คมู่ อื การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พูชา จัดทำโดย กรมสง่ เสริมการส่งออก กระทรวงพาณชิ ย์
หนังสือช่อื : คมู่ ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พชู า ชือ่ ผแู้ ตง่ : กรมสง่ เสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ปที ีแ่ ตง่ : ตลุ าคม 2554 จำนวนทพ่ี มิ พ์ : 2,000 เล่ม จำนวนหนา้ : 104 หน้า ISBN : 978-974-9915-88-2 พมิ พท์ ่ี : สำนักขา่ วพาณิชย์ กรมสง่ เสริมการสง่ ออก 22/77 ถนนรชั ดาภเิ ษก แขวงจนั ทรเกษม เขตจตจุ กั ร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (662) 511 5066 - 77 ต่อ 382, 384 โทรสาร (662) 513 6413 ค่มู ือ การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พชู า กรมสง่ เสริมการส่งออก กระทรวงพาณชิ ย์ 44/100 ถนนนนทบรุ ี 1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวดั นนทบรุ ี 11000 โทร. (662) 507 7999 โทรสาร (662) 507 7722, (662) 547 5657 - 8 เวบ็ ไซต์ : http://www.depthai.go.th
คำนำ ข้อมูลที่ถูกต้องทันสมัยเป็นหน่ึงในปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจ กรมสง่ เสรมิ การสง่ ออกจงึ ไดม้ อบหมายใหส้ ำนกั พฒั นาการตลาดระหวา่ งประเทศ จดั ทำหนงั สอื คมู่ อื การคา้ และการลงทนุ รายประเทศขน้ึ เพอ่ื ใหน้ กั ธรุ กจิ ผสู้ ง่ ออก และนักลงทุนไทยรวมถึงผู้สนใจทั่วไปได้มีโอกาสใช้ประโยชน์จากหนังสือเล่มน้ี อยา่ งเต็มที่ “คู่มือ การค้าและการลงทุน ราชอาณาจักรกัมพูชา” ประกอบด้วย สาระน่าร้เู ก่ยี วกับทิศทางการค้าและการลงทุนในประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา ตลอดจนเกร็ดน่ารู้เก่ียวกับธรรมเนียมปฏิบัติในการติดต่อธุรกิจซ่ึงรวบรวมจาก สำนกั สง่ เสรมิ การคา้ ในตา่ งประเทศ เพม่ิ เตมิ ดว้ ยขอ้ มลู จากแหลง่ อน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยตรงเพือ่ ให้ได้เน้ือหาทค่ี รบถ้วนสมบรู ณ์ นำไปใชป้ ระกอบการตัดสนิ ใจใน การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และกำหนดกลยทุ ธ์ในการดำเนินธุรกิจไดอ้ ยา่ ง รู้เท่าทัน ส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยสามารถใช้ประโยชน์จากกฎระเบียบและข้อ ตกลงทางการค้าต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่า ทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับ กระแสการเปลย่ี นแปลงของเศรษฐกจิ โลกโดยเฉพาะการกา้ วสกู่ ารเปน็ ประชาคม เศรษฐกิจอาเซยี น (ASEAN Economic Community - AEC) ในปี 2558 ทา้ ยท่สี ดุ ขอขอบคณุ ทุกฝา่ ยทมี่ ีส่วนเกีย่ วขอ้ งและสนับสนุนให้การ จดั ทำหนงั สอื “คมู่ อื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา” สำเร็จลลุ ่วง ด้วยดี สำนกั พฒั นาการตลาดระหวา่ งประเทศ กรมสง่ เสริมการสง่ ออก
สารบัญ หนา้ เรอ่ื ง 1 1. ขอ้ มลู พน้ื ฐาน 1 1 1.1 สภาพภมู ปิ ระเทศ 2 1.2 สภาพภมู อิ ากาศ 5 1.3 เมอื งหลวง/เมอื งสำคญั /เมอื งทา่ 5 1.4 การแบง่ เขตการปกครอง 7 1.5 ระบบการปกครอง 8 1.6 ประชากร/สงั คม/วฒั นธรรม 8 1.7 ภาษา 8 1.8 สกลุ เงนิ 8 1.9 เวลา 9 1.10 วนั หยดุ นกั ขตั ฤกษ ์ 14 1.11 เสน้ ทางคมนาคม 17 1.12 ระบบการเงนิ และการธนาคาร 17 1.13 อน่ื ๆ - การเปน็ สมาชกิ ขององคก์ รระหวา่ งประเทศ 18 2. เศรษฐกจิ การคา้ 18 19 2.1 ภาวะเศรษฐกจิ 21 2.2 เครอ่ื งชว้ี ดั เศรษฐกจิ สำคญั 23 2.3 นโยบายดา้ นการคา้ ตา่ งประเทศ 25 2.4 การคา้ ระหวา่ งประเทศ 27 2.5 การคา้ กบั ประเทศไทย 27 - การคา้ ชายแดนไทย-กมั พชู า 29 2.6 กฎระเบยี บการนำเขา้ 32 2.7 โอกาสทางการคา้ และปญั หาอปุ สรรค 2.8 ระบบโลจสิ ตกิ สก์ ารขนสง่ สนิ คา้
3. รายงานภาวะอตุ สาหกรรม 34 4. การลงทนุ 36 4.1 การลงทนุ จากตา่ งประเทศ 36 4.2 กฎระเบยี บการลงทนุ /นโยบายสง่ เสรมิ การลงทนุ 40 - การลงทนุ ในเขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ 48 4.3 ภาษ ี 53 4.4 ตน้ ทนุ การจดั ตง้ั ธรุ กจิ 64 4.5 อน่ื ๆ 65 - กฎหมายแรงงาน 65 - กฎหมายทด่ี นิ 68 5. ขอ้ มลู อน่ื ๆ ทจ่ี ำเปน็ ในการลงทนุ 69 5.1 รปู แบบการประกอบธรุ กจิ และการจดทะเบยี น 69 5.2 การจดทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา 74 5.3 การยา้ ยถน่ิ ฐานและการโอนสญั ชาต ิ 76 5.4 ขอ้ พพิ าทและบทลงโทษ 77 6. คำถามทถ่ี ามบอ่ ยเกย่ี วกบั การคา้ การลงทนุ 78 7. หนว่ ยงานตดิ ตอ่ ทส่ี ำคญั 80 บรรณานกุ รม 94
ราชอาณาจกั รกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) 1.ข อ้ มลู พน้ื ฐาน 1.1 สภาพภมู ปิ ระเทศ ตง้ั อย่ใู นภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ม ีพน้ื ท่ี 1 81,035 ต ารางกโิ ลเมตร (หรอื ประมาณ 1 ใน 3 ข องพน้ื ท่ปี ระเทศไทย) พ รมแดนทางทศิ ใต้จรดกบั อา่ ว ไทย ท ศิ ตะวนั ตกตดิ กบั จงั หวดั สระแกว้ จ นั ทบรุ ี แ ละตราด แ ละทศิ เหนอื ตดิ กบั จงั หวดั อบุ ลราชธานี ศ รสี ะเกษ ส รุ นิ ทร์ แ ละบ รุ รี มั ย์ แ ละล าว ทศิ ตะวนั อ อกต ดิ ก บั เวยี ดนาม (ช ายแดนต ดิ ก บั ล าว 5 41 ก ม., ไทย 8 03 ก ม. แ ละเวยี ดนาม 1 ,228 ก ม. โดยม ชี ายฝง่ั ทะเล ยาว 4 43 ก ม.) สว่ นใหญเ่ ปน็ ท ร่ี าบ ป ระกอบด ว้ ยท ร่ี าบรอบท ะเลสาบ เขมร แ ละทร่ี าบลมุ่ แมน่ ำ้ โขง มที วิ เขาลอ้ มรอบทางเหนอื ค อื เทอื กเขาพนมดงรกั เทอื กเขาบ รรทดั เทอื กเขาอ นั น มั ก มั พชู า ม ลี กั ษณะภ มู ปิ ระเทศค ลา้ ยช ามห รอื อ า่ ง ค อื ต รง กลางเปน็ แอง่ ทะเลสาบและล มุ่ แ มน่ ำ้ โขงอ นั ก วา้ งข วาง ม ภี เู ขา ลอ้ มรอบอยู่ 3 ด า้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นตะวนั ออกมแี นวเทอื กเขาอนั นมั ทเ่ี ปน็ พรมแดน กบั ป ระเทศเวยี ดนาม ดา้ นเหนอื แ ละต ะวนั ต กเฉยี งเหนอื ม แี นวเทอื กเขาพนม ดงรกั ท เ่ี ปน็ พรมแดนกบั ประเทศไทย ด้านใต้และตะวันตกใต้มีแนวเทือกเขาบรรทัดท่ีเป็นแนวพรมแดนกับ ประเทศไทย เฉพาะดา้ นตะวนั อ อกเฉยี งใตเ้ ทา่ นน้ั ท เ่ี ปน็ ท ร่ี าบล มุ่ แ มน่ ำ้ โขง 1.2 สภาพภ มู อิ ากาศ รอ้ นช น้ื ม ฤี ดฝู นย าวนาน ฤ ดฝู นเรม่ิ จ ากเดอื นพ ฤษภาคม-ต ลุ าคม อ ณุ หภมู โิ ดย เฉลย่ี 2 0 – 3 6 อ งศาเซลเซยี ส อ ณุ หภมู เิ ฉลย่ี ในก รงุ พ นมเปญ 2 7 อ งศาเซลเซยี ส ฤดูแลง้ เรม่ิ จากเดอื นพฤศจกิ ายน-เมษายน เดอื นเมษายนมีอณุ หภมู ิสงู สดุ ทส่ี ดุ เดอื นมกราคมม อี ณุ หภมู ติ ำ่ ท ส่ี ดุ เดอื นตลุ าคมม ฝี นต กช กุ ท ส่ี ดุ คู่มอื การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พูชา 1 สส
1.3 เมอื งหลวง/เมอื งสำคญั /เมอื งทา่ เมอื งห ลวง เมอื งหลวงคอื ก รงุ พ นมเปญ ม ปี ระชากรประมาณ 2 ล า้ นค น ม เี นอ้ื ทท่ี ง้ั หมด 1,963.2 ต ารางก โิ ลเมตร ถ กู ล อ้ มรอบด ว้ ยจ งั หวดั ก นั ดาล นอกจากน ย้ี งั เปน็ ศ นู ยก์ ลาง แหลง่ อตุ สาหกรรมและพาณชิ ยกรรมหลกั รวมไปถงึ เปน็ ศนู ยก์ ลางของการเมอื ง วัฒนธรรม แ ละศูนย์ราชการของประเทศ อ ีกท้งั พนมเปญยังมีช่อื เสียงในฐานะ ท่ีมีสถาปัตยกรรมแบบเขมรด้งั เดิม รวมท้งั มีอุตสาหกรรมการผลิตเคร่อื งน่งุ ห่ม สง่ิ ท อ แ ละรองเทา้ เปน็ ศนู ยก์ ระจายสนิ คา้ ไปท ว่ั ป ระเทศ ม โี ครงการเขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ ตง้ั อยหู่ า่ งจากทา่ อากาศยานนานาชาตกิ รงุ พนมเปญ 8 ก โิ ลเมตร การเดนิ ทางในพ นมเปญใชร้ ถต กุ๊ ต กุ๊ แ ละรถจ กั รยานยนตเ์ ปน็ ห ลกั เ ปน็ ท ต่ี ง้ั ข องม หาวทิ ยาลยั พนมเปญ ซ ่งึ เป็นสถาบันการศึกษาท่ีเก่าแก่และใหญ่ท่สี ุดของประเทศกัมพูชา กอ่ ต ง้ั เมอ่ื ปี ค .ศ . 1 960 เปน็ ส ถาบนั ทเ่ี ปดิ ส อนทางด า้ นวทิ ยาศาสตร์ ส งั คมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ แ ละภาษาตา่ งประเทศ ชาวกมั พชู าก บั รถจกั รยานยนตซ์ ง่ึ เปน็ ทน่ี ยิ มในข ณะน ้ี สภาพบา้ นเรอื นในกรงุ พ นมเปญ 2 ค่มู ือ การค้าและการลงทุน ราชอาณาจกั รกมั พูชา
เมอื งสำคญั ไดแ้ ก่ 1. จังหวัดพระสีหนุ เป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมมากท่สี ุดของประเทศ กมั พชู า ห า่ งจาก ก รงุ พ นมเปญ 2 46 ก โิ ลเมตร ไปท างต ะวนั ตกเฉยี งใต้ ม ปี ระชากร ประมาณ 2 00,000 ค น มชี ายหาดทง้ั หมด 5 แ หง่ หาดทส่ี วยทส่ี ดุ ค อื ห าดส ขุ า แ ละ หาดโอจอื เตยี ล (O ccheuteal) ทะเลสาบบงึ กาก (Bฺ oeng Kak Laks) ชายหาดท ส่ี วยงามในเมอื งพระสหี นวุ ลิ ล์ 2.จ งั หวดั เสยี มราฐ(เสยี มเรยี บ) เปน็ จ งั หวดั ห นง่ึ ในป ระเทศก มั พชู า ต ง้ั อ ยทู่ างต ะวนั ต กเฉยี งเหนอื ข องป ระเทศ อยรู่ มิ ฝง่ั ทะเลสาบเขมร ห า่ งจากกรงุ พ นมเปญ 3 14 ก โิ ลเมตร โดยใชเ้ วลาเดนิ ทาง ดว้ ยรถยนตป์ ระมาณ 5 ช ว่ั โมง ป จั จบุ นั น้ี จ งั หวดั เสยี มราฐเปน็ ทร่ี จู้ กั ดใี นฐานะเปน็ ทต่ี ง้ั ของนครวดั แ ละยงั มี สถานท ท่ี อ่ งเทย่ี วโดดเดน่ อ กี อ าทิ ห มปู่ ราสาทห นิ จ ากอ าณาจกั รข อม ไดแ้ ก่ ป ราสาท คู่มอื การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พูชา 3 สส
นครวดั , ก ลมุ่ ป ราสาทนครธม, (ตาพรหม แ ละบ ายน, บ นั ท ายศ ร,ี บ ากอง, โลเลย , พนมบาเคง็ , พ นมกเุ ลน แ ละ บ ารายต ะวนั ตก เมอื งเอกของจงั หวดั น้ี (เทยี บไดก้ บั อำเภอเมอื งในจงั หวดั ของไทย) ก ม็ ชี อ่ื วา่ เสยี ม ราฐ เชน่ ก นั โดยเมอื งเสยี ม ราฐน เ้ี ปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทส่ี ำคญั ทส่ี ดุ ข องป ระเทศ กมั พชู า แ ตล่ ะป มี นี กั ท อ่ งเทย่ี วไปเยย่ี มชมน ครวดั ป ระมาณ 1 ,600,000 ค น 3. จ งั หวดั พระต ะบอง จงั หวดั พระตะบองเปน็ จงั หวดั ท ม่ี คี วามส ำคญั ท างป ระวตั ศิ าสตรข์ องประเทศ กมั พชู า มแี หลง่ ท อ่ งเทย่ี วท างประวตั ศิ าสตรม์ ากมาย ไดแ้ ก่ ป ราสาทตา่ งๆ ไดแ้ ก่ Prasat E kphnom, P rasat B anan, P rasat B aset, P rasat S teung K hangkeut, Prasat S teung K hanglech น อกจากนย้ี งั มแี หลง่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ ธรรมชาติ ไดแ้ ก่ Angkampingpuoy, P hnomompov, S eksak, S teungkrahnuong, B anteay- slabchirang, P ichchenda, D angtung, P hnomkdoang แ ละ C hamlangkuoy อกี ทง้ั เปน็ แหลง่ ป ลกู ข า้ วทส่ี ำคญั ของก มั พชู าดว้ ย จงั หวดั พระตะบอง 4 ค่มู ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พชู า
4. จงั หวดั เกาะก ง มชี อ่ื เสยี งแ ละเปน็ ท ร่ี จู้ กั ด ขี องค นไทย เนอ่ื งจากเปน็ เมอื งท เ่ี ปดิ ใหม้ กี ารป ระกอบ การดา้ นคาสิโนได้อยา่ งไม่ผดิ กฎหมาย โดยจงั หวดั น้มี ีลกั ษณะการปกครองแบบ พเิ ศษ ก ลา่ วค อื อ นญุ าตใหน้ กั ล งทนุ ม าล งทนุ ไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี 5.จ งั หวดั กมั ปงจ าม เปน็ แหลง่ ผลติ ยางพารา เงาะ ม งั คดุ ท เุ รยี น ม ะมว่ งหมิ พานต์ แ ละพชื ไร่ ไดแ้ ก่ ข า้ วโพดเลย้ี งสตั ว์ ม นั สำปะหลงั ถ ว่ั เหลอื ง ถ ว่ั เขยี ว แ ละงา อ ย่หู า่ งจาก กรงุ พนมเปญ 1 23 ก โิ ลเมตร 1.4ก ารแบง่ เขตการปกครอง การปกครองแ บง่ เขตการปกครองเปน็ ราชธานี 1 แ หง่ ค อื ราชธานพี นมเปญ จงั หวดั 2 3 จ งั หวดั ก รงุ 2 6 แ หง่ อ ำเภอ 1 59 แ หง่ ข ณั ฑ์ (ห รอื เขต) 8 แ หง่ ต ำบล 1,417 ต ำบล แ ขวง 2 04 แ ขวง เขตการปกครอง ท ป่ี รบั ใหมไ่ ดแ้ ก่ (1) ยกเขตกรงุ 3 แ หง่ ใหเ้ ปน็ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จ งั หวดั พระสหี นุ จงั หวดั แกบ และ จ งั หวดั ไพลนิ (2 ) ตง้ั กรงุ ใหมเ่ ทยี บเทา่ อำเภอจำนวน 3 แ หง่ ไดแ้ ก่ ก รงุ ปอยเปต จ งั หวดั บนั เตยี เมยี นเจย ก รงุ ซว งไค จ งั หวดั ก มั ปงจาม แ ละ ก รงุ บ าวติ จ งั หวดั สวายเรยี ง (3 ) เปลย่ี นอำเภอเมอื งเปน็ ก รงุ ต ง้ั อ ำเภอ แ ละ ข ณั ฑ์ (ต ำบล) ใหมห่ ลายแ หง่ ทน่ี า่ สนใจค อื ก ารต ง้ั ก รงุ พระวหิ าร แ ยกออกม าจากอำเภอต ะแ บงเมยี น เจย 1.5ระบบการปกครอง ปกครองระบอบป ระชาธปิ ไตย ม พี ระม หาก ษตั รยิ เ์ ปน็ ป ระมขุ ภ ายใตร้ ฐั ธรรมนญู ซง่ึ พ ระมหาก ษตั รยิ ์ ค อื พ ระบาทส มเดจ็ พระบรมนาถ น โรดม ส หี ม นุ ี โดยม สี มเดจ็ อคั รม หาเสนาบดี เดโช ฮ นุ เซน เปน็ นายกรฐั มนตรี คูม่ อื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกัมพชู า 5 สส
ก มั พชู า (C ambodia) ห รอื ช อ่ื ท างการค อื ราชอาณาจกั รก มั พชู า (K ingdom of C ambodia) ประมุขรัฐ – พ ระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม ส ีหโมนี (Preah B at Samdech P reah B aromneath N orodom S ihamoni) โดยไดร้ บั ก ารค ดั เลอื ก จากสภาราชบลั ลงั กใ์ หข้ น้ึ ครองราชยเ์ มอ่ื วนั ท ่ี 1 4 ต ลุ าคม 2 547) รฐั บาล รฐั บาลผสมระหวา่ งพรรคประชาชนกมั พชู า (Cambodian P eople’s Party: C PP) ก บั พ รรค ฟนุ ซนิ เปค (F ront U ni N ational p our u n C ombodge Independent, Neutre, Pacifique et Cooperatif : FUNCINPEC) มีการจัดการเลือกต้ังท่ัวไปเม่ือ 27 กรกฎาคม 2546 ปรากฏว่ามี พรรคการเมอื งท่ชี นะการเลอื กตง้ั และไดร้ บั การจดั สรรทน่ี ง่ั ในสภาแหง่ ชาติ ไดแ้ ก่ พรรค C PP ได้ 7 3 ท ่นี ง่ั พ รรค F UNCINPEC ได้ 2 6 ท ่นี ง่ั แ ละพรรคสมรงั สี (S am R ainsy P arty: S RP) ได้ 2 4 ท น่ี ง่ั โดยสามารถจดั ตง้ั รฐั บาลผ สมไดเ้ มอ่ื วนั ท่ี 15 ก รกฎาคม 2 547 สภานติ บิ ญั ญตั ิ สภาผ้แู ทนราษฎร ป ระกอบดว้ ยสมาชิก 1 23 ค น ม าจากการเลือกต้งั โดยระบบสดั สว่ นต ามบ ญั ชรี ายชอ่ื ทพ่ี รรคการเมอื งเสนอ ม วี าระการดำรงต ำแหนง่ คราวละ 5 ป ี ม สี มเดจ็ กรมพระนโรดม ร ณฤทธ์ิ เปน็ ประธานสภาแหง่ ชาติ แ ละ มีสมเดจ็ เฮง ส มั รนิ เปน็ รองประธานคนท่หี นง่ึ และนายงวน ย ลึ เปน็ รองประธาน คนท ส่ี อง วุฒิสภา ป ระกอบด้วยสมาชิก 6 1 ค น ม าจากการเลือกต้งั (กษัตริย์ ทรงแต่งต้งั 2 ค น) ท ำหน้าท่ีกล่นั กรองกฎหมาย ด ำรงตำแหน่งคราวละ 6 ป ี (ยกเว้นวุฒิสมาชิกชุดแรก ซ ่งึ รัฐธรรมนูญมีบทเฉพาะกาลให้มาจากการแต่งต้งั และดำรงตำแหน่งในวาระ 5 ปี) สมเด็จเจีย ซิม เป็นประธานวุฒิสภา และมีพระองค์เจ้าศรีสวัสด์ิ ชีวันมณีรักษ์ เป็นรองประธานคนท่ีหน่ึงและ นายพอ บ นุ ส เรอ เปน็ รองประธานคนท ส่ี องโครงสรา้ งการบรหิ าร ม กี ระทรวงห ลกั 2 6 ก ระทรวง ไดแ้ ก่ (1 ) ส ำนกั น ายกรฐั มนตรี (2 ) ก ลาโหม (3 ) ม หาดไทย (4 ) ป ระสานงานก บั รฐั สภาแ ละก ารป อ้ งกนั ก ารท จุ รติ ป ระพฤตมิ ชิ อบ ในว งราชการ (5) ก ารตา่ งป ระเทศแ ละค วามรว่ มม อื ระหวา่ งป ระเทศ (6 ) เศรษฐกจิ และการค ลงั (7 ) ข า่ วสาร (8) ส าธารณสขุ (9) อ ตุ สาหกรรม เหมอื งแ ร่ แ ละพ ลงั งาน (1 0) ว างแผน (1 1) พ าณชิ ย์ (1 2) ศ กึ ษาธกิ าร เยาวชน แ ละการก ฬี า (1 3) เกษตร ป า่ ไม้ และก ารประมง (14) วฒั นธรรมและศ ลิ ปากร (15) ส ง่ิ แ วดลอ้ ม (16) พ ฒั นาชนบท (17) แ รงงานและการฝกึ ฝนอาชพี (18) ไปรษณยี แ์ ละโทรคมนาคม (19) ศ าสนา (2 0) ก จิ การสตรี (2 1) ก ระทรวงก จิ การสงั คมแ ละท หารผา่ นศกึ (2 2) โยธาธกิ ารและ 6 ค่มู ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา
การขนสง่ (23) ย ตุ ธิ รรม (2 4) ก ารทอ่ งเทย่ี ว (2 5) พ ฒั นาผงั เมอื งแ ละการกอ่ สรา้ ง (26) ช ลประทาน แ ละอกี 2 ส ำนกั งานอสิ ระ (เทยี บเทา่ ทบวง) ไดแ้ ก่ ส ำนกั งาน การบ นิ พลเรอื น แ ละส ำนกั งานข า้ ราชการพลเรอื น พรรคการเมอื งทส่ี ำคญั – พ รรคประชาชนก มั พชู า (Cambodian P eople’s Party: C PP) พ รรคฟนุ ซ นิ เปค (F UNCINPEC) พ รรคสมรงั สี (Sam R ainsy P arty: SRP) 1 .6 ประชากร/ส งั คม/ว ฒั นธรรม ประชากร จ ำนวน 1 4.7 ล า้ นค น เชอ้ื ชาติ ก มั พชู า 9 6% ม สุ ลมิ 2 .2% เวยี ดนาม 0 .4% จ นี 0 .2 % และทเ่ี หลอื เปน็ ชนกล มุ่ น อ้ ยหรอื ช าวเขารวม 1 7 เผา่ ศาสนา พ ทุ ธ 9 5% อ น่ื ๆ 5 % ส งั คมแ ละวฒั นธรรม ในป ระเทศกมั พชู า ม กี ารทำบญุ ประเพณชี าตติ า่ งๆ เหมอื นกบั เมอื งไทย เชน่ ก นั เชน่ วนั ส งกรานต์ เรม่ิ จากวนั ท่ี 1 3 เดอื นเมษายน ถ งึ 1 5 เมษายน ป ระเพณี วนั ลอยก ระทง ช ว่ งส น้ิ เดอื นต ลุ าคม แ ละอ กี ม ากมาย วธิ บี ญุ ต า่ งๆ จ ดั ข น้ึ ท กุ ๆ ป ี เพอ่ื ให้ ลกู หลานไดร้ จู้ กั ป ระเพณวี ฒั นธรรมอ นั ดงี ามของชาวก มั พชู าท ม่ี มี าตง้ั แ ตย่ าวนาน พระราชพธิ บี ญุ แขง่ เรอื ประเพณกี ารท ำขวญั ข องชาวเขมร คมู่ ือ การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจกั รกมั พูชา 7 สส
การแ ตง่ ก ายของชาวเขมร ช าย ใสเ่ สอ้ื คอกลมผา่ ห นา้ น งุ่ โสรง่ ส สี นั ตา่ งๆ ผ า้ ข าวมา้ คาดพ งุ ห รอื ค ลอ้ งไหล่ หญงิ น งุ่ ผ า้ ถงุ ล ายต ง้ั ม เี ชงิ ต ามข วางส องช น้ั ส ว่ นบ นก วา้ งส ว่ นล า่ งแ คบ ระหวา่ งรอย ตอ่ ค าดด ว้ ยสแี ดง เ สอ้ื ด ำย อ้ มดว้ ยมะเกลอื แ ขนก ระบอกรดั รปู ตามรอยตะเขบ็ ถ กั ดว้ ยสตี า่ งๆ ช ายเสอ้ื ผา้ ข า้ งทง้ั ส องด า้ นยาวประมาณ 6 น ว้ิ ก ระดมุ ก ลมทำด ว้ ยเงนิ มผี า้ คลอ้ งไหลเ่ ปน็ ส ดี ำหรอื ส ตี า่ งๆ ถ า้ คลอ้ งคอน ยิ มห ยอ่ นม าดา้ นห นา้ ห รอื นงุ่ โจง กระเบนคาดอ กด ว้ ยผ า้ แถบ การแตง่ ก ายของช าวเขมร สตรชี าวเขมรกบั ก ารแตง่ กายแ บบดง้ั เดมิ 1.7ภาษา ภ าษาเขมรเปน็ ภ าษาราชการ ส ว่ นภ าษาท ใ่ี ชโ้ ดยทว่ั ไป ไดแ้ ก่ อ งั กฤษ ฝ รง่ั เศส เวยี ดนาม ไทยแ ละจนี 1.8สกลุ เงนิ สกลุ เงนิ – เรยี ล อ ตั ราแ ลกเปลย่ี นราว 4 ,000 เรยี ลตอ่ ด อลลารส์ หรฐั ฯ หรอื ประมาณ 1 00 เรยี ลตอ่ 1 บ าท 1.9เวลา เวลาต รงกบั ประเทศไทย 1.10ว นั หยดุ น กั ขตั ฤ กษ์ ว นั หยดุ ประจำปขี องทางราชการก มั พชู า วนั ท ่ี 1 ม กราคม วนั ปใี หมส่ ากล วนั ท่ี 7 ม กราคม วนั ชยั ชนะต อ่ ระบบพล พ ต เขมรแดง วนั ท ่ี 2 1 กมุ ภาพนั ธ์ เทศกาลบญุ มาฆบชู า วนั ท ่ี 8 มนี าคม วนั ส ตรสี ากล 8 ค่มู อื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พูชา
วนั ท ่ี 1 3-1 5 เมษายน เทศกาลวนั ข น้ึ ป ใี หมเ่ ขมรป ระเพณขี องชาติ วนั ท่ี 1 9 พฤษภาคม เทศกาลวนั วสิ าขบ ชู า วนั ท ่ี 2 3 พ ฤษภาคม พระราชพธิ บี ญุ จ รดพ ระนงั คลั แรกนาข วญั วนั ท่ี 1 8 ม ถิ นุ ายน พระราชพิธีบุญเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ พระม หาก ษตั รยี พระวรราชม ารดา น โรดม ม นุ นี าถ สหี นุ วนั ท่ี 2 4 ก นั ยายน วนั รฐั ธรรมนญู วนั ท่ี 2 8-3 0 ก นั ยายน เทศกาลงานวนั สารท์ วนั ท ่ี 2 9 ต ลุ าคม พระราชพิธีงานวันครองราชสมบัติของพระบาท ส มเดจ็ พ ระบรมน าถ น โรดม ส หี ม นุ ี พ ระม หาก ษตั รยิ ์ แหง่ ราชอาณาจกั รกมั พชู า วนั ท ่ี 9 พฤศจกิ ายน วนั เอกราช วนั ท ่ี 1 1-13 พ ฤศจกิ ายน พระราชพ ธิ บี ญุ แ ขง่ เรอื ล อยก ระทงไฟ ไหวพ้ ระจนั ทร์ และก นิ ขา้ วเมา่ วนั ท่ี 1 0 ธนั วาคม วนั สทิ ธมิ นษุ ยช นโลก 1.11เสน้ ทางค มนาคม ทางอ ากาศ สืบเน่อื งจากนโยบายการเปิดน่านฟ้าของรัฐบาลกัมพูชา ส ่งผลให้มี สายก ารบนิ มงุ่ ส ปู่ ระเทศเพม่ิ ขน้ึ ข ณะนม้ี สี ายการบนิ น านาชาตทิ บ่ี นิ ต รงส สู่ นามบนิ นานาชาติพนมเปญ แ ละสนามบนิ นานาชาติเสยี มเรยี บ ส ว่ นสนามบนิ นานาชาติ กางเกง็ (จ .พ ระส หี น)ุ ป รบั ปรงุ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยพ รอ้ มเปดิ ใหบ้ รกิ ารส ำหรบั ส ายก ารบ นิ ระหวา่ งประเทศ ส ว่ นส นามบนิ กรงั เลยี ง จ .ก มั ป งช ะนงั จ ะใชเ้ ปน็ สนามบ นิ สำหรบั ขนสง่ ส นิ คา้ แ ละสนามบนิ เกาะกงอยรู่ ะหวา่ งก ารปรบั ปรงุ หมายเหต:ุ สนามบ นิ นานาชาตพิ นมเปญ เสยี มเรยี บ แ ละพ ระสหี นุ อ ยู่ ภายใตก้ ารบรหิ ารและจ ดั การข อง C ambodia A irport S ervices L td. (C AMS) ซ ง่ึ เปน็ บรษิ ทั ในเครอื ของบรษิ ทั รว่ มทนุ ระหวา่ งฝรง่ั เศสและม าเลเซยี ห รอื S CA ซ ง่ึ ได้ รบั ส มั ปทาน โครงการรปู แ บบ B OT ทางบ ก ถ นนในก มั พชู า ม คี วามย าวรวมกนั ประมาณ 3 9,704 ก โิ ลเมตร แ ยกเปน็ ทางหลวง 5 ,263 ก โิ ลเมตร แ ละถนนสายจ งั หวดั 6 ,441 ก โิ ลเมตร แ ละถ นนส าย ชนบท ป ระมาณ 2 8,000 ก โิ ลเมตร ธนาคารพฒั นาเอเชยี (Asian D evelopment B ank- A DB) ไดท้ ำการ ศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาด้านต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Makong S ubregion : GMS) ซ ง่ึ ประกอบด ว้ ยสมาชกิ 6 ป ระเทศ ค อื ไทย ล าว กมั พชู า เวยี ดนาม พ มา่ แ ละประเทศจนี ต อนใต้ (ม ณฑลย นู นาน) ในสว่ นข องการ ค่มู อื การค้าและการลงทุน ราชอาณาจักรกัมพชู า 9 สส
พฒั นาดา้ นคมนาคมทางบ กเกย่ี วกบั ท างหลวง A DB ไดก้ ำหนดรวม 1 0 ส ายท าง โดยม เี สน้ ทางทเ่ี กย่ี วขอ้ งก บั ป ระเทศไทย - ก มั พชู า ด งั น้ี (1 .)C entralsub-C orridor ห รอื เสน้ ท างR 1 ก รงุ เทพฯ-ก รงุ พ นมเปญ-น คร โฮจ มิ นิ ต-์ วงั เตา - ในส ว่ นข องไทยค อื จ ากก รงุ เทพฯไปต ามท างหลวงห มายเลข 3 3 มงุ่ สู่ ฉ ะเชงิ เทรา - ก บนิ ทรบ์ รุ ี - อ รญั ประเทศ ร ะยะทางประมาณ 3 10 ก โิ ลเมตร ใน สว่ นข องก มั พชู า ค อื จ ากจ ดุ ผ า่ นแ ดนถ าวรค ลองล กึ -ป อยเปต (เปดิ เมอ่ื 2 5 ก มุ ภาพนั ธ์ 2541) เขา้ ส เู่ ขตแดนก มั พชู าระยะท างป ระมาณ 4 20 ก โิ ลเมตร (เสน้ ท างระเบยี งด า้ น ใตน้ ส้ี ามารถเชอ่ื มตอ่ กบั เสน้ ท างหมายเลข 5 ข องกมั พชู า ผ า่ นจงั หวดั บนั เตยี เมยี เจย พ ระตะบอง โพธสิ ตั ก มั ป งชะน งั เขา้ สกู่ รงุ พ นมเปญ ระยะทางประมาณ 4 20 กโิ ลเมตร (เสน้ ทางระเบยี งดา้ นใตน้ ส้ี ามารถเชอ่ื มต อ่ ก บั เสน้ ทางหมายเลข 6 จาก กรงุ พนมเปญ-จงั หวดั กมั ปงธม-เสยี มเรยี บ - บนั เตยี เมยี นเจย-ปอยเปต รวมระยะ ทาง 1 50 ก โิ ลเมตร) จากกรงุ พนมเปญเชอ่ื มตอ่ ดว้ ยเสน้ ทางหมายเลข 1 ผ า่ นจงั หวดั กนั ดาล ไป ขา้ มแ มน่ ำ้ โขงท เ่ี นย๊ี กเลอื ง จ งั ห วดั ไปรเวง สจู่ งั หวดั ส วายเรยี ง จ รดช ายแดนกมั พชู า- เวยี ดนามทด่ี า่ นบาเวต (B avet) ระยะทางประมาณ 1 20 ก โิ ลเมตร ในสว่ นข องเวยี ดนาม ค อื จ ากจดุ ผ า่ นแ ดนถาวร บ าเวต-ห มกบา่ ย (Moc B ay) จ งั หวดั เตน นิ ห์ ป ระเทศเวยี ดนาม ต ามเสน้ ท างห มายเลข 2 2 ป ลายท างน ครโฮจ มิ นิ ห์ ระหวา่ งทางมเี สน้ ทางแยกไปทางหมายเลข 5 1 เพอ่ื ไปเมอื งหวงุ เตา่ (Vung T au) รมิ ทะเลจนี ใต้ซง่ึ เปน็ ทง้ั เมอื งทา่ และเมอื งตากอากาศ ว งั เตา ร ะยะทางประมาณ 140 ก โิ ลเมตร (2.) The Southern Coastal sub- Corridor ห รอื เสน้ ทาง R10 เส้นทางเลียบชายฝ่งั ทะเล ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม (ตราด-เกาะกง-กัมปงโสม- กมั ป อต-Ha T ien, C a M au a nd N am C an ท เ่ี วยี ดนาม) เปน็ เสน้ ท างเชอ่ื มต อ่ ภายใตย้ ทุ ธศาสตรค์ วามรว่ มม อื ท างเศรษฐก จิ อ ริ ะวด -ี เจา้ พระยา-แ มโ่ ขง (A CMECS): “ เสน้ ทางแ นวช ายทะเล” (Coastal R oute) เสน้ ท างเรม่ิ จากจ งั หวดั ตราด (ไทย) - เกาะกง (กมั พชู า) - อ .สะแรอ มั เบลิ -ส หี นวุ ลิ ล์ - ค าเมา (เวยี ดนาม) ไทยใหค้ วาม ชว่ ยเหลอื กมั พชู าพฒั นาเสน้ ทางหมายเลข 48 จ ากจดุ ผา่ นแดนถาวรบา้ นหาดเลก็ อำเภอคลองใหญ่ จ งั หวดั ตราด-บา้ นจามเยย่ี ม อ ำเภอมณฑลสมี า จ งั หวดั เกาะกง (เปดิ เมอ่ื 2 1 ก นั ยายน 2 540) ไปอำเภอส ะแ รอมั เบลิ จงั หวดั เกาะก ง โดยไทยให้ เงนิ ช ว่ ยเหลอื แบบใหเ้ ปลา่ ในก ารก อ่ สรา้ งส ะพานขนาดใหญ่ 4 แ หง่ 288 ลา้ นบาท และเงนิ ก เู้ งอ่ื นไขผ อ่ นป รนเพอ่ื ล าดยางถ นน 5 68 ล า้ นบ าท รวมเปน็ เงนิ 8 56 ล า้ น บาท เพอ่ื เชอ่ื มตอ่ กบั เสน้ ท างหมายเลข 4 ข น้ึ เหนอื ผา่ นจ งั หวดั ก มั ป งสะป อื ไปกรงุ พนมเปญ แ ละลงใตส้ จู่ งั หวดั พระสหี นุ ต อ่ ไปจงั หวดั กมั ปอตและตาแกว้ ต ามเสน้ ทางห มายเลข 3 10 ค่มู อื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกัมพูชา
สะพานขา้ มแมน่ ำ้ ทง้ั 4 แ หง่ เปน็ สะพานคอนกรตี เสรมิ เหลก็ รวมความยาว 1,560 เมตร ก วา้ ง 1 3 เมตร ม ีชอ่ งสำหรบั จกั รยานยนต์กวา้ ง 1 .5 เมตรและ ชอ่ งสำหรบั เดนิ เทา้ กวา้ ง 1 เมตร ส ามารถรบั นำ้ หนกั ได้ 4 2 ต นั ส รา้ งเสรจ็ เมอ่ื 20 เมษายน 2 551 ไดแ้ ก่ (1) ส ะพานสะแรอ มั เบลิ ข า้ มค ลองสะแรอ มั เบลิ (S rae A mbel) ค วามยาว 420 เมตร อ ยทู่ บ่ี า้ นบ านเตย๊ี ด ต .บงึ เปรยี ว อ .สะแ รอมั เบลิ จ .เกาะก ง (2 ) สะพานอนั โดงตก๊ึ ข า้ มคลองอนั โดงต ก๊ึ (P rek A ndongtek) ค วามย าว 270 เมตร อ ยทู่ บ่ี า้ นอนั โดงต ก๊ึ ต .อนั โดงตก๊ึ จ .เกาะกง (3 ) สะพานตรอเปยี งรงู ข า้ มคลองตะเปยี งรงู (Trapinroung) ความยาว 480 เมตร อ ยทู่ บ่ี า้ น ต รอเปยี งรงู ต .ต รอเปยี งรงู อ .เมอื งเกาะก ง (4 ) สะพานตาไต ข า้ มคลองภมู โิ ดง่ (Phumdong) ค วามยาว 3 90 เมตร อย่ทู ่บี า้ นตาไต ต .ตาไตกรอม อ .เมอื งเกาะกง เสน้ ทางน้มี ีความสำคญั ตอ่ การคา้ ชายแดน แ ละก ารท อ่ งเทย่ี วเชงิ น เิ วศน์ (E co-tourism) ต ามแ นวช ายฝง่ั ท ะเลอ า่ วไทย สทู่ ะเลจนี ใต้ ข า้ มไปเวยี ดนาม ต ามเสน้ ทางถนนไปย งั เมอื งเกยี ง ย าง (Kien G iang) หรอื ไปเกาะฟกู ว๊ ก ไทยหวงั การทอ่ งเทย่ี วใหเ้ ปน็ โครงการ “ สามประเทศ-หนง่ึ จดุ หมาย (T hree C ountries, O ne D estination) โดยใหแ้ ตล่ ะป ระเทศ (ไทย-ก มั พชู า- เวยี ดนาม) ส ามารถเปน็ ท ง้ั ต น้ ทางแ ละป ลายทางในการรบั การท อ่ งเทย่ี ว โดยใชเ้ สน้ ทางระเบยี งเศรษฐกจิ ด า้ นใตเ้ ชอ่ื มโยง (3.)T heNorthernsub-corridor เรม่ิ จากก รงุ เทพฯ-เสยี มเรยี บ แ ละ สต รงึ เตรง็ -รตั นค รี ี ในกมั พชู า ไป P ley K o a nd Q uy N hon ท เ่ี วยี ดนาม น อกจากน้ี SEC ยังกำหนดสร้าง Inter-corridor จ ากทิศใต้ของลาว ไปจังหวัดพระสีหนุ ทก่ี มั พชู า ความช่วยเหลือของไทยในการก่อสร้างถนน เสน้ อ น่ื ๆ ถนนหมายเลข 67 จ ากจุดผ่านแดนจวม-สะงำ ไปถงึ ตวั อ ำเภออ นั ลองเวง ระยะท าง 1 8 ก โิ ลเมตร และ จาก อ ำเภออนั ลองเวง ไปถงึ จ .เสยี มเรยี บ ระยะท าง 1 31 กโิ ลเมตร เสน้ ทางเรม่ิ ตน้ จาก บ า้ นแซร์ไปร์ ไปสน้ิ สดุ ท่ี เขตชายแดนช อ่ งสะงำ ระยะทางประมาณ 1 67 ก โิ ลเมตร โดยเปน็ ระยะทางในประเทศไทย 1 6 ก โิ ลเมตร แ ละใน กมั พชู า 1 51 ก โิ ลเมตร เปน็ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื แ บบ ใหเ้ ปลา่ 1 26 ล า้ นบาท การค มนาคมท างบกของกมั พชู า คู่มือ การค้าและการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พูชา 11 สส
ทางรถไฟ ในอดีตการขนส่งทางรถไฟถือว่าเป็นท่ีนิยมในกัมพูชา ก ารเดินรถจากกรุง พนมเปญถ งึ พ ระต ะบองม เี ทย่ี วเดนิ รถท กุ วนั แ ตห่ ลงั จ ากเกดิ ส งครามระบบก ารข นสง่ ดงั ก ลา่ วไดถ้ กู ท ำลายล งอ ยา่ งส น้ิ เชงิ ก ารเดนิ รถจ ากพ นมเปญถ งึ พ ระต ะบองม เี พยี ง 1 เทย่ี ว/อาทติ ย์ โดยใชเ้ วลาเดนิ ท าง 1 2 ช ว่ั โมง(ความเรว็ 1 5-20 ก ม./ช ม.) ก มั พชู า ไดพ้ ยายามฟน้ื ฟรู ะบบการขนสง่ ทางรถไฟอกี ค รง้ั ด ว้ ยโครงการซอ่ มแซมและสรา้ ง รางรถไฟในเสน้ ท างท ม่ี อี ยเู่ ดมิ ท ง้ั ในเสน้ ท างส ายเหนอื แ ละส ายใต้ รวมระยะท าง 6 50 กโิ ลเมตร แ ละป รบั ปรงุ ส ถานรี ถไฟกรงุ พ นมเปญ ม ลู คา่ ล งทนุ รวม 7 3 ล า้ นด อลลาร์ สหรฐั ฯ จ ากก ารส นบั สนนุ ข องธนาคารก ารพ ฒั นาแ หง่ เอเชยี (A DB) 8 4 ล า้ นด อลลาร์ สหรฐั ฯ อ งคก์ รผ สู้ ง่ อ อกน ำ้ มนั (O PEC) 1 3 ล า้ นด อลลารส์ หรฐั ฯ รฐั บาลก มั พชู า 1 5.2 ลา้ นด อลลารส์ หรฐั ฯ แ ละรฐั บาลม าเลเซยี 2 .8 ล า้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ ท้งั น้ี ห ากโครงการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ ก ัมพูชาจะเป็นส่วนท่ีเช่อื มระบบ โครงขา่ ยเสน้ ทางรถไฟจ ากส งิ คโปรถ์ งึ จงั หวดั ย นู าน ค ณุ ห ม งิ ป ระเทศจ นี ด ว้ ยระยะ ทาง 5 ,382 ก โิ ลเมตร ในเสน้ ทางทเ่ี รยี กวา่ \"S ingapore-Kunming R ailway L ink (S KRL)\" ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นก ารรถไฟจ ากอ อสเตรเลยี (S nowy M ountains E ngineering Corporation o f A ustralia : S MEC) ไดท้ ำการศ กึ ษาค วามเปน็ ไปได้ แ ละใหค้ วาม ชว่ ยเหลอื ด า้ นเทคนคิ ส ำหรบั โครงการ ต อ่ ม ารฐั บาลก มั พชู าไดใ้ หส้ มั ปทานระยะเวลา 30 ป ี แ กบ่ รษิ ทั T oll H olding ข องอ อสเตรเลยี ในการจ ดั การข นสง่ ค นและส ง่ิ ของ ทางรถไฟ ซ ง่ึ หลงั จากการสรา้ งและซอ่ มแซม รถไฟสายเหนอื จ ะสามารถบรรทกุ นำ้ หนกั 2 0 ต นั บนความเรว็ สงู สดุ 5 0 ก ม./ชม. ข ณะทส่ี ายใต้ จ ะส ามารถบ รรทกุ นำ้ ห นกั 1 5 ต นั T he R oyal R ailways o f C ambodia (R RC) ภ ายใตก้ ระทรวง P ublic W orks and T ransport (MPWT) ซ ง่ึ อยภู่ ายใตก้ ารกำกบั ดแู ลของรฐั ม หี นา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ การด ำเนนิ การและก ารบำรงุ รกั ษาเครอ่ื งจกั รและระบบรางรถไฟ รวมทง้ั ดแู ลเกย่ี ว กบั การบ รรทกุ ข นสง่ สนิ คา้ ซ ง่ึ ข นสง่ ในปจั จบุ นั เชน่ ป โิ ตรเลยี ม ป นู ซ เี มนต์ ป ยุ๋ วสั ดุ กอ่ สรา้ ง ถ า่ นหนิ ย ปิ ซม่ั เพอ่ื โรงงานป นู ซ เี มนต์ แ ละส นิ คา้ เกษตร เชน่ ข า้ วแ ละน ำ้ ตาล ถงึ แ มร้ ะบบข นสง่ ดว้ ยรถไฟจะส ามารถลากบ รรทกุ สนิ คา้ ไดจ้ ำนวนมากแ ตย่ งั ไมเ่ ปน็ ทน่ี ยิ มของธรุ กจิ เพราะล า่ ชา้ และไมส่ ะดวกเทา่ การข นสง่ ท างถ นน เสน้ ทางสายเหนอื จากกรงุ พนมเปญถงึ ปอยเปต ร ะยะทาง 3 85 ก ม. ม กี าร กอ่ สรา้ งรางรถไฟ ในชว่ งป ี พ .ศ . 2 472-2 485 โดยฝรง่ั เศส แ ละสรา้ งจ ากศรโี สภณ ถงึ ปอยเปตเพอ่ื เชอ่ื มกรงุ พนมเปญกบั กรงุ เทพ ในปี พ .ศ. 2 485-2504 ร ะยะทาง 48 ก ม. เสน้ ทางรถไฟสายใตเ้ ชอ่ื มก รงุ พนมเปญไปสหี นวุ ลิ ล์ ระยะทาง 2 64 ก ม.สรา้ ง ขน้ึ ป ี พ .ศ . 2 503-2512 โดยก ารสนบั สนนุ จากฝ รง่ั เศส เยอรมนั แ ละจนี 12 คู่มอื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พชู า
การพฒั นาระบบสาธารณปู โภคดา้ นการรถไฟเปน็ ท่ตี อ้ งการในทกุ ภาคสว่ น ของกมั พชู า ท ง้ั เสน้ ทางจากศ รโี สภณ-เสยี มเรยี บ ระยะท าง 1 05 ก ม. เสยี มเรยี บ- สกลุ ระยะท าง 2 39 ก ม. แ ละสนวน-ส ตรงึ เตรง ระยะท าง 2 73 ก ม. ซ ง่ึ การพฒั นา เสน้ ทางรถไฟข องกมั พชู าจ ะท ำใหเ้ กดิ ความม น่ั ใจด า้ นก ารบ รกิ าร แ ละการขยายต วั ทางการค า้ ทง้ั ภ ายในและระหวา่ งป ระเทศ การใหบ้ รกิ ารรถไฟในก มั พชู า 3.การคมนาคมทางนำ้ ทา่ เรอื นำ้ ลกึ ส หี นวุ ลิ ล์ ในกัมพูชา มีท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียว คือ ท่าเรือสีหนุวิลล์ ซ่ึงได้มีการปรับปรุงโดยการวางคอนเทนเนอร์รอบท่าเรือน้ำลึก ความยาว 240 กิโลเมตร และขยายพ้ืนท่ีท่ีจอดเรือความยาว 160 เมตร ส ำหรับรองรับเรือท่ีกินน้ำลึก 9 เมตร เส้นทางเดินเรือ ท่ีติดต่อกับสีหนุวิลล์ ได้แก่ อ เมริกา ย ุโรป จ ีน ฮ ่องกง อ ินโดนีเซีย ญ่ปี ่นุ ม าเลเซีย ฟ ิลิปปินส์ ส ิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย แ ละเวียดนาม ส ว่ นใหญจ่ ะขนผา่ นสงิ คโปร์ ก ารข นสง่ ทางนำ้ ภ ายในป ระเทศ ส ว่ นใหญ่ ใช้แมน่ ำ้ แม่โขง แ ม่นำ้ ตนเลสาบ แ ละแมน่ ำ้ บาสกั ซ ง่ึ มีความยาวโดยรวม 1 ,750 กโิ ลเมตร ในฤดฝู น แ ละอ าจล ดเหลอื 5 80 ก โิ ลเมตร ในฤ ดแู ลง้ ทา่ เรอื ในกมั พชู า ม ี 7 แ หง่ ด งั ต อ่ ไปน ้ี ทา่ เรอื พนมเปญ 2 แ หง่ ทา่ เรอื กมั ป งจาม เปน็ ท า่ เรอื สำคญั บนแ มน่ ำ้ แ มโ่ ขง ห า่ งจ ากพ นมเปญ 1 05 กโิ ลเมตร ท า่ เรอื ก ระแจะ เปน็ ท า่ เรอื ส ำคญั บ นแ มน่ ำ้ แ มโ่ ขง ห า่ งจ ากท า่ เรอื กมั ป งจ าม 115 ก โิ ลเมตร ทา่ เรอื สตงึ เตรง เปน็ ทา่ เรอื ส ำคญั บ นแ มน่ ำ้ แ มโ่ ขง ห า่ งจากท า่ เรอื กระแจะ 150 ก โิ ลเมตร ทา่ เรอื เนย๊ี กเรอื ง เปน็ ท า่ เรอื ส ำคญั บ นแ มน่ ำ้ แ มโ่ ขง ห า่ งจ ากท า่ เรอื พ นมเปญ 60 ก โิ ลเมตร ท่าเรือจองคะเน๊ียะ(เสียมเรยี บ)ต้งั อยู่บนแม่นำ้ ตนเลสาบหา่ งจากท่าเรอื กมั ปงชะน งั 1 90 ก โิ ลเมตร คมู่ ือ การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจกั รกมั พูชา 13 สส
การขนสง่ สนิ คา้ ทางนำ้ ภายในประเทศกมั พชู ามขี อ้ จำกดั เนอ่ื งจากระดบั นำ้ ในฤ ดฝู นและฤ ดแู ลง้ ม คี วามแ ตกต า่ งป ระมาณ 1 0 เมตร ทางอ ากาศ สบื เนอ่ื งจากนโยบายการเปดิ นา่ นฟา้ ของรฐั บาลกมั พชู า ส ง่ ผลให้มีสายการ บนิ สปู่ ระเทศเพม่ิ ขน้ึ ข ณะนม้ี สี ายการบนิ นานาชาตทิ บ่ี นิ ตรงสสู่ นามบนิ นานาชาติ พนมเปญ 9 เสน้ ทาง จ าก 8 ป ระเทศ ส ว่ นสนามบนิ เสยี มเรยี บ ม ีสายการบนิ นานาชาตบิ างเสน้ ทาง น อกจากนม้ี ี ส นามบนิ กมั ป งโสม (ส หี นวุ ลิ ล)์ ท เ่ี ปดิ ใหบ้ รกิ าร สำหรบั ส ายก ารบ นิ ภ ายในป ระเทศ ส ว่ นส นามบ นิ กมั ป งช ะน งั ซ ง่ึ ต ง้ั อ ยทู่ างท ศิ เหนอื ของพ นมเปญ ใกลก้ บั ทางหลวงหมายเลข 5 แ ละค าดวา่ จ ะใชเ้ ปน็ ส นามบ นิ ส ำหรบั ขนสง่ สนิ คา้ แ ละสนามบ นิ เกาะก งซ ง่ึ ก ำลงั อยใู่ นระหวา่ งการป รบั ปรงุ การเดนิ ท างจ ากส นามบ นิ ส วุ รรณภมู -ิ ส นามบ นิ น านาชาตกิ รงุ พ นมเปญ ใชเ้ วลา เดนิ ท าง 5 5 น าที โดยม สี ายก ารบนิ ด งั น้ี 1. สายก ารบนิ ไทย 2 เทย่ี วบ นิ /วนั 2. สายการบ นิ แอรเ์ อเชยี 1 เทย่ี วบ นิ /วนั 3. สายก ารบ นิ บางกอกแอรเ์ วย์ 4 เทย่ี วบ นิ /วนั การเดนิ ท างจ ากสนามบ นิ สวุ รรณภมู ิ – ส นามบนิ น านาชาตเิ สยี มเรยี บ ใชเ้ วลา เดนิ ท าง 5 5 น าที ไดแ้ ก่ ส ายก ารบ นิ บ างกอกแอรเ์ วย์ 5 เทย่ี วบ นิ /วนั ห มายเหต:ุ ส นามบ นิ น านาชาตพิ นมเปญ แ ละเสยี มเรยี บ อ ยภู่ ายใตก้ ารบ รหิ าร และจ ดั การของ C ambodia A irport S ervices L td. (C AMS) ซ ง่ึ เปน็ บ รษิ ทั ล กู ข อง บรษิ ทั รว่ มทนุ ระหวา่ งฝรง่ั เศสและมาเลเซยี ห รอื S CA ซ ง่ึ ไดร้ บั ส มั ปทาน 2 5 ป ี ใน โครงการ B OT เพอ่ื พฒั นาส นามบนิ น านาชาตพิ นมเปญและเสยี มเรยี บ 1 .12ระบบการเงนิ และก ารธนาคาร ภาคการเงนิ และการธนาคารของกมั พชู าอยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ของกฎหมาย การเงนิ และสถาบนั การเงนิ (18 พ ฤศจกิ ายน 2 542) ก ฎหมายประกนั ภยั (25 กรกฎาคม 2 543) แ ละกฎหมายอีกหลายฉบับว่าด้วยธนาคารชาติ ก ฎหมายท่ี ออกโดยกระทรวงเศรษฐกจิ และการคลงั ระหวา่ งปี 2 543-2544 ก ฎหมายธนาคาร กำหนดกฎระเบียบ ข ้อบังคับและแนวทางการดำเนินกิจกรรมด้านการเงินของ ธนาคาร ก ฎหมายประกันภัยก ำหนดกฎระเบียบข้อบังคับการดำเนินกิจกรรม ประกนั ภยั ภ ายใตก้ ารดแู ลของกระทรวงเศรษฐกจิ และการคลงั เพอ่ื ใหค้ รบวงจร การควบคมุ ดแู ลดา้ นการเงนิ และการธนาคารของประเทศ รฐั บาลกมั พชู าไดอ้ อก กฎหมายห ลายฉ บบั เชน่ ก ฎหมายป อ้ งกนั ก ารฟ อกเงนิ ก ฎหมายค วามป ลอดภยั ข อง กระบวนการท างการเงนิ เปน็ ตน้ ป จั จบุ นั ธ นาคารแ หง่ ช าตกิ มั พชู าไดอ้ อกม าตรการ เพอ่ื ล ดส ภาพค ลอ่ งของธนาคารพ าณชิ ย์ แ ละก ำหนดเพม่ิ เงนิ ทนุ ขน้ั ต ำ่ ข องธนาคาร พาณชิ ย์เปน็ 3 7.5 ล า้ นดอลลาร์สหรฐั ฯ ซ ง่ึ ทกุ แบงก์ตอ้ งเพม่ิ เงนิ ทนุ ให้ครบตาม ขอ้ กำหนด ในปี 2 553 แ ละกำหนดใหธ้ นาคารพาณชิ ยต์ อ้ งมคี ณุ สมบตั เิ หมาะสม ในการใหบ้ รกิ าร 14 คู่มอื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พชู า
1.ธนาคารแ หง่ ช าตกิ มั พชู า รัฐบาลกัมพูชาได้ก่อต้ังธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (National Bank o f C ambodia : N BC) เป็นธนาคารกลางของรัฐมีหน้าท่ี ออกกฎระเบียบและควบคุมดูแลสถาบันการเงินในกัมพูชา แ ละมี อำนาจในการควบคมุ กจิ กรรมทางการเงนิ เครดติ ก ารแลกเปลย่ี น เงนิ ต รา แ ละการแ ลกเปลย่ี นอญั มณี เปน็ ตน้ ภ ายใตก้ ฎหมายธ นาคาร ฉบบั ป จั จบุ นั ธ นาคารก ลางม อี ำนาจในการก ำกบั และควบคมุ ธนาคาร พาณชิ ย์คอ่ นขา้ งสงู เชน่ ส ามารถเรยี กดูสถานภาพทางการเงนิ ของ ธนาคารพ าณชิ ย์ ต รวจส อบแ ละแ ตง่ ต ง้ั ผ ตู้ รวจส อบส ถานภาพท างการ เงนิ ก ารด ำเนนิ งาน แ ละแตง่ ตง้ั ค ณะทำงานเขา้ ม าค วบคมุ ด แู ล ห รอื ด ำเนนิ ก จิ การ แทนคณะผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ใดๆ ก ็ได้ น อกเหนือจากอำนาจหน้าท่ีตาม ปกติ เชน่ ก ารกำหนดอตั ราแลกเปลย่ี น ก ารกำหนดเวลาเปดิ ทำการของธนาคาร เปน็ ตน้ 2.ธ นาคารพ าณชิ ย์ กฎหมายธนาคารของกัมพูชาได้จัดประเภทของสถาบันการเงินออกเป็น ธนาคารพ าณชิ ย์ ธ นาคารเฉพาะก จิ ส ถาบนั ก ารเงนิ พ เิ ศษ แ ละส ถาบนั ก ารเงนิ ข นาด เลก็ ส ถาบนั การเงนิ ทกุ ประเภทจะตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ยแ์ ละขออนญุ าตดำเนนิ กจิ การทางการเงนิ กบั ธนาคารแหง่ ชาติ ธ นาคารพาณชิ ยท์ กุ แหง่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ กอ่ นการ บงั คบั ใชข้ องกฎหมายธนาคารในปี 2 542 จ ะตอ้ งจดทะเบยี นกบั ธนาคารแหง่ ชาติ และตอ้ งม ที นุ จดท ะเบยี นไมน่ อ้ ยกวา่ 1 3.5 ล า้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ จ งึ จะส ามารถเปดิ ใหบ้ รกิ ารกจิ กรรมทางการเงนิ และการธนาคารได้ ป จั จบุ นั ธนาคารพาณชิ ยท์ ไ่ี ดร้ บั ใบอ นญุ าตในก มั พชู าม ี 2 4 ธ นาคาร ส ว่ นธ นาคารต า่ งป ระเทศท ม่ี สี าขาแ ละใหบ้ รกิ าร ในก มั พชู า ป ระกอบดว้ ย F irst C ommercial B ank, M aybank, K rungthai B ank, Advanced B ank o f A sia, C anadia B ank, S ingapore B anking C orporation เปน็ ตน้ ซ ง่ึ ทำใหก้ ารโอนเงนิ ภ ายในป ระเทศทำไดส้ ะดวกข น้ึ 3.ก ารประกนั ภยั ภายใตก้ ฎหมายประกนั ภยั บ รษิ ทั แ ละตวั แทนธรุ กจิ ประกนั ภยั ทกุ ประเภท จะตอ้ งจดทะเบยี นประกนั ความเสย่ี ง ท ะเบยี นขายประกนั แ ละทะเบยี นธรุ กจิ ใน กมั พชู า ซ ง่ึ บรษิ ทั หรอื ตวั แทนประกนั ทกุ ประเภทจะไดร้ บั อนญุ าตใหด้ ำเนนิ กจิ การ ในรปู ข องบ รษิ ทั จำกดั เทา่ นน้ั บ รษิ ทั ป ระกนั ช วี ติ แ ละบ รษิ ทั ป ระกนั ภ ยั ทว่ั ไปจ ะตอ้ ง มที นุ จดทะเบยี นอ ยา่ งน อ้ ย 7 .5 ล า้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ บ รษิ ทั ทด่ี ำเนนิ ธ รุ กจิ ทง้ั สอง ประเภท จ ะตอ้ งมีทนุ จดทะเบยี นประมาณ 1 5 ล า้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ น อกจากน้ี บรษิ ทั ประกนั ภยั ท่ไี ด้รบั อนญุ าตทกุ ประเภทจะตอ้ งมีทนุ สำรองฝากไว้กบั ธนาคาร แหง่ ชาตกิ มั พชู ารอ้ ยละ 1 0 ข องทนุ จดทะเบยี น ท นุ สำรองนจ้ี ะสง่ คนื เมอ่ื บรษิ ทั นน้ั ๆ เลกิ ด ำเนนิ ธรุ กจิ ในก มั พชู า ป ระกนั ภ ยั ท เ่ี ปน็ ภ าคบ งั คบั ในก มั พชู า ไดแ้ ก่ ป ระกนั คูม่ อื การค้าและการลงทุน ราชอาณาจกั รกัมพูชา 15 สส
ภยั รถยนตส์ ำหรบั บคุ คลท ส่ี าม ป ระกนั ภยั อาคาร ป ระกนั ภ ยั ก ารซ อ่ มแซม ป ระกนั ภยั ก ารก อ่ สรา้ งของภาคเอกชน/ผ รู้ บั เหมากอ่ สรา้ งท ไ่ี มใ่ ชภ่ าครฐั 4. การให้บริการทางการเงินและการประกันความเส่ียงกิจกรรมทาง การเงนิ สิทธิในการให้บริการทางการเงินของบริษัทให้กู้ยืมได้รับการค้มุ ครองและ ด แู ลภายใตก้ ฎหมายป ระกนั ค วามเสย่ี งก จิ กรรมท างการเงนิ ป ี 2 550 อ นญุ าตใหใ้ ช้ หลกั ท รพั ยท์ เ่ี ปน็ อสงั หารมิ ทรพั ยใ์ นก ารป ระกนั ก ารกยู้ มื ต า่ งๆ 5. สกลุ เงนิ แ ละก ารแลกเปลย่ี นเงนิ ตราระหวา่ งประเทศ สกลุ เงนิ ทใ่ี ชใ้ นก มั พชู าคอื ส กลุ เงนิ เรยี ล ท น่ี ำอ อกมาใชต้ ง้ั แ ตป่ ี 2 523 เปน็ ตน้ มา ม อี ตั ราแลกเปลย่ี นคอ่ นขา้ งมเี สถยี รภาพทป่ี ระมาณ 4 ,000 เรยี ลตอ่ 1 ด อลลาร์ สหรฐั ฯ ก มั พชู าไมม่ กี ฎหมายการหา้ มนำผลกำไรออกนอกประเทศ ต ามกฎหมาย การลงทนุ ในปี 2 546 ก ำหนดใหม้ กี ารนำเงนิ ท เ่ี ปน็ ผ ลกำไรในก ารดำเนนิ ธรุ กจิ อ อก นอกประเทศไดอ้ ยา่ งเสรี โดยเฉพาะการนำเงนิ ออกนอกป ระเทศ เพอ่ื - จ่ายค่านำเข้าสินค้า จ่ายค่าเงินต้นและค่าดอกเบ้ียเงินกู้ยืมจากนอก ประเทศ - จา่ ยคา่ ภ าคห ลวงแ ละคา่ จา้ งบรหิ ารจดั การ - ผลประโยชนท์ เ่ี ปน็ กำไรของบ รษิ ทั - เงนิ ทนุ ท ใ่ี ชใ้ นการลงทนุ หลงั บรษิ ทั ห ยดุ ด ำเนนิ ก จิ กรรมในกมั พชู า ก ารแ ลกเปลย่ี นเงนิ ต ราต า่ งป ระเทศส ามารถด ำเนนิ ก ารไดอ้ ยา่ งอ สิ ระผ า่ นระบบ ธนาคารและตวั แทนแลกเปลย่ี นทไ่ี ดร้ บั อนญุ าตอยา่ งเปน็ ท างการ ป กตหิ นว่ ยงานท่ี ดำเนนิ ธรุ กจิ แลกเปลย่ี นเงนิ ตรานจ้ี ะตอ้ งรายงานใหธ้ นาคารชาตทิ ราบสำหรบั การ แลกเปลย่ี นเงนิ ตราตา่ งประเทศทม่ี มี ลู คา่ มากกวา่ 1 0,000 ด อลลารส์ หรฐั ฯขน้ึ ไป การแลกเปลย่ี น/โอนย า้ ย/หรอื ก จิ กรรมท างการเงนิ เพอ่ื ธรุ กจิ บ รษิ ทั ไมต่ อ้ งรายงาน ใหก้ บั ธนาคารช าตทิ ราบ แ ตธ่ นาคารทร่ี บั ผ ดิ ชอบในก ารด ำเนนิ ก จิ กรรมด งั กลา่ วให้ กบั บ รษิ ทั จะตอ้ งรายงานใหธ้ นาคารชาตกิ มั พชู าทราบแทน ธ นาคารชาตสิ งวนสทิ ธ์ิ ในการควบคมุ กจิ กรรมแลกเปลย่ี นเงนิ ตราระหวา่ งประเทศในสถานการณท์ ไ่ี มป่ กติ หรอื เกดิ วกิ ฤตทิ างการเงนิ 6 .ต ราสารหน้ี กฎหมายต ราสารห น้ี ม ผี ลบ งั คบั ใชใ้ นก มั พชู าในป ี 2 547 เปน็ ตน้ ม า โดยก ำหนด รปู แ บบต ราสารห น้ี ก ารบ งั คบั ใช้ แ ละบ ทล งโทษท เ่ี กย่ี วขอ้ ง ซ ง่ึ บ ทล งโทษอ าจเปน็ ท ง้ั การปรบั เงนิ ส นิ ไหมท ดแทนแ ทนระหวา่ ง 5 -50 ล า้ นเรยี ล ห รอื จำค กุ ระหวา่ ง 2 -5 ป ี บงั คบั ใชก้ บั ท ง้ั บคุ คลและบรษิ ทั ท ก่ี ระทำผ ดิ 16 ค่มู ือ การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจกั รกัมพูชา
การค วบคมุ เงนิ ตราตา่ งประเทศ ก มั พชู าใชร้ ะบบอตั ราแลกเปลย่ี นแบบ M anaged F loat ซ ง่ึ ม ลี กั ษณะเปน็ อตั ราทางการ (Official E xchange R ate) ก ำหนดโดยธนาคารกลางของกมั พชู า โดยใช้กับการค้าระหว่างประเทศของภาครัฐและวิสาหกิจของรัฐ อ ัตราตลาด (Market R ate) ก ำหนดโดยผู้ค้าเงินตราต่างประเทศในภาคเอกชน ป ัจจุบัน การชำระคา่ สนิ คา้ เปน็ เงนิ สกลุ ทอ้ งถน่ิ ยงั ไมเ่ ปน็ ทย่ี อมรบั ในกมั พชู า แ ตน่ ยิ มใชเ้ งนิ ดอลลาร์สหรฐั ฯ แ ละเงินบาทของไทยแทน น อกจากน้ี ในบางคร้งั ก็ยงั สามารถ ใช้ทองคำเป็นส่ือกลางในการชำระค่าสินค้าได้อีกด้วย การเคล่ือนย้าย/โอน เงินตราต่างประเทศผ่านระบบธนาคารพาณิชย์สามารถทำได้โดยเสรี ร ัฐบาล จะกำกับดูแลโดยให้ธนาคารเป็นผู้รายงานธุรกรรมท่ีผิดปกติ (Suspicious Transactions a nd K now Y our C ustomer P olicies) แ ละไม่มีข้อจำกัด สำหรับนักลงทุนนำผลกำไรหลังชำระภาษี (ภาษีเงินได้นิติบุคคลอัตรา ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ) เป็นเงินตราต่างประเทศ ออกนอกประเทศได้ โดยผ่านระบบธนาคาร ส่วนผู้เดินทาง ท่ีนำเงินตราเข้าประเทศ หรือออก นอกประเทศ ท่ีมีมูลค่าเท่ากับ หรือเกินกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตอ้ งส ำแดงตอ่ เจา้ ห นา้ ทศ่ี ลุ กากร 1.13อ น่ื ๆ - การเปน็ ส มาชกิ ข องอ งคก์ รระหวา่ งป ระเทศ กมั พชู าเปน็ ส มาชกิ ข องอาเซยี น แ ละสมาชกิ ของ W TO ส ง่ ผ ลใหม้ ลู คา่ ก ารค า้ เพ่มิ ข้นึ อย่างต่อเน่อื ง ส ินค้าส่งออกท่ีสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ ส ินค้าส่งิ ทอ ซ ่งึ กัมพูชามีความได้เปรียบในการผลิตเพ่ือการส่งออก โดยมีโรงงานผลิตสินค้า ส่ิงทอกว่า 2 00 โรงงาน ม ีการจ้างงานกว่า 2 00,000 ค น แ ละเพ่ือเป็นการ เตรียมความพร้อมรองรับการยกเลิกโควตาส่งออกสินค้าส่งิ ทอ ร ัฐบาลกัมพูชา ได้เรม่ิ กระบวนการ อ ำนวยความสะดวกทางการคา้ การลงทนุ เพอ่ื ลดตน้ ทนุ การ ประกอบการ ให้สามารถแข่งขันได้ น อกจากน้ียังได้ปรับปรุง ม าตรฐานการ จา้ งงาน ใหเ้ ปน็ ส ากลม ากขน้ึ โดยอนญุ าตใหอ้ งคก์ รด า้ นแ รงงานน านาชาติ เขา้ มา มบี ทบาทในก ารตรวจสอบกระบวนการจ า้ งงาน แ ละก ารใชแ้ รงงาน -สมาชกิ องคก์ ารก ารค า้ โลก(WTO) การเข้าเป็นสมาชิก W TO ห มายถึง ก ัมพูชาจะต้องยอมรับและหลีกทาง ใหข้ อ้ ตกลงของ W TO ม สี ทิ ธแิ ละอำนาจเหนอื กฎหมายเดมิ ของประเทศ ในกรณี ทม่ี ขี อ้ ขดั แยง้ หรอื ความไมส่ อดคลอ้ งทางกฎหมายเกดิ ขน้ึ เชน่ ก รณผี ลู้ งทนุ เหน็ วา่ กฎหมายของกมั พชู าไมส่ อดคลอ้ งก บั ขอ้ ตกลงใน W TO ก ส็ ามารถยน่ื ฟ อ้ ง ข อค วาม เปน็ ธรรมจาก W TO โดยขอ้ ต กลงของ W TO ก ลา่ วเชน่ ไร ใหถ้ อื วา่ เปน็ ท ส่ี ดุ ข อง คำตัดสินน้นั ๆ ในกรณีท่ีกัมพูชาไม่มีกฎหมายครอบคลุมในบางประเด็น ให้ใช้ บทบัญญัติในข้อตกลงของ WTO เป็นบทอ้างอิงและแนวทางในการปฏิบัติ เป็นต้น ผ ู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์ เพราะมีการปรับปรุงกรอบโครงสร้างทาง คมู่ ือ การค้าและการลงทุน ราชอาณาจกั รกัมพชู า 17 สส
กฎหมาย ท ก่ี วา้ งขน้ึ จ ากเรม่ิ แรกของกระบวนการเขา้ เปน็ สมาชกิ ของ W TO ถ งึ ปจั จบุ นั ก มั พชู าไดอ้ อกกฎหมายใหม่ ก วา่ 5 0 ฉ บบั เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน ของ WTO นอกจากน้ียังมีกฎหมายอีกหลายฉบับท่ีจะต้องปรับปรุงและ เปล่ียนแปลง ซ่ึงอาจทำให้กระบวนการทางธุรกิจและการดำเนินธุรกิจใน ปจั จบุ นั เปลย่ี นแปลง ห รอื ไดร้ บั ผลกระทบไปดว้ ย เชน่ (1.) รปู แบบทางการค า้ – จ ะมกี ารเปลย่ี นแปลงห ลงั การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย ธรุ กจิ การคา้ ก ฎหมายตราสารหนแ้ี ละการช ำระเงนิ ก ฎหมายห ลกั ท รพั ย์ ก ฎหมาย ความป ลอดภยั ดา้ นธรุ กรรมก ารเงนิ เปน็ ตน้ (2 .) ขน้ั ต อนศ ลุ กากร – ต อ้ งป รบั ปรงุ แ ละแ กไ้ ขใหส้ อดคลอ้ งก บั ข อ้ บ งั คบั ข อง WTO (3.) ก ฎหมายเฉพาะ – เชน่ ก ารจ ดั ต ง้ั ค ณะก รรมการอ สิ ระก ำกบั ด แู ลด า้ นน ำ้ การโทรคมนาคม ก ารบนิ ก ารท อ่ งเทย่ี ว แ ละการประมง เปน็ ตน้ (4.) การปกปอ้ งทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา – ป ระกอบดว้ ย ก ฎหมายสทิ ธิบตั ร กฎหมายเครอ่ื งหมายการคา้ แ ละกฎหมายล ขิ สทิ ธ์ิ เปน็ ตน้ (5.) ก ารป รบั ปรงุ ก ฎหมายท เ่ี กย่ี วข อ้ งอน่ื ๆ เชน่ ก ฎหมายอ อกแบบแ ละว งจร ไฟฟา้ ก ฎหมายป กปอ้ งพ ชื ก ฎหมายแหลง่ ก ำเนดิ ท างภมู ศิ าสตร์ แ ละก ฎหมายเปดิ เผยข อ้ มลู ท างราชการ เปน็ ตน้ - สมาชกิ อาเซยี น(ASEAN) สนิ คา้ ท ก่ี มั พชู าส ง่ อ อกไปต ลาดอ าเซยี นจ ะไดร้ บั ส ทิ ธปิ ระโยชนท์ างภ าษรี ะหวา่ ง ประเทศส มาชกิ ในอ ตั ราท ต่ี ำ่ ได้ น อกจากน ห้ี ากใชว้ ตั ถดุ บิ ในก ารผ ลติ จ ากแ หลง่ ก ำเนดิ ในป ระเทศส มาชกิ อ าเซยี นอ ยา่ งน อ้ ย รอ้ ยล ะ 3 5 จ ะส ามารถส ง่ อ อกไปส หรฐั อเมรกิ า และย โุ รปในอ ตั ราภาษี ศ นู ย์ ต ามส ทิ ธพิ เิ ศษทก่ี มั พชู าไดร้ บั (G SP) 2. เศรษฐกจิ การคา้ 2.1 ภาวะเศรษฐกจิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ในปี 2553 ของกัมพูชา มีมูลค่าถึง 11.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวจากปีท่ีผ่านมา ร้อยละ 4.8 ในขณะท่ีรายได้ต่อหัวประชากร เพ่ิมข้ึนจากปี 2552 เชน่ กนั กลา่ วคอื ในปี 2553 อยทู่ ่ี 805 เหรยี ญสหรฐั ฯ ซง่ึ ถอื วา่ รายได้ ตอ่ หวั ของชาวกมั พชู าเพม่ิ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สภาพตลาดในกรงุ พนมเปญ 18 ค่มู อื การค้าและการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พชู า
2.2 เครอ่ื งชว้ี ดั เศรษฐกจิ สำคญั ปี 2552 (a) ปี 2553 (b) เครอ่ื งชว้ี ดั เศรษฐกจิ กมั พชู า 10.8 11.5 775 805 GDP (US$bn) -2.5 4.8 GDP per capita (US$) Real GDP growth (%) ในปี 2553 กมั พชู ามกี ารขยายตวั ทางเศรษฐกจิ (GDP Growth) รอ้ ยละ 4.8 (ปี 2552 รอ้ ยละ -2.5) จากภาวะเศรษฐกจิ ทเ่ี รม่ิ ฟน้ื ตวั ทำใหก้ ารสง่ ออกเสอ้ื ผา้ สำเร็จรูป ส่ิงทอ รองเท้าเร่ิมเพ่ิมข้ึนเช่นกัน จากเดิมท่ีลดลงเพราะได้ รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ซ่งึ เป็นตลาดส่งออกหลักของกัมพูชา และการท่สี หรัฐฯ ยกเลิกการใช้มาตรการ Safeguard ตอ่ สนิ คา้ เสอ้ื ผา้ สำเรจ็ รปู จากจนี ทำให้ GDP ของกมั พชู า ในปี 2552 หดตัวถึงร้อยละ -2.5 ท้งั น้ี ประกอบกับการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ชะลอ ตัวลง เพราะปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินโลก ท่กี ระทบผ้ลู งทุนรายใหญ่ ในกมั พชู า คอื เกาหลใี ตแ้ ละจนี ทำใหห้ ลายโครงการชะลอตวั และบางโครงการ ถอนการลงทนุ และในปี 2553 GDP ขยบั สงู ขน้ึ เปน็ รอ้ ยละ 4.8 รายไดต้ อ่ หวั ของประชากร ในปี 2553 เฉลย่ี 778 ดอลลารส์ หรฐั ฯ ตอ่ คน เพม่ิ รอ้ ยละ 12.266 จากปี 2552 ซง่ึ เฉลย่ี 693 ดอลลารส์ หรฐั ฯ ตอ่ คน อัตราเงินเฟ้อ ในปี 2553 ร้อยละ 5.3 โดยเป็นการเพ่มิ ของราคาน้ำมัน เช้อื เพลิง ค่าขนส่งสินค้าและคน สินค้าหมวดอาหาร สินค้าหมวดเคร่อื งน่งุ ห่ม ของใชใ้ นครวั เรอื น และการศกึ ษา อัตราการว่างงาน โครงสร้างอาชีพหลักของคนกัมพูชา คือ ภาค เกษตรกรรม ประมาณร้อยละ 70 ภาคบริการประมาณร้อยละ 17 ภาค อตุ สาหกรรมโรงงานประมาณรอ้ ยละ 8 และภาคการกอ่ สรา้ งประมาณรอ้ ยละ 5 ผล การสำรวจจำนวนประชากรทจ่ี ดั ทำในปี 2551 พบวา่ มจี ำนวนแรงงานทพ่ี รอ้ มเขา้ สกู่ ารจา้ งงาน 8.6 ลา้ นคน หรอื รอ้ ยละ 58.8 ของจำนวนประชากรรวมทง้ั ประเทศ โดยอัตราการว่างงานของกัมพูชาไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นจำนวนเท่าใด เนอ่ื งจากประชากรมากกวา่ รอ้ ยละ70มอี าชพี ทำการเกษตรซง่ึ ไมไ่ ดท้ ำงานตลอดทง้ั ปี เป็นการทำงานช่วงระยะท่ีมีการเพาะปลูกซ่ึงอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก และมีการ ประกอบอาชพี อน่ื เสรมิ เชน่ การรบั จา้ ง การคา้ ขาย การทอผา้ และการหาของปา่ ในเวลาทว่ี า่ งจากการเพาะปลกู ค่มู ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พูชา 19 สส
อตั ราดอกเบย้ี ในปี 2553 เงนิ สกลุ ดอลลารส์ หรฐั ฯ อตั ราดอกเบย้ี เงนิ ฝาก เฉล่ยี อย่ทู ่รี ้อยละ 4-6/ปี ส่วนเงินสกุลเรียล อัตราดอกเบ้ยี เงินฝากอย่ทู ่รี ้อยละ 3.5-7.0/ป ี เงนิ กเู้ ฉลย่ี รอ้ ยละ 26.2/ปี ตวั ชว้ี ดั ทางเศรษฐกจิ ทส่ี ำคญั Items 2550 2551 2552 2553 Nominal GDP (million US$) 8,753 10,571 10,338 11,135 Real GDP (% increase) 10.2 6.7 -1.0 3.0 GDP per Capita (US$) 598 703 693 778 Real GDP per Capita (% increase) 16.4 17.6 -1.4 6.0 Riel/Dollar Parity (year average) 4,056 4,068 4,168 4,100 Inflation in Riel (%year average) 5.9 14.2 -0.7 8.2 Inflation in Dollar ((%year average) 7.1 13.9 0.8 5.3 Inflation (% increase, YOY) 10.8 13.5 7.5 7.8 Inflation (% increase, year average) 5.9 19.7 4.0 6.0 Budget Revenue (% GDP) 11.5 12.6 11.6 12.4 Budget Expenditure (% GDP) 14.4 15.1 18.0 18.6 Current Public Deficit (% GDP) 2.6 3.6 0.5 1.7 Overall Public Deficit (% GDP) -2.9 -2.5 -6.4 -6.2 Export of Goods (% GDP) 47.3 45.6 40.0 39.8 Import of Goods (% GDP) 63.3 63.1 58.1 55.9 Trade Balance (% GDP) -16.0 -17.4 -18.1 -16.2 Current Account Balance (% GDP) -8.5 -12.2 -13.0 -11.2 Net Foreign Reserves (million US$) 1,374 1,700 1,992 2,354 Money – M1 (% GDP) 5.7 5.4 6.5 6.4 Money – M2 (% GDP) 26.8 22.6 25.9 26.2 Exchange Rate (Riel:Bath) 113 130 140 140 Population (million) 14.2 14.5 14.8 15.1 Labor Force (% Population) 58.2 58.8 59.3 59.8 Unemployment (% Population) 25 22 24 27 ทม่ี า : - EIC, Cambodia Economics Today , Special Issue January 2010 , Monthly Bulletin of Statistics of MEF 20 คมู่ อื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจกั รกมั พชู า
ตลาดผสารธ์ มเมย ในกรงุ พนมเปญ โรงแรมในกรงุ พนมเปญ มสี นิ คา้ ทกุ ประเภทใหเ้ ลอื ก 2.3 นโยบายดา้ นการคา้ ตา่ งประเทศ ในกมั พชู าไมม่ ขี อ้ กดี กนั ทางการคา้ โดยใชใ้ บอนญุ าตหรอื โควตานำเขา้ ยกเวน้ กบั สนิ คา้ ทต่ี อ้ งหา้ มตามกฎหมาย หรอื สนิ คา้ ตามขอ้ กำหนด ตอ้ งขอใบอนญุ าตจาก หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งอาทิยารกั ษาโรคอญั มณีทองคำและกรดเปน็ ตน้ ยกตวั อยา่ งเชน่ ก่อนท่จี ะอนุญาตให้นำเข้ายารักษาโรคของกัมพูชา ผ้นู ำเข้าและผ้ผู ลิตยาในต่าง ประเทศ จะตอ้ งจดทะเบยี นตำรบั ยารกั ษาโรค ทก่ี ระทรวงสาธารณสขุ กมั พชู ากอ่ น และเม่อื ต้องการนำเข้าต้องขอใบอนุญาตท่มี ีอายุให้นำเข้าภายใน 6 เดือน จาก กระทรวงสาธารณสุขทุกคร้ัง ส่วนการนำเข้ากรดต้องขอใบอนุญาตนำเข้าท่ี กระทรวงอตุ สาหกรรม อยา่ งไรกต็ าม กมั พชู ายงั ไมม่ กี ฎหมายกำหนดเกย่ี วกบั มาตรฐานสนิ คา้ แตม่ ี กฎหมายเกย่ี วกบั สลากการระบสุ ว่ นผสมและอายผุ ลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ จากการทป่ี ระเทศ กัมพูชาไม่สามารถผลิตสินค้าเพ่อื สนองความต้องการของประชาชนได้เพียงพอ สินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยการนำเข้า โดยมีกฎระเบียบและ มาตรการดา้ นการนำเขา้ -สง่ ออกเปน็ ตวั ควบคมุ เชน่ การนำสนิ คา้ เขา้ ประเทศตอ้ ง ผ่านการตรวจสอบประเมินราคาและชำระอัตราศุลกากรตามท่ีกำหนดในพิกัด ศลุ กากรกมั พชู า ทง้ั น้ี กระทรวงเศรษฐกจิ และการคลงั วา่ จา้ งใหบ้ รษิ ทั เอกชน คอื บรษิ ทั Societe Generale de Surveillance S.A. หรอื SGS ตรวจสอบและ ประเมินราคาสินค้าก่อนการนำเข้า กล่าวคือ ผู้ท่ีจะทำการส่งออกสินค้าไปยัง กมั พชู าซง่ึ มมี ลู คา่ FOB เกนิ กวา่ 4,000 ดอลลารส์ หรฐั ฯ จะตอ้ งแจง้ ตอ่ สำนกั งานฯ บริษัท SGS ในประเทศท่ีทำการส่งออก เพ่ือทำการตรวจสอบสินค้าก่อนการ ส่งออก ซ่งึ เม่อื สินค้าผ่านการตรวจสอบแล้ว บริษัท SGS จะออกเอกสาร RIA (Registered Import Advice) ใหแ้ กผ่ นู้ ำเขา้ ในกมั พชู าเพอ่ื นำไปผา่ นพธิ ศี ลุ กากร นำเข้าต่อไป โดยผู้นำเข้าต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียม PSI (Pre-Shipment Inspection) ในอตั รารอ้ ยละ 0.8 ของมลู คา่ FOB ของสนิ คา้ และมกี รมศลุ กากร กระทรวงเศรษฐกจิ และการคลงั เปน็ ผจู้ ดั เกบ็ ภาษนี ำเขา้ คู่มือ การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกัมพชู า 21 สส
การชำระเงนิ คา่ สนิ คา้ การชำระเงนิ คา่ สนิ คา้ ระหวา่ งผสู้ ง่ ออกไทย กบั ผนู้ ำเขา้ ของกมั พชู า มดี งั น้ี (1) การชำระค่าสินค้าด้วยเงินสด สกุลเงินท่ีนิยมนำมาใช้มากท่ีสุดคือ ดอลลารส์ หรฐั ฯ และเงนิ บาท หรอื บางครง้ั จะชำระดว้ ยทองคำ (2) การชำระดว้ ยระบบ L/C (Letter of Credit) เปน็ การชำระเงนิ คา่ สนิ คา้ ทม่ี มี ลู คา่ สงู โดยผซู้ อ้ื ในกมั พชู า จะตดิ ตอ่ กบั ธนาคารของตนเอง เพอ่ื ใหธ้ นาคาร ของตน เปดิ L/C ใหก้ บั ผสู้ ง่ ออกไทยโดยผา่ นธนาคารของไทย หลงั จากนน้ั ธนาคาร ของไทย จะสง่ L/C ใหผ้ สู้ ง่ ออกเพอ่ื ดำเนนิ การสง่ มอบสนิ คา้ ใหก้ บั ผซู้ อ้ื ตอ่ ไป (3) การชำระเงินระบบ D/P (Documents Against Payment) และ D/A (Documents Against Acceptance) ผ้สู ่งออกของไทยจะทำการ ต ร ว จ ส อ บ ฐ า น ะ แ ล ะ ป ร ะ วั ติ ข อ ง ผู้ ซ้ื อ กั ม พู ช า ก่ อ น จ ะ เ ป็ น ท่ี พ อ ใ จ แ ล้ ว จึงส่งเอกสารและสินค้าไปให้กับธนาคารของผู้นำเข้า โดยผู้นำเข้าจะต้อง ชำระเงนิ คา่ สนิ คา้ กอ่ น จงึ จะสามารถนำเอกสาร ไปออกสนิ คา้ ได้ (4) การชำระเงนิ ดว้ ยระบบ T/T (Telegraphic Transfer) ผสู้ ง่ ออกของไทย จะส่งสินค้าไปให้กับผู้นำเข้ากัมพูชาโดยให้เครดิตระยะหน่ึง เม่ือครบกำหนด เครดติ ผนู้ ำเขา้ กมั พชู า จะโอนเงนิ โดยทางโทรเลขกลบั มาใหผ้ สู้ ง่ ออกของไทย (5) การชำระคา่ สนิ คา้ ตามแนวชายแดนไทย-กมั พชู า นยิ มชำระดว้ ยเงนิ สด เป็นสกุลเงินบาท สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ และบางคร้ังอาจจ่ายเป็นทองคำ หากการซอ้ื ขายมปี รมิ าณมาก จะชำระดว้ ยการโอนเงนิ ทางโทรเลข Telegraphic Transfer (T/T) การชำระสินค้าอีกวิธีหน่งึ คือ ผ้สู ่งออกไทยจะส่งสินค้าไปให้ ผนู้ ำเขา้ ของกมั พชู ากอ่ น โดยใหเ้ ครดติ ระยะหนง่ึ เมอ่ื ครบกำหนดจา่ ย จะมนี ายหนา้ ของกมั พชู า เขา้ มาชำระเงนิ ใหก้ บั ผสู้ ง่ ออกไทยแทน ผนู้ ำเขา้ กมั พชู า เรยี กระบบนว้ี า่ \"โพยกว๊ น\" ขอ้ กำหนดในการจดทะเบยี นเครอ่ื งหมายทางการคา้ ข้อกำหนดการจดทะเบียนเคร่ืองหมายการค้ารวมท้ังสิทธิการคุ้มครอง ผปู้ ระกอบการตา่ งชาติ มดี งั น้ี 1. เอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการดำเนนิ การจดทะเบยี นเครอ่ื งหมายการคา้ กรอกแบบฟอร์มจดทะเบียนเคร่ืองหมายการค้าหนังสือต้นฉบับ Power of Attorney ของสนิ คา้ ทจ่ี ดทะเบยี นระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการยน่ื เรอ่ื งแตล่ ะขน้ั ตอน ต้งั แต่ต้นจนจบมีระยะเวลา 6 เดือน (ตามระเบียบท่กี ำหนด) แต่เจ้าหน้าท่ขี อง กรมทรัพย์สินทางปัญญากัมพูชาแจ้งว่า หากมีเอกสารครบและไม่มีปัญหาใดๆ จะใชเ้ วลาประมาณ 2 เดอื นเทา่ นน้ั 2. สทิ ธกิ ารคมุ้ ครองผปู้ ระกอบการ หลงั จากไดจ้ ดทะเบยี นเครอ่ื งหมายการคา้ เรยี บรอ้ ยแลว้ เจา้ ของเครอ่ื งหมายการคา้ ทง้ั ชาวกมั พชู าและชาวตา่ งชาตจิ ะไดร้ บั การคมุ้ ครองระยะเวลา 10 ปี และในปที ่ี 5 เจา้ ของเครอ่ื งหมายการคา้ ตอ้ งแจง้ กระทรวงพาณชิ ยว์ า่ ไดใ้ ชเ้ ครอ่ื งหมายการคา้ นน้ั หรอื ยงั 22 ค่มู ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกัมพชู า
3. ขอ้ เสนอแนะการจดทะเบยี นเครอ่ื งหมายการคา้ ในกมั พชู า ผปู้ ระกอบ การไทยท่ีประสงค์จะมีเคร่ืองหมายการค้าในกัมพูชาจะต้องย่ืนขอจดทะเบียน เครอ่ื งหมายการคา้ ในกมั พชู า - ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนเคร่อื งหมายการค้า 1 ย่หี ้อ ต้องจ่ายค่า ธรรมเนยี มใหร้ ฐั บาลเทา่ กบั 125 เหรยี ญสหรฐั ฯ - ต้องไปย่นื จดทะเบียนเคร่อื งหมายการค้าท่กี รมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณชิ ย์ 2.4 การคา้ ระหวา่ งประเทศ นบั แตไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากวกิ ฤตเศรษฐกจิ โลกในปี 2552 เศรษฐกจิ กมั พชู า ในปี 2553 เร่ิมมีการฟ้ืนตัว สถาบันเศรษฐกิจของกัมพูชา (The Economic Institute of Cambodia หรอื EIC) ประมาณการวา่ เศรษฐกจิ ของกมั พชู า (Real GDP) ในปี 2553 เติบโตร้อยละ 6.5% เม่อื เทียบกับปีท่ผี ่านมา โดยจะเห็นได้ ชดั จากภาคอตุ สาหกรรมสง่ิ ทอและตดั เยบ็ เสอ้ื ผา้ เพอ่ื สง่ ออก ภาคเกษตรอตุ สาหกรรม ขณะทภ่ี าคการเกษตร เชน่ ผลผลติ ขา้ วและพชื อน่ื ๆ ประสบปญั หาเนอ่ื งจากสภาพ ดินฟ้าอากาศ โดยประมาณการว่า ในปี 2554 เศรษฐกิจกัมพูชาจะเติบโตท่ี ร้อยละ 4.6 ซ่งึ จะส่งผลให้มีความต้องการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพ่มิ ข้นึ การนำเข้าสินค้าจากท่ัวโลกของกัมพูชาในปี 2553 เปรียบเทียบกับปี 2552 เพ่ิมประมาณร้อยละ 20 โดยการนำเข้าจากไทยเพ่ิมร้อยละ 48 เวียดนาม เพม่ิ รอ้ ยละ 36 จนี เพม่ิ รอ้ ยละ 42 และเกาหลใี ตเ้ พม่ิ รอ้ ยละ 30 เปน็ ตน้ สถติ กิ ารสง่ ออกของกมั พชู า-โลก หนว่ ย : ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ ปี 2549 2550 2551 2552 2553 2554 สนิ คา้ ม.ค. ก.พ. เสื้อผ้าสำเรจ็ รปู 3,240 3,622 3,953 3,310 3,709 304 298 รองเทา้ 185 209 496 538 489 24 28 สิง่ ทออื่นๆ 128 123 152 128 132 4 6 ไม้แปรรูป - - - 12 33 - - ผลิตภณั ฑไ์ ม้ 19 18 12 34 4 0.12 0.48 ยางพารา 8 10 7 5 4 0.24 0.19 สนิ คา้ ประมง 67 60 12 68 120 24 21 ข้าว - - 12 24 36 4 5 ยาสูบ 19 21 18 8 8 1.8 1.5 อนื่ ๆ 27 25 46 69 52 25 38 รวม 3,692 4,088 4,708 4,196 4,687 387.16 398.17 ทม่ี า : กรมศลุ กากรกมั พชู า คูม่ ือ การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา 23 สส
สถติ กิ ารสง่ ออกของกมั พชู า-โลก หนว่ ย : ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ ปี 2549 2550 2551 2552 2553 2554 สินค้า ม.ค. ก.พ. ยารกั ษาโรค 208 320 456 320 225 18 15 บหุ รี่ 480 610 463 905 1,076 89 82 เบียร์, แอลกอฮอล์ 48 50 54 60 112 9.2 9.1 Soft Drink อาหาร & Ingredients 244 280 426 355 552 48 45 วสั ดุกอ่ สรา้ ง 112 130 210 185 187 13 12 ซเี มนต์ 152 205 270 170 186 13 18 เหลก็ 116 215 198 210 274 24 22 เครื่องใชไ้ ฟฟา้ 60 75 132 140 124 11 12 เส้อื ผา้ ใช้แล้ว 168 290 300 370 382 35 35 ผ้าผนื 36 35 42 30 28 4 3 ยานยนต,์ รถจักรยานยนต์ 936 1,365 2,070 1,185 1,692 129 128 และส่วนประกอบ น้ำมนั เช้อื เพลิง 768 1,590 1,536 840 1,046 82 80 อน่ื ๆ 1,444 472 352 1,061 500 25.80 83.90 รวม 4,772 5,432 6,508 5,831 6,384 501 544 ทม่ี า : กรมศลุ กากรกมั พชู า ประเทศค่คู ้าท่สี ำคัญ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศท่กี ัมพูชาส่งออก มากท่ีสุดโดยมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเวียดนามเป็นประเทศท่ีกัมพูชานำเข้ามากท่ีสุด สามารถแซงจีน ซ่งึ เคยเป็นประเทศท่กี ัมพูชานำเข้ามากท่สี ุด ขณะท่ไี ทยเป็นค่คู ้าสำคัญ อนั ดบั 3 ดว้ ยมลู คา่ การคา้ รวม 2.5 พนั ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ สินค้าส่งออกท่ีสำคัญ สินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ยางพารา ข้าว ผลิตภัณฑ์ปลา ข้าวโพด ถ่ัวเหลือง ใบยาสูบและ ผลิตภัณฑ์ไม้ สนิ คา้ อตุ สาหกรรม ไดแ้ ก่ เสอ้ื ผา้ เครอ่ื งนงุ่ หม่ รองเทา้ และ สง่ิ ทอ ตลาดสง่ ออกทส่ี ำคญั ไดแ้ กส่ หรฐั อเมรกิ า กลมุ่ สหภาพยโุ รป ญป่ี นุ่ ฮอ่ งกง แคนาดา และ สงิ คโปร์ สินค้านำเข้าท่ีสำคัญ ผลิตภัณฑ์น้ำมันเช้ือเพลิงสำเร็จรูป อาหารและเครอ่ื งดม่ื ผา้ ผนื รถจกั รยานยนตแ์ ละสว่ นประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ปูนซีเมนต์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เครอ่ื งสำอาง สบู่ และผลติ ภณั ฑร์ กั ษาผวิ นำ้ ตาลทราย และผลติ ภณั ฑย์ าง แหล่งสินค้านำเข้าท่สี ำคัญ เวียดนาม จีน ไทย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลใี ต้ สงิ คโปร์ องั กฤษ มาเลเซยี และ อนิ โดนเี ซยี 24 คมู่ อื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจกั รกัมพชู า
2.5 การคา้ กบั ประเทศไทย ขอ้ มลู สรปุ การคา้ ระหวา่ งประเทศของไทย กบั กมั พชู า รายการ มลู ค่า : ลา้ นเหรียญสหรฐั ฯ อตั ราขยายตัว 2554 ((ม%.ค).-ก.พ.) มูลค่าการคา้ 2553 2553 (ม.ค.-ก.พ.) 2554 (ม.ค.-ก.พ.) การนำเขา้ 42.34 การส่งออก 2,556.82 325.26 462.98 36.46 2,342.09 310.01 423.03 161.83 214.73 15.26 39.95 ทม่ี า: ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร สำนกั งานปลดั กระทรวงพาณชิ ย์ โดยความรว่ มมอื จากกรมศลุ กากร มูลค่าการค้าระหว่างไทยและกัมพูชาในปี 2553 มีมูลค่าถึง 2.5 พันล้าน เหรยี ญสหรฐั ฯ และในปี 2554 ในชว่ งเดอื นมกราคมถงึ เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ มมี ลู คา่ 462 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ ซง่ึ ขยายตวั จากชว่ งเดยี วกนั ของปี 2553 ถงึ รอ้ ยละ 42 ทางดา้ นการสง่ ออก กมั พชู าสง่ ออกมายงั ประเทศไทยในปี 2553 มลู คา่ 214.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนในด้านการนำเข้ามีมูลค่าสูงถึง 2,342.09 ล้านเหรียญ สหรฐั ฯ สง่ ผลใหก้ มั พชู าขาดดลุ การคา้ กบั ประเทศไทยมาโดยตลอด สนิ คา้ หลกั ไทยสง่ ออกไปตลาดกมั พชู า ปี 2553 - 2554 หนว่ ย : ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ ชื่อสนิ คา้ มูลค่า : ล้านเหรียญ อตั ราขยายตวั 2553 2553 2554 2554 (ม.ค.-ก.พ.) (ม.ค.-ก.พ.) (ม.ค.-ก.พ.) นำ้ มนั สำเรจ็ รปู 281.1 40.7 56.7 206.3 20.6 39.24 นำ้ ตาลทราย 40.6 96.74 เครอ่ื งดม่ื 115.5 19.5 21.8 12.08 แเคลระือ่ สงว่ ยนนปตรส์ ะนั กดอาบปภายในแบบลูกสบู 69.7 14.0 18.2 29.73 ปนู ซเี มนต์ 118.9 16.0 18.1 13.00 อญั มณี 1.1 - 17.6 99,149.72 เครื่องสำอาง สบู่ และผลติ ภณั ฑร์ กั ษาผิว 80.1 10.3 16.6 60.87 ผลติ ภัณฑ์ยาง 73.2 12.4 15.2 22.63 เหล็ก เหล็กกล้า และผลติ ภัณฑ์ 72.5 12.1 13.7 13.31 ผา้ ผืน 77.5 11.0 12.8 16.33 การสง่ ออกรวมทง้ั สน้ิ 2,342.1 310.0 423.0 36.46 ทม่ี า: ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร สำนกั งานปลดั กระทรวงพาณชิ ย์ โดยความรว่ มมอื จากกรมศลุ กากร (สามารถหารายชอ่ื สนิ คา้ มากกวา่ 10 รายการไดท้ ่ี www2.ops3.moc.go.th) คมู่ อื การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พูชา 25 สส
ในปี 2553 ประเทศไทยสง่ ออกสนิ คา้ ประเภทนำ้ มนั สำเรจ็ รปู สงู สดุ เปน็ อนั ดบั 1 มมี ลู คา่ สงู ถงึ 281.1 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ รองลงมา คอื นำ้ ตาลทราย ปนู ซเี มนต์ และ เครอ่ื งดม่ื โดยมมี ลู คา่ 206.3, 118.9 และ 115.5 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ ตามลำดบั ในขณะทค่ี รง่ึ ไตรมาสแรกของปี 2554 นำ้ มนั สำเรจ็ รปู ยงั เปน็ สนิ คา้ สง่ ออกอนั ดบั 1 ของไทย โดยมนี ำ้ ตาลทราย, เครอ่ื งดม่ื และเครอ่ื งยนตส์ นั ดาปภายใน ในลำดบั ตอ่ มา ในขณะทน่ี ำ้ ตาลทรายมอี ตั ราการขยายตวั สงู ถงึ รอ้ ยละ 96.74 สนิ คา้ หลกั ไทยนำเขา้ จากตลาดกมั พชู าปี 2553-2554 ชือ่ สนิ คา้ มลู คา่ : ลา้ นเหรียญฯ อัตราขยายตวั (%) 2553 2553 2554 2554 (ม.ค.- (ม.ค.- (ม.ค.-ก.พ.) ผกั ผลไม้และของปรงุ แต่งท่ที ำจากผัก ผลไม้ 14.4 ก.พ.) ก.พ.) 251.86 สนิ แร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะ และ ผลติ ภณั ฑ์ 25.0 5.3 18.6 138.90 เหลก็ เหลก็ กล้า และ ผลติ ภณั ฑ์ 26.6 72.26 พชื และ ผลติ ภัณฑ์จากพืช 47.4 2.4 5.7 45.87 เสอ้ื ผา้ สำเรจ็ รปู 5.7 3.2 5.4 1,115.12 เยอ่ื กระดาษและเศษกระดาษ 6.0 1.6 2.3 -7.05 ไม้ซุง ไมแ้ ปรรปู และ ผลติ ภณั ฑ์ 2.4 0.2 2.3 103.09 เครือ่ งจักรกลและสว่ นประกอบ 1.2 0.9 0.8 369.91 เนื้อสัตว์สำหรบั บรโิ ภค 0.5 0.4 0.7 134.50 ผลิตภัณฑย์ าสูบ 0.3 0.1 0.7 0.1 0.3 - การนำเขา้ รวมทง้ั สน้ิ 214.7 - 0.3 161.83 15.3 39.9 ทม่ี า: ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร สำนกั งานปลดั กระทรวงพาณชิ ย์ โดยความรว่ มมอื จากกรมศลุ กากร (สามารถหารายชอ่ื สนิ คา้ มากกวา่ 10 รายการไดท้ ่ี www2.ops3.moc.go.th) ทางดา้ นการสง่ ออกสนิ คา้ กมั พชู ามายงั ประเทศไทย ในปี 2553 มมี ลู คา่ รวม 214.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสินค้าท่ีส่งออกมาอันดับ 1 คือ พืชและ ผลติ ภณั ฑจ์ ากพชื มลู คา่ 47.4 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ โดยมเี หลก็ กลา้ , สนิ แรโ่ ลหะอน่ื ๆ และผลไม้ ตามลำดบั ในขณะทใ่ี นระยะครง่ึ ไตรมาสแรกของปี 2554 ปรากฏวา่ มกี ารสง่ ออกผกั และผลไม้ เปน็ อนั ดบั 1 มลู คา่ 18.6 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯโดยมอี ตั รา การขยายถงึ รอ้ ยละ 251.86 26 คมู่ อื การค้าและการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พูชา
- การคา้ ชายแดนไทย-กมั พชู า ในปี 2553 ไทยมมี ลู คา่ การคา้ ชายแดนกบั กมั พชู า รวม 55,411 ลา้ นบาท เพม่ิ ขน้ึ จากปกี อ่ น รอ้ ยละ 22.1 ประกอบดว้ ย การสง่ ออก 51,112.7 ลา้ นบาท เพม่ิ ขน้ึ จากปกี อ่ น รอ้ ยละ 19.2 การนำเขา้ 4,298.3 ลา้ นบาท ลดลงจากปกี อ่ น รอ้ ยละ 72.2 ทำใหป้ ระเทศไทยไดเ้ ปรยี บดลุ การคา้ 46,814.4 ลา้ นบาท จงั หวดั ทม่ี กี ารคา้ ชายแดน มี 6 จงั หวดั ไดแ้ ก่ สระแกว้ ตราด จันทบุรี สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เรียงตาม ปรมิ าณการคา้ จากมากไปนอ้ ย สินค้าส่งออกชายแดนท่ีสำคัญ ได้แก่ น้ำตาลทรายเคร่ืองยนต์สันดาป ในแบบลูกสูบฯ ยางรถยนต์ ผ้าผืนและด้าย และเคร่ืองด่ืมท่ีไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น สำหรับสินค้านำเข้าชายแดนจากกัมพูชา ได้แก่ ผักและของปรุงแต่ง จากผัก เหล็ก อลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์ ทองแดงและผลิตภัณฑ์ และเส้ือผ้า สำเรจ็ รปู เปน็ ตน้ 2.6 กฎระเบยี บการนำเขา้ 2.6.1 มาตรการทม่ี ใิ ชภ่ าษี มาตรการนำเข้า ประเทศกัมพูชาไม่สามารถผลิตสินค้าเพ่ือสนองตอบ ความต้องการของประชาชนได้อย่างเพียงพอ จึงต้องอาศัยการนำเข้าเป็นหลัก โดยมีนโยบายการค้าเสรี ไม่มีข้อกีดกันทางการค้าหรือกำหนดโควตาในการนำ เข้าสินค้า แต่กำหนดให้ผ้นู ำเข้าสินค้าเข้า ต้องชำระภาษีนำเข้า ภาษีมูลค่าเพ่มิ และภาษพี เิ ศษอน่ื ๆ ตามทก่ี ระทรวงการคลงั กำหนด 1. สินค้าท่ตี ้องตรวจสอบก่อนการนำเข้า (Pre-Shipment Inspection) \"PSI\" กระทรวงพาณชิ ยแ์ ละกระทรวงการคลงั ไดอ้ อกระเบยี บการตรวจสอบสนิ คา้ ก่อนการนำเข้าท่มี ีมูลค่ามากกว่า 4,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าท่ไี ด้รับการ ยกเวน้ การตรวจสอบ \"PSI\" กอ่ นการนำเขา้ ไดแ้ ก่ (1) หนิ และโลหะทม่ี รี าคาแพง (2) วตั ถดุ า้ นงานศลิ ป์ (3) วตั ถรุ ะเบดิ และผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กย่ี วกบั การระเบดิ (4) กระสนุ ดนิ ดำ อาวธุ และยทุ โธปกรณ์ (5) สตั วม์ ชี วี ติ (6) หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั และรายคาบ (7) เครอ่ื งใชใ้ นบา้ นเรอื นและทรพั ยส์ นิ สว่ นตวั รวมถงึ ยานยนตใ์ ชแ้ ลว้ (8) พสั ดทุ ฝ่ี ากสง่ ทางไปรษณยี ์ หรอื ตวั อยา่ งสนิ คา้ (9) สง่ิ ของซง่ึ รฐั บาลตา่ งชาติ หรอื องคก์ รระหวา่ งประเทศจดั สง่ ใหแ้ กม่ ลู นธิ ิ องคก์ รการกศุ ล และองคก์ รเพอ่ื ชว่ ยเหลอื มนษุ ยชาติ คมู่ ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พูชา 27 สส
‘ สนิ คา้ ทห่ี า้ มนำเขา้ สนิ คา้ ทม่ี ี (10) สง่ิ ของและวสั ดคุ รภุ ณั ฑซ์ ง่ึ นำมาเพอ่ื ใชใ้ นภารกจิ ของคณะทตู สถานทตู หรือสถานกงสลุ และองคก์ ารสหประชาชาติ รวมถึงตัวแทนขององค์การในด้าน ผลกระทบตอ่ ความมน่ั คง ความ ตา่ งๆ ปลอดภยั สขุ อนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม (11) สินค้าทุนทุกชนิดซ่ึงได้รับอนุญาตให้นำเข้าโดยยกเว้นภาษีจากสภา และอุตสาหกรรมภายในประเทศ เพอ่ื พฒั นากมั พชู า (ไมว่ า่ สนิ คา้ นน้ั จะถกู กำหนดใหเ้ สยี ภาษหี รอื ไมก่ ต็ าม) ไดแ้ ก่ อาวุธ วตั ถุระเบิด รถยนต์ (12) สนิ คา้ ทกุ ชนดิ ทร่ี ฐั บาลไดก้ ำหนดใหน้ ำเขา้ โดยไมต่ อ้ งเสยี ภาษี เชน่ ปยุ๋ เคมี และเคร่ืองจักรท่ีใช้ในการทหาร อปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งยนตท์ ใ่ี ชด้ า้ นการเกษตร เครอ่ื งใชด้ า้ นการศกึ ษา และเครอ่ื งกฬี า ฯลฯ ’ทอง เครื่องเงิน เงินตรา ยา 2. สินค้าได้รับการยกเว้นการตรวจสอบก่อนการนำเข้า (PSI) เป็นการ ชว่ั คราว ไดแ้ ก่ และยาพิษ (1) บหุ ร่ี (2) รถจกั รยานยนต์ (3) โทรทศั น์ (T.V. SETS) (4) เครอ่ื งเลน่ วดิ โี อ (VIDEO TAPE RECORDER \"VTR\") (5) วทิ ยแุ ละวทิ ยเุ ทป (RADIO-CASSETTE RECORDERS) (6) ผลติ ภณั ฑป์ โิ ตรเลยี ม (PETROLEUM PRODUCTS) ทง้ั น้ี รฐั บาลกมั พชู าไดม้ อบหมายใหบ้ รษิ ทั BIVAC เปน็ ตวั แทนของรฐั บาลใน การคำนวณภาษกี อ่ นทำพธิ กี ารนำเขา้ โดยมขี น้ั ตอน ดงั น้ี - ผนู้ ำเขา้ แจง้ BIVAC ถงึ รายละเอยี ดสนิ คา้ ทน่ี ำเขา้ - BIVAC สง่ เจา้ หนา้ ท่ี ไปตรวจสอบสนิ คา้ ทแ่ี จง้ นำเขา้ นน้ั ๆ - เจา้ หนา้ ทส่ี ง่ ผลการตรวจสอบใหก้ บั BIVAC - ผู้นำเข้านำเอกสารท่ีได้รับจาก BIVAC ไปขอชำระภาษีนำเข้าและทำ พธิ กี ารออกของจากศลุ กากร 3. สินคา้ ท่หี า้ มนำเขา้ สินค้าท่มี ผี ลกระทบตอ่ ความมน่ั คง ความปลอดภยั สขุ อนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม และอตุ สาหกรรมภายในประเทศ ไดแ้ ก่ อาวธุ วตั ถรุ ะเบดิ รถยนตแ์ ละเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการทหาร ทอง เครอ่ื งเงนิ เงนิ ตรา ยาและยาพษิ มาตรการสง่ ออก สามารถทำการสง่ ออกไดเ้ สรี ไมม่ ขี อ้ จำกดั ยกเวน้ สนิ คา้ ท่กี ระทรวงพาณิชย์กัมพูชากำหนดให้สง่ ออกไดโ้ ดยต้องมีเอกสารใบรับรองแหล่ง กำเนิดสินค้าจากกรมสิทธิประโยชน์กัมพูชา หรือเอกสารใบอนุญาตส่งออกจาก กรมการคา้ ตา่ งประเทศกมั พชู า 1. เอกสารใบรบั รองแหลง่ กำเนดิ สนิ คา้ กรมสทิ ธปิ ระโยชน์ (GSP. Dept) กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา จะออกเอกสารใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้กับ 28 คู่มือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พชู า
ผู้ส่งออกสินค้าท่ีประเทศผู้นำเข้าต้องการ เพ่ือให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ศุลกากรและอ่นื ๆ ขณะน้มี ีสินค้าท่ตี ้องขอเอกสารใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพอ่ื สง่ ออกไปบางประเทศ เชน่ - ไมแ้ ละผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ - เสอ้ื ผา้ สำเรจ็ รปู และถงุ มอื - รองเทา้ - กงุ้ แชแ่ ขง็ - ขา้ ว - เบยี ร,์ บหุ ร่ี เอกสารใบอนญุ าตสง่ ออก กรมการคา้ ตา่ งประเทศ กระทรวงพาณชิ ยก์ มั พชู า จะออกเอกสารใบอนญุ าตสง่ ออกสนิ คา้ ทค่ี วบคมุ คอื - ไม้ และผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ - ขา้ ว 2.7 โอกาสทางการคา้ และปญั หาอปุ สรรค ความตอ้ งการ (Demand) ภายในประเทศ ขน้ึ อยกู่ บั รายไดข้ องภาคชนบท ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ รวมถงึ การไหลเวยี นของกระแสเงนิ ทนุ จากตา่ งประเทศโดยเฉพาะการลงทนุ ขดุ เจาะนำ้ มนั และกา๊ ซธรรมชาติ ซง่ึ ถกู คน้ พบนอกชายฝง่ั เมอ่ื ปี 2548 กมั พชู าเปน็ ประเทศทม่ี ศี กั ยภาพทไ่ี ทยนา่ จะขยายการสง่ ออกสนิ คา้ ใหม้ ากขน้ึ โดย ภาครฐั ไทย ใหก้ ารสนบั สนนุ ภาคเอกชนไทย ดงั น้ี (1) สนบั สนนุ ผลกั ดนั การสง่ ออกสนิ คา้ ไทยใหม้ ากขน้ึ (2) ประสานความสมั พนั ธท์ ง้ั ภาครฐั และเอกชนทกุ ระดบั ใหแ้ นน่ แฟน้ (3) สนบั สนนุ และเรง่ ผลกั ดนั ใหเ้ อกชนไทยไปลงทนุ ในตา่ งประเทศ (Interna- tionalization) (4) สง่ เสรมิ ภาคเอกชนไทยใหเ้ ขา้ รว่ มงานแสดงสนิ คา้ ในตา่ งประเทศ/ Thai- land Trade Exhibition (5) ส่งเสริมกิจกรรม In store promotion ร่วมกับห้างสรรพสินค้า ซปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ / ผนู้ ำเขา้ ในตา่ งประเทศ (6) จัดคณะผู้แทนการค้า Business Matching ไปเจรจาการค้า ในตา่ งประเทศ (7) จดั กจิ กรรมฝกึ อบรมสมั มนา โอกาสสนิ คา้ ไทยในตลาดกมั พชู า (1) การสง่ มอบสนิ คา้ ของไทยมคี วามสะดวกและรวดเรว็ เนอ่ื งจากไทยและ กมั พชู ามอี าณาเขตชายแดน ตดิ ตอ่ กนั เปน็ แนวยาว คมู่ อื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พูชา 29 สส
‘ การนำสินค้าเข้าสู่ตลาด (2) การชำระค่าสินค้าของไทยกับกัมพูชาสามารถกระทำได้โดยวิธีง่ายๆ โดยชำระค่าสินค้าเป็นเงินบาท เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และทองคำ ทำให้การ ของประเทศกมั พชู าในระยะเรมิ่ ตน้ ซอ้ื ขายสนิ คา้ ของไทย มคี วามคลอ่ งตวั สงู กวา่ ประเทศคแู่ ขง่ ควรจดทะเบียนเคร่ืองหมาย (3) สินค้าไทยมีคุณภาพดี รูปแบบสวยงาม เป็นท่ีพอใจของตลาดกัมพูชา ก า ร ค้ า ก่ อ น ท ำ ก า ร ต ล า ด เพราะชาวกมั พชู านยิ มสนิ คา้ ไทยตามการโฆษณาทางสอ่ื โทรทศั นไ์ ทย ทำใหส้ นิ คา้ ไทย เนื่องจากอาจถูกลอกเลียน เปน็ ทร่ี จู้ กั แพรห่ ลายมากกวา่ สนิ คา้ จากประเทศอน่ื ๆ (4) รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือ ด้านท่ีพักอาศัยแก่ผู้อพยพชาวกัมพูชา ’ปลอมเคร่ืองหมายการค้า หาก ส่งผลให้ชาวกัมพูชาคิดว่าไทยเป็นบ้านพ่เี มืองน้องและมีความเช่อื ใจไทยในเร่อื ง ไมค่ ดโกงมากกวา่ ประเทศคแู่ ขง่ สนิ คา้ ไดร้ บั ความนยิ ม (5) การกระจายสนิ คา้ ไทยเขา้ สตู่ ลาดกมั พชู า ทางดา้ นชายแดนมปี รมิ าณมาก ทำให้สินค้าไทยครองตลาดต่างจังหวัดของกัมพูชาได้มากกว่าประเทศ คแู่ ขง่ รวมทง้ั ผนู้ ำเขา้ รายใหญๆ่ ของกมั พชู ามกั จะเปน็ หนุ้ สว่ นกบั พอ่ คา้ ไทย ซง่ึ จะ เป็นผ้นู ำเข้าสินค้าไทย เข้าไปกระจายต่อให้กับพ่อค้าขายส่งและพ่อค้าขายปลีก ในตลาดกมั พชู า ทำใหส้ นิ คา้ ไทยสามารถกระจายอยทู่ ว่ั ทกุ ตลาดในกมั พชู า (6) นกั ธรุ กจิ ไทยเขา้ ไปลงทนุ ในกมั พชู าเปน็ จำนวนมาก ทำใหก้ ารสง่ั ซอ้ื สนิ คา้ วตั ถดุ บิ จากไทยเพอ่ื ใชใ้ นอตุ สาหกรรม มมี ากกวา่ คแู่ ขง่ นอกจากนย้ี งั ไดม้ กี ารจดั ตง้ั สำนกั งานตวั แทน หรอื เปดิ บรษิ ทั สาขา จำหนา่ ยสนิ คา้ ในกรงุ พนมเปญ เพอ่ื ใหผ้ คู้ า้ สง่ และผคู้ า้ ปลกี ของกมั พชู า เขา้ มาเลอื กซอ้ื สนิ คา้ ทร่ี า้ นไดท้ กุ วนั (7) ไทยสามารถอาศัยผู้นำเข้าของกัมพูชาเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไทย ตอ่ ไปยงั ประเทศเวยี ดนามและลาวได้ นอกจากนค้ี วรใหก้ ารสนบั สนนุ นกั ลงทนุ ไทย มาลงทนุ ในกมั พชู า ในโครงการทก่ี มั พชู ามศี กั ยภาพ ไดแ้ ก่ - การผลติ ไฟฟา้ พลงั งานนำ้ - การทำเหมอื งแร่ - การปลกู พชื เกษตร เชน่ ตน้ ยคู าลปิ ตสั ยางพารา พชื ไร่ ไดแ้ ก่ ขา้ วโพด เลย้ี งสตั ว์ ขา้ วโพดฝกั ออ่ น ออ้ ย ถว่ั เหลอื ง งา และมนั สำปะหลงั เปน็ ตน้ ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ การนำสนิ คา้ เขา้ สตู่ ลาดของประเทศกมั พชู าในระยะเรม่ิ ตน้ ควรจดทะเบยี น เคร่ืองหมายการค้าก่อนทำการตลาดเน่ืองจากอาจถูกลอกเลียน ปลอม เคร่ืองหมายการค้า หากสินค้าได้รับความนิยม และควรมีตัวแทน เพ่ือดูแล ธุรกิจในกัมพูชา นักธุรกิจท่ีสนใจเข้ามาประกอบธุรกิจในกัมพูชา ควรเข้ามา ศกึ ษาตลาดดว้ ยตนเอง เพอ่ื ใหท้ ราบถงึ รสนยิ มของผบู้ รโิ ภค โดยเฉพาะควรเขา้ รว่ ม งานแสดงสนิ คา้ ทก่ี รมสง่ เสรมิ การสง่ ออก กระทรวงพาณชิ ยจ์ ดั ขน้ึ ทกุ ปี นอกจากน้ี นักธุรกิจไทยควรมีการเรียนภาษาเขมรเพ่อื ให้สามารถส่อื สารเบ้อื งต้นได้ เพราะ ปัจจุบันคนกัมพูชามีความต่ืนตัวและเรียนรู้ภาษาต่างประเทศค่อนข้างมาก ไมว่ า่ ภาษาองั กฤษ ไทย จนี แตจ้ ว๋ิ จนี กลาง ญป่ี นุ่ หรอื เกาหลี เนอ่ื งจากตระหนกั วา่ 30 คมู่ ือ การค้าและการลงทุน ราชอาณาจกั รกัมพชู า
เป็นการเพ่ิมโอกาสท่ีจะได้งานกับบริษัทต่างชาติและองค์กรต่างๆ ท่ีมาเปิด ‘ การสรา้ งแบรนดส์ นิ คา้ ไทย ทำการในประเทศ ดังน้นั นักธุรกิจไทย ควรให้ความสำคัญกับภาษาดังกล่าวน้ี เชน่ กนั เพอ่ื ใชส้ อ่ื สาร หรอื เจรจาตดิ ตอ่ ธรุ กจิ ในกมั พชู า ตอ้ งอาศยั การโฆษณา ผู้นำเข้ารายใหญ่ซ่ึงนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศส่วนมาก หรือเกือบ ประชาสมั พนั ธ์ ผา่ นสอ่ื เปน็ หลกั ทกุ รายจะมสี ำนกั งานฯ ตง้ั อยใู่ นกรงุ พนมเปญ การบอกปากตอ่ ปากทำไดต้ อ่ เมอ่ื ผนู้ ำเขา้ รายยอ่ ย มอี ยทู่ ว่ั ในกรงุ พนมเปญ และเมอื งตา่ งๆ ทม่ี ดี า่ นชายแดน สินค้าน้ันเป็นท่ีรู้จักดีในตลาด ตดิ ตอ่ กบั ประเทศไทยหรอื เวยี ดนาม ผนู้ ำเขา้ รายยอ่ ยตามชายแดน เปน็ คแู่ ขง่ ขนั นอกจากนก้ี ารขายสนิ คา้ โดยตรง ทส่ี ำคญั กบั ผนู้ ำเขา้ ขนาดใหญ่ ทง้ั นเ้ี พราะเปน็ ผทู้ ำธรุ กจิ นอกระบบโดยหลกี เลย่ี ง และการจำหน่ายสินค้าเงินผ่อน ภาษนี ำเขา้ ทง้ั น้ี ผนู้ ำเขา้ รายยอ่ ยจะมอี ยเู่ ปน็ จำนวนมากโดยอาจเปน็ ตวั แทนนำเขา้ ในกัมพูชาไม่ประสบผลสำเร็จ โดยตรงจากผ้ผู ลติ /สง่ ออก ในประเทศท่ตี ิดกบั ชายแดน หรอื เป็นผซู้ อ้ื สินคา้ จาก ตวั แทนในประเทศ และนำเขา้ มาเองผา่ นตามชายแดน ’เนอ่ื งจากคนกมั พชู าไมม่ เีงนิ เดอื น การส่งต่อไปยงั ประเทศท่สี าม มกี ารดำเนินการโดยผนู้ ำเขา้ สนิ ค้าจากไทย หรือเวียดนาม เข้ามาเลือกซ้ือสินค้าในกรุงพนมเปญ แล้วส่งต่อไปยังอีก ประจำ หรอื เงนิ รายไดท้ แ่ี นน่ อน ประเทศหนง่ึ การสรา้ งแบรนดส์ นิ คา้ ไทยในกมั พชู า ตอ้ งอาศยั การโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ ผ่านส่อื เป็นหลัก การบอกปากต่อปากทำได้ต่อเม่อื สินค้าน้นั เป็นท่รี ้จู ักดีในตลาด นอกจากน้ีการขายสินค้าโดยตรงและการจำหน่ายสินค้าเงินผ่อนในกัมพูชา ไมป่ ระสบผลสำเรจ็ เนอ่ื งจากคนกมั พชู าไมม่ เี งนิ เดอื นประจำ หรอื เงนิ รายไดท้ แ่ี นน่ อน และถอื วา่ การเสยี เครดติ ไมไ่ ดเ้ ปน็ สง่ิ นา่ อบั อายในสงั คมแตอ่ ยา่ งใด เนอ่ื งจากคนกมั พชู าสว่ นใหญพ่ ยายามทจ่ี ะกา้ วทนั โลกยคุ ปจั จบุ นั จงึ อาจแยก พฤตกิ รรมการบรโิ ภคของกลมุ่ บคุ คลในสงั คมตามกำลงั การซอ้ื ออกเปน็ 3 กลมุ่ คอื (1) กลุ่มผู้มีกำลังการซ้ือสูง-ประมาณร้อยละ 5 ของประชากร บุคคล ในกลมุ่ นไ้ี ดแ้ ก่ (1.1) นกั ธรุ กจิ ทเ่ี ปน็ ผนู้ ำเขา้ /ตวั แทนจำหนา่ ยสนิ คา้ เชน่ บหุ ร่ี เบยี ร์ สรุ า ไวน์ วสั ดกุ อ่ สรา้ ง นำ้ มนั เชอ้ื เพลงิ และยานยนต์ รวมถงึ นกั ธรุ กจิ ทม่ี รี ายไดจ้ ากการ ซอ้ื ขายทด่ี นิ และการจดั การดา้ นอสงั หารมิ ทรพั ย์ (1.2) นกั ธรุ กจิ เจา้ ของบอ่ นคาสโิ น (1.3) นักการเมืองและข้าราชการระดับผู้บริหาร (โดยผู้ดำรงตำแหน่ง ข้าราชการระดับสูง ท้ังส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง มาจากการแต่งต้ังของ พรรคการเมือง โดยมีวาระตามการตัดสินใจของผ้บู ริหารพรรคการเมืองซ่งึ เป็น ผบู้ รหิ ารประเทศในขณะนน้ั ) กลมุ่ นม้ี รี ายไดม้ าจาก การใหเ้ ชา่ บา้ นและทด่ี นิ ซง่ึ ได้ รบั จดั สรรขณะดำรงตำแหนง่ ผบู้ รหิ ารขณะใกลเ้ ปดิ ประเทศ หรอื ประมาณปี 2533 และรายรบั ทไ่ี ดจ้ ากการอำนวยความสะดวกในเรอ่ื งกฎระเบยี บของรฐั รวมถงึ เงนิ ชว่ ยเหลอื จากตา่ งประเทศในโครงการพฒั นาตา่ งๆ (2) กล่มุ ผ้มู ีกำลังซ้อื ปานกลาง-ประมาณร้อยละ 10 ของประชากร บุคคล ในกลมุ่ นไ้ี ดแ้ ก่ คูม่ อื การค้าและการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พชู า 31 สส
(2.1) กล่มุ นกั ธรุ กิจทเ่ี ป็นผนู้ ำเขา้ สนิ ค้าหรอื คา้ ส่งสินคา้ รวมถงึ ผ้ทู ่ลี งทุน รว่ มกบั นกั ธรุ กจิ ตา่ งชาติ (2.2) กล่มุ ลูกจ้างท่ที ำงานกับองค์การระหว่างประเทศ สถานทูต และ บรษิ ทั ตา่ งชาตริ วมถงึ บคุ คลสาธารณะเชน่ นกั รอ้ ง และนกั แสดงเปน็ ตน้ (2.3) กลมุ่ ประชาชนซง่ึ ประกอบอาชพี คา้ ขาย (3) กลมุ่ ผมู้ กี ำลงั ซอ้ื ตำ่ -ประมาณรอ้ ยละ 85 ของประชากร บคุ คลในกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ (3.1) บคุ คลทไ่ี มอ่ ยใู่ นกลมุ่ ท่ี 1 และ 2 (3.2) ผปู้ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม (3.3) ลกู จา้ งในโรงงาน (3.4) ผทู้ ไ่ี ดร้ บั เงนิ ชว่ ยเหลอื จากญาตซิ ง่ึ อาศยั อยใู่ นตา่ งประเทศ 2.8 ระบบโลจสิ ตกิ ส์ การขนสง่ สนิ คา้ 1.) ทางบก ถนนในกมั พชู า รวมมคี วามยาวประมาณ 39,704 กโิ ลเมตร แยกเปน็ ทางหลวง 5,263 กโิ ลเมตร และถนนสายจงั หวดั 6,441 กโิ ลเมตร และถนนสายชนบท ประมาณ 28,000 กโิ ลเมตร โดย มเี สน้ ทางทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ประเทศไทย - กมั พชู า ดงั น้ี (1.) กรุงเทพฯ-กรุงพนมเปญ (กรุงเทพ-อรัญ ป ร ะ เ ท ศ - บั น เ ตี ย เ มี ย น เจ ย - พ ร ะ ต ะ บ อ ง - โ พ ธิ สั ต - กัมปงชะนัง-กรุงพนมเปญ) จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวง หมายเลข 33 ม่งุ สู่ ฉะเชิงเทรา - กบินทร์บุรี -อรัญประเทศ ระยะทางประมาณ 310 กิโลเมตร ในส่วนของกัมพูชา คือ จากจดุ ผา่ นแดนถาวรคลองลกึ -ปอยเปต เขา้ สเู่ ขตแดนกมั พชู า (เส้นทางระเบียงด้านใต้น้ีสามารถเช่ือมต่อกับเส้นทาง หมายเลข 5 ของกมั พชู า ผา่ นจงั หวดั บนั เตยี เมยี นเจย พระตะบอง โพธิสัต กัมปงชะนัง เข้าสู่กรุงพนมเปญ ระยะทางประมาณ 420 กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทาง 8 ช่ัวโมง (เส้นทาง ระเบียงด้านใต้น้ี สามารถเช่ือมต่อกับเส้นทางหมายเลข 6 จาก บนั เตยี เมยี นเจย – เสยี มเรยี บ-กมั ปงธม-กรงุ พนมเปญ รวมระยะทาง 430 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาการเดนิ ทาง 9 ชว่ั โมง) (2.) กรุงเทพฯ-กรุงพนมเปญ (กรุงเทพฯ-ตราด-เกาะกง-กัมปงสะปือ- กรงุ พนมเปญ) มงุ่ หนา้ สจู่ งั หวดั ตราด ขา้ มแดนทด่ี า่ นบา้ นหาดเลก็ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด-บ้านจามเย่ียม อำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง (กัมพูชา) 32 ค่มู อื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พูชา
เดินทางตามเส้นทางหมายเลข 48 ไปอำเภอสะแรอัมเบิล จังหวัดเกาะกง ไปเช่ือมต่อกับเส้นทางหมายเลข 4 ข้ึนเหนือผ่านจังหวัดกัมปงสะปือ ไปกรุง พนมเปญ ระยะทาง 283 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาเดนิ ทาง 7 ชว่ั โมง (3.) กรุงเทพฯ-จังหวัดสีหนุวิลล์ (กัมปงโสม) มุ่งหน้าสู่จังหวัดตราด ข้ามแดนท่ีด่านบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด-บ้านจามเย่ียม อำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง (กัมพูชา) เดินทางตามเส้นทางหมายเลข 48 ไปอำเภอสะแรอัมเบิล จังหวัดเกาะกง ไปเช่อื มต่อกับเส้นทางหมายเลข 4 ลงใตส้ จู่ งั หวดั สหี นวุ ลิ ล์ ระยะทาง 260 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาการเดนิ ทาง 5 ชว่ั โมง (4.) กรงุ เทพฯ-จงั หวดั กมั ปงจาม (กรงุ เทพฯ-อรญั ประเทศ-บนั เตยี เมยี นเจย- เสยี มเรยี บ-กมั ปงธม-กมั ปงจาม) ระยะทาง 430 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาการเดนิ ทาง 8 ชว่ั โมง ** การขนสง่ สนิ คา้ ตอ้ งมกี ารเปลย่ี นหวั รถลาก หรอื ทำการขนถา่ ยสนิ คา้ เพอ่ื เปลย่ี นเปน็ รถทม่ี พี วงมาลยั ซา้ ย ณ ฝง่ั กมั พชู า 2.) ทางอากาศ 1.) สนามบนิ สวุ รรณภมู -ิ สนามบนิ นานาชาตกิ รงุ พนมเปญ ใชเ้ วลาเดนิ ทาง 55 นาท ี 1. สายการบนิ ไทย 2 เทย่ี วบนิ /วนั 2. สายการบนิ แอรเ์ อเชยี 1 เทย่ี วบนิ /วนั 3. สายการบนิ บางกอกแอรเ์ วย์ 4 เทย่ี วบนิ /วนั 2.) สนามบนิ สวุ รรณภมู ิ – สนามบนิ นานาชาตเิ สยี มเรยี บ ใชเ้ วลาเดนิ ทาง 55 นาท ี ไดแ้ ก่ สายการบนิ บางกอกแอรเ์ วย์ 5 เทย่ี วบนิ /วนั 3.) ทางนำ้ ในกมั พชู า มที า่ เรอื นำ้ ลกึ แหง่ เดยี ว คอื ทา่ เรอื สหี นวุ ลิ ล์ ซง่ึ ไดม้ กี ารปรบั ปรงุ โดยการวางคอนเทนเนอรร์ อบทา่ เรอื นำ้ ลกึ ความยาว 240 เมตร และขยายพน้ื ท่ี จอดเรอื ความยาว160เมตรสำหรบั รองรบั เรอื ทก่ี นิ นำ้ ลกึ 9เมตร ปจั จบุ นั ทา่ เรอื แหง่ น้ี มีท่าเทียบเรือ 12 แห่ง มีเคร่อื งมืออำนวยความสะดวกท่ที ันสมัย มีทางเข้า 2 สายคอื สายใต้ (South Channel) มที า่ เทยี บเรอื ยาว 5.5 กม.นำ้ ลกึ 8.4 เมตร กวา้ ง 80-100 เมตร สว่ นทางเขา้ สายเหนอื (North Channel) มที า่ เทยี บเรอื ยาว 1 กม.นำ้ ลกึ 10 เมตร กวา้ ง 150-200 เมตร กรงุ เทพฯ – ทา่ เรอื สหี นวุ ลิ ล ์ ใชเ้ วลาการเดนิ ทาง 6 วนั ทา่ เรอื แหลมฉบงั – ทา่ เรอื สหี นวุ ลิ ล ์ ใชเ้ วลาการเดนิ ทาง 4 วนั อำเภอคลองใหญ่ – ทา่ เรอื สหี นวุ ลิ ล์ ใชเ้ วลาการเดนิ ทาง 6 วนั คู่มือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกัมพชู า 33 สส
3. รายงานภาวะอตุ สาหกรรม แนวโนม้ ความตอ้ งการสนิ คา้ ทส่ี ำคญั ในตลาดกมั พชู า ไดแ้ ก่ (1) อาหารและเครอ่ื งดม่ื – กมั พชู ามจี ำนวนประชากรเพม่ิ รอ้ ยละ 1.17 ตอ่ ปี ขณะทพ่ี น้ื ทแ่ี ละอตุ สาหกรรมภายในประเทศของกมั พชู ายงั มขี อ้ จำกดั ทำใหก้ มั พชู า ตอ้ งอาศยั การนำเขา้ สนิ คา้ จากตา่ งประเทศมาเพอ่ื บรโิ ภค และเพอ่ื ตอบสนองความ ตอ้ งการของนกั ทอ่ งเทย่ี วจากทว่ั โลก ทเ่ี ดนิ ทางมาเทย่ี วในกมั พชู า ปลี ะประมาณ 2 ลา้ นคน (2) รถยนต์ – การนำเขา้ เพม่ิ โดยเฉพาะรถยนตใ์ หมเ่ พอ่ื ทดแทนรถยนตเ์ กา่ นอกจากนภ้ี าวะเศรษฐกจิ ทเ่ี ตบิ โตสง่ ผลตอ่ ความตอ้ งการมรี ถยนตส์ งู ขน้ึ (3) วัสดุก่อสร้าง – มีแนวโน้มการนำเข้าสูงเพ่อื ใช้ในการก่อสร้างอาคาร พาณชิ ยแ์ ละสาธารณปู โภคตา่ งๆ (4) ผลติ ภณั ฑย์ าง – ซง่ึ มแี นวโนม้ ความตอ้ งการเพม่ิ ขน้ึ โดยเฉพาะยางรถยนต์ และจกั รยานยนต์ (5) ผา้ ผนื – กมั พชู านำเขา้ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ ในอตุ สาหกรรมผลติ Garment เพอ่ื สง่ ออกซง่ึ เปน็ อตุ สาหกรรมทส่ี รา้ งรายไดใ้ หก้ มั พชู า (6) เชอ้ื เพลงิ - นำเขา้ เพอ่ื รองรบั กบั การขยายตวั ของโรงงานอตุ สาหกรรม เพอ่ื ใชก้ บั ยานพาหนะ และผลติ กระแสไฟฟา้ สนิ คา้ สง่ ออกสำคญั ของกมั พชู า ไดแ้ ก่ กัมพูชามีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากท่ียังไม่ได้นำออกมาใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งเตม็ ท่ี ประมาณการวา่ การปศสุ ตั ว์ ประมง และปา่ ไม้ สรา้ งรายได้ ให้แก่ประเทศเป็นมูลค่าประมาณคร่งึ หน่งึ ของ GDP และสร้างงานร้อยละ 80 ของกำลงั แรงงานรวม - ป่าไม้ มีพ้นื ท่รี ้อยละ 60 ของพ้นื ท่ปี ระเทศ บริเวณท่ปี ่าไม้หนาแน่นคือ เทอื กเขาบรรทดั ทางตอนใตแ้ ละตะวนั ตกเฉยี งใตข้ องประเทศ - สัตว์น้ำ มีชุกชุมด้านชายฝ่ังทะเลทางตอนใต้ และท่ีทะเลสาบ ซ่ึงเป็น แหล่งจับปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ครอบคลุมพ้ืนท่ีถึง 10,000 ตารางกิโลเมตรใน ฤดนู ำ้ หลากและลดเหลอื 3,000 ตารางกโิ ลเมตรในฤดแู ลง้ ปลาทจ่ี บั จากแมน่ ำ้ โขง แต่ละปปี ระมาณ 1 ล้านตัน นอกจากน้ยี ังมีปลาทเ่ี ล้ยี งประมาณ 200,000 ตัน ปลามสี ว่ นสำคญั ตอ่ วถิ คี วามเปน็ อยขู่ องประชาชน เพราะนอกจากจะใชบ้ รโิ ภคโดย ตรงแลว้ ยงั สามารถสง่ ออก สรา้ งรายไดใ้ หแ้ กป่ ระเทศดว้ ย - น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลกัมพูชาได้ให้สัมปทานสำรวจน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติบนชายฝ่ังและนอกชายฝ่ัง ผลการสำรวจพบว่ามีปริมาณ ท่ีสามารถทำเชิงพาณิชย์ได้ ประมาณว่ามีก๊าซสำรองในเขตแดนของกัมพูชา ประมาณ 5 พนั ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร และในพน้ื ทท่ี บั ซอ้ นกบั ประเทศไทย ประมาณ 8 พันล้านลูกบาศก์เมตร ซ่งึ สามารถขุดนำมาใช้ในทางพาณิชย์ได้ต้งั แต่ปี 2553 นอกจากนก้ี ารสำรวจในเขตทะเลสาบ คาดวา่ จะพบแหลง่ กา๊ ซจำนวนหนง่ึ 34 ค่มู อื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา
- อญั มณี มแี หลง่ อญั มณที ม่ี คี ณุ ภาพดเี ชน่ ทอ่ี ำเภอไพลนิ กรงุ ไพลนิ ซง่ึ เปน็ แรพ่ ลอยสายเดยี วกบั จงั หวดั ตราดและจนั ทบรุ ี พลอยมมี ากบรเิ วณเทอื กเขาเพชร หรอื เขาสามพนั ลา้ น และเทอื กเขาบรรทดั ซง่ึ เปน็ เสน้ กน้ั พรมแดนระหวา่ งประเทศ ไทย – กมั พชู า นอกจากนย้ี งั มเี หมอื งทองในจงั หวดั รตั นครี ี - สนิ แร่ มเี ปน็ จำนวนมาก อาทิ เหลก็ ฟอสเฟต, บอ๊ กไซด,์ ซลิ คิ อน,ถา่ นหนิ และแมงกานสี เปน็ ตน้ สนิ คา้ หลกั ทไ่ี ทยสง่ ออก และ นำเขา้ จาก กมั พชู า (5 อนั ดบั แรก) สนิ ค้าหลักทไี่ ทยส่งออก ประเทศคู่แขง่ สินคา้ หลกั ทไ่ี ทยนำเขา้ ประเทศคแู่ ข่ง 1. น้ำมนั สำเร็จรปู 1.พชื และผลิตภัณฑจ์ ากพืช เวยี ดนาม 2. น้ำตาลทราย สิงคโปร์,เวียดนาม 2.เหลก็ เหลก็ กล้าและผลติ ภณั ฑ์ จีน, เวียดนาม 3. ปูนซีเมนต์ เวียดนาม 3. เศษโลหะ เวียดนาม 4. เครือ่ งดื่ม อินโดนีเซีย, 4. ผลิตภัณฑ์สง่ิ ทออนื่ ๆ เวียดนาม 5. รถจกั รยานยนตแ์ ละสว่ นประกอบ เวยี ดนาม 5.เนอื้ สตั วส์ ำหรบั การบรโิ ภค เวียดนาม สิงคโปร์, มาเลเซีย เกาหล,ี จนี ทม่ี า : สำนกั งานการคา้ ระหวา่ งประเทศ ณ กรงุ พนมเปญ สนิ คา้ และบรกิ ารทม่ี ศี กั ยภาพของไทยในกมั พชู า สินคา้ /บรกิ าร วตั ถุดบิ Out Sourcing ประเทศคู่แขง่ ศักยภาพ ทส่ี ำคญั เวียดนาม, สิงคโปร์ 1. โรงพยาบาล 1. ทรัพยากรธรรมชาตเิ ชน่ ไม้ น้ำมัน ก๊าซ เวียดนาม, มาเลเซีย,จีน,เกาหลี 2. สปา 2. แร่ หินมคี า่ เวียดนาม,จนี ,เกาหลี 3. อาหารไทย 3. แรงงาน เวียดนาม,ฮอ่ งกง,เกาหลี,ฝรัง่ เศส 4. เสรมิ สวย 4. พชื ไร่ เวยี ดนาม,จีน 5. ตัดเย็บเสื้อผ้า 5. ขา้ ว ทม่ี า : สำนกั งานการคา้ ระหวา่ งประเทศ ณ กรงุ พนมเปญ คู่มอื การค้าและการลงทุน ราชอาณาจักรกัมพชู า 35 สส
4. การลงทนุ กมั พชู าในปจั จบุ นั ไดม้ นี โยบายการเปดิ ประเทศ และพยายามสรา้ งภาพลกั ษณ์ รวมทง้ั สาธารณปู โภคตา่ งๆ อาทิ สะพาน ถนน ทา่ เรอื นำ้ ลกึ โรงแรม เปน็ ตน้ เพอ่ื อำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการดึงดูดนักลงทุน ต่างชาติให้เข้ามาลงทุน ท้งั น้เี พ่อื สร้างรายได้และความอย่ดู ีกินดีให้กับประชาชน ของตนเอง หลงั จากทอ่ี ยใู่ นภาวะสงครามมาเปน็ ระยะเวลาอนั ยาวนาน 4.1 การลงทนุ จากตา่ งประเทศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกัมพูชา (Cambodian Investment Board : CIB) ไดอ้ นมุ ตั โิ ครงการสง่ เสรมิ การลงทนุ ในกมั พชู า ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2537 ถงึ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2553 จำนวน 1,830 โครงการ มลู คา่ เงนิ ลงทนุ 8,470.7 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ รายการ การลงทนุ ทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั จิ าก CIB ปี 2549 –2553 2553/2552 หน่วย 2549 2550 2551 2552 2553 อตั ราการเพ่มิ (ลด) % มูลค่าเงินลงทนุ ลา้ นดอลลาร์ 207.7 480.7 259.9 199.0 172.8 +23.80 ล้าน USD สหรฐั ฯ 15.97% จำนวนโครงการ โครงการ 99 130 101 100 102 +2 โครงการ 2% ทม่ี า : Cambodia Investment Board ในปี 2553 CIB อนมุ ตั โิ ครงการลงทนุ ทง้ั สน้ิ 102 โครงการ เงนิ ลงทนุ 172.8 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ เมอ่ื เทยี บกบั ปี 299.2 พบวา่ มกี ารอนมุ ตั เิ พม่ิ จากปกี อ่ น 2 โครงการ หรอื เพม่ิ รอ้ ยละ 15.97 และมเี งนิ ลงทนุ เพม่ิ 23.8 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ หรอื เพม่ิ รอ้ ยละ 2 โครงการท่ี CIB อนมุ ตั ิ ไดแ้ ก่ - อตุ สาหกรรม Garment 40 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 41.8 ลา้ นดอลลาร์ สหรฐั ฯ จำนวนโครงการและเงินลงทุนเพ่มิ ร้อยละ 73.91 และร้อยละ 81.79 จากปี 2552 ทอ่ี นมุ ตั ิ 23 โครงการ และเงนิ ลงทนุ รวม 23.0 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ โดยนกั ลงทนุ รายใหญ่ คอื ไตห้ วนั จนี ฮอ่ งกง เกาหลใี ต้ กมั พชู า องั กฤษ มาเลเซยี สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และไทย ซ่งึ ต่างเห็นถึงศักยภาพของกัมพูชา ในการผลิตเส้ือผ้าและรองเท้าเพ่ือส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่ม ประเทศยุโรปในภาวะท่เี ศรษฐกิจเร่มิ ฟ้นื ตัว โรงงานตัดเย็บเส้อื ผ้าจากไทยเข้ามา ตง้ั โรงงานจำนวน 2 โรง คอื บรษิ ทั Bangkok Garment และ Lim Line Interna- tional สว่ นโรงงานผลติ รองเทา้ มจี ำนวน 2 โรง คอื Dance Supply และ Cambo Shoes 36 คู่มอื การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจักรกมั พูชา
- อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร 13 โครงการ เงินลงทุนรวม 38.7 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ จำนวนโครงการลดลงรอ้ ยละ 31.57 แตเ่ งนิ ลงทนุ เพม่ิ รอ้ ยละ 9 เมอ่ื เทยี บกบั ชว่ งเดยี วกนั ของปี 2552 ทอ่ี นมุ ตั ิ 19 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 35.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการลงทุนปลูกอ้อยและสร้างโรงงานน้ำตาลของ นกั ลงทนุ จนี จำนวน 2 โครงการ คอื ในนามบรษิ ทั Yellow Field (Cambo- dia) International จำกัด และบริษัท Great Field (Cambodia) Interna- tional จำกัด โครงการแปรรูปมันสำปะหลัง และโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร เน้นเร่อื งโรงสีข้าวเพ่อื ส่งออก และโรงงานแปรรูปยางพารา ซ่งึ พบว่ามีมากถึง 9 โครงการ โดยนกั ลงทนุ สว่ นใหญจ่ ากมาเลเซยี เวยี ดนาม และจนี - อุตสาหกรรมปลูกและแปรรูปยางพารา 9 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 28.3 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ ถอื เปน็ ภาคอตุ สาหกรรม ท่ีได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างสูงเม่ือเทียบกับปี 2552 เน่ืองจากแนวโน้มราคายางพาราท่ีเพ่ิมข้ึน โดยเป็นการ ลงทนุ ของนกั ลงทนุ จากกมั พชู า เวยี ดนาม จนี เกาหลใี ต้ มาเลเซยี และสหรฐั อเมรกิ า - อตุ สาหกรรมผลติ รองเทา้ 8 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 11 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ เปน็ ภาคอตุ สาหกรรมทไ่ี ดร้ บั ความสนใจจาก ตา่ งชาตอิ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งจากปี 2552 ทอ่ี นมุ ตั ิ 7 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนักลงทุนไต้หวัน จีน กัมพูชา และ สงิ คโปร์ - อุตสาหกรรมด้านพลังงาน 4 โครงการ เงินลงทุนรวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ การลงทุนในระบบสายส่งไฟฟ้า โรงงานผลิตไฟฟ้าขนาด 338 กิโลวัตต์ โรงงานบรรจุแก๊ส และ การผลติ ไบโอดเี ซล โดยนกั ลงทนุ จนี เกาหลใี ต้ ฮอ่ งกง มาเลเซยี และสหรฐั อเมรกิ า - อตุ สาหกรรมอาหารแปรรปู 4 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 7.5 ลา้ นดอลลาร์ สหรฐั ฯ ไดแ้ ก่ โครงการผลติ เครอ่ื งดม่ื ชา 1 โครงการ โรงงานผลติ เบยี ร์ 2 โครงการ และผลติ นำ้ ผลไม้ 1 โครงการ โดยนกั ลงทนุ กมั พชู า ไตห้ วนั และแคนาดา - การขนสง่ 2 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 3 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ โครงการ ทน่ี า่ สนใจคอื โครงการกอ่ สรา้ งสนามบนิ เสยี มเรยี บแหง่ ใหม่ มลู คา่ เงนิ ลงทนุ เกอื บ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของนักลงทุนเกาหลีใต้ และการพัฒนารถไฟ โดย นกั ลงทนุ กมั พชู ารว่ มกบั ออสเตรเลยี - การทอ่ งเทย่ี ว 2 โครงการ เงนิ ลงทนุ 2 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ เปน็ การสรา้ ง ทพ่ี กั และพฒั นาพน้ื ทบ่ี นเกาะปเู พอ่ื เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว โดยนกั ลงทนุ กมั พชู า - อตุ สาหกรรมเหมอื งแร่ 2 โครงการ เงนิ ลงทนุ 2 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ เปน็ การสำรวจแรท่ องแดงของนกั ลงทนุ กมั พชู า และโครงการผลติ ถา่ นหนิ โดยนกั ลงทนุ กมั พชู า และจนี คมู่ ือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา 37 สส
- อน่ื ๆ 16 โครงการ เงนิ ลงทนุ รวม 16.5 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ ทส่ี ำคญั ไดแ้ ก่ อุตสาหกรรมพลาสติก การผลิตอาหารสัตว์ การเล้ียงสัตว์ การผลิตถุงเท้า โรงงานผลติ เหลก็ นำ้ ดม่ื โรงแรม และของใชใ้ นบา้ น เปน็ ตน้ การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในกัมพูชาเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ืองในปี 2553 ไตห้ วนั ลงทนุ มากทส่ี ดุ จำนวน 21 โครงการ (รอ้ ยละ 20 ของโครงการ ทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั )ิ รองลงมา คอื จนี 18 โครงการ เกาหลใี ต้ 11 โครงการ ฮอ่ งกง 9 โครงการ เวยี ดนาม 8 โครงการ มาเลเซยี 5 โครงการ สงิ คโปร์ 5 โครงการ และสหรฐั อเมรกิ า 5 โครงการ ตารางเปรยี บเทยี บการลงทนุ ปี 2553 และ 2552 (แยกตามหมวด) ลำดบั ท่ี ปี 2553 ปี 2552 อตุ สาหกรรม มลู คา่ (พนั ดอลลารส์ หรฐั ฯ) อตุ สาหกรรม มลู คา่ (ดอลลาร์สหรฐั ฯ) 1 เกษตรอุตสาหกรรม 75.5 อตุ สาหกรรม 50.5 2 เสื้อผ้าสำเรจ็ รูป 53.8 เกษตรอตุ สาหกรรม 39.5 3 อตุ สาหกรรม 7.5 เส้อื ผา้ สำเร็จรปู 31.0 4 การขนส่ง 3.0 การท่องเท่ียว 17.0 5 การท่องเท่ยี ว 3.0 โทรคมนาคม 2.0 รวม 5 หมวด 142.8 รวม 5 หมวด 140.0 รวมทงั้ หมด 172.8 รวมทั้งหมด 149.0 ตารางเปรยี บเทยี บการลงทนุ ปี 2553 และ 2552 (แยกตามรายประเทศ) ลำดบั ท่ี ปี 2553 ปี 2552 ประเทศ มูลคา่ (พันดอลลาร์สหรฐั ฯ) ประเทศ มลู ค่า (พันดอลลาร์สหรฐั ฯ) 38.25 1 จนี 33.35 จนี 44.33 2 กมั พูชา 24.90 3 ไตห้ วัน 17.33 กมั พชู า 26.99 4 เวียดนาม 16.91 เวยี ดนาม 24.70 5 เกาหลีใต้ 130.74 172.80 ไทย 15.50 รวม 5 ประเทศ เกาหลีใต้ 9.21 รวม 5 ประเทศ 120.73 รวมทั้งส้ิน รวมทง้ั ส้นิ 149.01 38 คมู่ อื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกมั พชู า
การลงทนุ ของไทยในกมั พชู า โครงการทน่ี กั ธรุ กจิ ไทยถอื หนุ้ ซง่ึ ไดร้ บั การสง่ เสรมิ การลงทนุ ตง้ั แต่ 1 สงิ หาคม 2537 ถงึ 31 ธนั วาคม 2553 สรปุ รวมจำนวน 82 โครงการ มลู คา่ รวม 363.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินลงทุนเฉพาะในส่วนของนักธุรกิจไทย 227.59 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ หรอื รอ้ ยละ 62.63 ของโครงการ แยกเปน็ การลงทนุ แตล่ ะ ประเภทดงั น้ี ประเภท จำนวน (โครงการ) จำนวนเงินทนุ (ล้าน USD) Food Processing 9 รวม ไทย Wood Processing 2 Chemical 2 20.56 17.54 Media 2 Petroleum 2 27.50 23.62 Assembly Plant 1 1.40 0.89 Electricity Plant 2 Hospital 1 1.16 1.07 Medical 1 1.05 0.30 Gas 2 Mining 6 2.00 2.00 Construction 1 11.20 8.00 Hotel 9 Telecom 2 0.49 0.24 Textile 2 10.00 10.0 Garment 7 1.00 0.54 Agro-Industry 11 7.36 5.98 Industry 14 1.33 1.33 Services 4 138.40 63.15 Shoes 2 17.60 16.40 82 1.50 0.74 TOTAL 5.65 6.65 75.70 40.44 18.75 13.65 18.50 13.55 2.00 1.50 363.35 227.59 คู่มอื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา 39 สส
4.2 กฎระเบยี บการลงทนุ /นโยบายสง่ เสรมิ การลงทนุ การสง่ เสรมิ การลงทนุ รฐั บาลกมั พชู าใหค้ วามสำคญั กบั การลงทนุ ในประเทศอยา่ งมาก จงึ มนี โยบาย สง่ เสรมิ และปรบั ปรงุ แกไ้ ขระเบยี บการลงทนุ ทเ่ี ออ้ื ตอ่ นกั ลงทนุ ตา่ งชาติ เชน่ การ อำนวยความสะดวกและการใหส้ ทิ ธติ า่ ง ๆ แกโ่ ครงการทไ่ี ดร้ บั การสง่ เสรมิ อนญุ าต ให้นักลงทุนโอนเงินตราต่างประเทศได้อย่างเสรีเพ่ือจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติ เขา้ มาลงทนุ อนั จะสง่ ผลตอ่ การสรา้ งงานทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ รายไดก้ บั ประชาชนและเรง่ รดั การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้สิทธิเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทุกอย่าง ยกเวน้ ทด่ี นิ แตก่ ส็ ามารถเชา่ ไดน้ านถงึ 99 ปี และอนญุ าตใหน้ กั ลงทนุ เปน็ เจา้ ของ กจิ การบางประเภทไดร้ อ้ ยละ 100 และใหก้ ารรบั ประกนั นกั ลงทนุ ในการกำหนด ราคาสนิ คา้ ท่ผี ลิตข้นึ การให้สทิ ธิในการส่งออกเงินทุน ผลกำไรของกจิ การ และ ยังสามารถลงทุนด้วยเงินทุนของตนเองท้งั หมด นอกจากน้นั ในกรณีท่ขี าดแรง งานท่มี ีฝีมือภายในประเทศ ก็สามารถจ้างแรงงานต่างชาติท่มี ีฝีมือมาทำงานได้ รวมทง้ั ไดเ้ รง่ ปรบั ปรงุ กฎระเบยี บ ใหม้ คี วามโปรง่ ใสและลดขน้ั ตอนการขอใบอนญุ าต ประกอบการลงทนุ มากขน้ึ เพ่ือจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน และสร้างงานอันจะก่อให้เกิด รายไดก้ บั ประชาชนและเรง่ รดั การเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศ รฐั บาลกมั พชู า ไดอ้ อกกฎหมายสง่ เสรมิ การลงทนุ พ.ศ 2537 (แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ พ.ศ 2546)ใหค้ วามมน่ั ใจ แกน่ กั ลงทนุ วา่ จะไดร้ บั การคมุ้ ครองทรพั ยส์ นิ ในทกุ ๆ ดา้ นเทา่ เทยี มกบั บคุ คลในชาติ และไม่ใช้นโยบายกำหนดราคาสินค้าหรือบริการกับโครงการลงทุนท่ีได้รับการ สง่ เสรมิ พรอ้ มใหส้ ทิ ธปิ ระโยชนอ์ น่ื ๆ อาทิ - การยกเวน้ ภาษเี งนิ ไดจ้ ากกำไร (Tax holiday) - การยกเว้นอากรนำเข้าเคร่อื งมือ เคร่อื งจักร อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง สำหรบั โครงการทผ่ี ลติ เพอ่ื ทดแทนการนำเขา้ และการยกเวน้ อากรนำเขา้ วตั ถดุ บิ สินค้าก่ึงสำเร็จรูป และส่วนประกอบสำหรับการผลิตเพ่ือส่งออกและการผลิต สนิ คา้ ทต่ี อ่ เนอ่ื งกนั (Supporting Industry) - การรับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้จากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 9 ภายหลงั จากการยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ - สามารถจ้างและนำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่และทำงานในหน้าท่ีผู้จัดการ ชา่ งเทคนคิ ชา่ งฝมี อื ผชู้ ำนาญการ รวมทง้ั บตุ รและคสู่ มรสของบคุ คลดงั กลา่ ว - สามารถเข้าทำประโยชน์ในท่ีดินท่ีได้รับสัมปทานจากภาครัฐ หรือ ทเ่ี ชา่ จากเอกชน และนำทด่ี นิ ดงั กลา่ วไปเปน็ หลกั ประกนั การกเู้ งนิ ในระยะเวลาทไ่ี ด้ รบั สมั ปทานหรอื เชา่ ยกเวน้ ทด่ี นิ ทไ่ี ดร้ บั สมั ปทาน แตย่ งั ไมไ่ ดร้ บั การพฒั นา - สามารถซ้ือและส่งออกเงินตราต่างประเทศเพ่อื ชำระค่าสินค้า เงินต้น ดอกเบย้ี คา่ ใชส้ ทิ ธิ คา่ จดั การ รวมทง้ั สง่ ออกกำไรหรอื เงนิ ทนุ กลบั ประเทศไดท้ ง้ั ระหวา่ งและภายหลงั เลกิ โครงการ ทง้ั นเ้ี ครอ่ื งจกั รและอปุ กรณท์ น่ี ำเขา้ โดยปลอด อากรไมถ่ งึ 5 ปี เมอ่ื เลกิ โครงการแตต่ อ้ งชำระอากรทพ่ี งึ มี 40 คู่มอื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พชู า
กฎหมายการลงทนุ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ กฎหมายกำหนดให้ The Council for the Development of Cambodia หรอื CDC ซง่ึ มนี ายกรฐั มนตรี สมเดจ็ ฯฮนุ เซน เปน็ ประธาน ประกอบกบั รฐั มนตรี เศรษฐกิจและผู้แทนหน่วยงานอีก 34 แห่ง เป็นคณะกรรมการ มีหน้าท่ีหลัก 2 ด้าน ด้านแรกคือการพิจารณาประสานความช่วยเหลือกับรัฐบาลต่างชาติ องค์กรระหว่างประเทศ NGOs ในการฟ้นื ฟูบูรณะประเทศในลักษณะรัฐต่อรัฐ กบั อกี ดา้ นหนง่ึ คอื การพจิ ารณาดแู ลกจิ กรรมการลงทนุ ทง้ั หมดของประเทศ โดย เฉพาะการสง่ เสรมิ การลงทนุ ของภาคเอกชน ซง่ึ มคี ณะทำงานคอื The Cambo- dian Investment Board หรอื CIB ทำหนา้ ทก่ี ลน่ั กรองขอ้ เสนอขอรบั การสง่ เสรมิ การลงทนุ ของเอกชน (The Investment Proposal) และเพอ่ื ใหน้ กั ลงทนุ ไดร้ บั ทราบผลการพจิ ารณาโดยเรว็ กฎหมายกำหนดให้ CDC เปน็ one stop service เพอ่ื ตอบรบั หรอื ปฏเิ สธการใหก้ ารสง่ เสรมิ ภายใน 3 วนั ทำการนบั แตว่ นั ยน่ื เอกสาร ทส่ี มบรู ณ์ ซง่ึ เมอ่ื CDC ตอบรบั ใหก้ ารสง่ เสรมิ จะออกเอกสารใบรบั รองการจด ทะเบยี นทม่ี เี งอ่ื นไข (Condition Registration Certificate) ใหก้ บั ผขู้ อเพอ่ื เปน็ หลกั ฐานใชส้ ำหรบั ตดิ ตอ่ กบั หนว่ ยงานราชการทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การอนญุ าตและออก ใบอนญุ าตตา่ งๆ โดยหนว่ ยงานเหลา่ นต้ี อ้ งพจิ ารณาใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 28 วนั ทำการ และ CDC จะออกเอกสารใบรบั รองการจดทะเบยี นขน้ั สดุ ทา้ ย (Final Registration Certificate) ใหก้ บั ผขู้ อโดยถอื วนั ทอ่ี อกเอกสารเปน็ วนั เรม่ิ ตน้ ของการใหก้ ารสง่ เสรมิ โดยโครงการทไ่ี ดร้ บั Final Registration Certificate สามารถเรม่ิ ดำเนนิ โครงการ ลงทนุ นน้ั ไดท้ นั ที อนง่ึ ในขน้ั ตอนเหน็ ชอบ The Investment Proposal หาก CDC ไมต่ อบภายใน 3 วนั ทำการใหถ้ อื วา่ CDC เหน็ ชอบโดยอตั โนมตั ิ กจิ กรรม ขนาด วงเงนิ ขน้ั ตำ่ ของกจิ การ ‘ 1. เกษตรกรรม:การเพาะ 1. เกษตรกรรม : การเพาะปลกู พน้ื ทม่ี ากกวา่ 50,500 และ 1,000 เฮกตาร์ ขน้ึ ไป ปลูกพื้นที่มากกว่า 50,500 ปศสุ ตั ว์ จำนวน 100, 1,000 และ 10,000 ตวั ขน้ึ ไป และ 1,000 เฮกตารข์ น้ึ ไป ประมง เพาะพนั ธแ์ุ ละเลย้ี ง 2 และ 10 เฮกตารข์ น้ึ ไป ปศุสัตว์ : จำนวน 100, 2. วงเงนิ ลงทนุ ไมน่ อ้ ยกวา่ 500,000 ดอลลารส์ หรฐั ฯ 1,000 และ 10,000 ตัวขึ้นไป - อาหาร เครอ่ื งดม่ื และผลติ ภณั ฑท์ ต่ี อ่ เนอ่ื ง ประมง : เ พ า ะ พั น ธ์ุ - ยาง และพลาสตกิ - หนงั สตั วแ์ ละผลติ ภณั ฑ์ ’และเล้ียง 2 และ 10 เฮกตาร์ - เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ และอปุ กรณ์ ขึ้นไป คู่มือ การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกมั พูชา 41 สส
3. วงเงนิ ลงทนุ ไมน่ อ้ ยกวา่ 1,000,000 ดอลลารส์ หรฐั ฯ - สง่ิ ทอ - เฟอรน์ เิ จอรแ์ ละอปุ กรณ์ - กระดาษและผลติ ภณั ฑ์ - ผลติ ภณั ฑโ์ ลหะ - เครอ่ื งจกั รกลและอปุ กรณ์ 4. ไมก่ ำหนดวงเงนิ - ยานพาหนะและอปุ กรณ์ - กอ่ สรา้ ง ถนน สะพาน และ สว่ นประกอบ - โรงแรมระดบั 3 ดาวขน้ึ ไป - สถานพยาบาล โรงเรยี น ศนู ยฝ์ กึ อบรม - สง่ิ อำนวยความสะดวกตอ่ การทอ่ งเทย่ี ว และวฒั นธรรม - สำรวจ และกจิ กรรมอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม - โครงสรา้ งพน้ื ฐานทางสอ่ื สารโทรคมนาคม สทิ ธปิ ระโยชน์ สทิ ธปิ ระโยชนใ์ นการลงทนุ เปน็ สทิ ธพิ เิ ศษทร่ี ฐั บาลมอบใหก้ บั โครงการลงทนุ ตา่ งๆ ทผ่ี า่ นความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการพฒั นาแหง่ ชาตกิ มั พชู า (CDC) หรอื คณะกรรมการการลงทนุ ระดบั จงั หวดั หรอื เขต (PMIS) ขน้ึ อยกู่ บั รปู แบบโครงการ ลงทนุ นน้ั ๆ โครงการลงทนุ ในกมั พชู าสามารถเลอื กสทิ ธปิ ระโยชนใ์ นการลงทนุ ได้ 2 แบบ คอื การยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ หรอื การลดหยอ่ นภาษที รพั ยส์ นิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ (คา่ เสอ่ื ม) นอกจากนย้ี งั ครอบคลมุ การยกเวน้ ภาษนี ำเขา้ เครอ่ื งจกั ร วสั ดกุ อ่ สรา้ ง และวตั ถดุ บิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ เพอ่ื สง่ ออก 1.) สทิ ธปิ ระโยชนเ์ รอ่ื งทด่ี นิ - หากเปน็ สญั ญาเชา่ ทด่ี นิ ระยะยาวจะใหส้ ทิ ธใิ นการเชา่ ถงึ 99 ปี - หากเป็นสัญญาเช่าท่ีดินระยะส้ัน ท่ีมีการกำหนดเวลาในการเช่าไว้ สามารถตอ่ อายใุ หมไ่ ด้ นอกจากนก้ี ฎหมายการลงทนุ ฉบบั ใหม่ ยงั อนญุ าตใหน้ กั ลงทนุ สามารถนำทด่ี นิ ไปเปน็ หลกั ประกนั ในการจดจำนองรวมทง้ั สามารถโอนสทิ ธ์ิ ในอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินส่วนบุคคลท่ปี ลูกสร้างบนท่ดี ินแปลงดังกล่าวได้ อกี ดว้ ยแตต่ อ้ งไมเ่ กนิ กำหนดเวลาในสญั ญาเชา่ ทด่ี นิ 2.) การยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ โครงการใดท่เี ลือกรับสิทธิประโยชน์ด้านน้ี จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ในช่วงแรกของการลงทุน (เร่มิ จากวันท่ไี ด้รับอนุมัติจนถึงปีแรกท่มี ีกำไรจากการ 42 คู่มอื การคา้ และการลงทนุ ราชอาณาจกั รกัมพชู า
ลงทุน หรือปีท่สี ามของการมีรายได้) และอาจต่อได้ถึงอีก 3 ปีหลังส้นิ สุดสิทธิ ประโยชนข์ องชว่ งแรก 3.) การลดหยอ่ นภาษที รพั ยส์ นิ โครงการใดท่ีเลือกรับสิทธิประโยชน์ด้านน้ี จะได้รับการลดหย่อนภาษี ทรพั ยส์ นิ รอ้ ยละ 40 ของมลู ทรพั ยส์ นิ ทรพั ยท์ ใ่ี ชใ้ นการผลติ สทิ ธปิ ระโยชนน์ ม้ี ผี ล ใชบ้ งั คบั ทนั ทใี นปแี รกทม่ี กี ารซอ้ื ทรพั ยส์ นิ ดงั กลา่ วหรอื ในปแี รกทม่ี กี ารใชท้ รพั ยส์ นิ นน้ั ๆ 4.) การยกเวน้ ภาษนี ำเขา้ โครงการลงทนุ ผลติ เพอ่ื สง่ ออก หรอื โครงการผลติ ทเ่ี ปน็ ไปเพอ่ื สนบั สนนุ ธรุ กจิ สง่ ออก จะไดร้ บั ยกเวน้ ภาษนี ำเขา้ เครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ วสั ดกุ อ่ สรา้ งและวตั ถุ ดบิ ในการผลติ สว่ นโครงการลงทนุ ผลติ เพอ่ื ใชใ้ นประเทศจะไดร้ บั ยกเวน้ ภาษนี ำเขา้ เฉพาะเครอ่ื งจกั รและวสั ดกุ อ่ สรา้ งเทา่ นน้ั โครงการทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ทิ กุ โครงการจะได้ รบั การยกเวน้ ภาษสี ง่ ออก ยกเวน้ การสง่ ออกสนิ คา้ บางประเภทตามทก่ี ำหนดไวใ้ น กฎหมายของกมั พชู า อยา่ งไรกต็ าม การยกเวน้ ภาษขี า้ งตน้ ไมร่ วมภาษเี งนิ ไดส้ ว่ นบคุ คล ภาษเี งนิ เดอื น ภาษีมูลค่าเพ่มิ ภาษีสินค้าและบริการ และภาษีอ่นื ๆท่กี ำหนดโดยกฎหมายของ กมั พชู า อยา่ งไรกต็ ามผลู้ งทนุ สามารถเรยี กคนื ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ได้ หากจดทะเบยี น เปน็ ผปู้ ระกอบการกบั กรมสรรพากร หลกั ประกนั การลงทนุ โครงการลงทนุ ทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ทิ กุ โครงการจะไดร้ บั หลกั ประกนั ในการลงทนุ ดงั น้ี - การปฏิบัติท่ีเท่าเทียมกันกับนิติบุคคลกัมพูชา (ยกเว้นสิทธิประโยชน์ การถอื ครองทด่ี นิ และสทิ ธปิ ระโยชนบ์ างชนดิ ) - ไมม่ กี ารยดึ โครงการลงทนุ มาเปน็ ของรฐั - ไมม่ กี ารควบคมุ การกำหนดราคาสนิ คา้ และบรกิ ารของผลู้ งทนุ - สามารถสง่ รายไดจ้ ากการลงทนุ ออกนอกประเทศได้ โครงการลงทุนท่ีไม่สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ในด้านการลงทุน ได้แก่ การทำการคา้ การใหบ้ รกิ ารคมนาคม การทอ่ งเทย่ี ว คาสโิ นและการพนนั ธรุ กจิ ดา้ นการเงนิ และการธนาคาร ธรุ กจิ สอ่ื สารมวลชน ธรุ กจิ ทใ่ี ชค้ วามสามารถเฉพาะ ดา้ น ธรุ กจิ พฒั นาอสงั หารมิ ทรพั ย์ และธรุ กจิ ผลติ บหุ ร่ี เปน็ ตน้ ทกุ ปโี ครงการลงทนุ ท่ี ไดร้ บั การสง่ เสรมิ จะไดร้ บั ใบรบั รองการยนิ ยอม (Certificate of Compliance หรอื CoC) จาก CDC เพอ่ื ยนื ยนั วา่ โครงการนน้ั ไดป้ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมายภาษที เ่ี กย่ี วขอ้ ง ตวั อยา่ งของโครงการทไ่ี ดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชนใ์ นการลงทนุ เชน่ คมู่ ือ การคา้ และการลงทุน ราชอาณาจกั รกมั พชู า 43 สส
Search