Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การให้ความรู้และประชาสัมพันธ์โรคไข้เลือดออก

การให้ความรู้และประชาสัมพันธ์โรคไข้เลือดออก

Published by Nikhom Nam Un library, 2020-12-15 04:01:52

Description: การให้ความรู้และประชาสัมพันธ์โรคไข้เลือดออก

Search

Read the Text Version

การให้ความรแู้ ละประชาสมั พนั ธ์ โรคไข้เลอื ดออก ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ้าเภอนิคมน้าอูน

การใหค้ วามรู้และประชาสัมพนั ธ์ โรคไข้เลอื ดออก โรคไข้เลือดออก เกดิ จากเชื้อไวรัสเดงก่ี มียงุ ลายเปน็ พาหะนาโรค พบได้ในทกุ กลมุ่ อายุ พบมากในเด็กวัยเรยี น โรคไข้เลอื ดออกระบาดใหญค่ รงั้ แรกท่ีฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2497 ในประเทศไทยระบาดครัง้ แรกในปี พ.ศ. 2501 ทีก่ รุงเทพฯ จากนนั้ ได้แพร่กระจายไปทวั่ ประเทศโดยเฉพาะหวั เมืองใหญ่ ท่มี ีการคมนาคมสะดวก สถานการณข์ องโรคมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยตลอด ตา่ งจากอตั ราปว่ ยตายลดลงอย่างมาก แสดงวา่ พฒั นาการดา้ นการ รักษาพยาบาลดีขน้ึ แตป่ ระชาชนยงั ขาดความร่วมมอื ต่อการปอ้ งกนั ควบคุมโรค สาเหตุ เกิดจากเช้อื ไวรสั มี 4 ชนดิ ดงั นน้ั ถา้ มีการตดิ เช้ือชนิดใดแล้วจะทาใหร้ ่างกายมีภมู คิ ุ้มกันต่อเชื้อชนิดนัน้ ไปตลอด ชีวิต และจะมภี มู ิคุม้ กนั ตอ่ ไวรสั เดงกี อกี 3 ชนิดในช่วงส้ันๆ ไม่ถาวร ประมาณ 6-12 เดือน หลังจากระยะนแ้ี ลว้ คนทเ่ี คยติดเชอื้ ไวรัสเดงกี ชนิดหนงึ่ อาจติดเชอื้ ไวรัสเดงกี ชนิดอน่ื ทต่ี ่างไปจากคร้งั แรกได้ เป็นการตดิ เช้ือซา้ ซงึ่ ถือว่าเปน็ ปัจจัยสาคัญท่ีทาให้เกิดโรคไขเ้ ลือดออก การติดต่อ โรคไข้เลอื ดออกติดตอ่ ถึงกันไดโ้ ดยมยี ุงลายบา้ น เป็นพาหะนาโรคทส่ี าคญั โดยยุงตวั เมียกดั และดูดเลือดผปู้ ่วยใน ระยะไขส้ ูง และฟักตัวในยงุ ประมาณ 8-12 วัน จากนนั้ เมอ่ื ยุงตวั นไี้ ปกัดคนปกติ ก็จะปล่อยเช้อื ไวรัสไปยงั ผูท้ ่ถี กู กดั เมอื่ เช้อื เข้าสรู่ ่างกายคน และผ่านระยะฟักตวั ประมาณ 5-8 วนั (สนั้ ที่สุด 3 วนั - นานทส่ี ุด 15 วนั ) กจ็ ะทาให้ เกดิ อาการของโรคได้ สาหรับเชือ้ เดงกนี ี้จะอย่ใู นตวั ยงุ นนั้ ตลอดชีวิตของยงุ คอื ประมาณ 45 วนั อาการ หลงั จากได้รบั เช้ือจากยุงประมาณ 5-8 วัน ผู้ปว่ ยจะมีอาการคอ่ นขา้ งเฉพาะ 4 ประการ ดังน้ี 1.ไข้สงู เฉียบพลัน (38.5 – 40 องศาเซลเซยี ส) ประมาณ 2-7 วัน หน้าแดง ปวดกระบอกตา เบื่ออาหาร อาเจยี น ส่วนใหญ่จะไม่มนี า้ มูกไมไ่ อ 2. มอี าการเลือดออก เสน้ เลือดเปราะ แตกงา่ ย มีจุดเลือดออกเล็ก ๆ ตามแขน ขา ลาตวั รักแร้ มเี ลือดกาเดา เลือดออกตามไรฟนั อาจมีอาเจียนและอจุ จาระสีดา 3. มีปวดทอ้ ง สว่ นใหญ่จะคลาพบตับโตไดป้ ระมาณวนั ท่ี 3-4 นบั แตเ่ รม่ิ ป่วย 4. มภี าวะช็อก ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรง เนือ่ งจากมีการรัว่ ของเลอื ด ออกไปยงั ช่องปอดและ ช่องท้อง สว่ นใหญ่จะเกิดข้นึ พรอ้ มๆ กบั ไขล้ ดลงอย่างรวดเรว็ อาจเกิดได้ตัง้ แต่วันท่ี 3 ของโรค ผู้ปว่ ยจะมอี าการ กระสับกระสา่ ย มือเทา้ เยน็ ชพี จรเบาเรว็ ความดันโลหติ แคบ สว่ นใหญ่ จะรู้สติ พูดรเู้ รอื่ ง กระหายน้า อาจมี อาการปวดท้องกะทนั หนั ก่อนเขา้ สูภ่ าวะชอ็ ก ถ้ารักษาไม่ทนั จะมอี าการ ปากเขยี ว ผวิ สมี ่วง ๆ ตัวเยน็ ชดื จบั ชพี จรและวดั ความดันไม่ได้ ความรูส้ ติเปลีย่ นไป และจะเสียชีวติ ภายใน 12 - 24 ชั่วโมง ในรายทไี่ มร่ ุนแรง เมื่อให้ การรักษาในช่วงระยะส้นั ๆ ก็จะดขี น้ึ อย่างรวดเรว็

การรกั ษา ไม่มีการรกั ษาท่เี ฉพาะและไม่มวี ัคซีนป้องกนั ใหก้ ารรกั ษาแบบประคับประคอง ตามอาการ โดยใหย้ าลดไข้ แนะนา ใหใ้ ชย้ าพาราเซตามอล ใหน้ ้าให้เพยี งพอ และพกั ผอ่ น ถา้ อาการไม่ดขี ้นึ ให้สง่ ต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์ ผ้ปู ่วย ไข้เลอื ดออก จะมีไข้สูง 4-5 วนั (พบร้อยละ 70) ซึง่ วนั ทเ่ี ปน็ ระยะวกิ ฤต/ชอ็ กจะตรงกับวนั ท่ไี ขล้ ง หรือไข้ต่า กว่าเดมิ จงึ พึงระลกึ เสมอวา่ วนั ที่ 3 ของโรค เป็นวนั ท่ีเร็วท่สี ดุ ท่ีผู้ปว่ ยไขเ้ ลอื ดออกมโี อกาสช็อกได้ และระหว่างท่ี ผปู้ ว่ ยมีอาการชอ็ ก จะมสี ตดิ ีสามารถพูดจาโต้ตอบได้ จะดเู หมอื นผู้ปว่ ยท่ีมแี ตค่ วามออ่ นเพลียเท่าน้นั ให้รบี นา ผปู้ ่วยสง่ ต่อโรงพยาบาลระดบั สงู ทันที การปอ้ งกันโรค โรคไข้เลือดออก สามารถแพรร่ ะบาดไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ การป้องกันควบคมุ โรคทสี่ าคัญ จงึ ตอ้ งไมใ่ ห้ยงุ กดั โดยเฉพาะ ในผู้ปว่ ย โดยการลดจานวนยงุ ตวั เตม็ วัย และกาจัดแหลง่ เพาะพันธุ์ ซึ่งจะตอ้ งทาใหค้ รอบคลุม ทุกครวั เรอื น ต่อเน่ืองและสม่าเสมอตลอดทัง้ ปี มวี ธิ ปี ฏิบัติ ดังน้ี 1. วิธีการกาจดั แหลง่ เพาะพนั ธย์ุ งุ ลาย คือ สร้างการมีส่วนร่วมของทกุ ภาคส่วน เพือ่ ลดจานวนยุงตวั เตม็ วยั และแหล่งเพาะพันธ์ุใหไ้ ดม้ ากท่สี ุด โดยมี ข้อแนะนาสาหรับสถานศึกษา ไดแ้ ก่ - ดาเนินการทาลายแหล่งเพาะพันธุ์ยงุ ลายในสถานศกึ ษา ทกุ 7 วัน - ให้ความร้แู ละคาแนะนาแกน่ กั เรียนเกีย่ วกับ วงจรชีวติ ของยงุ การแพรเ่ ชอื้ และวธิ ปี อ้ งกนั 1.1 ทางกายภาพ ได้แก่ การปิดภาชนะกกั เกบ็ นา้ ด้วยฝาปิดเพอื่ ปอ้ งกันไมใ่ ห้ยุงลายเข้าไปวางไข่ อาจจะใช้ผา้ มุง้ ผา้ ยางหรือพลาสตกิ ปดิ และมัดไว้ ภาชนะท่ยี ังไมใ่ ชป้ ระโยชนค์ วรจะคว่ามใิ หร้ องรับน้า ปรบั ปรงุ ส่งิ แวดลอ้ มให้ สะอาด สงิ่ ของเหลือใช้ เช่น กะลา กระป๋องควรเผาหรอื ฝงั แจกนั ดอกไมส้ ดควรเปลี่ยนนา้ ทุก 7 วนั วธิ ีการ เหลา่ นต้ี ้องทาอยา่ งสม่าเสมอและต่อเน่ืองตลอดทั้งปี 1.2 ทางชีวภาพ คอื การปลอ่ ยปลากินลูกน้าลงในภาชนะเก็บกักนา้ เชน่ โอ่งตมุ่ 2-4 ตัว หมัน่ ดแู ลอยา่ งน้อย สัปดาห์ละครั้ง วธิ นี ้ีง่ายประหยดั และปลอดภยั 1.3 ทางเคมี โดยใสท่ รายอะเบทในภาชนะเกบ็ น้าใช้ ควรใช้เฉพาะภาชนะทไี่ มส่ ามารถปิดหรอื ใส่ปลากนิ ลกู น้าได้ 2. วิธกี ารลดยุงตวั เตม็ วยั มดี งั นี้ 2.1 ใชไ้ มต้ ียุง ใชน้ ้าผสมนา้ สบู่หรือผงซกั ฟอก ฉีดพ่นให้ถกู ตัวยุง 2.2 การพน่ เคมีกาจดั ยุงตวั เต็มวัย เปน็ วิธีควบคุมยงุ ทีใ่ หผ้ ลดี แต่ใหผ้ ลระยะส้นั ราคาแพง ผู้ปฏบิ ตั ิตอ้ งมี ความรู้ เพราะเคมภี ัณฑ์ อาจเป็นพิษตอ่ คนและสัตว์เลยี้ ง จงึ ควรใช้เฉพาะเมื่อจาเปน็ 3. การป้องกนั ยงุ กดั โดยนอนในมงุ้ ทายากนั ยงุ ใช้สมุนไพร/พดั ลมไล่ยงุ ใส่เสอื้ ใหม้ ิดชิด หลีกเล่ียงทมี่ ืด ทึบ อบั ชื้น








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook