หนังสือ มีความสขุ กบั ห้นุ ปันผล By หมีส้ม เล่ม 3 “ลงทนุ ห้นุ ปันผลด้วยความเข้าใจ ถ่ายทอดความมงั คงั สู่ลกู หลาน” 1|P a g e
ขอขอบคณุ คณุ พอ่ ธรี ชติ และคณุ แมน่ ารรี ตั น์ หอมโกศล ทใี หช้ วี ติ และเลยี งดจู นเตบิ ใหญ่ คณุ ยา่ ลมยั และคณุ ยายละมา้ ย สาํ หรบั ความรกั ทมี อบให้ พชี าย ลงุ ป้ าน้าอาพนี อ้ งและญาตพิ นี ้องทงั หลาย ทไี ดม้ อบความสขุ และความปลอดภยั ในชวี ติ ศาสาตราจารย์ ดร.กมลชนก สทุ ธวิ าทนฤพุฒิ และคณุ ธนานนั ต์ ชาตยิ านนท์ ทมี อบความรใู้ ห้ ดร.นิเวศน์ เหมวชวิ รากร สาํ หรบั หนงั สอื “ตแี ตก กลยุทธ์การลงทนุ ในภาวะวกิ ฤต” คณุ ณภทั ร วริ ตั น์เกษม (มนชนก ชยั พรม) สาํ หรบั กาํ ลงั ใจ คณุ พรชั ตนนั ท์ วชั ระสทิ ธโิ ชค ทเี ป็นจดุ เรมิ ตน้ ของ หนงั สอื “มคี วามสขุ กบั หุน้ ปนั ผล By หมสี ม้ ” เลม่ 1 คณุ พรี วชิ กาญจนาพงศก์ ลุ , คณุ วรี ะพงษ์ อุดมเลศิ ประเสรฐิ , คณุ ชรนิ ทร์ ศริ อิ นนั ตช์ ยั , คณุ อาทติ ย์ วรนาวนิ คณุ กษดิ ศิ เหมาคมและคณุ นวะรตั น์ พงึ โพธสิ ภ สาํ หรบั มติ รภาพทดี เี สมอมา.. คณุ นุชา สบี ญุ เรอื ง สําหรบั ความเชอื มนั ทมี อบให้ และบคุ คลอนื ๆ ทไี มไ่ ดก้ ล่าวถงึ ในทนี ี รวมถงึ ผอู้ ่านทกุ ท่าน 2|P a g e
สารบญั หน้าที 4 หน้าที 5 บทนํา หน้าที 6 บทนํา (เวอรช์ นั หมีส้ม) หน้าที 7 ความในใจผเู้ ขยี น “มีความสุขกบั ห้นุ ปันผล By หมสี ้ม” ขณะบวชครงั ที 2 หน้าที 10 บทที 1 เราจาํ เป็นต้องลงทนุ หรอื ให้เงินทาํ งานแทนเรา หน้าที 13 บทที 2 ความผิดพลาดอนั ยิงใหญ่ หน้าที 15 บทที 3 เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคาํ หน้าที 18 บทที 4 กฏ 80-20 ของ วิลเฟรโด พาเรโต (Vilfredo Federico Damaso Pareto) หน้าที 21 บทที 5 วฏั จกั ร (Cycle) - โอกาสและความเสียง หน้าที 23 บทที 6 ลงทนุ อะไรดีล่ะ.. หน้าที 25 บทที 7 ห้ามเลน่ การพนนั (ทงั ทีถกู และผิดกฏหมาย) อย่างเดด็ ขาด หน้าที 28 บทที 8 Passive Income เพอื ความมนั คงของชีวิต ด้วย “ห้นุ ปันผล” หน้าที 30 บทที 9 เงินทีได้มาอย่างรวดเรว็ ไมม่ จี ริงในโลกของการลงทุน หน้าที 32 บทที 10 Passive Income มาจากไหน มนั เติบโตไดอ้ ยา่ งไร หน้าที 34 บทที 11 ระยะเวลากบั การลงทนุ หน้าที 37 บทที 12 จงั หวะทีเฝ้ ารอและการคดั สรร หน้าที 40 บทที 13 ห้นุ กล่มุ โภคภณั ฑ์ (Commodity) หน้าที 44 บทที 14 ห้นุ กล่มุ สถาบนั การเงิน หน้าที 46 บทที 15 ส่วนไดเ้ สียและความตงั ใจในการบริหาร หน้าที 48 บทที 16 ประเมินตนเองก่อนลงทนุ และพฒั นาตนเอง หน้าที 49 บทที 17 การลงทนุ ผา่ นกองทนุ รวม หน้าที 50 บทที 18 ออมเงินเดอื นละ 1,000 บาท หน้าที 52 บทที 19 “ทีดิน” คอื สุดยอดการลงทนุ บทที 20 บทสรปุ ของหนังสือเล่มนี หน้าที 54 บทความในเพจ “มคี วามสุขกับหุ้นปันผล by หมสี ้ม” หน้าที 57 การลงทุนห้นุ ปันผล – Passive income เพือความมนั คงในชีวติ หน้าที 59 Forward P/E และ Super stock มันหายากจงั นะ.. หน้าที 62 ห้นุ P/BV ตาํ ดจี ริงๆ หรือไม่ หน้าที 65 ประเมนิ สนิ ทรัพย์ (ตอนที 2 ต่อจากเรือง P/BV ตํา ดีจริงหรือไม่) หน้าที 68 สิงทีต้องทํา คือ “ต้องลงทุนในบริษัททีทาํ ธุรกิจจริงๆ ในราคาทีเหมาะสม” หน้าที 70 ชมิ หุ้น หน้าที 72 ผลกระทบของอตั ราแลกเปลียนกับหุ้นส่งออก.. ความคาดหวังของเรากบั ข่าวทเี กียวข้องกบั การลงทุนใหม่ๆ ของบริษัท.. 3|P a g e
บทนํา ผมเชอื วา่ การ “จดบนั ทกึ ” เป็นสงิ ทที ําใหเ้ ราพฒั นาและกา้ วต่อไปได้ และจากประวตั ศิ าสตร์ทผี า่ นมากจ็ ะเหน็ ไดว้ า่ อารยธรรมทมี คี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งตอ่ เนืองยาวนาน ลว้ นเป็นชาตทิ มี กี าร “จดบนั ทกึ ” แทบทงั สนิ โดยเฉพาะอย่างยิง การที “คนรุ่นหลัง” จะสามารถก้าวไปได้เร็วกว่า “คนรุ่นก่อน” ส่วนหนึงก็เป็นเพราะหนทางที “คนรุ่นก่อน” ไดแ้ ผว้ ถางทางไวใ้ ห้ เพอื ให้ “คนรนุ่ หลงั ” ไดเ้ ดนิ ขา้ มไปไดโ้ ดยสะดวก ประหยดั ตน้ ทนุ และเวลาในการลองผดิ ลองถกู หนงั สอื ของผมกเ็ ชน่ เดยี วกนั ผมเชอื วา่ ผมและผอู้ า่ นกอ็ ยู่ในสภาวะเดยี วกนั กค็ อื การพยายามคน้ หาหนทาง ทจี ะสรา้ งรายไดม้ าหลอ่ เลยี งชวี ติ บคุ คลทเี รารกั ทาํ ใหช้ วี ติ ทดี าํ เนนิ อยมู่ คี วามมนั คง แตพ่ อครนั จะหาหนทาง กา้ วเดนิ ก็ เตม็ ไปดว้ ย “ความไมร่ ”ู้ อย่เู บอื งหนา้ และตน้ ทุนของการเรยี นรู้ “ความไมร่ ”ู้ กอ็ าจจะทาํ ใหเ้ งนิ ทีสะสมอดออมดว้ ยความ เหนือยยาก ละลายหายไปไดโ้ ดยงา่ ย ดว้ ยเหตุนจี งึ เป็นเหตุผลทมี หี นงั สอื “มคี วามสุขกบั หุ้นปนั ผล by หมสี ม้ ” เล่มที 1 ขนึ มา ซงึ ผมเองกไ็ มค่ าดคดิ วา่ ทา่ นทงั หลายจะเมตตาตดิ ตามผลงานของผมต่อมาจนถงึ ปจั จุบนั สาํ หรบั หนังสอื “มคี วามสุขกบั หุน้ ปนั ผล by หมสี ม้ ” เล่มที 2 นัน ผมตงั ใจทีจะเขยี นมาเพือเติมเตม็ หนงั สอื เล่มที 1 โดยเพิมเติมเนือหาทีอาจจะไม่ได้กล่าวถึง หรอื ไม่ได้ลงรายละเอียดในเล่มที 1 ลงไป ซึงผมเองเชอื ว่า หากใชใ้ นเรอื งของการปฏบิ ตั ิ การทมี เี พยี งหนงั สอื “หมสี ม้ ” เล่มที 1 และ 2 กน็ ่าจะเพยี งพอแลว้ แตเ่ นืองจากในชว่ งขวบปีทผี า่ นมา ท่านผอู้ า่ นทงั หลายทไี ดส้ ละเวลาสนใจผลงานของผมนัน กไ็ ดม้ กี ารตดิ ต่อ และสอบถามผมเพมิ เตมิ เกยี วกบั รายละเอยี ดหรอื แนวคดิ ต่างๆ ซึงทําใหผ้ มไดเ้ กดิ ความเขา้ ใจทีว่าหนังสอื ทังสองเล่ม ทผี า่ นมา ผมอาจจะ “มงุ่ เจาะจงลงในรายละเอยี ดภาคปฏบิ ตั ”ิ จนทาํ ใหบ้ างทผี อู้ ่านอาจจะยงั ไมเ่ ขา้ ใจถึง “แนวคดิ ” หรอื “ปรชั ญาการลงทนุ ” ทผี มพยายามจะอธบิ าย โดยเฉพาะเหตุผลทวี า่ “ทําไม เราจงึ ตอ้ งรอคอยจงั หวะในการลงทุน” ดงั นัน ในเล่มที 3 นี ผมจึงขออนุญาตเน้นในเรืองของแนวคิดในการลงทุน และเสริมความรใู้ ห้แก่ผูอ้ ่าน ไดร้ บั ทราบแงม่ มุ ของการลงทุนต่างๆ รวมถึงเกรด็ ความรทู้ ีจําเป็นหรอื ควรจะทราบในการลงทุน ซงึ กห็ วงั ว่าผู้อ่าน จะไดร้ บั ประโยชน์บา้ งไมม่ ากกน็ อ้ ย อยา่ งไรกต็ าม ความสาํ เรจ็ ทงั หลาย ทจี ะไปถงึ สฝู่ งั ฝนั กค็ อื “อสิ รภาพทางการเงนิ ” หรอื “ชวี ติ ทดี ใี นบนั ปลาย” ขนึ อยู่กบั ตัวของท่านเอง ขนึ อยู่กับ “ความเพียรและความมานะบากบนั ” ในการอดออมและศึกษาหาความรู้ ดา้ นการลงทุนดว้ ยความเสมอตน้ เสมอปลาย ซงึ เป็นพนื ฐานของความสาํ เรจ็ โดยแทจ้ รงิ สดุ ทา้ ยนี ผมเชอื วา่ หนงั สอื เล่มนี กบ็ รรจุความรเู้ พียง “เสยี วเดยี ว” ของความรูท้ งั หลายทเี กยี วกบั การลงทุน และกอ็ าจจะสะทอ้ นในมมุ ของผม ซงึ มคี วามรเู้ พียง “เสยี วเดยี ว” เมอื เทยี บกบั เหล่าอาจารย์ทงั หลาย ทีผมไดอ้ ่านและ ศกึ ษาจากหนงั สอื ของท่านเหล่านนั จึงขอใหผ้ อู้ ่านไดศ้ กึ ษาหาขอ้ มลู ความรูจ้ ากแหล่งอืนๆ เพมิ เติม เพอื ความสําเรจ็ ในการลงทุนของทา่ นทงั หลายต่อไป วรชติ หอมโกศล 6 มถิ ุนายน 2557 4|P a g e
บทนํา (เวอรช์ นั หมีส้ม) ผมขอเรียนว่าเป็นความยากลําบากมากในการเขียนหนังสอื เล่มสามนีให้จบ เนืองจากการทํางานทําให้ “เหนือยลา้ ” และ “กาํ ลงั ความคดิ ” ไมเ่ พยี งพอทจี ะทําใหม้ นั กลายเป็นเล่มได้ แต่ถงึ แมก้ ระนนั มนั กส็ าํ เรจ็ มาไดด้ ว้ ยดี หนงั สือเล่มนี จะวา่ ไปมนั ก็อาจจะเป็นเล่ม 3/1 กไ็ ด้ เพราะในขณะทเี ขียนนัน เนือหายาวขนึ จาก 20 บท กลายเป็น 34 บท ทําใหต้ อ้ งแยกออกเป็น 2 เลม่ ซงึ อกี เลม่ กค็ อื เล่ม 4 ทคี าดวา่ จะออกในปีหนา้ ทงั นีสว่ นทเี พมิ ขนึ มาก็ เป็นเพราะไดเ้ รียนรจู้ ากทุกท่านทีได้เขา้ มาพูดคุยในเฟสบุค “มคี วามสุขกบั หุ้นปนั ผล by หมสี ้ม” ทําให้ผมไดร้ ูถ้ ึง “ข้อสงสัย” ของนักลงทุน จึงเอาเข้ามาเรียบเรียงและอธิบายให้มีความเข้าใจมากขึน หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เนือหาทีเพิมขึนมาจาก “ความต้องการทราบ” ของท่านทังหลาย และผมก็มีความยินดี ทีจะเล่าเรืองต่างๆ ทคี วามรอู้ นั น้อยนิดของผมพอจะมอี ยู่บา้ ง ถา่ ยทอดผา่ นมาทางหนงั สอื เล่มนี เท่านนั เอง ผมพบเรืองๆ หนึงทีสําคัญ จากท่านทังหลาย และทําให้เป็นอุปสรรคในการลงทุน เรืองนันก็คือ “การทีเรายงั ไม่ชนิ หรอื ยงั ไมท่ ราบถึงธรรมชาติของการลงทุน” ส่งผลให้เวลาทีเขา้ มาและอยู่ในตลาดไมน่ านพอ กจ็ ะเกดิ ความทอ้ ถอยและเมอื เขา้ ลงทุนในเวลาทเี ศรษฐกจิ ตกตาํ กจ็ ะเกดิ ความหวาดกลวั เขด็ ขยาดการลงทุน ในการนี ผมจึงขอแนะนําเหมือนกบั ทีได้เคยแนะนําในเล่มทีสอง ก็คอื ค่อยๆ ทดลอง “ลงทุน” โดยท่าน จะพบคําตอบในใจของท่านเองหลงั จากทที ่านลงทุนครบ 3 ปี และถ้าท่านยงั คงสนใจการลงทุนแต่กลวั ว่าตนเอง จะทําไม่ได้ “กองทุนรวม” ก็ยังเป็นทางออกให้กับท่าน ซึงทังหลายทีแนะนํามานี ให้ผลตอบแทนทีมากกว่า ดอกเบยี เงนิ ฝากและชนะอตั ราเงนิ เฟ้ อแน่นอน หากแต่ทา่ นตอ้ ง “ลงทุนในระยะเวลาทยี าวพอ” และไมใ่ ช่ “เกง็ กาํ ไร” สดุ ท้ายนีกค็ งต้องกราบขอโทษผู้อ่านทุกท่าน หากหนังสอื เล่มนี มเี นือหาทไี มค่ ่อยปะติดปะต่อกนั เหมอื น สองเล่มแรก เนืองจากมีการเขียนขนึ ในเวลาสองช่วงซึงห่างกนั หลายเดือน และมกี ารแยกบทเพือรวมเล่มให้ กลายเป็นเลม่ 3 และ 4 อาจจะทําใหผ้ ูอ้ ่านรสู้ กึ โดดไปโดดมาบา้ ง แต่เชอื ว่าความรทู้ ีมอบให้ เป็นความรูช้ ุดเดยี วกบั ที ผมจะมอบใหแ้ กล่ กู หลานของผมจรงิ ๆ นนั กค็ อื หมายความวา่ “ดีทีสุดเท่าทีผมจะเขยี นหรืออธิบายได”้ ขอบพระคณุ อกี ครงั ครบั “หมสี ม้ ” 5|P a g e
ความในใจผเู้ ขยี น “มีความสุขกบั ห้นุ ปันผล By หมสี ้ม” ขณะบวชครงั ที 2 หนังสอื เล่มนี เขยี นขนึ เนืองในโอกาสครบรอบอายุ 32 ปีของตวั เอง ซึงมงุ่ หวงั จะถ่ายทอดความรดู้ า้ นการ ลงทนุ ทมี อี ยูบ่ า้ งใหแ้ กผ่ คู้ นทสี นใจ และจะไดน้ ําไปตอ่ ยอดจากการศกึ ษาจากหนงั สอื เล่มอนื ทมี รี ะดบั ทสี งู กวา่ ต่อไป สาํ หรบั ความในใจของผูเ้ ขยี นหนังสอื ฉบบั นี เขยี นขนึ ในวนั เสาร์ที 5 เมษายน 2557 ซึงเป็นวนั ครบรอบ วนั ทคี ณุ ย่าถงึ แกก่ รรม ซึงตวั ผมเองในขณะทเี ขยี นอยู่นีกอ็ ยู่ระหวา่ งบวชเป็นพระภกิ ษุ เนืองจากไดอ้ ธิษฐานจติ ไวว้ ่า หากคณุ ยายหายจากการเจ็บป่ วยกจ็ ะบวชให้ ซึงกเ็ หมอื นปาฏหิ ารย์ทอี าการของคุณยายซงึ หมอไดบ้ อกวา่ มโี อกาส เหลือเพยี งไม่ถึง 10% กลบั มาหายและแขง็ แรงดี กจ็ งึ ไดม้ าบวชเพือเป็นการสกั การะสงิ ศกั ดสิ ทิ ธิทีคุม้ ครองคุณยาย ดงั นันจึงอยากจะใช้โอกาสนี เขียนบทความเพือให้ได้ปรากฏไวใ้ นหนังสือเพือระลึกถึงบรรพบุรุษทังทียังอยู่ และผลู้ ่วงลบั ไปแลว้ ในการบวชครงั นี แมจ้ ะเป็นเวลาอนั สนั นกั แต่กเ็ กดิ หลายสงิ ในจติ ใจอยู่พอสมควร เพราะเมอื ครงั ทีเดนิ ไปที โกฏของคณุ ฑวด คณุ ปู ่และคณุ ย่านนั กไ็ ดเ้ กดิ นําตาไหล วนั เวลาทงั หลายผา่ นล่วงเลยไปรวดเรว็ แมพ้ ่อและแม่กล็ ว้ น แกช่ ราขนึ มาก ซงึ กม็ คี วามรสู้ กึ ดอี ยตู่ รงทวี า่ การบวชครงั ทสี องนี ไดท้ าํ ใหม้ โี อกาสใหพ้ อ่ และแมไ่ ดใ้ สบ่ าตรอกี ครงั ทีกล่าวมาทังหมดนี เพียงต้องการทีจะบอกว่า “วนั เวลาไม่รอคอยเรา” ทุกสงิ ล้วนไม่จีรงั ยังยืน ผ่านไป ทุกนาทีอย่างรวดเร็ว และตวั เราเองนีกอ็ าจจะหลงลืมทีจะทําบางสงิ บางอย่าง ไดแ้ ก่ การดูแลบุคคลทีเราควรดูแล บางทีบางครังพอจะมารู้ตัวอีกทีก็หมดสินโอกาสนันเสียแล้ว ดงั เช่นทีในขณะนีทําได้เพียงทําวตั รเช้าเย็น โดยอธษิ ฐานใหค้ ณุ ฑวด คณุ ปแู ่ ละคณุ ยา่ ไดฟ้ งั เสยี งทําวตั รสวดมนต์ของหลานเหลนคนนี นอกเหนือไปจากนี สหายในวัดทังหลายทีเคยรู้จักกันจากการบวชครงั แรกเมือแปดปีก่อน มาบัดนี กย็ งั ไมล่ ม้ หายตายจากกนั ไปไหน แต่ทกุ ทา่ นกล็ ว้ นแกช่ ราลงไปมาก บางคนกม็ อี าการเจบ็ ปว่ ย แต่คนอาศยั ทีนีทงั หลาย (ทีไม่ใช่พระภิกษุ) บ้างก็พิการ บ้างก็ไร้ญาติขาดมติ ร ซึงก็ล้วนแล้วแต่อับจนหนทางในชีวิต หรือไม่มีทางไป จงึ ตอ้ งมาอาศยั ใบบญุ พระรตั นตรยั เพอื หล่อเลยี งชวี ติ เป็นเหมอื นเพยี งแต่ดวงไฟทรี อวนั ดบั สญู บางคนคงจะไมน่ กึ วา่ “เราอาจจะมโี อกาสทีดกี ว่าใครๆ” โดยทีเราเองนนั ไมร่ ูต้ วั เราอาจจะมองคนที “อยู่สงู ” กวา่ เรา และคดิ วา่ ตวั เรานนั ”ตําตอ้ ย” แต่โดยแท้จรงิ แลว้ ไม่มใี ครยงิ ใหญ่เหนือกว่าใคร เพราะสดุ ท้ายแล้วกไ็ ปถงึ ยงั ที เดยี วกนั และในโลกของเราทกุ วนั นี เรากอ็ าจจะมงุ่ ทจี ะสรา้ งความ “มงั คงั ” จนลมื นึกไปว่ายงั มอี ีกหลายสงิ หลายอย่างที เราอาจควรใชเ้ วลากระทาํ มากกวา่ การแสวงหาความ “มงั คงั ” ซงึ บางครงั มมี ากเกนิ ความตอ้ งการพนื ฐานของเราไปแลว้ สาํ หรบั ลูกหลานทีไดอ้ ่านหนงั สอื “มคี วามสุขกบั หุน้ ปนั ผล By หมสี ม้ ” ทงั สามเล่มแล้ว กน็ ่าจะเชอื ไดว้ า่ จะ ไดร้ บั ความรใู้ นทางการลงทุนทมี ากเพียงพอจะรกั ษาทรพั ย์ทบี รรพบรุ ุษไดเ้ ก็บหอมรอมรบิ ไวใ้ ห้แลว้ อย่างน้อยทีสุด กจ็ ะได้มีแนวทางการลงทุนให้สามารถบํารุงชีวิตของตนได้มีความสะดวกสบายตามฐานานุรูปของตน และ “อย่าคาดหวงั ในสงิ ทมี ากเกินกว่าทคี วรไดร้ บั ” โดยเฉพาะอย่างยิงบนโลกในนี มกั จะพบเจอกบั “สงิ ทีคดิ ว่าจะไดม้ า โดยงา่ ย จากการทเี คยไดม้ าโดยงา่ ย ซงึ อาจจะดว้ ยอุบายของมจิ ฉาชพี หรอื ความบงั เอญิ ” ทีเคลือบแฝงไปดว้ ยอนั ตราย เปรยี บเสมอื นหลุมพรางที “ขดุ บอ่ ล่อปลา” ให้ตงั ตนอยู่ใน “ความประมาท” และเมอื รวมกบั “ความไมย่ อมรบั ในความ ผดิ พลาดของตน” แล้วไซร้ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยกจ็ ะถูกขยายขนึ เพราะความดอื รนั และไม่ยอมรบั ความ 6|P a g e
ผดิ พลาดของตนในหนแรก ดาํ ดงิ ถลาํ ลกึ ลงไป จนสรา้ งความเสยี หายจนยากเกนิ จะเยยี วยา กว่าจะรสู้ กึ ตนกไ็ มพ่ ้นให้ ตอ้ งวบิ ตั จิ นแกไ้ ขสงิ ใดใหย้ อ้ นกลบั มาไมไ่ ดอ้ กี แต่ในการใชช้ วี ติ ใหม้ คี วามสขุ นนั สงิ ทตี อ้ งพงึ ระวงั กลบั ไมไ่ ดเ้ ป็นเพยี งแต่การรกั ษาทรพั ย์หรอื การทําให้ทรพั ย์ งอกเงยแตเ่ พยี งเทา่ นนั สงิ ทพี งึ ระวงั เป็นอย่างยงิ อกี ประการกค็ อื “การระวงั จติ ” ของตนเอง ซงึ เป็นธรรมดาและพบเหน็ ได้บ่อยทีผู้มีความมงั คงั ทางทรพั ย์มกั จะมีความ “ว่าง” หรอื “ไม่มอี ะไรทํา” หรอื “มที างเลือกในชวี ติ มากเกินไป” จนทําใหจ้ ติ “ฟ้ ุงซ่าน” สง่ ผลใหเ้ ดนิ ไปสอู่ บายมขุ หรอื “ความเสอื ม” ทงั หลาย เป็นเหตุใหค้ รอบครวั ของตนตอ้ งอบั ปางลง ซงึ บางครงั ความล่มสลายนีเกดิ ขนึ อยา่ งชา้ ๆ โดยทไี มร่ ตู้ วั ดงั คาํ ทวี า่ “ความเสอื ม” มที งั ที”มองเห็น” และ “มองไมเ่ ห็น” ซึงหากลูกหลานอ่านมาถึงตรงนี หากยังไม่ได้อ่านหนังสอื เรอื ง “มาลัยสามชาย” ก็ขอให้หามาอ่านจนจบให้ได้ โดยขอใหท้ ่าน “อย่าทาํ ตนเป็นเหมอื นยศ พลาธร บุตรชายเจ้าพระยาพลาธร” ผซู้ งึ ไดช้ อื วา่ “คาบชอ้ นเงนิ ชอ้ นทองมา แต่เกดิ แตก่ ลบั ตอ้ งจบชวี ติ ลงดงั เศษไมไ้ รค้ า่ ขนาดทผี ทู้ เี ป็นบดิ ามารดากค็ งไมค่ าดคดิ ” สดุ ท้ายนี เชอื ว่าการเขยี นหนังสอื “มคี วามสุขกบั หุน้ ปนั ผล By หมสี ม้ ” ทงั เล่มนี และอกี สองเล่มก่อนหน้า จะส่งผลให้ลูกหลานของขา้ พเจ้าก็ดแี ละผู้ทไี ด้อ่านทงั หลายกด็ ี ไดร้ บั ความสุขความสาํ เรจ็ ทางการลงทุน มชี วี ิตทีดี และมนั คง และขอให้พึงระลึกว่าสิงได้ทีเราได้รับก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิงทีผู้อินหยิบยืนให้ มือหนึงเอือมคว้า แต่อีกมือหนึงก็ต้องจ่ายไปไม่ทางใดก็ทางหนึง จึงขอให้ระลึกอยู่เสมอว่าได้ถูกทํานุบํารุงโดยสรรพสิงทังหลาย ขอใหม้ คี วามคดิ ในทางกศุ ลจิต รูจ้ กั แบ่งปนั สรา้ งเสรมิ บญุ บารมใี ห้ตนเองไดม้ คี วามสงบสขุ ร่มเย็น และเป็นส่วนหนึง ทที าํ ใหโ้ ลกใบนีดขี นึ ตอ่ ไป.. วรชติ หอมโกศล วนั เสารท์ ี 5 เมษายน 2557 7|P a g e
บทที 1 เราจาํ เป็นต้องลงทนุ หรอื ให้เงินทาํ งานแทนเรา ผมขอเรมิ ต้นหนังสือเล่มนี ดว้ ยหวั ขอ้ ทีว่า “เราจําเป็นต้องลงทุนหรือให้เงนิ ทํางานแทนเรา” เพราะเรอื งนี เป็นเรอื งทสี าํ คญั มากในการดาํ รงชวี ติ ในบนั ปลายของเรา (โดยทไี มต่ อ้ งพงึ พาใคร) ผมจะอธบิ ายใหฟ้ งั .. ผมเชอื วา่ การใชช้ วี ติ ของเรา แบง่ ออกเป็นสามชว่ งเวลาทสี าํ คญั ดงั นี ช่วงแรก คอื วยั เดก็ เราอาจจะไม่จําเป็นตอ้ งทําอะไร อยู่เฉยๆ เรากจ็ ะสามารถดาํ รงชวี ติ อยู่ได้ เนืองจาก บดิ ามารดาหรอื ผอู้ ปุ การะของเรา ยงั คงสง่ เสยี เลยี งดู (ซงึ ท่านทงั หลายเหล่านนั อยู่ในวยั ทาํ งาน) ชว่ งทสี อง คอื วยั ทาํ งาน สาํ หรบั คนทวั ไปทไี มไ่ ดม้ สี มบตั หิ รอื มรดกตกทอด ชวี ติ ชว่ งนีถอื เป็นช่วงทีตอ้ งเลียง ตนเอง เลยี งครอบครวั และสะสมทรพั ย์ รายไดข้ องเรากน็ ่าจะมาจากหยาดเหงอื แรงกายเป็นหลกั ชว่ งสดุ ทา้ ย คอื วยั เกษยี ณ ซงึ เป็นวยั ทไี มม่ เี รยี วมแี รงจะไปทาํ อะไรอกี แลว้ มหิ นําซํายงั ต้องคอยรกั ษาตวั จาก อาการเจบ็ ปว่ ย ซงึ หากไมม่ ลี กู หลานคอยดแู ล (หรอื มแี ต่ไมม่ าดแู ล) อนั นกี จ็ ะเป็นชวี ติ ทยี ากลําบาก จากทกี ลา่ วมา จะเหน็ ไดว้ า่ ชวี ติ ทเี ราตอ้ งคอนโทรล หรอื ตอ้ งกํากบั ชวี ติ ใหด้ ี คอื ในชว่ งทสี อง หรอื วยั ทํางาน เพราะวยั นีเป็นเพยี งวยั เดยี วทสี รา้ งรายไดแ้ บบเป็นกอบเป็นกาํ และเป็นวยั ทตี อ้ งแบง่ เงนิ สว่ นหนงึ มาลงทุนใหง้ อกเงย คาํ วา่ “สว่ นหนึง” มนั คอื เท่าไหรก่ นั ล่ะ,, นักการเงนิ ผเู้ ชยี วชาญทงั หลาย (ทผี มอ่านเจอในหนงั สอื ) บอกว่า “ควรแบง่ เงนิ อย่างน้อย 5% ทไี ดจ้ ากการทํางาน มาลงทุนอย่างสมําเสมอ โดยหกั เงนิ สว่ นนีออกมากอ่ นเลยหลงั จาก ได้รบั เงินเดือน” อันทีจริงเข้าใจดีว่าทุกคนล้วนมีความจําเป็นทีอาจจะไม่สามารถหักเงินจํานวนนันออกมาได้ แตก่ อ็ ยากจะกล่าววา่ เป็นเรอื งทมี คี วามจําเป็นสาํ หรบั อนาคตจรงิ ๆ นนั เพราะในวนั ทเี รากาํ ลงั ทํางาน เงนิ ออมหรอื เงนิ ลงทนุ ของเรากจ็ ะเปรยี บเสมอื นกบั ตน้ ไมท้ ีออกดอกออกผล ทจี ะใหเ้ ราสามารถเกบ็ กนิ ไดใ้ นระยะยาว.. กอ็ ย่างทีทราบกนั ว่า ทุกวนั นีไม่มใี ครไดบ้ ํานาญกนั แล้ว (ยกเลกิ กนั ไป หมดแลว้ ) ทนี ี ผมเชอื วา่ คนสว่ นใหญค่ งจะเลอื กทจี ะฝากเงนิ ไวใ้ นธนาคาร แต่กอ็ ย่างทเี รารกู้ นั ว่า “อตั ราเงนิ เฟ้ อ” ทําให้ มลู คา่ ทีแทจ้ รงิ ของเงินของเรานนั ลดลง และไมเ่ กดิ ประโยชน์แต่อย่างใด ทงั ทงั ทเี ราคดิ ว่าการฝากเงนิ จะทําใหเ้ กิด รายไดอ้ ยา่ สมาํ เสมอโดยทไี มต่ อ้ งทาํ งาน ทีเคา้ มกั เรยี กกนั ว่า “Passive Income” (เพราะถ้าเราแก่ เราทําไมไ่ หวแลว้ ) และยงั เป็นการรกั ษาทรพั ย์ของเรา แต่โดยขอ้ เท็จจรงิ กค็ อื มนั กดั กร่อนเงินของเราไปโดยไม่รูต้ วั มนั ก็เลยทําให้ เราตอ้ งดืนรนไปหากจิ การอะไรทํา หรอื ไปลงทุนตราสารหนี ตราสารทุน (หุน้ ) หรือการลงทุนอนื ๆทีหลอกเราว่า เป็นการลงทุน ทงั ๆ ทมี นั อาจจะเป็นเพยี งการพนนั หรอื เป็นมจิ ฉาชพี มาหลอกใหเ้ ราหลงเชอื โดยเฉพาะอย่างยิง เวลาที เราตอ้ งการเงนิ หรอื อยากไดเ้ งนิ โดยทมี สี ภาพความเรง่ ดว่ นมาบบี บงั คบั เรามกั จะไตรต่ รองน้อยลง บางทีเหน็ แคเ่ พยี ง โอกาสทเี ป็นเพยี งแสงรบิ หรกี ต็ รงปรเี ขา้ ไปโดยคาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ทงั ๆทหี ากพจิ ารณาอย่างถีถ้วนแลว้ ก็ อาจจะพบขอ้ เทจ็ จรงิ วา่ “หากมนั ดดี งั ทีว่านีจรงิ เหตุใดโอกาสนีจึงตกมาถงึ มอื ของเรา ผซู้ งึ ไม่มปี ระสบการณ์ในดา้ น นนั ๆ มากอ่ น” 8|P a g e
การลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทงั เลก็ และใหญ่ มีตงั แต่หลงั พนั ไปจนถึงหลกั ลา้ นบาท ก็ไม่ใชเ่ รอื งง่ายดายนัก เพราะอยา่ งเราทราบกนั วา่ เวลาทเี ราลงทนุ เรากม็ กั จะเจบ็ ตวั กลบั มากนั ทุกที และพอเราเจบ็ เราจะหยุด.. เราจะคดิ ว่า การลงทุนไม่เหมาะกบั เราแล้วถอยกลบั มาฝากเงนิ ในธนาคารเช่นเดมิ คอื เรากา้ วผ่านตรงนีไม่ไดท้ งั .. และนันคือ จุดประสงคข์ องของการเขยี นหนงั สอื หมสี ม้ ทงั สามเลม่ กค็ อื “ชว่ ยใหท้ ุกคนกา้ วผา่ นไปพบกบั การลงทุนทมี นั คงได”้ ในเบอื งต้นเลย ผมแนะนําจากใจวา่ ถา้ ไม่รูจ้ ะลงทุนแบบไหน ให้ลงทุนดว้ ย “กองทุนรวม” คอื ใหม้ อื อาชีพ ลงทนุ ใหเ้ รา โดยลงทนุ อย่างสมาํ เสมอ (Dollar cost average) เพียงเท่านีกจ็ ะมรี ากฐานทมี นั คงในยามเกษียณไดแ้ ลว้ เชอื ไมว๊ า่ ผูเ้ ชยี วชาญทางการเงนิ ทีผมรจู้ กั 4-5 คน ทุกคนเหน็ ตรงกนั ว่า การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นหนทางแห่ง ความมงั คงั ทมี นั คง และเงนิ สว่ นใหญข่ องเคา้ กล็ งทุนทีกองทุนรวม ปนั ผลของกองทุนรวม กอ่ ให้เกดิ Passive Income ทมี ากมายอยา่ งคาดไมถ่ งึ จรงิ ๆ หากลงทนุ ในระยะเวลาทยี าวนานพอ และกเ็ ป็นหนทางทปี ระเทศทพี ฒั นาแลว้ ใชใ้ นการ ปกป้ องเงนิ ของตนในระหวา่ งทาํ งาน และใหเ้ กดิ ดอกผลมาใชย้ ามเกษยี ณกค็ อื ใหห้ กั จากเงนิ เดอื นทุกเดอื นไปเลย.. แต่อยา่ งไรกต็ าม ผมเองกย็ งั เชอื วา่ หลายๆคนกย็ งั คงอยากทีจะลงทุนในแนวทางอนื ๆ ซึงแต่ละแนวทางกม็ ี ”โอกาส” และ “ความเสยี ง” ของมนั และผมเองกอ็ ยากจะชใี หเ้ หน็ ถงึ ”โอกาส” และ “ความเสยี ง” เหล่านัน แต่อาจจะเป็น เพราะผมเองมปี ระสบการณ์ตรงทีเจ็บๆ คนั ๆ จากการลงทุนประเภทต่างๆ มาเล่าให้ฟงั ใน บทต่อไป สําหรบั ในบทนี เพยี งแคท่ กุ คน “เขา้ ใจวา่ เราต้องออมเงินเพอื ลงทนุ สาํ หรบั เตรียมชีวิตวยั เกษียณให้มคี วามสุข” กพ็ อ.. 9|P a g e
บทที 2 ความผิดพลาดอนั ยิงใหญ่ ผมมเี รอื งเล่าทเี ป็นเรอื งจรงิ อยู่ 3-4 เรอื ง ทีบอกไดว้ า่ เป็นเรอื งจรงิ เพราะเป็นเรอื งทีผมประสบพบเจอมาดว้ ย ตนเอง จงึ สามารถเล่าไดแ้ บบละเอียด แต่ผมขออนุญาตเปลยี นรายละเอียดบางอย่างเพือให้ไมส่ ามารถระบพุ กิ ดั ของ ทมี าไดก้ แ็ ลว้ กนั เป็นเรอื งของการนํา “เงนิ ออม” หรอื “เงนิ ก”ู้ ไปลงทุนในวธิ ตี ่างๆ กนั .. เรอื งที 1 เป็นเรอื งของคนคนหนึง ซงึ เป็นพนักงานกนิ เงนิ เดอื น ไดน้ ําเงนิ เกบ็ ของตนเองไปลงทุนซอื ใบจอง คอนโด แล้วเอาไปขายต่อ เป็นเรืองทีน่ายินดีทีกิจการไปไดด้ แี ละเติบโตขนึ ใบจองแต่ละใบทีลงทุนไว้ประมาณ 5,000 - 15,000 บาท สามารถขายออกไดใ้ นราคาสูงถึง 30,000 - 100,000 บาท เวลาผา่ นไป 2-3 ปีจนกระทงั ครงั สดุ ทา้ ยทไี ดล้ งทนุ เอาไวใ้ นคอนโดโครงการหนึงเป็นจํานวน 5 ห้อง ทใี บจอง 5,000 บาท เป็นทีโชครา้ ยทใี นเวลาอนั ไม่ นาน คอนโดประเภทเดยี วกนั ในละแวกเดยี วกนั กไ็ ดข้ นึ เป็นดอกเห็ด ประกอบกบั อยู่ดๆี กม็ เี หตุการณ์บางอย่างหรอื หลายๆอย่างทที ําใหก้ าํ ลงั ซอื หดตวั ลง ผลทเี กดิ ขนึ คอื ไม่สามารถขายใบจองต่อได้ ในขณะเดยี วกนั กไ็ ดเ้ ริมมกี ารผอ่ น ดาวน์ไปแลว้ (ทงั 5 หอ้ ง) ซงึ ทําให้เคา้ ตอ้ งจ่ายเงนิ ถงึ เดอื นละกว่า 50,000 บาทเพอื ผ่อนดาวน์ และถ้ายงั ขายไม่ออก ในปีถัดไปเค้าจะต้องผ่อนห้องกบั ธนาคารจรงิ ๆแล้ว ด้วยเงนิ ทีสูงกว่าผ่อนดาวน์สองเท่า ปญั หาคือเค้าจะสามารถ ยนื หยดั ไดแ้ คไ่ หน โชคยงั ดที เี คา้ เป็นคนเกง่ มเี งนิ เดอื นหลายแสนบาท แต่การลงทุนครงั นีกค็ งทําใหเ้ คา้ เขด็ ไปอกี นาน แตถ่ า้ เคา้ ไมเ่ ขด็ บางทคี ราวหน้าความสาํ เรจ็ อนั ยงิ ใหญ่ อาจจะรอเคา้ อยู่ใกลแ้ คเ่ ออื มกเ็ ป็นได้ เรอื งที 2 เป็นเรอื งของคณุ หมอในวยั ใกล้เกษยี ณ ซึงมเี งนิ เกบ็ หอมรอบรบิ อยู่ราวๆ 20-30ลา้ นบาท คณุ หมอ ท่านนีเล็งเห็นวา่ ในยามแกเ่ ฒ่าน่าจะมกี จิ การทีมนั คง เพือทีจะเกบ็ กนิ ดอกผลยามทีไม่ไดท้ ํางานแล้ว คุณหมอท่านนี จึงได้ศกึ ษาเรอื งอพาร์ทเมน้ ท์อยู่สกั ระยะหนึง และกไ็ ดล้ งทุนในอพาร์ทเมน้ ท์ในเวลาต่อมา ผลปรากฏว่าเมือเริม ดําเนินการ ก็ไดเ้ กิดปญั หามากมาย เริมต้นจากการก่อสรา้ งทีล่าช้า เพราะไม่ได้จ้างวศิ วกรมาคุมงาน (ต้องการ ประหยดั ) ตอ่ มาเมอื อพารท์ เมนตเ์ สรจ็ แลว้ กพ็ บวา่ แบบอาคารไมถ่ ูกตอ้ งตามกฏหมายอยู่หลายประการ ซงึ ไม่สามารถ แกไ้ ขไดแ้ ลว้ เนอื งจากสรา้ งเสรจ็ แลว้ จากนนั กเ็ จอปญั หาภาษีโรงเรอื นทีไมไ่ ดค้ ดิ ไวใ้ นตอนแรกเลย ในขณะทีพอ คดิ ที จะขายตอ่ กข็ ายไมไ่ ดเ้ นืองจากติดปญั หาเรอื งแบบอาคารดงั ทไี ดก้ ล่าวมาใ นขา้ งต้น ทุกวนั นีไดแ้ ต่เสยี ใจทไี ดล้ งทุนไป สาํ หรบั ในกรณนี ี ผมคดิ วา่ เกดิ เพราะการ “เลง็ ผลเลศิ ” โดยทไี มไ่ ดศ้ กึ ษาขอ้ มลู ใหล้ ะเอยี ดถถี ว้ น เรอื งที 3 เป็นเรอื งของนกั ธรุ กจิ ทปี ระสบความสาํ เรจ็ ในการผลติ วตั ถุดบิ เพอื สง่ ยงั โรงงานผลิตสนิ คา้ สําเรจ็ รปู โดยทที งั ชวี ติ ทํางานเกบ็ เงนิ ไดม้ ากมาย มเี งนิ เกบ็ ออมสงู ถึง 300ลา้ นบาท และในวยั ใกล้เกษยี ณ กไ็ ดค้ ดิ วา่ อยากจะสงั สมทรพั ย์สมบตั ใิ หแ้ กล่ กู หลานมากยงิ ขนึ จงึ ไดต้ ดั สนิ ใจลงทนุ ตงั โรงงานผลติ สนิ คา้ สาํ เรจ็ รปู ขนึ มา โดยทีหวงั ว่าโรงงาน ใหม่จะชว่ ยในการขายวตั ถุดิบจากโรงงานเดิมทีผลติ เพยี งแค่วตั ถุดบิ ในขณะทีตวั โรงงานผลติ สนิ ค้าสําเรจ็ รูปเอง กน็ ่าจะทํากําไรได้ ปรากฏว่าเมอื ลงทุนไปกพ็ บวา่ เกดิ ปญั หาหลายประการ และไดพ้ บเจอ “ตน้ ทุนแฝง” ทไี มค่ าดคดิ โดยเฉพาะอย่างยิงการทําโรงงานผลิตสนิ ค้าสําเรจ็ รูปทีต้องบรหิ ารคนงานจํานวนมาก (ต้องมพี นักงานมากกว่า โรงงานผลติ วตั ถุดบิ ถึง 10 เท่า) การผลติ ชว่ งแรกทียงั ไม่เสถยี ร ทําให้ทุนรอนหรอ่ ยหรอลงไป ประกอบกบั การที นกั ธรุ กจิ ท่านนกี ไ็ มไ่ ดม้ คี วามรหู้ รอื ความเชยี วชาญในผลติ ภณั ฑม์ ากอ่ น อาศยั วา่ จา้ งมอื ดเี ขา้ มาบรหิ าร ซงึ กเ็ กดิ ปญั หา เงินทองรวั ไหล ผลประโยชน์ทับซ้อน ในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่สามารถทีจะปลดออกได้เพราะตนเองไม่รู้ใน 10 | P a g e
รายละเอียดของงาน อยู่ในสภาพกลืนไมเ่ ขา้ คายไมอ่ อก จึงทําใหเ้ งนิ ลงทุน 300ลา้ นบาทและเงินกอู้ กี 200ล้านบาท หายไปในเวลา 3-4 ปี ซงึ ยงั โชคดที ลี ูกหลานเป็นผมู้ คี วามสามารถ ดาํ เนนิ กจิ การรุ่งเรอื งมากพอทจี ะสง่ เสยี เลยี งดูให้ได้ สขุ สบายต่อไป ในกรณนี ีอาจจะเกดิ จากการมองเหน็ โอกาส แต่เนืองจากความไมช่ าํ นาญ จึงสง่ ผลให้เกดิ ความเสยี หาย รนุ แรงจากตน้ ทุนแฝงทมี องไมเ่ หน็ .. เรอื งที 4 เป็นเรอื งของผมเอง เล่าเรอื งของคนอนื มามาก ตอ้ งเล่าเรอื งของตวั เองดว้ ย ไม่งนั กจ็ ะกลายเป็นว่า “เหน็ ความผิดพลาดของคนอืนทุกคนบนโลกใบนี เว้นเสียแต่ความผิดพลาดของตน” เป็นเรอื งเมือสมยั เด็ก ซงึ ขณะนันอายุ 21 ปี ซึงจําไดว้ ่าลงทุนหุน้ ดว้ ยเงนิ เกบ็ ของทางบา้ น (ซึงกม็ อี ยู่เพียงเท่านนั ) จํานวน 180,000 บาท ดว้ ยความทโี ชคดที ลี งทนุ ในหนุ้ พนื ฐาน ประกอบกบั ชว่ งปี 2546 ตลาดหุ้นเฟืองฟูมาก ถ้าจําไม่ผดิ ดชั นีขนึ จาก 400 จุด ไปแตะที 700 จุดในเวลาเพยี งครงึ ปี การลงทุนของผมในชว่ งแรกนนั ลว้ นเตม็ ไปดว้ ยการวเิ คราะหพ์ นื ฐานอย่างละเอียด ถถี ว้ น ผา่ นไปครงึ ปี เงนิ เกบ็ ในพอรท์ กไ็ ดเ้ ติบโตงอกเงยกลายเป็น 2,500,000 บาท จําไดว้ า่ ไดถ้ อนมา 700,000 บาท เพือทํากิจการอืนๆ เพิมเติม แต่ผลปรากฏว่า เงนิ ลงทุนในหุ้นทีเหลือนัน ไดถ้ ูกแปรเปลียนจากหุ้น “พืนฐานดี” กลายเป็น “หุน้ เกง็ กาํ ไร” อนั เนืองมากจากเหตผุ ล 2-3 ประการ กค็ อื ประการแรก หุ้นพืนฐานดี ราคาวิงขึนไปหมดแล้ว ทําให้หาหุ้นทีดีในราคาที “เหมาะสม” ไม่ได้ (ถา้ เป็นปจั จบุ นั นี ผมเลอื กทจี ะรอ รอจนกวา่ จะถงึ วนั ทมี หี นุ้ ทดี ใี นราคาทเี หมาะสม จงึ จะเขา้ ลงทุน) ประการทสี อง หนุ้ “เกง็ กาํ ไร” ทีไดเ้ ลือกลงทุนนนั เป็นหุ้นทีมี “วงใน” ถึงขนาดทีวา่ ผมไดเ้ จอกบั เจา้ ของหุ้น ดว้ ยซาํ แตส่ ดุ ทา้ ยเรากไ็ มร่ อด เพราะความทยี งั เดก็ นอ้ ยนกั .. ประการทีสาม ตลาดหุน้ ในขณะนนั จากวอลุ่มต่อวนั 8,000 ล้านบาทกลายเป็น 60,000ล้านบาท เป็นวอลุ่ม ทีพีค (peak) มหาศาล ผมสงั เกตเห็นได้จากตอนนันว่า วอลุ่มไดเ้ ริมชะลอลงจาก 60,000ล้านบาท ลงมาเหลือ 50,000 40,000 30,000 ลงมาจนกระทงั เหลือ 15,000 ล้านบาท การลดลงของวอลุ่มนัน เดนิ ไปอย่างชา้ ๆ เป็นระบบ และใชเ้ วลานานนบั ปี แตใ่ นขณะนนั ดว้ ยความทยี งั เดก็ และไมร่ วู้ า่ ตลาด “วาย” ไปแลว้ จงึ กอดหุน้ ไวไ้ มป่ ลอ่ ย จนกระทงั หุ้นทีซือมาในราคา 9.8 บาทต่อหุน้ ถูกขายออกไปเพียงราคา 1.18 บาทต่อหุ้นเท่านัน สรุปไดว้ ่า “เละเป็นโจ๊ก” ซงึ ในกรณีนีเกดิ จากความรเู้ ท่าไมถ่ งึ การณ์ มองไมค่ รบดา้ น และยงั ไมเ่ คยอยจู่ นครบวฏั จกั ร (cycle) จากทงั 4 เรอื งทเี ลา่ มาทงั หมด มคี วามคล้ายกนั อยู่ประการหนึงทีสําคญั กค็ อื ทงั สคี นน่าจะอยู่ในวฏั จกั รครบ หรอื เกอื บครบแลว้ (งา่ ยๆวา่ ครบ loop) น่าจะไดร้ บั ”องคค์ วามรหู้ รอื ประสบการณ์” และไดเ้ หน็ ถงึ “โอกาส” “ความเสยี ง” หรอื “ส่วนรวั ไหล” พอสมควรแล้ว หากแต่ละคนยงั คงเดนิ หน้าทํากจิ การแบบเดมิ อีกครงั หนึง กเ็ ชอื วา่ น่าจะมโี อกาส ประสบความสําเรจ็ มากขนึ อย่างแน่นอน เพยี งแต่ว่าจะยังคงอยากทีจะทําหรอื ไม่ ก็เท่านันเอง ไม่เพียงเท่านัน สงิ ทเี ราไดเ้ หน็ จากทงั 4 เรอื งกค็ อื “ค่าเลา่ เรยี น” หรอื “มลู ค่าทีสญู ไป” จากความผดิ พลาดในครงั นนั ๆ เราจะเห็นได้ว่าโดยทัวไป ก็จะมีคนจํานวนมาก ทีพร้อมจะลงทุนกบั “สิงใดๆก็ตามทีเห็นว่าดี” และ “ทุ่มสุดตวั ” ลงไปตงั แต่คราวแรก ซงึ อาจจะทําให้เกิดความสูญเสยี แบบทีไม่อาจฟืนคนื กลบั มาได้ และนอกเหนือไป จากนัน สงิ ที “เสียไป” อาจจะไม่ไดอ้ ะไรกลบั มาเลย แมแ้ ต่ “ประสบการณ์” เพราะอาจจะเกิดอาการ “เลกิ กลางคนั ” 11 | P a g e
ยกตวั อย่างเชน่ เราบอกวา่ จะทําขา้ วมนั ไก่ ในระหว่างทซี อื ไกม่ าทํา เราอาจจะรูส้ กึ ว่า การตม้ ไกแ่ ล้วเอามนั ไกม่ าหุง กบั ขา้ วเป็นเรอื งยาก จงึ ล้มเลิกกลางคนั เป็นตน้ ซึงในกรณีแบบนี เราจะไม่ไดอ้ ะไรเลย ไมเ่ หมอื นกนั การทีเราอดทน ทําจนข้าวมนั ไก่เสร็จเรียบร้อย แม้จะกินไม่ได้ หรือกินได้บ้าง แต่จากการทีเราทําครบขนั ตอน ครบวัฏจักร จะทําใหเ้ ราพฒั นาต่อไปได้ เพราะเราไดเ้ หน็ แลว้ ครบทงั กระบวนการ เคา้ เรยี กวา่ “ไดซ้ อ้ มใหญ่” ซึงถ้าการ “ซอ้ มใหญ่” ประสบผลสําเรจ็ ไปดว้ ยก็ยิงดี แต่เท่าทพี บโดยมากกลบั กลายเป็นว่า ถา้ หากไม่เลิกกลางคนั กจ็ ะเป็นอีกแบบทีว่า “ลงทุนลงแรงจนไมม่ แี รงหรอื ทรพั ย์เหลอื เพยี งพอทจี ะเรมิ ตน้ ใหมไ่ ดอ้ กี ครงั ” ซงึ ในกรณีหลงั หากเรมิ มคี วามชาํ นาญแลว้ กอ็ าจจะกลบั กลายเป็นวา่ “เจอไมง้ ามเมอื ขวานบนิ ” เสยี อยา่ งนนั เรอื งนีกต็ อ้ งระวงั เป็นอย่างยงิ สรุปก็คือว่า การลงทุนใดๆ มนั ต้องมกี ารลองผดิ ลองถูก แล้วก็มีกระบวนการเรยี นรู้ การทําสงิ ใดๆนัน มกั จะมี “สงิ ทีคาดไมถ่ งึ ” อยู่เสมอ.. จากประสบการณ์ของผมเองนนั มคี วามเห็นว่า ผูท้ ีทํากจิ การอนั ใดแลว้ ประสบ ความสาํ เรจ็ มกั จะมาจาก “การตอ่ ยอด” ความถนดั หรอื ความรขู้ องตน ทําใหร้ ถู้ งึ “หวั ใจ” ของการทําธุรกจิ ประเภทนนั ๆ เชน่ อาจจะเป็นลกู จา้ งมากอ่ นจนมคี วามชาํ นาญมากขนึ หรอื อาจจะไดท้ ําการลองผดิ ลองถูกอยู่เป็นระยะเวลายาวนาน เพยี งพอแลว้ แลว้ ถา้ เราสงั เกตดเู วลาทกี ลุม่ ธุรกจิ ขนาดใหญ่ เวลาเคา้ จะเขา้ ไปในธุรกจิ ใหมๆ่ หลายๆกลุ่ม พอเรมิ เอง ตงั แต่ต้นก็ล้มไม่เป็นท่า บางครงั เกดิ ”หนีสินมหาศาล” ตามมา ในขณะทีบางกลุ่มยอมจ่ายแพงหน่อย ซือกจิ การ เพอื ทจี ะไดร้ บั “องคค์ วามร”ู้ (know-how) เพอื ทจี ะไมต่ อ้ งตงั ตน้ ใหม่ นีขนาดกลุ่มทุนขนาดใหญ่มที งั กาํ ลงั คนและกําลงั ทรพั ย์ บางครงั ยงั ไมก่ ลา้ เรมิ ธุรกจิ ใหมแ่ บบทตี อ้ งเรมิ ตงั แต่ศนู ย์ เราเองกค็ งตอ้ งกลบั มาพจิ ารณาวา่ “ถ้าใหท้ ุ่มไปหนกั ๆ ตงั แต่แรก” ในสภาวะที “คาบลูกคาบดอก” จะทําใหเ้ รา“เสยี งตาย” หรอื “ไดไ้ ม่คุม้ เสยี ” เกนิ ไปหรอื ไม่ อนั นีผูอ้ ่านต้อง เกบ็ ไปคดิ กนั เอาเอง.. 12 | P a g e
บทที 3 เดินทีละกา้ ว กินข้าวทีละคาํ มสี ภุ าษติ ทนี ่าเชอื ถอื ได้ (อย่างนอ้ ยผมกเ็ ป็นคนนงึ ทเี ชอื ) กค็ อื “หากคนเราทําอะไรเพียงอย่างหนึง เป็นเวลา ครบ 10,000 ชวั โมง เคา้ คนนนั จะกลายเป็นผูเ้ ชยี วชาญในทนั ที” ถ้านับวา่ วนั หนึงมเี วลา 8 ชวั โมง กเ็ ท่ากบั คดิ เป็น เวลา 1,250 วนั หรอื ราวๆ สามปีครงึ โดยประมาณ ในขณะทมี สี ภุ าษติ ของคนญปี นุ ่ กไ็ ดก้ ล่าวไวว้ า่ “ในชวี ติ ของคนหนงึ คน มเี วลาพอจะสาํ เรจ็ ไดเ้ พยี งเรอื งเดยี ว” ซึงกค็ งจะหมายถึงว่าหากมุง่ ไปทางใด ต้องมุ่งไปใหร้ ูจ้ รงิ (มนิ ่าล่ะ.. คนญีปุ ่ นถงึ มผี ลิตภณั ฑท์ ีเกา่ แก่ตกทอดกนั มา ดว้ ยสตู รลบั โบราณ โดยเฉพาะพวกทเี ป็นอาหารหรอื เวชภณั ฑ)์ ในการลงทนุ กเ็ ชน่ เดยี วกนั ไม่ว่าจะลงทุนทําธุรกจิ เองกด็ ี หรอื การลงทุน ในทดี นิ หรอื ลงทุนอาคารปล่อยให้ เชา่ หรอื แมแ้ ตก่ ารลงทนุ ผา่ นตลาดหลกั ทรพั ย์ ผมเชอื วา่ ทกุ อยา่ งมนั มี “ธรรมชาต”ิ ของมนั เป็น “ธรรมชาต”ิ ทเี ราอาจจะ ยงั ไมท่ ราบหรอื ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ จนกวา่ จะพบเจอดว้ ยตนเอง และถา้ เราไมท่ อ้ ไปเสยี กอ่ น เราอาจจะพบกบั ความสาํ เรจ็ ได้ ผมมเี รอื งของคนขายหมสู ะเต๊ะทปี ระสบความสาํ เรจ็ คนหนึง ซึงกม็ ปี ญั หาตามแบบฉบบั ของคนข ายหมสู ะเต๊ะ โดยทีเค้าเริมทําวนั แรกๆ ก็ยังไม่อร่อยและมตี ้นทุนทีสูง เคา้ ก็พยายามปรบั ปรุงแก้ไขในทุกๆ จุด ตังแต่การใช้ “นําแขง็ บด” เทา่ นนั เพอื ทจี ะใหท้ ุกสว่ นของเนอื ทแี ช่มคี วามเยน็ เสมอกนั มกี ารเกลยี ถ่านเพือใหไ้ ฟระอุแต่ใชถ้ ่านน้อย เพือความประหยดั เป็นต้น สุดท้ายกลายเป็นว่าขายดิบขายดีจนกระทังมีชือเสียงโด่งดัง ตวั อย่างทียกมานี กเ็ พือแสดงถงึ วา่ การยอมรบั ในสงิ ทผี ดิ พลาดและพยายามปรบั ปรุงแกไ้ ข จะทําใหเ้ ราประสบความสําเรจ็ ในท้ายทีสุด และถึงแมว้ ่าจะอยู่จนครบ 10,000 ชวั โมง แต่ถ้าหากไม่มกี ารพฒั นา ปรบั ปรุงขอ้ ด้อยแล้วนัน ถึงจะอยู่มานาน กอ็ าจจะกลายเป็นอยู่แบบ “กะโหลกกะลา” อยู่ในสภาพ “ดนั ทุรงั ” เพราะ “ทําในสิงเดมิ ๆ โดยทีหวงั ว่าผลลพั ธ์ จะเปลียนไปในทางทีดีขึน” สําหรบั คนขายหมูสะเต๊ะคนนี ตอนนีประสบความสําเร็จ เข้าขนั รวยมากทีเดียว นนั เพราะวา่ เคา้ ได้ “หวั ใจ” ของการทําหมสู ะเต๊ะมาแลว้ จากการปรบั ปรงุ และพฒั นาอยา่ งต่อเนอื งนนั เอง.. แต่อย่างไรก็ดี ผมอยากจะนําเสนอสงิ ทเี ราอาจจะคาดไมถ่ ึง เกยี วกบั ต้นทุนดา้ นต่างๆ ทผี มไดพ้ บเห็นเป็น ประจําเพอื เป็นทางลดั ใหผ้ อู้ ่าน ไดท้ ราบถงึ เรอื งทอี าจจะเจบ็ ตวั ไดจ้ ากการทําธรุ กจิ หรอื ลงทนุ ดงั ตอ่ ไปนี - ต้นทุนทางการเงิน หมายถงึ ต้นทุนของเงนิ ทลี งไปจากเงนิ ทีเรากูม้ า หรอื ดอกเบยี เงนิ ฝากทีเราควร ไดร้ บั ถ้าเราไมท่ ําธุรกจิ บางคนเชอื ว่ามนั เป็นการเรมิ ตน้ จงึ ไม่ไดน้ ํามาคดิ คาํ นวณ แต่เชอื ไม๊ว่าต้นทุน ทางการเงนิ เช่น เราทําธุรกจิ ตอ้ งไปกูว้ งเงนิ OD ปีละ 8% คดิ เป็นเดอื นละ 0.7% ถ้าเราวางบลิ ลูกคา้ เครดิตเทอม 30 วนั เรากจ็ ะโดนต้นทุนทางการเงนิ ไปแลว้ อาจจะสูงถึง 1.4% บางคนอาจจะงงว่า เครดติ เทอมแค่ 30 วนั ทําไมถงึ เป็น 1.4% นันกเ็ พราะวา่ ระยะเวลาทีเงนิ เราออกไปจนไดร้ บั เงนิ จาก ลูกคา้ อาจจะสงู ถงึ 60 วนั เพราะเราทํางานใหเ้ คา้ แลว้ เราตอ้ งไปวางบลิ ลูกคา้ ปลายเดอื น เคา้ ถงึ ไดบ้ อก ว่าธุรกิจรับเงินสดดีทีสุด ไม่ต้องตามทวง ไม่ต้องเสียดอกเบีย แล้วยิงถ้าเป็นพวกโมเดิร์นเทรด ทเี อาสนิ คา้ มาขายกอ่ น แลว้ รบั สดมากอ่ น เอาเงนิ ไปฝากแบงก์ กลายเป็นว่านอกจากไม่เสยี ดอกเบยี แล้ว ยงั ได้ดอกเบยี เงนิ ฝากอีกด้วย (สงั เกตบริษัทโมเดิร์นเทรดพวกนีจะมีเจ้าหนีการค้าค่อนข้างมาก 13 | P a g e
แต่เจา้ หนีเงนิ กูใ้ นสว่ นทเี อามาซอื สนิ คา้ หรอื หมนุ เวยี นกจิ การจะไมค่ ่อยมี จะมกี แ็ ต่เงนิ กูท้ เี อามาลงทุน ขยายสาขา) - ต้นทนุ แรงงานของเราเอง หมายถงึ ในกรณที เี ป็นกจิ การทเี ราตอ้ งลงมอื ลงแรง เราอาจจะไปทําธุรกจิ ที ไดเ้ งนิ นอ้ ยกวา่ เงนิ เดอื นประจํา (ทีเราลาออกมาทําธุรกจิ ) บางครงั ไมไ่ ดน้ ําตรงนีมาคดิ คาํ นวณ บางคน อาจจะรสู้ กึ วา่ รายไดท้ ลี ดลงเหมอื นเป็นการซอื อสิ รภาพกเ็ ป็นได้ - ต้นทุนแฝง หมายถงึ ต้นทุนทีเราอาจไม่ได้คํานึงถึงเลยตงั แต่แรกเริม เช่น ค่าใช้จ่ายเกยี วกบั การ ดาํ เนนิ งานบรษิ ทั ใหถ้ ูกตอ้ งตามกฏหมาย (กจิ การขนาดใหญ่ อาจจะมคี า่ ใชจ้ า่ ยในการสาํ รองผลประโยชน์ ใหพ้ นกั งาน ถ้าหากพนักงานมจี ํานวนถึงทกี าํ หนดจะตอ้ งมกี ารรบั คนพิการเขา้ มาทํางานในอัตราสว่ น เท่านนั เท่านี) คา่ รถสง่ ของ คา่ โอทพี นกั งาน คา่ ทาํ บญั ชี การสญู หายหรอื เสยี หายของสนิ คา้ (อนั นีสาํ คญั ) หรอื แมแ้ ต่ค่าเสอื มราคาสนิ คา้ ทุน ทงั หมดนี คอื คา่ ใชจ้ ่ายแฝง เป็นตวั ทอี นั ตรายทีสดุ ทีจะทําใหเ้ ราเจ๊ง เนืองจากเราไมไ่ ดค้ าดคดิ ว่าจะมตี งั แต่แรก และโดยมากคนทีเขา้ ใจถถี ว้ นเกยี วกบั ค่าใชจ้ ่ายกม็ กั จะตอ้ ง เป็นคนทเี คยทําธุรกจิ มากอ่ น และนีถึงเป็นสาเหตุว่าคนทําธุรกจิ ยงิ ทํายิงเก่ง และหลายๆคนกท็ ํางาน เป็นลกู จา้ ง เพอื เรยี นรกู้ ารทาํ ธุรกจิ นนั เอง (รอู้ ยา่ งนีแลว้ ถงึ เป็นลกู จา้ ง เรากค็ วรตงั ใจเรยี นรูก้ ระบวนการ ทํางาน เพอื พฒั นาความรขู้ องตวั เราดว้ ย) - ต้นทนุ ทางใจ หมายถงึ บางเวลาทเี ราเหนือยยาก กดั กรอ่ นจดิ ใจ แต่การทีลงเต็มตวั “ทําใหถ้ อยไมไ่ ด”้ เพราะทนุ จมลงไปแลว้ ไมไ่ ดเ้ ผอื ใจเอาไว้ หรอื ทเี รยี กวา่ “ไมไ่ ดเ้ ตรยี มทางถอยเอาไว”้ บางครงั อาจจะตอ้ ง ทะเลาะกบั ครอบครวั หุน้ สว่ น คคู่ า้ ทาํ ใหเ้ กดิ ความรา้ วฉานตามมาอกี สงิ ทีเราสมั ผสั ไดจ้ ากทกี ล่าวมา คอื “กระบวนการทไี ดม้ าซงึ องคค์ วามรู้” ในรูปแบบต่างๆ โดยผมเน้นยําว่า “ต้องมรี าคาไม่แพงจนถงึ ขนาดทีวา่ เราล่มสลายจนกลบั มายืนทีเดิมไมไ่ ด”้ ซงึ เป็นเรอื งทสี าํ คญั มาก 14 | P a g e
บทที 4 กฏ 80-20 ของ วิลเฟรโด พาเรโต (Vilfredo Federico Damaso Pareto) จําได้ว่าสมยั ทเี รียนปริญญาตรี มีอาจารย์ท่านหนงึ ได้พดู ถึงกฏ 80-20 ของวิลเฟรโด พาเรโต ซงึ ตังแต่วันนนั มา จนวนั นี จาํ ได้ไมร่ ู้ลมื .. เพราะกฏ 80 - 20 นี มนั เป็ นเรืองจริงในทกุ ๆ สถานการณ์จริงๆ กฏนมี อี ย่วู ่า “อะไรก็ตามทีมีอย่เู ต็ม 100% นนั 80% จาก 100% จะถกู ครอบครองโดย 20% และอะไรก็ตามที เหลอื อกี 20% จะถกู ครอบครองโดย 80%” เขยี นเองกง็ งเอง ยกตวั อยา่ งเลยแล้วกนั เชน่ ว่า ทรพั ย์สินของคนไทย 100% ใน 100% นนั ทรัพย์สนิ จํานวน 80% ถกู ครอบครองโดยคน 20% และทรัพย์สนิ 20% ทีเหลือ ถกู ครอบครองโดยคน 80% เฉลียๆ กันไป หรืออาจจะเช่นว่า สมมติร้านค้ามีสินค้า 100 ชนิด จํานวนสินค้าทีขายได้ทังหมด 100% นัน 80% ของทีขายได้มาจากสนิ ค้าเพยี ง 20 ชนดิ และสนิ ค้าทขี ายได้ 20% ทีเหลอื คอื สนิ ค้า 80 ทเี หลอื .. ห ลั ก ก า ร นี ตั ว เ ล ข มนั อาจจะไม่ตายตวั ขนาดว่า 80-20 เสมอไป อาจจะ 70-30 หรือ 90-10 ก็เป็ นไปได้ ประเดน็ ก็คือ ถ้าเราเชือว่าหลกั การนีเป็ นความจริง การทเี ราต้องการความสาํ เร็จ เราก็ต้องทําอะไรให้สวนทางกบั คนอืน อย่างนนั หรือ หากกฏนีเป็ นความจริง มันควรต้องเป็ นแบบนัน ซึงหากจะนิยามให้ชัดๆ ผมไปได้คําจํากดั ความที น่าจะ “ชัดเจน” จากหนังสือทีอาจารย์กุศยา ลีฬหาวงศ์ ท่านได้แปลไว้ โดยท่านใช้ คําว่า “การคิดแบบสองชัน” ซงึ มนั “โดน” มากๆ ทีเดยี ว ผมคดิ ว่าหมายถงึ “การทคี นบางคนคดิ แบบตลบหลงั คนสว่ นใหญ่เพือให้เกดิ ความได้เปรียบ” “การคิดแบบสองชัน” ไม่ ใช่ เรืองทียากเกินกว่ าคนธรรมดาจะเข้ าใจ แต่ผมเชือว่าต้ องมีคน “ชีทาง” ให้เกิดความเข้าใจใน “ชุดความคิด” (mind-set) นี และจากสิงทีเกิดขึนทีผมได้พบเจอมา ปรากฏว่า “ผู้ทีประสบ ความสําเร็จ” มักจะเป็ นผู้ทีมีความคิดส่วนกระแส ผมยกตัวอย่างว่า นักลงทุนทีเก่งกาจบนโลกใบนี เช่น “วอร์เรน บฟั เฟตต์” หรือ “แอนโทนี โบลตนั ” ผมสมั ผสั ได้ว่า เค้าน่าจะเข้าใจสงิ นี หรือแม้แต่เฮีย “เจ้าของร้านตู้สติกเกอร์” ทีอยใู่ นชว่ งบทต่อท้ายของ “หมสี ้ม เลม่ 2” เค้าก็นา่ จะเข้าใจเรืองนนี ะ.. “การคิดแบบสองชนั ” ผมขอลองอธิบายมุมความคิดอนั เล็กน้อยของผมเอง ก็คือ “โอกาสในการทําการงานใดๆ ถ้ามผี ้ทู เี ข้ามามากแล้ว ความได้เปรียบ ในการเข้าถงึ โอกาสก็จะหายไป ผ้ทู ีเข้าใจเรืองนี ก็อาจจะเริมกระทําการในทิศทางที ตรงกันข้ามหรือหยุดรอเวลาทีเหมาะสม” มันก็คงคล้ายๆ กับเราขับรถไปเทียวหัวหิน หากไปในวันหยุดยาวแล้วนัน เราก็อาจจะไม่ได้เทียว แต่ไปเจอคนมากมายกับรถติดแทน เราก็เลยเลือกทีจะอยู่กรุงเทพฯ หรือการทีเราขายนําผลไม้ ในถนนเส้นหนงึ แล้วปรากฏวา่ ขายดมี าก หลงั จากนนั ก็มคี นมากมาย มาขายกาแฟ ผลไม้ หรือไก่ทอด ทําให้นําผลไม้ของ เรายอดขายตกลงไปมากจนอย่ไู ม่ได้ หรือ “ตลาดของเราอาจจะวายไปแล้ว” เราจงึ ชิงตดั หน้าขายบูทของเราในราคาสงู กอ่ นทรี าคาบทู จะร่วงลงมาในวนั ทีค่แู ข่งมากขนึ เป็ นต้น ซงึ ในแงข่ องการลงทนุ ผมวา่ มนั มีอะไรทคี ล้ายกนั .. ผมได้มีโอกาสรู้จกั ผ้พู ัฒนาอสงั หาริมทรัพย์ทีเก่งกาจท่านหนึง ท่านมักจะทําตัว “อินดี” หรือสวนกระแสเสมอ เป็ นเรืองทีเกดิ เมือในวยั เยาว์ของผมเอง ผมขอเลา่ เรืองในวนั นนั ให้ฟัง กแ็ ล้วกนั ครับ.. 15 | P a g e
ผม : ช่วงนปี ลกู ตกึ ขายเป็ นยงั ไงบ้างครับ เฮยี : ชว่ งนยี งั ไมป่ ลกู ต้นทนุ สงู ค่าแรงแพง ผม : ต้นทนุ อะไรสงู เหรอครบั เฮีย : ต้นทนุ ทกุ อย่างสงู ช่วงนคี นมาปลกู ตกึ กนั เยอะ รออีกสกั พกั ผม : ทาํ ไมต้องรอสกั พกั ครับ เฮีย : ชว่ งนีเศรษฐกิจค่อนข้างดี วตั ถดุ บิ มีราคาแพง ทดี ินกแ็ พง ผม : เศรษฐกจิ ดกี น็ ่าจะดสี คิ รบั เฮยี : เศรษฐกิจดมี นั ก็ดอี ยู่ แต่ถ้าวนั ไหนมนั ทรุด แล้วเราออกไมท่ นั อนั นีจะลาํ บาก เพราะปลกู ตกึ ขาย รอบนึงใช้เวลาอย่าง น้อย 1-2 ปี ถ้าของตายคามือ ทนุ จมขาดทนุ มหาศาล ผม : แล้วจะทําอยา่ งไรละ่ ครับ เฮีย : ก็ต้องรอให้เศรษฐกจิ มนั แยล่ งมาเสยี กอ่ น ตอนนนั คนร้อนเงนิ ก็เอาทดี นิ มาขายราคาไม่แพง วัตถุดิบขายไม่ออกราคา ก็ถกู ลง คา่ แรงคนงานกถ็ กู เพราะคนตกงาน พอสร้างเสร็จ ถึงเศรษฐกิจไม่ดีเราก็ยงั ขายได้ เพราะต้นทุนเราถกู กว่าเจ้าอืน เค้าอาจจะสร้างตอนทตี ้นทนุ แพง ผม : งนั ประเด็นกค็ ือเรืองของต้นทนุ เฮีย : ใช่แล้ว ต้นทนุ คือ เรืองสําคัญ เพราะในเรืองของ “คุณภาพ” ทกุ คนเข้าถึงได้หมด สาํ คัญแต่ว่า “คุณภาพ” ทีได้มา เราต้องจา่ ยไปในราคาเทา่ ไหร่ ราคาของสนิ ค้าช่วงทมี รี าคาแพง อาจจะสงู กว่าชว่ งทรี าคาตกตาํ ได้ถงึ 30-50% ทีเดยี ว ผมเองหลงั จากได้ฟังในวนั นัน ยังไม่ค่อยเข้าใจ เพิงจะมาเข้าใจก็เมือไม่กีปี มานี (ตอนทีโดนวิกฤตซับไพร์ม) แต่จากทผี มสมั ผสั ผมคดิ วา่ ในขณะทีเฮียกําลงั นงั เฉยๆ รอจงั หวะ น่าจะมีคนจํานวนมาก กําลงั พุ่งเข้าไปฉกฉวย เพือให้ได้ อะไรติดมอื มาคนละเลก็ คนละน้อย และเฮียซงึ ครําหวอดในวงการ อาจจะรู้สกึ ว่าคนจํานวนมากเหล่านัน กําลงั ทําตลาดพัง พงั เพราะอะไรกนั นะ ผมลองๆนกึ ดู อาจจะเป็ นเพราะ,, “พงั เพราะแย่งกนั ปลกู แยง่ กนั ผลติ ทําให้ผ้ขู ายวตั ถดุ บิ หรือเจ้าของที แหก่ นั ขนึ ราคา ทาํ ให้ต้นทุนสงู ” หรืออาจจะ “พงั เพราะเมือหลงั จากผลติ เสร็จพร้อมๆกัน ความต้องการไม่เพียงพอกับสงิ ทีแห่กนั ผลิต ทําให้แต่ละรายยอมกดราคาลง เพือไมใ่ ห้ของเหลอื ทาํ ให้ต้องขายขาดทนุ และตลาดก็พงั ลงมา” อนั ทจี ริงในตลาดหลกั ทรัพย์ ผมก็เห็นบางบริษัทขายสินทรัพย์ช่วงทีราคาพีค และยอมลดราคาเช่าเพือแลกกับ การทําสญั ญาเช่าระยะยาว (เพราะราคากําลงั อยู่ในระดับสงู ) มีการขอวงเงินก้จู ากธนาคารเอาไว้มากมายแต่ยงั ไม่ใช้ (และไมย่ กเลกิ วงเงนิ ด้วยแม้จะไม่ได้ใช้ ยอมเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาวงเงินนนั เอาไว้ แสดงถงึ ความจงใจทําบางอย่าง) พอช่วงเศรษฐกิจตก ทรัพย์สินก็มีราคาถูกลงมาก ก็เอาวงเงินกู้ทีมี ไปหักคอคนที “เจ๊ง” ซือสินทรัพย์มาในราคาถูกๆ (ราคาสินทรัพย์ในเวลาทีเค้าซือมีราคาเพียง 30-40% ของราคาในช่วงพีค) ในขณะทีสินทรัพย์บางส่วนยงั คงได้ค่าเช่า ในราคาสงู เพราะทาํ สญั ญาระยะยาวไว้ อนั นีผ้บู ริหารทา่ นนั ก็บริหารงานได้เยียมจนทําให้บริษัทเป็ นกลมุ่ 20% เหมือนกนั 16 | P a g e
ทังหมดนี จะนําไปสู่บทต่อไปทีค่อนข้างสําคัญในแง่ของการลงทุน โดยทีผมจะอธิบายในเรือง “วัฏจักร” แต่สาํ หรับในบทนี ผมเชือว่า เฮีย คือพวก 20% ซงึ อันทีจริงแล้ว กฏ 80-20 มีความหมายทีลกึ ซึงและกว้างไกลกว่านี มากมาย สงิ ทีผมได้หยิบยกมา เป็ นเพียงการประยุกต์ กฏ 80-20 กับการอธิบายพฤติกรรมมนษุ ย์ในด้านของการลงทุน เทา่ นนั เอง.. 17 | P a g e
บทที 5 วฏั จกั ร (Cycle) - โอกาสและความเสียง ทุกสิงมธี รรมชาติของมนั “ทุกอย่างมนั มเี วลาของมนั ” หมนุ เวยี นเปลียนไป หรอื ทีเรียกกนั ว่า “วฏั จกั ร” ผมเชอื วา่ เราจะสามารถรอดจากการเจบ็ ตวั ในการทาํ ธุรกจิ หรอื การลงทุนใดๆ ถา้ เราเขา้ ใจในเรอื งของวฏั จกั ร ผมเห็น วา่ เรอื งนเี ป็นเรอื งสาํ คญั ผมจงึ ขอลองอธบิ ายทมี าทไี ปของ “วฏั จกั ร” เท่าทผี มพอจะมคี วามรู้ ดงั นคี รบั ในทางเศรษฐศาสตร์ เราจะเจอคําวา่ ความตอ้ งการ (Demand) และของทีมี (Supply) ผมขออธบิ ายการเกดิ วฏั จกั รจากทงั สองคาํ ขา้ งตน้ ดงั นี ชว่ งที 1 สมมตใิ นชว่ งเวลาทวั ไป ความตอ้ งการไกแ่ ละไกท่ มี ขี ายในแต่ละวนั ซือขายกนั วนั ละ 100 ตวั จบั ชน กนั พอดที รี าคา 10 บาท (ทกุ คนมคี วามสขุ ทีราคานี ราคานีอาจจะตงั โดยผูผ้ ลติ ทมี ตี ้นทุนไกต่ วั ละ 9 บาท ขายทีราคา ตวั ละ 10 บาท อยากขายราคาแพงกวา่ นีกข็ ายไมไ่ ด้ เพราะคนจะไปซอื เป็ดแทน) ชว่ งที 2 ตอ่ มาอยู่ดๆี ความตอ้ งการไกส่ งู ขนึ ในขณะทผี ผู้ ลิตยงั ไมท่ ราบถงึ ความต้องการทีเพิมขนึ กย็ งั ผลติ เท่าเดมิ กค็ อื 100 ตวั ในขณะทคี วามตอ้ งการสงู ขนึ กลายเป็น 200 ตวั เขา้ ไปแลว้ ทําใหเ้ กดิ การแย่งซอื ราคาไก่จงึ ขยบั ขนึ ไปทตี วั ละ 15 บาท ผผู้ ลติ แฮปปีสดุ ๆ (กาํ ไรเพมิ ขนึ จากตวั ละ 1 บาท เป็นตวั ละ 6 บาท กาํ ไรเพมิ ขนึ 500%) ช่วงที 3 ความตอ้ งการทีสูงขนึ ยงั คงอยู่ต่อไปอกี สกั ระยะ ผูผ้ ลติ จึงคดิ วา่ น่าจะผลิตใหม้ ากกวา่ นี ในขณะที พรอ้ มๆ กนั นนั ผผู้ ลติ เป็ดกย็ า้ ยมาผลติ ไกด่ ว้ ย ทําใหก้ ารผลิตเพมิ ขนึ กลายเป็น 150 ตวั แต่การทแี ย่งกนั ผลิต กท็ ําให้ ตน้ ทุน การผลิต เช่น ลูกเจยี บ ยาวคั ซีนหรอื อาหารไก่ กเ็ ลยราคาสูงขนึ จากตวั ละ 9 บาท กลายเป็นตวั ละ 11 บาท ในขณะทคี วามตอ้ งการยงั คงทรงตวั ในระดบั สงู ที 200 ตวั ราคาไกถ่ ูกขายไปในราคาตวั ละ 12 บาท (กย็ งั มกี ําไรอยู่นะ) ในชว่ งนีผผู้ ลติ หลายๆ คน เรมิ เจบ็ ปวดแลว้ โดยเฉพาะรายทเี ขา้ มาใหมแ่ ละไมช่ าํ นาญ ทาํ ใหต้ น้ ทุนสงู กวา่ รายอนื ชว่ งที 4 ความต้องการเรมิ ลดลง ในขณะทีผผู้ ลิตไม่ทราบ หรือทราบแต่พยายามมองโลกในแง่ดี ทําให้ ทกุ คนยงั คงผลติ อยู่ตอ่ ไป สง่ ผลใหก้ ารผลติ ยงั คงอยทู่ ี 150 ตวั มหิ นําซํา อาจจะมคี นแห่ผลติ แบบเงยี บๆ ทําใหม้ ผี ลผลิต แฝงมาอกี 50 ตวั กลายเป็น 200 ตวั เขา้ ไปแลว้ ในหากความต้องการยงั อยู่ที 200 ตวั ราคาไกค่ วรอยู่ทีตวั ละ 10 บาท ปรากฏวา่ ความต้องการลดลงมาเหลือเพียง 150 ตวั จงึ เกดิ การแย่งกนั ขาย ราคาตกลงมาเหลือเพยี ง 8 บาทขาดทุน ยอ่ ยยบั ความขาดทุนนีแผซ่ ่านไปถงึ ผผู้ ลติ วตั ถดุ บิ เลยี งไก่ ตงั แต่ลกู เจยี บ ยาวคั ซนี ไปจนกระทงั อาหารไกอ่ กี ดว้ ย ชว่ งที 5 ความต้องการกลบั สู่สภาวะปกติ ทุกคนเจ็บปวด ผู้ผลิตไก่อาจจะต้องยอมขายไก่ทีราคาตวั ละ 7-8 บาท ในขณะทตี น้ ทนุ ลอตนอี ยู่ทตี วั ละ 11 บาท วตั ถุดบิ เลยี งไก่ ตงั แตล่ กู เจยี บ ยาวคั ซนี ทไี ดท้ ําการผลติ สนิ คา้ ของ ตวั เองเพมิ ต่างกเ็ จบ็ ตวั ไปดว้ ยจากวงจรนี จําเป็นตอ้ งขายลดราคาลงเพอื ใหส้ นิ คา้ ขายออก ตน้ ทุนการผลิตของผทู้ ีผลติ ขว่ งนี อาจจะแคต่ วั ละ 5-6 บาท ถงึ แมว้ า่ ราคาตลาดจะยงั คงอยู่ทตี วั ละ 7 บาท กย็ งั ทาํ กาํ ไรได้ เพอื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ ผมจะทาํ ตารางไวใ้ หเ้ หน็ ภาพชดั เจนขนึ .. 18 | P a g e
ความต้องการ ไกท่ ีมี ราคาตลาด ต้นทนุ ผผู้ ผลิต (บาทต่อตวั ) (ตวั ) (ตวั ) (บาทต่อตวั ) รวม ยา ลูกเจียบ อาหารไก่ ช่วงที 1 100 100 10 9 1 2 6 ช่วงที 2 200 100 15 9 1 2 6 ช่วงที 3 200 150 12 11 1.5 3 6.50 ช่วงที 4 150 200 8 11 1.5 3 6.50 ช่วงที 5 100 150 7 6 0.5 1.5 4 วฏั จกั รหรอื วงจรของสงิ ต่างๆ กจ็ ะเป็นคล้ายๆ แบบนี แต่มนั มีเรอื งทีซบั ซ้อนไปกว่านันอยู่อีกสกั หน่อย.. เราจะสงั เกตเห็นไดว้ ่า ตัวทีก่อให้เกิดวฏั จกั รนัน เรมิ ต้นมาจากความต้องการทีสูงขนึ ผดิ ปกติ หรอื ทีเรียกกนั ว่า “Excess demand” ซึงกระเพิอมขึนลงเหมือนนําคลืนทีกระทบเขือนรมิ ทะเล เมือใดทีกระทบแรง หลงั จากนัน นํากจ็ ะฮวบลงไปแรงตามความแรงทีกระทบ ซึง “Excess demand” อาจจะเกดิ ขนึ โดยบงั เอิญกเ็ ป็นไปได้ เชน่ ว่า หลงั จากวกิ ฤต 2540 ทกุ คนเจบ็ ปวด พอมาปี 2544-2546 เป็นชว่ งทคี นเรมิ จะเกบ็ เงนิ กนั ได้ กเ็ รมิ กลบั มาซอื บา้ นซือรถ อีกรอบ ซงึ หลงั จากซอื ไปแล้ว คนทีซอื รถจะไมซ่ อื รถอกี อย่างน้อยก็ 4-5 ปี และคนทีซือบา้ นกจ็ ะไม่ซืออกี 10-20 ปี พอจะเหน็ วฏั จกั รแลว้ ใชไ่ ม๊ครบั .. แตบ่ างครงั วฏั จกั รกเ็ กดิ ขนึ มาแบบจงใจ เช่น โครงการรถคนั แรก หรอื บา้ นหลงั แรก ซงึ เป็นการจูงใจใหเ้ กดิ “Excess demand” ขึน เพราะคนทแี มจ้ ะยงั ไมพ่ รอ้ มหรอื ยังไม่ถึงรอบระยะของตน ก็จะพยายามซือเพอื ให้ไดส้ ทิ ธิ ทีจูงใจนันๆ สง่ ผลให้ “Excess demand” สูงยงิ ขนึ กว่าเดมิ ซึงกค็ อื การรดี เอาความต้องการในอนาคตมาไวป้ จั จุบนั (เหมอื นกบั รดี ยาสฟี นั ) และหลงั จากนนั การลดฮวบของความตอ้ งการจะรนุ แรงขนึ และกนิ ระยะเวลายาวนานยงิ ขนึ .. ผผู้ ลติ ไมท่ ราบเรอื งเหลา่ นหี รอื .. คาํ ตอบกค็ อื ทราบ โดยเฉพาะรายทชี าํ นาญ ยอ่ มทราบถงึ เรอื งนี แต่เนืองจาก ส่วนแบง่ ทีน่าเย้ายวนใจ กท็ ําให้ยงั คงผลิตอยู่ แต่เค้าพรอ้ มจะถอยทันทีเมอื เหน็ ท่าไม่ดี.. ต่างจากผูผ้ ลิตรายใหม่ (new comer) ทจี ะตอ้ งเจบ็ ตวั ไปเตม็ ๆ ในขณะทีหากมองในภาพการลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ย์ วฏั จกั รความต้องการนี อาจจะหมายถงึ กระแสเงิน (Fundflow) ทไี หลเวยี นอยู่ในโลกนี ซงึ ยา้ ยถนิ เหมอื นนกตามฤดูกาล กระแสเงนิ ไหลจากทๆี ผลตอบแทนตําไปยงั ทีที ผลตอบแทนสงู กวา่ (หากมคี วามเสยี งทเี ท่ากนั หรอื ตํากว่า) โดยเบอื งตน้ เราอาจจะสามารถดไู ดจ้ ากการเปลยี นแปลง อตั ราแลกเปลยี นและอตั ราดอกเบยี (ของทวั ทงั โลก) ซึงจะหมนุ เวยี นเปลยี นไปเรอื ยๆ แต่พลงั ของมนั กอ็ าจจะรนุ แรง มากขนาดทคี าดไมถ่ งึ ทเี ดยี ว.. บางคนอาจจะสงสยั วา่ ถ้าอย่างนัน เราควรรอใหถ้ ึงจุดตําสุดแล้วคอ่ ยลงทุนอย่างนันหรอื คําตอบกค็ อื ว่า เราไมม่ ที างรวู้ า่ วฏั จกั รจะเกดิ ขนึ และจบเมอื ใด แต่เราพอแคส่ มั ผสั กลนิ อายของมนั ได้ จากอารมณ์หรอื กระแสของเรอื ง ตา่ งๆ ในขณะนนั ๆ เชน่ “ความไมร่ ะมดั ระวงั และมองในแงด่ เี กนิ ไป” หรอื “ความหดหู่และมองอะไรมแี ต่เรอื งเลวรา้ ย” และเมอื ใดทกี ารระเบดิ และเกดิ จุดตําสุด (ซึงไมร่ วู้ า่ ตรงไหนตําสดุ คงไดแ้ ค่คาดการณ์ตามประสบการณ์ของแต่ละคน) นันคือ ”วิกฤต” ถ้าเรารอได้หรือบังเอิญมีเงินลงทุนในเวลานันๆ ก็ถือว่าเป็ นเรืองทีโชคดีมากทีเดียว 19 | P a g e
แต่หากเรารู้สึกว่ามันเป็นช่วงทีกําลังกํากึง อย่างน้อยความรู้ในเรืองของวัฏจักร ก็ยังจะทําให้เรารู้ตัวและ พรอ้ มรบั มอื กบั มนั รทู้ จี ะหาทางหนที ไี ล่ จะไดป้ ระเมนิ และตดั สนิ ใจ มากกวา่ ทจี ะอยูน่ งิ เฉย รอใหม้ นั ทาํ ลายเรา.. 20 | P a g e
บทที 6 ลงทนุ อะไรดีล่ะ.. ผมเชอื ว่า “เราจําเป็นต้องลงทุน” และเชอื วา่ การลงทุนใดๆ ต้องอาศยั “ความชํานาญ” และจะตอ้ งลงทุนใน “จงั หวะเวลาทเี หมาะสม” เพอื ทจี ะการลงทนุ ของเรานนั ประสบผลสาํ เรจ็ .. หลายๆ บททีผ่านมา ผมพยายามชีให้เห็นถึงความจําเป็นของการลงทุน ในขณะเดียวกนั กช็ ใี ห้เห็นถึง อนั ตรายของการลงทุนในสภาวะทีไมพ่ รอ้ ม เนืองจากผมไดเ้ ล็งเหน็ ถึงสงิ ทเี กดิ ขนึ เป็นประจํา สาํ หรบั มอื ใหม่ทีเขา้ มา ลงทนุ ไมว่ า่ จะเป็นการลงทนุ แบบใดกต็ าม สงิ ทผี มพบเจอมดี งั นี แบบทหี นงึ “เหน็ โอกาสและพ่งุ เข้าชน” ผมไดม้ โี อกาสพบทงั บคุ คลหรอื แมแ้ ต่ในรปู ขององค์กรทมี เี งนิ ทุน มหาศาล ไดท้ ําการผดิ พลาดจากการเหน็ ถงึ โอกาส แต่ไมไ่ ดค้ ํานึงถงึ ความพรอ้ มหรอื ความชํานาญ ทําให้เกดิ ความ ผดิ พลาดในการบรหิ ารงานจนทําใหเ้ กดิ การสญู เสยี ยกตวั อย่างเชน่ วา่ อาจจะสามารถซือสนิ คา้ ชนิดใดชนิดหนึงไดถ้ ูก กว่าราคาปกติ จึงนํามาขาย แต่ลืมคดิ ถึงตน้ ทุนของการนํามาขายและการบรหิ ารจดั การ จนทําให้ขาดทุน เป็นต้น ยงิ ประกอบกบั “การไมย่ อมแพแ้ บบทไี มม่ เี หตผุ ล” หรอื ทเี รยี กวา่ “ดนั ทุรงั ” กอ็ าจจะยงิ ทาํ ใหส้ ญู เสยี มากขนึ กวา่ เดมิ แบบทสี อง “ไม่รอจงั หวะทีเหมาะสม” บางท่านทีผมไดพ้ บเจอนัน เป็นผทู้ ีมคี วามชํานาญในงานดา้ นต่างๆ ในแนวทางของตน แต่เนืองจากการที “ไม่รอจังหวะทีเหมาะสม” ทําให้ตนเองประสบกบั ความเสยี หายซึงอาจจะ สญู เสยี หนกั กวา่ แบบทหี นึง กเ็ นอื งมาจาก “จงั หวะทีเหมาะสม” ไม่ไดห้ มายถงึ ในดา้ นของ “เวลา” แต่เพียงอย่างเดยี ว แต่ยังหมายถึง “ความพร้อมในการลงทุน” ได้แก่ ฐานเงนิ ทุนหรือทีเราเรียกกนั ว่า “สายป่ าน” และ ความพร้อม ทีจะบริหารจัดการงานต่างๆ เพราะการลงทุนใดๆ มกั จะมเี รืองของนิติบุคคล บญั ชี และภาษี เข้ามาเกยี วขอ้ ง อยา่ งหลกี เลยี งไมไ่ ด้ แตท่ ปี ระสบพบเจอบอ่ ยทสี ดุ คอื “กเู้ งนิ ” มาลงทุนหรอื ทํากจิ การ และกพ็ บในเวลาต่อมาวา่ ตนเอง “ไปไมไ่ หว” แตก่ ช็ า้ เกนิ ไปแลว้ เนอื งจากทนุ จมลงไปมาก ผมมตี วั อยา่ งกรณีทคี ลา้ ยๆ กนั อยู่เรอื งหนงึ .. เรืองมอี ยู่ว่าเมือปี 2552 ผมเห็นโครงการคอนโดโครงการหนึง อยู่ตรงแนวรถไฟฟ้ าเส้นจรญั สนิทวงศ์ ซึงผมเหน็ ว่าเป็นตําแหน่งทจี ะซือทีดนิ ทําคอนโดมเิ นียมได้ยาก และเปิดให้จองอยู่ ในช่วงเวลานันผมสงั เกตเหน็ ว่า โครงการพยายามขายอยู่ 2 ปีกไ็ ม่สามารถขายออกไดแ้ ละตอนนีดเู หมอื นจะปิดตวั ลงไป (คาดวา่ ยอดจองไมเ่ พียงพอ ธนาคารจงึ ไมป่ ล่อยเงนิ กใู้ ห)้ ทงั ๆทที าํ เลเป็นทําเลทดี มี ากและใกลก้ บั ทางขนึ รถไฟฟ้ าและมอี ุโมงคใ์ ต้ดนิ แต่ผมเชอื ว่า ทขี ายไมอ่ อก น่าจะเกดิ จากการทีรถไฟฟ้ าเสน้ นันจะแล้วเสรจ็ ตามแผนในปี 2560 และในขณะทีคอนโดเปิดให้จองนัน ตําแหน่งตรงนันรถติดมากเพราะกําลังสรา้ งรถไฟฟ้ าและอุโมงค์ใต้ดนิ ซึงผมเชือว่าคอนโดแห่งนี “มาผดิ เวลา” ถ้าหากมาเปิดใหจ้ องในช่วงปี 2556-2558 ผมเชอื ว่าน่าจะขายดีแน่นอน แต่กอ็ ย่างว่าใครจะไปรู้อนาคตขนาดนัน ทุกคนกม็ กั จะเลอื กทาํ ในสงิ ทดี ที สี ดุ .. จากทีผมเล่ามาทังหมด ผู้อ่านก็คงสงสัยว่า แล้วเราไม่ควร “ลงทุน” เลยหรือ.. คําตอบก็คือ “ไม่ใช่” แต่เราตอ้ งคอ่ ยๆ แหย่ขาเขา้ ไป เรมิ จากเลก็ ไปใหญ่ คอ่ ยๆ สะสมความชํานาญ อย่าเลง็ ผลเลศิ หรอื วา่ กลวั ว่าจะรวยชา้ เพราะสงิ ต่างๆ ทเี ราเผชญิ “มนั ไมง่ า่ ย” กวา่ ทเี ราจะประสบความสาํ เรจ็ และมาถึงตรงนี ผู้อ่านก็น่าจะสงสัยว่า แลว้ เราควรลงทุนอะไรด.ี . ผมเชอื วา่ ผูอ้ ่านเมอื อ่านมาถึงตอนนี น่าจะรูส้ กึ ไดถ้ ึงอนั ตรายของการลงทุนดว้ ยตนเองใน แบบตา่ งๆ แลว้ 21 | P a g e
ผมเอง อันทีจริงค่อนข้างเข็ดกบั การทําธุรกิจ บางคนอาจจะคิดว่าเพราะผมไม่ประสบความสําเร็จ หรอื ประสบความสาํ เรจ็ นอ้ ย แต่ผมคดิ วา่ ทผี มเขด็ เพราะวา่ มนั ดเู หนือยยากละ่ มงั เหนอื ยยากอย่างไร.. ประการแรก คอื ผมไม่อยากเหนือยเรอื งคน เพราะความต้องการของคนนนั หลากหลาย ต้องให้ปรบั ความ ตอ้ งการจนลงตวั ในเดอื นถดั มาความต้องการกจ็ ะเปลียนไป เพราะคนต้องการความกา้ วหน้า ต้องการชวี ติ ทีดกี ว่า ดงั นนั ใครทไี ดร้ ่วมงานกบั ผม ผมมกั จะชอบทํางานโดยใชเ้ น้นเครอื งจกั รหรอื ระบบอเิ ลคทรอนิกส์ เพราะผมต้องการ ลดคนทํางานลง ให้น้อยทีสุด นอกจากนี คนยงั เป็นบ่อเกดิ ของความสญู เสยี และรวั ไหล อนั เนืองมาจากความขเี กยี จ และความไมร่ บั ผดิ ชอบ เพราะแมแ้ ต่ตวั ผมเองกย็ งั มคี วามขเี กยี จเกาะอยู่เตม็ ตวั นบั ประสาอะไรจะไปวา่ คนอนื .. ประการทสี อง ผมไมอ่ ยากดรามา่ แบกชวี ติ ของใคร ไมว่ า่ จะเป็นลกู น้องกด็ หี รอื เจ้านายกด็ ี (เอ๊ะ.. ถา้ ทําธุรกจิ เอง คงไม่มีเจ้านายแล้วมงั ) การทํางานบางครงั ต้องฝืนใจ ปลดคน ลดคน หรอื มีปญั หาต้องขับเคียวกนั ในงาน ผมเองขณะนีเป็นลูกจา้ ง ยงั ปวดหวั ขนาดนี ถา้ เป็นนายจา้ งจะเหนอื ยขนาดไหน (วา่ แลว้ กส็ งสารนายจา้ งผม อายุเท่ากนั หวั หงอกหมดแลว้ ) ประการทีสาม ผมขยายการลงทุนลําบาก เพราะมสี มองเดยี วกบั เวลา 24 ชวั โมง ไม่งนั ถา้ ผมรวยขนึ มากๆ จะขยายกจิ การ ตอ้ งจา้ งคนมาเพมิ กจ็ ะเขา้ เกณฑส์ องขอ้ แรก ถา้ ผมเกดิ ป่ วยหรอื บรหิ ารไม่ดี เคา้ มาโกงไปหรอื รวั ไหล ไปทางอนื ผมกเ็ ละเป็นโจ๊ก... ในการนี ผมเองกเ็ ลย “ลงทนุ ผา่ นตลาดหลกั ทรพั ย์” เป็นหลกั ซงึ จะไดน้ ําเสนอในบทตอ่ ๆไปครบั .. แต่เดยี วก่อน!!!! กอ่ นทจี ะถงึ บท “ลงทุนผ่านตลาดหลกั ทรพั ย์” ซงึ ผมพยายามชเี หน็ ถึงขอ้ ไดเ้ ปรยี บในการ ลงทุนด้วย “เงนิ ” และ “ความรู”้ ดว้ ยความ “เข้าใจและตงั ใจ” แต่ก่อนจะไปถึงบทนัน ผมอยากจะอนุญาตขอแทรก อกี สกั บทหนึงทผี มอยากเขยี นไวใ้ นเลม่ นแี ละเหน็ วา่ สาํ คญั มาก เขา้ ไปกอ่ นดกี วา่ .. 22 | P a g e
บทที 7 ห้ามเลน่ การพนนั (ทงั ทีถกู และผิดกฏหมาย) อย่างเดด็ ขาด “การพนนั ไมเ่ คยทาํ ใหใ้ ครไดด้ ”ี ประโยคนถี ูกพสิ จู น์มาทุกยุคทุกสมยั และในชวี ติ ผม ผมไดป้ ระสบพบเจอกบั ผทู้ ลี ม่ สลายเพราะการพนนั อยหู่ ลายทา่ นทงั ทางตรงและทางออ้ ม.. ทางตรงกค็ อื การพนันทําใหเ้ สยี ทรพั ย์ อนั นีทุกคน เขา้ ใจและเห็นภาพ เพราะแต่ละคนกค็ งเคยมปี ระสบการณ์ตรงมาบา้ ง.. แต่ไอ้ทคี นไม่ค่อยรกู้ นั คอื ทางอ้อม ไดแ้ ก่ การเพาะบ่มนิสัยของนักพนัน ทําให้วิธีคิด แนวทางการใช้ชีวิต เป็นไปในทิศทางของการพนันโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอยา่ งยงิ พวกทเี ขา้ บอ่ น (หรอื แมแ้ ต่ซือขายหุ้นรายวนั ) วญิ ญาณของนกั พนันกจ็ ะเขา้ สงิ เกาะกนิ กดั กรอ่ นใน หวั ใจและสรา้ งความล่มสลายทงั ในดา้ นของทรพั ย์สนิ และรวมไปถงึ อารมณ์แบบทเี ราไมค่ าดคดิ ทเี ดยี ว.. เพอื ใหช้ ชี ดั และเขา้ ใจเรอื ง “การพนนั ” ให้ดยี ิงขนึ กต็ ้องอธบิ ายคําว่า “การพนัน” เสยี กอ่ น การพนนั ในความ คดิ เหน็ ของผม คอื การเขา้ รบั ความเสยี งแบบทเี ราไมส่ ามารถควบคมุ อะไรไดห้ รอื ควบคมุ ไดน้ ้อยมาก.. ยกตวั อย่างเช่น การเล่นไพ่หรอื การซอื ลอตเตอรร์ ี หรอื แมแ้ ต่การเล่นหุ้นรายวนั นันกเ็ พราะวา่ เราไม่สามารถควบคุมใดๆ ไดเ้ ลย และ ตอ้ งคอยลุน้ กบั ปจั จยั ทเี ราไมท่ ราบได้.. สาํ หรบั คาํ อธบิ ายเรอื งนมี เี พมิ เตมิ อกี สกั นดิ คอื เมอื หลายปีก่อน มคี นถามผมวา่ ทําไมผมถึงไม่ลงทุนทองคํา ผมตอบเค้าไปว่า ลําพังวิเคราะห์หุ้นทีเห็นตัวเห็นตน มนั กย็ ังมีสงิ ทีซ่อนอยู่เยอะ มตี วั แปรมากมายทเี ราตอ้ งคอยเฝ้ าสงั เกต ผมไมม่ คี วามสามารถมากพอทจี ะเขา้ ลงทุนทองคํา ซึงทุกวนั นีผมยงั ไม่รูเ้ ลย วา่ ราคามนั ขนึ ลงอยา่ งไร หรอื มใี ครกาํ หนด ตวั แปรในระดบั ทเี ป็นตลาดโลกซงึ อาจจะไมม่ ใี ครบนโลกนที รี จู้ รงิ .. ในความคดิ ของผม “การพนนั ” หรอื ทบี างคนเรยี กวา่ “การเกง็ กาํ ไร” ผทู้ จี ะประสบความสาํ เรจ็ อาจจะเป็นเพียง แคค่ นหยบิ มอื ซงึ ใหญพ่ อทจี ะมอี ํานาจกาํ หนดตลาดทงั ในทางตรงและทางลบั โดยทเี ราไมร่ ู้ ซึงคนเหล่านีก็คอื “เจ้ามอื ” ทีเรามองไม่เหน็ ซึงสาํ หรบั เราแลว้ เราไม่ไดม้ คี วามไดเ้ ปรยี บแบบนัน ต่อให้ชนะ 9 ครงั การแพค้ รงั เดยี วกอ็ าจจะ สามารถทําใหช้ วี ติ ของเราวบิ ตั หิ ายนะไดท้ นั ที นแี หละ “ความน่ากลวั ของการพนัน” แต่กไ็ ม่น่าเชอื วา่ คนส่วนใหญ่ยงั คง เอาเงนิ เกบ็ อนั มคี า่ ของตนเขา้ สโู่ ลกของ “การพนนั ” โดยทเี รยี กมนั วา่ “การลงทุน” ไมว่ า่ จะรตู้ วั หรอื ไมร่ ตู้ วั กต็ าม.. (ตําอธบิ ายเพิมเตมิ ในความคิดของผม การลงทุนในออปชนั วอแรนต์ ตลาดซือขายล่วงหน้าหรอื อืนๆทีมี อายุการลงทุนทสี นั ผมขอเรยี กว่ากลุ่ม “อนุพนั ธ์” หรอื “derivatives” ในความเหน็ สว่ นตวั ของผม ถือวา่ เป็นการพนัน ทงั สนิ เพราะนอกจากเราจะไมส่ ามารถคาดเดาปจั จยั ใดๆ ในระยะสนั ไดแ้ ลว้ นัน เรายงั ตกเป็นเหยืออนั โอชะให้ ผอู้ อก ตราสารหรือขาใหญ่ประจําตราสารนันๆ หลอกจับกินได้อย่างง่ายดาย เพราะเมืออายุอนุพันธ์เหล่านันสินลง กเ็ หมอื นการปิดบอ่ น ซงึ เราจะไมท่ ราบเลยวา่ “เคา้ ลุกไปกนั จนหมดโต๊ะ” ขายออกกนั ไปหมดตงั แต่เมอื ไหร่ เหลอื แต่เรา ทีนังอยู่และ “จ่ายค่าอาหารของทังโต๊ะ” และถึงแม้ว่าตัวกิจการทีอนุพันธ์ไปผูกพันไว้อาจจะเป็นกิจการทีดี การเหตุการณ์บางอย่างในระยะสนั ก็กจิ การกท็ ําให้อนุพนั ธ์ซึงหมดอายุในช่วงนันๆ ตกลงมาจนผูถ้ ือขาดทุนอย่าง มหาศาลได้ และเมือระยะต่อมากิจการฟืนกลับมาปกติ แต่ผู้ถืออนุพันธ์ก็จะไม่สามารถเรียกร้องใดๆ ได้แล้ว เพราะถูกจบั ขายตามกาํ หนดอายุสนั ๆ ของอนุพันธ์ไปแลว้ และโดยเฉพาะอย่างยิงกําไรชองคนหนึง จะตอ้ งมาจาก การขาดทนุ ของคนอกี คนหนงึ หรอื หลายคน ผมจงึ คดิ วา่ มนั เป็นการ “ลงแทง” มากกวา่ “ลงทุน”) ผมอยากจะกลา่ วถงึ เรอื งของ “วญิ ญาณนกั พนัน” อกี สกั หน่อย.. สําหรบั ในเรอื งนี ผมไดม้ คี นรูจ้ กั อยู่คนหนึง เป็นคนทชี อบเลน่ การพนนั เพราะชอบความตนื เตน้ เรา้ ใจ เคา้ เป็นคนเก่งทหี าเงนิ ไดม้ าก แต่ชอบกนิ เหล้าและเล่นการ 23 | P a g e
พนนั เคา้ เป็นคนไมต่ ดิ การพนนั เคา้ แคช่ อบเลน่ ผลทเี กดิ ขนึ กอ็ าจจะแคเ่ คา้ ไมม่ เี งนิ เกบ็ เพราะเวลาไดเ้ งนิ กเ็ อาไปเทยี ว เตร่ แต่เวลาเสยี เงนิ กค็ ดิ วา่ คนื ใหค้ นอนื สดุ ทา้ ยบวกลบแลว้ เคา้ ไมไ่ ดเ้ สยี เงนิ จากการพนัน แต่เคา้ เสยี เงนิ จากการลงทุน ในทางทีตนเองไม่ถนัด โดยเค้ามีความได้เปรียบจากการทีรู้จักคนกว้างขวางทําให้ได้งานใหญ่มาชินหนึง ซึงเคา้ ไม่เคยทํา แต่ดว้ ยนิสยั ของนักพนัน (ขอยืนยนั วา่ เป็นเพราะนิสยั นกั พนนั ) ทําให้เคา้ ใชค้ าํ ว่า “วดั ดวง” ไปเลย กับงานๆ นัน ผมรู้ดีว่าเค้าเองก็เป็นคนเก่งและได้ประเมินความเสียงด้านต่างๆ มามากพอสมควรแล้ว แต่ “นิสยั นกั พนนั ” ทําใหม้ อง “ความเสยี ง” เป็นเรอื งเลก็ น้อย และจากงานนันเองทําใหช้ วี ติ ของเคา้ ตอ้ งวนเวยี นอยู่บน กองหนีกอ้ นใหญ่ เคา้ ยงั โชคดที ีทางบา้ นชว่ ยคําจุนภาระหนีสว่ นใหญ่เอาไว้ แต่ผมคาดวา่ อาจจะต้องใช้เวลาถึงสบิ ปี ถึงจะฟืนขึนมาใหม่ ความสําเร็จในช่วงทีผ่านมา ถูกลบล้างเพียงงานๆ เดยี ว.. (ผมเคยแนะนําให้เคา้ ลงทุนหุ้น แต่เค้าถือหุน้ ยาวๆ ไมไ่ ด้ จิตของเค้าอยู่นิงเพือรอคอยโอกาสทีเหมาะสมไม่ได้ และเพราะการลงทุนมนั ไม่ทนั ใจ มนั ไมเ่ รา้ ใจ เคา้ เลยเปลยี นมาเลน่ หุน้ รายวนั และเลกิ เล่นไป เพราะเลน่ การพนนั รปู แบบอนื มนั ดรู วดเรว็ เรา้ ใจกวา่ ) เราอาจจะอธบิ ายเรอื งเหลา่ นใี นมมุ กลบั ไดอ้ กี ดว้ ย เพราะถา้ สงั เกตดู บรรดามหาเศรษฐี มกั จะประกอบธุรกจิ ทีเราชอบบอกว่าเค้าเป็น “เสือนอนกิน” ถ้าสังเกตดูเหล่าบรรดาผู้มังมีเหล่านัน มกั จะมีสดั ส่วนรายได้หลัก มาจากสงิ ทคี อ่ นขา้ งจะ “แน่นอน” จากกจิ การทใี หญ่โต หรอื คา่ เชา่ ทดี นิ ทมี คี วามสมาํ เสมอ.. เราเคยสงสยั ไม๊ วา่ ทําไมเศรษฐเี หลา่ นี ผซู้ งึ มที ีมทีปรกึ ษาคา่ ตวั แพงระยบั นบั สบิ ถึงยอมซอื กจิ การหรอื ทดี นิ ราคาแพง แพงกวา่ ราคาตลาดมากๆ ซึงบางครงั เราอาจจะมองว่าเคา้ โดนหลอกขายหรอื อย่างไร.. คาํ ตอบกค็ อื ว่า เคา้ “มงั ม”ี จนมองขา้ มขนั ตอน “การสร้างทรพั ยส์ ิน” ไปส่สู ิงทีสาํ คญั กว่ากค็ ือ “การรกั ษาทรพั ยส์ ิน” เพราะเงนิ ของเคา้ ถงึ จะมากกวา่ นี กม็ ากล้นจนกนิ ใชไ้ ม่หมด มสิ ูน้ ําไปซอื ทรพั ย์สนิ คุณภาพดี ทีดนิ ในทําเลทีไม่มงี อกขนึ มาอีก เพอื ทจี ะใหส้ งิ ทเี คา้ สงั สมมานนั “ยนื ยงคงอยตู่ ราบชวั ลูกชวั หลาน ให้ลกู ให้หลานทีแมอ้ าจจะไม่มคี วามสามารถก็ จะยงั เกบ็ กินได้ไมร่ จู้ กั จบสิน” น่าจะเป็นการดกี วา่ กเ็ ทา่ นนั เอง.. แต่ในมมุ ของเราทยี ังต้องดนื รนแสวงหา เรากย็ งั คงต้องลงทุนโดยยึดหลกั แห่งความคมุ้ คา่ ต่อไป และไมว่ ่า จะอย่างไร “การพนัน” กย็ ังคงเป็นสงิ ทีตอ้ งห้ามเด็ดขาด ถ้าเราต้องการแสวงหาความสงบในจติ ใจและความมงั คงั ทจี รี งั ยงั ยนื ซงึ ในบทนีถือวา่ เป็นอีกหนึงบททคี ่อนขา้ งพิเศษในความคดิ ของผม ถ้าหากลูกหลานของผมได้มีโอกาส ได้อ่านกข็ อให้บทความบทนี เตือนสติให้ระลึกถึงว่า บรรพบุรุษของท่าน ได้เฝ้ ายาํ เตือนถึง “อบายมุข” ทีร้ายแรงทีสุด ก็คือ “การพนัน” ซึงบางครงั แฝงตวั อยู่ในรูปของการลงทุนทีถกู กฏหมาย เพราะนอกจาก จะทําให้ตัวท่านเองต้อง “วิบตั ิฉิ บหาย” แล้ว ยังส่งผลไปถึงครอบครัวให้ประสบกับ “ความบรรลยั ” ขนาดทีเรียกได้ว่าตวั ท่านเองกค็ งไม่คาดคิดมาก่อน และกว่าท่านมีสติจะร้ตู วั “ความล่มสลาย” ทีเกิดขึน กย็ ากเกินจะเยียวยา แล้วหากเป็ นเช่นนัน ท่านจะรบั ผิดชอบต่อความประมาทเลินเล่อจากความ “โง่เขลา” ของท่าน จนสร้างความเดือดร้อนเลวร้ายลุกลาม แพร่กระจายความยากเขญ็ ไปสู่ผอู้ ืนทีต้องมารบั กรรม รว่ มกบั ท่านไดอ้ ยา่ งไร.. ผมแคฝ่ ากไวเ้ พอื เตอื นใจ.. ทนี เี รากเ็ ขา้ มาสเู่ นอื หาหลกั ของ “การลงทนุ ผา่ นตลาดหลกั ทรพั ย์” กนั เลยครบั 24 | P a g e
บทที 8 Passive Income เพือความมนั คงของชีวิต ด้วย “ห้นุ ปันผล” ผา่ นการลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ย์ เราทุกคนล้วนใฝ่ หาความมันคงทางการเงิน อาจจะไม่ต้องถึงขันทีว่ามี “อิสรภาพทางการเงิน” (อารมณ์ประมาณว่า “ตังใจ แต่ยังไปไม่ถึง”) แต่อย่างน้อยๆ เราก็ต้องการมีรายรบั ทีสมําเสมอเอาไวใ้ ห้อุ่นใจ.. ซงึ สงิ ทเี ราใฝ่ หา ภาษาองั กฤษ ใชค้ าํ วา่ “Passive Income” คาํ วา่ Passive แปลวา่ “อยู่เฉยๆ” ดงั นัน Passive Income กน็ ่าจะแปลวา่ อยู่เฉยๆ กไ็ ดเ้ งนิ มา.. อนั นขี อนบั เฉพาะอนั ทเี รานอนอยูน่ ิงๆ บนเตยี งกไ็ ดม้ านะ พวกทตี อ้ งออกแอคชนั อนั นีไมน่ บั เชน่ ซอื ๆขายๆ หนุ้ รายวนั แลว้ ไดเ้ งนิ มา อนั นีเคา้ เรยี ก “เกง็ กาํ ไร” ไมน่ บั เหมอื นกนั นะ.. แต่เดมิ คนเราอยากรบั ราชการ เพราะมบี ํานาญ ซงึ เป็น Passive Income แต่สมยั นีไม่มลี ะ.. เรากเ็ ลยม่งุ หา Passive Income ในรปู แบบอนื .. เอ๊ะ มนั มแี บบไหนมงั นะ แบบแรก เงนิ ฝาก.. เงนิ ฝากก็เป็น Passive income ต้นไมล่ ด ได้ผลตอบแทนแบบ Fix rate แต่ว่า ผลตอบแทนมนั นอ้ ยเหลอื เกนิ นอ้ ยกวา่ เงนิ เฟ้ ออกี ดว้ ยมงั แบบสอง พนั ธบตั รรฐั บาลและหุน้ กู้ อนั นีไดเ้ ยอะขนึ มาหน่อย ตน้ ไม่ลดเหมอื นกนั แบบ Fix rate เหมอื นกนั แต่ซอื ขายลําบาก เรยี กวา่ แปลงเป็นเงนิ สดไมไ่ ดท้ นั ที อนั นีกเ็ สยี งขนึ มาหน่อย คอื พอจะใชต้ งั ไม่ใช่ว่าจะไปถอนมาได้ ทนั ที เอ๊ะ.. ลมื ไป จะวา่ ตน้ ไมล่ ดกไ็ มไ่ ด้ เพราะถา้ บรษิ ทั ทอี อกหนุ้ กมู้ นั เจ๊ง เงนิ เรากส็ ญู นะ (ถา้ ขายทงิ ไมท่ นั ) แบบสาม ซือบา้ น ซือคอนโดปล่อยเช่า อนั นีเริมเสยี งขนึ มาอีกนิดหนึงละ เพราะเปลียนจากเงนิ เป็น ”สทิ ธิ” (Property right) ขอ้ ดคี อื ตน้ เงนิ มโี อกาสงอกเงย (แต่กม็ โี อกาสลดลง) จากการขนึ ลงของราคาทดี นิ ผลตอบแทนกม็ า จากคา่ เชา่ คอ่ นขา้ งสมาํ เสมอหากหาผเู้ ชา่ ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนือง อนั นีตอ้ งบอกวา่ การลงทุนแบบนี มกั จะเกดิ การ “แอบเจ๊ง” ขนึ จากการทหี าคนปลอ่ ยเชา่ ไมไ่ ด้ หรอื จากการทโี ดนหลอกขาย (หรอื เตม็ ใจ) ซอื มาในราคาแพง โดยเฉพาะชว่ งเวลาที ตลาดอสงั หารมิ ทรพั ย์ อยู่ในชว่ งทรี อ้ นแรง การลงทนุ ประเภทนี ผมคิดวา่ ต้องเป็นคนทีมเี งินเยน็ จงึ จะทาํ ได้ผลดี แบบทสี ี ลงทนุ ในกจิ การนอกตลาดหลกั ทรพั ย์ อนั นีใหน้ กึ วา่ เป็นการลงทนุ แบบเพอื นชวน (เพราะถ้าเราทําเอง เราเหนือย มนั กไ็ ม่ใช่ Passive income ละ) มตี งั แต่กจิ การเลก็ ๆ เชน่ ขายเสอื ผา้ ตามตลาดต่างๆ ไปจนถงึ กจิ การ รอ้ ยลา้ นใหญโ่ ต เป็นตน้ อนั นีความเสยี งกม็ ากขนึ ไปอกี เพราะเราไมเ่ หน็ เงนิ ของเราเลย หลงั จากทีโอนไปใหเ้ คา้ แล้ว.. เคา้ เรยี กวา่ “ไมอ่ ยู่ในความควบคมุ ของเรา” เราจะมาเห็นอกี ที ตอนเคา้ มี “เงนิ ปนั ผล ” มาให้ หรอื ตอนทีถอนหุ้นออก (ขายทงิ ) ซงึ บางครงั เรากจ็ ะพบกบั คาํ วา่ “ขาดทุน” แบบไมท่ นั ตงั เนอื ตงั ตวั แถวบา้ นเรยี กว่า “น๊อคมดื ” ซงึ ในช่วงชวี ติ ทผี ่านมาของผมเห็นการ “น๊อคมืด” ซึงทําให้ “หน้ามดื ” มาค่อนขา้ งบ่อย ทังจากความตังใจและไม่ตังใจ เพราะ โดยข้อเท็จจริง คือ เราจะเกรงใจ ไม่กล้าถามโน่นนีเกียวกับตัวกจิ การมากนัก ไม่กล้าขอดูงบ พอมาทราบอีกที กโ็ ดน “น๊อคมดื ” ไปเรยี บรอ้ ยแลว้ แต่ขอ้ ดขี องมนั กม็ นี ะ คอื ถา้ กจิ การมนั รงุ่ เรอื ง เงนิ ลงทนุ สว่ นของเราทหี มนุ เวยี นอยู่ใน บรษิ ทั กโ็ ตขนึ เงนิ ปนั ผลมนั กจ็ ะเตบิ โตไปเรอื ยๆ แบบทหี า้ การลงทุนในตราสารสทิ ธปิ ระเภทต่างๆ ไมว่ ่าจะเป็นหน่วยลงทุน กองทุนอสงั หารมิ ทรพั ย์ หรอื หุน้ สามญั ซือขายผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ อันนีเราเองไม่มีสิทธิในการบริหารจัดการหรือเข้าไปดูอะไรเลย (เพราะเราเป็นหนุ้ สว่ นทนี ้อยมาก) รอรบั “เงนิ ปนั ผล” อย่างเดยี ว แต่อย่างไรกต็ ามการลงทุนประเภทนี ถงึ แมจ้ ะไม่ได้ เขา้ ไปบริหารโดยตรง แต่รฐั บาลเค้ากย็ งั มีการให้เปิดเผยข้อมลู ค่อนข้างละเอียด ถ้าเราพิจารณาดูแลว้ กจ็ ะพบว่า 25 | P a g e
มนั กน็ ่าสนใจในระดบั หนึงนะ ทอี ย่างน้อยมงี บการเงนิ มาใหอ้ ่านทุกไตรมาส มขี อ้ มูลการเปลียนแปลงผูบ้ รหิ ารหรอื การถอื ครองหนุ้ ของผบู้ รหิ ารมาใหด้ ู แตก่ ารลงทุนประเภทนี กย็ งั นํามาซงึ ความเสยี งอยู่ดี แต่โดยสว่ นตวั คดิ ว่าดกี ว่าการ ลงทนุ แบบทสี นี ะ หรอื วา่ ไง.. การลงทุนตรงนี ถา้ กจิ การเติบโต เงนิ ของเรากโ็ ตตามไปดว้ ย เงนิ ปนั ผลกโ็ ตตามไปดว้ ย ผมเรยี กการลงทนุ แบบนวี า่ “การลงทนุ หนุ้ ปนั ผล” กแ็ ลว้ กนั นะ.. แบบทหี ก ซอื ประกนั แบบประกนั ทมี เี งนิ คนื ใหท้ ุกปี หลงั จากครบสญั ญา กจ็ ะมเี งนิ คนื ให้ 10 20 30 ปี วา่ กนั ไป ลงเงนิ ไปแต่ละปีชดั เจน ไดเ้ งนิ คนื ตามกรมธรรม์ ไมม่ คี วามเสยี ง เพราะบรษิ ทั ประกนั มกั จะคอ่ นขา้ งมนั คงอยู่ เงนิ ที เคา้ เอามาคนื เรา กค็ อื ดอกผลทเี คา้ ไดจ้ ากการนําเงนิ ของเราไปลงทนุ กบั หุน้ กแู้ ละหนุ้ สามญั นนั เอง ดงั นัน ตามคาดกค็ อื ผลตอบแทบทเี ป็น Passive ตน้ กจ็ ะคงที แตไ่ ดด้ อกผลตามกรมธรรม์ ซงึ อาจจะไมต่ ่างจากดอกเบยี เงนิ ฝากเทา่ ใดนกั จากทีไดค้ ุยกนั มา ทงั หกแบบขา้ งตน้ กค็ ือ การลงทุนทีทําให้เกดิ Passive Income หรอื การทีอยู่เฉยๆ กไ็ ดเ้ งนิ แต่ในความเป็นจรงิ กค็ อื มนั กค็ งไมไ่ ดง้ า่ ยขนาดนนั .. สงิ ทแี ตกตา่ งกนั คอื อะไร.. สงิ ทแี ตกต่างกนั ระหวา่ งการลงทุนหลายแบบทไี ดก้ ล่าวมาในขา้ งตน้ นัน มสี องประการ กค็ อื ประการแรก คอื “เงนิ ตน้ ” คอื เงนิ ทลี งทุนไป วา่ มโี อกาส “งอกเงย” หรอื คงที คาํ ว่า ”งอกเงย” กม็ กั จะหมายถงึ มโี อกาสทีจะ “ลดลง” ได้ ดว้ ย สว่ นความแตกตา่ งอยา่ งทสี อง กค็ อื “การเตบิ โตของผลตอบแทนทีได”้ คอื ขอ้ เท็จจรงิ กค็ อื ถา้ เงนิ ต้นไม่โต ดอก ผลกโ็ ตตามไมไ่ ด้ เปรยี บเหมอื นตน้ ไมท่ ไี มเ่ ตบิ โต กจ็ ะไมใ่ หด้ อกผลทมี ากขนึ ฉนั ใดกฉ็ นั นนั ดงั นนั ถา้ ถามผมวา่ ผมเลอื กลงทนุ แบบใด ผมกเ็ ลอื กลงทุนในแบบทหี า้ กค็ อื การลงทุนผา่ นตลาดหลกั ทรพั ย์ ทําไมผมจงึ คดิ เชน่ นนั เหตผุ ลกค็ อื วา่ การลงทุนโดยการฝากเงนิ พนั ธบตั ร หุ้นกู้ และกรมธรรม์ประกนั ประเภทต่างๆ เป็นการลงทุนทีเงนิ ตน้ ไมง่ อกเงย ทําใหด้ อกผลไมโ่ ตตาม ในขณะทกี ารลงทุนในอสงั หารมิ ทรพั ย์มสี ภาพคล่องทีตํา และผลตอบแทนเตบิ โตไดช้ า้ และการลงทุนในกจิ การนอกตลาดกม็ คี วามเสยี งสงู ในขณะทผี มเลง็ เหน็ ประโยชน์ของการ ลงทนุ ในแบบทหี า้ ซงึ กค็ อื การลงทนุ ผา่ นตลาดหลกั ทรพั ย์ หรอื การลงทุนใน “หองทนุ หุน้ ” หรอื “หุน้ ปนั ผล” ดงั ต่อไปนี ประโยชน์ขอ้ แรก ผมสามารถลงทุนดว้ ยเมด็ เงนิ อนั นอ้ ยนดิ ได้ เป็นเหตุใหผ้ มมโี อกาส “ชมิ ” ก่อนว่า “กองทุน” หรอื “หนุ้ ” ตวั ไหน “อรอ่ ย” หรอื ไม่ นอกจากนีทาํ ใหเ้ ราสามารถฝึกฝนการลงทนุ ดว้ ยเงนิ เพยี งน้อยนดิ ประโยชน์ขอ้ ทสี อง ผมสามารถเพมิ เงนิ ลงทนุ ไดต้ ามตอ้ งการ เมอื ผมมนั ใจวา่ กจิ การทลี งทนุ ไป สามารถเติบโต เป็นไปตามเป้ าโดยทไี มต่ อ้ งมกี ระบวนการทสี ลบั ซบั ซอ้ นขนึ แตอ่ ยา่ งใด ประโยชน์ขอ้ ทสี าม ผมสามารถตรวจสอบสภาพของบรษิ ทั ไดใ้ นทุกไตรมาส และรวู้ ่าผบู้ รหิ ารกาํ ลงั จะทําอะไร ในระดบั หนึง ซงึ ถา้ เราไมห่ ลบั หหู ลบั ตาลงทนุ ยดึ มนั ในสดั สว่ นทางการเงนิ และ ”การซือแบบมสี ่วนลด” อย่างเคร่งครดั โอกาสทเี ราจะพลาดหนกั ๆ จากการลงทนุ น่าจะมไี มม่ ากนกั ประโยชน์ขอ้ ทสี ี ผมสามารถ “ชงิ ” ไดท้ ุกเมอื ผมสามารถ “ถอนทุน” ออกจากตลาดหลกั ทรพั ย์ โดยเพยี งแค่ “สงั ขายหุน้ ” ซงึ การลงทุนนอกตลาดหรอื การลงทนุ ในอสงั หารมิ ทรพั ย์ ไมส่ ามารถทําไดง้ า่ ยนกั และข้อสดุ ท้าย ขอ้ ทหี ้า ซึงอาจจะเป็น “ตลกรา้ ย” ก็คอื ในวนั ทีราคาของ “กองทุนหุ้น” หรือ “หุ้นปนั ผล ” มนั เตบิ โตสงู มากจนผดิ ปกติในบางชว่ งเวลา ผมคดิ วา่ เราพรอ้ มจะสละเรอื แบบไมเ่ สยี ดาย “ปนั ผล ” ทีจะไดใ้ นอนาคต 26 | P a g e
ผมสามารถขายยกลอตไดโ้ ดยทคี นซอื ไมท่ ราบวา่ ผมเป็นใคร และตามมาดา่ ไมไ่ ด้ หลงั จากทหี ุน้ ปนั ผลตวั นนั ในภาย หลงั อาจจะมรี าคารว่ งลงมาอยา่ งหนกั จากราคาทขี นึ ไปสงู ผดิ ปกตเิ กนิ ไป.. ทงั หมดนี กเ็ ลยเป็นทมี าของ “การลงทุนในหุ้นปนั ผล ” ทจี ะกล่าวถึงในบทต่อๆ ไปครบั เราจะไดม้ าดกู นั วา่ เราจะลงทนุ อยา่ งไร ใหม้ นั เกดิ Passive income แบบยงั ยนื เพราะมนั คงไมไ่ ดห้ มายความวา่ อยู่เฉยๆ แล้วเงนิ เดง้ ขนึ ๆ เหมอื นชอื ของมนั ซะทเี ดยี ว.. 27 | P a g e
บทที 9 เงินทีได้มาอย่างรวดเรว็ ไมม่ จี ริงในโลกของการลงทนุ ผมขอทบทวนเกยี วกบั บทก่อนๆ สกั นิดหนึงก่อนนะครบั เพือให้มคี วามเขา้ ใจทีตรงกนั คอื เรากําลังคิด ทจี ะ “ลงทนุ ” เพอื ทจี ะหา Passive Income เป็นรากฐานชวี ติ ทงั ของตวั เองและครอบครวั ผมไดม้ กี ารสรปุ ประเดน็ เอาไว้ สองสามประเดน็ เกยี วกบั การลงทุนผ่านตลาดหลกั ทรพั ย์ กค็ อื ประเดน็ แรก การลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ย์สามารถ คอ่ ยๆ ลงทุนได้ ซงึ ผมวา่ เป็นเรอื งดที จี ะคอ่ ยๆ ทดลอง ประเดน็ ทสี องกค็ อื การลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ย์สามารถถอน เงนิ ลงทุนออกมาไดง้ า่ ย เพราะหุ้นทีเราสนใจจะเขา้ ลงทุน น่าจะมสี ภาพคล่องมากพอทเี ราจะขายออกไดส้ บายๆ และ ประเดน็ สดุ ทา้ ยคอื การลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ย์ สามารถตรวจสอบการลงทุน (งบการเงนิ ตามมาตรฐานบญั ชสี ากล) ไดใ้ นระดบั หนงึ สงิ ทสี ดุ พเิ ศษกค็ อื ผมสามารถตรวจสอบขอ้ มลู ยอ้ นหลงั ของมนั ไดน้ บั สบิ ๆ ปี และสงิ นีเองทีเป็นจุดแขง็ ทสี ดุ ในการลงทุนผา่ นตลาดหลกั ทรพั ย์.. ซึงจะสงั เกตได้ว่า ผมไม่เคยกล่าวถึง เรืองของการเก็งกําไรเลย แม้แต่สกั นิดเดียว หรือถ้าจะมีก็คือ การขายหนุ้ ใหน้ กั เกง็ กาํ ไร (หรอื อาจเป็นนกั ลงทุนทปี ระเมนิ มูลคา่ หุน้ ไมเ่ หมอื นกบั เรา) ทีสนใจจะเขา้ มาซือหุ้นทีเราได้ ลงทุนไวใ้ นราคา (แพง) พเิ ศษ โดยสําหรบั ผมเอง ราคาทีจะขาย คอื จะตอ้ งมากกว่าปนั ผลทจี ะไดร้ บั ในช่วง 5 -8 ปี ซงึ ผมมกั จะใชก้ ราฟทางเทคนิคเคลิ เขา้ ช่วยในจงั หวะทจี ะขาย เพือใหส้ ามารถขายไดใ้ นราคาทีดที ีสดุ ตามทีกราฟได้ บอกไว้ (ในทางเทคนิคแบบงงู ูปลาปลา ของผม ซงึ มเี พียงเครอื งมอื เดยี ว คอื การใชเ้ สน้ ค่าเฉลยี เคลือนทแี บบ EMA) ตรงจุดนี ผมถือว่าเป็นโบนัส และไม่คิดว่าเป็นหนึงในสาเหตุในการเขา้ ลงทุนหุ้นตวั นันๆ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า “ไมข่ ายกไ็ มเ่ ดอื ดรอ้ น กนิ ปนั ผลกส็ บายดี” อนั ทจี รงิ การทผี มไดข้ ายหนุ้ ออกไปกอ่ นนี กม็ แี นวคดิ มาจากการทผี มคาดวา่ ราคาหุ้นทีรอ้ นแรง น่าจะถดถอย ลงจากภาวะวกิ ฤตการณ์บางอยา่ งทอี าจจะเกดิ ขนึ ในชว่ ง 5 ปีขา้ งหนา้ ซงึ ผมยอมแลกโอกาสของผมกบั เงนิ ทีไดใ้ นวนั นี ผทู้ ซี อื ไปอาจจะสามารถทาํ กาํ ไรไดม้ ากกวา่ ผม และผมอาจจะไมม่ โี อกาสกลบั มาซอื หุน้ ตวั นีไดอ้ ีก (ถ้าราคาของหุน้ ตวั นนั ไมต่ กกลบั ลงมา) แตผ่ มคดิ วา่ กค็ งไมเ่ ป็นไร เพราะหุน้ ทดี ใี นตลาดน่าจะมากพอรองรบั เงนิ ลงทุนอนั นอ้ ยนดิ ของผม.. ถึงตอนนี ทางผอู้ ่านก็คงพอจะเห็นแลว้ ว่า การลงทุนผ่านตลาดหลกั ทรพั ย์ ในอกี มุมหนึงกม็ ภี าพสะท้อน ของการ ”เก็งกําไร”ทีแฝงอยู่ ซึงการ “เก็งกําไร” มที งั คนได้เงนิ และคนทีเสยี เงนิ การได้เงนิ ของคนๆหนึง ก็คอื “ความสญู เสยี ” และ “นําตา” ของคนอีกคนหนึง หรอื หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิงการเขา้ ลงทุนในกจิ การทมี มี ลู ค่า แทบจะไมม่ ากไปกวา่ “ขยะ” ซงึ ไมน่ ่าเชอื วา่ จะมอี ยู่มากมายในตลาดหลกั ทรพั ย์แห่งประเทศกอไก่ ซึงไม่รวู้ า่ มนั โผล่มา จากหลุมไหน และโดยมากผทู้ ีต้องเสยี ใจ กม็ กั จะเป็น “นกั ลงทุน” ทีขา้ มฝากไปเป็น “นักเกง็ กาํ ไร” ไมว่ า่ จะโดยตงั ใจ หรอื ไม่ตงั ใจก็ดี ทีไม่ได้เห็นความสําคญั ในพืนฐานการลงทุน แต่กลับยอมรบั ทีจะเขา้ ไปเสยี งกบั อะไรบางอย่างทีมี ลกั ษณะคลา้ ยกบั การพนนั “ดว้ ยความเตม็ ใจ” ซึงผมเองกไ็ ดย้ อมรบั “ดว้ ยความเต็มใจ” วา่ เคยเป็น “นักลงทุน” ทีขา้ ม ฝากไปเป็น “นกั เกง็ กาํ ไร” แลว้ หมดตวั กบั หนุ้ เพยี งตวั เดยี ว หลงั จากทกี ่อนหน้านนั ประสบความสาํ เรจ็ ในการลงทุนหุ้น พนื ฐานดตี ดิ ตอ่ กนั ถงึ 10 ตวั อย่างไรกต็ าม สงิ ทีผมพยายามจะสอื ในบทนี กค็ อื การทเี ราสามารถผสมผสานขอ้ ดขี องการลงทุนในตลาด หลกั ทรพั ย์ เพือสรา้ งความมงั คงั ในระยะยาวของเรา เตรยี มส่งต่อไปยังลูกหลานของเรา โดยข้อดีของมันกค็ ือ “การเคลือนย้ายเงนิ ลงทุนไดง้ ่าย” และมี “ระบบการตรวจสอบทีค่อนขา้ งเชือถือได้” จากระบบบญั ชมี าตรฐาน 28 | P a g e
และการไดม้ าซงึ ขอ้ มลู ยอ้ นหลงั ยาวนาน ทดี ยี งิ ไปกว่านัน หลายๆ กจิ การทีอยู่ในตลาดหลกั ทรพั ย์ กม็ กี ารเติบโตทีดี อยา่ งต่อเนอื ง เฉกเชน่ เดยี วกบั การทเี ราประกอบกจิ การหนึงๆ แล้วกจิ การเติบโตไดด้ จี นมคี นขอซอื เรากข็ ายออกโดย ไม่เสยี ภาษี (การซอื ขายผา่ นระบบ Matching ในตลาดหลักทรพั ย์ไดร้ บั การยกเวน้ ภาษี อนั นีกเ็ ป็นขอ้ ดีอีกขอ้ หนึง) กเ็ ทา่ นนั ทนี ี ผมจึงต้องมาดกั อารมณ์และความรูส้ กึ ของผูอ้ ่าน ตงั แต่บททีสองนีว่า เรามจี ุดมงุ่ หมายคอื “เพอื ลงทุน” โดยใชก้ ลไกของตลาดหลกั ทรพั ยใ์ นการ “จาํ กดั ความเสยี ง” ซงึ วธิ กี ารหรอื กลยุทธ์ จะไดก้ ล่าวถึงในช่วงกลางๆ ท้ายๆ ของเล่มนี (และไดม้ กี ารกล่าวถงึ โดยละเอียดในหนังสอื “มคี วามสขุ กบั หุน้ ปนั ผล By หมสี ม้ เล่ม 1 และ 2 แลว้ ) ซงึ ผมขอเน้นยําวา่ “การเกง็ กําไรเป็นอนั ตรายต่อการลงทุนระยะยาว” และ “การเกง็ กาํ ไรเป็นอนั ตรายต่อการลงทุน ระยะยาว” และ “การเกง็ กาํ ไรเป็นอนั ตรายต่อการลงทุนระยะยาว” แต่อนั นี ถ้าใครมคี วามชาํ นาญมากๆ อนั นีกไ็ ม่รนู้ ะ รแู้ ต่วา่ ผม “เกง็ กาํ ไร” แลว้ “เจ๊ง” ทุกที เพือให้คําอธิบายของผมดูมนี ําหนักมากขึน ผมขออนุญาตยกตัวอย่างการลงทุนทีประสบความสําเร็จ ในประเทศไทยนี ซงึ กจิ การไมว่ า่ จะเป็นเครือซีพี เครอื เซน็ ทรลั ปตท. หรอื ปูนซิเมนต์ทงั หลาย ทีไดเ้ ติบโตมาอย่าง ต่อเนืองยาวนานทบี รรดาเจา้ ของกจิ การไดเ้ กบ็ สะสมทรพั ย์สมบตั ิให้ลูกหลานไดม้ กี นิ มใี ช้ ล้วนแต่ใชเ้ วลาหลายสบิ ปี จะมีเร็วหน่อยก็คอื เครือชินคอร์ป ทีได้อาศยั ช่วงจงั หวะของการเปลียนผ่านทางเทคโนโลยีในการเจรญิ เติบโต แต่ถงึ แมก้ ระนนั กย็ งั ใชเ้ วลาเกอื บยีสบิ ปี ซงึ นีคอื “การลงทุน” ทตี ้องอาศยั ระยะเวลาอนั ยาวนาน ซงึ การทีเราลงทุนใน หนุ้ ปนั ผลทอี ยู่ในตลาดหลกั ทรัพย์กเ็ ช่นเดยี วกนั ทีผูเ้ ป็นเจา้ ของตอ้ งใชร้ ะยะเวลาลงทุนเพอื ให้กจิ การเตบิ โตออกดอก ออกผล เพยี งแต่เราอาจจะเหน็ การสวงิ ตวั ของมนั และทาํ ใหเ้ ราอยากขายมนั ออก เนืองจากมนั ซอื งา่ ยขายคลอ่ งนันเอง.. กอ่ นทจี ะจบบทนี ขอแถมถงึ เรอื งตลก (สาํ หรบั ผม) อีกหนึงเรอื ง.. ผมจําไดว้ า่ ช่วงกอ่ นทีหุน้ พลงั งานตวั หนึง จะเขา้ ตลาดมา ทุกคนล้วนอยากซอื หุ้นพลงั งานตวั นนั และผมจําไดว้ ่าก็มเี สยี งบ่นๆ ว่า “ทําไม หุน้ พลงั งานตวั นัน ไม่เขา้ ตลาด” สงสยั รฐั บาลจะเกบ็ ไว้กนิ คนเดยี ว กจิ การผูกขาดขนาดนัน.. พอวนั ทีหุ้นพลงั งานตวั นัน เข้าตลาด ผมไม่รู้ว่าคนทีบ่นเหล่านัน ได้ซือหุ้นพลังงานตัวนัน ไว้บ้างรึเปล่า แต่ก็มีเสียงบ่นจากคนอีกกลุ่มหนึงว่า “กจิ การผูกขาด ทําไมรฐั บาลไมเ่ กบ็ เอาไวเ้ อง เอาเขา้ ตลาดมาเพอื ใหน้ ายทุนซือ” ทงั ๆ ทเี ราเองกส็ ามารถซือมนั ได้ ทุกวนั ทีตลาดเปิดทําการ และมหิ นําซําหุ้นพลงั งานตัวนัน ยงั โดนหลายคนหมายหัวเอาไวด้ ว้ ยว่า เป็น “หุ้นเน่า” ซงึ ผทู้ กี ลา่ วถงึ หมายความวา่ “ราคาไมไ่ ปไหน” ทงั ๆ ทผี มคดิ วา่ กาํ ไรมนั โตทุกปี ราคาไมไ่ ปไหนกย็ งิ สิ จะไดเ้ กบ็ หุน้ ใน ราคาสดุ พเิ ศษ(ไมไ่ ดเ้ ชญิ ชวนใหม้ าซอื หนุ้ พลงั งานตวั นนั นะครบั ) เรอื งนกี ว็ า่ กนั ไป.. 29 | P a g e
บทที 10 Passive Income มาจากไหน มนั เติบโตไดอ้ ยา่ งไร ทนี ีเรากเ็ ขา้ มาถงึ พระเอกของงานนี กค็ อื ทมี าของ Passive Income อนั ไดแ้ ก่ “เงนิ ปนั ผล ” และการเติบโต ของ Passive Income กค็ อื การเตบิ โตของ “เงนิ ปนั ผล” นนั เอง เงนิ ปนั ผล (dividend) มาจากไหน.. เงนิ ปนั ผลกม็ าจากการปนั สว่ นกาํ ไรคนื ออกมาใหแ้ กผ่ ถู้ อื หุ้น ในขณะทีเมอื ปนั ผลออกมาจํานวนหนึง (อาจจะ 30-100% ของกําไรทีทําไดใ้ นปีนันๆ แล้วแต่นโยบายของบรษิ ทั ) ส่วนทีเหลือกจ็ ะ “ทบกลบั ” ไปลงทุนต่อ ยกตวั อย่างเชน่ ปีนีทํากําไรได้ 15% เมอื เทียบกบั ส่วนของผู้ถอื หุ้น จึงเอา 5% มาปนั ผล และนํา 10% ทีเหลอื มาลงทุนขยายกจิ การต่อ พอปีต่อมาหากผลงานไม่ตก กําไรกค็ วรจะเพิมขนึ อีก 10% เป็นต้น ดว้ ยเหตุนี ทําใหด้ อกผลในปีตอ่ ๆ ไปงอกเงยขนึ ตรงจุดนเี คา้ เรยี กวา่ “ความมหศั จรรยข์ องการทบตน้ ” เพอื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทมี ากขนึ ผมขออนุญาตยกตวั อย่างทเี กดิ ขนึ จรงิ มาสกั สองเรอื งครบั .. เรอื งแรก เกดิ ขนึ เมอื ปี 2550 มเี พอื นผมมาถามวา่ หมา่ ม๊าอยากลงทนุ หุน้ เอาตวั ไหนดี แกกลา้ ๆกลวั ๆ เพราะ เขด็ ปี 2540 หมกี เ็ ลยแนะนําหุน้ AAA (ในหมสี ม้ เล่มที 2) ไปใหเ้ คา้ เคา้ กซ็ อื ไปทรี าคา 80 บาท ซอื ไปหลายลา้ นบาทอยู่ ตอนนันปนั ผลเกอื บ 5 บาท กไ็ ด้ราวๆ 5% กว่า ซึงเคา้ กพ็ ึงพอใจ ดีกว่าเงนิ ฝาก แต่ก็ยังกงั วลเรอื งความเสียง พอปี 2551 วกิ ฤตแฮมเบอรเ์ กอร์ ร่วงลงไปถงึ 50-60 บาท พอเราเชค็ ดูผลประกอบการแลว้ ปรากฏว่ากจิ การกไ็ ม่ได้ แยล่ งไปเลย กระแสเงนิ สดกย็ งั ดี กเ็ ลยซอื เพมิ ไปอกี ทําใหม้ หี ุน้ เพิมขนึ มาเท่าตวั ทีตน้ ทุนเฉลยี ที 70 บาท มาปจั จุบนั หุน้ ตวั นีกร็ าคาดดี กลบั มาที 130 กว่าบาท และเคยไปที 160 บาทดว้ ย แต่หม่าม๊าไมส่ นใจราคาหุ้นแลว้ เพราะหมา่ ม๊า ไดป้ นั ผลตอนนี ปีละ 6 บาท ไดม้ าเกอื บ 10% จากเงนิ ทลี งทุนไปในตอนแรก ซงึ โดยขอ้ เท็จจรงิ คอื เมอื ยอ้ นหลงั สบิ ปีที ผา่ นมา หนุ้ ตวั นีใหผ้ ลตอบแทนต่อส่วนของผูถ้ ือหุน้ เฉลยี ที 16.47% และใหผ้ ลตอบแทนเป็นเงนิ ปนั ผลเฉลยี ที 5.93% เมอื เทยี บกบั การลงทุนที P/BV 1 เทา่ และกจิ การนียงั คงเตบิ โตขนึ อกี เรอื ยๆ จากเรอื งทีไดเ้ ล่าให้ฟงั นี จะสงั เกตว่า ผลตอบแทนเฉลียของหุ้นตวั นี มคี ่าเฉลียทีดมี าก แต่กย็ งั มบี างปีที ผลประกอบการตกลงมา เชน่ ในปีปจั จุบนั ซงึ ผา่ นไปครงึ ปี 2013 ผลตอบแทนในปีนีอยู่ที 10.63% ซึงน้อยกวา่ ค่าเฉลยี ขา้ งตน้ แตอ่ ย่างไรกต็ ามกย็ งั นบั วา่ เป็นกจิ การทดี ี โดยเฉพาะอย่างยงิ เป็นกจิ การโรงไฟฟ้ าทมี รี ายรบั ทคี อ่ นขา้ งมนั คง และน่าจะเชอื ไดว้ า่ ประเทศไทยยงั คงขาดแคลนโรงไฟฟ้ า.. เรอื งทสี อง เป็นเรอื งของเพอื นผม ผมู้ คี วามเชอื มนั อย่างแรงกลา้ ในการลงทุนหุ้นปนั ผล ซงึ ไดล้ งทุนหุ้น CCC (ในหมสี ม้ เลม่ ที 2) ในวนั ทรี าคาตกลงมาในชว่ งวกิ ฤตซพั ไพรม์ ซึงขณะนนั ของหุน้ ตวั นี ตกลงมาจาก 300 บาท เหลอื เพียง 80 บาท (หุน้ ตวั นีปจั จุบนั มรี าคาอยู่ที 450 บาท) จากการทมี ตี น้ ทุนอยู่ที 82 บาท การไดป้ นั ผลปจั จุบนั ปีละ 11-12 บาท สามารถทําใหเ้ คา้ ไดร้ บั ผลตอบแทน 13.5 – 15% ตอ่ ปี ซงึ ผมกไ็ ดถ้ ามเคา้ วา่ จะขายหุ้นเมอื ไหร่ เคา้ บอกวา่ “ไม่ขาย เพราะพอใจในเงินปนั ผล ” แต่ไม่ซือเพิม เพราะปจั จุบนั ถือว่า “ราคาสูง” แต่ก็มีมากระซิบอยู่ว่า “ถ้ามวี ิกฤตทีเริมเห็นได้ชดั อาจจะขายออกทงั หมด เพือเข้าลงทุนใหม่ในวนั ทีราคาถูกกว่า” โดยข้อเท็จจรงิ คือ ในรอบสบิ ปีทีผา่ นมา หุน้ ตวั นีใหผ้ ลตอบแทนต่อส่วนของผถู้ ือหุ้นเฉลยี ที 31.75% และให้ผลตอบแทนเป็นเงนิ ปนั ผล เฉลยี ที 16.75% เมอื เทยี บกบั การลงทุนที P/BV 1 เทา่ 30 | P a g e
จากเรอื งทงั สองเรอื งนี พอจะทําให้เราเหน็ ภาพไดว้ ่า ทงั สองเหตุการณ์ ผลู้ งทุนไดล้ งทุนและคดิ ถงึ การเป็น หุ้นส่วนของกิจการโดยแท้จริง โดยได้มกี ารวิเคราะห์ตัวกิจการทีได้เข้าลงทุนอย่างดี ก่อนทีเข้าทําการลงทุน เพราะสงิ หนงึ ทเี ราจะสงั เกตเหน็ ได้ สามารถแยกออกมาเป็นขอ้ ๆ ไดด้ งั นี ขอ้ แรก หุน้ ทงั สองตวั มขี นาดกจิ การทใี หญ่โต มกี ารเตบิ โตอย่างต่อเนืองตลอดสบิ ปีทผี า่ นมา แมใ้ นปีทเี กดิ วกิ ฤตซพั ไพรม์ กย็ งั สามารถทาํ กาํ ไรได.้ . ขอ้ สอง หุ้นทงั สองตวั มีการปนั ผลทุกปีอย่างสมาํ เสมอ โดยปนั ผลปีละสองครงั (ครงึ ปีจะปนั ผลหนึงครงั ) ทาํ ใหผ้ ลู้ งทุนเกดิ ความสบายใจไดว้ า่ จะมเี งนิ ปนั ผลกลบั คนื มาใหใ้ นแต่ละปีแน่นอน และทสี าํ คญั ปนั ผลโตขนึ ท ุกปีดว้ ย ขอ้ สาม หุน้ ทังสองตวั ประกอบกจิ การในตลาดทีมผี ขู้ ายน้อยราย หรือกล่าวไดไ้ ด้วา่ เป็นกจิ การกงึ ผูกขาด ซงึ ทาํ ใหก้ ารเตบิ โตของกจิ การ เป็นไปอยา่ งมนั คงและต่อเนืองยาวนาน สงิ ทไี ดก้ ล่าวมาทงั หมดนี จะวา่ ไปกเ็ ป็นขอ้ ดขี องการลงทุนผ่านตลาดหลกั ทรพั ย์ เพราะเราสามารถคน้ ขอ้ มลู และเอามาตีแผ่ได้เป็นฉากๆ มันก็เป็นเรืองดีทีเราไดล้ งทุนกิจการใหญ่โตดว้ ยเงินเพียงน้อยนิดทีค่อยๆ เก็บ แลดูว่าน่าจะดีกว่าการลงทุนประเภทอืนๆ อยู่พอสมควร ทังในแง่ของการเติบโตและในแง่ของความมนั คง และจะสงั เกตได้ว่า ในตลาดหลกั ทรพั ย์แห่งประเทศไทย แมว้ ่าจะมหี ุ้นที “ไมน่ ่าเข้าใกล้” อยู่มาก แต่กม็ ี “หุ้นทีดี” ทคี วรสะสมอยไู่ มน่ อ้ ยทเี ดยี ว.. พอมาถงึ ตรงนแี ลว้ ผอู้ ่านน่าจะพอเขา้ ใจคอนเซปต์ของการลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ย์ในระดบั หนึงแล้ว แต่ทนี ี ยงั ไมไ่ ดห้ มายความวา่ เราจะเขา้ ลงทนุ ในทนั ที เพราะเราคงตอ้ งมาวา่ กนั เรอื งราคาและจงั หวะทเี หมาะสมกนั สกั นดิ หนึง ทงั นีเพราะวา่ ตวั กจิ การทผี มไดน้ ํามายกตวั อย่าง เป็นกจิ การทดี มี ากทีเดยี ว แต่การไดม้ าซงึ สทิ ธคิ รอบครอง เรากต็ อ้ งดคู วามคมุ้ คา่ ของมนั ดว้ ย เปรยี บเสมอื นการเลอื กซอื ของในชว่ งทรี าคาสมเหตุสมผล ซึงเราจะไดม้ าเจาะลึกกนั ต่อไป.. 31 | P a g e
บทที 11 ระยะเวลากบั การลงทนุ บทนี กว็ า่ จะพดู ถงึ เรอื งเบาๆ กนั สกั นิดหนงึ เป็นเรอื งเกยี วกบั ระยะเวลากบั การลงทุน ซึงหลายๆ คนกค็ งจะ นึกวา่ ผมจะบอกใหร้ บี ลงทนุ เพอื ทจี ะไดม้ เี วลาใหเ้ งนิ ลงทนุ ไดท้ บตน้ ยาวๆ มขี นาดของพอรท์ ทใี หญ่โตขนึ .. แน่นอนวา่ การลงทนุ ในชว่ งเวลาทอี ายุนอ้ ย จะมเี วลาใหเ้ งนิ ไดท้ บตน้ และทวคี ณู เพมิ ขนึ ยาวนานกวา่ การลงทุน เมอื อายมุ ากขนึ แต่สงิ ทจี ะผมจะกลา่ วถงึ ในบทนี เป็นเรอื งของเวลา ในอกี แงม่ มุ หนึง กค็ อื ในแงม่ มุ ของ “การเรยี นร”ู้ สงิ ทีผมกําลงั จะบอกกค็ ือ “การลงทุน” มนั คอื “ทักษะ” ทีเกดิ ขนึ จาก “ความชํานาญ” เช่นเดยี วกบั การขี จกั รยาน การขบั รถ และการวา่ ยนํา ซงึ ความรแู้ คก่ ารฟงั (สตุ มยปญั ญา) หรอื การคดิ (จินตมยปญั ญา) มนั ไม่เพยี งพอ ต่อการใหเ้ กดิ ทกั ษะ มนั ตอ้ งการการปฏบิ ตั จิ รงิ (ภาวนามยปญั ญา) เขา้ มาดว้ ยเป็นองคป์ ระกอบสาํ คญั .. เพราะ “ทักษะ” มนั คอื ความเคยชิน คนทีทําอะไรประจําทุกๆวนั กจ็ ะเกิดความเคยชนิ ทําได้โดยไม่รูต้ วั (อารมณ์ประมาณคนเสยี บไมห้ มปู ิง) แต่ถา้ ไดม้ คี วามรจู้ ากการฟงั และคดิ ตาม กจ็ ะสามารถพฒั นาต่อไปไดอ้ ีก ระดบั หนึง และเมอื หลวมรวมกบั ประสบการณ์ คนๆหนึง ในเรอื งหนึงๆ กจ็ ะกลายเป็น “ผเู้ ชยี วชาญ” ทมี ี “ทกั ษะ” สงู ในงานนันๆ นนั เอง มนั กค็ งจะเหมือนกบั การทีเราไปลงทุนทํากิจการเล็กๆ แล้วเจ๊ง.. เชอื ไม๊ว่า การ “เจ๊ง” ไม่ใช่เรอื งแปลก เพราะเรายงั ทําไม่เป็น ยงั ไม่รู้ขนั ตอน วธิ กี าร เป็นเรอื งดซี ะอกี ทีเกิดความผดิ พลาด (กรณีทีเราไมไ่ ดท้ ุ่มสุดตวั นะ) เพราะถา้ มนั ไม่พลาด อารมณ์ประมาณโชคช่วย แลว้ เราเกดิ ย่ามใจ ทีนีเวลาเราพลาดดอกใหญ่ๆ อนั นีจะยุ่งกว่าเดมิ ซงึ ประเดน็ ปญั หาทีเราลงทุนอะไรแล้วไม่ประสบความสาํ เรจ็ กเ็ ป็นเพราะเงนิ ออมเรามจี ํากดั และเราไม่ไดม้ ที ุนรอน มาลองผดิ ลองถูกอย่างต่อเนือง บวกกบั ความเข็ดขยาด ทําให้เราไมก่ ล้าทีจะทําแบบเดมิ ๆ ทงั ๆทีมนั อาจจะใกลก้ บั ความสาํ เรจ็ เตม็ ทแี ลว้ กเ็ ป็นได้ กลบั มาที “การลงทุนในหุน้ ” การลงทุนในหนุ้ กเ็ ป็นเรอื งทตี อ้ งใชเ้ วลา ผมเปรยี บเสมอวา่ เหมอื นเราเดนิ เขา้ ไป ในปา่ มนั กเ็ ป็นเรอื งดที เี ราไดศ้ กึ ษาขอ้ มูลของป่ า (จากหนังสอื และคําบอกเล่าต่างๆ) มากอ่ นแล้ว แต่ในความเป็นจรงิ เวลาลงสนามจรงิ แลว้ “อารมณ์และความรสู้ กึ ” แตกต่างกนั มาก และบ่อยครงั ความกลวั ความลงั เล หรอื ความเสยี ดาย กจ็ ะผสมปนเปกนั ไปจนทําใหเ้ กดิ การตดั สนิ ใจผดิ พลาด.. ยกตวั อยา่ งตวั ผมเอง ทเี มอื กอ่ นทเี ขา้ มาลงทุนใหม่ เห็นหุ้นขนึ 3-4 ช่อง ดใี จจนเนือเตน้ ต้องขายๆ หรอื พอ หนุ้ ตกลงมา 3-4 ชอ่ ง กค็ ดิ กงั วลไปต่างต่างนานา ทงั ๆทงี บการเงนิ มนั กไ็ มไ่ ดป้ ระกาศออกมาใหมน่ ะ คอื ปจั จยั ทุกอย่าง ยงั เหมอื นเดมิ แต่ใจเราแกวง่ ไปเอง พอมาตอนนี จดสถติ ไิ วว้ า่ ผมถอื หุน้ เฉลยี ที 24 เดอื นตอ่ หนงึ ตวั ซงึ เอาเขา้ จรงิ โดย ความเหน็ สว่ นตวั กถ็ อื วา่ “สนั มาก” ถา้ เทยี บวา่ เป็นการลงทนุ แต่ทถี อื แคน่ ี เพราะหุน้ ทถี อื มรี าคาขยบั ไปกวา่ 2-4 เท่า ก็ เลยคดิ วา่ ขายออกไปกอ่ น เพราะราคามนั ขนึ แรงกวา่ ปจั จยั พนื ฐานทมี นั เตบิ โต (ซงึ กอ็ าจจะเป็นนสิ ยั ทไี มด่ ขี องผม) สงิ ทีเกดิ ขนึ กบั ตัวผมทีกล่าวมานี คอื “ทกั ษะ” หรอื “ความชํานาญ” เกดิ ขึนหลงั จากทผี มเขา้ ลงทุนมาแล้ว 10 ปี ซงึ กไ็ มไ่ ดถ้ อื วา่ เกง่ กาจอะไร เพราะคนอยู่มานานกน็ ่าจะเป็นแบบนีหมด เพราะว่าสบิ ปี กถ็ อื ว่าเป็นระยะเวลาที ยาวนานพอสมควรทีเดยี ว แต่ผมบอกเลยวา่ สงิ ทเี กดิ ขึนกบั ตวั ผม เป็นการเรยี นรูท้ ชี า้ มาก และ “ทกั ษะ” ทีเกดิ ขนึ 32 | P a g e
ก็ช้ากว่าผู้ทีเริมลงทุนปจั จุบันมาก .. เพราะในขณะนันหนังสือเกียวกับการวิเคราะห์ทางการเงิน มีน้อยมาก และผทู้ จี ะสนใจลงทุนหุน้ กน็ ้อยมาก จงึ ตอ้ งเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองเป็นหลกั ขอ้ มูลทงั หลายทเี ผยแพร่กไ็ ม่ดี ไมร่ วดเรว็ และ ครบถว้ นเหมอื นสมยั ปจั จบุ ัน สิงทีผมกําลังจะบอกก็คือ “ความกงั วล” บางอย่างทีจะบอกแก่ผู้อ่าน ทีเพิงเริมเข้ามาลงทุน ก็คือ “อยา่ เพงิ รบี รอ้ นลงทุน” ถา้ หากเป็นไปไดก้ อ็ ยากแนะนําให้ “คอ่ ยๆ ใสเ่ งนิ ลงไป” แลว้ จบั ความรสู้ กึ ดูการเคลือนไหวของ ราคา และตวั หุน้ เพราะสงิ ทเี ราทําคอื “การนําเงนิ ออม ไมม่ าก เพอื ใชไ้ ปกบั การเรยี นรูท้ จี ะหาเงนิ กอ้ นโต” ซึงผมเชอื ว่า มนั ไมไ่ ดเ้ สยี เวลามาก เพราะเราทดลองอยูใ่ นตลาดหนุ้ แค่ 1-3 ปี กค็ งพอจะเขา้ ใจหลายๆอย่างมากขนึ แลว้ ในเรอื งการ “ทดลองลงทุน”นี สาํ คญั อยทู่ ี “ความตงั ใจ” ทจี ะเรยี นรู้ คอื ไมใ่ ชว่ า่ เราลงทนุ เพยี ง 5,000 – 10,000 บาท แล้วเรากไ็ ม่ไดไ้ ปสนใจมนั ขอใหใ้ นการลงทุน เราคดิ ว่าถ้ามนั เป็นเงนิ กอ้ นระดบั “ล้านบาท” ล่ะ จะเป็นอย่างไร เพราะทผี า่ นมา บางคนทผี มแนะนําให้เคา้ “ทดลองลงทุน” ตงั ใจอยู่สองเดอื น สดุ ท้ายกล็ ะความสนใจไปเสยี อย่างนนั ทงั ๆทสี งิ ทเี ราตอ้ งการคอื “ความรแู้ ละประสบการณ์” มากกวา่ “กาํ ไร” ทจี ะไดร้ บั จากเงนิ กอ้ นนนั .. เชอื ไมว๊ า่ ผมคดิ ถงึ ขนาดทจี ะใหล้ กู หลานหดั ลงทุนในหุ้นตงั แต่มธั ยมต้น (โดยทีเราซือขายใหเ้ คา้ เคา้ แค่จิม) ให้เค้าได้ลองแบบผิดๆ ถูกๆ ให้ได้ซึมซับ แล้วพอเคา้ โตขึนมามธั ยมปลาย ค่าขนมครึงหนึงจะเป็นแบบ Fix สว่ นอีกครึงหนึง จะมาจากผลตอบแทนในการลงทุน (ขอไม่พูดถึงรายละเอียด เด๋วจะเรืองยาว) ผมเชือว่าช่วง มธั ยมปลาย ลกู หลานของผมจะตอ้ งระทกึ ใจทกุ ครงั แน่ๆ เวลาที FED ประกาศลด QE (ถา้ มนั ยงั มอี ยู่) กล่าวโดยสรุปกค็ อื ผมคิดว่า “การลงทุน” เป็นเรอื งทีต้องอาศยั ระยะเวลาในการเรยี นรู้ และหากมนั จะ มผี ดิ พลาดบา้ ง กไ็ ม่ใช่เรอื งแปลก เพราะผมเชอื ว่า “คนทีไม่เคยทาํ อะไรผิดพลาด คือ คนทีไม่เคยทําอะไรเลย” มนั สําคญั อยู่ตรงทีว่า เราได้เรยี นรู้อะไรจากสงิ ทีผดิ พลาด และก็หวงั ว่าความผดิ พลาดนันจะไม่ใหญ่โตเกินไปนัก เพราะจําไดว้ ่า หลงั จากทีผมหมดตวั จากเมอื สบิ ปีก่อน สงิ ทเี หลอื อยู่กค็ อื “เศษซากอายธรรม” และใชเ้ วลากวา่ 5 ปี สาํ หรบั การฟืนตวั ซงึ ระหวา่ งนนั กต็ อ้ งใชว้ ธิ เี รยี นรู้ จากการ “ลงทุนใหเ้ พอื น” ไปพลางๆ ทงั หมดนี ผมเองกห็ วงั ว่า ประสบการณ์ทีไดถ้ ่ายทอดออกมา จะชว่ ยใหผ้ ูอ้ ่านไดป้ ระหยดั เวลาทจี ะใชใ้ นการ ”เรยี นร”ู้ และเมอื ถงึ จุดๆ หนงึ เรากจ็ ะสามารถตดั สนิ ใจไดโ้ ดยไม่ลงั เลวา่ ตวั เราจะเป็น “นักลงทุน” หรอื “นักเกง็ กําไร” แตไ่ มว่ า่ จะเลอื กลงทนุ แบบใด จงั หวะการลงทนุ และการคดั สรรหุน้ ทเี ราจะลงทนุ ย่อมเป็นสงิ ทีสําคญั ทีสุดเสมอ เราตอ้ ง มาเสรมิ ความรกู้ นั เรอื งการหาจงั หวะเขา้ ลงทนุ และการคดั สรรหุน้ ทเี ขา้ ลงทุนกนั หน่อยดกี วา่ .. 33 | P a g e
บทที 12 จงั หวะทีเฝ้ ารอและการคดั สรร บทนีค่อนข้างตรงไปตรงมา จากชอื ของมนั ทีบอกว่าจงั หวะทีเราเฝ้ ารอและการคดั สรร โอกาสทีมาจาก วฏั จกั รทางการเงนิ หรอื การหมนุ เวยี นของเงนิ ทีไหลไปมา บทนีดเู หมอื นจะไมม่ อี ะไร แต่บางทมี นั อาจจะเป็น “หวั ใจ” ของหนงั สอื เล่มนที เี ดยี ว ทําไมผมจงึ กลา่ วเชน่ นนั นนั เพราะวา่ ตลอดทุกเล่มของหมสี ม้ มกั จะกล่าวถงึ เสมอว่าช่วงเวลาซือหุ้นทีดที ีสุด คอื ช่วงเวลาทีเกิดวกิ ฤตเศรษฐกจิ แต่ในเล่มนี เพือให้เกดิ ความชดั เจน จึงอยากจะแสดงให้เห็นภาพทีเกิดขึนจรงิ ในชว่ งทผี า่ นมา และผมกบ็ งั เอญิ ไดม้ โี อกาสเกบ็ เกยี วโชคนนั มาบา้ ง แมจ้ ะไม่ ”เตม็ เมด็ เตม็ เหนยี ว” กต็ าม ถา้ ถามวา่ ทําไมถึงไม่ ”เตม็ เมด็ เตม็ เหนียว” ผมกจ็ ะเฉลยใหเ้ ลยวา่ ชว่ งทคี นอนื เคา้ โดนๆ กนั (จากวกิ ฤต) ผมกโ็ ดนเหมอื นกนั แต่โชคดที ีโดนแล้วไม่เมาหมัด ไม่ไดก้ ลวั หรอื เขด็ แต่ย้อนกลบั มาซือหุน้ พืนฐานดที ลี งมาหนัก ทําใหไ้ ดท้ ุนคนื พรอ้ มกาํ ไรตดิ มอื มาบา้ ง แต่พอย้อนกลบั ไปคดิ “ถ้าทนรอได้ คงจะดกี ว่านีมาก” จากนนั มาผมจึงเขา้ ใจ หลายๆ สงิ มากขนึ และไดเ้ กดิ เป็นหนงั สอื “มคี วามสขุ กบั หุน้ ปนั ผล by หมสี ม้ ” เล่ม 1 นนั เอง เอาล่ะ ทนี ีเรามาดกู นั วา่ เราจะฉกฉวยจงั หวะเหล่านนั อยา่ งเป็นรปู ธรรมไดอ้ ย่างไร.. ผมขออนุญาตกล่าวถงึ ในเรอื งกระแสเงนิ หรอื Fundflow ซงึ เป็นสงิ ทผี มเองกไ็ มเ่ ขา้ ใจทมี าของมนั ไม่เขา้ ใจวา่ เมอื ไหร่มนั จะมา เมือไหร่มนั จะไป แล้วมนั จะมาหรือไปในอัตราเร่งอย่างไร และผมก็เชอื ว่าคงไม่มใี ครบนโลกนี ทจี ะทราบได้ เพราะปจั จยั ทที ําใหเ้ กดิ Funflow มนั เป็นความสมั พนั ธ์โดยเปรยี บเทยี บระหว่างดอกเบยี ระหวา่ งประเทศ ดุลการชําระเงิน ความเชือมันทางการเมือง หรือรวมไปถึงความจงใจในการเก็งกําไรของกองทุนข้ามชาติ ซงึ เป็นสงิ ทเี ราเองไมส่ ามารถจะทราบเกยี วกบั อะไรเหล่านีไดเ้ ลย ถา้ มนั จะสะท้อนออกมาบา้ ง เรากอ็ าจจะเห็นในรูป ของเมด็ เงนิ ต่างชาตซิ อื หรอื ขายหุน้ ในภาพรวม หรอื อตั ราแลกเปลยี นมกี ารเปลยี นแปลงแขง็ คา่ หรอื ออ่ นลงกเ็ ทา่ นนั .. อา้ ว.. ในเมอื ไมท่ ราบอะไรเลย แลว้ เราจะมาคุยอะไรกนั .. ผมขอเรยี นว่า มนั เกยี วขอ้ งกบั สงิ ทีผมเฝ้ ารอจาก การลงทุนนนั ซงึ บางทีกอ็ าจจะมอี ยู่เพยี งประเด็นเดยี ว คอื “จงั หวะลงทุนทีผมเชือว่าปลอดภยั ” และดว้ ยความทีว่า “จงั หวะ” มกั จะไปตรงกบั วนั เวลาทสี ินทรพั ย์มี “ราคาถูก” โดยบงั เอิญ และมนั ก็สะท้อนไปถงึ “ผลตอบแทนทีสูง” ซงึ เรากไ็ ดม้ กี ารอธบิ ายและเนน้ ยํากนั หลายครงั ทงั ในเลม่ กอ่ นๆ รวมมาจนถงึ เล่มนี ในทุกๆ ชว่ งเวลาทผี มประสบพบเจอในการลงทุนนนั แมจ้ ะเป็นเวลาทีไมน่ านนัก คอื เรมิ ต้นลงทุนในปี 2542 ผมพบเห็นสงิ ทีสําคญั ประการหนึงกค็ อื ผูท้ ลี งทุนและไดร้ บั ความสําเรจ็ ในการลงทุน จะลงทุนในจงั หวะๆ หนึงเสมอ จงั หวะนันผมเรยี กวา่ “จังหวะทคี นอืนเจ๊ง” หรอื “จงั หวะทีไม่มคี นสนใจจะลงทุน” ซงึ เป็นจงั หวะทีมีความปลอดภยั มากทสี ดุ (ดงั ทเี ราไดก้ ล่าวกนั ในบทต้นๆ ของหนงั สอื เล่มนี) และโดยมากมกั หลงั จากทีเกดิ สภาะวกิ ฤตทางเศรษฐกจิ หรอื อะไรสกั อยา่ งทที าํ ใหเ้ กดิ การพงั ทลายของหุน้ และผมเชอื วา่ ทุกคนจะมคี ําถามในใจว่า แล้วพอถึงวนั นนั เราจะคดั สรรหนุ้ ในการลงทนุ อยา่ งไร.. เพราะในเวลาทเี กดิ วกิ ฤตนนั หุน้ แต่ละตวั จะมอี าการดงั นี อาการที 1 “อาการเจ๊ง” จากสต๊อกวตั ถุดบิ หรือสนิ คา้ สําเร็จรูป มรี ูปแบบหลายหลากกนั ไป ถ้าเป็นบรษิ ัท ทเี กยี วกบั สนิ คา้ โภคภณั ฑ์กอ็ าจจะขาดทุนสต๊อกจากราคาทีซอื มาสงู แต่ต้องบนั ทึกในราคาตลาดปจั จุบนั ซึงต ํากว่า 34 | P a g e
(รายละเอยี ดเพมิ เตมิ อ่านในบทต่อไป) หรอื อาจจะเป็นบรษิ ทั ผลติ สนิ คา้ หรอื อาจจะเป็นอสงั หารมิ ทรพั ย์ทผี ลติ ของออก มาแลว้ และไมส่ ามารถปล่อยออกได้ ทาํ ใหเ้ กดิ “ทุนจม” ขนึ มา อาการที 2 “อาการซวย” หรอื อาจจะเรยี กว่าเป็น “อาการเจ๊งอนั สบื เนืองจากผูอ้ ืน” นนั คอื ความโชครา้ ย ทไี มส่ ามารถปกป้ องทรพั ย์สนิ หรอื สนิ ทรพั ย์ของตวั เองได้ เนืองจากของเหล่านนั อยู่ในมอื คนอืน เชน่ เงนิ กูท้ ีธนาคาร ให้กู้แก่คนอืนๆ เป็นต้น (เช่นเดียวกนั รายละเอียดเพิมเติมอ่านในบทต่อไป) หรอื อาจจะติดสญั ญาระยะยาว ทําใหท้ รพั ย์สนิ ไปอยู่ในมอื ของผูอ้ ืนแล้วเราทําอะไรไม่ได้ ยกตวั อย่างเช่น ปล่อยให้เช่าอาคาร เครอื งจกั ร หรอื เรือ แลว้ ผทู้ เี ชา่ กอ็ าจจะ เกดิ “อาการเจ๊ง” ไปกอ่ นแลว้ ฉุดใหบ้ รษิ ทั เหล่านที รดุ ตามไป (บางคนอาจจะบอกวา่ จะไปยากอะไร มนั ไมจ่ า่ ยกไ็ ปเอาของคนื มาสิ ไล่มนั ออกจากตกึ ไปสิ หรอื ทาํ อะไรกต็ ามทจี ะเอาของเรากลบั มา ซึงผมขอเรยี นว่าการที จะทําอะไรแบบนัน เราก็ต้องทําให้อยู่ภายใต้กรอบของกฏหมายทีระบุไว้ เราจะทําการโดยพลการไม่ได้ ซงึ กระบวนการทางกฏหมายกอ็ าจจะกนิ ระยะเวลาเป็นเดอื น เป็นปี หรอื เป็นสบิ ปี) อาการทงั สองนัน ทําให้ตลาดหุ้นหรอื แม้แต่สภาวะการลงทุนดู “มืดมน” และรู้สกึ ว่าถ้าทําอะไรกค็ งจะแย่ ไปซะทงั หมด ซงึ อนั ทจี รงิ แลว้ เป็นโอกาสทดี มี ากๆ ทเี ดยี วนะ เพราะมนั เกดิ การ reset หรอื ลม้ กระดานเพอื เรมิ ตน้ ใหม่ (ผมขอแอบนอกเรืองนิดหนึงนะครับ ผมได้เรียนรู้มาจากหนังสือหลายๆ เล่มว่า “หลักประกัน” เป็นสงิ ทีสําคญั มากในการดําเนินธุรกจิ เพราะธุรกจิ มโี อกาสลม้ เสมอ และสงิ ทจี ะทําให้เรายืนอยู่ได้ในระยะยาวคอื “หลกั ประกนั ” ทีจะมนั ใจได้ว่าคูค่ า้ จะไม่ทําร้ายจิตใจของเรา เพราะเคา้ กจ็ ะเลือกทีจะ “ชกั ดาบ” แก่เจ้าหนีทีไม่มี หลักประกนั เป็นอนั ดบั แรกๆ นอกเหนือไปจากนี “หลักประกนั ” ก็อาจจะหมายถึง การประกนั ความเสียงใดๆ ทบี รษิ ทั อาจจะยอมเสยี เบยี ประกนั เพอื ซอื ความสบายใจ เชน่ ประกนั ภยั ประกนั คา่ เงนิ เป็นตน้ ) ยอ้ นกลบั มาทอี าการ “เจ๊ง” และ “ซวย” ในชว่ งวกิ ฤตนนั เราจะพบกบั บรษิ ทั ทเี กดิ อาการเหล่านีอยู่เตม็ ไปหมด สงิ ทเี กดิ ขนึ ในตลาดหุ้นกค็ อื ความโกลาหล หุน้ ตกติดต่อกนั บางตัวตกลงมา 50% ของจุดสงู สุด และในวนั ทเี กิด เหตุการณ์นัน กอ็ าจจะมแี รงซือสวนอย่างต่อเนืองสลบั กบั ราคาทตี กลงมา ผมเจอผู้ทีซือสวนมากมาย ทีกลบั พบว่า ตนเองซอื สวนไปโดยคดิ วา่ หุ้นทีตกลงมาแล้วนันมรี าคาถูก แต่กลบั พบวา่ ตนเองต้องติดหุน้ ขาดทุนวอดวายในเวลา ต่อมา ยกตวั อย่างเชน่ หุน้ ตวั หนึงราคา 900 บาท ตกลงมา 800 700 600 500 มคี นซือสวนมาตลอดทาง โดยสุดท้าย หุ้นตกลงไปที 220 บาทแลว้ ขายขาดทุน ทงั หมดนีเกดิ จากความ “ไมเ่ ขา้ ใจเรอื งเวลาของการลงทุน” ซงึ การทรุดตวั ของมนั จะกนิ เวลานานนบั เดอื นนบั ปี ไมใ่ ชเ่ ป็นรายวนั หรอื แต่ไมก่ สี ปั ดาห์ ดงั นนั สงิ ทผี มจะแนะนําเวลาเราเจอกบั จงั หวะและโอกาสเวลาเกดิ วกิ ฤต กค็ อื ... ขนั ตอนแรก “ตงั สติ” ขอใหเ้ ขา้ ใจว่าเราไดร้ บั โอกาสการลงทุนทดี ที เี ขา้ มาในชวี ติ แล้ว และขอใหใ้ จเยน็ และ พิจารณาว่าเหตุการณ์นีจบหรือสินสุดรึยัง หายฝ่ ุนตลบรยึ ัง ผมเองมีวิธีหาจังหวะเข้าซือทีแนะนําให้ใช้ ก็คือ การใชก้ ราฟทางเทคนิเคลิ เพือดวู ่าเราควรเขา้ ซอื ได้หรอื ยงั (มนั กค็ งดูแปลกๆ ทีผมเน้นการวเิ คราะห์ปจั จยั พืนฐาน แต่บอกให้ดกู ราฟเทคนิเคลิ แต่ผมว่ามนั ใชไ้ ดน้ ะ ผมใช้ควบคู่กนั เสมอครบั ) ผมแนะนําให้ใชเ้ สน้ คา่ เฉลียเคลือนที (Exponantial Moving Average หรอื EMA) 25 วนั ตัดกบั เสน้ 100 วนั เพือดจู งั หวะทเี หมาะสมในการเขา้ ลงทุน (ซึงมอี ธิบายไวใ้ นบทที 19 ของหนังสอื หมสี ม้ เล่มที 1) ทีผมแนะนําเช่นนี เพราะผมเชอื ว่ากราฟเทคนิเคิลช่วย 35 | P a g e
เรอื งจงั หวะซอื ได้ โดยเฉพาะอย่างยงิ เมอื เกดิ วกิ ฤต ซึงเมอื เกดิ ขนึ มาแลว้ จะเกดิ การ “ซือสวนเพราะคดิ วา่ มนั ถูกแลว้ คงไม่ตกลงไปอีก” และ”กราฟเทคนิ เคิลจะช่วยให้เราพอทราบว่าห้นุ ทีเราสนใจ มีการทรงตวั ได้แล้วในระดบั ราคาทีตาํ นานเพียงพอให้เราร้สู ึกปลอดภยั ในการเขา้ ซือ” ขนั ตอนทสี อง (ซงึ อนั ทจี รงิ ควรจะตอ้ งทําเป็นอย่างแรกดว้ ยซํา) กค็ อื การวเิ คราะห์กจิ การโดยใชป้ จั จยั พนื ฐาน ซึงเป็นสิงทีสําคญั ทีสุดในการลงทุน แต่เพือไม่ให้ลงลึก อ่านยาก และยืดยาว ผมมีขอ้ สงั เกตทีผมใช้เป็นประจํา แบง่ ออกเป็นขอ้ ๆ ดงั นีครบั ขอ้ ที 1 กจิ การทจี ะเขา้ ลงทุน “หนีตอ้ งนอ้ ย” นนั หมายถงึ “ภาระทนี ้อย” ผมขออธบิ ายเรอื งหนีอีกสกั หน่อย คอื ผมเชอื วา่ กจิ การบางทจี ะรงุ่ หรอื รว่ ง บางทขี นึ อยูก่ บั จาํ นวนหนีเลยทเี ดยี ว กจิ การทมี หี นีมาก หมายความว่าต้องถูกบบี ใหท้ ํากาํ ไร เพอื เอามาจ่ายหนี ถา้ ไมท่ ําใชห้ นีกอ็ ยูไ่ มไ่ ด้ โดยเฉพาะอย่างยิงหนีทเี สยี ดอกเบยี มนั ทําให้เรามคี วามมนั ใจ ไดว้ า่ กจิ การนีมคี วามทนทานทจี ะ “ไมเ่ ละดว้ ยตน้ ทนุ ทางการเงนิ ” ไปพรอ้ มๆกบั วกิ ฤตทเี กดิ ขนึ เรอื งนผี มขอยกตวั อย่าง โรงปนู โรงหนึงซงึ เกดิ ภาระเงนิ กยู้ มื และดอกเบยี อนั เนอื งมาจากปี 2540 ซงึ ตวั กจิ การเองสามารถทํากาํ ไรไดเ้ สมอมา แต่ ขาดทุนหนักทุกปีจากต้นทุนดอกเบีย ซึงกอ็ าจจะเป็นเช่นเดียวกบั กจิ การโทรคมนาคมบางบรษิ ทั ก็ได้ เคา้ เรียกว่า “กรรมเกา่ มนั เยอะ เลยตอ้ งต่อยใชห้ นี” อะไรประมาณนนั ขอ้ ที 2 เงนิ สดเยอะ ผมชอบกจิ การทมี เี งนิ สดเยอะ มนั ทําให้ผมรสู้ กึ อุ่นใจ และเชอื ไม๊ว่าในชว่ งทีหุน้ ตกลงมา ตําทีสุดนัน หุ้นบางตวั มอี ตั ราส่วนเงินสดอยู่ที 10 บาทต่อหุ้น ในขณะทีราคาหุ้นตกลงมาเหลือ 13 บาทต่อหุ้น และมมี ลู คา่ ทางบญั ชอี ยู่ที 25 บาทตอ่ หุน้ ขอ้ ที 3 ตอ้ งเป็นกจิ การทมี กี ารรบั รผู้ ลการขาดทนุ จากภาวะวกิ ฤตไปแลว้ ยกตวั อยา่ งเชน่ ถา้ เป็นหุน้ โภคภณั ฑ์ กต็ ้องปรบั ขาดทุนสต๊อกสนิ คา้ ไปแลว้ หรอื ถา้ เป็นหุน้ สถาบนั การเงนิ กต็ อ้ งตดั หนีสูญไปแล้ว เพือทเี ราจะไดร้ ูว้ า่ สงิ ที เรากําลังจะเข้าลงทุน ผ่านช่วงทีเลวร้ายทีสุดไปแล้ว และนอกเหนือไปจากนี หลังจากเสร็จสินวกิ ฤต มักจะมี การสวงิ กลบั ของราคาสนิ คา้ โภคภณั ฑต์ า่ งๆ บางครงั อาจจะเกดิ กาํ ไรพเิ ศษจากการปรบั สต๊อกภายหลงั อกี ดว้ ย ขอ้ ที 4 เป็นบรษิ ทั ทเี ป็นผนู้ ําในอตุ สาหกรรมนนั ๆ เพราะผมเชอื วา่ ถา้ เราเลอื กบรษิ ทั ทเี ป็นผนู้ ํา ภายใตเ้ งอื นไข จากขอ้ 1-3 ขา้ งต้น มนั กน็ ่าจะเป็นบรษิ ทั ทีแขง็ แกร่งทีสดุ ทําให้วกิ ฤตทีเกดิ ขนึ อาจจะเป็นผลดีกบั บรษิ ัทกเ็ ป็นได้ เพราะรายเลก็ ถกู เคลียรอ์ อกจากตลาดไปหมด ทผี ่านๆมากเ็ ห็นบรษิ ทั ใหญ่ไปไล่เทคโอเวอร์ หรอื “ตบเดก็ ” ทไี มร่ อด จากวกิ ฤตทเี กดิ ขนึ เพราะอยา่ ลมื วา่ เวลาเกดิ วกิ ฤต บรษิ ทั ทอี ยูห่ รอื ไมอ่ ยู่ในตลาดหลกั ทรพั ย์ กเ็ จบ็ เหมอื นกนั หมด ขอ้ ที 5 ตอ้ งไมม่ แี นวโนม้ ขาดทนุ หนกั .. แน่นอนวา่ เราเลอื กบรษิ ทั ทแี กร่งทีสดุ สดั สว่ นทางการเงนิ ดที ีสดุ และ มีเงินสดเหลืออยู่มาก แต่หากเป็นกิจการทีมีแนวโน้มขาดทุนหนัก (ผมขอเอ่ยชือเลยแล้วกนั ว่าหนึงในนันเป็น อุตสาหกรรมเหลก็ ) เรากต็ ้องหลีกเลยี งอย่าไปยุ่งกบั มนั .. พูดถึงเรอื งนี ผมขออธิบายอะไรอกี สกั หน่อย คอื การทีเรา ขาดทนุ น้อยกวา่ ตลาด เชน่ วา่ ขาดทนุ แค่ 30% เองนะ จากทตี ลาดขาดทุนไป 40% มนั อาจจะเป็นความเท่ทีเราเก่งกวา่ คนอนื ในภาพรวม แต่โดยขอ้ เทจ็ จรงิ แลว้ มนั กย็ งั คงเป็นความหายนะของการลงทนุ ของเราอย่ดู ี ในบทตอ่ ไป ผมคดิ วา่ คงจะตอ้ งเขยี นถงึ หนุ้ บางกลุ่มสกั หน่อย เป็นกลุม่ ที “ตอ้ งระวงั ” หรอื “ควรหลกี เลยี ง” 36 | P a g e
บทที 13 ห้นุ กลมุ่ โภคภณั ฑ์ (Commodity) ผมอยากจะเล่าเรอื งราวของหุน้ กลุ่มทีนักลงทุนมกั จะพลาดกนั บ่อยๆ และเวลาโดนก็โดนกนั แบบชนิดที เรยี กวา่ “ลอ่ งจุ๊น” กนั ทเี ดยี ว หุน้ กลุ่มนีกค็ อื หนุ้ กลมุ่ สนิ คา้ “โภคภณั ฑ”์ หรอื “Commodity” สนิ คา้ โภคภณั ฑ์ กค็ อื อะไรทมี มี ากมายในโลกจนไมม่ ใี ครสามารถกาํ หนดราคาตลาดได้ ต้องใชร้ าคาทเี หวยี ง ตาม Demand-Supply ในตลาดโลก ยกตวั อยา่ งเชน่ นํามนั เหลก็ ขา้ ว ยางพารา หรอื มนั สาํ ปะหลงั เป็นตน้ รวมไปถึง สงิ ทเี กยี วเนืองจากสนิ คา้ ขา้ งตน้ เชน่ เมด็ พลาสตกิ (ผลติ จากปิโตรเคม)ี ยางสาํ เรจ็ รปู ต่างๆ อกี ดว้ ย สงิ ทจี ะทําใหเ้ ราเจ็บตวั กบั หุ้นประเภทนี ก็คอื การทีเราไมไ่ ด้ศกึ ษาในเรอื งของวงจร หรอื วฏั จกั ร (Cycle) ของสนิ คา้ แต่ละประเภท ไมว่ า่ จะดว้ ยความรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์กด็ ี หรอื ความประมาทกด็ ี ออกแนว ”ลกุ ชา้ จ่ายรอบวง”.. ดงั ทผี มไดก้ ล่าวขา้ งต้น ด้วยความทีวา่ ราคาถูกควบคมุ โดยกลไกราคาในตลาดโลก บางปีราคาดี บางปีกม็ ี ราคาตกตาํ เวลามสี งครามราคานํามนั ปรบั ตวั สงู ขนึ บางทอี อ้ ยทบี ราซลิ ขาดตลาด ราคานําตาลสูงขนึ บางปีกม็ มี ากเกนิ ราคากเ็ ลยตําลง เป็นอะไรเทอื กนี มนั กส็ ง่ ผลใหต้ น้ ทุนการผลติ หรอื ราคาขายสนิ คา้ ทีไปลงทุนผลติ มนั ไม่มเี สถยี รภาพ ผมจะขอเลา่ เรอื งทไี ดฟ้ งั มาจากกปั ตนั เรอื เทกองท่านหนึง ซึงผมเองกไ็ มแ่ น่ใจวา่ เรอื งนีจรงิ เท็จ แคไ่ หนเพราะผมเอง กไ็ มม่ คี วามรมู้ ากพอจะไปพสิ จู น์ แตฟ่ งั หไู วห้ เู ป็นความรกู้ แ็ ลว้ กนั .. คอื เมอื ประมาณชว่ งปี 2007-2008 ชว่ งกอ่ นทจี ะเกดิ วกิ ฤตวกิ ฤตซบั ไพรม์ ผมไปถามท่านวา่ ทําไมค่าระวางเรอื เทกองถงึ ขนึ สงู เหลอื เกนิ ทา่ นบอกวา่ ทที ําใหค้ า่ ระวางขนึ สูง เพราะประเทศจนี มกี ารจดั โอลมิ ปิก ซงึ โครงสรา้ งพนื ฐาน ต่างๆ สรา้ งไมท่ นั ทําใหต้ อ้ งระดมทุกอย่างเขา้ ไปในจีน โดยเฉพาะอย่างยงิ เหลก็ (โครงการสนามกฬี ารงั นกใชเ้ หล็ก มหาศาลมาก) และเมอื นําเขา้ เหลก็ มากกเ็ ลยตอ้ งนําเขา้ ถ่านหนิ เขา้ มามากตามไปดว้ ยเพอื นํามาแปรรปู เหลก็ ทีนําเขา้ มา สง่ ผลใหเ้ หลก็ มรี าคาสูงจากความตอ้ งการทีสงู ในขณะนนั ตามมาดว้ ยถ่านหนิ และเรอื เทกอง หรอื อาจจะกล่าวไดว้ ่า มนั เป็นความตอ้ งการทสี บื เนืองกนั นนั เอง อนั นีลองเอาพจิ ารณาดนู ะครบั .. เรอื งของเรอื งคอื สมมตเิ ราเป็นกจิ การทที ําธุรกจิ กบั สนิ คา้ ประเภทนี สมมติเป็นโรงกลนั นํามนั กแ็ ล้วกนั ถา้ ผม ซอื นํามนั ดบิ มาในราคา 70 เหรยี ญตอ่ บารเ์ รล เอามากลนั หลงั จากนนั 3 เดอื น ผลผลติ ชดุ นอี อกขาย ราคานํามนั ดบิ พุ่ง สูงขึนพอดี ขายได้ที 130 เหรียญต่อบาร์เรล (จากทีเดิมเคยคาดหวงั ว่าจะขายที 100 เหรียญต่อบาร์เรล) อะไรจะเกดิ ขนึ .. เราสมมติทีราคาต้นทุนนํามนั 70 เหรยี ญต่อบารเ์ รล รวมตน้ ทุนการกลนั ของเราสมมตทิ ี 20 เหรยี ญ ต่อบาร์เรล รวมต้นทุนเราก็จะเป็น 90 เหรียญต่อบาร์เรล (70+20) กะว่าจะขายที 100 เหรยี ญต่อบาร์เรล ไดก้ าํ ไร 10 เหรยี ญตอ่ บารเ์ รล (100-90) ปรากฏวา่ ฟลุค (หรอื อาจจะเกง่ ทเี ดาทางไดถ้ ูก) ไปขายไดท้ ี 130 เหรยี ญต่อ บารเ์ รล ทําใหไ้ ดก้ าํ ไร 40 เหรยี ญต่อบารเ์ รล (130-90) กลายเป็นกาํ ไรสงู ขนึ 300% เลยนะ ไอต้ รงนีล่ะทที ําให้คนโดน กนั เยอะ.. ทโี ดนกนั เยอะกเ็ พราะนึกกนั ไปเองวา่ กาํ ไรทเี กดิ ขนึ มาจากการเติบโตถาวรของกจิ การ เชอื วา่ การเติบโตนี เกดิ จากการผลติ ทขี ยายตวั ทาํ ใหเ้ กดิ จดุ คมุ้ ทุน การขยายโรงงานใหมไ่ ดผ้ ลแลว้ นะ หรอื อะไรกต็ ามทีทําใหเ้ กดิ บทสรปุ ของความคดิ ทีว่า “กาํ ไรในอตั ราสูงนีจะคงอยู่ตลอดไป” ราคาหุน้ แต่ละตวั ทีอยู่ในสภาวะ “บมู ” นี กอ็ าจจะทําให้ 37 | P a g e
ราคาหุน้ ขนึ ไดถ้ งึ 2-20 เทา่ ของราคากอ่ นทมี นั จะเกดิ การ “บมู ” ทนี ีวา่ คอื มนั กค็ งแฮปปี ถ้าเรารทู้ นั แล้วขายออกไปกอ่ น หลงั จากทจี บวฏั จกั ร (ไมไ่ ดค้ ดั คา้ นว่าลงทุนหุน้ กลุ่มนีไมไ่ ด้ แต่เราต้องรูว้ ฏั จกั รของมนั ) เพราะถา้ ราคาของโภคภณั ฑ์ กลบั เขา้ มาสสู่ ภาวะปกตแิ ลว้ ราคามนั กจ็ ะกลบั สภู่ าวะปกติ ซงึ อาจจะเหลือเพยี งครงึ เดยี วของจุดทมี นั ขนึ ไปสูงสดุ แลว้ ถา้ “ความซวย” มาเยอื น กค็ อื การทเี กดิ over supply หรอื การทแี ยง่ กนั ผลติ ชว่ งพคี แล้วล่ะก็ ราคาสนิ คา้ ทีเกยี วกบั โภค ภณั ฑ์เหล่านนั กอ็ าจจะตําจนต้องขายสนิ คา้ ในราคาขาดทุน ทําให้เกดิ ผลสะทอ้ นกลบั กนั จากทเี คยขายปกติไดก้ าํ ไร 10% กลายเป็นขายยงั ไงกข็ าดทุน เพราะราคาในตลาดโลกตํามาก อนั นีกค็ อื อนั ทีเราเจอกนั บ่อยๆ ทเี คา้ เรยี กกนั ว่า “ขาดทนุ สต๊อก” นนั ไง สนิ คา้ บางประเภท หลงั จากทีบูม กแ็ ย่งกนั ผลติ จนขนาดทวี ่า over supply กดราคาใหต้ กตําลง ไปอกี 4-5 ปีหลงั จากชว่ งพคี (เชน่ พวกพลาสตกิ หรอื ปิโตรเคมที เี กบ็ ไวไ้ ดน้ าน) ก่อให้เกดิ เป็นวฏั จกั ร สนิ คา้ โภคภณั ฑ์ แตล่ ะประเภท กม็ วี ฏั จกั รทไี มเ่ หมอื นกนั รปู แบบอาจจะคลา้ ยกนั แต่องคป์ ระกอบไมเ่ หมอื นกนั ดงั นนั หลงั จากทผี อู้ า่ นไดอ้ ่านมาทงั หมดแลว้ กห็ วงั วา่ จะมคี วามเขา้ ใจในการลงทุนหุ้นโภคภณั ฑ์มากขนึ คอื เราอาจจะ “ขนึ สวรรค์” หรือ “ลงนรก” จากหุ้นประเภทนีได้ สิงทีควรทําก็คอื ขอให้ดูราคาหุ้นย้อนหลงั สกั 10 ปี แล้วเราจะเห็นอะไรมากขนึ และถ้าจะให้ดี เวลาดรู าคาใหเ้ ปรยี บเทียบราคาโดยดูจาก P/BV จะเห็นภาพชดั เจนทสี ุด เพราะราคา 3 บาทของเมอื 10 ปีกอ่ น P/BV อาจจะเท่ากบั 5 บาทในปจั จุบนั กไ็ ด้ เพราะหุน้ แต่ละตวั มนั กม็ กี ารเตบิ โต ของมนั เอง จะไปยดึ วา่ ราคาเดมิ มนั คอื 3 บาทกค็ งไมไ่ ด้ ขนาดมาม่ายงั ขนึ ราคา และเรายงั กลบั ไปซอื มาม่าราคา 10 ปี ทแี ลว้ ไมไ่ ดเ้ ลย อยา่ งไรดต็ าม เพอื ใหเ้ หน็ ภาพทชี ดั เจนขนึ ผมจะแสดงกราฟราคายอ้ นหลงั ของหนุ้ กลุ่ม Commodity ซึงอยู่คน ละอตุ สาหกรรมกนั จํานวน 3 ตวั มาใหพ้ จิ ารณากนั นะครบั 38 | P a g e
39 | P a g e
บทที 14 ห้นุ กลมุ่ สถาบนั การเงิน ในบทนี อาจจะเขา้ ใจยากสกั นดิ คอื ผมอยากจะขอกล่าวถึงหุน้ กลุ่มที “ผมหลกี เลียงทจี ะลงทุนและไมแ่ นะนํา ให้ใครไปลงทุน” นนั กค็ อื หุ้นกลุ่มสถาบนั การเงนิ หรอื ทีเรยี กกนั ตดิ ปากว่า “หุน้ กลุ่มแบงก์หรอื รวมไปถงึ พวกลีสซิง และประกนั ภยั ต่างๆ” โดยนิยามของผม หมายถึง หุ้นหรือกิจการทีมี “สดั ส่วนหนีสิ นต่อทุนทีสูงมาก” และ “ใช้เงินลงทุนโดยวางไว้ให้อยู่ในมือของผอู้ ืน” เพอื ความเขา้ ใจทีชดั เจนขนึ ผมขออธิบายเกยี วกบั ลกั ษณะเฉพาะ ของสถาบนั การเงนิ สกั 2-3 ประการ ดงั นี ประการที 1 เป็นหุน้ จําพวกทใี ช้ leverage หรอื เงนิ กยู้ ืม ในสดั ส่วนทสี ูงมาก ยกตวั อย่างเชน่ ธนาคารหรอื ประกนั ภยั อาจจะมสี ว่ นของสนิ ทรพั ย์อยู่ที สองลา้ นลา้ นบาท ในขณะทีมสี ่วนของผถู้ ือหุน้ อยู่เพียง สองแสนลา้ นบาท นันหมายความว่าเงินลงทุนทังหมดนัน มีเงินของตนเองเพียงแค่ 10% เท่านัน (โดยข้อเท็จจริง หุ้นกลุ่มนี จะมสี ว่ นของทนุ อยูท่ ี 10-20% ของสนิ ทรพั ยท์ งั บรษิ ทั ) ประการที 2 เป็นหุน้ จาํ พวกทกี ารประกอบกจิ การ เป็นการใช้ “เงนิ ต่อเงนิ ” กค็ อื ถา้ หากไม่เอาไปปล่อยกูใ้ ห้แก่ กลุม่ ธุรกจิ หรอื บุคคลธรรมดา กม็ กั จะเป็นการไปซือตราสารทางการเงนิ ต่างๆ ซึงเป็นลกั ษณะของการจบั ชนระหวา่ ง ดอกเบยี ทจี ่าย (ใหแ้ กผ่ ฝู้ าก) และดอกเบยี ทไี ดร้ บั (จากการปลอ่ ยก)ู้ โดยมรี ายรบั จากคา่ ธรรมเนียมตา่ งๆ เป็นนําจมิ ประการที 3 เป็นหุน้ ทีการประกอบกจิ การถูกแทรกแซงจากระบบทุนนิยมเสรไี ด้งา่ ย ตงั แต่การทเี งินฝาก สามารถไหลเขา้ ออกโดยทไี มส่ ามารถควบคมุ หรอื คาดการณ์ไดจ้ นถึงอตั ราดอกเบยี ซึงมนี โยบายกํากบั ไว้ ซงึ ทงั หมดนี ขนึ อยู่กบั นโยบายภาครฐั หรอื กระแสเงนิ ทหี มนุ เวยี นในโลก ลกั ษณะประการทกี ล่าวถงึ ในขา้ งต้นนี กอ่ ให้เกดิ ความเสยี งแบบไรข้ ดี จํากดั จนกระทงั มผี นู้ ิยามว่าหุน้ กลุ่มนี “มนั จะดจี นถงึ วนั ทมี นั เจ๊ง” หรอื หมายความวา่ มนั อาจจะมสี ภาวะหรอื ผลประกอบการทีดอี ย่างยาวนาน แต่วนั ทมี นั ลม้ มนั กจ็ ะเกดิ ขนึ โดยเฉียบพลนั ทนั ใด สงิ ทที ําใหม้ นั เป็นเชน่ นนั ผมอธบิ ายสรปุ เป็นขอ้ ๆ ดงั นีครบั ขอ้ แรก “ฐานเงนิ ทุนไม่มเี สถียรภาพ” กค็ อื ดว้ ยความทมี นั เป็นหุ้นทมี หี นีสนิ เยอะมาก ทําให้เป็นกจิ การทีมี ความเสยี งสงู ประกอบกบั เป็นกจิ การทีขึนอยู่กบั ความเชอื มนั อาจจะเกิดเหตุการณ์แห่ถอนเงนิ แบบไม่มีเหตุผล ลองสมมติผมเป็นธนาคารแห่งหนึงทีมเี งนิ ทุนของตนเอง (ส่วนของผูถ้ อื หุ้น) เพยี ง 10 บาท สามารถระดมเงนิ ฝาก จากประชาชน (หนีสนิ ) ได้ 90 บาท รวมเป็นวา่ มเี งนิ ทนุ รวม (สนิ ทรพั ย์) 100 บาท เงนิ ส่วนใหญ่นีอยู่ในรปู ของเงนิ ฝาก เคา้ จะมาถอนออกเมอื ไหรก่ ไ็ ด้ ผมเองทําธรุ กจิ (ปลอ่ ยก)ู้ อยู่ดๆี ปรากฏวา่ ธนาคารเกา่ แกแ่ ห่งหนึงลม้ ขนึ มา อาจจะเกดิ จากการทจุ รติ ภายใน ซงึ ไมไ่ ดเ้ กยี วขอ้ งกบั ระบบการเงนิ ใดๆ เลย แต่ทําไงได้ คนส่วนใหญ่เกดิ ความกงั วลไปแห่ถอน สมมตวิ า่ ผมมเี งนิ กนั สาํ รองตามกฏหมายเพยี งแค่ 10% ของเงนิ ทนุ ทงั หมด แต่คนมาแห่ถอนถงึ 20% ของเงนิ ทุน มนั ก็ เท่ากบั วา่ ผมตอ้ งพยายามหาทางดงึ เงนิ กลบั จากเงนิ ทปี ล่อยกูไ้ ป ซึงกเ็ ป็นเรอื งทยี าก ครนั จะระดมเงนิ ฝากกย็ ิงเป็นไป ไมไ่ ด้ เพราะมแี ต่คนอยากถอน ไมม่ ใี ครอยากฝาก การขนึ ดอกเบยี เพือให้คนมาฝากเพมิ อาจจะยิงเป็นการสรา้ งความ ตนื ตระหนกมากขนึ แหถ่ อนเงนิ ออกมามากขนึ ดว้ ยซํา (เพราะนึกวา่ ธนาคารกําลงั แย่) แต่เรอื งตอ้ งยอมรบั วา่ ปจั จุบนั (ปี 2557) ธนาคารของประเทศไทยมคี วามแขง็ แกรง่ ดา้ นฐานเงนิ ทนุ คอ่ นขา้ งมาก ผมไดข้ า่ ววา่ มเี งนิ ทสี าํ รองไวถ้ ึง 15% ทงั ๆ ทตี ามมาตรฐานโลกกาํ หนดไวเ้ พยี ง 7-8% เทา่ นนั 40 | P a g e
ขอ้ สอง “เงนิ ไม่ได้อยู่ในมอื เรา” เพราะกิจการของธนาคารคือการปล่อยกูห้ รอื ซือตราสารทางการเงิน (ตามข้อบงั คบั ของธนาคารแห่งประเทศรสู้ ึกว่าจะห้ามดําเนินการในกจิ การทีไม่ไดเ้ กยี วกบั การเงิน) ทําใหธ้ นาคาร กจ็ ะตอ้ งปล่อยเงนิ ออกไปใหอ้ ยใู่ นมอื ของคนอนื แลว้ ตนเองทาํ หนา้ ที “ตามเกบ็ หน”ี และ “ทวงตงั ” แลว้ สมมติวา่ ธนาคาร มเี งนิ 100 บาท ปล่อยกูใ้ ห้กจิ การ 9 กจิ การ กจิ การละ 10 บาท รวม 90 บาท อกี 10 บาททีเหลือกนั สาํ รองไว้ หากวนั ดคี นื ดมี วี กิ ฤตเศรษฐกจิ ธนาคารทาํ ไดอ้ ย่างเดยี วคอื “สวดมนต์” ขอให้ไดเ้ งนิ คนื กลบั มาใหค้ รบ เพราะสมมตวิ า่ ธนาคารปลอ่ ยกไู้ ดด้ อกเบยี รวมคา่ ธรรมเนียมมหาโหดไดผ้ ลตอบแทนในการปล่อยกูเ้ ฉลียที 10% หกั ค่าตน้ ทุนเงนิ ฝาก สกั 3% ดาํ เนนิ การใดๆ สมมตวิ า่ สกั 2% รวมเป็นตน้ ทุน 5% เท่ากบั วา่ ธนาคารจะไดก้ าํ ไรสุทธจิ ากการปล่อยกคู้ อื 5% ของสนิ ทรพั ย์ทีปล่อยกู้ ตะกเี ราบอกว่าปล่อยไป 90 บาทเท่ากบั ว่าไดด้ อกกเบียที 4.5 บาทต่อปี ดเู หมอื นไม่เลว แต่ประเดน็ ทีผมจะชีให้เห็นก็คอื ถ้าเกิดว่าเจอคนเบยี วหนีแค่คนเดียว (1 จาก 9) กําไรทีมีจะหายไปหมดเลย และกนิ ทุนบางสว่ นดว้ ย และถ้ามคี นเบยี วหนี 2 คน (2 จาก 9) เมอื ไหร่ กจิ การจะล้มทนั ที และโดยปกติเวลาเกิด เหตุการณ์แบบนีมักจะเกิดจากวิกฤตระดับประเทศ จะมีคน (กิจการ) ทีไม่มีเงินมาจ่ายหนีเต็มไปหมด ถงึ แม้จะมสี ินทรพั ย์คําประกนั ไว้แค่ไหนกต็ าม กไ็ ม่ใช่ว่าจะเอามาชําระหนีได้ง่ายๆ เพราะสนิ ทรพั ย์อาจเสือมค่า จนไมค่ มุ้ หนี และกระบวนการทางศาลกย็ าวนานนับปี โชคยงั ดที ปี จั จุบนั (ปี 2557) ประเทศไทยเขด็ จากวกิ ฤต 2540 ทําใหห้ ลกั ทรพั ย์คาํ ประกนั คอ่ นขา้ งจะคมุ้ หนีและมผี คู้ าํ ทมี ตี วั มตี นเตม็ ไปหมด ขอ้ สาม “กระแสทุนเสรที ําให้กจิ การล้มไดง้ ่าย” คอื ทุกวนั นีโลกเราเป็นระบบทุนนิยมเสรี เงนิ ไหลเขา้ ออกได้ อย่างรวดเรว็ ทําให้ตราสารทางการเงนิ ต่างๆ มชี าวต่างชาติ กองทุนจากทวั โลก รวมไปถึงนักเกง็ กาํ ไรป้ วนเปียน มาอยู่เสมอ ระบบการเงนิ ของประเทศไทย ถอื วา่ เป็นประเทศเล็กและอาจถูกโจมตไี ดง้ า่ ย วนั ดคี นื ดเี งนิ ฝากทีต่างชาติ นําเขา้ มาพกั ไว้ อยู่ดๆี อาจจะไหลออกไปอย่างรวดเรว็ ทาํ ใหข้ าดสภาพคลอ่ งจนเราเดอื ดรอ้ น หรอื บางทีเราซือตราสารไว้ สมมติตราสารหนีกองหนึง มมี ูลค่ารวม 100,000,000 บาท เราซือไว้ 5,000,000 บาท สถาบนั การเงนิ อนื ๆ ในไทย ซือไว้ 85,000,000 บาท รวมมีสญั ชาติไทยซอื 90,000,000 บาท และมตี ่างชาติ ซือไวร้ วมกนั 10,000,000 บาท สมมติทุกคนซือทีราคาเท่ากนั เลยคอื หน่วยละ 10 บาท ในวนั ทีต่างชาตเิ ริมเขา้ มาซือลงทุน ค่าเงินบาทแข็งค่า จาก 33 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เป็น 30 บาทต่อ 1 ดอลลา่ ร์ (แขง็ คา่ ขนึ 10%) ประมาณวา่ มาดอกแรกตา่ งชาตมิ นั กไ็ ดก้ าํ ไร จากอตั ราแลกเปลยี นไปแลว้ 10% สมมตวิ า่ ตอ่ มาเกดิ วกิ ฤตเลก็ น้อยในไทย ต่างชาตขิ ายตราสารหนีกองหนีทิงไปหมด เลยทรี าคา 9 บาท สงิ ทเี กดิ ขนึ คอื ต่างชาตซิ งึ ถอื ตราสารไวจ้ ํานวน เพียง 1 ใน 10 สว่ น ทําให้ราคาของตราสารรว่ งลง มาทงั ยวง และในขณะนนั เราขาดทนุ ทนั ที 500,000 บาท (มลู คา่ สทุ ธติ กลงมาจากหน่วยละ 10 บาทเหลือเพียง 9 บาท) โดยทตี า่ งชาตอิ าจจะแคข่ าดทนุ คา่ ธรรมเนยี มนิดหน่อย เพราะยงั ไดก้ าํ ไรจากอตั ราแลกเปลยี นอยู่บา้ ง แต่คนซวยคอื เรา และถ้ามองใหล้ ึกไปกว่านัน เหตุการณ์ทีต่างชาติจะเร่งรีบขายจน “ความซวย” มาตกแก่เราและผองเพือนสถาบนั การเงนิ (ในประเทศ) มนั ตอ้ งไมใ่ ชเ่ รอื งบงั เอญิ มนั อาจจะมเี หตุการณ์ใดๆ และเหตุการณ์เหล่านนั มกั จะตรงกบั เวลาที ชาวประชามาแห่ถอนเงิน และเรากถ็ ูกบบี ให้ขายเงนิ ลงทุนใดๆ ในราคาทีขาดทุนจนแทบหมดเนือหมดตวั ยงิ เมอื รวมกนั กบั ฐานเงนิ ทนี ้อย ยมื เคา้ มาซะเยอะกท็ ําใหธ้ นาคารลม้ ไดท้ นั ที ทกี ล่าวมาทังหมด สรปุ สนั ๆ กค็ อื “มนั มีสิงทีควบคมุ ไม่ได้อยู่เยอะมาก แม้แต่เงินลงทุนของกิจการ” ซงึ ถา้ เป็นกจิ การอนื ๆ อาจจะเอาไปลงทุนในทดี นิ หรอื สนิ ทรพั ย์อะไรมากมาย แตข่ องสถาบนั การเงนิ คอื วางเงนิ ไวใ้ นมอื คนอืน ซึงจากประสบการณ์ทีผ่านมาทไี ดเ้ จอกบั วกิ ฤตต้มยํากุง้ ปี 2540 หรอื เลห์แมนบราเธอร์ ปี 2551 (ซบั ไพรม์ ) 41 | P a g e
มนั กท็ ําให้ผมไม่กล้าลงทุนในหุ้นกลุ่มนี เพราะว่าเวลาถึงคราวดวงแตก (เกดิ วิกฤต) มนั จะ “ซวยซําซวยซ้อน” จากการทหี นสี นิ เยอะพะรงุ พะรงั และโดนชกั ดาบ และเชอื ไม๊ว่าในช่วงปี 2540 มนี กั ลงทุนมากมายทถี ือหุน้ ธนาคารมา เป็นเวลาหลายปี และเชอื วา่ เป็นกจิ การมนั คง แต่ตอ้ งหมดตวั จากวกิ ฤต 2540 แบบไม่ทนั ตงั ตวั ซงึ ถึงแมว้ ่าระบบของ ธนาคารไทยในปจั จุบนั (ปี 2557) จะคอ่ นขา้ งรดั กมุ แต่ในภายภาคหน้าเราไมร่ วู้ า่ ความเขม้ งวดนี จะ “หย่อนยาน” และเต็มไปด้วยความประมาทหรือไม่ ถึงแม้ว่าในช่วงทีเศรษฐกจิ ดีหุ้นกลุ่มนีจะทําผลประกอบการได้ดีก็ตาม แตฐ่ านเงนิ ทนุ ของตนทเี ลก็ กวา่ สนิ ทรพั ยท์ งั หมดกย็ งั ทําใหเ้ กดิ ความเสยี ง “ขนั สงู สดุ ” อยูด่ ี ในการนี หากลกู หลานของผมไดเ้ ขา้ มาอ่านในบทนี แลว้ มหี นุ้ สถาบนั การเงนิ อยู่ กใ็ หข้ ายไปแล้วไม่ต้องไปยุ่ง เป็นหนุ้ กลมุ่ ทอี ยา่ เขา้ ไปแตะตอ้ งเลยจะดที สี ดุ “ห้ามแตะต้องโดยเดด็ ขาด” กอ่ นจบในบทนี ผมกข็ อแสดงภาพกราฟราคาย้อนหลงั ของหุ้นกลุ่มสถาบนั การเงนิ (คน้ หามาไดเ้ ฉพาะตวั ที รอดมาจากวกิ ฤต 2540 มาใหล้ องพจิ ารณากนั ครบั ) 42 | P a g e
43 | P a g e
บทที 15 ส่วนได้เสียและความตงั ใจในการบริหาร ผมเชอื วา่ ใครหลายๆ คนเคยทําธรุ กจิ หรอื ทดลองทาํ ธุรกจิ อาจจะเราลงทุนเองกด็ ี หรอื มหี ุ้นสว่ นหลายคนกด็ ี รวมไปถึงประสบการณ์ในการจ้างลูกจ้างมาทํางาน ผมเองกเ็ คยทําสงิ เหล่านันมาก่อน ทําให้ผมได้สงั เกตเห็นถึง ขอ้ เทจ็ จรงิ บางประการทเี ป็นสาระสาํ คญั ในการ “อยู่รอด” ของกจิ การ ดงั นี ขอ้ แรก “ถา้ กจิ การไมม่ ผี ถู้ อื ใหญ่ (คอื กลุ่มทลี งทุนเยอะกวา่ รายอืน) กจิ การอาจจะกลายเป็นอะไรสกั อย่างที ไม่มคี นดูแลจรงิ จงั ได”้ อนั เนืองมาจากไม่มใี ครเป็นผูม้ ีสว่ นไดเ้ สยี ใหญ่และอาจะเกดิ ความขดั แยง้ ในเรอื งการบรหิ าร เพราะเสยี งของแต่ละคน “ดงั พอๆกนั ” ถ้าเป็นในตลาดหลกั ทรพั ย์เหมอื นกบั กจิ การทีมผี ูถ้ ือหุ้นใหญ่หลายกลุ่ม และแต่ละกลุม่ กม็ หี ุน้ ในสดั สว่ นทพี อๆกนั กค็ อื “งดั กนั ได”้ (หลายกลมุ่ ในทนี ี หมายถงึ วา่ ไมใ่ ชญ่ าตกิ นั มาจากคนละทมี า ซงึ อาจมคี วามเหน็ ไมต่ รงกนั เพราะต่างคนตา่ งกจ็ ะมองในมมุ ทตี นไดป้ ระโยชน์สงู สดุ ซงึ กเ็ ป็นจุดยนื ทอี าจจะไมต่ รงกนั ) ขอ้ สอง “ถา้ กจิ การนนั ๆ ผถู้ อื หนุ้ ไมม่ าคมุ เอง จ้างผูบ้ รหิ ารมาคมุ (หรอื กจิ การขนาดเลก็ เป็นแคล่ ูกจ้างมาคุม) ถา้ ระบบตรวจสอบไมด่ ี โอกาส “เจ๊ง” สงู มาก” เพราะคนทคี มุ จะนําทรพั ยส์ นิ ของบรษิ ทั ไปใชเ้ พือประโยชน์สว่ นตน หรอื อาจจะบรหิ ารดว้ ยความหย่อนยาน เพราะอย่างไรเสยี ตนเองกไ็ ด้รบั เพียงคา่ จ้างเท่านัน ถ้าในตลาดหลกั ทรพั ย์กค็ อื บางบรษิ ทั ผูถ้ ือหุ้นใหญ่อาจจะกระจายยิบย่อยมากๆ จนทําให้ไม่มเี จา้ ของทีแทจ้ รงิ ทมี ผบู้ รหิ าร ซึงโดยมากจะเป็น ผกู้ อ่ ตงั หรอื เจา้ ของเดมิ แตข่ ายหนุ้ ทงิ ไปแลว้ (และมกั แอบขาย) กอ็ าจจะเอาทรพั ย์สนิ ไปขายในราคาตํา หรอื ผอ่ งถ่าย ประโยชน์ทีควรจะได้ในกิจการ ไปยังกิจการของเค้าเองทีเปิดไว้รองรับและไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เชน่ ขายเศษวสั ดใุ นการผลติ ในราคาตํากวา่ ความเป็นจรงิ มากๆ ให้แกบ่ รษิ ทั นอกตลาดซึงญาติ (นอมนิ ี) เป็นผถู้ ือหุน้ หรอื อาจจะขายทดี นิ ในราคาถูกกวา่ ราคาตลาด โดยอา้ งว่าเป็นราคาประเมนิ ของกรมธนารกั ษ์ (ซงึ มกั จะตํากว่าราคา ตลาดค่อนขา้ งมาก) หรืออาจจะทําสญั ญาเช่าทีดนิ ในระยะยาวเป็นระยะเวลา 30 ปี และจ่ายเงินสดล่วงหน้า โดยทดี นิ ทเี ชา่ เป็นของญาติ (นอมนิ ี) เป็นตน้ เรอื งพวกนเี กดิ ขนึ จรงิ และยงั คงเกดิ ขนึ เรอื ยๆ ในปจั จุบนั ขอ้ สาม “หนุ้ ใหญค่ มุ เองกย็ งั เจ๊งได”้ คอื แมว้ า่ ผถู้ อื หนุ้ ใหญ่จะมาคุมกจิ การเอง แต่ถ้าเป็นคนทีไรค้ วามสามารถ หรือไม่ตงั ใจบรหิ าร หรือไม่ใช่ตัวตนจรงิ ๆ ของผู้ถือหุ้นใหญ่ อันนีก็อาจจะเข้าขอ้ สองได้เหมอื นกนั คอื หมายถึง คนทผี ถู้ อื หุน้ ใหญ่สง่ มาแต่กลบั ไมต่ งั ใจคมุ กจิ การ เรอื งแบบนีบรษิ ทั ในตลาดหลกั ทรพั ย์จะเหน็ บอ่ ยกวา่ กิจการทวั ๆไป เพราะว่าบางทีมนั เป็น “รฐั วิสาหกจิ ” หรอื “รฐั ถอื หุ้นในปรมิ าณมาก” คนทีสง่ มาก็คอื คนๆหนึง (ซงึ อาจมีเสน้ สาย) กจ็ ะมแี นวโน้มทาํ อะไรเพอื ประโยชน์สว่ นตน ทนี เี พอื ใหง้ า่ ยต่อการนําไปใช้ ผมจะเขา้ สู่ shortcut ของผม ในการเขา้ ลงทุนและการตรวจสอบเรอื งนี.. อนั แรกคอื “ผมจะเลอื กลงทนุ ในหุน้ ทกี ล่มุ ผถู้ อื หุน้ ถอื หุน้ เกนิ 50% ขนึ ไป” (ใชค้ าํ วา่ กลุ่ม เพราะอาจจะถือกนั คนละชอื แต่เป็นพวกเดยี วกนั ) เพราะจํานวน 50% เป็นนยั ยะของความตงั ใจจรงิ ในการบรหิ ารงาน บางคนอาจจะ บอกว่าบางบรษิ ัท 30-40% ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โหวตชนะแล้ว แต่ผมจะบอกว่านีล่ะประเด็นสําคญั คือ “Inner” หรอื ความตงั ใจทจี ะสรา้ งความชวั รใ์ นการโหวต ซงึ อาจจะสะทอ้ นถงึ ความตงั ใจจรงิ ในการประกอบกจิ การ คนทีอยากได้ หนุ้ ถงึ 50% มกั จะเป็นผทู้ มี นั ใจในอนาคตของกจิ การ 44 | P a g e
อนั ทสี อง “ผมเลอื กลงทุนในบรษิ ทั ทีไมค่ อ่ ยมกี ารเปลียนแปลงสดั สว่ นผถู้ อื หุ้นใหญ่มากนัก” หรอื ง่ายๆ กค็ อื กลุ่ม 50% จะยงั ตอ้ งคงอยู่ไม่ว่าราคาหุ้นจะดดี ขนึ หรอื ตําลง ถ้ากลุ่มนียงั อยู่แสดงว่ากจิ การยงั พอทีจะไปได้ดีอยู่ เคา้ ยอ่ มจะรกั ษาผลประโยชน์ของตนเองไว้ เพราะในความเป็นจรงิ พอกจิ การเรมิ แย่ลง กลุ่มผูถ้ อื หุ้นใหญ่มกั จะมวี ธิ ีแอบ ขายหนุ้ ออกมาไม่ทางตรงกท็ างออ้ ม และบรษิ ทั กอ็ าจจะพบกบั จุดจบได้ ก่อนจะฟืนกลบั ขนึ มาใหม่ โดยผูถ้ ือหุน้ ใหญ่ กล่มุ เดมิ กลบั เขา้ มาซอื หนุ้ ในราคา “ซาก” โดยใหเ้ หตผุ ลวา่ “ทนเหน็ บรษิ ทั ทีสรา้ งมากบั มอื ลม้ ไปต่อหน้าไม่ได้ จงึ ต้อง นําเงนิ มาเพิมทุนรกั ษากิจการ” ดงั นัน ขอใหต้ รวจสอบและระมดั ระวงั การ “แอบขาย” หลายรปู แบบ เพราะเคา้ เอง ก็รู้ว่าเข้าข้อไหนต้องรายงาน 59-2 เข้าข้อไหนต้องรายงาน 246-2 เค้าก็จะมีวิธีเล่นแร่แปรธาตุของเค้า ซงึ ในทางกลับกนั เคา้ ก็อาจจะ “แอบซือ” ไดเ้ หมอื นกนั แต่มนั มกั จะเกดิ ขนึ เมือเวลาทีหุ้นมรี าคาตกตําลงมามาก แต่กเ็ ป็นเรอื งปกติ เพราะเคา้ บรหิ ารเองเคา้ ย่อมรูอ้ นาคตของบรษิ ทั ถ้าเราเจอพวก “แอบซอื ” เรากอ็ าจจะ “ซือตาม” เคา้ ไปไดบ้ า้ ง อนั ทีสาม “ผมเลอื กลงทุนในบริษทั ทีกลุ่มผู้ถือหุ้นหรอื ผูบ้ รหิ ารไม่มปี ระวตั ิเสีย” อนั นีเป็นเรอื งสาํ คญั มาก และดูได้ไม่ยาก แต่เป็นเรืองทีถูกละเลย บางคนกลับมองเป็นเรืองดีด้วยซํา ทีหากเจอพวกที “สนั ดานไม่ดี” เพราะตคี วามไปวา่ พวกนีจะเขา้ มาทําราคา ทําใหเ้ กดิ กาํ ไรมหาศาลไดใ้ นระยะสนั แต่โดยขอ้ เท็จจรงิ แลว้ เหมอื นเรานงั แทกซที ชี อบแซงขวา ชอบแทรก มนั อาจจะเรว็ และแรงจากการเอาเปรยี บคนอืน แต่ถ้าวนั ทมี นั พลาด พอมนั จะชนเสา ไฟฟ้ าป๊ ุบ มนั หนั ฝงั ทีเรานังเขา้ ก่อนเลย พวกนีเหมือนเสอื รา้ ย ไมใ่ หเ้ งนิ ใครง่ายๆ หรอก เรอื งพวกนีกเ็ ช็คไดง้ ่าย โดยใช้ google ครบั แต่ถา้ จะให้ลึกซงึ กวา่ นัน ทผี มทํากค็ อื การเกบ็ record ว่าผูบ้ รหิ ารเคยพูดอะไรไว้ แล้วมนั เป็นไป ตามนนั ไม๊ แลว้ เรากจ็ ะพบวา่ ใครเชอื ถอื ได้ หรอื ใครขโี กหก.. ผมกข็ อจบบทนีแต่เพยี งเท่านี ผมคิดวา่ มนั สาํ คญั นะ แต่ไมร่ ูว้ ่าผูอ้ ่านจะว่าอย่างไรกนั บา้ ง มนั กเ็ หมอื นเรา เวลาทเี รานงั เรอื คนทสี าํ คญั ทสี ดุ ของเรอื กค็ อื “กปั ตนั เรอื ” จรงิ ไมค๊ รบั .. 45 | P a g e
บทที 16 ประเมินตนเองกอ่ นลงทุนและพฒั นาตนเอง เวลาทีเราขบั รถ เราก็จะรู้ตวั ว่าเราเองนัน สามารถขบั รถได้ทีความเรว็ เท่าไหร่ เราถึงจะควบคุมรถได้ คอื ถา้ เรว็ กว่านี เรากจ็ ะชลอความเรว็ ฉนั ใดกฉ็ ันนัน ผมว่าการลงทุน เรอื งนีเป็นเรอื งสาํ คญั เดียวจะกลายเป็นว่า “ขบั รถตกเหว” ไปเสยี อยา่ งนนั บทนผี มเขยี นเพอื ให้เรา “ประเมนิ ตนเอง” ก่อนทีจะเขา้ ลงทุน โดยใช้ “เงนิ เกบ็ ” จํานวนมหาศาล เขา้ ลงทุน เพือใหเ้ งนิ งอกเงย ผมเขยี นบทนี เพราะผมกลวั ว่าการแนะนําของผมในหนงั สือหมสี ม้ ทงั สามเล่ม อาจจะกลายเป็น “หนทางของการเสยี ทรพั ยค์ รงั ใหญ่” ของใครหลายๆ คน ประกอบกบั ในชว่ งปีทผี า่ นมา ผมไดม้ โี อกาสพูดคยุ กบั ท่าน ทงั หลายเป็นรอ้ ยชวี ติ ทแี วะเวยี นเขา้ มาทกั ทายและขอคําปรกึ ษาดา้ นการลงทุน ซึงโดยสว่ นตวั นัน ผมลงความเหน็ ว่า “ไมพ่ รอ้ มในการลงทุน” และแนะนําให้ “ซอ้ มการลงทุน” ไปกอ่ นสกั ระยะ.. ทีผมพูดเชน่ นัน เพราะวา่ หลายๆท่าน ไม่ไดม้ ี “พนื ฐานในการลงทุนมากอ่ น” หรอื อาจจะมพี นื ฐานมากอ่ น แต่ “สภาพจิตใจรบั ความเสียงไม่ได้” ซงึ ในกรณีแรก ยงั พอหาความรู้ ศึกษาเพมิ เติมได้ ซึงตอนนีในบางท่านทเี คย ปรึกษาผม ตอนนีกเ็ ก่งแล้ว จากการฝึกฝนอย่างหนักของท่านทังหลายเหล่านัน แต่ในกรณีหลัง เป็นเรอื งของ “สภาพจติ ใจ” ซงึ ไมใ่ ชเ่ รอื งแปลก เพราะกวา่ ทีเราจะเกบ็ เงนิ ได้ หามาทงั ชวี ติ พอเห็นราคาหุ้นขนึ ๆ ลงๆ กลายเป็นวา่ ตกใจและเกดิ ความเครยี ด “ขนาดหนกั ” กนิ ไมไ่ ด้ นอนไมห่ ลบั เสยี สขุ ภาพจติ โดยส่วนตวั ผมว่าการลงทุนในสนิ ทรพั ย์พวกนี ทบี างท่านเหน็ แล้วทนไมไ่ ดท้ ีราคาวงิ ไปมา ผมกลบั คดิ ว่า มนั เป็นอะไรทดี นี ะ ทีผมรูว้ า่ ทรพั ย์สนิ ของผมถา้ ขายวนั นีมีราคาเท่าไหร่ ไมเ่ หมือนพวก “รถยนต์” “เครอื งประดบั ” ซงึ ผมไมร่ รู้ าคาของมนั ไมร่ วู้ า่ มนั เสอื มคา่ เท่าไหรแ่ ลว้ ผมขออนุญาตเล่าถงึ คนๆ หนงึ ซงึ ผมมคี วามประทบั ใจในพฒั นาการดา้ นการลงทนุ ของเคา้ มาก ดงั นคี รบั บุคคลๆ นี เป็นคนทผี มไดพ้ บเจอในทีทํางาน และได้รจู้ กั กนั ในวนั ทีผมเจอเคา้ นนั ผมสมั ผสั ไดว้ า่ เคา้ เป็น “คนจริงใจ” และ ”นิสยั ดี” แต่เป็นคนที “ขกี ลัว” และ “ใจร้อนมาก” เค้าคนนีมาปรกึ ษาผมเรืองการลงทุนในหุ้น เคา้ เล่าให้ผมฟงั ตอนนันว่า อยากจะลงทุนหรอื ทําอะไรสกั อย่างให้พ่อแม่ได้อยู่สขุ สบาย เคยนําเงนิ เก็บไปลงท ุน ขายตรงหมดไป 200,000 - 300,000 บาท ตอ้ งเอาผลิตภณั ฑ์กลบั มาใช้เอง ทุกวนั นีกไ็ ดแ้ ต่ทํางานเกบ็ เงนิ ต่อไป จงึ อยากใหผ้ มสอนลงทนุ ในหุน้ (ซงึ ในขณะนนั เคา้ มองวา่ มนั เป็นการเกง็ กาํ ไร) อย่างแรกทีผมทํา คอื พาเค้าไปเปิดบญั ชี และให้ทดลองซือขายด้วยเงิน 20,000 บาท ด้วยหุน้ ทผี มเป็น คนเลอื กใหเ้ คา้ (กดซอื ใหด้ ว้ ย เพราะเคา้ ไมก่ ลา้ กดเอง) เชอื ไม๊วา่ หุ้นทเี คลอื นไหวขนึ ลง วนั นึงเพยี งมูลคา่ 500-1,000 บาท ทําให้เค้าไม่เป็นอนั ทํางานทงั วนั อยากจะขายหุ้นทิงซะให้ได้ ผมถึงขนาดทีต้องบอกไปว่า “เจ๊งเท่าไหร่ เด๋วผมคนื ให้เท่านัน อยู่นิงๆไว”้ ถงึ จะสงบลงมาบา้ ง พอเห็นแล้วใช่ไม๊ครบั วา่ เกดิ อะไรขนึ กเ็ พราะวา่ กวา่ จะเกบ็ เงนิ ได้ 20,000 บาท สาํ หรบั ใครบางคนอาจจะใชเ้ วลาแคเ่ ดอื นเดยี ว แตส่ าํ หรบั บางคนอาจจะเป็นหลายปีทเี ดยี ว จากนันหุ้นทีซือก็เริมราคาสูงขึนตามสภาพของมนั เคา้ ก็เกดิ อกี อารมณ์หนึง กค็ ือ “อยากขาย” กําไรแล้ว 2,500 บาท อยากขายมาก ดนิ อกี รอบ ออกแนวทวี า่ “ทนรวยไมไ่ ด”้ จนกระทงั เวลาผา่ นไปเกอื บปี หุน้ กม็ กี ารเติบโตขนึ 46 | P a g e
20% บวกกบั ปนั ผล 6% ทําให้เค้ารู้ว่า “การลงทุนทียังยืน” ทําไดจ้ ริง เค้าจึงเริมสนใจเรืองการ “วิเคราะห์” และคดั เลอื กหนุ้ ซงึ ในขณะนนั เคา้ นําเงนิ เกบ็ จาํ นวนอกี 200,000 บาท เขา้ มาลงทุนหุน้ เพมิ เตมิ จากนันมา เค้าก็เปลียนไปเป็นคนละคน ขนาดทีว่าผมต้อง “งง” ไปเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ผมทีงง คุณพ่อกับคุณแม่ ของเค้าก็งงด้วยเช่นเดียวกนั ทีลูกชายทีเกลียดวิชา “เลข” และไม่เข้าเรืองธุรกิจใดๆ เลย กลบั มคี วาม “มานะ” ในการอา่ นหนงั สอื ดา้ นการลงทนุ หดั วเิ คราะห์งบการเงนิ และเคา้ ไดท้ ลายกาํ แพง “ความกลวั ” ใน จติ ใจออกไปทยอยออมเงนิ ลงในหุน้ และพอใจทจี ะกนิ “ปนั ผล” ซงึ อาจจะไมม่ ากเมอื เทยี บกบั การ “เกง็ กาํ ไร” และชว่ งทผี า่ นมา จากการเลอื กลงทุนหนุ้ ทดี ี และเงนิ 200,000 บาททเี กบ็ หุน้ เพมิ ตอนนําท่วมปี 2554 กท็ ําให้ พอร์ทโตขึน 10 เท่า บวกกบั ปนั ผลทีมากขึนทุกปีๆ (ปีล่าสุดไดป้ นั ผลแสนกว่าบาท ) ทุกวนั นีเค้าบอกผมว่า “พบหนทางแห่งความมนั คงในชวี ติ แลว้ ” แต่ผมคดิ วา่ เคา้ ยงั ต้องผ่านบททดสอบครงั สดท้ายก่อนนะ นนั คอื “หุ้นขาลง” มนั จะพิสูจน์ว่ากจิ การทีเค้าประเมินไว้ จะทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจขาลงหรือไม่ แต่อย่างน้อย เคา้ รู้ตัวว่า ถา้ เหน็ ท่าไมด่ ี “เคา้ ตอ้ งชงิ ” เพราะกาํ ไรทผี า่ นมาทเี คา้ ไดร้ บั มนั กม็ ากกวา่ ฝากธนาคารนบั รอ้ ยๆ ปีแลว้ ผมเล่าเพือให้เป็นอุทาหรณ์ว่าทุกอย่างมนั ต้องค่อยเป็นค่อยไป เหมือนหดั ขับจกั รยาน พอขบั เป็นแล้ว ทนี ีกค็ ลอ่ ง แต่ผมกเ็ ชอื วา่ อาจจะมบี างคนทียงั กงั วลวา่ ตนเองจะลงทุนในหุ้นไม่ได้ อนั นีผมเองกเ็ ลยมขี อ้ แนะนําทเี ป็น ทางออกใหส้ าํ หรบั การลงทุน กค็ อื ใหม้ อื อาชะลงทุนใหเ้ รา ผา่ น “กองทุนรวม” สุดท้ายทอี ยากจะบอกกค็ อื “ถ้าพยายามแล้ว รูต้ ัวว่าไม่ไหว กไ็ ม่ต้องไปฝืน” เราอาจจะต้องไปลงทุนผ่าน กองทุนรวม เพอื ใหเ้ ราลดความเสยี เปรยี บในเรอื งของการวเิ คราะห์หนุ้ หรอื กจิ การ ทเี ราไมไ่ ดม้ นั ใจนกั .. 47 | P a g e
บทที 17 การลงทนุ ผา่ นกองทนุ รวม ผมเชอื วา่ ผอู้ ่านน่าจะไดร้ บั รูถ้ ึงวฏั จกั รและโอกาสในการลงทุนแลว้ และผูอ้ ่านหลายๆท่านกอ็ าจจะกาํ ลงั รอ “ชว่ งเวลาทเี หมาะสม” ในการเขา้ ลงทุน เท่ากบั วา่ ตอนนีสงิ ทเี ราอาจจะตอ้ งมาเนน้ หนกั อาจจะเป็นการวเิ คราะหห์ ุน้ .. หลงั จากทอี ่านมาจนถงึ บทนี หลายๆ ท่านอาจจะกาํ ลงั กงั วลวา่ ถ้าหากเราไมช่ าํ นาญในการลงทุน ไมช่ ํานาญ ในการวิเคราะห์ เราควรจะทําอย่างไรดี เพราะถ้าหากปล่อยให้เลือกหุ้นดว้ ยตนเอง เงินลงทุนก็อาจจะขาดทุนได้ แมว้ า่ จะสามารถอดทนรอคอยจงั หวะเวลาทเี หมาะสมในการลงทนุ แลว้ กต็ าม.. ผมแนะนําว่าหากเราคิดว่าเราไม่อยากวิเคราะห์หรือติดตามหุ้นด้วยตนเอง ผมแนะนําให้ลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” ซึงมีผเู้ ชยี วชาญดูแลหุ้นพอร์ทการลงทุนให้เรา ซึงในประเทศทพี ฒั นาแล้ว เงนิ ลงทุนส่วนใหญ่ของ ประชากรกอ็ ยใู่ นรปู ของกองทนุ รวม และผมเชอื วา่ ในอนาคตของประเทศไทยกจ็ ะเป็นไปตามทศิ ทางนนั เชน่ กนั แต่แมว้ ่าข้อดีของกองทุนรวมก็คือมผี ู้บรหิ ารมืออาชพี ลงทุนใหเ้ รา และมกี ารกระจายความเสยี งในหุ้นที นกั วเิ คราะหไ์ ดค้ ดั สรรมาแลว้ แตเ่ รากต็ อ้ งยอมรบั วา่ พอรท์ การลงทุนทผี า่ นกองทุนรวม กค็ อื การถือหุน้ กระจายออกไป หลายตวั ซงึ แมว้ า่ ตอนขาดทุนหรอื หุน้ ตกอาจจะไมเ่ จบ็ หนกั แต่ในช่วงขาขนึ หรอื ปทั ีผลประกอบการหุน้ บางตวั ท ําไดด้ ี ผลทอี อกมากจ็ ะไมช่ ดั เพราะการถอื แบบกระจายตวั ของกองทุนนนั เอง อย่างไรกต็ าม เรากต็ อ้ งไมล่ มื วา่ การลงทุนผา่ นกองทุนรวม ซึงมรี าคาตลาดอ้างอิงรายวนั จงั หวะการเขา้ ซือ ก็ยงั เป็นเรืองทีสําคญั อยู่เหมอื นเดิม เพราะถ้าเราเขา้ ซือในขณะทีพอร์ทกองทุนมีราคาตําจากสภาวะหุ้นขาลง เรากจ็ ะสามารถเกบ็ กนิ ปนั ผลของกองทุนและทํากาํ ไรได้ ซึงตรงขา้ มกบั การเขา้ ซือกองทุนในวนั ทีหุ้นรอ้ นแรงเช ่นกนั นอกเหนือไปจากนี เรากย็ งั สามารถดูผลงานยอ้ นหลงั ของกองทุนได้ ทําใหเ้ ราสามารถคดั เลอื กกองทุนทเี หมาะสมกับ เราทสี ดุ หรอื อาจจะกระจายเป็นหลายๆ กองกไ็ ดต้ ามความพอใจ และผมเชอื วา่ การรอคอย “จงั หวะเวลาทเี หมาะสม” หรอื วกิ ฤตการณ์ทที ําให้หุ้นมรี าคาถูก มนั อาจจะตอ้ งรอ ยาวนาน จนหลายๆคน คดิ วา่ เราปล่อยใหเ้ วลาผ่านไปโดยทไี ม่ไดท้ ําอะไรเลย เราควรจะต้องลงทุนอะไรสกั หน่อยไม๊ ผมจึงมีอีกวิธีหนึงทีผมอยากแนะนําให้ทําควบคู่กันไป สําหรับการออมทีประสบความสําเร็จ ก็คือ การทยอย ซอื ทกุ เดอื น หรอื ทีเรารูจ้ กั กนั ในชอื Dollar Cost Average หรอื DCA ซึงผมไดร้ บั การยนื ยนั จากทปี รกึ ษาทางการเงนิ หลายๆท่าน ว่าเป็นวธิ ีทีดแี ละท่านทังหลายเหล่านันกใ็ ชอ้ ยู่ เนืองมาจากในระยะยาวนัน ผลตอบแทนจากตลาด หลกั ทรพั ย์จะอยู่ที 8-12% ซงึ เป็นอตั ราผลตอบแทนทนี ่ายินดสี าํ หรบั การลงทุนโดยมคี วามเสยี งคอ่ นขา้ งตํากว่าเข้า ลงทุนหุ้นรายตวั แต่เน้นยําว่าต้องเป็นการลงทุนประหนึงเป็นการออมระยะยาว นอกจากนียงั ไดส้ ทิ ธพิ เิ ศษทางการ ลดหยอ่ นภาษอี กี ดว้ ยครบั (ขณะทเี ขยี นหนงั สอื ฉบบั นี การลงทุนใน RMF และ LTF ใชล้ ดหย่อนภาษไี ด)้ โดยทเี ราเองก็ อาจจะเกบ็ เงนิ ออมสว่ นหนึงไวท้ มุ่ ซอื ในชว่ งระหวา่ งเกดิ “วกิ ฤต” ทที ําใหห้ ุน้ มรี าคาถกู กไ็ ด้ สาํ หรบั ในบทนี ผมกห็ วงั วา่ จะเป็นทางออกใหห้ ลายๆ ทา่ น ทเี ขา้ ใจในเรอื งของจงั หวะทเี หมาะสมในการลงทุน แตย่ งั ไมม่ นั ใจหรอื ไมม่ แี นวทางทชี ดั เจนในการลงทุนครบั อย่าลมื นะครบั วา่ เราตอ้ งใหเ้ งนิ ของเราชว่ ยทํางานดว้ ย เราจะ ไดเ้ หนือยน้อยลงและมเี งนิ เกบ็ ทงี อกเงยเรว็ ขนึ กวา่ การฝากเงนิ ในธนาคาร.. 48 | P a g e
บทที 18 ออมเงินเดอื นละ 1,000 บาท บทนีผมเขยี นขนึ มา เพือให้การออมและการลงทุนทีเราคุยกนั มาทงั หมด จับต้องไดม้ ากขนึ เพือเป็นการ เชอื มโยงสงิ ทคี ดิ ลงไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ ทจี ะเหน็ ผลไดจ้ รงิ จงึ สรา้ งโมเดล เกบ็ เงนิ เดอื นละ 1000 บาท มาใหพ้ จิ ารณา.. อนั ทจี รงิ แลว้ ผมเองกม็ คี วามฉุกคดิ ในใจขนึ มาอยูเ่ รอื งหนึง วา่ ถา้ หากเศรษฐกจิ มนั ไม่ไดม้ ี “วกิ ฤต” มาใหท้ ่าน ไดเ้ ขา้ ลงทุน ถ้าหากเป็นเศรษฐกจิ ตกตํายาวนาน 20 ปี เหมอื นทปี ระเทศญีปุ ่ น หรอืเติบโตต่อเนืองนับสบิ ปี เหมอื น ประเทศอนิ เดยี กอ็ าจจะทาํ ใหผ้ อู้ ่านพลาดโอกาสในการลงทนุ ในชวี ติ ไปโดยทนั ที โดยเฉพาะอย่างยิง รปู แบบการลงทุน ในกองทุนรวมเป็นสงิ ทไี ดร้ บั การยอมรบั และประสบความสาํ เรจ็ ในประเทศทพี ฒั นาแลว้ โดยคงอตั ราการเติบโตเฉลียถึง 8% กย็ งิ ทาํ ใหม้ นั ใจวา่ เป็นอกี วธิ หี นึงทคี วรนํามาใชค้ วบคไู่ ปกบั การเขา้ ลงทุนดโดยรอจงั หวะ “วกิ ฤต” ทีเราไดก้ ล่าวถงึ เสมอมา เรามาลองพจิ ารณาการลงทุนแบบสมาํ เสมอผา่ น “กองทนุ รวม” กนั เลยครบั .. ผมสมมตใิ หว้ า่ เราลงทุนเดอื นละ 1,000 บาททุกเดอื น เป็นเวลา 360 เดอื น (30 ปี) โดยทีผมใชผ้ ลตอบแทน อา้ งองิ เฉลยี ที 8% ต่อปี (ผมขออนุญาตหาร 12 เดอื น เป็นเดอื นละ 0.67% ไปเลย เพราะไม่อยากคดิ ใหเ้ ป็นอตั รา กา้ วหน้า มนั จะทําใหซ้ บั ซอ้ นในการอธบิ าย) และเงนิ ทบตน้ ไปเรอื ยๆ ผลตอบแทนของเราทไี ด้ จะเป็นดงั นี เดือนที ออมเดือนละ เงนิ ทอี อมนับต้นเดือน อัตราเตบิ โต 8% ต่อปี เงนิ ทีออมนับปลายเดือน 1 1,000.00 1,000.00 0.67% (8% / 12 เดือน) 1,006.67 60 1,000.00 73,476.86 0.67% (8% / 12 เดอื น) 73,966.70 120 1,000.00 182,946.04 0.67% (8% / 12 เดือน) 184,165.68 180 1,000.00 346,038.22 0.67% (8% / 12 เดือน) 348,345.14 240 1,000.00 589,020.42 0.67% (8% / 12 เดอื น) 592,947.22 300 1,000.00 951,026.39 0.67% (8% / 12 เดือน) 957,366.57 360 1,000.00 1,490,359.45 0.67% (8% / 12 เดือน) 1,500,295.18 ทังหมดนี ยําอีกครงั ว่าเป็นการลงทุนระยะยาว และเป็นค่าทีไดจ้ ากการคํานวณทางทฤษฏี จากตาราง เราจะไดว้ ่าต้นทุนเงนิ ออมของเรา จะมจี ํานวนทงั สนิ 360,000 บาท และเมอื ครบ 30 ปี เงนิ ของเราจะโตไปเป็น 1,500,000 บาท หรอื โตขนึ ราวๆ 4 เทา่ ของเงนิ ทอี อม.. ผมวา่ มนั ดนู ้อยไปนิดนึงนะ ทาํ ไมล่ะ.. เราตอ้ งไมล่ มื วา่ เงนิ ลงทนุ ในปีหลงั ๆ นนั ยงั คงเทา่ เดมิ ที 1,000 บาท ทงั ๆที 1,000 บาทในชว่ งปีหลงั ๆ อาจจะ ลดมลู คา่ ลงไปตามอตั ราเงนิ เฟ้ อแลว้ กไ็ ด้ ดงั นนั เพอื ใหก้ ารออมของเรายงั คงมลู คา่ ต่อเนืองเราตอ้ งเพิมเงนิ ลงทุนเขา้ ไป ทุกเดอื นใหเ้ ท่ากบั อตั ราเงนิ เฟ้ อหรอื มากกวา่ การออมของเราจงึ จะสมั ฤทธผิ ลอย่างทเี ราอยากใหม้ นั เป็น.. แต่ถึงกระนัน เรากจ็ ะยงั ทราบไดว้ ่า ถา้ เราอยากจะมเี งนิ หลงั เกษยี ณสกั ราวๆ 6,000,000 บาท เรากจ็ ะตอ้ ง ออมในกองทุนหุ้นเดือนละ 4,000 บาททุกเดอื น เป็นต้น ซึงบางคนอาจจะสงสยั ว่าถ้าไปฝากธนาคาร หรือซือ สลากออมสนิ จะไดผ้ ลตอบแทนอย่างไร ผมกข็ อเรยี นว่าน้อยกวา่ ตารางดา้ นบนแน่นอน เพราะอตั ราผลตอบแทนของ เงินฝากอาจจะอยู่ทเี พียง 1-4% เท่านันครบั ซึงกห็ วงั ว่าบทนีจะทําให้หลายๆ คน มกี ําลงั ใจในการออมเงินผ่าน “กองทุนรวม” มากขนึ เพอื ความมนั คงในชวี ติ .. 49 | P a g e
บทที 19 “ทีดิน” คือ สุดยอดการลงทนุ จริงๆ ทังเล่มทีผ่านมา เน้นให้ลงทุนใน “หุ้นปนั ผล ” มาทงั หมดทีเดยี ว แต่โดยขอ้ เท็จจรงิ แลว้ การลงทุน ทจี รี งั ยงั ยนื ทสี ดุ คอื การลงทุนใน ”ทีดนิ ” ทีติดถนนใหญ่ ทีอยู่กลางเมอื ง หรอื ทีสามารถทําประโยชน์ไดอ้ ย่างชดั เจน เป็นสงิ ทวี เิ ศษทสี ุดในการลงทุนระยะยาว (เพือไมใ่ หเ้ กดิ การไขวเ้ ขว ผมจงึ ต้องแอบมาซุกไวใ้ นบทนี เพราะผมอยาก บนั ทกึ ไวใ้ หไ้ ดท้ ราบ โดยไมก่ ระทบตอ่ การเรยี นรใู้ นบทกอ่ นหนา้ ) แต่ทาํ ไมจงึ เป็นเชน่ นนั กม็ าจากเหตผุ ล ดงั ตอ่ ไปนี เหตุผลทีหนึง ก็คือ ทีดินจะไม่มีงอกเงยเพิมขึนมาอีก ประชากรมีแต่จะเพิมขึน แต่ทีดินมีเท่าเดิม (ความต้องการเพมิ ขนึ แต่ supply มีเท่าเดิม ระยะยาวราคาต้องสูงขนึ แน่นอน) ต่างจากหุ้นซึงยงั สามารถออกหุ้น เพมิ ทนุ ออกอนุพนั ธม์ าซมึ ซบั เงนิ ทีไหลเขา้ มาไดอ้ ย่างไมร่ จู้ กั จบสนิ และยิงมอี ตั ราเงนิ เฟ้ อเขา้ มาเกยี วขอ้ ง ราคาของ ทดี นิ กจ็ ะปรบั ตวั สงู ขนึ ไปตามอตั ราเงนิ เฟ้ อและอาจจะปรบั ตวั สงู กวา่ ดว้ ยซาํ หากเป็นทาํ เลทคี วามเจรญิ แผเ่ ขา้ ไปถงึ เหตุผลทีสอง กค็ ือ ทีดินทีทําเลติดถนนใหญ่ (แมจ้ ะอยู่ห่างไกล) อย่างไรเสยี กย็ ังสามารถปล่อยเช่าได้ และเมอื ถงึ เวลาทีความเจรญิ แผ่ขยายเขา้ ไป ความสามารถในการสรา้ งรายไดก้ จ็ ะยงิ ทวคี ณู และสงิ นีผมเรียกวา่ เป็น “ความสามารถในการหารายไดข้ องตวั ทรพั ย์สนิ เองแบบนอนนิงๆ” กล่าวคอื ถา้ เป็น “หุน้ ” กค็ อื การทํากจิ การสรา้ งกาํ ไร และเมอื พลาดกค็ อื ขาดทนุ แต่ “ทดี นิ ” ตวั มนั เอง ไมว่ า่ จะดหี รอื เลว คา่ เชา่ หรอื มลู คา่ กจ็ ะยงั มอี ยู่ในตวั ของมนั เสมอ เหตุผลทีสาม กค็ อื ความยากในการซอื ขายเปลียนมอื ทําให้ทรพั ย์สินประเภททีดนิ เหล่านียงั คงอยู่อย่าง ค่อนข้างถาวรมันคง และส่งต่อไปยังลูกหลานได้อย่างมีเสถียรภาพกว่าการลงทุนหรือการเกบ็ ในรูปแบบอืน โดยเฉพาะอย่างยงิ หากลกู หลานของเรานนั ไมไ่ ดม้ คี วามสามารถในการลงทุนเทยี บเท่าผทู้ หี าเกบ็ ไวใ้ ห้ อา้ ว!!! แลว้ ทําไมผมถงึ แนะนําใหล้ งทนุ หุน้ ปนั ผลมาตลอดล่ะ ทเี ป็นเชน่ นนั เนืองมาจากขอ้ จํากดั 2-3 ประการ ทเี ป็นอุปสรรคในการลงทุนทดี นิ ทที ําให้การลงทุนในทีดนิ ไม่ใชเ่ รอื งง่าย ขอ้ จํากดั เหล่านัน (ซงึ อาจจะมมี ากกวา่ นี แต่ความรขู้ องผมยงั เขา้ ไมถ่ งึ ) กค็ อื .. ประการแรก การลงทุนในทีดนิ ต้องใชเ้ งนิ ลงทุนสูงมาก บางครงั จําเป็นต้องมแี หล่งรายไดท้ ีชดั เจนและ สมาํ เสมอมาหลอ่ เลยี ง (เชน่ เงนิ เดอื นประจํา หรอื รายไดจ้ ากเงนิ ปนั ผลของหุ้นทีมนั คง ) ซงึ ในชวี ติ คนเราโดยทวั ไปนัน การจะลงทุนในทีดนิ หรอื อสงั หารมิ ทรพั ย์อืนๆ อาจจะทําไดเ้ พยี งครงั หรอื สองครงั ในชวั ชวี ติ ของเรา และหากเราฝืน ลงทุนไป ทีดนิ ทเี ราพอจะซือไดก้ อ็ าจจะเป็นเพียงทีดนิ รกรา้ งห่างไกล หรอื เป็นทดี นิ ทีทําประโยชน์ไมไ่ ด้ ซึงนันไม่ใช่ “ทดี นิ ” ทคี วามหมายทผี มไดก้ ล่าวถงึ ในบทนี มนั อาจจะเป็นเพยี ง “สนิ ทรพั ยด์ อ้ ยคา่ ” ประเภทหนงึ เท่านนั เอง ประการทสี อง การลงทนุ ในทดี นิ ไมส่ ามารถแปรเปลยี นกลบั เป็นเงนิ สดไดโ้ ดยงา่ ย สง่ ผลใหเ้ มอื เราต้องการใช้ เงนิ ในระยะสนั เรากลบั ตอ้ งเดอื ดรอ้ น เงนิ ออมของเราแปรผนั ออกมาใชไ้ มไ่ ด้ เพราะติดทวี ่า “ขายทีไม่ได”้ แมว้ ่าจะอยู่ ในทาํ เลทดี กี ต็ าม หรอื ถา้ ขายกเ็ ป็นในลกั ษณะของการ “ขายขาดทุน” ทาํ ใหก้ ารลงทุนของเราสญู เปล่า ประการทสี าม การลงทุนในทดี นิ ตอ้ งมคี วามรเู้ ฉพาะทางทีตอ้ งอาศยั ความถีถว้ นในการเขา้ ลงทุน แน่นอนวา่ ทดี นิ มแี ตจ่ ะราคาขนึ แตใ่ นชว่ งของวฏั จกั ร ทีเกดิ “ฟองสบู่” ทดี นิ และอสงั หารมิ ทรพั ย์ทงั ปวง มรี าคาสูงเกนิ ความจรงิ 50 | P a g e
Search
