Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2017-06-16-3-17-2455408

2017-06-16-3-17-2455408

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-20 04:14:38

Description: 2017-06-16-3-17-2455408

Search

Read the Text Version

5.5 ปัจจัยท่ีมีผลต่อการดูแลสุขภาพ การดูแลสุขภาพองค์รวมเป็นการดูแลสุขภาพเพื่อให้เกิดความสมดุลของร่างกาย จิตใจ จิตวญิ ญาณ อารมณ์ และสังคม ไมเ่ พียงแตไ่ ม่เจ็บป่วยหรือไมม่ ีโรค แต่ครอบคลุมถึงการดำ� เนนิ ชวี ติ ทย่ี ืนยาวและมคี วามสขุ ของทกุ คน มีองคป์ ระกอบดงั ตอ่ ไปนี้ อาหาร (โภชนาการ : Nutrition) โภชนาการ หมายถงึ การบรโิ ภคอาหารทีเ่ หมาะสม มคี ุณคา่ ครบ 5 หมู่ คอื แปง้ โปรตนี พืช ผัก ผลไม้ และไขมัน ในจ�ำนวนท่ีพอเหมาะ ถูกสุขอนามัย ซึ่งค�ำว่า ‘สุขอนามัย’ หมายถึง ความสะอาด และ‘ธรรมชาติ’หมายถึงกระบวนการซึ่งไม่ถูกขัดขวางจากพลังท่ีมนุษย์สร้างข้ึน คือไม่ผ่านกระบวนการท�ำลายแหล่งธาตุและเคมีธรรมชาติที่มีอยู่ในอาหาร หรือถูกท�ำลายน้อยที่สุด ความรู้เรื่องอนุมูลอิสระว่าเป็นสาเหตุของความเสื่อมของร่างกาย ท�ำให้คนสนใจที่จะบริโภคอาหาร ทอี่ ดุ มดว้ ยสารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระและสารผกั (phytonutrients) มากขนึ้ จงึ มผี เู้ สนอหลกั ในการบรโิ ภค อาหารจรรโลงสุขภาพ (functional food) สขุ อนามยั ธรรมชาติ (Natural hygiene) เป็นระบบสุขภาพ ซ่ึงก�ำหนดแนวทางการด�ำรงชีวิตให้สอดคล้องกับองค์ประกอบ ตามธรรมชาติ เป็นการบริโภคอาหารสุขภาพที่มีรสตามธรรมชาติ เรียนรู้การบริโภคอาหาร ตามธรรมชาตทิ เ่ี หมาะสม มนษุ ยก์ จ็ ะดแู ลรา่ งกายใหม้ สี ขุ ภาพดแี ละรกั ษาตวั เองใหห้ ายจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ ได้ตามธรรมชาติ ‘หลักพื้นฐานของอาหารสุขอนามัยแบบธรรมชาติอยู่ที่ว่า ร่างกายมีหน้าท่ีดูแล ตัวเองอยู่แล้ว และจะทำ� ความสะอาดตัวเองให้ปลอดจากของเสียทเ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ สุขภาพ’ แนวคดิ โปรแกรมอดอาหาร (Fasting) จงึ ไดถ้ ูกน�ำมาใชค้ วบคู่กับโปรแกรมการบรโิ ภคอาหารท่ีเหมาะสม วติ ามนิ บำ� บดั (Vitamin Therapy) วิตามิน แร่ธาตุ หรือใชท้ ัง้ สองอย่างประกอบกนั เพ่ือเยียวยารักษาอาการป่วย วติ ามนิ และแร่ธาตสุ ามารถปอ้ งกนั โรค รวมท้งั ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาทางสรรี ะและทางจติ อน่ื ๆได้ดว้ ย วติ ามนิ เปน็ สารอนิ ทรยี ท์ จี่ ำ� เปน็ สำ� หรบั โภชนาการ ปจั จบุ นั นม้ี วี ติ ามนิ ทไี่ ดร้ บั การรบั รอง วา่ จำ� เปน็ อยู่ 13 ชนดิ แมว้ า่ วติ ามนิ จะไมไ่ ดใ้ หพ้ ลงั งานแกร่ า่ งกาย แตร่ า่ งกายจำ� เปน็ ตอ้ งใชใ้ นปรมิ าณ เล็กน้อยเพือ่ สรา้ งกระบวนการแปรอาหารไปเปน็ เนอื้ หนงั และพลังงาน เชน่ 44 เอกสารความรู้ ผู้ด�ำ เนนิ การสปาเพ่อื สขุ ภาพ

Vit B1 : หรือสารไธอามีน (Vit B1) ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา พบมากในข้าว ท่ไี มข่ ดั ขาว Vit B3 : ชว่ ยรกั ษาอาการผวิ เปน็ เกลด็ ทอ้ งเสยี และโรคจติ เสยี สบั สน ประสาทหลอน Vit C : รักษาได้หลายโรค ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน พบในผลไม้รสเปรีย้ ว Vit D : ชว่ ยปอ้ งกันโรคกระดกู ออ่ น ธาตุสังกะสี : แกไ้ ขสภาพตาบอดกลางคืน เป็นต้น 4) อาหารสูตรครบรูป (Whole food diet) อาหารสูตรครบรูป เป็นแผนทางโภชนาการท่ีใช้อาหารธรรมชาติบริสุทธ์ิ และ ครบหมดทกุ สว่ น เพอ่ื รกั ษาสขุ ภาพทด่ี แี ละสมดลุ ทางเคมขี องรา่ งกาย คำ� วา่ ‘อาหารครบรปู ’ หมายถงึ ‘การบริโภคอาหารท้ังหมดครบถ้วนโดยไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง บริโภคเนื้อสัตว์ป่าหรือเน้ือ สัตว์ทเ่ี ล้ียงโดยไมใ่ ชส้ ารเคมี จะได้รับแหล่งธาตุเคมีธรรมชาตทิ บี่ ริสุทธ์ทิ ส่ี ดุ ไมเ่ กดิ พิษหรืออนั ตราย ท่ีส่งผลตามสายโซ่อาหาร ทางนิเวศวิทยา’ สรุปได้ว่า ย่ิงบริโภคอาหารธรรมชาติที่บริสุทธ์ิสด และครบถ้วนมากเพียงไร ก็จะยิ่งมีโอกาสรักษาสุขภาพท่ีดีและหลีกเล่ียงโรคภัยไข้เจ็บได้มาก เพยี งนัน้ ดงั นนั้ การจะมีสุขภาพดีและรักษาภาวะดีทสี่ ดุ ไวใ้ ห้ได้ ตอ้ งปฏบิ ัติดังน้ี 1. รับประทานอาหารทเี่ หมาะสม ได้สารอาหารจำ� เป็นในปรมิ าณทถี่ กู ต้อง 2. หลีกเลีย่ งอาหารเป็นโทษ เช่น อาหารรมควนั อาหารรสเคม็ จดั อาหารทอดน้ำ� มัน อาหารรสหวานจัด อาหารเหม็นหนื อาหารขยะอ่ืนๆ ประโยชนข์ องโภชนาการทเ่ี หมาะสมคอื ชว่ ยในการรกั ษาโรค ทำ� ใหม้ พี ลงั งานและมชี วี ติ ชีวาเพ่ิมขึ้น กอ่ ให้เกดิ ความสขุ สบาย กรมสนับสนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 45

5) การออกก�ำลังกาย ทำ� ไดห้ ลายลกั ษณะ ตวั อยา่ งการออกกำ� ลงั กาย เชน่ ชกี่ ง (Qigong) เปน็ การออกกำ� ลงั กาย อยา่ งหนง่ึ ของจนี โบราณ ชว่ ยสรา้ งความสมดลุ และเพม่ิ ชหี่ รอื พลงั ชวี ติ ภายในรา่ งกาย สง่ เสรมิ สขุ ภาพ ร่างกายให้สมบูรณ์ เป็นยาอายุวัฒนะ รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ค�ำว่าช่ีกงในภาษาจีนแปลว่า ‘การฝกึ หัดลมปราณ’ ปจั จยั หลกั ๆ ของการออกกำ� ลังกายแบบช่กี งคือ การวางระเบียบรา่ งกาย (จัดท่าการทรงตวั ) การวางระเบยี บความคดิ จติ ใจ การวางระเบียบของการหายใจ สามปัจจัยนี้ส่งผลท�ำให้เกิดการผ่อนคลาย เสริมสร้างความแข็งแกร่ง เป็นการฝึกตน ภายในมกี ารเคลอ่ื นไหวเปน็ จงั หวะหมนุ วนอยา่ งนมุ่ นวล ประโยชนข์ องชกี่ งชว่ ยใหร้ ะบบยอ่ ยอาหาร ดีขึ้น เพราะมีการเคล่ือนไหวที่กระตุ้นการท�ำงานของระบบทางเดินอาหาร และการหลั่งน้�ำย่อย แกท้ อ้ งผกู และความดนั โลหติ สงู ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การฝกึ ชกี่ งขณะทอ่ี ยใู่ นภาวะสงบนง่ิ ผอ่ นคลาย อัตราการเต้นของหวั ใจจะลดลง ความถ่ใี นการหายใจน้อยลง และร่างกายใชอ้ อกซิเจนนอ้ ยลง 5.6 ศาสตร์อ่ืน ๆ เฉพาะด้าน เช่น 1) สุคนธบำ� บัด 2) วารีบำ� บดั 3) การทำ� สมาธิ 4) การนวด 46 เอกสารความรู้ ผูด้ �ำ เนนิ การสปาเพอื่ สุขภาพ





2 การบรหิ ารจัดการในสถานประกอบการสปาเพือ่ สุขภาพ ธุรกิจสปาเพ่ือสุขภาพและนวดไทย เป็นธุรกิจท่ีมีบทบาทส�ำคัญ มีอัตราการเติบโต อยา่ งตอ่ เน่ือง นบั ต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2556 เปน็ ตน้ มา ท�ำใหค้ วามตอ้ งการบคุ ลากรในธุรกิจสปาและ นวดเพ่ือสุขภาพเพิ่มข้ึน ท้งั ผู้ให้บรกิ ารสปาและนวดไทย ผดู้ ำ� เนนิ การสปา และพนกั งานตอ้ นรบั เช่นเดียวกับการลงทุนในธุรกิจสปาของผู้ประกอบการรายใหม่ ดังนั้น การผลิตบุคลากร ทีเ่ กีย่ วข้องจงึ มคี วามส�ำคัญ เพ่ือเพมิ่ ขดี ความสามารถดา้ นการแข่งขันธุรกิจในยคุ ดจิ ิตอล การบริหารจัดการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้ประสบความส�ำเร็จและ ก้าวหน้า จ�ำเป็นต้องมีบุคลากรหรือผู้ด�ำเนินการท่ีมีความรู้ ความสามารถ และมีความเข้าใจ ในธุรกิจสปาและนวดไทย เข้าใจบทบาท หน้าที่ของผู้ด�ำเนินการสปา พัฒนาความรู้และ ประสบการณ์ให้สามารถบริหารจัดการสถานประกอบการเพ่ือสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคของการแขง่ ขันสูค่ วามเป็นเลิศและสอดคล้องกบั กฎระเบยี บทกี่ ำ� หนดไว้ กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 49

1. สถานการณก์ ารดำ� เนนิ ธรุ กจิ สปาเพอื่ สขุ ภาพในประเทศไทย ธรุ กจิ สปาเพอื่ สขุ ภาพ เปน็ หนงึ่ ในหลายธรุ กจิ ทมี่ บี ทบาทสำ� คญั ตอ่ การสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ น�ำรายได้เข้าสู่ประเทศ ด้วยศักยภาพด้านการตลาดท่ีสามารถน�ำภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านศาสตร์ การนวด ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น มาสร้างมูลค่าเพ่ิมได้ ประกอบกับ ภาครัฐให้ความส�ำคัญและก�ำหนดให้บริการสปาเป็นหน่ึงในกลุ่มสินค้ายุทธศาสตร์ที่มุ่งสร้าง ความเป็นเลศิ ในตลาดโลก ปัจจุบัน ธุรกิจสปาทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว หลายประเทศเร่งพัฒนาธุรกิจน้ี ประเทศไทยจึงต้องพัฒนาธุรกิจสปาเพ่ือสุขภาพและนวดเพ่ือสุขภาพให้มีศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างช่ือเสียงให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก สิ่งส�ำคัญของการประกอบธุรกิจบริการสุขภาพ คือ บุคลากรผู้ให้บริการมีองค์ความรู้ด้านวิชาการ ท้ังการนวดเพื่อสุขภาพและสปาเพ่ือสุขภาพ การบริหารจัดการมีมาตรฐานและคุณภาพ การลงทุนในการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการส่งเสริม สนับสนุนจากภาครัฐเพื่อพัฒนาการประกอบธุรกิจสุขภาพให้สอดคล้องกับหลักวิชาการและ บรหิ ารจดั การทดี่ ี รวมทงั้ มคี วามทนั สมยั เปน็ ทยี่ อมรบั ของผบู้ รโิ ภค เพอื่ เปา้ หมายการเปน็ ทยี่ อมรบั ในระดบั สากล ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ทมี่ ุ่งเน้นแผนการพัฒนาคน ต้งั แตใ่ นระบบการศกึ ษาไปจนถึงการพัฒนาฝมี ือแรงงาน ปจั จบุ นั การดำ� เนนิ ธรุ กจิ สปาเพอื่ สขุ ภาพมพี ระราชบญั ญตั สิ ถานประกอบการเพอื่ สขุ ภาพ พ.ศ. 2559 เปน็ หลกั ในการดำ� เนนิ งานเพอื่ สง่ เสรมิ และพฒั นา ใหก้ ารประกอบกจิ การสถานประกอบการ สปาเพ่ือสุขภาพมีคุณภาพมาตรฐานอย่างยั่งยืน เป็นก้าวย่างของธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพที่ส�ำคัญ ซึ่งผ้ดู �ำเนนิ การสปาต้องพัฒนาตนเอง ให้เป็นผดู้ �ำเนนิ การสปาเพือ่ สขุ ภาพ ตามเกณฑ์ทีก่ ำ� หนด 50 เอกสารความรู้ ผู้ดำ�เนนิ การสปาเพอ่ื สขุ ภาพ

2. การด�ำเนินการและบรหิ ารจดั การสปาเพอื่ สขุ ภาพ การด�ำเนินการและการบริหารจัดการในสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพ ภายใต้ ภาวะการณ์ปัจจุบันที่มีการแข่งขันเข้มข้น และข้อก�ำหนดกฎหมายรัดกุมขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติ สถานประกอบการเพ่ือสุขภาพ พ.ศ. 2559 สถานประกอบการเพ่ือสุขภาพจึงควรจัดท�ำแผนงาน ด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการด�ำเนินงาน และบริหารจัดการ ได้แก่ แผนการบริหาร จัดการด้านบุคลากร ด้านการตลาด การสร้างตราสินค้า (Brand) และบริการลูกค้า ด้านการเงิน และติดตามผลการปฏิบัติงาน ด้านการบริหารจัดการ ด้านสถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช้ ตลอดจนสง่ิ อำ� นวยความสะดวกในสปา ผู้ด�ำเนินการสปาเพ่ือสุขภาพจ�ำเป็นต้องมีหลักการและแนวทางปฏิบัติท่ีเป็นมาตรฐาน (Standard Operating Procedures หรือ SOP) ในการก�ำหนดวิธีการปฏิบัติงานและแนวคิด ในการพัฒนาการบริการ การวัดประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ให้บริการ และความพึงพอใจใน บริการของผรู้ บั บริการ 2.1 คู่มอื นโยบายและข้นั ตอนการดำ� เนนิ การในธุรกิจสปา เป้าหมายทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจ�ำหน่ายสินค้าหรือบริการ เช่น ธุรกิจสปา และนวดไทย คอื การสรา้ งยอดขายและทำ� กำ� ไร แมท้ ง้ั สองสงิ่ จะเปน็ เปา้ หมายทช่ี ดั เจน แตก่ ารจะไป ให้ถึงอาจไม่ง่ายนัก สปาเพ่ือสุขภาพส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่มีเงินลงทุน และบุคลากรจ�ำนวนไม่มาก เคล็ดลับประการหน่ึงในการบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กให้เติบโต และมีผลกำ� ไร คือการเพม่ิ ความเขม้ งวดในการจดั การ และการสรา้ งและรักษามาตรฐานของธรุ กิจ การมีมาตรฐานในการปฏิบัติงาน จะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว ช่วยเสริมให้ธุรกิจ สามารถก้าวไปในแนวทางท่ีถูกต้อง ลูกค้าและคู่ค้าเช่ือใจ ส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างน้อย 10 ประการ กลา่ วคือ 1) ชว่ ยยกระดบั มาตรฐานสินค้าและบริการ 2) ช่วยพัฒนาการผลติ ในเชิงปริมาณได้ดขี ้ึน 3) เสรมิ สรา้ งลูกค้าใหม่ และรกั ษาฐานลูกค้าเดมิ 4) ปรบั ปรุงกระบวนการทำ� งานของธรุ กจิ ให้ดขี น้ึ 5) ลดต้นทนุ และสร้างก�ำไร กรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 51

6) ช่วยวางแผนการท�ำธุรกจิ ระยะยาว 7) ชว่ ยเพิม่ ขีดความสามารถในการแขง่ ขัน 8) ช่วยในการพัฒนานวัตกรรม 9) ชว่ ยเสรมิ สร้างการตลาด 10) ช่วยส่งเสรมิ การสง่ ออกในกรณคี ้าขายกับคู่ค้าต่างประเทศ สถานประกอบการสปาเพ่ือสุขภาพต้องจัดให้มีเอกสารก�ำกับการประกอบธุรกิจ ได้แก่ คู่มือนโยบายและขั้นตอนการด�ำเนินงานที่ครอบคลุมการบริหารจัดการทุกด้าน ควรจัดท�ำเป็น ชุดคู่มือเพื่อก�ำหนดแผนงานการบริหารจัดการ การพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรมหรือปรับปรุง โดยแบ่งตามกจิ กรรมและการบริหารจดั การใหต้ รงกับหมวดของงาน เช่น ชดุ ที่ 1 คมู่ อื นโยบายและแผนงานของสถานประกอบการดา้ นอาคารสถานท่ี ชุดที่ 2 คู่มอื การปฏบิ ัติงานดา้ นการส่ือสารและบรกิ าร ชดุ ที่ 3 คมู่ อื การปฏิบตั ิงานด้านการบรหิ ารและพัฒนาทรพั ยากรบุคคล ชุดท่ี 4 ค่มู ือการปฏบิ ตั งิ านของพนกั งาน 2.2 การจดั ทำ� ค่มู อื การปฏิบัติงานในสปา คู่มือการปฏิบัติงาน เป็นเอกสารซึ่งก�ำกับ สื่อสารให้ผู้ปฏิบัติงานในสปารู้และเข้าใจ ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานตามที่สปาก�ำหนดไว้ SOP อาจเรียกว่า คู่มือปฏิบัติงาน (Operation manual) คู่มือพนักงาน (Employee manual) ซ่ึงประกอบด้วยข้อมูลท่ีน�ำไปใช้ ในการฝกึ อบรมพนกั งานใหม่ หรอื เปน็ คมู่ อื หรอื เอกสารอา้ งองิ สำ� หรบั พนกั งานเกา่ เพอ่ื ศกึ ษา คน้ ควา้ พัฒนาระบบงานของสปา และมีประโยชน์ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพ เพิ่มผลิตผลและ คุณภาพงานบรกิ าร คู่มือการปฏิบตั ิงาน (SOP) โดยทัว่ ไปประกอบดว้ ยขอ้ มูลดงั ต่อไปนี้ 1) ผังกระบวนการ 2) นโยบายของสปา 3) ข้ันตอนการดำ� เนินการ 4) แบบฟอรม์ หลัก 5) เอกสารอื่นๆ เช่น ตัวอย่างจดหมาย หรือค�ำเตือน หรือแบบฟอร์มส�ำเร็จรูป ส�ำหรับเตมิ ข้อความ 52 เอกสารความรู้ ผู้ด�ำ เนนิ การสปาเพื่อสขุ ภาพ

3. การบริหารจดั การดา้ นบคุ ลากรในธุรกจิ สปา การบริหารจัดการด้านบุคลากรในธุรกิจสปาหรือธุรกิจบริการประเภทอื่นๆ อาจมี ความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง หรือน�ำองค์ความรู้ในการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ อุตสาหกรรมสปา หรือธุรกิจสปาเป็นธุรกิจใหม่ แต่มีการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด ท้ังภาครัฐยังสนับสนุน เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพของประเทศไทยมาตลอด ทไี่ ดม้ าตรฐานเชงิ สขุ ภาพและ ทกั ษะการบรกิ ารส�ำหรับธุรกจิ ที่เตบิ โตอย่างรวดเร็ว ธุรกิจสปามีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ต้องการความประณีต ละเอียดอ่อน ดังนั้น ผ้ดู ำ� เนนิ การสปาควรรอบรูด้ า้ นการบริหารจดั การ ให้มคี วามพร้อมในแต่ละด้าน ดังน้ี 3.1. แผนผังองค์กร 3.2. การก�ำหนดลกั ษณะงานและบทบาทหนา้ ทีข่ องบุคลากรต�ำแหนง่ ต่างๆ 3.3. นโยบายด้านบุคลากร การคดั เลือก และการกำ� หนดคา่ ตอบแทน 3.4. การฝึกอบรมและการพฒั นาบคุ ลากร 3.1. แผนผงั องคก์ ร การจดั องคก์ รมแี นวคดิ ไดห้ ลายรปู แบบ ขน้ึ อยกู่ บั ขนาดของธรุ กจิ การบรหิ ารงานบคุ คล จ�ำเป็นต้องมีแบบแผน กฎระเบียบสอดคล้องกัน ผู้ด�ำเนินการสปาต้องจัดให้มีคู่มือพนักงานที่มี รายละเอียดเก่ียวกับนโยบายทั่วไปของบริษัท หน้าท่ีของพนักงาน การจ้างงาน เพื่อให้พนักงาน ใชเ้ ป็นคมู่ ือในการปฏิบัตงิ าน รูห้ นา้ ทแ่ี ละสิทธิประโยชนอ์ ยา่ งถกู ต้อง เจ้าของกิจการ ผู้จดั การ ผูฝ้ ึกอบรม ผู้ใหบ้ ริการ การตลาด พนกั งานต้อนรับ แม่บา้ น บญั ชแี ละงาน ธรุ การ ภาพที่ 29 ตวั อยา่ งแผนผังการจดั โครงสร้างองค์กร กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 53

3.2 การกำ� หนดลกั ษณะงานและบทบาทหน้าท่ขี องบคุ ลากรตำ� แหนง่ ต่างๆ โครงสร้างองค์กรของธุรกิจสปาไม่แตกต่างจากองค์กรทั่วไป ท่ีก�ำหนดลักษณะงาน และบทบาทหน้าท่ีลดหล่ันกันตามความรับผิดชอบของสายงานที่แยกประเภทตามลักษณะงาน เพื่อการประสานและบูรณาการพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่ิงส�ำคัญคือการมอบหมายงาน ใหต้ รงกับความถนดั ของแตล่ ะบคุ คลตามหลักท่วี ่า ‘Put the right man in the right job’ ตัวอย่างการก�ำหนดสถานประกอบการ อาจก�ำหนดโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ ของบคุ ลากรแตกต่างกันตามขนาด แนวคิด และนโยบายการบริการจดั การ ดังตัวอย่างการก�ำหนด หน้าท่ีรับผิดชอบ เพื่อเปน็ แนวทางและลกั ษณะงานบางต�ำแหน่ง ดังนี้ 1. ผ้ดู ำ� เนนิ การ/ ผูจ้ ดั การสปาเพอื่ สขุ ภาพ (Spa manager) หนา้ ทรี่ ับผิดชอบ • ดำ� เนินการตามนโยบายของธุรกจิ ที่ก�ำหนดไว้ • ก�ำหนดกลยทุ ธใ์ นการบริหารจัดการ • ควบคุม ติดตาม การปฏิบัติงานให้เปน็ ไปตามนโยบายและเปา้ หมาย • รายงานผลการด�ำเนนิ งานแก่ผูบ้ ริหารระดบั สงู / เจา้ ของ • แกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งและพฒั นาองคก์ รสู่ความส�ำเร็จ • กำ� หนดและก�ำกับดแู ลการดำ� เนินงานให้เป็นไปตามงบประมาณท่ีวางไว้ 2. ผู้ให้บริการ (Therapist) หนา้ ท่ีรบั ผิดชอบ • ปฎบิ ตั งิ านบรกิ ารเพ่ือสขุ ภาพและงานอ่ืนๆทไี่ ดร้ บั มอบหมาย • ดูแลความสะอาดของสถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ ฯลฯ ในส่วนที่ได้รับมอบหมาย ให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ผู้รับบริการ เพ่ือเตรียมความพร้อมก่อน ระหว่าง และหลังการบริการ • พัฒนาทกั ษะ องคค์ วามรู้ในงานบริการที่รับผดิ ชอบอย่างเพยี งพอ • ปฎิบัตหิ น้าทด่ี ้วยจรยิ ธรรม / จรรยาบรรณ ตามข้อก�ำหนดที่เก่ยี วขอ้ ง 54 เอกสารความรู้ ผดู้ �ำ เนินการสปาเพอื่ สุขภาพ

3.พนกั งานตอ้ นรับ (Receptionist) หน้าที่รบั ผดิ ชอบ • น�ำเสนอข้อมูลการบริการแกล่ กู ค้าเพ่ือการตดั สนิ ใจ • รับนัดหมายการใชบ้ รกิ าร • บันทึกประวัตลิ กู ค้า • แนะนำ� และจำ� หน่ายผลติ ภณั ฑ์ • แนะน�ำการบริการ • ใหข้ อ้ มูล ขอ้ ควรปฏิบัตกิ ่อน ระหวา่ ง และหลงั การบรกิ ารเพอื่ เตรียมความพร้อม • ประสานงานแผนกท่ีเกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ใหก้ ารบริการเป็นไปอยา่ งราบรื่น • ท�ำรายงานประจำ� วนั ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย • ดแู ลความเรียบร้อยในบริเวณสว่ นตอ้ นรบั กรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 55

ตวั อย่างการเขยี นลักษณะงาน (Job Descriptions) ในสถานประกอบการสปาเพ่อื สขุ ภาพ -------------------------------------------------------- ลักษณะงาน – Job descriptions (1) ผูด้ ำ� เนนิ การสปา (Spa manager) สถานท่ที ำ� งาน : ................................. ช่วั โมงการทำ� งาน : ตามช่วงเวลาที่เปิดบริการ 10.00 – 24.00 น. รายงานต่อ : ผชู้ ่วยผบู้ ริหารหรือผู้มีอำ� นาจในการตัดสินใจ ดูแล : พนักงานต้อนรบั ผใู้ ห้บรกิ ารและแมบ่ ้าน วตั ถุประสงค์ของต�ำแหน่งงาน ก�ำหนดและควบคุมติดตามให้พนักงานทุกคนท�ำงานในหน้าท่ีความรับผิดชอบอย่างมี ประสทิ ธิภาพ และเปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงค์ ด้วยมาตรฐานของสถานประกอบการเพอื่ สุขภาพตามท่ี กฎหมายก�ำหนด ดา้ นการปฏิสมั พนั ธ์และการบรกิ ารต่อลูกคา้ • เปน็ ผนู้ ำ� และสรา้ งแรงจงู ใจตอ่ พนกั งานในการทำ� ใหก้ ารบรกิ ารอยเู่ หนอื ความคาดหวงั ของลูกคา้ และให้การปฏิบัตงิ านเป็นไปตามเวลาท่ีกำ� หนด • รักษาปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับการท�ำงาน และจัดใหม้ ีสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกในสปา • สร้างความเขา้ ใจท่ีดีกบั บคุ คลทีม่ ีความแตกตา่ งกันด้านวัฒนธรรม • รอบรู้ความต้องการของลกู คา้ สำ� คัญ (VIP) ดา้ นการขายและการตลาด • ก�ำหนดและด�ำเนินการบริการของสปาท้ังในประเทศและต่างประเทศในช่องทาง การตลาดการขายตา่ งๆ • ดูแลให้ทุกแผนกท�ำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพ่ือให้บรรลุรายได้และ ผลกำ� ไรสูงสุด 56 เอกสารความรู้ ผดู้ ำ�เนินการสปาเพอ่ื สขุ ภาพ

ดา้ นนโยบายและวิธกี ารด�ำเนินการ • ด�ำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์กร นโยบายของฝ่ายบุคคล นโยบาย และวิธีการด�ำเนินงานในสถานประกอบการสปาเพ่ือสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ สถานประกอบการเพ่ือสุขภาพ พ.ศ. 2559 รวมถึงการด�ำเนินงานให้เป็นไป ตามมาตรฐานของกรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ ดา้ นการฝกึ อบรม • จดั ฝกึ อบรมพนกั งานเพื่อการให้บรกิ ารเปน็ ไปอย่างดที ี่สดุ ด้านงบประมาณ • ร่วมวางแผนงบประมาณด้านการด�ำเนินงาน อุปกรณ์ที่ใช้ในการท�ำงาน และงบประมาณรายรับรายจา่ ยตา่ งๆ เป็นรายปี • จดั เตรียมรายงานประจำ� เดือนส�ำหรับสิ่งของท่ใี ช้ไป • จดั เตรียมรายงานรายรับประจ�ำวนั • ตรวจสอบผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานประกอบการ ว่างบประมาณ ไดใ้ ชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม ด้านการบริหาร • ก�ำหนดอัตราและวิธกี ารเรยี กเกบ็ คา่ บรกิ ารจากลูกคา้ • สรรหาผลติ ภณั ฑท์ เี่ หมาะสมและจดั ใหม้ อี ยา่ งเพยี งพอ ทงั้ ผลติ ภณั ฑท์ ใี่ ชบ้ รกิ ารและ เพ่อื จำ� หน่ายต่างๆ ก�ำหนดระยะเวลาสง่ั ซื้อทเี่ หมาะสม • จัดให้มี/ เอกสารข้อมูล/ สิ่งพิมพ์เพ่ือสนับสนุนการตลาด และเสนอแนะปรับปรุง ส่ิงพมิ พ์นน้ั ในเวลาอันสมควร • สรรหาและจดั ซ้ืออุปกรณ์เครือ่ งเขยี นเพื่องานธุรการ • ท�ำการตรวจรับสนิ ค้าตามใบส่งสินค้า และใบก�ำกับสินค้า • อยู่ดแู ลกำ� กับ เมือ่ ฝา่ ยบัญชเี ข้าตรวจสอบสินค้าคงเหลอื • จดั ให้มเี ครือ่ งดม่ื และสง่ิ จ�ำเป็นต่างๆ เพอื่ ประกอบการบริการตามนโยบาย กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 57

ด้านสุขอนามัย • ก�ำหนดนโยบายและแผนงานเพอ่ื ให้สถานประกอบการถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ ด้านการบำ� รุงรักษาสปา • จัดให้มีแผนงานการรักษาความสะอาด บ�ำรุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ท่ีใช้บริการ ใหอ้ ยู่ในสภาพสมบรู ณ์ • ก�ำหนดให้มีระบบการแจ้งซ่อม บ�ำรุงรักษาท่ีได้มาตรฐาน อุปกรณ์หรือระบบท่ีมี ขอ้ ผิดพลาดจะตอ้ งทำ� การรายงานและซอ่ มแซมโดยทันที ด้านการรายงาน • กำ� หนดการทำ� รายงานตามระยะเวลาเสนอผบู้ งั คบั บญั ชาเพอ่ื ทราบและสอ่ื สารตอ่ ไป ด้านความสัมพนั ธ์กบั พนกั งาน • กำ� หนดใหม้ รี ะเบียบขอ้ บังคับขององค์กร ระบุ วันเวลาทำ� งาน วันหยดุ วนั ลา และ สวสั ดกิ ารฯลฯ • ควบคมุ พนกั งานทกุ คนใหท้ ำ� งานตรงตอ่ เวลา สวมยนู ฟิ อรม์ ทถี่ กู ตอ้ งและตดิ ปา้ ยชอ่ื ตลอดเวลาการทำ� งาน • กำ� หนดใหม้ มี าตรฐานการทำ� งานขององคก์ ร และเกณฑก์ ารประเมินผลงาน • สร้างทมี พนักงานทีม่ ีประสทิ ธิภาพ โดยรักษามาตรฐานทดี่ ีไว้ • ก�ำหนดให้มีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร ต�ำแหน่งงานท่ีเหมาะสมแก่ลูกจ้าง ทบทวนการปฏิบัติงานและระบุถึงพ้ืนท่ีการท�ำงานเพ่ือให้เกิดการพัฒนาและ การปรับปรุงทเี่ พม่ิ ข้นึ • สนับสนุนงานฝ่ายบคุ คลในการสรรหา และสมั ภาษณ์พนกั งานใหม่ท่ีมีศกั ยภาพ • สนับสนุนให้มีการปฐมนิเทศ และฝึกอบรมส�ำหรับพนักงานใหม่ รวมถึง การจัดฝกึ อบรมพนกั งานเก่าเพอื่ ทบทวนและเพม่ิ เตมิ ดา้ นอ่นื ๆ • จดั ทำ� ขอ้ เสนอแนะตอ่ ฝา่ ยบรหิ ารในดา้ นการปรบั ปรงุ การทำ� งานเพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมาย 58 เอกสารความรู้ ผู้ด�ำ เนินการสปาเพื่อสุขภาพ

(2) พนักงานต้อนรบั (Receptionist) สถานทท่ี �ำงาน : บริเวณตอ้ นรบั ในสถานประกอบการสปาเพ่อื สขุ ภาพ รายงานต่อ : ผดู้ �ำเนินการสปาเพอื่ สุขภาพหรือผูม้ ีอ�ำนาจในการตดั สินใจ วัตถุประสงค์ของต�ำแหนง่ งาน • จัดการนัดหมายลูกค้า ให้ข้อมูลการบริการและประสานงานระหว่างแผนก ทีเ่ กย่ี วข้องดา้ นการปฏิสมั พนั ธ์กับลูกคา้ • นำ� เสนอข้อมูลลูกคา้ ใหไ้ ด้รับการบริการอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพด้วยมาตรฐานทดี่ เี ยี่ยม • ให้การต้อนรับลูกค้าทุกคนด้วยกิริยาที่สุภาพอ่อนน้อม โดยเรียกชื่อตาม ความเหมาะสม • ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับสง่ิ อำ� นวยความสะดวก การบรกิ ารและเทศกาลพิเศษตา่ ง ๆ • ดแู ลลกู คา้ ท้งั ภายในและภายนอกด้วยการบรกิ ารที่ประทบั ใจ ดา้ นการเงิน • ดแู ลการรบั และจ่ายเงนิ ทีจ่ ดุ ต้อนรบั • ช่วยผดู้ ำ� เนินการในงานที่มอบหมาย ด้านธุรการ • ตอบรบั โทรศพั ทแ์ ละตอบขอ้ ซกั ถามอยา่ งรวดเร็วและเหมาะสม • รับฝาก และแจกจา่ ยขอ้ ความตอ่ ไปยังผู้รบั • ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานประกอบการสปาเพ่ือสุขภาพตามท่ี ฝา่ ยจัดการสง่ั การ ด้านการปฏสิ ัมพันธ์และการสื่อสารกบั พนักงาน • ปฏสิ ัมพันธท์ ี่ดีต่อพนักงานทกุ คนในสถานประกอบการรวมทั้งในแผนกอนื่ ๆ ดว้ ย • แจง้ ผู้ด�ำเนินการสปา ทราบถงึ คำ� วิจารณ์ตา่ ง ๆ ของลูกค้า ความเหน็ ของพนกั งาน ผลกระทบต่อการปฏิบตั งิ านในแต่ละวัน • แจ้งฝ่ายรักษาความปลอดภัยให้ทราบถึงเหตุใด ๆ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อพนักงาน และสุขภาพโดยรวม กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 59

ด้านการบ�ำรุงรักษาสถานประกอบการสปาเพอ่ื สุขภาพ • ดูแลสภาพแวดลอ้ มใหอ้ ยูใ่ นระดบั ที่ดเี ย่ยี ม เพ่ือให้ลูกคา้ เกิดความประทับใจ • รายงานถงึ อปุ สรรคและปญั หาภายในสถานประกอบการตอ่ ผจู้ ดั การสถานประกอบการ • ท�ำงานร่วมกับแผนกวิศวกรรม ในการดูแลอุปกรณ์เคร่ืองเสียงต่าง ๆ ให้สามารถ ทำ� งานไดด้ ีเปน็ ปกติ ดา้ นนโยบายและวิธีการด�ำเนินงาน • ทบทวนนโยบายดา้ นธรุ การทงั้ หมดและวธิ กี ารดำ� เนนิ งานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การตอ้ นรบั สรรหาวธิ ีการปรบั ปรุงเปน็ ระยะๆ • เข้าถึงนโยบายและปฏิบัติตามนโยบายท่ีเก่ียวข้อง ว่าด้วยระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบสขุ ภาพและความปลอดภัย • หน้าทอี่ นื่ ๆ ตามแตท่ างฝ่ายบริหารจะจัดให้ ดา้ นรายงานและการขาย • ท�ำรายงานถงึ แผนกตา่ ง ๆ ให้ตรงตอ่ เวลา และถูกต้อง • จดั ทำ� ทะเบยี นวีดีโอ และแผ่นเพลงของสถานประกอบการ • สง่ เสริมการขายบริการด้านตา่ งๆ 60 เอกสารความรู้ ผ้ดู �ำ เนินการสปาเพ่อื สุขภาพ

(3) ผ้ใู หบ้ รกิ าร (Spa therapist) รายงานต่อ : ผจู้ ดั การสปาหรือผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย วตั ถปุ ระสงคข์ องต�ำแหน่งงาน พนักงานนวดจะเป็นผู้ให้บริการท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานของสปาและกฎระเบียบต่างๆ ตอ้ งพัฒนาความรแู้ ละทักษะใหก้ ้าวหน้าอยูเ่ สมอ ดา้ นการปฏสิ ัมพันธแ์ ละการบริการลูกค้า • ใหบ้ รกิ ารตามรายการและเวลานดั หมาย ปฏบิ ตั ิตอ่ ลกู ค้าด้วยความสภุ าพออ่ นน้อม ด้านธุรการ • บันทึกรายช่ือลูกค้าในสมุดท�ำงาน สมุดสต็อก บันทึกทุกคร้ังท่ีมีการเปล่ียนแปลง ให้เสร็จสมบูรณใ์ นแตล่ ะวนั ด้านสขุ อนามยั • รักษาความสะอาดและเปน็ ระเบยี บของหอ้ งสปาตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ด้านการบ�ำรงุ รักษาอุปกรณ์ • ตรวจสอบอปุ กรณต์ า่ ง ๆ แจง้ ผเู้ กย่ี วขอ้ งเมอ่ื ตอ้ งบำ� รงุ รกั ษาหรอื ซอ่ มแซม บนั ทกึ ลงใน ใบแจง้ เชน่ น�ำไปซอ่ มแซม ฯลฯ ตามที่ได้รบั มอบหมายและรวมอยูใ่ นการบรกิ าร ดา้ นสตอ็ กสินคา้ • จัดเตรยี มผลิตภัณฑ์ในห้องใหบ้ ริการ พรอ้ มสำ� หรบั การบรกิ าร ด้านการตดิ ตอ่ ส่ือสาร • มีปฏสิ ัมพนั ธ์ท่ีดีกับพนักงานทกุ แผนก ดา้ นนโยบายและวิธดี �ำเนินงาน • ด�ำเนินงานตามนโยบายและวธิ ีการด�ำเนินงานของแผนก ด้านการสนบั สนุน • สนับสนุนเพื่อนร่วมงานโดยการช่วยท�ำงานในหน้าท่ีอ่ืน เช่น ช่วยงานต้อนรับ เมือ่ จำ� เปน็ กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 61

หน้าที่หลกั • ใหก้ ารบรกิ ารทุกรายการตามที่รับมอบหมายอย่างดี • สง่ เสริมการขายสินค้าภายในสถานประกอบการตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย • ดแู ลใหก้ ารบรกิ ารเป็นไปอย่างราบรื่น • ประสานงานกบั ฝา่ ยต้อนรบั และส่วนงานอืน่ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง • ดูแลทำ� ความสะอาด ก่อนและหลังการบริการ • รว่ มเข้ารบั การฝึกอบรมทง้ั ในและนอกสถานประกอบการ • เคารพค�ำสั่งที่ฝ่ายบริหารก�ำหนดไว้เก่ียวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ และสิ่งอ�ำนวย ความสะดวก • ตดิ ตามข่าวสารทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั กจิ กรรมและส่งเสริมการขาย • หน้าทอี่ ืน่ ๆ ตามแตท่ างฝา่ ยบริหารมอบหมาย ข้าพเจ้ายอมรบั และปฏิบตั ิตาม ลายมือชอื่ …………………………………………………………………. ชือ่ …………………………………………………………........ พยาน 62 เอกสารความรู้ ผู้ดำ�เนินการสปาเพ่อื สุขภาพ

3.3 นโยบายด้านบุคลากร การคัดเลือก และการก�ำหนดค่าตอบแทน การคัดเลือกพนักงานเพ่ือบรรจุเข้าท�ำงานในสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพ เปน็ กระบวนการทใี่ ชเ้ วลา เนอื่ งจากยงั ขาดแคลนแรงงานในธรุ กจิ นอ้ี ยเู่ ปน็ จำ� นวนมาก สปาขนาดเลก็ ไมม่ ฝี า่ ยบคุ คล หนา้ ทก่ี ารคดั เลอื กพนกั งานจงึ มกั เปน็ หนา้ ทข่ี องผดู้ ำ� เนนิ การสปา ดงั นน้ั ผดู้ ำ� เนนิ การ ควรเพ่ิมเติมองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการบุคลากร (สร้างความสัมพันธ์กับสถานศึกษาท่ีผลิต บุคลากรผใู้ ห้บรกิ ารสถานประกอบการเพอ่ื สุขภาพ) เมอ่ื สถานประกอบการสปาเพอื่ สขุ ภาพมคี วามตอ้ งการพนกั งาน ไมว่ า่ จะเปน็ การเพม่ิ ขน้ึ ตามความต้องการของธุรกิจ การขยายงาน หรือทดแทนพนักงานท่ีลาออกไป ขั้นแรก คือ การประกาศหาผสู้ มคั รผดู้ ำ� เนนิ การสปาหรอื ผมู้ หี นา้ ทคี่ ดั เลอื กเพอื่ บรรจพุ นกั งาน ตอ้ งมรี ายละเอยี ด ของต�ำแหน่งงานท่ีว่างอยู่ ด้านคุณสมบัติ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์การท�ำงาน อัตราค่าจ้าง และค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์อื่นๆท่ีชัดเจน การประกาศรับสมัครอาจผ่านได้หลายช่องทาง เชน่ การลงประกาศในสง่ิ พมิ พอ์ อนไลน์ หรอื ตดิ ประกาศสถาบนั การศกึ ษาเปา้ หมาย และอกี ชอ่ งทางหนง่ึ ทีน่ ิยมท�ำ คอื การขอความร่วมมอื แนะน�ำสถานประกอบการและขอ้ มูลต�ำแหนง่ ว่าง ณ สถานศึกษา เพอ่ื ได้ประชาสมั พันธโ์ ดยตรงแก่นกั เรยี นและนักศึกษา การวางแผนบริหารจัดการรายได้และค่าตอบแทนของพนักงาน (Wisnom M. S. and Capozio L. L., 2011). การประกอบธรุ กจิ สปาเพอ่ื สขุ ภาพในแตล่ ะประเทศ มโี ครงสรา้ งคา่ ตอบแทนหรอื คา่ จา้ ง พนกั งานแตกตา่ งกนั บา้ ง ขน้ึ อยกู่ บั รายไดข้ องสปา การแขง่ ขนั อปุ ทานดา้ นแรงงาน และคา่ ใชจ้ า่ ยอนื่ ๆ ของสปา อย่างไรก็ตามธุรกิจสปาส่วนใหญ่มีแนวคิดการก�ำหนดรายได้ของพนักงานซ่ึงเป็น ผใู้ หบ้ รกิ าร หรอื จา่ ยเปน็ รายไดป้ ระจำ� รอ้ ยละ 60 และเปน็ รายไดท้ คี่ ำ� นวณจากจำ� นวนชว่ั โมงทท่ี ำ� งานจรงิ อีกประมาณร้อยละ 40 โครงสร้างของรายได้แนวนี้ เป็นผลดีต่อค่าใช้จ่ายด้านแรงงานของเจ้าของ ธรุ กจิ เพราะขึ้นลงตามจำ� นวนรายไดจ้ ริง และน�ำมาใชอ้ ยา่ งกวา้ งขวางในธรุ กิจสปา การขาดแคลนผู้ให้บริการที่ทวีความรุ่นแรงข้ึน ท�ำให้เกิดกลุ่มพนักงานอิสระ คือ ไม่ได้เป็นพนักงานประจ�ำ แต่มีค่าตอบแทนตามช่ัวโมงท่ีท�ำงาน ต้องวิเคราะห์สถานการณ์แรงงาน การแข่งขัน และตรวจสอบรายรับรายจ่ายของธุรกิจอย่างใกล้ชิด เพ่ือให้ธุรกิจด�ำเนินต่อไปได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 63

3.4 การฝึกอบรมและการพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรมพนักงานภายในองค์กร หรือกับองค์กรภายนอก ส�ำคัญในการพัฒนา ทรพั ยากรบคุ คลของธรุ กจิ เพอ่ื ใหธ้ รุ กจิ ดำ� เนนิ การไปไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ กา้ วหนา้ และมผี ลกำ� ไร สามารถตอ่ ยอดทางธรุ กจิ ได ้ มกี ารใหบ้ รกิ ารทไ่ี ดค้ ณุ ภาพมาตรฐานสมำ่� เสมอ สรา้ งความประทบั ใจ แก่ผู้รับบริการ สถานประกอบการควรจัดงบประมาณพัฒนาบุคลากร ควรเป็นนโยบายของธุรกิจ มีการจัดสรรงบประมาณ มแี ผนการปฏบิ ตั ิการทชี่ ัดเจนและมเี ป้าหมาย นอกจากมีประโยชน์และกระตุ้นพนักงานให้เกิดก�ำลังใจในการท�ำงานและสร้าง ความก้าวหน้าให้ธุรกิจ ควรพิจารณารายละเอียดด้านอ่ืนด้วย นอกเหนือจากการจัดการฝึกอบรม ให้ได้ตามนโยบายของบริษัท การพูดคุยกับพนักงาน การหมั่นศึกษาข้อวิจารณ์ของผู้รับบริการ อาจเหน็ วา่ ความตอ้ งการฝกึ อบรมทแ่ี ทจ้ รงิ อาจไมต่ รงตามทบ่ี รษิ ทั จดั การอบรมได้ หวั ขอ้ การฝกึ อบรม อาจตอ้ งมีความหลากหลายตามความตอ้ งการจรงิ ของสถานประกอบการและพนกั งาน การบริหารจัดการด้านการเงิน ธุรกิจสปามองจากภายนอกอาจเป็นธุรกิจที่ท�ำก�ำไร หรือคืนทุนเร็ว การบริหารจัดการ ด้านการเงินจึงดูไม่ส�ำคัญเท่าการบริหารจัดการด้านอื่นๆ ดูแลด้านการบริการลูกค้าเป็นส�ำคัญ แต่ในความเป็นจริง การบริหารจัดการด้านการเงินมีความส�ำคัญมาก เป็นตัวบ่งช้ีหรือมาตรวัด การด�ำเนินงานของเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารจัดการสปา จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน สามารถเข้าใจหรือวิเคราะห์เครอ่ื งมอื ทางการเงินได้ เคร่ืองมอื ทางการเงินทสี่ �ำคัญ ได้แก่ • การกำ� หนดเป้าหมายของรายได้ ผลกำ� ไร และการจัดทำ� งบประมาณด้านต่างๆ • การวางแผนการปฏบิ ตั ิงานดา้ นรายรบั / รายจา่ ย ต่อ ค่าตอบแทนพนักงาน • การจดั ทำ� งบการเงนิ และงบประมาณดำ� เนนิ การ เพอ่ื เปน็ เครอ่ื งมอื ตรวจสอบสถานะ ทางการเงนิ ของกิจการ รายงานทางการเงินของธุรกิจประกอบด้วย 1) งบดลุ คอื รายงานที่แสดงถงึ ภาระหนสี้ ิน และทรัพย์สนิ ของกิจการ ณ ชว่ งเวลาหนงึ่ เช่น สน้ิ ปีบัญชี 2) งบก�ำไรขาดทุน คือ รายงานที่แสดงถึงรายได้ รายจ่ายของกิจการและผลก�ำไรหรือ ขาดทนุ ในชว่ งเวลาทีก่ ำ� หนด 64 เอกสารความรู้ ผู้ดำ�เนินการสปาเพอ่ื สขุ ภาพ

3) งบกระแสเงินสดของกิจการ คือรายงานส�ำคัญทางการเงินที่แสดงในรูปของเงินสด ท่ีรับมาและท่ีจ่ายออกไปในธุรกิจ รายงานสถานะเงินสดของธุรกิจมีความส�ำคัญ เพราะธุรกิจมี ความจ�ำเป็นต้องมีเงินสดเพียงพอส�ำหรับการใช้จ่าย หรือจัดซ้ือผลิตภัณฑ์ และข้าวของเครื่องใช้ ท่ีจ�ำเปน็ หากกิจการขาดเงินสดหรอื มไี มเ่ พียงพอ จะสง่ ผลกระทบต่อการบริหารจดั การธรุ กจิ 4) งบแสดงสว่ นของผ้ถู ือหุน้ การคาดการณร์ ายไดข้ องธรุ กจิ สปาเพอ่ื สขุ ภาพ (Control:, Wisnom M. S. and Capozio L. L., 2011) การจัดท�ำงบประมาณรายรับรายจ่ายและผลก�ำไรของกิจการ โดยท�ำ forecasting หรือ ประเมนิ รายได้ของกจิ การลว่ งหน้า อาจประเมนิ เป็นรายเดอื น รายไตรมาส หรอื ทงั้ ปี พจิ ารณาจาก ผลประกอบการในอดตี ภาวการณด์ า้ นตลาด ตลอดจนเงอ่ื นไขทม่ี ผี ลตอ่ ธรุ กจิ สปาเปน็ หลกั และอาจจะ ต้องใช้ข้อมูลทางการตลาด การท�ำนายภาวการณ์ของธุรกิจสปา การท่องเที่ยว รสนิยมของ ผู้รบั บริการสปา จากหน่วยงานหรอื สือ่ ส่ิงพิมพท์ างธุรกจิ สปามาประกอบดว้ ยกไ็ ด้ งบประมาณส�ำหรับด�ำเนินการให้ประโยชน์ต่อการควบคุมรายรับ รายจ่าย ของธุรกิจ ให้บรรลุเป้าหมายเกิดผลก�ำไร เพ่ิมอัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจ ลดการผิดพลาด งบประมาณ เป็นเคร่ืองมือในการวางแผนธุรกิจ ก�ำหนดเป้าหมายทางการเงิน เป็นแนวทางการควบคุมต้นทุน เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการท�ำงานของพนักงานในองค์กรได้ทุกระดับ ตลอดจนผลการด�ำเนิน การของธุรกจิ ในช่วงต่าง ๆ ของปี อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงงบประมาณเพิ่มหรือลดเป็นไปตามสถานการณ์จริง ที่เปล่ียนไป และจากตัวแปรด้านต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อกิจการ ผู้ด�ำเนินการสปาจ�ำเป็น ตอ้ งตดิ ตามสถานการณก์ ารแขง่ ขนั คแู่ ขง่ ทางธรุ กจิ ปจั จยั ทางการเมอื ง แนวโนม้ และความนยิ มของ ผรู้ บั บรกิ ารสปาทอ่ี าจเปล่ยี นแปลงไป การประเมินหรอื ติดตามผลประกอบการ เพ่ือเปรยี บเทียบกับ งบประมาณรายเดอื น หรอื รายไตรมาส ทำ� ใหเ้ หน็ ผลตา่ งระหวา่ งตวั เลขในงบประมาณกบั รายไดจ้ รงิ จากธุรกิจ น�ำไปวิเคราะห์และหาทางปรับปรุงแก้ไข เพ่ือให้รายได้กลับสู่เป้าหมายทันเวลา หรือลด การขาดทนุ ลง การจัดท�ำงบประมาณประจ�ำปีของธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ จะมีรูปแบบคล้ายกับงบก�ำไร ขาดทนุ แตด่ ดั แปลงเพอื่ อำ� นวยความสะดวกในการควบคมุ หรอื ประเมนิ ผลการดำ� เนนิ การตลอดทงั้ ปี งบประมาณประจ�ำปีอาจเพ่ิมเติมรายละเอียดของกิจกรรมด้านการบริการ หรือรายได้จากกิจกรรม ที่เก่ียวข้องลงไปด้วย และเพ่ือให้เห็นภาพท่ีเข้าใจง่าย จึงอาจแบ่งกลุ่มตัวอย่างของกิจกรรมต่าง ๆ ในงบรายรบั และรายจ่าย ดงั นี้ กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 65

หมวดการนวด (Body massage) การนวดหนา้ (Facial massage) หมวดผม (Hair) หมวดเลบ็ (Nail) หมวดการออกก�ำลงั กาย (Fitness) หมวดการใช้น�ำ้ (Aquatics) หมวดอาหารและเครือ่ งดม่ื (Food and beverage) หมวดขายปลีก (Retail) หมวดคา่ เช่า (Rentals) หมวดกฬี าและสันทนาการ (Sports and recreation) หมวดสมาชกิ (Membership) หมวดค่าเช่าห้อง (Rooms – จาก Destination spa) ผู้ด�ำเนินการสปา จ�ำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ หรือท�ำความเข้าใจรายงานทางการเงิน ที่กลา่ วข้างต้น เพื่อนำ� ไปใช้เป็นเครือ่ งมือในการบริหารธุรกจิ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 66 เอกสารความรู้ ผ้ดู �ำ เนินการสปาเพอ่ื สขุ ภาพ

4. การบรหิ ารจดั การดา้ นการตลาด การสง่ เสรมิ การขาย และการประชาสัมพนั ธ์ในธุรกิจสปาเพ่ือสขุ ภาพ ผู้ด�ำเนินการสปาเพ่ือสุขภาพ จ�ำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจเร่ืองการบริหารจัดการ ในสว่ นท่เี กย่ี วขอ้ ง ดังนี้ 4.1. การวางแผนการตลาดและบริหารตราสินคา้ 4.2. การวเิ คราะห์ความได้เปรียบทางการแข่งขนั 4.3. การสร้างแรงกระตุ้นเพือ่ ใหม้ กี ารใชบ้ รกิ ารในสปา 4.1 การวางแผนการตลาดและบรหิ ารตราสนิ คา้ ผ้ปู ระกอบการธรุ กจิ สปาเพ่อื สุขภาพ อาจลงทนุ ดา้ นอาคารสถานที่ อปุ กรณ์ สงิ่ อ�ำนวย ความสะดวก ตลอดจนวัสดุการตกแต่งจากการออกแบบของสถาปนิกชั้นยอด และวางแผนธุรกิจ โดยบริษัทที่ปรึกษา ด้านสปามืออาชีพ แต่เม่ือสปาเปิดด�ำเนินการ จึงต้องรอบรู้ในเร่ืองต่อไปนี้ การท�ำการตลาด การประชาสัมพันธ์ธุรกิจ การวางแผนส่งเสริมการขาย เพื่อให้มีผู้มารับบริการ อยา่ งต่อเน่อื ง สมำ�่ เสมอ การด�ำเนินงานธุรกจิ สปาเพื่อสุขภาพจึงเปน็ ปัญหาใหญข่ องผปู้ ระกอบการ และความอยรู่ อดของธรุ กจิ ดังนนั้ ธรุ กิจจ�ำเป็นตอ้ งมผี ู้ดำ� เนนิ การสปามืออาชพี ท่ีมีความรรู้ อบดา้ น และสามารถประสานงานกบั หนว่ ยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองคก์ รได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 1) การวางแผนการตลาด การวางแผนการตลาดถือเป็นหัวใจส�ำคัญของผู้จัดการสปา ท่ีจะท�ำให้ธุรกิจสามารถ ท�ำก�ำไรได้อย่างต่อเนื่อง จะต้องวางแผนกลยุทธ์ท้ังระยะสั้นและระยะยาว โดยใช้กลยุทธ์ส่วนผสม ทางการตลาดและบุคลากรดงั น้ี 1.1) กลยุทธ์ด้านบรกิ าร 1. บริการของสปา ประกอบดว้ ย รปู รส กลิ่น เสยี ง และสมั ผสั การจดั การในแตล่ ะดา้ น จะแตกต่างกัน การออกแบบเพ่ือให้สอดคล้องกับแนวคิดของการให้บริการสปาก็แตกต่างกัน ผบู้ รหิ ารสปาจำ� เปน็ ตอ้ งรอู้ งคป์ ระกอบแตล่ ะดา้ นวา่ ตอ้ งมกี ารดแู ลใหเ้ กดิ ความเรยี บรอ้ ยและนา่ สนใจ ตอ่ ผูม้ าใชบ้ รกิ ารอยา่ งไร กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 67

2. การจดั การดา้ นรปู หรอื บรรยากาศภายในของสปา การดแู ลความเรยี บรอ้ ยภายในสปา และความสวยงามของสถานท่ีทั้งภายในและภายนอก ท�ำให้เกิดความแตกต่างและบ่งบอกถึงระดับ ของสปา 3. การจดั การด้านรส จะตอ้ งถูกสขุ อนามัย โดยเน้นความสะอาดของอปุ กรณ์ เคร่อื งมือ เครอื่ งใชป้ ระกอบการให้บริการ เคร่ืองดมื่ หรอื อาหารตอ้ งเน้นหลักโภชนาการ 4. การจัดการด้านกลิ่น เป็นหัวใจส�ำคัญของสปา การบ�ำบัดแบบองค์รวมต้องสร้าง ความสมดลุ ทงั้ กาย ใจ จติ วญิ ญาณ กลน่ิ มผี ลตอ่ ระบบการหายใจ ระบบการยอ่ ยอาหาร ระบบประสาท และการสื่อสาร และอารมณ์ การเลือกใช้กล่ิน ต้องใช้เฉพาะน้�ำมันหอมระเหยท่ีสกัดจากธรรมชาติ เท่านั้น ไม่ควรใช้น�้ำมันหอมระเหยที่ผลิตจากสารสังเคราะห์ท่ีมีลักษณะกลิ่นคล้ายหรือเหมือนกับ ดอกไมห้ รอื สมนุ ไพร เชน่ การเลอื กซอ้ื นำ้� มนั ดอกกหุ ลาบ ตอ้ งพจิ ารณาทง้ั กลนิ่ และราคาเปน็ เบอื้ งตน้ หากน้�ำมันหอมระเหยดังกล่าวมีราคาต่�ำกว่าที่ควร ให้สันนิษฐานว่าไม่ใช่น�้ำมันหอมระเหยท่ีแท้จริง กุหลาบ ขนาด 15 มล. ราคาขวดละ 80 บาท ใหส้ รปุ ไดว้ า่ เป็นของปลอมหรอื สารสังเคราะห์ 5. การจดั การดา้ นเสยี ง เสยี งเพลงทใี่ ชใ้ นสถานประกอบการสปาเพอ่ื สขุ ภาพ มกั ใชเ้ สยี งนำ�้ ตามธรรมชาติหรือดนตรีบรรเลง เสียงนกร้อง ใช้การผสมผสานของท�ำนอง จังหวะที่ผ่อนคลาย และการประสานเสยี งของเครอื่ งดนตรี มผี ลโดยตรงตอ่ การสง่ั การจากประสาทและการเตน้ ของหวั ใจ ท�ำให้ผู้ฟังมีอารมณ์ผอ่ นคลายได้ 6. การจดั การดา้ นสมั ผสั เปน็ สงิ่ ทขี่ าดไมไ่ ดข้ องสปา เพราะรายไดก้ วา่ รอ้ ยละ 70 มาจาก การนวด ผบู้ รหิ ารสปาตอ้ งรปู้ ระโยชนข์ องการนวดแตล่ ะชนดิ ขอ้ หา้ มขอ้ ควรระวงั ในการนวดสำ� หรบั บคุ คลบางประเภท และต้องมคี วามรู้เกย่ี วกับคณุ สมบัตนิ �้ำมันหอมระเหยท่ีใช้ผสมในน้�ำมันนวด 1.2) กลยุทธ์ดา้ นราคา การก�ำหนดราคาการบริการต้องค�ำนึงถึงต้นทุนด�ำเนินการและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ อาจทำ� ไดห้ ลายวธิ ี เชน่ การตงั้ ราคาจากตน้ ทนุ บวกกำ� ไรทต่ี อ้ งการ หรอื ตงั้ ราคาเทยี บกบั ข้อมูลคู่แข่งขัน อาจใช้เกณฑ์การตั้งราคาโดยส�ำรวจความพึงพอใจของลูกค้ากลุ่มบริโภคท่ีแท้จริง สถานประกอบการสปาซงึ่ มลี กั ษณะเหมอื นกนั อาจมกี ารตง้ั ราคาแตกตา่ งกนั ไดข้ นึ้ อยกู่ บั ภาพลกั ษณข์ อง กจิ การ ในการกำ� หนดกลยทุ ธ์ อาจใชว้ ธิ ลี ดราคาคา่ บรกิ ารเพอื่ กระตนุ้ ยอดขาย เปน็ วธิ ที นี่ ยิ มใชก้ นั มาก การก�ำหนดราคาควรสะท้อนถึงผลที่คาดวา่ ผู้รบั บรกิ ารจะไดร้ ับภายหลงั การบริการ 1.3) กลยทุ ธ์ด้านช่องทางการจัดจำ� หน่าย ช่องทางการจัดจ�ำหน่าย หมายถึง แหล่งกระจายสินค้าหรือบริการ สปาแต่ละแห่ง จะมีชอ่ งทางการจัดจำ� หน่ายแตกต่างกัน ผูบ้ รหิ ารสปาตอ้ งศกึ ษาช่องทางท่ีได้ผล เช่น อาจจ�ำหนา่ ย พรอ้ มการท่องเทยี่ ว หรอื เปดิ ขาย ณ ห้างสรรพสินค้า 68 เอกสารความรู้ ผ้ดู ำ�เนนิ การสปาเพ่อื สุขภาพ

1.4) กลยทุ ธด์ า้ นประชาสมั พันธ์ การประชาสัมพันธ์เพ่ือสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ใช้งบประมาณน้อยกว่าการโฆษณา แต่ใช้เวลาเห็นผลนานกว่า อาจท�ำการส่งเสริมการขายเป็นคร้ังคราว พนักงานขายติดต่อลูกค้า เปา้ หมายโดยตรง 1.5) กลยุทธด์ า้ นบุคลากร สถานประกอบการต้องจัดการฝึกอบรมทักษะการนวด เพื่อรักษามาตรฐาน การให้บริการ เพ่ือความปลอดภัยต่อผู้รับบริการอย่างต่อเน่ืองไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการให้บริการ การนวด ความรเู้ รื่องผลิตภัณฑ์ท่ีใชใ้ นสปา 4.2 การวเิ คราะห์ความไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขนั การวิเคราะห์ความได้เปรียบทางการแข่งขันมีความส�ำคัญต่อการบริหารธุรกิจสปาให้มี ศกั ยภาพและทำ� ก�ำไรใหก้ บั ธรุ กจิ ปจั จัยท่ตี ้องพิจารณา ได้แก่ 1. คู่แข่งขันในธุรกิจประเภทเดียวกัน ผู้บริหารสปาต้องศึกษาวิวัฒนาการ การเปลย่ี นแปลงดา้ นอปุ สงคแ์ ละอุปทานของค่แู ขง่ ขนั ในอตุ สาหกรรมบรกิ ารประเภทเดียวกัน 2. ผู้รับบริการ ต้องก�ำหนดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนเพื่อจัดบริการตรงความต้องการ ความคาดหวังอย่างมีคุณภาพ และต้องพัฒนางานสอนต่างๆ ท่ีจะสร้างความพึงพอใจ เช่น บริการเสริม ระบบการจองใช้บริการ การก�ำหนดราคาท่ีจูงใจลูกค้า รวมถึงวางแผนจัดการส่งเสริม การขายในช่วงทล่ี ูกค้าใช้บรกิ ารนอ้ ย เพอ่ื เพมิ่ รายได้ตามเป้าหมายที่ตง้ั ไว้ 3. การบรหิ ารความตอ้ งการของลกู คา้ การสนองความตอ้ งการ ความคาดหวงั ของลกู คา้ ใหค้ มุ้ คา่ ท่สี ดุ โดยการเตรียมห้องให้บรกิ ารและผใู้ ห้บรกิ ารได้ตามความต้องการ 4. คู่แข่งขันรายใหม่ การมีสถานประกอบการเพิ่มเป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่มีอัตราการ เติบโตสงู ผู้บรหิ ารสปาจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งปรบั ตวั เพ่อื ใหส้ ามารถยืนหยัดอยูใ่ นตลาดไดต้ ลอดเวลา 5. สินค้าทดแทน จัดให้มีบริการหลากหลาย เพ่ือรองรับความต้องการของผู้รับบริการ หรอื จดั ใหม้ ีบริการใหม่ทดแทนรายการเก่า กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 69

4.3 การสรา้ งแรงกระตนุ้ เพอื่ ใหม้ กี ารใชบ้ รกิ ารในสปา (Middleton V. T. C. and Clarke J., 2001) สปาเป็นธุรกิจท่ีมีความละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ แต่ภาพลักษณ์ของสปาถูกจัดอยู่ใน ประเภทบริการฟมุ่ เฟอื ยสำ� หรับกลุม่ คนท่ีมรี ายได้สงู จงึ ทำ� ให้ความต้องการภายในประเทศนอ้ ยกว่า ความต้องการของชาวต่างชาติ ต้องกระตุ้นให้เกิดความต้องการโดยเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค ดว้ ยการใช้กลไก 6 ข้นั ตอน ขั้นตอนที่ 1 บรกิ ารท่ีจดั ใหล้ กู ค้าเปา้ หมาย บริการเพื่อสุขภาพต้องมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการ เพิ่มทางเลือกเพื่อจูงใจลูกค้า เช่น จัดบริการนวดแผนไทย การออกก�ำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิค ในน�้ำ โยคะ หรอื การนงั่ สมาธิ ขน้ั ตอนท่ี 2 สอ่ื สารให้กลมุ่ เปา้ หมายรู้ถงึ การใหบ้ รกิ าร การส่ือสารอาจจะกระท�ำได้ 2 ลักษณะ ได้แก่การสื่อสารแบบทางการ และการสื่อสารแบบไมเ่ ป็นทางการ การสื่อสารแบบทางการคือ ใช้ส่ือโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพ่ือเข้า ถงึ กลมุ่ เปา้ หมาย เช่น การลงโฆษณา การจดั ท�ำแผ่นพับโฆษณา ส่งเสรมิ การขายในรปู แบบต่างๆ การจดั กจิ กรรมทางการตลาด การทำ� ประชาสมั พนั ธ์ หรอื ทำ� เวบ็ ไซด์ ขอ้ เสยี คอื คา่ ใชจ้ า่ ยคอ่ นขา้ งสงู การสือ่ สารแบบไม่เป็นทางการคือ การท�ำการตลาดโดยใชบ้ ุคคลอา้ งอิง สามารถ เพ่มิ ยอดขายได้ในระยะยาว (Sawyer, 2002) การสื่อสารประเภทนเี้ ปน็ การใหข้ ้อมูลโดยคนใกล้ชิด เพ่ือน หรอื ผู้รับบรกิ ารทีไ่ ด้รบั ความเชอ่ื ถอื เปน็ การสือ่ สารแบบปากตอ่ ปาก ขนั้ ตอนที่ 3 เขา้ ใจลักษณะของลูกค้าและกระบวนการตัดสนิ ใจ การใหข้ อ้ มลู ทีต่ รงกบั ความตอ้ งการเพ่อื จูงใจลูกค้าใหล้ องใช้บริการ 70 เอกสารความรู้ ผดู้ ำ�เนินการสปาเพอ่ื สุขภาพ

ข้นั ตอนท่ี 4 เขา้ ใจมลู เหตุจูงใจทีล่ ูกค้าตดั สนิ ใจใช้บรกิ ารสปา การบริการในสปา มักถูกหยิบยกว่าเป็นประสบการณ์ ซึ่งกลุ่มผู้รับบริการได้ ขยายวงกว้างจากผู้มีฐานะทางการเงินหรือทางสังคมดี มายังกลุ่มท่ีมีฐานะปานกลาง โดยเฉพาะ วยั ทำ� งาน ผดู้ ำ� เนนิ การสปาเพอ่ื สขุ ภาพจงึ ตอ้ งเขา้ ใจความตอ้ งการของผรู้ บั บรกิ าร พยายามสรา้ งสรร การบริการท่ีจะสนองตอบความต้องการของผู้รับบริการ ให้เกิดความพึงพอใจ ด้วยบริการที่มี คณุ ภาพมาตรฐานด้านการส่งเสริมสขุ ภาพ ซ่ึงเปน็ ความตอ้ งการของคนในยุคปจั จบุ นั ขนั้ ตอนที่ 5 ผรู้ ับบริการจะทำ� การตัดสนิ ใจเลือกการใช้บรกิ าร ภาพลกั ษณข์ องสถานประกอบการสปาเพอ่ื สขุ ภาพทม่ี คี ณุ ภาพมาตรฐานและตราสนิ คา้ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ และสถานประกอบการสามารถคัดสรรกลุ่มผู้รับบริการได้ ตามนโยบายกำ� หนด การจดั รปู แบบการใหบ้ ริการก็จะมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น ข้ันตอนที่ 6 การใช้บริการซ�้ำหรอื เลกิ ใช้บรกิ าร หากผู้รับบริการมีความพึงพอใจในการให้บริการ อาจจะกลับมาใช้บริการซ้�ำ แต่ถ้า ผรู้ ับบรกิ ารไมป่ ระทบั ใจ สถานประกอบการอาจสูญเสยี โอกาสทางธุรกิจและผรู้ ับบรกิ ารไป กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 71

5. การประเมินผลการด�ำเนนิ งานในธรุ กจิ สปา ผดู้ ำ� เนนิ การสปาทต่ี อ้ งการประสบความสำ� เรจ็ ในการปฏบิ ตั งิ าน จะพยายามทำ� งานใหถ้ งึ เป้าหมาย 3 ด้าน คือ สร้างความประทับใจในบริการ น�ำเสนอบริการของสปาเพื่อสุขภาพ และ สร้างผลการปฏิบัติงานโดยรวมท่ีน่าพอใจ มีตัวช้ีวัดความส�ำเร็จท้ัง 3 ด้านของบริการท่ีแม่นย�ำ เชื่อถือได้ การสรา้ งกระบวนการประเมนิ ผลทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ การประเมินความพึงพอใจโดยตรงจากลูกค้า ท�ำได้หลายวิธี เช่น การสัมภาษณ์ก่อน และหลังการรับบรกิ าร เพ่ือสอบถามความพึงพอใจ การประเมนิ ความพงึ พอใจ เปน็ การประเมนิ ภาพใหญข่ องการบรกิ าร ประกอบดว้ ย เมนู ผลิตภัณฑ์ บรรยากาศ ผู้ท่ีให้บริการ อาจท�ำร่วมกับรายงานประจ�ำวัน ได้แก่ แสดงเมนูท่ีนิยมและ ไม่นยิ ม การกลับมาใชบ้ รกิ ารซ้ำ� 72 เอกสารความรู้ ผู้ดำ�เนนิ การสปาเพือ่ สุขภาพ

6. การบรหิ ารจดั การด้านการบรกิ าร ความพร้อมของ พนกั งานผใู้ หบ้ ริการสปา การจัดท�ำมาตรฐานการให้บริการและการปฏิบัติงาน ต้องสามารถตรวจสอบได้อย่าง เปน็ รูปธรรม การประเมินผลการด�ำเนินงานในสปา สามารถประเมินผลโดยท�ำเป็นร้อยละ (%) ให้นำ้� หนักตามความสำ� คญั ของแตล่ ะหวั ขอ้ โดยแบง่ เป็น สถานที่ บคุ ลากร การใหบ้ ริการ สนิ ค้าและ อปุ กรณ์ กำ� หนดเกณฑก์ ารประเมิน เป็นรอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป หัวข้อ Weight % สถานท่ี 20 บคุ ลากร 25 การให้บรกิ าร 35 สินคา้ 5 อุปกรณ์ 15 รวม 100 ผู้ด�ำเนินการสปาเพื่อสุขภาพจึงควรให้ความส�ำคัญในการพัฒนา ปรับปรุงการด�ำเนิน งานเมอื่ ผลการประเมนิ บางหวั ขอ้ ไดค้ ะแนนตำ�่ รกั ษามาตรฐานหวั ขอ้ ทไ่ี ดค้ ะแนนสงู ไวอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง และพัฒนาใหด้ ีย่ิงขึ้น เพือ่ การบรกิ ารงานใหส้ ำ� เรจ็ ก้าวหนา้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 73

74 เอกสารความรู้ ผู้ด�ำ เนนิ การสปาเพอื่ สุขภาพ ตัวอย่าง การประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานในสปาเพอื่ สุขภาพ หัวข้อ ส่ิงทตี่ ้องดูแล วิธกี ารตรวจสอบ คะแนน ดา้ นบคุ ลากร • แต่งกายถูกระเบยี บ • จดั ใหม้ กี ารประชุมพนกั งานผใู้ ห้บริการทุกเช้ากอ่ นเปิด • แต่งกายสะอาด อนามยั ดา้ นการให้บรกิ าร • สว่ นบคุ คล ผม/ เลบ็ บรกิ าร สปาเพ่ือสุขภาพ เพื่อตรวจความพรอ้ มของ • มาตรฐานผู้ใหบ้ ริการผ่านการขน้ึ ทะเบยี นเปน็ ผูใ้ ห้ พนกั งาน เช่น เส้อื ผม และโรคตดิ ต่อ ของผู้ใหบ้ ริการ • มแี บบฟอร์มรบั เร่อื งการร้องเรยี นของผรู้ บั บรกิ าร บริการ หรือมีใบอนุญาตเปน็ ผ้ดู ำ�เนินการสปา • ตรวจสอบ และสอบสวนการร้องเรียนของผู้รบั บรกิ าร • ปฏบิ ัติตามสขุ วทิ ยาสว่ นบคุ คล • ทดสอบฝีมือผ้ใู ห้บรกิ ารเดือนละ 1 คร้งั • ตรวจใบอนญุ าตทำ�งาน • จัดใหม้ ผี ้าปิดปากขณะให้บรกิ ารทุกคน • ไมห่ ายใจรดผู้รับบริการ • ดูจากใบรอ้ งเรียนของผู้รบั บริการ • ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของผ้รู บั บรกิ ารขณะกำ�ลังให้ • ดูจากผลทีป่ รากฏแก่ผู้รับบรกิ ารวา่ พงึ พอใจหรือไม่ มี บรกิ ารอยู่ อาการผิดปกติหรือไม่ • ไมเ่ รียกรอ้ งเงนิ รางวัลจากผู้รบั บริการ • ทำ�ดัชนีวดั ความพึงพอใจของผรู้ ับบริการ • หา้ มคา้ ประเวณี หรือประพฤตผิ ดิ จรรยาบรรณ • วิเคราะหเ์ วลาทร่ี อคอยการบรกิ าร • บรกิ ารตามมาตรฐานทีร่ ะบไุ ว้ในคมู่ ือปฏบิ ตั ิงานของ • จัดให้มีการตรวจสอบทางลับเปน็ ครง้ั คราว สปาเพ่อื สุขภาพ • บริการด้วยใจ ในการใหบ้ ริการ • ใหค้ ำ�แนะนำ�ผรู้ บั บริการกอ่ น/ ขณะ/ หลังการให้บรกิ าร รกั ษามารยาทในการให้บรกิ าร ไม่ให้กรีดกราย แสดง กิรยิ าหยอกลอ้ เยา้ ยวนใหเ้ ข้าใจผิด ใหส้ มั ผสั ผูร้ บั บรกิ ารอยา่ งละมนุ ละม่อม ยกย่องใหเ้ กียรติ ไม่กลา่ ว วิจารณห์ รือเปดิ เผยเรื่องสว่ นตวั ของผู้รบั บรกิ ารลบั หลงั

หวั ขอ้ สงิ่ ทีต่ ้องดูแล วิธีการตรวจสอบ คะแนน ดา้ นอุปกรณพ์ ื้นฐาน • หากอยใู่ นหมวดทีต่ อ้ งข้ึนทะเบียน ตอ้ งผา่ นการรบั รอง • จัดเกบ็ เคร่อื งมอื ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ • อ่างอาบนำ้ � จากหนว่ ยงานราชการทเ่ี กยี่ วขอ้ ง • จดั ทำ�ปา้ ยแสดงวิธีใช้ให้ชัดเจน • อ่างนำ้ �วน • อา่ งวารีบำ�บัด • หากไมจ่ ดั อยใู่ นหมวดที่ต้องข้ึนทะเบยี น ต้องมขี ้อมลู • จดั ใหม้ เี อกสารในการตรวจสอบ (Check list) เพือ่ ตรวจ • ต้อู บไอน้ำ� • หอ้ งเซานา่ แหลง่ ผลติ ทชี่ ัดเจน และมีคูม่ อื แสดงวตั ถุประสงค์ วธิ ใี ช้ สอบเคร่อื งมอื อย่างสมำ่ �เสมอ • ผ้าหม่ ไฟฟา้ • เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชเ้ พอ่ื ตลอดจนการบำ�รงุ รกั ษา ข้อห้าม ขอ้ ระวงั โดยละเอียด • เกบ็ หลักฐานใบรบั ประกนั คูม่ อื วธิ ีใช้ และหมายเลข เสรมิ สวย • ตฆู้ า่ เชือ้ • เลือกใช้อปุ กรณ์ท่มี ีใบรับรอง ส.ม.อ. (สนิ คา้ มาตรฐาน โทรศัพทต์ ดิ ต่อผขู้ ายให้เรยี บรอ้ ย สามารถค้นหางา่ ย • ต้ผู ้ารอ้ น • หมอ้ นึ่ง อุตสาหกรรม) • จัดใหม้ กี ารฝึกอบรมผู้ให้บรกิ ารทจี่ ะต้องใชอ้ ปุ กรณน์ ั้น กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 75 • เลอื กใช้ของท่ดี แู ลรกั ษางา่ ย ไมย่ ุ่งยาก สมำ่ �เสมอ และต้องทดสอบฝีมอื เป็นระยะ

76 เอกสารความรู้ ผู้ด�ำ เนนิ การสปาเพอื่ สุขภาพ หวั ข้อ สิ่งทีต่ ้องดแู ล วิธกี ารตรวจสอบ คะแนน ดา้ นผลิตภัณฑ์ท่ัวไป • ใชส้ ว่ นผสมทผี่ ลติ จากธรรมชาติ • ทดสอบกบั ตวั เอง ทใ่ี ช้ในสปา • ไมม่ สี ว่ นผสมของแอลกอฮอล์ • ใชง้ า่ ย ซมึ ซับดี ผลติ ภณั ฑ์หน้า • น่มุ นวลสำ�หรับผวิ พรรณ ไมม่ สี ่วนผสมทำ�ลายผวิ เชน่ • นุ่มนวลตอ่ ผวิ พรรณ • คลีนซ่งิ สำ�หรับรอบ • กลน่ิ รุนแรง ฉุน ดวงตาและใบหน้า กรดผลไมเ้ ข้มข้น เกินปริมาณที่ควรใช้กับผวิ • หากเป็นผลิตภณั ฑท์ ใี่ ช้ล้างหนา้ ต้องดูว่าลา้ งทำ�ความ • โทนเนอร์ • หากจะให้บรกิ ารประเภทหนา้ กต็ อ้ งใช้ผลิตภัณฑ์ • สครับ สะอาดงา่ ย • ครีมนวดหนา้ เฉพาะสำ�หรับผิวหน้าเท่าน้ัน เพราะโครงสร้างของผิว • ใช้แล้วผวิ นมุ่ นวลหรือระคายผิว • นำ้ �มันนวดหน้า หน้า มคี วามละเอียดอ่อนกวา่ ผวิ กาย กลิ่นหอมบางเบา • ได้ผลตามทีร่ ะบไุ ว้ • มาสค์ เป็นธรรมชาติ หลีกเล่ียง งดเวน้ การใช้สารสังคราะห์ • ใหต้ รวจดวู ่ามีใบอนุญาต ผ่านการทดสอบจากหน่วยงาน • ครมี บำ�รุง เลียนแบบ เช่นการเลือกใชน้ ำ้ �มันหอมระเหย ตอ้ งระวงั ผลิตภณั ฑ์ตวั ของปลอม ผลติ ภัณฑท์ ่ไี ม่มีมาตรฐาน เพราะการใช้ อ.ย. และ หรือสถาบนั วจิ ัยทดสอบทน่ี า่ เช่อื ถือ • สครับผวิ สำ�หรับผลัด นำ้ �มันหอมระเหยน้นั ต้องควบคุมปรมิ าณการใช้สว่ น • มรี ายละเอยี ดวิธีใช้ ขอ้ ห้าม ขอ้ ปฏบิ ตั ิ การจดั เกบ็ วนั เซลล์ผิว ผสม (Essential oil) แตล่ ะชนิด เพ่อื ให้ไดผ้ ลดีตาม • มาส์ค/ พอกดว้ ย ทรี่ ะบไุ ว้ และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใหบ้ รกิ ารและผู้รับ เดอื นปที ี่ผลติ หรือวนั หมดอายุชัดเจน โคลน บริการใน ระยะยาว • บรรจุภัณฑ์อยใู่ นสภาพเรียบร้อย • นำ้ �มนั นวดอโรมา • ตรวจสอบดูประวัตผิ ขู้ าย ผูผ้ ลิต ว่ามีความนา่ เชื่อถือและ • ครีมนวดตวั มีความรคู้ วามเข้าใจในผลิตภณั ฑ์ • ผู้ขายมบี รกิ ารฝกึ อบรมสมำ่ �เสมอ หรอื ทดสอบการใช้ ผลติ ภัณฑเ์ ป็นระยะ • ดูสว่ นผสมทีร่ ะบไุ ว้ข้างบรรจุภัณฑว์ ่ามีสว่ นผสมท่ตี ้อง ห้าม หรอื เปน็ อนั ตราย





3 การบริการในสปาเพ่ือสุขภาพ การบริการในสถานประกอบการสปาเพ่ือสุขภาพ ตามก�ำหนดในพระราชบัญญัติ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จัดแบ่งประเภท การบรกิ ารไว้ดงั นี้ 1. การนวดเพื่อสุขภาพ 2. การใชน้ ำ�้ เพื่อสขุ ภาพ 3. การบริการอื่นๆอีกอย่างน้อย 3 อย่างที่ก�ำหนดไว้ในสถานประกอบการสปา เพ่อื สขุ ภาพ กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 79

3.1 การบริการท่ใี ช้ความรอ้ น 3.2 การบรกิ ารท่ีใชค้ วามเย็น 3.3 การบรกิ ารผวิ กาย (การดแู ลเล็บ เสน้ ผม หนงั ศรี ษะ ขนและกำ� จดั ขน) 3.4 การบริการผวิ หน้า 3.5 การบรกิ ารด้วยศาสตรแ์ ละศิลปท์ ที่ ำ� ให้เกิดการผอ่ นคลาย 3.6 การออกก�ำลงั กายเพ่อื สุขภาพ 3.7 โยคะ 3.8 ฤๅษีดดั ตน 3.9 การทำ� สมาธิ 3.10 โภชนาการเพื่อสขุ ภาพ 3.11 สคุ นธบ�ำบดั 1. การนวดเพอ่ื สุขภาพ การนวดเพอื่ สขุ ภาพเปน็ สง่ิ ทม่ี นษุ ยร์ จู้ กั นำ� มาใชใ้ นการบรรเทาอาการปวดเมอ่ื ย ซง่ึ ไดร้ บั การยอมรบั มากข้นึ ในปัจจบุ นั เปน็ แนวทางหนึ่งเพอ่ื ส่งเสรมิ สุขภาพ เห็นได้จากจำ� นวนสถานบริการ สขุ ภาพที่เพม่ิ ข้นึ ทั้งในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในธุรกจิ สปาและนวดไทย 1.1 ความหมายของการนวดและนวดเพื่อสุขภาพ การนวดเพ่ือสุขภาพเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งทางการแพทย์ และเป็นวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพเมื่อมีอาการเหน็ดเหนื่อยเม่ือยล้า ปวดเมื่อยตามร่างกาย และ มีพัฒนาการมาเป็นการนวดเพื่อรักษาโรค (Therapeutic massage) จนถึงปัจจุบัน ประมาณ ค.ศ. 1884 (พ.ศ. 2427) เกรแฮม (Graham) ให้ค�ำจ�ำกัดความของการนวด (Massage) หมายถึง กระบวนการสัมผสั ด้วยมอื บนเน้อื เยอ่ื ดา้ นนอกของร่างกาย ด้วยวิธีปฏิบัติหลายรูปแบบ เชน่ การตี ลูบ ถู กด เฟ้น และทุบผวิ หนังกล้ามเนือ้ และขอ้ (Braverman D. L. and Schulman R. A., 1999) 80 เอกสารความรู้ ผูด้ �ำ เนนิ การสปาเพอ่ื สุขภาพ

การนวดไทยตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. 2544 หมายความวา่ การตรวจประเมนิ การวนิ จิ ฉยั การบำ� บดั การปอ้ งกนั โรค การสง่ เสรมิ สขุ ภาพและฟน้ื ฟสู ขุ ภาพ ดว้ ยวธิ กี ารกด คลงึ บบี จบั ดดั ดงึ ประคบ อบ หรอื วธิ อี นื่ ตามศลิ ปะการนวดไทย (สำ� นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า, 2544) การนวดเพอื่ สขุ ภาพเปน็ สงิ่ ทม่ี นษุ ยร์ จู้ กั นำ� มาใชใ้ นการบรรเทาอาการปวดเมอ่ื ย ปจั จบุ นั การนวดเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแนวทางหนึ่งเพ่ือส่งเสริมสุขภาพ เห็นได้จากสถานบริการเพ่ือสุขภาพ ทเี่ พมิ่ ขึน้ ทง้ั ในองค์กรภาครฐั และภาคเอกชน โดยเฉพาะในธรุ กิจสปาและนวดแผนไทย 1.2 ประวัติความเป็นมา การนวดมีประวัติศาสตร์ยาวนาน พบหลักฐานเก่าแก่ท่ีสุดแถบเอเชีย ท่ีบันทึกไว้ ในประเทศจีนเม่ือประมาณ 4,500 ปีมาแล้ว (Cassar M. P., 2000) ต่อมา เม่ือประมาณ 600 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ชาวญี่ปุ่นรับแบบอย่างวิธีการนวดจากชาวจีน ส่วนระบบการแพทย์อายุรเวท ของอนิ เดยี ยอ้ นหลงั ไปอย่างนอ้ ย 500 ปีกอ่ นครสิ ตศ์ ักราช ก็กล่าวถงึ การดแู ลสุขภาพด้วยการนวด ในยุคกรีกโบราณ ฮิปโปเครตสิ (Hippocrates 460 – 375 ปกี อ่ นคริสต์ศักราช) และ อรสิ โตเตลิ (Aristotle 384 – 322 ปกี อ่ นครสิ ตศ์ กั ราช) เขยี นถงึ การนวดในยคุ นนั้ มหี ลกั ฐานระบถุ งึ สถานท่ีท่ีนิยมใช้ออกก�ำลังกาย มีการบริการนวด และอาบน�้ำร่วมกัน ต่อมาในยุคอาณาจักรโรมัน (27 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 476 หรือ พ.ศ. 1019) ยังมีหลักฐานแสดงถึงสถานที่ดังกล่าว ซ่งึ ในปัจจบุ ันสถานที่นีเ้ รยี กว่า ยิมเนเซียม (Gymnasium) หลังยุคกรีกและโรมัน มีหลักฐานกล่าวถึงการนวดอีกคร้ังในยุโรป ยุคเรอเนซองค์ ชว่ งทศวรรษท่ี 14 - 17 (พ.ศ. 1844 – 2343) ต่อมามีผูส้ นใจด้วยลกั ษณะของการรกั ษาในหลาย ประเทศแถบทวีปยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี และสวีเดน จึงมีค�ำศัพท์ต่างๆ เก่ียวกับ การนวดพื้นฐานเป็นภาษาฝรั่งเศส และการนวดได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศสวีเดน ต่อมา มีโรงเรียนเปิดสอนการนวดเพื่อการบ�ำบัด ชื่อ เดอะ รอยัล อินสทิทิว ออฟ ยิมนาสติก (The Royal Institute of Gymnastics) ในกรุงสต็อกโฮม ปีค.ศ. 1813 (พ.ศ. 2356) ซึ่งท�ำให้ การนวดแบบสวีดิช (Swedish massage) เป็นที่นิยมแพร่หลายทั้งยุโรป อเมริกา และ อีกหลาย ประเทศทั่วโลก จนทุกวนั นี้ (Braverman D. L, and Schulman R. A., 1999) กรมสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 81

ศาสตร์การนวดไทยซ่ึงเป็นภูมิปัญญาของคนไทยท่ีสืบทอดมานานจากบรรพบุรุษ เป็นการ สอนแบบตัวต่อตัว หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของไทยท่ีพบเก่าแก่ท่ีสุดคือศิลาจารึก สมัยสุโขทัย (พ.ศ. 178 - 1981) ในสมัยพ่อขุนรามค�ำแหงมหาราช ศิลาจารึกขุดพบที่ป่ามะม่วง มีรูปจารึกเก่ียวกับการนวด ต่อมาในยุคกรุง ศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893 - 2310) รัชสมัยสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช การแพทย์แผนไทยเจริญรุ่งเรืองมาก เฉพาะอย่างย่ิงการนวดแผนไทย มกี ารแบง่ กรมหมอนวดเปน็ ฝา่ ยซา้ ย – ขวา มหี ลกั ฐานปรากฏในทำ� เนยี บศกั ดนิ าขา้ ราชการฝา่ ยทหาร และพลเรอื น (พระไอยการตำ� แหน่งนาพลเรอื น) ที่ตราข้ึนในปี พ.ศ. 1998 นอกจากนี้ยังพบหลักฐาน จดหมายเหตุพระราชพงศาวดารสยามกรุงศรีอยุธยาของราชทูต มองสิเออร์ เดอลาลูแบร์ เอกอัครราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 แห่งประเทศฝรั่งเศส เข้ามาในกรุงสยาม และได้เขียนถึง หมอนวดแผนไทยไว้ “ครนั้ มาถงึ สมยั รตั นโกสนิ ทร์ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก มหาราช (พ.ศ. 2325 - 2352) ทรงโปรดฯ ให้รวบรวมปั้นรูปฤๅษีดัดตนจนครบ 80 ท่า และ จารึกวิชาการนวดไทยลงบนแผ่นหินอ่อน 60 ภาพ ประดับบนผนังศาลาราย และบนเสาภายใน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จนถึงใน รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีหลักฐาน กรมหมอนวดปรากฏ และทรงโปรดใหห้ มอยา และหมอนวดถวายการรกั ษา โดยมหี มอนวดถวายงาน ทุกคร้ังที่เสด็จประพาส บทบาทของหมอนวดได้หมดจากราชส�ำนักในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อการแพทย์แผนตะวันตกเข้ามาในสังคมไทย แตห่ มอนวดชาวบา้ นยงั คงมอี ยตู่ ราบถงึ ปจั จบุ นั ” (ประพจน์ เภตราภาศ, 2555; เพญ็ นภา ทรพั ยเ์ จรญิ และบญุ เรือง นิยมพร, 2544) 1.3 ประเภทของการนวดเพื่อสุขภาพในธุรกิจสปา 1) การนวดไทย การนวดไทยมีจุดก�ำเนิดจากการนวดให้ตัวเองและนวดกันเองภายในครอบครัวทั่วไป ผนู้ วดจงึ ใชอ้ วยั วะอน่ื นอกจากมอื ไดแ้ ก่ ศอก ทอ่ นแขน สน้ เทา้ เปน็ ตน้ ทา่ ทางการนวดกม็ ไิ ดห้ ลากหลาย ท่านอนหงาย นอนตะแคง ท่าน่ัง หลังจากนวดแล้วผู้รับบริการนวดจะรู้สึกสบายขึ้นทันที แต่ถ้า ผรู้ บั บรกิ ารนวดทมี่ ปี ระวตั โิ รคประจำ� ตวั บางอยา่ ง ควรไดร้ บั การตรวจรา่ งกายจากแพทยก์ อ่ นทำ� การ นวด เพอื่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนทอ่ี าจเกิดอนั ตรายได้ การนวดไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้ 1.1) การนวดแบบเชลยศักด์ิ (การนวดแบบทั่วไป) หมายถึง การนวดแบบสามัญชน สืบทอดฝึกฝนแบบแผนการนวดตามวัฒนธรรมท้องถ่ิน จากการดูแลภายในครอบครัวสู่เพื่อนบ้าน ด้วยมือและอวัยวะส่วนอ่ืนๆ นวดบริเวณกล้ามเนื้อและแนวเส้นต่างๆของร่างกาย ซึ่งอาจมีวิธีการ แตกตา่ งกนั เรม่ิ นวดตง้ั แตเ่ ทา้ ขนึ้ ไปจนถงึ ขาชว่ งบน นวดหลงั ไหล่ ตน้ คอและแขน เพอ่ื ใหเ้ ลอื ดและ น�ำ้ เหลืองไหลเวยี นดขี ึ้น และสง่ ผลดตี อ่ การทำ� งานของอวัยวะตา่ งๆ 82 เอกสารความรู้ ผ้ดู ำ�เนินการสปาเพอื่ สุขภาพ

1.2) การนวดแบบราชส�ำนัก (ประยุกต์เป็นการนวดแบบแนวเส้นพ้ืนฐาน) หมายถึง การนวดถวายกษัตริย์และเจ้านายช้ันสูงภายในราชส�ำนัก ผู้นวดต้องเดินเข่าเข้าหาผู้รับบริการ ซึ่งนอนอยู่บนพ้ืนเมื่ออยู่ห่างราว 2 ศอก นั่งพับเพียบตัวตรง หันหน้ามองตรง ไม่ก้มหายใจรด ผู้รับบริการ และไม่เงยหน้ามากจนเป็นการ ไม่สุภาพ แล้วคารวะขออภัยผู้รับบริการ ผู้นวดจะ คล�ำชีพจรท่ีข้อมือและหลังเท้าข้างเดียวกัน เพื่อตรวจดูอาการก่อนเร่ิมท�ำการนวด การนวดคล้าย การนวดแบบเชลยศักดิ์ (แบบทั่วไป) ต่างกันที่ไม่ใช้อวัยวะอื่นนวดนอกจากมือ ต�ำแหน่งการ นวด การวางมือและแขนของผู้นวดซ่ึงต้องกระท�ำอย่างสุภาพ การสอนมีข้ันตอนการนวดที่สุภาพ เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยการนวดพ้ืนฐานต่างๆ เช่น พ้ืนฐานขา พ้ืนฐานแขน พื้นฐานหลัง พน้ื ฐานบา่ การนวดกล้ามเนอ้ื ต้นคอ เปน็ ต้น ปัจจุบันการนวดแบบราชส�ำนักน�ำมาประยุกต์เป็นการนวดแบบแนวเส้นพ้ืนฐาน ด้วยหลักการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เป็นการนวดที่ต้องระวังเร่ืองท่าทาง และต้องค�ำนึงถึง ความสุภาพ เป็นการนวดท่ีผู้นวดควบคุมการลงน้�ำหนักนิ้วมือที่กดให้เหมาะสม มีข้อปฏิบัติในการ นวดค่อนข้างเคร่งครัด ในปัจจุบันการนวดแบบเชลยศักดิ์ (แบบทั่วไป) เป็นที่นิยม มีการถ่ายทอด ต่อเนื่องกันตามชุมชน อย่างไรก็ตามการนวดไทยทั้ง 2 แบบแสดงถึงเอกลักษณ์ไทย กล่าว คือ แสดงถึงความสุภาพอ่อนโยน มีมารยาท ผู้รับบริการนวดไทยจะสวมเส้ือผ้าท่ีสบายไม่อึดอัด ไมม่ กี ารใหถ้ อดเสอ้ื ผ้า ผู้นวดตอ้ งนวดดว้ ยความส�ำรวม ตารางท่ี 1 ความแตกต่างระหว่างการนวดแบบแนวเส้นพ้ืนฐานแพทย์แผนไทย ประยุกต์ (แบบราชส�ำนักประยกุ ต)์ และการนวดแบบทัว่ ไป (แบบเชลยศักดิ)์ ขอ้ แตกตา่ ง การนวดแบบแนวเส้นพ้ืนฐาน การนวดแบบท่วั ไป 1. กิรยิ ามารยาท สำ�รวม แสดงอาการเคารพ เดินเขา่ เปน็ กันเองกับผรู้ บั บรกิ าร อาจ 2. การเรม่ิ นวด เข้าหาผรู้ บั บริการ ไมก่ ้มหนา้ หายใจ ดไู มส่ ำ�รวมมากนัก รดผู้รบั บรกิ ารหรอื เงยหน้ามากจนดูไม่ เคารพ เรมิ่ นวดตัง้ แตข่ อ้ เทา้ หลงั เท้าขน้ึ ไป เร่ิมนวดทีฝ่ า่ เทา้ 3. อวัยวะท่ใี ชน้ วด ใชม้ ือ นวิ้ หวั แม่มือ และปลายนวิ้ ใช้มอื ศอก แขน เขา่ เทา้ สน้ 4. ท่าทางของแขน เท่าน้นั เท้า เหยยี ดแขนตรงเสมอ ตรงหรืองอก็ได้ กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 83

ขอ้ แตกตา่ ง การนวดแบบแนวเสน้ พ้นื ฐาน การนวดแบบทั่วไป 5. การลงนำ้ �หนัก ใช้การกดเทา่ น้นั มีท้ังกดและนวดคลึง 6. ทา่ ของผูร้ บั บริการ มที า่ น่ัง ทา่ นอนหงาย ท่านอนตะแคง ท่านัง่ นอนหงาย ตะแคงและ เท่าน้นั ไมม่ ที ่านอนคว่ำ� ท่านอนคว่ำ� 7. การดัด ไม่มกี ารดดั ดึงขอ้ ตอ่ และหลงั มกี ารดดั ดงึ ขอ้ ต่อและหลัง 8. ความรทู้ าง มคี วามรู้อยา่ งดีพอสมควร อาจไม่มคี วามร้ดู พี อ กายวิภาค ทมี่ า : สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ , 2547 การนวดแผนไทยกับเส้นประธานสิบ การนวดแผนไทยมีหลักการนวดตามเส้นสมมติบนร่างกาย ได้แก่ เส้นประธานซ่ึงมี 10 เส้น แต่ละเส้นมีจุดเริ่มต้นอยู่บริเวณรอบสะดือ โดยอยู่ลึกลงไปจากผิวหนังประมาณ 2 องคุลี (1 น้ิวฟุต) แล่นผ่านส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย บางตําแหน่งอาจอยู่ตื้น บางต�ำแหน่งลึกจากผิวหนัง บรเิ วณทเี่ สน้ ประธานไปสน้ิ สดุ เรยี กวา่ ‘ราก’ เสน้ ประธานแตล่ ะเสน้ มแี นวพาดผา่ นของเสน้ ทแี่ นน่ อน มีเสน้ แขนงทแ่ี ยกออกจากเส้นประธานทงั้ 10 สว่ น ตำ� แหนง่ ของเส้นประธานทั้ง 10 มีดังนี้ เส้นเอ็นท่ี 1 อิทา ตั้งต้นกึ่งกลางท้องใต้สะดือ 2 น้ิว เยื้องซ้ายมือ 1 น้ิว แล่นไป หัวเหน่าต้นขาซ้ายข้ึนไปตามข้างกระดูกสันหลังเบื้องซ้ายสู่ศีรษะ ผ่านลงมาท่ีจมูกด้านซ้าย (เอน็ ซ้าย) สมั พนั ธก์ บั อาการบรเิ วณศีรษะ เชน่ ปวดศรี ษะ เสน้ เอน็ ที 2 ปงิ คลา ต้งั ต้นกึง่ กลางท้องใต้สะดอื 2 นิ้ว เยอ้ื งขวา 1 น้ิว แลน่ จากสะดอื ไป หวั เหนา่ ตน้ ขาขวา ขนึ้ ไปตามขา้ งกระดกู สนั หลงั เบอ้ื งขวาศรี ษะ ผา่ นลงมาทจี่ มกู ดา้ นขวา (เอน็ ขวา) สมั พันธก์ บั อาการบริเวณศรี ษะ เชน่ ปวดศรี ษะ เส้นเอ็นที่ 3 สุมนาหรือรากชิวหา ต้ังต้นกึ่งกลางท้องเหนือสะดือ 2 นิ้ว แล่นข้ึนไป ทรวงอก ลาํ คอ สุดท่ีโคนล้ิน (เอน็ ) อก สมั พันธก์ ับอาการของอวัยวะแนวกลางลาํ ตวั เช่น ลนิ้ คาง อก และหัวใจ 84 เอกสารความรู้ ผู้ดำ�เนนิ การสปาเพอ่ื สขุ ภาพ

เส้นเอ็นที่ 4 กาละธารี ตั้งต้นกึ่งกลางท้องแล้วแยกเป็น 4 เส้น 2 เส้นบนเหนือสะดือ 1 นิ้ว แล่นไปตามลําตัวส่ไู หล่ แขนทั้งสอง จนสุดปลายน้วิ ทัง้ 2 (เอ็นแขน) อีก 2 เสน้ ล่างใตส้ ะดือ 1 นว้ิ แลน่ ลงไปตามลําแขง้ ถึงปลายนิว้ เทา้ ทงั้ 2 ข้าง (เอน็ เทา้ ) สมั พนั ธ์กบั อาการของแขนและขา เส้นเอน็ ที่ 5 สหัสสรงั สีหรอื รากจักษซุ ้าย ตงั้ ต้นกงึ่ กลางทอ้ งจากสะดือมาทางซา้ ย 3 นวิ้ แลน่ ลงไปยงั ตน้ ขาซา้ ยดา้ นในและปลายเทา้ ซา้ ย แลว้ ยอ้ นขนึ้ มาตามแขง้ ซา้ ยสหู่ วั นมซา้ ยและใตค้ าง ไปสดุ ทเี่ บ้าตาซา้ ย (เอน็ ตาซา้ ย) สัมพนั ธก์ ับอาการของตา เสน้ เอ็นที่ 6 ทวารีหรอื รากจักษุขวา ตั้งต้นกงึ่ กลางท้องจากสะดอื มาทางขวา 3 นิว้ แล่น ลงไปยงั ตน้ ขาขวาดา้ นในและปลายเทา้ ขวา แลว้ วกกลบั ขน้ึ มาตามลาํ แขง้ ขวาสหู่ วั นมขวาและใตค้ าง ไปสุดทเ่ี บ้าตาขวา (เอ็นตาขวา) สัมพันธก์ ับอาการของตา เส้นเอ็นท่ี 7 จันทะภูสังหรือรากโสตซ้าย ต้ังต้นกึ่งกลางท้องจากสะดือทางซ้าย 4 นิ้ว แลน่ ไปราวนมซ้ายแล้วขน้ึ ไปหซู ้าย (เอน็ หซู ้าย) สัมพนั ธ์กบั อาการของหู เส้นเอ็นที่ 8 รุชําหรือรากโสตขวา ตั้งต้นก่ึงกลางท้องจากสะดือมาทางขวา 4 น้ิว แล่นผ่านราวนมขวาสู่ใต้คางออกไปรากหขู วา (เอน็ หูขวา) สมั พนั ธ์กบั อาการของหู เสน้ เอน็ ที่ 9 สขุ มุ งั หรอื รากทวารหนกั ตงั้ ตน้ กง่ึ กลางทอ้ งใตส้ ะดอื 3 นว้ิ กดเยอ้ื งซา้ ยเลก็ น้อย แลน่ ไปทวารหนัก (เอ็นทวาร) สมั พนั ธก์ ับอาการของทวารหนกั เส้นเอน็ ท่ี 10 สขิ ณิ ีหรอื ทวารเบา ตง้ั ต้นก่งึ กลางท้องใตส้ ะดือ 3 น้วิ กดเยอ้ื งขวาเล็กน้อย แล่นไปทวารเบา (เอน็ เพศ) สัมพันธ์กับอาการของทวารเบา เส้นเอ็น 10 เส้น เป็นประธานของเส้นท้ังหลาย จึงเป็นส่ิงสําคัญที่ต้องศึกษาส่วน ความสัมพนั ธ์ ระหว่างเส้นประธานและจุดแก้น้ัน มีทัง้ จุดท่อี ยู่บนแนวเสน้ ประธานและจดุ ทไี่ มไ่ ดอ้ ยู่ บนแนวเส้นประธาน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 85

หลักในการให้บริการและการลงน�้ำหนักมือในการนวดเพ่ือสุขภาพ 1) การแต่งรสมอื หมายถึงการลงน้�ำหนกั แต่ละรอบและจังหวะการลงน�ำ้ หนกั การลงน้�ำ หนักนวิ้ มอื ท่ีกดมี 3 ระดับคือ 1. น�้ำหนักเบา ประมาณร้อยละ 50 ของนำ�้ หนักทส่ี ามารถลงไดส้ ูงสุด 2. นำ้� หนักปานกลาง ประมาณรอ้ ยละ 70 ของน�ำ้ หนักทีส่ ามารถลงได้สงู สดุ 3. นำ�้ หนกั มาก ประมาณร้อยละ 90 ของน�้ำหนกั ท่ีสามารถลงไดส้ ูงสุด 2) การลงจังหวะนว้ิ มอื ในการนวด จังหวะในการลงน�้ำหนักแต่ละครั้งมี 3 จังหวะคอื 1. หนว่ ง ลงน�ำ้ หนกั เบาเพ่อื กระตนุ้ ให้กล้ามเนือ้ ร้ตู วั ไม่เกร็งตา้ นแรงกด 2. เนน้ ลงน�ำ้ หนกั เพมิ่ ข้ึนบนตำ� แหนง่ ท่ีตอ้ งการกด 3. น่ิง ลงนำ้� หนักมากและกดน่งิ ไวพ้ รอ้ มกับกำ� หนดลมหายใจส้ันยาวตามตอ้ งการ การลงน�้ำหนักเพ่ิมข้ึนทีละน้อยท�ำให้กล้ามเน้ือสามารถปรับตัวรับน�้ำหนักได้ จึงไม่เจ็บ หรือเจ็บป่วยมากข้ึน การลงน้�ำหนักมากต้ังแต่เร่ิมกดท�ำให้กล้ามเน้ือเกร็งต้านแรงกดทันที และอาจ ทำ� ใหต้ ำ� แหนง่ ทกี่ ดคลาดเคลอื่ น ผถู้ กู นวดจะเจบ็ มากหรอื ระบมไดเ้ ชน่ กนั (สถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข, 2547) รูปแบบวิธีการนวดพ้ืนฐานแบบไทย วิธกี ารนวดพน้ื ฐานแบบไทย มลี ักษณะของการนวดดังน้ี การกด มักใช้นิว้ หัวแม่มือกดลงท่สี ว่ นของร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนอ้ื คลายตวั ใหเ้ ลือด ถูกขบั ออกจากหลอดเลือดบรเิ วณนัน้ และเมื่อลดแรงกดลง เลือดจะพุ่งมาเลย้ี งบรเิ วณน้ันไดม้ ากขน้ึ ทำ� ให้ระบบไหลเวียนเลือดทำ� หน้าท่ีได้ดี ซ่อมแซมส่วนทส่ี กึ หรอรวดเรว็ ขน้ึ การคลึง ใช้น้ิวหัวแม่มือ น้ิวมือ หรือสันมือออกแรงกดให้ลึกถึงกล้ามเน้ือแล้วเคล่ือน ไปมา หรอื คลึงเปน็ ลกั ษณะวงกลม การบีบ จับกล้ามเน้ือให้เต็มฝ่ามือแล้วออกแรงบีบท่ีกล้ามเน้ือ เพ่ือเพิ่มการไหลเวียน ของเลือดมาทกี่ ลา้ มเน้อื ช่วยให้หายจากอาการเมือ่ ยลา้ การบบี ยังช่วยลดอาการเกรง็ ของกลา้ มเนอ้ื ได้ด้วย 86 เอกสารความรู้ ผู้ด�ำ เนินการสปาเพื่อสขุ ภาพ

การดงึ เพอื่ ยดึ เสน้ เอน็ ของกลา้ มเนอ้ื หรอื พงั ผดื ของขอ้ ตอ่ ทห่ี ดสน้ั ใหย้ ดื ออก ใหส้ ว่ นนน้ั ท�ำหนา้ ท่ไี ด้ตามปกติ การบดิ เพื่อหมุนขอ้ ตอ่ กลา้ มเนอื้ หรือเส้นเอ็นให้ยืดออกทางด้านขวาง การดดั เพอื่ ใหข้ อ้ ต่อท่ีตดิ ขัดเคล่ือนไหวไดต้ ามปกติ การดดั ต้องออกแรงมาก การตบ ตี ทบุ สบั เพอื่ กระตนุ้ กลา้ มเนอ้ื อยา่ งเปน็ จงั หวะ มกั ใชว้ ธิ นี บ้ี รรเทาอาการปวดหลงั ปวดคอ หรือช่วยขบั เสมหะเวลาไอ 2) การนวดแบบตะวันตก 2.1) นวดสวีดชิ (Swedish massage) การนวดเพอื่ สง่ เสรมิ สขุ ภาพทนี่ ยิ มกนั มากในธรุ กจิ สปา ตงั้ แตก่ ลางยคุ ศตวรรษท่ี 20 ทา่ นวดสวีดิช คือทา่ นวดตน้ แบบของการนวดแผนตะวนั ตกอื่นๆ ซึ่งครอบคลุมวธิ กี ารนวดท่ีลงน�้ำหนกั เบา ปานกลางถึงมาก จนถึงระดับการลงน้�ำหนักให้เกิดผลต่อกล้ามเนื้อลึก โดยใช้น�้ำมันหรือครีม เป็นสอ่ื เพ่อื ลดแรงเสียดทานระหว่างผิวและมือผู้นวด 2.2) นวดอโรมา (Aromatic massage) ลกั ษณะการนวดดว้ ยบางทา่ ของการนวดแบบสวดี ชิ ในจงั หวะเนบิ ใหค้ วามรสู้ กึ ผอ่ นคลาย โดยใช้น�้ำมันหอมระเหยท่ีสกัดเย็นจากส่วนต่างๆของพืช ได้แก่ ดอก ผล ใบ ต้น เมล็ดฯ ซ่ึงมี คุณประโยชน์ต่อร่างกายและมีผลต่อระบบประสาท เช่น ท�ำให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยปรับสมดุลของ ร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย 2.3) นวดเซลลูไลท์ (Cellulite massage) การน�ำท่าการนวดสวีดิชมาปรับแต่ง เน้นการนวดกล้ามเน้ือลึก เพ่ือกระตุ้นระบบเลือด และน้�ำเหลืองให้ขจัดไขมันส่วนเกิน การนวดเซลลูไลท์ควรแนะน�ำผู้รับบริการให้ท�ำสม�่ำเสมอ ตาม ระดบั อาการ เช่น สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 6-10 คร้งั และผูร้ ับบริการควรปฏบิ ัติตามคำ� แนะน�ำ ในการปรบั เปลีย่ นพฤตกิ รรมการบริโภคอาหาร เครือ่ งดมื่ และกิจกรรมบางอย่างทอี่ าจเปน็ อปุ สรรค กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 87

รูปแบบวิธีการนวดพ้ืนฐานแบบตะวันตก พื้นฐานของการนวดแบบตะวนั ตก (Swedish massage) ท่ีนยิ มใชท้ ั่วไป แบ่งออกเป็น 4 วธิ ี (Hollis M., 1987; Wood E. C, et al., 1981) ได้แก่ การลบู (Effleurage or stroking massage) คือ การใชม้ ือลูบวนแนวยาวบนผวิ หนงั อาจลงน้�ำหนกั เบาหรอื ปานกลางกไ็ ด้ ซ่ึงจะให้ผลแตกตา่ งกนั การลงน�้ำหนักปานกลางต่อเนื่องเปน็ แนวยาวจะใหผ้ ลทางกลศาสตรร์ ะดบั ลกึ โดยออกแรงไลจ่ ากสว่ นปลายเขา้ หาขอ้ พบั ของแขนขา หลงั และคอ มักใช้แรงเบาในช่วงวนกลับ วิธีการนี้จะช่วยเพ่ิมการไหลเวียนกลับของหลอดเลือดด�ำหรือ ทางเดนิ นำ�้ เหลอื ง ถา้ ลงนำ�้ หนกั เบาในทศิ ทางใด ซงึ่ กระทำ� ไดท้ ว่ั ทงั้ รา่ งกาย เปน็ การกระตนุ้ ปฏกิ ริ ยิ า ตอบสนองและเกดิ ผลทางดา้ นจติ ใจ ทำ� ใหร้ สู้ กึ ผอ่ นคลาย การใชจ้ งั หวะเรว็ จะเปน็ การกระตนุ้ จงั หวะชา้ จะเป็นการผอ่ นคลาย (Wood E. C., et al., 1981; Cyriax J. and Russell G., 1980; Hofkosh J. M., 1985) การบบี ขยำ� (Petrissage or compression massage) คอื การบบี ขย�ำเน้อื เยื่อออ่ น บนรา่ งกายโดยอาศัยแรงบีบสองมอื หรอื มอื เดียว กดลงบนสว่ นต่างๆ มีประโยชนช์ ว่ ยให้เลือดและ นำ�้ เหลอื งหมนุ เวยี น การนวดแบบนยี้ งั ทำ� ใหเ้ นอื้ เยอ่ื ทย่ี ดึ แนน่ หรอื พงั ผดื สลายตวั และกลา้ มเนอื้ ทต่ี ดิ กนั แยกออก มีรปู แบบของการนวดต่างๆกัน (Wood E. C., et al., 1981; Cyriax J. and Russell G., 1980; Hofkosh J. M., 1985; Greenman PE.,1989) ไดแ้ ก่ 1) Kneading การใชฝ้ ่ามอื หรอื สว่ นของมือกดและคลึงเป็นวงกลม 2) Picking up การกดบีบแล้วจบั กลา้ มเนอื้ ดึงขึ้น ปลอ่ ยแลว้ ทำ� ใหม่ 3) Wringing จบั กล้ามเนอ้ื ขน้ึ ขยับไปมาก่อนจึงปล่อย เกดิ แรงเสยี ดทานหรือแรงตงึ ภายในกลา้ มเน้ือนัน้ 4) Rolling การหยิบผิวหนัง หรือรวมถึงกล้ามเนื้อด้วย ให้อยู่ระหว่าง 4 นิ้วมือกับ น้วิ โป้ง แล้วไล่มว้ นส่วนเนอ้ื เยื่อที่หยบิ ข้ึนมานนั้ ก่อนจะปล่อย 5) Shaking การหยบิ เนือ้ เยอื่ ข้ึนมาแบบ rolling แต่ใชว้ ิธีการส่ันอยา่ งแรงแทน 6) Friction massage การสง่ แรงเคลอื่ นไหวแบบวงกลมหรอื แนวขวาง ผา่ นทางปลายนว้ิ ซง่ึ มักใช้นิว้ โป้ง หรอื ส้นมือลงบนกล้ามเนอ้ื พ้นื ท่ผี ิวเลก็ ๆท่ีรับแรงแตล่ ะคร้ัง ท�ำให้แรงสามารถผา่ น จากผิวต้ืนลงสู่ระดับลึกได้ดี เช่น กล้ามเนื้อ เอ็น หรือพังผืดต่างๆ การออกแรงให้ถึงระดับลึกอาจ 88 เอกสารความรู้ ผ้ดู ำ�เนนิ การสปาเพ่ือสขุ ภาพ

รสู้ กึ ไมส่ บาย และทำ� ใหช้ �ำ้ ไดบ้ า้ ง แตไ่ ด้ผลดใี นการรกั ษาเอน็ อกั เสบ พังผดื อักเสบ และ จุดกดเจ็บ (trigger point) ของกลา้ มเนอ้ื (Wood E. C., et al., 1981; Cyriax J, and Russell G., 1980; Hofkosh J. M., 1985; Greenman P. E., 1989., and Travel J., 1983) การลงน�้ำหนักโดยใช้มือในท่วงท่าต่างๆ (Tapotement or percussion massage) การใช้ฝ่ามือ สันมือ ลงแรงบนเนื้อเย่ือเป็นจังหวะ ด้วยลักษณะฝ่ามือรูปแบบต่างๆ กัน (Wood E. C., et al., 1981; Cyriax J and Russell G., 1980; Hofkosh J. M., 1985) ไดแ้ ก่ 1) Clapping or cupping การใช้อุ้งมอื เคาะบนรา่ งกาย 2) Hacking การใชส้ ันมือสับลงบนรา่ งกาย 3) Vibrations คือ การใช้ฝ่ามือวางบนร่างกาย ออกแรงส่ันเพอื่ กระตนุ้ การทำ� งานของ ระบบผวิ หนังและเน้ือเยอ่ื 4) Beating or pounding การก�ำมือหลวมๆ ลงน�้ำหนักพอประมาณตามแนว บนร่างกาย 5) Tapping การใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 เคาะน้�ำหนักเบาๆ ส่วนใหญ่บนใบหน้าบริเวณที่ บอบบาง เพอ่ื กระตุ้นการไหลเวียนเลอื ด 3) การนวดแบบตะวันออก 3.1) การนวดแผนไทย เนน้ นวดกดจุด ยืดกลา้ มเนอ้ื จบั เส้น ใชแ้ รงกดหรือบีบ ช่วยให้ เลือดไหลเวียน 3.2) การนวดประคบ เริ่มจากการนวดแผนไทยเพ่ือเตรียมกล้ามเน้ือก่อนประคบด้วย ลูกประคบสมุนไพรสดหรือแหง้ 3.3) การนวดเท้าเพ่ือผ่อนคลาย (Foot massage) และการกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า (Reflexology) 3.4) การนวดแบบอายุรเวทศาสตรแ์ ละศลิ ปใ์ นการบ�ำบัดของอนิ เดียโบราณ 3.5) การนวดแบบญ่ปี นุ่ (Shiatsu) เปน็ การใชพ้ ลงั ของหยนิ และหยาง รักษารา่ งกายให้ มคี วามสมดุล กรมสนับสนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 89

3.6) การนวดแบบจนี (Tuina) เปน็ รปู แบบการนวดของจนี โบราณ โดยการจบั และผลกั เน้ือเยอื่ บนรา่ งกาย 3.7) การนวดแบบอินโดนีเซีย (Indonesian massage) คล้ายกับการนวดตะวันตก ใช้นำ้� มันในการ นวดเน้น และเน้นใช้สมนุ ไพรของอนิ โดนเี ซยี 3.8) การนวดแบบฟิลิปปินส์ (Filipino Hilot) เปน็ การนวดโบราณแบบชาวฟลิ ปิ ปินส์ เน้นการใช้นำ�้ มนั มะพร้าว 4) การประยุกต์การนวดผสมผสาน การประยุกต์การนวดผสมผสาน เพ่ือสร้างเอกลักษณ์ของสถานประกอบการและ ผลทางการตลาด เช่น การนวดไทยผสมการนวดด้วยน�้ำมันหอมระเหย (Aromatic massage) การนวดอโรม่าผสมผสานกับการนวดสวีดิช การนวดอโรม่าผสมผสานกับการนวดสปอร์ต การนวดอโรม่าผสมผสานกับการนวดแบบฮาวาย เปน็ ตน้ 5) ประโยชน์ของการนวด การนวดเพ่ือสุขภาพหรือการนวดเพื่อผ่อนคลาย นอกจากท�ำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย แจ่มใส และกระฉบั กระเฉงขน้ึ ยังมีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกายขณะนวด ดังน้ี 5.1) เกิดปฏิกิริยาทางเมแคนคิ (Mechanical effects) (Knapp M. E., 1990; Licht S., 1960; Atchison J. W., 1996) การนวดทำ� ใหเ้ สน้ เลอื ดดำ� สว่ นพนื้ ผวิ (Superficial vein) ลดความดนั ลง เลอื ดไหลเวยี น ดีขึ้น ลดแรงดันภายในเส้นเลือดฝอย ผลการเกิดปฏิกิริยาทางเมแคนิค มีหลักฐานน่าเชื่อถือที่สุด เข้าใจได้ง่าย และวัดผลได้จริง การนวดท�ำให้มีการเคลื่อนไหวของใยกล้ามเน้ือ ช่วยยืดเนื้อเย่ือท่ี ยดึ ตดิ กนั อยใู่ หต้ งึ ตวั นอ้ ยลง คลายจดุ ปวดเมอื่ ยได้ และยงั ชว่ ยการไหลเวยี นเลอื ดและนำ้� เหลอื งดขี นึ้ น�ำเลือดใหม่ไล่ของเสียออกจากบริเวณท่ีมีปัญหา การกดเบาๆบริเวณผิวหนังจะเพ่ิมการไหลเวียน เลือดเฉพาะท่ีนั้น แต่ถ้านวดลงแรงมากขึ้นจะเพ่ิมการไหลเวียนของเลือดด�ำโดยเฉพาะในระดับต้ืน และส่งผลสบื เนอ่ื งให้การไหลเวียนของเลือดแดงเพ่ิมขึ้นด้วย (Elkins EC et al., 1993) 90 เอกสารความรู้ ผูด้ ำ�เนินการสปาเพ่ือสุขภาพ

5.2) ผลสะท้อนทางระบบประสาท (Neural reflex effects) (Knapp M. E., 1990; Licht S., 1960) ผลสะท้อนกลับเมื่อมีการนวด การกดท่ีแรง และลึก ท�ำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว เมื่อ นวดและกดซ้�ำๆ อาการแดงจะกระจายกว้างข้ึน และแดงมากขึ้นจากการขยายตัวของหลอดเลือด สว่ นปลาย (Arteriole) ซง่ึ เกดิ จากปฏกิ ริ ยิ าของประสาทสว่ นแอคซอน (Axon reflex mechanism) นอกจากนั้นยังเป็นการกระตุ้นท่ีประสาทส่วนปลาย (peripheral receptor) ในบริเวณท่ีถูกนวด ทำ� ให้กล้ามเน้อื คลายตัว และส่งสัญญาณไปตามเสน้ ประสาทขนาดใหญ่ (beta nerve fiber) ไปยงั ประสาทไขสันหลงั และสมอง สามารถยบั ยัง้ หรอื บรรเทาอาการปวดได้ (Malkin K., 1994) 5.3) ผลทางจิตใจ (Psychological effects) (Atchison J. W., 1996) การนวดและการสมั ผสั ทผี่ วิ หนงั ทำ� ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ ทด่ี ี สมองจะสงั่ การใหร้ ะบบประสาท ท�ำงานลดลง ผ่อนคลายทัง้ ร่างกายและจติ ใจ ลดความวติ กกังวล ลดความตึงเครยี ด สง่ ผลชว่ ยเพม่ิ ภมู ติ า้ นทานโรค (psychoneuroimmunology) นอกจากนก้ี ารนวดยงั ชว่ ยเรอ่ื งการนอนหลบั ใหด้ ขี นึ้ อีกด้วย (MacDonald G., 1998) 5.4) ผลตอ่ ความเจ็บปวด การนวดสง่ ผลตอ่ ความเจบ็ ปวด อธบิ ายดว้ ยแนวคดิ ทฤษฎคี วบคมุ ประตู (Gate control theory) ท่ีเช่ือว่าการนวด การลูบ การสัมผัส เป็นการกระตุ้นใยประสาทเส้นใหญ่ (large fiber) มากกว่ากระตุ้นใยประสาทเส้นเล็ก (small fiber) จึงเพ่ิมการท�ำงานของเซลล์เอสจี (Substantia gelatinosa : SG) แตจ่ ะลดการท�ำงานของเซลล์ที (Transmission cell : T cell) ท�ำให้กระแสท่นี �ำ ความเจบ็ ปวดไมอ่ าจขนึ้ ส่สู มองได ้ จึงปิดประตูสง่ ผลลดอาการเจบ็ ปวด (Lipton S., 1979) 5.5) ผลตอ่ ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย (โครงการฟ้นื ฟูการนวดไทย 2535) • ต่อระบบไหลเวยี นโลหิต การนวดทำ� ใหเ้ ลอื ดถกู บบี ออกจากบรเิ วณนนั้ และมเี ลอื ดใหมเ่ ขา้ มาแทนท่ี ชว่ ยใหเ้ ลอื ด และน้�ำเหลืองไหลเวยี น บริเวณที่บวมลดลง แตใ่ นกรณีท่ีมีการอักเสบไม่ควรนวด อาจส่งผลให้บวม มากข้นึ การนวดทำ� ใหอ้ ณุ หภมู ิร่างกายสูงขน้ึ เลก็ นอ้ ย กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 91

• ตอ่ ระบบกล้ามเนอ้ื การนวดทำ� ใหเ้ ลอื ดมาเลย้ี งกลา้ มเนอ้ื ชว่ ยขจดั ของเสยี ในกลา้ มเนอ้ื ไดด้ ขี น้ึ และผอ่ นคลาย ช่วยพังผืดในกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการกล้ามเน้ือเม่ือยล้าและเกร็งตัวให้อ่อนลง กล้ามเนื้อยืดหยุ่น ดขี นึ้ อาการเจบ็ ปวดลดลง • ตอ่ ระบบทางเดินอาหาร การนวดมผี ลตอ่ ระบบทางเดนิ อาหาร กระเพาะอาหารและลำ� ไสบ้ บี ตวั ดขี นึ้ ชว่ ยใหเ้ จรญิ อาหาร ทอ้ งไมอ่ ดื ไม่เฟ้อ • ต่อจติ ใจ การนวดชว่ ยผ่อนคลายความเครยี ดและความกงั วล 6) ข้อห้าม/ข้อควรระวัง 6.1) ข้อห้าม ข้อควรระวังส�ำหรบั การนวดท่วั ไป (Gerwin R. G., 2000; Knapp M. E., 1990; Rechtien J. J., 1998) ผู้ให้บริการต้องทราบข้อห้าม ข้อควรระวังส�ำหรับการนวดท่ัวไป เพ่ือลดอาการไม่พึง ประสงคแ์ ละป้องกันไมใ่ หเ้ กดิ อนั ตราย หรอื ภาวะแทรกซ้อนแกผ่ ูร้ บั บรกิ าร (Cassar M. P., 2000) ดงั นี้ 1. หา้ มนวดผมู้ ีอาการบาดเจบ็ ท่ีเพ่งิ เกิดข้นึ หรอื เลือดออก เพราะอาจท�ำให้มเี ลอื ดออก ซ�้ำบริเวณน้ัน 2. ห้ามนวดบริเวณท่ีมีความผิดปกติของระบบหลอดเลือด เช่น อาการเส้นเลือดขอด อาการอักเสบแดงตามแนวเส้นเลือด ซึ่งอาจมีก้อนเลือดเคลื่อนไปยังบริเวณอ่ืน เกิดการอุดตันของ หลอดเลือดหวั ใจและสมองได้ 3. ห้ามนวดผู้ท่ีมีการแข็งตัวเลือดผิดปกติ อาจเกิดจากได้รับยาต้านเลือดแข็งตัว การนวดอาจท�ำใหเ้ กดิ เลอื ดออกใตผ้ วิ หนงั หรอื จ�้ำเลอื ดได้ 4. หา้ มนวดบรเิ วณรอยโรคบนผวิ หนงั ทีย่ ังไมห่ ายสนิท อาจทำ� ให้แผลแยก หรอื ตดิ เชอื้ ผา่ นทางน�ำ้ เหลืองมาถงึ ตัวผูน้ วด 92 เอกสารความรู้ ผู้ดำ�เนนิ การสปาเพื่อสุขภาพ

5. ห้ามนวดบริเวณที่มกี ารติดเชื้อเพราะอาจท�ำใหเ้ ช้ือโรคแพร่กระจายได ้ 6. หา้ มนวดบริเวณทีม่ ีอาการอักเสบเนือ่ งจากจะอกั เสบมากย่งิ ขน้ึ 7. ห้ามนวดกระดูกหักท่ียงั สมานไมด่ ี การนวดไม่ถกู ต้องอาจเปน็ เหตุใหห้ ักซ้�ำได้ 8. หา้ มนวดผปู้ ว่ ยโรคมะเรง็ การนวดจะกระตนุ้ ให้เซลลม์ ะเร็งแพรก่ ระจายได้ 9. การนวดผู้ที่เปล่ียนข้อต่อต้องท�ำด้วยความระมัดระวัง ผู้นวดต้องมีความรู้และ ความช�ำนาญ 10. ห้ามนวดผูม้ ีอาการไข้ (เพญ็ นภา ทรพั ยเ์ จรญิ และบุญเรอื ง นิยมพร, บรรณาธกิ าร, 2544) 6.2) ข้อห้าม/ข้อควรระวังส�ำหรับการนวดแบบเชลยศักดิ์ (Atchision J. W., et al., 1996; Haldeman S., 1980) เนื่องจากการนวดแบบเชลยศักดิ์มีบางท่าท่ีอาจท�ำให้เกิดอันตรายได้ เช่น การบิดดัด กระดูกในส่วนต่างๆของร่างกาย การลงน้�ำหนักโดยใช้แรงค่อนข้างมาก ใช้ศอก เท้าในการนวด จึงตอ้ งมีข้อห้ามขอ้ ควรระวังเพมิ่ เติม ดงั น้ี 1. ห้ามนวดผปู้ ่วยอาการกระดูกพรุนรนุ แรง มักมปี ระวัติล้มแล้วกระดกู หัก หรอื กนิ ยา รักษากระดูกพรุน 2. ห้ามนวดผู้มีอาการโรคมะเรง็ ทางโลหติ วิทยา (Multiple myeloma) ซง่ึ กระดกู มี ความเปราะบางคลา้ ยกระดกู พรนุ 3. ห้ามนวดผมู้ กี ารติดเช้อื ในกระดูก ท�ำให้บริเวณน้นั หักง่าย 4. ห้ามนวดผมู้ เี น้ืองอกทกี่ ระดกู และไขสันหลงั 5. หา้ มนวดผปู้ ว่ ยทางระบบประสาทโดยเฉพาะไขสนั หลงั ทมี่ อี าการชดั เจน และทรดุ ลง 6. ห้ามผู้ป่วยที่มีอาการเส้นประสาทไขสันหลังถูกกดทับจากสาเหตุต่างๆ เช่น หมอนรองกระดกู กดทบั เสน้ ประสาท ชอ่ งกระดกู สนั หลงั ตบี แคบ กระดกู สนั หลงั เคลอ่ื น กระดกู สนั หลงั หักยุบตวั เป็นต้น จงึ อาจเกดิ อนั ตรายซำ้� ซอ้ นหนักข้ึนอกี 8. หา้ มนวดผู้มีขอ้ ต่อหลวม เพราะอาจท�ำให้ขอ้ หลดุ หรือเคลอ่ื น 9. โรคขอ้ รมู าตอยด์ ข้อทมี่ ีอาการขาดความยดื หยุน่ แต่เปราะ ถ้าดดั แรงๆ อาจหกั ได้ 10. โรคกระดกู สันหลังแข็ง เปน็ สาเหตุกระดกู เปราะและหักได้ กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 93


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook