คําช้แี จง (พมิ พครงั้ ที่ ๒๑/๒๔๙๐) หนังสอื บาลีไวยากรณ อาขยาต และ กิตก เม่ือพมิ พครัง้ ท่ี ๑๕/๒๔๗๐ สมเด็จพระพทุ ธโฆษาจารย (ญาณวร เจรญิ ป. เอก) วดั เทพศิรินทร กรรมการมหามกุฏราชวิทยาลัย ไดช าํ ระศัพทแ ละ อักษรท่ยี งั แผกเพี้ยน ไมล งระเบยี บตามทสี่ มเดจ็ พระมหาสมณเจา กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ทรงแนะนําในคราวชาํ ระคมั ภรี อรรถกถา และชาดกปกรณ ใหย กุ ติเปนระเบียบเดยี วกนั กบั หนังสือแบบเรยี น อยา งอื่น ๆ ทใ่ี ชเ ปน หลกั สูตรแหงการศึกษา ในยคุ นนั้ . ครั้นตอ มา กองตําราไดจ ดั พมิ พตามน้ัน แตไดแ กไขจัดระเบียบ ใหมหลายอยา ง เชน ใหพ มิ พคาํ บาลดี ว ยอกั ษรตัวดํา ตง้ั ขอยอหนา และทาํ บนั ทกึ เชิงอรรถ เปนตน เพอื่ ใหผ ูศึกษาสังเกตไดงา ย สวน อักขรวธิ ีกไ็ ดแกไ ขใหถ ูกตองตามมตริ ับรองกันอยูมากในสมยั นัน้ . แมในฉบบั พิมพค รงั้ น้ี ก็ไดร กั ษาระดับแหงการชําระ จดั พมิ พ ตามระเบยี บและอกั ขรวธิ ี ท่นี ยิ มใชก นั อยูใ นบดั น้ีเชน เดียวกัน. แผนกตาํ รา มหามกฏุ ราชวิทยาลยั ๖ พฤษภาคม ๒๔๙๐
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 151 อาขยาต (๑๐๘) ศพั ทก ลา วกริ ยิ า คอื ความทาํ , เปน ตนวา ยืน เดนิ นง่ั นอน กนิ ดมื่ ทาํ พูด คิด, ชื่อวา อาขยาต. ในอาขยาตนัน้ ทานประกอบ วภิ ัตติ กาล บท วจนะ บรุ ุษ ธาตุ วาจก ปจ จัย, เพ่ือ เปนเครอ่ื งหมายเน้ือความใหชดั เจน. วิภัตติ (๑๐๙) วิภัตตนิ ั้นทา นจาํ แนกไวเพอ่ื เปนเครื่องหมายใหรู กาล บท วจนะ บรุ ษุ , จดั เปน ๘ หมวด. ในหมวดหนึง่ ๆ มี ๑๒ วิภตั ติ อยางน้ี :- ๑. วตฺตมานา ปรสฺสปท อตตฺ โนปท ปรุ สิ . เอก. พหุ. เอก. พหุ. อนเฺ ต.๓ ป. ต.ิ อนฺติ.๑ เต.๒ วเฺ ห. มเฺ ห. ม. ส.ิ ถ. เส. อุ. ม.ิ ม. เอ.๔ ๑. เปน เร เชน วจุ จฺ เร บาง. ๒. ใชแทน ติ เชน ชายเต บาง. ๓. ใชแ ทน อนตฺ ิ เชน ปุจฉฺ นฺเต บา ง. ๔. ใชแทน มิ เชน อิจฺเฉ บา ง.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 152 ๒. ปจฺ มี ป. ต.ุ อนตฺ .ุ ต. ๑ อนตฺ . ม. หิ.๒ ถ. สฺส.ุ๓ วโห. อุ. ม.ิ ม. เอ. อามฺหเส. ๓. สตตฺ มี ป. เอยฺย.๔ เอยยฺ ุ. เอถ.๕ เอร. ม. เอยยฺ าส.ิ เอยยฺ าถ. เอโถ. เอยยฺ วฺโห. อุ. เอยฺยาม.ิ เอยยฺ าม. เอยยฺ .๖ เอยฺยามเฺ ห. ๔. ปโรกฺขา ป. อ. อุ. ตถฺ . เร. ม. เอ. ตถฺ . ตฺโถ. วฺโห. อุ. อ. มฺห. อ.ึ มเฺ ห. ๕. หิยตฺตนี ป. อา. อ.ู ตฺถ. ตฺถ.ุ ม. โอ. ตถ. เส. วฺห. อ.ุ อ. มฺห. อึ. มหฺ เส. ๑. ใชแ ทน ตุ เชน ชยต บาง. ๒. ลบท้งิ เชน คจฉฺ บา ง. ๓. ใชแ ทน หิ เชน กรสสฺ ุ บาง. ๔. ลบ ยยฺ เสยี คงไวแ ต เอ เชน กเร บาง. ๕. ใชแทน เอยยฺ เชน ลเภถ บา ง. ๖. ใชแ ทน เอยยฺ ามิ เชน ปุจเฺ ฉยยฺ บา ง.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 153 ๖. อชฺชตตฺ นี ป. อี.๑ อุ.๒ อา. อ.ู ม. โอ.๓ ตถฺ . เส. วฺห. อ.ุ อ.ึ ๔ มหฺ า. อ. มเฺ ห. ๗. ภวสิ ฺสนตฺ ิ ป. สฺสติ. สสฺ นตฺ .ิ สฺสเต. สสฺ นฺเต. ม. สสฺ สิ. สสฺ ถ. สฺสเส. สสฺ วฺเห. อุ. สสฺ าม.ิ สสฺ าม. สฺส.๕ สฺสามเฺ ห. ๘. กาลาตปิ ตฺติ ป. สฺสา. สสฺ ส ุ. สสฺ ถ. สสฺ ึสุ. ม. สฺเส. สสฺ ถ. สสฺ เส. สฺสฺเห. อุ. สสฺ . สฺสามฺหา. สฺส. สสฺ ามหฺ เส. กาล (๑๑๐) ในอาขยาตนั้น แบงกาลทเ่ี ปน ประธานได ๓ คือ กาล ท่ีเกิดข้นึ จําเพาะหนา เรยี กวาปจจบุ ันกาล ๑, กาลลว งแลว เรียก ๑. มกั รัสสะเปน อิ เชน กริ บาง. ลง ส. อาคม เปน สิ เชน อกาสิ บา ง. ๒. ลง สฺ อาคมเปน สุ เชน อาโรเจสุ บาง. แผลงเปน อส ุ เชน อกสุ บา ง. เปน อึสุ เชน กรสึ ุ บา ง. ๓. ใช อี ป. แทนโดยมาก. ๔. ลง สฺ อาคม เปน สกึ เชน อกาสึ บา ง. ๕. ใชแทน สฺสามิ เชน ลภสิ ฺส บา ง.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 154 วา อดีตกาล ๑, กาลยังไมมาถงึ เรียกวา อนาคตกาล ๑. กาลทัง้ ๓ นั้น แบง ใหล ะเอยี ดออกอีก, ปจจุบันกาลจดั เปน ๓ คือ ปจจบุ ันแท ๑. ปจ จุบันใกลอ ดตี ๑, ปจ จุบนั ใกล อนาคต ๑. อดีตกาลจัดเปน ๓ เหมือนกัน คอื ลวงแลว ไมมีกําหนด ๑, ลว งแลว วานนี้ ๑, ลวงแลววนั นี้ ๑. อนาคตกาล จัดเปน ๒ คือ อนาคตของปจ จุบนั ๑, อนาคตของอดตี ๑. กาลท่กี ลา วโดยยอ หรือ พิสดารนี้ ในเวลาพูดหรือแตง หนังสือ อา นหนังสือ ตองหมายรดู วย วภิ ตั ติ ๘ หมทู ก่ี ลา วแลว อยา งนี้ :- ๑. วตฺตมานา บอกปจ จบุ นั นกาล. ๑) ปจจบุ ันแท แปลวา 'อยู' อุ. ภกิ ขฺ ุ ธมมฺ เทเสติ ภิกษุ แสดงอยู ซึง่ ธรรม. ๑๒ ๓ ๑ ๓ ๒ ๒) ใกลอ ดีต แปลวา 'ยอ ม' อ.ุ กโุ ต นุ ตฺว อาคจฉฺ สิ ? ทาน ยอมมา แตท่ีไหนหนอ ? ๑ ๒ ๓ ๒๓ ๑ ๓) ใกลอนาคต แปลวา 'จะ' อุ. กึ กโรมิ ? [ขา ] จะทํา ซ่ึงอะไร ? ๑๒ ๒๑
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 155 ๒. ปจฺ มี บอกความบังคบั , ความหวัง, และความออ นวอน, เปนตน . ๑) บอกความบงั คับ แปลวา 'จง' อ.ุ เอว วเทหิ. [เจา ] จงวา อยางนี้. ๑๒ ๒ ๑ ๒) บอกความหวัง แปลวา 'เถิด' อุ. สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนตฺ .ุ สตั ว ท. ทง้ั ปวง เปน ๑๒๓ ๔ ๒ ๑๔ ผูมเี วรหามไิ ด เถิด. ๓๔ ๓) บอกความออ นวอน แปลวา 'ขอ-จง' อ.ุ ปุพพฺ าเชถ ม ภนฺเต. ขาแตท า นผูเจรยิ ขอ [ทา น ท.] ๑๒ ๓ ๓ ๑ จง ยงั ขาพเจา ใหบ วช. ๑๒ ๑ ๓. สตตฺ มี บอกความยอมตาม, ความกําหนด, และความรําพงึ , เปนตน. ๑) บอกความยอมตาม แปลวา 'ควร' อุ. ภเชถ ปรุ ิสุตฺตเม. [ชน] ควรคบ ซง่ึ บรุ ษุ สงู สุด ท. ๑๒ ๑๒ ๒) บอกความกําหนด แปลวา 'พึง' อุ. ปฺุ -ฺ เจ ปรุ โิ ส กยิรา. ถา วา บรุ ุษ พึงทาํ ซงึ่ บญุ ไซร. ๑๒๓ ๔ ๒ ๓ ๔ ๑
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 156 ๓. บอกความรําพึง แปลวา 'พึง' อ.ุ ยนนฺ ูนา - ห ปพพฺ ชฺเชยฺย ไฉนหนอ เรา พงึ บวช. ๑๒ ๓ ๑ ๒๓ ๔. ปโรกขฺ า บอกอดตี กาล ไมมกี าํ หนด แปลวา 'แลว ' อ.ุ เตนา - ห ภควา. ดว ยเหตุนั้น พระผูมีพระภาค ตรสั แลว ๑ ๒๓ ๑ ๓๒ อยางนี้. เตนา - หุ โปราณา. ดว ยเหตุนนั้ อาจารยมใี นปางกอน ท. ๑๒๓ ๑ ๓ กลาวแลว . ๒ ๕. หยิ ตฺตนี บอกอดตี กาล ตงั้ แตว านนี้ แปลวา แลว, ถา มี 'อ' อยหู นา แปลวา 'ได-แลว ' อ.ุ ขโณ โว มา อปุ จฺจคา. ขณะ อยา ไดเ ขาไปลวงแลว ๑ ๒๓ ๔ ๑ ๓ ๔ ซงึ่ ทาน ท. เอว อวจ [ขา] ไดก ลา วแลว อยา งนี้. ๒ ๑๒ ๒๑ ๖. อชชฺ ตตฺ นี บอกอดตี กาล ต้งั แตวนั นี้ แปลวา 'แลว .' ถามี 'อ' อยูหนา แปลวา 'ได - แลว ' ๑. อปุ จจฺ คา [อปุ +อติ+อ+คม+ฺ อ+อา.]
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 157 อุ. เถโร คาม ปณฺฑา ปาวิสิ. พระเถระ เขาไปแลว ๑๒๓ ๔ ๑ ๔ สบู า น เพ่อื บิณฑะ. เอวรปู กมมฺ อกาสึ. [ขา] ไดท าํ แลว ๒๓ ๑๒๓ ๓ ซึ่งกรรม มอี ยางนเี้ ปนรปู . ๒๑ ๗. ภวสิ ฺสนตฺ ิ บอกอนาคตกาลแหงปจ จุบนั แปลวา 'จัก' อุ. ธมมฺ สุณสิ ฺสาม. ขา ท. จักฟง ซง่ึ ธรรม. ๑๒ ๒๑ ๘. กาลาตปิ ตตฺ ิ บอกอนาคตกาลแหงอดตี แปลวา 'จัก - แลว,' ถามี 'อ' อยูหนา แปลวา 'จักได - แลว ' อุ. โส เจ ยาน ลภิสสฺ า อคจฺฉิสสฺ า ถา วา เขา จักไดแลว ๑๒๓ ๔ ๕ ๒ ๑ ๔ ซ่งึ ยานไซร [เขา] จกั ไดไ ปแลว . ๓๕ บท (๑๑๑) วิภตั ตนิ ้นั แบงเปน ๒ บท คอื ปรัสสบท บทเพอ่ื ผูอนื่ ๑ อตั ตโนบท บทเพอ่ื ตน ๑. ปรสั สบทเปนเคร่ืองหมายใหร ู
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 158 กริ ยิ าทีเ่ ปน กตั ตวุ าจก, อัตตโนบท เปนเครื่องหมายใหร ูกิริยาที่เปน กมั มวาจกและภาววาจก อันจะกลา วขางหนา, แตจ ะนยิ มลงเปนแน ทีเดยี วก็ไมได. บางคราวปรัสสบทเปนกมั มวาจกและภาววาจกกม็ ี เหมือนคําบาลวี า \"สทิโส เม น วิชชฺ ติ. คนเชนกบั ดวยเรา ๑ ๒๓ ๔ ๑ ๒ [อันใคร ๆ] ยอ มหา ไมไ ด. น จ ลพภฺ ติ รเู ป. อนง่ึ [อนั ๔ ๓ ๑๒ ๓ ๔ ๒ ใคร ๆ] ยอมไม ได ในรปู \" เปน ตน . ๑ ๓๔ บางคราว อตั ตโนบทเปน กตั ตวุ าจกกม็ ี เหมือนคาํ บาลวี า \"ปย โต ชายเต โสโก ความโศก ยอมเกดิ แตข องทรี่ ัก.\" เปน ตน . ๑ ๒๓ ๓ ๒ ๑ คําทก่ี ลา วขางตน นั้น ประสงคเอาแตบ ทท่ีเปนไปโดยมาก ถา จาํ กําหนดใหละเอยี ดแลว ตอ งอาศัยปจจยั ดวย. วจนะ (๑๑๒) วภิ ตั ติน้นั จดั เปน วจนะ ๒ คือ เอกวจนะ ๑ พหวุ จนะ ๑. เหมอื นวภิ ัตตนิ าม ถา ศพั ทน ามท่เี ปนประธานเปนเอกวจนะ ตอ ง ประกอบกิรยิ าศัพทเปน เอกวจนะตาม, ถานามศัพทเปนพหุวจนะ ก็ ตอ งประกอบกริ ยิ าศัพทเ ปนพหุวจนะตาม, ใหม ีวจนะเปนอนั เดียวกัน อยา งนี้ :-
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 159 โส คจฉฺ ติ เขา ไปอย,ู เต คจฉฺ นตฺ ิ เขาทัง้ หลาย ไปอย.ู ยกไวแตน ามศัพทท ี่เปน เอกวจนะหลาย ๆ ศัพท รวมกันดวย 'จ' ศพั ท ใชก ิริยาเปนพหวุ จนะ ซ่ึงจะมแี จงในวากยสัมพันธข า งหนา. บรุ ษุ (๑๑๓) วิภตั ตนิ ัน้ จัดเปน บรุ ษุ ๓ คอื ประถมบรุ ุษ ๑ มธั ยม- บุรุษ ๑ อุตตมบรุ ษุ ๑, เหมือนปรุ สิ สพั พนาม. ถา ปรุ ิสสพั พนามใด เปน ประธาน ตอ งใชก ิริยาประกอบวิภตั ติใหถกู ตอ งตามปรุ สสัพพนาม นัน้ อยา งน้ี :- โส ยาติ เขา ไป, ตฺว ยาสิ เจา ไป, อห ยามิ ขา ไป. ในเวลาพูดหรือเรียนหนังสือ แมจ ะไมออกชื่อ ปรุสสพั พนาม ใชแ ตว ภิ ัตติกริ ิยาใหถ ูกตองตามบรุ ษุ ท่ีตนประสงคจ ะ ออกช่ือ กเ็ ปนอันเขา ใจกันไดเ หมือนกนั , เหมือนคําวา เอกิ [เจา] จงมา. ถงึ จะไมออกช่ือ 'ตฺว' กร็ ไู ด เพราะ 'ห'ิ วิภตั ติ เปฯ ปญ จม,ี เอกวจนะ, มัธยมบุรุษ เม่ือเปน เชน นี้ กส็ องความใหเหน็ วา เปน กิรยิ าของ 'ตวฺ ' ซง่ึ เปนมัธยมบุรุษ, เอกวจนะ. แมคําวา ปฺุ กรสิ สฺ าม [ขา ท.] จักทาํ ซง่ึ บญุ . ถึงจะไมอ อกชื่อ 'มย' กร็ ูได โดยนยั ที่กลา วแลว.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 160 ธาตุ (๑๑๔) วภิ ตั ติทีบ่ อก กาล บท วจนะ บรุ ษุ เหลาน้ี สาํ หรบั ประกอบกับธาตุ คือกิรยิ าศัพทท ่เี ปน มลู ราก. ธาตุน้นั ทานรวบรวม จัดไดเปน ๘ หมวด. ตามพวกที่ประกอบดวยปจ จัยเปนอันเดยี วกัน, แสดงแตพอเปน ตวั อยา ง ดังน้ี :- ๑. หมวด ภู ธาตุ * ภู เปน ไปในความ ม,ี ในความ เปน [ภู + อ = ภว + ต]ิ สาํ เรจ็ รูปเปน ภวติ ยอ มม,ี ยอ มเปน. * หุ เปน ไปในความ มี, ในความ เปน [หุ + อ = โห + ติ] สาํ เรจ็ รูปเปน โหติ ยอ มม,ี ยอ มเปน . * สี เปนไปในความ นอน [สี + อ = สย + ต]ิ สาํ เรจ็ รูปเปน เสติ, สยติ ยอ มนอน. * มรฺ เปนไปในความ ตาย, [มรฺ + อ + ต]ิ สําเร็จรูปเปน มรติ ยอมตาย. ปจฺ เปน ไปในความ หงุ , ในความ ตม [ปจฺ + อ + ต]ิ สําเรจ็ รปู เปน ปจติ ยอ มหงุ , ยอมตม . อกิ ขฺ ฺ เปนไปในความ เหน็ , [อิกขฺ ฺ + อ + ต]ิ สําเรจ็ รปู เปน อิกขฺ ติ ยอ มเหน็ . ลภฺ เปน ไปในความ ได [ลภฺ + อ + ต]ิ สาํ เร็จรูปเปน ลภติ ยอ มได.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 161 คมฺ เปน ไปในความ ไป [คมฺ + อ = คจฉฺ + ต]ิ สําเร็จรูปเปน คจฉฺ ติ ยอมไป. ๒. หมวด รุธฺ ธาตุ รธุ ฺ เปน ไปในความ กน้ั , ในความ ปด [รธุ ฺ + อ - เอ + ติ] สาํ เรจ็ รูปเปน รนุ ธฺ ต,ิ รนุ ฺเธติ ยอมปด. มุจ๑ฺ เปนไปในความ ปลอ ย [มจุ ฺ + อ + ติ] สําเร็จรปู เปน มฺุจติ ยอ มปลอ ย. ภชุ ฺ เปน ไปในความ กิน [ภชุ ฺ + อ + ติ] สําเร็จรูปเปน ภุ ฺชติ ยอ มกิน. ภิทฺ๒ เปนไปในความ ตอ ย [ภทึ ฺ + อ + ติ] สาํ เรจ็ รปู เปน ภินทฺ ติ ยอมตอย. ลปิ ฺ เปนไปในความ ฉาบ [ลปึ ฺ + อ + ติ] สําเรจ็ รปู เปน ลมิ ปฺ ติ ยอ มฉาบ. ๓. หมวด ทิวฺ ธาตุ * ทวิ ๓ฺ เปน ไปในความ เลน [ทวิ ฺ + ย = พฺพ + ต]ิ สาํ เรจ็ รูปเปน ทิพฺพติ ยอ มเลน. ๑. ถาลง ย ปจจัยในหมวด ทวิ ฺ ธาติ เปน อกัมมธาตุ เปนไปในความ หลุด, พน สาํ เรจ็ รูปเปน มจุ ฺจติ ยอ มหลดุ . ๒. ถา ลง ย ปจจยั ในหมวด ทวิ ฺ ธาตุ เปน อกัมมธาตุ เปนไปในความ แตก, สาํ เรจ็ รูปเปน ภิชฺชติ ยอมแตก. ๓. สส กฤต เปนไป ในความ สวา ง.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 162 สิวฺ เปน ไปในความ เย็บ [สิวฺ + ย = พฺพ + ต]ิ สําเรจ็ รูปเปน สพิ พฺ ติ ยอ มเย็บ. พธุ ฺ เปน ไปในความ ตรสั รู [พุธฺ + ย = ชฌฺ + ติ] สําเร็จรปู เปน พุชฌฺ ติ ยอมตรัสรู. * ขี เปน ไปในความ สนิ้ [ขี + ย + ต]ิ สาํ เรจ็ รปู เปน ขียติ ยอ มส้นิ . * มหุ ฺ เปนไปในความ หลง [มุหฺ + ย = ยหฺ + ต]ิ สําเร็จรปู เปน มยุ หฺ ติ ยอ มหลง. มสุ ฺ เปนไปในความ ลมื [มุสฺ + ย = สสฺ + ต]ิ สาํ เร็จรูปเปน มสุ สฺ ติ ยอมลมื . รชฺ เปน ไปในความ ยอ ม [รชฺ + ย = ชชฺ + ต]ิ สําเรจ็ รูปเปน รชชฺ ติ ยอ มยอ ม. ๔. หมวด สุ ธาติ สุ เปน ไปในความ ฟง [สุ + ณา + ติ] สาํ เรจ็ รปู เปน สณุ าติ ยอ มฟง . วุ เปนไปในความ รอ ย [วุ + ณา + ต]ิ สาํ เรจ็ รูปเปน วุณาติ- ยอมรอ ย. สิ เปนไปในความ ผกู [สิ + ณุ = โณ + ต]ิ สาํ เรจ็ รปู เปน สโิ ณติ ยอมถกู .
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 163 ๕. หมวด กี ธาตุ กี เปน ไปในความ ซื้อ [กี + นา + ต]ิ สําเร็จรูปเปน กีนาติ ยอมซือ้ . ชิ เปน ไปในความ ชาํ นะ [ชิ + นา + ต]ิ สาํ เรจ็ รปู เปน ชนิ าติ ยอ มชํานะ. ธุ เปนไปในความ กาํ จัด [ธุ + นา + ต]ิ สําเรจ็ รปู เปน ธุนาติ ยอ มกําจดั . จิ เปนไปในความ กอ, ในความ ส่ังสม [จิ + นา + ติ] สาํ เร็จ รูปเปน จินาติ ยอ มกอ, ยอมส่ังสม. ลุ เปน ไปในความ เกี่ยว, ในความ ตัด [ลุ + นา + ต]ิ สําเร็จ รูปเปน ลนุ าติ ยอ มเก่ยี ว, ยอ มตัด. า เปน ไปในความ รู [า = ชา + นา + ต]ิ สาํ เรจ็ รปู เปน ชานาติ ยอ มร.ู ผุ เปนไปในความ ฝด, ในความ โปรย [ผุ + นา + ต]ิ สาํ เร็จ รูปเปน ผุนาติ ยอมผดั , ยอ มโปรย. ๖. หมวด คหฺ ธาตุ คหฺ เปน ไปในความ ถอื เอา [คหฺ + ณฺหา + ต]ิ สําเร็จรปู เปน คณหฺ าติ ยอมถอื เอา. หมวด คหฺ ธาตุ ทใี่ ชในอาขยาตมีแตเ ทานี.้
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 164 ๗. หมวด ตนฺ ธาตุ ตนฺ เปน ไปในความ แผไ ป [ตนฺ + โอ + ติ] สาํ เรจ็ รปู เปน ตโนติ ยอมแผไ ป. กรฺ เปน ไปในความ ทํา [กรฺ + โอ + ติ] สําเร็จรปู เปน กโรติ ยอมทํา. * สกกฺ ฺ เปนไปในความ อาจ [สกกฺ ฺ + โอ + ต]ิ สาํ เร็จรปู เปน สกโฺ กติ ยอ มอาจ. * ชาครฺ เปนไปในความ ตืน่ [ชาครฺ + โอ + ติ] สาํ เรจ็ รปู เปน ชาคโรหิ ยอมต่นื . ๘. หมวด จรุ ฺ ธาตุ จรุ ฺ เปนไปในความ ลัก [จรุ ฺ + เณ - ณย + ติ] สําเรจ็ รูปเปน โจเรต,ิ โจรยติ ยอ มลัก. ตกฺกฺ เปน ไปในความ ตรกึ [ตกกฺ ฺ + เณ - ณย + ต]ิ สาํ เรจ็ รูป เปน ตกเฺ กติ, ตกฺกยติ ยอมตรึก. ลกขฺ ฺ เปนไปในความ กาํ หนด [ลกฺขฺ + เณ - ณย + ต]ิ สาํ เร็จรูป เปน ลกฺเขติ, ลกขฺ ยติ ยอมกาํ หนด. * มนตฺ ฺ เปน ไปในความ ปรกึ ษา [มนตฺ ฺ + เณ - ณย + ต]ิ สําเรจ็ รปู เปน มนเฺ ตติ, มนตฺ ยติ ยอ มปรกึ ษา.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 165 จินฺตฺ เปน ไปในความ คดิ [จินตฺ ฺ + เณ - ณย + ต]ิ สําเร็จรปู เปน จนิ เฺ ตติ, จนิ ตฺ ยติ ยอมคิด. [สกัมมธาตุ - อกมั มธาตุ] ในธาตุท้งั ๘ หมนู ี้ ธาตบุ างเหลา เปน ธาตุไมมีกรรม ธาตุ บางเหลา มีกรรม. ธาตเุ หลาใด ไมตอ งเรียกหากรรม คอื สิ่งอนั บุคคล พงึ ทาํ , ธาตเุ หลาน้ัน เรยี กวา อกัมมธาตุ ธาตุไมม กี รรม. ธาตเุ หลาใด เรยี กหากรรม, ธาตุเหลานน้ั เรยี กวาสกมั มธาตุ ธาตมุ กี รรม. ธาตุท่ีหมายดอกจนั ทน [*] ไว เปนอกมั มธาตุ เพราะไมตอ งเรียก หากรรม. ธาตุท่ีไมไดห มายดอกจนั ทนไ ว เปนสกัมมธาตุ เพราะ ตอ งเรยี กหากรรม เปน ตน วา รุธฺ ธาตุ เปน ไปในความ ปด , เรยี ก หากรรมวา ปดซงึ่ ส่งิ ใดส่งิ หนงึ่ มปี ระตูเปน ตน. อิกขฺ ฺ เปนไปใน ความ เหน็ , เรยี กหากรรมวา เหน็ ซง่ึ ส่ิงใดสิ่งหนึ่ง มีตนไมเ ปนตน แมถงึ ธาตุท่ีมกี รรมอนั เหลอื จากน้ี กพ็ ึงรโู ดยนยั นีเ้ ถิด ธาตทุ สี่ ําแดง มาน้ี แตพ อเปน ตัวอยา งเลก็ นอ ย. วาจก (๑๑๕) กริ ยิ าศพั ทท ป่ี ระกอบดว ยวิภัตติ กาล บท วจนะ บุรษุ ธาตุ ดังนี้ จัดเปนวาจก คือ กลาวบทที่เปน ประธานของกิรยิ า ๕ อยา ง คือ กตั ตวุ าจก ๑ กมั มวาจก ๑ ภาววาจก ๑ เหตกุ ตั ตวุ าจก ๑ เหตุกมั มวาจก ๑.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 166 [กตั ตุวาจก] กริ ยิ าศัพทใ ดกลาวผทู ํา คือ แสดงวา เปนกริ ิยาของผูท ํานั้นเอง. กิรยิ าศพั ทน นั้ ชอ่ื กตั ตุวาจก: มอี ทุ าหรณวา สูโท โอทน ปจติ ๑ ๒๓ พอครัว หุงอยู ซึง่ ขา วสุก. ๑๓ ๒ อธิบาย : สูโท [พอ ครวั ] เปน กตั ตาผทู ํา คือเปนผหู งุ และเปน บทประธานของกิริยาศัพท คอื ปจติ ทานประกอบปฐมาวิภัตติ. โอทน ซ่ึงขา วสกุ เปน กรรม สง่ิ ท่บี คุ คลพงึ ทํา คือเปนสิง่ ท่ี บุคคลพงึ หุง ในกริ ิยาศัพท คอื ปจติ ทา นประกอบทตุ ยิ าวภิ ัตต.ิ กรรมศัพท ไมเ ปนสําคัญในวาจก เพราะวาถากิริยาศพั ทเ ปน ธาตุมี กรรมเหมือน ปจติ, กรรมศพั ทน้ันกม็ ี, ถากิริยาศพั ทเ ปนธาตุไมม ี กรรม, ก็ไมม.ี ปจติ เปน กริ ยิ าอาขยาต, ปจฺ ธาตุ เปนไปในความ หงุ อ ปจจยั , ติ วัตตมานาวิภตั ติ. บอกปจ จบุ ันกาล, ปรัสสบท, ประถมบรุ ุษ, เอกวจนะ เปน กตั ตวุ าจก กลาวผทู าํ คอื บอกวา เปน กิริยาของ สโู ท ซงึ่ เปน ผูห งุ ดวยเครื่องหมาย คือบรุ ษุ และ วจนะเสมอดวยบุรษุ และวจนะของ สูโท. [กมั มวาจก] กริ ยิ าศัพทใ ดกลาวกรรม ส่ิงทบ่ี ุคคลพงึ ทํา คือ แสดงวา เปน กริ ยิ าของกรรมน้นั เอง. กริ ยิ าศัพทน้นั ช่ือกมั มวาจก : มีอทุ าหรณ
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 167 วา สูเทน โอทโน ปจยิ เต ขา วสกุ อนั พอ ครวั หงุ อย.ู ๑ ๒ ๓๒ ๑ ๓ อธิบาย :- สเู ทน อนั พอ ครัว เปน กัตตา ผูทาํ คือเปนผูหุง โดย นยั กอน ในกริ ิยาศัพท คอื ปจยิ เต, แปลกแตไมเ ปน บทประธาน และทา นประกอบตติยาวิภตั ต.ิ โอทโน เปนกรรมโดยนัยกอ น, แตเ ปน ประธานของกริ ยิ าศพั ท คือ ปจิยเต ทา นประกอบปฐมาวิภัตติ. ปจยิ เต เปน กริ ยิ าอาขยาต, ปจฺ ธาตุ เปนไปในความหงุ , ย ปจ จัย, และ อิ อาคม, เต วตั ตมานาวิภัตติ บอกปจ จบุ ันกาล, อตั ตโนบท, ประถมบุรษุ , เอกวจนะ, เปน กัมมวาจก กลา วสิ่งท่ีบคุ คล พึงทาํ คอื บอกวา เปน กิริยาของ โอทโน ที่เปน ของอันบุคคลพงึ หุง ดวยเคร่อื งหมาย คอื บรุ ษุ และวจนะ อนั เสมอกนั โดยนยั กอน. [ภาววาจก] กริ ิยาศัพทใ ดกลา วแตสักวา ความมี ความเปน เทา น้ัน ไมก ลาว กตั ตาและกรรม, กริ ิยาศัพทน นั้ ชื่อวา ภาววาจก : มอี ทุ าหรณว า เตน ภยู เต อันเขา เปนอยู. ๑ ๒๑ ๒ อธบิ าย : เตน เปนกัตตาโดยนัยกอน ใน ภูยเต, ทา นประกอบ ตตยิ าวภิ ัตติ. ภยู เต เปน กิริยาอาขยาต. ภู ธาตุ เปน ไปในความมี ความเปน, ย ปจจัย, เต วัตตมานาวิภตติ บอกปจ จบุ นั กาล, อตั ตโนบท ประถม- บุรุษ, เอกวจนะ, เปนภาววาจก กลาวความมี ความเปน.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 168 กริ ิยาศพั ทที่เปน ภาววาจกนี้ ตอ งเปน ประถมบรุ ุษ เอกวจนะ อยา งเดียว. สวนตัวกัตตา จะเปนพหุวจนะและบุรษุ อื่นก็ได ไมห าม. [เหตกุ ตั ตุวาจก] กริ ิยาศพั ทใ ดกลา วผใู ชใหคนอ่ืนทาํ คอื แสดงวา เปน กริ ิยา ของผใู ชใ หผ ูอ่ืนทํานนั้ , กิรยิ าศัพทน้นั ช่อื เหตุกัตตวุ าจก : มอี ุทาหรณ วา สามโิ ก สทู โอทน ปาเจติ นาย ยงั [หรือใช] พอครัว ๑ ๒๓๔ ๑ ๒ ใหห ุงอยู ซง่ึ ขา วสุก. ๔๓ อธบิ าย : สามโิ ก นาย เปนเหตกุ ัตตา ผทู าํ อนั เปน เหตุ คอื เปนผูใช ไมไ ดท ําเอง และเปน บทประธานของกิริยาศัพท คือ ปาเจติ, ทา นประกอบปฐมาวภิ ัตติ เหมอื นกตั ตา. สทู ยงั [หรอื ใช] พอ ครวั เปนการิตกรรม คอื กรรมทเ่ี ขา ใชใ หทาํ ในกริ ิยาศัพท คอื ปาเจติ, ทานประกอบทตุ ิยาวภิ ัตติบา ง ตตยิ าวิภัตติบา ง. โอทน ซ่งึ ขาวสกุ เปน กรรม ดงั กลาวแลว ในหนหลัง, ปาเจติ เปนกิรยิ าอาขยาต. ปจฺ ธาตุ เปนไปในความหุง, เณ ปจ จยั , ติ วตั ตมานาวิภัตติ บอก กาล บท วจนะ บุรษุ ดังกอ น เปนเหตกุ ัตตุวาจก กลา ว กัตตผุ ูเหตุ คือ บอกวา เปน กิรยิ าของ สามโิ ก ซึง่ เปน ผใู ชห ุงนั้น ดวยเคร่อื งหมายทกี่ ลา วแลว .
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 169 [เหตุกัมมวาจก] กริ ิยาศพั ทใด กลา วสิง่ ที่เขาใชใ หบุคคลทาํ คือ แสดงวา เปน กิรยิ าของส่ิงนน้ั , กริ ยิ าศพั ทน น้ั ช่อื เหตกุ ัมมาวาจก: มอี ทุ าหรณว า สามเิ กน สเู ทน โอทโน ปาจาปย เต ขาวสกุ อันนาย ใชพอครวั ๑ ๒๓ ๔ ๓ ๑ ๒ ใหหงุ อยู. ๔ อธิบาย : สามิเกน อันนาย เปน เหตุกัตตา คือ เปน ผใู ชใน กิรยิ าศพั ท คอื ปาจาปยเต, แตไมเ ปนประธานของกริ ิยานัน้ , ทา น ประกอบตติยาวภิ ัตต.ิ สเู ทน ใชพ อ ครวั เปน การิตกรรม ในกริ ิยาศัพท คอื ปาจาปย เต นั้น, ทา นประกอบตตยิ าวิภตั ต.ิ โอทโน ขาวสกุ เปนเหตุกรรม คอื สิ่งท่ีเขาใชบ ุคคลใหท ํา และเปน ประธานของกิรยิ าศพั ท คอื ปาจาปยเต ทานประกอบ ปฐมาวภิ ัตต.ิ ปาจาปยเต เปนกิรยิ าอาขยาต ปจฺ ธาตุ เปน ไปในความหุง, ณาเป และ ย ปจ จยั , อิ อาคม, เต วตั ตมานาวภิ ัตติ บอก กาล บท วจนะ บรุ ุษ ดังกอ น, เปน เหตุกมั มวาจก กลา วกรรมผเู หตุ คือบอกวา เปน กิริยาของ โอทโน ซึง่ เปนของที่เขาใชใ หบ ุคคลหุงนั้น ดวยเครื่องหมายที่กลาวแลว . วาจกทงั้ ๕ น้ี เปนสาํ คญั ของเน้ือความทั้งปวงในการพูด หรอื
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 170 แตงหนงั สือ, ถาผพู ูดหรอื เขยี นหนงั สอื ใชวาจกไมถกู ตอ งแลว ก็พาให เน้ือความทีต่ นประสงคจ ะกลา วนนั้ ๆ เสียไป ไมปรากฏชัด เพราะ- ฉะน้ัน กลุ บตุ รผูศึกษา พึงกําหนดวาจกทัง้ ๕ นใี้ หเขาในแมนยํา. ปจจยั (๑๑๖) วาจกทัง้ ๕ น้ี กลุ บุตรจะกําหนดไดแมนยาํ กเ็ พราะ อาศัยปจ จัยทปี่ ระกอบ. ปจ จยั นั้นกจ็ ดั เปน ๕ หมวดตามวาจา. ปจ จัยในกตั ตุวาจก ๑๐ ตัว คือ อ, เอ, ย, ณ,ุ ณา, นา, ณฺหา, โอ, เณ, ณย. ปจจยั ทงั้ ๑๐ ตวั น้ี แบงลงในธาตุ ๘ หมวด นั้น อยา งนี้ :- อ, เอ. ปจจยั ลงในหมวด ภู ธาตุ และในหมวด รธุ ฺ ธาตุ แตใ นหมวด รุธฺ ธาตุ ลงนิคคหิตอาคม หนาพยัญชนะท่สี ดุ ธาตุดว ย. ย ปจจยั ลงในหมวด ทิวฺ ธาต.ุ ณ,ุ ณา. ปจ จยั ลงในหมวด สุ ธาตุ. นา ปจ จัย ลงในหมวด กี ธาตุ. ณหฺ า ปจ จยั ลงในหมวด คหฺ ธาต.ุ โอ ปจ จยั ลงในหมวด ตนฺ ธาต.ุ เณ, ณย. ปจจัย ลงในหมวด จรุ ฺ ธาต.ุ อทุ าหรณแสดงปจ จัยทลี่ งในหมวดธาตุน้ัน มีแลวในหมวดท่ีวา ดวยธาตุ ไมต องเขยี นไวในทน่ี ้ี.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 171 ในกัมมวาจก ลง ย ปจจัย กับทงั้ อิ อาคม หนา ย ดว ย อ.ุ ดงั น้ี :- ปจิเต สิวิยเต เปนตน. ในภาววาจก ลง ย ปจจยั อุ. ภยู เต เปน ตน ในเหตกุ ัตตุวาจก ลงปจ จัย ๔ ตวั คอื เณ. ณย, ณาเป, ณาปย. ตัวใดตวั หนง่ึ . อุ. ดังนี้ :- เณ = ปาเจติ, สิพเฺ พติ. ณย = ปาจยต,ิ สิพพฺ ยต.ิ ณาเป = ปาจาเปติ, สิพฺพาเปติ. ณาปย = ปาจาปยติ, ลิพฺพาปยต.ิ เปนตน. ในเหตกุ มั มวาจก ลงปจจัย ๑๐ ตวั นั้นดวย, ลงเหตปุ จจัย คือ ณาเป ดวย, ลง ย ปจจัยกับทงั้ อิ อาคม หนา ย ดว ย อ.ุ ดังนี้ :- ปาจาปยเต, สพิ ฺพาปย เต. เปน ตน . ยงั มปี จ จัยท่ีสาํ หรบั ประกอบกับธาตุอีก ๓ ตัว คือ ข, ฉ, ส, เปนไปในความปรารถนา อ.ุ ดังน้ี :- ภชุ ฺ ธาตุ เปนไปในความ กนิ ข ปจ จัย [ภชุ ฺ + ข = พุภกุ ขฺ + ต]ิ สาํ เร็จรปู เปน พุภกุ ขฺ ติ ปรารถนาจะกิน. ฆสฺ ธาตุ เปนไปในความ กิน ฉ ปจจัย [ฆสฺ + ฉ = ชฆิ จฉฺ + ติ] สาํ เรจ็ รปู เปน ชฆิ จฉฺ ติ ปรารถนาจะกิน. หรฺ ธาตุ เปน ไปในความ นาํ ไป ส ปจ จัย [หรฺ + ส = ชคิ สึ + ติ] สําเร็จรปู เปน ชคิ สึ ติ ปรารถนาจะนําไป.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 172 ปจจัยที่สําหรบั ประกอบดว ยนามศัพท ใหเปน กริ ยิ าศพั ท ๒ ตวั คอื อาย, อิย. เปน ไปในความประพฤติ. อุ. ดงั น:้ี - จริ ายติ ประพฤตชิ า อย.ู ปุตตฺ ยิ ติ ยอ มประพฤตใิ หเปน เพียง ดังบตุ ร เปน ตน . แบบแจกวิภัตติ (๑๑๗) วธิ ปี ระกอบธาตุดว ยปจ จัยและวภิ ัตติ ทีก่ ลา วแลวขา ง ตนน้นั สําแดงแตพ อเปนตัวอยาง, ยงั ยอนกั , กลุ บุตรแรกศึกษาจะ ไมส ามารถท่จี ะกาํ หนดเอาเปนตัวอยางแลว เปลย่ี นไปใหไดตลอดทกุ ๆ วิภตั ติ, เพราะธาตบุ างเหลาที่ประกอบดวยปจ จัยและวภิ ตั ติบางเหลา ไมคงอยูตามรปู เดิม ยอ มเปลย่ี นแปลงอาเทศไปบาง, เพราะฉะนน้ั ลําดับน้ีจกั สาํ แดงแบบแจกวภิ ัตตไิ วพอเปนทีส่ งั เกตสืบไป ตามลําดบั วาจกทงั้ ๔, แตจักไมแจกใหพ ิสดารนกั จักยกปโรกขาวิภตั ติเสีย เพราะไมใ ครใชในหนังสอื ทงั้ ปวง ยกไวแต อาห, อาห.ุ ๒ ตัว เทาน้ัน. ถงึ กมั มวาจก แลเหตกุ มั มวาจก ท่ใี ชม ากก็มีแตป ระถมบุรุษ อยา งเดียว บรุ ุษนอกน้นั กใ็ ชนอ ย, เหตนุ ้นั จักแจกแตประถมบรุ ุษ อยา งเดยี ว.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 173 กตั ตุวาจก (๑๑๘) แจก ภู ธาตเุ ปน ตัวอยาง. ๑. วตฺตมานา ปุริส. เอก. พหุ. ป. ภวติง ภวนตฺ .ิ ม. ภวสิ. ภวถ. อ.ุ ภวาม.ิ ภวาม. ๒. ปฺจมี ๓. สตฺตมี ป. ภวต.ุ ภวนตฺ ุ. ภเว, ภเวยยฺ , ภเวถ. ภเวยยฺ ุ. ม. ภว, ภวาหิ. ภวถ. ภเวยฺยาส.ิ เวยฺยาถ. อ.ุ ภวาม.ิ ภวาม. ภเวยฺยาม,ิ ภเวยยฺ . ภเวยยฺ าม. ๕. หยิ ตฺตนี ๖. อชชฺ ตตฺ นี ป. อภวา, อภว. อภว.ู อภว.ิ อภวุ, อภวึสุ. ม. อภโว. อภวตถฺ . อภโว อภวติ ถฺ . อุ. อภวึ. อภวมหฺ . อภว.ึ อภวมิ หฺ า. ๗. ภวิสฺสนตฺ ิ ๘. กาลาตปิ ตตฺ ิ ป. ภวสิ สฺ ต.ิ ภวสิ สฺ นตฺ ิ. อภวสิ สฺ . อภวิสฺสส ุ. ม. ภวิสฺสส.ิ ภวสิ ฺสถ. อภวิสเฺ ส. อภวสิ สฺ ถ. อุ. ภวิสสฺ าม,ิ ภวสิ ฺส. ภวสิ สฺ าม. อภวิสฺส. อภวสิ ฺสามหฺ า.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 174 (๑๑๙) แจก ปจฺ ธาตุ เปนแบบเทียบ. ๑. วตฺตมานา ปุรสิ . เอก. พหุ. ป. ปจต.ิ ปจนตฺ .ิ ม. ปจสิ. ปจถ. อ.ุ ปจาม.ิ ปจาม. ๒. ปฺจมี ๓. สตฺตมี ป. ปจตุ. ปจนฺต.ุ ปเจ, ปเจยยฺ , ปเจถ. ปเจยฺยุ. ม. ปจ, ปจาหิ ปจถ. ปเจยยฺ าสิ ปเจยฺยาถ. อุ. ปจามิ. ปจาม. ปเจยยฺ าม.ิ ปเจยฺยาม. ๕. หิยตฺตนี ๖. อชชฺ ตฺตนี ป. อปจา, อปจ. อปจู. อปจ,ิ อปเจส.ิ อปจุ, อปจสึ ุ ม. อปโจ. อปจตถฺ . อปโต. อปจติ ถฺ . อ.ุ อปจ. อปจมฺห. อปจ.ึ อปจิมฺหา. ๗. ภวสิ ฺสนฺติ ๙. กาลาตปิ ตฺติ ป. ปจิสฺสติ. ปจิสฺสนตฺ .ิ อปจสิ ฺส อปจสิ ฺสส .ุ ม. ปจสิ ฺสสิ. ปจิสฺสถ. อปจิสเฺ ส. อปจิสฺสถ. อุ. ปจิสฺสาม.ิ ปจิสฺส. ปจสิ สฺ าม. อปจสิ สฺ . อปจสิ ฺสามฺหา.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 175 [๑๒๐] แมถ งึ หมวดธาตอุ น่ื ๆ กพ็ ึงแจกโดยนัยน้,ี เปลีย่ นแต ปจจยั ท่สี ําหรับกบั หมวดธาตนุ ้นั ๆ เทา น้นั , ยกเสยี แตธาตบุ างอยาง เขา กับวิภัตติบางตวั สําเร็จรปู เปนอยางหน่ึง ไมค งตามแบบ, จะ แจกไวแ ต วตั ตมานา ประถมบุรษุ พอเปนตวั อยางเทา นนั้ . เอก. พหุ. รุนฺธติ, รุนเฺ ธต.ิ รุนธฺ นฺติ, รุนฺเธนฺต.ิ ทพิ พฺ ติ. ทิพพฺ นฺติ. สุณาต,ิ ลโุ ณติ. สุณนตฺ ิ, สุโณนตฺ .ิ กีนาต.ิ กนี นตฺ .ิ คณหฺ าต.ิ คณหฺ นตฺ .ิ ตโนติ. ตโนนตฺ .ิ โจเรติ, โจรยติ. โจเรนฺติ. โจรยนตฺ .ิ (๑๒๑) คําอธบิ ายในกตั ตวุ าจก ๑. พฤทธิ์ อู ทส่ี ุดแหงธาตุเปน โอ บา ง, เอา โอ เปน อว บาง, อุ. โหติ, ภวต.ิ พฤทธิ์ อี ท่สี ดุ แหงธาตุเปน เอ บา ง เอา เอ เปน อย บาง, อุ เสต,ิ สยติ. เอา คมฺ เปน คจฉฺ บาง, อ.ุ คจฉฺ ติ. เปน ตน. ๒. มิ - ม - วตตฺ มานา ก็ดี หิ - มิ - ม ปฺจมี ก็ดี อยขู า ง หลัง ตอ ง ทฆี ะ อ ที่สดุ ปจ จยั เปน อา ในหมวดธาตุท้งั ปวง, อุ. คจฉฺ าห,ิ คจฺฉาม,ิ คจฉฺ าม. เปนตน.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 176 ๓. ลบ หิ - ปจฺ มี เสยี บางก็ได, แตเ มือ่ ลบ อยา ทีฆะ อ เปน อา ในหมวดธาตทุ ั้งปวง. ๔. ลบ ยฺย ทสี่ ุดแหง เอยยฺ สตตฺ มี คงไวแต เอ บางก็ได ในหมวดธาตุท้ังปวง, และมกั ใช เอถ อตั ตโนบท แทน เอยยฺ บา ง. ๕. อุตตมบุรุษ สตตฺ มี เอกวจนะ มักใช เอยฺย อัตตโนบท แทน เอยฺยามิ โดยมาก ในหมวดธาตทุ ้งั ปวง. ๖. อา - หิยตตฺ นี มกั รัสสะเปน อ ในหมวดธาตทุ ง้ั ปวง. ๗. โอ - มัธยมบรุ ุษ หิยตตฺ นี และ อชฺชตฺตนี เอกวจนะ มที ี่ใชน อ ย, ใชประถมบรุ ุษเสยี เปนพื้น. ๘. รัสสะ อี อชชฺ ตฺตนี เปน อิ และลง สฺ อาคมบาง ในหมวดธาตุทั้งปวง. ๙. เอา อุ เปน อสึ ุ ไดบ า ง ในหมวดธาตุท้ังปวง. ๑๐. ลง อ อาคม หนา ธาตุทปี ระกอบ หิยตฺตนี อชชฺ ตตฺ นี กาลาติปตฺติ ได. ๑๑. ลง อิ อาคม หลังธาตุและปจจัยทป่ี ระกอบ อชชฺ ตฺตนี ภวิสสฺ นฺติ และ กาลาติปตตฺ ิ ในหมวดธาตทุ ัง้ ปวง. ๑๒. อตุ ตมบรุ ุษ ภวสิ สฺ นฺติ เอกวจนะ ใช สสฺ อัตตโนบท แทน สฺสามิ ไดบ าง. ๑๓. รสั สะ อา กาลาติปตตฺ ิ เปน อ ในหมวดธาตทุ ั้งปวง. ๑๔. ลง นคิ คหติ อาคม ในหมวด รุธฺ ธาตุแลว อาเทศนคิ คหิต
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 177 เปน พยัญชนะที่สดุ วรรค ตามวิธีสนธิ อ.ุ สําแดงแลว ในธาตขุ า งตน. ๑๕. เอา ย ปจจัยกับ วฺ ทีส่ ุดแหง ทิวฺ ธาตุ เปนตน เปน พพฺ . กบั ธฺ ที่สุดแหง พุธฺ ธาตุ เปน ตน เปน ชฺฌ. กบั หฺ ที่สุดแหง มุหฺ ธาตุ เปน ตน เปน ยฺห. กบั สฺ ท่ีสุดแหง มุสฺ ธาตุ เปน ตน เปน สฺส. กบั ชฺ ทีส่ ดุ แหง รชฺ ธาตุ เปนตน เปน ชชฺ . ๑๖. พฤทธิ์ ณุ ปจ จยั เปน โณ ในหมวด สุ ธาต.ุ ๑๗. เอา า ธาตุ เปน ชา. ๑๘. ลบ หฺ ทสี่ ดุ แหง คหฺ ธาตุ เสยี . ๑๙. เมอื่ ลง เณ, ณฺย ปจ จยั ตองพฤทธสิ์ ระตัวหนา ธาตุ และลบ ณฺ เหมอื นวิธีตทั ธติ . กมั มวาจก (๑๒๒) แจกแตว ัตตมานา ประถมบรุ ุษอยางเดียว เอก. พหุ. ปจยิ เต, ปจจฺ เต. ปจิยนฺเต, ปจจฺ นเฺ ต. รนุ ธฺ ยิ เต. รนุ ธฺ ยิ นเฺ ต. สวิ ยิ เต. สวิ ยิ นเฺ ต. สยุ ยฺ เต. สยุ ฺยนเฺ ต.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 178 เอก. พหุ. กียเต. กยี นฺเต. คหิยเต. คหิยนฺเต. กริยเต. กรยิ นเฺ ต. จรุ ิยเต. จรุ ยิ นเฺ ต. (๑๒๓) คําอธิบายในกัมมาวาจก ๑. ลง อ-ิ อาคม หนา ย ปจจยั ในกมั มวาจก. ๒. เอา ย-ปจจยั กบั จฺ ท่สี ดุ แหง ปจฺ ธาตุ เปน จฺจ บา ง ไมตองลง อิ อาคม. ๓. ซอน ยฺ - พยญั ชนะ ที่ ย-ปจ จัยบาง. ภาววาจกกแ็ จกเหมอื นกมั มวาจก ไมต อ งแจกไวในท่นี ,้ี ตา ง กันแตลกั ษณะที่กลา วแลว ในวาจกขางตน. เหตกุ ตั ตุวาจก (๑๒๔) แจก ปจฺ ธาตุ ลง เณ และ ณฺย ปจจยั เปน ตวั อยา ง. ๑. วตฺตมานา ๒. ปฺจมี ปุริส. เอก. พหุ. เอก. พห.ุ ป. ปาเจติ. ปาเจนฺต.ิ ปาเจต.ุ ปาเจนฺต.ุ ม. ปาเจสิ. ปาเจถ. ปาเจหิ. ปาเจถ. อุ. ปาเจมิ. ปาเจม. ปาเจม.ิ ปาเจม.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 179 ๓. สตฺตมี ๖. อชฺชตฺตนี ป. ปาเจยฺย, ปาเจถ. ปาเจยฺย.ุ อปาเจส.ิ อปาจสึ .ุ ม. ปาเจยยฺ าสิ. ปาเจยยฺ าถ. อปาจยติ ฺถ. อ.ุ ปาเจยยฺ าม,ิ ปาเจยฺยาม. อปาเจสึ. อปาจยมิ หฺ า. ปาเจยยฺ . (หยิ ตตฺ นี ไมไดใ ช ไมต อ งแจก) ๗. ภวสิ ฺสนติ ๘. กาลาติปตฺต ป. ปาเจสฺสติ. ปาเจสฺสนฺต.ิ อปาจยสิ สฺ . อปาจยสิ ฺสส .ุ ม. ปาเจสสฺ ส.ิ ปาเจสสฺ ถ. อปาจยิสเฺ ส. อปาจยสิ สฺ ถ. อุ. ปาเจสสฺ ามิ. ปเจสสฺ าม. อปาจยิสฺส. อปาจยสิ สฺ ามฺหา. (๑๒๕) แจก ปจฺ ธาตุ ลง ณาเป ณาปย ปจ จยั เปน ตวั อยาง. ๑. วตฺตมานา ๒. ปฺจมี ปุริส. เอก. พห.ุ เอก. พหุ. ป. ปาจาเปต.ิ ปาจาเปนฺต.ิ ปาจาเปต.ุ ปาจาเปนฺต.ุ ม. ปาจาเปสิ. ปาจาเปถ. ปาจาเปหิ. ปาจาเปถ. อุ. ปาจาเปมิ. ปาจาเปม. ปาจาเปม.ิ ปาจาเปม.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 180 ๓. สตตฺ มี ๖. อชชฺ ตฺตนี ป. ปาจาเปยฺย, ปาจาเปยยฺ .ุ อปาจาเปส.ิ อปาจาเปส.ุ ปาจาเปถ. ม. ปาจาเปยยฺ าสิ. ปาจาเปยฺยถ. อปาจาปยติ ถฺ . [ณาปย] อ.ุ ปาจาเปยยฺ ามิ, ปาจาเปยฺยาม. อปาจาเปสึ. อปาจาปยิมหฺ า. ปาจาเปยยฺ . [ณาปย] (หิยตฺตนี ไมไ ดใ ช ไมต องแจก) ๗. ภวสิ ฺสนติ ๘. กาลาตปิ ตตฺ ิ ป. ปาจาเปสฺสต.ิ ปาจาเปสฺสนตฺ .ิ อปาจาปยสิ สฺ . อปาจาปยิสฺสส .ุ ม. ปาจาเปสฺสิ. ปาจาเปสสฺ ถ. อปาจาปยิสฺเส. อปาจาปยสิ สฺ ถ. อ.ุ ปาจาเปสสฺ ามิ. ปาจาเปสฺสาม. อปาจาปยิสฺส. อปาจาปยสิ ฺสามหฺ า. (๑๒๖) แมถ งึ หมวดธาตอุ นื่ ก็พึงเทียบโดยนัยน้ี. จะแจกแตวัตตมานา ประถมบุรษุ ลง เณ และ ณาเป ปจ จยั เปนตวั อยา งเทานน้ั . เอก. พหุ. รนุ เธต,ิ รนุ ธฺ นเปติ. รุนเฺ ธนตฺ ิ, รนุ ฺธาเปนตฺ ิ. สพิ เฺ พติ, สพิ ฺพาเปต.ิ สิพฺเพนตฺ ,ิ สิพพฺ าเปนตฺ ิ.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 181 เอก. พหุ. สาเวติ. สาเวนตฺ .ิ กีนาเปติ. กีนาเปนตฺ .ิ คาเหติ, คณหฺ าเปต.ิ คาเหนตฺ ิ, คณฺหาเปนตฺ ิ. ตานาเปติ. ตานาเปนฺติ. โจราเปต.ิ โจราเปนตฺ .ิ ลงปจจัยทีม่ ี ณ แลว พฤทธิส์ ระตัวหนา ท่ีไมใชพยญั ชนะซอน อยูเบ้ืองหลังแลว ลบ ณ เสีย เหมอื นกับทีก่ ลา วแลว ในโคตตตทั ธิต (๑๐๓) วธิ ีสนธิกเ็ หมอื นกับที่กลา วแลว ในสระสนธิ (๑๙). เหตกุ ัมมวาจก (๑๒๗) แจกแตวัตตมานา ประถมบรุ ษุ อยา งเดียว ลง ณาเป ปจ จัย เปนตัวอยา ง เอก. พห.ุ ปาจาปยเต. ปาจาปย นเฺ ต. รนุ ธฺ าปยเต. รุนธฺ าปย นเฺ ต. สิพพฺ าปยเต. สพิ พฺ าปยนฺเต. สาวยิ เต. [ณย] สาวิยนเฺ ต. กนี าปย เต. กนี าปย นฺเต. คาหาปยเต. คาหาปยนเฺ ต.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 182 เอก. พห.ุ ตานาปย เต. ตานาปย นเฺ ต. โจราปย เต. โจราปยนเฺ ต. คาํ อธบิ ายในวาจกนี้ พึงเทยี บเคยี งดใู นวาจกทั้ง ๓ เทอญ. อาขยาตนัน้ มีนยั วจิ ติ รพิสดารนัก. นกั ปราชญผูรอ ยกรอง คัมภรี ศ พั ทศาสตรพรรณนาไวอ ยางละเอียด ครัน้ ขาพเจาจะนํามา อธบิ ายไวใ นที่น้ีใหส้ินเชงิ กเ็ หน็ วา จะทําความศกึ ษาของกลุ บุตรให เน่นิ ชา. อกี ประการหนึง่ หนังสอื บาลไี วยากรณน จ้ี ะไมมีเวลาจบลงได จึงไดเลือกเอาแตวธิ ีจะใชท ่ัวไปในกริ ิยาศัพททงั้ หลาย มาสําแดงไว เปนตัวอยาง. เม่อื ทราบแบบหน่งึ แลว ก็เปนอนั เขาใจทั่วไป. ถงึ อยา ง นัน้ วิธีเปลี่ยนแปลงวภิ ัตติ จําเพราะธาตบุ างตวั แมไมสาธารณะแก ธาตทุ ้งั หลาย แตม ีท่ใี ชม าก ขา พเจานํามาแสดงไวในท่นี ีบ้ างเล็กนอ ย. [อสฺ ธาตุ] (๑๒๘) อสฺ ธาตุ ซง่ึ เปน ไปในความ มี, ความ เปน , อยหู นา แปลงวิภัตติทงั้ หลายแลว ลบพยญั ชนะตนธาตบุ าง ท่ีสุดธาตุบา ง อยางนี้ :- ติ เปน ตถฺ .ิ ลบที่สดุ ธาตุ สําเรจ็ รปู เปน อตฺถิ. อนตฺ ิ คงรปู ลบตน ธาตุ สาํ เรจ็ รปู เปน สนฺติ.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 183 สิ คงรูป ลบทีส่ ดุ ธาตุ สาํ เร็จรปู เปน อส.ิ ถ เปน ตถฺ ลบท่สี ุดธาตุ สาํ เร็จรูปเปน อตถฺ . มิ เปน มฺหิ ลบท่สี ดุ ธาตุ สาํ เรจ็ รูปเปน อมหฺ .ิ ม เปน มหฺ ลบทส่ี ดุ ธาตุ สําเรจ็ รูปเปน อมหฺ . ตุ เปน ตถฺ ุ ลบทสี่ ดุ ธาตุ สาํ เร็จรูปเปน อตถฺ ุ. เอยฺย เปน อยิ า ลบตนธาตุ สําเร็จรปู เปน สยิ า. เอยยฺ กับท้ังธาตุ สําเร็จรูปเปน อสสฺ . เอยยฺ ุ กบั ทง้ั ธาตุ สําเร็จรูปเปน อสฺส.ุ เอยฺยุ เปน อิยุ ลบตนธาตุ สาํ เรจ็ รปู เปน สิย.ุ เอยยฺ าสิ กับท้ังธาตุ สาํ เร็จรปู เปน อสสฺ . เอยฺยาถ กับทง้ั ธาตุ สาํ เร็จรูปเปน อสฺสถ. เอยยฺ ามิ กบั ทงั้ ธาตุ สําเรจ็ รปู เปน อสฺส. เอยฺยาม กบั ท้ังธาตุ สําเร็จรูปเปน อสฺสาม. อิ คงรปู ทีฆะตน ธาตุ สําเร็จรูปเปน อาส.ิ อุ คงรูป ทีฆะตน ธาตุ สาํ เร็จรปู เปน อาสุ. ตฺถ คงรูป ทฆี ะตนธาตุ สาํ เรจ็ รปู เปน อาสิตฺถ. อึ คงรูป ทีฆะตน ธาตุ สาํ เร็จรปู เปน อาส.ึ มหฺ า คงรปู ทฆี ะตน ธาตุ สาํ เร็จรูปเปน อาสมิ หฺ า.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 184 (๑๒๙) คําถามชอ่ื วิภัตติเปนตน ใหผ ศู ึกษาตอบ. ๑. โก ธมมฺ เทเสติ ? ใคร สําแดงอยู ซ่งึ ธรรม ? ๒. สามเณเรน ธมฺโม ปกาสยิ เต. ธรรม อันสามเณร ประกาศ อย.ู ๓. เกนา - ย ถโู ป ปติฏาปยเต ? สตูป น้ี อนั ใคร ใหต้ัง จาํ เพาะอยู ? ๔. มหาราชา ต การาเปต.ิ พระราชาผูใหญใ หท ําอยู ซึง่ สตปู น้นั . ๕. กถ มาตาปตโร ปตุ ฺเต อนสุ าเสยฺยุ ? มารดาและบดิ า ท. พงึ ตามสอน ซ่ึงบุตร ท. อยางไร ? ๖. เต ปาปา ปตุ เฺ ต นวิ าเรนฺต,ิ เต กลยฺ าเณ ปตุ ฺเต นิเวเสนฺติ. เขา ท. ยอ มหาม ซ่งึ บตุ ร ท. จากบาป. เขา ท. ยังบตุ ร ท. ยอมใหต้ังอยู ในกรรมงาม. ๗. กถ มยา ปฏิปชชฺ เต ? อนั ขา จะปฏิบัติ อยางไร ? ๘. กึ อมฺหาก สขุ อุปปฺ าเทสสฺ ติ ? สิ่งไร จกั ยังสขุ ใหเกิด แกข า ท. ? ๙. กุสลฺ - เจ กเรยยฺ าส.ิ ถา วา เจา พงึ ทํา ซึง่ กศุ ลไซร. ๑๐. กุสล กโรห.ิ ทา น จงทํา ซง่ึ กศุ ล. ๑๑. กสมฺ า สสิ ฺโส ครุนา ครหิยเต ? เพราะเหตุอะไร ศิษย อันครู ยอ มติเตียน ? ๑๒. สุร ปว าม.ิ ขา ดมื่ อยู ซึง่ เหลา.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 185 ๑๓. มา เอว - มกาสิ. [เจา ] อยาไดท ําแลว อยางน้ัน. ๑๔. ตสฺโส - วาท กโรห.ิ [เจา ] จงทาํ ซงึ่ โอวาท ของทาน. ๑๕. กห อเิ ม คมิสฺสนฺติ ? [ชน ท.] เหลา นี้ จักไป ในทไ่ี หน ? ๑๖. ราชนิเวสน คมยิ เต. พระราชวัง [อันเขา ท.] ไปยู. ๑๗. จริ อธิ วสมฺ หฺ า. [ขา ท.] อยูแลว ในทนี่ ้ี นาน. ๑๘. พาล น เสเวยยฺ . [เขา] ไมพ งึ เสพ ซ่งึ ชนพาล. ๑๙. ปณฺฑิต-เมว ภชตุ. [เขา] จงคบ ซง่ึ บัณฑติ อยา งเดยี ว. ๒๐. ย ธโี ร กาเรยยฺ , ต กรสสฺ ุ. ผูมีปญ ญา ใหเ จาทาํ ซง่ึ กรรม ใด, [เจา] จงทํา ซงึ่ กรรมนน้ั . ๒๑. ขโณ โว มา อุปจฺจคา. ขณะ อยาไดเขาไปลวงแลว ซง่ึ เจา ท. ๒๒. ขณาตตี า หิ โสจนตฺ .ิ เพราะวา [ชน ท.] มขี ณะเปน ไป ลว งแลว ยอมโศก. ๒๓. เตนา - ห โปราโณ. ดวยเหตุนนั้ อาจารย มีแลวในกอ น กลา ว แลว. ๒๔. เตนา - หู โปราณา. ดวยเหตนุ ัน้ อาจารย ท. มแี ลว ในกอ น กลา วแลว . ๒๕. พหู ชนา อิธ สนนฺ ปิ ตสึ ุ. ชน ท. มาก ประชมุ กนั แลว ในทนี่ .ี้ ๒๖. กินฺนุ ภโี ต ว ตฏิ สิ ? ทาํ ไมหนอ [เจา] เปน ผกู ลวั เทียว ยืนอยู ?
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 186 ๒๗. ชวี นโฺ ต น สุข ลเภ. [ขา ] เปน อยู ไมพึงได ซง่ึ สุข. ๒๘. สจา - ห เอว อชานิสฺส, ต นา - ภวสิ สฺ . ถาวา [ขา] จักไดร ูแลว อยางนไ้ี ซร, ส่ิงนนั้ จักไมไดม แี ลว. ๒๙. ยนนฺ ูนา - ห ทกุ ขฺ า มุจฺเจยยฺ . ไฉนหนอ [ขา ] พึงพน ได จากทกุ ข. ๓๐. มา ปจฉฺ า วิปปฺ ฏิสาริโน อหุวตถฺ . [เจา ท.] อยาไดเ ปนผู มคี วามเดอื ดรอ น มแี ลว ในภายหลงั . จบอาขยาตแตเทาน้ี.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 187 กติ ก (๑๓๐) กิตกน นั้ เปน ชอื่ ของศัพททีท่ า นประกอบปจจยั หมูหนึง่ ซ่งึ เปน เครือ่ งกาํ หนดหมายเน้ือความของนามศัพท และกริ ยิ าศัพทท่ี ตาง ๆ กัน, เหมือนนามศัพทท ่เี อามาใชในภาษาของเรา มี 'ทาน' เปนตน ยอ มมีเน้ือความตา ง ๆ กนั . 'ทาน' นนั้ เปนชื่อของส่ิงของ ทจ่ี ะพึงสละกม็ ี เหมือนคาํ วา 'คนมีใหทาน คนจนรับทาน' เปน ตน, เปนชื่อของการใหกม็ ี เหมอื นคาํ วา 'ผนู ้ยี นิ ดใี นทาน' เปนตน, เปน ชื่อของเจตนากม็ ี เหมือนคําวา 'ทานมยั กุศล' เปน ตน , เปน ช่อื ของ ที่กม็ ี เหมอื นคาํ วา 'โรงทาน' เปนตน. สว นกิริยาศพั ท มคี ําวา 'ทํา' เปน ตน ก็มเี นอื้ ความตา งกัน, เปน กตั ตวุ าจก บอกผูทาํ ก็มี เหมอื นคําวา 'นายชางทํางามจริง' เปนตน , เปน กัมมวาจก บอกส่ิง ทเี่ ขาทําก็มี เหมอื นคาํ วา 'เรอื นนีท้ าํ งามจรงิ ' เปนตน ศัพทเ หลา น้ี ในภาษามคธ ลวนหมายดวยปจจยั ท้งั สิน้ . กติ กน น้ั แบง ออกเปน ๒ กอ น คอื เปนนามศัพทอ ยาง ๑ เปน กริ ยิ าศัพทอยาง ๑. กติ กท ้งั ๒ อยา งน้ี ลว นมีธาตเุ ปนท่ตี ้ังท้ังสิ้น. กแ็ ตธาตุนน้ั ไมแปลกกันกบั ธาตุอาขยาตท่ีกลา วแลว (๑๑๔) เพราะเหตุนั้น ในที่น้ไี มต อ งวาถงึ ธาตุอกี จะกลาวแตทแ่ี ปลก. นามกติ ก (๑๓๑) กิตกท เี่ ปน นามก็ดี เปน คณุ นามกด็ ี เรยี กวา นามกิตก ๆ นจี้ ัดเปน สาธนะ มปี จ จัยเปนเคร่ืองหมายวา ศพั ทนี้
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 188 เปน สาธนะน้ัน ๆ เพ่ือจะใหมเี น้อื ความแปลกกัน ดังกลาวแลว ขางตนน้ัน. สาธนะ (๑๓๒) ศพั ทท ท่ี า นใหส ําเร็จมาแตร ปู วิเคราะห ชอื่ 'สาธนะ' สาธนะนั้นแบงเปน ๗ คอื กัตตุสาธนะ, กัมมสาธนะ, ภาวสาธนะ, กรณสาธนะ, สัมปทานสาธนะ, อปาทานสาธนะ, อธิกรณสาธนะ. รูปวิเคราะหแหงสาธนะจดั เปน ๓ คอื กตั ตรุ ปู , กมั มรูป, ภาวรปู . [กตั ตสุ าธนะ] ศพั ทใ ดเปนชื่อของผูทํา คือ ผูป ระกอบกิรยิ าน้นั เปน ตนวา กมุ ภฺ กาโร ผทู ําซ่ึงหมอ, ทายโก ผูให, โอวาทโก ผกู ลาวสอน, สาวโก ผฟู ง . ศัพทน นั้ ช่ือกัตตุสาธนะ ๆ นักปราชญฝ ายเราบัญญตั ิ ใหแ ปลวา \"ผู -,\" ถาลงในอรรถ คือ ตัสสลี ะ แปลวา \"ผ-ู โดย ปกต.ิ \" [กมั มสาธนะ] ผทู าํ ๆ ซง่ึ สิง่ ใด ศัพทท่ีเปนชื่อของสิง่ นนั้ เปนตน วา ปโย เปน ท่ีรัก, รโส วิสัยเปน ท่ยี ินดี กด็ ,ี ศัพทท เ่ี ปน ช่ือของส่ิงของที่ เขาทํา เปนตนวา กิจจฺ กรรมอนั เขาพึงทํา, ทาน สิ่งของอันเขา พงึ ให [มีขาวนํา้ เปนตน] ก็ด.ี ชื่อวา กมั มสาธนะ ๆ ที่เปนกัตตุรปู แปลวา \"เปน ที่ -,\" ทเ่ี ปน กัมมรปู แปลวา \"เปนทีอ่ นั เขา-,\"
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 189 [ภาวสาธนะ] ศัพทบอกกิรยิ า คอื ความทําของผูทํา เปน ตนวา คมน ความ ไป, าน ความยืน, นิสชฺชา ความนั่ง, สยน ความนอน. ชื่อ วาภาวสาธนะ เปนภาวรปู อยา งเดียว แปลวา \"ความ--,\" ก็ได, \"การ--,\" กไ็ ด. [กรณสาธนะ] ผทู าํ ๆ ดวยสงิ่ ใด ศพั ทท เ่ี ปนช่ือของสิ่งนัน้ เปนตนวา พนฺธน วัตถเุ ปน เครื่องผกู มีเชือกและโซเปนตน, ปหรณ วตั ถเุ ปน เครอ่ื ง ประหาร มดี าบและงาวเปนตน , วชิ ฌฺ น วตั ถเุ ปน เครอ่ื งไช มี เหลก็ หมาดและสวานเปน ตน , ช่ือวากรณสาธนะ ๆ ทีเ่ ปน กัตตุรปู แปลวา \"เปน เครือ่ ง--,\" กไ็ ด, แปลวา \"เปน เหตุ--,\" ก็ได, ทเ่ี ปน กมั มรปู แปลวา \"เปน เครือ่ งอันเขา--,\" ก็ได, \"เปนเหตุอันเขา--,\" กไ็ ด. [สัมปทานสาธนะ] ผทู าํ ใหแ กผ ูใ ดหรอื แกส่ิงใด ศพั ททเี่ ปนชื่อของผูน้ัน ของสง่ิ นัน้ เปนตนวา สมปฺ ทาน วตั ถเุ ปน ทีม่ อบให, ช่อื วาสัมปทานสาธนะ ๆ ทีเ่ ปน กัตตุรูป แปลวา \"เปน ท่-ี -,\" ทเ่ี ปนกัมมรปู แปลวา \"เปน ที่อันเขา--,\" [อปาทานสาะนะ] ผทู าํ ไปปราศจากสิง่ ใด ศพั ทท เี่ ปน ชอื่ ของสง่ิ นนั้ เปน ตนวา
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 190 ปภสฺสโร แดนสรา นออกแหงรศั มี กายเทวดาจําพวกหนึง่ , ปภโว แดนเกิดกอ น มีนํ้าตกซ่ึงเปน แดนเกิดของแมนํ้าเปนตน , ภโี ม แดน กลัว ยักษ ชอ่ื วาอปาทานสาธนะ ๆ แปลวา \"เปน แดน--.\" [อธิกณณสาธนะ] ผูทาํ ๆ ในท่ใี ด ศพั ทท ่ีเปน ชื่อของทนี่ ัน้ เปน ตนวา าน ที่ต้งั , ทีย่ นื , อาสน ทีน่ ัง่ , สยน ทีน่ อน, ช่ือวาอธิกรณสาธนะ ๆ ที่เปน กตั ตรุ ูป แปลวา \"เปน ท่ี--,\" ท่เี ปน กมั มรปู แปลวา \"เปน ทอี่ ันเขา.\" (๑๓๓) รูปวเิ คราะหแ หง สาธนะ จัดเปน ๓ ตามวาจกทั้ง ๓ ที่ กลา วแลว ในอาขยาต (๑๑๕) นัน้ . รปู วเิ คราะหแ หง สาธนะใด เปน กตั ตุวาจกก็ดี, เปน เหตกุ ตั ตวุ าจกก็ดี, สาธนะนนั้ เปนกัตตรุ ปู . รปู วเิ คราะหแ หงสาธนะใดเปนกัมมวาจก, สาธนะนั้นเปนกมั มรปู . รูป วิเคราะหแหงสาธนะใด เปนภาวาจก, สาธนะนน้ั เปน ภาวรูป. สาธนะทั้ง ๗ น้ี เปน ส่ิงสําคญั ในคําพูดและแตงหนังสือในภาษา มคธอยางหน่งึ , แตคําแปลเปนภาษาสยามนัน้ ไมสําคัญนัก เพราะ เปน แตเ ครือ่ งหมายใหรสู าธนะเทานนั้ ถงึ จะบัญญัตอิ ยา งอน่ื กไ็ ด, แต ถึงกระนัน้ เมอ่ื นยิ มรูกนั มาก ๆ แลว ใชผดิ ๆ ไป, ก็เปนเหตทุ ีจ่ ะ ใหเ ขาแยมสรวล. ใหก ุลบตุ รศกึ ษาสงั เกตเสียใหเขา ใจแมน ยํา, เมื่อ เปนเชน นี้ จักไดเ ปน ผฉู ลาดในถอยคําและในการแตง หนงั สือ.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 191 ปจ จัยแหงนามกิตก (๑๓๔) ปจ จัยทีส่ าํ หรับประกอบนามกิตกน ั้น จดั เปน ๓ พวก คอื กติ ปจจัย สาํ หรบั ประกอบกบั ศพั ททีเ่ ปนกัตตุรปู อยางเดียว ๑ กจิ ปจ จยั สาํ หรับประกอบกับศัพทท ่เี ปน กมั มรูปและภาวรูป ๑ กติ กจิ จปจ จัย สาํ หรับประกอบกับศพั ทแมทั้ง ๓ เหลา ๑. ๑) กิตปจ จยั อยา งนี้ :- กวฺ ,ิ ณี, ณฺว,ุ ตุ, ร.ู ๒) กจิ จปจจัย อยางน้ี :- ข, ณยฺ . ๓) กิตกิจจปจ จยั อยางน้ี:- อ, อิ, ณ, ตเว, ต,ิ ต,ุ ยุ. ในบาลไี วยากรณน ี้ ขาพเจา จะเลือกคัดเอาแตปจ จัยที่ใชเ ปน สาธารณะท่ัวไปแกธาตุทง้ั ปวง มาสําแดงในท่ีนี้, สว นปจจัยที่จาํ เพาะ ธาตุบางตัว ไมส าธารณะแกธาตุอน่ื จะยกไวสําแดงในหนังสอื อน่ื . อนง่ึ การจดั ปจจัยเปนพวก ๆ อยา งน้ี ในคมั ภีรศพั ทศาสตร ท้ังหลายไมยืนลงเปน แบบเดียวกันได มักเถยี งกัน เพราะฉะนั้น การ รอ ยกรองหนงั สอื น้ี ตอ งอาศัยความทผ่ี ูแตง เหน็ ชอบเปน ประมาณ. วเิ คราะหแ หง นามกิตก แตน ้จี ะต้งั บทวเิ คราะห เพ่ือจะสําแดงสาธนะและปจ จัยที่กลาว มาแลว ขา งตน พอเปน หลกั ฐานทก่ี ําหนดของกุลบตุ รสืบไป :-
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 192 (๑๓๕) วเิ คราะหในกิตปจจัย กวฺ ิ. สย ภวตี-ติ สยมภฺ ู. [ผใู ด] ยอมเปนเอง, เหตุน้ัน [ผูนน้ั ] ช่ือวา ผเู ปน เอง. สย เปนบทหนา ภู ธาตุ ในความ เปน , ลบ กฺวิ เอานคิ คหติ เปน มฺ โดยวธิ สี นธิ (๓๒), เปน กัตตุรปู กตั ตสุ าธนะ. อเุ รน คจฺฉตี-ติ อุรโค. [สัตวใ ด] ยอ มไปดวยอก, เหตุนน้ั สัตวน นั้ ชือ่ วา ผไู ปดวยอก. อุร เปน บทหนา คมฺ ธาตุ ในความ ไป, ลบพยญั ชนะที่สดุ ธาตุ คอื มฺ ดวยอาํ นาจ กวฺ ิ และลบ กวฺ ิ ดวย. ส สฏุ ุ ขนตี - ติ สงฺโข. สตั วใ ด ยอ มขุด [ซงึ่ แผน ดิน] ดี คอื วา ดวยดี, เหตุน้ัน [สตั วน นั้ ] ช่ือวาผูขดุ ด.ี ส เปน บทหนา ขนฺ ธาตุ ในความ ขดุ , เอานิคคหิตเปน งฺ โดยวธิ สี นธิ (๓๒). ณ.ี ธมฺม วทติ สีเลนา - ติ ธมมฺ วาท,ี ธมมฺ วตฺตุ สีลมสสฺ า - ติ วา ธมมฺ วาท.ี [ผูใด] กลา วซึ่งธรรมโดยปกติ. เหตุนั้น [ผูนัน้ ] ชอ่ื วาผูกลา วซงึ่ ธรรมโดยปกต;ิ อีกอยางหนงึ่ ความกลาว ซ่งึ ธรรม เปนปกติ ของเขา, เหตุนัน้ [เขา] ชอ่ื วาผูมีความกลาว ซึง่ ธรรม เปนปกต.ิ ธมฺม เปนบทหนา วทฺ ธาตุ ในความ กลาว, พฤทธ์ิ อ ท่ี ว เปน อา ดวยอาํ นาจปจจยั ท่ีเน่ืองดว ย ณ แลว ลบ ณ เหมอื น กลาวแลว ในโคตตตทั ธติ (๑๐๓), ถาเปน อิตถลี ิงค เปน ธมมฺ วาทนิ ี
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 193 ถาเปน นปสุ กลงิ ค เปน ธมฺมวาหิ วเิ คราะหก อนเปน กัตตรุ ูป กัตตุ- สาธนะ ลงในอรรถแหง ตสั สลี ะ, วิเคราะหหลงั เปน สมาสรปู ตสั สลี สาธนะ. สมาสรูป ตสั สีลสาธนะน้ี เห็นอยางไร ๆ อยู จึงมไี ด จัดเขาในสาธนะ. ปาป กโรติ สีเลนา-ติ ปาปการี. [ผูใด] ยอ มทํา ซ่ึงบาป โดยปกต,ิ เหตุน้ัน ผูนน้ั ช่ือวาผูทําซึง่ บาปโดยปกติ. ปาป เปน บทหนา กรฺ ธาตุ ในความ ทํา. ธมฺม จรติ สเี ลนา - ติ ธมมฺ จารี. [ผูใ ด] ยอมประพฤติซงึ่ ธรรม โดยปกติ, เหตุน้นั ผูน น้ั ชอื่ วาผูประพฤติซึง่ ธรรมโดยปกติ ธมมฺ เปนบทหนา จรฺ ธาตุ ในความประพฤติ, ในความเทีย่ ว. ณวฺ .ุ เทตี - ติ ทายโก. [ผใู ด] ยอมให, เหตนุ ั้น [ผนู น้ั ] ชอ่ื วา ผูให. ทา ธาตุ ในความให, ยฺ ปจ จยั หลงั ธาตุ มี อา เปน ท่ีสุด ณวฺ .ุ เปน อก, เปน กตั ตุรูป กตั ตุสาธนะ, ถา อติ ถลี ิงคเปน ทายกิ า. เนตี - ติ นายโก. [ผใู ด] ยอมนาํ ไป, เหตนุ น้ั ผูนั้น ชอ่ื วา ผูนําไป นี ธาตุ ในความ นาํ ไป พฤทธ์ิ อี เปน เอ แลว เอา เปน อาย ดว ยอาํ นาจปจจยั ท่ีเน่อื งดวย ณ เหมือนกลาวแลวใน โคตตตทั ธิต (๑๐๓) อนุสาสตี - ติ อนุสาสโก. [ผใู ด] ยอมตามสอน, เหตนุ ้ัน [ผนู ้นั ] ชอื่ วา ผตู ามสอน. อนุ เปน บทหนา สาสฺ ธาตุ ในความ สอน.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 194 สุณาตี - ติ สาวโก. [ผใู ด] ยอมฟง . เหตนุ ้ัน [ผูน ้นั ] ชื่อวา ผูฟง . สุ ธาตุ ในความ ฟง , พฤทธิ์ อุ เปน โอ แลวเอาเปน อาว ดังกลาวแลว . ตุ. กโรตี - ติ กตฺตา, กโรติ สเี ลนา-ติ วา กตฺตา. [ผูใ ด] ยอ มทํา. เหตนุ ั้น [ผนู ัน้ ] ชื่อวาผูทาํ ; อกี อยา งหน่ึง [ผใู ด] ยอ มทํา โดยปกต,ิ เหตนุ น้ั [ผูน้ัน] ชอื่ วา ผทู ําโดยปกต.ิ กรฺ ธาตุ ในความทํา, ลบพยัญชนะท่ีสดุ ธาตุ ซอน ตฺ, กตตฺ ุ เขากับปฐมาวภิ ัตติ เอกวจนะ แหง นาม เปน กตฺตา (๖๖). เปนกัตตุรปู กัตตุสาธนะ วิเคราะหห ลัง ลงในตสั สีละ. วทตี - ติ วตตฺ า. [ผใู ด] ยอมกลา ว, เหตุน้นั [ผูน ้นั ] ช่ือวา ผกู ลา ว. วทฺ ธาตุ ในความ กลาว. ชานาตี-ติ าตา. [ผใู ด] ยอ มร,ู เหตนุ น้ั [ผูนน้ั ] ชื่อวา ผูร.ู า ธาตุ ในความ ร.ู ธาเรตี - ติ ธาตา. [ผใู ด] ยอมทรงไว, เหตุนั้น [ผูน้นั ] ชอื่ วา ผทู รงไว. ธร-ฺ ธา ธาตุ ในความ ทรง. ร.ู ปาร คจฉฺ ติ สีเลนา - ติ ปารค.ู [ผใู ด] ยอ มถงึ ซ่งึ ฝง โดย ปกติ, เหตุนั้น [ผนู นั้ ] ชอ่ื วาผูถึงซึ่งฝงโดยปกต.ิ ปาร เปน บท หนา คมฺ ธาตุ ในความถงึ , ลบทีส่ ดุ ธาตุ ดวยอํานาจปจ จัยทเ่ี น่ือง
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 195 ดว ย รฺ แลวลบ รฺ เสีย, เปนกัตตสุ าธนะ ลงในตสั สลี ะ. วชิ านาติ สเี ลนา - ติ วิ ฺ ู. ผใู ด ยอมรูวิเศษ โดยปกต,ิ เหตนุ ัน้ [ผนู ั้น] ช่ือวา ผูรวู ิเศษโดยปกติ. วิ เปน บทหนา า ธาตุ ในความ ร,ู ซอ น .ฺ ภิกขฺ ติ สเี ลนา - ติ ภกิ ฺขุ. [ผูใด] ยอมขอ โดยปกต,ิ เหตุนน้ั [ผูนนั้ ] ชอื่ วา ผูขอโดยปกติ. ภิกขฺ ธาตุ ในความ ขอ, ไมล บท่ีสดุ ธาตุ รสั สะ อู เปน อุ. (๑๒๖) วิเคราะหใ นกิจจปจจัย ข. ทุกเฺ ขน กริยตี - ติ ทุกกฺ ร. กรรมใด อันเขาทําไดโดยยาก, เหตนุ น้ั [กรรมนัน้ ] ชอื่ วา อันเขาทาํ ไดโดยยาก. ทุ เปนบทหนา กรฺ ธาตุ ในความ ทํา, ลบ ข ซอ น กฺ เปน กมั มรูป กัมมสาธนะ. สเุ ขน ภรยิ ตี - ติ สภุ โร. ผูใ ด อันเขาเลี้ยงไดโดยงา ย, เหตนุ ั้น [ผนู ัน้ ] ชอื่ วา ผูอันเขาเลี้ยงไดโดยงา ย. สุ เปนบทหนา ภรฺ ธาตุ ในความ เลยี้ ง. ทุกฺเขน รกขฺ ิยต-ี ติ ทุรกขฺ . [จติ ใด] อนั เขารกั ษาไดโ ดยยาก, เหตุนัน้ [จิตนน้ั ] ชื่อวาอันเขารกั ษาไดโดยยาก. ทุ เปน บทหนา รกฺข ธาตุ ในความ รกั ษา.
ประโยค๑ - บาลไี วยากรณ วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ที่ 196 ณยฺ กาตพฺพนฺ-ติ การิย. [กรรมใด] อันเขาพงึ ทํา, เหตนุ ้ัน [กรรมนั้น] ชื่อวาอนั เขาพึงทํา. กรฺ ธาตุ ในความ ทาํ , พฤทธิ์ อ เปน อา อิ อาคม, ลบ ณฺ เสีย, เปน กมั มรูป กัมมสาธนะ. เนตพพฺ นฺ-ติ เนยยฺ . [สง่ิ ใด] อนั เขาพึงนาํ ไป, เหตุนน้ั [สิง่ นนั้ ] ช่อื วา อันเขาพึงนาํ ไป. นี ธาตุ ในความ นาํ ไป พฤทธิ์ อี เปน เอ, ลบ ณฺ ซอน ย.ฺ วตฺตพพฺ นฺ - ติ วชชฺ . [คาํ ใด] อนั เขาพงึ กลา ว, เหตนุ ัน้ [คํานั้น] ช่อื วา เขาพึงกลา ว, วทฺ ธาตุ ในความ กลา ว, ลบ ณฺ แลว เอา ทฺ ที่สุดธาตุ กับ ย ทส่ี ุดปจ จัย เปน ชชฺ . ทมิตพฺโพ - ติ ทมโฺ ม. [ผูใ ด] อันเขาพึงทรมานได เหตนุ ้นั [ผูนั้น] ชอ่ื วา อนั เขาพึงทรมานได. ทมฺ ธาตุ ในความ ฝก, ลบ ณฺ แลวเอา ทฺ ทสี่ ดุ ธาตุ กับ ย ทีส่ ุดปจ จยั เปน ชชฺ . ทมิตพโฺ พ - ติ ทมฺโม. [ผใู ด] อันเขาพึงทรมานได เหตนุ ้นั [ผูนน้ั ] ช่ือวา อนั เขาพึงทรมานได. ทมฺ ธาตุ ในความ ฝก , ลบ ณฺ แลวเอา มฺ ท่สี ุดธาตุ กับ ย เปน มมฺ . ยุชฺ ติ พพฺ นฺ - ติ โยคคฺ . [สิ่งใด] อนั เขาพึงประกอบ, เหตนุ ั้น [สิง่ นน้ั ] ช่อื วาอนั เขาพึงประกอบ. ยชุ ฺ ธาตุ ในความ ประกอบ, ลบ ณฺ แลว เอา ชฺ ทีส่ ดุ ธาตุ กับ ย เปน คฺค. ครหิตพพฺ นฺ - ติ คารยหฺ . [กรรมใด] อนั เขาพึงติเตียน, เหตุน้นั [กรรมนัน้ ] ช่อื วา อันเขาพึงติเตยี น. ครหฺ ธาตุ ในความ ติเตียน. พฤทธ์ิ อ เปน อา. ลบ ณฺ แลว แปร หฺ ไวเ บอื้ งหลัง, ยฺ ไวเ บ้อื งหนา.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กติ ก - หนา ท่ี 197 ทาตพฺพน-ฺ ติ เทยยฺ . [สง่ิ ใด] อนั เขาพึงให, เหตุนัน้ [ส่ิงนน้ั ] ช่ือวา อนั เขาพงึ ให. ทา ธาตุ ในความ ให ธาตุมี อา เปน ท่ีสดุ อยู หนา เอา ณยฺ เปน เอยยฺ แลวลบ อา ดวยสระสนธิ (๑๙). ศพั ทท ป่ี ระกอบดว ยปจจยั น้ี บางศัพทก ใ็ ชเปน กริ ิยากติ กบาง อุ. เต จ ภิกขฺ ู คารยหฺ า อนงึ่ ภกิ ษุ ท. เหลา นน้ั อนั ทานพึงติเตียน. (๑๓๗) วิเคราะหในกิตกิจจปจจัย อ. ปฏิ ส ภิชชฺ ตี-ติ ปฏิสมภฺ ิทา. ปญ ญาใด ยอ มแตกฉาน ดี โดยตา ง, เหตุนัน้ ปญญานั้น ช่อื วา แตกฉานดีโดยตาง. ปฏิ ส เปน บทหนา ภทิ ฺ ธาตุ ในความ แตก, อิตถีลิงค ปฐมาวภิ ัตติ เปน อา (๕๒). เปน กัตตรุ ูป กัตตุสาธนะ. หติ กโรตี - ติ หิตกกฺ โร. ผูใด ยอ มทาํ ซ่งึ ประโยชนเกือ้ กลู , เหตนุ น้ั [ผูนนั้ ] ชอื่ วาผทู ําซงึ่ ประโยชนเ กอื้ กูล. หติ เปน บทหนา กรฺ ธาตุ ในความ ทํา ซอน กฺ. นสิ ฺสาย น วสติ - ติ นสิ สฺ โย. [ศษิ ย] อาศัยซงึ่ อาจารย น้ันอยู, เหตุน้นั [อาจารยนั้น] ช่ือวาเปนทอ่ี าศยั อยู [ของศษิ ย] นิ เปน บทหนา สี ธาตุ ในความ อาศัย. พฤทธ์ิ อี เปน เอ แลว เอาเปน อย แลว ซอ น สฺ เปนกตั ตุรูป กัมมสาธนะ. สกิ ขฺ ยิ ตี - ติ สิกขฺ า, สิกขฺ น วา สกิ ขฺ า. ธรรมชาตใิ ด
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคท่ี ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ท่ี 198 อันเขาศกึ ษา, เหตนุ น้ั [ธรรมชาติน้ัน] ช่ือวาอนั เขาศกึ ษา; อีก อยา งหน่ึง ความศึกษา ชื่อวาสกิ ขา. สกิ ฺขฺ ธาตุ ในความ ศึกษา, สาํ เหนยี ก. วเิ คราะหหนา เปน กมั มรปู กมั มสาธนะ, วเิ คราะหหลงั เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. วิเนติ เตนา - ติ วินโย. [บณั ฑติ ] ยอมแนะนาํ ดวยอุบาย น้นั , เหตุน้ัน [อบุ ายน้ัน] ชือ่ วา เปน เครื่องแนะนํา [ของบัณฑติ ]. วิ เปนบทหนา นี ธาตุ ในความ นํา เปนกัตตุรูป กรณสาธนะ. ปม ภวติ เอตสฺมา - ติ ปภโว. [แมน าํ้ ] ยอมเกดิ กอ น แตป ระเทศน่ัน เหตุนัน้ [ประเทศน่นั ] ชอื่ วาเปนแดนเกดิ รอน [แหง แมน ้ํา]. ป เปนบทหนา ภู ธาตุ, พฤทธ์ิ อู เปน โอ แลวเอา เปน อว เปน กตั ตุรูป อปาทานสาธนะ. อ.ิ อุทก ทธาตี - ติ อุทธิ. ประเทศใด ยอมทรงไว ซึ่งน้าํ , เหตุน้ัน [ประเทศนนั้ ] ชอื่ วาผูทรงไวซึง่ นํ้า [ทะเล]. อุท เปน บทหนา ธา ธาตุ ในความ ทรง เปนกตั ตุรปู กัตตุสาธนะ. สนธฺ ยิ ตี - ติ สนธฺ ิ. [วาจาใด] อันเขาตอ , เหตุนนั้ [วาจาน้ัน] ชื่อวาอนั เขาตอ. ส เปนบทหนา ธา ธาตุ ในความตอ , เอานคิ คหิต เปน นฺ ดว ยนคิ คหิตสนธิ (๓๒), เปนกัมมรปู กมั มสาธนะ. นธิ ิยตี - ติ นิธ.ิ สมบตั ิใด อันเขาฝง ไว, เหตุน้ัน [สมบัตนิ ้นั ] ชอื่ วาอันเขาฝงไว. นิ เปน บทหนา ธา ธาตุ ในความ ฝงไว.
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ วจีวภิ าค ภาคที่ ๒ อาขยาต และ กิตก - หนา ที่ 199 ณ. กมฺม กโรตี-ติ กมมฺ กาโร. [ผใู ด] ยอ มทาํ ซ่ึงกรรม. เหตุนนั้ [ผนู ั้น] ชอ่ื วา ผทู ําซึ่งกรรม. กมมฺ เปน บทหนา กรฺ ธาตุ ในความ ทํา, วธิ ีพฤทธิ์ และลบ ณ ปจจยั ไดกลา วแลว ในโคตตตัทธิต (๑๐๓), เปนกัตตุรปู กัตตุสาธนะ. รชุ ชฺ ตี - ติ โรโค. [อาพาธใด] ยอมเสยี ดแทง, เหตนุ นั้ [อาพาธนั้น] ช่อื วา ผเู สยี ดแทง. รุชฺ ธาตุ ในความ เสียดแทง. เอา ชฺ เปน คฺ เพราะ ณ ปจ จยั . วหติ พฺโพ - ติ วาโห. [ภาระใด] อนั เขาพงึ นําไป, เหตนุ ้นั [ภาระน้ัน] ชอื่ วาอนั เขาพึงนําไป. วหฺ ธาตุ ในความนําไป, เปน กมั มรปู กมั มสาธนะ. ปจน ปาโก. ความหงุ ชื่อวาปากะ. ปจฺ ธาตุ ในความ หุง, ตม . เอา จฺ เปน กฺ เพราะ ณ ปจจัย เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. ทุสฺสติ เตนา - ติ โทโส. [ชนใด] ยอมประทุษรา ย ดว ย กเิ ลสนน้ั , เหตนุ ้ัน กเิ ลสน้ัน ชือ่ วา เปนเหตปุ ระทุษรา ย [แหง ชน.] ทสุ ฺ ธาตุ ในความประทุษรา ย, เปนกัตตรุ ูป กรณสาธนะ. อาวสนตฺ ิ เอตฺถา - ติ อาวาโส. [ภกิ ษุ ท.] ยอ มอาศยั อยู ในประเทศน้ัน, เหตนุ น้ั [ประเทศนน่ั ] ชอ่ื วาเปน ท่ีอาศยั อยู [แหง ภกิ ษุ ท.] อา เปนบทหนา, วสฺ ธาตุ ในความ อยู, เปนกัตตุรปู อธิกรณสาธนะ.
Search