Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6.หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

6.หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

Published by TANAWICH SEANGRAM, 2022-07-08 01:19:57

Description: 6.หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

Search

Read the Text Version

46 คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เตมิ รายวชิ า การละคร 1 รหัสวิชา ศ 30206 กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ ภาคเรยี นท่ี 1-2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชัว่ โมง /ภาคเรียน ********************************************************************************* วิเคราะห์ องค์ประกอบของละคร ประเภท และลักษณะของการแสดงละคร หลักการ วิธีการ การเลือกบท การตบี ท การสร้างอารมณ์ การแตง่ กาย การแต่งหนา้ ปฏิบตั ิการเลือกบทละครและแสดงละคร มที กั ษะในการแสดง หลากหลายรูปแบบ สร้างสรรคล์ ะครสั้นในรูปแบบท่ีช่นื ชอบ ใชค้ วามคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการแสดงละคร บรรยาย และวเิ คราะห์อทิ ธิพลของเครอ่ื งแต่งกาย แสง สี เสียง ฉาก อปุ กรณ์ และสถานทท่ี ่มี ผี ลต่อการแสดง วิเคราะห์ท่าทาง และการเคลื่อนไหวของผู้คนในชีวิตประจำวันและนำมาใช้ในการแสดงอภิปรายบทบาทของบุคคลสำคัญในวงการ ละครของประเทศไทยในยคุ สมัยตา่ ง ๆ บรรยายววิ ัฒนาการของการละครไทยต้งั แต่อดีตจนถงึ ปัจจบุ นั ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย คุณคา่ วเิ คราะห์ องคป์ ระกอบของละคร 2. หลกั การ วธิ ีการ การเลอื กบท การตีบท การสรา้ งอารมณ์ การแต่งกาย การแตง่ หน้า ปฏิบัตกิ ารเลือกบทละครและ แสดงละคร 3. มีทักษะในการแสดงหลากหลายรปู แบบสรา้ งสรรค์ละครสั้นในรปู แบบทชี่ ่นื ชอบ 4. สามารถสรา้ งงานศลิ ปะประดษิ ฐ์แสดงระยะไกลใกล้ เป็น 3 มิติ 5. บรรยายและวเิ คราะหอ์ ทิ ธิพลของเครอ่ื งแตง่ กาย แสง สี เสยี ง ฉาก อปุ กรณ์ และสถานทท่ี ี่มีผลต่อการแสดง รวมท้งั หมด 5 ผลการเรียนรู้

47 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม รายวิชา การวาดภาพลายเส้น รหัสวชิ า ศ 302077 กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ภาคเรยี นท่ี 1-2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ช่วั โมง /ภาคเรียน ********************************************************************************* ศึกษาความหมายของการวาดเส้น วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดเส้นและฝึกปฏบิ ัติการวาดเส้นเพื่อถ่ายทอด การมองเหน็ เพ่ือให้มีความเขา้ ใจเห็นคณุ คา่ และสามารถเขยี นภาพต่างๆไดอ้ ย่างเพลิดเพลนิ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย คณุ คา่ หลักการของการวาดเสน้ 2. บอกชอื่ คุณสมบัติ วธิ กี ารใชแ้ ละการดแู ลรักษาวสั ดุอุปกรณก์ ารวาดเส้น 3. ถา่ ยทอดการมองเหน็ โดยการวาดเสน้ ประกอบแสงเงาเลียนแบบธรรมชาติ 4. สามารถวาดภาพทัศนียภาพแสดงระยะไกลใกล้ เป็น 3 มติ ิ 5. วาดภาพแสดงค่านำ้ หนักออ่ น- แก่ของแสงและเงาทต่ี กกระทบบนวตั ถไุ ดถ้ ูกต้องตามสภาพจริง 6. วาดภาพสง่ิ ของ สตั ว์ ทิวทศั น์ และคนเหมอื นโดยวธิ ีการวาดเส้นได้ รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้

48 คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ดนตรีพ้นื บ้านอสี านโปงลาง รหสั วชิ า ศ 23208 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรียนที่ 1-2 จำนวน 1.0 หน่วยกิต เวลา 40 ชัว่ โมง /ภาคเรียน ********************************************************************************* ศึกษาความเป็นมาของดนตรีพื้นบ้านอีสาน (โปงลาง) ดนตรีพื้นบ้านอีสาน (โปงลาง) กับชีวิตประจำวัน ส่วนประกอบของเครื่องดนตรีโปงลาง วิธีการทำเครื่องดนตรีโปงลาง วิธีการตีเคร่ืองดนตรีโปงลาง วิธีการใช้เครื่อง ดนตรีโปงลาง ศัพท์เฉพาะทางดนตรพี ืน้ บ้านอีสาน (โปงลาง) องค์ประกอบทางดนตรีด้านจังหวะและทำนองการอา่ น โน้ตและขับร้องโน้ตตามทำนองลาย เพลงโปงลางจังหวะและทำนองลายเพลงบรรเลงดนตรีโปงลาง หลักการฟังและ การวิเคราะห์ระดับเสียง จังหวะทำนองของดนตรีพื้นบ้านอีสาน (โปงลาง) การสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมดนตรี พน้ื บ้านอสี าน (โปงลาง)ศกึ ษาเครอื่ งดนตรีชนิดตา่ ง ๆ ที่ใช้ในการผสมวงดนตรีพืน้ บ้าน อีสาน (โปรงลาง) หลกั การ ผสมวงดนตรีพื้นบ้านอีสาน วิธีการใช้และการเก็บรักษาเครื่องดนตรีโปรงลาง การขับร้องโน้ตบรรเลงลายเพลง ดนตรีโปรงลาง หลักการฟังความไพเราะของเสียงดนตรีพื้นบ้านอีสาน (โปงลาง ) องค์ประกอบทาง ดนตรี หลักการวิเคราะห์ความไพเราะของเสียงดนตรีพนื้ บ้านอีสาน (โปงลาง) การสรา้ งสรรค์ดนตรีพื้นบ้านอีสาน (โปงลาง) กับการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีพื้นบ้านอีสาน (โปงลาง) กับชีวิตความ เป็นอยขู่ องมนุษย์ ความสำคญั และประโยชน์ของการอนรุ ักษ์ศิลปะดนตรพี ืน้ บา้ นอีสาน (โปงลาง) ในฐานะท่ีเป็นภูมิ ปญั ญาทอ้ งถิ่น และภมู ิปัญญาไทย ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรูค้ วามเข้าใจเรอื่ งดนตรพี นื้ บ้านอสี านประเภทโปงลาง ๒. มคี วามรู้ความเข้าใจองค์ประกอบของดนตรีพ้นื พื้นบา้ นโปงลาง ๓. สามารถปฏิบตั ิเครื่องดนตรพี ื้นบ้านอสี านประเภทโปงลางได้ ๔. การผสมวงดนตรีพืน้ บา้ นอีสานโปงลาง รวม 4 ผลการเรยี นรู้

49 โครงสรา้ งหลกั สตู รรายวิชาศลิ ปะ

โครงสร้างหลักสตู รรายวชิ าศิลปะ 50 รายวชิ า ศิลปะ(ทัศนศลิ ป)์ รหสั วชิ าศ21101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรยี น ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต หน่วย ชอื่ หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั ต้องรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนร/ู้ (ชั่วโมง) คะแนน ตวั ช้ีวัด ความรู้ ศ 1.1 ส่ิงแวดลอ้ มมีอิทธพิ ลตอ่ การ 1 เบอ้ื งตน้ ม.1/1 สรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์ ซ่งึ เปน็ √1 10 เก่ยี วกบั ผลงานท่มี ีความละเอียด สวยงาม ทศั นศิลป์ 2 ทัศนธาตุ ศ 1.1 ทัศนธาตเุ ปน็ สว่ นประกอบการ 2 10 ม.1/1 มองเห็นหรือสิง่ ทีเ่ ป็นปจั จัยการเหน็ √ ในงานทัศนศลิ ป์ จะปรากฏทงั้ ในงาน ทศั นศิลป์และสิง่ แวดล้อม ซึ่งสามารถ บรรยายความแตกตา่ งและความ คลา้ ยคลึงกันของทศั นศลิ ป์และ สิ่งแวดลอ้ มได้โดยใช้ความร้เู ร่ือง ทศั นธาตุ 3 การ ศ 1.1 การออกแบบเป็นสว่ นสำคญั ในการ 1 10 ออกแบบ ม.1/2 สรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศลิ ป์ ซ่ึงจะต้อง √ งาน เป็นไปตามหลักการออกแบบ เพื่อให้ ทัศนศลิ ป์ ไดผ้ ลงานท่มี คี วามสวยงาม สะท้อน ถงึ ความคดิ สร้างสรรค์ 4 ความรู้ ศ 1.1 การวาดภาพระบายสีนนั้ ผวู้ าด 2 10 เบ้อื งต้น ม.1/3 จะต้องรวู้ ธิ ใี ชแ้ ละเก็บรักษาเครื่องมือ √ เกย่ี วกบั และอปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสี การวาดภา ตลอดจนแนวทางพื้นฐานในการ ภาพ วาดภาพระบายสี ระบายสี 5 หลักการ ศ 1.1 การวาดภาพแสดงทัศนียภาพเป็น 2 10 ม.1/3 เทคนคิ การวาดภาพที่แสดงระยะไกล √ วาดภาพ ใกล้ เป็น 3 มติ ิ ซึง่ ผูว้ าดจะต้องรู้หลกั และวธิ กี ารวาด เพ่ือใหส้ ามารถ่ายทอด แสดง ความประทบั ใจผ่านภาพออกมาได้ ทศั นยี ภาพ อยา่ งสวยงาม สมจริง อีกทั้งต้องมี ทักษะในการใชแ้ ละเกบ็ รกั ษาเคร่ืองมอื และอปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสี

51 หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐาน ต้องรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้/ สาระสำคัญ (ชั่วโมง) คะแนน ตวั ช้วี ัด 6 งานปั้น ศ 1.1 การสร้างสรรคง์ านปัน้ และงาน 2 10 และงาน ม.1/4 สื่อผสมจะตอ้ งเขา้ ใจขั้นตอนและ สอ่ื ผสม วธิ ีการปฏิบตั ิและจดั แสดงผลงาน √ ตามขน้ั ตอน เพ่อื ให้สามารถจดั แสดงผลงานไดต้ รงตามจนิ ตนาการ และเปน็ เรื่องทปี่ ระทบั ใจของผู้ชม คะแนนสอบกลางภาค 1 20 7 การ ศ 1.1 การออกแบบรปู ภาพ สญั ลักษณ์ 25 ออกแบบ ม.1/5 และงานกราฟกิ ผอู้ อกแบบจะต้อง √ รปู ภาพ มคี วามรคู้ วามเข้าใจหลกั การ วิธกี าร สญั ลกั ษณ์ ออกแบบ มที กั ษะในการทำงาน และ และงาน มคี วามคิดสร้างสรรค์ กราฟกิ 8 หลักการ ศ 1.1 การประเมนิ งานทัศนศิลปน์ ้ัน 25 ประเมิน ม.1/6 มวี ัตถุประสงคท์ ี่แตกต่างกัน √ งาน ซ่งึ ผ้ปู ระเมินจะตอ้ งยึดหลักเกณฑ์ ทศั นศลิ ป์ ประเมินผลงานทศั นศลิ ป์ เพ่อื ให้ ประเมินผลงานไดอ้ ย่างเหมาะสม 9 ทศั นศิลป์ ศ 1.2 งานทศั นศลิ ป์ของชาตแิ ละของท้องถิน่ 25 ของชาติ ม.1/1 ในภาคต่างๆ ของประเทศไทย √ และท้องถ่นิ ม.1/2 มีลักษณะและรูปแบบท่ีเปน็ เอกลกั ษณข์ องตนเอง ซึ่งเป็นไปตาม √ ปัจจยั ท่ีเกี่ยวข้อง 10 ทัศนศลิ ป์ ศ 1.2 งานทศั นศลิ ปใ์ นวัฒนธรรมไทย 25 ใน ม.1/3 และสากล มีความแตกตา่ งกนั ของ √ วฒั นธรรม จุดประสงค์ในการสร้างสรรคง์ าน ไทย และสากล ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

52 โครงสร้างหลกั สูตรรายวิชาศิลปะ รายวชิ า ศลิ ปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) รหัสวชิ า ศ21102 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ ตอ้ งรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี (ชั่วโมง) คะแนน การเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด 10 1 ความรู้ ศ 2.1 ดนตรไี ทยเป็นวัฒนธรรมอย่างหนงึ่ 1 10 พ้นื ฐาน ม.1/1 ของสังคมไทย การศึกษาเรียนรู้ √ 10 เกย่ี วกบั ดนตรไี ทย ม.1/2 ลกั ษณะของดนตรไี ทย เพ่อื ให้ √ ศ 2.2 สามารถอา่ น เขยี น ร้องโน้ตดนตรี √ ม.1/1 ไทยได้ เพ่ือเป็นพน้ื ฐานนำไปส่กู าร √ ม.1/2 ปฏิบัตดิ นตรีไทย โดยจะใช้โนต้ บท เพลงไทย อตั รา 2 ชัน้ มาเปน็ ตัวอย่างไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2 เครื่อง ศ 2.1 วงดนตรที ไี่ พเราะให้อารมณ์ 2 ดนตรแี ละ ม.1/2 ความรู้สึก เกิดสนุ ทรียภาพซงึ่ เกิด √ วงดนตรี ไทย ม.1/4 จากการใช้เคร่อื งดนตรีมาบรรเลง √ ม.1/9 ผสมผสานกลายเปน็ วงดนตรี √ ประเภทต่างๆ การเรียนร้เู ก่ียวกบั เครือ่ งดนตรีและวงดนตรีไทย จะ ช่วยใหส้ ามารถนำความรไู้ ปใช้ในการ บำรงุ รักษาเคร่อื งดนตรีไดอ้ ย่างถูก วิธีและสามารถชมดนตรีไดอ้ ยา่ งมี ความสุข 3 หลกั การ ศ 1.1 การปฏิบัตดิ นตรไี ทยประกอบบท 2 ขบั รอ้ ง ม.1/3 เพลงพน้ื บ้านและเพลงไทยเดิม √ และ จะตอ้ งศึกษาหลกั การ เลือกปฏิบตั ิ บรรเลง เคร่ือง เครอื่ งดนตรีและฝึกขบั รอ้ งเพลง ดนตรไี ทย ไทยให้เกิดทกั ษะและประสบการณ์ และเลอื กปฏบิ ัติเครือ่ งดนตรีไทย เพอื่ จะไดร้ ้องเพลง และใชเ้ คร่ือง ดนตรบี รรเลงประกอบการร้อง เพลงได้

53 หน่วย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคัญ ต้องรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นร/ู้ (ช่ัวโมง) คะแนน ตวั ช้วี ัด 4 ความรู้ ศ 2.1 การศึกษาดนตรสี ากล ตอ้ งเขา้ ใจ 1 10 พ้นื ฐาน ม.1/1 ประวัตคิ วามเปน็ มา พฒั นาการ √ เกี่ยวกบั ศ 2.2 ประเภทของดนตรสี ากลพื้นเมอื ง ดนตรี ม.1/2 ดนตรแี บบฉบบั และดนตรีสมยั √ สากล นยิ ม เพ่อื ใหส้ ามารถเปรียบเทียบ เสยี งรอ้ งและเสียงของเครือ่ งดนตรี ที่มาจากวัฒนธรรมทีต่ ่างกันได้ และสามารถร้องและบรรเลงเครือ่ ง ดนตรีประกอบการรอ้ งเพลงได้ 5 เครอื่ ง ศ 2.1 การจดั ประเภทของวงดนตรสี ากล 1 10 ดนตรีและ ม.1/4 ทม่ี าจากวฒั นธรรมต่างๆ จะต้องมี √ วงดนตรี ม.1/9 ความรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกับ √ สากล ประเภทของเครือ่ งดนตรี หลักการ ใช้และบำรุงรกั ษา เพ่อื จะไดน้ ำ ความรู้ไปใชแ้ ละบำรงุ รักษาเครอ่ื ง ดนตรีสากลของตนเองอยา่ ง ระมัดระวงั 6 หลกั การ ศ 2.1 การรอ้ งเพลงและใชเ้ ครอ่ื งดนตรี 2 10 รอ้ งและ ม.1/1 บรรเลงจะต้องเขา้ ใจพน้ื ฐานในการ √ บรรเลง ม.1/3 ขับรอ้ ง หมั่นฝกึ ขบั รอ้ ง และบรรเลง เพลงสากล ม.1/5 เครอื่ งดนตรีสากลและสามารถเลือก √ ม.1/6 บทเพลงทห่ี ลากหลายรปู แบบ √ ม.1/7 นำมาใช้ขบั รอ้ งและบรรเลง เครอื่ ง √ √ ม.1/8 ดนตรปี ระกอบการร้องเพลงปลุกใจ √ บทเพลงประเภทตา่ งๆ คะแนนสอบกลางภาค 1 20 7 ทกั ษะ ศ 3.2 นโยบายของรฐั สภาพสงั คม วถิ ี 23 พ้นื ฐาน ม.1/1 ชวี ิต ค่านยิ ม การประกอบอาชพี √ และ ความเชื่อ พธิ กี รรม และยุคสมยั ท่ี การฝกึ หดั เปลยี่ นแปลง เป็นปัจจัยทีส่ ง่ ผลทำ การแสดง ใหน้ าฏศลิ ปเ์ กดิ การเปลีย่ นแปลง นาฏศิลป์

54 หน่วย มาตรฐาน เวลา นำ้ หนัก ท่ี (ชั่วโมง) คะแนน ชือ่ หน่วย การเรียนรู/้ สาระสำคญั ตอ้ งรู้ ควรรู้ 3 ตัวช้วี ัด 3 8 การแสดง ศ 3.1 นาฏยศพั ท์ เป็นทกั ษะพนื้ ฐานใน 2 นาฏศิลป์ √ ม.1/2 การ ฝึกหัดนาฏศิลป์ไทย โดยใช้ ภาษาทา่ ในการเคล่อื นไหวเพอ่ื สื่อ ความหมาย ทางอารมณ์ 9 ความรู้ ศ 3.1 การแสดงนาฏศลิ ปม์ ีหลายรปู แบบ 2 พ้ืนฐาน √ ม.1/3 ซ่งึ มีลักษณะเฉพาะตวั ทแ่ี สดงให้ เกี่ยวกบั นาฏศลิ ป์ เหน็ ถงึ เอกลกั ษณท์ างวัฒนธรรม ของชาติ 10 ความรู้ ศ 3.2 ละครไทยและละครพ้นื บา้ นแตล่ ะ 13 พน้ื ฐาน ม.1/1 ประเภทจะมีปจั จยั ท่ีส่งผลตอ่ การ √ เกยี่ วกับ ม.1/2 เปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกนั ไปตาม √ ละคร ยคุ ตามสมัย 11 ทกั ษะ ศ 3.1 บทบาทของนกั แสดงจะมอี ทิ ธพิ ล 13 พน้ื ฐาน ม.1/1 ต่อ การโน้มน้าวอารมณ์หรือ √ และ ความคดิ การฝกึ หดั ของผชู้ ม ส่งผลให้แสดงพฤติกรรม การแสดง ทเ่ี ลยี นแบบนักแสดงทชี่ น่ื ชอบ ละคร 12 แนว ศ 3.1 การแสดงละครในรูปแบบง่ายๆ 15 ทางการ ม.1/3 ต้องใชท้ ักษะการทำงานเป็นกลมุ่ ใน √ จัดการ ม.1/4 กระบวนการผลติ การแสดง เพื่อให้ √ ด้านการ ม.1/5 งานประสบความสำเร็จตาม แสดง เป้าหมาย และตอ้ งมีการประเมิน √ คณุ ภาพการแสดงเพื่อช่วย พัฒนาการแสดงให้มีคณุ ภาพดีข้ึน ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

55 โครงสร้างหลกั สตู รรายวิชาศลิ ปะ รายวิชา ศิลปะ(ทัศนศิลป์ ) รหสั วิชา ศ22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรียน มาตรฐาน ต้องรู้ ควรรู้ เวลา (ช่วั โมง) หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย การ สาระสำคญั น้ำหนกั ท่ี เรยี นร/ู้ คะแนน ตัวชี้วัด 1 รปู แบบ ศ 1.1 ทัศนธาตเุ ปน็ องคป์ ระกอบสำคญั ต่อการ 2 10 ทศั นธาตุ ม.2/1 ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงาน √ และแนวคิด ทศั นศิลป์ การวเิ คราะหร์ ปู แบบ ในงาน ทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศลิ ป์ ทศั นศลิ ป์ จะช่วยให้เขา้ ใจและสร้างสรรค์ผลงาน ทศั นศิลปไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม สวยงาม 2 รปู แบบการ ศ 1.1 ศิลปนิ แต่ละทา่ นมรี ูปแบบการใช้วสั ดุ 2 10 ใช้วัสดุ ม.2/2 อุปกรณใ์ นงานทัศนศิลป์ที่เหมือนและ √ 2 15 √ 2 15 อปุ กรณ์ใน แตกต่างกันออกไปตามความถนดั งาน เราจึงควรศกึ ษาทำความเข้าใจความ ทัศนศิลป์ เหมอื นและความแตกต่างดงั กลา่ ว เพือ่ ของศลิ ปนิ จะไดเ้ ขา้ ใจในผลงานนน้ั ๆ มากยิง่ ขึ้น และนำไปเป็นแนวทางประยกุ ตใ์ ช้ในการ สรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศลิ ป์ของตนเอง ให้ดียิง่ ขึ้น 3 การวาด ศ 1.1 การวาดภาพส่ือความหมายและเร่ืองราว ภาพ ม.2/3 ผูว้ าดต้องใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ √ สือ่ ต่างๆ อยา่ งถกู ตอ้ ง นอกจากน้ยี ังต้องมี ความหมาย ความคิดสร้างสรรค์ เพือ่ ให้ได้ผลงานที่ และ สวยงาม และส่อื ความหมายและ เรอ่ื งราว เร่อื งราวได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ท่วี างไว้ 4 การวาด ศ 1.1 การวาดภาพถ่ายทอดบุคลกิ ลักษณะของ ภาพถา่ ย ม.2/6 ตัวละคร ผ้วู าดตอ้ งรจู้ ักสังเกตและ ทอด ปฏิบตั ิตามวิธีการวาดโดยวเิ คราะห์ บุคลิกลักษ ลักษณะเฉพาะของตวั ละครนน้ั ๆ ณะของ นอกจากนีย้ งั ต้องใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และ ตัวละคร เทคนิคต่างๆ อยา่ งถกู ต้อง และมี

56 มาตรฐาน หนว่ ย ช่อื หน่วย การ สาระสำคัญ ตอ้ งรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี เรยี นร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน ตวั ชี้วัด 5 งาน ความคดิ สรา้ งสรรค์ เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลงานท่ี 2 10 ทัศนศิลป์ สวยงาม ถกู ตอ้ งตามบุคลิกลักษณะของ √ ตวั ละคร ในการ โฆษณา ศ 1.1 การใชง้ านทศั นศิลป์ในการโฆษณานนั้ ม.2/7 จะตอ้ งปฏบิ ัตติ ามหลกั การออกแบบและ ขนั้ ตอนของการออกแบบโฆษณา เพอ่ื โนม้ น้าวใจผ้พู บเห็นให้เกิดความสนใจ คะแนนสอบกลางภาค 1 20 2 10 6 การ ศ 1.1 การประเมินและวิจารณ์งานทศั นศิลป์ ผู้ 3 5 ประเมิน ม.2/4 ประเมนิ จะต้องสร้างเกณฑท์ ีม่ ีความ √ และวิจารณ์ ม.2/5 สอดคล้องตามหลกั การ ถกู ต้อง √ งาน นา่ เชอ่ื ถอื และนำผลการวิจารณไ์ ป ทัศนศิลป์ ปรบั ปรุง แก้ไข และพัฒนาผลงาน จากน้นั จดั เกบ็ รวบรวมผลงานจดั เปน็ แฟม้ สะสมผลงานอยา่ งเป็นระบบ เพือ่ เปน็ หลกั ฐานสำหรับนำไปใชป้ ระโยชน์ ในโอกาสตา่ งๆ 7 ทศั นศิลป์ ศ 1.2 งานทศั นศลิ ป์ของไทยมกี ารเปลย่ี นแปลง ของไทย ม.2/2 ไปในแต่ละยคุ สมยั √ ในแตล่ ะยคุ โดยมแี นวคิดและเนือ้ หาของงาน สมยั ที่แตกตา่ งกันไป แสดงถึงคุณค่า และเอกลกั ษณ์เฉพาะตัว 8 วัฒนธรรม ศ 1.2 การศกึ ษาความรู้เกย่ี วกบั วัฒนธรรม 3 5 √ ในงาน ม.2/1 ในงานทัศนศิลป์ จะชว่ ยให้เกดิ ความ √ ทัศนศิลป์ ม.2/3 เขา้ ใจในวัฒนธรรมตา่ งๆ ท่ีสะทอ้ น ปจั จุบนั อยูใ่ นงานทศั นศิลป์ และยงั สามารถ ทำให้เปรยี บเทียบแนวคิดในการ ออกแบบงานทัศนศลิ ป์ที่มาจาก วฒั นธรรมไทยและสากลได้ ระหว่างภาค 18 60 1 20 สอบกลางภาค 1 20 20 100 สอบปลายภาค รวม

57 โครงสรา้ งหลกั สูตรรายวิชาศลิ ปะ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน รายวชิ า ศลิ ปะ (ดนตรี-นาฏศิลป์) รหสั วิชา ศ22102 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั ตอ้ งรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี (ชว่ั โมง) คะแนน การเรียนรู้/ ตัวชวี้ ัด 1 ดนตรีใน ศ 2.1 การใช้องค์ประกอบของดนตรจี าก แต่ละ ม.2/1 วฒั นธรรมท่ตี า่ งกัน √ 1 10 วัฒนธรรม 2 อา่ น ศ 2.1 - เครอ่ื งหมายสญั ญาลกั ษณ์ เขียน รอ้ ง ม.2/2 ทางดนตรี √ 3 10 โนต้ ไทย - โน้ตจากเพลงไทยอัตรา โนต้ สากล จงั หวะสองชัน้ โนต๊ สากล 3 ดนตรีขับ ศ 2.1 * เทคนคิ การร้องและบรรเลง ร้อง ม.2/4ม.2/5 ดนตรี √ 3 10 บรรเลง ม.2/6 - การร้องและบรรเลงเด่ียว- √√ ดนตรี การรอ้ งและบรรเลงเป็นวง 4 ศ 2.1 *ดนตรใี นวัฒนธรรมตา่ งประเทศ- 10 ม2./3 บทบาทของดนตรีในวัฒนธรรม- √ อิทธพิ ล ม.2/4 อทิ ธิพลของดนรใี นวฒั นธรรม* √ √ 2 ของดนตรี ศ 2.2 เหตุการณ์ประวตั ศิ าสตร์กบั การ ม.2/1 เปลยี่ นแปลงทางดนตรีในประเทศ ไทย - การเปล่ยี นแปลงทางการเมอื ง ม.2/2 กับงานดนตรี- การเปลีย่ นแปลง ทางเทคโนโลยีกบั งานดนตรี 5 ความรู้ ศ 3.1 นาฏศลิ ปเ์ ปน็ วิชาทวี่ ่าด้วยเรอื่ งของ ท่วั ไป ม.2/1 การฟ้อนรำและการละคร ซึง่ ตอ้ งมี √ เกย่ี วกบั ม.2/3 พน้ื ฐานความรู้เกี่ยวกบั การ นาฏศลิ ป์ √ √ 2 10 ม.2/5 เคลอ่ื นไหว การตีบทละคร รวมท้ัง ลักษณะรูปแบบของการแสดง และ การบรู ณาการ จงึ จะสามารถ วเิ คราะหเ์ กยี่ วกับนาฏศิลปไ์ ทยได้1

58 หน่วย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคัญ ต้องรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนร/ู้ (ช่ัวโมง) คะแนน ตวั ช้วี ัด 6 การแสดง ศ 3.1 นาฏศิลปไ์ ทยมาตรฐาน เป็นการ 2 10 นาฏศิลป์ ม.2/2 แสดงท่ปี รมาจารย์นาฏศลิ ป์ไทย √ ไทย ม.2/4 ได้กำหนดไวเ้ ปน็ แบบแผน ผู้ท่ีหัด มาตรฐาน นาฏศลิ ป์จะตอ้ งเรียนรู้และเขา้ ใจ √ เกย่ี วกบั พืน้ ฐานของการแสดง นาฏศลิ ปไ์ ทยและหลกั ในการ วิเคราะห์ วิจารณก์ ารแสดง คะแนนกลางภาค 1 20 7 การแสดง ศ 3.2 การแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมือง จะมี 1 10 นาฏศลิ ป์ ม.2/1 ลักษณะและเอกลกั ษณ์เฉพาะ √ พน้ื เมอื ง ม.2/2 ของแตล่ ะทอ้ งถน่ิ จึงตอ้ งมีการ เปรยี บเทียบการแสดงทมี่ าจาก √ วัฒนธรรมต่างๆ จงึ สามารถระบุ ไดว้ า่ เป็นการแสดงประเภทใด 8 ความรู้ ศ 3.1 ละครเปน็ ศิลปะการแสดงท่ี 15 ทั่วไป ม.2/2 จำเปน็ ต้องอาศัยความรู้พน้ื ฐานใน √ เก่ียวกบั ม.2/5 เร่ืองของการสรา้ งสรรค์ การละคร การแสดง องคป์ ระกอบของการ แสดง รวมทั้งการบูรณาการรว่ มกบั สาระการเรียนรอู้ น่ื ๆ 9 การแสดง ศ 3.1 การแสดงละคร เป็นการนำ 25 ละคร ม.2/1 จนิ ตนาการและสิ่งแวดลอ้ มทอ่ี ยู่ √ ม.2/3 รอบตวั มาเสนอเป็นเรอื่ งราวให้มี √ ศ 3.2 ความตอ่ เน่อื ง ซึ่งตอ้ งมกี ารบูรณา √ ม.2/3 การกับศลิ ปะแขนงอืน่ ๆ จึงจะ สามารถวิเคราะหก์ ารแสดงได้ ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

59 โครงสร้างหลกั สตู รรายวชิ าศลิ ปะ รายวิชา ศิลปะ(ทศั นศลิ ป์)ศิลปะ) รหสั วชิ าศ23101 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ เวลา 40 ชัว่ โมง /ภาคเรยี น มาตรฐาน หนว่ ย ชือ่ หน่วย การ สาระสำคัญ ต้อ คว เวลา นำ้ หนัก ท่ี เรียนรู้/ งรู้ รรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน ตัวชีว้ ัด 1 ทัศนธาตุ ศ 1.1 การนำความรูเ้ รื่อง ทศั นธาตุและหลักการ 5 15 และ ม. 3/1 ออกแบบมาประยุกตใ์ ชน้ ้ัน สามารถใช้ใน √ หลกั การ ม. 3/3 การบรรยายสิ่งแวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ √ ออกแบบ อย่างเหมาะสม และมผี ลตอ่ การสร้างงาน ใน ทศั นศลิ ป์ ของตนเองให้มคี ณุ ภาพ สงิ่ แวดล้อ มและงาน ทัศนศิลป์ 2 เทคนิค ศ 1.1 การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศลิ ป์ของ 6 15 วิธกี ารใน ม. 3/2 ศิลปนิ √ การสร้าง แต่ละสาขาต่างมีเทคนิค วิธกี ารท่ี งาน แตกตา่ ง ทัศนศิลป์ กนั ไป ของศิลปิน 3 การ ศ 1.1 การสร้างงานทศั นศลิ ปแ์ บบ 2 มติ ิ และ 3 √ 8 15 สรา้ งสรรค์ ม. 3/3 มติ ิ เพอื่ ถา่ ยทอดประสบการณแ์ ละ √ ผลงาน ม. 3/4 จินตนาการทีด่ ีนน้ั ควรใช้หลักการ √ ทัศนศลิ ป์ ม. 3/5 ออกแบบงานทศั นศลิ ป์ มีการผสมผสาน √ ม. 3/6 วัสดตุ า่ งๆ การสรา้ งงานทัศนศิลป์ท่ีสอ่ื √ ม. 3/7 ความหมายเป็นเรือ่ งราวนนั้ จะต้อง ม. 3/8 ประยกุ ตใ์ ช้ทศั นธาตแุ ละการออกแบบ ม. 3/9 นอกจากนยี้ งั ต้องรูจ้ ักวเิ คราะห์และ √ อภปิ รายรปู แบบ เน้อื หา และคุณค่าใน √ งานทัศนศิลปข์ องตนเอง ผ้อู นื่ หรอื ของ ศลิ ปนิ

60 มาตรฐาน หนว่ ย ชื่อหน่วย การ สาระสำคัญ ตอ้ คว เวลา นำ้ หนัก ท่ี เรยี นร/ู้ งรู้ รรู้ (ชั่วโมง) คะแนน ตัวชวี้ ัด 4 การ ศ 1.1 การวเิ คราะห์ผลงานทัศนศิลป์ในด้าน 4 15 วิเคราะห์ ม. 3/8 รปู แบบ เนือ้ หา และคุณคา่ ในงาน √ ผลงาน ทศั นศลิ ป์ ทัง้ ของตนเอง ผู้อื่น และศิลปนิ ทศั นศิลป์ เปน็ ประโยชน์ต่อการเกิดความรู้ ความ เข้าใจ และนำไปใช้พฒั นาผลงาน ทศั นศิลป์ของตนเองใหม้ ีคุณภาพมาก ยิ่งขึ้น คะแนนกลางภาค 1 20 5 ทศั นศิลป์ ศ 1.1 อาชพี ท่เี กี่ยวข้องกบั งานทัศนศิลปน์ ้นั มี 4 10 กับการ ม. 3/10 หลายอาชพี ซึ่งแตล่ ะอาชพี จำเป็นต้อง √ ประกอบ อาศยั ทกั ษะพ้ืนฐานที่เหมอื นกนั หลาย อาชีพ ประการ มาประยุกต์ใชเ้ พ่ือทำใหผ้ ลงาน ของตนเองประสบความสำเรจ็ 6 การจดั ศ 1.1 การเลือกผลงานทัศนศลิ ป์เพอื่ นำไปจดั 55 นิทรรศกา ม. 3/11 นทิ รรศการ จำเป็นต้องมีการกำหนด √ รทาง เกณฑส์ ำหรบั ใช้คดั เลือก ซึง่ เกณฑท์ ่ี ทศั นศลิ ป์ กำหนดต้องเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงคข์ อง การจดั นิทรรศการ 7 ทศั นศิลป์ ศ 1.2 งานทัศนศลิ ปท์ ่ีสะท้อนคณุ ค่าของ 65 กบั ม. 3/1 วัฒนธรรมไทย √ วฒั นธรรม ม. 3/1 และสากลในแต่ละยุคสมัยจะมคี วาม √ ม. 3/2 แตกตา่ งกนั √ ระหว่างภาค 38 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

61 โครงสรา้ งหลักสูตรรายวชิ าศลิ ปะ รายวิชา ศลิ ปะ(ดนตรี-นาฏศลิ ป)์ รหัสวิชา ศ23102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต เวลา 40 ชว่ั โมง /ภาคเรยี น หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ ต้องรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรียนร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน ตวั ช้ีวัด 15 1 สร้างสรรค์ ศ 2.1 การใชอ้ งคป์ ระกอบในการ 6 องค์ประ กอบดนตรี ม.3/1 สรา้ งสรรค์งานดนตรแี ละศลิ ปะ √ ม.3/2 แขนงอืน่ เทคนิคทใ่ี ช้ในการ √ ม.3/3 สรา้ งสรรค์งานดนตรแี ละศลิ ปะ √ , แขนงอ่ืนการเลอื กใช้จังหวะในการ สร้างสรรค์บทเพลงและการเรยี บ เรยี งทำนองเพลงการเปรยี บเทียบ ความแตกตา่ งของบทเพลง สำเนยี ง อัตราจังหวะ รปู แบบของบทเพลง การประสานเสยี ง เคร่ืองดนตรที ่ีใช้ บรรเลง 2 ทกั ษะ ศ 2.1 เทคนิคในการแสดงออก การขบั 8 20 ดนตรี ม.3/4 ร้อง และบรรเลงดนตรีเด่ยี ว และ √ ม.3/5 รวมวงการประพนั ธ์เพลงเบอื้ งต้น √ ม.3/7 การจดั การแสดงดนตรีในโอกาส √ ต่าง ๆ 3 ดนตรีกบั ศ 2.1 ประวตั ดิ นตรีอทิ ธพิ ลของดนตรแี ละ 6 15 มรดกทาง ม.3/6 ปัจจัยที่ทำให้ดนตรีไดร้ ับการ √ วัฒนธรรม ศ 2.2 ยอมรบั ม.3/1 √ ม.3/2 √

62 หน่วย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้/ ต้องรู้ ควรรู้ (ชั่วโมง) คะแนน ตัวชว้ี ัด 6 10 4 โขน ศ 3.1 ประเภทโขน √ ม.3/1 กำเนดิ โขน ทีม่ าของโขน คะแนนกลางภาค 1 20 5 10 5 สรา้ งสรรค์ ศ 3.1 การใช้องค์ประกอบในการ √ นาฏศลิ ป์ 4 5 และละคร ม.3/5 สรา้ งสรรค์งานนาฏศลิ ปแ์ ละศิลปะ √ สู่ชีวติ ม.3/6 แขนงอนื่ ประจำวัน ม.3/7 การออกแบบเครื่องแตง่ กายและ √ √ 6 นาฏย ศ 3.2 สรา้ งอกุ รณก์ ารแสดง √ ศัพทแ์ ละ ม.3/1 √ ภาษาท่า ม.3/2 ม.3/3 ศ 3.1 นาฏยศัพท์ ม.3/2 ภาษาท่า √ ม.3/4 √ 7 การแสดง ศ 3.1 นาฏศิลปไ์ ทย 55 นาฏศิลป์ ม.3/3 นาฏศิลป์พน้ื เมอื ง √ ระหว่างภาค สอบกลางภาค 38 60 สอบปลายภาค 1 20 1 20 รวม 40 100

63 โครงสรา้ งหลกั สตู รรายวชิ าศิลปะ รายวชิ า ศลิ ปะ(ดนตรี-นาฏศลิ ป)์ รหัสวิชา ศ 31101 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชวั่ โมง /ภาคเรียน หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ ต้องรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน ตวั ชี้วัด 30 1 การสบื สาน ศ 3.1 นาฏศิลป์ไทยเปน็ ศิลปะท่ีมีคุณค่า 2 30 นาฏศลิ ป์ ม.4-6/8 โดยสร้างสรรคม์ าจากท่าทางและ √ ไทย ศ 3.2 การเคล่อื นไหวของผคู้ นใน √ ม.4-6/1 ชีวติ ประจำวัน และนำมา √ ม.4-6/4 ประยุกต์ใช้ในการแสดง การสืบทอดและอนรุ ักษ์นาฏศลิ ป์ √ ไทยน้นั สามารถใช้วธิ แี ละการจัด √ กจิ กรรมที่หลากหลาย อกี ท้งั ยงั ตอ้ ง จัดการแสดงในโอกาสตา่ งๆ อย่าง เหมาะสม 2 การแสดง ศ 3.1 การแสดงนาฏศิลปไ์ ทยผ้แู สดง 10 นาฏศิลป์ ม.4-6/1 จะต้องมีทักษะในการแสดงที่ √ ไทย1 ม.4-6/3 หลากหลายรูปแบบ โดยรปู แบบ √ ของการแสดงนาฏศิลป์จะมีลกั ษณะ √ การแสดงท่ีเปน็ เอกลกั ษณ์ 3 การแสดง ศ 3.1 คะแนนกลางภาค 1 20 นาฏศิลป์ ม.4-6/1 4 10 ไทย2 การแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งของ ศ 3.2 ไทยในแต่ละท้องถ่ินนั้นใชท้ ักษะ √ ม.4-6/2 ในการแสดงทห่ี ลากหลายรูปแบบ √ แสดงถึงความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ มกี ารนำการแสดงไปใช้ในโอกาส ตา่ งๆ ซึ่งบุคคลสำคัญในวงการ นาฏศลิ ป์ของประเทศไทยในยุค สมัยต่างๆ จนถงึ ปจั จุบันเปน็ ผทู้ ม่ี ี บทบาทสำคัญต่อการสรา้ งสรรค์ งานนาฏศิลป์

64 หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ ต้องรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี (ชั่วโมง) คะแนน การเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด 10 4 การชม ศ 3.1 การชม วิจารณ์ และประเมนิ 4 60 การ 20 ม.4-6/4 คณุ ภาพการแสดงจะตอ้ งวจิ ารณ์ √ 20 วิจารณ์ ม.4-6/7 การแสดงตามหลกั นาฏศลิ ป์และ √ 100 และการ การละคร ตลอดจนพฒั นาและใช้ ประเมิน เกณฑ์การประเมินการแสดง คุณภาพ การแสดง ระหว่างภาค 18 สอบกลางภาค 1 สอบปลายภาค 1 20 รวม

65 โครงสร้างหลกั สูตรรายวชิ าศิลปะ รายวิชา ศลิ ปะ(ทัศนศิลป์) รหัสวชิ า ศ31102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ช่วั โมง /ภาคเรียน หน่วย มาตรฐาน เวลา นำ้ หนัก ท่ี (ชั่วโมง) คะแนน ชอ่ื หนว่ ย การเรียนร/ู้ สาระสำคญั ต้องรู้ ควรรู้ ตวั ชี้วัด 1 ทศั นธาตแุ ละ ศ 1.1 •ทัศนธาตแุ ละหลกั การ การออกแบบ ม.4-6/1 ออกแบบ √ 4 25 2 ศัพท์ทาง ศ 1.1 • ศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์ √ 3 10 ทัศนศิลป์ ม.4-6/2 3 เทคนิคของ ศ 1.1 • วัสดุ อุปกรณ์ และ √3 25 ศิลปิน ม.4-6/3 เทคนคิ ของศิลปินในการ 1 20 แสดงออกทางทัศนศิลป์ 10 4 กระบวน √4 การสร้างงาน คะแนนกลางภาค ทัศนศิลป์ ศ 1.1 •เทคนคิ วัสดุ อปุ กรณ์ ม.4-6/4 กระบวนการในการสร้างงาน ทศั นศิลป์ 5 งานทศั นศลิ ป์ ศ 1.2 • งานทศั นศลิ ป์รูปแบบ √ 4 10 ตะวันออกและ ม.4-6/1 ตะวนั ออกและตะวนั ตก ตะวนั ตก 18 60 1 20 ระหว่างภาค 1 20 สอบกลางภาค 20 100 สอบปลายภาค รวม

66 โครงสร้างหลักสตู รรายวชิ าศลิ ปะ รายวิชา ศลิ ปะ(ดนตรี) รหัสวชิ า ศ32101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ เวลา 20 ชวั่ โมง /ภาคเรยี น ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั ตอ้ งรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นร/ู้ (ช่ัวโมง) คะแนน ตวั ชว้ี ัด 1 โน้ตดนตรี ศ 2.1 การศกึ ษาทำความเข้าใจเร่อื ง 4 20 ไทยและ ม.4-6/4 เครอ่ื งหมายและสัญลกั ษณ์ทใี่ ชใ้ น √ สากล ดนตรี จะทำให้เขา้ ใจจงั หวะ และ ทำนองของบทเพลงง่ายขึ้น สามารถขับรอ้ ง และบรรเลงได้ ถกู ต้องตามตวั โน้ต จงั หวะ และ ทำนองเพลง 2 คุณภาพ ศ 2.1 การถา่ ยทอดอารมณ์เพลง ผู้ขบั 2 20 งานดนตรี ม.4-6/5 ร้องและผ้บู รรเลงจะต้องเข้าใจ √ ม.4-6/6 เรอื่ งองค์ประกอบของบทเพลงจะ √ ทำใหเ้ ข้าใจ และสามารถถ่ายทอด อารมณข์ องบทเพลงได้ ทำให้ผฟู้ งั เกดิ อารมณค์ วามรู้สึกไปตาม บทเพลง และสามารถประเมนิ คุณภาพของผลงานทางดนตรไี ด้ วา่ เป็นอยา่ งไร มีคุณภาพและ คุณค่าทางดนตรีเป็นอยา่ งไร 3 ดนตรี ศ 2.1 การนำดนตรีไปประยุกต์ใชใ้ นงาน 2 20 ประยกุ ต์ ม.4-6/8 ตา่ ง ๆ ทำใหผ้ ู้มาร่วมงานมี √ ความสขุ สนุกสนาน ผ่อนคลายไม่ เบ่อื หนา่ ยและทำใหบ้ รรยากาศใน งานน่าสนใจ ดนตรจี งึ เปน็ สงิ่ สำคญั มากตอ่ การจัดงานต่าง ๆ คะแนนกลางภาค 1 20 4 ดนตรีใน ศ 2.1 ดนตรีในแตล่ ะวัฒนธรรมมี 6 10 แต่ละ ม.4-6/7 ลกั ษณะทแี่ ตกต่างกนั ไปตามแต่ √ วัฒนธรรม ศ 2.2 ละทอ้ งถนิ่ ซ่งึ มีเอกลักษณเ์ ฉพาะ ม.4-6/3 เปน็ สิ่งที่เกิดจากภูมปิ ัญญาของคน √ ในทอ้ งถน่ิ ทีถ่ ่ายทอดให้เหน็ ถึง ชีวิต วฒั นธรรม ประเพณขี องคน

67 หน่วย ชอื่ หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคัญ ตอ้ งรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี (ชั่วโมง) คะแนน การเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด 10 5 บทบาท ในท้องถิน่ สรา้ งความสุข √ 4 60 ของดนตรี สนุกสนานผ่อนคลายให้กับคนใน √ 20 ท้องถิ่น เปน็ ส่ิงที่มีคุณคา่ ตอ่ 18 20 ในสงั คม ทอ้ งถน่ิ ทีค่ วรอนุรกั ษ์สบื ทอด 1 100 ตอ่ ไป 1 20 ศ 2.2 ดนตรมี ีบทบาทตอ่ สงั คม สะท้อน ม.4-6/4 ใหเ้ ห็นถึงชวี ิต วฒั นธรรม ความ ม.4-6/5 เจริญกา้ วหนา้ ของสังคม ทำให้ สงั คมเกดิ ความสงบสขุ คนใน สังคมสนุกสนานผ่อนคลาย และ การอนรุ ักษส์ ่งเสริมดนตรไี ทยเปน็ ส่งิ สำคญั ทท่ี ำใหด้ นตรีไทยมี ความ เจริญก้าวหน้า มกี าร พัฒนา และคงอยูส่ ืบต่อไปให้ เยาวชนรนุ่ หลังไดร้ ้จู กั ระหวา่ งภาค สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม

68 โครงสรา้ งหลกั สตู รรายวิชาศลิ ปะ รายวชิ า ศิลปะ(นาฏศลิ ป์) รหัสวิชา ศ32102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรียน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั ต้องรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนร/ู้ (ช่วั โมง) คะแนน ตวั ช้วี ัด 1 นาฏศิลป์ ศ 3.1 นาฏศิลปไ์ ทยมวี ิวฒั นาการมาต้ังแต่ √ 9 40 ไทย √ ม.4-6/1 อดตี จนถึงปจั จบุ ัน ซ่ึงตอ้ งใช้ทักษะ ม.4-6/5 ในการแสดงหลายรปู แบบ โดย ศ 3.2 เฉพาะการแสดงนาฏศลิ ปน์ น้ั สามารถ ม.4-6/3 สอื่ ความหมายในการแสดง √ นอกจากนัน้ ยงั มีอิทธพิ ลของเครือ่ งแตง่ กาย แสง สี เสยี ง ฉาก อปุ กรณ์ และ สถานที่ทม่ี ีผลต่อการแสดง การ ประเมนิ คณุ ภาพของการแสดงจึงมี ความสำคญั ตอ่ การพัฒนาผลงานให้ ทันยคุ สมัย 2 ละคร ศ 3.1 การเรียนรู้เก่ยี วกับววิ ฒั นาการ ความ 6 20 ตะวนั ตก ม.4-6/2 งาม และคุณค่าของละครตะวันตก √ ม.4-6/5 เพ่อื นำไปใชใ้ นการวิเคราะห์แก่นของ √ การละครทีต่ อ้ งการส่ือความหมายใน การแสดง และการศึกษาเกีย่ วกบั ละครสร้างสรรค์ เพ่ือนำไปใช้เป็น แนวทางในการสรา้ งสรรค์ละครใน รปู แบบทีช่ ่นื ชอบตอ่ ไป คะแนนกลางภาค 1 20 3 การแสดง ศ 3.1 เคร่ืองแต่งกาย แสง สี เสยี ง ฉาก √ 3 20 ละคร ม.4-6/2 อปุ กรณ์ และสถานท่มี อี ทิ ธิพลต่อ √ √ สรา้ งสรรค์ ม.4-6/6 การสร้างสรรคล์ ะครส้นั ในรูปแบบ ม.4-6/7 ต่างๆ และตอ้ งมีการประเมนิ คุณภาพการแสดงทง้ั ในด้านการ แสดงและองค์ประกอบการแสดง ระหวา่ งภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

69 โครงสร้างหลกั สตู รรายวิชาศลิ ปะ รายวชิ า ศิลปะ(ทัศนศลิ ป)์ รหัสวิชาศ33101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรยี น หนว่ ย มาตรฐาน เวลา นำ้ หนัก ท่ี (ชว่ั โมง) คะแนน ชื่อหนว่ ย การเรยี นรู/้ สาระสำคัญ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ตวั ช้ีวัด 1 ศ 1.1 ศลิ ปะพ้นื ฐาน พื้นฐาน ศลิ ปะ ม.4-6/1 - ประเภทของศิลปะ √ 2 30 - ทัศนศิลป์ 2 ศ 1.1 การถา่ ยทอดรูปแบบทาง √ 6 30 ม.4-6/5 ทศั นศิลป์ √√ √√ 20 การสร้าง มม.4-6/6 - ทัศนธาตุของการออกแบบ 10 งานศลิ ปะ ม.4-6/7 √ 1 10 4 ม.4-6/8 √ ม.4-6/9 6 √ คะแนนกลางภาค √ √ 3 ศ 1.1 สุนทรยี ศาสตร์ สนุ ทรยี ม.4-6/10 - พน้ื ฐานการรบั รู้ ศลิ ป์ ม.4-6/11 - ความงามในการใชส้ ีใน ชีวิตประจำวนั 4 ศิลปะภมู ิ ศ 1.2 -จิตรกรรมไทย ปัญญาไทย ม.4-6/1 - ประติมากรรมไทย และสากล ม.4-6/2 - สถาปัตยกรรมไทย ม.4-6/3 - ศิลปหัตถกรรมพนื้ บา้ นไทย - ศิลปะสากล ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 20 100 รวม

70 โครงสรา้ งหลักสูตรรายวิชาศิลปะ รายวชิ า ศลิ ปะ(ดนตรี) รหัสวิชา ศ33102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรยี น หน่วย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั ต้องรู้ ควรรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนร้/ู (ชัว่ โมง) คะแนน ตวั ชี้วัด 10 10 1 สร้างสรรค์ ศ 2.1 การสร้างสรรคง์ านดนตรเี กิดขนึ้ 2 งานดนตรี ม.4-6/2 จากปจั จยั หลายดา้ นทท่ี ำให้ดนตรี √ 20 ม.4-6/3 เกดิ การพฒั นาขน้ึ ทำให้มนุษย์เกดิ √ 20 ความผอ่ นคลาย สนุกสนาน เม่ือได้รบั ฟงั หรอื ชมผลงานดนตรี 2 โนต้ ดนตรี ศ 2.1 การศกึ ษาทำความเข้าใจเรื่อง 5 ไทยและ ม.4-6/4 เครื่องหมายและสญั ลกั ษณ์ท่ใี ช้ใน √ สากล ดนตรี จะทำให้เขา้ ใจจงั หวะ และ ทำนองของบทเพลงง่ายขน้ึ สามารถขับรอ้ งและบรรเลงได้ ถกู ตอ้ งตามตวั โน้ต จังหวะ และ ทำนองเพลง 3 คณุ ภาพ ศ 2.1 การถา่ ยทอดอารมณเ์ พลง ผู้ขับร้อง 3 งานดนตรี ม.4-6/5 ม.4-6/6 และผู้บรรเลงจะตอ้ งเขา้ ใจเรอ่ื ง √ องคป์ ระกอบของบทเพลงจะทำให้ √ เขา้ ใจ และสามารถถ่ายทอดอารมณ์ ของบทเพลงได้ ทำใหผ้ ู้ฟงั เกิด อารมณค์ วามร้สู กึ ไปตามบทเพลง และสามารถประเมินคุณภาพของ ผลงานทางดนตรไี ด้วา่ เป็นอย่างไร มี คุณภาพและคณุ ค่าทางดนตรเี ปน็ อยา่ งไร 4 ดนตรี ศ 2.1 การนำดนตรไี ปประยุกต์ใชใ้ นงาน 3 ประยุกต์ ม.4-6/8 ต่าง ๆ ทำใหผ้ มู้ าร่วมงานมีความสขุ √ สนกุ สนาน ผอ่ นคลายไม่เบอ่ื หน่าย และทำให้บรรยากาศในงาน นา่ สนใจ ดนตรจี งึ เป็นส่ิงสำคญั มาก ต่อการจดั งานตา่ ง ๆ

71 หน่วย ช่อื หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคัญ ตอ้ งรู้ ควรรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี คะแนนกลางภาค (ช่ัวโมง) คะแนน การเรยี นร้/ู 1 ตัวช้ีวัด 20 10 5 ยุคสมัย ศ 2.2 1. รปู แบบบทเพลงและวงดนตรี √ 2 ของดนตรี ม.4-6/1 ไทยและสากลในแตล่ ะยุคสมยั √ 10 ม.4-6/2 3 6 บทบาท มีความแตกตา่ งกนั และมกี าร √ 60 ของดนตรี ศ 2.2 √ 18 20 ม.4-6/4 พฒั นาขน้ึ ทำใหบ้ ทเพลงและ 1 20 ในสังคม ม.4-6/5 1 100 วงดนตรมี ีความหลากหลาย มีการ 20 พฒั นามากข้นึ เพอ่ื ตอบสนองความ ต้องการของผู้ฟงั จนเปน็ ที่ช่นื ชอบ และนิยม บุคคลสำคัญของวงการดนตรีทงั้ ของไทยและสากล เปน็ ผู้ เชีย่ วชาญและสร้างสรรค์ทางดา้ น ดนตรี มผี ลงานมากมาย ส่งผลให้ การดนตรีมรี ปู แบบหลากหลายและ มีการพัฒนามาจนถงึ ปัจจุบัน ดนตรมี บี ทบาทตอ่ สังคม สะท้อน ให้เหน็ ถึงชวี ิต วัฒนธรรม ความ เจรญิ ก้าวหนา้ ของสังคม ทำให้ สงั คมเกิดความสงบสุข คนในสงั คม สนกุ สนานผ่อนคลาย และ การอนุรกั ษ์ส่งเสรมิ ดนตรไี ทย เปน็ ส่ิงสำคัญที่ทำให้ดนตรไี ทย มีความเจริญกา้ วหนา้ มีการพฒั นา และคงอยสู่ บื ต่อไปให้เยาวชนรนุ่ หลังไดร้ ู้จกั ระหวา่ งภาค สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม

72 โครงสร้างหลักสูตรรายวิชาเพิม่ เติม รายวชิ า ศิลปะ(จิตรกรรม) รหสั วชิ า ศ20201 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชว่ั โมง /ภาคเรยี น หน่วย ชอื่ หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ท่ี คะแนน 1 พื้นฐาน 1.เลือกใชว้ ัสดุ วสั ดอุ ุปกรณ์การเขยี นภาพและองคป์ ระกอบศิลป์มี 5 10 ด้าน อปุ กรณแ์ ละการ ทศั นศลิ ป์ ความสำคัญในการสร้างสรรคง์ านจติ รกรรม นำองคป์ ระกอบ สามารถเลือกใช้วัสดอุ ุปกรณ์ให้เหมาะสมกับชนดิ ศลิ ปม์ าใช้ในการ งานและการนำองค์ประกอบศิลปม์ าประยกุ ต์ใช้ใน ปฏิบตั งิ าน การสร้างสรรคผ์ ลงานทัศนศลิ ป์ด้านการวาดภาพจะ จิตรกรรมได้อย่าง ชว่ ยพัฒนาทักษะ สมรรถนะและคุณลกั ษณะอันพึง เหมาะสม ประสงค์ของผเู้ รยี นได้อยา่ งมีคุณภาพเพือ่ ใหผ้ ลงาน ปลอดภัย และมี มีคณุ ภาพ ความรับผิดชอบ 2 ทัศนธาตุที่ 2.บรรยาย ทศั นธาตุ จดุ เส้น รูปร่าง รปู ทรง พน้ื ผิว พ้ืนที่ 5 20 ใช้ในงาน หลักการใช้ทัศน ว่าง น้ำหนกั อ่อนแก่ สีเป็นพ้นื ฐานสำคัญจะต้อง จติ รกรรม ธาตุ จุด เส้น ศึกษาและฝกึ ปฏิบตั เิ พื่อให้เกดิ ความเข้าใจนำไปสู่ รปู รา่ ง รูปทรง การสรา้ งสรรคง์ านจิตรกรรมทสี่ งู ข้ึน พ้นื ผวิ พื้นทวี่ ่าง นำ้ หนักออ่ นแก่ สีมาใชใ้ นงาน จิตรกรรมและฝึก ปฏิบัติงานนำ องค์ประกอบ ศลิ ป์มา สรา้ งสรรคง์ าน จติ รกรรม 3 พื้นฐาน 3.วาดภาพโดยใช้ รูปร่างพืน้ ฐานประกอบด้วยรปู รา่ งวงกลม รปู รา่ ง 3 20 การวาด เทคนคิ ของแสง สามเหลย่ี ม รูปร่างสี่เหลยี่ ม รูปร่างวงรี และการ เงา ภาพด้วย แรเงา นำหนักแสงเงาเปน็ ความรู้พ้ืนฐานในการ นำ้ หนัก แสงเงา เรยี นรูน้ ำไปสกู่ ารสรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ปด์ า้ นการ วาดภาพ การลงนำ้ หนักแสงเงาไดถ้ ูกต้อง จำเปน็ ตอ้ งนำความรเู้ รื่องหลักการวาดภาพ วัสดุ อปุ กรณ์ ข้นั ตอนการวาดภาพจะช่วยพัฒนาทักษะ สมรรถนะและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของ ผู้เรยี นไดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ

73 หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระสำคญั ตอ้ งรู้ ควรรู้ ท่ี เรียนรู้/ตัวช้ีวัด 10 4 การ 4.ระบบุ รรยาย การเรียนรู้เทคนคิ วธิ ีการตา่ งๆ และวัสดอุ ุปกรณ์ 20 สรา้ งสรรค์ เทคนคิ วธิ กี าร ในการสร้างสรรค์งานจติ รกรรม จะช่วยให้สามารถ 20 งาน ตา่ งๆและวสั ดุ ปฏบิ ัติงานได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและทำให้ผลงาน 60 กิจกรรม อปุ กรณใ์ นการ ที่สร้างสรรค์ออกมาเกดิ ความนา่ ประทับใจ 3 20 20 สร้างสรรคง์ าน 100 จติ รกรรม สามารถปฏิบัติ คะแนนกลางภาค 1 5 การเขียน 5.เขียนภาพ การเขยี นภาพระบายสีให้สวยงามได้ตอ้ งเรยี นรู้ ภาพ ระบายสีตาม เรอ่ื งหลกั การ ข้ันตอนเทคนคิ วธิ ีการ สามารถ ระบายสี หลักการ นำมาฝกึ ปฏบิ ัติได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสมตาม ข้นั ตอน เทคนคิ กระบวนการทางศิลปะ วธิ กี าร สามารถ 3 ฝกึ ปฏบิ ตั ิไดอ้ ย่าง ถูกตอ้ ง เหมาะสมตาม กระบวนการทาง ศิลปะ ระหวา่ งภาค 18 สอบกลางภาค 1 สอบปลายภาค 1 รวม 20

74 โครงสร้างหลกั สูตรรายวิชาเพ่มิ เติม รายวิชา การปฏบิ ตั ิขลยุ่ รคี อร์เดอร์ รหสั วชิ า ศ20202 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชวั่ โมง /ภาคเรยี น หนว่ ย ช่ือหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ท่ี คะแนน 1. ความรู้ 1.ศกึ ษาความรู้ ขล่ยุ รีคอรเ์ ดอร์ เป็นเครื่องดนตรีทีม่ ีประวัติอนั เบื้องตน้ เก่ยี วกบั ประวัติ เก่าแกย่ าวนานพอสมควร และมีต้นกำเนดิ ในทวีป เกีย่ วกับ ความเป็นมาของ เอเชีย ผ่านมาทางประเทศสเปนในทวปี ยุโรป เริ่ม ขลุ่ยรีคอร์ ขล่ยุ รคี อรเ์ ดอร์ นำมาใช้ในยุโรปสมัยกลาง พัฒนาการมาจาก การ เดอร์ เปาแบบรูเดยี ว มาเปน็ 2 รู และในสมยั กลางเปน็ แบบท่ีมี 3 รู จากการศกึ ษาของนักประวัติ ดนตรี และนักดนตรีวิทยาตา่ งๆ มหี ลกั ฐานว่า ขลุ่ยรีคอร์ 5 30 เดอรถ์ กู สรา้ งขนึ้ ในราวตอนปลายของ คริสตศ์ ตวรรษที่ 14 จากหลกั ฐานบนั ทกึ ท่เี ก่าแก' ในปี ค.ศ.1388 ได้เรียกเครือ่ งดนตรชี นิดนี้ ว่า FisulaNomieRicordoหมายถงี เคร่ืองดนตรที ม่ี ี ลกั ษณะเปน็ ทอ่ หรืออาจจะถกู เรยี กว่า ฟลุ้ต ซึ่งมี ลักษณะท้ังเปา่ แนวตงั้ (Vertical Flute) และแบบ เป่าในแนวขวาง (Transvrse Flute) 2. ส่วนประ 2.อธบิ ายลักษณะ ขล่ยุ รคี อรเ์ ดอร์เปน็ เครอ่ื งดนตรที ่มี ลี กั ษณะเปน็ ท่อ กอบและ ส่วนประกอบ ตงั้ ตรง มปี ากเปา่ และรูปดิ เปิดบังคบั ทิศทางลม การดูแล เสยี ง และการ เพือ่ ใหเ้ กิดเสียง ไดแ้ บง่ ลดั สว่ นด้วยกนั คอื ส่วนบน รกั ษาขลุย่ ดแู ลรักษาขล่ยุ รี (Head Joint) ส่วนกลาง (Body Joint) ส่วนลา่ ง 3 30 รีคอรเ์ ดอร์ คอรเ์ ดอร์ (Foot Joint) โดยสว่ นบนเปน็ ส่วนทีใ่ ซ้ปากเปา่ ให้ เกดิ เสียง ในส่วนกลางและสว่ นล่าง เป็นตัวบงั คับ ทศิ ทางลมให้เกดิ ระดบั เสยี งตา่ ง คะแนนกลางภาค 1 20 สรา้ งสรรค์ 3.แสดงทา่ นง่ั ท่า ท่าทางในการเป่ารีคอร์เดอร์ทีถ่ ูกต้องน้ัน มีส่วน ผลงาน ยนื และวิธีการจับ ช่วยพฒั นาองค์ประกอบดา้ นอ่ืนๆ ในการเลน่ ทง้ั ใน ขลยุ่ รีคอร์เดอร์ เร่ืองการหายใจ การวางตำแหน่งนิว้ เทคนิคต่างๆ ขณะบรรเลง และเสริมบุคลกิ ภาพให้ผ้เู ล่น ทา่ ทางในการเปา่ 10 20 4.ฝกึ บรรเลงเดี่ยว ขลุย่ รีคอร์เดอร์เป็นการใช้ธรรมชาติของรา่ งกายให้ เพลงงา่ ย ๆ ถูกต้อง ดังน้ันผู้เลน่ ควรสรา้ งความสัมพันธ์ระหว่าง ขลุ่ยรีคอร์เดอรก์ ับร่างกายของผเู้ ลน่ ให้เป็นอันหนง่ึ อันเดยี วกนั ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

75 โครงสร้างหลักสตู รรายวิชาเพิม่ เติม รายวิชา การขับรอ้ งเพลงไทยสากล รหสั วิชา ศ20203 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ชัว่ โมง /ภาคเรียน หน่วย ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ท่ี คะแนน องคป์ ระ 1.เข้าใจองค์ประกอบ องค์ประกอบของบทเพลงคำร้อง ทำนอง 1 กอบบท ต่างๆ ของบทเพลงไทย จังหวะ 2 10 เพลง สากล 2 หลกั การ 2.ศึกษาหลักการและ ความหมายและความสำคัญในการขบั ร้อง 2 10 และวิธีการ วธิ กี ารขบั รอ้ งเพลงไทย เพลงคุณสมบัติของผขู้ ับรอ้ งเพลง ขับร้อง สากล เพลงไทย การเตรยี มความพรอ้ มในการร้องเพลง และแหล่งกำเนดิ เสียง สากล ทกั ษะการ 3.ผูเ้ รยี นฝกึ ทกั ษะการ ทกั ษะการหายใจในการรอ้ งเพลง 3 ขบั รอ้ ง ขับร้องเพลงไทยสากล ทักษะการปฏบิ ัตจิ งั หวะดนตรแี ละทำนอง 5 20 เพลงไทย อย่างถูกตอ้ ง เพลงออกเสียงสระ พยญั ชนะ และใช้แม่ สากล สะกด ต่างๆในการรอ้ งเพลง 4 ขับรอ้ ง 4.ผเู้ รยี นมที ักษะการขบั ปฏิบัตกิ ารขับร้องเพลงตามบทเพลงที่ 4 20 เพลงไทย รอ้ งเพลงไทยสากล ตาม กำหนด เชน่ เพลงชาติไทย เพลง สรรเสริญพระบารมี สากล ตาม แบบทกี่ ำหนดอย่าง แบบที่ ถกู ตอ้ ง กำหนด คะแนนกลางภาค 1 20 ขบั รอ้ ง 5. ผูเ้ รยี นมที ักษะการ ปฏบิ ตั กิ ารขับรอ้ งเพลงตามความสนใจ เพลงไทย ขับร้องเพลงไทยสากล 5 สากล ตาม ตามความสนใจอย่าง 3 10 ความสนใจ ถูกตอ้ ง การ 6.ผเู้ รยี นสามารถนำ การแสดงออกด้านดนตรีอยา่ งเหมาะสม 2 10 ถา่ ยทอด ทกั ษะการขบั รอ้ งเพลง 6 บทเพลง ไทยสากลไปประยุกตใ์ ช้ ในชีวติ ประจำวันได้ อยา่ งมคี วามสุข ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

76 รายวิชา นาฏศลิ ปพ์ ้นื เมอื ง โครงสรา้ งหลักสตู รรายวชิ าเพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ภาคเรียนที่ 1 รหสั วิชา ศ32201 เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรียน จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ลำดบั ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี ชัว่ โมง คะแนน 1 ประวตั คิ วามเปน็ มา 1. มีความร้คู วามเข้าใจเกีย่ วกับนาฏศลิ ป์ 2 20 พ้นื เมอื งในเรอ่ื งประวตั ิความเป็นมาการแต่ง 20 กายลีลาทา่ รำ 20 2 ประเภทของการ 2. นกั เรยี นสามารถบอกและอธิบายประเภท 2 แสดงพื้นเมอื ง ของการแสดงพืน้ เมืองประวัตบิ ุคคลในท้องถิน่ ที่ 20 ประสบผลสำเร็จในการสรา้ งศิลปะพ้นื บ้านได้ 10 3 ฝกึ ปฏิบัติ 3. นกั เรียนสามารถฝึกแสดงนาฏศิลปพ์ น้ื เมอื ง 4 5 การละเล่นพนื้ เมืองร้องและรำเพลงพนื้ เมอื ง 5 ตามความสนใจได้ 60 คะแนนกลางภาค 1 20 20 4 ปฏบิ ตั กิ ารแสดง 4. นักเรยี นมีทกั ษะและสามารถจดั การแสดง 4 100 ศิลปะพ้นื บ้านสุรนิ ทร์ พื้นบ้านของจังหวัดสุรินทร์และศลิ ปะพ้ืนบ้าน ของภาคอืน่ ๆของประเทศไทยเปน็ คร้ังคราวได้ 5 ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน 6. นักเรยี นสามารถสำรวจและทำความเขา้ ใจ 3 ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ินได้ 6 ถ่ายทอดอนรุ กั ษ์ภูมิ 7. นักเรยี นมีความชื่นชมเห็นคุณคา่ และ 3 ปัญญาพ้นื บา้ น ภาคภมู ใิ จในศลิ ปะการแสดงพ้นื บ้านภมู ปิ ัญญา ทอ้ งถ่ินมีความตระหนักท่ีจะถา่ ยทอดและ อนุรกั ษ์และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ต่อไป ระหวา่ งภาค 18 สอบกลางภาค 1 สอบปลายภาค 1 20 รวม

77 โครงสร้างหลกั สตู รรายวชิ าเพม่ิ เตมิ รายวิชา จติ รกรรมไทย รหัส วิชา ศ32203 กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรียน หนว่ ย ช่ือหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก ท่ี คะแนน 1 จิตรกรรม 1.ปฏบิ ัติงานเขียน จติ รกรรมไทย เปน็ ศลิ ปะประจำชาติไทยท่ี ไทยกับ ลวดลายตามแบบ สร้างสรรคข์ น้ึ โดยฝีมือและสติปญั ญา ของชา่ ง อุดมคติ อุดมคตไิ ทยลงใน ไทยทย่ี ดึ ถืออดุ มคติเก่ยี วกบั ความงาม ความ ภาพได้ ศักด์สิ ทิ ธิ์ ฉะนน้ั ความงามของจิตรกรรมไทยจึง 2 10 เปน็ ความงามแบบอุดมคตไิ ทย มีลักษณะเกิน ความจริง โดยมีธรรมชาติเปน็ แม่แบบและเป็นแรง บันดาลใจ 2 ลายไทย 2.อธิบาย ลายไทยเบ้อื งต้น เชน่ ลายกระจงั ลายกนก ลาย เบอื้ งตน้ ความหมายของลาย ประจำยาม เป็นลายไทยพื้นฐานในการเขียนงาน 3 10 ไทยเบอ้ื งตน้ และ จิตรกรรมไทยข้นั สงู ต่อไป การนำไปใช้ได้ 3 ความรู้ 3.มีความรคู้ วาม ลายกระจงั เปน็ แม่แบบพนื้ ฐานเบอื้ งต้นของลาย เกยี่ วกับ เข้าใจเกี่ยวกับลาย ไทย ใช้สำหรับตกแตง่ ตามฐานเสา ฐานตหู้ รอื 3 10 ลายกระจัง กระจงั และสามารถ สิ่งกอ่ สรา้ งต่างๆ ตามแนวนอน ปฏบิ ตั ไิ ด้ 4 ลายกระจงั 4.มีความรคู้ วาม ลายกระจังใบเทศและลายกระจงั ปฏิญาณ เปน็ ใบเทศและ เข้าใจ เก่ียวกบั การ ลายกระจังทใ่ี ชต้ กแต่งทงั้ งานจิตรกรรมไทยและ ลายกระจัง เขยี นลายกระจงั ใบ งานสถาปัตยกรรมไทย เช่น วดั โบสถ์ วหิ าร ปฏญิ าณ เทศ ลายกระจัง เรือนไทย เปน็ ต้น ปฏญิ าณและ 2 10 สามารถปฏิบตั ิได้ ดว้ ยความช่ืนชม และเห็นคุณคา่ 5.มคี วามรู้ความ เข้าใจ เกี่ยวกบั ลาย ลายประจำยามเปน็ แมแ่ บบพื้นฐานเบ้อื งตน้ ของ ลายประจำ ประจำยามและ ลายไทย ใช้ประดบั ตามมมุ ท้ัง 4 ทิศ จึงเรยี กวา่ 5 ยาม สามารถปฏิบัติได้ ลายประจำยามหรือลายหนา้ กระดาน 10 ด้วยความชนื่ ชม

78 หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคัญ ต้องรู้ ควรรู้ ท่ี เรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด 10 กาบ 6.นกั เรยี นมี กาบถอื วา่ เปน็ เคร่อื งประกอบลายท่ีสำคัญมากใน 20 ความรคู้ วามเข้าใจ ลายไทย เพราะจะเป็นตวั แตกหน่อตอ่ ลายการ 10 6 เก่ียวกับกาบท่จี ะใช้ เขียนลายจะเริม่ ตน้ ท่ีกาบแมล่ ายนนั่ เอง 3 10 เป็นตัวแตกหนอ่ ตอ่ 60 20 ลายไทยและ 20 100 สามารถปฏิบตั ไิ ด้ คะแนนกลางภาค 1 ลาย 7.นกั เรยี นมี ลายกระหนกเป็นส่วนประกอบท่ีสำคญั ของลาย กระหนก ความรคู้ วามเข้าใจ ไทย ใช้ผูกเขียนเปน็ ลวดลาย มีทัง้ ระบายสี ปิด 7 เก่ียวกับลาย ทอง ปั้น หรอื แกะสลัก กระหนกมหี ลายชนิด -3 กระหนกและ เช่น กระหนกสามตวั กนกใบเทศ กระหนกเปลว สามารถปฏิบัติได้ กระหนกหางใด กระหนกลานกา้ นขด และกนก ด้วยความชนื่ ชม เครอื วลั ย์ ลายเถา 8.มีความรคู้ วาม ลายเถาเปน็ ลายท่ีใชป้ ระดบั เสาภายในโบสถ์ วิหาร เข้าใจเก่ยี วกับลาย ปราสาท ราชฐาน ฯลฯ และอาจจะใช้เปน็ ลาย 8 เถา และสามารถ ประดับกรอบรูป หรือเป็นลายของขอบต่างๆ ก็ได้ 2 เขยี นลายเถาได้ดว้ ย ความชืน่ ชม ระหว่างภาค 18 สอบกลางภาค 1 สอบปลายภาค 1 รวม 20

79 โครงสร้างหลักสตู รรายวชิ าเพิม่ เตมิ รายวชิ า ดนตรีและนาฏศิลป์ 2 รหัส วิชา ศ 3020 กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรยี น ********************************************************************************** ลำดับ หนว่ ยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา(ชัว่ โมง) น้ำหนักคะแนน ท่ี 1 1. ศึกษาและปฏิบัตเิ คร่ือง • ศกึ ษาและปฏิบัติเคร่ืองดนตรปี ระเภท 4 10 ดนตรปี ระเภทเครอ่ื งดดี เครื่องดดี เครอื่ งสี เคร่ืองตี เครื่องเป่า เครือ่ งสี เครอ่ื งตี เครือ่ ง เป่า 2 2. ฝึกโสตประสาท • ฝึกโสตประสาท 3 10 3 3. ศกึ ษาทฤษฎแี ละโน้ต • ศึกษาทฤษฎแี ละโนต้ สากล เพ่อื เป็น 3 10 สากล เพ่ือเป็นพน้ื ฐานไปสู่ พนื้ ฐานไปสูก่ ารบรรเลงเดยี่ ว การบรรเลง การบรรเลงเด่ียว การ รวมวง บรรเลงรวมวง 4 4. ศกึ ษานาฏศิลปใ์ นเรื่อง • ศกึ ษานาฏศิลปใ์ นเร่อื งศัพทเ์ บอื้ งต้น 4 20 ศัพท์เบอื้ งต้นทางการรำ ทางการรำ จงั หวะ ทา่ ทาง ลลี า การแตง่ จงั หวะ ท่าทาง ลีลา การ กาย การแสดงทา่ ประกอบจังหวะ และ แต่งกาย การแสดงท่า เพลงประกอบการเคลอ่ื นไหว ประกอบจังหวะ และเพลง ประกอบการเคลอื่ นไหว 5 5. ฝึกท่วงท่าลีลา การ • ฝึกทว่ งทา่ ลีลา การเคลือ่ นไหวตาม 4 10 เคลอ่ื นไหวตามจงั หวะและ จงั หวะและความ รสู้ ึก ฝกึ ปฏิบัติการรำ ความ รูส้ กึ ฝึกปฏิบตั กิ ารรำ แบบพืน้ เมอื ง การรำแบบมาตรฐาน แบบพนื้ เมอื ง การรำแบบ มาตรฐาน คะแนนกลางภาค 1 20 6 6. มีความเขา้ ใจ เหน็ คณุ คา่ • มคี วามเข้าใจ เห็นคุณค่าสามารถรำเข้า 4 20 สามารถรำเขา้ กับจังหวะ กบั จังหวะ เคลอ่ื นไหวได้อย่างเปน็ เคลือ่ นไหวได้อย่างเป็น ธรรมชาติ 18 60 ธรรมชาติ 1 20 1 20 ระหวา่ งภาค 20 100 สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม

80 โครงสร้างหลักสตู รรายวชิ าเพิ่มเตมิ รายวิชา ลายไทย รหัสวิชา ศ 30202 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชว่ั โมง /ภาคเรยี น ********************************************************************************* ลำดับ หน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา(ชว่ั โมง) นำ้ หนักคะแนน ท่ี 1 1. อธบิ ายความหมาย • อธบิ ายความหมาย คุณคา่ ลายพน้ื บ้าน 4 10 คณุ ค่า ลายพ้นื บา้ น หรอื ลายไทย หรือลายไทย 2 2. บอกชือ่ คุณสมบัติ • บอกชือ่ คุณสมบตั ิ วธิ ีการใช้และการ 5 10 วิธกี ารใช้และการดแู ล ดูแลรักษาวัสดอุ ุปกรณล์ ายพ้ืนบ้านหรือลาย รกั ษาวัสดุอปุ กรณ์ลาย พน้ื บ้านหรอื ลายไทย ไทย 3 3. ถา่ ยทอดการ • ถา่ ยทอดการมองเหน็ โดยลายพนื้ บ้านหรือ 2 10 มองเห็นโดยลาย ลายไทย ประกอบแสงเงาเลยี นแบบธรรมชาติ พื้นบ้านหรอื ลายไทย ประกอบแสงเงา เลยี นแบบธรรมชาติ 4 4. สามารถวาดภาพ • สามารถวาดภาพลายพืน้ บา้ นหรือลายไทย 3 20 ลายพืน้ บา้ นหรอื ลาย แสดงระยะไกลใกล้ เปน็ 3 มติ ิ ไทย แสดงระยะไกล ใกล้ เป็น 3 มิติ 5 5. ลายพน้ื บา้ นหรือ • ลายพนื้ บ้านหรอื ลายไทยแสดงค่านำ้ หนกั 2 10 ลายไทยแสดงค่า อ่อน- แก่ของแสงและเงาทตี่ กกระทบบนวตั ถุ นำ้ หนกั อ่อน- แกข่ อง ไดถ้ ูกตอ้ งตามสภาพจรงิ แสงและเงาทีต่ ก กระทบบนวตั ถไุ ด้ ถกู ตอ้ งตามสภาพจริง คะแนนกลางภาค 1 20 6 6. ลายพ้นื บ้านหรือ • ลายพน้ื บ้านหรือลายไทย สิง่ ของ สัตว์ 2 20 ลายไทย สง่ิ ของ สัตว์ ทิวทัศน์ และคนเหมือนโดยวิธกี ารออกแบบ ทวิ ทัศน์ และคน 18 60 เหมือนโดยวิธกี าร ลายพนื้ บ้านหรอื ลายไทยได้ 1 20 1 20 ออกแบบลายพน้ื บา้ น 20 100 หรอื ลายไทยได้ ระหว่างภาค สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม

81 โครงสร้างหลกั สตู รรายวชิ าเพม่ิ เติม รายวิชา การละคร รหสั วิชา ศ 30206 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ภาคเรียนท่ี 1-2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชว่ั โมง /ภาคเรยี น ********************************************************************************* ลำดบั หน่วยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา(ชั่วโมง) น้ำหนักคะแนน ท่ี 1 1. อธบิ ายความหมาย • อธิบายความหมาย คุณค่า วเิ คราะห์ 2 10 องคป์ ระกอบของละคร คณุ ค่า วเิ คราะห์ องคป์ ระกอบของละคร 2 2. หลกั การ วธิ ีการ การ • หลักการ วธิ กี าร การเลอื กบท การตี 3 10 เลอื กบท การตีบท การสรา้ ง บท การสร้างอารมณ์ การแตง่ กาย การ อารมณ์ การแตง่ กาย การ แตง่ หนา้ ปฏบิ ัตกิ ารเลือก แต่งหน้า ปฏบิ ตั ิการเลอื กบทละครและ บทละครและแสดงละคร แสดงละคร 3 3. มีทกั ษะในการแสดง • มีทักษะในการแสดงหลากหลาย 3 10 หลากหลายรปู แบบ รูปแบบสร้างสรรค์ละครส้นั ในรูปแบบที่ สร้างสรรคล์ ะครสัน้ ใน ช่นื ชอบ รปู แบบทีช่ ่ืนชอบ 4 4. สามารถสรา้ งงานศิลปะ • สามารถสร้างงานศลิ ปะประดษิ ฐแ์ สดง 4 20 ประดิษฐ์แสดงระยะไกลใกล้ ระยะไกลใกล้ เป็น 3 มติ ิ เปน็ 3 มิติ 5 5. บรรยายและวเิ คราะห์ • บรรยายและวิเคราะหอ์ ทิ ธพิ ลของ 4 10 อิทธพิ ลของเครอ่ื งแตง่ กาย เครอื่ งแต่งกาย แสง สี เสียง ฉาก อุปกรณ์ แสง สี เสียง ฉาก อุปกรณ์ และสถานที่ทม่ี ผี ลต่อการแสดง และสถานที่ทีม่ ีผลต่อการ แสดง คะแนนกลางภาค 1 20 6 1. อธบิ ายความหมาย • อธบิ ายความหมาย คุณค่า วเิ คราะห์ 3 20 คณุ ค่า วิเคราะห์ องคป์ ระกอบของละคร องคป์ ระกอบของละคร ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 20 100 รวม

82 โครงสร้างหลักสตู รรายวชิ าเพมิ่ เติม รายวิชา การวาดภาพลายเส้น รหสั วิชา ศ 302077 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรียนที่ 1-2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ********************************************************************************* ลำดบั หน่วยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา(ช่วั โมง) นำ้ หนกั คะแนน ท่ี 1 1. อธิบายความหมาย • อธบิ ายความหมาย คุณค่า หลักการ 4 10 คุณค่า หลกั การของการ ของการวาดเสน้ วาดเส้น 2 2. บอกช่ือ คณุ สมบัติ • บอกชือ่ คุณสมบัติ วธิ กี ารใชแ้ ละการ 3 10 วิธกี ารใชแ้ ละการดแู ลรกั ษา ดแู ลรักษาวสั ดุอุปกรณ์การวาดเสน้ วสั ดอุ ปุ กรณก์ ารวาดเส้น 3 3. ถา่ ยทอดการมองเห็นโดย • ถา่ ยทอดการมองเห็นโดยการวาดเส้น 3 20 การวาดเสน้ ประกอบแสงเงา ประกอบแสงเงาเลียนแบบธรรมชาติ เลยี นแบบธรรมชาติ 4 4. สามารถวาดภาพ • สามารถวาดภาพทัศนียภาพแสดง 4 20 ทศั นยี ภาพแสดงระยะไกล ระยะไกลใกล้ เป็น 3 มติ ิ ใกล้ เปน็ 3 มิติ คะแนนกลางภาค 1 20 5 5. วาดภาพแสดงค่านำ้ หนกั • วาดภาพแสดงค่านำ้ หนกั อ่อน- แกข่ อง 3 10 อ่อน- แกข่ องแสงและเงาท่ี แสงและเงาท่ตี กกระทบบนวัตถไุ ดถ้ ูกตอ้ ง ตกกระทบบนวัตถไุ ด้ถูกตอ้ ง ตามสภาพจริง ตามสภาพจรงิ 6 6. วาดภาพสง่ิ ของ สัตว์ • วาดภาพสิง่ ของ สตั ว์ ทิวทัศน์ และ 4 10 ทวิ ทศั น์ และคนเหมอื นโดย คนเหมือนโดยวธิ ีการวาดเสน้ ได้ วิธีการวาดเสน้ ได้ ระหว่างภาค 18 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 20 100 รวม

83 โครงสรา้ งหลักสตู รรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รายวิชา ดนตรีพ้นื บ้านอสี านโปงลาง รหัสวิชา ศ 23208 กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ภาคเรยี นท่ี 1-2 จำนวน 1.0 หน่วยกิต เวลา 40 ชัว่ โมง /ภาคเรยี น ******************************************************************************** หน่วยการ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ จำนวน น้ำหนกั เรยี นรู้ หน่วยยอ่ ยการเรยี นรู้ ช่วั โมง คะแนน 1 เรอื่ งประวัตคิ วามเปน็ มาของ มีความรูค้ วามเข้าใจเรื่องดนตรีพ้นื บา้ นอีสาน 5 30 โปงลาง ประเภทโปงลาง 7 30 2 สว่ นประกอบของโปงลาง ความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบของดนตรีพ้นื 20 พนื้ บ้านโปงลาง 10 คะแนนกลางภาค 1 10 3 การบรรเลงโปงลางลายพน้ื ฐานและ สามารถปฏิบตั ิเคร่ืองดนตรีพ้นื บา้ นอีสานประเภท 8 วิธกี ารตีโปงลาง โปงลางได้ 4 การบรรเลงโปงลาง การผสมวงดนตรพี ้นื บา้ นอีสานโปงลาง 18 ระหว่างภาค 38 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

84 โครงสร้างหลกั สตู รรายวิชาเพม่ิ เตมิ รายวิชา การทอเสื่อกก 1 รหสั วิชา ศ 31201 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 1.0 หน่วยกติ เวลา 40 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ******************************************************************************** หนว่ ยการ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนกั เรียนรู้ หนว่ ยยอ่ ยการเรยี นรู้ ชัว่ โมง คะแนน 1 เรือ่ งประวัติความเปน็ มาของการทอ มีความรคู้ วามเข้าใจเรื่องการทอเส่ือด้วยต้นกก 5 30 เสือ่ ด้วยต้นกก 7 30 20 2 อุปกรณก์ ารทอเสือ่ กก มีความรคู้ วามเข้าใจอปุ กรณก์ ารทอเสอ่ื กก 1 8 10 คะแนนกลางภาค 18 10 3 การการย้อมสตี น้ กก สามารถปฏิบตั ิการย้อมสีตน้ กกได้ 4 การทอเสือ่ กก การทอเสือ่ กกยกลายตา่ งๆๆ ระหวา่ งภาค 38 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

85 โครงสรา้ งหลกั สูตรรายวชิ าเพิ่มเติม รายวิชา การทอเส่ือกก 2 รหัสวิชา ศ 31202 กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ เวลา 40 ชั่วโมง /ภาคเรียน ******************************************************************************** หน่วยการ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ จำนวน นำ้ หนกั เรยี นรู้ หนว่ ยย่อยการเรยี นรู้ ชั่วโมง คะแนน 1 เร่อื งประวตั ิความเปน็ มาของการทอ มีความรู้ความเข้าใจเร่ืองการทอเส่อื ดว้ ยต้นกก 5 20 เส่อื ด้วยตน้ กก 7 30 2 อุปกรณ์การแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ าก มีความรคู้ วามเข้าใจอุปกรณ์การแปรรูป 1 20 8 ต้น กกต้น ผือ ผลติ ภัณฑ์เส่อื กก 10 10 คะแนนกลางภาค 8 10 10 3 องคค์ วามรูก้ ารแปรรูป ตน้ กก ตน้ สามารถปฏิบตั ิการแปรรปู ตน้ กกได้ ไหล 4 เทคนิคการออกแบบผลิตภณั ฑ์ การออกแบบเส่อื ลายตา่ งๆ 5 การแปรรูปเสอ่ื กกและตน้ ไหล รูปแบบผลิตภณั ฑ์จากตน้ กก ต้นผือ ระหว่างภาค 38 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

86 โครงสร้างหลักสตู รรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชา การทอเสื่อกก 2 รหัสวชิ า ศ 31201 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 1.0 หน่วยกติ เวลา 40 ชวั่ โมง /ภาคเรียน ******************************************************************************** หน่วยการ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนกั เรียนรู้ หน่วยย่อยการเรียนรู้ ชัว่ โมง คะแนน 1 เร่อื งประวัตคิ วามเป็นมาของการทอ มีความรู้ความเข้าใจเร่ืองการทอเสื่อดว้ ยต้นกก 5 30 เสือ่ ดว้ ยตน้ กก 7 30 20 2 อุปกรณก์ ารทอเสอื่ กก มีความรูค้ วามเข้าใจอปุ กรณก์ ารทอเสอ่ื กก 1 8 10 คะแนนกลางภาค 18 10 3 การการย้อมสตี น้ กก สามารถปฏิบตั ิการย้อมสีต้นกกได้ 4 การทอเส่ือกก การทอเสอ่ื กกยกลายตา่ งๆๆ ระหว่างภาค 38 60 สอบกลางภาค 1 20 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

87 10 . การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรีย นรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น เปา้ หมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน ในการพัฒนาผูเ้ รียนใหม้ ีคณุ สมบตั ิตามเป้าหมายหลักสูตร ผ้สู อนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้ จัดการ เรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร้าง คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ พัฒนาทักษะต่าง ๆ อันเปน็ สมรรถนะสำคัญใหผ้ เู้ รยี นบรรลตุ ามเปา้ หมาย 1. หลกั การจดั การเรียนรู้ การจดั การเรยี นรู้เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมคี วามร้คู วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรู้สมรรถนะสำคัญและ คุณลักษณะอันพึงประสงคต์ ามท่ีกำหนดไวใ้ นหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขัน้ พ้นื ฐาน โดยยดึ หลกั วา่ ผู้เรยี นมคี วามสำคัญทส่ี ดุ เชื่อวา่ ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ ยึด ประโยชนท์ ่เี กดิ กบั ผู้เรียน กระบวนการจัดการเรยี นร้ตู ้องส่งเสริมให้ผูเ้ รียน สามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตาม ศักยภาพ คำนงึ ถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เนน้ ให้ความสำคญั ทง้ั ความรู้ และคณุ ธรรม 2. กระบวนการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรยี นรูท้ ี่หลากหลาย เป็น เคร่ืองมือทจี่ ะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสตู ร กระบวนการเรียนรทู้ ่ีจำเป็นสำหรับผูเ้ รยี น อาทิ กระบวนการ เรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ สถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรูจ้ ากประสบการณ์จรงิ กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริงกระบวนการ จัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรยี นรกู้ ารเรยี นรขู้ องตนเอง กระบวนการพฒั นาลักษณะนสิ ยั กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอนจึงจำเป็นต้องศึกษาทำความ เขา้ ใจในกระบวนการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ เพือ่ ใหส้ ามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรไู้ ด้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 3. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ ผ้สู อนตอ้ งศึกษาหลกั สูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และสาระการเรยี นรทู้ ่เี หมาะสมกับผเู้ รยี น แลว้ จงึ พจิ ารณาออกแบบการจดั การเรียนรูโ้ ดย เลอื กใช้วธิ สี อนและเทคนคิ การสอน สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ และบรรลุตามเปา้ หมายทีก่ ำหนด 4. บทบาทของผู้สอนและผ้เู รยี น การจัดการเรียนรู้เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีคุณภาพตามเปา้ หมายของหลักสตู ร ทัง้ ผสู้ อนและผ้เู รยี นควรมีบทบาท ดังนี้

88 4.1 บทบาทของผูส้ อน 1) ศกึ ษาวิเคราะหผ์ ้เู รียนเปน็ รายบคุ คล แลว้ นำข้อมูลมาใชใ้ นการวางแผน การจดั การเรียนรู้ ที่ทา้ ทายความสามารถของผเู้ รยี น 2) กำหนดเป้าหมายที่ตอ้ งการใหเ้ กิดขึน้ กับผู้เรยี น ดา้ นความรแู้ ละทักษะ กระบวนการ ทเี่ ปน็ ความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพนั ธ์ รวมท้ังคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 3) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พัฒนาการทางสมอง เพอื่ นำผู้เรยี นไปสู่เป้าหมาย 4) จดั บรรยากาศทเี่ อ้อื ต่อการเรียนรู้ และดแู ลช่วยเหลือผู้เรยี นให้เกดิ การเรยี นรู้ 5) จัดเตรยี มและเลอื กใชส้ อ่ื ให้เหมาะสมกบั กจิ กรรม นำภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน 6) ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับ ธรรมชาตขิ องวชิ าและระดบั พฒั นาการของผเู้ รียน 7) วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ มาใช้ในการซ่อมเสริมและพฒั นาผูเ้ รยี น รวมท้งั ปรบั ปรงุ การจดั การเรยี นการสอนของตนเอง 4.2 บทบาทของผ้เู รยี น 1) กำหนดเป้าหมาย วางแผนและรับผดิ ชอบการเรียนรู้ของตนเอง 2) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรยี นรู้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ ความรู้ ต้งั คำถาม คดิ หาคำตอบหรือหาแนวทางแกป้ ัญหาดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ 3) ลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรูด้ ้วยตนเอง และนำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ 4) มปี ฏสิ มั พนั ธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมรว่ มกับกลมุ่ และครู 5) ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอยา่ งต่อเน่อื ง 11. ส่ือและแหล่งเรียนรู้ ในการจัดการเรยี นรู้ทุกรายวิชาของกล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะผู้สอนและผเู้ รียนสามารถศกึ ษาหาความรู้หรือ เรียนร้จู ากแหล่งเรยี นรูด้ ังน้ี 1. ห้องสมุดโรงเรยี นทบั โพธิ์พัฒนวิทยแ์ ละหอ้ งสมดุ หน่วยงานอนื่ ๆ 2. แหล่งวทิ ยาการทง้ั ภาครัฐและเอกชนซ่งึ ใหบ้ ริการความรูใ้ นเรอ่ื งตา่ งๆ 3. ภูมิปัญญาท้องถิ่นปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์งานศิลปะสาขาต่างๆที่มีอยู่ในชุมชน ท้องถิ่นฯลฯ 4. สถานประกอบการในทอ้ งถิน่ เช่นห้างสรรพสนิ คา้ 5. สอ่ื ประกอบการสอนเช่นแผนภาพแผนภูมเิ คร่ืองโทรทัศนเ์ คร่ืองดนตรีไทยเครื่องดนตรี สากลเครอ่ื งแต่งกายนาฏศลิ ป์ 6. สอ่ื ส่งิ พมิ พ์ตา่ งๆเชน่ เอกสารประกอบการสอนแผ่นพับวารสารหนงั สอื อา้ งองิ หนงั สือพมิ พ์ฯลฯ 7. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเช่นอุทยานแหง่ ชาติสวนสัตว์พิพิธภัณฑ์สวนพฤกษศาสตร์พิพิธภัณฑ์พืชศูนย์ ชวี วิทยา 8. สอ่ื อีเล็คทรอนกิ สเ์ ช่นอนิ เทอร์เนต็ ซีดี – รอมวซี ีดวี ีดที ัศน์ฯลฯ

89 12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียน การวัดผลและประเมินผล การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระศิลปะ แนวทางการวัดผลและประเมินผล การวดั และประเมินผลการเรยี นรจู้ ะบรรลผุ ลตามเป้าหมายของการเรยี นการสอนทว่ี างไวไ้ ด้ ควรมแี นว ดงั ต่อไปน้ี . ต้องวัดและประเมนิ ผลทง้ั ความร้คู วามคิด ความสามรถ ทกั ษะและกระบวนการ เจตคติคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มในวทิ ยาศาสตร์ รวมทัง้ โอกาสในการเรยี นของผู้เรียน 2. วธิ ีการวัดและประเมินผลต้องสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรทู้ ี่กำหนดไว้ 3. ต้องเก็บข้อมูลท่ีไดจ้ ากการวดั และประเมนิ ผลอย่างตรงไปตรงมา และต้องประเมนิ ผลภายใตข้ ้อมลู ทีม่ อี ยู่ 4. ผลการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นร้ขู องผูเ้ รยี นตอ้ งนำไปส่กู ารแปลผลและลงขอ้ สรปุ ที่ สมเหตุสมผล 5. การวดั และประเมินผลต้องมีความเท่ียงตรงและเปน็ ธรรม ทัง้ ในดา้ นของวิธกี ารวดั โอกาสของการ ประเมิน จุดมงุ่ หมายของการวดั ผลและประเมินผล 1. เพอื่ วินจิ ฉยั ความรู้ความสามารถ ทักษะและกระบวนการ เจตคติ คุณธรรม จรยิ ธรรมและ คา่ นยิ มของผู้เรยี น และเพอ่ื ซอ่ มเสริมผู้เรยี นใหพ้ ัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะไดเ้ ต็มตามศักยภาพ 2. เพื่อใช้เปน็ ข้อมลู ปอ้ นกลบั ให้แก่ตัวผ้เู รยี นเองวา่ บรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนร้เู พียงใด 3. เพอื่ ใชข้ ้อมูลในการสรปุ ผลการเรยี นรูแ้ ละเปรยี บเทียบถงึ ระดับพฒั นาการของการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลจงึ มคี วามสำคัญเป็นอยา่ งย่ิงต่อกระบวนการเรยี นการสอน วิธีการวัดและ ประเมนิ ผลทส่ี ามารถสะทอ้ นผลการเรยี นรอู้ ยา่ งแท้จริงของผเู้ รยี นและครอบคลมุ กระบวนการเรียนรแู้ ละผล การเรยี นรู้ทง้ั 3 ด้านตามทกี่ ลา่ วมาแลว้ จึงต้องวดั และประเมินผลจากสภาพจริง (Authentic assessment) การวดั และประเมินผลจากสภาพจริง กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนมีหลากหลาย เช่น กิจกรรมสำรวจภาคสนาม กิจกรรมการ สำรวจตรวจสอบ การทดลอง กิจกรรมศึกษาคน้ ควา้ กจิ กรรมศกึ ษาปญั หาพิเศษหรือโครงงาน อย่างไรก็ตาม ในการทำกจิ กรรมเหลา่ นีต้ ้องคำนึงว่าผู้เรยี นแตล่ ะคนมศี กั ยภาพแตกต่างกัน ผเู้ รยี นแต่ละคนจงึ อาจทำงานชิ้น เดียวกันได้เสร็จในเวลาที่แตกต่างกนั และผลงานทีไ่ ด้ก็อาจแตกตา่ งกัน เมื่อผู้เรียนทำกิจกรรมเหล่าน้แี ล้วก็ จะต้องเก็บรวบรวมผลงาน เช่น รายงาน ชิ้นงาน บันทึกและรวบถึงทักษะปฏิบัติต่าง ๆ เจตคติต่อการเรียน

90 การงานอาชีพ ความรัก ความซาบซึ้ง กิจกรรมที่ผู้เรียนได้ทำและผลงานเหล่านี้ต้องใช้วิธีประเมินที่มีความ เหมาะสมและแตกตา่ งกนั เพอ่ื ชว่ ยใหส้ ามารถประเมนิ ความรคู้ วามสามารถและความรู้สึกนึกคิดท่ีแท้จริงของ ผู้เรียนได้ การวัดและประเมินผลจากสภาพจริงจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการประเมินหลาย ๆ ด้าน หลากหลายวธิ ี ในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีสอดคล้องกบั ชีวิตจรงิ และตอ้ งประเมนิ อย่างต่อเน่อื ง เพอ่ื จะได้ข้อมูล ที่มากพอทจี่ ะสะทอ้ นความสามารถท่ีแท้จริงของผู้เรียนได้ ลักษณะสำคญั ของการวัดและประเมินผลจากสภาพจรงิ 1. การวัดและประเมินผลจากสภาพจริง มีลักษณะที่สำคัญคือ ใช้วิธีการประเมินกระบวนการที่ ซับซ้อน ความสามารถในการปฏิบัติงาน ศักยภาพของเรียนในด้านของผู้ผลิตและกระบวนการที่ได้ผลผลิต มากกว่าทีจ่ ะประเมินวา่ ผเู้ รียนสามารถจดจำความรู้อะไรไดบ้ า้ ง 2. เป็นการประเมินความสามารถของผู้เรยี น เพื่อวนิ ิจฉยั ผู้เรียนในส่วนทีค่ วรส่งเสริมและสว่ นท่ี ควรจะแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพตามความสามารถ ความสนใจและความ ต้องการของแตล่ ะบุคคล 3. เป็นการประเมินที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมประเมินผลงานของทั้งตนเองและของ เพอื่ นร่วมหอ้ ง เพือ่ ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รียนรจู้ กั ตวั เอง เชื่อมนั่ ในตนเอง สามารถพัฒนาตนเองได้ 4. ข้อมูลที่ได้จากการประเมินจะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการเรียนการสอนและการวาง แผนการสอนของผู้สอนว่าสามารถตอบสนองความสามารถ ความสนใจและความตอ้ งการของผู้เรียนแต่ละ บุคคลได้หรือไม่ 5. ประเมนิ ความสามารถของผเู้ รียนในการถ่ายโอนการเรยี นรไู้ ปสชู่ วี ิตจรงิ ได้ 6. ประเมนิ ด้านต่าง ๆ ดว้ ยวธิ ที หี่ ลากหลายในสถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งต่อเน่ือง วิธีการและแหลง่ ขอ้ มูลท่ใี ช้ เพื่อให้การวัดและประเมินผลได้สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน ผลการประเมิน อาจจะได้มาจากแหลง่ ข้อมูลและวะการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. สังเกตการแสดงออกเปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลุ่ม 2. ชิน้ งาน ผลงาน รายงาน 3. การสัมภาษณ์ 4. บนั ทึกของผูเ้ รียน 5. การประชุมปรกึ ษาหารอื ร่วมกันระหวา่ งผเู้ รียนและครู 6. การวัดและประเมินผลภาคปฏิบัติ 7. การวดั และประเมินผลด้านความสามารถ 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรูโ้ ดยแฟม้ ผลงาน การวัดและประเมินผลด้านความสามารถ (Performance Assessment) ความสามารถของผู้เรียนประเมินได้จากการแสดงออกโดยตรงจากการทำงานต่าง ๆ เป็น สถานการณ์ที่กำหนดให้ ซึ่งเป็นของจริงหรือใกลเ้ คียงกับสภาพจรงิ และเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้แก้ปัญหาหรือ

91 ปฏิบตั ิงานไดจ้ ริง โดยประเมินจากกระบวนการทำงาน กระบวนการคดิ โดยเฉพาะความคิดขั้นสูงและผลงานท่ี ได้ ลักษณะสำคัญของการประเมินความสามารถ คือ กำหนดวัตถุประสงค์ของงาน วิธีการ ทำงาน ผลสำเร็จของงาน มีคำสั่งควบคุมสถานการณ์ในการปฏิบัติงาน และมีเกณฑ์การให้คะแนนท่ี ชัดเจน การประเมินความสามารถที่แสดงออกของผู้เรียนทำได้หลายแนวทางต่าง ๆ กัน ขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อม สภาวการณ์ และความสนใจของผเู้ รยี น ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี 1. มอบหมายงานให้ทำ งานที่มอบให้ทำต้องมีความหมาย มีความสำคัญ มีความสัมพันธ์กับ หลักสูตร เนื้อหาวิชา และชีวิตจริงของผู้เรียน ผู้เรียนต้องใช้ความรู้หลายด้านในการปฏิบัติงานที่สามารถ สะท้อนใหเ้ หน็ ถงึ กระบวนการทำงาน และการใชค้ วามคิดอย่างลึกซ้งึ 2. การกำหนดชนิ้ งาน หรืออปุ กรณ์ หรือสิ่งประดิษฐใ์ หผ้ ู้เรียนวิเคราะหอ์ งค์ประกอบและกระบวนการ ทำงาน และเสนอแนวทางเพ่ือพัฒนาให้มปี ระสทิ ธิภาพดีขนึ้ 3. กำหนดตัวอย่างชิ้นงานให้ แล้วให้ผู้เรียนศึกษาชิ้นงานนั้น และสร้างชิ้นงานที่มีลักษณะของการ ทำงานไดเ้ หมือนหรอื ดีกวา่ เดิม 4. สร้างสถานการณ์จำลองทสี่ ัมพันธ์กับชวี ิตจรงิ ของผู้เรียน โดยกำหนดสถานการณ์แล้วให้ผู้เรียนลง มอื ปฏิบัตเิ พื่อแกป้ ญั หา การประเมินผลการเรยี นรู้โดยใช้แฟ้มผลงาน (Portfolio Assessment) แฟม้ ผลงาน คืออะไร เมื่อผู้เรียนทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนศิลปะ ทั้งในห้องเรียนหรือนอก ห้องเรียนกต็ าม ก็จะมผี ลงานทีไ่ ดจ้ ากการทำกจิ กรรมเหลา่ นั้นปรากฏอยู่เสมอ ซ่งึ สามารถจำแนกผลงานออก ตามกิจกรรมตา่ ง ๆ ดังนี้ 1. การฟังบรรยาย เมื่อผู้เรียนฟังการบรรยายก็จะมีสมุดจดคำบรรยาย ซึ่งอาจอยู่ในรูปของ บนั ทกึ อยา่ งละเอียดหรือบันทึกแบบยอ่ ทั้งนข้ี ึ้นอยู่กบั ลักษณะของความชอบและความเคยชินของผู้เรียนใน การบันทกึ คำบรรยาย 2. การทำการทดลอง ผลงานของผู้เรียนที่เกี่ยวข้องกับการทดลอง อาจประกอบด้วยการวาง แผนการทดลองท้ังในรูปของบันทึกอย่างเป็นระบบหรือบันทึกอย่างย่อ การบันทึกวิธีการทดลอง ผลการ ทดลองและปัญหาที่พบขณะทำการทดลอง การแปรผล สรุปผลและอภิปรายผลการทดลอง และผลงาน สดุ ท้ายทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การทดลอง คอื การรายงานผลการทดลองที่ผ้เู รียนอาจทำเปน็ กล่มุ หรอื เดี่ยวกไ็ ด้ 3. การอภิปราย ผลงานของผู้เรยี นท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การอภปิ ราย คือ วางหัวขอ้ และข้อมลู ที่จะ นำมาใชใ้ นการอภิปราย ผลที่ได้จากการอภิปรายรวมทง้ั ข้อสรปุ ตา่ ง ๆ 4. การศึกษาค้นคว้าเพม่ิ เติม จดั เป็นผลงานที่สำคัญประการหน่ึงของผู้เรียนทเี่ กิดจากการได้รับ มอบหมายจากครูผู้สอนให้ไปค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหรือประเด็นที่กำลัง

92 ศึกษา ผลงานที่ได้จากการค้นคว้าเพิ่มเติมอาจอยู่ในรูปของรายงาน การทำวิจัยเชิงเอกสารหรือบันทึก ประเดน็ สำคญั ซ่งึ อาจนำมาใชป้ ระกอบการอภิปรายในชว่ั โมงเรียนก็ได้ 5. การศึกษานอกสถานท่ี การศึกษานอกสถานที่จัดเป็นวิธีการที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มี ประสบการณ์ตรงกับเรื่องที่กำลังศึกษา ผลงานที่ได้อาจประกอบด้วยการบันทึกการสังเกต การปฏิบัติการ ตอบคำถามหรอื ปญั หาจากใบงาน การเขียนรายงานสงิ่ ที่คน้ พบ 6. การบันทึกรายวัน เป็นผลงานประการหนึ่งของผู้เรียนที่อยูน่ อกเหนอื จากผลงานที่แสดงถงึ การเรียนรู้โดยตรง แต่จะช่วยให้ผู้เรียนหรือผู้ประเมินได้เข้าใจในประเด็นหรือสิ่งที่ผู้เรียนนกึ คดิ เก่ียวกับการ เรียนการสอนวิทยาศาสตร์ดว้ ย นอกจากกิจกรรมทไ่ี ด้กล่าวมาแล้ว ยงั อาจมีกิจกรรมอ่ืน ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั การเรยี นการสอน ซึ่ง ผู้เรียนสามารถแสดงออกถึงความสามรถอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การสื่อสาร ผลงานเหล่านี้ถ้าได้รับการเก็บ รวบรวมอย่างมีระบบด้วยตัวผู้เรียนเองตามช่วงเวลา ทั้งก่อนและหลังทำกิจกรรมเหล่าน้ี โดยได้รับ คำแนะนำจากครูผู้สอน และผู้เรียนฝึกทำจนเคยชินแล้ว จะถือเป็นผลงานที่สำคัญยิ่งที่ใช้ในการประเมินผล การเรียนรูข้ องผูเ้ รยี นต่อไป การประเมินผลการเรียนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ สัดส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ตัดสินผลการเรยี นรายภาค กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ แบ่งคะแนนออกเปน็ 80:20 โดยมรี ายละเอียดดังนี้ ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ประเมินระหว่างเรียน 80 ประเมนิ สอบปลายภาค 20 ประเมนิ ระหว่างเรยี น 80 ประเมินสอบปลายภาค 20 1.ประเมนิ สภาพจริง 30 สอบปลายภาค 20 1.ประเมนิ สภาพจรงิ 30 สอบปลายภาค20 2.ทดสอบยอ่ ย 20 2. ทดสอบย่อย 20 3. สอบกลางภาค 20 3.สอบกลางภาค 20 4. คณุ ลักษณะ ฯ 10 4.คณุ ลักษณะ ฯ 10 หมายเหตุ นำคะแนนที่ไดใ้ นแต่ละภาคเรยี น 100 คะแนน มาตัดสินผลการเรยี นเปน็ รายภาค วธิ กี ารประเมนิ ประเมินอยา่ งต่อเนือ่ งดว้ ยวธิ ีการทหี่ ลากหลาย เช่น การสงั เกต การสอบถาม การปฏบิ ัติ การทำ ใบงาน การทำแบบฝึกหดั การทำโครงงาน และการประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน เป็นต้น

93 สัดส่วนของวิธีการประเมิน ทางโรงเรียนกำหนดให้มีวิธีการประเมิน ดังน้ี กลุ่มสาระศิลปะ 80 % เป็นการวัดที่ หลากหลาย 20% เป็นการวัดโดยใช้แบบทดสอบโดยจะแยกเป็น 2 ประเด็น คือสอบโดยข้อสอบปรนัยได้ไม่เกิน 60% ของการประเมินโดยใชแ้ บบทดสอบ และอีกไมต่ ่ำกว่า 40%เปน็ แบบทดสอบอัตนยั เวลาเรียน ผู้เรียนต้องเข้าเรียนอย่างน้อย 80% ของเวลาเรียนทั้งหมด จึงจะได้รับการตัดสินผลการเรียน สำหรับ ผ้เู รยี นทมี่ เี วลาเรียนไม่ถงึ 80% จะไมม่ สี ทิ ธ์ิเขา้ รับการประเมนิ ผลปลายภาค การตดั สนิ ผลการเรยี น โรงเรยี นกำหนดเกณฑ์การตดั สนิ 8 ระดับคือ ช่วงคะแนนเปน็ รอ้ ยละ ระดบั ผลการเรียน ความหมายของผลการเรยี น 0-49 0 ตำ่ กว่าเกณฑข์ ั้นต่ำ 50-54 1 ผ่านเกณฑข์ นั้ ตำ่ 55-59 1.5 พอใช้ 60-64 2 น่าพอใช้ 65-69 2.5 ค่อนข้างดี 70-74 3 ดี 75-79 3.5 ดีมาก 80 ข้ึนไป 4 ดีเยี่ยม หมายเหตุ การตัดสนิ ผลการเรยี น จะตัดสินไดเ้ มื่อผเู้ รยี น ไดร้ บั การประเมิน “ ผ่าน ” ทุกตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้

94 การประเมินสมรรถนะของผเู้ รยี น แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รยี น 5 ดา้ น คำชแี้ จง : ใหส้ ังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกับระดบั คะแนน สมรรถนะท่ีประเมิน ระดับคะแนน 321 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเองโดยใชภ้ าษา อยา่ งเหมาะสม 1.3 ใช้วิธกี ารสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์เพื่อการสรา้ งองคค์ วามรู้ 2.2 มีความสามารถในการคดิ เปน็ ระบบเพือ่ การสร้างองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ล 3.2 แสวงหาความร้มู าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4.1 ทำงานและอยรู่ ่วมกบั ผ้อู ่นื ด้วยความสมั พันธ์อันดี 4.2 มีวธิ แี ก้ไขความขดั แย้งอย่างเหมาะสม 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 เลือกใช้ข้อมูลในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลอื กใช้ข้อมูลในการทำงานและอยรู่ ว่ มกับผู้อน่ื อย่างเหมาะสม ลงชื่อ ................................................................................. ผู้ประเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัติชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง

95 การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้เรยี น แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ วิชา…………………………………….. ภาคเรยี นท.ี่ .......... ปกี ารศึกษา................ ชอื่ ...................................................................................................ช้นั ม........./...........เลขที่.............. คำช้แี จง 1. ใหน้ กั เรยี นประเมินตนเองแลว้ ทำเครื่องหมาย ลงในชอ่ งระดบั คะแนน 2. ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แล้วทำเครือ่ งหมาย ลงในชอ่ งระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ นักเรยี น สรปุ ครผู ู้สอน สรปุ สรปุ รวม รายการประเมิน ประเมนิ ประเมิน อนั พึงประสงค์ ระดับคะแนน ระดับคะแนน 321 3 21 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 2. ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ 2.1 ปฏบิ ัติตามระเบียบการสอนและไมล่ อกการบา้ น 3. มวี นิ ยั 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผอู้ นื่ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบยี บของห้อง 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ 7. รักความเป็นไทย 4.3 สรุปความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตผุ ล 8. มจี ติ สาธารณะ 5.1 ใช้ทรพั ยแ์ ละสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณคา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพือ่ ความสำเร็จ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทยและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัติตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักการให้เพอื่ สว่ นรวมและเพือ่ ผู้อื่น 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ำ้ ใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผอู้ ื่น 8.3 เข้าร่วมกจิ กรรมบำเพ็ญตนเพือ่ ส่วนรวมเม่อื มีโอกาส สรุปผลการประเมิน ลงชือ่ .................................................................นักเรียน ลงชอ่ื ……………………………………………………………… ครผู ู้สอน ()( ) เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน 3 พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนสม่ำเสมอ คะแนน 2 พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครง้ั คะแนน 1 พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างคร้งั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook