Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนม.3แบบรวมเทอม1

แผนการสอนม.3แบบรวมเทอม1

Published by monthakarn5311313505, 2021-04-12 11:32:04

Description: แผนการสอนม.3แบบรวมเทอม1 - สำหรับการ11111

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๗ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บทละครพูด เร่อื ง เหน็ แกล่ ูก เรือ่ ง เนื้อเรอ่ื งย่อ รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรียน ๒ ชว่ั โมง ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ผูส้ อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิรมิ งคล กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนมธั ยมวดั สิงห์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิดและ ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ๒. ตวั ชีว้ ัด ท ๓.๑ ม.๓/๑ การพดู แสดงความคดิ เห็นและประเมนิ เรื่องจากการฟังและการดู ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ สามารถอธิบายสามารถอธบิ ายความหมายของบทละครพดู ได้ ๓.๒ สามารถพูดแสดงความคิดเห็นและประเมิน บทละครพูด เร่อื ง เหน็ แก่ลูก ได้ ๔. สาระสาคญั บทละครพูด เรื่อง เห็นแก่ลูก รัชกาลที่ ๖ ทรงผูกเร่ืองอย่างรัดกุมและดาเนินเร่ืองโดยใช้บทสนทนา ของตัวละครโต้ตอบกัน ทาให้ทราบเร่ืองราวที่ดาเนินไป และทราบเบ้ืองหลังของตัวละครแต่ละตัว นอกจากน้ี ยังทรงบรรยายกริยาท่าทางของตวั ละครแต่ละตัวไว้ในวงเล็บ เพื่อช่วยให้นักแสดง แสดงตามบทได้สะดวกและ สมบทบาทยงิ่ ขึน้ ภาษาทีใ่ ช้ในบทละครนีใ้ ชค้ าพดู ง่าย ๆ แต่ใหค้ วามหมายคมคายลกึ ซ้ึง ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ เนอ้ื เรอื่ งย่อ บทละครพดู เร่อื ง เห็นแก่ลูก ๕.๒ หลกั การพดู แสดงความคิดเห็น บทละครพูด เร่ือง เหน็ แก่ลกู ๖. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคดิ ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปญั หา ๖.๔ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ๖.๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๗.๑ มีวินยั ๗.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๗.๓ ม่งุ มนั่ ในการทางาน ๗.๔ รกั ความเป็นไทย ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา ครแู ละนักเรียนร่วมกันทบทวนความรทู้ ี่เรียนในช่ัวโมงท่ีแลว้ ดงั นี้ • การวิเคราะห์ตัวละครแตล่ ะตัว จาก บทละครพดู เรื่อง เหน็ แกล่ ูก ขั้นสอน ๑. ครูเล่าเรื่องย่อ บทละครพูด เร่ือง เห็นแก่ลูก ให้นักเรียนฟัง จากน้ันให้นักเรียน เขยี นบนั ทกึ ลงในสมดุ ๒. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับเน้ือเรื่องและลักษณะของบทละครพูด จากน้ันให้นักเรยี นทาใบงาน เรื่อง “แฟนพันธุ์แทล้ ะครพูด” เมือ่ เสร็จนามาส่งครู ๓. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มออกเปน็ ๕ กล่มุ เตรยี มหาตวั แทนกลุ่ม เพ่ือออกมาพูดหน้า ชั้ น เรยี น ในประเดน็ ท่ีครูกาหนดให้ พรอ้ มสอดแทรกความคดิ เห็นอธบิ ายเพิ่มเตมิ ดังนี้ กลุ่มท่ี ๑ พฤตกิ รรมของตวั ละครสาคัญ กลุ่มที่ ๒ เมื่ออา่ นเนอื้ เรือ่ งจบแล้วนักเรยี นรสู้ กึ อย่างไร กลมุ่ ท่ี ๓ เหตใุ ดเมอ่ื นายล้าพบกับแมล่ ออ นายลา้ จงึ ไม่บอกความจรงิ กบั ลูก หากนายลา้ บอกความจริงนักเรยี นคิดวา่ แมล่ ออจะรับไดไ้ หม กล่มุ ท่ี ๔ ทจ่ี ริงแล้วพระยาภกั ดไี ม่ต้องการใหน้ ายลา้ พบกบั แม่ลออหรือไม่ อยา่ งไร กลุ่มท่ี ๕ ขอ้ คดิ ที่นักเรียนได้รับจากเร่ืองนมี้ อี ะไรบา้ ง ขั้นสรุป

๑. ครูและนักเรียนรว่ มกันพจิ ารณาและประเมินการพูดรายงานของแตล่ ะกลมุ่ ๒. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายและสรุปเน้อื เร่อื งทงั้ หมด ๙. สือ่ การเรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรียน วรรณคดีวิจกั ษ์ รายวชิ าภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ๑. ใบงาน เร่อื ง “แฟนพนั ธแุ์ ทล้ ะครพูด” ๑๐. ภาระงาน/ช้นิ งาน ใบ งาน เรือ่ ง “แฟนพนั ธุแ์ ท้ละครพูด” ๑๑. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์การวัด นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมนิ การสงั เกต ไม่น้อยกว่า ๑๐ คะแนน รายบุคคล พฤติกรรมการทางาน นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไม่นอ้ ยกวา่ ๘ คะแนน รายบคุ คล นักเรียนต้องทาได้คะแนนตาม เกณฑ์ท่ีกาหนด ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมนิ การสงั เกต กลุม่ พฤติกรรมการทางานกล่มุ ๓. การพูดแสดงความคดิ เห็น แบบประเมิน การพูดแสดง และประเมิน จาก บทละครพูด ความคดิ เห็นและประเมิน เรอ่ื ง เหน็ แก่ลูก บทละครพดู เร่อื ง เหน็ แกล่ ูก

การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมินชน้ิ งานนี้ใหผ้ ูส้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรอ่ื ง การพูดแสดงความคดิ เหน็ และประเมิน จาก บทละครพูด เรอื่ ง เห็นแก่ลกู ระดับคะแนน ๓๒ ๑ ๔ พดู แสดงความ พูดแสดงความ พูดไม่แสดงความ เกณฑ์การ คิดเหน็ ครตู อ้ ง ประเมิน คดิ เหน็ จากการฟัง คดิ เห็นจากการฟัง กระตนุ้ โดยใชค้ าถาม การพดู แสดง พดู แสดงความ นา หรืออธิบาย ความคิดเห็นและ คิดเหน็ จากการฟัง และการดูได้ถูกต้อง และการดูไดแ้ ต่ยังไม่ เพม่ิ เติม จึงสามารถ ประเมนิ จาก และการดูได้อย่าง แสดงความคดิ เหน็ ได้ บทละครพูด ถกู ต้องชดั เจน ชดั เจนและตรง ถกู ต้องชัดเจน และ เรอ่ื ง เห็นแกล่ ูก คลอ่ งแคล่วและตรง ประเด็น แต่ไม่ ไมต่ รงประเดน็ ประเดน็ มีการ คล่องแคลว่ เท่าท่คี วร เทา่ ท่คี วร ไมส่ ามารถ นาเสนอมุมมองใหม่ ยกตัวอยา่ งประกอบ สามารถยกตัวอยา่ ง ได้และไม่มมี มุ มอง ๆ หรือความคิดเห็น ประกอบได้แต่ไมค่ ่อย ใหม่ ๆ หรอื ความคิด รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ และ นาเสนอมมุ มองใหม่ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ๆ หรอื ความคิดริเร่มิ สามารถยกตัวอย่าง ประกอบได้ถกู ต้อง สร้างสรรค์ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ดีมาก = ๔ คะแนน ดี = ๓ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ = ๒ คะแนน ปรับปรุง = ๑ คะแนน ๑๔ – ๑๖ ดมี าก ๑๑ – ๑๓ ดี ๘ – ๑๐ พอใช้ ตา่ กว่า ๘ ปรับปรุง

ใบงาน เร่ือง แฟนพันธแ์ุ ท้บทละครพูด คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกต้อง ๑. ละครพดู หมายถงึ ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... ................................................... นามแฝงในการ ........................................................................... ๒. พระราชนิพนธ์และท่ีมาของ ........................................................................... ........................................................................... เรอ่ื งเห็นแก่ลกู ........................................................................... ๓. ลักษณะการแต่งแบบ ........................................................................... บทละครเป็ นอย่างไร ........................................................................... ........................................................................... ...........................................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๘ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บทละครพูด เรอ่ื ง เหน็ แกล่ กู เรอ่ื ง สรุปเน้ือเรอื่ งและขอ้ คดิ รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๑ ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ผ้สู อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศริ มิ งคล กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นมัธยมวัดสงิ ห์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณคา่ และนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง ๒. ตวั ช้วี ดั ท ๕.๑ ม.๓/๑ สรปุ เนือ้ หาวรรณคดวี รรณกรรมและวรรณกรรมท้องถ่ินเกี่ยวกับบันเทิงคดี ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรปุ ความรู้และข้อคดิ จากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ สามารถสรปุ เน้อื เรอื่ งจาก บทละครพูด เรื่องเหน็ แก่ลูก ได้ ๓.๒ บอกข้อคิดที่ได้รบั จาก บทละครพูด เร่ือง เห็นแกล่ ูก ได้ ๔. สาระสาคัญ การสรุปเรื่อง คือการสรุปข้อเท็จจรงิ ต่าง ๆ ท่ีได้จากบทเรียน ซึ่งเป็นการระบุถึงส่ิงสาคัญหรือใจความ สาคญั ของเร่อื งที่ได้อ่าน ดู หรอื ฟงั โดยนกั เรยี นจะสามารถใชค้ วามคดิ เหน็ ของตนเองไดโ้ ดยอสิ ระ และเพอื่ เป็น การทบทวนความรคู้ วามเข้าใจในบทเรียน หลังจากทน่ี กั เรียนไดเ้ รยี นมาแล้ว ๕. สาระการเรยี นรู้ สรุปเนื้อเรอื่ งและข้อคิดที่ได้รับจาก บทละครพดู เร่ือง เห็นแก่ลกู ๖. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๖.๑ ความสามารถในการส่ือสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด

๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๖.๔ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ๖.๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๗.๑ มวี ินยั ๗.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๗.๓ มุ่งมั่นในการทางาน ๗.๔ รักความเปน็ ไทย ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา ครูให้นักเรียนเล่มเกมตอ่ คาศพั ทจ์ าก บทละครพดู เรอื่ ง เห็นแกล่ กู เพอื่ เป็นการกระตุ้นความ สนใจให้กบั นักเรยี น ขั้นสอน ๑. ครูสรุปเน้ือเรื่อง บทละครพูด เร่ือง เห็นแก่ลูก โดยเขียนสรุปเป็นแผนผังความคิด บนกระดานและสุม่ เรียกนักเรียนรายบุคคล เพ่ือตอบคาถามทค่ี รูกาหนดให้ ๒. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับข้อคิดที่ได้รับจาก บทละครพูด เร่ือง เหน็ แกล่ กู โดยนกั เรียนสามารถแสดงความคิดเห็นไดอ้ ยา่ งอสิ ระ ๓. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด บทละครพูด เร่ือง เห็นแก่ลูก เพ่ือทบทวนความรู้ท่ี เรยี นท้งั หมด ข้ันสรุป ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปเนื้อเร่อื งทั้งหมด ดังน้ี • ประวัติความเปน็ มาของเรอ่ื ง • ลกั ษณะนสิ ัยตัวละครแต่ละตัว • เน้อื เรื่อง • สรปุ เนื้อเร่ืองและคณุ คา่ ทีไดร้ บั

๙. ส่อื การเรยี นรู้ ๑. เกมต่อคาศัพท์จาก บทละครพดู เร่อื ง เหน็ แก่ลูก ๑. แบบฝกึ หดั บทละครพูด เรื่อง เห็นแก่ลูก ๑๐. ภาระงาน/ช้นิ งาน แบบฝกึ หดั บทละครพดู เร่ือง เห็นแก่ลูก ๑๑. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมินการสังเกต ไม่นอ้ ยกว่า ๑๐ คะแนน รายบุคคล พฤติกรรมการทางาน นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไม่น้อยกว่า ๘ คะแนน รายบุคคล นักเรียนต้องทาได้คะแนนตาม เกณฑ์ที่กาหนด ๒. สังเกตพฤติกรรมการทางาน แบบประเมินการสังเกต กลมุ่ พฤติกรรมการทางานกล่มุ ๓. ตรวจแบบฝึกหดั บทละคร แบบฝึกหดั บทละครพูด พูด เร่ือง เห็นแก่ลกู เรือ่ ง เหน็ แกล่ ูก

เกมตอ่ คาศพั ท์จาก บทละครพดู เรอ่ื ง เหน็ แก่ลูก คาชี้แจง : ให้นักเรียนทากจิ กรรม “ศพั ท์สนกุ ” โดยให้วงกลมลอ้ มรอบคาศัพทจ์ าก ความหมายที่ให้มา พรอ้ มเตมิ คาศัพท์นัน้ ลงในช่องวา่ งให้สมบูรณ์ โปร ะสบา งปะกง ร ะ วั ง อ า ญ า จั ก ร า ง อ ก อิ นั ง ส บ า ย ข ม ฉาาจมกระ เ เ อม ป า ย ห ม อ า ส า ย รั บ จญยมร กชหมาบา ข า ยอ า จ ง มตคผม ศ รั ง พั ง ห ป อ น า ม ธ ป ก ผ น ภ า ร ค รึ ม า ก ลฟา ก ร ว ย ว ร รณท น ค รี ม โ ซ ด า ง ฉ ช่ั ถ บ อ ล ล ะ มุ น ม ล า ย ง ๑. ................................................... : ทาเสียงดงั ใหผ้ ูฟ้ ังรู้ตวั ว่ามีคนมา ๒. ................................................... : ทนายความ ๓. ................................................... : สนใจไยดี ๔. ................................................... : ซอมซอ่ อตั คดั ขัดสน ๕. ................................................... : ถ่ายภาพ ๖. ................................................... : น้าหวานสเี ขยี วผสมโซดา ๗. ................................................... : มาตราเงนิ สมยั โบราณ หนึง่ ช่งั มคี ่าเทา่ กบั ๘๐ บาท ๘. ................................................... : อาญาแผน่ ดนิ หมายถงึ กฎหมาย ๙. ................................................... : ปจั จบุ นั ใชว้ า่ ครบั ผม ๑๐. ................................................. : ชอื่ เดมิ ของกรุงเทพมหานคร

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๙ เร่ือง ภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย (ภาษาบาลี สนั สกฤต) รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๓ ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ผู้สอน นางสาวมณฑกาญจน์ ศริ มิ งคล กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นมธั ยมวดั สิงห์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ๒. ตวั ชว้ี ัด ท ๔.๑ ม. ๓/๑ จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกหลักการจาแนกคาภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ๒. จาแนกคาภาษาต่างประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย ๓. ยกตวั อยา่ งคาภาษาตา่ งประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย ๔. สาระสาคญั การนาคาภาษาต่างประเทศมาใชท้ าใหภ้ าษาไทยมีคาใช้เพิ่มมากขึน้ แสดงถึงการรบั อิทธิพลทางภาษา และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคาภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ภาษาไทยในระดบั ท่สี ูงขน้ึ ตอ่ ไป ๕. สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย (ภาษาบาลี สันสกฤต) ๖. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร

๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปญั หา ๖.๔ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ๖.๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๗.๑ มวี นิ ยั ๗.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๗.๓ ม่งุ มน่ั ในการทางาน ๗.๔ รกั ความเปน็ ไทย ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นา ๑. ครูนานักเรียนสน ทน าเ ก่ียว กับ อิ ทธิ พล ทา งวัฒนธ รร มท่ี ถ่ าย ท อดผ่ า น ค า ภาษาตา่ งประเทศทภี่ าษาไทยยมื คามาใช้วา่ การรบั คาจากภาษาน้นั ๆ เขา้ มาใช้ผา่ นทาง ใดบ้าง และมี ผลตอ่ วัฒนธรรมไทยอย่างไร ๒. ให้นักเรียนช่วยกันบอกสาเหตุท่ีมีการยืมคาจากภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้ใน ภาษาไทย ขัน้ สอน ๑. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เร่ือง คาภาษาบาลี-สันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทย ครูอธิบาย เพิ่มเติมและใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อย่างคาภาษาบาลี-สนั สกฤตท่ีใชใ้ นภาษาไทย โดยให้ ระบุ ด้วยวา่ เปน็ คาภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤต ๒. ให้นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ ๕ คน ครูแสดงบัตรคาแลว้ ใหน้ ักเรยี นแข่งขนั กัน ตอบ คาถามว่าคาท่ีแสดงเป็นภาษาบาลีหรือภาษาสนั สกฤต เพราะเหตุใด กลุ่มใดตอบถกู ต้อง จะได้รับคะแนนคาละ ๑ คะแนน กลมุ่ ใดมคี ะแนนมากที่สุดเปน็ ผ้ชู นะ ๓. ให้นกั เรยี นบอกประโยชนข์ องการเรียนรเู้ รือ่ ง คาภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ใน ภาษาไทย ว่า สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างไร ๔. ให้นกั เรียนทาใบงาน เรอื่ ง คาภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย แล้ว ร ว บ ร ว ม ผลงานส่งใหค้ รูตรวจสอบความถกู ต้อง

ขน้ั สรุป ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ • การนาคาภาษาตา่ งประเทศมาใช้ทาใหภ้ าษาไทยมคี าใชเ้ พิม่ มากข้ึน แสดงถึงการ รั บ อทิ ธพิ ลทางภาษาและวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคาภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ น ภ า ษ า ไ ท ย เ ป็ น ประโยชนต์ อ่ การศกึ ษาภาษาไทยในระดับทส่ี ูงข้นึ ต่อไป ๙. สือ่ การเรยี นรู้ ๑. บัตรคา ๒. ใบงาน เร่ือง คาภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ๑๐. ภาระงาน/ชิน้ งาน ใบ งาน เรอื่ ง คาภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย เกณฑ์การวดั ๑๑. การวดั และประเมินผล นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐ คะแนน วธิ ีการ เครือ่ งมอื นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ๑. สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบประเมนิ การสงั เกต ไม่นอ้ ยกว่า ๘ คะแนน นักเรียนต้องทาได้คะแนนตาม รายบุคคล พฤติกรรมการทางาน เกณฑ์ทก่ี าหนด รายบุคคล ๒. สังเกตพฤติกรรมการทางาน แบบประเมินการสงั เกต กลุม่ พฤติกรรมการทางานกลุ่ม ๓. ตรวจใบงาน เร่ือง คา ใบงาน เร่อื ง คา ภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ใน ภาษาตา่ งประเทศท่ใี ชใ้ น ภาษาไทย ภาษาไทย

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การจาแนกคาภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑก์ ารประเมนิ การจาแนกคา จาแนกคาภาษา จาแนกคาภาษา จาแนกคาภาษา จาแนกคาภาษา ภาษาตา่ งประเทศ ต่างประเทศที่ใชใ้ น ต่างประเทศทใี่ ช้ใน ตา่ งประเทศท่ใี ชใ้ น ตา่ งประเทศท่ใี ชใ้ น ทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ภาษาไทยไดอ้ ย่าง ภาษาไทยได้ถูกต้อง ภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง ภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง แม่นยาทุกคา และ ทกุ คาแต่บางคา หลายคา นอกน้ัน บางคา นอกน้นั สามารถอธิบาย ต้องตรวจสอบ ตอ้ งตรวจสอบกับ ตอ้ งตรวจสอบกับ หลักเกณฑก์ บั ผู้อน่ื ได้ หลักเกณฑอ์ ีกคร้ัง หลกั เกณฑ์หรือให้ หลักเกณฑห์ รอื ให้ ผู้อ่ืนแนะนา ผูอ้ นื่ แนะนา เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ดมี าก = ๔ คะแนน ดี = ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = ๒ คะแนน ปรับปรงุ = ๑ คะแนน ๑๔ – ๑๖ ดมี าก ๑๑ – ๑๓ ดี ๘ – ๑๐ พอใช้ ต่ากว่า ๘ ปรับปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒๐ หน่วยการเรียนที่ ๔ อิศรญาณภาษติ เรื่อง ความหมายของคาศัพทแ์ ละสานวน รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ผู้สอน นางสาวมณฑกาญจน์ ศริ มิ งคล กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นมธั ยมวดั สงิ ห์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอ่าน ๒. ตัวชวี้ ดั ท ๑.๑ ม. ๓/๒ ระบุความแตกต่างของคาทม่ี ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายความหมายของคาศพั ท์และสานวน ๒. วิเคราะห์ความหมายของคาจากบรบิ ท ๔. สาระสาคญั การศึกษาคาศัพท์และสานวนจะช่วยใหเ้ ข้าใจเร่ืองที่อ่านและพัฒนาทักษะในการอา่ นได้ ๕. สาระการเรยี นรู้ คาศัพทจ์ ากอศิ รญาณภาษติ ๖. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๖.๑ ความสามารถในการส่ือสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๖.๔ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

๖.๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๗.๑ มีวินัย ๗.๒ ใฝเ่ รียนรู้ ๗.๓ มุ่งมั่นในการทางาน ๗.๔ รักความเปน็ ไทย ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา ๑. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถามทา้ ทาย ดงั นี้ - การอ่านคาประพันธ์โดยไม่เข้าใจคาศัพท์และสานวนใน คาประพันธ์ จะก่อใหเ้ กิดผลเสยี อยา่ งไร ๒. ให้นักเรยี นอ่านสานวนต่อไปนี้ - ชายขา้ วเปลือกหญิงข้าวสาร - นา้ พ่ึงเรือเสอื พง่ึ ป่า - เดนิ ตามหลงั ผู้ใหญ่หมาไมก่ ดั - ฟงั หูไว้หู แล้วให้นักเรยี นช่วยกนั บอกความหมายและยกตัวอยา่ งตามความเขา้ ใจ ขั้นสอน ๑. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาบทนาเรื่อง อศิ รญาณภาษติ แล้วชว่ ยกนั สรุปสาระสาคญั ๒. ให้นักเรียนศึกษาคาศัพท์จาก อิศรญาณภาษิต แล้วแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน ค รู อ่ า น ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ค า ศั พ ท์ แ ล้ ว ใ ห้ นั ก เ รี ย น แ ต่ ล ะ ก ลุ่ ม แ ข่ ง ขั น ต อ บ ค า ศั พ ท์ ใ ห้ ถู ก ต้ อ ง ตรงตามความหมาย กลมุ่ ท่ีตอบได้มากทส่ี ุดเป็นผู้ชนะ ข้นั สรุป ใหน้ กั เรยี นทาใบกิจกรรมเรอ่ื ง ความหมายของคา แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบความ ถูกต้อง ๙. สอ่ื การเรียนรู้ ใบกิจกรรมเร่ือง ความหมายของคา

๑๐. ภาระงาน/ชิน้ งาน - ๑๑. การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารวดั นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ๑. สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมนิ การสังเกต ไมน่ ้อยกวา่ ๑๐ คะแนน รายบคุ คล พฤติกรรมการทางาน นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไมน่ ้อยกว่า ๘ คะแนน รายบุคคล นักเรียนต้องทาได้คะแนนตาม เกณฑท์ ีก่ าหนด ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมนิ การสงั เกต กลุ่ม พฤติกรรมการทางานกลมุ่ ๓. ตรวจใบกจิ กรรมเร่อื ง ใบกิจกรรมเรื่อง ความหมาย ความหมายของคา ของคา

ใบกจิ กรรมเร่ือง ความหมายของคา คาช้แี จง : ให้นักเรียนคน้ หาคาศัพท์จากอศิ รญาณภาษติ ที่มีความหมายตรงกับภาพที่กาหนด พรอ้ มทัง้ อธิบายความหมายของคาศัพทด์ งั กลา่ ว ๑. คาศพั ท_์ _________________________________ ความหมาย_______________________________ ________________________________________ ๒. คาศพั ท_์ _________________________________ ความหมาย_______________________________ ________________________________________ ๓. คาศัพท_์ _________________________________ ความหมาย_______________________________ ________________________________________ ๔. คาศพั ท_์ _________________________________ ความหมาย_______________________________ ________________________________________ ๕. คาศพั ท_์ _________________________________ ความหมาย______________________________

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๑ หน่วยการเรียนท่ี ๔ อศิ รญาณภาษติ เรื่อง ถอดคาประพันธจ์ ากบทเรยี น รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๑ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๑ ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ผสู้ อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิริมงคล กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นมัธยมวดั สิงห์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ ค่า และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ๒. ตัวชีว้ ัด ม.๓/๑ สรปุ เนอ้ื หาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ในระดบั ทยี่ ากย่งิ ขนึ้ ม.๓/๒ วิเคราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน ม.๓/๓ สรปุ ความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านเพื่อนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. สามารถถอดคาประพนั ธ์เร่ืองอิศรญาณภาษิตได้ ๒. สามารถเขยี นสรปุ ใจความสาคัญและขอ้ คดิ ของอิศรญาณภาษติ ได้ ๔. สาระสาคญั อิศรญาณภาษติ มีเน้ือหาท่เี ปน็ คาส่ังสอนแบบเตือนสติ และแนะนาเกี่ยวกับการประพฤติปฏบิ ัติให้เป็น ท่พี อใจของผู้อ่นื โดยเฉพาะผทู้ ี่มีอานาจมากกว่า สอนว่าควรจะทาอย่างไรจึงจะอยู่ในสังคมไดโ้ ดยปราศจากภัย แก่ตน ทาอย่างไรจึงจะประสบความสาเร็จสมหวัง บางตอนก็เน้นเร่ือง การเห็นคุณค่าและ ความสาคัญของผู้อื่น โดยไม่สบประมาทหรือดูแคลนกัน ท้ังนี้ การสอนบางคร้ังอาจเป็นการบอกตรง ๆ หรือ บางครง้ั ก็สอนโดยคาประชดประชนั เหน็บแนม ๕. สาระการเรียนรู้ คาศัพทจ์ ากอิศรญาณภาษิต

๖. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคดิ ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปญั หา ๖.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๖.๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๗.๑ มีวนิ ยั ๗.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๗.๓ มุง่ ม่นั ในการทางาน ๗.๔ รกั ความเปน็ ไทย ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนา ๑. นักเรียนคิดว่า “อิศรญาณภาษิต” สอนเก่ียวกับเรื่องใดบ้าง และสอดคล้องกับ สุภาษติ อย่างไร แนวคาตอบ เปน็ คาสอนเก่ยี วกบั การพูด การใชช้ ีวติ การเดินตามรอยผูใ้ หญ่ สอดคล้องกับ สภุ าษิตโดยนาสุภาษติ ของไทยเข้ามาเกีย่ วขอ้ งและเช่ือมโยง ขั้นสอน ๑. นักเรียนถอดคาประพันธ์ตามเลขที่ ให้เวลานักเรียนคนละ ๕ นาที เมื่อถึงเวลาให้ นักเรียนออกมานาเสนอการถอดคาประพนั ธบ์ ทท่ตี นได้รบั ๒. นกั เรียนและครรู ่วมกนั พจิ ารณาความถูกต้องและเพ่ิมเติมเนอ้ื หา พรอ้ มทัง้ ช่วยกันหาว่า ตรงกับสภุ าษิตใด ขั้นสรุป สอน ๑. นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เน้อื หาและขอ้ คดิ จากการถอดคาประพันธ์ ๒. นกั เรียนสรุปเรือ่ งใส่สมดุ โดยทาเป็นแผนผังมโนทัศนว์ า่ “ อิศรญาณภาษติ ” เร่ืองใดบ้างและตรงกับสานวนสุภาษิตใด ๙. สื่อการเรียนรู้

หนังสือเรียนพนื้ ฐาน รายวชิ าภาษาไทย วรรณคดีวิจกั ษ์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ๑๐. ภาระงาน/ช้ินงาน แผนผังมโนทศั น์ว่า “อิศรญาณภาษติ ” ๑๑. การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การวัด นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมินการสังเกต ไม่น้อยกวา่ ๑๐ คะแนน รายบุคคล พฤติกรรมการทางาน นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไมน่ ้อยกวา่ ๘ คะแนน รายบคุ คล นักเรียนต้องทาได้คะแนนตาม เกณฑ์ทก่ี าหนด ๒. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบประเมนิ การสงั เกต กลุม่ พฤติกรรมการทางานกลุม่ ๓. ตรวจผงั มโนทัศน์ เร่อื ง ผงั มโนทศั น์ เร่อื ง อิศรญาณ อิศรญาณภาษติ ภาษิต

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๒๒ หน่วยการเรยี นท่ี ๔ อิศรญาณภาษติ เร่ือง การวิเคราะห์คุณคา่ ของอิศรญาณภาษิต รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๑ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต เวลาเรยี น ๑ ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ผูส้ อน นางสาวมณฑกาญจน์ ศิรมิ งคล กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นมธั ยมวัดสิงห์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่า และนามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ ๒. ตัวช้วี ัด ม.๓/๒ วิเคราะหว์ ถิ ีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายคณุ ค่าจากเรอื่ งทอ่ี ่าน ๒. วิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คุณค่าจากเรื่องท่ีอา่ น ๔. สาระสาคญั อิศรญาณภาษิตมีเนื้อหาท่เี ป็นคาสงั่ สอนแบบเตือนสติ และแนะนาเก่ยี วกับการประพฤติปฏิบัตใิ ห้เป็น ท่ีพอใจของผู้อ่ืน โดยเฉพาะผทู้ ่ีมีอานาจมากกว่า สอนวา่ ควรจะทาอย่างไรจึงจะอยู่ในสงั คมได้โดยปราศจากภัย แก่ตน ทาอย่างไรจึงจะประสบความสาเร็จสมหวัง บางตอนก็เน้นเร่ือง การเห็นคุณค่าและ ความสาคัญของผู้อื่น โดยไม่สบประมาทหรือดูแคลนกัน ทั้งนี้ การสอนบางครั้งอาจเป็นการบอกตรง ๆ หรือ บางครงั้ ก็สอนโดยคาประชดประชนั เหนบ็ แนม ๕. สาระการเรียนรู้ การวิเคราะห์คุณค่าของอิศรญาณภาษิต ๖. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๖.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๖.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๗. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๗.๑ มวี ินยั ๗.๒ ใฝเ่ รียนรู้ ๗.๓ มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๗.๔ รกั ความเป็นไทย ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา ๑. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดงั น้ี • การวเิ คราะห์คุณคา่ ของเรอ่ื งทอ่ี า่ นช่วยพัฒนาทักษะการอา่ นได้อย่างไร ข้ันสอน ๑. ครูนานักเรยี นสนทนาเก่ยี วกับการวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดีหรือวรรณกรรม ใ ห้ นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ว่าการวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมช่วย พัฒนาทักษะ การอา่ นไดอ้ ย่างไร ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งประกอบความคดิ เหน็ ๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น ๖ กลุ่ม อ่านอิศรญาณภาษิตแล้วแข่งขันกันวิเคราะห์ คณุ คา่ ด้านต่าง ๆ ดังน้ี - กลุ่มที่ ๑ และ ๒ วเิ คราะห์คุณค่าด้านเน้ือหา - กลุ่มท่ี ๓ และ ๔ วเิ คราะหค์ ุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ - กล่มุ ท่ี ๕ และ ๖ วิเคราะห์คณุ คา่ ด้านสังคมและวฒั นธรรม โดยยกตัวอย่างคาประพันธ์ให้ชัดเจน แล้วส่งตัวแทนนาเสนอหน้าชั้นเรียน ให้นักเรียนและครู รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง กลมุ่ ใดวิเคราะหไ์ ด้ชดั เจน ถูกตอ้ ง ครบถว้ นตรงประเดน็ มากกว่าเป็น ผู้ชนะ ๓. ให้นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรทู้ ่ีไดจ้ ากการนาเสนอ ๔. ให้นักเรียนทาใบงาน เร่ือง การวิเคราะห์คุณค่าของอิศรญาณภาษิต แล้วร่วมกัน ตรวจสอบความถูกต้อง

ขน้ั สรุป นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปเนอ้ื หาทั้งหมด ดังน้ี • การวเิ คราะหค์ ุณค่าของงานเขยี นทาใหส้ ามารถแยกองคป์ ระกอบต่าง ๆ เพอื่ ศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียดลกึ ซึง้ ได้ ๙. ส่อื การเรียนรู้ ใบ ใบงาน เร่อื ง การวเิ คราะห์คุณค่าของอิศรญาณภาษติ ๑๐. ภาระงาน/ชิน้ งาน งาน เรอื่ ง การวเิ คราะห์คุณค่าของอิศรญาณภาษิต ๑๑. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารวัด นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ๑. สังเกตพฤติกรรมการทางาน แบบประเมินการสงั เกต ไม่น้อยกวา่ ๑๐ คะแนน รายบุคคล พฤติกรรมการทางาน นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไมน่ ้อยกวา่ ๘ คะแนน รายบคุ คล นักเรียนต้องทาได้คะแนนตาม เกณฑ์ที่กาหนด ๒. สังเกตพฤติกรรมการทางาน แบบประเมนิ การสังเกต กล่มุ พฤติกรรมการทางานกลุ่ม ๓. ตรวจใบงาน เรื่อง ใบงาน เรอ่ื ง การวิเคราะห์ การวิเคราะห์คณุ ค่าของอิศร คณุ คา่ ของอิศรญาณภาษิต ญาณภาษติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook