นละอองน้าและรวมตัว สุดท้ายนา้ ก็จะผา่ นกระบวนการตา่ ง ๆ 04 กันตกลงมาเป็นฝนและไหลไปตามท่ีต่างๆ ทาใหส้ ะอาดข้ึน บรรจลุ งขวดให้เราได้ดมื่ 05 06 บ้างกม็ าสะสมในชั้นใต้ดิน

01 02 03 04 05 06

1. การระเหย (evaporation) เม่ือไดร้ ับพลงั งานความรอ้ นจากแสงอาทิตย์น้าในแหล่งนา้ ตา่ งๆ เช่น แมน่ า้ ทะเล มหาสมุทร 01 รวมถงึ การคายนา้ ของพชื จะกลายเปน็ ไอน้าลอยข้นึ ส่ชู ัน้ บรรยากาศ ไอน้าที่อย่ใู นชน้ั บรรยากาศเรยี กว่า Atmospheric 02 moisture 03 04 2. การควบแน่น (condensation) คือการรวมตัวของไอนา้ ในชั้นบรรยากาศ และเปลยี่ นสถานะเปน็ ของเหลวในรปู ของ “เมฆ” 05 เมื่อได้รบั ความเย็น 06 3. การเกิดฝนตก (precipitation) เม่ือไอน้าในบรรยากาศสะสมรวมตวั กันมากข้นึ จนถงึ “จดุ อิ่มตัว” จะเกดิ การ “กลน่ั ตวั ” และ”ควบแนน่ ” เป็นหยดน้าตกลงสู่พนื้ โลกในหลายรูปแบบ ได้แก่ น้าฝน น้าค้าง ลกู เห็บ และหิมะ 4. การรวมตวั ของนา้ (collection) หมายถงึ การท่ีปริมาณนา้ ไหลรวมกันสูแ่ หลง่ นา้ ต่างๆ เช่น แมน่ า้ ทะเล หรือมหาสมุทร และแหล่งอุปโภคและบรโิ ภคของส่งิ มีชีวติ น้าฝนทต่ี กลงมาจากชั้นบรรยากาศ สว่ นมากจะไหลรวมกันเปน็ แหลง่ น้าผิวดิน และไหลลงสูแ่ มน่ า้ ไปส้ินสุดทีม่ หาสมุทร ซง่ึ เรียกน้าท่ไี หลบนผวิ ดินนวี้ ่า “นา้ ท่า” แต่บางส่วนจะถกู กกั เก็บไวใ้ นเขอื่ น อ่าง เก็บน้า บ่อดิน เพ่ือการอุปโภค-บรโิ ภค บางส่วนจะถูกพชื ดดู ซมึ ไวใ้ นลาต้นเพอื่ การเจริญเตบิ โต นอกจากน้ี นา้ ฝนที่ตกลงสู่ ผิวโลกบางสว่ น จะซมึ ลงสู่พืน้ ดินกลายเปน็ นา้ ใต้ดนิ หรือนา้ บาดาล กอ่ นไหลซมึ ผ่านช้นั ดนิ และหนิ แล้วไหลกลบั ลงสูแ่ มน่ า้

วฏั จักรน้าเป็นแบบรูปการหมุนเวียนอย่างต่อเน่ืองของน้าผิวดิน น้าใต้ดิน น้าใน 01 บรรยากาศ และนาจากกิจกรรมต่างๆ ของส่ิงมีชีวิต เช่น การคายน้าของพืชการ 02 หายใจ และการขับถ่ายของมนุษย์และสัตว์ กิจกรรมเหล่าน้ีล้วนมีผลต่อการ 03 หมุนเวียนของน้าใน วัฏจักรน้าทั้งสิ้น อนุภาคน้าในวัฏจักรจะหมุนเวียนไปยัง 04 แหลง่ ตา่ ง ๆ แต่เวลาในการหมุนเวียนกลับมา น้ันไม่แน่นอน แม้ว่าวัฏจักรน้าเป็น 05 แบบรูปกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ของน้า อย่างต่อเน่ือง แต่การหมุนเวียน 06 ของอนุภาคน้าไปตามแหล่งต่างๆ อาจเกิดข้ึนพร้อมกัน หรือไม่พร้อมกันก็ได้ ทา ให้อนุภาคน้าอาจจะหมุนเวียนกลับมาท่ีเดิมโดยใช้เวลาไม่เท่ากัน น้าอาจไม่ สามารถหมุนเวียนกลับมาให้ใช้ได้ทัน ซ่ึงอาจทาให้เกิดการขาดแคลนน้าหรือ สภาวะแห้งแล้งได้ รู้อย่างนี้แล้ว เราคิดว่าควรทาอย่างไรเพ่ือให้เรามีน้ากินน้าใช้ อยา่ งเพียงพอตลอดไป

06 01 02 Composing 03 Words 04 05 Let's Get Started 06

Compose word 01 02 COL UD 03 04 Check the answers 05 06

Compose word 01 02 C LOUD 03 04 Well done! 05 06

Compose word 01 02 RYN I A 03 04 Check the answers 05 06

Compose word 01 02 RA I NY 03 04 Well done! 05 06

Compose word 01 02 WNO S 03 04 Check the answers 05 06

Compose word 01 02 S N OW 03 04 Well done! 05 06

Compose word 01 02 TOR SM 03 04 Check the answers 05 06

Compose word 01 02 S TORM 03 04 Well done! 05 06

Thanks! 01 02 Do you have any questions? 03 04 [email protected] 05 +91 620 421 838 06 yourcompany.com CREDITS: This presentation template was created by Slidesgo, including icon by Flaticon, and infographics & images from Freepik Please keep this slide for attribution

Alternative Resources 01 02 03 04 05 06


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook