แผนการจัดการเรียนรปู้ ระกอบการใช้ชุดการสอน กิจกรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาทกั ษะชวี ิต ด้านการพฒั นาชีวติ ส่วนตนและสังคมของนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โดยวธิ กี ลุ่มสมั พันธร์ ่วมกับเทคนคิ การใช้คำถาม R-C-A ของ นางสาวนันทิยา ชุมดี ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตนั ตยาภิรม) สำนักการศกึ ษา เทศบาลนครตรัง
คำนำ แผนการจัดการเรียนรกู้ ิจกรรมแนะแนวเล่มน้ี เปน็ แผนการจดั การเรียนรปู้ ระกอบการใช้ชุดการสอน กจิ กรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาทักษะชีวิต ดา้ นการพัฒนาชวี ติ ส่วนตนและสังคม ของนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โดยวิธีกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เร่ืองสื่อออนไลน์ จำนวน 5 แผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือให้ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนวใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะชีวิตในการคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซ่ึงเป็นไปตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยนำเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A มาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนได้สะท้อน ความคิด เช่ือมโยงเรื่องที่เรียนกับประสบการณ์ของตนเอง และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ท้ังน้ี ดำเนินการจัดกิจกรรมเป็นข้ันตอน เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีทักษะชีวิต สามารถ วเิ คราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหาและวางแผนตัวเองได้อย่างเหมาะสม เรียนรู้อย่างสนุกสนาน รู้จักการแสวงหา ความรู้และผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม โดยครูคอยแนะนำและคอยช่วยเหลือ ตลอดจนติดตามวัดผล ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมอย่างใกลช้ ิด หวังเป็นว่าอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนวเล่มนี้จะพัฒนาทักษะชีวิตผู้เรียนและ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอยา่ งเหมาะสม นางสาวนันทิยา ชมุ ดี ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ
สารบญั หน้า 1 มาตรฐานการแนะแนว 3 แผนการจัดการเรยี นรู้กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาทักษะชีวติ ท่ี 1 13 23 เรอ่ื ง สื่อออนไลน์ กิจกรรมเล่นคอมพิวเตอร์ใหส้ นุก มีสาระ 33 แผนการจัดการเรยี นรู้กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาทักษะชวี ติ ที่ 2 43 เร่อื ง สื่อออนไลน์ กิจกรรมสอนให้รเู้ ทา่ ทัน ดกี วา่ ปิดกั้น แผนการจัดการเรียนรู้กจิ กรรมแนะแนวเพอื่ พัฒนาทักษะชีวติ ที่ 3 เรื่อง สอ่ื ออนไลน์ กจิ กรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสกู่ ารฆา่ ตัวตาย แผนการจดั การเรียนรูก้ จิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวิตที่ 4 เรอ่ื ง สื่อออนไลน์ กิจกรรมสญั ญาณเสย่ี ง โรคสมาธสิ น้ั แผนการจัดการเรยี นรู้กจิ กรรมแนะแนวเพอื่ พัฒนาทักษะชวี ิตที่ 5 เรอ่ื ง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมโรคยคุ ใหม่ ภัยไอที
มาตรฐานการแนะแนว กระทรวงศึกษาธิการ (2559:1-2) กล่าวถึงมาตรฐานการแนะแนวท่ีสมาคมแนะแนวแห่ง ประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานการแนะแนวเพือ่ ให้ใชเ้ ป็นกรอบในการส่งเสริม กำกับดแู ล ตรวจสอบและ ประเมินผล เพื่อการประกันคุณภาพการแนะแนวให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และตอบนโยบายของ รัฐบาลในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ.2552-2561) ในการพัฒนาผู้เรียนแบบองค์รวม ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และสมดุลทุกด้าน ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาโดยสอดคล้องกับแผน ยทุ ธศาสตร์การแนะแนว ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559) ไว้เป็นแนวทางให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้พัฒนาคุณภาพการแนะแนว และการประเมินงานแนะแนวประกอบด้วย 3 ดา้ น มี 6 มาตรฐาน 14 ตัวบง่ ชี้ ดงั ต่อไปนี้ ด้านท่ี 1 คณุ ภาพผเู้ รียน 2 มาตรฐาน 5 ตัวบ่งช้ี มาตรฐานท่ี 1 ผู้เรียนร้จู ัก เข้าใจ รกั และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อนื่ ตวั บ่งช้ที ่ี 1.1 ผู้เรียนรู้จัก เข้าใจ รกั และเห็นคณุ คา่ ในตนเอง และพัฒนาตนเอง อย่างตอ่ เนอ่ื ง ตวั บง่ ช้ีท่ี 1.2 ผู้เรยี นรูจ้ ัก เข้าใจ รักและเห็นคณุ ค่าผอู้ นื่ และปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผ้อู ื่น อยา่ งเหมาะสม มาตรฐานท่ี 2 ผู้เรียนสามารถวางแผนชวี ติ ด้านการศกึ ษา ดา้ นอาชพี และด้านส่วนตวั และดา้ นสังคม ตัวบง่ ชที้ ่ี 2.1 ผเู้ รียนสามารถศึกษาวเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาและวางแผน ดา้ นการศกึ ษา ตวั บ่งชท้ี ี่ 2.2 ผเู้ รียนสามารถคิดวเิ คราะห์ ตดั สินใจ แกป้ ญั หาและวางแผนดา้ น อาชีพ ตัวบ่งชี้ท่ี 2.3 ผูเ้ รยี นสามารถคดิ วเิ คราะห์ ตัดสินใจ แกป้ ัญหาและวางแผนด้าน ดา้ นสว่ นตวั และสงั คม ด้านที่ 2 คณุ ภาพการดำเนนิ งานแนะแนว 3 มาตรฐาน 5 ตัวบง่ ชี้ มาตรฐานที่ 3 ครูแนะแนว/ครทู ท่ี ำหนา้ ทแ่ี นะแนว ดำเนนิ งานแนะแนวตามหลกั การ ปรชั ญา ขอบขา่ ย เป้าหมาย และจรรยาบรรณทางการแนะแนว ตัวบง่ ชท้ี ี่ 3.1 มคี วามรคู้ วามสามารถในการดำเนนิ งานแนะแนวตามปรชั ญา ขอบขา่ ย เปา้ หมายการแนะแนว ตัวบง่ ชี้ท่ี 3.2 ปฏบิ ตั ติ ามจรรยาบรรณการแนะแนว มาตรฐานที่ 4 สถานศกึ ษาจัดบรกิ ารแนะแนวและส่งเสริมระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน ตัวบ่งช้ีที่ 4.1 จัดบรกิ ารแนะแนวท้งั 5 บรกิ าร ครอบคลุมขอบข่ายการแนะแนว อยา่ งเปน็ ระบบและต่อเนอ่ื ง ตัวบ่งช้ที ่ี 4.2 ส่งเสรมิ ระบบดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น มาตรฐานท่ี 5 สถานศึกษาจัดกิจกรรมแนะแนวตามหลักสูตรสถานศึกษา ตัวบ่งชีท้ ี่ 5.1 จดั กจิ กรรมแนะแนวสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและ ครอบคลุมขอบข่ายการแนะแนว
2 ด้านท่ี 3 คณุ ภาพการบรหิ ารจัดการแนะแนว 1 มาตรฐาน 4 ตวั บ่งช้ี มาตรฐานท่ี 6 สถานศึกษามีการบรหิ ารจดั การแนะแนวอย่างมคี ณุ ภาพ ตวั บ่งชี้ท่ี 6.1 ผ้บู รหิ ารให้การสนับสนุนการดำเนินงานแนะแนว ตัวบง่ ช้ีที่ 6.2 บรหิ ารจัดการงานแนะแนวอย่างเป็นระบบ ตวั บง่ ชท้ี ี่ 6.3 จัดใหม้ คี รูแนะแนว/ครูทำหน้าทแ่ี นะแนว ตวั บ่งชท้ี ่ี 6.4 มีภาคเี ครือขา่ ยเขา้ มามีส่วนรว่ มในงานแนะแนว การจัดกจิ กรรมแนะแนว โรงเรยี นเทศบาล 6 (วัดตนั ตยาภริ ม) โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) กำหนดให้ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนวจัดทำกำหนดการจัดการ เรียนรู้กิจกรรมแนะแนวของระดับช้ันประถมศึกษาและระดับช้ันมัธยมศึกษา ซึ่งกำหนดการจัดกิจกรรม เป็นรายช่ัวโมง รายภาคเรียน โดยศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช2551 และ ศึกษาแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (กระทรวงศึกษาธิการ.2553) เพื่อให้ครอบคลุมขอบข่ายเน้ือหาของกิจกรรมแนะแนว เหมาะสมกับ วยั ของผเู้ รยี นและส่งเสริม พัฒนาผเู้ รียนดา้ นต่างๆ แผนการจัดการเรยี นรกู้ จิ กรรมแนะแนวเล่มนี้ เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ประกอบการใช้ชุดการสอน กิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต ด้านการพัฒนาชวี ติ สว่ นตนและสงั คม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 โดยวิธีกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เรื่องส่ือออนไลน์ มี 5 กิจกรรม รวม 5 แผนการจัดการ เรยี นรู้ ไดแ้ ก่ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง สื่อออนไลน์กจิ กรรม เลน่ คอมพวิ เตอรใ์ ห้สนกุ มีสาระ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง สื่อออนไลน์กจิ กรรม สอนให้ร้เู ทา่ ทนั ดีกว่าปิดก้ัน แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง สอ่ื ออนไลน์กจิ กรรม สังคมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตัวตาย แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 4 เรอ่ื ง สอ่ื ออนไลน์กิจกรรม สญั ญาณเสี่ยง “โรคสมาธสิ ัน้ ” แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง ส่ือออนไลน์กิจกรรม โรคยคุ ใหม่ ภัยไอที
แผนการจัดการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาทกั ษะชวี ติ ที่ 1 ดา้ นการพัฒนาชวี ติ ส่วนตนและสงั คม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เรอ่ื ง สอื่ ออนไลน์ กจิ กรรม เล่นคอมพิวเตอร์ใหส้ นุก มีสาระ เทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A เวลา 1 คาบ ผูจ้ ัดกจิ กรรม นางสาวนนั ทิยา ชุมดี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระสำคญั คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในทุกส่วนของชีวิตมนษุ ย์โดยเฉพาะในวัยรุ่นท่เี กมคอมพวิ เตอร์เป็นสิง่ คู่ กันเสมอ ความสำคัญอยทู่ ี่วา่ ทำอย่างไรกับสอ่ื เทคโนโลยีท่ีมอี ยแู่ ล้วให้วัยรุ่นเกิดการเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งชาญฉลาด คือ ได้ ทั้งสาระความรู้และความเพลิดเพลนิ เกดิ ความสนกุ ซง่ึ การใชค้ อมพวิ เตอร์เปน็ การพกั ผ่อนอย่างหนึ่ง แตใ่ หอ้ ยู่ ในขอบเขตในการใช้ รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เปน็ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เพือ่ ให้นกั เรยี นได้รจู้ ักการใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชนจ์ ากการเลน่ คอมพิวเตอร์ ด้วยการรู้จักจัดสรร เวลาและเลือกรายการให้เหมาะกับการนำไปใช้ ไดท้ ั้งสาระและการพักผ่อน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) องคป์ ระกอบของทกั ษะชีวิต สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2556:4-5) ได้กำหนดองค์ประกอบของทักษะชีวิต สำคัญที่จะสร้างและพัฒนาเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชนในสภาพสังคมและเตรียมความพร้อม สำหรับอนาคต ไดแ้ ก่ องคป์ ระกอบท่ี 2 การคิดวเิ คราะห์ ตดั สินใจ และแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลักเหตุผลและ ขอ้ มูลทีถ่ ูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปญั หาในสถานการณ์ต่างๆ อย่าง สร้างสรรค์ ซง่ึ ระบพุ ฤติกรรมทกั ษะชวี ติ ทคี่ าดหวงั ดงั น้ี 1. รจู้ ักสังเกต ตั้งคำถาม และแสวงหาคำตอบ 2. วเิ คราะหค์ วามนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู ขา่ วสาร 3. ประเมนิ สถานการณ์และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ 4. มคี วามสามารถในการคดิ เชอื่ มโยง 5. รู้จกั วิพากษว์ ิจารณ์บนพื้นฐานของข้อมูลสารสนเทศท่ีถูกต้อง 6. รูจ้ ักวธิ ีการและข้นั ตอนการตดั สินใจและแกไ้ ขปัญหาทถี่ ูกตอ้ ง ยุทธวธิ ใี นการฝกึ คอื 1. ใช้เทคนิคตอบคำถาม R-C-A คำถามสะท้อน (R) คำถามเชอื่ มโยง (C) คำถามปรบั ใช้ (A) 2. การคดิ วิเคราะห์ ตดั สินใจ และการแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ 3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) กระบวนการทำงาน
4 3.3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) การมีระเบียบวนิ ัย ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น 4. ทกั ษะสำหรบั ศตวรรษท่ี 21 การคดิ วิเคราะห์ การร่วมมอื 5. องค์ประกอบของทกั ษะชีวติ องค์ประกอบท่ี 2 การคิดวเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ และแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ 6. วธิ ดี ำเนนิ การจดั กจิ กรรม 6.1 ข้ันทดสอบกอ่ นเรยี น ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง สื่อออนไลน์ กิจกรรมเล่นคอมพิวเตอร์ให้สนุก มีสาระ โดยเทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A จำนวน 10 ข้อ 6.2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 6.2.1 ครูนำเข้าสู่กิจกรรม โดยครูกล่าวเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ การเลน่ เกมจากคอมพิวเตอร์ 6.2.2 ครูกระตุ้นใหน้ ักเรยี นรว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เห็น 6.2.3 ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มของนักเรียนและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมให้นกั เรยี นทราบ 6.2.4 ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่มๆละ 5-6 คน โดยวธิ ีคละนักเรียนเก่ง ปานกลาง ออ่ น 6.3 ขนั้ กจิ กรรม ข้นั นำ 6.๓.๑ ครูแจกใบสถานการณ์ เรื่อง แก่นติดเกม ให้นักเรียน เพื่อให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และ รว่ มกันแก้ปัญหา โดยครูใช้เทคนิคคำถาม R-C-A สถานการณ์ แก่นติดเกม แก้วกำลงั เรยี นอยู่ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ เปน็ เดก็ เรียนดีและเปน็ นกั กีฬาของโรงเรยี น แก่นเปน็ น้องชายของแกว้ กำลงั เรียนอยู่ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ เคยเป็นเด็กนักเรียนที่เรยี นดี มากอ่ น แตเ่ มือ่ แกน่ ย้ายไปอยู่โรงเรยี นใหม่ การเรยี นก็แยล่ ง และติดเกมมาก แก่นเคยขอเงิน แก้วเพอื่ ไปเล่นเกม บางคร้งั ก็เลน่ เพลนิ จนกลบั บา้ นดกึ แมร่ ู้สกึ กงั วลและเป็นหว่ งแกน่ มาก จงึ พูดคยุ กับแกว้ เร่ืองแก่นติดเกมว่าจะทำอยา่ งไรดี ครูใช้คำถาม R-C-A เช่น สมมุติวา่ นกั เรียนเปน็ แก้ว จะมวี ธิ ีการช่วยเหลอื นอ้ งชายอยา่ งไรบ้าง 6.๓.๒ ครูแจกใบความรู้ประกอบการจัดกิจกรรม เร่ือง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมเลน่ คอมพวิ เตอร์ให้ สนุก มสี าระ ใหน้ กั เรียนคนละ 1 ชดุ พรอ้ มอธิบาย 6.3.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้ประกอบการจัดกิจกรรม เรื่อง สื่อออนไลน์ กิจกรรมเล่นคอมพิวเตอร์ ให้สนุก มสี าระ
5 ข้นั เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A 6.3.4 ครูเร่ิมต้นใช้เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือ วเิ คราะห์ แก้ปัญหา คน้ หาคำตอบ ดังน้ี คำถามสะทอ้ น (R) - จากสถานการณ์เรื่อง แก่นติดเกม จนไม่สนใจการเรยี น นักเรียนรู้สึกอย่างไร คำถามเชอ่ื มโยง (C) - นักเรียนจะช่วยเหลือและให้คำแนะนำเพ่ือให้แก่นเลิกเล่นเกมและกลับมาสนใจการเรียนได้ อย่างไร คำถามปรับใช้ (A) - หากอนาคตนักเรียนพบเพื่อนของนักเรียนหรือน้องของนักเรียนติดเกม นักเรียนจะทำ อยา่ งไร กบั เรอ่ื งนี้ 6.3.5 เมื่อนักเรียนได้รับฟังคำถาม R-C-A แล้ว ครใู ห้ตัวแทนแต่ละกล่มุ ตอบคำถามปากเปล่าและแสดง ความคิดเห็น (ข้อละ ๒–๓ คน) หลังจากน้ันครูแจกแบบฝึกกิจกรรม เล่นคอมพิวเตอร์ให้สนุก มีสาระ กลุ่มละ ๑ ชุด 6.3.6 นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยทำแบบบฝกึ กิจกรรม เล่นคอมพิวเตอรใ์ หส้ นกุ มีสาระ 6.3.7 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีโอกาสปฏสิ ัมพันธภ์ ายในกล่มุ ให้ได้ขอ้ สรุปงาน การอภิปราย การซักถาม ข้อเสนอแนะ แลกเปล่ียนความคดิ เหน็ ซง่ึ กนั และกนั 6.3.8 ครใู หค้ ำแนะนำและเป็นที่ปรึกษานกั เรียนขณะที่นักเรยี นทำกิจกรรมและสอดแทรก คุณธรรมและจริยธรรม ตรวจสอบการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆของนกั เรยี น 6.3.9 ครูสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนในดา้ นความสนใจ ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น มงุ่ ม่ันในการทำงาน ความซ่ือสตั ย์ และความรับผดิ ชอบ 6.4 ขั้นสรุปและการประเมินกจิ กรรม 6.4.1 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ให้นกั เรียนตอบปาก เปล่าและครอู ธบิ ายเพิ่มเติม - “ประสบการณท์ ่ีนักเรียนไดร้ บั ในการรว่ มกจิ กรรมวันน้ี คืออะไร” - “นกั เรยี นจะเชื่อมโยงกบั สง่ิ ท่ีรู้ สง่ิ ทน่ี กั เรยี นเชอื่ หรือรสู้ ึกมากอ่ นได้อย่างไร” - “นักเรยี นจะนำสิ่งทไี่ ดเ้ รยี นรูจ้ ากประสบการณ์ไปใช้ไดอ้ ย่างไร” 6.4.2 ครูประเมินนกั เรยี น ด้านความรู้ ด้านกระบวนการ ด้านเจตคติ ลงในเคร่อื งมอื การวดั และ ประเมนิ ผลการรว่ มกิจกรรม - ด้านความรู้ โดยวิธกี ารตรวจแบบฝกึ กิจกรรมเล่นคอมพิวเตอร์ใหส้ นกุ มสี าระ - ด้านกระบวนการ โดยวธิ กี ารสังเกต การร่วมอภปิ ราย และกจิ กรรมกลมุ่ - ด้านเจตคติ โดยวธิ กี ารสงั เกตพฤติกรรม 6.4.3 นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ผลการทำแบบฝึกกิจกรรมและข้อคดิ ได้จากการทำกิจกรรม 6.4.4 ครใู หข้ ้อคิดเร่ือง เลน่ คอมพิวเตอร์ให้สนุก มสี าระ 6.5 ขน้ั ทดสอบหลงั เรยี น 6.5.1 ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง สือ่ ออนไลน์ กจิ กรรม เลน่ คอมพิวเตอร์ให้สนุก มี สาระ โดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A จำนวน 10 ข้อ
6 6.5.2 ครูให้นักเรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนา ทักษะชีวิต ด้านการพัฒนาชีวิตส่วนตนและสังคม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A 7. สือ่ – อุปกรณ์ 7.1 ชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพ่อื พฒั นาทักษะชวี ิต ดา้ นการพฒั นาชวี ติ ส่วนตนและสังคมโดย เทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เร่ือง สื่อออนไลน์ กจิ กรรมเลน่ คอมพิวเตอรใ์ หส้ นุก มีสาระ ประกอบดว้ ย - แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น เรอ่ื ง ส่อื ออนไลน์ กิจกรรม เล่นคอมพวิ เตอร์ให้สนกุ มสี าระ - ใบความรู้ประกอบการจดั กจิ กรรม เรอ่ื ง สื่อออนไลน์ กิจกรรม เล่นคอมพิวเตอร์ให้สนุก มสี าระ - แบบฝกึ กจิ กรรม เล่นคอมพวิ เตอรใ์ หส้ นุก มีสาระ - แบบสอบถามความคดิ เหน็ ท่ีมตี ่อชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาทักษะชวี ิต โดยเทคนคิ การใช้คำถาม R-C-A - แบบสงั เกตการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 7.2 ใบสถานการณ์ เรือ่ ง แกน่ ติดเกม 8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 8.1 วิธวี ัดและประเมินผล 8.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 8.1.2 ตรวจผลงานแบบฝกึ เล่นคอมพวิ เตอร์ใหส้ นุก มสี าระ 8.1.3 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน 8.2 เครือ่ งมือวดั และประเมินผล 8.2.1 แบบสงั เกตการปฏบิ ัติกิจกรรม 8.2.2 แบบฝกึ กจิ กรรม เลน่ คอมพิวเตอรใ์ หส้ นุก มีสาระ 8.2.3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน 8.3 เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล 8.3.1 พฤตกิ รรมการปฏิบัติกิจกรรมตงั้ แตร่ ะดบั ดีขน้ึ ไป 8.3.2 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบฝกึ กจิ กรรม ร้อยละ 60 ขึ้นไป 8.3.3 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบรอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป
7 เกณฑก์ ารประเมนิ หมายถงึ ดมี าก 4 คะแนน หมายถงึ ดี 3 คะแนน หมายถึง พอใช้ 2 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 1 คะแนน =เก1ณฑ์กาชร่วตงัดคสะนิแรนะนดับคณุ ภาพ (จากคะแนนรวม) ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ดีมาก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรับปรุง
8 บันทกึ การตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เหมาะสม สอดคล้องตัวช้วี ัด ใช้สอนได้ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ เหมาะสม สอ่ื การสอนมีความเหมาะสม วธิ ีวดั และประเมินผล เหมาะสม สอดคล้องกับตัวชวี้ ัด และจุดประสงค์การเรยี นรู้ ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ (นางสาวนันทิยา ชุมดี) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ วนั ท่ี ความคดิ เห็น /ข้อเสนอแนะผบู้ รหิ าร การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ไดจ้ ริง ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.................................................. (นางสาวอรพินท์ สนิ ธเุ ศรษฐ) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการสถานศึกษา ............./.............../............... ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะผู้บริหาร เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ อนมุ ตั ิใหด้ ำเนินการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้ได้ ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .................................................. (นายสุภาษิต กัณฐสทุ ธ์ิ) ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ............../.............../...............
9 แบบบนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้กิจกรรมแนะแนว 1. กจิ กรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 2. ปัญหา / อปุ สรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ........................................... ผ้บู นั ทึก ( นางสาวนนั ทิยา ชุมดี ) ครผู ู้สอน บนั ทึกหลงั การสอน ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ฉบบั น้ี ได้รบั การพิจารณาจากหัวหน้ากล่มุ สาระการ เรยี นรูแ้ ละฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการแล้ว ลงช่อื ........................................... ลงชือ่ .................................................. (นางสาวนันทยิ า ชมุ ดี) (นางสาวอรพินท์ สนิ ธุเศรษฐ) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ รองผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา ลงชอ่ื ........................................................... (นายสุภาษติ กณั ฐสุทธ)์ิ ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา
10 แบบสังเกตการปฏิบตั กิ จิ กรรม เรื่อง สือ่ ออนไลน์ กิจกรรมเลน่ คอมพิวเตอรใ์ ห้สนุก มีสาระ และตอบคำถาม R-C-A ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ช้นิ งาน รวม ในกิจกรรม R-C-A ที่ได้รับ 12 1 คะแนน 2 มอบหมาย 3 4 432143214321 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
11 ลำดับที่ ช่อื -สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ทำช้นิ งาน รวม ในกิจกรรม R-C-A ท่ีได้รบั 12 26 มอบหมาย คะแนน 27 28 432143214321 29 30 31 32 33 34 35 ลงช่อื ........................................ผ้ปู ระเมนิ ( นางสาวนนั ทยิ า ชมุ ดี ) …........./............/............ เกณฑ์การตัดสนิ ระดบั คุณภาพ (จากคะแนนรวม) ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ดมี าก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรุง
12 วิธีการวดั ผล ประเดน็ ทป่ี ระเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบบสงั เกต ความสนใจในกิจกรรม พฤติกรรม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การตอบคำถาม ระดับ 4 หมายถึง มคี วามสนใจในการทำกจิ กรรมและมีสว่ น R-C-A ร่วมในการแสดงความคิดเห็นอย่างตอ่ เน่ือง ทำช้ินงาน ระดบั 3 หมายถึง มคี วามสนใจในการทำกจิ กรรมและมสี ว่ น ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย รว่ มในการแสดงความคดิ เห็นเปน็ ส่วนใหญ่ ระดบั 2 หมายถงึ มีความสนใจในการทำกจิ กรรมบ้างและ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็นบางคร้ัง ระดับ 1 หมายถงึ ไมค่ อ่ ยสนใจในการทำกิจกรรมแต่ไมม่ สี ว่ น รว่ มในการแสดงความคดิ เห็น ระดับ 4 หมายถึง บอกความร้สู กึ และเลา่ ประสบการณท์ ี่ เก่ียวข้องไดช้ ัดเจน ตรงประเดน็ ระดับ 3 หมายถงึ บอกความรู้สกึ และเล่าประสบการณ์ ที่เก่ียวข้องไดช้ ดั เจน ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดบั 2 หมายถึง บอกความรสู้ กึ และเล่าประสบการณ์ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไดไ้ มช่ ดั เจน ไม่ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดับ 1 หมายถงึ บอกความรู้สกึ ได้เลก็ นอ้ ยและเล่า ประสบการณท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งไม่ได้ ระดบั 4 หมายถึง มีความตั้งใจในการทำงานชิ้นงานเสร็จ ตามเวลาทีก่ ำหนด สมาชิกในกลุม่ มีส่วนรว่ มในการทำชิน้ งาน ระดบั 3 หมายถงึ มีความตั้งใจในการทำงาน เสร็จ ตามเวลาที่กำหนด สมาชกิ ในกลุ่มบางคน ไมค่ ่อยมีสว่ นร่วมในการทำชิ้นงาน ระดบั 2 หมายถงึ มคี วามต้ังใจในการทำงานแตง่ านเสรจ็ ชา้ กว่าเวลาท่กี ำหนด สมาชิกบางคนในกลุม่ ไม่ ค่อยมสี ว่ นรว่ ม ระดับ 1 หมายถงึ ไมค่ อ่ ยมคี วามต้ังใจในการทำงาน งานเสร็จ ชา้ กว่าเวลาทีก่ ำหนด สมาชิกบางคนในกล่มุ ไมค่ อ่ ยมสี ว่ นร่วม
แผนการจัดการเรียนร้กู ิจกรรมแนะแนวเพือ่ พัฒนาทกั ษะชีวิตที่ 2 ดา้ นการพฒั นาชีวติ ส่วนตนและสังคม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เรื่อง สือ่ ออนไลน์ กิจกรรม สอนให้รู้เท่าทนั ดกี วา่ ปดิ กั้น เทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A เวลา 1 คาบ ผจู้ ดั กิจกรรม นางสาวนนั ทิยา ชมุ ดี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระสำคัญ สอื่ ออนไลน์และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวติ มนุษย์ทุกเพศทกุ วัย โดยเฉพาะวัยเดก็ และวยั รุ่น ซึ่งเป็นวัยท่ีกำลังอยากรู้อยากเห็น อยากเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ ทำให้การจะบังคับไม่ให้เด็กและวัยรุ่นเข้าถึงส่ือ ออนไลน์คงจะเป็นไปได้ยาก และเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไร แต่ถ้าเปลี่ยนจากการห้าม มาเป็นการสอนให้ เขา้ ใจ และรูท้ ันถึงความเส่ยี งและอนั ตรายทม่ี ีอยู่ในส่ือออนไลน์ นา่ จะเปน็ สง่ิ ทด่ี ีทีส่ ดุ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ให้นักเรยี นรู้จกั การใช้ประโยชน์จากส่ือออนไลนแ์ ละเทคโนโลยี 2.2 เพื่อให้นกั เรยี นเลอื กใช้สอ่ื เทคโนโลยแี ละสอ่ื ออนไลน์ในการศึกษาหาความรู้ที่ถกู ตอ้ ง 2.3 เพ่ือให้นกั เรยี นวเิ คราะหก์ ารใช้เทคโนโลยีและสอ่ื ออนไลน์ท่คี ณุ ค่าทางดา้ นบวกและด้านลบได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) องค์ประกอบของทักษะชวี ิต สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน (2556:4-5) ไดก้ ำหนดองคป์ ระกอบของทักษะชวี ิต สำคญั ที่จะสร้างและพัฒนาเป็นภูมิคุ้มกนั ชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชนในสภาพสังคมและเตรยี มความพร้อม สำหรบั อนาคต ไดแ้ ก่ องค์ประกอบที่ 2 การคดิ วิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ การคิดวเิ คราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลักเหตุผล และข้อมูลท่ีถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ตา่ งๆ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ซง่ึ ระบุพฤตกิ รรมทักษะชีวติ ท่คี าดหวัง ดงั นี้ 1. รจู้ กั สังเกต ตง้ั คำถาม และแสวงหาคำตอบ 2. วิเคราะหค์ วามน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มลู ข่าวสาร 3. ประเมนิ สถานการณ์และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ 4. มีความสามารถในการคิดเช่อื มโยง 5. รจู้ ักวพิ ากษ์วิจารณ์บนพืน้ ฐานของข้อมูลสารสนเทศทถ่ี กู ตอ้ ง 6. รูจ้ กั วธิ กี ารและขั้นตอนการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาที่ถกู ตอ้ ง ยุทธวิธีในการฝึก คือ 1. ใชเ้ ทคนิคตอบคำถาม R-C-A คำถามสะทอ้ น (R) คำถามเชอ่ื มโยง (C) คำถามปรับใช้ (A) 2 การคดิ วเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ และการแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์
14 3.2 ทักษะกระบวนการ (P) กระบวนการทำงาน 3.3 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) การมีระเบยี บวินัย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน 4. ทกั ษะสำหรับศตวรรษที่ 21 การคดิ วิเคราะห์ การร่วมมอื 5. องค์ประกอบของทักษะชีวติ องค์ประกอบท่ี 2 การคิดวเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ 6. วิธีดำเนนิ การจัดกจิ กรรม 6.1 ข้นั ทดสอบกอ่ นเรียน ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องส่ือออนไลน์ กิจกรรมสอนให้รู้เท่าทัน ดีกว่าปิดกั้น โดยใช้เทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.2 ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 6.2.1 ครูนำเข้าสู่กิจกรรม โดยครูเล่าข่าว“วัยรุ่นฆ่าปาดคอแม่เฒ่า เหตุเลียนแบบมาจากเกม” ให้ นักเรยี นร่วมกนั วิเคราะหถ์ งึ สาเหตขุ องพฤตกิ รรมของบุคคลในข่าว “วยั ร่นุ ฆา่ ปาดคอแมเ่ ฒา่ เหตุเลียนแบบมาจากเกม” วยั รุ่นฟิลิปปินส์วัย 19 ปี ฆ่าปาดคอแม่เฒ่า วัย 73 ปี ท่ีจังหวัดเชียงใหม่ โดยสารภาพว่า ลงมอื ฆา่ เหย่ือเอง โดยเลยี นแบบจากเกมนักฆ่าประเภทตอ่ สู้ล่าสังหาร กรมสขุ ภาพจติ กล่าวว่า ในทางจิตวิทยามีความเป็นไปได้ที่การเล่นเกมติดตอ่ กันเป็น เวลานานของเดก็ อาจก่อให้เกิดการเสพตดิ และมีพฤตกิ รรมรนุ แรงได้ จากพฤตกิ รรมเลยี นแบบ อาจเปน็ เพราะเด็กแยกโลกความจริงกบั เกมไม่ออก เพราะวุฒภิ าวะไมพ่ อ ผูป้ กครองควรตั้งกติกา ควบคุมชนิดเกมและเวลาการเลน่ ของลูก ครใู ชค้ ำถาม R-C-A เชน่ นกั เรยี นรสู้ กึ อยา่ งไรกับเรอ่ื งทีไ่ ด้ฟัง อา้ งองิ จาก www. Mgronline.com . 2 มนี าคม 2558. 6.2.2 ครกู ระตนุ้ ให้นักเรียนวิเคราะห์และแสดงความคดิ เหน็ 6.2.3 ครชู ้ีแจงจุดประสงค์การเรียนรู้ การทำงานรว่ มกันเป็นกลุ่มของนกั เรยี นและทำความเขา้ ใจ เก่ียวกบั การปฏิบตั ิกจิ กรรมให้นักเรียนทราบ 6.2.4 ครูให้นกั เรยี นแบ่งกล่มุ ๆละ 5-6 คน โดยวิธีคละนักเรยี นเกง่ ปานกลาง ออ่ น
15 6.3 ขัน้ กิจกรรม ข้ันนำ 6.3.1 ครูนำข่าวและบทความที่ส่ือออนไลน์ลงข่าว เช่น นักเรียนติดเกม การนำข้อมูล ความลับของคนดังมาเปดิ เผย การถกู ล้วงข้อมูลสำคัญของชาวบ้าน การหลอกให้โอนเงิน การทวงหนี้ทาง โทรศพั ทโ์ ดยหลอกลวงว่าเป็นหน้ี ฯลฯ 6.3.2 ครูแจกใบความรู้ประกอบการจดั กิจกรรม เรอื่ ง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมสอนให้รู้เท่าทัน ดีกวา่ ปดิ กัน้ ใหน้ ักเรียนคนละ 1 ชดุ พรอ้ มอธิบาย 6.3.3 นกั เรยี นศึกษาใบความรปู้ ระกอบเรอื่ ง ส่ือออนไลน์ เร่อื ง สอนใหร้ ู้เทา่ ทัน ดกี ว่าปิดกนั้ ข้นั เทคนคิ การใช้คำถาม R-C-A 6.3.4 ครเู ริ่มต้นใช้เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เพ่ือให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มระดมความคดิ เพ่ือ วิเคราะห์ แกป้ ัญหา ค้นหาคำตอบ ดังน้ี คำถามสะทอ้ น (R) - นักเรียนไดฟ้ งั ข่าวและบทความแล้ว นกั เรียนรสู้ กึ อย่างไร - นักเรยี นรู้สกึ อย่างไรจากการศกึ ษาใบความรู้ คำถามเชื่อมโยง (C) - นักเรยี นเคยเจอเหตุการณ์แบบนหี้ รือไม่ และแก้ไขเหตุการณ์ที่เกดิ ขน้ึ อยา่ งไร คำถามปรับใช้ (A) - ถา้ เหตุการณเ์ กิดขนึ้ กบั ตวั นกั เรียนจะทำอย่างไร 6.3.5 เมื่อนักเรียนได้รบั ฟังคำถาม R-C-A แล้วครใู ห้ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มตอบคำถามปากเปล่า เพื่อแสดงความคิดเห็น ข้อละ ๒–๓ คน หลังจากนั้นครูแจกคำถาม R-C-A แบบฝึกกิจกรรม สอนให้รู้เท่าทัน ดกี วา่ ปิดก้นั กลุ่มละ ๑ ชุด 6.3.6 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้มีโอกาสปฏสิ ัมพนั ธ์ภายในกลมุ่ ใหไ้ ดข้ ้อสรุปงาน การอภิปราย การซักถาม ข้อเสนอแนะ แลกเปลย่ี นความคิดเห็นซึง่ กนั และกัน 6.3.7 ครใู หค้ ำแนะนำและเปน็ ทปี่ รึกษานกั เรยี นขณะท่ีนักเรียนทำกจิ กรรมและสอดแทรก คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ตรวจสอบการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆของนกั เรยี น 6.3.8 ครูสังเกตพฤติกรรมนักเรียนในด้านความสนใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น มงุ่ ม่ันในการทำงาน ความซอ่ื สัตย์ และความรับผิดชอบ 6.4 ขนั้ สรปุ และการประเมินกิจกรรม 6.4.1 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ให้นกั เรยี นตอบ ปากเปล่าและครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ - “ประสบการณ์ท่ีนักเรยี นได้รบั ในการรว่ มกจิ กรรมวนั นี้ คอื อะไร” - “นักเรียนจะเชือ่ มโยงกับสิง่ ที่รู้ สิง่ ทีน่ กั เรยี นเชื่อ หรอื รู้สกึ มากอ่ นไดอ้ ย่างไร” - “นักเรียนจะนำสงิ่ ท่ไี ดเ้ รียนรจู้ ากประสบการณไ์ ปใช้ไดอ้ ย่างไร” 6.4.2 ครูประเมินนักเรียน ด้านความรู้ ดา้ นกระบวนการ ดา้ นเจตคติ ลงในเครือ่ งมือการวัด และประเมนิ ผลการร่วมกิจกรรม
16 - ดา้ นความรู้ โดยวธิ ีการตรวจแบบฝกึ กจิ กรรม R-C-A - ดา้ นกระบวนการ โดยวธิ กี ารสังเกต การร่วมอภิปราย และกิจกรรมกล่มุ - ดา้ นเจตคติ โดยวธิ ีการสงั เกตพฤตกิ รรม 6.4.3 นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ผลการทำแบบฝึกกจิ กรรมและส่งิ ได้จากการทำกจิ กรรม 6.4.4 ครใู หข้ อ้ คดิ เรือ่ ง สอนให้รู้เทา่ ทัน ดกี วา่ ปิดกัน้ 6.5 ขัน้ ทดสอบหลงั เรียน 6.5.1 ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง สือ่ ออนไลน์ กจิ กรรมสอนให้รู้เทา่ ทัน ดีกว่าปิดกั้น โดยใช้เทคนิคคำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.5.2 ครูให้นักเรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อ พฒั นาทักษะชีวติ ด้านการพัฒนาชีวิตส่วนตนและสังคม ของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โดยเทคนคิ การใช้ คำถาม R-C-A 7. สื่อ – อปุ กรณ์ 7.1 ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพือ่ พฒั นาทักษะชีวิต ด้านการพฒั นาชีวติ สว่ นตนและสงั คม โดยเทคนคิ การใช้คำถาม R-C-A ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เรือ่ ง สื่อออนไลน์ กจิ กรรมสอนให้รู้เทา่ ทัน ดกี ว่าปดิ กั้น ประกอบด้วย - แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน เรอื่ ง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมสอนใหร้ ู้เท่าทัน ดีกวา่ ปิดก้ัน - ใบความรู้ เรื่อง ส่อื ออนไลน์ กิจกรรมสอนใหร้ ู้เท่าทัน ดีกวา่ ปดิ กนั้ - แบบฝึกกจิ กรรมสอนให้ร้เู ท่าทัน ดีกว่าปิดก้นั - แบบสอบถามความคิดเห็นทม่ี ตี ่อชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาทกั ษะชีวติ โดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A - แบบสังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 7.2 ข่าว เร่ือง “วัยรุ่นฆา่ ปาดคอแม่เฒ่า เหตุเลียนแบบมาจากเกม” 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 วิธวี ดั และประเมนิ ผล 8.1.1 สงั เกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 8.1.2 ตรวจผลงานแบบฝึกกจิ กรรมสอนใหร้ เู้ ท่าทัน ดกี ว่าปดิ กั้น 8.1.3 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 8.2 เครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล 8.2.1 แบบสังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 8.2.2 แบบฝึกกจิ กรรมสอนให้ร้เู ทา่ ทัน ดีกวา่ ปิดก้ัน 8.2.3 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 8.3 เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล 8.3.1 พฤติกรรมการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตั้งแตร่ ะดบั ดขี น้ึ ไป 8.3.2 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบฝึกกจิ กรรม รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป 8.3.3 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบรอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป
17 เกณฑก์ ารประเมิน หมายถึง ดีมาก 4 คะแนน หมายถึง ดี 3 คะแนน หมายถึง พอใช้ 2 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 1 คะแนน เ=กณ1 ฑก์ ารตัดสินระดับคุณภาพ (จากคะแนนรวม) ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ดมี าก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรงุ
18 บนั ทกึ การตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เหมาะสม สอดคลอ้ งตัวชว้ี ัด ใช้สอนได้ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ เหมาะสม สอ่ื การสอนมคี วามเหมาะสม วิธีวัดและประเมินผล เหมาะสม สอดคลอ้ งกับตัวช้ีวัด และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื (นางสาวนันทิยา ชุมดี) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ วนั ที่ ความคิดเห็น /ข้อเสนอแนะผูบ้ ริหาร การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยงั ไม่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป เปน็ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .................................................. (นางสาวอรพนิ ท์ สินธุเศรษฐ) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ............./.............../............... ความคิดเห็น /ข้อเสนอแนะผู้บรหิ าร เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี อนมุ ตั ิใหด้ ำเนนิ การสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้ได้ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .................................................. (นายสุภาษติ กัณฐสทุ ธ)ิ์ ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ............../.............../...............
19 แบบบันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้กิจกรรมแนะแนว 1. กจิ กรรมการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. ปญั หา / อปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. แนวทางแก้ไข ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................... ผบู้ นั ทึก ( นางสาวนนั ทิยา ชมุ ดี ) ครผู ู้สอน บนั ทึกหลังการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ฉบบั น้ี ได้รบั การพจิ ารณาจากหัวหนา้ กลุ่มสาระการ เรยี นร้แู ละฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการแล้ว ลงช่ือ ........................................... ลงช่อื .................................................. (นางสาวนันทิยา ชุมดี) (นางสาวอรพินท์ สนิ ธเุ ศรษฐ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ รองผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ลงชื่อ ........................................................... (นายสุภาษติ กณั ฐสทุ ธิ)์ ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา
20 แบบสงั เกตการปฏิบตั ิกจิ กรรม เร่ือง ส่อื ออนไลน์ กิจกรรมสอนใหร้ ูเ้ ท่าทนั ดีกว่าปิดกน้ั และตอบคำถาม R-C-A ลำดบั ที่ ช่อื -สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ชิ้นงาน รวม ในกิจกรรม R-C-A ทไี่ ดร้ บั 12 1 คะแนน 2 มอบหมาย 3 4 432143214321 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
21 ลำดับท่ี ชอื่ -สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ทำชนิ้ งาน รวม ในกจิ กรรม R-C-A ทไ่ี ด้รบั 12 26 มอบหมาย คะแนน 27 28 432143214321 29 30 31 32 33 34 35 ลงชือ่ ........................................ผ้ปู ระเมนิ ( นางสาวนนั ทิยา ชุมดี ) …........./............/............ เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคุณภาพ (จากคะแนนรวม) ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ดีมาก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรุง
22 วิธีการวดั ผล ประเดน็ ที่ประเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน แบบบสังเกต ความสนใจในกิจกรรม พฤติกรรม เกณฑ์การให้คะแนน การตอบคำถาม ระดับ 4 หมายถึง มคี วามสนใจในการทำกิจกรรมและมสี ว่ น R-C-A ร่วมในการแสดงความคดิ เห็นอยา่ งต่อเน่ือง ทำชน้ิ งาน ระดบั 3 หมายถงึ มคี วามสนใจในการทำกิจกรรมและมีส่วน ท่ไี ด้รบั มอบหมาย รว่ มในการแสดงความคิดเห็นเปน็ สว่ นใหญ่ ระดับ 2 หมายถงึ มคี วามสนใจในการทำกิจกรรมบ้างและ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็นบางครั้ง ระดับ 1 หมายถึง ไมค่ อ่ ยสนใจในการทำกิจกรรมแต่ไม่มีส่วน ร่วมในการแสดงความคดิ เห็น ระดบั 4 หมายถึง บอกความร้สู ึก และเลา่ ประสบการณ์ที่ เก่ียวขอ้ งไดช้ ัดเจน ตรงประเดน็ ระดับ 3 หมายถึง บอกความรูส้ ึก และเล่าประสบการณ์ ที่เก่ียวขอ้ งได้ชดั เจน ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดบั 2 หมายถึง บอกความรสู้ ึก และเลา่ ประสบการณ์ ทเ่ี ก่ยี วข้องไดไ้ มช่ ดั เจน ไม่ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดับ 1 หมายถึง บอกความรู้สกึ ได้เลก็ น้อยและเล่า ประสบการณ์ท่ีเกี่ยวข้องไม่ได้ ระดบั 4 หมายถึง มีความตง้ั ใจในการทำงานชิ้นงานเสร็จ ตามเวลาทีก่ ำหนด สมาชิกในกลุม่ มีสว่ นรว่ มในการทำชนิ้ งาน ระดบั 3 หมายถึง มีความต้ังใจในการทำงาน เสร็จ ตามเวลาทีก่ ำหนด สมาชกิ ในกลุ่มบางคน ไมค่ ่อยมีสว่ นร่วมในการทำชิ้นงาน ระดบั 2 หมายถึง มีความต้งั ใจในการทำงานแตง่ านเสร็จช้า กว่าเวลาท่ีกำหนด สมาชิกบางคนในกลุ่มไม่ คอ่ ยมีส่วนร่วม ระดบั 1 หมายถงึ ไมค่ อ่ ยมีความตง้ั ใจในการทำงาน งานเสร็จ ชา้ กว่าเวลาท่กี ำหนด สมาชิกบางคนในกลุ่ม ไมค่ อ่ ยมีส่วนรว่ ม
แผนการจดั การเรียนรู้กิจกรรมแนะแนวเพือ่ พัฒนาทกั ษะชีวิตที่ 3 ด้านการพฒั นาชวี ติ สว่ นตนและสังคม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 เรอ่ื ง สอื่ ออนไลน์ กิจกรรม สังคมออนไลน์ นำไปสกู่ ารฆา่ ตัวตาย เทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A เวลา 1 คาบ ผจู้ ดั กิจกรรม นางสาวนันทยิ า ชุมดี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระสำคญั การใช้สื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มนุษย์เชื่อมโยงถึงกัน ทำความรู้จักกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ในรูป การให้บริการผ่านเวบ็ ไซตเ์ ชอื่ มโยงบุคคลต่อบุคคลไวด้ ้วยกัน โดยเว็บไซต์เหล่าน้ีจะมเี นื้อทใี่ ห้บุคคลเขา้ มา ทำความรู้จกั กนั มพี ื้นทีบ่ ริการเครื่องมือต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างเครือข่าย สร้างเนื้อหา ตามความสนใจของผู้ใชแ้ ละเช่อื มโยงอนิ เทอร์เน็ตทีผ่ ู้ใชค้ ุ้นเคย จนกลายเป็นชมุ ชนที่ผู้ใช้สามารถแชร์ตัวตน และทุกๆ ส่ิงที่สนใจ เชื่อมโยงกับคนดว้ ยวธิ ีการต่างๆ เม่ือเกดิ ความสนใจสามารถเช่ือมต่อกลับ และเม่ือมี การตดิ ต่อกันแต่ผู้ใชง้ านขาดทักษะชีวติ ที่ดี กย็ ่อมท่ีจะเกิดมีปญั หาตามมาเช่นกนั 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 เพ่ือใหน้ ักเรียนศกึ ษาสาเหตุทท่ี ำให้ผู้ใช้สอ่ื สังคมออนไลน์มคี วามคดิ ฆา่ ตวั ตาย 2.2 เพือ่ ใหน้ ักเรยี นอธิบายวิธีปฏบิ ตั ิตนไมต่ กเปน็ เหย่ือของส่อื ทน่ี ำไปสูก่ ารคิดฆ่าตัวตายได้ 2.3 เพื่อใหน้ กั เรียนวิเคราะหป์ ัญหาและวธิ ีการป้องกนั เพื่อไมน่ ำไปสกู่ ารคิดฆ่าตวั ตายได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) องคป์ ระกอบของทักษะชีวติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน (2556:4-5) ได้กำหนดองคป์ ระกอบของทักษะชวี ิต สำคัญท่ีจะสร้างและพัฒนาเป็นภูมคิ ุ้มกันชีวิตใหแ้ ก่เด็กและเยาวชนในสภาพสังคมและเตรียมความพร้อม สำหรับอนาคต ไดแ้ ก่ องคป์ ระกอบที่ 2 การคดิ วเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ และแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ การคิดวเิ คราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลักเหตุผล และข้อมูลที่ถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ตา่ งๆ อยา่ งสร้างสรรค์ ซงึ่ ระบพุ ฤตกิ รรมทักษะชีวติ ท่ีคาดหวงั ดงั น้ี 1. รู้จกั สงั เกต ตัง้ คำถาม และแสวงหาคำตอบ 2. วิเคราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู ข่าวสาร 3. ประเมินสถานการณ์และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4. มีความสามารถในการคิดเชอ่ื มโยง 5. รูจ้ กั วิพากษ์วจิ ารณ์บนพ้ืนฐานของข้อมลู สารสนเทศท่ีถูกต้อง 6. รจู้ กั วิธกี ารและขั้นตอนการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาทถี่ ูกตอ้ ง
24 ยทุ ธวิธีในการฝึก คอื 1. ใชเ้ ทคนคิ ตอบคำถาม R-C-A คำถามสะทอ้ น (R) คำถามเชื่อมโยง (C) คำถามปรับใช้ (A) 2. การคิดวิเคราะห์ ตัดสนิ ใจ และการแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) กระบวนการทำงาน 3.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) การมรี ะเบียบวนิ ยั ใฝ่รูใ้ ฝ่เรยี น 4. ทักษะสำหรับศตวรรษท่ี 21 การคิดวเิ คราะห์ การรว่ มมือ 5. องค์ประกอบของทกั ษะชีวิต องคป์ ระกอบที่ 2 การคดิ วเิ คราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 6. วิธีดำเนนิ การจัดกิจกรรม 6.1 ขัน้ ทดสอบก่อนเรยี น ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง สือ่ ออนไลน์ กจิ กรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสู่การฆา่ ตัวตาย โดยใช้เทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.2 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น 6.2.1 ครูนำเขา้ สู่กิจกรรม โดยครูใช้คำถาม “หลังเลิกเรยี น นกั เรยี นทำกจิ กรรมอะไรบ้าง” 6.2.2 ครกู ระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เห็น 6.2.3 ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มของนักเรียนและทำความเข้าใจ เกีย่ วกบั การปฏิบตั ิกจิ กรรมให้นกั เรียนทราบ 6.2.4 ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ ๆละ 5-6 คน โดยวธิ ีคละนักเรียนเก่ง ปานกลาง ออ่ น 6.๓ ข้ันกิจกรรม ข้นั นำ 6.๓.๑ ครูชูบตั รภาพสัญลักษณ์ของส่ือออนไลน์ต่างๆ แล้วให้นักเรียนบอกชื่อ และประโยชน์การใช้ งานของแตล่ ะชนิด 6.3.2 ครูสนทนากับนกั เรียน เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สอื่ ออนไลน์ของนกั เรียน เชน่ ชนิดของส่ือ ออนไลนท์ ี่นักเรยี นชอบ ระยะเวลาและช่วงเวลาในการใช้สือ่ ออนไลน์ 6.3.3 ครูเล่าข่าว “เด็ก 11 ปี ฆ่าตัวตาย ตกเปน็ เหยอื่ โลกไซเบอร์”ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ถึงสาเหตขุ องพฤติกรรมของบคุ คลในข่าว
25 “เด็ก 11 ปี ฆ่าตัวตาย ตกเปน็ เหยอื่ โลกไซเบอร์” หนูน้อยท่ีตกเป็นเหยื่อโลกไซเบอร์ มีชื่อว่า Tysen Benz เด็กชายวัย 11ปีจากรัฐมิชิแกน ตัดสินใจผูกคอตาย หลังคุย Snapchat กับเพ่ือนท่ีแกล้งปล่อยข่าวว่าแฟนสาวอายุ 13 ปีของไทเซ่น เสียชีวิตแล้ว หลังรับรู้ข่าวเพียง 2 ช่ัวโมง ไทเซ่นจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าท่ีทางการแพทย์ ช่วยชวี ิตใหไ้ ทเซ่นกลบั มาหายใจได้ และนำตวั สง่ โรงพยาบาล แต่เขากเ็ สียชีวติ แม่ของไทเซ่นบอกว่า ลูกชายตกเป็นเหย่ือโลกไซเบอร์ ส่ือต่างๆรายงานว่า แฟนสาวใช้บัญชี Snapchat ของคนอื่นเข้ามาคุยกับไทเซ่นเพ่ือบอกข่าว โดยไม่มีใครบอกไทเซ่นว่าข่าวท่ีได้รับนั้นเป็น ขา่ วเท็จและเป็นการแกลง้ กันของเพ่ือนๆ ซึ่งแม่ของไทเซ่นบอกว่าลกู ชายของเธอเดก็ เกินกว่าจะรู้ได้ว่า กำลังถูกแกล้งอยู่ ล่าสุดอัยการรัฐมิชิแกน เผยว่าเด็กสาววัย 13 ปี กำลังถูกต้ังข้อหาในคดีอาญาแล้ว ในข้อหาใชอ้ ปุ กรณ์การสอ่ื สารทีผ่ ดิ จากการวิจัยเม่ือปี 2016 ของAmerican Academy of Pediatrics พบวา่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนวัยรุ่นอเมริกันที่ฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการใช้อินเตอร์เน็ตมากเกินไปทำให้เกิด ภาวะซึมเศรา้ และมีความคดิ ทจ่ี ะฆ่าตวั ตายเพิม่ มากขึน้ ...................................................................................................................................................................... อ้างองิ จาก www.newa.ch3thailand.com. 10 เมษายน 2560 6.๓.4 ครูแจกใบความรู้ประกอบการจัดกิจกรรม เรื่อง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมสังคมออนไลน์ นำไปส่กู ารฆ่าตัวตาย ให้นักเรยี นคนละ 1 ชุด พรอ้ มอธิบาย 6.3.5 นกั เรียนศึกษาใบความรปู้ ระกอบการจดั กิจกรรม เรอื่ ง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมสังคมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตวั ตาย ข้นั เทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A 6.3.6 ครูเร่ิมต้นใช้เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เพ่ือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือ วเิ คราะห์ แกป้ ญั หา คน้ หาคำตอบ ดังนี้ คำถามสะทอ้ น (R) - นักเรียนรู้สึกอย่างไรกับปัญหาการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่นำไปสู่การฆ่าตัวตายใน กิจกรรมน้ี คำถามเช่ือมโยง (C) - ผทู้ ีต่ กเปน็ เหย่ือของการใช้ส่อื ออนไลน์แล้วคิดฆ่าตัวตาย เกดิ จากสาเหตุใด เพราะอะไร คำถามปรบั ใช้ (A) - ถ้าเพ่ือนของนักเรียนมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ จนมีผลเสียต่อร่างกาย สุขภาพ การเรียนต่ำ นักเรยี นควรช่วยเหลอื หรอื ไม่ อยา่ งไร 6.3.7 เมอ่ื นกั เรยี นได้รบั ฟงั คำถาม R-C-A แล้ว ครใู ห้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ตอบคำถามปากเปล่า และแสดงความคิดเห็น (ข้อละ ๒–๓ คน) หลังจากนนั้ ครูแจกแบบฝกึ กจิ กรรมสังคมออนไลน์ นำไปสู่การฆา่ ตวั ตาย กลมุ่ ละ ๑ ชุด 6.3.8 นกั เรยี นแต่ละกลุ่มปฏิบัติกจิ กรรม โดยทำแบบฝึกกจิ กรรมสังคมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตัวตาย 6.3.9 ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นไดม้ ีโอกาสปฏิสัมพันธภ์ ายในกลุ่ม ใหไ้ ด้ข้อสรุปงาน การอภิปราย การซักถาม ข้อเสนอแนะ แลกเปล่ียนความคิดเห็นซงึ่ กนั และกัน
26 6.3.10 ครใู ห้คำแนะนำและเปน็ ที่ปรกึ ษานักเรียนขณะทีน่ กั เรยี นทำกจิ กรรมและสอดแทรก คุณธรรมและจรยิ ธรรม ตรวจสอบการปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆของนักเรียน 6.3.11 ครสู งั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในดา้ นความสนใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น มุง่ มั่นในการทำงาน ความซอ่ื สตั ย์ และความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ขัน้ สรุปและการประเมินกิจกรรม 6.4.1 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ให้นักเรียนตอบ ปากเปลา่ และครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม - “ประสบการณ์ท่ีนกั เรียนได้รับในการร่วมกิจกรรมวนั น้ี คอื อะไร” - “นักเรยี นจะเช่ือมโยงกบั ส่งิ ที่รู้ สงิ่ ทนี่ ักเรียนเช่อื หรอื รู้สึกมากอ่ นไดอ้ ยา่ งไร” - “นกั เรยี นจะนำสง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้จากประสบการณไ์ ปใช้ได้อยา่ งไร” 6.4.2 ครปู ระเมนิ นักเรียน ดา้ นความรู้ ดา้ นกระบวนการ ด้านเจตคติ ลงในเคร่ืองมือการวดั และประเมินผลการร่วมกจิ กรรม - ดา้ นความรู้ โดยวธิ ีการตรวจแบบฝึกกิจกรรมสังคมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตวั ตาย - ดา้ นกระบวนการ โดยวิธีการสงั เกต การร่วมอภปิ ราย และกิจกรรมกลุ่ม - ดา้ นเจตคติ โดยวธิ กี ารสงั เกตพฤติกรรม 6.4.3 นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปผลการทำแบบฝกึ กจิ กรรมและขอ้ คิดไดจ้ ากการทำกิจกรรม 6.4.4 ครใู หข้ ้อคิดเรอ่ื ง สังคมออนไลน์ นำไปสูก่ ารฆ่าตวั ตาย 6.5 ข้ันทดสอบหลังเรยี น 6.5.1 ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เรอ่ื ง สอื่ ออนไลน์ กิจกรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสู่ การฆ่าตัวตาย โดยใชเ้ ทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.5.2 ครูให้นักเรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อ พัฒนาทักษะชีวิต ด้านการพัฒนาชีวิตส่วนตนและสังคม ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยเทคนิคการใช้ คำถาม R-C-A 7. สอื่ – อปุ กรณ์ 7.1 ชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาทักษะชวี ติ ด้านการพัฒนาชีวิตส่วนตนและสงั คม โดยเทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A ของนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เรอ่ื ง สอื่ ออนไลน์ กจิ กรรมสังคมออนไลน์ นำไปสกู่ ารฆ่าตวั ตาย ประกอบด้วย - แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น เรือ่ ง สอื่ ออนไลน์ กจิ กรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสกู่ ารฆ่า ตวั ตาย - ใบความรู้ เรอ่ื ง สือ่ ออนไลน์ กิจกรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสูก่ ารฆ่าตวั ตาย - แบบฝกึ กิจกรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสูก่ ารฆา่ ตวั ตาย - แบบสอบถามความคิดเหน็ ท่มี ีต่อชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวติ โดยเทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A - แบบสังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรม 7.2 บัตรภาพสญั ลักษณ์สอื่ ออนไลน์ 7.3 ข่าว เรอื่ ง “เดก็ 11 ปี ฆา่ ตัวตาย ตกเปน็ เหยอ่ื โลกไซเบอร”์
27 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 8.1 วิธวี ัดและประเมนิ ผล 8.1.1 สังเกตการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 8.1.2 ตรวจผลงานแบบฝกึ กิจกรรมสังคมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตัวตาย 8.1.3 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 8.2 เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล 8.2.1 แบบสงั เกตการปฏบิ ัติกิจกรรม 8.2.2 แบบฝกึ กิจกรรมสังคมออนไลน์ นำไปสกู่ ารฆ่าตวั ตาย 8.2.3 แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน 8.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผล 8.3.1 พฤตกิ รรมการปฏิบตั กิ จิ กรรมตัง้ แต่ระดับดีข้นึ ไป 8.3.2 ได้คะแนนจากการทำแบบฝกึ กจิ กรรม รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป 8.3.3 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบร้อยละ 60 ขึ้นไป เกณฑ์การประเมิน หมายถึง ดมี าก 4 คะแนน หมายถึง ดี หมายถงึ พอใช้ 3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 2 คะแนน 1 คะแนน เก=ณ1ฑ์การตัดสนิ ระดบั คุณภาพ (จากคะแนนรวม) ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ดมี าก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรุง
28 บนั ทึกการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น /ข้อเสนอแนะหัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เหมาะสม สอดคลอ้ งตัวช้วี ัด ใช้สอนได้ กระบวนการจดั การเรียนรู้ เหมาะสม สื่อการสอนมีความเหมาะสม วิธีวัดและประเมนิ ผล เหมาะสม สอดคล้องกับตัวชวี้ ัด และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ (นางสาวนนั ทิยา ชุมดี) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ วนั ท่ี ความคิดเห็น /ขอ้ เสนอแนะผูบ้ ริหาร การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป เป็นแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี นำไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวอรพนิ ท์ สนิ ธเุ ศรษฐ) ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ............./.............../............... ความคิดเห็น /ขอ้ เสนอแนะผู้บริหาร เป็นแผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี อนมุ ัตใิ หด้ ำเนินการสอนตามแผนการจดั การเรียนรไู้ ด้ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .................................................. (นายสภุ าษติ กัณฐสทุ ธ)์ิ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ............../.............../...............
29 แบบบันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้กจิ กรรมแนะแนว 1. กจิ กรรมการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. ปัญหา / อปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. แนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................... ผู้บนั ทึก ( นางสาวนนั ทยิ า ชมุ ดี ) ครผู ู้สอน บนั ทึกหลังการสอน ตามแผนการจดั การเรียนรู้ฉบบั นี้ ไดร้ บั การพิจารณาจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการ เรียนรู้และฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการแลว้ ลงชอ่ื ........................................... ลงช่ือ .................................................. (นางสาวนันทยิ า ชุมดี) (นางสาวอรพินท์ สนิ ธเุ ศรษฐ) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ลงชื่อ ........................................................... (นายสุภาษิต กัณฐสทุ ธ)ิ์ ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา
30 แบบสงั เกตการปฏิบตั กิ ิจกรรม เรือ่ ง ส่อื ออนไลน์ กิจกรรมสงั คมออนไลน์ นำไปสู่การฆ่าตวั ตาย และตอบคำถาม R-C-A ลำดบั ท่ี ชื่อ-สกลุ ความสนใจ การตอบคำถาม ช้ินงาน รวม ในกจิ กรรม R-C-A ทีไ่ ด้รบั 12 1 มอบหมาย คะแนน 2 3 432143214321 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
31 ลำดับท่ี ชอื่ -สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ทำชนิ้ งาน รวม ในกจิ กรรม R-C-A 12 26 ทไ่ี ด้รบั 27 มอบหมาย คะแนน 28 29 432143214321 30 31 32 33 34 35 ลงชือ่ ........................................ผ้ปู ระเมนิ ( นางสาวนนั ทิยา ชุมดี ) …........./............/............ เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคุณภาพ (จากคะแนนรวม) ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ดีมาก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรุง
32 วิธีการวดั ผล ประเดน็ ที่ประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ความสนใจในกิจกรรม แบบบสังเกต เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรม การตอบคำถาม ระดับ 4 หมายถึง มีความสนใจในการทำกิจกรรมและมสี ว่ น R-C-A รว่ มในการแสดงความคดิ เห็นอยา่ งต่อเน่ือง ทำชน้ิ งาน ระดบั 3 หมายถงึ มีความสนใจในการทำกิจกรรมและมีส่วน ท่ไี ด้รบั มอบหมาย รว่ มในการแสดงความคิดเห็นเปน็ สว่ นใหญ่ ระดับ 2 หมายถงึ มีความสนใจในการทำกิจกรรมบ้างและ มีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นบางครั้ง ระดบั 1 หมายถึง ไมค่ ่อยสนใจในการทำกิจกรรมแต่ไม่มีส่วน รว่ มในการแสดงความคดิ เห็น ระดบั 4 หมายถงึ บอกความร้สู ึก และเลา่ ประสบการณ์ที่ เกีย่ วขอ้ งไดช้ ัดเจน ตรงประเดน็ ระดับ 3 หมายถึง บอกความรูส้ ึก และเล่าประสบการณ์ ที่เกีย่ วขอ้ งได้ชดั เจน ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดบั 2 หมายถึง บอกความรสู้ ึก และเลา่ ประสบการณ์ ทเ่ี กยี่ วข้องไดไ้ มช่ ดั เจน ไม่ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดับ 1 หมายถึง บอกความรู้สกึ ได้เลก็ น้อยและเล่า ประสบการณ์ท่ีเกี่ยวข้องไม่ได้ ระดบั 4 หมายถึง มีความตง้ั ใจในการทำงานชิ้นงานเสร็จ ตามเวลาทีก่ ำหนด สมาชิกในกลุม่ มีส่วนรว่ มในการทำชนิ้ งาน ระดบั 3 หมายถึง มีความต้ังใจในการทำงาน เสร็จ ตามเวลาทีก่ ำหนด สมาชกิ ในกลุ่มบางคน ไม่ค่อยมีสว่ นร่วมในการทำชิ้นงาน ระดบั 2 หมายถึง มีความต้งั ใจในการทำงานแตง่ านเสร็จช้า กวา่ เวลาท่ีกำหนด สมาชิกบางคนในกลุ่มไม่ ค่อยมีส่วนร่วม ระดับ 1 หมายถงึ ไม่คอ่ ยมีความตง้ั ใจในการทำงาน งานเสร็จ ชา้ กวา่ เวลาท่กี ำหนด สมาชิกบางคนในกลุ่ม ไม่คอ่ ยมีส่วนรว่ ม
แผนการจัดการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาทกั ษะชวี ิตที่ 4 ดา้ นการพฒั นาชีวติ สว่ นตนและสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 เรอ่ื ง สอื่ ออนไลน์ กิจกรรม สญั ญาณเสย่ี ง โรคสมาธิส้ัน เทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A เวลา 1 คาบ ผูจ้ ัดกิจกรรม นางสาวนนั ทิยา ชมุ ดี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระสำคัญ โรคสมาธิสั้น เป็นโรคทางสมองชนิดหนึ่ง เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมท่ีหุนหันพลันแล่น ไม่มี สมาธิ และซน พบได้ตัง้ แต่ในเด็กอายุ ๔-๕ ข้ึนไป และพบไดม้ ากถึง ๕ % ในเด็กวัยเรยี น พบในเด็กผู้ชาย มากกว่าในเด็กผู้หญิง โรคน้มี ักวินจิ ฉัยในเดก็ แต่อาการของโรคยงั สามารถคงอยู่ไดจ้ นเข้าสชู่ ่วงวัยรนุ่ และวัย ผู้ใหญ่ได้ ผู้ป่วยมักมีปัญหาการเรียน เช่น ไม่มีสมาธิ เรียนไม่รู้เร่ือง ทำงานไม่เสร็จ หรือมีปัญห าทาง พฤตกิ รรม เชน่ อยู่ไม่นิ่ง เลน่ รนุ แรง ดอ้ื -ตอ่ ต้าน แต่อย่างไรก็ตาม โรคน้ีสามารถรักษาให้ดีข้ึนได้ ดว้ ยการรักษา รว่ มกันทง้ั ยาและการปรับพฤติกรรมของเด็ก การรกั ษาทีเ่ หมาะสมจะทำให้เด็กทเี่ ป็นโรคน้ีสามารถมีชีวิตท่ี ประสบความสำเร็จ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เพื่อใหน้ ักเรยี นศึกษาสาเหตุโรคสมาธสิ นั้ ท่ีเกิดจากการเล่นสื่อออนไลน์ 2.2 เพอ่ื ให้นักเรียนอธบิ ายวิธปี ้องกันการเกดิ โรคสมาธิสนั้ ที่เกดิ จากการเลน่ ออนไลนไ์ ด้ 2.3 เพ่อื ให้นกั เรียนบอกอาการของคนทเ่ี ป็นโรคสมาธิสน้ั ได้ 2.4 เพื่อให้นกั เรยี นบอกวธิ ีหลกี เลี่ยงโรคท่ีเกิดจากการเล่นสื่อออนไลน์ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) องค์ประกอบของทกั ษะชีวิต สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน (2556:4-5) ได้กำหนดองค์ประกอบของทกั ษะชีวิต สำคญั ท่ีจะสร้างและพัฒนาเป็นภูมิคุ้มกันชีวติ ใหแ้ ก่เด็กและเยาวชนในสภาพสังคมและเตรียมความพร้อม สำหรับอนาคต ไดแ้ ก่ องค์ประกอบที่ 2 การคดิ วเิ คราะห์ ตัดสินใจ และแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลักเหตุผล และข้อมูลท่ีถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ต่างๆ อยา่ งสร้างสรรค์ ซ่ึงระบุพฤตกิ รรมทกั ษะชวี ิตท่คี าดหวงั ดังน้ี 1. รูจ้ กั สังเกต ตงั้ คำถาม และแสวงหาคำตอบ 2. วิเคราะหค์ วามนา่ เชื่อถอื ของข้อมลู ข่าวสาร 3. ประเมนิ สถานการณ์และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ 4. มีความสามารถในการคิดเชื่อมโยง 5. รจู้ กั วพิ ากษว์ ิจารณบ์ นพ้นื ฐานของข้อมูลสารสนเทศท่ีถกู ต้อง 6. รู้จกั วธิ ีการและข้นั ตอนการตัดสินใจและแกไ้ ขปัญหาทถี่ กู ตอ้ ง
34 ยทุ ธวธิ ใี นการฝึก คือ 1. ใชเ้ ทคนิคตอบคำถาม R-C-A คำถามสะทอ้ น (R) คำถามเชื่อมโยง (C) คำถามปรับใช้ (A) 2. การคดิ วิเคราะห์ ตดั สินใจ และการแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ 3.2 ทักษะกระบวนการ (P) กระบวนการทำงาน 3.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) การมีระเบยี บวินยั ใฝร่ ้ใู ฝ่เรยี น 4. ทกั ษะสำหรับศตวรรษท่ี 21 การคิดวเิ คราะห์ การรว่ มมอื 5. องค์ประกอบของทกั ษะชวี ติ องค์ประกอบท่ี 2 การคิดวเิ คราะห์ ตัดสินใจ และแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ 6. วิธีดำเนินการจดั กจิ กรรม 6.1 ขัน้ ทดสอบกอ่ นเรียน ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมสัญญาณเสย่ี ง “โรคสมาธิส้ัน โดยใช้เทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.2 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น 6.2.1 ครูนำเข้าสู่กิจกรรม โดยครูกล่าวเก่ียวกับภัยของการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ การเล่นเกมจากคอมพวิ เตอร์เป็นเวลานานๆ 6.2.2 ครกู ระตุน้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ 6.2.3 ครูช้ีแจงจุดประสงค์การเรียนรู้ การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มของนักเรียนและทำความเข้าใจ เกี่ยวกบั การปฏิบัติกิจกรรมใหน้ กั เรยี นทราบ 6.2.4 ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุ่มๆละ 5-6 คน โดยวิธคี ละนักเรียนเกง่ ปานกลาง ออ่ น 6.๓ ขนั้ กจิ กรรม ขัน้ นำ 6.๓.๑ ครอู ่านข้อความใหน้ ักเรยี นสำรวจพฤติกรรมของตนเอง เร่ือง “เช็คด่วน ! 6 สญั ญาณท่ีบอกว่า คณุ ติดสมารท์ โฟนเขา้ ข้นั วิกฤต” “เชค็ ด่วน ! 6 สญั ญาณท่บี อกว่าคุณตดิ สมารท์ โฟนเขา้ ข้ันวิกฤต” 1. หยบิ โทรศัพทม์ าเช็คทันทที ี่มเี สียงเตือน 2. หลอนวา่ โทรศพั ท์ส่นั หรอื ดงั อยู่บ่อยๆ 3. มีอาการ FOMO หรอื อาการกลวั พลาดข่าวสารสำคญั 4. ไม่สนใจคนรอบข้าง 5. ขาดโทรศพั ทเ์ หมือนขาดใจ 6. ประสิทธภิ าพในการเรียนและการทำงานลดลง ...................................................................................................................................................................... อ้างองิ จาก http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/information/news/14971.
35 6.3.2 ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับผลการสำรวจตนเองการใช้สื่อออนไลน์และครูให้ขอ้ มูลเพ่ิมเติม เร่ืองการใช้สอ่ื ออนไลน์เป็นเวลานาน เสีย่ งตอ่ โรคสมาธิสน้ั ได้ 6.3.3 ครูแจกใบความรูป้ ระกอบการจัดกจิ กรรม เร่อื ง โรคสมาธิส้นั กบั สื่อออนไลน์ ให้นกั เรยี น คนละ 1 ชดุ พรอ้ มอธบิ าย 6.3.4 นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง โรคสมาธิส้ันกบั สอ่ื ออนไลน์ ขนั้ เทคนคิ การใช้คำถาม R-C-A 6.3.5 ครูเริ่มต้นใช้เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เพ่ือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือ วิเคราะห์ แก้ปัญหา คน้ หาคำตอบ ดงั น้ี คำถามสะทอ้ น (R) - จากการสำรวจตนเอง “เชค็ ด่วน ! 6 สัญญาณท่ีบอกวา่ คุณตดิ สมาร์ทโฟนเข้าขน้ั วิกฤต” นกั เรียนรู้สึกอย่างไรกับแตล่ ะข้อ คำถามเชอื่ มโยง (C) - เม่ือนักเรียนสำรวจตนเอง เร่ือง “เช็คด่วน ! 6 สัญญาณท่ีบอกว่าคุณติดสมาร์ทโฟน เข้าขน้ั วกิ ฤต” นักเรียนมพี ฤตกิ รรมเส่ียง อะไรบา้ ง คำถามปรับใช้ (A) - นักเรียนมปี รับพฤตกิ รรมอย่างไร เพื่อป้องกันตนเองให้ปลอดภยั จากการเล่นสอื่ ออนไลน์ 6.3.6 เมอื่ นกั เรยี นไดร้ บั ฟงั คำถาม R-C-A แลว้ ครูให้ตวั แทนแต่ละกล่มุ ตอบคำถามปากเปล่า และแสดงความคิดเห็น (ขอ้ ละ ๒–๓ คน) หลงั จากนั้นครูแจกแบบฝกึ กจิ กรรมสญั ญาณเส่ยี ง โรคสมาธิส้ัน กลุ่มละ ๑ ชุด 6.3.7 นกั เรียนแต่ละกลุ่มปฏิบตั กิ จิ กรรม โดยทำแบบฝกึ กจิ กรรมสัญญาณเสยี่ ง “โรคสมาธิส้ัน” 6.3.8 ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดม้ ีโอกาสปฏสิ ัมพันธภ์ ายในกลมุ่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรุปงาน การอภิปราย การซักถาม ขอ้ เสนอแนะ แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ซง่ึ กนั และกัน 6.3.9 ครใู ห้คำแนะนำและเปน็ ท่ปี รึกษานกั เรียนขณะที่นกั เรียนทำกิจกรรมและสอดแทรก คุณธรรมและจรยิ ธรรม ตรวจสอบการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆของนักเรียน 6.3.10 ครูสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นในด้านความสนใจ ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น มุง่ มั่นในการทำงาน ความซื่อสตั ย์ และความรบั ผิดชอบ 6.4 ขัน้ สรุปและการประเมนิ กจิ กรรม 6.4.1 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ให้นักเรียนตอบ ปากเปล่าและครูอธบิ ายเพิม่ เติม - “ประสบการณ์ที่นักเรยี นไดร้ บั ในการรว่ มกิจกรรมวนั นี้ คืออะไร” - “นักเรียนจะเชอ่ื มโยงกบั สงิ่ ทร่ี ู้ ส่ิงท่ีนกั เรียนเชอ่ื หรือรู้สึกมากอ่ นได้อยา่ งไร” - “นกั เรยี นจะนำสงิ่ ทีไ่ ด้เรียนร้จู ากประสบการณ์ไปใช้ไดอ้ ยา่ งไร” 6.4.2 ครูประเมนิ นักเรียน ด้านความรู้ ด้านกระบวนการ ด้านเจตคติ ลงในเครอื่ งมอื การวัด และประเมนิ ผลการรว่ มกจิ กรรม - ด้านความรู้ โดยวธิ กี ารตรวจแบบฝกึ กิจกรรมสัญญาณเส่ียง“โรคสมาธิสน้ั ” - ดา้ นกระบวนการ โดยวิธกี ารสงั เกต การร่วมอภปิ รายและกิจกรรมกลุ่ม - ด้านเจตคติ โดยวธิ กี ารสงั เกตพฤติกรรม
36 6.4.3 นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ผลการทำแบบฝึกกจิ กรรมและข้อคดิ ได้จากการทำกิจกรรม 6.4.4 ครใู ห้ข้อคิดเร่อื ง สัญญาณเสย่ี ง“โรคสมาธิสนั้ ” 6.5 ขน้ั ทดสอบหลังเรยี น 6.5.1 ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง สอ่ื ออนไลน์ กิจกรรมสญั ญาณเสย่ี ง “โรคสมาธิส้ัน” โดยใช้เทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ข้อ 6.5.2 ครูใหน้ กั เรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นท่มี ีต่อชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือ พัฒนาทกั ษะชวี ติ ด้านการพัฒนาชวี ิตส่วนตนและสังคม ของนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โดยเทคนิคการใช้ คำถาม R-C-A 7. สื่อ – อุปกรณ์ 7.1 ชดุ การสอนกิจกรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาทกั ษะชีวติ ด้านการพฒั นาชีวติ ส่วนตนและสงั คม โดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เรื่อง ส่อื ออนไลน์ กจิ กรรมสัญญาณเสี่ยง “โรคสมาธิสนั้ ” ประกอบดว้ ย - แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน เรื่อง สอ่ื ออนไลน์ กิจกรรมสญั ญาณเสีย่ ง“โรคสมาธิส้ัน” - ใบความรู้ เร่ือง โรคสมาธสิ ้ันกับส่ือออนไลน์ - แบบฝกึ กจิ กรรมสญั ญาณเส่ยี ง“โรคสมาธสิ ั้น” - แบบสอบถามความคิดเหน็ ท่ีมตี อ่ ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาทักษะชีวติ โดยเทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A - แบบสงั เกตการปฏิบัติกิจกรรม 7.2 ข่าวหรือบทความ 7.3 ใบสำรวจตนเอง เรื่อง “เช็คด่วน ! 6 สญั ญาณที่บอกวา่ คณุ ตดิ สมาร์ทโฟนเขา้ ขัน้ วิกฤต” 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8.1 วธิ ีวดั และประเมินผล 8.1.1 สังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรม 8.1.2 ตรวจผลงานแบบฝึกกจิ กรรมสญั ญาณเสย่ี ง“โรคสมาธิสั้น” 8.1.3 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน 8.2 เคร่อื งมอื วัดและประเมินผล 8.2.1 แบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม 8.2.2 แบบฝกึ กจิ กรรมสญั ญาณเสย่ี ง“โรคสมาธสิ ้ัน” 8.2.3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น 8.3 เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล 8.3.1 พฤตกิ รรมการปฏบิ ัติกจิ กรรมตั้งแต่ระดบั ดีขน้ึ ไป 8.3.2 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบฝึกกจิ กรรม ร้อยละ 60 ขึน้ ไป 8.3.3 ได้คะแนนจากการทำแบบทดสอบร้อยละ 60 ข้ึนไป
37 เกณฑก์ ารประเมิน หมายถงึ ดีมาก 4 คะแนน หมายถึง ดี 3 คะแนน หมายถึง พอใช้ 2 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 1 คะแนน เก=ณ1ฑก์ าชร่วตงัดคสะินแรนะนดับคุณภาพ (จากคะแนนรวม) ระดบั คุณภาพ 10-12 คะแนน ดีมาก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรุง
38 บนั ทึกการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น /ข้อเสนอแนะหัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เหมาะสม สอดคลอ้ งตัวช้วี ัด ใช้สอนได้ กระบวนการจดั การเรียนรู้ เหมาะสม สื่อการสอนมีความเหมาะสม วิธีวัดและประเมนิ ผล เหมาะสม สอดคล้องกับตัวชวี้ ัด และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ (นางสาวนนั ทิยา ชมุ ดี) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ วนั ท่ี ความคิดเห็น /ขอ้ เสนอแนะผูบ้ ริหาร การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป เป็นแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี นำไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวอรพนิ ท์ สนิ ธเุ ศรษฐ) ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ............./.............../............... ความคิดเห็น /ขอ้ เสนอแนะผู้บริหาร เป็นแผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี อนมุ ัตใิ หด้ ำเนินการสอนตามแผนการจดั การเรียนรไู้ ด้ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .................................................. (นายสภุ าษติ กัณฐสทุ ธ)ิ์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ............../.............../...............
39 แบบบนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนร้กู ิจกรรมแนะแนว 1. กิจกรรมการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. ปญั หา / อปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. แนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................... ผู้บันทึก ( นางสาวนันทิยา ชุมดี ) ครูผู้สอน บันทกึ หลงั การสอน ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ฉบับน้ี ได้รบั การพจิ ารณาจากหวั หนา้ กลมุ่ สาระการ เรยี นรแู้ ละฝา่ ยบริหารงานวิชาการแล้ว ลงช่อื ........................................... ลงช่อื .................................................. (นางสาวนันทยิ า ชมุ ดี) (นางสาวอรพนิ ท์ สินธเุ ศรษฐ) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ลงชอ่ื ........................................................... (นายสุภาษิต กณั ฐสทุ ธ์)ิ ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา
40 แบบสงั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม เร่อื ง สื่อออนไลน์ กิจกรรมสญั ญาณเส่ยี ง“โรคสมาธสิ ั้น” และตอบคำถาม R-C-A ลำดับท่ี ช่ือ-สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ช้ินงาน รวม ในกจิ กรรม R-C-A ท่ไี ด้รับ 12 1 คะแนน 2 มอบหมาย 3 4 432143214321 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
41 ลำดับท่ี ชอื่ -สกุล ความสนใจ การตอบคำถาม ทำชนิ้ งาน รวม ในกจิ กรรม R-C-A ทไ่ี ด้รบั 12 26 มอบหมาย คะแนน 27 28 432143214321 29 30 31 32 33 34 35 ลงชือ่ ........................................ผ้ปู ระเมนิ ( นางสาวนนั ทิยา ชุมดี ) …........./............/............ เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคุณภาพ (จากคะแนนรวม) ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10-12 คะแนน ดีมาก 7-9 คะแนน ดี 4-6 คะแนน พอใช้ 1-3 คะแนน ปรบั ปรุง
42 วิธีการวดั ผล ประเดน็ ที่ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน แบบบสังเกต ความสนใจในกิจกรรม พฤติกรรม เกณฑ์การให้คะแนน การตอบคำถาม ระดับ 4 หมายถงึ มคี วามสนใจในการทำกิจกรรมและมสี ว่ น R-C-A ร่วมในการแสดงความคดิ เห็นอยา่ งต่อเน่ือง ทำชน้ิ งาน ระดบั 3 หมายถงึ มคี วามสนใจในการทำกิจกรรมและมีส่วน ท่ไี ด้รบั มอบหมาย รว่ มในการแสดงความคดิ เห็นเปน็ สว่ นใหญ่ ระดับ 2 หมายถงึ มคี วามสนใจในการทำกจิ กรรมบ้างและ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็นบางครั้ง ระดบั 1 หมายถงึ ไมค่ อ่ ยสนใจในการทำกจิ กรรมแต่ไม่มีส่วน ร่วมในการแสดงความคิดเห็น ระดบั 4 หมายถงึ บอกความรสู้ ึก และเลา่ ประสบการณ์ที่ เก่ียวขอ้ งไดช้ ดั เจน ตรงประเดน็ ระดับ 3 หมายถึง บอกความรูส้ ึก และเล่าประสบการณ์ ที่เก่ียวขอ้ งได้ชดั เจน ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดบั 2 หมายถึง บอกความรสู้ กึ และเล่าประสบการณ์ ทเ่ี ก่ยี วข้องได้ไมช่ ดั เจน ไม่ตรงประเดน็ บางสว่ น ระดับ 1 หมายถึง บอกความรสู้ ึกได้เลก็ นอ้ ยและเล่า ประสบการณท์ ี่เกี่ยวข้องไมไ่ ด้ ระดบั 4 หมายถึง มีความต้งั ใจในการทำงานชิ้นงานเสร็จ ตามเวลาทก่ี ำหนด สมาชกิ ในกลุม่ มีส่วนรว่ มในการทำช้ินงาน ระดบั 3 หมายถึง มีความตั้งใจในการทำงาน เสร็จ ตามเวลาที่กำหนด สมาชกิ ในกลุ่มบางคน ไมค่ ่อยมีส่วนร่วมในการทำชิน้ งาน ระดบั 2 หมายถึง มีความตัง้ ใจในการทำงานแตง่ านเสร็จช้า กว่าเวลาทีก่ ำหนด สมาชิกบางคนในกลุ่มไม่ คอ่ ยมสี ่วนรว่ ม ระดบั 1 หมายถงึ ไมค่ อ่ ยมคี วามตั้งใจในการทำงาน งานเสร็จ ชา้ กว่าเวลาทก่ี ำหนด สมาชิกบางคนในกลุ่ม ไมค่ อ่ ยมีส่วนร่วม
แผนการจดั การเรียนรู้กจิ กรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาทักษะชวี ิตที่ 5 ดา้ นการพฒั นาชีวติ สว่ นตนและสังคม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เร่ือง สื่อออนไลน์ กจิ กรรม โรคยคุ ใหม่ ภัยไอที เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เวลา 1 คาบ ผู้จดั กจิ กรรม นางสาวนนั ทยิ า ชุมดี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระสำคัญ เทคโนโลยีเป็นสง่ิ จำเปน็ ในชีวติ ประจำวนั บางอยา่ งกลายเป็นปจั จยั ที่ 5 ไปแลว้ แต่ผลกระทบ จากความสะดวกสบายกลายเปน็ ภยั ที่แฝงอันตรายต่อสขุ ภาพอยา่ งหลีกเลยี่ งไม่ได้ เทคโนโลยไี ม่วา่ จะเป็น คอมพิวเตอร์ โน๊ตบคุ๊ แท็บเล็ต สมารท์ โฟน ฯลฯ นน้ั มีผลกระทบตอ่ สขุ ภาพทงั้ ทางตรงและทางอ้อม กระทบต่อทัง้ รา่ งกายและจติ ใจ ๑. ผลกระทบด้านร่างกาย พบว่าการติดส่ือสังคมออนไลน์เป็นเวลานานทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดหลงั ปวดข้อ ปวดท้อง เจ็บหน้าอก อ่อนเพลยี โรคความดัน อาการลมชกั ปญั หาสายตา เปน็ ต้น และ ยังส่งผลกระทบต่อสมองส่วนหน้าทำให้มีขนาดเล็กและมีการเช่ือมโยงของเซลล์ประสาทสมองส่วนหน้า ลดลง 2. ผลกระทบด้านจิตใจและอารมณ์ สง่ ผลให้เด็กและเยาวชนกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับ การเลน่ เกมออนไลน์ได้ รวมทั้งความคิด อารมณ์และพฤติกรรมก้าวรา้ วรุนแรง เน่ืองจากเด็กและเยาวชน ยังไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์จริงกับจินตนาการหรือส่ิงทีเ่ กดิ ขึ้นได้ รวมทั้งการขาดทักษะการเรียนรู้ รว่ มกับผูอ้ ่นื ๓. ผลกระทบในครอบครัว พบว่า ครอบครวั ขาดความอบอุ่น สมั พันธภาพในครอบครวั ลดลง ทำให้ เกิดความไมเ่ ขา้ ใจและความขัดแยง้ ในครอบครวั 4. ผลกระทบด้านสังคม ก่อให้เกิดการกระทำผดิ ของเด็กและเยาวชน รวมทั้งเดก็ และเยาวชนซ่ึง ตกเป็นเหยอื่ ในการถูกล่อลวงจากการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ทไ่ี ม่เหมาะสม 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เพอ่ื ใหน้ กั เรียนบอกช่อื โรคทม่ี ากบั สอ่ื ออนไลนแ์ ละเทคโนโลยไี ด้ 2.2 เพือ่ ใหน้ กั เรียนอธิบายวิธีป้องกนั ตนไม่ใหเ้ ปน็ โรคทมี่ ากบั ส่ือออนไลน์และเทคโนโลยไี ด้ 2.3 เพอื่ ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหส์ าเหตทุ ี่เกิดโรคที่มากบั สือ่ ออนไลนแ์ ละเทคโนโลยีได้ 2.4 เพือ่ ให้นกั เรียนหลีกเล่ียงพฤติกรรมทีไ่ ม่เหมาะสมในการใช้ส่ืออนไลน์และเทคโนโลยี 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) องค์ประกอบของทกั ษะชวี ิต สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน (2556:4-5) ได้กำหนดองคป์ ระกอบของทักษะชีวิต สำคัญท่ีจะสร้างและพัฒนาเป็นภูมคิ ุ้มกันชีวิตใหแ้ ก่เด็กและเยาวชนในสภาพสังคมและเตรียมความพร้อม สำหรบั อนาคต ไดแ้ ก่
44 องค์ประกอบที่ 2 การคิดวเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ การคิดวเิ คราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลักเหตุผล และข้อมูลที่ถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ตา่ งๆ อยา่ งสร้างสรรค์ ซงึ่ ระบุพฤตกิ รรมทักษะชวี ิตทค่ี าดหวัง ดังนี้ 1. ร้จู ักสงั เกต ตั้งคำถาม และแสวงหาคำตอบ 2. วิเคราะหค์ วามนา่ เช่อื ถอื ของข้อมูลข่าวสาร 3. ประเมินสถานการณ์และนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ 4. มคี วามสามารถในการคดิ เชื่อมโยง 5. รู้จกั วิพากษ์วิจารณบ์ นพื้นฐานของข้อมลู สารสนเทศท่ถี ูกตอ้ ง 6. ร้จู กั วธิ กี ารและขัน้ ตอนการตัดสนิ ใจและแกไ้ ขปญั หาทถ่ี กู ตอ้ ง ยทุ ธวิธใี นการฝกึ คือ 1. ใชเ้ ทคนคิ ตอบคำถาม R-C-A คำถามสะทอ้ น (R) คำถามเชอ่ื มโยง (C) คำถามปรับใช้ (A) 2. การคิดวเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ และการแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3.2 ทักษะกระบวนการ (P) กระบวนการทำงาน 3.3 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) การมีระเบยี บวินัย ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น 4. ทักษะสำหรบั ศตวรรษที่ 21 การคิดวิเคราะห์ การร่วมมือ 5. องคป์ ระกอบของทักษะชวี ติ องคป์ ระกอบท่ี 2 การคดิ วิเคราะห์ ตดั สินใจ และแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 6. วธิ ีดำเนินการจดั กิจกรรม 6.1 ขัน้ ทดสอบก่อนเรยี น ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง ส่ือออนไลน์ กิจกรรมโรคยุคใหม่ ภยั ไอที โดยใชเ้ ทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.2 ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน 6.2.1 ครูนำเข้าสู่กิจกรรม โดยครูกลา่ วนำเกย่ี วกับภยั จากการใช้สอ่ื ออนไลน์ 6.2.2 ครูกระตุน้ ให้นักเรยี นร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น 6.2.3 ครูช้ีแจงจุดประสงค์การเรียนรู้ การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มของนักเรียนและทำความเข้าใจ เกย่ี วกับการปฏบิ ัติกิจกรรมใหน้ ักเรยี นทราบ 6.2.4 ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุ่มๆละ 5-6 คน โดยวธิ คี ละนกั เรียนเก่ง ปานกลาง ออ่ น
45 6.๓ ข้ันกิจกรรม ข้ันนำ 6.๓.๑ ครูชบู ตั รคำ “Phubbing”ใหน้ กั เรยี นดแู ละร่วมกันสนทนาวา่ มคี วามหมายวา่ อย่างไร ใครเคยได้ยินหรือได้เหน็ คำนี้บ้าง 6.3.2 ครูอ่านแบบทดสอบอาการติดโทรศัพท์หรือโซเชียลข้ันรุนแรง (Phubbing) ให้นักเรียน สำรวจตนเอง แบบทดสอบอาการฟับบ้ิง แบบทดสอบน้ีจะช่วยใหย้ ้อนมองตวั เองว่าตัวเองมีพฤติกรรมเหล่านี้บา้ งหรือไม่ และค้นพบวา่ ตัวเองมอี าการฟับบิ้ง หรือสุม่ เสย่ี งกับอาการติดโทรศัพท์ขนั้ หนักหรือไม่ โดยผ่านการตอบคำถาม งา่ ยๆ ว่า “ใช”่ หรือ “ไม่” 1. เม่อื รบั ประทานอาหารร่วมกับคนอื่น คณุ มักจะลกุ ออกไปเช็คโทรศัพทอ์ ยู่บอ่ ยๆ 2. แม้วา่ คุณจะอยกู่ ับคนอ่ืน คณุ ไม่เคยละสายตาออกจากโทรศัพท์เลย 3. ไมว่ า่ จะอยกู่ บั ใคร แตโ่ ทรศพั ทก์ ย็ งั คงอยู่ในมือตลอด 4. หากคุณไดย้ ินเสยี งโทรศัพท์ หรือเสียงเตือนโทรศัพท์ดงั ข้ึน คุณจะหยิบขน้ึ มาดูในทันที แม้วา่ จะกำลังคุยกบั ผู้อื่นอยู่ 5. คณุ มักจะจอ้ งหน้าจอโทรศัพทต์ ลอดแม้แต่ในเวลาท่ีกำลังคุยกบั ใครสกั คน 6. แมก้ ำลังอยกู่ บั เพอื่ นๆ คุณก็ยังหยบิ โทรศัพทข์ ึ้นมาเช็คเวลาเบ่ือๆ หรือเวลาท่มี ีเสียง แจ้งเตือนดงั ข้ึน 7. ต่อให้กำลงั คุยอย่กู ับเพอ่ื น คุณก็สามารถหยิบโทรศัพท์ขน้ึ มาใชไ้ ด้ 8. กำลงั อยู่กับคนรกั คุณก็ยังหยิบโทรศัพทข์ ้นึ มาเช็คได้ 9. ถา้ หากคุณและคู่สนทนาอีกฝ่ายเรม่ิ ไม่มีอะไรจะคุยกัน คุณจะเร่ิมหนั ไปให้ความสนใจ กับโทรศัพท์แทน หากคุณตอบว่า “ใช่” 6 ข้อขึ้นไป นนั่ หมายถึง คุณกำลงั มีอาการฟับบง้ิ หรือ ถ้าตอบว่า“ใช่” 3-5 ข้อ แปลวา่ คณุ กำลงั สมุ่ เสย่ี งท่ีจะตดิ โทรศัพท์อยา่ งหนัก แต่ถ้าน้อยกวา่ 3 ขอ้ ก็สบายใจได้ เพราคุณไม่มีอาการฟับบ้ิง ................................................................................................................................. อา้ งองิ จาก http://www.health.kapook.com. 6.3.3 ครสู นทนากับนกั เรียนเกย่ี วกับผลการสำรวจตนเอง และครูอธิบายเพมิ่ เติมเกยี่ วกบั คำว่า “Phubbing” 6.3.4 ครแู จกใบความรปู้ ระกอบการจัดกิจกรรม เรื่อง โรคยุคใหม่ ภัยไอที ให้นกั เรยี นคนละ 1 ชุด พร้อมอธิบาย 6.3.5 นักเรียนศกึ ษาใบความรูป้ ระกอบการจัดกจิ กรรม เร่อื ง ส่อื ออนไลน์ กิจกรรมโรคยคุ ใหม่ ภยั ไอที
46 ข้นั เทคนคิ การใชค้ ำถาม R-C-A 6.3.6 ครูเริ่มต้นใช้เทคนิคการใช้คำถาม R-C-A เพ่ือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือ วิเคราะห์ แก้ปัญหา คน้ หาคำตอบ ดังน้ี คำถามสะทอ้ น (R) นกั เรียนรู้สกึ อย่างไรกบั โรคต่างๆทมี่ ากบั ใชส้ อ่ื ออนไลน์และเทคโนโลยีในกจิ กรรมน้ี คำถามเช่อื มโยง (C) พฤติกรรมอยา่ งไรในการใชส้ ่ือออนไลน์และเทคโนโลยีที่จะนำโรคต่างๆเข้าส่รู ่างกายของผู้ใช้ คำถามปรบั ใช้ (A) ถา้ เพ่ือนของนักเรียนมีอาการปวดตา แสบตาหลังจากใช้งานจากคอมพิวเตอร์ นักเรียน จะช่วยเหลอื หรอื มีการแนะนำเพื่อนหรอื ไม่ อย่างไร 6.3.7 เมือ่ นักเรียนไดร้ ับฟงั คำถาม R-C-A แล้ว ครูให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มตอบคำถามปากเปล่าและ แสดงความคิดเหน็ (ข้อละ ๒–๓ คน) หลงั จากนั้นครูแจกแบบฝกึ กิจกรรม โรคยุคใหม่ ภัยไอที กลมุ่ ละ ๑ ชุด 6.3.8 นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มปฏิบัติกิจกรรม โดยทำแบบฝกึ กจิ กรรม โรคยุคใหม่ ภยั ไอที 6.3.9 ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นไดม้ ีโอกาสปฏิสมั พันธภ์ ายในกลุ่ม ให้ได้ข้อสรปุ งาน การอภปิ ราย การซกั ถาม ขอ้ เสนอแนะ แลกเปลยี่ นความคิดเห็นซึ่งกันและกนั 6.3.10 ครใู หค้ ำแนะนำและเป็นท่ีปรึกษานกั เรียนขณะท่นี ักเรียนทำกิจกรรมและสอดแทรก คุณธรรมและจริยธรรม ตรวจสอบการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆของนกั เรยี น 6.3.11 ครสู งั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในดา้ นความสนใจ ใฝร่ ้ใู ฝเ่ รยี น มุ่งม่ันในการทำงาน ความซ่ือสตั ย์ และความรับผิดชอบ 6.4 ขั้นสรุปและการประเมินกจิ กรรม 6.4.1 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยเทคนิคการใช้คำถาม R-C-A ให้นักเรียนตอบ ปากเปล่าและครูอธิบายเพิ่มเตมิ - “ประสบการณท์ ่ีนักเรยี นได้รบั ในการรว่ มกจิ กรรมวนั นี้ คืออะไร” - “นักเรียนจะเช่อื มโยงกบั สิง่ ท่รี ู้ ส่ิงท่ีนักเรียนเช่อื หรอื รู้สึกมากอ่ นได้อย่างไร” - “นักเรียนจะนำสิง่ ท่ไี ด้เรยี นรจู้ ากประสบการณไ์ ปใชไ้ ดอ้ ย่างไร” 6.4.2 ครปู ระเมินนักเรียน ด้านความรู้ ด้านกระบวนการ ดา้ นเจตคติ ลงในเครือ่ งมอื การวดั และประเมนิ ผลการร่วมกิจกรรม - ดา้ นความรู้ โดยวธิ กี ารตรวจแบบฝึกกิจกรรมโรคยุคใหม่ ภยั ไอที - ด้านกระบวนการ โดยวิธกี ารสังเกต การรว่ มอภปิ ราย และกจิ กรรมกลุม่ - ดา้ นเจตคติ โดยวิธกี ารสงั เกตพฤตกิ รรม 6.4.3 นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ผลการทำแบบฝึกกิจกรรมและขอ้ คดิ ได้จากการทำกจิ กรรม 6.4.4 ครใู ห้ขอ้ คิดเรื่อง โรคยคุ ใหม่ ภยั ไอที
47 6.5 ข้ันทดสอบหลงั เรยี น 6.5.1 ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง ส่ือออนไลน์ กจิ กรรม โรคยคุ ใหม่ ภัยไอที โดยใช้เทคนคิ คำถาม R-C-A จำนวน 10 ขอ้ 6.5.2 ครูให้นักเรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นท่ีมีต่อชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพ่ือ พัฒนาทักษะชีวิต ด้านการพัฒนาชีวิตส่วนตนและสังคม ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยเทคนิคการใช้ คำถาม R-C-A 7. สอื่ – อปุ กรณ์ 7.๑ ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพือ่ พฒั นาทกั ษะชีวิต ดา้ นการพัฒนาชีวิตส่วนตนและสังคม โดยเทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A ของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เรอื่ ง สอื่ ออนไลน์ กิจกรรมโรคยุคใหม่ ภัยไอที ประกอบดว้ ย - แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน เรือ่ ง สอ่ื ออนไลน์ กิจกรรมโรคยุคใหม่ ภัยไอที - ใบความรู้ประกอบการจดั กิจกรรม เรอื่ ง ส่ือออนไลน์ กจิ กรรมโรคยคุ ใหม่ ภัยไอที - แบบฝกึ กจิ กรรมโรคยคุ ใหม่ ภัยไอที - แบบสอบถามความคิดเหน็ ท่มี ีตอ่ ชดุ การสอนกจิ กรรมแนะแนวเพอื่ พัฒนาทกั ษะชวี ติ โดยเทคนิคการใชค้ ำถาม R-C-A - แบบสงั เกตการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 7.๒ บตั รคำ “Phubbing” 7.3 แบบทดสอบอาการตดิ โทรศพั ท์หรือโซเชียลขั้นรนุ แรง (Phubbing) 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8.1 วธิ ีวดั และประเมินผล 8.1.1 สังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรม 8.1.2 ตรวจผลงานแบบฝึก กิจกรรมโรคยุคใหม่ ภัยไอที 8.1.3 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น 8.2 เครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล 8.2.1 แบบสงั เกตการปฏิบัตกิ จิ กรรม 8.2.2 แบบฝึกกจิ กรรมโรคยคุ ใหม่ ภัยไอที” 8.2.3 แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 8.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 8.3.1 พฤตกิ รรมการปฏบิ ัติกจิ กรรมตัง้ แตร่ ะดบั ดขี ้นึ ไป 8.3.2 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบฝึกกิจกรรม ร้อยละ 60 ข้นึ ไป 8.3.3 ไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป
Search