Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนภาษาไทย ม.2เทอม1

แผนการสอนภาษาไทย ม.2เทอม1

Published by monthakarn5311313505, 2021-04-12 13:16:44

Description: รวมแผนม.2เทอม1

Search

Read the Text Version

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ที่ตรงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รักชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติร้องเพลงชาตไิ ด้และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรยี น กษัตริย์ ๑.๓ ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรยี น ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมที่สรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชุมชน ๑.๕ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา ๑.๖ เข้าร่วมกจิ กรรมและมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ ตามท่โี รงเรยี นและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซ่อื สตั ย์ ๒.๑ ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง สุจริต ๒.๒ ปฏบิ ัติในส่งิ ที่ถกู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ตี นให้ ไว้กับเพ่ือน พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู ๒.๓ ปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อนื่ ดว้ ยความซ่อื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางท่ีไมถ่ ูกต้อง ๓. มวี ินัย ๓.๑ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั รบั ผดิ ชอบ และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรุปความรู้ได้อย่างมเี หตผุ ล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บ พอเพยี ง รักษาดแู ลอยา่ งดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล

คณุ ลักษณะ ๕.๔ ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ ่ืนและไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อนพร้อมให้อภยั เมือ่ ผอู้ นื่ กระทาผิดพลาด ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ ๔๓๒๑ รายการประเมิน ด้าน ๕.๕ วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ ีวติ ประจาวันบนพน้ื ฐานของความรู้ ๖. มงุ่ มน่ั ในการ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ทางาน ๕.๖ ร้เู ท่าทนั การเปล่ยี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรบั ตัว อยู่ ๗. รกั ความเปน็ รว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างมีความสุข ไทย ๖.๑ มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ๘. มจี ติ ๖.๒ มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสาเร็จ สาธารณะ ๗.๑ มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘.๑ รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ช่วยคิด ช่วยทา และแบง่ ปันส่ิงของให้ผอู้ ื่น ๘.๓ ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ลงชื่อ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดีมาก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑๐ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๐ เรอื่ ง ร้อยกรองคลอ้ งใจ เวลาเรียน ๑ ชัว่ โมง รหัสวชิ า ท ๒๒๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผสู้ อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศริ ิมงคล กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นมัธยมวัดสิงห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม. ๒/๕ ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนดและบทร้อยกรองที่มคี ุณค่า ตามความสนใจ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวช้ีวัด ๑. ทอ่ งจาบทร้อยกรองตามความสนใจ (K) ๒. วเิ คราะหค์ ณุ ค่าบทรอ้ ยกรอง (P) ๓. เห็นคณุ คา่ ของการทอ่ งจาบทรอ้ ยกรอง (A) สาระสาคัญ (คาชี้แจง) การท่องจาบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าชว่ ยจรรโลงใจและทาให้มีขอ้ คดิ เตือนใจ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนา ๑. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดงั นี้ - เรื่องราวแบบไหนทนี่ ักเรียนมกั จะจดจาไดเ้ ป็นพเิ ศษ กิจกรรมการเรียนรู้ ๒. ให้นักเรยี นอาสาสมคั ร ๒ - ๓ คน ออกมาเล่าเรอื่ งราวที่ประทบั อยูใ่ นความทรงจาให้เพ่อื นฟงั ๓. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นว่าความทรงจามีประโยชน์ตอ่ ปจั จุบันอย่างไร ๔. ให้นักเรยี นเลน่ เกม “เก้าอ้ีดนตรี” โดยใช้การทอ่ งโคลงท่คี รูมอบหมายให้นักเรยี น ไปฝึกท่องมาในช่ัวโมงทีแ่ ลว้ แทนเสยี งเพลง ในรอบแรกครูจะเป็นผู้ทอ่ งโคลงเอง เมอ่ื ครทู ่องโคลงจบ ๑ บท นกั เรียนจงึ น่งั เก้าอ้ีได้ คนทไ่ี ม่มีเก้าอีน้ งั่ ต้องออกจากการแข่งขนั และมาเป็นผทู้ ่องโคลงแทน หมนุ เวยี นไป เรอ่ื ย ๆ จนจบการแขง่ ขันหรือตามเวลาท่ีเหมาะสม ให้นักเรยี นท่เี ปน็ ผชู้ นะท่องโคลง เมอ่ื จบการแขง่ ขนั ถ้าหมดเวลากอ่ นการแข่งขันจบให้นักเรียนท่ีเหลอื ไปทอ่ งโคลงกับครูนอกเวลาเรยี น (ในการท่อง โคลงขณะแข่งขนั เก้าอีด้ นตรี นักเรียนแต่ละคนอาจใชจ้ งั หวะในการท่องใหช้ า้ หรือเร็วก็ได้เพื่อเพ่มิ ความสนุกสนาน แต่ บทโคลงตอ้ งถกู ต้อง)

ข้ันสรุป ๕. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี - การท่องจาบทร้อยกรองที่มีคุณค่าช่วยจรรโลงใจและทาใหม้ ีขอ้ คิดเตือนใจ สอื่ การเรียนรู้ ๑. เกา้ อี้ ๒. แบบประเมินการท่องจาบทอาขยาน ๓. บทอาขยานหลัก การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นสมรรถนะ มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยม(A) ทกั ษะและกระบวนการ(P) - สังเกตการณต์ อบคาถาม ๑.ประเมินทักษะการอ่าน และการแสดงความคิดเห็น ๑. ประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเป็น ๒. ประเมนิ ทักษะการเขยี น - ตรวจผลการทากิจกรรม รายบุคคลในดา้ นความสนใจและ ต้ังใจเรียน ๓. ประเมินทักษะการคิดวิเคราะห์ และ มคี วามรบั ผดิ ชอบในการทากิจกรรม สงั เคราะหน์ าความรูด้ า้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมท่ี ความมรี ะเบียบวินยั ในการทางาน ได้รับจากบทเรยี นไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจาวัน ๒. ประเมนิ ความภาคภูมิใจในวรรณคดี ได้ และวรรณกรรมไทย ๔. ประเมินทักษะกระบวนการกลมุ่

การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) การประเมนิ ใบงานน้ใี ห้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เร่อื ง การท่องจาบทร้อยกรอง ระดบั คะแนน ๔ ๓๒ ๑ เกณฑ์การประเมนิ ท่องจาบทรอ้ ยกรอง ท่องจาบทร้อยกรอง ท่องจาบทรอ้ ยกรอง ท่องจาบทร้อยกรอง การท่องจา ได้ถูกตอ้ งทุกคา ได้ถูกตอ้ งทุกคา ไดถ้ ูกต้องทุกคา ได้ถูกตอ้ งทกุ คา บทรอ้ ยกรอง ไมม่ ตี ิดขัด ตกหล่น ไมม่ ตี ดิ ขดั ตกหล่น ไม่มตี ดิ ขัด ตกหลน่ แต่มีตดิ ขัดบา้ ง ออกเสียงคาถูกต้อง ชดั เจน ออกเสยี งคาถกู ต้อง ออกเสียงคาถูกต้อง ออกเสียงคาบางคา ทกุ คา เว้นจังหวะ ชัดเจนทุกคา ชดั เจนทกุ คา ยงั ไม่ชดั เจน วรรคตอนถูกตอ้ ง เวน้ จังหวะ เวน้ จังหวะ เว้นจงั หวะ ทกุ วรรค ใช้ระดับเสยี ง วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกต้อง วรรคตอนถูกต้อง แสดงอารมณ์ ทกุ วรรค ใชร้ ะดับเสยี ง เปน็ สว่ นใหญ่ เป็นบางวรรค ตามบทประพนั ธ์ แสดงอารมณ์ ใช้ระดบั เสียง ระดับเสียงราบเรยี บ ได้ดมี าก ตามบทประพนั ธ์ไดด้ ี แสดงอารมณ์ ไมแ่ สดงอารมณ์ ตามบทประพนั ธ์ ได้พอใช้

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ที่ตรงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รักชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติร้องเพลงชาตไิ ด้และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรยี น กษัตริย์ ๑.๓ ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรยี น ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมที่สรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชุมชน ๑.๕ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา ๑.๖ เข้าร่วมกจิ กรรมและมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ ตามท่โี รงเรยี นและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซ่อื สตั ย์ ๒.๑ ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง สุจริต ๒.๒ ปฏบิ ัติในส่งิ ที่ถกู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ตี นให้ ไว้กับเพ่ือน พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู ๒.๓ ปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อนื่ ดว้ ยความซ่อื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางท่ีไมถ่ ูกต้อง ๓. มวี ินัย ๓.๑ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั รบั ผดิ ชอบ และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรุปความรู้ได้อย่างมเี หตผุ ล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บ พอเพยี ง รักษาดแู ลอยา่ งดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล

คณุ ลักษณะ ๕.๔ ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ ่ืนและไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อนพร้อมให้อภยั เมือ่ ผอู้ นื่ กระทาผิดพลาด ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ ๔๓๒๑ รายการประเมิน ด้าน ๕.๕ วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ ีวติ ประจาวันบนพน้ื ฐานของความรู้ ๖. มงุ่ มน่ั ในการ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ทางาน ๕.๖ ร้เู ท่าทนั การเปล่ยี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรบั ตัว อยู่ ๗. รกั ความเปน็ รว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างมีความสุข ไทย ๖.๑ มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ๘. มจี ติ ๖.๒ มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสาเร็จ สาธารณะ ๗.๑ มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘.๑ รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ช่วยคิด ช่วยทา และแบง่ ปันส่ิงของให้ผอู้ ื่น ๘.๓ ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ลงชื่อ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดีมาก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๑ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เรอื่ ง เช่ยี วชาญคาศัพท์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๑ เร่ือง เชยี่ วชาญคาศัพท์ เวลาเรียน ๒ ชั่วโมง รหัสวิชา ท ๒๒๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผ้สู อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิรมิ งคล กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มมี ารยาทในการอ่าน จุดประสงค์การเรียนรูส้ ูต่ วั ชี้วดั ๑. บอกความหมายของคาศพั ท์ในโคลงภาพพระราชพงศาวดาร (K) ๒. คน้ หาคาศัพท์ทม่ี ีความหมายเดยี วกนั (P) ๓. เขียนคาศัพทใ์ นโคลงภาพพระราชพงศาวดาร (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการเข้าใจความหมายของคาศัพทเ์ พ่ือจะนาไปใช้ในการอา่ นวรรณคดี (A) สาระสาคัญ (คาชแ้ี จง) การเข้าใจความหมายของคาศัพท์จะทาใหอ้ ่านออกเสียงไดถ้ ูกต้องและยังสามารถเข้าใจเร่ืองท่อี ่าน การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา ๑. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ๑.๑ นักเรยี นรจู้ ักวีรบุรุษและวรี สตรีไทยท่านใดบ้าง กิจกรรมการเรยี นรู้ ๒. ให้นกั เรียนอา่ นบทนาเร่ืองและท่มี าของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร จากนัน้ ครูถามนักเรยี นเพ่ือสรปุ ความเขา้ ใจ ดังนี้ - โคลงภาพพระราชพงศาวดารท่ีนามาให้นักเรียนไดเ้ รียนมีก่ีเรอ่ื ง อะไรบ้าง (๒ เรอ่ื ง คอื โคลงพระสรุ โิ ยทัย ขาดคอช้าง และโคลงพันทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ) - รปู ท่ี ๑๐ เปน็ เร่อื งเกีย่ วกบั ใคร และมีวีรกรรมอะไรท่ีสาคัญ (สมเด็จพระสุรโิ ยทัยทรงสละพระชนมช์ ีพ เพ่ือชว่ ยสมเดจ็ พระมหาจกั รพรรดิ) - รูปท่ี ๕๖ เป็นเรื่องเก่ียวกบั ใคร และมีวรี กรรมอะไรที่สาคัญ (พันท้ายนรสงิ ห์ยอมสละชีวติ เพ่อื รักษา ประเพณแี ละพระเกยี รตแิ ห่งพระมหากษตั รยิ ์) - ใครเปน็ ผู้แต่งโคลงพระสุริโยทัยขาดคอช้าง (พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หวั ) - ใครเปน็ ผู้แต่งโคลงพันทา้ ยนรสงิ หถ์ วายชวี ติ (พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระนราธปิ ประพันธพ์ งศ์)

๓. ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ และตอบข้อซักถามของนักเรยี น ๔. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ คน แข่งขนั กันค้นหาคาศพั ท์ท่มี คี วามหมายเดยี วกบั คาที่ กาหนดให้ จากพจนานุกรมภายในเวลา ๑๐ นาที ๕. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนเขียนคาทกี่ ลุ่มหาไดบ้ นกระดานโดยจาแนกคาให้เปน็ หมวดหมู่ เม่อื ครบทุกกลมุ่ แล้ว ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง กลุ่มใดหาคาศัพท์ไดถ้ ูกตอ้ งมากท่สี ดุ เป็นฝา่ ยชนะ ๖. ให้นกั เรียนจบั คู่คาศัพท์และความหมายให้สัมพนั ธ์กัน เมอ่ื นักเรียนทุกคนทาเสร็จ นาผลงานให้ เพ่อื นตรวจสอบความถูกต้อง ครูเฉลยคาตอบอีกคร้ัง ครชู มเชยนกั เรียนทที่ าถูกต้องท้ังหมด ๗. ให้นักเรียนแบ่งกล่มุ อกี ครั้งเพอ่ื เลน่ เกม “คาศัพท์ปริศนาหาใหค้ รบ” โดยใหน้ กั เรยี นหาคาศัพท์ จากโคลงภาพพระราชพงศาวดารท่มี ีความหมายตรงกบั ท่ีกาหนดไว้ในแนวตัง้ และแนวนอน กลุ่มใดเสรจ็ ก่อนให้ ยืนขน้ึ ท้ังกลุ่ม ครแู ละเพ่ือน ๆ ช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง แล้วใหน้ ักเรียนเขียนคาศัพท์ลงในตารางปริศนา อักษรไขว้ ๘. ใหน้ ักเรียนดูภาพอาวธุ บุคคล และสถานท่สี าคญั แล้วเขียนคาศัพท์ตามภาพท่ีกาหนด ภายใน เวลา ๕ นาที ครูและนักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคาถามและอธิบายเพ่ิมเติม ข้ันสรปุ ๙. ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ - การเข้าใจความหมายของคาศัพทจ์ ะทาให้อา่ นออกเสียงไดถ้ ูกต้องและยงั สามารถเขา้ ใจเรื่องท่ีอา่ น ส่อื การเรียนรู้ - ภาพอาวุธ บุคคล และสถานทสี่ าคัญ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านสมรรถนะ คณุ ลักษณะ คดิ วิเคราะห์ อา่ น/คดิ /เขียน ๑. การเขยี นเรียงความ วดั ทักษะดา้ นการสื่อสารจากการ ใฝ่เรยี นรู้ และรักความ เกย่ี วกับประสบการณ์ วัดดว้ ยความคดิ และการเขยี น ๒. แบบทดสอบ เขียนเรียงความเก่ยี วกบั เปน็ ไทย วดั จาก โดยใช้ใบงานเรื่อง การเขยี น เรยี งความเก่ยี วกับ ประสบการณ์ แบบสอบถามทัศนคติ ประสบการณ์ ที่มีตอ่ เน้ือหาสาระ กิจกรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทาหนังสือรวบรวมคาที่มีความหมายเหมือนกัน โดยรวบรวมใหไ้ ด้มากทส่ี ุด และให้นักเรยี นออกแบบหนังสอื ได้อย่างอสิ ระ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชือ่ -สกุล ความต้งั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผูร้ บั การประเมิน ในการทางาน รบั ผดิ ชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมนิ ลงชือ่ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ๑๘ - ๒๐ ดมี าก ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ตา่ กว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกับระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน ๔๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยนื ตรงเมื่อได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบาย กษัตรยิ ์ ความหมายของ เพลงชาติ ๑.๒ ปฏิบัตติ นตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน ๑.๓ ใหค้ วามร่วมมือ รว่ มใจ ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรยี น ๑.๔ เขา้ ร่วมกิจกรรมและมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมทสี่ ร้างความ สามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชุมชน ๑.๕ เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ัตติ นตามหลักของ ศาสนา ๑.๖ เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทีเ่ ก่ียวกับสถาบัน พระมหากษัตริยต์ ามท่ีโรงเรยี นและชมุ ชนจดั ขึ้น ๒. ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ ๒.๑ ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกต้อง และเปน็ จริง ๒.๒ ปฏบิ ัติในส่ิงทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทาความผิด ทา ตามสญั ญาทีต่ นให้ไวก้ ับเพ่ือน พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู ๒.๓ ปฏิบตั ิตอ่ ผู้อน่ื ดว้ ยความซื่อตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถูกตอ้ ง ๓. มวี นิ ัย ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั รับผิดชอบ และโรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ใน ชีวิตประจาวัน และรับผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ ๔.๒ มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ ๔.๓ สรุปความรไู้ ด้อย่างมเี หตผุ ล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด พอเพียง คุม้ ค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม ๕.๒ ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแล อยา่ งดี ๕.๓ ปฏบิ ัตติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล ๕.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่นื และไม่ทาใหผ้ ู้อน่ื เดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมอ่ื ผู้อ่นื กระทาผดิ พลาด

คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น ๔๓๒๑ ๕.๕ วางแผนการเรยี น การทางานและการใช้ชีวติ ประจาวันบนพ้นื ฐาน ของความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสาร ๕.๖ รู้เท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับ และปรับตัว อยู่รว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมีความสขุ ๖. มุ่งมน่ั ในการ ๖.๑ มีความตัง้ ใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสาเร็จ ๗. รักความเป็นไทย ๗.๑ มจี ติ สานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ช่วยคดิ ช่วยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของให้ผู้อื่น ๘.๓ ดแู ล รักษาทรัพย์สมบัติของห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน ๘.๔ เขา้ รว่ มกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ประเมิน ลงชอ่ื .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ ๓ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดมี าก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๕๔ ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๒ เร่อื ง พรรณนาโวหาร เวลาเรยี น ๑ คาบ รหัสวชิ า ท ๒๒๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผ้สู อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิรมิ งคล กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรยี งความ และเขยี นเรอ่ื งราว ในรปู แบบ ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศ และรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมี ประสิทธิภาพ ตวั ช้วี ัด ท ๒.๑ ม. ๒/๒ เขียนบรรยายและพรรณนา ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขยี น จุดประสงค์การเรียนรู้สูต่ ัวช้ีวดั ๑. อธิบายลกั ษณะการเขยี นแบบพรรณนา (K) ๒. วิเคราะห์งานเขียนแบบพรรณนา (P) ๓. เขยี นความเรยี งแบบพรรณนา (P) ๔. เห็นความสาคัญของการเขียนพรรณนาและมีมารยาทในการเขียน (A) สาระสาคัญ (คาชแ้ี จง) การเขียนพรรณนาเป็นการเพิ่มรายละเอยี ดของเรื่องให้น่าอ่าน เลอื กใช้ถ้อยคาให้สละสลวย และใช้การเปรียบเทยี บเพื่อให้ผ้อู า่ นเกิดภาพพจน์ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา ๑. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คาถามท้าทาย ดงั นี้  นักเรียนคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่สาคญั ทส่ี ดุ ในการเขียนพรรณนา กิจกรรมการเรยี นรู้ ๒. ให้นกั เรยี นดูภาพธรรมชาติแล้วรว่ มกนั สนทนาวา่ ถา้ จะเขียนพรรณนาภาพนี้ต้องเขยี นเกีย่ วกับอะไรบ้าง ๓. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันทบทวนความรู้ เรือ่ ง การเขยี นพรรณนา ๔. ใหน้ กั เรยี นทาช้ินงานท่ี ๑ เรอื่ ง การเขยี นพรรณนา ครูกาหนดให้นักเรียนวางโครงเรื่องโดยใชแ้ ผนภาพ ความคิดกอ่ นร่างงานเขียน ๕. ให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔ - ๕ คน นาผลงานของแตล่ ะคนมารว่ มกันวิจารณแ์ ละปรับปรุง ๖. ให้นักเรียนนาผลงานท่ปี รับปรุงเรยี บรอ้ ยแลว้ มาส่งครูเพ่อื ประเมินผลงานเป็นรายบุคคล และคดั เลือก ผลงานยอดเย่ยี มมาจดั แสดงบนป้ายนิเทศ

ขัน้ สรุป ๗. ให้นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้  การเขียนพรรณนาทาให้ผู้เขียนได้พฒั นาการใช้ภาษาใหส้ ละสลวยและผ้อู า่ นไดร้ บั อรรถรสในการอ่าน สอื่ การเรยี นรู้ ๑. ภาพ ๒. ใบความรู้เร่ือง หลักการเขยี นพรรณนา การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านสมรรถนะ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยม(A) ทกั ษะและกระบวนการ(P) - สังเกตการณ์ตอบคาถาม ๑.ประเมินทกั ษะการอ่าน และการแสดงความคดิ เห็น ๑. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็น ๒. ประเมินทักษะการเขียน - ตรวจผลการทากจิ กรรม รายบุคคลในดา้ นความสนใจและ ตั้งใจเรยี น ๓. ประเมนิ ทักษะการคดิ วิเคราะห์ และ มีความรบั ผิดชอบในการทากิจกรรม สังเคราะหน์ าความรู้ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมท่ี ความมีระเบียบวินยั ในการทางาน ไดร้ ับจากบทเรียนไปปรับใช้ในชีวิตประจาวัน ๒. ประเมนิ ความภาคภูมใิ จในวรรณคดี ได้ และวรรณกรรมไทย ๔. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ กิจกรรมเสนอแนะ ให้นักเรียนประกวดการเขยี นพรรณนาในวันสาคัญ เชน่ วันเฉลมิ พระชนมพรรษา เพ่ือนักเรียนจะได้มี ทักษะในการเขยี นพรรณนา

การประเมินชิ้นงานน้ีใหผ้ สู้ อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การเขียนพรรณนา ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์การประเมนิ เขียนพรรณนาได้ เขยี นพรรณนาไดด้ ี เขียนพรรณนาได้ เขียนความเรยี ง การเขียนพรรณนา น่าอ่าน เน้ือหามเี อกภาพ เน้ือหามเี อกภาพ ตามทกี่ าหนด เนื้อหามเี อกภาพ บางชว่ งใช้ เขยี นรายละเอียด แตส่ านวน ใชภ้ าษาสละสลวย ภาษาอย่างสละสลวย ถงึ สิง่ ที่ต้องการพรรณนา พรรณนาไมช่ ดั เจน สานวนพรรณนาลึกซึ้ง มีการเปรยี บเทียบ อย่างชดั เจน ใช้การเปรยี บเทียบ ชว่ ยเสรมิ เน้ือความให้ ใช้การเปรยี บเทียบ อย่างเหมาะสมทาให้ ผู้อ่านเหน็ ภาพ หลายแห่งแตบ่ างแห่ง ผู้อ่านเหน็ ภาพชัดเจน หรอื เข้าใจอารมณ์ ไม่เขา้ กับเนื้อความ เกิดอารมณค์ ล้อยตาม ชดั เจนยิ่งข้นึ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ที่ตรงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รักชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติร้องเพลงชาตไิ ด้และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรยี น กษัตริย์ ๑.๓ ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรยี น ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมที่สรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชุมชน ๑.๕ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา ๑.๖ เข้าร่วมกจิ กรรมและมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ ตามท่โี รงเรยี นและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซ่อื สตั ย์ ๒.๑ ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง สุจริต ๒.๒ ปฏบิ ัติในส่งิ ที่ถกู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ตี นให้ ไว้กับเพ่ือน พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู ๒.๓ ปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อนื่ ดว้ ยความซ่อื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางท่ีไมถ่ ูกต้อง ๓. มวี ินัย ๓.๑ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั รบั ผดิ ชอบ และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรุปความรู้ได้อย่างมเี หตผุ ล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บ พอเพยี ง รักษาดแู ลอยา่ งดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล

คณุ ลักษณะ ๕.๔ ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ ่ืนและไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อนพร้อมให้อภยั เมือ่ ผอู้ นื่ กระทาผิดพลาด ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ ๔๓๒๑ รายการประเมิน ด้าน ๕.๕ วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ ีวติ ประจาวันบนพน้ื ฐานของความรู้ ๖. มงุ่ มน่ั ในการ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ทางาน ๕.๖ ร้เู ท่าทนั การเปล่ยี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรบั ตัว อยู่ ๗. รกั ความเปน็ รว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างมีความสุข ไทย ๖.๑ มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ๘. มจี ติ ๖.๒ มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสาเร็จ สาธารณะ ๗.๑ มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘.๑ รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ช่วยคิด ช่วยทา และแบง่ ปันส่ิงของให้ผอู้ ื่น ๘.๓ ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ลงชื่อ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดีมาก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑๓ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรอื่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๓ เร่อื ง ฟงั ดี พูดตรง เวลาเรียน ๑ คาบ รหัสวิชา ท ๒๒๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผ้สู อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิริมงคล กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนมธั ยมวัดสิงห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชว้ี ดั ท ๓.๑ ม. ๒/๑ พูดสรปุ ใจความสาคญั ของเรื่องที่ฟังและดู ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด จุดประสงค์การเรยี นรูส้ ตู่ ัวช้ีวัด ๑. อธบิ ายหลักการพูดสรปุ ความจากเรื่องท่ีฟังและดู (K) ๒. พดู สรปุ ความจากเรื่องที่ฟังและดู (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการพูดสรุปความจากเรื่องท่ีฟงั และดู และมมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู (A) สาระสาคญั (คาชแี้ จง) การพูดสรปุ ความจากเร่ืองท่ีฟังและดูเป็นการส่งสารที่ต้องสรุปสาระสาคัญของส่ิงที่ฟังและดู การพูดต้องมี เน้ือหาตามข้อเท็จจริง ใชภ้ าษาท่เี ขา้ ใจง่าย และอ้างอิงแหล่งท่มี าใหช้ ดั เจนจะทาให้ การพูดสรุปความ เกิดประโยชน์ท้งั ตอ่ ผู้พูดและผู้ฟัง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา ๑. ให้นักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั ขา่ วทีน่ า่ สนใจในวันน้ัน โดยเล่าเฉพาะใจความสาคัญของขา่ ว ๒. ให้นกั เรียนสังเกตลกั ษณะการพดู คยุ เก่ยี วกับข่าวเมื่อสกั ครู่นี้ จากนั้นครบู อกนักเรยี นว่านัน่ เป็นลักษณะ ของการพูดสรปุ ความ กิจกรรมการเรียนรู้ ๓. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง การพดู สรุปความจากเรื่องทฟี่ ังและดแู ล้วรว่ มกนั สรปุ ความเขา้ ใจ ๔. ให้นกั เรยี นแต่ละคนรา่ งข้อความท่ีจะพูดในหวั ข้อ “บ้านฉนั กม็ ีดีจะอวด” ความยาวในการพดู ประมาณ ๑ นาที ๕. เม่อื ทุกคนเตรียมตวั พร้อมแลว้ ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ ๘ - ๑๐ คน สมาชกิ ภายในกลมุ่ ผลัดกนั เลา่ เรื่องท่เี ตรียมไวจ้ นครบทกุ คน จากนนั้ รว่ มกนั เลือกเร่ืองทช่ี อบทส่ี ดุ เพยี งกลมุ่ ละ ๑ เรอื่ ง เพ่ือนามาเลา่ หน้า ชั้นเรียน ๖. ใหน้ ักเรยี นทเี่ ปน็ เจ้าของเร่ืองท่ีได้รับเลือกออกมาเลา่ หน้าชน้ั เรยี นทลี ะกลมุ่ โดยเม่ือฟงั จบ

แต่ละเร่ืองใหก้ ลุ่มอนื่ ๆ ส่งตวั แทนกลมุ่ ละ ๑ คน พดู สรุปความจากเรอื่ งทีฟ่ ัง เมือ่ ตัวแทนพูดสรุปครบทุกกลุ่ม ให้กลุม่ ทีเ่ ป็นเจา้ ของเร่อื งประเมินว่าตวั แทนกลมุ่ ใดพูดสรุปความได้ดที ี่สุด ขัน้ สรปุ ๗. ให้นกั เรียนและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี - การพูดสรปุ ความจากเรอ่ื งที่ฟงั และดูเป็นการส่งสารท่ีต้องสรุปสาระสาคัญของสิง่ ท่ฟี ังและดู การพูด ต้องมเี นื้อหาตามข้อเทจ็ จรงิ ใช้ภาษาทเ่ี ข้าใจงา่ ย และอา้ งอิงแหลง่ ทีม่ าให้ชดั เจนจะทาให้การพูดสรุปความ เกดิ ประโยชนท์ งั้ ตอ่ ผู้พูดและผู้ฟงั ๘. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังนี้ - ในชวี ิตประจาวันต้องใช้ทักษะการพูดสรุปความในสถานการณ์ใดบา้ ง ส่ือการเรยี นรู้ ๑. ไฟล์บันทกึ เสยี ง ๒. ใบความรเู้ รอื่ ง หลกั การสรปุ ความ ๓. ขา่ ว ๑ เรอื่ ง การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นสมรรถนะ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม(A) ทักษะและกระบวนการ(P) - สงั เกตการณต์ อบคาถาม ๑.ประเมนิ ทักษะการอ่าน และการแสดงความคิดเห็น ๑. ประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเปน็ ๒. ประเมินทักษะการเขยี น - ตรวจผลการทากิจกรรม รายบคุ คลในดา้ นความสนใจและ ต้ังใจเรียน ๓. ประเมินทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ และ มคี วามรบั ผิดชอบในการทากิจกรรม สงั เคราะหน์ าความรู้ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมท่ี ความมีระเบียบวนิ ัยในการทางาน ได้รับจากบทเรียนไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ๒. ประเมนิ ความภาคภมู ิใจในวรรณคดี ได้ และวรรณกรรมไทย ๔. ประเมนิ ทักษะกระบวนการกลมุ่ กิจกรรมเสนอแนะ ให้นักเรยี นสร้างความภาคภมู ิใจให้กับตนเอง เรยี นรคู้ วามแตกต่างระหว่างบุคคล สรา้ งสัมพันธภาพใน กล่มุ เพื่อน เชือ่ มโยงชวี ิตจริงเขา้ สูก่ ารเรียน

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยืนตรงเมื่อไดย้ นิ เพลงชาติร้องเพลงชาตไิ ด้และอธิบายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏิบัติตนตามสิทธิและหนา้ ท่ีของนักเรยี น กษัตริย์ ๑.๓ ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น ๑.๔ เขา้ ร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชมุ ชน ๑.๕ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนา ๑.๖ เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ตามท่โี รงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซอ่ื สตั ย์ ๒.๑ ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง สจุ รติ ๒.๒ ปฏบิ ัติในสง่ิ ที่ถกู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ตี นให้ ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรอื ผู้ปกครอง และครู ๒.๓ ปฏิบตั ติ อ่ ผ้อู ่นื ด้วยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไมถ่ ูกต้อง ๓. มีวินยั ๓.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว รบั ผดิ ชอบ และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ๔.๒ มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรุปความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตุผล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเกบ็ พอเพยี ง รกั ษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม ๕.๒ ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเก็บรักษาดแู ลอยา่ งดี ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ๕.๔ ไม่เอาเปรยี บผ้อู ่ืนและไม่ทาให้ผู้อ่ืนเดือดร้อนพร้อมใหอ้ ภยั เม่ือผอู้ ่ืนกระทาผิดพลาด

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๕.๕ วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ วี ิตประจาวันบนพืน้ ฐานของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ๕.๖ ร้เู ท่าทันการเปลย่ี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตวั อยู่ ร่วมกับผอู้ ืน่ ได้อย่างมีความสุข ๖. มงุ่ มน่ั ในการ ๖.๑ มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสาเรจ็ ๗. รักความเปน็ ๗.๑ มจี ติ สานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย ไทย ๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย ๘. มจี ิต ๘.๑ ร้จู กั ช่วยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน สาธารณะ ๘.๒ อาสาทางาน ชว่ ยคิด ช่วยทา และแบ่งปันสง่ิ ของให้ผูอ้ ืน่ ๘.๓ ดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชอื่ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ ๓ คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดมี าก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรับปรุง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๔ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๔ เรอื่ ง พดู ดเี ป็นศรีศักดิ์ เวลาเรยี น ๑ คาบ รหสั วิชา ท ๒๒๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผู้สอน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิริมงคล กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นมัธยมวัดสิงห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สกึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวช้ีวัด ท ๓.๑ ม. ๒/๑ พูดสรปุ ใจความสาคญั ของเร่ืองท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด จุดประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ ัวช้ีวดั ๑. สรุปหลักการพดู สรุปความจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู (K) ๒. พดู สรปุ ความจากเรื่องท่ีฟังและดู (P) ๓. เห็นความสาคัญของการพูดสรปุ ความจากเรื่องที่ฟังและดู และมมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู (A) สาระสาคญั (คาช้แี จง) การพูดสรปุ ความต้องใช้ภาษาทเี่ ข้าใจง่าย มีสาระสาคัญครบถ้วนตรงตามข้อเท็จจริงของเรื่องและอ้างอิง แหลง่ ทม่ี าใหช้ ดั เจน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนา ๑. ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คาถามทา้ ทาย ดังนี้ - นกั เรียนเคยหรอื ไม่ทด่ี ูละครหรอื ภาพยนตรบ์ างเร่ืองแลว้ ไมเ่ ข้าใจ นักเรยี นคดิ วา่ เป็นเพราะเหตุ ใด ๒. ให้นักเรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกับละครหรือภาพยนตรเ์ ร่ืองที่กาลงั ไดร้ ับความนยิ ม ในขณะน้ัน กิจกรรมการเรยี นรู้ ๓. ให้นักเรยี นรว่ มกันทบทวนความรู้ เร่อื ง การพดู สรปุ ความจากเร่ืองท่ีฟงั และดู ๔. ให้นักเรียนช่วยกนั บอกช่ือเรอ่ื งละครหรือภาพยนตร์ที่มเี นอื้ เรื่องราวเก่ียวกบั การเสียสละเพื่อบา้ นเมือง การแสดงความกตญั ญูกตเวทีตอ่ แผน่ ดนิ เกิด หรือการทาประโยชนเ์ พือ่ สงั คม ครูบนั ทึกชอ่ื เรื่องบนกระดาน ๕. ให้นกั เรียนเลือกพูดสรปุ ความละครหรือภาพยนตรท์ ีเ่ คยดู ๑ เรอื่ ง โดยวางแผน รา่ งบทพดู และฝกึ ซ้อม การพดู

๖. ให้นกั เรียนออกมาพดู สรุปความท่ีเตรียมไวใ้ หเ้ พอื่ นฟังหน้าช้นั เรียน ครแู ละเพื่อนร่วมกันวจิ ารณ์และ ประเมนิ ผลการพูด พร้อมทงั้ ให้คาแนะนาและให้กาลงั ใจ ขั้นสรุป ๗. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดังนี้ - การพดู สรุปความต้องใชภ้ าษาท่เี ขา้ ใจงา่ ย มีสาระสาคญั ครบถ้วนตรงตามข้อเทจ็ จรงิ ของเร่ือง และ อา้ งอิงแหล่งท่ีมาให้ชดั เจน สื่อการเรียนรู้ ๑. ละครหรือภาพยนตร์ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านสมรรถนะ มคี ุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม(A) ทกั ษะและกระบวนการ(P) - สังเกตการณต์ อบคาถาม ๑.ประเมนิ ทกั ษะการอ่าน และการแสดงความคิดเห็น ๑. ประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเป็น ๒. ประเมนิ ทักษะการเขียน - ตรวจผลการทากจิ กรรม รายบคุ คลในดา้ นความสนใจและ ต้งั ใจเรียน ๓. ประเมินทักษะการคดิ วิเคราะห์ และ มีความรับผดิ ชอบในการทากิจกรรม สงั เคราะหน์ าความรดู้ า้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมท่ี ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ไดร้ บั จากบทเรียนไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวนั ๒. ประเมินความภาคภูมิใจในวรรณคดี ได้ และวรรณกรรมไทย ๔. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม กิจกรรมเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………..

การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) การประเมนิ กจิ กรรมนใ้ี หผ้ ้สู อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เร่อื ง การพดู สรปุ ความ ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒๑ เกณฑ์ การประเมนิ พดู สรปุ ความได้ พูดสรุปความได้ พูดสรปุ ความได้ พูดสรุปความ ครบถว้ น ชัดเจน ครบถ้วน ชัดเจน ครบถว้ น ไดค้ รบถ้วน การพดู สรุปความ อา้ งอิงแหลง่ ที่มา อา้ งอิงแหล่งที่มา อ้างอิงแหล่งท่ีมา อ้างองิ แหลง่ ที่มา ถกู ต้อง ใช้ภาษา ถูกต้อง ใช้ภาษา ถูกต้อง ถูกต้อง เขา้ ใจงา่ ย เขา้ ใจง่าย แมจ้ ะพดู วกวนไปบ้าง แต่พูดยาวเพราะมี มีบคุ ลิกภาพทด่ี ี แมจ้ ะพดู ตดิ ขดั แตก่ ย็ ังเข้าใจไดด้ ี รายละเอยี ดมาก แสดงออกอยา่ งมนั่ ใจ เลก็ นอ้ ยแต่ก็มี บคุ ลกิ ภาพ และยงั ต้อง บุคลกิ ภาพท่ีดี ต้องปรบั ปรุงเล็กนอ้ ย ปรบั ปรงุ บุคลิกภาพ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยืนตรงเมื่อไดย้ นิ เพลงชาติร้องเพลงชาตไิ ด้และอธิบายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏิบัติตนตามสิทธิและหนา้ ท่ีของนักเรยี น กษัตริย์ ๑.๓ ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น ๑.๔ เขา้ ร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชมุ ชน ๑.๕ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนา ๑.๖ เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ตามท่โี รงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซอ่ื สตั ย์ ๒.๑ ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง สจุ รติ ๒.๒ ปฏบิ ัติในสง่ิ ที่ถกู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ตี นให้ ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรอื ผู้ปกครอง และครู ๒.๓ ปฏิบตั ติ อ่ ผ้อู ่นื ด้วยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไมถ่ ูกต้อง ๓. มีวินยั ๓.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว รบั ผดิ ชอบ และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ๔.๒ มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรุปความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตุผล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเกบ็ พอเพยี ง รกั ษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม ๕.๒ ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเก็บรักษาดแู ลอยา่ งดี ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ๕.๔ ไม่เอาเปรยี บผ้อู ่ืนและไม่ทาให้ผู้อ่ืนเดือดร้อนพร้อมใหอ้ ภยั เม่ือผอู้ ่ืนกระทาผิดพลาด

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๕.๕ วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ วี ิตประจาวันบนพืน้ ฐานของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ๕.๖ ร้เู ท่าทันการเปลย่ี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตวั อยู่ ร่วมกับผอู้ ืน่ ได้อย่างมีความสุข ๖. มงุ่ มน่ั ในการ ๖.๑ มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสาเรจ็ ๗. รักความเปน็ ๗.๑ มจี ติ สานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย ไทย ๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย ๘. มจี ิต ๘.๑ ร้จู กั ช่วยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน สาธารณะ ๘.๒ อาสาทางาน ชว่ ยคิด ช่วยทา และแบ่งปันสง่ิ ของให้ผูอ้ ืน่ ๘.๓ ดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชอื่ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ ๓ คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดมี าก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรับปรุง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรอื่ ง บทเสภาสามัคคเี สวก แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๕ เรื่อง การจัดระบบขอ้ มูลด้วยผังความคิด เวลาเรยี น ๑ คาบ รหัสวชิ า ท ๒๒๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผสู้ อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิรมิ งคล กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนมัธยมวัดสงิ ห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ติ และมีนิสยั รักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริง ตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ม. ๒/๓ เขียนผังความคิดเพ่ือแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรปุ เนอ้ื หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ นในระดับที่ยากข้นึ จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวช้ีวัด ๑. อธิบายรูปแบบและการใชผ้ ังความคดิ (K) ๒. เขยี นผงั ความคดิ จากเรื่องทอ่ี ่าน (P) ๓. เห็นความสาคัญของการเขียนผังความคิดเพ่ือสรุปความเรื่องที่อ่าน (A) สาระสาคญั (คาชี้แจง) การเขียนผังความคดิ จากข้อความยาว ๆ หรือข้อความที่เข้าใจยากจะชว่ ยจัดลาดับความคิดทาให้ จดจาได้ง่ายและเขา้ ใจดีขึน้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ๑. ให้นกั เรยี นอา่ นแถบข้อความท่ีครตู ิดบนกระดาน ดงั นี้ สาเหตุทเี่ ลือดไปเล้ยี งสมองไดน้ ้อย สาเหตุท่เี ลือดไปเลี้ยงสมองได้นอ้ ย เนื่องจากมีกระดูกคอข้อที่ ๑ เคลอ่ื นไปทบั เสน้ ประสาทหรือ เสน้ เลือดท่ไี ปเลยี้ งสมอง ปัญหาเกดิ จากการรับประทานอาหารประเภทผัด และทอดด้วยน้ามนั เป็นประจาและเป็นเวลานาน ทาให้เกดิ ไขมันเกาะตัวตามผนังลาไส้ ทาใหร้ ะบบ ดดู ซึมเสยี และถงุ น้าดีพงั มีพยาธิในลาไส้หรอื ท่ีผิวหนงั ตลอดจนการงดรบั ประทานอาหารเช้ากเ็ ป็นสาเหตุ ที่ทาให้เลือดไปเลีย้ งสมองได้น้อย ทาให้เกิดอาการผมร่วง หน้าแก่เรว็ คออักเสบงา่ ย นอนไม่ค่อยหลบั

๒. ให้นกั เรียนอ่านผงั ความคดิ ทีค่ รูติดบนกระดาน ดงั นี้ กระดูกคอเคลือ่ นไปทบั เสน้ ประสาท มพี ยาธใิ นลาไส้หรือทีผ่ ิวหนงั หรือเส้นเลือดที่ไปเล้ยี งสมอง รบั ประทานอาหารประเภทผดั ไมร่ บั ประทานอาหารเช้า เลอื ดไปเลี้ยงสมอง และทอดดว้ ยนา้ มนั เปน็ ประจา ได้นอ้ ย ทาใหผ้ มร่วง หน้าแกเ่ รว็ คอ อกั เสบง่าย นอนไม่ ค่อยหลับ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๓. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นวา่ การนาเสนอข้อมูลแบบใด ทาใหเ้ ขา้ ใจง่ายกว่ากัน พร้อมอธบิ ายเหตผุ ล ๔. ให้นักเรยี นรว่ มสนทนาเกี่ยวกับรปู แบบของผงั ความคิดทร่ี จู้ ักหรอื เคยใช้ในกลุม่ สาระการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ ๕. ให้นักเรียนศกึ ษาความรู้ เรอื่ ง การเขยี นผงั ความคดิ จากเรื่องท่ีอา่ นแลว้ ช่วยกันตอบคาถามเพื่อสรุปความเขา้ ใจ ๕.๑ ผังความคิดแบบใยแมงมมุ เหมาะสาหรับจัดข้อมลู แบบใด (ข้อมลู ทม่ี รี ายละเอียดในหัวข้อต่าง ๆ ซ่ึงเป็นการนาคาสาคัญมาบนั ทึกไว)้ ๕.๒ การวิเคราะหผ์ ลดี ผลเสยี เพอื่ ตัดสนิ ใจเลือกปฏบิ ตั ิควรใชผ้ ังความคดิ แบบใด (ผงั ความคิดเพอื่ ตัดสนิ ใจ) ๕.๓ ผงั ความคิดแบบขน้ั บันไดมีวิธีใชอ้ ยา่ งไร (ใช้จดั ข้อมลู ทม่ี ีขัน้ ตอนการปฏบิ ัตชิ ดั เจน โดยเรมิ่ จากขั้นล่างสุดเรยี งลาดบั ขนึ้ ไป) ๕.๔ ผงั ความคดิ แบบเปรียบเทยี บมีจุดประสงคอ์ ย่างไร (เปรยี บเทยี บความเหมือนและความแตกต่าง วเิ คราะห์รายละเอียดของแต่ละสิง่ เพื่อจาแนกหรือจดั กลุ่ม) ๕.๕ ผงั ความคิดแบบก้างปลาส่ือความหมายอย่างไร (แสดงสาเหตหุ รือท่มี าของส่งิ ท่เี กิดข้ึน) ๕.๖ ผังความคิดแบบโครงสร้างใช้เมื่อต้องการแสดงสงิ่ ใด (แสดงสว่ นประกอบทร่ี วมเป็นส่งิ ใดสิ่งหนงึ่ ) ๖. ให้นกั เรยี นศึกษาตวั อย่างการเขียนผงั ความคิดให้เหมาะกบั เนือ้ หาต่าง ๆ ในใบความรู้ ๗. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๓-๕ คน นาความรทู้ ค่ี รมู อบหมายให้เตรยี มไว้มาแลกกันอา่ น จากน้ันร่วมกัน คัดเลอื กความรู้ ๑ เร่อื ง ช่วยกันเขยี นผังความคิดนาเสนอความรูน้ นั้ โดยใช้กระดาษชารต์ และปากกาเคมที ่ีครู แจกให้ ๘. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ นาผังความคดิ ออกมานาเสนอหน้าช้นั เรียนพร้อมท้ังอธบิ ายประกอบ นักเรียนกลุม่ อืน่ สามารถซักถามและแสดงความคดิ เหน็ ได้ เมือ่ เพื่อนนาเสนอจบ ครูช่วยอธบิ ายเพิ่มเติม ขนั้ สรุป ๙. ใหน้ ักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี

การเขยี นผังความคิดจากข้อความยาว ๆ หรอื ข้อความทเี่ ข้าใจยากจะช่วยจัดลาดบั ความคิดทาให้ จดจา ได้งา่ ยและเขา้ ใจดขี ้ึน ๑๐. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังน้ี ๑๐.๑ นกั เรยี นจะนาผังความคิดรปู แบบต่าง ๆ ไปใช้ในการเรียนอย่างไร ๑๑. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปอ่านหนงั สืออ่านนอกเวลา เรอ่ื งสัน้ วรรณกรรมเยาวชน วรรณกรรมท้องถน่ิ หรือหนงั สอื อืน่ ๆ ที่นักเรียนสนใจสาหรบั ทากจิ กรรมในชั่วโมงต่อไป ส่อื การเรียนรู้ ๑. ใบความรู้ เร่ือง การเขียนผงั ความคดิ ๒. Power Point วิธกี ารเขยี นผงั ความคิด การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นสมรรถนะ มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยม(A) ทักษะและกระบวนการ(P) - สงั เกตการณ์ตอบคาถาม และการแสดงความคดิ เหน็ ๑. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็น ๑.ประเมินทักษะการอ่าน - ตรวจผลการทากิจกรรม รายบุคคลในด้านความสนใจและ ๒. ประเมินทักษะการเขยี น ตงั้ ใจเรียน มคี วามรบั ผดิ ชอบในการทากิจกรรม ๓. ประเมินทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ และ ความมรี ะเบยี บวินัยในการทางาน สังเคราะหน์ าความรดู้ า้ นคุณธรรมจริยธรรมที่ ๒. ประเมินความภาคภมู ใิ จในวรรณคดี ได้รับจากบทเรียนไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั และวรรณกรรมไทย ได้ ๔. ประเมนิ ทักษะกระบวนการกล่มุ กจิ กรรมเสนอแนะ จดั ประกวดให้นักเรยี นเขียนผังความคิดจากเรือ่ งท่ีอา่ น โดยครูอาจหาข้อความหรอื เร่ืองสั้น ๆ ติดไว้ ที่ป้ายนิเทศแล้วใหน้ กั เรยี นแข่งขนั เขียนผังความคิด ใครท่เี ขียนไดส้ มบูรณ์และรวดเรว็ ท่ีสดุ จะไดร้ บั รางวัล และนาผลงานตดิ คู่กับเนื้อหาเพ่อื เป็นตัวอยา่ งท่ีดี อาจจัดสปั ดาห์ละ ๑ คร้ัง

การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) การประเมนิ กจิ กรรมนใี้ ห้ผู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เรอ่ื ง การพูดสรปุ ความ ระดบั คะแนน ๔ ๓ ๒๑ เกณฑ์ การประเมนิ พดู สรุปความได้ พูดสรปุ ความได้ พดู สรปุ ความได้ พูดสรปุ ความ ครบถว้ น ชัดเจน ครบถ้วน ชัดเจน ครบถว้ น ได้ครบถว้ น การพดู สรปุ ความ อา้ งองิ แหล่งที่มา อ้างองิ แหล่งที่มา อ้างองิ แหล่งท่ีมา อ้างองิ แหล่งที่มา ถกู ต้อง ใชภ้ าษา ถกู ต้อง ใชภ้ าษา ถกู ต้อง ถูกต้อง เข้าใจงา่ ย เขา้ ใจงา่ ย แมจ้ ะพูดวกวนไปบ้าง แตพ่ ูดยาวเพราะมี มีบคุ ลิกภาพท่ีดี แมจ้ ะพดู ตดิ ขดั แต่กย็ ังเข้าใจได้ดี รายละเอียดมาก แสดงออกอยา่ งม่นั ใจ เลก็ น้อยแต่กม็ ี บุคลกิ ภาพ และยังต้อง บคุ ลกิ ภาพท่ีดี ต้องปรับปรุงเล็กนอ้ ย ปรับปรงุ บคุ ลิกภาพ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมือ่ ไดย้ ินเพลงชาติรอ้ งเพลงชาตไิ ด้และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามสิทธิและหน้าท่ีของนักเรยี น กษตั รยิ ์ ๑.๓ ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชิกในโรงเรียน ๑.๔ เข้ารว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียนและชมุ ชน ๑.๕ เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของศาสนา ๑.๖ เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ ตามทโี่ รงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซอื่ สตั ย์ ๒.๑ ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง และเปน็ จริง สจุ ริต ๒.๒ ปฏิบตั ิในส่งิ ท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทาความผิด ทาตามสญั ญาทตี่ นให้ ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรอื ผ้ปู กครอง และครู ๒.๓ ปฏบิ ตั ิต่อผอู้ ่ืนด้วยความซอ่ื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางท่ีไม่ถูกตอ้ ง ๓. มวี ินัย ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั รับผดิ ชอบ และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน และ รับผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรปุ ความรู้ได้อยา่ งมเี หตผุ ล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น สิ่งของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บ พอเพียง รักษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี

คุณลกั ษณะ ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ ๕.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อื่นและไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดือดร้อนพร้อมใหอ้ ภยั เม่อื ผ้อู น่ื กระทาผดิ พลาด ๔๓๒๑ ดา้ น รายการประเมนิ ๖. มุ่งมน่ั ในการ ๕.๕ วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ ีวิตประจาวนั บนพื้นฐานของความรู้ ทางาน ขอ้ มลู ข่าวสาร ๗. รักความเป็น ๕.๖ รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรับตวั อยู่ ไทย ร่วมกบั ผ้อู นื่ ไดอ้ ย่างมคี วามสุข ๘. มีจิต ๖.๑ มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย สาธารณะ ๖.๒ มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ ๗.๑ มีจติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย ๘.๑ รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปนั สิ่งของใหผ้ ู้อนื่ ๘.๓ ดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบตั ิของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชื่อ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ ๓ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครง้ั ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดีมาก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑๖ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ือง บทเสภาสามคั คเี สวก แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๖ เรื่อง ผงั ความคดิ ช่วยพินจิ วรรณคดี เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง รหัสวชิ า ท ๒๒๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ผู้สอน นางสาวมณฑกาญจน์ ศริ ิมงคล กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นมธั ยมวดั สงิ ห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณคา่ และนามาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง ตัวชวี้ ดั ท ๑.๑ ม. ๒/๓ เขียนผังความคดิ เพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ท่ีอา่ น ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ทย่ี ากขึ้น จุดประสงค์การเรียนรสู้ ู่ตัวชี้วดั ๑. อธิบายรูปแบบและการใช้แผนภาพโครงเรื่อง (K) ๒. เขียนแผนภาพโครงเรื่องจากวรรณกรรมท่อี ่าน (P) ๓. เขียนผังความคดิ เพื่อสรปุ เน้ือหาจากการอ่านบทเสภาสามัคคีเสวก (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการเขยี นผังความคิดเพื่อสรุปความเร่ืองที่อ่าน (A) สาระสาคัญ (คาช้แี จง) ผงั ความคิดมีหลายรปู แบบ แต่ละรูปแบบเหมาะสาหรับจัดข้อมูลแตกต่างกัน ต้องเลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ข้อมูลจะทาใหจ้ ัดความคิดไดเ้ ปน็ ระบบท่ีชัดเจนขึ้น การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา ๑. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นวา่ ปจั จยั ใดทาใหล้ ะครเรื่องนัน้ ๆ สนุก นา่ ตดิ ตาม กิจกรรมการเรียนรู้ ๒. ให้นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกับละครยอดนิยม ๑ เรือ่ งท่ีเพ่งิ จบไป โดยครใู ชค้ าถามเพือ่ กาหนดประเด็น ในการสนทนา ดงั นี้ ตัวละครสาคัญมีใครบา้ ง ฉากสาคญั ของเร่ืองมีกี่ฉาก ฉากใดบา้ ง แนวคิดหลักของเรื่องน้ีคืออะไร

ปัญหาสาคญั ทผ่ี ลกั ดันใหเ้ รอ่ื งราวต่าง ๆ ดาเนินไปคืออะไร เหตกุ ารณส์ าคัญดาเนินไปตามลาดับอยา่ งไร จุดจบของเร่ืองเป็นอยา่ งไร ๓. ครอู ธิบายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ องคป์ ระกอบต่าง ๆ ที่ได้สนทนาร่วมกนั นเ้ี ปน็ ลักษณะของโครงเรื่อง ๔. ให้นกั เรียนศึกษารปู แบบของแผนภาพโครงเรื่อง จากนั้นช่วยกันเขยี นแผนภาพโครงเรื่องจากละคร ทไ่ี ดส้ นทนาร่วมกนั ครบู นั ทึกแผนภาพโครงเรอื่ งบนกระดาน ๕. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓-๕ คน นาวรรณกรรมท่คี รูมอบหมายในช่ัวโมงทแี่ ล้วมาแลกกันอา่ น หรือผลดั กันเล่าใหส้ มาชิกในกลมุ่ ฟงั จากน้นั คัดเลอื ก ๑ เรื่อง ช่วยกนั เขยี นแผนภาพโครงเรอื่ งโดยใช้กระดาษ ชาร์ตและปากกาเคมที คี่ รูแจกให้ ๖. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอแผนภาพโครงเรอ่ื งพร้อมท้งั เลา่ เร่ืองประกอบ นักเรยี นกลมุ่ อืน่ สามารถซักถามและแสดงความคิดเห็นได้เม่ือเพ่ือนนาเสนอจบ ครูช่วยอธิบายเพ่มิ เติม ๗. ใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ ๕ เรอ่ื ง การเขียนผังความคดิ สรปุ เน้ือหาจากบทเสภาสามคั คีเสวก แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครปู ระเมนิ ผลงานของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล ข้นั สรุป ๘. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี ผังความคิดมหี ลายรปู แบบ แตล่ ะรูปแบบเหมาะสาหรบั จัดขอ้ มลู แตกตา่ งกนั ต้องเลอื กใช้ ใหเ้ หมาะสมกับข้อมลู จะทาให้จัดความคดิ ไดเ้ ปน็ ระบบท่ชี ัดเจนย่ิงขนึ้ ๙. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ าถามทา้ ทาย ดังน้ี นกั เรยี นจะใชผ้ ังความคิดในชีวติ ประจาวันได้หรือไม่ อย่างไร สอ่ื การเรียนรู้ ๑. กระดาษชารต์ และปากกาเคมี ๒. Power Point บทเสภาสามคั คเี สวก ๓. ใบงาน เรอื่ ง การเขียนผงั ความคิดสรุปเน้ือหาจากบทเสภาสามคั คเี สวก การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านสมรรถนะ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยม(A) ทกั ษะและกระบวนการ(P) - สงั เกตการณต์ อบคาถาม ๑.ประเมนิ ทักษะการอ่าน และการแสดงความคิดเหน็ ๑. ประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเป็น ๒. ประเมนิ ทักษะการเขยี น - ตรวจผลการทากิจกรรม รายบุคคลในด้านความสนใจและ ใบงานท่ี ๕ ต้งั ใจเรียน ๓. ประเมนิ ทักษะการคดิ วิเคราะห์ และ มีความรบั ผิดชอบในการทากิจกรรม สงั เคราะหน์ าความรดู้ า้ นคุณธรรมจริยธรรมที่ ความมรี ะเบยี บวนิ ัยในการทางาน ไดร้ ับจากบทเรียนไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวัน ๒. ประเมินความภาคภูมใิ จในวรรณคดี ได้ และวรรณกรรมไทย ๔. ประเมินทักษะกระบวนการกลมุ่ กิจกรรมเสนอแนะ จัดประกวดใหน้ ักเรยี นเขียนผังความคิดจากเรอ่ื งท่ีอา่ น โดยครูอาจหาข้อความหรือเรื่องส้ัน ๆ ตดิ ไว้

ท่ปี ้ายนิเทศแลว้ ให้นกั เรียนแข่งขันเขยี นผงั ความคิด ใครที่เขียนได้สมบรู ณ์และรวดเร็วทส่ี ุดจะได้รับรางวลั และนาผลงานตดิ คู่กบั เนื้อหาเพอ่ื เปน็ ตัวอย่างท่ีดี อาจจัดสัปดาหล์ ะ ๑ ครั้ง การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) การประเมนิ กจิ กรรมนใี้ ห้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การเขยี นผังความคดิ สรปุ เน้ือหาจากบทเสภาสามคั คีเสวก ระดับคะแนน ๔ ๓๒ ๑ เกณฑ์ การประเมนิ แสดงใจความสาคัญ แสดงใจความสาคญั ขาดใจความสาคัญ ขาดใจความสาคญั ครบทุกประเดน็ หลายประเด็น การเขียนผงั ความคิด รปู แบบเหมาะสมกับ รปู แบบเหมาะสม เน้ือหา สะอาด กับเนือ้ หา เรียบรอ้ ย สวยงาม ครบทุกประเด็น บางประเดน็ แต่ตอ้ งปรบั ปรุง เรื่องความสวยงาม รปู แบบเหมาะสม รปู แบบเหมาะสม และความสะอาด กับเน้อื หา กบั เนื้อหา แต่ตอ้ ง ปรับปรงุ เร่อื ง ปรบั ปรุงเรือ่ ง ความสวยงามเล็กน้อย ความสวยงาม

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ ๔๓๒๑ ดา้ น ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมอ่ื ได้ยนิ เพลงชาติรอ้ งเพลงชาติได้และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธิและหนา้ ท่ีของนักเรียน กษัตริย์ ๑.๓ ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น ๑.๔ เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมีสว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมท่ีสร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชมุ ชน ๑.๕ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา ๑.๖ เข้ารว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมท่เี กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ ตามท่โี รงเรยี นและชุมชนจดั ขึ้น ๒. ซอ่ื สตั ย์ ๒.๑ ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง สจุ ริต ๒.๒ ปฏบิ ตั ใิ นสิง่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผิด ทาตามสัญญาทต่ี นให้ ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู ๒.๓ ปฏบิ ัตติ อ่ ผูอ้ ืน่ ด้วยความซือ่ ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไมถ่ ูกต้อง ๓. มีวินยั ๓.๑ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั รบั ผิดชอบ และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน และ รบั ผิดชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ ๔.๓ สรปุ ความรไู้ ด้อย่างมเี หตุผล ๕. อยู่อย่าง ๕.๑ ใชท้ รพั ยส์ ินของตนเอง เชน่ ส่ิงของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ พอเพียง รักษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม

คุณลักษณะ ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ ๕.๓ ปฏบิ ัตติ นและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ๔๓๒๑ ๕.๔ ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ ่ืนและไม่ทาใหผ้ อู้ ่ืนเดอื ดร้อนพร้อมให้อภัยเมื่อผู้อ่นื กระทาผิดพลาด ด้าน รายการประเมนิ ๖. มุ่งมั่นในการ ทางาน ๕.๕ วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ิตประจาวนั บนพื้นฐานของความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ๗. รักความเป็น ไทย ๕.๖ รเู้ ท่าทันการเปลีย่ นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยู่ รว่ มกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุข ๘. มีจิต สาธารณะ ๖.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ๖.๒ มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสาเร็จ ๗.๑ มีจติ สานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๗.๒ เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย ๘.๑ รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบง่ ปนั สง่ิ ของให้ผอู้ ืน่ ๘.๓ ดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบัติของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน ๘.๔ เข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชอื่ .................................................... ผู้ ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดมี าก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๕๔ ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๗ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง บทเสภาสามคั คเี สวก แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๗ เรื่อง สรปุ เนอ้ื หามีสาระ เวลาเรยี น ๑ คาบ รหสั วิชา ท ๒๒๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ผู้สอน นางสาวมณฑกาญจน์ ศริ ิมงคล กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนมัธยมวดั สิงห์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คณุ คา่ และนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริง ตัวชีว้ ัด ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรุปเนือ้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ นในระดบั ทีย่ ากข้นึ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้สู่ตัวช้ีวดั ๑. สรุปความรจู้ ากการอา่ นบทเสภาสามัคคเี สวก (K) ๒. วเิ คราะหข์ ้อคิดจากการอ่านบทเสภาสามคั คเี สวก (P) ๓. เสนอแนวทางการนาข้อคิดจากบทเสภาสามัคคีเสวกไปใช้ในชวี ิตจริง (P) ๔. เห็นความสาคัญของการสรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่านไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง (A) สาระสาคญั (คาชแ้ี จง) การสรปุ ความรู้และการนาข้อคดิ ที่ได้จากการอา่ นไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จริงจะทาใหก้ ารอา่ นวรรณคดี เร่อื งนนั้ ๆ เกดิ ประโยชน์ในการดาเนินชีวิตและรจู้ ักแกป้ ัญหาทเี่ กิดขึ้น การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนา ๑. ใหน้ กั เรียนอา่ นทบทวนบทเสภาสามัคคเี สวก ตอน วศิ วกรรมา กิจกรรมการเรียนรู้ ๒. ใหน้ ักเรยี นระดมสมองในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี ในฐานะท่นี ักเรียนเปน็ ประชาชนไทยคนหน่งึ จะชว่ ยเผยแพรศ่ ลิ ปะไทยอยา่ งไร ครบู นั ทึก ความคดิ ของนักเรียนเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ๓. ให้นักเรียนอ่านทบทวนบทเสภาสามคั คเี สวก ตอน สามัคคเี สวก ๔. ให้นกั เรยี นแบ่งกล่มุ ๙ กลุ่ม ส่งตวั แทนออกมาจบั ฉลากคุณลกั ษณะทป่ี รากฏในบทเสภาสามคั คี เสวก ดังนี้ กลุ่มที่ ๑ ความมีวนิ ยั กลมุ่ ท่ี ๒ ความจงรักภกั ดี (ความเชอ่ื ถือ) กลมุ่ ที่ ๓ ความไม่เหน็ แกต่ ัว กลุม่ ท่ี ๔ ความมีน้าใจต่อกัน กล่มุ ที่ ๕ ความขยนั ขนั แข็ง กลุ่มที่ ๖ ความซ่ือสัตย์สจุ ริต

กลุ่มท่ี ๗ ความอ่อนน้อมถอ่ มตน กลุ่มที่ ๘ ความรับผิดชอบต่อหนา้ ที่ กลุ่มที่ ๙ ความยตุ ธิ รรม ๕. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นาคุณลกั ษณะท่ีได้ไปชว่ ยกนั ประเมินค่าว่าถา้ ทุกคนมีคุณลักษณะนนั้ แลว้ จะ สง่ ผลดตี ่อครอบครัว ตอ่ ชุมชน ต่อประเทศและตอ่ โลกอย่างไร โดยแยกประเด็นให้ชดั เจน ๖. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มผลดั กนั นาเสนอความคดิ ของกลมุ่ กลุ่มอน่ื สามารถแสดงความคิดเพิม่ เติมได้ ๗. ใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ ๖ เร่ือง การสรุปความรู้และข้อคิดจากบทเสภาสามคั คีเสวก ครตู รวจสอบ และประเมนิ ผลงานของนกั เรียนเป็นรายบุคคล ข้นั สรปุ ๘. ให้นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ การสรปุ ความรแู้ ละการนาข้อคิดท่ีไดจ้ ากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ จะทาให้การอา่ น วรรณคดเี รอ่ื งน้นั ๆ เกิดประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชวี ิตและร้จู ักแก้ปญั หาท่เี กิดข้ึน ๙. ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ชค้ าถามท้าทาย ดังน้ี • ส่งิ สาคญั ในการอยรู่ ่วมกันคอื อะไร ๑๐. ครมู อบหมายให้นักเรยี นไปเลอื กอ่านหนังสือ เร่อื ง คือรักและหวงั สายโลหติ หรือเพียงความ เคลอื่ นไหว เรือ่ งใดเรื่องหนงึ่ ตามความสนใจสาหรับทากจิ กรรมในชั่วโมงต่อไป สื่อการเรยี นรู้ ๑. ฉลาก ๒. Power Point บทเสภาสามัคคีเสวก ๓. ใบงาน เรอ่ื ง การสรุปความรู้และข้อคดิ จากบทเสภาสามคั คเี สวก การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านสมรรถนะ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยม(A) ทักษะและกระบวนการ(P) - สังเกตการณ์ตอบคาถาม ๑.ประเมนิ ทักษะการอ่าน และการแสดงความคดิ เห็น ๑. ประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเป็น ๒. ประเมินทักษะการเขียน - ตรวจผลการทากิจกรรม รายบุคคลในดา้ นความสนใจและ ใบงานท่ี ๖ ตั้งใจเรยี น ๓. ประเมินทักษะการคิดวเิ คราะห์ และ มีความรบั ผิดชอบในการทากิจกรรม สังเคราะหน์ าความรดู้ า้ นคุณธรรมจริยธรรมที่ ความมรี ะเบียบวินัยในการทางาน ไดร้ บั จากบทเรยี นไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวนั ๒. ประเมนิ ความภาคภูมิใจในวรรณคดี ได้ และวรรณกรรมไทย ๔. ประเมนิ ทักษะกระบวนการกลุ่ม กิจกรรมเสนอแนะ ให้นักเรยี นได้แสดงความคิดเห็นอย่างอสิ ระในประเดน็ ทห่ี ลากหลาย ฝึกคิดให้กวา้ ง คิดในทางสรา้ งสรรค์ นักเรียนจะได้โลกทัศน์ใหม่ ๆ

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมินกิจกรรมนใ้ี ห้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เร่อื ง การสรุปความรู้และข้อคิดจากบทเสภาสามัคคีเสวก ระดบั คะแนน เกณฑ์ ๔ ๓ ๒ ๑ การประเมนิ สรุปความรู้ได้ถูกต้อง สรุปความรไู้ ดถ้ ูกต้อง สรุปขอ้ คิด และสรปุ ข้อคิด การสรุปความรู้ สรุปความรู้ไดถ้ ูกต้อง สรปุ ความรู้ได้ถูกต้อง ได้หลายประเดน็ เพยี งประเด็นเดยี ว แต่การเสนอแนวทาง การเสนอแนวทาง และข้อคิด สรุปข้อคิด สรุปขอ้ คิด ที่จะนาไปใช้ไมช่ ดั เจน ทจ่ี ะนาไปใชใ้ นชีวิตจริง ไม่ชดั เจน จากเรื่องท่ีอา่ น ได้หลายประเดน็ ไดห้ ลายประเดน็ เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง การนาไปใช้ การนาไปใช้ ทห่ี ลากหลาย ทสี่ ร้างสรรคแ์ ละ เปน็ ไปในทางสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงกับชีวติ จริง และเชอ่ื มโยงกับชวี ิตจริง แต่ยังไมห่ ลากหลาย

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ ความตง้ั ใจ ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ ในการทางาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บรอ้ ย ของงาน ๒๐ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ๑๘ - ๒๐ ดีมาก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ๑๔ - ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ ๔๓๒๑ ด้าน ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมือ่ ไดย้ ินเพลงชาติรอ้ งเพลงชาตไิ ด้และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามสิทธิและหน้าท่ีของนักเรยี น กษตั รยิ ์ ๑.๓ ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชิกในโรงเรียน ๑.๔ เข้ารว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียนและชมุ ชน ๑.๕ เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของศาสนา ๑.๖ เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ ตามทโี่ รงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ๒. ซอื่ สตั ย์ ๒.๑ ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง และเปน็ จริง สจุ ริต ๒.๒ ปฏิบตั ิในส่งิ ท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทาความผิด ทาตามสญั ญาทตี่ นให้ ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรอื ผ้ปู กครอง และครู ๒.๓ ปฏบิ ตั ิต่อผอู้ ่ืนด้วยความซอ่ื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางท่ีไม่ถูกตอ้ ง ๓. มวี ินัย ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั รับผดิ ชอบ และโรงเรียน ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน และ รับผดิ ชอบในการทางาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ ๔.๓ สรปุ ความรู้ได้อยา่ งมเี หตผุ ล ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น สิ่งของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บ พอเพียง รักษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี

คุณลกั ษณะ ๕.๓ ปฏบิ ัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ ๕.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อื่นและไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดือดร้อนพร้อมใหอ้ ภยั เม่อื ผ้อู น่ื กระทาผดิ พลาด ๔๓๒๑ ดา้ น รายการประเมนิ ๖. มุ่งมน่ั ในการ ๕.๕ วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ ีวิตประจาวนั บนพื้นฐานของความรู้ ทางาน ขอ้ มลู ข่าวสาร ๗. รักความเป็น ๕.๖ รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรับตวั อยู่ ไทย ร่วมกบั ผ้อู นื่ ไดอ้ ย่างมคี วามสุข ๘. มีจิต ๖.๑ มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย สาธารณะ ๖.๒ มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ ๗.๑ มีจติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย ๘.๑ รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปนั สิ่งของใหผ้ ู้อนื่ ๘.๓ ดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบตั ิของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน ๘.๔ เขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชื่อ .................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ ๓ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครง้ั ให้ ๑ คะแนน ๙๑ – ๑๐๘ ดีมาก ๗๓ – ๙๐ ดี ๕๔ – ๗๒ พอใช้ ต่ากว่า ๕๔ ปรบั ปรุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook