Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2.หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 65

2.หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 65

Published by TANAWICH SEANGRAM, 2022-07-07 02:29:45

Description: 2.หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 65

Search

Read the Text Version

86 โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ าคณติ ศาสตร์พื้นฐาน 6 รหสั วิชา ค23101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชัว่ โมง/ภาคเรียน หน่วย ชอื่ หนว่ ย ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 อสมการเชงิ ค 1.3 ม.3/1 เขา้ ใจและใช้ - อสมการเชิงเส้นตวั เสน้ ตวั แปร สมบตั ขิ องการไมเ่ ทา่ กันเพ่อื แปรเดียว เดยี ว วเิ คราะหแ์ ละแก้ปัญหาโดยใช้ - การแกอ้ สมการเชงิ เส้น อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว ตัวแปรเดียว 12 10 -การนำความรู้เกีย่ วกับ การแกอ้ สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี วไปใช้ในการ แกป้ ัญหา 2 การแยกตัว ค 1.2 ม.3/1 เขา้ ใจและใช้ - การแยกตวั ประกอบ ประกอบของ การแยกตวั ประกอบ ของ 8 10 พหนุ ามดีกรี ของพหนุ ามทีม่ ีดีกรสี งู กวา่ พหนุ ามดกี รสี งู กวา่ สอง สงู กว่าสอง สองในการแก้ปัญหา คณติ ศาสตร์ 3 สมการกำลงั ค 1.2 ม.3/1 เข้าใจและใช้ - สมการกำลงั สองตวั สองตัวแปร การแยกตวั ประกอบ แปรเดยี ว เดยี ว ของพหุนามที่มีดีกรีสูงกวา่ - การแกส้ มการกำลัง สองในการแกป้ ัญหา สองตวั แปรเดยี ว 9 10 คณิตศาสตร์ - การนำความร้เู ก่ยี วกบั การแกส้ มการ กำลังสอง ตัวแปรเดยี วไปใชใ้ นการ แกป้ ัญหา สอบกลางภาค 1 20 4 ความคลา้ ย ค 2.2 ม.3/1 เข้าใจและใช้ - รูปสามเหลย่ี มท่ี สมบัตขิ องรูปสามเหลี่ยมที่ คลา้ ยกัน คลา้ ยกันในการแก้ปญั หา - การนำความรู้ 8 10 คณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวติ เกย่ี วกบั ความ จริง

87 หนว่ ย ช่ือหนว่ ย ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน คล้ายไปใชใ้ น การ แก้ปัญหา 5 ฟังก์ชันกำลัง ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ สอง ความรเู้ ก่ียวกบั ฟังก์ชัน 6 สถิติ ค 3.1 ม.3/1เขา้ ใจและใช้ ความรทู้ างสถิตใิ นการนำเสนอ และวิเคราะห์ขอ้ มูลจาก แผนภาพกล่องและสถติ ไิ ปใชใ้ น ชวี ิตจริงโดยใช้เทคโนโลยที ่ี เหมาะสม

88 โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 6 รหสั วชิ า ค23102 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น หน่วย ชื่อหนว่ ย ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 ระบบสมการ ค 1.3 ม.3/3 ประยุกต์ใช้ - ระบบสมการเชิงเส้นสอง เชิงเส้นสอง ระบบสมการเชงิ เส้น ตัวแปร ตัวแปร สองตัวแปรในการแกป้ ญั หา - การแกร้ ะบบสมการเชงิ คณติ ศาสตร์ เส้นสองตัวแปร 12 10 - การนำความร้เู กี่ยวกับการ แก้ระบบสมการเชิงเสน้ สอง ตวั แปรไปใชใ้ นการ แก้ปัญหา 2 วงกลม ค 2.2 ม.3/3 เขา้ ใจและใช้ - วงกลมคอร์ด และเสน้ ทฤษฎบี ทเก่ียวกับวงกลมใน สัมผัส 8 10 การแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์ - ทฤษฎีบทเก่ียวกบั วงกลม 3 พีระมิด ค 2.1 ม.3/1 ประยุกตใ์ ช้ - การหาพน้ื ทผ่ี วิ ของพรี ะมิด กรวย และ ความรู้เรอ่ื งพนื้ ทผ่ี ิวของ กรวยและทรงกลม ทรงกลม พีระมดิ กรวยและทรงกลมใน - การนำความรู้เกี่ยวกับ 9 10 การแก้ปัญหาคณติ ศาสตรแ์ ละ พ้ืนทผี่ วิ ของพรี ะมดิ กรวย ปญั หาในชวี ติ จริง และทรงกลมไปใชใ้ นการ แกป้ ญั หา สอบกลางภาค 1 20 3 พรี ะมดิ ค 2.1 ม.3/2 ประยุกต์ใช้ -การหาปรมิ าตรของพรี ะมิด กรวย และ ความรู้เรอ่ื งปรมิ าตรของ กรวย และทรงกลม ทรงกลม พีระมดิ กรวยและทรงกลมใน - การนำความรู้เกย่ี วกับ 8 10 การแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และ ปริมาตรของพรี ะมิด กรวย ปญั หาในชวี ติ จริง และทรงกลม ไปใช้ในการ แกป้ ญั หา 4 ความน่าจะ ค 3.2 ม.3/1 เขา้ ใจเกย่ี วกับ - เหตกุ ารณ์จากการทดลอง เปน็ การทดลองสุ่มและนำผลที่ได้ สุ่ม 9 10 - ความนา่ จะเปน็

89 หน่วย ชือ่ หนว่ ย ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน ไปหาความน่าจะเป็นของ - การนำความรู้เกีย่ วกับ 5 อตั ราสว่ น เหตุการณ์ ความน่าจะเป็นไปใช้ในชวี ติ 12 10 ตรีโกณมติ ิ จริง ค 2.2 ม.3/2 เข้าใจและใช้ - อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ 59 80 ความรูเ้ ก่ยี วกับอตั ราสว่ น - การนำคา่ อตั ราสว่ น 1 20 ตรโี กณมติ ิในการแก้ปญั หา ตรีโกณมติ ิของ มมุ 30องศา 60 100 คณิตศาสตร์และปัญหาในชวี ิต 45 องศา จริง และ60 องศา ไปใชใ้ นการ แก้ปญั หา รวมระหวา่ งปี สอบปลายภาค รวม

90 โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตร์เพมิ่ เตมิ 1 รหัสวิชา ค21201 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน หนว่ ย ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรเู้ พิ่มเติม เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 1 การประยกุ ต์ 1 1. ใชค้ วามร้เู ก่ียวกบั รูป - รูปเรขาคณติ เรขาคณิต จำนวนนับรอ้ ย - จำนวนนบั 6 20 ละในชีวติ ประจำวนั - ร้อยละในชีวิตประจำวนั ปัญหาชวนคิดและทกั ษะ - ปญั หาชวนคิด กระบวนการทางคณติ - ศาสตร์แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ 2 จำนวนและ 2. อ่านและเขยี นตัวเลข - จำนวนและตัวเลข ตัวเลข โรมันได้ - ระบบตวั เลขโรมัน 3 10 สอบกลางภาค 1 20 5 15 3 การประยุกต์ 3. ใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกบั - การคดิ คำนวณ 4 15 เกี่ยวกับจำนวน จำนวนเต็มและเลขยก - โจทย์ปัญหา 19 80 เต็มและเลขยก กำลังในการแก้ปัญหาได้ 1 20 40 100 กำลงั 4 การสรา้ ง 4. ใช้การสร้างพนื้ ฐาน - การแบ่งส่วนของเส้นตรง สรา้ งมมุ ขนาดต่าง ๆ ได้ - การสร้างมุมขนาดตา่ ง ๆ 5. สรา้ งรูปสามเหลี่ยมและ - การสร้างรูปสามเหลี่ยม สเ่ี หล่ยี มพร้อมทง้ั ให้เหตุ และรปู สี่เหลี่ยมด้านขนาน ผลได้ รวมระหว่างปี สอบปลายภาค รวม

โครงสร้างรายวชิ า 91 รายวชิ าคณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม 2 รหสั วิชา ค21202 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน

92 หน่วย ชอื่ หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรเู้ พ่มิ เติม เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 การเตรยี มความ 1. สงั เกต ใหข้ อ้ ความ - ขอ้ ความคาดการณ์ พรอ้ มในการให้ คาดการณ์ และให้เหตุผล - ประโยคเงอื่ นไข 4 15 เหตุผล ทางคณิตศาสตร์อยา่ งงา่ ย - บทกลบั ของประโยคเงอื่ นไข ได้ - การใหเ้ หตผุ ล 2 พหุนาม 2. หาผลบวกและผลลบของ - เอกนาม เอกนามและพหุนามได้ - การบวกและการลบเอก- 3. หาผลคณู และผลหาร นาม ของพหนุ ามอยา่ งงา่ ยได้ - พหนุ าม 5 15 4. ใช้ความรแู้ ละทักษะ - การบวกและการลบพหนุ าม กระบวนการทาง - การคูณพหนุ าม คณติ ศาสตร์แกป้ ัญหา - การหารพหุนาม สอบกลางภาค 1 20 2 พหนุ าม 2. หาผลบวกและผลลบของ - เอกนาม เอกนามและพหนุ ามได้ - การบวกและการลบ 3. หาผลคูณและผลหาร เอกนาม ของพหนุ ามอย่างง่ายได้ - พหนุ าม 5 15 4. ใช้ความรูแ้ ละทกั ษะ - การบวกและการลบพหุนาม กระบวนการทาง - การคณู พหุนาม คณติ ศาสตรแ์ กป้ ัญหา - การหารพหนุ าม ตา่ ง ๆ ได้ 3 การประยกุ ต์ 2 4. ใชค้ วามร้แู ละทักษะ - แบบรปู ของจำนวน กระบวนการทาง - ขา่ ยงาน คณติ ศาสตร์แก้ปัญหา - การประยกุ ตข์ องเศษส่วน ต่าง ๆ ได้ และทศนิยม 4 15 5. ตระหนกั ถึงความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ ทีไ่ ด้ รวมระหว่างปี 19 80 สอบปลายภาค 1 20 รวม 20 100

93 โครงสร้างรายวชิ า รายวิชาคณิตศาสตร์เพม่ิ เติม 3 รหสั วิชา ค22203 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น หนว่ ย ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 สมบัตขิ องเลข 1. คูณและหารจำนวนท่ี - สมบตั ขิ องเลขยกกำลงั ยกกำลัง เขยี นอยูใ่ นรปู เลขยกกำลงั - การดำเนนิ การของเลขยก ทมี่ ีเลขชี้กำลงั เปน็ จำนวน กำลัง เต็มโดยใช้บทนิยามและ - สมบตั อิ ่ืน ๆ ของเลขยกกำลัง สมบัติของเลขยกกำลัง และนำไปใชใ้ นการ แก้ปญั หาได้ 2. คำนวณและใช้เลขยก 10 15 กำลงั ในการเขยี นแสดง จำนวนท่ีมคี า่ น้อยๆ หรือมี คา่ มากๆ ในรูปสัญกรณ์- วิทยาศาสตร์ได้ 3. ตระหนักถงึ ความ สมเหตุสมผลของคำตอบที่ ได้ 2 พหนุ ามและ 4. บวก ลบ คูณ หาร - ทบทวนพหุนาม เศษส่วนของพหุ พหนุ ามได้ - การคูณพหนุ าม นาม 5. บวก ลบ คูณ หาร - การหารพหุนาม เศษสว่ นของพหนุ ามท่พี หุ - เศษสว่ นของพหนุ าม นามมดี กี รไี ม่เกินหนึง่ ได้ -การคูณและการหารเศษส่วน 8 15 ของพหนุ าม -การบวกและการลบเศษส่วน ของพหนุ าม สอบกลางภาค 1 20

94 หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 3 การประยกุ ต์ 6. ใชค้ วามรู้เกี่ยวกับ - การประยุกต์เก่ียวกับ เก่ียวกับ อตั ราสว่ น สัดสว่ น และ อัตราสว่ น 10 15 อัตราส่วนและ ร้อยละ แก้ปญั หาหรอื - การประยกุ ต์เกีย่ วกับร้อยละ รอ้ ยละ สถานการณต์ ่าง ๆได้ - การประยุกต์เก่ยี วกบั อตั ราสว่ นและร้อยละ 4 การประยุกต์ 7. ใชค้ วามรู้เก่ียวกับการ - การประยุกต์ของการเลื่อน ของการแปลง เลื่อนขนาน การสะท้อน ขนาน ทางเรขาคณติ และการหมนุ ในการ - การประยกุ ต์ของการสะท้อน 8 15 สร้างสรรค์งานศิลปะหรอื - การประยุกต์ของการหมุน - 80 20 ออกแบบ เทสเซลเลชัน 100 รวมระหว่างปี 39 สอบปลายภาค 1 40 รวม

95 โครงสร้างรายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตร์เพมิ่ เติม 4 รหสั วิชา ค20204 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน หนว่ ย ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูเ้ พ่มิ เตมิ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 การแยกตัว 1. แยกตัวประกอบของพหุ - การแยกตัวประกอบโดยใช้ ประกอบของ นามดกี รีสองโดยใชส้ มบตั ิ สมบัตกิ ารแจกแจง พหุนามดกี รสี อง การแจกแจงได้ - การแยกตัวประกอบของ 2. แยกตัวประกอบของพหุ พหนุ ามดกี รีสองตัวแปรเดยี ว นามดกี รสี องที่อย่ใู นรปู - การแยกตัวประกอบของ ax2 + bx + c เมอ่ื a, b, พหุนามดีกรีสองที่เป็นกำลัง c เปน็ คา่ คงตวั และ a ≠ 0 สองสมบูรณ์ ได้ - การแยกตัวประกอบของ 18 30 3. แยกตัวประกอบของพหุ พหุนามดีกรีสองที่เป็นผลต่าง นามดีกรสี องที่อยู่ในรูป ของกำลงั สอง กำลังสองสมบูรณไ์ ด้ 4. แยกตัวประกอบของพหุ นามดีกรสี องทอ่ี ยใู่ นรูป ผลต่างของกำลังสองได้ สอบกลางภาค 1 20 8 15 2 สมการกำลงั สอง 5. แกส้ มการกำลังสองตวั - การแก้สมการกำลังสองตัว ตวั แปรเดยี ว แปรเดียวโดยใชก้ ารแยกตวั แปรเดยี ว ประกอบได้ - โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการ 6. แกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกบั กำลังสองตวั แปรเดียว สมการกำลังสองตวั แปร เดยี วโดยใชก้ ารแยกตัว ประกอบได้ 9. ตระหนกั ถงึ ความสม เหตุ สมผลของคำตอบที่ได้

96 หน่วย ชื่อหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 3 การแปรผัน 7. เขียนสมการแสดงการ - การแปรผันตรง แปรผนั ระหว่างปริมาณ - การแปรผกผนั 10 15 ต่าง ๆ ท่แี ปรผนั ต่อกันได้ - การแปรผันเก่ียวเนอื่ ง 8. แกป้ ญั หาหรือ สถานการณท์ กี่ ำหนดโดย ใชค้ วามรเู้ กยี่ วกบั การแปร ผันได้ 9. ตระหนักถงึ ความ สมเหตสุ มผลของคำตอบที่ ได้ รวมระหวา่ งปี 39 80 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

97 โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม 5 รหสั วิชาค23205 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง/ภาคเรียน หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1 กรณฑ์ท่สี อง 1. บวก ลบ คูณ และหาร - สมบัติของ a เมอื่ a  0 จำนวนจรงิ ซงึ่ เกยี่ วกับ - การดำเนินการของจำนวนจริง กรณฑท์ สี่ องทีก่ ำหนดให้ ซ่งึ เก่ยี วกบั กรณฑ์ที่สอง 8 15 และนำไปใชแ้ ก้ปญั หาได้ -การนำความรูเ้ กยี่ วกบั กรณฑ์ที่ ไปใช้ 2 การแยกตวั 2. แยกตัวประกอบของพหุ - การแยกตวั ประกอบของ ประกอบของ นามดีกรีสองโดยวิธที ำเปน็ พหนุ ามดกี รสี องทเ่ี ป็นผลตา่ ง พหนุ าม กำลังสองสมบรู ณ์ได้ ของกำลังสอง 3. แยกตัวประกอบของพหุ - การแยกตวั ประกอบของ น า ม ด ี ก ร ี ส อ ง ท ี ่ มี พหุนามดีกรีสองโดยวิธที ำเปน็ สัมประสิทธิ์เป็นจำนวน กำลังสองสมบูรณ์ เตม็ ได้ - การแยกตวั ประกอบของ 10 15 4. แยกตัวประกอบของพหุ พหุนามดีกรีสูงกวา่ สองทมี่ ี นามดกี รสี ูงทีม่ สี ัมประสิทธิ์ สมั ประสทิ ธ์ิเป็นจำนวนเตม็ เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ -การแยกตัวประกอบของ ทฤษฎีเศษเหลอื ได้ พหนุ ามทม่ี สี มั ประสิทธิเ์ ปน็ จำนวนเตม็ โดยใช้ทฤษฎบี ทเศษ เหลือ สอบกลางภาค 1 20 3 สมการกำลงั 5. แก้สมการกำลังสองตัว - สมการกำลงั สอง สอง แปรเดียวได้ - การแก้สมการกำลงั สองโดยวธิ ี 6. แกโ้ จทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั ทำเปน็ กำลังสองสมบูรณ์ 10 15 สมการกำลังสองตวั แปร - โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั สมการ เดียวได้ กำลังสอง 4 พาราโบลา 7. เขยี นกราฟพาราโบลาที่ - สมการพาราโบลา กำหนดให้ได้ - พาราโบลาทกี่ ำหนดดว้ ย 8 15 สมการ y = ax2เมือ่ a  0

98 หน่วย ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพ่มิ เติม เวลา นำ้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 8. บอกลกั ษณะของกราฟ - พาราโบลาท่กี ำหนดด้วย พาราโบลาที่กำหนดให้ได้ สมการ y = ax2+kเม่ือa  0 - พาราโบลาที่กำหนดดว้ ย สมการ y = a(x-h)2+kเมอื่ a  0 - พาราโบลาทก่ี ำหนดด้วย สมการ y = ax2+bx +c เม่อื a  0 รวมระหว่างปี 39 80 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

99 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาคณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 6 รหสั วิชา ค20206 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น หน่วย ช่อื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรเู้ พิม่ เตมิ จำนวน นำ้ หนัก ท่ี ชั่วโมง คะแนน 1 การใช้เหตผุ ล 1. ใช้สมบตั เิ กีย่ วกบั รปู - ความรพู้ ืน้ ฐานเกย่ี วกบั การให้ เกยี่ วกับรูป สามเหล่ยี มและส่เี หลย่ี มใน เหตุผลทางเรขาคณติ สามเหลี่ยม การใหเ้ หตผุ ลได้ - ทฤษฎีบทเกยี่ วกบั รูป 12 20 และรูป 2. สรา้ งและให้เหตุผล สามเหลย่ี มและรปู ส่ีเหล่ียม สเี่ หลยี่ ม เกี่ยวกับการสร้างที่ - การสร้าง กำหนดใหไ้ ด้ 2 ระบบสมการ 3. แก้ระบบสมการสองตวั - ระบบสมการทปี่ ระกอบดว้ ย แปรท่ีสมการมดี ีกรไี ม่เกนิ สมการเชิงเสน้ และสมการดีกรี สองทก่ี ำหนดให้ได้ สอง 6 10 - ระบบสมการท่ปี ระกอบดว้ ย สมการดกี รสี องทัง้ สองสมการ สอบกลางภาค 1 20 2 ระบบสมการ 4. แกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกบั - ระบบสมการทีป่ ระกอบด้วย ระบบสมการสองตวั แปรที่ สมการเชิงเส้นและสมการดกี รี มีสมการมดี กี รไี มเ่ กนิ สองท่ี สอง กำหนดให้ได้ - ระบบสมการที่ประกอบดว้ ย 6 10 5 . ต ร ะ ห น ั ก ถ ึ ง ค ว า ม สมการดีกรสี องทัง้ สองสมการ สมเหตุสมผลของคำตอบท่ี ได้ 3 เศษส่วนของ 6. บวก ลบ คูณ และหาร - การดำเนินการของเศษส่วนพหุ พหนุ าม เศษสว่ นของพหนุ ามได้ นาม 7. แกส้ มการเศษสว่ นของ - การแกส้ มการเศษสว่ นของพหุ พหุนามได้ นาม 12 20 8. แก้ปัญหาเกยี่ วกบั - โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเศษสว่ น เศษสว่ นของพหนุ ามได้ พหนุ าม

รวมระหวา่ งปี 100 สอบปลายภาค 399 80 รวม 1 20 40 100

101 โครงสร้างรายวชิ า รายวิชาคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน 1 รหัสวิชา ค31101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน ชื่อ หนว่ หนว่ ย ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั ยท่ี การ (ชัว่ โมง) คะแนน เรยี นรู้ 1 เซต ค 1.1 ม.4/1เข้าใจและใช้ - ความร้เู บอื้ งต้นและ ความร้เู ก่ียวกบั เซตและ สญั ลักษณ์พื้นฐาน ตรรกศาสตรเ์ บอ้ื งต้นในการ เก่ยี วกับเซต ส่อื สารและสอ่ื ความหมาย - ยเู นยี นอนิ เตอรเ์ ซกชนั 19 30 ทางคณิตศาสตร์ และคอมพลเี มนต์ของ เซต สอบกลางภาค 1 20 19 30 2 ตรรกศา ค 1.1 ม.4/1เข้าใจและใช้ - การทดลองสุ่มและ สตร์ ความร้เู กีย่ วกับเซตและ เหตุการณ์ ตรรกศาสตรเ์ บอื้ งตน้ ในการ - ความน่าจะเปน็ ของ สื่อสารและสอ่ื ความหมาย เหตกุ ารณ์ ทางคณิตศาสตร์ รวมระหวา่ งปี 39 80 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

102 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน 2 รหสั วิชา ค31102 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40ชว่ั โมง/ภาคเรียน หน่วย ชอื่ หน่วย ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 1 หลกั การนับ ค 3.2 ม.4/1เข้าใจและใช้ - หลกั การบวกและการคณู เบอ้ื งต้น หลักการบวกและการคณู การ - การเรยี งสับเปลย่ี นเชิงเสน้ 19 30 เรียงสับเปลย่ี นและการจดั หมู่ กรณีท่ีสิง่ ของแตกตา่ งกนั ในการแก้ปัญหา ทง้ั หมด สอบกลางภาค 1 20 1 หลักการนบั ค 3.2 ม.4/1เขา้ ใจและใช้ - การจดั หมกู่ รณีทสี่ ่ิงของ 4 10 เบอ้ื งต้น หลักการบวกและการคณู การ แตกตา่ งกันทง้ั หมด เรียงสับเปลย่ี นและการจัดหมู่ ในการแกป้ ญั หา 2 ความน่าจะ ค 3.2 ม.4/2หาความน่าจะ - การทดลองส่มุ และ 15 20 เปน็ เปน็ และนำความรเู้ กี่ยวกบั เหตุการณ์ ความนา่ จะเปน็ ไปใช้ - ความนา่ จะเปน็ ของ 39 80 เหตุการณ์ 1 20 รวมระหวา่ งปี 40 100 สอบปลายภาค รวม

103 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน 3 รหัสวิชา ค32101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60ชวั่ โมง/ภาคเรียน หน่วย ชื่อหน่วย ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 เลขยกกำลงั ค 1.1 ม.5/1เขา้ ใจ - รากท่ี n ของจำนวนจรงิ ความหมายและใช้สมบัติ เมือ่ n เป็นจำนวนนับที่ เกย่ี วกบั การบวกการคูณการ มากกวา่ 1 เทา่ กนั และการไม่เท่ากนั ของ - เลขยกกำลงั ท่มี ีเลขช้ี จำนวนจรงิ ในรปู กรณฑ์และ กำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ 29 30 จำนวนจริงในรูปเลขยกกำลังท่ี มเี ลขชกี้ ำลังเป็น จำนวนตรรกยะ 2 ฟังก์ชัน สอบกลางภาค ฟงั กช์ ันและกราฟของ 1 20 ค 1.2 ม.5/1ใชฟ้ ังกช์ ันและ ฟังก์ชัน 29 30 กราฟของฟงั กช์ ันอธิบาย (ฟงั กช์ นั เชิงเส้นฟังกช์ นั สถานการณ์ทก่ี ำหนด กำลังสองฟังกช์ นั ขน้ั บนั ได ฟงั ก์ชนั เอกซโ์ พเนนเชียล) รวมระหว่างปี 59 80 สอบปลายภาค 1 20 60 100 รวม

104 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน 4 รหสั วิชา ค32102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น หน่วย ชือ่ หนว่ ย ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 ลำดับและ ค 1.2 ม.5/2เขา้ ใจและนำ - ลำดับเลขคณติ และลำดับ อนกุ รม ความรเู้ กี่ยวกบั ลำดับและ เรขาคณติ อนุกรมไปใช้ - อนุกรมเลขคณติ และ 29 30 อนุกรมเรขาคณติ 1 ลำดับและ สอบกลางภาค - อนกุ รมเลขคณิตและ 1 20 อนุกรม ค 1.2 ม.5/2เขา้ ใจและนำ อนกุ รมเรขาคณิต 10 10 ความรเู้ ก่ียวกบั ลำดบั และ อนกุ รมไปใช้ 2 ดอกเบ้ียและ - เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กย่ี วกับ - ดอกเบยี้ มูลคา่ ของเงิน ดอกเบย้ี และมูลคา่ ของเงินใน - มูลคา่ ของเงิน 19 20 การแก้ปญั หา - คา่ รายงวด รวมระหว่างปี 59 80 สอบปลายภาค 1 20 60 100 รวม

105 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน 5 รหสั วชิ า ค33101 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น หนว่ ย ชือ่ หน่วย ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 สถิตแิ ละ ค3.1 ม.6/1เขา้ ใจและใช้ - ข้อมูล ขอ้ มลู ความรทู้ างสถติ ิในการนำเสนอ - ตำแหนง่ ของขอ้ มูล ข้อมูลและแปลความหมายของ - ค่ากลาง (ฐานนยิ ม มธั ย คา่ สถติ เิ พื่อประกอบการ ฐาน ค่าเฉลย่ี เลขคณติ ) 19 30 ตัดสินใจ - ค่าการกระจาย (พสิ ยั ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน) สอบกลางภาค 1 20 2 การวเิ คราะห์ ค3.1 ม.6/1เข้าใจและใช้ - การนำเสนอขอ้ มลู เชงิ 19 30 ขอ้ มลู ความรทู้ างสถติ ิในการนำเสนอ คุณภาพและเชิงปรมิ าณ เบอ้ื งตน้ ขอ้ มูลและแปลความหมายของ - การแปลความหมายของ ค่าสถิติเพือ่ ประกอบการ ค่าสถติ ิ ตัดสินใจ รวมระหว่างปี 39 80 สอบปลายภาค 1 20 40 100 รวม

106 โครงสร้างรายวิชา รายวชิ า คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน 6 รหัสวิชา ค33102 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น หน่วย ชือ่ หนว่ ย ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 การวเิ คราะห์ ค3.1 ม.6/1เข้าใจและใช้ - การนำเสนอข้อมูลเชงิ และนำเสนอ ความรทู้ างสถติ ิในการนำเสนอ คุณภาพและเชิงปริมาณ 10 15 ข้อมลู เชิง ข้อมูลและแปลความหมายของ - การแปลความหมายของ คุณภาพ ค่าสถติ ิเพ่ือประกอบการตดั สินใจ ค่าสถติ ิ 2 การวเิ คราะห์ ค3.1 ม.6/1เข้าใจและใช้ - การนำเสนอข้อมลู เชิง และนำเสนอ ความรทู้ างสถิติในการนำเสนอ คุณภาพและเชงิ ปรมิ าณ ข้อมลู เชิง ขอ้ มลู และแปลความหมายของ - การแปลความหมายของ ปริมาณ คา่ สถิติเพือ่ ประกอบการ คา่ สถติ ิ ตัดสินใจ - ตำแหนง่ ของข้อมลู 9 15 - ค่ากลาง - คา่ การกระจาย (พสิ ยั สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน) สอบกลางภาค 1 20 2 การวเิ คราะห์ ค3.1 ม.6/1เขา้ ใจและใช้ - การนำเสนอข้อมลู เชงิ และนำเสนอ ความรทู้ างสถติ ิในการนำเสนอ คณุ ภาพและเชงิ ปรมิ าณ ข้อมูลเชิง ขอ้ มูลและแปลความหมายของ - การแปลความหมายของ ปรมิ าณ คา่ สถติ ิเพือ่ ประกอบการ ค่าสถติ ิ ตัดสนิ ใจ - ตำแหนง่ ของข้อมูล 19 30 - ค่ากลาง (ฐานนยิ ม มธั ยฐาน คา่ เฉล่ียเลขคณิต) - คา่ การกระจาย (พสิ ยั ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน) รวมระหว่างปี 39 80 สอบปลายภาค 1 20 รวม 40 100

107 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชา คณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ 1 รหสั วิชา ค31201 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 80 ชั่วโมง/ภาคเรียน หน่วย ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ เวลา น้ำหนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 จำนวนจรงิ 1. เข้าใจจำนวนจรงิ และใช้ - จำนวนจรงิ และสมบัติของ และพหุนาม สมบตั ขิ องจำนวนจรงิ ในการ จำนวนจรงิ แกป้ ญั หา - คา่ สัมบรู ณ์ของจำนวนจรงิ 2.แก้สมการและอสมการพหุ และสมบัติ นามตวั แปรเดยี วดีกรไี มเ่ กิน ของค่าสัมบูรณข์ องจำนวน ส่ี และนำไปใช้ในการ จริง แก้ปญั หา - จำนวนจริงในรูปกรณฑแ์ ละ 3. แกส้ มการและอสมการ จำนวนจริง 39 30 เศษสว่ นของพหนุ ามตวั แปร ในรูปเลขยกกำลัง เดียว และนำไปใชใ้ นการ - ตวั ประกอบของพหนุ าม แกป้ ัญหา - สมการและอสมการพหนุ าม 4.แกส้ มการและอสมการคา่ - สมการและอสมการเศษส่วน สัมบูรณ์ของพหนุ ามตัวแปร ของพหนุ าม เดยี ว และนำไปใช้ในการ - สมการและอสมการคา่ แกป้ ญั หา สมั บูรณข์ องพหุนาม 2 เรขาคณติ สอบกลางภาค - จดุ และเส้นตรง 1 20 วเิ คราะห์ 5. เข้าใจและใชค้ วามรู้ - วงกลม 39 30 เกี่ยวกบั เรขาคณติ วิเคราะห์ - พาราโบลา ในการแกป้ ญั หา - วงรี - ไฮเพอรโ์ บลา รวมระหวา่ งปี 79 80 สอบปลายภาค 1 20 80 100 รวม

108 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชา คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ 2 รหัสวชิ า ค31202 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ช่วั โมง/ภาคเรียน หนว่ ย ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้เู พ่ิมเติม เวลา นำ้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1 ความสัมพนั ธ์ 1.หาผลลพั ธ์ของการบวก - การบวก การลบการคณู และฟังกช์ ัน การลบ การคณู การหาร การหารฟงั กช์ นั ฟงั กช์ นั หาฟงั ก์ชันประกอบ - ฟังกช์ นั ประกอบ และฟังก์ชนั ผกผนั - ฟงั ก์ชันผกผนั 39 30 2.ใชส้ มบตั ขิ องฟังกช์ นั ผกผนั ในการแก้ปญั หา สอบกลางภาค 1 20 2 ฟังก์ชันเอกซ์ 3.เข้าใจลักษณะกราฟของ - ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล โพเนนเชียล ฟงั ก์ชนั เอกซ์โพเนนเชยี ล - ฟงั ก์ชนั ลอการิทึม และฟงั กช์ นั และฟงั กช์ ันลอการทิ มึ และ - สมการเอกซโ์ พเนนเชยี ล ลอการิทมึ นำไปใช้ในการแกป้ ัญหา และสมการลอการิทึม 39 30 4.แกส้ มการเอกซ์โพเนน เชียลและสมการลอการทิ ึม และนำไปใชใ้ นการแก้ปญั หา รวมระหวา่ งปี 79 80 สอบปลายภาค 1 20 80 100 รวม

109 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชา คณติ ศาสตร์เพม่ิ เติม 3 รหสั วิชา ค32203 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ชวั่ โมง/ภาคเรียน หน่วย ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 ฟังก์ชัน 1. เข้าใจฟังกช์ ันตรโี กณมติ ิ - ฟงั กช์ ันตรโี กณมติ ิ 29 30 ตรีโกณมติ ิ และลักษณะกราฟของฟงั กช์ นั - ฟงั กช์ ันตรโี กณมิตผิ กผนั ตรโี กณมติ ิ และนำไปใช้ในการ - เอกลกั ษณแ์ ละสมการ แกป้ ัญหา ตรีโกณมติ ิ 2. แกส้ มการตรีโกณมิตแิ ละ - กฎของโคไซนแ์ ละกฎของ นำไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา ไซน์ 3. ใช้กฎของโคไซนแ์ ละกฎ ของไซนใ์ นการแกป้ ัญหา สอบกลางภาค 1 20 2 เมทริกซ์ 4. เขา้ ใจความหมาย หา - เมทรกิ ซ์และเมทริกซ์สลบั 15 15 ผลลัพธข์ องการบวกเมทรกิ ซ์ เปลย่ี น การคูณเมทรกิ ซ์กบั จำนวนจรงิ - การบวกเมทรกิ ซ์การคณู การคณู ระหว่างเมทรกิ ซ์ และ เมทริกซ์กบั จำนวนจริงการ การหาเมทรกิ ซ์สลับเปลี่ยน คณู ระหว่างเมทรกิ ซ์ หาดีเทอรม์ แิ นนต์ของเมท - ดีเทอรม์ ิแนนต์ ริกซ์n x n เม่อื n เปน็ จำนวน - เมทริกซ์ผกผัน นับที่ไม่เกินสาม - การแกร้ ะบบสมการเชิง 5. หาเมทรกิ ซผ์ กผนั ของ เส้นโดยใชเ้ มทริกซ์ เมทริกซ์2 x 2 6. แก้ระบบสมการเชิงเส้น โดยใชเ้ มทรกิ ซ์ผกผนั 3 เวกเตอรใ์ น 7. หาผลลพั ธ์ของการบวก - เวกเตอรน์ ิเสธของเวกเตอร์ 14 15 สามมิติ การลบเวกเตอร์ การคณู - การบวกการลบเวกเตอร์ เวกเตอรด์ ว้ ยสเกลาร์ หาผล การคูณเวกเตอร์ คณู เชิงสเกลารแ์ ละผลคณู เชิง ดว้ ยสเกลาร์ เวกเตอร์ - ผลคณู เชงิ สเกลาร์ ผลคณู เชงิ เวกเตอร์

8. นำความรเู้ กี่ยวกับเวกเตอร์ 110 ในสามมิติไปใช้ในการ 59 80 รวมระหวา่ งปี 1 20 สอบปลายภาค 60 100 รวม

111 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชาคณิตศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 4 รหสั วชิ า ค32204 กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น หน่วย ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูเ้ พิ่มเตมิ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1 จำนวน 1. เข้าใจจำนวนเชิงซ้อน - จำนวนเชิงซอ้ น และสมบตั ิ เชงิ ซ้อน 29 30 และใชส้ มบัติของจำนวน ของจำนวนเชิงซอ้ น 2 หลักการนบั 1 20 เบอ้ื งต้น เชิงซ้อนในการแกป้ ัญหา - จำนวนเชงิ ซ้อนในรูปเชงิ ขวั้ 19 20 3 ความนา่ จะ 2. หารากที่ n ของ จำนวน - รากที่ n ของจำนวนเชงิ ซ้อน 10 10 เป็น เชงิ ซ้อน เม่ือ n เป็นจำนวน เมอื่ n เปน็ จำนวนนบั ท่ี 59 80 1 20 นับทมี่ ากกวา่ 1 มากกวา่ 60 100 3. แกส้ มการพหุนามตัว - สมการพหนุ ามตวั แปรเดยี ว แปรเดียวดกี รีไม่เกินส่ที ่มี ี สมั ประสิทธ์ิเปน็ จำนวนเต็ม และนำไปใช้ในการแกป้ ญั หา สอบกลางภาค 4.เข้าใจและใช้หลกั การบวก - หลกั การบวกและการคณู และการคูณ การเรยี ง - การเรียงสบั เปลี่ยน สับเปลีย่ น และการจัด - การเรียงสบั เปลย่ี นเชงิ เส้น หมวดหมู่ในการแก้ปญั หา - การเรียงสับเปลี่ยนเชิง วงกลมกรณที ่สี ิ่งของแตกตา่ ง - การจดั หมวดหมกู่ รณีที่ สิ่งของแตกต่างกนั ทั้งหมด - ทฤษฎบี ททวินาม 5. หาความนา่ จะเป็นและนำ - การทดลองส่มุ และ ความร้เู กี่ยวกบั ความนา่ จะ เหตุการณ์ เปน็ ไปใช้ - ความน่าจะเป็นของ เหตุการณ์ รวมระหวา่ งปี สอบปลายภาค รวม

112 โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตรเ์ พม่ิ เติม5 รหัสวิชา ค33205 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง/ภาคเรียน หน่วย ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 ลำดบั และ 1. ระบุได้วา่ ลำดับท่ี - ลำดับจำกดั และลำดบั อนนั ต์ อนุกรม กำหนดให้เป็นลำดับลเู่ ข้า - ลำดับเลขคณติ และลำดับ หรอื ลู่ออก เรขคณติ 2. หาผลบวก n พจน์แรก - ลมิ ิตของลำดบั อนนั ต์ ของอนกุ รม - อนุกรมจำกดั และอนกุ รม เลขคณิตและอนกุ รม อนันต์ เรขาคณติ - อนกุ รมเลขคณิตและอนกุ รม 29 30 3. หาผลบวกอนุกรมอนันต์ เรขาคณิต 4. เข้าใจและนำความรู้ - ผลบวกอนุกรมอนนั ต์ เกย่ี วกับลำดบั - การนำความรเู้ ก่ียวกบั ลำดบั และอนุกรมไปใช้ และอนกุ รม ไปใชใ้ นการแก้ปญั หามลู ค่า ของเงินและคา่ รายงวด สอบกลางภาค 1 20 2 แคลคลู ัส 5. ตรวจสอบความตอ่ เนอ่ื ง - ลิมิตและความต่อเนื่องของ เบ้อื งตน้ ของฟังกช์ นั ฟังกช์ ัน ทีก่ ำหนดให้ - อนุพนั ธ์ของฟงั กช์ นั พีชคณิต 6. หาอนุพันธ์ของฟังก์ชนั - ปริพันธ์ของฟังก์ชนั พชี คณติ พีชคณติ ที่กำหนดให้ 29 30 และนำไปใช้แกป้ ญั หา 7. หาปริพันธไ์ มจ่ ำกดั เขต และจำกัดเขตของ ฟงั ก์ชันพชี คณติ ทีก่ ำหนดให้ และนำไปใชแ้ ก้ปัญหา รวมระหวา่ งปี 59 80 สอบปลายภาค 1 20 รวม 60 100

113 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 6 รหสั วิชา ค33206 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน หน่วย ชื่อหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ช่วั โม คะแนน ง) 1 การแจกแจง 1. หาความน่าจะเปน็ ของ - การแจกแจงเอกรูป ความน่าจะ เหตกุ ารณท์ เี่ กิดจากตัวแปร - การแจกแจงทวนิ าม เป็นเบอื้ งต้น ส่มุ ที่มกี ารแจกแจงเอกรปู และนำไปใช้แก้ปัญหาได้ 2. หาความน่าจะเปน็ ของเผ 29 30 ตุการณ์ทเ่ี กิดจากตัวแปรสุม่ ท่ีมีการแจกแจงทวินามและ นำไปใช้แก้ปญั หาได้ สอบกลางภาค 1 20 1 การแจกแจง 3. หาความน่าจะเปน็ ของ - การแจกแจงปกติ 29 30 ความนา่ จะ เหตุการณท์ ี่เกิดจากตวั แปร เป็นเบื้องต้น สุ่มที่มีการแจกแจงปกตแิ ละ นำไปใช้แก้ปัญหาได้ รวมระหว่างปี 59 80 สอบปลายภาค 1 20 60 100 รวม

114 9. การจัดการเรยี นรู้/กระบวนการเรยี นรู้ กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry) 5E ประกอบด้วยข้ันตอนทสี่ าํ คัญ ดงั นี้ 1. การสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการนาํ เข้าสู่บทเรยี นหรอื เรอ่ื งทีส่ นใจ ซ่ึงอาจเกดิ ข้นึ เอง จากเร่อื งที่สงสัย จากความสนใจของตัวผ้เู รียนเอง หรือเกดิ จากการอภปิ รายภายในกลมุ่ เร่ืองทน่ี า่ สนใจอาจมา จาก เหตกุ ารณท์ ี่ กาํ ลงั เกดิ ขน้ึ ในช่วงเวลานน้ั หรอื เป็นเร่อื งทเ่ี ช่อื มโยงกับความรู้เดิมทเี่ พงิ่ เรียนมาแล้ว เปน็ ตวั กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียน สรา้ งคาํ ถาม กาํ หนดประเด็นท่จี ะศกึ ษา ในกรณที ีย่ ังไมม่ ีประเด็นท่นี ่าสนใจ ผสู้ อนอาจให้ ศึกษาจากสอื่ ตา่ งๆ หรอื เปน็ ผู้ กระตุน้ ด้วยการเสนอประเด็นขึ้นมากอ่ น แต่ไม่ควรบงั คบั ใหผ้ ูเ้ รยี นยอมรับประเดน็ ท่ีผู้สอนกาํ ลังสนใจเป็นเรื่องทจ่ี ะใช้ ศกึ ษา เมอ่ื มคี าํ ถามทน่ี ่าสนใจและผูเ้ รยี นส่วนใหญย่ อมรับให้เปน็ ประเด็นท่ี ตอ้ งการศึกษา จงึ ร่วมกนั กาํ หนดขอบเขตและ แจกแจงรายละเอียดของเรอื่ งทศ่ี กึ ษาให้มีความชดั เจนยงิ่ ขึน้ อาจ รวมทั้งการรวบรวมความรปู้ ระสบการณเ์ ดิมหรอื ความรู้ จากแหล่งตา่ งๆ ทจี่ ะช่วยใหน้ าไปสู่ความเขา้ ใจเร่อื ง หรือ ประเดน็ ทจ่ี ะศึกษามากขนึ้ และมีแนวทางในการสาํ รวจตรวจสอบอยา่ งหลากหลาย 2. การสํารวจและค้นหา (Exploration) เมื่อทาํ ความเขา้ ใจในประเด็นหรอื คาํ ถามทส่ี นใจศกึ ษา อยา่ ง ถ่องแทแ้ ล้วใหม้ ีการวางแผนกาํ หนดแนวทางในการสํารวจตรวจสอบตงั้ สมมติฐาน กาํ หนดทางเลือกที่เป็นไปได้ลง มือ ปฏบิ ัตเิ พ่ือรวบรวมขอ้ มูล ขอ้ สนเทศ หรือปรากฏการณต์ า่ งๆ วธิ ีการตรวจสอบทำได้หลายวธิ ีเชน่ ทาํ การ ทดลอง ทาํ กจิ กรรมภาคสนาม การใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พือ่ ช่วยในการสรา้ งสถานการณจ์ าํ ลอง การศกึ ษาหาข้อมูล จากเอกสารอา้ งองิ หรอื แหล่งข้อมูลต่างๆ เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซึ่งขอ้ มลู อยา่ งเพียงพอทจ่ี ะนาไปใช้ในขนั้ ต่อไป 3. การอธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) เม่ือไดข้ อ้ มูลอยา่ งเพยี งพอต่อการสํารวจตรวจสอบ แล้ว จึงนําขอ้ สนเทศท่ีได้มาวิเคราะหแ์ ปลผล สรปุ ผล และนาํ เสนอผลท่ไี ด้ในรปู ต่างๆ เชน่ บรรยายสรปุ สรา้ ง แบบจําลองทาง คณติ ศาสตรห์ รือวาดรปู สรา้ งตาราง ฯลฯ การค้นพบในข้ันนีเ้ ป็นไปได้หลายทาง เชน่ สนบั สนุน สมมติฐานที่ต้ังไว้โต้แย้ง กบั สมมตฐิ านที่ตั้งไว้หรอื ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกับประเด็นท่ีกําหนดไว้แต่ผลท่ีได้จะอยใู่ นรูปแบบใด กส็ ามารถสรา้ งความรู้และชว่ ย ให้เกิดการเรียนร้ไู ด้ 4. การขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนาํ ความรทู้ ีส่ ร้างข้ึนไปเช่อื มโยงกบั ความรูเ้ ดิมหรอื แนวคิด ท่ีไดค้ น้ คว้าเพ่ิมเติมหรือนาํ แบบจาํ ลองหรือข้อสรปุ ท่ีได้ไปใช้อธิบายสถานการณ์หรอื เหตุการณอ์ นื่ ๆ ถา้ ใช้อธบิ าย เรือ่ งต่างๆ ไดม้ ากแสดงวา่ ข้อจํากัดน้อย ซึง่ จะชว่ ย เชอ่ื มโยงกบั เรื่องต่างๆ ทาํ ให้เกดิ ความรกู้ วา้ งขวางขึน้ 5. การประเมนิ ผล (Evaluation) เป็นการประเมนิ การเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการตา่ งๆ วา่ ผ้เู รียนมี ความรู้ อะไรบ้าง อย่างไร มากนอ้ ยเพียงใด จากนนั้ จงึ นำความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในเร่ืองอนื่ ๆ การนาํ ความรูแ้ ละแบบจําลอง ไปใช้อธิบายหรอื ประยุกต์ใชก้ บั เหตกุ ารณ์หรือเรอื่ งอน่ื ๆ จะนาํ ไปสขู่ ้อโตแ้ ยง้ หรือข้อจํากัด ซึ่งจะกอ่ ให้เกิดประเดน็ หรอื คาํ ถาม หรอื ปญั หาทต่ี อ้ งการสํารวจตรวจสอบตอ่ ไป ทำให้เกดิ กระบวนการทต่ี ่อเนื่องกันไปเรอ่ื ยๆ จึง เรียกวา่ Inquiry cycle กระบวนการสืบเสาะหาความรจู้ ึงชว่ ยให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ทงั้ เน้ือหา หลกั การ และ ทฤษฎตี ลอดจนการลงมอื ปฏบิ ัติเพ่อื ใหไ้ ดค้ วามรซู้ ง่ึ จะเป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้ต่อไป

115 11.สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1.คณติ ศาสตร์, สอื่ การสอนคณติ ศาสตร์, การศึกษา - Pinteresthttps://www.pinterest.com/prakaikoon 2. http://www.caistudio.info/ เปน็ หนา้ เวปสื่อประกอบการเรยี นการสอน CAI ทุกกล่มุ สาระสามารถดาว โหลดมาใชส้ อนในชน้ั เรียนได้ 3. http://www.youtube.com/view_play_list?p=575B58727CBC7CD6 เปน็ เวปสือ่ การสอนท่เี ป็นวดี โี อ สามารถเปดิ ให้นกั เรยี นศึกษาหรอื ดูเพอื่ ความเพลดิ เพลนิ และใหค้ ติสอนใจ 4. http://www.kruaung.com/index.php เป็นขอ้ สอบระรับประถมศึกษาถงึ ระดบั มธั ยมศึกษา ชุดการสอนบทเรยี นสำเรจ็ รูปคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 5.Nasa องค์การนาซา่ : http://www.nasa.gov/home/index.html? 6. National Geographics สำหรับเด็ก : http://www.nationalgeographic.com/geobee/ 7.เกมบำรงุ สมอง Biotec : http://sirs.biotec.or.th/games/ 8.ห้องสมดุ วิทยพัฒน์ : http://www.wphat.com/index_idx.htm 9. https://www.facebook.com/KruSonzaa/สื่อคณิตศาสตร์เพ่ือการเรียนรู้ By Kru Sonzaa. .. 10. http://www.xn--12ca5eb0atfbad4eh5ai1ef5bg6a8png.com/index.php?name=news&category=15 ฟรีส่ือการเรยี นการสอน 11.http://dlit.ac.th/pages/resources.php?subjectid=02&subject=%E0%B8%84%E0%B8%93%E0 %B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B 9%8Cคณติ ศาสตร์. 12.https://shopee.co.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0 %B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B 8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9% 8C-i.14442701.7310900977สอื่ การสอนคณติ ศาสตร์ 13.https://shopee.co.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0 %B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B 8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9% 8C-i.14442701.7310900977สือ่ การสอนคณติ ศาสตร์ 14.https://inskru.com/tag/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E 0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8Cไอเดียการสอน สอ่ื การสอน บอร์ดเกม เพอ่ื การเรียนรู้ กจิ กรรมและเกม เกี่ยวกบั คณติ ศาสตร์ 15. http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/teacher/251167 มี.ค. 2016 ... ลขิ สิทธิภ์ าพ ขอสงวนเฉพาะสำหรบั ใช้งานในสอ่ื ต่างๆ ของทรูปลกู ปัญญา เท่านั้น หา้ มไมใ่ ห้นำ ภาพไปเผยแพรผ่ ่านชอ่ งทาง อน่ื โดยเดด็ ขาด. สอื่ การสอนวชิ า ...

116 16. https://www.dltv.ac.th/teachplan/lists/1/2000 17.http://www.mathtalentschool.com/productcategory/%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88 %E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99% E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0 %B8%95%E0%B8%A3%E0%B/สอื่ การสอนคณติ ศาสตร์ 18. ttp://3qmath.com/3-คิว มเี ดยี จำกดั เปน็ ทง้ั ผู้ผลติ และตัวแทนจำหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ สือการเรียนการ สอน คณิตศาสตร์19.http://www.stemedthailand.org/?activity=%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9 %89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8 1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%93% E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AAโปรแกรม GeoGebra เป็นโปรแกรม ทีใ่ ชส้ ำหรบั สรา้ งส่อื การเรยี นการสอนคณติ ศาสตร์ในรูป แบบ 3D เชน่ เรอ่ื งเรขาคณติ และพีชคณติ ... 20. https://www.geogebra.org/m/knzYSe9cสอื่ การสอนนี้เปน็ สื่อการสอนวิชาคณติ ศาสตรร์ ะดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้นโดยใชโ้ ปรมแกรม Geogebra โดยไดร้ ับการอบรมพฒั นาในโครงการพฒั นาครยู ุค 4.0 ขอขอบคุณผูใ้ ห้กา… 21. http://math.ipst.ac.th/?page_id=1567สื่อการเรยี นร.ู้ . สอ่ื วดี ทิ ศั น.์ Oops, something went wrong. Facebook. Links. Ministry สมาคมคณติ ฯ ตรา-สสวท11 STEM Learning Space scimath tedet_logo 2. 12. การวดั ผลและประเมนิ ผลสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เพอ่ื ทจ่ี ะทราบวา่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนทำใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรหู้ รือไมเ่ พียงใด จำเปน็ ตอ้ ง มีการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น ในอดตี การวดั และประเมินผลสว่ นใหญใ่ ห้ความสำคญั กับการใช้ ข้อสอบซึ่งไมส่ ามารถสนองเจตนารมณก์ ารเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ให้ผู้เรยี นคิด ลงมอื ปฏิบตั ดิ ว้ ยกระบวนการ

117 หลากหลาย เพื่อสร้างองคค์ วามรู้ ดังนน้ั ผสู้ อนตอ้ งตระหนักว่าการเรียนการสอนและการวัดผลประเมนิ ผลเปน็ กระบวนการเดยี วกัน และจะตอ้ งวางแผนไปพรอ้ มๆ กนั แนวทางการวัดผลและประเมนิ ผล การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้จะบรรลุผลตามเป้าหมายของการเรยี นการสอนทว่ี างไวไ้ ด้ ควรมี แนวทางดังตอ่ ไปน้ี 1. ตอ้ งวดั และประเมนิ ผลท้ังความรู้ ความคดิ ความสามรถ ทักษะและกระบวนการ เจตคติคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มในวทิ ยาศาสตร์ รวมทัง้ โอกาสในการเรยี นของผู้เรียน 2. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผลตอ้ งสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ทกี่ ำหนดไว้ 3. ตอ้ งเก็บขอ้ มลู ทีไ่ ด้จากการวดั และประเมนิ ผลอยา่ งตรงไปตรงมา และต้องประเมินผลภายใตข้ อ้ มลู ที่ มอี ยู่ 4. ผลการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผู้เรยี นต้องนำไปสู่การแปลผลและลงขอ้ สรปุ ที่สมเหตสุ มผล 5. การวดั และประเมินผลตอ้ งมคี วามเทีย่ งตรงและเปน็ ธรรม ทง้ั ในดา้ นของวธิ กี ารวัดโอกาสของการ ประเมิน จดุ มุ่งหมายของการวัดผลและประเมนิ ผล 1. เพือ่ วนิ จิ ฉยั ความรคู้ วามสามารถ ทกั ษะและกระบวนการ เจตคติ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ ม ของผเู้ รียน และเพื่อซ่อมเสรมิ ผ้เู รียนให้พฒั นาความร้คู วามสามารถและทกั ษะได้เตม็ ตามศกั ยภาพ 2. เพ่อื ใช้เปน็ ข้อมลู ปอ้ นกลบั ให้แกต่ วั ผู้เรียนเองวา่ บรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรูเ้ พยี งใด 3. เพอื่ ใชข้ อ้ มลู ในการสรุปผลการเรียนรแู้ ละเปรียบเทียบถงึ ระดับพฒั นาการของการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผลจงึ มคี วามสำคญั เปน็ อยา่ งย่ิงต่อกระบวนการเรียนการสอน วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลที่ สามารถสะท้อนผลการเรยี นรู้อยา่ งแทจ้ รงิ ของผ้เู รยี นและครอบคลุมกระบวนการเรยี นร้แู ละผลการเรยี นรู้ ทั้ง 3 ด้านตามท่ีกลา่ วมาแล้วจงึ ต้องวดั และประเมนิ ผลจากสภาพจริง (Authentic assessment)

118 การวดั และประเมนิ ผลจากสภาพจรงิ กจิ กรรมการเรียนรู้ของผเู้ รียนมีหลากหลาย เชน่ กจิ กรรมสำรวจภาคสนาม กิจกรรมการสำรวจ ตรวจสอบ การทดลอง กจิ กรรมศกึ ษาค้นควา้ กจิ กรรมศกึ ษาปัญหาพเิ ศษหรือโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ในการทำกิจกรรมเหล่าน้ตี อ้ งคำนงึ วา่ ผ้เู รยี นแต่ละคนมีศักยภาพแตกตา่ งกัน ผเู้ รียนแต่ละคน จงึ อาจทำงานชิน้ เดยี วกนั ไดเ้ สรจ็ ในเวลาท่ีแตกตา่ งกนั และผลงานท่ีไดก้ ็อาจแตกตา่ งกัน เมอื่ ผเู้ รียนทำกิจกรรม เหล่าน้แี ล้วก็จะต้องเก็บรวบรวมผลงาน เช่น รายงาน ชิน้ งาน บนั ทกึ และรวบถึงทักษะปฏบิ ตั ิตา่ ง ๆ เจตคตทิ าง วิทยาศาสตร์ เจตคติต่อวทิ ยาศาสตร์ ความรัก ความซาบซง้ึ กจิ กรรมท่ีผูเ้ รยี นไดท้ ำและผลงานเหลา่ นตี้ ้องใชว้ ธิ ี ประเมินท่ีมคี วามเหมาะสมและแตกตา่ งกนั เพ่อื ช่วยให้สามารถประเมินความรคู้ วามสามารถและความรสู้ กึ นึกคิด ที่แทจ้ รงิ ของผ้เู รียนได้ การวดั และประเมินผลจากสภาพจรงิ จะมปี ระสิทธภิ าพกต็ อ่ เมื่อมีการประเมินหลาย ๆ ด้าน หลากหลายวิธี ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทสี่ อดคล้องกับชวี ิตจริง และตอ้ งประเมินอยา่ งตอ่ เน่ือง เพ่ือจะได้ ข้อมูลที่มากพอทจ่ี ะสะทอ้ นความสามารถทแี่ ท้จรงิ ของผ้เู รียนได้ ลักษณะสำคัญของการวดั และประเมินผลจากสภาพจร 1. การวดั และประเมนิ ผลจากสภาพจริง มีลักษณะทีส่ ำคญั คือ ใชว้ ธิ กี ารประเมนิ กระบวนการที่ซับซอ้ น ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ าน ศักยภาพของเรียนในด้านของผผู้ ลิตและกระบวนการทไี่ ด้ผลผลติ มากกวา่ ที่จะ ประเมินว่าผู้เรยี นสามารถจดจำความรู้อะไรไดบ้ า้ ง 2. เปน็ การประเมินความสามารถของผูเ้ รียน เพ่อื วนิ จิ ฉัยผู้เรยี นในส่วนทคี่ วรสง่ เสริมและส่วนทคี่ วร จะแกไ้ ขปรับปรุง เพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ัฒนาอย่างเตม็ ศักยภาพตามความสามารถ ความสนใจและความต้องการ ของแตล่ ะบุคคล 3. เปน็ การประเมินทเ่ี ปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนได้มีส่วนร่วมประเมนิ ผลงานของท้งั ตนเองและของเพอื่ น ร่วมห้อง เพอื่ ส่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รียนร้จู ักตวั เอง เชือ่ มนั่ ในตนเอง สามารถพัฒนาตนเองได้ 4. ขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการประเมนิ จะสะท้อนใหเ้ ห็นถึงกระบวนการเรยี นการสอนและการวางแผนการ สอนของผสู้ อนวา่ สามารถตอบสนองความสามารถ ความสนใจและความต้องการของผู้เรียนแตล่ ะบุคคลได้ หรือไม่ 5. ประเมนิ ความสามารถของผเู้ รียนในการถ่ายโอนการเรียนรูไ้ ปส่ชู ีวิตจรงิ ได้ 6. ประเมนิ ดา้ นตา่ งๆ ด้วยวธิ ีทีห่ ลากหลายในสถานการณต์ า่ งๆ อย่างตอ่ เนือ่ ง

119 วธิ กี ารและแหลง่ ขอ้ มูลที่ใช้ เพอ่ื ใหก้ ารวัดและประเมนิ ผลได้สะท้อนความสามารถท่ีแทจ้ รงิ ของผูเ้ รยี น ผลการประเมินอาจจะไดม้ าจาก แหลง่ ข้อมลู และวะการต่างๆ ดังตอ่ ไปน้ี 1. สงั เกตการแสดงออกเป็นรายบุคคลหรอื รายกลมุ่ 2. ชิ้นงาน ผลงาน รายงาน 3. การสัมภาษณ์ 4. บันทึกของผู้เรยี น 5. การประชุมปรกึ ษาหารือรว่ มกนั ระหวา่ งผ้เู รียนและครู 6. การวัดและประเมินผลภาคปฏิบัติ 7. การวัดและประเมนิ ผลดา้ นความสามารถ 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้โดยแฟ้มผลงาน การวัดและประเมนิ ผลดา้ นความสามารถ (Performance Assessment) ความสามารถของผเู้ รียนประเมินได้จากการแสดงออกโดยตรงจากการทำงานตา่ ง ๆ เปน็ สถานการณท์ ่ี กำหนดให้ ซึง่ เป็นของจรงิ หรือใกลเ้ คียงกับสภาพจริง และเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นไดแ้ กป้ ญั หาหรอื ปฏิบัตงิ านไดจ้ รงิ โดยประเมนิ จากกระบวนการทำงาน กระบวนการคิดโดยเฉพาะความคดิ ข้ันสงู และผลงานที่ได้ ลกั ษณะสำคัญของการประเมินความสามารถ คอื กำหนดวัตถปุ ระสงค์ของงาน วิธกี าร ทำงาน ผลสำเรจ็ ของงาน มคี ำสง่ั ควบคมุ สถานการณใ์ นการปฏิบัติงาน และมเี กณฑ์การให้คะแนนท่ีชดั เจน การ

120 ประเมนิ ความสามารถทีแ่ สดงออกของผ้เู รยี นทำได้หลายแนวทางต่าง ๆ กนั ขนึ้ อยกู่ บั สภาพแวดลอ้ ม สภาวการณ์ และความสนใจของผู้เรยี น ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้ 1. มอบหมายงานให้ทำ งานทม่ี อบให้ทำตอ้ งมีความหมาย มคี วามสำคญั มคี วามสมั พันธก์ บั หลกั สตู ร เน้อื หาวิชา และชีวติ จรงิ ของผูเ้ รียน ผเู้ รยี นต้องใชค้ วามร้หู ลายดา้ นในการปฏิบตั งิ านท่ีสามารถสะท้อน ใหเ้ หน็ ถึงกระบวนการทำงาน และการใช้ความคดิ อย่างลึกซ้ึง 2. การกำหนดชน้ิ งาน หรืออุปกรณ์ หรือส่ิงประดษิ ฐใ์ หผ้ ู้เรยี นวิเคราะห์องค์ประกอบและกระบวนการ ทำงาน และเสนอแนวทางเพอื่ พฒั นาใหม้ ีประสิทธภิ าพดขี ้ึน 3. กำหนดตวั อยา่ งช้ินงานให้ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นศึกษาชน้ิ งานน้นั และสรา้ งชิน้ งานท่มี ลี กั ษณะของการทำงาน ได้เหมอื นหรือดกี วา่ เดมิ 4. สรา้ งสถานการณ์จำลองที่สมั พันธ์กบั ชีวติ จริงของผเู้ รียน โดยกำหนดสถานการณแ์ ลว้ ใหผ้ ู้เรยี นลงมือ ปฏบิ ัติเพ่อื แกป้ ญั หา การประเมินผลการเรยี นรูโ้ ดยใช้แฟ้มผลงาน (Portfolio Assessment) แฟ้มผลงาน คอื อะไรเมอ่ื ผ้เู รยี นทำกจิ กรรมต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวข้องกับการเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตร์ ทง้ั ในห้องเรยี น หรอื นอกห้องเรยี นกต็ าม ก็จะมผี ลงานทไี่ ดจ้ ากการทำกจิ กรรมเหลา่ น้ันปรากฏอย่เู สมอ ซงึ่ สามารถจำแนก ผลงานออกตามกจิ กรรมตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. การฟงั บรรยาย เมื่อผูเ้ รยี นฟงั การบรรยายกจ็ ะมีสมดุ จดคำบรรยาย ซง่ึ อาจอยใู่ นรูปของบนั ทกึ อย่าง ละเอียดหรอื บนั ทึกแบบย่อ ท้ังนขี้ นึ้ อย่กู บั ลักษณะของความชอบและความเคยชินของผู้เรียนในการบันทึกคำ บรรยาย 2. การทำการทดลอง ผลงานของผูเ้ รียนท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการทดลอง อาจประกอบดว้ ยการวางแผนการ ทดลองทง้ั ในรปู ของบนั ทกึ อยา่ งเปน็ ระบบหรือบนั ทกึ อยา่ งยอ่ การบันทกึ วิธีการทดลอง ผลการทดลองและ ปัญหาท่พี บขณะทำการทดลอง การแปรผล สรปุ ผลและอภปิ รายผลการทดลอง และผลงานสดุ ทา้ ยท่เี กยี่ วข้อง กบั การทดลอง คือ การรายงานผลการทดลองทผี่ เู้ รยี นอาจทำเปน็ กล่มุ หรือเด่ยี วกไ็ ด้ 3. การอภปิ ราย ผลงานของผ้เู รียนท่ีเกย่ี วข้องกบั การอภิปราย คอื วางหวั ขอ้ และขอ้ มูลทจ่ี ะนำมาใช้ใน การอภิปราย ผลท่ีไดจ้ ากการอภปิ รายรวมทง้ั ขอ้ สรุปตา่ ง ๆ 4. การศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ จดั เป็นผลงานทสี่ ำคญั ประการหนง่ึ ของผู้เรยี นทีเ่ กดิ จากการไดร้ ับ มอบหมายจากครผู ้สู อนให้ไปค้นควา้ หาความรูใ้ นเรอ่ื งตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั หวั ข้อหรือประเด็นท่ีกำลัง

121 ศึกษา ผลงานท่ไี ดจ้ ากการคน้ ควา้ เพมิ่ เติมอาจอยใู่ นรปู ของรายงาน การทำวิจยั เชิงเอกสารหรอื บนั ทึกประเด็น สำคัญซึง่ อาจนำมาใช้ประกอบการอภิปรายในชั่วโมงเรียนก็ได้ 5. การศกึ ษานอกสถานที่ การศกึ ษานอกสถานทจี่ ดั เป็นวิธีการที่เปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รียนไดม้ ปี ระสบการณ์ ตรงกับเรอ่ื งทกี่ ำลังศกึ ษา ผลงานท่ีไดอ้ าจประกอบดว้ ยการบันทกึ การสงั เกต การตอบคำถามหรือปัญหาจากใบ งาน การเขยี นรายงานสง่ิ ทคี่ น้ พบ 6. การบันทึกรายวัน เป็นผลงานประการหน่งึ ของผ้เู รยี นทอ่ี ยู่นอกเหนอื จากผลงานทแี่ สดงถงึ การเรียนรู้ โดยตรง แตจ่ ะชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นหรอื ผ้ปู ระเมนิ ได้เข้าใจในประเดน็ หรอื สิ่งที่ผูเ้ รยี นนกึ คดิ เกย่ี วกบั การเรยี นการสอน วทิ ยาศาสตร์ด้วย นอกจากกจิ กรรมที่ได้กลา่ วมาแลว้ ยงั อาจมีกิจกรรมอืน่ ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการเรียนการสอน ซึง่ ผ้เู รยี นสามารถแสดงออกถงึ ความสามรถอน่ื ๆ อกี ด้วย เชน่ การสือ่ สาร ผลงานเหล่านถ้ี ้าได้รบั การเก็บรวบรวม อย่างมีระบบดว้ ยตวั ผ้เู รียนเองตามช่วงเวลา ทง้ั กอ่ นและหลังทำกจิ กรรมเหลา่ นี้ โดยไดร้ บั คำแนะนำจาก ครผู ้สู อน และผ้เู รียนฝกึ ทำจนเคยชนิ แล้ว จะถือเปน็ ผลงานทสี่ ำคัญยิง่ ท่ีใชใ้ นการประเมินผลการเรยี นรู้ในกลมุ่ วทิ ยาศาสตร์ของผู้เรยี นต่อไป การประเมินผลการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค ม.ต้น (ม.1-3) ตัดสนิ เปน็ รายภาค กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ แบง่ คะแนนออกเปน็ 70:30 โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 ประเมินระหวา่ งเรยี น 70 ประเมนิ สอบปลายภาค ประเมินระหวา่ ง ประเมินสอบปลายภาค 30 เรยี น 70 30 1.ประเมนิ สภาพจรงิ สอบปลายภาค 1.ประเมนิ สภาพ สอบปลายภาค 20 30 2.ทดสอบยอ่ ย จรงิ 20 30 20 2.ทดสอบยอ่ ย 3.สอบกลางภาค 20 20 4.คุณลักษณะฯ 3.สอบกลางภาค 10 20 4. คณุ ลกั ษณะฯ 10

122 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย(ม.4-6) ตัดสนิ เป็นรายภาค กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ แบ่งคะแนนออกเปน็ 70:30 โดยมรี ายละเอียดดังนี้ ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 ประเมนิ ระหว่างเรยี น ประเมนิ สอบปลายภาค ประเมินระหว่างเรยี น ประเมนิ สอบปลายภาค 70 30 70 30 1.ประเมนิ สภาพ สอบปลายภาค 30 1.ประเมนิ สภาพจริง สอบปลายภาค จรงิ 20 20 30 2.ทดสอบยอ่ ย 2. ทดสอบยอ่ ย 20 20 3. สอบกลางภาค 3.สอบกลางภาค 20 20 4. คุณลกั ษณะฯ 4.คุณลักษณะฯ 10 10 หมายเหตุ นำคะแนนท่ไี ด้ในแต่ละภาคเรยี น 100 คะแนน มาตดั สินผลการเรยี นเป็นรายภาค วธิ กี ารประเมนิ ประเมินอยา่ งต่อเนอ่ื งดว้ ยวธิ ีการทหี่ ลากหลาย เช่น การทดลอง การสงั เกต การสอบปาก เปลา่ การทำใบงาน การทำแบบฝกึ หัด การปฏบิ ตั ิ การทำโครงงานและการประเมนิ ดว้ ยแฟม้ สะสมงานเปน็ ตน้ สัดสว่ นของวิธกี ารประเมนิ ทางโรงเรียนกำหนดให้มีวธิ ีการประเมนิ ดงั นี้ กลุ่มสาระ วทิ ยาศาสตร์ 70% เปน็ การวัดทหี่ ลากหลาย 30% เปน็ การวัดโดยใชแ้ บบทดสอบโดยจะแยกเป็น 2 ประเด็น คือสอบโดยข้อสอบปรนัย ไดไ้ มเ่ กนิ 60% ของการประเมนิ โดยใช้แบบทดสอบ และอกี ไม่ตำ่ กวา่ 40%เปน็ แบบทดสอบอัตนยั เวลาเรียน ผเู้ รียนต้องเข้าเรียนอยา่ งนอ้ ย 80% ของเวลาเรียนทัง้ หมด จงึ จะไดร้ บั การตดั สนิ ผลการ เรียน สำหรบั ผ้เู รยี นท่ีมีเวลาเรยี นไม่ถึง 80% จะไมม่ ีสทิ ธเิ์ ข้ารับการประเมนิ ผลปลายภาค

123 การตดั สินผลการเรยี น โรงเรียนกำหนดเกณฑก์ ารตัดสิน 8 ระดบั คือ ชว่ งคะแนนเป็นรอ้ ยละ ระดับผลการเรยี น ความหมายของผลการเรียน 0-49 0 ตำ่ กว่าเกณฑข์ น้ั ตำ่ 50-54 1 ผา่ นเกณฑ์ขั้นตำ่ 55-59 1.5 พอใช้ 60-64 2 น่าพอใช้ 65-69 2.5 ค่อนข้างดี 70-74 3 ดี 75-79 3.5 ดมี าก 4 ดเี ยย่ี ม 80 ขน้ึ ไป หมายเหตุ การตดั สนิ ผลการเรยี น จะตัดสนิ ได้เม่อื ผู้เรยี น ไดร้ บั การประเมนิ “ ผา่ น ” ทกุ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้

124 การประเมนิ สมรรถนะของผเู้ รยี น แบบประเมินสมรรถนะผู้เรยี น 5 ดา้ น คำชแ้ี จง : ใหส้ ังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะที่ประเมิน ระดบั คะแนน 321 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการสือ่ สารทเ่ี หมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์เพือ่ การสร้างองค์ความรู้ 2.2 มคี วามสามารถในการคิดเปน็ ระบบเพ่อื การสร้างองค์ความรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.1 แก้ปญั หาโดยใช้เหตผุ ล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแก้ปัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อนื่ 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4.1 ทำงานและอยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ ่นื ดว้ ยความสัมพันธอ์ ันดี 4.2 มวี ิธแี กไ้ ขความขัดแย้งอยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลือกใช้ข้อมลู ในการพฒั นาตนเองอยา่ งเหมาะสม 5.2 เลือกใช้ขอ้ มลู ในการทำงานและอยูร่ ว่ มกบั ผ้อู น่ื อย่างเหมาะสม ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิ / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน: - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั บิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน

125 การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ วิชา…………………………………….. ภาคเรียนท.่ี .......... ปีการศกึ ษา................ ชื่อ...................................................................................................ชน้ั ม........./...........เลขท.ี่ ............. คำชแี้ จง 1. ให้นกั เรียนประเมนิ ตนเองแลว้ ทำเครอื่ งหมาย ลงในชอ่ งระดบั คะแนน 2. ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น แล้วทำเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน นกั เรยี น สรุป ครูผ้สู อน สรุ สรุป อนั พึง ประเมนิ ป รวม ประสงค์ 1.1 มีความรกั และภูมิใจในความเป็นชาติ ประเมนิ 1. รกั ชาติ 1.2 ปฏิบตั ิตนตามหลักธรรมของศาสนา ระดับคะแนน ระดบั คะแนน ศาสน์ 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภักดตี ่อสถาบัน กษัตริย์ พระมหากษตั รยิ ์ 321 3 21 2.1 ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บการสอนและไม่ลอก 2. ความ การบา้ น ซอื่ สัตย์ 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงต่อความเป็นจรงิ ตอ่ สจุ รติ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงตอ่ 3. มีวินัย ผู้อื่น 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 3.2 แต่งกายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บของห้อง 5. อย่อู ย่าง 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ พอเพยี ง 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความร้ไู ดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใช้ทรพั ย์และสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ ง ประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยัดและรู้ คุณค่า

126 6. มงุ่ มั่นใน 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออม การ เงิน ทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ี ไดร้ ับมอบหมาย 7. รักความ 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออปุ สรรค เป็นไทย เพ่ือความสำเร็จ 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทย 8. มีจติ และภมู ปิ ญั ญาไทย สาธารณะ 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ ามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การใหเ้ พ่ือสว่ นรวมและเพอื่ ผ้อู ืน่ 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ำ้ ใจหรือการให้ความ ชว่ ยเหลือผ้อู ื่น 8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพื่อสว่ นรวม เมือ่ มีโอกาส สรุปผลการประเมิน ลงช่อื ......................................................นักเรียน ลงช่ือ------------------------------------------- ครผู สู้ อน () () เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน 3 พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนสม่ำเสมอ คะแนน 2 พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง คะแนน 1 พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างคร้งั

127 13.การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวัดมาใช้ การตรวจสอบการนำตวั ชวี้ ัดมาใชใ้ นการจดั ทำหน่วยการเรยี นรูใ้ นรายวชิ า คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ช้ัน ม.1 ภาคเรยี นที่ 1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี หน่วยการเรยี นรู้ที่ มาตรฐาน ค 1.1 มาตรฐาน ค 2.2 รวมจำนวนตัวชีว้ ัด 1212 1/ 1 2 /1 3/ 1 4/ 1 5 /1 การตรวจสอบการนำตวั ชวี้ ดั มาใช้ในการจดั ทำหน่วยการเรยี นรู้ในรายวชิ า คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ชน้ั ม.1 ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั ช้นั ปี รวม จำนวน หน่วยการ มาตรฐาน ค 1.1 มาตรฐาน ค 1.3 มาตรฐาน ค มาตรฐาน ค ตวั ชวี้ ดั เรียนรู้ที่ 2.2 3.1 1 12 3 1 2 3 1 1 // 2 2/ /2 3/ 1 4 /1

128 การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวดั มาใช้ในการจดั ทำหน่วยการเรยี นร้ใู นรายวิชา คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ชัน้ ม.2 ภาคเรียนท่ี 1 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี รวม จำนวน หนว่ ยการ มาตรฐาน ค มาตรฐาน ค มาตรฐาน ค มาตรฐาน ค2.2 ตัวชว้ี ัด เรยี นรูท้ ี่ 1.1 1.2 2.1 12 1 2 1 2 1 234 5 1 /1 2/ 1 3 // 2 4 /1 5/ 1 6/ 1 การตรวจสอบการนำตวั ชี้วดั มาใชใ้ นการจดั ทำหน่วยการเรยี นรูใ้ นรายวชิ า คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ชั้น ม.2 ภาคเรียนที่ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี หน่วยการ มาตรฐาน ค มาตรฐาน ค 2.2 มาตรฐาน ค รวมจำนวน เรียนรูท้ ี่ 1.2 3.1 ตัวชี้วัด 1 1234 1 1 /1 2 /1 3/ 1 4/ 1 5/ 1

129 การตรวจสอบการนำตวั ชี้วัดมาใชใ้ นการจัดทำหน่วยการเรยี นร้ใู นรายวชิ า คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ช้นั ม.3 ภาคเรยี นที่ 1 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี หน่วยการ มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน รวมจำนวน เรยี นรูท้ ี่ ค 1.2 ค 1.3 ค 2.1 ค 2.2 ค 3.1 ค 3.2 ตวั ชี้วดั 1 2 1 23 1 2 1 2 3 1 1 1/ 1 2/ 1 3/ 1 4 /1 5/ 1 6 /1 การตรวจสอบการนำตวั ชวี้ ดั มาใชใ้ นการจัดทำหนว่ ยการเรยี นรใู้ นรายวชิ า คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ช้ัน ม.3 ภาคเรยี นที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั ช้นั ปี หนว่ ยการ มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน รวมจำนวน เรียนรทู้ ่ี ค 1.2 ค 1.3 ค 2.1 ค 2.2 ค 3.1 ค 3.2 ตัวช้ีวัด 1 2 1 23 1 2 1 2 3 1 1 1/ 1 2 /1 3 // 2 4 /1 5 /1

130 การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวดั มาใช้ในการจดั ทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวชิ า คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเติม ชั้น ม.1 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ 1 ผลการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั ชนั้ ปี 5 รวมจำนวน ท่ี / 234 / ผลการเรียนรู้ 1 / 1 2 / 1 3 / 1 4 2 การตรวจสอบการนำตวั ชว้ี ัดมาใช้ในการจัดทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ ชน้ั ม.1 ภาคเรียนท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ 1 ผลการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัดชน้ั ปี 5 รวมจำนวน ท่ี / 234 / ผลการเรียนรู้ 1 /// 1 2 / 3 3 2 การตรวจสอบการนำตวั ชวี้ ัดมาใช้ในการจดั ทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวิชา คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม ช้นั ม.2 ภาคเรยี นท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ 1 ผลการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั ชนั้ ปี 7 รวมจำนวน ท่ี / / ผลการเรยี นรู้ 23 4 56 1 // 3 2 2 3 // 1 4 / 1

131 การตรวจสอบการนำตวั ชีว้ ดั มาใชใ้ นการจดั ทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวิชา คณิตศาสตรเ์ พม่ิ เติม ช้นั ม.2 ภาคเรียนที่ 2 หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั ชนั้ ปี รวมจำนวน ผลการเรียนรู้ เรียนรู้ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 4 1 /// / 2 3 2 // / 3 /// การตรวจสอบการนำตวั ชว้ี ัดมาใช้ในการจัดทำหนว่ ยการเรยี นรู้ในรายวิชา คณิตศาสตรเ์ พิม่ เติม ชน้ั ม.3 ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการ ผลการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัดชนั้ ปี รวมจำนวน ผลการเรียนรู้ เรียนรูท้ ่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 1 1/ 3 2 2 / // 2 3 // 4 // การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวัดมาใช้ในการจดั ทำหนว่ ยการเรยี นรูใ้ นรายวชิ า คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้น ม.3 ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการ ผลการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั ชนั้ ปี รวมจำนวน ผลการเรียนรู้ เรียนรู้ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 2 1 // 3 1 2 /// 3 3/ 4 / //

132 การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวดั มาใช้ในการจัดทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน 1 ชัน้ ม.4 ภาคเรยี นท่ี 1 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ดั ชั้นปี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี มาตรฐาน ค 1.1 รวมจำนวนตวั ช้วี ดั 1 1 /1 2 /1 การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวัดมาใช้ในการจัดทำหน่วยการเรยี นรู้ในรายวิชา คณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 2 ชน้ั ม.4 ภาคเรียนท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัดช้นั ปี หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ มาตรฐาน ค 3.2 รวมจำนวนตวั ชี้วดั 12 1/ 1 2 /1 การตรวจสอบการนำตวั ชว้ี ดั มาใช้ในการจดั ทำหน่วยการเรยี นรูใ้ นรายวชิ า คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 3 ช้นั ม.5 ภาคเรยี นท่ี 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ดั ชั้นปี หน่วยการเรยี นรู้ท่ี มาตรฐาน ค 1.1 มาตรฐาน ค 1.2 รวมจำนวนตวั ช้วี ดั 11 1/ 1 2 /1

133 การตรวจสอบการนำตวั ชว้ี ัดมาใชใ้ นการจัดทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวชิ า คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 4 ชน้ั ม.5 ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ดั ชน้ั ปี หน่วยการเรยี นรู้ท่ี มาตรฐาน ค 1.2 มาตรฐาน ค 1.3 รวมจำนวนตวั ชว้ี ดั 11 1/ 1 2 /1 การตรวจสอบการนำตวั ช้วี ัดมาใชใ้ นการจดั ทำหน่วยการเรยี นรู้ในรายวิชา คณติ ศาสตร์พื้นฐาน 5 ช้ัน ม.6 ภาคเรียนท่ี 1 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัดชั้นปี หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ มาตรฐาน ค 3.1 รวมจำนวนตวั ช้ีวัด 1 1 /1 2 /1 การตรวจสอบการนำตวั ชว้ี ัดมาใชใ้ นการจดั ทำหนว่ ยการเรยี นรใู้ นรายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐาน 6 ช้ัน ม.6 ภาคเรยี นท่ี 2 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั ช้ันปี หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ มาตรฐาน ค 3.1 รวมจำนวนตัวชี้วัด 1 1 /1 2 /1

134 การตรวจสอบการนำตวั ชีว้ ัดมาใชใ้ นการจดั ทำหนว่ ยการเรยี นรู้ในรายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ พิม่ เตมิ 1 ช้ัน ม.4 ภาคเรยี นท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ผลการเรียนร้/ู รวมจำนวน ตัวชี้วัดช้ันปี ผลการเรียนรู้ 1234 5 1 //// 4 2 /1 การตรวจสอบการนำตวั ชวี้ ดั มาใชใ้ นการจัดทำหน่วยการเรยี นรใู้ นรายวิชา คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 2 ชน้ั ม.4 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ผลการเรียนร/ู้ รวมจำนวน ตวั ชวี้ ดั ช้นั ปี ผลการเรียนรู้ 123 4 1 // 2 2 // 2 การตรวจสอบการนำตวั ช้วี ดั มาใช้ในการจดั ทำหนว่ ยการเรยี นรูใ้ นรายวิชา คณิตศาสตรเ์ พิม่ เติม 3 ชัน้ ม.5 ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ผลการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัดชน้ั ปี 8 รวมจำนวน 2 3 4 567 ผลการเรียนรู้ 1 /// 3 2 / // 3 3 // 2

135 การตรวจสอบการนำตวั ชวี้ ดั มาใช้ในการจดั ทำหน่วยการเรยี นรู้ในรายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิม่ เตมิ 4 ชนั้ ม.5 ภาคเรียนท่ี 2 ผลการเรยี นรู/้ รวมจำนวน ผลการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ตัวชว้ี ดั ชั้นปี 1 2 34 5 1 / // 3 2 /1 3 /1 การตรวจสอบการนำตวั ช้ีวัดมาใชใ้ นการจดั ทำหนว่ ยการเรยี นรใู้ นรายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เตมิ 5 ชัน้ ม.6 ภาคเรยี นที่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ผลการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั ชน้ั ปี 7 รวมจำนวน 2 3 4 56 ผลการเรยี นรู้ 1 //// 4 2 /// 3 การตรวจสอบการนำตวั ชี้วัดมาใชใ้ นการจัดทำหน่วยการเรยี นรู้ในรายวิชา คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม 6 ช้นั ม.6 ภาคเรียนท่ี 2 ผลการเรียนรู/้ รวมจำนวน ผลการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ตวั ช้ีวัดชั้นปี 12 3 1 // / 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook