๔๗ โครงสรำ้ งรำยวิชำพ้นื ฐำน รำยวชิ ำ สุขศึกษำ รหัสรำยวชิ ำ พ๒๑๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๑ ภำคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชว่ั โมง /ภำคเรียน ที่ ชื่อหน่วยกำร มฐ/ตัวชว้ี ัด สำระสำคญั เวลำ/ น้ำหนัก เรียนรู้ คะแนน ช่ัวโมง ๒๐ (๒๐) ๑๐ ๑ ระบบประสำท พ ๑.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรทำงำนของระบบต่ำงๆในรำ่ งกำย ๕ ๑๐ และตอ่ มไร้ท่อ ๒ พ ๒.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ ของคนเรำมคี วำมสมั พันธ์กนั ไม่ ๒ สำมำรถแยกกันได้ หำกระบบใด ระบบหน่ึงทำงำนไม่ได้ ยอ่ มส่งผล กระทบตอ่ ระบบอืน่ ๆในรำ่ งกำย ทกุ ระบบล้วนมีควำมสำคัญตอ่ ร่ำงกำย ดว้ ยกนั ท้งั สิ้น แตร่ ะบบที่สำคญั ตอ่ กำรเจรญิ เตบิ โตของวัยรนุ่ คอื ระบบ ประสำทและระบบต่อมไร้ท่อ ๒ วยั รุ่นกบั ภำวะ พ ๑.๑ ม.๑/.๓,ม.๑/ วยั รุ่นเปน็ วัยทม่ี ีกำรเจรญิ เติบโตทำง ๓ กำรเจรญิ เติบโต ๔ ร่ำงกำยอย่ำงรวดเรว็ วยั รุ่นจงึ ควรท่ี จะรู้จักตรวจสอบกำรเจริญเติบโตและ พฒั นำกำรของตนเองให้สอดคลอ้ งกับ เกณฑ์มำตรฐำนและแสวงหำแนวทำง ในกำรพัฒนำตนเองให้เจรญิ เตบิ โต สมวยั และมีคุณภำพ ๓ วยั รนุ่ และ พ ๒.๑ ม.๑/๑ วยั รุ่นเปน็ วัยที่มกี ำรเปลี่ยนแปลงทำง ๔ พฒั นำกำรทำง เพศ รำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์ ตลอดจน พฒั นำกำรทำงเพศอยำ่ งรวดเร็ว กำร มคี วำมรูค้ วำมเข้ำใจเกี่ยวกับ พัฒนำกำรทำงเพศของตนเองจะชว่ ย ทำใหว้ ยั รุ่นสำมำรถปฏบิ ัตติ วั ได้อยำ่ ง
๔ กำรปอ้ งกนั กำร พ ๒.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ ถกู ต้องและมพี ฤตกิ รรมทำงเพศอยำ่ ง ๓ ๔๘ ถกู ล่วงละเมิด ๒ เหมำะสม ทำงเพศ ปจั จบุ นั กำรถกู ล่วงละเมดิ ทำงเพศ ๒๐ เป็นปัญหำทเ่ี กดิ ข้ึนบ่อยครง้ั และสง่ ผลกระทบต่อบุคคลและครอบครวั ท่ี ถูกกระทำทง้ั ทำงร่ำงกำยจิตใจและ สังคมอย่ำงมำก ดงั นนั้ กำรเรียนรู้ พฤติกรรม สำเหตุวิธกี ำร ปอ้ งกนั ตลอดจนทักษะกำรปฏิเสธ เพอ่ื ป้องกนั และหลีกเลีย่ งพฤติกรรม และสถำนกำรณ์เสยี่ งต่อกำรถูกล่วง ละเมดิ ทำงเพศได้ ๕ วัยรุน่ กบั พ ๒.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ อำหำรและโภชนำกำร เปน็ ปัจจยั ๓ ๒๐ สำคญั ในกำรเจริญเติบโตของ โภชนำกำรเพอื่ ๒ มนุษย์ กำรไดร้ บั สำรอำหำรมำกหรือ ๑๐ ว่ำน้อยเกนิ ไป ยอ่ มก่อใหเ้ กดิ ภำวะ ๑๐ สรำ้ งเสรมิ ทำงโภชนำกำร กำรเรียนรถู้ งึ ๑๐๐ หลกั กำรบรโิ ภคอำหำรและ สุขภำพ โภชนำกำรตำมหลักโภชนำกำร บัญญัติ จะทำให้สำมำรถเลือก สอบกลำงภำค บริโภคอำหำรได้อย่ำงถูกต้อง และ สอบปลำยภำค เหมำะสมกับวัย ซง่ึ จะเป็นผลดีตอ่ รวมเวลำเรยี นและคะแนน กำรเสริมสรำ้ งสุขภำพ ๑ ๑ ๒๐
๔๙ โครงสร้ำงรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รำยวิชำ สุขศกึ ษำ รหสั รำยวิชำ พ๒๑๑๐๒ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศึกษำ ระดับช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ ภำคเรียนท่ี ๒ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง /ภำคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วยกำร มฐ/ตัวช้ีวดั สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนกั เรียนรู้ คะแนน ช่ัวโมง ๒๐ ๑ อำหำรและ โภชนำกำร (๒๐) ๑๐ ๒ วยั รุน่ กบั พ ๔.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ อำหำรเป็นปัจจยั ท่สี ำคญั ในกำร ๕ ๑๐ โภชนำกำรเพอ่ื สรำ้ งเสริม ๒ ดำรงชวี ติ ของมนุษย์ สำรอำหำรแต่ สุขภำพ ละชนดิ มปี ระโยชนแ์ ละมีควำมจำเปน็ ๓ ภำวะ โภชนำกำรกับ ต่อรำ่ งกำยของบุคคลแต่ละเพศ แต่ สุขภำพ ละวัยแตกตำ่ งกนั กำรบรโิ ภคอำหำร จึงตอ้ งคำนึงถึงหลักโภชนำกำร เพ่ือใหร้ ่ำงกำยได้รับสำรอำหำรท่ีมี คณุ ค่ำและมปี ริมำณเหมำะสมกับ สภำพรำ่ งกำย พ ๔.๑ ม.๑/.๓,ม.๑/ อำหำรและโภชนำกำร เป็นปัจจยั ๓ ๔ สำคัญ ในกำรเจริญเตบิ โตของ มนุษย์ กำรได้รับสำรอำหำรมำกหรอื ว่ำน้อยเกนิ ไป ยอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ ภำวะ ทำงโภชนำกำร กำรเรียนรู้ถงึ หลกั กำรบริโภคอำหำรและ โภชนำกำรตำมหลักโภชนำกำร บัญญัติ พ ๔.๑ ม.๑/.๓,ม.๑/๔ ปัญหำทเ่ี กิดจำกภำวะโภชนำกำร ๔ เปน็ ปญั หำสำธำรณสขุ ท่สี ำคัญของ ประเทศ เกิดจำกกำรบริโภคอำหำรที่ ไม่ถูกตอ้ งตำมหลักโภชนำกำร ทำให้ มภี ำวะทุพโภชนำกำร ซงึ่ สง่ ผล กระทบต่อรำ่ งกำย จิตใจ และสงั คม
กำรกนิ อำหำรทถ่ี ูกหลกั โภชนำกำร ๕๐ จะสง่ เสรมิ กำรเจริญเตบิ โตทำให้วัย เรยี นและวัยร่นุ มสี ุขภำพดี ช่วย ๒๐ ป้องกันกำรเกิดโรคเรอ้ื รังต่ำงๆ ส่งเสรมิ ควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้ ๒๐ และกำรทำกจิ กรรมในชวี ิตประจำวนั ได้อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ ๔ น้ำหนักตวั กับ พ ๕.๑ ม.๑/๑,ม.๑/๒ นำ้ หนกั ตวั เป็นดชั นชี ี้วดั สุขภำพท่ี ๓ สขุ ภำพ สำคญั ผู้ท่มี ีนำ้ หนกั ตวั เกินมำตรฐำน จะมคี วำมเสย่ี งต่อกำรเกิดโรคเร้อื รัง ตำ่ งๆ มำกมำย ผ้ทู ี่มีน้ำนักตวั ต่ำกว่ำ มำตรฐำนจะสง่ ผลให้รำ่ งกำยอ่อนแอ เจบ็ ปว่ ยง่ำย ประสิทธิภำพกำรเรียน และกำรทำงำนด้อยกว่ำปกติ กำร เรยี นรู้ถึงควำมสำคัญของน้ำหนกั ตวั ต่อสุขภำพ วิธกี ำรประเมินกำร วิเครำะหน์ ำ้ หนกั ตัว และวธิ ีกำรดู น้ำหนกั ตัวใหอ้ ยูใ่ นเกณฑ์มำตรฐำน จะทำให้เรำมีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจใน กำรดูแลสุขภำพดำ้ นนำ้ หนกั ตัวให้ ปลอดภยั จำกโรคที่เปน็ ผลมำจำกกำร มีนำ้ หนักตัวไม่ได้มำตรฐำน ๕ สุขอนำมัยวัยรนุ่ พ ๕.๑ ม.๑/๓,ม.๑/๔ ในช่วงวยั รุน่ เปน็ กำรเปลี่ยนผ่ำนจำก ๓ วยั เดก็ เขำ้ สู่กำรเป็นผู้ใหญ่ ซึง่ จะมี กำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนรำ่ งกำยและ จิตใจอยำ่ งมำก โดยเฉพำะอย่ำงยิง่ ใน ดำ้ นสขุ ภำพกำย (Physical Health) ผ้ทู ีด่ แู ลตนเองดจี ะมรี ำ่ งกำยท่ี แขง็ แรงสมบรู ณ์ มภี ูมิตำ้ นทำนตอ่ โรคภัยตำ่ งๆ อกี ท้ังยังเสริมสร้ำง
สอบกลำงภำค บุคลกิ ภำพใหด้ ูดีทำให้เกิดควำมมัน่ ใจ ๕๑ สอบปลำยภำค ในตนเอง ดงั นนั้ ร่ำงกำยในช่วงวัยร่นุ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ต้องดูแลสขุ อนำมยั ของรำ่ งกำย เชน่ ๑๐ ผวิ หนัง ผมและขน เล็บ ฟัน หู ตำ ๑๐ จมูก เป็นพิเศษและต้องให้ ๑๐๐ ควำมสำคัญในกำรรักษำกลน่ิ กำยและ สวิ ตลอดจนให้ควำมเอำใจใส่ในดำ้ น สขุ อนำมยั ของอวัยวะสบื พนั ธุ์ รวมทัง้ กำรใช้เครื่องสำอำงตอ้ งคำนงึ ถึง คณุ ภำพและควำมเหมำะสม รำคำ และควำมจำเปน็ จึงเป็นกำรเลือกใช้ เคร่อื งสำอำงอยำ่ งชำญฉลำด ๑ ๑ ๒๐
๕๒ โครงสรำ้ งรำยวิชำพน้ื ฐำน รำยวชิ ำ สขุ ศกึ ษำ รหัสรำยวิชำ พ๒๒๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๒ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชั่วโมง /ภำคเรยี น ที่ ชื่อหน่วยกำร มฐ/ตัวช้วี ดั สำระสำคญั เวลำ/ นำ้ หนัก เรยี นรู้ พ ๑.๑ ม.๒/๑ คะแนน ชัว่ โมง ๒๐ ๑ เติบโตตำมวยั พ ๑.๑ ม.๒/๑,ม.๒/ ๒ (๒๐) ๑๐ ๒ วัยรุ่น วยั วนุ่ กำรเจรญิ เตบิ โตและพัฒนำกำรของ ๕ มนุษย์ เป็นกระบวนกำรตำม ธรรมชำติต้งั แต่ปฏิสนธจิ นส้นิ อำยุ ขยั กำรเจรญิ เตบิ โตและพัฒนำกำร ของบุคลำกรวัยตำ่ งๆ รวมทั้งวัยรุน่ มี ปจั จัยหลำยประกำรท่ีมผี ลกระทบต่อ กำรเจริญเติบโตและพฒั นำกำร ทำงด้ำนรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์ สงั คม และสติปญั ญำ ซง่ึ แตกต่ำงกันไปในแต่ ละบุคคล กำรเรียนรู้ในเร่ืองดงั กล่ำว จะชว่ ยใหน้ กั เรยี นเข้ำใจควำมหมำย และควำมสำคัญของกำรเจรญิ เติบโต และพัฒนำกำร วัยรนุ่ เป็นวัยท่มี ีกำรเปลยี่ นแปลงเข้ำ ๓ สวู่ ฒุ ภิ ำวะทั้งร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ และสงั คม จึงนับวำ่ เปน็ วิกฤติ ช่วงหนึง่ ของชีวติ เนื่องจำกเป็นชว่ ง ตอ่ ของวัยเดก็ และวัยผใู้ หญ่ โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงในระยะตน้ ของวัย จะมกี ำรเปล่ียนแปลงเกิดขึน้ มำกมำย กำรเปลย่ี นแปลงดังกล่ำวจะมีผลต่อ ควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งวยั รุน่ ด้วย กนั เอง บุคคลในครอบครวั และ
บคุ คลใกลช้ ดิ ในสงั คม หำกวัยรนุ่ ๕๓ สำมำรถปรับตัวและใช้ชีวิตอยใู่ น ๑๐ สงั คมได้อย่ำงมีควำมสุข ๒๐ ๓ เพศพศิ วง พ ๒.๑ ม.๒/๑ ทศั นคตเิ ร่ืองเพศ เป็นควำมรู้สกึ นกึ ๔ ๔ หญงิ ชำยเท่ำ คิด ควำมเชอื่ กำรให้คุณคำ่ ในเร่ือง เทยี มกนั เพศของแตล่ ะบุคคลซ่ึงมีควำม แตกตำ่ งกนั ปัจจยั สำคญั ที่มีอิทธิพล ต่อทัศนคติเรื่องเพศ ได้แก่ ครอบครวั เพ่อื น สื่อ สังคม และวฒั นธรรม กำร เรยี นร้แู ละทำควำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั ทศั นคติเรื่องเพศและปัจจยั ที่มี อิทธิพลต่อทัศนคติเรื่องเพศ จะทำให้ มีควำมเข้ำใจและมีทัศนคติ ค่ำนิยม ในเรือ่ งเพศที่ถูกต้อง อันจะเปน็ แนว ทำงกำรประพฤตปิ ฏิบัตแิ ละกำร แสดงออกในเรื่องเพศของบุคคลได้ อย่ำงถูกต้องเหมำะสม พ ๒.๑ ม.๒/๒,ม.๒/๓, ในวยั รุ่นมกี ำรเปล่ียนแปลงหลำย ๓ ประกำร โดยเฉพำะฮอร์โมนใน ร่ำงกำยมผี ลกระตนุ้ ให้มีควำมสนใจ กบั เพศตรงขำ้ มรวมทง้ั แรงขบั ตำม ธรรมชำติ ท่ที ำใหอ้ ยำกรู้ อยำกลอง ในเรอ่ื งเพศ จึงทำให้วัยนเี้ ป็นวยั ท่ี ลอ่ แหลมตอ่ กำรตกอยู่ในสถำนกำรณ์ เสี่ยงตอ่ กำรมเี พศสมั พันธ์ในวัยเรียน กำรรจู้ กั วำงตนต่อเพศตรงขำ้ มอยำ่ ง เหมำะสม รวมท้ังกำรรู้จกั หลีกเล่ียง สถำนกำรณ์เสย่ี งต่อกำรมเี พศสัมพันธ์ ในวยั เรยี นจะชว่ ยป้องกนั ผลกระทบ และควำมเสียหำยที่จะเกดิ ข้นึ ตำมมำ
๕ ปลอดภัยไว้ พ ๒.๑ ม.๒/๓,ม.๒/๔ โรคเอดส์ โรคตดิ ต่อทำงเพศสัมพนั ธ์ ๓ ๕๔ ก่อน และกำรต้ังครรภ์ไม่พงึ ประสงค์ เปน็ ๒๐ ปัญหำสำธำรณสขุ ท่เี กดิ ขึน้ จำกกำรมี ๑๐ ๑๐ พฤติกรรมทำงเพศทไ่ี ม่ปลอดภยั และ ๑๐๐ ก่อให้เกดิ ปัญหำและผลกระทบต่อ สุขภำพ ครอบครวั สงั คม และ เศรษฐกิจ กำรเรียนรู้ถงึ วิธีป้องกนั และหลกี เลย่ี งพฤติกรรมทำงเพศท่ีไม่ ปลอดภัยจะทำให้นกั เรียนสำมำรถ ตดั สินใจ ทจ่ี ะเลือกปฏิบตั ิ เพ่ือ ป้องกันตนเองใหป้ ลอดภัยจำกโรค และกำรตั้งครรภ์ไม่พงึ ประสงค์ สอบกลำงภำค ๑ สอบปลำยภำค ๑ รวมเวลำเรียนและคะแนน ๒๐
๕๕ โครงสรำ้ งรำยวชิ ำพืน้ ฐำน รำยวชิ ำ สขุ ศกึ ษำ รหัสรำยวชิ ำ พ๒๒๑๐๒ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๒ ภำคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชัว่ โมง /ภำคเรียน ท่ี ชอ่ื หน่วย มฐ/ตัวชวี้ ัด สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนกั กำรเรียนรู้ คะแนน ช่วั โมง ๒๐ (๒๐) ๒๐ ๑ บริกำรดี พ ๔.๑ ม.๒/๑,ม.๒/๒, กำรบรกิ ำรทำงสุขภำพ เป็นกำร ๕ ชีวติ ดี มี ม.๒/๓ คุณภำพ จัดบรกิ ำรเพื่อป้องกันโรค ส่งเสริม สุขภำพ รกั ษำพยำบำล และฟื้นฟู สมรรถภำพแกป่ ระชำชน โดยมงุ่ เนน้ ใหป้ ระชำชนมสี ว่ นรว่ มในกำรดแู ล สขุ ภำพตนเอง ครอบครัวและชุมชน โดยเจำ้ หน้ำที่สำธำรณสุขเปน็ ผใู้ หก้ ำร สนับสนนุ เมอื่ เกิดกำรเจ็บป่วยสำมำรถ เข้ำถึงบริกำรทำงสุขภำพท่ีมคี ุณภำพ มำตรฐำนอยำ่ งเสมอภำคและเท่ำเทยี ม กัน ดงั น้นั กำรเรียนรู้และทำควำม เข้ำใจเกีย่ วกับควำมหมำยของกำร บริกำรทำงสขุ ภำพ ประเภทของระบบ กำรบริกำรทำงสุขภำพและหนว่ ยงำนท่ี ให้บรกิ ำรทำงสุขภำพ รวมท้งั รูจ้ ัก เลอื กใชบ้ รกิ ำรทำงสุขภำพอย่ำงมี เหตผุ ลเพ่ือให้สำมำรถได้รบั บริกำรทำง สขุ ภำพท่ีมีคุณภำพตอ่ ไป ๒ สุขภำพดี พ ๔.๑ ม.๒/๔,ม.๒/๕ ควำมกำ้ วหน้ำทำงเทคโนโลยีท่ีเจริญ ๕ กบั เทคโนโลยี รดุ หนำ้ อย่ำงรวดเรว็ ทำให้มีกำรพฒั นำ คดิ คน้ ส่ิงอำนวยควำมสะดวกตอ่ กำร ดำรงชวี ติ มำกมำย มีกำรนำควำว เจรญิ กำ้ วหนำ้ ของเทคโนโลยีมำ
๕๖ ประยกุ ตใ์ นสำขำตำ่ งๆ อยำ่ งมำกมำย รวมท้ังวงกำรแพทย์และสำธำรณสขุ ทง้ั ในด้ำนกำรปอ้ งกนั โรค กำรสง่ เสรมิ สขุ ภำพ กำรรกั ษำพยำบำล และกำร ฟืน้ ฟสู ุขภำพ ควำมเจริญก้ำวหนำ้ ของ เทคโนโลยสี ขุ ภำพทำใหป้ ระชำชนมี ทำงเลือกในกำรใชผ้ ลติ ภณั ฑส์ ุขภำพ และบรกิ ำรตำ่ งๆ ทำงด้ำนสขุ ภำพท่ี เหมำะสมกับควำมต้องกำรของตน ๔ จติ ดี ชีวี พ ๕.๑ ม.๒/๑ ภำวะสงั คมในปจั จบุ ันเป็นยุคของ ๕ ๒๐ เป็นสุข ข้อมลู ขำ่ วสำรและเทคโนโลยี ซง่ึ ส่งผล ๒๐ กระทบต่อภำวะเศรษฐกจิ ทำใหเ้ กิด ๕ อำรมณ์ดี พ ๕.๑ ม.๒/๒,ม.๒/๓ กำรเปลย่ี นแปลงหลำยด้ำนมีกำร ไมม่ เี ครยี ด แขง่ ขันกันสูง ทำให้เกดิ ควำมเครียด และเมื่อประสบปญั หำไม่สำมำรถ แก้ปัญหำและปรับตัวไม่ได้มีผลกระทบ ตอ่ กำรดำเนินชีวติ จึงทำให้เกิดปัญหำ สุขภำพจติ ซึง่ มีแนวโนม้ เพมิ่ มำกข้ึน ปัญหำสุขภำพจติ เป็นภำวะจิตใจท่ี ค่อนข้ำงยงุ่ ยำกสลบั ซบั ซอ้ น ดังน้ัน นกั เรยี นควรเรยี นรทู้ ำควำมเข้ำใจ เก่ียวกบั สขุ ภำพจิต รลู้ กั ษณะอำกำร เบอื้ งตน้ ของผมู้ ีปัญหำสุขภำพจิต รวมทั้งมกี ำรสง่ เสริมให้มีสุขภำพจติ ท่ีดี มสี ภำพชีวิตที่เป็นสุข กำรดำเนินชวี ติ ในปัจจบุ นั ทเ่ี ร่งรีบ มี ๓ กำรแข่งขนั กันสูง และเม่ือเผชิญกับ สง่ิ แวดลอ้ มที่ไมน่ ่ำพึงพอใจ และมี
สอบกลำงภำค ปัญหำตำ่ งๆ เกดิ ขนึ้ ในชีวิตประจำวัน ๕๗ สอบปลำยภำค ทำให้เกิดกำรเปลย่ี นแปลงดำ้ นอำรมณ์ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ท่ไี ม่พงึ ประสงคแ์ ละมีผลทำให้เกดิ ๑๐ ควำมเครียดได้ ดังนั้นนกั เรียนจึงควร ๑๐ เรียนรแู้ ละทำควำมเขำ้ ใจเก่ียวกับ ๑๐๐ อำรมณ์และควำมเครยี ด สำเหตุของ ควำมเครียด รวมท้ังวธิ ีกำรปฏบิ ัติตน เพือ่ จัดกำรกบั ควำมเครียดอย่ำง เหมำะสม ซ่ึงจะชว่ ยให้นักเรียนมี สขุ ภำพกำยดี สขุ ภำพจติ ดี และ สำมำรถดำรงชวี ติ อยู่ในสงั คมไดอ้ ยำ่ งมี ควำมสขุ ๑ ๑ ๒๐
๕๘ โครงสร้ำงรำยวชิ ำพนื้ ฐำน รำยวิชำ สุขศึกษำ รหัสรำยวิชำ พ๒๓๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๓ ภำคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลำ ๒๐ ชว่ั โมง /ภำคเรียน ท่ี ชอื่ หน่วยกำร มฐ/ตัวชวี้ ัด สำระสำคัญ เวลำ/ น้ำหนัก เรยี นรู้ คะแนน ชว่ั โมง ๒๐ ๑ กำรเจรญิ เติบโด พ ๑.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ และพัฒนำใน ๒ (๒๐) ๑๐ แต่ละช่วงวัย ๑๐ กำรเปรียบเทียบกำรเปลยี่ นแปลง ๕ ๒๐ ทำงดำ้ นร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ ๒๐ สังคม และสตปิ ัญญำแตล่ ะชว่ งของ ชวี ิต จะทำใหเ้ ข้ำใจพัฒนำกำรในแต่ ละด้ำนของช่วงวัย ๒ ชวี ิตและ พ ๑.๑ ม.๓/๓ อนำมยั แม่และเด็ก เป็นเรื่องสำคญั ท่ี ๓ ครอบครวั ช่วยส่งเสรมิ สขุ ภำพของแมแ่ ละทำรก ตั้งแต่อยู่ในครรภจ์ นกระทงั่ คลอดและ หลงั คลอดใหม้ สี ุขภำพที่สมบรู ณ์ดี ๓ กำรกำหนด พ ๒.๑ ม.๓/๑ บคุ คลแตล่ ะวัยมคี วำมต้องกำร ๔ รำยกำรอำหำร ทีเ่ หมำะสมกับ พลงั งำนสำหรบั ใชใ้ นกำรดำเนิน วัย ชวี ิตประจำวันแตกต่ำงกันจงึ ต้องมี กำรกำหนดรำยกำรอำหำรให้ เหมำะสมกับแตล่ ะวยั เพื่อให้รำ่ งกำย ได้รบั สำรอำหำรอยำ่ งเพียงพอส่งผล ใหม้ สี ขุ ภำพรำ่ งกำยสมบูรณ์แข็งแรง ๔ กำรปอ้ งกนั โรค พ ๒.๑ ม.๓/๒ พฤติกรรมสุขภำพทไ่ี ม่ถูกต้องเปน็ ๓ สำเหตุสำคัญของกำรเจบ็ ปว่ ยและ กำรตำยของคนไทยดว้ ยโรคติดตอ่ และโรคไม่ตดิ ต่อ ๕ กำรแกป้ ัญหำ พ ๒.๑ ม.๓/๓ ปญั หำสขุ ภำพในชมุ ชน กำรพยำยำม ๓ สขุ ภำพใน ชมุ ชน ดึงชมุ ชนให้เขำ้ มำมสี ว่ นรว่ มในกำร
ดูแลสุขภำพจึงเป็นส่งิ สำคัญท่ีจะ ๕๙ แกป้ ญั หำสุขภำพได้ ๑ ๑๐ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๒๐ ๑๐๐ รวมเวลำเรียนและคะแนน
๖๐ โครงสรำ้ งรำยวิชำพน้ื ฐำน รำยวชิ ำ สุขศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๒๓๑๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ ภำคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง /ภำคเรียน ท่ี ช่ือหน่วยกำร มฐ/ตัวช้วี ดั สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรยี นรู้ ช่วั โมง คะแนน (๒๐) ๑ กำรทดสอบ พ ๔.๑ ม.๓/๑ กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย ทำ ๓ ๒๐ สมรรถภำพทำง ให้ทรำบระดบั ควำมสำมำรถของ กำย รำ่ งกำยในด้ำนต่ำง ๆควรมีกำร ทดสอบสมรรถภำพทำงกำยตำม แบบทดสอบต่ำง ๆ ท่หี ลำกหลำย ๒ ปจั จัยเส่ยี ง พ ๔.๑ ม.๓/๒, กำรดำเนินชวี ติ ประจำวนั จะต้องพบ ๕ ๑๐ พฤติกรรมเสย่ี ง ม.๓/๓, กบั ปัจจยั เสีย่ งท่ีส่งผลกระทบตอ่ และแนวทำง สุขภำพ กำรหลกี เลีย่ งและป้องกนั ป้องกันควำม ปจั จัยเสย่ี งตอ่ สุขภำพและมี เสีย่ งตอ่ สุขภำพ พฤติกรรมสขุ ภำพทถ่ี ูกต้องจะทำใหม้ ี สขุ ภำพท่สี มบรู ณ์ แข็งแรงสำมำรถใช้ ชีวิตไดอ้ ยำ่ งปกตสิ ุข ๓ ควำมรุนแรง พ ๔.๑ ม.๓/๔,ม.๓/ ควำมรุนแรงส่งผลกระทบในด้ำน ๔ ๑๐ ๕ รำ่ งกำยและจติ ใจของผถู้ ูกกระทำ และผ้กู ระทำ กำรรจู้ ักชกั ชวน เพ่ือน ให้ห่ำงไกลจำกควำมรนุ แรง และแก้ปัญหำต่ำง ๆ ดว้ ยเหตุผล ทำ ให้ใช้ชวี ิตในสังคมได้อย่ำงปลอดภยั และสงบสุข ๔ ปัญหำทที่ ำ้ ทำย พ ๕.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒, สุขภำพ หมำยถงึ ควำมสมบูรณ์ทัง้ ๓ ๒๐ ทำงรำ่ งกำย จติ ใจ สังคม และจิต วญิ ญำณ ดังนน้ั ปญั หำสุขภำพใน ชมุ ชนจงึ หมำยถงึ ส่ิงทีข่ ัดขวำง หรอื
๕ พฤติกรรมเสีย่ ง พ ม.๓/๓,ม.๓/๔ เปน็ อุปสรรคต่อควำมสมบูรณ์ทัง้ ทำง ๖๑ ม.๓/๕ ร่ำงกำย จิตใจ สังคม และจิต วิญญำณของคนในชุมชนนั้นๆ โดย ๒๐ สอบกลำงภำค ปญั หำของแตล่ ะชุมชนจะมปี ัจจยั ท่ี สอบปลำยภำค แตกตำ่ งกนั ๑๐ รวมเวลำเรยี นและคะแนน กำรดำรงชีวิตที่ไมเ่ หมำะสม กำร ๓ ๑๐ พฒั นำประเทศที่เน้นกำรพัฒนำ ๑๐๐ ทำงดำ้ นวตั ถุ กำรเปล่ยี นแปลง ทำงดำ้ นสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพ และสงั คม กำรเปลยี่ นแปลงทำงด้ำน ชีววทิ ยำของสัตว์นำโรครวมถึง สภำพแวดลอ้ มท่เี ป็นพิษ ส่งผลใหเ้ กดิ ปจั จัยเส่ียงและพฤติกรรมเสยี่ งที่ ก่อใหเ้ กิดปญั หำสุขภำพและไมม่ ี ควำมปลอดภัยในชวี ิตและทรัพย์สนิ ของประชำชนไทย กำรมีควำมรูเ้ รอ่ื ง ปจั จยั เส่ียงและพฤตกิ รรมเส่ียง และ ปฏิบัติตนตำมแนวทำงป้องกันปัจจัย เสยี่ งและพฤติกรรมเสี่ยงที่มี ผลกระทบต่อสุขภำพจะช่วยป้องกัน ควำมสญู เสยี ต่อสุขภำพ ชีวติ และ ทรพั ย์สินได้ ๑ ๑ ๒๐
๖๒ โครงสร้ำงรำยวชิ ำพื้นฐำน รำยวชิ ำ สขุ ศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๓๑๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๔ ภำคเรียนที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง /ภำคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ดั สำระสำคญั เวลำ/ น้ำหนัก เรียนรู้ พ ๑.๑ ม. ๔/๑ คะแนน ช่ัวโมง ๒๐ ๑ ระบบอวยั วะ พ ๑.๑ ม. ๔/๑, ๔/๒ ของรำ่ งกำย (๒๐) ๒๐ ๒ กำรวำง รำ่ งกำยของมนุษย์ ประกอบด้วย ๕ แผนพัฒนำ สุขภำพ ระบบอวัยวะต่ำง ๆ 10 ระบบ แตล่ ะ ระบบมกี ำรทำงำนเกี่ยวข้องสัมพนั ธ์ กัน ผิวหนังทำหน้ำที่เหมือนเกรำะ ป้องกันส่ิงต่ำงๆ ที่อำจทำอันตรำยตอ่ ร่ำงกำย กระดูกเปน็ อวัยวะสำคัญใน กำรช่วยพยุงรำ่ งกำยและประกอบ เป็นโครงรำ่ ง เป็นทีย่ ดึ เกำะของ กลำ้ มเนือ้ กล้ำมเนื้อทัว่ ร่ำงกำยมี 565 มัด กำรยึดเกำะของกลำ้ มเนื้อ ทำให้เกิดกำรเคล่ือนไหว จงึ ต้องมีกำร ดูแลรกั ษำสุขภำพ เพ่ือใหร้ ะบบ ผวิ หนัง กระดกู และกลำ้ มเน้ือทำงำน ได้ดมี ปี ระสิทธิภำพ กำรมีสุขภำพท่ดี ีไมเ่ จบ็ ป่วยด้วยโรค ๔ ต่ำงๆ เป็นสง่ิ ท่ที ุกคนปรำรถนำ กำร ดูแลสขุ ภำพของตนเองดงั คำกล่ำว ทีว่ ำ่ “สขุ ภำพดีไม่มีขำย อยำกได้ต้อง สรำ้ งเอง” จงึ เป็นสงิ่ ทเี่ ป็นจริงท่สี ดุ ทุกคนจำเปน็ ตอ้ งตระหนกั ถึง ควำมสำคญั ในกำรดแู ลสุขภำพของ ตนเองโดยมีกำรวำงแผนพัฒนำ สขุ ภำพของตนเองและปฏบิ ัติตำม
แผนอย่ำงสม่ำเสมอ จะนำไปส่กู ำรมี ๖๓ สขุ ภำพทด่ี ีทั้งในระดับบุคคล ๒๐ ครอบครวั และชุมชนต่อไป ๒๐ ๓ พฤติกรรมทำง พ ๒.๑ ม.๔/๑,๔/๒ พฤติกรรมทำงเพศของบุคคลมี ๕ เพศ อิทธิพลมำจำกปจั จัยหลำยประกำร ท้งั ครอบครวั กลุ่มเพอ่ื น สงั คม และ ส่งิ แวดลอ้ ม กำรเรยี นรแู้ ละทำควำม เขำ้ ใจถงึ อทิ ธิพลจำกปัจจัยที่อยู่ รอบตัวจะทำใหส้ ำมำรถปฏบิ ัติตนได้ อยำ่ งถูกต้องไมต่ กอยูภ่ ำยใต้อิทธพิ ล ของสงิ่ ใดสิ่งหนึ่ง รวมทัง้ ชว่ ยใหม้ ี คำ่ นิยมที่ถกู ต้อง มีกำรแสดงออกทำง เพศท่ีเหมำะสมกบั ธรรมชำติ และไม่ ขัดตอ่ วฒั นธรรมอนั ดีงำมของ สังคมไทย ๔ เพศกับ พ ๒.๑ ม.๔/๓,๔/๔ วัฒนธรรมในสงั คมหน่ึงๆ ยอ่ มมคี วำม ๔ วฒั นธรรมไทย เหมำะสมและกลมกลนื กบั วิถีชีวติ ของบุคคลในสงั คมนัน้ วฒั นธรรมทำง เพศของสังคมไทยเปน็ วฒั นธรรมท่ดี ี งำม ส่งเสริมใหห้ ญงิ รักนวลสงวนตวั และให้ทั้งหญิงและชำยรักเดียวใจ เดยี ว ตลอดจนส่งเสริมค่ำนยิ มกำรมี เพศสัมพนั ธแ์ ละมีคูค่ รองในวัยอัน สมควร กำรมีคำ่ นิยมทเ่ี หมำะสมใน เรื่องเพศจึงมีควำมสำคญั สำหรับ วยั รนุ่ เพ่ือใช้เปน็ แนวทำงในกำร ประพฤตติ นให้สอดคล้องกบั วัฒนธรรมไทย นกั เรียนจงึ ควร ประพฤตติ นตำมคำ่ นิยมทำงเพศตำม วฒั นธรรม อนั ดงี ำมของไทย
สอบกลำงภำค ๖๔ สอบปลำยภำค รวมเวลำเรียนและคะแนน ๑ ๑๐ ๑ ๑๐ ๒๐ ๑๐๐
๖๕ โครงสรำ้ งรำยวชิ ำพื้นฐำน รำยวชิ ำ สุขศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๓๒๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๕ ภำคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง /ภำคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วยกำร มฐ/ตัวช้วี ัด สำระสำคัญ เวลำ/ น้ำหนัก เรียนรู้ พ ๑.๑ ม. ๕/๑, ๕/๒ คะแนน ชวั่ โมง ๑ ระบบแห่งชวี ิต ๒๐ (๒๐) มนุษย์ทุกคนต้องหำยใจเพอื่ กำร ๕ ดำรงชวี ิตอยู่ กระบวนกำรหำยใจเกิด ขึน้ กบั เซลล์ในรำ่ งกำยอยู่ตลอดเวลำ กำรหำยใจเปน็ กำรนำอำกำศเขำ้ และ ออกจำกร่ำงกำย ส่งผลใหก้ ๊ำซออก ซิเจนทเ่ี รำได้รบั จำกกำรหำยใจเขำ้ ทำ ปฏิกริ ยิ ำกับสำรอำหำรได้พลังงำน และกำ๊ ซคำรบ์ อนไดออกไซดก์ ำร ทำงำนของระบบหำยใจจะประสำน สัมพนั ธ์กบั ระบบอวยั วะอืน่ ๆ โดยเฉพำะระบบไหลเวียนเลอื ด เพรำะระบบไหลเวียนเลือดจะนำ ออกซเิ จนจำกปอดท่ีได้รบั จำกกำร หำยใจไปสรู่ ะบบย่อยอำหำรเพอ่ื เผำ ผลำญอำหำรทำใหเ้ กดิ พลงั งำนซ่งึ ร่ำงกำยนำไปใช้ในกำรดำรงชวี ิต ในขณะท่ีระบบขับถำ่ ยปสั สำวะทำ หน้ำที่ขับถ่ำยของเสยี ออกไปจำก ร่ำงกำย กำรดูแลรักษำระบบหำยใจ และระบบไหลเวยี นเลือด ระบบยอ่ ย อำหำรและระบบขบั ถ่ำยปัสสำวะจงึ มี ควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งในกำรจะดำรง
รกั ษำสุขภำพใหท้ ำงำน ไดอ้ ย่ำงมี ๖๖ ประสิทธภิ ำพ ๒๐ ๒ วำงแผนดีชวี ิตมี พ ๑.๑ ม. ๕/๑, ๕/๒ กำรเจบ็ ปว่ ยด้วยโรคตำ่ งๆ นน้ั เปน็ สิ่ง ๔ สุข ท่ีไม่พึงปรำรถนำ จงึ ตอ้ งกำรทีจ่ ะ ๕ ๒๐ หลกี เลย่ี งกำรเจบ็ ป่วยดว้ ยกำรดูแล ๓ เพศกบั พ ๒.๑ ม.๕/๑,๕/ สขุ ภำพของตนเองและบุคคลใน ครอบครวั ดว้ ยกำรให้ควำมสำคญั วฒั นธรรมไทย ๒,๕/๓,๕/๔ เก่ยี วกับกำรวำงแผนดูแลสุขภำพของ บคุ คลในครอบครัวดว้ ยกำรดูแล เก่ียวกบั สุขภำพสุขวทิ ยำส่วนบุคคล เอำใจใส่กระตือรือร้นปฏิบัติจนเกิด เปน็ สุขนสิ ัย และเรียนรเู้ กี่ยวกับกำร ดูแลสุขภำพที่ถูกต้องและปฏิบัตใิ ห้ เปน็ ประจำอยู่เสมอในกำรทีจ่ ะทำให้ เปน็ ผู้ทมี่ ีสุขภำพดี ซ่ึงจะส่งผลให้ ตนเองและทกุ คนในครอบครัวมี สุขภำพท่ดี ตี ลอดไป วัยรุ่นเปน็ วัยท่ีมพี ัฒนำกำรทำงเพศที่ รวดเรว็ เมือ่ เปรยี บเทยี บกับวัยอ่นื พฤติกรรมทำงเพศท่วี ัยร่นุ จะ แสดงออกต่อเพศตรงข้ำมจึงมีหลำย ลักษณะท่ีแตกต่ำงกนั ซ่ึงเกดิ จำก ปจั จยั หลำยประกำรท่ีมีอิทธิพลตอ่ พฤติกรรมทำงเพศและกำรดำเนิน ชวี ติ ของวยั รนุ่ กำรมีพฤติกรรมทำง เพศทีเ่ หมำะสมจึงมีควำมสำคัญ สำหรับวัยรุ่นเพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทำงใน กำรประพฤตปิ ฏิบัติตนใหส้ อดคลอ้ ง กับวฒั นธรรมที่ดีงำมของไทย
๔ ใส่ใจกบั บทบำท พ ๒.๑ ม.๕/๑,๕/ ควำมสัมพนั ธ์เปน็ สง่ิ ท่ีขำดไม่ได้ ๔ ๖๗ สำหรับมนษุ ย์ เรือ่ งเพศเป็นหนง่ึ ใน ทำงเพศ ๒,๕/๓,๕/๔ ควำมสัมพนั ธท์ ี่จำเป็นสำหรบั มนษุ ย์ ๒๐ วัยร่นุ เป็นชว่ งวัยทมี่ ีกำรเปล่ยี นแปลง สอบกลำงภำค ในเรือ่ งของควำมสมั พันธ์และเป็นชว่ ง ๑๐ สอบปลำยภำค ที่ตอ้ งมีกำรเปลี่ยนแปลงทำงร่ำงกำย ๑๐ รวมเวลำเรียนและคะแนน และอำรมณ์ กำรเขำ้ ใจใน ๑๐๐ ควำมสมั พันธร์ ะหวำ่ งเพศจึงมี ควำมสำคญั สำหรับวัยร่นุ ท่จี ะนำไปสู่ กำรปรบั ตวั ทำงเพศทีเ่ หมำะสม และ กำรวำงตวั ท่ีเหมำะสมกับเพศตรงข้ำม ตลอดจนมีกำรแสดงบทบำททำงเพศ ที่สอดคล้องกบั สงั คมและวฒั นธรรม ของไทย ๑ ๑ ๒๐
๖๘ โครงสร้ำงรำยวิชำพนื้ ฐำน รำยวชิ ำ สขุ ศึกษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๓๓๑๐๑ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๖ ภำคเรียนที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง /ภำคเรยี น ท่ี ชื่อหน่วยกำร มฐ/ตัวชี้วดั สำระสำคัญ เวลำ/ น้ำหนกั เรียนรู้ ชว่ั โมง คะแนน (๒๐) ๑ ระบบอวัยวะ พ ๑.๑ ม. ๖/๑, ๖/๒ ข้องกับกำรรบั รู้ควำมร้สู ึก กำรดำรง ๕ ๒๐ เผ่ำพันธุข์ องมนุษย์ และกำรผลติ ฮอร์โมนต่ำงๆ ระบบดังกล่ำวตำ่ งมี ควำมสำคัญต่อร่ำงกำยทั้งส้ิน หำก ระบบใดทำงำนผดิ ปกตจิ ะส่งผล กระทบต่อระบบอน่ื ๆ ด้วย ดงั น้ันทกุ คนจงึ ควรเอำใจใสด่ ูแล ป้องกัน บำรุงรักษำอวยั วะต่ำงๆในทุกระบบให้ สมบูรณแ์ ขง็ แรงเพือ่ กำรดำรง ประสทิ ธิภำพกำรทำงำนของแต่ละ ระบบซึง่ จะช่วยใหม้ สี ุขภำพดี ๒ ทกั ษะชวี ิต พ ๑.๑ ม. ๖/๑, ๖/๒ ทกั ษะชวี ิต คือ ควำมสำมำรถของ ๔ ๒๐ บุคคลในกำรแกป้ ัญหำตำ่ งๆ ท่ีเกดิ ข้นึ ด้วยเหตุผลดว้ ยกำรคิดวิเครำะหอ์ ยำ่ งมี วจิ ำรณญำณ และเลือกแนวทำงกำร แก้ปัญหำที่สรำ้ งสรรคใ์ ห้ประโยชนต์ อ่ ตนเองและผู้อ่ืน ทำใหบ้ คุ คลไมต่ ้อง ประสบปญั หำดำ้ นสขุ ภำพกำยและจิต สำมำรถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมไดอ้ ยำ่ ง เป็นสขุ ในทำ่ มกลำงปัญหำสงั คมที่ เกดิ ขน้ึ อย่ำงมำกมำย ท้ังนที้ ักษะชวี ติ มี องค์ประกอบ 12 ด้ำนท่ีนักเรียนตอ้ ง เรียนรู้และฝึกฝนเพื่อใหส้ ำมำรถสร้ำง ทกั ษะชวี ิตใหก้ ับตนเองได้
๓ เพศท่ีแตกต่ำง พ ๒.๑ ม.๖/๑,๖/๒,๖/ เพศชำยและเพศหญงิ มีลักษณะทำง ๕ ๖๙ ๓,๖/๔ กำยภำพที่แตกต่ำงกันอยำ่ งสิ้นเชงิ เม่อื ๒๐ ทง้ั สองเพศต้องอยูค่ วำมขัดแย้งไดง้ ่ำย ๒๐ เนือ่ งมำจำกควำมแตกต่ำงทำงทัศนคติ ๑๐ ๑๐ ควำมคดิ ควำมเช่ือ และค่ำนิยมทถ่ี ูก ๑๐๐ ปลกู ฝังมำแตกต่ำงกนั รวมไปถงึ ควำม คำดหวังที่แต่ละฝำ่ ยมีต่อเพศตรงข้ำม กำรเรยี นรู้วธิ หี ลกี เลี่ยง ปอ้ งกัน และ แกไ้ ขควำมขัดแยง้ ระหว่ำงเพศ จะทำ ใหน้ กั เรียนสำมำรถมปี ฏิสัมพันธ์กบั เพศตรงข้ำมไดอ้ ย่ำงเหมำะสมระหว่ำง เพศจึงเกดิ ร่วมกนั ควำมสัมพันธเ์ ตมิ ๔ สขุ ภำพดสี ร้ำง พ ๒.๑ ม.๖/๒, ที่มนษุ ยจ์ ะดำเนนิ ชีวิตได้อยำ่ งมี ๔ ได้ ๖/๓,๖/๔ ควำมสขุ น้ันประกอบดว้ ยปจั จัยหลำย อยำ่ งปัจจยั พ้ืนฐำนคอื จะสำคัญทอ่ี ยู่ อำศัย และยำรกั ษำเปน็ อำหำร เครอ่ื งนุง่ ห่ม กำรมสี ุขภำพที่ดี เพรำะ กำรมสี ุขภำพดจี ะสำมำรถดำเนิน กิจกรรมงำนตำ่ งๆ ได้อย่ำงปกตแิ ละมี ควำมสขุ กำรจะมีสขุ ภำพท่ีดีได้น้นั ทุก คนต้องมีควำมรับผิดชอบในกำรทจ่ี ะ สรำ้ งเสริมและดแู ลสขุ ภำพของตนเอง กอ่ น และเม่ือสุขภำพของตนเองดีแล้ว จึงใหค้ ำแนะนำและใหค้ วำมรู้กับบุคคล อน่ื ๆคือ ปัจจัย 4 ไม่วำ่ โรคอีกสว่ นหนึง่ ท่ีในชมุ ชนและสงั คมต่อไป สอบกลำงภำค ๑ สอบปลำยภำค ๑ รวมเวลำเรียนและคะแนน ๒๐
๗๐ โครงสร้ำงรำยวชิ ำพื้นฐำน รำยวชิ ำ พลศกึ ษำ รหัสรำยวชิ ำ พ๒๑๑๐๓ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๑ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ เวลำ ๒๐ ช่วั โมง /ภำคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ัด สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ คะแนน ชั่วโมง ๑๐ ๑ ประวตั กฬี ำ Body weight (๒๐) ๒๐ ๒ กฎ กตกิ ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศกึ ษำประวตั ิจะทำใหผ้ ู้เรยี นเข้ำ ๒ ๑๐ Body weight ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเป็นมำของกีฬำ Body ๑๐ ๓ สร้ำงกล้ำมเนอ้ื อก ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. weight ๑๐ ๓ สรำ้ งกล้ำมเนื้อ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๑๐ แขน พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอื่ ให้ผเู้ รียนเขำ้ ใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๔ สร้ำงกล้ำมเนือ้ ท้อง ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เล่นกีฬำ Body weight อยำ่ งถูกต้อง ๕ สรำ้ งกล้ำมเน้ือ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. หลงั ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ เู้ รียนสำมำรถสร้ำงกล้ำมเน้อื ๓ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. อก และพฒั นำกล้ำมเนื้ออกไดอ้ ยำ่ ง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ถกู วถิ ี ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ ู้เรียนสำมำรถสรำ้ งกลำ้ มเนอ้ื ๓ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. แขน และพัฒนำกล้ำมเนื้ออกไดอ้ ย่ำง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ถกู วถิ ี ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผู้เรียนสำมำรถสร้ำงกลำ้ มเนื้อ ๓ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ทอ้ ง และพฒั นำกลำ้ มเนื้ออกได้อยำ่ ง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ถกู วิถี ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนสำมำรถสรำ้ งกล้ำมเนอ้ื ๔ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. หลงั และพัฒนำกล้ำมเน้ืออกไดอ้ ย่ำง ถกู วิถี
๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๗๑ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๗๒ โครงสร้ำงรำยวิชำพ้นื ฐำน รำยวิชำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๒๑๑๐๔ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๑ ภำคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลำ ๒๐ ชว่ั โมง /ภำคเรียน ที่ ช่ือหน่วยกำร มฐ/ตัวชวี้ ัด สำระสำคญั เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ช่วั โมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวัตกฬี ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศึกษำประวัติจะทำให้ผู้เรยี นเขำ้ ๒ ๑๐ มวยไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเปน็ มำของกีฬำ มวยไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กฎ กตกิ ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นเข้ำใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ มวยไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เลน่ กีฬำ มวยไทย อย่ำงถกู ต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ อุปกรณ์มวย พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนรู้ถงึ อุปกรณ์ในกำรฝึก ๓ ๑๐ ไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. มวยไทยมีอะไรบำ้ ง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรใช้อุปกรณ์ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นสำมำรถใช้อุปกรณ์ฝกึ ๓ ๑๐ มวยไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. มวยไทยได้ทกุ อุปกรณ์อย่ำงถูกวิธี ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ กำรฝกึ ร่ำงกำย พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถสรำ้ งกล้ำมเน้ือ ๓ ๑๐ กฬี ำมวยไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. และควำมสำมำรรำ่ งกำยในกำรฝึก ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. มวยไทยไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรฝึกทักษะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถออกหมัด เท้ำ ๔ ๑๐ มวยไทยเบ่ือง ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เข่ำ ศอก ในเบ่ืองตน้ อยำ่ งถูกวิธี ตน้
๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๗๓ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๗๔ โครงสรำ้ งรำยวิชำพน้ื ฐำน รำยวิชำ พลศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๒๒๑๐๓ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศึกษำ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๒ ภำคเรียนที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชว่ั โมง /ภำคเรยี น ที่ ช่อื หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ัด สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ชั่วโมง คะแนน (๒๐) ๑ กำรออกหมัด พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศึกษำประวัตจิ ะทำให้ผเู้ รียนเข้ำ ๒ ๑๐ ในกำรชกมวย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเป็นมำของกีฬำ มวยไทย ไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กำรเตะในกำร พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นเข้ำใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ ชกมวยไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เลน่ กีฬำ มวยไทย อย่ำงถูกต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรออกศอก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นรถู้ ึงอุปกรณ์ในกำรฝกึ ๓ ๑๐ ในกำรชกมวย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. มวยไทยมีอะไรบ้ำง ไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรออกเขำ่ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถใช้อุปกรณ์ฝึก ๓ ๑๐ ในกำรชกมวย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. มวยไทยไดท้ กุ อุปกรณ์อย่ำงถูกวธิ ี ไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ กำรออกอำวธุ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นสำมำรถสร้ำงกล้ำมเนอื้ ๓ ๑๐ อย่ำงต่อเนื่อง ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. และควำมสำมำรร่ำงกำยในกำรฝกึ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. มวยไทยได้อยำ่ งเหมำะสม ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรผสมอำวธุ 2 พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถออกหมัด เท้ำ ๔ ๑๐ อยำ่ งในกำรชก ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เขำ่ ศอก ในเบ่ืองต้นอยำ่ งถูกวธิ ี มวย
๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๗๕ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๗๖ โครงสร้ำงรำยวิชำพ้ืนฐำน รำยวิชำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๒๒๑๐๔ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี ๒ ภำคเรียนที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลำ ๒๐ ชัว่ โมง /ภำคเรียน ท่ี ช่ือหน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ดั สำระสำคัญ เวลำ/ น้ำหนัก เรยี นรู้ ช่ัวโมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวตั ิควำม พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศกึ ษำประวตั จิ ะทำใหผ้ ้เู รยี นเข้ำ ๒ ๑๐ เป็นมำกรฑี ำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเปน็ มำของกีฬำ กรฑี ำ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ ประเภทของ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเข้ำใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ กรีฑำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เล่นกีฬำ และประเภทของกรีฑำ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. อยำ่ งถูกต้อง ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กรีฑำประเภทลู่ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอื่ ให้ผูเ้ รียนรถู้ ึงประเภทกำรแขง่ ขัน ๓ ๑๐ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. กรฑี ำประเภทลู่ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กรีฑำประเภท พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผเู้ รยี นรูถ้ ึงประเภทกำรแข่งขัน ๓ ๑๐ ลำน ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. กรฑี ำประเภทลำน ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ กำรฝึกทักษะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผู้เรยี นสำมำรถเรียนรูแ้ ละ ๓ ๑๐ กรีฑำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ปฏบิ ัตทิ กั ษะของกำรว่งิ ไดถ้ ูกต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรทดสอบ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผู้เรยี นนำทักษะทฝ่ี กึ มำใชใ้ น ๔ ๑๐ ทกั ษะกรีฑำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. สถำนกำรจรงิ
๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๗๗ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๗๘ โครงสรำ้ งรำยวิชำพื้นฐำน รำยวชิ ำ พลศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๒๓๑๐๓ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลำ ๒๐ ชัว่ โมง /ภำคเรียน ที่ ช่อื หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ัด สำระสำคญั เวลำ/ น้ำหนัก เรียนรู้ ช่วั โมง คะแนน (๒๐) ๑ กำรออกหมัด พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศกึ ษำประวัตจิ ะทำให้ผเู้ รียนเข้ำ ๒ ๑๐ ในกำรชกมวย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเป็นมำของกีฬำ มวยไทย ไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กำรเตะในกำร พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนเขำ้ ใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ ชกมวยไทย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เลน่ กีฬำ มวยไทย อยำ่ งถกู ต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรออกศอก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ เู้ รยี นรู้ถงึ อุปกรณ์ในกำรฝึก ๓ ๑๐ ในกำรชกมวย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. มวยไทยมีอะไรบำ้ ง ไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรออกเข่ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผเู้ รียนสำมำรถใช้อุปกรณฝ์ กึ ๓ ๑๐ ในกำรชกมวย ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. มวยไทยได้ทุกอุปกรณอ์ ย่ำงถูกวธิ ี ไทย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ กำรออกอำวุธ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผู้เรียนสำมำรถสร้ำงกล้ำมเนือ้ ๓ ๑๐ อย่ำงต่อเนื่อง ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. และควำมสำมำรร่ำงกำยในกำรฝึก ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. มวยไทยได้อยำ่ งเหมำะสม ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรผสมอำวุธ3 พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสำมำรถออกหมัด เทำ้ ๔ ๑๐ อย่ำงในกำรชก ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เข่ำ ศอก ในเบ่ืองต้นอยำ่ งถูกวิธี มวย
๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๗๙ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลำเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๐ โครงสร้ำงรำยวิชำพน้ื ฐำน รำยวชิ ำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวิชำ พ๒๓๑๐๔ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ระดับช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี ๓ ภำคเรียนที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลำ ๒๐ ช่วั โมง /ภำคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วยกำร มฐ/ตัวช้ีวดั สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ชว่ั โมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวตั กีฬำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศกึ ษำประวัติจะทำใหผ้ เู้ รยี นเขำ้ ๒ ๑๐ เทเบลิ เทนนสิ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเป็นมำของกีฬำเทเบิลเทนนิส ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กฎ กตกิ ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนเขำ้ ใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ เทเบลิ เทนนิส ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เลน่ กฬี ำเทเบลิ เทนนิสอย่ำงถูกต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทกั ษะกำรเดำะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ ู้เรียนสำมำรถควบคมุ ลกู ๓ ๑๐ ลกู ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ปิงปอง และควบคุมนำ้ หนักมือได้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทักษะกำรตีลูก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผ้เู รียนเข้ำใจทักษะกำรตลี ูกใน ๓ ๑๐ ตำ่ งๆ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. รปู แบบตำ่ ง เชน่ ลกู แบค็ แฮน โฟร์ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. แฮน ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ ทกั ษะกำรรบั พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั รบั ลูกท่ีถูกตีสวน ๓ ๑๐ ลกู ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. กลบั มำได้อยำ่ งถูกต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรจดั กำร พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ให้ผ้เู รยี นได้ประสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ แข่งขนั กฬี ำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. แข่งขนั จริง รวมถึงกำรใชท้ ักษะตำ่ งๆ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ท่ไี ดฝ้ กึ มำ ในกำรใชเ้ พ่ือกำรแขง่ ขัน ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรียนและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๑ โครงสรำ้ งรำยวิชำพ้นื ฐำน รำยวิชำ พลศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๓๑๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศึกษำ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี ๔ ภำคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลำ ๒๐ ชว่ั โมง /ภำคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วยกำร มฐ/ตัวชวี้ ัด สำระสำคญั เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ชั่วโมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวัตกฬี ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศึกษำประวัตจิ ะทำให้ผเู้ รยี นเขำ้ ๒ ๑๐ ฟตุ ซอล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเป็นมำของกีฬำฟตุ ซอล ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กฎ กติกำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนเข้ำใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ ฟตุ ซอล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เล่นกฬี ำฟตุ ซอลอย่ำงถูกต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทกั ษะกำรเดำะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่ือให้ผเู้ รยี นสำมำรถควบคมุ ลกู ฟุต ๓ ๑๐ ลกู ฟตุ ซอล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ซอล ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทกั ษะกำรสง่ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเข้ำใจทักษะกำรส่งลกู ๓ ๑๐ ลกู ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ในรปู แบบต่ำง เช่น ขำ้ งเทำ้ ด้ำนใน ฟตุ ซอล ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ข้ำงเทำ้ ด้ำนนอก หลงั เทำ้ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ ทักษะกำรรับ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพือ่ ให้ผเู้ รยี นรู้จกั รบั ลกู ที่ถูกส่ง หรอื ๓ ๑๐ ลูกฟตุ ซอล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ยิง จำกสถำนกำรณ์ตำ่ งๆ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรจัดกำร พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนไดป้ ระสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ แข่งขนั กฬี ำฟุต ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. แข่งขันจริง รวมถึงกำรใชท้ กั ษะต่ำงๆ ซอล ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ทีไ่ ด้ฝกึ มำ ในกำรใชเ้ พ่ือกำรแข่งขนั ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๒ โครงสร้ำงรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รำยวิชำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวิชำ พ๓๒๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ ระดับชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๕ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง /ภำคเรยี น ท่ี ชอื่ หน่วยกำร มฐ/ตัวช้วี ัด สำระสำคญั เวลำ/ นำ้ หนัก เรยี นรู้ ชัว่ โมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวัตกีฬำ พ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ กำรศกึ ษำประวัตจิ ะทำใหผ้ ู้เรยี นเข้ำ ๒ ๑๐ เซปกั ตะกร้อ ๒,ม.๓/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเปน็ มำของกีฬำเซปักตะกร้อ ๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม. ๓/๔,ม.๓/๕ ๒ กฎ กตกิ ำ พ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ เพื่อให้ผเู้ รียนเขำ้ ใจ กฎ กติกำ กำร ๓ ๒๐ ๒,ม.๓/.๓ พ ๓.๒ ม. เลน่ เซปกั ตะกรอ้ อยำ่ งถูกต้อง ๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม. ๓/๔,ม.๓/๕ ๓ ทกั ษะกำรเดำะ พ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ เพื่อให้ผเู้ รียนสำมำรถเดำะลูกตะกร้อ ๓ ๑๐ ลกู ตะกร้อ ๒,ม.๓/.๓ พ ๓.๒ ม. ได้อย่ำงถกู วิธี ๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม. ๓/๔,ม.๓/๕ ๓ ทกั ษะกำรเสริฟ์ พ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ เพ่ือให้ผ้เู รียนเขำ้ ใจทักษะกำรเสรฟิ ์ ๓ ๑๐ ลูกตะกร้อ ๒,ม.๓/.๓ พ ๓.๒ ม. ลกู ตะกร้อในรูปแบบต่ำงๆได้อย่ำงถูก ๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม. วิธแี ละรุนแรง ๓/๔,ม.๓/๕ ๔ ทกั ษะกำรทำ พ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นไดท้ ักษะกำรทำแตม้ ใน ๓ ๑๐ แต้มในกำร ๒,ม.๓/.๓ พ ๓.๒ ม. กำรแขง่ ขนั ไปใช้ในกำรแขง่ ขันจรงิ แขง่ ขนั ๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม. ๓/๔,ม.๓/๕ ๕ กำรแขง่ ขนั กีฬำ พ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นไดป้ ระสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ เซปักตะกร้อ ๒,ม.๓/.๓ พ ๓.๒ ม. แข่งขันกีฬำเซปกั ตะกร้อ และกำรฝกึ ตดั สินกฬี ำเซปักตะกร้อ
๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม. ๘๓ ๓/๔,ม.๓/๕ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลำเรียนและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๔ โครงสรำ้ งรำยวชิ ำพนื้ ฐำน รำยวิชำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๓๓๑๐๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๖ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง /ภำคเรียน ที่ ช่อื หน่วยกำร มฐ/ตัวช้วี ดั สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ช่ัวโมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวัตกฬี ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศกึ ษำประวตั จิ ะทำให้ผเู้ รียนเข้ำ ๒ ๑๐ แอร์โรบิค ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเปน็ มำของกีฬำแอรโ์ รบคิ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ ทำ่ เต้น พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเขำ้ ใจ ทำ่ เต้นพื้นฐำน ๓ ๒๐ แอรโ์ รบิค ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรเคลื่อนท่ี พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ให้ผ้เู รยี นสำมำรถควบคุมขำและ ๓ ๑๐ แอร์โรบคิ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ทิศทำงกำรเคลื่อนที่ได้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทกั ษะกำรฝึก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นเข้ำใจทักษะกำรกำรเต้น ๓ ๑๐ ท่ำแอรโ์ รบิค ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ทผี่ สมขำกบั มือและจังหวะเพลง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ ทักษะรวมท่ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่ือใหผ้ ้เู รียนรูจ้ ักกำรเปลยี่ นทำ่ เตน้ ๓ ๑๐ แอรโ์ รบคิ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใหต้ ่อเน่ือง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรออกแบบ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนไดป้ ระสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ กำรเตน้ แอร์โร ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. นำเต้นและออกแบบท่ำใหเ้ หมำะสม บิค ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. กับวยั ต่ำงๆ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๕ โครงสร้ำงรำยวิชำเพมิ่ เติม รำยวชิ ำ พลศกึ ษำ รหัสรำยวชิ ำ พ๓๑๒๐๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๔ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๑ หนว่ ยกิต เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง /ภำคเรยี น ท่ี ชือ่ หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ดั สำระสำคญั เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ชวั่ โมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวตั กีฬำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศึกษำประวัตจิ ะทำใหผ้ ู้เรียนเขำ้ ๒ ๑๐ โยคะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเปน็ มำของกีฬำโยคะ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ ท่ำเต้น พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเข้ำใจ ท่ำโยคะพนื้ ฐำน ๓ ๒๐ โยคะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรเคลื่อนท่ี พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผเู้ รียนสำมำรถควบคุมร่ำงกำย ๓ ๑๐ โยคะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ได้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทกั ษะกำรฝึก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผูเ้ รยี นเข้ำใจทักษะกำรปฏบิ ัติ ๓ ๑๐ ทำ่ โยคะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ในกำรทำทำ่ โยคะและกำรควบคมุ ลม ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. หำยใจ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ ทักษะรวมทำ่ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นร้จู ักกำรเปลยี่ นโยคะให้ ๓ ๑๐ โยคะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ต่อเนอ่ื ง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรออกแบบ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนไดป้ ระสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ กำรเล่นโยคะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. นำทำท่ำโยคะและออกแบบท่ำให้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. เหมำะสมกบั วยั ตำ่ ง ๆ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรียนและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๖ โครงสรำ้ งรำยวิชำเพิม่ เติม รำยวชิ ำ พลศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๓๑๒๐๒ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี ๔ ภำคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๑ หน่วยกติ เวลำ ๔๐ ช่วั โมง /ภำคเรยี น ที่ ชื่อหน่วยกำร มฐ/ตัวชว้ี ดั สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ช่วั โมง คะแนน (๒๐) ๑ ประวตั กฬี ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กำรศกึ ษำประวัติจะทำให้ผ้เู รยี นเข้ำ ๒ ๑๐ เทควันโด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ใจควำมเป็นมำของกีฬำเทควันโด ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กฎ กติกำ เท พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผู้เรียนเข้ำใจ กฎ กติกำ เท ๓ ๒๐ ควันโด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ควันโด ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรเคลื่อนที่ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถควบคุมร่ำงกำย ๓ ๑๐ เทควันโด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ได้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ทกั ษะกำรฝึก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเขำ้ ใจทักษะกำรปฏบิ ัติ ๓ ๑๐ กำรเตะพน้ื ฐำน ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ในกำรเตะในท่ำต่ำงๆ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ กำรฝึกพลัง พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมีพลังในกำรเตะที่มำก ๓ ๑๐ กล้ำมเน้อื ขำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ขน้ึ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ สอบเตะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นได้ประสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เตะและเตะถูกวธิ ี ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๗ โครงสร้ำงรำยวชิ ำเพิม่ เติม รำยวชิ ำ พลศึกษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๓๒๒๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี ๕ ภำคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๑ หนว่ ยกิต เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง /ภำคเรยี น ที่ ช่ือหน่วยกำร มฐ/ตัวชว้ี ัด สำระสำคญั เวลำ/ น้ำหนัก เรียนรู้ ชวั่ โมง คะแนน (๒๐) ๑ ท่ำเตะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ ทบทวนท่ำเตะตำ่ งๆ ๒ ๑๐ เทควนั โด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กำรชก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเขำ้ ใจ กำรชกและวธิ ีชก ๓ ๒๐ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ทีถ่ ูกต้อง ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรกอดและทำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผเู้ รียนรูเ้ ทคนิคกำรกอดและ ๓ ๑๐ แตม้ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ทำแต้มระหวำ่ งกอด ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ ท่ำเตะขนั้ สงู พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ ฝึกทกั ษะกำรเตะทำ่ ๓ ๑๐ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. แบลก็ คกิ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. สวิง คกิ ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ไซด์ คิก ๔ กำรฝกึ ใสเ่ กรำะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนมีควำมคุ้นชนิ กับ ๓ ๑๐ สู้ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. อุปกรณ์ในกำรแข่งขัน ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ สอบสจู้ รงิ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้ผเู้ รียนได้ประสบกำรณ์ในกำร ๔ ๑๐ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ตอ่ สู้ถูกวิธี ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๘ โครงสร้ำงรำยวิชำเพิม่ เติม รำยวชิ ำ พลศึกษำ รหสั รำยวิชำ พ๓๒๒๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๕ ภำคเรียนท่ี ๒ จำนวน ๑ หนว่ ยกิต เวลำ ๔๐ ช่วั โมง /ภำคเรยี น ที่ ช่อื หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ดั สำระสำคญั เวลำ/ น้ำหนัก เรียนรู้ ชวั่ โมง คะแนน (๒๐) ๑ กำรตัดสนิ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กฎ กตกิ ำ กำรฝกึ ตดั สินกีฬำฟตุ บอล ๒ ๑๐ ฟุตบอล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กำรตดั สนิ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กฎ กติกำ กำรฝกึ ตดั สนิ กีฬำตะกร้อ ๓ ๒๐ ตะกร้อ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรตดั สนิ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กฎ กติกำ กำรฝกึ ตดั สนิ กีฬำ ๓ ๑๐ วอลเลยบ์ อล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. วอลเลย์บอล ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรตดั สนิ ฟุต พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กฎ กติกำ กำรฝึกตดั สินกีฬำฟุตซอล ๓ ๑๐ ซอล ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ กำรตดั สนิ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กฎ กติกำ กำรฝึกตดั สินกีฬำกรฑี ำ ๓ ๑๐ กรีฑำ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ กำรตดั สนิ เป พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ กฎ กตกิ ำ กำรฝึกตัดสินกีฬำเปตอง ๔ ๑๐ ตอง ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรยี นและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๘๙ โครงสรำ้ งรำยวิชำเพม่ิ เติม รำยวชิ ำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๓๓๒๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี ๖ ภำคเรียนที่ ๑ จำนวน ๑ หน่วยกติ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง /ภำคเรยี น ที่ ชอื่ หน่วยกำร มฐ/ตัวชีว้ ดั สำระสำคัญ เวลำ/ นำ้ หนัก เรยี นรู้ ช่ัวโมง คะแนน (๒๐) ๑ ทำ่ เตะ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ ทบทวนท่ำเตะต่ำงๆ ๒ ๑๐ เทควันโด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ กำรเตะ2 พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนฝึกทักษะกำรเตะ 2 ๓ ๒๐ จงั หวะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. จงั หวะต่อกัน ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรเตะ3 พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นฝกึ ทกั ษะกำรเตะ 3 ๓ ๑๐ จังหวะ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. จังหวะต่อกนั ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรเตะหวั ท่ำ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ ฝกึ ทักษะกำรเตะหัวท่ำพเิ ศษ ๓ ๑๐ พิเศษ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. แบล็ก คกิ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. สวงิ คิก ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ไซด์ คิก ๔ กำรแข่งขันเท พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อให้นักเรียนสำมำรถแข่งขันกีฬำเท ๓ ๑๐ ควนั โด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ควนั เบือ้ งตน้ ได้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ จัดกำรแข่งขัน พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่ือให้นักเรยี นสำมำรถจัดกำรแขง่ ขนั ๔ ๑๐ เทควนั โด ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. แข่งขนั กฬี ำเทควนั เบื้องตน้ ได้ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรียนและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๙๐ โครงสรำ้ งรำยวชิ ำเพม่ิ เติม รำยวิชำ พลศกึ ษำ รหสั รำยวชิ ำ พ๓๓๒๐๒ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี ๖ ภำคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๑ หน่วยกิต เวลำ ๔๐ ช่วั โมง /ภำคเรียน ท่ี ชอื่ หน่วยกำร มฐ/ตัวช้วี ัด สำระสำคญั เวลำ/ นำ้ หนัก เรียนรู้ ชว่ั โมง คะแนน (๒๐) ๑ ทฤษฏกี ำรฝึก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเข้ำใจหลักกำรกำรฝกึ ๒ ๑๐ สมรรถภำพ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. สมรรถภำพรำ่ งกำย รำ่ งกำย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๒ แบบฝึก พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพือ่ ให้นกั เรียนเรียนรแู้ บบ ๓ ๒๐ สมรรถภำพ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. สมรรถภำพรำ่ งกำย รำ่ งกำย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ กำรออกแบบ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพื่อใหน้ ักเรียนออกแบบแบบฝกึ ๓ ๑๐ แบบฝกึ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. สมรรถภำพรำ่ งกำยได้ สมรรถภำพ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. รำ่ งกำย ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๓ หลักกำร พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเข้ำใจวธิ ีทดสอบ ๓ ๑๐ ทดสอบ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. สมรรถภำพร่ำงกำย สมรรถภำพ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. รำ่ งกำย ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๔ เครื่องมือตำ่ งๆ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นใช้เคร่ืองมือทดสอบ ๓ ๑๐ ในกำรทดสอบ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. เป็น สมรรถภำพ ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ร่ำงกำย ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ๕ ทดสอบ พ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/ เพ่ือให้นักเรียนวัดและสอบ ๔ ๑๐ สมรรถภำพ ๒,ม.๑/.๓ พ ๓.๒ ม. ควำมสำมำรถของรำ่ งกำยตนเอง ร่ำงกำย ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม. ๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ สอบกลำงภำค ๑ ๑๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐ รวมเวลาเรียนและคะแนน ๒๐ ๑๐๐
๙๑ กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ กลไกของร่ำงกำยทใ่ี ช้ในกำรเคล่อื นไหว (Body Mechanism) กระบวนกำรตำมธรรมชำติในกำรเคล่ือนไหวส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำยตำมลักษณะโครงสร้ำง หน้ำที่ และกำรทำงำนร่วมกนั ของข้อต่อ กลำ้ มเน้ือ กระดกู และระบบประสำททีเ่ กย่ี วขอ้ งภำยใต้ขอบขำ่ ย เงือ่ นไข หลกั กำร และปัจจยั ด้ำนชีวกลศำสตร์ทม่ี ผี ลต่อกำรเคล่ือนไหว เช่น ควำมมั่นคง (Stability) ระบบคำน (Leverage) กำรเคลอื่ น (Motion) และแรง (Force) กำรเคล่ือนไหวเฉพำะอย่ำง (Specialized Movement) กำรผสมผสำนกนั ระหวำ่ งทักษะย่อยของทักษะกำรเคล่อื นไหวพื้นฐำนต่ำง ๆ กำรออกกำลังกำย กำร เลน่ เกม และกำรเลน่ กฬี ำตำ่ ง ๆ ซงึ่ มคี วำมจำเป็นสำหรับกิจกรรมทำงกำย เช่น กำรขวำ้ งลกู ซอฟทบ์ อล ตอ้ ง อำศัยกำรผสมผสำนของทกั ษะกำรสไลด์ (กำรเคลือ่ นไหวแบบเคลื่อนท่ี) กำรขว้ำง (กำรเคล่ือนไหวแบบ ประกอบอุปกรณ์) กำรบดิ ตวั (กำรเคล่ือนไหวแบบไมเ่ คลอื่ นท่)ี ทกั ษะท่ที ำบำงอย่ำงย่ิงมีควำมซับซ้อนและต้อง ใช้กำรผสมผสำนของทักษะกำรเคล่ือนไหวพ้ืนฐำนหลำย ๆ ทกั ษะรวมกนั กำรเคลอ่ื นไหวในชีวิตประจำวนั (Daily Movement) รปู แบบหรือทักษะกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยในอิริยำบถต่ำง ๆ ทบ่ี คุ คลทว่ั ไปใช้ในกำร ดำเนนิ ชีวติ ไมว่ ่ำ เพือ่ กำรประกอบกิจวตั รประจำวนั กำรทำงำน กำรเดินทำงหรอื กิจกรรมอืน่ ๆ เชน่ กำรยืน ก้ม นั่ง เดิน วิง่ โหนรถเมล์ ยกของหนกั ปีนป่ำย กระโดดลงจำกทสี่ งู ฯลฯ กำรเคลอ่ื นไหวพืน้ ฐำน (Fundamental Movements) ทกั ษะกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำยท่จี ำเป็นสำหรบั ชวี ิตและกำรดำเนินชีวติ ของมนุษย์ ในกำรปฏบิ ัติ กิจกรรมต่ำง ๆ ได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ เป็นทกั ษะที่มกี ำรพัฒนำในชว่ งวยั เด็ก และจะเป็นพื้นฐำนสำหรบั กำร ประกอบกจิ กรรมต่ำงๆ เม่อื เจรญิ วัยสูงขน้ึ ตลอดจนเป็นพน้ื ฐำนของกำร มคี วำมสำมำรถในกำรเคล่อื นไหว โดยเฉพำะอยำ่ งย่ิงในกำรเลน่ กีฬำ กำรออกกำลงั กำย และกำรประกอบกิจกรรมนนั ทนำกำร กำรเคล่ือนไหว พ้นื ฐำน สำมำรถแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท คือ ๑. กำรเคลอื่ นไหวแบบเคลื่อนที่ (Locomotor Movement) หมำยถึง ทักษะกำรเคล่ือนไหว ท่ใี ช้ ในกำรเคล่ือนรำ่ งกำยจำกท่หี นง่ึ ไปยังอกี ทหี่ นึ่ง ไดแ้ ก่ กำรเดนิ กำรวง่ิ กำรกระโดด สลบั เท้ำ กำรกระโจน กำร สไลด์ และกำรว่ิงควบมำ้ ฯลฯ หรือกำรเคลื่อนท่ีในแนวดงิ่ เชน่ กำรกระโดด ทักษะกำรเคล่ือนไหวเหลำ่ นเี้ ป็น พ้นื ฐำนของกำรทำงำนประสำนสัมพนั ธท์ ำงกลไกแบบไม่ซบั ซอ้ น และเป็นกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยทใ่ี ช้กล้ำมเน้ือ มัดใหญ่
๙๒ ๒. กำรเคลือ่ นไหวแบบอยกู่ บั ที่ (Nonlocomotor Movement) หมำยถึง ทักษะกำรเคลอื่ นไหวท่ี ปฏบิ ัติโดยรำ่ งกำยไม่มกี ำรเคลือ่ นทข่ี องรำ่ งกำย ตวั อยำ่ งเช่น กำรก้ม กำรเหยียด กำรผลักและดัน กำรบดิ ตวั กำรโยกตวั กำรไกวตัว และกำรทรงตวั เป็นต้น ๓. กำรเคลื่อนไหวแบบประกอบอปุ กรณ์ (Manipulative Movement) เป็นทักษะกำรเคลอ่ื นไหวท่ี มกี ำรบงั คับหรือควบคมุ วตั ถุ ซ่ึงส่วนใหญจ่ ะเก่ยี วข้องกับกำรใช้มอื และเทำ้ แตส่ ว่ นอ่นื ๆ ของรำ่ งกำยกส็ ำมำรถ ใชไ้ ด้ เชน่ กำรขว้ำง กำรตี กำรเตะ กำรรับ เป็นตน้ กำรจัดกำรกับอำรมณแ์ ละควำมเครียด (Emotion and Stress Management) วธิ คี วบคมุ อำรมณ์ควำมเครยี ดและควำมคับข้องใจ ท่ีไมเ่ ป็นอนั ตรำยต่อตนเองและผู้อน่ื แลว้ ลงมอื ปฏิบตั อิ ยำ่ งเหมำะสม เช่น ทำสมำธิ เล่นกีฬำ กำรร่วมกจิ กรรม นันทนำกำร กำรคลำยกลำ้ มเน้ือ (muscle relaxation) กำรช่วยฟ้นื คนื ชีพ (Cardiopulmonary Resuscitation = CPR) กำรชว่ ยชวี ติ เบ้อื งต้นก่อนสง่ ต่อใหแ้ พทย์ในกรณผี ู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น โดยกำรนวดหวั ใจและผำยปอด ไปพร้อมๆกัน กำรดูแลเบอ้ื งต้น (First Care) กำรให้กำรดูแลสุขภำพผปู้ ่วยในระยะพักฟื้นและหรือกำรปฐมพยำบำล กำรพฒั นำทย่ี ่งั ยืน (Sustainable Development) กำรพฒั นำที่เป็นองคร์ วมของควำมเป็นมนษุ ย์ตำมแนวทำงของพระธรรมปิฏก (ประยุทธ์ ปยตุ โต) เปน็ กำรพฒั นำที่เป็นบรู ณำกำร คอื ทำใหเ้ กดิ เป็นองค์รวมหมำยควำมว่ำ องค์ประกอบทัง้ หลำย ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง จะตอ้ งประสำนกนั ครบท้งั ร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สงั คม และจติ วญิ ญำณ และมีดุลยภำพ สอดคล้องกบั กฎเกณฑ์ของธรรมชำติ กำรละเลน่ พ้ืนเมอื ง (Folk Plays) กิจกรรมเล่นดัง้ เดิมของคนในชุมชนแตล่ ะท้องถิน่ ซง่ึ เปน็ สว่ นหน่งึ ของกำรดำเนินชีวติ หรอื วิถีชีวติ เพอ่ื เป็นกำรผอ่ นคลำยอำรมณ์ ควำมเครียด และสร้ำงเสรมิ ให้มีกำลังกำยแขง็ แรง สติปญั ญำดี จิตใจเบิกบำน สนกุ สนำน อันก่อใหเ้ กิดควำมสมั พนั ธท์ ดี่ ีต่อกนั และเป็นส่วนหน่งึ ของวัฒนธรรม เช่น กิจกรรมกำรเล่นของ ชุมชนท้องถ่ิน วงิ่ เป้ียว ชักเย่อ ขี่ม้ำสง่ เมือง ตีจบั มอญซ่อนผ้ำ รๆี ขำ้ วสำร วง่ิ กระสอบ สะบำ้ กระบ่ีกระบอง มวยไทย ตะกรอ้ วง ตะกร้อลอดบว่ ง กจิ กรรมเข้ำจังหวะ (Rhythmic Activities) กำรแสดงออกของร่ำงกำย โดยกำรเคลือ่ นไหวสว่ นตำ่ งๆ ของรำ่ งกำยให้เข้ำกบั อัตรำควำม ชำ้ – เร็ว ของตัวโน้ต
๙๓ กจิ กรรมนนั ทนำกำร (Recreation Activities) กจิ กรรมทบี่ ุคคลได้เลือกทำหรือเขำ้ ร่วมดว้ ยควำมสมัครใจในเวลำวำ่ ง และผลทีไ่ ดร้ ับเป็นควำมพงึ พอใจ ไม่เป็นภัยต่อสังคม กจิ กรรมรบั น้ำหนกั ตนเอง (Weight Bearing Activities) กจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยทมี่ ีกำรเคลอ่ื นไหวบนพน้ื เชน่ กำรเดนิ กำรวิง่ กำรกระโดดเชือก ยมิ นำสตกิ กำรเตน้ รำหรือกำรเตน้ แอโรบกิ โดยกลำ้ มเน้ือสว่ นท่ีรับน้ำหนกั ตอ้ งออกแรงกระทำกับนำ้ หนักของ ตนเองในขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม กีฬำไทย (Thai Sports) กฬี ำท่ีมีพน้ื ฐำนเช่ือมโยงกับวิถีชวี ิตและวัฒนธรรมของท้องถน่ิ และสังคมไทย เช่น กระบ่ีกระบอง มวยไทย ตะกรอ้ กฬี ำสำกล (International Sports) กีฬำที่เปน็ ท่ียอมรบั จำกมวลสมำชกิ ขององค์กรกีฬำระดบั นำนำชำติให้เปน็ ชนดิ กีฬำท่ีบรรจุอยใู่ นเกม กำรแข่งขนั เชน่ ฟุตบอล วอลเลยบ์ อล เทนนิส แบดมนิ ตนั เกณฑ์สมรรถภำพทำงกำย (Physical Fitness Reference) ค่ำมำตรฐำนท่ีไดก้ ำหนดขึ้น (จำกกำรศึกษำวจิ ัยและกระบวนกำรสถติ ิ) เพ่ือเปน็ ดัชนีสำหรับประเมิน เปรยี บเทียบว่ำบุคคลที่ได้รบั คะแนน หรือคำ่ ตัวเลข (เวลำ จำนวน ครง้ั นำ้ หนัก ฯลฯ) จำกกำรทดสอบ สมรรถภำพทำงกำยแต่ละรำยกำรทดสอบนัน้ มีสมรรถภำพทำงกำยตำมองค์ประกอบดงั กล่ำวอยใู่ นระดบั คุณภำพใด โดยท่วั ไปแล้วนิยมจัดทำเกณฑ์ใน ๒ ลกั ษณะ คือ ๑. เกณฑ์ปกติ (Norm Reference) เปน็ เกณฑ์ทีจ่ ดั ทำจำกกำรศึกษำกลมุ่ ประชำกร ท่ีจำแนกตำม กล่มุ เพศและวยั เปน็ หลักสว่ นใหญแ่ ลว้ จะจัดทำในลักษณะของเปอรเ์ ซน็ ไทล์ ๒. เกณฑ์มำตรฐำน (Criterion Reference) เปน็ ระดบั คะแนนหรือคำ่ มำตรฐำนที่กำหนดไว้ ลว่ งหนำ้ สำหรับแต่ละรำย กำรทดสอบเพื่อเปน็ เกณฑก์ ำรตัดสินวำ่ บคุ คลท่ีรบั กำรทดสอบมสี มรรถภำพหรือ ควำมสำมำรถผำ่ นตำมเกณฑ์ทไ่ี ดก้ ำหนดไวห้ รือไม่ มิไดเ้ ป็นกำรเปรยี บเทยี บกับบคุ คลอ่ืน ๆ ควำมคดิ รวบยอดเก่ียวกับกำรเคล่อื นไหว (Movement Concepts) ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งขนำด จังหวะ เวลำ พน้ื ท่ี และทิศทำงในกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยควำมเข้ำใจถงึ ควำมเกย่ี วข้องเชอ่ื มโยง และควำมพอเหมำะพอดีระหว่ำงขนำดของแรงท่ใี ช้ ในกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยหรอื วัตถุ ดว้ ยหว้ งเวลำ จังหวะและทิศทำงทเี่ หมำะสมภำยใต้ข้อจำกัดของพ้ืนทที่ ่ีมีอยู่ และสำมำรถแปรควำมเข้ำใจ ดงั กล่ำวทัง้ หมดไปสู่กำรปฏิบัตกิ ำรเคล่ือนไหวในกำรเล่นหรอื แขง่ ขันกีฬำ ควำมเสี่ยงต่อสุขภำพ (Health Risk)
๙๔ กำรประพฤติปฏบิ ตั ิทอี่ ำจนำไปสู่กำรเกดิ อนั ตรำยต่อชีวิตและสขุ ภำพของตนเองและผู้อืน่ เชน่ กำรขบั รถเร็ว กำรกินอำหำรสุกๆดิบๆ ควำมสำสอ่ นทำงเพศ กำรมีนำ้ หนกั ตัวเกิน กำรขำด กำรออกกำลงั กำย กำรสูบ บุหร่ี กำรดืม่ สุรำ กำรใช้ยำและสำรเสพติด คำ่ นยิ มทำงสังคม (Health Value) คณุ สมบัติของสง่ิ ใดกต็ ำม ซ่ึงทำใหส้ ิ่งนั้นเป็นประโยชนน์ ำ่ สนใจ สิ่งท่บี ุคคลยดึ ถอื ในกำรตัดสินใจและ กำหนดกำรกระทำของตนเองเก่ียวกับพฤตกิ รรมสุขภำพ คณุ ภำพชวี ิต (Quality of Life) ควำมรบั รู้หรือเข้ำใจของปัจเจกบคุ คลท่ีมีต่อสถำนภำพชีวิตของตนเองภำยใต้บรบิ ทของระบบ วัฒนธรรมและค่ำนิยมทเ่ี ขำใช้ชวี ติ อยู่ และมีควำมเช่ือมโยงกบั จุดมุ่งหมำย ควำมคำดหวัง มำตรฐำน รวมทั้ง ควำมกังวลสนใจท่ีเขำมีต่อสิง่ ตำ่ งๆ คุณภำพชีวติ เป็นมโนคติทีม่ ีขอบเขตกว้ำงขวำง ครอบคลมุ เร่ืองต่ำงๆ ที่ สลับซับซ้อน ได้แก่ สุขภำพทำงกำย สภำวะทำงจิต ระดบั ควำมเปน็ ตวั ของตวั เอง ควำมสัมพันธ์ต่ำงๆ ทำง สังคม ควำมเชือ่ ส่วนบุคคล และสัมพันธภำพที่ดตี ่อส่ิงแวดลอ้ ม จิตวิญญำณในกำรแข่งขนั (Competitive Spiritual) ควำมมุ่งมั่น กำรทมุ่ เทกำลงั กำย กำลังใจ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั และรว่ มมืออย่ำงสันติ เต็มควำมสำมำรถ เพื่อให้ได้มำซ่งึ ผลทีต่ นเองตอ้ งกำร ทักษะชวี ิต (Life Skills) เป็นคุณลักษณะหรือควำมสำมำรถเชิงสงั คมจิตวิทยำ(Psychosocial Competence)และเป็น ควำมสำมำรถทำงสตปิ ัญญำ ที่ทุกคนจำเปน็ ต้องใช้ในกำรเผชิญสถำนกำรณ์ตำ่ งๆท่ีเกดิ ข้ึนในชวี ติ ประจำวันได้ อยำ่ งมีประสิทธิภำพ สำมำรถพฒั นำขน้ึ ได้ดว้ ยกำรฝกึ และกระทำซ้ำๆ ให้เกิดควำมคล่องแคล่ว เคยชิน จนเปน็ ลักษณะนิสัย ประกอบดว้ ยทักษะต่ำงๆดังนี้ คอื กำรรูจ้ ักตนเอง เข้ำใจตนเองและเห็นคุณคำ่ ของตนเอง กำร รจู้ ักคดิ อย่ำงมีวิจำรณญำณและคดิ สรำ้ งสรรค์ กำรร้จู กั คิดตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหำ กำรรู้จักแสวงหำและใช้ขอ้ มลู ควำมรู้ กำรสือ่ สำรและกำรสร้ำงสัมพนั ธภำพกบั ผอู้ ่นื กำรจดั กำรกบั อำรมณแ์ ละควำมเครียด กำรปรบั ตัว ทำ่ มกลำงกำรเปลีย่ นแปลง กำรต้งั เปำ้ หมำย กำรวำงแผนและดำเนนิ กำรตำมแผน ควำมเห็นใจผ้อู ืน่ ควำม รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมและซำบซ้ึงในสิ่งทด่ี งี ำมรอบตัว ธงโภชนำกำร (Nutrition Flag) เปน็ เครอื่ งมือท่ชี ่วยอธิบำยและทำควำมเข้ำใจโภชนบัญญตั ิ ๙ ประกำร เพ่ือนำไปสู่กำรปฏบิ ตั ิ โดย กำหนดเปน็ ภำพ “ธงปลำยแหลม” แสดงกลุ่มอำหำรและสดั ส่วนกำรกินอำหำรในแต่ละกลมุ่ มำกน้อยตำม พ้ืนที่ สังเกตได้ชดั เจนวำ่ ฐำนใหญด่ ำ้ นบนเน้นให้กินมำกและปลำยธงข้ำงล่ำงบอกใหก้ นิ นอ้ ย ๆ เท่ำทจี่ ำเป็น โดยมฐี ำนมำจำกข้อปฏบิ ัตกิ ำรบริโภคอำหำรเพื่อสขุ ภำพท่ีดีของคนไทย หรือ โภชนบัญญตั ิ ๙ ประกำร คือ ๑. กินอำหำรครบ ๕ หมู่ แต่ละหมูใ่ ห้หลำกหลำยและหมน่ั ดูแลน้ำหนกั ตัว
๙๕ ๒. กินขำ้ วเปน็ อำหำรหลักสลับกับอำหำรประเภทแป้งเปน็ บำงม้ือ ๓. กนิ พชื ผักให้มำกและกนิ ผลไม้เป็นประจำ ๔. กนิ ปลำ เนอื้ สัตว์ไม่ติดมนั ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ ๕. ด่ืมนมให้เหมำะสมตำมวัย ๖. กินอำหำรทม่ี ไี ขมันแต่พอควร ๗. หลีกเลีย่ งกำรกนิ อำหำรรสหวำนจัด และเค็มจัด ๘. กินอำหำรทสี่ ะอำด ปรำศจำกกำรปนเป้อื น ๙. งดหรอื ลดเครื่องดม่ื ท่มี แี อลกอฮอล์ น้ำใจนกั กีฬำ (Spirit) เป็นคณุ ธรรมประจำใจของกำรเลน่ รว่ มกันอยรู่ ่วมกนั และมีชวี ิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมได้อยำ่ งปกติสุขและ มปี ระสทิ ธิภำพ พฤติกรรมท่ีแสดงถึงควำมมีนำ้ ใจนักกีฬำ เชน่ กำรมวี ินัย เคำรพกฎกติกำ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย บริกำรสขุ ภำพ (Health Service) บริกำรทำงกำรแพทย์และสำธำรณสุขทงั้ ของรฐั และเอกชน ประชำสังคม (Civil Society) เครือข่ำย กล่มุ ชมรม สมำคม มูลนธิ ิ สถำบัน องคก์ ร หรือชมุ ชนทีม่ กี ิจกรรมกำรเคลื่อนไหวทำงสังคม เพอ่ื ประโยชนร์ ว่ มกนั ของกลุ่ม ผลติ ภัณฑ์สุขภำพ (Health Products) ยำ เคร่ืองสำอำง อำหำรสำเร็จรปู เครอื่ งปรุงรสอำหำร อำหำรเสรมิ วิตำมิน พฤตกิ รรมเบ่ียงเบนทำงเพศ (Sex Abuse) กำรประพฤติปฏิบัติใดๆ ที่ไม่เปน็ ไปตำมธรรมชำตทิ ำงเพศตนเอง เชน่ มีจติ ใจรกั ชอบในเพศเดยี วกนั กำรแต่งตวั หรอื แสดงกริ ยิ ำเป็นเพศตรงขำ้ ม พฤตกิ รรมสขุ ภำพ (Health Behaviour) กำรปฏบิ ัตหิ รอื กจิ กรรมใดๆ ในดำ้ นกำรป้องกัน กำรสรำ้ งเสริม กำรรกั ษำและกำรฟืน้ ฟูสขุ ภำพ อันมี ผลตอ่ สภำวะทำงสุขภำพของบคุ คล พฤตกิ รรมเสีย่ ง (Risk Behaviour) รปู แบบจำเพำะของพฤติกรรม ซง่ึ ไดร้ บั กำรพสิ ูจนแ์ ล้วว่ำมีควำมสัมพนั ธก์ ับกำรเพ่ิมโอกำสที่จะป่วย จำกโรคบำงชนดิ หรอื กำรเสอ่ื มสุขภำพมำกข้ึน
๙๖ พลงั ปัญญำ (Empowerment) กระบวนกำรสร้ำงเสริมศกั ยภำพแก่บคุ คลและชุมชนใหเ้ ป็นผู้สนใจใฝร่ ู้ และมีอำนำจ ในกำรคิด กำร ตดั สนิ ใจ กำรแกป้ ัญหำด้วยชมุ ชนเองไดเ้ ปน็ สว่ นใหญ่นอกจำกน้ันบคุ คลและชุมชนยังสำมำรถควบคุม สภำพแวดลอ้ มที่มผี ลกระทบตอ่ ปัญหำสขุ ภำพให้อย่ใู นสภำพท่ีเออ้ื ต่อกำรสรำ้ งเสรมิ และพัฒนำสขุ ภำพ ภำวะทุพโภชนำกำร (Malnutrition) กำรขำดสำรอำหำรทจี่ ำเป็นต่อกำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำรของเด็กทำให้มีผลกระทบตอ่ สุขภำพ ภำวะผนู้ ำ (Leadership) กำรมคี ุณลกั ษณะในกำรเปน็ หัวหน้ำสำมำรถชกั ชวนและชีน้ ำสมำชิกในกลุม่ รว่ มมือร่วมใจกนั ปฏบิ ัตงิ ำนให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ภมู ปิ ัญญำไทย (Thai Wisdom) สตปิ ญั ญำ องค์ควำมร้แู ละคำ่ นยิ มทน่ี ำมำใช้ในกำรดำเนนิ ชีวติ ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม เปน็ มรดกทำง วฒั นธรรมทเ่ี กิดจำกกำรส่งั สมประสบกำรณ์ ควำมร้แู ขนงตำ่ ง ๆ ของบรรพชนไทยนบั แตอ่ ดตี สอดคลอ้ งกับวิถี ชีวิต ภมู ปิ ัญญำไทย จงึ มีควำมสำคญั ต่อกำรพัฒนำชวี ิตควำมเปน็ อยู่ของคนไทย ท้ังดำ้ นเศรษฐกิจ สงั คม ลักษณะของภมู ปิ ญั ญำไทย มีองคป์ ระกอบต่อไปน้ี ๑. คติ ควำมเช่ือ ควำมคดิ หลกั กำรทีเ่ ปน็ พ้นื ฐำนขององคค์ วำมรทู้ เี่ กิดจำกสัง่ สมถ่ำยทอดกันมำ ๒. ศลิ ปะ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี ๓. กำรประกอบอำชีพในแต่ละท้องถิ่นท่ีได้รบั กำรพฒั นำใหเ้ หมำะสมกับสมยั ๔. แนวคดิ หลกั ปฏิบัติ และเทคโนโลยสี มยั ใหมท่ น่ี ำมำใช้ในชมุ ชน ซึง่ เปน็ อิทธิพลของควำมกำ้ วหน้ำ ทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีตัวอย่ำงภูมิปญั ญำไทยท่ีเก่ียวขอ้ งกบั สุขภำพ เชน่ กำรแพทย์แผนไทย สมุนไพร อำหำรไทย ยำไทย ฯลฯ แรงขับทำงเพศ (Sex Drive) แรงขับที่เกิดจำกสญั ชำตญำณทำงเพศ ลว่ งละเมดิ ทำงเพศ (Sexual Abuse) กำรใชค้ ำพูด กำรจบั จูบ ลบู คลำ และ หรือร่วมเพศ โดยไมไ่ ด้รบั กำรยนิ ยอมจำก ฝ่ำยตรงขำ้ ม โดยเฉพำะกับผเู้ ยำว์ สติ (Conscious) ควำมรู้สึกตัวอยูเ่ สมอในกำรรับร้สู ่ิงตำ่ ง ๆ กำรให้หลักกำรและเหตุผลในกำรป้องกัน ยบั ย้ังช่ังใจ และ ควบคมุ ตนเองเพอ่ื ไมใ่ ห้คิดผดิ ทำง ไมห่ ลงลมื ไม่เครียด ไม่ผิดพลำด กอ่ ใหเ้ กดิ พฤติกรรมท่ีถกู ต้องดีงำม สมรรถภำพกลไก (Motor Fitness) หรือสมรรถภำพเชงิ ทกั ษะปฏบิ ัติ (Skill - Related Physical Fitness)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116