4) งบประมาณในการทำงาน ชุมชนประสบปัญหาในการขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงาน ตา่ ง ๆ อีกทั้งงบประมาณท่ีได้รับไม่พอกบั การดำเนินงาน และลา่ ชา้ 5) เจ้าหน้าที่ไม่จริงจังในการลงพื้นที่ ชุมชนมองว่าเจ้าหน้าที่เกีย่ วข้องยังทำงานไมเ่ ต็มที่ เช่น กรณี ตำรวจ กบั การรายงานข้อมลู ชุมชนตามความเป็นจรงิ ลงพ้ืนท่ตี รวจตราน้อย ปญั หาบางเร่ืองกด็ ำเนินการล่าช้า ท้ังน้อี าจจะมภี าระกิจอน่ื ๆ จำนวนมาก เพราะพน้ื ที่น้เี ป็นเขตดุสิต มสี ถานทแ่ี ละหนว่ ยงานสำคัณ ต้ังอยู่ในเขต พ้นื ที่ เชน่ รฐั สภา ดงั น้ันงานรักษาความปลอดภัย และภาระกิจด้านอนื่ ๆ จงึ เยอะตามไปด้วย แต่ถ้าหน่วยงาน ใหค้ วามสำคัญกับงานชมุ ชนและสามารถจดั ภาระงานกบั กำลังคนให้สมดลุ กจ็ ะชว่ ยประชาชนไดม้ ากขนึ้ 6) การยึดติดและพึ่งพาตัวบุคคล ในขณะที่เป็นปัจจัยความสำเร็จที่ดี แต่ก็เป็นเสมือนดาบสองคม เพราะการที่ผู้นำโดดเด่นและมีศักยภาพมาก ภาวะพึ่งพาก็เกิดขึ้นได้ตามมา ในชุมชนพระยาประสิทธิ์นั้น ผู้นำ ชุมชน เป็นแกนหลักในการดูแลชุมชนมานาน และสามารถดำเนินการได้อย่างดี ความสบายใจและไว้ใจของ สมาชิกชมุ ชนเกดิ ขึ้นมายาวนาน แต่เมื่อวันท่ีต้องเปลีย่ นผู้นำแล้ว ทั้งคณะทำงานและสมาชิกต่างไม่มีทางเลือก หรือแผนสำรองสำหรบั กรณีเช่นนเ้ี ลย เร่อื งนีจ้ เึ ป้นท้ังจุดแขง็ และจุดอ่อนในขณะเดยี วกนั 7) ช่วงอายุ ปัจจุบันสมาชิกชุมชนส่วนมากที่เป็นแกนนำของชุมชนเป็นผู้สูงอายุ หรือเป็นวัยใกล้ สูงอายุ ปัญหาที่น่ากังวลของจากคนทำงานคือการต่อเนื่องขอกการถ่ายงานไปสู่รุ่นต่อไปว่าจะสามารถทำไ ด้ มากน้อยแค่ไหน แม้ว่าปัจจุบันจะสามารถดึงเยาวชนเข้ามามสี ว่ นร่วมได้ แต่กำลังหลักของการทำงานก็ยังเป็น แกนนำรนุ่ เกา่ 5. ถอดบทเรยี นความสำเรจ็ ของชุมชน ผู้นำชุมชนและทีม การทำงานของชุมชนยังผูกกับผู้นำชุมชนอย่างมาก ความเป็นผู้นำเป็นสิ่งที่ช่วย ผลักดันให้การพัฒนาต่าง ๆ ในชุมชนดำเนินการได้ได้ในระดับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความเป็นผู้หญิงทำให้มีความ อ่อนโยนในการทำงาน แมว้ า่ จะมีความกลา้ และหนักแน่นก็ตาม เชอ่ื มโยงภานใน-สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน จากเดมิ ทีช่ ุมชนตา่ งคนต่างอยู่ จนมีการจด ทะเบียนชุมชนก็เกิดการรวมกลุ่มกันมาระดับหนึ่ง การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมเริ่มจากการการสร้าง กิจกรรมที่เชื้อเชิญคนเข้ามร่วมผ่านเสียงตามสายและการเดินไปเคาะบ้าน ที่ต้องเดินไปเคาะเพราะบ้านแต่ละ หลงั รั้วรอบขอบชดิ มาก และมกี ารแจกของใชต้ ่าง ๆ ในการทำกิจกรรมก็ทำให้คนเร่ิมเข้ามามากข้ึน นอกจากน้ี กระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ หรือคิดทำกิจกรรมผ่านความเชื่อใจ ซึ่งในกระบวนการสร้าง ความเชอ่ื ใจสว่ นหน่ึงคือความโปรง่ ใสในการทำงาน โดยเฉพาะงบประมาณ ทจี่ ะประกาศการใช้งบประมาณทุก ครั้งให้เห็น เช่น ขึ้นป้ายประกาศรายรับรายจ่ายชัดเจน การสร้างการมีส่วนร่วมอีกลักษณะคือการสร้างงาน ผา่ นวิสาหกิจชุมชน ให้สมาชกิ มาทำงาน จะเกดิ การปฏิสมั พันธก์ นั มากขึ้นคุยกันมากขึน้ การสร้างการมีส่วนร่วมไมเ่ ฉพาะภายในชุมชนแต่ ยังขยายการดูแลออกไปบริเวณใกล้เคียงชมุ ชนด้วย เพอื่ ใหเ้ กิดความเป็นกล่มุ ร่วมกันและช่วยดแู ลกนั ในที่สุด 51
บูรณาการแผนการทำงาน และความต่อเนือ่ งของงาน ชุมชนเน้นการบูรณาการงานทุกอย่างมุ่งเพือ่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน ดังนั้น แผนการทำงานทุกชิ้นจะเชื่อมร้อยกัน ไม่มุ่งเพื่อประโยชน์หรือ ตอบโจทย์ของโครงการนั้น ๆ อย่างเดียวแต่จะคิดเผื่อกิจกรรมหรือโครงการอื่นด้วย หากโครงการใดสามารถ เชื่อมกันได้ก็จะดำเนินงานไปด้วยกัน และมุ่งไปที่ชุมชนจะได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงการหรือกิจกรรมนั้นได้ อยา่ งไร เชื่อมงานภายนอกส่งเสริมยุทธศาสตร์การทำงาน ชุมชนเน้นใช้โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผ่าน มาพิสจู น์ตวั เองร่วมกับการเปดิ รับภาคภี ายนอกทุกภาคสว่ น รฐั เอกชน ประชาสงั คม หรือชมุ ชนด้วยกัน “ภาคี ที่เกี่ยวข้องมีทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิโรตารี่ สวนจิตรลดา เราเชื่อมหมดถ้า ใครอยากทำงานกับเรา เราทำด้วยหมดแต่เราจะไมว่ ิ่งหา แตเ่ ราใชส้ ือ่ โซเชยี ลมีเดยี เปน็ ตัวสือ่ สาร” (สัมภาษณ์ มณี จริโชติมงคลกุล, 29 ตุลาคม 2562) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการทำงานคือ งบจากภายนอก แรงงานจากภายใน คือ 1) มีภาคประชาชนคอยช่วยเหลือ 2) มี CSR สนับสนุนรวมถึงบริษัทเอกชนต่าง ๆ และรวมถึงไฟฟ้า 3) หนว่ ยงานภาครฐั ที่เขา้ มาช่วยเหลือชมุ ชน และ 4) ประชาชนในชมุ ชนของเรา 52
บทเรยี นและพัฒนากลไกการขับเคล่ือนมตสิ มชั ชาสขุ ภาพแหง่ ชาติครั้งท่ี 10 “ชุมชนเป็นศนู ยก์ ลางในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพติด” กรณี พ้นื ทก่ี รุงเทพมหานคร : ชุมชนศาลเจ้าพอ่ จุย้ 1. ขอ้ มลู พ้ืนฐานชุมชน 1.1 ท่ตี ัง้ ชุมชน / แผนท่ี / อาณาเขต ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน ตั้งอยู่ในพื้นท่ี หมู่ที่ 14 , 15 ซอยชักพระ 30 ถนนชักพระ แขวง ตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร มีขนาดพื้นที่รวม 36 ไร่ ทางเข้าทางหลักทางเดียว แต่ทางออกจะมีหลายทาง มี อาณาเขตติดตอ่ ดังนี้ ทิศเหนอื ตดิ ต่อกับ คลองวดั ตลง่ิ ชนั ทศิ ใต้ ตดิ ต่อกับ ถนนชกั พระ ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ชมุ ชนโรงเรยี นวัดตลิง่ ชนั ทศิ ตะวันตก ติดตอ่ กับ ถนนฉมิ พลี รปู ที่ 1 : แผนท่ี แสดงที่ตั้งชุมชนศาลเจ้าพ่อจยุ้ เขตตล่งิ ชนั
1.2 ประวตั ิชุมชน ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน เป็นชุมชนเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้ก่อตั้งเป็นชุมชน เม่ือ พ.ศ 2538 อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตตลิง่ ชนั เดมิ มรี ูปแบบการปกครองเปน็ แบบหม่บู ้านปกครอง กันเอง มีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำชุมชน ชาวชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ เมื่อมีถนนใหญ่ตัดผ่าน มี ไฟฟ้า ประปา ความเจริญเริ่มเข้ามา จำนวนบ้านเรือนเพ่ิมมากขึ้น จึงมอี าชพี ทีห่ ลากหลายเพิ่มมากขึ้น อีกท้ังมี เจา้ ของทีด่ ินบางส่วนแบ่งพ้ืนที่ใหเ้ ช่าบา้ น ซื้อบ้าน ทำให้มปี ระชาชนทอ่ี ยู่ใกล้เคียงเขา้ มาเช่า และซื้อที่เพื่อปลูก บ้านเรือนเป็นจำนวนมาก แต่โดยรวมแล้ว ผู้ที่อาศัยอยู่เดิมก็ยังมีสัดส่วนที่มากกว่า เพียงแต่มีรูปแบบท่ี หลากหลายขนึ้ ประวัตศิ าลเจา้ พ่อจยุ้ จากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ในชุมชน เล่าว่า เดิมศาลเจ้าพ่อจุ้ยเป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ ซึ่งตั้งขึ้นอยู่ใน ชมุ ชน มาก่อนนี้แลว้ ในสมยั สงครามโลกครัง้ ท่ี 2 กองทพั ญี่ปุ่นได้ใชเ้ ส้นทางในชุมชนศาลเจ้าพอ่ จยุ้ เป็นเส้นทาง ผา่ น เม่อื ญปี่ ุ่นได้ทงิ้ ระเบดิ ลงมาจากเคร่ืองบิน ชาวบา้ นแถวนั้นกไ็ ด้ไปหลบใตศ้ าลเจ้าและไมไ่ ดร้ บั อันตรายใด ๆ รวมถึงพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ศาลก็ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่บางท่านก็เล่าว่าญี่ปุ่นได้เผาท ำลาย บ้านเรือนรวมทั้งศาลเจ้าทิ้ง แต่ปรากฏว่าเผาเทา่ ไหร่ก็ไม่ไหม้ จนเมื่อจบสิ้นสงครามโลกคร้ังที่สองก็มีชาวบ้าน มาถางที่แล้วพบว่ามีศาลเจ้าตั้งอยู่ ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้ทำนุบำรุงศาลเจ้า จนกลายเป็นสิ่ง ศักดิส์ ิทธ์คิ ู่ชุมชนและชาวบา้ นชมุ ชนตลิง่ ชัน ต้ังแตน่ ้ัน เป็นตน้ มา ต่อมาเริ่มมีผู้คนมาบนบาน ซึ่งบางคนก็เชื่อว่าสามารถช่วยคนที่ต้องการขายที่ดินให้สามารถ ขายได้ ราคาดี จนเม่ือถึงนายทองคำ เนียมศริ ิ ได้มาบนเพ่ือที่จะขายที่ดิน และก็สามารถขายได้กำไรมากจึงมาแก้บน โดย การสร้างศาลเจ้าพ่อจุ้ยขึ้นมาใหม่เป็นปูนทั้งหลังบนที่ดินของกรมศาสนา รวมทั้งได้สร้าง ลานอเนกประสงค์ ด้านล่างของศาล เพื่อเป็นศูนย์กลางให้กับชุมชนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยงบประมาณที่ใช้ในการสร้างครั้งนี้ 1,000,000 บาทเศษ รวมกับเงินที่เรี่ยไรตามความศรัทธาของชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2546 ซึง่ กอ็ ย่ใู นความดูแลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และไดแ้ ต่งต้ังใหล้ ูกชายนายทองคำ คือ นายสมาน เนียมศิริ เป็นผู้ดูแลต่อมา ในทุก ๆ ปีผู้ดูแลจะต้องเข้าประชุมร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการจัดการดูแลปกครองศาลเจ้า การดูแลเรื่องบัญชีทรัพย์สิน ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ความสะอาด รวมทั้งการอนุรักษ์ส่งเสริมการจัดกิจกรรมงานประจำปี และดูแลรักษาโบราณสถานอีก ดว้ ย 54
รปู ท่ี 2 : ศาลเจา้ พ่อจ้ยุ เขตตลิ่งชนั 1.3 ประเภทชมุ ชน /กลมุ่ / ประธาน กรรมการชุมชน ตามประกาศ กรุงเทพมหานคร ที่ ป.184/2535 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2535 ตามระเบียบ กรุงเทพมหานคร ว่าด้วยชุมชนและกรรมการชุมชน พ.ศ. 2534 ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน ได้รับการ จัดตัง้ เปน็ ชมุ ชน ประเภทชมุ ชนชานเมอื ง กล่มุ กรุงธนเหนือ ปจั จุบันมี นางลัดดาวัลย์ สายสน เปน็ ประธานชมุ ชน และมีกรรมการชุมชน จำนวน 7 คน รูปที่ 3 : ทางเข้าชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตล่ิงชัน 55
1.4 ขอ้ มูลประชากร ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน มีบ้านเรือนจำนวน 75 หลังคาเรือน มีประชากร 450 คน ครอบครัวส่วนใหญ่เป็นครอบครัวขยาย มีสมาชิกประมาณ 6 - 10 คน ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่มีภูมิลำเนา ดั้งเดิมอยู่กันมา 3 - 4 รุ่น ประกอบด้วย ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่และลูกหลาน แม้จะเป็นครอบครัวขยาย แต่ก็มี บางสว่ นที่ไมไ่ ด้พกั อาศยั อยใู่ นบ้านเดยี วกนั แต่ปลกู บ้านอยบู่ รเิ วณใกลเ้ คียงกนั 1.5 สภาพสงั คม / ภมู ิทศั น์ ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน เป็นชุมชนชานเมือง มีความแออัดบางส่วน เป็นพื้นที่ที่ราบต่ำ น้ำ ท่วมถึง เนื่องจากอยู่บริเวณริมคลองตลิ่งชัน มีประชากรแฝงอาศัยอยู่บ้านเช่าเป็นบางส่วน ชาวบ้านส่วนใหญ่ ทำอาหารรับประทานกันเอง จึงทำให้มีร้านอาหาร ร้านค้าในชุมชนค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับชุมชนอื่น ๆ ใน กรงุ เทพมหานคร ปัจจุบัน ภายในชุมชนมีทางเดินเท้าเป็นคอนกรีตตลอดทั่วทั้งชุมชน สะพานคอนกรีตข้ามลำน้ำ ระหวา่ ง หมู่ที่ 14 และหม่ทู ่ี 15 มีระบบสาธารณูปโภค ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ระบบนำ้ ประปา และระบบไฟฟ้า อย่างทั่วถึงทั้งชมุ ชน มีถังขยะตั้งอยู่ตามทางเดินอย่างทั่วถึง ภายในชุมชนมศี ูนยส์ ุขภาพชุมชนศาลเจา้ พอ่ จุ้ย มี อาสาสมัครสาธารณสุขเพื่อไว้ให้บริการรักษาและให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพแก่ผู้คนในชุมชน ศูนย์สุขภาพ ตั้งอยู่ที่บ้านของผู้นำชุมชน นอกจากนั้น ยังมีศาลเจ้าพ่อจุ้ย ซึ่งเป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนใน ชุมชน ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับคลองตลิ่งชัน บริเวณศาลเจ้าจะมีลานว่างสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และใช้ในกิจกรรมยามว่างของเด็กและเยาวชนในชุมชน จึงถือได้ว่า ศาลเจ้า พอ่ จุย้ เปน็ ศูนย์กลางของชมุ ชนทส่ี ามารถรวมผคู้ นในชมุ ชนใหม้ าดำเนนิ กจิ กรรมต่าง ๆ ของชุมชนกว็ า่ ได้ อีกทั้งวงดนตรีไทยของชุมชนยังได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากกรุงเทพมหานคร ให้เป็นหนึ่งใน มรดกภูมิปัญญาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประเภทสาขาศิลปะการแสดง โดย สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการ ท่องเท่ียว กรงุ เทพมหานคร ร่วมกับสำนักงานเขต และ สภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร รูปท่ี 4 : สภาพภูมทิ ัศน์ของชุมชน 56
1.6 อาชพี ของคนในชมุ ชน / เศรษฐกจิ อาชีพของคนในชุมชน ดั้งเดิมคือ การทำสวน ต่อมาเมื่อไม่มีที่ดินทำกินจึงปรับเปลี่ยนมาประกอบ อาชพี ทีห่ ลากหลายมากขน้ึ ไดแ้ ก่ รับจา้ ง คา้ ขาย พนักงานบริษัท ข้าราชการ และแมบ่ า้ น ชาวชมุ ชน ส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพคา้ ขายเปน็ อาชพี รอง เนือ่ งจากชาวชุมชนมีพ้ืนทีอ่ ย่ใู กล้ตลาดนำ้ ตลิ่งชัน ในวนั หยุดสุดสัปดาห์จะ นำสินค้าไปขายที่ตลาด ฐานะทางเศรษฐกิจของคนในชุมชนแปรผันตามการประกอบอาชีพ กล่าวคือ อาชีพ พนักงานบริษัทและข้าราชการ จะมีฐานะค่อนข้างดีถึงปานกลาง และกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาทาง เศรษฐกิจคือ กลุ่มแม่บ้านและรับจ้างบางชนิด เช่น ก่อสร้าง ซักผ้า เป็นต้น กลุ่มนี้จะมีฐานะทางเศรษฐกิจของ ครอบครัวไม่สงู นัก ความเปน็ อยู่ของคนกลุ่มหลังน้จี งึ ค่อนข้างลำบากและมีปัญหาทางเศรษฐกิจ 1.7 การนับถอื ศาสนา ชาวบา้ นส่วนใหญใ่ นชุมชน เปน็ คนไทย นับถือศาสนาพุทธ เป็นคนด้ังเดมิ ท่ีอยู่อาศยั มาหลายชั่วอายุ คน มีเพยี งหน่งึ ครอบครวั เทา่ น้ันทน่ี ับถือศาสนาอิสลาม คาดว่าเดิมอาจเป็นคนไทยหรือคนไทยเชื้อสายจีนที่อพยพ มาทำไร่ทำสวนกันตั้งแตส่ มัยสงครามโลกคร้ังที่ 2 มบี ุคคลภายนอกเขา้ มาอยู่อาศัยกันน้อยมาก เมื่อแต่งงานแล้วก็ จะปลูกบ้านอยู่ในที่ดินเดิม ทำให้มีความหนาแน่นเพิ่มมากข้ึนจนเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมามีการตัดถนนกาญจนาภิเษก และทางดว่ นเพิม่ ขน้ึ ทำให้ผูค้ นจากภายนอกยา้ ยถ่นิ ฐานเข้ามาอยใู่ นพ้นื ทข่ี องชมุ ชนมากขนึ้ จากสภาพบ้านเรือนทต่ี ั้งเรียงติดกนั ประกอบกับพืน้ ท่ีสว่ นใหญเ่ ป็นพื้นที่สว่ นบุคคลและก่อสร้างเป็น ที่อยู่อาศัยหมดแล้ว จึงไม่มีที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาเหมือนชุมชนอื่น มีเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ส่วนหนึ่งท่ี ปัจจุบันเปน็ ศนู ย์รวมทำกิจกรรมตา่ ง ๆ คอื ศาลเจ้าพ่อจ้ยุ ถึงแมจ้ ะไมม่ วี ดั เปน็ ศูนยร์ วม แตเ่ มอื่ ถงึ วันสำคัญทาง ศาสนากจ็ ะมารวมตวั กนั ทำกิจกรรมบริเวณศาลเจ้าพ่อจยุ้ อยู่เสมอ 1.8 กลมุ่ / ศูนย์ ท่ีกอ่ ตั้งข้นึ ในชุมชน ภายในชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ตลิ่งชัน ได้มีการจัดตั้งศูนย์ตา่ ง ๆ ขึ้นในชุมชน ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่าง กันไป แต่ทั้งหมดเป็นไปเพื่อช่วยให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยในแต่ละกิจกรรมของศูนย์ที่จัดขึ้นนั้น จะมี บุคคลในชมุ ชน และผทู้ เ่ี กีย่ วข้องรว่ มเป็นคณะกรรมการอยูด่ ้วย ซงึ่ ศูนย์และหน่วยงานที่เกิดข้ึนในชุมชน ไดแ้ ก่ o กลุ่มผูส้ ูงอายุ o กลุ่มดนตรไี ทย / กลองยาว o กลมุ่ ชมรม TO BE NUMBER ONE o กลมุ่ อาสาสมัครสาธารณสขุ o กลุ่มสภาเด็กและเยาวชน o กองทุนแม่ของแผ่นดนิ o กล่มุ นกั แสดงโขน o ศนู ยเ์ รยี นรู้การจัดการภายในและประสานภายนอก o เครอื ข่ายประชาคมชุมชนตลงิ่ ชันต้านภัยยาเสพติด 57
o ศูนยเ์ ฝา้ ระวงั ภยั และยาเสพติด 1.9 หน่วยงาน / องคก์ ร / สถานศกึ ษา / สถานทสี่ ำคัญ ท่ีอยู่ในชมุ ชน หรือใกล้เคียง • หน่วยงาน / องคก์ ร / สถานศึกษา ท่ีอย่ใู นชุมชน ได้แก่ o ที่ทำการชุมชน o ศาลเจ้าพ่อจุ้ย • หนว่ ยงาน / องค์กร / สถานศึกษา ที่อยใู่ กลช้ มุ ชนและใหก้ ารสนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื ชมุ ชน ได้แก่ o สำนกั งานเขตตล่ิงชัน o หอ้ งสมดุ เคลื่อนที่ ส่งเสรมิ การอา่ น ตัง้ อยู่ตลาดน้ำตลงิ่ ชนั o ศูนยบ์ รกิ ารสาธารณสขุ ตลง่ิ ชัน o วัดตล่ิงชัน o โรงเรียนวดั ตลิ่งชัน o โรงเรยี นโพธิสารพิทยากร o ตลาดนำ้ ตล่ิงชนั o ศนู ย์การศึกษานอกโรงเรยี น แขวงฉมิ พลี 2. ความเข้มแข็งของชุมชน 2.1 มาตรการการทำงานด้านยาเสพติด มาตรการการทำงานด้านยาเสพติด ของชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน เป็นในลักษณะของการใช้ อิทธิพลทางสังคมในการลงโทษ โดยจากอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากชุมชนนี้จะมีความเป็นชุมชนบ้านสวน ชาวบ้าน ส่วนใหญ่อยู่กันอย่างสงบสุข ปัจจุบันไม่มีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในปี พ.ศ. 2546 ได้มีบุคคลภายนอก เข้ามาอาศัยอยู่ร่วมในชุมชน และมีพฤติกรรมการเป็นผู้ค้ายา ชาวบ้านในชุมชนจะแสดงความรังเกียจ โดยการไม่ คบค้าสมาคมด้วย และสอนลูกหลานไม่ให้ยุ่งเกี่ยว ไม่พูดคุยร่วมด้วย และหัวหน้าชุมชนจะเข้าไปคุยอย่างเปิดอก จนกระทง่ั บคุ คลนน้ั ไมส่ ามารถอย่รู ว่ มกบั ชมุ ชนได้ ตอ้ งยา้ ยตนเองออกไปจากชมุ ชนในทส่ี ุด ในปัจจุบัน ยังคงใช้มาตรการวิถีการอยู่รว่ มกันในชมุ ชน คือ การใช้อิทธิพลสังคม เป็นเครื่องมือกดดัน ให้ใฝ่ดี ให้หลีกเล่ียง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและผู้ใช้ยาเสพตดิ โดยจะใช้ระบบครอบครัวเฝ้าระวังและควบคมุ พฤติกรรมลูกหลานของตนเองก่อนในเบื้องต้น ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของยาเสพ ตดิ แต่หากพบวา่ เปน็ ลกู หลานของคนในชุมชนเขา้ ไปยุ่งเกย่ี วกบั ยาเสพติด คนในชมุ ชนจะช่วยกันดแู ล ว่ากล่าว ตกั เตอื น และแจ้งประธานหรอื หัวหน้าชุมชนในการดำเนินการขั้นต่อไป ทัง้ นร้ี ปู แบบการดำเนินงานด้านยาเสพ ตดิ ในชมุ ชนศาลเจา้ พอ่ จยุ้ ตลงิ่ ชนั เป็นดังนี้ 58
• มาตรการการปอ้ งกัน o ส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และสมาชิกในชุมชน ได้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แก่ ตนเองและครอบครัว ชุมชน สังคม o การปลูกจิตสำนึกในการป้องกันปัญหายาเสพติด โดยการให้ความรู้ จากวิทยากร ผูเ้ ชีย่ วชาญ o ดึงกลุ่มวัยรุ่นมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งสอดแทรกความรู้ ทัศนคติ และทักษะชีวิตใส่เข้า ไป เช่น กิจกรรมวันวาเลนไทน์ ทำให้เด็ก ๆ คุ้นเคยกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน และเป็น การปลูกฝังใหร้ ักชมุ ชน เพอ่ื ดูแลชุมชนในรนุ่ ต่อไป • มาตรการดา้ นการบำบัดรักษา o ให้โอกาส ผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา แทนการนำเข้าสู่กระบวนการ ยตุ ธิ รรม รวมถงึ ดูแลช่วยเหลือให้สามารถกลับมาใช้ชวี ติ ในสังคมไดอ้ ย่างปกตสิ ขุ o หากพบเห็นว่ามีผู้ติด / ผู้เสพยาเสพติด อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน จะเป็นเครือข่าย แรกที่ให้บริการบำบัดรักษาและประสานศูนย์บริการสาธารสุข 49 ตามขั้นตอนการ บำบัดรกั ษาตอ่ ไป • มาตรการการเฝ้าระวงั ด้านการคน้ หาผเู้ สพ/ผู้ตดิ ยา o ใชร้ ะบบเครือญาติ พี่น้อง คอยเฝา้ ระวงั และควบคมุ พฤติกรรมลูกหลานของตนเอง o สรา้ งแกนนำกลุ่มตา่ ง ๆ ในชุมชน ไดแ้ ก่ กลุม่ ผู้สูงอายุ อาสาสมคั รเฝ้าระวังภัยและยาเสพ ตดิ กรุงเทพมหานครชุมชนศาลเจ้าพอ่ จุ้ย กลมุ่ ชมรม TO BE NUMBER ONE อาสาสมคั ร สาธารณสุขชุมชน เพ่ือหาข่าวสารและเฝา้ ระวังปญั หายาเสพติดในชมุ ชน o การรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยยาเสพติดฯ ตรวจเวรยามและ สอดส่องดูแล โดยมีจิตอาสาเพื่อชุมชน คณะกรรมการชุมชน กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่ม บุคคลต่าง ๆ ในชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแลบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาชุมชน โดยติดตาม และเฝ้าระวงั อย่างตอ่ เนือ่ ง o การจัดเวทีประชาคมในชุมชนเพื่อค้นหาผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยบูรณาการร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานเขตตลิ่งชัน ศูนย์บริการสาธารณสุข 49 วัดชัยพฤกษ มาลา สถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชนั และชมุ ชนเครอื ขา่ ยในพ้นื ทีเ่ ขตตลง่ิ ชัน • มาตรการการสร้างเครือขา่ ย / การมีส่วนร่วมกิจกรรมของชุมชน o การเชิญภาคีตา่ ง ๆ มาเขา้ รว่ มกิจกรรมของชมุ ชนอยู่เสมอ ทำใหเ้ กดิ ความค้นุ เคยกับคน ในชุมชน 59
o ชุมชนมีการสร้างสัมพันธภาพกับหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการสร้าง ความเข้มแข็งให้กบั ชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น สำนักงานเขต สาธารณสุข ตำรวจ ทหาร ชุมชนใกล้เคยี ง เปน็ ต้น จากรปู แบบการดำเนินงานดา้ นยาเสพตดิ ของชุมชนศาลเจา้ พ่อจุ้ย ตลง่ิ ชัน จะพบว่า ส่งิ ที่โดด เด่นและประสบความสำเรจ็ คือ • มาตรการด้านการป้องกัน โดยการสร้างกิจกรรม ส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการดูแล ชมุ ชนต้งั แตย่ งั เด็ก รวมถึงครอบครวั ชว่ ยกันเป็นหเู ป็นตาในการระแวด ระวงั ถอื ว่าเป็นการ มาตรการการจดั การกบั ปัญหายาเสพตดิ ท่ีอาจจะกิดขน้ึ ได้อย่างแท้จรงิ และยง่ั ยนื 2.2 ปจั จัยผลกั ดนั /สนับสนุนให้สำเรจ็ ปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้การดำเนินการด้านยาเสพติดของชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขตตลิ่งชัน ประสบ ผลสำเร็จ และเป็นชมุ ชนเขม้ แขง็ คือ • ดา้ นตัวบุคคล / ผนู้ ำ o มีประธานชุมชน และคณะทำงานในชุมชนที่เข้มแข็ง ทุ่มเท จริงจังในการดำเนินงาน ทำให้ ไดร้ บั การยอมรบั และเคารพ และยินดใี หค้ วามรว่ มมือในกจิ กรรมต่าง ๆ o ประธานชุมชน มีบทบาทในการเป็นหวั หน้าชมุ ชน เป็นผูน้ ำการจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชมุ ชน และอาสาสมัครสาธารณสุข จะมีหน้าที่ ดูแลความสงบสุข ความเรียบร้อยของชุมชน ประสานชุมชน อย่างใกล้ชิด (เคาะประตูบ้าน) โดยยังคงให้ความเคารพนับถือ และมีอดีตกำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้รู้ รากเหงา้ ของชุมชน เปน็ ทปี่ รึกษาในการดูแลชุมชน • ด้านสถาบันครอบครัว เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดันให้เกิด ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน การอบรมเลี้ยงดู การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การเป็น สมาชิกทด่ี ขี องชุมชนให้กับคนรุ่นหลัง การสง่ ต่อวธิ คี ิด จติ วิญญาณ การสืบสานอาชีพ วัฒนธรรมประเพณีแบบ รนุ่ ต่อรุน่ ทำให้ชมุ ชนยงั คงสภาพของการเป็นชุมชนสงบสุข ไม่ข้องเกี่ยวยาเสพติดอยู่ได้อยา่ งตอ่ เนื่อง • สถาบันศาสนา /วัด /ปราชญ์ชาวบ้าน มีบทบาท ในการเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ วัฒนธรรม ประเพณีการสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ ความกตัญญู การให้กำลังใจ การมีความเชื่อในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การรักษาสัจจะ ส่วนหนึ่งคือ ไม่ไปยุ่งกับอบายมุข การมีเทศนาสอนคนในชุมชน เวลากลางคืนในวันพระ หรือ ชว่ งที่มกี ารจัดกจิ กรรมตา่ ง ๆ เช่น วันแม่ เปน็ อกี ส่วนของการสรา้ งความเขม็ แข็งในชุมชน • การมีศาลเจ้าพอ่ จุ้ย และต้นไทร อายุกว่ารอ้ ยปี เปน็ ศนู ย์รวมทางจิตใจของสมาชิกในชุมชน เป็นที่ เคารพ เปน็ ความเช่อื ท่ที ุกคนกจ็ ะมองวา่ ถ้าเราทำไมด่ ี ก็จะถูกลงโทษ มีการปลกู ฝังให้รักษาสจั จะ 60
• สมาชิกในชุมชน มีมุมมอง และทัศนคติที่ไม่ดีต่อยาเสพติด สมาชิกรู้รัก สามัคคี พึ่งพาอาศัยเอ้ือ อาทรตอ่ กนั ชว่ ยเหลือกนั และให้ความร่วมมอื เปน็ อย่างดี • การมีหน่วยงานสนับสนุนจากภายนอก รอบด้าน ทั้งด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และด้าน สุขภาพ • ดา้ นการศึกษา o ปัจจุบันพ่อแม่เริ่มเป็นคนรุ่นใหม่ มีการศึกษาระดับหนึ่ง ก็จะปลูกฝังลูกที่กำลังศึกษาว่า ต้องเรียนให้สูงกว่าพ่อแม่ ซึ่งปัจจุบันเด็กในชุมชนมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น กำลังศึกษาในระดับ มัธยม ปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ปลูกฝังในเรื่องการแข่งขันทางการศึกษา ต้องเรียน โรงเรยี นอนิ เตอร์ หรือนานาชาติ หากเขา้ มหาวิทยาลัยตอ้ งเปน็ มหาวิทยาลยั ท่ีได้รบั การยอมรับ o การปลูกฝังให้รักการอ่าน โดยการจัดทำห้องสมุดเคลื่อนที่ในชุมชน ทั้งที่ตลาดน้ำ และ บรเิ วณศาลเจ้าจุ้ย เปน็ การให้การศกึ ษาทางอ้อมแก่เยาวชน เปน็ การเพิ่มกิจกรรมพี่สอนน้อง จากการ ท่มี รี นุ่ พีช่ ักชวนให้นอ้ ง ๆ มาอา่ นหนงั สอื ทำให้คนรุ่นตอ่ ไปไดร้ บั การปลูกฝังเรอ่ื งการอ่าน การแสวงหา ความรู้ไปโดยปริยาย อีกทั้งเนื้อหาสาระในหนังสือที่อ่านจะช่วยในการปรับระบบความคิด วิสัยทัศน์ มุมมองต่อโลกภายนอกของเดก็ ได้ • ด้านอาชีพ / เศรษฐกิจ o นอกเหนือจากการที่คนในชุมชนประกอบอาชพี รับราชการ รัฐวิสาหกิจ งานสำนักงานแลว้ ชมุ ชนมีการส่งเสรมิ ให้เกดิ มีพืน้ ท่ีในการคา้ ขาย การมีรายได้ ทำให้คนในชุมชนไม่มใี ครว่างงาน ไม่มีคน ไม่มีรายได้ จึงไม่มีปัญหาเรื่องของหนี้นอกระบบ ส่งผลให้ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรืออาชีพ ทุจริตอนื่ ๆ o คนในชุมชนจะทำกับข้าวกันเอง ไม่มีร้านขายข้าวในชุมชน ทำให้ประหยัดเรื่องค่าใช้จ่าย และเป็นการดูแลสุขภาพตนเองในเรื่องการรับประทานอาหาร อีกทั้งการทำกับข้าว การรับประทาน อาหารร่วมกันทีบ่ า้ นยังเป็นการสง่ เสรมิ ความสมั พนั ธใ์ นครอบครัว การใช้เวลาร่วมกนั • ด้านโอกาสทางสงั คม o ชุมชนสนับสนุนให้เยาวชนในชุมชนในการเข้าร่วมกิจกรรม การประกวดต่าง ๆ เป็นการ เปิดโลกทัศน์ให้กับเยาวชน เป็นการสร้างคุณค่า และความภูมิใจให้เกิดขึ้นในตนเอง ภูมิใจในชุมชน ของตนเอง เช่น การแสดงโขน ในงานใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ 9, การออกรายการ 7 สีคอนเสิร์ต, การนำเอาความสามารถด้านดนตรี การแสดงของตนไปแสดงตามหน่วยงานต่าง ๆ, การประกวด มิสแกรนด์ ทบู ีนัมเบอรว์ นั เปน็ ต้น 61
• ด้านทัศนคตกิ ารดำเนนิ ชีวิต o ปลูกฝังทัศนคติเรื่องอาชีพที่สุจริต การให้ลูกหลานมาช่วยผู้ปกครองในการหารายได้ช่วง วันหยุด เสาร์ อาทิตย์ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เรื่องของการเห็นคุณค่าของการหาเงิน การใช้เงิน และมี ทัศนคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต มีความเห็นอกเห็นใจผู้ปกครองในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัวและส่ง ตนเองเรยี น ก็จะมีแรงจูงใจในการใฝ่ดี มุ่งความสำเรจ็ ในชวี ิต o ปลูกฝังในเรื่องการรักครอบครัว ให้ความเคารพผู้ใหญ่ พ่อแม่ และเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน ชุมชน การช่วยกันดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ทำให้สถาบันครอบครัวยังคงอยู่ และมีความสำคัญ อันจะ เป็นส่วนชว่ ยดูแล ผลักดนั ใหเ้ ยาวชนรว่ มทำกิจกรรมพฒั นาตนเองในดา้ นอ่ืน ๆ ในอนาคต o ทัศนคติที่ดีต่อการเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในชุมชน การซึมซับบรรยากาศของการ ช่วยเหลือกัน การสัมผัสกับความสุขจากการได้เจอกัน ได้คุย ได้เล่น ได้หยอกล้อกันขณะทำกิจกรรม ช่วยพัฒนาเยาวชนในเรื่องของสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ความเป็นมิตร และความห่วงใยไต่ถามสาร ทุกข์กัน สง่ ผลให้การช่วยกันสอดสอ่ ง เป็นหเู ปน็ ตาในการปอ้ งกันยาเสพตดิ ในชุมชนเข้มแข็งข้ึน o การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทง้ั ตอ่ ตนเอง ครอบครวั และชุมชน • มีกระบวนการ / กิจกรรมในชุมชน อย่างต่อเนื่อง การมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับเยาวชนในชุมชน เป็นการช่วยให้เยาวชน และผู้เข้าร่วมกิจกรรม เห็นคุณค่าของการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ และไม่มี เวลาในการไปใหค้ วามสนใจ หรือเก่ียวขอ้ งกับยาเสพตดิ ไดแ้ ก่ o โครงการกลองยาวเยาวชนเด็กดีศรตี ลิง่ ชนั ต้านภยั ยาเสพติด o กจิ กรรมสง่ เสรมิ การออมแบบเศรษฐกิจพอเพียง o กิจกรรมการส่งเสริมดนตรีไทย o กิจกรรมการแสดงโขนเด็ก o กจิ กรรมสง่ เสรมิ ศลิ ปะประดิษฐ์อย่างสรา้ งสรรค์ o กจิ กรรมงานวันเด็กแห่งชาติ o กิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย o โครงการสงเคราะห์ผ้เู ดอื ดร้อนในชุมชน o โครงการเลกิ เหลา้ เข้าพรรษา 2.3 ปจั จัยทเี่ ปน็ อุปสรรคตอ่ การทำงาน/ ปัญหาขดั ขวาง ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคให้การดำเนินการด้านยาเสพติดของชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ตลิ่งชัน คือ สภาพทาง ภูมิศาสตร์ของชุมชน มีทางเข้าทางเดียว แต่สามารถมีทางออกได้หลายทาง และการมีพื้นที่ติดต่อกับชุมชนอื่น ๆ หลายชมุ ชน ทำให้พื้นทชี่ มุ ชนเปน็ จดุ ผ่านสำหรับบุคคลจากนอกชมุ ชนมาทำเร่ืองราวไม่ดีให้เกดิ ในชุมชนได้ 62
3. จากการประชมุ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ คร้งั ที่ 10 ได้พจิ ารณารายงานเรอ่ื งชมุ ชนเป็นศูนย์กลาง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีมติ ดงั ตอ่ ไปน้ี • ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเจ้าภาพหลัก ประสาน เชื่อมโยง ฝ่ายปกครองท้องที่ องค์กรชุมชน องค์กรศาสนา สถาบันครอบครัว องค์กรสตรี เด็กและเยาวชน สถาบันการศึกษา ศูนย์ยุติธรรม ชุมชน ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ภาคประชาสังคม องค์กรภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วม ขบั เคลื่อนการดำเนนิ งานป้องกนั ดแู ล และแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ในชมุ ชน ดังน้ี o ดำเนนิ การปรบั ทัศนคตใิ ห้เกดิ ในชุมชน จากการศึกษาพื้นที่ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุย้ เขตตลิ่งชัน พบว่า มีการดำเนินการปรบั ทศั นคติ ให้ เกิดขนึ้ ในชมุ ชน คือ 1) มีการสร้างความเชือ่ มัน่ ในพลังของชุมชนที่จะปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาดว้ ยตนเอง ดังจะ เห็นได้จากสมาชิกในชุมชน มีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อคำว่าพลังชุมชนเป็นพลงั ที่สำคัญในการป้องกันและ แก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยตนเอง โดยมีความเชื่อว่า ไม่มีใครรู้ปัญหาในชุมชนได้ดีกว่าคนในชุมชนเอง ประชาชนตอ้ งช่วยกันเป็นหูเป็นตา กลา้ คิด กลา้ เสนอปัญหา กล้าพูดความจริง เพื่อใหร้ ้ปู ัญหาทแี่ ทจ้ ริง และจะ ไดแ้ ก้ไขได้ตรงจุด ซ่งึ วธิ ที ่ีได้ผลดีและคมุ้ คา่ คือการใหช้ มุ ชนเป็นศูนยก์ ลางในการแกไ้ ขปัญหายาเสพติด 2) ทัศนคติที่ว่าผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดมีคุณค่าและเป็นทุนของสังคม จะเห็นได้จาก สมาชิก ในชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย มีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อผู้เสพ / ผู้ติดยาในทางบวก มองว่าคนเหล่านี้เป็น ทรัพยากรมนุษย์คนหนึ่งที่มีคุณค่าต่อสังคม และชุมชน จะเห็นได้จากแนวคิดของชุมชนที่ว่า การพัฒนา ศักยภาพแกนนำในการให้คำปรึกษาปัญหายาเสพติดเบื้องต้นในชุมชน การบำบัดรักษายาเสพติด ดำเนินการ อยภู่ ายใต้นโยบาย “ผเู้ สพคือผู้ปว่ ย” คือการใหโ้ อกาส ผเู้ สพยาเสพตดิ เข้าสกู่ ระบวนการบำบัดรักษา แทนการ นำเข้าสกู่ ระบวนการยุตธิ รรม การใหค้ วามเอ้ืออาทร ให้อภัย ใหโ้ อกาส รวมถึงการช่วยเหลือ ท่ีเขาจะกลับมาสู่ การใช้ชวี ิตในชุมชนไดอ้ ยา่ งปกตสิ ุข 3) ให้เชื่อม่ันว่าการป้องกันและแก้ไขปัญหาในทุกระดับ จะลดปัญหาได้ยั่งยืนกว่าการ ปราบปราม จะเห็นได้จาก สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพ ติดในทุกระดับและเชื่อว่า มีความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าการปราบปราม และเห็นได้อย่างชัดเจนวา่ ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย มีความเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และเชื่อมั่นในการป้องกันมาตลอด ทำให้ปัจจุบันจึงไม่มียา เสพติดร้ายแรงในชุมชน จึงยังไม่มีการปราบปรามยาเสพติดเกิดขึ้น ทุกระดับตั้งแต่ครอบครัว เพื่อนบ้าน โรงเรยี น และชุมชนต่างใหค้ วามร่วมมือกันอยา่ งแข็งขันในการป้องกัน สอดส่องดแู ลชมุ ชน 4) ให้ความสำคัญแก่สถาบัน เห็นได้จาก สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้ มีทัศนคติที่ดี และเชื่อ ว่า ครอบครัวมีความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้ความเชื่อและแนวคิดว่า สถาบัน ครอบครัวเป็นสถาบันท่ีมีบทบาทหนา้ ที่ในการป้องกันปัญหายาเสพติดโดยตรง พ่อ แม่ คือ บุคคลสำคัญในการ อบรม เลี้ยงดู สั่งสอนลูก ต้องประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีที่ เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีให้กับลูก เป็นที่ปรึกษา 63
ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง สร้างความอบอุ่นให้กับสมาชิกในครอบครัว เพื่อสมาชิกในครอบครัวจะได้ไม่ไปข้อง เกี่ยวกับยาเสพตดิ โดยเชื่อว่า ครอบครัวเราตอ้ งดกี อ่ น จงึ จะไปสอนคนอ่ืนได้ o สำรวจ คัดกรองเพอ่ื บง่ ชี้ปญั หาในพน้ื ท่ชี ุมชน ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ตลิ่งชัน มีการจัดเวทีประชาคมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกใน ชุมชน ร่วมระดมความคดิ เพื่อป้องกนั ปญั หายาเสพติดไมใ่ ห้แพรร่ ะบาดเขา้ มาในชมุ ชน เพือ่ ค้นหาผู้เกยี่ วข้องกับ ยาเสพติด โดยบูรณาการร่วมกับหนว่ ยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานเขตตล่ิงชัน ศูนย์บรกิ ารสาธารณสขุ 49 วัด ชยั พฤกษมาลา สถานีตำรวจนครบาลตล่ิงชัน และชุมชนเครอื ขา่ ยในพืน้ ทีเ่ ขตตลิง่ ชนั แตป่ จั จบุ นั เนื่องจากไม่มีปญั หาเรื่องยาเสพติด จึงเปน็ การประชุมเรื่องสุขภาพ และเร่ืองอ่ืน ๆ มากกวา่ เชน่ การพูดคุยกันถงึ ปัญหาที่เกดิ ขึ้นในชมุ ชน และท่จี ะติดตามมาแก้ไขทบทวนวธิ ีปฏบิ ตั ิท่ีผ่านมา มีจุด แข็ง จุดอ่อน อีกทั้งยังทำหน้าที่ประสานงานและดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานราชการ องค์กรและหน่วยงาน เอกชนตา่ ง ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งเพ่ือก่อให้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ประชาชนในชุมชน เสริมสรา้ งความสามัคคี โดยการมีส่วน รว่ มของประชาชน เปน็ แกนนำในการพัฒนาชมุ ชนทั้งด้านกายภาพ เศรษฐกจิ และสังคม และดา้ นอ่ืน ๆ o กำหนดให้มีประเด็นเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้อยู่ในข้อตกลง กติกา ระเบยี บ และธรรมนญู สขุ ภาพของชมุ ชนอย่างครอบคลมุ ชุมชนนไ้ี มม่ ีข้อตกลง กติกา หรือระเบียบ ทีช่ ัดเจน แต่เป็นในลกั ษณะ กำหนดให้เป็นข้อห้าม ของคนในครอบครัว คนในชุมชน คือ ห้ามคบค้าสมาคมกับคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อย่างเด็ดขาด หาก พบว่ามีใครทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั ยาเสพตดิ จะไม่พดู คยุ ไม่รว่ มทำกิจกรรม ไม่มองหนา้ ดว้ ย o ดำเนินการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติดและการใช้ยาในทางที่ผิดในครอบครัว สถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชน และสื่อสังคมออนไลน์ สร้างกลไกในการร้องขอความช่วยเหลือ ตลอดจนการเฝา้ ระวังและจัดการสภาพแวดลอ้ มเพอ่ื ลดปัจจยั เสี่ยงในชมุ ชน คอื ในการสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติดนั้น ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย จะเป็นการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการให้ความรู้ การใช้เวลาหลังเลิกเรียนทำกิจกรรมอื่น ๆ การปลูกฝังทัศนคติเกี่ยวกับยาเสพติด การ ถ่ายทอดจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง และมีกลไกในการร้องขอความช่วยเหลือในการป้องกันหรือแก้ไขปัญหายาเสพติด ในชุมชน ดงั นี้ ▪ มกี ารตดิ ต้งั ตู้รับฟังความคิดเห็น เพ่ือให้คนในชุมชนใชเ้ ปน็ ชอ่ งทางในการส่ือสาร การส่ง ข่าวและการแสดงความคดิ เห็น ▪ คนในชุมชนจะทราบเบอรโ์ ทรศัพท์ของหัวหนา้ ชมุ ชน จึงสะดวกในการแจง้ ขา่ วสาร การ ขอความช่วยเหลอื ต่างๆ 64
มีการจัดสภาพแวดลอ้ มเพือ่ ลดปจั จยั เสี่ยง ดังนี้ ▪ มีกล้องวงจรปิดตรงทางเข้า - ออก และซอยทางเดินในชุมชน สามารถดูได้จาก จส. 100 และที่ สถานตี ำรวจนครบาลตลิ่งชนั ▪ มีกิจกรรม Big Cleaning ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ให้มีสภาพสะอาด ร่มรื่น กำจัดเศษ หญา้ ก่ิงไม้ขา้ งทางท่ถี กู ตดั ทง้ิ ไว้ออกไป ปรับสองข้างทางให้เป็นพ้นื ทีส่ ีเขียว ▪ การขจดั มุมอบั ลบั ตาไม่ให้มีพ้ืนที่ มุมเสย่ี งหรือจดุ เสี่ยงในชมุ ชน ▪ มีแผนการปรับปรุงฝาผนังข้างทางตรงทางเดินเข้าชุมชน โดยการเพิ่มรูปภาพการเล่า เรื่องของชมุ ชน เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง กำแพงมีชีวิต โดยให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วม และได้รับความ อนุเคราะห์จากทีมงานอาศรมศลิ ปม์ าช่วยออกแบบให้ ▪ การจัดให้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรม การเล่นกีฬา การออกกำลังกายสำหรับคนในชุมชน โดยใชพ้ ืน้ ทีบ่ ริเวณศาลาศาลเจา้ พ่อจุ้ย o ดำเนินการเชิญชวน ผูเ้ สพ ผูต้ ดิ ยาเสพตดิ มาทำความเขา้ ใจ และคัดกรอง เพื่อชว่ ยเหลอื ตาม ความประสงค์อย่างเหมาะสมในแตล่ ะบุคคล ในอดีตที่ยังมีเรื่องของยาเสพติดในชุมชน เมื่อปรากฏตัวผู้เสพ ผู้ที่เคยเสพและ ได้รับการ บำบัดแล้ว หัวหน้าชุมชน จะเข้าไปพูดคุยกับบคุ คลนั้น และผู้ปกครอง ด้วยตนเอง ร่วมกันวางแผนชีวิตและให้ คำแนะนำวา่ เม่ือออกมาแลว้ จะทำอะไร อยา่ งไรต่อไป มีงานอะไรท่ีสามารถทำได้ ทำไม่ได้ เน่ืองจากผลกระทบ จากการมีประวตั ิการเปน็ ผเู้ สพ ใหผ้ ปู้ กครองร่วมรับรู้ และมกี ารให้สญั ญาต่อหน้าศาลเจ้าพอ่ จุ้ย ว่าจะไมก่ ลับไป ใช้อีก และในส่วนของการใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านในชุมชนนั้น หัวหน้าชุมชนจะใช้วิธีการบอกกล่าว พูดคุยกับ ชาวบ้านในชมุ ชนใหเ้ ข้าใจ ใหเ้ ป็นกำลังใจใหก้ ับบุคคลน้ัน ในฐานะลูกหลานของชุมชน โดยจะใชเ้ วลาในชว่ งการ พบเจอกันที่ศาลเจ้า พูดคุยกัน โดยหัวหน้าชุมชนพูดรับรองให้ นอกจากนั้นยังมีการเชิญให้บุคคลนั้นเข้าร่วม กิจกรรมชุมชน เช่น กิจกรรมวันแม่ จัดงาน ให้กราบแม่เพื่อเป็นการขอขมา และสร้างความสัมพันธ์ใน ครอบครัวใหเ้ ข้มแขง็ และมีบรรยากาศท่ีดีขน้ึ o ติดตาม ดูแลช่วยเหลือผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดและกลุ่มเสี่ยง ในด้านสุขภาพ อาชีพตามความ ถนัด การศึกษา และเปิดโอกาสทางสังคมอย่างต่อเน่ืองและยัง่ ยืน เพอ่ื ให้สามารถพึง่ พาตนเองและอย่รู ว่ มกันได้ ในชมุ ชน เนื่องจากในปัจจุบันชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ยนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด จึงยังไม่มีแผนการ ติดตาม ดูแลช่วยเหลือผู้ติดยา ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง มีการวางระบบการป้องกันอย่าง ยั่งยืนใหก้ บั คนในชมุ ชน โดยการปลกู ฝงั เรอ่ื งการป้องกนั มากกว่า 65
o จัดกระบวนการแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับองคก์ ร ภาคีเครอื ขา่ ยและชุมชนพ้นื ที่อืน่ ๆ เพื่อหาแนว ทางแก้ไขและสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน โดยประสานให้ สถาบันการศึกษา หน่วยงานวิชาการในและ นอกพน้ื ท่ีสนับสนนุ องค์ความรู้ตลอดจนการศึกษาวิจัยดา้ นน้ีใหค้ รอบคลุมและต่อเน่ือง ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ตลิง่ ชนั มกี ิจกรรมแลกเปลยี่ นเรียนรกู้ ับองค์กรต่าง ๆ อย่เู สมอ จะเห็นได้ จากการเข้ามาศึกษาดูงานยาเสพติดในพื้นที่จากหน่วยงานภายนอก สถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งยังออกไปร่วม กจิ กรรมทีห่ น่วยงานภายนอกจดั ข้นึ ดว้ ย 3.1 ช่องทางการทำงานผ่าน สช. ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ผ่านสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เพราะการดำเนินงานของชุมชนที่ผ่านมาน้ัน เปน็ การดำเนนิ งานตามกลไกเดิมที่มีอยทู่ ั้งของสำนักงานเขต 3.2 ปัญหา ข้อขดั ข้องทำให้ไม่สามารถดำเนนิ การได้ - 3.3 ทางแกไ้ ข/ ทางออกท่ีอยากแนะนำ - “ชุมชนเป็นศนู ย์กลางในการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด” ชุมชนมีการสร้างการรับรู้ให้คนในชุมชนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหายาเสพติด รวมถึงผลกระทบที่คน ในชุมชนจะได้รับ ทั้งต่อชีวิตทรัพย์สิน ครอบครัว เครือญาติ ชุมชนและสังคม เป็นการกระตุ้นให้คนในชุมชน เกิดความเข้าใจ ความสำนึก และความตระหนักถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกันในฐานะเจ้าของปัญหา ซงึ่ จะสง่ ผลให้การขบั เคล่อื นการดำเนนิ งานปอ้ งกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชมุ ชนเกิดผลอย่างย่ังยนื “พลังชมุ ชนเป็นพลงั ทสี่ ำคัญในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ดว้ ยตนเอง” สมาชิกในชุมชน มีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อคำว่าพลังชุมชนเป็นพลังที่สำคัญในการป้องกันและ แก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยตนเอง โดยมีความเชื่อว่า ไม่มีใครรู้ปัญหาในชุมชนได้ดีกว่าคนในชุมชนเอง ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา กล้าคิดกล้าเสนอปัญหา กล้าพูดความจริง เพื่อให้รู้ปัญหาทีแ่ ท้จริง และจะ ได้แกไ้ ขไดต้ รงจดุ ซึ่งวธิ ีท่ีไดผ้ ลดีและคมุ้ คา่ คือการใหช้ ุมชนเปน็ ศนู ยก์ ลางในการแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ดงั จะเห็นไดจ้ ากคำกล่าวแสดงความคิดเห็นของสมาชิกในชุมชน บางส่วน ดังน้ี คณุ พศั ราวตรี ทุนดี หรือ คณุ เอ๋ ฝ่ายพัฒนาชมุ ชน ไดแ้ สดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั พลัง ชมุ ชนไวว้ ่า “อนั นัน้ คอื จรงิ เลย รอ้ ยเปอรเ์ ซ็นต์ เพราะถามว่าเจ้าของชุมชนเอง เคา้ ก็อยู่ในชุม ของเค้าเอง มนั อยู่ในบ้านของเค้า ยังไงก็ต้องเค้า มนั ไม่สามารถให้คนนอกพนื้ ท่มี าทำอะไรให้ เค้าได้ เพียงแต่ว่าคนนอกเข้ามาในส่วนของการซัพพอร์ต การส่งเสริม การสนับสนุน การ 66
ขับเคล่อื น การประสาน แตภ่ ารกิจทุกอย่างคอื กลุ่มของเค้า รัฐกส็ ำคญั ในสว่ นบทบาทของเค้า ตำรวจกป็ ราบปราม เขตกด็ แู ลสว่ นของการป้องกัน แต่การมสี ว่ นร่วมเพื่อใหเ้ ข้มแข็งต้องเป็น กลุ่มของเค้า เค้าต้องเข้มแข็งกันเอง ไม่ใช่เข้มแข็งเพราะเราไป เค้าต้องเข้มแข็งด้วยชุม เพียงแต่ว่าเขต เหมือนเป็นตัวขับเคลื่อน ตัวไปผลักดัน ตัวไปส่งเสริมอะไรอย่างนี้ เป็นตัว บูรณาการใหเ้ คา้ มารวมกลุ่มกัน” ร.ต.อ.วสันต์ มลอยู่พะเนา ตำรวจชุมชน กล่าวว่า “ชุมชนจะมีพลัง ความเข้มแข็ง อย่างเดียวไม่ได้ คนในชุมชนต้องมีความรู้ด้วย ต่อให้มีความร่วมมือ มีความเข้มแข็งแต่ถ้าคน ในชุมชนไมม่ ีความรเู้ รื่องยาเสพติดก็ไมเ่ กิดประโยชน์อะไร” นอกจากนจ้ี ากการพดู คุยกับกลมุ่ เยาวชนในชมุ ชน เด็ก ๆ ได้แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ กันดังน้ี เอริ ท์ มคี วามคิดเห็นว่า “ผมว่าเราเร่ิมที่ตวั เองก่อน แลว้ ค่อยพัฒนาจากตัวเอง บอกต่อ ๆ ไปเรือ่ ย ๆ แลว้ ช่วยกนั ทำกจิ กรรมคนละอยา่ งสองอยา่ ง น่าจะช่วยได้” พุท มีความคิดเห็นว่า “เห็นด้วยค่ะ เพราะถ้าเราเอาชุมชนเป็นตัวหลัก แล้วยิ่งใน ชุมชนมีเด็กหรอื เยาวชนเยอะ ย่ิงบอกได้ ชุมชนก็จะไมม่ ียาเสพติด ไม่มอี ะไร” โบ๊ท มีความคิดเห็นว่า “เห็นด้วย เพราะว่าเด็กก็อยู่ในชุมชน ผู้ใหญ่ก็อยู่ในชุมชน พอ เรารวมกลุ่มกัน สร้างความไวว้ างใจแกก่ ัน พอเราเขม้ แขง็ ยาเสพติดก็จะไม่มี หรือวา่ น้อยลง” “ผู้เสพ/ผู้ตดิ ยาเสพตดิ กเ็ ป็นทรัพยากรมนุษยท์ ่ีมีคุณคา่ ตอ่ ชมุ ชน สงั คมได้” สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อผู้เสพ/ผู้ติดยาในทางบวก มองว่าคนเหล่านี้เป็น ทรพั ยากรมนุษยค์ นหน่ึงทม่ี คี ุณคา่ ต่อสังคมและชุมชน จะเห็นได้จากแนวคดิ ของชุมชนท่วี า่ การพฒั นาศกั ยภาพ แกนนำในการให้คำปรึกษาปัญหายาเสพติดเบ้ืองต้นในชุมชน การบำบัดรักษายาเสพติด ดำเนินการอยู่ภายใต้ นโยบาย “ผู้เสพคือผู้ป่วย” คือการให้โอกาส ผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา แทนการนำเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรม การให้ความเอื้ออาทร ให้อภัย ให้โอกาส รวมถึงการช่วยเหลือ ที่เขาจะกลับมาสู่การใช้ ชีวิตในชุมชนได้อยา่ งปกตสิ ุข ดงั จะเห็นได้จากคำกล่าวแสดงความคิดเหน็ ของสมาชิกในชุมชน บางส่วน ดงั น้ี คุณพัศราวตรี ทุนดี พัฒนาชมุ ชน กลา่ วว่า “ถ้าเป็นผเู้ สพ มองวา่ ผู้เสพมีองค์ประกอบ หลายอยา่ ง หนงึ่ ความรไู้ มม่ ี รเู้ ท่าไม่ถึงการณ์ โดนหลอก โดนชักจูง ใช้เพือ่ การทำงาน แต่ผู้ค้า เนี่ย เป็นโดยสำนกึ ตอ้ งได้ ๆ ฉะน้ัน เรียกว่าจิตอ่ะ มนั แยกกนั ผ้คู า้ ผขู้ ายเค้ามจี ุดมุ่งหมายของ เคา้ ว่าอยา่ งน้ี แต่ผูเ้ สพบางทีเค้าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอะไรเลย อยา่ งทบ่ี อก เครียด อยากรู้ อยาก ลอง แต่ถ้าบอกว่า ขอเสพ ขอดูดด้วย อยากติด ยังไม่เคยเจอนะ เว้นเสียแต่ว่า บ่อย ๆ เข้ามัน ซึมเข้าไป ตรงนั้นแหละที่จะเลิกไม่ได้ แต่ผู้ค้าน่ะ ตั้งเป้าหมายตั้งแต่ทีแรก ว่าจะต้องได้ตังค์ เพราะฉะนั้นความคิดของเค้ามนั แตกต่างกันตั้งแตจ่ ดุ เร่มิ ต้นแลว้ ” 67
ร.ต.อ.วสันต์ มลอยูพ่ ะเนา ตำรวจชมุ ชน พดู ถงึ มุมมองของตำรวจต่อผู้เสพวา่ “เม่ือจับ คนเสพได้ก็ดี คนค้าก็ดี เรามองว่าเค้าก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีโอกาสในการทำผิดได้ และเม่ือ เราทำการจับกุมได้แล้วก็จะมีการพูดคยุ ว่าทำไมจึงทำเช่นนั้น หาสาเหตุของการทำผดิ ซึ่งอาจ มีปัญหามาจากการตกงานหรือปัญหาอื่น ๆ และไม่บังคับให้ซัดทอด เพราะหน้าที่ของการสืบ หาคือตำรวจ ไม่มีสิทธิไปบังคับ ขืนใจเขาให้ทำหรือตอบอะไรตามใจตำรวจ จากนั้นหลังจาก ผ่านกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ก็จะมองหาลู่ทางในการส่งต่อให้เค้าได้ไปมีการ ประกอบอาชีพท่สี จุ รติ ” เอิร์ท (ตัวแทนกลุ่มเยาวชน) มองว่า “ถ้าเราส่งเค้าบำบัด เราอาจจะได้คนดีกลับมา เพิ่มอีกหนึ่งคน บางทีเค้าอาจจะมาเผยแพร่ว่าการที่เค้าเข้าไป มันลำบากขนาดไหน อาจจะมา พูดให้คนข้างนอกฟัง แลว้ เค้าจะสามารถไปบอกคนที่ติดไดว้ า่ ให้เลิก เอาตัวเองเป็นบทเรียนให้ คนอื่น” “การป้องกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ในทกุ ระดบั สามารถสร้างความยงั่ ยืนในการแกไ้ ขปัญหาได้ดกี ว่าการปราบปราม” สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกระดับและ เช่อื ว่า มีความย่ังยืนในการแกไ้ ขปัญหาได้ดกี วา่ การปราบปราม จะเห็นไดอ้ ย่างชดั เจนวา่ ชมุ ชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย มี ความเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และเชื่อมั่นในการป้องกันมาตลอด ทำให้ปัจจุบันจึงไม่มียาเสพติดร้ายแรงในชุมชน จึงยังไม่มีการปราบปรามยาเสพติดเกิดขึ้น ทุกระดับตั้งแต่ครอบครัว เพื่อนบ้าน โรงเรียน และชุมชนต่างให้ ความรว่ มมือกันอย่างแขง็ ขันในการป้องกัน สอดส่องดแู ลชมุ ชน ในส่วนของมุมมองความคิดเห็น ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชุมชน มีผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการ ป้องกันและปราบปรามไว้ ดังนี้ คณุ พัศราวตรี ทุนดี พฒั นาชุมชน กลา่ วว่า “การปอ้ งกนั เป็นบนั ไดขน้ั แรก ถา้ บนั ไดข้ัน แรกคุณทำไม่สมบูรณ์ คุณสกปรก แล้วคุณจะไปทำความสะอาดขั้นที่สอง ขั้นที่สาม ขั้นที่ส่ี ยังไง แตถ่ า้ ขนั้ แรกเราป้องกันอยู่แล้ว กไ็ มน่ า่ จะเปน็ ประเด็น การป้องกันเปน็ จุดเริ่มต้น แต่การ ปราบรามเป็นเร่อื งของผูค้ า้ ใหไ้ ปปราบผู้ค้าเถอะ ไมใ่ ชม่ าปราบคนทีเ่ สพ” ร.ต.อ.วสันต์ มลอยู่พะเนา แสดงความคิดเห็นในมุมของตำรวจว่า “เห็นด้วยกับ ข้อความนี้ การให้ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ การมีผลงานที่ดีในหน้าที่ของตำรวจ ไม่ใช่จำนวนของ การจับกุมได้ แต่คือการที่มีผู้ค้าและผู้เสพลดลง ในความคิดเห็นส่วนตัว หากชุมชนมีความรู้ การปอ้ งกนั จะเกิดขึน้ มาก และย่อมดีกวา่ การปราบปรามเสมอ” 68
“ครอบครัวมีความสำคญั ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ” สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้ มีทัศนคติที่ดี และเชื่อว่าครอบครัวมีความสำคัญในการป้องกันและแก้ไข ปญั หายาเสพติด ภายใตค้ วามเชอื่ และแนวคดิ ว่า สถาบนั ครอบครวั เปน็ สถาบันท่ีมบี ทบาทหนา้ ทใี่ นการป้องกัน ปัญหายาเสพติดโดยตรง พ่อ แม่ คือ บุคคลสำคัญในการอบรม เลี้ยงดู สั่งสอนลูก ต้องประพฤติปฏิบัติเป็น แบบอยา่ งทดี่ ี เพอ่ื สร้างทัศนคตทิ ่ีดีให้กับลูก เปน็ ทปี่ รกึ ษาใหค้ ำแนะนำทีถ่ ูกต้อง สรา้ งความอบอนุ่ ให้กับสมาชิก ในครอบครัว เพือ่ สมาชิกในครอบครวั จะได้ไม่ไปข้องเกย่ี วกบั ยาเสพติด โดยเชอ่ื วา่ ครอบครวั เราต้องดีก่อน จึง จะไปสอนคนอ่ืนได้ ดงั จะเหน็ ได้จากคำกล่าวแสดงความคดิ เหน็ ของสมาชิกในชมุ ชน บางสว่ น ดงั น้ี คุณพัศราวตรี ทุนดี พัฒนาชุมชน กล่าวว่า “จริง ๆ ต้องบอกว่าครอบครวั สำคัญที่สดุ เลย ถ้าครอบครวั คยุ กนั แบบเขา้ ใจ แบบพ่ีแบบน้อง พ่อห่วงใยลกู ลูกเขา้ ใจพ่อแม่ อยา่ งเน้ยี มนั เหมือนเป็นยาชนิดดีเลยที่อยู่ในใจของเราไม่ให้ไปในทางอื่น สมมุติพ่อทำในทางที่ดี ลูกเห็นก็ ภูมิใจในตัวพ่อ คนอื่นมาพูด ลูกไม่ฟังแล้วเพราะว่าพ่อเราดีที่สุด หรือถ้าพ่อแม่ทำตัวไม่ดีแต่ยัง สอนลูกในทางทดี่ ี มนั กย็ งั โอเคนะ” ร.ต.อ.วสันต์ มลอยูพ่ ะเนา ตำรวจชมุ ชน กล่าววา่ “ครอบครัวมีความสำคัญกับเยาวชน ถ้าครอบครัวมีความรู้ มีเวลาในการดูแลกัน การมีอาชีพในการเลี้ยงปากท้อง ถ้าสิ่งเหล่านี้ดี ปญั หายาเสพติดก็จะไม่มี หรอื มนี ้อยลง” นอกจากน้ี เหล่าเยาวชนรนุ่ ใหม่ของชมุ ชน ยงั มีความคดิ เห็นว่า โบ๊ท กล่าวว่า “.. ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าครอบครัวแนะนำไปทางที่ดี เราก็จะไป ในทางทดี่ ี” พุท กล่าวว่า “ครอบครัวเป็นเหมือนจุดกระจายเลยว่า ยาเสพติดเป็นอย่างนี้นะ แล้ว ครอบครวั เรา ตอ้ งไมต่ ดิ ยาเสพตดิ กอ่ น ถงึ จะกระจายไปสู่นอ้ ง ๆ คนอืน่ ได้” ปลมื้ กลา่ ววา่ “ คิดอย่างนอ้ ง ๆ ครับ เพราะถา้ ครอบครัวเราตดิ ยาเสพตดิ เราก็จะไป สอนคนอื่นไมไ่ ด”้ 69
บทสรปุ 1. จดุ แข็งของชมุ ชน จากการศึกษาบทเรียนและพัฒนากลไกการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 10 “ชุมชนเป็น ศูนย์กลางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด” กรณี พื้นที่กรุงเทพมหานคร : ชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย เขต ตลิ่งชัน พบว่า ชุมชนได้มีการดำเนินการ ประสาน เชื่อมโยง ฝ่ายปกครองท้องที่ องค์กรชุมชน องค์กรศาสนา สถาบันครอบครัว องค์กรสตรี เด็กและเยาวชน สถาบันการศึกษา ศูนย์ยุติธรรม ชุมชน ภาคีเครือข่ายภาค ประชาชน ภาคประชาสังคม องค์กรภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงาน ป้องกัน ดูแล และแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ได้ตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ตั้งแต่การสร้าง ทัศนคติ ความเชื่อว่าชุมชนสามารถป้องกัน และแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง เห็นคุณค่าของผู้เสพ ผู้ติดยา เชื่อว่า การป้องกันนั้นยั่งยืน และให้ผลที่ดีกว่าการปราบปราม และให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครั วในการเป็น สถาบนั หลกั ของการป้องกัน แกไ้ ขปญั หายาเสพติด มีการจัดเวทีประชาคม เพื่อสำรวจ คัดกรองปัญหาในพื้นที่ชุมชน มีการดำเนินการป้องกันและสร้าง ภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติดและการใช้ยาในทางที่ผิดในครอบครัว สถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชน และ ส่ือสงั คมออนไลน์ มีกลไกในการร้องขอความช่วยเหลือ ตลอดจนการเฝา้ ระวงั และจดั การสภาพแวดลอ้ มเพื่อลด ปัจจัยเสี่ยงในชุมชน มีการดำเนินการเชิญชวน ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด มาทำความเข้าใจ และคัดกรอง เพ่ือ ช่วยเหลือตามความประสงค์อยา่ งเหมาะสมในแตล่ ะบุคคล รวมถึงการติดตาม ดูแลชว่ ยเหลอื ผเู้ สพ ผู้ติดยาเสพ ติดและกลุ่มเสี่ยง ในด้านสุขภาพ อาชีพตามความถนัด การศึกษา และเปิดโอกาสทางสังคมอย่างต่อเนื่องและ ยง่ั ยืน เพอ่ื ให้สามารถพึ่งพาตนเองและอยูร่ ว่ มกันไดใ้ นชุมชน นอกจากนี้ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชมุ ชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาเป็นการ ดำเนนิ การในลกั ษณะบูรณาการเข้าไปในภารกจิ ปกติ เช่น การให้สขุ ศกึ ษาของอาสาสมัครสาธารณสขุ เยาวชน และประชาชนทั่วไป ก็ใช้การบรู ณาการเนื้องานป้องกันยาเสพติดเข้าไปในการให้สุขศึกษาแต่ละครัง้ รวมถึงใน กระบวนการพฒั นาผนู้ ำเยาวชนโดยไมใ่ ชง้ บประมาณแตอ่ ย่างใด ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยมุ่งเน้นให้ชาวชุมชนในพื้นที่ คิดเอง ทำเอง และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับแห่งวิถีทางแห่งประเทศไทยที่ใช้ แก้ปญั หาในชมุ ชนได้ทุกเรอ่ื ง มีการระดมทรัพยากรของหนว่ ยงานทั้งภาครฐั และเอกชนเข้ามามีสว่ นรว่ ม โดยอาศัยการประสานงาน และส่งเสริมให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน อย่างใกล้ชิด และกำหนดบทบาทในการดำเนินงานอยา่ งเหมาะสม มีการจัดกระบวนการแลกเปล่ียนเรียนร้กู ับ องค์กร ภาคีเครือข่ายและชุมชนพื้นที่อื่นๆเพื่อหาแนวทางแก้ไขและสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน โดย 70
ประสานให้ สถาบนั การศกึ ษา หน่วยงานวชิ าการในและนอกพ้ืนท่ีสนับสนุนองค์ความรู้ตลอดจนการศึกษาวิจัย ดา้ นนี้ให้ครอบคลมุ และตอ่ เน่ือง ดงั ต่อไปนี้ คอื - ชมุ ชน/ภาคประชาสังคม ชุมชนไดร้ ับการสนับสนุน จากภาคประชาสังคม ดังน้ี o ได้รับการอนุเคราะหใ์ ห้ยืมหนุ่ ละครเล็ก จากคณะโจหลุยส์ จำนวนสต่ี วั ในการจดั แสดง ละครเล็กของชุมชน o ได้รับการสนับสนุนเคร่ืองดนตรี จากเขตในกจิ กรรมแสดงดนตรี o ไดร้ ับทนุ จากตลาดนำ้ จำนวน 5 ทนุ เพื่อมาซ่อมแซมชุดการแสดงโขน และเปน็ ทนุ การศึกษา o มวี ิทยากรทเี่ ป็นปราชญ์ชาวบา้ นใหค้ วามร้แู ก่เยาวชนในชุมชน - หนว่ ยงานรัฐ ป.ป.ส. และ ปปส. กทม. สำนักงานเขตตล่ิงชัน ฝ่ายพฒั นาชุมชน ศนู ยบ์ รกิ าร สาธารณสุข สถานีตำรวจตลงิ่ ชนั (ตำรวจชุมชนสัมพนั ธ์) สำนกั งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ หรือ ป.ป.ส มีบทบาทดงั นี้ o มวี ิทยากรที่เปน็ ปราชญ์ชาวบ้านใหค้ วามรแู้ ก่เยาวชนในชมุ ชน o สนับสนุนงบประมาณในการจดั แข่งขนั กฬี าตา้ นยาเสพติดในชุมชน o สนบั สนุนงบประมาณในการดำเนินงานป้องกนั ยาเสพตดิ ในชุมชน o เปน็ ท่ปี รึกษาการดำเนนิ งาน สำนกั งานเขต มีบทบาทดังนี้ o สนบั สนุนเร่อื งการปอ้ งกนั ปัญหา ยาเสพติดและอ่ืนๆ o มกี ล่มุ สภาเด็กและเยาวชน รวมถึงการมเี พจของกลมุ่ ในการประชาสมั พนั ธ์กจิ กรรมต่าง ๆ ท่ี เด็ก ๆ ไดม้ ีการปฏิบตั ิ เป็นการกระตนุ้ สรา้ งความภาคภูมใิ จใหก้ ับเดก็ และคนในชุมชน o มีวทิ ยากรจากสำนักงานเขตมาช่วยสอนดนตรใี ห้เยาวชนในชุมชน ฝา่ ยพฒั นาชุมชน มบี ทบาทดังน้ี o ดูแลเรื่องทั่วไป ทางกายภาพ สังคม เศรษฐกิจ จิตใจ อนามัย ในทุกมิติที่เป็นเรื่องของ คุณภาพชีวติ o เปน็ ผสู้ นบั สนนุ ข้อมลู ให้คำแนะนำ คำปรึกษาชมุ ชน (แตช่ มุ ชนต้องทำเอง) o ในสว่ นของเน้อื งานยาเสพตดิ น้ันจะเป็นผ้ดู แู ล ประสานงานเรื่องการประกวดตา่ ง ๆ 71
o เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องยาเสพติด และ การนำเครือข่ายของฝ่ายพัฒนาชุมชน ลงไปใน ชมุ ชน (เป็นตวั กลางในการบูรณาการ) o ประสานงานกบั หน่วยงานท่ีชุมชนเขา้ ไม่ถึง ศนู ยบ์ รกิ ารสาธารณสขุ ตลิง่ ชัน มบี ทบาท ดังน้ี o บทบาทการให้ความรู้ด้านสุขภาพเพิ่มเติมในเรื่องที่ชุมชนไม่สามารถทำเองได้ เป็นการให้ ความรู้ ในโรงเรียนในกลุ่มเด็กวัยรุ่น มีแผนงานดำเนินงาน โปรแกรมเสริมสร้างทักษะชีวิต ใหก้ ับนักเรียนในทกุ ๆ ปี ชว่ งภาคการศกึ ษาแรก โดยมกี ำหนดใหเ้ สรจ็ ส้นิ ในหน่งึ ปี o บทบาทในการบำบัดรักษา มี 2 รูปแบบคือ 1) เมื่อผู้บำบัดสมัครใจเข้ามาหาเอง และ 2) เม่อื ไดร้ บั การสง่ ต่อมา ปัจจุบนั เปน็ การบำบดั โดยใชเ้ ป็นเมตทรกิ สโ์ ปรแกรม o ให้การสนับสนุนการตรวจหาสารเพติดให้กับหน่วยงาน องค์กรในชุมชน ที่ประสานเข้ามา ถ้าในกรณีของชุมชนจะเป็นการทำงานเชงิ รกุ คือการออกหน่วยในชมุ ชน o บทบาทในการสร้าง หา เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขเพิ่ม เพื่อช่วยดูแล ค้นหาผู้เสพ และโนม้ นา้ วให้เค้าสมคั รใจมาบำบดั โดยจะมีทีมพยาบาลที่รบั ผดิ ชอบเก่ียวกบั ยาเสพติดเข้า ไปคุย โดยจะยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ แต่จะอยู่ใน กลมุ่ การบำบดั กอ่ น ทหาร / ตำรวจ มีบทบาท คือ เข้ามาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้วย ทำให้ ภาพลักษณ์ และสัมพันธภาพของทหาร ตำรวจกับคนในชุมชน เป็นความสัมพันธ์ที่ดี และการเข้า มาร่วมกิจกรรมของทหาร และตำรวจ จึงเป็นเสมือนการปฏิบัติหน้าที่ สอดส่องดูแลความสงบ เรยี บร้อยไปโดยอตั โนมัติ ตำรวจชุมชน มบี ทบาท ดังน้ี o ให้ความรู้ข้อกฎหมาย โทษของยาเสพติด การป้องกัน ในรูปแบบของ ครูแดร์ (DARE) ไป สอนในโรงเรียน ปัจจุบันมีครูแดร์ 2 คน โดยการนำหลักสูตรมาจากสหรัฐอเมริกาสอน สปั ดาห์ละ 1 คร้งั เป็นเวลา 1 เทอม o การรว่ มเฝา้ ระวัง การปราบปรามผู้กระทำผิด o สอนเกย่ี วกับทักษะตา่ ง ๆ หน้าเสาธง (การจราจร การขับข)่ี วันละ 5 นาที 72
- หน่วยงานวชิ าการ มหาวิทยาลัย, โรงเรยี น ศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรยี น มบี ทบาท ดังน้ี o มีบทบาทในการเป็นแหล่งเรียนรู้ ร่วมดูแล สนับสนุน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน ช่วง เปิดภาคเรยี น o วางแผนการทำงานร่วมกับชุมชน, ศูนย์ 49 และฝา่ ยพัฒนาชุมชน 2. ปจั จยั คุกคาม (ประชากรแฝง) ปัจจัยที่อาจเกิดเป็นปัญหา หรือส่งผลให้เกิดปัญหาต่อชุมชน อย่างหนึ่งคือ การมีประชากรแฝง หรือ ประชากรที่ซ่อนเร้นในชุมชน ซึ่งส่งผลต่อการเป็นปัจจัยคุกคามต่อชุมชน ประชากรแฝง ในชุมชนศาลเจ้าจุ้ย ตล่ิงชนั เกิดจากการมาเช่าบ้านในพน้ื ทช่ี ุมชน ซง่ึ อาจเปน็ ปัจจยั คกุ คามได้ ได้นี้ - เนื่องจากชุมชนย่านตล่ิงชัน มีสภาพทางเศรษฐกิจท่ีดี จึงมีประชากรแฝงอาศัยอยู่จำนวนหนึง่ ซึ่ง การยา้ ยถน่ิ เข้า - ออกของประชากร ทำใหข้ าดฐานข้อมลู ท่แี ท้จริงของคนในชุมชน - เนื่องจากประชากรแฝงสว่ นใหญ่ จะยา้ ยแตท่ ีอ่ ยู่ ไมไ่ ดย้ า้ ยทะเบยี นบา้ นตามมา ทำให้เอกสารสิทธิ์ การรักษา สวัสดิการต่าง ๆ ยังคงอยู่ในพื้นท่ีกำเนดิ ทะเบียนบ้านเดิม เมื่อมาอยู่ในชุมชน จึงทำให้เสียสิทธิก์ าร รกั ษา และสวสั ดกิ ารต่าง ๆ ไป - เมื่อมีการเลือกตั้งผู้แทน หรือ ผู้นำชุมชน จะไม่ได้รับการให้ความสำคัญจากประชากรแฝง เนื่องจากการไม่มีสิทธิ์ออกเสียงแสดงความคิดเห็น หรือในการเลือกตั้ง และการไม่ได้รับผลกระทบจากการ เลอื กตง้ั นน้ั ทำให้เขาเหลา่ นน้ั ไม่ใหค้ วามรว่ มมือกบั แนวทางการปฏบิ ตั ิ ในชุมชนที่อาศัยอยู่เทา่ ทีค่ วร - ในการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ จะถูกจัดสรรตามความเหมาะสม ตามจำนวน ประชากรในรายชื่อสำมะโนประชากร ในพื้นที่นั้น ๆ แต่ประชากรแฝงที่ไม่มีรายชื่อ ทำให้ตัวเลขจำนวน ประชากรที่อาศัยอยู่จริง มีมากกว่างบที่ได้รับการจัดสรรมา ทำให้การวางแผนพัฒนาชุมชนเปน็ ไปได้ยาก เกิด เป็นปญั หาสาธารณูปโภค ความปลอดภัยในชวี ิตและทรัพย์สิน อตั ราการแย่งงาน แยง่ ทอี่ ยอู่ าศยั จึงเกดิ ข้นึ 73
74
บทเรียนและพฒั นากลไกการขบั เคล่ือนมติสมัชชาสขุ ภาพแหง่ ชาติครง้ั ที่ 10 “ชุมชนเปน็ ศูนยก์ ลางในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด” กรณี พื้นที่กรุงเทพมหานคร : ชมุ ชนกองขยะ 1. ขอ้ มลู พ้ืนฐานชุมชน 1.1 ทีต่ งั้ ชุมชน ชุมชนกองขยะหนองแขม ตั้งอยู่บนที่ดินของมูลนิธิเกษตราธิการและที่ดินเอกชน ที่บริเวณ 51/3 หมู่ที่ 10 ซอยเพชรเกษม 104 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร มีเนื้อท่ี 13 ไร่ มีทางเข้าออกได้ 2 ทาง คอื ซอยอสี าน 1 และซอยอสี าน 2 มอี าณาเขตติดตอ่ ดังนี้ ทิศเหนือ ติดทด่ี ินวา่ งเปล่าของเอกชนซ่ึงเป็นกองขยะเกา่ ของกรงุ เทพมหานคร ทศิ ใต้ ตดิ โรงงานกำจัดสงิ่ ปฏกิ ลู ซ่ึงเคยเป็นกองขยะเก่า ทศิ ตะวนั ตก ตดิ โรงงานกำจัดสิ่งปฏิกูลซงึ่ เคยเปน็ กองขยะเก่า ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ถนนสาธารณะ ประกอบไปด้วยชมุ ชนตา่ ง ๆ ท้งั ท่เี ป็นบ้านถาวรและ เพิงพักช่วั คราว รปู ที่ 1 : แผนทแ่ี สดงที่ต้ังชมุ ชนกองขยะ หนองแขม ที่มา: รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด.สำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ หลักสูตรวิทยาการเสพติด สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหดิ ล ,2559.
1.2 ประวัติชุมชน ชุมชนกองขยะหนองแขม เป็นชุมชนเกิดใหม่ ที่เกิดจากการบุกรุก บนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ จาก การทยอยอพยพเข้ามาทำงานหาของเก่าจากกองขยะของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ พ.ศ. 2510 ซึ่งในขณะนั้น เป็นพื้นที่ว่างเปล่าของเอกชนและของมูลนิธิเกษตราธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจัดสรร ให้กับ ขา้ ราชการ แตเ่ จา้ ของทีด่ ินไมไ่ ด้เข้ามาใชป้ ระโยชนเ์ น่ืองจากอยู่ใกล้กองขยะ มีสภาพเป็นพน้ื ทร่ี าบลุ่ม นำ้ ท่วม ขังตลอดทั้งปี มีพงแขมขึ้นอยู่มากตามริมหนองน้ำ และเป็นพื้นที่ที่กรุงเทพมหานครได้นำขยะมากองพักไว้ ก่อนทจี่ ะนำไปทิ้งทอ่ี ำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ต่อมา เทศบาลธนบุรีเริ่มนำขยะเข้ามาเททง้ิ บริเวณกโิ ลเมตรที่ 14 (หลงั สถานีโทรทัศนส์ ชี ่อง 3 ใน ปจั จุบัน) มีการจำกัดการทิ้งขยะทดี่ ินแดงและให้นำไปทิ้งท่ีอ่อนนชุ แทน แตร่ ถขยะส่วนใหญ่ทั้งของธนบุรีและ กรุงเทพฯ มักจะนำขยะมาเทที่หนองแขมบริเวณกิโลเมตรท่ี 18 เพราะเห็นว่าเป็นชานเมืองการจราจรไม่ ตดิ ขดั ในปี พ.ศ. 2516 ทางสำนักงานกำจดั ขยะมูลฝอยและสิง่ ปฏิกลู (ส.ม.ส.) ได้ซื้อที่ดินบริเวณนั้นเพ่ิม อีกประมาณ 24 ไร่ เพื่อรองรับขยะทีเ่ พิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสร้างโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยเพิ่มขึน้ อกี 4 โรง หนึง่ ในน้ันคอื โรงงานกำจดั ขยะมูลฝอยหนองแขม ในช่วงปี พ.ศ. 2516-2517 กองขยะหนองแขมมีปริมาณขยะมากถึง 3,200 ตัน/วัน กระทั่งช่วง ปลายปี 2520 โรงงานกำจัดขยะมูลฝอยหนองแขมสามารถเปิดดำเนินการกำจัดขยะได้ในปริมาณ 160 ตัน/ วัน ต่อมากรงุ เทพมหานครได้มีคำสัง่ ให้โรงงานกำจัดขยะมูลฝอยดนิ แดงหยดุ ทำการ เพือ่ ปรบั ปรุงสถานท่ีเป็น ที่พักอาศัย สวนสาธารณะและศูนย์เยาวชน ทำให้รถขยะจากสำนักงานเขตต่าง ๆ ที่เคยเข้ามาเทขยะที่ โรงงานดนิ แดงเปลย่ี นไปเทท่ีโรงงานหนองแขมแทน ส่งผลใหป้ รมิ าณขยะมีมากเกินขดี ความสามารถท่ีโรงงาน จะรับได้ ต้องเทกลางแจ้งเพ่ือรอการย่อยสลายตามธรรมชาติ จึงทำให้ผู้ประกอบอาชีพเก็บของเก่าจากกอง ขยะ ทยอยอพยพเขา้ มามากขน้ึ ประมาณปี พ.ศ.2526 ชาวบ้านท่ีประกอบอาชีพเก็บของเก่าจากกองขยะ มีมากขึ้น บ้างก็อพยพ มาจากชุมชนที่มอี าชีพเก็บขยะในเขตกรุงเทพมหานคร บ้างกม็ าจากจดั หวดั ใกล้เคยี ง และภาคอสี าน เพ่ือเก็บ คัดแยกสิ่งของจากกองขยะ เช่น พลาสติก แก้ว ยาง โลหะ เสื่อน้ำมัน ฯลฯ แล้วนำไปขาย ส่วนหนึ่งได้มาอยู่ อาศยั ท่นี ่โี ดยปลูกสร้างเพิงพักและบ้านเรือนชว่ั คราวในบริเวณใกล้เคียง เป็นบา้ นชัน้ เดียว ทำจากเศษวัสดุ ไม้ และ สังกะสีเก่าๆ บางส่วนก็สร้างเพิงพักอาศัยบนกองขยะ ด้วยเศษไม้ เศษขยะ ที่หาได้ เพื่อความสะดวกใน การประกอบอาชีพ กลายเปน็ ชมุ ชนแออัด ปี พ.ศ. 2533 สำนักงานเขตหนองแขมได้เข้ามาทำการสำรวจ ชุมชน แต่ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนา เพราะเป็นที่ดินบุกรุก ซ่ึงก็คือพื้นที่ชุมชนในปัจจุบัน สภาพของชุมชนในช่วงเวลานั้นคือ ช่วงหน้าฝนจะมีน้ำ เจิง่ นองไปทว่ั บางแห่งก็ทว่ มขังเป็นน้ำครำ ส่งกลนิ่ เหม็น ถนนเป็นดินลูกรัง ขยะครวั เรือนถูกท้ิงลงใต้ถุน เกิด เป็นปญั หาท่ีเก่ยี วพนั กบั โครงสรา้ งการบริหารงานของกรงุ เทพมหานคร เปน็ ปญั หาเชิงระบบ เกดิ การถูกไล่ร้ือ 76
ที่อยู่อาศัย ปัญหาสุขภาพและสุขภาวะของคนในชุมชน ขาดสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยเฉพาะน้ำและไฟฟ้า การเข้าถงึ สิทธิในการรกั ษาพยาบาล การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานของเยาวชน และปัญหายาเสพตดิ รูปท่ี 2 : สภาพชุมชน ท่ีอยู่อาศัย ในอดีต ทม่ี า : ศูนย์คุณธรรม (องค์กรมหาชน) : องคค์ วามรู้ชุด องคก์ รคณุ ธรรม สรา้ งคนดี สังคมดี คุณบรรจง แซ่อ้ึง ซ่ึงอาศัยอยู่ใกลช้ มุ ชนและมองเหน็ ปัญหาต่าง ๆ ตลอดมา อาสาเข้ามาช่วยแก้ไข โดยเริ่มจากการร่วมมือกับ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ อารามพระหฤทัย มูลนิธิศุภนิมิต โรงพยาบาลเซ็นต์ หลุยส์ และศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิก ที่ทำงานช่วยเหลือชุมชนอยู่ก่อนแล้ว ในด้านความเป็นอยู่ด้าน สุขภาพของสมาชิกในชมุ ชน และการศกึ ษาของเยาวชน โดยรว่ มกบั ชุมชนในเขตหนองแขมจำนวน 11 ชุมชน รวมตัวกันตั้งเป็นเครือข่ายทางสังคมหนองแขมขึ้น ได้รับการช่วยเหลือและการพัฒนาจากคณะกรรมการ คาทอลิกเพื่อการพัฒนา ศูนย์สังคมพัฒนา อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยคุณบรรจง เป็นประธานเครือข่าย และในฐานะของประธานเครือข่ายหนองแขมและแกนนำของชุมชนกองขยะ คุณบรรจงและคณะทำงานใน ครั้งนัน้ ไดเ้ ข้าพบเอกชนเจ้าของทีด่ ินและมูลนธิ ิเกษตราธิการ เพ่ือเจรจาขอเช่าท่ีให้ชาวบ้านได้อาศัยปลูกบ้าน ช่ัวคราว เพือ่ แก้ปัญหาเรือ่ งการเป็นชุมชนบุกรุกและการไล่ร้ือจากเจ้าของทด่ี นิ จนในทีส่ ดุ สามารถตกลงกันได้ จากนั้นจึงขยายเครือข่ายเพื่อขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่าง ๆ ให้มาช่วยเหลือชุมชนโดยเริ่มจาก ปัญหาเร่งดว่ นก่อน คอื ปญั หาโรคพษิ สุนัขบ้าแพร่ระบาดในชมุ ชน ไดต้ ดิ ต่อกับเขตหนองแขมให้ส่งเจา้ หน้าที่ท่ี เก่ียวขอ้ งเข้ามาดำเนนิ การแก้ไขและดูแล ขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลเซนต์หลยุ ส์ เข้ามาตรวจรักษาและ จ่ายยาใหก้ ับชาวบา้ นในชุมชนดว้ ย ปัญหาเร่งด่วนลำดับต่อมาคือ การมีน้ำท่วมขังส่งกลิ่นเหม็นและการสัญจรไปมาไม่สะดวก คุณ บรรจงกับคณะทำงานได้ติดต่อขอรับบริจาคหิน ดิน จากเขตหนองแขมและหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและ เอกชนเพื่อถมและปรับที่ในชุมชนให้สูงขึ้น ทำถนนให้สะดวกแก่การสัญจรไปมา ขอบริจาค ไม้ลังมาต่อเป็น บา้ นชัว่ คราว จากนั้นจึงแก้ปัญหาเรื่องการจา่ ยค่าน้ำประปาในราคาสงู กว่าความเป็นจริง โดยขอให้ศูนย์สังคม และพัฒนาเป็นผู้ดูแลเรื่องน้ำ ย้ายโอนจากเอกชนมาดำเนินการเองจากตุ่มละ 10 บาท มาเป็นตุ่มละ 5 บาท เพื่อบรรเทาความเดอื ดร้อน ในปี 2538 ชุมชนมีปญั หายาเสพติดรุนแรง มีคนขายและตดิ ยาเสพตดิ คร่ึงชมุ ชน มีผู้ที่ถูกจับกุมถึง 40 คน จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการขจัดปัญหา ทำให้ปัจจุบันปัญหายาเสพติดลดความรุนแรงไป 77
มาก จนเป็นชุมชนตัวอย่างของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่สามารถแก้ปัญหายา เสพตดิ ได้โดยไมใ่ ชค้ วามรุนแรง ในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จ เยี่ยมชุมชนและทรงงานมูลนิธิคุณพุ่ม ทรงประทานโล่ที่ระลึกให้กับบุคคลต่าง ๆ ที่ประกอบคุณงามความดี ให้กับชุมชน และทรงประทานความช่วยเหลือแก่ชมุ ชน หลายด้าน เช่น ตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาแก่เด็กด้อย โอกาสในชุมชน โครงการพัฒนาอาชีพรีไซเคิล และโครงการบ้านร่มเย็นคุณพุ่ม ในพระอุปถัมภ์ สร้างศูนย์ กจิ กรรมของเยาวชน ในอำเภอนครชยั ศรี จังหวดั นครปฐมข้ึน เพ่อื สรา้ งภมู ิคุ้มกนั ให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด คุณบรรจงได้สนับสนุนให้ชาวบ้านพยายามมีบ้านเป็นของตนเองเพื่อจะส ามารถเข้าถึงสิทธิด้าน สาธารณปู โภคพ้ืนฐานได้ จงึ มีโครงการกอ่ ตั้งสหกรณ์เคหสถานชมุ ชนกองขยะหนองแขม จำกดั ขึน้ และสำเร็จ ในปี พ.ศ. 2548 โดยยื่นกู้จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พ.อ.ช) ได้เงินจำนวน 30 ล้านบาท ภายใต้ โครงการบ้านมัน่ คง และสรา้ งเฟสแรกเสร็จในปี พ.ศ. 2550 และต่อมาชมุ ชนได้รับการประกาศเป็นชุมชนตาม ระเบยี บกรงุ เทพมหานคร ประเภทชมุ ชนแออัด มคี ุณบรรจง แซ่อ้งึ เป็นประธานชมุ ชน ต่อมามกี ารขยายบ้าน ม่ันคง เพม่ิ ในเฟสท่ี 2 ในปี พ.ศ. 2552 - 2553 และเฟสท่ี 3 ในปี พ.ศ. 2554 ทำให้เปล่ียนสถานะชุมชนจาก ผูบ้ ุกรกุ กลายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิท์ ่ถี กู ตอ้ ง รูปที่ 3 : สภาพที่อยอู่ าศยั และสภาพแวดลอ้ ม ในปจั จุบนั 78
1.3 ประเภทชมุ ชน /กลุม่ / ประธาน กรรมการชุมชน ตามประกาศระเบยี บกรุงเทพมหานคร ชุมชนกองขยะหนองแขม เปน็ ชมุ ชนประเภท ชุมชนแออัด กลุ่มกรงุ ธนใต้ มีนายบรรจง แซ่อ้ึง เป็นประธานชมุ ชน และมีกรรมการชมุ ชน จำนวน 11 คน 1.4 ขอ้ มูลประชากร (ครัวเรือน / เพศ ) ชุมชนกองขยะหนองแขม เป็นชุมชนขนาดกลาง มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 200 ครัวเรือน โดยมี บา้ นจำนวน 176 หลงั มีประชากรทั้งหมด จำนวน 650 คน เป็นประชากร เพศชายจำนวน 313 คน คิดเป็นร้อยละ 48.15 เป็นประชากรหญงิ จำนวน 337 คน คิดเป็นร้อยละ 51.85 1.5 สภาพสังคม / อาชพี ของคนในชุมชน / เศรษฐกจิ / การนับถือศาสนา สภาพท่ัวไปของชุมชนกองขยะหนองแขม เปน็ ชมุ ชนแออัด มกี ระบวนการรีไซเคิลขยะและวัสดุตา่ ง ๆ เช่น พีวีซี เสื่อน้ำมัน ขวดแก้ว สายยาง พลาสติกต่าง ๆ โดยการเก็บ คัดแยก ตัด โม่ ซักล้าง ซึ่งแต่ละเดือนจะมี ปรมิ าณ 1,000 ตัน มกี ารสง่ ขายทว่ั ท้ังภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ กิจการน้ีสามารถ สร้างรายได้ให้ ชาวบ้านไดว้ ันละ 500 บาทต่อคน นอกจากนั้น ยงั มีการประกอบอาชพี อืน่ ๆ ในชมุ ชน ไดแ้ ก่ คา้ ขาย รับจ้าง เกษตรกรรม รับราชการ รัฐวสิ าหกิจ แมบ่ า้ น และว่างงาน รูปท่ี 4 : โรงคัดแยกขยะ / รไี ซเคิล รูปที่ 5 : มหาวิทยาลัยธนบุรี สนับสนุนเครอ่ื งปั่นผา้ และเครื่องอบผ้า พลงั งานแสงอาทติ ย์ ส่งเสรมิ การมี อาชีพในชมุ ชน 79
ชาวบา้ นเกือบท้งั หมดถือศาสนาพุทธมเี พียงประธานชุมชนเพียงครอบครวั เดียวทเ่ี ปน็ คาทอลิก โดย ในชุมชนจะมีบ้านพระหฤทัยหนองแขม ซึ่งเป็นองค์กรของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก มีซิสเตอร์จาก คณะพระหฤหัยดูแลและทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้อาวุโสของชุมชน คอยให้คำปรึกษา ดูแล และสอนวิธีการใช้ ชีวิตให้กับชาวบ้าน หรือแมแ้ ต่ประธานชมุ ชนเองก็เป็นคาทอลกิ ด้วยเชน่ กนั แตก่ ็ไมไ่ ด้มีปัญหา ในการปกครอง และ อยรู่ ่วมกนั ชาวบ้านยงั คงให้ความเคารพ เช่อื ฟัง ซสิ เตอร์ และประธานชุมชนเป็นอย่างดี รปู ที่ 6: บ้านพระหฤทยั หนองแขม /ที่พักของซสิ เตอร์ ผอู้ าวโุ สแหง่ ชมุ ชน 1.6 กลมุ่ / ศูนย์ ท่ีกอ่ ตั้งขนึ้ ในชุมชน ภายในชุมชนกองขยะหนองแขม ได้มกี ารจัดต้ังศูนย์ต่าง ๆ ขึ้นในชุมชน ดว้ ยจดุ ประสงค์ท่ีแตกต่าง กันไป แต่ทั้งนั้นเพื่อช่วยให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดขี ึ้น โดยในแต่ละกิจกรรมของศูนย์ที่จัดขึ้นนั้น จะมีบุคคล ในชมุ ชนและผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ งร่วมเปน็ คณะกรรมการอยดู่ ้วย ซ่งึ ศนู ย์และหนว่ ยงานท่ีเกดิ ข้ึนในชุมชน ไดแ้ ก่ • มลู นิธิบา้ นร่มเยน็ คุณพมุ่ • โครงการบา้ นม่ันคง • ศูนยก์ ารเรยี นร้กู องทนุ แม่ของแผน่ ดนิ • ศูนยส์ ขุ ภาพชุมชน สนับสนนุ โดย สำนักอนามยั กรุงเทพมหานคร • ที่ทำการสหกรณเ์ คหสถาน ชุมชนกองขยะหนองแขมจำกดั รูปที่ 7 : สำนกั งาน / ทีท่ ำการศูนย์ตา่ ง ๆ ของชุมชน 80
1.7 หน่วยงาน / องคก์ ร / สถานศกึ ษา ที่อยใู่ นชุมชน หรอื ใกล้เคียง • หนว่ ยงาน / องค์กร / สถานศึกษา ที่อยใู่ นชุมชน ได้แก่ o ท่ีทำการชุมชนกองขยะหนองแขม o ศนู ยผ์ ลิตน้ำดี ศูนย์เดก็ เล็กหทัยรกั o บ้านพระหฤทยั หนองแขม • หน่วยงาน / องค์กร / สถานศึกษา ที่อยู่ใกลช้ มุ ชนและให้การสนับสนนุ ชว่ ยเหลือชุมชน ได้แก่ o วทิ ยาลยั แสงธรรม o มหาวิทยาลยั ธนบุรี o ศนู ย์บริการสาธารณสุข 48 (ศูนย์ 48) o สำนักงานเขตหนองแขม o โรงพยาบาลเซ็นตห์ ลุยส์ o สมาคมสตรีไทยคาทอลิก o สถานีตำรวจหนองค้างพลู รปู ท่ี 8 : ศูนย์ผลิตนำ้ ดี ศนู ยเ์ ดก็ เล็กหทัยรัก 2. ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน 2.1 มาตรการการทำงานดา้ นยาเสพตดิ รปู แบบการดำเนินงานดา้ นยาเสพตดิ ในชุมชนกองขยะหนองแขม เปน็ ดังนี้ • มาตรการการปอ้ งกนั : มาตรการในการป้องกันไม่ให้สมาชิกในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยการที่ชุมชนได้รับ ความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ จากภายนอกที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมเพื่อการป้องกัน ปัญหายาเสพติด ทั้งในกลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยพื้นฐาน จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิตในมิติต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่การมีซิสเตอร์จากคณะพระหฤหัยเข้า มาดำเนินการดูแลจัดเก็บค่าน้ำของคนในชุมชนเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนในราคาโอ่งละ 5 บาท ซึ่งเดิมชุมชนเปน็ 81
กลุม่ ผบู้ ุกรกุ ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา ใชก้ ารตอ่ สายยางจากบ้านพกั ซสิ เตอร์ มีการจัดต้ังศูนย์เด็กเล็กเพ่ือดูแล เด็ก ๆ ที่พ่อแม่ต้องทำงาน ไม่มีเวลาดูแล จนในปัจจุบันได้ก่อตั้งเป็นศูนย์ผลิตน้ำดี ศูนย์เด็กเล็กหทัยรัก นอกจากนี้ยังมีบราเดอร์จากวิทยาลัยแสงธรรม (นักศึกษาของวิทยาลัยระดับปริญญาตรีและปริญญาโทท่ี ศกึ ษาดา้ นเทวศาสตรแ์ ละปรัชญาเพ่ือเตรียมตัวบวชเปน็ พระสงฆ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมนั คาทอลกิ ) มาทำ กจิ กรรมในวันเสาร์ให้กบั เด็กในชุมชน อาทิ การเลน่ ฟตุ บอลโดยซสิ เตอร์คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า แห่งกรุงเทพฯเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณเช่าสนามฟุตบอลหญ้าเทียม การสอนหนังสือหรือการทำกิจกรรม อื่น ๆ ให้กับเด็ก ๆ ในชุมชน ตลอดจนการสอดแทรกความรู้เรื่องยาเสพติด โดยอิงหลักการพัฒนาทักษะ ความสามารถคิดบริหารจดั การตน (Executive Function; EF) ตามหนังสอื ทีซ่ ิสเตอร์ได้รับการสนบั สนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นอกจากน้ี เยาวชนที่ได้รับทุนการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ หรือองค์กรเอกชนต่าง ๆ จะต้องเรียนรู้การทำบัญชีรายรับรายจ่ายและรายงานการใช้จ่ายต่อซิสเตอร์ เพื่อฝึกการประหยัดอดออมและรู้จักคุณค่าของเงินที่ได้รับ ซึ่งซิสเตอร์จาก คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ ได้ทำเช่นนี้มาโดยตลอด ในขณะเดียวกันมีการตรวจคัดกรองผู้ใช้สารเสพติดดว้ ยความสมัครใจในกล่มุ วัยรุ่นที่จัดเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเยาวชนในชุมชนสามารถแสดงเจตจำนงค์กับ กรรมการหรือประธานชุมชนเพื่อตรวจหาสารเสพติด ทั้งนี้เพื่อแสดงความ บรสิ ุทธใ์ิ จว่าไมเ่ ขา้ ไปย่งุ เกยี่ วกบั สารเสพติด หรือบางส่วนที่มกี ารเสพสารเสพ รูปท่ี 9: ซสิ เตอร์โนรา ระดมกิจ ตดิ และประสงค์เข้ารับการบำบัดโดยสมัครใจสามารถมาขอรับการตรวจด้วย กับคมู่ อื พฒั นา EF ตนเองได้ที่กรรมการชุมชน โดยชุมชนไม่มีนโยบายการดำเนินการในข้อ กฎหมาย ซึ่งทางชุมชนได้มีการจัดหาชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะมาไว้ที่สำนักงานของชุมชน นอกจากนี้ ชุมชนไดม้ ีการพฒั นาคุณภาพชวี ิตในดา้ นต่าง ๆ มาอยา่ งตอ่ เน่ืองจากบ้านไม้อัดปลกู ติด ๆ กันเปน็ ชมุ ชนแออัด จนสามารถพฒั นาเป็นโครงการบ้านม่นั คง มกี ารดำเนินการขอเช่าท่ีราชพัสดุและที่ดนิ บางส่วนซ้ือจากเอกชน และกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินปลูกอาคารปูนที่พักอาศัยกว้าง 5 เมตร ลึก 9 เมตร มีทั้งแบบ 1 ช้ันและ 2 ชั้น และให้คนในชุมชนผ่อนเป็นระยะเวลา 15 ปี ในราคา 40 บาทต่อวัน สำหรับอาคารชั้นเดียว และ 75 บาทต่อวันสำหรบั อาคาร 2 ชั้น โดยมีกติกาข้อหนึง่ วา่ หากผู้ถือกรรมสิทธิ์ในการเช่าซื้อบา้ นมั่นคง ยุ่งเกี่ยวกบั ยาเสพติดไม่ว่าจะเป็นการเสพหรือจำหน่าย จะต้องย้ายออกจากโครงการโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ และหากมี สมาชกิ ครัวเรือนท่ีเกย่ี วข้องกับยาเสพติดก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลบำบัดรักษา แต่จะไม่มีผลต่อการต้องย้าย ออกจากโครงการ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการดำเนินการป้องกันที่ได้ผลเป็นอย่างดีเพราะทุกคนในชุมชนต้องการมี คุณภาพชีวิตที่ดี การได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรงและสามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยการผ่อนชำระเพียงไม่ก่ี บาทตอ่ วันถือเปน็ ความต้องการของทกุ คน จงึ เกดิ ความร่วมมอื อยา่ งมากกบั มาตรการน้ขี องชมุ ชน 82
• มาตรการการแก้ไข : มาตรการแก้ไข ของชุมชนกองขยะหนองแขม ไดม้ ีการบรู ณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง โดยมีหลักการสำคัญคือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือการแย่งชิงมวลชนระหว่างรัฐกับผู้ค้ายาเสพติด การ ดำเนินตา่ ง ๆ ของชมุ ชนจงึ อยู่ภายใตแ้ นวคิดแบบมนุษยนิยม การใหโ้ อกาส ใหก้ ำลงั ใจ ตลอดจนการแสวงหา ความร่วมมือช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง การเข้าถึงและเข้าใจผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยใช้หลักความจริงใจ เพื่อดึงเขากลับมา เมื่อพบผู้ใช้สารเสพติดจะมีการพูดคุย เจรจาเพื่อให้เข้ารับการบำบัดแบบสมัครใจ โดย ประสานงานกบั ศนู ย์บริการสาธารณสุขที่ 48 (ศนู ยบ์ ำบัดยาเสพติด) ให้ความชว่ ยเหลอื ดูแล ไม่ทอดท้ิงในทุก กลุ่ม ทั้งผู้ที่เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและครอบครัวของเขา โดยใช้กลยุทธ์ แม่จูงลูกกลับบ้าน ในรูปแบบ การแย่งชงิ มวลชนท่ตี ดิ ยาให้กลับคนื มา ตลอดจนขอ้ แนะนำการประกอบอาชพี การรบั รองความประพฤติเพ่ือ การมีงานทำหรือประสานกับผู้ประกอบกิจการต่าง ๆ ให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติดได้มงี านทำ หรือหากถูก จับกมุ โดยเจา้ หน้าทต่ี ำรวจ ก็จะจดั หาเงินเพอื่ ประกันตวั ระหว่างสู้คดี ตลอดจนค่าเดินทางหรือซื้อของไปเยี่ยม ผู้ต้องขัง นอกจากนี้ชุมชนเคยมีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนให้กับผู้พ้นโทษเพื่อต้อนรับกลับบ้าน ซึ่งการดำเนินการ ทงั้ หมดนีภ้ ายใตค้ วามรว่ มมือจากกรรมการชมุ ชน การสนับสนนุ งบประมาณจากซิสเตอร์คณะภคินีพระหฤทัย ของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ ฝ่ายพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตหนองแขม ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ และ หนว่ ยงานอื่น ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง • มาตรการการฟ้ืนฟู : การดำเนินการฟื้นฟูผู้ใช้สารเสพติดที่ผา่ นการบำบดั หรอื การต้องโทษภายหลงั จากได้รบั โทษ โดย ก่อนรับกลับเข้าสู่สังคม มีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อต้อนรับ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมทั้งสอบถามความ ต้องการที่จะให้ชุมชนให้ความช่วยเหลือ เป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ และให้โอกาสในการกลับตัว มีการ ติดตามผ่านการเยยี่ มบา้ น พดู คยุ ของกรรมการชุมชนท่ดี ูแลในแตล่ ะซอยที่รับผิดชอบ ตลอดจนการให้ความรู้ ในมติ ขิ องการอดออม เศรษฐกิจพอเพียง ผา่ นการอบรมใหค้ วามรกู้ ารทำบญั ชีครัวเรือนจากซสิ เตอร์ • มาตรการการสร้างความต่อเนื่องและยั่งยนื (สร้างเครือขา่ ย ) มีการทำกรอบความเข้าใจ ( MOU ) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด สถานีตำรวจหนองค้างพลู ศูนย์บริการสาธารณสุข 48 สำนักงานเขตหนองแขม ในการทำบันทึก ข้อตกลงความรว่ มมือในโครงการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด ซงึ่ เป็นการดำเนินการดูแลผู้ใช้สารเสพติด ท่ยี งั มีอยูใ่ นชมุ ชนใหล้ ดอนั ตรายจากการใชส้ ารเสพตดิ และนำไปสู่การเข้ารับการบำบัดรักษาต่อไป นอกจากนี้ ชุมชนได้รวมตัวกันของเครือข่ายแม่มีลูกติดยา โดยเป็นการรวมตัวกันของผู้เป็นแม่ในชุมชนที่มีลูกติดยา เรียนรู้การดูแล การสื่อสารในครอบครัว การมอบความรักความอบอุน่ เพื่อดึงลูกที่ตดิ ยากลับคืนเปน็ คนดขี อง ครอบครัว หรอื ลกู ทผ่ี ่านเขา้ รบั การบำบัดยาเสพติดแล้วไม่กลบั ไปเสพซ้ำอีก เพราะหลายครงั้ ปญั หาการใช้สาร เสพติดนัน้ เรม่ิ จากการขาดความรักความอบอนุ่ ในครอบครัว ขาดการส่ือสารที่ดี หรอื เยาวชนทีผ่ ่านการบำบัด 83
แล้วกลับไปเสพซ้ำอีกเพราะคนในครอบครัวเองที่ยังคงตีตราว่าเป็น “ไอ้ขี้ยา” ผ่านการสื่อสาร แสดงออกถึง ความหว่ งใยที่ผิดพลาด เชน่ การถามซ้ำ ๆ วา่ ไปไหนมา ไปมว่ั สุมทน่ี ่นั ท่ีน่มี าหรอื เปล่า ซึ่งกลบั เปน็ การผลักให้ ผู้ที่ผ่านการบำบัดหรือเยาวชนออกห่างจากครอบครัว ห่างจากชุมชนไปแสวงหาความสุขจากการใช้สารเสพ ติด นอกจากนี้ เครือข่ายแม่มีลูกติดยาเหลา่ นีย้ ังได้มีโอกาสสร้างความภาคภูมิใจในตนเองและครอบครัวผ่าน การแสดงบทบาทการเป็นวิทยากรเพื่อให้ความร้ใู นการดูแลเยาวชนในครอบครัวจากประสบการณต์ รงของแม่ ที่มีลูกติดยา การแสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชนต่าง ๆ ในการสร้างความร่วมมอื ยั่งยนื ทั้งการประกอบ อาชีพ ความมั่นคงในทีอ่ ยูอ่ าศัย ซึ่งเป็นปัจจัยพ้ืนฐานที่สำคัญของการดำรงชีวิต ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ นั้น ตั้งอยู่บนพืน้ ฐานของการมีคุณภาพชวี ิตทีด่ ี เมื่อมีคุณภาพชีวติ ท่ีดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเขา้ ไปยุ่งเกี่ยวกบั ยาเสพ ติดอีกตอ่ ไป จากรูปแบบการดำเนนิ งานดา้ นยาเสพตดิ ของชมุ ชนกองขยะหนองแขม จะพบวา่ สงิ่ ท่ีโดดเดน่ และ ประสบความสำเรจ็ คือ • ในดา้ นการปอ้ งกัน พบว่าคนในชมุ ชนมีความกลา้ ท่ีจะเดนิ เขา้ มาเอย่ ปากขอตรวจสารเสพติดด้วย ตนเอง ด้วยความไว้วางใจต่อกรรมการชุมชน และชุมชนสามารถทำการตรวจได้เองในเบื้องต้น จึงไม่ต้อง ยงุ่ ยากในการไปตรวจท่ีสำนักงานสาธารณสุข ซึ่งต้องใชเ้ วลาในการเดินทาง การพบเจอบุคคลอ่ืน ซึ่งจะทำให้ ไมอ่ ยากตรวจ • การมีมาตรการเข้มงวดเร่อื งสิทธ์กิ ารอยู่บ้านม่นั คง ทำให้เจ้าบ้านทุกบา้ นต่างชว่ ยกันเปน็ หเู ปน็ ตาใหช้ ุมชน และเป็นการป้องกันขัน้ ปฐมภูมิ คือการเร่ิมทีบ่ ้าน • จากมาตรการการแก้ไข และการฟื้นฟู การไม่ซ้ำเติม การให้ความช่วยเหลือดูแลครอบครัวของ ผใู้ ชส้ ารเสพติด การไปเยี่ยมท่เี รอื นจำ ก่อใหเ้ กดิ ความรูส้ กึ ดี ไมโ่ ดดเดย่ี วหรอื ถูกทอดทิง้ มคี วามเชอื่ มั่นในผู้นำ ชมุ ชน กรรมการชมุ ชน และเกดิ เปน็ ความเกรงใจ และตง้ั ใจทจ่ี ะเลิกยงุ่ เกีย่ วกบั ยาเสพตดิ ในท่ีสดุ • จากการสร้างเครือข่ายแม่มีลูกติดยา ทำให้ได้สมาชิกที่ดีกลับคืนมาสู่สังคม เป็นการแย่งชิง มวลชนจากกล่มุ ผู้ค้ายากลับมาอยา่ งไดผ้ ล 2.2 ปจั จัยผลกั ดนั /สนบั สนุนใหส้ ำเร็จ ปัจจัยทีช่ ่วยผลกั ดันให้การดำเนินการดา้ นยาเสพติดของชุมชนกองขยะหนองแขม ประสบผลสำเรจ็ คอื • ตัวบุคคล / ผู้นำ o มีประธานชุมชน และคณะทำงานในชุมชนที่เข้มแข็ง ทุ่มเท จริงจังในการดำเนินงาน ทำ ให้ไดร้ บั การยอมรบั และเคารพ และยนิ ดใี หค้ วามรว่ มมือในกิจกรรมต่าง ๆ 84
o มีผ้นู ำศาสนาในชุมชน ท่ีเขา้ ใจ คอยให้กำลงั ใจ สอบถามพูดคยุ อย่างใกล้ชิด ตัง้ แต่เด็กเล็ก จนกระทั่งเติบโตขึ้น และการพักอาศัยอยูใ่ นชมุ ชนร่วมกับชาวบา้ นในชุมชน ทำให้ชาวบา้ นเกิดความ อบอนุ่ ใจ และเกรงใจหากจะทำเรื่องไมด่ ี o ประธานชุมชนมีความเข้าใจปัญหา ความต้องการของคนในชุมชน ได้ตรงจุด จึงทำให้ ปัญหาท่ีเกิดขน้ึ ได้รบั การแกไ้ ข o ประธานชุมชน แสดงให้คนในชุมชนเห็นว่า ไม่ว่าจะอย่างไร เค้าก็จะไม่ทอดทิ้งคนใน ชมุ ชน มีความจริงใจในการใหค้ วามช่วยเหลือสมาชกิ ให้ความรสู้ กึ เป็นครอบครัวเดยี วกนั • สมาชกิ ในชุมชน o ให้ความร่วมมือ จากการมีหลักคิดและแนวคิดในการเข้าใจ เข้าถึงง่าย และให้โอกาส ทำ ให้ได้รบั ความรว่ มมอื จากชาวบ้านในชุมชนเปน็ อย่างดี o สมาชกิ ในชมุ ชน มีมุมมอง และทัศนคติต่อผ้ทู ่เี คยผิดพลาดมาแล้ว ดว้ ยความเขา้ ใจ เหน็ ใจ และพยายามช่วยให้เค้าสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ เป็นการสร้างวัคซีนให้กับผู้น้ัน ป้องกันไมใ่ ห้กลบั ไปยุง่ เก่ยี วกบั สารเสพติดอีก o สมาชิกในชุมชน มีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อคำว่าพลังชุมชนเป็นพลังที่สำคัญในการ ปอ้ งกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ดว้ ยตนเอง และใหค้ วามรว่ มมือ • การมหี น่วยงานสนบั สนุนจากภายนอก / เครอื ข่าย o มหี น่วยแพทย์จากภายนอกเข้ามาตรวจสุขภาพ o ได้รับการสนับสนุน ช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างหลากหลาย และรอบด้าน ทั้ง ดา้ นการศกึ ษา การประกอบอาชพี และดา้ นสุขภาพ • การมกี ลุ่ม / ศูนย์ / กองทุนต่าง ๆ ในชุมชน o มีการรวมกลมุ่ สหกรณ์ / กลมุ่ ออมทรพั ย์ o มีกองทุนหมูบ่ า้ น o มีโครงการบ้านมั่นคง สร้างความมั่นคงทางจิตใจของสมาชิกในชุมชนด้านทีอ่ ยู่อาศยั โดย มกี ฎ กตกิ า ระเบียบ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ในชุมชนทเ่ี ข้มงวด o มกี องทนุ แม่ของแผน่ ดนิ o มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในชุมชน เป็นการส่งเสริมด้านการศึกษา และช่วยเหลือพ่อแม่ที่ไม่มี เวลาดูแลลูกให้สามารถไปทำงานหารายได้ได้ o มีกลุ่มแมม่ ลี ูกติดยา ท่เี ปดิ เผยและยอมรบั ทำใหก้ ารตดิ ตาม ปอ้ งกนั ชว่ ยเหลือ เป็นไปได้ งา่ ยและตรงกล่มุ เปา้ หมาย เพ่ือไมใ่ ห้เขากลบั ไปใช้สารเสพติดอีก • กระบวนการ / กจิ กรรมในชมุ ชน 85
o ชมุ ชนมกี ารประชมุ ภายใน เพอ่ื ปรึกษาหารือตา่ ง ๆ ร่วมกัน เดอื นละ 2 ครง้ั ทำให้รู้ปญั หา ไดไ้ วและ ปอ้ งกัน แกไ้ ขได้ทันเวลา o มีโครงการต่าง ๆ มากมายที่ตอบสนองความต้องการของคนในชุมชน เช่น กิจกรรมที่ ชว่ ยพัฒนา สง่ เสรมิ ป้องกนั แก้ไขอย่างครอบคลมุ และเป็นการร่วมกนั คิดทำ o มีกลไกในการร้องขอความช่วยเหลือในการป้องกันหรือแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ท่ี เข้าถึงง่าย ไม่ยุง่ ยาก o มกี ารรว่ มกันแกป้ ัญหา เป็นทีม ไม่ใช่ปลอ่ ยใหเ้ ป็นภาระของใครบางคน o มีการติดตามเฝ้าระวัง สอดส่องอยู่ตลอดเวลา โดยเริ่มจากที่บ้าน จะมีหัวหน้าซอยคอย ดแู ล o มโี ครงการตรวจสารเสพติดด้วยความสมัครใจ สร้างความตระหนัก และระมดั ระวังในการ ใชช้ ีวติ ของสมาชกิ ในชมุ ชน • ที่ตั้งของชุมชนอยู่ติดถนนใหญ่ การคมนาคมสะดวก และใกล้กับโรงคัดแยกขยะซึ่งคนในชุมชน ส่วนหน่ึงที่ยังประกอบอาชพี การรับซ้ือของเก่า เสื้อผ้ารองเท้าเพื่อทำความสะอาดแล้วนำไปจำหน่ายสามารถ ดำเนนิ การได้อย่างสะดวก 2.3 ปัจจัยท่เี ปน็ อุปสรรคตอ่ การทำงาน/ ปัญหาขัดขวาง ปจั จัยท่ีเปน็ อุปสรรคให้การดำเนินการดา้ นยาเสพติดของชุมชนกองขยะหนองแขม คือ • การสื่อสารที่ผิดพลาดในบางครั้ง ก่อให้เกิดเป็นปัญหาตามมา เช่น เมื่อมีสมาชิกคนใดคน หนึ่งถูกจับกุม จะมีเสียงพูดมาว่า กรรมการชุมชนเป็นคนแจ้งเบาะแส ทำให้บางคร้ัง เกิดความไม่พอใจให้กบั ลกู บ้านบางคน ส่งผลใหค้ วามร่วมมือในชุมชนลดลง • การเป็นบุคคลท่ีอพยพย้ายถิ่นเข้ามาตงั้ ท่ีอยู่อาศัย ไมไ่ ดเ้ ป็นคนในพืน้ ที่โดยกำเนิดหรืออาศัย อยู่ร่วมกันตั้งแต่แรก ทำให้ความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัวในชุมชนมีความแตกต่างกัน ในเรื่องวัฒนธรรม การใช้ชวี ิต จงึ ยังไมเ่ กดิ ความผูกพนั ในชุมชน หรือเกดิ แตย่ งั น้อยกวา่ ชมุ ชนอื่น ๆ ทเ่ี ปน็ คนในพื้นที่ด้ังเดิม ทำ ให้การสร้างแรงจูงใจ กระตุ้นให้ทำประโยชน์เพื่อชุมชน หรือเพื่อลูกหลานในชุมชนรุ่นหลัง ยังเป็นไปได้ยาก ประกอบกบั การทราบข้อมลู ท่ีแท้จรงิ ของแตล่ ะบุคคล เป็นไปได้ยาก • บางครอบครวั ที่มีหนีค้ า้ งกับชมุ ชน จะหลีกเลี่ยงการเขา้ ร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ ของชุมชน และ ไมส่ นใจท่ีจะกระตือรือร้นทจี่ ะชำระหนี้ จึงยังไม่เกิดความเปน็ น้ำหน่ึงใจเดยี วกนั ของชุมชน • ความยากจนของคนในชุมชน คนในชุมชนมีหนี้สิน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น การขโมย ชอบเล่นการพนนั แม่วยั รนุ่ เปน็ ตน้ ทำใหก้ ารพัฒนาชมุ ชนเปน็ ไปไมไ่ ดเ้ ต็มท่ี 86
3. จากการประชุม สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 10 ได้พิจารณารายงานเรื่องชุมชนเป็น ศูนย์กลางในการป้องกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ มมี ติ ดังตอ่ ไปน้ี • ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเจ้าภาพหลัก ประสาน เชื่อมโยง ฝ่ายปกครองท้องท่ี องค์กรชุมชน องค์กรศาสนา สถาบนั ครอบครวั องคก์ รสตรี เด็กและเยาวชน สถาบนั การศึกษา ศูนย์ยุติธรรม ชุมชน ภาคเี ครือข่ายภาคประชาชน ภาคประชาสงั คม องคก์ รภาคเอกชน และหน่วยงานที่เก่ยี วข้อง เพื่อร่วม ขบั เคลือ่ นการดำเนนิ งานป้องกนั ดูแล และแก้ไขปัญหายาเสพติดในชมุ ชน ดงั นี้ o ดำเนนิ การปรับทศั นคติให้เกดิ ในชุมชน จากการศึกษาพื้นทชี่ ุมชนกองขยะหนองแขม พบวา่ มีการดำเนินการปรับทัศนคติ ให้เกิด ในชุมชน คอื 1) มีการสรา้ งความเชื่อม่ันในพลังของชุมชนท่ีจะป้องกันและแก้ไขปัญหาดว้ ยตนเอง ดัง จะเหน็ จากการทำงานของคณะกรรมการชมุ ชน สมาชกิ ในชมุ ชน มีการรับรแู้ ละมที ศั นคตทิ ี่ดีต่อคำว่า พลังชุมชนเป็นพลังที่สำคัญในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยตนเอง โดยเชื่อว่าเปน็ พลงั ที่เป็นพลังบวก เป็นพลังที่เกิดจากการช่วยเหลือกัน ความเป็นมิตรกัน และที่สำคัญการมีผู้นำชุมชน และกรรมการชมุ ชนท่เี ข้มแขง็ ทีด่ ี มีความเขา้ ใจ ยอมรบั และเข้าถึงคนในชมุ ชนได้ จะช่วยให้เกิดพลัง ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ได้มาก 2) ทัศนคติที่ว่าผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดมีคุณค่าและเป็นทุนของสังคม จะเห็นได้จาก สมาชกิ ในชุมชนกองขยะหนองแขม มีการรับรู้และมที ศั นคตติ ่อผู้เสพ / ผู้ตดิ ยาในทางบวก มองว่าคน เหล่านี้เป็นทรัพยากรมนุษย์คนหนึ่งที่มีคุณค่าต่อสังคม และชุมชน จะเห็นได้จากพฤติกรรมการอยู่ ร่วมกันในชุมชน ไม่มีการแสดงความรังเกียจต่อผู้ที่เสพ / ผู้ติดยาเสพติด แต่มองด้วยความเข้าใจใน ความจำเป็นต้องใช้สารเสพติดเหล่านั้น สามารถอยู่ร่วมกันได้ พูดคุยว่ากล่าวตักเตือนได้ รวมถึง ทัศนคติของผู้นำชุมชนกับผู้ที่ติดยา ไม่ได้มองว่าเขาเหล่านั้นเป็นศัตรู แต่มองว่าเป็นลูกน้อง มองว่า เปน็ มนุษยท์ ่มี ีโอกาสผดิ พลาดได้ และทกุ คนมศี กั ดิ์ศรที ่ีต้องเคารพ ควรให้โอกาส 3) ให้เชื่อมั่นว่าการป้องกันและแก้ไขปัญหาในทุกระดับ จะลดปัญหาได้ยั่งยืนกว่าการ ปราบปราม จะเหน็ ไดจ้ าก การให้ความรว่ มมือของคนในชมุ ชนต่อโครงการปอ้ งกันแก้ไขต่าง ๆ ต้งั แต่ ระดับครอบครัว สังคม เพื่อนบ้าน โรงเรียน จนถึงระดับชุมชน โดยทุกระดับต่างทำหน้าที่ของตน อย่างเข้มแข็งในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการมีบุคคลในชุมชนเสพยา หรือเกี่ยวข้องกับยามากข้ึน โดยในแต่ละระดับ จะมีโครงการหรือวิธีการต่าง ๆ กันตามบริบทของตนเอง ในขณะที่คนในชุมชน มองว่าการใช้อำนาจในการปราบปราม เปน็ การกอ่ ให้เกดิ ความเกลยี ดชงั ต่อเจ้าหนา้ ท่ีตำรวจ และคน ในชุมชน 87
4) ให้ความสำคัญแก่สถาบัน เห็นได้จาก สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้ มีทัศนคติที่ดี และ เชื่อว่า ครอบครัวมีความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “วัฏ จกั รของคนอย่างไรก็หนีไม่พ้นครอบครัว” การใหพ้ อ่ แมซ่ ึ่งเป็นคนท่ีมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงดูแลกัน และกันในครอบครัว จะเกิดเป็นความทุ่มเทในระดับสูง ที่ต้องการการป้องกัน และแก้ไขให้ลูกหรือ คนในครอบครัวเลิกยา ดังจะเห็นได้จากการให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการแม่มีลูกติดยา การให้กำลังใจในครอบครัว แม่และลูกยินดีที่จะปรับพฤติกรรมของตนเองเพื่อคนในครอบครัว แม่ เปน็ ตัวอย่างในการนำลกู มาขอตรวจสารเสพติดโดยความสมัครใจ o สำรวจ คัดกรองเพอ่ื บง่ ชีป้ ัญหาในพนื้ ท่ีชมุ ชน ชุมชนกองขยะหนองแขม มีการประชุมภายใน เดือนละ 2 ครั้ง ถึงสภาพปัญหา สถานการณ์ความเคลื่อนไหวทั่วไปต่าง ๆ ของชุมชน กองทุนหมู่บ้าน การประชุมคณะกรรมการ สหกรณ์ มีประชุมทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงมีการสำรวจภาวะสุขภาพของผู้ที่ เป็นกลมุ่ เส่ียงในการเกีย่ วข้องกับยาเสพติด เพ่ือหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือในชุมชน ทุกคน สามารถแสดงความคิดเห็น พูดคุยได้ และวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกัน และมีการทำแผนแบบ มาสเตอรแ์ พลน ซึง่ คือ แผนยทุ ธศาสตร์ของชมุ ชน o กำหนดให้มีประเด็นเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้อยู่ในข้อตกลง กติกา ระเบียบ และธรรมนญู สุขภาพของชมุ ชนอย่างครอบคลมุ ชุมชนมีการกำหนดข้อตกลง กติกา ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยกำหนดเป็นคุณสมบัติของผู้อยู่อาศัยในโครงการบ้านมั่นคง ห้ามมิให้ เจ้าของบ้าน จำหน่ายหรอื เก่ียวข้องกับยาเสพติด ให้มีหน้าทีด่ ูแลคนในครอบครัวไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกบั ยา เสพตดิ หากพบว่าเจ้าของบา้ นมีส่วนเกยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ จะถกู จับกุม และยึดบ้านคนื o ดำเนินการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติดและการใช้ยาในทางที่ผิดใน ครอบครวั สถานศกึ ษา สถานประกอบการ ชมุ ชน และส่อื สงั คมออนไลน์ สร้างกลไกในการ รอ้ งขอความชว่ ยเหลือ ตลอดจนการเฝ้าระวงั และจัดการสภาพแวดล้อมเพ่ือลดปัจจัยเส่ียง ในชมุ ชน ชุมชนมีโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ข้างต้น ดังนี้คือ โครงการ เครือข่ายถักทอ โครงการบ้านหลังที่สอง โครงการไปเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำ โครงการรับขวัญผู้พ้น โทษ โครงการบ้านมั่นคง โครงการเครอื ข่ายแมม่ ีลูกติดยา กิจกรรมจดั เวทชี มุ ชนเพอื่ ให้ความรู้ด้านยา เสพติด โครงการการตรวจสารเสพติดโดยสมัครใจ โครงการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด (Harm Reduction) โครงการชมุ ชนบำบดั มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบางจุดของชุมชน และ สมาชิกในชุมชนสามารถโทรศัพท์ ขอความช่วยเหลือจากผู้นำชุมชน และกรรมการชุมชนได้โดยตรงและหากพบเบาะแสผู้ที่เกี่ยวข้ อง 88
กับยาเสพติด สามารถแจง้ ได้ตลอดเวลา เปน็ ลักษณะของการช่วยกนั สอดส่องดูแลภายในชุมชน โดย ในแตล่ ะซอยจะมีกรรมการทีด่ ูแลเฉพาะซอย ทำหน้าทีเ่ สมอื นเปน็ หวั หน้าซอยในการดูแล o ดำเนินการเชิญชวน ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด มาทำความเข้าใจ และคัดกรอง เพื่อช่วยเหลือ ตามความประสงค์อย่างเหมาะสมในแตล่ ะบุคคล ชุมชนกองขยะหนองแขม มกี ารดำเนนิ การ ดงั นี้ คอื - ผูเ้ สพ / ผตู้ ดิ ยา สามารถมาขอทำการคดั กรองตรวจสารเสพตดิ ไดด้ ว้ ยตนเอง - ช่วยเหลือผพู้ น้ โทษ ใหก้ ำลังใจ สอบถามความต้องการทีต่ ้องการการชว่ ยเหลือ - การเยี่ยมบ้านของครอบครวั ที่มผี ู้เสพยา o ติดตาม ดูแลช่วยเหลือผ้เู สพ ผู้ติดยาเสพติดและกลุ่มเส่ียง ในด้านสขุ ภาพ อาชีพตามความ ถนัด การศึกษา และเปิดโอกาสทางสังคมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อให้สามารถพึ่งพา ตนเองและอย่รู ่วมกนั ได้ในชมุ ชน ชุมชนกองขยะหนองแขม มกี ารดำเนนิ การต่าง ๆ ดังน้ี ดา้ นสุขภาพ ▪ ชุมชนมีการสำรวจภาวะสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง ในเรื่องพฤติกรรมที่เป็นภาวะเสี่ยง และ ภาวะการเจ็บป่วยของกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพจาก หนว่ ยงานสาธารณสุข ▪ การสง่ ตอ่ ศนู ย์บำบัดยาเสพตดิ ในการบำบัด ช่วยเหลือ ▪ มีบรกิ ารตรวจสขุ ภาพฟรีเป็นประจำทุกเดือนจากมูลนธิ โิ รงพยาบาลเซน็ ตห์ ลยุ ส์ ดา้ นอาชพี ▪ ชุมชนหางานใหผ้ ู้เคยติดยาในชมุ ชนได้ทำตามความสามารถของตนเอง เช่น ความสามารถในการดูเครือ่ งทองเหลือง อลมู ิเนยี ม ตา่ ง ๆ ▪ หวั หนา้ ชุมชนใหก้ ารช่วยเหลือ ประสานงานไปยงั หนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องในการให้การ รับรองการเลิกยา เพื่อการสมัครงานของผู้เคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ปัจจุบันมี สมาชกิ ในชุมชนท่ีเลิกยาแลว้ ทำงานในสังกดั กทม.หลายคน ▪ ให้สมาชิกในชุมชนรวมกลุ่ม และเข้าร่วมกับสมาคมสตรีไทยคาทอลิก ในการอบรม อาชีพ อาทิ การทำนำ้ ยาลา้ งจาน สบู่ เปน็ ต้น ▪ ชุมชนได้รับการสนับสนุนอนุเคราะห์เครื่องซักผ้า อบผ้า ด้วยพลังแสงอาทิตย์ จาก มหาวิทยาลัยธนบุรี เพอื่ การสนบั สนนุ อาชพี ของคนในชมุ ชน ดา้ นการให้โอกาสทางสังคม ▪ การนำเดก็ ที่ติดยาไปออกรายการโทรทัศน์ ไปเป็นตัวอย่างให้สังคมในรายการบ่ายน้ี มีคำตอบ ▪ ให้โอกาสสมาชิกทีเ่ คยติดยา ร่วมเป็นคณะกรรมการชมุ ชน 89
▪ เปิดโอกาสใหแ้ ม่ท่มี ีลูกติดยาไดเ้ ปน็ วิทยากรใหค้ วามรู้ ตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่จดั ขึน้ o จัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับองค์กร ภาคีเครือข่ายและชุมชนพื้นที่อื่น ๆ เพื่อหา แนวทางแก้ไขและสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน โดยประสานให้ สถาบันการศึกษา หน่วยงานวิชาการในและนอกพื้นที่สนับสนุนองค์ความรู้ตลอดจนการศึกษาวิจัยด้านนี้ให้ ครอบคลมุ และต่อเนอื่ ง ชุมชนกองขยะหนองแขมมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับองค์กรต่าง ๆ อยู่เสมอ ซึ่งจะ เห็นได้จากการมีหน่วยงานภายนอก สถาบันการศึกษาต่าง ๆ เข้ามาศึกษาดูงานยาเสพติดในพื้นที่ อย่างสม่ำเสมอ 3.1 ช่องทางการทำงานผ่าน สช. ยงั ไม่มีการดำเนนิ การใด ๆ ผา่ นสมัชชาสุขภาพแหง่ ชาติ เพราะการดำเนินงานของชุมชนท่ีผ่านมาน้ัน เป็นการดำเนินงานตามกลไกเดิมที่มีอยู่ทั้งของสำนักงานเขต สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรงุ เทพมหานคร องค์กรเอกชน กรมอนามัย เป็นตน้ และการจะของบได้น้ันต้องมีการเขียนโครงการฯ ข้ึนไป ซ่งึ ชมุ ชนมคี วามรูส้ กึ ว่า เป็นเรือ่ งที่ยงุ่ ยากในการเขียนโครงการข้ึนไป 3.2 ปัญหา ข้อขัดข้องทำให้ไมส่ ามารถดำเนินการได้ - 3.3 ทางแก้ไข/ ทางออกท่ีอยากแนะนำ - “ชุมชนเปน็ ศูนย์กลางในการป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติด” “พลงั ชุมชนเปน็ พลงั ที่สำคัญในการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติดดว้ ยตนเอง” สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีต่อคำว่าพลังชุมชนเป็นพลังที่สำคัญในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยตนเอง โดยเชื่อว่าเป็นพลังที่เป็นพลังบวก เป็นพลังที่เกิดจากการ ช่วยเหลือกัน ความเป็นมิตรกันและที่สำคัญการมีผู้นำชุมชนและกรรมการชุมชนที่เข้มแข็งที่ดี มีความเข้าใจ ยอมรับและเข้าถึงคนในชุมชนได้ จะชว่ ยใหเ้ กดิ พลังในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพติดได้มาก ดังจะเห็นได้จากคำกล่าวแสดงความคดิ เหน็ ของสมาชิกในชมุ ชนบางสว่ น ดงั นี้ คุณบรรจง แซ่อึ้ง หัวหน้าชุมชนได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า “คำว่าชุมชนเป็น ศูนย์กลาง ใครก็ไม่รู้ดเี ทา่ ชุมชน ตำรวจจัดการในอำนาจ ทำไมเด็กติดยาถงึ เกลยี ดตำรวจ เด็ก 90
ฮาร์มเราถูกจับ แต่ไม่เกลียดเรา เพราะเราไปเยี่ยม เค้ามาแสดงตัวกับเราแล้วเคา้ โดนจับ เค้า ไมไ่ ดค้ ิดว่าเราชว่ ยเคา้ ไมไ่ ด้ แต่พอกลับมา มาแวะท่ศี ูนยเ์ ป็นท่แี รก มาเลา่ ดว้ ยความสนุกสนาน เรารักษาน้ำใจ ถนอมนำ้ ใจกนั ...” คุณถาวร พงษ์พุฒ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “เห็นด้วยกับคำนี้ ว่าเป็นจริงและเป็น พลังบวกดว้ ย เปน็ มิตรกนั มสี านสัมพนั ธ์ท่ีดตี อ่ กัน ไม่รงั เกยี จกนั ไม่มองว่าแตกแยกเปน็ แกะดำ ไม่มีขา้ วกิน ขอขา้ วกินได้ ซิสเตอร์ยายนเี่ ปน็ ตัวอยา่ งทด่ี ี มีนำ้ ใจห้ิวอาหารมาให้” ซิสเตอร์โนรา ระดมกิจ กล่าวว่า “ซิสเตอร์ก็คิดว่าสำคัญนะ เพราะถ้าหากว่า ครอบครัวใดที่เค้ามีลูกติดยา แล้วเค้าไม่มีเพื่อน แล้วก็ไม่เป็นที่ยอมรับ ถูกปฏิเสธจากสังคม หรือบ้านข้างเคียง เค้าจะยิ่งท้อใจ ชีวิตเค้าอาจจะหลุดหายไปเลย อย่างนั้นนะ หรืออาจจะไม่ สามารถคืนกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิมได้ แต่เพราะว่าเพื่อนบ้าน บ้านใกล้เคียงยอมรับว่า เออ เอ็งมีลูกติดยาข้ารู้ ข้าเห็นใจเอ็ง มันเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เกิดการยอมรับแล้วก็อยู่ อย่างสันติ ไม่รังเกียจกันวา่ เฮ้ย บ้านแกมีลูกติดยา...” คุณประยูร วงศ์พุทธคำ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชน แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า “พลัง ชมุ ชน สำคัญท่ีสุด เพราะอะไร เพราะว่ามันเปน็ อินเนอร์ พาวเวอร์ เป็นพลงั ภายใน เพราะคน อื่นเป็นเพียงแต่ตัวกระตุ้นชั่วครั้งชั่วคราว แต่ถ้าเกิดคนที่อยู่ในชุมชนเองไม่พร้อมที่จะเป็น ตัวรับที่ดี ใส่อะไรมา รีเจ็ค (reject) หมดเลย สุดท้ายไม่ว่าโครงการนั้นจะดี หรือวิเศษเพียง ไหน ไม่มีทางที่จะซึมซับไปตรงนั้นได้เลย เพราะถูกกั้นกำแพงล้อมชุมชนไว้แล้ว เริ่มจากผู้นำ ชุมชนจะตอ้ งมีวชิ ชน่ั (vision) ทีจ่ ะพฒั นาตนเองใหด้ ีเสยี ก่อน” คุณสาลี่ ตันโสภาลักษณ์ เจ้าหน้าที่พยาบาลศูนย์บริการสาธารณสุข กล่าวว่า “การ แก้ปัญหาจริง ๆ แล้ว ชุมชนจะรู้ปัญหามากกว่า เค้ารู้บริบทของเค้า ว่าเค้าควรจะทำยังไง ใน เมื่อเป็นปัญหาของเค้า เค้าสามารถที่จะซิกแซกว่าเค้าจะแก้ยังไง มันดีกว่าเรา เพราะเราเห็น แล้วว่าเราต้องเข้าไปบำบัด เราต้องเข้าไปให้ความรู้ แต่จริง ๆ แล้วเค้าบอก เค้าก็ไม่เห็น อยากจะได้ เค้ารู้ว่าปัญหาภายในของเค้าเป็นอะไร แล้วเค้าทราบบริบทของเค้า เค้าพยายาม จะไปให้ได้ มันน่าจะยั่งยืนกรานว่าการที่เราโยนเงินไปให้เค้าแก้เอง แต่ถ้าเค้าคิดจะแก้ปัญหา ด้วยตัวเอง เค้าจะพยายามหาเงินส่วนไหนก็ได้ ที่คิดว่าได้มายาก เพื่อจะมาแก้ปัญหา น่าจะ ยั่งยืนกวา่ ” ดาบตำรวจชัยชนะ นาชัยราญ ได้แสดงความคิดเห็นในมุมของตำรวจว่า “สำคัญนะ เพราะว่าถา้ ชุมชนไม่ให้ความสำคัญเลย ตำรวจหรือใครมาแก้ไขปัญหามันก็แก้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้า ชุมชนไม่เห็นความสำคัญ ออกมากม็ ารับของแจก มากนิ กาแฟ ไม่ไดไ้ ปถา่ ยทอดให้ลกู หลานฟัง หรอื ให้ความรว่ มมือกบั เจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั ชุมชนก็หมักหมมอยอู่ ย่างนนั้ แหละ” 91
“ผเู้ สพ/ผู้ติดยาเสพติดกเ็ ปน็ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคณุ ค่าต่อชุมชน สงั คมได”้ สมาชิกในชุมชนมกี ารรบั รู้และมีทศั นคตติ ่อผู้เสพ/ผตู้ ิดยาในทางบวก มองวา่ คนเหลา่ นเี้ ป็นทรัพยากร มนุษย์คนหนึ่งที่มีคุณค่าต่อสังคมและชุมชน จะเห็นได้จากพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันในชุมชน ไม่มีการแสดง ความรังเกียจต่อผู้ที่เสพ/ผู้ติดยาเสพติด แต่มองด้วยความเข้าใจในความจำเป็นต้องใช้สารเสพติดเหล่านั้น สามารถอยู่ร่วมกันได้ พูดคุยว่ากล่าวตักเตือนได้ รวมถึงทัศนคติของผู้นำชุมชนกับผู้ที่ติดยา ไม่ได้มองว่าเขา เหล่านั้นเป็นศัตรู แต่มองว่าเป็นลูกน้อง มองว่าเป็นมนุษย์ที่มีโอกาสผิดพลาดได้ และทุกคนมีศักดิ์ศรีที่ต้อ ง เคารพ ควรใหโ้ อกาสเคา้ ดังจะเห็นไดจ้ ากคำกล่าวแสดงความคิดเหน็ ของสมาชิกในชมุ ชน บางสว่ น ดังนี้ คุณบรรจง แซ่อึ้ง หัวหน้าชุมชน กล่าวว่า “ทัศนคติของผู้นำชุมชนกับผู้ที่ติดยาเนี่ย เค้าไม่ได้มองว่าเป็นศัตรู เค้ามองว่าเป็นลูกน้องเขา อะไรอย่างนี้ เค้าก็เลยช่วยเหลือ พอ ชว่ ยเหลอื อย่างน้ี มนั ก็เข้าถึง ศนู ย์สาธารณสุขเองเนยี่ ก็จะมาต่อกับเราได.้ ..” ซิสเตอร์โนรา ระดมกิจ ได้แสดงความคิดเห็นไว้วา่ “ซิสเตอร์เห็นว่าเค้าเปน็ มนษุ ย์คน หนึ่ง ความดีต้องมีแน่ แต่ว่าเค้าอาจจะยังค้นไม่พบคุณค่าของตนเอง ทุกคนเป็นมนุษย์ เหมอื นกัน มโี อกาสผิดได้ ทุกคนมศี กั ด์ิศรที เ่ี ราตอ้ งเคารพ ถึงแมเ้ ค้าจะทำผิดพลาดอะไรไปบ้าง ต้องให้โอกาสเค้าแลว้ เค้าจะกลับมาสักวัน ซิสเตอร์เชือ่ อย่างน้ัน ... แล้วอย่างเด็ก ๆ บางคนที่ เค้าเรียนกับครู บางคนพ่อแม่ติดคุก บางคนเกิดในคุก เราก็จะบอกครูว่า ครูก็เป็นแม่เค้าน่ัน แหละ..” คุณถาวร พงษ์พุฒ ไดแ้ สดงความคิดเห็นไว้วา่ “คนมที ้งั ความดแี ละความเลวในตัว ลูก เคยบอกว่า เค้าไม่มีทางเลิกได้ แต่วันนี้เค้าเลิกได้และทำงานอยู่เขตบางกอกน้อย มองตัวเอง แมย่ งั เลิกได้ เค้าต้องเลกิ ไดม้ ันต้องมีด้านหน่งึ ทจ่ี ะทำให้เค้าคิดกลบั มา” คณุ อุบล โพธ์ิกราน ได้แสดงความคิดเห็นว่า “แตน๋ ดีใจทีล่ ูกกลับมา เคยทา้ ทายกับลูก ว่า แม่เลกิ บุหรีแ่ ล้วลกู จะเลิกติดยา ทุกวันนล้ี กู เลกิ ยาแลว้ แม่ยังเลิกบหุ รี่ไม่ได้ เพราะอยู่กับลูก ชายคนโตเค้าสูบ ก็อยากบ้าง แต่น้อยลง แต่สูบไม่ให้ลูกคนเล็กเห็น กลัวเค้าเสียใจว่าเค้าเลิก เพ่ือเรา แต่เราเลิกไม่ได”้ คุณฉลวย สายอุทา กลา่ วถงึ คนกลุ่มน้วี ่า “ก็มองคือชนิ แล้วอ่ะ คนท่ีไม่ติดกับคนท่ีติด มองว่าเป็นของธรรมดา คนในชุมชนเค้าแยกแยะออก ไม่ได้รังเกียจกันอะไรกัน ไม่กลั่นแกล้ง กัน ถ้าว่ากลั่นแกล้ง ก็คนเคยเห็นหน้ากัน ก็รู้ว่าใคร ก็จะไม่แจ้งจับนะ แต่ป้าจะเข้าคุย ตีสนิท เหมอื นเปน็ ลกู หลาน ก็เตือน ระวงั ตัวหน่อยนะ มันกเ็ ช่ือเราแลว้ ” คุณประยูร วงศ์พุทธคำ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชน แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า “ชุมชนเค้ามองว่า ทำอย่างไรเค้าจะรักษาทรัพยากรที่อยู่ในชุมชนเค้าให้อยู่ได้ และสามารถ สรา้ งผลผลติ ให้ครอบครวั ใหช้ มุ ชนได้ โดยทไี่ ม่ให้บคุ คลนนั้ ไปก่อความเดือดร้อนท่ีอ่ืน แล้วถูก 92
พรากตัวไปอยู่ในชมุ ชนอน่ื หรือไปอยใู่ นคกุ ... เคา้ เสพยา แตเ่ ค้าก็ยังสร้างผลผลิต สร้างรายได้ ใหแ้ กค่ รอบครวั ได้” คุณพรทิพย์ จันทร์กระจ่าง นักพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “คนมันไม่ได้อยู่คนเดียว มีลูก มีพ่อ มีแม่ มีภรรยา มีสามี ถ้าคนคนหนึ่งมันหายไป มันมีผลกับครอบครัว อย่างแม่ติดยา แม่ โดนไปอยู่ในคุก ลูกทำยังไง ใครจะเลี้ยง มันมีผลมากกว่าคนคนเดียว เราจึงมองว่าเค้าเป็น เพยี งผ้ปู ว่ ย” คณุ สาลี่ ตันโสภาลักษณ์ เจ้าหนา้ ท่พี ยาบาลศูนย์บรกิ ารสาธารณสุข กล่าวว่า “พ่ีมอง วา่ ผู้เสพ ผตู้ ดิ กค็ ือผปู้ ว่ ย เหมือนถ้าพีเ่ ป็นหวดั จะปล่อยให้พห่ี มดสภาพเป็นทรพั ยากรไร้ค่าม้ัย ล่ะ มนั เหมอื นกนั ทางสาธารณสุขมองว่า ถ้าป่วยก็ตอ้ งรักษา” ดาบตำรวจชัยชนะ นาชัยราญ ได้แสดงความคิดเห็นในมุมของตำรวจวา่ “ผมว่ามันก็ เป็นเรื่องดี เพราะมันเป็นการให้โอกาส เรามองมิติว่าให้โอกาสแล้ว ต้องสร้างอาชีพ สร้าง รายได้ให้เค้าด้วย ไม่ใช่ว่า เฮ้ย! มันไปบำบัดกลับมา มันเป็นคนดีแล้ว อันนี้เป็นความรู้สึกของ เรา คนข้างนอก แต่ว่าเขาต้องมีอาชีพ มีรายได้ เพราะหากไม่มีอาชีพ อยู่บ้านเฉย ๆ โอกาส กลับไปอีกมนั จะมมี ากกวา่ คนทมี่ ีอาชพี รายได้” “การปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติดในทกุ ระดบั สามารถสรา้ งความยงั่ ยืนในการแก้ไขปัญหาได้ดกี วา่ การปราบปราม” สมาชกิ ในชุมชนมีการรบั รแู้ ละมีทัศนคตทิ ่ีดีต่อการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติดในทุกระดับและ เชื่อว่าสามารถสร้างความยั่งยืนในการแกไ้ ขปัญหาได้ดกี วา่ การปราบปราม จะเห็นได้จากการให้ความร่วมมือ ของคนในชุมชนต่อโครงการป้องกันแก้ไขต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับครอบครัว สังคม เพื่อนบ้าน โรงเรียน จนถึง ระดับชุมชน โดยทุกระดับต่างทำหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็งในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการมีบุคคลใน ชุมชนเสพยาหรือเกี่ยวข้องกับยามากขึ้น โดยในแต่ละระดับ จะมีโครงการหรือวิธีการต่าง ๆ กันตามบริบท ของตนเอง ในขณะทคี่ นในชมุ ชนมองว่า การใชอ้ ำนาจในการปราบปรามเป็นการก่อให้เกดิ ความเกลยี ดชังต่อ เจา้ หนา้ ทตี่ ำรวจและคนในชุมชน ดงั จะเห็นไดจ้ ากคำกล่าวแสดงความคดิ เหน็ ของสมาชิกในชุมชน บางสว่ น ดงั น้ี คุณบรรจง หัวหน้าชุมชน กล่าวว่า “..เราเชื่อว่าคุกไม่ใช่คำตอบ จริง ๆ แล้วคนใน ชุมชนเรารู้ ตระกูลเค้าทุกคนไม่เคยติดคุกคดียาเสพติดเลย อยู่ ๆ คดีพลิก กฎหมายเพิ่มโทษ ยาม้า จากโทษปรบั มาเป็นโทษจำ ติดรา่ งแหไป วธิ ีการทีช่ ุมชนจะทำได้ โดยท่ตี ัวเองไม่บอบช้ำ มากนัก โดยการจัดการดูแล ช่วยเหลือ วิธีนี้จะทำให้เราไม่สูญเสียแนวร่วมตรงนี้ไป เพราะว่า วันนี้คนที่ถูกจับไปติดคุก เครือข่ายในคุกมันใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นตลอดเวลา ในขณะที่เครือข่าย ของชมุ ชน เรามัวแต่ไปผลักคนกลุ่มน้ีออกไป พอผลักคนกลุ่มน้ีออกไป สงครามแย่งชิงมวลชน 93
เราสูญเสียมวลชน ทั้ง ๆ ที่เค้าเป็นลูกหลานเราในชุมชน เราสูญเสียมวลชนไป เราถูกปลุก ระดมให้ต่อต้านยาเสพติด พอเราต่อต้านยาเสพติดจะไม่คบไม่ค้ากับคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพ ติด ทำไมเราไมช่ ว่ ยเหลือ แล้วดงึ เค้ามาเป็นพวกเรา เพราะเค้าคอื ลกู หลานในชุมชนเรา..” ซิสเตอร์โนรา ระดมกิจ ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องน้ีว่า “ซิสเตอร์คิดว่า การดูแลแบบ นี้ได้ผลมากกว่าการปราบปรามเนี่ย เค้าก็แค่ว่าหลบหรือว่าแค่อะไร แล้วเค้าก็ไม่รู้ ไม่มีการ บำบัดให้ชีวติ มนั ดีขึ้น กไ็ ดแ้ ตห่ ลบการปราบปราม ซสิ เตอร์วา่ มนั ไมใ่ ห้โอกาสคน แต่ว่าถ้าเป็น ฮาร์มเนี่ย มันเป็นวิธีการ กระบวนการที่ให้โอกาส แล้วสักวันหนึ่ง เรามีความหวังกันว่าสักวัน หนึ่งคงจะเลิกได้ ถ้าวันหนึ่งคุณเห็นคนอื่นเขาเอาใจใสค่ ุณ เขาดูแลสุขภาพของคุณเนี่ย สักวัน หนึ่งคุณจะเลิกได้ แต่ถ้าปราบนี่ก็คือจับอย่างเดียว จับมาแล้วเดี๋ยวก็ปล่อย เค้าก็กลับมา เหมือนเดิม เคา้ ไมไ่ ด้สำนึกอะไรเลย แต่อย่างโครงการท่ชี ว่ ยกันฟืน้ ฟอู ยู่กันอยา่ งสันตเิ นยี่ มันดี ตรงที่ว่ามันเป็นกำลังใจซึง่ กันและกัน เค้าไม่โดนทับถม ไม่ซ้ำเติม ไม่มีใครซ้ำเติมเค้า ซิสเตอร์ คิดวา่ มนั ไดผ้ ลมากกว่า” คุณประยูร วงศ์พุทธคำ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชมุ ชน แสดงความคิดเห็นเรื่องนีว้ า่ “ต้อง ควบค่กู ันไป ไมม่ ีอะไรดีทส่ี ุด สำคญั ท้งั คู่ ฮารม์ กต็ ้องทำไปด้วย ฮาร์มนน้ั ก็คือ ทำยังไงให้คนใน ชุมชนอยู่ด้วยกัน อย่างบูรณาการอย่างมีความสุข ยอมรับกัน แต่ถ้าเกิดการจับกุม การ ปราบปราม ถ้าไม่มีเลย มีแต่ ฮาร์ม อย่างเดียว มันก็อ่อนเกินไป สุดท้ายคนก็จะไม่เห็น ความสำคัญของกฎหมายบ้านเมือง การปราบปรามต้องใช้ท้ังคู่ ทั้งผู้ค้าและผูเ้ สพ แต่ฮาร์มใช้ ในกรณที ่ีวา่ จำเป็นตอ้ งสรา้ งสังคมที่สงบ” คุณสาลี่ ตันโสภาลกั ษณ์ เจา้ หน้าทพี่ ยาบาลศนู ย์บริการสาธารณสขุ กล่าวว่า “สองวิธี นี้ ถ้าเป็นความคดิ ของพยาบาล มันควรจะไปคู่กัน เพราะว่าถ้าไม่มีการปราบปรามเลย ชุมชน ก็จะโด่งไปเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ปราบอย่างเดียว ชุมชนก็ไม่ทำอะไร รอปราบ รอถูกจับ คือสอง อนั เนี้ย นา่ จะไปคู่กัน แตถ่ า้ ใหน้ ้ำหนัก พีใ่ หช้ ุมชนทน่ี ่าจะมีน้ำหนักมากกวา่ ปราบปราม เพราะ การปราบในยุคปัจจุบันที่เจอมา คือปราบเท่าไหร่ก็โผล่มาเท่านั้นเลย ที่ผ่านมาถ้าปราบ เท่าไหร่แล้วยังไม่สำเร็จ น่าจะเปลี่ยนแนวว่า ลองให้เค้าทำกันเองบ้างสิ แต่ปราบก็ยังไม่ได้ หายไป แตไ่ ม่ใช่ปราบมากจนอยไู่ ม่ได้” ดาบตำรวจชยั ชนะ นาชัยราญ ไดแ้ สดงความคิดเห็นในมุมของตำรวจวา่ “...นักปราบ มือปราบระดับหนึ่งเลยนะ เค้าบอกเลย ปราบยังไงมันก็ไม่หมด มันต้องทำในเชิงมิติป้องกัน ควบคู่กับการปราบปราม สมมุติไม่มีผู้เสพเลย คุณจะไปขายให้ใคร เราไม่ต้องไปตามหาคนคา้ ไม่ต้องไปตามหาคนเสพ ปอ้ งกนั ดีกว่าปราบปราบ แต่กต็ ้องควบคู่กนั ไป ถา้ เราป้องกันดี เราก็ ไม่ตอ้ งไปปราบปราม เพียงแตเ่ ฝ้าระวงั อยา่ ใหม้ นั โผลข่ น้ึ มา ตัดไฟแตต่ น้ ลมไว้ก่อน..” 94
“ครอบครัวมคี วามสำคัญในการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติด” สมาชิกในชุมชนมีการรับรู้ มีทัศนคติที่ดีและเชื่อว่าครอบครัวมีความสำคัญในการป้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติด ภายใตค้ วามเชื่อท่ีว่าวฏั จักรของคนอย่างไรกห็ นีไม่พ้นครอบครวั การให้พ่อแม่ซ่ึงเป็นคนท่ีมี ส่วนได้สว่ นเสียโดยตรงดูแลกันและกันในครอบครัว จะเกดิ เป็นความท่มุ เทในระดับสูง ท่ตี ้องการป้องกัน และ แก้ไข ให้ลูกหรือคนในครอบครัวเลิกยา ดังจะเห็นได้จากการให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการแม่มีลูก ติดยา การใหก้ ำลังใจในครอบครวั แม่และลูกยินดีที่จะปรับพฤติกรรมของตนเองเพื่อคนในครอบครัว แม่เป็น ตัวอยา่ งในการนำลกู มาขอตรวจสารเสพติดโดยความสมัครใจ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากคำกล่าวแสดงความคิดเห็นของสมาชกิ ในชมุ ชนบางสว่ น ดงั น้ี คุณบรรจง หัวหน้าชุมชน ได้กล่าวไว้ว่า “ของผมมีเครือข่ายแม่ที่มีลูกติดยา เราใช้ กลไกแม่ในการเข้าถึงลูกในการเข้าสู่กระบวนการ ในการดึงเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งตรงนี้ผู้นำ ชุมชนไมส่ ามารถ ผู้นำชุมชนจะใกล้ชิดกวา่ แมไ่ ดย้ ังไง แมใ่ ห้ตังคใ์ ช้ทกุ วนั ” ซสิ เตอรโ์ นรา ระดมกจิ กลา่ วว่า “ครอบครวั สถาบนั ครอบครัวเน่ีย ถ้าแม่หรือพอ่ ยังคง มีท่าทีที่ยังรัก ยังห่วงใยลูก เค้าจะกลับมาสักวัน สักวันหนึง่ เขาจะกลบั มา อันนี้แม่ที่มีลูกติดยา เขาเล่าเอง เค้าบอกว่ารอเวลาหน่อย แต่ว่าเราให้ความรักเค้า พูดกับเค้าดี ๆ อันนี้คือคนที่ ใกลช้ ิดผู้เสพมากท่ีสดุ กค็ อื พ่อแม่ และญาตพิ นี่ ้องทไี่ มร่ ังเกยี จ ที่ยังคงรักเค้าเหมือนเดมิ ” คุณฉลวย สายอุทา กล่าววา่ “ลูกสาวติดยาเพราะประชดกับแฟน แฟนติดเลยติดด้วย แมท่ ำทกุ อย่าง ตีบา้ ง ก็เลกิ ตี แต่ที่ได้ผลคอื พดู คุยกันตรง ๆ ขอความเหน็ ใจ เขา้ ใจความลำบาก ของแม่ ความหวังดีของแม่ จนลูกเลิกกับแฟน มีแฟนใหม่ เลยขอลูกอีกครั้งเลิกยาให้แม่นะ ขอร้องเค้า เอาสมบตั ทิ ่นี า มาจูงใจว่ายงั ไงก็ต้องเปน็ ของลูกคนเดียว ลกู รับปากแตข่ อเวลา และ ได้แฟนใหม่ ไม่เล่นยาใช้เวลา 1 ปีเลิกได้ ป้ายังจำได้เลย ลูกสาวป้าเลิกยาได้ทุกวันนี้เพราะว่า ป้าต้นพยายามคอยบอก คอยสอนลูก ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะสอนลูกไปขโมย ไปทดลอง ยา ไปดูดยา ป้าไมเ่ คยเจอ” คุณอุบล โพธิ์กราน แสดงความคิดเห็นว่า “มันก็มีส่วนช่วยนะ คือพอเราเห็นลูกติดยา เนย่ี เรากใ็ หค้ วามรกั ใหค้ วามอบอนุ่ เขา ตวั แตน๋ เอง เลิกยาได้เพราะพ่อเสยี สญั ญากับพ่อว่าจะ เลิก ... ลูกชายเล่นยามาตั้งแต่ ป.6 เอาไปขายในโรงเรียน ครูนุกูลมาบอก เราถามลูก มันบอก ป่าว ๆ ก็เลยบอกว่า ตั้มอย่าให้แม่จับได้นะ ว่าหนูเล่นยา มันย้อนกลับมาว่า แม่ยังเล่นเลย แม่อ่ะ เป็นตวั อย่างให้หนทู ำ...ปจั จุบนั ลกู เลกิ ยาหมดแลว้ ” คณุ ถาวร พงษ์พฒุ กลา่ ววา่ “กระบวนการอะไรก็แล้วแต่ สุดทา้ ยกก็ ลับมาท่ีครอบครัว ถามว่าถ้าพ่อแม่ไม่ดูลูก ใครจะดูลูก ปิ่น ทั้งขายทั้งเสพ ตอนนั้นจะเลิกเพราะมีคนลอบที่จะยิง เพราะเวลาลง ลงทีละเยอะ แต่ที่เลิกได้จริง ๆ เลย เพราะลูกพูดว่า รู้ว่าไม่ดีแม่เล่นทำไม คำนี้ 95
นะ ตอนนั้นเลิกขายแลว้ แต่ยังเสพอยู่ นอนคาประตูเลย นึกถึงคำลูกถ้าเราเป็นแบบนี้ มันจะยง่ิ แย่ รวู้ า่ ไมด่ แี มเ่ ล่นทำไม กเ็ ลยตดั สินใจเลกิ ” คุณสาลี่ ตันโสภาลักษณ์ เจ้าหน้าที่พยาบาลศูนย์บริการสาธารณสุข กล่าวว่า “ครอบครัวสำคัญที่สุด พื้นฐานของคนไทยแล้ว คนกับครอบครัวสัมพันธ์กัน ปัญหาก็เกิดจาก ครอบครัว การแก้ปัญหาก็เกิดจากครอบครัวเอง เป็นสังคมแรกที่เค้ามีชีวิต ไม่ว่าจะตรงส่วน ไหน ถ้าคุณแต่งงานแล้วย้ายไป ก็เป็นอีกครอบครัวหนึ่ง ดังนั้นครอบครัวน่าจะเป็นจุดเริ่มที่ทำ ให้เกิดปัญหาและแก้ปัญหาได้ เหมือนคนในบ้านเรา ถ้ามีปัญหาเราจะไปให้คนอื่นแก้ก็ไม่ได้ ก็ คลา้ ยกัน” ดาบตำรวจชัยชนะ นาชัยราญ ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ครอบครัวต้องมีส่วนร่วม หนึ่งเป็นการให้กำลังใจ เป็นการปลูกฝัง อย่าไปใส่ใจคำพูดคนรอบข้าง หลังจากบำบัดออก มาแลว้ แต่วิธกี ารพูดของครอบครวั ต้องดี บางครอบครัวไมม่ ีวธิ กี ารพูด” บทสรุป 1. จุดแขง็ ของชุมชน จากการศึกษาบทเรียนและพัฒนากลไกการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 10 “ชุมชน เป็นศนู ยก์ ลางในการป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ” กรณี พ้ืนทกี่ รงุ เทพมหานคร : ชุมชนกองขยะ หนอง แขม พบว่า ชุมชนกองขยะหนองแขมได้มีการดำเนินการ ประสาน เชื่อมโยง ฝ่ายปกครองท้องที่ องค์กร ชุมชน องค์กรศาสนา สถาบันครอบครัว องค์กรสตรี เด็กและเยาวชน สถาบนั การศกึ ษา ศูนย์ยุติธรรม ชุมชน ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ภาคประชาสังคม องค์กรภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วม ขับเคลอ่ื นการดำเนนิ งานป้องกัน ดูแล และแกไ้ ขปญั หายาเสพติดในชุมชน ได้ตามมติสมชั ชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งน้ี ตงั้ แต่การสร้างทัศนคติ ความเชือ่ วา่ ชมุ ชนสามารถป้องกนั และแกป้ ัญหาได้ด้วยตนเอง เห็นคุณค่าของ ผู้เสพ ผู้ติดยา เชื่อว่าการป้องกันนั้น ยั่งยืน และให้ผลที่ดีกว่าการปราบปราม และให้ความสำคัญกับสถาบัน ครอบครัวในการเปน็ สถาบันหลกั ของการปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ มีการประชุมภายในชุมชน เพื่อสำรวจ คัดกรองปัญหาในพื้นที่ชุมชน กำหนดให้มีประเด็น เรื่องการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้อยู่ในข้อตกลง กติกา ระเบียบ และธรรมนูญสุขภาพของชุมชนอย่าง ครอบคลุม มีการดำเนินการป้องกันและสรา้ งภมู ิคุ้มกันปญั หายาเสพติดและการใชย้ าในทางที่ผิดในครอบครัว สถานศึกษา สถานประกอบการ ชมุ ชน และสือ่ สงั คมออนไลน์ มีกลไกในการร้องขอความชว่ ยเหลือ ตลอดจน การเฝ้าระวังและจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในชุมชน มีการดำเนินการเชิญชวน ผู้เสพ ผู้ติดยา เสพติด มาทำความเข้าใจ และคัดกรอง เพื่อช่วยเหลือตามความประสงค์อย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล 96
รวมถึงการติดตาม ดูแลช่วยเหลือผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดและกลุ่มเสี่ยง ในด้านสุขภาพ อาชีพตามความถนัด การศึกษา และเปิดโอกาสทางสังคมอย่างตอ่ เนื่องและยั่งยืน เพื่อให้สามารถพึง่ พาตนเองและอยู่ร่วมกันได้ใน ชุมชน นอกจากนี้ ยงั มีการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั องค์กร ภาคีเครอื ข่ายและชมุ ชนพ้ืนที่อ่ืน ๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขและสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน โดยประสานให้ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน วิชาการในและนอกพื้นที่สนับสนุนองค์ความรู้ตลอดจนการศึกษาวิจัยด้านนี้ให้ครอบคลุมแ ละต่อเนื่อง ดงั ตอ่ ไปนี้ - ชุมชน/ภาคประชาสงั คม คณะภคนิ ีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแหง่ กรงุ เทพฯ o จัดให้มีซิสเตอร์ทำงานอภบิ าลประจำอยู่ในชุมชน เป็นทปี่ รึกษา ดำเนนิ กจิ กรรมทัง้ ศนู ย์ เดก็ เลก็ สร้างบา้ นพระหฤทัยหนองแขม ตลอดจนสนบั สนุนงบประมาณต่าง ๆ สมาคมสตรไี ทยคาทอลิก o สอนภาษาอังกฤษใหเ้ ด็กและเยาวชนในชมุ ชน และ ตดิ ตามดแู ลผูพ้ ้นโทษ o ชมรมคาทอลิกจึงจดั ครจู าก YWCA มาสอนภาษาองั กฤษทุกวันพุธและเสาร์ โรงพยาบาลเซ็นต์หลยุ ส์ o บรกิ ารตรวจสุขภาพท่ัวไป และ ออกหนว่ ยตรวจเดือนละครั้ง - หน่วยงานภาครัฐ ป.ป.ส. และ ปปส. กทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักงานเขตหนองแขม สถานีตำรวจหนองค้างพลู สำนกั งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ และ ปปส. กทม. o ให้ทนุ สนับสนนุ การดำเนนิ งานปอ้ งกันยาเสพตดิ ในชุมชน อบรมแกนนำกองทนุ แม่ o เป็นทป่ี รึกษาการดำเนนิ งานกิจกรรมตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ศูนยบ์ ริการสาธารณสุข 48 (ศูนย์ 48) สำนกั อนามัย o ใหบ้ ริการบำบัดผเู้ สพยา ทัง้ การบริการบำบัดในชุมชน อาทิตย์ละครงั้ จากการ ประสานขอความร่วมมือจากชมุ ชน และการบำบดั ที่คลินิกบำบดั ยาเสพติดที่ศูนย์ o กจิ กรรมการใหค้ วามรเู้ ร่ืองยาเสพติด ว่ายาเสพตดิ มผี ลอะไรต่อตวั เคา้ และตอ่ ครอบครวั เป็นลกั ษณะการแทรกซมึ ไปกับงานเวทชี าวบา้ น ในช่วงเย็น เพือ่ สรา้ งความ ตระหนกั สะท้อนให้เค้าเหน็ ถึงปัญหา o โครงการเยย่ี มบ้านครอบครัวทม่ี ีผเู้ สพยา o มกี ารอบรมใหค้ วามร้กู ับอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสส. เพอื่ ช่วยกันดแู ล 97
สำนกั งานเขตหนองแขม o ใหค้ วามอนุเคราะห์ในการจัดตงั้ ศนู ย์เดก็ เล็กอย่างถูกกฎหมายและส่งคุณครูมาดูแล o กระตุน้ สร้างความตระหนกั ให้คนในชมุ ชนตนื่ ตวั กบั ปัญหายาเสพติด ในการคัดกรอง ต้องทำให้เค้าเห็นประโยชน์ วา่ คัดกรองไปเพื่ออะไร (ไมใ่ ชต่ ีตราแต่เพ่ือชว่ ยเหลือ สง่ ต่อ) สถานีตำรวจหนองคา้ งพลู o โครงการชมุ ชนสขี าว ทำการเอ็กซเรย์ทกุ หลงั คาเรอื น ท้ังจากการสอบถามโดยตรง ๆ และนำเลขประชาชนของคนในชมุ ชน มาเช็คประวตั ใิ นระบบของตำรวจ o มสี ายตรวจไปตรวจกลางคืน (สายสืบ สายตรวจ) o โครงการประชารัฐต้านภยั รว่ มใจ ยาเสพติด o โครงการต้นนำ้ กลางน้ำ ปลายนำ้ คอื โครงการกองทนุ แม่ “ตน้ น้ำ” คือ การประชาสมั พนั ธใ์ ห้ชาวบา้ นไดร้ บั รู้ การประชาคมและ MOU รว่ มกัน “กลางน้ำ” คือ การเอก็ ซเรยช์ มุ ชน ให้ความรู้เรอ่ื งยาเสพติด โครงการครแู ดร์ “ปลายน้ำ” คือ การปอ้ งกนั ระยะยาว เช่น ตรวจตรา หรือสร้างเครอื ข่ายเฝ้าระวังใน พื้นที่ (สร้างความยั่งยืนให้ชุมชน) ได้ผลระดับหนึ่ง ยังไม่ครอบคลุมเป้าหมายท่ี ต้องการ o การใหค้ วามร้จู ากครแู ดร์ ในเรอ่ื งของเทคนิคการป้องกนั การแจง้ เบาะแส การเอาตวั รอดจากสถานการณ์ยาเสพติด ความรู้เรื่องกฎหมาย - หนว่ ยงานวิชาการ มหาวิทยาลัย, โรงเรยี น วทิ ยาลยั แสงธรรมและโรงเรยี นในเครอื คาทอลิก o จดั สง่ บราเดอรม์ าสอนและนำเด็กและเยาวชนในชมุ ชนทำกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ o สอนฟตุ บอลใหก้ บั เด็ก ๆ โดยใชส้ นามฟุตบอลหญา้ เทยี มทซี่ ิสเตอร์จัดเชา่ ไว้ให้ มหาวิทยาลยั ธนบุรี o ให้การสนบั สนนุ ถังซักผ้าพลงั งานแสงอาทิตย์ ในการสรา้ งอาชีพให้กบั คนในชมุ ชน o สอนเรือ่ งการซ่อมเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ทที่ างชมุ ชนไปเกบ็ จากกองขยะ เพื่อสามารถนำมาใช้ ประโยชนอ์ กี ครั้ง รวมถึงนำไปจำหนา่ ยได้ในราคาที่สงู กวา่ ตอนไม่ไดซ้ ่อมแซม สอนการ ซอ่ มหลอดไฟ การเดินสายไฟภายในบ้าน การซ่อมกระเป๋า รองเทา้ มอื สองท่ีบางสว่ นไป รบั ซ้อื จากกองขยะ วทิ ยาลัยเทคโนโลยหี ม่บู ้านครู o มอี าจารยจ์ ากคณะบญั ชีมาสอนเร่อื งบัญชคี รัวเรือนเพ่ือเสรมิ การแก้ปัญหาหนีน้ อก ระบบ o มีอาจารยจ์ ากหลากหลายคณะมาชว่ ยในการฝึกอบรมอาชีพใหก้ ับคนในชุมชน 98
โรงเรยี นในเครือคาทอลกิ o มีซิสเตอร์และคณุ ครจู ติ ตาภบิ าลมาชว่ ยให้เดก็ เรยี นร้เู รื่องคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความมี นำ้ ใจ คุณธรรมพื้นฐาน ดูแลเรอ่ื งศาสนา อาทิ โรงเรยี นนกั บุญเปโตร โรงเรยี นยอแซฟ อุปถัมป์ โรงเรียนมารอี ปุ ถมั ป์ เปน็ ตน้ เปน็ การพานักเรียนมาเรยี นรูว้ ิถีชีวิตของชุมชน เยาวชนที่ด้อยโอกาสกว่า เรียนรู้การแยกขยะ เรียนรู้การแบ่งปันและการทำกิจกรรม รว่ มกบั เด็กในชมุ ชน 2. พลังจากภายในประสานภายนอก ประธานชุมชนเล่าว่า ในอดีต ก่อนทจ่ี ะมีสภาพแวดล้อม บ้านเรือนอย่างเช่นในปัจจุบันนี้นั้น “สภาพของชุมชนใน ช่วงเวลานั้นก็คือชุมชนบุกรุกดี ๆ นี่เอง หน้าฝนจะมีน้ำเจิ่งนอง ไปทั่ว บางแห่งก็ท่วมขังเป็นน้ำครำ ส่งกลิ่นเหม็น ถนนก็เป็นดิน ลูกรัง ขยะครัวเรอื นไม่มีรถมาเก็บกท็ ิ้งลงใต้ถนุ อยา่ งเดียว เป็นที่ น่ารังเกียจของคนทั่วไป สอดคล้องกับความคิดเห็นของสมาชิก ชุมชนคนหนึ่งว่า “สมัยก่อนชุมชนต้องอยู่อย่างแออัด สร้างเพิงพักอาศัยบนกองขยะด้วยเศษไม้เศษขยะที่หา ได้ เก็บขยะไดก้ ็แยง่ กัน ต่างคนต่างเอาตวั รอด ไร้ระเบียบวินยั ในการอยู่ร่วมกัน ชมุ ชนจึงเป็นแหลง่ ปัญหาและ ไม่ได้รับการยอมรบั จากสังคม” ซึ่งในสมัยเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา มีโรคพิษสุนัขบ้าระบาดหนักในพื้นที่มีเด็กหลายคนถูกสุนัขจรจัดกัด ขาดผู้ปกครองดูแล เนื่องจากผู้ปกครองต่างทำมาหากินโดยการไปคุ้ยขยะในกองภูเขาขยะไม่มีเวลาดูแลบุตร หลาน ปล่อยตามยถากรรม คุณบรรจงเห็นถึงปัญหาต่าง ๆ จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก ศูนย์สังคม พัฒนา อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ซึ่งได้ประสานงานให้ซิสเตอร์วราภรณ์ ธิราศักดิ์ จากคณะภคินีพระหฤทัย ของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯเข้ามาช่วยเหลืองานอภิบาลหรือที่ทุกคนในชุมชนจะเรียกท่านว่าซิสเตอร์ยาย นอกจากน้ีศนู ย์สงั คมพฒั นายังได้มอบไมท้ ี่รื้อถอนจากอาคารเรียนเกา่ ของโรงเรยี นตา่ ง ๆ ในกรุงเทพฯที่เก็บไว้ อยู่ทโี่ รงเรียนยอแซฟอุปถมั ป์ นครปฐม มาสร้างเปน็ อาคารศูนยเ์ ด็กเลก็ 99
รปู ที่ 10 : ศนู ยเ์ ด็กเลก็ และสำนกั งานซิสเตอรว์ ราภรณใ์ นยุคแรก การดำเนินงานอภบิ าลของซิสเตอร์วราภรณ์ เริ่มจากการเข้ามาสรา้ งศูนย์ดูแลเดก็ เล็ก ดูแลเด็ก ๆ ใน ชุมชน จับมือเขียนหนงั สือ เล่านิทาน สอนหนังสอื เดก็ ๆ ตลอดจนดูแลการจัดเก็บค่าน้ำ เนื่องจากในสมยั นัน้ ชาวบ้านในชุมชนเป็นผู้บกุ รกุ ไม่มีบ้านเลขท่ีจึงไม่สามารถขอน้ำประปาได้ ซิสเตอร์ได้ดำเนินการขอน้ำประปา แล้วแต่ละบ้านจะมาลากสายยางไปใส่ตุ่มในบ้านของตนเองคิดตุ่มละ 5 บาท และอาศัยจากการเดินไปดูการ ลากสายยางน้ำไปใส่ตุ่ม การไปเก็บค่าน้ำพูดคุยกับชาวบ้าน สอนการดำรงชวี ติ ใหก้ ารดแู ลทางจิตใจตลอดจน ให้คำปรึกษาชว่ ยเหลือในเร่ืองตา่ ง ๆ เป็นภาพทค่ี ุ้นชนิ ของชาวบ้านที่ซิสเตอร์จะนัง่ รถเมลล์มาจากอารามพระ หฤทัย คลองเตย จากนั้นนั่งจักรยานยนต์รับจา้ งเข้ามาที่ชุมชนโดยสองมือจะหิ้วอาหารเช้าที่คณะซิสเตอร์ใน อารามรับประทาน ใส่ถุงมาแจกจ่ายชาวบ้าน ซึ่งจากวันนั้นจนถงึ ปี 2562 นี้ก็ร่วมเกือบ 30 ปี เยาวชนหลาย คนในชุมชนนั้นเติบโตมาจากการดูแลของซิสเตอร์วราภรณ์ และด้วยการดูแลด้วยความรักและเมตตาของซิ สเตอร์ทำใหซ้ ิสเตอรเ์ ป็นท่ีเคารพรักของทุกคนในชุมชน เมื่อชุมชนมกี ารพัฒนาไปอยา่ งมากขึ้น ทางคณะภคินี พระหฤทัยจึงจัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างอาคารเป็นบ้านพระหฤทัย หนองแขมเพื่อให้การ ดำเนินงานอภิบาลของซิสเตอร์เป็นไปอย่างสะดวกเรียบร้อย ในระหว่างนั้นได้มีซิสเตอร์โนรา ระดมกิจเข้ามา เป็นอีกแรงช่วยดูแลงานอภิบาลในชุมชนหนองแขม ซึ่งเมื่อทางคณะฯเห็นว่าซิสเตอร์วราภรณ์มีอายุมากและ สุขภาพไม่แข็งแรงนักอยากให้ซิสเตอร์วราภรณ์ได้พักผ่อนที่อารามพระหฤทัยคลองเตย ไม่ต้องเดินทางไปมา ระหว่างคลองเตยกับหนองแขม และหากบ้านพระหฤทัยหนองแขมสร้างเสร็จทางคณะก็จะอนุญาตให้มาพัก ประจำอยูท่ ห่ี นองแขม แตซ่ สิ เตอร์วราภรณ์ก็ได้จากไปก่อนท่บี ้านพระหฤทยั หนองแขมจะสร้างเสรจ็ แตท่ ่านก็ ได้วางรากฐานที่ดีแก่เยาวชนคนในชุมชน ตลอดจนได้ส่งต่องานต่าง ๆ ให้กับซิสเตอร์โนราเป็นอย่างดียิ่งจน การดำเนินงานอภิบาลดูแลเปน็ ไปอยา่ งต่อเนอ่ื งและได้รบั การยอมรับ เคารพนบั ถือจากคนในชมุ ชนตลอดมา 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115