การวางแผนวิจัย

การวางแผนและ กระบวนการดาํ เนินงานวจิ ยั

เนือหา 1.กรอบแนวคิดกระบวนการดาํ เนินงานวจิ ยั 2. ขนั ตอนในการวางแผนการวิจยั 3. หลกั การและแนวคิดการวางแผนการวจิ ยั

1. กระบวนการวจิ ยั กาํ หนด พฒั นากรอบ/ ปัญหาการวจิ ัย ฐานคิดการวิจยั ทบทวน ออกแบบ วรรณกรรม การวจิ ยั กาํ หนดประเดน็ / ขอ้ มูลทีตอ้ งการ กาํ หนด สร้าง/พฒั นา ออกแบบการ แหล่งขอ้ มูล เครืองมือ วิเคราะห์ขอ้ มลู เกบ็ รวบรวม ขอ้ มูล วเิ คราะห์ขอ้ มูล สรุปผล การวิจยั

กกรระะบบววนนกกาารรววิจิจยั ยั :: โดโดยย รรศศ.ด.ดรร.ภ.ภทั ทั รรธธิริราา ผผลลงงาามม Research Conceptualization Problem Researc Researc Research Conceptual h h Hypothesis Framework Questio Objectiv n e Body of Internal Validity ประชากร Knowledge, กล่มุ ตวั อย่าง Theory, Problem TThheeooryry Research RReesseeaarcrchh, , การเกบ็ ข้อมูล Design Solution, liltieteraratuturere Development การ Scope of Theoretical วเิ คราะห์ study Recommendatio Definition n Population Operational Variables Definition Conclusion External Validity Iผnศ.tดeร.rภpทั รrธeิราtaผtลioงาnม Data Data Analysis ผศ.ดร.ภทั รธิรา ผCลงoามllection



ขนั ตอนการในการวจิ ยั เชิงปริมาณ 1.ขนั ตน้ ตอ้ งมีคาํ ถามวจิ ยั ทีชดั เจนทีสามารถตรวจสอบได้ และพสิ ูจนไ์ ด้ 2.ทบทวน ทฤษฎี แนวคิด เป็นฐานทีจะนาํ ไปสู่การพิสูจน์ และมีการ ทบทวนวรรณกรรมทีเกียวขอ้ ง เพอื แสดงให้เห็นถึงทุนทางความรู้ทีเป็น ความชาํ นาญของนกั วจิ ยั ว่าเป็นผรู้ ู้ทีเชียวชาญทีมีการติดตามการ เปลียนแปลงในดา้ นการเคลือนไหวในประเดน็ นนั ๆเสมอมา 3.ตอ้ งมี การรวบรวมขอ้ มูล(สร้างเครืองมอื ) การวเิ คราะห์ขอ้ มูล และการ สรุปผลการคน้ ควา้ ตรวจสอบ ทดลอง ฯลฯ พร้อมเขียนรายงาน

ระเบียบวธิ ีวิจยั เชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ  การวจิ ยั เชิงปริมาณ  กระบวนทัศน์ (Quantitative Research) (Paradigm)  การวจิ ยั เชิงคุณภาพ  กระบวนการ (Qualitative Research) (Process)  การวจิ ัยเชิงผสมผสาน  วธิ ีการ (Mixed Methodology) (Methods)

การซอกหา การสาวลึก ความรู้ใหม่ (ซราวจรีว) หาความรู้ การวจิ ัย (Research) การแสวงหา การทาํ ความเขา้ ใจ ความรู้ใหม่โดยใชวั ิธีการ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทางวทิ ยาศาสตร์ และทางสังคม หรือวธิ ีการอืนทีเชือถือได้

การวจิ ยั (Research) : การศึกษาและทาํ ความเขา้ ใจปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ปรากฏการณ์ทางสงั คม (Social Phenomena) (Natural Phenomena) ความไม่สงบในภาคใต้ นาํ ท่วม ชาวนาอพยพเขา้ เมือง พายทุ อร์นาโด การแพร่กระจายของเอดส์ แผน่ ดินไหว กองทนุ ลงสู่ชนบท มดอพยพ การแพร่ระบาดของยาเสพยต์ ิด อุณหภมู ิโลกสูงขึน วฒั นธรรมบริโภคสูงขึน โรคไขห้ วดั นกระบาด  ฯลฯ  ฯลฯ

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ปรากฏการณ์ทางสังคม (Natural Phenomenon) (Social Phenomenon)  สึนามิ  ยาเสพยต์ ิดระบาด  ปรากฏการณ์กาซเรือนกระจก  อบุ ตั ิเหตุสูง  ฝนแลง้  ชาวนาเป็นหนีสิน  มดอพยพ  ความขดั แยง้ ชุมชน – รัฐ  ฯลฯ  ฯลฯ  ไฟไหมป้ ่ า  คนไร้ทีอยอู่ าศยั จากสึนามิ  ฯลฯ

กระบวนการทศั น์ของการวิจยั (The Paradigm of Research) กระบวนการทศั นแ์ บบองคร์ วมเชิงอุปมาน กระบวนการทศั น์แบบสมมติฐานรวมเชิงอนุมาน (Holistic - Inductive Paradigm) (Hypothetical - Deductive Paradigm) การศึกษาตามธรรมชาติ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การออกแบบเชิงทดลอง (Naturalistic Approach) เชิงคุณภาพ เชิงปริมาณ (Experimental Design เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เชิงคุณภาพ การวเิ คราะหเ์ นือหา Approach) (Qualitative เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเชิงปริมาณ Data Collecting) (Quantitative Data Collecting) การวเิ คราะห์เนือหา การวเิ คราะห์สถติ ิ การวเิ คราะห์สถิติ (Content กระบวนการทศั น์แบบผสม (Statistical Analysis) Analysis) (Mixed Paradigm)

• inductive approach, also known in inductive reasoning, starts with the observations and theories are proposed towards the end of the research process as a result of observations[





ววิ ฒั นาการการแสวงหาความรู้

คือ อะไร

การใชเ้ หตผุ ล



เหตุผลคือ อะไร

วธิ ีนิรนยั /อนุมาน(Deductive Method)

วธิ ีนิรนยั /อนุมาน(Deductive Method)

วธิ ีนิรนยั /อนุมาน (Deductive Method)



ตย การตงั ขอ้ ตงั หลกั และขอ้ ตงั รองทีพลาด





สรุปแนวคิด “วธิ ีการแสวงหาความรู้”



จะทาํ การวิจยั เชิงคณุ ภาพหรือการวจิ ยั เชิงปริมาณดี การวิจัยเชิงคุณภาพ การวจิ ัยเชิงปริมาณ  การศึกษาปรากฏการณน์ ิยม  การศึกษาปฏิธานนิยม (Positivism) เนน้ (Phenomenologism) เนน้ ปรากฏการณ์ที วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์และขอ้ มูลเชิง เกิดขึนจริง และการใหค้ ุณค่า ประจกั ษท์ ีแจงนบั ได้  คาํ ถามการวิจยั ตอ้ งการคาํ ตอบทีเนน้ การ  คาํ ถามการวิจยั ทีตอ้ งการคาํ ตอบทีชดั เจน อธิบายเชิงลึกและรอบดา้ น แยกส่วนเฉพาะประเดน็  ตอ้ งการผลสรุปทีเป็นคาํ อธิบาย  ตอ้ งการผลสรุปทีเป็นนยั ทวั ไปในฐานะ ปรากฏการณ์ภายใตบ้ ริบทเฉพาะ ตวั แทนประชากร  ไม่จาํ เป็นตอ้ งมีกรอบคิดหรือสมมุติฐาน  มีกรอบคิดและสมมติฐานการวจิ ยั ตาม การวจิ ยั แนวทฤษฎี  เครืองมือสาํ คญั คือ การสมั ภาษณ์ผใู้ ห้  เครืองมือสาํ คญั คือแบบสอบถาม เกบ็ ขอ้ มลู สาํ คญั เชิงลกึ ตอ้ งการเวลาระยะยาว ขอ้ มูลง่ายและเกบ็ ขอ้ มูลไดม้ ากใน ระยะเวลาอนั สัน  การวเิ คราะห์ขอ้ มูลใชร้ ะบบคิดจากคนใน  การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเนน้ ตวั เลขทีเป็น ปริมาณ

หลกั การและแนวคดิ การวางแผนการวจิ ยั



การวจิ ยั ใดๆกต็ ามจะเกิด ประสิทธิภาพได้ ผวู้ จิ ยั ตอ้ งวาง แผนการวจิ ยั อยา่ งดี โดยตอ้ ง คาํ นึงถึงคาํ ถาม ๖ขอ้











WHO • ตอ้ งกาํ หนดวา่ งานวจิ ยั นีมีผใู้ ดทีเกียวขอ้ งบา้ ง ทงั หมด • ผใู้ ห้สมั ภาษณ์ • ผสู้ นทนากลุ่ม • ผตู้ อบแบบสอบถาม (ผทู้ ดลองใชเ้ ครืองมือ) • ฯลฯ



ตย แผนการวจิ ยั แบบตาราง

ตย แผนการวจิ ยั แบบแผนภาพ







หาแวอาฟหารกร