Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 13ชุดความรู้_การพัฒนาเป็นผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ_โรงเรียนผู้สูงอายุ

13ชุดความรู้_การพัฒนาเป็นผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ_โรงเรียนผู้สูงอายุ

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-03-06 04:26:59

Description: 13ชุดความรู้_การพัฒนาเป็นผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ_โรงเรียนผู้สูงอายุ

Search

Read the Text Version

กจิ กรรมระหว่างการเรยี นการสอน ฝกึ เรียนรกู้ ายใจ กจิ กรรมกายบริหารประกอบเพลง ณ ตรงน้ี ทใ่ี จฉันสุข (หม่บู า้ นพลัม) การทำ�ฝึกสมาธิและมีสติ สรปุ บทเรยี น โดยการต้งั คำ�ถามผ้สู งู อายุ มาร่วมกิจกรรมวนั น้ี รู้สกึ อยา่ งไร คดิ ว่า จะกลับไปทำ�อะไรบ้าง ใหส้ ามารถจดั การ อารมณไ์ ดด้ ้วยตวั เองทเี่ หมาะสมและฝกึ สมาธิพร้อมทัง้ มสี ตใิ นการทำ�กจิ วตั รประจำ�วนั แนวทางสรปุ บทเรยี น การฝึกการจัดการกับปัญหาและอารมณ์โดยทำ�กิจกรรมร่วมกัน รวมทั้ง การนำ�ปรับใช้ในชีวิตประจำ�วันกับลูกหลาน ในกรณีความคาดหวังในตัวลูก หลานฝึกฝนและเรียนรู้ทักษะในการทำ�จิตใจและผ่อนคลายและสงบ ความรู้ทผี่ ูส้ งู อายุต้องรู้ 101

รายวิชาท่ี 8 การเปลยี่ นแปลงทางสังคม และผลกระทบตอ่ การด�ำเนินชวี ิตของผสู้ งู อายุ แนวสังเขปรายวชิ า อธบิ ายความหมายของการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง และผลกระทบตอ่ การดำ� เนนิ ชวี ติ ของผสู้ งู อายุ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้นักเรียนสูงอายุมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทาง สงั คม 2. เพื่อให้นักเรียนสูงอายุมีความรู้และสามารถประยุกต์ใช้ในการแก้ไขผลกระทบ ที่เกดิ จากการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม 102 โรงเรยี นผสู้ ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเปน็ ผสู้ ูงอายทุ ม่ี ีศักยภาพ

แนวการถ่ายทอดความรู้ นำ� เขา้ สูบ่ ทเรียน ผู้ถ่ายทอดความรู้น�ำเข้าสู่บทเรียนโดยแบ่งกลุ่มย่อยให้นักเรียนสูงอายุระดมสมอง เขียนค�ำตอบและน�ำเสนอ ตอบค�ำถามส�ำคัญ ไดแ้ ก่ (1) ชวี ิตความเป็นอยู่ อาชพี การเงนิ ความสมั พนั ธ์กบั เพือ่ นบา้ นและในครอบครัว สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนและประเทศ สมยั นก้ี บั สมยั กอ่ นมอี ะไรทย่ี งั เหมอื นเดมิ บ้างและอะไรท่ีไม่เหมือนเดมิ ไม่เหมอื นอย่างไรบา้ ง (2) ค้นหาเหตุผลวา่ ทำ� ไมจึงเป็นเช่นนน้ั (3) ผเู้ รยี น/กลมุ่ มเี ปา้ หมายจะใหช้ มุ ชน/สงั คม เปน็ อยา่ งไร เราจะไปใหถ้ งึ เปา้ หมาย น้นั อย่างไร การเปลยี่ นแปลงทางสังคมและผลกระทบต่อการด�ำเนนิ ชวี ิต สรรพสิง่ ท้ังหลายในโลกลว้ นเปลีย่ นแปลงไปตามกาลเวลา “สงั คมไทย” กเ็ ช่นกนั ท่ีเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับสังคมอื่นทั่วโลก แต่ต้องยอมรับว่า สังคมไทยมีการ เปล่ียนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนคนส่วนใหญ่ในสังคมปรับตัวเองไม่ทันและเกิด ปญั หาทางวัฒนธรรมตามมา แต่เดมิ สังคมไทยเปน็ สงั คมเกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในชนบท ทำ� นา และการเพาะปลูกเป็นอาชีพหลัก แต่ปจั จบุ นั สงั คมเปลย่ี นเป็นสงั คมอตุ สาหกรรมทมี่ ุง่ ผลิตสิ่งตา่ ง ๆ เพือ่ สง่ ออกขายนอกประเทศ การผลิตผลิตผลทางการเกษตรเปลีย่ นเปน็ การผลิตเป็นจ�ำนวนมาก ซึง่ ต้องใช้เทคโนโลยที ท่ี นั สมัยเขา้ มาช่วย มกี ารลงทนุ และการ ใชท้ ่ีดินจำ� นวนมาก ทำ� ใหต้ อ้ งขยายเขตการเพาะปลูกพชื พนั ธนุ์ านาชนิดไปตามที่ดอน และปา่ เขา รกุ ลำ�้ ปา่ สงวน และการทำ� ลายสภาพแวดลอ้ มอยา่ งกวา้ งขวางและตอ้ งใชท้ นุ ความรู้ทผ่ี ูส้ งู อายุต้องรู้ 103

จ�ำนวนมากท�ำให้การด�ำเนินการเกิดขึ้นภายใต้การขับเคล่ือนของกลุ่มนายทุน ท�ำให้ เกิดการย้ายถิ่นของผู้คนในท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น การย้ายจากชนบทเข้ามาท�ำงานใน โรงงานอตุ สาหกรรม หรือท�ำงานเป็นกรรมกรในเมอื ง สังคมชนบท แต่เดิมอยู่กันอย่างเรียบง่ายในกรอบของประเพณี มีจารีตและ ขนบธรรมเนยี มทอ้ งถิ่นคอยควบคุมใหอ้ ยู่กันอย่างสงบสขุ ปจั จบุ นั เม่ือคนรุ่นหนุ่มสาว ยา้ ยออกไปทำ� งานทอ่ี นื่ โดยเฉพาะผทู้ เ่ี ปน็ หวั หนา้ ครอบครวั หายไปหลายเดอื นหรอื หลายปี ทำ� ให้สภาพครอบครัวขาดความสมบูรณ์ เดก็ ขาดความอบอนุ่ ในขณะท่ีคนรุ่นใหม่ก็ไม่ศรัทธาการเป็นผู้น�ำของคนรุ่นก่อน เพราะได้เล่าเรียน ความรู้ใหม่ ๆ จากในเมือง สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ พร้อมกันนนั้ ก็รบั เอาความ ทันสมัยหลาย ๆ อยา่ งมาจากภายนอก จึงท�ำใหห้ มดความเล่ือมใสและความเช่อื ถอื ส่ิง ทเ่ี ป็นจารีตและประเพณขี องทอ้ งถิน่ ท่เี คยมี ขณะท่ีคนในท้องถิน่ ปรบั ตัวไมท่ ัน สังคมเมอื ง มภี าวะความแออัดเพ่มิ ขน้ึ จนยากแก่การควบคมุ คนในสงั คมรุ่นใหม่ หนั ไปให้ความสำ� คัญทางวัตถุ เกดิ ความเหลื่อมล�ำ้ มีช่องวา่ งระหว่างคนรวยกับคนจน เกิดการเคล่ือนย้ายของเกษตรกรในชนบทมาใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม กรรมกรก่อสร้าง ตลอดจนลูกจา้ งในงานบริการตา่ ง ๆ นน้ั ท�ำใหเ้ กิดปญั หาทางสงั คม อยา่ งมากมาย ตัวอย่างเช่น ปญั หาชมุ ชนแออดั แหล่งเส่อื มโทรม การลกั ขโมย ปล้นจี้ การคา้ ประเวณี การวา่ งงาน ในกลุ่มผู้สูงอายุเองได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงทางสังคมไม่น้อยไปกว่า กลุ่มอื่น ๆ จึงจ�ำเป็นต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ วัฒนธรรมดังกล่าว 104 โรงเรียนผูส้ งู อายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเปน็ ผู้สูงอายุท่ีมีศักยภาพ

กิจกรรมระหว่างการเรยี นการสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้แทรกวีดิทัศน์เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชนสมัยก่อน จำ�แนกยุคต่างๆ และสมัยปัจจุบันแล้วให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นประเด็นการ เปลี่ยนแปลงที่สำ�คัญ หรือที่นักเรียนสนใจ กระตุ้นให้นักเรียนสูงอายุได้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในชั้นเรียนเปิดเพลง “ป่าลั่น”“ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” หรือเพลงอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคม เลม่ เกมโดยการแตง่ กายในยุคสมัยต่างๆหรอื เคร่อื งใช้ในสมยั ตา่ งๆ แล้วให้นกั เรียน ทายว่าเปน็ ยคุ ใด สรปุ บทเรยี น โดยการต้ังคำ�ถามผูส้ งู อายุ มารว่ มกิจกรรมวันนี้ รสู้ ึกอย่างไร คดิ ว่าชุมชนเรามีการเปลย่ี นแปลงการอะไรมาก ทสี่ ดุ และเราจะปรับตัวเองอยา่ งไร เพ่อื ให้อยู่รว่ มกันในสงั คมทเ่ี ปลยี่ นแปลงไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ แนวทางสรุปบทเรยี น การเปลีย่ นแปลงทางสังคมมี 2 รปู แบบ คอื 1.การเปลี่ยนแปลงทางสังคมหมายถงึ การเปลย่ี นแปลงรปู แบบและระบบความสำ�คญั ของสมาชิกในสงั คม เชน่ การเมอื ง การ ปกครอง การศึกษา สถานภาพ บทบาท จำ�นวนประชากร 2.การเปลยี่ นแปลงทาง วัฒนธรรม หมายถงึ การเปล่ียนแปลงดา้ นวฒั นธรรมของสังคมทีเ่ ป็นวัตถแุ ละไม่ใชว่ ตั ถุ ท้ังท่ีเปน็ ประโยชน์หรือโทษ ความร้ทู ีผ่ สู้ ูงอายตุ อ้ งรู้ 105

106 โรงเรยี นผ้สู ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเป็นผ้สู งู อายทุ ่มี ีศกั ยภาพ

รายวชิ าท่ี 9 สถานการณ์ผสู้ ูงอายไุ ทย แนวสังเขปรายวชิ า อธบิ ายถงึ นิยามของผู้สูงอายไุ ทย โครงสรา้ งประชากรไทย การเขา้ สสู่ งั คมสงู อายุ และขอ้ มูลท่วั ไปของผูส้ ูงอายุไทย วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักเรียนสูงอายุมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างประชากรไทย 2. เพือ่ ให้นักเรียนสูงอายุมคี วามรู้เกี่ยวกับขอ้ มูลท่วั ไปของผู้สูงอายุไทย ความร้ทู ผี่ ู้สูงอายตุ อ้ งรู้ 107

แนวการถ่ายทอดความรู้ นำ� เขา้ สู่บทเรยี น ผถู้ า่ ยทอดความรนู้ ำ� เขา้ สบู่ ทเรยี น โดยใหน้ กั เรยี นสงู อายดุ คู ลปิ เกยี่ วกบั สถานการณ์ สังคมสูงอายุของประเทศไทย และพดู คุยแลกเปล่ยี นเกยี่ วกับสถานการณ์สงั คมสูงอายุ ในชมุ ชน สถานการณผ์ ูส้ ูงอายไุ ทย ประเทศไทยเข้าสสู่ งั คมสูงอายุ และอกี ไมก่ ีป่ ี หรอื ไม่เกนิ ปี 2564 ประเทศไทยจะ เข้าสสู่ ังคมสงู อายอุ ยา่ งสมบูรณ์ “ผสู้ ูงอาย”ุ ตามความหมายของพระราชบัญญตั ผิ สู้ งู อายุ พ.ศ. 2546 หมายความ ว่า “บคุ คลซึ่งมีอายุเกนิ หกสบิ ปีบรบิ ูรณข์ ้ึนไปและมีสัญชาติไทย” โดยประชากร สงู อายุถูกแบง่ เป็น 3 กล่มุ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผสู้ งู อายวุ ัยต้น คอื ผูม้ อี ายุ 60 ถึง 69 ปี กลุ่มผ้สู ูงอายุวัยกลาง คอื ผู้มอี ายุ 70 ถึง 79 ปี กลุ่มผู้สงู อายุวัยปลาย คอื ผู้มีอายุ 80 ปขี น้ึ ไป ในขณะท่ีมิติทางสุขภาพนิยมแบ่งประชากรสูงอายุตามความสามารถประกอบ กิจวัตรประจ�ำวันดังน้ี คอื กลุ่มติดสงั คม กลุม่ ตดิ บา้ น และกลมุ่ ตดิ เตียง กลุม่ ตดิ สงั คม คือ ผู้สูงอายทุ ่ีพึง่ ตนเองได้ ชว่ ยเหลือผ้อู ่นื ชุมชนและสังคมได้ กลุม่ ตดิ บา้ น คือ ผสู้ งู อายทุ ่ีดแู ลตนเองได้บ้าง ชว่ ยเหลือตนเองไดบ้ า้ ง กลมุ่ ติดเตียง คอื ผสู้ งู อายุกล่มุ ท่พี ง่ึ ตนเองไม่ได้ ชว่ ยเหลอื ตนเองไมไ่ ด้ พิการ หรอื ทุพพลภาพ 108 โรงเรียนผู้สงู อายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเป็นผู้สงู อายทุ มี่ ีศักยภาพ

ในปี 2556 ประเทศไทยมีจ�ำนวนผู้สงู อายุวยั ตน้ จำ� นวน 5 ลา้ น 3 แสนคน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.2 ผ้สู งู อายวุ ยั กลางจ�ำนวน 2 ลา้ น 9 แสนคน ร้อยละ 4.5 และผสู้ ูงอายวุ ัย ปลาย 1 ลา้ น 3 แสนคน ร้อยละ 2.0 แตใ่ นอนาคต 27 ปขี ้างหน้า ในปี 2583 ประมาณว่าจะมปี ระชากรสงู อายุวยั ปลาย หรอื ผทู้ ่อี ายุ 80 ปีขึน้ ไป เพม่ิ ขึน้ อีกเกอื บเทา่ ตวั ซ่ึงเพ่มิ เร็วกว่าผู้สงู อายุกลุ่มอื่น กราฟิกแสดงอตั ราส่วนรอ้ ยละของประชากรสงู อายุวยั ต้น วัยกลาง และวยั ปลาย พ.ศ. 2553-2583 ตามการรวบรวมของสำ� นกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจ และสังคมแหง่ ชาติ และมูลนธิ สิ ถาบนั วจิ ยั และพัฒนาผู้สงู อายุไทย % 35 30 6.1 วยั ปลาย วัยกลาง 25 3.7 12.0 20 2.6 8.9 14.0 วยั ตน้ 15 1.7 2.0 5.6 14.0 2588 2578 10 4.2 4.5 11.0 2568 5 7.3 8.2 0 2553 2556 ความรูท้ ีผ่ ู้สูงอายุตอ้ งรู้ 109

สังคมสงู วัย ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมสงู อายุ” ตัง้ แต่ พ.ศ. 2548 จากการทีป่ ระชากรอายุ 60 ปขี ้ึนไป มีสัดสว่ นเพิม่ ขึ้นถงึ รอ้ ยละ 10 ของประชากรทง้ั หมด แตไ่ ม่เกนิ ปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยจะกลายเปน็ “สงั คมสงู อายุอยา่ งสมบรู ณ์” (Complete Aged Society) เม่ือประชากรสูงอายสุ งู ถึงรอ้ ยละ 20 ของประชากร ทั้งหมด และจะเป็น “สงั คมสงู อายรุ ะดับสดุ ยอด” (Super Aged Society) เมื่อประชากร สงู อายุเพม่ิ สูงถงึ รอ้ ยละ 30 ของประชากรท้งั หมด ทคี่ าดว่าจะเกดิ ข้นึ ใน พ.ศ. 2578 แผนภาพอตั ราส่วนรอ้ ยละของประชากรสูงอายุ 60 ปขี ึ้นไป ใน3ป0ี 2%578 20% สงั คมสงู อายุ ระดบั สดุ ยอด ในปี 2564 10% สงั คมสูงอายุ อย่างสมบรู ณ์ % ในสงัปคมี ส2งู 5อา4ยุ8 35 30 16 ปี 14 ปี 25 20 15 10 5 0 2548 2564 2578 110 โรงเรียนผสู้ งู อายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเปน็ ผสู้ ูงอายุทม่ี ศี กั ยภาพ

ข้อมูลทวั่ ไปของผู้สูงอายไุ ทย อายุคาดเฉล่ยี คอื จ�ำนวนปีโดยเฉล่ียทค่ี าดวา่ คนหนง่ึ เมื่อเกดิ มาแลว้ จะมชี วี ิตอยู่ ตอ่ ไปจนกระทั่งตาย โดยในปี 2556 อายุคาดเฉล่ยี ของผ้สู ูงอายไุ ทยอย่ทู ี่ 82 ปี แต่ใน อกี 30 ปขี า้ งหน้า อายุคาดเฉล่ยี ของคนไทยจะอย่ทู ี่ 86 ปี หากขณะนนั้ อายุ 60 ปี แต่ ถา้ อายุ 65 ปแี ล้ว จะมีอายุคาดเฉล่ียที่ 85 ปี อายุคาดเฉลีย่ (ex) 100 ปกี อ่ น 50 ปีกอ่ น ปี 2556 ปี 2583* เม่อื เกดิ 37.3 58.4 74.8 80.0 เมือ่ อายุ 60 ปี 12.3 16.9 21.6 25.7 เมอ่ื อายุ 65 ปี 9.8 13.5 17.8 20.2 รปู แบบการอยู่อาศัย คนไทยอาศัยอยใู่ นครวั เรือนทีม่ ีขนาดเล็กลงข้ึนเร่อื ย ๆ ใน ปี 2557 ประมาณวา่ ครัวเรอื นไทยมีขนาดเฉลีย่ เพยี ง 3 คนเทา่ นั้น ผู้สูงอายุที่อยตู่ ามลำ� พงั ผู้สงู อายทุ ่อี ย่ตู ามลำ� พงั คนเดียวหรืออยูต่ ามลำ� พังกบั ค่สู มรสมีสัดสว่ นท่ีสูงขนึ้ โดย เฉพาะในเขตเมอื งหรือเขตเทศบาลมผี ้สู ูงอายทุ ่ีอยู่ตามล�ำพังมากกวา่ นอกเขตเทศบาล ความรทู้ ่ีผสู้ งู อายุต้องรู้ 111

ระดับการศกึ ษาของผูส้ งู อายุ สว่ นใหญ่ (รอ้ ยละ 75.8) จบการศกึ ษาในระดบั ประถมศึกษาและต่�ำกว่าประถม ศกึ ษา มเี พียงร้อยละ 12.6 ทจี่ บสูงกว่าระดบั ประถมศกึ ษา ผสู้ ูงอายุที่ไม่ได้รบั การ ศึกษาหรอื ไมเ่ คยเรียนหนงั สอื ร้อยละ 11.6 ขณะทผี่ สู้ งู อายเุ ป็นผทู้ อ่ี ่านออกเขยี นได้ประมาณรอ้ ยละ 82.6 สว่ นผู้ท่ีไม่สามารถ อ่านและเขยี นหนังสอื ไดห้ รอื อาจกล่าววา่ เป็นผทู้ ี่ไมร่ ูห้ นงั สือรอ้ ยละ 17.4 การท�ำงานของผูส้ งู อายุ ผู้สูงอายุมีแนวโน้มท่ีจะเข้ามามีส่วนร่วมในก�ำลังแรงงานเพ่ิมมากขึ้น โดยพบว่า ผู้สูงอายทุ ที่ ำ� งานเพ่มิ ขึ้นมากขึน้ ทุกปี โดยในปี 2554 มีผู้สงู อายทุ �ำงานร้อยละ 38.3 และส่วนใหญ่ผสู้ งู อายุทำ� งานในภาคการเกษตรสงู กวา่ ภาคอืน่ รองลงมาคือการค้าและ การบริการ แหลง่ รายไดข้ องผสู้ ูงอายุ บตุ รยงั คงเปน็ แหลง่ รายไดท้ สี่ ำ� คญั ของผสู้ งู อายใุ นปจั จบุ นั จากการสำ� รวจประชากร สูงอายุในประเทศไทย ปี 2557 พบวา่ แหล่งรายได้หลักของผูส้ ูงอายุมาจากบุตร (รวม บุตรเลี้ยงและบุตรบุญธรรม) มากที่สุดร้อยละ 36.7 รองลงมาคือ รายได้จากการ ท�ำงาน รอ้ ยละ 33.9 ผู้สงู อายุประมาณรอ้ ยละ 14.8 มีเบ้ยี ยังชีพเปน็ รายไดห้ ลกั มผี ู้สงู อายุเพยี งร้อยละ 4.9 ที่มีเงินบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญเป็นแหล่งรายได้หลัก และไม่ถึงร้อยละ 4 ของ ผู้สงู อายุมีรายได้หลกั จากเงินออม /ดอกเบี้ยเงินออม /ทรัพย์สนิ อ่นื ๆ 112 โรงเรียนผู้สูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเปน็ ผสู้ ูงอายทุ ม่ี ศี กั ยภาพ

กราฟิกแสดงแหล่งรายได้หลักของผู้สงู อายุ พ.ศ. 2557 บตุ ร การทำ�งาน 36.7% 33.9% ทเาบงี้ยรยางัชชกพี าร 14.8% เงนิบบำ�นำ�เาหญน็จ คสู่ มรส ดอกทเเงบรินัพย้ี อยเงอส์ ินมนิ ออม พญน่ี า้อตงิ อ่นื ๆ 3.9% 4.9% 4.3% 1.4% 0.2% ความยากจนของผ้สู ูงอายุ ข้อมลู การส�ำรวจประชากรสงู อายปุ ี 2557 พบว่า มีผู้สงู อายุมากถึงหนงึ่ ในสาม ของผสู้ ูงอายุทั้งหมดมีรายไดต้ �ำ่ กวา่ เส้นความยากจน หรือมีรายได้ต�่ำกว่า 2,572 บาท ต่อคนตอ่ เดือน หรือ 30,864 บาทตอ่ คนตอ่ ปี แต่ผสู้ งู อายุทม่ี รี ายได้ตำ่� กว่าเสน้ ความ ยากจนนีม้ จี �ำนวนน้อยลงกวา่ ในอดีตกวา่ รอ้ ยละ 46.5 การเจบ็ ป่วยดว้ ยโรคตา่ ง ๆ โรคที่มักพบในผสู้ ูงอายุ ไดแ้ ก่ ข้ออักเสบ /ข้อเสอ่ื ม โรคถุงลมโป่งพอง /หลอดลม ปอดอุดกั้นเรอ้ื รงั หลอดเลือดหวั ใจตีบ กลา้ มเนื้อหัวใจตาย และอัมพาต ความรู้ทผี่ ู้สงู อายุต้องรู้ 113

กิจกรรมระหว่างการเรียนการสอน - เกมหู ตา จมูก แบ่งกลมุ่ 3 คน ร่วมรอ้ งเพลงเปน็ จังหวะ “หู ตา จมกู ” “จมกู ตา หู” และให้ นกั เรยี นจบั อวยั วะตามเพลงทร่ี ้อง เร่ิมจากรอ้ งเพลงช้าๆ และเร็วขึ้น - เกมลมเพ ลมพดั ให้นักเรียน นั่งเปน็ วงกลม วงใหญว่ งเดียวและรว่ มร้องเพลง “ลมเพ ลมพัด ลม สะบัด พัดมาไวไว ลมเพ ลมพัด อะไร ลมเพ ลมพัด อะไร พดั ...........(คนใส่เสอ้ื สสี ม้ คนใสแ่ วน่ ) ให้นักเรยี นทีม่ คี ุณสมบัติตามครูกำ�หนด เคลอื่ นย้ายท่ีนง่ั โดยครูจะเป็นผู้ กำ�หนดคณุ สมบัติ ท่ีเปล่ยี นแปลงไปตามคุณสมบัติของนกั เรยี นในชนั้ เรียน สรปุ บทเรียน โดยการต้งั คำ�ถามผูส้ งู อายุ มารว่ มกจิ กรรมวันนี้ รูส้ ึกอยา่ งไร คิดว่าในชุมชนการเปลี่ยนแปลงจำ�นวนผู้สงู อายุ มากนอ้ ยเพียงใด และสามารถจำ�แนกกล่มุ ผู้สูงอายใุ นชุมชนได้หรอื ไม่ แนวทางสรปุ บทเรยี น ประเทศไทยเขา้ สสู่ งั คมสงู อายแุ ลว้ ทงั้ โครงสรา้ งประชากร ขนาดครอบครวั รปู แบบ การอยอู่ าศัย ดงั นน้ั ผสู้ ูงอายจุ ึงตอ้ งเป็น ผู้ทม่ี ศี ักยภาพ (Active Ageing) ซ่งึ หมายถึง การพัฒนาใหผ้ ู้สูงอายุมสี ุขภาวะทดี่ ที ัง้ กาย จิต ปญั ญา สังคม จติ วิญญาณ และการมี หลกั ประกันท่มี น่ั คง เพอื่ ให้เกดิ การพ่ึงตนเองไดน้ านท่ีสุด 114 โรงเรียนผู้สงู อายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเป็นผ้สู ูงอายุท่ีมศี ักยภาพ

รายวชิ าที่ 10 กฎหมายในชีวิตประจ�ำวันและสิทธผิ ู้สงู อายุ แนวสังเขปรายวชิ า อธบิ ายการใชก้ ฎหมายทีจ่ ำ� เปน็ ในการด�ำเนนิ ชีวิตของผ้สู ูงอายุ ไดแ้ ก่ การจัดการ ทรัพยส์ ิน การใหท้ ี่ดนิ และบ้านแกบ่ ตุ รหลาน สญั ญาค้�ำประกัน การทำ� พนิ ัยกรรม สิทธิ ในวาระสดุ ท้าย : พนิ ยั กรรมชวี ิต (Living Will) และสทิ ธติ ามพระราชบญั ญัติผูส้ งู อายุฯ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้นักเรียนสูงอายุมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายส�ำคัญท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้ ชวี ติ ในวยั สงู อายุ 2. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสงู อายมุ คี วามรเู้ กยี่ วกบั สทิ ธผิ สู้ งู อายุ และสามารถเขา้ ใชบ้ รกิ ารได้ ความร้ทู ีผ่ ู้สูงอายตุ อ้ งรู้ 115

แนวการถ่ายทอดความรู้ การน�ำเข้าส่บู ทเรียน ผู้ถ่ายทอดความรู้น�ำเข้าสู่บทเรียน โดยให้นักเรียนสูงอายุเล่าประสบการณ์การ ไมร่ ูก้ ฎหมายและปัญหาท่ีเกิดข้ึน แลว้ อภิปรายร่วมกนั ผถู้ ่ายทอดความร้บู รรยายหลักกฎหมาย โดยเลอื กบางปัญหาเพื่อช้ีใหเ้ ห็นความ จำ� เป็นทนี่ กั เรยี นสงู อายตุ อ้ งรูก้ ฎหมาย และกฎหมายส�ำคัญ ๆ ที่ตอ้ งรู้ กฎหมายในชีวิตประจ�ำวนั และสทิ ธผิ สู้ ูงอายุ การจดั การทรัพย์สนิ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั ผสู้ ูงอายุมหี ลายเรื่อง เช่น การจดั การทรพั ย์สนิ ที่อาจเก่ียวกับการลงทนุ แตก่ ็ระมัดระวังให้มาก หากไม่มีประสบการณก์ ม็ ีโอกาสสูญ เสียทรัพย์ได้ การฝากธนาคารที่เชื่อถือได้แม้จะมีดอกเบี้ยไม่มาก แต่ก็มีความมั่นคง หรือแม้แต่ในกรณีที่หากมิได้มีการโอนในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ทรัพย์สินน้ันก็จะตก ไปยังทายาท ซึ่งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้เรียงล�ำดับทายาทและ หลกั เกณฑ์ไว้ สว่ นการท�ำพนิ ยั กรรมน้นั บุคคลที่ผทู้ �ำพนิ ัยกรรมไดร้ ะบไุ วเ้ ทา่ นนั้ ทม่ี สี ิทธไิ ด้รบั มรดก โดยไม่ตอ้ งพิจารณาล�ำดับทายาทโดยธรรมอีก 116 โรงเรียนผสู้ ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเปน็ ผ้สู ูงอายุทมี่ ศี กั ยภาพ

ตวั อย่างการจดั การทรพั ย์สนิ ของผูส้ งู วัย การให้ทด่ี ินและบา้ นแกบ่ ุตรหลาน และสทิ ธิเก็บกิน ค�ำถาม : จะยกทดี่ นิ และบา้ นให้แกบ่ ตุ รหลานในระหว่างท่ีมชี ีวิตอยู่ หรอื ควรจะ ยกให้เปน็ มรดก? ขอ้ แนะนำ� : ควรยกทด่ี ินและบ้านให้บุตรหลานในระหว่างทีม่ ชี ีวิตอยู่ เพราะผู้ทไ่ี ดร้ ับ จะได้ช่ืนชมยินดีและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ให้ขณะที่มีชีวิตอยู่ ได้เต็มที่ ดีกว่าที่จะได้รับรู้ว่าตนได้รับมรดกเป็นที่ดินและบ้าน ซ่ึงจะ ทำ� ไดก้ ็แต่ท�ำบุญอุทศิ สว่ นกศุ ลใหแ้ ก่ผู้ให้ซึง่ วายชนมไ์ ปแลว้ นอกจากน้ี ยังตัดปัญหากรณีพิพาทท่ีอาจเกิดขึ้นระหว่างทายาทในเร่ืองทรัพย์ มรดก และอาจเป็นผลให้บุคคลท่ีควรจะได้รับที่ดินและบ้านตามความ ปรารถนาของผยู้ กให้เสยี สทิ ธจิ ากความไม่สมบูรณ์ของพนิ ัยกรรม หรอื จากกรณีพิพาทระหว่างทายาทก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ผ้สู ูงอายคุ วรจะจดทะเบียนสิทธเิ กบ็ กนิ ใหแ้ ก่ตนเองและคสู่ มรส (ถา้ ยงั มชี ีวิตอย)ู่ ไวต้ ลอดชีวิตด้วย เช่น บิดามารดาผทู้ ีย่ กทีด่ ินและบา้ นใหแ้ กบ่ ุตรหลานยงั มสี ิทธคิ รอบครอง ใช้ และถือเอาซึ่งประโยชน์แหง่ ที่ดนิ และบ้านนั้นตามกฎหมาย โดย จะยังอย่อู าศยั นำ� ออกใหเ้ ช่า หรือจัดหาผลประโยชนใ์ ด ๆ จนตลอดชีวิตของตนได้โดย ไมม่ ผี ู้ใดมีสทิ ธมิ ารบกวน บุตรหลานที่ได้กรรมสิทธ์ิที่ดินและบ้านก็ยังมีกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ สามารถ จำ� หนา่ ยจา่ ยโอนตอ่ ไปได้ เพยี งแต่ผรู้ ับโอนกรรมสิทธใิ์ นท่ดี นิ และบา้ นยังตอ้ งผกู พันท่ี จะให้บิดามารดาผทู้ รงสิทธิเก็บกนิ ยังคงมสี ิทธิครอบครอง ใช้ และถอื เอาซง่ึ ประโยชน์ แหง่ ทด่ี นิ และบ้านได้ตลอดชวี ติ ความรทู้ ีผ่ ้สู ูงอายตุ อ้ งรู้ 117

แนวปฏบิ ัติ : 1. จะต้องจดทะเบียนสิทธิเก็บกินดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานท่ีดินในเขตที่ท่ีดินน้ัน ตง้ั อยู่ และเสยี ค่าธรรมเนียมราชการโฉนดละ 40 บาท หลังจากการจดทะเบียนสทิ ธิ เก็บกินแล้ว 2. ในกรณที ่ีบิดามารดาไมม่ ีความประสงค์จะใชส้ ทิ ธเิ ก็บกนิ ตอ่ ไปแล้วกส็ ามารถไป จดทะเบียนยกเลกิ สิทธเิ กบ็ กินดังกลา่ วได้ตามความประสงค์ ประโยชนท์ ่ีจะได้รับ : การจดทะเบียนสิทธิเก็บกินท�ำให้ลูกหลานซ่ึงอาจรวมถึงเขยสะใภ้ไม่อาจขับไล่ หรือบีบคั้นให้บิดามารดาหรือปู่ย่าตายายซึ่งเป็นผู้ยกบ้านและที่ดินให้ต้องออกไปจาก ที่ดนิ และบา้ นจนตลอดชวี ติ สญั ญาค้ำ� ประกัน (การท�ำสญั ญาค้�ำประกนั ) ไม่แนะน�ำให้ผู้สูงอายุท�ำสัญญาค้�ำประกันแก่บุคคลที่ไม่ใช่บุตรหลานของตนเอง และในกรณีท่ีหลีกเล่ียงไม่ได้ การค�้ำประกันควรจ�ำกัดขอบเขตด้วยจ�ำนวนเงินหรือ ก�ำหนดเวลาไว้ในสัญญา เช่น ยินยอมเป็นผู้ค�้ำประกันสัญญาเงินกู้ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท สำ� หรบั วงเงนิ ทเี่ กนิ กวา่ นใ้ี หล้ กู หนไี้ ปหาผคู้ ำ้� ประกนั รายอน่ื เปน็ ผคู้ ำ้� ประกนั รว่ มให้แก่เจา้ หน้ี หรืออาจยินยอมเป็นผู้คำ้� ประกนั สัญญาซอื้ จกั รยานยนตเ์ งินผอ่ นที่มี ก�ำหนดเวลาไมเ่ กนิ 12 เดือน ถา้ เกินกวา่ นี้ ผู้ค้�ำประกนั หลุดพ้นความผดิ เปน็ ตน้ 118 โรงเรยี นผูส้ งู อายุ : ชุดความรู้ การพัฒนาเปน็ ผสู้ งู อายทุ ีม่ ีศักยภาพ

คำ� ถาม : ผสู้ งู อายหุ ลายคนทเ่ี ปน็ ผคู้ ำ้� ประกนั ใหแ้ กผ่ อู้ นื่ ไมว่ า่ จะทำ� ใหแ้ กล่ กู หลาน ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน หรือผู้ใต้บังคับบัญชา และยังไม่มีส�ำเนา หนังสอื ค้ำ� ประกันทล่ี งลายมอื ช่ือไว้ ทำ� ให้ไม่ทราบว่าตนเองมภี าระหนี้ ท่ตี นได้ค�ำ้ ประกนั ไว้เปน็ จำ� นวนเท่าใด ข้อแนะน�ำ : กรณเี ปน็ การค้ำ� ประกันให้ผใู้ ต้บังคับบญั ชา ควรรบี ส�ำรวจตรวจสอบวา่ ภาระหน้ีสินของบุคคลท่ีตนได้ให้การค้�ำประกันไว้น้ันยังมีอยู่หรือไม่ ในขณะทีย่ งั มตี ำ� แหน่ง ก่อนท่จี ะพ้นต�ำแหนง่ ออกไป (ซึง่ หากเมื่อพ้น ตำ� แหนง่ ออกไปแลว้ บคุ คลเหล่านนั้ จะไมม่ ีอำ� นาจ ไม่มบี ารมที ่ีจะแก้ ปัญหาไดอ้ ยา่ งสะดวกแล้ว และจะเปน็ การสายเกนิ แก้) เชน่ เคยทำ� สัญญาค้�ำประกันการเช่าซ้ือรถจักรยานยนต์ไว้นานแล้ว หรือเคยท�ำ สญั ญาคำ�้ ประกนั สญั ญากยู้ มื เงนิ หรอื สญั ญากเู้ บกิ เงนิ เกนิ บญั ชี (O/D) ไว้ ถ้าผู้ซอื้ ไดช้ ำ� ระราคาจักรยานยนต์ครบถ้วนแลว้ หรอื หากลูกหนีไ้ ดช้ ำ� ระ หนเี้ งนิ กคู้ รบถว้ นแลว้ หรอื ไดห้ ยดุ ใชว้ งเงนิ กเู้ บกิ เงนิ เกนิ บญั ชี (O/D) แลว้ ผู้ค้�ำประกันก็ควรขอให้เจ้าหน้ีเพิกถอนสัญญาค�้ำประกันดังกล่าว หรือเวนคืนหนังสือค�้ำประกันท่ีเจ้าหนี้ยึดถือไว้ให้เรียบร้อย และผู้ค�้ำ ประกันตอ้ งเกบ็ หลกั ฐานดังกลา่ วไว้ต่อไปเพอ่ื พิสจู น์ตอ่ เจ้าหน้ดี ว้ ย แต่หากเปน็ กรณที ่ีลกู หน้ที ี่ตนได้ให้การค้�ำประกันไวย้ ังมภี าระหนี้สนิ เชน่ ยงั ผอ่ น ช�ำระหนไ้ี ม่ครบถ้วน หรือเปน็ กรณใี ห้การค�ำ้ ประกนั การปฏิบตั ิหนา้ ทีข่ องพนกั งานเกบ็ เงนิ ในบรษิ ทั หา้ งร้านท่ียงั ทำ� งานอยู่ แนะน�ำให้รบี เจรจาขอเปล่ยี นตวั ผู้ค�้ำประกันจาก คนเดิมใหเ้ ป็นคนใหม่ ซง่ึ ในทางปฏิบตั เิ ป็นเรื่องท่ยี ากมาก และหากไมเ่ กรงใจกันหรือ ความรทู้ ี่ผู้สูงอายุต้องรู้ 119

เป็นกรณีที่ต้องยินยอมช�ำระหน้ีกันบางส่วนแล้วก็มักจะเปลี่ยนตัวผู้ค�้ำประกันไม่ส�ำเร็จ ผลกค็ ือ ถงึ แมจ้ ะเกษยี ณอายรุ าชการ หรอื รฐั วิสาหกจิ หรือบริษัทหา้ งร้าน ผคู้ ำ้� ประกัน ก็ยังจะต้องหวาดผวากับภาระหนี้สินท่ีเจ้าหนี้อาจจะเรียกร้องให้ตนต้องช�ำระหน้ีแทน ลกู หน้ไี ดใ้ นวันหนงึ่ หรือทร่ี ้ายแรงกว่านั้น ถงึ แม้ว่าผู้ค้�ำประกันจะถงึ แก่กรรมไปแล้ว กต็ าม หากมมี รดกตกทอดแกบ่ ตุ รหลาน กองมรดกของผคู้ ำ�้ ประกนั หรอื บตุ รหลานของ ผู้คำ�้ ประกันก็อาจต้องเข้าไปรับผิดชดใชห้ นข้ี องลกู หนีใ้ หแ้ ก่เจา้ หน้ไี ดเ้ ช่นเดียวกัน แนวปฏบิ ัติ : หากไม่มคี วามจ�ำเป็นหรือไม่ตอ้ งเกรงใจกนั อยา่ งมากแลว้ ขอแนะน�ำว่า ไมค่ วรใหก้ ารคำ�้ ประกนั แกบ่ คุ คลใดทไ่ี มใ่ ชบ่ ตุ รหลานของตนเอง แตห่ าก เป็นกรณีท่ีไม่มีทางปฏิเสธหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว ควรให้การ ค้ำ� ประกันทม่ี ีขอบเขตจำ� กัดดว้ ยจ�ำนวนเงินหรือดว้ ยก�ำหนดเวลา เช่น ยินยอมเป็นผู้ค้�ำประกันสัญญาเงินกู้ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ส�ำหรับวงเงินท่ีเกินไปกว่าน้ีขอให้ลูกหนี้ไปหาผู้ค้�ำประกันรายอื่น เข้าเป็นผู้ค�้ำประกันรว่ มใหแ้ ก่เจา้ หนี้ หรืออาจยนิ ยอมเปน็ ผคู้ ้�ำประกนั สญั ญาซ้อื จักรยานยนตเ์ งนิ ผอ่ นมกี �ำหนดเวลาไม่เกนิ 12 เดือน ถ้าเกิน กว่านี้ ผ้คู �ำ้ ประกันหลดุ พ้นความรับผิด เป็นต้น (การท�ำพนิ ัยกรรม) คอื คำ� สง่ั ของผทู้ �ำพนิ ยั กรรมเก่ียวกับทรพั ย์สนิ หรือการตา่ ง ๆ ของผทู้ �ำพินัยกรรม ซึง่ จะมผี ลบังคับตามกฎหมายเม่อื บคุ คลนนั้ ตายไปแล้ว ส�ำหรับบุคคลที่จะท�ำพินัยกรรมได้นั้น กฎหมายจ�ำกัดความสามารถของบุคคลท่ี จะทำ� พินัยกรรมไว้ กล่าวคือ หากเปน็ ผู้เยาว์ อายไุ ม่ครบสิบห้าปบี ริบรู ณ์ หรอื เป็น 120 โรงเรยี นผู้สงู อายุ : ชุดความรู้ การพฒั นาเปน็ ผ้สู งู อายุที่มีศักยภาพ

บุคคลที่ถูกศาลส่ังเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนวิกลจริตในเวลาท่ีท�ำพินัยกรรม พนิ ยั กรรมทีท่ ำ� ขึ้นย่อมตกเป็นโมฆะ หรอื ไมม่ ีผลบงั คับ (ประมวลกฎหมายแพง่ และ พาณิชย์ มาตรา 1703 และ 1704) ในการท�ำพนิ ัยกรรมนัน้ ต้องระบุผู้รบั พนิ ยั กรรมไวโ้ ดยชัดเจน โดยผู้รบั พินยั กรรม อาจเป็นญาติพ่ีน้องหรือบุคคลใดก็ได้ ถ้าเป็นหน่วยงาน หน่วยงานจะต้องมีลักษณะ เปน็ นิติบคุ คล คำ� ถาม : ควรจะท�ำพนิ ยั กรรมเมือ่ ใด? ขอ้ แนะนำ� : ผสู้ งู อายคุ วรทำ� พนิ ยั กรรมไวแ้ ตเ่ นน่ิ ๆ อยา่ รอใหม้ อี าการปว่ ยหรอื ชราภาพ เสียกอ่ นจึงค่อยท�ำ เพราะปรากฏผลว่า ผทู้ ่ที ำ� พนิ ัยกรรมหลายรายจะมี สุขภาพจติ ดีกวา่ เมื่อกอ่ นทำ� พนิ ัยกรรมมาก เพราะเปน็ โอกาสสำ� คัญที่ จะได้ใชเ้ วลาทบทวนบญั ชีทรพั ย์สิน หนส้ี ิน และพจิ ารณาความประพฤติ ของทายาทซึ่งจะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม เป็นโอกาสดีที่จะจัด วางแนวทางจัดการทรัพยส์ นิ ภายหลังท่พี ้นจากโลกนีไ้ ปแล้ว ยิง่ กวา่ น้นั พินัยกรรมทีท่ ำ� ขึ้นยังช่วยให้บคุ คลในครอบครัว บุตรหลาน บรวิ าร หรอื ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งในชว่ งทเ่ี จา้ มรดก (ผทู้ ำ� พนิ ยั กรรม) มชี วี ติ อยู่ ไดร้ บั ทรพั ย์ มรดกตามส่วนทคี่ วรจะเปน็ ตดั ปญั หาการทะเลาะเบาะแว้ง ฟอ้ งรอ้ ง แก่งแย่งทรัพย์มรดก ท�ำให้เสียช่ือเสียงของวงศ์ตระกูล หรือแม้แต่ ชือ่ เสียงของผู้วายชนม์ เหมอื นกบั ท่ีเกิดขนึ้ ในวงสังคมอย่เู ป็นประจำ� ความรทู้ ผี่ สู้ ูงอายุตอ้ งรู้ 121

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ก�ำหนดแบบของพินัยกรรมไว้หลายแบบ แต่ที่ขอ แนะนำ� ใหท้ �ำจะมีเพียง 3 แบบ คือ 1. พนิ ัยกรรมแบบเขยี นเองท้งั ฉบบั 2. พนิ ยั กรรมแบบธรรมดา 3. พนิ ยั กรรมแบบเอกสารฝา่ ยเมอื ง ในทนี่ จ้ี ะขอกลา่ วถึง 2 แบบ คอื - แบบเขยี นเองทัง้ ฉบบั - พินยั กรรมแบบธรรมดา พนิ ัยกรรมแบบเขียนเองทงั้ ฉบับ พินัยกรรมแบบนี้เหมาะสำ� หรับพินยั กรรมที่มีรายการทรัพยส์ นิ หรือจ�ำนวนทายาท ไม่มาก และผทู้ �ำพนิ ัยกรรมไมต่ อ้ งการใหผ้ ใู้ ดรขู้ อ้ ความในพนิ ัยกรรมนีจ้ นกวา่ จะถึงวัน เปดิ พินัยกรรม โดยหากมีการแก้ไข ขดู ลบ ผ้ทู �ำพนิ ยั กรรมตอ้ งลงลายมือชอ่ื ก�ำกับไว้ทกุ แหง่ และ ถา้ พินัยกรรมมหี ลายหนา้ ใหใ้ ส่เลขหน้าไวด้ ว้ ย ผู้ท�ำพินัยกรรมต้องเขียนด้วยลายมือตนเองทั้งฉบับ จะใช้พิมพ์ดีดหรือพิมพ์ด้วย คอมพวิ เตอรไ์ มไ่ ด้ และถา้ ทำ� พินัยกรรมชนิดนต้ี ั้งแต่ 2 ฉบบั ขึน้ ไป กต็ อ้ งเขยี นด้วย ลายมอื ตนเองทกุ ฉบบั จะใช้วธิ ีเขยี นดว้ ยลายมือตนเอง 1 ฉบับ แลว้ ถา่ ยเอกสารอีก 2 ฉบบั ถงึ แม้วา่ ผู้ท�ำพนิ ยั กรรมจะลงลายมือชื่อก�ำกบั ไวใ้ นสำ� เนาทั้ง 2 ฉบบั น้ี ก็ใช้ไมไ่ ด้ และไม่ตอ้ งมพี ยาน 2 คน ลงลายมือช่อื เปน็ พยานในพินยั กรรมแตอ่ ย่างใด ในกรณีท่ีผู้ท�ำพินัยกรรมต้องการยกทรัพย์มรดกทั้งหมดโดยไม่แจกแจงรายการ ทรัพยส์ นิ ก็ทำ� ได้ โดยใช้ข้อความ เชน่ “ขา้ พเจา้ ขอท�ำพนิ ัยกรรมไวว้ า่ เมอื่ ข้าพเจา้ ถงึ แก่ กรรมแล้ว ขา้ พเจ้าขอยกทรัพยส์ นิ ของข้าพเจา้ ทงั้ หมดที่มีอยใู่ นปัจจบุ นั และทจ่ี ะมตี ่อ ไปในอนาคต โดยขอยกใหแ้ กน่ าง..................ภรรยาของข้าพเจ้าแต่ผู้เดยี ว” หรอื อาจ ใชข้ ้อความว่า “โดยขอยกให้แกน่ าย.............นาย.......................นางสาว..................... และเด็กชาย...............บุตรของข้าพเจา้ คนละสว่ นเทา่ กัน” กท็ ำ� ได้ 122 โรงเรียนผู้สงู อายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเปน็ ผสู้ งู อายุท่ีมีศกั ยภาพ

ตัวอยา่ งพินยั กรรมแบบเขยี นเองทง้ั ฉบับ พินัยกรรม ทำ�ท…่ี ….…………………….………….วันท…่ี ….…เดอื น……………………พ.ศ. …………… ข้าพเจ้า…………..…………….…........…............... อายุ………....ปี อยู่บ้านเลขที่……......... หมูท่ ี…่ ……...... ถนน………..………......…….....ตำ�บล/แขวง…………………………............... อำ�เภอ/เขต…………………………… จงั หวัด………………………ได้ทำ�พินยั กรรมฉบบั นขี้ น้ึ ไว้ เพอ่ื แสดงเจตนาวา่ เม่อื ขา้ พเจา้ ถงึ แกก่ รรมแล้ว ขา้ พเจ้าขอยกทรัพย์สนิ ของขา้ พเจา้ ทง้ั หมด ทงั้ ที่มอี ยู่ในปัจจบุ นั และท่ีจะมีตอ่ ไป ในอนาคต โดยขอยกใหแ้ ก…่ ……………………………………………………………….แต่ผู้เดียว พินัยกรรมนี้ ข้าพเจ้าเขียนด้วยลายมือของข้าพเจ้าทั้งฉบับ ได้ทำ�ไว้ 2 ฉบับ มีข้อความถกู ต้องตรงกันทกุ ประการ ฉบับหนึ่งเกบ็ ไวท้ ่…ี ……………………………………….…….. อกี ฉบับหนึง่ เกบ็ ไวท้ ่…ี ………………………………............. ขณะทำ�พินยั กรรม ข้าพเจา้ มสี ติสมั ปชัญญะปกติ ข้าพเจา้ ได้อา่ นและเขา้ ใจขอ้ ความโดยตลอดแล้ว ลงชื่อ…………………………………………ผู้ทำ�พินยั กรรม ความรทู้ ่ผี สู้ ูงอายตุ ้องรู้ 123

พนิ ัยกรรมแบบธรรมดา พินัยกรรมแบบธรรมดาน้ันก็มีข้อความคล้ายกับพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ท่ีแตกต่างกันก็คือ พินัยกรรมแบบนี้ไม่ต้องเขียนด้วยลายมือของผู้ท�ำพินัยกรรมเอง ท้งั ฉบับ ใชพ้ มิ พ์ข้อความดว้ ยพมิ พด์ ีดหรือคอมพวิ เตอรไ์ ด้ และท�ำขึ้นหลายฉบบั ก็ได้ นอกจากนนั้ การทำ� พนิ ยั กรรมแบบนตี้ อ้ งมบี คุ คลทบี่ รรลนุ ติ ภิ าวะและมสี ตสิ มั ปชญั ญะ สมบรู ณ์ลงลายมือชอ่ื เป็นพยานอย่างน้อย 2 คนพรอ้ มกัน โดยพยาน 2 คนน้ีตอ้ งเห็น ผู้ท�ำพินัยกรรมลงลายมือชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าตนด้วย และที่ส�ำคัญก็คือ ผู้ท�ำ พินัยกรรมและพยานทั้งสองคนต้องลงลายมือชื่อก�ำกับในพินัยกรรมทุกหน้าอย่าง ชดั เจน หากมกี ารขีดฆ่า ขดู ลบ หรอื ตกเติม แก้ไขขอ้ ความในพนิ ัยกรรม ผ้ทู �ำพินยั กรรม และพยานก็ต้องลงลายมอื ช่อื กำ� กบั ไวท้ ุกแหง่ ดว้ ยเชน่ กนั ในการท�ำพินัยกรรมแบบนี้ ผู้ท�ำพินัยกรรมควรให้บุคคลท่ีเชื่อถือได้ อาทิเช่น แพทย์ หรอื ขา้ ราชการ รบั รองวา่ “ข้าพเจา้ นายแพทย.์ ................ได้ตรวจดูอาการของ ผ้ทู ำ� พนิ ัยกรรมแลว้ เหน็ ว่ามีสตสิ ัมปชัญญะสมบรู ณ์ทกุ ประการ จึงได้ลงลายมือช่อื เป็น พยานไว้ในพนิ ยั กรรมดว้ ย” 124 โรงเรยี นผสู้ งู อายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเปน็ ผู้สูงอายทุ ่มี ีศกั ยภาพ

ตวั อยา่ งพนิ ัยกรรมแบบธรรมดา พนิ ัยกรรม พินัยกรรมฉบับนท้ี �ำขน้ึ ณ บา้ นเลขท.่ี .............ถนน.................ต�ำบล/แขวง.................. อ�ำเภอ/เขต.............จงั หวดั ....................เม่อื วันที่.......เดอื น......................พ.ศ. ............ ข้าพเจ้า........................................อาย.ุ .......ปี อย่บู า้ นเลขท.่ี ..........ถนน..................ตำ� บล/ แขวง.........................อ�ำเภอ/เขต...................จังหวัด.......................ขอท�ำค�ำสั่งครั้งสุดท้ายไว้ใน พินัยกรรมน้ี และให้บรรดาค�ำส่ังและพินัยกรรมใด ๆ ทข่ี ้าพเจา้ ได้ท�ำขนึ้ ก่อนหน้านีเ้ ปน็ อันสน้ิ ผล และถกู เพกิ ถอนไปโดยพนิ ยั กรรมฉบบั น้ที ัง้ หมด โดยมรี ายละเอียดดังตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 เม่ือข้าพเจา้ ถงึ แกค่ วามตายแลว้ ขา้ พเจา้ ขอยกทรัพยส์ นิ ของข้าพเจ้าทั้งหมดไม่วา่ บรรดาอสงั หารมิ ทรัพย์และสังหารมิ ทรพั ย์ตลอดจนสทิ ธเิ รียกร้องต่อผู้อื่น รวมทงั้ บรรดาทรัพย์สนิ ใด ๆ ทั้งหลายทีข่ า้ พเจ้ามหี รืออาจมีในภายหนา้ ให้ตกเป็นกรรมสิทธแิ์ ก่ 1)…………………………………………………จ�ำนวน………….สว่ น 2)…………………………………………………จ�ำนวน………….ส่วน 3)…………………………………………………จ�ำนวน………….ส่วน ขอ้ 2 เม่ือขา้ พเจ้าถงึ แก่ความตายแล้ว ให้แตง่ ตงั้ นาย/นาง/นางสาว...................... เปน็ ผู้ จัดการมรดกของข้าพเจ้า หากปรากฏว่านาย/นาง/นางสาว...................................ถึงแกก่ รรมกอ่ น หรอื พรอ้ มกบั ขา้ พเจา้ ใหน้ าย/นาง/นางสาว...............................เปน็ ผจู้ ดั การมรดกของขา้ พเจา้ แทนตอ่ ไป ขอ้ 3 บรรดาค่าใช้จ่ายตา่ ง ๆ ในการจัดการศพของขา้ พเจา้ ให้หักออกจากกองมรดกของ ขา้ พเจ้าก่อน ส่วนท่เี หลือจึงให้ตกเป็นสทิ ธขิ องผ้รู ับพินยั กรรมดงั กล่าวข้างตน้ ข้อ 4 เมื่อพนิ ัยกรรมฉบบั นี้มผี ล หากปรากฏวา่ ผ้รู บั มรดกคนใดคนหนง่ึ ถงึ แกก่ รรมกอ่ น ข้าพเจา้ ใหท้ รัพย์มรดกของข้าพเจา้ ในสว่ นของผู้นน้ั ตกเป็นของผู้รับมรดกท่ยี งั คงมีชีวติ อยู่ โดยให้ แบง่ เฉลยี่ ตามสว่ นเท่า ๆ กนั พินัยกรรมฉบบั นีท้ ำ� ขน้ึ เปน็ สองฉบบั มีข้อความถกู ตอ้ งตรงกันทกุ ประการ ข้าพเจา้ เปน็ ผ้เู ก็บ รกั ษาไวเ้ องฉบบั หนง่ึ สว่ นอกี ฉบบั หนง่ึ นน้ั ใหน้ าย/นาง/นางสาว............................เปน็ ผเู้ กบ็ รกั ษาไว้ และเพื่อให้ความปรารถนาในการท�ำพินัยกรรมของข้าพเจ้าประสบความส�ำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ทุก ประการ ขา้ พเจ้าขอยืนยนั วา่ ขา้ พเจ้ามสี ติสัมปชญั ญะสมบูรณ์ทกุ ประการ ข้าพเจา้ ได้อ่านและ เข้าใจขอ้ ความในพินยั กรรมน้โี ดยตลอดแลว้ เห็นว่าตรงตามเจตนารมณข์ องขา้ พเจ้าทกุ ประการ จึงได้ลงลายมือช่ือไว้เป็นส�ำคัญต่อหน้าพยานสองคนพร้อมกันอย่างครบถ้วนและถูกต้องเม่ือวันท่ี และ ณ สถานทด่ี งั ระบขุ า้ งต้น .........................................ผทู้ �ำพนิ ัยกรรม (.....................................) .........................................ผู้เขียน/พิมพ์ (......................................) ความรู้ที่ผู้สูงอายุต้องรู้ 125

ขา้ พเจา้ .................................................................อยู่บ้านเลขที.่ .............ถนน.................................. ต�ำบล/แขวง........................................อ�ำเภอ/เขต.................................จงั หวดั ............................... ขา้ พเจ้า.................................................................อยูบ่ ้านเลขท.่ี .............ถนน.................................. ต�ำบล/แขวง........................................อ�ำเภอ/เขต.................................จังหวดั ............................... ขอรับรองวา่ ผู้ท�ำพนิ ยั กรรมได้ลงลายมือช่อื ต่อหนา้ ขา้ พเจ้าตามวันทแี่ ละ ณ สถานทีด่ ังระบไุ ว้ข้าง ตน้ โดยมีเจตนาอยา่ งชดั แจ้งทจ่ี ะใหม้ กี ารบงั คับตามขอ้ คำ� สงั่ ของผทู้ ำ� พนิ ยั กรรมโดยสมบูรณค์ รบ ถ้วน และข้าพเจา้ ขอรบั รองวา่ ผทู้ ำ� พนิ ัยกรรมมีสติสมั ปชญั ญะบรบิ ูรณท์ กุ ประการ ...........................................พยาน (..........................................) ...........................................พยาน (..........................................) 126 โรงเรยี นผูส้ งู อายุ : ชุดความรู้ การพฒั นาเปน็ ผู้สูงอายทุ มี่ ศี กั ยภาพ

สิทธใิ นวาระสุดทา้ ย : พนิ ยั กรรมชีวติ (Living Will) ในปัจจุบันน้ีมพี นิ ัยกรรมอีกประเภทหนงึ่ ทเี่ พิง่ เกดิ ข้ึนมาใหม่ ที่บางคนเรยี กวา่ “พินัยกรรมชีวิต” หรือบางคนก็เรียกว่า “พินัยกรรมการขอตายอย่างไม่ทรมานใน วาระสุดท้ายของชีวิต” ซ่ึงเป็นพินัยกรรมท่ีออกโดยกฎกระทรวงก�ำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการด�ำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขท่ี เป็นไปเพียงเพ่ือยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพ่ือยุติการทรมานจากการ เจบ็ ป่วย โดยผู้ป่วยท่ีอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตสามารถแสดงความประสงค์ท่ีจะไม่รับ บริการทางการแพทย์ เช่น การใช้เคร่ืองมือทางการแพทย์ที่เป็นไปเพื่อยืดความเจ็บ ปว่ ยทรมานโดยไม่จำ� เป็น หากแตผ่ ปู้ ว่ ยยังคงไดร้ ับการดูแลจากแพทย์ พยาบาล ตาม ความเหมาะสมเพอ่ื บรรเทาความเจบ็ ปวดและอาการต่าง ๆ • บุคคลท่ัวไปหรือผู้ป่วยท่ีมีสติสัมปชัญญะดีสามารถท�ำหนังสือแสดงเจตนา ดงั กล่าวได้ด้วยตนเอง แตค่ วรปรกึ ษาหารอื กบั แพทย์ พยาบาลทีม่ คี วามเข้าใจ เร่อื งน้ี ในกรณผี ปู้ ว่ ยเดก็ น้นั ควรให้พอ่ แม่ ผูป้ กครอง หรือญาติท่ีให้การดแู ล มีสว่ นรว่ มในการปรกึ ษาหารือกบั แพทย์ • ผทู้ ำ� หนงั สอื แสดงเจตนาควรแจง้ ใหค้ นในครอบครวั ญาตมิ ติ ร คนใกลช้ ดิ รบั ทราบ เรือ่ งการท�ำหนงั สือดงั กล่าว • แพทย์ พยาบาลที่ดแู ลผ้ปู ่วยตามหนังสือแสดงเจตนาไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย เพราะทำ� ดว้ ยเจตนาดตี ามความประสงคข์ องผปู้ ว่ ย และกฎหมายสขุ ภาพแหง่ ชาติ ใหค้ วามคมุ้ ครองไว้ • แพทย์ พยาบาลควรใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั โรคหรอื สภาพของผปู้ ว่ ยแกผ่ ปู้ ว่ ยหรอื ญาติ ตามความเปน็ จรงิ ไมค่ วรปดิ บงั ขอ้ มลู ใด ๆ ทงั้ นใ้ี หค้ ำ� นงึ ถงึ ชว่ งเวลาและจงั หวะ ทเ่ี หมาะสม ความรทู้ ีผ่ ู้สงู อายตุ อ้ งรู้ 127

• สถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลควรจัดท�ำแบบฟอร์มหนังสือแสดงเจตนาเพื่อ อำ� นวยความสะดวกให้ผ้ปู ว่ ยหรอื ผทู้ ีต่ ้องการทำ� หนังสือแสดงเจตนา • แพทย์ พยาบาลควรอธบิ ายขน้ั ตอนการทำ� หนงั สอื แสดงเจตนาดงั กลา่ วใหผ้ ปู้ ว่ ย หรอื ญาตทิ ราบ นอกจากกฎกระทรวงดังกลา่ วแลว้ ยังมีประกาศสำ� นักงานคณะกรรมการสขุ ภาพ แห่งชาติ เร่ืองแนวทางการปฏบิ ัติงานของสถานบรกิ ารสาธารณสุข ผูป้ ระกอบวิชาชพี ด้านสาธารณสุข และเจ้าหนา้ ท่ีของสถานบริการสาธารณสขุ ตามกฎกระทรวงก�ำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการด�ำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการ สาธารณสุขท่ีเป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพ่ือยุติการ ทรมานจากการเจบ็ ป่วย พ.ศ. 2553 ซึ่งถือเปน็ คำ� แนะน�ำ ค�ำอธิบาย และแนวทางใน การปฏบิ ัติงานเพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวง โดยมสี าระส�ำคญั ดงั น้ี การแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา 12 แห่ง พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ถือเป็นสิทธิผู้ป่วยอย่างหน่ึงตาม ปฏิญญาลิสบอนว่าด้วย “สิทธิผู้ป่วย” ค.ศ. 1981 แก้ไขปรับปรุง ค.ศ. 2005 โดย รับรองสิทธิการแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขของผู้ป่วยในวาระ สุดท้ายอย่างมีศักด์ิศรี เป็นเรื่องสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเอง สอดคล้องกับ เร่ืองการตายอย่างสงบตามธรรมชาติ โดยไม่ถูกเหน่ียวร้ังการตายด้วยวิธีการรักษา หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เกินความจ�ำเป็นและไม่สมควร ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 กไ็ ด้ยนื ยันเรือ่ งศักด์ิศรีความเปน็ มนษุ ย์ และสทิ ธแิ ละ เสรภี าพในชีวิตและรา่ งกายของบคุ คลไว้ในมาตรา 4 มาตรา 28 และมาตรา 32 วรรค หนึ่งไว้ และสิทธิในการตัดสินใจของตนเองเรื่องการรักษาพยาบาลถือเป็นศักด์ิศรี ความเปน็ มนุษย์หรือสทิ ธิมนษุ ยชนอยา่ งหนึง่ ผสู้ นใจหนงั สือแสดงเจตนาไมป่ ระสงค์จะรับบริการสาธารณสขุ สามารถดาวนโ์ หลดได้ท่ีเว็บไซต์ http://www.nationalhealth.or.th หรือเวบ็ ไซต์ http://www.thailivingwill.in.th 128 โรงเรยี นผู้สูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเป็นผูส้ ูงอายุท่มี ศี ักยภาพ

ตัวอยา่ ง หนงั สือแสดงเจตนาไมป่ ระสงค์จะรบั บรกิ ารสาธารณสขุ วนั ท่ี .................................. ข้าพเจา้ (ชือ่ -นามสกลุ ) ................................................... อาย.ุ .................ปี บัตรประชาชนเลขท่ี...........................................ที่อยู่ท่ีติดต่อได้......................... ........................................................................................................................... หมายเลขโทรศพั ท.์ ..................................หมายเลขโทรศพั ทท์ ที่ ำ� งาน............................ ขณะทำ� หนงั สือฉบับนี้ ข้าพเจ้ามสี ติสัมปชัญญะบริบรู ณ์ และมีความประสงค์ทจี่ ะ แสดงเจตนาท่จี ะขอตายอยา่ งสงบตามธรรมชาติ ไมต่ ้องการใหม้ ีการใช้เครือ่ งมือใด ๆ กบั ขา้ พเจา้ เพอ่ื ยดื การตายออกไปโดยไมจ่ ำ� เปน็ และเปน็ การสญู เปลา่ แตข่ า้ พเจา้ ยงั คง ได้รับการดูแลรักษาตามอาการ o เมื่อข้าพเจา้ ตกอย่ใู นวาระสดุ ทา้ ยของชีวิต หรอื o เมอื่ ขา้ พเจา้ ได้รับทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บหรอื โรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้ ขา้ พเจ้าขอปฏิเสธการรักษาดงั ตอ่ ไปน้ี (เลอื กไดม้ ากกวา่ 1 ข้อ และใหเ้ ซ็นช่ือ กำ� กบั หนา้ ขอ้ ท่ที ่านเลอื ก) o 1. การเจาะคอเพอื่ ใสท่ อ่ ช่วยหายใจ o 2. การใช้เครอ่ื งชว่ ยหายใจ o 3. การใหส้ ารอาหารและน้ำ� ทางสายยาง o 4. การเข้ารกั ษาในหอ้ งไอซยี ู (ICU) o 5. การกระตุน้ ระบบไหลเวยี น o 6. กระบวนการฟื้นชพี เม่ือหัวใจหยดุ o 7. การรักษาโรคแทรกซ้อนดว้ ยยาหรอื วิธีการรกั ษาใด ๆ o 8. ................................................................................................................. ความรู้ท่ีผูส้ ูงอายตุ อ้ งรู้ 129

ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขได้ให้บริการดังกล่าว โดยมิได้ทราบ เนื้อความในหนังสือแสดงเจตนาฉบับนี้ หรือไม่ทราบความประสงค์ที่แท้จริงของ ขา้ พเจ้า ข้าพเจา้ ขอรอ้ งให้ผนู้ ั้นกรณุ าหยุดบริการประเภทดงั กลา่ วด้วย ได้แก่ o การหยดุ ใชเ้ ครอื่ งช่วยหายใจ o การยตุ ิการให้สารอาหารและน้�ำทางสายยาง o ......................................................................................................... ข้าพเจ้าขอให้สถานพยาบาลหรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขอ�ำนวยความ สะดวกตามความเหมาะสม ดังต่อไปนี้ o ความประสงค์ท่ีจะเสยี ชีวติ ทบ่ี า้ น o การเยยี วยาทางจติ ใจอน่ื ๆ (กรณุ าระบุ เช่น การสวดมนต์ การเทศนาของ นักบวช เป็นต้น) .............................................................................................................................. ข้าพเจา้ ขอมอบหมายให้ (ชือ่ นามสกุล) ........................................................... ในฐานะบคุ คลใกลช้ ดิ (ถา้ มี) เป็นผู้แสดงเจตนาแทน เม่ือข้าพเจา้ อยูใ่ นภาวะท่ีไม่ สามารถส่อื สารกับผูอ้ ื่นไดต้ ามปกติ เพ่อื ท�ำหนา้ ทอี่ ธบิ ายความประสงค์ทแี่ ท้จริงของ ข้าพเจา้ หรือปรกึ ษาหารือกบั แพทยใ์ นการวางแผนการดูแลรกั ษาต่อไป ข้าพเจ้าได้ท�ำหนังสือแสดงเจตนาต่อหน้าพยานและท�ำส�ำเนาเอกสารมอบให้ บคุ คลใกลช้ ดิ และพยานเก็บรกั ษาไว้ เพอื่ นำ� ไปแสดงตอ่ สถานพยาบาลเมอ่ื ข้าพเจา้ ถกู นำ� ตวั เข้ารักษาในสถานพยาบาลในครงั้ แรก 130 โรงเรยี นผ้สู ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเป็นผูส้ งู อายทุ ่ีมศี กั ยภาพ

ผแู้ สดงเจตนา.....................................................ลงชอื่ บุคคลใกลช้ ิด.....................................................ลงชอ่ื พยาน.....................................................ลงชอื่ พยาน.....................................................ลงชอ่ื ----------------------------------------------------------------------------------------------------- พยานคนที่ 1 ชื่อ-นามสกุล ..................................................... มีความสมั พนั ธ์เปน็ ...................... ที่อยู่ที่ตดิ ตอ่ ได้ ............................................................................................................. หมายเลขโทรศัพท์ ...............................หมายเลขโทรศพั ท์ทท่ี ำ� งาน ............................ พยานคนที่ 2 ชือ่ -นามสกลุ ..................................................... มีความสมั พนั ธ์เป็น ...................... ทอี่ ยทู่ ี่ติดตอ่ ได้ ............................................................................................................. หมายเลขโทรศัพท์ ...............................หมายเลขโทรศัพทท์ ่ีทำ� งาน ............................ บคุ คลใกล้ชิด (ไดแ้ กค่ นใดคนหน่ึงในครอบครวั เช่น บดิ า มารดา สามี ภรยิ า บุตร พ่ี นอ้ ง หรอื เปน็ ผทู้ ี่มีความใกลช้ ดิ เชน่ เพอื่ น ผู้ทเ่ี คารพนับถอื หรอื ผูท้ ่อี ย่กู นิ ฉนั สามี ภริยา เป็นต้น) ช่ือ-นามสกุล ......................................................... มีความสัมพนั ธ์เปน็ ................. บตั รประชาชนเลขที่ ........................................ทอ่ี ยู่ทต่ี ดิ ตอ่ ได้ .................................... หมายเลขโทรศพั ท์ ...............................หมายเลขโทรศัพท์ท่ีท�ำงาน ............................ ความรู้ทีผ่ ้สู งู อายุต้องรู้ 131

สิทธิผสู้ ูงอายตุ ามพระราชบัญญัติผสู้ งู อายุ พระราชบญั ญตั ิผู้สงู อายุ พ.ศ. 2546 และแกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2553 มเี จตนารมณ์เพ่ือส่งเสริมสนบั สนุนให้ผสู้ งู อายุได้รับสิทธิ โดยไดก้ �ำหนดไว้อย่างชัดเจน ในมาตรา 11 ท้งั นหี้ นว่ ยงานทเี่ กี่ยวขอ้ ง ทงั้ ภาครัฐ รัฐวสิ าหกจิ ทอ้ งถ่ิน ไดก้ ำ� หนดแผน ปฏบิ ตั กิ ารการดำ� เนินงานรองรบั สทิ ธผิ สู้ งู อายตุ ามพระราชบัญญตั ิผ้สู ูงอายุ พ.ศ. 2546 และ พ.ศ. 2553 เพื่อจัดบริการใหผ้ ู้สงู อายไุ ด้รบั การคมุ้ ครองสทิ ธิตามกฎหมาย ดงั น้ี 1. การบรกิ ารทางการแพทย์ และการสาธารณสขุ ท่จี ดั ไวโ้ ดยให้ความสะดวกและ รวดเร็วแกผ่ ู้สงู อายเุ ปน็ กรณพี ิเศษ ท่ีระบใุ หส้ ่งเสรมิ หน่วยบริการในระดบั โรงพยาบาล ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขแก่ผู้สูงอายุ อาทิ การใหบ้ รกิ าร 70 ปไี มม่ คี วิ และชอ่ งทางดว่ นพเิ ศษ เปน็ การจดั บรกิ ารเพอื่ ใหค้ วาม สะดวกรวดเร็วในทุกจดุ บริการ (หอ้ งบตั ร ห้องตรวจ ห้องยา ฯลฯ) ของโรงพยาบาล สำ� หรับบริการ รถเข็นผสู้ ูงอายทุ ่มี อี ายุ 70 ปขี ึ้นไปทกุ คน ในโรงพยาบาลของกระทรวง สาธารณสขุ 2. การศึกษา การศาสนา และข้อมลู ข่าวสารทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อการดำ� เนินชวี ติ อาทิ ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดบริการข้อมูลข่าวสารท่ีเป็นประโยชน์ต่อการด�ำเนิน ชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ และจัดบริการการศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอก ระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ให้แก่ผูส้ ูงอายุ 3. การประกอบอาชีพหรือฝึกอาชีพที่เหมาะสม ให้ส�ำนักงานจัดหางานมี เจ้าหน้าที่ให้ค�ำปรึกษาแนะน�ำเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงานและบริการจัดหา งานท่ีตรงตามความต้องการของผู้สูงอายุ, จัดให้มีศูนย์กลางข้อมูลทางการอาชีพและ ตำ� แหน่งงานสำ� หรบั ผสู้ ูงอายเุ ป็นการเฉพาะ ณ สำ� นักงานจัดหางานทุกแห่ง, จดั หา อาชพี ทีเ่ หมาะสมตามควรแกอ่ ตั ภาพให้แก่ผสู้ งู อายุ และจดั อบรมทักษะอาชีพหรือฝกึ อาชพี ใหแ้ กผ่ ้สู ูงอายุตามอธั ยาศยั 132 โรงเรยี นผ้สู งู อายุ : ชุดความรู้ การพฒั นาเป็นผู้สงู อายทุ ีม่ ศี กั ยภาพ

4. การพัฒนาตนเอง และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่มใน ลกั ษณะเครือข่ายหรือชุมชน โดยการสนบั สนนุ กลมุ่ หรอื ชมุ ชนผ้สู ูงอายุใหม้ ีสว่ นรว่ มใน กิจกรรมทางสงั คมภายในชมุ ชน อาทิ จดั กจิ กรรมนันทนาการทเ่ี หมาะสมสำ� หรับผู้สงู อายุ ส่งเสริมกลุ่มหรอื ชมรมผ้สู งู อายใุ หม้ กี จิ กรรมถา่ ยทอดภูมิปญั ญา 5. การอ�ำนวยความสะดวกและความปลอดภัย โดยตรงแก่ผู้สูงอายุในอาคาร สถานท่ี ยานพาหนะ หรอื การบริการสาธารณะอื่น อาทิ ปรับปรงุ ทางสญั จร เช่น บันได ลิฟต์ ทางเดิน ทางเดนิ เชอื่ ม เพือ่ อำ� นวยความสะดวกสำ� หรบั ผสู้ ูงอายแุ ละผพู้ กิ าร, จดั ให้มที างลาดที่เหมาะสมส�ำหรับผู้สงู อายุ, ปรับปรงุ ห้องน้ำ� –สว้ ม และส่ิงอ�ำนวยความ สะดวกส�ำหรับผูส้ ูงอายุและผู้พิการ, การจัดท่นี ง่ั ส�ำรองส�ำหรบั ผสู้ ูงอายุบนรถโดยสาร ประจ�ำทาง ทัง้ ขสมก. และรถเอกชนรว่ มบรกิ าร โดยตดิ ปา้ ยชัดเจน 6. การช่วยเหลือค่าโดยสารพาหนะตามความเหมาะสม สนับสนุนให้ลดอัตรา ค่าโดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม และให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องรณรงค์ให้ ประชาชนตระหนักถึงการให้ความช่วยเหลือ อ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ ผสู้ งู อายใุ นการโดยสารยานพาหนะและขนส่งมวลชน 7. การยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ เชน่ ค่าบรกิ ารเขา้ ชมอุทยานแห่งชาติ 8. การช่วยเหลือผู้สูงอายุซึ่งได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรม หรือถูก แสวงหาประโยชนโ์ ดยมชิ อบดว้ ยกฎหมาย หรอื ถูกทอดทง้ิ อาทิ มศี นู ย์ Hotline ให้ ความรู้/แนะน�ำ/ใหค้ วามช่วยเหลอื แจง้ ข่าวผสู้ ูงอายุ เกีย่ วกับการทารณุ กรรม และ ประชาสัมพนั ธใ์ หป้ ระชาชน 9. การใหค้ �ำแนะน�ำ ปรึกษา ด�ำเนนิ การอื่นทเี่ กย่ี วขอ้ งในทางคดี หรอื ในทางแก้ไข ปัญหาครอบครวั สนบั สนนุ ให้มกี ารประชาสัมพันธ์ขา่ วสาร ความรู้ การจดั บรกิ าร และ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผตู้ อ้ งขงั สงู อายเุ ปน็ กรณพี เิ ศษ เชน่ ใหก้ ารฟน้ื ฟสู ภาพรา่ งกาย สภาพ ความรทู้ ่ีผสู้ ูงอายตุ ้องรู้ 133

จติ ใจของผสู้ งู อายุ ใหก้ ลบั ไปสสู่ ภาวะปกติ และสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผสู้ งู อายกุ บั ครอบครัวหรือบุคคลท่ีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ในกรณีที่ไม่สามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ ระหวา่ งผสู้ งู อายกุ บั ครอบครวั หรอื บคุ คลทผ่ี สู้ งู อายอุ าศยั อยดู่ ว้ ยได้ ใหด้ ำ� เนนิ การนำ� สง่ ผูส้ งู อายเุ ขา้ รับการอปุ การะในสถานสงเคราะห์คนชรา เวน้ แตผ่ ้สู ูงอายุไมย่ ินยอม 10. การจัดทีพ่ ักอาศัย อาหาร และเครอื่ งนุ่งหม่ ใหต้ ามความจ�ำเปน็ อย่างท่วั ถึง เช่น การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผสู้ ูงอายทุ ีม่ ีสญั ชาตไิ ทยทปี่ ระสบปัญหาความเดอื ดร้อนใน เรอ่ื งทอี่ ยูอ่ าศัย อาหาร และเครือ่ งนุ่งหม่ 11. การจ่ายเงนิ เบย้ี ยังชพี เป็นรายเดือนอย่างทว่ั ถงึ และเป็นธรรม โดยผู้สงู อายุ ที่มีสิทธิได้รบั เบยี้ ยงั ชีพเป็นรายเดือนได้รับตามสทิ ธิ 12. การสงเคราะหส์ นบั สนุนเงนิ คา่ จดั การศพตามประเพณี 13. การจดั บรกิ ารเพอ่ื อำ� นวยความสะดวกดา้ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ โบราณสถาน หอจดหมาย เหตแุ หง่ ชาติ และการจดั กจิ กรรมดา้ นศาสนา ศลิ ปะและวฒั นธรรม ตามทค่ี ณะกรรมการ ผู้สงู อายแุ หง่ ชาตปิ ระกาศกำ� หนด 14. การจดั บรกิ ารสถานทที่ ่องเทย่ี ว การจดั กิจกรรมกฬี าและนันทนาการ ตามท่ี คณะกรรมการผสู้ ูงอายแุ หง่ ชาติประกาศก�ำหนด 15. การประชาสมั พนั ธใ์ หท้ ราบเกยี่ วกบั สทิ ธทิ ไ่ี ดร้ บั ตามทค่ี ณะกรรมการผสู้ งู อายุ แหง่ ชาติประกาศก�ำหนด 134 โรงเรยี นผ้สู งู อายุ : ชุดความรู้ การพฒั นาเปน็ ผสู้ ูงอายุที่มศี กั ยภาพ

กจิ กรรมระหวา่ งการเรียนการสอน ผ้ถู ่ายทอดความรู้เปิดคลิปหนงั สนั้ เก่ยี วกับกฎหมาย เชน่ เร่ือง สัญญาการซือ้ ขาย กฎหมายใหมว่ า่ ดว้ ยการคำ�ประกัน ฯลฯ สรุปบทเรยี น โดยการตง้ั คำ�ถามผู้สงู อายุ มาร่วมกิจกรรมวันนี้ รู้สึกอย่างไร คิดว่า สิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุที่เราได้รับ ปจั จบุ นั มอี ะไรบ้าง และมีปญั หาในการเขา้ ถงึ สิทธนิ ั้นๆ หรอื ไม่ แนวทางสรุปบทเรยี น กฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องเรียนรู้ เข้าใจ และสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำ�วันได้ ผู้สูงอายุต้องสามารถจัดการทรัพย์สิน /การให้ที่ดินและบ้านแก่ บุตรหลาน และการทำ�พินัยกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายไว้ตั้งแต่มีสติสัมปชัญญะ รวมทั้งมีสทิ ธใิ นการทำ�พินยั กรรมชีวิตไว้ด้วย สำ�หรบั สิทธติ ามพระราชบญั ญัตผิ สู้ งู อายุ พ.ศ. 2546 ได้ให้สิทธแิ กผ่ ู้สูงอายไุ วถ้ ึง 13 ประการ และมบี รกิ ารจากหนว่ ยงานที่รบั ผิด ชอบทแ่ี ตกตา่ งกัน ความรูท้ ่ผี ู้สงู อายตุ อ้ งรู้ 135

136 โรงเรยี นผ้สู ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเป็นผ้สู งู อายทุ ่มี ีศกั ยภาพ

รายวชิ าที่ 11 การพัฒนาตนเอง แนวสงั เขปรายวชิ า อธิบายการพัฒนาบุคลิกภาพในฐานะเครื่องมือส�ำคัญของการพัฒนาตนเอง ความหมาย ประโยชน์ของการมบี คุ ลิกภาพทีด่ ี หลกั การทัว่ ไปในการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ และแนวทางการพัฒนาบุคลิกภาพ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ให้นักเรยี นสูงอายเุ รียนรหู้ ลักการทั่วไปในการพฒั นาบคุ ลิกภาพ 2. เพือ่ ให้นักเรียนสูงอายเุ รียนรู้แนวการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ 3. เพ่อื ให้นักเรียนสูงอายฝุ กึ ปฏิบตั กิ ารพัฒนาบคุ ลกิ ภาพภายในและภายนอก ความรู้ทีผ่ ้สู ูงอายตุ อ้ งรู้ 137

แนวการถา่ ยทอดความรู้ นำ� เขา้ สู่บทเรียน ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มระดมสมองหาฉันทมติเก่ียวกับประเด็นที่ จ�ำเปน็ ตอ้ งปรบั ตวั การพัฒนาตนเอง และกำ� หนดรว่ มกนั ผู้ถ่ายทอดความรูบ้ รรยาย และสาธิตใหน้ ักเรยี นสูงอายฝุ กึ ปฏิบัติ อาจมีการแสดงบทบาทสมมติ โดยผู้ถ่ายทอด ความรูแ้ นะนำ� วธิ ที ี่ถูกต้อง/เหมาะสม การพัฒนาตนเอง สังคมยอมรับและยกย่อง “ผู้สูงอายุ” ว่าเป็นผู้ที่มีคุณค่า เป็นตัวอย่างที่ดี การ ประพฤติปฏิบัติต่าง ๆ จึงถูกจับตามอง และถูกคาดหวังจากสังคมว่าเป็นผู้ท่ีผ่านการ พฒั นาตนเองมาอย่างดแี ลว้ ดงั นัน้ ผู้สูงอายจุ งึ ควรให้ความส�ำคัญกับการพฒั นาตนเอง ไมน่ อ้ ยกว่าเรอ่ื งอ่นื ๆ การพัฒนาตนเอง คือ การพฒั นาศกั ยภาพของตนเองให้ดีทัง้ ภายในและภายนอก ร่างกาย เช่น จิตใจ ความร้สู ึกนึกคดิ การสือ่ สารกบั ผอู้ ่ืน การมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ รวมท้ังมี มารยาทในสังคม ซ่ึงเป็นการเสริมสร้างคณุ คา่ ทกุ ดา้ นให้แกบ่ คุ คลผู้นนั้ เป็นการเตรียม ตนเองใหพ้ ร้อมรับสถานการณ์ต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยความมน่ั คง และสามารถอย่รู ว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดท้ กุ สถานการณ์ การพฒั นาบุคลิกภาพ ผูม้ ีบุคลกิ ภาพที่ดี เร่มิ มาจากการมสี ขุ ภาพจิตท่ีดี โดยเป็นผูท้ สี่ ามารถมองเหน็ สิ่ง ต่าง ๆ ตามท่เี ปน็ จรงิ อยา่ งถกู ต้อง ไมต่ ่อตา้ นหรอื ยอมรบั ทกุ สง่ิ ทุกอย่างโดยไรห้ ลกั การ และไมว่ ่าจะอยู่ในสภาวการณ์ใด ๆ กต็ าม กย็ ังสามารถปฏิบตั ไิ ด้คงเสน้ คงวา น่ันกค็ อื การเป็นบุคคลทสี่ ามารถปรบั ตัวไดด้ ี 138 โรงเรียนผู้สูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเปน็ ผสู้ ูงอายุท่มี ศี ักยภาพ

บุคคลจะมีบคุ ลิกภาพทีด่ ไี ดต้ ้องปรบั ตัวและพฒั นาตนเอง โดยเร่ิมตน้ จาก 1. ส�ำรวจตนเอง โดยอยู่หน้ากระจกแล้วสังเกตบุคลิกภาพท่ีประกอบกันข้ึนมา จากหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง ซึ่งแบ่งได้ 5 เรื่อง ดังนี้ 1.1 ร่างกาย หมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกทปี่ รากฏตอ่ ผูอ้ ื่น รวมต้ังแตร่ ูปร่าง หนา้ ตา การแตง่ กาย ทรงผม การดแู ลรักษาความสะอาด และน�้ำเสียง หรอื ถ้อยคำ� ทีอ่ อกมาจากปาก 1.2 สตปิ ญั ญา คือ ความสามารถในการรบั รู้ การท�ำความเขา้ ใจปรากฏการณ์ ต่าง ๆ ดว้ ยเหตุและผล ตลอดจนความสามารถแยกแยะข้อเทจ็ จรงิ ต่าง ๆ 1.3 อารมณ์ เป็นปฏกิ ิริยาของจิตใจท่ีตอบสนองตอ่ เร่ืองราวทม่ี ากระทบตาม ธรรมชาติมนษุ ย์ เช่น อารมณ์ขนั อารมณเ์ ศรา้ โศกเสียใจ อารมณ์หดหู่ เบอ่ื หนา่ ย และอกี หลายอารมณ์ บางครงั้ กเ็ ปน็ การรบั รเู้ ฉพาะตน บางครงั้ ก็อาจปรากฏให้บคุ คลอ่ืนรเู้ หน็ ได้เหมอื นกัน 1.4 นสิ ยั คอื พนื้ ฐานพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ อนั เกดิ จากความเชอื่ ทศั นคติ คา่ นยิ ม ซงึ่ เกดิ ขน้ึ จากการสะสมขอ้ มูล การกระท�ำตามความเคยชิน และขอ้ มลู ท่ี ไดร้ ับร้มู าจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ประกอบกนั 1.5 สงั คม หมายถงึ สง่ิ แวดลอ้ มทกุ ดา้ นของชวี ติ ทง้ั ทเี่ ปน็ บคุ คลและปรากฏการณ์ ต่าง ๆ นับตั้งแตเ่ กดิ จนถงึ ปัจจุบัน 2. จดลงสมุดบันทกึ โดยไมม่ อี คติวา่ มอี ะไรบา้ งในตวั เองทีร่ ูส้ ึกไมพ่ อใจและร้สู กึ ชื่นชม พจิ ารณาดูว่า สิง่ ใดท่ไี มพ่ อใจและอยากปรบั เปลี่ยน 3. ถามคนรอบข้าง ว่าอยากให้เราปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง การเปิดใจ รับฟังเสียงของคนรอบข้างเหมือนเราได้กระจกเงาช้ันดีมาช่วยอีกทางหนึ่ง เพราะถึง ทสี่ ุดแลว้ คนทีจ่ ะตดั สินวา่ เราน่าคบคา้ สมาคม นา่ สง่ เสริมสนับสนนุ หรอื นา่ เบื่อหนา่ ย ก็คอื คนรอบข้างของเรา 4. ศกึ ษา คน้ ควา้ วธิ กี ารพฒั นาบคุ ลกิ ภาพจากแหลง่ ตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื คลปิ วดิ โี อ ขอค�ำแนะน�ำจากผู้ที่มีความรู้การพัฒนาบุคลิกภาพ หรือศึกษาจากผู้มีบุคลิกภาพดี ท่ีสงั คมยอมรบั 5. หา “ตวั ชว่ ย” หาใครสักคนช่วยฝกึ ฝน เช่น ผู้เชย่ี วชาญดา้ นบุคลกิ ภาพและ มารยาทสงั คม ซงึ่ จะชว่ ยแก้ไขปัญหาไดใ้ นระยะเวลาอันส้ัน ความรทู้ ่ผี ู้สูงอายตุ ้องรู้ 139

แนวทางการพฒั นาบุคลิกภาพ การพัฒนาบุคลิกภาพภายใน (1) มที ัศนคติทีด่ ี คอื จดุ เรมิ่ ตน้ ของบคุ ลกิ ภาพทด่ี ี หากบคุ คลมองทกุ สงิ่ ในดา้ น ที่ดกี ็จะท�ำใหม้ คี วามสุข แลว้ ความสขุ กจ็ ะเปลง่ ประกายออกมาภายนอก ท�ำใหเ้ รามี จิตใจรน่ื รมย์ (2) สร้างความเชื่อมนั่ ในตนเอง คือ มั่นใจในตนเอง มีศรัทธาในตนเอง เชอ่ื ม่นั เช่ือถือในคณุ คา่ ความสามารถ รูปลักษณ์ บุคลิกลกั ษณะ ตลอดจนความร้แู ละจิตใจ ของตนเอง มคี วามกลา้ วินิจฉัยปัญหาได้ดว้ ยตนเอง ตัดสินใจได้ด้วยตนเอง (3) ฝกึ ตนใหส้ ามารถควบคมุ อารมณ์ของตนเอง ไม่วา่ จะอย่ใู นสถานการณ์ใด คอื มีอารมณ์ม่นั คง ไมป่ ลอ่ ยตนเปน็ ทาสของอารมณต์ ามธรรมชาติ เมอ่ื เศร้าหมอง หดหู่ใจก็อย่าปล่อยตนจมอยู่กับความเศร้าโศกจนท�ำอะไรไม่ได้หรือขาดสมาธิในการ ทำ� งาน นอกจากนน้ั ควรฝกึ ตนให้ท�ำงานโดยวางแผนและเปา้ หมายชีวิต เตรยี มการ ลว่ งหนา้ กำ� หนดกิจกรรมต่าง ๆ ไว้ลว่ งหนา้ วิธีการดังกล่าวนจี้ ะชว่ ยให้ก้าวหน้าอยา่ ง มีจงั หวะและท�ำใหช้ วี ิตในแตล่ ะวันมีความหมายสำ� หรับตน (4) พยายามปรบั ชวี ติ ใหเ้ ขา้ กบั สงั คม คอื ทำ� ตนใหม้ คี วามสขุ ในทกุ สภาพแวดลอ้ ม เราอาจเป็นคนชอบสันโดษ แต่ถ้ามีงานรนื่ เริง ไมว่ ่าจะในระหว่างเพื่อน ระหว่างรุ่นพ่ี กบั รนุ่ นอ้ ง เราก็ตอ้ งแสดงความพอใจทจ่ี ะรว่ มด้วยได้ (5) ใช้ความสามารถท่ีมอี ยใู่ หเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง ตัวอย่างในชวี ติ ประจ�ำ วนั ท่ีพบว่า มคี นมากมายที่มที ักษะทำ� งานเก่ง แต่เกบ็ ความรู้ความสามารถเหลา่ น้ันใส่ ลิน้ ชักไว้ แล้วทำ� งานเทา่ ท่ีได้รับค�ำส่งั ให้ทำ� ท�ำงานเพียงเพ่ือแลกกับผลตอบแทนให้พอ อยู่ได้ พฤติกรรมเชน่ นม้ี กั ไมน่ �ำไปสคู่ วามก้าวหนา้ หรอื ความส�ำเรจ็ ในชีวติ 140 โรงเรยี นผู้สูงอายุ : ชุดความรู้ การพัฒนาเปน็ ผู้สงู อายุท่มี ศี กั ยภาพ

(6) สรา้ งความรสู้ กึ พอใจทจ่ี ะไดป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บขอ้ บงั คบั ทง้ั นเ้ี พราะกฎและ ระเบยี บทำ� ให้อยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งปกตสิ ุข ถ้าหากทุกคนเคารพในกฎและระเบียบนนั้ แตก่ ฎเกณฑใ์ นองค์กรทร่ี ู้สึกว่าเป็นไปไดย้ ากในระดบั ปฏบิ ตั ิ ผูท้ ่ีมีวุฒิภาวะควรเสนอ ขอ้ ปรับปรงุ เปลย่ี นแปลงโดยสันติวิธี อ่อนน้อมถอ่ มตน และเลือกจงั หวะเวลาที่เหมาะ สมในการน�ำเสนอข้อคดิ เห็น วิธีการดังกลา่ วนี้จะชว่ ยสรา้ งบรรยากาศที่ดี สง่ ผลให้ ทำ� งานร่วมกนั ได้อยา่ งราบรน่ื (7) รจู้ ักให้กำ� ลงั ใจ ควรรจู้ กั ใหก้ �ำลงั ใจและชมตนเองบ้าง เพอื่ แสดงวา่ เรารู้จกั และเขา้ ใจตนเองเกนิ กวา่ ตอ้ งรอใหใ้ ครมาใสใ่ จ วธิ นี จ้ี ะชว่ ยยำ้� ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง และ ช่ืนชมความดีของตนเองโดยไม่ต้องให้ใครมาร่วมรับรู้ แต่ก็ต้องรู้สึกถึงความดีของ บคุ คลรอบขา้ งด้วย แสดงความช่ืนชมสงิ่ ดี ๆ ท่เี ขาทำ� โดยไม่ลังเล ซ่งึ จะได้รับคะแนน นิยมจากคนรอบขา้ งอย่างง่ายดาย อยา่ งไรก็ตาม การพัฒนาบุคลกิ ภาพภายในจำ� เป็นต้องอาศัยการพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ ท่ีภายนอกด้วย จึงจะท�ำให้พฤติกรรมท่าทีและการแสดงออกเป็นไปอย่างงดงาม เหมาะสม เป็นทช่ี ืน่ ชม ยอมรบั และศรัทธาจากผอู้ ืน่ การพัฒนาบุคลิกภาพภายนอกคอื ให้ความสำ� คญั เรือ่ งการแตง่ กายทตี่ อ้ งสะอาด เรยี บร้อย และถกู กาลเทศะ การทกั ทายและการแสดงมารยาทตา่ ง ๆ เวลาเข้าสังคม ความรูท้ ผ่ี สู้ งู อายุต้องรู้ 141

กิจกรรมระหว่างการเรยี นการสอน กจิ กรรมภาพแทนตวั แจกกระดาษและดินสอ ดินสอสี ให้นักเรียนทุกคนวาดรูปและระบายสี ที่แสดง ความเป็นตัวตนของนักเรยี น ไดร้ ู้จกั ตนเองและเพ่ือนผ่านรูปภาพ กิจกรรมแนะนำ�ตัวด้วยอวัยวะ ให้นักเรียนแนะนำ�ตวั ผา่ นอวยั วะของตนเอง ท่ชี ื่นชอบ เชน่ ชือ่ สมใจ ชอบดวงตา ตวั เอง เพราะสดใส เป็นการเรยี นร้ขู อ้ ดแี ละช่นื ชมของตนเองและเพอ่ื น ผ่านอวยั วะ ของนักเรยี นแต่ละคน ร้องเพลง “เรยี งลำ�ดบั ” (เป็นเพลงท่สี อนเกีย่ วกับระเบยี บวินัย) เพลงตรงตอ่ เวลา และเพลงวันน้ยี นิ ดี เล่นเกม เชน่ ลมเพลมพดั สรุปบทเรยี น โดยการตัง้ คำ�ถามผู้สงู อายุ มาร่วมกิจกรรมวันนี้ รู้สึกอย่างไร คิดว่าตัวเราจะพัฒนาอะไรบ้าง และจะทำ� อย่างไร แนวทางสรปุ บทเรยี น การพฒั นาตนเองเปน็ การเปลย่ี นแปลงตนเองสสู่ ง่ิ ทด่ี กี วา่ เพอ่ื สรา้ งคณุ คา่ ในตวั เอง การพฒั นาตนเองทีส่ ำ�คญั คอื การพฒั นาบุคลิกภาพ โดยแนวทางการพฒั นาบุคลิกภาพ ประกอบดว้ ย การพัฒนาบคุ ลิกภาพภายในและภายนอก นอกจากน้ัน ผเู้ รียนควรให้ ความสำ�คัญแก่มารยาทสงั คมในชวี ิตประจำ�วนั เพือ่ การมีสัมพนั ธภาพท่ดี กี บั บคุ คลอ่ืน 142 โรงเรยี นผูส้ งู อายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเปน็ ผสู้ งู อายุท่มี ีศกั ยภาพ

ความ ท่ีผู้สูงอายุควรรู้ ความรูท้ ี่ผู้สูงอายตุ อ้ งรู้ 143

ชดุ ความรู้ท่ี 2 ความรูท้ ี่ผ้สู ูงอายุควรรู้ 28 ช่ัวโมง รายวิชา ชว่ั โมง รายวชิ าท่ี 1 พทุ ธศาสนาในชีวิตประจำ�วัน 4 ชวั่ โมง - ความหมาย ความสำ�คญั ของศาสนา - องคป์ ระกอบของศาสนา - หน้าที่ของศาสนา - จดุ มุ่งหมายของศาสนา - แนวทางการปฏบิ ตั ติ นท่เี หมาะสมต่อศาสนสาวก ศาสนวัตถุ - และศาสนสถาน รายวชิ าที่ 2 วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพ้ืนบ้าน 4 ชว่ั โมง - วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาพนื้ บา้ น 4 ชวั่ โมง - ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น - วิธรี กั ษา/อนุรักษ์ สืบสาน ฟืน้ ฟู และถา่ ยทอดวัฒนธรรมและ - ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ รายวิชาท่ี 3 อาสาสมัครกับการมีสว่ นรว่ มในสังคม - ความหมายของคำ�ว่า จิตอาสา และ “อาสาสมัคร” - คณุ สมบัติของอาสาสมคั ร - บทบาทของผู้สูงอายุในฐานะอาสาสมคั ร - กจิ กรรมอาสาสมคั รที่ผู้สงู อายุสามารถทำ�ได้ - ประโยชน์ที่ผสู้ ูงอายุได้รบั จากการทำ�กิจกรรมอาสาสมคั ร 144 โรงเรียนผสู้ ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเป็นผสู้ งู อายทุ มี่ ีศักยภาพ

รายวิชา ชวั่ โมง รายวิชาที่ 4 อาเซยี นนา่ รู้ 4 ชั่วโมง - ความเปน็ มาของประชาคมอาเซยี น - รู้จกั 10 ประเทศอาเซยี น - คำ�กล่าวทกั ทาย (ภาษาประเทศสมาชิกอาเซยี น) รายวิชาท่ี 5 การเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติในโลก 4 ช่ัวโมง - ภาวะโลกรอ้ น - การเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศ - ความแหง้ แล้ง รายวิชาที่ 6 ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเตรียมรับมือเมื่อเกิด 4 ชว่ั โมง สถานการณ์ภัยพบิ ตั ิ - ภยั พิบัติทางธรรมชาติ - แนวทางการจัดการเพอื่ ลดและป้องกันผลกระทบจากภัยพิบัติ ธรรมชาตติ อ่ ผสู้ งู อายุ รายวชิ าที่ 7 การใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พื่อการสืบคน้ ขอ้ มูล 4 ชวั่ โมง - ความสำ�คัญและประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์เพอ่ื การสอื่ สาร - หลักการใช้คอมพวิ เตอร์เพื่อการส่อื สารและการสบื ค้นข้อมูลขา่ วสาร - Website ท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ ผู้สูงอายุ ความรูท้ ผ่ี สู้ งู อายุควรรู้ 145

รายวิชา ชว่ั โมง รายวิชาที่ 8 การใชส้ มาร์ตโฟน (Smartphone) 4 ช่วั โมง - ประโยชนแ์ ละการใชป้ ระโยชน์จากเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ (Social Network) - ขอ้ ควรระวงั ก่อนและขณะใช้โซเชียลเนต็ เวิรก์ - การใช้ Line จากสมารต์ โฟน (Smartphone) - หมายเลขโทรศัพทต์ ิดต่อกรณีฉกุ เฉิน - การใชเ้ งินอิเล็กทรอนกิ ส์ : พรอ้ มเพย์ รายวิชาที่ 9 โรคตดิ ต่อตามฤดูกาลและโรคติดตอ่ อุบตั ิใหม่ 4 ชวั่ โมง - โรคตดิ ต่อตามฤดูกาลและแนวทางป้องกนั 4 ชว่ั โมง - โรคตดิ ตอ่ อบุ ตั ใิ หม่และแนวทางป้องกัน 4 ชวั่ โมง - โรคตดิ ตอ่ ที่ต้องแจ้งความ 4 ช่วั โมง รายวิชาที่ 10 การปฐมพยาบาล - ความสำ�คัญของการปฐมพยาบาล - การแจง้ เหตขุ อความชว่ ยเหลอื (กรณเี จบ็ ปว่ ยฉกุ เฉนิ ) และแนวปฏบิ ตั ิ - การปฐมพยาบาล รายวิชาที่ 11 ข้อพิจารณาในการใช้ผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพ - ผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพ - ข้อพจิ ารณาในการเลือกใช้ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ รายวิชาที่ 12 การเสริมสร้างทักษะทางสังคมที่เหมาะสม - ทกั ษะทจี่ ำ�เปน็ ในการสร้างและรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหวา่ งบุคคล - หลักปฏบิ ตั ใิ นการสรา้ งและการรกั ษาสมั พนั ธภาพในสงั คม 146 โรงเรียนผสู้ ูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเป็นผสู้ ูงอายุที่มศี ักยภาพ

รายวิชาท่ี 1 ศาสนาในชีวติ ประจ�ำวนั ศาสนา (Religion) หมายถึงลทั ธคิ วามเชือ่ ถอื ของมนุษย์อนั มีหลกั คือ แสดงกำ� เนิด และส้ินสุดของโลกอันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหน่ึง แสดงหลักธรรมเก่ียวกับ บาปบญุ อนั เปน็ ไปในฝา่ ยศลี ธรรมประการหนงึ่ พรอ้ มทง้ั ลทั ธทิ ก่ี ระทำ� ตามความคดิ เหน็ หรือตามคำ� สัง่ สอนในความเช่อื ถอื นน้ั ๆ ศาสนาในสังคมไทยมีหลายศาสนา ได้แก่ พุทธศาสนา ศาสนาอิสลาม ศาสนา ครสิ ต์ ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู ความร้ทู ี่ผ้สู งู อายุควรรู้ 147

องคป์ ระกอบของศาสนา มี 6 ประการ ดงั น้ี 1. ศาสดา คือ ผู้สถาปนา หรือผู้ประกาศศาสนา มีตัวตนอยู่จรงิ - พทุ ธศาสนา มีพระพทุ ธเจ้าเป็นศาสดา - ศาสนาคริสต์ มพี ระเยซูเป็นศาสดา - ศาสนาอิสลาม มมี ฮุ ัมหมดั เปน็ ศาสดา - ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ไมม่ ีศาสดาชัดเจน 2. ศาสนธรรม คอื คำ� สง่ั สอนหรือคัมภีร์ท่ีรวบรวมไวเ้ ปน็ หลกั ของความเชือ่ เชน่ - พทุ ธศาสนา มคี มั ภรี ์พระไตรปิฎก - ศาสนาครสิ ต์ มคี มั ภีร์ไบเบลิ - ศาสนาอิสลาม มีคมั ภรี อ์ ัลกรุ อาน - ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีคมั ภรี ์พระเวท 3. ศาสนสาวก คือ ผเู้ ผยแพรศ่ าสนาตอ่ จากศาสดา เชน่ - พุทธศาสนา มพี ระสงฆ์ - ศาสนาครสิ ต์ มบี าทหลวง - ศาสนาอิสลาม มอี ิหม่าม - ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู มพี ราหมณ์ (สบื เช้ือสายโดยก�ำเนิด) 4. ศาสนพธิ ี คอื พธิ กี รรมทเี่ ปน็ แนวในการประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องผทู้ นี่ บั ถอื ศาสนานน้ั ๆ ซง่ึ แตกต่างกัน แตข่ องศาสนาพทุ ธ พิธีกรรมหลายอย่างมศี าสนาพราหมณ์-ฮินดู เขา้ ไปร่วมด้วยเสมอ 5. ศาสนสถาน คอื สถานทหี่ รอื สิ่งกอ่ สร้างซ่ึงสร้างข้ึนเพ่ือใช้ในพธิ กี รรมหรอื กจิ กรรม ท่เี กี่ยวข้องกับศาสนา เช่น พุทธศาสนามวี ัด โบสถ์ ศาสนาคริสตม์ โี บสถ์ มหาวหิ าร ศาสนาอสิ ลามมมี ัสยิดหรือสุเหรา่ ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดูมีเทวสถาน 148 โรงเรยี นผ้สู งู อายุ : ชดุ ความรู้ การพัฒนาเปน็ ผูส้ งู อายทุ ่ีมีศกั ยภาพ

6. ศาสนวัตถุ คอื เครอ่ื งหมาย สิ่งแทนศาสนา หรอื วัตถทุ ีเ่ กี่ยวข้องทางศาสนา มักเป็น ทเ่ี คารพบูชา เชน่ ศาสนาพทุ ธ ได้แก่ พระพทุ ธรูป พระไตรปฎิ ก ศาสนาครสิ ต์ ได้แก่ ไมก้ างเขน คมั ภรี ์ไบเบลิ ศาสนาอสิ ลาม ไดแ้ ก่ คัมภรี ์อลั กรุ อาน ศาสนา พราหมณ์–ฮินดู ไดแ้ ก่ เทวรูป ความเชื่อในศาสนาแสดงออกในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันของผู้นับถือศาสนา นัน้ ๆ ซึ่งมกี ฎหรือบญั ญัติที่เรยี กชือ่ ตา่ ง ๆ กันเป็นแนวทาง เชน่ พทุ ธศาสนามศี ีล 5 และหลกั ศลี ธรรม จริยธรรม หลายประการตามพระไตรปฎิ ก ศาสนาคริสตม์ บี ัญญัติ 10 ประการ และบทบญั ญตั อิ ่ืน ๆ ที่ปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบลิ ศาสนาอสิ ลามมหี ลัก เกณฑ์อย่างละเอียดในการด�ำเนินชีวิตในทุกด้าน ส่วนศาสนาพราหมณ์-ฮินดูมีหลัก ธรรมในลักษณะเป็นปรชั ญา ความส�ำคัญของศาสนา ศาสนาทุกศาสนามีความส�ำคัญต่อการด�ำเนินชีวิตของ บคุ คลในสงั คมและอทิ ธิพลตอ่ สงั คม ดงั นี้ ดา้ นจติ ใจ ศาสนาเปน็ เครื่องยดึ เหนีย่ วจติ ใจและเป็นท่พี ่ึงทางใจของมนษุ ย์ เมอ่ื มี ความว้าวนุ่ ใจ ผ้คู นมกั เข้าหาศาสนาและใชศ้ าสนาในการขัดเกลาจิตใจ ดา้ นจรยิ ธรรม หลกั ธรรมคำ� สอนเปน็ เครอื่ งควบคมุ พฤตกิ รรมของบคุ คล คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จะชว่ ยหลอ่ หลอมใหค้ นเป็นคนท่สี มบรู ณ์ ปฏิบตั ิดีทงั้ กาย วาจา และใจ รู้วา่ จะปฏบิ ตั อิ ย่างไรจึงจะเกิดความสขุ ท้งั ต่อตนเองและสังคม และเป็นเสมือนบรรทัดฐาน ในการดำ� เนินชวี ติ เป็นกลไกการควบคุมสังคมซึ่งกฎหมายไมอ่ าจท�ำได้ เพราะกฎหมาย ควบคุมการท�ำผิดทางกาย แต่คงไม่สามารถควบคุมจิตใจคนได้ ท�ำให้คนเป็นมนุษย์ ทส่ี มบูรณ์ ความรู้ทีผ่ ู้สูงอายคุ วรรู้ 149

ด้านศิลปวัฒนธรรม ศาสนาทุกศาสนาเป็นแหล่งก�ำเนิดของศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง ศาสนสถาน สถาปัตยกรรม วรรณกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และศิลปกรรมต่าง ๆ จะได้แรงบันดาลใจจากหลักธรรมและประเพณีต่าง ๆ ของ ศาสนา นอกจากนนั้ ศาสนสถานตลอดจนพธิ กี รรมตา่ ง ๆ ยงั เปน็ ตวั บง่ ชถี้ งึ ความเจรญิ หรอื ความเส่อื มของสงั คมนน้ั ๆ ด้วย หน้าทขี่ องศาสนา 1. สร้างแบบของความประพฤติในแนวเดียวกัน เพราะทุกคนต้องปฏิบัติตาม บรรทดั ฐานท่คี �ำสอนได้กำ� หนด 2. สรา้ งความสามคั คี ศาสนาช่วยท�ำให้บคุ คลมคี วามรูส้ กึ เปน็ อนั หนึง่ อันเดียวกัน หรือมคี วามสามคั คใี นการทำ� กิจกรรมต่าง ๆ 3. ใหป้ ระพฤตอิ ยใู่ นขอบเขตของศลี ธรรม ทกุ ศาสนาสอนใหค้ นเปน็ คนดี มศี ลี ธรรม มคี วามเมตตาตอ่ กนั 4. ให้ขวัญและก�ำลงั ใจ เปน็ การใหก้ ำ� ลงั ใจในยามท่ตี อ้ งประสบความไมแ่ น่นอน ยากไร้ หรือผดิ หวังในชวี ิต 5. ช่วยรกั ษาระเบียบ บรรทัดฐานทีต่ อ้ งปฏิบตั มิ ักจะสอดคล้องกบั กฎเกณฑ์ของ สังคมนน้ั ๆ ท�ำให้คนมีจดุ มงุ่ หมายปลายทางตามทส่ี ังคมได้กำ� หนด จุดมงุ่ หมายของศาสนาแตล่ ะศาสนามีความเชอ่ื ในส่งิ สูงสุด อนั เป็นคณุ ค่าแกก่ าร ปฏิบตั ิเพอ่ื ให้มนษุ ยไ์ ด้มคี วามสขุ ทแี่ ทจ้ ริง และความสุขที่แทจ้ ริงของแตล่ ะศาสนาก็มี แนวทาง ความคิดและการปฏบิ ัติท่ตี ่างกัน แมว้ ่าที่สดุ แล้วคือความสขุ ทมี่ นุษย์ทกุ คน ตอ้ งการ ความแตกตา่ งนั้นเป็นดังนี้ 150 โรงเรียนผู้สูงอายุ : ชดุ ความรู้ การพฒั นาเป็นผสู้ งู อายุทม่ี ศี กั ยภาพ