Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore dl0012-31032559-WHO_guidelines_on_good_manufacturing_practices_GMP

dl0012-31032559-WHO_guidelines_on_good_manufacturing_practices_GMP

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-14 22:51:15

Description: dl0012-31032559-WHO_guidelines_on_good_manufacturing_practices_GMP

Search

Read the Text Version

คมู่ ือมาตรฐานการผลิตยาสมนุ ไพร WHO guidelines on good manufacturing practices (GMP) for herbal medicines สถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. 2558

ค่มู อื มาตรฐานการผลิตยาสมนุ ไพร WHO guidelines on good manufacturing practices (GMP) for herbal medicines ISBN 978 – 616 – 11 – 2792 - 3 ทีป่ รึกษา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์สุรยิ ะ วงศ์คงคาเทพ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์ณฐั วุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผ้อู านวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย นายแพทย์ปราโมทย์ เสถยี รรัตน์ บรรณาธิการ ทป่ี รึกษา ภก.ดร.นพดล เหลืองภิรมย์ ที่ปรึกษา ภก.ปัญญา ปวงนิยม รองผอู้ านวยการสถาบันการแพทยแ์ ผนไทยดา้ นพฒั นาบริการ นางอัจฉรา เชยี งทอง หวั หนา้ กลุ่มงานพฒั นาคณุ ภาพมาตรฐานสถานบริการการแพทยแ์ ผนไทย นางสุวรรณา นิ่มนวล สถาบันการแพทย์แผนไทย นางปทุมมาศ สริ กิ วิน สถาบันการแพทย์แผนไทย นางสาวธรติ า จันทร์หอม จัดทาโดย กลุ่มงานพัฒนาคณุ ภาพมาตรฐานสถานบริการการแพทย์แผนไทย สถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ พมิ พ์ ธนั วาคม 2558 จานวนพิมพ์ 500 เล่ม พมิ พ์ท่ี โรงพิมพ์สามเจริญพาณชิ ย์ กรุงเทพมหานคร

คานา กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ส่งเสริมและพัฒนา ยาสมุนไพรมาอย่างต่อเนอื่ ง ด้วยการส่งเสริมโรงพยาบาลของรัฐท่ีมีการผลิตยาสมุนไพรอยู่แล้ว จานวน 46 แห่ง ให้มีการพัฒนาการผลิตยาสมุนไพรให้ได้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing practices : GMP) โดยนาหลกั เกณฑ์วธิ ีการท่ีดีในการผลิตยาสมุนไพรฉบับปี พ.ศ.2548 ของสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาเป็นแนวทางในการดาเนนิ งานในโรงพยาบาลของรัฐ ตั้งแตป่ ี 2551 เพื่อเปน็ การสรา้ งความเชอื่ ม่ันต่อผลิตภัณฑ์ สมุนไพรและพัฒนาจดุ แขง็ ของยาสมุนไพรใหม้ ีคณุ ภาพมาตรฐาน ประชาชนได้เขา้ ถึงการใชย้ าสมุนไพรท่ีมีคุณภาพ มีความปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นการพัฒนา ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยให้คงอยู่ต่อไป จนกระท่ัง ปี พ.ศ. 2554 สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ยกเลกิ มาตรฐานหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ีดีในการผลิตยาจาก สมุนไพรฉบับปี พ.ศ. 2548 และไดน้ ามาตรฐานการผลิตยาของกลุ่มสหภาพยุโรป (PIC/s -Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme) มาใช้เป็นมาตรฐานการผลติ ยา ของประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้ GMP-PIC/s เปน็ กฎหมาย ซ่ึงการพัฒนาการผลิตยาให้ได้มาตรฐาน GMP-PIC/s ต้องใช้งบประมาณ ในการพัฒนาประกอบกับโรงพยาบาลของรฐั ไม่ได้มีบทบาทหน้าที่ผลิตยาเพ่ือการค้า ดังนั้นเพ่ือให้ยาสมุนไพรท่ีผลิต ในโรงพยาบาลของรัฐมีคุณภาพ ไดม้ าตรฐานเกดิ การยอมรับ กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก จึงได้นาหลักเกณฑ์วิธีการท่ีดีในการผลิตยาจากสมุนไพรขององค์การอนามัยโลก (WHO guidelines on good manufacturing practices (GMP) for herbal medicines) มาใช้เป็นแนวทางในการดาเนินงานในโรงพยาบาล ของรัฐ หนังสือหลักเกณฑ์วิธีการท่ีดีในการผลิตยาจากสมุนไพร WHO guidelines on good manufacturing practices (GMP) for herbal medicines เล่มน้ีประกอบดว้ ย 17 หมวด ไดแ้ ก่ 1) การประกันคุณภาพในการผลิต ยาจากสมุนไพร 2) การผลิตที่ดีในการผลิตยาจากสมุนไพร 3) สุขาภิบาลและสุขอนามัย 4) การตรวจรับรองและ การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 5) ขอ้ ร้องเรียน 6) การเรียกเกบ็ ผลติ ภณั ฑ์ 7) การจ้างผลติ และการวเิ คราะห์ 8) การตรวจ สอบตนเอง 9) บุคลากร 10) การฝึกอบรม 11) สุขอนามัยส่วนบุคคล 12) อาคารสถานท่ี 13) เครื่องมือ 14) วัตถุดิบ ตา่ งๆ 15) เอกสารต่างๆ 16) การปฏิบตั ิท่ดี ใี นการผลิตและ17) การปฏิบัติท่ีดีในการควบคุมคุณภาพ รวมทั้ง แบบฟอร์มการตรวจประเมินสถานทผ่ี ลติ ยาจากสมุนไพรขององค์การอนามัยโลก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลอื กหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ ว่า คมู่ อื เลม่ น้ีจะเปน็ ประโยชน์อย่างยง่ิ ตอ่ ผู้ปฏิบัติงานผลิตยาสมุนไพรทุกระดับ เพื่อนาไปเป็นแนวทางในการดาเนินงาน หากมีข้อผิดพลาดหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมใดๆในคู่มือเล่มนี้ คณะผู้จัดทา ขอนอ้ มรบั เพ่อื นามาปรับปรุงแกไ้ ขใหม้ ีความสมบูรณ์ย่ิงข้นึ ต่อไป นายแพทยส์ รุ ิยะ วงศ์คงคาเทพ อธบิ ดีกรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ก

กิตตกิ รรมประกาศ สถาบนั การแพทย์แผนไทย กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ขอขอบพระคุณ ภก.ดร.นพดล เหลืองภิรมย์ ที่ปรึกษาโครงการฯ เป็นอย่างสูงที่เป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาการผลิตยาสมุนไพร ในโรงพยาบาลของรัฐให้ได้มาตรฐาน GMP มาโดยตลอดและในครั้งนี้ยังเป็นกาลังสาคัญในการแปลคู่มือหลักเกณฑ์ วิธีการที่ดีในการผลิตยาจากสมุนไพร WHO guidelines on good manufacturing practices (GMP) for herbal medicines เล่มนี้เป็นภาษาไทย ซง่ึ การทางานตอ้ งใช้ประสบการณ์และความเช่ยี วชาญด้าน GMP อยา่ งลกึ ซง้ึ ขอขอบคุณ ภก.ปัญญา ปวงนิยม ท่ีช่วยถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์อีกทั้งกรุณาเสียสละเวลา ใหค้ าแนะนา ตรวจประเมิน แก้ไขขอ้ บกพร่องด้วยความเอาใจใส่อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการผลิตยาสมุนไพร ในโรงพยาบาลของรัฐให้ได้มาตรฐาน GMP และขอขอบพระคุณคณะกรรมการพัฒนาการผลิตยาสมุนไพร ในโรงพยาบาลของรัฐใหไ้ ดม้ าตรฐาน GMP ทไี่ ด้เขา้ ร่วมประชมุ ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ ในแบบฟอร์ม การตรวจประเมนิ สถานทผ่ี ลิตยาจากสมุนไพรขององค์การอนามัยโลก จนข้อมูลมคี วามสมบูรณ์ยงิ่ ขึน้ สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย ข

สารบัญ หนา้ คานา ก กิตตกิ รรมประกาศ ข เน้ือหา 1. การประกันคณุ ภาพในการผลติ ยาจากสมนุ ไพร 1 2. การผลิตที่ดใี นการผลิตยาจากสมุนไพร 1 3. สขุ าภิบาล และ สขุ อนามัย 2 4. การตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้อง 2 5. ขอ้ รอ้ งเรยี น 4 6. การเรยี กเก็บผลติ ภณั ฑ์ 4 7. การจา้ งผลติ และการวเิ คราะห์ 5 8. การตรวจสอบตนเอง 6 9. บุคลากร 9 10. การฝึกอบรม 10 11. สขุ อนามัยส่วนบุคคล 11 12. อาคารสถานที่ 11 13. เครอื่ งมือ 14 14. วตั ถดุ บิ ต่างๆ 15 15. เอกสารต่างๆ 18 16. การปฏบิ ัติทด่ี ใี นการผลติ 25 17. การปฏิบตั ทิ ี่ดีในการควบคุมคุณภาพ 28 แบบฟอร์มการรายงานการตรวจประเมนิ สถานทีผ่ ลติ ยาตามหลกั เกณฑ์ GMP 33 ยาจากสมุนไพร แบบฟอร์มการตรวจประเมนิ สถานท่ผี ลติ ยาจากสมนุ ไพรขององคก์ ารอนามัยโลก 35 แบบคาขอรบั การตรวจประเมนิ หลกั เกณฑว์ ิธกี ารท่ีดใี นการผลติ ยาจากสมุนไพร 71 แหล่งขอ้ มูล 73

1. การประกันคุณภาพในการผลติ ยาจากสมนุ ไพร การประกันคุณภาพในการผลิตยาจากสมุนไพร ประเทศสมาชิกควรที่จะต้องหาวิธีการท่ีเหมาะสม ในการวางระบบประกันคุณภาพในการประยุกต์ใช้ในการผลิตยาจากสมุนไพร นอกเหนือไปจากวิธีการทันสมัย ในการวเิ คราะห์ ไดแ้ ก่ 1. HPTLC: High Performance Thin-layer Chromatography 2. GC: Gas Chromatography 3. HPLC: High Performance Liquid Chromatography 4. CE: Capillary Electrophoresis 5. MS: Mass Spectrometry 6. AAS: Atomic Absorption Spectoscopy 2. การผลิตทด่ี ใี นการผลติ ยาจากสมุนไพร การผลิตที่ดี -GMP ในการผลิตยาจากสมุนไพร เป็นส่วนหน่ึงของระบบประกันคุณภาพเพ่ือให้การผลิต ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีความสม่าเสมอ และมีการควบคุมตามมาตรฐานคุณภาพท่ีเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการน่า ไปใช้ และการอนุมัติใหส้ ามารถด่าเนนิ การเพื่อออกสู่ตลาด การผลิตท่ดี ี-GMP มุง่ ท่ตี น้ ตอเพือ่ ลดความเสีย่ ง 2 ประการหลกั ได้แก่ 1. การปนเป้ือนข้ามสายการผลิต- Cross Contamination โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารปนเปื้อน ที่คาดไม่ถึง อาทิเช่น สารปนเปื้อนจากเช้ือโรค สารปนเปื้อนจากสารเคมี –ยาก่าจัดศัตรูพืช แมลง สารปนเป้ือน ทางกายภาพ-เศษโลหะท่ีหลุดจากเคร่ืองมือการผลติ แก้ว พลาสติก ไม้ กระดาษจากภาชนะบรรจุ 2. การผสมปนแป –Mix-ups จากการกระท่าต่างๆ อาทิ ความสับสน ปิดฉลากผิด ดังน้ันภายได้เกณฑ์ การผลติ ท่ดี ตี ้องปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 2.1 ก่าหนดความชัดเจนของทุกกระบวนการผลิตอย่างมีระบบ มีการทบทวนอยู่บนพ้ืนฐานของ ประสบการณ์ ขีดความสามารถความสม่าเสมอในการผลิต ท่ตี ้องเปน็ ไปตามคณุ ภาพและมาตรฐานที่ได้กา่ หนดไว้ 2.2 ตอ้ งมีการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถกู ต้อง 2.3 ต้องจัดหาทรัพยากรทจ่ี า่ เป็นทง้ั หมด ไดแ้ ก่ 1. บุคลากรท่ีเหมาะสม ท่ีไดร้ บั การรับรอง และการฝกึ อบรม 2. อาคารสถานทแี่ ละเนื้อท่ีพอเพียง 3. มเี ครื่องมือ อุปกรณ์ และการดูแลท่ี เหมาะสม 4. วัตถดุ ิบ ภาชนะบรรจุ ฉลากทเ่ี หมาะสม 5. ระเบียบวิธีการท่างาน และคู่มือการปฏิบัติงานท่ีได้รับการอนุมัติ (จากผู้ท่ีมีความรู้ ความสามารถ) 6. มีสถานท่ีเกบ็ และการขนสง่ ที่เหมาะสม 7. มีจ่านวนบุคลากรท่ีพอเพียง ห้องปฏิบัติการ และเคร่ืองมือส่าหรับการควบคุมในระหว่าง การผลติ 2.4 ระเบียบวิธีการท่างาน และคู่มือการปฏิบัติงาน ต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ชัดเจน ภาษาที่ใช้ ตอ้ งไม่คลุมเครือ มีความเฉพาะเจาะจงกบั กบั เครื่องมอื อปุ กรณ์อา่ นวยความสะดวก 1

2.5 พนักงานปฏิบัติงานต้องได้รับการฝึกอบรมและท่างานได้ตามระเบียบวิธีการท่างาน และ ค่มู ือการปฏิบตั งิ านอยา่ งถูกต้อง 2.6 มีบันทึกครอบคลุมต้ังแต่การผลิต จนไปถึงการกระจายสินค้า มีประวัติครบถ้วน สมบูรณ์ ทุกร่นุ การผลติ ตรวจสอบยอ้ นกลับได้ เกบ็ รักษาในรปู แบบท่ีเข้าใจง่ายและพร้อมส่าหรับการค้นหา 2.7 มสี ถานท่สี า่ หรับเก็บและกระจายผลิตภัณฑท์ ่สี ามารถลดความเส่ียงต่อคณุ ภาพของผลิตภัณฑ์ 2.8 มีระบบการเรียกคนื หรอื เรียกเกบ็ ผลติ ภัณฑ์จากผูข้ าย หรือผู้จดั สง่ 2.9 มีการตรวจสอบข้อร้องเรียนผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาด การตรวจสอบสาเหตุการเส่ือม ความบกพร่องของคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาและจัดการเพ่ือปูองกันไม่ไห้เกิด เหตกุ ารณซ์ า้่ อีก 3. สขุ าภบิ าล และ สขุ อนามัย มีการน่าระบบการสุขาภิบาล และ สุขอนามัยข้ันสูง มาปฏิบัติในทุกแง่มุมของการผลิตยาจากสมุนไพร ครอบคลุมตั้งแต่ บุคลากร สถานที่ผลิต เคร่ืองมือ อุปกรณ์ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ภาชนะบรรจุ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ใน การทา่ ความสะอาดและท่าลายเชือ้ โรค และทกุ ๆอย่างทมี่ แี นวโน้มท่ีจะทา่ ใหก้ ่อการปนเป้ือนไปสผู่ ลิตภัณฑ์ ต้องมีระบบ โปรแกรมท่ีสามารถบูรณาการเพ่ือสุขาภิบาล และ สุขอนามัย เพ่ือปูองกันและขจัดการปน เปื้อนตลอดขบวนการผลิตไปจนถึงมอื ผ้บู รโิ ภค 4. การตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้อง 4.1 หน่วยงานทุกหน่วยงานต้องจัดให้มีการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ตามการผลิต ทด่ี -ี GMP ทต่ี อ้ งการเพื่อพิสจู นว์ ่ากรณีวิกฤตต่างๆ ไดถ้ กู ควบคมุ ไวแ้ ลว้ 4.2 องค์ประกอบส่าคัญหลักของโปรแกรมการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ต้องก่าหนดไว้อย่างชัดเจนในเอกสารแผนแม่บทการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง -Validation Master Plan การตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้อง 4.3 การตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้องต้องจัดท่าเป็นเอกสารครอบคลุมกิจกรรม ขอ้ มลู หลกั ฐาน ดังต่อไปนี้ 4.3.1 สถานที่ผลิต สาธารณูปโภค เครื่องมือ กระบวนการต่างๆที่ได้ออกแบบต้องตรงตามท่ีก่าหนด ไวใ้ นกระบวนการออกแบบ- Design Qualification-DQ 4.3.2 สถานที่ผลิต สาธารณูปโภค เคร่ืองมือ กระบวนการต่างๆท่ีได้สร้างและติดตั้งต้องตรงตาม ที่ก่าหนดไวใ้ นกระบวนการสรา้ งและตดิ ตัง้ - Installation Qualification-IQ 4.3.3 สถานท่ีผลิต สาธารณูปโภค เครื่องมือ กระบวนการต่างๆท่ีได้รับรองการท่างานต้องตรงตาม ทก่ี า่ หนดไวใ้ นกระบวนการท่างาน- Operation Qualification- OQ 4.3.4 กระบวนการต่างๆในกระบวนการท่างานที่ก่าหนดไว้ จะต้องสอดคล้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์ ต้องตรงกับข้อก่าหนดที่ก่าหนดไว้ล่วงหน้าและมีคุณสมบัติตรงตามคุณภาพตามที่ก่าหนดไว้ เรียกว่ากระบวนการตรวจ สอบความถูกต้องของกระบวนการ- Process Validation-PV ข้ันตอนนี้เรียกอีกอย่างว่าการตรวจรับรองสมรรถนะ Performance Qualification-PQ 2

ในบางกรณีการตรวจรับรองสมรรถนะ Performance Qualification-PQ อาจท่าพร้อมกับ การตรวจรบั รองกระบวนการทา่ งาน- Operation Qualification- OQ 4.4 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในประเด็นส่าคัญๆ ต้ังแต่สถานที่ผลิต ส่ิงอ่านวยความสะดวก เคร่ืองมือ หรือกระบวนการต่างๆ ท่ีอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ควรต้อง ท่าการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกตอ้ งเสมอ 4.5 การตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ไม่ใช่งานท่ีท่าคร้ังเดียวเสร็จส้ิน แต่เป็นโปรแกรม ทต่ี อ้ งมีการติดตามอยู่เสมอ และทบทวนในแต่ละรอบปี-Annual Review 4.6 ความมุ่งมั่นในการท่าการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ควรต้องก่าหนดเป็น ลายลักษณ์อักษรไว้ในเอกสาร อาทิเช่น คู่มือคุณภาพ หรือเอกสารแผนแม่บทการตรวจรับรองและการตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง -Validation Master Plan 4.7 ความรับผดิ ในการการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ควรตอ้ งกา่ หนดไว้อย่างชัดเจน 4.8 การศึกษาการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้องเป็นส่วนส่าคัญของการผลิตที่ดี-GMP ควรตอ้ งท่าตามแผนที่ก่าหนดไว้ล่วงหน้า และโปรโตคอลที่ไดร้ ับการรับรองจากผ้มู ีความรู้ 4.9 ควรต้องมีการจัดท่าและเก็บรักษารายงานและผลสรุปการตรวจรับรองและการตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง 4.10 กระบวนการและระเบียบวิธีการท่างานควรจัดท่าตามผลการตรวจรับรองและการตรวจสอบ ความถกู ต้องทไ่ี ดท้ า่ ไว้ 4.11 ควรต้องให้ความสนใจเป็นการเฉพาะในขั้นต่างๆ ที่วิกฤต อาทิเช่น การวิเคราะห์และทดสอบระบบ อตั โนมตั ทิ งั้ หลาย ระเบียบวธิ กี ารท่าความสะอาดตา่ งๆ 5. ข้อรอ้ งเรียน 5.1 หลักการ ข้อร้องเรียนและข้อมูลที่เก่ียวกับแนวโน้มท่ีจะท่าให้เกิดการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์ ควรตอ้ งนา่ มาทบทวนอยา่ งระมัดระวัง ตามท่ีเขยี นไวใ้ นระเบียบวธิ ีการปฏิบัตงิ านและตอ้ งด่าเนนิ การแก้ไข 5.2 ผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการจัดการข้อร้องเรียน และตัดสินใจในการด่าเนินการหามาตรการแก้ไข ข้อร้องเรียน ต้องได้รับการมอบหมายและแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และการสนับสนุนจากเจ้าหน้าท่ีได้รับมอบหมาย ในจ่านวนท่ีเพียงพอ เพ่ือให้สามารถท่างานได้เต็มท่ี ในกรณีท่ีผู้มีอ่านาจไม่ใช่บุคคลดังกล่าว ผู้มีอ่านาจต้องแจ้ง ให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้รับทราบและจัดการ ให้มีการตรวจสอบหรือเรียกคืนผลิตภัณฑ์ผ่านผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบใน การจดั การข้อร้องเรยี น และตดั สินใจทไี่ ด้แตง่ ต้งั ไว้อย่างเปน็ ทางการ 5.3 ในกรณีท่ีมีโอกาสเกิดการเสื่อมเสียหายของผลิตภัณฑ์ ควรที่จะต้องจัดให้มีระเบียบวิธีในการปฏิบัติงาน รวมไปถงึ วิธีการพจิ ารณาขอ้ รอ้ งเรยี น 5.4 การจัดการข้อร้องเรียนต้องให้ความสนใจพิเศษแม้ว่าข้อร้องเรียนจะมีสาเหตุมาจากผลิตภัณฑ์ปลอม ลอกเลียนแบบ 5.5 ข้อร้องเรียนใดๆก็ตามท่ีเกิดจากการเสื่อมเสียหายของผลิตภัณฑ์ ต้องบันทึกรายละเอียดข้อมูล ต้นฉบับจริง และตรวจสอบอย่างละเอียด ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมคุณภาพโดยปกติแล้วต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการทบทวนการตรวจสอบข้อร้องเรยี นต่างๆ 3

5.6 ถ้าพบว่าหรือสงสัยว่าผลิตภัณฑ์น้ันมีข้อบกพร่องในรุ่นหน่ึง ควรจะต้องมีการตรวจสอบในรุ่นอ่ืนๆ เพื่อค้นหาวา่ มีผลกระทบถงึ หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในร่นุ ทม่ี ีการผลิตซา้่ ขน้ึ ใหมจ่ ากรนุ่ ท่ีมขี ้อบกพร่อง 5.7 ในกรณีท่ีมีความจ่าเป็นควรต้องมีการติดตามผลข้อร้องเรียน หากเป็นได้ควรจะเรียกคืนผลิตภัณฑ์ หลงั จากท่มี ีการตรวจสอบและประเมินผลข้อร้องเรยี น 5.8 ทุกการตัดสินใจและมาตรการต่างๆ ที่เป็นผลสืบเนื่องจากข้อร้องเรียน ควรต้องมีการบันทึก และ อา้ งอิงไปถึงบนั ทึกการผลติ 5.9 บันทึกข้อร้องเรียนควรต้องมีการน่ามาทบทวนเป็นระยะๆ เพ่ือดูปัญหาท่ีเกิดซ่้าๆ อาจต้อง มีการพิจารณาเรยี กคนื ผลิตภัณฑ์ทีจ่ า่ หนา่ ยในตลาดไปแล้ว 5.10 ผู้มีอ่านาจท่ีมีความสามารถภาครัฐ ควรต้องได้รับรายงานจากผู้ผลิตที่พบว่ามีผลิตภัณฑ์เส่ือมสภาพ ผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ปลอมลอกเลียนแบบ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาคุณภาพร้ายแรง หลังจากตรวจพบความผิดพลาด ในการผลิต 6. การเรยี กเกบ็ ผลติ ภณั ฑ์ 6.1 องค์การ หรือผู้ผลิตต้องมีระบบการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์ท่ีสงสัย หรือรู้ว่ามีปัญหาจากตลาดอย่างมี ประสิทธภิ าพและทันทว่ งที 6.2 ผู้มีอ่านาจหน้าที่ ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการส่ังการ หรือประสานงานในการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์ ควรที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ภายใต้การสั่งการอย่างเพียงพอที่จะท่าหน้าท่ีในการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์ ตามความ เหมาะสมกบั ความเรง่ ด่วน 6.3 ต้องมีระเบียบวิธีปฏิบัติงานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษร มีการทบทวนเป็นระยะๆและท่าให้ทันสมัย ตลอดเวลา ในทุกกิจกรรมการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์ขององค์การ เจ้าหน้าท่ีต้องมีขีดความสามารถ ในการเรียกเก็บ ผลติ ภัณฑ์ทนั ทใี นทุกขัน้ ตอน/ทุกระดับของการกระจายสินคา้ 6.4 คู่มือการท่างานต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ตั้งแต่วิธีการเก็บผลิตภัณฑ์ที่เรียกคืนจนไปถึงการคัดแยก เพื่อการตดั สนิ ใจต่อไป 6.5 ผู้ที่มีความสามารถและมีหน้าท่ีรับผิดชอบของประเทศสมาชิกที่สินค้ากระจายไปถึง ต้องแจ้งสาเหตุ การเรียกคืนทนั ทีตามจรงิ หรือสงสยั ว่าผลิตภณั ฑ์หรือรู้ว่ามีปญั หาการเสอ่ื มสภาพของผลิตภณั ฑ์ 6.6 บันทึกการกระจายสินค้าควรจะต้องส่งถึงมือผู้มีอ่านาจที่รับผิดชอบ บันทึกต้องครอบคลุมข้อมูล ผู้ขายส่ง ลูกค้า ตลอดจนผู้ที่ได้รับตัวอย่างยาเพื่อทดสอบผลทางคลินิก และตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่าหรับแพทย์ เพอ่ื ให้การเรยี กคืนมีประสิทธภิ าพ 6.7 ต้องมีการตรวจสอบติดตามความก้าวหน้าในการเรียกคืน บันทึกต้องสามารถทวนสอบยอดที่ส่งและ ยอดท่คี ืน ตลอดจนยอดสดุ ทา้ ยที่เหลือของผลิตภณั ฑ์ 6.8 ต้องมกี ารวัดประสิทธผิ ลการเรียกคนื และต้องทดสอบ 4

7. การจ้างผลิต และการวเิ คราะห์ 7.1 การจ้างผลิต และการวิเคราะห์ ต้องมีการจัดท่าเอกสารตามท่ีก่าหนดไว้อย่างถูกต้อง เพื่อปูองกัน การเข้าใจผดิ ทจี่ ะน่าไปสผู่ ลไม่พงึ ประสงคท์ ั้งด้านผลิตภัณฑ์ งานและคุณภาพท่ไี ม่ตรงตามทตี่ ้องการ 7.2 การจัดเตรียมและการวิเคราะห์เพ่ือการจ้างผลิต รวมไปถึงการเปล่ียนแปลงในเชิงเทคนิคหรือ การเตรยี มอนื่ ๆ ควรจะต้องเปน็ ไปตามที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเพ่ือการตลาดส่าหรับทกุ ๆผลติ ภณั ฑ์ที่เกย่ี วข้องน้ี 7.3 สัญญาจ้างผลิตต้องระบุให้ผู้ว่าจ้างสามารถตรวจสอบส่ิงอ่านวยความสะดวกตามสัญญาที่ได้ยอมรับ ตกลงกันไว้ 7.4 การวิเคราะห์สัญญาจ้างผลิต ในการอนุมัติข้ันสุดท้ายต้องอนุมัติโดยผู้ท่ีมีอ่านาจในการอนุมัติ ผู้วา่ จ้างต้องมีหน้าท่รี ับผิดชอบตอ่ ไปน้ี 7.5 ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่ในการตรวจสอบขีดความสามารถของผู้รับจ้างผลิต โดยพิจารณาจากความส่าเร็จ ของงาน หรอื ผลทดสอบตามทีก่ า่ หนดไว้ เพ่ือการอนมุ ัติผลใหเ้ ปน็ ไปตามสญั ญา และเพ่ือความถูกต้องตามหลักการ ผลิตทีด่ ฉี บบั น้ี 7.6 ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่ให้ข้อมูลท่ีจ่าเป็นในการผลิตที่ถูกต้องกับผู้รับจ้างผลิตที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเพ่ือ การตลาด และที่เก่ียวกับกฎหมายอ่ืนๆที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าจ้างต้องท่าให้แน่ใจว่าผู้รับจ้างตระหนักถึงปัญหาท่ีเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ งานการผลิตหรือผลทดสอบที่อาจท่าให้เกิดความเสียหายให้กับสถานที่ผลิต เครื่องมือ บุคลากร วัสดุ หรือ ผลติ ภณั ฑ์อื่นๆ 7.7 ผู้ว่าจ้างมีหน้าท่ีท่าให้แน่ใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการ วัสดุ ส่งถึงมือผู้รับจ้างผลิต มีคุณภาพตรงตามที่ระบุไว้ในข้อก่าหนด หรือผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตแล้วอนุมัติปล่อยผ่านโดยผู้ที่มีอ่านาจหน้าท่ี ผู้รับจ้าง ต้องมหี นา้ ท่ีรบั ผิดชอบตอ่ ไปน้ี 7.8 ผู้รับจ้างต้องมีสถานท่ีผลิต เครื่องมือ ความรู้และประสบการณ์ที่เพียงพอ และมีความสามารถใน การปฏบิ ัตงิ านตามที่ได้รับการส่ังการจากผ้จู า้ งผลิต ผ้รู บั จ้างมหี น้าที่ผลติ ตามที่ผวู้ ่าจ้างผลิตที่ถือใบอนุญาตผลิตเท่านั้น 7.9 ผู้รับจ้างจะต้องไม่เผยแพร่งานท่ีได้รับมอบหมายภายใต้สัญญาจ้างผลิตน้ีให้บุคคลที่สาม โดยไม่ได้ รับการประเมิน อนุมัติจากผู้ว่าจ้างเสียก่อน การจัดท่าการระหว่างผู้รับจ้างผลิตกับบุคคลท่ีสาม ต้องท่าให้แน่ใจว่าเป็น ไปในทิศทางเดียวกันกับสัญญาต้นฉบับระหว่างผู้ว่าจ้างและผรู้ ับจ้าง 7.10 ผู้รับจ้างต้องละเว้นการท่าการใดๆ ที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต และหรือ การวเิ คราะหข์ องผวู้ ่าจ้าง สัญญาว่าจ้างควรตอ้ งทา่ ดงั น้ี 7.11 ต้องเป็นสัญญาท่ีเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ท่ีก่าหนดความรับผิดชอบของ ทั้งฝาุ ยอยา่ งชดั เจน 7.12 สัญญาจะต้องก่าหนดผู้มีอ่านาจหน้าท่ีอย่างชัดเจนในการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น เพ่ือการจ่าหน่าย หรือการออกใบรับรองผลการวิเคราะห์ เพ่ือให้สามารถแน่ใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตทุกรุ่นได้รับ การตรวจสอบ เพ่อื ใหเ้ ปน็ ไปตามข้อกา่ หนดในการผลติ เพื่อการทา่ การตลาด 7.13 ประเด็นทางด้านเทคนิคในสญั ญาต้องได้รับการตรวจสอบโดยผ้มู คี วามร้คู วามสามารถทางเทคโนโลยี เภสัชกรรม การวิเคราะห์ และหลักการผลติ ท่ีดี 7.14 การเตรียมการผลิตและการวิเคราะห์ ต้องได้รับความเห็นชอบจากท้ังสองฝุายและเป็นไปตามที่ได้ รับอนญุ าตใหม้ กี ารผลิตเพ่ือการท่าตลาด 5

7.15 สัญญาต้องก่าหนดหน้าท่ีของผู้ท่ีจะท่าการซื้อ การทดสอบ การปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ การควบคมุ การผลิต การควบคุมคุณภาพ การควบคุมระหว่างการผลิต การสุ่มตัวอย่าง และการวิเคราะห์ ในกรณี ทมี่ ีการจ้างวิเคราะห์ตอ้ งมกี ารกา่ หนดให้ผู้รับจา้ งวเิ คราะหต์ อ้ งน่าตัวอย่างจากผ้ผู ลติ หรอื ไม่ 7.16 บันทึกการผลิต การวิเคราะห์ การกระจายสินค้า และสารอ้างอิงตัวอย่าง ต้องมีพร้อมที่จะให้ ผูว้ า่ จา้ งตรวจสอบได้ บันทึกอน่ื ๆทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ข้อร้องเรียน ข้อบกพร่องต่างๆ การเรียกคืน หรอื ข้อสงสัยตา่ งๆ ผวู้ ่าจา้ งต้องสามารถเขา้ ถงึ ได้ 7.17 สัญญาต้องบรรยายการดูแลรักษา ต้ังแต่วัตถุดิบต้ังต้น ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิตและผลิตภัณฑ์ ทยี่ ังไม่ได้แบง่ บรรจุ และผลติ ภณั ฑ์สา่ เรจ็ รูปในกรณีทีไ่ ม่ผา่ นข้อก่าหนด รวมไปถงึ วิธกี ารจัดการเม่ือผลการวิเคราะห์ จากผ้รู ับจ้างวเิ คราะหว์ ่าไม่ผ่าน 8. การตรวจสอบตนเอง 8.1 หลักการตรวจสอบตนเอง มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผู้ผลิตประเมินตนเองตามเกณฑ์การผลิตที่ดี ในทุกดา้ นการผลติ การควบคุมคณุ ภาพ โปรแกรมการตรวจสอบตนเองต้องออกแบบให้สามารถพบเห็นความบกพร่อง ในการนา่ หลักเกณฑ์การผลติ ท่ดี ไี ปปฏบิ ัติและสามารถแนะนา่ ความจา่ เป็นในการแกไ้ ขปัญหา การตรวจสอบตนเอง ต้องทา่ เป็นประจา่ และบางคร้ังอาจท่าได้เป็นกรณีพิเศษ อาทิ กรณีท่ีการเรียกคืน กรณีที่มีผลวิเคราะห์ไม่ผ่านซ่้าๆ หรือมีการขอเข้าตรวจโดยผู้มีอ่านาจหน้าที่ในการตรวจ ทีมตรวจสอบตนเองควรประกอบด้วยบุคลากรที่สามารถ ประเมนิ วัตถปุ ระสงค์ของการปฏิบัติตามเกณฑ์การผลิตที่ดีทุกข้อแนะน่าที่ก่าหนดท่ีให้มีการแก้ไขต้องปฏิบัติ มีระเบียบ วธิ ีการตรวจสอบตนเองทเ่ี ป็นเอกสาร และมีโปรแกรมตรวจสอบผลติดตามความสา่ เรจ็ ของการตรวจสอบตนเอง 8.2 คู่มือการตรวจสอบตนเองอย่างน้อยควรประกอบด้วยเกณฑ์ข้ันต่าและข้อก่าหนดท่ีมีรูปแบบเป็น มาตรฐาน อาจจดั เป็นขอ้ คา่ ถามขอ้ กา่ หนดของเกณฑ์การผลติ ท่ดี ีทีอ่ ยา่ งน้อยต้องครอบคลุมถึง 1. บคุ ลากร 2. สถานที่ สง่ิ อา่ นวยความสะดวกสา่ หรับบคุ ลากร 3. อาคาร เครื่องมอื ต่างๆ และการดแู ล 4. สถานท่เี ก็บวัตถุดบิ ตั้งต้นจนไปถงึ ผลติ ภณั ฑส์ ่าเรจ็ รูป 5. อปุ กรณต์ ่างๆ 6. การผลิตและการควบคมุ คุณภาพระหวา่ งผลติ 7. การควบคุมคุณภาพ 8. ระบบเอกสาร 9. สุขาภบิ าลและสขุ อนามยั สว่ นบุคคล 10. โปแกรมการตรวจรับรองและการตรวจรบั รองซา่้ 11. การสอบเทยี บเคร่ืองมือวัดหรือระบบการวดั 12. ระเบยี บวธิ ีการเรียกคืนผลิตภณั ฑ์ 13. การจดั การขอ้ ร้องเรียน 14. ระบบควบคุมฉลาก 15. ผลการตรวจสอบตนเองครั้งก่อนและการแกไ้ ขทไี่ ด้แกไ้ ปแล้ว 6

ทีมตรวจสอบตนเอง 8.3 ผู้บริหารควรต้องแต่งต้ังทีมตรวจสอบตนเองประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่คุ้นเคยกับ เกณฑก์ ารผลติ ทดี่ ีภายในและภายนอก 8.4 ความถี่ในการตรวจสอบตนเองขึ้นอยู่กับความจ่าเป็นขององค์การ แต่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยการก่าหนดเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร 8.5 รายงานการตรวจสอบตนเองควรจัดทา่ ใหส้ มบูรณ์ ประกอบดว้ ย 1. รายงานผลการตรวจสอบตนเอง 2. การประเมินผล และข้อสรุป 3. ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไขปัญหา การตดิ ตามผลการตรวจสอบตนเอง 8.6 ต้องมีโปแกรมตรวจสอบผลติดตามความส่าเร็จของการตรวจสอบตนเองและประเมินผล ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ ทั้งรายงานผลการตรวจสอบตนเองและการแก้ไขปัญหาท่ีจา่ เป็น การตรวจสอบระบบคุณภาพ 8.7 ควรมีการตรวจสอบระบบคุณภาพเสริมการตรวจสอบตนเอง การตรวจสอบระบบคุณภาพ เปน็ การตรวจสอบระบบคุณภาพทัง้ ระบบหรอื บางส่วน โดยมีวตั ถุประสงค์ในการปรับปรุงระบบคุณภาพ อาจท่าได้ ทงั้ ผูต้ รวจสอบภายในและภายนอก รวมไปถงึ การตรวจสอบผูส้ ่งมอบและผูร้ บั เหมาชว่ ง การตรวจสอบระบบผู้สง่ มอบและการอนมุ ตั ผิ ู้ส่งมอบสนิ คา้ และบริการ 8.8 ผู้ท่ีมีหน้าท่ีในการควบคุมคุณภาพควรมีหน้าที่ร่วมรับผิดชอบกับแผนกท่ีเกี่ยวข้องในการอนุมัติ จัดท่ารายชอ่ื ผู้ส่งมอบสินค้าต้ังแต่วัตถุดิบตั้งต้น วัสดุการบรรจุและบริการที่ผ่านการประเมินผล ตามข้อก่าหนด ทกี่ า่ หนดไว้ 8.9 ผู้ส่งมอบสินค้าต้ังแต่วัตถุดิบต้ังต้น วัสดุการบรรจุและบริการต้องได้รับการประเมินเสียก่อนท่ีจะ บรรจุไว้ในรายช่อื ผู้ส่งมอบสนิ ค้าตั้งแต่วัตถดุ ิบตงั้ ตน้ วัสดุ การบรรจแุ ละบรกิ ารที่ผา่ นการประเมนิ ผล 9. บคุ ลากร 9.1 การน่าระบบประกันคุณภาพมาใช้และคงไว้เพื่อการบริหารการผลิตและควบคุมคุณภาพของ เภสชั ภัณฑ์และตวั ยาส่าคญั ขึ้นอย่กู บั บคุ ลากร ที่ตอ้ งมคี ุณภาพและมีปริมาณเพยี งพอท่ีจะผลักดันภาระกิจการผลิต ที่ตอ้ งรบั ผิดชอบ หน้าท่ีความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลต้องถูกก่าหนดอย่างชัดเจนและเป็นที่เข้าใจเป็นการทั่วไป โดยบคุ ลากรทเี่ กย่ี วขอ้ งและบรรยายเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร 9.2 หน่วยงานผลิตต้องมีจ่านวนบุคลากรที่มีคุณสมบัติท่ีจ่าเป็นและมีประสบการณ์ในจ่านวนที่เพียงพอ ตอ้ งมีการแบง่ หนา้ ท่ีความรับผิดชอบให้แตล่ ะบุคคลไม่ไห้มากเกนิ ไปเพื่อไมไ่ หเ้ กดิ ความเสี่ยงตอ่ ระบบคุณภาพ 9.3 ต้องก่าหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและให้อ่านาจท่ีเหมาะสมเพียงพอให้กับเจ้าหน้าท่ีที่ปฏิบัติงาน เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร เพอ่ื ให้สามารถปฏบิ ตั ิงานท่ีรบั ผิดชอบใหล้ ุล่วงไปได้ หนา้ ท่เี หลา่ นสี้ ามารถมอบหมายให้ผู้ช่วย ท่ีมีความสามารถที่เหมาะสมไปปฏิบัติได้ ความรับผิดชอบเหล่าน้ีต้องไม่มีช่องว่างหรือซ้อนทับกันระหว่างผู้ท่ีมีหน้าที่ ในการปฏิบัติหน้าตามหลักเกณฑ์การผลิตที่ดี –GMP หน่วยงานหรือองค์การการผลิตต้องมีแผนผังหน้าที่การท่างาน - Organization Chart ทีช่ ัดเจน 7

9.4 บุคลากรทุกคนท่ีเกี่ยวข้องต้องตระหนักในหลักเกณฑ์การผลิตท่ีดี ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเอง และ ต้องรับการฝึกอบรมอย่างต่อเน่ือง รวมไปถึงคู่มืออนามัยส่วนบุคคลที่จ่าเป็นส่าหรับแต่ละบุคคล บุคลากรทุกคน ต้องได้รับการกระตุ้นสร้างเสริมแรงจูงใจในการน่าระบบประกันคุณภาพมาใช้ในการปฏิบัติงานและคงระดับคุณภาพ ตามมาตรฐานข้นั สูงเอาไวอ้ ย่างย่ังยืน 9.5 ต้องมีข้ันตอนในการปูองกันไม่ไห้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณส่วนผลิต ส่วนการเก็บรักษา และส่วนควบคมุ คุณภาพ คนทีไ่ มม่ หี นา้ ทีเ่ กย่ี วข้องห้ามผา่ น บคุ ลากรหลัก 9.6 บุคลากรหลักในส่วนการผลิต ส่วนควบคุมคุณภาพ และผู้ท่ีมีอ่านาจอนุมัติในการปล่อยผ่านยาไป ขายได้ในตลาดต้องท่างานเต็มเวลา หัวหน้าส่วนการผลิตและส่วนควบคุมคุณภาพต้องเป็นอิสระต่อกัน การมอบ หมายงานใหท้ า่ แทนได้แต่ความรบั ผดิ ชอบมอบหมายไม่ได้ 9.7 บุคลากรหลักท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบในการดูแลการผลิตและควบคุมคุณภาพ ต้องมีคุณวุฒิการศึกษา สายวิทยาศาสตรแ์ ละมปี ระสบการณต์ ามท่ปี ระกาศไว้ในกฎหมาย การศึกษาต้องมีสัดส่วนองค์ประกอบที่เหมาะสม ดงั นี้ 1. เคมวี เิ คราะห์ หรือเคมอี นิ ทรีย์ หรือชีวะเคมี 2. วศิ วเคมี 3. จุลชีวะวิทยา 4. เภสัชศาสตร์ หรือ เทคโนโลยเี ภสชั กรรม 5. เภสชั วิทยาและพษิ วิทยา 6. สรรี ะวทิ ยา 7. หรอื วทิ ยาศาสตรส์ าขาอ่นื ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง อาทิ วิทยาศาสตรป์ ระยกุ ต์สาขาต่างๆ บุคลากรเหล่าน้ีต้องมีประสบการณ์เพียงพอในการผลิตและการประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์เภสัช การท่ีจะมีประสบการณ์เพียงพอจึงต้องมีการเตรียมตัวโดยการท่างานภายใต้ค่าแนะน่าของผู้ประกอบวิชาชีพเป็น ระยะเวลาหนึง่ จนสามารถทใ่ี ช้ดุลพินจิ ในวิชาชพี ได้ด้วยตนเองอยา่ งเปน็ อิสระ ที่อยู่บนพ้ืนฐานของการประยุกต์ใช้ หลักวิทยาศาสตร์และความเขา้ ใจปัญหาเชิงปฏิบัติในการผลติ และการควบคมุ คุณภาพ 9.8 หัวหน้าส่วนผลิตและควบคุมคุณภาพ โดยทั่วไปต้องมีหน้าที่ การท่างานรับผิดชอบร่วมกัน ในเรือ่ งทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับคณุ ภาพ ในเร่อื งต่างๆต่อไปนี้ รวมไปถงึ ข้อก่าหนดทก่ี ฎหมายก่าหนดไว้ ดังนี้ 1. การอนุมัตเิ อกสารระเบียบวธิ ีปฏบิ ตั ิงาน เอกสารอ่ืนๆ และการแกเ้ อกสารต่างๆ 2. การตรวจวัดและควบคมุ สง่ิ แวดล้อมในการผลิต 3. สุขอนามยั ของโรงงาน/สถานทผ่ี ลิต 4. การตรวจรับรองกระบวนการและการสอบเทียบความถูกต้องเคร่ืองมือการวิเคราะห์ 5. การฝกึ อบรม การปฏบิ ตั งิ าน และความเขา้ ใจหลักการประกนั คณุ ภาพ 6. การอนมุ ตั แิ ละการควบคุมติดตามผูส้ ่งมอบวตั ถดุ ิบ 7. การอนมุ ัตแิ ละการควบคมุ ติดตามผู้รับจา้ งเหมาช่วง 8. การจัดหาท่แี ละควบคมุ ตดิ ตามสภาพแวดล้อมการจดั เก็บวัตถุดบิ และผลิตภณั ฑ์ 9. ประสิทธผิ ลและการประเมนิ ผล กระบวนการควบคมุ ระหวา่ งผลิต 10. การเก็บบนั ทกึ ต่างๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งกับระบบคณุ ภาพ 8

11. การติดตามควบคุมการปฏบิ ตั ิงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การผลิตทีด่ ี 12. การตรวจเช็ค การตรวจสอบ และการสุ่มตัวอย่างเพ่ือการควบคุมติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจ สง่ ผลต่อคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ 9.9 หวั หนา้ ฝาุ ยผลิตมหี น้าที่ความรับผดิ ชอบท่วั ๆไปตอ่ ไปนี้ 1. ต้องท่าให้แน่ใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตและเก็บรักษาไว้น้ันถูกต้องตามข้อก่าหนดตามเอกสาร ทไ่ี ด้ระบไุ ว้ และมีคณุ ภาพตามทตี่ ้องการ 2. อนุมัติเอกสารคู่มือต่างๆท่ีเก่ียวกับการผลิต ระหว่างผลิต และต้องท่าให้แน่ใจได้ว่า ได้มีการ ปฏิบัตติ ามอยา่ งเครง่ คัด 3. ตอ้ งท่าให้แน่ใจไดว้ า่ มกี ารประเมนิ บนั ทกึ การผลิตอย่างถูกต้องโดยผู้ท่มี ีอา่ นาจหนา้ ท่ี 4. มีหน้าท่ีในการตรวจเช็คและจัดให้มีการซ่อมบ่ารุงแผนกต่างๆ สถานท่ีผลิตและเคร่ืองมือต่างๆ ท่จี า่ เปน็ และเก่ยี วข้องกับการผลิต 5. ต้องท่าให้แน่ใจได้ว่ามีการตรวจรับรองกระบวนการผลิตและการสอบเทียบความถูกต้อง เครือ่ งมอื ตา่ งๆ และมีบนั ทกึ สามารถตรวจสอบย้อนกลบั ได้ 6. ต้องท่าให้แน่ใจได้ว่ามีปฐมนิเทศการฝึกอบรมและการอบรมอย่างต่อเนื่องให้กับบุคลากรท่ีท่า หน้าท่ีในการผลิต และมกี ารปรบั เปล่ียนตามความต้องการในการฝึกอบรม 9.10 หัวหน้าฝาุ ยควบคุมคุณภาพมหี นา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบทัว่ ๆไปต่อไปน้ี 1. อนุมัติ หรือปฏิเสธการรับรองวัตถุดิบ ภาชนะบรรจุต่างๆ ผลิตภัณฑ์รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์ระหว่าง การผลิต ผลิตภัณฑท์ ผ่ี ลิตเสรจ็ แล้ว ตามข้อก่าหนด 2. ประเมินบันทกึ รุ่นการผลิตทกุ รุน่ 3. ต้องทา่ ใหแ้ นใ่ จไดว้ า่ มกี ารทดสอบท่ีจ่าเปน็ ครบถ้วน 4. อนุมัติคู่มือการปฏิบัติงานต่างๆ เช่น คู่มือวิธีการสุ่มตัวอย่าง ข้อก่าหนด วัตถุดิบ ภาชนะบรรจุ ต่างๆ ผลิตภัณฑ์รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเสร็จแล้ว วิธีทดสอบต่างๆ และระเบียบวิธีใน การควบคมุ คุณภาพต่างๆ 5. อนมุ ตั ิ และดูแลตดิ ตามการวเิ คราะหท์ ่ไี ด้ทดสอบตามข้อก่าหนด 6. มหี นา้ ท่ีในการตรวจเช็คและจัดใหม้ ีการซอ่ มบ่ารุงแผนก สถานท่ีและเครอื่ งมือตา่ งๆ 7. ต้องท่าให้แน่ใจได้ว่ามีการตรวจรับรองกระบวนการวิเคราะห์และการสอบเทียบความถูกต้อง เครือ่ งมอื การวิเคราะหต์ ่างๆ ทเี่ หมาะสม 8. ต้องท่าให้แน่ใจได้ว่ามีปฐมนิเทศการฝึกอบรมและการอบรมอย่างต่อเนื่องให้กับบุคลากรที่ท่า หน้าทีค่ วบคมุ คณุ ภาพ และมกี ารปรบั เปลยี่ นตามความตอ้ งการในการฝกึ อบรม 9.11 ผู้มีอ่านาจในการอนุมัติ มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามข้อก่าหนดทางเทคนิค หรอื ข้อก่าหนดทางกฎหมายท่เี กี่ยวขอ้ งกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูปและการอนุมัติการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ สา่ เรจ็ รปู เพ่อื การจ่าหนา่ ย 9.12 ผมู้ อี ่านาจในการอนมุ ัตยิ งั ต้องมหี นา้ ทด่ี ังต่อไปน้ี 1. วางรากฐานและการนา่ ระบบคณุ ภาพไปปฏิบัติ 2. มสี ่วนรว่ มในการพฒั นาคู่มอื คุณภาพ- Quality Manual ขององคก์ าร 3. ดแู ลการตรวจติดตามภายใน หรือการตรวจสอบตนเอง 4. ดแู ลหน่วยควบคุมคณุ ภาพ 9

5. มสี ว่ นรว่ มในการตรวจติดตามภายนอก หรือตรวจสอบผู้ขาย 6. มีสว่ นรว่ มในโปรแกรมการตรวจรับรองความถกู ตอ้ ง 9.13 หน้าที่ในการอนุมัติการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูปเพ่ือการจ่าหน่าย สามารถมอบหมายให้ผู้ท่ี คณุ สมบัตทิ ่เี หมาะสมและมีประสบการณ์ได้เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการอนุมัติการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูปเพื่อการ จ่าหน่าย โดยก่าหนดไว้เป็นระเบียบวิธีปฏิบัติงาน ซ่ึงในทางปฏิบัติตามปกติเป็นหน้าที่ ของฝุายประกันคุณภาพ ทม่ี ีหน้าที่ในการตรวจทบทวนบนั ทึกร่นุ การผลติ 9.14 บุคคลท่ีมีหน้าท่ีในการอนุมัติการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูปเพื่อการจ่าหน่ายควรจะต้องแน่ใจ วา่ ข้อก่าหนดต่างๆ เหลา่ น้ีไดป้ ฏบิ ตั แิ ล้วครบถว้ น 1. การอนมุ ัติทงั้ ดา้ นการตลาดและการผลิตไดถ้ ูกปฏบิ ตั ิอยา่ งครบถ้วน 2. หลักเกณฑ์และแนวทางการผลติ ที่ดี - GMP ไดป้ ฏบิ ตั ิอยา่ งครบถ้วน 3. การผลิตหลักและการวิเคราะห์ได้มีการตรวจรับรองความถูกต้องถ้ามีการ เปลี่ยนแปลง/ แตกต่างไปจากเดมิ 4. มกี ารตรวจเชค็ และทดสอบที่จา่ เป็นและทา่ การแก้ไขสภาวะการผลิตและบันทกึ 5. ในกรณีที่มีการเปล่ียนแปลง หรือการเบี่ยงเบนในส่วนการผลิตหรือควบคุมคุณภาพ จะต้องมี การแจ้งอยา่ งเป็นระบบก่อนทจ่ี ะมีการปลอ่ ยผ่านผลติ ภัณฑส์ า่ เร็จรูปเพอ่ื การจ่าหน่ายและต้องได้รับการรับรองจาก หนว่ ยงานราชการที่มีหน้ารบั ผดิ ชอบ 6. ในกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลงไปจากแผน ต้องมีการสุ่มตัวอย่างการตรวจสอบ การทดสอบ การตรวจเชค็ ตามความเหมาะสมเพอ่ื แก้ปญั หาให้ครอบคลมุ การเปลย่ี นแปลงไปจากแผนและขอ้ เบ่ยี งเบนต่างๆ 7. เอกสารการผลิตและการควบคุมคุณภาพที่จ่าเป็นต้องครบสมบูรณ์และตรวจรับรองโดย หัวหนา้ งานที่ไดร้ บั การฝกึ อย่างเหมาะสม 8. การตรวจติดตาม การตรวจสอบด้วยตนเอง การสุ่มตรวจเป็นจุดๆ ท่าอย่างเหมาะสมโดย เจา้ หน้าท่ีผู้มีประสบการณ์ และทไ่ี ด้รบั การฝกึ มาเป็นอยา่ งดี 9. หวั หน้าแผนกควบคุมคณุ ภาพไดต้ รวจอนุมตั ิแล้ว 10. ปัจจัยต่างๆ ที่เก่ียวข้องได้ถูกพิจารณาครบถ้วน ไม่เพียงแต่ข้อมูลผลผลิตของรุ่น เท่านั้น ในสว่ นย่อยของผลผลิตทีเ่ ปน็ ทมี่ าของข้อมูลผลผลติ ของรุน่ ก็ตอ้ งตรวจทบทวนโดยตรง เชน่ กนั 10. การฝกึ อบรม 10.1 องค์การต้องจัดให้มีโปรแกรมการฝึกอบรมให้กับบุคลากรที่มีหน้าท่ีปฏิบัติงานต่างๆ ฝุายผลิต ฝุายควบคมุ คณุ ภาพ ฝุายเทคนคิ ฝาุ ยซอ่ มบา่ รุง ฝุายทา่ ความสะอาดและอื่นๆตามท่ตี ้องการ 10.2 การอบรมควรครอบคลุม 1. ความรู้พ้นื ฐานทง้ั ทฤษฎแี ละการปฏิบัติ เกี่ยวกับการผลิตท่ีดี -GMP 2. เจา้ หนา้ ทีใ่ หม่ควรได้การฝกึ ตามโปรแกรมทีเ่ ก่ียวกบั หน้าทท่ี ตี่ ้องปฏิบัติงาน 3. ควรต้องมกี ารฝกึ อบรมอย่างตอ่ เนอ่ื ง และมีการประเมนิ ผลเป็นระยะๆ 4. โปรแกรมการฝึกอบรมต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมและอนุมัติให้เป็นไปตามความต้องการ และแผนการฝกึ อบรม 5. บนั ทกึ การฝกึ อบรมตอ้ งมกี ารเก็บ เพือ่ การตรวจสอบและวางแผน 10

10.3 ต้องจัดให้มีการฝึกอบรมงานเฉพาะอย่างที่มีอันตรายสูง อาทิ การปฏิบัติเก่ียวกับสารเคมี อนั ตราย สารพิษ สารระคายเคอื งสูง การลา้ งท่าความสะอาด การปูองกนั การปนเปือ้ นจากเช้อื โรค 10.4 หลักการการประกันคุณภาพต้องน่ามาอธิบายและหารืออย่างเต็มท่ี ในระหว่างการ ฝึกอบรม เพ่อื ช่วยให้เกดิ ความเข้าใจ การนา่ ไปปฏิบัติและปรับใชท้ ่ถี ูกตอ้ ง 10.5 ผู้มาเย่ียมชม หรือ บุคลากรท่ียังไม่ได้รับการอบรม ห้ามเข้าในเขตโรงงาน ในกรณีท่ีจ่าเป็น หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนเหล่าน้ีต้องถูกอธิบายล่วงหน้าโดยเฉพาะเร่ืองความสะอาด สุขลักษณะท่ีดี และต้องมีเจ้าหน้าที่ ประกบอย่างใกล้ชดิ 10.6 ท่ีปรึกษา และพนักงานของผู้รับเหมา ต้องได้รับการรับรองว่ามีความสามารถ เหมาะสม กับงาน ซง่ึ ตอ้ งบันทกึ ไวใ้ นบนั ทึกการฝกึ อบรม 11. สุขอนามยั ส่วนบคุ คล 11.1 บุคลากรทุกคนต้องตรวจสุขภาพก่อนท่างาน และระหว่างท่างานส่าหรับบุคลากรท่ีต้อง ใช้สายตาตรวจสอบคุณภาพ ตอ้ งตรวจสายตาเป็นระยะๆ 11.2 บุคลากรทุกคนต้องถกู ฝึกและปฏิบตั ติ ามหลกั สุขอนามยั ส่วนบคุ คล บุคลากรที่ต้องมีระดับสุขอนามัย ส่วนบุคคลระดับสูง ต้องถูกจับตาโดยคนที่มีหน้าท่ีเก่ียวข้องกับการผลิต โดยเฉพาะอย่างย่ิง ต้องล้างมือทุกคร้ัง เมอื่ ต้องเขา้ ไปในบรเิ วณผลติ ควรมสี ญั ญาณแสดงด้วยภาพและข้อที่ต้องปฏบิ ตั ิ สามารถเห็นได้โดยงา่ ย 11.3 บุคลากรที่ปุวย หรือมีแผลเปิด ห้ามท่างานในส่วนท่ีเก่ียวข้องสารตั้งต้น ภาชนะบรรจุ ผลิตภัณฑ์ ระหว่างผลิต ผลติ ภณั ฑส์ า่ เรจ็ รูป จนกว่าจะหายเปน็ ปกติ 11.4 บุคลากรทุกคนควรท่ีถูกสอนและกระตุ้นให้รายงานผู้บังคับบัญชาในระดับเหนือขึ้นไป ให้ทราบ สภาพท่ีเกย่ี วข้องกบั หน่วยผลติ เครอ่ื งมือผลติ หรือบุคลากรทีอ่ าจสง่ ผลกระทบเชงิ ลบต่อคุณภาพของผลติ ภัณฑ์ 11.5 เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังท่ีจะไม่สัมผัสโดยตรงกับวัตถุดิบต้ังต้น วัสดุบรรจุสินค้าก่ึงส่าเร็จรูป สินคา้ ทีย่ งั ไม่ได้บรรจุด้วยมือโดยตรง 11.6 บุคลากรต้องสวมเส้ือผ้าห่อหุ้มร่างกาย ผม ท่ีสะอาดที่เหมาะสมในการท่างาน เพ่ือปูองกัน การปนเปอ้ื น ชดุ ทใี่ ช้ซา้่ ต้องแยกออกจากชุดปกติ การนา่ ไปท่าความสะอาด ซกั กา่ จดั เช้อื โรค หรอื น่ึง 11.7 ห้ามสูบบุหร่ี รับประทานอาหารในสถานที่ผลิต เครื่องด่ืม ยา ไม่ให้น่าเข้าในสถานที่ผลิต ห้องควบคุม คุณภาพ หรอื ส่วนตา่ งๆ ทอ่ี าจส่งผลกระทบตอ่ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ 11.8 จัดเตรียมระเบียบวิธีการปฏิบัติงาน และวิธีการใช้เส้ือผ้าห่อหุ้มร่างกาย ผม ที่สะอาด ท่ีเหมาะสม เม่ือต้องเข้าไปในสถานที่ท่างาน ไม่มีข้อยกเว้นว่าจะเป็นพนักงานชั่วคราว ผู้รับเหมาช่วง ลูกค้า ผู้ตรวจสอบ หรอื ผู้จดั การระดับสงู 12. อาคารสถานท่ี 12.1 สถานทผ่ี ลิตต้องกา่ หนดสถานที่ ออกแบบ กอ่ สรา้ ง ปรบั และดแู ลรักษาใหเ้ หมาะสมกับการปฏบิ ตั ิงาน 12.2 การวางผังและออกแบบสถานท่ี ต้องมุ่งเพื่อลดความเส่ียงจากข้อผิดพลาด สามารถท่าความสะอาด ได้มีประสิทธิภาพ ซ่อมบ่ารุงง่าย ปูองการปนเป้ือนได้ดี ไม่สะสมฝุน หรือความสกปรก และสามารถปูองกัน ผลกระทบตอ่ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดี 11

12.3 ต้องมีมาตรการในการหลีกเลี่ยงและขจัดแหล่งก่าเนิดของฝุน – ระหว่างการสุ่มตัวอย่าง การชั่ง การผสม การปฏิบัตงิ าน การบรรจุ เพ่อื ปอู งกนั การปนเป้ือน และสะดวกในการ ลา้ งท่าความสะอาด 12.4 สถานที่ผลิตควรตั้งอยู่บริเวณในสิ่งแวดล้อมท่ีสามารถปูองกันและมีมาตรการที่สามา รถลด ผลกระทบจากการปนเป้ือนไปสวู่ ตั ถุดิบ หรือผลติ ภัณฑ์ 12.5 สถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ควรออกแบบและสรา้ งเพือ่ ชว่ ยให้มรี ะบบสุขาภิบาลทด่ี ี 12.6 สถานท่ีผลิตควรได้รับการดูแล บ่ารุงรักษา และซ่อมบ่ารุง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของ ผลติ ภัณฑ์ 12.7 สถานท่ีผลิตควรท่าความสะอาด และก่าจัดเช้ือโรค โดยก่าหนดเป็นวิธีการปฏิบัติงานและมีบันทึก การปฏิบตั งิ านเปน็ เอกสาร 12.8 ระบบจ่ายไฟฟูา ควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ ความชื้น และหมุนเวียนอากาศต้องเหมาะสม ไม่ส่งผล เสยี ทั้งทางตรงและทางออ้ มตอ่ เภสชั ภัณฑ์ ตลอดช่วงเวลาการผลิต การเก็บรักษาเภสัชภัณฑ์ และความถูกต้องแม่นย่า ของเครอื่ งมือการผลติ 12.9 สถานท่ีผลิตควรออกแบบและติดตั้งเคร่ืองมือ เพ่ือให้การปูองกันแมลง นก สัตว์พาหะต่างๆเข้ามา ภายใน ควรมีระเบยี บวิธีปฏบิ ัตงิ านเพอื่ ปูองกนั และควบคมุ หนู และสัตว์พาหะอ่นื ๆ 12.10 สถานที่ผลิตควรออกแบบเพ่ือให้เกิดการไหลหรือก่าหนดทิศทางการเคลื่อนไหลของวัตถุและ บคุ ลากรไปในทศิ ทางทส่ี มเหตุผล บรเิ วณสว่ นสนบั สนนุ 12.11 สถานที่พักงานและหอ้ งพกั ผ่อน ควรแยกจากส่วนทผ่ี ลิตและควบคุมคุณภาพ 12.12 สถานที่เปล่ียนและเก็บชุดท่างาน และห้องส้วม ห้องล้างมือ ต้องแยกจากส่วนท่ีผลิตและควบคุม คุณภาพ ตอ้ งสามารถเขา้ ถงึ ได้งา่ ย และมีจ่านวนเพียงพอ ห้องส้วมต้องไม่ประชิดกับส่วนผลิตโดยตรงกับส่วนผลิต และส่วนเก็บผลติ ภัณฑ์ วัตถุดิบ วัตถทุ ีใ่ ชใ้ นการผลิต 12.13 ห้องช่างและซ่อมบ่ารุง ควรต้องแยกจากส่วนผลิต ในกรณีท่ีเก็บเคร่ืองมือ หรือชิ้นส่วนเคร่ืองจักร ในส่วนผลติ ควรต้องอยู่ทใ่ี นห้องหรือในล๊อคเกอรท์ ีป่ ิด ทสี่ ่ารองพร้อมใช้งานได้ 12.14 โรงสตั วท์ ดลองต้องแยกจากส่วนอ่นื ๆ มีระบบประตแู ละระบบควบคุมอากาศแยกส่วนตา่ งหาก บริเวณส่วนจัดเก็บ 12.15 บรเิ วณส่วนจดั เกบ็ ต้องมีเน้อื ท่เี พยี งพอ เพื่อให้สามารถจัดเก็บได้เป็นวัตถุดิบผลิตภัณฑ์ได้มีระเบียบ ต้ังแต่วัตถุดิบต้ังต้น วัสดุบรรจุ สินค้ากึ่งส่าเร็จรูป สินค้าท่ียังไม่ได้บรรจุ สินค้ากักกัน สินค้าผ่านการตรวจคุณภาพ สินคา้ คนื หรอื ท่ีเรียกคนื 12.16 บริเวณส่วนจัดเก็บต้องออกแบบ ปรับปรุงเพ่ือให้ม่ันใจว่ามีสภาวะแวดล้อมท่ีดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสะอาด แห้ง ปิดสนิท อุณหภูมิ ความชื้นอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ การเก็บแบบพิเศษที่ต้องควบคุม อาทิ อุณหภูมิ ความชื้น ต้องมกี ารควบคุมและบนั ทกึ ไวอ้ ย่างเหมาะสม 12.17 บริเวณลานรับจ่าย ต้องแยกต่างหากและไม่เปียกฝน และสัมผัสแสงแดด บริเวณรับต้องจัดให้มีที่ ท่าความสะอาดภายนอกก่อนจะน่าไปเกบ็ 12.18 บริเวณส่วนกักกันต้องมีปูายแจ้งสถานะ และแยกไว้ชัดเจน ควบคุมการจัดเก็บ อนุญาตให้ผู้ท่ีได้ รับอนญุ าตเท่านน้ั เข้า-ออกได้ ระบบอ่นื ใดที่เทียบเทา่ การแยกทางกายภาพสามารถทดแทนได้ 12.19 บริเวณส่วนแยกต่างๆ ต้องจัดให้มีบริเวณที่ส่าหรับส่วนที่ห้ามน่าไปใช้- Reject ส่วนท่ี เรยี กคืน-Recall หรือสง่ คืน- Return ท้งั วัตถดุ ิบ และผลติ ภณั ฑ์ทจ่ี า่ หนา่ ย 12

12.20 สารมีฤทธ์ิรุนแรงและสารกัมมันตภาพรังสี สารเสพติด หรือสารอันตรายอ่ืนๆ สารท่ีมีโอกาสน่าไป ใช้แบบผิดๆได้ มโี อกาสตดิ ไฟ ระเบดิ ควรเก็บไวใ้ นทใ่ี นทร่ี ักษาความปลอดภยั 12.21 วัสดุบรรจุท่ีพิมพ์แล้ว ถือว่ามีความส่าคัญยิ่งยวดต่อผลิตภัณฑ์ในฐานะความถูกต้องเรื่องฉลาก ดงั นนั้ วัสดบุ รรจทุ ่พี ิมพแ์ ล้วตอ้ งสุ่มตรวจ และเกบ็ ไว้ในทีใ่ นทรี่ กั ษาความปลอดภยั 12.22 บริเวณสุ่มตรวจสารต้องแยกต่างหาก ในกรณีท่ีต้องสุ่มในบริเวณท่ีเก็บรวมต้องหาวิธี ปูองกัน การปนเป้อื น บรเิ วณช่ัง 12.23 บริเวณช่ังวัตถุดิบต้ังต้น ควรมีการชั่งประมาณไว้ก่อน อาจเป็นส่วนหน่ึงของส่วนผลิต หรือ ส่วนจดั เก็บ บรเิ วณชงั่ วตั ถดุ บิ ตง้ั ตน้ ควรมีระบบควบคุมฝุน บริเวณผลิต 12.24 เพื่อลดความเส่ียงจากสารทางการแพทย์ที่เป็นอันตรายสูง จากการปนเป้ือน บริเวณผลิต ต้องแยกออกจากกนั เฉพาะส่วน อาทเิ ช่น กลุม่ ยาเพนนซิ ิลิน ชีววตั ถุ ฮอร์โมน สารพิษต่อเซลล์ สารท่ีไม่ใช้ในเภสัช วัตถุห้ามนา่ เข้ามาในบริเวณโรงงานอย่างเด็ดขาด ในกรณีท่ีมีการยกเว้น มีการใช้บริเวณผลิตร่วม ต้องมีมาตรการหรือ วิธกี ารปูองกัน เชน่ การรับรองความถกู ตอ้ งของกระบวนการทเ่ี ก่ียวข้องท้ังหมด อาทิ การรับรองความถูกต้องของ กระบวนการในการลา้ ง ยากา่ จัดศตั รูพืช แมลง ไม่อนุญาตใหน้ ่าเขา้ มาในบริเวณโรงงานอย่างเด็ดขาด 12.25 บริเวณผลิตควรมีการวางผังเพื่อให้การท่างานเป็นไปกระบวนการถัดๆ กันไป ไม่ย้อนกลับ และ สอดคล้องกบั ระดบั ความสะอาด 12.26 พื้นที่ท่างาน พ้ืนที่ระหว่างการผลิต ควรเพียงพอเพ่ือให้สามารถวางล่าดับขั้นตอนการท่างานได้ เป็นระเบียบ สมเหตุผล สอดคล้องกับต่าแหน่งเคร่ืองจักรและวัตถุดิบ ลดการสับสนในการท่างาน การปะปนกัน ระหว่างสายการผลิตทแี่ ตกต่างกนั การลดั ขั้นตอน หรอื ผดิ ขั้นตอนในการควบคมุ การผลิต 12.27 วัตถุดิบ วัสดุบรรจุ สินค้าก่ึงส่าเร็จรูป สินค้าที่ยังไม่ได้บรรจุ ผลิตภัณฑ์จ่าเป็นต้องเก็บส่ิงแวดล้อม ผิวภายนอกของสถานท่ีเก็บ-พื้น-ผนัง-ฝูา ต้องเรียบไม่มรี ่องรอยแตกร้าว ล้างท่าความสะอาดง่าย ถ้าจ่าเป็นต้องสะดวก ในการก่าจัดเชื้อโรค 12.28 งานท่อ ระบบแสงสว่าง ระบบหมุนเวียนอากาศ ต้องออกแบบให้ท่าความสะอาดได้ง่าย และ สามารถเขา้ ถงึ ได้จากภายนอกบริเวณผลิต โดยทไี่ มต่ ้องเข้าไปในพ้ืนทผ่ี ลติ ภายใน 12.29 ระบบท่อท้ิง ต้องมีขนาดใหญ่พอ และออกแบบไม่ให้มีการไหลย้อน ไม่ควรมีช่องเปิด ถ้ามีช่อง เปิดตอ้ งตน้ื เพื่อใหส้ ามารถท่าความสะอาด ถา้ จ่าเปน็ ตอ้ งสะดวกในการกา่ จัดเชอ้ื โรค 12.30 บริเวณผลิตต้องมีการถ่ายเทอากาศท่ีดี มีการกรองอากาศท่ีดีที่เพียงพอท่ีปูองกันการปนเปื้อนข้าม ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ ความช้ืน ท่ีเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ท่ีต้องดูแลและปฏิบัติงาน ภายใต้ส่ิงแวดล้อมภายนอก ควรต้องมีการควบคุมติดตามเพือ่ ให้เป็นไปตามขอ้ กา่ หนดที่ออกแบบไว้ 12.31 สถานที่บรรจุเภสัชภัณฑ์ ต้องมีการออกแบบพิเศษในการวางผังเพ่ือปูองกันการปนเป้ือนข้าม ระหว่างผลติ ภัณฑ์ 12.32 บริเวณการผลติ ตอ้ งปดิ มิดชดิ อยา่ งดี โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงบรเิ วณทมี่ ีการควบคุมด้วยสายตา 13

บริเวณควบคมุ คณุ ภาพ 12.33 ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพควรต้องแยกจากบริเวณผลิต ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพ ชวี ะวตั ถุ สารไอโซโทป สารอันตรายร้ายแรง ต้องแยกจากกัน 12.34 ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพควรต้องออกแบบให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน มีเน้ือที่เพียงพอ สามารถปอู งกนั การปนเปอื้ นขา้ มระหว่างกันได้ มบี ริเวณเกบ็ ตวั อย่างสารอ้างอิงมาตรฐานสารละลาย สารเคมีท่ีใช้ ท่าการทดสอบ และบันทกึ ผลการตรวจวเิ คราะห์ ทพ่ี อเพียง 12.35 ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพควรต้องออกแบบให้เหมาะสม อาทิ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ระบบการปูองกันไอระเหย ระบบระบายและหมุนเวียนอากาศ ท่ีต้องแยกจากส่วนผลิต ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพ ชวี ะวัตถุ สารไอโซโทป สารอันตรายรา้ ยแรง ต้องมรี ะบบระบบระบายและหมนุ เวียนอากาศที่แยกจากกัน 12.36 ห้องเคร่ืองมือการควบคุมคุณภาพ ต้องมีระบบปูองกันการรบกวนจากสัญญาณไฟฟูา การส่ัน สะเทอื น ความชืน้ สงิ่ รบกวนอ่ืนๆ ท่จี า่ เป็นเพอื่ ปูองกนั การรบกวนการท่างานของเครอ่ื งมอื การควบคุมคุณภาพ 13. เครื่องมอื 13.1 ต้องก่าหนดสถานท่ีที่ติดต้ังเคร่ืองมือ ออกแบบ จัดสร้าง ปรับและดูแลรักษาให้เหมาะสมกับ การปฏิบัติงาน เพื่อมุ่งลดความเส่ียงจากข้อผิดพลาด สามารถท่าความสะอาดได้มีประสิทธิภาพ ซ่อมบ่ารุงง่าย ปูองการปนเปอ้ื นได้ดี ไม่สะสมฝนุ หรือความสกปรก และสามารถปูองผลกระทบต่อคุณภาพของผลติ ภัณฑไ์ ด้ดี 13.2 เคร่อื งมือตอ้ งตอ้ งติดตงั้ ตอ้ งมงุ่ เพอ่ื ลดความเส่ยี งจากขอ้ ผดิ พลาด ปูองกันการปนเปื้อน 13.3 ท่อที่ติดตง้ั ตอ้ งระบุชนิดของสารทไี่ หลในท่อ และทิศทางการไหลของสาร 13.4 ท่อน่าส่งทุกชนิดและอุปกรณ์ที่เก่ียวข้องต้องระบุ หรือแสดงเครื่องหมายและข้อควรระวั ง ส่าหรบั แกส๊ หรือของเหลวอันตราย ตอ้ งจัดให้มีขอ้ ต่อหรือหัวต่อเฉพาะท่ถี อดเปลย่ี นไม่ได้ 13.5 ตาช่ัง และเคร่ืองวัดทุกชนิดต้องก่าหนดช่วงการใช้งาน และสอบเทียบตามแผนการสอบเทียบท่ีได้ กา่ หนดไวเ้ ปน็ พื้นฐาน 13.6 เครือ่ งมอื การผลิต จะตอ้ งมีการท่าความสะอาดตามแผนท่ีได้ก่าหนดไวเ้ ป็นพืน้ ฐาน 13.7 เครือ่ งมอื และอุปกรณท์ ดสอบ ต้องเหมาะสมกับวธิ กี ารทดสอบ 13.8 เครือ่ งมอื ท่าความสะอาด ลา้ ง และท่าใหแ้ หง้ ตอ้ งมไี วเ้ พื่อไม่ให้เป็นตน้ เหตขุ องการปนเปอ้ื น 13.9 เคร่ืองมือการผลิตต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับผลิตภัณฑ์ ส่วนท่ีสัมผัสกับสารเคมีต้องไม่ก่อให้เกิด ปฏกิ ริ ิยาเคมี ไม่ดดู จับ หรือไมด่ ูดซับ ท่ีอาจกอ่ ให้เกดิ ผลกระทบกับคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 13.10 เครื่องมือที่ไม่ได้ใช้งาน ช่ารุดเสียหาย ต้องเคล่ือนย้ายออกจากสถานที่ผลิตและสถานที่ควบคุม คณุ ภาพทนั ที ถ้ายา้ ยไม่ไดใ้ ห้ติดปูายสถานะให้ชัดเจนวา่ อาทิเชน่ “เครอื่ งเสยี หา้ มใช้” 13.11 เครื่องมือระบบปิดควรเลือกใช้ตามความเหมาะสม แต่ถ้าเครื่องมือระบบเปิดควรใช้ด้วย ความระมดั ระวัง เพ่อื ลดการปนเปื้อน 13.12 เคร่ืองมือที่ไม่ได้จัดไว้ส่าหรับผลิตผลิตภัณฑ์ตัวเดียวโดยเฉพาะ ต้องท่าการการตรวจรับรอง ความถกู ต้องวิธีการล้าง เพ่ือปูองกันการปนเป้ือนข้ามระหว่างการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกันที่ใช้เครื่องมือเดียวกัน ในการผลติ 13.13 แบบล่าสุดของเครื่องมือท่สี ่าคัญ และระบบสนับสนุนต้องดแู ลรักษาไว้ 14

14. วตั ถุดบิ ต่างๆ 14.1 เปาู หมายหลกั ของการผลิตเภสัชภัณฑ์ คอื การผลติ ผลิตภัณฑ์สา่ เรจ็ รปู จากวตั ถุดิบต่างๆ -วัตถุดิบ ตัง้ ตน้ และภาชนะบรรจุจากโรงงานเภสัชกรรม 14.2 วัตถุดิบต่างๆ ได้แก่ วัตถุดิบตั้งต้น ภาชนะบรรจุ แก๊ส สารละลายต่างๆ สารช่วยต่างๆ สารเคมี ฉลากตา่ งๆ 14.3 สารต่อไปนี้ ไม่ให้น่ามาใช้สัมผัสโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สารท่าความสะอาด การหล่อล่ืน เครอ่ื งจักร สารทใี่ ช้ควบคมุ สัตว์พาหะ ถ้าเปน็ ไปได้สารเหล่านี้ควรเปน็ เกรดท่ีเหมาะสม เช่น เกรดอาหาร - Food Grade เพื่อลดความเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ 14.4 วัตถุดิบท่ีรับเข้ามา และผลิตผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูปควรกักกันไว้ก่อน จนกว่าจะมีการปล่อยผ่านเพื่อ อนญุ าตใหน้ ่าไปใช้ หรือขายได้ 14.5 วัตถุดิบต่างๆ และผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ต้องเก็บภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ที่ก่าหนดโดยผู้ผลิต และ เปน็ ระเบียบเพอ่ื ความสะดวกในการจดั เก็บและจ่ายออกแบบ “รับกอ่ น-จา่ ยก่อน” หรือ ตามกฎ “First – in First- out : FIFO” 14.6 น่า้ ทใี่ ช้ในการผลิตเภสชั ภณั ฑ์ ต้องเหมาะสมตรงกบั วตั ถปุ ระสงคท์ ีต่ อ้ งการ วัตถดุ บิ ตง้ั ตน้ 14.7 การจัดซ้ือวัตถุดิบต้ังต้น มีความส่าคัญมาก เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องกับต้องมีความรู้เฉพาะและรอบรู้ ในวตั ถุดบิ นนั้ และผูจ้ ่าหนา่ ย/ผ้สู ง่ มอบ 14.8 วัตถุดิบต้ังต้นต้องซ้ือจาก ผู้จ่าหน่าย/ผู้ส่งมอบท่ีได้รับการรับรอง หรือซื้อตรงจากผู้ผลิต ถ้าเป็น ไปได้ควรมีการปรึกษาคุณสมบัติตามข้อก่าหนดจากผู้จ่าหน่าย/ผู้ส่งมอบหรือผู้ผลิต และในเร่ืองต่างๆ ต้ังแต่การ ดูแลฉลาก การจัดเก็บ รายงานข้อร้องเรียน รายงานการคืนของ ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานตามท่ีตกลงกันไว้ระหว่าง ผู้ผลิตและผจู้ ่าหน่าย/ผ้สู ง่ มอบ 14.9 ต้องตรวจใบส่งมอบสินค้า ภาชนะบรรจุ ร่องรอยการผนึก โดยการตรวจเช็คความสอดคล้องกัน ของเอกสารของในใบส่ังซ้ือ ใบส่งสินค้า และฉลากทุกครั้งต้องสอดคล้องกันและไม่มีร่องรอยการฉีกขาดจากร่องรอย การผนึกตา่ งๆ 14.10 วัตถุดิบที่รับเข้ามาต้องตรวจเช็คว่าตรงกับใบส่งมอบสินค้าและใบสั่ง ภาชนะบรรจุต้องสะอาด ต้องปรากฏฉลากและค่าอธิบายตามท่ตี ้องการ ฉลากตน้ ฉบับ และฉลากเพิ่มเตมิ ตอ้ งไมห่ ลุดรอ่ น 14.11 ภาชนะบรรจุที่เสียหาย หรือปัญหาต่างๆท่ีพบ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพต่อวัตถุดิบต่างๆ ได้ ควรตอ้ งบันทึกและรายงานไปท่ีแผนกควบคมุ คณุ ภาพเพ่ือการตรวจสอบ 14.12 ถา้ มีการสง่ วตั ถุดิบเดียวกันมาหลายรุ่น ตอ้ งแยกการสมุ่ ตัวอยา่ ง การทดสอบ และการปล่อยผ่าน 14.13 วัตถดุ บิ ต้ังต้นที่เก็บไวใ้ นคลังสนิ คา้ ต้องติดฉลากดังต่อไปน้ี 1. ช่อื ที่ไดก้ า่ หนดไว้ และ เลขรหัสภายใน-ถ้ามี 2. หมายเลขรุ่นที่มาจากผู้จ่าหน่าย/ผู้ส่งมอบ และหมายเลขรับ-ภายใน เพ่ือการตรวจสอบ ย้อนกลับได้ 3. ใบแจ้งสถานะ เชน่ – กกั กนั /กา่ ลังทดสอบ/ผา่ น/ไมผ่ า่ น/ส่งคนื /เรียกคืน 4. กา่ หนดวนั หมดอายุ กา่ หนดวนั ทดสอบซา่้ -ถ้าจ่าเปน็ ตอ้ งมี 15

14.14 ต้องมีระเบยี บวิธใี นการทา่ งาน หรือมาตรการในการตรวจเอกลักษณ์ของวัตถุดิบตั้งต้น ทุกภาชนะ บรรจุ ถังบรรจุทม่ี กี ารสมุ่ ตัวอย่างไปควรมกี ารระบไุ วอ้ ย่างชัดเจน 14.15 วตั ถดุ ิบตง้ั ต้นทน่ี า่ ไปใช้ ตอ้ งผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากฝุายควบคุมคณุ ภาพและยังไมห่ มดอายุ 14.16 วัตถุดิบตั้งต้นต้องจ่ายโดยผู้ท่ีได้รับมอบหมาย และต้องมีระเบียบวิธีในการท่างานก่ากับเพ่ือให้ มั่นใจไดว้ ่ามกี ารจา่ ยวตั ถดุ บิ ที่ถูกต้องตามน่้าหนักที่กา่ หนด สะอาดและตดิ ฉลากก่ากบั ทเี่ หมาะสม 14.17 วัตถทุ ่ีจา่ ยทุกตวั ต้องไดร้ ับการชั่ง ตวง มกี ารตรวจสอบอย่างเปน็ อสิ ระ และมกี ารบันทึกไว้ 14.18 วตั ถทุ จ่ี ่ายทุกตวั สา่ หรบั แตล่ ะรุ่นการผลติ ต้องเกบ็ ไว้รวมกันและมกี ารติดฉลากอย่างชดั เจน ภาชนะบรรจุ 14.19 การจดั ซอ้ื ภาชนะบรรจทุ ส่ี ัมผัสกบั ผลติ ภณั ฑ์ และบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่พิมพ์แล้วจัดว่าเป็นวัตถุดิบ ต้ังต้นเชน่ กนั 14.20 บรรจุภัณฑ์ภายนอกท่ีพิมพ์แล้วต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยการเก็บในท่ีรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงได้ และไม่ปะปนกัน การจ่ายฉลากท่ีพิมพ์แล้วควรด่าเนินการโดยผู้ที่ได้มอบหมาย เทา่ นน้ั และตอ้ งมรี ะเบยี บวิธใี นการท่างานก่ากับ 14.21 การส่งมอบบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่พิมพ์แล้ว หรือภาชนะบรรจุที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ ควรระบุ หมายเลขอา้ งองิ ไว้อยา่ งชดั เจนและมเี คร่ืองหมายบง่ ชี้แสดง 14.22 บรรจุภัณฑ์ภายนอกที่พิมพ์แล้ว หรือภาชนะบรรจุที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ท่ียกเลิก หรือล้าสมัย ตอ้ งทา่ ลายทิง้ และบนั ทึกไว้เป็นหลกั ฐาน 14.23 ภาชนะบรรจุของผลิตภัณฑ์ท้ังหมดท่ีใช้ต้องตรวจสอบก่อนที่จะมีการส่งไปเก็บท่ีแผนกบรรจุภัณฑ์ เพ่อื ลงบันทกึ จ่านวน พสิ ูจนเ์ อกลกั ษณ์ และความถูกตอ้ งตามข้อก่าหนดการบรรจุ ผลิตภณั ฑก์ ง่ึ สาเร็จรปู และผลิตภณั ฑใ์ นบรรจขุ นาดใหญ่ 14.24 ผลิตภณั ฑ์ก่งึ สา่ เรจ็ รปู และผลติ ภณั ฑใ์ นบรรจขุ นาดใหญค่ วรเกบ็ ในสภาพที่เหมาะสม 14.25 ผลิตภัณฑ์กึ่งส่าเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ในบรรจุขนาดใหญ่ที่ซื้อเข้ามา ต้องดูแลเสมือนหน่ึงเป็น วตั ถุดบิ ตั้งต้น ผลิตภัณฑส์ าเร็จรปู 14.26 ผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป ต้องเก็บในบริเวณกักกัน จนกว่าจะมีการปล่อยผ่านในข้ันสุดท้าย เมื่อปลอ่ ยผา่ นแล้วจงึ ยา้ ยไปเกบ็ ในส่วนสตอ็ กทีส่ ามารถน่าไปจ่าย/จา่ หน่ายได้ ภายใตส้ ภาวะทกี่ า่ หนดโดยผผู้ ลติ 14.27 การประเมินเพื่อปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป เพ่ือจ่าหน่าย ต้องท่าภายใต้เกณฑ์การควบคุม คุณภาพทดี่ ี - ดูหวั ขอ้ 17 ประกอบ ผลิตภัณฑ์เพ่ือการส่งคืน -Rejected ผลิตภัณฑ์จากการคืนรูป –Recovered ผลิตภัณฑ์จากการผลิตซ้า - Reprocessed และผลิตภณั ฑจ์ ากการแกง้ านใหม่ -Reworked 14.28 ผลิตภัณฑ์หรือวัตถุเพื่อการส่งคืน-Rejected ต้องท่าเคร่ืองหมายให้ชัดเจน และแยกเก็บต่างหาก ในบริเวณท่ีมีการจ่ากัด เพ่ือการส่งคืน หรือท่าลายในเวลาท่ีเหมาะสม โดยผู้มีอ่านาจอนุมัติให้ด่าเนินการได้ และ ตอ้ งมกี ารบนั ทกึ เป็นหลักฐาน 14.29 ผลิตภัณฑ์จากการแก้งานใหม่ -Reworked ผลิตภัณฑ์จากการคืนรูป-Recovered เป็นกรณียกเว้น ท่าได้ก็ต่อเม่ือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูปไม่มีผลกระทบ ต้องด่าเนินการโดยผู้มีอ่านาจอนุมัติให้ด่าเนินการได้ 16

ตามทก่ี ่าหนดไวใ้ นขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงานโดยการค่านงึ ถึงความเสย่ี งท่ีเกยี่ วขอ้ งและมีการบันทึก ผลิตภัณฑ์จากการ แกง้ านใหม่ต้องออกรุ่นการผลติ ใหม่ 14.30 การเติมบางส่วนหรือท้ังหมดของรุ่นการผลิตก่อนหน้า ลงในรุ่นการผลิตของผลิตภัณฑ์เดียวกัน ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อ่านาจอนุมัติก่อนการด่าเนินการได้ ตามที่ก่าหนดไว้ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยการคา่ นงึ ถึงความเส่ยี งทเี่ ก่ยี วขอ้ งและผลกระทบตอ่ อายุของผลิตภัณฑ์ และตอ้ งมีการบนั ทึก 14.31 การพิจารณาความจ่าเป็นในการทดสอบผลิตภัณฑ์จากการคืนรูป -Recovered ผลิตภัณฑ์ จากการผลิตซา้่ - Reprocessed และผลติ ภัณฑ์จากการแก้งานใหม่-Reworked ต้องทา่ โดยแผนกควบคุมคุณภาพ ผลติ ภณั ฑ์เรยี กคนื 14.32 ผลิตภัณฑ์เรียกคืน ต้องเก็บไว้ในบริเวณที่มีการควบคุมจนกว่าจะมีผลการตัดสิน การตัดสินต้องท่า อย่างรวดเรว็ เท่าทจี่ ะเปน็ ไปได้ ผลิตภัณฑส์ ง่ คืน 14.33 ผลติ ภณั ฑส์ ง่ คืนจากตลาดควรต้องมีการท่าลาย ถ้าผลการตรวจคณุ ภาพไม่เป็นท่ีพอใจ อาจมีการ พจิ ารณาท่าการเปลี่ยนฉลากใหม่เพอ่ื ส่งไปขายใหม่ หรือวิธีอ่ืนๆ ที่ฝุายควบคุมคุณภาพ ได้ท่าการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ตามที่ก่าหนดไว้ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยพิจารณาจากธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ ประวัติ เวลาที่ผ่านไปแล้ว ถ้ามขี อ้ สงสยั ในเรื่องคุณภาพไม่ควรด่าเนินการต่อ การตัดสินใจอยา่ งไรต้องมกี ารจดบนั ทกึ สารเคมีและอาหารเลย้ี งเช้อื 14.34 ตอ้ งมีการบันทกึ การรบั การเตรียมสารเคมีและอาหารเล้ียงเชอื้ อย่างเปน็ ระบบ 14.35 การเตรียมสารเคมใี นห้องปฏิบตั ิการตอ้ งทา่ ตามท่ีก่าหนดไว้ในขั้นตอนการปฏิบัติงานและติดฉลาก อย่างเหมาะสม ประกอบด้วย ความเข้มข้น อายุใช้งาน ค่าการปรับให้ได้ตามมาตรฐาน - Standardization Factor วนั ที่ตอ้ งปรบั คา่ การปรับให้ไดต้ ามมาตรฐานใหม่ ลงช่ือก่ากับโดยผมู้ อี ่านาจในการอนุมตั ิและผเู้ ตรยี ม 14.36 ทุกครั้งท่ีมีการเตรียมอาหารเล้ียงเชื้อ ควรต้องมีการเตรียมอาหารเล้ียงเชื้อควบคุมท้ังแบบ - Positive และ Negative เพ่ือยืนยันความเหมาะสมของอาหารเล้ียงเช้ือทั้งในส่วนการเตรียมและการน่าไปใช้ ขนาด ของการทดสอบควบคุมแบบ - Positive ควรตอ้ งมขี นาดเหมาะสมเพ่อื ให้ไดค้ วามไว - Sensitivity ท่ตี อ้ งการ สารอ้างองิ มาตรฐาน 14.37 ควรใช้เฉพาะสารอ้างอิงมาตรฐานทเ่ี ป็นทางการ ที่อธิบายไว้ในแต่ละคู่มือการวิเคราะห์ อาทิเช่น AOAC Reference Standard 14.38 สารอ้างอิงมาตรฐานทเี่ ป็นทางการ ควรใช้เฉพาะตามท่ีก่าหนดไวใ้ นคู่มือการวิเคราะหเ์ ทา่ น้ัน 14.39 สารอ้างอิงมาตรฐานท่ีเตรียมมาพร้อมใช้จากผู้ผลิต ควรต้องมีการทดสอบ อนุมัติปล่อยผ่าน และ ตรวจเช็คตามช่วงเวลาเพื่อความมนั่ ใจในความเปน็ มาตรฐาน 14.40 สารมาตรฐานล่าดับชั้นท่ีสอง-Secondary Standards หรือ สารมาตรฐานส่าหรับท่างาน -“Working Standards ควรต้องมีการทดสอบด้วยวิธีการทดสอบที่ก่าหนดข้ึนมา อนุมัติปล่อยผ่าน และตรวจเช็ค ตามชว่ งเวลาเพ่อื ความม่นั ใจในความเป็นมาตรฐานเชน่ กนั 14.41 สารอ้างองิ มาตรฐาน ควรมกี ารติดฉลากท่ีเหมาะสม ดังน้ี 1. ช่ือสารอ้างองิ มาตรฐาน 2. รนุ่ หรือ หมายเลขลอต และ หมายเลขการวิเคราะห์ 17

3. วนั ทเ่ี ตรยี ม 4. วนั หมดอายุ 5. ความแรง หรือ ความเข้มขน้ 6. สภาวะการจดั เก็บ 14.42 สารอ้างอิงมาตรฐานภายใน - In house Reference Standard ที่เตรียมเทียบกับสารอ้างอิง มาตรฐานทีเ่ ปน็ ทางการ - Official Reference Standard ตอ้ งตรวจเช็คตามช่วงเวลาเพื่อความม่ันใจในความเป็น มาตรฐานเชน่ กัน 14.43 สารอ้างอิงมาตรฐานทุกประเภท ต้องเก็บและใช้อย่างถูกต้อง โดยท่ีไม่ส่งผลต่อคุณภาพของสาร อ้างองิ มาตรฐานนัน้ ๆ สารที่ไม่ได้ใชแ้ ล้ว- Waste Material 14.44 ควรจัดให้มีการเก็บไว้ในที่เก็บสารท่ีไม่ได้ใช้แล้วอย่างเหมาะสม เพื่อรอการน่าไปก่าจัด สารพิษ สารไวไฟ ควรเก็บแยกในท่ไี ดอ้ อกแบบ แยกไวต้ า่ งหาก และควรปิดสนิทตามกฎหมาย 14.45 ไม่ควรเก็บสะสมสารที่ไม่ได้ใช้แล้ว- Waste Material ควรจัดให้มีท่ีทิ้งไว้รองรับอย่างเหมาะสม เพ่ือการเคล่ือนย้าย จุดทร่ี วบรวมภายนอกอาคาร และควรจัดใหม้ ีการทงิ้ อยา่ งปลอดภยั ถกู สุขอนามัย ในช่วงเวลา ท่ีเหมาะสม สารอน่ื ๆ - Miscellaneous 14.46 สารก่าจัดสัตว์ฟันแทะ สารก่าจัดแมลง การรมควัน และสารเพ่ือสุขอนามัย ต้องไม่ไห้มีโอกาส ปะปน หรอื ปนเปอ้ื นกบั วตั ถดุ ิบตง้ั ต้น ภาชนะบรรจุ สนิ ค้าก่งึ สา่ เร็จรปู สินคา้ /ผลิตภณั ฑส์ า่ เร็จรูป 15. เอกสารต่างๆ 15.1 ระบบเอกสารท่ีดี เป็นส่วนส่าคัญของระบบประกันคุณภาพ ดังนั้นจึงปรากฏให้เห็นในทุกมิติของ การผลติ ทีด่ ี -GMP ระบบเอกสารท่ดี ี จะต้องประกอบดว้ ย - ก่าหนดข้อก่าหนดส่าหรับวตั ถุทุกประเภททใ่ี ชใ้ นสถานทผี่ ลติ - ก่าหนดระเบียบวิธีปฏิบัติงานในการผลิต การควบคุมคุณภาพ รวมไปถึงความรู้ว่าจะต้องท่างาน อย่างไร-Know How ของบุคลากรต่างๆ ท่ีท่าไว้เป็นลายลักษณ์อักษร สามารถน่ามาใช้ฝึกอบรมทบทวน และส่าหรับ ฝึกพนักงานใหม่ และช่วยให้ผู้มีอ่านาจและรับผิดชอบ สามารถควบคุมงาน ให้ด่าเนินไปอย่างราบรื่น และมีคุณภาพ ลดขอ้ ผิดพลาดจากมนุษยไ์ ด้-Human Error - ช่วยให้ผู้มีอ่านาจและรับผิดชอบ สามารถควบคุมการไหลของข้อมูลท่ีจ่าเป็นท้ังสองด้านจาก ผบู้ รหิ ารลงสผู่ ้ปู ฏิบตั งิ าน และจากผู้ปฏิบตั ิงานไปสผู่ ู้บริหาร ท่าให้กระบวนการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์มีความโปร่งใส โดยดูได้จากขอ้ มูลเชิงประจักษใ์ นระบบเอกสารท่ไี ด้ออกแบบไว้ - ช่วยให้ผู้มีอ่านาจและรับผิดชอบ สามารถควบคุมการตรวจรับรองและการตรวจสอบความ ถูกต้องของทุกกระบวนการท่างานได้ อย่างโปร่งใส โดยดูได้จากข้อมูลเชิงประจักษ์ในระบบเอกสาร ทไี่ ดอ้ อกแบบไว้ตามหลักวธิ กี ารวิเคราะห์ทางสถิติ บันทึกเหลา่ นี้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ สามารถทบทวนได้ 18

- ชว่ ยให้ผมู้ ีอ่านาจและรับผิดชอบ สามารถกระจายอ่านาจควบคุมดูแลแบ่งงานและความรับผิดชอบ ทเี่ หมาะสมกับบคุ ลากรในระดับตา่ งๆ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถบรหิ ารระบบคุณภาพ ระบบปฏิบัติการตาม มาตรฐานสากล ภายใตห้ ลักเกณฑ์การผลติ ทดี่ ีไดเ้ ปน็ อย่างดี และยังสง่ ผลใหม้ ีระบบประกันคุณภาพท่ีดี ซ่ึงเป็นส่วน ส่าคัญของการบริหารระบบคณุ ภาพโดยรวม ขอ้ มลู ทว่ั ไป 15.2 ระบบเอกสารท่ีดีต้องออกแบบ จัดเตรียม ทบทวน และกระจายให้ทราบเป็นการท่ัวไปด้วย ความระมดั ระวัง และสอดคล้องกับใบอนุญาตการผลิต และการตลาดทอ่ี อกใหใ้ ห้โดยผมู้ อี ่านาจในระบบราชการ 15.3 ระบบเอกสารที่ดีต้องออกแบบ อนุมัติ ลงลายเซ็นก่ากับ และท่าให้ทันสมัยอยู่เสมอโดยผู้ที่มีหน้าท่ี รับผิดชอบ เอกสารในระบบทุกชนิดต้องได้รับการอนุมัติก่อนท่ีจะมีการแก้ไข น่าไปใช้ปฏิบัติงาน และสื่อสารให้ทราบ ทัว่ กนั ในองคก์ าร 15.4 ระบบเอกสารที่ดีต้องไม่คลุมครือ ต้องมีเนื้อหา หัวเรื่อง วัตถุประสงค์ เป็นปกติตามธรรมชาติของ เอกสารนั้น มีความชัดเจน สามารถอ่านได้ มีระเบียบ ตรวจสอบ ค้นหาง่าย เอกสารที่ผลิตข้ึนมาใหม่ต้องชัดเจน และ ไดร้ ับการยอมรับ และไมม่ ขี อ้ ผดิ พลาดท่เี กิดจากการท่าซา่้ หรอื จากการผลิตขึ้นมาจากต้นฉบบั 15.5 ระบบเอกสารที่ดีต้องมีการทบทวนเป็นระยะๆ และท่าให้ทันสมัยอยู่เสมอ มีระบบควบคุม การเปลี่ยนครง้ั ที่ออกเอกสารใหม่- Revision และยกเลิกของเดิม และการปูองกันไม่ให้มีการน่าเอกสารของเดิมไป ใช้ เอกสารที่ถูกยกเลิกต้องมีการเก็บไว้ตามระยะเวลาที่ก่าหนด- ตามกฎหมายถ้ามีระบุไว้ หรือระบุไว้ในระบบเอกสาร ในคมู่ ือคุณภาพ 15.6 การปูอน หรือ กรอกข้อมูล ต้องชัดเจน สามารถอ่านได้ ไม่สามารถลบได้มีช่องว่างเพียงพอ ในการกรอก 15.7 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารต้องมีลายเซ็นก่ากับ และลงวันท่ี สามารถยังคงอ่านข้อมูลเก่าได้ และถ้าท่าได้ควรมกี ารแจ้งเหตุผลตามความเหมาะสม 15.8 บันทึกท้ังหลายควรมีการกรอกข้อมูลให้ครบ เพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังท่ีเกี่ยวข้อง กบั ผลิตภณั ฑท์ ผี่ ลติ ได้ ต้องเก็บอย่างนอ้ ย 1 ปี หลงั จากผลติ ภณั ฑท์ ่ผี ลิตได้หมดอายลุ ง 15.9 ข้อมูลอาจเก็บลงในระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ การถ่ายเอกสาร หรือวิธีการอ่ืนใดท่ีได้รับ การเช่ือถือได้ ในส่วนเอกสารสูตรแม่บทต่างๆ-Master Formula และมาตรฐานการปฏิบัติงาน- Standard Operating Procedures ที่เก่ียวข้องกับระบบ ต้องมีพร้อมและถูกต้อง มีการตรวจเช็ค ถ้าข้อมูลเก็บลงในระบบ อิเล็กทรอนิกส์ บุคลากรท่ีมีอ่านาจเท่าน้ันท่ีสามารถเข้าไปดูหรือ แก้ไขเอกสารในระบบ และต้องมีระบบบันทึก การเปล่ียนแปลง การลบ ระบบต้องสามารถจ่ากัดการเข้าถึงด้วย Pass word หรือวิธีการอ่ืนๆ การตรวจสอบ การปูอนข้อมูลท่ีส่าคัญมากๆ ต้องสามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นอิสระ บันทึกการผลิตต้องสามารถปูองกัน การคดั ลอกได้ จากการคัดลอกลงในเทปแม่เหล็ก ไมโครฟิลม์ กระดาษพิมพ์ หรืออื่นๆ และที่ส่าคัญข้อมูลเหล่านี้ต้อง สามารถพร้อมดึงมาใชง้ านได้สะดวก 19

เอกสารทต่ี ้องการตามข้อกาหนด ฉลาก 15.10 ฉลากท่ีติดบนภาชนะบรรจุ เครื่องมือ หรืออาคารสถานท่ี ต้องชัดเจน ไม่ก่ากวม ตามรูปแบบที่ องค์การก่าหนด อาจใช้สีช่วยในการแยกสถานะ ไดแ้ ก่ สถานะกกั กนั สถานะรับ สถานะคืน สถานะสะอาด 15.11 ผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป ต้องได้รับการแสดงเอกลักษณ์ด้วยฉลาก ตามกฎหมาย และอย่างน้อย ต้องมขี อ้ ความดังตอ่ ไปนี้ 1. ช่ือผลิตภัณฑ์ 2. รายการสารออกฤทธ์ิส่าคัญ และจา่ นวนสุทธิ ในรูปแบบน่า้ หนกั /ปรมิ าตร 3. หมายเลขร่นุ ที่ออกโดยผผู้ ลติ 4. วันหมดอายุ 5. ขอ้ มลู แนะนา่ สภาวะการเก็บ การใชง้ าน ข้อควรระวงั ท่ีจา่ เปน็ 6. วธิ ีการใช้ ค่าเตอื นท่จี ่าเปน็ 7. ช่ือ ท่อี ยู่ของผผู้ ลติ หรือช่ือองค์การ ท่นี ่าเสนอสนิ ค้าส่ตู ลาด 15.12 สารอา้ งองิ มาตรฐาน ควรมกี ารติดฉลากและ/หรอื เอกสารเสริมที่แสดงความแรง ความเข้มข้น วันที่ผลติ วันหมดอายุ วนั ท่ีเปิดใช้ครั้งแรก สภาวะการจัดเก็บ หมายเลขวิเคราะห์ ตามความเหมาะสม ขอ้ กาหนดเฉพาะและการทดสอบ 15.13 การทดสอบที่อธิบายอยู่ในระบบเอกสาร ต้องมีการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ภายใตเ้ ครอ่ื งมือและอุปกรณ์อ่านวยความสะดวกที่กา่ หนดก่อนท่ีจะรับไว้เป็นการตรวจแบบกจิ วตั ร - Routine 15.14 ต้องจัดให้มีข้อก่าหนดเฉพาะที่ทันสมัย ส่าหรับวัตถุดิบตั้งต้น วัสดุบรรจุสินค้าส่าเร็จรูป ท่ีได้รับ การอนุมัติแล้ว รวมไปถึงการทดสอบ การตรวจเอกลักษณ์ ปริมาณความบริสุทธ์ิ และคุณภาพ ตลอดไปจนถึง ข้อกา่ หนดเฉพาะท่ีทันสมัยของสินค้าก่ึงส่าเร็จรูป สินค้าที่บรรจุในภาชนะขนาดใหญ่ท่ียังไม่ได้แบ่งบรรจุเป็นสินค้า สา่ เรจ็ รูป ตอ้ งจดั ให้มีข้อก่าหนดเฉพาะท่ีทนั สมัยส่าหรับ นา่้ สารละลาย สารเคมี ท่ีใชใ้ นกระบวนการผลิตด้วยเช่นกัน 15.15 ข้อก่าหนดเฉพาะ-Specification ต้องมีการอนุมัติ ลงลายเซ็นก่ากับ และท่าให้ทันสมัย และดูแล โดยฝุายควบคุมคุณภาพ ฝุายประกันคุณภาพ หรือ ฝาุ ยควบคุมเอกสาร ข้อกา่ หนดเฉพาะที่ทันสมัย ส่าหรับวัตถุดิบ ต้งั ต้น วัสดุบรรจุ สนิ คา้ กง่ึ สา่ เรจ็ รูป สินคา้ ที่บรรจใุ นภาชนะขนาดใหญ่ท่ียังไม่ได้แบ่งบรรจุเป็นสินค้าส่าเร็จรูป และ สนิ คา้ สา่ เร็จรูป –ดรู ายละเอียดไดใ้ นข้อ 15.18- 15.21 15.16 การปรับปรุงข้อก่าหนดเฉพาะ-Specification ให้ปรับตามความจ่าเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับเภสัช ตา่ รับที่ประกาศในระดบั ชาติ หรอื เอกสารทเ่ี ป็นทางการอ่ืนๆ - Official Compendia 15.17 เภสัชต่ารับท่ีประกาศใช้ สารอ้างอิง สเปคตร้าอ้างอิง- Reference Spectra หรือสารอ้างอิงอื่นๆ ควรมพี รอ้ มใช้ในห้องปฏบิ ัตกิ าร ขอ้ กาหนดเฉพาะของวัตถุดิบต้งั ตน้ วัสดุบรรจุ 15.18 ข้อก่าหนดเฉพาะส่าหรับวัตถุดิบตั้งต้น วัสดุบรรจุที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรง วัสดุบรรจุ ท่พี มิ พม์ าแล้ว ไดแ้ ก่ 1. ชื่อ และรหัสภายใน 2. เอกสารอ้างอิง เช่น เภสชั ต่ารับท่ปี ระกาศใช้ 3. ข้อก่าหนดคุณภาพ และข้อก่าหนดเชิงปริมาณ และเกณฑ์การยอมรับข้อก่าหนดเฉพาะ อาจมีการเพ่ิมในส่วนดงั ตอ่ ไปน้ี 20

4. ผ้สู ง่ มอบ และผู้ผลิตโดยตรง 5. ตวั อยา่ งส่งิ พมิ พ์ฉลาก 6. วิธกี ารสุ่มตัวอย่าง และทดสอบ หรอื เอกสารอา้ งองิ ของวิธีการปฏิบัตงิ าน 7. สภาวะการเกบ็ และข้อควรระวังในการปฏิบตั งิ าน 8. ระยะเวลาในการเก็บสงู สดุ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบซ้่า 15.19 เอกสารทใี่ ช้ในการอธบิ ายวธิ กี ารทดสอบ ควรก่าหนดความถี่ในการทดสอบ และการทดสอบซา่้ 15.20 ขอ้ ก่าหนดเฉพาะผลิตภัณฑ์ก่ึงส่าเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ในบรรจุขนาดใหญ่ ควรมีการจัดท่าไว้เหมือน กบั วตั ถุดบิ ต้งั ต้น หรอื ผลติ ภณั ฑส์ ่าเร็จรปู ตามความเหมาะสม ข้อกาหนดเฉพาะของผลิตภณั ฑส์ าเรจ็ รูป 15.21 ข้อก่าหนดเฉพาะสา่ หรบั ผลิตภัณฑ์ส่าเรจ็ รปู ควรประกอบด้วย 1. ช่ือผลิตภณั ฑ์ทก่ี ่าหนดไว้ และรหัสอา้ งอิง 2. ชือ่ สารออกฤทธิ์ 3. สตู รตา่ หรบั หรอื การอา้ งองิ สตู ร 4. ค่าอธิบายรูปแบบยาและรายละเอยี ดภาชนะบรรจุ 5. วิธีการสุ่มตัวอยา่ ง และทดสอบ หรอื เอกสารอ้างองิ ของวิธีการปฏบิ ตั งิ าน 6. ขอ้ กา่ หนดคุณภาพ และขอ้ ก่าหนดเชิงปรมิ าณ และเกณฑก์ ารยอมรบั 7. สภาวะการเก็บ และข้อควรระวงั ในการปฏบิ ตั ิงาน 8. อายุของผลติ ภัณฑส์ ่าเรจ็ รปู เอกสารสูตรแม่บท 15.22 เอกสารสูตรแมบ่ ท-Master Formulae ต้องมกี ารจัดท่าส่าหรับทุกผลิตภณั ฑแ์ ละทุกขนาดผลิต 15.23 เอกสารสูตรแม่บท-Master Formulae ต้องประกอบดว้ ย 1. ช่ือผลติ ภณั ฑแ์ ละรหสั อ้างองิ ที่เกีย่ วกับขอ้ กา่ หนดเฉพาะของผลิตภัณฑ์ 2. คา่ อธบิ ายรปู แบบยา ความแรง และขนาดการผลิต 3. รายการวัตถุดบิ ตัง้ ตน้ ท้งั หมด จ่านวนทใี่ ช้ 4. น่า้ หนักสุดทา้ ยทีค่ าดไว้ และคา่ ทีย่ อมรับได้ 5. ข้อก่าหนดของสถานทผ่ี ลติ และเคร่อื งมอื ผลติ ทใี่ ช้ 6. วิธีการผลิต หรือ อ้างอิงวิธีผลิต การใช้เคร่ืองมือการผลิตท่ีส่าคัญ ๆ การสอบเทียบ การกา่ จัดเช้ือ การลา้ ง 7. รายละเอียดล่าดับข้ันของการผลิต 8. การควบคุมระหวา่ งการผลิต และหลักเกณฑ์การควบคุม 9. วิธกี ารเก็บวตั ถดุ บิ วตั ถรุ ะหวา่ งการผลติ ผลิตภัณฑ์ และข้อก่าหนดพิเศษในการเก็บรักษาใน แตล่ ะชว่ งการผลิต 10. ข้อควรระวังท่คี วรสังเกต 21

วธิ กี ารบรรจุ 15.24 วิธกี ารบรรจุ ต้องไดร้ ับการอนุมตั สิ า่ หรบั แตล่ ะขนาดบรรจุ ก่อนที่จะมีการบรรจุ และจะต้อง ดา่ เนนิ การดังน้ี 1. ชอ่ื ผลติ ภัณฑ์ 2. คา่ อธิบายรปู แบบยา ความแรง และวธิ ใี ช้ 3. ขนาดบรรจุ เป็นชิ้น นา้่ หนกั หรอื ปรมิ าตรในบรรจุภณั ฑ์สุดท้าย 4. รายการวสั ดุทีใ่ ช้ในการบรรจุทั้งหมด จ่านวน ชนิด ขนาด รหัสท่ีอ้างอิงข้อก่าหนดเฉพาะของ วัสดบุ รรจุ 5. ควรจัดให้มีตัวอย่างที่ถูกต้องไว้เป็นตัวอย่าง เพ่ือก่าหนดขนาดตัวพิมพ์ และระบุต่าแหน่ง การพิมพท์ ี่ถูกต้อง เชน่ วันหมดอายุ 6. ควรระบขุ ้อควรปฏิบัติ-การสังเกตไว้ในขั้นตอนการบรรจุเพ่ือให้ม่ันใจว่าได้น่าเอาส่ิงที่ไม่เกี่ยวข้อง กบั การบรรจุออกหมดสน้ิ แลว้ - Line Clearance ก่อนและหลังการบรรจุทุกคร้งั 7. ก่าหนดรายละเอียดในการบรรจุ และรายละเอียดส่าคัญและเครื่องมือที่ใช้ในการบรรจุ ในลา่ ดับรองๆ ท่ไี มอ่ าจละเลยได้ 8. รายละเอียดการควบคุมระหวา่ งการบรรจุ เชน่ การสมุ่ ตวั อย่าง และ บนั ทกึ การผลติ – Batch Processing Records 15.25 บันทึกการผลิต ต้องเก็บไว้ทุกๆ รุ่นการผลิต การออกแบบ บันทึกการผลิต ควรออกแบบเพื่อปูองกัน ความผดิ พลาด และอา้ งอิงข้อกา่ หนดเฉพาะล่าสุดที่ได้รับการอนุมัติ บันทึกการผลิตที่ได้จาก การถ่ายเอกสาร หรือ การพิมพ์จากระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการตรวจรับรองความถูกต้องจะดีกว่าการคัดลอก- Transcribe จึงไม่แนะน่า วิธหี ลัง 15.26 กอ่ นท่จี ะเริ่มท่าการผลิต จะตอ้ งเอาส่งิ ที่ไม่เกี่ยวข้องออกใหห้ มด ต้ังแต่เอกสาร วัตถุของการผลิต รุน่ กอ่ นหน้านี้ เครอ่ื งการผลิตทกุ ชน้ิ ต้องสะอาด และการตรวจน้ตี อ้ งมีการบันทกึ 15.27 ระหว่างการผลติ ต้องบันทกึ ขอ้ มลู ต่อไปนี้ 1. ช่อื ผลิตภัณฑ์ 2. รนุ่ ท่ีผลติ 3. วันท่ี เวลา ในแตล่ ะข้ันตอน 4. ชอ่ื ผูร้ ับผดิ ชอบในแต่ละขน้ั ตอน 5. ลายเซน็ ของผู้ปฏบิ ตั งิ าน และผูค้ วบคมุ 6. บันทึกปริมาณ หมายเลขรุ่น และหมายเลขการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบทุกตัวที่ใช้และ ปรมิ าณสารจากรนุ่ ก่อนที่เตมิ ลงไป 7. ขอ้ มลู การผลติ ท่ีสา่ คญั ๆ และเครือ่ งมอื หลกั ทีใ่ ชใ้ นการผลติ 8. การควบคุมระหว่างผลิต และผลของการทดสอบลายเซน็ ของผ้ทู ดสอบ 9. น่้าหนักของผลผลิตระหว่างผลิต ในแต่ขั้นตอนเทียบกับข้อก่าหนด และรายงานความเบี่ยงเบน การยอมรบั โดยดจู ากขอ้ กา่ หนดการยอมรับค่าเบ่ยี งเบน 10. บนั ทึกปญั หาความเบ่ียงเบนไปจากขอ้ กา่ หนดการยอมรับในเอกสารสูตรแมบ่ ท พรอ้ มรายละเอยี ด และเซ็นกา่ กบั 22

บันทึกการบรรจุ – Batch Packaging Records 15.28 บันทึกการบรรจุ ต้องเก็บไว้ทุกๆ รุ่นการบรรจุ การออกแบบ บันทึกการบรรจุ ควรออกแบบ เพื่อปูองกันความผิดพลาด และอ้างอิงข้อก่าหนดเฉพาะล่าสุดที่ได้รับการอนุมัติ บันทึกการบรรจุที่ได้จากการถ่าย เอกสาร หรือการพิมพ์จากระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการตรวจรับรองความถูกต้องจะดีกว่า การคัดลอก- Transcribe จงึ ไม่แนะนา่ วิธีหลัง 15.29 ก่อนที่จะเร่ิมท่าการบรรจุ จะต้องเอาส่ิงท่ีไม่เกี่ยวข้องออกให้หมด ตั้งแต่เอกสาร วัตถุของการบรรจุ รนุ่ กอ่ นหนา้ นี้ เคร่อื งบรรจุทุกชิ้นต้องสะอาด และการตรวจนต้ี อ้ งมีการบนั ทึก 15.30 ระหว่างการบรรจุ ตอ้ งบันทกึ ขอ้ มลู ตอ่ ไปนี้ 1. ช่ือผลิตภัณฑ์ รุ่นท่ีบรรจุ จ่านวนท่ีควรบรรจุได้ จ่านวนที่บรรจุได้จริงน่ามาเปรียบเทียบ กระทบยอด และรายงาน 2. วันที่ เวลา ในแต่ละขนั้ ตอนการบรรจุ 3. ชือ่ ผู้รบั ผิดชอบในแตล่ ะขน้ั ตอนการบรรจุ 4. ลายเซ็นของผปู้ ฏิบัติงาน และผู้ควบคมุ 5. บันทึกการตรวจเช็คเอกลักษณ์ และตามที่ก่าหนดไว้ในคู่มือการบรรจุ รวมไปถึงการควบคุม คุณภาพระหวา่ งการบรรจุ 6. รายละเอียดการบรรจุตามที่ก่าหนดไว้ในคู่มือการบรรจุ บันทึกการบรรจุที่บรรจุได้ และ ทคี่ ืนไปในเม่ือสนิ้ สดุ การบรรจุในแตล่ ะวัน 7. ตัวอยา่ งวัสดุการบรรจุทพี่ ิมพแ์ ลว้ ต้องตรวจเช็ค หมายเลขรุ่นการผลติ วันหมดอายุ ให้ถูกต้อง รวมถงึ จ่านวนวัสดุการบรรจุทพ่ี ิมพ์แลว้ ที่พมิ พ์เกินความต้องการ 8. บันทึกปัญหาพิเศษ รวมไปถึงรายละเอียดความเบ่ียงเบนไปจากวิธีการบรรจุ พร้อมรายละเอียด และเซน็ กา่ กับโดยบคุ คลากรทเี่ หมาะสม 9. จ่านวนและหมายเลขอ้างอิงของวัสดุการบรรจุท่ีพิมพ์แล้ว จ่านวนท่ีบรรจุไปแล้ว และยังไม่ได้ บรรจุ จ่านวนทท่ี า่ ลาย หรอื คืนคลัง กระทบยอด เพอื่ น่าไปพิจารณาวา่ อยใู่ นเกณฑ์ท่ียอมรับได้หรือไม่ ระเบยี บวิธกี ารปฏิบัติงานมาตรฐาน- Standard Operating Procedures: SOPs 15.31 ระเบยี บวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านมาตรฐาน และบันทึกต่างๆ ทไ่ี ด้บนั ทึกไว้ ต้องมีไวเ้ พ่ือ 1. การประกอบเครอื่ งมือ และการตรวจรบั รองความถูกตอ้ ง 2. เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ และการสอบเทยี บ 3. การบา่ รงุ รักษา การล้าง และทา่ ความสะอาด 4. การตรวจตดิ ตามสภาวะแวดลอ้ ม 5. การควบคมุ สัตว์พาหนะเชอ้ื โรค 6. การรับขอ้ รอ้ งเรยี น 7. การเรียกคืน 8. การสง่ คนื 15.32 จัดให้มีระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานและบันทึกส่าหรับการรับวัตถุตั้งต้น วัสดุบรรจุปฐมภูมิ วัสดบุ รรจุทพ่ี มิ พ์มาแล้ว 15.33 บันทึกสา่ หรับการรบั วัตถุตั้งตน้ วัสดุบรรจปุ ฐมภมู ิ วัสดบุ รรจุทพ่ี ิมพม์ าแลว้ ต้องประกอบดว้ ย 23

1. ช่อื วัตถุ/สาร/ผลิตภัณฑ์ บนภาชนะบรรจุ และเอกสารการขนสง่ 2. ช่อื ภายใน และ/หรอื รหสั ถา้ แตกต่างจากไปจากขอ้ 1 3. วนั ที่รับของ 4. ผ้จู ่าหนา่ ย/ผ้สู ่งมอบ ถ้าเป็นไปได้ควรระบุผ้ผู ลติ โดยตรง 5. หมายเลขรุ่นที่ออกโดยผผู้ ลติ หรอื หมายเลขอา้ งองิ 6. จ่านวนรวมทั้งหมด และจา่ นวนภาชนะบรรจุที่รบั 7. หมายเลขรุน่ ท่อี อกเพอ่ื การรับ 8. ข้อสงั เกตทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เช่น สภาพภาชนะบรรจุ 15.34 ก่าหนดให้มีระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานในการติดปูายแสดงภายใน การกักกัน การจัดเก็บ วัตถุตั้งตน้ วัสดบุ รรจุปฐมภมู ิ วัสดบุ รรจุท่พี ิมพ์มาแลว้ และผลติ ภัณฑอ์ ืน่ ๆ ตามความเหมาะสม 15.35 ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานต้องอยู่ในบริเวณท่ีจุดต่างๆ ทุกจุดท่ีจ่าเป็น เช่น อยู่ท่ี เครอ่ื งมือ อปุ กรณ์ทกุ ชนิ้ เพ่อื ความสะดวกในการใช้งาน 15.36 ก่าหนดให้มีระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐาน ในการสุ่มตัวอย่าง และระบุบุคลากรท่ีมีอ่านาจ ในการส่มุ 15.37 ระเบียบวิธีการสมุ่ ตอ้ งประกอบดว้ ย 1. วิธีในการสุ่ม และแผนการสุ่ม 2. เครอ่ื งมอื ที่ใช้ 3. ข้อควรระวงั ในการสมุ่ ทเ่ี ลี่ยงไม่ให้เกิดการปนเปื้อนหรือท่าใหค้ ุณภาพเส่ือมสลาย 4. ปริมาณในการสมุ่ 5. วธิ ใี นการแบ่งตวั อยา่ งที่สมุ่ 6. ชนดิ ของภาชนะทใ่ี ช้ เชน่ ส่าหรบั การสุ่มแบบปราศจากเช้อื หรอื แบบ ทวั่ ๆไป 7. ขอ้ ควรระวังเฉพาะ เชน่ การสุ่มแก็สพิษ 15.38 ก่าหนดให้มีระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานในการออกหมายเลขรุ่น อย่างเป็นระบบ ท่าให้ วัตถุต้ังต้น วัสดุบรรจุปฐมภูมิ วัสดุบรรจุที่พิมพ์มาแล้ว และผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป และสารต่างๆ สามารถระบุชนิด ได้อย่างชดั เจน 15.39 ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานในการออกหมายเลขรุ่นที่ใช้ในขั้นตอนการผลิต และ ข้นั ตอนการบรรจตุ ้องมีความสมั พันธซ์ ึ่งกนั และกัน 15.40 ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานในการออกหมายเลขรุ่นต้องม่ันได้ว่าจะไม่เกิดการออกหมายเลข รนุ่ ซ่้ากนั 15.41 การออกหมายเลขรุ่น จะต้องมีการบันทึกทันทีในสมุดบันทึก-Logbook และระบุวันที่ออกหมายเลข รุ่น ลกั ษณะเฉพาะ และขนาดของรุ่นท่ีผลิต 15.42 ก่าหนดใหม้ รี ะเบยี บวิธีการปฏบิ ตั ิงานมาตรฐานท่เี ป็นลายลักษณ์อักษร ส่าหรับทดสอบวัตถุ และ ผลติ ภณั ฑใ์ นขนั้ ตอนการผลิตตา่ งๆ โดยระบวุ ิธแี ละเครอื่ งมือทใ่ี ช้ ผลการทดสอบต้องมีการบันทกึ 15.43 ผลการวิเคราะห์อยา่ งนอ้ ยตอ้ งประกอบดว้ ยข้อมลู 1. ชือ่ วัตถุ หรือผลิตภัณฑ์ และรูปแบบผลิตภณั ฑ์ ถ้ามี 2. หมายเลขร่นุ ผผู้ ลติ และ/หรอื ผ้จู า่ หน่าย 24

3. ข้อกา่ หนดเฉพาะ และวิธีการทดสอบท่อี า้ งองิ 4. ผลการทดสอบ รวมไปถึงข้อสังเกต การค่านวณ และการอ้างอิงช่วงการ ควบคุม- Limits ทอี่ ้างอิงจากข้อก่าหนดเฉพาะ 5. วันท่ีและหมายเลขอ้างองิ ของการทดสอบ 6. ลายเซน็ ก่ากับของบุคคลที่ท่าการทดสอบ 7. วนั ที่ ลายเซน็ ก่ากบั ของบุคคลทท่ี ่าการทวนสอบ-Verify ผลการทดสอบ 8. ข้อความที่ชัดเจนในการปล่อยผ่าน หรือไม่ผ่าน วันท่ี ลายเซ็นก่ากับของบุคคลที่มีอ่านาจ ที่ได้รับมอบหมาย 15.44 ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการปล่อยผ่าน หรือไม่ผ่าน โดยเฉพาะ อยา่ งย่งิ การปล่อยผ่านผลติ ภัณฑส์ ่าเร็จรปู เพ่ือการจา่ หนา่ ย/ขาย 15.45 บนั ทกึ การกระจายผลิตภณั ฑส์ ่าเร็จรูปเพ่ือการจ่าหน่าย/ขาย เพื่อความสะดวกหากจ่าเป็นที่ต้อง เรียกคนื 15.46 บันทึกการยืนยันความถูกต้อง การสอบเทียบ การบ่ารุงรักษา การท่าความสะอาด การซ่อม เครอื่ งมอื สา่ คัญๆ วันทบี่ ันทกึ บุคคลกรที่ทา่ การนั้นๆ ต้องเก็บไวเ้ พอื่ เป็นหลกั ฐาน 15.47 บนั ทกึ การใชเ้ ครอื่ งมอื หลัก และ/หรอื ทส่ี า่ คัญตอ่ กระบวนการผลิต สถานที่ที่ด่าเนินการผลิตต้อง มกี ารบันทึกตามลา่ ดับก่อน-หลัง 15.48 ก่าหนดให้มีระเบียบวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร และความรับผิดชอบใน การทา่ ความสะอาด และกา่ จดั เชื้อท่ีเพียงพอ และมรี ายละเอียดแผนการล้าง วธิ ี เคร่ืองมอื ที่ใช้ สารที่ใช้ รายการ เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการท่าความสะอาด 16. การปฏบิ ตั ิที่ดใี นการผลิต 16.1 พนักงานฝุายผลิตต้องปฏิบัติงานอย่างชัดเจนตามระเบียบวิธีการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับค่าสั่ง ท่ีได้รับการอนุมัติในการผลิตและการท่าการตลาด ตามเปูาหมายการผลิตผลิตภัณฑ์ท่ีคุณภาพตามท่ีก่าหนดไว้ ลว่ งหน้า 16.2 การรับ การท่าความสะอาด การกักกัน การสุ่มตัวอย่าง การเก็บรักษา การท่าฉลาก การช่ัง การผลิต การบรรจุ และการกระจายสินค้า ต้องปฏิบัติงานอย่างชัดเจนตามระเบียบวิธีการปฏิบัติงานท่ีเป็นลายลักษณ์ อกั ษร 16.3 ข้อเบี่ยงเบนไปจากคู่มือการปฏิบัติ หรือวิธีการปฏิบัติงานมาตรฐาน ควรหลีกเล่ียงให้ได้มากที่สุด ถ้าเกิดการเบ่ียงเบนให้ปฏิบัติไปตามระเบียบวิธีการปฏิบัติงานท่ีได้อนุมัติ การอนุมัติข้อเบี่ยงเบนต้องบันทึกโดย บคุ ลากรท่ไี ด้รบั มอบหมาย และการมสี ่วนรว่ มของแผนกควบคมุ คณุ ภาพตามความเหมาะสม 16.4 การตรวจเช็ค และกระทบยอดปริมาณควรท่าตามความจ่าเป็น เพ่ือให้ม่ันใจว่าไม่มีข้อแตกต่าง ไปจากเกณฑท์ ่ียอมรบั ได้ 16.5 การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต่างชนิดกันไม่ควรท่าพร้อมกัน หรือสลับกันในห้องผลิตเดียวกัน หรือใช้พ้ืนที่ เดียวกัน ยกเวน้ มรี ะบบปูองกันจนท่าใหไ้ มม่ คี วามเสยี่ งจากการปะปนกัน หรือการปนเปอ้ื นข้ามกัน 16.6 ทุกครั้งท่ีมีการผลิต ต้องติดฉลากให้กับวัตถุทุกตัว ฉลาก และแสดงสถานะขั้นตอนการผลิตที่ได้ท่า ไปแล้ว หมายเลขรนุ่ และชื่อผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ด้ผลิตไปก่อนหน้านี้ 25

16.7 ไม่อนญุ าตใหผ้ ทู้ ไี่ ม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณผลิต 16.8 ไมอ่ นุญาตให้ผลติ สนิ ค้าอนื่ ๆ ที่ไม่ไดร้ บั อนุญาตใหผ้ ลติ ในบรเิ วณผลิต 16.9 การควบคุมคุณภาพระหว่างผลิต ในบริเวณผลิต ต้องไม่ส่งผลเสียคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หรือผลติ ภณั ฑ์อื่นๆ การป้องกันการปนเปื้อนขา้ ม และการปนเป้อื นจากแบคทีเรียระหว่างการผลติ 16.10 ต้องมีระบบปูองกันและก่าจัดฝุนในกรณีที่มีการใช้วัตถุดิบแห้ง และผลิตภัณฑ์ท่ีแห้งในการผลิต ควรจดั ให้มกี ารควบคุมอากาศ เชน่ ระบบปอู นอากาศ ระบบสกดั ฝนุ จากอากาศ ที่เหมาะสม 16.11 ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปนเปื้อนของวัตถุต้ังต้น หรือผลิตภัณฑ์ จากสารต่างๆ ที่มาจากท่ีต่างๆ เชน่ เส้อื ผ้าผปู้ ฏิบตั ิงาน ผิวหนัง บาดแผลเปิด เป็นตน้ 16.12 มาตรการการปูองกันท่าได้โดยมาตรการทางเทคนิค และมาตรการทางกฎระเบียบและแนวทาง ในการปฏิบตั ิงานขององค์การ ต่อไปนี้ 1. การผลติ ต้องผลิตในท่ีก่าหนดไว้ และเป็นระบบปิด 2. จัดเวลาการผลติ และการท่าความสะอาด ไม่ใหซ้ อ้ นทบั กนั 3. จัดใหม้ ีหอ้ งแอร์-ล็อค หรอื ความดนั ห้อง ระบบปอู นอากาศและระบบสกัดฝนุ 4. มรี ะบบปูองกนั ปอู งกันการปนเปื้อนจากการหมนุ วนอากาศท่ีไมไ่ ด้สกัดความสกปรก 5. จัดใหม้ ชี ุดปูองกนั เมอื่ ตอ้ งท่างานกบั สารเคมี 6. จัดใหม้ ีระเบียบวิธที า่ ความสะอาด และกา่ จัดเชอื้ ทีไ่ ด้ผล 7. ใช้ระบบปดิ ในทุกส่วนการผลิต 8. จัดใหม้ ีการตรวจหาสารตกค้าง-Residues 9. จัดให้มีปูายแสดงสถานะการท่าความสะอาด 16.13 จัดให้มีการตรวจสอบมาตรการปูองกันการปนเป้ือนเป็นระยะๆ ตามท่ีก่าหนดระเบียบวิธี การปฏิบตั ิงานมาตรฐาน 16.14 จัดให้มีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการผลิตในบริเวณการผลิต เช่น การตรวจควบคุม ทางจลุ ชวี ะ และปรมิ าณฝุน กระบวนการผลติ 16.15 ก่อนเร่ิมท่าการผลิต ต้องตรวจสอบความสะอาดของเครื่อง อุปกรณ์การผลิตทุกชนิด ต้องสะอาด และปราศจากวัตถุ วสั ดุ ของผลิตภัณฑท์ ่ีผลติ กอ่ นหน้าน้ี 16.16 จัดให้มีการควบคุมและบันทึกการควบคุมระหว่างการผลิต และการควบคุมสิ่งแวดล้อม ในการผลิต 16.17 จัดให้มีระบบ แสดงเตือนการล้มเหลวของเครื่องมือผลิต หรือระบบบริการ เช่น ระบบน้่า แก๊ส เครื่องมือการผลิตท่ีใช้ไม่ได้ต้องน่าออกจากบริเวณการผลิต เคร่ืองมือการผลิตท่ีใช้แล้วต้องท่าความสะอาดทันที และ ท่าใหแ้ หง้ และปอู งกนั การปนเปือ้ น 16.18 เคร่ืองมือที่ล้างท่าความสะอาดแล้วต้องระบุเวลาการล้างใหม่ ก่อนที่จะน่าไปใช้ โดยอาศัยข้อมูล การทดลองอ้างองิ 26

16.19 วัสดุที่ใช้ในการบรรจุต้องล้างก่อนน่าไปใช้น่าไปบรรจุ และปูองกันการปะปนของเศษแก้ว หรือ เศษโลหะ ยกเวน้ การบรรจโุ ดยระบบ Blow-Fill-Seal 16.20 ขอ้ มลู ปริมาณผลผลิตท่เี บ่ยี งเบนไปจากมาตรฐานที่คาดไว้ ต้องมีการตรวจสอบและบันทึกไว้ 16.21 ระบบท่อหรือส่วนของเคร่ืองมือใดๆ ท่ีใช้ในการถ่ายเทสารจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งต้องมีการตรวจ สอบเพ่อื ให้แน่ใจว่าระบบท่างานถูกต้อง 16.22 ท่อท่ีใช้ในการส่งน้่ากล่ัน หรือน้่า DI ต้องมีการท่าความสะอาดและก่าจัดเชื้อ และมีการตรวจเช้ือ และมมี าตรการการปูองกนั การปนเป้ือนจากเชอ้ื โรค 16.23 การชง่ั ตวง วดั บนั ทึก และการควบคุมเครื่องมือ และเคร่ืองจักร ต้องมีการก่าหนดช่วงการใช้งาน การสอบเทียบ ดูแลรักษา เพื่อให้สามารถท่างานได้ถูกต้อง มีการท่าการทดสอบความถูกต้องประจ่าวัน-Daily Checked หรือ ก่อนการใช้งาน ต้องมีการก่าหนดการสอบเทียบครั้งต่อไป ตามความถ่ี ที่เหมาะสม และติดปูาย แสดงสถานะ 16.24 การซอ่ มบา่ รงุ ต้องไมม่ ีผลกระทบรา้ ยแรงตอ่ คณุ ภาพของผลติ ภัณฑ์ กระบวนการบรรจุ 16.25 เมื่อมีการวางโปรแกรมการบรรจุ ต้องมีแนวทางหรือมาตรการลดความเส่ียงจากการปนเปื้อน ข้ามกัน และการปะปนระหว่างผลติ ภัณฑ์ต่างชนิดกัน เช่นการก้ันห้องแยก หรือวิธีการใดๆท่ีปูองกันการปนเป้ือน ขา้ มกนั และการปะปนระหวา่ งผลิตภณั ฑ์ต่างชนดิ กนั ได้มีประสิทธภิ าพ 16.26 ก่อนการบรรจุ ต้องมีการจัดการสถานท่ีเพ่ือให้มั่นใจว่าไม่มีวัสดุการบรรจุ ฉลาก เอกสาร ของผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้หลงเหลืออยู่ เป็นการเคลียร์สายการบรรจุ - Line Clearance ควรมีระเบียบวิธีปฏิบัติงาน รายการตรวจสอบ- Check- List และบันทกึ การบรรจุทเ่ี หมาะสม 16.27 ชอื่ ผลิตภัณฑ์ และหมายเลขร่นุ การผลิต ควรจัดแสดงใหเ้ หน็ ตลอดสายการบรรจุ 16.28 การบรรจุ การปดิ ผนกึ ตอ้ งทา่ ให้เสร็จสน้ิ เรว็ ท่ีสดุ เท่าทเี่ ปน็ ไปได้ การปดิ ฉลากถ้าล่าช้า ต้องมีระบบ ปอู งกนั ไมใ่ ห้เกิดการปะปนกนั กับร่นุ การผลติ ถัดไป 16.29 การพมิ พฉ์ ลากระหวา่ งบรรจุ หรือแยกพมิ พ์ เช่นวนั หมดอายุ ตอ้ งมีการตรวจเช็คความถูกต้อง และ บนั ทึก 16.30 เมื่อมีการใช้ระบบปิดฉลากแบบท่ีมีการตัดฉลาก หรือการบรรจุด้วยมือ ต้องมีการตัดแยกฉลาก เป็นม้วนไว้ก่อนสา่ หรับแตล่ ะรุ่นการผลิต เพอ่ื ปอู งกนั การปะปนกนั การใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยการปูองกัน การปะปนของฉลากได้ แต่อยา่ งไรกต็ ามกต็ ้องมกี ารตรวจเช็คเช่นกนั ระหวา่ งการบรรจตุ ามความถท่ี เ่ี หมาะสม 16.31 การพมิ พ์ฉลากหรือสลกั ลายพมิ พบ์ นฉลาก จะต้องไม่ลบ หรือ เลือนไดง้ ่าย 16.32 การตรวจเช็คระบบการพิมพ์ฉลากแบบต่อเนื่องด้วยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างนอ้ ยตอ้ งด่าเนนิ การต่อไปน้ี 1. การตรวจลกั ษณะภายนอกทวั่ ๆไปของภาชนะบรรจุ 2. ความเรยี บร้อยสมบูรณข์ องภาชนะบรรจุ 3. ความถูกตอ้ งของภาชนะบรรจตุ รงกับผลติ ภณั ฑท์ ี่ต้องการบรรจุ 4. ข้อความการพิมพ์เพิม่ ทบั ถูกต้อง 5. ระบบการตรวจสอบสายการบรรจทุ า่ งานถูกต้อง ตัวอย่างท่ีสุ่มจากสายการบรรจุไปแล้วไม่ควร น่ากลับมาคนื เพราะโอกาสน่ามาคนื ผิดรุ่นการบรรจมุ ีสูง 27

16.33 ผลิตภัณฑ์ที่ถูกน่าไปตรวจสอบนอกเหนือจากการท่างานปกติ ถ้าต้องการน่ากลับมาคืน ในสายการผลิต ต้องได้รับการตรวจและอนุมัติโดยผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบ และมีการบันทึกเป็นหลักฐาน ในการนา่ มาคืน 16.34 ในกรณีที่มีความผิดปกติส่าคัญหรือข้อคลาดเคลื่อนท่ีผิดปกติจาก การตรวจเช็คและกระทบยอด ปริมาณผลิตภัณฑ์ท่ียังไม่ได้บรรจุท่ีเหลือกับวัสดุการบรรจุท่ีใช้ไปและปริมาณผลิตภัณฑ์ที่บรรจุได้ ต้องมีการ ตรวจสอบจนหาเหตุผลที่พอใจ หรือเพอื่ ใหม้ น่ั ใจว่าไมม่ ขี ้อแตกตา่ งไปจากเกณฑท์ ี่ยอมรบั ได้ ก่อนทีจ่ ะปลอ่ ยผ่าน 16.35 เมื่อปิดการบรรจุแล้ว วัสดุการบรรจุที่ถูกพิมพ์หมายเลขรุ่นแล้วท่ีเหลือต้องท่าลายท้ิง ส่วนวัสดุ การบรรจุท่ีไม่ถูกพิมพ์ สามารถน่าไปใช้ในรุ่นการบรรจุถัดไปได้ ต้องมีเอกสารคืนสามารถตรวจติดตามย้อนหลังได้ จงึ จะทา่ การคนื เข้าสตอ็ กได้ 17. การปฏบิ ัตทิ ี่ดใี นการควบคุมคุณภาพ 17.1 การควบคุมคุณภาพเป็นส่วนหน่ึงของการผลิตที่ดี – GMP ท่ีเก่ียวข้องต้ังแต่การสุ่มตัวอย่าง ข้อก่าหนดเฉพาะ การทดสอบ ระบบเอกสาร และการปล่อยผ่าน เพ่ือให้มั่นใจได้ว่าวัตถุดิบท่ีใช้ และผลิตภัณฑ์ ที่ปล่อยผ่านต้องผ่านการทดสอบ ก่อนที่จะน่าไปใช้ และปล่อยผ่านเพ่ือการจ่าหน่าย การควบคุมคุณภาพไม่ใช่ เฉพาะงานในหอ้ งปฏิบัติการ และเปน็ งานตัดสินใจท่ีเกยี่ วข้องกับคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 17.2 หลกั การของการควบคุมคณุ ภาพคือต้องเปน็ อสิ ระจากฝาุ ยผลิต 17.3 องค์การ/ผู้ผลิต ต้องจัดให้มีแผนกควบคุมคุณภาพ ที่มีอิสระจากแผนกอื่นๆ อยู่ภายใต้การบริหาร จากผู้ท่ีมีคุณสมบัติและประสบการณ์เพียงพอ และได้รับการสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ อย่างเพียงพอ อย่างน้อยต้อง ประกอบด้วย 1. เคร่ืองอ่านวยความสะดวกท่ีเพียงพอ บุคลากรที่ได้รับการฝึก ระเบียบวิธีการท่างาน ท่ีได้รับ การรับรองตง้ั แต่ การสมุ่ ตัวอย่าง การตรวจสอบ การทดสอบ วัตถดุ บิ ตัง้ ต้น ผลติ ภัณฑ์ระหวา่ งผลิต และผลิตภัณฑ์ ท่ียังไม่ได้แบ่งบรรจุ วัสดุการบรรจุ และผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป นอกจากนี้อาจต้องมีการตรวจติดตามสภาวะสิ่งแวดล้อม ตามข้อกา่ หนด-GMP 2. ต้องมีวิธีในการสุ่มตัวอย่างและสุ่มโดยเจ้าหน้าท่ีของแผนกควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ ต้งั ต้น ผลติ ภัณฑร์ ะหว่างผลิต และผลิตภัณฑท์ ่ยี งั ไมไ่ ดแ้ บ่งบรรจุ วัสดกุ ารบรรจุ และผลิตภัณฑส์ า่ เร็จรปู 3. ต้องมีการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้องในกระบวนควบคุมคุณภาพและ การวิเคราะห์ 4. บันทึกผลต่างๆ ที่แสดงว่าต้ังแต่การสุ่มตัวอย่างและ การทดสอบวัตถุดิบต้ังต้น ผลิตภัณฑ์ ระหว่างผลิต และผลิตภัณฑ์ท่ียังไม่ได้แบ่งบรรจุ วัสดุการบรรจุ และผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป มีการสุ่มและ/หรือวิเคราะห์ โดยเจ้าหน้าท่ขี องแผนกควบคุมคณุ ภาพ 5. ผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป ต้องมีสาระส่าคัญครบท้ังคุณภาพและปริมาณ ตามที่ได้รับอนุญาตให้ผลิต และการท่าการตลาด แสดงฉลากอยา่ งถกู ตอ้ ง 6. บันทึกการตรวจสอบ ทดสอบของวัตถุดิบตั้งต้น ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต และผลิตภัณฑ์ ท่ียังไม่ได้แบ่งบรรจุ วัสดุการบรรจุ และผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป เทียบกับข้อก่าหนดเฉพาะการตรวจสอบต้องประกอบ ดว้ ยการทบทวนเอกสารที่เกย่ี วกับการผลิต และการทดสอบค่าเบีย่ งเบนไปจากข้อกา่ หนดเฉพาะ 28

7. ทุกรุ่นการผลิตทจี่ ะปลอ่ ยผ่านเพอ่ื การจา่ หนา่ ย ต้องผา่ นการทดสอบโดยบุคลากรทมี่ อี า่ นาจ หน้าท่ี 8. ต้องมีการเก็บตัวอย่างในจ่านวนท่ีมากพอในกรณีท่ีอาจต้องมีการวิเคราะห์ซ้่าในอนาคต ตัวอย่างท่ี เก็บไว้สงวนไว้เพ่ือการตรวจสอบ-Retained Sample ต้องอยู่ในสภาพการบรรจุ แบบเดียวกับที่จ่าหน่าย ยกเว้น เฉพาะทขี่ นาดบรรจุนั้นใหญม่ ากๆ 17.4 ฝุายควบคมุ คุณภาพในภาพรวม ยังตอ้ งมหี น้าท่ดี ังน้ี 1. จดั ใหม้ ีระเบยี บวิธีทา่ งานการควบคมุ คุณภาพที่ได้รับการรบั รองความถูกต้องมาแล้ว 2. เก็บรกั ษาสารมาตรฐานอา้ งอิงไว้ให้อย่ใู นสภาพทด่ี ีตลอดอายุของสารมาตรฐาน 3. กา่ กบั ดูแลเพ่อื ให้แนใ่ จว่าวตั ถุ สารเคมี ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ติดฉลากถูกต้อง 4. ก่ากับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าเภสัชภัณฑ์ออกฤทธิ์-Active Pharmaceutical Ingredients (API) และ ผลติ ภัณฑ์ตา่ งๆ ไดร้ ับการตรวจสอบตดิ ตามคณุ ภาพ 5. มีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อร้องเรยี นท่เี กยี่ วกบั คุณภาพของผลติ ภัณฑ์ต่างๆ 6. มสี ่วนร่วมในการกา่ กบั ดแู ลการตรวจติดตามสภาวะส่งิ แวดลอ้ ม 7. จัดให้มีระเบียบวิธีท่างานท่ีเกี่ยวข้องกับงานท้ังหมดดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร และ มกี ารบันทกึ อย่างเป็นระบบ 17.5 การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องอาศัยข้อมูลปัจจัยที่เกี่ยวข้องท้ังหมดมาประมวล ตั้งแต่ สภาวะการผลิต ผลของการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต เอกสารการผลิตเอกสารการบรรจุ ว่าเป็นไป ตามข้อก่าหนดผลติ ภัณฑ์สา่ เร็จรูปหรือไม่ และผลการตรวจการบรรจุผลติ ภณั ฑส์ ่าเร็จรปู ท่อี ยูใ่ นหบี หอ่ บรรจุ 17.6 เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพต้องตรวจสอบบริ เวณผลิต เพื่อการสุ่มตัวอย่างและ ส่ารวจ ตามความเหมาะสม การควบคมุ วัตถดุ ิบต้งั ต้น กึ่งสาเรจ็ รปู สนิ คา้ ที่ยังไม่ได้บรรจุและผลติ ภณั ฑ์สาเร็จรูป 17.7 การทดสอบทุกการทดสอบ ต้องปฏิบัติตามวิธีท่ีได้เขียนไว้ส่าหรับทุกสาร และ ทุกผลิตภัณฑ์ ผลการทดสอบตอ้ งทบทวนโดยหวั หน้าในลา่ ดบั ชัน้ ถดั ไป-Supervisor 17.8 ตัวอย่างทส่ี ่มุ ไปต้องสามารถเป็นตวั แทนของสาร หรอื ผลิตภัณฑท์ ้ังรนุ่ 17.9 การสมุ่ ต้องไมไ่ ห้เกดิ การปนเปือ้ น หรือเกิดผลร้ายแรงต่อคณุ ภาพของสารหรือผลิตภัณฑ์ 17.10 การดูแลในระหว่างการสุ่มต้องปูองกันไม่ให้เกิดการผสมปนเปกัน และการปนเป้ือนจากสาร ท่ีก่าลังส่มุ เครือ่ งมือทใี่ ช้ในการสุม่ ต้องสะอาด และตอ้ งท่าความสะอาดเม่อื ส่มุ เสร็จแล้ว สารท่ีเป็นอันตรายร้ายแรง หรอื สารออกฤทธิ์แรง ตอ้ งมขี ้อควรระวงั พิเศษในการสุ่มตัวอย่าง 17.11 เครอ่ื งมอื ในการสุ่มตอ้ งสะอาด ถ้าจา่ เปน็ ต้องก่าจัดเชอื้ โรค และเกบ็ แยกจากเครอื่ งมอื อน่ื ๆ 17.12 ภาชนะท่ใี ช้ในการบรรจุตวั อย่าง ตอ้ งมฉี ลากดังนี้ 1. แสดงชื่อสาร และทุกผลติ ภัณฑ์ 2. หมายเลขร่นุ หรือ ล็อท 3. จา่ นวนภาชนะทีใ่ ช้ในการบรรจุของแต่ละสาร และผลิตภณั ฑ์ 4. หมายเลขของตัวอยา่ งที่สุ่ม 5. วนั ที่และ ลายเซน็ ของผสู้ ่มุ 29

17.13 ผลการวิเคราะห์ที่ออกนอกมาตรฐานตามข้อก่าหนด- Out- of – Specification ของสาร หรือ ผลิตภณั ฑ์ ต้องมกี ารตรวจสอบตามที่ก่าหนดในระเบียบวิธีในการปฏิบัติงานท่ีได้รับการอนุมัติรับรอง และต้องเก็บ รกั ษาบนั ทึกนไ้ี ว้ ขอ้ กาหนดการทดสอบ 17.14 ผู้จัดการควบคุมคุณภาพจะต้องแน่ใจว่าวัตถุตั้งต้น หรือ วัสดุบรรจุท่ีใช้ในการผลิตต้องได้รับการ ทดสอบว่าตรงตามข้อก่าหนดด้านเอกลักษณ์ ความแรง ความบริสุทธิ์ และคุณภาพอ่ืนๆ ก่อนที่จะปล่อยผ่านเพื่อน่า ไปใช้งาน 17.15 การตรวจเอกลกั ษณ์ของวตั ถตุ ้ังตน้ จะต้องตรวจทุกถงั ตามใบรับที่ส่งมาดว้ ย 17.16 วัสดสุ งิ่ พิมพก์ ารบรรจุทกุ รุ่นจะตอ้ งได้รบั การตรวจตามใบรับทีส่ ่งมาด้วย 17.17 ในกรณีท่ีผู้ผลิต หรือองค์การ มีการตรวจสอบความถูกต้องการวิเคราะห์ของผู้ส่งมอบผู้ส่งมอบ วัตถุดิบอยู่เป็นระยะๆ สม่าเสมอ องค์การสามารถรับรองใบวิเคราะห์จากผู้ส่งมอบวัตถุดิบได้ ใบวิเคราะห์นั้นต้องเป็น ฉบบั จรงิ หรือไดร้ บั การรองความถกู ต้องท่ีไม่ใช่การถ่ายเอกสาร และตอ้ งมีข้อมลู ดังตอ่ ไปนี้ 1. ช่ือและที่อย่ขู องผูส้ ่งมอบวตั ถุดิบ 2. ลายเซ็นและช่อื ผู้อนุมตั ิผลวิเคราะหแ์ ละตา่ แหนง่ และระบุคณุ วุฒิ 3. ชือ่ วตั ถุดบิ /วัสดทุ ่ที ดสอบ 4. รนุ่ ของวัตถุดิบ/วัสดุที่ทดสอบ 5. ข้อกา่ หนดเฉพาะของวัตถุดิบ/วสั ดุทท่ี ดสอบ และวิธกี ารทดสอบทีใ่ ช้ 6. ผลการทดสอบ 7. วนั ท่ีทา่ การทดสอบ การควบคมุ การทดสอบระหว่างการผลติ 17.18 จัดให้มีระบบการควบคุมการทดสอบระหว่างการผลิต ผลการทดสอบต้องเก็บและเป็นส่วนหน่ึง ของระบบบันทกึ การผลิต ผลิตภัณฑส์ าเร็จรูป 17.19 ในการผลิตเภสัชภัณฑ์ทุกรุ่นการผลิต ต้องก่าหนดให้มีระเบียบวิธีการปฏิบัติทางห้องปฏิบัติการท่ี เหมาะสมและเป็นที่พอใจและม่ันใจได้ว่า เภสัชภัณฑ์ทุกรุ่นที่ผลิตมีคุณภาพเป็นไปตามข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์ ส่าเร็จรปู กอ่ นทจี่ ะมีการปลอ่ ยผ่านเพอ่ื การจา่ หนา่ ย 17.20 เภสัชภัณฑ์ทุกรุ่นที่ผลิตถ้าไม่มีคุณภาพเป็นไปตามข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป ต้องห้ามน่า ไปใช้ หรือจ่าหนา่ ย –Rejected 17.21 การทบทวนบันทึกการผลิตและการควบคุมคุณภาพเป็นส่าคัญของกระบวนการรับรองและอนุมัติ การปลอ่ ยผา่ นผลติ ภณั ฑ์ส่าเร็จรปู เพอ่ื การจา่ หนา่ ย ถ้ามีขอ้ เบ่ยี งเบนหรือตกกรอบไปจากข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์ ส่าเร็จรูป ต้องมีการตรวจสอบ ตลอดไปจนถงึ รุ่นใกล้เคียงกนั ของผลติ ภณั ฑ์สา่ เร็จรปู ดังกลา่ ว บันทึกการตรวจสอบ ต้องระบขุ อ้ สรปุ ทพี่ บและแนวทางในการติดตามแก้ปัญหาไม่ไห้เกิดขึ้นอีกต่อไป 17.22 ตัวอย่างที่เก็บไว้สงวนไว้เพ่ือการตรวจสอบ-Retained/Retention Sample จากทุกรุ่นของ ผลิตภัณฑส์ ่าเร็จรูปต้องเก็บนับจากหลงั จากวันหมดอายไุ ว้อีก 1 ปี ผลติ ภัณฑ์ส่าเร็จรูปต้องเก็บในรูปแบบการบรรจุ 30

จริงเหมือนกับท่ีน่าไปจ่าหน่าย และภายใต้สภาวะเดียวกันกับที่แนะน่าไว้ ในกรณีท่ีผลิตในขนาดท่ีใหญ่มาก ตัวอย่างที่เก็บอาจอนุโลมให้เก็บในขนาดบรรจุที่เล็กลงได้ตามความเหมาะสม ตัวอย่างสารส่าคัญตั้งต้นที่ออกฤทธ์ิ ตอ้ งเกบ็ นับจากหลงั จากวันหมดอายุของผลิตภณั ฑ์ส่าเรจ็ รูปไวอ้ กี 1 ปี เชน่ กัน สารตั้งต้นอื่นๆ ท่ีใช้ในการผลิตต้อง เก็บไว้อย่างน้อย 2 ปี จากข้อมูลความคงตัวของสารต้ังต้นอ่ืนๆ นั้นๆ จ่านวนตัวอย่างที่เก็บไว้สงวนไว้เพ่ือการ ตรวจสอบตอ้ งสามารถทดสอบซ่า้ ไดอ้ ยา่ งน้อย 2 ครั้ง การศึกษาความคงตัว 17.23 ฝุายควบคุมคุณภาพ ควรต้องมีการตรวจสอบคุณภาพและความคงตัวของผลิตภัณฑ์ส่าเร็จรูป ถา้ มคี วามจา่ เปน็ กค็ วรต้องมกี ารศึกษาความคงตวั ของวตั ถุดบิ ตงั้ ต้น ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต 17.24 ฝุายควบคุมคุณภาพมีหน้าท่ีในการก่าหนดวันหมดอายุ และอายุของผลิต ตามข้อก่าหนด ตามข้อมูลจากการศกึ ษาความคงตวั 17.25 ฝุายควบคุมคุณภาพควรจัดให้มีระบบ/โปรแกรมการศึกษาความคงตัวที่ครอบคลุมกรณีต่างๆ ต่อไปนี้ 1. รายละเอยี ดท้งั หมดของข้อมูลทั้งหมดของผลติ ภณั ฑ์ทีเ่ ก่ียวข้องกบั การศึกษาความคงตวั 2. รายข้อมูลการทดสอบ เกณฑ์ข้อก่าหนด วิธี อธิบายละเอียดทั้งหมด เพื่อการทดสอบ ความแรง ความบริสุทธ์ิ และลกั ษณะทางกายภาพและ เอกสารท่ีระบุความคงตัวของ ผลิตภัณฑ์ สารที่จะทดสอบ/ การศกึ ษาความคงตัว 3. จดั ใหม้ ีการศึกษาความคงตัวในจ่านวนทเ่ี พียงพอส่าหรับแต่ละรุ่นการผลิต 4. กา่ หนดเวลาท่ีจะทา่ การศึกษาความคงตวั 5. ก่าหนดสภาวะพเิ ศษของการเกบ็ ทีจ่ ะทา่ การศึกษาความคงตัว 6. ก่าหนดจ่านวนทีต่ ้องเก็บเพอ่ื ท่จี ะทา่ การศึกษาความคงตัว 7. รายงานย่อและสรุปข้อมูลทั้งหมดและการประเมินผลการท่าการศึกษาความคงตัว 17.26 การศึกษาความคงตัว ควรที่จะต้องท่าก่อนที่ท่าการตลาด และในกรณีต่างๆที่มีความส่าคัญในการ เปลี่ยนแปลงกระบวนการ การเปล่ยี นเครื่องมือต่างๆ การเปลยี่ นวสั ดุการบรรจุ เปน็ ต้น 31

รายงานการตรวจประเมนิ สถานทีผ่ ลติ ยาแผนโบราณ ตามหลกั เกณฑ์ GMP ยาจากสมุนไพร ชอ่ื โรงพยาบาล............................................................................................................................................................ ตั้งอยเู่ ลขท.่ี .........................ซอย...............................ถนน.................................แขวง/ตาบล...................................... เขต/อาเภอ..............................................จงั หวดั ...........................................โทรศพั ท์................................................ ช่อื ผู้อานวยการ........................................................................................................................................................... วันท่ีตรวจ...............................................................................เวลา............................................................................. ชื่อคณะผู้ตรวจ 1. .................................................................................................................................................... 2. .................................................................................................................................................... 3. .................................................................................................................................................... 4. .................................................................................................................................................... 5. .................................................................................................................................................. ชื่อผใู้ หข้ ้อมลู 1. ........................................................................................... ตาแหน่ง.......................... ........... 2. ........................................................................................... ตาแหน่ง..................................... 3. ........................................................................................... ตาแหน่ง..................................... 4. ........................................................................................... ตาแหน่ง..................................... 5. ........................................................................................... ตาแหน่ง..................................... 6. ........................................................................................... ตาแหนง่ ..................................... ขอ้ บกพร่องและความเห็นของผตู้ รวจ ............................................................................................................................. ....................................................... ........................................................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................................................................... ........... ....................................................................................................................... ............................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................... ................................................ .......................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 33

มตคิ ณะกรรมการตรวจประเมิน GMP  ผ่าน  ผา่ นแบบมเี งอ่ื นไข  ไม่ผา่ น ลงช่อื ............................................ผอ.รพ./ผู้แทน ลงชอื่ ...........................................หัวหนา้ คณะผู้ตรวจ (..........................................) (..........................................) ลงช่อื ............................................ผใู้ ห้ข้อมลู ลงชอื่ ...........................................ผูต้ รวจ (..........................................) (..........................................) ลงช่อื ............................................ผ้ใู หข้ อ้ มลู ลงชื่อ...........................................ผ้ตู รวจ (..........................................) (..........................................) ลงชอื่ ............................................ผู้ใหข้ ้อมลู ลงช่อื ...........................................ผู้ตรวจ (..........................................) (..........................................) 34

หมายเหตุ 1. เกณฑ์การใหค้ ะแนน 0 = ไม่ผ่าน , 1 = ผ่าน 2. ขอ้ ที่มี *** หมายถงึ Major deviation ถา้ ไม่ผ่านในข้อนี้จะถือวา่ ไม่ผ่านการประเมิน ข้อกาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมิน คะแนน ผล 1. การประกันคุณภาพในการผลิตยาจากสมุนไพร มีวธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการวางระบบประกนั คุณภาพในการประยกุ ต์ใชเ้ พื่อการผลิตยาจากสมุนไพร 1.1 มีคู่มือการประกันคุณภาพ 1 1.2 มีนโยบายคุณภาพ 1 1.3 มีแผนประกันคุณภาพ 1 2. การผลิตที่ดใี นการผลิตยาจากสมุนไพร 2.1 กาหนดความชัดเจนของทกุ กระบวนการผลิตอยา่ งมีระบบ มีการทบทวน 1 อยูบ่ นพืน้ ฐานของประสบการณ์ ขีดความสามารถความสมา่ เสมอ ในการผลิตท่ีต้องเปน็ ไปตามคุณภาพและมาตรฐานท่ีได้กาหนดไว้ 2.2 ต้องมีการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง 1 2.3 ต้องจดั หาทรพั ยากรที่จาเปน็ ทั้งหมด 1. บคุ ลากรที่เหมาะสม ที่ได้รับการรับรอง และการฝึกอบรม 1 2. อาคารสถานท่ีและเน้ือที่พอเพยี ง 1 3. มีเครื่องมือ อปุ กรณ์ และการดูแลท่ี เหมาะสม 1 4. วตั ถุดิบ ภาชนะบรรจุ ฉลากที่เหมาะสม 1 5. ระเบยี บวธิ กี ารทางาน และคู่มือการปฏบิ ตั ิงานท่ีได้รบั การอนุมัติ 1 (จากผู้ที่มีความรคู้ วามสามารถ) 6. มีสถานท่ีเก็บ และการขนส่งที่เหมาะสม 1 7. มีจานวนบคุ ลากรท่ีพอเพยี ง หอ้ งปฏบิ ตั ิการและเครือ่ งมือสาหรับ 1 การควบคุมในระหวา่ งการผลิต 2.4 ระเบยี บวธิ กี ารทางานและคู่มือการปฏบิ ตั ิงานต้องเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรชัดเจน 1 ภาษาที่ใช้ต้องไม่คลุมเครอื มีความเฉพาะเจาะจงกับกบั เครอื่ งมืออปุ กรณ์อานวย ความสะดวก 1 2.5 พนักงานปฏบิ ตั ิงานต้องได้รบั การฝึกอบรมและทางานได้ตามระเบยี บวธิ กี ารทางาน และคู่มือการปฏบิ ตั ิงานอยา่ งถูกต้อง 2.6 มีบนั ทกึ ครอบคลุมต้ังแต่การผลิต จนไปถึงการกระจายสินค้า มีประวตั ิครบถว้ น 1 สมบรู ณ์ทกุ รนุ่ การผลิต ตรวจสอบย้อนกลับได้ เกบ็ รกั ษาในรูปแบบท่ีเข้าใจง่าย และพรอ้ มสาหรับการค้นหา 2.7 มีสถานท่ีสาหรบั เก็บและกระจายผลิตภณั ฑท์ ่ีสามารถลดความเสี่ยง 1 ต่อคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 2.8 มีระบบการเรยี กคืนหรือเรยี กเก็บผลิตภณั ฑ์ จากผู้ขาย หรอื ผู้จัดส่ง 1 2.9 มีการตรวจสอบขอ้ ร้องเรียนผลิตภณั ฑท์ ี่วางขายในทอ้ งตลาดการตรวจสอบ 1 สาเหตุการเสื่อม ความบกพร่องของคุณภาพของผลิตภณั ฑแ์ ละวธิ กี ารที่เหมาะสม 35 ในการแกป้ ญั หาและจัดการเพอ่ื ปอู งกนั ไม่ไหเ้ กิดเหตุการณซ์ า้ อกี

ขอ้ กาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 3. สุขาภบิ าล และ สุขอนามยั *** 1 3.1 มีการนาระบบการสุขาภบิ าล และ สุขอนามัยข้นั สูง มาปฏบิ ตั ิในทกุ แง่มุมของการ 1 ผลิตยาจากสมุนไพร ครอบคลุมต้ังแต่ บคุ ลากร สถานท่ี ผลิต เคร่อื งมือ อุปกรณ์ 1 วตั ถดุ ิบท่ีใช้ในการผลิต ภาชนะบรรจุ ผลิตภณั ฑ์ที่ใชใ้ นการทาความสะอาดและ ทาลายเชอ้ื โรค และทกุ ๆอยา่ งท่ีมีแนวโน้มที่จะทาใหก้ อ่ การปนเปื้อนไปสู่ผลิตภณั ฑ์ 3.2 ต้องมีระบบ โปรแกรมท่ีสามารถบรู ณาการเพ่อื สุขาภบิ าลและสุขอนามัย เพอ่ื ปอู งกัน และขจดั การปนเป้ือนตลอดขบวนการผลิตไปจนถึงมือผู้บริโภค 4. การตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกตอ้ ง 4.1 หน่วยงานทกุ หนว่ ยงานต้องจัดใหม้ ีการตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้อง ตามการผลิตท่ีดี-GMP ที่ต้องการเพือ่ พสิ ูจน์วา่ กรณวี กิ ฤตต่างๆ ได้ถูกควบคุมไวแ้ ล้ว 4.2 องค์ประกอบสาคัญหลักของโปรแกรมการตรวจรบั รองและการตรวจสอบความ 1 ถูกต้อง ต้องกาหนดไวอ้ ย่างชัดเจนในเอกสารแผนแม่บทการตรวจรบั รองและการ 1 ตรวจสอบความถูกต้อง -Validation Master Plan 4.3 การตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้องต้องจัดทาเปน็ เอกสารครอบคลุม กิจกรรม ขอ้ มูลหลักฐาน ดังต่อไปนี้ 4.3.1 สถานท่ีผลิต สาธารณูปโภค เครือ่ งมือ กระบวนการต่างๆที่ได้ออกแบบ ต้องตรงตามที่กาหนดไวใ้ นกระบวนการออกแบบ - Design Qualification-DQ 4.3.2 สถานที่ผลิต สาธารณปู โภค เครื่องมือ กระบวนการต่างๆท่ีได้ 1 สร้างและติดต้ังต้องตรงตามที่กาหนดไวใ้ นกระบวนการสร้างและติดตั้ง - Installation Qualification-IQ 1 4.3.3 สถานที่ผลิต สาธารณูปโภค เคร่ืองมือ กระบวนการต่างๆท่ีได้รบั รองการ 1 ทางานต้องตรงตามท่ีกาหนดไวใ้ นกระบวนการทางาน Operation Qualification:OQ 4.3.4 กระบวนการต่างๆในกระบวนการทางานท่ีกาหนดไว้ จะต้องสอดคล้องกับ การผลิต ผลิตภณั ฑ์ต้องตรงกบั ข้อกาหนดที่กาหนดไวล้ ่วงหนา้ และมีคุณสมบตั ิ 1 ตรงตามคุณภาพตามที่กาหนดไว้ เรยี กวา่ กระบวนการตรวจสอบความถกู ต้อง ของกระบวนการ Process Validation-PV ขน้ั ตอนนี้เรียกอีกอย่างวา่ การตรวจ 1 รบั รองสมรรถนะ Performance Qualification-PQ ในบางกรณีการตรวจรบั รอง 36 สมรรถนะ Performance Qualification-PQ อาจทาพร้อมกับการตรวจ รับรองกระบวนการทางาน- Operation Qualification- OQ 4.4 ในกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลงในประเด็นสาคัญๆ ตั้งแต่สถานที่ผลิต สิ่งอานวย ความสะดวก เคร่ืองมือ หรือ กระบวนการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของ ผลิตภณั ฑ์ ไม่วา่ ทางตรงหรือทางออ้ ม ควรต้องทาการตรวจรับรองและการตรวจสอบ ความถกู ต้องเสมอ 4.5 การตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้อง ไม่ใชง่ านท่ีทาครัง้ เดียวเสรจ็ ส้ิน แต่เปน็ โปรแกรมที่ต้องมีการติดตามอยู่เสมอและทบทวนในแต่ละรอบปี -Annual Review

ข้อกาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมิน คะแนน ผล 4.6 ความมุ่งม่ันในการทาการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถูกต้อง ควรต้อง 1 กาหนดเปน็ ลายลักษณอ์ ักษรไวใ้ นเอกสาร อาทเิ ช่น คู่มือคุณภาพหรือเอกสาร แผนแม่บทการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถกู ต้องValidation Master Plan 1 4.7 ความรบั ผิดในการตรวจรับรองและการตรวจสอบความถกู ต้อง ควรต้องกาหนดไวอ้ ยา่ งชัดเจน 4.8 การศึกษาการตรวจรบั รองและการตรวจสอบความถูกต้องเปน็ ส่วน 1 สาคัญของการผลิตที่ดี -GMP ควรต้องทาตามแผนที่กาหนดไวล้ ่วงหน้า และโปรโตคอลที่ได้รับการรับรองจากผู้มีความรู้ 4.9 ควรต้องมีการจดั ทาและเก็บรักษารายงานและผลสรปุ การตรวจรับรอง 1 และการตรวจสอบความถูกต้อง 4.10 กระบวนการและระเบยี บวธิ กี ารทางานควรจดั ทาตามผลการตรวจ 1 รบั รองและการตรวจสอบความถูกต้องท่ีได้ทาไว้ 4.11 ควรต้องใหค้ วามสนใจเปน็ การเฉพาะในข้นั ต่างๆท่ีวกิ ฤต อาทเิ ช่น การวเิ คราะห์ 1 และทดสอบ ระบบอตั โนมัติท้ังหลาย ระเบยี บวธิ กี ารทาความสะอาดต่างๆ 5. ขอ้ รอ้ งเรยี น 1 5.1 หลักการ ขอ้ รอ้ งเรียน และข้อมูลท่ีเกย่ี วกับแนวโนม้ ท่ีจะทาใหเ้ กิดการ เสื่อมสภาพของผลิตภณั ฑ์ ควรต้องนามาทบทวนอยา่ งระมัดระวงั ตามที่ เขยี นไวใ้ นระเบยี บวธิ กี ารปฏบิ ตั ิงาน และต้องดาเนนิ การแก้ไข 5.2 ผู้มีหนา้ ที่รบั ผิดชอบในการจดั การข้อรอ้ งเรยี น และตัดสินใจในการ 1 ดาเนินการหามาตรการแก้ไขข้อรอ้ งเรียน ต้องได้รบั การมอบหมายและ แต่งตั้งอยา่ งเปน็ ทางการ และการสนับสนนุ จากเจ้าหนา้ ที่ได้รบั มอบหมายใน จานวนท่ีเพยี งพอ เพือ่ ใหส้ ามารถทางานได้เต็มที่ ในกรณที ่ีผู้มีอานาจไม่ใช่ บคุ คลดังกล่าว ผู้มีอานาจต้องแจ้งใหผ้ ู้เกย่ี วข้องทั้งหมดใหร้ บั ทราบและจดั การ ใหม้ ีการตรวจสอบหรือเรียกคืนผลิตภณั ฑ์ผ่านผู้มีหนา้ ท่ีรบั ผิดชอบในการจัดการ ข้อรอ้ งเรยี น และ ตัดสินใจที่ได้แต่งตั้งไวอ้ ยา่ งเปน็ ทางการ 1 5.3 ในกรณที ่ีมีโอกาสเกิดการเสื่อมเสียหายของผลิตภณั ฑ์ ควรที่จะต้องจดั ใหม้ ีระเบยี บวธิ ใี นการปฏบิ ตั ิงานรวมไปถึงวธิ กี ารพจิ ารณาข้อร้องเรียน 5.4 การจดั การข้อร้องเรยี นต้องใหค้ วามสนใจพเิ ศษแม้วา่ ขอ้ รอ้ งเรียนจะมี 1 สาเหตุมาจากผลิตภณั ฑป์ ลอมลอกเลียนแบบ 5.5 ขอ้ ร้องเรยี นใดๆก็ตามท่ีเกิดจากการเสื่อมเสียหายของผลิตภณั ฑ์ ต้องบนั ทกึ 1 รายละเอียดขอ้ มูลต้นฉบบั จริง และตรวจสอบอยา่ งละเอียด ผู้มีหนา้ ที่รบั ผิดชอบในการ ควบคุมคุณภาพโดยปกติแล้วต้องมีส่วนเก่ยี วขอ้ งในการทบทวนการตรวจสอบ 1 ข้อรอ้ งเรียนต่างๆ 5.6 ถา้ พบวา่ หรอื สงสัยวา่ ผลิตภณั ฑ์น้ันมีขอ้ บกพร่องในรุน่ หน่ึง ควรจะต้องมีการตรวจสอบ ในร่นุ อ่นื ๆ เพือ่ ค้นหาวา่ มีผลกระทบถึงหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรนุ่ ที่มี การผลิตซา้ ข้นึ ใหม่จากรนุ่ ที่มีขอ้ บกพรอ่ ง 37

ข้อกาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 5.7 ในกรณีที่มีความจาเปน็ ควรต้องมีการติดตามผลข้อรอ้ งเรียน หากเปน็ ได้ควรจะ 1 1 เรียกคืนผลิตภณั ฑห์ ลังจากท่ีมีการตรวจสอบและประเมินผลข้อรอ้ งเรียน 1 1 5.8 ทกุ การตัดสินใจและมาตรการต่างๆ ที่เปน็ ผลสืบเน่ืองจากขอ้ รอ้ งเรยี น ควรต้องมีการบนั ทกึ และอ้างองิ ไปถึงบนั ทกึ การผลิต 1 1 5.9 บนั ทกึ ข้อรอ้ งเรยี นควรต้องมีการนามาทบทวนเปน็ ระยะๆ เพ่ือดูปญั หาที่เกิดซา้ ๆ อาจต้องมีการพจิ ารณาเรยี กคืนผลิตภณั ฑ์ท่ีจาหนา่ ยในตลาดไปแล้ว 1 5.10 ผู้มีอานาจหน้าที่ที่มีความสามารถภาครัฐ ควรต้องได้รับรายงานจากผู้ผลิตท่ีพบวา่ มี 1 ผลิตภณั ฑ์เส่ือมสภาพ ผลิตภณั ฑผ์ ลิตภณั ฑป์ ลอมลอกเลียนแบบ หรือผลิตภณั ฑ์ 1 ที่มีปญั หาคุณภาพรา้ ยแรง หลังจากตรวจพบความผิดพลาดในการผลิต 1 6. การเรยี กเก็บผลิตภณั ฑ์ 6.1 องค์การ หรอื ผู้ผลิต ต้องมีระบบการเรยี กเก็บผลิตภณั ฑ์ท่ีสงสัย หรือรวู้ า่ มีปญั หา 1 จากตลาดอยา่ งมีประสิทธภิ าพและทนั ทว่ งที 1 6.2 ผู้มีอานาจหนา้ ท่ี ต้องมีหน้าที่รบั ผิดชอบในการส่ังการหรือประสานงานในการ 1 เรยี กเก็บผลิตภณั ฑ์ ควรท่ีจะต้องมีเจา้ หน้าท่ีภายใต้การสั่งการอย่างเพยี งพอ ที่จะทาหนา้ ที่ในการเรยี กเก็บผลิตภณั ฑ์ ตามความเหมาะสมกบั ความเร่งด่วน 6.3 ต้องมีระเบยี บวธิ ปี ฏบิ ตั ิงานท่ีเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร มีการทบทวนเปน็ ระยะๆ และทาใหท้ นั สมัยตลอดเวลา ในทกุ กิจกรรมการเรยี กเกบ็ ผลิตภณั ฑข์ ององค์การ เจ้าหน้าที่ต้องมีขดี ความสามารถในการเรียกเกบ็ ผลิตภณั ฑ์ทนั ที่ในทกุ ขัน้ ตอน/ ทกุ ระดับของการกระจายสินค้า 6.4 คู่มือการทางานต้องเปน็ ลายลักษณ์อกั ษร ตั้งแต่วธิ กี ารเกบ็ ผลิตภณั ฑ์ ท่ีเรยี กคืนจนไปถงึ การคัดแยกเพ่อื การตัดสินใจต่อไป 6.5 ผู้ที่มีความสามารถและมีหนา้ ที่รับผิดชอบทกุ หน่วยงานของประเทศสมาชกิ ท่ี สินค้ากระจายไปถงึ ต้องแจง้ สาเหตุการเรียกคืนทนั ทตี ามจริง หรือสงสัยวา่ ผลิตภณั ฑ์ หรอื รู้วา่ มีปญั หาการเส่ือมสภาพของผลิตภณั ฑ์ 6.6 บนั ทกึ การกระจายสินค้าควรจะต้องส่งถงึ มือผู้มีอานาจที่รับผิดชอบ บนั ทกึ ต้อง ครอบคลุมข้อมูลผู้ขายส่ง ลูกค้า ตลอดจนผู้ท่ีได้รบั ตัวอย่างยาเพื่อทดสอบผล ทางคลินิก และตัวอยา่ งผลิตภณั ฑ์สาหรับแพทย์ เพ่ือใหก้ ารเรียกคืนมีประสิทธภิ าพ 6.7 ต้องมีการตรวจสอบติดตามความก้าวหน้าในการเรยี กคืน บกึ ทกึ ต้องสามารถ ทวนสอบยอดท่ีส่งและยอดท่ีคืน ตลอดจนยอดสุดทา้ ยท่ีเหลือของผลิตภณั ฑ์ 6.8 ต้องมีการวดั ประสิทธผิ ลการเรียกคืน และต้องทดสอบเปน็ ระยะๆ 7. การจ้างผลิต และการวิเคราะห์ 7.1 การจา้ งผลิต และการวเิ คราะห์ ต้องมีการจดั ทาเอกสารตามที่กาหนดไวอ้ ย่างถูกต้อง เพ่อื ปอู งกนั การเข้าใจผิดที่จะนาไปสู่ผลไม่พงึ ประสงค์ ท้ังด้านผลิตภณั ฑ์ งานและคุณภาพท่ีไม่ตรงตามที่ต้องการ 38

ขอ้ กาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมิน คะแนน ผล 7.2 การจดั เตรยี มและการวเิ คราะหเ์ พอื่ การจ้างผลิตรวมไปถึงการ 1 เปลี่ยนแปลงในเชิงเทคนคิ หรอื การเตรียมอื่นๆควรจะต้องเปน็ ไปตาม ที่ได้รบั อนญุ าตใหผ้ ลิตเพือ่ การตลาดสาหรบั ทกุ ๆผลิตภณั ฑท์ ่ีเกยี่ วขอ้ งน้ี 1 7.3 สัญญาจา้ งผลิตต้องระบใุ ห้ ผู้วา่ จ้างสามารถตรวจสอบสิ่งอานวย 1 1 ความสะดวกตามสัญญาท่ีได้ยอมรับตกลงกันไว้ 7.4 การวเิ คราะหส์ ัญญาจ้างผลิต ในการอนุมัติขน้ั สุดทา้ ยต้องอนุมัติโดย 1 ผู้ท่ีมีอานาจในการอนุมัติผู้วา่ จา้ งต้องมีหนา้ ท่ีรบั ผิดชอบต่อไปนี้ 7.5 ผู้วา่ จา้ งมีหนา้ ท่ีในการตรวจสอบขีดความสามารถของผู้รบั จ้างผลิตโดยพจิ ารณา จากความสาเร็จของงาน หรอื ผลทดสอบตามท่ีกาหนดไว้ เพ่อื การอนุมัติผลให้ เปน็ ไปตามสัญญา และเพอ่ื ความถกู ต้องตามหลักการผลิตท่ีดีฉบบั น้ี 7.6 ผู้วา่ จา้ งมีหนา้ ท่ีใหข้ อ้ มูลที่จาเปน็ ในการผลิตท่ีถูกต้องกับผู้รบั จ้างผลิตท่ีได้รบั อนุญาต ใหผ้ ลิตเพื่อการตลาด และท่ีเก่ียวกับกฎหมายอนื่ ๆท่ีเก่ยี วข้อง ผู้วา่ จา้ งต้องทาใหแ้ นใ่ จวา่ ผู้รบั จ้างตระหนักถงึ ปญั หาที่เกีย่ วกับผลิตภณั ฑ์ งานการผลิต หรอื ผลทดสอบที่อาจทาให้ เกิดความเสียหายใหก้ บั สถานท่ีผลิต เครือ่ งมือ บคุ ลากร วสั ดุ หรือผลิตภณั ฑอ์ ืน่ ๆ 7.7 ผู้วา่ จา้ งมีหนา้ ที่ทาใหแ้ นใ่ จวา่ ทกุ ผลิตภณั ฑท์ ่ีใชใ้ นกระบวนการ วสั ดุ ส่งถึงมือ 1 ผู้รบั จ้างผลิตมีคุณภาพตรงตามที่ระบไุ วใ้ นข้อกาหนด หรือผลิตภณั ฑ์ท่ีผลิตแล้ว อนมุ ัติปล่อยผ่านโดยผู้ท่ีมีอานาจหนา้ ท่ี ผู้รบั จ้างต้องมีหนา้ ท่ีรบั ผิดชอบต่อไปน้ี 1 7.8 ผู้รบั จ้างต้องมีสถานที่ผลิต เครอื่ งมือ ความรู้และประสบการณ์ที่เพยี งพอ และมีความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานตามที่ได้รบั การส่ังการจากผู้จ้างผลิต ผู้รับจา้ งมีหน้าที่ผลิตตามท่ีผู้วา่ จ้างผลิตที่ถอื ใบอนญุ าตผลิตเทา่ น้ัน 1 7.9 ผู้รับจา้ งจะต้องเผยไม่แพรง่ านที่ได้รับมอบหมายภายใต้สัญญาจา้ งผลิตน้ี 1 ใหบ้ คุ คลที่สามโดยไม่ได้รับการประเมิน อนุมัติจากผู้วา่ จ้างเสียกอ่ น การจัดทาการระหวา่ งผู้รบั จา้ งผลิตกบั บคุ คลท่ีสามต้องทาใหแ้ นใ่ จวา่ เปน็ ไปในทศิ ทางเดียวกนั กบั สัญญาต้นฉบบั ระหวา่ งผู้วา่ จา้ งและผู้รับจ้าง 7.10 ผู้รบั จา้ งต้องละเวน้ การทาการใดๆ ท่ีอาจส่งผลร้ายแรงต่อคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ ท่ีผลิตและหรือการวเิ คราะหข์ องผู้วา่ จ้างสัญญาวา่ จ้างควรต้องทาดังนี้ 1 7.11 ต้องเปน็ สัญญาที่เปน็ ลายลักษณ์อกั ษรระหวา่ งผู้วา่ จ้างและผู้รบั จา้ ง 1 ที่กาหนดความรบั ผิดชอบของทั้งฝุายอย่างชัดเจน 1 7.12 สัญญาจะต้องกาหนดผู้มีอานาจหน้าที่อย่างชัดเจนในการปล่อยผ่าน ผลิตภณั ฑ์แต่ละรุน่ เพื่อการจาหนา่ ย หรือ การออกใบรับรองผลการ วเิ คราะห์ เพ่ือใหส้ ามารถแน่ใจได้วา่ ผลิตภณั ฑท์ ี่ผลิตทกุ ร่นุ ได้รบั การ ตรวจสอบ เพื่อใหเ้ ปน็ ไปตามข้อกาหนดในการผลิตเพอื่ การทาการตลาด 7.13 ประเด็นทางด้านเทคนิคในสัญญาต้องได้รบั การตรวจสอบโดยผู้มีความรู้ ความสามารถทางเทคโนโลยีเภสัชกรรม การวเิ คราะห์ และหลักการผลิตท่ีดี 39

ขอ้ กาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 7.14 การเตรียมการผลิตและการวเิ คราะห์ ต้องได้รบั ความเหน็ ชอบจาก 1 ทั้งสองฝุายและเปน็ ไปตามท่ีได้รบั อนุญาตใหม้ ีการผลิตเพ่ือการทาตลาด 7.15 สัญญาต้องกาหนดหนา้ ที่ของผู้ท่ีจะทาการซ้ือ การทดสอบ การปล่อยผ่าน 1 ผลิตภณั ฑ์ การควบคุมการผลิต การควบคุมคุณภาพ การควบคุมระหวา่ ง การผลิต การสุ่มตัวอยา่ ง และการวเิ คราะห์ ในกรณีที่มีการจา้ งวเิ คราะห์ ต้องมีการกาหนดใหผ้ ู้รับจ้างวเิ คราะหต์ ้องนาตัวอย่างจากผู้ผลิตหรอื ไม่ 7.16 บนั ทกึ การผลิต การวเิ คราะห์ การกระจายสินค้า และสารอ้างองิ ตัวอย่าง 1 ต้องมีพรอ้ มท่ีจะใหผ้ ู้วา่ จา้ งตรวจสอบได้ บนั ทกึ อืน่ ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกบั คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ ขอ้ ร้องเรยี น ขอ้ บกพรอ่ งต่างๆ การเรียกคืน หรือ ข้อสงสัยต่างๆ ผู้วา่ จ้าง ต้องสามารถเขา้ ถึงได้ 7.17 สัญญาต้องบรรยายการดูแลรกั ษา ตั้งแต่วตั ถุดิบตั้งต้น ผลิตภณั ฑ์ระหวา่ งผลิต และ 1 ผลิตภณั ฑ์ท่ียังไม่ได้แบง่ บรรจุ และผลิตภณั ฑส์ าเรจ็ รปู ในกรณีที่ไม่ผ่านข้อ กาหนดรวมไปถึงวธิ กี ารจัดการเม่ือผลการวเิ คราะหจ์ ากผู้รับจา้ งวเิ คราะหว์ า่ ไม่ผ่าน 8. การตรวจสอบตนเอง *** 8.1 หลักการตรวจสอบตนเอง มีวตั ถุประสงค์เพื่อใหผ้ ู้ผลิตประเมินตนเอง 1 ตามเกณฑก์ ารผลิตที่ดีในทกุ ด้านการผลิต การควบคุมคุณภาพ โปรแกรมการตรวจสอบตนเองต้องออกแบบใหส้ ามารถพบเหน็ ความบกพรอ่ งในการนาหลักเกณฑก์ ารผลิตท่ีดีไปปฏบิ ตั ิและสามารถแนะนาความ จาเปน็ ในการแก้ไขปญั หา การตรวจสอบตนเองต้องทาเปน็ ประจา และบางครงั้ อาจ ทาได้เปน็ กรณพี เิ ศษ อาทกิ รณที ่ีการเรยี กคืนกรณที ่ีมีผลวเิ คราะห์ ไม่ผ่านซ้าๆหรอื มีการ ขอเขา้ ตรวจโดยผู้มีอานาจหน้าที่ในการตรวจทมี ตรวจสอบตนเอง ควรประกอบด้วย บคุ ลากรท่ีสามารถประเมินวตั ถุประสงค์ของการปฏบิ ตั ิตามเกณฑก์ ารผลิตที่ดี ทกุ ข้อแนะนาที่กาหนดที่ใหม้ ีการแก้ไขต้องปฏบิ ตั ิ มีระเบยี บวธิ กี ารตรวจสอบตนเอง ท่ีเปน็ เอกสารและมีโปรแกรมตรวจสอบผลติดตามความสาเรจ็ ของการตรวจสอบตนเอง 8.2 คู่มือการตรวจสอบตนเองควรอย่างน้อยควรประกอบด้วยเกณฑข์ ั้นตา่ และขอ้ กาหนดที่มีรูปแบบเปน็ มาตรฐาน อาจจดั เปน็ ข้อคาถามข้อกาหนด ของเกณฑก์ ารผลิตท่ีดีอย่างนอ้ ยต้องครอบคลุมถงึ 1. บคุ ลากร 1 2. สถานที่ ส่ิงอานวยความสะดวกสาหรับบคุ ลากร 1 3. อาคาร เคร่ืองมือต่างๆ และการดูแล 1 4. สถานที่เก็บวตั ถุดิบตั้งต้นจนไปถึง ผลิตภณั ฑส์ าเร็จรูป 1 5.อุปกรณต์ ่างๆ 1 6.การผลิตและการควบคุมคุณภาพระหวา่ งผลิต 1 7. การควบคุมคุณภาพ 1 8. ระบบเอกสาร 1 40

ข้อกาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 9. สุขาภบิ าลและสุขอนามัยส่วนบคุ คล 1 10. โปแกรมการตรวจรบั รองและการตรวจรับรองซา้ 1 11. การสอบเทยี บเครื่องมือวดั หรอื ระบบการวดั 1 12. ระเบยี บวธิ กี ารเรียกคืนผลิตภณั ฑ์ 1 13.การจัดการขอ้ รอ้ งเรยี น 1 14. ระบบควบคุมฉลาก 1 15. ผลการตรวจสอบตนเองครงั้ ก่อนและการแก้ไขท่ีได้แก้ไปแล้ว 1 ทมี ตรวจสอบตนเอง 8.3 ผู้บริหารควรต้องแต่งต้ังทมี ตรวจสอบตนเองประกอบด้วย ผู้เช่ยี วชาญในแต่ละสาขาท่ี 1 คุ้นเคยกบั เกณฑ์การผลิตท่ีดี ภายในและภายนอก 1 8.4 ความถี่ในการตรวจสอบตนเองขน้ึ อย่กู บั ความจาเปน็ ขององค์การ แต่อย่าง 1 นอ้ ยปลี ะ 1 ครัง้ โดยการกาหนดเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร 1 8.5 รายงานการตรวจสอบตนเองควรจดั ทาใหส้ มบรู ณ์ ประกอบด้วย 1 1. รายงานผลการตรวจสอบตนเอง 2. การประเมินผล และข้อสรุป 3. ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไขปญั หา การติดตามผลการตรวจสอบตนเอง 1 8.6 ต้องมีโปรแกรมตรวจสอบผลติดตามความสาเรจ็ ของการตรวจสอบตนเอง และประเมินผล ท่ีมีประสิทธภิ าพ ท้ังรายงานผลการตรวจสอบตนเอง และการแก้ไขปญั หาท่ีจาเปน็ การตรวจสอบระบบคุณภาพ 1 8.7 ควรมีการตรวจสอบระบบคุณภาพเสริมการตรวจสอบตนเอง การตรวจสอบระบบ 1 1 คุณภาพเปน็ การตรวจสอบระบบคุณภาพทั้งระบบหรือบางส่วน โดยมีวตั ถุประสงค์ ในการปรับปรงุ ระบบคุณภาพ อาจทาได้ท้ังผู้ตรวจสอบภายในและภายนอก รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ส่งมอบและ ผู้รับเหมาชว่ ง การตรวจสอบระบบผู้ส่งมอบและการอนมุ ัติผู้ส่งมอบสินค้าและบรกิ าร 8.8 ผู้ที่มีหนา้ ท่ีในการควบคุมคุณภาพควรมีหนา้ ที่รว่ มรบั ผิดชอบกบั แผนก ที่เกี่ยวขอ้ งในการอนมุ ัติ จดั ทารายช่ือผู้ส่งมอบสินค้าต้ังแต่จัดทารายช่อื ผู้จดั ทา รายชื่อผู้ส่งมอบสินค้าตั้งแต่วตั ถดุ ิบต้ังต้น วสั ดุการบรรจแุ ละบรกิ ารที่ผ่านการ ประเมินผล ตามขอ้ กาหนดที่กาหนดไว้ 8.9 ผู้ส่งมอบสินค้าตั้งแต่วตั ถุดิบต้ังต้น วสั ดุการบรรจแุ ละบรกิ ารต้องได้รบั การประเมินเสียก่อนที่จะบรรจุไวใ้ นรายชือ่ ผู้ส่งมอบสินค้าต้ังแต่ วตั ถุดิบตั้งต้น วสั ดุการบรรจุและบรกิ ารที่ผ่านการประเมินผล 41

ขอ้ กาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมิน คะแนน ผล 9. บคุ ลากร 1 9.1 การนาระบบประกันคุณภาพมาใช้และคงไวเ้ พอ่ื การบริหารการผลิตและ 1 ควบคุมคุณภาพของเภสัชภณั ฑแ์ ละตัวยาสาคัญข้นึ อยู่กับบคุ ลากรที่ต้องมี 1 คุณภาพและมีปรมิ าณเพยี งพอที่จะผลักดันภาระกิจการผลิตที่ต้องรับผิดชอบ หน้าท่ีความรบั ผิดชอบของแต่ละบคุ คลต้องถกู กาหนดอยา่ งชดั เจนและเปน็ ที่เข้าใจ 1 เปน็ การท่ัวไปโดยบคุ ลากรที่เก่ยี วขอ้ งและบรรยายเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร 1 1 9.2 หนว่ ยงานผลิตต้องมีจานวนบคุ ลากรที่มีคุณสมบตั ิที่จาเปน็ และมี ประสบการณใ์ นจานวนที่เพยี งพอ ต้องมีการแบง่ หน้าท่ีความรับผิดชอบ 1 ใหแ้ ต่ละบคุ คลไม่ไหม้ ากเกนิ ไปเพอื่ ไม่ไหเ้ กิดความเสี่ยงต่อระบบคุณภาพ 1 1 9.3 ต้องกาหนดหนา้ ที่ความรับผิดชอบและใหอ้ านาจท่ีเหมาะสมเพยี งพอใหก้ ับ 1 42 เจา้ หน้าท่ีที่ปฏบิ ตั ิงานเปน็ ลายลักษณ์อกั ษร เพ่ือใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิงานที่ รับผิดชอบใหล้ ุล่วงไปได้ หน้าที่เหล่านี้สามารถมอบหมายใหผ้ ู้ช่วยที่มี ความสามารถท่ีเหมาะสมไปปฏบิ ตั ิได้ ความรับผิดชอบเหล่านี้ต้องไม่มี ช่องวา่ งหรือซ้อนทบั กนั ระหวา่ งผู้ที่มีหนา้ ที่ในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ตาม หลักเกณฑ์การผลิตท่ีดี –GMP หน่วยงานหรอื องค์การการผลิตต้องมี แผนผังหนา้ ที่การทางาน- Organization Chart ที่ชดั เจน 9.4 บคุ ลากรทกุ คนท่ีเก่ยี วขอ้ งต้องมีความตระหนกั ในหลักเกณฑ์การผลิตที่ดี ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเอง และต้องรบั การฝึกอบรมอย่างต่อเน่ืองรวมไป ถงึ คู่มืออนามัยส่วนบคุ คลท่ีจาเปน็ สาหรบั แต่ละบคุ คล บคุ ลากรทกุ คน ต้องได้รบั การกระตุ้นสร้างเสรมิ แรงจูงใจในการนาระบบประกันคุณภาพ มาใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานและคงระดับคุณภาพตามมาตรฐานข้นั สูงเอาไวอ้ ย่างยัง่ ยืน 9.5 ต้องมีขัน้ ตอนในการปอู งกันไม่ไหค้ นท่ีไม่มีส่วนเก่ียวขอ้ งเข้ามาในบริเวณส่วนผลิต ส่วนการเกบ็ รกั ษาและส่วนควบคุมคุณภาพ คนท่ีไม่มีหน้าที่เก่ยี วขอ้ งหา้ มผ่าน บคุ ลากรหลัก 9.6 บคุ ลากรหลักในส่วนการผลิต ส่วนควบคุมคุณภาพ และผู้ท่ีมีอานาจอนมุ ัติในการ ปผ่าลน่อยาไปขายได้ในตลาด ต้องทางานเต็มเวลา หวั หนา้ ส่วนการผลิตและส่วนควบคุม คุณภาพต้องเปน็ อิสระต่อกนั การมอบหมายงานใหท้ าแทนได้แต่ความรบั ผิดชอบ มอบหมายไม่ได้ 9.7 บคุ ลากรหลักท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบในการดูแลการผลิตและควบคุมคุณภาพ ต้องมีคุณวฒุ กิ ารศึกษาสายวทิ ยาศาสตร์และมีประสบการณ์ตามท่ีประกาศ ไวใ้ นกฎหมาย การศึกษาต้องมีสัดส่วนองค์ประกอบท่ีเหมาะสม ดังนี้ 1. เคมีวเิ คราะห์ หรอื เคมีอินทรีย์ หรือ ชวี ะเคมี 2. วศิ วเคมี 3. จุลชวี ะวทิ ยา 4. เภสัชศาสตร์ หรือ เทคโนโลยีเภสัชกรรม

ข้อกาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 5. เภสัชวทิ ยาและพษิ วทิ ยา 1 6. สรีระวทิ ยา 1 7. หรือวทิ ยาศาสตร์สาขาอน่ื ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง อาทิ วทิ ยาศาสตร์ประยุกต์สาขาต่างๆ 1 บคุ ลากรเหล่านี้ต้องมีประสบการณเ์ พยี งพอในการผลิตและการประกนั คุณภาพ ผลิตภณั ฑ์เภสัช การที่จะมีประสบการณ์เพยี งพอจงึ ต้องมีการเตรยี มตัวโดยการทางาน ภายใต้คาแนะนาของผู้ประกอบวชิ าชีพเปน็ ระยะเวลาหนึ่ง จนสามารถที่ใชด้ ุลพนิ จิ ในวชิ าชพี ได้ด้วยตนเองอย่างเปน็ อสิ ระที่อยู่บนพน้ื ฐานของการประยกุ ต์ใชห้ ลัก วทิ ยาศาสตร์และความเขา้ ใจปญั หาเชิงปฏบิ ตั ิในการผลิตและการควบคุมคุณภาพ 9.8 หวั หนา้ ส่วนผลิตและควบคุมคุณภาพ โดยท่ัวไปต้องมีหนา้ ท่ี การทางาน รับผิดชอบร่วมกันในเรอื่ งท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั คุณภาพ ในเรอ่ื งต่างๆต่อไปนี้ รวมไปถงึ ข้อกาหนดท่ีกฎหมายกาหนดไว้ ดังนี้ 1. การอนมุ ัติเอกสารระเบยี บวธิ ปี ฏบิ ตั ิงาน เอกสารอ่ืนๆ และการแกเ้ อกสารต่างๆ 1 2. การตรวจวดั และควบคุมสิ่งแวดล้อมในการผลิต 1 3. สุขอนามัยของโรงงาน/สถานท่ีผลิต 1 4. การตรวจรบั รองกระบวนการและการสอบเทยี บความถกู ต้องเครอ่ื งมือการวเิ คราะห์ 1 5. การฝึกอบรม การปฏบิ ตั ิงาน และความเขา้ ใจหลักการประกันคุณภาพ 1 6.การอนุมัติและการควบคุมติดตามผู้ส่งมอบวตั ถดุ ิบ 1 7. การอนุมัติและการควบคุมติดตามผู้รับจา้ งเหมาช่วง 1 8. การจัดหาที่และควบคุมติดตามสภาพแวดล้อมการจัดเก็บวตั ถุดิบและผลิตภณั ฑ์ 1 9. ประสิทธผิ ลและการประเมินผล กระบวนการควบคุมระหวา่ งผลิต 1 10. การเกบ็ บนั ทกึ ต่างๆ ที่เกยี่ วขอ้ งกับระบบคุณภาพท่ีดี 1 11. การติดตามควบคุมการปฏบิ ตั ิงานใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑก์ ารผลิตที่ดี 1 12. การตรวจเชค็ การตรวจสอบ และ การสุ่มตัวอย่างเพือ่ การควบคุม 1 ติดตามปจั จัยต่างๆท่ีอาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 9.9 หวั หนา้ ฝุายผลิตมีหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบทั่วๆไปต่อไปน้ี 1. ต้องทาใหแ้ น่ใจได้วา่ ผลิตภณั ฑท์ ี่ผลิตและเกบ็ รักษาไวน้ ้ันถกู ต้องตาม 1 ข้อกาหนดตามเอกสารที่ได้ระบไุ ว้ และมีคุณภาพตามท่ีต้องการ 2. อนมุ ัติเอกสารคู่มือต่างๆที่เกีย่ วกบั การผลิต ระหวา่ งผลิต และต้องทาให้ 1 แนใ่ จได้วา่ ได้มีการปฏบิ ตั ิตามอย่างเคร่งครัด 3. ต้องทาใหแ้ น่ใจได้วา่ มีการประเมินบนั ทกึ การผลิตอย่างถูกต้องโดยผู้ท่ีมีอานาจหนา้ ที่ 1 4. มีหน้าท่ีในการตรวจเชค็ และจัดใหม้ ีการซ่อมบารงุ แผนกต่างๆ 1 สถานท่ีผลิต และเครือ่ งมือต่างๆ ที่จาเปน็ และเก่ยี วข้องกบั การผลิต 5. ต้องทาใหแ้ น่ใจได้วา่ มีการตรวจรับรองกระบวนการผลิตและการสอบ 1 เทยี บความถูกต้องเครอ่ื งมือต่างๆ และมีบนั ทกึ สามารถตรวจสอบยอ้ นกลับได้ 43

ขอ้ กาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 6. ต้องทาใหแ้ นใ่ จได้วา่ มีปฐมนเิ ทศการฝึกอบรมและการอบรมอย่างต่อเน่ืองใหก้ บั 1 บคุ ลากรที่ทาหนา้ ที่ในการผลิต และมีการปรบั เปลี่ยนตามความต้องการในการฝึกอบรม 9.10 หวั หนา้ ฝุายควบคุมคุณภาพมีหน้าที่ความรบั ผิดชอบท่ัวๆไปต่อไปนี้ 1 1. อนมุ ัติหรอื ปฏเิ สธการรับรองวตั ถุดิบ ภาชนะบรรจุต่างๆผลิตภณั ฑ์รวม ไปถงึ ผลิตภณั ฑร์ ะหวา่ งการผลิต ผลิตภณั ฑท์ ่ีผลิตเสร็จแล้วตามขอ้ กาหนด 1 2. ประเมินบนั ทกึ รุ่นการผลิตทกุ รุ่น 1 3. ต้องทาใหแ้ น่ใจได้วา่ มีการทดสอบที่จาเปน็ ครบถว้ น 1 4. อนมุ ัติคู่มือการปฏบิ ตั ิงานต่างๆ เชน่ คู่มือวธิ กี ารการสุ่มตัวอยา่ ง ขอ้ กาหนด วตั ถดุ ิบ ภาชนะบรรจุต่างๆ ผลิตภณั ฑร์ วมไปถงึ ผลิตภณั ฑร์ ะหวา่ งการผลิต ผลิตภณั ฑท์ ่ี 1 ผลิตเสรจ็ แล้ว วธิ ที ดสอบต่างๆ และระเบยี บวธิ ใี นการควบคุมคุณภาพต่างๆ 1 5. อนมุ ัติ และดูแลติดตามการวเิ คราะหท์ ี่ได้ทดสอบตามขอ้ กาหนด 6. มีหน้าท่ีในการตรวจเช็คและจัดใหม้ ีการซ่อมบารงุ แผนก สถานที่และเครื่องมือต่างๆ 7. ต้องทาใหแ้ น่ใจได้วา่ มีการตรวจรับรองกระบวนการวเิ คราะหแ์ ละ 1 การสอบ เทยี บความถูกต้องเครอื่ งมือการวเิ คราะหต์ ่างๆ ท่ีเหมาะสม 1 8. ต้องทาใหแ้ นใ่ จได้วา่ มีปฐมนเิ ทศการฝึกอบรมและการอบรมอย่าง 1 ต่อเนื่องใหก้ ับบคุ ลากรที่ทาหน้าที่ควบคุมคุณภาพ และมีการปรับเปล่ียน ตามความต้องการในการฝึกอบรม 9.11 ผู้มีอานาจในการอนมุ ัติ มีหนา้ ท่ีรับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิงานใหเ้ ปน็ ไปตามข้อกาหนด ทางเทคนิค หรือขอ้ กาหนดทางกฎหมายที่เกยี่ วขอ้ งกับคุณภาพของผลิตภณั ฑ์สาเร็จรูป และการอนุมัติการปล่อยผ่านผลิตภณั ฑส์ าเรจ็ รปู เพอื่ การจาหน่าย 9.12 ผู้มีอานาจในการอนมุ ัติยังต้องมีหนา้ ท่ีดังต่อไปนี้ 1 1. วางรากฐานและการนาระบบคุณภาพไปปฏบิ ตั ิ 1 2. มีส่วนร่วมในการพฒั นาคู่มือคุณภาพ- Quality Manual ขององค์การ 1 3. ดูแลการตรวจติดตามภายใน หรอื การตรวจสอบตนเอง 1 4. ดูแลหน่วยควบคุมคุณภาพ 1 5. มีส่วนรว่ มในการตรวจติดตามภายนอก หรือตรวจสอบผู้ขาย 1 6. มีส่วนรว่ มในโปรแกรมการตรวจรบั รองความถกู ต้อง 1 9.13 หน้าที่ในการอนมุ ัติการปล่อยผ่านผลิตภณั ฑ์สาเร็จรปู เพ่ือการจาหน่าย สามารถมอบหมายใหผ้ ู้ท่ีคุณสมบตั ิท่ีเหมาะสมและมีประสบการณไ์ ด้เปน็ ผู้ท่ีมีหนา้ ท่ีในการอนมุ ัติการปล่อยผ่านผลิตภณั ฑ์สาเร็จรูปเพ่ือการจาหนา่ ย โดยกาหนดไวเ้ ปน็ ระเบยี บวธิ ปี ฏบิ ตั ิงาน ซึ่งในทางปฏบิ ตั ิตามปกติเปน็ หนา้ ท่ีของ ฝุายประกนั คุณภาพท่ีมีหน้าท่ีในการตรวจทบทวนบนั ทกึ การรุน่ การผลิต 44

ขอ้ กาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมนิ คะแนน ผล 9.14 บคุ คลท่ีมีหน้าท่ีในการอนมุ ัติการปล่อยผ่านผลิตภณั ฑส์ าเรจ็ รปู เพือ่ การ 1 จาหน่ายควรจะต้องแนใ่ จวา่ ข้อกาหนดต่างๆ เหล่านี้ได้ปฏบิ ตั ิแล้วครบถว้ น 1 1 1. การอนมุ ัติท้ังด้านการตลาดและการผลิตได้ถูกปฏบิ ตั ิอย่างครบถ้วน 2. หลักเกณฑ์และแนวทางการผลิตท่ีด-ี GMP ได้ปฏบิ ตั ิอยา่ งครบถว้ น 1 3. การผลิตหลักและการวเิ คราะหไ์ ด้มีการตรวจรับรองความถูกต้องถ้ามี การเปล่ียนแปลง/ แตกต่างไปจากเดิม 4. มีการตรวจเชค็ และทดสอบท่ีจาเปน็ และทาการแก้ไขสภาวะการผลิตและบนั ทกึ 5. ในกรณที ่ีมีการเปลี่ยนแปลง หรอื การเบี่ยงแบนในส่วนการผลิตหรอื ควบคุมคุณภาพ 1 จะต้องมีการแจ้งอย่างเปน็ ระบบกอ่ นท่ีจะมีการปล่อยผ่านผลิตภณั ฑ์สาเรจ็ รปู เพอ่ื การ 1 จาหน่าย และต้องได้รบั การรับรองจากหนว่ ยงานราชการท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบ 6. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากแผน ต้องมีการสุ่มตัวอย่าง การตรวจสอบ การทดสอบ การตรวจเช็ค ตามความเหมาะสมเพอ่ื แก้ปญั หาใหค้ รอบคลุมการเปลี่ยนแปลงไปจากแผนและขอ้ เบ่ียงแบนต่างๆ 7. เอกสารการผลิตและการควบคุมคุณภาพที่จาเปน็ ต้องครบสมบรู ณ์ 1 และตรวจรับรองโดยหวั หนา้ งานท่ีได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม 1 8. การตรวจติดตาม การตรวจสอบด้วยตนเอง การสุ่มตรวจเปน็ จดุ ๆ 1 ทาอย่างเหมาะสมโดยเจ้าหนา้ ที่ผู้มีประสบการณ์ และท่ีได้รบั การฝึกมาเปน็ อย่างดี 1 9. หวั หน้าแผนกควบคุมคุณภาพได้ตรวจอนุมัติแล้ว 10. ปจั จัยต่างๆ ท่ีเกย่ี วข้องได้ถูกพจิ ารณาครบถว้ น ไม่เพยี งแต่ขอ้ มูล 1 ผลผลิตของรนุ่ เทา่ นั้น ในส่วนย่อยของผลผลิตที่เปน็ ท่ีมาของขอ้ มูล ผลผลิตของรนุ่ ก็ต้องตรวจทบทวนโดยตรงเช่นกัน 1 10. การฝึกอบรม *** 1 10.1 องค์การ ต้องจัดใหม้ ีโปรแกรมการฝึกอบรมใหก้ บั บคุ ลากรท่ีมีหน้าท่ีปฏบิ ตั ิงานต่างๆ 1 ฝุายผลิต ฝุายควบคุมคุณภาพ ฝุายเทคนิค ฝุายซ่อมบารุง ฝุายทาความสะอาด 1 และอน่ื ๆ ตามท่ีต้องการ 1 10.2 การอบรมควรครอบคลุม 1 1. ความรพู้ ้นื ฐานทั้งทฤษฎแี ละการปฏบิ ตั ิ เกี่ยวกบั การผลิตที่ด-ี GMP 2. เจ้าหน้าที่ใหม่ควรได้การฝึกตามโปรแกรมที่เกยี่ วกับหน้าท่ีท่ีต้องปฏบิ ตั ิงาน 45 3. ควรต้องมีการฝึกอบรมอยา่ งต่อเน่ือง และมีการประเมินผลเปน็ ระยะๆ 4. โปรแกรมการฝึกอบรมต้องมีการพจิ ารณาความเหมาะสมและอนมุ ัติ ใหเ้ ปน็ ไปตามความต้องการ และแผนการฝึกอบรม 5. บนั ทกึ การฝึกอบรมต้องมีการเก็บ เพอ่ื การตรวจสอบและวางแผน 10.3 ต้องจดั ใหม้ ีการฝึกอบรมงานเฉพาะอย่างที่มีอนั ตรายสูง อาทิ การปฏบิ ตั ิ เก่ยี วกบั สารเคมีอันตราย สารพษิ สารระคายเคืองสูง การล้าง ทาความสะอาด การปอู งกันการปนเปื้อนจากเช้ือโรค

ข้อกาหนดตามมาตรฐาน WHO GMP การตรวจประเมิน คะแนน ผล 10.4 หลักการการประกนั คุณภาพต้องนามาอธบิ ายและหารืออย่างเต็มที่ในระหวา่ งการ 1 ฝึกอบรม เพื่อช่วยใหเ้ กิดความเข้าใจ การนาไปปฏบิ ตั ิและปรบั ใช้ที่ถูกต้อง 10.5 ผู้มาเยย่ี มชม หรือ บคุ ลากรท่ียงั ไม่ได้การอบรม หา้ มเข้าในเขตโรงงาน ในกรณีท่ี 1 จาเปน็ หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนเหล่านี้ต้องถกู อธบิ ายล่วงหน้าโดยเฉพาะเรอื่ ง ความสะอาด สุขลักษณะที่ดี และต้องมีเจ้าหนา้ ท่ีประกบอยา่ งใกล้ชิด 10.6 ท่ีปรกึ ษา และ พนักงานของผู้รบั เหมา ต้องได้รับการรับรองวา่ มี 1 ความสามารถเหมาะสมกบั งาน ซ่ึงต้องบนั ทกึ ไวใ้ นบนั ทกึ การฝึกอบรม 11. สุขอนามัยส่วนบคุ คล *** 11.1 บคุ ลากรทกุ คน ต้องตรวจสุขภาพกอ่ นทางาน และระหวา่ งทางาน 1 สาหรับบคุ ลากรที่ต้องใชส้ ายตาตรวจสอบคุณภาพ ต้องตรวจสายตาเปน็ ระยะๆ 11.2 บคุ ลากรทกุ คน ต้องถกู ฝึกและปฏบิ ตั ิตามหลักสุขอนามัยส่วนบคุ คล บคุ ลากรที่ต้อง 1 มีระดับสุขอนามัยส่วนบคุ คลระดับสูง ต้องถูกจบั ตาโดยคนที่มีหน้าท่ีเกย่ี วข้อง กับการผลิต โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ต้องล้างมือทกุ คร้งั เมื่อต้องเข้าไปในบริเวณผลิตควรมี สัญญาณแสดงด้วยภาพและข้อที่ต้องปฏบิ ตั ิ สามารถเหน็ ได้โดยง่าย 11.3 บคุ ลากรท่ีปวุ ย หรือมีแผลเปดิ หา้ มทางานในส่วนที่เก่ยี วขอ้ งสารตั้งต้น 1 ภาชนะบรรจุ ผลิตภณั ฑ์ระหวา่ งผลิต ผลิตภณั ฑ์สาเร็จรูปจนกวา่ จะหายเปน็ ปกติ 11.4 บคุ ลากรทกุ คนควรท่ีถูกสอนและกระตุ้นใหร้ ายงานผู้บงั คับบญั ชาในระดับเหนือขนึ้ ไป 1 ใหท้ ราบสภาพท่ีเกี่ยวข้องกบั หนว่ ยผลิต เคร่อื งมือผลิตหรอื บคุ ลากรท่ีอาจส่งผลกระทบ เชงิ ลบต่อคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 1 11.5 เจ้าหน้าท่ีต้องระมัดระวงั ที่จะไม่สัมผัสโดยตรงกับวตั ถุดิบตั้งต้น วสั ดุบรรจุ 1 1 สินค้ากึ่งสาเร็จรปู สินค้าที่ยังไม่ได้บรรจดุ ้วยมือโดยตรง 1 11.6 บคุ ลากรต้องสวมเสื้อผ้าหอ่ หุ้มรา่ งกาย ผม ที่สะอาดท่ีเหมาะสมในการทางาน เพอ่ื ปอู งกนั การปนเป้ือน ชดุ ที่ใชซ้ า้ ต้องแยกออกจากชดุ ปกติ นาไปการทาความสะอาด ซัก กาจดั เชอ้ื โรค หรือน่ึง 11.7 หา้ มสูบบหุ ร่ี รับประทานอาหาร เคร่ืองด่ืม ในสถานที่ผลิต อาหาร เครื่องด่ืม ยา ไม่ให้ นาเขา้ ในสถานท่ีผลิต หอ้ งควบคุมคุณภาพ หรือส่วนต่างๆ ท่ีอาจส่งผลกระทบ ต่อคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 11.8 จัดเตรียมระเบยี บวธิ กี ารปฏบิ ตั ิงาน และวธิ กี ารใช้เสื้อผ้าหอ่ หุ้มร่างกาย ผมที่สะอาดที่เหมาะสม เม่ือต้องเข้าไปในสถานที่ทางาน ไม่มีขอ้ ยกเวน้ วา่ จะเปน็ พนกั งานชั่วคราว ผู้รบั เหมาชว่ ง ลูกค้า ผู้ตรวจสอบ หรอื ผู้จัดการระดับสูง 12. อาคารสถานท่ี 1 12.1 สถานที่ผลิตต้องกาหนดสถานท่ี ออกแบบ ก่อสรา้ ง ปรบั และดูแลรักษา ใหเ้ หมาะสมกบั การปฏบิ ตั ิงาน 46


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook