96 อภธิ านศัพท์ ทศั นศิลป์ โครงสรา้ งเคลอ่ื นไหว (mobile) เป็นงานประติมากรรมทมี่ ีโครงสรา้ งบอบบางจัดสมดุลดว้ ยเสน้ ลวดแข็งบาง ๆ ท่มี ีวัตถรุ ปู ร่าง รูปทรงต่าง ๆ ที่ ออกแบบเช่ือมติดกบั เส้นลวด เปน็ เครอื่ งแขวนท่ีเคลื่อนไหวไดด้ ้วยกระแสลมเพียงเบา ๆ งานสอ่ื ผสม (mixed media) เปน็ งานออกแบบทางทัศนศิลป์ท่ปี ระกอบดว้ ยหลายสือ่ โดยใช้วัสดหุ ลาย ๆ แบบ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ สรา้ งความผสมกลมกลนื ด้วยการสรา้ งสรรค์ จังหวะ (rhythm) เปน็ ความสมั พนั ธ์ของทัศนธาตุ เชน่ เส้น สี รปู ร่าง รูปทรง นำ้ หนกั ในลักษณะของการซ้ำกนั สลับไปมา หรือ ลกั ษณะล่ืนไหล เคลือ่ นไหวไมข่ าดระยะจงั หวะทมี่ ีความสัมพนั ธ์ตอ่ เนือ่ งกันจะชว่ ยเนน้ ให้เกิดความเด่น หรือทางดนตรี กค็ อื การซ้ำกันของเสยี งในชว่ งเท่ากนั หรอื แตกตา่ งกนั จังหวะให้ความรสู้ กึ หรอื ความพอใจทางสุนทรียภาพในงานศิลปะ ทศั นธาตุ (visual elements) สงิ่ ทเ่ี ปน็ ปัจจยั ของการมองเห็นเป็นสว่ นตา่ ง ๆ ทปี่ ระกอบกันเปน็ ภาพ ได้แก่ เส้น น้ำหนัก ทว่ี า่ ง รูปร่าง รปู ทรง สี และลักษณะพืน้ ผวิ ทัศนียภาพ (perspective) วิธเี ขียนภาพของวตั ถุให้มองเหน็ วา่ มีระยะใกล้ไกล ทัศนศลิ ป์ (visual art) ศิลปะที่รับรู้ได้ด้วยการเหน็ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และงานสร้างสรรค์อื่น ๆที่รับรูด้ ้วยการ เหน็ ภาพปะตดิ (collage) เปน็ ภาพทที่ ำขึ้นด้วยการใชว้ ัสดตุ ่าง ๆ เช่น กระดาษ ผ้า เศษวสั ดธุ รรมชาติ ฯลฯ ปะติดลงบนแผ่นภาพ ดว้ ยกาวหรือแป้งเปยี ก วงสีธรรมชาติ (color circle) คอื วงกลมซึ่งจัดระบบสใี นแสงสรี งุ้ ท่เี รียงกันอยูใ่ นธรรมชาติ สวี รรณะอ่นุ จะอยใู่ นซกี ทม่ี ีสีแดงและเหลือง สว่ น สีวรรณะเย็นอยใู่ นซกี ทีม่ ีสเี ขียว และสีม่วง สคี ่ตู รงข้ามกนั จะอยู่ตรงกนั ข้ามในวงสี วรรณะสี (tone) ลักษณะของสีที่แบ่งตามความรู้สึกอุ่นหรือเย็น เช่น สีแดง อยู่ในวรรณะอุ่น (warm tone) สีเขียวอยู่ใน วรรณะเยน็ (cool tone) สีค่ตู รงขา้ ม (complementary colors) สีที่อยู่ตรงกันข้ามกันในวงสีธรรมชาติเป็นคู่สีกัน คือ สีคู่ที่ตัดกันหรือต่างจากกันมากที่สุด เช่น สีแดงกับสี เขยี ว สีเหลืองกับสีมว่ ง สนี ้ำเงินกบั สีส้ม องคป์ ระกอบศิลป์ (composition of art) วิชาหรือทฤษฎที เ่ี ก่ียวกับการสร้างรูปทรงในงานทศั นศิลป์ ดนตรี การดำเนินทำนอง (melodic progression) ๑. การกา้ วเดนิ ไปข้างหนา้ ของทำนอง ๒. กระบวนการดำเนินคอรด์ ซึง่ แนวทำนองขยบั ทีละขนั้ ความเขม้ ของเสียง (dynamic)
97 เสยี งเบา เสียงดัง เสยี งท่มี ีความเขม้ เสยี งมากกย็ ง่ิ ดงั มากเหมอื นกบั loudness ด้นสด เป็นการเลน่ ดนตรีหรอื ขบั ร้อง โดยไม่ไดเ้ ตรยี มซ้อมตามโน้ตเพลงมาก่อน ผูเ้ ล่นมอี สิ ระในการกำหนดวิธีปฏิบัติ เครื่องดนตรีและขับร้อง บนพื้นฐานของเนื้อหาดนตรีที่เหมาะสม เช่น การบรรเลงในอัตราความเร็วที่ยืดหยุ่น การ บรรเลงด้วยการเพิ่มหรอื ตดั โนต้ บางตวั ประโยคเพลง (phrase) กลุ่มทำนอง จงั หวะท่ีเรยี บเรียงเช่ือมโยงกนั เป็นหนว่ ยของเพลงท่ีมคี วามคิดจบสมบูรณ์ในตวั เอง มกั ลงท้าย ดว้ ยเคเดนซ์ เปน็ หน่วยสำคญั ของเพลง ประโยคเพลงถาม - ตอบ เป็นประโยคเพลง ๒ ประโยคที่ต่อเนื่องกันลีลาในการตอบรับ – ส่งล้อ – ล้อเลียนกัน อย่างสอดคล้อง เป็น ลักษณะคล้ายกันกับบทเพลงรูปแบบ AB แต่เป็นประโยคเพลงสั้น ๆ ซึ่งมักจะมีอัตราความเร็วเท่ากันระหว่าง ๒ ประโยค และความยาวเทา่ กัน เช่น ประโยคเพลงที่ ๑ (ถาม) มีความยาว ๒ ห้องเพลง ประโยคเพลงท่ี ๒ (ตอบ) กจ็ ะ มีความยาว ๒ หอ้ งเพลง ซง่ึ จะมลี ีลาต่างกัน แตส่ อดรบั กันได้กลมกลืน ผลงานดนตรี ผลงานทีส่ รา้ งสรรคข์ ึ้นมาโดยมคี วามเกยี่ วข้องกบั การนำเสนองานทางดนตรี เช่น บทเพลง การแสดงดนตรี เพลงทำนองวน (round) เพลงที่ประกอบด้วยทำนองอย่างน้อย ๒ แนว ไล่เลียนทำนองเดียวกัน แต่ต่างเวลาหรือจังหวะ สามารถไล่ เลยี นกนั ไปได้อย่างต่อเน่อื งจนกลับมาเริ่มตน้ ใหม่ไดอ้ กี ไม่มวี นั จบ รูปร่างทำนอง (melodic contour) รปู ร่างการขนึ้ ลงของทำนอง ทำนองทสี่ มดลุ จะมีทิศทางการขน้ึ ลงทเี่ หมาะสม สสี ันของเสียง ลักษณะเฉพาะของเสยี งแต่ละชนิดที่มเี อกลกั ษณ์เฉพาะต่างกัน เช่น ลกั ษณะเฉพาะของสีสันของเสียงผู้ชาย จะมีความทุ้มตำ่ แตกต่างจากสีสันของเสียงผู้หญิง ลักษณะเฉพาะของสสี ันของเสียง ของเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะมีความ แตกตา่ งจากเสยี งเด็กผชู้ ายคนอืน่ ๆ องค์ประกอบดนตรี (elements of music) สว่ นประกอบสำคญั ทที่ ำให้เกิดเสยี งดนตรี ได้แก่ทำนอง จงั หวะ เสยี งประสาน สสี นั ของเสียง และเนื้อดนตรี อตั ราความเร็ว (tempo) ความช้า ความเร็วของเพลง เชน่ อัลเลโกร(allegero) เลนโต (lento) ABA สญั ลกั ษณ์บอกรูปแบบวรรณกรรมดนตรแี บบตรบี ท หรือเทอรน์ ารี (ternary) ternary form สังคีตลักษณ์สามตอน โครงสร้างของบทเพลงทีม่ ีส่วนสำคัญขยับทีละขั้นอยู่ ๓ ตอน ตอนแรกและตอนที่ ๓ คือ ตอน A จะเหมือนหรือคล้ายคลึงกันทั้งในแง่ของทำนองและกุญแจเสียง ส่วนตอนที่ ๒ คือ ตอน B เป็นตอนท่ี แตกต่างออกไป ความสำคัญของสังคีตลักษณ์น้ี คือ การกลับมา ของตอน A ซึ่งนำทำนองของส่วนแรกกลับมาใน กุญแจเสียงเดิมเป็นสังคีตลักษณ์ที่ใช้มากที่สุดโดยเฉพาะในเพลงร้อง จึงอาจเรียกว่า สังคีตลักษณ์เพลงร้อง (song form) กไ็ ด้
98 นาฏศลิ ป์ การตีบท การแสดงท่ารำตามบทรอ้ งบทเจรจาหรือบทพากย์ควรคำนึงถึงความหมายของบทแบ่งเปน็ การตีบท ธรรมชาติ และการตีบทแบบละคร การประดษิ ฐท์ ่า การนำภาษาท่า ภาษานาฎศิลป์ หรอื นาฏยศัพท์มาออกแบบ ให้สอดคลอ้ งสมั พันธ์กบั จงั หวะทำนอง บท เพลง บทร้อง ลีลา ความสวยงาม นาฏยศพั ท์ ศัพท์เฉพาะทางนาฎศิลป์ ที่ใช้เกี่ยวกับการเรยี กท่ารำ กิริยาทีแ่ สดงมสี ่วนศีรษะใบหนา้ และไหล่ ส่วนแขน และมือ ส่วนของลำตวั ส่วนขาและเทา้ บุคคลสำคัญในวงการนาฎศลิ ป์ เปน็ ผู้เชีย่ วชาญทางนาฎศลิ ป์ และภูมิปญั ญาท้องถ่ินทส่ี ร้างผลงาน ภาษาทา่ การแสดงทา่ ทางแทนคำพูด ใชแ้ สดงกริ ยิ าหรอื อิริยาบถ และใช้แสดงถึงอารมณภ์ ายใน ส่วนขาและเท้า กิริยาแสดง เช่น กระทบ ยดื ยุบ ประเท้า กระดกเทา้ กระทุ้ง จรด ขยับ ซอย วางส้น ยกเท้า ถัดเท้า สว่ นแขนและมอื กริ ยิ าทแ่ี สดง เชน่ จบี ตั้งวง ล่อแก้ว ม้วนมอื สะบัดมือ กรายมอื ส่ายมอื ส่วนลำตวั กิริยาที่แสดง เชน่ ยกั ตัว โย้ตัว โยกตวั ส่วนศรี ษะใบหน้าและไหล่ กิรยิ าที่แสดง เชน่ เอียงศีรษะ เอียงไหล่ กดไหล่ กล่อมไหล่ กลอ่ มหนา้ สิ่งท่ีเคารพ ในสาระนาฏศิลปม์ ีสงิ่ ทีเ่ คารพสืบทอดมา คอื พ่อแก่ หรือพระพรตฤษี ซ่งึ ผ้เู รยี นจะต้อง แสดงความเคารพ เมื่อเริม่ เรียนและก่อนแสดง องค์ประกอบนาฏศิลป์ จังหวะและทำนองการเคล่อื นไหว อารมณ์และความรู้สึก ภาษาทา่ นาฎยศพั ท์ รูปแบบของการแสดง การ แต่งกาย องค์ประกอบละคร การเลอื กและแตง่ บท การเลือกผู้แสดง การกำหนดบคุ ลกิ ของผแู้ สดง การพัฒนารูปแบบของการแสดง การ ปฏบิ ตั ิตนของผู้แสดงและผู้ชม คณะท่ปี รึกษา คณะผจู้ ัดทำ ๑. นางธัญนนั ท์ ละอองศรี โรงเรยี นทับพธ์พิ ฒั นวทิ ย์
http://gg.gg/curriculumTP
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104