คาชีแ้ จง สาหรบั ครูผสู้ อน ๑. แบบฝกึ ทักษะการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R วชิ าภาษาไทย เรือ่ ง ตานานขนมครก เลม่ นใ้ี ช้ประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ วิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน รหัส ท๓๒๑๐๒ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ๒. ผสู้ อนตอ้ งศกึ ษา เนอ้ื หาวชิ า แผนการจัดการเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจก่อนทาการสอน และต้องเตรยี ม วสั ดุ อุปกรณ์ ตา่ งๆ เพ่อื ใชใ้ นการสอนตามท่ีระบุไวใ้ นแผนการจัดการ เรียนรู้แต่ละเรื่อง ๓. การจัดการเรียนการสอน แบง่ ออกเป็นข้ันตอน ดังน้ี ขัน้ ที่ ๑ นาเข้าสบู่ ทเรยี น ขัน้ ท่ี ๒ นกั เรียนปฏบิ ัติการอา่ นตามวิธี SQ๓R ขั้นที่ ๓ ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนนาเสนอเน้ือหา ขั้นที่ ๔ กิจกรรมการฝึก ขน้ั ท่ี ๕ กิจกรรมการนาไปใช้ ข้ันท่ี ๖ สรปุ ผล ขนั้ ที่ ๗ ทดสอบหลังเรียน ๔. การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ผู้สอนจะเปน็ ผู้คอยกากบั ดูแล ช้แี นะนักเรียนอย่าง ใกล้ชดิ ๕. หลังจากเรียนจบในแต่ละเรือ่ งแล้ว ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น ๖. แจ้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นใหน้ ักเรยี นทราบและเก็บข้อมูลต่างๆเพือ่ นาไป พัฒนาผเู้ รียนต่อไป ๗. นักเรียนสามารถยมื แบบฝกึ ทักษะการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R เล่มน้ี ไปศกึ ษาด้วยตนเองในเวลาว่างได้ โดยกาหนดเวลาตามความเหมาะสม (ภายหลังประกอบแผนการสอนนน้ั ๆ) ๘.ครูแนะนาวิธีใช้ให้นกั เรียนเขา้ ใจกอ่ นนาไปใช้ และคอยใหค้ าปรกึ ษาแก่นกั เรียนทมี่ ี ปญั หา แบบฝกึ ทักษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๑ วชิ าภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แก้ว
คำชี้แจง สำหรับนักเรียน การใชแ้ บบแบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R วชิ า ภาษาไทย เรือ่ ง ตานานขนมครก วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน รหสั ท๓๒๑๐๒ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ให้นักเรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ตามบทบาทนักเรียนดงั นี้ ตอนที่ ๑ การฝึกปฏบิ ัติ ๑. นักเรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมตามคาแนะนาของผสู้ อนอย่างเคร่งครัด ๒. นกั เรยี นปฏิบัตกิ จิ กรรมตามวิธี SQ๓R โดยศกึ ษาเนือ้ หา ทาแบบฝกึ กิจกรรมและแบบทดสอบหลังเรียน อยา่ งเตม็ ความสามารถ ๓. นกั เรียนตอ้ งมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมทก่ี าหนดในแตล่ ะเร่ืองให้ครบทกุ กจิ กรรม และทางานอย่างเปน็ ระบบ ๔. นกั เรียนต้องมีสมาธิในการเรียน ไม่สร้างความราคาญแก่ผู้อ่ืนขณะปฏิบตั ิ กิจกรรม ๕. นักเรยี นมสี ่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี นการสอน มีวนิ ัย มีความรับผดิ ชอบตรง ตอ่ เวลาและกล้าแสดงออก ๖. นักเรียนไมด่ ูเฉลยก่อนการปฏิบตั ิทกุ กิจกรรม ตอนท๒่ี การนาไปใช้ ๗. หลังจากทาแบบทดสอบหลงั เรียนตอนท๑่ี เสร็จแลว้ ให้นักเรียนทกุ คน ในกล่มุ อ่านใบความรู้ตอนท๒่ี ช่วยกันจับประเด็นความสาคัญจากใบความรู้โดย วธิ ีSQ๓R เพ่อื ทบทวนวธิ ีการปฏบิ ัติตามวธิ ี SQ๓R หลังจากนั้นใหน้ กั เรยี น ร่วมอภิปรายแลว้ ตอบคาถามในแบบทดสอบหลังเรียนตอนท่ี ๒ แบบฝึกทักษะการอ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๒ วิชาภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอื่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แก้ว
จุดประสงค์ กำรเรียนรู้ เมือ่ นักเรยี นเรยี นแบบฝึกทกั ษะการอ่านอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R วิชาภาษาไทย เลม่ ที่ ๑ นิทานไทย เรอื่ ง ตานานขนมครก แลว้ นักเรียนจะมคี วามรู้ความสามารถ ดังต่อไปน้ี ด้านความรู้ ๑.เขา้ ใจลาดับขัน้ ตอนวิธีอ่านแบบ SQ๓R ขณะอา่ นเร่ืองทีก่ าหนดให้ได้ถูกตอ้ ง ๒. ตง้ั คาถามและตอบคาถามจากเรอ่ื งท่อี า่ นได้ถูกตอ้ ง ๓. สามารถแยกข้อเท็จจรงิ ออกจากขอ้ คดิ เห็น ๔. เขา้ ใจวธิ ีการอา่ นร้อยกรองทถี่ กู ต้อง ๕. เขา้ ใจและเหน็ คุณค่างานประพนั ธ์ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ๑. สามารถอา่ นและเล่าเร่ือง “ ตานานขนมครก” โดยใช้การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ SQ๓ R ๒. ปฏิบัตติ ามลาดับข้ันตอนวธิ ีอา่ นแบบ SQ๓R ขณะอ่านเร่ืองท่กี าหนดใหไ้ ด้ถูกต้อง ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๔. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. อย่อู ย่างพอเพยี ง ๔. มุ่งมนั่ ในการทางาน ๕. รักความเป็นไทย แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมวี ิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๓ วิชาภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เร่ือง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แก้ว
ใบควำมรู้ การอ่านวิธี SQ๓R เอมอร เนยี มน้อย, ๒๕๕๐. ได้กล่าวว่า การอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ หมายถึงการ อา่ นในระดบั สูงที่ผู้อ่านต้องใช้ความคิดพิจารณาสิ่งที่อ่านอยา่ งรอบคอบ ถถ่ี ้วน มีเหตผุ ล เพื่อ วเิ คราะหห์ าคาตอบ สรปุ สาระสาคัญ ท้ังเข้าใจความหมายโดยนัยของถ้อยคา น้าเสยี ง จดุ ประสงค์ ของผ้เู ขยี น สามารถแยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ ความคดิ เห็น และประเมินคุณค่าของสงิ่ ทีอ่ า่ นอยา่ ง ถูกตอ้ งเทย่ี งธรรม พฤตกิ รรมท่แี สดงถึงความสามารถในการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณมีดงั น้ี ๑. การจาแนกประเภทของงานเขยี น ๒. สามารถแยกแยะสว่ นที่เป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ความคิดเหน็ ๓. สามารถอธิบายความหมายของคา สานวนโวหาร ๔. ตดั สนิ ได้วา่ สิง่ ใดถกู ส่งิ ใดผดิ ๕. สามารถบอกจดุ ประสงค์ของผ้เู ขยี น ๖. สามารถบอกแนวคดิ หลัก ๗. สามารถบอกน้าเสียง หรอื ความรู้สึกของผู้เขียน ๘. สามารถบอกโครงเรอ่ื ง สรุปเร่ือง ๙. สามารถประเมินคุณค่าของเร่อื งท่ีอ่าน การอ่านวิธี SQ๓R เป็นการอา่ นที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของผอู้ า่ นใหม้ ีความรอบคอบ สามารถ วเิ คราะห์ สรุปสาระสาคัญของส่ิงท่ีอ่านได้ มีลาดับขั้นตอนดังต่อไปนี้ คอื ขั้นท่ี ๑ การอ่านสารวจ (Survey = S) หมายถึง การอา่ นสารวจอยา่ งครา่ วๆ ตง้ั แตช่ อื่ เรื่อง ผูแ้ ตง่ และเน้อื เรอ่ื งทง้ั หมด โดยการกวาดสายตาอยา่ งรวดเร็ว ข้ันที่ ๒ การต้งั คาถาม (Question =Q) หมายถงึ การตงั้ คาถามในเรอื่ งท่ตี นอยากร้จู าก เร่อื งทอ่ี ่าน จะตัง้ คาถามจากเรอ่ื งที่อ่านตามลาดบั หัวข้อในแตล่ ะยอ่ หนา้ ดว้ ยวธิ ีเขยี นคาถามลงใน กระดาษเพ่อื ค้นหาคาตอบต่อไป แบบฝึกทักษะการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๔ วชิ าภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรอื่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ุลแก้ว
ข้ันที่ ๓ การอ่านอย่างรอบคอบ (Read =R ) หมายถงึ การอ่านอยา่ งละเอยี ดรอบคอบ เพื่อจบั ใจความสาคญั ของเรอ่ื ง และตอบคาถามที่บนั ทึกไว้ ในขน้ั นี้อาจมีคาถามและคาตอบเพิ่มข้ึน จากเดิม ขั้นท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) การเล่าเรอ่ื งท่อี ่านมาทั้งหมดดว้ ยคาพูดของตนเอง และพจิ ารณาว่า ตอบคาถามไดค้ รบถ้วนหรือไม่ แลว้ จดบันทกึ เตือนความจา ขนั้ ท่ี ๕ การทบทวน (Review =R ) หมายถึงการทบทวนเรอื่ งราวทั้งหมดท่ีอ่านมา ทาบันทกึ ยอ่ จากความจาว่าจาได้หรือไม่ ทบทวนสาระสาคัญหลกั สาระสาคญั รองอกี คร้งั เพอื่ หา จดุ ประสงค์ ความคดิ หลกั และน้าเสียงของผ้เู ขียน ทีม่ า : เอมอร เนยี มนอ้ ย. (๒๕๕๑).พฒั นาการอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณด้วยวิธี SQ๓R. กรุงเทพฯ: สวุ ีริยาสาสน์ . \\ แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๕ วชิ าภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เล่มท่ี ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ลุ แก้ว
ตอนที่ ๑ ตานานขนมครก ชอ่ ราชพฤกษง์ าม ทกุ เขตคามเหลอื งสดใส บ่งบอกความเปน็ ไทย ท่ียง่ิ ใหญ่มานานปี ทีม่ า: http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readkn กลา่ วขานถงึ ตานาน ร่วมสบื สานอย่าหลกี หนี หกค่าเดอื นหกมี ประเพณรี ่วมทาบญุ แทรกผสานมิตรอบอนุ่ ขนมครกหอมหวาน ทเี่ คยคนุ้ มาเน่นิ นาน ไอรักกลนิ่ ละมนุ แบบฝกึ ทักษะการอ่านอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๖ วิชาภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เล่มท่ี ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอื่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ลุ แกว้
นิทานความเช่อื ไทย เลา่ กลา่ วไว้แก่ลูกหลาน กะทิหนุ่มสงู้ าน กับน้องแปง้ ลกู สาวเดียว สวยอ่อนหวานแต่เด็ดเด่ียว ลูกสาวผ้ใู หญบ่ ้าน ไม่ขอ้ งเก่ียวกับผใู้ ด รกั มั่นกนั กลมเกลียว แสนละเห่ยี ไม่สดใส เพราะผใู้ หญ่เฝ้ากดี กนั บา้ นดงมะพรา้ วเต้ยี ท้ังคคู่ งสัญญาม่ัน เรือ่ งรกั หดหใู่ จ ไมแ่ ปรผนั จนวันตาย ในงานลอยกระทง ตอ่ หน้าของพระจนั ทร์ ท่ีมา: http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file= กะทิไมร่ อชา้ รีบก้มหน้าเรง่ ขวนขวาย สู้งานไมด่ ดู าย เกบ็ เงินไวห้ ม้นั ขวญั ตา เขาไมย่ กใหด้ อกหนา แม้รู้อยเู่ ต็มอก รบี มุ่งหน้าสูข่ อนาง กะทสิ ู้อุตส่าห์ โปรดใจอ่อนอย่าเมนิ หมาง ไมท่ ง้ิ ขวา้ งแต่อยา่ งใด ร่าร้องแกมวงิ วอน เกรยี้ วกราดด่าเอ็งชัน้ ไหน จะรักไม่จืดจาง ไอข้ ้คี รอกบอกมาเลย นีไ่ อ้เปรตอยากเป็นเขย ผใู้ หญเ่ ลือดขึ้นหนา้ รอ้ งเหวยเหวยด่าขรมไป รู้ไหมขา้ เป็นใคร ลกู สาวด่ังดวงเนตร ควรหรือไอ้เชลย แบบฝกึ ทักษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๗ วิชาภาษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เล่มท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
กะทชิ า้ ชอกนัก แต่ดว้ ยรักไมห่ วน่ั ไหว ผูใ้ หญไ่ มเ่ ห็นใจ กล่นั แกลง้ ใหต้ อ้ งทุกขท์ น เจ็บปางตายไมพ่ ร่าบ่น สง่ั คนลอบทาร้าย ยังสู้ทนความหวงั มี เจบ็ หนักแทบวายชนม์ ใจแทบขาดแหลกป่นปี้ ข่าวนอ้ งแป้งตอ้ งแตง่ งาน ดุจดง่ั สายฟ้าฟาด ผใู้ หญบ่ อกยกใหผ้ ่าน รา้ วรวดปวดฤดี เงนิ นับลา้ นนน้ั ซอื้ ใจ ปลดั จากบางกอก ได้ข่าวเมือ่ วันวาน ท่ีมา: http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file= หมายวา่ จะยับย้งั กะทยิ ังมุง่ ฝันใฝ่ นอ้ งแป้งคอื ฤทยั ควรหรอื ใครจะแยง่ ชงิ สั่งชว่ ยกนั อย่าอยนู่ ่งิ ผูใ้ หญก่ ร็ ทู้ ัน ขดุ หลมุ พรางดักไว้รอ ขัดขวางในทุกสิ่ง ใจถวลิ ห่วงจริงหนอ กะทิต้องตกหลุมพราง นอ้ งแป้งแอบได้ยิน จันทร์ไมแ่ จ่มนวลกระจา่ ง เลห่ ์เหลี่ยมไม่ทันพ่อ เก็บความหวงั เต็มหัวใจ นอ้ งแปง้ คงไม่หวนั่ ไหว คืนนั้นเป็นคืนแรม เหน็ คนรักขา้ งหนา้ ตน น้องแป้งเดนิ ตามทาง รา่ งทั้งรา่ งละลิว่ วน ก้าวไมพ่ น้ กรรมทามา ดว้ ยรกั ทีส่ ูงสง่ ต้ังหน้าตรงมุ่งไป ลมื นึกถงึ หลุมพราง ตกหลมุ ในบัดดล แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๘ วิชาภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกุลแก้ว
ทีม่ า : http://www.bloggang.com/viewdiary.php? กะทติ กใจนกั เห็นคนรักตกหลมุ หนา หวงั ชว่ ยกลั ยา จงึ กระโดดไปตามกัน โอ้วา่ ยอดฤทยั ฉนั กรเกยี่ วตระกองกอด อย่าหวาดหว่นั แก้วกานดา พน่ี จ้ี ะรกั มั่น เขาก็นาดนิ กลบหนา้ สองชะตาคราตอ้ งตาย พูดยังไม่ขาดคา ชาตนิ ้ยี ังไม่สมหมาย ชะรอยกรรมนาพา นอ้ งขอตายค่พู ยี่ า แม้ออ่ นแรงใจหรรษา นอ้ งแปง้ นา้ ตาหล่ัง เอย่ สญั ญาไม่เปล่ียนไป ถึงแม้ชีพวางวาย กะทิจมุ พิตแปง้ อิงแอบกัลยา แบบฝกึ ทักษะการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๙ วชิ าภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
ชาติหน้าหากมจี รงิ ขอทุกส่ิงสุขสดใส ชาตินี้ระกาใจ ด้วยไม่ได้เป็นคู่ครอง ไดป้ ระสบภริ มย์สอง ชาตไิ หนขอใหพ้ บ ไม่ใหห้ มองตอ้ งนวลใย ครองคเู่ คยี งประคอง พี่ขอเป็นธาราใส พ่ีขอไปเป็นเมฆา หากเจา้ เปน็ มจั ฉา ใชไ่ ร้กลน่ิ เสน่หา เจ้าเป็นระวไิ ซร้ ตรึงตราไว้ใหไ้ ดย้ ล สงั่ คนให้มาดผู ล ฝังกลบดนิ หมดส้ิน เหน็ สองคนนอนเคียงกัน อบอวลอยู่ทกุ ครา แทบสิน้ แรงเศร้าโศกศลั ย์ เพราะพ่อน้ันเห็นแกต่ ัว ผู้ใหญ่กระหยิ่มใจ หนไี มพ่ ้นเพราะกรรมชั่ว ขุดดนิ ตามแผนตน กรรมติดตวั เนิ่นนานมา กะทคิ ู่นอ้ งแป้ง ลูกตายวายชีวนั ตอี กชกหัวตน ลูกตายพอ่ หมองมวั แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๑๐ วชิ าภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มที่ ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
ทีม่ า: http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id จงึ เปน็ อนสุ รณ์ จากรุน่ ก่อนให้รคู้ ่า ทุกแรมเดอื นหกหนา แรมหกค่าให้มงี าน และเล่ืองลือรสหอมหวาน ทาขนมข้ึนชอ่ื ร่วมสบื สานธรรมเนียมไทย เตมิ รกั ต่อตานาน และเติมแต่งกะทิใส่ ทห่ี ลมุ ใหส้ กุ พอดี ขนมปรงุ จากแปง้ ตามตาราวา่ ควรที่ หยอดหน้าตามลงไป หน้าตอ่ หนา้ หันหากนั ดจุ สองใจท่ีรกั มน่ั แคะข้ึนจากหลมุ มา ไม่แปรผนั ทงิ้ หา่ งไกล ประกบซ้อนทันที เรยี กย่อพลันดว้ ยชือ่ ใหม่ ขนมไทยจากตานาน ให้เป็นคคู่ ู่ไป ขนมบอกสัมพันธ์ ขนมคนรกั กนั “ขนมครก”นไี่ ง ที่มา(เนือ้ เรื่อง) : ส. พลายน้อย . (๒๕๕๕). นทิ านไทย. กรงุ เทพฯ: สถาพรบคุ๊ ส์. แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๑๑ วชิ าภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มที่ ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แก้ว
คาศัพท์ ตระกอง หมายถงึ ก. กอด เกย่ี วพนั ธารา หมายถงึ น. สายน้า ลาธาร ห้วย หยาดนา้ ทอ่ น้า กร หมายถงึ น. ผู้ทา ; มือ ; แสง ขวนขวาย หมายถงึ ก. เสาะหา, แสวงหา ราชพฤกษ์ หมายถงึ น. ชอ่ื ต้นไมช้ นดิ หนึ่งดอกสเี หลอื งเปน็ ชอ่ ระย้า,คูน ประเพณี หมายถึง น. สิง่ ที่นิยมประพฤติปฏิบตั สิ บื ตอ่ มาเปน็ แบบแผน ข้ีครอก หมายถึง น. เรียกลูกของทาส ชนช้ันต่า ขรม (ขะหฺรม) หมายถงึ ว. เอ็ดอึง เซ็งแซ่ ภริ มย์ หมายถึง ก. รื่นเริง,ดใี จย่งิ ,ยินดี มจั ฉา หมายถงึ น. ปลา ธารา หมายถึง น. นา้ ระวิ หมายถึง น. ดวงอาทติ ย์ เมฆา หมายถึง น. เมฆ อนสุ รณ์ หมายถงึ น. เครือ่ งระลึก,ทีร่ ะลึก ท่ีมา: ราชบณั ฑิตยสถาน.(๒๕๕๖) พจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน.พ.ศ.๒๕๕๔. กรงุ เทพฯ: นานมบี คุ๊ สพ์ บั ลิเคชั่นส์. ท่ีมา: http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id แบบฝกึ ทักษะการอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๑๒ วชิ าภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกุลแก้ว
การอา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ โดย วิธี SQ๓R ขน้ั ที่ ๑ การอ่านสารวจ (Survey = S) หมายถงึ การอ่านสารวจอย่างครา่ วๆ ต้ังแตช่ อ่ื เร่อื ง ผู้แต่ง และเนอื้ เรอ่ื งท้ังหมด โดยการกวาดสายตาอย่างรวดเรว็ ข้ันท่ี ๒ การตั้งคาถาม (Question =Q) หมายถึงการตั้งคาถามในเรอ่ื งทต่ี นอยากรจู้ ากเรอื่ งทอ่ี ่าน จะต้งั คาถามจากเรือ่ งทอ่ี ่านตามลาดับหวั ข้อในแตล่ ะย่อหน้า ด้วยวิธเี ขยี นคาถามลงในกระดาษเพอ่ื ค้นหาคาตอบตอ่ ไป ขนั้ ที่ ๓ การอ่านอย่างรอบคอบ (Read =R ) หมายถงึ การอ่านอยา่ งละเอียดรอบคอบ เพอ่ื จบั ใจความสาคัญของเร่อื ง และตอบคาถามทบ่ี ันทึกไว้ ในขนั้ นอ้ี าจมีคาถามและคาตอบเพ่มิ ข้ึน จากเดมิ (การอ่านอยา่ งรอบคอบนกั เรยี นสามารถขีดเส้นใตป้ ระเดน็ สาคัญไว้ หลงั จากอา่ นรอบแรก ควรอา่ นทบทวนอกี หนึ่งรอบเพือ่ ความเข้าใจท่ีชดั เจน แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๑๓ วิชาภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เร่ือง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ุลแกว้
ขัน้ ท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) การเล่าเร่ืองทอี่ ่านมาท้งั หมดด้วยคาพดู ของตนเอง และพิจารณาว่า ตอบคาถามได้ครบถ้วนหรอื ไม่ แลว้ จดบันทกึ เตือนความจา ข้ันท่ี ๕ การทบทวน (Review =R ) หมายถงึ การทบทวนเรอ่ื งราวทง้ั หมดที่อ่านมา ทา บันทึกย่อจากความจาว่าจาได้หรือไม่ ทบทวนสาระสาคัญหลัก สาระสาคญั รองอกี ครั้ง เพ่ือหา จุดประสงค์ ความคิดหลักและน้าเสียงของผเู้ ขียน หมายเหตุ ในข้ันตอนท่ี ๕ นักเรยี นทบทวนสาระสาคัญของเนือ้ เรือ่ งท้ังน้ี สามารถแลกเปล่ียน ความคดิ เห็นกบั เพ่อื นๆในกลุ่มหรอื ในห้องได้ตามความเหมาะสม ทม่ี า : เอมอร เนยี มนอ้ ย. (๒๕๕๑).พฒั นาการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณด้วยวิธี SQ๓R. กรงุ เทพฯ:สวุ รี ิยาสาส์น. แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๑๔ วิชาภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เล่มที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เร่ือง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แกว้
แบบบนั ทึกกิจกรรม การอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณ โดยวิธี วธิ ี SQ๓R นทิ านไทย เร่อื ง ตานานขนมครก (ตอนท่ี๑) ขน้ั ท่ี ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) หมายถงึ การอ่านสารวจอย่างครา่ วๆ ตง้ั แต่ชอื่ เร่อื ง ผู้แต่ง และเน้ือเร่อื งท้งั หมด โดยการกวาดสายตาอยา่ งรวดเร็ว (๔ คะแนน) แบบบนั ทกึ กจิ กรรมที่ ๑ ข้นั ที่ ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนสารวจชอื่ เรื่อง ผแู้ ตง่ เนอื้ เร่อื งคร่าวๆ เกีย่ วกบั อะไร ๑. นิทานเรือ่ งนี้ช่ือว่า……………………………………………………………………………………………………… ๒. นทิ านเร่ืองน้เี ปน็ นทิ านประจาชาติใด…………………………………………………………………………… ๓. นทิ านเร่ืองน้นี ่าจะเกี่ยวกับเร่ืองอะไร……………………………………………………………………………. ท่มี า: http://www.prapayneethai.com/# [ออนไลน์]. วนั ทส่ี บื ค้น ๒๐ มนี าคม ๒๕๕๗. แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๑๕ วชิ าภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เล่มที่ ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แก้ว
ขัน้ ที่ ๒ การตงั้ คาถาม (Question =Q) หมายถงึ การต้งั คาถามในเร่อื งท่ตี นอยากรู้จากเร่อื งท่ีอ่าน จะตงั้ คาถามจากเร่ืองทีอ่ ่านตามลาดับหวั ข้อในแตล่ ะย่อหน้า ดว้ ยวิธีเขียนคาถามลงในกระดาษเพ่ือ คน้ หาคาตอบตอ่ ไป (๔ คะแนน ) แบบบนั ทึกกิจกรรมท่ี ๒ ขนั้ ท่ี ๒ การตง้ั คาถาม (Question =Q) คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนตงั้ คาถามจากการอ่านนิทานเรือ่ ง ตานานขนมครก ๑. คาถามวิเคราะหร์ ปู แบบคาประพนั ธ์ ………………………………………………………………………………….……………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๒. คาถามวิเคราะหเ์ น้อื หาหรือเน้ือเรอื่ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. คาถามวิเคราะหส์ านวนภาษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔.คาถามวิเคราะห์ทศั นะของผู้แต่ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕.คาถามอนื่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบฝึกทักษะการอ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๑๖ วิชาภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
ข้ันที่ ๓ การอา่ นอย่างรอบคอบ (Read =R ) หมายถงึ การอ่านอยา่ งละเอียดรอบคอบ เพื่อจับ ใจความสาคัญของเร่อื ง และตอบคาถามทบี่ นั ทกึ ไว้ ในขั้นนีอ้ าจมีคาถามและคาตอบเพ่มิ ขน้ึ จาก เดิม (๔ คะแนน ) แบบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี ๓ ข้นั ท่ี ๓ การอ่านอยา่ งรอบคอบ (Read =R ) คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาถามจากแบบบันทกึ กจิ กรรมท่ี๒ ทนี่ ักเรยี นต้งั ไวใ้ ห้ถกู ต้อง ๑. คาถามวเิ คราะห์รูปแบบคาประพนั ธ์ ………………………………………………………………………………….……………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๒. คาถามวเิ คราะห์เน้อื หาหรอื เนือ้ เรอ่ื ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. คาถามวเิ คราะหส์ านวนภาษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔.คาถามวิเคราะห์ทัศนะของผแู้ ต่ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕.คาถามอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้นั ท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) การเล่าเรือ่ งทอ่ี า่ นมาท้ังหมดด้วยคาพดู ของตนเองและพิจารณา ว่า ตอบคาถามได้ครบถ้วนหรือไม่ แลว้ จดบันทึกเตือนความจา ( ๔ คะแนน) แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๑๗ วิชาภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เล่มท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แก้ว
ขั้นท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) การเล่าเรอื่ งทอ่ี ่านมาท้งั หมดด้วยคาพูดของตนเองและพจิ ารณา ว่า ตอบคาถามไดค้ รบถว้ นหรอื ไม่ แลว้ จดบันทกึ เตือนความจา ( ๔ คะแนน) แบบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี ๔ ข้นั ท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนทบทวนคาตอบจากคาถามทั้งหมดในเนอ้ื เรอื่ ง จดบันทกึ ด้วยคาพดู ของตนเอง ความคดิ หลัก………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความคิดรอง ……………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใคร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ทาอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ทีไ่ หน ……………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… เม่ือไร………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… อย่างไร……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลทีไ่ ด้รับ ……………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แ…บ…บฝ…กึ …ทกั…ษ…ะก…า…รอ…่าน…อ…ย่า…งม…ีว…จิ า…รณ…ญ…า…ณ…โด…ยว…ธิ …ี S…Q๓…R…………………๑…๘…………ว…ิช…าภ…า…ษา…ไท…ย…ช…ั้น…มธั…ย…มศ…กึ …ษา…ป…ที ่ี …๕… เ…ล่ม…ท…ี่ ๑……นิท…า…นไ…ทย……(ก…าพ…ย…์ยา…น…ี ๑…๑)……เร…ือ่ ง…ต…า…นา…นข…น…ม…คร…ก………………………โ…ดย………จิน…ต…นา……พ…กิ ุล…แ…กว้…………………
ขัน้ ที่ ๕ การทบทวน (Review =R ) หมายถึงการทบทวนเร่ืองราวทงั้ หมดที่อ่านมา ทาบนั ทึกย่อ จากความจาวา่ จาได้หรือไม่ ทบทวนสาระสาคัญหลัก สาระสาคญั รองอกี ครง้ั เพือ่ หาจดุ ประสงค์ ความคิดหลกั และนา้ เสยี งของผู้เขยี น ( ๔ คะแนน) แบบบนั ทกึ กิจกรรมท่ี ๕ ขนั้ ท่ี ๕ การทบทวน (Review =R ) คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์ประเด็นสาคัญของนิทานเรอ่ื ง ตานานขนมครก จดบันทกึ ด้วยคาพดู ของตนเอง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …แบ…บ…ฝกึ …ท…กั ษ…ะ…กา…รอ…า่ น…อ…ย่า…ง…มีว…ิจา…ร…ณญ…า…ณ…โด…ย…วิธ…ี S…Q…๓R…………………๑…๙……………วชิ …า…ภา…ษา…ไท…ย……ช้ัน…ม…ธั ย…มศ…กึ …ษ…าป…ที ่ี…๕… …เล…ม่ ท…ี่ ๑……นทิ…า…นไ…ท…ย …(ก…าพ…ย…์ยา…น…ี ๑…๑…) …เร…่ือ…ง ต…า…นา…น…ขน…ม…คร…ก………………………โ…ดย………จิน…ต…น…า …พ…ิก…ลุ แ…ก…ว้ ……
เฉลยแบบบนั ทึกกจิ กรรม การอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณ โดยวิธี วธิ ี SQ๓R นทิ านไทย เรื่อง ตานานขนมครก ขั้นที่ ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) หมายถงึ การอา่ นสารวจอย่างคร่าวๆ ตั้งแต่ชอ่ื เรือ่ ง ผ้แู ต่ง และเน้ือเรอื่ งท้งั หมด โดยการกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว (๔ คะแนน) แบบบนั ทึกกจิ กรรมที่ ๑ ขัน้ ที่ ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนสารวจชื่อเร่ือง ผู้แตง่ เนอ้ื เรอื่ งครา่ วๆ เกย่ี วกบั อะไร ๑. นทิ านเรอ่ื งนช้ี อ่ื ว่า………………………………………………ตานานขนมครก………………………………… ๒. นทิ านเรื่องนเ้ี ป็นนทิ านประจาชาติใด………………………ไทย………………………………………… ๓. นิทานเรือ่ งนน้ี า่ จะเกี่ยวกับเร่ืองอะไร……ความเชอ่ื ทีเ่ กยี่ วกับการเกิดขนมครก…………………… ที่มา: http://www.lampangvc.ac.th/lvcasean/page_indonesia๓.html[ออนไลน์]. วันทส่ี บื ค้น ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗. แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๒๐ วิชาภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกุลแก้ว
ข้ันที่ ๒ การตั้งคาถาม (Question =Q) หมายถึงการตัง้ คาถามในเรื่องท่ตี นอยากรูจ้ ากเรือ่ งทอ่ี ่าน จะตงั้ คาถามจากเรื่องท่ีอา่ นตามลาดับหวั ข้อในแต่ละยอ่ หน้า ด้วยวธิ ีเขียนคาถามลงในกระดาษเพอ่ื ค้นหาคาตอบตอ่ ไป (๔ คะแนน ) แบบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี ๒ ขั้นท่ี ๒ การตง้ั คาถาม (Question =Q) คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนตง้ั คาถามจากการอ่านนิทานเรอ่ื ง ตานานขนมครก ๑. คาถามวิเคราะหร์ ปู แบบคาประพนั ธ์ ………… -นิทานเร่อื งนแ้ี ต่งเป็นคาประพันธป์ ระเภทใด -นิทานเรื่องนแี้ ตง่ โดยใชร้ ้อยกรองรปู แบบใด ๒. คาถามวิเคราะห์เน้ือหาหรอื เน้อื เรือ่ ง … - นิทานเรอื่ งนเี้ กิดท่ีใด- เป็นเร่อื งทเ่ี กีย่ วกับอะไร - ทาไมกะทกิ บั นอ้ งแป้งจึงไมส่ มหวังในความรกั - ใครเปน็ ตวั ละครหลกั ที่ทาใหน้ ิทานเรื่องน้ีจบลงดว้ ยความเศร้า –นทิ านเร่ืองนี้เปน็ ทม่ี าของการเกดิ ขนมครกใช่หรอื ไม่ - นิทานเรอ่ื งน้ีมเี ค้าเรอ่ื งจริงหรือไม่ ๓. คาถามวิเคราะห์สานวนภาษา - ภาษาท่ใี ช้ในคาประพันธ์ เขา้ ใจง่าย เหมาะสมหรือไม่ - มีการใชโ้ วหารภาพพจน์หรือไม่ - คาทสี่ รรใชม้ ีความงดงามเหมาะสมกับเร่ือง อา่ นง่าย เขา้ ใจ - ภาษา ท่ีใช้สอ่ื นาฏการชัดเจนเพียงใด ๔.คาถามวิเคราะห์ทศั นะของผู้แตง่ - ผแู้ ต่งต้องการส่อื สารเร่ืองอะไรชัดเจนท่สี ุดเพือ่ ใหผ้ ู้อ่านได้เกดิ แนวคดิ ที่ดี หรอื คล้อยตาม ๕.คาถามอื่นๆ - ทาไมผใู้ หญ่ขัดขวางความรักของกะทิและน้องแป้ง - คนไทยสมัยกอ่ นเชอื่ เร่อื งศกั ดินาหรอื ไม่ แบบฝึกทักษะการอา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๒๑ วิชาภาษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เล่มที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
ข้ันท่ี ๓ การอ่านอย่างรอบคอบ (Read =R ) หมายถึง การอ่านอยา่ งละเอยี ดรอบคอบ เพื่อจับ ใจความสาคญั ของเรื่อง และตอบคาถามทีบ่ ันทึกไว้ ในขน้ั น้อี าจมีคาถามและคาตอบเพิ่มขึ้นจาก เดมิ (๔ คะแนน ) แบบบันทกึ กิจกรรมท่ี ๓ ขั้นท่ี ๓ การอ่านอย่างรอบคอบ (Read =R ) คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามจากแบบบนั ทกึ กิจกรรมที่๒ ทนี่ กั เรียนต้ังไว้ให้ถกู ตอ้ ง ๑. คาถามวิเคราะหร์ ูปแบบคาประพันธ์ ………………… คาประพันธ์แต่งเปน็ รอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ๒. คาถามวเิ คราะห์เนอื้ หาหรือเนอื้ เรื่อง นทิ านเรือ่ งน้เี กดิ ท่ีบ้านดงมะพร้าวเตยี้ เปน็ เร่อื งราวของชายหนุ่มชือ่ กะทิ กบั หญิงสาวชื่อ น้องแป้ง ทถี่ ูกกีดกนั ในเร่อื งความรกั จากพอ่ ของฝ่ายหญิงท่เี ป็นผู้ใหญบ่ า้ น ไมย่ ินยอมให้ทั้งสองรัก กันและขดั ขวางทุกทางตั้งแต่ลอบทารา้ ย กาหนดให้ฝ่ายหญิงหม้ันกับชายหนมุ่ ท่ีมาจากบางกอก ดว้ ยเงินจานวนมาก และทาหลมุ พรางเพื่อจะฆ่ากะทิ แต่สดุ ท้ายน้องแป้งกต็ กหลุมพรางพรอ้ มกับ ชายคนรกั (กะทิ)โดยทงั้ คู่ ตายคู่กันอยใู่ นหลุมพราง ทีผ่ ใู้ หญส่ ่ังลกู น้องขุดและฝงั กลบน่ันเอง ๓. คาถามวิเคราะหส์ านวนภาษา ภาษาทีใ่ ช้อ่านเขา้ ใจงา่ ย แสดงนาฏการได้ชัดเจน ใชโ้ วหารภาพพจน์เปรียบเทียบได้ ชดั เจน เข้าใจเน้ือเรือ่ งไดง้ า่ ยข้นึ ๔.คาถามวเิ คราะห์ทศั นะของผู้แต่ง ผแู้ ต่งต้องการส่ือเร่ืองกฎแหง่ กรรม และความเขา้ ใจเรอื่ งความรกั คุณค่าแหง่ ความรกั ไม่ควรตระหนักเร่อื งเงิน ศักดนิ า หรอื ศักดศ์ิ รี เท่านั้น ๕.คาถามอืน่ ๆ ผใู้ หญข่ ดั ขวางความรกั ของกะทิและน้องแปง้ เพราะกะทยิ ากจน และเป็นคนชนั้ ต่า ในสังคม ซ่งึ คนไทยสมัยก่อนบางสว่ นยังเชื่อเร่อื งศกั ดินาและยดึ ถือเรือ่ งวงศ์ตระกลู ด้วย แบบฝึกทกั ษะการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๒๒ วิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เลม่ ที่ ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
ข้ันท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) การเล่าเรื่องท่ีอา่ นมาทง้ั หมดดว้ ยคาพูดของตนเองและพิจารณา วา่ ตอบคาถามได้ครบถ้วนหรอื ไม่ แลว้ จดบันทกึ เตือนความจา ( ๔ คะแนน) แบบบันทึกกิจกรรมที่ ๔ ขน้ั ท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) คาชแี้ จง ให้นกั เรียนทบทวนคาตอบจากคาถามท้ังหมดในเนอ้ื เรอ่ื ง จดบันทึกดว้ ยคาพดู ของตนเอง ความคิดหลัก ความยดึ ม่นั ในศกั ดิศ์ รี ความร่ารวย ไม่ให้ความสาคัญ หรอื ไมเ่ ห็นคุณค่า ในเร่อื งของความรกั ความเขา้ ใจ ความคดิ รอง กฎแห่งกรรม ใคร ผใู้ หญบ่ ้านบ้านดงมะพร้าวเต้ีย ทาอะไร กดี กนั ความรักของลกู สาวตนเอง(น้องแป้ง) และกะทิ ชายหนุม่ ยากจน พยายามขดั ขวาง ทกุ ทางไม่ให้ทัง้ สองคบกนั โดยส่งั คนลอบทาร้ายกะทิ บงั คบั ให้นอ้ งแป้งรับหม้นั และเตรยี มตัว แต่งงาน ขุดหลุมพรางเพ่ือดกั ฆ่ากะทิ ทไี่ หน บ้านดงมะพรา้ วเตีย้ เมื่อไร ในคืนเดือนแรม อยา่ งไร ขดุ หลมุ พรางเพอื่ ดักฆ่ากะทิ ผลที่ไดร้ ับ นอ้ งแป้งเป็นห่วงกะทิ และต้องการจะบอกกะทิให้ระวงั ตวั เร่อื งหลมุ พราง แต่เนอื่ งด้วย เปน็ คนื แรม มองเห็นทางไม่ชดั เจน นอ้ งแปง้ พลาดจึงตกลงไปในหลุมแทน กะทกิ ระโดดตาม ทง้ั คู่ ตกลงไปในหลุมพราง คนของผ้ใู หญ่ใช้ดินฝงั กลบ ทาใหก้ ะทแิ ละน้องแปง้ เสยี ชวี ติ ในหลมุ น้นั แบบฝึกทกั ษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๒๓ วชิ าภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เล่มที่ ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แกว้
ขน้ั ที่ ๕ การทบทวน (Review =R ) หมายถงึ การทบทวนเรื่องราวท้งั หมดท่ีอา่ นมา ทาบนั ทกึ ย่อ จากความจาว่าจาไดห้ รือไม่ ทบทวนสาระสาคญั หลัก สาระสาคญั รองอีกครั้ง เพ่อื หาจุดประสงค์ ความคิดหลกั และนา้ เสียงของผู้เขยี น ( ๔ คะแนน) แบบบนั ทึกกิจกรรมท่ี ๕ ขนั้ ที่ ๕ การทบทวน (Review =R ) คาช้ีแจง ให้นักเรียนวิเคราะห์ประเดน็ สาคญั ของนทิ านเร่อื ง กาเนดิ ขนมครก จดบนั ทึกดว้ ยคาพูด ของตนเอง เรื่องของความรกั ควรทาความเข้าใจ และมีเหตุผล เพราะบางคร้งั การทารา้ ยคนอ่นื ผลที่ไดร้ บั อาจย้อนกลับมาทาร้ายตนเองได้ด้วย เช่นเดยี วกบั ผู้ใหญ่บ้านทีต่ อ้ งสูญเสยี ลูกสาว เพราะ การไม่ย้ังคดิ ความเหน็ แก่ตัว รกั ศักด์ศิ รี ไม่พยายามทาความเข้าใจเกยี่ วกับเรือ่ งความรกั และคนที่ ตนรกั จึงทาให้สูญเสียคนที่ตนรักไปในที่สดุ กระทาสิง่ ใดดว้ ยความประมาท ไม่คานึงถงึ ผลทจ่ี ะ ตามมา เขาจึงตอ้ งรบั กรรมตามน้ัน (กงเกวียน กาเกวียน) (ขึน้ อย่กู ับดุลยพินิจครูผ้สู อน) …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………….…………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบฝ…กึ ท…ักษ…ะ…กา…ร…อ่า…นอ…ย…า่ ง…มีว…ิจ…าร…ณ…ญ…าณ…โด…ย…วิธ…ี S…Q…๓R…………………๒…๔……………วิช…า…ภา…ษ…าไ…ทย……ชั้น…ม…ธั ย…ม…ศกึ.…ษา…ป…ที ่ี…๕……….. เล่มท่ี ๑……น…ิทา…น…ไท…ย…(ก…า…พย…์ย…าน…ี ๑…๑…) …เ…ร่อื …ง…ตา…น…าน…ข…นม…ค…รก…………………………โด…ย……จ…ินต…น…า…พ…ิก…ลุ แ…ก…ว้ ………………………
แบบทดสอบหลงั เรียน ตานานขนมครก ตอนท่ี๑ คาชแี้ จง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สดุ เพียงข้อเดยี ว (๑๐ คะแนน) ๑. ประเพณีทาขนมครกมักจัดขึน้ ในเดอื นใด ก. มีนาคม ข. เมษายน ค. พฤษภาคม ง. มิถุนายน ๒. ข้อใดกล่าวผิด ก. เหตุการณ์ในเรื่องเกิดที่หมบู่ า้ นดงมะพรา้ วเตย้ี ข. กาเนิดขนมครกเกดิ จากเรอื่ งของความรกั ทไ่ี ม่สมหวงั ค. กะทกิ ับนอ้ งแปง้ ไม่สมหวงั ในความรักเพราะผิดคาสัญญา ง. ขนมครกเป็นชื่อย่อของขนมท่ีมชี อื่ เต็มว่า “ขนมคนรักกัน” ๓. ขอ้ ใดใช้อวัจนภาษาเพยี งอยา่ งเดียว ก. กะทไิ มร่ อชา้ รีบกม้ หนา้ เร่งขวนขวาย ข. ผู้ใหญ่เลือดข้ึนหน้า เกรย้ี วกราดดา่ เอ็งชั้นไหน ค. พน่ี จ้ี ะรบั ขวัญ อยา่ หวาดหว่ันแกว้ กานดา ง. ชาตไิ หนขอให้พบ ได้ประสบภริ มยส์ อง ๔. ข้อใดบ่งบอกการแบ่งระดบั ชนชนั้ ในสงั คมไทยได้ชัดเจนท่สี ดุ ก. ผ้ใู หญ่เลอื ดข้ึนหน้า เกรยี้ วกราดดา่ เอง็ ชนั้ ไหน ข. รไู้ หมขา้ เป็นใคร ไอ้ขค้ี รอกบอกมาเลย ค. ลกู สาวด่ังดวงเนตร นไ่ี อเ้ ปรตอยากเป็นเขย ง. ควรหรือไอเ้ ชลย ร้องเหวยเหวยด่าขรมไป ๕. ข้อใดมีคาซอ้ นนอ้ ยท่ีสุด ก. กล่าวขานถงึ ตานาน รว่ มสบื สานอยา่ หลกี หนี ข. หกคา่ เดือนหกมี ประเพณรี ่วมทาบุญ ค. ขนมครกหอมหวาน แทรกผสานมิตรอบอนุ่ ง. ไอรกั กลิ่นละมุน ทเ่ี คยคนุ้ มาเนน่ิ นาน แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๒๕ วิชาภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกุลแก้ว
ดจุ ดง่ั สายฟา้ ฟาด ใจแทบขาดแหลกป่นป้ี รา้ วรวดปวดฤดี ขา่ วนอ้ งแปง้ ต้องแต่งงาน ผใู้ หญ่บอกยกใหผ้ ่าน ปลดั จากบางกอก เงินนับล้านนั้นซ้ือใจ ไดข้ ่าวเมื่อวนั วาน ๖. จากคาประพันธ์ข้างต้นขอ้ ใดไมส่ ามารถอนมุ านได้ ก. น้องแปง้ ต้องการแตง่ งาน ข. ค่าสนิ สอดของนอ้ งแป้งมีมูลค่ามาก ค. ผูใ้ หญ่ยกนอ้ งแป้งใหป้ ลัดจากบางกอก ง. ผใู้ หญพ่ อใจและตอ้ งการใหป้ ลัดมาเปน็ ลูกเขย ๗. ข้อใดไม่มโี วหารภาพพจน์ ก. ลูกสาวดั่งดวงเนตร นไ่ี อเ้ ปรตอยากเป็นเขย ข. ดุจดั่งสายฟา้ ฟาด ใจแทบขาดแหลกปน่ ป้ี ค. น้องแป้งคือฤทัย ควรหรือใครจะแย่งชิง ง. ชาติหนา้ หากมจี ริง ขอทุกสง่ิ สุขสดใส ๘. ข้อใดเป็นอปุ ลกั ษณโ์ วหาร ก. ดุจด่ังสายฟ้าฟาด ใจแทบขาดแหลกปน่ ปี้ ข. ฝงั กลบดนิ หมดสิน้ ใช่สิ้นกล่ินเสน่หา ค. หากเจ้าเปน็ มัจฉา พ่ขี อเปน็ ธาราใส ง. ให้เป็นค่คู ไู่ ป ดุจสองใจทรี่ กั ม่นั ๙. ข้อใดไม่ไดแ้ สดงความเชอ่ื ดา้ นพระพทุ ธศาสนา ก. ชะรอยกรรมนาพา สองชะตาคราตอ้ งตาย ข. นอ้ งแปง้ น้าตาหล่งั ชาตนิ ี้ยงั ไม่สมหมาย ค. ชาติหนา้ หากมจี รงิ ขอทุกสง่ิ สขุ สดใส ง. ตีอกชกหวั ตน หนีไม่พ้นเพราะกรรมชว่ั ๑๐. แกน่ ของเร่ืองตานานขนมครกตรงกบั สานวนใดมากทส่ี ดุ ก. ขงิ ก็ราข่ากแ็ รง ข. วัวหายจึงลอ้ มคอก ค. อย่าขม่ เขาโคขนื ใหก้ ลืนหญา้ ง. นา้ ร้อนปลาเปน็ น้าเย็นปลาตาย แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๒๖ วชิ าภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เลม่ ที่ ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ตานานขนมครก ตอนที่ ๑ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ถี กู ต้องทส่ี ุดเพียงขอ้ เดยี ว (๑๐ คะแนน) ๑. ประเพณีทาขนมครกมักจัดข้นึ ในเดอื นใด ค. มีนาคม ง. เมษายน ค. พฤษภาคม ง. มิถนุ ายน ๒.ขอ้ ใดกลา่ วผดิ ก. เหตกุ ารณใ์ นเรอ่ื งเกดิ ที่หมู่บา้ นดงมะพรา้ วเตี้ย ข. กาเนดิ ขนมครกเกดิ จากเร่ืองของความรกั ทไี่ มส่ มหวัง ค. กะทิกับน้องแปง้ ไม่สมหวงั ในความรักเพราะผดิ คาสัญญา ง. ขนมครกเป็นชื่อยอ่ ของขนมทม่ี ีชื่อเต็มว่า “ขนมคนรกั กัน” ๓. ข้อใดใชอ้ วัจนภาษาเพียงอยา่ งเดยี ว ก. กะทไิ มร่ อชา้ รบี กม้ หน้าเรง่ ขวนขวาย ข. ผใู้ หญเ่ ลือดข้ึนหนา้ เกรย้ี วกราดดา่ เอง็ ช้ันไหน ค. พน่ี จ้ี ะรบั ขวญั อยา่ หวาดหว่ันแก้วกานดา ง. ชาติไหนขอใหพ้ บ ไดป้ ระสบภิรมย์สอง ๔. ขอ้ ใดบ่งบอกการแบ่งระดับชนชั้นในสังคมไทยไดช้ ัดเจนที่สดุ ก. ผู้ใหญเ่ ลอื ดขน้ึ หน้า เกรยี้ วกราดด่าเอ็งช้ันไหน ข. ร้ไู หมข้าเป็นใคร ไอข้ ้คี รอกบอกมาเลย ค. ลูกสาวดง่ั ดวงเนตร นไ่ี อเ้ ปรตอยากเป็นเขย ง. ควรหรอื ไอ้เชลย ร้องเหวยเหวยด่าขรมไป ๕.ข้อใดมคี าซ้อนน้อยที่สุด ก. กล่าวขานถงึ ตานาน ร่วมสบื สานอย่าหลีกหนี ข. หกค่าเดือนหกมี ประเพณรี ว่ มทาบญุ ค. ขนมครกหอมหวาน แทรกผสานมติ รอบอนุ่ ง. ไอรักกลิน่ ละมุน ท่เี คยคุน้ มาเน่นิ นาน แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๒๗ วิชาภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แก้ว
ดุจดง่ั สายฟา้ ฟาด ใจแทบขาดแหลกป่นป้ี รา้ วรวดปวดฤดี ขา่ วนอ้ งแปง้ ต้องแต่งงาน ผใู้ หญบ่ อกยกใหผ้ ่าน ปลดั จากบางกอก เงนิ นบั ล้านนั้นซ้ือใจ ไดข้ า่ วเมอื่ วันวาน ๖. จากคาประพันธข์ ้างต้นขอ้ ใดไม่สามารถอนมุ านได้ ก. นอ้ งแปง้ ต้องการแต่งงาน ข. ค่าสนิ สอดของน้องแป้งมีมลู คา่ มาก ค. ผู้ใหญ่ยกน้องแปง้ ใหป้ ลัดจากบางกอก ง. ผใู้ หญพ่ อใจและต้องการใหป้ ลัดมาเปน็ ลกู เขย ๘. ขอ้ ใดไมม่ ีโวหารภาพพจน์ ก. ลูกสาวด่ังดวงเนตร นีไ่ อเ้ ปรตอยากเปน็ เขย ข. ดจุ ดัง่ สายฟ้าฟาด ใจแทบขาดแหลกป่นปี้ ค. นอ้ งแปง้ คอื ฤทยั ควรหรือใครจะแย่งชงิ ง. ชาติหนา้ หากมจี ริง ขอทกุ ส่งิ สขุ สดใส ๘. ขอ้ ใดเปน็ อุปลกั ษณ์โวหาร ก. ดุจด่งั สายฟ้าฟาด ใจแทบขาดแหลกปน่ ปี้ ข. ฝงั กลบดินหมดส้นิ ใชไ่ ร้กลิน่ เสน่หา ค. หากเจ้าเป็นมัจฉา พี่ขอเปน็ ธาราใส ง. ใหเ้ ปน็ คู่คู่ไป ดจุ สองใจทรี่ กั ม่ัน ๙. ขอ้ ใดไม่ได้แสดงความเชอื่ ด้านพระพุทธศาสนา ก. ชะรอยกรรมนาพา สองชะตาคราตอ้ งตาย ข. น้องแปง้ นา้ ตาหลัง่ ชาตนิ ้ยี ังไม่สมหมาย ค. ชาติหนา้ หากมจี ริง ขอทุกสิ่งสขุ สดใส ง. ตีอกชกหวั ตน หนไี มพ่ น้ เพราะกรรมชว่ั ๑๐. แกน่ ของเร่ืองตานานขนมครกตรงกบั สานวนใดมากทส่ี ดุ ก. ขงิ กร็ าข่าก็แรง ข. วัวหายจงึ ล้อมคอก ค. อยา่ ขม่ เขาโคขืนให้กลืนหญา้ ง. น้าร้อนปลาเป็นน้าเย็นปลาตาย แบบฝกึ ทักษะการอา่ นอย่างมวี ิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๒๘ วชิ าภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกลุ แกว้
ใบความรู้ ตอนท่ี ๒ เรอ่ื ง หลกั การอา่ นร้อยกรอง ๑. ความหมายของบทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรอง หมายถงึ ถอ้ ยคาท่ีเรยี บเรยี งให้เปน็ ระเบียบตามบญั ญตั ิแหง่ ฉันทลักษณโ์ ดยมี กาหนดขอ้ บังคบั ตา่ ง ๆ เพื่อให้เกดิ ความครกึ คร้นื และมีความไพเราะแตกตา่ งไปจากถอ้ ยคา ธรรมดา ในการอ่านบทร้อยกรองน้นั เราเรียกว่า “การอา่ นทานองเสนาะ” ๒. ความหมายของ “การอ่านทานองเสนาะ” การอ่านทานองเสนาะคอื วิธกี ารอ่านออกเสยี งอยา่ งไพเราะตามลีลาของบทร้อยกรอง ประเภท โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน ( พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ หนา้ ๕๒๘ ) บางคนใหค้ วามหมายว่า การอา่ นทานองเสนาะ คือ การอ่านตามทานอง ( ทานอง = ระบบเสียง สูงต่า ซงึ่ มจี งั หวะสน้ั ยาว ) เพื่อให้เกิดความเสนาะ ( เสนาะ , นา่ ฟงั , เพราะ , วงั เวงใจ ) ๓. วัตถุประสงคใ์ นการอ่านทานองเสนาะ การอา่ นทานองเสนาะเปน็ การอา่ นใหค้ นอื่นฟัง ฉะนน้ั ทานองเสนาะต้องอา่ นออกเสียง เสียงทาให้เกดิ ความรู้สึก – ทาให้เหน็ ความงาม – เห็นความไพเราะ – เหน็ ภาพพจน์ ผฟู้ ังสัมผสั ดว้ ยเสียงจึงจะเขา้ ถึงรสและความงามของบทรอ้ ยกรองทีเ่ รียกว่า อา่ นแล้วฟงั พร้งิ เพราะเสนาะโสต การอา่ นทานองเสนาะจงึ มุ่งใหผ้ ูฟ้ ังเขา้ ถงึ รสและเหน็ ความงามของบทร้อยกรอง ๔. ท่ีมาของการอ่านทานองเสนาะ เข้าใจว่า การอ่านทานองเสนาะมีมานานแลว้ แต่คร้ังกรุงสโุ ขทัย เท่าท่ีปรากฏหลักฐานใน ศิลาจารกึ พ่อขุนรามคาแหง พทุ ธศกั ราช ๑๘๓๕ หลกั ท่ี หนึง่ บรรทดั ท่ี ๑๘ – ๒๐ ดังความว่า “… ด้วยเสยี งพาดเสยี งพิณ เสียงเลอ้ื น เสยี งขับ ใครจักมักเล่น เลน่ ใครจักมักหัว หัว ใครจักมกั เลอ้ื น เลื้อน…” จากขอ้ ความดังกล่าว ฉนั ทิชย์ กระเสสนิ ธ์ุ กล่าวว่า เสียงเล้ือน เสียงขับ คอื การรอ้ งเปน็ ทานองเสนาะ ส่วน ทองสืบ ศุภะมารค ชแี้ จงวา่ เลอื้ นตรงกับภาษาไทยถน่ิ ว่า “เลน่ิ ” หมายถงึ การอ่านหนังสอื เออ้ื นเสียงเปน็ ทานอง ซึง่ คลา้ ยกับท่ี ประเสริฐ ณ นคร อธบิ ายว่า “เลือ้ น” เป็นคา ภาษาถนิ่ แปลวา่ อ่านทานองเสนาะ โดยอา้ งถึง บรรจบ พนั ธุเมธา กลา่ วว่า คานเี้ ป็นภาษาถิ่นของ ไทยในพม่า ถือไทยในรัฐฉานหรอื ไทยใหญ่นัน่ เอง จากความคิดเห็นของผรู้ ปู้ ระกอบกับหลกั ฐานใน ศลิ าจารกึ พอ่ ขุนรามคาแหงดงั กล่าว ทาให้เช่ือกนั ว่าการอา่ นทานองเสนาะของไทยมีมานานหลาย ร้อยปีแลว้ โดยเรียกเป็นภาษาไทยถิน่ วา่ “เลือ้ น” ท่ีมาหรอื ตน้ เค้าของการอ่านทานองเสนาะพอจะ สันนษิ ฐานไดว้ า่ น่าจะมบี ่อเกิดจากการดาเนนิ วิถชี วี ิตของคนไทยในสมัยก่อน ทมี่ ีความเกีย่ วกนั กบั การรอ้ งเพลงทานองตา่ ง ๆ ตลอดมา ท้ังน้จี ากเหตุผลที่ว่า คนไทยมนี สิ ัยชอบพดู คาคลอ้ งจองให้มี แบบฝกึ ทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๒๙ วิชาภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เลม่ ท่ี ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรอื่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ุลแก้ว
จงั หวะดว้ ยลักษณะสัมผัสเสมอ ประกอบกับคาภาษาไทยทมี่ ีวรรณยุกต์กากับจึงทาใหค้ ามรี ะดับ เสียงสงู ต่าเหมอื นดนตรี เมื่อประดษิ ฐ์ทานองง่าย ๆ ใสเ่ ขา้ ไปก็ทาให้สามารถสร้างบทเพลงร้อง ขนึ้ มาไดแ้ ล้ว ดังน้นั คนไทยจงึ มีโอกาสไดฟ้ ังและชื่นชมกบั การร้องเพลงทานองต่าง ๆ ตัง้ แตเ่ กิดจน ตายทเี ดยี ว ศิลปะการอ่านทานองเสนาะขึ้นอย่กู บั ความสามารถของผูอ้ ่าน และความไพเราะของบท ประพนั ธแ์ ต่ละประเภท โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ผ้อู ่านทานองเสนาะจงึ ต้องศกึ ษาวธิ ีการอา่ นให้ไพเราะ และตอ้ งหมั่นฝึกฝนการอ่านจนเกิดความชานาญ อนง่ึ ศลิ ปะการอ่านทานองเสนาะอยทู่ ต่ี ัวผู้อา่ น ตอ้ งรจู้ ัก วิธกี ารอา่ นทอดเสียง โดยผ่อนจงั หวะให้ชา้ ลง การเอือ้ นเสียง โดยการลากเสียงช้า ๆ เพ่อื ใหเ้ ข้าจงั หวะและให้หางเสยี งให้ไพเราะ การครน่ั เสียง โดยทาเสียงสะดุดสะเทือนเพื่อความ ไพเราะเหมาะสมกับบทกวีบางตอน การหลบเสียง โดยการหักเสียงใหพ้ ลกิ กลับจากเสยี งสูงลงมา เปน็ เสียงต่า หรอื จากเสียงต่าขึน้ ไปเปน็ เสยี งสงู เนื่องจากผู้อ่านไม่สามารถทจี่ ะดาเนินตามทานอง ตอ่ ไปได้ เป็นการหลบหนีจากเสียงท่ีเกนิ ความสามารถ จงึ ต้องหักทานองพลิกกลับเข้ามาดาเนนิ ทานองในเขตเสียงของตน และการกระแทกเสียงโดยการอ่านกระชากเสยี งให้ดังผดิ ปกตใิ นโอกาส ท่แี สดงความโกรธหรอื ความไมพ่ อใจหรือเมอื่ ต้องการเนน้ เสียง (มนตรี ตราโมท ๒๕๒๗ : ๕๐ ) ๕. รสท่ีใชใ้ นการอ่านทานองเสนาะ ๑.๑ รสถ้อย ( คาพดู ) แตล่ ะคามรี สในคาของตวั เอง ผู้อา่ นจะตอ้ งอ่านใหเ้ กดิ รสถอ้ ย ตัวอย่าง สักวาหวานอนื่ มีหม่นื แสน ไมเ่ หมอื นแมน้ พจมานทห่ี วานหอม กลน่ิ ประเทยี บเปรียบดวงพวงพะยอม อาจจะน้อมจติ โนม้ ด้วยโลมลม แม้นลอ้ ลามหยามหยาบไม่ปลาบปลืม้ ดงั ดดู ดื่มบอระเพ็ดทเี่ ข็ดขม ผูด้ ีไพรไ่ ม่ประกอบชอบอารมณ์ ใครฟงั ลมเมนิ หน้าระอาเอย (พระนพิ นธ์ กรมหลวงบดินทร์ไพศาลโสภณ) ๑.๒ รสความ ( เรื่องราวท่ีอ่าน ) ข้อความทอี่ ่านมีเรือ่ งราวเก่ียวกบั อะไร เชน่ โศกเศรา้ สนุกสนาน ต่ืนเต้น โกรธ รัก เวลาอ่านต้องอา่ นใหม้ ีลีลาไปตามลกั ษณะของเนอื้ เรอ่ื งน้ัน ๆ ตัวอย่าง บทโศกตอนท่ีนางวันทองไปสง่ พลายงามใหไ้ ปหาย่าทองประศรที ี่สพุ รรณบุรี ลูกกแ็ ลดูแมแ่ ม่ดูลูก ตา่ งพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล สะอน้ื รา่ อาลาด้วยอาลัย แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา เหลียวหลงั ยังเห็นแม่แลเขม้น แมก่ ็เหน็ ลกู น้อยละห้อยหา แตเ่ หลียวเหลียวเลยี้ วลบั วับวิญญาณ์ โอ้เปล่าตาต่างสะอืน้ ยนื ตะลงึ (เสภาขุนชา้ งขุนแผน ตอนกาเนิดพลายงาม : สนุ ทรภู่ ) แบบฝึกทักษะการอา่ นอย่างมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๓๐ วชิ าภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แกว้
ตวั อยา่ ง บทสนุกสนาน ในนริ าศพระบาทขณะมีมวยปล้า ละครหยุดอุตลดุ ดว้ ยมวลปล้า ยนื ประจาหมายสู้เปน็ คู่ขัน มงคลใสส่ วมหวั ไมก่ ลวั กัน ต้งั ประจันจดจบั ขยบั มอื ตีเข้าปับรับโปกสองมือปิด ประจบตดิ เตะผางหมัดขวา้ งหวือ กระหวัดหวิดหวิวผวาเสียงฮาฮือ คนดอู ื้อเออเอาสน่ันอึง (นริ าศพระบาท : สนุ ทรภู่ ) ๑.๓ รสทานอง ( ระบบเสียงสงู ตา่ ซ่งึ มีจงั หวะส้ันยาว )ในบทรอ้ ยกรองไทยจะประกอบด้วย ทานองตา่ ง ๆ เช่น ทานองโคลง ทานองฉนั ท์ ทานองกาพย์ ทานองกลอน และทานองร่าย เป็นต้น ผู้อา่ นจะตอ้ งอ่านใหถ้ ูกตอ้ งตามทานองของรอ้ ยกรองนน้ั เช่น โคลงส่ีสุภาพ สตั ว์ พวกหนงึ่ นี้ชอ่ื พหบุ า ทาแฮ มี เอนกสมญา ยอกย้อน เท้า เกดิ ยงิ่ จัตวา ควรนบั เขานอ มาก จวบหม่ินแสนซอ้ น สุดพ้นประมาณฯ ( สัตวาภธิ าน : พระยาศรีสนุ ทรโวหาร (น้อย อาจารยากรู ) ๑.๔ รสคล้องจอง ในบทร้อยกรองตอ้ งมคี าคลอ้ งจอง ในคาคล้องจองนนั้ ตอ้ งให้ออกเสยี ง ตอ่ เน่อื งกนั โดยเน้นสัมผสั นอกเป็นสาคญั เช่น ถึงโรงเหลา้ เตากลนั่ ควันโขมง มีคนั โพงผกู สายไว้ปลายเสา โอ้บาปกรรมน้านรกเจียวอกเรา ให้มวั เมาเหมือนหนง่ึ บ้าเป็นน่าอาย ทาบุญบวชกรวดนา้ ขอสาเรจ็ สรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย ถงึ สรุ าพารอดไมว่ อดวาย ไมใ่ กลก้ รายแกลง้ เมนิ กเ็ กนิ ไป ไม่เมาเหล้าแลว้ แต่เรายงั เมารัก สุดจะหกั ห้ามจิตคดิ ไฉน ถึงเมาเหล้าเช้าสายกห็ ายไป แต่เมาใจนีป้ ระจาทุกค่าคืน ๚ (นริ าศภเู ขาทอง : สุนทรภู่) ๑.๕ รสภาพ เสียงทาให้เกิดภาพ ในแตล่ ะคาจะแฝงไปดว้ ยภาพ ในการอา่ นให้เหน็ ภาพตอ้ ง ใช้เสียง สูง – ตา่ ดัง - ค่อย แล้วแต่จะให้เกดิ ภาพอย่างไร เช่น “มดเอ๋ยมดแดง เลก็ เลก็ เร่ียวแรงแข็งขยัน “สพุ รรณหงส์ทรงพู่หอ้ ย งามชดชอ้ ยลอยหลงั สนิ ธ์ุ” “อยุธยายศลม่ แล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา” ๖. หลักการอา่ นทานองเสนาะ มีดังน้ี ๑. กอ่ นอ่านทานองเสนาะให้แบ่งคาแบ่งวรรคใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั คาประพันธ์เสียก่อนโดย ตอ้ งระวงั ในเรอื่ งความหมายของคาด้วย เพราะคาบางคาอา่ นแยกคากนั ไม่ได้ เชน่ แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมีวจิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๓๑ วิชาภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เล่มท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ุลแกว้
“สร้อยคอขนมยรุ ะ ยูงงาม” (ขน-มยุระ ) “หวนหว่ งม่วงหมอนทอง อกี อกรอ่ งรสโอชา (อกี -อก-ร่อง ) “แขกเต้าจบั เต่าร้างรอ้ ง เหมอื นจากห้องมาหยารศั มี” (จบั -เตา่ -รา้ ง ) “แรงเหมือนมดอดเหมอื นกา กลา้ เหมอื นหญิง” (เหมือน-มด ) ๒. อา่ นออกเสยี งตามธรรมดาใหค้ ล่องก่อน ๓. อา่ นให้ชดั เจน โดยเฉพาะออกเสียง ร ล และคาควบกลา้ ใหถ้ กู ต้อง เช่น “เกิดเปน็ ชายชาตรีอยา่ ข้ีขลาด บรรยากาศปลอดโปรง่ โล่งสมอง หยิบน้าปลาตราสบั ปะรดใหท้ ดลอง ไหนเล่าน้องครีมนวดหน้าทาให้ที เนอ้ื นั้นมโี ปรตนี กนิ เขา้ ไว้ คนเคราะห์ร้ายคลมุ้ คลงั่ เร่ืองหนังผี ใช้นา้ คลองกรองเสยี ก่อนจึงจะดี เหน็ มาลคี ลบ่ี านหน้าบ้านเอย” ๔. อ่านให้เอื้อสัมผัส เรยี กวา่ คาแปรเสยี ง เพอ่ื ใหเ้ กิดเสียงสมั ผสั ท่ไี พเราะ เช่น พระสมุทรสดุ ลึกล้น คณนา ( อา่ นว่า พระ-สะ-หมดุ -สุด-ลึก-ลน้ คน-นะ-นา ) ขา้ ขอเคารพอภวิ าท ในพระบาทบพติ รอดิศร ( อ่านว่า ข้า-ขอ-เคา-รบ-อบ-พ-ิ วาด ใน-พระ-บาด-บอ-พดิ -อะ-ดดิ -สอน ) ขอสมหวงั ต้งั ประโยชนโ์ พธิญาณ ( อา่ นวา่ ขอ-สม-หวัง-ตงั้ -ประ-โหยด-โพด-ท-ิ ยาน ) ๕. ระวงั ๓ ต อยา่ ให้ตกหลน่ อยา่ ต่อเตมิ และอยา่ ตู่ตัว ๖. อ่านให้ถูกจังหวะ คาประพันธแ์ ตล่ ะประเภทมีจังหวะแตกตา่ งกัน ต้องอ่านให้ถกู วรรค ตอนตามแบบแผนของคาประพันธน์ ั้น ๆ เช่น มุทิงคนาทฉันท์ ( ๒-๒-๓ ) “พระจันทร์ / สวา่ ง / กระจ่างสี ณ ลพ/ บุรี / ฤดูหนาว บรุ ุษ / สตรี / กเ็ กรียวกราว สนกุ / ณ คราว / ราโทนไทย” ๗. อา่ นใหถ้ กู ทานองของคาประพันธ์นั้น ๆ ( รสทานอง ) ๘. ผู้อา่ นตอ้ งใสอ่ ารมณต์ ามรสความของบทประพนั ธ์น้ัน ๆ รสรกั โศก ต่ืนเตน้ ขบขัน โกรธ แลว้ ใสน่ ้าเสยี งให้สอดคลอ้ งกบั รสหรืออารมณ์ตา่ ง ๆ เหล่านน้ั ๙. อ่านให้เสียงดัง ( พอทจี่ ะได้ยินกนั ทว่ั ถึง ) ไม่ใช่ตะโกน ๑๐. ถ้าเปน็ ฉนั ท์ ต้องอ่านให้ถกู ต้องตามบงั คับของครุ - ลหุ ของฉันท์นนั้ ๆ ลหุ คอื คาท่ีผสมดว้ ยสระเสียงส้ัน และไม่มตี วั สะกด เชน่ เตะ บุ และ เถอะ ผวั ะ ยกเวน้ ก็ บ่อ นอกจากน้ีถือเป็นคาครุ ( คะ-รุ ) ท้ังหมด ลหุ ใหเ้ ครอื่ งหมาย ( ุ ) แทนในการเขียน ครุ ใชเ้ คร่อื งหมาย ( ั ) แทนในการเขยี น ตวั อยา่ ง : วสนั ตดลิ กฉันท์ ๑๔ มคี รุ - ลหุ ดงั น้ี แบบฝกึ ทักษะการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๓๒ วชิ าภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เล่มท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอื่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แกว้
อ้าเพศกเ็ พศนุชอนงค์ อรองค์ก็บอบบาง ( อา่ นว่า อ้า - เพด – กอ้ – เพด – นุ – ชะ – อะ – นง อะ – ระ – อง – ก้อ – บอบ – บาง ) ควรแตผ่ ดงุ สริ สิ ะอาง ศภุ ลักษณป์ ระโลมใจ ( อา่ นว่า ควน – แต่ – ผะ – ดงุ – สิ – หริ – สะ – อาง - สุ – พะ – ลัก – ประ – โลม – ใจ ) ๑๑. เวลาอา่ นอย่าให้เสยี งขาดเป็นช่วง ๆ ต้องให้เสียงตดิ ตอ่ กนั ตลอด เช่น “วนั นนั้ จนั ทร มดี ารากร เปน็ บริวาร เห็นส้ินดนิ ฟา้ ในป่าท่าธาร มาลีคลี่บาน ใบกา้ นอรชร” เวลา จบให้ทอดเสียงช้า ๆ ๗. ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการอ่านทานองเสนาะ ๑.ช่วยใหผ้ ู้ฟงั เขา้ ถึงรสและเหน็ ความงามของบทรอ้ ยกรองท่อี ่าน ๒.ชว่ ยใหผ้ ้ฟู งั ไดร้ บั ความไพเราะและเกิดความซาบซึ้ง ( อาการรสู้ ึกจับใจอย่างลกึ ซ้ึง ) ๓.ช่วยให้เกดิ ความสนกุ สนาน ความเพลิดเพลนิ ๔.ช่วยให้จดจาบทร้อยกรองไดร้ วดเรว็ และแม่นยา ๕.ช่วยกลอ่ มเกลาจติ ใจใหเ้ ปน็ คนอ่อนโยนและเยอื กเยน็ ( ประโยชน์โดยอ้อม ) ๖.ช่วยสบื ทอดวฒั นธรรม ในการอา่ นทานองเสนาะไว้เปน็ มรดกตอ่ ไป ท่ีมา: http://www.baanjomyut.com/library_๒/thai_poetry/๑๐.html แบบฝึกทกั ษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๓๓ วชิ าภาษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ุลแกว้
แบบบันทกึ กิจกรรม การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ โดยวธิ ี วธิ ี SQ๓R (ตอนที่ ๒) เร่อื งหลกั การอ่านร้อยกรอง ขั้นที่ ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) หมายถึง การอา่ นสารวจอยา่ งครา่ วๆ ต้งั แตช่ ือ่ เร่อื ง และ เนอื้ เรอื่ งท้งั หมด โดยการกวาดสายตาอย่างรวดเรว็ แบบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี ๑ ขั้นท่ี ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนสารวจช่ือเร่อื ง เนื้อเรอื่ งคร่าวๆ เกย่ี วกบั อะไร ๑. เร่ืองนชี้ ่อื ว่าอะไร……………………………………………………………………………………………………… ๒. มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร……………………………………………………………………………………………..… ข้นั ท่ี ๒ การตั้งคาถาม (Question =Q) หมายถึงการตงั้ คาถามในเรื่องทีต่ นอยากรู้จากเรื่องทอ่ี ่าน จะต้ังคาถามจากเรอื่ งทอ่ี ่านตามลาดับหวั ขอ้ ในแตล่ ะย่อหนา้ ดว้ ยวธิ เี ขยี นคาถามลงในกระดาษเพื่อ คน้ หาคาตอบต่อไป ( ๒แบคบะบแนันนทึก)กิจกรรมที่ ๒ ขั้นที่ ๒ การต้ังคาถาม (Question =Q) คาชี้แจง ให้นกั เรียนตง้ั คาถามจากการอ่านเรอื่ ง หลักการอา่ นร้อยกรอง ๑. คาถามวิเคราะหร์ ปู แบบ ………………………………………………………………………………….………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๒. คาถามวเิ คราะหเ์ น้อื หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบ…ฝ…ึกท…กั …ษะ…ก…าร…อ่า…น…อย…่าง…ม…วี ิจ…าร…ณ…ญ…าณ…โ…ดย…ว…ธิ ี …SQ…๓…R…………………๓๔……………ว…ิชา…ภ…าษ…าไ…ท…ย …ช…้ันม…ธั …ยม…ศ…กึ ษ…าป…ีท…่ี ๕……… เล่ม…ท่ี…๑…น…ทิ …าน…ไท…ย…(…กา…พ…ยย์ …าน…ี …๑๑…)……เรื่อ…ง…ต…าน…าน…ข…นม…ค…รก……… โดย…จินตนา พกิ ุลแก้ว
ข้นั ที่ ๓ การอา่ นอยา่ งรอบคอบ (Read =R ) หมายถงึ การอ่านอย่างละเอียดรอบคอบ เพอ่ื จับ ใจความสาคญั ของเร่อื ง และตอบคาถามท่บี นั ทกึ ไว้ ในข้นั นี้อาจมีคาถามและคาตอบเพ่ิมขน้ึ จาก เดมิ แบบบันทกึ กจิ กรรมท่ี ๓ ข้ันที่ ๓ การอา่ นอยา่ งรอบคอบ (Read =R ) คาชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคาถามจากแบบบันทึกกิจกรรมที่ ๒ ทน่ี กั เรียนตง้ั ไว้ใหถ้ กู ต้อง ๑. คาถามวเิ คราะห์รปู แบบ ………………………………………………………………………………….………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………….……………………………………………………………………………………………………………………... . ๒. คาถามวิเคราะหเ์ น้ือหาหรอื เน้อื เรือ่ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบ…ฝ…กึ …ทกั…ษ…ะ…กา…รอ…่า…น…อย…า่ …งม…ีว…ิจา…ร…ณ…ญ…าณ…โ…ด…ยว…ิธ…ี S…Q…๓R……………………๓…๕……………ว…ชิ …าภ…า…ษ…าไ…ท…ย …ช…ัน้ …มธั…ย…ม…ศกึ …ษ…าป…ีท…่ี ๕………… เล่ม…ที่…๑…น…ิท…า…นไ…ท…ย…(…กา…พ…ย…์ยา…น…ี ๑…๑…) …เ…ร่อื…ง…ต…า…นา…น…ขน…ม…ค…รก……………………………โด…ย………จ…ินต…น…า……พ…ิกุล…แ…ก้ว………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขั้นที่ ๔ การจดจา (Recite = R ) การเลา่ เรอื่ งทอ่ี า่ นมาท้งั หมดด้วยคาพูดของตนเองและพจิ ารณา วา่ ตอบคาถามไดค้ รบถว้ นหรอื ไม่ แล้วจดบนั ทึกเตอื นความจา แบบบันทึกกจิ กรรมที่ ๔ ข้ันที่ ๔ การจดจา (Recite = R ) คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนทบทวนคาตอบจากคาถามทง้ั หมดในเนื้อเรอ่ื ง จดบนั ทกึ ดว้ ยคาพูดของตนเอง ความคิดหลกั ………………………………………………………………………………………………………………………. เรอ่ื งอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………..………………………………………………………………………………………………… ทาอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลทีไ่ ดร้ ับ /ประโยชน์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๓๖ วชิ าภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอื่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ุลแก้ว
ขน้ั ท่ี ๕ การทบทวน (Review =R ) หมายถึงการทบทวนเร่อื งราวท้ังหมดที่อ่านมา ทาบันทกึ ยอ่ จากความจาวา่ จาไดห้ รอื ไม่ ทบทวนสาระสาคญั หลัก สาระสาคญั รองอกี ครั้ง เพื่อหาจดุ ประสงค์ ความคิดหลัก แบบบันทึกกจิ กรรมท่ี ๕ ขั้นท่ี ๕ การทบทวน (Review =R ) คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหป์ ระเด็นสาคญั เรอื่ ง หลักการอ่านร้อยกรอง จดบันทึกด้วยคาพูดของ ตนเอง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….……………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แ…บ…บฝ…กึ …ทัก…ษ…ะก…า…รอ…า่ น…อ…ยา่ …งม…วี …ิจา…รณ…ญ…า…ณ…โด…ยว…ิธ…ี S…Q๓…R…………………๓…๗…………ว…ชิ …าภ…า…ษา…ไท…ย…ช…้นั …มธั…ย…มศ…กึ …ษาปที ี่ ๕ เ…ลม่…ท…่ี ๑……นทิ …า…นไ…ทย……(ก…าพ…ย…์ยา…น…ี ๑…๑)……เร…อื่ ง…ต…า…นา…นข…น…ม…คร…ก………………………โ…ดย………จิน…ต…นา……พ…กิ ลุ…แ…กว้………………
แนวตอบ แบบบนั ทึกกิจกรรม การอา่ นอย่างมวี จิ ารณญาณ โดยวิธี วิธี SQ๓R (ตอนท่ี ๒) เรอื่ งหลกั การอา่ นรอ้ ยกรอง ขนั้ ท่ี ๑ การอ่านสารวจ (Survey = S) หมายถงึ การอ่านสารวจอย่างครา่ วๆ ตัง้ แต่ชื่อเรอื่ ง และ เน้อื เร่อื งทั้งหมด โดยการกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว แบบบันทกึ กจิ กรรมที่ ๑ ขน้ั ที่ ๑ การอา่ นสารวจ (Survey = S) คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนสารวจชอื่ เร่ือง เนือ้ เรื่องคร่าวๆ เก่ยี วกบั อะไร ๑. เรอ่ื งนช้ี อ่ื ว่าอะไร……หลักการอ่านร้อยกรอง………………………………………………… ๒. มีเนอ้ื หาเกี่ยวกบั อะไร………วิธีการอ่านร้อยกรองใหถ้ ูกต้อง…………………………… ขน้ั ท่ี ๒ การต้งั คาถาม (Question =Q) หมายถึงการตงั้ คาถามในเรื่องทตี่ นอยากรู้จากเร่ืองทอี่ ่าน จะตง้ั คาถามจากเร่ืองท่ีอ่านตามลาดับหวั ขอ้ ในแตล่ ะย่อหนา้ ดว้ ยวธิ เี ขียนคาถามลงในกระดาษเพอ่ื ค้นหาคาตอบตอ่ ไป ( ๒แบคบะบแนนั นทกึ )กิจกรรมท่ี ๒ ข้ันที่ ๒ การตงั้ คาถาม (Question =Q) คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตัง้ คาถามจากการอ่านเรอื่ ง หลักการอ่านร้อยกรอง ๑. คาถามวิเคราะหร์ ปู แบบ บทรอ้ ยกรองคืออะไร ๒. คาถามวิเคราะห์เนอื้ หา วัตถุประสงคใ์ นการอ่าน หลกั การอา่ นทถี่ กู ตอ้ งอ่านอย่างไร แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๓๘ วชิ าภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มที่ ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ุลแกว้
ข้ันที่ ๓ การอา่ นอยา่ งรอบคอบ (Read =R ) หมายถึง การอ่านอย่างละเอียดรอบคอบ เพือ่ จับ ใจความสาคญั ของเร่อื ง และตอบคาถามทีบ่ ันทึกไว้ ในขนั้ นี้อาจมีคาถามและคาตอบเพม่ิ ขน้ึ จาก เดิม แบบบนั ทึกกิจกรรมที่ ๓ ขัน้ ที่ ๓ การอ่านอย่างรอบคอบ (Read =R ) คาช้ีแจง ให้นักเรียนตอบคาถามจากแบบบันทกึ กิจกรรมท่ี๒ ทีน่ กั เรยี นตง้ั ไวใ้ ห้ถกู ต้อง ๑. คาถามวเิ คราะหร์ ปู แบบ บทร้อยกรองคอื อะไร บทร้อยกรอง หมายถึง ถอ้ ยคาทเี่ รียบเรียงให้เปน็ ระเบียบตามบัญญตั ิแห่ง ฉนั ทลกั ษณโ์ ดยมีกาหนดขอ้ บงั คับต่าง ๆ เพ่อื ให้เกดิ ความครึกครื้น และมีความไพเราะแตกต่างไป จากถ้อยคาธรรมดา ในการอ่านบทร้อยกรองน้ัน เราเรียกว่า “การอ่านทานองเสนาะ” ๒. คาถามวิเคราะห์เน้ือหาหรอื เน้ือเร่อื ง วัตถปุ ระสงคใ์ นการอ่าน การอา่ นทานองเสนาะเป็นการอ่านใหค้ นอนื่ ฟัง ฉะนน้ั ทานองเสนาะต้องอา่ นออกเสยี ง เสียงทาให้เกิดความรู้สึก – ทาให้เหน็ ความงาม – เห็นความไพเราะ – เห็นภาพพจน์ ผฟู้ งั สมั ผสั ดว้ ย เสยี งจงึ จะเขา้ ถงึ รสและความงามของบทร้อยกรองที่เรียกว่า อา่ นแลว้ ฟังพริ้งเพราะเสนาะโสต การ อ่านทานองเสนาะจึงมุ่งให้ผ้ฟู ังเข้าถึงรสและเห็นความงามของบทร้อยกรอง หลักการอ่านทีถ่ กู ตอ้ งอา่ นอย่างไร ๑. กอ่ นอ่านทานองเสนาะใหแ้ บง่ คาแบ่งวรรคใหถ้ ูกต้องตามหลกั คาประพนั ธ์เสียก่อนโดยต้องระวงั ในเรือ่ งความหมายของคาด้วย เพราะคาบางคาอา่ นแยกคากันไม่ได้ เช่น “สรอ้ ยคอขนมยุระ ยงู งาม” (ขน-มยุระ ) ๒. อ่านออกเสียงตามธรรมดาใหค้ ล่องกอ่ น ๓. อา่ นให้ชัดเจน โดยเฉพาะออกเสยี ง ร ล และคาควบกลา้ ใหถ้ ูกตอ้ ง ๔. อา่ นใหเ้ ออื้ สัมผัส เรียกวา่ คาแปรเสียง เพอื่ ให้เกิดเสยี งสมั ผสั ทไี่ พเราะ เช่น พระสมทุ รสดุ ลกึ ล้น คณนา ( อา่ นว่า พระ-สะ-หมดุ -สุด-ลกึ -ลน้ คน-นะ-นา ) แบบฝึกทกั ษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๓๙ วชิ าภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เลม่ ท่ี ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ุลแกว้
แบบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี ๓ ข้ันที่ ๓ การอ่านอยา่ งรอบคอบ (Read =R ) คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามจากแบบบนั ทึกกิจกรรมท่ี๒ ท่ีนักเรยี นตั้งไว้ให้ถูกตอ้ ง หลักการอ่านทถ่ี กู ตอ้ งอา่ นอย่างไร (ตอ่ ) ๕. ระวัง ๓ ต อย่าใหต้ กหลน่ อยา่ ต่อเติม และอย่าตู่ตัว ๖. อ่านใหถ้ กู จงั หวะ คาประพนั ธ์แตล่ ะประเภทมีจังหวะแตกต่างกัน ตอ้ งอา่ นให้ถกู วรรคตอนตาม แบบแผนของคาประพนั ธ์นน้ั ๆ เช่น มุทงิ คนาทฉนั ท์ ( ๒-๒-๓ ) “พระจันทร์ / สวา่ ง / กระจา่ งสี ณ ลพ/ บุรี / ฤดูหนาว บุรษุ / สตรี / กเ็ กรียวกราว สนุก / ณ คราว / ราโทนไทย ๗. อา่ นให้ถูกทานองของคาประพันธ์นั้น ๆ ( รสทานอง ) ๘. ผอู้ า่ นตอ้ งใสอ่ ารมณต์ ามรสความของบทประพันธ์น้ัน ๆ รสรัก โศก ตนื่ เตน้ ขบขัน โกรธ แล้วใส่ น้าเสยี งให้สอดคล้องกบั รสหรอื อารมณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น ๙. อา่ นให้เสียงดัง ( พอที่จะได้ยนิ กนั ทว่ั ถงึ ) ไม่ใชต่ ะโกน ๑๐. ถา้ เปน็ ฉันท์ ต้องอา่ นให้ถกู ต้องตามบังคับของครุ - ลหุ ของฉันท์น้ัน ๆ เช่น อา้ เพศกเ็ พศนุชอนงค์ อรองค์ก็บอบบาง ( อา่ นว่า อ้า - เพด – กอ้ – เพด – นุ – ชะ – อะ – นง อะ – ระ – อง – กอ้ – บอบ – บาง ) ๑๑. เวลาอ่านอย่าให้เสียงขาดเปน็ ชว่ ง ๆ ตอ้ งใหเ้ สียงตดิ ตอ่ กนั ตลอด เชน่ “วันนัน้ จนั ทร มดี ารากร เปน็ บรวิ าร เหน็ สิ้นดินฟ้า ในปา่ ท่าธาร มาลคี ล่ีบาน ใบก้านอรชร” เวลาจบให้ทอดเสียงช้า ๆ (คาตอบขึ้นอยูก่ ับดุลยพินิจครูผสู้ อน) แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๔๐ วชิ าภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เล่มท่ี ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ลุ แก้ว
ขน้ั ที่ ๔ การจดจา (Recite = R ) การเลา่ เร่ืองที่อ่านมาท้ังหมดดว้ ยคาพูดของตนเองและพิจารณา วา่ ตอบคาถามได้ครบถว้ นหรอื ไม่ แล้วจดบนั ทกึ เตือนความจา แบบบนั ทกึ กจิ กรรมที่ ๔ ขัน้ ท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนทบทวนคาตอบจากคาถามทั้งหมดในเน้อื เร่อื ง จดบันทกึ ดว้ ยคาพูดของตนเอง ความคิดหลัก…หลกั การอ่านร้อยกรอง…………………………………………………………………………… ทาอย่างไร อ่านใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน ดังนี้ ๑. กอ่ นอา่ นทานองเสนาะใหแ้ บ่งคาแบง่ วรรคใหถ้ ูกต้องตามหลักคาประพันธ์เสียกอ่ นโดยต้องระวงั ในเรอื่ งความหมายของคาด้วย เพราะคาบางคาอา่ นแยกคากันไม่ได้ เช่น “สรอ้ ยคอขนมยรุ ะ ยูงงาม” (ขน-มยรุ ะ ) ๒. อา่ นออกเสยี งตามธรรมดาใหค้ ล่องกอ่ น ๓. อ่านให้ชัดเจน โดยเฉพาะออกเสยี ง ร ล และคาควบกลา้ ให้ถกู ต้อง ๔. อา่ นให้เออ้ื สมั ผัส เรียกวา่ คาแปรเสียง เพื่อใหเ้ กิดเสยี งสัมผสั ท่ีไพเราะ เช่น พระสมุทรสุดลกึ ลน้ คณนา ( อา่ นว่า พระ-สะ-หมดุ -สุด-ลกึ -ล้น คน-นะ-นา ) ๕. ระวัง ๓ ต อย่าใหต้ กหล่น อย่าต่อเติม และอย่าตู่ตวั ๖. อา่ นให้ถกู จังหวะ คาประพนั ธแ์ ตล่ ะประเภทมจี งั หวะแตกต่างกัน ต้องอ่านใหถ้ กู วรรคตอนตาม แบบแผนของคาประพันธ์น้นั ๆ เชน่ มุทงิ คนาทฉนั ท์ ( ๒-๒-๓ ) “พระจันทร์ / สว่าง / กระจา่ งสี ณ ลพ/ บุรี / ฤดูหนาว บุรุษ / สตรี / กเ็ กรียวกราว สนกุ / ณ คราว / ราโทนไทย ๗. อ่านให้ถกู ทานองของคาประพันธ์น้นั ๆ ( รสทานอง ) ๘. ผอู้ ่านตอ้ งใส่อารมณต์ ามรสความของบทประพันธ์นั้น ๆ รสรัก โศก ตนื่ เต้น ขบขนั โกรธ แลว้ ใสน่ ้าเสียงให้สอดคล้องกบั รสหรืออารมณ์ตา่ ง ๆ เหล่านัน้ ๙. อา่ นใหเ้ สียงดัง ( พอที่จะไดย้ นิ กนั ท่วั ถงึ ) ไม่ใช่ตะโกน ๑๐. ถา้ เป็นฉนั ท์ ตอ้ งอา่ นใหถ้ กู ตอ้ งตามบังคบั ของครุ - ลหุ ของฉนั ท์นน้ั ๆ เช่น อ้าเพศกเ็ พศนชุ อนงค์ อรองค์กบ็ อบบาง ( อา่ นวา่ อ้า - เพด – กอ้ – เพด – นุ – ชะ – อะ – นง -อะ – ระ – อง – ก้อ – บอบ – บาง ) ๑๑. เวลาอา่ นอย่าให้เสียงขาดเปน็ ช่วง ๆ ตอ้ งให้เสยี งตดิ ต่อกันตลอด เชน่ “วนั นน้ั จนั ทร มีดารากร เป็นบรวิ าร เหน็ สิน้ ดินฟ้า ในปา่ ท่าธาร มาลีคล่ีบาน ใบกา้ นอรชร” เวลาจบให้ทอดเสียงช้า ๆ แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๔๑ วชิ าภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เลม่ ท่ี ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พกิ ลุ แกว้
ขน้ั ที่ ๔ การจดจา (Recite = R ) การเลา่ เรื่องท่ีอา่ นมาท้งั หมดดว้ ยคาพดู ของตนเองและพจิ ารณา วา่ ตอบคาถามได้ครบถว้ นหรอื ไม่ แลว้ จดบันทกึ เตอื นความจา แบบบันทึกกิจกรรมท่ี ๔ ข้ันท่ี ๔ การจดจา (Recite = R ) คาชีแ้ จง ให้นักเรียนทบทวนคาตอบจากคาถามท้งั หมดในเนื้อเรอ่ื ง จดบันทึกดว้ ยคาพูดของตนเอง (ต่อ) ผลท่ีได้รบั / ประโยชน์ท่ไี ด้รับ ๑.ช่วยให้ผู้ฟังเข้าถงึ รสและเหน็ ความงามของบทร้อยกรองทีอ่ ่าน ๒.ชว่ ยให้ผ้ฟู งั ได้รบั ความไพเราะและเกิดความซาบซ้ึง ( อาการรู้สึกจับใจอยา่ งลึกซ้ึง ) ๓.ชว่ ยใหเ้ กิดความสนกุ สนาน ความเพลดิ เพลิน ๔.ช่วยใหจ้ ดจาบทร้อยกรองได้รวดเร็วและแมน่ ยา ๕.ชว่ ยกลอ่ มเกลาจติ ใจใหเ้ ป็นคนออ่ นโยนและเยอื กเยน็ ( ประโยชน์โดยออ้ ม ) ๖.ช่วยสืบทอดวัฒนธรรม ในการอา่ นทานองเสนาะไวเ้ ป็นมรดกตอ่ ไป ๗.เขา้ ใจวธิ ีการอา่ นร้อยกรองอยา่ งถูกตอ้ งไดง้ ่ายขน้ึ (คาตอบขึน้ อยกู่ ับดลุ ยพินิจครูผูส้ อน) แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๔๒ วิชาภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เล่มที่ ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรือ่ ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แกว้
ข้ันที่ ๕ การทบทวน (Review =R ) หมายถึงการทบทวนเร่ืองราวทั้งหมดที่อ่านมา ทาบนั ทกึ ย่อ จากความจาว่าจาได้หรอื ไม่ ทบทวนสาระสาคัญหลัก สาระสาคญั รองอีกครง้ั เพ่ือหาจดุ ประสงค์ ความคิดหลกั แบบบันทกึ กิจกรรมท่ี ๕ ขั้นท่ี ๕ การทบทวน (Review =R ) คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์ประเดน็ สาคัญของนิทานเรื่อง หลกั การอา่ นร้อยกรอง จดบันทึกด้วย คาพดู ของตนเอง การอ่านบทรอ้ ยกรอง ต้องอา่ นใหถ้ ูกต้องตามหลักการอ่าน ดงั นี้ ๑. ก่อนอา่ นทานองเสนาะใหแ้ บง่ คาแบง่ วรรคใหถ้ ูกต้องตามหลักคาประพันธ์เสียก่อนโดยตอ้ งระวงั ในเร่อื งความหมายของคาด้วย เพราะคาบางคาอ่านแยกคากันไมไ่ ด้ เชน่ “สร้อยคอขนมยรุ ะ ยูงงาม” (ขน-มยุระ) ๒. อ่านออกเสียงตามธรรมดาให้คลอ่ งกอ่ น ๓. อ่านใหช้ ดั เจน โดยเฉพาะออกเสยี ง ร ล และคาควบกลา้ ใหถ้ กู ตอ้ ง ๔. อา่ นใหเ้ อื้อสมั ผสั เรียกว่า คาแปรเสยี ง เพ่ือใหเ้ กิดเสยี งสัมผสั ท่ไี พเราะ เชน่ พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา ( อา่ นวา่ พระ-สะ-หมดุ -สุด-ลึก-ลน้ คน-นะ-นา ) ๕. ระวัง ๓ ต อย่าใหต้ กหล่น อย่าต่อเติม และอย่าตู่ตวั ๖. อ่านให้ถกู จงั หวะ คาประพันธ์แต่ละประเภทมีจังหวะแตกตา่ งกนั ต้องอ่านใหถ้ กู วรรคตอนตาม แบบแผนของคาประพนั ธน์ น้ั ๆ เชน่ มทุ งิ คนาทฉันท์ ( ๒-๒-๓ ) “พระจันทร์ / สวา่ ง / กระจ่างสี ณ ลพ/ บุรี / ฤดหู นาว บุรุษ / สตรี / ก็เกรียวกราว สนกุ / ณ คราว / ราโทนไทย ๗. อ่านให้ถูกทานองของคาประพันธน์ ้ัน ๆ ( รสทานอง ) ๘. ผู้อ่านต้องใสอ่ ารมณ์ตามรสความของบทประพนั ธ์นน้ั ๆ รสรกั โศก ตน่ื เตน้ ขบขัน โกรธ แลว้ ใส่ นา้ เสยี งให้สอดคล้องกับรสหรอื อารมณ์ต่าง ๆ เหล่าน้ัน ๙. อ่านใหเ้ สียงดัง ( พอทจ่ี ะได้ยนิ กันทั่วถงึ ) ไมใ่ ช่ตะโกน ๑๐. ถา้ เป็นฉนั ท์ ตอ้ งอา่ นให้ถกู ตอ้ งตามบงั คบั ของครุ - ลหุ ของฉนั ท์น้ัน ๆ เช่น อา้ เพศก็เพศนุชอนงค์ อรองค์กบ็ อบบาง ( อ่านว่า อ้า - เพด – กอ้ – เพด – นุ – ชะ – อะ – นง อะ – ระ – อง – กอ้ – บอบ – บาง ) ๑๑. เวลาอ่านอย่าให้เสยี งขาดเปน็ ช่วง ๆ ตอ้ งใหเ้ สยี งติดต่อกันตลอด เชน่ “วนั น้นั จนั ทร มีดารากร เปน็ บริวาร เห็นสิ้นดินฟา้ ในป่าท่าธาร มาลคี ลี่บาน ใบก้านอรชร” เวลาจบให้ทอดเสยี งช้า ๆ (คาตอบข้นึ อยู่กบั ดุลยพนิ ิจครูผูส้ อน) แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๔๓ วิชาภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เล่มที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แก้ว
แบบทดสอบหลงั เรยี นตอนท่ี ๒ เร่อื ง หลักการอา่ นรอ้ ยกรอง คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนในแตล่ ะกลุ่มปฏบิ ตั ิตามหลกั SQ๓R ช่วยกนั แสดงความคิดเห็น และตอบ คาถามใหถ้ กู ต้องโดยเลือกคาตอบที่ถกู ต้องเพียงข้อเดียว ( ๑๐ คะแนน) ๑. ขอ้ ใดกล่าวผิด ก. บทร้อยกรองคือถอ้ ยคาท่ีเรียบเรียงให้เป็นระเบียบตามบญั ญัติแหง่ ฉันทลกั ษณ์ ข. การอ่านทานองเสนาะคอื การอา่ นใหม้ ีความไพเราะแตกตา่ งจากถอ้ ยคาธรรมดา ค. การอ่านทานองเสนาะตอ้ งอ่านออกเสยี งตามลีลาของบทรอ้ ยกรองประเภทนั้นๆ ง. การอา่ นทานองเสนาะต้องอา่ นออกเสยี งใหช้ ัดเจนเน้นอารมณ์ให้มากไมย่ ึดทานอง ๒. การอา่ นทานองเสนาะแบบใดถูกตอ้ งท่สี ุด ก. อ่านด้วยเสยี งดังกังวานให้เต็มเสียง ข. อ่านโดยใส่อารมณ์ความรสู้ ึกให้มากทีส่ ุด ค. อา่ นอยา่ งไรก็ไดใ้ หไ้ พเราะคลา้ ยกับการร้องเพลง ง. อา่ นให้ผฟู้ งั เข้าถึงรสและเห็นความงามของบทร้อยกรอง ๓. ข้อใดไมถ่ ูกตอ้ ง ก. การอ่านทานองเสนาะมมี านานแล้วแต่ครง้ั กรุงสุโขทยั ข. “เลอื้ น” เป็นคาภาษาถ่นิ แปลว่า อา่ นทานองเสนาะ ค. เล้ือน” มีบอ่ เกดิ จากการดาเนินวถิ ชี วี ติ ของคนไทยที่มมี ีนิสัยชอบพดู คาคลอ้ งจอง ง. การหักเสยี งให้พลิกจากเสียงตา่ ขนึ้ ไปเป็นเสียงสูง แสดงถึงความโกรธหรอื ความไม่พอใจ ๔.ข้อใดคอื รสถอ้ ย ก. สะอ้นื รา่ อาลาด้วยอาลัย แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา ข. ถงึ โรงเหลา้ เตากลนั่ ควันโขมง มีคนั โพงผกู สายไวป้ ลายเสา ค. ผู้ดีไพร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์ ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย ง. แต่เหลยี วเหลียวเลีย้ วลับวับวญิ ญาณ์ โอ้เปลา่ ตาตา่ งสะอ้ืนยนื ตะลงึ ๕.จากตัวเลือกในขอ้ ๔ รสท่พี บมากทีส่ ุดคือรสใด ก. รสภาพ ข. รสความ ค. รสทานอง ง. รสคลอ้ งจอง แบบฝึกทกั ษะการอ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๔๔ วิชาภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เลม่ ที่ ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ุลแก้ว
๖.ข้อใดอา่ นผิดหลกั การอา่ นรอ้ ยกรอง ก. สรอ้ ยคอขนมยรุ ะ ยูงงาม (อ่านว่า สรอ้ ย-คอ-ขน-มยรุ ะ , ยูง-งาม) ข. พระสมทุ รสุดลกึ ล้น คณนา ( อ่านวา่ พระ-สะ-หมดุ -สุด-ลึก-ล้น คะ-นะ-นา ) ค. หวนห่วงมว่ งหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา (อ่านว่า หวน-หว่ ง –ม่วง-หมอน-ทอง อกี - อก-รอ่ ง –รด-โอ-ชา) ง. แรงเหมอื นมดอดเหมอื นกา กล้าเหมอื นหญงิ (อ่านว่า แรง-เหมือน-มด –อด- เหมือน- กา- , กล้า- เหมือน-หญิง ) ๗. การอา่ นให้เอ้ือสัมผัส เรยี กวา่ คาแปรเสียง เพอื่ ให้เกดิ เสียงสมั ผัสท่ไี พเราะ ข้อใดไมใ่ ช่ ก. แขกเต้าจบั เตา่ ร้างร้อง ข. พระสมทุ รสุดลึกลน้ คณนา ค. ขอสมหวงั ต้งั ประโยชนโ์ พธิญาณ ง. ข้าขอเคารพอภิวาท ในพระบาทบพติ รอดิศร ๘. ข้อใดอา่ นผดิ ก. “พระจนั ทร์ / สวา่ ง / กระจ่างสี ข. ณ /ลพบุรี / ฤดหู นาว ค. บุรษุ / สตรี / ก็เกรยี วกราว ง. สนกุ / ณ คราว / ราโทนไทย ๙. การอ่านฉันท์ขอ้ ใดสาคัญที่สดุ ก. อ่านตามความรสู้ ึก ข. อ่านตามความเข้าใจ ค. อ่านตามคาครแุ ละลหุ ง. อ่านให้เอื้อสัมผสั และเสยี งดัง ๑๐. หลักการอ่านทานองเสนาะข้อใดไมถ่ ูกตอ้ ง ก. อ่านทานองเสนาะชา้ ๆใหค้ ลอ่ งก่อน ข. ระวงั ๓ ต อยา่ ใหต้ กหล่น อยา่ ต่อเตมิ และอยา่ ตู่ตัว ค. เวลาอ่านอย่าให้เสียงขาดเป็นช่วง ๆ ต้องให้เสยี งติดตอ่ กนั ตลอด ง. อา่ นให้ชัดเจน โดยเฉพาะออกเสยี ง ร ล และคาควบกล้าใหถ้ กู ตอ้ ง แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๔๕ วชิ าภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มท่ี ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกุลแกว้
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ตอนท่ี ๒ เร่อื ง หลักการอ่านร้อยกรอง คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นในแต่ละกล่มุ ปฎบิ ตั ติ ามหลัก SQ๓R ชว่ ยกันแสดงความคดิ เหน็ และตอบ คาถามให้ถกู ตอ้ งโดยเลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องเพยี งขอ้ เดียว ( ๑๐ คะแนน) ๑. ข้อใดกลา่ วผดิ ก. บทรอ้ ยกรองคือถอ้ ยคาทีเ่ รียบเรียงให้เปน็ ระเบียบตามบัญญัตแิ ห่งฉันทลักษณ์ ข. การอา่ นทานองเสนาะคือการอ่านใหม้ ีความไพเราะแตกต่างจากถอ้ ยคาธรรมดา ค. การอา่ นทานองเสนาะตอ้ งอา่ นออกเสยี งตามลีลาของบทรอ้ ยกรองประเภทนัน้ ๆ ง. การอ่านทานองเสนาะต้องอ่านออกเสียงใหช้ ัดเจนเนน้ อารมณ์ใหม้ ากไมย่ ึดทานอง ๒. การอา่ นทานองเสนาะแบบใดถูกต้องที่สดุ ก. อ่านด้วยเสยี งดงั กงั วานให้เตม็ เสียง ข. อ่านโดยใสอ่ ารมณค์ วามรูส้ กึ ใหม้ ากทสี่ ุด ค. อา่ นอยา่ งไรกไ็ ด้ให้ไพเราะคล้ายกบั การร้องเพลง ง. อา่ นให้ผูฟ้ งั เข้าถึงรสและเหน็ ความงามของบทรอ้ ยกรอง ๓. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง ก. การอา่ นทานองเสนาะมีมานานแลว้ แต่ครงั้ กรุงสุโขทยั ข. “เลอื้ น” เปน็ คาภาษาถนิ่ แปลว่า อ่านทานองเสนาะ ค. เลื้อน” มบี ่อเกดิ จากการดาเนินวถิ ชี ีวติ ของคนไทยทีม่ ีมนี ิสัยชอบพดู คาคล้องจอง ง. การหักเสียงใหพ้ ลกิ จากเสียงต่าขน้ึ ไปเป็นเสยี งสงู แสดงถึงความโกรธหรอื ความไม่ พอใจ ๔.ข้อใดคอื รสถอ้ ย ก. สะอื้นร่าอาลาด้วยอาลัย แลว้ แขง็ ใจจากนางตามทางมา ข. ถงึ โรงเหล้าเตากลน่ั ควันโขมง มคี นั โพงผกู สายไวป้ ลายเสา ค. ผู้ดไี พร่ไมป่ ระกอบชอบอารมณ์ ใครฟงั ลมเมนิ หนา้ ระอาเอย ง. แตเ่ หลยี วเหลียวเล้ียวลับวบั วิญญาณ์ โอ้เปลา่ ตาต่างสะอนื้ ยนื ตะลึง ๕.จากตวั เลือกในขอ้ ๔ รสท่พี บมากทส่ี ุดคอื รสใด ก. รสภาพ ข. รสความ ค. รสทานอง ง. รสคล้องจอง แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๔๖ วชิ าภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เลม่ ที่ ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรอ่ื ง ตานานขนมครก โดย…จินตนา พิกลุ แกว้
๖.ขอ้ ใดอา่ นผดิ หลกั การอา่ นรอ้ ยกรอง ก. สร้อยคอขนมยุระ ยูงงาม (อ่านวา่ สรอ้ ย-คอ-ขน-มยุระ , ยงู -งาม) ข. พระสมทุ รสุดลกึ ล้น คณนา ( อา่ นว่า พระ-สะ-หมดุ -สุด-ลกึ -ล้น คะ-นะ-นา ) ค. หวนหว่ งม่วงหมอนทอง อกี อกรอ่ งรสโอชา (อา่ นว่า หวน-ห่วง –มว่ ง-หมอน-ทอง อกี - อก-รอ่ ง –รด-โอ-ชา) ง. แรงเหมือนมดอดเหมอื นกา กลา้ เหมือนหญงิ (อ่านว่า แรง-เหมอื น-มด –อด- เหมือน- กา- , กล้า- เหมือน-หญงิ ) ๗. การอา่ นให้เอือ้ สมั ผัส เรียกวา่ คาแปรเสียง เพอ่ื ใหเ้ กดิ เสยี งสมั ผสั ทไ่ี พเราะ ข้อใดไม่ใช่ ก. แขกเตา้ จบั เตา่ รา้ งร้อง ข. พระสมทุ รสุดลึกลน้ คณนา ค. ขอสมหวังตงั้ ประโยชนโ์ พธิญาณ ง. ข้าขอเคารพอภิวาท ในพระบาทบพิตรอดสิ ร ๘. ขอ้ ใดอ่านผิด ก. “พระจนั ทร์ / สวา่ ง / กระจา่ งสี ข. ณ /ลพบรุ ี / ฤดูหนาว ค. บุรุษ / สตรี / กเ็ กรยี วกราว ง. สนกุ / ณ คราว / ราโทนไทย ๙. การอ่านฉนั ท์ข้อใดสาคัญท่ีสุด ก. อา่ นตามความรสู้ กึ ข. อา่ นตามความเข้าใจ ค. อ่านตามคาครุและลหุ ง. อา่ นใหเ้ อ้อื สัมผัสและเสยี งดงั ๑๐. หลกั การอ่านทานองเสนาะข้อใดไม่ถกู ต้อง ก. อ่านทานองเสนาะช้าๆใหค้ ล่องกอ่ น ข. ระวัง ๓ ต อยา่ ใหต้ กหลน่ อย่าตอ่ เตมิ และอยา่ ตู่ตัว ค. เวลาอา่ นอยา่ ให้เสียงขาดเปน็ ชว่ ง ๆ ตอ้ งใหเ้ สียงติดต่อกนั ตลอด ง. อา่ นให้ชดั เจน โดยเฉพาะออกเสียง ร ล และคาควบกล้าใหถ้ ูกต้อง แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๔๗ วชิ าภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เลม่ ที่ ๑ นิทานไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แก้ว
เกณฑก์ ารวัดผลประเมินผล แบบประเมินผลงาน การอ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ โดยวิธี SQ๓R แบบฝึกทักษะที่………เร่ือง…………………………………………กลุ่มท/่ี ช่ือกลุ่ม………………มัธยมศึกษาปีที่…………. รายการ คะแนน/เกณฑ์ ผลการประเมนิ ประเมิน คะแนน คะแนนที่ เต็ม ได้ กิจกรรมท๑่ี ๔ หาช่อื เรือ่ ง ที่มา หรอื ผู้แต่งได้ถูกต้อง บอกเนื้อเรอื่ งคร่าวๆได้ ๔ การอา่ น ๓ หาช่ือเร่ือง ที่มา หรือผู้แต่งได้ถกู ต้อง สารวจ ๒ หาช่ือเรื่อง หรอื ผู้แตง่ ไดถ้ กู ต้อง ๑ หาช่อื เรอื่ งไดอ้ ย่างเดียว ๐ ไมส่ ามารถบอกสิ่งใดๆเกีย่ วกบั เร่อื งทอ่ี ่านได้ กจิ กรรมท๒ี่ ๔ สามารถต้ังคาถามได้ครอบคลมุ เน้ือหาและประเด็นต่างๆที่ เก่ียวข้องท้ังหมด ๔ การตัง้ คาถาม ๓ สามารถต้งั คาถามได้ครอบคลมุ เนื้อหาและประเดน็ ต่างๆท่เี ก่ียวข้อง ๒ ตง้ั คาถามได้ตรงประเด็นเปน็ สว่ นใหญแ่ ตไ่ ม่ครอบคลุมทั้งหมด ๑ ตง้ั คาถามไดต้ รงประเด็นเพียงสว่ นเดียว ๐ ต้งั คาถามไม่ได้ กจิ กรรมท๓่ี ๔ ตอบคาถามได้ครอบคลุมตรงประเด็นทั้งหมด ๔ การตอบ ๓ ตอบคาถามตรงประเด็นสว่ นใหญ่แตไ่ ม่ครอบคลุมทั้งหมด คาถาม ๒ ตอบคาถามตรงประเด็นบางสว่ นแตไ่ ม่ครอบคลมุ ๑ ตอบคาถามไดเ้ พยี งสว่ นเดยี ว ๐ ตอบคาถามไม่ได้ กิจกรรมท๔่ี ๔ จดบนั ทึกเนอ้ื เร่อื งได้ครอบคลุมตรงประเดน็ ๔ จดบันทึก ๓ จดบันทกึ ตรงประเด็นส่วนใหญแ่ ตไ่ ม่ครอบคลุมทงั้ หมด ๒ จดบนั ทึกตรงประเดน็ บางส่วนแตไ่ ม่ครอบคลุม ๑ จดบนั ทกึ ได้เพียงส่วนเดียว ๐ จดบนั ทึกไม่ได้ และไมถ่ ูกตอ้ ง กิจกรรมท๕ี่ ๔ ทาบนั ทึกยอ่ ทบทวนสาระสาคญั หลกั สาระสาคัญรองอกี ครัง้ เพื่อ ๔ วิเคราะห์ การ หาจุดประสงค์ ความคิดหลักและนา้ เสียงของผู้เขียนได้ครอบคลุมถูกตอ้ ง ทบทวน ๓ ทาบนั ทึกยอ่ ทบทวนสาระสาคญั หลัก สาระสาคญั รองอีกครง้ั เพ่ือหา จดุ ประสงค์ ความคดิ หลักและน้าเสียงของผเู้ ขยี นไดค้ รอบคลมุ สว่ นใหญ่ ๒ ทาบันทึกยอ่ ทบทวนสาระสาคัญหลกั สาระสาคญั รองอีกครงั้ เพ่ือหา จุดประสงค์ ความคิดหลักและน้าเสยี งของผเู้ ขียนไดค้ รอบคลมุ บางส่วน ๑ ทาบันทกึ ยอ่ ทบทวนสาระสาคัญหลกั สาระสาคญั รองอกี ครง้ั เพื่อหา จุดประสงค์ ความคดิ หลักและนา้ เสยี งของผู้เขยี นไดเ้ พียงส่วนเดยี ว ๐ ไม่สามารถทาบันทึกย่อ ทบทวนสาระสาคญั หลัก สาระสาคัญรองอีกคร้ัง เพ่ือ จุดประสงค์ ความคดิ หลักและน้าเสียงของผูเ้ ขยี นได้ รวม คะแนนทงั้ หมด ๒๐ …………… แบบฝึกทกั ษะการอ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๔๘ วิชาภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เลม่ ท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แก้ว
เกณฑ์การประเมนิ การทากิจกรรมท่ี ๑-๕ ผลการปฏบิ ตั ิ ผลการประเมิน เกณฑร์ ะดับคุณภาพ ได้ ...........................คะแนน ดมี าก (๑๖ -๒๐ คะแนน) ระดับ ๔ หมายถึง ทากิจกรรมได้ถูกต้องร้อยละ ............................................ ดี (๑๒ -๑๕ คะแนน) ๘๐-๑๐๐ หมายถงึ ดมี าก ระดับ ๓ หมายถงึ (ผู้ประเมนิ ) ทากิจกรรมได้ถูกต้องร้อยละ ๖๐-๗๙ หมายถึง ดี พอใช้ (๑๐-๑๑ คะแนน) ระดับ ๒ ทากิจกรรมได้ถูกต้องร้อยละ ๕๐-๕๙ หมายถงึ พอใช้ ปรบั ปรงุ (๐-๙ คะแนน) ระดับ ๑ ทากจิ กรรมได้ถูกต้องร้อยละ ๐-๔๙ หมายถงึ ปรับปรงุ ได้ระดบั ๓ ขึน้ ไปผา่ นเกณฑ์ เกณฑก์ ารประเมินการทาแบบทดสอบหลังเรียน ผลการปฏบิ ัติ ผลการประเมนิ เกณฑ์ระดับคุณภาพ ได้ .............คะแนน ดมี าก (๘- ๑๐ คะแนน) ระดับ ๔ ทากิจกรรมได้ถกู ต้องรอ้ ยละ ๘๐-๑๐๐ หมายถงึ ดมี าก ............................... ดี (๖- ๗ คะแนน) ระดบั ๓ ทากิจกรรมได้ถกู ต้องร้อยละ (ผปู้ ระเมิน) ๖๐-๗๙ หมายถึง ดี พอใช้ (๕ คะแนน) ระดับ ๒ ทากจิ กรรมได้ถูกต้องร้อยละ ๕๐-๕๙ หมายถึง พอใช้ ปรบั ปรงุ (๐-๔ คะแนน) ระดับ ๑ ทากจิ กรรมได้ถกู ต้องรอ้ ยละ ๐-๔๙ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมินได้ระดบั ๓ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์ เกณฑ์การประเมินแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ระหวา่ งการปฏิบัตติ ามขนั้ ตอน วธิ ีSQ๓R ตอนที่ ๒ ผลการปฏิบตั ิ ผลการประเมนิ เกณฑร์ ะดบั คุณภาพ ได้ .............คะแนน ดีมาก (๘- ๑๐ คะแนน) ระดบั ๔ ทากิจกรรมได้ถูกต้องร้อยละ ๘๐-๑๐๐ หมายถึง ดมี าก ............................... ดี (๖- ๗ คะแนน) ระดบั ๓ ทากิจกรรมได้ถกู ต้องรอ้ ยละ (ผู้ประเมิน) ๖๐-๗๙ หมายถงึ ดี พอใช้ (๕ คะแนน) ระดบั ๒ ทากจิ กรรมได้ถูกต้องร้อยละ ๕๐-๕๙ หมายถึง พอใช้ ปรบั ปรุง (๐-๔ คะแนน) ระดับ ๑ ทากจิ กรรมได้ถกู ต้องร้อยละ ๐-๔๙ หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑ์การประเมนิ ไดร้ ะดบั ๓ ขน้ึ ไปผ่านเกณฑ์ แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยวิธี SQ๓R ๔๙ วิชาภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เล่มที่ ๑ นิทานไทย (กาพยย์ านี ๑๑) เร่อื ง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พกิ ลุ แก้ว
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นของนักเรียน ผ้สู ังเกต ครู นักเรียน วิชา................................................................................ภาคเรียนท.ี่ ..........ปีการศึกษา.................. เร่อื ง.................................................................................กลมุ่ ...................................... ................. ช้ัน............/....................วันท.ี่ .......เดอื น...........................................พ.ศ................... ที่ ช่ือ-สกลุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รวม ระดบั คณุ ภาพ ๔ ๔ ๔ ๔ ๔ ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ การแสดงความคิดเ ็หน การทางาน/การยอมรับความ คิดเห็นของผู้อื่น ีมความ ีรบผิดชอบในการทางาน การทางานตาม ั้ขนตอน ีท่แนะนา อ ่ยางเ ็ปนระบบ ปฏิ ับ ิตตาม ้ขอตกลงในกลุ่ม ีดมาก ีด ปานกลาง ผ่านเกณ ์ฑ ้ัขนต่า ่ตากว่าเกณฑ์ ๑ ๑๖-๒๐ ดมี าก ๑๒-๑๕ ดี ๒ ๑๐-๑๑ พอใช้ ๐-๙ ต่ากว่าเกณฑ์ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ เกณฑ์การประเมิน /ระดับคณุ ภาพ ลงชือ่ ...............................ผู้ประเมิน (..............................) ......./............/........ แบบฝึกทักษะการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณโดยวธิ ี SQ๓R ๕๐ วชิ าภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เลม่ ท่ี ๑ นทิ านไทย (กาพย์ยานี ๑๑) เรื่อง ตานานขนมครก โดย…จนิ ตนา พิกุลแก้ว
Search